หนุ่มไร้บ้านโวยถูกเจ้าหน้าที่รัฐยึด “เจ้าเป็ด” หลังชาวบ้านแจ้งเรื่องกลิ่น และเสียงก๊าบก๊าบ!!

แม้ว่ากลุ่มคนไร้บ้านจะไม่ได้มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย อาจจะด้วยสาเหตุของปัญหาชีวิต เงินทอง หรือบางคนเลือกที่จะไม่ทำงานทำการและปล่อยให้ชีวิตมันเป็นไปแบบนั้นเอง แต่พวกเขาก็พอจะมีความสุขได้บ้างจากสัตว์เลี้ยง

เช่นเดียวกับนาย Russ O’Conner เขาคือหนึ่งในคนไร้บ้านที่ต้องการเพื่อนเป็นสัตว์เลี้ยงสักตัวเหมือนกัน

 

 

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้นำเสนอเรื่องราวของนาย Russ O’Conner ชายไร้บ้านในเมือง Newton Abbot มณฑล Devon ประเทศอังกฤษ

ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ช่วยชีวิตเป็ด 2 ตัวมาจากข้างถนน จากนั้นเขาก็หากล่องกระดาษเอามาทำเป็นบ้านให้กับเจ้าเป็ดพวกนั้นและพามันไปด้วยทุกที่ที่เขาไป

แต่เนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องการเลี้ยงเป็ดหรือการทำความสะอาดที่ถูกต้อง ทำให้กลิ่นอาหาร กลิ่นฉี่และกลิ่นอึของพวกมันไปรบกวนชาวบ้านคนอื่นๆ เข้า วันหนึ่งชาวบ้านแถวๆ นั้นจึงโทรแจ้งตำรวจให้มาจัดการเอาเป็ดนี่ออกไปจากถนน

 

 

ตามรายงานบอกว่าเจ้าหน้าที่ได้ขับรถตู้สำหรับปราบจลาจลมายังถนนที่นาย O’Conner นอนอยู่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อีก 9 คน

กลุ่มพิทักษ์สัตว์ RSPCA ได้ออกมากล่าวว่ามีชาวบ้านโทรเข้าไปร้องเรียนกับพวกเขาเยอะมาก และยังแสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ด้วย จึงต้องเข้ามารับตัวเป็ดดังกล่าวไป

หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้ามาเอาเป็ดทั้ง 2 ตัวไป นาย O’Conner ก็แสดงอาการว้าวุ่นใจที่สูญเสียสัตว์เลี้ยงของเขาและบอกด้วยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามบังคับใช้กฎหมายทุกๆ ข้อเพื่อยึดเอาเป็ดของเขาไป

ผมเลิกสูบกัญชาเพื่อที่จะได้ดูแลเป็ดของผม พวกมันไม่ได้ชอบเล่นกับคนมากนัก” ชายไร้บ้านกล่าว

 

pixabay.com “ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา”

 

นาง Kymberley Pearl-Hatton คือผู้พบเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดและยังเคยพูดคุยกับนาย O’Conner ด้วย เธอบอกว่าชายไร้บ้านรู้จักวิธีในการเลี้ยงเป็ดของเขาเป็นอย่างดีและยังสอนเทคนิคการช่วยชีวิตพวกมันด้วย

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าพวกเขาทำทุกอย่างตามกระบวนการทางกฎหมายและจะพาเจ้าเป็ดทั้ง 2 ไปฝากไว้ในความดูแลขององค์กรพิทักษ์สัตว์ เพื่อการเลี้ยงดูที่ถูกต้องต่อไป

 

จะว่าน่าสงสารนาย O’Conner ก็สงสารอยู่ แต่การเลี้ยงสัตว์แล้วสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นก็เป็นเรื่องที่ควรได้รับการแก้ไขเช่นกันนะ…

ที่มา metro

Comments

Leave a Reply