วันเกิดเด็กออทิสติกเกือบล่มเพราะไม่มีคนมา คุณแม่เลยโพสโซเชียล คราวนี้แห่มาเพียบ!!

สำหรับเด็กๆ หลายคนแล้ว การได้มีปาร์ตี้วันเกิดถือว่าเป็นสิ่งที่พวกเขาเฝ้ารอมาตลอดทั้งปี ลองนึกถึงวันที่บ้านเต็มไปด้วยเพื่อนๆ และญาติพี่น้อง มาร่วมกินขนมเค้กฉลองวันเกิดกัน มันจะเป็นเรื่องที่มีความสุขขนาดไหน

สำหรับเด็กหญิงริฮานน่าวัย 9 ขวบคนนี้ก็เช่นกัน ด้วยความที่เธอป่วยเป็นโรคออทิสติก ทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่นัก ทำให้เธอตั้งหน้าตั้งตารอว่าเมื่อไหร่จะถึงวันเกิดของเธอซักที เพราะวันนั้นคือวันที่เธอจะมีคนมาร่วมยินดีและมาสนุกกับเธอมากที่สุดนั่นเอง

 

 

เมื่อวันเกิดของริฮานน่าใกล้จะมาถึง แคนดี้ บุชเชอร์ คุณแม่ของริฮานน่า ก็ได้ชวนเพื่อนๆ ของเธอเพื่อมาร่วมวันเกิดของลูกสาวสุดที่รัก ซึ่งมีประมาณ 10 ครอบครัวตอบตกลงว่าจะมาร่วมวันเกิดอย่างแน่นอน ด้วยความวางใจ เธอจึงจัดเตรียมขนมและบ้านเพื่อต้อนรับแขกในวันนั้น

แต่เรื่องราวกลับตาลปัตร เมื่อแขกทั้งหมดที่บอกว่าจะมาร่วมงานกลับส่งข้อความมาบอกว่าไม่สามารถไปร่วมงานได้แล้ว นั่นแปลว่าเธอต้องฉลองวันเกิดเพียงลำพัง

 

 

“ฉันเดินออกไปนอกบ้าน แล้วนั่งอยู่เป็นชั่วโมงเพื่อคิดว่า ฉันจะบอกเธอยังไงดีว่า ไม่มีใครมาร่วมงานวันเกิดเธอแล้ว ลองนึกภาพสิ คุณจะบอกเด็กเก้าขวบที่เป็นออทิสติกยังไงว่าไม่มีใครมาเลย มันน่าเศร้ามาก ฉันรู้สึกว่าเป็นแม่ที่แย่มาก” บุชเชอร์กล่าว

ด้วยความอัดอั้นไม่รู้จะทำยังไง เธอจึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนกลุ่มเฟสบุ๊ก Midnight Mums ที่เธอเป็นสมาชิกอยู่ฟัง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความมหัศจรรย์

 

 

“โทรศัพท์ของฉันสั่นไม่หยุดตลอดทั้งเช้าเลย มีคอมเมนต์เข้ามาให้กำลังใจและอวยพรวันเกิดให้กับริฮานน่าเป็นจำนวน พวกเขาให้เด็กๆ ของพวกเขาเขียนคำอวยพร แล้วโพสผ่านเฟสบุ๊กมาให้” บุชเชอร์กล่าว

 

.

 

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคุณแม่อีกหลายคนได้โพสบอกว่า พวกเธอกำลังจะเดินทางมาร่วมงานวันเกิดของริฮานน่า พร้อมกับของขวัญสุดพิเศษ

 

สุดท้ายแล้วมีแขกมาร่วมงานวันเกิดของริฮานน่ากว่า 40 คน และริฮานน่าบอกว่า นี่คือวันเกิดที่เธอมีความสุขที่สุดในชีวิต

 

“คนที่ฉันรู้จักมากว่า 20 ปี กลับทำให้ลูกสาวของฉันผิดหวัง แต่คนที่ฉันไม่เคยรู้จักมาก่อน กลับออกมาช่วยทำให้วันเกิดครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี”

“มีคุณแม่อีกหลายคนที่อยู่แถวนี้ส่งข้อความมาบอกว่า ไว้ไปหากาแฟกินและพาลูกๆ ไปเล่นกัน” บุชเชอร์กล่าวอย่างมีความสุข

 

บางครั้งโซเชียลเน็ตเวิร์คก็ทำให้เกิดเรื่องดีๆ แบบนี้ขึ้นเนอะ

 

ที่มา  Dailymail

Comments

Leave a Reply