อ่านแล้วยิ้มสินะแหม่… นักวิจัยเผยทดลองใช้ “เจลคุมกำเนิด” ในลิงตัวผู้ได้ผลสำเร็จ

เรียกได้ว่านี้คือหนึ่งในงานวิจัยที่ส่งผลต่อเรื่องการคุมกำเนิดในเพศชาย ของมวลมนุษยชาติเป็นอย่างยิ่ง เพราะปกติแล้วการคุมกำเนิดในคน มักจะใช้ถุงยางอนามัย หรือยาคุมกำเนิด แต่ตอนนี้วิทยาศาสตร์ได้พาเราก้าวไปอีกขั้น

โดยทีมนักวิจัยจากมูลนิธิพาร์ซีมัส ซึ่งเป็นองค์กรผู้ไม่แสวงหาผลกำไร จากประเทศสหรัฐฯ ได้นำผลการทดลองดังกล่าวตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการ ‘Basic and Clinical’ เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน

 

 

การทดลองดังกล่าวใช้เวลาติดตามผลมาอย่างยาวนานถึง 2 ปีเต็ม โดยกลุ่มนักวิจัยได้ทำการฉีดเจลคุมกำเนิดสำหรับเพศชาย ‘วาซาลเจล’ ให้กับลิงตัวผู้ทั้งหมด 16 ตัว ผลปรากฏว่าไม่มีลิงตัวไหนที่ให้กำเนิดลูกน้อยในช่วงเวลาต่อมา

โดยเจลดังกล่าวจะถูกฉีดเข้าไปในท่อลำเลียงอสุจิ ทำให้เชื้ออสุจิถูกเจลอุดไว้ ไม่สามารถออกมาผสมกับไข่ของลิงตัวเมียได้ ถึงแม้ว่าทั้งลิงตัวผู้ และตัวเมีย จะอยู่ในช่วงที่พร้อมจะสืบพันธุ์สุดๆ ก็ตาม

 

 

นอกจากนั้นแล้วนักวิจัยได้ออกมากล่าวเสริมว่า เนื้อเจลคุมกำเนิดดังกล่าวทำหน้าที่เป็นเพียงตัวกั้นขวางเชื้ออสุจิ ในขณะที่เรายังสามารถปล่อยให้ของเหลวอื่นๆ ไหลออกไปได้อยู่ และไม่เป็นพิษทำลายตัวอสุจิ

อีกทั้งหากจะยกเลิกการคุมกำเนิด อยากจะมีลูกตามปกติ ผู้ใช้สามารถแก้การคุมกำเนิดได้ด้วยการฉีดเจลซ้ำเข้าไปอีกรอบ เพื่อไปละลายเจลที่อุดอยู่

 

 

ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มีการคิดค้นเจลคุมกำเนิดผู้ชายที่ชื่อว่า ‘RISUG’ มาแล้ว และตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการทดลองใช้ในมนุษย์อยู่ โดยมีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างจากเจลอันแรก

แต่โดยรวมแล้วทั้งสองก็มุ่งเน้นไปที่การคุมกำเนิดระยะยาวในเพศชายเป็นหลัก ซึ่งจะเห็นได้ว่าช่วงหลังมานี้มีการพยายามหาทางคุมกำเนิดจากทางฝั่งเพศชายโดยไม่ต้องทำหมัน

เนื่องจากทางฝ่ายหญิงนั้น มีทั้งวิธีการทำหมัน กินยาคุมกำเนิด ฝังยาคุมกำเนิด เป็นต้น แต่ทางฝ่ายชายยังคงต้องใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งถึงแม้จะป้องกันโรคติดต่อได้ด้วยอีกทาง แต่เปอร์เซ็นคุมกำเนิดก็ยังมีโอกาสพลาด และก็เป็นปัญหาของคู่รักหลายๆ คู่ที่รู้สึกว่ามันยังไม่ “ถึงใจ” นั้นเอง

 

ถ้าหากว่าเจลนี้ผ่านการรับรองให้นำมาใช้ได้แล้ว นี้จะกลายเป็นวิธีคุมกำเนิดแบบใหม่ที่อาจได้รับความนิยมสูง

แต่ข้อเสียคือไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศได้เหมือนถุงยางอนามัยนะจ๊ะ…

ที่มา: newmalecontraception

Comments

Leave a Reply