Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
อาสาสมัครสกัดรถขนสุนัขกว่า 1,000 ตัว ก่อนถูกส่งโรงเชือด เพื่อนำเนื้อไปขายในเทศกาล
แม้ว่าเทศกาลทานเนื้อสุนัข Yulin Dog Meat Festival ซึ่งน่าจะถูกยกเลิกไปแล้วจากการประกาศของรัฐบาลท้องถิ่นของเมืองยูหลิน ร่วมกับองค์กรอนุรักษ์สุนัข Humane Society International และ Duo Duo Animal Welfare Project แต่ถึงอย่างนั้นก็ดูเหมือนว่าชาวเมืองยูหลินหาได้สนใจไม่ ยังคงเตรียมการดำเนินงานต่อไปด้วยการขนส่งสุนัขร่วม 1,000 ไปยังโรงฆ่าสัตว์เพื่อนำเนื้อของพวกมันไปขายในตลาด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานักเคลื่อนไหวด้านสิทธิของสัตว์ได้พบเข้ากับรถบรรทุก ที่บรรทุกสุนัขไม่ต่ำกว่า 1,000 ตัว กำลังขับไปตามทางด่วนในมณฑล Guangdong พวกเขาจึงตัดสินใจเรียกกำลังเสริมเพื่อตรวจสอบรถบรรทุกคันดังกล่าว เมื่อรถบรรทุกแวะจอดเติมน้ำมันที่ปั๊มในเขต Baiyun ที่อยู่ในเมือง Guangzhou เหล่าอาสาสมัครจากองค์กรอนุรักษ์สัตว์ก็รีบเข้าล้อมทันที พวกเขาสอบถามและขอดูใบประกอบสำหรับการขนย้าย ว่านำพวกมันไปทำอะไรกันแน่ แต่คนขับก็ไม่สามารถเอามาให้ดูได้ เหล่าอาสาสมัครจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในทันที และจากการตรวจสอบก็พบว่ามีสุนัขมากกว่า 1,300 ตัว ถูกจับขังไว้ในกรงหลายสิบกรงในลักษณะที่แออัดมาก แถมบางตัวยังมีสภาพที่น่าสงสารเพราะไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกสุขลักษณะอนามัย จากกรายงานขององค์กรช่วยเหลือสัตว์ Humane Society International เล่าว่ารถบรรทุกคันนี้จะพาเจ้าสุนัขเหล่านี้ไปยังโรงฆ่าสัตว์ที่อยู่ในมณฑล Guangdong จากนั้นก็จะถูกฆ่าและเอาเนื้อไปขายในเทศกาลทานเนื้อสุนัขของเมืองยูหลินที่น่าจะถูกยกเลิกไปแล้ว แถมบางตัวยังเป็นสุนัขที่ถูกขโมยมาอีกด้วย!! . หลังจากช่วยเหลือออกมาได้…
-
เทศกาล “กินเนื้อสุนัข” ยังคงดำเนินต่อไป ทั้งที่มีข่าวการแบนอย่างเป็นทางการแล้ว!?
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2017 ที่ผ่านมา หน่วยงานอนุรักษ์สุนัขอย่าง Humane Society International และ Duo Duo Animal Welfare Project ได้ร่วมกันออกมาแถลงการณ์ร่วมกันว่าทางรัฐบาลท้องถิ่นเมืองยูหลินจะทำการแบนไม่ให้ขายเนื้อสุนัขอีกต่อไป ทว่าแม้ประกาศดังกล่าวจะเกิดขึ้นก่อนเทศกาลกินเนื้อสุนัขในเดือนมิถุนายนถึงหนึ่งสัปดาห์ ก็ดูเหมือนว่าชาวเมืองจะไม่ได้แคร์สิ่งที่กลุ่มอนุรักษ์ประกาศออกมาสักเท่าไหร่นัก พวกเขายังคงทำการเตรียมเนื้อสุนัขเหมือนดั่งที่เคยทำ จากรายงานของทาง Animals Asia ซึ่งได้เล่าว่า ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเมืองยูหลินไม่ได้ยินข่าวใดๆ เกี่ยวกับการแบนเทศกาลกินเนื้อสุนัขเลย โดยอธิบายว่างานเทศกาลประจำปีไม่ได้จัดขึ้นโดยรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของเมือง จึงไม่มีสิทธิ์เรียกร้องใดๆ เจ้าหน้าที่ยังกล่าวว่าพวกเขาไม่ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับการแบนเลยด้วยซ้ำ ในเวลาเดียวกัน สื่อจากเมืองยูหลินก็ยังรายงานว่าตลาดค้าสุนัข Dongkou ซึ่งเป็นตลาดประจำเมืองยังคงเปิดขายเนื้อสุนัขตามปกติไม่มีการปิดตัวลงแต่อย่างใด จากรายงานของ Forbes ยังบอกอีกว่า ชาวบ้านไม่รับรู้ด้วยซ้ำถึงการประกาศจะแบนไม่ให้ค้าขายเนื้อสุนัข รวมถึงไม่รู้ว่าในเดือนหนึ่งมีสุนัขถูกฆ่ามากกว่า 1,000 ตัวต่อปี และไม่รู้ถึงแคมเปญที่ดาราหลายคนอย่าง Matt Demon หรือ Pamela Anderson ออกมารณรงค์ด้วย นอกจากนี้ Forbes ยังได้ไปพูดคุยกับ Marc Ching ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มอนุรักษ์ที่เคยอ้างตัวว่าช่วยสุนัขมากกว่า 1,000 ตัวมาแล้ว โดยตัวเขาเล่าว่าทางของการของเมืองยูหลิน ไม่ได้มีแผนสำหรับการยกเลิกเทศกาลในปีนี้แต่อย่างใด …
-
พ่อของหนูน้อยไปประจำการรบ แต่คุณลุงข้างบ้านใจดี มาคอยอยู่เป็นเพื่อนเล่นในทุกๆ วัน..!!
เชื่อว่าถ้าเป็นไปได้คงไม่มีใครอยากอยู่ห่างไกลจากคนในครอบครัวหรอกจริงไหม? โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรายังเป็นเด็กนักเรียนที่ต้องการความรัก และอยากจะเห็นพ่อแม่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เฉกเช่นเดียวกับ Brian หนุ่มน้อยวัย 5 ขวบ จากรัฐอิลลินอยส์ ด้วยความที่คุณพ่อของเขาเป็นทหาร และมีคำสั่งให้ไปประจำการรบในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ความรู้สึกอ้างว้างจึงเกิดขึ้นในใจของหนุ่มน้อยทันที “ทั้งคู่ชอบทำสวนร่วมกันมากๆ ตั้งแต่สามีของฉันต้องย้ายไปประจำการ ลูกชายของเราก็ดูจะไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่” คุณแม่ Barbara Kelly เล่า แต่โชคดีของ Brian ทันทีที่ Dean Caravans คุณลุงข้างบ้านรู้ว่าหนูน้อยรู้สึกคิดถึงพ่อ เขาจึงสวมบทบาทเป็นเพื่อนเล่นให้กับหนุ่มน้อยซะเลย.. “ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะค่อยๆ ก่อตัวมากขึ้นเรื่อยๆ อันที่จริง Dean ก็เป็นเพื่อนบ้านที่เรารู้จักกันมานานแล้ว และต้องขอบคุณเขามากๆ ที่ช่วยมาเป็นเพื่อนเล่นให้กับลูกชายของเรายามที่คุณพ่อไม่อยู่” คุณแม่เล่าทั้งรอยยิ้ม เมื่อช่วงวันพ่อที่ผ่านมา Dean ก็รู้สึกว่าหนุ่มน้อย Brian น่าจะต้องการตัวแทนของคุณพ่อ เขาจึงอาสารับหน้าที่นั้นแทน “ด้วยความที่ผมก็อายุมากแล้ว ลูกสาวทั้ง 3 คนของผมก็โตเป็นสาวกันหมดแล้ว การได้ช่วยเพื่อนบ้านดูแล Brian ทำให้ผมรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปสมัยก่อนอีกครั้ง และที่สำคัญฝ่าย Brian ต่างหากที่เข้ามาเติมเต็มผม”…
-
ลูกสาวเจอ “สมุดโน๊ตของพ่อ” ที่ใช้เรียนภาษาอังกฤษ เล่าถึงเรื่องราวการทำเพื่อลูก…
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่จะมาพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ความรักของพ่อแม่ที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่ออนาคตที่ดีของลูก เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่และพร้อมที่จะเสียสละทุกอย่าง… รู้จักกับ Gabby Alfaro และคุณพ่อของเธอ Carlos จากเมือง San Bernardino รัฐแคลิฟอร์เนีย ล่าสุดเธอเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย และได้รับการบรรจุให้เป็นคุณครูประจำโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมือง ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาโดยตลอด ย้อนกลับไปในสมัยที่พ่อแม่ของเธออายุได้ 20 ต้นๆ Carlos คุณพ่อของเธอผู้ย้ายถิ่นที่อยู่มาจากเม็กซิโก ต้องหมั่นเพียรอย่างหนักเพื่อศึกษาภาษาอังกฤษ เมื่อช่วงหลายเดือนก่อน หลังจากที่คุณแม่ของเธอได้ทำความสะอาดบ้าน และแล้วเธอก็พบกับสมุดโน๊ตของ Carlos ในช่วงที่เขากำลังเริ่มเรียนรู้ภาษาอังกฤษอยู่… และนี่ก็คือจดหมายดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องราวที่พ่อของเธอฝึกเขียนเป็นภาษาอังกฤษเพื่อระบายความในใจทั้งหมด เนื้อหาในจดหมายกล่าวไว้ว่า: “มันวิเศษมากที่เราได้เห็นเด็กน้อยคนหนึ่งสามารถเรียนรู้อะไรได้เร็วเหลือเกิน ผมมีลูกสาวเธอเพิ่งอายุได้ 6 ขวบ ผมและภรรยามักจะอ่านหนังสือให้เธอฟังก่อนนอนเสมอ ตอนนี้เธอเข้าเรียนชั้นอนุบาลแล้ว แม้แต่คุณครูก็บอกว่าเธอมีทักษะการอ่านที่ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ครูที่โรงเรียนบอกว่าลูกสาวผมอ่านหนังสือเก่งพอๆ กับเด็กชั้นป. 3 และเธอก็มีความสุขกับการอ่านมาก บางทีเราก็พาเธอไปห้องสมุดเพื่อเลือกหนังสือเล่มโปรดให้เธอ และนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมกลับมาตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษอีกครั้ง ผมอยากจะช่วยเหลือลูกสาวในวันที่เธอทำการบ้านไม่ได้ และพิสูจน์ให้เธอเห็นว่าหนทางที่จะพาเธอไปสู่ความฝันที่สำเร็จได้ นั่นก็คือการศึกษา..” ทันทีที่ Gabby โพสต์เรื่องนี้บนทวิตเตอร์ของตัวเอง…
-
“แพนด้าแมน” ตัวละครลับใน “วันพีซ” โผล่มาแทบทุกฉากทุกตอน แต่น้อยคนนักที่จะรู้จัก!?
ใครที่ดูวันพีซเป็นประจำหรือเป็นแฟนตัวยงก็คงจะคุ้นหน้าคุ้นตาตัวละครต่างๆ ในเรื่องเป็นอย่างดี แต่แน่ใจแล้วหรือว่า คุณรู้จักตัวละครทุกตัวแล้วจริงๆ? ถ้าหากว่าพูดถึงชื่อของ แพนด้าแมน แล้วจะมีใครนึกออกบ้างมั้ยหว่า? นั่นไงแค่ชื่อก็งงกันแล้ว มันก็อยู่เรื่องวันพีซนี่แหละ แต่ทว่าผู้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักมากนัก เพราะด้วยบทบาทที่ไม่ได้ออกมาโดดเด่นเท่าตัวอื่นๆ เสียเท่าไหร่ แพนด้าแมนเป็นตัวละครตลกของเรื่องที่สร้างขึ้นโดย Eiichiro Oda ผู้แต่งเรื่องวันพีซ ซึ่งเป็นตัวละครที่ปรากฏตัวแทบจะทุกฉากทุกตอนในวันพีซ แพนด้าแมนจะมีร่างกายเป็นมนุษย์แต่หน้าเป็นแพนด้า โดยมีคำว่า Panda เขียนอยู่ที่หน้าผากของเขา แขนจะเป็นสีดำโดยมีลายไม้ไผ่สีขาว บนหน้าอกมีรอยสักรูปหัวใจ 2 ดวง และเมื่อถึงเวลาที่ปรากฏตัวในเรื่อง เขาจะมาด้วยท่าทางแตกต่างกัน แต่ไม่ว่าจะโผล่ออกมาตามซอก ตามมุมกระดาษบ่อยแค่ไหน ก็ไม่มีใครรู้จักอยู่ดี… มีอยู่ฉากหนึ่งที่ปรากฏตัวในสภาพผอมแห้ง โดยที่แขนของตัวละครไม่ใช่สีดำและไม่มีรอยสักเลย นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งว่าทำไมไม่ค่อยมีใครรู้จักเขา ลักษณะร่างกายของแพนด้าแมน จะมีรายละเอียดที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา แต่สิ่งเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนคือใบหน้าที่เป็นแพนด้าของเขานั่นเอง แพนด้าแมนมักจะปรากฏตัวในทุกที่ ทุกเวลาและกับทุกกลุ่มคน เหมือนกับว่าเป็น Easter Egg ให้แฟนๆ ได้ร่วมสังเกตกัน ไม่ว่าจะเป็นยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนบ้าง กลุ่มโจรสลัดบ้าง กลุ่มทหารเรือหรือกลุ่มรัฐบาล และอื่นๆ อีกมากมาย หรือแม้แต่ฉากที่ย้อนไปเมื่อ 400 ปี ก่อน…
-
ไม่เอาที่มันมีงูดิ๊… นักศึกษาเจอ ‘ซากงู’ อยู่ในบะหมี่ที่ซื้อมากิน เจอแบบนี้ก็เงิบสิ
โดยปกติแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันที่เรามักจะพบเจอในอาหารก็คงจะหนีไม่พ้น เส้นผม ขนต่างๆ เป็นแมลงวัน หนอน ชิ้นส่วนของแมลงสาบ หรือจะมาแบบทั้งตัว ทั้งหมดนี้มีโอกาสที่จะพบเจอได้บ่อยมากๆ แต่สำหรับผู้บริโภคที่โชคร้ายสุดๆ รายนี้กลับพบ ‘ซากงู’ อยู่ในอาหารของตนเอง หลังจากไปซื้อบะหมี่ที่ร้านอาหารข้างทางที่อยู่ในเมืองหนานหนิง ประเทศจีน เรื่องมีอยู่ว่านักศึกษาหญิงคนหนึ่งได้ทำการซื้อบะหมี่ใส่ห่อกลับมาทานที่หอ แต่พอจะเปิดทานก็พบว่ามันมีงูขนาดเล็กปะปนอยู่ในนั้นด้วย!! ก่อนจะนำมันไปเททิ้งลงชักโครกเธอก็ได้ทำการถ่ายภาพเอาไว้ แล้วนำลงไปอัพลงบนโซเชียลของประเทศจีน และมันก็กลายเป็นไวรัลที่มีคนพูดถึงกันมากมายทั่วประเทศ หลังจากนั้นชาวเน็ตก็ร่วมกันสืบจนทราบว่าบะหมี่ร้านนั้นเป็นของร้านไหนกันแน่ ทางด้านเจ้าของร้านก็ได้ออกมาให้การปฏิเสธว่าเจ้างูตัวนั้นไม่ได้มาจากห้องครัวของทางร้านอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างไรก็ตามทางร้านก็ถูกทางการของเมืองหนานหนิงสั่งปิดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบที่ร้านและพบว่าสภาพภายในนั้นดูไม่ถูกสุขลักษณะอนามัยเลยแม้แต่น้อย แหม่ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าจริงๆ แล้วงูกับบะหมี่อาจจะเข้ากันได้ดีก็ได้นะ ฮร่าๆ ที่มา : shanghaiist
-
10 สถานที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ประตูสู่นรก’ จากทั่วโลก เต็มไปด้วยตำนานและเรื่องเล่าโบราณ
ในโลกนี้เต็มไปด้วยสถานที่ลึกลับมากมาย ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่หลายที่ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น้อยคนนักจะรูปประวัติ เช่นเดียวกับสถานที่ต่อไปนี้ ที่ขึ้นชื่อว่า “ประตูสู่นรก” บางดูสวยชวนหลงไหล แต่จริงๆ มันกลับเป็นทางไปสู่นรกซะงั้น และเพราะความลึกลับนี้ จึงไม่มีใครกล้าจะพิสูจน์ว่า เป็นจริงหรือแค่เรื่องเล่ากันแน่? 1. ภูเขาไฟ Hekla ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นหนึ่งภูเขาที่มีการปะทุมากที่สุด จนในช่วงยุคกลาง ชาวยุโรปได้ขนานนามให้ว่า “ประตูสู่นรก” ย้อนกลับไปเมื่อปี 1104 ตอนที่ภูเขาไฟ Hekla ระเบิดครั้งแรก มีลาวาไหลลงมาจากภูเขา เสมือนไฟนรกได้ปะทุขึ้นมา ส่วนชาวบ้านที่มีความเรื่องโชคลางต่างๆ บอกว่า ภูเขาไฟเป็นที่ชุมนุมของแม่มดเพื่อคอยทำตามคำสั่งของสิ่งลี้ลับ นอกจากนี้ตำนานยังเล่าว่า ทุกครั้งที่ภูเขาไฟปะทุกขึ้น จะมีเงาดำๆ ออกมาจากภูเขาและบินวนรอบๆ 2. ภูเขาไฟ Masaya คนพื้นเมืองของ Masaya เชื่อว่าปากสมรภูมิของชีวิตหลังความตาย พวกเขาเชื่อว่า ภูเขาไฟคือพระเจ้า โดยภายในหลุมนี้มีแม่มดอาศัยอยู่ ที่ได้ชื่อว่า ประตูสู่นรก เนื่องจากที่นี่ตรงกับในคำพยากรณ์ในพันธสัญญาใหม่ ที่อธิบายถึงนรกว่าเป็นดินแดนที่ไฟลุกโหมในหลุมลึกที่ไม่มีจุดจบ และพ่นควันตลบกลบแสงตะวัน ในไบเบิลกล่าวชัดเจนว่า นรกถูกตระเตรียมไว้สำหรับปีศาจ ยมทูต ซาตาน คณะบาทหลวงนำไม้กางเขนปักลงปากปล่อง มันตั้งอยู่เรื่อยมาอีกตลอดห้าร้อยปีจนเกิดการปะทุครั้งใหม่จึงหายไป ในยุคกลาง ชาวคริสต์เชื่อว่าซาตานได้ก่อกบฏต่อต้านพระเจ้า…
-
‘Bear’ น้องหมาผู้น่าสงสาร เพื่อนๆ ทยอยถูกรับเลี้ยงอย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าตัวกลับถูกมองข้าม…
อย่างที่เพื่อนๆ ทราบกันดีว่าการหาบ้านให้น้องหมาในศูนย์พักพิงแต่ละตัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ดูเหมือนสุนัขที่ชื่อ Bear จะโชคร้ายกว่าหมาตัวอื่นๆ หลายต่อหลายเท่าเลยล่ะ เมื่อ 3 ปีก่อน Bear ถูกนำตัวมาที่ศูนย์พักพิง Detroit Animal Welfare Group (DAWG) หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากข้างถนนในเมืองฟลินท์ รัฐมิชิแกน ตอนนั้นมันมีอายุเพียงแค่ 7 เดือนเท่านั้นและอยู่ในสภาพที่ผอมแห้งมาก โดยหลังจากที่มันได้รับการช่วยเหลือแล้ว ก็ได้เข้าไปอยู่ในบ้านอุปถัมภ์เพียงไม่นาน มันก็ถูกส่งตัวกลับมาที่ศูนย์เพราะเจ้าของบ้านมีน้องหมาตัวน้อยเข้ามาและไม่สามารถเลี้ยงเจ้า Bear ได้อีกต่อไป Kelley LaBonty ผู้อำนวยการศูนย์ DAWG บอกว่า “Bear เข้ากับคนได้ดีมาก มันรักคนทุกเพศทุกวัย มันขี้เล่นมาก ชอบให้คนกอด ชอบให้เกาพุงและเป็นหมาที่รู้คำสั่งพื้นฐานพอสมควรเลย” แต่ทว่าปัญหาของเจ้า Bear นั้นอยู่ที่ลักษณะนิสัยที่ไม่สามารถเข้ากับสัตว์ตัวอื่นๆ ได้เลย ดังนั้นเป้าหมายของทางศูนย์คือต้องหาบ้านใหม่ให้เจ้า Bear ที่ไม่มีสัตว์เลี้ยงตัวอื่นอยู่ด้วย… เจ้าหน้าที่ของศูนย์ได้พามันไปทำกิจกรรมต่างๆ มากมายเพื่อหาบ้านให้ แต่มันก็ถูกมองข้ามทุกครั้ง แม้ว่าน้องหมาจถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า แต่มันก็ไม่เคยยอมแพ้และมีความสุขกับการหาบ้านใหม่ทุกครั้ง ที่สำคัญเรื่องราวของมันก็ยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย จนกระทั่งหญิงคนหนึ่งได้ขับรถมากว่าชั่วโมงครึ่งเพื่อมาหาเจ้า Bear และเธอก็ตกหลุมรักมันทันที เธอบอกว่า “ฉันคิดว่าการมีน้องหมาตัวนี้จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในครอบครัวเราแน่ๆ เลยค่ะ”…
-
รวมภาพ จีนเปิดตัว “ทางหลวงข้ามทะเลทราย” ยาวที่สุดในโลกเกือบ 1,000 กิโลเมตร
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าจีนเป็แผ่นดินใหญ่ และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก ดังนั้นไม่ว่าจีนจะทำอะไรก็มักจะทำให้ยิ่งใหญ่และมีความก้าวหน้ากว่าหลายๆ ประเทศเสมอ อย่างโปรเจคล่าสุดของจีนคือการทำทางหลวงข้ามทะเลทรายสายที่ยาวที่สุดในโลก และเตรียมเปิดใช้อย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ โดยส่วนหนึ่งของทางหลวง จิง-ซิน ตั้งอยู่ในบริเวณเมืองฮามี่ เขตปกครองตนเองซินเจียง ชนชาติอุยกูร์ทางตะวันตกสุดของแผ่นดินจีน ซึ่งเป็นส่วนที่จะเปิดใช้บริการในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน 2017 ในขณะที่ส่วนที่เหลือของทางหลวงจิง-ซิน เชื่อมต่อกับนครหลวงปักกิ่งกับซินเจียง ความยาว 2,540 กิโลเมตร และพาดผ่านภูมิภาคกับมณฑลต่างๆ รวม 6 แห่ง โดยมีกำหนดเปิดใช้งานในปี 2562 นอกจากนี้ส่วนหนึ่งของทางหลวงที่เป็นเส้นตรงยาว 930 กิโลเมตร จากเขตหลินเหอถึงเขตป๋ายเกอต้าของเขตปกครองตนเองมองโกลเลียใน ยังตัดผ่านทะเลทรายโกบีและทะเลทรายปาตานจี๋หลินด้วย ทำให้มันได้ชื่อว่าเป็นทางหลวงข้ามผ่านทะเลทรายที่ยาวที่สุดในโลกไปในทันที… ทั้งนี้ทางหลวงจิง-ซิน ที่เชื่อมต่อระหว่าง Beijing กับ Urumqi มีความยาวของระยะทางทั้งหมดมากกว่า 2,000 กิโลเมตร ดังนั้นจึงถือเป็นทางหลวงข้ามทะเลทรายที่มีความยาวมากที่สุดในโลก หากโปรเจคดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว จีนก็มีแพลนที่จะสร้างทางข้ามที่เชื่อมต่อกันทั่วเอเชียและยุโรปโดยไปสิ้นสุดลงที่เมือง Rotterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ เส้นทางซึ่งจะเชื่อมต่อปักกิ่ง ไปสู่เมืองใหญ่ในยุโรป ภาพของทางหลวงสายดังกล่าว ที่ดูทอดยาวสุดสายตา… .…
-
เจ้าเหมียวตื่นเต้นกับบ้านใหม่ เข้าสำรวจปล่องไฟติดนานเป็นวัน ไม่พ้นมนุษย์ต้องช่วยออกมา…
แมวนอกจากจะขี้อ้อนแล้ว มันยังมีนิสัยซุกซนสร้างความวุ่นวายให้เราไม่เว้นแต่ละวัน และบางครั้งพวกมันก็ซนจนพาตัวเองไปตกอยู่ในที่นั่งลำบากด้วย เหมือนกับเจ้า Lola เจ้ามิ้วน้อยที่เพิ่งจะได้บ้านใหม่ แต่ด้วยความตื่นเต้นตื่นสถานที่ มันเลยพยายามสำรวจทุกซอกทุกมุมของบ้าน แล้วไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหน ดันพาตัวเองเข้าไปติดอยู่ในปล่องไฟจนต้องเดือดร้อนเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือออกมา หลังจากที่พา Lola เข้ามาอยู่ในบ้านใหม่ได้เพียงแค่ 4 วัน มันก็หายไปจากสายตาทุกคนในบ้าน แม้จะออกตามหายังไงก็หาไม่เจอ ก็เลยพากันคิดว่ามันต้องแอบหนีออกจากบ้านไปแล้วแน่ๆ แต่ทว่าภายในวันต่อมา ก็ได้ยินเสียงแมวดังมาจากปล่องไฟ ทุกคนเลยรู้ทันทีว่านั่นต้องเป็นเสียงของเจ้าเหมียว Lola แน่นอน และไม่รอช้าทำการแจ้งไปยังองค์กร RSPCA ทันที จากนั้นทุกคนก็เริ่มภารกิจช่วยน้องเหมียวออกจากปล่องไฟ โดยเริ่มปฏิบัติภารกิจช่วยชีวิตตั้งแต่ 8.30 น. จนกระทั่ง 12.30 น. จึงจะช่วยเจ้า Lola ออกมาได้สำเร็จ Matt Brown จาก RSPCA บอกว่า “เราไม่รู้ว่ามันไปติดอยู่ในช่วงไหนของปล่องไฟ ก็เลยต้องวางแผนกันให้รอบคอบเพื่อความปลอดภัยของเจ้าเหมียว เราเริ่มด้วยการปีนขึ้นไปบนหลังคาก่อนครับ จากนั้นก็หย่อนเชือกลงไปให้มัน แต่ก็ไม่สำเร็จ” เมื่อไม่ได้ผล พวกเขาก็เลยเอาเตาไฟออก จากนั้นก็ใช้ด้ามเหล็กยาวๆ เขี่ยสิ่งกีดขวางเพื่อทำให้น้องเหมียวหาทางลงได้ มันใช้เวลานานมาก แต่มันก็คุ้มค่าเพราะสุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ก็พาเจ้า Lola ออกมาได้อย่างปลอดภัย…
-
ย้อนรอยภาพในอดีตของเมืองปารีส ครั้งน้ำท่วมใหญ่ในปี 1910 ชาวเมืองจะรับมือกันอย่างไร?
เหตุการณ์น้ำท่วม ถือเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่บ้านเราต้องเจอกันบ่อยมากๆ เรียกว่ามีข่าวคราวทุกปี และถึงแม้จะพยายามป้องกันอย่างไรก็ไม่สามารถขจัดปัญหาเหล่านี้ออกไปได้เสียที… นั่นก็ทำให้เราฉุกคิดได้ว่าระบบการจัดการน้ำยังอยู่ในขั้นย่ำแย่ แต่รู้ไหมว่าเมืองใหญ่อย่างปารีสก็เคยประสบกับปัญหาน้ำท่วมหนักมาแล้วเหมือนกัน!? เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในปารีสนั้นถือว่าหาดูได้ยากมากๆ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงท้ายเดือนมกราคมปี 1910 ในช่วงเดือนที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องส่งผลให้แม่น้ำ Seine มีระดับน้ำที่สูงขึ้นมาก จนเอ่อล้นออกมาท่วมตัวเมืองในที่สุด ใช่ว่าทุกคนจะมีเรือใช้ ฉะนั้นอะไรที่พอจะลอยได้ก็นับว่าเป็นเรือเช่นกัน ในอดีต ณ ช่วงเวลานั้นปารีสประสบกับเหตุการณ์น้ำท่วมอยู่บ่อยครั้ง แต่สำหรับครั้งนี้มีความร้ายแรงมากกว่าปกติและกินเวลานานนับสัปดาห์เลยทีเดียว ทางด้านระบบระบายน้ำก็ยังไม่ดีพอที่จะถ่ายเทน้ำทั้งหมดออกไปได้ทัน ต่อมาในวันที่ 21 มกราคม 1910 ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่องและระดับน้ำก็สูงยิ่งขึ้นไปอีก ในช่วงเวลานี้นั่นเองที่น้ำเริ่มไหลเข้าท่วมทั้งเมืองรวมไปถึงระบบคมนาคมต่างๆ และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของชาวเมือง ซึ่งทำให้ผู้คนหลายพันชีวิตไม่สามารถจะใช้ชีวตอยู่ในบ้านที่มีชั้นเดียวได้ปกติ รถไฟใต้ดินก็ใช้งานไม่ได้ ห้างร้านต่างๆ ก็ต้องปิดทำการไปโดยปริยาย สังเกตจากการที่ผู้คนหันมาใช้เรือ ทำให้รู้ได้ทันทีว่าน้ำท่วมครั้งนี้หนักหนาแค่ไหน ทางเดินก็ต้องสร้างขึ้นเฉพาะกิจ เพื่อใช้ในการเดินทางไปยังบ้านเรือนหลังอื่นๆ จากปัญหาน้ำท่วมหนักทำให้ผู้คนต้องหันมาใช้เรือในการคมนาคมแทน และต่อมาในวันที่ 28 มกราคม 1910 ระดับน้ำก็เลวร้ายยิ่งขึ้นเมื่อเพิ่มระดับท่วมสูงเป็น 8 เมตรจากระดับน้ำปกติ ทำให้การใช้ชีวิตในเมืองยิ่งทวีความลำบากมากยิ่งขึ้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นตีเป็นเม็ดเงินจำนวนกว่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราวๆ 5 หมื่นล้านบาท) แม้ค่าความเสียหายจะสูงมากขนาดไหน…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ พ่อจับลูกยื่นออกไปนอกหน้าต่าง ที่ทำไปเพียงเพราะอยากได้ 1,000 ไลค์!!
คุณพ่อลูกอ่อนชาวแอลจีเรียจับลูกชายตัวน้อยของตัวเองยื่นออกไปนอกระเบียงห้องที่อยู่บนชั้น 15 แล้วก็ถ่ายคลิปมาโพสต์ลงเฟซบุ๊ค เพราะอยากได้จำนวนยอดไลค์จากเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊ค 1,000 ไลค์ เจ้าหนูน้อยผู้โชคร้ายถูกคุณพ่อใจร้ายใช้มือจับคอเสื้อยื่นออกไปนอกระเบียงห้องที่อยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 45 เมตร พร้อมกับถูกถ่ายคลิปวิดีโอมาลงเฟซบุ๊คด้วยแคปชั่นว่า “ขอ 1,000 ไลค์ ไม่เช่นนั้นผมจะปล่อยเขาให้ตกลงไป” แต่แทนที่จะได้รับยอดไลค์ดังที่หวังเอาไว้ กลับกลายเป็นว่าเขาถูกดำเนินคดีในข้อหาทารุณกรรมเด็ก และถูกตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี!! จากการให้การในชั้นศาลที่เมือง Bab Ezzouar คุณพ่อใจร้ายบอกว่าเราคิดว่าการทำเรื่องหวาดเสียวนั้นมักจะได้ยอดไลค์ในเฟซบุ๊คมากเป็นพิเศษ… ทางด้านนักกิจกรรมด้านสื่ออย่าง Dalila Belkheir ก็ได้ออกมาบอกว่าชายคนนั้นไม่มีความเป็นพ่อคน แต่เป็นอาชญากร “เขาควรจะถูกจับและดำเนินคดีอย่างร้ายแรงที่สุด” แน่นอนว่าเหล่าชาวเน็ตพอได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วต่างก็ไม่พอใจอย่างแรง แสดงความคิดเห็นด่าคุณพ่อใจร้ายกันแบบรัวๆ “โอ้พระเจ้า นี่ฉันเพิ่งจะอ่านอะไรไปเนี่ย เด็กน้อยคนนึงที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ ทำไมเขาถึงต้องถูกจับออกไปห้อยอยู่นอกระเบียงบนตึกที่สูงขนาดนั้นด้วย? คนที่ทำแบบนั้นเป็นคนที่เขาควรจะไว้ใจมากที่สุดในโลกอย่าง ‘พ่อ’ ของตัวเองเนี่ยนะ? ต่อจากนี้ไปเด็กคนนี้ไม่ควรถูกปล่อยไว้ให้อยู่กับพ่อตามลำพังอีกต่อไปแล้วล่ะ” “ลองให้เขากระโดดลงมาจากหน้าต่างดูสิ อาจจะได้ซัก 2,000 ไลค์ก็ได้นะ อ้าวไม่เหรอ ทำไมล่ะ??” “เขาไม่สมควรที่จะมีลูกเลย” “เอาเด็กคนนั้นอยู่ให้ห่างจากชายผู้ล้มเหลวคนเดี๋ยวนี้เลยนะ” แล้วเพื่อนๆ…
-
คู่รักเกย์ถ่ายภาพเทียบอดีต กับความรักที่แสนยาวนาน 25 ปี และความพยายามที่ต่อสู้มา…
ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ Nick Cardello วัย 54 และ Kurt English วัย 52 ปี ได้พบเจอกันเมื่อปี 1992 และอยู่ด้วยกันตั้งแต่นั้นมาเป็นเวลานานกว่า 25 ปีแล้ว ทั้งคู่ได้แต่งงานกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วและอาศัยอยู่ในเมือง Tampa รัฐฟลอริดา คุณ Cardello และ English ได้ตัดสินใจฉลองวันครบรอบที่ได้อยู่ด้วยกันครบ 25 ปี ด้วยการเดินทางไปเข้าร่วมขบวน Pride เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมของกลุ่ม LGBT ที่จัดขึ้นในเมือง Washington DC. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้พวกเขายังตัดสินใจทำเรื่องน่ารักๆ อย่างการถ่ายรูปแบบหวานแหววเพื่อรำลึกถึงการไปร่วมเดินขบวนเรียกร้องความเท่าเทียมที่ Washington เมื่อปี 1993 และในปีนั้นพวกเขาก็จุ๊บกันแบบที่เห็นในรูปนี้ด้วยเช่นกัน เป็นช่วงเวลา 24 ปี ที่ทั้งคู่ได้ทำการจุ๊บกันในการร่วมเดินขบวนเพื่อเรียกร้องถึงความเท่าเทียม และปัจจุบันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เป็นคู่รักคนเดิม สถานการณ์แบบเดิม และสถานที่เดิม มีเพียงแค่กาลเวลาที่ทำให้ทั้งสองมีอายุมากขึ้น…
-
การตกแต่งโลงศพจากประเทศกาน่า เพื่อบ่งบอกถึง ‘ไลฟ์สไตล์’ ของผู้ตายครั้งยังมีชีวิตอยู่…
‘โลงศพ’ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในงานศพอย่างหนึ่ง และอาจจะเป็นสิ่งที่มีราคามากที่สุดในงานศพด้วยซ้ำไป จะเรียกได้ว่าเป็นบ้านหลังสุดท้ายที่เราจะต้องลงทุนซื้อเพื่อเข้าไปอยู่ในนั้นก็ได้เลยล่ะ ซึ่งลักษณะของโลงศพส่วนใหญ่นั้นจะมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือไม่ก็เป็นทรงห้าเหลี่ยมยาวๆ ดูเรียบง่ายและเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ผู้ตายด้วย แต่สำหรับวัฒนธรรมของผู้คนที่อยู่ในตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศกาน่านั้น มีรูปแบบโลงศพที่แปลกและหลากหลายเหลือเกิน ด้วยวัฒนธรรมที่ว่าโลงศพควรจะสะท้อนถึงผู้ใช้ว่าตอนมีชีวิตอยู่เขาเป็นคนอย่างไร หรือทำอาชีพอะไร!? อย่างเช่นถ้าเป็นชาวประมงโลงศพก็จะเป็นรูปปลาอย่างที่เห็น และคนนี้อาจจะมีชื่อว่า Falcon หรือไม่ก็ Eagle บางคนอาจจะชื่นชอบเครื่องบินมากๆ ก็เลยนอนอยู่ในโลงเครื่องบิน ส่งผลให้การทำโลงศพในรูปแบบต่างๆ นี้ ถือว่าเป็นงานฝีมืออย่างหนึ่งเลยล่ะ คนนี้อาจจะเป็นเกษตรกร เพราะมีลักษณะคล้ายผลไม้ อาจจะเป็นคนเลี้ยงนกก็ได้นะ ตั้งแต่ที่โลงศพเหล่านี้ถูกนำไปเปิดเผยให้ชาวยุโรปได้รับรู้ ก็ทำโลงศพเหล่านี้ถูกนำไปจัดโชว์ในพิพิธภัณฑ์ Musée National d’Art Moderne ที่อยู่ในกรุงปารีสด้วยล่ะ . ร้านรับทำโลงศพ เปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วยนะ นอกจากจะทำเป็นโลงศพแล้วยังแกะสลักไม้ให้เป็นผลงานน่ารักๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวซื้อกลับไปเป็นของที่ระทึก เอ้ย ที่ระลึกด้วย . แหม่ มาเป็นถุงปุ๋ยเชียว . โลงศพขนาดจิ๋ว …
-
นักปีนเขาจับภาพวินาที “นกฮูกแหวกว่ายน้ำหาฝั่ง” พยายามดิ้นรนหาพื้นผิว เพื่อเอาชีวิตรอด
ในขณะที่ Derrick Zuk กับกลุ่มเพื่อนๆ ไปปีนเขาด้วยกันใน Lake Powell ที่ตั้งอยู่ระหว่างรัฐยูทาห์และรัฐแอริโซนา พวกเขาก็สังเกตเห็นนกฮูกตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งกำลังแหวกว่ายน้ำอยู่ในหุบเขา ปกติแล้วนกทั่วไปจะว่ายน้ำไม่เป็น เพราะถ้าหากขนของพวกมันตกอยู่ในน้ำ จะทำให้สูญเสียการควบคุม แต่ทว่าถ้าหากนกตกลงไปในน้ำแล้ว พวกมันต้องรีบขี้นบกให้เร็วที่สุด เพราะถ้าหาฝั่งไม่ได้พวกมันอาจจะต้องจมน้ำตาย เช่นเดียวกับนกฮูกน้อยตัวนี้ที่คาดว่าน่าจะตกลงมาจากรังที่สร้างอยู่บนหน้าผา และตกลงมาอยู่ในทางน้ำระหว่างหุบเขา ในจังหวะที่ยังมีเรี่ยวแรงอยู่ก็ต้องพยายามเอาตัวรอด แหวกว่ายน้ำไปตามทางเพื่อหาฝั่ง แม้จะเป็นแค่นกฮูกน้อยที่ปีกยังไม่แข็งแรงและไม่เคยว่ายน้ำมาก่อน แต่เห็นทักษะการว่ายน้ำของมันแล้วต้องชื่นชมในความพยายามของมัน ที่สำคัญมันใจเย็นและไม่ลุกลี้ลุกลนจนสามารถขึ้นฝั่งได้สำเร็จ Geoff LeBaron จาก National Audubon Society บอกว่านกที่เห็นในวิดีโอนั้นน่าจะเป็นสายพันธุ์ของนกฮูกขนาดใหญ่ที่เพิ่งจะออกจากรังเพื่อสำรวจโลกครั้งแรก LeBaron บอกว่า “เห็นได้ชัดว่านกฮูกตัวนี้ยังอายุน้อยที่ยังต้องอยู่ในการดูแลของแม่มัน ดังนั้นผมจึงหวังว่านักปีนเขาทั้งสองคนจะช่วยมันกลับไปหาแม่นะครับ” นกฮูกน้อยพยายามว่ายน้ำขึ้นฝั่ง ที่มา boredpanda l nationalgeographic
-
หนุ่มใส่ขาสั้นไปทำงานเพราะอากาศร้อน แต่ถูกไล่กลับไปเปลี่ยนชุด งั้นใส่เดรสประชดแม่ม!!
สำหรับเหล่าพนักงานบริษัทต่างๆ แล้ว จะคิดกันว่าการไปทำงานนั้นจะต้องแต่งตัวสุภาพแบบกางเกงขายาว เสื้อเชิ้ต อะไรทำนองนี้ไปทำงานในทุกๆ วัน แต่สำหรับนาย Joey Barge หนุ่มพนักงานวัย 20 ปี จากเมือง Buckinghamshire ประเทศอังกฤษ ได้ตัดสินใจสวมกางเกงขาสั้นเพื่อไปทำงานในวันที่อากาศร้อนอบอ้าวแบบสุดๆ แต่ทว่าพอไปถึงที่ทำงานกลับโดนหัวหน้าไล่กลับมาที่บ้านมาซะงั้น ด้วยเหตุผลที่ว่าแต่งตัวไปทำงานไม่เหมาะสม!? ด้วยความคับแค้นใจว่าทั้งที่อากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้ แต่การที่ใส่กางเกงขาสั้นไปทำงานกลับไม่สุภาพซะงั้น ก็เลยโพสต์ข้อความตัดพ้อลงบนทวิตเตอร์ว่า “ถ้าผู้หญิงสามารถสวมชุดเดรส หรือกระโปรงสั้นๆ ไปทำงานได้ แล้วทำไมผมถึงใส่กางเกงขาสั้นไปทำงานบ้างไม่ได้ล่ะ?” แต่แทนที่จะกลับมาเปลี่ยนเป็นชุดสุภาพเพื่อกลับไปทำงานอีกครั้ง เขาก้กลับเปลี่ยนไปใส่ชุดเดรสสีชมพูไปทำงานแทนเพื่อแสดงถึงความไม่พอใจ สิ่งที่เขาคิดไว้ในตอนแรกหลังจากเดินทางไปถึงที่ทำงานก็คือการถูกไล่กลับไปเปลี่ยนชุดอีกครั้งหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นว่าเขาชนะ และเจ้านายก็ยอมให้พนักงานชายสามารถสวมใส่กางเกงขาสั้นมาทำงานได้… แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเป็นกางเกงขาสั้นแบบสามส่วนและต้องมีสีเข้มไม่มีลวดลายเท่านั้น ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่เสียจริงๆ ฮร่าาาาา แต่การที่เขาไม่ได้ถูกขับไล่ไสส่งกลับบ้านนั้น ทำให้นาย Joey ต้องสวมชุดเดรสสีชมพูทำงานอยู่ที่บริษัททั้งวัน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเขินอายเลยแม้แต่น้อย “เจ้านายบอกว่าสีมันจี๊ดจ๊าดไปหน่อยนะ ถ้านายต้องการจะกลับไปที่บ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไม่เป็นไร แต่ผมบอกไปว่าผมมีความสุขดี แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันแปลกด้วย” Joey เล่า ที่มา : dailymail
-
เด็กชายอินเดียวัย 8 ขวบ สูงปรี๊ดถึง 198 ซม. โดดเด่นยิ่งกว่าใครเพื่อนในวัยเดียวกัน!!
การเป็นคนตัวสูงนั้นมักมีข้อได้เปรียบหลายๆ อย่าง ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ทำแถบทุกวิถีทางเพื่อเพิ่มความสูงให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารเสริมหรือการออกกำลังกาย แต่สำหรับเด็กชาย Karan Singh นั้น เขาแทบไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะตอนนี้มีอายุเพียงแค่ 8 ขวบ แต่กลับมีความสูงมากถึง 198 เซนติเมตรแล้ว และถือเป็นคนที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน ความสูงของเด็กชายคนนี้มีมาตั้งแต่ตอนคลอดแล้ว ซึ่งคุณแม่บอกว่าเขาเกิดมาพร้อมความสูง 70 เซนติเมตร นับว่าเป็นทารกที่สูงที่สุดเท่าที่โลกเคยทำการบันทึกมา Karan เป็นลูกของคุณแม่ Shweatlan วัย 33 ปี จากเมือง Meerut ประเทศอินเดีย นักบาสเกตบอลหญิงที่มีความสูง 218 เซนติเมตร และเป็นผู้หญิงที่สูงที่สุดในอินเดียด้วย ส่วนพ่อของเขา Sanjay วัย 41 ปี ก็เป็นคนตัวสูงเช่นกัน แต่สูงกว่าลูกชายเพียงนิดเดียวเท่านั้น และเขาเคยให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Mirror ว่า ที่ลูกตัวสูงก็เป็นเพราะภรรยาทานอาหารเสริมพิเศษ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าครอบครัวของเขามีฮอร์โมนการเจริญเติบโตที่มีมากเกินกว่าปกติ การมีลูกที่สูงกว่าเด็กวัยเดียวกันดูจะไม่มีปัญหาอะไร ยกเว้นแต่เรื่องเสื้อผ้าที่ต้องใส่ของเด็ก 10 ขวบ ทั้งที่ในตอนนั้นเขาเพิ่งจะมีอายุได้เพียงแค่ 3 ขวบเท่านั้น นอกจากนั้นก็ต้องสวมรองเท้าไซส์…
-
ศิลปินถ่ายภาพกับขยะ ที่ไม่ได้ทิ้งมาตลอด 4 ปี สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาขยะล้นโลก!!
เพื่อนๆ เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า ‘ขยะ’ ที่เราใช้แล้วทิ้งกันอยู่ทุกวันนี้ พอเอามารวมๆ กันในช่วงระยะเวลาหนึ่งมันจะมีจำนวนมากขนาดไหนกันนะ!? สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมผลงานการถ่ายภาพของศิลปิน Antoine Repessé ที่จู่ๆ ก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าหากหยุดทิ้งขยะเป็นระยะเวลา 4 ปี ปริมาณขยะที่เราผลิตกันออกมานั้นจะมีมากแค่ไหนกัน? จากนั้นก็จะนำขยะเหล่านั้นมาสร้างเป็นผลงานภาพชุดที่มีชื่อว่า #365 Unpacked เพื่อทำให้ผู้บริโภคทั้งหลายคำนึงถึงบทบาทการบริโภคให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปี Antoine ได้ทำการเก็บสะสมขยะไปทั้งหมด 70 ลูกบาศก์เมตร แบ่งเป็นขวดนม 1,600 ขวด แกนกระดาษทิชชู่ 4,800 แกน และหนังสือพิมพ์ 800 กิโลกรัม ซึ่งขยะทั้งหมดนี้จะถูกแยกออกมาถ่ายภาพเล่าเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป “ฉันอยากที่จะสร้างมิติทางสุนทรีย์ให้กับผลงาน ซึ่งการจัดเรียงขยะให้ดูเป็นระบบระเบียบจะสร้างเอฟเฟคที่ดีมากกว่า” “การทิ้งขยะของเสียที่เกิดจากตัวของเรานั้นเป็นอะไรที่ถูกพูดถึงบ่อยมาก แต่ฉันคิดว่าภาพเหล่านี้จะสร้างผลกระทบและมีพลังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากกว่าคำพูด และฉันก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลงานของฉันจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้” Antoine กล่าว . . . . . ที่มา…
-
คุณพ่อพาครอบครัวเที่ยว 41 ประเทศทั่วยุโรป กว่า 28,000 กิโลเมตร ด้วยมอเตอร์ไซค์คันเดียว
การได้ท่องเที่ยวรอบโลกนับเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน แต่กว่าจะทำให้ฝันนั้นเป็นเป็นจริงไม่ใช่เรื่อง่ายเลย ไหนจะต้องเก็บเงิน ต้องหาเวลาว่างอีก ในขณะที่บางคนแทบไม่ต้องทำสิ่งเหล่านั้นเลยเพราะเกิดมาพร้อมความโชคดี เหมือนกับ Vladimir Barbu หนูน้อยวัย 4 ขวบที่เกิดมาในครอบครัวที่รักการเดินทางอย่างคุณพ่อ Mihai Barbu และคุณแม่ Oana Barbu ซึ่งคุณพ่อเองก็เป็นทั้งไบค์เกอร์และช่างภาพด้วย!! Mihai เป็นช่างภาพชาวโรมาเนีย ทั้งเขาและภรรยาต่างก็เป็นคนชื่นชอบในการเดินทางมากๆ ดังนั้นทั้งคู่จึงวางแผนเอาไว้ว่าหากลูกชายโตพอแล้ว จะตั้งใจจะพาเขาออกเดินทางด้วย จนกระทั่งช่วงฤดูร้อนของปี 2015 ขณะนั้น Vladimir อายุ 4 ขวบ ซึ่งอยู่ในช่วงที่อยากรู้อยากเห็น และชอบเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว เริ่มต้นที่กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย ด้วยเหตุนี้พ่อแม่จึงตัดสินใจพาลูกชายท่องเที่ยวทั่วทวีปยุโรป เพื่อให้เขาได้เรียนรู้โลกที่กว้างขึ้น และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ตลอดการเดินทางที่เขาจะไม่มีวันลืม นอกจากทำเพื่อลูกชายแล้ว พวกเขายังต้องการกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย ดังนั้นคุณพ่อจึงตัดสินใจท่องโลกกว้างด้วยมอเตอร์ไซค์เพียงคันเดียวเพื่อให้ลูกได้และภรรยาได้ไปสัมผัสโลกภายนอก ในรูปแบบการเดินทางของครอบครัว Vladimir สนุกกับการเล่นน้ำที่ทะเลสาบในออสเตรีย พวกเขาเริ่มทริปท่องโลกจากประเทศโรมาเนียและไปจบลงที่ประเทศบัลแกเรีย โดยได้ไปสัมผัสกัย 41 ประเทศทั่วยุโรป ภายในเวลา 4 เดือน รวมระยะทางแล้วทั้งสิ้นจะอยู่ที่ประมาณ 28,000 กิโลเมตร…
-
เด็กสาวป่วยเป็นมะเร็ง หมอบอกว่าเธอจะอยู่ได้แค่ 3 เดือน แต่กำลังใจที่ดีก็ทำให้อยู่นานนับปี!!
จะเป็นยังไงถ้าคุณรู้ตัวว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็ง ยิ่งไปกว่านั้นอยู่ดีๆ หมอก็มาบอกว่าคุณจะอยู่ไปได้อีกแค่ 3 เดือนเท่านั้น!!? ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 เด็กสาววัย 17 ปี Maddy Richie จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งได้ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมระยที่ 4 ซึ่งถือว่ารุนแรงมาก ครอบครัวของเธอต่างก็เป็นกังวล เตรียมทำใจกับการสูญเสีย ขณะที่คุณหมอเองก็บอกว่าเธอจะอยู่ได้อีกไม่นาน แต่พอเอาเข้าจริงๆ เธอก็ผ่านพ้นมันมาได้ ตั้งแต่ 3 เดือน 6 เดือน หรือตอนนี้เธอก็อายุปาไป 19 ปีเข้าไปแล้ว ด้วยเหตุนี้เธอจึงอยากจะแชร์เรื่องราวของเธอให้คนอื่นได้รู้ว่า แม้โอกาสจะมีน้อย แต่ถ้าเราไม่ยอมแพ้และคว้ามันไว้ ทุกอย่างมันก็เป็นไปได้ เธอเริ่มเล่าเรื่องราวของเธอในจุดเริ่มต้นว่า “หลังจากฉันจบจากไฮสคูลได้ไม่นาน ฉันก็เริ่มที่จะมองไปในอนาคตที่สดใสที่กำลังทอดยาวรอฉันอยู่ แต่ว่าอยู่ดีๆ ฉันก็รู้สึกหายใจลำบากมากติดๆ ขัดๆ ไม่มีแรงที่จะทำอะไรเลย แค่จะเดินขึ้นบันไดยังทำไม่ได้ จนฉันได้ไปตรวจร่างกายกับหมอและสแกนร่างกายดู ซึ่งในวันเดียวกันหลังจากฉันได้รับการวินิจฉัยและรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายและมีก้อนมะเร็งขนาดใหญ่กว่า 8 เซนติเมตรอยู่ หมอก็บอกฉันทันทีว่าเธออยู่ต่อได้อีก 3 เดือนเท่านั้น และก็มีโอกาสเพียงแค่ 4% ที่จะรอดผ่าน 3 เดือนดังกล่าวไปได้ ขณะเดียวกันฉัยก็ต้องเข้ารับการรักษามากมาย”…
-
บริษัทผู้ให้เช่าจักรยานในจีน ต้องปิดตัวหลังพบว่ารถหายกว่า 90% ทั้งที่ให้บริการแค่ 6 เดือน…
ในแต่ละประเทศมักจะมีการปล่อยเช่ารถจักรยานเพื่อคอยบริการนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในประเทศจีนที่ดูเหมือนธุรกิจดังกล่าวนี้จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าธุรกิจนี้จะยั่งยืนหรือให้ผลกำไรมากน้อยแค่ไหน อย่างกรณี Wukong Bicycles ในนครฉงชิ่ง ที่เกิดความล้มเหลวหลังจากเปิดทำการไปเพียง 6 เดือนเท่านั้น แรกเริ่มเดิมทีในธุรกิจของแอพนั้น คือการให้บริการเช่าจักรยานและแชร์จักรยานร่วมกันของลูกค้าที่ใช้บริการ แนวคิดการลดโลกร้อนด้วยการหันมาใช้จักรยานแทน สนับสนุนให้คนแบ่งปันรถที่ไม่ใช้ให้กับผู้อื่น ฟังดูดีใช่ไหมล่ะ!? แต่ผ่านไปเพียงครึ่งปี จักรยานที่เข้าอยู่ในระบบของ Wukong กลับสูญหายไปแล้วมากถึง 90% (ทั้งสูญหายและถูกขโมย) ด้วยเหตุนี้ Lou Houyi ผู้ก่อตั้งบริษัทดังกล่าวจึงมีความจำเป็นต้องติดตั้ง GPS และกลายเป็นครั้งแรกของวงการธุรกิจในจีนที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก Wukong เริ่มลงทุนด้วยจักรยาน 1,200 คัน โดยเก็บค่าเช่าจากลูกค้า แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยให้ลูกค้านำจักรยานไปใช้ฟรีระยะหนึ่งเพื่อให้บริษัทดำเนินต่อไปได้ แต่นั่นกลับทำให้บริษัทขาดทุนถึง 14 ล้านบาท ทั้งนี้แม้จะติดตั้ง GPS แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ทุกอย่างราบรื่นหรือรับประกันความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจปล่อยเช่าจักรยานในจีน ที่ผ่านมาลูกค้ามักจะนำจักรยานที่เช่าไปจอดไว้บนทางเท้าหรือตามบริเวณพื้นที่ห้ามจอด จนตำรวจจราจรต้องยึดจักรยานเหล่านั้นไป ก่อนที่จะติดต่อไปยังผู้ปล่อยเช่า นั่นหมายความว่าทางบริษัทก็ต้องเสียค่าปรับอีก ในขณะเดียวกัน เมืองใหญ่ๆ ในประเทศจีนก็กำลังเริ่มออกกฎหมายควบคุมธุรกิจจักรยานที่กำลังเฟื่องฟู โดยเฉพาะบริษัท Mobike และ Ofo…
-
เฉลยเหตุผลว่าทำไม “งานบริการลูกค้า” ในประเทศญี่ปุ่น ถึงขึ้นชื่อว่าบริการดีที่สุดในโลก!?
สำรหรับใครที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่น เคยดูสารคดี หรือไม่ก็อ่านเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับตัวประเทศนี้ น่าจะพอรู้กันว่างานบริการของที่นี่มักจะถูกจัดให้อยู่ในระดับท็อปเลยก็ว่าได้ แต่ทำไมกันล่ะ? ทำไมพวกเขาถึงสามารถทำออกมาดีแบบนั้นได้ ตั้งแต่ระดับร้านหรู ที่พักราคาแพง ไปจนกระทั่งร้านอาหารข้างทางทั่วไป ที่แม้ว่าตัวราคาหรือบริการที่ไปมันไม่ได้สูงเลยก็ตาม… ด้วยเหตุนี้ทางเว็บไซต์ Rocketnews24 ก็เลยจัดการหาคำตอบสำหรับความสงสัยในครั้งนี้มาให้เราดูกัน โดยได้อธิบายไว้ว่า ทุกอย่างนั้น… มันเริ่มมาจากรากฐานของวัฒนธรรมของญี่ปุ่น เริ่มแรกคือการเคารพสิทธิของคนอื่น และความเป็นมนุษย์ธรรมของคนในชาติ ฉะนั้นการบริการก็ยืนอยู่บนคอนเซ็ปที่ว่า “คุณควรจะปฏิบัติต่อคนที่ให้การสนับสนุนคุณด้วยความสุภาพอ่อนโยน” ล่าสุด American Express International ก็ได้ทำผลสำรวจกลุ่มคน 1,000 คน จากหลากหลายประเทศไม่ว่าจะเป็น แคนาดา ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น เม็กซิโก สิงคโปร์ อังกฤษ และอเมริกา เพื่อสำรวจความพึงพอใจในงานบริการจากประเทศต่างๆ ของลูกค้า ผลที่ได้ก็ออกมาตามคาดเกือบประเทศจะมีความพึงพอใจงานบริการอยู่ที่ 30-35% เท่านั้น โดยมีฮ่องกงที่ความพึงพอใจต่ำกว่าชาติอื่นๆ โดยจะอยู่ที่ 23% จะมีก็เพียงแต่ประเทศญี่ปุ่นที่ความพึงพอใจของลูกค้าพุ่งสูงถึง 56% ซึ่งเรียกว่าเยอะมากๆ เลยทีเดียว คนที่เข้าร่วมผลสำรวจยังบอกอีกว่า แม้เขาจะเจอผู้ให้บริการแย่ๆ ในญี่ปุ่น แต่จากนั้นพอไปร้านอื่น…
-
ตำรวจบุกค้นบ้านสาวใหญ่ พบหมาถูกเลี้ยงไว้อย่างแออัด 84 ตัว ในบ้านหลังเดียวเท่านั้น…
ใครที่รู้จักการ์ตูนเรื่อง 101 Dalmtians คงจำตัวละครที่ชื่อ Cruella de Vil ได้ดี ซึ่งเธอก็คือหญิงสาวแม่ม่ายใจร้ายที่เลี้ยงสุนัขนับร้อยตัวด้วยความโหดร้ายทารุณ ไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นจริง เมื่อเว็บไซต์สื่อต่างประเทศได้รายงานเรื่องของ Christina ‘Tina’ Fay วัย 59 ปี หญิงผู้ถูกจับกุมข้อหาทารุณกรรมสุนัข!! Christina Tina Fay เจ้าหน้าที่ตำรวจ Dean Rondeau ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ก่อนหน้านี้เราได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านของเธอในย่านนิว แฮมเชียร์ เนื่องจากพวกเขาได้กลิ่นเหม็น และมีเสียงสุนัขรบกวน พอพวกเราเข้าไปดูก็ต้องเห็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ บ้านของเธอมี 3 ชั้นและทุกชั้นเต็มไปด้วยสุนัข เศษขยะ กลิ่นของเสียต่างๆ และเสียงเห่าของสุนัขพันธุ์เกรทเดนที่เหมือนต้องการความช่วยเหลือ แถมสภาพของพวกมันแต่ละตัวก็ดูแย่มาก” เมื่อเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้เข้าไปสำรวจบ้านของเธอ พวกเขาก็ต้องพบกับความจริงที่น่าตกใจ สุนัขหลายๆ ตัวมีอาการป่วยและไม่ได้รับการรักษา รวมทั้งพวกมันต้องอยู่ในกรงแออัด และสภาพแวดล้อมที่เหมือนคุก องค์กร The Human Society จึงได้ประสานงานร่วมกับสถานีตำรวจ Wolfeboro เพื่อเข้าไปช่วยเหลือสุนัขทั้งหมด Fay ได้ซื้อบ้านหลังนี้มาในราคา…
-
รู้จักกับ Ailton da Silva หนุ่มบราซิลผู้ยกระดับการ “ขายของกลางสี่แยก” ให้ดูคูลไปอีกขั้น
หลายคนอาจจะบอกว่าไม่เห็นน่าตื่นเต้นตรงไหนเลย เพราะปกติตามสี่แยกในประเทศเราก็มักจะมีพ่อค้าแม่ค้า หรือเด็กน้อยตระเวนเดินขายพวงมาลัย หรือของกินเป็นประจำอยู่แล้ว แต่คุณก็รู้ที่นี่บราซิล… ประเทศที่มีอะไรให้น่าเซอไพรส์ได้ไม่แพ้กะลานีเซีย และวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ Ailton da Silva หนุ่มผู้ให้บริการขายของชำกลางสี่แยกผู้ไม่เคยท้อแม้วันมามาก โดยเจ้าตัวได้ให้คำนิยามกับตัวเองว่าเขาคือ ‘Traffic Waiter’ หรือบริกรประจำสี่แยกในยามรถติดไฟแดงนั่นเอง เป็นประจำทุกวันที่ชายหนุ่มคนนี้จะตื่นนอนมาตอนตี 5 อาบน้ำแต่งตัวใส่ชุดประจำตำแหน่ง ผูกไทค์หรือไม่ก็โบหูกระต่าย ใส่หมวก พร้อมมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่าน โดยสินค้าที่เจ้าตัวขายเป็นประจำก็มีตั้งแต่ น้ำเปล่าเย็นๆ โซดากระป๋อง น้ำอัดลม หรือจะเป็นพวกขนมขบเคี้ยวอย่างป็อปคอร์น มันฝรั่งทอดกรอบ และอื่นๆ อีกมากมาย ราวกับร้านยายพริกที่ขายของชำหน้าปากซอยเราเลยล่ะ ทุกอย่างจะถูกจัดวางไว้บนถาดเหล็ก พร้อมให้บริการลูกค้าราวกับว่าเขาเป็นพนักงานจากโรงแรมที่ไหนซักแห่ง เขาทำแบบนี้มาทุกวันจนปัจจุบันก็ปาเข้าไป 2 ปีแล้ว ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าสิ่งที่เป็นอุปสรรคและเป็นศัตรูคู่อาฆาตทางการค้าของเขาก็คือ ‘แสงแดด’ เพราะตั้งแต่หลัง 10 โมงเป็นต้นไป แดดของบราซิลก็จะเปรี้ยงปร้างไม่ปราณีใคร เรียกได้ว่าตอนนี้เขาได้กลายเป็นเซเลบบริตี้ประจำสี่แยกแห่งหนึ่งในบราซิลไปแล้ว เป็นประจำทุกวันที่เขาจะคอยมอบความสะดวกสบายให้แก่ชาวเมืองทุกคน อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดขายก็คือ เขามักจะบริการลูกค้าทุกคนด้วยความเคารพ และทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ถึงการให้เกียรติกัน “เอาจริงๆ ผมก็ไม่ใช่คนที่มีเงินอะไรมากมายเลยครับ ผมหาเงินได้พอให้ตัวเองใช้ชีวิตอยู่ได้ผมก็มีความสุขแล้ว…
-
พาไปดูเรือนจำ 10 แห่งทั่วโลก ที่ทั้งออกแบบสวยงาม แถมอยู่สบายจนนึกว่าโรงแรม
เราคนไทยอาจจะคุ้นเคยกับเรือนจำที่ไว้สำหรับคุมขังนักโทษเป็นจำนวนมาก การเป็นอยู่ก็อาจจะค่อนข้างแออัด โดยภายในเรือนจำนั้นก็จะมีเครื่องมือเครื่องใช้ที่พอสำหรับการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ แต่ไม่ถึงกับให้ความสะดวกสบายมากนัก แต่บางเรือนจำก็ไม่จำเป็นจะต้องสร้างมาเพื่อคุมขังนักโทษให้อยู่แต่ในความลำบาก บนโลกนี้ก็ยังมีเรือนจำที่ให้ความสะดวกสบายแก่นักโทษด้วยเช่นกัน และเราจะไปทำความรู้จักกันครับ… 1. เรือนจำ Suomenlinna เรือนจำแห่งนี้ตั้งอยู่ในประเทศฟินแลนด์ เป็นเรือนจำที่ไม่มีลวดหนาม มีเพียงรั้วเตี้ยล้อมพื้นที่ไว้จนมันได้ชื่อว่า “คุกเปิด” เพราะตั้งอยู่ภายในเกาะขนาดเล็กจึงไม่จำเป็นต้องมีรั้วหรือลวดหนามอะไร สภาพภายในพวกเขาจะเหมือนถูกส่งไปอยู่ในโรงเรียนประจำซะมากกว่า 2. เรือนจำ Halden เป็นเรือนจำของของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งดูเหมือนโรงเรียนมัธยมมากกว่าเรือนจำ พวกเขาออกแบบให้ดูดีเพื่อหวังเป็นการบำบัดรักษานักโทษให้สามารถกลับเข้าสู่สังคมได้ตามปกติ 3. เรือนจำเมือง Otago เรือนจำนี้ตั้งอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ เช่นเดียวกับเรือนจำ Halden เรือนจำแห่งนี้ก็มีบรรยากาศที่คล้ายหอพักนักศึกษาเพื่อบำบัดจิตนักโทษให้พร้อมออกไปใช้ชีวิตในสังคมได้หลังพ้นโทษนั่นเอง 4. Austria’s Justice Center เรือนจำแห่งนี้ภายนอกดูเหมือนหอศิลป์มากกว่าคุกเสียอีกนะเนี่ย มันถูกออกแบบโดยสถาปนิก Joseph Hohensinn โดยเน้นเพื่อให้แสงสว่างเพียงพอ อีกทั้งยังมีป้ายคำจารึกไว้สองข้างประตูทางเข้าแต่ละด้านยืนยันสิทธิของผู้ต้องขังในศักดิ์ศรีและความเป็นมนุษย์เอาไว้เตือนใจอีกด้วย 5. เรือนจำ Aranjuez เรือนจำหลังนี้ของสเปนอนุญาตให้บิดาหรือมารดาสามารถอยู่กับลูกของตนในเรือนจำนี้ได้ โดยภายในเรือนจำจะมีส่วนที่ถูกตกแต่งด้วยตัวการ์ตูนต่างๆ เพื่อผ่อนคลายแก่เด็กๆ 6. เรือนจำ Pondok Bambu ตั้งอยู่ในประเทศอินโดนิเซีย เรือนจำหญิงนี้อนุญาตให้นักโทษหญิงสามารถที่จะซื้อของเข้ามาใช้ภายในห้องขังของพวกเธอได้ จนดูเหมือนกับหอพักพนักงานมากกว่าคุกขังนักโทษ…
-
โมเม้นต์สุดประทับใจ เมื่อ “มาสคอตมิกกี้เมาส์” พยายามใช้ภาษามือ สื่อสารกับเด็กหูหนวก
ถึงแม้ว่าตัวตุ๊กตามาสคอตส่วนมากจะไม่สามารถพูดได้ การแสดงออกของพวกเขานั้นอาจำได้เพียงแค่กอดหรือถ่ายรูปกับเหล่าเด็กๆ เพียงแค่นั้น แต่สำหรับตุ๊กตามาสคอตตัวนี้กลับทำสิ่งที่น่าประทับใจและยกย่องในความเต็มที่ของการทำงานให้ความบันเทิงเด็กๆ เมื่อเค้าได้พยายามสื่อสารกับหนูน้อยที่หูหนวกด้วยภาษามือ คลิปวิดีโอดังกล่าว เป็นภาพของเจ้ามิกกี้เมาส์พยายามที่จะสื่อสารภาษามือกับหนูน้อยคนหนึ่ง ในระหว่างที่เขาและครอบครัวกำลังรับประทานอาหารที่ร้าน Hollywood and Vine ใน Walt Disney World รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา “มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับลูกชายฉันมาก” คุณ Bethany Rodgers แม่ของเจ้าหนู Kissimmee ผู้ถ่ายคลิปวิดีโอกล่าว ครอบครัวดังกล่าวกำลังรับประทานอาหารและรอพบปะกับเหล่าตัวการ์ตูนต่างๆ และอีกไม่กี่อึดใจ เหล่ามาสคอตก็ออกมาทักทาย เจ้ามิกกี้เดินมาทักทายหนูน้อยที่โต๊ะอาหาร “พวกเขารู้ว่าลูกชายของฉันเป็นใบ้และหูหนวกในตอนที่เข้ามาทักทายในครั้งแรก และหลังจากนั้นมาสคอตมิกกี้ก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับนั่งข้างๆ ลูกชายฉัน” คุณแม่กล่าว ไปการพบกันของมิกกี้และเจ้าหนูได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… มิกกี้เมาส์พยายามสื่อสารกับเจ้าหนูด้วยภาษามือ ตัวมาสคอตเอามือแตะที่หัว จากนั้นก็เอาฝ่ามือทั้งสองข้างทาบไปที่อก ก่อนที่จะจิ้มไปที่หัวใจของหนูน้อย ซึ่งเป็นท่าทางแทนคำพูดที่ว่า “มิกกี้เมาส์รักหนูน้อย” นอกจากนี้ มิกกี้ยังถามเจ้าหนูอีกว่า “คุณกำลังทานอะไรอยู่” โดยการชี้ไปที่จานของเด็กน้อยและทำท่ากิน ช่วงเวลาดังกล่าวเจ้าหนู Kissimmee มีความสุขมากๆ #เหมียวเวจจี้ ชื่นชมในความน่ารัก และความตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ของเหล่ามาสคอต ดูพวกเขาตั้งใจทำให้หนูน้อยมีความสุขและประสบการณ์ที่ดีที่สุดจริงๆ ที่มา dailymail
-
หนุ่มอิตาลี ตีเนียนเป็น “เจ้าชายแห่งมอนเตรเนโกร” ได้ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา กระทบไหล่คนดังเพียบ!!
เรื่องแบบนี้ไม่ได้มีแต่ในไทยหรือประเทศใกล้เคียง แต่ในยุโรปก็มีกับเขาเหมือนกัน… ชายชาวอิตาลีวัย 57 ถูกจับกุมและตั้งข้อหาฉ้อโกงพร้อมกับปลอมแปลงเอกสาร หลังจากถูกจับได้ว่าแอบปลอมตัวเป็นคนในราชวงค์มอนเตรเนโกรมาเป็นเวลาหลายปี การหลอกลวงของเขานั้นแนบเนียนสุดๆ จนทำให้คนในราชวงค์และเหล่าคนดังเชื่อซะสนิท!! ชายคนดังกล่าวเรียกตัวเองว่า “สมเด็จองค์จักรพรรดิและพระเจ้าลูกเธอ Stefan Cernetic เจ้าชายแห่งมอนเตรเนโกร, เซอร์เบียและแอลเบเนีย” นอกจากนี้เขายังได้อ้างว่าเป็นเชื้อสายของจักรพรรดิ Constantine ชายคนดังกล่าวได้ลงทุนสร้างเว็บไซต์และบัญชีสื่ออนไลน์ต่างๆ พร้อมกับรูปถ่ายของเขาและเชื้อพระวงค์เพื่อไว้ใช้หลอกลวงผู้อื่นอีกด้วย ในเว็บไซต์ของเขา เจ้าชายกำมะลอได้เขียนอธิบายเอาไว้ว่าตัวเขาเองนั้นเป็นหัวหน้าตระกูลที่ปกครองของมอนเตรเนโกร, เซอร์เบียและแอลเบเนีย มาตั้งตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 จนถึงช่วงศตวรรษที่ 18 นอกจากนี้ชายหนุ่มยังได้อธิบายถึงวงศาคณาญาติของเขา พร้อมทั้งเหรียญตรา และรูปออกงานสังคมต่างๆ เอาไว้ในเว็บไซต์อีกด้วย ซึ่งต้องขอบอกกเลยว่าถ้าหากคุณได้เข้าไปชมในเว็บไซต์ www.princeofmontenegroandmacedonia.eu ของตาคนนี้ คุณอาจจะเชื่อสิ่งที่เขาพูดก็ได้!! สิ่งที่ทำให้หลายๆ คนแทบจะเชื่อว่าเขานั้นเป็นเจ้าชายจริงๆ ก็คงหนีไม่พ้นรูปถ่ายในงานเลี้ยงกับราชวงศ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหญิงแห่งกรีซ การได้พบกับบาทหลวงแห่งวาติกัน หรือการร่วมงานเลี้ยงของท่านเทศมนตรีเมือง Monopoli ประเทศอิตาลี นอกจากนี้เจ้าชายปลอมคนดังกล่าวยังเคยมอบรางวัล Countess ให้กับนักแสดงสาวฮอลลีวูดอย่าง Pamela Anderson และแต่งตั้งยศอัศวินให้กับลูกๆ ของเธออีกด้วย และนี่คือภาพในงานพิธีมอบรางวัลดังกล่าวให้กับดาราสาว ดาราสาว Pamela Anderson กับพิธีมอบรางวัล พิธีมอบรางวัลต่างๆ แหม่ เอาซะเนียนเลยนะเนี่ย!! “ความจริงแล้วเจ้าชายกำมะลอคนนี้ไม่ได้มาจากคาบสมุทรบอลข่านแต่อย่างใด…
-
9 คำพูดเด็ดจาก “วลาดิเมียร์ ปูติน” แสดงตัวตนและความเด็ดขาด ของท่านผู้นำแห่งรัสเซีย
ในปัจจุบันคงไม่มีใครไม่รู้จัก “วลาดิเมียร์ ปูติน” ประธานาธิบดีคนที่ 4 และผู้นำคนปัจจุบันของประเทศรัสเซีย นอกจากได้ชื่อว่าเป็นผู้นำที่น่าจับตามองคนหนึ่งของโลกแล้ว เขายังมีประวัติที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเคยเข้าร่วมหน่วยข่าวกรองของ KGB ร่วมไปถึงกิจกรรมยามว่างของเขา โดนเขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของรัสเซียมาแล้ว 2 สมัยเขาได้นำพาความเสถียรภาพมาสู่การเมืองหลายครั้ง รวมไปถึงวาทะของเขาอีกมากมาย #เหมียวปั๊ก เลยขอแปลมาให้ได้อ่านกัน “ผมไม่ใช่ผู้หญิง ดังนั้นผมจึงไม่มีวันที่แย่ของเดือน” เป็นอีกวาทะที่ท่านผู้นำได้พูดออกมา ทำให้บางคนตีความว่าอาจจะเหยียดผู้หญิง แต่ในขณะเดียวกันคนบางกลุ่มก็มองว่านี่เป็นวาทะที่เซ็กซี่เหมือนกัน โดยวาทะนี้เขาได้พูดกับ Oliver Stone สำหรับการเก็บข้อมูลเพื่อทำหนังสารคดีของเขา “หน้าที่ของรัฐบาลนอกจากจะให้ยาดีแล้วต้องให้ยาขมด้วย” หลังจากการประกาศเจตนารมณ์ที่จะลงสมัครเลือกตั้งเมื่อปี 2012 เขาได้กล่าววาทะนี้ ซึ่งสื่อความเกี่ยวโยงกับนโยบายการรับมือผมกระทบวิกฤตการเงินเมื่อปี 2008 ที่เริ่มต้นจากสหรัฐอเมริกาและสั่นสะเทือนไปทั้งโลก “เป็นการอันตรายหากเราจูงใจคนกลุ่มหนึ่งว่าตนเองพิเศษ ไม่ว่ากรณีใดๆ “ ท่านผู้นำต้องการจะบอกว่าไม่ว่าเราจะเป็นเช่นไร เราทุกก็มีสิทธิเหมือนกันและล้วนมีหน้าที่ที่จะต้องกระทำเหมือนกัน และในสังคมแบบคอมมิวนิสต์ ประชาชนจะไม่พิเศษไปกว่ากัน เขากล่าวกับ New York Times เมื่อปี 2013 “มันได้จมลงไปแล้ว” ในปี ค.ศ.2000 เรือดำน้ำ Kursk ของรัสเซียจมลงในทะเล…
-
คนทำสวนกวนโอ้ย ส่งภาพตอนกำลังทำงานไปให้เพื่อนดู แถมท้าแน่จริงหาตูให้เจอเด๊ะ!!
เราคงจะเคยเห็นเพื่อนๆ ที่โพสรูปเวลาทำงาน กินข้าว หรือแม้กระทั่ง กลุ่มนักเรียนที่ “ถ่ายรูปทำเวรประจำวัน” รายงานคุณครูแทบจะทุกขั้นทุกตอน ก็ได้นะ เมื่อไม่น่ามานี้ผู้ใช้งานเว็บไซต์ imgur รายหนึ่งทำการโพสต์รูปภาพที่เพื่อนเขาได้ส่งมาพร้อมแคปชั่นเก๋ๆ ว่า “เพื่อนผมส่งรูปมาอวดผม ตอนที่เขากำลังทำงานเป็นคนดูแลสวน” แต่…. แกหาฉันไม่เจอหรอกเฟ้ย ถึงแม้ฉันจะเป็นคนสวน แต่ฉันก็สืบเชื้อสายหมู่บ้านโคโนฮะนะเว้ย!!! ระวังตัวไว้เถอะเอ็ง ~ และด้วยภาพที่ยียวนกวนประสาทส่วนหน้าแบบนี้ เลยได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ชาวเน็ตบางคนถึงกับขนานนามเขาว่าเป็น “นินจา” บ้างก็ว่าเขาใช้ Photoshop ตัดต่อรูป หรือบางคนถึงขั้นอยากเป็นเพื่อนกับเขาเพราะความเจ๋งแบบแปลกๆ นี้ก็มี อย่างเช่น “ฉันเกือบจะไม่เห็นเลยนะ เห็นแต่ต้นไม้ ตอนแรกก็งงว่าที่คนแชร์เยอะๆ นี่มันคือรูปอะไรกัน เพื่อนนายต้องเป็นนินจาต้นไม้แน่ๆ ไม่ได้อยากจะให้นายตกใจนะ แต่ผมเชื่อว่าเพื่อนคุณต้องเป็นพวกตัวร้ายระดับมือโปรแน่ๆ ระวังตัวไว้!!” ตอนแรก #เหมียวปั๊ก ก็มองไม่เห็นนะ แต่พอเห็นเท่านั่นแหละ พี่แกทำไปได้ไงเนี่ยะ!? โอยย ปวดตับ ที่มา: boredpanda
-
รัฐเนวาด้าออกกฎหมาย “ทิ้งหมา-แมวไว้ในรถ” ถือว่าผิดกฎหมาย และต้องถูกดำเนินคดี!!
สำหรับประเทศเขตหนาวแล้วแดดอุ่นๆ จากพระอาทิตย์อาจจะช่วยทำให้พวกสัตว์เลี้ยงรู้สึกดีได้ แต่บางทีความร้อนที่มากเกินไปอย่างการถูกขังไว้ในรถ ก็อาจทำให้พวกมันเสียชีวิตได้เช่นกัน โดยเฉพาะในรัฐทะเลทรายอย่างรัฐเนวาด้า ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอากาศร้อนจัดในช่วงฤดูร้อนของทุกปี ทางหน่วยงานของรัฐจึงได้ออกกฎหมายคุ้มครองเหล่าสุนัขสี่ขาผู้น่ารักทั้งหลาย ซึ่งเป็นกฎหมายที่ว่าด้วยการห้ามมิให้ทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ในรถตามลำพังโดยเด็ดขาด “มีการประกาศสรุปจากการประชุมข้อกฎหมายแล้วว่า การทิ้งสุนัขไว้ในรถเพียงลำพังและทำให้มันเสียชีวิต มีโทษร้ายแรงเทียบเท่ากับการปล่อยเด็กไว้ในรถเลยทีเดียว” Cathy Brooks เจ้าของศูนย์ดูแลสุนัข The Hydrant Club ให้สัมภาษณ์ The RSPCA ได้ให้ข้อมูลเสริมว่า ‘ถึงแม้ว่านอกรถจะมีสภาพอากาศอยู่ที่ 22 องศา และอาจจะดูเหมือนไม่ร้อนมากเท่าไหร่ แต่ภายในรถอุณหภูมิสามารถพุ่งสูงขึ้นไปถึง 47 องศาได้อย่างเหลือเชื่อภายในไม่ถึงชั่วโมงเดียวเท่านั้น’ กฎหมายระบุโทษไว้ว่าหากใครทำผิดจะต้องมีโทษสูงถึงจำคุก 6 เดือน และปรับเงิน 1,000 เหรียญ เนวาด้าไม่ใช่รัฐแรกที่มีการประกาศใช้กฎหมายคุ้มครองสัตว์เลี้ยงในเรื่องนี้ เพราะที่ประเทศอังกฤษก็มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์เลี้ยงเช่นเดียวกัน โดยโทษสูงสุดต้องจำคุก 51 สัปดาห์ และปรับเป็นเงินสูงกว่า 20,000 ยูโร ทีนี้เราคงได้รู้กันแล้วว่าการปล่อยสัตว์เลี้ยงทิ้งไว้ในรถที่จอดกลางแดด เป็นสิ่งที่อันตรายและอาจพรากชีวิตของเจ้าตูบสี่ขา หรือเจ้าเหมียวสุดที่รักไปจากเราได้ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับการทิ้งสัตว์เลี้ยงในรถ – รู้ไว้เถอะว่า การปล่อย ‘สัตว์เลี้ยง-เด็ก’ ไว้ในรถร้อนๆ มันจะมีอุณหภูมิสูงขนาดไหน!? – ชายหนุ่มทิ้งไข่ดิบไว้ในรถตอนเที่ยงวัน…
-
สื่อต่างชาติเปิดโปง การขาย “เนื้อหมา” บนเกาะบาหลี ที่มาในรูปแบบของ “ไก่สะเต๊ะ”!?
เชื่อว่าเกาะบาหลีเป็นอีกหนึ่งในจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ไม่ว่าจะด้วยวัฒนธรรมพื้นเมืองที่น่าหลงใหล หรือจะเป็นบรรยากาศแบบชาวเกาะที่ไม่เหมือนใคร ทว่าล่าสุดทางกลุ่ม Animals Australia ได้เข้าไปลงพื้นที่สืบสาวหาข้อมูลเกี่ยวกับข่าวลือที่ว่า บนเกาะบาหลียังมีการซื้อ-ขาย ‘เนื้อหมา’ เกิดขึ้นอยู่ แต่มาในฐานะสะเต๊ะไก่ซะอย่างนั้น!? **คำเตือน: อาจมีภาพที่กระทบกระเทือนต่อจิตใจ** Lyn White หนึ่งในทีมงานเล่าว่า “ตอนที่เราเริ่มต้นลงพื้นที่ เราแทบจะคิดไม่ออกเลยว่าเนื้อหมาก็ถูกเอามาขายให้นักท่องเที่ยว โดยเปลี่ยนชื่อเป็นสะเต๊ะไก่” ทางทีมงานได้เข้าไปสำรวจบริเวณ Double Six Beach ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่รวมตัวของนักท่องเที่ยวบนเกาะ และพวกเขาก็ได้พบกับความจริงที่ว่า เนื้อสะเต๊ะไก่ที่นำมาเร่ขายเพียงไม้ละ 1 เหรียญบนเกาะนั้น ส่วนใหญ่แล้วล้วนทำมาจากเนื้อหมาแทบทั้งสิ้น “เรามักจะเห็นพ่อค้าหาบเร่เดินขายอาหาร และสะเต๊ะไก่ก็เป็นหนึ่งในนั้น เมื่อพวกเราลองสอบถามพ่อค้าจริงๆ พวกเขาก็ยอมรับว่าอันที่จริงมันเป็นเนื้อหมา” ทีมงานคนหนึ่งเล่า Luke หนึ่งในผู้สื่อข่าวจาก ABC ได้เข้าไปศึกษาและสำรวจถึงวัฒนธรรมการกินเนื้อสุนัขบนเกาะบาหลีมานานกว่า 4 เดือน เขาได้เห็นภาพความทารุณโหดร้ายที่มนุษย์มีต่อสุนัขมาแล้วนักต่อนัก “ผมเคยเห็นพวกเขาฆาตกรรมสุนัขได้อย่างโหดร้ายมาก บางตัวก็ถูกบังคับให้กินยาพิษ บางตัวก็ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เพียงเพื่อต้องการนำเนื้อมันไปขาย แต่สิ่งที่โหดร้ายไปกว่านั้นก็คือ… ดูเหมือนมันจะได้รับความนิยมสูงจากนักท่องเที่ยวซะด้วย” Luke เล่า หนึ่งในฟุตเทจที่ผู้สื่อข่าวแอบถ่ายมาได้…
-
เลโก้ปลอมในจีน ผลิตตัวต่อชุด “ISIS” ออกมาวางขายใน 3 ประเทศ และขายออนไลน์ทั่วโลก
หากพูดถึง Lego เป็นของเล่นตัวต่อพลาสติกหลากสีสัน ที่เราต่างก็รู้จักกันดี แม้ว่าต้นกำเนิดของมันอยู่ที่ประเทศเดนมาร์ก แต่ด้วยความเป็นเอกลักษณ์นี้ทำให้มีผู้ผลิตหลายเจ้าพยายามที่จะลอกเลียนแบบตัวต่อนี้ และทำออกมาขายในราคาที่ถูกกว่านั่นเอง ถึงแม้จะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทผู้ผลิตจริงๆ แต่อย่างใด สินค้าเหล่านี้จะถูกเรียกว่า “เลโก้ปลอม” เพื่อความเข้าใจอย่างตรงกันนะครับ ล่าสุดมีสินค้าเหล่านี้ในชุด “กลุ่ม ISIS” ถูกวางจำหน่าย ณ ประเทศออสเตรเลียด้วยราคาประมาณ 300 บาทต่อชุด สร้างกระแสและดราม่าเบาๆ ในโลกออนไลน์ได้เลยล่ะ หน้าตัวต่อเลโก้ปลอมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก ISIS ชุดตัวต่อ Falcon Commandos ของปลอมมีการผลิตในประเทศจีนและจำหน่ายในเว็บไซต์ต่างประเทศอย่างน้อย 3 แห่งซึ่งรวมถึงร้านค้าปลีกของจีนที่จัดส่งไปยังออสเตรเลียอีกด้วย ตัวต่อชุดนี้มีการวางจำหน่ายออนไลน์ แผ่นโฆษณาสำหรับเลโก้ปลอมนี้แสดงให้เห็นถึงชุดตัวต่อชุดย่อยอีก 8 ชุดโดยหนึ่งในชุดตัวต่อย่อยนี้มีลักษณะที่เหมือนกับนักรบจีฮัดของ ISIS แผ่นโฆษณาที่แสดงชุดตัวต่อต่างๆ นอกจากนั้นยังมียุทโธปกรณ์แล้ว “ธง ISIS” แสดงให้เห็นว่าตัวต่อคนในของเล่นชุดนี้นั้นอยู่กลุ่มก่อการร้ายชื่อดังของโลกอีกด้วย Mahnun Mat Isa ซึ่งเป็นครูวัย 40 ปีได้รายงานเรื่องนี้แก่คณะกรรมการอิสลามและเจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศของเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ฉันขอให้เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้มีการเปิดรับของเล่นที่มีความอ่อนไหวทางศาสนาในประเทศนี้ได้อย่างอิสระ เพราะมันคงเป็นสิ่งไม่ดีที่เด็กๆ จะเรียนรู้จากของเล่นเหล่านี้” เธอกล่าวกับสื่อ…
-
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ “8 ภาษากาย” ที่คุณสามารถเรียนรู้ได้ และทำให้ตัวเองดูคูลขึ้นได้จริงๆ
ภาษาที่เราใช้สื่อสารนั้นมีอยู่มากมายทั่วโลก นอกจากภาษาที่เราใช้พูดกันแล้วนั้น “ภาษากาย” เป็นอีกสิ่งสำคัญที่สามารถสื่อสารได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ภาษากายมีความพิเศษอยู่หลายอย่าง มันสามารถเป็นตัวเสริมที่ทำให้ภาษาพุดของเรามีความน่าเชื่อถือ หรือในขณะเดียวกันมันก็สามารถที่จะลดความน่าเชื่อถือได้ ซึ่งคราวนี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญในสาขาอาชีพต่างๆ จะเป็นคนมาแนะนำ 8 ภาษากายที่คุณควรฝึกและนำไปใช้อย่างสม่ำเสมอนั่นเอง… 1. ลอกเลียนแบบท่าทางของอีกฝ่าย – Rosemary Haefner หัวหน้าฝ่ายบุคคล เว็บไซต์ CareerBuilder แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องลอกเลียนแบบให้เหมือนเสียทีเดียวนะ นั่นจะดูเป็นการล้อเลียนเกินไป การที่เราค่อยๆ “Mimic” อย่างช้าๆ จะเป็นการแสดงถึงความเห็นด้วย หรือเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้พวกเขารู้สึกคล้อยตามและถูกจูงใจได้ 2. เดินอย่างมั่นใจ – อ้างอิง Scientific American การเดินหลังห่อ หรือไร้แรงเป็นการแสดงถึงความเศร้าและขาดแรงบันดาลใจ ลองเปลี่ยนมาเป็นการเดินแบบมีชีวิตชีวาสิ เดินหลังตรงส้นเท้าลงเต็มพื้น นี่คือการแสดงถึงความมั่นใจและการมีเป้าหมายซึ่งจะทำให้คุณกลายเป็นคนที่มีบุคลิกน่าเชื่อถืออีกด้วยนะ 3. การใช้สายตา – Leil Lowndes พยายามสบตาผู้พูดหรือคู่สนทนาเป็นประจำ แต่ไม่ใช่การจ้องเขม็งไปที่พวกเขานะ การสบตานอกจากแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจแล้ว ยังแสดงให้เห็นความสนใจในคู่สนทนาอีกด้วย สำหรับใครที่ยังไม่ค่อยมั่นใจ สามารถฝึกง่ายๆ ด้วยการหมั่นสบตากับคู่สนทนาของคุณทุกคน อย่างตั้งใจและแสดงถึงความอบอุ่น คุณจะค่อยๆ พัฒนาทักษะนี้ไปใช้ในสถานการณ์อื่นๆ ได้ 4.…
-
คู่รักเกย์ที่รับเด็กมาเลี้ยงถึง 3 คน เปิดใจในเรื่อง “ครอบครัว” พร้อมทั้งแง่คิดดีๆ ที่เราควรได้อ่าน…
แม้ว่าในยุคนี้สังคมของชาว LGBTQ จะมีการเปิดกว้างและมีการยอมรับที่มากขึ้น แต่เราก็ต้องเข้าใจว่าสังคมบางแห่งก็ยังปิด หรือบางที่ก็ยังไม่ได้ยอมรับในเรื่องนี้ 100 เปอร์เซ็นเสียทีเดียว ด้วยเหตุนี้ทางเว็บไซต์ Upworthy จึงได้ทำการทดลองอันน่าสนใจ ด้วยการไปถามความเห็นคู่รักเกย์คู่หนึ่ง เกี่ยวกับมุมมองของพวกเขาในการมีครอบครัวว่าทั้งคู่คิดยังไง… ซึ่ง Fred Swanson ก็คือคนที่จะมาบอกเล่าความรู้สึกของเขาในครั้งนี้ เขาบอกว่าเขารู้ตัวเสมอว่าตัวเองเป็นเกย์และอยากจะมีลูกอีกด้วย แต่ว่าอย่างที่เรารู้กันว่าในบางรัฐของสหรัฐอเมริกายังไม่เปิดรับในเรื่องนี้ และสถานรับเลี้ยงหลายแห่งก็ยังไม่เปิดให้พ่อแม่เกย์มารับเลี้ยงลูกนั่นเอง เขาได้เล่าเรื่องของตัวเองว่า เขาเริ่มเปิดเผยและรู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ก็ช่วงยุค 1990 ซึ่งในตอนนั้นยังมีคนจำนวนไม่มากนักที่แสดงออกจริงจังว่าเป็นเกย์ หรือเป็นเกย์ที่มีลูกนั้นยิ่งแทบเป็นไปไม่ได้ จนมาถึงปี 2003 ชีวิตของ Fred ก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับ Adam Diamond ทั้งคู่เริ่มเดทกันจนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไปได้ด้วยดี พวกเขาจึงตัดสินใจจะวางแผนระยะยาวด้วยกันโดยการรับเลี้ยงบุตรนั่นเอง ในช่วงแรกทั้งคู่ยังไม่สามารถที่จะรับเลี้ยงบุตรหรือหาบุตรให้พวกเขารับเลี้ยงได้ แม้ว่าเด็กกำพร้าทั่วอเมริกาจะมีอยู่มากมายก็ตาม ด้วยเหตุนี้ในปี 2008 ทั้งคู่จึงเริ่มต้นด้วยการไปช่วยงานกับองค์กร Amara ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือเด็กกำพร้าในเมืองซีแอตเทิล พอเข้าปี 2009 โอกาสที่ทั้งคู่จะมีลูกก็มาถึง เมื่อพวกเขาได้รับเลี้ยงดู Jaylen เด็กชายผิวสีวัย 3 ขวบ มาเป็นบุตรบุญธรรม แต่แล้วไม่นานนักเรื่องเซอร์ไพรส์ก็เกิดขึ้นกับพวกเขา …
-
หมาจรจัดสารพัดโรคถูกทิ้งข้างถนน เจอคนใจดีรับไปเลี้ยง แล้วมันก็ยิ้มไม่หุบแบบนี้เลย!!!
ไม่ควรมีสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงตัวไหนที่ถูกทิ้งไว้ข้างถนนและมีชีวิตที่ยากลำบาก เพราะเจ้าสัตว์เหล่านี้ก็มีจิตใจและมีชีวิตไม่ต่างจากคน และนี่คือเรื่องราวที่เราอยากให้คุณได้อ่าน… เจ้า Shortcake ตัวนี้ถูกคุณ Amy Matsushima วัย 35 ปีรับมาเลี้ยง และมันยังเป็นลูกรักของบริษัทที่เธอทำงานอยู่อีกด้วยนะ มันจะยากที่จะหาสุนัขอีกตัวหนึ่งในโลกที่ดูพอใจกับตัวเองในขณะที่ Shortcake เป็นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่เธอได้รับการช่วยเหลือจาก Amy และมีชีวิตใหม่ Amy กล่าวว่า “เจ้าบึก Shortcake เป็นหมาที่ร่าเริงและใสซื่อบื้อ มันมันจะยิ้มตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นเวลากิน นอน ตื่นมันก็ยิ้มหมดนั่นแหละ ~ “ จะงีบก็ยิ้ม จะนอนก็ยังยิ้ม ตอนวิ่งเล่นก็ยังยิ้มเลย ~ ก่อนที่เธอจะเจอเจ้า Shortcake ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Fresno Bully Rescue นั้น มันเป็นโรคเรื้อนและไส้เลื่อน ซึ่งอาการของมันในตอนนั้นค่อนข้างน่าเป็นห่วงมาก หลังจากที่เธอเห็นมัน เธอบอกว่านี่คือรักแรกพบของเธอ ก่อนที่เธอจะรับมันมาเลี้ยงและรักษาอย่างจริงจัง โดยอาการของมันได้ดีขึ้นตามลำดับ หลังจากที่มันถูกรับเลี้ยง ในช่วงแรกๆ มันจะยังไม่สามารถเข้ากับใครได้ดีนัก แต่เมื่อมันเริ่มปรับตัว มันก็เริ่มพบความสงบในตัวเอง ก่อนที่จะเข้ากับตัวอื่นๆ ในบ้านได้…
-
ชายชาวไร่วัย 60 ปี เมาทะเลาะกับหมู จนถูกหมูกัดจู๋และนิ้วอีก 3 นิ้ว ถึงขั้นเสียชีวิต!!
เราคงคุ้นเคยกับเจ้าหมูในภาพพจน์ที่สามารถเป็นทั้งอาหารและเป็นทั้งสัตว์เลี้ยงได้ในบางพันธุ์ แต่ในอีกมุมนั้นหมูเป็นสัตว์ที่ตะกละ และดุร้ายถึงขั้นทำเราถึงขั้นเสียชีวิตได้หากมันได้รับการคุกคาม เมื่อไม่นานมานี้สำนักข่าวเมโทรแห่งประเทศอังกฤษได้รายงานว่า Miguel Anaya Pablo วัย 60 ปี ได้ทำการต่อสู้กับหมูของเขาเอง จนเกิดเป็นเรื่องน่าเศร้า เรื่องราวมันเกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้กินเหล้าจนเมาในเมือง San Lucas Ojitlan รัฐ Oaxaca ประเทศเม็กซิโก และไม่รู้ว่าทำอีท่าไหน ไปทะเลาะกับหมูที่ตัวเองเลี้ยงไว้ซะได้ ใครจะคิดว่าหมูก็สามารถดุร้ายได้ สื่อท้องถิ่นรายงานเสริมว่าหมูเริ่มดุร้ายเมื่อ Miguel ได้ทำการยั่วยุมัน มันได้พุ่งเข้าชน Miguel จนล้มก่อนที่จะทำการกัดกินอวัยวะเพศชายและนิ้วทั้ง 3 นิ้วของเขา เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมือง Tuxtepec เพื่อรับการรักษาแผลจากการกัด ถึงแม้ว่าเขารับการรักษาแต่เขาได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา สันนิษฐานว่าเนื่องจากการติดเชื้อของแบคทีเรียที่เกิดจากการกัดของหมู สำนักข่าวมิเรอร์ ได้รายงานเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ยังคงดำเนินต่อไป เพื่อค้นหาสาเหตุการตายที่แท้จริง และยังไม่มีรายงานรายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัวของเหยื่อแต่อย่างใดว่าจะทำอย่างไรต่อ หรือมีการจัดการกับหมูตัวนั้นหรือไม่!? ที่มา: metro , elpopular , mirror
-
ช่างภาพออกผจญภัยกับหมาคู่ใจ เก็บภาพสัตว์ป่าและธรรมชาติอันสวยงาม ของโลกใบนี้…
การออกไปผจญภัยนั้นสามารถทำได้ทุกช่วงโอกาสของชีวิตเรา เหมือนกับชายหนุ่มชาวสเปนคนนี้ที่ตัดสินใจหลุดจากการถ่ายรูปเดิมๆ ของเขาสู่การออกเดินทางในที่ซึ่งไม่เคยไปมาก่อน การออกเดินทางไปยังที่ต่างๆ เริ่มต้นเมื่อ 4 ปีก่อนหลังจากสูญเสียภายในครอบครัวของเขา และในครั้งนี้ Fran Mart ตัดสินใจที่จะหิ้วกล้องคู่ใจ ออกจากกรอบการถ่ายรูปแบบพอร์เทรตเดิมๆ เดินทางสู่เมือง Edinburgh ประเทศสกอตแลนด์ เขาเริ่มต้นถ่ายภาพวิวทิวทัศน์และชีวิตของสัตว์ในแถบชนบทของเมืองโดยมีเจ้า James สุนัขขนสั้นสีดำเป็นเพื่อนร่วมผจญภัยของเขาตลอดทริปนี้ เจ้านาย ตื่นรึยังครับ ~ ผมพร้อมจะลุยแล้วครับบ ~ “สำหรับผมแล้ว การถ่ายรูปก็เหมือนความสุขที่เราได้นั่งข้างกองไฟ จิบกาแฟหอมกรุ่นหรือเหล้าแล้วแบ่งปันเรื่องราวต่างๆ กับเพื่อน” Fran กล่าว บ้านกลางที่ราบ ถนนในชนบทสามารถบอกเล่าอารมณ์และความรู้สึกได้ด้วย บรรยากาศขมุกขมัวชวนพิศวง นอกจากการถ่ายรูปของเขาแล้ว ในบางครั้งเขาก็ได้พบกับประสบการณ์อันพิเศษเช่นการที่สัตว์ป่าที่เข้ามาหาเขาอย่างเป็นมิตร ด้วยท่าทีที่เป็นมิตรของ Fran สัตว์ป่าจึงไว้ใจ พวกมันสงสัยว่าสิ่งที่อยู่ในมือของ Fran คืออะไร ว่าไงมนุษย์ ~ ภาพเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงชีวิตธรรมชาติที่ยังมีพื้นที่ในโลกนี้ “เป้าหมายของผมในการถ่ายภาพคือการที่ภาพสามารถสร้างแรงบันดาลใจและความตระหนักเกี่ยวกับโลกที่เราอาศัยอยู่มากขึ้น” เขากล่าว เรียงแถวเร็วพวก!! …
-
ผลวิจัยใหม่ชี้ การหยิบมือถือขึ้นมาเช็คระหว่างพูดคุยกัน มีผลทำให้คู่รักเลิกกันเร็วขึ้น!?
ในปัจจุบันเราล้วนติดต่อสื่อสาร ทำงาน หรือกิจกรรมต่างๆ นานาด้วยมือถือของเรา นอกจากการทำงานแล้วการพักผ่อนของเราส่วนหนึ่งนั้นก็สามารถทำได้กับเจ้ามือถือนี้ เราอาจจะบอกว่าปัจจุบันมือถือมีอิทธิพลและกลายมาเป็นอีกปัจจัยจำเป็นในชีวิตของเราก้ไม่ผิด งานวิจัยใหม่ได้รายงานว่า โดยเฉลี่ยแล้วเรามักจะหยิบมือถือขึ้นมาเช็ตเป็นจำนวน 150 ครั้งต่อวัน และรู้หรือไม่ว่าการที่เราหยิบมือถือขึ้นมาเช็คระหว่างการสนทนากับคนอื่นอยู่นั้นเป็นการลดความสัมพันธ์กับคู่สนทนาอีกด้วย เป็นเรื่องเล็กๆ ที่เราทำกันประจำ เกือบครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างให้ข้อมูลว่าได้รับผลเชิงลบจากการกระทำเช่นนี้ เพราะการหยิบมือถือขึ้นมาเช็คเป็นการลด “คุณภาพ” ของเวลาที่ได้ใช้ร่วมกับคนที่เรารักหรือคู่สนทนาของเราตรงนั้น นอกจากเวลาที่ได้ใช้ร่วมกันจะลดลงแล้ว การให้ความสนใจในตัวคู่สนทนาก็จะลดตามเช่นกัน “การมีบทบาทของมือถือในปัจจุบันทำให้เราไม่สามารถที่จะแยกเรื่องงานและเรื่องอื่นๆออกจากชีวิตส่วนตัวได้ ซึ่งมันส่งผลต่อความโรแมนติคในชีวิตคู่ที่จางลงเรื่อยๆ “ ดร. James Roberts และดร. Meredith David จาก Baylor University กล่าว มือถือมีบทบาทมากขึ้นแม้กระทั่งในวัยรุ่น และด้วยบทบาทของมือถือ “การเช็ค” พวกมันจึงเป็นอะไรที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ในปัจจุบัน จากกลุ่มตัวอย่าง 70% ได้ให้ข้อมูลว่าพวกเขามักจะเช็คมือถือตอนที่อยู่ระหว่างช่วงเวลาโรแมนติค ทีมนักวิจัยได้ทำการสำรวจจากผู้คน 450 คน กว่า 40% ของจำนวนนี้กล่าวว่าคู่สนทนาของพวกเขามักจะหยิบมือถือขึ้นมาดูระหว่างการสนทนาเสมอ และอัตราการเช็คมือถือในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามพฤติกรรมของผู้ใช้ในปัจจุบัน การไม่ให้ความสนใจคือบ่อเกิดของความเฉยชา …
-
มารู้จักกับก้อนเนื้อ ‘มิโคชิ ดาโกะ’ สัญลักษณ์แห่ง ‘ความภาคภูมิใจ’ ของชายญี่ปุ่น!!
ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และแน่นอนว่ามันส่งผลต่อการดำรงชีวิตของเหล่าผู้คนในประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก และนี่เองที่เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างก็หลงใหลในความงดงามของประเทศนี้ และวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมความเชื่อของชายญี่ปุ่นที่ออกจะดูน่ากลัวไปซักหน่อยนึง สำหรับใครใจไม่ถึงก็ขอแนะนำให้สูดหายใจลึกๆ ก่อนที่จะเลื่อนลงไปอ่านกันนะจ๊ะ โดยในงานเทศกาลต่างๆ ของชาวญี่ปุ่นที่นอกจากจะมีการขายของจากร้านค้าต่างๆ แล้ว ที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือขบวนแห่ที่เป็นหัวใจสำคัญของงาน และขบวนแห่เหล่านี้ก็จะมีศาลเจ้าจำลองหรือที่เรียกว่า ‘มิโคชิ’ มาร่วมในขบวนแห่ด้วย โดยเชื่อว่าภายในนั้นมีเทพเจ้าสิงสถิตอยู่ และผู้ที่รับหน้าที่ในการแบกศาลเจ้าแห่นี้ก็คือหนุ่มๆ ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนั้นนั่นแหละ โดยศาลเจ้าจำลองนี้มีน้ำหนักกว่า 1 ตันเลยทีเดียว ซึ่งเป็นการสร้างสีสันให้กับงานเทศกาลและขบวนแห่ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเพื่อนๆ สังเกตดูที่บริเวณไหล่ของเหล่าผู้ชายที่ทำหน้าที่แบกศาลเจ้าจำลอง หรือ ‘มิโคชิ’ กันดูดีๆ แล้วจะพบว่ามันมีก้อนเนื้อแปลกๆ ที่ดูคล้ายกับเนื้องอกปูดออกมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเจ้าก้อนกลมๆ นี้ชาวญี่ปุ่นเค้าเรียกกันว่า ‘มิโคชิ ดาโกะ’ เป็นก้อนเนื้อที่เกิดจากการแบกของหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน จนทำให้เกิดการอักเสบและปูดบวมเป็นก้อนเนื้อขึ้นมาบริเวณบ่า ถึงแม้ว่ามันจะดูผิดปกติและน่ากลัว แต่ชายชาวญี่ปุ่นหลายคนก็ยินดีที่จะมีเจ้า มิโคชิ ดาโกะ นี้อยู่บนร่างกาย เพราะมันเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความอดทน มุ่งมั่น ที่พวกเขาทุ่มเทให้กับการฝึกฝนแบกมิโคชิ หรือศาลเจ้าจำลอง นอกจากนี้ยังเป็นหลักฐานที่แสดงว่าตัวเขานั้นคือผู้รับใช้เทพเจ้าที่พวกเขานับถือ รวมไปถึงแสดงให้เห็นถึงความเป็นคนเอาการเอางาน…
-
เจ้าเหมียวยอดฮีโร่ ปกป้องบ้านของคุณยาย จากหัวขโมยที่บุกมาอย่างไม่เกรงกลัว!!
ปกติแล้วถ้าเราพูดถึงสัตว์ที่จะช่วยเฝ้าบ้านของเราได้ในยามหลับหรือไม่อยู่ที่บ้าน สุนัขคงจะเป็นสัตว์ชนิดแรกๆ ที่เราคิดถึงกันอย่างแน่นอน ทว่าเรื่องราวในครั้งนี้สัตว์ที่เฝ้าบ้านและไล่โจรไปได้ดันเป็นแมวซะอย่างนั้น… เรื่องราวของ Binky เจ้าเหมียวผู้กล้าหาญจากเมืองลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อมันสามารถขับไล่หัวขโมยไปจากบ้านคุณยายผู้เป็นเจ้าของตอนเธอหลับอยู่กลางดึกได้ งานนี้คุณยายปลายปลื้มเจ้าเหมียวสุดๆ เลยล่ะ Cynthia Kootz คุณยายผู้เจ้าของเล่าว่า “ตอนแรกฉันรู้สึกตกใจที่อยู่ดีๆ เจ้า Blinky ก็ร้องเสียงดังออกมา” ส่วนสาเหตุที่มันครางเสียงออกมาคงเพราะมันได้ยินเสียงผิดปกติบางอย่างจากสวนหลังบ้าน ด้วยเหตุนี้ Cynthia จึงออกไปตรวจสอบดู แต่ก็ไม่พบอะไรจึงจัดการปิดไฟปิดประตูให้มิดชิดยิ่งขึ้น ทว่ามาคราวนี้หัวขโมยกลับเปลี่ยนเป้าหมายเป็นการโจมตีจากประตูหน้าแทน โดยเขาพยายามที่จะงัดกระจกเข้าไป เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณยายเจ้าของบ้านมาเห็นเข้า อ่าวววว!! งานนี้เจ้าหัวขโมยเลยใช้มุกว่าเขาถูกตามไล่ล่า และขอร้องให้เธอเปิดประตูให้เขาเข้าไปหลบภัยหน่อย แต่เธอไม่สนใจที่เขาบอก เพราะกลัวว่าจะเป็นอันตราย แม้คุณยายไม่เปิดให้ แต่เขาก็งัดเข้าบ้านได้สำเร็จ ทันทีที่เปิดหน้าต่างขึ้นแล้วจะบุกเข้ามานั้น เจ้า Binky ก็กระโดดตะครุบเข้าที่หน้าของหัวขโมยทันที ทว่าเจ้าหัวขโมยก็ยังไม่ยอมแพ้ พยายามที่จะบุกเข้ามาที่หน้าต่างบานเดิม… ทีนี้แหละเจ้า Blinky กระโดดโจมตีหัวขโมยอีกครั้ง คราวนี้หัวขโมยบาดเจ็บจากผลของคมเขี้ยวพอสมควรเลยทีเดียวคุณยาย Cynthia ได้กล่าวเสริมว่าเคี้ยวของเจ้าเหมียวตัวนี้คมมากๆ และสุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึง พร้อมกับจับกุมผู้ร้ายคนดังกล่าวคือนาย Earl Scruggs พร้อมกับคุมเขาไปยังสถานี เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง…
-
หรูหราดูดีมีระดับ กับบ้านสุนัขราคา 6.5 ล้านบาท แค่รักหมาไม่พอนะ… ต้องมีตังค์ซื้อด้วย!!
ใครที่เลี้ยงเจ้ามะหมาไว้ข้างนอกก็อาจจะต้องซื้อ “บ้านสุนัข” เอาไว้ให้พวกมันพักอาศัย โดยราคานั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดและลักษณะของบ้าน แต่สำหรับบ้านสุนัขที่ #เหมียวปั๊ก นำมาให้เพื่อนๆ ดูวันนี้ จัดว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ นอกจากราคาที่ไม่ธรรมดาโดยราคาเริ่มต้นนั้นอยู่ที่ 1 ล้านไปจนถึงหลังละ 6.5 ล้านบาท ที่มันแพงขนาดนั้นเพราะมันถูกทำมาเป็นบ้านระดับไฮเอนด์โดยเฉพาะ ภายในบ้านสุนัขนี้ประกอบไปด้วยเครื่องทำความร้อน ห้องโถงที่ใหญ่โต เครื่องมือสื่อสารระหว่างเจ้าตูบกับเจ้านาย เป็นต้น ราคาบ้าน (หรือคฤหาสน์) เริ่มต้นอยู่ที่ 1-6 ล้านบาท!! ทางผู้ผลิตบอกว่าตัวบ้านนั้นถูกออกแบบโดยช่างทำเรือยอร์ชและพื้นที่ทำด้วยไม้เนื้อแข็งอย่างดีที่ทนต่อการขีดข่วนโดยกรงเล็บของเจ้าตูบ ส่วนของเสาบ้านแต่ละต้นนั้นถูกออกแบบและทำอย่างประณีต พื้นที่ใช้สอยถูกแบ่งเป็นส่วนต่างๆ อย่างชัดเจน นอกจากนี้ห้องที่แบ่งไว้แล้ว ส่วนของหน้าตาได้ถูกเติมแต่งเข้าไปเพื่อให้เจ้าตูบสามารถมองเห็นทัศนียภาพภายนอกได้อย่างชัดเจนและปลอดโปร่ง หรูหราและสวยงาม สามารถตั้งพื้นที่ไหนก็ได้ตามสะดวก แต่อาจจะต้องมีบริเวณบ้านนิดนึงนะ มีหลากหลายรูปแบบ ตั้งไว้ในสวนก็เท่ห์ไม่หยอก เสาและระเบียงมีรายละเอียดเหมือนบ้านคนจริงๆ Alice Williams ผู้อำนวยการสร้างบ้านสุนัขหรูหรานี้กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของเราคือการสร้างคฤหาสน์สุนัขที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของสุนัขและเจ้าของของมัน” นอกจากความหรูหราแล้ว การตอบสนองต่อความต้องการก็จำเป็นด้วย . นอกจากสุนัขจะได้รับความสะดวกสบายและความผ่อนคลายจากการดูวิวสวยงามภายในบ้านอันหรูหรา…
-
ศิลปินจับ 30 แบรนด์ดัง เปลี่ยนฉลากผลิตภัณฑ์ใหม่ให้บอก “แคลอรี่” แทนโลโก้ ดีกว่าเดิมไหม!?
เราอาจจะเคยได้ยินคำว่าแคลอรี่จากที่ต่างๆ ไม่ว่าจะในห้องเรียนตอนประถมหรือยิมส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ซึ่งเจ้าแคลอรี่คือหน่วยที่ใช้ในการวัดพลังงานจากอาหารที่เรารับประทานในชีวิตประจำวัน และแน่นอนว่าการที่เรากินโดยไม่สนใจปริมาณแคลลอรี่ในชีวิตประจำวันก็อาจจะทำให้ร่างกายเรามีการสะสมไขมันที่ไม่พึงประสงค์ได้ แต่เมื่อไม่นานมานี้มีศิลปินหัวใสในอินสตาแกรม caloriebrands ได้ออกแบบแพ็คเก็จอาหารของแบรนด์ดังหลายเจ้าโดยการใส่ “จำนวนแคลลอรี่” ลงไปเพื่อให้ผู้บริโภคทราบว่าอาหารชิ้นนี้มีแคลลอรี่เท่าไหร่ ต่อให้เป็นแอลกอฮอลถ้าซัดคนเดียวมีสิทธิอ้วนได้เลยนะจ๊ะ เจ้าแท่งนี้ก็ไม่เบาเหมือนกันนะ กินเพลินๆ อย่าลืมเบิร์นด้วยละกัน ยิ่งช่วงลดครึ่งราคานี่แคลพุ่งไปแบบสุดดด ~ ชิ้นเล็กแต่แคลไม่เล็กตามเลย ถังนึงแบ่งกัน 4 คนก็ตกคนละเกือบ 400 แคลเลยนะ การที่มันดูชีวจิตไม่ได้หมายความว่าแคลจะชีวจิตตามไปด้วยนะ ไอ้ที่เรากินกันตอนไม่มีเงิน นี่มันก็ให้พลังงานเยอะเหมือนกันนะ และเราจะก้าว(อ้วน)ไปด้วยกัน กระป๋องเดียวก็สดชื่นนนนนน ชิ้นเดียวสดชื่นทั้งเช้า และถ้ากินคู่กับเจ้านี่ด้วยนะ สบาย ~ ชิ้นเล็กๆ เคี้ยวเพลิน เบิร์นกันมันส์ ทั้งถาดพอๆ กับเหล้าขวดนึงเลยนะเนี่ยะ เม็ดเล็กหลากสี ปั่นๆ มันอร่อย ขนมขบเคี้ยวขนาดเล็กส่วนใหญ่…
-
นี่คือ 14 ดิลโด้ที่สวยงามที่สุดประจำปี 2017 สนุกด้วยก็ต้องดีไซน์ดูดีด้วยนะคะ!!
ถ้าหากพูดถึงของเล่นสำหรับผู้ใหญ่ นอกจากจิมกระบองแล้วก็ยังมีแท่งหรรษาสำหรับคุณหญิงอีก หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นของเล่นผู้ใหญ่เหล่านี้ผ่านตากันมาบ้างแล้วตามหนังต่างๆ (ไม่บอกละกันว่าแนวไหนนะ ฮ่าๆ) แต่วันนี้เราจะขอเอาใจคุณสาวๆ ล้วนๆ ขอเชิญพบกับ “14 ดิลโด้ที่ได้รับการจัดอันดับว่าสวยงามที่สุดในปี 2017” จะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. Magic Wand บริษัทผู้ผลิต: HITACHI ราคา: 4,200 บาท สำหรับผู้ที่คร่ำหวอดในวงการหนังผู้ใหญ่ของญี่ปุ่นคงจะคุ้นเคยกับเจ้าแท่งนี้ดี แต่สำหรับรายละเอียดของคฑาวิเศษนี้อาจจะแตกต่างจากที่เราเคยเห็นกันบาง เพราะทางผู้ลิตนั้นบอกว่าเจ้านี่ทั้งเงียบ และส่งแรงสั่นสะเทือนที่คงที่ นอกจากนี้ยังมีความทนทานมากอีกด้วย 2. Womanizer บริษัทผู้ผลิต: WOMANIZER ราคา: 6,400 บาท ถ้าหากใครที่กำลังมองหาของเล่นสำหรับน้องสาวแบบกระทัดรัดๆ แล้วละก็ไม่ควรพลาดชิ้นนี้เลย เจ้าของเล่นชิ้นนี้เต็มไปด้วยเทคโลโลยีต่างๆ มากมายเพราะนอกจากจะใช้แหย่แล้ว มันยังมาพร้อมกับพลังดูดอีกด้วย เรียกได้ว่า 2 in 1 เลยทีเดียว 3. Iris บริษัทผู้ผลิต: LELO ราคา: 5,300 บาท ดูจากรูปร่างก็คงไม่ต้องสาธยายถึงวิธีการใช้ให้ยืดยาว ข้ามไปที่ความเจ๋งของมันกันเลยดีกว่า ซึ่งทางผู้ผลิตเค้าบอกมาว่า ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบ และระบบสั่นของเจ้า Iris มันจะช่วยมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับสาวๆ อย่างแน่นอน 4.…
-
24 ข้อเท็จจริงต่างๆ เกี่ยวกับ “เจ้าเหมียว” อ่านเล่นก็เพลิน แถมได้สาระความรู้อีกด้วย
#เหมียวปั๊ก เป็นอีกคนที่ชอบเจ้าเหมียวพอๆ กับเจ้าหมา (ถึงแม้มันจะทะเลาะกันบ้างหน่ะนะ) นอกจากความน่ารักของมันแล้ว มันยังมีเรื่องราวอีกหลายอย่างที่รอให้เราไปค้นหาอีกมากมาย รู้หรือไม่ว่า บางครั้งพวกมันก็มีแง่มุมทั้งเกรียน ดุ อ่อนโยน หรือขี้เล่น อย่างเช่น 20 เรื่องราวที่ชาวเน็ตมาร่วมแชร์ถึงแมวของตัวเองกันในวันนี้ จะทำให้คุณยิ้มขึ้นมาได้บ้างแน่ๆ เจ้าเหมียวชื่อว่า Masha ได้ช่วยชีวิตทารกที่ถูกทิ้งไว้กลางหิมะ โดยมันปีนเข้าไปในกล่องเพื่อให้ควมอบอุ่นแก่ทารกตัวน้อย แถมยังร้องเรียกคนแถวนั้นจนช่วยชีวิตเจ้าหนูน้อยมาได้ Freddie Mercury ปล่อยอัลบั้มเดี่ยวของเขาในปี 1985 เพื่ออุทิศแก่แมวของเขา ทอม ออสก้า และทิฟฟานี่ รวมไปถึงแมวตัวอื่นๆ บนโลกนี้ Guiness World Record หยุดการบันทึกสถิติโลกเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่อ้วนที่สุดเพื่อป้องกันการขุนพวกมันจนอ้วน ดิสนีย์รับเลี้ยงแมวจรจัดในพื้นที่ของสวนสนุกเพื่อให้พวกมันไล่จับหนูที่จะก่อความเสียหายให้สวนสนุก แมวชอบเอาศพสัตว์ตัวเล็กๆ มาให้เจ้าของ เพราะพวกมันคิดว่ามนุษย์ไม่สามารถที่จะล่าสัตว์มาเป็นอาหารเองได้ หากแมวขยิบตาให้คุณ นั่นเป็นสัญญาณแสดงว่ามันไว้ใจและจำคุณได้ในฐานะเพื่อน หลายที่พักไม่อนุญาตให้รับเลี้ยงแมวดำในวันฮาโลวีน เนื่องจากพวกเขากลัวว่ามันจะถูกนำไปทรมานหรือบูชายัญ ในปี 1879 ทางการเบลเยียมใช้แมวในการส่งจดหมายไปยังที่ต่างๆ แทนบุรุษไปรษณีย์ แต่ไม่สำเร็จ …
-
นักศึกษาอเมริกัน ที่เพิ่งถูกปล่อยตัวจากคุกเกาหลีเหนือ เสียชีวิตแล้วหลังกลับมา 1 สัปดาห์…!?
กำลังเป็นกระแสข่าวโด่งดังไปทั่วโลก เมื่อสื่อต่างประเทศหลายสำนักต่างรายงานข่าวเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ Otto Warmbier นักศึกษาหนุ่มชาวอเมริกันที่ถูกขังคุกในเกาหลีเหนือ ใครที่เคยติดตามข่าวจะทราบดีว่า ก่อนหน้านี้นักศึกษาคนดังกล่าวถูกรัฐบาลเกาหลีเหนือตัดสินให้จำคุก 15 เดือน ซึ่งเป็น 15 เดือนที่เขาต้องถูกใช้แรงงานเยี่ยงทาส เพียงเพราะข้อหาขโมยภาพโฆษณาชวนเชื่อในโรงแรม เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาได้รับการปล่อยตัว แต่ดูเหมือนอาการสุขภาพจะไม่ค่อยแข็งแรงนัก ทางครอบครัว Warmbier ก็ได้ออมาชี้แจงถึงการเสียชีวิตของลูกชายแล้ว โดยข้อความดังกล่าวมีเนื้อหาดังต่อไปนี้ (ฉบับย่อ): “เป็นเรื่องเศร้าที่เราต้องบอกว่า.. ลูกชายของเราได้เสียชีวิตไปแล้ว Otto เขาเดินทางกลับถึงบ้านอย่างสำเร็จ และรายล้อมไปด้วยผู้คนที่เขารัก ซึ่งเขาได้เสียชีวิตวันนี้ตอนเวลา 02.20 ในช่วงเวลาแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่เราจะต้องเผชิญกับความจริงที่ว่า ภายในวันข้างหน้าเราจะไม่มีเด็กหนุ่มผู้ฉลาดหลักแหลม และมีความมุ่งมั่นในชีวิตอยู่กับเราอีกแล้ว Otto กลับมาถึงบ้านเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน เขาไม่สามารถพูดได้ ไม่สามารถโต้ตอบได้ เขาดูไม่สบายเอามากๆ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ยินเสียงเขาอีกแล้วนับจากวันนั้น – ตอนนี้เขาได้จากไปอย่างสงบแล้ว เราขอขอบคุณทุกคนที่เคยให้ความช่วยเหลือเรามา” จัดหมายฉบับเต็ม ซึ่งทางการของเกาหลีเหนือได้ออกมาชี้แจงว่า สาเหตุการเสียชีวิตของหนุ่มอเมริกันอาจเป็นเพราะ ‘โรคโบทูลิซึม’ (โรคผิดปกติทางเดินประสาทที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน) ผสมกับการได้รับยานอนหลับทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทว่าข้ออ้างนี้กลับถูกโต้แย้งโดยทีมแพทย์ของสหรัฐอเมริกา BBC ได้รายงานว่า…
-
รวม 10 ภาพเหล่าแมวเหมียวที่โดนสีรุ้งพาดตัว เหมือนพวกมันแอบไปย้อมสีขนมาใหม่
แสงสีรุ้ง หรือ ปรากฎการณ์รุ้งกินน้ำนั้นเกิดจากแสงที่ส่องผ่านตัวกลางเช่นน้ำจนทำให้แสงนั้นเกิดการหักเหกลายเป็นแสงสีต่างๆ ตามที่เราเห็น และด้วยลักษณะนิสัยที่ชอบแสงแดดของแมวที่มักจะชอบไปนอนอาบแดด บางครั้งแสงสีรุ้งก็มักจะหักเหสาดเทอยู่บนตัวแมวได้ แล้วเจ้าเหมียวที่บ้านเพื่อนๆ เป็นเหมือน #เหมียวปั๊ก ไหม? ที่มักจะชอบไปอยู่ในที่แสงเยอะ เพื่อตากแดดให้สบายใจเฉิบ ~ และบางทีแสงที่ส่องมาโดนตัวเจ้าเหมียว ก็กลายเป็นรุ้งจนเกิดภาพฟรุ้งฟริ้งแบบนี้ มองอะไร มนุษย์? แม่ ~ หนูมีเข็มขัดสีสวยด้วย ผมมีจุดสีสวยหลายอันเยย ~ นอนตรงแสงสีสวยนี่ดีกว่า จ้องมาที่ตาข้า เจ้ามนุษย์ อ่าห์ ข้าได้รับพรจากพระเจ้า ฉันมั่นใจฉันสวยกว่ามนุษย์!! หึ สีสวยน่ากินจัง ข้าจะให้พรเจ้า 1 ข้อนะ เจ้าเหมียว สีสวยดีเนอะ แม่ เห็นแบบนี้แล้วเหมือน Nyan cat เลยนะเนี่ยะ ถ้าบินกับปล่อยสายรุ้งได้นี่ใช่แน่นอน อิอิอิ ที่มา: lovemeow
-
รวม 20 “น้ำพุ” สุดอลังการงานสร้างจากทั่วโลก ที่คุณต้องไปเห็นด้วยตาซักครั้ง!!
ปัจจุบันตามแหล่งท่องเที่ยว โรงแรม สวนสาธารณะหรือแม้แต่ตามบ้านต่างๆ มักจะตกแต่งด้วยน้ำพุ เพราะให้ความรู้สึกเย็นสบาย และบางที่ก็ได้สร้างน้ำพุในรูปแบบยิ่งใหญ่อลังการจนกลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เหมือนอย่างน้ำพุต่อไปนี้ที่รับความสนใจเป็นอย่างมาก และถือเป็นน้ำพุที่สวยที่สุดในโลก 1. น้ำพุ Water Boat วาเลนเซีย ประเทศสเปน น้ำพุนี้ตั้งอยู่ที่ Playa de la Malvarrosa เป็นที่รู้จักกันในนาม Water Boat Fountain ถูกสร้างให้มีลักษณะเหมือนเรือ และไม่ใช่แค่ที่นี่เท่านั้น แต่ที่โปรตุเกสและอิสราเอลก็มีน้ำพุเรือแบบนี้ด้วย 2. น้ำพุนาฬิกาสถานีโอซาก้า โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่านี่เป็นหนึ่งในน้ำพุที่น่าทึ่งที่สุดของโลก เพราะมันไหลลงมาเป็นรูปภาพและตัวเลขที่ใช้แทนนาฬิกาได้ ซึ่งออกแบบโดยบริษัท Koei Industry 3. Mustangs of Las Colinas รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา น้ำพุที่ถูกทำให้เหมือนม้ากำลังวิ่งอยู่บนน้ำนี้ สร้างขึ้นโดย Robert Glen ซึ่งเป็นประติมากรรมที่สร้างขึ้นเพื่อระถึงมาสแตงส์ ซึ่งเป็นป่าที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเท็กซัส และม้าที่วิ่งผ่านน้ำนี้เป็นสัญลักษณ์ของความคิดริเริ่มและวิถีชีวิตอิสระที่เป็นรากฐานของรัฐในยุคบุกเบิก ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1976 และเปิดใช้งานในปี 1984 4. Magic Tap เมืองกาดิซ ประเทศสเปน น้ำพุรูปทรงแปลกตานี้ทำให้เราคิดไปว่าก๊อกน้ำมันลอยอยู่ได้อย่างไร…
-
WEF จัดอันดับยกให้ “ประเทศไทย” ติด 20 ประเทศที่อันตรายสุดสำหรับนักท่องเที่ยว!?
ประเทศไทยเป็นประเทศที่สวยงามทั้งทางวัฒนธรรมรวมไปถึงอาหารการกินจนกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวตั้งใจจะเดินทางมาเพื่อพักผ่อนในรูปแบบต่างๆ ด้วยอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดทำให้นักท่องเที่ยวต้องการที่จะมาเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อไม่นานมานี้ WEF หรือ The World Economic Forum ได้เผยรายงานเกี่ยวกับ รายงานการแข่งขันและการท่องเที่ยว ซึ่งวิเคราะห์สถานะการท่องเที่ยวใน 136 ประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยส่วนหนึ่งของรายงานนั้น ทาง WEF มีการจัดอันดับความปลอดภัยของแต่ละประเทศไว้ โดยวัดจากความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับอันตรายร้ายแรงต่อผู้คน (ความรุนแรงและการก่อการร้าย) โดยไม่นับคดีหรือความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายทางอาญา ในขณะที่ประเทศปากีสถานนั้นอยู่ในอันที่ 4 เนื่องมาจากความรุนแรงของกลุ่มคลั่งศาสนาที่ยังคงต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งรัฐบาลปากีสถานยังจำกัดเสรีภาพในการพูด รวมไปถึงห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติเข้าถึงสถานที่ต่างๆ หลายแห่งทั่วประเทศ ประเทศโคลอมเบียนั้น พุ่งทะยานสู่อันดับ 1 แม้ว่าจะเป็นประเทศปลายทางของนักท่องเที่ยว แต่ความอันตรายของกลุ่มติดอาวุธ Bacrim ที่ไม่ว่าจะเป็นการวางระเบิดในเมืองใหญ่ๆ รวมไปถึงกิจกรรมที่ผิดกฎหมายทั่วประเทศอย่างเช่นการขนยาและอาวุธสงคราม จึงทำให้ประเทศโคลอมเบียนั้นครองอันดับ 1 ไปอย่างไม่น่ากังขา กลุ่มติดอาวุธ BACRIM มีอุปกรณ์และระบบการบัญชาที่พร้อมต่อการล้มรัฐบาล แต่ด้วยสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แก่ จังหวัด ปัตตานี…
-
หนุ่มเมาเหล้าเดินกลับบ้าน โดนฝูงหมาจรจัดที่ให้อาหารมาตลอด 2 ปี รุมทำร้ายจนเสียชีวิต…
[**คำเตือน : บทความนี้อาจมีเนื้อหาหรือภาพที่รุนแรง ฉะนั้นก่อนจะเลื่อนลงไปอ่านก็ขอให้คิดดูดีๆ นะครับ ] ชายหนุ่มเมากำลังเดินกลับบ้าน โดนกลุ่มหมาจรจัดรุมทำร้ายจนเสียชีวิต… เหตุการณ์ทั้งหมดถูกถ่ายเอาไว้โดยกล้องวงจรปิดที่อยู่ในเมือง Sovetsky ตั้งอยู่ทางภาคกลางของเขตปกครองตนเอง Khanty-Mansi Okrug ของประเทศรัสเซีย ชายหนุ่มผู้เสียชีวิตทางเจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยชื่อและอายุ ซึ่งในอดีตนั้นเขาเคยทำงานเป็นหน่วยรักาษความปลอดภัย และมักจะนำอาหารมาให้เหล่าหมาจรจัดกลุ่มนี้อยู่เป็นประจำตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน แต่ดูเหมือนว่าเมื่อไม่มีอาหาร ความสัมพันธ์ของเขาและกลุ่มหมาจรจัดก็ดูจะหมดค่าไปในทันที เพราะเมื่อวันเกิดเหตุเขากำลังเดินกลับบ้านหลังจากไปดื่มสังสรรค์มา และต้องผ่านกลุ่มหมาจรจัดกลุ่มนี้ จากวิดีโอบันทึกภาพก็พบว่ากลุ่มหมาจรจัดราวๆ 10 ตัวเดินเข้ามาล้อมรอบเขา ก่อนที่จะเริ่มเข้าจู่โจมจนทำให้ชายหนุ่มล้มลงไป ทำให้หมาตัวอื่นๆ กรูกันเข้ามาทำร้าย ในขณะที่เขาพยายามที่จะลุกขึ้นยืน แต่ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ และด้วยแรงของหมานับ 10 ตัว ที่กรูกันเข้ามาทำร้ายทำให้เขาล้มลงไปอีกครั้ง และชายหนุ่มก็พยายามลุกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งแต่ก็ดูเหมือนจะหมดแรงและนอนแน่นิ่งไป จากรายงานของเจ้าหน้าที่พบว่าเขาเสียชีวิตหลังจากที่หมาตัวแรกเข้ามาจู่โจมประมาณ 2 นาที เท่านั้น ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าจะมีการจัดการกับหมาจรจัดกลุ่มนั้นอย่างไรดี เพราะตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงจุดเกิดเหตุก็พบเพียงร่างของผู้ตายเท่านั้น ที่มา : metro
-
อดีตนักโทษหน้าหล่อ สู่การเป็นนายแบบแคทวอล์คเต็มตัว มีแฟนๆ ติดตามนับล้านคน!!
เมื่อช่วงต้นปีก่อนทางเว็บเหมียวของเราได้ทำการนำเสนอเรื่องราวของ ‘อดีตนักโทศหน้าตาหล่อเหลา จนถูกโมเดลลิ่งติดต่อขอตัวไปเป็นนายแบบ’ ซึ่งล่าสุดก็ได้ออกงานเดินแบบแคทวอล์คไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ย้อนกลับไปในปี 2014 นาย Jeremy Meeks เคยเป็นนักโทษผู้กระทำความผิดฐานครอบครองอาวุธผิดกฎหมาย แต่หลังจากที่ทางตำรวจจึงได้นำภาพของเขาไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ กลับกลายเป็นว่าได้รับคำชมจากชาวเน็ตมากมายว่ามีใบหน้าที่หล่อเหลาเป็นอย่างมาก และที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือ เพราะความหล่อของเขาเลยทำให้แมวมองจากสังกัด White Cross Management มาปิ๊งเข้าเต็มๆ จนให้ Jeremy ได้เซ็นสัญญาเป็นนายแบบขณะที่ยังอยู่ในคุกกันเลยทีเดียว ภายหลังจากที่ถูกตัดสินให้ได้รับโทษเป็นระยะเวลา 27 เดือน ปัจจุบันเขาได้พ้นโทษออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในตอนนี้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอดีตนักโทษหน้าหล่อ ก็ได้กลายมาเป็นนายแบบอย่างเต็มตัว แถมยังได้มาเดินแบบเปิดตัวในงาน New York Fashion Week 2017 อีกด้วย และล่าสุดก็ได้ไปออกงานเดินแบบร่วมกับแฟชั่นดีไซน์เนอร์ชื่อดังอย่าง Philipp Plein ในงาน Men’s Fashion Week ที่กรุงมิลานประเทศอิตาลี เมื่อวันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน 2017 และนี่ก็เป็นการประมวลผลภาพการเดินแบบของเขาในวันนั้น ต้องขอบอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ แม้ว่าเขาจะเคยทำผิดมาก่อน แต่อย่างน้อยสังคมก็ยอมให้อภัย และมอบโอกาสดีๆ…
-
นักดับเพลิงช่วยเหลือลูกหมา ที่ถูกมัดติดอยู่ในบ้านไฟไหม้ เจ้าของถูกดำเนินคดีทารุณฯ สัตว์!!
เรื่องราววินาทีชีวิตของเจ้าหมาน้อยที่ติดอยู่ในบ้านไฟไหม้ แต่ก็ถูกช่วยออกมาได้อย่างหวุดหวิด… เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาเจ้าหน้าจากสถานีดับเพลิง Lompoc Fire Department ที่ได้รับแจ้งมาว่ามีบ้านหลังหนึ่งกำลังถูกไฟลุกไหม้ในรัฐแคลิฟอเนียร์ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้พบกับเจ้าของบ้านคือนาย Edward Vantassel กำลังยืนอยู่ที่หน้าบ้านของตัวเอง และเขาก็รีบเข้ามาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าลูกหมาของเขายังติดอยู่ในบ้าน พอได้ทราบดังนั้นแล้วเจ้าหน้าที่ก็จึงตัดสินใจที่จะเสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อเข้าไปช่วยเหลือเจ้าลูกหมา แต่จากการสำรวจแล้วก็พบว่าเจ้าหมาน้อยมันถูกล่ามเอาไว้ติดกับเสา และดูเหมือนว่าไม่ได้ถูกเลี้ยงดูให้เป็นสัตว์เลี้ยง แต่เป็นนักโทษซะมากกว่า เจ้าหมาถูกผูกไว้ด้วยแถบยางรัดที่แขนและขา แถมที่ปากของมันยังถูกครอบไว้ด้วยตะกร้อครอบปากอีกด้วย พอช่วยเหลือออกมาได้เจ้าหน้าที่ก็รีบตัดยางที่มัดแขนขา และตะกร้อครอบปากออก แล้วก็นำน้ำมาให้มันดื่ม . จากนั้นพวกเขาก็พามันไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสัตว์ เจ้าหมาถูกตั้งชื่อว่า Pooh และจากการช่วยเหลือของสัตวแพทย์ทำให้มันหายกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว ทั้งจากอาการอ่อนแอที่สูดควันเข้าไป และจากบาดแผลที่ถูกทารุณกรรม และตอนนี้เจ้า Pooh ก็ได้ไปอาศัยอยู่ที่บ้านอุปถัมป์เพื่อรักษาตัว และถ้ามันแข็งแรงดีแล้วก็จะถูกประกาศหาบ้านใหม่ต่อไป… ส่วนนาย Vantassel เจ้าของคนก่อน จะถูกดำเนินคดีในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ซึ่งตอนนี้ก็ถูกฝากขังเอาไว้ที่สถานีตำรวจและคาดว่าจะมีค่าประกันตัวสูงถึง 3 ล้านบาทเลยทีเดียว ที่มา : thedodo
-
และนี่คือเจ้า Milkshake เซเลปเฟรนช์บูลด็อกสุดน่ารัก แอบขโมยหัวใจชาวเน็ตไปทั่วแล้ว!!
สุนัขแต่ละตัวมีความน่ารักที่แตกต่างกันไปตามลักษณะการเลี้ยงดูและพันธุ์ของพวกมัน สำหรับเจ้า Milkshake นั้นเป็นสุนัขที่สามารถแจกความสดใสจนสามารถขโมยหัวใจชาวเน็ตได้เป็นจำนวนมาก เจ้า Milkshake เป็นหมาพันธุ์เฟรนช์บูลด็อก ด้วยขนาดตัวที่ตะมุตะมิและนิสัยใสซื่อ(บื้อ) ของมัน ทำให้มีผู้ติดตามอินสตาแกรมของมันเป็นจำนวนมากเลยทีเดียวล่ะ ความน่ารักของมันทำให้มีผู้ติดตามอินสตาแกรมกว่า 728,000 คนแล้ว อย่าทิ้งผมไว้คนเดียว … ผมเจอเพื่อนด้วยแหละ ~ ^__^ เจ้ามนุษย์!! แกเอาน้ำอะไรให้ฉันกิน? ทำไมต้องอาบน้ำหนูด้วย… ความเดียวดายกับรถลากของหนู อ่านหนังสือก่อนนอนให้ป๋มฟังหน่อยย จะลงเรือกันไหม ? ง๊วงง ง่วง บางทีผมก็ชอบอยู่คนเดียว เงียบๆ ฮิปๆ อะนะ เมื่อไหร่อาหารจะมาน้า ~ บุ๋ยๆ ♥ เหนื่อยแล้ว อยากนอนจังเลย ~ ไปงีบด้วยกันไหม แม่ กิจกรรมสุดโปรดของ…
-
ครั้งแรกของอังกฤษ “เทศกาลฟิตเนส” 4 วัน 3 คืน รวมกิจกรรมรักสุขภาพ เพื่อคนชอบออกกำลัง!!
การออกกำลังกายถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์หลากหลายต่อร่างกาย ไม่ว่าจะช่วยในเรื่องสุขภาพ บุคลิกภาพและผิวพรรณ จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมทุกวันนี้ผู้คนถึงหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น ล่าสุดก็มีเทศกาล LoveFit ที่จัดขึ้นครั้งเป็นแรกของสหราชอาณาจักร เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและสร้างแรงบันดาลใจให้คนที่ชอบออกกำลังกายและรักสุขภาพเป็นระยะเวลา 4 วัน 3 คืน ภายในเทศกาลก็จะมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น การแสดงดนตรี อาหาร และการออกกำลังกาย โดยทุกกิจกรรมจะเน้นในเรื่องสุขภาพเป็นหลัก ในส่วนของการออกกำลังกายก็มีหลากหลายวิธีให้เลือกเล่น เริ่มตั้งแต่การเต้น การเล่นกีฬา การทำกิจกรรมท้าทาย และการเล่นโยคะ หลังจากเสียพลังงานไปแล้ว ก็กลับมาเติมด้วยอาหารที่มีให้เลือกทานหลากหลาย โดยไม่ต้องกลัวว่าจะอ้วน เพราะอาหารภายในงานนั้นล้วนแต่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพทั้งสิ้น แม้ว่าจะเป็นเทศกาลเพื่อสุขภาพ แต่ก็ยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสร้างความบันเทิงให้ด้วย โดยจะมีบาร์ที่ให้บริการเครื่องดื่มค็อกเทลจากผลไม้สด รวมไปถึงไวน์ขาวอิตาลี, ยิน, เตกีลา และเบียร์ที่ปราศจากกลูเตน เทศกาลดังกล่าวเป็นการทำงานร่วมกันกับคนในท้องถิ่น องค์กรระดับชาติ องค์การกุศล นักธุรกิจ และบุคคลทั่วไป เพื่อจัดเทศกาลรักสุขภาพนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะ และตอนนี้ LoveFit ถือเป็นหนึ่งในเทสกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร โดยจัดขึ้นที่บริเวณ St Clere Estate…
-
Charlie เจ้าเหมียวยอดคุณพ่อ ผู้เข้าใจเหล่าแมวกำพร้า และอุปถัมภ์น้องๆ เหมือนลูกตัวเอง
แมวหลายตัวนั้นมีสัญชาติญาณการเป็นพ่อแม่อยู่ในตัว แต่สำหรับบางตัวถึงแม้จะไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ แต่มันก็รักแมวตัวน้อยๆ เหมือนลูกของมันเอง Charlie ในวัยละอ่อน ดั่งเช่นเจ้า Charlie แมวยอดคุณพ่อที่ชอบเลี้ยงแมวกำพร้า โดยในวัยเด็กของเจ้า Charlie นั้นก็เคยถูกทิ้งมาก่อน จนกระทั่งหลังจากนั้นมันได้รับการดูแลที่ดี และมีชีวิตเปี่ยมไปด้วยความสุข เมื่อมันเติบโตขึ้น Chandler Alteri เจ้าของมันก็ได้กล่าวว่า “มันเป็นแมวที่น่ารักและซื่อสัตย์ของบ้าน มันเป็นมิตรกับแขกที่มาหา รวมไปถึงสุนัขและเด็กๆ อีกด้วย” Charlie เหมียวคุณพ่อผู้ใจดี หลังจากนั้นไม่นาน Alteri ก็ตัดสินใจที่จะรับเลี้ยงแมวเพิ่มโดย เธอได้ติดต่อไปที่ศูนย์ ASPCA เพื่อนำแมวมาอุปการะเพิ่ม 2 ตัวโดยเธอตั้งชื่อว่า Bitsy และ Jitterbug ในช่วงแรกเธอกังวลว่าเจ้าเหมียวสองตัวใหม่นี้ จะไม่สามารถเข้ากับ Charlie แมวอาวุโสของบ้านได้ แต่เมื่อเธอนำ Bitsy และ Jitterbug มาอยู่ที่บ้าน ผลปรากฎว่าเจ้า Charlie ดูแลเจ้าสองตัวเหมือนเป็นลูกมันแท้ๆ เลยทีเดียว โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะลูก ~ หลายคนเห็นพฤติกรรมของมันแล้วก็ประหลาดใจมากๆ เนื่องจากเจ้า…
-
คู่รักถ่ายรูปแต่งงานด้วยตัวเอง ใน 11 ประเทศทั่วโลกในระยะ 3 เดือน ภายใต้งบประหยัดสุดๆ
เวลาถ่ายรูปแต่งงานหลายคนก็คงอยากไปถ่ายหลายๆ ที่ หรือไปต่างประเทศเลยยิ่งดี แต่การจะทำแบบนั้นได้แสดงว่าคุณต้องเป็นคนกระเป๋าหนักพอควรเลยนะ ไหนจะทั้งค่าเดินทาง ค่าจ้างช่างภาพและอื่นๆ อีกมากมาย และสองสามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันคู่นี้ ก็ทำการพิสูจน์ให้เห็นว่าเรื่องแบบนี้ไม่เกินยากเกินความสามารถอะไรเลย ดังนั้นพวกเขาจึงเดินทางเพื่อไปถ่ายรูปแต่งงานด้วยตัวเองกว่า 11 ประเทศทั่วโลก!! หลังจาก Keow Wee Loong ช่างภาพชาวมาเลเซียแต่งงานกับแฟนสาว Marta เมื่อไม่นานนี้ แต่ดูเหมือนภาพแต่งงานที่ถ่ายไปยังไม่จุใจพอ Keow จึงตัดสินใจไปถ่ายรูปเพิ่มอีกในประเทศต่างๆ ทั่วโลก แต่เนื่องจากเขาเป็นช่างภาพอยู่แล้ว อุปกรณ์ก็มีพร้อม ก็เลยไม่ต้องจ้างช่างภาพ ไปกันสองคนพร้อมชุดและอุปกรณ์ถ่ายรูป ก็เลยเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการประหยัดงบประมาณไปในตัว และภายใน 3 เดือน ทั้งคู่ก็ได้ไปมาแล้วหลายประเทศคือ นอร์เวย์, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, อิตาลี, อังกฤษ, ออสเตรีย เยอรมนี, โปแลนด์, มาเลเซีย, สวีเดน และเดนมาร์ก โดยทั้งหมดนี้เขาบอกว่าใช้เงินไปไม่ถึง 40,000 บาท แน่นอนว่าการไปถ่ายรูปกันแค่สองคน ก็อาจจะลำบากเล็กน้อย เพราะต้องขนทั้งชุดแต่งงาน เครื่องแต่งหน้า ทำผม ไหนจะต้องแบกอุปกรณ์ถ่ายรูปอีก บางครั้งพวกเขาต้องแบกสิ่งเหล่านี้ขึ้นภูเขาสูง ต้องผ่านอุณภูมิที่หนาวจัดและเจอความยุ่งยากอีกมากมาย แต่ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ได้ภาพแต่งงานที่สมบูรณ์แบบที่สุด …
-
จีนเชิญชิมให้ลิ้มรส “ไข่เยี่ยวคน” ที่ต้มด้วยฉี่เด็กผู้ชาย สูตรต้นตำรับสืบต่อกันมานับพันปี!!
ปกติเราเคยได้ยินแต่ไข่เยี่ยวม้า ซึ่งมันก็ไม่ได้ทำจากปัสสาวะของม้าแต่อย่างใด แต่ทว่าล่าสุดจีนก็ได้รังสรรค์เมนูแปลกๆ ประจำปีอย่าง ไข่เยี่ยวคน และเมนูนี้ก็มีกระบวนการทำผ่านจากฉี่ของคนจริงๆ ด้วย!! Lu Ming พ่อครัวจีนผู้รังสรรค์เมนูไข่สูตรพิสดารนี้กล่าวว่า เขาได้นำไข่ไปต้มในฉี่ของเด็กผู้ชาย ซึ่งจะทำให้มีรสชาติออกเปรี้ยวๆ และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง แน่นอนว่าคนนอกอย่างเราคงจะมองว่าเป็นเมนูพิศดารที่ไม่น่าทานอย่างยิ่ง แต่รู้มั้ยว่านี่เป็นเมนูชั้นเลิศสำหรับชาวบ้านในเมืองดงยาง ทางตะวันออกของประเทศจีน แถมยังมีการเชิญชวนให้ผู้คนทั่วโลกมาร่วมลิ้มลองเมนูนี้ด้วย จริงๆ แล้วนี่ไม่ใช่เมนูใหม่ของจีน แต่การต้มไข่ในปัสสาวะของเด็กผู้ชายนั้นได้ทำสืบทอดกันมานานกว่าพันปีแล้ว เนื่องจากไข่มีความสำคัญกับวัฒนธรรมของจีน โดยในปี 2008 เมืองดงยางก็ได้ประกาศให้ไข่ต้มปัสสาวะนี้ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของเมืองด้วย พ่อครัว Lu Ming บอกว่าปัสสาวะของเด็กผู้ชายถูกรวบรวมมาจากโรงเรียนในท้องถิ่น โดยให้เด็กๆ ทำการปัสสาวะในถังน้ำ จากพวกเขาก็จะมาเก็บปัสสาวะแบบวันต่อวัน เพื่อให้ปัสสาวะที่จะนำมาต้มนั้นมีความสดใหม่ทุกวัน เมื่อได้ปัสสาวะมาแล้ว พวกเขาก็จะต้มพร้อมเปลือกก่อน จากนั้นก็จะทำแกะเปลือกและต้มต่อไปข้ามวันข้ามคืน จนกระทั่งไข่อยู่ในสภาพที่พร้อมรับประทานได้แล้ว… สำหรับผู้ที่ได้ลิ้มลองไข่เยี่ยวคนแล้ว ก็อ้างว่ามันมีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย Ming บอกว่า “ตั้งแต่กินไข่เยี่ยวคนก็แทบจะไม่เคยเป็นไข้อีกเลย และมันยังช่วยให้คุณมีสมาธิดีด้วย” เขายังบอกอีกว่า “เรากำลังผลักดันให้ไข่เยี่ยวม้าเป็นสินค้าส่งออกของจีนครับ เพราะเราอยากให้ต่างชาติได้ลิ้มรสเมนูอันโอชะของเรา จะได้รู้ว่ามันอร่อยและดีจริงๆ ไม่ได้โม้” …
-
14 ภาพเอ็กซเรย์ชวนขนลุก กับเหล่าสิ่งของที่เข้าไปอยู่ในร่างกายมนุษย์ แม้แต่หมอยังตกใจ!?
คำเตือน: ภาพเหล่านี้ค่อนข้างมีความรุนแรง อาจกระทบต่อจิตใจและภายในร่างกายได้ การเอกซ์เรย์ถือเป็นขั้นตอนการทำงานปกติของแพทย์ เพื่อวินิจฉัยหาวิธีการทำการรักษาได้ง่ายขึ้น แต่บางทีการเอกซ์เรย์ก็ทำให้คุณหมอได้เจอกับสิ่งแปลกปลอมที่แทบไม่อยากจะคิดเลยว่า มันเข้าไปอยู่ภายในร่างกายได้อย่างไร!? และนี่คือภาพเอกซ์เรย์ชวนขนลุก เมื่อพบสิ่งแปลกปลอมอยู่ในร่างกายของมนุษย์ ที่ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการเล่นพิเรนทร์ เราก็ควรที่จะระมัดระวังตัวกันให้มากๆ นะ 1. มีเข็มจำนวนมากอยู่ในลำคอของผู้เสพติดเฮโรอีน 2. วัตถุที่เห็นนี้ไม่ได้ถูกกลืนเข้าไป แต่เกิดจากการเจาะจนมันฝังเข้าไปในร่างกาย 3. ปลั๊กมาเป็นสายเลย แล้วมันเข้าไปอยู่ในนั้นได้อย่างไร? 4. ก่อนจะปิดแผล หมอควรจะเช็คให้ดีว่า ไม่ได้ลืมอุปกรณ์ไว้ในร่างกายคนไข้ 5. มันคือขวดที่น่าจะเกิดจากการเล่นพิเรนทร์ 6. ใครหนึ่งกำลังกินไอศกรีม แต่ถูกเพื่อนทำให้ตกใจ จนกลืนช้อนลงไปทั้งคัน 7. เด็กน้อยคิดว่าแม่เหล็กเป็นลูกอมก็เลยกลืนลงไปจนอยู่ในร่างกายเต็มไปหมด 8. วัตถุที่เข้าไปทางทวารหนักแล้วเอาออกไม่ได้ 9. เกิดความผิดพลาดเมื่อ ชายหนุ่มจะขอแฟนสาวแต่งงานเลยแอบใส่แหวนลงไปในเครื่องดื่มของเธอหวังเซอร์ไพรส์ แต่หญิงสาวกลับกลืนลงไปโดยไม่ทันสังเกต 10. หืมมม เห็นแล้วขนลุกเลย 11. ภาพเอกซเรย์ ของบคคุลที่ร้ายตัวเองด้วยการฝังเข็มในร่างกาย…
-
รวมภาพ 17 ไอเดียสิ่งประดิษฐ์สุดเจ๋ง ช่วยทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้นเป็นกอง คิดได้ยังไงเนี่ย!?
ในชีวิตประจำวันของเรานั้นมีสิ่งของมากมายที่คอยอำนวยความสะดวกให้เราอยู่หลากหลายจุดประสงค์และความต้องการ… แต่สิ่งของบางอย่างนั้นก็สามารถที่จะนำไอเดียมาเพิ่มเติมเข้าไป จนพวกมันทั้งเจ๋งและใช้งานได้จริงในเวลาเดียวกันเหมือนกับ 17 ไอเดียสิ่งประดิษฐ์สุดฉลาดล้ำโลกเหล่านี้ ช่วยขจัดปัญหาเล็กน้อยให้ลดลงไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ!! ขวดพริกปรับระดับความเผ็ดได้ ถาดใส่ขนมบนแก้วน้ำอัดลมขนาดใหญ่ ไม่ต้องใส่แยกกัน ~ ไม่ต้องไปหาช้อนที่ไหนไกล พับเอาจากฝาเลยสิ!! สำหรับสุนัขซนที่ชอบหนีออกจากบ้าน เจ้าของเลยติดเครื่องกันขโมยไว้ที่ปลอกคอซะเลย เวลาหนีจะได้รู้ กระดานหมากรุกแนวตั้งในบาร์แห่งหนึ่ง รอเมียเลือกซื้อของนานจนแบตหมด ไม่มีปัญหา มาชาร์จที่ตู้นี้ได้เลย!! ใช้ประโยชน์จากหนังสือพิมพ์ พับเป็นตัวแขวนโทรศัพท์ฉายความบันเทิง กลัวครีมชีสจะเยิ้มเหรอ ? ไม่ต้องห่วง Starbuck สาขานี้ ใช้ถุงแยกใส่ช่องไว้ให้เลย ที่แขวนช้อนตวงโปรตีนผง เวลาจะตักครั้งหน้าจะได้หาช้อนง่ายๆ หน่อย ~ ที่เติมครีมและน้ำตาลสำหรับคอกาแฟ แยกไว้ให้เติมกันอย่างจุใจ Check-list ของโรงแรมที่บอกแขกว่า อย่าลืมขโมยสบู่ของเราด้วยนะ!! ในระหว่างทำฟันก็ค้นหาตัวการ์ตูน Waldo ไปพลางๆ กระจกสองด้านภายในห้องน้ำชาย ที่ยืนฉี่ไปก็เห็นภายในร้านด้วย …
-
อดีตหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ ตัดสินใจฝ่าดงกระสุน ISIS เพื่อเข้าไปช่วยเหลือเด็กกลางสมรภูมิ!!
เราอาจจะเคยได้เห็นฉากที่พระเอกฝ่าดงกระสุนเพื่อช่วยเหลือนางเอกหรือผู้บริสุทธิ์จากในจอโทรทัศน์ แต่สำหรับเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริงของอดีตนายทหารคนหนึ่งที่ฝ่าดงกระสุนเพื่อเข้าไปช่วยชีวิตเด็กน้อยกลางสมรภูมิ Mosul ประเทศอิรัก นาย David Eubank อดีตนายทหารหน่วย Ranger และ หน่วยรบพิเศษของกองทัพสหรัฐ (US Special Forces) ได้ก่อตั้งกลุ่ม The Free Ranger Burma เพื่อทำการช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับความทุกข์ยากในประเทศต่างๆ ได้แก่ เมียนมาร์ อิรัก และซูดาน นาย David Eubank วัย 56 ปี เขาได้ทำการลงพื้นที่สมรภูมิ Mosul กับหน่วย Ranger เพื่อทำการช่วยเหลือพลเรือนที่กำลังเดือดร้อน ในขณะที่หน่วย Ranger กำลังปะทะกับกองกำลังของ ISIS ก็มีเด็กหญิงคนหนึ่งที่ติดอยู่กลางพื้นที่สู้รบของทั้ง 2 ฝ่าย ด้วยเลือดนักสู้ในตัว… เขาจึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปช่วยเด็กหญิงคนนั้น โดยได้รับความคุ้มกันจากหน่วย Ranger และในขณะที่ David กำลังวิ่งอยู่นั้นเขาต้องเจอกับอันตรายจากระเบิดและสไนเปอร์ของฝั่ง ISIS เขาวิ่งฝ่ากระสุนเพื่อช่วยเหลือเด็กน้อยที่ติดอยู่กลางวงล้อม .…
-
ศิลปินดิสนีย์สร้างเรื่องราว ‘ชีวิตที่มีสัตว์เลี้ยงเป็นปลาหมึก’ และมันก็น่ารักมากๆ เลยล่ะ!!
ปกติไม่ว่าจะให้ชีวิตจริง การ์ตูน หรือภาพยนตร์ หากตัวละครมีสัตว์เลี้ยง ก็มักจะเป็นสุนัข แมว หรือนก อะไรประมาณนี้ แต่สำหรับศิลปินคนนี้ได้สร้างให้ตัวละครที่มีสัตว์เลี้ยงแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะมันคือ ‘ปลาหมึก’ ในช่วงเวลากลางวัน Brian Kesinger ทำงานเป็นศิลปินสตอร์รี่บอร์ดของ Walt Disney Animation Studios ส่วนในช่วงเวลากลางคืนเขาก็กลายมาเป็นทั้งผู้แต่งและนักวาดภาพประกอบในเรื่อง Walking Your Octopus การ์ตูนเรื่องนี้ Kesinger ได้ผสมผสานระหว่างโลกในจินตนาการสไตล์ดิสนีย์และรูปแบบธีม Steampunk (แนวนวนิยายวิทยาศาสตร์ยุควิคตอเรีย) และจินตนาการถึงการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นของมิตรภาพที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ ตัวละครหลักของเรื่องคือ Victoria และปลาหมึกยักษ์เพื่อนซี้ของเธอที่ชื่อว่า Otto โดย Kesinger ให้เหตุผลว่าทุกคนมีความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นตัวอะไรก็ตาม ปกติปลาหมึกมักจะตกเป็นอาหารของมนุษย์ แต่เรื่องนี้เขาได้ทำให้ Victoria ได้ออกไปผจญภัยกับปลาหมึกยักษ์ Otto จนกลายเป็นมิตรภาพที่ยากจะทำลายลงได้ เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหน ปลาหมึกยักษ์จะอยู่กับเธอทุกที่ จริงๆ เนื้อหาของการ์ตูนเรื่องนี้ก็ไม่ต่างจากการ์ตูนทั่วไปเท่าไรนัก แต่การที่ศิลปินได้ทำให้ปลาหมึกกลายเป็นสัตว์เลี้ยงได้นั้น ถือว่ามีเอกลักษณ์ที่แตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด และได้เห็นมุมน่ารักๆ ของปลาหมึกอีกด้วย …
-
รวม 30 ภาพฮาๆ ที่ไม่รู้จะให้แคปชั่นยังไงดี ยากที่จะสรรหาคำพูดมาอธิบายเสียจริงๆ
เคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่แบบว่าพูดไม่ออก คือมันอยากพูดนะแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร เหมือนกับภาพที่จะให้เพื่อนๆ ดูวันนี้ คือจริงๆ อยากเขียนแคปชั่นไว้ให้นะ แต่ไม่รู้จะเขียนยังไงนี่สิ… จะว่าไปแล้วการมองภาพแล้วปล่อยให้เป็นไปตามจินตนาการของตัวเอง อาจจะให้ความรู้สึกที่ถึงใจมากกว่า แต่ก็อย่างว่าแหละภายในหนึ่งภาพ อาจจะซ่อนคำพูดเอาไว้หลายล้านประโยคเลยล่ะ ฮร่าาา 1. 2. 3. 4. เกาะกระจกนานๆ ก็มีเมื่อยบ้างไรบ้าง 5. 6. เปิดกระโปรงรถแล้วเจอแบบนี้ คุณจะพูดว่า… 7. 8. 9. 10. แล้วน้องจะทำยังไงคะพี่ตา 11. 12. ขาตั้งไอแพดมันคุ้นๆ นะ 13. โห นี่เรากินกล้วยผิดวิธีมาตลอดเลยหรอ 14. เมื่อลูกบ่นอยากเป็นม้า 15. ว่างจากการเก็บขยะก็มาเป็นดีเจ 16. เจอแบบนี้ในที่มืดๆ…
-
แม่เต่ายอดนักสู้ คลานจากทะเลเพื่อมาวางไข่บนชายหาดถึง 2 ครั้ง แม้กระดองจะไม่สมบูรณ์…
เต่าทะเลถือเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่มีอายุที่ยาวนาน สามารถที่จะอยู่ในทะเลได้เป็นเวลานาน แต่ก็ยังคงมีความเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่สามารถจะอยู่บนบกได้อีกด้วย โดยในช่วงเจริญพันธุ์หลังจากที่มันได้ทำการปฏิสนธิเป็นที่เรียบร้อย พวกมันก็จะขึ้นมาชายหาดเพื่อขุดหลุมฟักไข่ของมันไว้ Jeff George ซึ่งเป็นกรรมการผู้บริหารองค์กรช่วยเหลือเต่า Sea Turtle ได้รับโทรศัพท์จากผู้ที่พักผ่อนแถวชายหาดของเกาะ South Padre ในรัฐ Texas ว่ามีเต่าขนาดใหญ่แต่มีทรงกระดองแปลกๆ อยู่บริเวณชายหาด Jeff George กรรมการผู้บริหาร ซึ่ง George รู้จักกับเจ้าเต่าตัวนี้ดีเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามันได้ทำการขึ้นมายังชายหาดเพื่อขุดหลุมวางไข่ของมัน และดูเหมือนว่ามันได้กลับมาอีกครั้งเพื่อขุดหลุมอีกหลุมหนึ่งสำหรับการวางไข่ครั้งที่ 2 ลักษณะกระดองที่แตกต่างจากเต่าทั่วไป ไม่มีใครรู้ว่ากระดองของมันนั้นมีลักษณะบิดเบี้ยวหายไปได้อย่างไร แต่ก็มีหลายคนที่สันนิษฐานว่ามันอาจจะปะทะกับสัตว์นักล่าจนเสียกระดองไปส่วนหนึ่ง “เต่ามีขนาดเล็กมากเมื่อพวกมันเพิ่งเกิดมา ดังนั้นอาจเป็นแผลจากปลาที่จู่โจมมันในช่วงต้นของชีวิต หรืออาจเป็นปลาฉลามในเวลาต่อมาก็ได้” George กล่าว และด้วยส่วนของกระดองที่หายไปนั้นทำให้มันมีความสามารถในการเคลื่อนที่ในน้ำและผืนทรายลดลง แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังคงเลือกที่จะคลานจากทะเลมาเพื่อนวางไข่บนชายหาดเป็นจำนวนมากถึง 62 ฟอง มันสามารถที่จะขุดทรายและวางไข่ได้มากถึง 62 ฟอง!! . George ยังได้เสริมว่านอกจากลักษณะกระดองของมันที่แตกต่างออกไปแล้ว มันยังเป็นเต่าทะเลสายพันธุ์ Kemp’s ridley ซึ่งถือว่าหายากและใกล้สูญพันธุ์อีกด้วย หลังจากที่วางไข่เสร็จมันก็ได้คลานกลับสู่ทะเลอย่างปลอดภัย George…
-
รู้จักกับ Silkie Hen ไก่ขนปุกปุยนุ่มนิ่ม เหมาะที่จะเลี้ยงไว้กอดฟัด และไว้ปลุกคุณในยามเช้า!?
สำหรับคนที่คลิ๊กเข้ามาอ่านแล้วนึกว่า #เหมียวปั๊ก จะเชียร์เพื่อนๆ ให้มาเลี้ยงไก่ชน แต่ที่จริงแล้วนี่คือไก่ที่มีชื่อว่า Silkie Hen ด้วยเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกับไก่พันธุ์ไหนๆ เลย มันอาจจะมีมุมที่เหมือนอัลปาก้าบ้าง เหมือนหมีบ้าง แต่นี่คือไก่ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศจีน โดยภายหลังก็มีการตั้งชื่อให้มันใหม่ เพื่อสอดคล้องกับขนที่มีลักษณะที่นุ่มนิ่มและฟูฟ่อง นะ นะ นายเป็นไก่จริงเหรอ? นอกจากขนที่ฟูแล้วมันยังมีหลากหลายสีสันอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นสีดำ ขาว น้ำตาลแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ โดยพวกมันแบ่งเป็นสองสายพันธุ์ นั่นคือสายพันธุ์ที่มีเครา และสายพันธุ์ที่ไม่มีเครา ขนที่ปุกปุยของมันสามารถบังตาได้เลย เจ้ามนุษย์ อยู่ไหนฟร่ะ!? ซึ่งแบบเครานั้นจะมีเคราอยู่ใต้จะงอยปากถึงหู ซึ่งสีที่ได้รับความนิยมสำหรับ Silkie Hen นี้มีอยู่หลากหลายสีซึ่งได้แก่ สีดำ สีน้ำเงิน สีเทา และสีขาว เจ้าไก่ขนปุยนี้มีสีสันที่หลากหลายพอตัวเลย . พฤติกรรมของมันทั่วไปนั้นไม่ต่างอะไรไปจากไก่บ้านธรรมดา โดยพวกมันสามารถที่จะวางไข่ได้ 3 ฟองต่อสัปดาห์โดยประมาณ และด้วยเหตุนี้ Silkie Hen นั้นจึงเหมาะที่จะเป็นสัตว์เลี้ยง เพราะนอกจากจะสวยงามแล้ว ยังสามารถที่จะเข้ากับเด็กๆ ได้อีกด้วยโดยราคาต่อตัวนั้นตกอยู่ที่ราวๆ…
-
ฝรั่งลองเสบียงสำเร็จรูปกองทัพไทย ‘พะแนงเนื้อ’ อึ้งกับช้อนเทพ (หมดอายุแล้วนะ)!?
หนึ่งในเรื่องสำคัญของการดำรงชีพก็คืออาหารการกิน ดั่งคำกล่าวที่ว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง เพราะฉะนั้นแล้วทางกองทัพจึงมีการจัดเตรียมเสบียงสำเร็จรูปในรูปแบบห่อขึ้นมา มันมีชื่อว่า MRE (Meal, Ready-to-Eat) ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกองทัพชาติไหนๆ รวมถึงกองทัพไทยด้วยเช่นกัน บางคนอาจจะไม่เคยเห็น อ่ะ คราวนี้เราจะมาดูกันว่าเสบียงสำเร็จรูปของไทยเรานั้นมีดีอย่างไรบ้าง โดยทางแชแนล Steve1989 MREinfo เป็นช่องที่รวบรวมการแกะห่อและพิสูจน์รสชาติของเสบียงสำเร็จรูปมาหลายประเทศ คราวนี้ก็มาโดนที่ ‘พะแนงเนื้อ’ ของไทยเรานี่เอง แท่น แท๊นนนน!! หน้าตา MRE เสบียงอาหารสำเร็จรูปชุดแกงพะแนงเนื้อของกองทัพไทยเรา ควรบริโภคก่อน 9 ต.ค. 2553 โอ้ นี่มันผ่านมากี่ปีแล้วเนี่ยพี่!! เทียบขนาดกันชัดๆ จะเห็นได้ว่าสูงเกือบเท่ากัน แต่ความกว้างนั้นต่างกันอย่างมาก อย่ารอช้า มาดูกันดีกว่าว่าข้างในซองจะมีอะไรบ้าง เจอนี่ก่อนเลย ซองข้าวสวย ดูจากทรงแล้ว ด้วยความที่เป็นข้าวหุงสุกมาก่อนแล้วยัดเข้าซอง พี่แกบอกโคตรแข็งเลยครัช!! ตามมาด้วย ถุงแกงพะแนงเนื้อสุดอร่อย (ที่หมดอายุไปแล้ว) และนี่คือสิ่งที่พี่แกชอบมาก มันคือช้อนเทพในตำนาน ชอบมากถึงกับขนาดบีบเล่น ชื่นชมว่าแข็งแรงและทนทาน…
-
3 จอมโจรรวมหัวกันขโมย ‘อะโวคาโด’ จากบริษัทของตัวเอง รวมมูลค่านับสิบล้านบาท!!
โดยปกติแล้วเหล่าหัวขโมยทั้งหลาย จะเลือกขโมยแต่สิ่งของมีค่าที่มีจำนวนน้อยๆ แต่มีราคาที่แพงแสนแพง อย่างเช่นทองคำ เพชร พลอย ต่างๆ หรือไม่ก็เป็นเงินสดที่สามารถพกพาได้ง่าย เพื่อสะดวกในการหลบหนีแถมมีมูลค่าสูงอีกต่างหาก แต่สำหรับหัวขโมย 3 คนนี้ต้องขอบอกเลยว่าพวกเขาคิดการใหญ่มากๆ เพราะเลือกที่จะขโมยผลอะโวคาโดที่มีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เลยทีเดียว!! เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมนาย Joseph Valenzuela วัย 38 ปี, นาย Carlos Chavez วัย 28 ปี, และนาย Rahim Leblanc วัย 30 ปี ในข้อหา ‘ขโมยอะโวคาโด’ Mission Produce หนึ่งบริษัทส่งออกอะโวคาโดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้ง 3 คนถูกกล่าวหาว่าขโมยผลไม้จากนายจ้างของตัวเอง ที่เป็นบริษัทขายส่งอะโวคาโดที่ใหญ่ที่สุดในโลกชื่อว่า Mission Produce อยู่ในแถบ Ventura County รัฐแคลิฟอร์เนีย และนำไปขายต่อให้ลูกค้าในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด อะโวคาโดที่ถูกขโมยไปนั้นทางบริษัทได้คำนวณออกมาแล้วว่าน่าจะมีมูลค่าสูงถึง 10…
-
Morgan’s Wonderland ลงทุนกว่า 500 ล้านเปิดสวนน้ำสำหรับ ‘ผู้พิการ’ ให้เข้าเล่นแบบฟรีๆ!!
นี่คือสวนน้ำแห่งใหม่ในเมือง San Antonio รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ทำขึ้นมาสำหรับ ‘ผู้พิการ’ โดยเฉพาะ!! สวนน้ำ Morgan’s Wonderland ได้ทำการขยายพื้นที่เพื่อสร้างสวนน้ำ Morgan’s Inspiration Island เพื่อสร้างความสนุกสนานและประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับเหล่าเด็กๆ ผู้พิการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแม้แต่แดงเดียว!! พวกเขาได้ทำการลงทุนเป็นมูลค่าสูงกว่า 576 ล้านบาท เพื่อสร้างสวนน้ำพิเศษ Morgan’s Inspiration Island และจะเปิดให้บริการในทุกๆ วันเสาร์ ในสวนน้ำจะมีการแจกริสแบนด์ที่สามารถระบุความถี่คลื่นวิทยุแบบกันน้ำให้กับเด็กๆ นั่นทำให้คุณพ่อคุณแม่ของพวกเขาสามารถติดตามตำแหน่งที่อยู่ของเด็กๆ ได้ นอกจากนี้ก็มีสถานที่เล่นน้ำที่ชื่อว่า Rainbow Reef ที่มีการกำหนดอุณหภูมิของน้ำให้อุ่นตลอดเวลาสำหรับแขกที่มีความรู้สึกไวต่อน้ำเย็น และเพื่อให้การดูแลที่ปลอดภัยที่สุด ภายในสวนน้ำแห่งนี้จะมีคุณหมอและผู้เชี่ยวชาญประจำการอยู่ เพื่อให้การดูแลแก่เหล่าเด็กๆ ที่มีความต้องการพิเศษอย่างทันท่วงที ทางสวนน้ำยังได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย University of Pittsburgh เพื่อสร้างวีลแชร์พลังลมแบบกันน้ำ เพื่อนำมาใช้งานในสวนน้ำแห่งนี้โดยเฉพาะอีกด้วย “Morgan’s Inspiration Island ขอรับปากว่าจะให้การดูแลกับผู้คนที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษอย่างดี และให้พวกเขาได้รับประสบการณ์สุดสนุกกลับไปโดยปลอดภัย” Morgan’s Wonderland กล่าว ที่มา : huffingtonpost
-
นายหน้าค้าอสังหาฯ ค้นพบห้องสมุดโบราณอายุกว่า 200 ปี ซ่อนอยู่ในบ้านที่ถูกนำมาประมูล!!
ห้องสมุดสุดเก่าแก่ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในสมบัติอันล้ำค่านี้ ถูกค้นพบในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศเบลเยียม คุณ Henri Godts นายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ ผู้พบห้องสมุดเก่าแก่แห่งนี้ที่ซ่อนอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่เจ้าของนำมาประมูลขาย!! ซึ่งเจ้าของคนเดิมนั้นเป็นปัญญาชนชาวฝรั่งเศส ที่ได้ทำการลี้ภัยจากการปฏิวัติฝรั่งเศสมายังเมือง Bouillon ประเทศเบลเยียม โดยที่ห้องสมุดดังกล่าวถูกรักษาเป็นอย่างดีและไม่เคยถูกแตะต้องมาเป็นเวลานานถึง 200 ปีแล้ว ภายในนั้นเต็มไปด้วยหนังสือเก่าแก่มากมายที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ “มันเป็นเรื่องยากมากที่จะเจอห้องสมุดเก่าแก่ที่สมบูรณ์มากถึงขนาดนี้ มันเหมือนกับการย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 18 เพราะหนังสือทุกเล่มที่นี่สภาพดีมากๆ ” คุณ Godts กล่าว ภายในห้องสมุดดังกล่าวมีหนังสือในระหว่างช่วงศตวรรษที่ 18 ถึงศตวรรษที่ 19 อันเป็นหนังสือหายากมากถึง 182 เล่ม รวมถึงอุปกรณ์แต่งห้องและเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ อีกมากมาย โดยส่วนมากแล้วจะเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการสำรวจและอารยธรรมในพื้นที่ใหม่ๆ บนโลกในยุคก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจและถือว่าเป็นสิ่งล้ำค่ามากที่สุดนั่นก็คือแผนที่ของ Abraham Ortelius ยอดนักสำรวจชาวเบลเยียม Abraham Ortelius ถือว่าเป็นหนึ่งในนักเขียนแผนที่ที่มีชื่อเสียงมากในสมัยนั้น แผนที่ที่ถูกพบในห้องสมุดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1575 ถือว่าเป็นหนึ่งในแผนที่ที่ทันสมัยที่สุดในสมัยนั้น และตีพิมพ์ออกมาแค่ 100 ฉบับเท่านั้น ราคาของแผนที่นี้อยู่ที่ประมาณ 1,700,000 แสนบาท แต่ในแง่ของความสำคัญทางประวัติศาสตร์นั้นมูลค่าของแผนที่ดังกล่าวไม่สามารถประเมินค่าได้เลย ตอนนี้ตัวห้องสมุดดังกล่าวกำลังเปิดให้ประมูลอยู่จนถึงวันที่ 20…
-
ผู้นำนักปราบผีวาติกัน บอกการอ่าน Harry Potter และทำโยคะ จะทำให้สู่ด้านมืด ถูกปิศาจสิงได้ง่าย!?
นักปราบผีระดับสูงจากนครวาติกันได้ออกมาประณามว่าการออกกำลังกายด้วยโยคะ และนิยายแนวแฟนตาซีอย่าง Harry Potter เป็นการกระทำที่เกี่ยวข้องกับซาตาน และจะทำให้ถูกปิศาจสิงได้ง่าย คุณพ่อ Gabriele Amorth ทำหน้าที่เป็นผู้นำฝ่ายนักปราบผีที่นครวาติกันมาแล้วหลายปี แถมยังอ้างว่าเคยปราบวิญญาณร้ายจากร่างที่ถูกสิงมาแล้วหลายร้อยตน ได้ออกปากเตือนว่าตอนนี้ผู้คนกำลังถูกปิศาจเข้าสิงจากการทำโยคะ นั่นเพราะว่ามันนำไปสู่การบูชาศาสนาฮินดู และความเชื่อทาฝั่งตะวันออก ซึ่งมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการกำเนิดใหม่ Gabriele Amorth การเล่นโยคะ!? นอกจากนี้ก็ยังบอกอีกด้วยว่าการอ่านนิยายเรื่อง Harry Potter ของ JK Rowling เองก็อันตรายไม่แพ้กัน “มันถูกวางขายไปมากมายหลายล้านเล่มทั่วโลก และดูเหมือนว่ามันอาจจะไม่มีอันตราย แต่จริงๆ แล้วมันจะทำให้เด็กๆ หลงเชื่อและมีความเชื่อในศาสตร์มืด เวทมนตร์ดำ และการเป็นพ่อมดแม่มด” คุณพ่อ Gabriele กล่าว “ซาตานมักจะซ่อนอยู่ในที่ที่เราคาดไม่ถึง เขามักจะเฝ้ามองเราอยู่ตลอดเวลา คอยศึกษาว่าอะไรดีหรือไม่ดี และจะสร้างสิ่งยั่วยวนใจขึ้นมาเพื่อให้เราหลงผิด” “วิทยาศาสตร์ไม่สามารถหาหลักฐานมาอธิบายซาตานได้ เพราะตอนนี้วิทยาศาสตร์ก็แค่อธิบายสิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาเท่านั้นเอง “ คุณพ่อเล่าเสริมเป็นการปิดท้าย ที่มา : telegraph
-
หญิงไร้บ้านบอกลาน้องหมาทั้งน้ำตา ก่อนส่งให้เจ้าหน้าที่ไปดูแล เพื่อมอบชีวิตที่ดีกว่า…
คนที่เข้าใจกันมากที่สุดมักจะเป็นคนที่ตกอยู่ในสภาวะเดียวกัน เหมือนกับหญิงไร้บ้านคนนี้ที่อาสาดูแลสุนัข เพราะเข้าใจดีว่าการถูกทอดทิ้งนั้นเป็นเช่นไร เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่จาก Hope for Paws ซึ่งเป็นกลุ่มช่วยเหลือในลอสแองเจลิสเห็นกลุ่มสุนัข 7 ตัวอาศัยอยู่ตามแม่น้ำ แต่ต้องแปลกใจเมื่อดูท่าทางของพวกมันไม่กลัวคนเลย ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงหญิงคนหนึ่งตะโกนเรียกหมาเหล่านั้น แล้วพวกมันก็วิ่งไปหาเธอทันที เจ้าหน้าที่จึงเดินตามกลุ่มสุนัขไป แล้วก็ได้พบกับ Wilma หญิงไร้บ้านที่ดูแลน้องหมาพวกนี้ เมื่อ Wilma รู้ว่าเจ้าหน้าที่กำลังจะเอาสุนัขพวกนี้ไปจากเธอ เธอโกรธมากและพยายามต่อต้านพวกเขา ทางเจ้าหน้าที่จึงเอา iPad ขึ้นมาและเปิดเว็บไซต์ของ Hope for Paws เพื่อบอกเธอว่าพวกเขาเป็นกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ และไม่ใช่แค่สัตว์ แต่จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือเธอเช่นกัน เมื่อได้ฟังดังนั้น Wilma ก็ร้องให้เพราะรู้สึกสับสนมาก แต่ในที่สุดเธอก็ยอมให้เจ้าหน้าที่เอาสุนัขทั้งหมดไป เพื่อให้พวกมันมีชีวิตที่ดีกว่า ทั้งๆ ที่เธอเองก็ทำใจยากต่อการบอกลาพวกมัน Eldad Hagar ผู้ก่อตั้ง Hope for Paws บอกว่า “Wilma รู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก และการที่ไม่ต้องดูแลสุนัขอาจทำให้ชีวิตของเธอง่ายขึ้น” จากนั้นเธอก็บอกลาสุนัขทีละตัว ก่อนจะส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อเอาพวกมันไปดูแลในที่ที่ปลอดภัย และมอบชีวิตที่ดีให้กับสุนัขเหล่านี้ เหล่าสุนัขเองก็ดูจะรัก Wilma มากเช่นกัน พวกมันมองเธอด้วยสายตาเศร้าสร้อย…
-
หนุ่มจีนทำเนียน หลอกจับนมผู้หญิงกว่า 7 คน โดยอ้างเป็นการแสดงมายากลขั้นเทพ!?
สาวๆ ที่ชอบดูการแสดงมายากลตามท้องถนน ระวังตัวไว้ให้ดี เพราะมายากลนั้นมีหลากหลายรูปแบบ และบางทีคุณอาจจะโดนแต๊ะอั๋งโดยไม่รู้ตัวก็ได้ เหมือนกับหนุ่มจีนคนนี้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนักมายากลปลอม หลังจากที่เขาโพสต์วิดีโอเล่นมายากลแต่แอบแฝงไปด้วยการล่วงเกินผู้หญิง ชายคนดังกล่าวได้โพสต์วิดีโอนี้เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2017 เป็นการเล่นมายากลที่เขานำเหรียญวางอยู่บนหน้าอกผู้หญิง แล้วอ้างว่าสามารถทำให้เหรียญไปอยู่ในเสื้อยกทรงได้ ต่อมาก็มีชาวเน็ตนำคลิปนี้ร้องเรียนต่อตำรวจท้องถิ่น และเมื่อตรวจสอบทราบว่าชายคนนี้คือนาย Xu อายุ 26 ปี ได้ทำการแสดงมายากลดังกล่าวที่ถนนคนเดินในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน โดยเข้าหาผู้หญิงทั้งหมด 7 คนด้วยกัน หลังจากที่ได้อาสาสมัครผู้หญิง 7 คนแล้ว นาย Xu ก็เริ่มด้วยการบอกผู้คนว่า ‘นี่คือเคล็ดลับมหัศจรรย์นะครับ’ จากนั้นก็ให้สาวๆ เช็คว่ามีเหรียญอยู่จริงมั้ย แล้วก็ให้ทุกคนจับจ้องที่เหรียญ โดยวางเหรียญไว้บนหน้าอกผู้หญิง แล้วอ้างว่าเขาจะทำให้เหรียญนี้เข้าไปอยู่ในยกทรงผู้หญิงภายในพริบตาเดียว จากนั้นนาย Xu ก็จับหน้าอกผู้หญิงโดยทำเนียนเหมือนเอามือปิดเหรียญที่อยู่บนหน้าอก ทำเอาผู้หญิงหลายคนตกใจและพยายามถอยหนี แต่ Xu ทำเหมือนไม่มีอะไรและบอกสาวๆ ว่าให้อยู่นิ่งๆ จนกว่าเขาจะปล่อยมือ แล้วการแสดงก็จบลง โดยเหรียญที่ว่านั้นตกไปอยู่บนพื้น แต่เขาก็ยังแสร้งทำให้ดูเหมือนว่ามันเป็นการแสดงที่น่าทึ่ง ในขณะที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจิ่นเจียงได้ออกมาบอกว่าวิดีโอได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีชาวเน็ตไม่น้อยที่ร้องเรียนเรื่องนี้เข้ามา…
-
รวม 20 ภาพประทับใจของเหล่าคุณพ่อ เมื่อได้เห็น ‘เจ้าตัวน้อย’ เป็นครั้งแรกหลังคลอด
วินาทีที่เจ้าตัวน้อยได้ลืมตาออกมาดูโลก หลังจากที่อยู่ในท้องคุณแม่นานถึง 9 เดือน คงเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของหลายๆ ครอบครัวที่มีโอกาสได้เห็นหน้าของลูกๆ เป็นครั้งแรก ซึ่งนอกเหนือจากคุณแม่ผู้ให้กำเนิดแล้ว อีกหนึ่งคนที่ดีใจกับชีวิตน้อยๆ ที่กำลังจะเริ่มต้นนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นคุณพ่ออย่างแน่นอน และวันนี้ #เหมียวเวจจี้ ได้รวบรวมภาพของคุณพ่อจากประเทศต่างๆ ที่กำลังปลาบปลื้มดีใจหลังจากมีโอกาสได้เห็นลูกน้อยของพวกเขาเป็นครั้งแรก ว่าแล้วเราไปชมภาพวินาทีแห่งความประทับใจเหล่านั้นกันเลยดีกว่า… ภาพของคุณพ่อมือใหม่ที่รู้สึกตื่นเต้นหลังจากได้เห็นหน้าของลูกสาวเป็นครั้งแรก ลมหายใจแรกของเจ้าตัวน้อยนั้นทำเอาคุณพ่อของเธอถึงกับหยุดหายใจเลยทีเดียว . หลังจากที่รอคอยมาเป็นเวลานาน คุณพ่อถึงกับร้องไห้ออกด้วยความดีใจมาหลังจากที่ได้อุ้มลูกของเขาเป็นครั้งแรก . ภาพรอยสักของคุณพ่อท่านนี้ได้มาหลังจากที่ภรรยาเขาแท้งลูกคนแรก แต่ตอนนี้ความพยายามของทั้งคู่ก็สำเร็จแล้ว ชายหนุ่มอุ้มลูกสาวของเขาไว้บนตักพร้อมกับน้ำตาแห่งความดีใจ . หลังจากที่รับเด็กสาวมาเป็นลูกบุญธรรมจนกระทั่งเธออายุได้ 2 ขวบ สองสามีภรรยาก็ต้องประหลาดใจอีกครั้งหลังจากที่พวกเขารู้ว่ากำลังจะมีลูก และนี่คือภาพของทั้งคู่หลังจากที่ได้เห็นหน้าลูกของพวกเขา . คุณพ่อที่คอยให้กำลังใจภรรยาของเขาระหว่างที่คลอดลูกสาวคนที่ 2 ในบ้านของพวกเขา และแล้วทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี . . คุณพ่อถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เมื่อได้เห็นลูกสาวของเขาเป็นครั้ง หลังจากที่ช่วยภรรยาของเขาเตรียมสถานที่คลอด และคอยอยู่ดูแลเธอตลอดทั้งวัน . . หลังจากที่อยู่เคียงข้างภรรยาของเขาและคอยให้กำลังใจเธออยู่นาน ในที่สุดคุณพ่อก็ได้มีโอกาสเห็นหน้าลูกสาวของเขาเป็นครั้งแรก สีหน้าของชายหนุ่มคงจะบอกเราได้เป็นอย่างดีว่าเขามีความสุขมากแค่ไหน . โมเม้นต์หลังจากที่คุณพ่อได้เห็นลูกคนแรกของเขา…
-
หมาถูกทิ้งนานหลายเดือน จนเท้าไปติดอยู่ที่หู ได้รับการช่วยเหลือและเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง
ทุกวันนี้มีสุนัขจรจัดมากมายและเราก็เดินผ่านพวกมันจนกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว แต่รู้มั้ยว่าการเพิกเฉยของเรา ทำให้สุนัขบางตัวต้องอยู่อย่างทรมาน เหมือนกับสุนัขจรจัดตัวนี้ที่ต้องอยู่ในสภาพมอมแมม ขนเกาะกันเป็นก้อนแข็งๆ จนเท้าไปติดอยู่ที่หู และมันต้องทนอยู่ในสภาพนี้โดยไร้การเหลียวแลจากผู้คน Soldier สุนัขวัย 6 ปี ถูกพบโดย Harriet Chaplin ผู้คุมสุนัขบนถนน Leeds ซึ่งคาดว่ามันถูกเจ้าของเดิมทิ้งมา และน่าจะถูกทิ้งมานานพอสมควร เขาจึงแจ้งไปยัง RSPCA Chaplin บอกว่า “ผมไม่เคยเจอสุนัขแบบนี้มาก่อนเลยครับ สภาพมันแย่มากๆ ผิวหนังรอบดวงตาลอกออก และขาของมันก็ไปติดอยู่ที่หู” ตอนนี้ Soldier อยู่ในการดูแลของ Dogs Trust Leeds พวกเขาทำการโกนขนทั้งหมดออกให้มัน และรักษาแผลที่มีอยู่รอบตัวให้ แต่รู้มั้ยว่ากว่าจะโกนขนออกได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พวกเขาต้องเวลากว่า 3 วันในการทำให้ขนของมันคลายลงด้วยการพรมน้ำจนอยู่ในระดับที่โกนได้ Heidi Jenner หัวหน้าแผนกตรวจสอบของ RSPCA บอกว่า “สุนัขตัวนี้ถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง และไม่ได้รับการดูแลเลยเป็นเวลาหลายเดือน จึงทำให้มันตกอยู่ในสภาพนี้” เธอยังบอกอีกว่า “ฉันพูดได้เลยว่านี่คือสุนัขที่สภาพแย่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นค่ะ เพราะตอนแรกที่เราเห็น ดูไม่ออกด้วยซ้ำว่ามันคือสุนัข” …
-
12 ภาพปลอมอันแสนโด่งดังในอดีต ยอมรับมาซะดีๆ ว่าคุณก็เคยโดนหลอกเหมือนกัน!!
บ่อยครั้งที่เรื่องหลอกลวงจากโลกอินเตอร์เน็ตมักจะทำให้หลายๆ คนเข้าใจผิด ไม่ว่าจะเป็นฟอร์เวิร์ดเมล์ปลอมๆ หรือข้อความชวนเชื่อที่บอกว่า มีว่านวิเศษสามารถรักษาได้ทุกโรค หรือข่าวปลอมๆ ที่แชร์กันในไลน์ แต่หนึ่งในเรื่องหลอกลวงที่พบมากก็คงหนีไม่พ้นภาพปลอมนั่นเอง ซึ่งถ้าหากไม่สังเกตดีๆ หรือหาข้อมูลมาก่อนก็อาจจะทำให้หลงเชื่อได้ง่ายกว่าข้อความ เพราะด้วยรูปภาพที่เป็นเหมือนดั่งหลักฐานที่บ่งบอกว่ามันเกิดขึ้นจริง แต่ทว่ามันก็มีไม่จริงอยู่ด้วยเช่นกัน… เพราะฉะนั้นวันนี้ #เหมียวเวจจี้ เลยได้นำภาพปลอมจากอินเตอร์เน็ตที่เคยโด่งดังมาฝากกัน จะมีภาพไหนบ้างนั้นไปชมกันเลย… ภาพที่ 1 แขกผู้ไม่ได้รับเชิญ หนึ่งในภาพที่เคยโด่งดังมากที่สุดภาพหนึ่ง มันเคยถูกส่งต่อในโลกอินเตอร์เน็ตเป็นจำนวนมาก ซึ่งบ้างก็บอกว่าภาพนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศ “National Geographic Photo of the Year” กันเลยทีเดียว แต่แท้ที่จริงแล้วมันเป็นภาพปลอมจ้า ภาพที่ 2 ปราสาทบนเกาะ ภาพของปราสที่ตั้งอยู่บนเกาะ ที่เข้าใจกันว่าเป็นปราสาท The Castle Island ในประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งอันที่จริงแล้วมันไม่ใช่นะจ๊ะ ภาพของปราสาทดังกล่าวตั้งอยู่ที่เมือง Dublin ส่วนเกาะข้างล่างก็นำมาตัดต่อให้ดูเข้ากันเฉยๆ ภาพที่ 3 แตงโมสีน้ำเงิน ภาพของผลไม้ยอดนิยมที่ไม่ได้มีอยู่จริงๆ นะฮ่าๆ หลายๆ คนคงจะเคยเห็นภาพนี้ผ่านตากันมาบ้างแล้ว ภาพของผลไม้สีน้ำเงินที่มีหลากหลายชื่อเรียก และหลากหลายที่มา ทั้งจากจีน หรือญี่ปุ่น แต่อย่างไรก็ตามมันไม่ได้มีอยู่จริง ซึ่งทางเว็บไซต์ dailydot นั้นก็ได้ออกมายืนยันเรื่องนี้แล้ว …
-
20 ของเล่นในสระน้ำเจ๋งๆ ควรค่าแก่การครอบครอง เพื่อให้การเล่นน้ำของคุณฟินยิ่งขึ้น
ปกติเวลาไปเล่นน้ำไม่ว่าจะที่ทะเลหรือสระว่ายน้ำ หลายคนมักจะพกพรอพไปด้วยเสมอ เพื่อให้การเล่นน้ำมีความสนุกมากยิ่งขึ้นและได้อะไรมากกว่าการเล่นน้ำ สำหรับใครที่กำลังมองหาพรอพเสริมในการเล่นน้ำ #เหมียวขี้ส่องขอแนะนำสิ่งต่อไปนี้ บางชิ้นก็ไม่เคยเล่นนะ แต่ดูแล้วมันน่าเล่นมากเลยอะ 1. ลมยางทรงหอยนางรม มโนว่าตัวเองเป็นนางเงือกเบาๆ ซื้อได้ที่ urbanoutfitters ราคา 2,900 บาท 2. นอนอาบแดดเป็นกลุ่มกับแพยางพิชซ่า เม้ามอยตามประสาเพื่อน ซื้อได้ที่ amazon ชิ้นละ 900 บาท 3. เน็ตลอยน้ำ สำหรับเล่นวอลเลย์บอลในน้ำ ซื้อที่ amazon ราคา 360 บาท 4. ลมยางขนม ซื้อได้ที่ Amazon ราคา 500 บาท 5. ชุดเกมแคคตัสลม เอาไว้เล่นสนุกกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว ซื้อได้จาก Amara หรือ ModCloth ราคา 800 บาท 6. เล่นซ่อนหาใต้น้ำกับของเล่นจิ๋วที่โยนลงไปในน้ำแล้วต้องดำหาให้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซื้อได้ที่ amazon ราคา 160 บาท 7. ห่วงยางทรงสัญลักษณ์สันติภาพ ซื้อได้ที่ nastygal ราคา 1700…
-
รู้จักกับวิศวกรวัย 63 ปี ‘นินจาคนสุดท้ายแห่งญี่ปุ่น’ ผู้ฝึกฝนและสืบทอดศาสตร์นักฆ่าโบราณ!!
ถ้าหากพูดถึงหนึ่งในหน่วยลอบสังหารของญี่ปุ่น หลายๆ คนอาจจะนึกถึงชื่อของนินจาขึ้นมาทันทีเลยใช่ไหมล่ะ?? “นินจา” เรียกได้ว่าเป็นเจ้าแห่งศาสตร์การลอบสังหารและการจารกรรมเลยก็ว่าได้ ในสมัยก่อนเหล่าซามูไรตระกูลต่างๆ มักจะใช้งานพวกเขาในการล้วงความลับต่างๆ หรือสอบฆ่าศัตรู ซึ่งปัจจุบันเมื่อโลกเปลี่ยนไปความสำคัญของนินจานั้นก็ได้หายไปด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าปัจจุบันอาชีพนินจาจริงๆ นั้นแทบจะไม่มีให้ได้เห็นแล้วก็ตาม แต่ทว่ายังมีชายหนุ่มผู้หนึ่งที่สืบทอดเชื้อสายของนักสอบสังหารและยังคงเป็นนินจาอยู่จนทุกวันนี้ พบกับคุณ Jinichi Kawakam นินจาคนสุดท้ายจากแดนปลาดิบ!! ผู้นำคนที่ 21 ของตระกูลนินจาอันเก่าแก่ผู้นี้ได้ฝึกฝนร่างกายมาเป็นอย่างดี เขาสามารถได้ยินเสียงของเข็มที่ตกอีกฟากหนึ่งของห้องได้ นอกจากนี้ยังสามารถพรางตัวจากควัน และสามารถสังหารศัตรูด้วยดาวกระจาย… “ผมคิดว่าผมถูกเรียกว่านินจาคนสุดท้าย เพราะว่าอาจไม่มีคนอื่นที่เรียนรู้ทักษะเหล่านี้ จากนินจาโดยตรงในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา และนินจาที่มีคุณสมบัติครบถ้วนนั้นไม่มีอยู่อีกแล้ว” คุณ Kawakami กล่าว วิศวกรหนุ่มเริ่มฝึกนินจาตั้งแต่ตอนที่เขามีอายุได้เพียง 6 ขวบ ก่อนที่จะเริ่มฝึกอย่างจริงจังกับนักบวช Masazo Ishida โดยส่วนหนึ่งของการฝึกนั้น ชายหนุ่มต้องนั่งจ้องเปลวเทียนเป็นเวลานานหลายชั่วโมง จนรู้สึกว่าเปลวเทียนนั้นเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเขา นอกจากนี้เขายังได้เรียนวิชานินจาต่างๆ อีกมากมายทั้งการฝึกการฟังเสียงเข็ม การทำระเบิดควันและการผสมยาต่างๆ และที่สำคัญเขายังได้รับการฝึกให้สามารถอยู่ในสภาพอากาศที่โหดร้าย โดยไม่ต้องทานอาหารหรือน้ำใดๆ เลยอีกด้วย “การฝึกนั้นทรมานอย่างมาก มันไม่ได้สนุกอย่างที่หลายๆ คนคิด แต่ผมก็ยังคงทำมันอย่างต่อเนื่อง เพราะการฝึกคือชีวิตของผม” คุณ Kawakami เสริมเอาไว้ว่า ในช่วงอายุ…
-
เด็กน้อยเกิดในร้านขายของ ช่างภาพเลยขอถ่ายรูปคู่กับตะกร้า พร้อมรอยยิ้มละมุนละไม…
เรารู้กันอยู่แล้วหลังจากที่คุณแม่ตั้งท้องครบ 9 เดือนแล้ว ก็ถึงเวลาคลอด แต่บางทีเราก็ไม่รู้ว่าทารกจะออกมาเมื่อไร บางคนเกิดระหว่างทาง บางคนเกิดระหว่างเข้าห้องน้ำ แต่ไม่ว่าจะเกิดที่ไหนขอแค่เด็กปลอดภัยก็ดีแล้ว เช่นเดียวกับ Ashleigh Miller-Cross คุณแม่ท้องแก่ที่กำลังเดินอยู่ใน Atlantic Superstore ซุปเปอร์มาร์เก็ตในเครือของแคนาดา แล้วก็เกิดรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา Miller-Cross ก็เลยเดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็ได้รู้ว่าตัวเองกำลังจะคลอดลูกแล้ว… สักพัก Martin Comeau ผู้ช่วยผู้จัดการของทางร้าน ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากห้องน้ำ ก็เลยรีบไปตามแหล่งต้นกำเนิดเสียงนั้นทันที Comeau บอกว่า “เมื่อเปิดประตูเข้าไป ฉันก็เห็นเธอนั่งลงกับพื้น และเห็นทารกออกมาแล้วครึ่งหนึ่งค่ะ” และด้วยความช่วยเหลือจากผู้ช่วยผู้จัดการร้าน ก็ทำให้เด็กน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัย คุณแม่จึงตั้งชื่อให้ลูกว่า Ezra Miller-Cross บอกว่า “ฉันตั้งท้อง Ezra หลังจากที่เพิ่งคลอดลูกสาวคนแรกไปเมื่อ 10 เดือนก่อน” และนับว่าโชคดีมากที่ลูกชายของเธอมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี จริงๆ มีไม่บ่อยนักที่จะเห็นคนมาคลอดในร้านขายของแม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ทำให้เหตุการณ์นี้กลายเป็นเรื่องที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นพิเศษและถูกพูดถึงอย่างแพร่หลาย จนกระทั่งช่างภาพ Jen Matchett ได้ยินเรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เข้า เธอจึงอยากจะถ่ายรูปให้ทารกน้อยแบบฟรีๆ พร้อมกับธีมพิเศษเฉพาะตัวคือ ‘ธีมร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต’ Matchett บอกว่า “ตอนที่ฉันได้ยินเรื่องของเด็กน้อยที่เกิดในร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต…
-
สองพี่น้องถูกแม่ทิ้งไว้ที่ข้างถนน พี่ชายทำได้แค่นั่งร้องไห้ และไม่อยากทิ้งน้องไปไหน…
กลายเป็นเรื่องราวที่น่าสลดใจเมื่อมีชาวบ้านในกรุง Hanoi ประเทศเวียดนาม ได้พบเห็นเด็กทารกน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มถูกนำมาทิ้งไว้ที่ข้างถนน และข้างๆ กันนั้นมีพี่ชายวัย 6 ขวบนั่งอยู่ เอาแต่ร้องไห้และไม่ยอมแยกจากน้องไปไหน เจ้าทารกน้อยเพศชายนอนอยู่ในตะกร้าสีแดงพร้อมกับมีผ้าห่อเอาไว้ ซึ่งจากการสอบถามฝ่ายพี่ชายก็ทราบเรื่องว่าเมื่อเวลาประมาณตี 5 แม่ของทั้งคู่เป็นคนขับรถมอเตอร์ไซค์พามาทิ้งไว้ตรงนี้ แล้วก็ขี่รถออกไปบอกว่าจะไปเติมน้ำมัน แต่แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทราบเรื่องแล้ว และกำลังตามหาพ่อแม่ของเด็กอยู่ Nguyen Thi Hong Chau รองผู้อำนวยการคณะกรรมการจากองค์กรที่ทำหน้าที่ในการให้การช่วยเหลือเด็ก Thu Duc Youth Village กล่าวไว้ว่า “พวกเราหวังว่าจะมีผู้ใจบุญช่วยเหลือเด็กทั้งสองคนนี้ได้ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงทิ้งพวกเขาได้ลงคอ มันเสี่ยงมากๆ ที่พวกเขาจะถูกลักพาตัวไป และนำตัวไปขายเพื่อสร้างผลประโยชน์ในด้านที่ไม่ดี” “และตอนนี้คณะกรรมการจาก Thu Duc Youth Village และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังทำงานร่วมกันอย่างแข็งขันเพื่อช่วยเหลือเด็กทั้งสองคนนี้” ที่มา : dailymail
-
Playa Del Amor ชายหาดลับแลในเม็กซิโก เปรียบดั่งขุมทรัพย์ความงามแห่งท้องทะเล
เราอาจจะเคยเห็นหาดสวยงามมากมายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ แต่ละหาดนั้นก็มีความสวยงามรวมไปถึงจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป เหมือนดั่งหาด Playa Del Amor ที่ #เหมียวปั๊ก กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้ หาด Playa Del Amor หรือ Hidden Beach นั้นตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่ง Puerto Vallarta ไปยังเกาะ Marieta ของประเทศเม็กซิโก โดยสิ่งที่ทำให้หาดแห่งนี้แตกต่างไปจากที่อื่นๆ บนโลก ก็เป็นเพราะว่ามันไม่สามารถมองเห็นได้ง่ายๆ เลย หากดูจากภายนอกจะไม่เห็นตัวชายหาดเลย แต่จะเห็นเป็นเพียงแค่หลุมลึกลงไปเล็กน้อย โดยทางเข้าสามารถนำเรือเข้าไปได้ เกาะ Marieta ได้ถูกตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติในปี 2005 โดยชื่อเต็มของมันคือ Parque Nacional Islas Marietas และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของหาดลับแลภายในเกาะนี้ ทำให้หาดนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่านักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ภายนอกที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่ภายมันทั้งสวยและมีสเน่ห์ในตัว . ชมภาพบรรยากาศบางส่วนที่นี่ได้เลย หาด Playa del…
-
ยกระดับเต็นท์ค้างแรม ด้วย H Tent จากญี่ปุ่น สำหรับคนที่ไม่ใช่คู่รัก แต่เป็นมากกว่าเพื่อน…
“H” เป็นพยัญชนะอังกฤษลำดับที่ 8 จาก 24 ตัว มันสามารถนำมาประกอบกับสระหรือพยัญชนะภาษาอังกฤษอื่นๆ จนเกิดกลายเป็นคำที่มีความหมายขึ้นมา แต่เจ้าพยัญชนะ H ตัวนี้ในมุมมองของชาวญี่ปุ่นแล้ว มันเป็นตัวแทนของเรื่องเกี่ยวกับเพศหรือเรื่องลามกต่างๆ แต่สำหรับเจ้าเต็นท์รูปตัว H นี้จะไม่ได้มีความเกี่ยวโยงในเรื่องลามกอะไรเลย เพราะมันเป็นเต็นท์ที่เหมาะสำหรับเพื่อนรักต่างเพศเสียมากกว่า และอาจจะมีแนวโน้มขยับความสัมพันธ์กันในอนาคตต่อไปก็ได้ ใครจะไปรู้!? H Tent สุดคูล การกางก็แสนจะง่ายดาย โดยเต็นท์รูปทรงแปลก ที่ไม่มีเอกลักษณ์ของเต็นท์เลยแม้แต่นิดเดียว ประกอบด้วยสองช่องนอนขนาด 2.6 เมตร (8.5 ฟุต) ที่มีช่องเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่นอน 2 ที่เข้าด้วยกัน พื้นที่ภายในที่รองรับคนได้สองคน ขนาดที่ไม่ใหญ่เทอะทะเกินไป ในส่วนเชื่อมต่อนั้นสามารถใช้เป็นจุดร่วมรับประทานอาหาร สังสรรค์หรือจะจัดเก็บข้าวของของคุณก็ยังได้ นอกจากนี้พื้นที่เชื่อมยังสามารถที่จะเป็นมุมสวีทนอนจับมือกันได้อีกด้วยนะเธอ (รู้สึกเขินเลยหง่ะ) ยังไม่ได้เป็นคนรัก แต่ขอนอนจับมือก่อนได้มั้ยเธอ… สำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการพัฒนาความสัมพันธ์ฉันแฟน แต่แค่อยากจะออกป่าค้างแรมกับเพื่อนซี้ เจ้าเต็นท์รูปตัว H ก็เป็นอีกเต็นท์ที่ตอบโจทย์มากๆ ในเรื่องของพื้นที่ใช้สอย หรืออยากจะนำมานอนคนเดียวก็สามารถทำได้เช่นกัน…
-
“ความรักที่ไม่มีวันจางหาย” ภาพชุดแต่งงานของหญิงสาว กับคู่หมั้นผู้จากไปด้วยอุบัติเหตุ…
หลังจากที่สูญเสียคู่หมั้นไป 4 เดือนก่อนวันแต่งงาน ว่าที่เจ้าสาวต้องทนกับความทุกข์ใจอย่างมาก แต่ตอนนี้สภาพจิตใจของเธอกำลังเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ได้เริ่มถ่ายภาพย้อนถึงความทรงจำในสถานที่ต่างๆ ของเธอกับอดีตคู่หมั้น Hannah Darr หญิงสาววัย 22 ปีจากเมือง Fairview รัฐโอคลาโฮมา ได้รู้จักกับคู่หมั้นของเธอ Layne Merriwether ตั้งแต่ตอนที่ทั้งคู่อายุได้เพียง 7 ขวบ ทั้งสองเติบโตมาด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก มิตรภาพแบบเพื่อนจึงก่อตัวเป็นความรักแบบหนุ่มสาวในช่วงไฮสคูล หลังจากที่เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Ohio State University ด้วยกันทั้งคู่ตัดสินใจหมั้นกันเมื่อเดือนเมษยนปี 2016 ที่ผ่านมา แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น Layne ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเสียชีวิตในเช้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ปี 2017 และสิ่งที่น่าเศร้าคือ อีกแค่ไม่กี่เดือนข้างหน้าพวกเขาก็จะเข้าพิธีวิวาห์กันแล้ว โดยงานแต่งจะมีขึ้นในวันที่ 17 มิถุนายน 2017 หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว หญิงสาวเขียนเล่าเรื่องราวของเธอลงบนแฟนเพจ Love What Matters ว่า“บ้านของฉันเต็มไปด้วยของสำหรับเตรียมจัดงานแต่ง ฉันกำลังรองานแต่งงานที่ไม่มีทางจะเกิดขึ้น” และเพื่อเป็นการระลึกถึงความทรงจำดีๆ กับอตีดคู่หมั้น ว่าที่เจ้าสาวจึงได้ติดต่อบริษัท Holly Gannett เพื่อมาถ่ายภาพให้เธอ “ถึงแม้ว่าฉันอาจจะไม่ได้แต่งงานกับเขาแล้ว แต่อย่างน้อยฉันก็อยากจะมีเขาอยู่ด้วยตอนที่สวมชุดเจ้าสาว ไว้เพื่อเป็นความทรงจำดีๆ ของเรา” คุณ Hannah กล่าว …
-
คุณยายวัย 72 ปี ได้พบกับ “Scarlett Johansson” หลังหลานชายอัพรูปวัยใสของเธอ!!
หลังจากที่ฝากผลงานกับภาพยนตร์ดังกลายต่อหลายเรื่อง ณ เวลานนี้คงไม่มีใครที่ไม่คุ้นหน้าหรือรู้จักกับ Scarlett Johansson สาวสวยมากความสามารถคนนี้แน่ๆ ล่าสุดหนุ่มน้อยผู้หนึ่งนามว่า Denver Dodd ได้โสต์รูปของคุณยายเขาตอนสาว แล้วก็บังเอิ๊ญบังเอิญภาพของคุณยาย Geraldine Dodd นั้น ก็ดันมีใบหน้าคล้ายกับดาราสาว Scarlett เปี๊ยบ งานนี้ทำเอาคุณยายกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว ภาพของคุณยาย Geraldine Dodd ที่ถ่ายตอนปี 1967 เหมือน Scarlett จริงๆนะเนี่ย!! หลังจากที่นางเอกสาวเห็นภาพดังกล่าวของคุณยาย เธอรู้สึกประหลาดใจและประทับใจอย่างมาก Scarlett พูดในคลิปวิดีโอถึงคุณยายว่า “ฉันได้รับอีเมลและข้อความจำนวนมากที่บอกว่าเราหน้าคล้ายกัน และเมื่อฉันได้เห็นภาพนั้นด้วยตัวเอง ฉันก็ตกใจมากเลย!! ภาพของคุณยายตอนสาวๆ นั้นหน้าเหมือนกับฉันจริงๆ เราน่าจะได้เจอกันนะ ฉันอยากจะชวนคุณยายมาทานข้าวด้วยกันจังเลย ” และนี่คือคลิปวิดีโอจากนางเอกสาวถึงคุณยาย Geraldine และล่าสุด Scarlett และคุณยาย Geraldine ก็เพิ่งปรากฎตัวพร้อมกันบนพรมแดงในงานเปิดตัวหนังเรื่องล่าสุดของเธออย่าง Rough Night นางเอกสาวเดินมาพร้อมกระเป๋าประดับเม็ดคริสตัลที่เขียนด้วยข้อความว่า “สวัสดีฉันชื่อ Geraldine” ส่วนคุณยายนั้นก็ถือกระเป๋าคล้ายกันพร้อมทั้งมีข้อความติดบนกระเป๋าว่า “สวัสดี ฉันชื่อ Scarlett “ คุณยายคนดังกับนางเอกสาว แหม่..…
-
ภาพความปลื้มปิติของคุณแม่ ผู้ให้กำเนิดลูกชายเป็นคนแรกของครอบครัว ในรอบ 50 ปี!!
หลังจากที่ครอบครัวของเธอไม่มีลูกชายมาอย่างยาวนานถึง 50 ปี ทำให้คุณแม่วัย 29 ปีมั่นใจว่าเธอนั้นต้องให้กำเนิดลูกสาวอีกครั้งแน่ๆ แต่แล้วก็เกิดเรื่องเซอร์ไพรส์ขึ้นกับเธอเมื่อเด็กที่คลอดออกมานั้นเป็นเด็กผู้ชาย!! คุณ Dara Crouch คุณแม่วัย 29 ปีจากประเทศจอร์เจีย ถูกจับภาพตอนที่เธอตกใจอย่างมากหลังจากที่เห็นลูกชายคนแรกของครอบครัวที่เพิ่งคลอดออกมา ตลอดระยะเวลา 50 ปีทางฝั่งของครอบครัวเธอนั้น ไม่เคยมีลูกชายเลยแม้แต่คนเดียว เธอล้วนแต่มีพี่น้องและหลานๆ เป็นผู้หญิงหมด และเจ้าตัวน้อยที่เพิ่งคลอดออกมานี้ จึงถือว่าเป็นลูกชายคนแรกของครอบครัวเธอเลยทีเดียว!! ทั้งคุณ Crouch และสามีของเธอนั้นไม่ทราบเพศของเด็กมาก่อนเลย ถึงแม้ว่าครอบครัวของเธอนั้นจะได้ลูกสาวมาตลอด แต่สามีของเธอนั้นกลับเชื่อว่าครั้งนี้พวกเขาจะได้ลูกชาย และแล้วหลังจากที่คุณหมออุ้มลูกของเธอออกมาและเลยให้เห็นเพศของเจ้าตัวน้อย หญิงสาวก็เกิดอาการตกใจอย่างมาก เมื่อรู้ว่าเธอนั้นได้ลูกชาย “ฉันตื่นเต้นมาก ฉันตกหลุมรักเขาทันทีที่ได้เห็นเลย” คุณแม่ลูกสองกล่าว คุณ Neely Ker-Fox ช่างภาพจาก Ker-Fox Photography สามารถจับภาพช่วงเวลาที่ดีใจสุดขีดของเธอหลังจากที่ได้ทราบข่าวดีในครั้งนี้ ช่างภาพหนุ่มกล่าวว่า “ผมเห็นอาการดีใจของคุณแม่หลังจากการคลอดลูกมามากมาย แต่ภาพนี้สื่ออารมณ์ออกมาได้ดีมากๆ ตอนที่คุณ Crouch พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา มันเป็นภาพที่สวยงามจริงๆ “ เจ้าตัวเล็กและพี่สาวของเขา ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวด้วยนะจ๊ะ ที่มา dailymail
-
ชีวิตหลังถอดชุดเกราะ ของคุณแม่ลูกสอง “Gal Gadot” สามีใส่เสื้อประกาศศักดาเมีย!!
หลังจากที่ Wonder Women เข้าฉายในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้รับเสียงตอบรับในด้านบวกอย่างมากมาย ซึ่งนอกจากเนื้อหาของหนังแล้ว นางเอกสาว Gal Gadot ผู้รับบทเป็นนางเอกของเรื่อง ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ถูกพูดถึงอย่างไม่ขาดสาย แต่ถึงแม้ว่าในบทบาทของหนังเธอจะดุดันและเต็มไปด้วยมาดของสาวนักบู๊ แต่ในชีวิตจริงนั้นเธอก็คือคุณแม่ลูกสอง ที่ทำหน้าที่ของภรรยาเหมือนกับคู่รักทั่วไปเป๊ะๆ และวันนี้ #เหมียวเวจจี้ จะพาไปรู้จักกับนางเอกสาวผู้นี้ในอีกมุมหนึ่งกัน สาวหน้าคมที่ทำเอาหลายๆ คนต้องใจละลายในบทบาทของ Wonder Women จากบทบาทในหนังและประวัติที่เราอาจเคยได้ยินว่าเธอนั้นเคยสังกัดในกองกำลัง Israel Defense Forces มาก่อน อาจทำให้หลายๆ คนคิดว่าเธอคงจะฝึกหนักและมีมาดที่ดุดันสมกับเป็นสาวแกร่ง แต่แท้จริงแล้วชีวิตประจำวันของเธอนั้นแทบไม่ต่างอะไรจากคุณแม่ลูกสองทั่วๆ ไปเลย Gal Gadot แต่งงานกับ Yaron Varsano นักธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้ประมาณ 10 ปีที่แล้ว ทั้งคู่มีพยานรักเป็นลูกสาวตัวน้อยถึง 2 คน และเป็นธรรมดาของคุณแม่ลูกอ่อน การเลี้ยงเจ้าตัวเล็กนั้นไม่ใช้เรื่องง่ายเลย ดาราสาวเคยเล่าประสบการเลี้ยงลูกของเธอผ่านอินสตราแกรมส่วนตัวว่า “ฉันแทบไม่ได้นอนเลย เพราะอาการโคลิคของลูกสาววัย 3 เดือน และฉันต้องรีบตื่นแต่เช้าตรู่พร้อมกับลูกสาววัย 5 ขวบ เสร็จแล้วก็ไปรับอากาศบริสุทธิ์ที่สวนพร้อมกับกาแฟแก้วโปรด และตอนนี้ฉันกำลังนั่งดูรายการทีวีกับลูกๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าชีวิตธรรมดาแบบนี้จะทำให้ฉันมีความสุข และรูปนี้ถ่ายโดยสามีสุดที่รักของฉันเอง”…
-
Michael Phelps เตรียมตัวว่ายน้ำแข่งกับฉลามขาว งัดพลังมนุษย์กับความไวของนักล่า!!
โดยส่วนมากแล้วคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อ Michael Phelps นักกีฬาว่ายน้ำหนุ่มชาวอเมริกัน เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 23 เหรียญทองนั่นเอง ล่าสุดมีข่าวออกมาว่าเขาเตรียมตัวว่ายน้ำแข่งกับฉลามขาว โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของรายการสารคดี Shark Week จากช่อง Discovery Channel จากสถิติระบุเอาไว้ว่า Michael นั้นสามารถว่ายน้ำทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 9.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่ฉลามขาวสามารถทำความเร็วได้ประมาณ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่นั่นเป็นเพียงแค่ตัวเลข ไม่แน่ว่าถ้าหากแข่งกันจริงๆ นักว่ายน้ำหนุ่มอาจจะชนะก็ได้!! จากการรายงานของเว็บไซต์ Washington Post ยังไม่สามารถระบุวันแข่งขันที่แน่นอนได้ แต่คาดว่าน่าจะมีการแข่งขันและออกอากาศในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ในการแข่งขันดังกล่าวทางช่องได้โฆษณาว่า “นี่คือการแข่งขันระหว่างนักล่าที่เร็วที่สุดในท้องทะเลอย่างฉลามขาว และแชมป์กีฬาว่ายน้ำที่เก่งที่สุดเจ้าของสถิติโลก 39 รายการและเหรียญทองโอลิมปิก 23 เหรียญ แต่ผู้ชนะมีเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น และนี่เป็นการแข่งขันที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!!” ทางด้านคุณ Tooni Mahto นักวิจัยจากศูนย์วิจัยทางทะเลบอกกับทางสถานีวิทยุ BBC ว่า “นี่จะเป็นการพิสูจน์ว่าใครจะเหนือกว่ากัน แต่อย่างไรก็ตามมันอาจจะดูไม่ค่อยเท่าเทียมกันเท่าไหร่ เพราะ Michael เป็นนักกีฬาที่มีการฝึกฝนร่างกายมา แต่ว่าพวกฉลามนั้นเป็นสัตว์ที่มีวิวัฒนาการร่างกายมาอย่างยาวนานหลายล้านปีแล้ว” …
-
คุณแม่เอาฮา ประกาศขาย ‘ลูกแฝดนรกแตก’ เล่นๆ หลังจับได้ว่าเลียนมหกพื้นกับหมา!!
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกตัวน้อยๆ ก็คงจะปวดหัวเพราะพฤติกรรมอันแสนซน จนอาจจะเคยคิดขายลูกๆ ตัวเองเหมือนกับเรื่องที่ #เหมียวปั๊ก ไปเจอมาก็ได้นะ Kylie Cain คุณแม่สาวสวยวัย 28 ปี ที่ไม่รู้ว่าจะฮาหรือจะโมโหดี เมื่อคุณลูกแฝดตัวดี 2 คนของเธอ Myla และ Rose พยายามที่จะกินนมที่หกเลอะเทอะบนพื้น โดยมีสุนัขที่เลี้ยงไว้กินเป็นเพื่อน!! ทำอย่างนั้นทำไมลู๊กกกก!! “ฉันกำลังคิดจะจัดการเกี่ยวกับเจ้านมที่หกอยู่บนพื้น ลูกๆ ของฉันก็จัดการเก็บกวาดพร้อมกับเพื่อนๆ ของเธอเป็นที่เรียบร้อย และนี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเห็นได้ทุกวัน ฉันจึงตัดสินใจที่จะโพสประกาศขายลูกลงเฟสบุ๊คของฉันซะเลย” Kylie กล่าว เธอได้โพสต์ภาพนี้พร้อมกับแคปชั่นติดตลกที่ว่า สำหรับใครที่สนใจลูกของเธอก็มาซื้อไปจากเธอได้เลยนะ เพราะลูกแฝดคู่นี้ทั้งแสบทั้งซน และมักจะสร้างเรื่องชวนปวดหัวให้บ่อยเสียจริงๆ เห็นน่ารักๆ แบบนี้ก็แสบไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะ นอกจากวีรกรรมทำนมหกของลูกๆ ทั้งสองแล้ว ยังมีวีรกรรมอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นการนำแป้งมาทาทั้งตัว แล้วก็ทาทั้งกระจก!? และอื่นๆ อีกมากมาย ตอนเป็นเด็กเจ้าสองคนนี่ก็ซนไม่ใช่เล่นนะ เอาแป้งมาโรยตัวกันเลยพวก กล้าเยอะ ยิ่งเลอะประสบการณ์นะแม่ แฮ่!! ถึงแม้จะซนขนาดไหน…
-
บริษัทญี่ปุ่นหัวใสผลิต “แผ่นกลิ่นพุงน้องหมาและแมว” เครียดเมื่อไหร่ ก็คว้ามาถูแล้วดม!!
หากใครเบื่อแผ่นกลิ่นที่มีแต่กลิ่นซ้ำซากจำเจลองอยากลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ฟังทางนี้ เราอาจจะเคยได้ยินแผ่นกลิ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์ ทุ่งดอกไม้ หรือช๊อกโกแลต แต่ถ้าหากเป็นแผ่นกลิ่น “พุงเจ้าหมาและแมว” บ้างล่ะ!? เว็บไซต์ Felissimo ซึ่งเป็นเว็บไซต์ขายของประเทศญี่ปุ่นนั้น มักจะมีผลิตภัณฑ์ที่แปลกๆ มาเอาใจและสร้างความสดใหม่ให้ลูกค้าได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นครีมทามือกลิ่นเท้าแมว ลิปกลอสที่ให้ความรู้สึกเหมือนคุณลูกค้าเพิ่งจุ๊บจมูกแมวมา หรือแม้กระทั่งน้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นหน้าผากแมว คนที่ชอบดมพุงน้องหมาแมวไม่ต้องระทมทุกข์อีกต่อไปแล้ว เย่!! โดยขณะนี้ทางทีมวิจัยของ Felissimo นั้นมีแผนที่จะนำกลิ่นของสัตว์เลี้ยงสุดโปรดปรานของทุกคน มาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบ “แผ่นกลิ่นท้องน้องหมาแมว” โดยผลิตภัณฑ์แผ่นกลิ่นที่ออกมานั้น จะมีทั้งกลิ่นของแมวพันธุ์ต่างๆ และน้องหมาพันธุ์ชิบะอินุ นอกจากจะเป็นกลิ่นที่ได้รับความนิยมแล้ว ทางทีมวิจัยได้เพิ่มนวัตกรรมการฟุ้งกระจายของกลิ่นเมื่อถูหรือเกาแผ่นกลิ่นอีกด้วย!! มีทั้งเจ้าเหมียวหลากหลายพันธุ์และน้องชิบะอินุ สำหรับเพื่อนๆ ที่ยากจะทราบคร่าวๆ ว่า “กลิ่น” ของแผ่นกลิ่นท้องน้องหมาและแมวเป็นยังไง ทางบริษัทได้อธิบายว่า ก่อนที่จะมาเป็นแผ่นกลิ่นนั้นทางบริษัทได้ทำการสำรวจจนได้ข้อสรุปจากกลุ่มตัวอย่างว่า กลิ่นของน้องแมวนั้นเหมือน คาราเมลเผา นมเผา หรือข้าวโพดคั่วเผา ในขณะที่น้องแมวมีกลิ่นเหมือนนมเผา กลิ่นพุงของน้องหมาชิบะอินุนั้นทางกลุ่มตัวอย่างได้นิยามว่าเป็นกลิ่นหวานที่อธิบายไม่ถูก หรืออาจจะคล้ายๆ ขนมปังปิ้งเล็กน้อย กลิ่นหอมหวานที่อธิบายไม่ถูก ยิ่งถูยิ่งหอม ~…
-
เมื่อลูกว่าแม่ตัวเองว่า “อ้วน” คุณแม่เลยสั่งสอนลูกของเธอ จนกลายเป็นกระแสในโซเชียล!?
เราส่วนใหญ่คิดว่าไขมันนั้นเป็นศัตรูตัวฉกาจสำหรับสุขภาพที่ดี แต่การมีไขมันในร่างกายนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งเพราะนอกจากจะให้พลังงานแล้ว มันยังสามารถที่จะกักเก็บความร้อนของร่างกายได้ แต่การมีมันมากไปก็อาจจะทำให้คุณกลายเป็นคนอ้วนได้ และแน่นอนว่าไม่มีใครที่อยากโดนเรียกหรือถูกล้อว่า “อ้วน” เพราะมันคือการเหยียดในรูปแบบหนึ่ง เช่นเดียวกับคุณแม่ Allison Kimmey คนนี้ที่โดนลูกของเธอเองด่าว่าอ้วน!! คุณแม่ Allison Kimmy ผู้เป็นเจ้าของเรื่องราว หลังจากที่เธอบอกลูกให้ขึ้นจากสระน้ำ หลังจากที่เล่นเป็นเวลานานและจะต้องกลับบ้านแล้ว ดูเหมือนว่าลูกของเธอจะหัวเสียพร้อมกับว่าคุณแม่ของเธอว่า “แม่อ้วน!!” เมื่อกลับมาถึงบ้าน คุณแม่ Allison ตัดสินใจที่จะประชุมครอบครัวพร้อมกับสอนลูกตัวน้อยของเธอว่า “ไม่มีใครในโลกนี้อ้วนหรอกนะ แต่ทุกคนในโลกนี้ล้วนมีไขมันที่คอยให้พลังงานกับเราและกล้ามเนื้อ และการมีไขมันหรืออ้วนไม่ใช่สิ่งที่แย่อย่างที่คิดนะ” ก่อนที่จะจบการอบรมลูกๆ ของเธอ เธอปิดท้ายการอบรมของเธอว่า “มันเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะสร้างการยอมรับและมุมมองบวกในด้านนี้” หลังจากนั้นเธอก้ได้นำเนื้อหาการสั่งสอนลูกของเธอทั้งหมดนี้มาอัพลงใน Facebook ซึ่งได้รับความสนใจกว่า 32,000 ไลค์เลยล่ะ . มีหลายคนที่สนับสนุนความคิดของเธอว่าเป็นการสอนให้เห็นถึงคุณค่าต่อคนอื่นและตัวเอง ขณะเดียวกันก็มีเสียงค้านจากชาวเน็ตบางส่วนว่าเป็นการสอนที่ผิด สุดยอด! นี่จะเป็นการสอนไม่ให้เด็กละอายตัวเองและไม่ทำให้ผู้อื่นละอายใจ บางคนคิดว่าคนอ้วนเป็นคนขี้เกียจ ที่จริงมันไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไปหรอก คุณแม่ท่านนี้ไม่สนใจที่จะสอนเรื่องสุขภาพเลย นี่เป็นการสอนที่ผิด เธอไม่ได้สอนเกี่ยวกับโรคอ้วนหรือโรคหัวใจที่มาจากไขมันเลย…
-
ช่างแต่งหน้าชาวฝรั่งเศส ‘ทำให้คนจริงๆ กลายเป็นภาพวาด’ เนียนจนเป็นศิลปะที่มีชีวิต!!
ปกติเรามักจะเห็นศิลปินวาดรูปคนหรือสิ่งของให้ดูเหมือนจริงมากที่สุด แต่ที่เราจะให้ดูวันนี้เป็นการทำให้คนจริงๆ ให้เหมือนดั่งภาพวาดที่มีชีวิต!! Kenza ศิลปินแต่งหน้าชาวฝรั่งเศสวัย 22 ปี ได้ทำการเพ้นท์คนจริงให้เหมือนภาพวาด โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Alexa Meade ซึ่งเป็นหนึ่งในศิลปินที่ที่มีผลงานโดดเด่นและได้รับความสนใจเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลงานของ Kenza เป็นการสร้างภาพถ่ายลวงตาให้คนดูเข้าใจว่าผลงานของเขานั้นเป็นภาพวาด แต่แท้จริงแล้วมันคือคนจริงๆ ด้วยผลของการเมคอัพที่เนียนมากจนไร้ที่ติ ทำให้ผลงานที่ได้มีลักษณะคล้ายผลงานภาพวาดไปโดยปริยาย สำหรับงานชิ้นเธอทำขึ้นมาเพื่อเป็นโปรเจคจบของคอร์สเรียนแต่งหน้าระดับมืออาชีพ และแม้ว่าเธอจะไม่ได้บอกว่าได้คะแนนเท่าไร แต่หลายคนเชื่อว่าเธอต้องผ่านแบบชิวๆ แน่นอน!! Kenza บอกว่าเธอใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการทำงานชิ้นนี้ และต้องเก็บรายละเอียดพื้นหลังกับบริบทโดยรอบอีกนิดหน่อย เพื่อให้มันดูเหมือนภาพวาดมากที่สุด หลังจากที่ผลงานของเธอถูกแชร์ในโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากให้ความสนใจ ทั้งกดไลค์กดแชร์ และชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์และความสามารถอันน่าทึ่งของเธอ ว่าแต่นางแบบจะรู้สึกเหนียวตัวขนาดไหนกันนะ ฮร่าาาาา วาดรูปให้เหมือนจริงว่าเจ๋งแล้ว แต่ทำของจริงให้เหมือนรูปวาดเจ๋งกว่าอีก ที่มา buzzfeed, odditycentral
-
สร้างภาพตัดแปะง่ายๆ ระหว่างความสวยงาม VS ความน่ารังเกียจ ขัดอารมณ์ได้ทุกภาพ…
ภาพตัดแปะ อาจดูเป็นอะไรที่ไร้สาระหรือเป็นการเล่นของเด็กๆ แต่จริงๆ มันก็สร้างความสุขให้เราในบางครั้งเหมือนกันนะ เช่น นำรูปดารามาแปะให้อยู่ข้างๆ แล้วมโนว่าเป็นแฟนตัวเอง แหน่… เคยทำเหมือนกันละซิ๊ นอกจากนี้ภาพตัดแปะยังกระตุ้นให้เกิดจินตนาการจนกลายเป็นงานศิลปะที่โดดเด่นได้ อย่าง Naro Pinosa เกิดในปี 1979 ที่ Crevillente ประเทศสเปน ที่ไม่เคยเรียนศิลปะและไม่มีใครคิดว่าโตมาเขาจะได้เป็นศิลปิน ผลงานของ Pinosa เป็นอะไรที่ง่ายมาก ใครๆ ก็ทำได้ เพราะมันเป็นแค่การนำภาพ 2 ภาพมาแปะทับกัน ไม่ต้องปรับให้เนียนด้วย แต่มันก็เกิดเป็นภาพที่น่าทึ่งได้ แต่การตัดแปะของ Pinosa จะต่างไปจากการตัดแปะทั่วไปนิดหน่อย เพราะเขาได้นำภาพของประติมากรรมคลาสสิกของกรีก ภาพแฟชั่น รวมทั้งภาพเปลือย มาตัดแปะด้วยภาพที่ทำดูตลกขบขัน เพื่อเป็นการเปลี่ยนอารมณ์ให้กับภาพเดิมที่เราเคยเห็น และสิ่งที่เขาชอบทำเป็นพิเศษคือการนำภาพแนวอีโรติกไปผสมกับภาพที่สื่อความหมายทางศาสนา โดยที่ทำไปนั้นก็เพื่อให้เป็นงานศิลปะและไม่ได้มีเจตนาลบหลู่แต่อย่างใด อย่างที่บอกไปว่างานของเขาไม่ต้องใช้เทคนิคพิเศษอะไร แต่ทุกภาพที่เขาทำก็สร้างจินตนาการให้คนดูไม่ใช่น้อย แถมยังเป็นการเปลี่ยนอารมณ์ของภาพด้วย . . . . . . . . . .…
-
คุณแม่เลี้ยงลูกผิดคนมาตลอด 30 ปี ก่อนจะรู้ความจริงว่าลูกแท้ๆ ถูกเลี้ยงโดยฆาตกร…
ในวันมีเด็กจำนวนมากมายกำเนิดในโรงพยาบาล เด็กก็จะถูกแยกจากแม่ในช่วงแรก โดยทำเครื่องหมายหรือติดชื่อกำกับเอาไว้ แต่ในทว่าก็ยังคงเกิดเหตุการสลับตัวเด็กเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ อย่างคุณแม่ท่านนี้ที่เลี้ยงลูกคนอื่นมานานกว่า 30 ปี ในขณะที่ลูกสาวตัวจริงของเธอนั้นถูกเลี้ยงโดยฆาตรกร ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากความผิดพลาดของทางโรงพยาบาล Zoya Tuganova วัย 70 ปี จากรัสเซีย คลอดลูกสาวเมื่อปี 1987 แต่หลังจากที่ส่งลูกให้พยาบาลนำไปดูแล พอกลับมาอีกทีเธอก็รู้สึกได้ว่ามีการสลับตัวลูก จึงทำการแจ้งกับเจ้าหน้าที่ในทันที Zoya บอกว่า “วันรุ่งขึ้นพยาบาลพาลูกมากินนม แต่ฉันสังเกตเห็นว่าเด็กคนนี้หน้าตาไม่เหมือนกับคนที่ฉันเห็นตอนคลอดเลย” หลังจากที่บอกเจ้าหน้าที่ไป พวกเขากลับปฏิเสธคำร้องเรียนของ Zoya และยืนยันว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเธอแน่นอน พวกเขายังบอกอีกว่า หากไม่มั่นใจให้ทำเรื่องขอผลทดสอบทางจิตเวชแทน เพื่อทดสอบว่าเธอยังมีสภาวะจิตใจที่ปกติอยู่หรือไม่ แต่ทว่าเธอปฏิเสธที่จะทำการทดสอบนั้นไป เธอและสามีที่อาศัยอยู่ในเมือง Chelyabinsk ภูมิภาค Chelyabinsk Oblast แคว้นปกครองตนเองของรัสเซีย จึงตัดสินใจเลี้ยงเด็กคนนี้ตั้งแต่นั้นมา และตั้งชื่อให้เธอว่า Katya Zoya Tuganova คุณแม่ผู้เลี้ยงลูกคนอื่นมานานกว่า 30 ปี ในขณะเดียวกันนี้ ลูกสาวตัวอยู่จริงของเธอกำลังถูกเลี้ยงโดยผู้หญิงที่ชื่อ Elvira Tuligenova โดยตั้งชื่อให้เธอว่า Lucia Lucia…
-
หญิงสาวเป็นโรควิตกกังวลรับเลี้ยง “แมวไร้หู” จนกลายเป็นเพื่อนซี้ที่เติมเต็มให้กันและกัน
แมวที่มีความบกพร่องทางร่างกายมักจะถูกมองข้ามเสมอ แต่จริงๆ แล้ว หากเราได้ใช้เวลาอยู่กับมันจะรู้ว่าความบกพร่องเหล่านั้นไม่ได้มีผลต่อความน่ารักของมันเลย เหมือนกับเจ้า Otitis แมวไร้หูที่ไม่มีใครอยากรับเลี้ยง แต่เมื่อ Molly Lichtenwalner ผ่านมาเห็นมัน เธอตัดสินใจพาเจ้าเหมียวกลับและมอบชีวิตใหม่ให้กับมัน Molly กำลังเรียนอยู่ในระดับอุดมศึกษา และเธอก็ประสบกับโรควิตกกังวลด้วย ดังนั้นหญิงสาวจึงคิดที่จะรับเลี้ยงแมวสักตัวเพื่อมาคลายความกังวลเหล่านี้ให้ลดน้อยลง การที่ตัดสินใจเลี้ยงแมวเพราะหญิงสาวเติบโตมาในฟาร์มตั้งแต่เด็ก ดังนั้นชีวิตเธอส่วนใหญ่จึงได้อยู่กับแมว และแมวนี่แหละที่จะมาช่วยคลายความกังวลของเธอได้เป็นอย่างดีเลย เธอจึงไปยังศูนย์พักพิง Petfinder และได้พบกับ Otitis แมวอายุ 9 ขวบครึ่งที่มีลักษณะผิดปกติคือไม่มีใบหูทั้งสองข้าง แต่เธอยืนยันจะรับเลี้ยงเพราะมันกำลังหาบ้านอยู่ และดูเหมือนไม่มีใครอยากรับมันไปเลี้ยงเลย ต่อมาเธอทราบจากเจ้าหน้าที่ในศูนย์ว่าการที่ Otitis ไม่มีหูเพราะมันมีการอักเสบที่หูเนื่องจากมีซิสต์ก้อนใหญ่อยู่ ซึ่งเจ้าของคนก่อนหน้านี้ไม่สามารถรักษาให้ได้ จึงได้เอามันมาทิ้งไว้ที่นี่ เจ้าหน้าที่จึงต้องตัดหูมันทิ้งเพื่อทำการรักษาและป้องกันการติดเชื้อ นั่นหมายความว่า Otitis ต้องกลายเป็นแมวหูหนวกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ Molly จะรู้ถึงความบกพร่องนี้แต่เธอไม่ได้สนใจ เพราะได้ตกหลุมรักมันตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้ว ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจพามันกลับบ้านด้วย เพียงวันเดียวที่กลับมาบ้าน เจ้าเหมียวไร้หูตัวนี้ทั้งกอด ทั้งเลีย และมอบความรักให้กับเจ้าของใหม่ตลอดเวลา เหมือนต้องการจะบอกว่า ‘ขอบคุณที่รับเค้ามาเลี้ยงนะ’ …
-
ชายหนุ่มใฝ่ฝันอยากต่อเรือ จึงสร้างเรือขนาดใหญ่เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์ ไว้โชว์ผลงานตัวเอง!!
หากเพื่อนๆ ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่หมู่บ้าน Kupino ในรัฐ Belgorod ประเทศรัสเซีย สิ่งที่จะได้เห็นก็คือเรือไม้จำลองของ Sir Francis Drake ที่มีชื่อว่า Golden Hind ขนาดใหญ่ที่ดูแล้วน่าตื่นตาตื่นใจซะเหลือเกิน จากการที่นาย Valeriy Vasilevich Kiku ได้เติบโตขึ้นมาบนชายฝั่ง Crimea ที่ใกล้กับท่าเรือ ทำให้เขาได้เห็นเรือมากมายล่องเข้ามาและล่องออกไปจากฝั่ง จนทำให้เขาใฝ่ฝันเอาไว้ว่าวันหนึ่งจะได้ต่อเรือเป็นของตัวเองและล่องมันออกไปเที่ยวรอบโลก แม้มันจะเป็นความฝันอันสูงสุดในชีวิตแต่เขาก็ไม่สามารถทำมันได้สำเร็จซักที แต่มันก็ส่งผลให้เขากลายเป็นคนที่มีความชื่นชอบในการต่อเรือด้วยไม้เป็นชีวิตจิตใจ แถมยังฝึกปรือฝีมือจนกลายเป็นช่างไม้ที่เก่งกาจอีกด้วย หลังจากที่ย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ที่หมู่บ้าน Kupino นาย Valeriy ก็ได้เปลี่ยนความชอบของตัวเองให้กลายมาเป็นงาน ด้วยการสร้างผลงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรือรบอย่างเช่น ปืนใหญ่ เครื่องยิงก้อนหนินแบบโบราณ อุปกรณ์เกี่ยวกับการเกษตร และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ซึ่งแต่ละอย่างนั้นจะมีต้นแบบมาจากวัฒนธรรมพื้นบ้านแบบดั้งเดิม แต่ผลงานที่น่าสนใจที่สุดของเขาก็คงหนีไม่พ้นว่าจะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับเรือนี่แหละ!! ทุกอย่างมันเริ่มต้นเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน Valeriy ได้พบหนังสือที่เกี่ยวกับการสร้างแบบจำลองของเรือ เขาก็เลยเริ่มที่จะสร้างโมเดลเรือขนาดเล็กขึ้นมามากมาย อย่างเช่น Golden Hint หรือเรือรบของฝรั่งเศส Couronne ด้วยการใช้ไม้ และวัสดุต่างๆ จนกลายมาเป็นคอลเลคชั่นที่มีโมเดลเรืออยู่มากกว่า 10 ลำด้วยกัน ซึ่งประกอบไปด้วยเรือของชาวอียิปต์ เรือพายของชาว…
-
คุณพ่อสุดเศร้า… ลูกสาวเสียชีวิตหลังถูกครูเอาสก็อตเทปปิดปาก โดยอ้างว่าพูดมากเกินไป!?
กำลังกลายเป็นประเด็นดราม่าบนโลกออนไลน์จีนในขณะนี้ ซึ่งเป็นเรื่องราวของลูกสาววัย 6 ขวบ ผู้เสียชีวิตจากสาเหตุขาดอากาศหายใจ เนื่องจากถูกสก็อตเทปปิดปากโดยคุณครูที่โรงเรียน เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า สาวน้อยวัยอนุบาล Guo Jintong ต้องประสบกับการถูกทำโทษอย่างรุนแรง หลังจากทำกิจกรรมกายบริหารยามเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว Guo Jintong คุณพ่อของหนูน้อยผู้เสียชีวิตได้บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดผ่านเว็บไซต์ Weibo ไว้ดังนี้.. ‘ลูกสาวของผมวัย 6 ขวบ เธอไปโรงเรียนเตรียมอนุบาลแห่งหนึ่งในเมือง Huadian และเธอก็ได้เสียชีวิตตอนอยู่ที่โรงเรียน โดยคุณครูชี้แจงว่าลูกสาวของผมพูดมากเกินไป จึงถูกทำโทษด้วยการเอาสก็อตเทปและกาวมาปิดปากลูกสาวผม’ จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า คุณครูผู้ทำโทษสาวน้อยวัย 6 ขวบ ชื่อ Ju Chunwei ทว่าทางฝั่งครูผู้สอนก็ได้ให้การไว้ว่า หลังจากที่สังเกตเห็นอาการผิดปกติพวกเขาก็ได้ส่งหนูน้อยไปยังโรงพยาบาลก่อนแล้ว แต่น่าเศร้าที่หลังจากนั้นไม่นานเพียง 40 นาที สาวน้อยก็เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาล สร้างความโศกเศร้าและความเสียใจให้แก่ผู้ปกครองเป็นอย่างมาก โรงเรียนเตรียมอนุบาลที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ทั้งนั้นทางด้านของผู้อำนวยการโรงเรียนก็ได้ออกมาชี้แจงกับสื่อว่า หลังจากที่คุณครูสังเกตเห็น Guo Jinthong มีอาการผิดปกติ พวกเขาก็ได้โทรเรียกรถพยาบาลทันที โดยมีการบันทึกพบว่ารถพยาบาลมาถึงโรงเรียนเวลา…
-
กลุ่มนักเรียนหญิงสร้าง ‘เต็นท์พลังงานแสงอาทิตย์’ ให้คนไร้บ้าน จนได้รับการชื่นชมจากทั่วโลก
ทุกวันนี้ไม่ว่าจะสังคมไหนก็มีคนจรจัดอยู่เกือบทุกที่ พวกเขาอาจจะได้รับการช่วยเหลือบ้างในครั้ง แม้เพียงเล็กน้อยแต่ก็ช่วยต่อชีวิตให้พวกเขาได้ในระยะหนึ่ง อย่างในลอสแอนเจลิสพบว่าอัตราคนไร้บ้านนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาสั้นๆ ซึ่งการรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเดียวนั้นคงไม่เพียงพอ ดังนั้นประชาชนคนจึงได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหานี้ด้วย และนี่คือกลุ่มนักเรียนจากโรงเรียน San Fernando High School ก็พยายามจะทำที่อยู่ในคนไร้บ้าน แม้พวกเขาจะไม่มีประสบการณ์ด้านวิศวกรรมหรือการประดิษฐ์เลยก็ตาม พวกเขาได้คิดค้นเต็นท์พลังงานแสงอาทิตย์ที่สามารถพับเก็บเป็นกระเป๋าเป้ได้ เพื่อง่ายต่อการพกพา และไอเดียนี้ก็ได้รับความสนใจจากทั่วโลกในขณะนี้ สำหรับนักเรียนกลุ่มนี้เป็นผู้ที่ถูกคัดเลือกจาก DIY Girls ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่เปิดโอกาสให้เยาวชนที่มีรายได้น้อยในลอสแอนเจลิสได้มาเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรม Evelyn Gomez เป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของ DIY Girls และยังเป็นผู้ดูแลโครงการนี้ โดยมีทีมงานเป็นผู้หญิง 12 คนที่ร่วมทำงานตั้งแต่ต้นจนจบโครงการ พวกเขาได้ศึกษาข้อมูลผ่าน YouTube และ Google จากนั้นก็ใช้ช่วงเวลาในหนึ่งปีนี้ช่วยกันทำเต็นท์ที่ผสมผสานหลายเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นการตัดเย็บ การเขียนโค้ด และการพิมพ์ 3 มิติ ทุกคนทุ่มเทเวลาและใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีเพื่อให้ผลงานออกมาดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด จนได้รับทุนช่วยเหลือจากโครงการ Lemelson-MIT เป็นเงินกว่า 300,000 บาท และถูกเชิญไปร่วมนำเสนอผลงานที่งาน MIT’s EurekaFest เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา …
-
จีนเตรียมเปิด ‘ร้านขายของชำเคลื่อนที่อัจฉริยะ’ ขายเอง เปิดปิดร้านเอง ไม่ง้อคนเฝ้า!!
Moby Mart เป็นร้านขายของชำแบบอัติโนมัติ ที่สามารถขายของได้เอง เปิด-ปิดร้านได้เอง ไม่ต้องง้อคนเฝ้าร้าน!! และตอนนี้มันก็กำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาให้สามารถนำมาใช้งานได้จริง โดยบริษัท Wheelys จากสวีเดน ซึ่งหากพัฒนาเสร็จสิ้นแล้วเจ้าร้านขายของชำอัตโนมัตินี้จะเปิดให้บริการกับผู้คนทั่วไปได้ใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง ยิงยาวไปตลอด 7 วันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์นั่นทำให้มันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แถมยังเข้าถึงได้ง่าย และใช้งบประมาณน้อยในการจัดการอีกด้วย การจะใช้บริการจากร้าน Moby Mart ลูกค้าจะต้องทำการดาวน์โหลดแอปฯ เพื่อที่จะช็อปซื้อสินค้า หลังจากที่เราเลือกซื้อสินค้าเสร็จแล้วมันก็จะคิดเงินให้เราอัตโนมัติจากในแอปฯ นอกจากนี้เรายังสามารถเรียกให้มันมาเปิดร้านถึงหน้าบ้านของเราได้ด้วยนะ เพราะทางทีมพัฒนาได้ทำการติดตั้งระบบ AI เอาไว้เพื่อให้มันคำนวณเส้นทางและเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก “พวกเราพยายามคิดมาตลอดว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้การช็อปปิ้งนั้นเกิดการพัฒนาและทันสมัยมากยิ่งขึ้น ใช้ได้ผลยิ่งขึ้น และถูกมากยิ่งขึ้น” Maria De La Croix ผู้ก่อตั้ง Wheelys และดำรงตำแหน่ง CEO กล่าว เจ้า Moby จะทำการขจัดปัญหาและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการทำร้านขายของชำแบบปกติ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องเดินไปซื้อของถึงที่ร้าน แต่ร้านจะมาหาคุณเอง ไม่ต้องจ้างแคชเชียร์หรือผู้จัดการร้าน และถ้าลูกค้ามีข้อสงสัยอะไรก็สามาถขอความช่วยเหลือจาก AI โฮโลแกรมที่มากับร้านได้เลย แต่ถึงอย่างไรก็ตามการเดินทางของเจ้า…
-
ช่างภาพหนุ่ม เดินทางตามเก็บภาพถ่ายวิถีชีวิตของเด็กๆ จากสมรภูมิรบแห่งปาเลสไตน์!!
Emad Nassar เป็นหนึ่งในช่างภาพหนุ่มีมือดี ผู้มีรางวัลการันตีจากเวทีการแข่งขันภาพถ่ายมากมาย และเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองกาซ่า ประเทศปาเลสไตน์ คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสงครามที่เกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อประชาชนคนบริสุทธิ์มากมายขนาดไหน และทั้งหมดนี้ก็เป็นไอเดียที่ทำให้เจ้าตัวได้ริเริ่มที่จะออกเดินทางไปทั่วกาซ่า เพื่อถ่ายภาพวิถีชีวิตท่ามกลางสงครามของเด็กๆ ให้ทั่วโลกได้รับชม Salem Saoody หนุ่มวัย 30 ปี กำลังอาบน้ำให้ลูกสาว ซึ่งอ่างอาบน้ำนั่นเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่พวกเขาเหลือรอดมาจากสงคราม เด็กๆ ชาวปาเลสไตน์หลายคนต้องอาศัยอยู่ในบ้านที่กลายเป็นซากปรักหักพัง และไร้ซึ่งการซ่อมแซมใดๆ เด็กสาว 4 คน จากค่าย Jabalia ซึ่งเป็นค่ายสำหรับช่วยเหลือปัจจัยขั้นพื้นฐานในการดำรงชีวิตให้แก่ประชาชน สิ่งหนึ่งที่เรายังสัมผัสได้จากภาพถ่ายเหล่านี้ก็คือ… ความไร้เดียงสาของเด็กๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องเผชิญวิกฤตสงคราม แต่ความน่ารักแบบเด็กๆ ก็ยังแสดงออกมาให้เราเห็นอยู่ สิ่งเหล่านี้มันช่วยสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากสงคราม และผลกระทบจากการแก่งแย่งอำนาจของกลุ่มชนชั้นนำเพียงไม่กี่คน มีเด็กหลายคนที่ต้องสูญเสียครอบครัว และพี่น้อง จากภัยสงคราม เด็กๆ อีกหลายคนยังไม่รู้ว่าอนาคตตัวเองจะไปจบที่ตรงไหน โดยเฉพาะกับคนที่สูญเสียครอบครัวไปทั้งหมด “ทุกภาพถ่ายที่คุณเห็นนี้ ผมได้เดินทางไปกดชัตเตอร์ด้วยตัวเอง และทุกครั้งที่ได้ยินเรื่องเล่าจากเด็กๆ มันก็ทำให้ผมรู้สึกถึงความเศร้าโศกบนความไร้เดียงสาของพวกเขา” ลองนึกสภาพดูซิว่ามันจะน่าเศร้าขนาดไหน…
-
บริษัทสตาร์ทอัพในเกาหลีใต้ จ้างพนักงานที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป หวังแก้ปัญหาให้ผู้สูงอายุ!!
EverYoung บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติเกาหลีใต้ จากใจกลางกรุงโซล ได้ออกกฎระเบียบวาระการจ้างลูกจ้างแบบใหม่ที่สวนกระแสชาวโลกเลยก็ว่าได้ เพราะผู้สมัครจะต้องมีอายุ 55 ปีขึ้นไปเท่านั้น!! เดิมทีกฎหมายเกาหลีใต้ค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกับบ้านเรา โดยอายุการเกษียณงานตามกฎหมายจะอยู่ที่อายุ 60 ปี แต่ตรงกันข้ามกับ Chung Eunsung ผู้ก่อตั้งบริษัท เพราะเขาต้องการพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า พนักงานวัยอาวุโสก็สามารถสร้างผลงานอันโดดเด่นได้ไม่แพ้เด็กรุ่นใหม่ บริษัทแห่งนี้ดำเนินกิจการด้านเทคโนโลยี มีพนักงานแล้วมากกว่า 420 คน และมีอายุตั้งแต่ 55 – 83 ปี “เราต้องยอมรับว่าตอนนี้เกาหลีใต้กำลังเผชิญกับปัญหาตัวเลขผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่าความสามารถของพวกเขาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กับประเทศเราได้ เช่นเดียวกับที่เราอยากจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตในวัยเกษียณให้พวกเค้า” ประธานบริษัทให้สัมภาษณ์ เนื้อหาการทำงานของพนักงานวัยอาวุโสต้องถือว่าไม่ธรรมดาเลย เพราะพวกเขาได้เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับระบบ Naver ได้ติดต่อกับบริษัทกูเกิ้ลประจำเกาหลีใต้ รวมไปถึงการดูแลเนื้อหาคอนเทนท์ออนไลน์ และการเขียนโค๊ด พนักงานวัย 83 ปีคนหนึ่งเล่าว่า “ช่วยทำให้ผมกระตือรือร้นขึ้นอีกครั้ง เราได้เรียนรู้สกิลคอมพิวเตอร์เหมือนคนรุ่นใหม่ และผมไม่ต้องตื่นเช้ามาโดยไร้จุดหมายอีกแล้ว” โดยปกติคนทั่วไปอาจจะเชื่อว่า ผู้สูงอายุไม่สามารถทำงานในระบบของคนรุ่นใหม่ หรือมีไอเดียดีๆ ในการนำมาใช้กับกระแสโลกปัจจุบันได้ แต่สำหรับ Chung Eunsung เขามองเห็นสิ่งที่แตกต่างออกไป เขาพบว่าการทำงานกับผู้สูงอายุมันช่างเต็มไปด้วยพลังงานในแบบที่คนหนุ่มสาวไม่มี วิธีการคิดที่สุขุมรอบคอบ…
-
คู่สามีภรรยาทานอาหารสัปดาห์ละ 3 มื้อ กินน้อยแค่นี้ก็พอ เพราะได้รับพลังงานจากจักรวาล!?
เราไม่อาจจะตัดสินความเชื่อของคนอื่นได้ แต่เราสามารถที่จะเรียนรู้ และศึกษาถึงสิ่งที่พวกเค้าศรัทธาได้ Akahi Ricardo วัย 36 ปี และ Camila Castello วัย 34 ปี คู่สามีภรรยาลูกสองชาวเมืองแคลิฟอร์เนีย ผู้เคลมว่าพวกเขาสามารถตัดความรู้สึกหิวออกไปได้ ทานอาหารเพียงสัปดาห์ละ 3 ครั้ง และอ้างว่าได้รับพลังงานจากจักรวาล!! ครอบครัวของสามีภรรยา ทั้งคู่ให้เหตุผลว่า พวกเค้าสามารถจัดการกับความรู้สึกหิวในตัวมนุษย์ได้ และพวกเค้าก็เชื่อว่ามนุษย์เราสามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยพลังงานที่มีอยู่ในจักรวาล และในตัวของมนุษย์เอง “มนุษย์สามารถที่จะอยู่รอดโดยไม่มีอาหารได้ ตราบใดที่พวกเขายังสามารถเชื่อมต่อกับพลังงานที่ปรากฎอยู่ทั่วจักรวาลผ่านลมหายใจของเราเอง” ภรรยากล่าว ตลอดระยะเวลาในช่วงสามปีที่ผ่านมา ทั้งคู่เล่าว่าพวกเค้าไม่รู้สึกถึงความหิวโหย และกิเลศที่อยากจะกินอาหารเหมือนคนทั่วไป อย่างมากก็รับประทานเพียงแค่ผลไม้ในยามเข้าสังคมเท่านั้น และน่าแปลกใจที่ตลอดช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ ภรรยาก็ยังคงยึดมั่นในศรัทธาความเชื่อของเธอเอง โดยเธออ้างว่าได้ฝึกวิธีการตั้งครรภ์แบบ ‘Breatharian Pregnancy’ “ความหิวเป็นเพียงความรู้สึกภายนอกของฉัน ทุกครั้งที่ตรวจเลือดระหว่างตั้งครรภ์ทุกอย่างเป็นปกติ และฉันก็ได้ให้กำเนิดลูกชายตัวน้อยที่มีสุขภาพแข็งแรงค่ะ” ภรรยาเล่าเสริม ในฐานะที่ทั้งคู่เป็นอาจารย์สอนลัทธิ Breatharianism พวกเขาอ้างว่าด้วยไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ช่วยให้พวกเค้าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าครอบครัวอื่นหลายเท่า “มันทำให้เราตระหนักได้ว่าอะไรคือเป้าหมายแห่งชีวิต เราเชื่อว่าทุกคนสามารถใช้ชีวิตอย่าง Breatharianism ได้ทุกคน และประเด็นของมันก็ไม่ได้อยู่ที่การทานอาหาร แต่มันหมายการเสริมสร้างพลังงานจากจักรวาลที่ไม่ใช่แค่ด้านกายภาพเท่านั้น”…
-
เจ้าหมาน้อยถูกแม่ตัวเองทับ จนส่วนหลังพิการใช้งานไม่ได้ ตอนนี้ได้รับบ้านใหม่อันอบอุ่นแล้ว!!
เจ้า Connor เป็นหมาวัย 8 สัปดาห์ หลังจากที่ครอบครัวของเจ้าของสังเกตเห็นว่ามันไม่สามารถใช้ขาหลังได้ ซึ่งพวกเขาไม่สามารถดูแลมันได้ ก็เลยตัดสินใจที่จะหาบ้านหลังใหม่ที่พร้อมดูแลให้กับมัน พวกเขาได้ติดต่อไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Gateway Pet Guardians ที่อยู่ในรัฐอิลลินอยส์ และทางศูนย์ช่วยเหลือก็ตอบรับด้วยความยินดี ในตอนแรกเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือคิดว่าเจ้า Connor ป่วยเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ชื่อว่า ‘Swimmer Puppy’ ที่ทำให้ขาหลังของมันหยุดการพัฒนาและอ่อนแอลงจนไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งเจ้าโรคนี้สามารถรักษาได้ด้วยการทำกายภาพบำบัดให้กลับมาเดินได้อีกครั้งหนึ่งเหมือนกับเจ้าหมาทั่วๆ ไป เจ้าหน้าที่ก็เลยเริ่มลงมือรักษามัน ทั้งจับมันไปเดินในน้ำ และใช้วีลแชร์ในการช่วยให้มันเดิน แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีอาการที่ดีขึ้นแต่อย่างใด แม้จะผ่านไปแล้วหลายเดือนก็ตาม พวกเขาจึงตัดสินใจพามันไปหาผู้เชี่ยวชาญทางด้านประสาทวิทยาที่ Veterinary Specialty Services และจากการตรวจสอบก็พบว่าจริงๆ แล้วเจ้า Connor ไม่ได้ป่วยเป็น Swimmer Puppy แต่ดูเหมือนว่ามันจะได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังตั้งแต่ตอนที่มันยังเป็นทารกอยู่ต่างหาก อาจจะเป็นเพราะถูกแม่ของมันนอนทับตัวจนกระดูกสันหลังหัก และทำให้มันไม่สามารถเดินได้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา “หลังจากที่เรารู้ถึงอาการป่วยที่ถูกต้อง ก็แน่ใจแล้วว่ามันไม่สามารถกลับมาเดินได้แบบปกติเหมือนกับหมาทั่วๆ ไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะเราจะสามารถให้การรักษาและดูแลมันได้อย่างถูกต้อง” คุณ Jen Upton เจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือ Gateway Pet Guardians กล่าว และตอนนี้เจ้า Connor…
-
เจ๋งอ่ะ!! อนิเมชั่นเทียบความต่าง ระหว่างแผนผังเส้นทางรถไฟ กับเส้นทางรถไฟบนแผนที่จริงๆ
เพื่อนๆ เคยสงสัยกันมั้ยว่าแผนผังของรถไฟฟ้า หรือรถไฟใต้ดิน ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกนั้นมันเป็นอย่างที่เห็นในในแผนที่จริงๆ รึเปล่า? และถ้าสงสัยกันล่ะก็ของบอกเลยว่าในวันนี้ทุกคนโชคดีแล้วล่ะ เพราะมีสมาชิกเว็บไซต์ Reddit ชื่อว่า vinnivinnivinni ได้ทำการสร้างอนิเมชั่นที่เปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างแผนผังเส้นทางรถไฟใต้ดินกับเส้นทางรถไฟจริงๆ ตามแผนที่ทางภูมิศาสตร์ ซึ่งข้อมูลแผนที่ทางภูมิศาสตร์ดังกล่าวนั้นเขาได้นำมาจาก Google Maps และนำมาสร้างเป็นอนิเมชั่น ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นไฟล์ GIF และนำมาโพสต์ลงเว็บไซต์ Reddit ในตอนแรกที่เขาทำขึ้นมามีเพียงแค่แผนผังเส้นทางรถไฟใต้ดินของเมือง Berlin เท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าไอเดียของคุณ vinnivinnivinni ได้ไปเตะตาชาวเน็ตคนอื่นๆ เข้าจนกลายมาเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเว็บไซต์ Reddit ณ ตอนนี้เลยล่ะ Berlin หลังจากที่โพสต์ของคุณ vinnivinnivinni ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่าชาวเน็ตก็พบว่าพวกเขาก็เริ่มที่จะนำไอเดียนี้ไปทำสร้างอนิเมชั่นของเส้นทางรถไฟใต้ดินของประเทศอื่นๆ บ้าง ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างแผนผังเส้นทางรถไฟใต้ดิน กับเส้นทางของรถไฟใต้ดินจริงๆ ตามแผนที่ทางภูมิศาสตร์ ที่อยู่ตามสถานที่ต่างๆ เกือบทั่วโลกเลยทีเดียว Paris New York City London Vienna Oslo Rotterdam Montreal…
-
25 ภาพวาดเสียดสีและจิกกัด จากศิลปินที่ต้องการพลิกปัญหา ที่ซ่อนอยู่ใต้พรมสังคม…
เราต่างรู้ดีว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ แม้แต่ในสังคมสมัยใหม่ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี แต่กลับไม่สามารถแก้ปัญในเรื่องจิตสำนึกของมนุษย์ กลับเพิ่มปัญหาให้ด้วยซ้ำ Al Margen ศิลปินจากเมืองบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา จึงได้วาดภาพด้านมืดที่เสียดสีสังคมปัจจุบันนี้ เพื่อทำให้มนุษย์ตระหนักถึงปัญหาที่กำลังเผชิญ 1. สื่อหน้าจอทีวีที่ยิ่งทวีความโกหกเข้าสู่สมองผู้ชมมากขึ้นเรื่อยๆ 2. สิ่งที่ถูกอัพลงโซเชียล มีสายตานับล้านจับจ้องอยู่ 3. เด็กคือคนที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากปัญหาครอบครัว 4. ในขณะที่คุณหาความสุขกับสารเสพติด นั่นคือคุณกำลังตั้งเวลาฆ่าตัวเอง 5. วัฎจักรของมนุษย์ เรียนเพื่อปริญญาแต่ไม่ได้นำไปใช้จริง 6. หากใช้สมองมากๆ ควรให้สมองได้พักบ้าง 7. เลียนแบบค่านิยมที่ทำร้ายตัวเอง เช่น คลั่งผอม 8. ใช้เงินซื้อความสุข 9. ทำร้ายชีวิตอื่น เพื่ออวดอ้างความสุขเล็กๆ ของตัวเอง 10. เราต่างตกเป็นทาสของเงิน 11. ในแต่ละวันต้องเลือกว่าจะใส่หน้ากากแบบไหนออกบ้าน 12. พ่อแม่ยัดเยียดความต้องการทุกอย่างของตัวเองให้ลูก 13.…
-
มิ้วน้อยโชว์เก๋าขู่พี่สิงโตถึงหน้ากรง ถึงตัวจะเล็กกว่า แต่ใจใหญ่เท่ากันนะโว้ยยย!!!
จะตัวใหญ่หรือตัวเล็กก็คนเหมือนกัน เฮ้ย!! สัตว์เหมือนกัน แล้วจะไปกลัวอะไร… เพราะแบบนี้ไงแมวน้อยเลยเดินเข้าหาเจ้าสิงโตอย่างไม่เกรงกลัว Derek Krahn ผู้อำนวยการศูนย์รักษาพันธุ์สัตว์ป่าขนาดใหญ่ที่ไม่หวังผลกำไรจากเท็กซัส ได้บันทึกภาพเหตุการณ์ที่แมวน้อยตัวหนึ่งเข้ามาท้าทายสิงโตที่ชื่อ Noey ถึงถิ่นเลยทีเดียว แน่นอนว่าขนาดตัวของมันพวกมันต่างกันมากๆ และเมื่อพูดถึงความน่ากลัวแล้ว เจ้าเหมียวเอ้ยยย แกเทียบสิงโตไม่ได้เลยสักกะติ๊ดเดียว แต่ถึงอย่างนั้นเหมียวน้อยได้พิสูจน์ให้เห็นว่า เมื่อมีความกล้าหาญซะอย่าง ขนาดตัวก็ไม่ใช่ปัญหา ว่าแล้วมันก็เดินเข้าหาสิงโตที่อยู่ในกรง ในวิดีโอที่ Krahn ถ่ายนั้น จะเห็นว่าน้องแมวมองไปที่สิงโตด้วยความอยากรู้อยากลองและทำท่าจะเดินเข้า แต่เจ้าของก็เรียกมันไว้ “Baggy” แต่ดูเหมือนเจ้า Baggy ไม่ได้ฟังเสียงเรียกนั้นเลย มันรวบรวมความกล้าทั้งหมดแล้วเดินย่องๆ ไปหาสิงโต ก่อนที่ทั้งคู่จะประชันหน้ากัน ไม่ใช่แค่นั้น แมวน้อยยังทำท่าท้าทายสิงโตอีก เหมือนกับจะบอกว่า ‘แน่จริงก็ออกมาเด้ ออกมาเด้ มาเส่ โด่ว นึกว่าจะแน่ เดี๋ยวป๊าบเข้าให้ซะเลยหนิ’ ส่วนสิงโตเมื่อถูกเหมียวมาท้าทายถึงที่ขนาดนี้ มีรึจะนิ่งเฉย มันดูท่าอยากออกมาแต่ติดอยู่ที่กรงเนี่ยสิ ‘หึ่ย นี่ถ้าไม่มีกรง แกโดนคาบไปแล้ว อย่ามาทำเก่งนักเลย’ มันคงจะคิดประมาณนี้ ฮร่าาาา หลังจากที่ท้าทายจนพอใจแล้ว Baggy ก็เดินออกมาด้วยความรู้สึกโล่งใจ แม้จะอยู่นอกกรง แต่การที่มันกล้าเดินเข้าไปหาสิงโตขนาด…
-
สต็อปโมชั่น ‘WoodSwimmer’ การเปลี่ยนแปลงของเนื้อไม้ เหมือนดั่งถูกหลอมละลาย
งานศิลปะที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้มักจะมีเบื้องหลังการทำที่ยุ่งยากซับซ้อน และมันก็คุ้มค่ากับผลงานที่ได้ เหมือนกับศิลปินคนนี้ที่นำไม้มาทำให้ดูเหมือนวัตถุที่ละลายได้ WoodSwimmer เป็นหนังสั้นโดยวิศวกรและนักสร้างภาพเคลื่อนไหว Brett Foxwell ผู้ที่เคยทำภาพเคลื่อนไหวให้กับภาพยนตร์ Boxtrolls และ Star Wars: The Force Awakens มาแล้ว เขาได้นำดนตรีและการเคลื่อนไหวมาหลอมรวมกันโดยใช้เศษไม้ดิบผ่านเครื่องตัด โดยเริ่มจากการถ่ายรูปไม้ที่ถูกตัดในแนวขวางที่มีตาไม้ จุด และลวดลายที่ต่างกัน จากนั้น Foxwell ก็นำภาพทั้งหมดมาเรียงต่อกันและสร้างให้เป็นภาพเคลื่อนไหวที่มีความเร็วสูง จนทำให้เห็นว่าไม้กำลังหลอมละลายเหมือนของเหลว และยิ่งเมื่อเปิดเพลงประกอบด้วยแล้ว ยิ่งดูเหมือนไม้กำลังเต้นระบำอยู่ Foxwell บอกว่า “ผมหลงใหลรูปทรงและพื้นผิวของไม้ที่เพิ่งถูกตัดจนกระทั่งแห้งตาย แล้วผมเกิดจินตนาการที่เหนือความเป็นจริง เหมือนภาพเคลื่อนไหวที่ผมได้ทำนี้” เขายังบอกอีกว่า “ในขณะที่ผมเริ่มทำงานชิ้นนี้ ผมก็ได้เรียนรู้ทั้งวิธีการใช้เครื่องตัดไม้ การตั้งค่ากล้องโหมดแอนิเมชั่นเพื่อสแกนภาพตัวอย่างไม้และถ่ายภาพโครงสร้างทั้งหมด” มันอาจจะเป็นเทคนิคที่ยากและมีความยุ่งยากในการปรับแต่ง แต่เขาคิดว่ามันคุ้มค่ามากๆ เพราะภาพที่ได้ทั้งสวยงามและน่าทึ่ง แถมยังเป็นงานที่สร้างจากจินตนาการที่เหมือนจริงมากๆ ด้วย เนียนจนคิดว่าไม้ละลายได้จริงๆ เลยแฮะ ที่มา thisiscolossal
-
รวม 20 ภาพแสดงถึงความเชื่อเกี่ยวกับ “เพศสภาพ” ที่ถูกทลายกำแพงมาตั้งแต่อดีตแล้ว
การต่อสู้เรื่องของ “เพศสภาพ” เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในปัจจุบัน แต่ใครจะรู้บ้างว่าการต่อสู้ในเรื่องประเด็นดังกล่าวมีมาตั้งแต่อดีตแล้ว เพื่อเป็นการเรียกร้องให้เห็นถึงความเชื่อ และคุณค่าของบุคคลที่เพศสภาพต่างกัน ซึ่งเป็นมนุษย์เฉกเช่นเดียวกันไม่ใช่ผู้ป่วยแต่อย่างใด #เหมียวปั๊ก ก็เลยได้ทำการรวบรวม 20 ภาพที่แสดงให้เห็นว่าเพศสภาพต่างๆ ที่เราพูดถึงในปัจจุบันนั้น มีการแสดงตัวตนออกมาตั้งแต่ในอดีตแล้ว การแต่งตัวข้ามเพศในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่1 ผู้หญิง 2 คนและแต่งตัวเป็นผู้ชายในปี 1955 หญิงสาว 2 คนตกลงใจแต่งงานกันในปี 1912 สองนายทหารหญิงถ่ายรูปเมื่อปี 1920 Teddy Caisser กับการแสดงของเขาเมื่อปี 1920 กลุ่มชายผู้น่ารักเมื่อปี 1920 กลุ่มสาวที่แต่งตัวเป็นผู้ชาย ถ่ายรูปในบาร์ของเมืองชิคาโก้เมื่อปี 1915 คู่เลสเบี้ยนเมื่อปี 1910 Bebe Daniels แต่งตัวเป็นผู้ชายในหนังเรื่อง Senorita ปี 1927 กลุ่มผู้หญิงแต่งตัว สูบบุหรี่และกินเหล้าเหมือนผู้ชายในปี 1920 …
-
สรุปคดีสะเทือนโลก แฟนสาวส่งข้อความ ยุยงหนุ่มให้ “ฆ่าตัวตาย” หวังให้คนสงสารเธอ..!?
กลายเป็นอีกหนึ่งคดีสะเทือนขวัญไปทั่วทั้งโลก เมื่อล่าสุดวันที่ 7 มิถุนายน 2017 สำนักข่าว AP ได้รายงานเรื่องของกรณีวัยรุ่นสาวชาวอเมริกัน Michelle Carter ผู้ยุยงแฟนหนุ่ม Conrad Ray ให้ฆ่าตัวตายผ่านการส่งข้อความ เรื่องราวจากการสอบสวนพบว่าหญิงสาวได้พยายามยุยงให้แฟนหนุ่มฆ่าตัวตาย ผ่านข้อความมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งในวันที่ 12 กรกฎาคม ปี 2014 แฟนหนุ่มของเธอได้รมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ตัวเอง ด้วยการเปิดเครื่องปั้มน้ำและสอดท่อไอเสียอัดเข้าไปในรถยนต์ ในช่วงจังหวะหนึ่งที่เขารู้สึกกลัวกับการฆ่าตัวตาย แฟนสาวก็ส่งข้อความยุยงให้เขากลับเข้าไปในรถเพื่อทำให้สำเร็จ จนในที่สุดแล้วเขาก็เสียชีวิต… โดยคดีนี้ได้มีการสืบสวนมาอย่างยาวนาน มีทั้งการค้นประวัติการแชทกัน วิเคราะห์ข้อความที่ส่งให้กันเพื่อให้ทราบเจตนาที่แท้จริงของทั้งสองฝ่าย ผู้ต้องหา Michelle Carter และแฟนหนุ่มผู้เคราะห์ร้าย Conrad Ray Marie Claire Flynn อัยการได้ชี้แจงว่า “ผู้ต้องหาพยายามยุยงให้ชายหนุ่มฆ่าตัวตาย โดยให้เหตุผลเพียงเพื่อต้องการให้คนมาสงสารเธอ จากหลักฐานทั้งหมดเราพบว่า ในวันที่แฟนหนุ่มเข้าไปรมก๊าซพิษในรถ หญิงสาวไม่ได้โทรหาเจ้าหน้าที่ หรือผู้ปกครองของแฟนหนุ่มเลย แต่สิ่งที่เธอทำกลับตรงกันข้าม..” โดยข้อความส่วนหนึ่งที่เปิดเผยจากหลักฐานในวันที่เกิดเหตุระบุว่า “เธอต้องทำให้ได้นะ Conrad ยิ่งเธอพยายามฝืนเท่าไหร่เธอก็จะยิ่งพบกับความสุขมากเท่านั้น สิ่งที่เธอต้องทำก็แค่เปิดเครื่องนั่น ทำตัวตามสบายทำใจให้สงบ ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เธอเฝ้าหามาตลอด…
-
ศิลปินมือปั้นชาวญี่ปุ่นเนรมิต ‘กาน้ำชาปลาหมึกโบราณ’ จากแรงบันดาลใจในศตวรรษที่ 14
เราอาจจะเคยเห็นกาน้ำชาใบเก่าๆ จากในตู้คุณยายซึ่งมักจะมีลวดลายที่คลาสสิคและสวยงาม และด้วยความเป็นเอกลักษณ์แบบนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินปั้นชาวญี่ปุ่นสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมา Keiko Masumoto ศิลปินชาวญี่ปุ่นได้ผสมผสานระหว่างรูปแบบและการใช้งานของสิ่งของจนเกิดมาเป็นกาน้ำชาใบสวยนี้ที่นอกจากจะมีความงามที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ก็ยังคงสามารถใช้งานได้จริงโดยที่ไม่ติดขัดอะไรเลย!! ทั้งสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ . รายละเอียดต่างๆ ล้วนมีที่มา . “ครูของฉันเป็นแรงบันดาลใจของฉันที่ทำให้ฉันหันมาสนใจแนวคิดการนำรูปแบบต่างๆ มาผนวกเข้ากับสิ่งของโดยพวกมันยังคงสามารถที่จะใช้งานได้ตามปกติ” Keiko กล่าว ในคอลเล็กชั่น Kitsch Kogei ที่เธอสร้างขึ้นมานั้นนอกจากจะเป็นการแสดงไอเดียของเธอแล้ว เธอยังได้นำแบบกาน้ำชาจีนในช่วงศตวรรษที่ 14 มาเป็นแบบอีกด้วย ทั้งทรวดทรงและลวดลาย . เห็นรูปแบบแปลกๆ แบบนี้แต่ก็สามารถที่จะใช้งานได้จริงด้วยนะ . #เหมียวปั๊ก เห็นแล้วก็อยากได้ เวลาที่เราเอาเจ้ากาน้ำชานี้ไปเทหรือตั้งโชว์คงสามารถเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากสาวน้อยได้แน่นอนเลย อิอิอิ ที่มา: boredpanda
-
การประกาศขายกระต๊อบสุดแสนธรรมดา แต่ใครจะไปรู้ว่าภายในนั้นคือ “บ้านแมว” ทั้งหลัง!!
ใครที่รักเจ้าเหมียวถ้าหากเห็นมันนอนพื้นอันหนาวเหน็บก็อาจจะซื้อที่นอนแมวหรือถ้ามีเงินหน่อยก็อาจจะซื้อคอนโดแมวมาให้พวกมันได้นอนเล่นกันอยางมีความสุข แต่กับบ้านหลังนี้ในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ถ้าหากได้ดูภายนอกแล้วก็อาจจะคิดว่าเป็นบ้านธรรมดาๆ หลังหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าหากได้เข้าไปแล้วก็จะรู้ว่าบ้านทั้งหลังนี้เป็นบ้านสำหรับแมวไว้วิ่งเล่นสนุกกันได้!? โดยบ้านหลังนี้สามารถที่จะรองรับแมวได้กว่า 20 ตัวเลยทีเดียว ดูภายนอกก็เป็นเพียงแค่บ้านธรรมดา แต่ภายในนั้นคือสวรรค์ของแมว . โดยบ้านหลังนี้ถูกประกาศขายผ่านเว็บไซต์ century21 ด้วยมูลค่า 8,000,000 บาท ประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และพื้นที่กว้างขวางกว่า 230 ตารางเมตร ให้น้องแมวได้วิ่งเล่นไปมา พร้อมกับอุปกรณ์ของเล่นแมวครบครัน ทั้งทางเดินแมว ปราสาทแมว และอื่นๆ อีกเพียบ!! นอกจากพื้นที่จะกว้างขวางแล้ว ยังมีของเล่นต่างๆ ไว้สำหรับเจ้าเหมียวด้วย . . สำหรับใครที่คิดหาไอเดียการตกแต่งบ้าน การตกแต่งบ้านสไตล์บ้านแมว อาจจะเป็นอีกคำตอบหนึ่งก็ได้นะ . . เชิญชมบรรยากาศภายในบ้านได้ในวิดิโอนี้เลย โอยย ~ #เหมียวปั๊ก เห็นแล้วก็อยากเข้าไปอยู่จังเลย ถ้าเพื่อนๆ…
-
ย้อนรอยนิวยอร์กในอดีต ดินแดนที่เต็มไปด้วยฟาร์ม ก่อนจะกลายเป็นเมืองที่เจริญที่สุดในวันนี้
ณ ตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักนิวยอร์ก เพราะมันคือเมืองใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่เจริญที่สุดในโลก เป็นมหานครเอกของโลก และจัดได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน วัฒนธรรม บันเทิง ที่สำคัญที่สุดของโลกด้วย แต่รู้มั้ยว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ พื้นที่ส่วนใหญ่ของนิวยอร์กนั้นเคยเป็นพื้นที่ทางด้านเกษตรกรรมมาก่อน โดยย้อนกลับไปช่วงต้นศตวรรษที่ 17 ที่นิวยอร์กยังคงเต็มไปด้วยฟาร์ม จนแทบไม่เชื่อเลยว่าจะกลายเป็นเมืองที่เจริญที่สุดของโลกในวันนี้ Bowery เป็นเส้นทางจราจรที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะแมนฮัตตัน โดยมีเมื่อชาวดัตช์เข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นั่นในปี 1654 และได้ตั้งชื่อเส้นทางนั้นว่า Bouwerij ซึ่งเป็นภาษาดัตช์ดั้งเดิมที่แปลว่า ‘ฟาร์ม’ นั่นเป็นเพราะพื้นที่นี้เต็มไปด้วยฟาร์มปศุสัตว์ และเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังคฤหาสน์บริเวณชานเมือง ที่ปัจจุบันนี้กลายเป็นย่าน Wall Street ไปแล้ว ในเวลานั้นมหานครนิวยอร์ก (รู้จักกันในชื่อเมืองนิวอัมสเตอร์ดัม) ให้ความสำคัญกับภูเขา ป่า โขดหิน ฟาร์ม และนิยมสร้างบ้านให้อยู่ห่างกัน ภาพจำลองในปี 1776 ปัจจุบันคือละแวก University Heights ในย่าน West Bronx ภาพจำลองปี 1862 เป็นฟาร์มสามเหลี่ยมบนฝั่งตะวันตกตอนบนของแมนฮัตตันในช่วงสงครามกลางเมือง ตอนนั้นภาษีสูงมาก ทำให้เจ้าของที่ดินแทบจะสร้างอะไรในพื้นที่ไม่ได้ และไม่มีการพัฒนาใดๆ จนถึงช่วงปี 1880…
-
หอสมุดรัฐสภาสหรัฐฯ เปิดให้ดาวน์โหลด ‘ผลงานศิลปะญี่ปุ่นโบราณ’ เอาไปใช้ได้ฟรีๆ!!
โดยปกติแล้วภาพถ่าย หรืองานศิลปะต่างๆ ทางประวัติศาสตร์นั้นจะถูกนำไปแสดงโชว์ในสถานที่ที่สำคัญขององค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเช่น หอศิลป์, พิพิธภัณฑ์ หรือไม่ก็ถูกนำไปประมูลซื้อขายเป็นของสะสมของเหล่าผู้เงินเหลือเฟือเหลือใช้ แต่ล่าสุดทาง Library of Congress ก็ได้เปิดโอกาสให้คนทั่วไปสามารถดาวน์โหลดภาพพิมพ์ไม้โบราณ และภาพวาดโบราณของญี่ปุ่น แบบความละเอียดสูงผ่านทางออนไลน์ได้แล้วแบบฟรีๆ แถมยังมีให้เลือกชมอีกมากมายกว่า 2,500 ผลงาน ประกอบไปด้วยภาพพิมพ์ไม้โบราณและภาพวาดโบราณ จากช่วงยุคศตวรรษที่ 20 ที่เป็นของเหล่านักสะสมนำมาร่วมบริจาค เพื่อส่วนหนึ่งสำหรับการเรียนรู้ทางด้านศิลปะในอดีต ซึ่งผลงานภาพวาดเหล่านี้ถือเป็นวัฒนธรรมที่ขึ้นชื่อของชาวญี่ปุ่น เป็นงานศิลปะโบราณที่เรียกว่า Ukiyo-e หรือ Yokohama-e ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในเมือง Edo (ปัจจุบันเป็น Tokyo) เมื่อช่วงปี 1600 ถึง 1868 ซึ่งเป็นยุคที่มีแต่ความสงบสุขทำให้ผู้คนหันมาสนใจในเรื่องของความสุนทรีย์มากกว่าการทำสงคราม ประจวบกับช่วงที่เจ้าหน้าที่ทหารเรือของสหรัฐอเมริกา Matthew Calbraith Perry ได้เดินทางเข้าไปสำรวจที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อช่วงกลางทศตรวรรษที่ 1850 จนเกิดเป็นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างญี่ปุ่นกับตะวันตก จึงไม่แปลกใจเลยว่าเพราะเหตุใดผลงานศิลปะของประเทศญี่ปุ่นถูกนำมาซื้อขายกันในอเมริกา หรือเพราะเหตุใดภาพวาดของชาวญี่ปุ่นถึงมีเรื่องราวของเหล่าทหารจากตะวันตกอยู่ในนั้นด้วย . . ภาพวาดการมาเยือนของชาวตะวันตก . . . หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจอยากเข้าไปชมภาพผลงานศิลปะโบราณจากญี่ปุ่น…
-
สาวมะกันถึงกับเดือด…หลังโดนเจ้าหน้าที่เชิญออกจากห้างสรรพสินค้า เพราะแต่งตัวไม่สุภาพ!?
ใครๆ ต่างก็เข้าใจกันดีว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยอิสระและเสรีภาพ ผู้คนเปิดใจรับกับความแตกต่างของผู้คนในสังคมมากกว่าทุกที่บนโลกใบนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหญิงสาววัย 20 ปี นี้มันช่างสวนทางกับคำกล่าวที่บอกว่า ‘ดินแดนแห่งเสรีชน’ ซะเหลือเกิน Hannah Pewee สาววัย 20 ปี จากรัฐมิชิแกนได้โพสต์ลงบนเฟซบุ๊คเล่าเรื่องราวว่าเธอถูกไล่ออกมาจากห้างสรรพสินค้าเพราะแต่งตัวไม่สุภาพ!? Hannah ได้ทำการโพสต์รูปภาพและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัวของเธอ ซึ่งภาพดังกล่าวนั้นเป็นภาพที่แสดงให้เห็นว่าชุดที่เธอสวมไปเดินห้างในวันนั้นเป็นอย่างไร จะเห็นได้ว่าชุดที่เธอใส่นั้นก็เป็นแค่เสื้อกล้ามลาย Finding Nemo และกางเกงยีนส์ขาสั้นแบบธรรมดาๆ ที่ไม่ได้ดูโป๊เปลือยแต่อย่างใด “ก็อย่างที่ทุกคนรู้ดีว่าในวันนี้ที่ทางตะวันตกของมิชิแกนมีอุณหภูมิสูงตั้ง 32 องศาเซลเซียส คือมันร้อนมาก แน่นอนว่าฉันก็เลยใส่เสื้อกล้าม กับกางเกงยีนส์ขาสั้นออกไปข้างนอก ซึ่งการแต่งตัวแบบนี้มันทำให้ฉันดูโป๊เกินไปจนโดนไล่ออกมาจากห้าง Woodland Mall ในวันนั้น ใช่แล้ว มีคนแปลกหน้าคนหนึ่งไปแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าและบอกว่าฉันแต่งตัวไม่เหมาะสม ฉันก็เลยโดนไล่ออกมา มันทำให้ฉันรู้สึกโกรธมากๆ ตัวของฉันสั่นไปหมด ฉันรู้สึกอายมากจนแทบจะร้องไห้ นั่นก็เพราะว่ามีคนแปลกหน้าไม่พอใจกับการแต่งตัวของฉัน ห้างสรรพสินค้า Woodland Mall ควรจะละอายแก่ใจของตัวเอง เหมือนกับคนแปลกหน้าคนนั้นที่ไม่พอใจกับการแต่งตัวของฉัน ก็นี่มันร่างกายของฉัน และอากาศข้างนอกมันก็ร้อน ฉันคงจะไม่ออกไปข้างนอกพร้อมกับสวมกางเกงยีนส์ขายาวและเสื้อกันหนาวหรอกนะ ถ้าไม่ชอบก็เมินไปสิ แทนที่จะได้สนุกกับพี่สาวของฉัน แต่สิ่งที่ต้องเจอก็คือการถูกเชิญออกจากห้างฯ…
-
แค่คิดก็ผิดแล้ว? ญี่ปุ่นผ่านร่างกฎหมายใหม่ แค่คุณคิดจะก่ออาชญากรรม ถือว่ามีความผิดทันที
ย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีก่อน ภาพยนตร์เรื่อง Minority report ที่นำแสดงโดย Tom Cruise ซึ่งว่าด้วยเรื่องการจับผู้ที่คิดจะก่ออาชญากรรมก่อนที่มันจะเกิดขึ้น และดูเหมือนว่าแนวคิดเมื่อ 15 ปีก่อน จะกลายมาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้นี้แล้ว Minority Report ภาพยนตร์ที่ว่าด้วยการเฝ้าระวังและระงับอาชญากรรมก่อนที่จะเกิดขึ้น เมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2017 สภานิติบัญญัติของประเทศญี่ปุ่นได้ผ่านกฎหมายที่มอบอำนาจให้อัยการ สามารถเฝ้าตรวจสอบพฤติกรรมของผู้เข้าข่ายก่ออาชญากรรม และสามารถจับกุมได้ทันทีแม้จะอยู่ในช่วงที่กำลังวางแผนก่อเหตุก็ตาม โดยผู้ต้องสงสัยจะถูกจับกุม หากเข้าข่ายการวางแผนอาชญากรรมที่มีมากถึง 277 รายการเลยทีเดียว โดยทางนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Shinzo Abe บอกว่านี่เป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุดในการที่จะหยุดการก่อการร้าย ซึ่งกฎหมายดังกล่าวจะเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาความปลอดภัย สำหรับการแข่งขันกีฬาอย่างโอลิมปิกปี 2020 ณ กรุงโตเกียว ด้วย นายกรัฐมนตรี Shinzo Abe ถึงแม้ว่าดูผิวเผินอาจจะเป็นกฎหมายที่ดี แต่มันก็มีผลกระทบที่ตามมาสำหรับบุคคลธรรมดาทั่วไป อาจจะโดนสันนิษฐานว่ากำลังวางแผนก่อเหตุและนำไปสู่การจับกุม ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วบุคคลเหล่านั้นไม่ได้แม้แต่จะคิดที่จะกระทำความผิดเลย โดยกฎหมายนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นกฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน Joseph Cannataci ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติเกี่ยวกับสิทธิในความเป็นส่วนตัวได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อนโยบายนี้ว่า “กฎหมายนี้เป็นการนำไปสู่การจำกัดสิทธิในความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพในการแสดงออกอย่างไม่เหมาะสม” …
-
เฟอเรทน้อยผู้น่าสงสารถูกทิ้งไว้ในกล่อง ไม่ยอมเผชิญโลกภายนอก เพราะภูมิหลังอันโหดร้าย…
เราอาจจะเคยเห็นเจ้าหมาเจ้าแมวที่ถูกทิ้งไว้ข้างทาง เมื่อเรานำมันกลับมาบ้าน พวกมันก็อาจจะยังเขินอายและไม่คุ้นชินกับบ้านใหม่ ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ก็สามารถที่จะเกิดขึ้นกับเจ้าเฟอเรทตัวน้อยได้เช่นกัน ในวันที่สดใสมีชายผู้หนึ่งกำลังขับรถไปตามทาง เขาสังเกตเห็นกล่องลังขนมขบเคี้ยวถูกวางทิ้งไว้ข้างทาง เขาจึงตัดสินใจที่จะจอดรถเพื่อลงไปดู และภายในนั้นก็มีเจ้าเฟอเรทตัวน้อย 2 ตัวที่กำลังตัวสั่นด้วยความกลัว เขาจึงตัดสินใจที่จะพาเจ้าเฟอเรททั้ง 2 ตัวไปยังศูนย์สัตว์ Leybourne ขององค์กร RSPCA โดยทางศูนย์ได้ตั้งชื่อเจ้าเฟอเรทสองตัวนี้ว่า Wallace และ Wendy โดย Wendy นั้นได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตาของมันด้วย Wendy มีอาการบาดเจ็บที่ดวงตาของมัน Janine Pemberthy จากศูนย์สัตว์ Leybourne กล่าวในการแถลงข่าวว่า “เราไม่แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงเหล่านี้เป็นสัตว์เลี้ยงที่ถูกทิ้งหรือเป็นเหยื่อที่ไว้สำหรับการล่าสัตว์ แต่การทิ้ง Wallace และ Wendy ไว้ในกล่องนั้นถือเป็นสิ่งที่เลวร้ายมากๆ” ทั้งเจ้า Wendy และ Wallace ต่างก็กลัวยังไม่ยอมที่จะออกมาจากลัง . แม้ที่ได้บ้านพักพิงหลังใหม่ในศูนย์ฯ แต่ทั้งเจ้า Wallace และ Wendy ในช่วงแรกๆ ต่างก็กลัวที่จะออกมาจากกล่องของมัน…
-
หลักฐานทางวิทย์ชี้ คนที่เป็น “คนที่เกลียดคนรักร่วมเพศ” มีโอกาสเป็นเกย์มากกว่าคนปกติ
Homophobia คืออาการที่บุคคลเหล่านั้น เกลียดชัง หรือกลัว “คนรักร่วมเพศ” อย่างไม่มีเหตุผล ซึ่งอาการนี้ถูกบัญญัติมาตั้งแต่ปี 1971 โดยคำนี้เป็นคำกำจัดความของบุคคลที่เหยียดหยามกับกลุ่มที่มีทัศนะคติทางเพศที่แตกต่างกัน จากงานวิจัยในปี 2014 ที่ถูกตีพิมพ์โดยวารสาร Journal of Personality and Social Psychology ได้แสดงข้อเท็จจริงว่า บุคคลที่ไม่ยอมรับหรือไม่ให้ความสนใจการรักร่วมเพศ จะมีระดับของความเป็นผู้รักร่วมเพศที่สูงกว่าปกติ โดยลักษณะนี้จะเพิ่มสูงมากขึ้นไปอีกในครอบครัวที่มีอาการ Homophobia Netta Weinstein ผู้นำทีมวิจัย ได้กล่าวว่า “ถึงแม้ว่าบุคคลที่มีอาการ Homophobia จะบอกว่าตนเองนั้นมีเพศสภาพที่ตรงกับร่างกาย แต่ผลจากการทดสอบทางจิตวิทยาแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมที่คนเหล่านี้แสดงออกมา มีเหตุมาจากกลุ่มคนที่เป็น Homosexual ได้เข้าไปกระตุ้นบุคลิกเบื้องลึกภายในจิตใจของพวกเขา” Richard Ryan หนึ่งในผู้นำของทีมวิจัยได้กล่าวเสริมว่า “คนที่เป็น Homophobia ก็เหมือนกับกำลังต่อสู้กับตัวเองเพื่อนำความขัดแย้งภายในตัวนี้ระบายออกสู่โลกภายนอก” ผลจากการวิจัยทั้งหมดนี้ถูกวัดโดยแบบสอบถามและการสัมภาษณ์เกี่ยวกับการนิยามเพศของตนเองในผู้ทำแบบสอบถาม รวมไปถึงความรวดเร็วในการตอบสนองต่อคำถามอีกด้วย ผลจากการทดสอบแสดงให้เห็นว่าบุคคลที่มีความสนใจในเพศตรงข้ามน้อย มีอัตราการเข้าหาเข้าหากลุ่มที่เป็นเกย์มากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าข้อสมมติฐานนี้อาจจะยังไม่สมบูรณ์ อันเนื่องมาจากกลุ่มทดสอบยังเป็นเพียงแค่นักศึกษา แต่หากมีการนำกลุ่มผู้สูงอายุเข้ามาทดสอบในอนาคต ด้วยก็จะทำให้ผลของงานวิจัยนี้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ที่มา: indy100 , nytimes
-
เด็กชายวัย 4 ขวบหายตัวไปในป่า ที่เต็มไปด้วยหมีและหมาป่านานถึง 5 วัน และรอดชีวิตมาได้!!
กลายมาเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกช็อคไปตามๆ กัน เมื่อพ่อแม่ชาวรัสเซียพาลูกชายวัย 4 ขวบ ออกไปตั้งแคมป์กันในป่า แต่แล้วอยู่ดีๆ ลูกของพวกเขาก็หายตัวไปท่ามกลางป่าที่เต็มไปด้วยหมีและฝูงหมาป่า… Dima Peskov เด็กชายชาวรัสเซียวัย 4 ขวบ ที่หายตัวไปในป่าใกล้ๆ กับบริเวณอ่างเก็บน้ำ Reftinskoye ขณะที่กำลังไปทริปตั้งแคม์ปกับครอบครัวในเขต Urals ของประเทศรัสเซีย ทางด้านครอบครัวของเด็กชายเมื่อรู้ว่าตัวว่าลูกหายไป พวกเขาก็รีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ทางเจ้าหน้าที่เมื่อได้รู้ข่าวเข้าก็ส่งทีมอาสาสมัครมากกว่า 500 คน เพื่อออกตามหาเด็กชายผู้สูญหายทั่วบริเวณป่าในเทือกเขา Urals ทางทิศตะวันตกของประเทศรัสเซีย จนการออกตามหาล่วงเลยเวลาไปจนเข้าวันที่ 5 พวก ทีมค้นหาก็ยังไม่พบร่องรอยของเด็กชายเลย แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่ออาสาสมัครคนหนึ่งสังเกตเห็นเนินบางอย่างอยู่ใต้ต้นไม้ จึงไปตรวจสอบดูและก็พบว่าเนินที่ว่าก็คือเด็กชายที่กำลังนอนซมอยู่นั่นเอง Dima Peskov เด็กชายผู้หายตัวไปในป่าที่เต็มไปด้วยหมีและหมาป่า ยังคงอยู่รอดมาได้จนถึงวันที่ 5 ด้วยตัวเองเพียงลำพัง ตอนแรกอาสาคนนั้นคิดว่า Dima ได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่ทว่าเขายังหายใจและขยับได้อยู่ ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่จึงรีบพาเด็กชายส่งโรงพยาบาลทันที ทีมแพทย์ก็ได้รายงานว่าเด็กชายมีอาการที่ช็อคและยังไม่พูดอะไรไม่ได้มาก ทำได้แค่เพียงร้องโอดครวญกับพยักหัวตอบคำถามจากพ่อแม่และพยาบาล ด้านสุขภาพของเด็กชายนั้นประสบกับปัญหาภาวะขาดน้ำ และป่วยเป็นปอดบวมทำให้ทีมแพทย์จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อสันนิษฐานถึงสาเหตุที่ Dima…
-
สวนสนุกญี่ปุ่น ‘Fuji-Q Highland’ จัดโปรโมชั่นให้น้องหมา สามารถขึ้นเครื่องเล่นกับเจ้าของได้!!
บ่อยครั้งที่เราอยากพาสัตว์เลี้ยงไปเที่ยวด้วย แต่สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปได้ ต่อให้อยากจะพาเข้าไปมากแค่ไหน ก็ทำได้เพียงแค่ทิ้งมันไว้อย่างเหงาๆ อยู่ที่บ้าน แต่ตอนนี้เตรียมเฮกันได้เลยเพราะในช่วงหน้าร้อนนี้สวนสนุก Fuji-Q Highland ในประเทศญี่ปุ่น อนุญาตให้คุณพาน้องหมาเข้าไปสัมผัสความสนุกกับเจ้าของได้ด้วย!! Fuji-Q Highland ตั้งอยู่ในจังหวัดยะมะนะชิ ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในสวนสนุกที่มีความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เห็นทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิได้แบบชัดแจ๋วเลย ล่าสุดทางสวนสนุกก็ได้จัดโปรโมชั่น Fuji-Q Wanland (Wan คือการเลียนเสียงเห่าของหมาในญี่ปุ่น) ให้นักท่องเที่ยวสามารถพาน้องหมาเข้ามาเดินเล่นได้ ยกเว้นโซน Thomas the Tank Engine-themed ของเด็ก และจะต้องมีสายจูง แน่นอนว่าเมื่อเข้ามาแล้วคุณต้องอยากพาน้องหมาเล่นเครื่องเล่นทุกอย่างแน่ๆ แต่ทางสวนสนุกไม่อนุญาตให้สุนัขเล่นรถไฟเหาะ เพราะมีความเสี่ยงมากเกินไป แต่ก็ยังเครื่องเล่นอื่นๆ อีกมากมายที่น้องหมาสามารถเล่นกับเจ้าของได้ เช่น นั่งชิงช้าสวรรค์ เรือพาย ม้าหมุน และนั่งเล่นในถ้วยชาหมุน และยังมีสระว่ายน้ำเล็กๆ ให้น้องหมาโดยเฉพาะ มีโซนพักผ่อน เพื่อทำให้สุนัขรู้สึกเย็นและสบายในช่วงฤดูร้อนนี้ และอย่างที่รู้ว่าเจ้าของส่วนใหญ่มักจะทำกับสุนัขเหมือนสมาชิกในครอบครัว ดังนั้นในช่วงโปรโมชั่นนี้ Fuji-Q ก็จะใช้ระบบนั้นเหมือนกัน โดยจะเก็บค่าเข้าของสุนัขตัวละ 300 บาท ซึ่งเท่ากับราคาเด็ก ส่วนใครที่พาสุนัขมาหลายตัวก็จะมีส่วนลดให้ด้วย นอกจากนี้ ในการเล่นเครื่องเล่นแต่ละชิ้นนั้น…
-
20 เหตุผลสุดฮา ที่จะบอกว่า ‘การได้แต่งงานกับคนที่รู้ใจ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต’
สำหรับหลายๆ คนนั้น การแต่งงานถือเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิต แต่จะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าก็อยู่ที่การเลือกคู่ชีวิตด้วย ดังนั้นควรจะหาคนที่มีความเหมาะสมและเข้าใจเรามากที่สุดเพื่อชีวิตคู่ที่ยืนยาว แต่หากคุณมองหาแต่คนที่สมบูรณ์แบบ บางทีนั่นอาจไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงก็ได้ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมการได้แต่งงานกับคนที่คู่ควรนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต เพราะพวกเขารู้ว่าคุณต้องการอะไร และจะทำยังไงให้คุณรู้สึกดีได้เสมอ 1. เมื่อสามีอยากให้กำลังใจภรรยาที่กำลังอุ้มท้อง เลยใช้วิธีเขียนโน๊ตน่ารักๆ ว่า ‘มะเขือเทศที่เพิ่งจะตั้งท้อง มันดูกลมแต่ก็ยังน่ารักนะ’ 2. ไม่เคยรู้สึกโกรธภรรยาเลย เว้นแต่ต้องมาเจออะไรแบบนี้นี่แหละ!! 3. เมื่อสามีถามหาน้ำยาหยอดตา เธอตอบกลับมาว่า “อยู่ในห้องนอน บนโต๊ะทีวี ใต้สวิทต์ไฟ และติดอยู่ซอกกำแพง” แหม่ หรือนี่จะเป็นแผนอะไรของเธอนะ? 4. มีของจุกจิกเต็มโรงรถ แต่ภรรยาไม่ยอมให้ทิ้ง สามีเลยจับทุกอย่างมาแขวนบนผนังให้กลายเป็นงานศิลป์ซะเลย 5. เมื่อห้องดูรกๆ แต่ไม่กล้าบอกภรรยาตรงๆ เลยพูดอ้อมๆ ว่า ‘ห้องสกปรกเนาะ แต่เดี๋ยวเค้าทำเอง’ เธอตอบกลับมาว่า ‘ไม่ต้องทำหรอก’ ในขณะที่มือก็จัดเก็บข้าวของไปด้วย… แค่นี้ก็สำเร็จแล้ว อิอิ 6. ปฏิริกิริยาของสามี เมื่อภรรยแอบใส่วิสกี้ลงไปในถ้วยกาแฟ รู้ใช่มั้ยเธอต้องการอะไร 7.…
-
สุดยอดเจ้านายผู้ใจดี นอกจากจะพาพนักงานไปเที่ยวแล้ว ยังซื้อรถให้เป็นของขวัญอีกด้วย!!
เมื่อกล่าวถึง ‘บอส’ หรือเจ้านายแล้ว เพื่อนๆ หลายคนก็คงจะนึกถึงภาพของความดุ ความโหด ความเนี้ยบ ที่คอยมาจ้ำจี้จ้ำไชกับเหล่าลูกจ้างตาดำๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปอิจฉาตาร้อนกับเหล่าพนักงานที่มีบอสที่เรียกได้ว่าใจดีมากที่สุดในโลก เพราะนอกจากจะพาเหล่าพนักงานไปเที่ยวแล้ว ยังมีการแจกของขวัญต่างๆ ให้พนักงานทั้ง รถ ตั๋วดูฟุตบอลโลก และอื่นๆ อีกเพียบ!! ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ Radomir Novakovic Cakan นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งจากมอนเตเนโกร เขาทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านขายอุปกรณ์กีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมอนเตเนโกร และล่าสุดก็ได้ผันตัวเองเข้าไปเล่นการเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หนึ่งในเรื่องที่นาย Radomir เชื่อมั่นก็คือความสำเร็จของเขานั้นไม่ได้มาจากน้ำมือของตัวเอง แต่มาจากการร่วมมือของเหล่าพนักงานด้วย นั่นทำให้เขาเชื่อว่าสิ่งที่จะทำให้บริษัทอยู่รอดต่อไปได้ก็คือความสุขของพนักงาน และเขาก็มักจะมีเซอร์ไพรส์ให้กับเหล่าพนักงานของตัวเองอยู่บ่อยๆ ย้อนกลับไปในปี 2012 Radomir ได้ทำการซื้อรถยนต์ยี่ห้อ Volkswagen ให้กับพนักงานถึง 4 คน แถมพ่วงประกันชั้น 1 ให้อีก “เมื่อผมเห็นรถเหล่านั้น ถึงกับช็อคจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว พอบอสบอกว่า ‘นี่เป็นของขวัญสำหรับนายนะ’ สิ่งที่อยู่ในหัวของผมมีแต่คำว่า ‘ไม่นะ นี่มันต้องเป็นความฝันแน่ๆ มันไม่น่าจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นกับเราได้หรอก’” Danijela Roćenović หนึ่งในพนักงานที่ได้รับของขวัญเล่า ซึ่งพนักงานทั้ง…
-
รวมภาพบานประตูสไตล์ ‘นวศิลป์’ สวยเด่นจากทั่วทุกมุมโลก สะดุดตาเหมือนดั่งเชื้อเชิญ
ศิลปะนั้นมีอยู่หลากหลายแนว แต่แนวที่ #เหมียวปั๊ก ไปเจอมาอย่าง “นวศิลป์” นี้เป็นอะไรที่คูลสุดๆ ไปเลยนะ!! นอกจากจะสวยแล้วยังเป็นเอกลักษณ์ให้ผู้พบเห็นผ่อนคลายอีกด้วย โดยแนวศิลปะนี้เฟื่องฟูในปี 1890 – 1905 โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ลวดลายที่อ่อนช้อยและใช้รูปแบบของธรรมชาติมาผสมผสานและมักจะเจอในสถาปัตยกรรมแบบนี้ในปี 1890 เป็นต้นมา เห็นสวยๆ แบบนี้ บางบานมีอายุกว่า 100 ปีแล้วนะ!! ลวดลายและสีนั้นช่างลงตัวจริงๆ มีระเบียงกันฝนออกมาด้วย!? ทั้งตัวบานและขอบข้างมีการแกะสลักที่ละเอียดละออ น่าถ่ายรูปด้วยจัง บางบานก็ดูคุ้นๆ เหมือนอยู่ในนิยายเรื่องไหนสักเรื่อง สีชมพูก็น่ารัก ทรงกลมรับรูปกับกระจกก็น่าสนใจ ลวดลายส่วนใหญ่เป็นการผสมผสานระหว่างวัตถุและสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติเข้าด้วยกัน สำหรับบางบานดูเรียบง่าย และสบายตา ดู Minimal นิดๆ Antique หน่อยๆ ไม่มีกฎตายตัวว่ารูปทรงต้องเป็นแบบไหน จะเป็นเพียงกรอบโครงเหล็กก็ได้ หรือจะเป็นกรอบบนจะเป็นทรงกลมพร้อมที่ใส่ซองจดหมายก็ดี ประตูบางบานนอกจากจะสวยแล้วดูเหมือนหลุดมาจากนิยายเลยนะเนี่ยะ…
-
ช่างภาพใช้เวลา 5 ปี เดินทางรอบโลก เพื่อถ่ายรูปกับเพื่อนใน Facebook ทั้งหมดของเธอ
ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้การส่อง Facebook ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตประจำวันของใครหลายๆ คนไปแล้ว นอกจากข่าวสารต่างๆ บนหน้านิวส์ฟีดแล้วยังมีเรื่องราวของเพื่อนๆ ในสังคมออนไลน์ให้เราได้ติดตามความเคลื่อนไหวของแต่ละคนด้วย แต่เราเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าใน Facebook นั้น เป็นเพื่อนจริงๆ ของเราซักกี่คนกัน!? คุณ Tanja Hollander ศิลปินท่านหนึ่งก็เกิดความสงสัยนี้เช่นเดียวกัน ดังนั้นเธอจึงลงมือหาคำตอบนี้ด้วยตัวเธอเอง… ช่างภาพสาวจากรัฐเมน ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้ตัดสินใจที่จะออกไปพบปะกับเพื่อนใน Facebook ทั้ง 626 คนของเธอเพื่อพูดคุยและถ่ายภาพกับพวกเขาจริงๆ หญิงสาวใช้เวลาถึง 5 ปีในโปรเจคที่ใช้ชื่อว่า “Are You Really My Friend?” หลังจากที่เธอได้ติดต่อพูดคุยกับเพื่อนๆ ในสังคมออนไลน์แล้ว หญิงสาวเริ่มออกไปพบปะกับพวกเขาตั้งแต่เมื่อช่วงสิ้นปี 2010 โปรเจคดังกล่าวเริ่มต้นจากความสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างเธอและบุคคลเหล่านี้ และเธอก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่ามันจะเป็นอย่างไรถ้าหากเพื่อนใน Facebook ได้กลายมาเป็นเพื่อนจริงๆ กับเธอ… โปรเจค “Are You Really My Friend?” ของเธอนั้นค่อนข้างจะตรงไปตรงมา หญิงสาวออกเดินทางไปพบกับเพื่อนทั้ง 626 คนของเธอ ศิลปินสาวใช้เวลากับพวกเขาและถ่ายรูปชีวิตประจำวันสำหรับโปรเจคของเธอ Tanja Hollander ใช้เวลาในการไปหาเพื่อนๆ…
-
เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ทำร้ายร่างกายแม่แท้ๆ ของตัวเอง จากเหตุทะเลาะกันเรื่อง ‘ชีสเบอร์เกอร์’
ไม่รู้ว่าด้วยความหิวหรือเพราะความหอมของชีสเบอร์เกอร์ ทำให้คุณแม่ท่านหนึ่งและลูกชายของเธอต้องทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นลงไม้ลงมือเลยทีเดียว ตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายกับนาย Noah Sullivan-Lincoln ลูกชายวัย 19 ปีหลังจาที่เขาได้ลงไม้ลงมือกับแม่แท้ๆ ของตัวเองในห้องครัวที่บ้านของพวกเขาในเมือง St. Petersburg รัฐฟลอริดา จากสำนวนของอัยการบอกว่าเด็กหนุ่มวัย 19 ปีได้ชกเข้าที่หน้าของแม่เขาหลังจากที่ทั้งคู่เกิดการทะเลาะและเถียงกันในห้องครัว โดยที่หัวข้อประเด็นหลักที่ทำให้ลงไม้ลงมือกันถึงขนาดนี้ก็เป็นเพียงแค่ ‘ชีสเบอร์เกอร์’ ชายหนุ่มสารภาพว่า เขาได้ปัดชีสเบอร์เกอร์ออกจากมือของแม่ จากนั้นจึงตีเข้าที่มือและแขนของเธอ และจากการกระทำดังกล่าวทำให้ Noah ถูกตัดสินจำคุกข้อหาทำร้ายร่างกาย ชายหนุ่มวัย 19 ปีพ้นโทษเมื่อช่วงเวลาเที่ยงวันอังคารที่ 13 มิถุนายน 2017 ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากได้รับการประกันตัว สำนักข่าวรายงานว่าสาเหตุที่ทำให้ Noah ทำร้ายร่างกายผู้เป็นแม่นั้นอาจจะมีแรงจูงใจจากการใช้สารเสพติดด้วย และล่าสุดนี้ศาลก็มีคำสั่งให้ Noah ห้ามทำการติดต่อใดๆ กับแม่ของเขาอีก สาเหตุของความรุนแรงครั้งนี้เกิดจากยาเสพติด รู้แบบนี้แล้วอย่าไปยุ่งกับของพวกนี้ดีกว่า ไม่อย่างนั้นอาจจเกิดเรื่องน่าเศร้ากว่านี้ก็ได้นะ ที่มา dailymail
-
เผยข้อความสุดท้าย จากคู่รักที่ติดอยู่ในเหตุการณ์ไฟไหม้ Grenfell Tower ณ เวสท์ลอนดอน
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาหลายคนคงได้เห็นข่าวเหตุการณ์เพลิงไหม้อาคารสูง 24 ชั้นในกรุงลอนดอน และตอนนี้ก็มีรายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 12 คนแล้ว หนึ่งในเรื่องราวที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโลกโซเชียลตอนนี้ คือเรื่องราวของคู่รัก Gloria Trevisan และ Marco Gottardi ผู้เคราะห์ร้ายที่ติดอยู่ในอาคาร ทว่าก่อนที่เขาจะจากไปเขาได้ส่งข้อความอำลาคุณแม่ของพวกเขาเป็นครั้งสุดท้าย Gloria Trevisan และ Marco Gottardi ทีมข่าว Dailymail จึงได้เดินทางไปสัมภาษณ์ญาติคนสนิทของทั้งคู่ และญาติๆ ของทั้งคู่ได้เล่าเรื่องราวเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้ทีมงานได้ฟังดังนี้… “เป็นช่วงเวลากลางดึก ในขณะที่เรากำลังนอนหลับสนิทอยู่เราก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกชายของเรา พวกเขาทั้งคู่ดูมีน้ำเสียงที่ตื่นกลัวเอามากๆ ทั้งคู่โทรมาเล่าให้เราฟังว่า ตอนนี้มีไฟไหม้ภายในอาคารที่พวกเขาอาศัยอยู่ และทั้งคู่ก็อาศัยอยู่บนชั้นที่ 23” น่าเศร้าที่ทั้งสองคนเพิ่งย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในตึกนี้ได้ไม่ถึงสองอาทิตย์เท่านั้น คุณพ่อของ Gottardi เล่าเสริมว่า “จากนั้นเราก็รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปช่วยเหลือ หลังจากนั้นไม่นานเราก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกชายของเรา… และมันก็เป็นสิ่งติดตาผมมาจนถึงทุกวันนี้ Gottardi โทรกลับมาเพื่อที่จะบอกเราว่า มีควันไฟเต็มไปทั่วทั้งตึกและดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สามารถออกมาได้ เขาอยู่กับเราจนวินาทีสุดท้าย เป็นเวลาประมาณ ตี 4 ได้ จนลูกชายบอกเราไฟกำลังลามมาถึงหน้าห้องของเขาทุกอย่างดูจะแย่ลงไปอีก จากนั้นสัญญาณก็ตัดไปและเราก็ติดต่อเขาไม่ได้อีกเลย” ทางด้านผู้ปกครองของแฟนสาว Trevisan ได้เล่าว่า “ลูกสาวโทรมาหาพวกเราตอนประมาณตี…
-
ชาวเน็ตจวกหนัก… หลังมีภาพของนักท่องเที่ยวจีน ใช้มือจับคอนกนางนวล เพื่อบังคับถ่ายรูป
เป็นที่รู้กันดีว่าชาวจีนนั้นมีจำนวนประชากรเยอะที่สุดในโลก และนั่นทำให้กลุ่มชาวจีนแบ่งออกเป็นทั้งคนที่ดีและกลุ่มคนที่นิสัยไม่ดีออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งในครั้งนี้ก็เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นิสัยไม่ดีนั่นเอง เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นบริเวณอ่าวเมืองต้าเหลียน ประเทศจีน โดยภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมาแสดงให้เห็นถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ใช้อาหารหลอกล่อนกนางนวลในบริเวณนั้นให้เข้ามาใกล้ๆ และคว้าตัวนกมาอย่างรุนแรง ทั้งการจับคอ จับตัว รวมไปถึงการจับปีกด้วย ภาพดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Weibo สื่อโซเชียลของจีน และกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนไม่พอใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับออกมาถกเถียงอย่างรุนแรง โดยมีบางส่วนบอกในทำนองว่า “ลองให้นักท่องเที่ยวที่ไหนไม่รู้ เข้ามาบีบคอตัวเองถ่ายถ่ายรูปสิ จะรู้สึกชอบกันมั้ย!?” ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมนักท่องเที่ยวชาวจีนถึงอยากถ่ายรูปกับนกนางนวลนั้น คงจะเกิดขึ้นเพราะว่านกนางนวลหัวดำจะพบเจอได้เฉพาะฤดูกาลเท่านั้น และกว่าจะได้เจอนั้นก็มีโอกาสที่น้อย พวกเขาก็อยากจะได้ภาพของพวกมันกลับไป เรื่องราวในทำนองนี้ไม่ได้พึ่งจะเกิดขึ้น แต่ว่ามันเคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อปี 2014 ในบริเวณทางใต้ของเมืองคุนหมิง โดยมีนักท่องเที่ยวไปจับนกนางนวลมาเพื่อที่จะถ่ายรูปเช่นกัน แต่แล้วนักท่องเที่ยวก็ทำให้ปีกของนกนางนวลหัก และในปีต่อมาก็มีนักท่องเที่ยวไปจับนกนางนวลมาอีก คราวนี้เป็นการจับขามันเอาไว้แน่นไม่ให้ไปไหนแล้วก็ถ่ายรูป และต้นปีที่ผ่านมาก็มีนักท่องเที่ยวจีนมีปัญหากับนกนางนวลเช่นกัน โดยพวกเขาได้ทุ่มนกนางนวลลงกับพื้นจนมันบาดเจ็บสาหัสเลยทีเดียว . ยังไงก้ตามแม้กระแสชาวเน็ตจะโจมตียังไง เรื่องเหล่านี้ก็ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่กับนกนางนวลแต่นักท่องเที่ยวจีนบางกลุ่มก็ยังคงสร้างปัญหาหลากหลายรูปแบบไม่หยุดหย่อน คงทำได้แค่รอดูกันต่อไปว่าอนาคตทางการจีนจะจัดการกับปัญหานี้ยังไงบ้าง.. ที่มา shanghaiist
-
ลูกพิทบูลถูกทิ้ง ต่อสู้กับการผ่าตัดใหญ่ถึง 3 ครั้ง จึงได้บ้านใหม่ที่อบอุ่นเป็นรางวัลชีวิต!!
หลายคนไม่อยากเลี้ยงพิทบูลเพราะมองว่ามันเป็นพันธุ์ที่ดุร้ายและกลัวว่ามันจะทำอันรายได้เมื่อโตขึ้น แต่จริงๆ แล้วถ้าเราเลี้ยงมันด้วยความรัก มันก็เป็นหมาที่น่ารักอีกตัวหนึ่งเลยทีเดียวล่ะ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Elli Frank ผู้อำนวนการร่วมของ Mr. Bones and Co. ซึ่งเป็นองค์กรกู้ภัยในนิวยอร์ก ได้ช่วยเหลือลูกหมาพิทบูลวัย 10 เดือนตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บ ลูกพิทบูลตัวนี้มีชื่อว่า Tater Tot มันถูกผูกติดกับเสาในละแวกฮาร์เลมของนิวยอร์ก และเห็นได้ชัดเลยว่ามีใครบางคนจงใจนำมันมาทิ้งไว้ที่นี่ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุด เพราะสิ่งที่แย่กว่าคือ ด้านข้างของมันนั้นมีแผลกว้างประมาณ 2 นิ้วครึ่ง ที่เกิดจากไส้ตรงปลิ้นออกมานอกทวารหนักจนสามารถมองเห็นได้จากภายนอกร่างกาย หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้พามันไปอยู่ในศูนย์พักพิงท้องถิ่นในช่วงก่อนวันปีใหม่ของปีที่แล้ว และไม่นานหลังจากนั้น Frank ก็พามันไปหาสัตวแพทย์ เมื่อไปถึงก็พบว่า Tater Tot อยู่ในสภาพที่อ่อนแรง และใกล้ตายเต็มที แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยืนยันที่จะช่วยมัน โดยต้องผ่าตัดใหญ่ถึงสองครั้ง ซึ่งมีโอกาสที่มันจะรอดน้อยมาก ในที่สุดการผ่าตัดใหญ่ครั้งแรกก็ผ่านไป แต่ยังไม่ทันหายดี มันก็ถูกย้ายไปที่ Animal Medical Center เพื่อผ่าตัดใหญ่ครั้งที่สอง Frank บอกว่า “โอกาสรอดหรือตายนั้นมีเท่ากันครับ มันเข้าผ่าตัดนานกว่า 4 ชั่วโมง จนผมคิดว่ามันไม่รอดแล้วแน่ๆ ที่สำคัญคือนี่เป็นการผ่าตัดใหญ่ครั้งที่สองที่เว้นจากครั้งแรกเพียงไม่นาน” ทันทีที่ Frank เห็นหมอออกมาจากห้องผ่าตัด…
-
ไต้หวันใช้นักเต้นรูดเสา ‘โปรโมทประเพณีท้องถิ่น’ เพื่อให้ชาวเมืองยอมรับกันมากขึ้น…
ในบริเวณชานเมืองเล็กๆ หรือแถบชนบทของประเทศไต้หวัน เวลามีกิจกรรมที่ต้องการความอึกทึกครึกโครม ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน ไปจนถึงงานศพ เขาจะเรียกใช้บริการ รถดอกไม้ไฟฟ้า (Electronic Flower Truck) รถดอกไม้ไฟฟ้าเป็นรถบรรทุกสิ่งที่ตกแต่งด้วยหลอดไฟนีออนหลากหลายสีที่ได้ทำเป็นรูปร่างต่างๆ ทั้งดอกไม้ มังกร หรือชิงช้า นอกจากจะมีรถมีไฟฟ้าแล้วก็ต้องมีดีเจหรือนักดนตรี รวมทั้งนักเต้นด้วย เพื่อที่จะเป็นคนคอยเรียกแขกและสร้างความคึกคักในงานฉลองต่างๆ ประเพณีนี้เริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่ยุค 70 โดยเฉพาะตามแถบชานเมือง หรือชนบทห่างไกล ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สะท้อนถึงความเชื่อและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีส่วนผสมของเรื่องทางจิตวิญญาณและธรรมชาติ แม้ว่าประเพณีนี้จะถูกมองว่าเป็นสิ่งดีงามสำหรับชาวชนบท แต่สำหรับคนในเมืองแล้วกลับมองว่ามีลักษณะหยาบคายและไม่มีคุณค่าอะไร จริงๆ แล้วในปัจจุบันนี้ก็ถูกลดดีกรีให้น้อยลง เพราะการเต้นบนรถเมื่อก่อนจะมีการแสดงเปลื้องผ้าร่วมด้วย แต่เดี๋ยวนี้มีการออกกฎหมายควบคุมไว้ จึงไม่ค่อยมีให้เห็นแล้ว นอกจากนี้ตอนหลังก็มีการประยุกต์เอาท่าเต้นแบบที่เป็นที่นิยมในระดับสากลมาผสมผสาน รวมถึงการใช้เสาร่วมการแสดงด้วยหรือที่เราเข้าใจว่าการเต้นรูดเสา ส่วนภาพที่เราเห็นนี้เป็นภาพจาก ‘เทศกาลเวทีสีสันแห่งไต้หวัน’ ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่สองแล้ว ที่ลานใกล้ๆ ตึกไทเป 101 แลนด์มาร์กที่โดดเด่นของกรุงไทเป โดยทางผู้จัดหวังว่าจะเอาประเพณีการใช้รถประดับหลอดนีออนนี้เข้ามาเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักของคนในเมืองบ้าง แต่ก็ได้กำชับกับสาวๆ นักเต้นแล้วว่า จะต้องไม่มีการเปลื้องผ้า และต้องไม่เต้นยั่วจนเกินไป เพื่อคงกลิ่นอายของประเพณีดั้งเดิมอยู่บ้าง ที่มา scmp
-
ชาวประมงค้นพบ “ปลาประหลาดสองหัว” จากใต้ท้องมหาสมุทร ของชายฝั่งเนเธอร์แลนด์!!
สิ่งมีชีวิตแปลกๆ มักจะถูกค้นพบอยู่เสมอและบางชนิดก็ไม่สามารถระบุได้ว่ามันคืออะไรกันแน่ โดยเฉพาะใต้มหาสมุทรอันกว้างใหญ่และมีความลึกมากๆ เกินกว่าที่จะสำรวจได้หมด และเมื่อไม่นานมานี้เอง ชาวประมงกลุ่มหนึ่งก็ได้ออกไปหาปลาที่นอกชายฝั่งของประเทศเนเธอร์แลนด์ แล้วก็ได้พบกับสิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดตัวหนึ่งติดอวนมาด้วย แต่ทว่ายากต่อการอธิบายให้แน่ชัดว่ามันคือตัวอะไร เพราะว่าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้มีแค่ 1 ตัว แต่กลับมี 2 หัว… ต่อมาผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามันคือ Cetaceans ที่เกิดจากการผสมพันธุ์กันของปลาปลาวาฬและปลาโลมา และมันก็ยากมากๆ ที่พวกมันจะออกมาเป็นลูกแฝด ซึ่งเกิดจากการที่มดลูกของแม่ไม่ใหญ่พอ ส่วนการที่พบ Cetaceans ออกมามีสองหัวนั้น นักวิทยาศาสตร์เองก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่ามันมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนเพราะมันอาศัยอยู่ใต้มหาสมุทรลึก อย่างไรก็ตามพวกเขาเชื่อว่าเป็นกรณีที่หาได้ยากมากๆ ในขณะที่ Erwin Kompanje จาก Erasmus MC University Medical Center ที่ชอบค้นคว้าและเขียนเกี่ยวกับปลาโลมาก็ยังแปลกใจกับเรื่องนี้เหมือนกัน เขาบอกว่า “กายวิภาคของ Cetaceans จะแตกต่างจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ต้องปรับตัวในการใช้ชีวิตอยู่ในท้องทะเล และส่วนใหญ่ก็ไม่เป็นที่รู้จักเลย” ในส่วนของชาวประมงผู้ค้นพบปลาประหลาดชนิดนี้ ก็ได้นำร่างของมันกลับคืนสู่มหาสมุทรไป ซึ่งคาดว่ามันน่าจะเสียชีวิตั้งแต่ในช่วงที่ติดอวนขึ้นมาแล้ว แต่เนื่องจากเกรงว่าถ้าหากเก็บซากของสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดเอาไว้ จะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงเหลือเพียงแค่ภาพถ่ายเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญนำไปศึกษาและค้นคว้ากันต่อไป และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการค้นพบปลาสองหัว เพราะในปี 2014 ก็มีการพบปลาโลมาสองหัวที่พบในชายฝั่งของประเทศตุรกีเหมือนกัน แต่ตอนนั้นโลมาสองหัวที่พบอยู่ในสภาพที่เน่ามากเกิน จึงระบุไม่ได้ว่าเป็นพันธุ์อะไร ใต้มหาสมุทรนั้นช่างมีความลึกลับเกินการคาดเดาจริงๆ…
-
ภารกิจช่วย ‘จิงโจ้น้อย’ ที่แม่ของมันถูกคนใจร้ายชนแล้วหนี ถูกทิ้งเดียวดายในกระเป๋าหน้าท้อง!!
เจ้าจิงโจ้แม่ลูกอ่อนถูกคนใจร้ายขับรถชนแล้วหนีไป ก่อนที่มีพลเมืองดีมาเห็นพร้อมกับโทรขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ หลังจากที่ Melanie Fraser หนึ่งในเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า Macedon Ranges Wildlife Network และ Wildlife Victoria ในประเทศออสเตรเลียมาถึงก็พบว่าแม่จิงโจ้ได้จากไปเรียบร้อยแล้ว แต่ลูกของมันยังมีชีวิตอยู่!! และค่อยๆ คลานออกจากกระเป๋าหน้าท้องของแม่ ลูกจิงโจ้กำพร้าแม่ที่คุณ Fraser ตั้งชื่อเอาไว้ว่าเจ้า Dawson ได้ถูกช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว “หากเราทิ้งมันไว้ที่นั่น ทั้งมด และสภาพแวดล้อมรอบตัว อาจจะฆ่ามันได้อย่างรวดเร็ว” เธอเล่า คุณ Fraser ไม่รอช้ารีบหยิบผ้าขนหนูหนาๆ มาห่อตัวมันไว้ แล้วก็อุ้มมันไปส่งยังศูนย์พักฟื้น จนในที่สุดมันก็ได้มาอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ Christine Gilmore ที่ประจำการอยู่ที่นั่น คุณ Glimore ได้ทำการป้อนอาหาร ทำความสะอาดร่างกาย และมอบความอบอุ่นให้กับเจ้า Dawson เป็นอย่างดี “ตอนนี้ฉันกลายเป็นแม่คนใหม่ของมันแล้วล่ะ” คุณ Glimore กล่าว ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นก็พบว่ามันมีอายุเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น นอกจากนี้คุณ Gilmore ยังจับเจ้า Dawson ไปจับคู่กับเจ้าทารกจิงโจ้อีกตัวที่มีชื่อว่า Nelson ที่แม่ของมันเองก็ถูกรถชนจนเสียชีวิตเช่นเดียวกัน เพื่อให้พวกมันสองตัวมอบความอบอุ่นให้แก่กัน…
-
สาวถ่ายภาพคนส่งของ นั่งเซลฟี่กับสุนัขของเธอ กลายเป็นภาพน่ารักๆ ให้ชาวเน็ตได้ชื่นใจ
อีกเรื่องราวน่ารักๆ บนโลกออนไลน์ เมื่อ Staci Burns สาวจากรัฐหลุยเซียน่า ได้นั่งรอพนักงานส่งของ UPS และเธอก็ได้แอบถ่ายภาพโมเม้นท์สุดน่ารักที่เกิดขึ้น เพราะทันทีที่พนักงานส่งของมาถึง ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะมีความสนิทสนมกับสุนัขประจำบ้านหลังนี้ดี ราวกับว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน Staci Burns “คุณ Daniel Kidd มักจะแวะเล่นกับสุนัขของเราเป็นประจำ และดูเหมือนว่าพวกเขาจะสนิทสนมมากขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นภาพที่น่ารักมากจริงๆ ค่ะ” Staci กล่าว ไม่ใช่แค่เจ้าของบ้านเท่านั้นที่แอบเอามือถือขึ้นมาถ่ายภาพ เพราะคุณ Kidd พนักงานส่งของก็ไม่ลืมที่จะเซลฟี่กับแก๊งตูบด้วยเหมือนกัน ด้วยความน่ารักที่เข้าไปโผล่บนหน้าเฟซฯ ของใครหลายคน ทำให้ชาวเน็ตเริ่มหันมาสนใจเรื่องราวของพนักงานส่ง UPS คนนี้ และได้พบกับความจริงที่ว่า.. ก่อนหน้านี้ Daniel Kidd และสุนัขสายพันธุ์ออสเตรเลียแชพเพิร์ดเคยเจอกันมาก่อนแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อเดือนก่อนเจ้าตูบ Reba ได้หนีหายออกจากบ้านไป และคนที่สามารถพาเจ้าตูบกลับมาบ้านได้อย่างปลอดภัยก็คือพนักงานคนนี้นี่เอง “ไม่ใช่แค่บ้านฉันเท่านั้นหรอกค่ะ ที่เขาจะหยุดเล่นกับสุนัข ไม่ว่าบ้านไหนที่มีสุนัขเขาก็มักจะหยุดเล่นกับพวกมันเสมอ ชาวบ้านแถวนี้รู้จักเค้าเป็นอย่างดี” เพื่อนบ้านคนหนึ่งเล่า หลังจากที่เจ้าของบ้านนำคลิปวิดีโอนี้โพสต์ลงโซเชียล ก็มีชาวเน็ตแห่มากดถูกใจและให้ความเห็นกันเพียบ …
-
เกิดขึ้นแล้ว! งานแต่ง 3 หนุ่มคู่รักชาวโคลอมเบีย โลกทั้งใบเรายกให้นายสามคน…
นับว่าเป็นเรื่องที่กำลังโด่งดังและฮือฮาสุดๆ ในประเทศโคลอมเบีย หลังจากที่มีการประกาศงานแต่งงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายของทั้ง 3 หนุ่ม เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า เจ้าบ่าวทั้ง 3 คนนั้นประกอบไปด้วย Victor Hugo Prada (นักแสดง) John Alejandro (โค้ชกีฬา) และ Manuel Jose Bermudez (นักเขียน) โดยล่าสุดพวกเขาเพิ่งได้จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว Rincon Perfetti นักกฎหมายผู้ต่อสู้เพื่อชาว LGBT ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ในโคลอมเบียมีคู่รักที่มากกว่า 2 คนอยู่หลายครัวเรือน ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่ทุกอย่างจะเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ” ซึ่งในแง่อีกหนึ่งมันช่วยชี้ให้เห็นว่า สังคมได้ยอมรับการมีอยู่ของครอบครัวรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Polyamorous Family จากการลงประชามติเกี่ยวกับกฎหมายการสมรสเพศเดียวกันเมื่อเดือนเมษายน ปี 2016 ทำให้ประเทศโคลอมเบียกลายเป็นประเทศที่ 4 ในแถบอเมริกาใต้ที่การแต่งงานเพศเดียวกันเป็นเรื่องถูกกฎหมาย และยอมรับได้ในสังคม โดยทั้ง 3 หนุ่มได้เดินทางไปจดทะเบียนสมรสกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องที่เมืองเมเดยิน นอกจากเรื่องของการยอมรับทางสังคมแล้ว การแต่งงานอย่างถูกกฎหมายยังช่วยทำให้พวกมีสิทธิที่จะจัดการเรื่องของมรดก หรือการเลี้ยงดูลูก ให้เป็นไปตามกฎหมายได้เช่นกัน …
-
ตำรวจจีนช่วยชีวิตแมวกว่า 500 ตัว ที่กำลังจะถูกนำไปขาย ให้กับร้านอาหารในท้องถิ่น!!
เรื่องที่เพื่อนๆ จะได้อ่านต่อนี้ อาจทำให้หลายคนสะเทือนใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ แต่จะบอกว่าใจเย็นๆ แล้วให้คิดซะว่านี่เป็นอุทธาหรณ์ที่จะทำให้คุณหันมาใส่ใจสัตว์เลี้ยงมากขึ้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่มณฑลเจียงซู ประเทศจีน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือแมวเป็นร้อยๆ ตัว ให้รอดพ้นจากการไปทำเป็นอาหารสำหรับคนบางกลุ่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองจั่นเจียง ได้รวบตัวชายแซ่ Sun ขณะที่กำลังขนย้ายกรงที่เต็มไปด้วยแมวขึ้นรถบรรทุกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายน 2017 น้องแมวนับร้อยตัวถูกขังรวมกันในกรงแคบๆ และอยู่ในสภาพใกล้ตาย เนื่องจากขาดน้ำเป็นเวลานาน… นอกจากส่วนที่อยู่ในกรงแล้ว เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบเพิ่มเติมในโรงเก็บของของนาย Sun แล้วก็พบว่ายังมีแมวที่อยู่ในสภาพใกล้ตายอีกจำนวนมาก พวกมันต้องอยู่ในห้องที่ร้อนอบอ้าวและเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก ก่อนหน้านี้ตำรวจได้รับแจ้งจากชายคนหนึ่งว่ามีคนแปลกหน้าจับแมวของเขาไป จึงได้ตรวจตามเบาะแสงที่รับจากคนละแวกนั้น จนเข้าถึงตัวคนร้ายตามที่รายงานไป หลังจากค้นทุกซอกทุกมุมก็พบว่านาย Sun ได้จับแมวมาขังไว้กว่า 500 ตัว เมื่อสอบสวน นาย Sun รับสารภาพว่าได้ใช้นกที่ขังไว้ในกรงเป็นตัวล่อแมวให้มาตามทางที่ต้องการ ในจำนวนนี้มีทั้งแมวเลี้ยงและแมวจรจัด เมื่อเห็นว่าอยู่ในที่ลับตาคนแล้วก็จะจับแมวพวกนั้นมาขังไว้ในกรงที่โรงเก็บของ เขายังบอกอีกว่า หลังจากที่จับแมวมาได้จำนวนมากแล้ว ก็จะนำไปขายให้กับร้านอาหารในท้องถิ่นบางแห่ง ซึ่งมูลค่าการค้าต่อหนึ่งตัวจะอยู่ที่ประมาณ 150 บาท และหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการช่วยแมวเอาไว้ได้แล้ว เจ้าหน้าที่ก็ได้ประกาศให้คนที่เคยแจ้งแมวหายนั้นมาดู…
-
17 พ่อแม่ผู้สนับสนุนลูกที่เป็น LGBT และร่วมเดินขบวนเพื่อเรียกร้อง ให้เกิดการยอมรับในสังคม
ในอดีตชาว LGBT ส่วนใหญ่มักจะไม่รับการยอมรับจากพ่อแม่ เพราะสังคมไม่ค่อยเปิดกว้างในเรื่องนี้ แต่ปัจจุบันนี้จะเห็นว่าพ่อแม่หลายๆ คน ไม่ใช่แค่ยอมรับ แต่ยังสนับสนุนในสิ่งที่ลูกเป็นด้วย จะเห็นได้ชัดจากการเดินรณรงค์จากลอสแอนเจลิสไปยังวอชิงตัน ดี.ซี. ในเดือนแห่ง Pride เพื่อเรียกร้องสิทธิให้ชาว LGBT ซึ่งไม่ได้มีแค่วัยรุ่นรักร่วมเพศเท่านั้น แต่พ่อแม่ของพวกเขาก็มาร่วมเดินด้วย พวกเขาเหล่านี้คือพ่อแม่ที่ภูมิใจกับสิ่งที่ลูกเป็นและอยากให้สังคมให้การยอมรับความหลากหลายทางเพศด้วยเช่นกัน คุณแม่คนหนึ่งบอกว่า “วันนี้ฉันมาเดินขบวนกับลูกค่ะ เราจะอยู่เคียงข้างพวกเขาและร่วมเดินขบวนไปด้วยกันจนกว่าสังคมจะยอมรับในสิ่งที่เขาเป็นค่ะ” ปล. Pride คือการเดินขบวนอย่างสันติเพื่อต่อต้านการแบ่งแยกและทำร้ายร่างกายชาวเพศทางเลือก 1. พ่อรวมเดินขบวนกับลูกที่เป็น LGBT 2. แม่วาดรูปเป็นสีรุ้งให้ลูก เพื่อบอกว่าเธอสนับสนุนในสิ่งที่ลูกเป็น 3. สุดยอดคุณพ่อมาเดินกับลูกเพื่อรณรงค์ให้ยอมรับ LGBT 4. คนแก่ไม่ใช่หัวโบราณอย่างที่คิด ดูอย่างคุณยายคนนี้สิยังสนับสนุนลูกที่เป็นเลสเบี้ยนเลย 5. แม่ชูป้ายด้วยความภาคภูมิใจในสิ่งที่ลูกเป็น 6. แม่ร่วมฉลองวัน LGBT 7. เห็นพ่อหน้าโหดแบบนี้ แต่อาสาพาลูกสาวไปเดินขบวนกับ LGBT ด้วยตัวเองเลยนะ 8. ครอบครัวจัดฉลองให้ลูกในวันแห่ง Pride …
-
สาวเจองูในบ้าน แต่ไม่อยากแจ้งเจ้าหน้าที่ ทำใจแข็งหยิบไปปล่อยเอง จับไปก็กรี๊ดไป…
ก็อย่างที่รู้กันดีว่า ‘ผู้หญิงกับงู’ นั้นเป็นอะไรที่ไม่ถูกกันเอาซะเลย เวลาเจองูทีไรนี่ถึงกับร้องกรี๊ด บางคนก็แทบจะเป็นลมสลบล้มพับไปเลยทีเดียว แต่สำหรับคุณ SunShine McCurry หญิงสาวช่างสักจาก Forest City รัฐ North Carolina แล้วล่ะก็ต้องขอบอกเลยว่าเธอช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!! เพราะจู่ๆ วันหนึ่งเธอก็พบว่ามีเจ้างู Black Snake ที่มีความยาวมากกว่า 1.5 เมจร เลี้อยเข้ามานอนชิลอยู่ในห้องรับแขกของเธอ แต่แทนที่จะรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาจับมันออกไป แต่เธอกลับทำอะไรที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้น!! เพราะเธอจับมันยัดใส่ปลอกหมอนด้วยมือของตัวเอง!! แถมยังพาไปปล่อยที่นอกบ้านให้อีกด้วย ตอนจับไปก็กรี๊ดไป เห็นแล้วก็กลัวแทน ฮร่าๆ ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… แหม่ แข็งแกร่งจริงๆ เลยพี่จ๋า #เหมียวหง่าว ยอมใจขอยกนิ้วให้เลย!! ที่มา : buzzfeed
-
แพทย์ชาวไต้หวันพบ ‘พยาธิตัวตืด’ ยาว 2.6 เมตร อยู่ในท้องของเด็กสาวที่ชอบกินปลาดิบ!!
คุณหมอชาวใต้วันได้รายงานว่าพวกเขาได้พบกับพยาธิตัวตืดที่ยาวมากกว่า 2.6 เมตร อยู่ในตัวของหญิงสาวที่อ้างว่าชื่นชอบการกินปลาดิบเป็นชีวิตจิตใจ “เด็กสาววัย 8 ปี ได้อ้างเอาไว้ว่าเธอเคยมีอาการคันบริเวณทวารหนัก หลังจากที่ไปทานอาหารที่ภัตตาคารในเมืองไทเป” เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาล Tri-Service General Hospital กล่าว หลังจากที่เด็กสาวเข้ารับการผ่าตัดและนำเจ้าพยาธิตัวตืดออกไปแล้ว ตอนนี้เธอก็กำลังนอนพักฟื้นอยู่ พร้อมกับต้องทานยาตามที่แพทย์กำหนดให้ ทางด้านคุณ Wang Zhijian กุมารแพทย์จากโรงพยาบาลก็ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าเด็กสาวคนดังกล่าวนั้นมีพยาธิตัวตืดชนิด Diphyllobothrium Latum เข้าไปอยู่ในบริเวณระบบย่อยอาหารของเธอ ซึ่งเจ้าพยาธิตัวนี้เป็นพยาธิตัวตืดที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดที่สามารถเข้าไปอาศัยอยู่ในตัวของมนุษย์ได้ บางตัวนี่สามารถยาวสุดๆ ได้ถึง 20 เมตรเลยทีเดียวนะ!! และการที่มันสามารถเข้าไปอยู่ในตัวมนุษย์ได้นั้นอาจเป็นเพราะตัวอ่อนหรือไข่ที่อยู่ในอาหารดิบอย่าง เนื้อวัว เนื้อหมู หรือเนื้อปลา ที่มนุษย์ทานเข้าไป จนทำให้มันไปเจริญเติบต่อในระบบทางเดินอาหาร จากการให้การของครอบครัวของเด็กสาวก็พบว่าเธอชื่นชอบการกินซูชิ โดยเฉพาะซูชิหน้าปลาดิบเป็นอย่างมาก ซึ่งตรงนี้เองแพทย์ก็สันนิษฐานเอาไว้ว่าเจ้าพยาธิอาจจะเข้าไปอยู่ในระบบทางเดินอาหารของเธอเพราะการกินปลาดิบ… He Shengyuan แพทย์อีกคนหนึ่งก็ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าเจ้าพยาธิตัวดังกล่าวนั้นอาจจะมีชีวิตอยู่ในตัวของเด็กสาวมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 เดือน!! แถมยังเลื้อยไปมาในช่องท้องของเธออย่างเพลิดเพลินเลยล่ะ นอกจากนี้แพทย์ He ยังออกมาเตือนเหล่าสาธารณะชนทั้งหลายอีกว่าให้หลีกเลี่ยงการทานอาหารแบบดิบๆ เพราะมีความเสี่ยงที่พยาธิทั้งหลายจะเข้าไปอยู่ในตัวของเราได้ โบกมือบ๊ายบายลาก่อยยยย ส้าดิบ ลาบดิบ หลู้ ส้า…
-
สัมผัสภายในของเครื่องบินส่วนตัวมูลค่า 2,800 ล้านบาท ความหรูหราที่อาจสัมผัสได้แค่ในฝัน…
เครื่องบินที่เราส่วนใหญ่เคยนั่งมักจะเป็นเครื่องบินโดยสารทั่วไป งั้นนี้วันนี้#เหมียวขี้ส่องขอพาเพื่อนๆ ไปชมภายในของเครื่องบินส่วนตัวราคา 2,800 ล้านบาท ว่าจะหรูหราสมราคาหรือเปล่า และนี่คือ Embraer Lineage 1000E Hollywood Airship เครื่องบินเจ็ทจากบริษัท Embraer ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวแบบเน้นความหรูหราแบบสุดโต่ง Embraer Lineage 1000E Hollywood Airship มีห้องที่รองรับผู้โดยสาร 13-19 คน และสามารถบินได้ไกลด้วยระยะทางเฉลี่ยถึง 8,500 กิโลเมตร เมื่อก้าวเข้าไปในเครื่อง คุณจะได้รับการต้อนรับจากรูปปั้น 3D ที่แกะสลักจากหนัง เมื่อหันทางขวาจากทางเข้าแล้ว คุณจะเห็นภายในห้องโดยสารทั้งหมดได้อย่างทั่วถึง สิ่งแรกที่จะดึงดูดสายตาของคุณคือ Cloud Club ซึ่งเป็นบาร์แบบเดคโค ที่นั่งของบาร์จะเป็นโทนสีทอง แสดงถึงความหรูหราอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ถัดมาก็จะเป็นที่นั่งอันเรียบหรูและกว้างขวาง เหนือขึ้นไปจากที่นั่งสุดหรูจะเป็นหน้าต่างรูปทรงโค้งมนพร้อมไฟที่เหมาะกับโซน Cloud Club ภายในห้องโดยสารจะประดับประดาไปด้วยประติมากรรมคริสตัลพร้อมไฟส่องและหินอ่อน ถัดจาก Cloud Club จะเป็นพื้นที่สำหรับความบันเทิง …
-
ครอบครัวมอบความสุขใน “วันสุดท้ายของเจ้าชาร์ลี” ก่อนที่จะบอกลามันไปตลอดกาล…
สุนัขอาจเป็นแค่สัตว์เลี้ยงธรรมดาๆ ตัวหนึ่ง แต่เมื่อคุณได้ใช้เวลาอยู่กับมันจนเกิดเป็นความรักความผูกพัน มันก็ยากจะทำใจเมื่อถึงเวลาแห่งการจากลา เหมือนกับ Charlie น้องหมาพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดที่ต้องจากลาครอบครัวไปตลอดกาล หลังจากต่อสู่กับมะเร็งในสมองมาอย่างยาวนาน ครอบครัว Navids จาก Denton รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับ Charlie เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวช่วงที่คุณแม่ Penny วัย 49 ปี กำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะวิกฤติ แม้ Charlie จะเข้ามาในบ้านได้ไม่นาน แต่ก็พอจะรู้ว่าคุณแม่กำลังป่วย มันก็เลยนั่งอยู่ข้างๆ เธอตลอดเวลา เพื่อเป็นกำลังใจให้ นอกจากอยู่เคียงข้างแล้ว บางครั้งมันก็อยากแบ่งเบาความเจ็บปวดให้ Penny ด้วย อย่างเช่น เลียหัวที่โล้นๆ ของเธอเพื่อเป็นเป็นการปลอบโยนหลังทำเคมีบำบัด มันทำอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ จนกระทั่งคุณแม่ฟื้นตัวจากโรคมะเร็งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แล้ว Presley Wenzel ผู้เป็นลูกสาววัย 20 ปีก็พบว่าเจ้า Charlie เองกำลังป่วยเป็นมะเร็งที่อยู่ในขั้นรุนแรงและจะอยู่ได้อีกไม่นาน สำหรับ Charlie ครอบครัว Navids ได้รับเลี้ยงมันตั้งแต่ตอนยังเล็กๆ มันเป็นหมาที่เชื่อฟังดีมาก จนทุกคนคิดว่าหากมันโตขึ้นจะให้มันไปเป็นสุนัขตำรวจ แต่พอถึงเวลาจริงๆ ทุกคนไม่อยากจะจากมันไปก็เลยให้อยู่กับครอบครัวต่อไป โดยยกให้มันเป็นตำรวจของบ้าน จนกระทั่งวันที่รู้ว่ามันเป็นมะเร็ง …
-
นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลใช้งานแต่งงานของตัวเอง ‘ระดมทุน’ จากแขกเพื่อช่วยเหลือสัตว์จรจัด
แทนที่จะจัดงานแบบหรูหราอู้ฟู่ เชิญผู้คนมากมายมาร่วมสังสรรค์ แสดงความยินดีในวันที่น่าจดจำอย่าง ‘วันแต่งงาน’ คู่รักนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลกับแฟนสาวกับตัดสินใจจัดงานแต่งงานเพื่อเรี่ยไรเงินจากแขกไปบริจาคให้กับองค์กรช่วยเหลือสัตว์แทน Logan Ryan ผู้เล่นตำแหน่ง Conerback จากทีม Tennessee Titans และคู่หมั้น Ashley Bragg ได้ทำการจัดงานแต่งงานกันบนเกาะ Caribbean ที่อยู่ในประเทศ St. Lucia แต่ข้อเสียของงานแต่งงานอย่างหนึ่งก็คือการที่พวกเขาจะต้องบินจากบ้านที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาไปยังเกาะ Caribbean ทำให้เจ้าหมาทั้งสองตัวของพวกเขาไม่สามารถไปร่วมงานได้ “พวกเรารู้ว่าสถานที่จัดงานแต่งงานของเรามันยอดเยี่ยมมาก แต่มันมีข้อเสียอยู่ตรงที่ว่าเราไม่สามารถพาเจ้าหมาทั้งสองตัว Nala และ Leonardo ไปร่วมงานได้” Ashley เล่า งานแต่งงานถูกจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนเมษายน งานแต่งงานจัดขึ้นที่รีสอร์ทมีคู่บ่าวสาว ลูกสาว Avery และแขกอีกทั้งหมด 8 คน ในวันที่สองของงานแต่งงาน คู่บ่าวสาวได้เดินทางเข้าไปในเมือง Soufrière เพื่อถ่ายภาพสวีทหวานแหวว และที่นั่นเองพวกเขาก็ได้พบกับเหล่าหมาจรจัดมากมาย “พวกเราตัดสินใจที่จะอยู่เล่นกับพวกมัน” Ashley เล่า นั่นทำให้พวกเขารู้ว่าเจ้าหมาเหล่านั้นมันช่างน่ารักซะเหลือเกิน ทำให้คู่บ่าวสาวตัดสินใจที่จะช่วยเหลือพวกมันเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากว่าทั้งคู่เป็นคนรักสุนัขอยู่แล้ว…
-
คุณตาวัย 71 เตรียมฟ้อง หลังถูกพนักงานสายการบิน “United Airlines” ผลักล้ม!?
ถ้าใครยังจำได้เมื่อช่วงหลายเดือนก่อนเพิ่งมีประเด็นดราม่าเกี่ยวกับสายการบิน United Airlines ที่มีการฉุดกระชากลากถูผู้โดยสารให้ลงจากเครื่อง ล่าสุดก็ได้มีการเผยถึงเหตุการณ์ในปี 2015 ที่กลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อ Ronald Tigner คุณตาวัย 71 ปี ถูกพนักงานของสายการบินผลักล้มไปนอนกองกับพื้น เพียงเพราะเจ้าตัวเข้าไปถามเรื่องตั๋วเดินทาง!? ภาพจากกล้องวงจรปิดในสนามบินชี้ให้เห็นว่า คุณตาได้เดินเข้าไปถามพนักงานเกี่ยวกับตั๋วเครื่องบินอย่างปกติ ทว่าจากนั้นจู่ๆ เจ้าตัวก็ถูกพนักงานผลักล้มไปนอนกองกับพื้นอย่างน่าตกใจ จนเวลาผ่านไปก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีพนักงานคนไหนเข้ามาช่วยดูแลอาการของคุณตาเลยแม้แต่คนเดียว เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นกระแสที่ทำให้สายการบินถูกโจมตีไปทั่วโลกออนไลน์ ซึ่งจากการสอบสวนพบว่าพนักงานคนดังกล่าวชื่อว่า Alejandro Anastasia และเจ้าตัวกำลังจะถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา William Hoke ทนายความของผู้เสียหายได้ให้สัมภาษณ์ว่า “พนักงานคนดังกล่าวได้ตอบกลับคุณ Ronald ว่า คุณไม่เห็นเหรอว่าพวกเรากำลังยุ่งกันอยู่? จากนั้นเขาก็ผลักผู้โดยสารล้มลงไปนอนกับพื้นพร้อมทั้งหัวเราะเยาะ และทำท่าทางเหมือนจะเตะซ้ำ” ชายผู้เสียหายต้องนอนนิ่งเป็นเวลานาน กว่าจะมีคนเริ่มเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ดูเหมือนประเด็นจะร้อนขึ้นไปอีก เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาถึงจุดเกิดเหตุ แต่พนักงานของสายการบินกลับให้การปฏิเสธว่า ผู้โดยสารหกล้มด้วยตนเองไม่มีการทำร้ายร่างกายใดๆ เกิดขึ้น จากนั้นไม่นานก็มีพลเมืองดีรีบเข้ามาช่วยเหลือ และนำตัวผู้เคราะห์ร้ายไปส่งที่โรงพยาบาล จากเหตุการณ์ทั้งหมดทำให้นาย Anastasia ถูกจับข้อหาทำร้ายร่างกายผู้สูงอายุ…
-
สาวผลักเด็กอายุ 12 ปี ล้มกระเด็นลงกับพื้น เพราะหึงแฟนหนุ่มเดินไปขอขนมกิน!?
กลายเป็นเรื่องราวสุดช็อคเมื่อหญิงสาววัย 28 ปีได้ทำการผลักเด็กสาววัย 12 ขวบอย่างรุนแรงจนล้มลงกับพื้นหลังจากพบว่าเธอกำลังยืนคุยกับแฟนหนุ่มของตัวเอง เหตุการณ์เกิดขึ้นที่หน้าร้านขายของชำ Wilkes-Barre ที่อยู่ในรัฐ Pennsylvania เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ภาพจากกล้องวงจรปิดจากหน้าร้านก็พบว่าเด็กสาว Presley Keeney กำลังยืนอยู่หน้าร้านเพื่อรอพ่อของเธอที่กำลังเดินเข้าไปเลือกซื้อเครื่องดื่มภายในร้าน เช่นเดียวกันกับคู่รักที่ตอนแรกก็ยืนอยู่ที่หน้าร้านเช่นเดียวกันก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกไปกับเพื่อนอีกสองคน แต่สักพักก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ชายที่ใส่เสื้อสีเหลืองเดินกลับมาที่หน้าร้านอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นหญิงสาวที่มาด้วยกันคาดว่าน่าจะเป็นคู่รัก วัย 28 ปี ชื่อว่า Marlenea Uravage ได้ตัดสินใจเดินตามเขามาด้วย ขณะเดียวกันที่ชายเสื้อเหลืองก็เดินมาหาสาวน้อย Presley เพื่อถามคำถามบางอย่างกับเธอ Presley ให้การว่า เขาถามกับเธอว่า “ขอชิ้นนึงได้มั้ย?” ซึ่งขณะนั้นเธอก็เข้าใจว่าเขาน่าจะพูดถึงขนม Slim Jim ที่เธอกำลังกินอยู่หน้าร้าน คิดว่าชายคนดังกล่าวกำลังหิวก็เลยหยิบขึ้นมาจากกระเป๋าและเอาให้เขาไป และตอนนั้นเองสาว Marlenea ก็เดินมาถึงพอดี เธอกลับผลักชายเสื้อสีเหลืองอย่างรุนแรงด้วยความโกรธ แล้วก็หันมาผลักสาวน้อย Presley อย่างรุนแรงจนเธอกระเด็นลงไปนอนกับพื้น หลังจากนั้นทั้งคู่ก็วิ่งหนีไปจากสถานที่เกิดเหตุโดยที่ฝ่ายชายวิ่งนำออกไปก่อน และฝ่ายหญิงตามไปทีหลัง หลังจากที่คุณพ่อของสาวน้อย Presley เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รีบวิ่งออกมาหน้าร้านเพื่อเช็คอาการของลูกสาว ก่อนที่จะวิ่งตามไปจนถึงแยกถนนเพื่อดูว่าคู่รักผู้ก่อเหตุยังอยู่ในบริเวณนั้นอีกหรือไม่ ก่อนที่จะกลับมาหาลูกสาวเพื่อปลอบใจ คุณ…
-
เกาหลีใต้เริ่มผลักดันกฎหมาย เอาผิดผู้เล่นปั๊มอันดับในเกม มีโทษทั้งปรับและจำคุก!!
หลายคนที่ดูแล้วคงสงสัยว่าการจ้างปั๊มอันดับภายในเกมมันเป็นวาระแห่งชาติขนาดที่ว่าต้องตั้งกฎหมายมาป้องกันเลยเหรอ? แต่คำตอบนั้นมันอยู่ในตัวประเทศเกาหลีใต้เรียบร้อยแล้ว เพราะอย่างที่รู้ว่าเกาหลีใต้คือประเทศแม่ของ e-Sports นั่นเอง ไม่หมดเพียงเท่านั้น นอกจากรายได้ที่มาจากอุตสหากรรมเทคโนโลยีแล้ว การแข่งขัน e-Sports และธรุกิจเกมออนไลน์ในเกาหลีถือว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่ช่วยล่อเลี้ยงประเทศเลยทีเดียว ฉะนั้นถ้าเกิดการโกงขึ้นในธุรกิจใหญ่ของพวกเขา แน่นอนว่ามันจึงทำให้รัฐบาลอยู่เฉยไม่ได้ ด้วยเหตุนี้กฏหมายดังกล่าวจึงมีความร้ายแรงมากๆ เพราะถ้าใครทำความผิดในการปั๊มแร้งค์ โกงเกม หรือแฮคระบบอะไรก็ตามภายในเกม ก็จะมีกฎหมายเข้ามาควบคุมและลงโทษ ด้วยการปรับเป็นเงินถึง 600,000 บาท และยังต้องถูกจำคุกอีก 2 ปีด้วยกัน!! กฏหมายดังกล่าวนั้นยังได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสถาเกาหลีหลายคนเลยทีเดียว โดยพวกเขาได้ให้เหตุผลว่า พวกเขาจะไม่ยอมให้สิ่งเหล่านี้มาทำลายอุตสหากรรมเกมของพวกเขาอย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าจะเป็นเซิร์ฟเวอร์เกมเถื่อน การโกงเกม หรือแม้แต่การที่เหล่าผู้เล่นมืออาชีพมารับจ้างปั๊มอันดับในเกมให้เพื่อรับเป็นเงิน ทุกอย่างล้วนเป็นการทำลายสังคมภายในเกม ตัวเกมและรวมถึงยังไปลดโอกาสในการแข่งขันของผู้เล่นระดับอื่นๆ ด้วย สุดท้ายแล้วแม้ร่างกฏหมายนี้จะยังไม่ผ่านก็ตาม แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงแล้วล่ะก็ ทางเกาหลีใต้ได้ให้สัญญาว่าพวกเขาจะเป็นประเทศแรกที่ผลักดันการป้องกันและให้ความสำคัญกับอุตสหรกรรมนี้ก่อนใครอย่างแน่นอน ที่มา dotesports
-
บริษัทญี่ปุ่นสร้าง “บ้านโดมจากโฟม” แข็งแรงและทนทานมาก ไม่หวั่นแม้แผ่นดินไหว
เมื่อพูดถึงโฟม คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงภาชนะบรรจุอาหารที่ใช้แล้วทิ้งหรือวัสดุที่เอาไว้ห่อของต่างๆ แต่สำหรับผู้ออกแบบบ้านแยกส่วนจากญี่ปุ่น ได้เลือกใช้ ‘โฟม’ มาสร้างเป็นบ้านแห่งอนาคต หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า บ้านโดมที่ทำจากโฟมนั้นกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะมันมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อแผ่นดินไหว มีราคาถูกและประหยัดเวลาในการสร้าง ที่สำคัญมีฉนวนกันความร้อนที่สูงมากด้วย Japan Dome House เป็นบริษัทที่จำหน่ายบ้านโฟมในประเทศญี่ปุ่นมานานกว่า 15 ปี แล้ว แต่ปีล่าสุดพบว่ามียอดสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ในเดือนเมษายนปี 2016 จังหวัดคุมะโมะโตะได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.0 แมกนิจูด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 49 รายและบาดเจ็บอีก 3,000 คน นอกจากนี้ผู้คนกว่า 44,000 ชีวิตต้องอพยพออกพื้นที่เพราะบ้านพังทลายและถูกไฟไหม้ แต่ก็ยังมีอีกหลายพันคนที่ยังอาศัยอยู่ในบ้านที่ยังพออาศัยอยู่ได้ จากรายงานบอกว่าบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายนั้นไม่ได้มีเฉพาะในจังหวัดคุมะโมะโตะเท่านั้น แต่พื้นที่ใกล้เคียงอย่างจังหวัดโออิตะก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ที่น่าแปลกคือหมู่บ้านที่อยู่ในบริเวณเกาะคิวชูกลับไม่ได้รับความเสียหายเลย ทั้งที่ก็อยู่ใกล้กับพื้นที่เกิดแผ่นดินไหวเหมือนกัน จนมารู้ว่าบ้านกว่า 480 หลังคาเรือนในนั้นเป็นบ้านโดมที่ทำจากโฟมโดยบริษัท Japan Dome House จริงๆ บริษัทในญี่ปุ่นได้มีการพูดถึงบ้านโฟมที่มีความต้านทานต่อแผ่นดินไหวมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่คนส่วนใหญ่คิดว่ามันเป็นการตลาดเท่านั้น ด้วยการนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับจังหวัดคุมะโมะโตะมากล่าวอ้าง ทางบริษัทบอกว่าบ้านถูกสร้างจากชิ้นส่วนของโฟมที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ โดยใช้กาวติดเพื่อสร้างเป็นรูปโดม ดังนั้นบ้านทั้งหลังจึงมีน้ำหนักรวมประมาณ 80…
-
ลูกสาวบีเกิ้ลดิ้นหลุดหายไปตั้งสองวัน อุตส่าห์ตามหาแทบตาย สุดท้ายเจออยู่ที่ออฟฟิศพ่อ!?
เจ้าหมาบีเกิ้ลชื่อว่า Cleo มีความสามารถพิเศษในการถอดปลอกคอของตัวเองออกได้อย่างง่ายดาย “มันคือสุดยอดนักมายากลเลยล่ะ” คุณ Ryk Goddard กล่าวถึงเจ้าหมาของตัวเอง แต่แล้ววันหนึ่งขณะที่คุณ Sophy ภรรยาของคุณ Ryk ได้พาเจ้า Cleo ออกไปเดินเล่นร่วมกันกับเจ้าหมาอีกตัวที่ชื่อว่า Parsley ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่มีป่าไม้ และถนนที่เต็มไปด้วยรถ แต่ปรากฎว่าเจ้าลูกสาวบีเกิ้ล Cleo ได้ใช้มายากลของมันทำให้ตัวเองหลุดจากปลอกคอแล้ววิ่งหนีหายไปอย่างรวดเร็ว “ที่สวนสาธารณะถูกล้อมรอบไปด้วยป่าไม้ และถนนที่เต็มไปด้วยรถยนต์ พวกเราใช้เวลาในการตามหามันนานถึง 2 คืนแต่ก็ยังไร้วี่แวว ทำให้พวกเราเป็นห่วงมันมาก” คุณ Ryk เล่า คุณ Ryk ทำทุกวิถีทางในการตามหาเจ้า Cleo ทั้งออกตามหาด้วยตัวเองและโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ค แต่ก็ไม่มีใครพบร่องรอยของมันเลย วันต่อมา Carol Raabus เพื่อนร่วมงานของคุณ Ryk ที่ทำงานอยู่ที่สถานีวิทยุ ABC Radio Hobart Breakfast ด้วยกัน ได้เดินทางไปทำงานเช้ากว่าปกติและก็พบว่ามีหมาตัวหนึ่งมานอนอยู่ที่สวนหน้าสตูดิโอ เขาจึงรีบโทรหาคุณ Ryk อย่างรวดเร็วเพื่อบอกว่าเจอตัวของเจ้า…
-
นักชีววิทยาเผยความลับของ ‘ต้นสนเผือก’ มีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ไม่มีคลอโรฟิลล์!?
โดยปกติแล้วเราคงจะคิดกันว่าพืชทั้งหลายนั้นใช้คลอโรฟิลล์ที่ผลิตจากแสงอาทิตย์มาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พวกมันรอดชีวิต และจะเห็นได้ว่าพืชส่วนใหญ่นั้นจะมีสีเขียว เพราะมีคลอโรฟิลล์เป็นส่วนประกอบ ซึ่งถ้าหากพืชไม่สามารถที่จะผลิตคลอโรฟิลล์ได้ นั่นก็หมายถึงชีวิตที่ไม่อาจอยู่รอดได้อีกต่อไป แต่สำหรับเจ้าต้นสนที่มีชื่อว่า ‘Albino Redwoods’ (สนเผือก) หรือที่รู้จักกันในชื่อต้นสน Redwood Chimeras ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติ Humboldt Redwoods State Park รัฐแคลิฟอร์เนีย กลับมีแต่ใบสีขาว!? ต้นสน Redwood ขนาดใหญ่ในอุทยาน บางต้นก็จะมีใบสีเขียวและสีขาวปะปนกันไปอย่างละครึ่ง ซึ่งจริงๆ ส่วนที่มีสีขาวมันควรจะตายไปแล้ว แต่กลับยังมีชีวิตอยู่และเติบโตต่อไปได้เรื่อยๆ ความลึกลับซับซ้อนของต้นสน Albino Redwood นั้นได้สร้างความสับสนงงงวย และเป็นปริศนาที่ท้าทายเหล่านักวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก จนในที่สุด Zane Moore นักชีววิทยารุ่นเยาว์ก็ได้ตัดสินใจที่จะเข้ามาศึกษาอย่างจริงจังว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่ทำให้เจ้า Albino Redwood ยังมีชีวิตอยู่ได้แม้ไม่มีคลอโรฟิลล์นั้นเป็นเพราะเรื่องราวลึกลับ หรือเพราะกลไกทางธรรมชาติกันแน่!? ย้อนกลับไปเมื่อปี 2008 เป็นครั้งแรกที่ Moore ได้ยินข่าวของต้นสนเผือกที่ถูกพบอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Humboldt Redwoods State Park ผ่านทางคลื่นวิทยุ เป็นสิ่งที่จุดประกายความสนใจของเขาตั้งแต่นั้นมา เขาก็เลยรีบเดินทางไปที่อุทยานเพื่อชมให้เห็นกับตาของตัวเอง จากการช่วยเหลือของนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ก็ทำให้ทราบว่ามีต้นสนเผือกทั้งหมด 411…
-
เกาหลีเหนือปล่อยตัวนักศึกษาอเมริกันกลับประเทศ หลังจากที่มีอาการป่วยเข้าขั้น ‘โคม่า’
เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา หลายคนน่าจะเคยได้ยินคดีที่เด็กนักเรียนชาวอเมริกันถูกจับกุมตัวในประเทศเกาหลีเหนือหลังจากที่เขาเดินทางไปท่องเที่ยวกับคณะทัวร์ ทว่ากลับมีเขาเพียงคนเดียวที่ถูกต้องเป็นผู้ต้องสงสัยและดำเนินคดี Otto Warmbier นักศึกษาชาวอเมริกันวัย 22 ปี ผู้ถูกทางการเกาหลีตั้งข้อหาว่าเป็นภัยต่อประเทศชาติ โดยการขโมยโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง เลยทำให้เขาถูกตัดสินให้จำคุกที่เกาหลีเหนือเป็นเวลา 15 ปี!! . แต่ว่าล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2017 ทางการเกาหลีเหนือได้ประกาศปล่อยตัว Otto กลับสู่แผ่นดินแม่ผ่านเครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากรายงานบอกว่าเขาป่วยเข้าขั้นโคม่าจากอาหารเป็นพิษ ซึ่งเป็นอาการป่วยเรื้อรังเรื่อยมานับตั้งแต่หลังจากเข้าตัดสินคดีในปี 2016 ทำให้ทางการเกาหลีไม่อยากดูแลเขาต่อไป จึงต้องปล่อยตัวกลับสู่ประเทศแม่ ทางด้าน Fred และ Cindy Warmbier ผู้เป็นพ่อและแม่ของผู้ต้องหากล่าวว่า “พวกเราอยากให้โลกรู้ว่าลูกชายของเราถูกทำร้ายและข่มเหงยังไงโดยระบอบเผด็จการของประเทศเกาหลีเหนือ พวกเราดีใจเป็นอย่างมากที่เขาได้กลับมาสู่อ้อมกอดของเหล่าคนที่รักเขาเสียที” Fred และ Cindy Warmbier ผู้เป็นพ่อแม่ของ Otto Warmbier นอกจากนี้ Heather Nauter โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาพูดถึงการกลับมาของ Otto ว่า พวกเขาดีใจที่ Otto ได้กลับมายังประเทศบ้านเกิดของเขา และจะได้เจอกับครอบครัวของตนอีกครั้งหนึ่ง ทว่าในเรื่องของอาการนั้น Heather…
-
นกแร้งเข้าโผกอดมนุษย์ ที่เคยช่วยชีวิตตั้งแต่วัยเด็ก ก่อเกิดเป็นมิตรภาพที่ไม่อาจลืมเลือน…
ปกติเราจะเห็นหมาหรือแมวที่มีความกตัญญูต่อผู้ช่วยชีวิต แต่วันนี้ #เหมียวขี้ส่อง จะพาไปดูความกตัญญูของนกที่มีต่อมนุษย์ อันเป็นภาพที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยเสียเท่าไหร่นัก Edgardo ได้ช่วยนกแร้งตัวหนึ่งที่ตกลงมาจากรังตอนที่มันยังเด็ก อีกทั้งเขายังช่วยสอนให้มันรู้จักกับวิธีการบิน จนกระทั่งมันโตเต็มที่และได้กลับไปใช้ชีวิตในธรรมชาติของมันอีกครั้ง แม้ว่ามันจะกลับไปใช้ชีวิตตามธรรมชาติแล้ว แต่มันก็ไม่เคยลืมเลยว่า Edgardo เป็นผู้ช่วยชีวิตมันเอาไว้ ดังนั้นทุกครั้งที่มันคิดถึงมันก็จะบินกลับมาหาเขาอยู่เสมอ โมเม้นต์ที่นกแร้งกลับมาหา Edgardo นั้น ถูกบันทึกวิดีโอเอาไว้ โดยในคลิปจะเห็นเจ้านกแสนรู้เดินมาหามนุษย์ผู้ช่วยชีวิต พร้อมกางปีกกว้างทั้งสอง เพื่อเตรียมพร้อมกับการกอดอันแสนอบอุ่น Edgardo ก้มลงไปกอดแล้วพูดกันมันว่า “เป็นไง สบายดีมั้ย ทำไมน่ารักขนาดนี้ ห๊ะ” แล้วทั้งคู่ก็กอดกันด้วยความคิดถึง เหมือนดั่งเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันมานาน ลูกพี่ลูกน้องของชายผู้ช่วยชีวิตนกได้แชร์เรื่องนี้ในเฟสบุ๊คแล้วบอกว่าตอนที่ Edgardo เห็นลูกนกตกมาจากรังเขารู้สึกสงสารมัน ก็เลยพากลับมาเลี้ยงที่บ้าน แล้วมิตรภาพของทั้งคู่ก็เริ่มขึ้นตั้งแต่นั้นมา พวกเขาอาจจะมีรูปร่างที่ต่างกัน คุยกันคนละภาษา แต่เพราะมิตรภาพและสิ่งดีๆ ที่เคยแบ่งปันให้กัน ทำให้เกิดความเข้าใจจากการกอดเบาๆ และนี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่ารัก ที่ทำให้รู้ว่าการช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตนั้น มักได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าเสมอ ซึ่งมันอาจจะมองไม่เห็นด้วยตาแต่สัมผัสได้ด้วยใจ ที่มา dailymail
-
คุณตาวัย 98 ปี เศรษฐีที่ไม่มีใครรู้จัก จนกระทั่งเขาบริจาคเงินกว่า 67 ล้านเพื่อปกป้องธรรมชาติ!!
คนเรานั้นจะตัดสินกันแค่ภายนอกไม่ได้จริงๆ เพราะสำหรับคนแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกกับสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใน อาจจะเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกันเลยก็ได้ อย่างเช่น Russ Gremel คุณตาวัย 98 ปี ที่ใช้ชีวิตอันเรียบง่ายและดูเหมือนคนแก่ที่ใช้ชีวิตบั้นปลายเหมือนคนธรรมดาทั่วไป จึงไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นเศรษฐีผู้มั่งคั่งคนหนึ่ง จนกระทั่งไม่นานมานี้คุณตาได้ทำการบริจาคเงินกว่า 67 ล้านบาท (2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ให้กับองค์กร Gremel Wildlife Sanctuary เพื่อช่วยเหลือการอนุรักษ์ป่าชายเลนกว่า 900 ไร่ในเมือง Amboy รัฐอิลลินอยส์ คุณตาบอกว่า “ผมเป็นคนที่เรียบง่ายมาก และไม่เคยบอกใครเลยว่าผมมีเงินมากมายขนาดไหน” สำหรับชีวิตในวัยเด็กนั้น คุณตา Gremel โตมากับครอบครัวที่มีฐานะยากจนและสูญเสียแทบทุกสิ่ง เนื่องจากทางครอบครัวประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจในปี 1929 ตั้งแต่นั้นมาเขาจึงเรียนรู้ที่จะมีความสุขกับสิ่งที่มี และเมื่อประมาณ 70 ปีที่แล้ว คุณตาได้ซื้อหุ้นร้านยาของเครือ Walgreens ราวๆ 34,000 บาท เพราะพี่ชายเป็นคนแนะนำว่ายาเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้คน ดังนั้นการลงทุนเกี่ยวกับยาจึงเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามาก แล้วก็เป็นอย่างที่พี่ชายพูดจริงๆ เพราะหลังจากที่เขาซื้อหุ้นร้านยาแล้ว Walgreens ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สร้างรายได้กว่า…
-
เปิดชุดภาพสี ตำนานสไนเปอร์สาวแห่งรัสเซีย และ ‘Lady Death’ ผู้ปลิดชีพนาซี 309 ราย!!
ถ้าพูดถึงมือสไนเปอร์สาวผู้ได้สมญานามว่า Lady Death เราก็คงจะคุ้นหูกันอยู่บ้าง ชื่อจริงของเธอคือ Lyudmila Pavlichenko มือสไปเปอร์สาวจากรัสเซียผุู้มีสถิติในการปลิดชีพทหารนาซีไปเป็นจำนวนมากและอยู่อันดับต้นๆ ของโลก แต่ถ้าพูดถึงภาพของเธอแล้ว ในยุคนั้นก็คงจะมีแค่เพียงภาพขาวดำ แถมมือสไนเปอร์ในสงครามโลกก็ไม่ได้มีเธอคนเดียวด้วย วันนี้แหละเราจะมาดูภาพสีของเหล่ามือสไนเปอร์สาวแห่งกองทัพรัสเซีย ที่เป็นส่วนหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่ 2 กัน… ในส่วนของผลงานภาพสีของมือสไนเปอร์สาวจากรัสเซียนี้ ถูกจัดทำขึ้นโดย Olga Shirnina ศิลปินจากกรุงมอสโก ซึ่งเธอเล่าว่าภาพสีของทหารเหล่านี้มีน้อยมากๆ เธอจึงตัดสินใจทำกระบวนการเพิ่มสีใส่ชีวิตชีวาลงไป นอกเหนือจากนั้นจะทำให้ภาพสามารถเล่าเรื่องราวต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น… เกริ่นกันมาขนาดนี้แล้ว เอาเป็นว่าเราลองมาดูกันเลยดีกว่า Roza Shanina คือหนึ่งในทหารหญิงจากจำนวน 800,000 คนที่เข้าร่วมต่อสู้ในรัสเซีย Lyuba Makarova ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่สอง ดูหน้าตาของเธอแล้วคงพอจะเดาได้ว่าเป็นคนจริงจังแค่ไหน Lyudmila Pavlichenko มือสไนเปอร์ที่เก่งกาจ กับรอยยิ้มภายใต้เครื่องแบบของเธอ อีกภาพของ Roza Shanina มือสไนเปอร์สาว โดยเธอทำสถิติจัดการไปทั้งหมด 59 ศพ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2…
-
เด็กหญิง 5 ขวบ สร้างผลงานศิลปะกาแล็คซี่สุดงาม ขายได้นับร้อยชิ้น เอาเงินเข้าการกุศลหมด!!
เราต่างเกิดมาพร้อมพรสวรรค์และความสามารถที่แตกต่างกัน แต่สิ่งเหล่านั้นจะถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กันการเรียนรู้และฝึกฝนด้วย เหมือนกับ Cassie เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ที่ค้นพบว่าตัวเองรักงานศิลปะ เธอจึงเรียนรู้และฝึกฝนมาเรื่อยๆ จนตอนนี้เธอกลายเป็นศิลปินตัวน้อยที่ฝีมือไม่ธรรมดาเลย Cassie รักการวาดรูปมาตั้งแต่เด็กๆ และเธอก็ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาตัวเองเลย ที่สำคัญเด็กหญิงมีความสุขทุกครั้งที่ได้ใช้เวลากับการวาดรูป แม้จะอายุแค่ 5 ขวบ แต่เธอก็มีผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง นั่นคือการทาสีเป็นลวดลายกาแลคซี่ ที่ดูเหมือนจะง่าย แต่การจะทำให้ออกมาสวยงามเหมือนผลงานของ Cassie นั้นไม่ง่ายเลยนะ จากผลงานของเด็กหญิงจะเห็นว่าไม่ใช่แค่การทาหรือเทสี แต่มีบางภาพที่มีลวดลายซับซ้อน นั่นเป็นเพราะเธอใช้ส้อมหรือหมุดสร้างลวดลายเหล่านั้น นอกจากนี้เธอยังใช้กากเพชรเพื่อทำให้ภาพดูแวววาวเหมือนกาแลคซี่จริงๆ ด้วย ส่วนผลงานที่มีขนาดใหญที่สุดของเธอคือ 48 x 36 นิ้ว ถือว่าไม่น้อยเลยนะ สำหรับเด็กตัวเล็กแค่นี้ ปัจจุบันเด็กหญิงขายผลงานได้มากกว่า 100 ชิ้นแล้ว และเธอก็เลือกที่จะนำรายได้เหล่านั้นบริจาคให้กับองค์กรการกุศลต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้คนทั่วโลก Cassie ทำให้เราเห็นว่า เด็กทำอะไรได้มากกว่าที่คิด ขอแค่ปล่อยให้พวกเขาได้ทำในสิ่งที่รัก และคอยสนับสนุนอย่างเต็มที่ . . . . . .…
-
เผยโฉม ‘Night Sky Petunias’ ดอกไม้แห่งกาแลคซี่ ความงามแห่งจักรวาลที่อยู่ใกล้ตัว
บนโลกเรานี้เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด มีทั้งดอกที่มีกลิ่นหอม ดอกรูปร่างแปลกๆ และดอกที่มีสีสันสวยงาม แต่ไม่ว่ามันจะเป็นดอกไม้ชนิดไหน ก็จะมีความงดงามในรูปแบบเฉพาะตัวของมันเสมอ เช่นเดียวกับดอก Night Sky Petunias ที่มีลวดลายเหมือนกาแลคซี่ และเมื่อมันมาอยู่รวมกันแล้ว ราวกับว่ายกจักรวาลมาอยู่ข้างๆ เรายังไงอย่างงั้น Night Sky Petunias เป็นสายพันธุ์หนึ่งของดอกไม้ตระกูล Petunia เป็นดอกที่มีสีม่วงเข้ม ซึ่งมีความโดดเด่นด้วยลวดลายบนกลีบดอกที่ไม่เหมือนใคร ลวดลายกาแลคซี่บนกลีบดอกนั้นเป็นผลมาจากความแปรปรวนของอุณหภูมิในตอนกลางวันและกลางคืน ดังนั้นหากใครจะปลูกดอกไม้ชนิดนี้ ควรให้มันอยู่สภาพอากาศที่อบอุ่นในช่วงกลางวันประมาณ 38 องศาเซลเซียส และความเย็นในเวลากลางคืนประมาณ 10 องศาเซลเซียส หากคุณดูแลมันในอุณหภูมิที่เหมาะสมแล้ว เมื่อถึงเวลาที่ดอก Night Sky Petunias บานสะพรั่งมันจะสวยงามมากๆ เพราะมันจะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ท่ามกลางกาแลคซี่เลยล่ะ สำหรับใครที่ต้องการยกกาแลคซี่มาไว้ในบ้าน สามารถซื้อเมล็ดดอก Night Sky Petunias ได้ที่เว็บไซต์ Amazon นะคะ หมั่นดูแลให้ดีๆ แล้วผลตอบที่ได้รับกลับมันจะคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ . . . . . . .…
-
เทรนด์แปลกๆ เมื่อนักธุรกิจจีนหันมาจ้างหน้าม้า “ฝรั่ง” เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ธุรกิจ!?
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาในประเทศจีนมีเศรษฐกิจด้านนิคมอุตสาหกรรม และบ้านจัดสรรผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด และสิ่งหนึ่งที่กลุ่มนักลงทุน (เจ้าของกิจการ) มักจะทำเพื่อสร้างมูลค่า และเพื่อให้บริษัทดูมีความอินเตอร์เนชั่นแนลก็คือการจ้างฝรั่งเข้ามามีส่วนในภาคธุรกิจ เทรนด์ดังกล่าวกลายเป็นที่นิยมอย่างสูงในสังคมจีน ไม่ว่าจะเป็นการจ้างชาวต่างชาติมาเป็นพนักงานต้อนรับ จ้างมาเป็นเลขาฯ ส่วนตัว หรือแม้แต่จ้างมาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เดินทางมาเปิดงานแบบปลอมๆ!? เรียกได้ว่าชาวตะวันตกหลายๆ คนที่อาศัยอยู่ในประเทศจีนระยะยาว ต่างก็เคยสัมผัสงานนี้กันมาแล้วทั้งนั้น David Borenstein หนุ่มชาวตะวันตกผู้ใช้ชีวิตอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ และคร่ำวอดในการเป็นหน้าม้ามาแล้วหลายอีเว้นท์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ทุกอย่างมันง่ายครับ เราแค่ติดต่อบริษัทเอเจนซี่และเมื่อไหร่ที่มีงานพวกเขาก็จะโยนมาให้เรา หน้าที่ก็ไม่มีอะไรมากพวกเขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าคุณเป็นใคร มาจากไหน หรือจบการศึกษาไหนมา พวกเขาสนแค่รูปพรรณสัณฐาน เราแค่ทำตัวให้ดูน่าเชื่อถือเหมือนกับว่าเป็นนักธุรกิจจากต่างชาติจริงๆ” เบื้องหน้าพวกเขาต้องสวมบทบาทเป็นนักธุรกิจ นักลงทุน ผู้เชี่ยวชาญ หรือหุ้นส่วนบริษัทจากต่างประเทศ เพื่อให้บริษัทนั้นๆ ดูดีมีความน่าเชื่อถือ Li Bonchuan นักวิจัยด้านวัฒนธรรมได้ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า กระแสดังกล่าวสามารถสะท้อนถึงความไม่มั่นใจในอัตลักษณ์ตนเองของชาวจีน บวกกับโฆษณาชวนเชื่อที่ได้รับมาจากชาติตะวันตก ทำให้เทรนด์ดังกล่าวได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ในโลกของธุรกิจเท่านั้นที่มีการจ้างชาวตะวันตกมาเป็นหน้าม้า เพราะในกลุ่มวัยรุ่นชาวจีนที่ครอบครัวร่ำรวยก็มักจะว่าจ้างชาวต่างชาติวัยใกล้เคียงกันให้ไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนร่วมก๊วน เพื่อให้ตัวเองดูโก้เก๋กว่าคนอื่นๆ ภาพจากรายของเว็บไซต์ VICE เผยให้เห็นถึงชาวต่างชาติที่ไปรับหน้าที่เป็นเพื่อนนั่งดื่มให้กับวัยรุ่นชาวจีน Jonathan Zatkin ชาวอเมริกันผู้อาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่งมานหลายปี ได้เปิดเผยข้อมูลกับสื่อ CNN…
-
หมู่บ้านเล็กๆ ในอิตาลีหันมาใช้ศิลปะ เพื่อแก้ไขปัญหาประชากรที่ลดลง ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง!!
เมื่อหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในอิตาลีที่อยู่ดีๆ จำนวนประชากกร 1 ใน 7 ได้ออกจากเมืองไปแสวงหาความเจริญที่มากกว่า ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ต้องประสบกับปัญหาประชากรลดน้อยลงเรื่อย พวกเขาจึงต้องหาทางออกเพื่อฟื้นฟูหมู่บ้านให้ได้ และทางออกที่ว่านั่นก็คือ “ศิลปะ” Civitacampomarano คือ 1 ใน 3 หมู่บ้านของอิตาลีที่ประสบปัญหาประชากรลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2014 ทำให้ Ylenia Carelli หัวหน้าองค์กรทางวัฒนธรรมของหมู่บ้าน ต้องหาทางออกเพื่อช่วยเหลือหมู่บ้านของเธอให้ได้ จนเธอได้เห็น Alice Pasquini ศิลปินสตรีทอาร์ทให้สัมภาษณ์ทางทีวี แล้วเธอก็เกิดไอเดียส่งอีเมลไปขอให้ศิลปินคนดังกล่าวมาช่วยฟื้นฟูหมู่บ้านทันที หมู่บ้าน Civitacampomarano ที่แทบจะไม่เหลือคนรุ่นใหม่อยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนแก่หรือไม่ก็เด็ก แต่ด้วยประชากรเพียงแค่ 400 คน Ylenia จึงคาดว่าคงมีโอกาสเพียงน้อยนิดที่จะมีศิลปินจะยื่นมือเข้ามาช่วยหมู่บ้านเล็กๆ ของเธอ แต่แล้วเรื่องกลับผิดคาดเพราะว่า Alice ตอบกลับมาและเธอไม่ได้แค่จะมาเยี่ยมเยียนเมืองเท่านั้น เธอจะมาสร้างงานศิลปะให้กับที่นี่เลย!! Alice บอกว่าคุณปู่วัย 100 ปีของเธอเป็นคนที่มาจากหมู่บ้านแห่งนี้ ฉะนั้นแล้วเธอจึงรู้สึกยินดีที่จะเข้ามาช่วยเหลือ บวกเข้ากับ CVTà Street Fest ซึ่งเป็นองค์กรที่ Alice ร่วมสร้างขึ้นมาก็จะเข้ามาช่วยเหลือเมืองหมู่บ้านแห่งนี้เช่นกัน Alice Pasquini…
-
ประมวลเหตุการณ์ “เพลิงไหม้” ตึกอพาร์ตเมนต์สูง จากตะวันตกของลอนดอน
เมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาของอังกฤษ ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่ Grenfell Tower ที่ตั้งอยู่บนถนน Latimer ในเวสท์ลอนดอน จากการรายงานของข่าวเผยว่า เหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังต้องใช้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมากกว่า 200 ชีวิต กว่าที่จะควบคุมไฟได้ และทั้งหมดนี้คือภาพจากเว็บไซต์ Dailymail ที่นำมาให้เราได้ชมกัน มีการรายงานว่า ผู้พักอาศัยบนชั้นสูงๆ ถึงกับต้องเอาผ้าปูที่นอนหรือเสื้อผ้ามามัดต่อกันเป็นเชือก จากนั้นก็โรยตัวลงมาเพื่อหนีเอาชีวิตรอด อีกทั้งชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็ให้สัมภาษณ์ว่า กลิ่นควันไหม้นั้นเหม็นมาก และตึกทั้งตึกก็ถูกไฟเผาในเพียงไม่กี่นาที มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เช่นบางคนได้รับควันพิษเข้าไปในปอดมากเกินไป ไฟเริ่มลุกจากชั้นสามก่อนจะลามไปทั่วทั้งตึกเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น เหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต้องใช้รถดับเพลิงมากกว่า 40 คัน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีกกว่า 200 ชีวิต ชาวบ้านหลายคนต้องหนีออกมาทั้งที่ใส่ชุดนอนอยู่ และพวกเขาต้องคอยระวังว่าตึกจะถล่มลงมาหรือไม่ ถึงแม้ว่ามีชาวบ้านในละแวกนั้นหลายคนต้องการจะเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ แต่พวกเขาต้องถูกปฏิเสธ เพราะอาจเกิดความเสี่ยงต่อชีวิตตามมาได้ . ภาพของผู้เคราะห์ร้ายที่ติดอยู่ในตึก และกำลังพยายามที่จะปีนหนีออกมาจากทางระเบียง ถึงกระนั้นก็ยังมีประชาชนอีกหลายชีวิตที่ไม่สามารถออกมาได้ และเจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ ชายคนหนึ่งผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดเล่าว่า “มันเต็มไปด้วยความตื่นกลัว…
-
2 พี่น้องกักขังทำร้ายร่างกายแม่กับพี่สาว และบังคับให้พวกเธอเป็นทาสนานถึง 18 เดือน!!
ข่าวน่าสลดใจนี้ขึ้นที่ประเทศอังกฤษ เมื่อสองพี่น้องนาย Faisal Hussein วัย 25 ปีและนาย Arbaaz Ahme วัย 19 ปี ได้กักขังแม่และพี่สาววัย 30 ปีของพวกเขา และกระทำการทารุณพวกเธอโดยการเฆี่ยนด้วยเข็มขัด อีกทั้งยังบังคับให้ทั้งคู่ได้อาบน้ำในปริมาณน้ำที่น้อยมาก ด้วยน้ำแค่ 1 ถังเล็กๆ นอกจากจะถูกทารุณต่างๆ เธอทั้งคู่ต้องทนอยู่กับความหวาดกลัวนานถึง 18 เดือนและได้รับเงินสำหรับซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นเพียงแค่เดือนละ 1 ปอนด์หรือประมาณ 43 บาทเท่านั้น ย่าน Bradford อันเป็นสถานที่สองพี่น้องทำการกักขังแม่และพี่สาวของพวกเขาไว้ ทางด้านผู้พิพากจากศาล Bradford Crown Court ได้บอกว่าการกระทำดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำที่โหดร้ายเหมือนกับไม่ใช่การกระทำของมนุษย์ สองพี่น้องใช้ทั้งหัวเข็มขัด ไม้ และร้องเท้าในการทุบตีพี่สาวของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ทั้งคู่ให้การว่าแม่และพี่สาวของพวกเขาคือทาส และการทำร้ายพวกเธอนั้นก็คือการลงโทษ พวกเขายอมรับว่าทำร้ายร่างกายและข่มขู่บีบบังคับพี่สาวกับคุณแม่ มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปี 2016 จนกระทั่งถูกจับได้เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมปี 2017 ที่ผ่านมา พี่สาวในการกับศาลว่า วันหนึ่งก่อนที่เธอจะถูกช่วยเหลือ…
-
ครูสาวมะกันถูกจับกุม ในข้อหาพรากผู้เยาว์ลูกศิษย์ตัวเองถึง 3 คน ชาวเน็ตอึ้งในความแซ่บ!!
เรื่องราวสุดฉาวในสื่ออเมริกา เมื่อคุณครูสาวท่านหนึ่งถูกตำรวจเข้าจับกุมข้อหามีเซ็กส์กับเด็กนักเรียนของตัวเอง แถมนักเรียนทั้งหมดก็ยังเป็นผู้เยาว์ทั้งหมดด้วย!! Erin McAuliffe คุณครูสาววัย 25 จากโรงเรียน Rocky Mount Prepatory ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ถูกจับกุมข้อหาแอบมีเซ็กส์กับนักเรียนชายวัย 16 ปี และวัย 17 ปีอีกสองคน ซึ่งถือเป็นข้อประพฤติที่ผิดต่อการเป็นครูด้วย ทว่าก่อนที่จะจับตัวคุณครูสาว เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นก็ได้ทำการสอบปากคำคุณครูคนอื่นๆ รวมถึงนักเรียนกว่า 1,300 คน เพื่อสอบถามถึงข้อมูลต่างๆ Erin ถูกฝากขังไว้ที่เรือนจำ Carteret County ภายหลังได้รับการประกันตัวด้วยเงินจำนวนประมาณ 680,000 บาท ก่อนจะถูกนำตัวไปขึ้นศาลในวันที่ 12 มิถุนายน 2017 เป็นระยะเวลาสองวัน ทว่าแม้เธอจะถูกจับในข้อหาดังกล่าว แต่จริงๆ แล้วเธอถูกทางโรงเรียนจับได้และไล่ออกไปตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2017 ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งวันก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รับแจ้งจากทางโรงเรียน ในส่วนของข้อมูลของคุณครูสาว เธอเรียนจบจาก Methodist University ทางด้านคณิตศาสตร์เมื่อปี 2014 แถมพึ่งจะเข้ามาเป็นครูเมื่อปี…
-
วินาทีสุดระทึก… เมื่อกล้องหน้ารถบัส จับภาพเหตุการณ์ ‘รถบินข้ามเลน’ พุ่งเข้าชนอย่างจัง!!
สำนักข่าวจากฝั่งญี่ปุ่นได้รายงานเหตุการณ์สุดระทึกเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์อุบัติเหตุของรถยนต์ที่ขับมาด้วยความเร็วสูง จนกลายเป็นเหตุระทึกขวัญในแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก!! เหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนเมืองโทะโยะกะวะ ในจังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น โดยรสบัสที่จับภาพได้นั้นเป็นรสบัสของขบวนนำเที่ยวที่กำลังเดินทางไปจังหวัดยะมะนะชิ แต่แล้วอยู่ดีๆ ก็มีรถยนต์คันนึงขับมาด้วยความเร็วสูง จนบินพุ่งทะยานข้ามเลนมาชนเข้ากับหน้ารสบัสคันดังกล่าวเข้าอย่างจัง จากอุบัติเหตุในครั้งนี้ สร้างความเสียหายให้กับรถบัสอย่างหนัก แต่โชคยังดีที่ไม่มีผู้ใดในรถเสียชีวิตรวมถึงทั้งไกด์และคนขับที่อยู่ในส่วนหน้าของรถ ผู้โดยสารทั้งหมด 47 คน มีเพียง 6 คนเท่านั้นที่ได้รับความเสียหายจากกระดูกหัก ส่วน 39 คนที่เหลือได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ทางด้านของเจ้าของรถที่พุ่งเข้ามา ทางตำรวจได้ยืนยันแล้วว่าเขาเป็นคุณหมอวัย 62 ปี ซึ่งเขาไม่รอดจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ในส่วนของรถบัสนั้นถือว่าเป็นเรื่องปาฏิหาริย์มากๆ เพราะตัวคนขับรวมถึงไกด์ที่นั่งอยู่ติดหน้าต่างยังรอดมาได้ เมื่อดูมุมกล้องจากด้านในตัวรถบัสแล้ว จะเห็นได้ว่าคนขับมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาพยายามหักหลบรถที่พุ่งเข้ามา รวมถึงโชคดีที่รถที่พุ่งเข้ามาลอยสูงพอสมควรจนเกือบจะชนส่วนหลังคาอย่างเดียวแล้วด้วยซ้ำ ทางด้านชาวเน็ตที่ได้ดูเหตุการณ์ต่างก็พอกันชื่นชมคนขับรถบัสว่าเขาเก่งมากๆ ที่สามารถควบคุมตัวรถได้แม้ในวินาทีชีวิตแบบนี้ ที่สำคัญยังช่วยให้ทุกคนรอดตายมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ สุดท้ายทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังต้องตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ รวมถึงสาเหตุที่รถยนต์สามารถพุ่งข้ามเลนมาถึงขนาดนี้ได้ และพวกเขาก็ยังต้องตามหาทางออกเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกในครั้งหน้า ด้านสภาพของรถที่พุ่งเข้ามาชนนั้น ตัวรถเละไม่เป็นชิ้นดี ที่สำคัญตัวรถยังคงติดอยู่กับรถบัสด้วย ที่มา rocketnews24
-
อย่าริอาจเป็นโจร… ช่างสักจัดคำว่า “ผมเป็นโจร” ลงบนหน้าผากหัวขโมยเด็ก เพื่อเป็นการลงโทษ!!
เหตุการณ์สุดฉาวจนเกลายเป็นเรื่องน่าสงสัยว่ามันถูกหรือผิดกันแน่? เมื่อมีคลิปเหตุการณ์ช่างสักได้จัดการสักคำว่า “ผมเป็นโจร” ลงบนหน้าผากหัวขโมยเพื่อย้ำเตือนให้โจรคนดังกล่าวไม่ทำซ้ำเป็นครั้งที่สอง… สำนักข่าวบลาซิลได้รายงานว่า Maycon Wesley ช่างสักผู้เป็นคนลงมือในคลิปดังกล่าวว่า เขาได้จับโจรเด็กที่พยายามจะขโมยรถมอเตอร์ไซค์จากชายขาด้วนมาลงโทษ ด้วยการสักคำว่า Eu sou ladrão e vacilão (แปลว่า ผมเป็นโจรและไอ้ขี้แพ้) ลงบนหน้าผากโจรเด็กคนดังกล่าว และหลังจากที่เขาสักให้เด็กชายเสร็จ Maycon ก็ได้ถามกับโจรเด็กว่าอายไหมที่มีรอยสักแบบนี้อยู่บนหน้าผาก… สื่อในท้องถื่นยังรายงานว่า โจรเด็กคนดังกล่าวมีท่าทีหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ในขณะที่ถูกสักลงบนหน้าผากของเขา และหลังจากเรื่องดังกล่าวเด็กชายก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร้องรอย เมื่อคลิปเหตุการณ์ได้ถูกเผยแพร่ออกไปจนญาติของเด็กชายเห็นเข้า ก็ได้ทำการแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ตามจับกุมช่างสักคนดังกล่าว Maycon และเพื่อนของเขา Ronildo Moreira de Araujo ผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้ถูกตำรวจจับ และถูกตั้งข้อหากระทำการทารุณกับเด็กชาย และเมื่อตำรวจได้สอบปากคำของทั้งสองว่าเด็กชายหายไปไหน พวกเขาก็เล่าว่าหลังจากที่เขาจัดการสักให้กับเด็กชายแล้ว พวกเขาก็ปล่อยตัวไปตามปกติ ส่วนเรื่องที่เขาหายไปไหนทั้งคู่ก็ไม่รู้เช่นกัน… คลิปเหตุการณ์ขณะที่ Maycon และเพื่อนกำลังสักให้โจรเด็ก แม้ว่าเด็กชายจะพยายามขโมยของจากคนพิการ แต่การกระทำของช่างสักก็ถือว่ารุนแรงเช่นกัน เพื่อนๆ มีความคิดเห็นยังไงก็ลองเอามาแชร์กันได้นะ… ที่มา dailymail
-
โหดอีกขั้น… รัฐในอเมริกาเริ่มขึ้นรายชื่อ “ผู้กระทำความรุนแรงกับสัตว์” เพื่อแจ้งให้คนอื่นได้ทราบ
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีกฎหมายที่ออกมาคุ้มครองสัตว์มากมาย แต่นี่ก็ไม่สามรถที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากพอ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทางการรัฐในหลายแห่งของประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มมีมาตรการที่จัดทำ “ทะเบียนรายชื่อผู้กระทำความผิดต่อสัตว์” เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาการทารุณกรรมสัตว์ลงได้ ซึ่งรัฐแรกที่เริ่มกระบวนการการลงทะเบียนดังกล่าวไปแล้ว ก็คือรัฐเทนเนสซีตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2016 หลังจากนั้นจึงเริ่มใช้ในพื้นที่เล็ก ๆ ในรัฐนิวยอร์กและพื้นที่อื่นๆ ในรัฐอิลลินอยส์ โดยการขึ้นทะเบียนนี้ จะทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลพื้นฐานของผู้กระทำผิด ทั้งชื่อ ที่อยู่ รวมไปถึงความผิดที่เคยกระทำต่อสัตว์ ซึ่งจะช่วยให้ข้อมูลที่สำคัญแก่ผู้ค้นหาได้ และในเดือนกันยายนของปีที่แล้ว เมือง Tampa ในรัฐฟลอริดา ก็ได้เข้าร่วมกับฐานข้อมูลของทะเบียนนี้แล้ว ซึ่งในปัจจุบันดูเหมือนว่าจะมีอีกหลายเมืองในอเมริกา กำลังวางแผนจะใช้ฐานข้อมูลทะเบียนนี้เช่นเดียวกัน “ทะเบียนนี้ไม่เพียงช่วยปกป้องสัตว์ แต่สามารถที่จะระบุและอาจป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงต่อสัตว์ รวมไปถึงมนุษย์เช่นกัน” Kevin Beckner ผู้บัญชาการมณฑล Hillsborough เขตฟลอริดากล่าว หลังจากที่เมือง Tampa เห็นชอบกฎหมายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และด้วยไอเดียแบบนี้จึงทำให้ประชาชนในสหราชอาณาจักรเริ่มลงรายชื่อเพื่อนำระบบทะเบียนนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งมีรูปแบบที่ไม่ต่างกับทะเบียนผู้ล่วงละเมิดหรือกระทำผิดทางเพศ หากระบบทะเบียนนี้ได้นำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ก็จะทำให้การทำงานของตำรวจและการตรวจสอบจากประชาชน เกี่ยวกับผู้กระทำความผิดในเรื่องการทารุณกรรมสัตว์นั้น สามารถที่จะทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ข้อดีของระบบทะเบียนนี้คือนอกจากการบันทึกข้อมูลต่างๆ แล้ว ยังสามารถที่จะกรอกสถานะของผู้กระทำผิดด้วยว่าเป็นโรคจิตเภทหรือบุคคลธรรมดาอีกด้วย ที่มา: independent , ladbible
-
ชายตาบอดมองเห็นภรรยาเป็นครั้งแรก ด้วยอุปกรณ์พิเศษ และจัดงานแต่งครบรอบ 15 ปีอีกครั้ง
สำหรับคนที่พิการทางสายตานั้น “การมองเห็น” ถือเป็นปัญหาหลักที่ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันนั้น กลายป็นความยากลำบากรวมไปถึงโอกาสพิเศษต่างๆ อีกด้วย สำหรับชายผู้พิการทางสายตาอย่าง Andrew Airey ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่พบกับปัญหาแบบนี้ทุกวัน แต่วันครบรอบแต่งงานปีที่ 15 ปีนี้จะเป็นอะไรที่พิเศษกว่าปีก่อนๆ เนื่องด้วยปัญหาทางสายตาจากโรค Stargardt โรคทางสายตาหายากที่ทำให้เขาสูญเสียการมองเห็นไป ทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นภรรยาแสนสวยของเขาได้ชัดเจนในวันแต่งงาน… . . เมื่อไม่นานมานี้ทางบริษัท eSight ซึ่งเป็นบริษัทที่ประดิษฐ์แว่นสำหรับผู้พิการทางสายตา ได้ช่วยให้ความฝันที่จะเห็นภรรยาของเขานั้นกลับมาเป็นจริงอีกครั้ง ด้วยการสวมแว่นที่ทางบริษัทได้ประดิษฐ์ขึ้น “ตอนนั้นผมแทบที่จะไม่เห็นอะไรเลย แต่ตอนนี้ผมเห็นเธอชัดขึ้น ผมรู้สึกตื้นตันมาก” เขากล่าว ภาพจากมุมมองของอุปกรณ์ . นอกจากเขาจะสามารถเห็นภรรยาของเขาได้แล้ว เขายังสามารถที่จะเห็นหน้าลูกๆ ของเขาได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิตของเขาต่อไป เขาสามารถมองเห็นลูกได้ชัดเจนอีกครั้ง ชมคลิปวิดิโอตัวเต็มได้ที่นี่ ก็เป็นเรื่องราวที่ดีอีกเรื่องหนึ่ง ที่สามารถเป็นกำลังใจให้เราได้นะ ที่มา: businessinsider
-
ผลข้างเคียงจากหัวใจของผู้เสพโคเคนนาน 15 ปี สามารถเต้นนอกร่างกายได้เกือบครึ่งชั่วโมง
อย่างที่รู้ๆ กันว่ายาเสพติดนั้นให้โทษกับร่างกายของเรา และหนึ่งในยาเสพติดที่ร้ายแรงและให้โทษมากที่สุดนั่นก็คือ “โคเคน” โคเคนเป็นยาเสพติดที่ออกกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อร่างกายอีกมากมาย รวมไปถึงอาจทำให้หัวใจวายเฉียบพลัน หรืออาจทำให้หลอดเลือดในสมองแตกได้ แต่เมื่อไม่นานนี้ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่น่าเหลือเชื่อคลิปหนึ่ง เมื่อหัวใจของผู้ป่วยที่เสพโคเคนมาอย่างต่อเนื่อง ยังคงสามารถทำงานได้ แม้จะไม่ได้อยู่ในร่างกายแล้วก็ตาม!! เพจ MEDspiration ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเพื่อแสดงให้เห็นถึง ผลข้างเคียงของการใช้สารเสพติดเป็นระยะเวลานาน และภายในคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นหัวใจของผู้ป่วยที่ใช้โคเคนติดต่อกันมาเป็นเวลานานถึง 15 ปี หัวใจของผู้ป่วยคนดังกล่าวมีขนาดใหญ่กว่าหัวใจของคนทั่วไปถึง 3 เท่า แต่สิ่งที่แปลกยิ่งกว่านั้นก็คือ หลังจากที่นำออกมาจากตัวผู้ป่วยแล้วหัวใจยังคงเต้นได้นานถึง 25 นาที!! ทาง MEDspiration ได้อธิบายว่า “ปกติแล้วหัวใจจะหยุดเต้นภายใน 60 วินาทีหลังจากที่ขาดเลือด แต่หัวใจที่เห็นนี้ไม่สามารถที่จะหยุดเต้นได้ บางทีอาจมาจากการปรับตัวของเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจหลังจากที่มีการใช้โคเคนติดต่อกันเป็นเวลานาน เนื่องจากโคเคนจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มสูงขึ้น และลดการไหลเวียนของเลือดเข้าสู่หัวใจ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าหัวใจที่เห็นนี้ขาดเลือดติดต่อกันเป็นเวลานาน และเริ่มที่จะชินกับสภาวะขาดออกซิเจน ดังนั้นเมื่ออยู่นอกร่างกายที่ไม่มีออกซิเจนมันจึงยังสามารถเต้นต่อได้อีกถึง 25 นาที ที่นี้คุณคงจะเห็นแล้วว่าร่างกายเรานั้นปรับตัวเพื่อให้เราสามารถอยู่รอดได้อย่างไร” เมื่อผงโคเคนเข้าสู่ร่างกายแล้วมันจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดจากนั้นจะวิ่งตรงไปยังเซลล์สมองของคุณในส่วนที่เรียกว่า Ventral Tegmental Area (VTA) จากนั้นร่างกายจะหลังสารโดพามีนออกมา ซึ่งจะเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิตและทำให้คุณรู้สึกมีความสุข อย่างไรก็ตามยังคงมีความเชื่อผิดๆ ที่ว่าโคเคนบริสุทธิ์นั้นจะส่งผลเสียกับร่างกายน้อยกว่า…
-
ห้องสมุดสาธารณะนิวยอร์คผุดไอเดียสุดเจ๋ง เปลี่ยนรถไฟใต้ดินเป็นห้องสมุดดิจิตอลเคลื่อนที่!!
การเดินทางภายในเมือง New York ด้วยรถไฟใต้ดินนั้นเป็นอะไรที่สะดวกสบายเพราะนอกจากที่จะมีความรวดเร็วแล้ว ยังมีหลากหลายเส้นทางที่สามารถพาเราไปได้หลากหลายพื้นที่ของเมืองด้วย และเมื่อไม่นานมานี้ทาง New York Public Library และ Metropolitan Transit Authority (MTA) ได้ร่วมมือกันเพื่อเปลี่ยนโฉมการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินธรรมดาให้กลายเป็น “ห้องสมุดดิจิตอลเคลื่อนที่” แม้จะไม่มีหนังสือที่จับต้องได้มากมายเหมือนชื่อของมัน แต่ภายในพื้นที่นี้อนุญาตให้ผู้โดยสารสามารถที่จะดาวน์โหลดหนังสือหรือเรื่องสั้นต่างๆ เพื่ออ่านในระหว่างการเดินทางของคุณ ด้วยสัญญาณ Wi-fi ที่ปล่อยอยู่ภายในขบวนจะเป็นจุดเชื่อมต่อที่ผู้โดยสาร สามารถจะดาวน์โหลดหนังสือที่ถูกบริจาคมาจากที่ต่างๆ อ่านภายในรถไฟได้ แม้ว่าจะไม่มีหนังสือจริงๆ แต่ก็สามารถดาวน์โหลดมาอ่านระหว่างการโดยสารได้ . นอกจากหนังสือที่จะมีให้อ่านเยอะแยะแล้ว บรรยากาศด้านนอกของขบวนตัวอักษรสีสันเป็นคำว่า “Subway Library” และภายในยังถูกตกแต่งไปด้วยวอลเปเปอร์ชั้นหนังสือให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในห้องสมุดจริงๆ อีกด้วย ภายนอกที่ถูกตกแต่งให้สะดุดตา ภายในที่ถูกตกแต่งแล้วให้บรรยากาศเหมือนห้องสมุด . ขวบวนรถไฟใต้ดินนี้เป็นเพียงแค่ขบวนชั่วคราวเท่านั้นนะจ๊ะ สำหรับใครคนไหนที่อยากจะลองนั่งรถไฟขบวนนี้ก็สามารถที่จะเจอได้ในสาย E และ F ในส่วนของ Brooklyn , Manhattan และ Queens ได้เลย!! สุดยอดไปเลย ถ้ารถไฟฟ้าบ้านเราทำแบบนี้ #เหมียวปั๊ก…
-
สองเพื่อนรักฮัสกี้และชิวาว่า ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิฯ
ใครจะไปคิดว่าสุนัขที่ถูกช่วยเหลือจากถนนในเวลาไล่เลี่ยกันนั้น แท้จริงแล้วพวกมันเป็นเพื่อนซี้กันที่ถูกเก็บจากถนนในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกัน เจ้า Willy สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัลกี้วัย 3 ขวบ และเจ้า Buck สุนัขพันธุ์ชิวาว่าวัย 6 ขวบ ถูกพบในสวนสัตว์ Lincoln Park รัฐ Michigan โดยในเวลาต่อมาพวกมันถูกพาตัวสถานพักพิงสัตว์ Taylor Animal Shelter “ก่อนหน้านั้นฉันก็ไม่คิดว่าพวกมันจะรู้จักกันมาก่อน แต่พอฉันสังเกตแล้วพวกมันสองตัวมักจะร้องหากันอยู่เสมอ” Kellie Szczepanski หนึ่งในเจ้าหน้าที่อาสากล่าว มันมักจะร้องหากันอยู่เสมอ เมื่อ Kellie เห็นความผิดปกติดังกล่าว เธอจึงลองพาเจ้า Willy และ Buck มาเจอกัน ผลลัพธ์ที่ออกมาคือเจ้าตูบทั้ง 2 ต่างดีใจมาก Willy พยายามมองหาเจ้า Buck เจ้า Buck เพื่อนซี้ของ Willy “เราพาทั้งสองออกไปด้วยกัน ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังพูดคุยกันเหมือนเพื่อนซี้ที่ไม่ได้เจอกันมานาน” Kellie กล่าวเสริม . หลังจากเหตุผลการณ์นี้…
-
เลี้ยงจนโต… เด็กสาวตัดสินใจเก็บหนอนผีเสื้อมาเลี้ยง บ่มเพาะจนกลายเป็นผีเสื้อที่งดงาม
คนทั่วไปส่วนใหญ่หากต้องการที่จะรับเลี้ยงสัตว์สักอย่างคงจะเป็นแมวหรือไม่ก็สุนัข แต่สำหรับสาวคนนี้คิดว่า “เฮ้ย ทำไมเราไม่ลองเลี้ยงหนอนผีเสื้อดูบ้าง?” ในระหว่าที่เธอเดินกลับบ้านนั้น เธอก็ไปสะดุดตาเข้ากับเจ้าหนอนที่กระดึ๊บอยู่บนยอดไม้และเธอไม่ลังเลที่จะเก็บมันมาเลี้ยง นี่ดูเหมือนจะเป็นไอเดียที่แปลก แต่กับสาวคนนี้คิดว่านี่เป็นไอเดียที่แจ่มแมวมากก เธอเก็บเจ้าหนอนผีเสื้อมาจากยอดไม้ ระหว่างทางกลับบ้านของเธอ เธอตั้งชื่อให้มันว่า “Chicken Nugget” หรือ นักเก็ตไก่… เธอไม่ได้จับมันมาเลี้ยงเพียงอย่างเดียว หลังจากที่เธอพามันมาที่บ้านเธอก็ได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวงจรชีวิตของมันเพื่อวางแผนการเลี้ยงแบบจริงจัง แก้วที่ใส่กิ่งไม้และอาหารของมันเข้าไปคือบ้านใหม่ของเจ้านักเก็ตไก่ ในบางวันเธอก็เปิดเพลงให้นักเก็ตไก่ฟังเพื่อผ่อนคลายมันด้วย และแล้วเช้าวันหนึ่งเจ้านักเก็ตไก่ก็แปลงร่างตัวเองกลายเป็นดักแด้ หลังจากที่เจ้านักเก็ตไก่กลายเป็นดักแด้ เธอก็เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อเป็นเวลาถึง 14 วัน จนวันสุดท้ายมันก็กลายร่างเป็น ผีเสื้อสีดำแสนสวยงาม หลังจากเฝ้ารอมา 14 วัน ในที่สุดมันก็กลายร่างเป็นผีเสื้อสีสันสวยงาม!! ดูปีกของมันสิ! ใหญ่พอๆกับฝ่ามือคนเลยนะเนี่ย แต่สุดท้ายไม่มีอะไรที่จีรังยั่งยืน สาวผู้รับเลี้ยงเจ้านักเก็ตไก่คิดว่าเนื่องด้วยมันโตเต็มที่แล้ว เธอจึงตัดสินใจที่จะปล่อยมันกลับคืนสู่ธรรมชาติ คลิปบอกลาเจ้านักเก็ตไก่ เลี้ยงตั้งแต่เป็นหนอนจนมันสามารถเติบโตกลายเป็นผีเสื้อได้ #เหมียวปั๊ก ว่านี่มันสุดยอดไปเลยนะเนี่ยะ ที่มา: honesttopaws
-
คุณพ่อสัมภาษณ์ลูกสาว ในวันแรกที่เปิดเทอมตลอด 12 ปี จนกระทั่งวันเรียนจบม. ปลาย!!
วันเกิดเทอมวันแรกนอกจากจะเป็นวันสำคัญของคุณลูกๆ ในการเรียนรู้แล้ว คุณพ่อคุณแม่หลายคนก็อดที่จะตื่นเต้นไปกับลูกๆ ด้วย เพราะนี่เป็นวันที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการและการเติบโตไปอีกขั้น สำหรับพ่อแม่บางคนอาจจะเพียงแค่ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก แต่คุณพ่อ Kevin Scruggs ถ่ายวิดิโอวันเปิดเทอมวันแรกไว้เพื่อเก็บเป็นความทรงจำทุกปี หลังจากที่คุณพ่อถ่ายวิดิโอครั้งแรกไป เขาก็คิดว่านี่คงจะเป็นไอเดียที่ดีหากนำกิจกรรมนี้มาเป็นธรรมเนียมของครอบครัวเขา ซึ่งเขาได้ถ่ายช่วงเวลาสำคัญของ Mackenzie นี้ตลอดระยะเวลาทั้งสิ้น 12 ปี ตั้งแต่ระดับชั้น ป.1 จนถึง ม.6 ช่วงเริ่มแรกเธอเป็นที่ดูร่าเริง เธอแสดงให้เห็นถึงความสนใจหลายอย่างในทุกปี . “ในวันที่เธอโตและย้ายออกจากบ้านนี้ไป ผมและภรรยาก็ยังคงสามารถที่จะดูวิดิโอนี้เพื่อคลายความคิดถึงได้” Kevin กล่าว ในวิดิโอความยาวกว่า 3 นาทีนี้ นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางด้านร่างกายแล้ว นี่ยังแสดงให้เห็นถึงความสนใจของ Mackenzie ที่เปลี่ยนไปทุกปี ในขณะที่ชั้นป.1 เธอชอบที่จะระบายสีและวาดรูป แต่ในชั้นป.3 เธอกลับชอบที่จะเล่นกับเพื่อนของเธออีกคนหนึ่งที่มีชื่อเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะอยู่ป.4 แล้ว เธอก็ยังคงถูกสัมภาษณ์อยู่ ป.5 เธอลองตัดผมสั้นดูด้วย แหม่ เท่ห์ไม่หยอกเลยนะ ในขณะที่เธอเติบโตขึ้น คุณพ่อ Kevin ก็ได้ให้ข้อมูลว่าการสัมภาษณ์เธอนั้นก็ดูเหมือนจะยากขึ้นตามไปด้วยและในช่วงมัธยมปลายเธอยังให้สัมภาษณ์ภายในวิดิโอว่าเธอเริ่มมีความสนใจในเรื่องของฟุตบอลและหนุ่มหล่อๆ ทั้งหลาย …
-
บริษัทจากแคนาดาดีไซน์ ‘ขาเทียมแฟชั่น’ เพื่อเติมเต็มความมั่นใจ ให้สิ่งที่ขาดหายไป
บริษัท Alleles Design จากประเทศแคนาดาได้ทำให้โลกของผู้พิการดูสดใสและมีสีสันมากขึ้น เมื่อพวกเขาได้ออกแบบขาเทียมที่มีลวดลายสวยงามเพื่อทดแทนสิ่งที่ขาดหายไป… คุณ McCauley Wanner และ Ryan Palibroda สองผู้ก่อตั้งบริษัทดังกล่าวเห็นว่าขาเทียมที่ใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ มีรูปแบบที่ไม่หลากหลายและมีสีสันที่ไม่น่าสนใจเท่าไหร่นัก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงมัน หลังจากที่ขาเทียมแฟชั่นของพวกเขาออกวางจำหน่าย ก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี หนึ่งในลูกค้าที่ได้ลองสัมผัสขาเทียมดังกล่าวก็รู้สึกพอใจมากๆ พวกเขากล่าวถึงความภูมิใจในสินค้าชิ้นนี้ผ่านทางเว็บไซต์จัดจำหน่ายว่า “พวกเราดีใจอย่างมากที่ได้รับการตอบรับอย่างดี เราต้องการให้สินค้าชิ้นนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณ และช่วยให้คุณมีบุคลิกภาพที่ดูดีขึ้น เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกคุณจะมีความสุขและสนุกไปกับมัน” โดยราคาของขาเทียมจาก Alleles Design นั้นเริ่มต้นที่ 11,000 บาท และนอกจากนี้พวกเขายังรับทำขาเทียมตามความต้องการเฉพาะของลูกค้าอีกด้วย ตัวอย่างขาเทียมจาก Alleles Design . . แต่ละชิ้นสวยงามและช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้สวมใส่ได้จริงๆ . . . ถ้าหากคุณต้องการขาเทียมแบบเฉพาะ คุณก็สามารถสั่งทำพิเศษได้ด้วยนะ!! ว้าว!! เป็นไอเดียที่ดีมากๆ เลยนะเนี่ย ถ้าหากใครสนใจอยากดูการออกแบบลวดลายเพิ่มเติม สามารถเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ alleles ได้เลย ที่มา demilked
-
จากมิ้วน้อยจรจัดเดินตามมนุษย์ดุ๊กดิ๊ก ถูกลักพาตัวไปเลี้ยง จนกลายเป็นแมวอ้วนพลุ้ย!!
ชายหนุ่มได้พบกับเจ้ามิ้วน้อยตัวหนึ่งโดยบังเอิญ ขณะที่กำลังพาหมาของเขาออกไปเดินเล่น และก็พบว่าเจ้ามิ้วตัวนั้นเดินตามเขาและเจ้าหมากลับไปถึงที่บ้าน!! ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้าเหมียว Pinot เมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่ผ่านมาเมื่อนาย Jon Nienaber ได้พาหมาของตัวเองไปเดือนเล่นแถวๆ บ้าน จู่ๆ ก็พบว่ามีเจ้าเหมียวตัวหนึ่งเดินเข้ามาหา และเดินร่วมทางกันไปเรื่อยๆ จนกลับไปถึงที่บ้าน “ฉันและสามีอาศัยอยู่ที่เมือง Cleveland รัฐ Ohio ซึ่งแถวๆ บ้านของฉันนั้นมีแมวจรจัดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และในวันหนึ่งที่สามีของฉันพาหมาออกไปเดินเล่น จู่ๆ เขาก็โทรมาหาฉันแล้วบอกว่าเจอกับเจ้าเหมียวแสนน่ารักตัวหนึ่ง และดูเหมือนว่ามันกำลังเรียกร้องความสนใจใหญ่เลยล่ะ” คุณ Leslie Nienaber ผู้เป็นภรรยาเล่า พอได้ยินดังนั้นเธอก็เลยรีบหยิบอาหารแมวแล้วรีบเดินตรงไปหาสามีเพื่อทักทายกับเจ้าเหมียวในทันที และครั้งแรกที่ได้พบกันนั้นก็พบว่าเจ้า Pinot นั้นมีขนาดตัวที่เล็กพอๆ กับฝ่ามือของเธอเท่านั้น “จู่ๆ มันก็โผล่หัวออกมาจากรั้วข้างทาง จากนั้นก็วิ่งดุ๊กดิ๊กๆ ตาม Jon กับฉันมา ดูเหมือนว่ามันอยากจะอยู่กับเรามากๆ เลยล่ะ” หลังจากที่มันเดินตามคู่สามีภรรยาไปจนสุดถนน ทั้งคู่ก็เลยตัดสินใจที่จะพามันกลับไปที่บ้านด้วย ลองไปชมคลิปตอนที่เจ้าเหมียวน้อยเดินตามดุ๊กดิ๊กๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… เมื่อกลับไปถึงที่บ้านก็พบว่าเนื้อตัวของมันสกปรกมาก คุณ Leslie ก็เลยจับมันอาบน้ำ และป้อนอาหารให้กับมัน…
-
พาชมบรรยากาศสำนักงานใหญ่ของ Lucasfilm จุดกำเนิดของภาพยนตร์ชุด Star Wars
สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปทัวร์ชมบรรยากาศในสำนักงานใหญ่ของบริษัท Lucasfilm ที่ตั้งอยู่ในทางตอนเหนือของรัฐ California ว่าจุดกำเนิดของหนังชื่อดังอย่าง Star Wars และ Indiana Jones เป็นอย่างไร Letterman Digital And New Media Arts Center ตั้งอยู่ในเมือง San Francisco นอกจากจะถูกใช้งานเป็นสำนักงานใหญ่ของ Lucasfilm แล้วยังเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อจัดแสดงโชว์ผลงานภาพยนตร์หนังของพวกเขาอีกด้วย ที่ Letterman Digital And New Media Arts Center แห่งนี้มีเนื้อที่มากกว่า 93,000 ตารางเมตร (23 เอเคอร์) ซึ่งทาง Lucasfilm ได้ทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลกว่า 12,000 ล้านบาทเพื่อสร้างมันขึ้นมาในปี 2005 ปัจจุบันมีพนักงานทำงานอยู่ที่นี่มากกว่า 1,500 ชีวิต ทุกอย่างที่เกี่ยวกับธุรกิจในเครือของ Lucasfilm ทั้งการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค, อุตสาหกรรมภาพยนตร์,…
-
ผู้เชี่ยวชาญเผย การใช้ “สารสกัดกัญชา” ร่วมกับบำบัดคีโม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพรักษามะเร็งได้!!
อย่างที่ทราบกันว่า “กัญชา” นั้นเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันในปัจจุบันเป็นวงกว้างว่า มันสามารถจะนำมาสกัดเป็นยาเพื่อรักษาโรค รวมไปถึงมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง… งานวิจัยใหม่จาก St. George’s University ในกรุงลอนดอนได้ยืนยันว่าสารเคมี cannabinoids ที่อยู่ในกัญชา มีประสิทธิภาพในการฆ่าเซลล์มะเร็งเมื่อใช้ควบคู่ไปกับการทำเคมีบำบัดของผู้ป่วยมะเร็ง การใช้กัญชาสำหรับรักษาผู้ป่วยมะเร็งนั้นสามารถที่จะทำได้ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายตามสายพันธ์ เช่น สายพันธุ์ Indica สามารถใช้เป็นยาแก้ปวดตามธรรมชาติ โดยมีผลข้างเคียงที่เป็นศูนย์และช่วยในการปรับปรุงความอยากอาหารในผู้ป่วยได้อีกด้วย ด้วยรายงานวิจัยนี้เราสามารถที่จะนำ “สารสกัดจากกัญชา” มาประยุกต์ใช้สำหรับการรักษามะเร็งได้ด้วยการลดเคมีบำบัดสำหรับผู้ป่วยที่ทรมานและเพิ่มการใช้สารสกัด cannabinoids เข้าไปแทน Dr. Wai Liu หนึ่งในทีมนักวิจัยด้านเนื้องอกวิทยา อธิบายว่า “การใช้สาร cannabinoids ร่วมกับเคมีบำบัดนั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโรคมะเร็ง อีกทั้งยังเป็นข้อมูลที่ช่วยให้เราพัฒนาวิธีการรักษาให้ดีขึ้นในอนาคตข้างหน้าอีกด้วย” Dr. Wai Liu หนึ่งในทีมนักวิจัย อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่าการสูบมวนกัญชาจะสามารถรักษามะเร็งได้นะ แต่สิ่งที่จะช่วยรักษามะเร็งได้นั้น เป็นสารสกัดเข้มข้นจากกัญชาที่ชื่อว่า “cannabisnoid” ต่างหาก ถึงแม้จะมีเอกสารยืนยันออกมาแล้ว แต่จะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมให้มากกว่านี้ ก่อนที่จะมีการใช้ cannabinoids ในขั้นตอนการทำเคมีบำบัดในลำดับต่อไป ชมคลิปข่าวได้ที่นี่ ที่มา: distractify,…
-
จิตใจทำด้วยอะไร… ฆาตกรต่อเนื่องลักพาตัวหญิงสาว จับขังเป็นทาสกามารมณ์กว่า 2 เดือน
ไม่นานมานี้ทางกรมตำรวจจากรัฐ South Carolina ได้เผยแพร่ภาพวิดิโอวินาทีบุกช่วยหญิงสาวอายุ 30 ปีที่ถูกจับล่ามโซ่อยู่ภายในตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเป็นทาสบำเรอกามนานกว่า 2 เดือน… หน่วยกู้ภัยและตำรวจพยายามที่จะเข้าช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย หลังจากที่สามารถบุกเข้าไปภายในตู้คอนเทนเนอรได้ ทางตำรวจก็พบกับ Kala Brown วัย 30 ปี หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายซึ่งถูกใส่กุญแจมือและคอถูกล่ามโซ่ติดกับกำแพงของตู้คอนเทนเนอร์ แม้ว่านาย Todd Kohlhepp จะถูกจับได้ แต่ตัวเขานั้นก็ไม่มีทีท่าจะรู้สึกผิดแต่อย่างใด เขาเพียงแค่แสดงอาการเย็นชาเหมือนเขาไม่ได้ทำอะไรผิดและไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขายังคงแสดงท่าทีปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขารับสารภาพว่าเขาได้ลักพาตัวนาง Kala และถูกตัดสินให้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตเนื่องจากให้การรับสารภาพ นอกจากนี้ทางตำรวจยังค้นพบซากโครงกระดูกของเหยื่ออีก 3 รายในพื้นที่นั้น ระหว่างการค้นหา Charles Carver วัย 32 ปี แฟนหนุ่มของ Kala เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับสื่อว่า Kohlhepp ได้สารภาพกับ Kala หลังจากที่จับเธอมาว่าเขาได้ฆ่าคู่แต่งงานไปคู่หนึ่งและฆ่าคน 4 คนที่ร้านมอเตอร์ไซค์ในเมือง Spartanburg ซึ่งยังถือเป็นคดีที่หาผู้กระทำผิดไม่ได้ …
-
ฮีโร่ตัวจริงยิ่งว่าการ์ตูน!! รวม 8 วีรกรรมเรื่องจริงของเหล่าวีรสตรี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น ถือเป็นมหาสงครามระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรกับฝ่ายมหาอำนาจกลางที่ขยายความขัดแย้งไปทั่วโลก ในช่วงนั้นความเท่าเทียมของสตรียังไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก แต่ก็มีเหล่าหญิงสาวที่เสียสละออกมาช่วยเหลือประเทศเหมือนพวกเธอเหล่านี้ Edith Cavell พยาบาลแม่พระผู้ช่วยชีวิตเหลือเหล่าทหาร พยาบาล Edith Cavell วัย 49 ปีกลายเป็นสัญลักษณ์แม่พระของเหล่าทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อเธอช่วยเหลือเหล่าทหารฝ่ายสัมพันธมิตรแอบหนีออกจากโรงพยาบาลในฮอลแลนด์ ในขณะที่ผู้สมรู้ร่วมคิดของเธอถูกลงโทษให้เป็นแรงงาน เธอถูกโทษประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า Gabrielle Petit สายลับสาวเบลเยี่ยม Gabrielle Petit เป็นสาวชาวเบลเยี่ยมที่รับหน้าที่เป็นสายลับในหน่วย British Secret Service คอยหาข่าวกรองจากทหารเยอรมัน แม้เธอถูกจับได้ แต่เธอไม่มีทีท่าจะอ่อนข้อให้ จนทหารเยอรมันมองว่าเธอเป็นผู้หญิงที่อวดดีมากถึงขนาดที่ปฎิเสธที่จะเข้ากระบวนการยุติธรรมของเยอรมัน Marthe Cnockaert สายลับสองหน้าผู้นำประสบการณ์มาเขียนเป็นหนังสือ Marthe Cnockaert เป็นเพียงแค่พยาบาลของเยอรมัน แต่นี่เป็นเพียงแค่งานบังหน้า ในขณะที่ภารกิจจริงของเธอนั้นคือการฆ่าสายลับเยอรมัน รวมไปถึงระเบิดคลังแสงของฝ่ายศัตรู หลังจากผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชนเธอได้นำข้อมูลเหล่านี้มาเขียนเป็นหนังสืออย่าง I was a spy! , Spies I Knew และ A…
-
คู่รักเกย์ผู้รับเลี้ยงเด็กพิเศษถึง 4 คน ได้รับบ้านใหม่ที่อาสาสมัครกว่า 100 ชีวิตร่วมมอบให้…
ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นใคร เพศอะไร รสนิยมแบบไหน แต่คุณคือคนที่ทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นได้ อย่างคู่รักเกย์คู่นี้ที่รับเลี้ยงเด็กพิเศษถึง 4 คน แถมยังดูแลพวกมันเขาเหมือนลูกแท้ๆ ด้วย Garry และ Kyle Ratcliffe จากเกาะ Sheppey มณฑล Kent จากประเทศอังกฤษ เป็นคู่รักเกย์ที่รับเลี้ยงเด็กพิเศษทั้ง 4 คนที่มีความบกพร่องแตกต่างกัน Haydn วัย 13 ปี สมองพิการ Bella วัย 11 ปี เป็นดาวน์ซินโดรม Curtis วัย 6 ขวบ เป็นโรคลมชัก ตาบอด และสมองพิการ ส่วนคนสุดท้าย Phoebe วัย 6 ขวบ เป็นน้องสาวของ Bella ที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่เป็นโรคเครียดอย่างรุนแรง ทั้งหมดนี้อาศัยอยู่ในบังกะโลแคบๆ ที่มีเพียง 3 ห้องนอน และเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ของเด็กๆ แต่เมื่อเรื่องนี้ถึงหู Nick Knowles และทีมงานอาสาสมัคร DIY SOS พวกเขาก็ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวนี้ทันที…
-
นักปั่นอังกฤษนับร้อย เข้าร่วมวันเปลือยปั่นจักยานโลก ครั้งที่ 11 เพื่อรณรงค์รักษ์สิ่งแวดล้อม…
วันเปลือยปั่นจักยานโลก (World Naked Bike Ride) คือวันที่ผู้คนนับร้อยนับพันจะมารวมตัวกันเพื่อนปั่นจักรยานโดยไม่ใส่เสื้อผ้าเลย และปีนี้ก็ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 แล้ว ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ณ ประเทศอังกฤษ โดยจะเริ่มปั่นจากสวนสาธารณะ All Saints ในบริเวณมหาวิทยาลัยของถนนออกซ์ฟอร์ด นักปั่นจะผ่านจุดต่างๆ ดังนี้ St Peter’s Square, Manchester Town Hall และยาวไปถึง Deansgate แต่ทว่ากิจกรรมนี้ไม่ได้บังคับว่าต้องถอดทั้งหมด แค่เปลือยเท่าที่คุณจะกล้าเท่านั้น หรือใครอยากถอดหมดก็ตามสบายเลย… นอกจากถนนในบริเวณเมืองแมนเชสเตอร์แล้ว การปั่นจักรยานเปลือยยังถูกจัดขึ้นอีกใน 70 เมืองทั่วโลก เพื่อรณรงค์ให้หันมาใช้พาหนะที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และยังการประท้วงต่อผู้ใช้รถยนต์ ซึ่งเป็นการปล่อยของเสียสู่บรรยากาศเป็นจำนวนมากด้วย นักปั่นส่วนใหญ่จะเขียนข้อความไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพื่อรณรงค์เกี่ยวกับประเด็นสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยของนักปั่นจักรยาน ทั้งนี้วันเปลือยปั่นจักยานโลกได้เปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วโลกเข้ามีส่วนร่วม แต่จะจัดขึ้นที่ไหนก็ต้องพิจารณาในเรื่องของวัฒนธรรมและกฎหมายบ้านเมืองด้วย . สำหรับในอังกฤษนั้นการเปลือยในวันเปลือยปั่นจักยานโลกถือว่าไม่ผิดกฎหมาย ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติความผิดทางอาญา ปี 2003 แต่หากเปลือยด้วยเจตนาอื่นหรือมาร่วมปั่นด้วยเจตนาแฝง เช่น การล่วงละเมิดทางเพศ ต้องการดูของลับคนอื่น สิ่งเหล่านี้จะเข้าข่ายอนาจารและจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย …
-
‘Sologamy’ เทรนด์แต่งงานกับตัวเอง โดยเฉพาะหญิงโสด ที่มีแนวโน้มได้รับความนิยมมากขึ้น
ความใฝ่ฝันของมนุษย์ส่วนใหญ่คือการได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก แต่เอาจริงๆ นะ การจะหาคู่ครองที่เหมาะสม และเข้ากันได้เนี่ยไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่สำคัญบางคนก็ไม่ตกหลุมรักใครเลยนอกจากตัวเอง เลยทำให้อดแต่งงานไปโดยปริยาย แต่เดี๋ยวนี้การไม่มีคู่ไม่ได้หมายความคุณจะไม่ได้แต่งงานนะ เพราะหลายคนมักจะตกหลุมรักตัวเอง ก็เลยตัดสินใจแต่งงานกับตัวเองซะเลย!? นี่อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่รู้มั้ยว่าการแต่งงานกับตัวเองได้กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันไปแล้ว จนเกิดเป็นแฮชแท็ก #Sologamy นอกจากนี้เทรนด์การแต่งงานกับตัวเองยังมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงโสด ซึ่งบางคนให้เหตุผล ‘มันเป็นการแสดงออกถึงการรักตัวเอง’ การแต่งงานกับตัวเองถูกจัดขึ้นเหมือนงานแต่งทั่วไป และรวมไปถึงการเปิดธุรกิจเพื่อรองรับกระแสเช่นนี้ อย่างเช่น IMarriedMe ที่เปิดบริการรับจัดงานแต่งให้กับผู้คนที่ประสงค์จะแต่งงานกับตัวเอง ในราคาประมาณ 6,000 บาท ภายในงานจะมีวงดนตรีมาบรรเลงเพลง มีพิธีการเดินเข้าสู่งาน มีการกล่าวคำสาบาน ใบสมรสและผู้ประกอบพิธีงานแต่ง เพื่อทำให้การแต่งงานกับตัวเองเป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบที่สุด ทางด้านตัวแทนของเว็บไซต์ I Married Me กล่าวไว้ว่า “เรามีทุกอย่างที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นชุดแต่งงาน แหวน คำกล่าวคำสาบาน และใบสมรส แม้ว่าคุณจะแต่งงานกับตัวเองก็ตาม” พวกเขายังบอกอีกว่า “การแต่งงานกับตัวเองถือเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าคุณจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับตัวเอง และการสวมแหวนนั้นก็เพื่อเอาไว้ย้ำเตือนว่าคุณจะรักตัวเองทุกวัน” อย่างไรก็ตามเทรนด์ดังกล่าวนี้ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คนบางส่วนว่า ‘การแต่งงานกับตัวเองแสดงถึงการหลงตัวเอง และเรียกร้องความสนใจด้วยการจัดพิธีแต่งงานเพื่อประกาศว่าเขาหรือเธอรักตัวเองมากแค่ไหน’ แต่ก็มีคนไม่น้อยที่ให้การสนับสนุนการแต่งงานกับตัวเอง…
-
เปิดตำราเฉดสีหนากว่า 800 หน้า อายุเก่าแก่ 271 ปี อธิบายแทบทุกสีที่จะจินตนาการได้!!
เมื่อพูดถึงสีในปัจจุบัน มันช่างมีเฉดสีมากมายเหลือเกินจนเรารู้จักไม่หมดด้วยซ้ำ และยังมีการผลิตเฉดสีใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ย้อนกลับไปในปี 1692 ศิลปินนามว่า A. Boogert ได้เขียนหนังสือด้วยภาษาดัตช์เกี่ยวกับการผสมสีน้ำ ซึ่งไม่ใช่แค่การใช้สีวาดภาพ แต่จะมีการอธิบายเกี่ยวกับการสร้างเฉดสีและเปลี่ยนโทนสีโดยการเพิ่มอัตราส่วนของน้ำเป็น 1, 2 หรือ 3 ส่วน มันอาจจะฟังดูง่าย แต่รู้ไม่ว่าในสมัยนั้นผลิตภัณฑ์หรือสีเหล่านี้เป็นสิ่งที่หาได้ยาก และที่สำคัญคือในสมัยนั้นมีเฉดสีน้อยมาก แต่สำหรับ A. Boogert กลับสร้างเฉดสีได้มากมายและมีความละเอียดอย่างน่าทึ่ง Traité des couleurs servant à la peinture à l’eau เป็นสมุดบันทึกเฉดสีที่มีทั้งหมดเกือบ 800 หน้า ซึ่งเขียนด้วยมือทั้งหมดและระบายสีบางส่วน โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการระบายสีและรายละเอียดเกี่ยวกับสีที่ครอบคลุมมากที่สุดในช่วงเวลานั้น ต่อมาในยุคกลาง หนังสือเล่มดังกล่าวก็ถูกนำมาแปลเป็นภาษาอังกฤษ โดยนักประวัติศาสตร์ยุคกลาง Erik Kwakkel เป็นผู้แปลในส่วนบทนำของหนังสือ และตั้งใจจะนำมาใช้เป็นคู่มือในระบบการศึกษาด้วย แต่ถึงอย่างนั้นคู่มือสีที่ได้รับการแปลก็ไม่ได้ถูกตีพิมพ์เผยแพร่แต่อย่างใด และยังคงมีเพียงฉบับเดียวที่น้อยคนนักจะได้สัมผัสกับตำราเฉดสีโบราณเล่มนี้ ปัจจุบันหนังสือเล่มนี้มีอายุมากถึง…
-
โจ๋หนุ่มวัย 25 ปี กระทำความผิดบ๊อยบ่อย ถูกจับซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเห็นพัฒนาการรอยสัก!!
ในการถูกจับกุมหลังจากกระทำความผิดนั้น จะมีขั้นตอนในการถ่ายรูปผู้ต้องหาเพื่อเป็นการยืนยันว่าบุคคลนี้ได้กระทำความผิดแต่จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อผู้กระทำผิดถูกจับบ่อยเกินเหมือนนายคนนี้ Robert Hardister โจ๋หนุ่มนักขโมยรถที่มักจะถูกจับได้ และรูปผู้ต้องหาที่เขาถูกถ่ายทุกครั้งนั้น จะแสดงให้เห็นถึงรอยสักใหม่ของเขาที่เพิ่มขึ้นมาในแต่ละครั้ง จนกลายมาเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการของเขา… ย้อนกลับไปในปี 2009 ตอนนั้นเขามีอายุเพียงแค่ 18 ปี ภาพผู้ต้องหาของเขานั้นแสดงให้เห็นถึงใบหน้าที่ยังไม่มีรอยสักแต่อย่างใด ก่อนที่ 7 ปีให้หลังเขามักจะมาเยี่ยมเยือนสถานีตำรวจต่างๆ (ในฐานะผู้ต้องหา) พร้อมกับอวดรอยสักใหม่บนใบหน้าของเขาอยู่เสมอ ในปี 2009 เขาถูกจับข้อหาขโมยรถ ช่างสัก Parker Beaudoin ผู้มากประสบการณ์ได้กล่าวเกี่ยวกับรอยสักต่างๆ บนใบหน้าของ Robert ว่า “เขาอาจจะได้มันมาจากแก๊งในคุกหรืออาจจะทำเองที่บ้านด้วยเครื่องมือง่ายๆ อย่างเช่นสายกีตาร์” รอยสักแรกของเขาเริ่มต้นที่บริเวณคอ ในปี 2011 ต่อมาก็เป็นรอยสักบริเวณใต้ตาในปี 2012 Hardister ได้ถูกจับกุมอย่างน้อยห้าครั้งใน Palm Beach County เพียงที่เดียว เขาถูกตัดสินจำคุก 9 เดือนในปี 2012 สำหรับการโจรกรรมรถยนต์ และเขาถูกจับกุมอีกในวันที่ 15 กุมภาพันธ์…
-
ช่วงเวลาสุดซึ้ง เมื่อหนูน้อยได้สวมแว่นตาพิเศษ และได้มองเห็นหน้าคุณแม่เป็นครั้งแรก…
เวลามองเห็นไม่ชัดเนี่ย มันทำให้รู้สึกอึดอัดได้ หลายคนก็เลยแก้ปัญหาด้วยการสวมแว่นเพื่อทำให้มองเห็นได้ชัดมากขึ้น แต่สำหรับหนูน้อยคนนี้การสวมแว่นสายตาไม่ได้ช่วยให้เขามองเห็นชัดขึ้นเลย Alby Cash หนูน้อยวัย 10 เดือน ป่วยเป็นโรคตากระตุก (Nystagmus) ที่อยู่ในขั้นรุนแรง ทำให้การมองเห็นของเขาไม่ชัดเจนเหมือนคนทั่วไป โรคนี้เกิดจากความบกพร่องของประสาทตาและสมองส่วนที่ควบคุมการทำงานของตา ทำให้ดวงตาเคลื่อนไหวผิดปกติและไม่สามารถควบคุมได้ ที่สำคัญจะมองเห็นสิ่งต่างๆ เบลอกว่าระดับปกติมาก ด้วยเหตุนี้ทำให้ Alby ไม่เคยเห็นหน้าคนรอบข้างชัดเจนเลยสักครั้งรวมทั้งแม่ของเขาด้วย แต่หลังจากที่ได้แว่นพิเศษจาก Coventry เขาก็สามารถมองเห็นหน้าแม่ได้ชัดเจนเป็นครั้งแรก ตอนแรก Alby ดูสับสนเมื่อมีคนใส่แว่นให้ เขาก็เลยพยายามจะดึงออก แต่เมื่อลองมองไปรอบๆ หนูน้อยก็เผยให้เห็นรอยยิ้ม เพราะนั่นคือการได้มองเห็นสิ่งรอบตัวอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก เมื่อได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสของเด็กน้อย คุณแม่เองก็ดีใจไม่น้อยไปกว่าลูกเลย มันเป็นโมเม้นต์ที่ยากจะอธิบาย แต่ทุกอย่างมันบ่งบอกผ่านใบหน้าของพวกเขาแล้ว แม้ว่าอาการตากระตุกจะไม่สามารถแก้ได้ แต่แว่นสุดล้ำนี้ทำให้ Alby มองเห็นได้ชัดขึ้น ตอนนี้เขาสามารถมองเห็นในระดับ 8.25R และจะเพิ่มขึ้นเป็น 8.00L เมื่อโตขึ้น ที่มา dailymail
-
นางแบบผิวสองสี เกิดจากการรวมร่างของน้องสาวฝาแฝด มีเพียง 100 คนเท่านั้นจากทั่วโลก
ปกติเมื่อพูดถึงผิวสองสี คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าเป็นสีผิวกลางๆ หรือผิวสีน้ำผึ้ง แต่สำหรับนางแบบสาวคนนี้เธอเป็นคนผิวสองสีจริงๆ คือสามารถแยกออกเป็นสองสีอย่างเห็นได้ชัด Taylor Muhl นางแบบชาวอเมริกันวัย 33 ปี มีปานเป็นวงกว้างอยู่ตรงหน้าท้องตั้งแต่เกิด และหญิงสาวก็เพิ่งรู้ว่านั่นเป็นน้องสาวฝาแฝดที่ใช้ร่างกายร่วมกับเธอ สำนักข่าว Daily Mail รายงานว่า ตอนที่อยู่ในท้อง นางแบบสาวมีน้องสาวฝาแฝดอีกคน แต่ทั้งสองคนเกิดการรวมร่างกันภายในครรภ์ ทำให้ Taylor คลอดออกมาเพียงคนเดียว โดยมีปานขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าท้อง แต่หญิงสาวไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย เธอเข้าใจว่ามันเป็นปานปกติทั่วไป จนกระทั่งในปี 2009 เมื่อเธอได้ดูสารคดีที่สอดคล้องกับสภาพร่างกายของเธอ หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ หญิงสาวจึงตัดสินใจไปปรึกษาแพทย์ และได้คำตอบว่าสิ่งที่เธอเป็นนั้นทางการแพทย์เรียกว่า Chimerism คือภาวะที่มีเซลล์ต้นกำเนิดของผู้ให้ (Donor) อยู่ร่วมกับเซลล์ของผู้ป่วยหรือผู้รับ (Recipient) ภายหลังการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด ภาวะนี้ทำให้อวัยวะด้านซ้ายทุกส่วนของ Taylor ใหญ่กว่าด้านขวาเล็กน้อย นอกจากนี้เธอยังมีระบบภูมิคุ้มกันสองตัว และมีสองกระแสเลือดภายในร่างกาย โดยปกติแล้วเคสแบบนี้หาได้ยากมากๆ เพราะ Chimeras ส่วนใหญ่จะปรากฎในอวัยวะภายใน หรือถ้าปรากฎภายนอกจะเห็นเป็นเพียงจุดเล็กๆ เท่านั้น แต่สำหรับกรณีของ Taylor ปรากฎเป็นปานขนาดใหญ่อยู่ตรงลำตัว โดยแบ่งเป็นสองสีอย่างเห็นได้ชัด สีที่กินพื้นที่ส่วนใหญ่คือร่างกายของเธอ แต่ส่วนที่เป็นปานคือร่างกายของอีกคน…
-
ชม 20 ภาพสุดช็อค สะท้อนวิถีชีวิตการอยู่อาศัยอย่างแออัด ของผู้คนบนเกาะฮ่องกง!?
เกาะฮ่องกงเป็นอีกหนึ่งในสถานที่จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยหลายคน เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะเคยมีโอกาสได้ไปเยือนเกาะแห่งนี้กันมาบ้างแล้ว ทว่าด้วยพื้นที่ๆ มีอยู่อย่างจำกัด สวนทางกับตัวเลขจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่อยู่การอยู่อาศัยของชาวเมืองตามมา และภาพทั้งหมดนี้จะเป็นตัวบอกเล่าวิถีชีวิตทั้งหมดของชาวฮ่องกงได้ดีที่สุด ‘สิ่งที่แย่ที่สุดในการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ก็คือ คุณไม่มีสิทธิแม้แต่จะหายใจด้วยอากาศบริสุทธิ์ แถมยังต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ขนาดแค่ 1.4 ตารางเมตรเท่านั้น’ ชาวบ้านคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ ภาพจากสลัมย่าน Sham Shui Po หลายครัวเรือนมีพื้นที่ใช้สอยเล็กซะจนต้องรวมห้องน้ำ และห้องครัว เป็นห้องเดียวกัน ภาพถ่ายทั้งหมดนี้ถูกนำไปแสดงที่นิทรรศการภาพถ่าย Society for Community Organisation จากสถิติเปิดเผยว่า มีประชากรมากกว่าสองแสนคนบนเกาะฮ่องกง ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก บนเกาะฮ่องกงมีอพาร์ทเม้นท์ขนาดเล็กมากกว่า 88,000 แห่ง และส่วนใหญ่ก็จะมีขนาดห้องที่แคบเอามากๆ ภาพซ้ายจะสังเกตเห็นชักโครกและซิงค์ที่วางอยู่ใกล้กันมากๆ ส่วนภาพขวาเป็นภาพของหนุ่มชาวฮ่องกง และวิถีชีวิตประจำวันของเขา อาจดูเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับชาวฮ่องกง ที่ห้องครัวและห้องน้ำจะรวมเป็นส่วนเดียวกัน อีกภาพที่ชวนให้ชาวฮ่องกงรู้สึกสะเทือนใจมากที่สุด… ครอบครัวที่ต้องแชร์พื้นที่กันอย่างแออัด และต้องทำทุกกิจกรรมอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ชายคนในภาพกำลังตกงาน และเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในห้องพักขนาดแคบ เนื่องจากราคาค่าเช่าที่ค่อนข้างสูง ภาพของหญิงชรา…
-
วินาทีแห่งน้ำตา… หนุ่มได้รับกีต้าร์เป็นของขวัญวันเกิด จากคุณพ่อที่เพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน
กำลังเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก เกี่ยวกับเรื่องราวของเด็กหนุ่มวัย 16 ปี Jonathon Crow จากเมืองมิชิแกน และของขวัญสุดล้ำค่าที่ได้รับจากคุณพ่อที่เพิ่งจากโลกนี้ไปไม่นาน เหตุการณ์ที่ชวนให้ชาวเน็ตทั่วโลกถึงกับหลั่งน้ำตาในครั้งนี้ เกิดขึ้นที่เมือง Port Huron รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่ออยู่ดีๆ พี่สาวเพียงคนเดียวของเขาเอาผ้ามาปิดตา และบอกแค่ว่ามีอะไรบางอย่างจะให้เขาดู… ทันทีที่เขาไปถึง พ่อหนุ่มก็ได้รับจดหมายที่เขียนโดยพ่อของเขา ผู้ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อสองเดือนก่อน ภาพในวัยเด็กของ Jonathon และคุณพ่อของเขา ตอนแรกที่พ่อหนุ่มทราบเรื่องราวดังกล่าว เจ้าตัวก็เกิดอาการงงเล็กน้อยว่าใครกันนะจะมาซื้อกีต้าร์ให้ เพราะคุณพ่อก็ได้จากเขาไปตั้งแต่เมื่อสองเดือนก่อนแล้ว ปรากฎว่าทั้งหมดนี้เป็นของขวัญจากคุณพ่อของเขา ซึ่งก่อนหน้านี้เขาทำงานอยู่ในร้านขายอุปกรณ์ดนตรีแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ๆ เขามักจะพาลูกชายมาเรียนวิชากีต้าร์จากเพื่อนร่วมงานด้วยเสมอ เพื่อนร่วมงานของพ่อเล่าให้ฟังว่า กีต้าร์ตัวนี้ถูกสั่งมาตั้งแต่เดือนมกราคมแล้ว ทว่าคุณพ่อต้องการจะเก็บไว้เซอร์ไพรส์ลูกชาย ก่อนที่ตัวเองจะจากไปเมื่อเดือนเมษายน “ในฐานะพี่สาวเพียงคนเดียวของน้อง ดิฉันรู้เรื่องนี้มานานแล้วค่ะ และดิฉันก็อยากจะสานต่อความฝันของคุณพ่อให้กลายเป็นจริง เขาจะต้องภูมิใจมากแน่ๆ ที่มีลูกชายชื่นชอบในเสียงดนตรีเหมือนกับพ่อ” พี่สาวให้สัมภาษณ์ หลังจากที่คลิปวิดีโอโมเม้นต์แห่งน้ำตาถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ก็กลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลก มีชาวเน็ตแชร์ไปแล้วมากกว่าแสนครั้ง เรื่องราวทั้งหมดที่พี่สาวโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอเอง พร้อมกับบันทึกช่วงเวลาที่น้องชายได้รับกีตาร์จากคุณพ่อผู้จากไป… ที่มา: Dailymail
-
ลื่นไหลไปกับ Clinamen งานศิลป์ที่ผสมผสานระหว่างดนตรี ความสงบนิ่งและการเคลื่อนไหว
หลายคนอาจเคยไปหอศิลป์เพื่อดูงานศิลปะต่างๆ ที่เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่สำหรับงานศิลปะชิ้นนี้ #เหมียวปั๊ก รับประกันเลยว่าถ้าเพื่อนๆ ได้ฟังแล้วจะรู้สึกสบายและสงบนิ่งแน่นอน งานที่มีชื่อว่า “Clinamen” นี้เป็นผลงานของ Céleste Boursier-Mougenot ศิลปินชาวฝรั่งเศสผู้ดึงพลังของการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ และจังหวะของชีวิตเข้ามาผสมกันในรูปแบบของงานศิลปะและดนตรี Céleste Boursier-Mougenot ศิลปินเจ้าของผลงาน . เขาได้นำชามพอร์ซเลนสีขาวลอยอยู่บนสระว่ายน้ำสีฟ้า และปล่อยให้พวกมันหมุนวนอยู่ในกระแสน้ำอ่อนๆ เมื่อชามเกิดกระทบกัน พวกมันก็จะส่งเสียงประสานออกมาตามธรรมชาติที่ฟังดูแล้วสงบนิ่งและเป็นไปตามกระแสน้ำ โดยไม่มีความพยายามในการควบคุมเข้ามาเกี่ยวข้อง ผลงานนี้ตั้งอยู่ที่ National gallery of Victoria เมือง Melbourne ประเทศออสเตรเลีย . ในการผสมผสานลักษณะนี้ จะส่งเสริมให้ทุกคนที่ชมมีส่วนร่วมทางประสาทสัมผัสซึ่งเรียกว่า “Synaesthetic” กับผลงานชิ้นนี้ ด้วยความแปลกประหลาดของงานศิลปะ จะช่วยให้เกิดการพัฒนาเกี่ยวกับองค์ประกอบของความไม่แน่นอนทางดนตรี รวมไปถึงเครื่องดนตรีประเภทอื่นๆ อีกด้วย ลองมาฟังเสียงที่เกิดจาก Clinamen ที่นี่ได้เลย เป็นอะไรที่เจ๋งมากเลยนะ #เหมียวปั๊ก เคยลองทำแบบคุณ Céleste แล้วนะ เอาชามตราไก่ไปลองลอยดู ก็เก๋ไม่หยอกเหมือนกัน ~ ที่มา: ngv , facebook
-
เหมียวน้อยแอบงีบหลับท่าน่ารัก จนเจ้าของต้องถ่ายรูปเก็บไว้ ไปหลับตรงนั้นทำไมลูก ~
บางครั้งที่เราละสายตาจากเจ้าตูบหูตั้งไปทำธุระอะไรสักอย่าง เมื่อเรากลับมาอาจจะได้เห็นภาพน่ารักๆ และสำหรับใครที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงไว้ก็อาจจะเห็นภาพแบบที่ #เหมียวปั๊ก เอามาให้ดูแบบนี้ก็เป็นได้นะ ในวันที่เราทำงานมาอย่างหนักหน่วง เราอาจจะเพียงแค่ต้องการเอนตัวลงไปบนโซฟานุ่มๆ สักตัวและผลอยหลับไป แต่ใครมันจะไปนึกว่านอกจากมนุษย์ที่ทำแบบนั้นได้ เจ้าเหมียวก็สามารถทำได้เช่นกัน ทำงานมาเหนื่อยๆ ก็ต้องเอนพักแบบนี้แหละ เมี๊ยว ~ ดูมัน… ยังไม่รู้ตัวอีก นอกจากการนอนที่น่ารักของมันแล้ว หากสังเกตให้ดีๆ ท่านอนไขว้ขาพร้อมกับการพ้อยท์มือของมันนั้น ก็เฟี้ยวฟ้าวเกินที่จะบรรยายจริงๆ และด้วยความน่ารักตะมุตะมิของมัน ทำให้เจ้าของมันไม่รอช้าที่จะทวิตผ่านชื่อผู้ใช้งาน @ahyachan โดยได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก เจ้าเหมียวได้รับความสนใจและถูก Retweet เป็นจำนวนมาก นอกจากกรณีเจ้าลูกเหมียวตัวน้อยนี้แล้ว ยังเคยมีเจ้าแมวอ้วนที่เคยนอนเอกเขนกอย่างสบายใจที่สามารถเรียกเสียงฮือฮามาแล้วเช่นกัน อ่าห์ ~ สบายสุดๆ ไปเยย หลับสบายเลยนะเจ้าเหมียว เห็นแล้วก็อยากเข้าไปหยิกขาแล้วจริงจริ๊งง หมั่นเขี้ยว ~ ที่มา: rocketnews24
-
ภาพถ่ายหายากถ่ายทอดชีวิต เด็กกำพร้าและคนไร้บ้าน ต้องดิ้นรนในสหภาพโซเวียตช่วงปฏิวัติ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1922 การปฏิวัติของรัสเซียและสงครามกลางเมืองได้ส่งผลให้เกิดการสูญเสียอย่างน้อย 16 ล้านคนภายในเขตแดนของสหภาพโซเวียต เหตุการณ์นี้ทำให้เด็กกว่า 7 ล้านคนกลายเป็นเด็กกำพร้าและไร้บ้าน ความอดอยากครั้งใหญ่ในปี 1921 – 1922 ส่งผลทำให้เด็กๆ กว่า 5 ล้านคนเสียชีวิตด้วยความหิวโหย ในขณะที่เด็กๆ บางส่วนถูกทอดทิ้งโดยพ่อแม่ที่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ นอกจากความอดอยากแล้ว โรคอหิวาต์และโรคร้ายแรงอื่นๆ ก็คร่าชีวิตคนไปเป็นจำนวนมาก แม้จะมีความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึง The American Relief Administration (ARA) ได้เข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่เพียงพอ กลุ่มเด็กกำพร้าต่อคิวเพื่อขึ้นรถไฟ . กลุ่มเด็กกำพร้ารอรอบรถไฟไปสถานรับเลี้ยงเด็กที่ต่างๆ เด็กกำพร้ากับการแต่งตัวของเขา วิถีชีวิตบางวันของพวกเขาคือการนั่งจับกลุ่มเล่นไพ่ แม้ว่าจะอดอยาก แต่เด็กบางคนเลือกที่จะไม่ทิ้งเพื่อนคู่ใจของพวกเขา โต๊ะลงทะเบียนสำหรับเด็กๆ ที่จะเข้าโรงเรียนวิชาชีพที่จัดตั้งขึ้นโดยกรุงมอสโกว . ชั้นเรียนต่างๆ ในโรงเรียนถูดจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย เด็กๆ ล้อมวงกันฟังข่าวสารจากวิทยุ มื้ออาหารแต่ละมื้อที่พวกเขาต้องช่วยกันบริการเพื่อนๆ และตัวเอง .…
-
เจ้าปลาหมึก Bobtail อาจช่วยให้มนุษย์ ค้นพบวิธีรักษาแบคทีเรีย “กินเนื้อ” ในร่างกายได้
เจ้าหมึก Bobtail ตัวน้อย ตัวน้อยน่ารักนี้นอกจากจะน่ารักจิ้มลิ้ม มันอาจเป็นสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่กุมกุญแจสำคัญเกี่ยวกับการรักษาแบคที่เรียที่กินเนื้อมนุษย์ได้ โดยเจ้าหมึกน้อยตระกูล Bobtail นี้สะสมเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่จะทำการตอบสนองต่อแสงโดยการเปล่งประกายระยิบระยับ ซึ่งเจ้าแบคทีเรียที่ชื่อว่า V. fischeri นี้มีความสามารถในการตรวจจับกรดไขมันชนิดสั้นหรือแบบสายโซ่ได้ เจ้าตัวเล็กนี่คือ ปลาหมึก Bobtail ที่มีสีสันที่สวยงาม ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหมึก Bobtail และแบคทีเรีย V. fischeri อยู่ในลักษณะที่เกื้อกูลกัน ในขณะที่แบคทีเรียได้สารอาหาร เจ้าปลาหมึกก็สามารถที่จะพรางตัวในพื้นที่ที่มีแสงต่างๆ ได้อีกด้วย เราพรางตัวได้ด้วยนะพวก!! ด้วยข้อเด่นของแบคทีเรีย V. fischeri นั้นทำให้นักวิทยาศาสตร์สนใจที่จะนำมันมาศึกษาเพื่อขับไล่แบคทีเรียจำพวก Vibrioi (ที่เป็นสาเหตุของอหิวาตกโรค) และเชื้อ Vibrio vulnificus ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่กินเนื้อมนุษย์ (เพื่อนๆ คนไหนอยากรู้ว่าโรคดังกล่าวเป็นอย่างไร สามารถค้นหาได้จากคำว่า Necrotizing fasciitis หรือ แบคทีเรียกินเนื้อคน) นอกจากในเรื่องการยับยั้งแบคทีเรียและเชื้อร้ายต่างๆ แล้ว นี่อาจจะเป็นองค์ความรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดเพื่อพัฒนาให้มนุษย์มีความสามารถ “เรืองแสง” ในที่มืดได้อีกด้วย นอกจากมันจะมีสีสันที่สวยงามแล้ว มันยังกุมกุญแจสำคัญในการรักษาโรคบางอย่างไว้อีกด้วย ที่มา: mymodernmet
-
ทีมแพทย์บราซิลทดลองใช้ ‘หนังปลาทิลาเพีย’ เพื่อรักษาแผลไฟไหม้ ให้ได้ผลที่ดีกว่า!!
เนื่องจากว่าประเทศบราซิลนั้นเป็นประเทศที่มีความขาดแคลนทรัพยากรทางการแพทย์เป็นอย่างมาก ทีมแพทย์จึงได้หันมาทำการทดลองใช้ ‘หนังปลาทิลาเพีย’ (หรือหนังปลานิล) มารักษาแผลที่เกิดจากไฟไหม้ แทนที่การใช้ครีมและยาทาชนิดต่างๆ แผลไฟไหม้ในระดับที่ 2 และ 3 เป็นอะไรที่เจ็บปวดมากๆ จนบางครั้งก็อาจทำให้ถึงตายได้หากได้รับบาดแผลทั่วร่างกาย โดยปกติแล้วการใช้เนื้อเยื่อจำลองในการรักษาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับสถาบันทางการแพทย์ José Frota ที่ตั้งอยู่ในเมือง Fortaleza ประเทศบราซิล เหล่าคุณหมอสามารถใช้ได้แต่ครีมรักษาแผลไฟไหม้ และผ้าพันแผลที่ต้องหมั่นเปลี่ยนเป็นประจำ เป็นวิธีการรักษาที่สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้เข้ารับการรักษาเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เองทางทีมแพทย์จึงหาวิธีอื่นในการรักษาแทน อย่างเช่น หนังปลาทิลาเพียที่ฆ่าเชื้อแล้ว เพราะเพิ่งทราบถึงผลการศึกษาที่น่าตกใจ!? “มันเป็นอะไรที่น่าตกใจมาก เพราะในหนังปลาทิลาเพียนั้นมีคอลลาเจนโปรตีนแบบที่ 1 และแบบที่ 3 อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมันจำเป็นมากในการทำให้เกิดแผลเป็น และคอลลาเจน 2 ตัวที่กล่าวมานี้มีอยู่ในหนังของปลาทิลาเพียมากกว่าในผิวหนังของมนุษย์และสัตว์อื่นๆ เสียอีก” Dr. Edmar Maciel ผู้เชี่ยวชาญทางด้านแผลไฟไหม้จากสถาบันกล่าว ซึ่งปลาทิลาเพียเป็นปลาที่สามารถหาได้ทั่วไปตามแหล่งน้ำในประเทศบราซิล แถมยังมีการทำฟาร์มปลาชนิดนี้อีกมากมาย ถือว่าเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายและเหมาะที่จะนำมาทดลองการรักษา และที่เจ๋งไปกว่านั้นก็คือเจ้าหนังปลลาทิลาเพียที่ฆ่าเชื้อแล้ว สามารถปิดทิ้งไว้จนแผลกลายเป็นแผลเป็น แต่บางเคสที่แผลร้ายแรงมากก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนหนังปลา แต่ไม่บ่อยเท่ากับการใช้ผ้าพันแผลและครีมแบบเดิม…
-
บริษัทญี่ปุ่นคิดค้น ‘บรากันหัวนมโผล่สำหรับผู้ชาย’ แก้ปัญหาระดับชาติ ที่ต้องทนกันมานาน…
เรื่องของหัวนมคงเป็นปัญหาระดับชาติของเหล่าผู้ชายอกสามศอกเลยก็ว่าได้ เพราะทุกครั้งที่สวมเสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ต มันก็มักจะพยายามจะดันขึ้นมาจนทำให้เสื้อตุงเพื่อทักทายชาวโลกอยู่บ่อยๆ และปัญหานี้กำลังจะหมดไปจากโลกแล้วเพราล่าสุดทางบริษัทญี่ปุ่น ได้ทำการคิดค้นไอเดียบราสำหรับผู้ชายป้องกันไม่ให้หัวนมไปชี้หน้าหาเรื่องใครอีก เจ้าบรานี้มีชื่อว่า Nopoints โดยบริษัท Marutaka Industry ที่ตั้งอยู่ในเมืองอิมะบะริ จังหวัดเอะฮิเมะ เป็นผู้ปิ๊งไอเดียขึ้นมา ตัวของบรานั้นจะมีลักษณะเหมือนเสื้อยืดซับในทั่วๆ ไป คอกว้าง ด้านนอกจะมีสีครีมคล้ายกับผิวหนัง ส่วนด้านในก็จะมีผ้านุ่มๆ มีลักษณะเป็นตาข่ายเพื่อเป็นร่องเอาไว้ให้น้องหัวนมได้เข้าไปอยู่ . บริเวณช่องรักแร้ก็จะมีผ้าตาข่ายเพื่อช่วยซึมซับเหงื่อที่ไหลออกมา ตอนนี้ก็เจ้า Nopoints ก็กำลังอยู่ในช่วงระดมทุนอยู่ ซึ่งเงินทั้งหมดก็เพื่อนำไปช่วยเหลือในเรื่องของการเพิ่มผลผลิตเสื้อผ้าในตลาดท้องถิ่น โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1 ล้านเยนหรือประมาณ 300,000 บาท ซึ่งทางบริษัทก็มีคนเข้ามาร่วมสนับสนุนไปแล้วกว่า 450,000 เยน หรือประมาณ 140,000 บาท และยังคงเหลือระยะเวลาอีก 82 วันกว่าจะปิดยอดระดมทุน และสำหรับใครที่ต้องการจะช่วยระดมทุน หากจ่ายเงินเป็นจำนวน 2,500 บาทขึ้นไป ก็จะทำให้ได้สิทธิ์ในการซื้อเจ้า Nopoints ในราคาพิเศษ ลดจากราคาปกติถึง 25%!!…
-
ปรมาจารย์ไทเก๊กโชว์พลัง ‘ใช้กระปู๋ลากเฮลิคอปเตอร์ได้ไกลที่สุด’ จนได้รับบันทึกสถิติโลก!!
ปกติแล้วเราเข้าใจว่าจุดอ่อนอย่างหนึ่งของผู้ชายก็คือกระปู๋ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่โดนกระแทกหรือโดนเตะเพียงนิดเดียว ก็ทำให้รู้สึกจุกจนพูดไม่ออกแล้ว แต่ผู้ชายทุกคนไม่ได้เป็นแบบนั้นน่ะสิ อย่างหนุ่มจีนคนนี้ที่นอกจากกระปู๋จะไม่เป็นจุดอ่อนแล้ว มันยังเป็นจุดแข็งที่ทำให้เขาได้รับการบันทึกในกินเนสบุ๊คด้วย Ye Hongwei ปรมาจารย์ไทเก๊กวัย 39 ปี จากประเทศจีน ได้ทำลายสถิติโลกด้วยการใช้กระปู๋ลากเฮลิคอปเตอร์ในระยะทางกว่า 10 เมตร โดยไม่ใช้อุปกรณ์เสริมใดๆ ทั้งสิ้นเลย ในวันที่ Ye ทำการโชว์ลากเฮลิคอปเตอร์ด้วยกระปู๋นั้น มีคนจำนวนมากมารอดูและรอเชียร์ โดยก่อนจะเริ่มโชว์ ทางเจ้าหน้าที่กินเนสบุ๊คได้อ่านกฎที่เขาต้องทำ และหนึ่งในนั้นคือต้องลากเฮลิคอปเตอร์ให้ได้อย่างน้อย 8 เมตร แต่พอถึงเวลาจริงๆ Ye ตัดสินใจลากเฮลิคอปเตอร์ให้ไปไกลกว่าที่กำหนดถึง 2 เมตร นั่นหมายความเขาได้สร้างสถิติโลกใหม่ด้วยระยะทาง 10 เมตร!! แน่นอนว่ามันต้องเจ็บมากๆ แต่ Ye มีวิธีบรรเทาความเจ็บปวดในแบบของเขา คือใช้กระบวนท่าไทเก๊ก จนทำให้เขากลับมารู้สึกปกติอีกครั้ง ในที่สุด Ye ก็ได้รับการจดบันทึกในกินเนสบุ๊คในฐานะ “ผู้ใช้กระปู๋ลากเฮลิคอปเตอร์ได้ไกลที่สุดในโลก” ท้ายที่สุดนี่ก็ขอแสดงความยินดีกับสถิติโลกด้วยนะท่านปรมาจารย์!! แข็ง… แรงแค่ไหน ถามใจเธอดู มีใครให้มากกว่านี้มั้ย? …
-
พาทัวร์ ‘ห้องสมุดสุดอลังจากทวีปยุโรป’ ที่เหมาะกับผู้รักการอ่าน ควรจะไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต
หลายคนชอบเข้าไปอ่านหนังสือในห้องสมุด เพราะเป็นสถานที่ที่มีหนังสือให้เลือกอ่านหลากหลายและมีความเงียบสงบ ทำให้มีสมาธิในการอ่านมากขึ้น นอกจากคุณสมบัติเหล่านี้แล้ว ห้องสมุดบางแห่งบนโลกใบนี้ยังถูกออกแบบให้มีความหรูหรา จนหนอนหนังสือทั้งหลายใฝ่ฝันอยากเข้าใปใช้บริการสักครั้ง และนี่คือห้องสมุดจากฝั่งยุโรปที่ช่างภาพ Thibaud Poirier ได้เดินทางไปเก็บภาพมาช่วงปีที่ผ่านมา บอกได้เลยว่าเป็นห้องสมุดที่น่าทึ่งมาก ห้องสมุด Trinity College ดับลิน ปี 1732 Poirier ได้มีโอกาสถ่ายภาพเหล่านี้ในช่วงเวลาที่ห้องสมุดปิดทำการแล้ว ทำให้ภาพที่ออกมาดูโล่งและถูกจัดอย่างมีระบบระเบียบ เขาบอกว่าห้องสมุดเหล่าไม่ต่างจากลายนิ้วมือเลย เพราะมันถูกออกแบบมาอย่างมีเอกลักษณ์โดยสถาปนิกที่มีความคิดสร้างสรรค์ ห้องสมุด Bibliothèque Sainte-Geneviève ปารีส ปี 1850 และเห็นได้ชัดว่าการออกแบบนี้ไม่ได้เน้นที่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงตัวผู้อ่าน โดยได้สร้างบรรยากาศและมุมนั่งอ่านหนังสือให้เหมาะกับการอ่านหนังสือมากที่สุด พวกเขาใส่ใจในทุกรายละเอียด แม้กระทั่งจุดเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังเห็นถึงการความใส่ใจในการออกแบบ และเมื่อดูรวมๆ แล้ว มันสวยงามมาก แน่นอนว่าหลายคนใฝ่หาสถานที่แบบนี้ในการอ่านหนังสือ ห้องสมุด Bibliothèque Nationale de France ปารีส ปี 1868 ตอนนี้ Poirier ได้ถ่ายภาพห้องสมุดกว่า 25 แห่งแล้ว และใครที่สนใจก็สามารถชมภาพเพิ่มได้ที่เว็บไซต์ thibaudpoirier กันได้เลยนะคะ ห้องสมุด Bibliothèque…
-
น้องหมาแสนรู้ ‘ช่วยชีวิตทารก’ ให้รอดออกมาจากถุงพลาสติก จนถูกยกให้เป็นฮีโร่ของมนุษย์
อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าสุนัขไม่ได้มีดีแค่ความน่ารัก แต่มันมีทั้งความซื่อสัตย์ ความฉลาด แถมยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์อีกด้วย แต่สุนัขบางตัวมันทำได้มากกว่านั้น เหมือนกับ Orejón น้องหมาแสนรู้ที่ช่วยชีวิตทารกถูกทิ้ง จนทำให้มันได้รับการยกย่องให้เป็นฮีโร่ เรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศอาร์เจนตินา เมื่อทารกคนหนึ่งถูกใส่ไว้ในถุงพลาสติก และถูกทิ้งให้อยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวจัด โดยไม่มีใครสังเกตเห็นเลย ขณะนั้น Orejón อยู่ที่บ้านกับเจ้าของ Enzo Giménez บนถนน Vincent Lopez และกำลังเห่าบางสิ่ง ไม่มีใครเอะใจเลย จนกระทั่งเพื่อนบ้านคนหนึ่งวิ่งผ่านและเห็นมันเห่าจนรู้สึกผิดปกติ แต่ทว่าเขาก็ยังไม่เอะใจเสียทีเดียว จนกระทั่งตอนวิ่งกลับ น้องหมายังเห่าอยู่เหมือนเดิม เห็นได้ชัดว่ามันต้องการบอกอะไรบางอย่าง ก่อนจะรู้ว่า Orejón กำลังเห่าถุงพลาสติกใบหนึ่งอยู่ เพื่อนบ้านจึงตัดสินใจเข้าไปดูว่าในถุงนั้นมีอะไรกันแน่ และเมื่อเปิดดูเขาถึงกับตกใจ เพราะในถุงนั้นมีเด็กทารกอยู่ เขารู้ทันทีว่าทารกถูกนำมาทิ้งแน่ๆ และโชคดีที่เธอยังหายใจอยู่ แน่นอนว่าต้องขอบคุณ Orejón ที่มันพยายามจะขอความช่วยเหลือจากคนที่ผ่านไปมา ในที่สุดมันก็ทำสำเร็จ ที่สำคัญถ้าไม่ใช่น้องหมาตัวนี้ ทารกอาจเสียชีวิตได้เพราะเธอถูกทิ้งให้อยู่ท่ามกลางอากาศหนาวมานานแล้ว ต่อมาเพื่อนบ้านก็ได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนทารกจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และทราบว่าเธอเพิ่งเกิดได้เพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น ตอนแรกทุกคนเป็นห่วงเด็กน้อยมาก เพราะเธอไม่ได้กินอะไรมานานและอยู่ในอากาศหนาว ทำให้ร่างกายอ่อนแอ แต่ตอนนี้เธอได้รับการดูแลจนสุขภาพกลับมาแข็งแรงแล้ว ทางด้านตำรวจก็กำลังอยู่ระหว่างสืบสวนว่าใครนำตัวเด็กมาทิ้ง ในขณะเดียวกันก็มีหลายคนติดต่อเข้ามาเพื่อขอรับเลี้ยงเด็กน้อยเป็นลูกบุญธรรม เรื่องราวนี้ถูกแชร์ลงโซเชียลจนทำให้ Orejón ได้รับการชื่นชมจากชาวเน็ตจำนวนมาก บางคนยังยกให้มันเป็นฮีโร่ด้วย…
-
ช่วงเวลาสุดซึ้งของพี่สาววัย 12 ขอคุณหมอช่วยทำคลอด เพราะอยากให้น้องชายปลอดภัย…
เรื่องราวนี้เป็นช่วงเวลาที่สาวน้อยวัย 12 ขวบ ทำการพยุงส่วนของศีรษะน้องชาย โดยอยู่ในความดูแลของคุณหมอเมื่อวันอังคารที่ 6 มิถุนายน 2017 ที่ผ่านมา Dede Carraway คุณแม่ที่กำลังทำการคลอดลูกชายตัวน้อยได้เล่าเหตุการณ์ว่า ในขณะที่เธอกำลังคลอดอยู่นั้น Jacee Dellapena ว่าที่พี่สาวตัวน้อย ก็ขอร้องคุณหมอ Walter Wolfe ว่าเธออยากจะช่วยคุณหมอทำคลอดให้น้องชายของเธอ คุณพ่อ Zack และคุณแม่ Carraway โชว์รูปอัลตราซาวน์ของลูกเธอ Carraway กล่าวว่า Jacee นั้นเคยต้องการที่จะช่วยคุณหมอทำคลอด Zaydn น้องชายของเธอเมื่อสองปีก่อน แต่พ่อแม่ของเธอคิดว่าเธอนั้นยังเด็กเกินไป… Jacee และแม่ของเธอถ่ายรูปกับ Zaydn น้องชายตัวน้อยที่ถูกอุ้มอยู่ แต่ครั้งนี้หลังจากการปรึกษาหารือกันระหว่างคุณหมอและคุณแม่ Carraway พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะให้ Jacee เข้ามาในห้องทำคลอดโดยอยู่ในความดูแลของคุณหมอ เธอแต่งตัวและทำความสะอาดส่วนต่างๆ เหมือนเป็นคุณหมอคนหนึ่งเลยทีเดียว และแล้วช่วงเวลาที่สำคัญก็มาถึงเมื่อคุณหมอได้ให้ Jacee ช่วยประคองศีรษะของน้องชายเธอไว้ในขั้นตอนสุดท้ายของการคลอด แม้ว่าเธอจะหวั่นๆ และกลัวอยู่บ้าง แต่ก็มีคุณหมอช่วยดูอยู่ตลอด . …
-
หมู่บ้านกลางเขาในสวิตเซอร์แลนด์ ห้ามนักท่องเที่ยวถ่ายรูป เพราะว่าที่นี่สวยเกินไป!?
นี่อาจจะเป็นข้อห้ามที่แปลกที่สุดอีกข้อหนึ่งที่ #เหมียวปั๊ก เจอมา แต่นี่คือเรื่องจริง ณ หมู่บ้าน Bravuogn หรืออีกชื่อหนึ่ง Bergün ที่ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขา Swiss Alps ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับเหตุผลของข้อห้ามดังกล่าวก็คือ แม้ภาพถ่ายจะเป็นอะไรที่สวยงามและสามารถดึงดูดให้คนเข้ามาเยี่ยมชมที่นี่ แต่ในอีกมุมก็สามารถสร้างความรู้สึกอิจฉาและหดหู่ให้กับคนที่ไม่มีโอกาสได้มาเช่นกัน ดังนั้นทางนายกเทศมนตรีท้องถิ่นจึงได้ออกกฎ ห้ามถ่ายรูปบรรยากาศของหมู่บ้านสำหรับนักท่องเที่ยว หมู่บ้าน Bergün อันเงียบสงบที่ออกกฎ ห้ามนักท่องเที่ยวถ่ายรูป!? นี่อาจจะดูเป็นเรื่องตลก แต่มันคือเรื่องที่จริงจังมากถึงขนาดสภาหมู่บ้านออกกฎนี้มา โดยมีการรับรองจากนายกเทศมนตรี โดยโทษของผู้ที่ฝ่าฝืนนั้น จะถูกปรับเป็นเงิน 5 ยูโร หรือ ประมาณ 200 บาท ตามคำแถลงของหน่วยงานการท่องเที่ยวของ Bergün กล่าวว่า “เรามีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าภาพถ่ายในวันหยุดที่สวยงามบนโซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้ชมบางส่วนไม่มีความสุขเพราะพวกเขาไม่สามารถอยู่ที่นั่นได้” ป้ายสัญลักษณ์ห้ามถ่ายรูปภายในหมู่บ้าน “Bergün เป็นเมืองที่สวยงามไปด้วยธรรมชาติและความสงบ เราอยากให้ทุกท่านได้มาเยี่ยมชมด้วยตัวเองเพื่อสัมผัสถึงประสบการณ์นี้อย่างเต็มที่” Peter Nicolay นายกเทศมนตรีได้กล่าวเสริม แต่ถึงกระนั้นหลายคนกลับมองว่า นี่เป็นแผนการตลาดที่ทำให้เราอยากที่จะเข้ามาเยี่ยมชมหมู่บ้านแห่งนี้มากขึ้น ซึ่งข้อเท็จจริงบางส่วนนั้นถูกยืนยันโดย Marc-Andrea Barandun ซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการท่องเที่ยวของหมู่บ้าน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงจังเกี่ยวกับข้อห้ามที่ออกมาใหม่นี้ ทางเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของหมู่บ้าน Bergün ได้ยืนเรื่องไปในส่วนของเว็บไซต์ออนไลน์ต่างๆ…
-
ชวนไปเที่ยวคาเฟ่ในญี่ปุ่น ท่ามกลางธรรมชาติ ราวกับว่าคุณอยู่ในโลกอนิเมะของ Ghibli !!
ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องวัฒนธรรม วัดวาอาราม หมู่บ้าน และมรดกโลกที่สวยงามแล้ว ที่ประเทศแห่งนี้ยังมีสถานที่ลับๆ ที่สวยงามราวกับวิวในอนิเมะ รอให้คุณไปพบเจอด้วยนะ สถานที่ลับๆ ที่ว่านี้คือคาเฟ่ที่ชื่อว่า Kokemushiro ตั้งอยู่ในจังหวัดเอะฮิเมะ บนเกาะชิโกะกุ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ห่างจากเมืองหลวงโตเกียวไปประมาณ 7-9 ชั่วโมง (ถ้าบินไปก็ราวชั่วโมงกว่าๆ เอง) สาเหตุที่คาเฟ่นี้เริ่มโด่งดังและเป็นที่พูดถึงของนักท่องเที่ยวก็เพราะว่ามันตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทั้งต้นไม้ใบหญ้าเขียวชะอุ่ม และบรรยากาศสบายตา จนผู้มาเยือนที่นี่หลายคน พูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าเหมือนกับหลุดเข้าไปในอนิเมะของ Studio Ghibli เลยทีเดียว หากคุณอยากรู้ว่ามันเหมือนกับภาพในการ์ตูนแค่ไหน ลองตัดสินด้วยสายตาของตัวเองเลย… จากบริเวณที่จอดรถของคาเฟ่นี้ ตามทางเดินจะมีการตกแต่งด้วยรอยเท้าของเหม่ยและโทโทโร่ (ตัวละครจากเรื่องโทโทโร่ เพื่อนรัก) ให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในหมู่บ้านเดียวกับพวกเขา ตัวคาเฟ่ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้สีเก่าๆ ดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติสีเขียว โดยที่ด้านหน้าร้านมีแผ่นไม้ข้อความเขียนเอาไว้ว่า “เปิดเพราะฉันรู้สึกดี” ในคาเฟ่แห่งนี้เสิร์ฟทั้งอาหารญี่ปุ่นและแบบตะวันตก พร้อมกับเครื่องดื่มและขนมหวานอีกมากมาย สำหรับใครที่อยากจะใกล้ชิดกับธรรมชาติมากๆ ก็มีโต๊ะที่อยู่ด้านนอกร้านด้วย ให้คุณเพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มในขณะที่รายล้อมไปด้วยแสงแดดและเสียงน้ำไหลผ่าน . . . . . . . .…
-
ชาวเน็ตแชร์ภาพสุดช้ำใจ หลังใส่รองเท้า Croc ออกแดด ได้ลายแถมกลับมาทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจ…
เดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนใส่รองเท้า Croc อาจจะเพราะว่ามันเป็นรองเท้าที่เบา สวมใส่สบาย แถมยังมีรูระบายอากาศด้วย เพื่อที่เท้าของเราจะได้ไม่อับด้วย แต่รู้มั้ยว่าภายใต้สรรพคุณอันแสนดีของรองเท้า Croc นั้นก็แอบซ่อนความช้ำใจเอาไว้ นั่นก็คือเวลาคุณใส่รองเท้าดังกล่าวนานๆ แล้วออกไปกลางแจ้ง เมื่อถอดออกมาแล้วเท้าของคุณจะมีลวดลายของรองเท้า Croc แบบเป๊ะๆ ที่เห็นเด่นชัดมาแต่ไกล 1. ใส่สบายจนลืมนึกถึงสภาพตอนถอด 2. มันก็จะมีความแทนเป็นจุดๆ หน่อยอะ 3. แล้วกว่าจะหายนี่ก็ใช้เวลาน๊านนนนานนะ 4. เอาให้ซีดกันไปเลย 5. ผิวแทนมั้ยล่ะ 6. ถอดสิ ถอด อ่าวว ถอดแล้วหรอ 7. จากนี้ไปถ้าไม่ใส่รองเท้าผ้าใบก็ต้องใส่ถุงเท้าอะแบบนี้ 8. ผิวสองสีเบาๆ 9. ลวดลายเท้าที่ใครๆ ก็ทำได้ เพียงแค่ใส่ croc 10. สองสีแบบไม่ได้ตั้งใจ 11. อยู่ในช่วงฟื้นฟูสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ …
-
ชาวอินเดียนับพันแห่ “กลืนปลาตัวเป็นๆ” ด้วยความเชื่อที่ว่า สามารถรักษาหอบหืดได้!?
แม้ว่าทุกวันนี้วงการการแพทย์จะมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังคงรักษาโรคตามความเชื่อดั้งเดิม อย่างชาวอินเดียกว่า 5,000 คน ที่เดินทางไปยังเมือง Hyderabad ทางใต้ของประเทศอินเดีย มีความเชื่อว่าการกลืนปลาตัวเป็นๆ จะช่วยรักษาโรคหอบหืดได้ ในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกๆ ปี ผู้ป่วยโรคหอบหืดจะไปรวมตัวกันที่เมือง Hyderabad เพื่อกลืนปลาตัวเป็นๆ ที่โบกไว้ด้วยสมุนไพร โดยเชื่อว่าจะทำให้หายใจคล่องขึ้น ปกติแล้วไม่ว่าจะปลาชนิดไหนมันก็จะมีความคาวอยู่แล้ว แต่ผู้ป่วยเหล่านี้ต้องกลืนปลาช่อนความยาว 5 เซนติเมตร ลงไป และแม้ว่ามันจะพะอืดพะอมหรือจะคลื่นไส้ แต่ห้ามอาเจียนออกมาโดยเด็ดขาด ครอบครัว Bathini Goud ซึ่งเป็นผู้ให้การรักษาบอกว่า ปลาที่กลืนลงไปจะช่วยล้างสิ่งสกปรกที่อยู่ในลำคอ รักษาโรคหอบหืด และแก้ปัญหาทางเดินหายใจได้ แต่ทางครอบครัวไม่ได้เปิดเผยสูตรหรือวิธีการมากไปกว่านี้ และอ้างว่าได้รับการถ่ายทอดจากนักบวชฮินดูมาตั้งแต่ปี 1845 แล้ว แม้จะไม่รู้ที่มาที่ไป แต่พ่อแม่หลายคนมักจะพาลูกมารักษาด้วยวิธีนี้ โดยพวกเขาจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกที่เป็นหอบหืดกลืนปลาลงไปให้ พ่อแม่ต้องจับลูกหงายหน้าขึ้น อ้าปาก ปิดจมูก แล้วยัดปลาตัวเป็นๆ ลงในคอของลูก จากนั้นก็ปิดปากจนแน่ใจแล้วว่าปลาถูกกลืนลงไปแล้ว แม้ว่าลูกบางคนจะไม่เต็มใจหรือร้องไห้ก็ตาม หลังจากที่กลืนปลาลงไปแล้ว ผู้ป่วยจะต้องควบคุมเรื่องการกินอาหารอย่างเข้มงวดเป็นเวลากว่า 45 วัน… …
-
รถบรรทุกเบียร์เกิดพลิกคว่ำ เทกระจาดอยู่ข้างถนน สายเมาอยากพุ่งตัวไปเคลียร์พื้นที่ให้!!
ปกติเวลาได้ยินข่าวรถคว่ำ มันมักจะเป็นข่าวร้ายที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเจอ เพราะมันอาจจะเกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แต่สำหรับอุบัติเหตุรถคว่ำในครั้งนี่้ แม้จะมีการสูญเสียทรัพย์สินจำนวนมาก และคนขับยังได้รับบาดเจ็บอีก แต่มันกลับกลายเป็นความบันเทิงของชาวเน็ตซะงั้น ทั้งนี้เป็นเพราะรถที่คว่ำนั้นเป็นรถบรรทุกเบียร์ Bud Light ทำให้เบียร์กระจัดกระจายอยู่ทั่วถนน แน่นอนว่าใครเห็นก็ต้องเสียดาย โดยเฉพาะคนชอบดื่มทั้งหลาย เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยสาธารณะในรัฐแอริโซนาบอกว่า อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันพุธที่ 7 มิถุนายน 2017 เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายกับเบียร์ยี่ห้อ Bud Light จำนวนมาก แต่โชคดีที่คนขับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ทางด้านคนขับรถบรรทุกคันดังกล่าวให้การว่า รถสูญเสียการควบคุมตอนที่เขากำลังเปลี่ยนเลน จนเป็นเหตุทำให้รถคว่ำตามที่เป็นข่าว… ส่วนมูลค่าความเสียหายและการรับผิดชอบนั้นสื่อไม่ได้ระบุเอาไว้ แต่แทนที่มันจะเป็นเรื่องน่าเศร้าเหมือนเหตุการณ์อื่นๆ มันกลับกลายเป็นความบันเทิงซะงั้น โดยหลังจากที่ข่าวนี้ถูกแชร์ในโซเชียล ชาวเน็ตหลายคนถึงกับอยากเข้าไปทำสะอาดให้กันเลยล่ะ บางคนบอกว่า ‘แหม่ นี่ถ้ามีรถน้ำแข็งอีกสักคันนะ จัดปาร์ตี้กลางถนนได้เลย’ ‘ถ้ามีคนอยู่แถวนั้น พวกเขาคงจะขโมยเบียร์พวกนั้นไปแน่ๆ’ หรือไม่ก็ ‘มันเป็นโศกนาฏกรรมสำหรับคอเบียร์เลยนะ ขอแสดงความเสียใจต่อนักดื่มทั้งหลายที่สูญเสียโอกาสอันดีงามเหล่านี้ด้วย’ ที่มา dailymail
-
จีนจัดเต็มกันโกง ทั้งตรวจใบหน้าและลายนิ้วมือ ตัดสัญญาณมือถือ รวมปล่อยโดรนตรวจตรา!!
ทุกการสอบ ไม่ว่าจะระดับไหนก็ตาม มักจะมีกรรมการคุมสอบอย่างเข้มงวด แต่ถึงอย่างนั้นที่ผ่านมาก็มีคนบางกลุ่มที่ยังหาช่องทางในการทุจริตจนได้ ในขณะที่ทางสถาบันผู้จัดสอบก็พยายามรับมือกับการทุจริตเช่นกัน ก็อย่างที่รู้ว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นโอกาสสำคัญของนักเรียนทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศจีนที่มีการแข่งขันสูงทำให้ยิ่งมีการโกงด้วยเทคนิคพิศดารขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ดังนั้นปีนี้กรรมการคุมสอบจีนจึงต้องอาศัยเทคโนโลยีระดับสูงขึ้นเพื่อรับมือการทุจริตที่ผู้เข้าสอบสรรหามา ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบใบหน้าด้วยคอมพิวเตอร์ ระบบเทียบลายนิ้วมือ เครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เครื่องตรวจสัญญาณวิทยุ และการปล่อยโดรนตรวจตราเพื่อช่วยในการคุมสอบ สำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีนี้จะเริ่มขึ้นในวันอังคารที่จะถึงนี้ ทางมหาวิทยาลัยในมณฑลซานตงถึงกับสั่งห้ามนักศึกษาหยุดเรียนในอังคารและวันพุธ เพื่อป้องกันนักศึกษาไปรับจ้างสอบแทนนักเรียน การทุจริตส่วนใหญ่มักจะเป็นข้อสอบแนวเลือกตอบ โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ หรือบางที่แม้กระทั่งข้อสอบที่ต้องเขียนบรรยาย พวกเขาก็ยังหาวิธีโกงได้ ข้อสอบเขียนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นบทความภาษาจีน โดยสนามสอบในแต่ละจังหวัดจะได้หัวข้อที่แตกต่างกัน อย่างเช่น ในกรุงปักกิ่งปีนี้นักเรียนจะได้หัวข้อเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของประเทศจีนในปี 2049, หัวข้อร้อยปีรากฐานของสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือหัวข้อที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ต่างๆ แล้วรู้มั้ยว่าในจีนนั้น หากพบการทุจริตสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 7 ปี แต่ถึงอย่างนั้นในปีนี้ก็ได้จับผู้ร่วมโกงสอบได้แล้วถึง 52 คน แล้วมาดูกันว่าจะมีคนกล้าโกงอีกมั้ย? ที่มา reuters l straitstimes
-
Geamana หมู่บ้านเล็กๆ ที่เคยอุดมสมบูรณ์ กลับต้องจมใต้น้ำ จากภัยคุกคามของโรงงานเหมืองแร่!!
ทุกอย่างในโลกนี้ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา บางเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่บางสิ่งค่อยๆ เปลี่ยนโดยที่เราไม่ทันสังเกต อย่าง Geamana หมู่บ้านเล็กๆ ในประเทศโรมาเนีย ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหมู่บ้านที่อุดมสมบูรณ์และเงียบสงบ แต่มาวันนี้ทั้งหมู่บ้านกลับจมอยู่ใต้น้ำเสียลึกกว่า 90 เมตรจากโรงงานอุตสาหกรรม เหลือเพียงยอดโบสถ์ที่ยังคงเหลือไว้ให้ดูต่างหน้า… และนี่คือเรื่องเล่าจากช่างภาพ Ciprian Hord ที่ได้ไปสัมผัสหมู่บ้านแห่งนี้ โดยพบว่ายังมีชาวบ้านบางคนที่ยังไม่ยอมอพยพออกจากหมู่บ้านแห่งนี้ ย้อนกลับไปในปี 1978 หมู่บ้านแห่งนี้ก็ต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อทุกคนต้องอพยพ ทิ้งอาคารบ้านเรือนรวมไปถึงวิถีชีวิตอันแสนสงบสุข ทั้งนี้ก็เพื่อหลีกทางให้กับน้ำเสียจากเหมืองทองแดง Roșia Poieni ที่เอ่อไหลเข้าท่วมพื้นที่หมู่บ้าน จนกระทั่งกลายเป็นทะเลสาบที่เต็มไปด้วยไซยาไนด์ ภาพของหมู่บ้าน Geamana ในอดีต ในการอพยพครั้งนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่ถูกบีบบังคับให้ออกจากพื้นที่ โดยได้รับเงินชดเชยประมาณ 60,000 บาท ทำให้ชาวบ้านกว่า 300 ครอบครัวกระจัดกระจายอยู่ทั่วโรมาเนีย ต่อมา การทำงานของเหมือง Rosia Poieni ก็เริ่มขึ้นอย่างจริงจัง จนกลายเป็นเหมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของยุโรป ซึ่งมีคนงานประมาณ 500 คน บริเวณทะสาบหลากสี คือบริเวณที่ตั้งของหมู่บ้านในอดีต ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาจึงได้สร้างเขื่อนเพื่อปิดทางเข้าหมู่บ้าน…
-
เปิดแล้ว… Playboy Bar ที่ญี่ปุ่น เอาใจหนุ่มเหงาผู้ว้าเหว่ ด้วยบริการจากสาวกราเวียร์!!
‘Weekly Playboy’ หรือ ‘Shupure’ เป็นนิตยสารปลุกใจเสือป่าที่อยู่คู่วิถีชีวิตชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 1966 และถ้าถามว่าเนื้อหาข้างในจะเป็นประมาณไหน เราก็ขออธิบายสั้นๆ ว่า เป็นเหมือนเพลย์บอยเวอร์ชั่นญี่ปุ่นนั่นแหละ และข่าวดีล่าสุดจากบริษัทผู้ตีพิมพ์หนังสือปลุกความสยิวรายสัปดาห์ก็คือ บาร์แห่งใหม่ที่กำลังจะเปิดให้บริการใจกลางกรุงโตเกียว เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองนิตยสารที่อยู่มานานถึง 50 ปี หวังเอาใจหนุ่มเหงา หนุ่มหงี่ ทั้งหลาย!! บาร์แห่งนี้มีชื่อว่า Shupure Bar ตั้งอยู่ในย่าน Kabukicho ของกรุงโตเกียว เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของบาร์แห่งนี้ก็คือ การเลือกใช้โทนสีดำ-แดงเพื่อให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้น และตกแต่งด้วยภาพหรือเนื้อหาที่นำมาจากนิตยสารทั้งหมด ที่สำคัญยังมีอาหารอร่อยๆ คอยให้บริการคุณลูกค้าทุกท่าน อย่างเช่นทูน่าซาชิมิชุดนี้สนนราคาชุดละ 1,690 เยน (ประมาณ 530 บาท) และหนึ่งในกับแกล้มทีเด็ดสำหรับคอเบียร์ ก็ต้องเป็นไก่ทอดคาราเกะ ในเมนูสำหรับการเลือกน้ำซอส ก็แอบมีนางแบบสาวมาส่งสายตาให้หนุ่มๆ ได้ออกอาการขะเขินกันเล่นๆ ที่มากไปกว่านั้นก็คือ บาร์แห่งนี้ได้จับมือร่วมกับเครื่องดื่ม Strong-Zero ด้วยการขาย ‘Chuhai’ เครื่องดื่มที่เคลมว่ามีแอลกอฮอล์อยู่ 9% และเหมาะกับไก่ทอดคาราเกะเป็นที่สุด …
-
พอกันทีกับการกลั่นแกล้ง!! หนุ่มอ้วนตัดสินใจลดน้ำหนักใน 1 ปี เปลี่ยนไปจนเพื่อนๆ จำไม่ได้
การแกล้งหรือรังแก (Bully) เป็นอีกสาเหตุสำหรับที่ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าซึ่งนำไปสู่โรคจิตเภทและโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ได้ โดยหลายๆ คนนั้นก็มีวิธีการรับมือที่แตกต่างกันไป สำหรับนาย Ilija Rajkovcevic ที่เคยถูกกลั่นแกล้งเนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่โตตัดสินใจที่จะ “พอกันที” โดยเขาเริ่มต้นลดน้ำหนักอย่างจริงจังจนเขาสามารถที่จะลดน้ำหนักได้ 90 กิโลกรัมภายใน 1 ปี ซึ่งเรื่องราวของเขานั้นคล้ายคลึงกับพล๊อตหนังเรื่อง The Central Intelligence แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นสายลับเหมือนในหนังแต่เขาก็สามารถลดน้ำหนักจนใครหลายคนจำเขาไม่ได้ รูปภาพก่อนที่เขาจะตัดสินใจลดน้ำหนัก “ตอนนั้นเวลาที่ผมมองกระจก ผมรู้สึกว่าตัวเองคงต้องมีอนาคตที่อับเฉา เอาแต่นั่งกินๆๆ อยู่หน้าทีวี ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะเข้ายิมและออกกำลังกายอย่างจริงจัง” Ilija กล่าว สะสะสุดยอด … ล่ำแล้วยังหล่ออีกด้วย หลังจากการวางแผนไดเอทและการออกกำลังกายอย่างเข้มงวด Ilija กลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น ๆ ผ่านทางช่อง YouTube ของเขาซึ่งวิดิโอเปรียบเทียบที่เขาทำได้รับยอดวิวกว่า 3.6 ล้าน เปลี่ยนไปจนจำเค้าโครงเดิมไม่ได้เลย ภายในหนึ่งปี เขาสามารถลดน้ำหนักได้ขนาดนี้เลยหรอเนี่ย!? Ilija ยังกล่าวเสริมอีกว่า “ผมเหงา โดนแกล้งและโดนดูถูกมาตลอด จนวันหนึ่งผมตัดสินใจที่จะพอกันทีกับการโดนแบบนี้…
-
คู่รักชวนกันไปถ่ายภาพแต่งงานอีกครั้ง พร้อมกับฉากหลังตูมตามแบบฮีโร่ญี่ปุ่น!!
‘งานแต่งงาน’ ถือเป็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิตของใครหลายๆ คน เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างครอบครัว… และในงานที่แสนพิเศษนี้ ไม่ว่าคู่บ่าวสาวคนไหนต่างก็อยากให้มันเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ และไม่มีทางลืมไปตลอดชีวิต ก็เลยเกิดวิธีแต่งงานแปลกๆ มากมายมาให้เราได้เห็นกัน เช่นเดียวกันกับคู่รักชาวญี่ปุ่นคู่นี้ที่แม้จะแต่งงานกันไปแล้วตั้งแต่ปี 2015 แต่พวกเขาต้องการที่จะสร้างความประทับใจให้น่าจดจำยิ่งขึ้นไปอีก ก็เลยพากันมาถ่ายรูปแต่งงานกันอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับเซตฉากหลังให้มีระเบิดตู้มต้าม เหมือนกับฉากในหนังภาพยนตร์ยังไงยังงั้นเลย โดยช็อตภาพสวยๆ แบบนี้ถูกทำขึ้นมาโดยบริษัทคอสเพลย์ที่มีชื่อว่า Cosnavi พวกเขาไปถ่ายทำกันที่พื้นที่เหมือนร้างที่อยู่ใกล้ๆ กับเมือง Iwafune จังหวัด Tochigi ที่น่าประทับใจก็คือคู่รักทั้งสองคนไม่ได้แสดงท่าทีตกใจกลัวเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่ระเบิดอยู่ห่างออกไปข้างหลังเพียงไม่ถึง 10 เมตรเท่านั้น แล้วพอมาเทียบกับฉากหลังของเหล่าขบวนการ 5 สี ที่มักจะโพสต์ท่าเท่ๆ หลังจากจัดการกับเหล่าร้ายเสร็จเรียบร้อย พร้อมกับมีฉากระเบิดตู้มมมอยู่ข้างหลัง โลเคชั่นแบบเดียวกันเป๊ะๆ ต้องขอบอกเลยว่าใจกล้ามั่กๆ ถ้าเป็น #เหมียวหง่าว คงวิ่งหนีตั้งแต่ควันพุ่งแล้วล่ะ ฮร่าๆ ที่มา : dailymail
-
สาวตัดสินใจกลับรถบนทางด่วน ยอมโดนตำรวจแจกใบสั่ง ก็เพื่อช่วยเจ้ามิ้วน้อยให้รอด!!
ในเช้าวันหนึ่งคุณ Christina Hamlett ได้ขับรถไปบนถนนทางด่วนหมายเลขที่ 288 ในรัฐ Virginia จู่ๆ ก็ได้พบเข้ากับเจ้าเหมียวน้อยตัวหนึ่งนอนอยู่ข้างถนนด้วยความกลัว แน่นอนว่าเธอไม่ยอมปล่อยให้มันนอนเสี่ยงอันตรายอยู่อย่างนั้น จึงตัดสินใจจอดรถและลงไปให้ความช่วยเหลือ บนถนนที่มีรถพลุกพล่าน เจ้ามิ้วน้อยนอนขดตัวเป็นวงกลมมีท่าทีดูหวาดกลัวกับทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว Christina จึงตัดสินใจกลับรถ ซึ่งบริเวณนั้นเป็นที่ห้ามกลับรถ จนได้รับใบสั่งมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกแย่หรือเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะสิ่งที่ต้องการที่สุดก็คือความปลอดภัยของเจ้าเหมียว “ฉันวกรถกลับมาอย่างช้าๆ และระมัดระวัง พอเข้าไปตรวจเช็คที่เจ้าเหมียวแล้วก็พบว่ามันปลอดภัยดี ฉันคิดว่ามันน่าจะถูกโยนลงมาจากรถ เพราะที่ศีรษะของมันได้รับบาดเจ็บ” Christina เล่า เธอรับอุ้มเจ้าเหมียวขึ้นมาพร้อมกับใช้ผ้าขนหนูห่อตัวมัน และก็พบว่ามันดูสบายใจขึ้นมามาก เพราะรู้ว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว มันถูกตั้งชื่อว่าเจ้า Lucky ด้วยความช่วยเหลือจากอาสาสมัครในศูนย์ช่วยเหลือ St. Francis Humane Association เจ้าเหมียวก็ได้รับการรักษาตัว ในคืนที่พามาไว้ที่บ้านเจ้า Lucky ก็กอดคุณ Christina ไม่ปล่อยเลยแถมยังหายใจเป็นเสียงกรนดังลั่นราวกับเปิดเครื่องดูดฝุ่นยังไงยังงั้น ตอนนี้ก็ผ่านไปแล้วสองสัปดาห์ ตั้งแต่ที่เจ้า Lucky ถูกช่วยเหลือมาจากทางด่วน และมันก็หายดีแล้วล่ะ! “มันเข้ากันกับเราได้ดีมาก และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือก็ช่วยดูแลมันเป็นอย่างดี” Christina เล่า เจ้า…
-
เด็กหนุ่มวัย 6 ขวบ เกิดมาพิการแขนขา พิสูจน์ตัวเองด้วยการคว้าแชมป์ว่ายน้ำได้สำเร็จ!!
เรามั่นใจว่าเรื่องราวการต่อสู้ในชีวิตของเด็กน้อยวัย 6 ขวบ ชาวบอสเนียคนนี้จะทำให้ใครหลายคนรู้สึกมีกำลังใจในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น Ismail Zulfic เด็กน้อยวัย 6 ขวบ ที่เพิ่งชนะเลิศการแข่งขันว่ายน้ำมาหมาดๆ ก่อนหน้านี้ผู้ปกครองของ Ismail ได้ทุ่มเทหลายสิ่งหลายอย่างให้แก่ลูกชายเพียงคนเดียวของพวกเขา และพวกเขาก็ได้ค้นพบว่ากีฬาว่ายน้ำ เป็นสิ่งที่ลูกชายของเขารู้สึกมีความสุขมากที่สุด “มันไม่ใช่เรื่องของการเอาชนะ หรือความสำเร็จ แต่เป้าหมายของเราก็เพื่อดึงความกล้าในหัวใจของเด็กพิการทุกคน ให้กล้าที่จะลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่พวกเขาถนัด” ครูฝึกให้สัมภาษณ์ ทั้งหมดนี้เป็นโครงการของ Amel Kapo ผู้ก่อตั้งองค์กร Swim Strong Foundation โดยจุดประสงค์หลักก็เพื่อฝึกสอนให้เด็กที่เกิดมาพร้อมความผิดปกติ กล้าที่จะตัดสินใจและใช้ชีวิตในสังคมอีกครั้ง “เมื่อเด็กๆ เห็นว่าตัวเองก็สามารถทำในสิ่งที่คนปกติทำได้ มันไม่มีสิ่งไหนจะยิ่งใหญ่ไปกว่าสีหน้าของพวกเขาในช่วงเวลานั้นอีกแล้ว มันช่วยทำให้พวกเขามีความกล้ามากขึ้นจริง” Amel เล่า จากสถิติคาดการณ์ว่า 6.5% ของเด็กๆ ในประเทศบอสเนีย จะเกิดมาพร้อมกับความผิดปกติของร่างกาย และหนึ่งในปัญหาหลักก็คือการปรับตัวเข้าหาสังคม และการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้คนอย่างกลมกลืน และล่าสุดหนูน้อย Ismail Zulfic ก็เพิ่งคว้าแชมป์การแข่งขันว่ายน้ำมาหมาดๆ “ผมคงต้องยกย่องให้ Ismail…
-
หญิงชาวอินเดียผวา แมงมุมหลุดเข้าไปอยู่ในหูนานหลายชั่วโมง แม้แต่หมอยังตกใจ!!
ที่ผ่านมาเราอาจจะเคยได้ยินหรือเคยประสบกับการถูกแมลงเข้าหู ซึ่งเป็นอะไรที่ทรมานมาก เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าเราจะเอามันออกจากหูได้ แมลงเข้าหูว่าน่ากลัวแล้ว แต่ผู้หญิงคนนี้กลับถูกแมงมุมเข้าไปอยู่ในหูในช่วงที่เธอนอนหลับ และมันก็คลานอยู่ในหูของเธอนานหลายชั่วโมง… Lekshmi L หญิงชาวอินเดียได้งีบหลับในช่วงบ่ายที่ระเบียง แต่พอตื่นขึ้นมาเธอก็รู้สึกปวดหัวจิ๊ดๆ รู้สึกอึดอัดข้างในหูข้างขวาและรู้สึกเสียวๆ อย่างบอกไม่ถูก เธอจึงใช้นิ้วเขี่ยๆ ในหูเพื่อเอาสิ่งที่อยู่ข้างในออก แต่ก็ไม่สามารถเอาออกได้ ก็เลยให้ลูกสาวใช้ไฟฉายส่องให้ เพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ในนั้น แต่ลูกสาวก็ไม่พบอะไร ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกปวดมากขึ้นเรื่อยๆ และอาการหนักมากขึ้นจนถึงขั้นไม่สบาย สามีเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพาเธอไปยังโรงพยาบาล Columbia Asia ใน Hebbal และหลังจากที่ตรวจดูแล้ว คุณหมอถึงกับตกใจเมื่อพบว่ามีแมงมุมอยู่ในหูของเธอ และเมื่อมันถูกส่องด้วยไฟ มันค่อยๆ ขยับออกมาจากหูของ Lekshmi คุณหมอ Santosh Shivaswamy ที่ปรึกษา ENT ของโรงพยาบาล ผู้ให้การช่วยเหลือ Lekshmi บอกว่า “มันเป็นเรื่องปกติที่เราจะพบเคสแปลกๆ ในห้องฉุกเฉิน และเราก็มีวิธีรับมือกับมันเสมอ” “แต่เคสที่มีแมลงเข้าหู คนไข้จะมีความกลัวและกังวลจนทำให้การทำงานของเราเป็นไปได้ยาก ที่สำคัญการที่มีแมงมุมเข้าหูนั้นถือเป็นเคสที่หายากมาก” คุณหมอบอก Lekshmi บอกว่า “ตอนนั้นฉันรู้สึกกลัวมากเลยค่ะ เพราะมีสิ่งมีชีวิตกำลังดิ้นอยู่ในหูของฉัน ก่อนจะตามมาด้วยอาการปวดที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนหายใจไม่ออก และเมื่อหมอบอกว่ามีแมงมุมอยู่ในหู…
-
ร่วมถกข้อสงสัยของ ‘ข่าว’ ในภาษาอังกฤษ ทำไมต้องใช้คำว่า ‘News’ กับคำตอบที่แฝงอยู่แล้ว
เคยสงสัยกันมั้ยว่าทำไมข่าวในภาษาอังกฤษถึงใช้คำว่า ‘News’ และไม่ใช่แค่เรานะ แต่ Google ได้ออกมาเปิดเผยว่าทุกวันนี้มีคนจำนวนมากที่ค้นหาว่า ‘ทำไมข่าวในภาษาอังกฤษถึงใช้คำว่า News’ คำตอบก็ง่ายๆ เลย เพราะมันแฝงอยู่ในชื่อแล้ว… ทุกอย่างมันเริ่มขึ้นในศตวรรษที่ 14 ตอนนั้นคำว่า ‘News’ ในภาษาอังกฤษพัฒนามาจากพหูพจน์ของคำว่า ‘New’ ดังนั้นถ้าดูตามความหมายของ News จะเห็นว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข้อมูลใหม่ๆ ทั้งนี้เป็นเพราะว่าโดยธรรมชาติของคำว่า New หรือข่าวนั้น จะมีความหมายที่ไม่แน่นอนอยู่ เมื่อเทียบกับการตรวจสอบอย่างรอบคอบเกี่ยวกับขั้นตอนทางประวัติศาสตร์หรือวิชาอื่นๆ กล่าวคือ News จะอธิบายโลกปัจจุบันหรืออดีตเพิ่งผ่านมา และถ้ามีการอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ต้องมีบางอย่างที่ทำให้มันเชื่อมกับปัจจุบันโดยจะต้องมีความเกี่ยวข้องกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่า News มีความหมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสื่อต่างๆ เริ่มมีการเผยแพร่บทความที่เกี่ยวกับข่าวผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น ย้อนกลับไปในปี 1980 บริษัททางด้านการสื่อสาร CompuServe ได้เริ่มทำหนังสือพิมพ์ร่วมกับ Associated Press และมีหนังสือพิมพ์ออนไลน์ฉบับแรกคือ The Columbus Dispatch ที่ถูกเผยแพร่ในวันที่ 1 กรกฎาคม ก่อนจะมีหนังสือพิมพ์ออนไลน์ของสำนักอื่นตามมาในภายหลัง จนกระทั่งในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ความหมายของคำว่า News…
-
พี่หนวดเฟิ้มกับเจ้าเหมียวตัวจ้อย ความสัมพันธ์สุดมุ้งมิ้ง ติดเป็นปาท่องโก๋จนแยกไม่ได้
เรื่องราวมิตรภาพระหว่างเจ้ามิ้วน้อยมุ้งมิ้งกับหนุ่มหนวดเฟิ้มหน้าโหด กลายเป็นความสัมพันธ์ที่ดูน่ารักและเข้ากันอย่างลงตัว เจ้ามิ้วน้อยน่ารักตัวนี้มีชื่อว่า Gary มันคือผู้รอดชีวิตมาได้เพียงตัวเดียว พี่น้องตัวอื่นๆ ของมันตายหมดทั้งๆ ที่เจ้า Gary มีขนาดตัวที่เล็กที่สุด “พวกเราไปรับเจ้า Gary มาเลี้ยงตอนที่มันมีอายุได้ 8 สัปดาห์ เพราะจู่ๆ แม่ของมันก็ทิ้งไป และไม่กลับมาอีกเลย” คุณ Cat ฝ่ายทาสที่เป็นภรรยาเล่า ในวันที่เจ้า Gary ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านใหม่นั้น มันก็ชอบเดินเข้ามาหาทาสโดยเฉพาะฝ่ายสามีที่แม้จะดูหน้าโหดไปหน่อย แต่มันก็อ้อนเขาซะจนหัวใจละลาย ถึงมันจะตัวเล็ก แต่ความตัวเล็กของมันก็ทำให้ดูน่ารักมากยิ่งขึ้น >< จากนั้นทั้งคู่ก็อยู่ใกล้ๆ กันจนตัวแทบจะติดกันตลอดเวลา และนี่ก็คือที่นอนสุดโปรดของเจ้า Gary เวลาที่เขานอนมันก็คอยปกป้องอยู่เสมอ หลังจากนั้นไม่นานครอบครัวทาสก็ได้รับเจ้าเหมียวเข้ามาเลี้ยงที่บ้านอีก 1 ตัว ชื่อว่าเจ้า Artemis และแน่นอนว่าเจ้า Gary ก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี และตอนนี้เจ้า Gary ก็ย้ายมากอดกับเพื่อนใหม่ กลายเป็นตัวติดหนึบไม่ยอมห่างเลยล่ะ ><…
-
สุนัขจรจัดอาศัยในยางรถเก่าๆ ทั้งชีวิต กำลังจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ กับครอบครัวที่แสนอบอุ่น…
ขึ้นชื่อว่าเป็นสุนัขจรจัดแล้ว ไม่เคยมีอะไรง่ายสำหรับพวกมันเลย ทั้งเรื่องอาหารและที่พักพิง ในทุกๆ วัน พวกมันต้องเอาตัวรอดอย่างยากลำบาก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ชายคนหนึ่งได้ขับรถผ่านหลุมกลบขยะที่อยู่ใกล้กับ Puerto Peñasco ในประเทศเม็กซิโก เขาสังเกตเห็นยางรถเก่าๆ อยู่ข้างถนน และที่สะดุดตาก็คือ มีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ในยางรถนั้น เขาจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แล้วก็พบสุนัขจรจัดในสภาพผอมแห้ง และสกปรกมอมแมม ชายคนนั้นจึงได้ติดต่อไปยัง Claudia Ortega ผู้จัดการโรงพยาบาลสัตว์ Compassion Without Borders (CWOB) ซึ่งเป็นองค์กรที่ช่วยเหลือสุนัขและแมวในเม็กซิโก เมื่อ Ortega ไปถึง พบว่าสุนัขอาศัยยางรถเก่าๆ เป็นที่พักพิง โดยอยู่ท่ามกลางทะเลทรายโซโนรานโล่งๆ ซึ่งคงจะเป็นที่ที่ปลอดภัยสำหรับมันแล้ว Christi Camblor ผู้ก่อตั้ง CWOB บอกว่า “มันคงจะอาศัยอยู่ที่นี่มานานแล้วค่ะ อาจจะหลายเดือนหรือเป็นปีเพื่อปกป้องตัวเองจากอันตรายที่อยู่ข้างนอก” ต่อมาพวกเขาได้ตั้งชื่อให้มันว่าเจ้า Yoko ตอนที่ Ortega พยายามจะยก Yoko ออกจากล้อรถ มันก็แยกเขี้ยวใส่เธอ อาจจะเพราะกลัว สับสน และไม่รู้ว่ามนุษย์กำลังจะทำอะไรกับมัน แต่เธอไม่ยอมแพ้และยังคงพยายามเข้าหาน้องหมาอย่างระมัดระวัง จนในที่สุดก็สามารถยก Yoko…
-
Justin Trudeau ตอบคำถามในเว็บบอร์ดเองว่า “ทำไมวิศวกรเก่งๆ ควรย้ายมาทำงานในแคนาดา!?”
นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักผู้นำสุดหล่อมากความสามารถอย่าง Justin Trudeau แน่นอน นอกจากความสามารถด้านการทำงานแล้ว ในส่วนของหน้าตาอันหล่อเหลาก็มีส่วนทำให้เป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่น่าจะบตามอง เว็บไซต์ Quora คือเว็บไซต์ถามตอบลักษณะคล้ายๆ กับพันทิปของบ้านเรานี่แหละ และเมื่อมีคนมาตั้งคำถามว่า Why should the best engineers in the world come to Canada? หรือ ทำไมวิศวกรที่เก่งที่สุดในโลกต้องไปทำงานที่แคนาดาด้วยล่ะ แน่นอนว่าก็มีคนมาร่วมตอบคำถาม แต่ใครจะคาดคิดว่าจะมียูเซอร์ Justin Trudeau ลงทุนมาตอบด้วยตัวเอง และเขาก็พูดถึงประเด็นดังกล่าวได้อย่างน่าสนใจ เขาบอกถึงการพัฒนาของประเทศที่กำลังก้าวหน้าอย่างมาก และมีแผนที่จะวางนโยบายให้สอดคล้องกับการพัฒนาของเทคโนโลยีต่างๆ ในประเทศอีกด้วย Justin บอกว่า “หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะพาให้นวัตกรรมต่างๆ ของประเทศเราก้าวหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะตอนที่ต้องแก้ปัญหาต่างๆ (วิศวกรทั้งหลายชอบแก้ปัญหา ผมรู้น่า) นั่นก็คือการร่วมมือร่วมใจจากหลายๆ คน การที่ได้มาอยู่กับคนฉลาดที่มาจากหลายๆ ที่ มีประสบการณ์หลากหลาย ก็ช่วยให้ตัวเราเองพัฒนาและแก้ปัญหานั้นไปด้วยกันได้ หนึ่งในสถาบันระดับท็อปของเราอย่างมหาวิทยาลัย Waterloo ที่สามารถผลิตบัณฑิตจำนวนมากสู่บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ ใน Silicon Valley ได้ ซึ่งก็มาจากการร่วมมือและการเรียนการสอนที่มีความหลากหลายในสถาบันต่างๆ…
-
เด็กชายเกิดมาไร้จมูก ได้รับช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างเต็มที่ แม้จะเป็นช่วงที่แสนสั้นก็ตาม…
Eli Thompson เด็กชายจากรัฐแอละแบมาผู้เกิดมาพร้อมกับใบหน้าที่ไร้จมูก และเสียชีวิตอย่างสงบกลางดึกเมื่อวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2017 หลังจากที่พึ่งฉลองครบรอบวันเกิด 2 ขวบได้ไม่นาน… Eli เป็นเด็ก 1 ใน 37 คนทั่วโลกเท่านั้นที่เกิดมาแล้วไม่มีจมูก ซึ่งเขาได้ถูกบันทึกไว้เมื่อตอน 4 มีนาคม ปี 2015 นอกจากนี้เขายังเกิดก่อนกำหนดคลอดถึง 5 วัน และเขาไม่มีโพรงจมูกหรือระบบหายใจด้วยจมูก เหมือนดั่งคนปกติทั่วไป แต่ถึงอย่างนั้น Eli ก็ยังมีอายุได้จนถึง 2 ขวบ ซึ่งทางพ่อของเขา Jeremy Finch ได้บอกว่าลูกชายเป็นคนที่ร่าเริงตลอดเวลา เขาชอบที่จะชนกำปั้นกับทุกๆ คนที่เขาได้เจออยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ทางด้านครอบครัวก็ยังบอกอีกว่า Eli เป็นเด็กที่มีสปิริตสูงมาก เขาเรียนรู้ที่จะสื่อสารผ่านการมองเห็นและพยายามสื่อสารกับเด็กคนอื่นๆ เสมอ และแน่นอนว่าเขาเป็นตัวจุดประกายให้กับคนมากมายรอบๆ ตัว ซึ่งทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกสงสารและเข้าใจเขามากเป็นพิเศษ เมื่อตอนอายุ 7 เดือน เด็กชายได้เจอกับ Tessa เด็กสาวชาวไอร์แลนด์…
-
อุทาหรณ์เตือนใจ.. คุณป้าวัย 67 มัวแต่ก้มหน้ากดโทรศัพท์ จนร่วงลงหลุมเจ็บสาหัส..!!
ถือว่าเป็นเรื่องที่เราเอามานำเสนอเพื่อช่วยย้ำเตือนให้เพื่อนๆ ระวังภัยอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือกันมากขึ้น โดยเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานเหตุการณ์ที่บนถนน Somerset แห่งรัฐนิวเจอร์ซี่ย์ ซึ่งเป็นภาพกล้องวงจรปิดที่จับภาพอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ และมันก็ช่วยเตือนสติให้เราได้อย่างดีด้วยเช่นกัน ภาพของสุภาพสตรีวัย 67 ปี ขณะที่เธอกำลังเดินอยู่ข้างทางเท้า เธอก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาพอดี เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าข้างหน้ามีหลุมขวางทางอยู่ ถึงแม้จะมีการเปิดประตูตั้งขึ้นมาเป็นที่กั้นแล้วก็ตาม เพียงไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็ตกลงไปในหลุมทันที แต่โชคดีที่มีวัยรุ่นสาวกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี พวกเธอจึงรีบวิ่งไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือทันที โชคดีที่มีกลุ่มหญิงสาวเดินมาเห็นเหตุการณ์พอดี ต่อจากนั้นไม่กี่นาทีทีมกู้ภัยก็เข้ามาช่วยเหลือเธอได้อย่างทันท่วงที ถึงแม้ว่าจะไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต แต่สื่อท้องถิ่นได้รายงานว่าหญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่อีกนานหลายเดือนเลยทีเดียว ยังไงซะเราก็ควรจะปลอดภัยไว้ก่อนแหละเนาะ เชื่อว่าอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเลยจริงๆ ที่มา: Dailymail
-
ชาวเน็ตร่วมด้วยช่วยรีวิว #แอพดีบอกต่อ ไล่ตามไปโหลดมาใช้ วันๆ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว!!
ถือได้ว่า “มือถือ” เป็นอะไรที่คู่กับการใช้ชีวิตประจำวันของเราๆ มั่กมากก สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ชอบดาวโหลดแอพพลิเคชั่นมาใช้เวลาว่าง #เหมียวปั๊ก ก็ได้รวบรวมแอพพลิเคชั่นที่ใช้ดีใช้เพลินใช้ได้ทุกโอกาส จากแฮชแท็ก #แอพดีบอกต่อ ที่ชาวเน็ตต่างมาร่วมด้วยช่วยกันรีวิว มาให้เพื่อนๆ ลองโหลดกันดูนะ!! R4VE (iOS) แอพแต่งภาพสไตล์ผสมแบบร่วมสมัย ให้โทนสีแบบฟุ้งเฟ้อจนจะเป็นสีรุ้งกันเลยทีเดียว Palette Nara (iOS), (Android) แอพแต่งภาพและคุมโทนสีในสไตล์ญี่ปุ่น Macaron Cam (iOS), (Android) แอพแต่งรูปอีกหนึ่งตัวที่มีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้หลากหลาย และมีสีสวยมากๆ อีกหนึ่งแอพแต่งรูปยอดนิยม VSCO (iOS), (Android) ที่ใครๆ ก็ต้องมีติดเอาไว้ Retro Brick Game Simulator (Android) หากใครนึกหวนถึงเครื่องเล่นเกมสมัยก่อน ที่มีแต่เกมบล็อคสี่เหลี่ยมๆ ต้องตัวนี้เลย!! ตระกูลแอพ Analog ทั้ง Wedding, Paris และ Budapest…
-
หมูกว่า 19 ตัวอาศัยจังหวะชุลมุน หนีจากรถขนย้ายที่ชนบนทางด่วน อิสระที่สัมผัสได้แค่ชั่วคราว
ไม่นานมานี้ได้มีสำนักข่าวหลายแห่งรายงานว่ามีเหตุการณ์สุดประหลาดใจ เกิดขึ้นบนถนนทางด่วนในจังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เมื่ออยู่ดีๆ รถขนหมูจำนวน 37 ตัวได้ชนเข้าอย่างจังกับรถอีกคัน แต่แล้วหมูบางส่วนก็สบโอกาสหนีออกมา!! เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2017 ที่ผ่านมา ช่วงเวลาราวๆ 9.30 น. ซึ่งเรื่องเริ่มขึ้นจากรถขนย้ายหมูจำนวน 37 ตัว กำลังเคลื่อนไปตามทางด่วนเพื่อไปยังโรงเชือด แต่แล้วคนขับก็ไม่ได้สังเกตเห็นรถที่จอดอยู่บริเวณไหล่ทางด่วน รถขนย้ายจึงชนกับรถคันข้างหน้าเข้าอย่างจัง . ด้วยเหตุนั้นทำให้คนขับรถบาดเจ็บพอสมควร ซึ่งเขาก็ได้ลงไปเช็ครถอีกคันที่เขาชนเข้า แต่ว่าในจังหวะชุลมุนนั้นเหล่าหมูทั้ง 19 ตัวก็เหมือนรู้ว่าจังหวะว่า นี่แหละคือโอกาสดีที่จะหนีเพื่อชีวิตอิสระ พวกมันจึงพากันแหกกรงออกมาแล้วหนีไปตามท้องถนน เหตุการณ์ดังกล่าวก็สร้างความลำบากใจและทำให้คนขับรถที่เดิมบาดเจ็บอยู่แล้ว ต้องแบกร่างกายของตัวเองเพื่อตามหาหมูทั้งหมดและนำมันกลับมา . เขาได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและตามจับพวกมันรวมถึงการปิดถนนเพื่อตามหาหมูทั้ง 19 ตัว ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียวกว่าจะจับหมูทั้งหมดกลับมาได้ และถูกนำขึ้นรถขนย้ายคันใหม่เพื่อเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางเดิมของพวกมัน สุดท้ายเราก็รู้กันดีว่าพวกมันจะถูกส่งไปยังโรงเชือดและกลายเป็นเนื้อหมูแสนอร่อยให้พวกเรากิน แต่ใจหนึ่งก็สงสารพวกมัน เพราะคงรู้สึกกลัวและรักชีวิตเช่นเดียวกันกับเรา จึงตัดสินใจหนีออกมาจากกรงอย่างที่เห็นกัน… ที่มา rocketnews24
-
นี่มัน Tony Stark!! แอบส่องคฤหาสน์หลังใหม่ของ Robert Downey Jr. มูลค่า 120 ล้านบาท
ถึงแม้เขาจะห่างหายจากจอเงินไปสักพัก แต่ Robert Downey Jr. นักแสดงสุดเฟี้ยวผู้รับทเป็น Ironman คนนี้ ได้ตัดสินใจที่จะซื้อคฤหาสน์ใหม่ด้วยราคามากถึง 120 ล้านบาท ณ เมืองมาลิบู ประเทศสหรัฐอเมริกา ป๋า Robert Downey Jr. ผู้รับบท Tony Stark ในจักรวาล Marvel Cinematic คฤหาสน์ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 5,260 ตารางเมตรภายใต้ความดูแลของโครงการ จากข้อมูล Realtor.com นั้นคฤหาสน์หลังนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1972 มีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่ทอดตัวจากพื้นถึงเพดานและข้ามกำแพง พบกับคฤหาสน์หลังน้อยของป๋า Robert เล้ย ~ หนึ่งในหลายห้องนอนของคฤหาสน์ที่เห็นวิวทะเล และหนึ่งในห้องน้ำอันโอ่อ่าหรูหรา อู้วว ส่วนระเบียงนั้นตั้งขนานเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกให้ทัศนียภาพกว้างไกลของน้ำ ห้องครัวที่ทำจากไม้ภายในบ้านซึ่งอยู่ติดกับห้องนั่งเล่นล้อมรอบด้วยรูปสี่เหลี่ยมคางหมูและอ่างล้างจาน มีเตาอบแก๊สไวกิ้งสองเครื่องอีกด้วย ระเบียงไม้ที่ทอดยาวขนานกับเส้นขอบฟ้า . ห้องครัวที่ดูดีมีสไตล์ติดกับห้องนั่งเล่น .…
-
บัณฑิตจีนถ่ายรูป ‘ธีมหน้ากากแพนด้า’ ในวันสำเร็จการศึกษา หวังให้แง่คิดกับทุกคน…
เพื่อนๆ หลายคนคงคุ้นเคยกับรายการหน้ากากนักร้องที่มักจะมีเหล่าดาราและเซเลปชื่อดังมาร้องเพลงภายใต้หน้ากากให้เราทายเล่นๆ กันในแต่ละเทป แต่สำหรับ “หน้ากากแพนด้า” ที่ #เหมียวปั๊ก นำมานั้นไม่ได้มาร้องเพลง แต่มาบอกอะไรบางอย่างกับเรา เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2017 กลุ่มบัณฑิตสาขาการออกแบบจาก University of South China ร่วมถ่ายรูปหมู่ด้วยหน้ากากแพนด้าที่พวกเขาทำเอง ณ เมือง Xiangyang มณฑลหูหนาน ประเทศจีน หน้ากากหมีแพนด้า ในวันสำเร็จการศึกษา ถ้าดูผิวเพินทุกคนอาจจะนึกว่ากลุ่มบัณฑิตเหล่านี้ อาจจะเป็นกลุ่มนักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิให้แพนด้า แต่ทว่าเป็นการแสดงออกเพื่อให้ทุกคนรับรู้อีกมุมมองหนึ่งหลังจากเรียนจบไปแล้ว… ลักษณะคล้ายจะเป็นการเรียกร้องอะไรบางอย่าง บัณฑิตกลุ่มนี้ร่วมใจกันทำหน้ากากแพนด้าไว้ถ่ายรูปในวันสำเร็จการศึกษา เพื่อต้องการจะสื่อว่าชีวิตของคนเราควรมีความขยันและอดทนตั้งแต่เริ่มต้นการทำงาน และอย่าเกียจคร้านเหมือนนิสัยเสียๆ ของหมีแพนด้า แพนด้านั้นน่ารัก แต่หากมองในอีกมุมหนึ่งก็เป็นสัตว์ที่เกียจคร้านเช่นกัน โดยพวกเขาได้สร้างรูปวงกลมรูปหัวใจล้อมรอบตัวอักษรจีนที่มีความหมายว่า “ฝัน” และ “ลำบาก” เพื่อเรียกร้องให้บัณฑิตที่จบใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของความฝัน ที่สามารถเป็นจริงได้จากการฝ่าฟันไปทีละขั้น สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากทราบว่าแพนด้านั้ขี้เกียจยังไง!? ตัวไหนที่ขี้เกียจเหมือนแพนด้าอีกก็สามารถที่จะเข้ามาอ่านได้ใน ลิ้งค์ข่าวเก่า ที่นี่ได้เลย …
-
ผู้โดยสารถึงกับวางตัวไม่ถูก เมื่อคู่รักโชว์เล่นหนังสดบนเครื่อง อดอยากปากแห้งมาจากไหน..!!
ใครมันจะไปนึกละว่าแม้แต่บนเครื่องบินก็ยังมีผู้โดยสารที่เอ่อ.. ไม่รู้เค้าไปอดอยากปากแห้งกันมาจากไหน ถึงได้โชว์วิทยายุทธเหินเวหากันบนน่านฟ้า ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ!! โดยเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า บนเที่ยวบินจากเมืองแมนเชสเตอร์ สู่เกาะอิบิซ่า (หนึ่งในสถานที่ปาร์ตี้ที่มีวัยรุ่นจากทั่วโลกมารวมตัวกัน) มีชาวเน็ตได้ถ่ายภาพของผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ โดยมีผู้หญิงนั่งอยู่ข้างบนหันหน้าเข้าหาผู้ชาย นี่แหละภาพที่ชาวเน็ตจากไฟลท์เดียวกันถ่ายมาได้ Kieran Williams หนุ่มวัย 21 ปี ที่ได้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า “ตอนแรกผมแอบได้ยินเค้าคุยซุบซิบกันเรื่องเล่นเสียวอะไรนี่แหละ ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าเค้าจะกล้าทำจริง” ด้วยความที่มันช่างน่าล่อตาล่อใจให้ผู้โดยสารคนอื่นหันไปมอง พ่อหนุ่มคนที่นั่งประจำการอยู่ก็ตะโกนขึ้นมาว่า “ทำไม!! อิจฉากันรึไงว่ะ!?” ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า “ท่าทางพวกเค้าน่าจะเมามากพอสมควร ตอนแรกคนอื่นก็แอบหัวเราะคิกคักแบบเขินๆ อ่ะครับพี่เข้าใจใช่ป่ะ? ซักแปปผู้หญิงมันถอดกางเกงออกเลยว่ะพี่ แล้วผู้ชายก็ถกยีนส์ตัวเองลงมา แล้วเค้าก็นั่งคร่อมกันผมคงไม่ต้องอธิบายนะว่าคร่อมอะไร..” แต่ก็น่าแปลกใจอยู่เหมือนกัน เพราะผู้โดยสารคนอื่นที่อยู่ใกล้ๆ ได้ขอร้องให้พวกเขาช่วยหยุด หรือย้ายไปทำในห้องน้ำ แต่ดูเหมือนลูกเรือจะไม่มีการเข้ามาห้ามปรามใดๆ ในขณะที่ชาวเน็ตหลายคนก็บอกว่า ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเสียหาย แต่ถือว่าเป็นเรื่องตลกเพราะนานๆ ทีมีอะไรน่าตื่นเต้นมาให้ดูแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน แหม๊… ไปอดอยากกันมาจากไหนพี่เอ๋ยย ที่มา: Dailymail
-
น้องหมาจากเกาหลีใต้ นั่งรอเจ้าของทุกวันนานกว่า 3 ปี โดยไม่รู้เลยว่าเธอไม่กลับมาแล้ว…
อย่างที่เราหลายคนรู้กันดีว่าสุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์และมีความซื่อสัตย์กับเจ้าของเสมอ แม้กระทั่งเวลาที่มันถูกทอดทิ้ง มันก็ไม่เคยลืมคนที่เคยเลี้ยงมันมาเลย เหมือนกับน้องหมาจากเกาหลีใต้ตัวนี้ ที่มานั่งรอเจ้าของอยู่ที่เดิมเป็นจำทุกวันกว่า 3 ปี แล้ว โดยไม่รู้เลยว่าเจ้าของจะไม่มีวันกลับมาหามันอีก เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านหญิงชราจากปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ได้รับเลี้ยงสุนัขตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Fu Shi พวกเขาเปรียบเสมือนแม่ลูก และมีช่วงเวลาแห่งความสุขด้วยกัน แต่แล้วเรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้น เมื่อหญิงชรามีอาการภาวะตกเลือดในสมอง จนทำให้เธอสมองเสื่อมในที่สุด เธอจึงถูกนำตัวไปดูแลในบ้านพักคนชรา ส่วนน้องหมา Fu Shi ถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง แต่น้องหมาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหญิงชรา มันนั่งรอให้เธอกลับมาหาทุกวัน จนกระทั่งเวลาผ่านไปถึง 3 ปี มันก็ยังนั่งรออยู่ที่เดิม เพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่า ทุกๆ วัน Fu Shi จะนั่งรอเจ้าของอยู่ที่มุมซอยทางเข้าบ้าน และจะนั่งอยู่อย่างนั้นตลอดทั้งวันจนถึงค่ำ แล้วค่อยกลับเข้าไปบ้านของหญิงชราที่ถูกทิ้งร้าง ผู้คนแถวนั้นต่างเห็นใจและสงสารมันจับใจ พวกเขาจึงติดต่อไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง เพื่อที่จะมีคนเข้ามาดูแลมันต่อไป การที่ Fu Shi อยู่รอดมาได้ถึง 3 ปีนั้น เป็นเพราะเพื่อนบ้านได้นำอาหารกับน้ำมาให้มันเป็นประจำ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถทำให้น้องหมาคลายเศร้าได้เลย หลังจากที่เจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ได้ฟังเรื่องราวของมันแล้ว พวกเขาลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือทันทีก่อนจะพามันไปหาสัตวแพทย์ …
-
ป๊าดโท๊ะ!! คฤหาสน์สุนัขราคา 6.8 ล้านบาท หรูหรา อู้ฟู่ ทาสใจถึงและเงินเหลือก็จัดไป
ในฐานะที่สุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดและซื่อสัตย์กับมนุษย์ พวกมันจึงสมควรได้รับการตอบแทนที่ดีที่สุดเช่นกัน และสิ่งที่เราจะมอบให้กับมันได้คือที่อยู่อาศัย หลายครอบครัวอาจจะทำบ้านเล็กๆ พออยู่ได้ไว้ให้น้องหมา แต่นั่นอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด บริษัทในสหราชอาณาจักรอย่าง Hecate Verona จึงได้สร้างคฤหาสน์หมาสุดหรูในราคา 6.8 ล้านบาท เพื่อตอบแทนน้องหมาอย่างคุ้มค่า ขึ้นชื่อว่าคฤหาสน์แล้ว วัสดุที่นำมาสร้างก็ต้องเลือกที่ดีที่สุด โดยพื้นบ้านทำจากไม้บีช ไม้โอ๊ก และไม้สน ผนัง เสา และระเบียง แกะสลักจากหินอ่อนและแร่โดโลไมต์ ส่วนอาหาร น้ำ และยา จะให้ผ่านระบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีทีวีและระบบเสียงเพื่อสร้างความบันเทิงให้น้องหมาด้วย แต่นี่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นที่จะทำสุนัขที่รักของคุณได้รับความผ่อนคลาย บ้านน้องหมามีให้เลือกหลายราคาตามความสามารถ เริ่มตั้งแต่ 1.3 ล้านบาท ไปจนถึง 6.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นท็อปที่คุณอาจจะต้องลงทุนมากหน่อย Alice Willimas ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของ Hecate Verona บอกว่า คฤหาสน์สุนัขสุดหรูเหล่านี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก 3 ปีที่แล้ว เมื่อมีคนตั้งคำตอบว่า ‘ทำไมสุนัขถึงดูไม่สง่างามและดูดีเหมือนเจ้าของ?’ ‘ทำไมสถาปนิกไม่ออกแบบบ้านให้สุนัขบ้าง?’ ‘จะเป็นยังไงถ้าสุนัขได้อยู่ในบ้านที่สวยงามและมีสิ่งอำนวยความสะดวก?’ ‘จะเป็นยังไงถ้าน้องหมาได้อยู่ในบ้านที่ได้รับการแต่งเหมือนบ้านมนุษย์?’ ‘สุนัขคือหนึ่งในสมาชิกครอบครัว แต่ทำไมพวกมันไม่มีพื้นที่เป็นของตัวเอง หรือห้องนอนที่มันสามารถนอนได้สบายเหมือนเจ้าของ?’ …
-
สลด… เด็กน้อยวัย 5 ขวบ จมน้ำกลางสระแต่ไม่มีใครสังเกตเห็น เป็นเวลาร่วมกว่านาที!!
ถือว่าเป็นอีกเรื่องราวเตือนใจภัยใกล้ตัว ที่เราไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับลูกหลาน หรือคนใกล้ชิดของผู้อ่านทุกท่าน โดยภาพฟุตเทจดังกล่าวถูกโพสต์ลงบนเว็บไซต์ Imgur ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ สระน้ำแห่งหนึ่งในเมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เป็นภาพของเด็กน้อยไม่ทราบชื่อวัย 5 ขวบ ที่กำลังจะจมน้ำอยู่กลางสระ… เด็กน้อยพยายามตะเกียงตะกายอย่างสุดความสามารถ ถึงแม้สระจะไม่ลึกสำหรับผู้ใหญ่ (ประมาณเอว) แต่สำหรับเด็กวัย 5 ขวบแล้ว มันท่วมหัวเขามิดเลยล่ะ จากภาพเมื่อกี้ยังมีคนยืนดูอยู่ แต่จู่ๆ พวกเขาก็เลือกที่จะไม่ช่วยเหลือ (อาจจะเข้าใจผิด) ทำให้หนุ่มน้อยต้องตะเกียงตะกายต่อไปในวินาทีเฉียดเป็นเฉียดตาย เด็กในภาพพยายามตะเกียงตะกายอยู่นานสองนาน แต่ก็ไม่มีใครยื่นมาเข้ามาช่วยเหลือเขาเลยแม้แต่คนเดียว เด็กหนุ่มสามารถพาตัวเองไปแตะขอบสระได้ แต่อาการเหนื่อยล้าและหมดแรงทำให้เขาไม่สามารถพาตัวเองขึ้นจากสระได้ จากนั้นไม่นานเขาก็ปล่อยตัวเองลอยไปกลางน้ำ ทั้งหมดเป็นเวลานานนับนาที จนกว่าจะมีคนสังเกตเห็นเด็กลอยอยู่ในน้ำ และรีบเรียกเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ โชคดีที่หนูน้อยไม่ได้รับอาการบาดเจ็บใดๆ ถือว่าเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ ไม่ปล่อยให้เด็กเล็กอยู่เพียงลำพังแล้วกันเนาะ… ที่มา: Dailymail
-
เจ้าของตกใจปล่อยให้หมาไปวิ่งเล่น แต่ดันหายไปทั้งคืน ออกตามหาจนไปเจอติดอยู่ในท่อ!!
ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้า Ziggy หมาน้อยแสนซน ชื่นชอบการไปวิ่งเล่นในฟาร์มของเจ้าของอยู่เป็นประจำ แต่มาวันหนึ่ง จู่ๆ มันก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย… ในตอนแรกเจ้าของของเจ้า Ziggy ก็ยังไม่เป็นห่วงมันเท่าไหร่เพราะคิดว่ามันอาจจะออกไปวิ่งเล่นเหมือนอย่างเคย แต่ทว่าเจ้าหมาพันธุ์ Patterdale วัย 10 ขวบ ก็ไม่ยอมกลับมาที่บ้านซักที จนเจ้าของเริ่มเป็นห่วงและออกตามหา “ฉันเป็นห่วงมันมากๆ เพราะทุกครั้งที่ออกไปเล่นมันก็มักจะกลับมาที่บ้านได้เองเสมอ แต่ครั้งนี้มันไม่ยอมกลับมา” คุณ Lauren Flintoft เจ้าของของเจ้า Ziggy เล่า “สามีของฉันต้องออกไปตะโกนเรียกชื่อมันตลอดทั้งคืน สุดท้ายก็ได้ยินเสียงเห่าขอความช่วยเหลือจากมัน และก็พบว่ามันไปติดอยู่ในท่อน้ำทิ้งที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน” คุณ Lauren รีบติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์ช่วยเหลือ RSPCA ในทันที และพวกเขาก็เดินทางมาถึงที่บ้านอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้องทำการเช็คผังท่อระบายน้ำ เพื่อเช็คดูว่าเจ้า Ziggy อยู่ตรงไหน และจะได้ขุดลงไปช่วยมันได้ถูกจุด หลังจากการขุดดินลงไปลึกพอสมควร เจ้าหน้าที่ก็สามารถช่วยเจ้า Ziggy ออกมาได้สำเร็จ หลังจากที่มันต้องติดอยู่ในท่อระบายน้ำใต้ดินเป็นเวลานานกว่า 19 ชั่วโมง!! โชคดีที่มันไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร และดูเหมือนว่ามันยังคงรู้สึกตื่นเต้นจากการผจญภัยอันแสนสนุกไม่หายเลย ฮร่าๆ …
-
“แมวหน้าเศร้า” ผู้ผ่านความลำบากมาทั้งชีวิต และรอยยิ้มที่กลับมาเพราะรักที่มีให้…
เวลาเจอความทุกข์เป็นใครก็ต้องเศร้ากันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าใครจะแสดงออกหรือปกปิดเท่านั้นเอง แต่สำหรับน้องเหมียวตัวนี้มันไม่สามารถเก็บอาการได้จริงๆ เพราะเรื่องที่มันเจอนั้นช่างน่าเศร้าเหลือเกิน Nutmeg แมววัย 5 ปี ที่อยู่ใน Lollypop Farm (Humane Society of Greater Rochester) แม้มันจะอยู่ในอ้อมแขนผู้ช่วยชีวิตแล้ว แต่มันก็ยังคงกลัวและต้องการการเยียวยาสภาพจิตใจ น้องแมวได้เข้ามาอยู่ใน Lollypop Farm เมื่อเดือนกันยายน ปี 2016 ด้วยสภาพผอมแห้ง และติดเชื้อในจมูกอย่างรุนแรง ที่สำคัญมันมีใบหน้าเศร้าสร้อยตลอดเวลา ส่วนสาเหตุที่น้องแมวเศร้านั้น เป็นเพราะก่อนหน้านี้มันต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากอยู่ในป่า และต้องต่อสู้กับสิ่งที่คาดเดาไม่ได้เพื่อเอาชีวิตรอด ดังนั้นแม้มันจะถูกช่วยเหลือแล้ว แต่ความทุกข์เหล่านั้นยังคงฝังลึกอยู่ในใจจนทำให้มันกลายเป็นแมวที่เศร้าที่สุด ด้วยเหตุนี้ Nutmeg จึงต้องใช้เวลาเยียวยาที่ยาวนานกว่าแมวทั่วไป แต่ทุกคนใน Lollipop Farm ก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้มันกลับมาแฮปปี้อีกครั้ง ทุกคนช่วยบำบัดจิตใจให้น้องแมว โดยทำให้มันเรียนรู้การไว้วางใจมนุษย์และสัมผัสถึงความรักอีกครั้ง จนในที่สุด Nutmeg ก็ค่อยๆ ดีขึ้น และเริ่มออกไปทักทายแมวตัวอื่นที่ถูกช่วยเหลือเหมือนกัน เจ้าเหมียวได้เรียนรู้การเข้าสังคม และพยายามปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ แม้ว่าตอนนี้ Nutmeg…
-
ชาวเน็ตแชร์.. การตลาดจากร้านค้าญี่ปุ่น ใช้กระจกสร้างภาพลวงตา ล้ำลึกเหลือเกิ๊นนน!!
บางทีการตลาดของสินค้าบางชิ้นอาจจะเข้ามามีผลต่อพฤติกรรมการซื้อของเรา โดยที่เรายังไม่ทันได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ แหม่.. โลกแห่งการค้านี่บางทีมันก็แอบน่ากลัวนิดนึง ล่าสุดเว็บไซต์ Rocketnews24 ได้เผยเรื่องราวของชาวเน็ตจากทวิตเตอร์คนหนึ่ง ที่นำเอาภาพของอาหารกล่องในร้านสะดวกซื้อมาแชร์ ดูผิวเผินก็เหมือนจะเป็นของลดราคาทั่วไปนี่แหละ แต่หารู้ไม่ว่าเขาแอบแฝงการตลาดไว้อย่างล้ำลึกมากๆ เจ้าของทวิตเตอร์ผู้ใช้ชื่อว่า @TakadaK5 ได้เผยภาพกล่องหมูทอดทงคัตสึที่วางขายอยู่ในร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านเขา โดยทั่วไปเราจะรู้กันอยู่แล้วว่า ในช่วงตอนเย็นของทุกวันอาหารทำสดทุกชนิดจะถูกนำมาลดราคาวางขาย ตอนแรกพ่อหนุ่มเห็นชุดหมูทอดทงคัตสึลด 20% ก็ดีใจยกใหญ่ แต่ทันใดนั้นสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นกล่องหมูทอดชุดเดียวกัน แต่ลด 50% วางอยู่ด้านหลัง (เป็นใครก็ต้องหยิบกล่อง 50% สิจริงไหม?) แต่พอเจ้าตัวจะเอื้อมมือไปหยิบกล่องหมูทอดที่อยู่ข้างหลังก็ตกใจ เมื่อพบว่ามันเป็นภาพกระจกสะท้อน!! สรุปแล้วงานเจ้าของเรื่องราวก็ไม่ได้ชุดหมูทอดลด 50% (เพราะมันไม่มีจริง) แต่ด้วยความหิวโหย และเฟิร์สอิมเพรสชั่นที่มีต่อหมูทอดในกล่อง ทำให้สุดท้ายแล้วเจ้าตัวก็ต้องตัดสินใจซื้อมาจนได้ หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียลก็มีชาวเน็ตในญี่ปุ่นออกมาให้ความเห็นมากมาย บ้างก็เล่าว่าตัวเองเคยโดนแบบนี้เหมือนกันจากร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ในขณะที่บางคนก็มองว่าเป็นการตลาดที่โหดร้ายต่อผู้บริโภคเอามากๆ ถือเป็นวิธีการใช้ภาพลวงตาที่ได้ประโยชน์สูงมาก ใครเห็นตัวเลขลดราคาเยอะๆ ก็เป็นอันต้องตาตื่นกันทุกคนแหละน่าาา ที่มา: Rocketnews24
-
Universal Studio Japan สร้างสวนสนุกธีม “Mario” เอาใจคนเหล่าแฟนคลับนินเทนโดแล้วจ้า!!
Universal Studio Japan สวนสนุกที่หลายคนคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี และเป็นอีกสถานที่ฮิตซึ่งคนไทยมักจะไปกันอยู่ในแทบทุกทริป นอกจากสวนสนุกแห่งนี้จะมีความทันสมัยและอะไรให้เล่นมากมาย ก็ยังทยอยเปิดตัวของเล่นใหม่ๆ ออกมาตลอด อย่างเช่นโซนล่าสุดที่เป็นข่าวนี้ อ้างอิงจากทวิตเตอร์และอินสตาแกรมของ L.C.A.Studios ทาง Universal Studio Japan ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างพื้นที่สวนหนึ่งของสวนสนุกให้กลายมาเป็นธีม “Super Mario” ที่จะพาทุกคนไปโลดแล่นในโลกของมาริโอ้ได้อย่างสนุกสนาน . ถึงแม้ว่าส่วนนี้จะยังอยู่ระหว่างการสร้าง แต่นี่ก็สามารถที่จะเรียกเสียงฮือฮาจากเหล่าแฟนคลับ และคนที่ต้องการไปกระโดดโลดแล่นกันในดินแดน Mario แห่งนี้ เมื่อพิจารณาจากขนาดของพื้นที่ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างนั้น คาดการณ์ได้ว่าพื้นที่นี้อาจจะเป็นส่วนขยายใน Super Nintendo World โดยสังเกตได้จากกำแพงอิฐที่สร้างขึ้นรวมไปถึงท่อและเจ้าต้นปิรันย่าด้วย แม้ว่า Super Nintendo World นั้นจะเปิดให้บริการในปี 2020 แต่ด้วยบางส่วนของพื้นที่ที่เริ่มก่อสร้างเสร็จไปแล้วอาจจะเป็นส่วนที่สาธิตเพื่อโปรโมทพื้นที่ใหม่ในเร็วๆ นี้ก็เป็นได้ วิดิโอโปรโมท Super Nintendo World ที่กำลังก่อสร้าง #เหมียวปั๊ก ก็ฝันมานานแล้วว่าจะไปกระโดดดึ๋งๆ เหมือนมาริโอ้สักครั้ง ถ้าทาง USJ สร้างเสร็จเมื่อไหร่นะ เดี๋ยวจะรีบไปเล่นเลย…
-
เศรษฐีจัดงานเลี้ยงแสนฟุ่มเฟือย อนุญาตให้คน ‘ผมทอง’ เข้าร่วมงานแบบฟรีๆ ไม่เสียเงินซักบาท!!
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา มหาเศรษฐี Zhang Jian เจ้าของบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการตลาดเครือข่าย (Multi-level Marketing) ได้ทำการจัดงานเลี้ยงสุดแสนจะฟุ่มเฟือยให้กับแขกชาวมาเลเซีย แท้จริงแล้วในการเข้าร่วมงานเลี้ยงจะมีค่าใช้จ่ายหัวละประมาณ 1,600 บาท แต่ Zhang ได้ยกเว้นเป็นกรณีพิเศษสำหรับคนที่ ‘ย้อมผมสีทอง’ สามารถเข้าไปร่วมงานได้แบบฟรีๆ!! งานเลี้ยงนี้ถูกจัดขึ้นที่ Chai Leng Park เมือง Butterworth รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย มีเหล่าชายหญิงหัวสีทองมากกว่า 1,000 คนที่เดินทางมาร่วมงานเลี้ยงของ Zhang Jian อย่างคับคั่ง เท่านั้นยังไม่พอยังมีการแจกเงินให้กับคนที่ผู้โชคดีในงาน ที่แต่งตัวได้จ๊าบโดนใจก็รับเงินสดมูลค่ากว่า 8,000 บาทไปเลยฟรีๆ อีกด้วย ทำให้มีเหล่ามวลมหาประชาชนที่ให้การสนับสนุนแก่ Zhang มากมาย บางคนก็ถึงกับลงทุนสักหน้าของเขาเลยก็มี ภายในงานเลี้ยงเฉลิมฉลองถูกนำไปแชร์ต่อกันมากมายในโลกโซเชียล แม้แต่เว็บไซต์ 9gag เองก็ยังเอาไปแชร์กับเค้าด้วย ผู้คนที่เดินทางมาร่วมงานเลี้ยงนั้นมาจากหลากหลายที่ บางคนก็ขับรถมาเอง บางคนก็นั่งรถบัสมา ซึ่งงานเลี้ยงในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นก็เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงการกลับมาอันยิ่งใหญ่ของบริษัทการตลาดเครือข่ายของ Zhang อันที่จริงแล้วธุรกิจของนาย Zhang นั้นเคยถูกตัดสินว่าเป็นธุรกิจเครือข่ายแบบลูกโซ่ ที่ให้คำโฆษณากับผู้ร่วมทำธุรกิจว่าสามารถร่ำรวยได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้มีผู้คนในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้ง…
-
ญี่ปุ่นทดลองเปิดร้านอาหาร “ไม่ตามสั่ง” การปรับรูปแบบรับออเดอร์ โดยผู้ป่วยความจำเสื่อม!!
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมาได้มีร้านอาหารแห่งหนึ่งเปิดใหม่ที่กรุงโตเกียว อ่า.. หลายๆ คนอาจจะเกิดคำถามว่า แล้วยังไงหว่า!? #เหมียวเวจจี้ กำลังจะบอกว่าร้านนี้น่ะ ไม่ใช่ร้านอาหารธรรมดา แต่เป็นร้านอาหารที่ให้บริการโดยผู้ป่วยความจำเสื่อมต่างหาก!! ร้านอาหารดังกล่าวใช้ชื่อว่า 注文をまちがえる料理店 โดยจุดเด่นของร้านคือไม่ว่าคุณจะสั่งอะไรไปคุณจะไม่มีวันได้ตามที่สั่งแน่นอน ก็เพราะว่าคนที่จะมารับออเดอร์คุณนั่นก็คือ เหล่าคุณยายผู้ป่วยโรคความจำเสื่อมนั่นเอง!! และนี่คือคุณยายที่จะมาคอยรับออเดอร์อาหารจากคุณ ทางผู้สื่อข่าวของเว็บไซต์ Yahoo จากประเทศญี่ปุ่นได้ทำการสัมภาษคุณ Aiko (นามสมมุติ) หนึ่งในพนักงานของที่นี่ คุณยายได้เล่าถึงที่มาที่ไปของการมาทดลองงานในร้านนี้ โดยเธอบอกว่าแต่เดิมเธอเคยทำงานดูแลเด็กๆ ในโรงเรียนและคอยดูแลเกี่ยวกับอาหารของพวกเขา ดังนั้นเธอน่าจะทำงานนี้ได้สบายๆ เนื่องจากผู้ป่วยสมองเสื่อมไม่อาจที่จะอยู่บ้านเพียงลำพังได้ การมาทำงานที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้พวกเค้าได้พบปะกับผู้ป่วยคนอื่นๆ และเหมือนกับการเข้ากิจกรรมกลุ่มบำบัดนั่นเอง คุณยาย Aiko (นามสมมุติ) หนึ่งในพนักงานของร้านอาหารแห่งนี้ คุณยายกำลังให้บริการลูกค้ากลุ่มแรกของร้านอาหารลืมสั่ง ลูกค้าจะได้รับกระดาษเพื่อเขียนสั่งอาหาร แต่พวกเขาจะได้ตามสิ่งที่สั่งหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่รับออเดอร์อีกทีว่าพวกเธอจะจำโต๊ะของลูกค้าได้ไหม?? หลังจากที่รับออเดอร์เรียบร้อยแล้ว คุณยายจะนำใบรายการไปให้กับเชฟ จากนั้นเธอจะนำอาหารมาเสิร์ฟให้กับลูกค้า คุณยายเล่าถึงการรับออเดอร์ลูกค้าของเธอว่า “ตอนที่จดรายการอาหารฉันก็ตื่นเต้นนิดหน่อย แต่หลังจากนั้นฉันกลับรู้สึกเศร้าแปลกๆ ฮ่าๆ” หนึ่งในลูกค้าที่มาใช้บริการของที่นี่บอกว่า “ผมรู้สึกงงๆ นิดหน่อย แต่หลังจากนั้นก็เริ่มชิน ผมว่ามันก็แปลกดีเหมือนกันนะ” ในตอนแรกของการทำงานคุณยายมีอาการเกร็งและเป็นกังวลนิดหน่อย แต่การได้พูดคุยกับลูกค้าคนอื่นๆ ช่วยให้คุณ Aiko…
-
คุณยายสุดเฟี้ยว ใช้ไดร์เป่าผมหลอกเป็นกล้องจับความเร็ว คนขับเจอก็ชะงักกันเพียบ..!!
ใครบอกว่าการทำความดี หรือการเป็นพลเมืองดีมันยาก เราอยากจะบอกว่ามันไม่จริงเอาซะเลย เพราะขนาดคุณยาย Jean Brooks วัย 64 ปี จากเมืองน็อตติ้งแฮม ยังทำให้ชุมชนของเธอสงบได้ด้วยไดร์เป่าผม!! เรียกได้ว่าตอนนี้เรื่องราวของคุณยายกำลังเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก หลายสื่อสำนักชื่อดังต่างก็แวะเวียนไปสัมภาษณ์เธอ ถึงไอเดียสุดบรรเจิดที่ทำให้ผู้สัญจรไปมาหลายคนต้องขับรถช้าลง คุณยาย Jean Brooks และอาวุธคู่กายของเธอ คุณยายเล่าว่าหลังจากที่ลูกเขยของเธอเสียชีวิตไป เธอได้เปิดคาเฟ่ไว้บริเวณหน้าบ้านตัวเองเพื่อระดมทุนช่วยเหลือองค์กรผู้ป่วย ทว่าเธอกลับสังเกตเห็นผู้ใช้รถใช้ถนนในบริเวณนั้นขับขี่กันด้วยความเร็วที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด ทันทีที่เธอได้ยินเพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่า ที่ประเทศฝรั่งเศสมีคนใช้วิธีเอาไดร์เป่าผมมาหลอกให้คนขับรถเร็วเกินกำหนดคิดว่าเป็นเครื่องตรวจจับความเร็ว เธอก็ปิ๊งไอเดียที่จะหยิบยืมความคิดนี้มาใช้ทันที “ถ้าแค่ถนนหน้าบ้านเรายังทำให้มันปลอดภัยไม่ได้ แล้วเราจะทำให้โลกนี้ปลอดภัยได้ยังไงกัน!?” “เวลาที่คุณได้ยินเสียงรถผ่านไปผ่านมาแบบว่า เฟี๊ยววว… เฟี๊ยววว… มันน่ารำคาญมากและมันควรจะหยุดได้ซักที คนที่อยู่แถวนี้ก็เพื่อนบ้านฉันทั้งนั้น ลูกๆ ของเขาก็เหมือนลูกหลานของเรา ฉันไม่เคยเห็นใครหยุดให้ไฟแดงเลย แต่พอเป็นไดร์เป่าผมละก็จะรีบชะลอกันทันที” คุณยายให้สัมภาษณ์กับ BBC ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าวิธีของคุณยายใช้ได้ผลจริง เพราะทุกวันนี้ไม่ว่าใครก็ตามที่ขับรถผ่านย่าน Hucknall แล้วสังเกตเห็นคุณยายถือไดร์เป่าผมอยู่ ถ้าไม่คิดว่าเป็นตำรวจ ก็ต้องชะลอรถดูกันแทบจะทุกคัน เอาเป็นว่าถ้าใครอยากชมวิธีน่ารักๆ ของคุณยายตามไปชมได้ที่คลิปนี้เลยจ้า แหม่.. ติดใจรอยยิ้มคุณยายรูปที่สองจริงๆ ได้ใจมาก ฮ่าๆๆ ที่มา:…
-
สาวน้อยวัย 8 ขวบถูกห้ามลงแข่งขันฟุตบอล เพียงเพราะว่าเธอมีรูปร่าง เหมือนเด็กผู้ชาย!?
เรื่องราวของ Mili Hernandez สาวน้อยวัย 8 ขวบจากเมือง Omaha รัฐ Nebraska ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกทางผู้จัดการแข่งขันห้ามลงสนาม เนื่อจากพวกเขาคิดว่าเธอเป็นเด็กผู้ชาย Mili เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และตอนนี้เธอได้รับเลือกให้ลงแข่งขันในทีมฟุตบอลหญิงรุ่นอายุไม่เกิน 11 ปี จากคำบอกเล่าของ Cruz Hernandez พี่ชายวัย 15 ปีของเธอ หลังจากที่ทีมของสาวน้อยสามารถเก็บชัยชนะได้ 2 นัดจากการลงแข่งสามนัดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ทีมของเธอผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปในที่สุด แต่แล้วในวันแข่งขันนัดชิงก็เกิดเรื่องน่าเศร้ากับสาวน้อย ทางครอบครัวของ Mili บอกว่า เธอถูกห้ามลงทำการแข่งขัน เนื่องทางผู้จัดการแข่งขันคิดว่าเธอเป็นเด็กผู้ชาย “พวกเราพยายามปลอบใจเธอ แต่สีหน้าของเธอกลับรู้สึกเศร้ามาก” พี่ชายของสาวน้อยบอกกับนักข่าว ส่วนทางด้านคุณพ่อบอกว่า “พวกเขาทำให้เธอต้องเสียน้ำตา” “ตอนที่ผมหนูเริ่มยาว หนูมักจะตัดมันเพราะว่าหนูชอบผมสั้นมากกว่า” สาวน้อยบอกกับนักข่าว ทางต้นสังกัดของเธอได้ออกมาเปิดเผยเรื่องถึงสาเหตุที่ Mili ถูกตัดสิทธิ์นั้น เป็นเพราะว่าคนที่รับลงทะเบียนคิดว่าเธอเป็นเด็กผู้ชายจึงไม่รับลงชื่อให้เธอ ด้านขวาคือสาวน้อย Mili ผู้น่าสงสาร ถึงแม้ว่าคุณพ่อของเธอจะแสดงหลักฐานยืนยันเพศของลูกสาว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พวกเขายอมเปลี่ยนใจให้เธอลงสนามได้ “เราพยายามอธิบายให้พวกเขาเข้าใจว่าเธอเป็นผู่หญิง และพวกเขาตัดสินใจผิดพลาด แต่พวกเขาไม่ยอมฟังอะไรเลย และไม่ออกมาพบกับลูกของผมด้วยซ้ำ” คุณ Gerardo…
-
แม่คลอดลูกสาวพร้อมความอ้วนจ้ำม่ำ น้ำหนักแรกเกิด 5.9 กิโลฯ น่ารัก น่ารักหยิกมาก!!
โดยปกติแล้วทารกแรกเกิดจะตัวเล็กมากๆ และมีน้ำหนักเฉลี่ยแค่ 3 กิโลกรัมเท่านั้น แต่หนูน้อย Carleigh กลับมีน้ำหนักแรกเกิดที่มากกว่าเด็กทั่วไปเกือบสองเท่า Chrissy Corbitt ได้คลอดลูกคนที่ 4 เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมใน Orange Park Medical Center รัฐฟลอริด้า เมื่อแพทย์ดึงทารกออกมาก็พบว่าเธอมีรูปร่างจ้ำม่ำและตัวใหญ่กว่าทารกทั่วไปมากๆ เมื่อนำหนูน้อยไปขึ้นเครื่องชั่งน้ำหนักก็พบว่าเธอมีน้ำหนักแรกเกิดถึง 5.9 กิโลกรัม ก่อนจะพาคุณแม่มาดู ซึ่งตอนนั้น Chrissy ก็แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเหมือนกัน จริงๆ ตอนที่ท้อง คุณแม่ท้องใหญ่มากจนคุณหมอบอกว่าเธออาจจะมีลูกแฝด แต่พอวันคลอดทุกคนกลับเซอร์ไพรส์เมื่อพบว่าไม่ใช่ลูกแฝดแต่เป็นหนูน้อยจ้ำม่ำแทน คุณแม่บอกว่าลูกสาวมีขนาดตัวเท่ากับเด็กวัยหัดเดิน ดังนั้นเธอจึงซื้อเสื้อผ้าไซต์ขนาดเด็ก 9 เดือนให้ “เธอน่ารักมากเลยค่ะ แก้มเธออ้วนและตุ้ยนุ้ยมากๆ เธอช่างสวยงามเหลือเกิน” คุณแม่กล่าว แต่รู้มั้ยจริงๆ แล้วเธออาจจะมีน้ำหนักมากกว่านี้ เพราะ Carleigh คลอดก่อนกำหนด 1 อาทิตย์ นั่นหมายความว่าถ้าคลอดตามกำหนดเธอจะมีน้ำหนัก 6.35 กิโลกรัม ซึ่งเท่ากับทารกที่มีน้ำหนักมากที่สุดที่เกิดในประเทศสหรัฐอเมริกาในปีนี้เช่นกัน ความอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งคือ…
-
Nike ใช้ภาพ Ronaldo ตอนเด็กในงานโฆษณา ชาวเน็ตก็แซวว่าเขาใส่เสื้อ Adidas นะเฮ้ย!?
หลังจากที่สัปดาห์ก่อน Cristiano Ronaldo ได้ทำการซัดไป 2 ประตู ช่วยให้ทีมราชันชุดขาว Real Madrid คว้าแชมป์ UEFA Champions League เป็นสมัยที่ 12 เรียบร้อยแล้ว และสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่สามารถเป็นแชมป์ 2 สมัยได้สำเร็จ เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในครั้งนี้ทางแบรนด์กีฬาชื่อดังอย่าง Nike ก็เลยนำรูปภาพวัยเด็กของเขาไปตัดแปะโลโก้พร้อมกับใส่ข้อความว่า ‘เด็กชายคนนี้รู้ว่าต้องใช้ไนกี้’ ประมาณว่าถ้าใช้ Nike แล้วจะประสบความสำเร็จ จากนั้น Cristiano ก็ได้นำรูปภาพดังกล่าวไปโพสต์ลงบนทวิตเตอร์ของตัวเองพร้อมกับแฮชแท็กว่า #JustDoIt ซึ่งเป็นสโลแกนของทาง Nike เอง โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมากจนมียอดไลค์พุ่งสูงถึงหลักแสน และรีทวีตไปอีกหลายหมื่นครั้ง แต่หลังจากที่ Cristiano โพสต์ภาพดังกล่าวไปไม่นานก็มีชาวเน็ตรายหนึ่งออกมาโพสต์รูปภาพเดียวกัน แต่เป็นแบบที่ยังไม่ได้ปรับแต่งใดๆ และพบว่าจริงๆ แล้วเสื้อที่ใส่อยู่นั้นเป็นเสื้อของ Adidas!? ก็ไม่แน่ในว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพตัดต่อหรือไม่ แต่พบว่ามีการใช้งานรูปนี้ในบทความต่างๆ ที่เขียนเกี่ยวกับ Ronaldo ทั้งในสื่อต่างประเทศและในประเทศ และพบว่าโลโก้ที่เสื้อเป็นของ Adidas จริงๆ พอเหล่าชาวเน็ตได้เห็นภาพดังกล่าวแล้วต่างก็แสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆ…
-
ตำรวจได้รับแจ้งหมีบุกเข้าบ้าน สำรวจหาของกินเสร็จ ก็แอบแวะมาเล่นเปียโนสบายใจ!?
ใครที่สร้างบ้านอยู่ใกล้ป่า เตรียมตัวเจอแขกไม่ได้รับเชิญได้เลย เพราะอาจจะมีสัตว์ป่าเข้ามาจ๊ะเอ๋คุณถึงในบ้าน โดยที่คุณไม่ทันตั้งตัวเลยล่ะ อย่างเหตุการณ์ที่เกิดในบ้านหลังหนึ่งที่เมือง Vail รัฐโคโลราโด เมื่อเจ้าของบ้านกลับมาเห็นบ้านในสภาพเละเทะ เหมือนกับมีขโมยขึ้นบ้าน เจ้าของบ้านจึงได้แจ้งให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็เปิดดูกล้องวงจรเพื่อเป็นหลักฐานในการตามจับคนร้าย แต่ภาพที่เห็นในกล้องวงจรทำเอาทุกคนตะลึง เพราะโจรที่ว่านี้เป็นหมีดำตัวหนึ่ง มันได้เข้ามาหาอาหารในบ้าน แถมยังเดินสำรวจทั่วบ้าน ก่อนที่จะปิดท้ายแวะเล่นเปียโนเล็กน้อยก่อนจะจากไป ทางด้านตำรวจบอกว่าหมีตัวนี้ได้เข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดทิ้งเอาไว้ จากนั้นมันก็เข้าไปรื้อข้าวของในห้องครัว ทั้งยังค้นตู้เย็นเพื่อหาอาหาร จนทำให้สภาพภายในบ้านเละเทะ แต่นอกจากคลิปแล้ว ตำรวจก็ไม่เจอร่องรอยของหมีเลย อย่างไรก็ตามพวกเขาเชื่อว่ามันน่าจะอยู่ใกล้ๆ แถวนี้ และอาจจะกลับมาอีกเมื่อได้กลิ่นอาหาร ดังนั้นตำรวจจึงเตือนประชาชนว่า พยายามหลีกเลี่ยงการทำอาหารที่มีกลิ่นฉุน และปิดประตู หน้าต่างให้เรียบร้อยทุกครั้งก่อนออกบ้าน เพราะคุณอาจไม่โชคดีแบบนี่้ทุกครั้งไป ที่มา thedodo l fox35orlando
-
หนุ่มจีนทรมาน… กระปู๋ติดในไขควงนานกว่า 17 ชั่วโมง ทีมแพทย์เร่งช่วยจนเกือบไม่ทัน!?
ต้องบอกว่าสำหรับข่าวนี้คงเป็นอุทาหรณ์สอนใจหนุ่มเหงาทั้งหลายได้ดี เพราะเรื่องนี้จะสอนให้เรารู้ว่าอย่าคิดจะเล่นกับรูที่ไม่คุณไม่คุ้นเคย เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะกลายเป็นข่าวแบบนี้ได้ เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเกี่ยวกับหนุ่มจีนวัย 37 ปี ที่ไม่รู้ไปทำอีท่าไหนเอากระปู๋ไปติดอยู่ในไขควงนานถึง 17 ชั่วโมง!! เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวหนุ่มจีนคนดังกล่าวมาส่งให้โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองหลินไฮ่ ต้องนับว่าเป็นเคสที่พิเศษสุดๆ เพราะตอนแรกทีมแพทย์วางแผนที่จะผ่าเอาเลือดที่บวมอยู่ในอวัยวะออก ทว่าตามกฎหมายต้องได้รับการอนุญาติจากคนในครอบครัวก่อน ด้วยความยุ่งยากทำให้ พวกเขาลองติดต่อให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงผู้เชี่ยวชาญด้านการตัดเหล็กเข้ามาช่วยเหลือ ทว่าทีมดับเพลิงก็ต้องจนปัญญาเมื่อเห็นสภาพของอวัยวะที่ติดอยู่กับไขควง เกือบจะหมดหนทางช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็มีคุณหมอปิ๊งไอเดียออกมาว่าทีมทันตแพทย์น่าจะช่วยเหลือได้ จากนั้นไม่นานทีมทันตแพทย์ก็เข้ามาดูเคสของพ่อหนุ่มทันที โชคดีที่เครื่องมือต่างๆ ของทันตแพทย์เอื้ออำนวยต่อการตัดไขควงที่ติดอยู่ตรงบริเวณนั้น คุณหมอต้องใช้เวลานานกว่า 30 นาที เพ่งสมาธิตัดเหล็กอย่างบรรจง ทั้งทีมดับเพลิง และทีมหมอ ต่างก็ยืนลุ้นเป็นกำลังใจให้พ่อหนุ่ม ไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ไขควงไปติดตรงนั้น แต่เราน่าจะพอเดาออกได้เพราะเจ้าหน้าที่ไปสืบประวัติพ่อหนุ่มแล้วพบว่า.. เขาเป็นชายโสด!! ส่วนนี่ก็เป็นชิ้นส่วนไขควงที่ถูกตัดออกมา เกือบไปแล้ว… เกือบไม่มีให้ใช้แล้วมั้ยล่ะปั๊ดโถ่วว ที่มา: Shanghaiist
-
ปล่อยมันตรงนี้แหละ!! ชายชาวจีนเข้าหลบมุม สถานีรถไฟใต้ดิน เพื่อเขย่า “ก้อนขรี้” ออกมา
อาการปวดขรี้นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ จริงๆ ถ้าหากต้องเดินทางไกลๆ หรืออยู่ในที่ที่ห้องน้ำหาย๊ากยาก แล้วดันปวดหนักขึ้นมา โอย.. ไม่อยากจะนึกถึงความทรมาณที่จะตามมาเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะมนุษย์เราคือผู้ที่มีการปรับตัวได้ดีที่สุด ดังนั้นหลายๆ คนก็อาจจะมีวิธีการแก้ปัญาที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับวิธีการแก้ปัญหาของพี่คนนี้เอ่อ… อาจะดูโหดไปหน่อยนะ ชายหนุ่มผู้หนึ่งได้เดินเข้ามาในสถานีรถไฟใต้ดิน Nanning แต่ดูเหมือนว่าทาทางการเดินของพี่แกนั้นจะแปลกๆ เหมือนกับว่าแกกำลังซ่อนอะไรไว้ในกางเกง จากนั้นชายหนุ่มคนดังกล่าวได้เดินเข้าไปในมุมหนึ่งในสถานีรถไฟใต้ดิน เขาเดินลังเลอยู่ที่มุมเงียบๆ อยู่พักหนึ่งก่อนที่จะก้าวออกมา เขาเริ่มขยับขากางเกงและทันใดนั้นก็มีก้อนดำๆ หลุดออกมา แทบจะไม่เชื่อสายตาเจ้าก้อนดำๆ ที่ว่านั้นก็คือขรี้นั่นเอง!! และนี่คือชายหนุ่มคนดังกล่าว วินาทีที่ของความเป็นความตาย ก่อนที่จะตัดสินใจ เอาว๊ะ!! ไปชมวีรกรรมของพี่คนนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างเลย หลังจากเสร็จภาระกิจชายหนุ่มก็เดินจากไปพร้อมกับทิ้งซากอารยธรรมของเค้าไว้ตรงนั้นให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่และพนักงานทำความสะอาดของสถานีต่อไป พนักงานของสถานีเดินเข้ามาพร้อมกับกรวยเตือนผู้ใช้บริการท่านอื่นๆ เพื่อไม่ให้เหยียบก้อนที่ชายนิรนามทิ้งเอาไว้ จากนั้นจึงมีพนักงานทำความสะอาดเข้ามาจัดการกับของเสียดังกล่าว แม่บ้านถึงอุทานว่า “แหม่.. ทำไปได้” สถานีรถไฟใต้ดินแห่งนี้มักจะเกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นอยู่บ่อยครั้ง อย่างในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็เกิดเหตุการณ์หญิงสาวผู้หนึ่งถูกลวนลามระหว่างที่เธอกำลังขึ้นบันใดเลื่อน หรือเมื่อเดือนมีนาคม ก็เกิดเหตุการณ์ชายหนุ่มที่แก้ผ้าพยายามที่จะซื้อตั๋วขึ้นรถไฟ อื่ม..ภัยอันตรายนี่มาในทุกรูปแบบจริงๆ เลยนะเนี่ย แบบนี้ไปไหนมาไหนก็ระวังตัวกันด้วยนะครับ ที่มา shanghaiist
-
มาถึงขั้นนี้แล้ว!? รัสเซียผลิตตู้ขายไลค์และยอดผู้ติดตาม สนองเพื่อคนที่อยากเด่นอยากดัง
ตั้งแต่โลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทกับชีวิตมนุษย์ ผู้คนก็เริ่มแชร์เรื่องราวของตัวเองลงโซเชียลกันมากขึ้น ส่วนจะเป็นตัวตนที่แท้จริงหรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่ชาวโซเชียลส่วนใหญ่ต้องการคือยอดไลค์ ยอดแชร์ หรือยอดผู้ติดตาม ถึงขั้นมีการเปิดขายปั๊มไลค์ ปั้มยอดฟอลโล่กันจนกลายเป็นเรื่องปกติ ล่าสุดหนึ่งในบริษัทของรัสเซียได้นำแนวคิดนี้มาสร้างในระบบขายในสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เพื่อให้ผู้คนสามารถอัพระดับยอดผู้ติดตามและซื้อไลค์ผ่านตู้จำหน่ายอัตโนมัติแทน ตู้ดังกล่าวนี้ตั้งอยู่ในห้างที่กรุงมอสโก เมื่อคุณหยอดเหรียญเข้าไปประมาณ 30 บาท ทุกภาพในอินสตาแกรมของคุณจะมียอดไลค์ (ปลอม) เพิ่มขึ้น 100 ไลค์ ส่วนใครมีเงินมากหน่อยและต้องการยอดผู้ติดตามจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว ทางบริษัทก็มีทางเลือกให้คุณด้วยการเพิ่มยอดฟอลโล่ (ปลอม) ให้จำนวน 150,000 คน ในราคา 28,000 บาท และรับประกันว่าจะได้ยอดไลค์ไม่ต่ำกว่า 1,500 ไลค์ต่อ 1 โพสต์ มันอาจจะดูเป็นอะไรที่ไร้สาระนะ แต่เชื่อมั้ยว่าคนดังหลายๆ คน โดยเฉพาะเน็ตไอดอลก็มีที่มาจากการมียอดไลค์ ยอดฟอลโล่เยอะๆ นี่แหละ แถมยังมีคนยอมจ่ายเงินเพื่อแลกกับสิ่งเหล่านี้ซะด้วยสิ!! ที่มา engadget
-
จีนเตรียมสร้าง แผงโซล่าเซลล์ลอยน้ำขนาดใหญ่ ปฏิรูปเพื่อพลังงานสะอาดอย่างจริงจัง!!
แม้ว่าที่ผ่านมาจีนจะมีชื่อเสียงเกี่ยวกับการปนเปื้อนของมลพิษและหมอกควันที่หนาแน่น แต่ในช่วงปีหลังๆ มานี้ พวกเขาได้พยายามทำความสะอาดและหันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น อย่างเช่น การสร้างกังหันลม สร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำและติดตั้งโซลาเซลล์ทั่วประเทศ และล่าสุดได้สร้างโรงงานไฟฟ้าโซลาเซลล์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นของจีนในการทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมทั้งหมดในอีกระดับหนึ่ง Sungrow Power Supply บริษัทผู้ผลิตโซลาเซลล์ดังกล่าวบอกว่า มันสามารถผลิตพลังงานได้ถึง 40 เมกะวัตต์ ที่เพียงพอต่อการใช้งานในบ้านกว่า 15,000 หลัง แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเมื่อสิ้นปีที่แล้ว จีนได้ผลิตโซลาเซลล์ที่ผลิตพลังงานได้ 77.42 กิกะวัตต์ ซึ่งมากกว่าประเทศอื่นๆ ในโลก และยังเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปี 2015 ด้วย และจากการรายงานของ National Energy Administration พบว่า พลังงานที่จีนใช้อยู่ทุกวันนี้ 11% เป็นพลังงานหมุนเวียน โดยในปี 2030 จีนคาดหวังว่าจะต้องมีพลังงานดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของข้อตกลงปารีสด้วย (Paris Agreement) ในส่วนของการติดตั้งบนผืนน้ำ ผู้ผลิตให้เหตุผลว่า เมื่อแผ่นโซล่าเซลล์สัมผัสกับความเย็นของน้ำจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญจะได้ไม่เป็นการกินพื้นที่บนบกด้วย แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกของการสร้างโซล่าเซลล์ขนาดใหญ่ แต่ก็ถือว่าเป็นโรงงานไฟฟ้าโซล่าเซลล์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และถือเป็นจุดที่เริ่มต้นที่ดีสำหรับโลกในอนาคต ที่มา shanghaiist l Inhabitat
-
คาเฟ่เกาหลีใต้ ‘Mr. Healing’ บริการทั้งกาแฟและเก้าอี้นวด เพื่อความผ่อนคลายที่มากที่สุด!!
เมื่อรู้สึกเหนื่อยหรือง่วงระหว่างวัน ผู้คนมักจะกระตุ้นตัวเองด้วยกาแฟเสมอ แต่ Mr. Healing ร้านกาแฟในเกาหลีใต้แนะนำว่าควรนอนพักสมองและพักสายตาดีกว่า Mr. Healing เป็นร้านกาแฟสำหรับพักผ่อนระหว่างวัน ที่นี่จะมีทั้งเครื่องดื่มและเก้าอี้นวด เพื่อให้ผู้คนได้งีบระหว่างวัน พร้อมฟังดนตรีคลาสสิกเบาๆ และรับกลิ่นหอมๆ จากร้านที่จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันการผ่อนคลายด้วยรูปแบบดังกล่าวได้รับความนิยมมากในหมู่คนเกาหลี จนทำให้ต้องขยายสาขากว่า 47 แห่ง ทั่วประเทศต่างๆ ในเอเชีย มีข้อมูลจากองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาแห่งชาติรายงานว่า คนเกาหลีจำนวนมากประสบกับปัญหานอนไม่หลับซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการทำงานมากเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงมักจะหาโอกาสพักผ่อนหรืองีบระหว่างวัน แน่นอนว่า Mr. Healing ได้ตอบโจทย์ความต้องการนั้นเป็นอย่างดี เพราะเป็นร้านกาแฟที่มีบริการนวดให้ผ่อนคลาย แต่จะช่วยได้แค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับเวลาที่คุณมีและงบของคุณด้วย โดยจะคิดค่าบริการดังนี้ ทำเซสชั่น 20 นาที 100 บาท นวด 30 นาที 230 บาท และเซสชั่น 50 นาที 300 บาท ทั้งหมดนี้รวมเครื่องดื่มแล้ว หลังจากที่เลือกรูปแบบบริการแล้ว คุณจะถูกนำตัวไปที่ “ศูนย์บำบัด” ซึ่งเป็นพื้นที่กว้างๆ และแยกเป็นห้องเล็กๆ โดยจะมีเก้าอี้นวด 2 ตัว …
-
เรื่องราวของ “นกกระสาสีเทา” กับวิถีชีวิตที่กลมกลืน ภายในสังคมเมืองอัมสเตอร์ดัม
ปกติแล้วเราจะเห็นนกกระสาอยู่ในสวนสัตว์หรือตามถิ่นที่อยู่ของมัน แต่ที่อัมสเตอร์ดัมเราจะเห็นนกกระสาใช้ชีวิตปะปนกับมนุษย์จนกลายเป็นภาพชินตาของคนที่นั่นไปแล้ว ช่วงหลายปีที่ผ่านมานกกระสาสีเทาจำนวนมากได้เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ จนเหมือนกับว่าที่นี่เป็นบ้านของพวกมันไปแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่านกกระสาเหล่านี้เข้ามาอยู่ในที่นี่ได้อย่างไร Julie Hrudova ได้ให้คำตอบว่า… นกกระสาสีเทาได้เข้ามาอยู่ในอัมสเตอร์ดัมเมื่อหลายสิบปีก่อน เพราะพวกมันคิดว่าที่นี่เป็นแหล่งอาหารที่สามารถหาไก่หรือปลาได้ง่าย นกกระสาเหล่านี้มีความคุ้ยเคยกับชีวิตในเมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์เป็นอย่างดี พวกมันจะเข้ามาในเมืองช่วงฤดูหนาว เพื่อหาอาหารและที่อยู่อาศัย ณ ตลาด Dappermarkt ทางตะวันออกของอัมสเตอร์ดัมเราจะเห็นนกกระสาอยู่รอบๆ คอกม้า เนื่องจากนกกระสาอยู่ในเมืองจำนวนมาก ประชาชนบางส่วนถึงกับจัดประกวดว่าใครจะถ่ายรูปนกกระสาได้มากที่สุดในหนึ่งภาพ ซึ่งสถิติล่าสุดคือ 29 ตัว นกกระสาหาเศษอาหารในตลาด Albert Cuyp ปกตินกกระสาจะหากินตามคูน้ำและทะเลสาบ แต่เมื่อเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองพวกมันสามารถปรับตัวและมีวิธีการหาอาหารที่เยี่ยมยอดเหมือนกัน นกกระสารอของเหลือในตลาด แต่ก็มีบางคนที่ให้อาหารนกกระสาบ้าง ที่นี่เต็มไปด้วยนกกระสาประมาณ 800 คู่ ซึ่งมาจากแหล่งที่อยู่อาศัยที่แตกต่างกันกว่า 25 แห่งในอัมสเตอร์ดัม สำหรับประเทศเนเธอร์แลนด์นั้นถือเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของนกกระสาสีเทาที่หนาแน่นที่สุดในยุโรปตอนเหนือ และนกระสาส่วนใหญ่ที่อยู่ในเมืองจะสร้างรังอยู่บนต้นไม้ตามสวนสาธารณะต่างๆ …
-
โฆษณาสระน้ำในซาอุฯ แบนภาพผู้หญิง แถมเปลี่ยนเป็นลูกบอลแทน ชาวเน็ตร่วมฮาเพียบ!!
บางทีเราก็แอบสงสัยเหมือนกันนะว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เค้าทำงานอยู่ในกองเซนเซอร์ต่างๆ มีวิธีการทำงานกันยังไง และเราก็ได้แต่สงสัยแบบเงียบๆ เท่านั้นแหละ ไม่งั้นเดี๋ยวจะอยู่ไม่ยาว จะว่าไปไม่ใช่แค่ที่ประเทศไทยเราเท่านั้น ที่ชอบมีอะไรแปลกๆ เกี่ยวกับการเซนเซอร์มาให้เห็น เพราะล่าสุดชาวเน็ตได้ร่วมกันแชร์ภาพโฆษณาของสระน้ำยี่ห้อหนึ่ง จากซาอุดิอาราเบีย ที่ต้องเอ่อ…เซนเซอร์ภาพผู้หญิงออก สินค้าดังกล่าวเป็นของบริษัท Saco Hardware ซึ่งเป็นบริษัทขายปลีกทางออนไลน์ ทว่ามีชาวเน็ตคนหนึ่งจากซาอุฯ ได้ออกมาโพสต์ภาพโฆษณาสินค้าที่ต้องมีการเซนเซอร์ผู้หญิงออก (และเปลี่ยนเป็นลูกบอลแทน!?) ส่วนนี่ก็คือภาพโฆษณาต้นฉบับ ใช่แล้วคุณตาไม่ฝาดหรอก คุณแม่เปลี่ยนเป็นลูกบอลจริงๆ แถมเด็กๆ ต้องใส่เสื้อยืดทับซะมิดดชิดเลยแฮะ ทันทีที่ภาพดังกล่าวไปเตะตาชาวเน็ตเข้า มันก็กลายเป็นกระแสความฮาบนโลกออนไลน์ เพราะชาวเน็ตทั้งหลายต่างออกมาแซะกันสนุกปากเลยว่า จะเซนเซอร์กันไปทำม๊ายย… ‘ตาผมนี่แทบถลนออกมา เกิดอะไรขึ้นกับโลกเราว่ะเนี่ย!?’ ‘ที่ซาอุฯ เกิดเรื่องแบบนี้บ่อยมากจะบอกให้ ครั้งหนึ่งเราเคยเอาแคตาล็อกของ IKEA มาดู เจ้านั้นก็โดนลบภาพผู้หญิงออกหมดเลยเหมือนกัน’ ‘โฆษณาขายสระว่ายน้ำที่มีครอบครัวเล่นอยู่ข้างใน แต่การตลาดที่ซาอุฯ ทุกคนต้องใส่เสื้อ และผู้หญิงต้องกลายเป็นลูกบอล ตึ่งโป๊ะ!!’ บางคนก็แซวว่า ‘ดูรอยยิ้มเด็กๆ ที่มองไปให้ลูกบอลผู้เลี้ยงดูพวกเขามาจนเติบใหญ่สิ เจ๋งชะมัด!!’ …
-
รู้จักกับ “Mandy Harvey” นักร้องสาวหูหนวก แต่โชว์การร้องเพลงสุดซึ้ง ถึงขั้นน้ำตาซึม…
ใครที่ได้ติดตามเวทีการประกวด America’s Got Talent ที่เพิ่งเปิดซีซั่นไปล่าสุดนี้ คงจะได้เห็นเรื่องราวของนักร้องสาวผู้ไม่ได้ยินเสียงตัวเองมาตั้งแต่วัยเด็ก ‘Mandy Harvey’ กับเรื่องราวที่ทำให้ชาวเน็ตหลายคนน้ำตาซึมมาแล้ว ซึ่งเธอเล่าในช่วงวัยเด็กเธอได้ยินเสียงปกติเหมือนคนทั่วไป ทว่าเธอป่วยด้วยโรคหนังแข็ง (Connective Tissue Disorder) และส่งผลทำให้เธอสูญเสียประสาทการรับฟังทั้งหมด เธอเป็นเด็กสาวอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบการร้องเพลงมาเป็นชีวิตจิตใจมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ แต่ต้องสูญเสียการได้ยินไปตอนอายุได้ 18 ปี หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วเธอจะร้องเพลงได้ยังไง? เธอก็ได้อธิบายไว้ในรายการว่า เธอจำเป็นที่จะต้องมีล่ามภาษามือคอยติดตามด้วยตลอด ด้วยอาการดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ทำให้เธอเรียนรู้ที่จะร้องเพลงด้วยการอาศัยความคุ้นเคยของกล้ามเนื้อ และอาศัยความรู้สึกของแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นในลำคอ ก่อนที่จะเปล่งเสียงออกมา ส่วนในเรื่องของจังหวะดนตรีนั้น เธอต้องอาศัยการจับจังหวะจากแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นบนพื้น เพราะฉะนั้นเธอจำเป็นที่จะต้องถอดรองเท้าในการร้องเพลงทุกครั้ง ส่วนเพลงที่เธอเลือกมาร้องในการแข่งขันครั้งนี้ ต้องถือว่าเป็นเพลงที่มีทั้งเนื้อหา และเรื่องราวที่กินใจเอามากๆ โดยมีชื่อเพลงว่า ‘Try’ เป็นหนึ่งในผลงานที่เธอเขียนขึ้นเองหลังจากที่สูญเสียการได้ยิน “หลังจากที่ฉันสูญเสียการได้ยิน ตอนแรกฉันยอมแพ้กับทุกอย่างในชีวิต แต่ตอนนี้ฉันอยากจะทำอะไรซักอย่างให้กับตัวฉันเอง อะไรที่มีความหมายและคุณค่ามากกว่าการยอมแพ้…” Mandy กล่าวในรายการ หนึ่งล้านคำพูดไม่เท่าตาเห็น เอาเป็นว่าลองไปฟังเสียงที่ถูกขับขานออกมาจากความรู้สึกในใจของเธอกันได้เลย (นาทีที่ 1.53) เรื่องราวของเธอได้กลายเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่รู้สึกท้อแท้ หรือหมดหวังในชีวิต…
-
เจ้าหมาถูกพามาทิ้งไว้ที่สถานสงเคราะห์ มีเพียงของเล่นชิ้นเดียว ที่ทำให้มันสบายใจได้!!
เหล่าสัตว์เลี้ยงมากมายหลายตัวถูกพามาทิ้งไว้ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ บางตัวก็แก่จนเกินไป บางตัวก็ป่วยเป็นโรคที่ทำให้หน้าตาของมันดูไม่น่ารัก บ้างก็เพราะเจ้าของต้องย้ายบ้านและไม่สามารถพาสัตว์เลี้ยงไปด้วย เช่นเดียวกันกับเจ้าหมาพิตบูลชื่อว่า Layla ตัวนี้ที่ถูกนำมาทิ้งไว้ที่สถานสงเคราะห์เพราะเจ้าของของมันมีสัตว์เลี้ยงมากเกินไป “พวกเราอ่านโน้ตของเจ้าของของมัน ที่บันทึกเอาไว้มันอาศัยอยู่กับเด็ก 5 คน และเจ้าหมาอีก 2 ตัว แต่พวกเขาก็ต้องตัดสินใจพาเจ้า Layla มาไว้ที่นี่เพราะเลี้ยงไม่ไหว มันน่าเศร้าสุดๆ ไปเลยล่ะ” Jackie O’Sullivan เจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือ Rescue Dogs Rock NYC เล่า เมื่อก่อนมันสนิทกับเด็กๆ ที่บ้านนั้นมาก แต่หลังจากที่ครอบครัวได้นำมันมาทิ้ง เจ้า Layla ก็ถึงกับทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว “มันดูมีอาการซึมเศร้าเป็นอย่างมากเมื่อมาถึงที่สถานสงเคราะห์ แต่พอได้อยู่ใกล้ๆ กับตุ๊กตาที่ถูกพามาด้วยแล้วมันดูจะสบายใจขึ้นนะ” คุณ Jackie เล่า “มันคาบตุ๊กตาของเล่นไปด้วยทุกที่ไม่ว่าจะเป็นสนามหญ้า หรือตอนออกไปเดินเล่น และไม่ยอมปล่อยให้ห่างจากตัวเลย เหมือนกับว่าของเล่นชิ้นนั้นเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของมัน” แต่เจ้าตุ๊กตาของเล่นชิ้นนั้นอาจช่วยเหลือมันได้ไม่มากเท่าไหร่นัก เพราะสถานสงเคราะห์ที่เจ้า Layla ถูกพาไปทิ้งไว้นั้นเป็นสถานสงเคราะห์ที่จะทำการการุณยฆาตพวกมันหากไม่ได้รับการรับเลี้ยงในเร็ววัน แต่จากการช่วยเหลือของคุณ…
-
นักสำรวจถึงกับงง พบสิ่งมีชีวิตยังคงอยู่รอดได้ ท่ามกลางภูเขาไฟใต้น้ำที่ยังไม่ดับสนิท!?
Kavachi คือภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงใต้ในหมู่เกาะโซโลมอน เคยปะทุครั้งแรกเมื่อปี 1939 และปะทุครั้งล่าสุดในเดือนมกราคมปี 2014 แต่ใครจะไปคิดละว่าภายใต้ภูเขาไฟที่เคยปะทุถึงสองครั้ง จะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยที่สามารถอาศัยอยู่ได้ ตามการรายงานจาก National Geographic ทีมสำรวจทำการหย่อนกล้องลงไปใต้ทะเล จากชั้นบนสุดที่ยังคงเป็นน้ำโทนสีฟ้าใส Brennan Phillips วิศวกรทางทะเลบอกว่า “ปกติแล้วบริเวณโดยรอบของภูเขาไฟที่เคยปะทุแล้วนั้น จะไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่อาศัยได้เลยครับ” แต่จากการสำรวจครั้งนี้พบว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ นั่นทำให้ทุกคนกับงงไปตามๆ กัน และที่สำคัญก็คือ ในบริเวณนั้นพวกมันมีโอกาสเสี่ยงที่จะตายได้ตลอดเวลา จึงเกิดเป็นข้อสงสัยว่าพวกมันเอาตัวรอดได้อย่างไร? น้ำเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขุ่นมัว เมื่อหย่อนกล้องลงไปในระดับที่ลึกมากขึ้น นี่คือสัตว์ชนิดแรกที่ทีมงานจับภาพได้ มันคือปลากระเบน Sixgill stingray ทางทีมงานได้ปล่อยกล้องทิ้งไว้อีกสักพัก ปรากฏว่าพบสัตว์ที่อยู่ใต้ภูเขาไฟนี้มีทั้งหมด 3 ชนิดด้วยกัน นั่นก็คือ ปลาฉลามหัวค้อนหยัก, ปลาฉลาม Silky shark และปลากระเบน Sixgill stingray การค้นพบนี้กลายเป็นที่สนใจของนักวิจัยทั้งหลายและเกิดคำถามมากมาย โดยหลักๆ แล้วสิ่งที่สงสัยเป็นอย่างแรกก็คือ พวกมันมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร? และพวกมันมีสัญญาณเตือนหรือไม่ว่าภูเขาจะระเบิดเมื่อไหร่? อย่างไรก็ตามก็คงต้องให้ทางผู้เชี่ยวชาญทำการศึกษากันต่อไป ไม่แน่ว่าเราอาจจะไขความลับอะไรบางอย่างจากธรรมชาติได้อีกหลายสิ่งเลยล่ะ ที่มา thedodo
-
นี่คือ 11 โฉมหน้าผู้อยู่เบื้องหลัง ‘เว็บไซต์ชื่อดัง’ จากจุดเริ่มต้น ไปสู่ความสำเร็จระดับโลก!!
ปัจจุบันโลกของเรานั้นอยู่ในยุคของโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไม่ว่าจะต้องการอะไรก็เพียงแค่คลิ๊กๆ อยู่หน้าจอ ก็ได้สิ่งที่ต้องการแล้ว แต่เพื่อนๆ เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าเหล่าเว็บไซต์ต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกสบายให้กับพวกเราในทุกวันนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร และใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับโฉมหน้าผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ชื่อดังของโลก เบื้องหลังของความสำเร็จเหล่านั้นจะมีใครบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. Google Sergey Brin และ Larry Page พบกันครั้งแรกสมัยยังเรียนปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัย Stanford ก่อนที่จะร่วมมือกันก่อตั้ง Google ขึ้นมา ปัจจุบัน Google มีการจ้างพนักงานมากกว่า 48,000 คน เป็นหนึ่งในบริษัทสัญชาติอเมริกาที่ใหญ่ที่สุด ประสบความสำเร็จที่สุด และทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกเลยทีเดียว 2. Facebook Mark Zuckerberg ได้ร่วมมือกับเพื่อนๆ อีก 4 คน สร้าง Facebook ขึ้นมา ขณะที่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัย Harvard โดยแรงบันดาลใจแรกๆ ของ Facebook นั้นมาจากโรงเรียน Philip Exeter Academy ที่เขาเรียนจบไปเมื่อปี 2002…
-
ลูกสาวถ่ายภาพวันเรียนจบ ให้เหมือนกับที่คุณแม่เคยทำ ชาวเน็ตสังเกต.. พ่อแม่ยังเป๊ะอยู่!!
Madeleine Tarin สาวสวยวัย 18 ปี เธอคิดมาตลอดว่าเมื่อถึงวันที่ตัวเองเรียนจบชั้นไฮสคูล เธออยากจะถ่ายรูปให้ออกมาเหมือนกับวันรับปริญญาของคุณแม่เธอแบบเป๊ะๆ และในที่สุดวันที่เธอเฝ้ารอก็มาถึง เธอได้ขี่คอถ่ายภาพกับครอบครัวเหมือนตอนเป็นเด็กอีกครั้ง ทว่าความหน้าใสไร้สิวของพ่อแม่เธอ กลับทำให้ชาวเน็ตอึ้งกันไปเป็นแถว นี่เค้าใช้ครีมอะไรทำไมหน้าเด๊กเด็ก ภาพนี้ถูกถ่ายเมื่อปี 2000 เป็นวันเรียนจบชั้นไฮสคูลของคุณแม่เธอ 17 ปีต่อมาวันของเธอก็มาถึง เธอขึ้นไปขี่คอคุณพ่อแล้วถ่ายภาพให้เหมือนกับวันวานของครอบครัว แต่ทว่าเรื่องราวความรักของทั้งคู่นั้นไม่ง่ายเลย เธอเล่าว่าคุณแม่ของเธอท้องกับคุณพ่อตอนอายุ 15 ปี พ่อและแม่ของเธอต้องถูกแรงกดดันจากสังคมมากมาย แต่พวกเขาก็เลือกที่จะไม่ทิ้งกัน และช่วยกันดูแลเธอจนถึงทุกวันนี้ ในช่วงที่คุณแม่ของเธอยังเรียนชั้นไฮสคูล คุณพ่อของเธอต้องออกจากโรงเรียนมาทำงานอย่างหนัก เพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว และนี่ก็เป็นเหมือนอีกบทพิสูจน์ความรักของทั้งคู่ ว่าพวกเขาทำได้ แม้ว่าจะต้องถูกแรงกดดันจากสังคมมากมาย แต่คุณพ่อ และคุณแม่วัยหนุ่มสาวก็ได้ช่วยกันเลี้ยงดูลูกสาวจนโตมาเป็นคนดีของสังคม เพราะนอกจากเธอจะเรียนจบไฮสคูลแล้ว เธอยังได้รับทุนศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในรัฐนิวเจอร์ซี่ย์ และได้เป็นนักกีฬาฟุตบอลประจำมหา’ลัย อีกด้วย หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์บนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาซาบซึ้งกับเรื่องราวของครอบครัวที่เกิดขึ้น ‘ผมรู้สึกซึ้งมากเลย น้ำตาจะไหลจนต้องขอแชร์นะครับ’ ‘นี่อาจจะเป็นเป้าหมายในชีวิตคู่ที่จริงที่สุด มันคงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการที่คนสองคนจะเติบโตไปด้วยกัน’ ‘เธอมีครอบครัวที่น่ารักมาก ขอยินดีกับความสำเร็จในครั้งนี้ด้วยนะจ๊ะ’…
-
Gal Gadot เผยเรื่องราวขณะที่ตั้งท้องได้ 5 เดือน ในระหว่างการถ่ายทำ Wonder Women
จากการที่ภาพยนตร์เรื่อง Wonder Women ของค่าย DC ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล ก็มีส่วนทำให้ชื่อเสียงของนักแสดงสาว Gal Gadot โด่งดังไปทั่วโลก แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าระหว่างที่กำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Wonder Women อยู่นั้น Gal เองก็กำลังตั้งท้องอยู่ด้วยนะเออ แถมยังมีอายุครรภ์ตั้ง 5 เดือนแหนะ!! ใช่แล้ว…จากการถ่ายซ่อมเมื่อช่วงฤดูหนาวของปีที่แล้ว Gal กำลังจะคลอดหนูน้อย Maya ลูกสาวของเธอให้ออกมาลืมตาดูโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเท่านั้น!! จากการให้สัมภาษณ์ของผู้กำกับภาพยนตร์ Patty Jenkins บอกว่า “การตั้งครรภ์ของ Gal นั้นอยู่ในช่วงหนึ่งของการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ มีหลายอย่างที่เราขอให้เธอทำ ทั้งเขย่งขาข้างเดียวนะ ตะโกนไปด้วยตอนเข้าฉากนี้นะ ตอนนี้หนาวและฝนตกนะเธอจะต้องทำเสียงแหบๆ หน่อย ทุกวันที่เธอต้องสวมเกราะข้อมือ และเธอก็ทำมันด้วยความเต็มใจ” แน่นอนว่าเรื่องของคอสตูมหรือชุดเองก็สำคัญเช่นกัน เพราะช่วงที่ถ่ายทำหนัง Gal ตั้งครรภ์ตั้ง 5 เดือนแล้วทีมงานทำอย่างไรถึงปกปิดได้อย่างมิดชิดจนเราจับสังเกตไม่ได้เลยล่ะ? Gal เล่าว่า “ทีมโปรดัคชั่นได้ทำการตัดช่องขนาดใหญ่ที่ชุดของฉันเอาไว้ และแปะที่ท้องด้วยผ้าสีเขียวสว่างตา ทำให้ภาพแบบ Close-Up…
-
สวนสัตว์จีนโยน ‘ลาตัวเป็นๆ’ ลงไปในบ่อเสือ ถูกขย้ำอย่างน่าเวทนาต่อหน้านักท่องเที่ยว
หลายคนอาจจะเคยเห็นวิธีการให้อาหารสัตว์ในสวนสัตว์กันแล้วบ้าง อย่างพวกเสือหรือสิงโตที่ต้องกินเนื้อสด เจ้าหน้าที่จะทำการหย่อนหรือโยนเนื้อที่ชำแหละแล้วให้พวกมัน แต่สวนสัตว์แห่งหนึ่งในจีนกลับมีวิธีการให้อาหารเสือที่แตกต่างออกไปคือ การโยนลาตัวเป็นๆ ลงไปในบ่อเสือที่กำลังหิวโหย ทำเอานักท่องเที่ยวที่เห็นหวาดผวาไปตามๆ กัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สวนสัตว์ Yancheng Wild Animal World มณฑล Jiangsu ประเทศจีน ซึ่งเป็นคลิปวิดีโอที่ถ่ายโดยหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่อยู่ในเหตุการณ์ ในคลิปจะเห็นเจ้าหน้าที่เทลาตัวหนึ่งลงมากับรถบรรทุก ก่อนจะช่วยกันผลักจนลาตัวดังกล่าวตกลงไปในบ่อที่มีเสืออยู่ประมาณ 3 ตัว เพียงเสี้ยววินาที เสือก็กระโจนเข้าหาลาตัวนั้น ก่อนเสือตัวอื่นๆ จะเข้ามาสมทบ ในขณะที่ลาก็พยายามดิ้นรนเอาชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่เพราะเสือเป็นสัตว์นักล่า พวกมันจึงจัดการเหยื่อจนนิ่งไปภายในเวลาเพียง 30 นาที ต่อมาวิดีโอถูกแพร่ไปในโลกออนไลน์ของจีน ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ได้ประณามการกระทำดังกล่าวของทางสวนสัตว์ ชาวเน็ตคนหนึ่งเขียนด้วยความโกรธว่า “คนที่โยนลาลงไปในบ่อ สมควรที่จะถูกโยนลงไปด้วยเช่นกัน” ในขณะที่หนึ่งในคนงานของสวนสัตว์ดังกล่าวบอกว่ามันเป็นผลจากความขัดแย้งภายในระหว่างผู้ถือหุ้น โดยคาดว่าน่าจะมีผู้ถือหุ้นหนึ่งสั่งให้เอาลาตัวเป็นๆ โยนลงไปในบ่อเสือทั้งๆ ที่ไม่ได้ผ่านการเห็นชอบจากคนอื่น แต่นี่เป็นเพียงการคาดการณ์ของคนงานคนหนึ่งเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์สะเทือนใจนี้ อยู่ระหว่างการสอบสวนภายใน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด การกระทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง… ที่มา shanghaiist
-
น้องหมาเศร้าเมื่อพ่อไม่อยู่บ้าน ลูกจึงทำ ‘ตุ๊กตาหน้าคุณพ่อ’ เป็นของปลอบใจไว้คลายเหงา…
ตอนเด็กๆ ใครที่ติดพ่อแม่มากๆ จะเข้าใจดีว่าเวลาพ่อแม่ไม่อยู่มันน่าเศร้าแค่ไหน และจะบอกว่าอาการแบบนี้ไม่ได้เป็นกับแค่คนนั้น สัตว์เลี้ยงก็เป็นเหมือนกัน อย่างน้องหมา Millie ที่ถูกรับเลี้ยงจากศูนย์พักพิงเมื่อ 4 ปี ก่อน และถูกเลี้ยงด้วยความรักความอบอุ่น จนมันกลายเป็นหมาที่ติดเจ้าของมากๆ แต่แล้วเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน เจ้าของที่เปรียบเสมือนพ่อก็ต้องเดินทางไปทำงานที่อื่น จนทำให้ Millie เกิดอาการซึมเศร้าอย่างเห็นได้ชัดเพราะคิดถึงพ่อ Carolann ผู้เป็นลูกสาวบอกว่า “Millie คิดถึงพ่อมาก มันไม่ยอมเล่นและไม่กินอะไรเลยค่ะ” ในขณะที่ทุกคนก็เป็นห่วงมันมาก กลัวว่ามันจะแย่ลงไปกว่านี้ ตอนแรก Carolann พยายามจะช่วยเจ้าสุนัข ด้วยการให้มันคุยกับพ่อผ่านโทรศัพท์ แต่ดูเหมือนมันยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม เพราะเมื่อน้องหมาได้ยินเสียงพ่อมันยิ่งเกิดความคิดถึงมากขึ้น ในที่สุดหญิงสาวก็ปิ๊งไอเดียหนึ่งขึ้นมา นั่นคือการปริ๊นท์หน้าคุณพ่อติดลงไปบนใบหน้าของตุ๊กตา เพื่อให้ Millie รู้สึกว่าพ่อได้กลับมาอยู่ข้างๆ มันแล้ว และนี่แหละคือจุดกำเนิดของ ‘ตุ๊กตาหน้าคุณพ่อ’ หลังจากที่ทำเสร็จเธอบอกว่าของเล่นพวกมันนี้มันดูแปลกๆ และตลกนิดหน่อย แต่พอเธอนำมาให้กับน้องหมา มันรีบคาบไปอย่างรวดเร็วเลย ถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาดเลยทีเดียว Millie รักตุ๊กตาพวกมันนี้มาก มันทั้งดม ทั้งเล่น ทั้งกอด และจะอยู่ใกล้ๆ ตลอดไม่ยอมห่างเลย จากที่เคยเศร้ามันก็กลับมาแฮปปี้อีกครั้ง …
-
ผู้เชี่ยวชาญเผยผู้ใหญ่ 1 ใน 10 เป็น ‘โรคดูดนิ้ว’ พฤติกรรมซ่อนเร้นภายใน เพื่อคลายวิตกกังวล
โรคดูดนิ้วเป็นพฤติกรรมที่มักพบในเด็กทารกหรือเด็กเล็ก และเมื่ออายุประมาณ 5 ขวบ พวกเขาก็เลิกพฤติกรรมนั้นไปหรือบางคนไม่เคยดูดนิ้วเลยก็มี ด้วยเหตุนี้เราหลายคนจึงคิดว่าผู้ใหญ่คงไม่มีพฤติกรรมดูดนิ้วแน่นอน แต่จริงๆ มีผู้ใหญ่ไม่น้อยที่เป็นโรคดูดนิ้ว แต่พวกเขาส่วนใหญ่จะไม่ทำในที่สาธารณะเพราะกลัวจะโดนหาว่าเป็นคนวิปริต ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนบอกว่าโรคดูดนิ้วเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป โดยพบในสัดส่วน 1 ใน 10 แต่พวกเขาจะแสดงพฤติกรรมนี้เฉพาะในพื้นที่ของตัวเองหรือที่ที่สะดวกใจที่จะทำเท่านั้น สำหรับโรคดูดนิ้วนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ตอนมนุษย์อยู่ในมดลูก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สร้างความสบายใจที่เกิดจากการเลียนแบบทารก โดยจะพบมากในเด็กที่เลี้ยงด้วยนมแม่และเด็กที่มีความวิตกกังวล ในผู้ใหญ่ก็เช่นกัน พวกเขามักจะดูดนิ้วเพื่อจัดการกับความวิตกกังวลหรือทำให้ผ่อนคลายเวลานอน ในขณะที่บางคนจะดูดหัวแม่มือเพื่อเป็นการปลอบใจตัวเองทุกครั้งที่คิดขึ้นได้ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปเลย ผู้ใหญ่ที่เป็นโรคดูดนิ้ว เมื่อเริ่มดูดนิ้วแล้วก็จะทำอย่างต่อเนื่องเพราะรู้สึกเพลิน แต่โดยมากจะไม่สามารถทำแบบนั้นได้เพราะกลัวสายตายคนรอบข้าง ดังนั้นเมื่ออยู่ในที่สาธารณะพวกเขาจึงเลือกที่จะควบคุมตัวเองมากกว่าแสดงออก แต่เมื่อไรก็ตามที่พวกเขาพาตัวเองออกจากพื้นที่สาธารณะหรือนอกสายตาสังคม ไม่ว่าจะในบ้านตัวเอง หรือในรถ พวกเขาจะดูดนิ้วหัวแม่มือทันที โดยจะใช้นิ้วชี้เขี่ยเล่นหรือวนรอบๆ จมูก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่อาจจะติดไปตลอดชีวิตเพราะแก้ได้ยาก Harvey Miller วัย 65 ปี จากนิวยอร์ก เป็นหนึ่งในผู้ใหญ่ที่เป็นโรคดูดนิ้ว เขาดูดแทบจะตลอดเวลาไม่ว่าจะดูทีวี อ่านหนังสือ ขับรถ และก่อนนอน โดยให้เหตุผลว่า “ผมคิดว่าการดูดนิ้วช่วยทำให้สบายใจได้” ดังนั้นสิ่งที่ Harvey ต้องการคืออยากให้สังคมยอมรับพฤติกรรมการดูดนิ้วของผู้ใหญ่ เพื่อให้คนเป็นโรคดูดนิ้วสามารถแสดงออกได้อย่างอิสระ แทนที่จะมองว่าเป็นเรื่องตลกหรือเรื่องแปลก เขายังบอกอีกว่า…
-
‘Alex Honnold’ นักปีนเขาคนแรกของโลก ผู้พิชิตยอดเขา El Capitan โดยไม่ใช้เชือกเลย!?
การปีนเขาเป็นกิจกรรมที่เสี่ยงและมีความท้าทายสูงมาก ดังนั้นอุปกรณ์เสริมเพื่อความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่ต้องมีติดตัว เช่น เชือก, หมวก และอื่นๆ อีกมากมาย แต่สำหรับ Alex Honnold วัย 31 ปี นักปีนเขาจากแคลิฟอร์เนียตอนเหนือ กลับฉีกกฎด้วยการปีนเขา El Capitan ความสูง 900 เมตในอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี โดยไม่ใช่เชือกและอุปกรณ์เสริมใดๆ เลย เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2017 Hannold ได้ทำลายประวัติศาสตร์ด้วยการปีนขึ้นสู่ยอดเขา El Capitan โดยใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง กับ 56 นาที ตลอดการปีนนั้นเขาใช้เพียงแค่ผงชอล์กที่พกมา เพื่อกันลื่นจากโขดหินเท่านั้น แต่ก่อนที่จะปีนเขาด้วยวิธีสุดท้าทายนี้ Hannold ต้องผ่านการฝึกฝนปีนเขามาอย่างหนักหน่วงพอสมควร โดยใช้อุปกรณ์เสริมทุกอย่าง และได้ทำสัญลักษณ์ในการวางตำแหน่งมือและเท้าเอาไว้ด้วย เมื่อฝึกจนมั่นใจแล้ว เขาก็ได้เริ่มปีนเขาโดยไม่ใช่อุปกรณ์ใดๆ จนกระทั่งประสบความสำเร็จ กลายมาเป็นนักปีนเขาคนแรกของโลกที่พิชิตยอดเขา El Capitan โดยไม่ใช้เชือก และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักปีนเขาที่เก่งที่สุดในโลก Hannold เผยว่า “ทุกอย่างมันเริ่มขึ้นตอนที่ผมไปยืนอยู่ด้านล่างของเขา El Capitan และเมื่อมองขึ้นไปจะเห็นกำแพงสูงชันอยู่ตรงหน้า มันดูเป็นอะไรที่ท้าทายมากเลยครับ” …
-
จากเอเชียสู่ตะวันออกกลาง คลับนินจาหญิงแห่งอิหร่าน ฝึกฝนตนเพื่อตอบโต้ในยามศึกสงคราม!!
ใครบอกว่านินจาจะมีแต่ฝั่งญี่ปุ่น มาตอนนี้กองกำลังนินจาหญิงติดอาวุธจะเกิดขึ้นแล้วที่ประเทศอิหร่าน…แถมไม่ได้มาเล่นๆ พวกเธอเอาจริงฝึกหนักจัดเต็มและใช้ได้จริง!! กองกำลังนินจาดังกล่าวเป็นคลับของเหล่าสาวๆ ชาวอิหร่านที่อยากจะเข้าร่วมกองทหารแต่ว่าพวกเขาไม่เปิดรับผู้หญิง แถมสำหรับผู้ชายก็ยังจำกัดแค่คนที่มีอายุ 18 เท่านั้น ที่สำคัญยังมีเวลาประจำการแค่ 18 เดือน ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอในยามศึกสงคราม ด้วยเหตุนี้คลับนินจาสาวดังกล่าวจึงตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1989 และตั้งอยู่บริเวณปราสาท Jughin ซึ่งอยู่นอกตัวเมืองเตหะรานไปถึง 40 กิโลเมตร ส่วนจุดประสงค์ของคลับนั้นก็ตั้งมาเพื่อแสดงให้เห็นว่า พวกเธอเป็นกองกำลังที่ทรงพลังและใช้ได้จริงๆ Fatima Muamer ผู้ฝึกสอนวิชานินจาได้บอกว่า การฝึกวิชานินจาดังกล่าวจะเช่นเพิ่มความสามารถให้กับสาวๆ ทั้งด้านรูปลักษณ์ สมดุลของร่างกายจิตใจและความคิด เธอยังบอกอีกว่าส่วนสำคัญที่สุดในการฝึกวิชานินจากคือ การให้เกียรติและความเป็นมนุษย์ . เซนเซย์ (อาจารย์) Akbar Faraji ถือเป็นคนแรกที่ก่อตั้งคลับนี้ขึ้นมาเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ซึ่งได้สั่งสอนนักเรียนในคลับให้ใช้อาวุธสังหารมากมาย รวมถึงการฝึกฝนจิตใจให้แข็งแกร่ง รวมถึงการเรียนรู้ให้เคารพในตัวเองและวิชาที่เรียนอยู่ เซนเซย์ Akbar บอกว่าแม้จะเรียกว่าวิชานินจา แต่เราไม่ได้เรียกนินจาหญิงว่านินจาหรอก สำหรับนินจาหญิงจะใช้ชื่อเรียกว่าคุโนอิจิแทน และผมต้องมั่นใจว่าการสอนพวกเธอทั้งหมดจะมีประโยชน์ รวมถึงไม่ใช้เอาไปทำร้ายคนบริสุทธิ์ เพราะอาวุธและวิชาที่เราฝึกกันมันสามารถฆ่าคนให้ตายได้ทันทีนั่นเอง วิชาที่พวกเธอเรียนก็เหมือนกับนินจาญี่ปุ่นจริงๆ การกระโดด ปีนกำแพง…
-
สาวอ้วนรวบรวมความกล้าครั้งสำคัญ ในการใส่ชุดว่ายน้ำ เพื่อหยุดยั้งคำสบประมาทที่ต้องเจอ!!
Paris Harvey เด็กสาววัย 13 ขวบ ที่แม้จะถูกรังแกหรือถูกล้อแค่ไหน เธอก็ไม่ยอมแพ้ต่อคนเหล่านั้น จนวันนี้ในที่สุดเธอก็รวบรวมความกล้าแล้วลุกขึ้นมาแต่งชุดว่ายน้ำ ที่ใครๆ ก็ต่างบอกกันว่าเธออ้วนยังไงก็ไม่กล้าใส่หรอก!! Paris เด็กสาวที่ป่วยเป็ยโรคเกี่ยวระบบการเผาผลาญอาหาร ซึ่งมันทำให้เธอมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นเธอยังเกิดมาพร้อมกับโรคข้อสะโพกเสื่อมอีกต่างหาก นอกจากนั้นมันยังทำให้ขาข้างซ้ายของเธอมีขนาดเล็กกว่าข้างขวา 1.5 เซนติเมตร ซึ่งมันก็สร้างภาระให้กับเธอเป็นอย่างมาก จนทำให้เธอกลายเป็นคนที่อ่อนแรงง่ายนั่นเอง ด้วยอาการป่วยทั้งสองมันก็เลยทำให้เธอมีขนาดตัวที่ใหญ่และเคลื่อนไหวลำบาก จึงทำให้เธอถูกคนอื่นเรียกเธอว่า ยัยอ้วนบ้าง หรือไม่ก็ล้อว่าเดินเหมือนเพนกวิ้นบ้าง เธอเล่าถึงความรู้สึกของตัวเองว่า “ฉันถูกรังแกมาตลอดเวลา จนเมื่อถึงจุดหนึ่งคุณจะเริ่มเชื่อว่า เออ… สิ่งที่พวกเขาพูดมันก็จริงนะ ซึ่งนั่นมันก็ทำให้ฉันกลายเป็นคนที่ไม่มั่นใจในร่างกายของตัวเอง ฉันกินอาหารแบบเดียวกับคนทั่วไป แต่ฉันกับได้น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคนอื่นๆ ซึ่งมันไม่เหมือนกับการนั่งกินขนมอยู่ที่บ้านเฉยๆ ยังไงก็ตามฉันก็ไม่ควรจะมานั่งหาเหตุผลให้ตัวเองอยู่แบบนี้” ด้วยเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจรวบรวมความกล้าของเธอ และไม่แคร์ต่อคำดูถูกของคนอื่น แล้วออกไปเผชิญหน้ากับความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ นั่นก็คือการหยิบชุดว่ายน้ำออกมาแล้วใส่ไปที่ชายหาดเพื่อเล่นน้ำในวันหยุดพิเศษของอังกฤษ ไม่ใช่แค่สวมชุดว่ายน้ำเท่านั้น เธอยังถ่ายรูปและโพตส์ภาพพร้อมบอกเล่าเรื่องราวของเธอผ่านทวิตเตอร์ด้วย ด้วยเหตุนี้เรื่องราวของเธอจึงกลายเป็นไวรัลและมีชาวเน็ตต่างออกมาแสดงความคิดเห็นมากมายเลยทีเดียว ลองมาดูความเห็นของชาวเน็ตเกี่ยวกับสิ่งที่เธอทำกันดูดีกว่า… อย่างเธอคนนี้ที่แรกเริ่มไม่กล้าใส่กางเกงขาสั้น พอเห็นเรื่องราวของ Paris เธอก็รวบรวมความกล้าบ้าง…
-
อีกแง่มุมของ “Marilyn Monroe” เส้นทางชีวิตของเธอ ก่อนจะกลายมาเป็นดาวเด่นแห่งยุค…
หลายคนคงจำภาพของหญิงสาวที่ชื่อ “Marilyn Monroe” ในภาพของสาวผมบลอนด์ ทาลิปสติกสีแดง มาพร้อมกับชุดเดรสหวานแหวว ที่ชวนให้รู้สึกถึงความเซ็กส์ซี่แบบยุควินเทจ เชื่อว่าหลายคนอาจจะเกิดไม่ทันยุคที่เธอโด่งดังสุดๆ และวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับอีกแง่มุมในเส้นทางชีวิตของเธอ ก่อนที่เธอจะกลายมาเป็นดาวเฉิดฉายอยู่ในวงการ หนึ่งในภาพถ่ายของ Marilyn Monroe ที่โด่งดังไปทั่วโลก เดิมทีเธอมีชื่อว่า Norma Jeane Mortenson เกิดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 1926 ในวัยเด็กช่วงแรกเธออาศัยอยู่กับคุณแม่ผู้ให้กำเนิด Gladys Baker หนูน้อย Norma Jeane Mortenson ในวัย 5 ขวบ ช่วงที่เธอกำลังจะโตเป็นสาว เธอย้ายมาอาศัยอยู่กับป้า Ana ในฐานะลูกบุญธรรม พออายุได้ 14 ปี คุณป้า Ana ป่วยหนัก ทำให้เธอต้องย้ายไปอาศัยอยู่กับครอบครัว Goddard ที่ๆ เธอจากมาในวัย 11 ขวบ เพราะถูก Erwin พ่อบุญธรรมลวนลามทางเพศ…
-
เหมาะสมหรือไม่!? สวนสัตว์จีนให้อาหารเสือด้วยลาเป็นๆ ทั้งคนเห็นสนับสนุนและคัดค้าน ดราม่าเพียบ
(คำเตือน บทความนี้มีเนื้อหาและภาพที่รุนแรง อาจจะไม่เหมาะสำหรับบางคน ฉะนั้นแนะนำให้เลี่ยง) เมื่อไม่นานมานี้ได้มีกระแสสังคมที่ออกมาถกเถียงกันหนักพอสมควรเลยทีเดียว หลังจากได้มีการเผยแพร่ภาพเหตุการณ์สุดระทึกในสวนสัตว์ฉางโจว มณฑลเจียงซู ซึ่งเป็นคลิปเหตุการณ์ให้อาหารเสือด้วยลาตัวเป็นๆ ซึ่งจากภายในคลิปเหตุการณ์เหล่าเจ้าหน้าที่ได้ดันเจ้าลาลงไปในบ่อเสือ ซึ่งในวินาทีที่ลาตกลงไป เสือตัวหนึ่งก็ดูเหมือนจะรู้ทันทีว่ามันต้องล่าเจ้าลา จึงได้วิ่งกระโจนเข้ามาเพื่อจะโจมตี แต่ด้วยความที่มันเป็นเสือที่ถูกเลี้ยงอยู่ในสวนสัตว์เป็นเวลานาน ทำให้มันไม่สามารถที่จะโจมตีและสังหารได้อย่างถูกวิธี รวมถึงเสือตัวอื่นๆ ในบ่อก็ดูเหมือนจะไม่รู้วิธีล่าสัตว์สิ่งที่พวกมันทำได้ก็มีแค่มองเสือตัวแรกโจมตีเจ้าลานั่นเอง และด้วยเหตุนั้นความทรมานของเจ้าลาในบ่อเสือที่ล่าไม่เป็นจึงเริ่มขึ้น พวกเสือใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะสังหารและปลิดชีพลาลงได้ วินาทีเอาตัวรอดและต้องอยู่เป็นเหยื่อให้เสือฝึกล่าสัตว์นั้นทำให้เกิดเป็นภาพอันสลดขึ้นท่ามกลางนักท่องเที่ยวที่มาดูมากมาย ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นคลิปและภาพที่แชร์กันทั่วโลกออนไลน์ของจีน ถึงกระบวนการปฏิบัติของสวนสัตว์ดังกล่าวว่ามีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร ผู้คนบางส่วนก็ออกมาแสดงความคิดเห็นมากมายว่าเรื่องดังกล่าวนั้นมันโหดร้ายมากๆ หรือบ้างก็บอกว่านี่เป็นเรื่องปกติของสวนสัตว์ในจีนไม่เห็นแปลกอะไร… ทว่าต่อให้บอกว่าการกระทำแบบนี้จะเป็นการฝึกให้เสือหัดล่า แต่เสือเหล่านั้นมันอยู่ในสวนสัตว์และอาจจะไม่ได้กลับไปสู่ธรรมชาติด้วยซ้ำ ทำไมถึงยังต้องฝึกให้มันล่าด้วยวิธีอันโหดร้ายแบบนี้กันล่ะ? แต่นอกจากการถกเถียงของชาวเน็ตแล้ว ดูเหมือนเรื่องดังกล่าวจะมีเบื้องหลังบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล เพราะหนึ่งในคนงานที่ไม่อาจะเปิดเผยชื่อได้เล่าว่า คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวมันเกิดขึ้นเพราะปัญหาความขัดแย้งภายในระหว่างผู้ถือหุ้นของสวนสัตว์ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผู้ถือหุ้นส่วนหนึ่งจึงทำการดิสเครดิตสวนสัตว์ โดยการสั่งให้คนงานพาลาเจ้ากรรมไปโยนโดนไม่ได้รับอนุญาติ และอัดคลิปลงอินเตอร์เน็ต เพื่อสร้างความแตกตื่นรวมถึงกระแสด้านลบนั่นเอง แต่เรื่องจริงจะเป็นยังไงนั้นก็ยังไม่แน่ชัด ส่วนถ้าใครอยากดูแบบคลิปเต็มๆ สามารถดูได้ที่คลิปข้างล่างเลยครับ ใครจะคิดว่าเรื่องราวสุดเศร้า จะกลับกลายเป็นเรื่องของธุรกิจกันไปได้ แต่จุดจบของเรื่องจะเป็นยังไงนั้น คงต้องรอติดตามกันต่อไปครับ… ที่มา shanghaiist
-
ลูกเรียนจบทั้งทีแถมเกรดก็ดี๊ดี แม่เลยจัดงานฉลองยิ่งใหญ่ในธีมดูไบ แถมเช่าอูฐมาด้วย!!
ดั่งคำที่ว่าลูกเป็นความภาคภูมิใจของคนเป็นพ่อแม่ เรื่องนี้ก็เช่นกัน เมื่อคุณแม่ Saudia Shuler วัย 43 จากเมืองฟิลาเดลเฟีย ได้จัดงานพรอมสุดยิ่งใหญ่ให้กับลูกของเธอเพื่อฉลองเรียนจบในธีมดูไบสุดหรูหรา!! Saudia ได้ใช้เงินมากกว่า 850,000 บาทเพื่อเนรมิตรสิ่งที่เธอเคยบอกกับ Johnny Eden Jr. ลูกชายของเธอว่าเธอจะพาเขาไปเที่ยวดูไบแต่ก็ไม่มีโอกาสเสียที ก็เลยจัดงานพรอมธีมดูไบกันที่บ้านเนี่ยแหละ ภายในงานคุณแม่ได้จ้างให้คนนำทรายจำนวนกว่า 3 ตันมาเทไว้เพื่อสร้างบรรยากาศ จ้างอูฐจากฟาร์มย่านชานเมืองมาเป็นพรอพในงาน แถมยังไปเช่ารถลัมโบร์กีนีสุดหรูมาอีกด้วย เรียกว่าจัดเต็มสุดๆ ซึ่งแน่อนว่าทั้งหมดทั้งมวลนีิ มันก็สร้างเสียงตอบรับจากเพื่อนบ้านได้ดีสุดๆ เลยล่ะ อูฐจริงๆ นะเออ!! ไม่ใช่แค่นั้น เขายังมีรถสปอร์ตสุดหรูที่มาคุ่กับสาวสวยอีกด้วย เธอได้บรรยายถึงความรู้สึกหลังจากจัดงานดังกล่าวให้ลูกชายว่า “ตอนแรกฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันกลายเป็นจุดสนใจของเพื่อนบ้านนะ แล้วก็ยังคิดว่ามันจะคุ้มค่าไหม แต่ดูเหมือนเสียงตอบรับที่ดีแบบนี้ฉันว่ามันก็คุ้มค่าแล้วล่ะ” เธอใช้เวลาทั้งคืนกับเพื่อนของเธอเพื่อเตรียมงานดังกล่าวให้กับลูกชาย และเมื่องานเริ่มทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดี และเป็นไปตามที่เธอคาดหวังนั่นเอง ไม่ใช่แค่พรอพในงาน เสื้อผ้าของเขาก็มีมากถึง 3 ชุด 3 สไตล์เรียกว่าสร้างความทรงจำแพงๆ ทั้งทีเอาให้จัดเต็มไปเลย เสื้อผ้าก็ไม่ใช่เสื้อผ้าธรรมดานะ เป็นเสื้อผ้าแบบสั่งตัดโดยดีไซน์เนอร์ stylesbychey เลยทีเดียวล่ะ …
-
เมื่อตากล้องหัวใสจับเอา 2 สิ่ง “แมว” และ “หน่มน๊ม” มันกลายมาเป็นส่วนผสมที่ลงตัว…
อย่างที่ทราบกันดีว่า “แมว” นั้นเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก ในขณะเดียวกัน “หน้าอก” ของคุณผู้หญิงก็เป็นสิ่งที่เย้ายวนสำหรับท่านชาย แต่เมื่อนำมาผสมผสานกันทำให้กลายเป็นโฟโต้บุ๊คสุดเซ็กซี่นี้ขึ้นมา Yuki Aoyama ช่างภาพผู้มากไอเดียชาวเจแปนีสนี่เอง ได้ทำการถ่ายรูปแมวคู่กับหน้าอกของหญิงสาว ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เหล่าชายผู้สูญเสียความควบคุมเมื่อเจอหน้าอก ในขณะที่เจ้าเหมียวยังคงเป็นปกติสุข” อาจจะต้องการสื่อว่าพวกแมวมันไม่แคร์อะไรเลย หรือไม่ก็บอกว่าผู้ชายน่ะอ่อนแอ (ว๊ายยยย) สู้แมวไม่ได้เพราะมันไม่หวั่นไหวสักนิด ก็ดูจากหน้ามันสิ มันแคร์ที่ไหน นี่แน่ะๆ จิ้มๆ ภายใต้ความเซ็กซี่ในรูปภาพนั้นได้มีข้อความที่ Aoyama ต้องการจะสื่อนั่นก็คือ ขณะที่เหล่าชายหนุ่มต่างก็พ่ายแพ้ต่อหน้าอกของหญิงสาว ในเวลาเดียวกันเหล่าหญิงสาวก็พ่ายแพ้ต่อความน่ารักของเจ้าเหมียว โดยที่พวกมันก็ไม่รู้ว่าตัวมันเองนั้นช่างน่าอิจฉาขนาดไหน นุ๊มมมนุ่ม ~ ด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายของลูกแมวเหล่านี้รวมกับร่างกายที่เว้าโค้งของผู้หญิง นี่เป็นอีกวิถึทางที่ทำให้สามารถพบความสงบในจิตใจ (อ่าาาาห์) แหม่ โตจังเลยนะเราอะ ตาโตมาเชียว ภาพเหล่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น สำหรับคนที่สนใจก็สามารถซื้อโฟโต้บุ๊คของคุณ Yuki Aoyama มาเชยชมได้แบบเต็มๆ โดยสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 440 บาท เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจก็สามารถที่จะสั่งซื่อได้ผ่านทางเว็บไซต์ Amazon Japan ที่นี่ได้เลยนะ ที่มา: rocketnews24
-
จอมยุทธ์ว่าไง!? เส้นทาง Parkour ยาวที่สุดในโลกที่บันได 999 ขั้น แห่งภูเขาเทียนเหมินซาน
Parkour เป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ผสมผสานความคล่องตัวและความรวดเร็วเข้าด้วยกันเพื่อเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ในเส้นทางด้วยท่าทางตามธรรมชาติ เป็นการข้ามผ่านอุปสรรคในเส้นทางอย่างเป็นศิลปะและมีประสิทธิภาพมากที่สุด และสำหรับใครที่ชอบกีฬาประเภทเอ็กซ์ตรียมแบบนี้ล่ะก็ #เหมียวปั๊ก ขอเชิญไปพบกับเส้นทาง Pakour ที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งตั้งอยู่ที่ภูเขาเทียนเหมินซาน มณฑลหูหนานประเทศจีน บรรยากาศจากจุด Start เส้นทางดังกล่าวถูกจัดทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อรองรับกิจกรรมโดยเฉพาะ เป็นอุปสรรคและสิ่งกีดขวางตั้งแต่บันไดชั้นบนสุดเรื่อยมาจนถึงชั้นล่าง แห่งภูเขาที่ขึ้นชื่อว่ามีบันได 999 ขั้นท้าทายคนให้เดินขึ้นไป Calen Chan นักกีฬา Parkour นั้นได้ติดตั้งกล้องไว้ที่ศีรษะก่อนที่จะเริ่มทำการวิ่ง กระโดด ปีนป่ายลงมาตามเส้นทาง วู้วววว โอ้วเย่! แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ Celen ก็ไม่หวั่น สไลด์ก็ได้ กระโดดก็ดี หลังจากที่เข้าถึงเส้นชัยเขากฌได้แสดงความรู้สึกว่า “แม้นี่จะเป็นการ Parkour ที่น่าปวดหัวอยู่บ้างเนื่องมาจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาแทรกตัวตามเส้นทาง แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและตื่นเต้นไปอีกแบบ” เพื่อความสมจริง เชิญชมเส้นทาง “บันไดสู่ประตูสวรรค์ 999 ขั้น” ได้เลย ทั้งท้าทาย ทั้งน่าสนุกในเวลาเดียวกัน #เหมียวปั๊ก ได้ยินมาว่า หัวใจสำคัญของ…