Tag: ช่วย

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2018 ใครที่ได้ผ่านไปแถวคลองแสนแสบบริเวณก่อนถึงท่าเรือมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ท่าเรือ มศว.) อาจจะได้เห็นเหตุการณ์ที่ชายคนหนึ่งโดดลงคลองไปเพื่อช่วยหมาที่กำลังจมน้ำอยู่ ซึ่งน่าชื่นชมเป็นอย่างมาก คุณ ช็อปเปอร์ (Tibet Nimitput) ที่ได้นั่งเรือผ่านไปทางนั้นพอดี ก็ได้บันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วมาแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้กับพวกเราได้ฟังกัน ตอนนั้นคุณช็อปเปอร์กำลังนั่งเรือจากท่าเรืออโศกเพื่อจะไปท่าเรือบางกะปิ แล้วเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก็เห็นคนกำลังมุงดูตรงผิวน้ำ เมื่อเขามองตามไปก็เห็นชายสวมเสื้อสีเหลืองกำลังกอดหมาแก่เอาไว้เพื่อไม่ให้มันจมน้ำ     คาดว่าเจ้าหมาน่าจะแก่แล้ว สายตาก็เลยไม่ดีนัก พอมันเดินมาแถวขอบทางเดินก็เลยพลัดตกลงมา แล้วชายคนนั้นก็โดดลงน้ำตามมาเพื่อช่วยมัน แต่ที่ยังอยู่ตรงนั้นคงเป็นเพราะจุดนั้นห่างจากท่าเรือมาก เลยไม่รู้จะว่ายน้ำพาเจ้าหมาไปขึ้นฝั่งยังไง ตอนนั้นเองคนขับเรือที่เขานั่งมาก็เลยตัดสินใจหยุดเรือ แล้วจอดรับชายคนนั้นกับเจ้าหมาเพื่อไปส่งตรงท่าเรือ มศว. ที่อยู่ข้างหน้า ชายคนนั้นเลยให้เจ้าหมาขึ้นเรือมา ส่วนตัวเขาเองบอกว่าจะปีนเสาตรงนั้นกลับขึ้นไปบนฝั่งเอง     หลังจากเจ้าหมาขึ้นฝั่งไปได้อย่างปลอดภัยแล้ว ก็มีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒพามันไปในบริเวณมหาวิทยาลัย มันจะได้ไม่เดินตกน้ำอีก น่าชื่นชมผู้ชายที่กล้าโดดลงมาช่วยมันไว้จริงๆ นะครับ เขาไม่กลัวว่าตัวเองจะเปียกน้ำหรือเหม็นเน่าจากการโดดลงไปในคลองเลย เขาห่วงแค่ความปลอดภัยของเจ้าหมา เมื่อช่วยมันได้แล้วเขาก็จากไปโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใดๆ นี่แหละคนที่สมควรถูกเรียกว่าฮีโร่     ที่มา: Tibet Nimitput

เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจของการได้กลับมาพบกันอีกครั้งระหว่างแม่แมวและลูกน้อยของมัน หลังจากที่พวกมันต้องพลัดพรากจากกัน ในระหว่างที่ถูกช่วยออกมาจากห้องใต้หลังคาในบ้านหลังหนึ่ง เมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา นายหน้าขายบ้านท่านหนึ่งได้พบแม่แมวและลูกน้อยของมันอีก 3 ตัวหลบอยู่ในห้องใต้หลังคาในบ้านเก่าๆ ซึ่งไม่เหมาะสำหรับเหล่าเจ้าเหมียวมากเท่าไหร่ แม่แมวก็จำเป็นที่จะต้องออกไปหาอาหารและมองหาที่พักแห่งใหม่ที่มีความอบอุ่นในกับลูกๆ ของมัน     และในระหว่างที่แม่ของพวกแมวน้อยออกไปข้างนอก ทางนายหน้าเจ้าของบ้านก็ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ มาช่วยพวกเจ้าเหมียวออกไป “พวกเราเข้าไปช่วยเหลือเจ้าเหมียวตามที่นายหน้าบอก เราพบพวกมันอาศัยอยู่ใกล้ๆ กับลังไม้บนพื้นเย็นๆ เรารีบพาพวกลูกแมวออกจาที่นั่นทันที แต่ในตอนนั้นพวกเราหาแม่ของมันไม่เจอ” เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์จากมูลนิธิกล่าว     ถึงแม้จะรอคอยอยู่เป็นเวลานาน แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีทีท่าว่าแม่ของพวกลูกแมวทั้งสามจะกลับมาเลย ในที่สุดพวกเขาจึงตัดสินใจพาพวกลูกแมวไปยังสถานสงเคราะห์ก่อน แล้วค่อยกลับมาตามหาแม่ของมันทีหลัง และแล้วในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ได้พบกับแม่แมว หลังจากที่พวกเขากลับไปค้นหาที่บ้านหลังนั้นอีกครั้ง “พวกเรากลับไปที่บ้านหลังนั้นในตอนเย็น และเมื่อเราเปิดประตูเข้าไปที่ห้องใต้หลังคานั้นก็ได้พบกับแม่แมวจริงๆ” เจ้าหน้าที่กล่าว     เหล่าอาสาสมัครต้องใช้เวลากล่อมแม่แมวอยู่นาน จนกว่ามันจะยอมตามพวกเขาไปที่สถานสงเคราะห์ “พวกเราใช้อาหารล่อมัน และจากนั้นจึงค่อยๆ เข้าไปหามัน และลูบหัวด้วยความเอ็นดู มันจึงยอมเข้าไปในกรงแต่โดยดี” เมื่อมันเดินทางมาถึงสถานสงเคราะห์สัตว์ เจ้าเหมียวก็ได้ยินเสียงเรียกเล็กๆ ของลูกๆ มัน แม่แมวเริ่มมีอาการกระวนกระวายและอยากออกจากกรงไปพบกับเจ้าตัวน้อยของเธอ     และแล้ววินาทีแห่งความสุขของครอบครัวเหมียวก็มาถึง เมื่ออาสาสมัครปล่อยแม่แมวออกจากกรง เจ้าเหมียวรีบวิ่งไปหาลูกน้อยตัวหนึ่งของมัน ตอนนี้ดูเหมือนว่าแม่แมวจะดีใจมากๆ ที่ได้มีโอกาสเห็นหน้าลูกๆ ของเธออีกครั้ง   ภาพน่ารักๆ ของแม่แมวที่ได้เจอลูกของมัน…

นี่คือเรื่องราวของชายหนุ่มที่ชื่อว่า Christian Canfield จากเมือง Saskatchewan ประเทศแคนาดา วันหนึ่งเขาได้ไปพบกับเหตุการณ์บ้านไฟไหม้ แล้วก็ทำการอัดคลิปไว้ แต่เหมือนชะตาจะทำให้เขาต้องกลายเป็นฮีโร่ช่วยแมวตัวหนึ่งไว้ ขณะที่เขาอัดคลิปอยู่นั้นได้มีแมวตัวหนึ่งวิ่งออกมาจากบ้านที่ไฟไหม้ ซึ่งเขาก็มองเห็นผ่านกล้อง แมวตัวนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาจึงไม่รอช้า พาแมวตัวนั้นไปหาพนักงานดับเพลิงเพื่อทำการช่วยเหลือ ในตอนนั้นเขาพยายามเขาไปใกล้แมว แล้วเรียกมันจนสามารถอุ้มมันได้ เมื่อมองใกล้ๆ ก็ได้เห็นว่าแมวตัวนี้ได้รับบาดเจ็บ   ดูในคลิปนี้เราจะได้เห็นว่าแมวเหมือนพยายามร้องให้ช่วย เป็นอะไรที่น่าสงสารมากๆ   หลังจากที่เขาเอาแมวไปให้นักดับเพลิง เขาก็พามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษา ซึ่งหมอได้พบแผลไหม้ที่จมูก เท้า และหูของแมว ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Saskatoon SPCA รับหน้าที่ดูแล พร้อมตั้งชื่อให้มันว่า Scarlett ซึ่งมาจากตัวละครจากนิยายชื่อดัง Gone With the Wind     เจ้า Scarlett อายุได้ประมาณ 6 เดือน เท่านั้น แต่มันต้องมาเจอกับเรื่องร้ายๆ อย่างบ้านไฟไหม้ แต่มันก็สามารถเอาชนะความกลัว กลายมาเป็นแมวที่น่ารักเหมือนแมวทั่วๆ ไปที่ชอบให้คนกอด แต่น่าเสียดายที่มันยังไม่ได้บ้านหลังใหม่ เป็นเวลากว่า 2 เดือนที่มันพักฟื้นอยู่ที่นี่ มันฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกลับมาแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง   .   ไม่น่า Christian ผู้ช่วยชีวิตเจ้าเหมียวก็ได้มาเยี่ยมที่สถานรับเลี้ยงแห่งนี้…

นี่คือหนูน้อย Bryce Hill เด็กตัวเล็กที่ใจไม่เล็ก…   เมื่อปีที่แล้ว หนูน้อยถูกวินิจฉัยว่ามีเนื้องอกในสมอง ซึ่งพบได้ยากมากๆ สำหรับเด็กอายุแค่นี้ อาจเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่ Bryce ก็ต่อสู้กับมันมาจนถึงตอนนี้ แม้ว่าจะต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้งก็ตาม ตอนนี้หนูน้อยต้องต่อสู้กับโรคร้าย แต่ก็ไม่ลืมที่จะเป็นผู้ให้ โดยเฉพาะคนที่ต้องการความช่วยเหลือ     Bryce อายุครบ 6 ขวบเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เขาได้จัดงานปาร์ตี้เล็กๆ กับครอบครัวพร้อมเพื่อนๆ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาทำแตกต่างออกไป แทนที่เขาจะอยากได้ของขวัญ หนูน้อยกลับอยากให้แขกที่มาร่วมงานช่วยกันบริจาคของให้กับสถานรับเลี้ยงสัตว์ที่อยู่ในละแวกบ้าน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวดีๆ เพราะเดือนที่แล้ว Bryce ได้ไปเยี่ยมสถานรับเลี้ยง Illinois Valley Animal Rescue (IVAR) แล้วมอบของเล่นและอาหารให้กับสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ     คุณแม่ Gina Panther เล่าว่าเธอภูมิใจในตัวลูกเป็นอย่างมาก และยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ทางสถานรับเลี้ยงยังให้หนูน้อยได้เป็นอาสาสมัครกิตติมศักดิ์ พร้อมกับได้เล่นกับเหล่าสัตว์ที่อยู่ที่นั่นด้วย     ในตอนนี้หนูน้อยก็ยังต้องเข้ารับการรักษาอย่างสม่ำเสมอที่โรงพยาบาล พร้อมทั้งยังได้เป็นอาสาสมัครที่มีโอกาสได้เข้าถึงสัตว์ในสถานรับเลี้ยงนี้อีกด้วย นอกจากนี้หนูน้อยยังได้รับหมาน้อยกลับบ้านมาเป็นเพื่อนแก้เหงา คอยดูแลซึ่งกันและกัน นี่อาจจะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับเขาเลยก็ได้     ถือเป็นเรื่องราวที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก เด็กตัวแค่นี้ แต่มีความคิดที่เอื้อเฟื้อแก่ผู้อื่น…

โรคอัลไซเมอร์ไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหลงๆ ลืมๆ เท่านั้น แต่บางครั้ง มันก็ทำให้ผู้ป่วยมีอาการความทรงจำไม่ปะติดปะต่อ มีอารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย ก้าวร้าว จนทำให้ครอบครัวและผู้ดูแลต้องเป็นกังวลไปด้วย Winifred Lowe คุณยายของ Richard Dawson วัย 95 ปี คนนี้ก็เช่นกัน เธอป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์มาหลายปี จนกระทั่งช่วงไม่กี่ปีก่อนนี้ อาการของเธอหนักขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นคนขี้โมโหและก้าวร้าว Richard บังเอิญไปอ่านเจอว่า สุนัขสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยอัลไซเมอร์ได้ เขาจึงติดต่อไปยังเว็บไซต์ Borrow My Doggy ซึ่งเป็นองค์กรที่คอยช่วยประสานงานให้กับผู้ที่ต้องการยืมสุนัขเพื่อไปใช้ประโยชน์บางอย่างกับเจ้าของสุนัข เขาได้ติดต่อขอยืมสุนัขพันธุ์ดัชชุนวัย 9 เดือนชื่อว่า Orla มาจากเจ้าของคนหนึ่ง และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นทันทีที่คุณยายของเขาได้พบกับสุนัขตัวนี้     “ทันทีที่เธอได้พบกับเจ้าสุนัขตัวนี้ เธอหยุดทุกอย่างและไปเล่นกับมันทันที และช่วงเวลานั้นทำให้เธอลืมทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความกังวลและความเจ็บปวด” “เจ้าของของ Orla จะพามันมาหาเธอทุกๆ วันอังคารและวันพฤหัสบดี และเขาจะให้เธอเล่นกับมันประมาณสองถึงสามชั่วโมง” Richard  กล่าว     ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสุนัขตัวนี้ทำให้เธอมีความสุขมากขนาดไหน     “การรับสุนัขมาเลี้ยงมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเกิดตัวสำหรับพวกเรา เพราะเราต้องคอยดูแลคุณยายของเราด้วย ดังนั้นการมีองค์กรที่คอยช่วยจให้เราสามารถยืมสุนัขมาจากเจ้าของคนอื่นๆ…

กลายเป็นเรื่องอันน่าประทับใจเลยทีเดียว หลังจากเจ้าหมาตัวหนึ่งคอยมอบความอบอุ่นให้กับเด็กน้อยที่ถูกทิ้ง ท่านกลางความหนาวเหน็บ จนเขาสามารถมีชีวิตรอดไปได้ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่เขต Altai ในประเทศ Russia เมื่อเด็กชายคนหนึ่งถูกแม่แท้ๆ ของตนเองปล่อยทิ้งไว้นอกบ้านจนเด็กชายคนนั้นต้องเผชิญกับอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียลเพียงลำพัง   พื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว…   โชคดีที่เจ้าสุนัขแสนรู้ของเขา บังเอิญเข้ามาเห็นพอดี มันจึงเข้ามาโอบกอดและคอยมอบความอบอุ่นให้กับเด็กชายคนนั้น     เด็กชายต้องทนทุกข์ทรมาณกว่าสองวัน จนเพื่อนบ้านสังเกตุเห็น เขาจึงช่วยออกไป ต้องขอบคุณเจ้าหมาน้อยตัวนั้น ไม่อย่างนั้น เด็กชายคงไม่สามารถรอดจากอุณหภูมิติดลบไปได้อย่างแน่นอน เพื่อนบ้านได้นำตัวเด็กชายคนดังกล่าวส่งโรงพยาบาล เขามีอาการอุณหภูมิในร่างกายลดลงผิดปกติ เพราะต้องอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวมาอย่างยาวนาน จนตอนนี้เขาก็ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล     ส่วนแม่ของเด็กคนดังกล่าว ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในเวลาต่อมา ด้วยข้อหาทารุณกรรมเด็ก และจะมีการสืบสวนและลงโทษในภายหลัง   โชคดีจริงๆ เลยที่มีเจ้าหมาตัวนี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่รอดแน่ๆ ที่มา metro, siberiantimes

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา  เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งจากเมืองโนโวฮอริซอนเต้ ประเทศบราซิล กำลังออกไปวิ่งช่วงเช้าเพื่อออกกำลังกาย ทันใดนั้นเอง เขาเห็นหมาของเพื่อนบ้านกำลังขุดคุ้ยกองขนะอยู่ ซึ่งตอนแรกเขาก็ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร เพราะมันเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว หลังจากเขาวิ่งเสร็จ เขาก็ย้อนกลับมาทางเดิม คราวนี้เขาถึงกับตกตะลึงเลยทีเดียว เพราะในปากของเจ้าหมาตัวนั้นไม่ได้คาบอาหารอยู่ แต่มันกลับคาบลูกหมาตัวน้อยเอาไว้!!     ตอนแรกเขาคิดว่ามันคาบซากลูกแมวออกมา แต่เมื่อดูดีๆ แล้วกลับเป็นลูกหมาตัวน้อย และที่สำคัญ มันยังมีชีวิตอยู่     เขาจึงนำเจ้าหมาน้อยตัวนี้ไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Marco Antonio Rodrigues ซึ่งคุณตำรวจเล่าว่า ตอนที่นำลูกหมาตัวน้อยไป เจ้าหมาตัวที่ช่วยมันออกมา มีท่าทีเศร้าหมองเป็นอย่างมาก     “เจ้าหมาตัวนี้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือลูกสุนัขตัวนี้ออกมา” Marco Antonio Rodrigues กล่าวมา     ด้วยความที่มันยังเด็กมากและต้องการนมแม่ ทางสถานดูแลสัตว์จึงประกาศหาแม่หมาที่สามารถให้นมมันได้ สุดท้ายลูกหมาตัวน้อยก็ได้ครอบครัวใหม่ และได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข     สุดยอดไปเลยเจ้าหมา ยินดีด้วยที่ลูกๆ รอดพ้นมาได้อย่างปลอดภัย ที่มา thedodo

เหตุการณ์สุดแสนบังเอิญนี้เกิดขึ้นเมื่อมี 3 หนุ่มใจดีกำลังขับรถไปตามถนนในช่วงที่มีอากาศหนาวมากๆ แล้วจู่ๆ พวกเขาก็ได้มองไปเห็นแมวดำตัวหนึ่ง กำลังเดินทางข้างทาง ซึ่งมองเห็นได้จากหน้าต่างรถ เนื่องด้วยอากาศที่หนาวจัด ทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะช่วยเหลือแมวตัวนั้น     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมาในรัฐ Minnesota ชายหนุ่มชื่อว่า Char Gruber ได้มองเห็นแมวดำตัวหนึ่งกำลังเดินอยู่ข้างถนน ในขณะนั้นอุณหภูมิประมาณติดลบ 17 องศาเซลเซียส จึงไม่รอช้า รีบเข้าไปช่วยทันที เขาเล่าว่ามันพยายามเดินด้วยท่าแปลกๆ เพราะพื้นมันเย็นมากๆ มันก็เลยยกเท้าสลับไปมา เพื่อไม่ให้เท้าแตะพื้นนานเกินไป แล้วมันก็มักจะไปมุดอยู่ในท่อด้วย ทำให้การช่วยเหลือเป็นเรื่องที่ยากมากๆ     พวกเขาใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงในการช่วยแมวตัวนี้ จนสุดท้ายตัดสินใจที่จะสร้างกับดักขึ้นมา ซึ่งมันก็ได้ผลดีมาก เพราะอีกไม่กี่นาทีต่อมา มันก็มาติดกับดักแล้วก็พาเข้ากรงได้     Anne Ciecko หนึ่งในคนที่มาด้วยได้นำแมวไปหาหมอ แล้วก็พบว่าเป็นแมวมีเจ้าของ เนื่องจากฝังไมโครชิปไว้ หลังจากนั้นก็ได้ทำการติดต่อไปที่เจ้าของเก่าจึงได้รู้ว่าแมวตัวนี้หายไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน ปี 2015 แล้ว ชื่อว่า Freddie หลังจากตรวจเสร็จ เจ้า Freddie…

กลายเป็นเรื่องราวที่ทำให้คนทั้งโลกได้อบอุ่นหัวใจเลยทีเดียว สำหรับมิตรภาพและความรักที่มีให้กันระหว่างสุนัขสองตัว ที่แม้อีกตัวจะบาดเจ็บเคลื่อนไหวไม่ได้ แถมยังอยู่กลางรางรถไฟอันแสนอันตราย แต่อีกตัวก็ไม่ทิ้งไปไหน เรื่องราวเกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Tseglovka ประเทศยูเครน เมื่อ Denis Malafeyev ได้ข่าวจากเพื่อนว่า มีสุนัขสองตัวนอนอยู่แถวๆ รางรถไฟในหมู่บ้าน Tseglovka มาสองวันแล้ว   เมื่อพวกเขาไปถึง ก็พบว่ามีสุนัขตัวเมียตัวหนึ่งได้รับบาดเจ็บ และนอนขยับไม่ได้อยู่บนรางรถไฟ ภายหลังทราบชื่อว่า “ลูซี่”   ข้างๆ ยังมีสุนัขตัวผู้อีกตัว “แพนด้า” คอยป้องกันไม่ให้คนแปลกหน้าหรือสัตว์อื่นๆ เข้าไปไกล้ลูซี่  พวกเขาเลยไม่สามารถช่วยมันออกมาได้ เพราะจะถูกเจ้าแพนด้าทำร้ายคนที่เข้าไปใกล้ตัวเมียของมัน ทันใดนั้นเอง Denis ก็ได้ยินเสียงรถไฟ เธอตกใจมาก เพราะคิดว่าเจ้าลูซี่คงไม่แคล้วคลาดจากอันตรายครั้งนี้แน่ๆ ในขณะที่ไม่มีใครคาดคิด เจ้าแพนด้าได้วิ่งเข้าไปหาลูซี่ แล้วพยายามกดหัวเจ้าลูซี่ลง สุดท้ายรถไฟก็ผ่านไป โดยที่ทั้งสองไม่ได้รับอันตรายแม้แต่นิดเดียว   คลิปที่พวกเขาบันทึกเอาไว้   ภาพจังหวะรถไฟวิ่งผ่าน   “เจ้าแพนด้าทำแบบนี้มาสองวันแล้ว และมันยังคอยมอบไออุ่นให้กับเจ้าลูซี่อีกด้วย ฉันไม่รู้ว่าเราเรียกสิ่งนี้ว่าอะไร อาจเป็นสัญชาตญาณหรืออาจเป็นความรัก” Denis กล่าว   เมื่อผ่านไปหลายวัน เจ้าหมาก็คงคิดได้ว่ามนุษย์พวกนี้จะมาช่วยชีวิตมัน มันก็เลยยอมให้เข้าไปใกล้ รวมถึงยอมให้คนช่วยออกมา ซึ่งพวกเขาก็เอามันขึ้นรถ ให้ความอบอุ่น และยังให้นอนใกล้กันเพื่อพวกมันจะได้รู้สึกสบายใจ สุดท้ายแล้ว เจ้าลูซี่ก็ไม่ได้บาดเจ็บหนักอะไร…

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงวันฮาโลวีนที่ผ่านมา แต่เพิ่งได้รับการแชร์เป็นกระแสลงบนโลกออนไลน์ของต่างประเทศ   ย้อนกลับไปเมื่อปลายเดือนก่อน มีผู้หญิงสองคนบังเอิญเห็นลูกหมาตัวหนึ่งถูกโยนออกมาจากรถที่กำลังวิ่งอยู่ เมื่อพวกเธอเข้าไปดู พบว่าเจ้าหมาน้อยตัวนั้นกำลังร้องอย่างทรมานด้วยความเจ็บปวด พวกเธอจึงนำผ้าห่มมาห่อมัน และพาไปยังสถานีตำรวจใกล้ๆ   ขณะนั้น Jon-David Hill กำลังเข้าเวรอยู่ เขาจึงโทรหาสถานดูแลสัตว์ใกล้ๆ แต่เขาต้องผิดหวัง เมื่อสถานดูแลสัตว์ตอบกลับมาว่า พวกเขาไม่สามารถช่วยเหลือสัตว์ที่บาดเจ็บได้ เขาต้องนำลูกสุนัขตัวนั้นไปที่อื่น     เมื่อ Jon ได้ยินดังนั้นก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจดูแลเจ้าหมาตัวนี้ด้วยตนเอง เขาพามันไปยังโรงพยาบาลสัตว์ 24 ชั่วโมง ที่อยู่ใกล้ๆ     เมื่อไปถึงสัตว์แพทย์บอกเขาว่า เจ้าหมาตัวนี้ได้รับบาดเจ็บมานานมากแล้วจนไม่สามารถรักษาให้กลับมาเป็นปกติได้ และหากปล่อยไปก็อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ทางเดียวคือต้องตัดขาหน้าข้างขวาออกไป หลังจากพักรักษาตัวในโรงพยาบาลพักหนึ่ง มันก็สามารถกลับบ้านกับคุณตำรวจผู้แสนใจบุญได้ และเขาได้ตั้งชื่อมันว่า Jack     แม้เจ้า Jack จะมีขาเพียงแค่ 3 ข้าง แต่มันกลับมีความสุขกับชีวิตเป็นอย่างมาก “ตอนนี้มันสามารถเล่นลูกบอลได้ แถมยังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว ผมเคยเห็นมันกระโดดขึ้นโซฟาด้วย แรกๆ มันก็กลัวคนเหมือนกัน แต่พอหลังๆ เริ่มชิน คราวนี้มันจะเลียคุณไปทั่วเลยล่ะ (ฮา)” Jon…

ในทุกๆ ปี มีลิงอุรังอุตังนับร้อยถูกพาตัวจากป่าเข้าสู่เมืองที่ไม่ใช่ถิ่นของมัน เพื่อนำไปขายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ผิดกฎหมาย วิกฤตที่เกิดขึ้นนี้เหมือนเป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งวันนี้ก็พิสูจน์ได้จากสายตาของหนึ่งในเหยื่อลิงอุรังอุตังที่ถูกพามาเลี้ยงโดยฝีมือมนุษย์   ลิงอุรังอุตังตัวนี้ถูกมัดไว้ที่ต้นไม้เพื่อที่จะรอใครสักคนมาซื้อมันไปเลี้ยง ดูจากสายตามันก็คงพอจะเดาได้ว่ามันเศร้าแค่ไหน แต่โชคดีที่มีคนไปพบเห็นและช่วยมันได้ทันเวลา มีลิงหลายตัวที่เกาะ Borneo ถูกจับมาเพื่อขาย หนึ่งในนั้นคือเจ้า Rawit ซึ่งถูกพบในหมู่บ้านหลังจากป่าของมันถูกทำลายไป มันก็ถูกลักพาตัวมาในที่แห่งนี้เพื่อเอามาขายทำกำไร   องค์กรพิทักษ์ลิงอุรังอุตัง Center for Orangutan Protection’s APE Crusaders และ Orangutan Outreach ได้รับแจ้งเตือนมาว่าได้มีลิงอุรังอุตังถูกมัดไม้เพื่อรอการขาย จึงรีบเข้าไปยังที่เกิดเหตุ แล้วก็พบเจ้า Rawit ที่หน้าตาเศร้าหมองถูกมัดติดกับ้ตนไม้   หลังจากช่วยมาแล้ว ดูเหมือนเจ้า Rawit ยังไม่รู้ตัวว่าอิสระกำลังจะใกล้เข้ามา   หลังจากสิงสัปดาห์ที่ได้ดูแลมัน ตอนนี้แผลที่มือและเท้าของมันก็หายดีแล้ว และสุขภาพก็กลับมาแข็งแรงสมบูรณ์   ตอนนี้มันก็กำลังขึ้นเรือเพื่อนำกลับไปส่งที่ป่าที่มันจากมา เพื่อกลับไปอยู่กับธรรมชาติบ้านเกิดของมัน   เพียงไม่กี่สัปดาห์ มันก็ได้กลับบ้านของมันแล้ว พร้อมกับอิสระที่มันพึงจะมี   และนี่ก็เป็นภาพสุดท้ายของเจ้า Rawit ที่ได้ถ่ายไว้ ก่อนที่มันจะได้กลับไปหาเพื่อนฝูง เรื่องราวนี้อาจจะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของลิงอุรังอุตังที่ถูกจับมา แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่อย่างน้อยก็มีใครสักคนยื่นมือมาช่วยเหลือ ที่มา thedodo

ถ้าสัตว์ในสถานรับเลี้ยงมันพูดได้ มันก็คงอยากจะเล่าเรื่องราวของมันที่ได้ประสบมาให้เจ้านายใหม่ของมันได้ฟังว่ากว่าจะมาอยู่จุดนี้ได้ ชีวิตมันลำบากมากแค่ไหน และวันนี้ #เหมียวสามสี มีเรื่องราวของสุนัขตัวหนึ่งที่มีชีวิตที่เกือบไม่รอดจากการถูกฆ่า แล้วตอนนี้ชีวิตมันก็ดีขึ้นหลังจากมีคนรับไปเลี้ยง     สุนัขตัวนี้มีชื่อว่า Sunshine ตอนมันอายุได้ 3 เดือน มันถูกขังไว้ในกรงที่เกาหลีใต้ รอวันที่จะถูกฆ่าเพื่อที่จะเอาไปเป็นอาหารของใครสักคน แต่แล้วมันก็รอดมาได้จากการช่วยเหลือของหน่วยงานหนึ่งของสหรัฐอเมริกา จนต้องย้ายมาอยู่ที่ซาน ฟรานซิสโก ทำให้ชีวิตของมันเปลี่ยนไป     Katie Mickey และสามีของเธอ Kyle Locke รอคอยวันที่จะได้เจอเจ้า Sunshine มานาน เพราะทั้งคู่อยากจะเลี้ยงสุนัขจากการช่วยชีวิตมันมา และใช้เวลาหลายเดือนเพื่อหาบ้านเช่าที่สามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ หลังจากที่ทั้งคู่ได้บ้านแล้ว องค์กร Humane Society International ได้นำพาเอาตัวสุนัขตัวนี้มา Mickey ลงทุนขับรถกว่าหนึ่งชั่วโมงครึ่งเพื่อไปยังซาน ฟรานซิสโก ไปรับสุนัขจากเกาหลีใต้ตัวนี้ แล้วเธอก็กลับบ้านมาพร้อมเจ้า Sunshine       และนี่คือภาพชีวิตใหม่ของมัน…     เธอเล่าว่าเธอโชคดีที่ได้มันมา เพราะมันเป็นเหมือนแสงส่องทางให้บ้านนี้รู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีสุนัขอีกหลายตัวที่รอการฆ่าอยู่ที่ฟาร์มในเกาหลีใต้ ทางองค์กร Humane Society International จึงออกแคมเปญเพื่อช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้อีกด้วย โดยองค์กรจะเข้าไปช่วยเหลือสัตว์ และพยายามช่วยเหลือเหล่าพ่อค้าหารายได้ทางใหม่แทนการค้าสัตว์เหล่านี้ เพื่อให้สุนัขได้มีชีวิตเหมือนอย่างที่เจ้า…

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้มีเรื่องราวที่น่าประทับใจเกิดขึ้น เมื่อได้มีแมวสีขาวตัวหนึ่งพยายามที่จะเข้ามาในโรงพยาบาลผ่าประตูหมุน แต่แล้วตัวมันกลับไปติดตรงช่วงว่างหระหว่าประตู ทำให้มันหายใจไม่ออกเพราะคอโดนบีบอยู่     เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล Özel Akgün Tem Hospital ในอิสตันบูล ประเทศตุรกีผ่านมาเห็นเข้าก็เลยต้องรีบช่วย โดยได้คุณหมอฉุกเฉิน Halil Akyürek ได้ตัดสินใจช่วยชีวิตมันในโรงพยาบาลแห่งนี้   คุณหมอเล่าว่าคอของแมวติดอยู่ที่ซอกประตู มันพยายามที่จะหายใจ เขาก็เลยค่อยๆ ดันที่หลังคอแมวให้มันหลุด แล้วทำปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพเนื่องจากแมวได้หยุดหายใจไปแล้ว   ทุกอย่างถูกจับภายโดยกล้อง เราจะได้ว่าหมอพยายามที่จะนวดที่หัวใจของแมวเพื่อทำการปั๊มหัวใจ อีกทั้งยังใส่หน้ากากออกซีเจนให้กับมันอีกด้วย   พร้อมทั้งหาข้อมูลจากสัตวแพทย์เพื่อแนะนำการรักษาสัตว์อย่างถูกวิธี   และในที่สุด แมวก็กลับมาหายใจอีกครั้ง และคุณหมอก็ตั้งชื่อให้มันว่า Miracle ที่แปลว่าปาฏิหาริย์   ซึ่งปาฏิหาริย์ก็ไม่ได้หยุดลงแค่นั้น เพื่อคุณหมอได้ตัดสินใจว่าจะรับเลี้ยงเจ้าแมวจรจัดตัวนี้ไว้ด้วย ตอนนี้มันก็ได้บ้านใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว   นี่คือคลิปตอนที่คุณหมอกำลังปั๊มหัวใจเจ้าเหมียวตัวนี้อยู่ ถือเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าหมอจะไม่ได้เป็นสัตวแพทย์ แต่ก็ได้ทำสุดความสามารถเพื่อช่วยเหลือแมวตัวนี้ไว้ได้สำเร็จ ที่มา thedodo, boredpanda

ถึงแมวเหมียวจะเป็นสัตว์ที่สง่างาม แต่บางครั้งพวกเราก็ต้องการให้เหล่ามนุษย์ช่วยเหมือนกันนะ!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเจ้าเหมียวอายุ 4 เดือนตัวหนึ่ง ดันไปติดอยู่ตรงขอบตึก 12 ชั้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ร้อนถึงมนุษย์แถวนั้นต้องสวมวิญญาณหน่วยกู้ภัยไปช่วยมัน!! เจ้าหน้าที่ Huang ได้รับแจ้งว่ามีเสียงแมวร้องอยู่ที่ตึกชั้น 12 เลยพาเพื่อนเจ้าหน้าที่อีก 1 คนไปตรวจสอบและพบว่ามีเจ้าเหมียวตัวหนึ่งติดที่มุมตึก   คลิปการช่วยเหลือเจ้าเหมียว… เนื่องจากพิจารณาแล้วว่าไม่มีวิธีไหนจะดีไปกว่าการทำบ่วงคล้องคอเจ้าเหมียว พวกเขาเลยคิดว่าทางนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว… ทนเจ็บนิดนึงนะเหมียวเอ๊ย   เล่นซนอีท่าไหนล่ะเจ้าเหมียว!?   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ตึก Ang Mo Kio Avenue 3   หลังจากความพยายามในการคล้องคอเจ้าเหมียวอยู่นาน สุดท้ายแล้วตำรวจก็สามารถช่วยเหลือเจ้าเหมียวได้อย่างปลอดภัย   ที่จริงแล้วเหมียวยอมให้แกช่วยหรอกนะ ฮึ่ยยยย รีบเอาลงไปเร็วๆ เซ่!!   คุณตำรวจก็ช่วยมาแล้ว ทีนี้อย่าไปเล่นซนแบบนั้นอีกล่ะเจ้าเหมียว ฮร่าาา!!   ที่มา: dailymail

เหตุการณ์ไฟไหม้บ้านเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะมันคือการผลาญทุกสิ่งที่เราสร้างมากับมือทิ้งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า คอมพิวเตอร์ เอกสาร และทุกอย่างที่มีค่ามันจะไม่เหลือ ถือเป็นประสบการณ์ที่ใครเคยประสบก็ต้องเสียใจ แต่การสูญเสียสิ่งของเหล่านี้ก็ไม่น่าเสียใจเท่ากับการเสียคนหรือสิ่งมีชีวิตไป โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงของเราซึ่งตอนนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่านักดับเพลิงควรหรือไม่ ที่จะเสียสละและเสี่ยงอันตรายที่อาจจะถึงชีวิตเขาเอง ไปช่วยสัตว์เลี้ยงจากกองเพลิง เพราะสัตว์เลี้ยงมันก็ก้ำกึ่งกับคำว่า “สมาชิกครอบครัว” อยู่   แต่ไม่ต้องเถียงกันให้มากหรอก แค่เห็นรูปนี้ก็ได้คำตอบแล้ว   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เมื่อนักดับเพลิงถูกเรียกให้ไปยังที่เกิดเหตุ ท่ามกลางเหตุไฟไหมและกองเพลิงลุกไหม้ แม้คนจะถูกช่วยมาแล้ว แต่ยังมีเจ้าหมาติดอยู่ภายใน ซึ่งเขาต้องตัดสินใจว่า… จะเข้าไปช่วยมันหรือไม่!? แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจเลือกทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และเมื่อได้พบกับหมาน้อยตัวหนึ่งนอนหมดสติอยู่ เขาจึงรีบช่วยมันออกมาทันที เนื่องจากมันได้รับควันไฟเข้าไปมากและอ่อนเพลีย เขาต้องให้ออกซิเจนแก่มันเป็นการด่วน   เกิดเป็นภาพน่ารักและประทับใจแบบนี้…   หลังจากหมาน้อยได้สติแล้ว เขาก็ได้ตามหาเจ้าของจนพบ แล้วทั้งคู่ก็ได้พบกันอีกครั้ง   ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าข้อถกเถียงของคำถามที่ถามไปตอนแรกจะออกมาเป็นอย่าง เราก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เพราะว่าเป็นงานที่ต้องเสี่ยงชีวิต และแน่นอนว่าเขาได้เลือกสิ่งที่เขาคิดว่าควรจะทำมากที่สุดแล้ว เขานับเป็นคนที่กล้าหาญและทำตามหน้าที่โดยไม่คิดถึงแต่ตัวเองได้ดีอีกคนหนึ่งเลย… ที่มา distractify

มีคนบอกว่า “หมา” คือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ ดูท่าแล้วคำกล่าวนี้คงไม่เกินจริงไปนัก เมื่อล่าสุด เจ้าหมาลาบาดอร์ตัวหนึ่ง ได้ช่วยชีวิตเด็กชายวัย 14 ปีที่บังเอิญหลงป่าออกมาได้อย่างปลอดภัย เรื่องราวเกิดขึ้นที่ประเทศเม็กซิโก เมื่อเด็กชาย Juan Heriberto Trevino วัย 14 ปี ได้พลัดหลงกับกลุ่มของตนเองระหว่างกิจกรรมเดินป่าในค่ายฤดูร้อนเมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตอนแรกเขาพยายามค้นหาทางออกด้วยตนเอง แต่สุดท้ายก็ทำให้หลงยิ่งกว่าเดิม…     ต่อมาเขาก็พบว่า Max เจ้าหมาพันธุ์ลาบาดอร์รีทีฟเวอร์ได้ติดตามเขามาด้วยและมันกลายเป็นเพื่อนคนเดียวของเขา แถมยังมีส่วนช่วยชีวิตให้เขารอดออกมาได้อย่างปลอดภัย ในช่วงที่หลงป่านั้น เจ้า Max จะเป็นผู้ตามหาแหล่งน้ำสะอาดให้หนุ่มน้อยได้ดื่ม พอถึงยามดึกเจ้า Max ก็จะคอยให้ความอบอุ่นแก่เด็กชาย เพราะสภาพอากาศในตอนนั้น ค่อนข้างจะหนาวเลยทีเดียว หลังจากผ่านไป 44 ชั่วโมง ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็พบตัวเด็กชายดังกล่าว พร้อมๆ กับเจ้า Max คอยอยู่ข้างกายไม่ห่าง แม้สภาพร่างกายเขาจะดูเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าไปบ้าง แต่ก็ยังถือว่าสมบูรณ์ดี     เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “ภูเขาลูกนี้มีป่าค่อนข้างทึบ ฉะนั้นจึงเกิดการหลงป่าขึ้นได้ง่ายมาก โชคดีของเด็กจริงๆ ที่มีหมาตัวนี้อยู่เป็นเพื่อน” หลังจากปลอดภัยแล้ว ครอบครัวของเด็กชายอยากจะรับเจ้า Max ไปอยู่ด้วย…

โมเม้นท์อันทรงคุณค่าที่สุดของคลิปนี้ #จ่าสิบเหมียว แอบบอกใบ้ว่า ต้องโฟกัสไปที่หน้าของเจ้าเหมียวตอนที่ออกมาจากกล่องได้นั่นแหละ ฮร่าาาา แทบจะเรียกได้ว่าเป็นความรู้สากลกันแล้ว เกี่ยวกับเหล่าแมวเหมียว ในด้านความชอบและหลงใหลในการเล่นกล่องกระดาษของพวกมัน… และเจ้าเหมียวตัวนี้ก็เหมือนแมวตัวอื่นๆ ที่มีความสงสัยใคร่รู้และความชอบในกล่องกระดาษ จนต้องเดินเข้าไปเล่น ซึ่งตอนนั้นแหละที่กล่องตกใส่มันทำให้มันติดอยู่ในนั้นโดยสมบูรณ์!!!   เดือดร้อนเพื่อนแมวต้องไปช่วยกันอีก   เจ้าเหมียวสองตัวนี้ชื่อว่า Chai และ Sushi ตัวพี่คือ Chai ที่พยายามเข้าไปช่วยน้องสาวของมันออกมา!!!   มาดูคลิปการช่วยเหลือแบบเต็มๆ กันได้ที่นี่   ถ่อวววว ทำหน้าเนียนสุดๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยน้าาา แต่ผู้ชมเค้าเห็นหรอก เอิ๊กๆๆ   ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแกจะไม่ยอมเสียหน้าสินะเจ้าเหมียว ฮร่าาาา เสียฟอร์มหมดเนาะ ><   ที่มา: rocketnews24

นี่คือเรื่องราวของ Bronson ลูกสุนัขน่าสงสารที่เกิดในแล็ปช็อกโกแลต มันคลอดมาพร้อมกับพี่น้องอีก 8 ตัว รวมกันเป็น 9 ตัว แต่มันกลับมีบางอย่างที่ไม่เหมือนเพื่อน นั่นก็คือมันเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ปกติแล้วสุนัขที่เป็นปากแหว่งเพดานโหว่มักจะมีโอกาสรอดน้อยมาก ทางเจ้าของก็เลยตัดสินใจที่จะทิ้งมัน และปล่อยให้มันตายไป แต่แล้วสัตวแพทย์คนหนึ่งก็ได้สร้างปาฏิหาริย์ครั้งที่ 2 ให้กับมันด้วยการนำมันไปรักษา     การรักษานั้นก็เป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะเธอไม่ได้มีเครื่องมือมากมาย เธอเพียงแค่ให้อาหารมันเหมือนลูกสุนัขทั่วไป ซึ่งความยากมันอยู่ตรงนี้แหละ . .   เจ้า Bronson ไม่สามารถกินอาหารเหมือนกับลูกสุนัขตัวอื่นได้ เธอต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงในการป้อนอาหารผ่านหลอดให้กับมัน ไม่งั้นมันก็จะอดตาย .   เวลาเธอไปทำงานที่โรงพยาบาลสัตว์ เธอก็จะพามันไปด้วย เพียงเท่านี้มันก็จะอยู่ในความดูแลของเธอตลอดเวลา   และตอนนี้มันโตขึ้น พร้อมกับได้รับการผ่าตัดช่องว่างในปากแล้ว มันสามารถกลับมาทานอาหารได้ตามปกติ   ดูความน่ารักของมันสิ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าตอนนั้นหมอไม่ช่วยมัน จะเป็นยังไงกันนะ   ที่มา boredpanda

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่งขณะที่พวกเขากำลังไปเที่ยวที่ชายหาดที่ St. Lawrence River ประเทศแคนาดา แล้วจู่ๆ สายตาก็ได้ไปเห็นลูกวาฬเบลูก้าที่ชายหาด เมื่อเข้าไปดูใกลๆ้ เห็นว่ามีสายสะดือติดอยู่ แสดงว่ามันเพิ่งคลอดได้ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา แต่มองดูรอบๆ แล้วไม่พบวี่แววของแม่วาฬเลย ครอบครัวจึงเริ่มที่จะช่วยยื้อชีวิตขางวาฬน้อยก่อนที่มันจะขาดน้ำตายด้วยการไปตักน้ำมาราด และรอหน่วยกู้ภัย     Nicholas Milliard วัย 15 ปี ผู้พบเห็นวาฬคนแรกเล่าว่าเขาได้ทำการขุดหลุมลงไปแล้วก็เทน้ำทุกๆ 5 นาทีเพื่อให้มันมีน้ำหล่อเลี้ยง และต้องคอยเติมน้ำตลอด เพราะน้ำจะซึมลงดิน   เมื่อถึงช่วงบ่าย นักวิจัยจาก GREMM ก็มาถึงแล้วทำการช่วยชีวิตมัน พวกเขาพาวาฬน้อยลงสู่ทะเลได้สำเร็จแล้วให้มันไปเจอกับกลุ่มวาฬ (ที่ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่ามีแม่ของมันอยู่รึเปล่า) แต่ก็ได้ติดเครื่องติดตามไว้ดูการเคลื่อนไหวของมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   ถึงแม้ว่ามันจะผ่านเรื่องราวที่ยากลำบากมา แต่มันก็ได้รับโอกาสที่มีชีวิตอยู่ต่อในธรรมชาติของมัน ถือเป็นเรื่องราวดีๆ  ที่เกิดขึ้นในโลกของเรา   ที่มา boredpanda

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ของมนุษย์กับแมวเหมียวที่ทำเอาตื้นตันหัวใจเป็นอย่างมาก Carrie เจ้าเหมียวที่ประสบอุบัติเหตุจนสัตวแพทย์เคยกล่าวไว้ว่ามันอาจจะเป็นอัมพาต พิการ และเดินไม่ได้ไปตลอดชีวิต โชคดีที่มันได้เจอกับ Kim Breckon สาววัย 41 ปีที่มาให้ชีวิตใหม่กับมันอีกครั้ง… Kim ได้ช่วยแม่แมว (บาดเจ็บส่วนขาอย่างหนักจากอุบัติเหตุจนต้องกลายเป็นแมวขาด้วน) และลูกๆ 2 ตัวไว้หลังได้รับอุบัติเหตุจากรถยนต์ ซึ่ง 1 ในลูก 2 ตัวนั้นก็คือ Carrie ที่เธอรับมาเลี้ยงในภายหลัง   เธอรับทั้ง 3 ตัวมาดูแล และก็เห็นว่าเริ่มมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ   แต่วันหนึ่ง Kim ก็เจอเจ้า Carrie นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ขาของมันไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย ‘เจ้าเหมียวตกลงมาจากตู้เย็นขณะที่ขาของมันยังไม่ค่อยแข็งแรงนัก ทำให้หน้าและส่วนหัวของมันทิ่มใส่พื้น การบาดเจ็บครั้งนั้นทำให้มันเป็นอัมพาตไม่สามารถขยับได้เลย’ เธอกล่าว พอพาไปหาสัตวแพทย์ หมอก็บอกกับเธอว่าเจ้าเหมียวอาจจะไม่รอดชีวิต เพราะตอนมันกระโดดนั้นส่วนคอและกระดูกสันหลังได้รับการกระทบกระเทือนอย่างมาก แต่ถึงจะรอดชีวิต โอกาสที่จะกลับมาเดินได้ก็มีน้อยสุดๆ   แต่กระนั้นเธอก็ไม่ได้ยอมแพ้แม้แต่น้อย   Kim ไม่อยากจะให้เจ้า Carrie ตกอยู่ในสภาพนี้ และเธอก็ไม่คิดจะยอมแพ้ด้วย หลังจากที่แน่ใจว่าเจ้าเหมียวรอดชีวิต 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว…

นับวันโลกนี้ก็เริ่มแปลกขึ้นไปทุกวัน โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อมหรือสัตว์ รู้สึกว่าเริ่มมีข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมแปลกๆ ของมนุษย์บ่อยยิ่งขึ้น ล่าสุดทางองค์กรสัตว์ป่าใน Westport, Washington ได้รายงานว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งนำลูกแมวน้ำจากชายหาดใส่กระเป๋ากลับบ้านไปอย่างดื้อๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงอะไรเลย โฆษกของ National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) นาย Michael Milstein ได้เล่าว่าหญิงสาวคนนี้ได้ไปเจอลูกแมวน้ำอยู่ตัวเดียวที่ชายหาดและไม่รู้ว่าจะต้องดูแลยังไง ก็เลยพามันไปที่บ้านเพื่อเลี้ยงดู     หลังจากนั้นเธอก็นึกได้ว่าต้องโทรหา Westport Aquarium เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่มารับมันไปแล้ว พบว่ามันยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่ตอบสนองอะไรเลย Marc Myrsell ผู้ควบคุมอควาเรียมแห่งนี้บอกว่าปกติแล้วแมวน้ำจะมีปฏิกิริยาตอบสนองเวลามีคนมาเข้าใกล้ แต่สำหรับตัวนี้แล้วมันไม่ตอบสนองอะไรเลย ราวกับว่ามันใกล้ตาย และโอกาสรอดน้อยมากๆ จนสุดท้ายก็ตัดสินใจทำการุณยฆาต เพื่อไม่ให้มันทรมานไปมากกว่านี้   เรื่องนี้บอกเลยว่าไม่มีใครผิดหรือใครถูก แต่อยากให้ทุกคนได้ตระหนักถึงสัตว์ป่าว่ามันมีวิถีชีวิตของมัน เวลาเราไปเจอลูกสัตว์อยู่ตัวเดียว อย่าเพิ่งไปยุ่ง ให้อยู่ดูมันห่างๆ เท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะแมวน้ำเป็นสัตว์ที่เครียดง่าย พยายามอย่าเข้าใกล้หรือเคลื่อนไหวมัน ที่มา distractify

Sean Steele และภรรยาของเขาได้ไปเที่ยวตกปลาในวันหยุดของเขา ที่ British Columbia ประเทศแคนาดา ระหว่างทางไฮเวย์นั้น มีรถที่ขับอยู่ตรงหน้าเขาชนเข้ากับแม่กวางตัวหนึ่ง   เขาจึงทำการย้ายมันมาไว้ข้างทางแล้วก็พบว่ามันกำลังท้องอยู่   ด้วยสัญชาตญาณ เขาเอามีดมาแล้วทำการผ่าท้องแม่กวางตัวนั้นทันที เพราะดูเหมือนว่าแม่กวางจะไม่ไหวแล้ว   เขาได้ช่วยชีวิตลูกกวางไว้แล้วก็ทำความสะอาดมัน เพื่อเช็คดูอาการ จนสุดท้ายลูกกวางก็เริ่มตอบสนองและหายใจเองได้แล้ว   หลังจากนั้นเขาก็พาลูกกวางตัวนี้ไปขึ้นรถ แล้วรีบตามหานมโคลอสตรุ้ม ซึ่งเป็นนมที่เหมาะสำหรับสัตว์แรกเกิด เพราะว่าแม่ได้จากไปแล้ว และมันต้องการนมภายใน 24 ชั่วโมง   หลังจากที่เสียแม่มันไป Steele ก็ได้เก็บมันไปดูแลและตั้งชื่อว่า Friday   หลังจากนั้น เขาส่งต่อให้ Northern Lights Wildlife Society ได้รับเลี้ยงไปอีกครั้ง เพื่อให้มันได้ใช้ชีวิตตามปกติ จนกว่าที่มันจะเติบโตพอที่จะไปใช้ชีวิตในป่าได้   ตอนที่อยู่ที่นั่น มันดูไม่มีอันตรายแถมยังดื่มน้ำจากขวดแบบที่ไม่เคยกินมาก่อน อีกทั้งยังมีความสุขกับเพื่อนที่เพิ่งได้เจอกันในสถานที่แห่งนี้ด้วย เจ้ากวางตัวนี้คงไม่รอดถ้าไม่ได้รับความรักที่ได้จากชายที่ช่วยชีวิตมันไว้ ถือเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจอีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้น   ที่มา boredpanda

นกพิราบนั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งความสันติแห่งรัฐวิสคอนซิน แต่ที่โอไฮโอ้นั้น นกคือชนชั้นสูงเลยทีเดียว เพราะได้มีคุณตำรวจคนหนึ่ง ได้ไปเจอนกกำลังนอนทำรังอยู่บนรถตำรวจอย่างสบายใจเฉิบ ตอนแรกใครเห็นแบบนี้ก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา แต่เขาก็ไม่ได้ย้ายมันลงหรือไล่ไปแต่อย่างใด แต่กลับเอาร่มมากางให้พร้อม กลัวว่านกจะร้อนเกินไป เพราะปกติมันทำรังบนต้นไม้ ไม่รู้นึกยังไงมาทำบนรถตำรวจแบบนี้   อีกทั้งตำรวจยังตั้งชื่อเจ้านกพิราบตัวนี้ว่า Gerty กลายเป็นที่รู้จักของคนแถวนั้นไปแล้ว   ดูว่าคุณตำรวจลงทุนขนาดไหน เขาเอาร่มมางอ แล้วก็เอาเทปแปะไว้ไม่ให้มันเคลื่อนที่ อีกทั้งกลัวว่านกจะหิว ไปหาอาหารมาเสิร์ฟให้ถึงที่เลยทีเดียว   อีกทั้ง Kevin Riley โฆษกของสถานีตำรวจ Parma Police ได้ให้สัมภาษณ์สั้นๆ กับ Fox 8 ว่า “เจ้าหน้าที่ของเราก็เป็นคนเหมือนกันนั่นแหละ เราดูแลทุกชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์” ทางเพจของสถานีก็ได้เอาภาพนี้มาบอกต่อ มีคนแชร์และชื่นชมกันเยอะมากๆ (คลิปไม่ขึ้น คลิกตรงนี้เลยนะครับ) ที่มา boredpanda

ปัจจุบันได้ยินข่าวสลดเกี่ยวกับการสิ่งคนหรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถบ่อยมาก ซึ่งถ้าไม่เปิดแอร์ให้ รับรองว่าอาจถึงแก่ชีวิตได้ เพราะข้างในรถจะร้อนมากๆ ที่เมือง Grand Bend ประเทศแคนาดา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 30 องศา ซึ่งถือว่าร้อนระดับหนึ่งเลย ได้มีคนไปพบกับรถ BMW คนหนึ่งจอดทิ้งไว้ โดยข้างในมีหมาน้อยตัวหนึ่งอยู่ ท่ามกลางอากาศร้อนแบบนี้ ใครๆ ต่างก็กลัวว่าหมาตัวนี้จะเป็นอะไรไป   สถานที่ตรงนั้นมีเทศกาลดนตรีพอดี หลายคนจึงคิดว่าเจ้าของอยู่ที่นั่น เลยให้ที่เวทีประกาศ แต่พอผ่านไปซักพักก็ไม่มีใครมาเลย จนตัดสินใจที่จะทุบกระจกรถจริงๆ   ต้องใช้ความพยายามอยู่นาน กว่าจะทุบกระจกให้แตกได้ จนในที่สุดก็ช่วยสุนัขออกมาได้ พร้อมกับเสียงปรบมือของคนที่มามุงดู   ดูเหมือนว่าเจ้าสุนัขจะดีใจมากๆ ที่ออกมาได้   เราไปชมคลิปเหตุการณ์นี้กันเลย   ถ้าใครยังจำได้ #เหมียวสามสี เคยนำเสนอเกี่ยวกับกฎหมายทุบรถในสหรัฐฯ เพื่อช่วยคนหรือสิ่งมีชีวิตที่ติดอยู่ในรถไปแล้ว แต่เหตุการณ์นี้เกิดที่แคนาดา (ซึ่งหาข้อมูลกฎหมายเรื่องนี้ไม่เจอ) ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าของรถจะว่ายังไงบ้าง แต่ก็โชคดีที่อย่างน้อยสุนัขไม่เป็นอะไร ที่มา boredpanda

ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ชอบสุนัข หลายคนก็เป็นคนที่กลัวหมาชนิดที่ว่าไม่กล้าเข้าใกล้เลย แค่เห็นก็ต้องหนีหรือหลีกให้ห่างแล้ว Anita Valkova หญิงสาววัย 16 ปี เธอก็เป็นอีกคนหนึ่งที่กลัวสุนัขมาโดยตลอดทั้งชีวิต แต่แล้วชีวิตเธอก็มาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อเธอต้องมาช่วยชีวิตหมาจรจัดจากเด็กเกเรที่พยายามแกล้งมัน เธอเล่าว่าเธอได้เห็นหมาจรจัดตัวนี้กำลังถูกเด็กๆ แกล้งโดยการเอาหินปาอยู่ เธอจึงพยายามเอาชนะความกลัว แล้วทำสิ่งที่ถูกต้องด้วยการช่วยชีวิตหมาตัวนี้ หลังจากนั้นเธอก็เขียนถึงประสบการณ์การเลี้ยงหมาท่ามกลางความกลัวที่เคยมีลงในเว็บไซต์ Imgur เผื่อว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน   Anita Valkova หญิงสาววัย 16 ปี ผู้ช่วยชีวิตหมาจรจัดตัวนี้ไว้หลังจากถูกเด็กนักเรียนเกเรปาก้อนหินใส่มัน   “ตอนที่ฉันเห็นมันครั้งแรก มันอยู่ที่สนามหญ้าในโรงเรียน ได้มีกลุ่มเด็กกำลังขว้างก้อนหินใส่มัน ฉันเห็นว่าตัวมันมีเลือดออก และคิดว่าต้องทำอะไรบางอย่างแล้ว” หลังจากนั้นเธอก็บอกแม่และปู่เกี่ยวกับเรื่องราวของหมาจรจัดตัวนี้ แต่ทั้งคู่ก็บอกว่าทำอะไรกับมันไม่ได้หรอก แต่เธอก็ยังไม่ยอมแพ้   ถึงแม้ว่าเธอจะกลัวหมามาตลอดตั้งแต่เกิด เธอก็ช่วยหมาจรจัดตัวนี้ และตั้งชื่อว่า Alfeiya แล้วพามันไปหาหมอ   “ฉันโทรหาพ่อ ซึ่งปกติไม่ค่อยได้คุยกัน แล้วพ่อก็บอกว่าจะมาหาในอีก 2 ชั่วโมง ฉันก็เลยนั่งรอท่ามกลางความหนาวกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อรอพ่อมา แล้วตอนพ่อมาถึง พ่อก็เอาผ้าห่มมาให้ แล้วบอกพามันเดินไปหาหมอ เพราะไม่อยากให้มันอยู่ในรถ” “ฉันพยายามไล่ต้อนมันอยู่นานกว่า 5 นาที…

ที่เมืองนอกนั้นยกย่องนักดับเพลิงให้เป็นฮีโร่ในชีวิตจริงเลย เพราะนอกจากจะมีหน้าที่ดับไฟแล้ว พวกเขายังต้องเข้าไปช่วยชีวิตคนที่ติดอยู่ข้างในด้วย ถึงได้ชื่อว่า “นักผจญเพลิง” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ Lacey, Washington ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง เขาได้เข้าไปช่วยชีวิตหนูแฮมสเตอร์ที่ติดอยู่ข้างใน ซึ่งบ้านหลังนั้นไม่มีคนอยู่ แต่มีครอบครัวของหนูแฮมสเตอร์ที่เจ้าของบ้านเลี้ยงไว้อยู่ เมื่อช่วยมาแล้วพบว่าหนูแฮมสเตอร์ทั้งหลายหมดสติไปเพราะควัน นักดับเพลิงชื่อว่า Eric Bamer พยายามคิดวิธีช่วยก็เลยทำให้สายออกซิเจนเล็กที่สุด ก่อนที่จะเอาใส่รูจมูกของหนูตัวเล็กๆ   สุดท้ายแล้วหนูแฮมสเตอร์รอดชีวิตทั้งหมด 4 ตัวจาก 5 ตัว ด้วยหน้ากากออกซิเจนขนาดเล็กนี้   คุณพ่อแฮมสเตอร์โอริโอ้ และแม่มาดอนน่าก็รอดจากเหตุการณ์นี้ พร้อมทั้งยังมีใบสมรส(ของหนู) ที่ยังไม่ไหม้   และนี่คือคู่มือการช่วยชีวิตสัตว์ของสถานีดับเพลิง The Lacey Fire District Three ที่นักดับเพลิงทุกคนพกติดตัว   และตอนนี้ที่อเมริกา รถดับเพลิงเกือบทุกคันจะมีหน้ากากออกซิเจนสำหรับสัตว์เลี้ยงติดไว้ตลอดเวลาด้วย เพราะว่าทุกชีวิตมีค่าเสมอ แต่บางแห่งก็จะขาดแคลนอุปกรณ์ช่วยเหลือสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ตัวจ๋วแบบนี้ น่านับถือความสามารถในการแก้ปัญหาของเขา และไม่ทอดทิ้งเพื่อนร่วมโลกตัวจิ๋วนี้ให้ต้องจากไป….. ที่มา The Dodo

ถ้าเราเป็นแม่ แล้วหลงทางกับลูก ความรู้สึกของเราตอนนั้นก็คงจะอยู่ไม่สุขเป็นแน่แท้ แล้วลองคิดว่าแม่นากทะเลตัวนี้จะรู้สึกยังไง เมื่อมันหลงทางกับลูก และไม่คิดว่าจะได้เจอลูกอีกแล้ว เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อกลุ่มช่วยชีวิตสัตว์น้ำ The Marine Mammal Center ในแคลิฟอร์เนีย ได้เจอลูกนากทะเลอายุเพียง 2 วันอยู่อย่างโดดเดี่ยว คาดว่าน่าจะหลงทางกับแม่มา ในสถานการณ์แบบนี้ ลูกนากทะเลต้องได้รับการดูแลอย่างดี เพราะว่าตัวมันเด็กมาก และคงไม่ได้กลับไปเจอแม่อีกแล้ว แต่โชคยังดีที่ยังมีโอกาสเหลืออยู่ เพราะว่าลูกนากตัวนี้สุขภาพแข็งแรงดีมาก ไม่มีอาการตื่นกลัวเลย     ปัญหาตอนนี้อยู่ที่ทำยังไงจะได้ไปเจอแม่อีกครั้ง เพราะว่ามันมีตัวนากทะเลอยู่เยอะมาก ทางหน่วยช่วยชีวิตก็เลยใช้วิธีการกลับไปที่ที่เจอลูกนากอีกครั้ง แล้วก็ถือลูกนากไว้ให้มันส่งเสียงเรียก เพราะเชื่อว่าแม่ต้องจำเสียงลูกได้แน่ๆ   และแน่นอน แม่ของมันก็กลับมารับ เราไปชมคลิปความประทับใจนี้กันเลย   ดูแล้วก็ยิ้มโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะตอนที่แม่มันว่ายมาอุ้มลูกแล้วว่ายไป เป็นอะไรที่น่ารักมากๆ ที่มา thedodo

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในวันเสาร์ตอนเช้า เจ้าหน้าที่ Kareem Garibaldi จากสถานีตำรวจ Lakeland Police Department ในฟลอริด้า ได้พบเจอกับสุนัขสายพันธุ์พิตบูลผสม อายุประมาณ 8-10 สัปดาห์ ไม่มีปลอกคอ เขาเป็นห่วงก็เลยตัดสินใจที่จะดูแลมันไว้ก่อน     เขาได้ให้อาหาร พร้อมกับพามันไปที่บ้าน และในวันต่อก็ยังไม่พบเจ้าของของมัน ซึ่งก็เป็นเวลากว่า 12 ชั่วโมงแล้วที่เขาอยู่กับมัน ก็เลยตัดสินใจที่จะพามันไปยัง SPCA Animal Medical Center เพื่อตรวจเช็คสุขภาพ     Connie Johnson ผู้จัดการของสถานรักษาสัตว์แห่งนี้เล่าว่า “มันเป็นภาพประทับใจอย่างมาก ในตอนที่ผมเดินลงมาแล้วเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้กำลังนอนหลับอยู่กับสุนัขตัวน้อย ดูก็รู้เลยว่าทั้งคู่เพลียมากๆ คุณตำรวจพยายามอย่างมากที่จะตื่นตัว แต่พอผมขึ้นไปแล้วลงมาอีกที เขาก็หลับไปแล้ว ส่วนสุนัขก็หลับไป และดูเหมือนว่ามันรู้สึกปลอดภัยถ้าอยู่ด้วย”     หลังจากเช็กอาการประมาณ 3 ชั่วโมงก็เจอแค่เห็บหมัดนิดหน่อย หลังจากนั้นก็ให้เจ้าหน้าที่นำสุนัขกลับไปที่สถานีตำรวจ แต่แล้วเรื่องราวดีๆ ก็เกิดขึ้นเมื่อคุณตำรวจดันถูกใจเจ้าสุนัขตัวนี้ แล้วสุดท้ายก็รับเลี้ยงไว้เองซะเลย แล้วเจ้าตัวน้อยก็ได้ชื่อใหม่ว่า Hope     ถือเป็นเรื่องราวที่อ่านไปแล้วยิ้มไปจริงๆ จิตใจของคุณตำรวจช่างอ่อนโยนอะไรเช่นนี้.. ที่มา boredpanda

Sara Melnicoff เธอและสุนัขวัย 13 ปี ที่ชื่อว่าเจ้า Caril กำลังออกไปเดินเล่น แต่จู่ๆ ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันเมื่อสุนัขของเธอนั้นพลัดตกลงไปในน้ำที่ Mill Creek สหรัฐฯ เธอเล่าว่า “ฉันวิ่งไปตามลำธารแล้วก็เรียกชื่อมันไปด้วย จนไปถึงจุดหนึ่ง ฉันกำลังถือรองเท้าเพื่อที่จะลงไปช่วยมัน แต่แล้วก็มีชายหนุ่มโผล่ออกมาจากไหนไม่รู้ ถอดเสื้อผ้า เหลือแต่บ็อกเซอร์ แล้วกระโดดลงไปในน้ำ พยายามเกาะไปเรื่อยๆ เพราะว่ากระแสน้ำมันแรงมากๆ และพยายามจะพัดพาตัวเขาไป”   เธอมาทราบชื่อภายหลังว่าชายคนนั้นชื่อว่า Bobby L’Heureux ในตอนที่เขาลงไปช่วยนั้น เขาพยายามที่จะอุ้มเจ้า Carli ไว้ แล้วช่วยมันขึ้นฝั่ง เขาตัวสั่นไปทั้งตัวเพราะว่าน้ำที่เย็นจัดมาก รวมถึงสุนัขก็ไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแล้ว   “ฉันก็สั่นพร้อมทั้งน้ำตาไหลเมื่อตอนที่เขาอุ้มเจ้า Carli มาให้ฉัน ไม่รู้จะขอบคุณยังไงให้พอสำหรับการช่วยชีวิตในครั้งนี้”   ในภายหลังเธอก็ได้บริจาคเงินให้หลังจากที่รู้ว่าเขาได้สร้างมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือลูกสาวของเขาเอง   ถือเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ทั้งคู่ไม่ได้รู้จักกัน แต่มันก็ทำให้เราได้เห็นถึงน้ำใจของเพื่อนมนุษย์ที่ยอมเสี่ยงช่วยชีวิตสัตว์ตัวเล็กๆ ที่มา boredpanda

คุณแม่สุนัขจิ้งจอกอยู่กับลูกอย่างมีความสุข จนกระทั่งลูกของมันเกิดอุบัติเหตุพลัดตกลงไปในท่อ และมันก็ไม่สามารถช่วยอะไรลูกได้เลย เพราะท่อที่มันตกลงไปลึกพอสมควร เหตุการนี้เกิดขึ้นที่ East Sussex ประเทศอังกฤษ จนสุดท้ายหน่วยช่วยชีวิตจาก Wildlife Rescue & Ambulance Service ก็มาถึง พวกเขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการช่วยชีวิตมันขึ้นมาจากท่อ   เนื่องจากท่อมีความซับซ้อน ทำให้ลูกสุนัขจิ้งจอกเดินไปเรื่อย ทางทีมช่วยชีวิตจึงต้องใช้มือถือเป็นกล้องในการสอดส่องลงไปในท่อ   แล้วก็พบเจอจนได้ แต่ก็ไม่สามารถเอื้อมถึง ส่วนแม่สุนัขจิ้งจอกก็ได้แต่มองคนที่กำลังช่วยลูกของมัน   เราไปชมคลิปการช่วยชีวิตลูกสุนัขจิ้งจอกนี้กันเลย   ที่มา lifebuzz

ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายเวลาที่เราพาลูกออกไปเดินเล่น แล้วเกิดว่าจู่ๆ ลูกก็หายไปแบบไม่ทันตั้งตัว การหลงทางของเด็กนั้นเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากๆ เพราะเด็กไม่สามารถกลับมาหาพ่อแม่เองได้ ไม่ใช่เฉพาะคนเท่านั้น แม้แต่อัลปาก้าก็ยังมีความเป็นห่วงลูกอยู่เหมือนกัน เมื่อชาวไร่ท่านหนึ่งชื่อว่าจอห์น (โอเค เค้าไม่ใช่จอห์นชาวไร่ที่เรารู้จัก แค่ชื่อเหมือนกัน) เขาได้เห็นแม่อัลปาก้านั้นเดินวนอยู่ในทุ่งของเขาอยู่นาน จนต้องออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเดินตามไปได้สักพักก็ได้พบกับลูกอัลปาก้าที่ตกลงไปในหลุมเล็กๆ ซึ่งเดาได้ว่าตกไปประมาณวันหนึ่งได้ เพราะว่าเห็นแม่อัลปาก้ามาได้สักพักแล้ว   และที่ต้องงงกว่าเดิมก็คือลูกอัลปาก้าตกลงไปได้ยังไงในหลุมเล็กขนาดนั้น แล้วตกไปทั้งตัวด้วยนะ   จอห์นจึงจำเป็นต้องช่วยชีวิตมันขึ้นมา (เนี่ย จอห์นหน้าตาแบบนี้)   เราไปชมคลิปการช่วยชีวิตลูกอัลปาก้า แล้วกลับไปพบแม่อีกครั้งกัน ดูคลิปไม่ได้กดดูที่นี่   จอห์นคาดว่าลูกอัลปาก้าน่าจะตกลงไปตอนที่มันเป็นโคลน ทำให้มันไม่สามารถขึ้นมาได้ จนติดอยู่ในหลุมเล็กๆ แบบนี้ ตอนนี้มันปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะเนอะ ที่มา viralnova

ปกติเวลาเราเห็นสัตว์จรจัดหรือหลงทางตามที่ต่างๆ เราก็มักจะมีความรู้สึกสงสาร อยากจะช่วยมัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเราก็ไม่พร้อมที่จะเลี้ยงดูมันอย่างเต็มตัว แต่สำหรับสามีคนนี้ บอกเลยว่าดิ้นไม่หลุด เพราะสายตาที่อ้อนวอนของแมวน้อยที่เขาบังเอิญไปเจอนั้นทำให้เขาต้องตกอยู่ในภวังค์   เรื่องราวมีอยู่ว่าชายคนนี้เขาไปเจอแมวที่กำลังหลบอยู่หลังล้อรถบรรทุกที่อยู่ใกล้ๆที่ทำงานของเขา พอเห็นหน้ามันแล้วก็เลยรู้สึกสงสาร ก็เลยถ่ายรูปไปให้ภรรยาอยู่เพื่อขอเอาแมวตัวนี้กลับบ้านด้วย พอส่งไปเท่านั้นแหละ เมียตอบกลับมาว่า “ดูหน้าแมวสิ จะปฏิเสธได้ยังไงกัน”   เท่านั้นแหละ แมวก็ได้บ้านใหม่ทันที พอถึงบ้านทั้งคู่ก็พามันไปหาหมอ แล้วก็พบว่ามันอายุได้ประมาณ 4-5 สัปดาห์เท่านั้นเอง   หลังจากนั้นมันก็ได้เชื่อว่า Axel แล้วก็พบกับเพื่อนที่อยู่มาก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นแมววัย 19 ปี แล้วหมาอายุ 2 ปี   บอกเลยว่าหน้าตอนที่มันเกาะล้ออยู่นั้นยากที่จะปฏิเสธจริงๆ ไปเรียนแอคติ้งมาจากไหนจ๊ะลูกกกก ที่มา JustAnotherGoodGuy, boredpanda

เราอาจจะเคยได้ยินมานานแล้วว่าหนูกับแมวเป็รศัตรูกันมานาน บางคนก็เลี้ยงแมวเอาไว้จับหนูโดยเฉพาะเลย แต่ตอนนี้ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว สมัตว์ทุกตัวเห็นว่าจริงๆมันก็อยู่ร่วมกันได้ เหมือนอย่างหนูและแม่แมวตัวนี้ Pepper แม่แมวสีขาวกำลังมีภาระที่ต้องเลี้ยงดูลูก แต่เพื่อนซี้อย่าง Tate หนูที่คอยอยู่เป็นเพื่อนมันตลอดเวลาตั้งแต่ตอนคลอด ตอนนี้มันก็ได้กลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กไปซะแล้ว     ความจริงแล้ว Tate ไม่ได้เจอ Pepper มาหลายเดือนแล้ว ซึ่งตอนที่เจ้าของพามันกลับมาพบกันอีกครั้งก็กังวลว่าเจ้าหนูจะไปทำอันตรายต่อลูกแมวน้อยรึเปล่า แต่พอสังเกตไปได้สักพักก็พบว่ามันก็ช่วยเลี้ยงดูแมวน้อยด้วย เจ้าของยังบอกอีกว่าตอนแรกดูเจ้า Tate ไม่เหมือนแม่เลย แต่มันก็สามารถเข้าในสิ่งที่เกิดนขึ้น และมันก็ปฏิบัติต่อเด็กๆ อย่างนุ่มนวล     ทั้งคู่ดูมีความสุขในการเลี้ยงแมวน้อยด้วยกัน ถือเป็นภาพความน่ารักของสองสัตว์เลี้ยงที่เมื่อก่อนเราก็คิดว่าเป็นคู่อริกัน แต่ที่ไหนได้ กลายเป็นเพื่อนรักกันซะแล้ว   ที่มา lovemeow

เพื่อนกันย่อมไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ต่างก็มีความรักเพื่อนพ้อง รักกลุ่มอยู่เหมือนกัน เหมือนอย่างคลิปที่ #เหมียวสามสี นำมาให้ดูในวันนี้ บอกได้เลยว่าประทับใจเอามากๆ ในคลิปนี้มีนกกางเขนตัวหนึ่งบินชนกระจกอย่างจัง ทำให้มันร่วงลงมาแล้วแน่นิ่ง เหมือนกับว่าตายไปแล้ว เจ้าของคลิปก็เลยหยิบมือถือมาถ่ายคลิปบันทึกไว้ เนื่องจากนกอีกตัวหนึ่งพยายามที่จะช่วยชีวิตมันขึ้นมา   ด้วยความไม่ทิ้งเพื่อน นกตัวที่สองพยายามกระตุ้นให้นกตัวที่บินชนตื่น แต่จนแล้วจนเล่า มันก็นิ่งจริงๆ คนทั่วไปดูก็คิดว่ามันตายแล้วแน่ๆ   แต่ด้วยความที่มันมีความพยายามมาก จนสุดท้าย นกตัวที่บินชนก็กลับได้คืนสติมา พร้อมกับบินต่อไปพร้อมกับเพื่อนของมัน เห็นแล้วน่าประทับใจยิ่งนัก   เราไปชมการช่วยชีวิตของนักกางเขนทั้ง 2 ตัวนี้กันเลย   เห็นแล้วรู้เลยว่ามิตรภาพนั้นสามารถทำให้เราได้พบเจอกับสิ่งดีๆ ได้ ถ้าเราไม่ทิ้งกันซะอย่าง ที่มา Awad Zidane

ปกติเราเห็นข่าวช่วยชีวิตสัตว์ ส่วนมากก็จะเป็นหมาแมว หรือไม่ก็สัตว์ที่ไม่ค่อยมีอันตรายเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้ได้มีหญิงสาวทั้งใจงามและใจกล้า ช่วยชีวิตงูที่ติดอยู่ในกระป๋องเบียร์นานจนได้รับบาดเจ็บ Chanda Lowe เธอได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการออกไปเดินเขา และได้พบกับขยะมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้เธอต้องหยุดมองก็คือได้มีงูเขียวหัวจิ้กจกสายพันธุ์แคลิฟอร์เนียตัวหนึ่งติดอยู่ในซากกระป๋องที่แตก พร้อมทั้งได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากโดนกระป๋องบาด   ความจริงแล้วพื้นที่แถวนี้เจองูได้ยากมากๆ และดูเหมือนว่าตัวที่เธอเจอนั้นกำลังจะตายแล้ว เธอจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ที่จะนำตัวงูกลับไปด้วย เพื่อที่จะทำการรักษาและเอาออกจากกระป๋อง   เธอได้ทำการตัดกระป๋องออก พร้อมกับฆ่าเชื้อที่แผลเพื่อให้งูฟื้นตัว แต่ก่อนหน้าที่เธอจะเอาไปปล่อย เธอได้เอางูให้กับคุณครูที่ลูกของเธอเรียนอยู่ เพื่อสอนเด็กๆ ถึงผลเสียของการทิ้งขยะ   แล้วก็ถึงเวลาต้องจากกัน งูเขียวเรียบร้อยดีมาก เนื่องจากยังมีอาการเจ็บเล็กน้อย แต่ก็สามารถเลื้อยได้ตามปกติแล้ว ลาก่อนเจ้างูผู้โชคร้าย..   และกระป๋องนี้ก็จะกลายเป็นบทเรียนที่สำคัญ สำหรับคนที่ชอบทิ้งขยะไปเรื่อยจนทำให้คนอื่นเดือดร้อน ที่มา lifebuzz

คำเตือน: อาจจะมีภาพที่ดูแล้วสะเทือนใจนิดหน่อย เป็นภาพที่ดูแล้วอาจจะกินข้าวไม่ลง เหมียวแนะนำว่าถ้าไม่อยากเห็นไม่ต้องดูคลิปนะจ๊ะ ฟังแค่เรื่องราวก็พอ   นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศอินเดีย ได้มีสุนัขตัวหนึ่งถูกพบในหลุมในสภาพที่ย่ำแย่เป็นอย่างมาก ใบหน้าของมันนั้นเน่าเฟะจนทำให้มันเสียดวงตาไปหนึ่งข้าง และมันกำลังลุกลามไปยังตาอีกข้างหนึ่ง ภายในแผลนั้นพบวง่ามีหนอนแมลงที่กำลังกัดกินในส่วนของเนื้อไปเรื่อยๆ จนไปถึงชั้นกระดูก จนกระทั่งได้มีคนมาพบและแจ้งไปกับมูลนิธิ Animal Aid Unlimited เพื่อพามันไปรักษา   ในตอนแรกที่เจ้าหน้าที่ได้เห็นสภพแผลนั้น คิดว่ามันไม่น่ารอดแล้ว จึงตัดสินใจทำการุณฆาตเพื่อให้มันได้ไปสบายจะได้ไม่ต้องทรมานกับแผล แต่ดูเหมือนว่าตัวสุนัขเองยังมีกำลังใจอยู่ต่อมาก เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใหม่ โดยการรักษามันอย่างสุดความสามารถเท่าที่จะทำได้ ทั้งฆ่าหนอนด้วยแป้ง และกำจัดเนื้อส่วนที่ตายไปแล้วออก หลังจากแผลสะอาดแล้วก็พันผ้าพันแผลไว้กันเชื้อ   เมื่อเวลาผ่านไป 3 วันมันก็ถึงเวลาเอาผ้าพันแผลออก พร้อมกับได้กินอาหารเป็นครั้งแรกหลังเข้ารับการรักษา หลังจากนั้นทำการค่าเชื้อที่แผลพร้อมกันพันผ้าไว้อยู่เสมอ   หลังจากใช้เวลารักษาอยู่ 3 เดือน ในที่สุดเจ้า Kalu ก็เหมือนได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง พร้อมกับเนื้อส่วนที่หายไปก็กลับคืนมา แต่มันก็ต้องเสียตาข้างหนึ่งไปหลังจากถูกหนอนกินจนเสียหายเป็นอย่างมาก   เราไปชมคลิปการเปลี่ยนแปลงของมันกันเลย อาจจะมีภาพที่หดหู่เล็กน้อย แต่ใครที่รับได้แนะนำให้ดูเลย รับรองว่าคุณจะประทับใจแน่นอน   ที่มา Animal Aid Unlimited, India

ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่ารักเลยล่ะ มุ้งมิ้งสุดๆ อย่างกะออกมาจากดิสนีย์แหละ เอิ๊กๆๆๆ เมื่อเจ้านายของฮัสกี้ทั้ง 3 ตัวนี้ ได้ไปเจอเจ้าเหมียวน้อยตัวหนึ่งและไปช่วยชีวิตมันเอาไว้ ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้มีความแน่ใจเลยว่ามันจะรอดชีวิต… เพราะมันทั้งอ่อนแรงทั้งตัวเล็กไม่สมประกอบ รับมาดูแลในคืนแรกก็คิดว่าจะไม่รอดเสียแล้ว แต่พอได้มาพบกับเจ้า Lilo หนึ่งในฮัสกี้ที่เลี้ยงไว้ เจ้าลูกแมวเกิดความผูกพันกับมันทันที!!   ตั้งแต่แรกเจอเจ้าลูกแมวก็เข้าไปดูดที่เต้านมของ Lilo   เจ้า Lilo จึงได้กลายเป็นแม่ของเจ้าเหมียวไปโดยปริยาย   6 เดือนให้หลัง เจ้าเหมียวก็กลับมามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์   และได้กลายมาเป็นสมาชิกของครอบครัวนี้อย่างเต็มตัว   ภาพชุดนี้ถูกถ่ายไว้ได้เมื่อปีก่อน   กลายเป็นว่าเจ้าเหมียวไม่ได้แค่กลับมามีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายใจ   แถมยังได้เพื่อนรักใหม่ และได้กลายมาเป็นสมาชิกของครอบครัว   ถึง 3 ตัวเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ   พวกเขาอยู่ด้วยกัน   ทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกันตลอด   น่ารักสุดๆ   เหมียวเชื่อว่าเพื่อนๆ ก็อยากมีสัตว์เลี้ยงแบบนี้กันใช่มั้ย ฮร่าาา   มาเนียนเหมือนเป็นตูบตัวน้อยเลยนะเนี่ย ><  …

ทุกชีวิตล้วนมีคุณค่าและเราควรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เหมือนอย่างที่ชายคนนี้ทำ เขาได้ทำการรับเลี้ยงลูกแมวตัวหนึ่ง ซึ่งหลังจากพยายามช่วยอยู่นานจนเกือบ 2 วัน จนสุดท้ายก็ช่วยออกมาได้ และก็กลายเป็นเพื่อนของเขาเรื่อยมา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อลูกค้าคนหนึ่งได้ยินเสียงลูกแมวร้องออกมาจากท่อระบายน้ำในที่จอดรถ เขาจึงพยายามที่จะมุดลงไปช่วย แต่ท่อมันก็ลึกเกินไปที่คนจะมุดลงไปได้ เขาจึงพยายามที่จะล่อให้มันออกมาจากท่อเล็กๆ ที่อยู่ข้างในอีกที แต่ก็ดูเหมือนว่าแมวจะตื่นกลัวจนไม่กล้าออกมา     ในวันต่อมา เขาและหน่วยกู้ภัยก็ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง พร้อมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะช่วยให้น้องแมวออกมาจากท่อให้ได้ เริ่มจากการสอดกล้องลงไปดูว่าแมวเป็นอย่างไรบ้าง จนในที่สุด เราก็ได้เห็นหน้าตาของแมวตัวนี้เป็นครั้งแรก     หลังจากนั้นผู้คนต่างก็ช่วยกันขุดจนสุดท้ายสามารถช่วยเหลือเจ้าเหมียวตัวนี้ไว้ได้     ชายที่มุดลงไปครั้งแรกนั้นก็ได้รับเจ้าเหมียวตัวนี้ไปเลี้ยง พร้อมกับตั้งชื่อว่าเจ้า “ไวเปอร์” เราไปดูความน่ารักของมันกันเลยดีกว่า   Kitten Trapped in Storm Drain Rescued after 33 Hours!So glad that this little guy was safe and warm yesterday :)A crew of dedicated…

โดยปกติแล้ว เวลาเราไปอู่ซ่อมรถ เราก็จะเห็นพนักงานที่กำลังซ่อมรถต่างก็มีเครื่องไม้เครื่องมือเต็มไปหมด ส่วนมากเขาก็จะเอาใส่ในกระเป๋าที่ทำมาเป็นพิเศษ เวลาจะใช้ก็ม้วนออกมา ก็จะเจอซองเครื่องมือต่างๆมากมาย แต่วันนี้เหมียวจะพามาพบกับผู้ช่วยช่างตัวจิ๋ว ที่ความสามารถไม่จิ๋วเลย เพราะมันส่วนเจ้านายในการเป็นกระเป๋าเครื่องมือแทน โดยชุดที่มันใส่จะมีช่องเล็กๆ ไว้เก็บเครื่องมือต่างๆ ได้ ภาพเหล่านี้ถูกแชร์เป็นจำนวนมากที่รัสเซีย เพราะต้นกำเนิดมาจากที่นั่น แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากโรงซ่อมรถตรงไหนในรัสเซีย แต่ก็ถือเป็นภาพที่น่ารัก ที่ได้เห็นว่าสัตว์ก็สามารถช่วยงานคนได้เหมือนกัน     บางคนอาจจะกลัวว่าหมาของเจ้าดัชชุนตัวนี้มันจะปวดรึเปล่า ถ้าดูจากรูปแล้ว เครื่องมือแต่ละชิ้นดูเบาและสมดุลกันทั้งสองด้านคงไม่มีปัญหาเรื่องหลังแน่นอน     ตอนนี้เหมียวก็รอว่าเมื่อไหร่จะมีสุนัขที่ซักผ้า ล้างจาน อะไรแบบนี้บ้างน้าาาา เห็นงานบ้านเมื่อไหร่ ท้อทุกที ที่มา boredpanda

มนุษย์กับสัตว์ล้วนไม่ต่างกัน ในตอนที่มันยังเด็กยังไม่รู้เรื่องราว มันอาจทำอะไรที่ไม่ยั้งคิดลงไปบ้าง แต่ไม่ว่าอย่างไร มันก็ไม่สมควรได้รับโทษที่หนักหนาจนเกินไปนัก อย่างเช่นสิ่งที่เจ้าหมาตัวนี้ต้องเผชิญ   เจ้าหมาน้อยตัวนี้ด้วยวัยเพียง 6 สัปดาห์ มันยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมากนัก วันหนึ่งมันดันทำโทรศัพท์มือถือของเจ้าของมันพัง ด้วยความโมโห เขานำมันไปต้มในน้ำเดือดๆทั้งเป็น และโยนมันออกมาจากระเบียงชั้นสี่ โชคดี Yan Yingying หญิงสาวใจบุญผ่านไปทางนั้นพอดี เธอสังเกตเห็นสิ่งมีชีวิตบางอย่างอยู่ข้างทาง เมื่อเธอพบว่าเป็นลูกหมาในสภาพใกล้ตาย เธอจึงพามันไปหาหมอที่คลีนิกสัตว์ใกล้ๆทันที   พวกเขาพยายามช่วยอย่างเต็มที่เท่าที่ช่วยได้ แต่บางอย่างก็เกินความสามารถของคลีลิกเล็กๆที่จะทำได้   Yingying จึงขับรถพาเจ้าหมาผู้โชคร้ายไปยังมูลนิธิ Animal Asia ที่อยู่ในเมืองเฉิงตู ซึ่งห่างไปจากที่นั่นราวๆชั่วโมงหนึ่ง เพื่อทำการรักษาขั้นต่อไป     แม้พวกเขาจะผ่านการรักษาสัตว์ต่างๆมามากมาย แต่ทันทีที่ทีมงานมูลนิธิเห็นสภาพของเจ้าหมาน้อยตัวนี้ พวกเขาถึงกับอึ้งไปเลย มันแทบจะไม่สามารถหลับตานอนได้เลย เนื่องจากแผลน้ำร้อนลวก   แต่ด้วยความเก่งกาจของหมอ ทำให้อาการของเจ้าหมาน้อยค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ   Yingying เดินทางไปเยี่ยมเจ้าหมาน้อยตัวนี้เรื่อยๆ เธอหวังว่าทันทีที่มันแข็งแรงดี เธอจะพามันกลับไปเลี้ยงที่บ้านของเธอ   ด้วยความที่ผิวหนังเสียหายอย่างมาก ทำให้ขนหลายๆส่วนไม่สามารถงอกกลับมาได้อีก แต่โชคดี มีผู้ใจบุญบริจาคเสื้อให้มัน เพื่อให้ร่างกายมันยังอบอุ่นอยู่ได้   แม้จะผ่านเรื่องร้ายมามาก…

ถือเป็นเรื่องที้เห็นแล้วใจสลายทุกที ที่ได้เห็นภาพเหล่าสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ทั่วไปถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง เพราะดูแล้วก็รู้สึกได้เลยว่ามันต้องทรมานมากแน่ๆ เหมือนอย่างเธอคนนี้ที่ได้ไปพบแมวน้อยตัวหนึ่ง นอนเปียกปอนอยู่บนทางเท้า เธอใช้ชื่อในเว็บไซต์ Reddit ว่า Klaan ชาวฝรั่งเศส เธอได้เล่าเรื่องราว ซึ่งประสบกับแม่ของเธอ ที่ได้ช่วยชีวิตแมวน้อยตัวหนึ่งไว้ โดยระหว่างที่กำลังเดินอยู่ แล้วสายตาก็ได้ไปเห็นแมวน้อยตัวหนึ่งนอนซมตัวเปียกอยู่บนทางเท้า ไม่ขยับไปไหน เธอได้เข้าไปใกล้ๆก็พบว่ามันยังมีชีวิตอยู่   เธอจึงตัดสินใจอย่างรวดเร็ว พาแมวตัวนี้ไปหาหมอทันที   เธอพยายามห่มแมวด้วยถุงกระดาษที่ติดตัวเธอมา เพื่อให้ความอบอุ่นกับมัน   หลังจากที่พามันไปหาหมอแล้ว เธอก็ออกค่าใช้จ่ายไปทั้งหมด 2,000 กว่าบาท   แมวตัวนี้ชื่อว่า “ไอริส” ซึ่งผู้ที่รับเลี้ยงไปเป็นคนตั้งชื่อให้ หลังจากมันได้รับการรักษาแล้ว สุขภาพของมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ   มันชอบนอนหลับพร้อมกับขวดนม น่ารักจริงๆ   แล้วตอนนี้ตาของมันก็เริ่มที่จะลืมขึ้นมาแล้ว พร้อมที่จะมองโลกใหม่ที่สวยงามกว่าเดิม ที่มา lovemeow

ปัญหาแมวถูกทิ้งยังมีมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้คือสถานสงเคราะห์ต่างๆที่ต้องไปรับเลี้ยงดู ซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ดังนั้นก็ต้องรอให้คนรับไปเลี้ยงอย่างเดียว เพื่อลดค่าใช้จ่ายลง Shaina Fishman และ Ryen Blaschke จึงได้ตัดสินใจที่จะทำโปรเจกต์หนึ่งขึ้นมา เพื่อช่วยชีวิตแมวเหล่านี้ โดยที่ Shaina จะทำหน้าที่ถ่ายรูปเพื่อการโฆษณา ส่วน Ryen มีหน้าที่ทำหมวกแฟชั่นเก๋ๆให้กับน้องแมว     ทั้งคู่ตั้งใจที่จะใช้ความน่ารักดึงดูดผู้คนให้สนใจมารับเลี้ยงแมวเหล่านี้ ซึ่งตามสถิติแล้ว มีแมวประมาณ 3.4 ล้านตัวเลย ที่ถูกเลี้ยงอยู่ในสถานสงเคราะห์ในอเมริกาในแต่ละปี     หมวกแต่ละอันนั้นทำด้วยมือล้วนๆ โดย Ryen ซึ่งครั้งนี้เป็นการช่วยสถานสงเคราะห์ Brooklyn Animal Action เราไปชมผลงานเหล่านี้กันเลย     ถือเป็นไอเดียที่ดีมากๆในการช่วยชีวิตแมวอีกหลายๆชีวิตให้มันได้พบบ้านแสนสุขที่จะให้ความรักกับมันได้อย่างเต็มเปี่ยม ที่มา boredpanda

จริงๆแล้วมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ขี้สงสารมากๆชนิดหนึ่ง เวลาเราเห็นใครตกระกำลำบาก ก็อดไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปช่วยเหลือ ยิ่งเป็นสัตว์ตัวเล็กๆแล้วละก็ ยิ่งใจอ่อนเข้าไปใหญ่   อย่างเช่นนักบิดสาวชื่อ Laney คนนี้ ขณะที่เธอกำลังจอดรถไฟแดงอยู่ที่แยกๆหนึ่ง เธอสังเกตเห็นสิ่งมีชีวิตบางอย่างกำลังวิ่งอยู่กลางสี่แยก และสุ่มเสี่ยงต่อการโดนรถที่ผ่านไปผ่านมาเหยียบมาก   ปรากฏว่าเป็นลูกแมวตัวหนึ่ง เธอจึงจอดรถ แล้ววิ่งไปช่วยมันออกมาจากที่ตรงนั้น   โชคดีที่เจ้าเหมียวไม่เป็นอะไร เธอจึงเก็บกลับไปเลี้ยงที่บ้าน   ต่อมา เธอตั้งชื่อให้ว่า Skidmark ตอนนี้มันกลายเป็นเพื่อนซี้ตัวใหม่ที่บ้านของเธอเรียบร้อยแล้ว   นับว่าเป็นโชคดีของมันจริงๆ ที่ไม่โดนรถเหยียบไปเสียก่อน ยังไงก็ตามแต่ ขอให้มีความสุขกับบ้านใหม่นะเจ้า Skid ที่มา E511

เวลาที่เรากลับจากตลอดหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาสำหรับหลายๆครองครัวก็คือขาดคนช่วยกันขนอาหารและสิ่งของไปเก็บในบ้าน เพราะการไปซื้อของแต่ละที เราก็ต้องไปซื้อทีละเยอะๆมาตุนไว้ แต่สำหรับครอบครัวนี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ เพราะเขามีเจ้าโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ทั้ง 4 ที่คอยเป็นคนขนส่งเสบียงไปในบ้านอย่างขยันขันแข็ง   เมื่อคุณแม่เอารถมาจอดที่หน้าบ้าน ทั้งสี่ตัวต่างก็ผลัดกันไปคาบของมา   พวกมันทำหน้าที่เหมือนกับคนที่คอยช่วยคุณแม่ทำงานบ้านเลย   แต่ดูเหมือนว่าจะมีหมาที่อู้งานอยู่เหมือนกันนะเนี่ย เอาเป็นว่า เราไปดูคลิปแสนน่ารักของมันกันเลยดีกว่า   โห อยากได้แบบนี้มาเลี้ยงที่บ้านซักตัวจัง ทำไมมันทั้งฉลาดและขยันแบบนี้เนี่ย ที่มา lifebuzz

เมื่อวันจันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจากเมือง Tampa ได้รับสายแจ้งว่าได้มีผู้พบเห็นแม่และลูกสุนัขอีก 4 ตัวในถังขยะ และเหมือนว่ามันกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก     พอไปถึงก็ได้เห็นภาพอันน่าสลด เมื่อพบลูกหมาน้อยจำนวนหนึ่งถูกคนใจร้ายนำมาทิ้ง มีตัวหนึ่งอยู่ในถุงพลาสติกที่มัดไว้อย่างทรมาน ส่วนลูกหมาอีก 3 ตัวนอนอยู่ด้วยกันในกองขยะ     ส่วนสุนัขตัวแม่สามารถเอาตัวเองออกมาจากถังขยะได้ และได้ปีนขึ้นมานั่งบนฝาถังขยะนั้น แล้วพยายามที่จะดึงลูกของมันออกมาจากถังขยะ     สุดท้ายแล้ว สุนัขทั้ง 4 ตัว ก็ได้ถูกเก็บไปรักษาตัวที่ Hillsborough County Animal Services แต่ยังไม่เปิดรับให้ใครมันรับไปเลี้ยง เพราะลูกสุนัขยังเด็กเกินที่คนจะเลี้ยงได้ คงต้องรอเวลาสักระยะ     ถือเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าสำหรับคนรักสัตว์ที่ได้เห็นความโหดร้ายของมนุษย์ที่กล้าทิ้งสัตว์เลี้ยงของตัวเองลงถังขยะ ถ้าใครคิดจะเลี้ยง อย่ามองเพียงว่าเราอยากจะได้เพื่อนแก้เหงา จงมองว่ามันคือสมาชิกในครอบครัวที่มีชีวิตมีจิตใจเหมือนกับเรา ที่มา littlethings

ชายคนนี้มีชื่อว่า Pat Doody หนุ่มบิ๊กไบค์และช่างเหล็กวัย 32 ปีคนนี้ได้ช่วยชีวิตแมวน้อยระหว่างที่กำลังขับรถข้ามประเทศระหว่างเนวาดาสู่นิวเจอร์ซีย์ หนุ่มบิ๊กไบค์พร้อมกับรถ Volkswagen คันนี้ได้ไปเจอแมวน้อยตัวหนึ่งที่ปั้มน้ำมัน เลยตั้งชื่อให้มันว่า “ปาร์ตี้แคท” และตอนนี้มันก็ได้อยู่กับเขาเป็นที่เรียบร้อย แถมยังไปตรวจร่างกายมาแล้วด้วย “ผมหยุดอยู่ที่รถบรรทุกแล้วก็ไปเจอกับเจ้าตัวนี้ที่เหมือนกำลังจะขอความช่วยเหลือเพราะท่าทางเหมือนมันเจ็บอยู่ ผมก็เลยอุ้มมันขึ้นมา แล้วก็เอาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ และให้น้ำให้อาหารตามปกติ จนมันดีขึ้นเรื่อยๆ”   “ตอนแรกมันก็กินแต่ทูน่าอย่างเดียวจนเกลี้ยง ทั้งอาหารเกลี้ยงและเงินในกระเป๋าด้วย”   “แต่หลังจากนั้นไม่นาน มันก็กินอย่างอื่นได้ตามปกติตั้งแต่มันมาอยู่ที่บ้าน”   “แผลก็เริ่มจะหายดีแล้ว ยกเว้นแผลตรงริมฝีปากของมัน”   “มันสบายสุดๆไปเลย”   “เวลาไปไหนก็ไปด้วยกัน มันจะอยู่ในกระเป๋าผมตลอด”   “ผมไม่เคยเจอแมวที่สงบแบบนี้มาก่อนเลย” ที่มา boredpanda

ผึ้งคือผู้ผลิตน้ำผึ้งแสนหวานให้เราได้กินกัน แต่อย่างไรก็ตามผึ้งก็มีกลไกการป้องกันตัวที่สามารถทำร้ายคนเราได้เหมือนกัน นั่นคือก็เหล็กใน แต่ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะไม่สนเลยว่าผึ้งจะทำอันตรายให้แก่เขา เขาจึงตัดสินใจที่จะช่วยมัน ผึ้งที่เขาพบคือบัมเบิลบีสายพันธุ์ยุโรบซึ่งมีขนาดตัวที่ใหญ่มากๆ มันกำลังเกาะอยู่ในบ้านของเขา   เขาเห็นดังนั้นจึงหาน้ำผึ้งมาให้มันกินดู แล้วก็พบว่ามันหิวเป็นอย่างมาก เพราะดูดน้ำผึ้งจนเกือบหมด   หลังจากนั้นมันก็ได้ทำการไฮไฟว์กับเขาก่อนที่จะบินจากไป   เราไปดูคลิปกันเลยดีกว่า ที่มา elitereaders