Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
คุณยายชาวอินเดีย ให้กำเนิดลูกคนแรกในวัย 72 ปี แต่ทว่าทำให้เธอมีสุขภาพที่ย่ำแย่ลง
เมื่อปีที่ผ่านมา หลายคนอาจจะคงพอได้ยินเรื่องราวของ Daljinder Kaur แม่เฒ่าชาวอินเดียจากเมืองอมฤตสาร์ รัฐปัญจาบ ได้กลายเป็นคุณแม่มือใหม่ หลังจากที่คลอดลูกครั้งแรกในชีวิตกับ Mohinder Singh Gill สามีวัย 80 ปีกันมาบ้างแล้ว โดยล่าสุดวันที่ 8 มีนาคม 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า หลังจากที่ Daljinder Kaur (ปัจจุบันอายุ 73 ปี) ได้ให้กำเนิดลูกชายคนแรกตอนอายุ 72 ปี เธอก็ได้ออกมายอมรับว่า ตั้งแต่ที่ลูกชายเกิดเธอก็ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคความดันโลหิตสูงและโรคไขข้อเสื่อม จากการรายงานระบุว่า ขณะนี้ Armaan Singh ลูกชายของเธอกำลังเริ่มที่จะคลาน และทางมารดาผู้สูงอายุก็ได้ให้เขาหยุดกินนมแม่มาเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ทางด้าน Daljinder ได้ออกมาเผยว่า “ฉันต้องต่อสู้กับโรคความดันโลหิตสูง และมันทำให้ฉันเหนื่อยง่ายมาก ซึ่งทางแพทย์ได้ให้ยาแก่ฉัน และวางแผนในเรื่องอาหารให้” ปัจจุบัน Armaan อายุได้ 11 เดือนแล้ว และเขาก็กำลังจะคลาน…
-
รูปปั้นสาวน้อยเผชิญหน้าวัวกระทิง สัญลักษณ์ใหม่ที่แสดงให้เห็นถึง ‘ความเท่าเทียมทางเพศ’
สำหรับใครที่เคยไปท่องเที่ยวบริเวณสวนสาธารณะ Bowling Green Park ใกล้ๆ กับ Wall Street ในแมนแฮตตัน นครนิวยอร์ก เชื่อว่าคุณคงจะเคยเห็น “รูปปั้นวัวกระทิง” (Charging Bull) ที่อยู่ในท่าทางกำลังจะพุ่งชน หรือพร้อมต่อสู้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของระบบทุนนิยมโลกกันมาบ้างแล้ว แต่ในตอนนี้ หากคุณกลับไปยังสถานที่นั้นอีกครั้ง คุณจะไม่ได้พบกับรูปปั้นวัวกระทิงเพียงอย่างเดียว เพราะล่าสุดทาง State Street Global Advisors ซึ่งเป็นบริษัทสินทรัพย์รายใหญ่อันดับสามของโลก ได้นำรูปปั้นของเด็กผู้หญิงที่เรียกว่า The Fearless Girl ไปยืนประชันหน้ากับเจ้ากระทิง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง วันสตรีสากลของโลก ที่ตรงกับวันที่ 8 มีนาคมของทุกๆ ปีนั่นเอง Fearless Girl เป็นรูปปั้นของเด็กสาวที่มาพร้อมกับท่าโพสต์สุดมั่นใจ และกล้าหาญ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของผู้หญิงในปัจจุบันรวมถึงอนาคต ซึ่งเธอจะถูกนำมาตั้งเอาไว้เพื่อเผชิญหน้ากับ Charging Bull (เปรียบเป็นผู้ชาย) โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนได้รับรู้ถึงปัญหาความไม่เท่าเทียมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเชิงธุรกิจที่แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงก็สามารถทำได้เช่นกัน อีกทั้งยังมีแผ่นป้ายติดอยู่กับพื้นด้านล่างโดยเขียนว่า “พลังในการเป็นผู้นำของสตรี” สำหรับ…
-
พบการลักลอบ ‘นำเข้าหูฉาม’ ในฮ่องกงนับพันชิ้น เพื่อนำไปส่งให้กับร้านอาหารชั้นนำ
ทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายลงเรื่อยๆ ในทุกวันนี้นอกจากจะมีสาเหตุทางธรรมชาติแล้ว มนุษย์เองก็เป็นปัจจัยสำคัญในการทำลายเช่นกัน ไม่ใช่แค่ต้นไม้ใบหญ้า แต่พวกสัตว์ก็ถูกรุกรานเช่นกันจนทำให้สัตว์หลายชนิดถึงกับสูญพันธุ์ไปแล้วก็มี อย่างล่าสุดก็พบการลักลอบขนหูฉลามเป็นพันๆ ชิ้น ในฮ่องกง ฮ่องกงถือเป็นศูนย์กลางสำหรับการค้าขายหูฉลาม ดังนั้นบริษัทต่างๆ มักจะมีบริษัทขนส่งต่างๆ นำหูฉลามเข้ามา เช่น บริษัท Maersk, Virgin Australia Cargo และ Cathay Pacific Gary Stokes ผู้ตรวจสอบการลักลอบค้าสัตว์เถื่อน มักจะพบการลับลอบนำเข้าชิ้นส่วนอย่างผิดกฎหมายในทุกๆ ปี แต่สำหรับครั้งนี้มันมากจนเขาเองยังไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ขณะที่ทำหน้าที่ตามปกตินั้น Stokes ก็พบรถตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัทขนส่ง Maersk และดูน่าสงสัย เขาจึงขอเข้าตรวจค้นทันที และเมื่อเปิดดูภายในก็พบกับภาพชวนคลื่นไส้ เพราะมีหูฉลามอยู่เต็มตู้คอนเทนเนอร์เลย ทั้งที่บรรจุกระสอบและที่ถูกมัดไว้เป็นกองๆ และเมื่อมานำหูฉลามทั้งหมดออกมาก็พบว่ามีจำนวนเป็นหลายพันชิ้น นั่นแสดงว่าต้องมีฉลามตายจากการตัดครีบไปเป็นจำนวนมาก ถึงกับต้องตั้งคำถามว่า ‘ถ้าฉลามถูกฆ่ามากขนาดนี้ จะมีฉลามหลงเหลืออยู่ในมหาสมุทรอยู่อีกหรือ?’ สำหรับหูฉลามนี้มักจะได้รับความนิยมในประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ในเอเชีย โดยจะนำไปทำเป็นซุปหูฉลามที่มีราคาประมาณ 3,500 บาทขึ้นไปต่อชาม และมักจะมีขายในร้านอาหารหรู ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฉลามถูกฆ่าประมาณ 75 ล้านตัวในแต่ละปี …
-
20 การโพสต์ท่าถ่ายรูปที่ดีที่สุดที่ช่างภาพส่วนใหญ่แนะนำ เพื่อให้ดูเป็นนางแบบมืออาชีพ
การจะถ่ายรูปให้ออมาดูดีนะ นอกจากหน้าตา เสื้อผ้า หน้าผมแล้ว ท่าโพสต์ก็สำคัญนะ เพราะการโพสต์ท่ากับมุมกล้องต้องมีความสัมพันธ์กันเสมอ เหมือนกับท่าโพตส์เหล่านี้ ที่ช่างภาพส่วนใหญ่บอกว่าเป็นท่ามาตรฐานที่จะทำให้ทุกคนถ่ายรูปสวยได้ ที่สำคัญมันจะทำให้คุณดูเป็นมืออาชีพในการถ่ายรูปด้วยนะ 1. ท่าที่จะทำให้คุณดูผอมลง ท่านี้คุณต้องหันข้างให้กล้อง แล้วมองตรงมายังกล้องโดยกดคางลงพร้อมยกไหล่ขึ้นเล็กน้อย แค่นี้คุณก็จะได้ภาพเพอร์เฟคตามต้องการ 2. ภาพยืนที่ดีที่สุด การยืนถ่ายรูปที่ดีคือ คุณต้องถ่ายเทน้ำหักลงที่ขาข้างใดข้างหนึ่ง แล้วบิดตัวให้ได้องศาที่ไม่มากหรือน้อยเกินไป 3. การถ่ายภาพพอ์ตเทรท การถ่ายภาพแนวนี้ต้องใช้มือช่วยเพื่อความสมบูรณ์ คือ ให้เรามือดันเพดานหือวางบนต้นไม้ทั้งสองข้าง ก้มหน้าเล็กน้อยแล้วมองกล้อง เป็นท่าที่เหมาะสำหรับถ่ายเน้นหน้านะ 4. การถ่ายรูปสำหรับคนผมยาว ถ้าคุณเป็นคนผมยาว ให้คุณสบัดผมอย่างรวดเร็วแต่ต้องทำหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ จะทำให้ภาพดูน่าสนใจมากขึ้น 5. การถ่ายภาพนั่ง นี่เป็นท่านั่งมักจะใช้ในการถ่ายรูป เพราะมันจะทำให้ดูสบายเป็นธรรมชาติ และไม่ว่าจะถ่ายในสตูดิโอหรือสถานที่อื่่นๆ ท่านี้ก็ดูจะเหมาะสมที่สุดแล้ว 6. ท่าโพสต์ที่ดีที่สุดสำหรับถ่ายบนโซฟา 7. ท่าโพสต์เมื่อต้องนั่งพื้น เมื่อต้องนั่งพื้นถ่ายรูป ควรจะหาท่าที่จะทำให้คุณดูแพง ด้วยการยันเข่าขึ้นข้างหนึ่ง มือแตะที่ผม ต่อให้เป็นคนธรรมดา ถ้าคุณถ่ายรูปท่านี้ คุณก็จะดูเหมือนนางแบบมืออาชีพทันที…
-
ว๊ะวาววว!! ญี่ปุ่นเนรมิต “ลิปกลอสนมแมว” ให้สัมผัสพิเศษ เหมือนดั่งจุ๊บจมูกเหมียว
สาวๆ คนไหนที่ชื่นชอบการทาลิปกลอสเป็นชีวิตจิตใจ เชิญทางนี้เลยจ้า เพราะในวันนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอเต็มใจนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดส่งตรงจากญี่ปุ่น ที่เอาใจสาวๆ ผู้เป็นทาสแมวโดยเฉพาะนั่นก็คือ “ลิปกลอสแมวเหมียว” นั่นเอง สำหรับลิปกลอสแมวเหมียวเหล่านี้ Felissimo บริษัทสำหรับคนรักแมว เป็นผู้ที่ได้ทำการสร้างสรรค์ขึ้นมา โดยมันไม่เพียงแต่จะเพิ่มความโดดเด่น และเพิ่มสีสันที่สวยงามบนริมฝีปากของคุณเท่านั้น แต่เมื่อได้ลองทาแล้วคุณจะรู้สึกราวกับว่าได้จูบจมูกของแมวเลยละ และที่สำคัญหากได้ลองใช้เพียงครั้งแรก มันจะทำให้ปากของคุณรู้สึกเย็นสดชื่นมากๆ อีกทั้งตัวลิปกลอสยังมีส่วนประกอบของเชียบัตเตอร์และกรดไฮยาลูโรนิก ที่จะช่วยทำให้ริมฝีปากอ่อนนุ่ม และชุ่มชื่น นอกจากนี้ ลิปกลอสแมวเหมียวยังมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสีชมพูแสนหวาน สีส้มที่ช่วยให้ใบหน้าสาวๆ ดูมีชีวิตชีวา รวมถึงสีน้ำตาลอ่อน แสนน่ารัก สาวๆ คนไหนที่สนใจอยากจะได้ลิปกลอสน่ารักๆ แบบนี้เอาไว้ครอบครอง สามารถคลิกเข้าไปสั่งซื้อ หรือรับชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Felissimo โดยมาในราคาแท่งละ 1,300 เยน หรือราวๆ 400 บาทเท่านั้นเอง และที่สำคัญคุณยังสามารถซื้อไปเป็นของขวัญให้กับเพื่อนสาว หรือสำหรับคนรักแมวได้อีกด้วย อ้อ!! หากใครที่สั่งผ่านเว็บไซต์แน่นอนว่าเงินส่วนหนึ่งของคุณ จะถูกนำไปร่วมในมูลนิธิช่วยเหลือแมวของ Felissimo ด้วยน้า ที่มา…
-
พ่อหนุ่มนักตัดต่อ พาตัวเองเข้าไปอยู่ในใบปิดหนังดังรางวัลออสการ์ เนียนจนแยกไม่ออก!!
เคยมั้ย เวลาดูหนังแล้วอินมากๆ จนอยากเข้าไปอยู่ในหนังสือเรื่องนั้น? เชื่อว่า หลายคนต้องคิดแบบนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปความคิดแบบนี้ก็คงจะค่อยๆ หายไปเอง แต่สำหรับ Guy Madjar ไม่ได้ปล่อยให้ความต้องการนี้หายไปกับสายลม แต่ได้ทำให้ฝันเป็นจริงด้วยการตัดต่อรูปตัวเองเข้าไปอยู่ในหนังฮอลลีวูดแบบเนียนๆ ซึ่งหนังแต่ละเรื่องที่เขาเลือกนั้นก็ได้รับรางวัลออสการ์มาแล้วทั้งนั้น ไม่ขอบอกนะว่าพ่อหนุ่มนักตัดต่ออยู่ตรงไหน เอาเป็นว่าเพื่อนๆ หาเองเนาะจะได้รู้ว่าเนียนแค่ไหน… 1. เรื่อง Lion ได้รับการเสนอชื่อในสาขาภาพยนต์ยอดเยี่ยม ปี 2017 2. เรื่อง Manchester By The Sea ได้รับการเสนอชื่อในสาขาภาพยนต์ยอดเยี่ยม ปี 2017 3. เรื่อง Moonlight ชนะเลิศรางวัลออสการ์ในสาขาภาพยนต์ยอดเยี่ยม ปี 2017 4. เรื่อง Hacksaw Ridge ได้รับการเสนอชื่อในสาขาภาพยนต์ยอดเยี่ยม ปี 2017 5. เรื่อง Hell Or High Water ได้รับการเสนอชื่อในสาขาภาพยนต์ยอดเยี่ยม ปี 2017 6. เรื่อง Fences ได้รับการเสนอชื่อในสาขาภาพยนต์ยอดเยี่ยม…
-
ชุมชนในอเมริการะดมเงิน ‘สร้างบ้านหลังเล็ก’ ให้ทหารผ่านศึกได้อยู่ฟรี เพื่อเริ่มชีวิตใหม่…
สังคมสมัยนี้แปลกดีนะ มีบ้านจัดสรรมากมายที่ถูกสร้างขึ้นแต่ไม่มีคนอยู่ สุดท้ายก็ต้องปล่อยร้าง ในขณะที่ยังมีคนอีกมายมายที่ไม่มีบ้านอยู่ จนต้องไปนอนตามข้างถนนต่างๆ เนื่องจากไม่มีเงินพอจ่ายค่าเช่าบ้าน ซึ่งหนึ่งในกลุ่มนั้นก็คือเหล่าทหารผ่านศึกผู้ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ แต่กลับไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ด้วยเหตุนี้โครงการ Veterans Community Project หรือโครงการเพื่อทหารผ่านศึก จึงได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือทหารผ่านศึกในอเมริกาในฐานะผู้เสียสละเพื่อชาติ แต่โครงการนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับเงินบริจากของชุมชน จนในที่สุดพวกเขาก็สามารถสร้างหมู่บ้านเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อให้ทหารผ่านศึกที่ไม่มีบ้านอยู่ได้มาอาศัยแบบฟรีๆ หมู่บ้านนี้ประกอบด้วยบ้านขนาดเล็ก 50 หลัง แต่ละหลังก็จะมี 1 ห้องนอน โดยจะมีอาหารเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นในบ้านทุกหลัง นอกจากนี้จะมีศูนย์ให้การปรึกษาในชุมชนที่จะทำหน้าที่ให้ความรู้กับเหล่าทหารผ่านศึกไร้บ้านในการปรับตัวและการเอาตัวรอดเมื่อต้องเจอกับปัญหาที่ไม่คาดคิด และนี่ก็ไม่ใช่หมู่บ้านเพื่อคนจรจัดที่แรกในอเมริกา แต่ที่ผ่านมาได้มีโครงการลักษณะนี้เกิดขึ้นแล้วมากมาย เพราะอเมริกาเป็นประเทศที่ต้องการทำให้คนจรจัดหมดไปจากสังคม ดังนั้นพวกเขาจึงช่วยกันมอบที่อยู่ให้คนเหล่านี้ด้วยเงินบริจาคของคนในชุมชนต่างๆ โครงการนี้ไม่เพียงแต่ให้พวกเขาเข้ามาอาศัยอยู่ไปวันๆ แต่เป็นการมอบโอกาสให้คนเหล่านี้ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นด้วย โดยจะมีการอบรม แนะนำแนวทางการทำงานเพื่อเลี้ยงชีพ และเมื่อสร้างเนื้อสร้างตัวได้ บ้านเหล่านี้ก็จะถูกส่งมอบให้ทหารผ่านศึกที่ไม่มีบ้านคนอื่นๆ ต่อไป ก็อย่างที่บอกไว้แล้วว่า โครงการนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากคนในชุมชน ซึ่งก็คงไม่ต่างจากบ้านเรา หากเราอยากเห็นสังคมดีขึ้น เราก็สามารถช่วยกันคนละเล็กน้อย เมื่อเอามารวมๆ กันแล้ว มันสามารถทำให้คนคนหนึ่งมีชีวิตใหม่ได้เลยนะ…
-
แมวน้อยเกือบถูกแช่แข็งตาย ในอากาศหนาวเหน็บ สุดท้ายแล้วก็รอดมาได้เพราะเพื่อนมนุษย์
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆ ถึงชอบพูดว่าแมวมีเก้าชีวิต เพราะแมวเป็นสัตว์ที่สู้ชีวิตมากๆ แม้มันจะบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน มันก็จะสู้จนกลับมามีชีวิตรอดอีกครั้ง อย่างแมวน้อย Bob ที่รอดมาจากความหนาวเหน็บเพราะความช่วยเหลือของมนุษย์ และส่วนหนึ่งเพราะการสู้ชีวิตของมันนั่นเองจึงจะผ่านมันมาได้ Bob อายุประมาณ 8-9 สัปดาห์ มันถูกพบโดยมนุษย์ใจดีผู้หนึ่ง ขณะที่นั่งสั่นจนตัวแข็งอยู่ท่ามกลางอากาศที่ติดลบ -7 องศาเซลเซียส ก่อนจะถูกนำไปส่งยัง Meriden Animal Control-Saving Paws (MAC) ทันทีที่มาถึงเจ้าหน้าก็รีบหาผ้าห่มมาให้ หาน้ำอุ่นๆ และอาหารเปียกให้กับมัน เพื่อช่วยให้ร่างกายมันฟื้นตัวจากการถูกแช่แข็งท่ามกลางอันหนาวเหน็บนั้น วันต่อมา ร่างกายของ Bob ก็กลับมามีอุณหภูมิปกติ แต่เจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง เมื่อแมวน้อยพยายามจะลุกขึ้นไปกินอาหาร มันเดินเซเล็กน้อยก่อนจะล้มลงไป เจ้าหน้าที่จึงได้พาแมวน้อยไปหาหมอเพื่อเช็คสภาพร่างกาย และคุณหมอ Stacia จากโรงพยาบาล Meriden Animal Hospital ได้บอกว่า Bob เกิดมาพร้อมกับระบบประสาทที่บกพร่องหรือศัพท์ทางการแพทย์คือ Cerebellar Hypoplasia (CH) ด้วยเหตุนี้ทำให้มันเดินได้ไม่ปกติ และคงต้องใช้เวลาสักพักเพื่อให้มันปรับตัวได้ แต่นอกเหนือจากนี้คุณหมอบอกว่า Bob มีสุขภาพที่ค่อนข้างดีเลยล่ะ เพียงไม่กี่สัปดาห์ต่อมา แมวน้อยเริ่มมีน้ำหนักตัวมากขึ้น มันวิ่งเล่นไปโน่น นี่ นั่นมากขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันแข็งแรงกว่าช่วงแรกๆ…
-
Poppy น้องหมาที่ถูกทำร้ายจนพิการ ต้องลำบากลากขาตัวเองไปขอความช่วยเหลือ!!
นี่คือ Poppy น้องหมาพิการที่น่าสงสาร มันได้รับบาดเจ็บสาหัสที่กระดูกสันหลังตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มันเป็นอัมพาตช่วงล่างจนขาหลังไม่สามารถใช้การได้ แม้ว่าชีวิตของมันอาจจะฟังดูรันทด และหดหู่ แต่เราอยากบอกให้คุณรับรู้ว่าตอนจบของเรื่องนี้มันแฮปปี้มากๆ เลยละ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Thedodo ได้เปิดเผยเรื่องราวของเจ้า Poppy หมาขาพิการที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกสัตว์ตัวอื่นๆ ทำร้าย จนทำให้มันต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับความเจ็บปวดเป็นเวลานานนับเดือน ก่อนที่มันจะลากสังขารของตัวเองไปขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ ทางด้าน Amanda Stronza หนึ่งในผู้ที่ทำงานในค่ายวิจัยในภาคเหนือของ Okavango ในบอตสวานา และเพื่อนร่วมงานของเธอถึงกับตกใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้เห็นสภาพของเจ้า Poppy ในขณะที่มันกำลังเดินขาลากเข้ามายังสถานที่ทำงานของพวกเขา “มันคลานเข้ามาในค่ายวิจัยของเรา เพราะขาหลังของมันเหมือนใช้การไม่ได้ และมันก็ไม่สามารถเดินไป ในตอนนั้นมันหวังที่จะได้รับความรัก และอยากจะขอความช่วยเหลือ” Amanda กล่าว นั่นจึงทำให้ Amanda และเพื่อนร่วมงานของเธอ ได้พาเจ้า Poppy เข้ามาและดูแลมันอย่างสุดความสามารถ อีกทั้งยังส่งตัวมันไปรักษากับสัตว์แพทย์ที่โดยใช้เวลาเดินทางด้วยรถถึง 8 ชั่วโมง และนั่งเรือข้ามแม่น้ำไปยังคลินิกสัตวแพทย์ที่ใกล้ที่สุด หลังจากที่ส่งตัวมันถึงสัตว์แพทย์ พวกเขาก็เฝ้ามองเจ้าหมาที่น่าสงสารอยู่ไม่อย่าง และเมื่อมันได้รับการรักษา…
-
นักประดาน้ำใจกล้า ดำน้ำลงไปช่วยปลาฉลามที่ได้รับบาดเจ็บ เพราะถูกเชือกรัดตัวเอาไว้
สำหรับหลายๆ คน “ฉลาม” เป็นหนึ่งในสัตว์ทะเลที่พวกเขาไม่อยากเจอมากที่สุดเวลาไปเที่ยวทะเล อาจเป็นเพราะภาพจากสื่อที่มักทำให้เร็วเห็นว่า ฉลามเป็นปลาเพรชฆาตที่พร้อมจะกลืนกินมนุษย์ผู้โชคร้ายในทันที แต่ล่าสุดนักประดาน้ำกลุ่มหนึ่ง กลับทำเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด ด้วยการดำน้ำลงไปช่วยปลาฉลามตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกเชือกรัดโดยบังเอิญ จนมันปลอดภัยในที่สุด เรื่องราวเกิดขึ้นบริเวณเขตน้ำลึกของเกาะแคทไอร์แลนด์ ของประเทศบาฮามาส เมื่อ Skyler Thomas นักดำน้ำสังเกตเห็นปลาฉลามพันธุ์ดัสกี้ตัวหนึ่งมีลักษณะแปลกๆ เนื่องจากบริเวณคอของมัน มีเหมือนเชือกพันอยู่ และดูเหมือนว่ามันจะทุกข์ทรมานจากเชือกนั้นด้วย เมื่อเห็นดังนั้น Thomas พร้อมทั้งผู้นำทัวร์ Vinnie และ Debbie ตัดสินใจเข้าไปทำการช่วยเหลือทันที พวกเขาสังเกตว่าเจ้าฉลามตัวนี้มักจะว่ายในทิศทางเดิมๆ วนเป็นรอบๆ พวกเขาจึงวางแผนที่จะเข้าประชิดตัวและตัดเชือกดังกล่าวออกไป . ในที่สุดพวกเขาก็สามารถช่วยเหลือมันได้สำเร็จ “มีหลายคนถามผมว่าไม่กลัวว่าฉลามจะเข้ามากัดเหรอ จริงๆ ฉลามพันธุ์นี้ไม่ค่อยจะดุเท่าไหร่ แต่ตอนนี้มันกำลังอยู่ในภาวะตึกเครียดเพราะอาการบาดเจ็บ อะไรก็อาจเกิดขึ้นได้ แต่เราให้อาหารมันจนอิ่มก่อน เราจึงปลอดภัย” Thomas กล่าว หลังจากช่วยเหลือเสร็จ พวกเขาก็พยายามกลับไปเช็คว่าเจ้าฉลามตัวนี้เป็นอย่างไรบ้าง ดูเหมือนว่ามันจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะ นับถือในความมีน้ำใจและความใจกล้าของพวกเขาเลย ก็แอบคิดไม่ได้ว่า ถ้าเป็นเรา เราจะกล้าลงไปช่วยมั้ย สุดยอดจริงๆ ฮะ!!…
-
ผาหิน Azure Window สถานที่ถ่ายทำเรื่อง GOT ได้ถูกธรรมชาติเรียกคืนกลับไปแล้ว!!
บางครั้งธรรมชาติก็ไม่ได้เป็นแค่ผู้สร้างสรรค์เพียงอย่างเดียว แต่ก็ยังคงเป็นผู้ทำลายอีกด้วย… หน้าผาหิน Azure Window สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศมอลตา และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำของซีรี่ย์ชื่อดังอย่างเรื่อง Game of Thrones ด้วย แต่ล่าสุดเจ้าแง่งหินที่แสนงดงามนี้ได้พังทลายลงไปในทะเลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนนักธรณีวิทยาได้ประกาศเตือนว่าโครงสร้างของหน้าผาแห่งนี้ เพราะมันจะถูกกัดกร่อนลงไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเมื่อปีที่ผ่านมาก็ได้มีการห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปบนยอดของหน้าผานั้นแล้ว และในที่สุดมันก็เป็นอย่างที่นักธรณีวิทยาได้สันนิษฐานเอาไว้ เมื่อช่วงเช้าของวันพุธที่ผ่านมาเจ้า Azure Window ได้พังทลายลงไปนอนจมอยู่ที่ก้นทะเลที่อยู่ต่ำลงไปกว่า 100 เมตร ท่านนายกรัฐมนตรีของประเทศมอลตา นาย Joseph Muscat ได้อธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้า และทำให้ใจสลาย “พวกเรารู้อยู่แล้วว่าสักวันหนึ่งหน้าผาแห่งนี้จะต้องถล่มลงมาอย่างแน่นอน แต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ มันน่าเศร้ามากเมื่อวันนั้นมาถึง” Azure Window เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศมอลตา ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนที่นี่มากกว่า 1 ล้านรายเลยทีเดียว นอกจากนี้ทางรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม นาย Jose Herrera ก็ได้ให้การณ์อีกว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความเสียหายในครั้งนี้ก็คือสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบๆ หน้าผา ไม่ว่าจะเป็นกระแสลมที่รุนแรง คลื่นที่ซัดเข้ามา เป็นต้น “เมื่อธรรมชาติสร้างมา…
-
สุดประทับใจ!! คุณตาวัย 74 ลุกขึ้นมาแต่งตัวเป็นผู้หญิง เพียงเพราะอยากให้แม่มีความสุข
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Odditycentral ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวสุดประทับใจของ Li Yinglai คุณตาชาวจีนวัย 74 ปี ที่ได้ลุกขึ้นมาแต่งองค์ทรงเครื่องผู้หญิง เพื่อมอบความสุข และสร้างสีสันให้แก่ผู้คนที่มาเยือนสวนสาธารณะ Green Lake Park ในเมืองคุณหมิง ทุกๆ วันหยุดสุดสัปดาห์ จากการรายงานระบุว่า สาเหตุที่คุณตาท่านนี้ได้ลุกขึ้นมาแต่งตัวใส่เสื้อผ้าเป็นผู้หญิงนั้น ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างสีสัน และอยากให้ผู้คนสนใจอย่างเดียว แต่ลึกๆ แล้วเขาทำไปเพราะอยากให้แม่ในวัย 96 ปีได้มีความสุข ทางด้าน คุณตา Li ได้ออกมาเผยว่า แม่ของเขานั้นอยากได้ลูกสาว แต่ทว่าลูกของเธอทั้ง 2 คน กลับเป็นลูกชาย และเมื่อเขาอายุได้ 60 ปี คุณตาก็ได้ตัดสินใจที่จะทำความฝันของแม่ให้เป็นจริงขึ้นมา โดยเขาได้เริ่มใส่เสื้อผ้าผู้หญิง ใส่ชุดกี่เพ้า สวมรองเท้าส้นสูง แต่งหน้า-แต่งตาให้ดูมีสีสัน แล้วเดินออกไปยังสวนสาธารณะ พร้อมกับโชว์ท่าเต้นตลกๆ ให้ผู้คนได้รับชม แน่นอนว่าสิ่งที่ได้รับกลับมาคือ ผู้คนเหล่านั้นรู้สึกประทับใจกับการแสดงโชว์ของเขาเป็นอย่างมาก “ฉันทำอย่างนี้ให้กับแม่ของฉัน แม่ของฉันไม่มีลูกสาว…
-
นักศึกษาสาวจีนขี้เกียจเดินลงหอ ใช้ผ้าปูที่นอนทำเป็นเชือก ดึงกล่องอาหารขึ้นไปบนห้อง!!
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Shanghaiist มีรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักศึกษาสาวจากมหาวิทยาลัย Henan University of Technology ใน ขี้เกียจที่จะลงมารับประทานอาหารที่ชั้นล่างของหอพัก ด้วยเหตุนี้ เธอจึงได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิด โดยการตัดปัญหาจากการเดินลงหอพักชั้น 6 และใช้ผ้าปูที่นอนมาผูกเป็นเชือก เพื่อให้คนขายสามารถผูกกล่องอาหารเอาไว้ที่ปลายผ้า แล้วค่อยๆ ดึงกลับขึ้นไปยังห้องของเธอ หลังจากที่ภาพดังกล่าวได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมาก บ้างก็บอกว่า “ไม่มีลิฟท์ในหอพักเลยหรอ” “เธอเป็นคนที่ขี้เกียจมาก” “คนที่อยู่ใต้ตึก น่าจะตัดเชือกเพื่อที่จะได้ขโมยอาหารของหล่อนมาซะเลย” ขณะเดียวกัน ดูเหมือนไอเดียของแม่นักศึกษาสาวจีนคนนี้จะได้รับความสนใจจากนักศึกษาคนอื่นๆ ไม่น้อย แถมยังทำให้พวกเขาได้พากันทำตามบ้าง ซึ่งบางคนก็เปลี่ยนจากการใช้ผ้าปูที่นอนเป็นเชือกแทน ส่วนนี่เป็นแผนภาพจำลองการส่งของ ไอเดียบรรเจิดเกิ๊นนน จนทำให้เพื่อนนักศึกษาคนอื่นๆ ขอทำบ้าง ก็เป็นไอเดียที่ชวนขำไม่น้อย เฮ้อ…คิดได้ยังไงกันเนี่ย ฮ่าๆ ที่มา : shanghaiist
-
ปรบมือดังๆ ให้กับ Smudge สุดยอดแมวฮีโร่ ที่รีบเข้าไปช่วยเด็กน้อยจากการถูกรังแก
บางคนอาจจะมองว่าแมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่วันๆ ไม่ทำอะไรเลย มัวแต่สร้างวีรกรรมแสบๆ ที่ชวนปวดหัวได้ทั้งวัน แต่สำหรับ Smudge แมวเหมียวที่แสนน่ารักตัวนี้ บอกเลยว่า มันไม่ใช่แมวธรรมดาๆ ทั่วไป แต่มันคือแมวฮีโร่ที่สามารถช่วยเด็กน้อยจากการถูกรังแกได้ สุดยอดเลย!! โดยเรื่องของเรื่องมันได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อ Sarah Fenton ช่างทำผมที่อยู่ภายในห้องครัว กำลังเฝ้ามองเด็กผู้ชายตัวน้อยสองคนเล่นกันอยู่ด้านนอก และแล้วเธอก็ได้สังเกตเห็นเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ๆ ทางด้าน Sarah ได้เผยว่า “ฉันเฝ้าดู Ethan ในวัย 5 ขวบ และ Ashton ในวัย 2 ขวบ กำลังเล่นฟุตบอลอยู่ที่สวน ต่อมาก็เห็นเด็กผู้ชาย 3 คน ที่สูงกว่า Ethan เดินผ่านเข้ามา และฉันก็ได้ยินพวกเขาร้องเรียกชื่อ Ethan ถึงสองครั้ง แต่ Ethan ไม่สนใจ และยังคงเล่นกับ Ashton…. จนในที่สุดพวกเขาก็ตะโกนใส่ Ethan อีกครั้ง แล้วเด็กผู้ชายคนหนึ่งก็พูดว่า ทำไม เธอไม่ฟังฉันเลย…
-
ทหารอิรักพบอุโมงค์ใต้สุสานเก่าแก่หลังถูก ISIS ระเบิด เต็มไปด้วยวัตถุโบราณอายุ 3,000 ปี
การค้นพบหลักฐานในประวัติศาสาต์มักมีความสำคัญกับคนในยุคปัจจุบันเสมอ เพราะมันทำให้คนสมัยใหม่ได้เรียนรู้เรื่องราวในอดีตผ่านหลักฐานเหล่านั้น เช่นเดียวกับการค้นพบนี้ ซึ่งเป็นอุโมงค์ใต้ดินซึ่งเต็มไปด้วยงานศิลปะที่สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตของคนในอดีต จนบางเรื่องก็ถือเป็นหลักฐานชิ้นใหม่เลยก็ว่าได้ เมื่อไม่นานมานี้กลุ่ม ISIS ได้ระเบิดสถานที่ต่างๆ นับไม่ถ้วน และหนึ่งในนั้นคือสุสาน Nabi Yunus จังหวัด Nineveh ในประเทศอิรัก ต่อมาเมื่อสงครามสงบลง หน่วยรักษาความปลอดภัย Mosul ก็ได้มีการเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย จนได้พบกับสิ่งที่น่าทึ่ง สิ่งที่ว่านี้คือ อุโมงค์ใต้ดิน ซึ่งอยู่ภายใต้สุสาน Nabi Yunus โดยภายในอุโมงค์นั้นเต็มไปด้วยสิ่งประดิษฐ์ ข้าวของเครื่องใช้ ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 3,000 ปีที่แล้ว Layla Salih ผู้รับผิดชอบโบราณวัตถุในจังหวัด Nineveh บอกว่า “จริงๆ แล้วหากมีอุโมงค์อยู่ใต้ดินเช่นนี้ มันมีโอกาสที่จะยุบลงได้ทุกเมื่อ แต่น่าแปลกที่อุโมงค์นี้อยู่ได้นานขนาดนี้” เธอยังบอกอีกว่า “สำหรับวัตถุโปราณที่พบนี้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นสิ่งของที่ถูกสร้างขึ้นมาในยุค Assyrian และมาจากพระราชวังของกษัตริย์ Esarhaddon ซึ่งปกครองเมืองในช่วง 681-669 ปีก่อนคริสต์ศักราช” สำหรับอุโมงค์นี้คงไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อหลบภัย แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นพระราชวังที่มีอายุ 2,600 ปี ที่ถูกฝังอยู่ในใต้ดินนี้ และได้มีสภาพเสื่อมโทรมลงไปจนมีสภาพคล้ายอุโมงค์ นอกจากนี้ยังพบภาพศิลปะที่ผนังอุโมงค์…
-
20 สตรีผู้มีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์ เปลี่ยนภาพลักษณ์ของผู้หญิงจนโลกต้องจดจำ!!
ผู้หญิงอาจจะถูกมองว่าเป็นเพศที่อ่อนแอจนไม่สามารถจะเป็นผู้นำได้ ทำให้ในอดีตผู้หญิงมักถูกจำกัดเสรีภาพ โดยเฉพาะสิทธิทางการเมือง ซึ่งในปัจจุบันนี้ผู้หญิงก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้นบนเวทีโลกแล้ว แต่สำหรับในอดีตนั้น เราแทบจะไม่ค่อยได้รู้ ได้ยิน หรือได้เห็นว่าผู้หญิงนั้นมีบทบาทสำคัญที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร และเนื่องจากวันที่ 8 มีนาคม เป็นวันสตรี #เหมียวขี้ส่อง ก็อยากจะพาทุกท่านมารู้จักกับพวกเธอเหล่านี้ ผู้ที่ฉีกกฏดังกล่าวและได้พิสูจน์ความสามารถของผู้หญิงด้วยการเปลี่ยนประวัติศาสตร์โลกได้จนกลายเป็นคนที่โลกต้องจดจำ 1. Irena Sendlerowa ผู้หญิงที่แอบพาเด็กยิวราว 2,500 ออกจากกรุง Warsaw Ghetto ในขณะที่ถูกนาซียึดครองช่วงสงครามโลกครั้ง 2 2. Malala Yousafzai นักเคลื่อนไหวเพื่อสังคมวัย 19 ปี เป็นชาวปากีสถานที่เรียกร้องสิทธิให้กับเด็กผู้หญิงทั่วโลก จนทำให้เธอถูกผู้ก่อการร้ายยิงเข้าที่ศีรษะ แต่รอดมาได้จนได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ 3. ผู้หญิงหนึ่งเดียวที่กล้าโจมตีกลุ่มลัทธินาซีด้วยกระเป๋าถือในเมือง Växjö ประเทศสวีเดน 4. Marie Curie นักวิทยาศาสตร์ชาวโปแลนด์ผู้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการทำงานด้านกัมมันตรังสี จนกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์และเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้ง ในสาขาเคมี 5. Margaret Heafield หญิงสาวผู้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์สำหรับโครงการ NASA’s Apollo…
-
เจ้าหมาตาบอดพลัดหลงจากบ้านไปนานกว่า 1 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านร่วมกันตามหาจนพบ!!
เจ้าหมาพันธุ์ Labrador ตาบอดได้พลัดหลงออกจากบ้านไปนานกว่า 1 สัปดาห์เต็มๆ ถูกพบตัวแล้วอยู่บนภูเขาที่อยู่ห่างออกจากบ้านไปไม่ไกล… คุณ Beth Cole ผู้เป็นเจ้าของเล่าว่าเขาและครอบครัวเข้านอนไปในคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ในบ้านที่ตั้งอยู่ที่เมือง Boulder Creek รัฐ California ขณะที่เจ้าหมา Sage สายพันธุ์ Labrador วัย 12 ปีหายตัวไป แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือตาของมันบอดสนิทเนื่องมาจากโรคต้อหิน ด้วยความเป็นห่วงคุณ Cole และครอบครัวออกตามหาซะทั่ว นอกจากนี้ก็ติดต่อไปยังศูนย์ชุมชนเพื่อให้พวกเขาช่วยออกตามหาด้วย หลายชั่วโมงผ่านไปจนทุกคนเริ่มจะตัดใจยอมแพ้… เพราะนอกจากปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นของมัน ก็มีรายงานเข้ามาอีกว่ามันได้หลงเข้าไปในภูเขาที่เป็นเขตที่อยู่อาศัยของสิงโต คุณ Cole เล่าว่า “เพื่อนบ้านของเรา และสมาชิกของกลุ่มชุมชนคนอื่นๆ ช่วยกันออกตามหาทั้งกลางวันและกลางคืนเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ พวกเราตามหามันทุกที่แต่ก็ไม่เจอ” ขณะเดียวกันนั้นเองนักผจญเพลิงชื่อว่านาย Dan Estrada กำลังอยู่ในช่วงพักร้อน และชวนเพื่อนก็คือนาย Victor Lopez ออกไปทำกิจกรรมปีนเขากันที่บริเวณใกล้ๆ กับที่เกิดเหตุเจ้า Sage…
-
หนุ่มวัย 20 ปีที่ป่วยเป็นมะเร็ง โพสต์ข้อความเล่าถึงมุมมองต่อชีวิต ก่อนจะจากไป…
เรื่องราวความประทับใจของชายหนุ่มที่ป่วยเป็นมะเร็งรายหนึ่ง แม้ว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองใกล้จะจากโลกนี้ไปเต็มทีแล้ว แต่ก็ยังลุกขึ้นมหาเงินระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งคนอื่นๆ Pablo Ráez หนุ่มวัย 20 ปี เป็นชาวเมือง Marbella ประเทศสเปน เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย) เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมานี้เอง หลังจากที่ทำการปลูกถ่ายไขกระดูก และทำคีโมไม่กี่ครั้ง ก็หายกลับมาเป็นปกติ หนุ่ม Pablo กำลังจะได้กลับมาใช้ชีวิตแบบคนปกติธรรมดาอีกครั้ง แต่โชคร้ายที่มันกลับมาทำร้ายเขาอีก และดูเหมือนว่ารอบนี้จะรุนแรงและหนักหน่วงกว่าครั้งที่ผ่านมามาก แต่แทนที่เขาจะยอมแพ้ เขากลับลุกขึ้นมาทำบางอย่างที่แตกต่างออกไป เขาได้ริเริ่มแคมเปญผ่านทางแฮชแท็ก #retounmillón (#onemillionchallenge) โดยจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อีกไม่กี่เดือนเพิ่มยอดผู้บริจาคไขกระดูกสันหลังจากจำนวน 230,000 คนให้กลายเป็นจำนวน 1,000,000 คนก่อนที่เขาจะจากไป ในช่วงต้นปี 2017 เมื่อรู้ว่าการเดินทางของตัวเองใกล้จะจบลง ก่อนที่มันจะถึงปลายทางพ่อหนุ่ม Pablo ก็ได้โพสต์ข้อความถึงแพนๆ ผ่านทางอินสตาแกรมว่า “ผมคิดอะไรบางอย่างได้ และคิดว่าอยากจะเล่าให้ทุกคนได้ฟัง พวกเราอาศัยอยู่ในสังคมที่ทำงานเพื่อเงิน นั่นเป็นเป้าหมายของการมีชีวิตอยู่ เราเปรียบเสมือนเป็นทาสของเงินยอมทำทุกอย่างเพื่อมัน” “โลกของเราค่อยๆ ตายลงอย่างช้าๆ ด้วยฝีมือของพวกเราเอง พวกเราทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย…
-
รู้จัก “Sarah is Missing” เกมสุดสยองที่ให้เราตามหา “ซาร่า” หญิงสาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ
ถ้าใครกำลังหาเกมแนวสยองขวัญไขปริศนาสนุกๆ เล่น วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ “Sarah is Missing” ผลงานเกมจากบริษัท Monsoonlab เกมนี้มาให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกัน “Sarah is Missing” เป็นเกมที่จำลองว่าเราสามารถเก็บโทรศัพท์มือถือของหญิงสาวชื่อว่า “ซาร่า” ได้ ซึ่งตัวเจ้าของนั้นได้หายตัวไปอย่างลึกลับ เราจึงต้องปะติดปะต่อข้อมูลที่ปรากฎอยู่บนโทรศัพท์ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ อีเมล์ สายโทรเข้าโทรออก รวมทั้งสืบข้อมูลจากเอไอของเครื่องที่ชื่อว่า IRIS (ลักษณะคล้ายๆ Siri) เพื่อที่จะหาค้นหาความจริงว่า ซาร่าหายไปไหน และหายไปได้อย่างไร ลองไปชมเทรลเลอร์ของเกมกันดู น่าเล่นใช่มั้ยล่ะ ใครสนใจก็ลองเล่นเวอร์ชั่นพีซีได้ที่ Itch.io หรือเวอร์ชั่นแอนดรอยด์ที่ Google Play ได้เลยนะฮะ ที่มา Jeremy Ooi
-
สาวพยายามช่วยเหลือ ‘ลูกแมวน้ำ’ ที่กำลังถูกแก๊งวัยรุ่นกลั่นแกล้ง จนโดนต่อยเลือดกำเดาไหล!!
หญิงสาวถูกกลุ่มวัยรุ่นต่อยเข้าที่หน้าอย่างจังหลังพยายามห้ามกลุ่มวัยรุ่นไม่ให้ทรมาณลูกแมวน้ำตัวน้อยที่นอนอยู่บนชายหาด หญิงสาวคนดังกล่าวมีชื่อว่า Sarah Tough วัย 25 ปี เธอถูกต่อยจนได้รับบาดเจ็บ มีเลือดไหลออกมาจากโพรงจมูก หลังจากที่เธอพยายามเข้าไปห้ามแก๊งวัยรุ่นที่กำลังจับลูกแมวน้ำมาฝังลงไปในทรายทั้งเป็น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่หาด Crimond Beach ใกล้ๆ กับเมือง Hartlepool ประเทศอังกฤษ ในวันเกิดเหตุ Sarah ได้พาสุนัขของเธอ เจ้า Tally ออกไปเดินเล่น แต่จู่ๆ ก็พบกับกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังกลั่นแกล้งลูกแมวน้ำอยู่ เธอจึงตัดสินใจที่เข้าไปช่วยเหลือมัน Sarah ได้โพสต์รูปภาพบาดแผลของตัวเองลงบนโซเชียลมีเดียพร้อมกับแคปชั่นว่า “โดนไอพวกกุ๊ยขี้ยาต่อยเข้าที่จมูก เพราะพวกมันกำลังทารุณลูกแมวน้ำอยู่ที่หาด Crimdon Beach ด้วยการกลิ้งมันไปมา ฝังในทราย ปล่อยให้หมาเล่น… ฉันก็เลยเดินเข้าไปบอกพวกเขาว่าให้ออกไปจากตรงนี้ซะ ไม่งั้นจะแจ้งตำรวจ จากนั้นมันก็เดินมาต่อยฉัน” จากความรุนแรงที่เธอได้รับ ก็ทำให้เจ้าลูกแมวน้ำตัวนั้นปลอดภัย อีกทั้ง Sarah ยังเล่าต่อว่าศูนย์คุ้มครองสัตว์ Royal Society for the Prevention of Cruelty to…
-
เจ้าเหมียวหายตัวออกจากบ้านไปนานกว่า 11 ปี ในที่สุดก็ได้กลับมาพบกับเจ้านายคนเดิมอีกครั้ง
T-Shirt เป็นชื่อของเจ้าเหมียวตัวหนึ่ง ได้เข้ามาอยู่ในความดูแลของ Rowan Jones เมื่อตอนที่มันอายุเพียง 6 สัปดาห์ โดยก่อนหน้านี้มันเป็นลูกแมวตัวน้อยของเพื่อนร่วมงานของเขา ซึ่งเธอได้นำมันมาที่ทำงาน เพื่อดูว่ามีใครต้องการอยากจะรับเจ้าเหมียวตัวนี้ไปเลี้ยงหรือไม่ และหลังจากที่ Rowan ได้พบกับมันเขาก็รู้สึกชื่นชอบมันทันที “ฉันตกหลุมรักเจ้า T-Shirt ทันทีที่เห็น เพราะมันเป็นแมวที่น่ารักมาก และในขณะที่วันนั้นเป็นวันสุดท้ายในการทำงานของปี… ดังนั้น ฉันจึงต้องพามันไปเลี้ยงฉลองกับฉัน และดูเหมือนว่าเจ้าเหมียวจะไม่มีปัญหาอะไรเลย แถมยังชอบเข้าไปคลุกคลีกับคนที่บาร์อีกด้วย” Rowan กล่าว T-Shirt เป็นแมวที่ชื่นชอบการผจญภัยเป็นอย่างมาก มันชอบออกไปเดินเล่นนอกบ้าน เพื่อพบปะกับผู้คนในละแวกบ้าน บางครั้งมันก็มักจะออกไปเที่ยวนานเกินไป จนทำให้ Rowan รู้สึกเป็นห่วง แต่สุดท้ายเขาก็พบว่าความจริงแล้วมันกำลังเล่นอยู่กับครอบครัวของเพื่อนบ้าน และด้วยความที่ T-Shirt ไม่ใช่แมวจรจัด ดังนั้น ทาง Rowan จึงต้องสวมปลอกคอให้กับมัน T-Shirt เป็นแมวที่มีอายุประมาณ 1 ปี มันไม่เคยหายตัวออกจากบ้านเป็นเวลานานานเลย จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อมันออกไปเที่ยวนอกบ้านเหมือนทุกวัน หลังจากวันนั้นเจ้า T-Shirt ก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย… ทางด้าน…
-
ช่างภาพสำรวจรูกระต่าย จนนำไปสู่ร่องรอยของ ‘อุโมงค์หลบภัย’ ที่สร้างขึ้นในช่วงสงครามครูเสด
เนื่องจากโลกเรามีมนุษย์อาศัยอยู่หลายยุคหลายชั่วอายุคน จึงทำให้หลักฐานจากอดีตหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันนี้มากมาย อยู่ที่ว่าคนยุคสมัยใหม่จะค้นเจอเมื่อไร อย่างไร สำหรับการค้นพบที่เราจะพาดูในวันนี้คือ อุโมงค์หลบภัยที่คาดว่าสร้างขึ้นในช่วงสงครามครูเสด อายุราว 700 ปี ตั้งอยู่ใน Shropshire จุดเริ่มต้นของการค้นพบถ้ำนี้ เกิดจากรูต่างๆ ที่เหล่ากระต่ายได้ขุดเอา ซึ่งถ้ามองผ่านๆ เราก็คงคิดว่าเป็นรูกระต่ายทั่วไป แต่มีบางคนไม่คิดเช่นได้ จึงได้ตามรูเหล่านี้ไปจนได้พบกับความน่าทึ่งที่ซ่อนอยู่ ช่างภาพ Michael Scott วัย 33 ปี จาก Birmingham เป็นคนที่ค้นพบอุโมงค์ใต้ดินนี้ โดยหลังจากเขาได้ดูวิดีโอในยูทูปเกี่ยวกับร่องรอยทางประวัติศาสตร์ เขาก็ตัดสินใจออกเดินทางเพื่อค้นหามัน เมื่อมาถึงบริเวณที่ดังกล่าว ช่างภาพก็เห็นรูกระต่ายมากมาย “ถ้าคุณคิดว่ามันเป็นแค่รูกระต่าย คุณก็จะเดินผ่านมันไป” Scott บอก แต่ช่างภาพคนนี้ไม่ได้เดินผ่านมันไปเหมือนคนอื่นๆ เขาตัดสินใจตรวจสอบรูกระต่ายเหล่านั้น และตามรูนั้นไป… เดินไปไม่ถึงเมตร Scott ก็พบกับสิ่งน่าทึ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ช่างภาพเล่าว่า “มันมีลักษณะเหมือนวัดใต้ดิน แต่เมื่อผมเดินดูต่อไปเรื่อยๆ ก็พบว่าทางเดินถูกทำเหมือนซุ้ม โดยมีการแกะสลัดเป็นลวดลายต่างอยางสวยงาม” “แต่ถ้ำนี้ค่อนข้างที่จะแคบมากๆ ใครที่ตัวสูงก็ต้องเดินก้มๆ เอา ผมเดินสำรวจอย่างเงียบๆ มีพื้้นบางส่วนที่เฉอะแฉะ เนื่องจากฝนตก แล้วรู้มั้ย ผมเจอกระดูกแห้งในนั้นด้วย” …
-
Yahoo ญี่ปุ่นติดป้ายบอกระดับความสูงของสึนามิบนตึก เพื่อให้คนตระหนักถึงความน่ากลัวของมัน
เราอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของ ‘คลื่นยักษ์สึนามิ’ กันมาบ้างแล้ว ก็อย่างที่รู้กันว่ามันคือคลื่นยักษ์ที่มีพลังทำลายล้างมหาศาล และจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างรุนแรง หลายๆ คนอาจจะคิดว่าที่เป็นเคลื่นสูง คลื่นยักษ์น่ะมันจะสูงซักเท่าไหร่กันเชียว? เอาเป็นว่าคลื่นที่เคยวัดเอาไว้ เมื่อวันที่ 11 เดือนมีนาคมปี 2011 ที่ผ่านมานั้นมีความสูงมากถึง 16.7 เมตรเลยทีเดียว!! บ้านเรือนกว่า 3,500 หลัง และประชากรของเมือง Ofunato ในจังหวัด Iwate อีกกว่า 300 ชีวิต ต้องถูกพรากไปเพราะเจ้าคลื่นยักษ์สึนามิในครั้งนั้น ณ เส้นสีแดงที่ขีดไว้นั้นก็คือความสูงของเจ้าคลื่นยักษ์ลูกดังกล่าว เมื่อช่วงเดือนมีนาคมในปี 2012 ที่ผ่านมาทาง Yahoo ของญี่ปุ่นได้ทำการนำป้ายมาติดเอาไว้ที่ ตึกของบริษัท Sony ใน Ginza ย่านดาวน์ทาวน์ของเมืองโตเกียว โดยมีข้อความว่า “ในทุกๆ ปี เมื่อวันที่ 11 เดือนมีนาคมมาถึงอีกครั้ง เราลองมองย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เมื่อ 6 ปี ก่อน เป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เรียกว่า Great East Japan Earthquake พวกเราได้บอกกับตัวเองว่าเหตุการณ์ภัยพิบัติแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับเราอีกอย่างแน่นอน…
-
Mark Zuckerberg เตรียมเข้ารับปริญญา หลังดรอปออกมาทำ Facebook เมื่อ 12 ปีก่อน
Mark Zuckerberg ถือว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกยุคปัจจุบัน เขาเป็นทั้งซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท Facebook เว็บไซต์โซเชียลมีเดียอันดับหนึ่งของโลกยุคปัจจุบัน แถมมีทรัพย์สินรวมมูลค่าแล้วยังมากกว่า GDP ของประเทศกำลังพัฒนาบางประเทศเสียอีก ซึ่งหนึ่งประวัติส่วนตัวของเขาที่น่าตกใจคือ เขาเรียนไม่จบ โดยเขาลาออกคณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดตั้งแต่ปี 2005 เพื่อทุ่มเทให้กับ Facebook อย่างเต็มตัว (เห็นได้ชัดว่าการลาออกของเขาคุ้มค่าเป็นอย่างมาก) ตลอดหลายปีที่ผ่านมา หลายๆ คนมักนำเรื่องราว Mark ไปกล่าวในเชิงว่า เขาสามารถประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องมีใบปริญญา แต่ทว่าต่อจากนี้ไป เขากำลังจะมีใบปริญญาเป็นของตนเองแล้ว หลังจากดรอปเรียนไป 12 ปี!! แต่เขาไม่ได้กลับไปเรียนหรอกนะ โดยในงานรับปริญญาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดประจำปี 2017 เขาได้รับเชิญให้ไปพูดให้แรงบันดาลใจแก่นักศึกษาจบใหม่ ในขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดก็จะมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากเขาด้วยเช่นกัน ในฐานะบุคคลที่เปลี่ยนโลกด้วยเทคโนโลยี นอกจาก Mark Zuckerberg แล้ว ยังมีบุคคลชื่อดังก้องโลกหลายคนที่ดรอปเรียนมหาลัยแล้วสร้างความสำเร็จด้วยน้ำมือของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น Steve Jobs ที่ลาออกจากวิทยาลัยรีดมาก่อนตั้งบริษัท Apple รวมทั้ง Bill Gates ก็ลาออกจากฮาร์วาร์ดเพื่อก่อตั้ง Microsoft เช่นกัน ทีนี้จะมาอ้างว่ามาร์ก ซักเคอร์เบิร์กไม่มีปริญญาไม่ได้แล้วนะ อิอิ…
-
กลยุทธ์รับมือโจรหื่นของหญิงชราวัย 88 ปี โกหกคนร้ายว่าเป็น HIV จนรอดจากการข่มขืน!!
เดี๋ยวนี้เหยื่อของการข่มขืนไม่ได้มีแค่เด็กและวัยรุ่นเท่านั้น แต่คนชราก็ตกเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความบ้าคลั่งของมนุษย์ที่ไม่มีขีดจำกัด ดังนั้นในฐานะผู้หญิง นอกจากรอพึ่งกฏหมายแล้วเราก็ต้องมีวิธีเอาตัวรอดเช่นกัน แน่นอนว่าถ้าวัดกันด้วยกำลัง ผู้หญิงน้อยคนนักที่จะสู้ผู้ชายได้ ทีนี้คงต้องหาวิธีอื่นจัดการแทนซะแล้ว Helen Reynolds หญิงชราวัย 88 ปี เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน แต่เธอมีวิธีรับมือที่เฉียบขาด จนทำให้เธอรอดมาจาการข่มขืนครั้งนั้น ในวันที่เกิดเหตุนั้น Helen อยู่ในบ้านเพียงลำพังที่เมืองเชสเตอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย แล้วก็มีชายคนหนึ่งมาหาที่บ้าน โดยทำทีเหมือนเป็นพนักงานของอพาร์มเมนต์ เมื่อได้จังหวะชายคนนั้นก็จับหญิงชรามัดมือเธอด้วยเทปพันสายไฟ!! Helen เล่าให้ฟังว่า “เขาปิดหน้าฉันทุกส่วน ยกเว้นปาก จากนั้นมันก็เอาไอ้นั่นยัดใส่ปากฉัน…” “ฉันเลยพยายามพูดกับมันว่า ‘เออดี แบบนี้แหละ เอาเลย’ ‘ฉันจะบอกอะไรให้เอาบุญนะ ฉันเป็น HIV และสามีฉันก็ตายด้วยโรคนี้แหละ’ ซึ่งนั่นเป็นแค่คำโกหกเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น” หลังจากได้ยินแบบนั้น ชายคนนั้นก็วิ่งออกจากห้องทันที หญิงชราคิดว่า คงเพราะคำพูดนั้นแหละที่ช่วยให้เธอรอดมาได้ เมื่อถาม Helen ว่า มีอะไรจะบอกกับคนร้ายคนนั้นมั้ย? เธอตอบว่า “ฉันไม่มีคำพูดดีๆ จะพูดกับเขาหรอก นอนจากให้เขาไปนอนในคุกและให้เขาชดใช้กรรมอยู่ในนั้น” แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข่าวคราวว่าโจรคนนั้นถูกจับหรือถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด… แต่เจ้าหน้าที่ได้จับคนร้ายอีกคนหนึ่งที่ก่อเหตุคล้ายกันนี้เมื่อ 4 วันก่อน…
-
โชคชะตาโคจรให้น้องเหมียวถูกทิ้งมาอยู่กับหมู มนุษย์จึงช่วยหาบ้านใหม่ให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน
การจะเป็นเพื่อกับใครสักคน ใครคนนั้นไม่จำเป็นต้องมีอะไรเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นคนดีที่สุดแต่แค่เราเข้าใจกันและกัน มิตรภาพที่สวยงามก็จะเกิดในความเป็นเพื่อนของเรา ไม่ใช่มนุษย์เท่านั้นแต่สัตว์เองก็เข้าใจเรื่องพวกนี้ดี เหมือนแมวและหมูที่โคจรมาเป็นเพื่อนรักกัน เพราะมันต่างเข้าใจกันและกันแม้มันจะเป็นสัตว์คนละชนิดกันก็ตาม เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในเมือง Ontario ประเทศแคนาดา เมื่อเจ้าของของ Nelly ต้องย้ายบ้านและเธอไม่สามารถจะพาเจ้าเหมียวตัวนี้ไปด้วยได้ มันจึงถูกทิ้งในฟาร์มเพียงลำพัง แต่นอกจากมนุษย์แล้ว เจ้าเหมียวยังมี Pedro ซึ่งเป็นหมูและเพื่อนสนิทของมัน พวกมันต่างก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกัน เมื่อเจ้าของคนใหม่ ซึ่งเป็นคนซื้อฟาร์มนี้ไว้ได้มาเห็น Nelly อยู่กับหมู ในพวกเขาเลยงงว่าต้องทำยังไงกับเจ้าเหมียวตัวนี้ เพราะก่อนหน้านี้พวกเขารู้แค่ว่ามีหมูอยู่ในฟาร์ม แต่ในส่วนของแมวนั้นก็เพิ่งจะรู้วันนี้เนี่ยแหละ Jackson ซึ่งเป็นลูกชายของครอบครัวใหม่นี้จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจาก Ralphy’s Retreat ในเมือง Norfolk County ตั้งแต่นั้นมาทางครอบครัวกับศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ก็ช่วยกันดูแล Nelly ให้ได้อยู่ในฟาร์มต่อไป โดยมีเจ้าหมู Pedro คอยเป็นเพื่อนเล่นกับมัน และหมูมักจะให้แมวขี่หลังเสมอด้วย แต่แล้วในปีนี้เอง ทางครอบครัวใหม่นี้ก็จำเป็นต้องย้ายบ้านไปอีก และพวกเขาไม่อยากให้ Nelly ต้องถูกทิ้งเหมือนอย่างที่ผ่านมาอีกแล้ว ที่สำคัญไม่อยากให้มันต้องแยกกับ Pedro ด้วย Kara Burrow ผู้ก่อตั้งศูนย์ดูแลสัตว์ จึงต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหาบ้านที่ดีที่สุดสำหรับคู่หูหมูและแมว และต้องเป็นที่ที่พวมมันสามารถอยู่ด้วยกันได้ด้วย โชคดีที่ Burrow ทำงานช่วยเหลือสัตว์กว่า 10 ปี…
-
‘อิเกีย’ ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ใหม่เรียบง่ายแต่แข็งแรง ประกอบเองได้ ลงตัวทุกองศา
เฟอร์นิเจอร์ของอีเกีย (IKEA) มักมีชื่อเสียงในด้านความทันสมัยและมีมาตรฐาน จนกลายเป็นที่รู้จักทั่วโลก แม้แต่บ้านเราเองยังมียี่ห้ออีเกียอยู่เลย แต่แม้จะประสบความสำเร็จแล้ว อีเกียก็ยังคงมีความสร้างสรรค์ออกมาให้เราได้เห็นผ่านงานเฟอร์นิเจอร์เสมอ เพื่อจัดหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า อย่างล่าสุดทางอีเกีย ก็ได้ทำเฟอร์นิเจอร์แบบเรียบง่ายแต่มีความแข็งแรง เพราะมันคือเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถถอดหรือประกอบได้ด้วยเอง เฟอร์นิเจอร์ชุดใหม่นี้ เป็นชุดโต๊ะ Lisabo ที่ได้มีการทำช่องไว้ให้แล้ว หน้าที่ของคุณที่เหลือก็ทำการแค่ประกอบ ต่อชิ้นส่วนต่างๆ ให้เข้าที่โดยไม่ต้องออกแรงมาก และไม่ต้องกลัวว่ามันจะล้มหรือพังง่าย เพราะมันออกแบบให้มีความแข็งแรง ทนนาน ไม่พังง่ายแน่นอน ประกอบเฟอร์นิเจอร์ง่ายๆ แค่เลื่อนให้เข้าที่ ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์อื่นในการประกอบ ประหยัดทั้งเงินทั้งเวลา คุ้มไปอีก . . จริงๆ แล้วเมื่อปี 2014 อีเกียทำตู้ไม้ที่ไม่ต้องใช้สกรู ไม่ใช้ตะปู ซึ่งมันได้รับผลตอบรับดีมาก พวกเขาจึงเดินหน้าทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ในลักษณะเดียวกันจนประสบความสำเร็จ แน่นอนว่า ในอนาคตข้างหน้าคงไม่ได้มีแค่ตู้หรือโต๊ะ แต่คงจะมีเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ด้วยเช่นกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์เรา . . . แม้จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ แต่ก็จะมีการใส่แผ่นโลหะเล็กๆ ด้วยในส่วนต่างๆ เพื่อให้แต่ละชิ้นส่วนยึดกันได้แน่น…
-
หญิงสาวสุดเนียน ขอให้ Ed Sheeran เซ็นรับรองจดหมาย เพื่อจะได้ไปโรงเรียนสายวันถัดไป
คุณเคยมีประสบการณ์ไปโรงเรียนสายเพราะว่าคืนก่อนหน้านั้นต้องไปติดตามผลงานของศิลปินที่ชอบหรือเปล่า แม้จะบอกว่าการเรียนสำคัญ แต่การติ่งก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกัน ซึ่งเหตุผลดังกล่าวจะขอวิงวอนให้อาจารย์เข้าใจก็คงเป็นไปไม่ได้ ล่าสุด หญิงสาวชาวอังกฤษเกิดหัวหมอ ได้เขียนจดหมายลาแล้วแอบเนียนให้ศิลปินคนโปรดของเธอเซ็น เพื่อที่เธอจะได้ไม่โดนลงโทษ หากไปโรงเรียนสายในวันถัดไป เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา หญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่า Sucy เธอได้ไปชมคอนเสิร์ตของศิลปินคนโปรดของเธอ Ed Sheeran ซึ่งกว่าคอนเสิร์ตจะจบจบก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว ด้วยความที่เกรงว่าอีกวันหนึ่งจะไปโรงเรียนสาย ระหว่าง Ed กำลังแจกลายเซ็นหลังคอนเสิร์ตเลิกนั้นเอง เธอจึงแอบนำหนังสือรับรองที่เธอพิมพ์เองมาให้ Ed เซ็นให้เพื่อให้เธอสามารถนำไปอ้างกับโรงเรียนได้ว่าเธอไปโรงเรียนสายเพราะอะไร ใจความจดหมายเขียนว่า “เรียนอาจารย์ของ Suzy “ผมต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ Suzy ต้องขาดเรียน หรือไปโรงเรียนสาย หรือคุยเรื่องราวเกี่ยวกับผมทั้งวัน กรุณาให้อภัยเธอด้วย เพราะว่าผมสำคัญกว่าอะไรทั้งหมดยังไงล่ะ ด้วยความเคารพ Ed Sheeran ปล. จริงๆ ผมก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรหรอก เดี๋ยวผมก็ทำอีกแน่นอน” เหตุการณ์การเซ็นรับรองให้แฟนคลับ อะไรจะง่ายดายขนาดนี้ ฮร่า (คลิป) ไม่มีรายงานว่าเธอได้นำจดหมายดังกล่าวไปใช้จริงๆ หรือไม่ แต่ดูแล้วอาจารย์ไม่น่าจะรับเป็นข้ออ้างได้นะฮาาาา…
-
พี่ชายแกล้งน้องสาว เปลี่ยนปลาทองให้เป็นแครอท ผ่านไป 3 วันน้องก็ยังไม่รู้ว่าปลาหายไป!?
เราอาจจะเคยเห็นการแกล้งคนแปลกๆ ฮาๆ กันในอินเตอร์เน็ตมานักต่อนักแล้ว แต่ครั้งนี้ขอบอกเลยว่ามันเป็นอะไรที่แบบว่า เป็นการแกล้งที่สมบูรณ์แบบ ชนิดที่ว่า ‘เหยื่อ’ ก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่าโดนเข้าแล้ว เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า Samuel Annis ได้วางแผนที่จะแกล้งน้องสาวของตัวเองเมื่อไม่กี่วันก่อนด้วยการเปลี่ยนปลาทองสุดรักของเธอให้กลายเป็นแครอทแทน เจ้าปลาทองบุ๋งๆ จากวันนี้เอ็งจะต้องไปอยู่ที่บ่อใหม่ชั่วคราวก่อนนะจ๊ะ จากนั้นก็ให้เจ้าแครอทสองตัวเข้าไปอยู่แทน หลังจาเวลาผ่านล่วงเลยไป 3 วัน ก็พบว่าน้องสาวของตัวเองก็ยังไม่รู้สึกตัวว่าปลาทองสุดรักของตัวเองได้กลายเป็นแครอทแล้ว นาย Samuel ก็เลยนำวีกรรมการแกล้งน้องสาวของตัวเองไปโพสต์ลงในทวิตเตอร์ พร้อมกับใส่แคปชั่นว่า “ผ่านไปแล้ว 3 วันตั้งแต่ผมเอาแครอทไปไว้แทนที่ปลาทองของน้องสาว” ทำให้มีชาวเน็ตมากมายให้ความสนใจจนมียอดไลค์พุ่งสูงขึ้นไปถึง 200,000 ครั้ง และรีทวีตไปอีก 61,800 ครั้งเลยทีเดียว!! ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนต่างก็สงสัยว่าแล้วปลาทองตัวจริงล่ะ? มันไปอยู่ที่ไหนกัน? ยังปลอดภัยดีไหม? เขาก็บอกว่ามันปลอดภัยดีอยู่ในตู้ปลาที่ห้องของฉันนี่แหละ มีชีวิตดีแบบสุดๆ บ้างก็บอกว่าอยากให้อัพเดตเหตุการณ์ต่อไปอีก นาย Samuel ก็ตอบกลับมาว่าผ่านไป 4 วันแล้วเธอก็ยังไม่รู้ ชาวเน็ตอีกจำนวนหนึ่งก็มาจวกน้องสาวของเขาว่าเธอไม่ควรได้รับแม้แต่แครอทด้วยซ้ำ ปลาเองก็เช่นกัน เธอไม่ได้ให้อาหารมันเลยเหรอเนี่ย?? …
-
แห่แชร์ภาพเรือฝ่าคลื่นมรสุม คิดไปไกลซะท่ามกลางมหาสมุทร ที่แท้เป็นเรือข้ามฟาก
การออกเรือไปในท้องทะเลที่กว้างใหญ่นั้นเรามักจะเคยเห็นภาพอยู่บ่อยๆ ว่ามันจะต้องเจอกับความอ้างว้าง ความรุนแรงของคลื่น และลมมรสุมที่พัดพาเข้ามาจนทำให้เรือต้องโคลงเคลงไปมาดูน่ากลัว หากเพื่อนๆ นึกภาพไม่ออกล่ะก็ลองชมภาพถ่ายของนาย Haig Gilchrist ที่เป็นทั้งลูกเรือและช่างภาพคนนี้ดู เป็นภาพของเรือที่กำลังเผชิญกับมรสุมคลื่นยักษ์ที่ประเทศออสเตรเลีย แต่ภาพของมันเหมือนว่าเรือกำลังล่องลอยอยู่ใจกลางมหาสมุทร แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วภาพดังกล่าวถูกถ่ายขึ้นที่บริเวณอ่าวซิดนีย์เท่านั้น ไม่ได้ออกจากฝั่งไปไกลเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าน้ำทะเลที่อยู่ในอ่าวจะสงบนิ่ง แต่ถ้าเกิดมีคลื่นลมแรงขึ้นมาเมื่อไหร่ล่ะก็อาจทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ได้ด้วยเช่นกัน เขาได้ทำการนำภาพดังกล่าวไปอัพลงบนอิสตาแกรม และก็มีผู้คนมากมายให้ความสนใจ เพราะคิดว่าเขาทำงานเป็นกะลาสีเรือที่ออกไปล่องอยู่ท่ามกลางทะเลอันไกลโพ้น แต่หารู้ไม่ว่ามันเป็นแค่เรือข้ามฟากเท่านั้น… แหม่ นี่ขนาดเป็นอ่าวที่ดูสงบเงียบ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีลมแรงขึ้นมาก็ทำให้ทะเลคลั่งขึ้นมาได้เหมือนกัน น่ากลัวจริงๆ โถ่ ไอ้เราก็นึกว่าเป็นเรือเดินสมุทรที่ท่องไปในทะเลไกลโพ้นซะอีกปั๊ดโถ่!! ที่มา : boredpanda
-
เคยเห็นกันไหม คลิปจับปลามาแล่กันสด ๆ แต่ทำไมเนื้อปลาเป็น “สีฟ้าน้ำทะเล” ซะงั้น!?
ปกติถ้าเรานึกถึงเนื้อปลา เราจะนึกถึงเนื้อปลาสีแดง ส้ม หรือ ขาวเป็นสีแรกๆ ใช่มั้ยล่ะ แต่เพื่อนๆ เชื่อหรือไม่ว่าในโลกของเรามีปลาที่มีเนื้อสีฟ้าด้วยนะ เรียกว่าพลิกตำราความรู้ควมเชื่อของเราไปอีกด้านหนึ่งเลยทีเดียว จะเป็นยังไง เราไปชมพร้อมๆ กันเลย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคุณ Jim Russell ได้โพสต์คลิปวิดีโอสุดประหลาดผ่านไอจี @bigjimspearo เมื่อพวกเขาได้ดำน้ำลงไปจับปลาลิงคอดตัวหนึ่ง จากนั้นก็ได้ทำการแล่เพื่อประกอบอาหารแบบสดๆ แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ เมื่อพวกเขาแล่เนื้อแล้วนั้น ปรากฎว่าเนื้อของปลากลับมีสีฟ้า ราวกับน้ำทะเลเลยทีเดียว ก่อนอื่นลองไปชมคลิปการแล่ปลาตัวนี้กันดู ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกเข้าชมกว่า 40,000 ครั้ง และมีคอมเมนต์จากชาวเน็ตมากมายตั้งแต่ “ฉันไม่เคยเห็นปลาสีฟ้ามาก่อนเลย” หรือ “พระเจ้า มันเป็นสีฟ้า” หลายคนอาจคิดว่านี่เป็นสิ่งมีชีวิตจากอีกดาวหนึ่งหรือเปล่า ถึงได้ประหลาดแบบนี้ ทางนักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายว่า สีฟ้าดังกล่าวเกิดจากพฤติกรรมการกินของเหล่าปลาลิงคอด ที่กินพืชที่เต็มไปด้วยคลอโรฟิลด์มากเกินไป ซึ่งมีโอกาสราวๆ 20 เปอร์เซ็น ที่พวกมันจะมีเนื้อสีฟ้าน้ำทะเลแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้น สีฟ้าเหล่านั้นอาจหายไปจนหมด เวลาเนื้อถูกนำไปประกอบอาหาร กลายเป็นสีเนื้อปลาแบบปกติที่เรากินกันนี่แหละ แต่..…
-
ส่อง IG ช่างภาพในญี่ปุ่น ถ่ายภาพ “เกียวโต” ได้สวยและแปลกตา จนอยากออกไปเที่ยวตาม!!
พูดถึงเมืองที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่าหลายๆ คนต้องนึกถึง “เมืองเกียวโต” อดีตเมืองหลวงของญี่ปุ่นในยุคโบราณอย่างแน่นอน เพราะเมืองแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมและผังเมืองอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่ใดในญี่ปุ่น (รวมทั้งที่อื่นๆ บนโลกอีกด้วย) ล่าสุดตากล้องชาวตะวันตก Leslie Taylor ที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ได้ปล่อยภาพอีกมุมมองหนึ่งอันแสนงดงามของ “เมืองเกียวโต” ออกมา ซึ่งรับรองว่าถ้าเพื่อนๆ เห็นแล้วจะต้องรู้สึกอยากไปเที่ยวซักครั้งอย่างแน่นอน ศาลเจ้ายาซากะ โดยอุปกรณ์ที่เขาใช้ในการถ่ายภาพอันแสนงดงามเหล่านี้มีเพียงแค่กล้องถ่ายภาพรุ่น Nikon 1 และกล้องจากโทรศัพท์ iPhone ที่เขาใช้งานอยู่เท่านั้น ถนนนิเนนซากะ ภาพถ่ายของเขาได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น “นี่คือเหตุผลที่ฉันอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นซักครั้งในชีวิต” อีกท่านก็กล่าวว่า “ฉันไปญี่ปุ่นมา 6 ครั้ง ฉันยังไม่เคยได้เห็นมุมมองอันสวยงามแบบนี้เลย” ทางเดินเลียบป่าไผ่อายาชิราม่า ลองไปชมผลงานของเขากันเลย แล้วจะรู้ว่าสวยแบบไม่ได้โม้จริงๆ ภูเขาไฟฟูจิ ร้านราเมนในเกียวโต ร้านราเมน วัดอาซาคูสะ กรุงโตเกียว สถานีอุเอโนะ กรุงโตเกียว ทะเลสาบไซโกะ หนึ่งในห้าทะเลสาบที่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิ…
-
รัฐบาลนิวซีแลนด์เตรียมเสนอให้ “บุหรี่ไฟฟ้า” ถูกกฏหมาย ด้วยเหตุผลไม่อันตรายเท่าบุหรี่จริง!??
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้ บุหรี่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ธุรกิจบุหรี่ก็ได้มีการพัฒนาให้มีความทันสมัยขึ้นเช่นกัน จนมาถึงบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังฮอตในขณะนี้ ทั้งนี้บุหรี่ไฟฟ้ายังคงเป็นที่ถกเถียงกันว่า ควรทำให้ถูกกฏหมายหรือไม่? เนื่องจากมีการอ้างว่า มันไม่ได้มีอันตรายต่อสุขภาพ ในขณะที่คนบางกลุ่มยังไม่เห็นด้วยกันเรื่องนี้ แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในงาน Māori Party ของประเทศนิวซีแลนด์ได้มีการพูดถึงบุหรี่ไฟฟ้าในเชิงบวกและควรได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เพราะบุหรี่ดังกล่าวนี้ ‘ไม่ได้ก่อให้เกิดมะเร็งและไม่ก่อให้เกิดโรคอื่นๆ จากการสูบบุหรี่ตัวนี้’ แม้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะมีสารนิโคตินอยู่ แต่มันไม่ได้มีการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ธรรมดา จึงทำให้ผู้สูบไม่ได้สารที่เป็นอันตรายเข้าสู่ร่างกาย Bill English นายกเทศมนตรีของนิวซีแลนด์กล่าวว่า “กฏหมายที่จะทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งถูกหมายนั้น จะยังไม่ถูกนำมาใช้ทันที เพราะตอนนี้มีผู้เสียภาษีจำนวนมากที่ต้องการให้ลดจำนวนบุหรี่ลง แต่ผ่านมาพบว่าธุรกิจบุหรี่ยังคงทำรายได้ค่อนข้างมาก” “เราจึงต้องคิดทบทวนอย่างรอบคอบในเรื่องนี้ เนื่องจากถ้าพูดกันตามตรงแล้วยังไม่มีการวิจัยชัดเจนว่า บุหรี่ไฟฟ้าจะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวหรือไม่” ในประเทศนิวซีแลนด์นั้น ปัจจุบันสารนิโคตินที่มีอยู่ในบุหรี่ไฟฟ้านั้นต้องนำเข้าต่างหากสำหรับคนที่ต้องการใช้เองหรือใช้เฉพาะทาง แต่ในเชิงการค้านั้นไม่อนุญาตให้จำหน่ายไม่ว่าจะกรณีไหนก็ตาม อย่างไรก็ตาม คาดว่านิวซีแลนด์จะมีการเปลี่ยนในเร็วๆ นี้ โดยจะรัฐบาลจะยื่นข้อเสนอให้มีการขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกต้องตามกฏหมาย แต่กฏหมายดังกล่าวนนี้จะผ่านหรือไม่ หรือจะเป็นไปในทิศทางไหนคงต้องติดตามกันต่อไปนะคะ . แล้วเพื่อนๆ ละคะ มีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้? ที่มา newshub
-
คลิปจำลองภาพที่ผู้ใช้สารเสพติด LSD สัมผัสได้ มาดูว่าพวกเขาจะมองเห็นอะไรบ้าง!?
LSD เป็นสารเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงที่มีฤทธิ์หลอนประสาท ส่งผลทำให้ผู้เสพมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งผู้ที่ได้ทดลองการเสพยาชนิดนี้ จะเห็นภาพหลอนในอดีต รวมถึงทำให้หัวใจเต้นแรงอีกด้วย โดยก่อนหน้านี้เราจะเห็นได้ว่ามีศิลปินหลายคนที่ได้ออกมาทดลองเสพยาชนิดนี้ หนึ่งในนั้นคือศิลปินสาวรายหนึ่ง ที่ได้ทำการทดลองเสพยาเสพติดชนิดดังกล่าว พร้อมทั้งวาดภาพของตัวเองขึ้นมา และนั่นก็ทำให้เราได้เห็นว่า เมื่อยาเริ่มออกฤทธิ์รุนแรงขึ้น ภาพวาดก็เริ่มเปลี่ยนจากภาพปกติเป็นน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ และในครั้งนี้ เราจะขอพาทุกคนมารับชมคลิปวีดีโอจากผู้ใช้ยูทูปที่ชื่อ AVI LSD ที่ได้ทำการจำลองภาพของผู้ที่เสพสาร LSD เข้าสู่ร่างกาย และนั่นจะสามารถทำให้เราได้เห็นว่า เมื่อได้เสพสารชนิดนี้เข้าไป ภาพที่ออกมาจะเป็นอย่างไรบ้าง ว่าแล้วก็มารับชมกันเลย จากคลิปวีดีโอดังกล่าวได้แสดงให้เราได้เห็นว่า เมื่อได้เสพสาร LSD เข้าไปในร่างกาย มันก็จะทำให้เราได้เห็นภาพสุดหลอน แถมยังเกิดอาการประสาทหลอนตามมาอีกด้วย ทีนี้เพื่อนๆ ก็คงจะหายสงสัยแล้วใช่ไหมละว่าอาการหลอนของเจ้าสารเสพติดชนิดนี้มันจะออกมาประมาณไหน ซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะทำให้เรารู้สึกหลอนแล้ว มันยังมีโทษทางกฎหมายที่รุนแรงอีกด้วย ในขณะเดียวกัน คนดังระดับโลกที่ประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็น Bill Gates และ Steve Jobs ที่เคยใช้สารเสพติดชนิดนี้กลับมองว่า LSD มีอิทธิพลต่อพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถยืนยันได้หรอกว่า สารเสพติดชนิดร้ายแรงนี้จะดีต่อสุขภาพของเรา ดังนั้น ไม่ควรไปข้องเกี่ยวกับมันจะดีที่สุดนะ!! ที่มา : theladbible
-
ชาวเมืองตระหนก!! จู่ๆ น้ำประปาก็กลายเป็น “สีชมพู” เพราะมีด่างทับทิมมากเกินไป
โดยปกติแล้วหากพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมเกิดขึ้นกับเหตุการณ์หรือชีวิตประจำวัน หลายๆ คนก็คงจะเกิดอาการแปลกใจ และตั้งคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น จากนั้นก็หาวิธีการแก้ปัญหา อาจจะเป็นการแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้ามาแก้ไข เป็นต้น เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์นี้ เมื่อชาวเมืองเล็กๆ ที่อยู่ในรัฐ Alberta ได้พบกับเหตุการณ์แปลกๆ เมื่อจู่ๆ น้ำประปากลายเป็นสีชมพูขึ้นมา!? ชาวเมือง Onoway ที่มีประชากรประมาณ 1,000 คน ได้สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเมื่อช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ผ่านมา ชาวเมืองที่ได้พบเห็นกับเหตุการณ์ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันดูน่ากลัวสุดๆ “น้ำเสียซะแล้ว ขอบคุณเมืองของฉันมาก ให้มันได้อย่างนี้สิ!!” ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่เป็นหนึ่งในชาวเมืองผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้กล่าวในแคปชั่นของวิดีโอที่เขาโพสต์ หลายๆ คนต่างก็สงสัยว่าเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากมันส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตชองชาวเมืองมากๆ เพราะน้ำประปาที่ต่างประเทศนั้นไม่ได้มีไว้ใช้อาบ หรือซักล้างเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้ดื่มกินได้อีกด้วย ซึ่งในเช้าวันต่อมาทางนายกเทศมนตรีของเมือง Onoway ก็ออกมาประกาศแจ้งให้ชาวเมืองทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นความผิดพลาดของระบบบำบัดน้ำของโรงงานบำบัดน้ำเสีย “พวกเรากำลังดำเนินการหาข้อผิดพลาดที่แน่ชัดอยู่ และก็พบว่าวาล์วของท่ออาจจะเสีย เลยทำให้สารโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต (ด่างทับทิม) ไหลเข้าไปในอ่างเก็บน้ำจนมากเกินไป จึงทำให้น้ำที่ถูกส่งไปตามบ้านเรือนต่างๆ กลายเป็นสีชมพู” ท่านนายกเทศมนตรีกล่าว ด่างทับทิมนั้นถูกใช้เพื่อดับกลิ่น และรสชาติอันไม่พึงประสงค์ที่อยู่ในน้ำประปา และกระบวนการผลิตน้ำดื่ม อย่างแพร่หลาย ซึ่งหากใช้มันในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้น้ำกลายเป็นสีชมพูได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามทางเทศบาลก็กำลังดำเนินการชำระล้างน้ำที่ปนเปื้อนกับด่างทับทิมที่มากเกินไปอย่างเร่งด่วน เพราะถ้าหากชาวเมืองเกิดบริโภคเข้าไปล่ะก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน…
-
คู่รักเพิ่งเสียเจ้าเหมียวไป แต่จู่ๆ ก็พบความลับ ว่ามันมีความรักสุดซึ้งกับ “เพื่อนบ้าน” ของพวกเขา!?
คู่รักจากประเทศอังกฤษ ที่เพิ่งจะได้พบกับเหตุการณ์อันน่าเศร้าใจ หลังจากที่แมวเหมียวสุดที่รักของพวกเขาเพิ่งจะจากไป แต่แล้วทั้งคู่ก็ได้พบกับเรื่องราวสุดประทับใจเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของมันที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย… ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้าเหมียว Bear เจ้าเหมียว Bear และพี่ชายของมัน Teddy อาศัยอยู่ด้วยกันในห้องพักที่อบอุ่นหลังหนึ่ง พวกมันมักจะออกไปผจญภัยร่วมกันอยู่เสมอ ซึ่งทาสของมันเองก็ยังไม่รู้เลยว่าการผจญภัยแสนสนุกของพวกมันนั้นเกิดขึ้นที่ไหน และเป็นอย่างไรบ้าง… เมื่อสองสัปดาห์ก่อนเจ้า Bear ได้จากไปอย่างน่าเศร้าเพราะอุบัติเหตุ ขณะที่คู่รักกำลังเศร้าเสียใจกับการจากไปของมันอยู่นั้น แต่จู่ๆ ก็พบว่ามีกระดาษโน้ตติดอยู่ที่ปลอกคอของเจ้า Teddy ทำให้รู้ว่ามีคนอื่นที่ยังคงคิดถึงแมวเหมียวของตัวเองอยู่ด้วย กระดาษโน้ตได้เขียนเอาไว้ว่า “ถึงเจ้าของ…ฉันเป็นเพื่อนบ้านของคุณ อาศัยอยู่ที่บ้านหมายเลข 4 และฉันเองก็เป็นหนึ่งในเพื่อนซี้ของเจ้าเหมียวทั้ง 2 ตัวของคุณ เพราะมันมักจะมาเล่นที่ห้องของฉันเป็นประจำทุกวัน แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวหนึ่ง ตัวที่ใหญ่กว่าจะหายไปเป็นเวลากว่า 2 อาทิตย์แล้ว… มันเป็นอย่างไรบ้าง? สบายดีหรือเปล่า? ฉันรู้สึกเป็นห่วงมันมากๆ เลย มันเป็นแมวเหมียวที่น่ารักมาก และฉันก็รักมันจนสุดหัวใจ หวังว่ามันจะสบายดีนะ” “พวกเราส่งจดหมายไปหาที่บ้านหมายเลข 4 พร้อมกับบอกว่าเจ้าเหมียวตัวที่เขาพูดถึงในจดหมายนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว พร้อมกับแนบอีเมล์เอาไว้ด้วย” ทาสของเจ้า Bear เล่า เมื่อคู่รักตื่นขึ้นมาในเช้าวันถัดมาก็พบว่าเขาได้รับอีเมล์ที่มีเนื้อหายาวมากกกก…
-
“ร็อตไวเลอร์” สวมบทฮีโร่ เปิดประตูที่ล็อคไว้ ให้เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตของ “เจ้านายหมดสติ” ไว้ได้!!
โดยปกติแล้วเราจะคิดว่าหมาพันธุ์ ‘ร็อตไวเลอร์’ นั้นเป็นหมาที่มีแต่ความดุ โหด จนทำให้หลายๆ ประเทศมีการออกกฎหมายสั่งห้ามไม่ให้นำเข้าไปเลี้ยงเลยทีเดียว!! แต่ถ้าหากได้อ่านเรื่องราวของเจ้าร็อตไวเลอร์ตัวนี้แล้ว ขอบอกเลยว่าความคิดของเพื่อนๆ อาจจะเปลี่ยนไปก็ได้… เรื่องมีอยู่ว่าเจ้า Megan สุนัขสายพันธุ์ร็อตไวเลอร์ ได้ทำการช่วยชีวิตเจ้าของของมันด้วยการพยายามเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปช่วยเหลือเจ้าของของมันที่หมดสติไปเพราะเกิดอาการเลือดออกที่อวัยวะภายในร่างกาย “ไม่มีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย…เจ้า Megan มันช่วยชีวิตของฉัน” เจ้าของวัย 32 ปี กล่าว “ด้วยการเปิดประตูที่ล็อคอยู่ให้เจ้าหน้าที่พยาบาลเข้ามาช่วยเหลือฉันได้ หากไม่มีมัน เรื่องราวอาจจบลงไม่สวยแบบนี้ก็เป็นได้” โดยก่อนหน้าที่คุณ Gregory จะหมดสติไปนั้นเขาได้ทำการโทรแจ้งไปที่เบอร์ 999 ก่อนแล้ว ซึ่งอาการหมดสตินี้เป็นเพราะเสียเลือดจากอาการเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร วันก่อนเธอได้ไปทำการส่องกล้องตรวจนิ่วในตับอ่อนที่โรงพยาบาล และก็พบว่าระหว่างการส่องกล้องตรวจนั้นก็ทำให้เกิดแผลฉีกขาดในลำไส้ ในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พยาบาลไม่สามารถเข้าไปในบ้านเพื่อทำการช่วยเหลือคุณ Gregory ได้เนื่องจากว่าประตูล็อคอยู่ หลังจากที่พยายามอยู่นานก็พบว่าจู่ๆ ประตูก็เปิดออกเอง และพบว่าเจ้า Megan สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ของเขาพยายามที่จะเลื่อนลูกบิดประตูขึ้นลงจนสามารถเปิดประตูได้ในที่สุด ขณะที่เข้าไปในบ้านก็พบว่าเจ้า Megan และหมาอีกสองตัวกำลังเลียหน้าคุณ Gregory เพื่อปลุกเขาจากอาการหมดสติ คุณ Gregory ได้ทำการส่งข้อความไปหาคู่รักของเขา คุณ Sean Nicholls วัย…
-
หญิงสาวช่วยเหลือ “แมวซูบผอม” จาก ‘ฟาร์มเนื้อสุนัข’ ให้มีชีวิตดี และกลายร่างเป็นแมวอ้วน!!
เรื่องราวของเจ้าเหมียวที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบ้านในบ้านของเจ้าของฟาร์มเนื้อสุนัข ตัวของมันซูบผอมเพราะไม่มีใครแยแสเลย จนในที่สุดสววรค์ก็ส่งเทพธิดามาช่วยเหลือมัน… Ek Park สาวชาวเกาหลีใต้กำลังขับรถไปเยี่ยมพ่อแม่ที่อยู่ในเมืองแดงจิน แต่ดันเลี้ยวเข้าซอยผิดและได้ไปพบกับฟาร์มเนื้อสุนัขเข้า ด้วยความที่เธอเป็นผู้ก่อตั้งองค์กร Free Korean Dogs ที่ให้ความช่วยเหลือเหล่าสุนัขจากฟาร์มเนื้อและหาบ้านใหม่ให้กับพวกมันในทวีปอเมริกาเหนือ คุณ Park จึงตัดสินใจที่จะลงไปสำรวจดูที่ฟาร์มแห่งนั้นแต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงร้องของแมวเหมียวตัวหนึ่งเข้า “เมื่อฉันเดินเข้าไปที่บ้านของเจ้าของฟาร์ม ที่อยู่ใกล้ๆ กัน จู่ๆ ก็ได้พบกับเจ้าเหมียวตัวหนึ่ง ตัวของมันเล็กมากประมาณฝ่าเมือของฉันเลย ดูมันหิวและกลัวมากๆ จึงทำให้มันไม่ออกไปหาอาหารกินแต่เลือกที่จะร้องขอความช่วยเหลือแทน” เจ้าเหมียวถูกตั้งชื่อว่า Nimo ซึ่งภาพแรกที่คุณ Park ได้เจอกับมันก็พบว่ามันกำลังกินดินอยู่ หรือไม่แน่มันก็อาจจะกินหนอนที่อยู่ในดินก็เป็นได้ เธอจึงอุ้มเจ้าเหมียวขึ้นมาจากนั้นก็เริ่มลูบมันเบาๆ แต่แล้วเจ้าของบ้านก็เดินออกมาจากตัวบ้าน เขาเดินเข้ามาถามว่าคุณ Park กำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งเธอก็ตอบไปว่า “ฉันแค่เดินผ่านมา และก็เห็นแมวตัวนี้เข้า และเขาก็บอกว่าเขาเป็นเจ้าของแมวตัวนี้!!” คุณ Park ก็ยืนยันอย่างเต็มที่ว่าเจ้า Nimo นั้นจะต้องถูกพาไปหาหมอ แต่ชายเจ้าของบ้านก็ได้ทำการเยอาะเย้ยเธอ พร้อมกับพูดว่า “การพาสัตว์ไปหาหมอน่ะมันเป็นการทำให้สูญเงินไปเปล่าๆ” นอกจากนี้พอมองเข้าไปในบริเวณบ้านของเขาแล้วก็พบว่า ยังมีหมาอีกหลายตัวที่ถูกเลี้ยงดูภายในกรงแคบๆ…
-
ตามไปส่อง “ตำราเพศศึกษาแบบใหม่” ของจีน ให้เด็กเน้นเข้าใจความแตกต่าง ก้าวสู่สังคมอนาคต!!
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ… เมื่อระบบการศึกษาจีนเปิดตัวหนังสือสอนเพศศึกษา สำหรับเด็กประถม ที่เน้นสอนให้เด็กรุ่นใหม่เข้าใจในความหลากหลายทางเพศ ซึ่งเอาจริงๆ แล้วส่วนตัวเรามองว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะถ้าอ้างอิงจากตำราเพศศึกษาฉบับใหม่ดังกล่าว เราจะได้เห็นว่ามีการสอดแทรกเนื้อหาที่ไม่ใช่แค่เรื่องคุมกำเนิดอย่างเดียว ตำรานี้ยังรวมถึงการอยู่ร่วมกันในสังคมบนความแตกต่างทางเพศ ยอมรับความไม่เหมือนกัน และสอนตรงไปตรงมาขึ้น แต่ทว่างานนี้ดูเหมือนผู้ปกครองชาวจีนจะไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่น่ะสิ!! ก่อนอื่น เราตามไปส่องภายในหนังสือเรียนเล่มใหม่สำหรับเด็กๆ ตัวอย่างเนื้อหาจากเกรด 2 ระบุว่าทุกเพศมีความเท่าเทียมกัน และมีสิทธิที่จะเป็นตัวของตัวเอง เช่น ผู้หญิงก็เป็นตำรวจ และนักบินอวกาศได้ ในขณะที่ผู้ชายก็เป็นพยาบาล หรือครูอนุบาลได้เช่นกัน เนื้อหาอีกส่วนหนึ่งที่อธิบายว่าเด็กทุกคนเกิดมาได้อย่างไร แปลจากในหนังสือ: ปะป๊ากับมะม๊ารักกัน > ปะป๊าเอาจุ๊ดจู๋สอดเข้าไปที่จิ๊มิ๊ของมะม๊า > สเปิร์มของปะป๊าเข้าไปสู่รังไข่ของมะม๊า อีกทั้งยังมีการสอนเรื่องการป้องกันตนเองจากการถูกลวนลามด้วย ที่เกิดขึ้นได้กับทั้งหญิง และชาย ภาพแรก: คุณลุงซื้อเสื้อมาให้หลานสาว และชี้แนะให้เธอถอดเสื้อ แต่หลานสาวปฏิเสธ ภาพสอง: คุณป้าบอกว่า ‘Jun หนูโตเป็นหนุ่มแล้ว ไหนถอดกางเกงเอาจู๋มาให้ป้าดูหน่อยซิ๊’ แต่เด็กชายปฏิเสธ และกลับไปฟ้องพ่อแม่ บทเรียนจากชั้นเกรด 4 ที่สอนไว้ว่า บางคนอาจจะชอบเพศตรงข้าม และบางคนอาจจะชอบเพศเดียวกัน ซึ่งนั่นก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร…
-
“ขนาดบ้านของแก ยังไม่มีห้องน้ำเลย!!” สาวจีนปฏิเสธคำขอแต่งงานแฟนหนุ่ม เพราะฐานะแย่เกินไป!?
ในขณะนี้ต้องบอกเลยว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่พัฒนาและเติบโตเร็วมาก ทำให้ผู้คนของพวกเขาพยายามขวนขวายหาความมั่นคงให้กับชีวิตตัวเอง โดยการเข้าไปทำงานตามหัวเมืองใหญ่ๆ และหากเป็นไปได้ การมีแฟนที่มีอันจะกิน ก็ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกมั่นคงไปด้วยนั่นเอง แต่หากคุณไม่ได้ร่ำรวยเงินทองเท่าไหร่ หรือคุณยากจนขนาดหนักจริงๆ ก็อาจจะต้องเตรียมพร้อมรับความเจ็บปวดแบบชายคนนี้ เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanhaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดสะบั้นอารมณ์ของคู่หนุ่มสาวชาวจีน ในขณะที่ฝ่ายชายพยายามขอฝ่ายหญิงแต่งงานในที่สาธารณะ แต่ฝ่ายหญิงกลับปฏิเสธคำขอของเขา โดยฝ่ายหญิงได้ตะโกนลั่นกลางถนนว่า “ที่ห้องของนายยังไม่แม้แต่ห้องส้วมหรือห้องอาบน้ำเลย นายยังจะมาขอให้ฉันแต่งงานกับนายอีกเหรอ!? ตลกสิ้นดี” หลังจากที่ฝ่ายชายถูกต่อว่าอย่างหนักโดยไม่ปริปากพูดใดๆ ออกไป ก่อนจะเก็บกระเป๋าและเดินจากไปแบบเงียบๆ สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้คนโดยรอบและชาวเน็ตอย่างมาก กดชมคลิปสุดสะเทือนใจได้ที่นี่เลย เมื่อราวๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา มีสื่อในจีนอย่าง People’s Daily ได้รายงานค่าเฉลี่ยของสินสอดและค่าใช้จ่ายในการที่ผู้ชายจะไปขอผู้หญิง อยู่ที่ราวๆ 200,000 หยวน หรือประมาณ 1 ล้านบาท จำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่สูงมากทีเดียว โดยเฉพาะกับครอบครัวชนบทที่แทบจะไม่มีอะไร แม้กระทั่งห้องน้ำ ซึ่งบางบ้านในชนบทอาจจะยังใช้ส้วมรวมสาธารณะ หรือการไปปล่อยตามท้องทุ่งอยู่นั่นเอง ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าหากผู้ชายจะขอผู้หญิงสักคนแต่งงาน พวกเขาจะต้องมีความพร้อมในด้านการเงินมากแค่ไหน ที่มา shanghaiist , Lieselotte Young
-
คุณแม่ชาวนิวซีแลนด์ โชว์ “ภาพหลังคลอด” ที่หลายคนกลัว แม้เจ็บปวดแต่มันสวยงามเสมอ
การที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะต้องมาตั้งท้องและกลายเป็นคุณแม่สักคนหนึ่งดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และหนุ่มๆ อย่างเราก็คงไม่มีทางเข้าใจความทุกข์ทรมานของพวกเธอได้อย่างท่องแท้ด้วยว่าพวกเธอต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ทั้งอารมณ์ที่แปรปรวน น้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น ความเจ็บปวดระหว่างคลอด และไหนจะสภาพหน้าท้องที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับคืนสู่สภาพเดิม เพื่อให้หนุ่มๆ และสาวๆ (ที่ยังไม่เคยมีลูก) ได้เข้าใจถึงสภาวะความเป็นแม่คนสักอีกนิด ด็อกเตอร์ Julie Bhosale ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและโภชนาการจากประเทศนิวซีแลนด์ จึงได้บันทึกภาพหน้าท้องของตัวเองตั้งแต่หลังคลอดได้ 24 ชั่วโมง ไปจนถึงสัปดาห์ที่ 14 เพื่อดูความเปลี่ยนแปลง ด็อกเตอร์ Julie เล่าว่านี่คือการตั้งท้องลูกคนที่สองของเธอ มันมีทั้งความกดดัน ความเครียด และความปลื้มปิติปนกันอยู่ภายในตัวเธอ มันคือเป็นความเจ็บปวดที่งดงามมากสำหรับเธอ นี่คือสภาพของเธอเมื่อตอนที่ตั้งท้องได้ 38 สัปดาห์เปรียบเทียบกับตอนที่คลอดแล้ว 24 ชั่วโมง หลังคลอดไปแล้ว 2 วัน หลังคลอดไปแล้ว 1 สัปดาห์ หลังคลอดได้ 2 สัปดาห์ หลังคลอดได้ 10 สัปดาห์ หลังคลอดได้ 14 สัปดาห์…
-
นี่คือ 8 เหตุผลที่บอกเราว่า ทำไม ‘ประเทศญี่ปุ่น’ จึงเป็นประเทศที่สะอาดมากๆ
ประเทศญีปุ่น เป็นหนึ่งประเทศที่มีระเบียบวินัยสูงมากและหากใครได้ไปเที่ยวที่เมืองอาทิตย์อุทัยนี้มาก็จะพบสิ่งที่แตกต่างกับประเทศเราโดยสิ้นเชิงอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือความสะอาด ทุกครั้งที่เห็นภาพของเพื่อนๆ ที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น หรือดูตามสารคดีต่างๆ มักจะเกิดคำถามขึ้นในใจของเราว่า “ทำไมบ้านเขาสะอาดจัง?” นั่นสิ หลายคนสงสัยแบบนี้ใช่ไหม วันนี้ #เหมียวฟิ้น พบข้อมูลจากเว็บไซต์ Rocketnews ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของประเทศญี่ปุ่นสู่สายตาชาวต่างชาติในภาษาอังกฤษ เลยถือโอกาสแปลมาให้ได้อ่านกัน รับรองว่าคุณจะต้องทึ่งแน่นอน 1. แม้ไม่มีถังขยะข้างทาง แต่(แทบ)ทุกคนถูกปลูกฝังว่า จะต้องเก็บมันไปทิ้งที่อื่น ชาวญี่ปุ่นให้ความร่วมมือกับการรักษาความสะอาดมาก เวลาที่พวกเขาไปท่องเที่ยวหรือปาร์ตี้ตามสถานที่ต่างๆ แล้วไม่มีถังขยะ พวกเขาจะเก็บมันใส่ถุงหรือภาชนะไปทิ้งที่อื่น เพราะพวกเขาถูกสั่งสอนมาว่าต้องรับผิดชอบต่อข้าวของของคุณเอง ต่อให้ตลอดทางไม่มีถังขยะเลย พวกเขาก็จะเอามันไปทิ้งที่บ้าน 2. มีถุงขยะอยู่ใต้เบาะรถประจำทาง ในรถบัสที่ออกเดินทางไปตามต่างจังหวัดหรือเดินทางระยะไกลๆ พวกเขาจะมีถุงขยะเก็บไว้ใต้เบาะที่นั่งของคุณ เพื่อเก็บเอาขยะของคุณไปทิ้งที่ถังขยะ (หรือที่บ้านคุณเอง) ดีกว่าปล่อยให้มันเลอะเทอะอยู่กับพื้นหรือซุกอยู่บนเก้าอี้ของคุณเอง 3. แทบทุกหน่วยงานจะทำความสะอาดพื้นที่ของตัวเอง ส่วนหนึ่งที่ถนนหนทางของพวกเขาสะอาดปราศจากใบไม้หรือขยะก็เพราะว่าพนักงานของสถานที่นั้นๆ จะเป็นคนทำความสะอาดด้วยตัวของพวกเขาเอง ตั้งแต่พนักงานออฟฟิศไปจนถึงพยาบาลในโรงพยาบาล โดยไม่ต้องให้พนักงานกวาดถนนมาเก็บกวาดให้พวกเขาเลย 4. มีศิลปะในการแยกขยะ ชาวญี่ปุ่นจะมีระเบียบค่อนข้างมากในการกำจัดขยะภายในบ้าน เวลาจะนำขยะจากในบ้านออกไปทิ้งหรือกำจัด พวกเขาจะคัดแยกทุกอย่างให้อยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน หนังสือสื่อสิ่งพิมพ์มัดรวมด้วยกัน ขยะเปียกขยะแห้ง หรือหากจะทิ้งขวดซอสสักขวด พวกเขาก็จะเทเอาเศษๆ ที่อยู่ในขวดออกมาทิ้งให้หมดเสียก่อน 5. มีหน่วยงานอาสาสมัครบางแห่งคอยย้ำเตือนให้ชาวเมืองตื่นตัวและเก็บขยะอยู่เสมอ…
-
นักเรียนหญิงญี่ปุ่น แห่ขายเครื่องแบบหลังจบการศึกษากันรัวๆ ราคาพุ่งถึง 6 หมื่นบาท!!
หากจะบอกว่าชุดนักเรียนของประเทศไหนน่ารักโดนใจ #เหมียวฟิ้น ล่ะก็ มันคงจะหนีไม่พ้นชุดสุดคาวาอี้อย่างชุดนักเรียนสไตล์กะลาสีแบบชาวญี่ปุ่นแน่ๆ และเมื่อเหล่านักเรียน (โดยเฉพาะนักเรียนสาวๆ) จบการศึกษาแล้ว พวกเขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บชุดนักเรียนเอาไว้ให้ฝุ่นเกาะอีกต่อไป พวกเธอจึงเอามันมาประกาศขายบนอินเตอร์เน็ตซะเลย แถมได้ราคาดีด้วยนะ ในช่วงเดือนมีนาคมของทุกๆ ปีจะเป็นเดือนที่เหล่านักเรียนมัธยมปลายพากันจบการศึกษาและขยับเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยกัน พวกเขาจึงพากันเอาชุดนักเรียนมาประกาศขายผ่านเว็บไซต์ขายของออนไลน์อย่าง Mercari กันแบบถล่มทลายเลยทีเดียว ตามรายงานจากเว็บไซต์ Rocketnews บอกว่าชุดที่นำมาขายนั้นมีทั้งชุดสำหรับฤดูร้อนและชุดสำหรับฤดูหนาวรวมทั้งกระโปรง ถูกวางขายในราคามัดรวมอยู่ที่ 10,000 เยน หรือประมาณ 3,076 บาท หากพ่อแม่คนไหนจะซื้อเพื่อนำไปให้ลูกๆ ของพวกเขาใส่เรียนก็ถือว่าถูกกว่าการซื้อใหม่ชุดใหม่ทั้งเซ็ท แต่ก็ยังแพงอยู่สำหรับการซื้อชุดมือสองในสภาพที่ดูใส่มาหลายครั้งแล้ว (ราคาเต็มๆ สำหรับชุดนักเรียนเพื่อใส่ฤดูร้อน ฤดูหนาว ชุดออกกำลังกาย ทั้งเซ็ทจะอยู่ที่ราวๆ 30,000 บาท) ในประเทศญี่ปุ่นเองมีการกำหนดราคาชุดนักเรียนมือสองให้แพงขึ้นด้วย หากชุดเหล่านั้นปักชื่อของสถาบันดังๆ เอาไว้ อย่างเช่นโรงเรียนมัธยมปลายซูคากาวะ ในจังหวัฟุกุชิมะอยู่ที่ 27,691 บาท ส่วนโรงเรียนคาคูโนดาเตะ มินามิ อยู่ที่ 61,536 บาท (นี่แค่ชุดมือสองนะเนี่ยะ!!) ถึงชุดนักเรียนญี่ปุ่นจะถูกสื่อต่างๆ นำเสนอให้ดูน่ารัก (หรือบางคนมองว่าเซ็กซี่) ขนาดไหนก็ตาม แต่ในความเป็นจริงนักเรียนจะต้องใส่ชุดนักเรียน 1 ชุดวนไปเรื่อยๆ ทั้งสัปดาห์…
-
ทำเพื่อ!? ชาวจีนแชร์ภาพคนร้ายปา “ไข่หงส์ดำ” จนแตก ทิ้งให้พ่อแม่หงส์เศร้าเสียใจ
เราเชื่อว่าการกระทำทุกอย่างย่อมมีเหตุผลในตัวของมันเอง แต่บางครั้งมันก็ยากเกินที่จะอธิบายว่าเขาทำไปเพื่ออะไร ในเมื่อเหตุการณ์แบบนี้ เรามองแล้วมันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำอย่างมาก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในช่วงเวลาประมาณบ่ายโมง ได้มีชายหนุ่มที่สวนชุดปิดบังตัวเอง ทั้งหมวก และหน้ากากอนามัย ข้ามเข้าไปในรั้วของหงส์สีดำที่อยู่ในทะเลสาบหยางโจว ซึ่งที่แห่งนี้เป็นที่ที่หงส์สีดำจะมาฟักไข่เป็นประจำ จากภาพนั้นเราจะได้เห็นหงส์ดำทั้งสองเข้ามาที่รังเพื่อมาปกป้องไข่ของตัวเอง พร้อมทั้งพยายามจิกคนที่เข้ามา แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้เตะหงส์เข้าที่ปีกด้วย จากการกระทำของเขา ทำให้ผู้คนที่อยู่ในละแวกนั้นสนใจเป็นอย่างมาก ต่างก็มามุงดูว่าเขาทำอะไร ทำไปทำไม บ้างก็ตะโกนบอกชายคนนี้ให้เอาไข่ไปคืนที่เดิม พร้อมทั้งถ่ายรูปเก็บหลักฐานไว้ แต่พอเขาเจอแบบนี้ กลับเอาไข่ที่ขโมยมาขว้างลงพื้นจนแตก จนสุดท้ายก็มีชายวัย 50 ปีดึงเขาออกมาจากรั้วได้ . หลังจากเหตุการณ์นี้ หงส์ทั้งสองก็ดูเหมือนจะเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ต่างก็ร้องออกมาเหมือนกับร้องไห้ อีกตัวก็พยายามนั่งต่ำๆ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่คนร้ายสามารถหนีออกไปได้โดยที่ไม่มีใครเห็นเขาอีกเลย หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ทางการก็ได้เพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งออกมาบอกข่าวว่าหงส์ทั้งสองไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก แต่เชื่อเลยว่าอาการเจ็บของทั้งคู่คงน้อยกว่าการสูญเสียลูกๆ ไป แถมก่อนหน้านี้ได้มีข่าวว่าหงส์ดำทั้งสองกินข้าวไม่ลงเลย เพราะว่ามีนักท่องเที่ยวได้ขโมยไข่ของมันไป แต่เป็นคนละที่กัน ซึ่งทำให้เห็นว่าต่อจากนี้มันคงรู้สึกเศร้าจนกินอะไรไม่ได้ . แต่ก็ยังเป็นที่สงสัยว่าคนร้ายทำไปทำไม เพราะไข่หงส์ดำไม่สามารถกินได้ และถ้าเอาไปก็ฟักเองไม่ได้ด้วย ซึ่งชาวเน็ตหลายคนที่เห็นข่าวนี้ต่างก็รู้สึกโมโห บ้างก็บอกว่าถ้าจับคนร้ายได้…
-
หนุ่มไทยถ่ายรูป “Tom Cruise ไลค์ไก่ย่าง” พร้อมปริ้นท์แปะข้างฝา แต่…ผิดคนแล้วเห้ย!!
ไม่บ่อยนักที่เราจะได้สัมผัสกับดาราคนดังแบบใกล้ชิด และถ้าโอกาสนั้นมาถึงตัวคุณแล้วล่ะก็ มีหรือที่เราจะไม่คว้าเอาไว้… เรื่องที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้ถูกโพสต์โดยสมาชิกเว็บไซต์ Reddit โดยผู้ใช้ที่ชื่อว่า SuddenlyOutOfNoWhere เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เป็นภาพของนักท่องเที่ยวฝรั่งตาน้ำข้าวรายหนึ่งที่เดินทางมาเที่ยวแถวๆ ภาคอีสานของประเทศไทย แต่เนื่องจากเจ้าตัวมีใบหน้าละม้ายคล้ายกับ Tom Cruise ทำให้่ทางร้านเขาใจผิดและคิดว่าได้เจอกับซุปตาร์คนดังเข้าแล้ว ทางร้านจึงขอถ่ายภาพกับหนุ่มฝรั่งเอาไว้เป็นที่ระลึก ก่อนจะปริ้นลงบนไวนิลพร้อมกับข้อความว่า “TOM CRUISE” เพื่อย้ำเตือนกับลูกค้าที่มาทานอาหารว่าเขาเคยมีโอกาสได้เจอกับดาราฮอลลีวูดมาแล้ว… แต่เนื่องจากชายหนุ่มที่ว่านี่ไม่ใช่ Tom Cruise ตัวจริง ทำให้ชาวเน็ตในต่างประเทศรู้สึกอึ้งจนต้องถ่ายไปแชร์ลงในเว็บบอร์ดและบอกว่านั่นมันผิดตัวแล้ว!! นี่คือหน้าตาของ Tom Cruise วัยหนุ่ม ที่ใกล้เคียงกับ Tom Cruise ตัวปลอมข้างบน… เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องฮาๆ ที่ชาวเน็ตใน Reddit พูดถึงอย่างมากมาย Ronbotic “เพื่อนของผมบอกว่าผมหน้าเหมือน James McAvoy (พระเอกจาก X-Men) และไปพูดติดตลกกับคนขายแพนเค้กที่เป็นชาวไทยว่าผมคือ James พี่แกก็เลยทำแพนเค้กมาให้ผมหนึ่งอัน” Prophet_Of_Loss “ถ้าผู้ชายคนนั้นสูงกว่าคุณล่ะก็ นั่นไม่ใช่ Tom Cruise แล้วล่ะ”…
-
คุณตาถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ หลังได้รู้ว่านาฬิกาเรือนเก่าของเขา มีมูลค่าสูงถึง 2 ล้านบาท!!
หลายคนอาจจะต้องตกใจหากสิ่งของเก่าๆ ที่เราคิดว่ามันไร้ค่า จะกลับมามีมูลค่าที่มากมายมหาศาลได้ เหมือนดังเช่นเรื่องราวของคุณตาอดีตทหารผ่านศึกคนนี้ เขาก็ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะเช่นกัน หลังจากที่รู้ว่านาฬิกา Rolex เรือนเก่าของเขามีมูลค่ามากกว่าที่คิด ย้อนกลับไปในยุค 60 สมัยที่คุณตากำลังเป็นทหาร เขาเล่าว่าครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสได้ไปประจำการอยู่ในประเทศเยอรมนี และได้ซื้อนาฬิกา Master Rolex มาเป็นของขวัญให้กับตัวเอง ซึ่งตอนนั้นมีมูลค่าเพียงแค่ 4,200 บาท (เมื่อเทียบกับเงินปัจจุบัน นาฬิกาของเขาจะมีราคาอยู่ที่ 31,000 บาท) และแน่นอนว่าคนส่วนใหญ่จะต้องคิดว่า Master Rolex ของคุณตาเรือนนี้ น่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ 52,000 บาท แต่ถ้าหากคุณได้ทราบราคาจริงๆ ของมันจากปากผู้ประเมินราคา รับรองว่าคุณจะต้องคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน เพราะในความจริงแล้วนาฬิกาของคุณตาเรือนนี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 2 ล้านบาทเลยนะ โอ้ววววว!! สุดยอดดด งานนี้เล่นเอาคนตาถึงกับช็อกจนอ้าปากค้าง และอยู่ในสภาพมึนงงไปชั่วขณะ หลังได้ทราบมูลค่านาฬิกาเรือนเก่าของตัวเอง “ว้าวว มันทำให้ฉันรู้สึกพูดไม่ออกเลยละ” เขากล่าว คุณสามารถรับชมคลิปวีดีโอในรายการโทรทัศน์ Antiques Roadshow ที่คุณตาได้มีโอกาสไปพบกับผู้เชี่ยวชาญในด้านของเก่าได้เลย…
-
นี่คือ 12 อันดับเมืองของ Treepedia จากหลากประเทศ ที่ขึ้นชื่อว่ามีต้นไม้เยอะที่สุดในโลก
“ต้นไม้” คือเครื่องปรับอากาศตามธรรมชาติที่ดีที่สุด เมื่อโลกของเราเต็มไปด้วยต้นไม้ แน่นอนว่ามันจะทำให้คุณได้รับบรรยากาศที่สดชื่นในทุกๆ วัน ด้วยเหตุนี้ หลายๆ ประเทศทั่วโลก จึงมีการร่วมแรงร่วมในกัน เพื่อส่งเสริมให้แต่ละเมืองมีการปลูกต้นไม้มากขึ้น นอกจากนี้ ทาง MIT’s Senseable Lab ยังได้ร่วมมือกับ World Economic Forum (WEF) เพื่อสร้าง Treepedia ซึ่งเป็นแผนที่ที่แสดงความหนาแน่นของพื้นที่สีเขียวในเมืองใหญ่ต่างๆ ทั่วโลกนั่นเอง และนี่คือ 12 อันดับเมืองในแต่ละประเทศที่ได้รับผลการประเมินว่า เป็นเมืองที่มีต้นไม้เยอะที่สุดในโลก ไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีประเทศไหนกันบ้าง 12.ลอสแอนเจลิส เมืองในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา – มีต้นไม้อยู่ทั้งหมด 15.2% 11.เทลอาวีฟ เมืองในประเทศอิสราเอล – มีต้นไม้อยู่ทั้งหมด 17.5% 10.บอสตัน นครในรัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา – มีต้นไม้อยู่ทั้งหมด 18.2% 9.ไมแอมี เมืองในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา…
-
เธอทำได้!! สาวดาว์นซินโดรมกำลังจะกลายเป็นนักพยากรณ์อากาศ ชาวเน็ตร่วมเชียร์เพียบ
ภาพลักษณ์ของผู้ป่วยเป็นดาว์นซินโดรมหรือออทิสติกในยุคนี้เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนเยอะมากเลยทีเดียว เพราะหากเรามองย้อนกลับไปในสมัยก่อน ผู้ที่มีอาการดาว์นซินโดรมจะถูกมองว่าเป็นบุคคลที่ดูแลตัวเองไม่ค่อยได้ หรือไม่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าคนปกติในการทำงาน แต่ในปัจจุบันบุคคลเหล่านั้นกลับพัฒนาตัวเองจนเข้าไปทำงานให้กับหลายๆ องค์กรได้อย่างไม่น้อยหน้าใครเลย อย่างเช่นข่าวก่อนหน้านี้ที่#เหมียวฟิ้นได้เคยนำเสนอเกี่ยวกับชายหนุ่มออทิสติก ที่ได้รับโอกาสจากร้าน Starbucks ให้เข้าทำงานเป็นบาริสต้าจนโด่งดังไปทั่วโลก (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่เลย) และเมื่อไม่นานมานี้เราก็ได้ไปเจอเรื่องราวดีๆ ของบุคคลที่มีอาการดาว์นซินโดรมแต่ได้รับโอกาสให้ทำหน้าที่เจ๋งๆ อย่างการเป็นผู้ประกาศข่าวพยากรณ์อากาศด้วย! เธอคนนี้มีชื่อว่า Mélanie Ségard จากประเทศฝรั่งเศสวัย 21 ปี เธอมีความฝันมาตั้งแต่วัยเด็กเลยว่าเมื่อเธอโตขึ้น เธออยากจะเป็นสาวนักพยากรณ์อากาศ แต่เธอคิดว่ามันคงจะเป็นไปไม่ได้เนื่องจากความบกพร่องทางร่างกายของเธอ แต่ดูเหมือนว่าไฟแห่งความหวังของเธอจะยังไม่ดับลง เพราะองค์กรการกุศลในฝรั่งเศสที่ชื่อ Unapei ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือกับเธอและประสานไปยังช่องทีวี France 2 และ BFMTV ทางสถานีจึงพากันยื่นข้อเสนอในการทำงานให้กับเธออย่างล้นหลาม Unapei คือองค์กรการกุศลสำหรับคนพิการด้านการเรียนรู้ในประเทศฝรั่งเศส พวกเขาช่วย Melanie โดยการตั้งแคมเปญขึ้นบน Facebook โดยใช้ชื่อแคมเปญว่า Mélanie peut le faire (Mélanie เธอทำได้) Mélanie กล่าวว่า “ฉันแตกต่างจากคนอื่น แต่ฉันอยากจะแสดงให้ทุกๆ คนได้เห็นว่าฉันสามารถทำอะไรได้มากมาย และฉันอยากจะพิสูจน์เรื่องนี้โดยการปรากฏตัวบนทีวี” บนเฟซบุ๊กของ Mélanie ได้ท้าทายกับสื่อในฝรั่งเศสไว้ว่าหากเฟซบุ๊กของเธอสามารถหาคนมากดไลก์เพจได้ถึง 1 แสนคน…
-
แม่เบื่อลูกชายว่าง วันๆ ไม่ทำอะไรเลย ประกาศผ่านเฟซบุ๊ก ‘ใครก็ได้ เอามันไปทำงานที’
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า Donna Cooper คุณแม่จาก Hornsea, East Yorkshire ประเทศอังกฤษ สุดจะทน โพสต์ข้อความประกาศมอบลูกชายให้ไปทำงานด้วยแบบฟรีๆ โดยไม่ต้องให้เงิน เหตุเพราะเบื่อนิสัยลูกชายที่วันๆ มัวแต่เล่นเกม ทางด้านคุณแม่ Donna ได้ออกมาเผยว่า เธอเบื่อนิสัยของลูกชายมากๆ เพราะวันๆ เขามัวแต่นั่งอยู่รอบๆ บ้าน หลังจากที่ถูกทางโรงเรียนกำจัดช่วงเวลาเรียน เพราะพฤติกรรมของเขาเอง ด้วยเหตุนี้ เธอจึงได้เขียนข้อความประกาศลงในเฟสบุ๊คว่า “นี่คือ Nick Cooper ลูกชายวัย 16 ปี เขาถูกทางโรงเรียนจำกัดเวลาเรียน เพราะพฤติกรรมของเขา เวลาที่เขาอยู่นอกโรงเรียนเขาเป็นคนที่สุภาพเรียบร้อย แต่ดูเหมือนทางโรงเรียนจะไม่คิดแบบนั้น ซึ่งเขาจะได้ไปโรงเรียนเพียงแค่วันจันทร์ และวันอังคาร ดังนั้น นี่คือการจัดการที่ดี และเป็นเหตุผลสำหรับการโพสต์นี้ ฉันเป็นแม่ และต้องทำงานหนัก ฉันจึงไม่ชอบให้ลูกอยู่แต่ในบ้านเวลาที่ฉันออกไปทำงาน ดังนั้น หากใครมีงานให้เขาทำ ไม่ว่าจะเป็นงานในฟาร์ม หรืองานหนักๆ อะไรก็ได้ เอาไปทำงานให้ฟรีๆ เลย”…
-
พ่อหนุ่ม Chris Evans เซอร์ไพรส์แฟนๆ ให้ออกไปตามปริศนา ค้นหารังลับของไฮดร้า!!
เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวฟิ้น ได้ไปเจอเข้ากับคลิปน่ารักๆ ของพ่อหนุ่ม Chris Evans ที่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเพื่อรณรงค์ให้คนร่วมบริจาคเงินเพื่อนำไปมอบให้แก่องค์กรการกุศลต่างๆ แต่สิ่งที่สนุกและฮาสุดๆ มันอยู่ตรงช่วงที่ตา Chris ออกมาทำคลิปแกล้งคนนี่แหละ ในคลิปวิดีโอที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้เป็นคลิปที่นาย Chris ได้ร่วมมือกับองค์กรการกุศลที่ชื่อ Omaze เพื่อช่วยโฆษณาและหาเงินบริจาคไปมอบให้กับองค์กร Christopher’s Haven นำไปช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากต่อไป อย่างในคลิปนี้นาย Chris ได้สร้างสถานการณ์ขึ้นมาภายในร้านขายหนังสือการ์ตูนและของเล่น โดยเขาตั้งชื่อมันว่า Escape Rooms โดยจะให้เหล่าลูกค้าที่แวะผ่านเข้ามาในร้านได้ร่วมกิจกรรม (หากพวกเขาตกลง) เพื่อมาเป็นผู้ช่วยกัปตันอเมริกาค้นหาว่ารังลับของเหล่าไฮดร้าซ่อนอยู่ที่ไหนในร้านแห่งนี้กันแน่? แรกเริ่มเลยเขาและทีมงานได้นำลำโพงตัวเล็กๆ ไปซ่อนไว้ในตุ๊กตากัปตันอเมริกากลางร้าน แล้วรอให้ลูกค้าสักคนเดินเข้ามาติดกับ จากนั้นเขาก็จะพูดผ่านไมค์เพื่อขอความช่วยเหลือจากลูกค้าเหล่านั้น หนุ่ม Chris ขอความช่วยเหลือกับลูกค้าเหล่านั้น แล้วบอกให้พวกเขาหารหัสลับ 4 หลักจากในร้าน เพื่อเป็นปริศนานำไปสู่ปริศนาชิ้นต่อไป จากนั้นเหล่าลูกค้า (หรือผู้เคราะห์ร้าย) ก็ต้องเผชิญหน้ากับตู้ที่เต็มไปด้วยแผงวงจร โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าข้างในมีงู (ปลอมๆ) ซ่อนอยู่ ต่อมา ยังมีความฮาอีก… ทีมงานได้แกล้งลูกค้าทั้งหมดให้ใส่ชุดประหลาดๆ คล้ายหัวขโมย เพื่อแทรกซึมเข้าไปยังหน่วยไฮดร้า แล้วออกไปไล่ถามคนเดินถนนทั่วๆ ไปว่าพวกเขาใช่หน่วยปฏิบัติการของไฮดร้าหรือเปล่า? คุณใช่ไฮดร้าหรือเปล่า? …
-
ทำการ์ตูนให้จริงจัง!! ยูทูบเบอร์สร้าง “กรงเล็บ Wolverine ไฟฟ้า” ทดสอบพลังแห่งการกะซวก
ต้องบอกเลยว่าเอกลักษณ์ของ Logan หรือ Wolverine ก็คือกรงเล็บที่งอกออกมาจากแขน เพราะมันทั้งดูเท่และอันตราย ทำให้เรารู้สึกอยากจะมีอาวุธแบบนี้เอาไว้ใช้ป้องกันตัวบ้าง แต่ก็แน่ล่ะว่ามันคือการ์ตูนที่ถูกแต่งขึ้น จึงไม่น่าจะมีอาวุธแบบนี้อยู่จริง แต่ด้วยไอเดียผสมความฝัน ทำให้มียูทูบเบอร์หลายๆ คนพยายามที่จะสร้างกรงเล็บแบบนี้ออกมาหลายต่อหลายแบบ เพื่อให้มีความใกล้เคียงกับกรงเล็บอดาแมนเทียมในการ์ตูนมากที่สุด และด้วยกระแสอันโด่งดังของหนัง Logan ที่เพิ่งจะเข้าฉายไปได้ไม่นาน ทำให้ช่องยูทูบ the Hacksmith ทดลองสร้างกรงเล็บแบบ Wolverine ขึ้นมา แต่กรงเล็บของเขาพิเศษกว่าคนอื่นๆ (หรือแม้แต่ในหนัง) เพราะเจ้ากรงเล็บที่ว่านี้มีการใช้ไฟฟ้าด้วย! พ่อหนุ่มคนนี้เรียกตัวเองว่า Hacksmith เขามักจะสร้างอาวุธจากเกมและการ์ตูนให้กลายเป็นของจริง อย่างผลงานที่ผ่านๆ มาก็มี โล่ของกัปตันอเมริกา ปืนปีนป่ายของ Batman ดาบซามูไรของไซล็อคจาก X-Men หรือโล่ของไรน์ฮาร์ทจากเกม Overwatch เป็นต้น เขาได้นำเอากรงเล็บที่มีการออกแบบไว้ก่อนหน้านี้แล้ว มาต่อเข้ากับหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูง เริ่มแรกเขาได้ต่อแบตขั้วลบลงไปที่โต๊ะ ก่อนจะต่อขั้วบวกเข้าที่กรงเล็บ จากนั้นก็ลองเอากรงเล็บมาขูดกับโต๊ะแบบนี้ (น้องๆ หนูๆ ไม่ควรลองเล่นเองที่บ้านนะจ๊ะ) ลองเอากรงเล็บไปตัดตาข่าย หรือจะลองเอาไปตัดแผ่นอลูมิเนียมก็ดูจะง่ายดายมาก ใครอยากเห็นพ่อหนุ่มคนนี้ทดสอบกรงเล็บไฟฟ้าแบบเต็มๆ…
-
พ่อพระแมวแห่งอเลปโป กลับมาฟื้นชีพ “สถานสงเคราะห์แมว” ที่ถูกทำลายจากสงครามซีเรีย
เป็นเวลาหลายปีที่สถานสงเคราะห์แมวจรจัดแห่งนี้ ให้ความหวังและความสุขแก่ชาวแมวเหมียวแห่งเมืองอเล็ปโป ประเทศซีเรีย แต่อยู่ดีๆ วันหนึ่งผลพวงของสงครามก็เกิดขึ้น และสถานที่แห่งนี้ก็ถูกลูกหลงของระเบิด ทำให้ทุกคนต่างสิ้นหวังและคิดว่ามันเป็นไปได้ยากที่จะฟื้นฟูที่แห่งนี้กลับมา . ที่ลี้ภัยแมวแห่งนี้เริ่มต้นโดยชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า Mohammad Alaa Jaleel เขาก่อตั้งมันขึ้นในปี 2012 โดยในตอนแรกก่อนที่มันจะเป็นที่ลี้ภัย เขาช่วยเหลือและเลี้ยงแมวจรจัดไว้เพียง 20 ตัวเท่านั้น เวลาผ่านไปไม่กี่ปีจำนวนแมวก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 ตัว ทำให้เขาเริ่มสร้างลี้ภัยนี้ขึ้นนั่นเอง ที่ลี้ภัยแห่งนี้รู้จักกันในชื่อว่า House of Cats Ernesto ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับแมวของเขา เขาพยามปกป้องและดูแลที่แห่งนี้เป็นอย่างดีพร้อมกับบอกว่า “ผมจะปกป้องที่แห่งนี้ ทุกคนออกจากประเทศไป รวมถึงเพื่อนของผมด้วย แมวพวกนี้ก็เลยกลายเป็นเพื่อนรักของผม” แต่ทว่าเมื่อสงครามเกิดขึ้นและขยายวงกว้างมาจนถึงเมืองนี้ ที่ลี้ภัยแห่งนี้ก็โดนลูกหลงไปด้วย แน่นอนว่าเขาคนนี้ก็อยู่เพื่อช่วยเหลือเจ้าเหมียวในที่ลี้ภัยจนวินาทีสุดท้าย แต่สุดท้ายเขาก็จำเป็นจะต้องไปอยู่กับครอบครัวของเขาที่ประเทศตุรกีเพื่อหนีภัยสงครามที่เกิดขึ้น พร้อมกับแมวของเขา Ernesto แต่เขาไม่ได้จะกลับมาอยู่กับครอบครัวถาวรหรอกนะ เขาแค่ลี้ภัยเพื่อเอาชีวิตรอดเท่านั้น ซึ่งเขาได้วางแผนที่จะฟื้นฟูสถานลี้ภัยแห่งนั้นกลับมาอีกครั้ง ด้วยการช่วยเหลือจากคนทั่วโลกที่ติดตามเขา ยังจำได้ไหมว่าเราเคยนำเสนอเรื่องของเขาไปในบทความ Aljaleel ผู้คอยช่วยเหลือแมวนับร้อย ที่ถูกทิ้งในเมือง Aleppo ของซีเรีย หลังเกิดสงคราม..!! เขาก็คือคนเดียวกันนี่แหละ… …
-
ทารกน้อยกำมือฝาแฝดป่วยหนัก เคียงข้างคอยดูแลตั้งแต่เกิดจนโต ไม่ทิ้งกันไปไหน…
เรื่องราวสุดซาบซึ้งของเด็กแฝดคู่หนึ่ง ที่ตอนเกิดออกมาคนหนึ่งป่วยรางกายไม่ปกติ แต่อีกคนกลับมีสุขภาพที่แข็งแรงดี ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ไม่ทิ้งกันไปไหน ด้วยสายสัมพันธ์ของพี่น้องแน่นแฟ้นตั้งแต่แรกคลอด นี่คือเรื่องราวของ Cooper Keen และ Lucas Keen สองพี่น้องที่เกิดมามีร่างกายไม่เหมือนกัน… ทางฝ่าย Lucas เป็นเด็กชายที่เกิดมาปกติสมบูรณ์ดีทุกอย่าง แต่ทว่า Cooper กลับเกิดมาพร้อมกับอาการเลือดออกในสมองและมีกลูโคสที่ต่ำ ทางทีมแพทย์จึงต้องรีบช่วยเหลือทันที พ่อแม่ของทั้งคู่ Owen Keen และ Kerrie Keen พวกเขาต่างเป็นวิตกกังวล และเป็นห่วงลูกของพวกเขา กลัวว่าเขาจะไม่รอด แต่ทว่าปฏิปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น Cooper น้อยสามารถรอดชีวิตมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ภาพที่พวกเขาเจอก็คือทารกน้อยอีกคน Lucas จับมือของ Cooper ไว้แน่นไม่ปล่อยไปไหนเลย หรือว่า Cooper จะสัมผัสได้ถึงกำลังใจจากฝาแฝดของเขา!? หลังจากนั้นเวลาผ่านไปอาการของ Cooper ก็ดีขึ้นเป็นระยะๆ แต่ทว่าตอนย่างเข้าช่วงเดือนที่ 7 ก็มีข่าวร้ายเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเขามีภาวะน้ำคั่งในโพรงสมองและป่วยเป็นโรคสมองพิการ Cooper นั้นไม่สามารถที่จะเดินได้ด้วยตัวเอง ซึ่งแม่ของเขาก็ได้บอกว่า เขาเรียนรู้ที่จะเคลื่อนที่ได้ด้วยการกลิ้ง จนตอนนี้เขาอายุได้ 3 ขวบ แล้ว…
-
ชายหนุ่มเผยด้านอ่อนโยนของ ‘กระทิง’ เพื่อสนับสนุนให้เป็นสัตว์เลี้ยงมากกว่าเป็นนักสู้
เมื่อพูดถึงกระทิง เราคงจะนึกถึงสัตว์ที่มีความดุร้ายจนไม่อยากเข้าใกล้ แต่นั่นเป็นผลมาจากการถูกเลี้ยงให้เป็นสัตว์นักสู้มากกว่าธรรมชาติของมันเอง โดยธรรมชาติแล้ว กระทิงก็ไม่ได้ต่างอะไรจากวัวตัวหนึ่งเลย มันเป็นสัตว์ที่รักสงบ แต่เมื่อมันมาอยู่ในมือของมนุษย์แล้ว มันมักจะถูกเลี้ยงผิดๆ เพื่อหาผลประโยชน์จากมัน จนทำให้มันถูกมองเป็นสัตว์ที่น่ากลัวในทุกวันนี้ Christophe Thomas จากเมือง Rennes ประเทศฝรั่งเศส เป็นคนที่ต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่า กระทิงสามารถเป็นสัตว์เลี้ยงที่อ่อนโยนได้ เขาตัดสินใจซื้อกระทิงมาตัวหนึ่ง เพื่อแสดงให้เห็นถึงมุมที่อ่อนโยนของมัน และได้ตั้งชื่อให้มันว่า Fodjen ในทุกๆ วันพวกเขาจะใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ชายหนุ่มดูแลเจ้ากระทิงด้วยวิธีที่อ่อนโยน จนมันเผยมุมที่น่ารักออกมา มันไม่เคยแสดงอาการก้าวร้าวเลย ทำให้รู้ว่าแท้จริงแล้ว สัตว์จะอ่อนโยนหรือดุร้ายนั้นอยู่ที่วิธีการเลี้ยงดูมากกว่า ด้วยเหตุนี้ Christophe จึงรณรงค์ให้มีการนำกระทิงมาเป็นสัตว์เลี้ยงมากกว่าเป็นนักสู้ในสนาม และเพื่อนๆ เองก็สามารถเข้าร่วมลงชื่อได้ที่เว็บไซต์ action.peta คงไม่มีสัตว์ตัวไหนที่เกิดมาเพื่อใช้ความรุนแรงหรอก แต่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะความเข้าใจผิดของมนุษย์แหละ หากเราเข้าใจมันและเลี้ยงให้ถูกทางเราก็คงจะเห็นความน่ารักของเหมือนเจ้า Fodjen ตัวนี้ มาดูความอ่อนโยนของ Fodjen กัน เข้าใจแล้วใช่มั้ยว่ากระทิงไม่ได้ดุร้ายมาแต่เกิด ที่มา thedodo
-
7 คำแนะนำตำราผัวเมียแปลกๆ จากยุควิคตอเรีย ที่ไม่สามารถใช้ได้จริงกับชีวิตคู่!?
ปัจจุบันมีการให้ความรู้เกี่ยวกับเซกส์มากมาย เนื่องจากมีการเปิดกว้างมากขึ้นทั้งเด็กและผู้ใหญ่และไม่จำกัดเพศด้วย แต่เคยสงสัยมั้ยว่าในอดีต พวกเขามีความเข้าเกี่ยวกับเพศอย่างไร หนังสือ Sex Tips For Husbands and Wives ได้เปิดเผยความเชื่อเกี่ยวกับเซกส์ของคนในยุควิคตอเรีย ซึ่งเป็นความคิดที่ค่อนข้างแปลกมากๆ แบบว่ามีมารยาเล่ห์กลเข้ามาเกี่ยวข้องเพียบ!! หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์เมื่อปี 2437 เขียนโดย Ruth Smythers ซึ่งเป็นภรรยาของบุคคลผู้เป็นตัวแทนพระคริสต์ในยุคสมัยนั้น เธอได้เขียนหลักการหลีกเลี่ยงการมีอะไรกับสามีให้กับผู้หญิง แต่บางคำแนะนำในหนังสือเล่มนี้ก็ฟังดูแปลกๆ และอาจจะผิดด้วยซ้ำหากมองในมุมมองของคนปัจจุบัน คำแนะนำและเทคนิคที่ว่าเหล่านั้นก็คือ… – หากว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ได้ ก็ให้ไปหาทำเลในที่มืดแทน – เมื่อเสร็จภารกิจแล้ว ภรรยาก็ควรที่จะใช้เล่ห์อุบายบอกให้สิ่งเล็กๆ ที่อยากให้สามีทำในตอนเช้า – หากสามีกำลังโกรธ ภรรยาควรจะเงียบหรือวุ่นวายเกี่ยวกับงานบ้านมากกว่า – ผู้หญิงควรจะนอนนิ่งๆ ไม่ควรร้องหรือครางออกมาในขณะที่สามีกำลังปฏิบัติภารกิจ ไม่ว่าจะอยู่ในท่าไหนก็ตาม – ปล่อยให้ผู้ชายคลำหาคุณในที่มืด เพื่อทำให้สามีเผลอไปชนไปจับอะไรที่ทำให้รู้สึกเจ็บจนไม่อยากจะสานภารกิจต่อ – และที่สำคัญ อย่าไปยอมบ่อย ต้องทำท่าเหมือนไม่เต็มใจด้วย – ผู้หญิงบางคนอาจจะคาดหวังว่าจะหาท่าแปลกๆ ในคืนวันแต่งงานเพื่อสร้างความสุข ใครคิดแบบนี้พึงระวังไว้ เพราะมันไม่โอเค และจากทัศนคติทั้ง 7 ข้อนี้ เป็นการสะท้อนค่านิยมและความเชื่อในยุควิคตอเรีย…
-
20 ตู้กดอัตโนมัติทั่วโลก ทั้งแปลกและเจ๋ง ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไม่รอนานด้วย!!
ปัจจุบันนี้มีตู้กดสิ่งต่างๆ ตั้งไว้คอยบริการเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นตู้กดเงิน ตู้กดน้ำ กดอาหาร และยังมีอีกมากมายที่เราอาจจะยังไม่เคยเห็น ว่าแต่ตู่กดที่เราเคยเห็นหรือเคยใช้มีอะไรบ้าง ตู้กดเงิน ตู้กดน้ำ อะไรอีกนะคิดไม่ออก แต่จะบอกตู้กดที่เพื่อนๆ จะได้เห็นต่อไปนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตาสักเท่าไร แต่มันมีอยู่จริงนะ 1. ตู้กดคัพเค้ก ตั้งอยู่ที่เมืองนิวยอร์ก ลอสแอนเจลิส และเมืองดัลลัส 2. ตู้กดปูสดแห่งแรกในประเทศจีน เชื่อมั้ยว่ามันสามารถขายได้เฉลี่ย 200 ตัวต่อวันเลยนะ 3. ตู้กดหน้ากากอนามัยในไต้หวัน ถูกกดไปมากที่สุดในช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดนก 4. ตู้กดทองแท่ง ที่โรงแรม Emirates Palace ในเมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5. ตู้ขายนิตยสารในโตเกียว ที่จะมีคนคอยบริการคุณด้วยรอยยิ้มทุกครั้งที่กด พร้อมกับมอบขนมให้ด้วย 6. ตู้กดกาแฟกระป๋องที่จัดทำโดยบริษัท Suntory ในประเทศญี่ปุ่น มีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง 7. ตู้กดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และตู้อุปกรณ์ Gadget ในฮอลลีวูด รัฐแคลิฟอร์เนีย …
-
อย่างเนียน!! หนุ่มปลอมตัวเป็น “อาจารย์” เข้าไปสอนในมหา’ลัย ก่อนตัวจริงชะแว๊บเข้ามา
ในหลายๆ ครั้ง (หรือจริงๆ คือส่วนใหญ่) ของการเรียนไม่ว่าจะในระดับมัธยมหรือมหาลัย มันจะค่อนข้างน่าเบื่อขึ้นเรื่อยๆ จนบางครั้งเราคาดหวังอยากจะให้มีเรื่องราวสนุกๆ เกิดขึ้นภายในชั้นเรียนของเราบ้าง อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เรากำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ ช่องยูทูบ Chamber Boys ที่ก่อตั้งโดยคนกวนๆ 4 คน ได้แก่ Munna, Pat, Abby, และ Travis พวกเขาได้สุมหัวกันและได้ไอเดียขึ้นมาว่า อยากจะปลอมตัวเข้าไปเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่ไหนสักแห่งเพื่อแกล้งเหล่านักศึกษาผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ และมหาวิทยาลัยที่โชคดีนั้นก็ได้แก่ มหาวิทยาลัยแห่งรอเชสเตอร์ (University of Rochester) โดยหนึ่งในทีมงานที่ชื่อ Munna ได้ร่วมมือกับ Patrick นักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ แล้วปลอมตัวเป็นศาสตราจารย์ Hafensteiner ก่อนจะเข้าไปแนะนำตัวกับนักศึกษาในวันแรกของการเปิดเรียน แน่นอนว่าทุกๆ คนไม่มีใครเคยเห็นศาสตราจารย์ Hafensteiner มาก่อน พวกเขาทั้งหมดจึงคิดว่านาย Munna คือศาสตราจารย์ผู้มีความรู้จริงๆ เมื่อเข้ามาถึงชั้นเรียนเขาก็แนะนำตัวเองว่าเขาคือศาสตราจารย์ Hafensteiner ที่จะมาสอนวิชาเคมีและยังบอกกับพวกเขาด้วยว่า “สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับวิชานี้คือมันโคตรจะยากเลยนะ ปีที่แล้วมีคนสอบตก 55% ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดเลย” จากนั้นศาสตราจารย์ Hafensteiner (ตัวปลอม) ก็ประกาศให้ทุกๆ คนรู้ว่าเขาไม่ชอบให้นักเรียนใช้คอมพิวเตอร์ในห้องเรียน เพราะมันจะทำให้พวกเขาเรียนรู้ได้แย่และสั่งให้พับเก็บลงให้หมด ผลปรากฏว่ามีคนเชื่อและเก็บไปแบบงงๆ ถึง 14 คนทีเดียว (นักเรียนคงคิดในใจว่าแล้วจะจดเลคเชอร์กันยังไง)…
-
พิตบูลสวมบทฮีโร่ ช่วยชีวิตเด็ก 9 ขวบ จากน้ำมือของแม่แท้ๆ ขณะกำลังจับลูกกดน้ำ!!
กลายเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตเด็กชายวัย 9 ขวบไปเลยทีเดียว สำหรับสุนัขพันธุ์พิตบูลจอมกล้าหาญตัวนี้ ที่ได้เข้าไปขัดขวางการกระทำอันโหดเหี้ยมของแม่แท้ๆ ที่กำลังจับลูกในไส้ของตนเองกดน้ำตาย เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองนิวเซาท์เวล ประเทศออสเตรเลีย เมื่อคุณแม่คนหนึ่งได้พาลูกชายวัย 9 ขวบ และ 5 ขวบของตนเองไปที่แม่น้ำเมอเร่ จากนั้นก็จับลูกชายคนเล็กกดน้ำจนเสียชีวิต หลังจากลูกชายคนเล็กเสียชีวิตแล้ว เธอก็มุ่งเป้าไปที่ลูกชายคนโตทันที ขณะที่เธอกำลังก่อเหตุนั้นเอง เจ้าหมาพิตบูลจอมฮีโร่ก็มาเห็นเหตุการณ์พอดี มันจึงเข้ามาหยุดการกระทำของแม่จอมโหด จนในที่สุด เธอก็ต้องหนีไป ภาพหลังมีคนเห็นศพของเด็กชายวัย 5 ขวบลอยอยู่ในแม่น้ำ ทำให้เจ้าหน้าตำรวจที่ได้ออกสำรวจพื้นที่ และได้พบกับเด็กชายวัย 9 ขวบอยู่ในสภาพมีแผลฟกช้ำเต็มร่างกาย แต่ไม่มีแผลใดอันตรายถึงชีวิต ต่อมาเขาได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ภายหลังแม่จอมโหดก็ได้เข้ามอบตัวกับทางตำรวจ และถูกต้องข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาทันที ซึ่งเมื่อทางตำรวจได้สืบประวัติแล้วพบว่า เธอเพิ่งประกันตัวออกมาจากคุกเมื่อเดือนก่อน ซึ่งทนายของเธอกล่าวว่า เธอมีอาการสับสนและเศร้าซึมเป็นอย่างมาก มีรายงานว่า แม่จอมโหดดังกล่าวเคยบอกกับเพื่อนของเธอว่า เธอจำเป็นต้องฆ่าลูกของตนเอง ซึ่งภายหลังเรื่องดังกล่าวได้ถูกนำมาพิจาณาในศาล และปู่ย่าของเด็กก็ได้เตือนศาลถึงความเสี่ยงที่เธอจะก่อเหตุ หลังจากที่เธอถูกประกันตัวออกมา สุดท้ายเหตุการณ์ดังกล่าวก็เกิดขึ้นจริงๆ และครอบครัวก็ต้องสูญเสียสมาชิกตัวน้อยไปอย่างไม่มีวันกลับ ที่มา metro
-
ขอแนะนำ Kado Wallet พาวเวอร์แบงค์ที่บางเฉียบที่สุดในโลก ใส่กระเป๋าตังค์ได้สบาย
ทุกวันนี้พาวเวอร์แบงค์หรือแบตเตอรี่สำรองถือว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ใครๆ ก็ขาดไม่ได้ เพราะมันสามารถต่อลมหายใจให้กับโทรศัพท์ของเราที่กำลังจะแน่นอน ให้กลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง โดยที่เราไม่ต้องไปนั่งอยู่หน้าปลั๊กไฟ แต่ปัญหาอย่างหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยก็คือ หลายๆ ครั้งขนาดของพาวเวอร์แบงค์ก็ใหญ่จนทำให้เราไม่สามารถพกพามันได้อย่างสะดวกสบาย งั้นวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับพาวเวอร์แบงค์ Kado Wallet ที่ว่ากันว่าเป็นพาวเวอร์แบงค์ที่บางที่สุดในโลก จะเจ๋งขนาดไหน เราไปชมกันเลย Kado Wallet เป็นผลงานของบริษัทสตาร์ทอัพจากประเทศอิสราเอล พวกเขากล่าวว่า นี่คือพาวเวอร์แบงค์ที่บางที่สุดในโลกด้วยขนาดเพียง 5 มิลลิเมตร นอกจากขนาดที่บางแล้ว ตัวพาวเวอร์แบงค์ยังสามารถแบ่งออกเป็นสองส่วนแล้วเก็บเข้ากระเป๋าเงินได้อย่างสบายๆ ทำให้สะดวกสบายในการพกพาเป็นอย่างมาก โดยตัวพาวเวอร์แบงค์ รองรับทั้งสาย Lightning, Micro Usb, และ Micro Usb type C อีกด้วย เรียกว่าครอบคลุมทุกระบบในยุคปัจจุบันเลยทีเดียว ลองไปชมวีดีโอเปิดตัวของพวกเขากันดีกว่า Kado Wallet เพิ่งเปิดตัวในงาน MWC 2017 เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และยังไม่มีการประกาศราคาออกมาแต่อย่างใด ใครสนใจก็รอติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด ถ้าเปิดราคามาไม่แรงมาก…
-
‘Emma’ แมวน้อยผู้ไม่เคยยอมแพ้ แม้จะเสียพี่น้องไป แต่ก็สู้จนสภาพตอนนี้อืดเชียวนะ!!
หากเราเห็นแมวนั่งหนาวสั่นอยู่ข้างถนนแล้วเดินผ่านมันไป เราจะไม่มีวันรู้เลยว่าแท้จริงแล้วมันน่ารักมากแค่ไหน ดังนั้นคนที่หยุดและช่วยมันไว้เท่านั้นแหละที่จะได้เห็น เรื่องราวของแมวน้อย Emma ก็เริ่มต้นจากจุดนั้นเหมือนกัน จุดที่ต้องเผชิญกับความหนาวเหน็บอย่างโดดเดี่ยว แต่โชคดีมันไม่ถูกมองข้ามไป Emma ถูกพบหลังจาก Little Wanderers ได้รับข้อมูลจากนักสังคมสงเคราะห์ว่า ‘มีลูกแมว 5 ตัวถูกทิ้งไว้ในกล่องและพวกมันกำลังหิวโหยอยู่ในบริเวณ South Bronx พวกมันถูกทิ้งไว้แบบนี้มาหลายวันแล้ว ในขณะที่นักสังคมสงเคราะห์ก็พยายามจะช่วยพวกมันไว้ แต่แล้วลูกแมว 2 ตัวก็จากไปเสียก่อน พวกเขาจึงได้ติดต่อกับ Little Wanderers ซึ่งเป็นกลุ่มช่วยเหลือสัตว์แห่งเมือง NYC เพื่อให้มาช่วยลูกแมวที่เหลือทั้ง 3 ตัวนี้ หลังจากที่ช่วยออกมาได้สำเร็จ พวกเขาพยายามจะเอาอาหารเปียกให้มันกิน แต่ดูเหมือนลูกแมวจะยังเด็กเกินไปที่จะกินได้ พวกมันจึงทำได้แค่เลียเท่านั้น ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงเอานมให้มันกินแทน ต่อมา Joanne จึงได้ตัดสินใจพาลูกแมวทั้งหมดกลับไปอยู่บ้านด้วยและให้การดูแลตลอด 24 ชั่วโมง แต่ในช่วง 5 สัปดาห์แรกพบว่ามี Emma ตัวเดียวที่มีน้ำหนักเท่ากับลูกแมวอายุ 2 สัปดาห์เท่านั้น Joanne ไม่ยอมแพ้ เธอยังคงพยายามดูแลพวกมันต่อไป และพามันไปพบสัตวแพทย์ด้วย และเป็นที่น่าเสียดายสหายลูกแมวที่เหลืออีก 2…
-
ภาพวิถีชีวิตเด็กญี่ปุ่น หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ถ่ายทอดมาในรูปแบบโทนขาวดำ
คงไม่มีใครอยากให้เกิดสงคราม ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม เพราะทุกครั้งที่มีการสู้รบกันจะนำมาซึ่งความเสียหายมหาศาลทั้งชีวิตและทรัพย์สินนับไม่ถ้วน และแน่นอนว่าหลังจากสงครามสงบแล้ว คนที่เหลืออยู่ก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไปท่ามกลางความบอบช้ำ พวกเขาต้องเก็บกวาดซากต่างๆ จากสงคราม ต้องอยู่กับความโศกเศร้าเนื่องจากการสูญเสีย แต่สำหรับเด็กๆ แล้ว เพียงเวลาสั้นๆ แต่พวกเขาต้องเจอกับโลกแตกต่างกันถึง 2 ขั้ว และด้วยความเป็นเด็กแม้จะผ่านเรื่องร้ายมามากแค่ไหน พวกเขาก็ยังมีช่วงเวลาที่ยิ้มได้ โดยเฉพาะเวลาได้เล่นกับเพื่อนๆ ตามประสาเด็กๆ รอยยิ้มของเด็กๆ ไม่ใช่แค่ความสุขของพวกเขาเองเท่านั้น แต่ยังเป็นกำลังใจให้กับพ่อแม่ในการผ่านเรื่องโศกเศร้าไปด้วย แม้จะสูญเสียไปมากมาย แต่รอยยิ้มของลูกคือพลังให้ขับเคลื่อนต่อไป และนี่คือภาพถ่ายของเด็กๆ ชาวญี่ปุ่นในยุค Showa หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้จบสิ้นลง พวกเขาจะรวมตัวกันตามตรอกซอยต่างๆ เพื่อจะเล่นด้วยกัน แม้ต้องเผชิญกับความยากจนและความทุกข์ยากมากแค่ไหนก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังคงมีความสดใสปรากฏอยู่บนใบหน้าเสมอ และเชื่อว่าภาพเหล่านี้ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจกับใครหลายๆ คนจนถึงปัจจุบันนี้ . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
ลูกชะนีน้อยในลาว ถูกช่วยเหลือมาจากการค้าสัตว์เถื่อน ได้รับฟื้นฟูร่างกายก่อนกลับเข้าสู่ป่า
รู้มั้ยว่าในทุกๆ ปีมีสัตว์ที่ถูกลับลอบขายแบบผิดกฎหมายทั่วโลก ทาง TRAFFIC ซึ่งเป็นองค์กรที่ติดตามการค้าสัตว์ป่าคาดว่า การลักลอบค้าสัตว์จะขยายตัวไม่ต่างจากเครือข่ายยาเสพติดเลย World Wide Fund Nature (WWF) ได้ประกาศให้การค้าสัตว์ผิดกฎหมายนี้เป็นภัยที่ร้ายแรงที่สุดเป็นอันดับสองรองจากการคุกคามที่อยู่อาศัย สัตว์สายพันธุ์ที่หายากมักจะตกเป็นเหยื่อ เพราะลูกค้าจะเสนอราคาค่อนข้างสูง โดยส่วนใหญ่จะลักลอบขายข้ามประเทศทำให้สัตว์จำนวนมากตายระหว่างการขนส่ง และเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2017 เกิดการลักลอบค้าสัตว์ป่าในประเทศลาว โดยเจ้าหน้าที่รัฐได้ติดต่อศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าลาว เพื่อให้มารับของที่อยู่ในกล่องขนาดใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่สกัดจับได้จากการลักลอบขายข้ามประเทศ และเมื่ออาสาสมัครไปถึงก็พบเป็นลูกชะนีเผือก คาดว่าน่าจะอายุประมาณ 1 ปี พวกเขาจึงได้นำตัวมันไปส่งให้กับสัตว์แพทย์ตรวจร่างกาย และก็พบว่ามันมีสุขภาพแข็งแรงดี ต่อมาพวกเขาได้ตั้งชื่อให้ชะนีน้อยว่า Ee Ooo เพราะมันมักจะทำเสียงแบบนี้ และโชคดีที่มีชะนีอีก 5 ตัวอยู่ที่ศูนย์ทำให้ Ee Ooo ไม่โดดเดี่ยว อาสาสมัครได้ห่มผ้าให้มันและป้อนนมให้มันด้วย เพื่อให้มันเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรง และจะได้ปล่อยให้มันกลับไปใช้ชีวิตในธรรมชาติเช่นเดิม ก่อนหน้านี้เคยมีการพบชะนีเผือกในประเทศจีน เวียดนามและลาว แต่ตอนนี้มันได้สูญพันธุ์ไปจากจีนแล้วตั้งแต่ปี 2008 และตามการรายงานของ National Geographic พบว่าชะนีเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ถูกคุกคามมากที่สุดในโลก ทำให้พวกมันมีจำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว…
-
6 วัตถุปริศนาที่ถูกค้นพบบนโลก แต่ไม่อาจหาคำอธิบายว่ามันมาได้ยังไงจนถึงทุกวันนี้…
ตามกฎธรรมชาติแล้ว ทุกอย่างมีที่มาที่ไปทั้งนั้นจนเกิดเป็นคำกล่าวที่ว่า “ทุกอย่างล้วนสัมพันธ์กัน” แต่สำหรับวัตถุต่อไปนี้แม้จะถูกพบบนโลกแต่กลับไม่มีใครที่จะอธิบายที่มาที่ไปของมันได้ อย่างที่รู้ว่า มนุษย์เรามีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน คนแต่ละยุคแต่ละสมัยก็มีวิถึชีวิตที่แตกต่างกัน แต่ที่เป็นปัญหาคือเมื่อสิ่งประดิษฐ์ในอดีตยังคงหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน มันจึงเกิดเป็นคำถามที่คนปัจจุบันอยากรู้คำตอบว่าสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นมาได้ยังไง มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน และมีไว้เพื่ออะไร!? 1. หินยักษ์ทรงกลมของ Costa Rica หินยักษ์ทรงกลมถูกค้นพบในช่วงทศวรรษที่ 1930 ตามตำนานของท้องถิ่นบอกว่ามีทองคำซ่อนอยู่ภายใน แต่เมื่อลองนำมาหินนี้มาระเบิด กลับไม่พบอะไรเลย ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า ทำไมต้องปั้นเป็นหินทรงกลม ทั้งนี้มีการคาดเดาว่าอาจเป็นเครื่องหมายระหว่างดินแดนของชนเผ่าต่างๆ 2. แบตเตอรี่แบกแดด สิ่งประดิษฐ์นี้ถูกค้นพบในปี 1930 ในบริเวณที่ไม่ไกลจากรุงแบกแดด มีลักษณะเป็นขวดขนาด 13 เซนติเมตร มีแกนเหล็กยืนออกมาที่ปากขวด มีกระบอกทองห่อหุ้มอยู่และพบเหล็กด้านในอีกหนึ่งแท่ง จากการตรวจสอบ ผู้เชี่ยวชาญได้สรุปว่า มันคือแบตเตอรี่เก่าที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 1 โวลต์ ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้พลังงานจากแท่งทองที่หุ้มอยู่ แต่ที่น่าแปลกคือ ไม่มีการพบวัตถุคล้ายกันในบริเวณใกล้เคียงเลยแม้แต่ชิ้นดียว 3. ต้นฉบับของ Voynich Voynich อาจเป็นหนังสือที่ลึกลับที่สุดในโลก เพราะผู้เขียนใช้ภาษาที่อ่านยากและในแต่ละหน้าก็เต็มไปด้วยสัญลักษณ์แปลกๆ มากมาย ซึ่งไม่มีใครบอกได้ว่ามันหมายถึงอะไร สิ่งที่ทำให้มันเป็นหนังสือที่พิเศษคือ ตัวหนังสือที่ใช้นั้นไม่เหมือนภาษาใดๆ บนโลก ไม่มีใครรู้จักภาษาที่ใช้ในหนังสือ…
-
30 ภาพความงามแห่ง ‘กรีซ’ ประเทศที่มีแทบทุกอย่าง แค่รอให้คุณได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง
ถ้าให้เลือกไปต่างประเทศได้ 1 ประเทศ เพื่อนๆ จะเลือกไปที่ไหนเอ่ย? แน่นอนว่าหลายคนอยากไปประเทศในฝันของตัวเอง และต้องไปให้คุ้มด้วยนะ แต่ถ้ากลัวจะไม่คุ้มเนี่ย เราขอแนะนำประเทศกรีซ ที่บอกได้เลยว่า เป็นประเทศที่รวมเอาทุกอย่างไว้ในนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร ที่พัก ก็คงไม่มีที่ไหนเพียบพร้อมไปกว่าอีกแล้ว และนี่คือภาพบางส่วนที่เรานำมายั่วเพื่อนๆ ในวันนี้ 1. Parthenon สถานที่ขึ้นชื่อของกรีซ ให้คุณได้ท่องเที่ยวสำรวจกรุงเอเธนส์เพื่อดูร่องรอยของเมือง Acropolis ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญของกรีซนั่นเอง 2. ใกล้ๆ กันนั้นจะเป็น Odeon of Herodes Atticus โรงละครโบราณที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่สอง โครงสร้างทั้งหมดทำมาจากหินล้วนๆ 3. เมื่อไปเอเธนส์สถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือ Central Market ตลาดที่รวมเอาของสดทุกอย่างไว้ในนี้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสด ปลาสด หรือแม้แต่ผลไม้สด 4. นอกจากกรุงเอเธนส์แล้ว คุณสามารถไปดูซากปรักหักพังได้ที่เมืองโอลิมเปีย ที่นี่คุณจะเห็นร่องรอยในอดีตที่สร้างขึ้นก่อนคริสตศักราช 5. หากต้องการดูสถาปัตยกรรมเก่าๆ ก็ต้องไปที่ Mani ตั้งอยู่ในเมือง Peloponnese จะมีบ้านที่ทำมาจากหินตั้งเรียงกันตามเนินเขา 6. เมืองโบราณในสปาร์ตา …
-
สื่อนอกเผยไทยคว้าอันดับ 65 จากผลสำรวจ “ประเทศที่มีความทุกข์ยาก” ประจำปี 2017
ในปี 2016 ที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในด้านการเมือง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก อันมีผลทำให้ดัชนีความทุกข์ยากของประเทศต่างๆ ทั่วโลกในปีนี้มีอัตราเพิ่มสูงขึ้น โดยล่าสุดวันที่ 3 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Bloomberg ได้เผยผลสำรวจดัชนีความทุกข์ยาก หรือ Misery Index ประจำปี 2560 จากทั้งหมด 65 ประเทศพบว่า… ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความทุกข์ยากในลำดับที่ 65 โดยมีคะแนนอยู่ในดัชนีความทุกข์ยากอยู่ที่ 2.6% น้อยที่สุดในผลการสำรวจ (ซึ่งก็เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1.4% ) ถัดมาคือประเทศสิงคโปร์ 3.1% สวิสเซอร์แลนด์ 3.6% ญี่ปุ่น 3.6% และไอซ์แลนด์ 4.6% ในขณะที่ประเทศเวเนซูเอล่า ที่มีปัญหาในด้านการเมืองและเศรษฐกิจ มีคะแนนอยู่ในดัชนีความทุกข์ยากอยู่ที่ 499.7% ซึ่งนับเป็นประเทศที่มีความทุกข์ยากมากที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 3 แล้ว รองลงมาคือ แอฟริกาใต้ 32.2% อาร์เจนตินา 30.9% กรีซ 23.2% และตุรกี…
-
หญิงสาวฉลองการหย่ากับสามี ด้วยการนำชุดแต่งงานไป “เผา” แม่มให้หมด!!
การที่ต้องเลิกรากับคนที่รักนับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็ต่างไม่อยากประสบทั้งนั้น ซึ่งแต่ละคน ก็มีวิธีในการจัดการความรู้สึกแตกต่างกันออกไป บางคนอาจไปเที่ยว บางคนอาจพึ่งธรรมมะ บางคนอาจไม่ต้องพึ่งอะไรเลย แต่สำหรับ Katlynn McKee วัย 25 ปีคนนี้ เธอมีวิธีการจัดการความรู้สึกที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการนำชุดเจ้าสาวมูลค่ากว่า 1,500 ดอลลาร์หรือกว่า 50,000 บาท ไปเผาทิ้งอย่างไร้เยื่อใย “ฉันคบกับอดีตสามีมาตั้งแต่อายุ 16 ปี และก็แต่งงานกันเมื่อ 4 ปีก่อน ความสัมพันธ์ของเราทั้งสองไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ดังนั้น พอเลิกกัน ฉันก็รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก” “จากนั้นฉันก็มาคิดว่าจะทำยังไงดีกับชุดแต่งงาน ฉันพยายามหาไอเดียจากในเน็ต แต่หลักๆ นี่ก็เป็นสิ่งที่ฉันอยากทำเป็นอย่างมาก” McKee กล่าว “ฉันใส่ชุดแต่งงานเข้าไปในป่า พอมันสกปรก ฉันก็เริ่มเอากรรไกรมาตัดชุดทิ้งทีละน้อย “ เธอได้เล่าแผนการให้สามีเก่าฟังด้วย และดูเหมือนว่าเขาจะชอบไอเดียนี้มาก จนเขาอาสามาเป็นตากล้องถ่ายภาพให้ฟรีๆ เลยทีเดียว และเขาก็แปลกใจมาก เพราะการทำแบบนี้ดูเหมือนไม่ใช่ตัวเธอเลย แค่ตัดยังไม่พอ เธอจัดการถอดชุดออกมา ราดน้ำมัน แล้วจุดไฟเผามันตรงนั้นเลย เธอบอกว่าการทำเช่นนี้…
-
คอลเลคชั่นน่าโดนสำหรับแฟนๆ “โดราเอม่อน” มีทั้งรองเท้าและเสื้อโค้ท สีฟ้าสวยสดงดงาม!!
อัง อัง อัง ตดเตะโมะดาอิซุคิ โดราเอ..ม่อนน… อุ้ยตาย ว้ายกริ๊ด ขึ้นมาแบบนี้จะพูดถึงเรื่องอื่นไปไม่ได้นอกจากตัวการ์ตูนผู้น่ารักอย่างโดราเอม่อนนั่นเอง โดราเอม่อนไม่ใช่ตัวละครที่มีแต่เด็กๆ ที่ชื่นชอบเท่านั้น แต่ผู้ใหญ่อย่างเรายังรักเลย ก็ว่าจะเลิกชอบหลายครั้งแล้วนะแต่ทำไม่ได้สักที แหม่ ก็มันผูกพันนี่เนอะ อิอิ ถ้าคุณเป็นคนหลงใหลโดราเอม่อน งานนี้จะทำให้คุณกริ๊ด กริ๊ด กริ๊ด แบบไม่ลืมหูลืมตาแน่ เพราะมันคือ เสื้อโค้ทและรองเท้าสีฟ้าที่พิมพ์ลายโดราเอม่อนเอาไว้ อ่ะ อยากได้ละสิ๊ สืบเนื่องจากโดราเอม่อนภาค Doraemon’s Great Adventure to the South Pole ออกฉายในวันที่ 4 มีนาคมที่ญี่ปุ่น ก็เกิดไลน์ผลิตภัณฑ์ชุดพิเศษนี้ตามมาทันที อันเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท Reebok และบริษัทด้านการออกแบบ atmos ในการผลิตรองเท้ารุ่น Instapump Fury และเสื้อโค้ทลายพิเศษ เพื่อเอาใจคนรักเจ้าแมวสีฟ้าจากโลกอนาคตตัวนี้นั่นเอง ทั้งเสื้อและรองเท้าถูกออกแบบมาอย่างดี ซึ่งไม่เหมือนกับเสื้อผ้าอื่นๆ ที่คุณเคยใส่หรอก ทำไมนะเหรอ?…
-
คู่สามีภรรยาประสบ ‘โรคแพ้ชีวิตสมัยใหม่’ ย้ายไปใช้ชีวิตเรียบง่าย ในบ้านโคลนที่สร้างเอง
ทุกวันนี้การพัฒนาได้มีความก้าวหน้าไปพร้อมๆ กับการหมุนของโลก ดังนั้นความทันสมัยจึงมีไม่สิ้นสุด แต่ในขณะที่หลายคนมองหาความทันสมัยนั้น ก็มีอีกหลายคนที่พยายามจะหลีกเลี่ยงมัน Kate Burrows คือหนึ่งในคนที่ไม่สามารถใช้ชีวิตในสังคมสมัยใหม่ได้ เนื่องจากมันมีผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ เธอกับสามีจึงตัดสินใจเดินออกมาจากสังคมเมืองไปสร้างบ้านเองที่อยู่ห่างออกไป Kate วัย 45 ปี แต่งงานกับสามีวัย 47 ปี โดยทั้งคู่ใช้ชีวิตร่วมกันมาแล้วกว่า 10 ปี ทั้งคู่อาศัยอยู่ในบ้านเช่าแห่งหนึ่ง แต่ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ Kate มักจะรู้สึกมีอาการแพ้และเป็นไข้อยู่บ่อยๆ ในที่สุดทั้งคู่ก็ย้ายไปสร้างบ้านที่ Chulmleigh ซึ่งเป็นที่ดินที่ภรรยาเคยซื้อไว้ก่อนที่จะแต่งงาน พวกเขาสร้างบ้านจากโคลนและดิน แม้จะเป็นบ้านขนาดเล็กแต่ก็ทำให้คนสองคนอยู่กันได้แบบสบาย และเป็นที่น่าแปลกใจว่าตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ Kate ก็ไม่ป่วยอีกเลย จนเธอสามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ เธอทำงานเป็นศิลปินอิสระ ส่วนสามีเป็นช่างซ่อมเครื่องถ่ายเอกสาร Kate บอกว่า “ฉันมีความสุขกับการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ อยู่ที่นี่เราไม่มีอะไรเลย ไม่มีเครื่องกรองน้ำ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนในเมือง” “เราต้องตัดไม้เองเพื่อมาทำฟืน เราต้องทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด มันค่อนข้างจะลำบากแต่แปลกที่ฉันรู้สึกมีความสุขกับชีวิตแบบนี้และที่สำคัญฉันไม่ป่วยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว” บ้านของคู่รักคู่นี้มีความเรียบง่ายในแบบที่ไม่คิดว่าจะมีอยู่ในโลกยุคปัจจุบัน พวกเขาสร้างห้องน้ำไว้ข้างนอก ส่วนภายในบ้านก็มีห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องนอน 2 ห้อง …
-
คุณครูต้อนรับนักเรียนทุกเช้าในชุดที่แตกต่าง เพราะอยากให้เด็กๆ เริ่มต้นวันใหม่ด้วยรอยยิ้ม
เวลานึกถึงคุณครู เราอาจนึกถึงชายหรือหญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวด้วยชุดสุภาพ แล้วยืนต้อนรับนักเรียนด้วยใบหน้าอันแสนเรียบเฉย จนบางทีก็แอบรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อเหมือนกัน แต่นั่นไม่ใช่กับครูโรงเรียนประถมในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาแห่งนี้ เพราะทุกๆ วัน เธอจะออกมาต้อนรับนักเรียนด้วยชุดคอสเพลย์ที่แตกต่างกันออกไป คุณครูคนนี้มีชื่อว่า Cindy Matthews วัย 56 ปี ทุกๆ เช้าเธอจะเป็นคนที่มาคอยยืนต้อนรับนักเรียนที่หน้าโรงเรียน วันหนึ่งเธอก็คิดขึ้นมาว่า มันคงจะดีนะ ถ้าเธอสามารถมอบรอยยิ้มให้กับเด็กๆ ที่เพิ่งมาถึงโรงเรียนได้ เธอจึงเริ่มหาชุดและอุปกรณ์มาคอสเพลย์ “ทำแบบนี้ก็สนุกดีนะ มันทำให้ช่วงเช้าอันแสนน่าเบื่อผ่านไปเร็วขึ้น ฉันจะได้ไม่ต้องแค่นั่งเฉยๆ และท่องคำว่า ‘สวัสดีตอนเช้า’ กับนักเรียน” Cindy กล่าว Cindy เล่าว่า เธอเป็นครูโรงเรียนอนุบาลมากว่า 15 ปีแล้ว แม้จะทำงานมานานขนาดนี้ แต่ทุกวัน เธอก็ยังคงออกมาต้อนรับนักเรียนด้วยรอยยิ้มและความสุขเสมอ “นักเรียนบางคน ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจฉันเท่าไหร่ ฉันจึงเป็นฝ่ายเข้าไปทักทายพวกเขาเอง เท่านั้นก็ทำให้พวกเขายิ้มได้ และฉันก็มีความสุขไปด้วย” Cindy กล่าว โดยชุดของเธอมีตั้งแต่มิกกี้เมาส์ มินนี่ และตัวละครอื่นๆ อีกมากมาย แน่นอนว่าเด็กๆ ชอบเธอมาก ครูใหญ่ของโรงเรียนกล่าวว่า…
-
เพื่อนท้าหวดเตกีลาด้วยเงิน 22,000 บาท หนุ่มใจถึงซัดหมดขวด เป็นเหตุให้เสียชีวิต…
บางครั้งความคึกคะนองของวัยรุ่นก็อาจกลายเป็นโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าก็เป็นได้ อย่างเช่นเรื่องรวของชายหนุ่มชาวโดมินิกันคนนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นในงานปาร์ตี้แห่งหนึ่ง เมื่อ Kelvin Rafael Mejía ชายหนุ่มวัย 23 ปี ได้รับคำท้าจากเพื่อนๆ ให้ดื่มเตกีลา เครื่องดื่มแอลกอฮอลสุดร้อนแรงจากเม็กซิโก ให้หมดขวดภายในครั้งเดียว ซึ่งหากเขาทำได้ เขาจะได้เงินพนัน 630 ดอลลาร์หรือราว 22,000 บาท เมื่อได้ยินแบบนั้น มีหรือเขาจะยอมแพ้ Kelvin จึงยกเตกีลาขึ้นมากระดกเอื๊อกๆ ทันที ในเวลาไม่นาน เขาก็สามารถกระดกเตกีลาจนหมดขวด พร้อมชนะเงินรางวัล 630 ดอลลาร์ไปทันที แต่หลังจากนั้น จู่ๆ Kelvin ก็เป็นลมหมดสติไปอย่างกะทันหัน เพื่อนๆ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที แต่ไม่ทันการ Kelvin เสียชีวิตในเวลาต่อมา ด้วยอาการสุราเป็นพิษ จากการรายงานของ El Universal การพนันเกิดขึ้นโดยกลุ่มลูกค้าโต๊ะหนึ่งทำกำลังท้าพนันกันว่าใครจะสามารถซัดเหล้าเตกีลาได้หมดก่อน และช่วงเวลานั้นเองที่กลุ่มของ Mejía เดินผ่านมาและได้ยินเข้า จึงเกิดการท้าทายตามมา ภายหลังผู้จัดการไนท์คลับ Vacca Lounge ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า…
-
นักเรียนจีนงง!! เมื่อค้นพบว่าครูหนุ่มเป็นนัก “คอสเพลย์” แถมแต่งเป็นผู้หญิงด้วย
เราคงจะเคยเห็นการคอสเพลย์มานักต่อนักแล้ว การคอสเพลย์สมัยนี้ไม่จำเป็นต้องแบ่งแยกเพศอีกต่อไป ผู้หญิงบางคนก็สามารถคอสเป็นผู้ชายได้ และผู้ชายบางคนก็สามารถคอสเป็นผู้หญิงได้ด้วยเช่นกัน คอสเพลย์เหมือนเป็นงานอดิเรกที่คนกลุ่มหนึ่งนิยมกัน และคนทั่วไปก็ไม่สามารถเดาได้เลยว่ามีใครที่เคยแต่งชุดคอสเพลย์มาบ้าง เพราะว่าภาพตอนแต่งนั้นจำแทบไม่ได้เลย เหมือนอย่างคุณครูชาวจีนท่านนี้ในนามแฝง Crome Moe จากเมืองกวางตุ้ง เขาทำให้ห้องเรียนลุกเป็นไฟ หลังจากที่นักเรียนได้ค้นพบอีกตัวตนหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณครู เหตุการณ์เริ่มจากมีนักเรียนคนหนึ่งทักครูไป พร้อมกับส่งภาพนักคอสเพลย์สาวคนหนึ่งที่ถูกสงสัยว่าเป็นครู แต่แล้วเหตุการณ์ก็ถูกเปิดเผย เมื่อค้นไปค้นมาก็พบว่าครูก็คือคนที่อยู่ในภาพจริงๆ แถมไม่ใช่แค่ภาพนี้ภาพเดียวด้วย ครูยังคอสเพลย์เป็นอีกหลากหลายตัวละครจากหลายๆ เรื่อง ไปดูกันว่าแต่ละชุดนั้นจะน่ารักแค่ไหน The Guild Sweetheart จาก Monster Hunter . Hanayo Koizumi จาก Love Live! Rikka Takanashi จาก Chuunibyou demo Koi ga Shitai! . . . Riko Aida จาก Kuroko no Basuke . .…
-
Emma Watson ออกมาตอบโต้ หลังถูกวิจารณ์กรณีถ่ายแฟชั่นหวิว “ผู้หญิงควรมีสิทธิ์เลือกที่จะทำ”
กลายเป็นประเด็นร้อนในวงการบันเทิงรวมไปถึงวงการสิทธิสตรีของต่างประเทศเลยทีเดียว สำหรับกรณีที่ดาราสาวอย่าง Emma Watson ออกมาถ่ายแบบเซ็กซี่ลงปกนิตยสาร Vanity Fair จนมีสาวๆ หลายคนที่ระบุว่าตนเองเป็นเฟมินิสท์ (ผู้หญิงที่มีแนวคิดว่าผู้หญิงควรเท่าเทียมกับผู้ชาย) ออกมาตำหนิเธออย่างหนักหน่วง นี่คือภาพต้นเหตุที่ทำให้ Emma Watson ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เป็นภาพถ่ายแฟชั่นที่เผยให้เห็นหน้าอกของเธอส่วนหนึ่งแบบไม่มีชุดชั้นในรองรับ สาเหตุที่เธอถูกวิจารณ์ก็เพราะว่าตัว Emma Watson แสดงตัวว่าเป็นเฟมินิสต์เช่นกัน และเธอก็ได้ออกมาเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้หญิงทั่วโลก รวมไปถึงการทำกิจกรรมรณรงค์ต่างๆ ที่แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ชายเลย ฉะนั้นเธอจึงกลายเป็นเหมือนต้นแบบของสาวๆ ทั่วโลก ล่าสุดสาว Emma ก็ได้ออกมาพูดถึงประเด็นนี้เป็นครั้งแรกในระหว่างที่เธอกำลังเดินสายโปรโมทหนังใหม่ Beauty and The Beast โดยสรุปแล้วเธอบอกว่าประเด็นหลักของการเป็นเฟมินิสต์นั้นไม่ใช่การห้ามถ่ายแบบเซ็กซี่ แต่มันคือการมี “ทางเลือก” ในการทำสิ่งต่างๆ เช่นเดียวกับที่เธอเลือกจะถ่ายแบบ Emma กล่าวว่า “การเป็นเฟมินิสต์มันคือการที่ผู้หญิงมีทางเลือก การเป็นเฟมินิสต์ไม่ใช่การยึดติดกับการเอาชนะผู้หญิงคนอื่น มันเกี่ยวกับความมีอิสระ มันเกี่ยวกับปลดปล่อย มันเกี่ยวกับความเท่าเทียม ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าหัวนมของฉันมีส่วนเกี่ยวข้องกับมันอย่างไร มันงงมาก” นอกจากนี้เธอยังเสริมอีกว่า “คนส่วนใหญ่สับสน ฉันอึ้งมาก ตอนพวกเขาบอกว่าฉันไม่ควรเป็นเฟมินิสตฺ์และมีนมด้วย” ใครอยากดูบทสัมภาษณ์เธอเต็มๆ ก็ตามไปได้ที่นี่เลย ความเห็นบางส่วนของชาวเน็ตในต่างประเทศ…
-
ชายหนุ่มลงทุนศัลยกรรมกว่า 100 ครั้ง เพื่อเปลี่ยนตัวเองให้เป็น ‘มนุษย์ต่างดาวไร้เพศ’
การศัลยกรรมสำหรับปัจจุบันนี้นับเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆ ก็ทำกันทั้งนั้น บางคนอาจทำเพราะมีข้อบกพร่อง ในขณะที่บางคนทำเพราะเสริมความมั่นใจให้ตัวเอง แต่สำหรับชายหนุ่มคนนี้ไม่ทำเพราะมีข้อบกพร่อง ไม่ทำเพราะไม่มั่นใจ ไม่ได้ทำเพราะอยากสวยอยากหล่อ แต่ทำเพราะอยากเหมือน มนุษย์ต่างดาว Vinny Ohh หนุมวัย 22 ปี ผู้หลงไหลในการศัลยกรรม แต่ศัลยกรรมทั้งทีให้โดดเด่น ก็ต้องไม่เหมือนใครแน่นอน ดังนั้นเขาจึงขอแปลงร่างเป็นมนุษย์ต่างดาวผู้ไร้เพศ เพื่อเป็นแรงบันดาลในคนเรากล้าที่จะแตกต่าง ชายหนุ่มเริ่มทำศัลยกรรมตั้งแต่อายุ 17 ปี จากนั้นก็ทำมาเรื่อยๆ ตัดนั่นออก เติมนี่หน่อย เรียกได้ว่าตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้หขาก็มีการเปลี่ยนแปลงแบบไม่ซ้ำกันเลย เมื่อถามว่าศัลยกรรมมาแล้วกี่ครั้ง เขาบอกว่าเกิน 100 แน่นอน โดทำเลเซอร์ตามจุดต่างๆ ดังนี้ ทั้งตัว 35 ครั้ง โหนกแก้ม 12 ครั้ง คิ้ว 2 ครั้ง ปาก 15 ครั้ง ลบรอยเหี่ยวย่นต่าง ๆ 10 ครั้ง จากนั้นก็ฉีดโบท็อกซ์ 5 ครั้ง ทำจมูก 5 ครั้ง…
-
นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า หาก “ผี” มีจริง เครื่องเร่งอนุภาค CERN ต้องหาเจอนานแล้ว!?
ทุกวันนี้ “วิญญาณ” หรือ “ผี” เป็นสิ่งที่คนทั่วโลกต่างถกเถียงกันว่ามีอยู่จริงหรือไม่ บ้างก็บอกว่าเป็นเรื่องในจินตนาการ บ้างก็บอกว่าเป็นเรื่องจริง แต่ละคนก็ต่างมีเหตุผลสนับสนุนความเชื่อของตนเอง ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งจาก CERN หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ องค์การวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป ได้ออกมากล่าวถึงกรณีของผีหรือวิญญาณว่า หากวิญญาณเหล่านี้มีอยู่จริง ป่านนี้เครื่องชนอนุภาคแฮดราอนขนาดใหญ่ (LHC- Large Hadron Collider) ต้องหาเจอแล้ว Brian Cox หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ของ CERN ได้กล่าวผ่านทางรายการ BBC Radio 4 โดยระบถว่า “ถ้าผีมีอยู่จริง พวกเขาจะต้องประกอบไปด้วยพลังงานบริสุทธิ์ที่ไม่มีสารอะไรอยู่เลย ทำให้พวกเขาสามารถทะลุกำแพงหรือโผล่ไปที่ไหนก็ได้ตามต้องการ นั่นมันทำให้สงสัยว่าสสารอะไรที่สร้างวิญญาณของพวกเขาขึ้นมา” “ยิ่งไปกว่านั้น ตามหลักข้อที่สองของกฎเทอร์โมไดนามิกส์แล้ว พลังงานทุกอย่างจะต้องปล่อยความร้อนออกมาเสมอ และหากผีมีจริง นั่นสามารถอนุมานได้ว่าพวกเขาต้องมีแหล่งพลังงานที่ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงอยู่บนโลกได้ไม่นาน” ผู้ร่วมรายการกับเขา Neil deGrasse Tyson จึงระบุว่า “ในฐานะที่ Brian พูดแบบนี้ถือเป็นการพูดแทน CERN หรือไม่ นั่นหมายถึงว่าสถาบันต่อต้านการมีตัวตนของผีและวิญญาณงั้นหรือ!?” ทางด้าน Cox ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา…
-
หญิงสาวป่วยมะเร็ง เขียนบทความ “หาคู่” ให้สามีที่แต่งงานกันมา 26 ปี เพราะกลัวเขาจะเหงา
เมื่อปี 2015 Amy Rosenthal นักเขียนหนังสือเด็กจากเมืองชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา รู้สึกปวดท้องอย่างหนัก จนเธอต้องแอดมิดเข้าโรงพยาบาลโดยด่วน ตอนแรกเธอคิดว่าเธอแค่มีอาการไส้ติ่งอักเสบ แต่เมื่อผลตรวจออกมามันกลับแย่กว่านั้น เพราะหมอพบว่าเธอป่วยเป็นโรคมะเร็งรังไข่ แม้เธอจะพยายามรักษาตัวเองมาโดยตลอด แต่ดูเหมือนว่าอาการของมะเร็งจะหนักหนากว่าที่เธอคิด จนล่าสุดหมอบอกว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่วันเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เองเธอจึงเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ เพื่อหาคู่กับ Jason Rosenthal สามีสุดที่รักของเธอที่แต่งงานกันมากว่า 26 ปี บทควมดังกล่าวมีชื่อว่า “คุณอาจอยากแต่งงานกับสามีของฉัน” เนื้อหาเขียนไว้ว่า “ฉันไม่เคยใช้เว็บหาคู่พวก Tinder, Bumble, หรือ eHarmony มาก่อน แต่ตอนนี้ฉันจะสร้างโปรไฟล์ของ Jason ตรงนี้ โดยอ้างอิงจากประสบการณ์การอยู่ร่วมกันกว่า 9,490 วันของฉัน เขาเป็นคนที่คุณจะตกหลุมรักได้ง่ายๆ ซึ่งฉันเคยตกไปแล้ว” “เขาเป็นผู้ชายสูง 175 เซนติเมตรหนัก 72 กิโลกรัม ผมสีขาวเทา มีนัยย์ตาสีน้ำตาล เขาเป็นคนที่มีรสนิยมการแต่งตัวที่ดีมาก ขนาด Justin และ Miles ลูกชายของเราทั้งสองยังยืมเสื้อผ้าเขาไปใส่บ่อยๆ…
-
คนติดดินของจริง!! พบกับหนุ่มอินเดียผู้เสพติดการกิน “หิน ดิน โคลน” เป็นชีวิตจิตใจ
ใครจะเคยคิดว่าจะมีคนที่กินก้อนหินก้อนดินเป็นชีวิตจิตใจจริงๆ แถมกินจนเข้าขั้นเสพติดอีกต่างหากซึ่งเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆ กับชายหนุ่มอินเดียคนนี้นั่นเอง เขาคนนี้มีชื่อว่า Pakkirappa Hunagundi อายุ 30 ปี โดยเขาเล่าย้อนไปว่าครั้งแรกที่เขาพบว่ารสชาติของก้อนดินพวกนี้ถูกใจเขา ก็ตอนที่เขามีอายุ 10 ขวบเท่านั่น ซึ่งนับตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็หยิบก้อนหินก้อนดินจากท้องถนนจากรัฐกรณาฏกะ ในประเทศอินเดียเป็นต้นมา ที่สำคัญเขายังบอกว่ามันไม่มีผลเสียอะไรเลยจากการทำอะไรแบบนี้ การกินอะไรแบบนี้ ล้วนไม่ให้ประโยชน์อะไรกับตัวเขาแน่นอน แต่ถ้าดูดีๆ แล้วฟันของเขากลับอยู่ปกติดีแถมยังอยู่ครบอีกด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วการกัดอะไรแข็งๆ แบบนี้มันไม่น่าจะเป็นมิตรกับฟันแท้ๆ ถึงแม้เราจะเห็นว่าเขาเสพติดและกินก้อนดินพวกนี้ได้อย่างปกติ แต่ว่าใจจริงๆ แล้วเขาก็อยากที่จะเลิกกินมันเช่นกัน เขาพยายามขอคำแนะนำจากคนอื่นๆ ว่าพอจะมีอะไรที่ช่วยให้เขาหยุดกินได้ไหม เขาบอกว่า “ผมกินก้อนดินพวกนี้มาแล้วกว่า 20 ปี ซึ่งมันก็เป็นเวลาที่นานมากๆ จนตอนนี้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมไปซะแล้ว ผมสามารถที่จะไม่กินข้าวได้นะ แต่ผมขาดก้อนดินพวกนี้ไม่ได้จริงๆ” เขาไม่ใช่คนเดียวหรอกที่พยายามจะหยุดการกินของตัวเอง แม่ของเขาก็พยายามมาแล้วเช่นกัน ซึ่งใช้เวลามากถึง 20 ปี เพื่อหยุดไม่ให้ลูกของตัวเองกัดกินชิ้นส่วนบ้านของตัวเองและคนอื่นในหมู่บ้าน เขายังเผยอีกว่า เขาไม่สนใจในรสชาติของอาหารอื่นเลย ต่อให้มีคนนำน้ำทิพย์ที่พระเจ้าประทาน มาให้เขากินเขาก็จะปฏิเสธมันและเลือกก้อนหินเหมือนเดิม หนึ่งในเพื่อนของเขาบอกว่า “ตั้งแต่เรื่องของเขาได้มีการเผยแพร่ออกไป เขาก็กลายเป็นคนดังทันที แต่ทว่าเขาก็ยังจนเหมือนเดิม ผมหวังว่าจะมีใครสักคนเข้ามาช่วยเขา”…
-
ร้าน McDonald’s ที่ข้างนอกดูธรรมดา แต่ข้างในกลับเหมือนโลกเวทมนตร์แห่ง Harry Potter
ปกติแล้วร้านแมคโดนัลด์ทั่วๆ ไปจะตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือเป็นแบบไดร์ฟทรู ซึ่งถ้าเป็นปกติแล้วภายในร้านก็จะได้รับการตกแต่งแบบปกติมั่วไปคล้ายๆ กันแต่ทว่ากลับมีอยู่สาขาหนึ่งที่แตกต่างไม่เหมือนใครอย่างสิ้นเชิง แมคโดนัลด์สาขาที่ว่านี้มีตั้งอยู่ที่ชาร์ปเชอร์ ในประเทศอังกฤษ ซึ่งถ้าตัดสินกันแต่ภายนอกเราก็คงจะคิดว่ามันเป็นเพียงร้านแมคโดนัลด์ธรรมดาๆ ทั่วไปๆ ที่ภายในก็คงจะเหมือนกันไปหมด ภาพจากด้านหน้าของร้าน แต่ทว่าความจริงกลับไม่เป็นแบบนั้น เมื่อเราเดินเข้าไปภายในร้าน เราก็จะรู้ได้ถึงความแต่งต่างได้ทันทีระหว่างแมคโดนัลด์สาขานี้กับสาขาอื่นๆ ว่าที่นีมันสุดยอด ด้วยการตกแต่งภายในตามแบบสไตล์ศตวรรษที่ 12 ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลาไปนั่งอยู่ในโรงเตี๊ยมยุคกลางยังไงยังงั้น แถมบรรยากาศคลับคล้ายโลกแห่งเวทมนตร์ในภาพยนตร์สุดฮิตอย่าง Harry Potter เช่นกัน การตกแต่งในแนวย้อนยุค ยังคงความคลาสสิคสไตล์อังกฤษ ถึงแม้โต๊ะไม้จะดูไม่ย้อนยุคมาก แต่ก็สามารถทดแทนด้วยโคมไฟ ให้รู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในสมัยที่ความเชื่อและเวทมนตร์ยังคงเป็นใหญ่ มุมหนึ่งในร้านที่คิดดูแล้วเหมาจะเป็นมุมมืดๆ สำหรับพวกตัวละครแนวลึกลับๆ มานั่งอยู่เลยแฮะ . ถึงแม้ภายในร้านจะดูย้อนยุค แต่ว่าชุดพนักงานก็ไม่ได้ย้อนยุคตามหรอกนะ แต่ถึงมันจะเจ๋งแค่ไหน ด้วยสภาวะเศรษฐกิจและเหตุผลด้านการเงิน แม็คโดนัลด์สาขานี้ก็ปิดตัวลงไปเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากเปิดให้บริการมาอย่างยาวนานกว่า 34 ปี ยังไม่มีการระบุว่าสถานที่แห่งนี้จะถูกนำไปทำเป็นอะไรต่อไป แต่ต้องยอมรับในใจเจ้าของสาขา ว่าเขาได้ทำตามฝัน สร้างความงามอันแตกต่างของร้านฟาสฟู๊ด ให้โลกได้จดจำไว้เรียบร้อยแล้ว…. ที่มา theladbible
-
ดั่งสัตว์ในตำนาน… เมื่อคนฮอกไกโดได้พบ ‘แมลงสาบ’ ที่ไม่เคยเจอมาก่อน เป็นปลื้มแบบสุด!!
ก็อย่างที่รู้กันว่า ‘แมลงสาบ’ นั้นเป็นแมลงที่ไม่ว่าใครต่างก็รู้สึก ‘ยี้’ ไปกับมัน แถมในบ้านเรายังมียั้วเยี้ยอยู่เต็มไปหมด จะเดินไปทางไหนก็เจอ แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าสำหรับชาวเมืองฮอกไกโดที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นแล้ว พวกเขาไม่เคยรู้จักกับเจ้าแมลงสาบเลย!? ไม่ใช่ว่าบ้านเมืองเค้าสะอาดหมดจดจนไม่มีที่ให้พวกแมลงสาบเข้ามาหากินหรอกนะ แต่จริงๆ แล้วเป็นเพราะแมลงสาบเป็นแมลงที่ไม่ทนต่ออากาศหนาว และเมืองฮอกไกโดนั้นจะมีอุณหภูมิต่ำเกือบตลอดทั้งปี ทำให้พวกมันไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้นั่นเอง ทำให้ผู้คนส่วนมากในฮอกไกโดส่วนมากไม่เคยมีประสบการณ์กับการต้องพบเจอกับแมลงสาบเลย บ้างก็คิดว่ามันเป็นเรื่องราวที่ถูกกุขึ้นมาบนอินเตอร์เน็ตเท่านั้น บ้างก็คิดว่ามันเป็นแค่ข่าวลือ ไม่เป็นความจริง แบบว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เค๊ย ไม่เคยเห็นเจ้าสัตว์ประหลาดที่ทุกคนเกลียดนักเกลียดหนามาก่อน แล้วจะเป็นอย่างไรถ้าคนที่ไม่เคยเห็นแมลงสาบได้เจอกับแมลงสาบเป็นครั้งแรก!? รายการโทรทัศน์ของประเทศญี่ปุ่นได้ทำการพิสูจน์ โดยนำแมลงสาบตัวเป็นๆ ไปให้กับชาวฮอกไกโดที่ไม่เคยเห็นแมลงสาบได้ดู ว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง? ก่อนหน้านี้ทางรายการก็ทดลองนำแมลงสาบ ไปให้คนโตเกียวที่เคยมีประสบการณ์กับแมลงสาบดู ก็พบว่าร้องกรี๊ดวิ่งหนีกันแทบไม่ทัน เอาล่ะ มาถึงคราวของชาวฮอกไกโดกันบ้าง!? แต่ละคนไม่รู้สึกขยะแขยงเลยแม้แต่น้อย หยิบกล่องขึ้นมาดูแบบสนใจมาก บ้างก็ลองดมดู แล้วก็บอกว่ากลิ่นของมันเหม็นมากเหมือนกับ ‘ขี้ม้า’ เลย!? (อูยยยย ขนลุก) อย่างสองหนุ่มนี้ก็ดูจะสนใจมากเป็นพิเศษถึงกับต้องขอทางรายการถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระทึก เอ้ยระลึกเลยทีเดียวเชียว ไปชมรายการฉบับซับไทยเอาไว้แล้วโดยเพจ ญี่ปุ่นเบาเบา กันเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมกันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… ที่มา : gooddayslabo
-
ชาวเน็ตแชร์คลิปไก่งวงทำพิธี “เดินวนรอบศพแมว” ผู้เชี่ยวชาญชี้อาจเพราะอยากรู้อยากเห็น?
หากคุณเข้าใจว่ามีแต่มนุษย์เท่านั้นที่สามารถทำพิธีกรรมได้ล่ะก็ คุณคิดผิดแล้วล่ะ เพราะคลิปที่#เหมียวฟิ้น จะนำเสนอต่อไปนี้อาจจะทำให้คุณรู้สึกฉงนกับพฤติกรรมของสัตว์มากกว่าที่เคยเสียอีก คลิปนี้ถูกโพสต์ลงในทวิตเตอร์โดยผู้ใช้ที่ชื่อว่า @TheReal_JDavis เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา โดยในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นภาพของฝูงไก่งวงจำนวนหนึ่ง กำลังเดินวนรอบๆ ซากศพแมวที่นอนอยู่กลางถนน พร้อมกับข้อความว่า “ไก่งวงเหล่านี้พยายามจะมอบชีวิตที่ 10 ให้แมว” นาย Davis บอกว่าวิดีโอขนาด 24 วินาทีตัวนี้เป็นวิดีโอที่ “แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น” เลย เพราะเนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่คนทั่วไปไม่มีโอกาสได้เห็นกันบ่อยๆ และดูเหมือนพวกมันกำลังพยายามทำพิธีบางอย่างกับศพของแมวตัวนั้น ชมคลิปวิดีโอจากนาย Davis ได้ที่นี่เลย (ใครดูไม่ได้กดที่นี่นะ) These turkeys trying to give this cat its 10th life pic.twitter.com/VBM7t4MZYr — J… (@TheReal_JDavis) 2 มีนาคม 2560 แต่ในความจริงแล้วมันไม่ได้สยองขนาดนั้น เพราะด้านนักชีววิทยาสัตว์ป่าอย่างนาย Mark Hatfield ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “พวกมันพยายามที่จะทำให้มั่นใจว่าเจ้าแมวตัวนั้นไม่มีภัยคุกคามใดๆ อีกต่อไป มันน่าจะเป็นเรื่องของความอยากรู้อยากเห็น ถือเป็นเรื่องพื้นฐานของพวกไก่งวงมาก” …
-
เรื่องราวสุดเศร้า “ทหารที่สูญเสียสุนัขเพื่อนรัก” จากวันแรกสู่วันสุดท้าย และจะคงอยู่ตลอดไป
การได้ใช้เวลาอยู่กับใครสักคนบ่อยๆ แน่นอนว่าจะมีความผูกพันเกิด มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน และกลายเป็นคนสำคัญในชีวิตของกันและกัน และไม่ใช่ความสัมพันธ์ของคนกับคนเท่านั้น แต่คนกับสัตว์เลี้ยงเช่นกัน เมื่อได้อยู่ด้วยกันบ่อยๆ ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน จนในที่สุดหากใครคนใดคนหนึ่งต้องจากไป มันก็ยากที่จะยอมรับได้ Kyle Smith และสุนัขของเขา Bodza พวกเขาอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานาน ในฐานะสมาชิกกองทัพอากาศสหรัฐฯ พวกเขาเคยอยู่ด้วยกันในวันที่หนาวเหน็บและขมขื่นที่ประเทศคีร์กีซสถาน ขณะปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัยนานกว่า 189 วัน แต่แล้วเมื่อ Bodza อายุ 11 ปี มันก็จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา เหลือเพียง Smith ที่ต้องผ่านช่วงเวลานี้อย่างยากลำบาก และมักคิดว่ามันยังคงอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2006 ที่ Bodza ได้เข้าร่วมกับกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในฐานะสุนัขตรวจจับวัตถุระเบิด และมันก็ได้ช่วยคนให้รอดจากระเบิดมาแล้วมากมายทั้งในอิรัก คีร์กีซสถาน และคูเวต ต่อมา Smith ได้มาเจอกับ Bodza ในปี 2012 ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทกันในเวลาอันรวดเร็ว นายทหารหนุ่มบอกว่า “ผมชอบทำงานกับเจ้าหมาตัวนี้เพราะมันได้สอนผมในหลายๆ อย่าง มันสอนผมให้รู้จักความอดทน และทำให้ผมได้เรียนรู้การทำงานนี้ว่า เราไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่เราทำเพื่อคนทั้งประเทศ” เขายังบอกอีกว่า “มันเป็นสุนัขที่น่ารัก…
-
ญี่ปุ่นสร้าง ‘หุ่นยนต์สอนปิงปอง’ ตัวแรกของโลก ช่วยวิเคราะห์ผู้เล่นเพื่อพัฒนาทักษะ!!
ในการเล่นปิงปองนั้นจำเป็นต้องมีผู้เล่นตั้งแต่ 2 ขึ้นไป เพื่อทำหน้าเป็นคนส่งและคนรับ และแน่นอนว่า การเล่นเป็นคู่นี้จะทำให้ผู้เล่นได้เรียนรู้เทคนิคจากฝ่ายตรงข้ามด้วย แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องมีผู้เล่นถึง 2 คนก็ได้ เพราะทาง Omron ซึ่งเป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นได้มีการผลิตหุ่นยนต์ปิงปองออกมาแล้ว เพื่อให้เป็นครูฝึกสำหรับคนอยากพัฒนาทักษะการเล่นปิงปอง สำหรับหุ่นยนต์ปิงปองนี้ได้รับการยอมรับจาก Guinness World Records ในฐานะเป็นหุ่นยนต์สอนปิงปองตัวแรกของโลก FORPHEUS (Future Omron Robotics Technology for Exploring Possibility of Harmonized Automation with Sinic Theoretics) เป็นหุ่นยนต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อประเมินทักษะการเล่นของมนุษย์และช่วยให้เหล่านักกีฬาได้รู้จุดด้อยของตัวเองที่ต้องการปรับปรุง หุ่นยนต์ปิงปองเปิดตัวครั้งแรกที่งานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ Ceatec ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2557 และตั้งแต่นั้นมานักพัฒนาซอฟต์แวร์ Taku Oya ก็ได้มีการพัฒนาทักษะต่างๆ ลงไปในหุ่นยนต์ตัวนี้มากขึ้นเรื่อยๆ คุณสมบัติพิเศษของหุ่นยนต์ปิงปองนี้ มันสามารถวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของผู้เล่น ความเร็วของลูกปิงปอง และสามารถกำหนดระดับของผู้เล่นได้ ซึ่งมีความแม่นยำถึง 90% นอกจากนี้มันยังสามารถรับมือกับกลุ่มผู้เล่นที่หลากหลาย เริ่มตั้งแต่คนที่เพิ่งหัดเล่น หุ่นยนต์จะปรับตัวให้ช้าลงเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ที่หัดเล่น แต่สำหรับผู้เล่นที่มีฝีมืออยู่แลัวหุ่นยนต์ก็จะปรับการเล่นให้อยู่ในระดับสูงเช่นกัน…
-
เปิดภาพจากดาวเทียม เมืองร้างขนาดใหญ่ไร้ผู้คน เหลือเพียงเสียงเงียบงัน จากทั่วประเทศจีน….
แม้ว่าในปัจจุบันประเทศจีน จะเป็นอีกประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด และดูเหมือนมีความเป็นไปได้ที่อาจจะกลายมาเป็นขั้วอำนาจใหม่ของโลก หากแต่ว่าในประเทศจีนเอง ก็มีอสังหาริมทรัพย์มากมายที่เคยเกือบจะรุ่งเรืองกลายเป็นเมืองใหญ่ ทว่าด้วยเหตุผลหลายๆ ประการทำให้เมืองเหล่านี้กลายเป็นเมืองร้าง ไร้ซึ่งผู้คนอาศัยอยู่ และทั้งหมดนี้ก็เป็นภาพที่ถูกส่งมาโดยสัญญาณดาวเทียม เราตามไปดูกันเลย… Chenggong หนึ่งในเมืองร้างมาตั้งแต่ปี 2012 จนกระทั่ง 5 ปีต่อมา เมืองนี้ก็ยังร้างอยู่ ในอดีตเคยมีการวางแปลนเพื่อสร้างเมืองนี้ให้เป็นจุดศูนย์กลางขนาดใหญ่ สังเกตได้จากถนนใหญ่ที่กำลังตัดผ่านทุ่งนาของชาวบ้าน และก็มีอีกหลายส่วนของเมืองที่ถูกสร้างไม่เสร็จ อย่างเช่นด้านซ้ายมือของรูปนี้ เหมือนเมืองใหญ่อื่นๆ ที่นี่เคยมีแผนสร้างโรงละครขนาดใหญ่ แต่สุดท้ายโครงการก็ต้องล้มเลิกไปโดยปริยาย นอกจากนั้นที่นี่ยังมีมหาวิทยาลัยอีก 2-3 แห่ง และปัจจุบันที่เหล่านี้รกร้างว่างเปล่าแทบทั้งสิ้น Erenhot อีกหนึ่งเมืองร้างที่อยู่ใกล้กับเขตมองโกเลีย ถูกปล่อยร้างมาตั้งแต่ปี 2013 หมู่บ้านแมนชั่นสุดหรูแห่งหนึ่งในจีนที่รกร้างมาตั้งแต่ปี 2015 และปัจจุบัน 2017 ที่แห่งนี้ก็ยังไร้ซึ่งร่องรอยการอยู่อาศัยของผู้คน Ordos อีกเมืองหนึ่งที่ใกล้กับเขตมองโกเลีย มีการสร้างอาคารขนาดใหญ่มากมาย แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ อาคารขนาดใหญ่อีกหนึ่งหลังในเมือง Ordos ที่สร้างไม่เสร็จ และไม่มีการใช้งานใดๆ เกิดขึ้น…
-
ศิลปินผู้หลงใหลด้านมืด เปลี่ยนภาพลักษณ์ประจำราศี ให้เป็นเหล่าปีศาจจากฝันร้าย
สำหรับคนที่ชอบดูดวงหรือชอบอ่านดวงจากหนังสือ นิตยสารต่างๆ ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่า สัญลักษณ์ราศีทั้ง 12 ราศีนั้นจะมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแต่ละสำนึกจะออกมาเป็นยังไง แต่ถึงจะต่างกันมากแค่ไหน แต่ละสำนักก็คงความเป็นรูปแบบเดิมเสมอ เพื่อให้ดูออกว่ามันคือสัญลักษณ์อะไร เหมือนกับศิลปินคนนี้ที่ตัดสินใจวาดสัญลักษณ์แนวสยอง ให้อารมณ์ที่ต่างออกไปอีก 1. ราศีธนู ศิลปินผู้หลงไหลภาพแนวสยอง มุมมองด้านมืด และความผิดปกติทางจิต แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นคนเช่นนั้น ก็อย่างที่บอกว่ามันเป็นแค่ความชอบเท่านั้น แต่สำหรับศิลปินแล้ว ความชอบไม่ได้มีอยู่แค่ในหัว เขาจึงตัดสินใจทำออกมาเป็นผลงานศิลปะจนตอนนี้มันได้กลายเป็นลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์เฉาะตัวไปแล้ว 2. ราศีกุมภ์ ภาพวาดของเขาได้แสดงผ่านงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำแบรนด์เสื้อผ้าที่มีรูปซึ่งเป็นฝีมือของเขาเอง และล่าสุดเขาก็ตัดสินใจวาดภาพราศีทั้ง 12 ราศีในแบบเขาเขาจนออกมาเป็นภาพที่ค่อนข้างชวนหลอน แต่เป็นความหลอนที่สวยงาม และยังมีผลงานอื่นๆ อีกมากมายที่เขาพยายามจะถ่ายทอดให้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งของมนุษย์ อย่างเช่นพฤติกรรมบางอย่างที่มนุษย์เก็บกดไว้ในใจ ศิลปินท่านก็จะนำมาวาดเป็นรูปภาพเช่นกัน 3. ราศีมีน 4. ราศีเมถุน 5. ราศีมังกร 6. ราศีกรกฎ 7. ราศีตุลย์ 8. ราศีพิจิก 9. ราศีสิงห์ 10. ราศีเมษ …
-
หลักคณิตศาสตร์ชี้ อายุ 26 ปี เหมาะแก่การแต่งงานที่สุด เพราะจะเจอคนที่ใช่ มีชีวิตคู่ยืนยาว
รู้มั้ยว่าอายุเท่าไรถึงจะเหมาะกับการแต่งงานมากที่สุด? หลายคนอาจจะคิดว่าการแต่งงานไม่ได้ขึ้นกับอายุแต่อยู่ที่ความพร้อมของสองคนมากกว่า มันก็จริงนะ แต่มีการวิจัยออกมาแล้วว่าช่วงอายุที่เหมาะกับการแต่งงานมากที่สุดคือ 26 ปี เพราะจะทำให้คู่ชีวิตมั่นคงและอยู่กันได้ยืนยาว Brian Christian และนักวิทยาศาสตร์ Tom Griffiths ได้ร่วมเขียน “Algorithms to Live By: The Computer Science of Human Decisions” โดยอิงตามตัวเลขในกฏ 37% กฏ 37% เป็นกฏทางคณิตศาสตร์ มีหลักการอยู่ว่า การตัดสินใจที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นหลังจากที่มีการคัดกรองตัวเลือกมาแล้ว 37% Chris Weller จาก Tech Insider อธิบายว่าเมื่อเราต้องเลือกตัวเลือกมากมายในเวลาที่จำกัด เวลาที่เหมาะสมในการตัดสินใจคือหลังจากที่เราพิจารณาตัวเลือกเหล่านั้นไปแล้วประมาณ 37% ยกตัวอย่างเช่น การเลือกอพาร์เม้นต์ คุณจะต้องไปดูกี่แห่งเพื่อหาอพาร์เม้นต์ที่ถูกใจคุณที่สุด และหากคุณมีตัวเลือกอยู่ 100 ที่ จุดตัดสินใจที่ดีที่สุดก็คือเมื่อคุณได้พิจารณาอพาร์ทเม้นต์เหล่านั้นแล้วประมาณ 37 ที่ ทั้งนี้เป็นเพราะว่าการพิจารณามาแล้ว 37 แห่งนั้น ถือว่าคุณได้ข้อมูลที่มากเพียงพอต่อการตัดสินใจแล้ว แต่ถ้าคุณยังคิดที่จะพิจารณาต่อไป นั่นจะทำให้คุณเสียเวลา และอพาร์ทเม้นต์ที่คุณเล็งเอาไว้อาจโดนคนอื่นซื้อไปแล้วก็ได้ …
-
‘Quadrum’ โรงแรมที่ทำจากตู้คอนเทนเนอร์ สวยสดและวิวแจ่ม เหมาะแก่การรีเฟรช!!
ในการสร้างโรงแรมแต่ละครั้งนั้นควรคำนึงถึงผลกระทบหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่มักจะถูกทำลายไปพร้อมๆ กับตึกรา บ้านช่อง แต่สำหรับ Quadrum แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นโรงแรม แต่มันก็ไม่ได้เป็นการไปทำลายธรรมชาติแต่อย่างใด เพราะมันสร้างบนพื้นฐานการปกป้องสิ่งแวดล้อมนั่นเอง โรงแรม Quadrum ออกแบบโดยสถาปนิก Sandro Ramishvili และ Irakli Eristavi พวกเขาได้สร้างโรงแรมที่มีความเรียบง่าย ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ อย่างที่บอกไปแล้วว่าโรงแรมนี้สร้างบนพื้นฐานการปกป้องสิ่งแวดล้อม ดังนั้นอุปกรณ์ที่ใช้ในการสร้างจึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย นั่นคือ ทำจากตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด และถือว่าเป็นโรงแรมบูติกแห่งแรกใน Upper Gudauri สาธารณรัฐจอร์เจีย นอกจากตัวโรงแรมที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมแล้ว ภูมิทัศน์โดยรอบก็เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจเช่นกัน โดยเฉพาะคนที่รักความสงบ ที่นี่จะตอบโจทย์คุณได้ดีเลยล่ะ เนื่องจากที่นี่อากาศหนาวมาก ดังนั้นโรงแรมจึงมีการติดกระจกใสไว้บางส่วน คือส่วนที่มองเห็นวิวได้ชัดเจน ทีนี้แม้จะอยู่ห้องคุณก็สามารถนั่งชมธรรมชาติรอบตัวได้ . . . . . . . ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ quadrum-gudauri.com | copter.ge น่าลองไปสัมผัสสักครั้งนะ ว่ามั้ย? ที่มา boredpanda
-
ครูเดินเท้าไปกลับ 20 กิโลฯ ทุกวันโดยไม่บอกใคร เพื่อนครูทนเห็นไม่ได้ ช่วยหารถคันใหม่ให้!!
ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร หรือทำงานที่ไหนก็ตาม ก็มักจะพบเจอกับปัญหาด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าในที่ทำงานมีเพื่อนที่เข้าใจคุณสักคน แค่นี้มันก็คุ้มค่านะ Sue Campbell เป็นครูการศึกษาพิเศษที่โรงเรียน Spessard Holland Elementary ตั้งอยู่ในเมือง Bartow รัฐฟลอริด้า แต่แล้วเธอก็เจอปัญหาเมื่อรถที่ขับไปทำงานทุกวันเกิดเสียขึ้นมา ตั้งแต่นั้นมาคุณครูก็ต้องเดินเท้ามาโรงเรียนทุกวัน ด้วยระยะทางเกือบ 10 กิโลเมตร โดยรวมแล้วเธอเดินเท้า 20 กิโลเมตรต่อวัน และไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับปัญหานี้ โดยพยายามมาโรงเรียนให้ตรงเวลาทุกวันเพื่อไม่ให้เพื่อนร่วมงานผิดสังเกต แต่ครู Sue ก็มีขึ้นรถบ้างในบางกรณี เช่น เวลาเร่งรีบมากๆ และกลัวไม่ทัน เธอก็จะขึ้นรถโดยสารไป ส่วนรถของเธอยังคงจอดทิ้งไว้ เนื่องจากไม่มีเงินมากพอที่จะทำการซ่อมแซม คุณครูเปิดเผยว่า “มันลำบากมากสำหรับฉัน ฉันต้องเดินทางระยะไกลแบบนี้ทุกวัน ดังนั้นตอนเย็นเมื่อเดินมาถึงบ้านฉันจะตรงไปที่เตียงทันทีเพราะความเหนื่อย” แม้จะเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากโดยเฉพาะในฤดูหนาว แต่เธอก็ไม่เคยปริปากบอกเพื่อนร่วมงานสักคำ แต่ในที่สุด Leslie Newberry หนึ่งในเพื่อนร่วมงานก็สังเกตเห็นว่าครู Sue เดินมาทำงานบ่อยๆ Leslie จึงเสนอขอไปรับไปส่งเธอ ตั้งแต่นั้นมาทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนซี้ที่นั่งรถไปทำงานด้วยกันทุกวัน “เธอเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนที่สุดคนหนึ่งที่ฉันเคยเจอมา” เพื่อนร่วมงานบอก ในขณะเดียวกัน Sue ก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อซ่อมรถของเธอ เพราะเธอไม่ใช่แค่ไปโรงเรียนแต่ยังต้องไปทำธุระอื่นๆ ด้วย ซึ่งตัวเธอเองก็รู้สึกเกรงใจที่จะให้คนอื่นไปส่ง…
-
ชาวเน็ตร่วมส่งการ์ด และของขวัญให้สาวน้อย หลังมีเพื่อนมางานวันเกิดแค่คนเดียว!!
เคยจำกันได้มั้ยว่าในช่วงเวลาที่เรายังเป็นเด็กน้อยตัวกะเปี้ยก จะมีอยู่หนึ่งวันที่เรารู้สึกแฮปปี้มากกว่าวันอื่นๆ นั่นก็คือวันเกิดของเรานั่นเอง เพราะในวันนั้นพ่อแม่พี่น้องต่างก็จะพากันซื้อของขวัญมาเซอไพรส์เรา แถมยังได้มีปาร์ตี้ทานอาหารสนุกๆ กับเพื่อนสนิทอีกด้วย เช่นเดียวกับหนูน้อย Kinley Montgomery วัย 6 ขวบ จากรัฐอิลลินอยส์ เธอตื่นต้นกับงานปาร์ตี้วันเกิดที่กำลังจะมาถึง หนูน้อยได้ชวนเพื่อนทุกคนที่เธอรู้จักในชั้นเรียนให้มาร่วมงานวันเกิดของเธอ ทว่า…มันกลับไม่เป็นดั่งที่เธอฝัน เพราะเมื่อเวลามาถึงกลับมีเพื่อนมาร่วมงานเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น! จากเหตุการณ์นี้ทำให้พี่สาวของเธอโพสต์ภาพนี้ลงบนทวิตเตอร์ส่วนตัว แน่นอนว่าสาวน้อยวัย 6 ขวบ เธอรู้สึกผิดหวัง และเศร้าใจอย่างหนัก เธอรู้สึกขาดความมั่นใจและคิดว่าคงไม่มีใครอยากจะมาเป็นเพื่อนกับเธอ หนูน้อย Kinley และเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันเมื่อวาน ที่มาร่วมงานวันเกิดเธอ หลังจากที่พี่สาวเธอโพสต์ลงทวิตเตอร์ ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันมาให้กำลังใจเธอ และบางคนก็ถึงกับส่งการ์ดอวยพรมาให้ด้วย ‘ผมกำลังจะไปปาร์ตี้กับเพื่อน แต่พอมาเห็นโพสต์นี้แล้วผมถึงกับน้ำตาไหล อยากจะกอดให้กำลังใจสาวน้อยคนนั้นจัง’ ‘ฉันขอส่งการ์ดไปอวยพรเธอได้มั้ย?’ ‘ช่วยส่งลิสต์สิ่งของที่อยากได้จากอะเมซอนมาหน่อยสิ เราจะได้ส่งของขวัญไปให้เธอ’ หลังจากนั้นหนูน้อย Kinley ก็ได้รับการ์ดอวยพร และของขวัญน้ำใจจากชาวเน็ตมากมายส่งมาให้ถึงบ้าน จนบางทีหนูน้อยก็แอบงง…ทำไมมีคนส่งอะไรมาให้เยอะแยะขนาดนี้!!? ที่มา: Metro
-
เจ้าหมาสูญเสียลูกจากเหตุไฟไหม้ เจ้าของเลยหาลูกใหม่มาให้ เพื่อเยียวยาหัวใจอันบอบช้ำ
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือมนุษย์ ต่างก็มีสัญชาติญาณของความเป็นแม่อยู่ด้วยกันทั้งนั้น เช่นเดียวกันกับเจ้าหมาตัวนี้ที่เพิ่งจะสูญเสียลูกไปจากอุบัติเหตุไม่คาดฝัน… ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้าหมา Daisy Woodruff เจ้าหมาที่แสนดีอาศัยอยู่ในเมือง Roseburg รัฐ Oregon เจ้าของของมันคือคุณ Jessica Woodruff เล่าวว่าเจ้า Daisy นั้นเพิ่งจะสูญเสียลูกๆ ที่แสนน่ารักไปทั้งหมด 7 ตัว หลังจากที่คลอดพวกมันมาได้เพียง 3 สัปดาห์ เพราะเหตุไฟไหม้ในโรงนาเมื่อวันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “พวกเราพยายามวิ่งเข้าไปในโรงนาเพื่อช่วยเด็กๆ แล้ว แต่มันสายเกินไป เราจำเป็นที่จะต้องห้ามเจ้า Daisy เอาไว้ เพราะมันจะวิ่งเข้าไปในกองเพลิงให้ได้” คุณ Jessica เล่า หลังจากเหตุการเพลิงไหม้ในครั้งนั้นเจ้า Daisy ก็เปลี่ยนไป “มันไม่ยอมกินอาหาร และมักจะเดินไปที่โรงนา จากนั้นก็นั่งลงอยู่ตรงนั้นร้องครางเบาๆ ราวกับกำลังคิดถึงลูกๆ ของมันอยู่ หัวใจของฉันแทบแตกสลายเมื่อเห็นแบบนั้น” Jessica เล่า เธอก็เลยตัดสินใจที่ขะช่วยเหลือเจ้า Daisy ด้วยการประกาศหาลูกบุญธรรมให้กับมัน…
-
ไปอ๊ะป่าว? นิวซีแลนด์ประกาศจ่ายค่าตั๋ว พร้อมที่พักฟรี เพื่อหาคนมาทำงานที่เวลลิงตัน!!
บ่อยครั้งที่เรามักจะได้เห็นข่าวประกาศจากภาครัฐของประเทศต่างๆ ที่พร้อมจะจ่ายค่าดำรงชีพ หรือค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ เพื่อดึงคนเก่งจากทั่วโลกให้เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ของตนให้มากยิ่งขึ้น และคราวนี้ก็เช่นเดียวกันเนื่องจากปัญหาขาดแคลนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและสื่อในแขนงต่างๆ ทำให้ล่าสุดรัฐบาลนิวซีแลนด์จึงออกมาประกาศว่า พร้อมที่จะจ่ายค่าตั๋ว และค่าที่พักให้แบบฟรีๆ ถ้าหากคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ และสนใจจะเดินทางมาสมัครงานที่เมืองเวลลิงตัน บ้านเมืองเค้าน่าอยู่มากเลยแหละเทอว์ โดยโครงการดังกล่าวมีชื่อว่า ‘Looksee Wellington’ ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างทีมพัฒนาเศรษฐกิจแห่งเมืองเวลลิงตัน และหน่วยงานจัดหางานประจำเมือง ซึ่งปัจจุบันอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในเมืองเวลลิงตัน กำลังเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทว่าปัญหาที่พวกเขาพบคือมีบุคลากรไม่เพียงพอต่อความต้องการของบริษัทในพื้นที่ และตอนนี้มีมากกว่า 100 บริษัทที่กำลังรอผู้เชี่ยวชาญด้านนี้จากทั่วโลก เพื่อมาเข้าร่วมเป็นหนึ่งในทีมงาน ‘สำหรับผู้ที่ได้ร่วมโครงการจะใช้เวลาทั้งหมด 4 วัน โดยช่วงแรกเราจะพาไปสำรวจรอบเมือง จากนั้นเราจะพาคุณไปสมัครงานกับบริษัทต่างๆ ในพื้นที่ ซึ่งเราพร้อมที่จะรับประกันว่าถ้าหากคุณได้มาแล้ว อย่างน้อยคุณก็จะได้ทำงานอยู่ในเมืองที่มีค่าความสุขสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกอีกด้วย’ หนึ่งในเจ้าหน้าที่จากโครงการกล่าว ซึ่งตอนนี้โครงการเปิดให้สมัครถึงวันที่ 20 มีนาคมนี้ โดยโครงการจะทำการคัดเลือกผู้สมัครเพียงแค่ 100 คนจากทั่วโลก เพื่อพาไปเที่ยวชมเมืองพร้อมหางานให้ทำตามโปรแกรมในช่วงวันที่ 1-11 พฤษภาคม ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รัฐบาลใจดีจ่ายให้หมดเลยจ้า ถ้าใครสนใจละก็ส่งเรซูเม่ พร้อมแนะนำตัวเองได้ที่ลิ้งค์ Wellington นี้เลย ไม่แน่นะว่าคุณอาจจะเป็นคนต่อไปที่ได้ย้ายสัมโนครัวไปอยู่ดินแดนในฝันก็ได้นะ…
-
ส.ส. โปแลนด์ ฉะเดือดกลางสภา ‘ผู้หญิงอ่อนแอและฉลาดน้อยกว่าผู้ชาย ควรได้ค่าตอบแทนน้อยกว่า’
กลายเป็นประเด็นสดๆ ร้อนๆ ส่งตรงจากที่ประชุมสภายุโรป เมื่อสำนักข่าว CNN รายงานเหตุการณ์ที่ ส.ส.จากโปแลนด์ กล่าวประทุษวาจาเกี่ยวกับเพศหญิงอย่างรุนแรง ในเชิงของผลประโยชน์ที่ควรจะได้รับ นักการเมืองชาวโปแลนด์ Janusz Korwin-Mikke จากที่ประชุมสภายุโรป โดยเนื้อหาในคลิปวิดีโอดังกล่าว เป็นภาพของนักการเมืองชาวโปแลนด์ Janusz Korwin-Mikke ได้กล่าวกลางที่ประชุมว่า ‘ผู้หญิงควรได้รับค่าตอบแทนที่น้อยกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงนั้นอ่อนแอกว่า ตัวเล็กกว่า และฉลาดน้อยกว่า’ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2014 นักการเมืองคนนี้ ก็เคยออกมากล่าวในที่ประชุมว่า ‘ผู้หญิงไม่ควรมีสิทธิ์ที่จะโหวต และลุกขึ้นมาต่อต้านการข่มขืน’ มาแล้ว แต่หลังจากที่ ส.ส.โปแลนด์พูดจบ นักการเมืองหญิง Iratexe Garcia Perez จากสเปนได้ยินแล้วก็ถึงกับหัวร้อน เธอลุกขึ้นมาตอบโต้ทันที ‘ฉันรู้ว่าคุณรู้สึกกลัว และเจ็บปวด ที่ได้เห็นภาพของผู้หญิงมานั่งอยู่ในสภาเดียวกันกับคุณ มีสิทธิมีเสียงเท่ากันกับคุณ และฉันอยู่ที่นี่ก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้หญิงทุกคนในยุโรป จากผู้ชายอย่างคุณนั่นแหละ!!’ และตอนนี้ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนนักการเมืองคนดังกล่าว โทษฐานทำผิดกฏข้อที่ 11 ของการประชุมสภา โดยกฏมีเนื้อหาว่าด้วยเรื่องของการห้ามไม่ให้สมาชิกผู้เข้าประชุม กล่าวคำส่อเสียดไปในเชิงดูถูกเหยียดหยาม…
-
เมียไม่ผิด รองเท้าผิด!! หนุ่มตัด “ส้นสูง” ของเมีย หลังถอยรถเกิดอุบัติเหตุเกือบจะชนบ้าน
หากว่าเราให้ใครสักคนยืมรถเราไปขับ ในครั้งแรกอาจจะรู้สึกไม่ค่อยไว้วางใจเท่าไหร่ เพราะไม่รู้ว่าจะขับดีมั้ย จะไปชนอะไรรึเปล่า!? แต่เมื่อปล่อยให้ขับไปสักพัก ความไว้วางใจก็เริ่มมีมากขึ้น จะเอาไปขับที่ไหนก็ไปได้ ไม่ต้องห่วงอะไรอีก แต่สุดท้ายแล้ว อุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อย่างในกรณีนี้ที่เกิดขึ้นกับคุณ Katy Wheatman ที่ดันประสบกับอุบัติเหตุถอยรถจนได้รับความเสียหาย อันเนื่องมาจากการสวมส้นสูงขณะขับรถ!! และที่หนักไปกว่านั้นก็คือรถยนต์ Toyota รุ่น GT86 คันดังกล่าวไม่ใช่ของเธอ แต่เป็นของสามี John Bowman อันมีมูลค่ามากถึง 1,100,000 บาทกันเลยทีเดียว รองเท้าส้นสูงเจ้าปัญหา ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ทางฝ่ายภรรยาก็เตรียมใจไปบอกความจริงทั้งหมดให้กับสามีทราบ ว่าเธอนั้นดันไปเข้าเกียร์ถอยหลัง แถมเหยียบคาคันเร่งจนถอนไม่ทันเพราะสวมส้นสูง จนเกือบจะชนบ้านตัวเองที่ห่างไปเพียงแค่ฉิวเฉียด เมื่อทางฝ่ายสามีทราบเรื่องว่ารถยนต์อันเป็นที่เทิดทูนและความสุขของเขานั้นได้รับความเสียหาย จากการเล่ามาทั้งหมด แต่แทนที่จะโทษภรรยา เขาก็ไปโทษที่ ‘รองเท้าส้นสูง’ แทนด้วยการตัดและทำลายส้นสูงคู่นั้นของภรรยาทิ้งซะ!! ปกติแล้วเธอจะใส่รองเท้าผ้าใบขับรถ John Bowman กล่าวว่า ‘ผมบอกเธอหลายหนแล้วว่าอย่าขับรถตอนใส่ส้นสูง ซึ่งเธอก็ปฏิบัติตามทุกๆ ครั้ง แต่ครั้งนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด’ ‘พอผมได้รับสายว่าเธอเกือบจะถอยรถชนบ้าน ผมแทบจะหัวใจวายเลยทีเดียว เธอบอกว่าเหยียบคันเร่งผิดตอนใส่เกียร์ถอย…
-
สุดยอดป้ายรถเมล์แห่งอนาคตจากสิงคโปร์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เปิดใช้งานจริงแล้ว!!
สำหรับ “ป้ายรถเมล์” ฟังดูแล้วอาจจะเป็นสถานที่ธรรมดาๆ ที่หลายคนอาจไม่ให้ความสำคัญมากสักเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่เราก็มักจะใช้แค่เป็นที่รอเวลาเพียงสั้นๆ เท่านั้น… เมื่อ #เหมียวขี้อ้อน ได้ลองคิดเล่นๆ ดูว่า ถ้าหากเราจะเปลี่ยนป้ายรถเมล์ให้เป็นมากกว่าป้ายรถเมล์ธรรมดาๆ ที่เราเห็นกันจนเบื่อละ เชื่อว่ามันจะต้องทำให้ผู้คนหันมาสนใจ แถมบางทีอาจจะช่วยให้ไม่รู้สึกเบื่อระหว่างที่กำลังรอรถด้วยนะ เหมือนดังเช่น ป้ายรถเมล์สุดเจ๋งในย่านจูรง ประเทศสิงคโปร์ แห่งนี้ บอกเลยว่ามันไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่ที่ให้ผู้คนมานั่งรอรถ เพราะทางหน่วยงานรัฐต่างๆ ของประเทศเทศได้ร่วมกันสร้างสรรค์ป้ายรถเมล์ให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้คนอย่างครบครัน จนขึ้นชื่อว่าเป็นป้ายรถเมล์ที่ดีที่สุดในโลก และเมื่อคุณได้ลองไปเยือนสถานที่แห่งนี้ คุณจะพบว่าที่ป้ายรถเมล์ จะมีชั้นวางหนังสือสำหรับให้ผู้คนทุกเพศทุกวัยที่สามารถหยิบไปอ่านได้ มีที่จอดรถจักรยาน ที่ชาร์จโทรศัพท์ แม้กระทั่งสวนบนหลังคา ก็ถูกตกแต่งไปด้วนต้นไม้ต้นเล็กๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีบอร์ดดิจิตอลที่ช่วยแสดงเวลาการมาถึงของรถโดยสาร และยังช่วยวางแผนเส้นทางที่รวดเร็วที่สุดให้กับคุณได้ มากไปกว่านั้นผู้โดยสารทุกท่านยังสามารถสแกน QR code เพื่อดาวน์โหลดอีบุ๊คจากห้องสมุดแห่งชาติได้อีกด้วยสุดยอดไปเลย ที่มา : designtaxi, citylab
-
เจ้าปลากัดเกือบจะตาย แต่ได้หญิงสาวช่วยไว้ ชุบเลี้ยงจนเฉิดฉายความสง่างามออกมา!!
เมื่อพูดถึงการช่วยเหลือ ส่วนมากที่เราได้เห็นก็คงจะเป็นหมาหรือแมว แต่จริงๆ แล้ว ยังมีสัตว์อีกมากมายที่ต้องการความช่วยเหลือเช่นกัน โดยเฉพาะปลา ที่เราอาจจะไม่ค่อยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับการช่วยเหลือพวกมันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเราสังเกตดีๆ จะเห็นว่า บางตัวกำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่ เหมือนกับเรื่องราวนี้ที่ถูกเล่าผ่านเว็บไซต์ Reddit โดย Astilaroth เมื่อเธอเดินเข้าไปในร้านขายปลา เธอก็สังเกตเห็นปลากัดตัวหนึ่งกำลังกระสับกระส่ายอยู่ที่ก้นตู้ปลาในสภาพเหมือนใกล้จะตาย เธอจึงเข้าไปคุยกับเจ้าของร้านว่า ‘ขอปลาตัวนี้ฟรีได้มั้ย’ เพราะเธอคิดว่า คนที่เลี้ยงปลาในสภาพที่ย่ำแย่แบบนี้ ไม่สมควรจะได้รับอะไรตอบแทน ปลากัดตัวน้อยที่น่าสงสารตัวนี้ ต้องอยู่รวมกับปลาชนิดอื่นๆ ในถังขนาดใหญ่ ทำให้มันถูกทำร้ายบ้าง โดนแย่งอาหารบ้าง จนตอนนี้ครีบมันแหว่งอย่างเห็นได้ชัด มันต้องอยู่อย่างทรมานเพราะหางมันตอนนี้เริ่มเน่าแล้ว และครีบก็เริ่มซีด ดังนั้นเมื่อ Astilaroth พามันกลับบ้าน เธอจึงแยกมันไปอยู่ในตู้แยกเดี่ยว พร้อมกับละลายเกลือลงไปในถังด้วยเพื่อรักษาแผลของมัน แต่แม้จะพยายามรักษา ปลากัดตัวนี้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น ครีบของมันเริ่มหลุด และมันไม่ยอมกินอะไรมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้วตั้งแต่เธอพากลับบ้าน หญิงสาวจึงตัดสินใจว่า ถ้ามันยังไม่ดีขึ้นอีก เธอคงต้องทำให้มันตาย เพราะไม่อยากให้มันต้องอยู่อย่างทรมานแบบนี้ และไม่น่าเชื่อว่า 2 สัปดาห์หลังจากนั้น ปลากัดตัวน้อยเริ่มที่จะแหวกว่ายไปมามากขึ้น และเริ่มที่จะกินอาหารอีกครั้ง เธอย้ายให้มันอยู่ในถังใบใหญ่กว่าเดิม…
-
คุณลุงผู้เมตตา ทุ่มเททั้งใจช่วยเหลือแมวจรจัดทุกตัวในหมู่บ้าน เพื่อให้ชีวิตพวกมันดีขึ้น!!
ทุกวันนี้มีแมวจำนวนมากที่ไม่มีเจ้าของ พวกมันจึงต้องเผชิญกับชีวิตที่ยากลำบากเพียงลำพัง แม้จะมีคนสงสารก็คงทำได้แค่ให้น้ำให้อาหารแล้วก็เดินจากไป แต่สำหรับ Uli Sharbinie แล้ว เขาไม่เคยเดินผ่านแมวจรจัดโดยไม่ทำอะไร ดังนั้นทุกครั้งที่เห็นแมวจรจัดในหมู่บ้าน เขาจะได้สินใจอุ้มกลับบ้านไปด้วยทุกตัว เมื่อตอนที่ Uli ยังเป็นเด็ก เขามักจะเห็นปู่พาแมวกลับมาไว้ที่บ้านเสมอ นั่นจึงทำให้ Uli ได้รับการปลูกฝังให้เป็นคนมีใจเมตตาต่อแมวตั้งแต่นั้นมา แต่ไม่ใช่แค่แมวเท่านั้นนะ เขาก็มักจะเอาอาหารให้สุนัขจรจัดด้วย ชายคนนี้อาศัยอยู่บ้านใกล้กับเมือง Bogor ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นชนบทที่มีแต่ถนนลูกรัง สิ่งที่ทำเป็นประจำคือ เขามักจะพาแมวจรจัดจากสถานที่ต่างๆ ในหมู่บ้าน กลับมารักษาตัวที่บ้าน ตอนนี้คุณ Uli อายุ 47 ปี เขาอยู่กับลูกๆ 5 คน ภรรยา Desi และคุณแม่วัย 90 ปี โดยอาศัยอยู่ด้วยกันภายในห้องเล็กๆ เพียงหนึ่งห้องเท่านั้น และแทนที่จะขยายบ้านตัวเอง เขากลับเลือกที่จะสร้างบ้านให้แมวมากกว่า เขาบอกว่า “ในปี 2011 ผมเริ่มสร้างบ้านขนาดเล็ก เพื่อให้เป็นที่อยู่ของแมวจรจัด” แต่ต่อมาเขาก็รู้สึกว่า บ้านนี้มันแคบเกินไปสำหรับแมวพวกนี้ เพราะเขาได้เก็บแมวจรจัดมาเลี้ยงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเขาก็ได้พบกับ Kristen Larson…
-
ช่างภาพถ่ายทอด ‘การช่วยเหลือสัตว์ป่า’ เพื่อให้ผู้คนได้ตระหนัก เห็นคุณค่าของทุกชีวิต
ปัจจุบันมีองค์กรต่างๆ มากมายที่ทำงานด้านการช่วยเหลือสัตว์ป่า องค์กรเหล่านี้มักจะทำงานควบคู่ไปกับสื่อ เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ผู้คนเห็นคู่ค่าของสัตว์ป่านั่นเอง Martin Stranka เป็นช่างภาพอิสระ และเป็นคนหลงใหลในธรรมชาติมาก โดยเฉพาะสัตว์ป่า ดังนั้น เขาจึงคิดจะทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นอีกหนึ่งคนที่ช่วยเหลือสัตว์ป่า เมื่อตอนอายุ 32 ปี เป็นปีที่ครบรอบอาชีพช่างภาพ 10 ปี ของ Martin พอดี เขาจึงใช้โอกาสนี้ทำโปรเจคช่วยเหลือสัตว์ป่า ด้วยการถ่ายภาพการช่วยเหลือสัตว์ป่าพร้อมเรื่องราวที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม เรื่องหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้ช่างภาพ คือ การได้พบกับหญิงคนหนึ่งที่ให้การช่วยเหลือลูกกวางเอาไว้ เพราะมันสูญเสียแม่ตอนที่มนุษย์แข่งล่าสัตว์ มันเลยต้องกำพร้าแม่ตั้งแต่ตอนนั้น นอกจากกวางแล้ว หญิงสาวคนนี้ยังไห้การช่วยเหลือสัตว์อื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งมันก็ทำให้ได้รู้ว่า โลกนี้มีคนอยู่สองกลุ่ม คือกลุ่มที่ทำร้ายสัตว์อย่างเลือด และกลุ่มที่คอยปกป้องสัตว์อยู่เสมอ และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา Martin ก็ได้พบกับป่าไม้คนหนึ่ง ที่รับเลี้ยงหมาจิ้งจอกสองตัว เพราะพวกมันได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ อีกหนึ่งประสบการณ์ที่ทำให้เขาประทับใจคือ กวางหนุ่มตัวหนึ่งได้รับการช่วยเหลือในขณะที่มันซ่อนตัวในไร่ข้าวโพด และโชคดีที่มันเจอคนดีๆ พวกเขาจึงช่วยเหลือมันไว้ และคอยดูแลจนมันแข็งแรงแล้วค่อยปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เรื่องราวทั้งหมดนี้ถูกรวบรวมไว้ในหนังสือ “10 YEARS” ซึ่งจะจัดแสดงในนิทรรศการระดับโลก Martin อยากให้ผู้คนได้มาเปิดอ่านหนังสือเล่มนี้ เพื่อให้ตระหนักถึงคุณค่าของสัตว์ป่านั่นเอง …
-
สื่อนอกรายงาน ชายญี่ปุ่นเสียชีวิตภายในห้อง โดยมีกองหนังสือโป๊กอง “มหึมา” ทับร่างอยู่
เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่ามีชายญี่ปุ่นคนหนึ่งเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอนของตัวเอง โดยมีกอง “หนังสือโป๊” กองทับถมเขาอยู่เป็นจำนวนมหาศาล… ตามรายงานบอกว่าชายชาวญี่ปุ่นรายนี้มีชื่อว่านาย Joji (สงวนนามสกุล) วัย 50 ปี อาศัยอยู่ในแฟลตแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดคะนะงะวะ ประเทศญี่ปุ่น เจ้าตัวเป็นคนที่ชอบสะสมหนังสือโป๊และนิตยสารวาบหวิวเป็นอย่างมาก มากเสียขนาดที่ว่าจะหันไปไหนก็ต้องเจอ!! หลังจากที่ครอบครัวของนาย Joji ได้ทราบถึงการตายของเขาแล้ว พวกเขาก็ส่งทีมทำความสะอาดเข้าไปเก็บกวาดภายในห้องของเขาทันที โดยที่ญาติๆ หวังว่านิตยสารเหล่านั้นจะไม่ถูกเปิดเผยหรือมีเพื่อนบ้านคนไหนสังเกตเข้า แต่ไม่นานก็มีหนึ่งในทีมทำความสะอาดนำเอาเรื่องนี้ไปเปิดเผยต่อผู้อื่น ทางเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดยังได้เผยอีกว่าพวกเขาไม่แน่ใจว่าตอนที่นาย Joji เสียชีวิตนั้น เป็นเพราะขาดอากาศหายใจจากการถูกกองหนังสือทับ หรือเพราะเกิดอาการหัวใจวายระหว่างที่ถูกหนังสือล้มลงมาทับกันแน่ จากการตรวจสอบห้องของนาย Joji พบว่าแทบทุกตารางนิ้วของห้อง จะมีหนังสือหรือนิตยสารที่ว่านี้วางอยู่ทุกหนทุกแห่ง และยังมีภาพตัดจากบทความที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษด้วย เมื่อนำเอานิตยสารทั้งหมดมารวมกันแล้ว จะได้น้ำหนักราวๆ 6 ตันเลยทีเดียว!! แม้ว่านี่อาจจะดูเป็นการเสียชีวิตที่แปลกสักหน่อย แต่ยังไงการเสียชีวิตก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับญาติพี่น้องและเพื่อนๆ ของเขาอยู่ดี ยังไงแล้วหากใครสะสมหนังสือ (จะอะไรก็ตาม) ก็หาที่วางที่มันปลอดภัยและไม่ร่วงหล่นลงมาทับเราจะดีกว่านะ ที่มา metro, nikkan-spa, livedoor
-
หนุ่มอเมริกัน อ้างว่าเป็นผู้มีสิทธิ์ “ครองบัลลังก์แห่งอังกฤษ” และกำลังมาทวงตำแหน่งคืน!?
กลายเป็นข่าวใหญ่โต (ในทางเฮฮาเล็กน้อย) ของประเทศอังกฤษเลยทีเดียว เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีชายปริศนาชาวอเมริกันรายหนึ่งออกมาอ้างว่าตนเองนั้นมีสิทธิ์ขึ้นครองบัลลังก์ของอังกฤษได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย!? เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่านาย Allan. V. Evans แห่งรัฐโคโรลาโด ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาบอกว่าเขานั้นมีสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะขึ้นครองบัลลังก์แทนควีน อลิสซาเบธองค์ปัจจุบัน นาย Evans ได้ซื้อโฆษณาบนหนังสือพิมพ์ The Times เพื่อเขียนจดหมายอธิบายความจริงต่างๆ และแสดงตนให้ทุกๆ คนรับรู้ว่าเขาต้องการอะไร ในโฆษณาที่เขาอุตส่าห์ลงทุนซื้อดังกล่าว ได้เปิดเผยความลับว่าตัวเองมีสิทธิ์ตั้งแต่กำเนิดที่จะขึ้นครองบัลลังก์หลังจากที่ควีนอลิสซาเบธได้เสียชีวิตลง ในฐานะลูกหลานของสายการปกครองดั้งเดิมที่เกิดขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 ในสหราชอาณาจักรและได้ลงทะเบียนใน Royal College of Arms เขาได้ให้คำชี้แจงทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องมรดกทางประวัติศาสตร์ของเขาคืน แต่แล้วความอดทนของ Evans ที่รอให้ควีนอลิสซาเบธสวรรคตก็หมดลง เนื่องจากพระองค์ครองราชย์มายาวนานอย่างที่เราทราบกัน และเขาเลยต้องมาลงโฆษณาประกาศ พร้อมเขียนข้อความของเขาว่า “จะติดตามความอยุติธรรมทางประวัติศาสตร์ ด้วยการอ้างสิทธิโดยชอบธรรมกับราชบัลลังก์และมงกุฎราชวงศ์แห่งสหราชอาณาจักรกลับคืนมา ซึ่งความตายในอนาคตของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ที่ 2 นั้นน่าเศร้า และอันที่จริงด้วยความเคารพ พระองค์ทรงมีความยิ่งใหญ่ เพราะพระองค์ไม่เห็นแก่ตัว ทรงเสียสละและปฏิบัติงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนมาโดยตลอด” …
-
สองหนุ่มนักเดินทาง พบสองลูกสุนัขกลางถนน ตกหลุมพรางความน่ารัก พาไปดูแลหมดเลย!!
นี่ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่หลายคนได้อ่านแล้วอาจจะรู้สึกแฮปปี้ และยิ้มได้ทั้งวันก็ได้ เมื่อ Briggs LocHaven และ Chris Vanness ผู้เป็นพี่ชาย กำลังขับรถออกจากแอริโซนาไปยังโคโลราโดนั้น ระหว่างทางพวกเขาก็ได้พบกับสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ที่กำลังวิ่งอยู่บนท้องถนน สำหรับเจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักกันดี และพวกมันก็คือ เจ้าหมาน้อย นั่นเอง ทางด้านหนุ่ม Chris ได้ออกมาเผยว่า “ในตอนแรกเราคิดว่าพวกมันเป็นสุนัขป่า หลังจากนั้นเราก็ได้เขาไปดูมันใกล้ๆ และพบว่าพวกมันเป็นมิตรมาก แต่ที่น่าตกใจคือพวกมันขาดน้ำอย่างรุนแรง แถมยังมีสภาพที่หิวโหย” ซึ่งคาดว่าการที่ลูกสุนัขเหล่านี้โผล่มากลางถนนได้นั้น จะต้องถูกมนุษย์นำมาทิ้งไว้อย่างแน่นอน หลังจากนั้น สองหนุ่มก็ได้พาเจ้าหมาน้อยขึ้นรถ ซึ่งพวกเขาเพียงแต่คิดว่าเจ้าหมาน้อยควรที่จะกินอาหาร กินน้ำ และได้รับอาบน้ำ เป็นเวลานานกว่า 24 ชั่วโมง ที่พวกเขายังคงให้อาหารแก่พวกมัน ตลอดการเดินทางร่วมกันทั้ง 4 ชีวิต และหลังจากนั้นประมาณ 10 ชั่วโมง เจ้าสุนัขตัวน้อยก็เริ่มกลับมาแข็งแรงขึ้น บรรดาหมาน้อยโชคดีเหลือเกินที่มันได้รับความช่วยเหลือจากมนุษย์ใจดี ถ้าหากพวกเขาไม่หยุดรถเพื่อช่วยมัน ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง จนในที่สุดสองพี่น้องก็ได้บ้านใหม่ มีพี่เลี้ยงคนโตที่พร้อมจะดูแลด้วยแหละ…
-
รถหรู Morgan 3.6 ล้าน เพิ่งประกอบมือเสร็จ ช่างไปลองขับ ยังทันไม่พ้นโรงงานก็ชนยับ!!
เรื่องราวความซวยมักจะเกิดขึ้นตอนที่เรายังไม่ทันได้ตั้งตัว เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของเจ้ารถรุ่น Aero 8 ของบริษัท Morgan ที่เพิ่งประกอบเสร็จด้วยมือมาหมาดๆ มีมูลค่ากว่า 3.6 ล้านบาท เกิดเสียหลักพุ่งชนรถบ้านที่จอดไว้อย่างจังห่างจากตัวโรงงานไปไม่ถึง 2 กิโลเมตร หลังช่างนำออกไปทดลองขับ นาย Will Jones วัย 44 ปี เจ้าของรถบ้านที่ถูกชนเล่าว่ามันพุ่งชนเข้ามาในบริเวณบ้านของเขาที่ตั้งอยู่ในเมือง Malver มณฑล Worcestershire ประเทศอังกฤษเมื่อเวลา 8 นาฬิกา 45 นาที ของวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา เขาเล่าเหตุการณ์ว่า “ผมไม่อยากจะเชื่อเลย จู่ๆ ก็มีช่างเดินเข้ามาเคาะที่หน้าต่างบ้าน ประมาณ 10 นาทีหลังจากที่ได้ยินเสียงดังคล้ายกับเกิดอุบัติเหตุ เพื่อกล่าวขอโทษผม” “เขาบอกว่าพวกเขากำลังทำการทดลองขับรถคันใหม่บนเส้นทางทดลองขับ ก่อนที่จะได้ยินเสียงแปลกๆ ดังขึ้นมาจากด้านหลังของรถ จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเส้นทางมาบนถนนทั่วไป จนสุดท้ายก็เสียหลักพุ่งเข้าชนรถของผม” อุบัติเหตุในครั้งนี้ส่งผลให้รถ Aero 8 พังยับเยิน รวมไปถึงรถบ้านราคา 790,000…
-
รู้หรือไม่ว่าการ์ตูนอนิเมชั่นชื่อดัง เมื่อนำไปฉายในต่างประเทศ จะถูกปรับเปลี่ยนบางส่วนด้วย!?
เวลาดูหนัง ไม่ว่าหนังเรื่องนั้นจะฉายที่ไหน คนดูก็จะได้เห็นภาพเหมือกันหมดไม่ผิดเพี้ยนจากต้นฉบับ แต่สำหรับหนังที่เป็นการ์ตูอนิเมชั่นแล้ว มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ในการฉายการ์ตูนอนิเมชั่นของแต่ละประเทศนั้น มักจะมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางจุดเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ชมภายในแต่ละประเทศ เป็นเหมือนดั่งการใส่ใจในเรื่องของรสนิยมของบุคคล Inside Out นี่เป็นฉากที่เด็กน้อย Riley ไม่ยอมกินผัก แต่เมื่อนำไปฉายในญี่ปุ่นแล้ว ได้มีการปรับเปลี่ยนบรอกโคลีให้เป็นพริกหยวกสีเขียวแทน เพราะที่ญี่ปุ่น เด็กๆ จะไม่ชอบกินพริกหยวกนั่นเอง ในเรื่องเดียวกันนี้ เมื่อฉายในสหรัฐอเมริกา จะเห็นว่ามีฉากที่พ่อของ Riley นั่งดูฮอกกี้อยู่ แต่สำหรับประเทศอื่นนั้นถูกแทนที่ด้วยกีฬาฟุตบอล เพราะทุกคนจะเข้าถึงมากกว่า นอกจากการเปลี่ยนฉากแล้ว ยังมีการนำเสนอปฏิกิริยาของตัวละครที่มีต่อสภาพแวดล้อมด้วย แบบเดิมนั้น Bing Bong ได้สะกดคำว่า Danger จากซ้ายไปขวา แต่ถ้านำไปฉายกับประเทศอื่นที่มีการอ่านจากขวาไปซ้าย การสะกดก็ต้องเปลี่ยนทิศทางไปด้วยเช่นกัน Monsters University ในเวอร์ชั่นอเมริกา คัพเค้กจะถูกตกแต่งตัวอักษรว่า Be my pal หรือเป็นเพื่อนกันนะ แต่ที่อื่นจะไม่ได้เห็นตัวอักษรเหล่านี้ เช่นเดียวกัน ในฉากที่ Mike บังเอิญเจอ Randall ด้วยความตกใจจึงมีตัวอักษรขึ้นตาของเขาว่า Lame แต่ทว่าเมื่อนำไปฉายในประเทศอื่น คำนี้จึงถูกแทนที่ด้วยหน้ายิ้ม อีกฉากหนึ่งที่ตัวหนังสือถูกแทนด้วยรูปภาพ Up ไม่รู้ว่าเราเคยสังเกตมั้ย…
-
บริษัทรัสเซีย เนรมิตบ้านหลังเล็กราคาถูก ผ่านเครื่องพิมพ์สามมิติ ใช้เวลาแค่วันเดียว!!
บ้านหลังเล็กๆ ที่เพื่อนๆ กำลังเห็นกันอยู่นี้ ดูภายนอกอาจจะเป็นเพียงแค่บ้านธรรมดาๆ ที่ไม่มีอะไรโดดเด่น และน่าสนใจ แต่ใครจะรู้ละว่าความจริงแล้วมันเป็นบ้านที่มีความพิเศษมากกว่านั้น เพราะทางบริษัท Apis-Cor จากประเทศรัสเซีย ผู้ที่ได้ออกแบบบ้านดังกล่าว ได้สร้างบ้านหลังขึ้นมาจาก “เครื่องพิมพ์สามมิติ” โดยใช้ระยะเวลาในการสร้างทั้งหมดเป็นเวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับบ้านหลังนี้ ตั้งอยู่ในเมือง Stupino ประเทศรัสเซีย มีขนาด 37 ตารางเมตร และมีต้นทุนในการสร้างเพียง 340,000 บาท แม้จะดูแคบ แต่บอกเลยว่าพอสร้างเสร็จ มันเป็นบ้านที่สวยงามมากๆ เลยละ . . ภายนอกบ้านจะถูกทาด้วยสีเหลืองสดใสทั้งหมดเลย และเมื่อได้ลองเดินเข้าไปข้างไหนแล้ว คุณจะเห็นรูปแบบการตกแต่งด้วยสไตล์ร่วมสมัย ที่ดูเรียบง่าย มีพนังโค้งสีขาว และพื้นไม้ที่ดูอบอุ่นเป็นอย่างมาก . เพื่อนๆ สามารถรับชมวิธีการสร้างบ้านจากเครื่องพิมพ์สามมิติได้ที่คลิปวีดีโอด้านล่างนี้เลย ที่มา : designtaxi
-
เด็กประถมจัดพิธีส่งร่างแบบไวกิ้งให้ ‘ปลาทองประจำห้อง’ สู่สวรรค์ชั้นวาลฮาลลา!!
เป็นเรื่องที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า เมื่อวันที่สัตว์เลี้ยงสุดที่รักของเราจากไป ด้วยความผูกพันธ์ และความทรงจำดีๆ ที่เคยมีให้กันมา เราก็อยากจะจัดพิธีศพให้กับเพื่อนซี้ต่างสายพันธุ์ของเราอย่างสมเกียรติ เช่นเดียวกับกลุ่มนักเรียนจากโรงเรียนประถม Papdale จากหมู่เกาะออร์กนีย์ ประเทศสกอตแลนด์ เมื่อสองปลาทองประจำห้องเรียนของพวกเขาได้เสียชีวิตลง เด็กๆ ไม่เลือกที่จะเอามันไปทิ้งลงในชักโครก แต่พวกเขาเลือกที่จะจัดพิธีอำลาให้กับมันในสไตล์ของชาวไวกิ้งแทน สองปลาทองผู้จากไปมีนามว่า ‘Bubbles’ และ ‘Freddy’ เดิมทีสองปลาทองเป็นของขวัญที่คุณครูประจำชั้นได้มอบให้เด็กทุกคนช่วยกันดูแล ทว่าช่วงที่สองปลาทองเสียชีวิตดันเป็นช่วงสัปดาห์ที่นักเรียนกำลังเรียนเรื่องไวกิ้งพอดี อะไรมันจะเหมาะเจาะได้พอดีขนาดน๊านน ‘พวกมันจะกลายเป็นวิญญาณน้อยลอยอยู่ที่วาลฮัลลา เราจะจดจำมันไปตลอดครับ’ เด็กนักเรียนคนหนึ่งกล่าว เด็กๆ ต่างก็ช่วยกันตัดกระดาษ พับเรือ และตกแต่งให้สวยงาม ก่อนที่จะนำเอาศพของปลาทองเพื่อนร่วมรุ่นไปลอยบนน้ำ ตามแบบวิถีชาวไวกิ้ง ‘พวกเราตื่นเต้นมากเลยฮะตอนที่เห็นเรือกำลังไหม้ เรารู้ว่ามันจากเราไปแล้ว และเราก็ได้เห็นมันไปอยู่ในที่ๆ มันอยากจะไป ตอนนี้พวกมันจะได้ไปอยู่ที่วาลฮาลลา มีพระเจ้าของชาวไวกิ้งคอยปกปักรักษาไว้’ เด็กนักเรียนกล่าว ‘เด็กทุกคนดูจะเซ็งมากเลยค่ะ หลังจากที่เจ้าปลาทองจากไป แต่การจัดพิธีศพแบบชาวไวกิ้งช่วยทำให้พวกเขาได้เห็นมุมมองในแง่บวกของเรื่องนี้ แน่นอนว่าพวกเราจะคิดถึงมันไปตลอดกาล’ คุณครูประจำชั้นเล่า เด็กๆ ต่างออกมายืนไว้อาลัยส่งวิญญาณปลาทองขึ้นสู่สวรรค์ชั้นวาลฮัลลา ตอนนี้วิญญาณปลาทองก็คงกลายเป็นนักรบไวกิ้งอยู่บนสวรรค์แล้วล่ะ… น่ารักจริงจริ๊งง ที่มา: TheChive
-
ตากล้องนำของเล่นจาก “Toy Story” มาเซตฉาก แล้วถ่ายออกมาให้มันดูมีชีวิตจริงๆ
หากพูดถึงหนังแอนิเมชั่นที่มีชื่อเสียงและได้รับคำชื่นชมมากที่สุดในโลก เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง Toy Story ขึ้นมาเป็นเรื่องแรกๆ อย่างแน่นอน ด้วยเนื้อเรื่องเด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี พร้อมแฝงแนวคิดดีๆ ไว้มากมาย ทำให้มันได้เข้าไปอยู่ในใจของใครหลายคนทั่วโลก ล่าสุด Mitchel Wu ตากล้องชาวเอเชียนอเมริกันได้นำของเล่นจากเรื่อง Toy Story มาเซตฉากแล้วถ่ายชุดภาพอันแสนมีชีวิตชีวา ซึ่งเขาบอกว่า เอฟเฟคทั้งหมดเป็นเอฟเฟคที่ทำจริงๆ ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ และถ่ายกันสดๆ เวลานั้นเลย จะเจ๋งขนาดไหน เราไปชมกันเลย ระวังหน่อยสิเจ้าบูลส์อาย กายกรรมมั้ยล่ะ สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น ไปเลยบัซไลท์เยียร์ จ๊ากกกก รูปหมู่ ทำได้แบบชั้นรึเปล่า เดี๋ยวชั้นทำเอง อยู่กับพวกเราต้องมีเสียงหัวเราะแน่นอน ลองไปชมผลงานที่เหลือของเขากันดีกว่า . . . . . . . . . . . .…
-
Forever Rose ดอกกุหลาบสุดมหัศจรรย์ ที่บานสะพรั่งได้นานถึง 3 ปี เหมือนดั่งในการ์ตูน
ถ้าใครเคยดูการ์ตูนเรื่อง Beauty and the Beast หรือ โฉมงามกับเจ้าชายอสูร จะต้องรู้จัก The Enchanted Rose หรือ ดอกกุหลาบเวทมนตร์ ที่อยู่ในบ้านของเจ้าชายอสูร ซึ่ง กุหลาบดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นนาฬิกาจับเวลา หากเจ้าชายอสูรไม่สามารถหารักแท้ได้ทันเวลา เขาจะไม่สามารถกลับมาเป็นมนุษย์ได้อีก . หากเพื่อนๆ คนไหนอยากได้ดอกกุหลาบที่สามารถบานสะพรั่งได้ตลอดทั้งปีโดยไม่มีเหี่ยวเฉาเหมือนในการ์ตูนล่ะก็ #เหมียวอ๊อดโด้ ขอแนะนำให้รู้จักกับ “ดอกกุหลาบ” จากบริษัท Forever Rose แห่งประเทศอังกฤษ!! คุณสมบัติความวิเศษของดอกกุหลาบนี้ก็ตามชื่อของมันเลย Forever Rose นั่นก็คือกุหลาบแห่งความนิรันดร์ ซึ่งเบ่งบานได้นานกว่ากุหลาบทั่วไปที่ไม่กี่วันก็เหี่ยวเฉาแล้ว โดยพวกเขาจะนำกุหลาบจริงๆ ไปใส่ไว้ในโดมแก้ว ซึ่งกระบวนการนั้นจะต้องทำให้กุหลาบไม่มีน้ำอยู่ และแทนที่น้ำนั้นด้วยกลีเซอรีน จนทำให้มันสามารถเบ่งบานได้นานประมาณ 3 ปี โดยไม่ต้องรดน้ำหรือรับแสงอาทิตย์ใดๆ ส่วนในเรื่องของราคาสนนอยู่ที่ดอกละ 7,000 บาท ไปจนถึง 18,000 บาท ถือว่าแพงพอสมควร แต่ก็ด้วยคุณสมบัติอันแสนวิเศษของมันน่ะนะ นอกจากนี้ก็ยังมีแบรนด์กุหลาบวิเศษจาก My…
-
Bath Bomb สบู่ระเบิดอโรม่าแช่ตัวในอ่าง อาจส่งผลกระทบต่อ ‘ช่องคลอด’ ของคุณได้!!
วันไหนที่รู้สึกเหนื่อยล้า หลายคนอาจจะหาวิธีผ่อนคลายตามสไตล์ของตัวเอง บางคนก็อาจจะนอนพักผ่อนแบบเงียบๆ หรือบางคนอาจจะชื่นชอบการแช่ในน้ำอุ่น พร้อมกับใส่ “Bath Bomb” สบู่สำหรับใส่ในอ่างอาบน้ำลงไป เพราะมันจะสามารถช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ สำหรับ Bath Bomb จะมีลักษณะเป็นก้อนกลมๆ คล้ายกับลูกระเบิด โดยวิธีการใช้ก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่ใส่ลงไปในน้ำ จากนั้นมันก็จะทำปฏิกิริยากับน้ำ และเผยกลิ่นหอมออกมานั่นเอง แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า สบู่อโรม่าแช่ตัว Bath Bomb ที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมนั้น อาจจะส่งผลเสียต่อจิมมี่ของสาวๆ ได้ ทางด้าน Dr Vanessa Mackay จากวิทยาลัย Royal College of Obstetricians and Gynaecologists ในแมรี่ลีโบน ประเทศอังกฤษ ได้ออกมาเตือนสาวๆ ที่ชื่นชอบการใช้ Bath Bomb ว่า… “เราควรหลีกเลี่ยงการใช้พวกสบู่หอม เจล และน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือแอนตี้เซ็พติค (Antiseptics) เหล่านี้…
-
นักวิทย์ฯ พบแมลง Tree Lobsters อีกครั้ง ทั้งที่เคยคิดว่าพวกมันสูญพันธุ์ไปกว่า 80 ปีแล้ว
ทุกวันนี้มีสัตว์มากมายหลายชนิดที่สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้ และปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งนั้นมาจากผีมือมนุษย์ ที่มีความต้องการไม่สิ้นสุด แต่ท่ามกลางการทำลายล้างนี้ ไม่น่าเชื่อว่ายังมีสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีชีวิตรอดจนทุกวันนี้ อาศัยอยู่ที่เกาะแห่งหนึ่งนอกชายฝั่งของออสเตรเลีย หรือที่รู้จักกันว่า Ball’s Pyramid เกาะ Ball’s Pyramid ค้นพบโดยกองทัพเรืออังกฤษในปี 1778 ซึ่งมีความสูงถึง 562 เมตร โดยที่หลายคนแทบจะไม่เชื่อว่าจะมีเกาะนี้อยู่จริง นอกจากเป็นเกาะที่น่าเหลือเชื่อแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์พิเศษชนิดหนึ่ง ที่ยังคงทำให้มันดำรงชีวิตได้มาจนถึงปัจจุบัน Ball’s Pyramid อยู่ห่างจากเกาะ Lord Howe ประมาณ 20 กิโลเมตร บนเกาะแห่งนี้เดิมเป็นที่อยู่ของแมลงสีดำขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง มันมีความยาวเท่ากับฝ่ามือมนุษย์ ต่อมามีการตั้งชื่อให้แมลงชนิดนี้ว่า “Tree Lobsters” ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ประชากร Tree Lobsters ได้เกิดขึ้นบนเกาะจำนวนมาก ต่อมาถูกรุกรานโดยหนูท้องขาว ทำให้พวกมันมีจำนวนลดลงจนแทบไม่เหลืออยู่บนเกาะ ดังนั้นในปี 1920 จึงเป็นครั้งสุดท้ายที่มนุษย์ได้พบแมลงชนิดนี้ แต่ในปี 2001 นักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลีย 2 คน คือ David Priddel…
-
ผลวิจัยชี้ เกลือมีส่วนช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าให้คุณได้ แต่ไม่ควรทานเกิน 6 กรัมต่อวัน
เกลือเป็นเครื่องปรุงอาหารที่เราแทบจะขาดไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม การทานเกลือมากเกินก็ไม่ดีนะ แล้วรู้มั้ยว่า จริงๆ แล้ว เกลือมีสรรพคุณที่ซ่อนอยู่ลึกๆ อีกด้วย จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งของมหาวิทยาลัย University of Iowa ค้นพบว่า “เกลือมีคุณสมบัติเป็นยากล่อมประสาท” หรือว่ามีสารปรับอารมณ์ให้กับมนุษย์นั่นเอง จากการนำเกลือไปทดสอบกับหนูพบว่า หนูที่มีอาการเบื่อ ซึมเศร้า เมื่อได้กินเกลือแล้ว พวกมันจะมีอาการตรงข้ามในเวลาต่อมา นั่นคือ หนูจะมีการตื่นตัว และมีการวิ่งเล่นมากขึ้น จริงอยู่ที่ร่างการต้องการโซเดียม ซึ่งมักจะพบได้ในอาหารที่ปรุงด้วยเกลือ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การทานเกลือในปริมาณที่มากเกินไป อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง ทั้งนี้ ความดันโลหิตสูง ก็จะส่งผลทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจวายได้ The UK’s Food Standards Agency ได้แนะนำว่า ผู้ใหญ่ไม่ควรทานเกลือเกิน 6 กรัม ต่อวัน แต่จากการสำรวจในปีที่ผ่านมาพบว่า ผู้คนทานเกลือเฉลี่ย 8.6 กรัมต่อวัน ซึ่ง 3 ใน 4 ของเกลือที่ทานนั้น มาในรูปแบบอาหารที่ปรุงไว้แล้ว ส่วนการทดสอบที่ทำโดยนักวิจัยสหรัฐ…
-
คุณยายเป็นอัลไซเมอร์ แม้เธอจะจำสามีไม่ได้ แต่คุณตาก็จะอยู่ดูแลเธอจนถึงวาระสุดท้าย…
หากเรารักใครสักคน เราก็คงอยากอยู่ด้วยกันให้นานที่สุด และคอยดูแลกันจนวินาทีสุดท้าย แต่ในชีวิตคงเป็นได้ยาก เพราะเวลาเปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยน แต่สำหรับสองตายายนี้ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เวลาไม่สามารถทำลายความหวานชื่นของชีวิตคู่ได้ ภาพของคุณตาคุณยายอายุ 96 ปี จากสหรัฐอเมริกา ถูกถ่ายในไว้ขณะที่คุณตากำลังป้อนอาหารให้คุณยายอย่างอบอุ่น ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง คนที่ถ่ายภาพนี้จึงตัดสินใจที่เข้าไปคุยกับพวกเขา และได้รู้ว่า ทั้งคู่แต่งงานกันมาเกือบ 75 ปีแล้ว แต่ตอนนี้คุณยายป่วยเป็นอัลไซเมอร์ คุณตาเล่าให้ฟังว่า “เดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ เราจะได้ฉลองวันครบรอบแต่งงาน 75 ปีด้วยกันครับ” ภาพของทั้งคู่ถูกแชร์ลงเฟสบุ๊คโดย Love What Matters จากนั้นก็มีหลายเข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์ที่ประทับใจ อย่างคอมเม้นด้านล่างนี้ ได้เล่าว่า “ปู่ของฉันยังป้อนอาหารคุณย่าอยู่เสมอ แม้เธอจะลืมคุณปู่ไปนานแล้วก็ตาม และเธอจะไม่ยอมกินถ้าคนอื่นป้อนให้ นั่นหมายความว่าลึกๆ แล้ว เธอยังจำเขาได้นั่นเอง” ในขณะที่ชาวเน็ตอีกคนก็เล่าว่า “เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจมาก และทำให้ฉันน้ำตาไหลเลยล่ะ เพราะมันทำให้ฉันนึกถึงแม่ ที่ฉันได้ดูแลท่านเมื่อ 3 ปีก่อน แต่เธอจากไปแล้วด้วยโรคอัลไซเมอร์และภาวะหัวใจล้มเหลว” “…แม้ว่าพ่อกับแม่จะหย่ากันแล้ว แต่พ่อมักจะเข้ามาช่วยเหลือแม่อยู่เสมอ เพราะพ่อรักแม่ตั้งแต่เธออายุ…
-
เบอร์เกอร์คิงใจถึง นำภาพร้านไฟไหม้ลุกโชน มาปรับให้เป็นป้ายโฆษณาสุด “ร้อนแรง”
เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะเคยเห็นโฆษณาร้านอาหารฟาส์ทฟู้ดมาแล้วเป็นร้อยๆ ชิ้น แต่เชื่อเราเถอะว่าไม่มีโฆษณาตัวไหนที่จะ “ร้อนแรง” และ “ดิบ” ไปกว่านี้โฆษณาตัวนี้อีกแล้ว เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Business Insider ได้เผยแพร่ภาพโฆษณาชุดใหม่จากร้าน Burger King แฟรนไชส์เบอร์เกอร์ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ภาพโฆษณาชุดนี้เป็นการนำเอาภาพเหตุการณ์ในขณะที่ร้าน Burger King สาขาหนึ่งในรัฐโอเรกอน มีเพลิงลุกไหม้และมีเจ้าหน้าที่พยายามเข้าควบคุมสถาณการณ์ โฆษณาชุดนี้มีด้วยกันทั้งหมด 3 ภาพ เป็นไอเดียมาจากเอเจซี่โฆษณาที่ชื่อ David Miami เพื่อเป็นการย้ำเตือนผู้คนให้รู้ว่าร้านของพวกเขานั้น “ใช้เตาไฟย่าง” (เบอร์เกอร์) มาตั้งแต่ปี 1954 แล้วนั่นเอง แต่ทั้งหมดนี้ก็ดูจะเป็นการกระทำที่กล้าหาญมากๆ เพราะนับตั้งแต่ปี 1954 ร้าน Burger King ถือเป็นร้านฟาส์ทฟู้ดที่มีเพลิงลุกไหม้บ่อยครั้งมากกว่าร้านอื่นๆ เลยก็ว่าได้ มีทั้งรัฐโอเรกอน รัฐเพนซิลเวเนีย และที่ประเทศอิตาลี (โอ้โห ร้อนแรงจริงๆ) จะมีแฟรนไชส์หรือบริษัทไหนในโลกนี้อีก ที่กล้าเอาความเสียหายของตัวเองมาโฆษณาเป็นจุดขายได้ ที่มา businessinsider, fortune , adweek
-
18 คุณพ่อดีเด่น ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อสร้างความสุขให้กับลูก นี่แหละฮีโร่ในบ้าน!!
ขึ้นชื่อว่า มนุษย์พ่อแล้ว อะไรก็ทำได้ทั้งนั้น ตั้งแต่การทำงานเลี้ยงครอบครัว การปกป้องครอบครัว และการทำทุกอย่างเพื่อมอบความสุขให้ครอบครัว คุณพ่อเหล่านี้ก็เช่นกัน ที่อยากให้ชีวิตวัยเด็กของลูกๆ เต็มไปด้วยความสุข พวกเขาจึงยอมทำอะไรหลายๆ อย่าง จนลูกๆ ต้องยกให้เป็นฮีโร่ในชีวิตจริง 1. หนวดเคราดูเข้มๆ ลูกเลยเพิ่มความอ่อนโยนให้ด้วยการไปแต่งเติมดอกไม้ที่เคราพ่อ 2. ลูกต้องเรียนบัลเลต์ พ่อเลยอาสาเป็นคู่ซ้อมให้ 3. แหม่ คงต้องปรบมือรัวๆ ให้คุณพ่อคนนี้ซะแล้ว 4. ลูกเป็นเงินใช่มั้ย งั้นพ่อขอเป็นโจรปล้นลูกมาอยู่กับพ่อนะ 5. อยู่บ้านก็เล่นขายของกับพ่อได้ 6. แบกลูกไว้ข้างหลัง มันธรรมดาไป พ่อขอจัดแบบเท่ๆ ให้ลูกซะหน่อยละกัน 7. ลูกอยากเป็นมาริโอ้ งั้นพ่อเป็นเจ้าหญิงให้ก็ได้ 8. แก๊งเอลซ่า 9. นี่ก็คุณพ่อเอลซ่า 10. เห็นพ่อหัวล้าน ลูกเลยจัดการปลูกผมให้ 11. แม้ต้องเลี้ยงลูกถึง…
-
แมวน้อยพลัดตกท่อระบายน้ำจนเป็นอัมพาต คนใจดีก็ช่วยรักษาให้กลับมาซนได้อีกครั้ง!!
รอบตัวเรานี้เต็มไปด้วยสัตว์มากมายที่ต้องการความช่วยเหลือจากมนุษย์ และถ้าเราเองไม่มองข้ามมันไป เราก็จะเป็นคนหนึ่งที่ทำให้โลกนี้น่าอยู่มากขึ้น Talleyrand เป็นแมวน้อยที่พลัดตกลงไปในท่อระบายน้ำ มันร้องขอความช่วยเหลืออยู่นาน ก่อนที่จะมีคนผ่านมาได้ยินได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยมันไว้ เมื่อ Michael Stern เจ้าหน้าที่จาก Animal Control Officer มาถึงและได้ช่วยแมวน้อยออกมา เขาก็เห็นว่า แมวน้อยมีความผิดปกติบางอย่างกับขาของมัน ลูกแมวตัวนี้มีอายุประมาณ 2 เดือน แต่ตั้งแต่ช่วยมันออกมามันก็ไม่เคยขยับขาหรือหางเลย Stern จึงพามันไปยังที่ปลอดภัย ก่อนจะพามันไปยัง Humane Rescue Alliance ในกรุงวอชิงตันดีซี และจากการเอกซ์เรย์พบว่ามันเป็นอัมพาต จากเหตุพลัดตกลงไปในท่อระบายน้ำ ซึ่งคาดว่า มันน่าจะถูกกระแทกอย่างแรง ตอนนี้มันจึงต้องใช้หลายวันเพื่อรักษาตัว แต่แม้ว่ามันจะเดินไม่ได้ แต่มันก็ไม่เคยยอมแพ้ ทุกครั้งที่หมอตรวจร่างกายน้องเหมียว มันก็จะพยายามลุกขึ้นและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทางเจ้าหน้าที่เองก็หลงรัก Talleyran ไม่น้อยเลย พวกเขาทั้งลูบทั้งกอดและให้ความรักกับมันเต็มที่ และทุกคนก็พยายามที่จะช่วยแมวน้อยให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง Dr. Meg Hamilton ได้เริ่มรักษามันด้วยการฝังเข็ม หลังจากนั้นหนึ่งเดือน ลูกแมวเริ่มที่จะมีความรู้สึก มันเริ่มขยับขาหลังและหางได้เล็กน้อย คุณหมอจึงทำการฝังเข็มมากขึ้น โดยรักษาควบคู่ไปกับ Electroacupuncture เพื่อกระตุ้นเส้นประสาทและเพิ่มประสิทธิภาพของการฝังเข็มด้วย…
-
หนุ่มน้อยตัดสินใจ “ตัดผมทรงเดียวกัน” เพื่อแกล้งให้ครูสับสน จนชาวเน็ตต่างหลงรักในความไร้เดียงสา!!
กลายเป็นเรื่องราวสุดประทับใจเมื่อหนุ่มน้อยวัย 5 ขวบ Jax Rosebush และคู่ซี้ของเขา Reddy ตั้งใจจะแกล้งคุณครูด้วยการตัดผมทรงเดียวกันเพื่อให้ครูเข้าใจผิด จนเรื่องราวของพวกเขาโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ ผู้คนมากมายต่างก็เอ็นดูในความไร้เดียงสาของเด็กน้อยทั้งสองคน และนี่คือภาพของ Jax และ Reddy ที่ทั้งหน้าตาและสีผิวแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เรื่องราวนี้ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊คโดยคุณ Lydia Stith Rosebush คุณแม่ของหนูน้อย Jax เธอเล่าว่า “เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาฉันได้พูดคุยกับ Jax ถึงทรงผมแปลกๆ ที่เขาเพิ่งไปตัดมา เขาบอกว่าเขาอยากตัดผมสั้นเกรียนเหมือนกับ Reddy เพื่อนสนิทของเขา และตอนนี้เขาก็อดทนรอที่จะให้ถึงวันจันทร์ที่จะไปโรงเรียนพร้อมกับทรงผมที่เหมือนกันกับ Reddy และคุณครูจะต้องตกใจจนแยกไม่ออกแน่ๆ ว่าใครเป็นใคร เขาคิดว่ามันน่าสนุกที่จะสร้างความสับสนให้กับคุณครูด้วยทรงผมทรงเดียวกัน” ความแตกต่างเดียวระหว่างพวกเขาที่ Jax เห็นมีเพียงแค่เรื่องของ ‘ทรงผม’ เท่านั้น… โพสต์นี้สร้างความประทับใจให้กับชาวเน็ตมากมายหลายคน จนมีคนเข้ามากดไลค์กว่า 150,000 คน และแชร์ไปอีก 80,000 ครั้งเลยทีเดียว ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาชื่นชมในความน่ารักไร้เดียงสาของสองคู่หู “ว้าววววว นี่เป็นฝาแฝดที่น่ารักที่สุด…
-
หญิงชาวอินเดียถูก ‘เผาทั้งเป็น’ เพราะหมอประกาศว่าเธอเสียชีวิตด้วยโรคปอดติดเชื้อ
ความเป็นความตายของมนุษย์คนหนึ่งนั้นนับเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆ สำหรับวงการแพทย์ เพราะหากวินิจฉัยผิดไปแม้แต่นิดเดียว คุณจะไม่มีโอกาสได้แก้ตัวซ้ำอีก เช่นเดียวกับเรื่องราวที่เกิดกับหญิงชาวอินเดีย เมื่อเธอต้องถูกเผาทั้งเป็นเนื่องจากความผิดพลาดของหมอที่ประกาศว่าเธอเสียชีวิตแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาล Sharda hospital เมือง Greater Noida รัฐ Uttar Pradesh ของประเทศอินเดีย โดยทีมแพทย์ได้ประกาศว่า Rachna Sisodia วัย 24 ปี เสียชีวิตแล้วด้วยโรคปอดติดเชื้อ Devesh Chaudhary วัย 23 ปี ผู้เป็นสามีของหญิงรายนี้และเพื่อนอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้นำร่างของเธอออกจากโรงพยาบาลดังกล่าวในเวลา 01.27 น. เพื่อไปทำพิธีศพที่ Aligarh และในเวลา 08.00 น. พวกเขาก็ได้เผาศพเธอ แต่จากรายงานบอกว่าในระหว่างที่เผาศพหญิงสาวนั้น ได้มีคนลากเธอออกมาจากกองเพลิงอย่างกระทันหันเพราะเชื่อว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่หลังจากออกจากกองเพลิงแล้ว หญิงสาวก็ไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย อย่างไรก็ตามพวกเขาได้นำศพเธอไปให้แพทย์ชันสูตรศพอีกครั้ง และพบว่ามีเศษการเผาไหม้เข้าไปอยู่ในหลอดลมและปอดบางส่วนของเธอ แพทย์ที่ทำการชันสูตรทั้ง 2 จึงสรุปเป็นเสียงเดียวกันว่า Rachna ไม่ได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อในปอด แต่เธอเสียชีวิตเนื่องจากช็อกตอนถูกไฟเผาทั้งเป็น ทางญาติของหญิงสาวได้นำเรื่องดังกล่าวนี้ไปแจ้งความ โดยให้การว่า Devesh ผู้เป็นสามีและเพื่อนจำนวนหนึ่งได้ล่วงละเมิดทางเพศกับ Rachna จนได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขาจึงทำการเผาเธอทั้งเป็นเพื่อหนีความผิด …
-
คุณตาวัย 96 ปี เปิดเผยว่าตัวเอง ‘เป็นเกย์’ หลังจากต้องเก็บเป็นความลับมาตลอดชีวิต
เรื่องราวสุดประทับใจเมื่อคุณตาวัย 96 ปี ตัดสินใจที่จะออกมาประกาศให้ทั่วโลกรับรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นเกย์ คุณตา Roman แต่งงานกับภรรยามาแล้วกว่า 67 ปี มีลูก 2 คน หลาน 5 คน และเหลนอีก 1 คน เขาต้องใช้ชีวิตอยู่โดยที่ไม่บอกให้ใครรู้ว่าเป็นเกย์ เพราะสภาพสังคมในยุคที่เขายังเป็นวัยรุ่นอยู่ได้มีการปฏิเสธความหลากหลายในเรื่องของรสนิยมทางเพศเป็นอย่างมาก คุณตาเล่าว่าเขารู้ตัวเองว่าเป็นเกย์มาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และการที่ออกมายอมรับว่าตัวเองเป็นเกย์นั้นก็เพราะว่าเขาต้องการที่อยากจะให้โลกได้รับรู้ แน่นอนว่าก่อนหน้านั้นก็ต้องผ่านครอบครัวมาก่อน ซึ่งคุณตาก็แค่บอกไปตรงๆ ว่าเขาเกิดมาและทั้งชีวิตของตัวเองนั้นเป็นเกย์มาตลอด และทุกคนก็ยอมรับได้อย่างน่าประหลาดใจ จากการที่ต้องเก็บเป็นความลับเอาไว้ไม่บอกใครว่าตัวเองเป็นเกย์มายาวนานกว่า 90 ปี จนถึงตอนนี้คุณตามีอายุ 96 แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นคุณตาก็ยังคงต้องการที่จะมีความรักกับผู้ชายด้วยกันอยู่ดี… โดยคุณตาได้ให้ข้อมูลถึงสเปคของเขาว่า “‘เป็นใครก็ได้’ ผมไม่แคร์ เพราะผมไม่ได้มองที่ใบหน้าของเขา แต่มองลึกเข้าไปที่หัวใจต่างหาก ใครซักคนที่จะมาเป็นที่พักพิง ใครซักคนที่รู้สึกถึงหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ ไม่มีใครทำแบบนี้ได้ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณจะรักเขาคนนั้น ฉันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ฉันไม่ได้ต้องการความสัมพันธ์ทางร่างกายหรือจิตใจที่ตรงกัน แต่ที่ฉันต้องการก็แค่เพียงใครสักคนที่อยู่ข้างๆ กันในยามหลับ ไม่ได้มีเหตุผลอื่นใดนอกจากให้แน่ใจว่ามีคนที่คอยห่วงใยอยู่ และนี่คือทั้งหมดที่ฉันต้องการ” แต่สำหรับในวัย…
-
Nike เปิดกว้างใช้ “นางแบบร่างท้วม” โฆษณาชุดออกกำลังกาย กระตุ้นความเท่าเทียมในสังคม
องค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งของการโฆษณาเสื้อผ้านั้นก็คือ ตัวนางแบบหรือนายแบบ โดยแบรนด์เสื้อผ้าส่วนใหญ่มักจะคนที่มีหุ่นตามพิมพ์นิยม เพื่อเป็นจุดดึงดูดลูกค้า โดยเฉพาะแบรนด์อุปกรณ์ออกกำลังกาย ยิ่งต้องใช้ผู้ชายกล้ามบึ๊ก หรือผู้หญิงทรงเอสนั่นเอง แต่ล่าสุด Nike ก็ได้มีการเปิดกว้าง ใช้นางแบบร่างท้วมในการโฆษณาชุดออกกำลังกาย และตอกย้ำผลิตภัณฑ์ไซส์ใหญ่ เพราะเสื้อผ้าที่ผลิตนั้นไม่ได้แค่ไซต์เล็ก แต่มีไซต์ให้เลือกที่หลากหลาย สาเหตุที่ Nike เปลี่ยนกลยุทธ์ของการโฆษณาเสือผ้าออกกำลังกาย เป็นเพราะเห็นถึงความสำคัญของการออกกำลังที่บางครั้งเราจะเห็นคนท้วมหรือคนอ้วนก็ต้องการออกกำลังกายเช่นกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่แค่คนตัวเล็กที่ออกกำลังกาย แต่ทุกคนมีสิทธิออกกำลังโดยไม่ขึ้นอยู่กับหุ่นคุณจะเป็นยังไง ในเมื่อใครๆ ก็ออกกำลังกายได้แล้วทำไมเวลาโฆษณาต้องใช้เฉพาะคนผอมมาเป็นแบบล่ะ ดังนั้นการใช้นางแบบร่างท้วมมาโฆษณาจึงเป็นจุดประกายให้วงการเสื้อผ่ามากขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการย้ำเตือนคนที่ร่างท้วมว่า พวกเธอไม่จำเป็นต้องหุ่นเหมือนนางแบบร่างบาง แต่สามารถสวยในแบบของตัวเองได้ ในสัปดาห์นี้ Nike ได้มีการเปิดตัวนางแบบร่างท้วมอย่างเป็นทางการแล้ว และเพิ่มตัวเลือกจากเสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่สุดแค่ XL ก็มีการขยายให้มีถึง 3XL แถมไม่ได้มีแค่ชุดออกกำลังกายเท่านั้น แต่เสื้อผ้าทุกชนิดของ Nike ไม่ว่าจะเป็น ชุดชั้นใน ถุงน่องสำหรับวิ่ง เสื้อฮูท ต่างก็มีถึงไซต์ 3XL ทั้งนั้น ส่วนยกทรงสำหรับออกกำลังกายนั้น ก็มีถึงไซต์ 38E… ทั้งนี้ Nike ให้เหตุผลว่า “การเล่นกีฬานั้น ไม่ว่าใครก็เล่นได้ มันไม่ได้จำกัดว่าคุณต้องเป็นใคร หุ่นยังไง” Nike…
-
Ed Sheeran เผยครั้งหนึ่งเคยเอา ‘ไม้กอล์ฟ’ ฟาดปาก Justin Bieber จนกรามแทบหักมาแล้ว
กลายเป็นเรื่องที่สร้างความตกตะลึงให้กับแฟนคลับเลยทีเดียว เมื่อ Ed Sheeran ได้ออกมาเผยว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยเอาไม้กอล์ฟฟาดปากนักร้องหนุ่มชื่อดังชาวแคนาดา Justin Bieber จนกรามแทบหักมาแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วงานนี้เขาไม่ได้ตั้งใจหรอกนะ แต่มันเกิดอะไรขึ้นนั้นเขายอมออกมาเล่าให้กับแฟนคลับได้ฟังกันดังนี้… ทั้ง Ed และ Justin เป็นเพื่อนสนิทกันด้วยนะ Ed กล่าวว่า “ตอนนั้นเราอยู่ในญี่ปุ่น แล้วก็ไปเที่ยวบาร์กัน จัสตินดื่มแค่น้ำเปล่า ส่วนผมนี่เมาแอ๋เลย จากนั้นเราก็ไปสนามกอล์ฟ เขาก็นอนลงไปกับพื้นแล้วเอาลูกกอล์ฟวางไว้บนปาก จากนั้นก็บอกให้ผมตี” “ผมนี่แบบ ชิบหายล่ะ กรูต้องเล็งดีๆ เลยนะเนี่ย สุดท้ายผมก็หวดเข้าเต็มคางของ Justin ตอนนั้นผมถึงกับเงิบไปเลย” ดูสายตาแห่งความชั่วร้ายนั่นสิ ว๊ายยยยยยยยย!! โดยเหตุการณ์ดังกล่าว สื่อต่างประเทศคาดว่าเกิดขึ้นเมื่อช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ตอนที่มีรายงานว่า Ed ไปเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง และแม้จะเกิดเช่นนั้น แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ยังแน่นแฟ้นกันเหมือนเดิม ทั้งสองเคยร่วมงานกันหลายครั้ง อย่างเช่นเพลงฮิตในอัลบั้มล่าสุดของ Justin Bieber อย่าง Love Yourself ก็เป็น Ed Sheeran นี่เองที่แต่งให้ …
-
หัวขโมยหื๊นหื่น บุกร้าน ‘เซ็กส์ช็อป’ เพื่อดูหนังโป๊ แถมขากลับหยิบ “ตุ๊กตายาง” ตัวเป็นหมื่นไปอีก!?
ปกติแล้วเรามักจะเห็นข่าวหัวขโมยเข้าไปปล้นในบ้านคนเพื่อหวังเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาแพง หรือไม่ก็ร้านสะดวกซื้อ ร้านทองอะไรก็ว่าไป แต่คราวนี้มันยกระดับไปอีกนิดหนึ่งแล้ว…. สำนักข่าวเมโทรในประเทศอังกฤษได้รายงานว่า มีโจรคนหนึ่งกำลังหลบหนีการจับกุม หลังจากที่เขางัดเข้าไปดูวีดีโป๊ภายในร้านและขโมยเซ็กส์ดอลล์ออกมา ตำรวจกำลังตามล่าชายคนหนึ่งหลังจากก่อคดีสุดคาว เข้าไปขโมยตุ๊กตายางมูลค่าประมาณ 11,000 บาท ออกมาจากร้านขายของเล่นผู้ใหญ่ในมืองบิวรี่ ประเทศอังกฤษ ตามรายงานระบุว่า เขาเข้าและออกผ่านทางเพดานที่เขาทุบให้มันเป็นรู Alan Brook เจ้าของร้านเซ็กส์ช็อปแห่งนี้ได้เล่าว่า นอกจากชายคนนี้จะบุกเข้ามาขโมยของแล้วเขายังได้เปิดดูหนังโป๊อีกด้วย ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขารู้ก็เพราะว่า วีดีโอโป๊นั้นยังเปิดคาไว้บนคอมพิวเตอร์ในร้านอยู่นั่นเอง “มันรู้สึกแปลกดีนะ ที่ของภายในร้านที่มีมูลค่ามากอย่าง คอมพิวเตอร์ กล้องดูดาวมูลค่าเป็นแสนและอื่นๆ อีกมากมาย แต่ชายคนนี้ก็ไม่เอาไป เขากลับเลือกเซ็กส์ดอลล์ไปซะงั้น ซึ่งเท่าที่ผมตรวจสอบดูนอกจากคอมพิวเตอร์ที่เปิดหนังโป๊ทิ้งไว้ เซ็กส์ดอลล์ และเพดานร้านก็ไม่มีอะไรผิดปกติหรือหายไปแล้ว” สุดท้ายแล้วเจ้าของร้านยังบอกปิดท้ายเป็นการโฆษณาเบาๆ ว่า “ไม่ต้องอายไป ของในร้านเราไม่แพงหรอก ลองเข้ามาดูกันก่อนได้ แล้วคุณจะติดใจนะอิอิ” เจ้าของร้านบอกขนาดนี้ พ่อหนุ่มรีบกลับมาเอาตังค์มาจ่ายๆ ไปซะก็จบเรื่อง ดูท่าทางพี่เค้าคงจะใจดีอยู่นาาาาาา ที่มา metro
-
สุนัขจิ้งจอกถูกยิง ได้รับการช่วยเหลือจากชายหนุ่ม และมันก็กอดเขาไม่ยอมปล่อยเลย…
มิตรภาพสามารถเกิดได้ทุกที่ทุกเวลา และกับทุกชีวิตไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือมนุษย์ก็ตาม เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มคนนี้และเจ้าสุนัขจิ้งจอก…. เรื่องมีอยู่ว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งได้พบเจอกับเจ้าสุนัขจิ้งจอกที่กำลังบาดเจ็บอยู่ จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ Dan Martin อาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์ป่า That Wildlife Rescue Guy หลังจากนั้นไม่กี่นาทีถัดมาเขาก็มาถึงยังที่เกิดเหตุ Dan ค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ เจ้าสุนัขจิ้งจอก พยายามที่จะเรียกความเชื่อใจจากมัน ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 20 นาทีกว่าที่มันจะยอมให้เขาเข้าถึงตัว “ผมค่อยๆ เดินเข้าหามันอย่างช้าๆ พร้อมกับพยายามใช้คำพูดเพื่อเกลี้ยกล่อมัน ดูเหมือนว่ามันจะรู้ว่าที่ผมมาที่นี่เพื่ออะไร จากนั้นผมก็สามารถอุ้มมันขึ้นมาพร้อมกับใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ พันรอบลำตัวของมัน” Dan เล่า เขาตั้งชื่อเจ้าสุนัขจิ้งจอกว่า Basil แต่เนื่องจากว่ามีปัญหาในการเดินทาง จึงทำให้เขาไม่สามารถพามันไปหาสัตวแพทย์ได้ในขณะนั้น จึงตัดสินใจที่จะพามันกลับไปดูแลที่บ้านก่อนเพื่อมั่นใจว่ามันจะปลอดภัยจากสัตว์ป่าตัวอื่นๆ เช้าวันต่อมาเจ้า Basil ก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับแววตาที่ร่าเริงและสดใสยิ่งกว่าเดิม พร้อมกับเริ่มทำความรู้จักกับเพื่อนคนใหม่ ที่เพิ่งช่วยชีวิตมันมา “มันเป็นหมาที่ขี้อ้อนมากๆ คอยอยู่ใกล้ๆ ผมไม่ห่างเลยล่ะ” Dan เล่า Dan ขับรถพาเจ้า Basil ไปที่คลีนิครักษาสัตว์ และอยู่เป็นเพื่อนมันตลอด ขณะที่กำลังนั่งรออยู่ด้วยกันเจ้า…
-
ฮีโร่พนักงานรถบัส ตัดสินใจจอดรถกลางสะพาน เพื่อเกลี้ยกล่อมหญิงสาวให้เลิกคิดสั้น…
กลายเป็นเรื่องราวสุดประทับใจเมื่อพนักงานขับรถบัสในรัฐ Ohio ได้ทำการจอดรถบัสกลางสะพาน หลังพบหญิงสาวกำลังจะกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย เขาเดินออกมาเพื่อเกลี้ยกล่อมเธอจนสามารถเปลี่ยนความตั้งใจของเธอได้ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม เว็บไซต์ Dailymail ของอังกฤษรายงานว่า Damone Hudson พนักงานขับรถบัสกำลังขับรถข้ามสะพาน Main Street Bridge ที่ทอดข้ามแม่น้ำ Miami ในเมือง Dayton แต่แล้วเขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนอยู่บนราวสะพานทำท่าเหมือนจะกระโดดลงไป จึงตัดสินใจที่จะจอดรถบัสในทันทีเพื่อขอร้องให้หญิงสาวคนดังกล่าวปีนกลับขึ้นมาบนสะพาน “ทำไมเราถึงไม่ข้ามกลับมาบนสะพานล่ะ เฮ้!! คุณผู้หญิง ทำไมเราไม่ข้ามกลับมาบนฝั่งสะพานก่อนล่ะ มาหาผม” Damone กล่าวพร้อมกับค่อยๆ เดินออกมาจากรถบัส “คุณผู้หญิงครับ ดูเหมือนว่าคุณกำลังพบเจอกับวันที่แย่ๆ อยู่นะ ผมขอกอดคุณซักทีจะได้ไหม? เผื่อว่าอะไรๆ จะดีขึ้น” “เราทุกคนต้องผ่านเรื่องราวร้ายๆ ไปให้ได้ คุณเองก็ด้วย ลองไว้ใจคนอื่นบ้าง แม้ว่ามันจะมีหนทางเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม” นี่คือคำพูดที่เขาใช้พูดเกลี้ยกล่อมหญิงสาวที่พยายามจะกระโดดลงจากสะพานเพื่อฆ่าตัวตาย ซึ่งเขาเพิ่งมาให้สัมภาษณ์ในช่อง Fox 45 ภายหลัง เขาพยายามที่จะชวนผู้หญิงคนดังกล่าวพูดคุย จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็มาถึงและสามารถช่วยเหลือเธอเอาไว้ได้ …
-
คุณปู่ Bernhard ผู้เฒ่าสุดเฟี้ยวชื่นชอบการออกไปเที่ยวตาม ‘ผับเทคโน’ เป็นที่สุด!!
แม้จะแก่ตัวไป เราก็ยังสามารถแสวงหาความสุขให้ตัวเองได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมและความชอบของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกันกับคุณปู่คนนี้!! ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับคุณปู่ Bernhard Enste วัย 68 ที่ได้รับฉายาว่า ‘Techno Grandpa’ แม้จะอายุมากแล้วแต่ก็ยังเฟี้ยวสุดๆ นะขอบอก!! เพราะตอนกลางวันคุณปู่ก็คือชายผู้สูงวัยเหมือนปกติทั่วไปนั่นแหละ แต่พอตกกลางคืนแล้วแกจะออกไปเที่ยวตามผับต่างๆ ดื่มเครื่องดื่ม และกระโดดโลดเต้นร่วมกันกับเหล่าเพื่อนๆ ที่มีอายุคราวหลานเลยทีเดียว ย้อนกลับไปในอดีตคุณปู่ Bernhard นั้นเกิดมาในครอบครัวที่นับถือนิกายคาธอลิกในเมือง Mainz เขาเติบโตมาพร้อมกับความฝันที่ว่าวันหนึ่งเขาจะต้องกลายเป็นบาทหลวง และออกเผยแพร่ศาสนาคริสต์นิกายคาธอลิกไปทั่วโลก แต่แล้วก็ไม่ได้เป็นอย่างที่หวังไว้ เมื่อช่วงวัยหนุ่มคุณปู่ Bernhard ทำอาชีพเป็นช่างไม้ จนมาถึงช่วงวัย 40 ก็รู้สึกเบื่อกับการที่ต้องทำงานกับไม้แล้ว ก็เลยหันไปเป็นศิลปินแทน สิบปีต่อมาเขาเดินทางออกจากเมือง Mainz และย้ายไปยังเมือง Berlin และนั่นทำให้เขารู้จักกับเทคโนปาร์ตี้ สำหรับคนที่เติบโตขึ้นมากับดนตรีของ The Beatles และ Santana แล้วแนวดนตรีแบบเทคโนนั้นย่อมถูกมองว่าเป็นเสียงที่น่ารำคาญมากกว่าจะเป็นบทเพลงเสียอีก นี่คือความคิดของคุณปู่ที่มีต่อแนวเพลงเทคโนในช่วงแรก แต่ภายหลังกลับเปลี่ยนใจเพราะถูกพรรคพวกชวนไปเที่ยวผับ เสียงเบส ไฟกระพริบ พลังงานของเหล่าผู้คนที่กระโดดโลดเต้นอย่างสนุกสนาน ทำให้เขาหลงใหลมัน…
-
ชายหนุ่มสร้าง “ระบบสุริยะ” ด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติ เสกจักรวาลให้เกิดขึ้นภายในบ้าน
George Ioannidis เป็นศิลปินชาวอังกฤษที่อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน เขาชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับอวกาศ ดวงดาว และระบบกาแลคซี่เป็นอย่างมาก จนวันหนึ่งเขาอยากจะหาซื้อแบบจำลองดาวอังคารซักหน่อย แต่หาเท่าไหร่ก็หาอันที่เขาชอบไม่ได้ซักที เขาจึงตัดสินใจทำขึ้นมาเองซะเลย เขาได้ซื้อเครื่องพิมพ์สามมิติมา และทำการออกแบบโมเดลของตนเอง จนในที่สุดเขาก็สามารถสร้างดาวอังคารแบบที่เขาต้องการได้ เมื่อทำออกมาเสร็จ เขาก็คิดขึ้นมาว่าทำไมไม่ลองทำดาวดวงอื่นๆ ด้วยล่ะ คิดได้ดังนั้น เขาจึงออกแบบโมเดลดาวเคราะห์บนระบบสุริยะขึ้นมาทั้งหมด รวมถึงดวงจันทร์ที่มีชื่อเสียงของดวงดาวเหล่านั้นด้วย โดยเขาพยายามรักษาสเกลของดวงดาวแต่ละดวงให้สมจริงที่สุด ภายหลังเขาได้เปิดบริษัท LittlePlanetFactory ขึ้นมา เพื่อจัดจำหน่ายโมเดลดาวเคราะห์ที่เขาสร้างขึ้นมา โดยลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะให้โมเดลเหล่านั้น มีขนาดเท่าไหร่ สนนราคาอยู่ที่ชิ้นละ 1,000 ถึง 2,000 บาท แล้วแต่ความใหญ่ ใครสนใจก็ลองไปชมได้ที่เว็บไซต์ Etsy นะฮะ ดาวพฤหัสเทียบกับโลก โมเดลไซส์มินิ ดวงอาทิตย์ ดาวพฤหัส และโลก ดาวเคราะห์ทั้งแปดดวง ดาวอังคารเวอร์ชั่นมีน้ำ โลกและดวงจันทร์ ดวงจันทร์แบบความละเอียดสูง…
-
พนักงานวัย 22 พาคุณตาออกเดทในรอบ 55 ปี หลังรู้ว่าเขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่อย่างโดดเดี่ยว…
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ Thesun ได้เผยเรื่องราวของ Edwin Holmes อดีตจิตรกรและมัณฑนากร ในวัย 86 ปี ที่ถูกเชิญให้ไปรับประทานอาหารค่ำ กับพนักงานซูเปอร์มาร์เก็ต Sainsbury หลังจากที่ได้ยินว่าเขาไม่มีเพื่อนสนิท หรือครอบครัวเลย เมื่อได้รับคำชวนจาก Ellie Walker พนักงานสาวในวัย 22 ปี คุณตา Edwin ก็ได้ตัดสินใจที่จะไปรับประทานอาหารค่ำร่วมกับเธอ โดยในวันนั้น เขาได้สวมชุดสูทที่ดีที่สุด พร้อมกับนำช่อดอกไม้มามอบให้ Ellie อีกด้วย “คุณตา Edwin บอกว่านี่เป็นครั้งแรกในรอบ 55 ปี และเขาก็เป็นโรคเส้นประสาทมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กนักเรียน นั่นก็ทำให้ฉันร้องไห้ออกมา เพราะฉันรู้ทันทีว่ามันมีความหมายสำหรับเขามาก และสำหรับฉันมันเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ฉันจะได้พูดคุย และได้ดูแลลูกค้า” Ellie กล่าว สำหรับ Ellie เธอได้เข้ามาทำงานในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้มาเป็นเวลานานกว่า 3 ปีแล้ว ที่ผ่านมาเธอมักจะเห็นคุณตา Edwin เข้าไปซื้อของอยู่บ่อยๆ และมักจะชอบพูดคุยกับเจ้าหน้าที่…
-
นี่คือ 21 ประเทศที่มีวันลาพักร้อนมากที่ตลอด 1 ปี และยังคงได้รับเงินเดือนอยู่!!
สำหรับพนักงานเงินเดือนทั้งหลายแล้ว จะรู้กันดีว่าชีวิตการทำงานนั้นมันช่างหนักหน่วงขนาดไหน ครั้นจะไม่ทำก็กลัวจะไม่มีกินอีก รถก็ต้องผ่อน บ้านก็ต้องส่ง โอ๊ยย!! จะบ้าตายยย พอถึงวันหยุดมันก็ผ่านไปไวปานสายฟ้าแลบ หรือจะเป็นวันลา มันก็ช่างน้อยนิดซะเหลือเกิน พักยังไม่ทันหายเหนื่อยก็ต้องกลับมาทำงานอีกซะแล้ว แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยกันมั้ยว่าแต่ละประเทศรอบโลก จะมีวันลากันเยอะแยะมากมายขนาดไหนบ้าง? (โดยที่ไม่โดนหักเงินเดือนนะ) และนี่คือ 21 อันดับของประเทศที่มีวันลาพักร้อนมากที่สุดภายใน 1 ปี และยังคงได้รับเงินเดือนอยู่ โดยอ้างอิงมาจากกฎหมายแรงงานของแต่ละประเทศ มีประเทศไหนบ้างและจะสามารถหยุดงานได้ทั้งหมดกี่วัน ไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่า… 21. ออสเตรเลีย 28 วัน เป็นวันลาพักร้อน 20 วัน และลาหยุด 8 วัน 20. ไอร์แลนด์ 29 วัน เป็นวันลาพักร้อน 20 วัน และลาหยุด 9 วัน 19. ตูนีเซีย 30 วัน เป็นวันลาพักร้อนทั้งหมด 30 วัน 18.…
-
9 ความลับของผู้หญิง เมื่อถึงวันนั้นของเดือน ต้องรับมือกับความเจ็บปวดที่ผู้ชายไม่เคยรู้
ใครจะรู้ว่า การเกิดมาเป็นผู้หญิงนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไหนจะต้องแต่งหน้า แต่งตัว เสื้อพงเสื้อผ้าก็ต้องเลือกแล้วเลือกอีก โอ้ยยย เยอะแยะไปหมด แต่ต่อให้มันวุ่นวายแค่ไหน ก็คงจะไม่มีเรื่องไหนที่ใหญ่ไปกว่า การรับมือกับช่วงวันนั้นของเดือนแล้ว เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูจะลำบากไปหมด ไหนจะปวดท้อง ไหนจะต้องห่วงประจำเดือนเลอะระหว่างวันอีก ยิ่งทำให้หงุดหงิดเข้าไปใหญ่ และภาพต่อไปนี้ จะทำให้คุณผู้ชายทั้งหลายเข้าใจสาวๆ มากขึ้น เมื่อถึงวันนั้นของเดือน… 1. สาวๆ มักจะนอนขดตัวแบบนี้ เพราะปวดท้องชนิดที่แบบว่าอะไรก็เอาไม่อยู่ 2. การซื้อผ้าอนามัยชนิดที่แตกต่างกัน บางทีก็ถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ 3. อารมณ์แปรปรวนตลอดเวลา เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ไม่เข้าใจตัวเองเลยยยย 4. เวลาไปเข้าห้องน้ำสาธารณะ ก็ต้องห่วงว่าจะทำให้ส้วมเลอะหรือเปล่า ต้องเช็คแล้วเช็คอีก 5. จะเปลี่ยนผ้าอนามัยที ก็ต้องหาข้ออ้างแบบเนียนๆ เดี๋ยวคนอื่นรู้ อายเค้าอีก โดยเฉพาะผู้ชาย 6. เวลาจะเอาผ้าอนามัยไปเปลี่ยน ก็ต้องซ่อนไว้จนกว่าจะถึงห้องน้ำ (อย่าเพิ่งมาคุยอะไรตอนนี้จะได้ม้ายยยยย) 7. สาวๆ จะมีวิธีจัดการกับการปวดประจำเดือน และสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของวันนั้นด้วย 8.…
-
“รอยสักกระ” เทรนด์ความงามล่าสุด ที่สาวนอกกำลังนิยม ดูดุ๊กดิ๊ก สยิวกิ้วเหมือนกันนะเออ!!
สาวๆ หลายคนอาจจะมองว่า “กระ” เป็นปัญหาบนใบหน้า แต่นั่นอาจจะไม่ใช่กับทุกคนหรอกนะ เพราะในขณะเดียวกันยังมีผู้หญิงอีกมากมายคนที่ชื่นชอบให้ใบหน้าของตัวเองมีกระ จนถึงขั้นไปสักกันเลยทีเดียว ที่สำคัญการสักกระในขณะนี้ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเลยละ และแน่นอนว่าเมื่อคุณได้ลองสักแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเป็นอย่างที่เห็น… (คลิปตัวอย่าง) Freckles Freckles Freckles!! Will lighten up A LOT, and look natural within a couple weeks !! ?#freckletattoos #tattooedfreckles #vancouvercosmetictattoo #semipermanentmakeup #frecklesonfleek #freckledbabe #frecklesarecute #pmu #pmuartist #vancouvertattoo #freckledtribe A post shared by SARAH GRISDALE ? (@sarahgrisdaletattoo) on Feb 4, 2017 at 1:32pm PST…
-
เจ้าสุนัขนอนหลับปุ๋ย โมเม้นน่ารักเมื่อมีเจ้านายใหม่ ถูกเจ้าของเดิมทิ้งเพราะตัวใหญ่เกินไป
สัตว์ที่ไม่มีเจ้าของหรือถูกทิ้งพวกมันมักถูกนำตัวไปไว้ในศูนย์พักพิง ซึ่งชีวิตที่นั่นไม่ค่อยจะดีนัก เพราะมันต้องอยู่ร่วมกับสัตว์อีกหลายตัว ทำให้มันขาดความอบไปบ้าง หรือได้รับการดูแลไม่ทั่วถึง ทำให้บรรดาสัตว์ต่างรอคอยใครสักคนที่จะรับไปเลี้ยง และนี่คือเรื่องราวของ Loki สุนัขผู้โชคดีที่ถูกเล่าโดยผู้ใช้ Towntown1337 ในเว็บไซต์ Reddit Towntown1337 อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของมลรัฐ South Carolina เล่าว่า Loki เป็นหมาพันธุ์ผสมระหว่าง Great Pyrenees และ German Shepherd “เมื่อผมได้เห็น Loki ศูนย์พักพิง ผมรู้สึกตกหลุมรักมันทันที ผมเตรียมเอกสารไว้ และตั้งใจที่จะพามันกลับบ้านด้วยวันนั้นเลย” “แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกกับผมว่า ‘มันมีเจ้าของอยู่แล้ว เราเจอมันอยู่ข้างถนน ตอนนี้เรากำลังติดต่อเจ้าของเพื่อมารับตัวมันกลับไป” “ผมเสียใจมากที่ได้ยินแบบนั้น เพราะผมต้องการเจ้าหมาจริงๆ ผมแอบหวังว่า เจ้าของของมันจะไม่มารับมันภายใน 7 วันนี้ เพราะถ้าเกินจากนี้ ผมก็สามารถรับมันไปเลี้ยงได้เลยน่ะสิ” หลังจากนั้น 2 วัน ชายหนุ่มคนเดิมและแฟนของเขาก็กลับมาหา Loki อีกครั้ง เพื่อมาเช็คให้แน่ใจว่ามันยังอยู่ เมื่อเห็นว่ามันยังอยู่ ทั้งคู่จึงเดินทางกลับ เพื่อรอให้ครบ 7 วัน แต่หลังจากขับรถออกมา 45 นาที ทางเจ้าหน้าที่ของศูนย์พักพิงก็โทรหาเขา…
-
18 ภาพความเป็นอยู่ปกติในเมืองดูไบ ที่ใครๆ เค้าก็ทำกัน แต่มันดูเวอร์วังอลังการเหลือเกิน!!
เมื่อพูดถึงความรวยอู้ฟู่ เวอร์วังอลังการ เราคงจะข้ามดูไบไปไม่ได้ เพราะประเทศนี้มักจะมีภาพความเวอร์ออกมาให้เราได้เห็นกันอยู่เสมอ เช่นเดียวกับภาพที่เรานำมาฝากในวันนี้ ที่บอกได้เลยว่า จะเวอร์ไปไหนคะพ่อคู๊ณณณ แต่ก็นั่นแหละ คนมันรวยอะ จะทำอะไรก็ได้ 1. วิวในดูไบ เมื่อมองจากด้านล่าง 2. และเมื่อมองมาจากด้านบน 3. Jeep ในเมืองดูไบ ไม่เหมือนที่ไหน และไม่มีที่ไหนเหมือนด้วย 4. จราจรติดขัดงั้นรึ ไม่มีปัญหาสำหรับดูไบอยู่แล้ว ใช้บริการเฮลิคอปเตอร์ยกสิ 5. รถตำรวจลาดตระเวน มีแต่ยี่ห้อ Bentley, Ferrari และ Lamborghini 6. อยากได้ทองคำแท่ง ไม่ต้องไปซื้อถึงร้านหรอก กดจากตู้ไปเลย 7. ที่นี่ดูไบ มันเลยมีแต่ทอง ทอง แล้วก็ทอง เพราะคนที่นี่ชอบทองคำมาก 8. เลี้ยงเสือชีตาห์แทนแมว หน้าตากับตัวก็ดูคล้ายๆ แมวอยู่นะ 9. เชื่องเหมือนแมวซะด้วยสิ…
-
แม้เลิกกันแล้ว แต่อดีตสามีก็ยังมอบสิ่งดีๆ ให้ “ภรรยาเก่า” เพื่อความสุขของลูกในฐานะพ่อ
เรื่องราวสุดประทับใจของนาย Billy Flynn Gabois ที่ยังคงไปเซอร์ไพรซ์วันเกิดให้กับภรรยา แม้จะเลิกรากันไปแล้วก็ตาม… เนื่องในวันครบรอบวันเกิดของอดีตภรรยา นาย Billy ได้ทำการเซอร์ไพรซ์ด้วยการมอบการ์ดของขวัญและดอกไม้ จากนั้นก็พาเธอและลูกๆ ไปทานอาหารมื้อพิเศษ Billy เชื่อว่าแม้ว่าจะเลิกรากันไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้ และอยากทำทุกๆ อย่างให้ลูกๆ มีความสุขในฐานะของพ่อ ทางแฟนเพจเฟซบุ๊ค Love What Matters ได้นำเรื่องราวของเขาไปแชร์ต่อ ทำให้มีผู้คนมากมายต่างก็ให้ความสนใจ มีคนเข้ามากดไลค์มากกว่า 725,000 ครั้ง และแชร์ไปอีก 216,000 ครั้งเลยทีเดียว!! พร้อมกับใส่แคปชั่นเล่าเรื่องราวในวันครบรอบวันเกิดว่า “วันนี้เป็นวันเกิดของภรรยาเก่าผม ผมก็เลยตื่นเช้ากว่าเดิม หาซื้อการ์ดของขวัญ ดอกไม้ และของขวัญสำหรับเด็ก เพื่อนำไปมอบให้กับทุกคน จากนั้นก็พาพวกเขาไปทานอาหารมื้อพิเศษ สำหรับหลายๆ คนที่ถามเข้ามาว่าทำไมผมถึงต้องทำแบบนั้นด้วย? จะขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า…” “ผมมีลูกชายเล็กๆ สองคน ผมอยากจะทำให้พวกเขาดูเป็นตัวอย่างว่าการที่เราทำอะไรดีๆ ให้กับผู้หญิง หรือคนอื่นๆ นั้น จะช่วยให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อพวกเขา ผมคิดว่านี่เป็นตัวอย่างที่ดีที่จะทำให้ลูกๆ เห็น…
-
ศิลปินยูเครนสุดเทพ เปลี่ยนภาพธรรมดาให้เป็นโลกในนิยาย แล้วคุณจะลืมการตัดต่อที่เคยเห็นมา!!
ทุกวันนี้งานศิลปะไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภาพวาดหรือภาพถ่ายเท่านั้น เรายังสามารถสร้างผลงานเจ๋งๆ ได้บนคอมพิวเตอร์เช่นกัน อย่างเช่นศิลปินดิจิตอลชาวยูเครนคนนี้ เธอมีชื่อว่า Viktoria Solidarnyh เธอมีทักษะระดับเทพในการใช้งานโปรแกรมตัดต่อภาพ โดยเธอสามารถเปลี่ยนภาพถ่ายธรรมดาๆ ให้งดงามราวกับหลุดออกมาจากโลกแฟนตาซี ที่ใครเห็นก็ต้องยกนิ้วให้อย่างแน่นอน จากภาพเด็กหญิงธรรมดาแตะขอบประตูธรรมดาๆ เธอก็เปลี่ยนให้กลายเป็นภาพสุดอลังกาลได้ ปราสาทเต่า อย่างกับมาลิฟิเซ้น นึกว่าหลุดมาจากการ์ตูนดิสนี่ย์ งดงามจริงๆ พ่อมดร้าย แค่ฝีมืออย่างเดียวทำขนาดนี้ไม่ได้ ต้องยอมรับว่าเธอมีความคิดสร้างสรรค์จริงๆ บางครั้งก็ต้องคิดนอกกรอบบ้าง ลองไปชมผลงานที่เหลือของเธอกันเลย . . . . . . . . . . . . . . . . . . สุดยอดจริงๆ แต่ละภาพ ใครชื่นชอบผลานของเธอ ไปติดตามชมกันต่อได้ที่เว็บไซต์ส่วนตัวของเธอที่ simka48 หรือ…
-
เปิดคลังภาพ ‘สุสานรถเก่า’ แสดงให้เห็นถึงความงามที่ไม่ยั่งยืน และมูลค่าที่ลดลงตามเวลา
ขึ้นชื่อว่า “รถ” แล้ว มันก็ต้องมีมูลค่าที่ไม่น้อยแน่ๆ โดยเฉพาะรถยุโรปที่มักจะได้รับความนิยมเสมอ แต่ถึงมันจะฮอตมากแค่ไหน เมื่อมันเสื่อมสภาพไป มันก็กลายเป็นเพียงรถเก่าที่ถูกทิ้งร้างไว้เท่านั้น Robert Kahl ข้าราชการชาวเยอรมัน ได้เดินทางไปถ่ายภาพรถเก่าตามสุสานต่างๆ ในประเทศเยอรมัน สวีเดนและเบลเยี่ยม และได้จัดแสดงภาพเหล่านี้ด้วย โดยให้คำอธิบายว่า “ความงามที่ไม่ยั่งยืนและเสน่ห์ที่ผุพัง” รถเก่าจำนวนมากถูกทิ้งรวมกันในป่าแห่งหนึ่ง แม้จะเป็นรถเก่า แต่เมื่อถ่ายทอดออกมาเป็นรูปภาพ มันก็ดูสวยงามไปอีกแบบนะ เพราะมันแสดงให้เห็นถึงสถานที่ที่ถูกทิ้ง และสภาพของรถที่เปลี่ยนแปลงไป รถที่ไม่ได้ใช้งานแล้วส่วนใหญ่ มักจะถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในป่า หรือในสถานที่ที่ห่างไกลผู้คน เพื่อไม่ให้กีดขวางคนอื่นนั่นเอง แต่เวลาผ่านไป มันก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และอาจจะกลายเป็นองค์ประกอบที่ลงตัวสำหรับบรรดาช่างภาพก็ได้ รถแบคโฮ ที่ครั้งหนึ่งถูกใช้ประโยชน์มากมาย แต่เมื่อหมดสมรรถภาพ มันก็กลายเป็นรถเก่าๆ คันหนึ่งเท่านั้น แม้กระทั่งรถเบนซ์รุ่น Mercedes-Benz L 710 ก็ยังถูกทิ้งไว้ในสถาพเช่นนี้ ถาพนี้ถ่ายด้วยกล้อง Nikon D7100 ให้รถดูโดดเด่นยิ่งขึ้น รถ MB 0303 ก็ถูกทิ้งร้างไว้เช่นกัน รถที่เคยมีคุณค่าในประวัติศาสตร์ กลายเป็นรถที่ถูกลืมที่ไม่ต่างจากรถทั่วไป นี่มัน…
-
หนูน้อย 3 ขวบ อาศัยอยู่กับร่างไร้วิญญาณของแม่ 2 วันเต็ม โดยไม่รู้ว่าเธอเสียชีวิตไปแล้ว
เหตุการณ์ที่#เหมียวขี้อ้อนจะเล่าต่อไปนี้ถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวสุดสะเทือนใจของ Lydia Macdonald คุณแม่จากเมืองเพิร์ท ประเทศสกอตแลนด์ และลูกชาย Mason Martin วัย 3 ขวบ ตามรายงานบอกว่าในขณะที่ Lydia อาศัยอยู่ภายในบ้านกับลูกชายของเธอเพียงลำพัง จู่ๆ อาการโรคหอบหืดก็เกิดกำเริบขึ้นมาอย่างรุนแรง จนเป็นเหตุให้เธอเสียชีวิตภายในบ้านโดยที่ลูกน้อยไร้เดียงสาไม่รู้เลยว่าแม่ของเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว หนูน้อย Mason ต้องอาศัยอยู่กับร่างที่ไร้วิญญาณของแม่ตามลำพังเป็นเวลานานกว่า 2 วัน จนในที่สุด Jodi-Ann ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ Lydia ได้มาเยี่ยม และพบว่าเธอเสียชีวิตในสภาพที่มีเครื่องพ่นยาอยู่ในมือ ทางด้าน Jodi ได้ออกมาเผยว่า “หนูน้อย Mason ได้เข้ามาบอกเธอว่าเขาพยายามปลุกแม่ แต่แม่ไม่ยอมตื่น” ในขณะที่ Linda Macdonald แม่ของ Lydia ก็ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องการตายของลูกว่า “ทางครอบครัวของเรารู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ในตอนนั้น Mason เป็นคนเดียวที่อยู่กับเธอ ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าในตอนนั้นเขาจะคิดอะไรอยู่และเจอกับอะไรบ้าง แต่ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือ พ่อของ Mason…
-
Facebook พัฒนาระบบป้องกัน เมื่อผู้ใช้คิดจะเชิงลบจะฆ่าตัวตาย พร้อมกับนำ AI เข้ามาช่วยเหลือ
ทุกวันนี้การฆ่าตัวตายถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมโลก ตามสถิติแล้วทุกๆ 40 วินาทีจะมีคนฆ่าตัวตายอย่างน้อยๆ หนึ่งคน ยิ่งไปกว่านั้นการฆ่าตัวตายยังเป็นสาเหตุหลักอันดับสองของวัยรุ่นอายุ 15 ถึง 29 ปีอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ Facebook จึงพัฒนาเครื่องมือและ AI ขึ้นมา เพื่อป้องกันและช่วยเหลือผู้ที่มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย โดยเครื่องมือแรก เมื่อผู้ใช้งานได้ไลฟ์วีดีโอเชิงไปในทางที่คิดจะฆ่าตัวตาย ผู้ใช้งานท่านอื่นสามารถรายงานเข้ามาได้ทันที และผู้ที่ไลฟ์ก็จะได้รับคำแจ้งเตือน ซึ่งในกรณีนี้ Facebook จะใช้ AI ในการช่วยคัดกรองเช่นกัน เครื่องมือชนิดที่สองคือ Facebook จะเชื่อมต่อ Messenger กับผู้เชี่ยวชาญการป้องกันการฆ่าตัวตายไว้ หากใครมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย ก็สามารถทักไปขอคำปรึกษาได้ทันที โดยจะเริ่มใช้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ และเครื่องมือสุดท้ายคือ Facebook ได้พัฒนา AI ตรวจจับรูปแบบการโพสต์ข้อความ หากผู้ใช้งานเหล่านั้นมีการโพสข้อความเชิงไปในการฆ่าตัวตาย และหากมีผู้ใช้งานท่านอื่นกดรายงาน ก็จะมีปุ่มแจ้งเตือนขึ้นมาทันที ในอนาคตข้างหน้า Facebook กำลังจะปล่อยระบบ AI ที่สามารถตรวจจับคนที่มีความคิดฆ่าตัวตายได้เอง และพวกเขาก็จะส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปให้คำปรึกษาทันที โดยไม่ต้องรอให้ใครแจ้งเตือน นอกจากนี้เฟสบุ๊กได้ปล่อยวีดีโอแคมเปญ Facebook…
-
รู้จัก “ปลานกแก้วหัวโหนก” ปลาประหลาดใต้ท้องทะเล กินหินและถ่ายออกมาเป็นทราย
ภาพของเจ้าปลาที่เพื่อนๆ กำลังจะได้เห็นกันนี้ บอกเลยว่ามันต้องทำให้คุณทึ่งอย่างแน่นอน เพราะปลาชนิดนี้มีลักษณะที่ไม่คุ้นตาเอาซะเลย แถมหน้าตาก็ยังดูตล๊กตลกอีกด้วย และปลาที่ว่าก็คือ “Bumphead parrotfish” หรือ “ปลานกแก้วหัวโหนก” นั่นเอง สำหรับปลานกแก้วหัวโหนกสายพันธุ์นี้ ถือว่ามีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในสายพันธุ์ของปลานกแก้วเลยก็ว่าได้ ซึ่งมีลักษณะทั่วไปคล้ายกับปลานกขุนทองหัวโหนก (Cheilinus undulatus) ซึ่งอยู่ในวงศ์ปลานกขุนทอง ปลานกแก้วหัวโหนกสายพันธุ์นี้ จะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นเลยก็คือ บริเวณหน้าผากของมันจะมีลักษณะเป็นโหนกหนาแข็งแรง โดยทำหน้าที่เป็นเสมือนกันชนเวลาที่เข้ากัดกินหินหรือปะการังแข็งๆ เพื่อกินเป็นอาหาร และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หน้าตาของเจ้าปลาพันธุ์นี้ดูโดดเด่นกว่าปลาชนิดอื่นๆ ก็คือ มันมีปากและฟันหน้าที่ใหญ่ และแข็งแรงมาก เพื่อที่จะสามารถใช้ในการบดเคี้ยวอาหารแข็งๆ อย่างก้อนหิน อีกทั้ง ฟันของมันยังไม่เป็นซี่ๆ เหมือนสัตว์ทั่วไป แต่จะมาในลักษณะที่ติดกันเหมือนดังในภาพเลยจ้า… นอกจากนี้ ปลานกแก้วยังขึ้นชื่อได้ว่าเป็นปลาที่ช่วยฟื้นฟูแนวปะการัง จากการกินพืชในแนวปะการัง โดยเฉพาะสาหร่ายทะเล ที่มักจะสร้างความเสื่อมโทรมให้กับปะการัง ซึ่งหลังจากที่มันกินเสร็จแล้ว เจ้าปลาชนิดนี้ก็จะขับถ่ายออกมาเป็นทรายอีกด้วย ซึ่งการถ่ายออกมาเป็นทรายนี้ ไม่เพียงแค่มีแต่ความแปลกเพียงอย่างเดียว แต่ทรายที่ถูกขับถ่ายออกมายนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยฟื้นฟูแนวปะการังได้เป็นอย่างดีเลยละ สำหรับปลานกแก้วหัวโหนก เป็นปลาขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมากถึง 46…
-
เชฟชาวญี่ปุ่น ทำแพนเค้กหน้าสัตว์ เพื่อเพิ่มความน่ารัก จนไม่กล้ากินเลยทีเดียว!!
แพนเค้ก คงจะเป็นของโปรดของใครหลายๆ คน ซึ่งการกินแพนเค้กสมัยนี้ มีการนำมาดัดแปลง แต่งเติม โน่นนี่นั่น เพื่อเพิ่มอรรภรสในการทานยิ่งขึ้น นอกจากรสชาติแล้ว หน้าตาแพนเค้กก็สำคัญนะ ครั้นจะทำเป็นแผนกลมๆ เหมือนเดิม บางคนก็อาจจเบื่อก็ได้ ดังนั้น จึงได้มีการทำเป็นรูปร่างต่างๆ ให้ดูน่ากินไปอีกขั้น Keisuke Inagaki เชฟชาวญี่ปุ่นวัย 46 ปี จากร้านอาหาร La Ricetta เมือง Zama ประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกคนที่ชอบแพนเค้ก เขาจึงนำแพนเค้กมาทำเป็นรูปสัตว์ต่างๆ Keisuke เป็นเชฟมาแล้วกว่า 18 ปี และได้เริ่มทำแพนเค้กเป็นรูปต่างๆ ครั้งแรกเมื่อปี 2011ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ทำมาเรื่อยๆ จนกระทั่งในช่วงที่กระแสโปเกมอนกำลังมาแรง เขาก็ทำตัวการ์ตูนโปเกมอนและโพสต์ลง Instagram จนทำให้เขากลายเป็นคนดังในทุกวันนี้ เขาได้ทำแพนเค้กเป็นรูปสัตว์ ด้วยการสลับสีอ่อน สีเข้ม จนเกิดเป็นแพนเค้กหน้าสัตว์ ราวกับวาดเองยังไงอย่างงั้น ที่สำคัญมันน่ารักมากจนกินไม่ลงเลยล่ะ ถ้าไปซื้อแพนเค้กแล้วเจอแบบนี้ คงจะนั่งทำใจอยู่นานกว่าจะกล้ากิน . …
-
สาวโดนแฟนบอกเลิกฟ้าผ่า จนทำงานส่งไม่ทัน ถึงกับต้องขอโทษอาจารย์ผ่านอีเมล์!!
บางครั้งเรื่องราวแย่ๆ ก็มักจะเกิดขึ้นกับเราอย่างไม่ทันตั้งตัว และมันจะเป็นบททดสอบ ให้เราดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้าได้อย่างเข้มแข็ง!!… เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของ Rachel Harriman นักศึกษาวัย 19 ปี จากมหาวิทยาลัย Ohio State University และเธอต้องพบกับความเศร้าอย่างหนักเมื่อไม่นานที่ผ่านมาหลังจากที่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิก Rachel เล่าว่าความเศร้ามันช่างรุมเร้าตัวเธอเหลือเกิน ซึ่งมันส่งผลให้เธอนำรายงานวิชาประวัติศาสตร์ไปส่งให้กับอาจารย์ช้ากว่ากำหนดไปไม่กี่ชั่วโมง เธอก็เลยตัดสินใจที่จะส่งอีเมลล์ไปหาอาจารย์เพื่อกล่าวขอโทษ และชี้แจงให้ฟังถึงเรื่องที่เธอส่งงานช้า เนื้อหาในอีเมลล์มีคร่าวๆ ดังนี้ “เรียนอาจารย์… หนูต้องขอโทษจริงๆ ที่ส่งงานช้า แฟนของหนูเพิ่งมาบอกเลิกอย่างไม่ทันตั้งตัวในช่วงค่ำของเมื่อวาน และมันทำให้หนูไม่มีสมาธิพอที่จะทำอะไรเลย แต่เรื่องแบบนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก เพราะตอนนี้ ‘หนูไม่มีแฟน’ และจะไม่มีใครมาเลิกกับหนูอีกแล้วอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม หนูขอโทษที่ต้องเล่าเรื่องที่ไม่สบายใจให้อาจารย์ฟัง เพราะตัวหนูเองก็ไม่สบายใจเช่นกัน ด้วยความเคารพ Rachel Harriman” หลังจากนั้นเธอก็โพสต์เรื่องราวนี้ลงบนทวิตเตอร์ ทำให้มีผู้คนให้ความสนใจมากมาย พร้อมกับแคปชั่นว่า “การเรียนเป็นอย่างไรบ้าง? ชีวิตของเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง?” มีผู้คนมากมายเข้ามาให้กำลังใจ และแค้นเคืองโกรธแฟนหนุ่มที่ทิ้งเธอไป . บ้างก็ชื่นชอบสกิลในการเขียนอีเมลล์ของเธอ และอยากให้เธอมาเขียนอีเมลล์ให้บ้าง …
-
รู้จัก Zach ชายหนุ่มผู้เบื่อเมืองวุ่นวาย หนีไปใช้ชีวิตกับ “วาฬ” และ “หมี” ที่อลาสก้า
เชื่อว่าหลายคนที่อยู่ในเมืองใหญ่ๆ ทุกวันนี้ ต้องมีโมเมนต์ที่อยากหลีกหนีความวุ่นวาย การแก่งแย่งชิงดี ความเหน็ดเหนื่อย แล้วออกไปใช้ชีวิตในฝันท่ามกลางธรรมชาติ โดยไม่ต้องปฏิสัมพันธ์กับใคร แต่สุดท้ามันก็เป็นได้แค่ความคิด เพราะมันคงเป็นจริงไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องราวของชายหนุ่มคนนี้ เพราะเขาได้ทิ้งเมืองใหญ่อันแสนวุ่นวายไว้เบื้องหลัง แล้วไปใช้ชีวิตกับหมีและวาฬบนเกาะอันห่างไกลแถบอลาสก้า หนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Zach วัย 27 ปี เขาเกิดและเติบโตที่ประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อหกปีก่อน เขารู้สึกเบื่อหน่ายสังคมเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เขาจึงย้ายมาอาศัยอยู่กับครอบครัวชาวประมง บนเกาะมาร์เบิล เกาะเล็กๆ ที่อยู่ทางตอนใต้ของเกาะอลาสก้าในแถบขั้วโลกเหนือ บนเกาะมาร์เบิลแห่งนี้ไม่มีแม้แต่ไฟฟ้าหรือถนน ประชากรมนุษย์ทั้งหมดมีแค่ตัวเขาและครอบครัวที่เขามาทำงานและอาศัยอยู่ด้วยเท่านั้น ส่วนสิ่งมีชีวิตที่เขาเจอบ่อยๆ ก็คงจะเป็นวาฬและหมี .. เขาบอกว่าบางทีเป็นเวลาเกือบครึ่งปีที่เขาก็ไม่ได้เจอมนุษย์คนอื่นเลยนอกจากครอบครัว ส่วนเมืองที่ใกล้ที่สุด ต้องใช้เวลาสองชั่วโมงในการเดินทางด้วยเครื่องบินเล็ก ทุกวันนี้เขาอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กๆ ของครอบครัว Eric และ Cindy Wyatt ซึ่งทั้งหมดประกอบอาชีพด้วยการทำฟาร์มหอยนางรม นอกจากนี้พวกเขายังปลูกผักและผลไม้รับประทานเองอีกด้วย ทุกๆ เดือนสองเดือน พวกเขาจะเข้าเมืองเพื่อหาซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อนำมาปั่นไฟฟ้าใช้ รวมทั้งซื้อผัก ผลไม้ หรือ เนื้อที่พวกเขาไม่สามารถหาได้บนเกาะ…
-
สถานที่ท่องเที่ยวในฝัน เทียบกับสภาพความเป็นจริง หลังเข้าสู่ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ
เมื่อได้มองภาพสถานที่ท่องเที่ยวในฝัน ทำให้เราเกิดความรู้สึกว่าอยากจะไปเยือนสถานที่เหล่านั้นสักครั้งในชีวิต เนื่องจากมันเต็มไปด้วยความงดงาม และความน่าอัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้นมา แต่ทว่าหากคุณได้เดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงสปริงเบรก (สัปดาห์หยุดยาวจากการเรียนในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ของมหาวิทยาลัยและโรงเรียนในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ฯลฯ) สถานที่สวยๆ ในภาพ อาจจะไม่เป็นอย่างที่เห็นก็ได้นะ เพราะมันจะเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย พากันเดินมาทางมาท่องเที่ยว รวมถึงปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนาน และนั่นอาจจะทำให้คุณอยากจะเลื่อนวันมาเที่ยวเลยก็เป็นได้ หาดที่เงียบสงบในเกาะเซาธ์ ปาเดร รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม แต่ถ้าเข้าสู่ช่วงสปริงเบรก มันอาจจะไม่ใช่สถานที่ที่น่าไปเที่ยวสักเท่าไหร่นะ ภาพของสระว่ายน้ำจากรีสอร์ทใน Punta Cana ที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่า และน่ามาท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และนี่คือภาพที่เหล่านักศึกษากำลังสนุกสนานอยู่กับปาร์ตี้โฟมที่ริมสระ ภาพยามค่ำคืนอันสวยงามในลาสเวกัส เปรียบเทียบกับช่วงเวลาในตอนกลางวัน มันช่างต่างกันซะเหลือเกิน แคนคูน ถือเป็นหนึ่งในหาดทรายที่สวยงามมาก แต่เมื่อถึงช่วงฤดูใบไม้พลิ สภาพจะเป็นอย่างที่เห็น French Quarter ย่านเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งใน New Orleans มีชื่อเสียงหลากหลายด้าน ทั้งประวัติศาสตร์สุดโรแมนติก สถาปัตยกรรมที่งดงาม และแน่นอนเมื่อช่วงฤดูใบไม้พลิมาถึง…
-
รายการทีวีญี่ปุ่นสุดฮา มายข้าวจายยย ทำมายโคนไทยต๋องพก ‘น้ำจิ๋มซีฟู้ด’ มากินกันด้วยย!?
ก็อย่างที่รู้กันดีว่าประเทศไทยของเรานั้นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารรสจัด อาหารขึ้นชื่อแต่ละอย่างของบ้านเราไม่ว่าจะเป็น ส้มตำ ต้มยำกุ้ง ยำต่างๆ ต้มแซ่บ แหม๊ แค่คิดถึงก็เปรี้ยวปากสุดๆ แล้ว ด้วยเหตุนี้เองทำให้คนไทยหลายๆ คนถึงขั้นที่ว่า ‘เสพติดอาหารรสจัด ‘ จนถึงขั้นที่ว่าเมื่อไปทานอาหารต่างที่ต่างประเทศก็ต้องพกน้ำพริก หรือน้ำจิ้มรสจัดอย่างน้ำจิ้มซีฟู้ดไปด้วย ไม่เช่นนั้นจะทานอาหารอย่างไม่มีความสุข อย่างล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมาทางรายการ J Channel จากช่อง TV Asahi ของประเทศญี่ปุ่นได้นำเสนอเรื่องราวของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ไปทานอาหารที่ร้านอาหารในประเทศญี่ปุ่น และปรากฏว่าภาพที่เห็นก็คือ ‘น้ำจิ้มซีฟู้ด’ เป็นสิบๆ ขวดเทใส่ถ้วยจิ้มทานกันอย่างเอร็ดอร่อย ทางไกด์ทัวร์ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับทางรายการว่า เป็นคนนำมาเองจากประเทศไทย เพราะถ้าไม่มีเจ้าน้ำจิ้มซีฟู้ดนี้ก็จะกินเนื้อแบบไม่อร่อย เนื่องจากเป็นร้านสำหรับทัวร์ เลยมีการตกลงกับทางร้านไว้ล่วงหน้าแล้ว งานนี้ไม่ผิดกฎแต่อย่างใด แหม่ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อย่าง ซาชิมิ จิ้มอะไรก็อร่อยไปโหม้ดดดดดดด!! ลองไปชมคลิปรายการกันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า.. แถมทางรายการยังแซวปิดท้ายอีกว่าคนไทยเนี่ยติดน้ำจิ้มเอาซะมากๆ ขนาดที่ว่ามาเที่ยวไม่กี่วันยังต้องพกน้ำจิ้มมาด้วยเลย สมกับเป็นประเทศที่ชอบกินเผ็ดกันซะจริงๆ!! แหม่ ก็คนมันติดรสจัดไปแล้วอ่ะ จะให้มาทานอาหารรสจืดๆ มันก็รู้สึกแปลกๆ ไม่ใช่แนวซักเท่าไหร่นี่นา…
-
มนุษย์ใจดีร่วมกันสร้างบ้านไม้หลังเล็ก ให้บรรดาเหมียวจรได้หลบหนาว ซบไออุ่น….
นับเป็นความโชคดีของแมวเหมียวจรจัดในเมืองริกา ประเทศลัตเวียซะเหลือเกิน ที่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแมวถูกทิ้ง หรือเป็นแมวจรจัดที่กลัวผู้คน แต่อย่างน้อยพวกมันก็ยังได้รับความเมตตาจากมนุษย์ผู้ใจดี ที่ได้มอบบ้านหลังเล็กๆ ให้ได้อยู่อาศัย เพื่อหลบจากสภาพอากาศอันเย็นยะเยือกในหน้าหนาว เมื่อผู้คนชาวลิเวีย ได้เห็นบรรดาเหมียวจรจัดที่ถูกทิ้งอยู่มากมาย พวกเขาก็เริ่มเป็นกังวล นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้คนเหล่านั้นได้สร้างโครงการ “บ้านแมวกลางแจ้ง” ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะใช้เป็นที่หลบภัยอันแสนอุ่น และป้องกันสภาพอากาศที่หนาวเย็นให้แก่เจ้าเหมียว สำหรับบ้านหลังเล็กๆ เหล่านี้ ถูกสร้างขึ้นชาวลัตเวีย โดยพวกเขาได้รับเงินบริจาคทั้งหมดจากจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Cat Care Community นอกจากนี้ พวกเขายังได้สร้างแฟนเพจในเฟจบุ๊คที่ชื่อว่า Es Esmu Kaķis เพื่อเป็นการส่งเสริมโครงการดังกล่าวไปตลอดอีกด้วย จากที่เคยเป็นแมวจนจัด ในตอนนี้บรรดาแมวเหมียวจรจัด ก็มีบ้านให้อยู่เพื่อหลบอากาศที่แสนจะหนาวเย็นได้แล้ว และถึงแม้ว่ามันจะเป็นบ้านหลังเล็กๆ แต่ก็อบอุ่นสำหรับพวกมันมากๆ เลย บ้าน 1 หลัง ได้ถูกออกแบบขึ้นมาให้แมวได้อาศัยอยู่ประมาณ 4-5 ตัว แถมแต่ละหลังก็ได้สร้างขึ้นจากไม้ที่ติดฉนวนกันความร้อน และมีความแข็งแรงทนทานเป็นอย่างมาก สำหรับบ้านแมวหลังแรกนั้น ได้ถูกสร้างขึ้นในอำเภอหนึ่งของกรุงริกา และในตอนนี้ก็ได้สร้างขยายออกไปกว่า 80 หลังทั่วทุกมุมเมืองของริกาแล้ว…
-
หนุ่มพาน้องสาวแฟนมาร่วมออกเดทด้วย เพื่อให้ได้รู้ว่า ผู้ชายจะต้องดูแลเธอยังไงบ้าง…
การไปเดทนั้น ต้องไปกันแค่ 2 คน มันถึงจะโรแมนติก และจะมีเวลาอยู่ด้วยกันแบบเต็มที่ แต่สิ่งสำคัญก็คือจะทำให้คู่หนุ่มสาวทำความรู้จักกันมากขึ้นนั่นเอง แต่สำหรับ Charlie Egress ได้ทำในสิ่งที่ต่างออกไป ด้วยการพาน้องสาวตัวน้อยของตัวเอง ไปร่วมโต๊ะเดทของเขากับแฟนสาวด้วย Charlie เป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัย Christopher Newport University ในรัฐเวอร์จิเนีย เขาได้ออกเดทกับ Alex ผู้ที่มีน้องสาวน่ารักอีกคน แต่แทนที่จะไปกันสองคนตามปกติทั่วไป… ชายหนุ่มสนิทกับครอบครัวของฝ่ายหญิงอยู่แล้ว ดังนั้นในเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เขาได้ขออนุญาตกับพ่อของแฟนสาวว่า ขอพา Elizabeth น้องสาวของแฟนไปด้วย ทำไมหน่ะหรอ…? ชายหนุ่มให้เหตุผลว่า “ผมได้พาน้องสาวของแฟนมาด้วย เพื่อสอนเธอให้รู้ว่า เมื่อถึงเวลาที่เธอได้ออกเดท ผู้ชายควรจะปฏิบัติกับเธอยังไงบ้าง” Charlie รู้ว่ามันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ Elizabeth ที่จะรู้ว่าตัวเองควรได้รับการปฏิบัติยังไง เมื่อต้องเริ่มต้นคบกับใครสักคนเมื่อเธอโตขึ้น สาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจทำแบบนี้ เพราะเขาอยากให้น้องสาวของแฟนได้เจอกับคนดีๆ และคบกันด้วยความเข้าใจเหมือนคู่ของเขา ณ ตอนนี้ ในช่วงที่ออกเดท พวกเขาไม่ได้ทำเหมือนเด็กหญิงเป็นส่วนเกิน แต่ชายหนุ่มได้ทำเหมือนเธอเป็นคนสำคัญคนหนึ่งของการเดทในครั้งนี้ ให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นเดทของตัวเอง แต่หลังจากเขาได้โพสต์ทวิตเกี่ยวกัเรื่องนี้…
-
หมาน้อยพลัดตกบ่อลึก กลุ่มนักเรียนไม่นิ่งเฉย “ประดิษฐ์แขนกล” เพื่อช่วยน้องหมาจนสำเร็จ
ลองมองไปรอบๆ ตัว จะเห็นว่ามีสิ่งประดิษฐ์เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์เรานั่นเอง แล้วสำหรับสัตว์เลี้ยงล่ะ เราจะประดิษฐ์อะไรให้พวกมันดี? บางทีสัตว์ไม่ได้ต้องการความสะดวกสบายเหมือนมนุษย์เรา แต่มันแค่ต้องการความช่วยเหลือในยามคับขันเท่านั้น และโชคดีที่นักเรียนกลุ่มนี้ไม่ได้มองข้ามความต้องการของพวกมัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ Istanbul เมื่อสุนัขวัย 4 เดือนตัวหนึ่ง พลัดตกลงไปในบ่อกลางป่าแห่งหนึ่ง ที่มีความลึก 70 เมตร และทำให้มันติดอยู่ในนั้นถึง 10 วัน ตลอด 10 วันนี้ มีนักดับเพลิงและคนอื่นๆ ที่พยายามจะช่วยมันขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถนำมันขึ้นมาได้ น้องหมาจึงต้องทนอยู่ในบ่อที่มืดรอบด้านด้วยความหวาดกลัวและรอความช่วยเหลือต่อไป ในที่สุด เมื่อนักเรียนจากโรงเรียน Istanbul’s Bahcesehir สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรู้ข่าวเรื่องนี้ พวกเขาก็ตัดสินใจใช้ความรู้ที่พวกเขาเล่าเรียนมาช่วยเหลือน้องหมาตัวนี้ นักเรียนกลุ่มนี้ได้รวมตัวกันและช่วยกันประดิษฐ์แขนกลบังคับขึ้นมา เพื่อที่จะช่วยอุ้มน้องหมาขึ้นมาจากบ่อลึก… หนึ่งในนักเรียนกลุ่มนี้บอกว่า “เรารู้ว่านักดับเพลิงไม่สามารถช่วยสุนัขขึ้นมาได้ เราจึงผลิตแขนกลหุ่นยนต์ชิ้นนี้ขึ้นมา เพื่อช่วยพวกเขาอีกแรงหนึ่ง” และเมื่อแขนกลถูกประดิษฐ์เสร็จแล้ว กลุ่มนักเรียนก็ได้มอบความช่วยเหลือร่วมมือกับหน่วยกู้ภัย ในที่สุดน้องหมาก็ถูกนำออกมาจากบ่อได้อย่างปลอดภัย และถูกนำตัวส่งโรงพบายาลใกล้เคียงทันที ต่อมาพวกเขาได้ตั้งชื่อให้มันว่า Kuyu และโชคอีกชั้นของน้องหมาตัวนี้คือ มันได้รับเลี้ยงโดยหนึ่งในนักดับเพลิงที่ช่วยมันขึ้นมานั่นเอง ถ้าน้องหมาพูดได้ มันคงอยากขอบคุณทุกคนที่ทุ่มเทช่วยมันขนาดนี้…
-
เจ้าสุนัขผอม 3 กิโลฯ เหลือแต่กระดูก พลิกโฉมชีวิต มาเป็นสุนัขสุดหล่อเหลือรับประทาน!!
เรื่องราวของสัตว์เลี้ยงจะดีหรือร้ายนั้น อยู่เราปฏิบัติต่อพวกมัน ถ้าเรามอบสิ่งดีๆ ให้ เรื่องราวของมันก็จะแฮปปี้ ตรงข้าม ถ้าเราทำร้ายมัน ไม่ดูแลมัน ชีวิตมันก็จะมีแต่เรื่องน่าเศร้า แต่สำหรับ William แม้มันจะเคยมีประสบการณ์ที่เลวร้ายมาก่อน แต่วันนี้มันกลายเป็นหมาที่โชคดีและพบเจอแต่เรื่องดีๆ จนลืมเรื่องร้ายในอดีตไป ย้อนกลับไปในเดือนกันยายน 2015 Rachel Butler ได้ช่วยเหลือสุนัขตัวหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่า ‘ผอมที่สุดในโลก’ มันมีลักษณะเหมือนโครงกระดูกเดินได้ Nicky Foster ผู้จัดการของ RSPCA เล่าว่า “มันเป็นสุนัขที่ผอมที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นในรอบ 10 ปี เลยล่ะ คุณสามารถเห็นกระดูกของมันชัดเจนทุกสัดส่วน มันมีน้ำหนักแค่ 3 กิโลกรัมเท่านั้น เราจึงต้องห่อหุ้มมันด้วยผ้าห่มตลอดเวลา เพื่อให้ความอบอุ่นกับมัน” เจ้าของของมันก่อนหน้านี้คือ Christopher Rushton และ Kirsty Hales ทั้งคู่รับ William ไปเลี้ยงหลังจากเห็นรูปของมันในอินเตอร์เน็ต แต่หลังจากเอาไปแล้ว ทั้งคู่แทบจะไม่ดูแลมันเลย จนทำให้สุนัขต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมาน ในที่สุดก็มีผู้หวังดีแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและช่วยเหลือ William ออกมา สำหรับคู่รักที่ทำให้สุนัขทรมานนั้น พวกเขาถูกสั่งห้ามไม่ให้เลี้ยงสัตว์ตลอดชีวิต และต้องบำเพ็ญประโยชน์อีก…
-
หนุ่มเปิดอัลติฯ “ปีกไก่ทอด” ขอสาวไปงานพรอม แม้จะไม่มาก แต่โดนใจจนต้องตกลง!!
ในวัยมัธยมนั้น มีหลายเรื่องที่ทำให้เราแฮปปี้ แต่เรื่องหนึ่งที่หลายคนประทับใจไม่รู้ลืม ก็คือ งานพรอม นั่นเอง เพราะงานพรอมไม่ใช่งานเลี้ยงส่งเท่านั้น แต่สำหรับหลายคนแล้ว มันเป็นโอกาสที่พวกเขาจะพูดความในใจกับใครสักคน และควงเขาหรือเธอคนนั้นไปงานพรอมด้วยนั่นเอง แน่นอนว่า การจะขอใครสักคนควงไปงานพรอมนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากต้องรวบรวมความกล้าแล้ว คุณยังต้องมีไม้เด็ดในการเอาชนะใจของเขาหรือเธอคนนั้นด้วย ไม่เด็ดที่ว่านี้ อาจจะเป็นดอกไม้ แหวน หรือเซอร์ไพรส์หวานๆ แต่สำหรับหนุ่มคนนี้เลือกที่จะใช้ ‘ปีกไก่ทอด’ เพื่อขอหญิงสาวคนหนึ่งไปงานพรอม เรื่องราวสุดประทับใจปนฮานี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2560 ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง และได้มีกลุ่มเพื่อนๆ บันทึกวิดีโอเอาไว้ ในวิดีโอจะเห็นว่า มีหนุ่มคนหนึ่งถือกล่องโฟมมาให้หญิงสาวที่เขาหมายปอง เห็นแค่กล่องหญิงสาวก็เขินแล้ว แต่เพื่อนๆ ก็อยากรู้ว่าอะไรอยู่ในกล่องนะ ทุกคนเลยเชียร์ให้เธอเปิดดู เมื่อเปิดกล่องออกมาก็พบว่าเป็นปีกไก่ทอด อาจจะฟังดูแปลกๆ นะ แต่รู้มั้ยว่านั่นคือ ของโปรดของหญิงสาวเลยล่ะ นั่นแสดงว่า ชายหนุ่มคนนี้เฝ้ามองหญิงสาวคนนี้มานานแล้ว และเขาก็ตั้งใจจะสารภาพในวันนี้ ที่ฝากล่องโฟมนั้น มีตัวหนังสือของชายหนุ่มเขียนไว้ว่า “เธอจะไปงานพรอมกับผมมั้ย” ทำเอาหญิงสาวยิ้มไม่หุบเลย และสุดท้ายเธอก็ตอบตกลง จนเพื่อนๆ อดเขินแทนไม่ได้ …
-
ตำรวจพบแมวน่าสงสาร จึงไปขอร้องหัวหน้าเพื่อรับมาเลี้ยง จบเห่โดนยึดทั้งโรงพัก!!
เจ้าเหมียวตัวเล็กถูกทิ้งเอาไว้ที่หน้าสถานีตำรวจในเมือง Brooklyn รัฐนิวยอร์ค เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปขอร้องกับเจ้านายเพื่อให้พวกเขาสามารถนำมันมาเป็นพนักงานใหม่าในสำนักงาน ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้าเหมียว Martin!! เมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าเหมียวตัวน้อยอายุเพียง 6 เดือน ถูกพบเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง และเขาก็ตัดสินใจที่จะอุ้มมันกลับมายังสถานีตำรวจ Coney Island ด้วย เพียงไม่กี่วินาทีที่เจ้าเหมียวได้พบปะกับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่อยู่ในสำนักงาน มันก็สามารถขโมยหัวใจของทุกคนไปได้อย่างง่ายดาย เจ้าหน้าที่ทุกคนได้ปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรกับมันดี ครั้นจะพาไปไว้ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ก็ไม่อยากให้ไปเพราะตกหลุมรักมันเข้าแล้ว จึงตัดสินใจที่จะเข้าไปหารองสารวัตรเพื่อขอร้องให้ยอมรับเจ้าเหมียวตัวนี้เข้ามาอยู่ในสำนักงานในฐานะ ‘มาสค็อต’ ที่ทำหน้าที่ในการให้กำลังใจในการทำงานกับเจ้าหน้าที่ทุกๆ คน “ผมเองก็เป็นคนรักสัตว์เหมือนกัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามาขอร้องผมให้รับมันเข้ามาในสำนักงาน และครั้งแรกที่ได้เห็นมันผมก็ตกหลุมรักมันในทันที” ท่านรองสารวัตร Wiliiam Taylor เล่า เจ้าเหมียวถูกตั้งชื่อว่า Martin ตามชื่อของเจ้าหน้าที่ Martin D. Costanza ผู้ขอร้องอ้อนวอนให้รับมันเข้ามาอยู่ในสำนักงาน เจ้าเหมียวทำหน้าที่ในการให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกๆ คนในสำนักงาน นำพารอยยิ้มมาสู่ใบหน้าของทุกๆ คน เปลี่ยนวันแย่ๆ ของพวกเขาให้กลายเป็นวันที่แสนสนุก ท่านรองสารวัตร Taylor นั้นมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้เห็นทุกคนทำงานกันอย่างมีความสุข เพราะทุกคนหลงรักเจ้า Martin มาก…
-
18 ภาพสัตว์ออกกิริยา “แผล่บ” ได้น่ารักที่สุดในโลก ในกาแล็กซี่ และในจักรวาล
เวลานึกถึงเวลาไหนที่เจ้าสัตว์ต่างๆ นั้นน่ารักที่สุด หลายคนอาจบอกว่าตอนนอน บางคนอาจบอกว่าตอนวิ่ง บางคนอาจบอกว่าตอนที่พวกมันกำลังเล่นกัน แต่เชื่อหรือไม่ เวลาที่พวกมัน “แผล่บ” ก็น่ารักฝุดๆ ไม่แพ้กัน ไม่เชื่อลองไปชม 18 ภาพ “แผล่บ” ของสัตว์ทั่วโลกเหล่านี้ดูสิ รับรองว่าเพื่อนๆ จะต้องหลงรักพวกมันอย่างแน่นอน แบร่ อย่ามายุ่ง ตามฉันไม่ทันหรอก แฮะๆ เพลินไปหน่อย หมดแรงแล้ววว ท่าผมสวยมั้ย เค้าบอกทำแบบนี้แล้วเหมือนหมา บอกแล้วว่าพวกผมน่ารักจริงๆ นะ . . . . . . . . . . . จะน่ารักไปไหนเนี่ยพวกนายยยย อร๊ายย ที่มา boredpanda
-
ฟิตเนสแห่งแรกในโลกจากแคลิฟอร์เนีย บริการ ‘กัญชา’ เพิ่มพลังการออกกำลังกาย!!?
สำหรับสายเขียวทั้งหลาย เราเชื่อว่าตอนนี้หลายๆ รัฐในสหรัฐอเมริกา กลายเป็นเหมือนดินแดนในฝันของพวกเราทุกคน ไม่ใช่แค่เพราะคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าหรอกนะ แต่ก็เพราะที่นู้นเราสามารถสูบกัญชาได้อย่างถูกกฏหมาย ไม่ต้องกลัวว่าจะมีปัญหากับคุณตำรวจ และคนที่ไม่ใช่สายเขียว อาจจะไม่รู้ว่า ‘กัญชา’ และ ‘การออกกำลังกาย’ ทั้งสองอย่างนี้มันสามารถไปด้วยกันได้อย่างลงตัว ถ้าหากว่าเราใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ ล่าสุดที่ซานฟรานซิสโก ได้มีฟิตเนสยิมแห่งหนึ่งที่กำลังจะเปิดตัวในปีนี้ ‘Power Plant Fitness’ ฟิตเนสแห่งแรกของโลกที่มาพร้อมกับบริการเสิร์ฟกัญชา ให้กับลูกค้าทุกคน แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่านี่จะกลายเป็นสถานที่รวมตัวของคนขี้เมา ไม่เอาไหนรึเปล่า? เพราะสองผู้ก่อตั้ง Jim McAlpine และ Ricky Williams ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ‘พวกเราโฟกัสไปที่เรื่องของการออกกำลังกาย มากกว่ากัญชาซะอีกนะ และเราก็อยากจะลบคำสบประมาทที่หาว่าคนสูบกัญชามักเป็นคนขี้เกียจ’ โดยทั้งคู่เชื่อว่าการสูบกัญชาในระดับที่พอดีก่อนออกกำลังกาย จะช่วยทำให้มีสมาธิมากขึ้น และทำให้หายเหนื่อยได้ดีขึ้น ซึ่งหนุ่ม McAlpine ก็ได้ไอเดียนี้มาจากตอนที่เขาได้สูบกัญชาก่อนเล่นสกีหิมะ และคิดว่าน่าเอามาลองทำบ้าง Jim McAlpine หนึ่งในผู้ก่อตั้ง ทว่าสมาชิกฟิตเนสทุกคนที่เข้าใช้บริการ จะต้องทำแบบสอบถาม เพื่อเลือกวิธีการบริโภคกัญชาที่ดีที่สุดให้กับพวกเขา เพราะบางคนก็ไม่สามารถที่จะดูดแล้วออกกำลังกายได้ ในขณะที่บางคนอาจจะใช้วิธีการกินบราวนี่กัญชาแทน ‘ถ้าคุณใช้มันอย่างถูกต้อง มันจะช่วยให้เราทำในสิ่งที่รักได้อย่างมีสมาธิมากขึ้น และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับสมาชิกทุกคนที่เข้ามาใช้บริการ หลังจากที่ได้บริโภคกัญชาเข้าไปแล้ว พวกเขาจะเข้าสู่โหมดออกกำลังกายอย่างตั้งใจ…
-
เมื่อรุ่นน้องขอให้รุ่นพี่ ‘อ่านนิทานก่อนนอน’ เป็นของขวัญวันเกิด ไม่มีปัญหาไอ้น้อง จัดไป!!
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมปีก่อน ชายหนุ่มวัย 19 ปี Andrew Kochamba ได้เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย University of Tennessee แห่งนี้ และคณะกรรมการหอที่เขาอาศัยอยู่ ก็วางแผนเอาไว้ว่าจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อทำให้ในปีนี้กลายเป็นปีที่มีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้น Quamir Boddie เองก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการหอ และเขาก็เป็นคนที่มีอารมณ์ขันชอบสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนอื่นๆ พ่อหนุ่มเฟรชชี่ Andrew ก็เลยเขียนคำขอแบบตลกๆ อยากให้กรรมการหอ Quamir มาอ่านนิทานก่อนนอนให้ฟังเป็นของขวัญวันเกิดให้กับตัวเอง พอ Quamir ได้เห็นคำขอของ Andrew แล้วก็คิดอยู่ในใจว่ามันเป็นอะไรที่แปลกมาก แต่เขาก็ยินดีที่จะทำให้ความต้องการของรุ่นน้องเฟรชชี่คนนี้กลายเป็นความจริง ในที่สุดก็มาถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันครบรอบวันเกิดของ Andrew “Quamir มาเคาะที่ประตูห้องของผม พร้อมกับหนังสือนิทานสุดคลาสสิค Leo the Late Bloomer ที่แต่งโดย Robert Kraus จากนั้นเขาก็มายืนอยู่ที่บริเวณโต๊ะทำงาน แล้วก็เริ่มอ่านนิทานให้ฟัง” Andrew เล่า “เขาเปิดอ่านมันทุกหน้า…
-
นักวิทย์บราซิลผลิต “แป้งขนมปังจากแมลงสาบ” รสชาติไม่แตกต่าง อุดมไปด้วยโปรตีนสู๊งสูง
พูดถึงแมลงสาบแต่ละที ทำเอาบางคนถึงกับร้อง “ยี้!!” เพราะมันมักถูกมองว่าเป็นสัตว์สกปรกที่ใครๆ ก็ไม่อยากเข้าใกล้ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมเวลาเจอแมลงสาบอยู่ในอาหารของร้านถึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ทู๊กที แต่ถ้าคุณต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ขาดแคลนอาหารล่ะ คุณยังจะหลีกเลี่ยงแมลงสาบอยู่มั้ย? แน่นอนว่า เมื่อถึงเวลานั้น แมลงสาบเนี่ยแหละที่จะกลายเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญเลยก็ว่าได้ ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์อาหารชาวบราซิล 2 คน ก็ได้ประสบความสำเร็จในการนำแมลงสาบมาดัดแปลงเป็นอาหารที่สามารถรับประทานได้ เปลี่ยนให้มันกลายมาเป็น ‘แป้งขนมปัง’ Andressa Lucas และ Lauren Menegon สองนักศึกษาวิทยาการอาหาร จากมหาวิทยาลัย Federal University of Rio Grande ในประเทศบราซิล ได้พัฒนาแป้งที่ทำมาจากแมลงสาบ อันมีส่วนผสมของโปรตีนมากกว่าแป้งสาลีถึง 40% พร้อมกับกรดอะมิโนอีกจำนวนมาก จากผลงานดังกล่าวนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากความผิดพลาดทางการทดลอง แต่เกิดจากการค้นคว้าและวิจัยอย่างตรงไปตรงมา โดยการใช้สายพันธุ์แมลงสาบที่เรียกว่า Nauphoeta cinerea แมลงสาบที่นำมาทำแป้งนี้ ถูกเพาะเลี้ยงอย่างถูกหลักสุขอนามัยของ ANVISA และจะมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยจะเลี้ยงด้วยผักและผลไม้เท่านั้น พวกเธอบอกว่า “เราเลือกแมลงสาบ เพราะมันเป็นแมลงที่มีโปรตีนสูง เกือบร้อยละ 70 เลยทีเดียว อีกทั้งยังมีกรดอะมิโนจำเป็นถึง 8 อย่าง และมีกรดไขมันที่มีคุณภาพสูง เช่น…
-
ครอบครัวสร้างฉากจากหนังดังโดยใช้ “กระดาษลัง” เป็นส่วนประกอบ พร้อมจับลูกน้อยเข้าเฟรม
หลายคนอาจบอกว่าการอยู่กับครอบครัวเป็นเรื่องน่าเบื่อ เอาจริงๆ แล้วมันจะน่าเบื่อหรือไม่น่าเบื่อ มันขึ้นอยู่กับคุณเองต่างหากว่าจะทำให้มันน่าเบื่อหรือเปล่า Breaking Bad ยกตัวอย่างจากครอบครัว Leon Mackie และ Lilly Lang นี้ ล่าสุดพวกเขาเพิ่งย้ายบ้านไปยังเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งการย้ายบ้านนี้เอง ทำให้พวกเขามีกล่องลังเหลือเป็นจำนวนมาก แทนที่จะทิ้งไป พวกเขากลับนำกล่องลังพวกนั้นมาสร้างเป็นฉากจากหนังดัง แล้วถ่ายภาพครอบครัวสุดเจ๋งกันในชื่อว่า Cardboard Box Office King Kong The Godfather Forrest Gump Pirates of the Caribbean Indiana Jones and the Temple of Doom The Revenant Game of Thrones The…
-
ผลวิจัยชี้ คนรุ่นใหม่เสี่ยงเป็นมะเร็งในลำไส้มากกว่าคนรุ่นก่อน เนื่องจากพฤติกรรมการกิน!!
โรคมะเร็งนับเป็นโรคที่พบได้ในคนทุกเพศทุกวัย และอยู่ในทุกยุคของมนุษย์ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยล่าสุดพบว่า ‘คนหนุ่มสาวปัจจุบันเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้มากกว่ารุ่นพ่อแม่’ ทั้งนี้ผลการวิจัยชิ้ว่า สาเหตุที่คนหนุ่มสาวมักเป็นโรคมะเร็งลำไส้นั้น มีสาเหตุมาจากการขาดการออกกำลัง และอีกสาเหตุเหนึ่งคือ การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพนั่นเอง Millennials คือกลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี 1980 และ 1995 ที่ได้รับการวิจัยล่าสุดว่า เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มจะเป็นเนื้องอกในทวารหนัก ซึ่งมีสาเหตุหลักจากลำไส้ใหญ่โดยเทียบกับคนที่เกิดในช่วงปี 1950 3 ใน 10 ของการวินิจฉัยเนื้องอกในทวารหนักขณะนี้ พบว่า ผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 55 ปี มีโอกาสเสี่ยงที่เป็นมะเร็งในลำไส้ใหญ่ ซึ่งมากกว่าวัยอื่นๆ ถึงสองเท่า นอกจากนี้ การวิจัยยังเตือนอีกว่า โรคมะเร็งลำไส้นี้ มักมากับโรคทางเดินอาหาร ดังนั้น ควรจะทำการคัดกรองผูป่วยตั้งแต่อายุ 20 ปี มากกว่าในช่วงอายุ 60 ปี Dr Rebecca Siegel จากสมาคม American Cancer Society กล่าวว่า “คนหนุ่มสาวรุ่นนี้ มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้สูงขึ้นมากในอนาคต” อย่างไรก็ตาม การวิจัยครั้งนี้ก็เพื่อกระตุ้นให้คนหนุ่มสาวหันมาดูแลตัวเอง ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายให้มากขึ้น ในปี 2013 พบผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่จำนวน 10,400…
-
20 ไอเดียการโฆษณาสุดครีเอท ดึงดูดความสนใจจากคนได้ เพราะมันเจ๋งจริงๆ นะเออ!!
ในยุคที่การแข่งขันสูงเช่นนี้ แน่นอนว่า การโฆษณาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่ก็อย่างที่รู้แหละ ทุกวันนี้มีการโฆษณาโน่น นี่ นั่นมากมาย จนบางทีเราก็ไม่มองข้ามมันไป แต่สำหรับวิธีการโฆษณาต่อไปนี้ จะทำให้คุณละสายตาไม่ได้แน่นอน เพราะนอกจากความน่าสนใจแล้ว มันยังเจ๋ง แปลกใหม่ จนต้องดูแล้วดูอีก 1. โฆษณาทิชชู่ Kleenex มาในรูปแบบสามมิติ 2. แบรนด์ Adidas ยิ่งใหญ่ อลังเวอร์วัง 3. KitKat นอกจากกินได้แล้ว ยังนั่งได้ด้วยนะ อ่ะ คิดจะพักคิดถึง KitKat 4. การโฆษณา Kraken เหล้ารัมที่จะทำให้คุณขยี้ตาแรง 5. โฆษณาแบบ National Geographic มันก็ต้องดูตื่นเต้นแบบนี้สิ 6. ทำให้ฝาท่อระบายน้ำน่ามองยิ่งขึ้น ด้วยการโฆษณากาแฟ 7. กลยุทธ์ของ McDonald’s ที่จะทำให้คุณเดินไปหิวไป 8. เครื่องดูดฝุ่น Miele กับพลังดูดรถยนต์เข้าอุโมงค์ 9. ทำเก้าอี้แต่ไม่มีที่นั่ง…
-
เปิดภาพวัยละอ่อนของ Justin Trudeau นายกฯ แคนาดา ผู้หล่อเหลามาแต่กาลก่อน!!
เมื่อพูดถึงการเมืองแล้ว หลายคนอาจะไม่ค่อยให้ความสนใจ เพราะมักจะมีแต่การแข่งแย่งกัน แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราควรจะรู้เอาไว้นะ ก็นั่นแหละ คนไม่ชอบการเมืองทำไงได้ล่ะ… แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้าคุณได้รู้จักกับเขาคนนี้ คุณอาจจะเปลี่ยนมาให้ความสนใจกับการเมืองก็ได้ โดยเฉพาะสาวๆ Justin Trudeau คือ นายกรัฐมนตรีของประเทศแคนาดา และกลายเป็นคนโด่งดังตั้งแต่เขาชนะการเลือกตั้งในครั้งนั้น สาเหตุที่ทำให้เขาตกเป็นเป้าของสื่อและประชาชนทั่วไปคือ ความหล่อของเขานั่นเอง จึงไม่แปลกว่าทำไมเวลาไปที่ไหน สาวๆ ก็มักจะกริ๊ดเสมอ ความหล่อของนายก Justin นั้น ได้มีการพูดถึงอย่างแพร่หลาย จนหลายคนอยากให้เป็นดารา แต่เขากลับมีความสนใจด้านการเมืองมากกว่าและเขาก็ทำได้ดีซะด้วย เขาได้เข้าสู่วงการการเมืองเมื่อปี 2008 และมักจะมีนโยบายที่แตกต่างจากนักการเมืองคนอื่นๆ เช่น การผลักดันให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฏหมาย ซึ่งกลายเป็นที่พูดถึงจนทุกวันนี้ เห็นหล่อขนาดนี้ หลายคนคงอยากเห็นรูปเขาสมัยหนุ่มๆ ซะแล้ว ซึ่งเราก็คงไม่ได้เห็นกันบ่อยนักสักเท่าไร แต่วันนี้เรานำรูปในอดีตของนายกสุดหล่อมาฝากเพื่อนๆ ด้วยแหละ Justin เป็นเหมือนเด็กหนุ่มทั่วไป แต่เห็นได้ชัดว่าเขามีหน้าตาที่โดดเด่น ถ้าใครไม่รู้จัก คงคิดว่าเขาต้องเป็นดาราแน่ๆ มาดเท่ๆ ในวงการการเมือง นี่ถ้าบอกว่าเป็นนายแบบก็เชื่อนะ เรียกได้ว่า ยิ่งโตยิ่งหล่อ ยิ่งแก่ยิ่งดี…
-
จากคำขอเป็นเพื่อนของคนที่ไม่เคยรู้จัก แถมอยู่กันคนละซีกโลก จนเปลี่ยนสถานะมาเป็น ‘แฟน’
เมื่อสองปีก่อน Rebecca Luff หญิงสาวชาวอังกฤษวัย 18 ปี ได้รับคำขอเพื่อนบนเฟสบุ๊กจากชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ห่างไกลนับหมื่นกิโลเมตร หลายคนคงคิดว่าพวกเขาคงเป็นเพื่อนธรรมดาๆ บนเฟสบุ๊ก แต่เชื่อหรือไม่ สุดท้ายทั้งสองกลับได้กลายเป็นแฟนกัน หนุ่มคนนั้นมีชื่อว่า Micheal Young จากออสเตรเลีย ทันทีที่ Rebecca รับแอดเขา เขาก็ทักแชทไปหาเธอทันที ทั้งสอง ทั้งสองคุยกันเป็นเวลาหลายเดือน จนในที่สุด พวกเขาก็ตัดสินใจคบหาดูใจกันในช่วงเดือนธันวาคม 2015 หนึ่งปีต่อมา Young ได้เดินทางไปยังอังกฤษเพื่อพบกับ Rebecca ตัวจริงครั้งแรก และพวกเขาได้จัดทริปเที่ยวกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ Young กล่าวว่า แม้เขาจะไม่เคยเจอกันแบบต่อหน้าต่อตามาก่อน แต่เขากลับไม่รู้สึกแปลกประหลาดแม้แต่นิดเดียว Rebecca กล่าวว่า “ตอนที่เราเจอกันครั้งแรก ฉันรู้สึกเหมือนรู้จักเขามาทั้งชีวิต มันไม่ได้รู้สึกประหลาดแม้แต่นิดเดียว พวกเราเข้ากันได้ดีมาก ตอนที่ฉันรู้จักเขาครั้งแรก ฉันไม่คิดเลยว่าเราจะมาไกลได้ขนาดนี้” “ไม่มีใครคิดเลยว่ามันจะกลายเป็นเรื่องจริงจัง ตอนนี้ฉันเชื่อว่าพวกเขาต้องรู้สึกประหลาดใจบ้างล่ะ” ตอนนี้พวกเขาไม่ได้เจอกันมาหลายเดือนแล้ว แต่ Rebecca ได้วางแผนที่จะลาพักร้อนสามเดือนเพื่อที่จะเดินทางไปยังออสเตรเลีย เพื่อพบกับครอบครัวและเพื่อนๆ…
-
3310 รุ่นใหม่กำลังจะมา แต่รุ่นเก่าอย่าเพิ่งทิ้ง เพราะมันขายได้ราคาสูงถึง 8,500 บาท!!
กลับมาแล้วกับ โนเกีย 3310 โฉมใหม่ สดใสกว่าเดิม แถมถูกกว่า ด้วยราคาเพียง 1,800 บาทเท่านั้น งานนี้คนที่ชอบโทรศัพท์สายอึดพลาดไม่ได้ซะแล้ว ก็อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่า ตอนที่โนเกีย 3310 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2000 นั้นใครจะเชื่อว่ามันมีราคาถึงหลักหมื่นเชียวล่ะ และถือเป็นหนึ่งในโทรศัพท์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก เพราะกวาดรายได้จากการจำหน่ายไปกว่า 126 ล้านบาท แต่พอเวลาผ่าน 17 ปี มันแทบจะไม่มีค่าอะไรซะแล้ว ขนาดร้านรับซื้อโทรศัพท์มือสองยังไม่อยากได้เลย… อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่มีข่าวลือว่าโนเกีย 3310 รุ่นใหม่นี้กำลังจะปล่อยขายสู่ตลาด บรรดาคนที่ครอบครอง 3310 รุ่นเก่าอยู่ต่างก็ประกาศขายกันรัวๆ ที่ไม่น่าเชื่อคือ 3310 รุ่นดั้งเดิมที่อยู่ในสภาพมือ 1 มีราคาประมูลสูงถึง 8,500 บาท ขนาดมือสองยังขายได้ถึง 2,100 บาท ถือว่าไม่น้อยเลยนะ สำหรับโทรศัพท์รุ่นนี้ หนึ่งในสมาชิกเว็บไซต์ eBay ได้มีการประกาศขายโนเกีย 3310 รุ่นเก่า ในสภาพมือหนึ่งพร้อมกล่องและอุปกรณ์ในราคา 8,500 บาท…
-
สื่อนอกรายงาน ‘Made in China’ ไม่ใช่สินค้าเกรดต่ำ เพราะค่าแรงและคุณภาพของสูงขึ้น
ปกติพอนึกถึงสินค้าจากจีน เราจะติดภาพว่าเป็นสินค้าเกรดต่ำที่ไม่มีคุณภาพ แต่ล่าสุด ทางสำนักข่าว CNBC รายงานว่า ปัจจุบันสินค้าที่ตีตรา “Made in China” ไม่ใช่สินค้าเกรดต่ำอีกต่อไปแล้ว แถมคุณภาพยังสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างหาก โดยบริษัทวิจัยการตลาด Euromonitor ได้รายงานว่า ปัจจุบันค่าแรงโดยเฉลี่ยของชาวจีนอยู่ที่ประมาณ 3.60 เหรียญหรือราว 200 บาทต่อชั่วโมง ถือว่าเป็นค่าแรงที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมาเลยทีเดียว แถมยังสูงกว่าเมื่อ 6 ปีก่อนถึง 64 เปอร์เซ็น และมากกว่าแรงงานในอินเดีย โปรตุเกต และ แอฟริกาใต้อีกต่างหาก อย่างไรก็ตาม ค่าแรงที่สูงขนาดนี้ ทำให้มีการคาดการณ์ว่า เหล่าผู้ผลิตอาจย้ายสายการผลิตออกจากประเทศจีน เพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว ซึ่งพวกเขาจะย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ เช่นศรีลังกา ที่จ่ายค่าแรงแค่ชั่วโมงละ 0.50 ดอลลาร์ หรือราว 17 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ การเข้ามาของหุ่นยนต์โรงงาน ก็จะเข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์เช่นกัน โดยหลายๆ บริษัทเริ่มมีการลงทุนพัฒนาหุ่นยนต์ เพื่อรับมือกับค่าแรงที่เพิ่มขึ้นของมนุษย์ในอนาคตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว …
-
ซึ้งใจชาวเน็ต “บุรุษพยาบาล” ร้องเพลงให้อดีตครูที่เคยสอนเขามาจากใจ เป็นครั้งสุดท้าย….
เรียกได้ว่ากำลังกลายเป็นกระแสไวรัลบนโลกอินเตอร์เน็ต ที่เล่นเอาชาวเน็ตทั่วโลกน้ำตาซึมไปตามๆ กัน กับคลิปวิดีโอของหนุ่มฮอสพิซ (ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย) ที่กำลังยืนร้องเพลงอย่างตั้งอกตั้งใจ เพราะนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้ดูแลอดีตครูที่เคยสอนเขามา ซึ่งในอดีตคุณยาย Mary Adkins Redmond เป็นครูสอนร้องเพลงให้กับเด็กๆ มาแล้วมากมายหลายพันคนตลอดชั่วชีวิตของเธอ และพ่อหนุ่ม Joshua Woodard ก็เคยเป็นหนึ่งในนั้นตั้งแต่สมัยที่เขาอายุ 9 ขวบ พวกเขาโคจรกลับมาพบกันอีกครั้งได้อย่างไม่น่าเชื่อ วันหนึ่งทั้งคู่ก็ได้มาพบกันอีกครั้งที่ศูนย์พยาบาลออสตินเบิร์ก ซึ่งทันทีที่ Joshua เห็นคุณยายเขาก็นึกขึ้นได้ว่า เธอคือครูที่เคยพร่ำสอนจนทำให้เขามีทักษะการร้องเพลงที่ไพเราะมาจนถึงทุกวันนี้ หากแต่ว่าการพบกันในครั้งนี้อาจจะกลายเป็นครั้งสุดท้าย เพราะด้วยสังขารของคุณยายที่เริ่มร่วงโรย เธอไม่สามารถขยับไปไหนได้ Joshua จึงตอบแทนคุณครูด้วยการร้องเพลง ‘How Great Thou Art’ ให้เธอฟัง ‘เขาเป็นผู้ดูแลคนป่วยระยะสุดท้ายที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยค่ะ คุณแม่เคยสอนเขาร้องเพลงตั้งแต่เด็ก และครั้งนี้เขาก็ขอตอบแทนคุณครูด้วยการร้องเพลง เพื่อให้คุณแม่ได้เห็นถึงผลงานความสำเร็จของเธอที่เคยสร้างมา’ Marti ลูกสาวผู้บันทึกเหตุการณ์โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว วิดีโอการขับร้องของลูกศิษย์ ที่เรารู้สึกได้ว่าเขาร้องมันออกมาจากใจจริงๆ สุดท้ายแล้ว คุณยายผู้ที่ไม่สามารถขยับตัวได้ แต่เธอรับรู้สิ่งที่เขาส่งให้ตลอดเวลาของเพลง จนพูดออกมาว่า “Beautiful” คงเป็นเครื่องยืนยันถึงสิ่งที่เธอรับรู้เป็นอย่างดี และสิ่งที่เขาตั้งใจทำ…
-
เพื่อลูกต้องสู้ “แม่กระต่าย” เปิดศึกปะทะกับ “งู” ปกป้องลูกน้อยแสนรัก จากการถูกกิน
เมื่อกล่าวถึง “กระต่าย” ถือเป็นหนึ่งในสัตว์ที่หลายๆ คนรู้จักกันดีอยู่แล้ว ซึ่งภาพลักษณ์ส่วนใหญ่ที่เราเห็นมักจะมาในรูปแบบของความน่ารัก อ่อนโยน และมักจะกลายเป็นเหยื่อของสัตว์ชนิดอื่นๆ อยู่เสมอ แม้ว่ากระต่ายจะดูมุ้งมิ้ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากมันตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากเกินกว่าจะแก้ไข กระต่ายก็สามารถกลายเป็นสัตว์นักสู้ได้เหมือนกันนะ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวของแม่กระต่าย ที่กลายมาเป็นนักสู้ เพื่อไล่กัดงูสีดำขนาดใหญ่ หลังจากที่ลูกน้อยของมันถูกงูทำร้าย สำหรับภาพพร้อมคลิปวีดีโอที่เราได้นำมาให้ชมกันนี้ ได้เริ่มนำมาเผยแพร่ตั้งแต่ปี 2015 แต่ก็ไม่ได้ดังมากจนข่าวต่างประเทศนำมาเสนออีกครั้งในช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางด้าน Thedodo เว็บไซต์ที่ได้นำเสนอเรื่องราว พร้อมคลิปวีดีโอของ Momma Rabbit มาเผยแพร่ ได้ระบุว่า หลังจากที่แม่กระต่ายได้กลับไปยังที่อยู่อาศัยของมัน ก็ได้พบว่ามีงูสีดำขนาดใหญ่กำลังรัดตัวลูกน้อย เพื่อที่จะนำไปกินเป็นอาหาร และเมื่อแม่กระต่ายเห็นดังนั้น มันจึงไม่รอช้า รีบกระโจนเข้าใส่เจ้างูจนทำให้มันตกใจ และรีบคลายตัวเพื่อปล่อยลูกของมันออกมา น่าเศร้าที่ลูกน้อยของมัน 2 ตัวต้องตายไปจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ แต่สุดท้ายก็ยังโชคดีที่ลูกกระต่ายตัวหนึ่งสามารถหลบหนีออกมาได้ แม่กระต่ายที่กำลังโกรธจัด หลังเห็นลูกถูกทำร้าย แน่นอนว่ามันไม่ถอยหนี รีบเข้าไปปะทะกับเจ้างูทันที และเมื่องูพยายามหนี แม่กระต่ายก็เข้าไปกระโดดถีบขาคู่ใส่งู พร้อมเข้าไปจู่โจมมันครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุดเจ้างูก็ต้องยอมแพ้ และเลื้อยหนีออกไปจากบริเวณนั้น ทางด้าน…
-
คลิปนาทีชีวิต พลเมืองดีร่วมกันช่วย ‘เด็กน้อย’ เกือบตายเพราะคลื่นใหญ่ซัด พ่อแม่ได้แต่ยืนมอง…
เกือบจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมกันเลยทีเดียว สำหรับครอบครัวนักท่องเที่ยวครอบครัวหนึ่ง เมื่อลูกชายของพวกเขาถูกคลื่นซัดจนเกือบจมน้ำตาย โชคดีที่มีพลเมืองดี พุ่งเข้าไปช่วยไว้ได้ทัน เรื่องราวเกิดขึ้นบนเกาะฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา คู่สามีภรรยานักท่องเที่ยวคู่หนึ่งกำลังยืนอยู่บนชายหาด คอยดูลูกชายที่กำลังเล่นน้ำอย่างมีความสุข ด้วยความที่ช่วงนี้คลื่นลมแรงเป็นพิเศษ ทันใดนั้นเอง พวกเขาก็สังเกตเห็นว่าคลื่นลมเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาจึงพยายามสั่งให้ลูกชายรีบเดินขึ้นมา แต่ไม่ทันการ ลูกชายของพวกเขาถูกคลื่นซัดเข้าไปเต็มแรง จนต้องตะเกียดตะกายเพื่อเอาชีวิตรอด พวกเขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหาในทันที โชคร้าย ดูเหมือนว่าคลื่นจะแรงจนทำให้การวิ่งเข้าไปหาลูกชาย เป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง ทันใดนั้น เองมีชายคนหนึ่งวิ่งมาจากข้างหลัง แล้วพุ่งเข้าไปหาเด็กชายด้วยความรวดเร็ว จากนั้นก็มีชายอีกสองคนวิ่งลงไปช่วยด้วยเช่นกัน หลังจากพยายามอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็ช่วยเด็กชายขึ้นมาได้สำเร็จ ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันดีกว่า ลองมาดูฝั่งของผู้ชมที่ได้เห็นคลิปนี้บ้าง… เมื่อชาวเน็ตได้เห็นคลิปดังกล่าว ก็ได้แสดงความเห็นเข้ามากันอย่างมากมาย “พระเจ้า เด็กคนนั้นโครตโชคดี พ่อแม่ของเขาต้องโง่ขนาดไหน ถึงปล่อยให้ลูกเล่นน้ำท่ามกลางพายุแบบนี้” “ถามจริง ใครสอนให้เล่นน้ำท่ามกลางพายุเฮอริเคน ปัญญาอ่อนมากๆ โชคดีที่รอดชีวิต” “พ่อของเด็กเอาแต่ตะโกนบอกให้ออกมา ขณะที่ทุกคนเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเหลือ เขาแทบไม่ทำอะไรเลย แถมยังวิ่งหนีอีกต่างหาก” หวังว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งบทเรียนดีๆ ของการดูแลลูกในสถานที่ต่างๆ เพราะธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์เรามากนัก และอาจจะเกิดเหตุเศร้าได้แบบที่เราไม่เตรียมใจเลยล่ะ ดีนะที่คราวนี้ยังรอดมาได้… ที่มา mirror
-
บาทหลวงผู้แอนตี้ “การทำแท้ง” และตราหน้าผู้ทำแท้งเป็นฆาตรกร ไม่ต่างกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์!!
ปัญหาเรื่องการทำแท้งนั้น เป็นปัญหาที่หลายๆ สังคมต้องพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศของเราหรือต่างประเทศก็ตาม แน่นอนว่าในแต่ละพื้นที่แต่ละสังคมเองก็มีวิธีในการจัดการที่แตกต่างกันออกไป… บ้างก็สนับสนุนให้การทำแท้งเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของคนที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตที่เกิดมา (เด็กอาจเกิดมาพร้อมกับโรคที่ร้ายแรง หรือฝ่ายแม่ตั้งท้องโดยการถูกข่มขืน) บ้างก็ต่อต้านเพราะมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดมนุษยธรรม เนื่องจากแคทดั๊มบ์ตั้งเป้าจะนำเสนอเรื่องราวให้ครบทุกแง่มุม คราวก่อนเคยลงเรื่องผู้สนับสนุนการทำแท้ง คราวนี้เราจึงพามาดูในอีกแง่มุมหนึ่งบ้าง… แต่สำหรับนาย Jeff Durbin บาทหลวงวัย 38 ปีจาก คณะบาทหลวง Red Door Ministry จากรัฐ Arizona มีความเชื่อว่าการทำแท้งนั้นเป็นสิ่งที่แย่กว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวเสียอีก!! นอกจากนี้เขายังได้ทำการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อรณรงค์ยกเลิกการทำแท้งขึ้นมาชื่อว่า Babies are murdered here.com ขึ้นมาด้วย ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ศาลได้ติดสินให้ผู้หญิงมีสิทธิที่จะทำแท้งลูกได้ เขาจึงแสดงออกมาเป็นการประท้วง Durbin กล่าวว่า “พวกเราตัดสินให้การทำแท้งนั้นคือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน” เขาเชื่อว่าผู้หญิงที่ทำการยกเลิกการตั้งครรภ์ควรถูกลงโทษสถานเดียวกันกับนักโทษคดีฆาตกรรม เขากล่าวว่า “ไม่ว่าจะเป็นแม่ที่ฆ่าทารกที่อยู่ในครรภ์ หรือแม่ที่ฆ่าลูกวัย 5 ขวบของตัวเองด้วยการกดน้ำ ก็ควรได้รับข้อหาฆาตรกรรมเช่นเดียวกัน ชีวิตต้องแลกมาด้วยชีวิต!!” นอกจากนี้เขายังทำการรณรงค์ต่อต้านการทำแท้งด้วยการนำป้ายและเดินขบวน แล้วก็ยังใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียในการเผยแพร่ความคิดของเขาให้ชาวโลกได้รับรู้อีกด้วย “พวกเราจะสอนบุตรหลานของเราให้ทำในสิ่งที่ยุติธรรม…
-
ทดลองนำ “สุนัข” ผูกไว้ข้างทางให้เหมือนถูกทิ้ง เพื่อสังเกตน้ำใจจากคนในสังคม!?
บ่อยครั้งที่เรามักจะได้เห็นคลิปวิดีโอการทดลองทางสังคม จากแชนแนลต่างๆ บนยูทูป บ้างก็เพื่อทดสอบน้ำใจจากคนในสังคม หรือบ้างก็ต้องการดูปฏิกริยาจากผู้คน ที่มีต่อการทดลองนั้นๆ และล่าสุดที่เราไปเจอมาแชนแนล MoeAndEt ได้ทดลองนำเอาสุนัขสองตัวมาผูกไว้ข้างทาง พร้อมทั้งเขียนป้ายกำกับให้ดูเหมือนว่าพวกมันถูกทิ้งอย่างไร้เยื่อใยจริงๆ โดยระหว่างการทดลอง จะมีสองผู้จัดรายการจะคอยเฝ้าดูอยู่ห่างๆ ในบริเวณนั้น เพื่อดูว่าจะมีใครทำร้ายมัน หรือมีคนหยิบยื่นน้ำใจเข้ามาช่วยเหลือพวกมันหรือไม่… ป้ายจากเจ้าของที่บอกว่า บ้านถูกยึด การเงินล้มละลาย และประกาศหาคนรับเจ้าตูบทั้ง 2 ตัวนี้ต่อไป โฉมหน้าของสองตูบที่กำลังสวมบทบาทว่าตัวเองเป็นหมาถูกทิ้งอยู่ เจ้าไซดำนี่ทำหน้านิ่ง ส่วนเจ้าขาวนี่ทำหน้าหมดอาลัยในชีวิตได้สมบทบาทมากๆ จากนั้นพวกเขาก็ลองเฝ้าสังเกตดูอยู่ห่างๆ ท่ามกลางอุณหภูมิ -6 องศาใจกลางเมืองนิวยอร์ค มีคนเดินผ่านไปมาคนแล้วคนเล่าก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนว่าความหวังของทั้งสองตูบจะริบหรี่ลงทุกที บางคนก็เข้ามาดมกลิ่น พร้อมกับสบถว่า ‘แม่งเหม็นชิบหาย’ แล้วก็เดินจากไป แต่แล้วจู่ๆ ก็มีชายนิรนามคนหนึ่งเข้ามาเล่นกับพวกมัน โดยไม่มีทีท่ารังเกียจสัตว์ไร้บ้านพวกนี้เลยแม้แต่น้อย จากนั้นเขาก็หายไป 10 นาทีผ่านไปเขากลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้เขามาพร้อมกับชาม และอาหารสุนัขสำเร็จรูปที่เจ้าตัวไปซื้อมา ทันทีที่หนุ่มคนนี้เอาอาหารมาช่วยเหลือตูบทั้ง 2 สองผู้ดำเนินรายการจึงรีบเข้าไปสัมภาษณ์เจ้าตัวทันที ซึ่งหนุ่มใจดีคนนี้ได้เล่าว่า ‘เพราะผมก็เป็นคนไร้บ้านเหมือนกัน ผมเข้าใจดีว่าความรู้สึกหิวโหยและอดอยากมันเป็นยังไง…
-
หนุ่มสาวล่องเรือใช้ iPad นำทาง จู่ๆ เน็ตหายเลยหลงทาง แถมไปชนใส่เรือคนอื่นอีก เย้ยยย…!!
จะว่าไปแล้วตัวอย่างของคนที่ใช้ระบบจีพีเอสนำทาง แต่ระบบอัจฉริยะเจ้ากรรมดั๊นพาไปโผล่อยู่กลางทุ่งนาบ้าง ที่รกร้างบ้าง ก็มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ บนหน้าเฟซบุ๊ก เหตุการณ์นี้ก็คล้ายๆ กันแต่ออกจะวุ่นวะวุ่นวายกว่านิดหน่อย โดยเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวเมโทรจากในประเทศอังกฤษ ได้รายงานว่า David Carlin และภรรยาของเขา ได้ใช้จีพีเอสบนไอแพดล่องเรือไปตามสายน้ำแบบชิลๆ แต่เอาไปเอามากลายเป็นว่าเรือล่มซะงั้น!? David Carlin วัย 34 ปี และภรรยาของเขา โดยในวันเกิดเหตุพ่อหนุ่มได้นำเรือออกไปล่องกลางลำน้ำ ท่ามกลางหมอกจัด และควันหนา เจ้าตัวได้ใช้ระบบนำทางบนไอแพดในการเดินเรือ ทว่าพอเริ่มไกลจากฝั่งมากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าตัวคงลืมคิดไปว่าสัญญาณเน็ตก็ดันไปไม่ถึง ทีนี้เลยก็ถึงกับงงเพราะไม่รู้ว่าควรจะขับเรือไปทางไหนท่ามกลางหมอกที่บังทางแบบนี้ พอรู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองหลงทางเข้าให้แล้ว… สภาพอากาศวันที่เกิดเหตุ ต้องยอมรับว่าทัศนวิสัยย่ำแย่มากจริงๆ ด้วยความที่หมอกลงจัดทำให้มองไม่เห็นทาง เจ้าตัวขับเรืออยู่ดีๆ ก็เกิดเสียงดังโคร่ม!! แน่นอนครับเรือปิคนิคของแกไปชนเข้ากับเรือเฟอร์รี่ของชาวบ้านแถวนั้น และนั่นก็ทำให้เรือของเขาค่อยๆ จมลงอย่างช้าๆ นอกจากจะต้องเสียเรือไปหนึ่งลำแล้ว จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้เขาถูกปรับไปทั้งหมด 3,000 ยูโร (110,000 บาท) ข้อหาฝ่าฝืนกฏการเดินเรืออีกด้วย แถมยังโดนสังพักงานอีก ‘ตอนนั้นต้องบอกว่าโชคดีครับที่เราใส่เสื้อชูชีพไว้ ถ้าไม่อย่างนั้นผมและภรรยาคงจมไปพร้อมกับเรือแล้วแน่ๆ’ David ให้สัมภาษณ์…
-
หญิงสาวชาวจีนคิดสั้น ‘กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย’ แต่กลับรอดมาได้เพราะ “ไขมัน” ในร่างกายเยอะไป!?
บางครั้งเมื่อชีวิตต้องเจอกับปัญหา หลายๆ คนก็มีวิธีการรับมือที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็ใช้ความสามารถที่มีแก้ไขปัญหา บ้างก็ก้มหน้ายอมรับกับปัญหาที่เกิดขึ้น บ้างก็เลือกที่จะหนีจากปัญหาเหล่านั้น เช่นเดียวกันกับหญิงสาวคนนี้ที่เลือกที่จะ ‘ฆ่าตัวตาย’ เพื่อหนีปัญหา แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่เธอคิด… เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ของประเทศจีนได้รายงานว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งพยายามที่จะฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงไปในแม่น้ำ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันศุกร์ ณ มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน สาวที่ไม่ทราบชื่อรายหนึ่งต้องการที่จะปลิดชีวิตของตัวเองจึงกระโดดลงไปในแม่น้ำเพื่อหวังจะฆ่าตัวตาย แต่โชคชะตาเหมือนเล่นตลก เพราะแทนที่จะจมลงไปแต่ร่างกายของเธอกลับลอยขึ้นมาอยู่เหนือน้ำแทนซะงั้น!? จากนั้นไม่นานก็มีผู้พบเห็นเหตุการณ์เข้าจึงโทรไปแจ้งหน่วยฉุกเฉิน ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปช่วยเหลือชีวิตเธอได้ทันเวลาพอดี และหลังจากที่ช่วยขึ้นมาถึงบนฝั่ง รถพยาบาลก็รีบนำตัวของหญิงสาวส่งโรงพยาบาลในทันที ไม่มีใครทราบถึงแรงจูงใจในการฆ่าตัวตายของเธอ ภาพของหน่วยฉุกเฉิน ที่เร่งช่วยหญิงสาวรายดังกล่าว . และยังคงเป็นที่สงสัยว่าเพราะเหตุใดร่างกายของเธอถึงไม่จมลงไปในน้ำ แต่กลับลอยขึ้นมาอยู่เหนือผิวน้ำแทน!? ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาให้ความเห็นว่าเป็นโชคดีของหญิงสาวคนนี้ที่มีมวลไขมันในร่างกายมากกว่า เพราะไขมันนั้นมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ นั่นหมายความว่าหากคุณมีปริมาณไขมันในร่างกายมากกว่าปริมาณกล้ามเนื้อมากเกินไป ก็จะทำให้ร่างกายของคุณลอยอยู่บนน้ำได้ อีกเหตุผลหนึ่งคือร่างกายเธออาจจะตอบสนองฉับพลันตอนจะจมน้ำว่าต้องเอาชีวิตรอด และเธอเลยเปลี่ยนใจประคับประคองตัวเองไม่ให้จม จนกระทั่งหน่วยกู้ชีพช่วยชีวิตมาได้สำเร็จ ถือเป็นโชคดีที่ผู้หญิงคนนี้ได้รับโอกาสที่จะใช้ชีวิตอีกเป็นครั้งที่สอง ต่อไปก็ขึ้นอยู่กับว่าเธอจะเลือกใช้ชีวิตต่อจากนี้ไปอย่างไร #เหมียวหง่าว ก็ขอเอาใจช่วยนะ ^^ ที่มา…
-
อย่าหือกับเมีย!! เมื่อชาวเน็ตจีนแชร์คลิป “เจ้าสาวลากหนุ่มกลางถนน” หลังไม่ยอมมาแต่งงาน
มีคนเคยบอกไว้ว่า ‘ใครที่เชื่อฟังเมีย จะได้ดีทุกคน’ ซึ่งจะว่าไปเราก็คิดว่า…เออมันเป็นความจริงแบบกึ่งโดนบังคับแฮะ เพราะถ้าวันไหนทำตัวไม่เชื่อฟังละก็ ตายสิคร๊าบ ล่าสุดเว็บไซต์ Shanghaiist จากประเทศจีนได้รายงานว่า มีเจ้าสาวกำลังลากหนุ่มด้วยเชือกไปตามถนนอย่างโหดร้ายทารุณ สาเหตุก็เพราะพ่อหนุ่มไม่ยอมมาปรากฏตัวในงานวันแต่งงาน ภาพจากวิดีโอที่ชาวบ้านแถวนั้นถ่ายไว้ได้ ไม่มีใครรู้ว่ารายละเอียดเบื้องลึกในเหตุการณ์เป็นยังไงมายังไง แต่เท่าที่เรารู้ก็คือ วันดังกล่าวเป็นวันที่ทั้งคู่จะต้องเข้าสู่พิธีสมรสร่วมกัน มีการเชิญญาติผู้ใหญ่ร่วมเป็นสักขีพยาน และมีการจัดงานให้อย่างยิ่งใหญ่สมฐานะ ทว่าพอถึงเวลา… เจ้าบ่าวกลับไม่ปรากฏตัว แขกในงานก็ได้แต่งงไปตามๆ กัน ส่วนทางด้านของเจ้าสาวคงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอจะโมโหขนาดไหน เธอรีบออกไปตามหาตัวแฟนหนุ่มในสภาพทั้งชุดเจ้าสาว ส่วนสาเหตุที่หนุ่มไม่ยอมมาปรากฏตัว สืบไปสืบมาก็พบว่า เพราะเขากำลังจะแอบไปแต่งงานกับหญิงอีกคนอย่างลับๆ นั่นเอง งานนี้มีเดือดน่ะสิคร้าบ!! จากนั้นเจ้าสาวจึงเอาโซ่มาล่ามไว้ทันที และเธอก็ได้พยายามฉุดกระชากลากถูแฟนหนุ่มให้กลับไปเข้าร่วมพิธีแต่งงานกับเธอ (หรือเอาไปเชือดกันแน่หว่า?) แต่ดูเหมือนพ่อหนุ่มจะดื้อรั้งสุดๆ แหม่…นี่เอ็งคบกันยังไงมาเจ๊งเอาตอนวันแต่งงานเนี่ยนะ มาชมศึกวันทรงชัยกันครับ ฝ่ายแดง: มนุษย์เมียจอมโฉด ฝ่ายน้ำเงิน: มนุษย์ผัวขี้เต๊าะ งานนี้ใครจะอยู่ใครจะไป เราคงรู้คำตอบกันอยู่แล้ว… เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าคิดจะท้าทายกับอำนาจมนุษย์เมียเด็ดขาด ไม่งั้นก็จะศพไม่สวยแบบนี้แหละ ที่มา: Shanghaiist
-
พาไปดู “สะพานทาวเวอร์บริดจ์” เวอร์ชั่นก็อปปี้ในเมืองซูโจว ที่ชาวเน็ตจีนก็ยังพากันส่ายหน้า
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวชาวจีนกี่คนเดินทางไปเยี่ยมชมสะพานทาวเวอร์บริดจ์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งสะพานดังกล่าวถือว่าเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงที่สุดในอังกฤษและยุโรปเลยทีเดียว ภาพสะพานทาวเวอร์บริดจ์ ในประเทศอังกฤษ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้นักท่องเที่ยวจีนอาจไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงอังกฤษเพื่อชมสะพานทาวเวอร์บริดจ์อีกต่อไปแล้ว เพราะพวกเขาก็มีสะพานทาวเวอร์บริดจ์ของตนเองเช่นกัน แถมอยู่แค่เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู แค่นี้เอง สะพานทาวเวอร์บริดจ์เวอร์ชั่นต้นฉบับจะมีแค่ 2 อาคารเท่านั้น แต่เวอร์ชั่นจีนจะมีทั้งหมด 4 อาคาร แต่ละอาคารสูง 40 เมตรเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินลอยฟ้า ภายในมีลิฟต์และร้านกาแฟสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ . สะพานทาวเวอร์บริดจ์ซูโจวแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 2012 ในเขตเซียงเฉิง ซึ่งนอกจากสะพานทาวเวอร์บริดจ์แล้ว เมืองซูโจวยังมีสิ่งปลูกสร้างเลียนแบบสถานที่ดังๆ ทั่วโลกอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น สะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์จากออสเตรเลีย สะพานอะเลคซันดร์ที่ 3 จากฝรั่งเศส รวมทั้งหมู่บ้านชาวดัชต์ที่มีกังหันลมอีกด้วย รายงานยังกล่าวอีกว่า สะพานทาวเวอร์บริดจ์เวอร์ชั่นจีนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเหล่าคู่รักที่ต้องการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งสไลต์ยุโรป . . อย่างไรก็ตามเมื่อภาพของสะพานดังกล่าวถูกเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ต ก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตมากมาย แม้กระทั่งชาวเน็ตจีนเองบางคนก็ยังรู้สึกว่ามันไม่น่าภูมิใจเท่าไรเลย โดยชาวเน็ตท่านหนึ่งกล่าวว่า “เมืองซูโจวก็มีประวัติศาสตร์และโบราณสถานอันแสนงดงามมากมาย ทำไมเราต้องขโมยของคนอื่นมาด้วยล่ะ” อีกท่านกล่าวว่า “ตอนสร้างนี่ขออนุญาตจากอังกฤษหรือยังเนี่ย” ลองชมภาพในมุมอื่นๆ…
-
สเปนเปิดบริการ “ซ่องตุ๊กตายาง” เป็นแห่งแรกของยุโรป เอาใจชายหนุ่มวัยกลัดมัน!!
ก่อนหน้านี้มีการพูดถึง “สถานบริการตุ๊กตายาง” หรือ “ซ่องตุ๊กตายาง” ซึ่งอยู่ในประเทศญี่ปุ่นกันมาบ้างแล้ว โดยสถานที่เหล่านี้ถือเป็นที่สนองความต้องการของชายญี่ปุ่น ที่ชื่นชอบการลองของแปลกใหม่ มากกว่าที่จะมีเซ็กส์กับคนธรรมดาอย่างในซ่องประเทศไทยเรา (เอ๊ย ลืมไปเมืองไทยไม่มีซ่องเนอะ ^^) และเพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่านอกจากซ่องดังกล่าวจะมีที่ญี่ปุ่นแล้ว ตอนนี้ที่เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ก็ได้เปิดให้ใช้บริการซ่องตุ๊กตายางแล้วเช่นกัน เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า ในตอนนี้ที่ประเทศสเปนได้ถือกำเนิด “ซ่องตุ๊กตายาง” เป็นแห่งแรกในยุโรป เพื่อให้ลูกค้าที่ชื่นชอบความแปลกไม่เหมือนใคร ได้เข้ามามีเพศสัมพันธ์กับตุ๊กตาโดยเฉพาะ เมื่อคุณผู้ชายทั้งหลายได้เดินทางมายังซ่องตุ๊กตายางแห่งนี้ คุณจะได้พบกับตุ๊กตาสาวแสนสวยที่รออยู่ในห้องใช้บริการ ซึ่งภายในห้องจะประดับไปด้วยแสงไฟจากแสงเทียน นอกจากนี้ คุณยังสามารถฟังเพลง และดูหนังบนจอทีวีขนาดใหญ่ได้ตามต้องการ โดยจะมีค่าใช้บริการชั่วโมงละประมาณ 3,200 บาทไปจนถึง 4,700 บาท ทางด้านเจ้าของได้ออกมาเผยว่า “ตุ๊กตาของพวกเขาจะทำให้คุณได้รับความรู้สึกราวกับได้มีเพศสัมพันธ์จริงๆ และแน่นอนว่าพวกเธอจะทำให้คุณรู้สึกพึงพอใจ ตื่นเต้น และเร้าอารมณ์ที่สุด” ในส่วนของตุ๊กตายาง ได้ผลิตมาจากซิลิโคนทั้งหมด มีน้ำหนักประมาณ 40 กิโลกรัม และมีราคาตัวละประมาน 200,000 บาท หากลูกค้าท่านใดที่ได้เข้ามาใช้บริการ…
-
ชม “เมืองร้างกลางทะเลทราย” ในแคลิฟอร์เนีย ตั้งเป้าจะเป็นแบบเวกัส แต่สุดท้ายล้มเหลว…
ดินแดนแห่งนี้เคยถูกกล่าวอ้างว่า มันจะกลายเป็นดินแดนยูโทเปียที่น่าอยู่ เพียงแค่พวกคุณย้ายมาลงหลักปักฐาน ความฝันก็จะเป็นจริง แต่ความจริงมันช่างสวนทางกับความฝันที่กล่าวอ้าง เพราะดินแดนแห่งนี้มีเพียงทะเลทรายที่ว่างเปล่า ภาพถ่ายชุดนี้เผยแพร่โดยช่างภาพนามว่า Chang Kim เขาตามไปถ่ายดินแดนซึ่งครั้งหนึ่งถูกตั้งเป้าว่ามันจะเป็นสวรรค์บนดินของชาวอเมริกัน แต่เรื่องนั้นมันไม่เคยเกิดขึ้น การพัฒนานั้นหยุดนิ่ง ไม่มีใครได้เห็นว่าความรุ่งเรืองของมันจะเป็นอย่างไร จนกระทั่งผู้คนต่างพากันย้ายออกไปจนเกือบหมดตั้งแต่ราวๆ ปี 1960 “ถ้าวัดจากขนาดพื้นที่ ที่นี่เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสาม ของรัฐแคลิฟอร์เนียเลยนะ แต่ทว่าภาพที่เราเห็นมันกลับมีแต่พื้นที่ว่างเปล่า ไม่มีใครมาลงหลักปักฐานสักคน แถมยังมองเห็นแต่ทะเลทรายกว้างใหญ่ไพศาลสุดๆ รวมถึงไม่มีสัญญานของการพัฒนาอะไรเลย” “ถ้ามองดูจากภาพมุมสูงจะเห็นว่าเหลือเพียงถนน ที่ทำให้เห็นผังเมืองที่วางมาอย่างดี ซึ่งผู้คนในยุคนั้นต่างฝันที่จะตามหาเหมืองทองเพื่อจะได้สร้างชีวิตที่มั่งคั่งและลงหลักปักฐานที่นี่ แต่สุดท้ายเพียงแค่กี่ปีที่แห่งนี้ก็แปรเปลี่ยนเป็นเพียงแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ” “ถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงสนใจที่ดินแห่งนี้ถึงแม้มันจะรกร้างเหลือแต่เพียงเศษดิน แต่ทว่าความล้มเหลวก็เป็นความโรแมนติคอย่างหนึ่ง ทำให้ผมเกิดคำถามขึ้นกับตัวเองว่า ทำไมคนเราต้องสร้างตัวเลือกให้ตัวเอง และคิดว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดในตอนนี้จะส่งผลถึงอะไรในอนาคต “ จะเห็นได้ว่ามันถูกออกแบบมาเป็นเมืองในทะเลทรายอันยิ่งใหญ่ จนอาจจะยกชั้นเทียบ “ลาส เวกัส” ได้เลยทีเดียว มีร่องรอยของชุมชนเล็กๆ ซึ่งผู้คนแทบจะย้ายออกไปหมดแล้ว ขณะที่บ้านบางหลังก็ยังคงอยู่ พร้อมป้ายประกาศขายบ้านและที่ดิน ซึ่งหาคนมาซื้อต่อได้ยากเต็มที .…
-
สเปนแต่งตั้งรัฐมนตรีกระทรวง ‘เซ็กส์’ ขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่กระตุ้นให้ประชากรมีลูกมากขึ้น!?
เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เมื่อประเทศสเปนได้ทำการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ‘เซ็กส์’ คนแรกขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่กระตุ้นให้ประชากรมีลูกกันมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลได้ตั้งความหวังไว้ว่าต้องการที่จะเพิ่มยอดตัวเลขของอัตราการเกิดที่ลดน้อยลงจนอยู่ในระดับต่ำที่สุดของประเทศที่พัฒนาแล้ว ท่านนายกรัฐมนตรีของประเทศสเปน Mariano Rajoy ได้ทำการแต่งตั้งให้ Edelmira Barreira ขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเซ็กส์ หลังจากที่ประเทศกำลังพบกับปัญหาประชากรอย่างหนัก หลังจากสำรวจจำนวณประชากรแล้วพบว่ามีอัตราการเกิดต่ำว่าการตาย ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทางด้านผู้เชี่ยวชาญได้ให้ความเห็นว่าสาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน และวัฒนธรรมการทานอาหารช่วงดึก เข้านอนหลังเที่ยงคืน เป็นต้นเหตุที่ทำให้ประชากรมีเพศสัมพันธ์กันน้อย ตั้งแต่ช่วงปี 2008 ตัวเลขของจำนวณการเกิดในประเทศสเปนนั้นลดลงเหลือเพียง 18% เท่านั้น ขณะที่คู่รักที่ไม่มีลูกก็กระโดดเพิ่มขึ้นมาถึง 3 เท่า จากจำนวณ 1.5 ล้านคู่ เมื่อปี 1977 มาเป็น 4.4 ล้านคู่เมื่อปี 2015 จากข้อมูลพบว่าผู้หญิงชาวสเปนส่วนใหญ่นั้นต้องการอยากจะมีลูกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป แต่มาถึงปี 2015 ผู้หญิงในช่วง 18 ถึง 49 ปี มีลูกโดยเฉลี่ย 1.3 คนเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขค่าเฉลี่ยของ EU…
-
ลูกช้างผู้น่าสงสาร ยืนเฝ้าร่างแม่ที่ถูกมนุษย์พรากชีวิตไป เพียงเพราะอยากได้ ‘งา’
กระสุนเพียงแค่ 1 นัด เปลี่ยนชีวิตของเจ้าช้างน้อย Zongoloni ไปตลอดกาล… ในช่วงเดือนกันยายนปี 2013 มีคนพบเห็นแม่ช้างตัวหนึ่งกำลังได้รับบาดเจ็บนอนอยู่ใกล้ๆ กับพุ่มไม้ในประเทศเคนย่า ข้างๆ ตัวของมันมีลูกช้างตัวเล็กคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ ซึ่งก็คือเจ้า Zongoloni ที่ตอนนั้นมีอายุเพียงประมาณ 18 เดือนเท่านั้นเอง ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า David Sheldrick Wildlife Trust (DSWT) และ Kenya Wildlife Service Tsavo Mobile Veterinary Unit ได้รับแจ้งเหตุการณ์ดังกล่าว พวกเขาจึงรีบส่งเจ้าหน้าที่ไปยังที่เกิดเหตุในทันที พอได้พบกับคู่แม่ลูกแล้วเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการวางยาสลบช้างตัวแม่ เพื่อทำการรักษาบาดแผลที่ได้รับจากการโดนยิง และก็พบว่ากระสุนถูกยิงไปโดนบริวณขาด้านขวา ทำให้กระดูกของมันแตกละเอียด ทีมช่วยเหลือได้ทำความสะอาดบาดแผล และให้ยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ ทุกอย่างที่จำเป็นไปหมเแล้ว แต่การที่กระสุนถูกฝังเข้าไปในกระดูกลึกมาก พวกเขาก็ไม่มั่นใจว่าเจ้าแม่ช้างจะรอดชีวิตหรือไม่ สองสัปดาห์ต่อมาเรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้น หลังจากที่พยายามอย่างสุดความสามารถ แม่ช้างก็ไม่สามารถลุกขึ้นเดินได้ร่างกายของมันกลายเป็นอัมพาตเนื่องจากกระสุน 1 ลูกที่สร้างความเสียหายให้กับกระดูกของมัน ไม่นานก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวจากโลกนี้ไปอย่างสงบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มั่นใจว่าเจ้าแม่ช้างตัวนี้เป็นเป้าหมายของกลุ่มค้างาช้างอย่างไม่ต้องสงสัย ทีมช่วยเหลือเองก็เป็นกังวลว่าเจ้า Zongoloni จะเติบโตมามีร่างกายที่แข็งแรง เพราะมันยังอยู่ในวัยที่ต้องการน้ำนมและความอบอุ่นจากแม่อยู่…
-
ชายอังกฤษได้รับโอกาสทำงานอีกครั้ง หลังตกงานมานานกว่า 30 ปี เพราะติด ‘เฮโรอีน’
สำหรับคนที่เคยเดินทางผิดพลาด และเสียโอกาสในชีวิตมากมายไปกับ ‘ยาเสพติด’ จะรู้กันดีว่าการกลับมาในโลก หรือสังคมปกตินั้นจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ… และในที่สุดนาย John Clarke วัย 47 ปี ก็ได้รับการจ้างงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากที่กลายเป็นคนติดเฮโรอีนมายาวนานกว่า 30 ปี John อาศัยอยู่ในมณฑล Devon ประเทศอังกฤษ เขาดล่าว่าตัวเองนั้นได้เสพย์เฮโรอีนมานานกว่า 25 ปี แต่ล่าสุดเขาได้ตัดสินใจเข้ารับการบำบัดและใช้เวลาถึง 3 ปีกว่าจะเลิกได้ในที่สุด เขาเล่าว่า “ผมเป็นคนที่น่ารังเกียจมากๆ ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาผมใช้เวลาไปกับการทำอาชญากรรม เพื่อหาเงินไปซื้อยามาเสพ” แต่หลังจากที่นำมันออกไปจากชีวิตได้ John ก็สามารถเอาชนะตัวเองได้ และได้รับสัญญาการจ้างงานเป็น Support Worker (พนักงานช่วยเหลือคนยากลำบาก) แม้จะเป็นสัญญาระยะสั้นก็ตาม “แม่ของผมดีใจเป็นบ้าเป็นหลังที่รู้ว่าผมจะได้งานทำแล้ว ผมรู้สึกภูมิใจมากๆ ที่เห็นเธอดีใจ” John เล่า เขาจะเริ่มงานในโรงแรมโฮสเทลสำหรับคนไร้บ้านในเมือง Exeter เป็นระยะเวลา 3 เดือน และเขาตั้งใจเอาไว้ว่าจะช่วยเหลือผู้คนอีกมากมาย “ผมจะพิสูจน์ให้เห็นว่าผมไม่ใช่คนเกียจคร้านอีกต่อไปแล้ว ผมไม่มีหนี้ ไม่เป็นอะไรเลย เงินที่หามาได้อย่างสุจริต…
-
รู้จักกับประเพณีเก่าแก่ของชาวอินโดฯ หากใครมีชู้จะโดนลงโทษ ถูกเฆี่ยนต่อหน้าฝูงชน!!
เชื่อว่าประเพณีเก่าแก่ของชาวอินโดนีเซียที่เราเอามาเล่าสู่กันฟังนี้ อาจทำให้คนที่เคยถูกหักอกเพราะคนรักแอบไปเล่นชู้ ต้องเห็นดีเห็นงามด้วยแน่ๆ ก่อนอื่นขอเล่าก่อนว่าที่ประเทศอินโดนีเซีย ประชากรส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาอิสลามเป็นหลัก และตามกฏหมายของอิสลาม (ชะรีอะห์) ห้ามชายหญิงมีอะไรกัน หากพวกเขาไม่ได้แต่งงานตามประเพณีอย่างถูกต้อง และอาเจะฮ์ก็เป็นเพียงจังหวัดเดียวในประเทศ ที่มีการบังคับใช้กฏหมายของอิสลามอย่างเต็มรูปแบบ จึงทำให้ที่นี่ยังคงไว้ซึ่งประเพณีการเฆี่ยนตีชายหญิงที่แอบเล่นชู้จนถึงกับสลบ!! ชายผู้ถูกลงโทษ ที่จังหวัดอาเจะฮ์ จะมีศาลทางศาสนาคอยกำกับดูแลเรื่องพวกนี้อยู่ โดยสำนักข่าว Dailymail ได้เล่าว่าชายหนุ่มคนดังกล่าวถูกจับได้ในข้อหา ‘แอบอยู่กับเพศตรงข้ามในที่ลับตาคนยามวิกาล’ เขาถูกศาลตัดสินให้โดนเฆี่ยน 22 ครั้ง ชายหนุ่มในรูปถูกเฆี่ยนไป 14 ครั้งจนเขาไม่สามารถต้านทานความเจ็บปวด และสลบไปในที่สุด แต่ก็ใช่ว่าโทษจะจบเพราะการลงโทษจะมีทีมแพทย์คอยเฝ้าดูอาการของคนถูกเฆี่ยนเสมอ โดยแพทย์ได้วินิจฉัยว่าร่างกายของเขายังไหวอยู่ ถึงจะสลบไปแล้วแต่สุดท้ายเขาก็ต้องถูกนำตัวขึ้นไปเฆี่ยนตีต่อให้ครบ 22 ครั้ง ไม่ใช่แค่เรื่องการแอบไปมาหาสู่กันอย่างลับๆ เท่านั้นที่มีโทษรุนแรง เพราะที่นี่ทุกคนจะถูกสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวการพนัน ดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่รักร่วมเพศ ซึ่งที่อาเจะฮ์นี้ถูกปกครองโดยกฏหมายอิสลามอย่างเต็มรูปแบบ มาตั้งแต่ช่วงปี 2001 โน้นแล้วล่ะ ซึ่งทางรัฐบาลอินโดฯ ได้จัดให้ที่นี่เป็นเหมือนเขตการปกครองพิเศษ พวกเขาจึงมีศาล กฏหมาย และกระบวนการลงโทษตามศาสนาอิสลามอย่างเต็มรูปแบบ หญิงสาวอีกคนที่ถูกทำโทษท่ามกลางฝูงชน ย้อนกลับไปในเมื่อปี 2014 ศาลศาสนาของอาเจะฮ์…
-
เผย 3 เหตุผลหลักที่ว่า ทำไมตัวการ์ตูนดิสนีย์หลายๆ ตัว ถึงต้องสวมถุงมือสีขาว!!
เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงจะเป็นแฟนการ์ตูนดิสนีย์ แล้วคุณเคยสังเกต หรือสงสับกันบ้างหรือไม่ว่า เอ…ทำไมตัวละครหลายๆ ตัวถึงต้องใส่ถุงมือน้า อืม…น่าคิดเหมือนกันนะ ว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร และในวันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้ว และคุณจะร้องอ๋ออออ เมื่อได้รู้ความจริง!! สำหรับตัวละครดิสนีย์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นตัวแรก และได้สวมถุงมือก็คือ มิกกี้ เมาส์ ที่ได้ปรากฏตัวครั้งแรกใน Plane Crazy ปี 1982 แต่ในขณะนั้นมิกกี้ถูกสร้างขึ้นมาให้สวมถุงมือสีดำ แต่ต่อมาถุงมือก็ได้เปลี่ยนไปเป็นสีขาวที่เราคุ้นตากันมาจนถึงทุกวันนี้ แล้วเพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนเป็นถุงมือสีขาวคืออะไร ถ้าอยากรู้ก็ตามมาดูกันได้เลย 1.ประหยัดเวลา การวาดเท้า และมือในทุกๆ ภาพของการวาดการ์ตูน อาจจะต้องใช้เวลาในการทำงานอย่างหนัก ดังนั้น เพื่อเป็นการประหยัดเวลาให้ได้มากที่สุด ทางผู้สร้างก็เลยวาดตัวละครเหล่านั้น โดยที่ไม่เน้นรายละเอียดที่ยิบย่อยมากเกินไปยังไงละ 2.ทำให้เห็นสีตรงกันข้ามได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะการได้รับชมภาพขาวดำในอดีต ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะแยกตัวละครที่เป็นสีดำ และถุงมือสีดำออก ดังนั้น การเปลี่ยนเป็นถุงมือสีขาวจะสามารถช่วยให้มือ เท้า และการเคลื่อนไหวของตัวละครมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น 3.อยากให้เหมือนมนุษย์มากที่สุด ในหนังสือชีวประวัติของวอลท์ ดิสนีย์ ได้เผยว่า “เราไม่ได้ต้องการที่มิกกี้ เมาส์ มีมือเหมือนหนู…
-
Game of Clones รายการหาคู่ พาหนุ่ม/สาว ในสไตล์ที่คุณชอบ 8 คน มาอยู่บ้านเดียวกัน!!
เราอาจเคยดูรายการหาคู่มาหลากหลายรูปแบบ อย่างในไทยก็ Take Me Out Thailand หรือต่างประเทศก็ The Bachelor & Bachelorette ซึ่งรายการแต่ละรายการก็จะมีรูปแบบที่คล้ายๆ กัน (มีชาย/หญิงมาให้แขกรับเชิญเลือก) แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับรายการออกเดตสุดแปลก ที่จะพาสาวๆ หรือ หนุ่มๆ ตามสเป็คของคุณ 8 คน มาอยู่บ้านเดียวกัน เพื่อหาคนที่เหมาะสมที่สุด กับรายการ Game of Clones รูปแบบของรายการก็คือ ทางรายการจะให้ผู้เข้าแข่งขันบอกสเป็คชายหนุ่มหรือหญิงสาวที่ตนเองชอบ ต่อมารายการก็จะจัดคู่เดท 8 คนที่ตรงตามสเป็คซึ่งแต่ละคนจะถูกจับแต่งตัว แต่งหน้า ทำผมให้เหมือนกันเป๊ะๆ จากนั้นทั้งหมดก็จะอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ สุดท้ายก็จะผู้เข้าแข่งขันก็จะเลือกคนที่ตัวเองชอบมากที่สุดหนึ่งคน David Flynn ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Youngest Media ซึ่งเป็นเจ้าของรายการดังกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า “มันเป็นเหมือนฝันเลยที่คุณจะได้ออกเดทกับคนที่ตรงตามสเป็คของคุณ แถมตั้งแปดคนแหน่ะ” “แต่เมื่อรูปลักษณ์ภายนอกของพวกเขาเหมือนกันหมด สิ่งที่สำคัญต่อมาคือลักษณะนิสัยภายในนั่นเอง หวังว่ารายการนี้จะสร้างความเซอร์ไพรซ์และความสนุกให้กับผู้ชมนะ” ลองดูคลิปรายการของพวกเขากันดู…
-
รู้จัก “วาฬสีน้ำเงิน” เกมลึกลับ ที่อยู่เบื้องหลังการฆ่าตัวตายของวัยรุ่นรัสเซียกว่า 130 คน
ทุกวันนี้สื่อโซเชียลมีเดียถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างอิทธิพลทางความคิดและส่งผลกระทบต่อวัยรุ่นเป็นอย่างมาก เพราะโดยธรรมชาติแล้ว วัยรุ่นเป็นวัยที่ต้องการการยอมรับจากคนรอบข้างอยู่เสมอ แต่จะเป็นอย่างไรหากมีกลุ่มโซเชียลมีเดียกลุ่มหนึ่ง พยายามยั่วยุให้วัยรุ่น “ฆ่าตัวตาย” จนกระทั่งตอนนี้ก็มีผู้หลงเชื่อไปแล้วกว่า 130 คน Yulia Konstantinova วัย 15 ปี เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ Yulia Konstantinova วัย 15 ปี และ Veronika Volkova วัย 16 ปี สองสาววัยรุ่นชาวรัสเซียได้ก่อเหตุฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึกสูง 14 ชั้น (Veronika Volkova วัย 16 ปี) ทั้งสองเติบโตมาในครอบครัวที่แสนอบอุ่นและเพรียบพร้อมไปด้วยทุกอย่าง จนไม่ว่าใครต่างสงสัยว่า เพราะเหตุใดพวกเธอจึงก่อเหตุอัตวินิบาตกรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้ ก่อนเหตุจะเกิดขึ้น Yulia ได้โพสต์คำว่า “จุดจบ” ไว้บนหน้าเพจโซเชียลมีเดียของเธอ พร้อมๆ กับภาพวาฬสีน้ำเงิน เช่นเดียวกัน Veronika กับข้อความ “ความรู้สึกหายไปแล้ว จบกันที” และหลายๆ ครั้งเธอโพสต์ข้อความอันแสนหดหู่ออกมาเช่น “เคยรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่ามั้ย” หรือ “ฉันเป็นแค่วิญญาณ”…
-
บ.ญี่ปุ่นเตรียมวางขายเสื้อยืด “ปกปิดหัวนม” สำหรับผู้ชาย มั่นใจได้ไม่แพลมแน่นอน!!
ในปี 2013 มีการสำรวจความเห็นของสาวๆ ชาวญี่ปุ่นพบว่า 84 เปอร์เซ็นต์บอกว่า ผู้ชายที่ใส่เสื้อแล้วเห็นหัวนมเป็นสิ่งที่น่าเกลียดเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่ที่สวมเสื้อขาว ก็ไม่ค่อยชอบใส่เสื้อซ้อนข้างใน (อาจเป็นเพราะมันร้อน) จนเกิดเหตุการณ์หัวนมแพลมบ่อยๆ ล่าสุดทางบริษัท Seiso Shiro T Production Committee ได้ปล่อยเสื้อยืดสีขาวรุ่นใหม่ออกมา ที่พวกเขารับประกันเลยว่า จะไม่มีหัวนมแพลมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยพวกเขากล่าวว่า เสื้อดังกล่าวใช้เวลาในการพัฒนาถึง 2 ปี ด้วยเทคนิคการเย็บพิเศษของญี่ปุ่นสำหรับการผลิต รวมทั้งใช้ผ้าฝ้ายชนิดพิเศษทำให้มีน้ำหนักเบาและสามารถกันน้ำได้ (แต่อย่าถึงขั้นใส่ลงไปว่ายน้ำนะ อันนั้นก็ไม่ไหว) ลองไปชมคลิปนำเสนอของพวกเขากันดู สนนราคาอยู่ที่ตัวละ 9,000 เยนหรือราว 2,700 บาท และเริ่มวางขายในช่วงวันที่ 3 มีนาคมที่จะถึงนี้ ใครสนใจก็ลองไปหาซื้อกันได้นะฮะ หมดปัญหาหัวนมแพลมอย่างแน่นอน ที่มา odditycentral
-
แม้จะอ้วกเป็นสายโลหิต เกมเมอร์ก็ไม่ยอมทิ้ง “สหายร่วมรบ” เป็นอันขาด พวกเราต้องชนะ!!
หลายๆ ครั้งที่เราจะมักพบเห็นข่าววัยรุ่นจีนเกิดเหตุการณ์ผิดปกติขึ้นขณะที่พวกเขาใช้เวลาอยู่ในอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เป็นเวลานานๆ ไม่ว่าจะทั้งสลบไปหรือหรือเลวร้ายกว่านั้นก็คือถึงตายก็ตาม ซึ่งล่าสุดมันก็ได้เกิดขึ้นกับชายคนหนึ่งในมณฑลอานฮุย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันพุธ ที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยทางตำรวจในมณฑลอานฮุย รับสายฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยหลังจากที่มีชายคนหนึ่งในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ล้มพับลงไปกับพื้นพร้อมกับเริ่มที่จะกระอักเลือดออกมา ตำรวจได้รายงานว่า พวกเขารีบเร่งไปที่เกิดเหตุก็พบกับชาวคนนี้นอนกระอักเลือดพร้อมกับหมดสติอยู่บนพื้นแล้ว ซึ่งจากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุก็ได้รู้ว่านายคนนี้ได้เล่นเกมในร้านแห่งนี้มานานกว่า 9 ชั่วโมงติดต่อกันแล้วโดยที่ไม่พักเลย หลังจากนั้นไม่นานรถพยาบาลก็ได้มาถึงเพื่อจะพาเขาไปรักษา แต่ทว่าอยู่ดีๆ ชายหนุ่มคนนี้ก็เหมือนจะได้สติขึ้นมาก่อนที่รถพยาบาลจะออกตัว พร้อมกับนึกได้ถึงสิ่งที่เขากำลังทำพร้อมพูดกับเจ้าหน้าที่ว่า “พาฉันกลับไป พวกเรากำลังจะชนะอยู่แล้ว!!” แน่นอนว่าทางเจ้าหน้าที่ย่อมไม่ยอม พวกเขาปิดเกมคอมนายคนนี้ลงและพาเขามุ่งตรงไปที่โรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษา เพราะว่าอาการอาเจียนออกมาเป็นเลือดนี่แสดงว่าร่างกายผิดปกติบางอย่าง จนสุดท้ายอาการของเขาก็กลับมาดีขึ้นนั่นเอง . สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะทำอะไร ถ้าทำจนหักโหมเกินไปมันก็ล้วนไม่ดีต่อสุขภาพทั้งนั้น ฉะนั้นอย่าลืมดูแลสุขภาพและทำกิจกรรมอะไรให้มันแต่พอดีนะครับ เพื่อตัวคุณเอง ถึงแม้จะไม่รู้ว่านายคนนี้เล่นอะไร แต่อย่ารีพอร์ตเขาเลยนะ เขาอยากจะพาทีมชนะจริงๆ แต่ร่างกายมันไม่ไหวแล้ว ที่มา shanghaiist
-
กระทรวงศึกษาญี่ปุ่น เร่งพัฒนา “ภาษาอังกฤษ” เพื่อโอลิมปิก 2020 เพราะผลสอบยังไม่น่าพอใจ!?
เป็นที่รู้กันดีว่าญี่ปุ่นจะได้เป็นเจ้าภาพงานโอลิมปิกในปี 2020 ที่จะถึงนี้ แล้วด้วยเหตุนี้ทางญี่ปุ่นก็ได้เริ่มที่จะเตรียมการรับมือกับอีเวนท์ใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้หลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของ “ภาษา” นั่นเอง ญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีกำแพงภาษาสูงมากๆ ทำให้ภาษาอังกฤษเป็นอะไรที่ยากสำหรับชาตินี้พอสมควร และหลังจากโตเกียวได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิคมาตั้งแต่ปี 2014 ภาครัฐจึงต้องเร่งเตรียมความพร้อมรับมือ เมื่อเห็นเป็นดังนั้นทางกระทรวงศึกษาธิการ จึงเห็นว่าควรจะเพิ่มศักยภาพให้กับประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนในประเทศเพื่อรองรับโอลิมปิคที่กำลังจะมาถึง ซึ่งสิ่งที่พวกเขาจะไปเพิ่มก็คือ คาบเรียนภาษาต่างประเทศที่จะเน้นความสนุกสนานในการเรียน ให้กับนักเรียนชั้นประถมเป็นหลัก รวมถึงการทดสอบความรู้ของตัวนักเรียนและอาจารย์ด้วย เพื่อจะให้การพัฒนานี้สัมฤทธิ์ผลทางกระทรวงมองเห็นว่าต้องเริ่มจากตัวอาจารย์ที่เป็นคนสอนให้นักเรียนก่อน โดยกระทรวงจะให้เหล่าอาจารย์เข้ารับการทดสอบ TOEIC เพื่อประเมินผลทักษะทุกๆ วัน ซึ่งล่าสุดจากการทดสอบอาจารย์ในเขตการศึกษาเกียวโตที่ถูกทดสอบมีจำนวนทั้งหมด 74 คน แถมผลลัพธ์ยังออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยด้วย ทางกระทรวงตั้งเป้าคะแนนไว้ที่ 730 จาก 990 แต่เรื่องที่น่าเศร้าสุดๆ จากการทดสอบครั้งนี้คือมีอาจารย์เพียง 16คนเท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด แถมแย่ไปกว่านั้นมีอาจารย์มากถึง 14 คนที่คะแนนไม่ถึง 500 ด้วยซ้ำซึ่งคะแนนต่ำสุดอยู่ที่ 280 เท่านั้น กระทรวงจึงตั้งเป้าไว้เป็นเวลา 3 ปีเพื่อเพิ่มคุณภาพภาษาให้กับประชากรในประเทศ ที่สำคัญกระทรวงยังบอกอีกว่าก่อนจะไปเพิ่มคุณภาพในส่วนของ วัฒนธรรม กีฬา เทคโนโลยีและอื่นๆ ควรจะพัฒนาภาษาอังกฤษเป็นอย่างแรกนั่นเอง ต้องบอกว่าญี่ปุ่นเขาตั้งใจเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาคโอลิมปิกจริงๆ แถมการทำแบบนี้ยังส่งผลในระยะยาวเรื่องของคุณภาพประชากรด้วยนะเนี่ย…
-
เข้ากันม๊ากมากกก… จีนสร้าง “ไอรอนแมน” ขนาดยักษ์ เคียงคู่กับ “สฟิงซ์” มันเกี่ยวอะไรกัน!?
สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มักจะมีคอนเซปท์และธีมการท่องเที่ยวเป็นของตนเอง อย่างเช่น สวนดอกไม้ก็จะตกแต่งไปในทางเดียวกัน สวนประวัติศาสตร์ หรือสวนสนุกแนวไดโนเสาร์ก็มีแนวแบบนั้น ถ้ามันเกิดมีการตกแต่งอะไรที่ต้องผสมผสานกัน ก็ต้องย่อมมีความลงตัวมากยิ่งขึ้น แต่คงใช้ไม่ได้กับสถานที่แห่งนี้… เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ The World Cultural Heritage Expo Park ในมณฑลอานฮุย ซึ่งเป็นที่ๆ เดียวกับที่มีรูปปั้น (สฟิงซ์ ก็อปปี้เกรด เอ) ที่สร้างขึ้นในปี 2015 คู่กับปิรามิดลูฟ แต่ทว่าปีรามิดและสฟิงซ์ ก็ไม่สามารถที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้อีกต่อไป จึงทำทาง Expo Park ต้องคิดวิธีใหม่ออกมาเพื่อเรียกคน อะไรที่มันโมเดิร์น อะไรที่คนรุ่นใหม่จะชอบ จนสุดท้ายก็เกิดเป็น ไอรอนแมนเวอร์ชั่นฮัคบัสเตอร์ ขนาดยักษ์ขึ้นมา ซึ่งเจ้าไอร่อนแมนตัวนี้เป็น ไอร่อนแมนรุ่นฮัลค์บัสเตอร์ ที่มีขนาดสุงถึง 30 เมตรเลยทีเดียว แต่ทว่ารายละเอียดของตัวไอร่อนแมนตัวนี้ แม้จะดูจะพิการไม่ค่อยเหมือนต้นแบบสักเท่าไหร่ แต่ก็คงจะพอช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้บ้าง นอกจากสฟิงซ์และไอร่อนแมนก็อปเกรด เอ แล้วที่ Expo Park แห่งนี้ก็พึ่งจะเปิดตัว ทหารดินเผาก็อปปี้ขน่าด 1 ต่อ…
-
ร่วมพิสูจน์ทฤษฎี “การเปลี่ยนทรงผม” ช่วยทำให้ดูเด็กลงได้ โดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม…
ผู้หญิงหลายคนมีวิธีการทำให้ใบหน้าของตัวเองดูอ่อนวัยลงในแบบที่แตกต่างกันออกไป หลายคนอาจจะไปพึ่งการทำศัลยกรรมความงาม หรือบางคนอาจเน้นไปที่การแต่งหน้า และนอกจากนี้ที่กล่าวมาแล้ว สาวๆ รู้หรือไม่ว่า “ทรงผม” ก็สามารถช่วยลดอายุได้เหมือนกัน วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า Maria Matthews นักออกแบบ และตกแต่งภายใน วัย 51 ปี จากซัมเมอร์เซ็ท ได้ออกมาพิสูจน์แล้วว่า “ทรงผม” สามารถทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยได้จริงๆ และนี่คือ Maria Matthews กับภาพก่อนและหลังการทำทรงผมของเธอ ซึ่งมีผลทำให้ใบหน้าดูเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าเหลือเชื่อ สำหรับ Maria เธอไม่เคยคิดที่จะทำศัลยกรรมตกแต่งใดๆ เลย แต่เคล็ดลับที่อยู่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของเธอนั้น มันได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ได้ไปเยือนร้านทำผม และเมื่อ Maria ได้ทดลองเปลี่ยนทรงผมของตัวเอง ก็ทำให้เธอได้ค้นพบว่า การเปลี่ยนทรงผมมันดีเท่ากับการทำศัลยกรรมดึงหน้าเลยละ แถมยังมีราคาถูกกว่าด้วยนะ จากการระบุว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยจากประเทศอังกฤษ ได้ออกมาเผยถึงสถิติการทำศัลยกรรมของผู้หญิงในปีที่แล้วซึ่งลดลงถึงร้อยละ 39 อีกทั้งในปี 2015 ก็มีอัตราการทำศัลยกรรมลดลง โดยการผ่าตัดยกคิ้วลดลงถึงร้อยละ 71 ในขณะที่การยกกระชับหน้าและคอลดลงถึงร้อยละ 53…
-
พิธีกรหนุ่มมือบอน อดใจไม่ได้แอบจับก้นนางแบบออกสื่อ จนโดนตีกลางรายการ!!
กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว หลังจากพิธีกรหนุ่มคนหนึ่งดันมือบอน แอบจับก้นนางแบบสาวในรายการ จนเธอทุบตีเขากลางรายการ เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ Rayssa Teixeiro Melo ไปสาธิตผลิตภัณฑ์กันแดดยี่ห้อหนึ่งในรายการทีวีรายการหนึ่งในประเทศบราซิล ซึ่งเธอย้ำเสมอว่าเธอไม่สะดวกใจที่จะมีการแตะต้องตัวบริเวณที่ต่ำกว่าเอว โดยระหว่างการออกอากาศนั้น เธอพยายามส่งสัญญาณหลายๆ ครั้งว่า อย่าแตะเนื้อต้องตัวบริเวณอื่นนอกจากท้อง แขน และต้นขาช่วงบน แต่ทันใดนั้นเอง หนึ่งในพิธีกรก็เอื้อมมือมาจับบริเวณก้นของเธอซะอย่างงั้น เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก เธอจึงทุบตีพิธีกรคนดังกล่าวกลางรายการเลยทีเดียว สุดท้ายเธอก็เดินออกไปจากสตูดิโออย่างไม่พอใจ และทิ้งให้แขกท่านอื่นๆ ยืนงงอยู่อย่างนั้น ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันดูดีกว่า เมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นในมุมมองที่แตกต่างกัน “โป๊ขนาดนี้ ยังมาถามหาความเคารพอะไรอีก” “เกี่ยวอะไรกัน ถึงเธอจะแก้ผ้ามา เขาก็ไม่มีสิทธิ์แตะตัวเธอ” “นั่นมันร่างกายของเธอ ไม่มีใครมีสิทธิแตะต้องตัวเธอทั้งนั้น” “เขาทำผิด ตอนที่เธอบอก เขาควรจะฟังและเชื่อเธอนะ” เอาเข้าจริงๆ แล้วถึงจะเป็นการโชว์เรือนร่างให้มองเห็นได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถแตะต้องตัวได้เสมอไปนะ ที่มา metro
-
จำได้ไหม?? “Crazy Frog” เพลงแด๊นซ์จากยุค 90s ผ่านไป 20 ปีแล้ว ไวเหมือนโกเจ็ด!!
หากย้อนกลับไปเมื่อช่วงยุค 90 หลายๆ คนคงจะรู้กันดีว่ามันมีเพลงแด๊นซ์ที่มีสำเนียงแปลกๆ ฟังแล้วติดหูอยู่เพลงหนึ่ง และเนื้อเพลงยังไม่มีx่าอะไรเลย เพลงนั้นก็คือเพลง Crazy Frog ที่มีเจ้ากบหน้าตากวนบาทามาร้องรำทำเพลง ดูแล้วน่าหงุดหงิดสุดๆ และในปีนี้ก็เป็นวันครบรอบ 20 ปี ที่เพลงนี้ถือกำเนิดขึ้นมา!! ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 1997 มีนักศึกษาคนหนึ่งชื่อว่า Daniel Malmedahl ที่ได้ทำการทดลองสร้างเสียงโดยเครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal combustion engine) จากนั้นเขาก็นำมันไปอัพโหลดลงบนเว็บไซต์ และถูกค้นพบโดยช่องโทรทัศน์ Swedish TV พวกเขาจึงติดต่อขอนำมันไปเล่นออกอากาศ แต่ในตอนนั้นมันก็ยังไม่เป็นที่ติดหูของผู้คนทั่วไป กว่าจะเป็นที่นิยมและโด่งดังไปทั่วโลกก็หลังจากนั้นอีกตั้ง 6 ปี ในปี 2003 เจ้าเทปเสียงนั้นถูกนำมาประกอบกับวิดีโอของเจ้ากบสีฟ้าที่สร้างขึ้นมาโดยนักศึกษาชาวสวีเดน Erik Wernquist เขาเรียกมันว่า The Annoying Thing (สิ่งที่น่ารำคาญ) และนำมันมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์ แน่นอนว่ามันโด่งดังไปทั่วโลก หลังจากที่เล็งเห็นแล้วว่ามันน่าจะทำเม็ดเงินได้มหาศาลจึงเปลี่ยนชื่อของมันให้กลายเป็น Crazy Frog และสร้างผลงานอื่นๆ ตามมา…
-
ตำรวจเห็นชายหนุ่มต้องเดิน 5 ชม. เพื่อมาเรียนทุกวัน พวกเขาจึงระดมทุนซื้อรถใหม่ให้!!
ขณะที่สิบตำรวจตรี Kirk Keffer กำลังขับรถลาดตระเวณอยู่บริเวณถนนย่านชานเมืองแห่งหนึ่งในเมืองเบนิเซีย รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาพบกับวัยรุ่นผิวสีคนหนึ่งกำลังเดินอยู่อย่างโดดเดี่ยวกลางดึก เขาจึงขับรถเขาไปสอบถาม ชายหนุ่มคนนั้นมีชื่อว่า Jourdan Duncan วัย 18 ปี เขาเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งขณะนั้นเขาเพิ่งกลับจากการทำงานพิเศษหลังเลิกเรียน เขาบอกว่ารถของเขาเสีย จึงต้องเดินแบบนี้ไปกลับบ้านวันละเกือบ 5 ชั่วโมง เมื่อ Keffer ได้ยินแบบนั้น เขาจึงอาสาพา Duncan ไปส่งที่บ้าน ระหว่างที่นั่งรถอยู่นั้น Duncan ก็เล่าเพิ่มเติมว่า เขาทำงานพิเศษเป็นพนักงานในโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาต้องส่งตัวเองเรียนมหาวิทยาลัยรวมทั้งนำเงินบางส่วนไปช่วยจุนเจือความเป็นอยู่ที่บ้าน ทำให้แต่ละเดือนมีเงินเหลือน้อยมาก เขาจึงไม่มีโอกาสได้ซ่อมรถซักที “จริงๆ การเดินกลับก็ไม่ได้แย่นะ ผมเสียบหูฟังแล้วก็เดินชิวๆ แปปๆ ก็ถึงบ้านแล้ว” Duncan กล่าว Keffer ประทับใจในความขยันและอดทนของเด็กหนุ่มคนนี้มาก เมื่อเขากลับไปยังโรงพัก เขาเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนดังกล่าวให้กับเพื่อนตำรวจและหัวหน้าฟัง แต่เนื่องจากยังมีเงินไม่เพียงพอในการซ่อมรถยนต์ให้ สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ระดมทุนซื้อจักรยานให้กับ Duncan เพื่อปั่นไปเรียนและทำงานทดแทน “คนจำนวนมากใช้ระยะทางเป็นข้ออ้างในการไม่ทำอะไรบางอย่าง ผมอยากจะแน่ใจว่า ความขยันและความตั้งใจของเขาจะถูกมองเห็นและได้รับรางวัลตอบแทน” Keffer กล่าว …
-
“Duo” หมอนเดินทางสุดเทพพร้อมความสบาย ให้คุณพักผ่อนระหว่างเที่ยวได้ทุกท่วงท่า
ต้องยอมรับการเดินทางบนเครื่องบินถือว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดในปัจจุบัน แต่ถึงแม้เครื่องบินจะเป็นพาหนะที่เร็วที่สุด การเดินทางข้ามประเทศหรือข้ามทวีปก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลามากเหมือนเดิม แน่นอนว่าการเดินทางระยะเวลานานๆ แบบนี้ หากไม่ได้พักผ่อนอย่างเหมาะสมแล้ว กว่าจะถึงที่หมายก็หมดอารมณ์เที่ยวพอดี ซึ่งดูเหมือนว่าที่นั่งบนเครื่องบินชั้นธรรมดา จะไม่ค่อยเอื้อให้ผู้โดยสารอย่างเราๆ พักผ่อนเท่าไหร่ (ส่วนคนที่นั่งชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่งก็คงไม่มีปัญหาเรื่องนี้) แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาไปรู้จักกับอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่จะเปลี่ยนมิติการพักผ่อนระหว่างเดินทางของเพื่อนๆ ไปตลอดกาล ด้วนหมอนเดินทาง “Duo” ชิ้นนี้ “Duo” เป็นผลงานการออกแบบของกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งผู้ต้องการหมอนเดินทางที่สามารถช่วยให้เหล่านักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ระหว่างเดินทาง โดยประยุกต์จากประสบกาณ์การเดินทางกว่า 60 ประเทศทั่วโลกของพวกเขา โดยหมอนดังกล่าวสามารถใช้งานได้ถึง 4 รูปแบบที่แตกต่างกันออกไป และฟังก์ชั่นเจ๋งๆ อีก 9 อย่าง ที่จะทำให้การเดินทางของเพื่อนๆ สะดวกสบายยิ่งขึ้น หมวกปิดตาก็มี จะสวมแบบนี้ก็ได้ แบบนี้ก็ได้ หรือจะแบบนี้ก็เก๋ไม่เบา แบบไหนก็ได้ตามใจคุณ ลองไปชมวีดีโอนำเสนอของพวกเขากันดีกว่า ตอนนี้พวกเขากำลังระดมทุนกันอยู่บนเว็บไซต์ kickstarter สนนราคาอยู่ที่ชิ้นละ…
-
ยังจำได้ไหม!? “Showry” สาวสายเพี้ยนแดนกิมจิ อัดคลิปโชว์ความต๊องจนโด่งดังไปทั่วโซเชียล
เมื่อไม่นานมานี้ หลายคนคงจะเคยเห็นทั้งภาพ และคลิปวีดีโอของสาวเกาหลีสุดต๊องนางหนึ่ง ที่มักจะชอบโพสต์คลิปวีดีโอตลกๆ บ้าๆ บอๆ ไม่ว่าจะเป็นบีบซอสมะเขือเทศ วีปปิ้งครีมมาทาตัว รวมถึงการทำท่าทางตลกๆ และอีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากที่คลิปวีดีโอแต่ละคลิปของเธอ ได้ถูกนำไปโพสต์ลงในโลกออนไลน์ ต่างก็ได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตทั่วเอเชียเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ว่าไม่ว่าเธอจะลงคลิปไหนก็จะมียอดวิวพุ่งสูงกว่า 1 ล้านวิวกันเลยทีเดียว แม้ว่าในปัจจุบันเราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นตัวของเธอคนนี้ ออกมาปรากฏตัวบนโลกออนไลน์อยู่บ่อยๆ เหมือนเช่นเคย แต่ #เหมียวขี้อ้อน ก็จะขอพาเพื่อนๆ ทุกคนไปชมภาพและคลิปวีดีโอฮาๆ ของเธอกันอีกสักครั้ง ว่าแล้วก็ไปชมกันเลย สำหรับสาวเกาหลีคนนี้ เธอมีชื่อว่า Showry (Seo AE-jin) เธอได้เริ่มโพสต์คลิปวีดีโอสุดแปลกแหวกแนวของตัวเองลงใน YouTube ตั้งแต่ปี 2015 และด้วยความแปลก พร้อมทั้งความเฮฮาของเธอ จึงทำให้คลิปของแม่สาวคนนี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลกออนไลน์ และนอกจากความบ้าบอคอแตกของเธอแล้ว สิ่งที่ทำให้หนุ่มๆ ต้องกดเข้าไปดูคลิปของเธอทุกครั้ง ก็คงจะหนีไม่พ้นความเซ็กซี่ของเธอ ที่ชวนขยี้ใจหนุ่มเก่าหลี รวมถึงหนุ่มไทยซะเหลือเกิน ไม่เชื่อก็ลองดูสิ… แต่เอาเข้าจริงๆ ความเซ็กซี่ของเธอมันจะหายไปในทันที หลังจากที่เธอได้แสดงปฏิกิริยาสุดแปลก ฮร่าๆ ทางด้าน…
-
“แค่ชอบไม่เหมือนกัน ไม่ได้ฆ่าใครตาย…” คลิปวิดีโอสุดซึ้ง ให้ทุกคนเข้าใจคนรักเพศเดียวกัน
การแต่งงานอาจไม่ได้เป็นไปตามความหมายเดิมที่ผู้คนในอดีต จะต้องให้ผู้ชายแต่งงานกับผู้หญิงเท่านั้น เพราะในปัจจุบัน ต้องยอมรับเลยว่าหลายๆ ครอบครัวได้เปิดใจ และยอมรับในการแต่งงานของคู่รักร่วมเพศมากขึ้น และนี่ถือเป็นอีกหนึ่งคลิปวีดีโอผลงานโฆษณาดีๆ ที่ทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ Sydney Gay and Lesbian Mardi Gras ได้นำมาเผยแพร่เมื่อวันพุธ ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่คลิปวีดีโอดังกล่าว ได้ถูกเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างก็พากันเข้ามารับชมกันอย่างมากมาย และวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 ก็มียอดวิวสูงถึง 2 ล้านกว่าวิวแล้ว สำหรับคลิปวีดีโอได้แสดงให้เห็นเป็นภาพของสมาชิกในครอบครัวที่กำลังปาร์ตี้งานวันเกิดเล็กๆ ซึ่งพวกเขาชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน (ในคลิปได้เปรียบเป็นซอสบาร์บีคิว) แต่สำหรับผู้เป็นลูกชายของพวกเขานั้นกลับชอบในสิ่งที่แตกต่างออกไป (นั่นคือ ซอสมะเขือเทศ) และนั่นก็ทำให้ผู้เป็นพ่อดูเหมือนจะผิดหวัง หลังจากที่ลูกชายได้บอกความจริงให้เขาได้รู้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงเดินออกมาจากปาร์ตี้วันเกิด แต่สุดท้ายผู้เป็นพ่อก็เดินกลับเข้าไป พร้อมกับเข้าไปกอดลูกชายสุดรักของเขา สำหรับคลิปวีดีโอนี้ได้แสดงให้เห็นว่า แม้คนเราจะชอบในสิ่งที่แตกต่างกัน ก็ไม่ได้หมายความว่านั่นจะเป็นสิ่งที่ผิดเสมอไป เพราะถ้าหากมองอีกมุมหนึ่ง การเปิดใจยอมรับในสิ่งที่แตกต่าง อาจจะนำความสุขมาให้เราในวันข้างหน้าได้ และที่สำคัญยังทำให้คนที่เรารักมีความสุขมากๆ อีกด้วย …
-
Linkin Park ปล่อยคลิปซ้อมเพลง Heavy เวอร์ชั่นนูเมทัลให้แฟนๆ ฟัง แถมมีเร้กเก้ด้วย!!
ช่วงที่ผ่านมาเกิดกระแสบนโลกอินเตอร์เน็ต เมื่อ Linkin Park วงนูเมทัล – ร็อค – อิเล็กโทรนิก จากสหรัฐอเมริกาได้ปล่อยซิงเกิ้ลออกมาเชื่อว่า Heavy ซึ่งเพลงดังกล่าวได้รับเสียงตอบรับด้านลบจากแฟนๆ ไปอย่างล้นหลาม หลังจากพวกเขาเปลี่ยนแนวมาเป็นป๊อบจนแทบจะเป็นคนละวงจากอัลบั้มแรก (ข่าวเก่า) ล่าสุดในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางวง Linkin Park ได้ปล่อยคลิปฝึกซ้อมออกทัวร์คอนเสิร์ตออกมาบนยูทูป ซึ่งคลิปดังกล่าว พวกเขาได้เล่นเพลง Heavy เป็นเวอร์ชั่นเมทัลแบบที่แฟนๆ เรียกร้องอีกด้วย อ๊ะ ลองไปฟังกันดู จะร็อคจะมันขนาดไหน ซึ่งหลังจากเล่นเสร็จ Mike Shinoda ได้กล่าวว่า “ทำตามที่เด็กๆ เรียกร้องหน่อย” พอพูดจบ Chester ก็กล่าวต่อว่า “นี่ไงเวอร์ชั่น Hybrid Theory ที่บอก หุบปากได้แล้วนะเว้ย” นอกจากเวอร์ชั่นเมทัลแล้ว พวกเขายังมีเวอร์ชั่นเร้กเก้ด้วยนะ อ๊ะ ลองไปฟังดู อ๊ะ แฟนๆ ล่ะว่ายังไงกันบ้าง…
-
รวม 14 “สะพานลอยสัตว์” จากทั่วทุกมุมโลก ช่วยชีวิตสัตว์ป่าได้นับหมื่นต่อปี…
เป็นที่รู้กันดีว่าเวลาคนจะข้ามถนน ก็จะมีทางม้าลาย สัญญานไฟ หรือสะพานลอยไว้ให้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับคนที่ข้ามถนน แต่ว่าใช่เพียงแค่คนเท่านั้นที่จะต้องการความปลอดภัยในการข้ามถนน สัตว์ก็ต้องการเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บางประเทศมีการสร้างสะพานหรือทางเดินไว้สำหรับข้ามถนนให้กับเหล่าสัตว์ต่างๆ ให้พวกมันสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับความเจริญของมนุษย์ ซึ่งพัฒนาเข้าไปในพื้นที่ของพวกมันนั่นเอง หากย้อนกลับไปในอดีต สะพานสัตว์แห่งแรกถูกสร้างขึ้นในราวๆ ปี ค.ศ.1950 ชื่อว่า Natuurbrug Zanderij Crailoo อยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ แถมสะพานนี้ก็เป็นสะพานสัตว์ที่ยาวที่สุดอีกด้วย หน้าตาของสะพานสัตว์แรกและมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด… ฉะนั้นวันนี้เราเลยจะพาไปดูตัวอย่างของสะพานเพื่อสิ่งมีชีวิตร่วมโลกของเรากันบ้าง ทั้งสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่จากหลายๆ ประเทศ ว่าจะมีหน้าตาอย่างไรบ้าง… สะพานปู ในเกาะคริสต์มาส สะพานสำหรับสัตว์ป่าอีกแห่ง ในประเทศเบลเยียม อุโมงตรงรางรถไฟสำหรับเต่าเดินผ่านรางได้ ในประเทศญี่ปุ่น สะพานสัตว์อุทยานแห่งชาติ Banff ในประเทศแคนาดา สะพานสัตว์ป่า ในประเทศเยอรมนี สะพานสำหรับเหล่านกและสัตว์อื่นๆ ในประเทศออสเตรเลีย สะพานสัตว์ขนาดใหญ่ ในประเทศสิงคโปร์ อุโมงทางลอดสำหรับเหล่าสัตว์ ในประเทศฟินแลนด์ สะพานข้ามถนนสำหรับลิง ในประเทศบราซิล สะพานลอยสำหรับสัตว์ ในประเทศแคนาดา …
-
เด็กสาวเสียชีวิตด้วย “โรคหอบหืด” จากแพทย์ที่ปฏิเสธรักษาเพราะ “เลยเวลานัด 4 นาที”
เรื่องราวดราม่าบนโลกออนไลน์ของต่างประเทศ จากการที่เว็บไซต์ข่าวแลดไบเบิล รายงารการจบชีวิตของเด็กสาวคนหนึ่ง หลังจากหมอปฏิเสธรักษาเธอ เพราะเธอมาถึงช้ากว่าเวลานัดประมาณ 4 นาที สาวน้อยวัย 5 ขวบ Ellie-May Clark ได้จากไปอย่างกระทันหันด้วยโรคหอบหืด เนื่องจากคุณหมอ Joanne Rowe วัย 53 ปี ได้ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือเธอ ตามรายงานในภายหลังนั้นระบุว่า คุณหมอเองก็ทราบดีว่าอาการของหนูน้อยอยู่ในอันตราย และอาจจะถึงแก่ชีวิตได้ แต่ยังปฏิเสธการพบในครั้งนั้นด้วยเหตุผลเดิม ภาพที่คุณแม่ของเด็กโพสต์เอง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ให้มีการลงโทษคุณหมอ ซึ่งเมื่อโดนปฏิเสธ ทางครอบครัวก็ได้รับคำแนะนำให้กลับมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ แต่ทว่าเรื่องร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อตอนเย็นพวกเขาพบว่า เด็กสาวไม่หายใจอีกแล้ว Shanice แม่ของเด็กสาวบอกว่าเธอพบลูกของเธอไม่หายใจนานกว่า 1 ชั่วโมงแล้ว นับตั้งแต่ที่แม่ของเธอพาเธอไปนอนที่เตียงตอนกลับมาบ้าน ผลของเหตุการณ์นี้ทำให้แพทยสภาออกมาพูดถึงเหตุการณ์นี้ว่า การที่คุณหมอ Joanne ปฏิเสธจะเข้ารักษานั้นเป็นสาเหตุการตายของเด็กสาวคนนี ล่าสุดมีรายงานว่าคุณหมอคนดังกล่าวไม่ได้ถูกไล่ออก เพียงถูกพักงาน 6 เดือน แต่ยังได้รับค่าจ้างอยู่เช่นเดิม ภาพที่คุณแม่ของเด็กโพสต์เอง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ให้มีการลงโทษคุณหมอ Brandi คุณยายของเด็กสาวได้บอกว่า “พวกเราไม่เคยได้รับคำขอโทษใดๆ เลยจากปากของคุณหมอ Joanne หมอที่เอาแต่จ้องนาฬิกาห่วงแต่เวลานัดของตัวเอง…
-
31 ชุดเจ้าสาวพื้นบ้านแสนงดงาม ตามขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น จากทั่วทุกมุมโลก
พูดถึงชุดงานแต่งแล้ว ภาพที่ปรากฎในหัวของเราอาจนึกถึงภาพชุดเดรสสีขาวลายลูกไม้ ซึ่งว่ากันจริงๆ แล้วมันเป็นชุดแบบตะวันตก และแทบทุกภูมิภาคทั่วโลก ต่างก็มีชุดเจ้าสาวพื้นบ้านของตนเองซึ่งมีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จึงพาเพื่อนๆ ไปชม 31 ชุดเจ้าสาวพื้นบ้านจากทั่วโลก ที่เพื่อนๆ เห็นแล้วจะเข้าใจในทันทีว่า โลกของเรานั้นเต็มไปด้วยความหลากหลายจริงๆ ตุรกี ก่อนเจ้าสาวชาวตุรกีจะออกจากบ้านไปแต่งงาน เธอต้องสวมเข็มขัดสีแดง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสุและความโชคดี บัลแกเรีย เจ้าสาวบัลแกเรียต้องทาหน้าด้วยสีขาว ตกแต่งด้วยเครื่องประดับโลหะสีสดใส มาซีโดเนีย ตามธรรมเนียมของมาซิโดเนียนั้น เจ้าสาวต้องสวมเสื้อคลุมสีแดง ขาว และทอง เพื่อแสดงถึงความสดใสและงดงาม ศรีลังกา ในศรีลังกา ชุดเจ้าสาวมีความผสมกันระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยสวมชุดขาว พร้อมด้วยเครื่องประดับแบบพื้นเมือง ชาวคาคัสจากรัสเซีย เจ้าสาวชาวคาคัสต้องสวมชุดที่ทำมาจากขนสัตว์ ซึ่งไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะบ้านเมืองของพวกเขาหนาวติดลบแทบทั้งปี ชาวคริสต์นิกายออโธดอกซ์ เจ้าสาวชาวออโธดอกซ์จะต้องแต่งชุดขาวที่คลุมหมดทั้งตัว ยกเว้นใบหน้าและมือ ซีเรีย ชุดเจ้าสาวของชาวซีเรียจะมาในชุดหลากสีสัน ขานยาว และมีเครื่องประดับสีทอง ทาจิกิสถาน เจ้าสาวชาวทาจิกิสถานจะมาในชุดขาวที่คลุมทั้งตัว ใช่…
-
พนักงานร้านอาหารเมาท์มอย 5 ประสบการณ์แย่ๆ ของ “คู่เดท” ที่พวกเขาเคยเจอมา
เวลาที่เราอยากจะชวนใครไปเดทด้วยสักคน สถานที่แรกๆ ที่เรามักจะคิดถึงและชวนกันไปมักจะเป็น “ร้านอาหาร” เสมอๆ เพราะฉะนั้นเหล่าพนักงานในร้านอาหาร ก็มักจะได้เห็นคู่เดทเหล่านี้มาใช้บริการกันบ่อยๆ วันนี้เราเลยจะมาดูเรื่องเล่าของเดทแย่ๆ จากประสบการณ์ตรงผ่านปากพนักงานร้านอาหาร ที่เขาจะออกมาเล่าให้พวกเราได้ฟังว่า ประสบการณ์เดทแย่ๆ ที่เคยเจอนั้น เป็นอย่างไรบ้าง… 1. “ผมไม่รู้จะอ้างยังไง แต่คุณช่วยพาผมออกไปจากที่นี้ที่เหอะ” เรื่องนี้เป็นเรื่องชองสมาชิก Reddit ที่ชื่อว่า XelaKebert เธอเล่าว่า“ฉันทำงานที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีคืนหนึ่งที่ฉันกำลังทำงานอยู่ก็มีคู่เดทคู่หนึ่งเข้ามาที่ร้าน พวกเขาก็กินข้าวด้วยกันปกติ แต่แล้วอยู่ดีๆ ผู้ชายคนนั้นก็เข้ามาหาฉันพร้อมกับยื่นผ้าเช็ดหน้าที่มีเงินอยู่ในนั้นราวๆ 700 บาท พร้อมกับบอกฉันว่า ‘นี่มันเป็นเดทที่ห่วยที่สุดในชีวิตของผมเลย ผมไม่รู้จะหาข้ออ้างออกไปจากนี้ยังไงดี ฉะนั้นเอาเบอร์โทรของผมไป แล้วช่วยโทรหาแล้วทำทีว่าให้ผมต้องรีบกลับบ้านทีเถอะ ผมไม่สนว่าคุณจะอ้างว่าอะไร ขอแค่ให้ผมได้ออกไปจากเดทนรก นี้ทีเหอะ’ แน่นอนฉันก็โทรไปหาชายคนนั้นทันที ที่ฉันมีโอกาสเพื่อทำตามคำขอและรับค่าจ้าง” 2. “ชายคนหนึ่ง พูดโอ้อวดแต่เรื่องของตัวเอง ว่าเขาพิเศษกว่าคนอื่นยังไง” สมาชิก Reddit ที่ชื่อว่า frogsmouth เล่าว่า “ฉันเจอคู่เดท คู่หนึ่งที่มาเดทด้วยกัน แต่ว่าประโยคสนทนาทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องของตัวผู้ชายเท่านั้น เขาเล่าแต่ว่าเขาดียังไง พิเศษยังไง เรื่องทั้งหมดล้วนเป็นแค่เรื่องของเขาคนเดียวเท่านั้น แถมเวลาที่ผู้หญิงจะพูดอะไรสักอย่างเขาจะขัดไม่ให้ผู้หญิงพูดทันที นี้มันแย่มากๆ เลยล่ะ” 3. “เขาเอาแต่คุยแต่กับแม่ของเขา โดยที่ไม่สนใจคู่เดทสักนิด”…
-
แก๊งชายหกเปลี่ยน “หลุมหลบภัยนิวเคลียร์” เป็นทุ่งกัญชา 50 ล้าน ตำรวจอึ้งเอ็งทำกันได้ (-*-!!)
ไม่รู้จะเรียกว่าหัวการค้าหรืออะไรดี สำหรับแก๊งชายฉกรรจ์หกคนได้เปลี่ยนหลุมหลบภัยระเบิดนิวเคลียร์สมัยสงครามเย็นให้กลายเป็นแปลงเพาะกัญชาในร่มสุดไฮเทคมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ก่อนจะถูกตำรวจจับกุมในเวลาต่อมา เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองชิลมาร์ก มณฑลวิลต์เชียร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อทางตำรวจได้สืบทราบว่ามีการลักลอบปลูกกัญชาในหลุมหลบภัยสมัยสงครามเย็น พวกเขาจึงระดมกำลังเข้าไปล้อมจับกุมหลุมหลบภัยแห่งนั้น พวกเขาสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ทั้งหมดหกราย ประกอบไปด้วยชายฉจรรย์หกคนอายุตั้งแต่ 15 ปี ถึง 45 ปี เมื่อตำรวจเข้าไปสำรวจภายในหลุมหลบภัย พวกเขาก็พบว่าแทบทุกบริเวณ ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นแปลงปลูกต้นกัญชา พร้อมทั้งมีการติดตั้งระบบน้ำและหลอดไฟแสงอัลตร้าไวโอเลตเพื่อให้ต้นกัญชาสามารถเจริญเติบโตได้แม้อยู่ใต้ดิน “ภายในบังเกอร์หลบภัยนี้มีห้องอยู่ประมาณ 20 ห้อง แบ่งเป็นสองชั้น กว้าง 70 ฟุต ยาว 200 ฟุต แทบทุกห้องกลายเป็นแปลงปลูกต้นกัญชา มันเป็นจำนวนที่มหาศาลมากๆ ” “ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่ามันมีจำนวนทั้งหมดกี่ต้น และเรายังไม่สามารถตรวจสอบตอนนี้ได้ แต่ดูแล้วน่าจะมีมูลค่าประมาณ 1 ล้านปอนด์ (50 ล้านบาท)” “ถือว่าเป็นแหล่งผลิตกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลวิลต์เชียร์เท่าที่เคยมีการตรวจพบมาเลย” Paul Franklin หนึ่งในเจ้าหน้าที่สืบสวนกล่าว สภาพด้านใน . โดยบังเกอร์ดังกล่าวถูกสร้างขึ้นช่วงปี 1980 เพื่อให้รัฐบาลท้องถิ่นใช้ในการหลบภัยระเบิดนิวเคลียร์ ภายหลังหลุมหลบภัยดังกล่าวถูกทิ้งร้าง จนมีการลักลอบเข้าไปปลูกกัญชาในท้ายที่สุด..…
-
เหตุการณ์ตัว “เxี้ย” บุกร้านอาหาร หญิงสาวใจกล้าจับหางลากออกไปชิลๆ คนอื่นได้แต่งง!??
ประเทศออสเตรเลีย เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยสัตว์อัตรายมากมาย นั่นก็รวมถึงสัตว์ตระกูลตัวเงินตัวทอง หรือที่เราเรียกว่า “เxี้ย” ด้วยเช่นกัน ซึ่งล่าสุดก็ได้มีเพจ Mimosa Wines ได้โพสเหตุการณ์ที่มีเจ้า Goanna ตัวหนึ่งหลุดเข้าไปในร้าน ซึ่งมันก็เป็นสัตว์สายพันธุ์เดียวกับเหี้ยนี่แหละแต่ทว่ามันอาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียเท่านั้น และมันอันตรายที่มากกว่าตัวเหี้ยปกติตรงที่มันสามารถฟาดหางได้อย่างรุนแรง กรงเล็บที่แหลมคม ที่สำคัญน้ำลายของมันเป็นพิษร้ายแรงทำให้ถึงตายได้เลยทีเดียว ซึ่งมันก็สร้างความปั่นป่วนให้คนในร้านพอสมควรเลยทีเดียว แถมดูแล้วก็ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปจัดการมัน แต่แล้วก็มีฮีโร่คนหนึ่งโผล่ขึ้นมาเธอคือพนักงานสาวคนหนึ่งที่ชื่อว่า Samia Lila เธอเข้าไปจับหางของเจ้านั่น แล้วก็ลากมันออกไปราวกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอเข้าไปลากเจ้านี่ออกไปอย่างสบายๆ เลยล่ะ ดังที่เห็นในคลิปวิดีโอด้านล่าง… เธอเป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแห่งนี้ แต่ทว่าในขณะที่เธอกำลังทำงานอยู่ เจ้าสัตว์ท้องถิ่นนี้ก็โผล่ออกมา ทำให้ฮีโร่สาวคนนี้ต้องเข้าไปจัดการมัน เพราะนักท่องเที่ยวคนอื่นมีท่าทีจะกลัวมันพอสมควร และไม่มีใครยอมเข้าไปจัดการกับมันสักที ภาพของ Samia ที่จัดการกับมัน เธอให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่ทำ “ฉันรู้ว่ามันอันตรายแต่ว่ามันเข้าไปใกล้ลูกค้าคนอื่นๆ และฉันก็ไม่ได้กลัวมันเลย เพราะฉันออกจะชอบสัตว์เลื้อยคลานเสียด้วยซ้ำ” หลังจากคลิปวีรกรรมของเธอถูกเผยแพร่ออกไป จนตอนนี้ยอดวิวมีมากถึง 600,000 วิว และยอดแชร์มากกว่า 3,000 แชร์เลยทีเดียว แถมยังมีคอมเมนต์ต่างกันไปอีกด้วยเช่น “Samia เธอเป็นคนที่ดีมากๆ เลย ดูความกล้าของผู้ชายทั้งร้านที่เข้าไปช่วยสิ ฮ่าๆ” (ประชด) “พวกเรากำลังกินข้าวอยู่ในเหตุการณ์ เธอเข้าไปจัดการตัวเxี้ยทันทีโดยที่ไม่ต้องคิดเลย ซึ่งเธอกล้าหาญมากๆ”…
-
ร้านอาหารจัดโปรสุดเจ๋ง ส่วนลดพิเศษสำหรับครอบครัวที่ “ควบคุมบุตรหลาน” ได้อยู่หมัด
เคยไหมเวลาที่เราออกไปกินข้าวข้างนอก แล้วเราจะต้องเจอกับครอบครัวที่พาลูกๆ เด็กๆ มากินด้วย แต่แล้วเด็กพวกนี้เนี่ย กลับก่อความวุ่นวาย ส่งเสียงดังไปทั่วทั้งร้าน จนเราไม่อยากจะออกไปกินข้าวตามร้านอาหารเลย แต่ทว่าปัญหานี้จะหมดไป เมื่อร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Antonio Ferrari แห่งนี้ เขาได้มองเห็นถึงปัญหานี้และตั้งโปรโมชั่นใหม่ขึ้นมาว่า “ถ้าลูกๆ ของคุณทำตัวเป็นเด็กดีไม่รบกวนคนอื่น คุณจะได้รับส่วนลด 5% ทันที” เจ้าของร้านคือคุณ Antonio Ferrari ชื่อเดียวกับร้านอาหารเลยนั่นและ เขากล่าวก่อนว่า “ผมเคยเห็นเด็กวัย 5 ขวบเอาเท้าวางไว้ที่โต๊ะ และเด็กวัย 4 ขวบปีนขึ้นไปยื่นอยู่บนโต๊ะและเก้าอี้ในร้าน พ่อแม่ของเด็กพวกนั้น เขาไม่ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ” “ที่สำคัญหลังจากผมไปบอกพ่อแม่ของเด็กพวกเขากลับตอบมาว่า ลูกๆ ของพวกเราจะทำอะไรก็ได้ที่พวกเขาอยากทำ” ด้วยเหตุดังกล่าว เขาเลยตั้งกฎขึ้นมาเป็นพิเศษ นอกจากจะเป็นการช่วยเตือนใจกลุ่มพ่อแม่ที่พาลูกๆ มาทานในร้านให้รบกวนคนอื่นน้อยลง ยังทำให้ทุกคนที่ทำตามกฎได้ส่วนลดดีๆ ไปด้วย Antonio ยังพูดเสริมถึงจำนวนลูกค้าที่ได้รับการลดราคานั่นมีเพียงแค่ 3 ครอบครัวเพียงเท่านั้น นับตั้งแต่เขาเริ่มจัดโปรโมชั่นนี้ขึ้นมา ซึ่งเขาบอกว่ามันหาได้ยากมากๆ ที่จะเจอเด็กกับครอบครัวที่วางตัวดีๆ สักครอบครัวหนึ่ง ท้ายที่สุดเขายังคงหวังว่าจะเจอกับเด็กๆ…
-
เมืองโอจิในญี่ปุ่น เปิดตัว “โดรนน้องหมาบินได้” เป็นมาสคอตนำเที่ยวสุดน่ารัก
สำหรับเมืองเล็กๆ ในญี่ปุ่น ต่างจากเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกีบง หรือโอซาก้า ที่มีสถานที่น่าสนใจเหลือเฟือ การจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาได้นั้นเป็นเรื่องที่อยากลำบากพอสมควรเลยทีเดียว พวกเขาต้องพยามกันเป็นอย่างมากเพื่อคิดแผนโปรโมตให้คนมาที่เมืองของเขา แต่ทว่าล่าสุดเมืองโอจิ ในจังหวัดนาระ ได้เปิดตัวมาสคอตตัวใหม่ เป็นโดรนที่มีหน้าตาเป็นหมาน้อยน่ารักอย่างที่เราได้เห็นกันนี้ เจ้ามาสคอตตัวนี้มีชื่อว่า Yukimaru ที่สำคัญพวกเขายังทำเป็นวีดีโอโปรโมตออกมาด้วย นอกจากความน่ารักมุ้งมิ้ง มันก็ยังเป็นตัวแทนการท่องเที่ยวของเมืองอย่างเป็นทางการอีกหนึ่งตำแหน่ง จากวีดีโอข้างบนเราจะเห็นว่าเจ้า Yukimaru เนี่ยลอยไปสถานที่ท้องเที่ยวประจำเมืองมากมายหลายที่เลย ไม่ว่าจะเป็น วัดดารุมะ, แม่น้ำยามาโตะ และ ภูเขาเมียวจิน เป็นต้น ในวีดีโอเราจะเห็นเจ้าชายโชโทคุ และ ดารุมะ แจมอยู่ในวีดีโอด้วย ซึ่งทั้งคู่เป็นตำนวนที่อยู่คู่มากับเมือง โดยตำนานเล่าว่าเจ้าชายโชโทคุ ได้มอบอาหารและเสื้อผ้าให้กับ ดารุมะซึ่งเป็นนักบวชที่หิวโซ เพื่อทำให้เขารอดชีวิตจากกความอดอยาก จนแล้วจนรอด ดารุมะก็ตายไปอยู่ดี ด้วยความรักและเคาระเจ้าชายก็เลยให้คนสร้างหลุมศพให้กับเขา… แต่เรื่องราวก็ยังไม่จบแค่นั้น เพราะตอนหลังศพของเขาหายไปอย่างไรร่องรอย กลายมาเป็นชื่อวัดแห่งนี้มาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ เจ้าชายโชโทคุยังคงเลี้ยงหมาไว้อีกตัวหนึ่ง เมื่อหมาเขาตายไป เขาก็สร้างหลุมศพของหมาไว้ที่สุสานในวัดแห่งนี้ และกลายมาเป็นเจ้าหมาโดรนบินที่เราเห็นกันนี่แหละ ฉะนั้นเจ้าหมา Yukimaru ก็เลยถือว่าเป็นสัตว์คู่ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้มาอย่างยาวนาน แถมในเวอร์ชั่นนี้มันยังถือว่าเป็นโดรนมาสคอตตัวแรกอีกด้วย (คงเพราะไม่เคยมีใครทำมาก่อนสินะ -*-) ดูรายละเอียดของมันแบบชัดทุกรูขุมขน…
-
ไอเดีย “ที่พักรถริมทาง” สุดร่มรื่นในหมู่บ้านอังกฤษ ชาวบ้านยังงงว่าใครมาสร้างไว้!?
สำหรับคนที่ชอบเดินทางไกลแล้วการได้ไปหยุดที่จุดพักรถถือเป็นสวรรค์ดีๆ นี่เอง เพราะว่าเราจะได้มีเวลาพักผ่อนจากการขับรถนานๆ อาจจะได้นอนพัก ทานอาหาร หรือเขาห้องน้ำ เติมพลังเพื่อการเดินทางครั้งต่อไป และที่หมู่บ้าน Walkhampton ในเมือง Devon ก็มีจุดนี้เหมือนกัน แต่ที่แปลกกว่าที่อื่นก็คือจุดพักรถนี้เป็นจุดเล็กๆ แต่ดูอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก และที่งงกว่านั้นคือไม่มีใครรู้เลยว่าใครเป็นใครทำ เพราะเห็นอีกทีก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว ชาวบ้านที่นั่นเล่าว่า “มันเป็นสิ่งดีๆ และทำให้หมู่บ้านดูมีสีสันขึ้นมาเลย” เพราะว่าการตกแต่งนั้นทำออกมาเหมือนห้องนั่งเล่น ต่างจากที่อื่นๆ ซึ่งเราคุ้นตาจะมาเป็นรูปแบบศาลาริมทางไว้ให้เราได้พอพักผ่อนชั่วครู แต่ที่นี่เหมือนจะให้เรางีบหลับกันได้อย่างสบาย และบรรยากาศก็ดูเหมือนบ้านหลังน้อยๆ หลังหนึ่ง ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ฤดูร้อนปีที่แล้ว ตอนแรกมันก็๋เป็นเพิงที่พักธรรมดาสร้างด้วยหินแบบศาลาริมทางทั่วไป ในคืนนั้นอยู่ดีๆ บ้านหนังนี้ก็ถูกเปลี่ยนข้ามคืนด้วยเก้าอี้และโซฟา แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งเดือน นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฮาโลวีนหรือว่าจะเป็นตอนวาเลนไทน์ จุดพักรถนี้ก็จะเปลี่ยนไปตามเทศกาลเหล่านั้นด้วยการตกแต่งที่แตกต่างจากปกติ เพื่อให้เข้ากับเทรนด์ที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตลอดปี ตอนนี้ก็ยังเป็นปริศนาอยู่ว่าใครเป็นคนทำของเหล่านี้ขึ้นมา แต่มันก็ทำให้ที่ที่ไม่เคยมีอะไรให้ดูมีอะไรขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยเนอะ เดิมทีที่แห่งนี้เป็นจุดพักรถบัสซึ่งถูกสร้างมาในปี 2013 แต่หลังจากที่รถบัสหยุดให้บริการตรงเส้นทางสายนี้ ตอนนี้มันกลายเป็นจุดพักรถทั่วไปแล้ว ถือเป็นอีกความงดงามที่เกิดขึ้นโดยฝีมือใครก็ไม่รู้ ที่มา bbc
-
“Abu Tahseen” สไนเปอร์รุ่นเก๋าชาวอิรักวัย 63 ปี ปลิดชีพ ISIS มาแล้วกว่า 321 ราย
ถึงแม้กองกำลังของ ISIS จะออกมาสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวโลกและก่อสงครามไม่เว้นแต่ละวัน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครรับมือกับพวกเขาได้เลย ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 2 ปีที่แล้ว นาย Abu Tahseen ได้เข้าร่วมกับกองกำลังต่อต้าน ISIS และนับตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้าร่วมจนถึงวันนี้ เขาได้สังหารเหล่า ISIS ไปแล้วกว่า 321 ราย นับตั้งแต่ปี 2015 และยังต่อสู้เพื่อปลดปล่อยชาวบ้านจากกลุ่มกองกำลังจีฮัดด้วย สิ่งที่คุณได้เห็นอยู่นี้มาจากส่วนหนึ่งของสารคดีที่ไปตามถ่ายชีวิตของนาย Tahseen ทหารรุ่นดึกผู้เคยผ่านประสบการณ์ในสมรภูมิมาแล้วกว่า 5 ปี และเคยอาสาเป็นหน่วยรบเคลื่อนที่ให้กับกองกำลังอิรักเพื่อต่อต้าน ISIS ในวีดีโอสารคดีตัวนี้ได้เผยให้เห็นถึงตอนที่เขากำลังปฏิบัติหน้าที่ในสนามรบจริงๆ มีการซุ่มโจมตีและการสื่อสารบริเวณภูเขามัคคู ทางตอนเหนือของอิรัก นาย Tasheen ได้เผยถึงแนวคิดของตัวเองผ่านวิดีโอตัวนี้ว่า “คุณเห็นพื้นที่นั่นไหม? ผมกล้าการันตีกับพระเจ้าเลยว่าไม่มีใครโผล่ขึ้นมาหรอก ตอนนี้ผมรู้สึกสบายๆ มาก” “เมื่อผมได้กลับไปพัก ผมก็อยากจะกลับมาตรงนี้อีก ครั้งสุดท้ายที่พวกหัวหน้าให้ผมไปพักเป็นเดือน ผ่านไปแค่ 12 วันผมก็กลับมาประจำการตรงนี้แล้ว” หลังจากที่ Tasheen ได้รับการยืนยันจากสายลับว่ามี ISIS โผล่ออกมาในระยะยิง เขาก็ตั้งลำและยิงสังหารเป้าหมายของเขาทันที นอกจากนี้เจ้าหน้าที่รุ่นเก๋ายังได้บอกกับนักข่าวด้วยว่าปืนไรเฟิลของเขาสามารถเป่าสมองของเหล่า…
-
ทนายความสาวสุดฮอต กับจุดเปลี่ยนลาออกเพื่อมาเป็น “โสเภณีชั้นสูง” ตามที่หวังไว้!!
นี่คือเรื่องราว Claudia de Marchi วัย 34 ปี ทนายสาวสุดสวยในบราซิลมากความสามารถ แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็เลือกที่จะเปลี่ยนชีวิตตัวเองให้กลายมาเป็น “โสเภณีชั้นสูง” หลายคนอาจจะสงสัยว่าเปลี่ยนอาชีพแบบนี้จะดีเหรอ แต่ผลที่ออกมาก็เกินคาดเพราะมันทำกำไรให้เธอได้อยากมากมาย และเธอก็พึงพอใจเป็นอย่างมาก ครั้งหนึ่งเธอคือผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่ก็ต้องจบอาชีพนี้ไปเนื่องจากสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่และเห็นแก่ตัว ปัจจุบันเธอก็หันมาทำงานดังกล่าวกับนักการเมืองและนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยกัน ซึ่งเธอก็ได้รู้จักผ่านทางรูปที่เธอลงไว้ในเว็บไซต์ งานนี้เรียกได้ว่าเป็นงานในฝันของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะมันสร้างรายได้ให้เธอชั่วโมงละ 6,500 บาท และในปีที่แล้ว เธอทำรายได้ถึง 4,300,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งสูงกว่าเงินเดือนของทนายความที่เธอเคยทำซะอีก เธอเล่าว่าวันหนึ่งมีลูกค้าประมาณ 2-3 ราย คิดชั่วโมงละ 6,500 บาท หรือคืนละ 28,000 บาท จุดเปลี่ยนที่สำคัญของเรื่องนี้ก็คือคุณแม่ของเธอนั่นเองที่เป็นคนแนะนำให้เปลี่ยนอาชีพเป็นอาชีพนี้ และคุณแม่ก็ให้การสนับสนุนเต็มที่ แต่ไม่ใช่ว่าเธอจะเลือกรับลูกค้าทุกคนนะ เธอจะเลือกคนที่ใช้คำพูดดีๆ และมีมุมองทางการเมืองที่เหมือนกันด้วย อีกทั้งยังให้คำขาดว่า “ฉันจะไม่ยอมมีอะไรกับคนที่ไม่อยากจะจูบฉัน” เธอเล่าอีกว่าการตัดสินใจมาทำงานเป็นโสเภณีในเมืองหลวง Brasilia เพราะมันสร้างรายได้ให้กับเธอเป็นอย่างมาก อีกทั้งประเทศบราซิล อาชีพโสเภณีเป็นอาชีพที่ถูกกฎหมายด้วย นอกจากนี้เธอยังชอบโพสต์บทสนาในแชทของเธอกับลูกค้าที่เธอปฏิเสธไปด้วย…
-
สรุปสเปค Nokia 3310 รุ่นใหม่ กลับมาคราวนี้มีอะไรบ้าง อ่านกันได้ที่นี่เลย…
หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่าค่ายมือถือยักษ์(ในอดีต) Nokia จะทำการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ 3 รุ่น แถมยังจะทำการคืนชีพ Nokia 3310 มือถือในตำนานกลับมาอีกครั้ง อ่านข่าวเก่า: Nokia เตรียมปล่อย “3310” รุ่นใหม่ ในงาน MWC 2017 พร้อมมือถือแอนดรอยด์อีกสองรุ่น!! และจากการเปิดตัวล่าสุด ทางค่าย Nokia ก็ได้ทำการออกมือถือมา 3 รุ่นคือ Nokia 3, Nokia 5 และ Nokia 6 มาจริงๆ แต่ดูเหมือนไฮไลท์ของงานจะไปอยู่ที่เจ้าตัวนี้มากกว่า!! Nokia 3310 กลับมาอีกครั้งภายใต้คอนเซปท์ A modern classic reimagined พร้อมกับคำโฆษณาจั่วหัว 3 ข้อ แบตเตอรี่อยู่ได้นานนับเดือน, มีให้เลือก 4 สี และให้คุณได้เล่นเกมงูในตำนาน ด้วยราคาเพียงแค่ 1,800 บาทเท่านั้น สรุปสเปคคร่าวๆ ของ…
-
อดีตนักรบ ISIS สารภาพความผิด สังหารคนไป 500 ศพและข่มขืนหญิง 200 คน เพราะ “ใครๆ ก็ทำกัน”
“มันเป็นเรื่องธรรมดา ที่ใครๆ ตรงนั้นก็ทำ… ผมเองก็เช่นกัน” – Amar Hussein เราอาจจะเคยได้ยินข่าวถึงความรุนแรงของกลุ่ม ISIS อยู่บ่อยครั้ง แต่มีไม่มากที่จะได้ฟังเรื่องเล่าเหล่านั้นจากปากของผู้กระทำเหตุต่างๆ หรือที่พวกเขาเรียกกันว่านักรบของกลุ่ม และในครั้งนี้จะพาไปรู้จักชายชื่อว่า Amar Hussein อดีตนักรบ ISIS ที่ถูกจับในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จากการกวาดล้างในเมืองคีร์คูก ซึ่งเขาเล่าว่าในช่วงที่เขาใช้เวลาอยู่ในคุก เขาได้อ่านอัลกุรอานทุกวันจนทำให้เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองดีขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขาสำนึกผิดและออกมาบอกเล่าถึงสิ่งที่เขาทำลงไปในอดีต เขาได้ข่มขืนหญิงสาวราวๆ 200 ในขณะที่เขาไปบุกปล้นหมู่บ้านต่างๆ ในอิรัค ช่วงที่กองทัพของเขาเรืองอำนาจ เรื่องเหล่านี้คือสิ่งปกติที่นักรบวัยคะนองทั้งหลายทำกัน แน่นอน เขาคือหนึ่งในคนบาปเหล่านั้น เขายังบอกอีกว่า ผู้บังคับบัญชาของเขาอนุญาติให้เหล่านักรบทุกคนสามารถที่จะข่มขืนหญิงสาวชาวยาซีดีกี่คนก็ได้ แล้วแต่พวกเขาจะพอใจ เป็นเรื่องแน่นอนที่นักรบวัยรุ่นอยากจะทำเรื่องพวกนี้ พวกเขาจึงบุกปล้นและข่มขืนผู้หญิง บ้านต่อบ้านไปเรื่อยๆ ทหารชาวเคิร์ดรายงานว่ามีหลักฐานถึงการฆ่าและข่มขืนของ Amar แต่ก็ไม่รู้ว่าจำนวนที่แท้จริงแล้วอยู่ที่เท่าไหร่ รู้เพียงแค่ว่านักรบของกลุ่ม ISIS ข่มขืนผู้หญิงชาวยาซีดีเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นพวกเขายังลักพาตัวหญิงสาวเหล่านั้นไปด้วย แต่ถ้าเกิดพวกเขาพบเจอผู้ชาย พวกเขาจะฆ่าผู้ชายเหล่านั้นทิ้งทันที นอกจากนี้ Amar ยังพูดอีกว่า “ผมฆ่าคนไปราวๆ 500 คน ข่มขืนไปอีก…
-
BlackBerry ผงาดมือถือรุ่นใหม่ “KEYone” พร้อมปุ่มกดสุดคลาสสิค และระบบแอนดรอยด์!?
ไม่รู้ว่าทาง Nokia ได้ไปนัดแนะกับทาง BlackBerry ไว้หรือเปล่า เพราะทั้งคู่เป็นแบรนด์มือถือที่เคยยิ่งใหญ่และเงียบหายไปในกลีบเมฆทั้งคู่ และทั้ง 2 แบรนด์ก็ได้กลับมาเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ในปี 2017 พร้อมๆ กันด้วย เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Phonearena ซึ่งเป็นเว็บไซต์มือถืออันโด่งดังในต่างประเทศได้รายงานว่า BlackBerry อดีตผู้นำสมาร์ทโฟนปุ่มกดที่เคยเงียบหายไป ได้กลับมาเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่อีกครั้งในชื่อรุ่น “KEYone” ดูจากหน้าตาของเจ้า KEYone จะเห็นว่ามันเป็นสมาร์ทโฟนแบบพิมพ์นิยม แต่สิ่งที่ยังคงเหมือนเดิมคือคีย์บอร์ด QWERTY อันเป็นเอกลักษณ์ของ BlackBerry นั่นเอง เหมาะสำหรับคนที่ชอบพิมพ์อย่างแท้จริง และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือรุ่นนี้จะมาพร้อมกับระบบแอนดรอยด์ 7.1 Nougat ด้วย นั่นหมายความว่าคุณจะสามารถโหลดแอพฯ ต่างๆ ได้เหมือนกับที่มือถือแอนดรอยด์มาใช้ได้แล้ว มือถือ BlackBerry รุ่นนี้เป็นการร่วมมือกับพันธมิตรอย่างบริษัท TCL จากจีน พูดง่ายๆ ก็คือ TCL จะเป็นคนผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ของ KEYone ให้ ส่วน BB จะเป็นผู้ดูแลในส่วนของซอฟต์แวร์ระบบความปลอดภัยต่างๆ ซึ่งทาง BB ยืนยันว่าระบบรักษาความปลอดภัยของพวกเขาเป็นระบบที่ดีเยี่ยมยิ่งกว่าที่ไหนๆ…
-
12 สถานที่พักผ่อน “นอนดูดาว” จากรอบโลก ทั้งแสนสบาย แถมได้ยลโฉมท้องฟ้าอันตราตรึงใจ
ปกติแล้วถ้าเราอยากจะออกไปนอนดูดาว เราก็จะตั้งแคมป์กันตามปกติ แต่ว่าถึงอย่างนั้นความสะดวกสบายมันก็คงไม่เท่านอนในบ้านหรือที่พักจำพวกโรงแรมอยู่ดี แต่มันจะดีกว่าไหมถ้าจะมีโรงแรมหรือที่พัก ที่ทำให้เราสามารถอิ่มเอมกับที่พักสุดแสนสบายพร้อมกับสามารถรับชมท้องฟ้า บรรยากาศรอบๆ และดวงดาวไปพร้อมๆ กันได้แถมยังสบายอีกตะหาก วันนี้เราเลยจะมาดู 12 สถานที่พัก ที่สามารถดูดาวและพักผ่อนย่อนใจได้อย่างเต็มที่จากทั่วทุกมุมโลก อย่ารอช้าไปดูกันเลย Kakslauttanen Glass Igloos ประเทศฟินแลนด์ ด้วยห้องพักที่หรูหรา แถมหลังคาทรงโดมแบบโปร่งใส ยังสามารถมองแสงเหนือได้จากภายในห้อง จะเรียกว่าเป็นที่พักในฝันก็ยังได้ . 7th Room Treehotel ประเทศสวีเดน ห้องพักที่ตั้งอยู่บนบ้านต้นไม้นี้มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ที่สะดวกสะบาย ระเบียงแบบตาข่ายให้คุณรู้สึกเหมือนกับนอนเปล แถมเรายังสามารถจะเพลิดเพลินกับบรรยากาศรอบๆ ในมุมสูง ได้อย่างเต็มเปี่ยม . Lion Sands Game Reserve ประเทศแอฟริกาใต้ อีกหนึ่งที่พักที่เป็นบ้านต้นไม้ แถมยังเปิดกลางแจ้งบนพื้นที่กว้างขวาง ที่สำคัญคือมันไม่มีหลังคาอยู่เลย ทำให้คุณได้รับความรู้สึกแบบไปเข้าค่ายกางเต้นท์ และสามารถชื่นชมท้องฟ้าและธรรมชาติได้เต็มปอดเลยทีเดียว . Estate Bungalow ประเทศศรีลังกา ลึกเข้าไปในป่าฝนของประเทศศรีลังกา ยังมีที่พักแห่งนี้ที่เป็นแนวเปิดกว้างทำให้เราสามารถมองเห็นป่ารอบๆ ได้อย่างเต็มที่…
-
พระเอกในและนอกจอ Keanu Reeves ใช้เวลาเกือบทั้งวัน อยู่กับ ‘เด็กป่วยมะเร็ง’ ที่อยากเจอเขาสักครั้ง
เรียกได้ว่าเป็นพระเอกที่ไม่เค๊ยไม่เคยจะมีเรื่องราวเสียๆ หายๆ เลย สำหรับ Keanu Reeves พระเอกขาบู๊ที่มีผลงานเรื่องล่าสุดอย่าง John Wick 2 ที่กำลังฉายอยู่ในบ้านเรา ณ ตอนนี้ ล่าสุด Keanu ก็ได้สานฝันให้กับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ป่วยเป็นมะเร็งและอยากจะเจอกับเขาแบบสุดๆ ด้วยการเดินทางไปหาเขาและนั่งพูดคุยกันแบบค่อนวันเลยทีเดียว เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กของนาย Steve McGarrett เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคุณพ่อของเด็กชาย Nathaniel McGarrett ที่ป่วยเป็นมะเร็ง โดย Steve เล่าว่าลูกชายของเขาชื่นชอบดาราอย่าง Keanu Reeves มากๆ และอยากจะเจอกับเขาสักครั้งก่อนตาย คุณพ่อรายนี้จึงได้เข้าร่วมโครง Make-A-Wish ซึ่งเป็นมูลนิธิเพื่อสานฝันให้กับเด็กๆ ที่ป่วยหรือมีสภาพร่างกายอ่อนแอให้กลายเป็นจริง และขอร้องกับทางมูลนิธิว่าให้พา Keanu Reeves มาเจอกับลูกชายของเขาสักครั้ง และแล้วฝันของ Nathaniel ก็กลายเป็นจริง เพราะเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Keanu ได้เดินทางไปพบกับเขาถึงที่บ้านแบบเป็นกันเองสุดๆ ทั้งคู่มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน นั่งดูหนัง John Wick ร่วมกัน ก่อน Keanu จะพาเขาไปลองคร่อมมอเตอร์ไซค์คู่ใจของตัวเอง ทำเอา Nathaniel…
-
เรื่องราวของคนเก็บขยะชาวจีน ผู้บริจาคเงินให้เด็กยากไร้กว่า 800,000 บาท ส่งเรียนจบ 37 คน!!
ปกติแล้วเราจะบอกว่าต้องเป็นคนรวยถึงจะบริจาคให้ผู้ยากไร้ได้ แต่เขาคนนี้เป็นเพียงคนกวาดถนนเท่านั้น… ชายคนนี้มีชื่อว่า Zhao Yongjiu อายุ 56ปี เขาทำงานคนกวาดขยะอยู่ที่เมืองเสิ่นหยาง เขาจะทำงานพวกนี้สองแห่งด้วยกัน เริ่มแรกเขาจะออกไปทำงานตอนตี 4 ครึ่งของทุกวัน และจะไม่กลับมาจนกว่าจะถึงเวลา 3 ทุ่มของทุกวัน ซึ่งนี้จะเห็นได้ว่าเขาเป็นคนที่ทำงานหนักมากๆ โดยค่าตอบแทนที่เขาได้ในแต่ละเดือนจะอยู่ที่ราวๆ 12,000 บาท ถึงแม้เขาจะทำงานเป็นคนเก็บขยะแต่เขาก็สามารถที่จะแบ่งสันปันส่วนเงินของเขาออกมาเพื่อบริจาคให้กับเด็ก 37 คนที่ไม่มีโอกาสได้ไปเรียนหนังสือ ได้ไปโรงเรียนและมีการศึกษา ที่สำคัญเขาทำแบบนี้ติดต่อกันมาเป็นระยะเวลา 30 ปีแล้ว แถมเงินที่บริจาคไปก็มากถึง 8 แสนกว่าบาทเลยทีเดียว และด้วยเหตุนี้เขาจึงพยามทำให้ชัวร์ว่าเงินของเขาจะไปถึงเหล่าเด็กๆ เขาได้ขายบ้านที่เป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียวของเขาไป และไปเช่าห้องพักอยู่เดือนละ 3700 บาท เราอาจจะมองว่าการที่เขาทำแบบนี้ทำไปเพื่ออะไร แต่ว่าเขาได้บอกว่านี้เป็นวิธีที่เขาจะตอบแทนทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยได้รับมา… ย้อนกลับไปในปี 1976 ซึ่งเป็นปีที่พ่อของเขาได้ตายจากไป และแม่ของเขาก็ต้องอยู่ดูแลเขาพร้อมกับต่อสู้กับชีวิตที่ยากลำบากเพื่อหาเงินมาเลี้ยงตัวเองและเขา ซึ่งพวกเขาก็สามารถที่จะผ่านช่วงยากลำบากนั้นมาได้ ต้องขอบคุณเพื่อนบ้านและเพื่อนๆ ที่ช่วยเหลือเขามาตลอด ทำให้เขาบอกว่าเขาไม่มีทางที่จะลืมความช่วยที่เขาได้รับในตอนนั้น และเขาจะตอบแทนมันกลับไปให้กับคนที่ลำบากเหมือนเขาในตอนนั้น หลังจากที่เรื่องนี้กระจายออกไปชาวเน็ตในจีนก็ออกมาชื่นชมเป็นเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาทำให้โลกน่าอยู่ และการเสียสละช่วยผู้ยากไร้กว่า…
-
ร่วมอาลัย… เจ้าหมาพยายามใช้จมูกเขี่ยดิน เพื่อกลบ “ร่างไร้วิญญาณ” ของเพื่อนผู้จากไป
การจากลานั้นเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครทุกคนก็ต้องเจอ ขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็วก็เท่านั้นเอง… แต่ถ้าวันนั้นมาถึง หากเพื่อนรักหรือคนที่เรารักได้จากไปก็ย่อมเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากเป็นธรรมดา จนถึงตอนนั้นเราเองก็คงอยากที่จะทำอะไรบางอย่างให้กับเขาเป็นครั้งสุดท้าย เช่นเดียวกันกับเจ้าหมาตัวนี้ที่ใช้จมูกดันดินกลบร่างที่ไร้วิญญาณของพี่ชายที่เพิ่งถูกรถชนจนเสียชีวิต เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดบุรีรัมย์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีชาวเน็ตคนหนึ่งได้ทำการอัพคลิปวิดีโออันแสนเศร้านี้ลงบนเฟซบุ๊คเมื่อวาน จากนั้นก็มีคนแชร์ต่อไปมากมาย แม้แต่เว็บไซต์ต่างชาติหลายสำนักเอาไปลงข่าวกันด้วย เจ้าหมาค่อยๆ เอาจมูกเขี่ยดินไปกลบร่างของพี่ชายของมัน จากนั้นก็จะหยุดนั่งนิ่งๆ และมองไปที่ร่างของพี่ชายด้วยความอาลัย จากนั้นมันก็กระโดดลงไปในหลุมพร้อมกับดมกลิ่นของพี่ชาย ก่อนที่จะดำเนินการกลบดินต่อไป ด้วยความประทับใจนี้ทำให้ชาวเน็ตให้ความสนใจมากมาย และเข้ามาให้ความคิดเห็น บ้างก็บอกว่าที่มันไม่ใช้อุ้งเท้าในการกลบดิน เพราะว่ามันกำลังแสดงความเคารพต่อพี่ชายที่เสียไปยังไงล่ะ หมาน่ะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประเสริฐมากเลยนะ มีชาวเน็ตคนหนึ่งบอกว่า “ฉันรู้สึกเสียใจกับเจ้าหมาที่น่าสงสารตัวนี้มาก” ขณะที่อีกคนก็บอกว่า “พวกมันน่าจะเป็นพี่น้องที่สนิทกันมากๆ เลยนะ” นอกจากนี้ชาวเน็ตคนหนึ่งก็บอกว่า “ผมอายุ 16 ปี แต่ผมพูดด้วยความสัตย์จริงเลยว่าตอนนี้กำลังร้องไห้อยู่ ผมอยากจะทำอะไรซักอย่างเพื่อช่วยเหลือเจ้าหมาตัวนี้” ลองไปชมคลิปเหตุกการณ์สะเทือนใจกันแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้กันได้เลย… แม้จะไม่มีข้อยืนยันว่าที่เจ้าหมาทำไปนั้นเป็นเพราะอะไรกันแน่ เพราะมันเสียใจที่สูญเสียพี่ชายไป หรือ อาจจะเป็นแค่พฤติกรรมทางธรรมชาติของมันก็เป็นไปได้ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็ได้สร้างความประทับใจ และทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนต่างน้ำตาซึมไปตามๆ กัน ที่มา : dailymail
-
หนุ่มนักอสังหาฯ ประคองยายวัย 96 ปีเดินไปส่งถึงบ้าน ท่ามกลางพายุลม 97 กิโล/ชม.!!
เมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาประเทศอังกฤษ ต้องเผชิญกับการมาเยือนของพายุไต้ฝุ่นดอริส ทำให้หลายแห่งในพื้นที่มีลมกรรโชกสูง และสภาพอากาศก็ดูจะไม่เป็นใจให้ชาวเมืองออกมาเดินเล่นกันเหมือนปกติเท่าไหร่ ทว่าในเรื่องร้ายๆ ก็มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นอยู่เหมือนกัน ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่กำลังได้รับคำชมจากชาวเน็ตทั่วโลก เมื่อหนุ่มนักอสังหาริมทรัพย์วัย 25 ปี Dan Barnett เข้าไปช่วยคุณยายวัย 96 ปี ผู้ไม่สามารถต้านทานแรงลม 97 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ โดยคุณยายบอกว่า วันนั้นเธอตั้งใจจะออกไปซื้อน้ำผลไม้ที่ร้านค้าใกล้บ้าน ทว่าช่วงขากลับมีลมกรรโชกแรง ด้วยความที่อายุเธอก็มากแล้ว เธอก็กลัวว่าร่างกายจะต้านทานแรงลมไม่ไหว บวกกับรู้สึกหายใจไม่ออก คุณยายไม่รู้จะทำยังไงจึงยืนกอดเสาไฟฟ้าไว้อย่างนั้น… คุณยายรู้สึกกลัวมาก เธอกลัวว่าร่างกายของเธอจะถูกลมพายุพัดปลิวไป ตอนนั้นพ่อหนุ่ม Dan นั่งทำงานอยู่ที่ตึกใกล้ๆ แล้วเหลือบไปเห็นคุณยายผู้มีท่าทางตื่นกลัว เขาจึงรีบลงไปถามไถ่เธอทันทีว่าต้องการความช่วยเหลืออะไรหรือไม่? ‘ผมรีบวิ่งลงไปถามเลยครับ เพราะดูท่าทางคุณยายต้องการความช่วยเหลือ เธอเล่าว่าออกมาซื้อของที่ร้านแถวๆ นี้ แต่พอจะเดินกลับลมมันแรงกว่าเดิม ทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออก และกลัวว่าตัวเองจะเป็นอะไรไปกลางที่สาธารณะ’ พ่อหนุ่มเล่า เขารีบลงไปยื่นมือช่วยเหลือคุณยายทันที ‘คุณยายเล่าว่ามีคนเดินผ่านเธอไป 3 คน แต่ก็ไม่มีใครยอมช่วยเหลือ ผมเลยประคองเธอและพาไปส่งถึงที่บ้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่นัก’ จากนั้นพ่อหนุ่มก็ค่อยๆ พยุงคุณยายไปส่งเธอถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ…
-
มิตรภาพแสนน่ารัก ระหว่างนักเรียนกับหมาแปลกหน้า มารอเล่นด้วยกันทุกวันหลังเลิกเรียน
บางครั้งเรื่องราวดีๆ ก็มักจะเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา จนทำให้เราไม่ได้ตั้งตัว เช่นเดียวกับเรื่องราวมิตรภาพที่แสนงดงามระหว่างเจ้าหมา และเด็กนักเรียนสาวคนนี้!!… นี่คือ Elisa Lee เด็กมัธยมปลายวัย 17 ปี อาศัยอยู่ในเมือง Lakewood รัฐ California และนี่คือเจ้า Ralph!! Elisa และเจ้า Ralph นั้นเจอกันครั้งแรกในช่วงต้นภาคเรียน ในวันนั้นเพื่อนของเธอขับรถกลับบ้าน และเธอก็ได้เห็นเจ้า Ralph ยืนอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านของมันที่อยู่ใกล้ๆ โรงเรียน “ในตอนแรกฉันกลัวว่ามันจะกัดฉัน เพราะส่วนใหญ่แล้วหมาจะเห่าใส่เราด้วยความดุร้ายเมื่อเราเดินผ่านถิ่นหรืออณาเขตของมัน” Elisa เล่า “วันเวลาผ่านไปมันก็ยังคงออกมายืนรออยู่ที่เดิม ทันใดนั้นเองเพื่อนของฉันก็บอกให้ฉันเข้าไปเล่นกับมัน” เธอกล่าว และตั้งแต่นั้นมา Elisa ก็ตกหลุมรักมัน “ครั้งแรกที่เข้าไปเล่นกับมัน ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากๆ มันเลียมือของฉันจากนั้นก็เอามือของมันมาแตะ” และตั้งแต่วันแห่งความประทับใจแรกวันนั้น เจ้า Ralph ก็จะมารอ Elisa ทุกๆ วันในช่วงเลิกเรียน และเธอก็จะแวะมาเล่นกับเจ้า Ralph ก่อนกลับบ้านเป็นประจำ …
-
เมื่อประธานาธิบดีฟินแลนด์พาหมาไปออกงานด้วย ทำยิ้มแฉ่งแย่งซีน แชร์กันว่อนโซเฃียล!!
กลายเป็นเรื่องที่ถูกแชร์กันไปมากมายในโลกออนลไน์ เมื่อช่วงวันที่ 23 เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาท่านประธานาธิบดีของประเทศฟินแลนด์ Sauli Niinistö ได้ออกไปปฏิบัติภาระกิจร่วมกันกับภรรยา ทุกอย่างดูเหมือนจะปกติ แต่ทว่าเขากลับพาเจ้าหมาไปด้วย เจ้า Lennu หมาพันธุ์ Boston Terrier อายุ 5 ปี และนี่เองที่ทำให้โลกโซเชียลถึงกับต้องปั่นป่วน เพราะแทนที่ผู้คนจะให้ความสนใจกับท่านประธานาธิบดีและภรรยา กลับกลายเป็นว่าดันโดนเจ้า Lennu มันแย่งซีนซะงั้น!? เพราะขณะที่ท่านประธานาธิบดีกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่เจ้า Lennu ก็จะวิ่งเล่นไปรอบๆ พร้อมกับคาบของเล่นไว้ในปาก สร้างความสนุกสนานและกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนที่ไปร่วมงาน นอกจากนี้เวลาถ่ายภาพของมันออกมาก็พบว่ามันเล่นกล้องเป็นซะด้วย ทั้งจัดท่าทาง ทำหน้ายิ้มแย้ม หันมามองกล้อง จนทำให้ชาวเน็ตต่างก็ตกหลุมรักไปตามๆ กัน มีคนนำภาพของเจ้า Lennu ไปโพสต์ลงบนทวิตเตอร์และก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจนมีคนเข้ามากดไลค์มากมายเป็นจำนวนกว่า 146,000 คน และรีทวีตไปกว่า 50,000 ครั้งเลยทีเดียว!! แต่ดูเหมือนว่าชาวฟินแลนด์เจ้า Lennu จะเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว และตอนนี้มันก็กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกไปซะแล้ว!! ชาวเน็ตมากมายต่างก็แชร์ภาพของเจ้า Lennu แบบชนิดที่ว่า มองไปทางไหนก็มีแต่ Lennu เต็มไปหมดเลยทีเดียว ฮร่าๆ …
-
พนักงานญี่ปุ่นเอามีดจ้วงตัวเอง เหตุเพราะไม่อยากไปทำงาน แถมยังให้การเท็จอีกแหนะ!!
ชายวัย 54 ปี จากเมืองคะซุไง จังหวัดไอชิ ประเทศญี่ปุ่น ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมหลังยอมรับสารภาพว่าเอามีดแทงตัวเองบริเวณสะโพก เพื่อที่จะหาข้ออ้างโดดงาน ซึ่งก่อนหน้านี้เขาได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าถูกคนแปลกหน้าเอามีดมาแทง โดยปกติแล้วเมื่อเราขี้เกียจไปทำงานก็แค่โทร หรือส่งข้อความหาเจ้านายบอกว่าไม่สบาย จากนั้นก็ใช้ชีวิตตลอดทั้งวันไปกับการเล่นเกม ดูหนัง ดูซีรี่ย์ ก็ว่ากันไป แต่สำหรับนาย Masaru Miura ที่ต้องการจะโดดงานในวันที่ 22 เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็เลยตัดสินใจที่จะใช้มีดแทงตัวเอง ในห้องน้ำของสถานีรถไฟใต้ดินนะโงะยะ ก่อนที่จะโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจว่าตัวเองถูกคนแปลกหน้าทำร้ายขณะที่เขากำลังทำธุระส่วนตัว (ชิ้งฉ่อง) อยู่ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุก็พบว่านาย Masaru กำลังเอามือปิดแผลที่บริเวณสะโพกด้านซ้ายอยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ทำการกั้นบริเวณสถานที่เกิดเหตุเอาไว้พร้อมกับสอบปากคำนาย Masaru เพื่อทำการสอบสวน ห้องน้ำในที่เกิดเหตุ ในตอนแรกเขาถูกสันนิษฐานว่าเป็นเหยื่อ แต่พอถามไปถามมาก็พบว่านาย Masaru นั้นให้การวกไปวนมา และตอบคำถามเดิมไม่ตรงกัน จนในที่สุดก็ยอมจำนน ยอมรับว่าที่พูดมาทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องโกหก เขาได้ให้การกับตำรวจว่าตนนั้นเครียดเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน พอเห็นมีดวางอยู่ในพุ่มไม้ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟใต้ดิน ก็เลยฉุกคิดแผนการขึ้นมาได้และหากสำเร็จขึ้นมาเขาจะไม่ต้องไปทำงานเป็นเวลาอย่างน้อย…
-
ชม 10 การออกแบบสถานีขนส่งและป้ายรถเมล์จากทั่วโลก สวยเกินไม่น่าเป็นสถานีขนส่ง
เราชาวไทยโดยเฉพาะชาวกทม. น่าจะคุ้นเคยกับการไปรอขึ้นรถบัส รถเมล์ หรือรถประจำทาง ที่สถานนี ซึ่งเราก็จะเห็นเก้าอี้สีสันต่างๆ พร้อมกับมีหลังคาบังแดด หรือถ้าที่เป็นสถานีขนส่งใหญ่ๆ หน่อยก็จะเป็นอาคารมีห้องแอร์สำหรับให้เรารอรถกัน แต่สิ่งที่#เหมียวฟิ้นจะพาไปชมกันในวันนี้ไม่ใช่การพาไปดูสถานีรถประจำทางเหล่านั้น แต่เราจะพาไปดูของต่างประเทศกัน นี่คือ 10 สถานีขนส่งที่ได้รับการยกย่องจากเว็บไซต์ Designcurial ว่ามีการออกแบบที่สวยงามที่สุดในโลก เราลองไปชมกันเลย 10. Preston Bus Station ประเทศอังกฤษ สถานีแห่งนี้ถูกออกแบบโดย Keith Ingham และ Charles Wilson และสร้างโดยบริษัทอารัป ถูกออกแบบให้หรูหราและมีประโยชน์ใช้สอยทั้งด้านนอกและด้านใน มีที่จอดรถในทุกๆ ชั้น สามารถจอดรถได้มากถึง 1,100 คันเลยทีเดียว . . 9. Norwich Bus Station ประเทศอังกฤษ แม้ว่าการออกแบบโดยรวมจะแหลมคมอะไรมาก แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมองจากด้านบนลงมาจะพบว่ามันสวยงามและมีมิติมาก มันถูกออกแบบโดย Michael Spicer และสร้างขึ้นในปี 2005 8. Arriva Headquarters Guimarães ประเทศโปรตุเกส สถานีขนส่งที่ดูมีความเรียบง่ายและร่วมสมัยแห่งนี้ถูกออกแบบโดย Ricardo Vieira…
-
คุณยายสุดเฟี้ยว ส่งข้อความและภาพให้หลานทุกๆ วัน เพื่อให้รู้ว่ารักหลานมากแค่ไหน
ถ้าบ้านของใครที่มีคุณย่าคุณยายอยู่ในครอบครัวของคุณด้วย คุณก็จะรู้ว่าพวกเขาเป็นคนที่โก๊ะกังขนาดไหน เพราะเนื่องจากร่างกายและบุคคลิกของพวกเขาที่ผ่านโลกมานานจะย้อนกลับไปเป็นเด็กๆ อีกครั้ง และแสดงพฤติกรรมที่บางครั้งกลายเป็นเรื่องราวน่ารักสำหรับหลานๆ เลย เรื่องนี้เป็นเรื่องราวน่ารักๆ ของ Sierra Sessions และคุณยายของเธอ ในทุกๆ วัน Sierra จะได้รับข้อความและรูปภาพจากยายของเธอ เพื่อย้ำเตือนให้รู้ว่ายายคนนี้รักหลานมากแค่ไหน ไม่ว่าคุณยายของเธอจะไปไหนหรือทำอะไร เธอก็มักจะถ่ายภาพเซลฟี่แล้วส่งมาให้หลานผ่านทางเฟซบุ๊ก พร้อมกับบอกว่า “ยายรักหลานนะ” หรือบางครั้งอาจจะเปลี่ยนเป็นการรายงานว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน วันหนึ่ง Sierra ตัดสินใจนำเรื่องราวเกี่ยวกับยายของเธอมาบอกเล่าให้เพื่อนๆ ในโลกทวิตเตอร์ได้รับรู้กัน พร้อมกับข้อความว่า “ยายของฉันส่งภาพเหล่านี้มาทุกๆ วัน เธอเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่สุดในโลก และฉันอยากจะปกป้องเธอไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม” ยายรักหลานจากที่ทำงาน / ยายรักหลานจากตอนอาบน้ำ สวัสดีตอนบ่ายนะเจ้าหญิง แว่นใหม่ของยาย นี่คือภาพของ Sierra และยายของเธอ Sierra Sessions: เธอคิดว่าพระอาทิตย์ขึ้นเป็นภาพที่สวยงาม แต่ฉันคิดว่ายายสวยกว่าอีก หลังจากที่เธอทวีตภาพออกไป ผู้คนก็ชื่นชอบกันมาก และยังแสดงความอิจฉาที่ Sierra มีคุณยายที่น่ารักขนาดนี้…
-
หนูน้อยจีนวัย 8 ขวบ นั่งขายผักข้างถนนนานกว่า 5 ปี หวังเก็บเงินออกตามหาพ่อแม่!!
เชื่อว่าส่วนใหญ่แล้วพ่อแม่ทุกคนก็ต้องรักลูกตัวเองอยู่แล้วแหละ แต่ก็ยังมีพ่อแม่บางส่วนที่ไม่รู้ว่าจิตใจทำด้วยอะไร หลังจากที่คลอดลูกออกมาแล้ว กลับทิ้งเด็กน้อยผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างไร้เยื่อใย ปล่อยให้พวกเขาขาดความอบอุ่นตามที่ควรจะเป็น และกลายเป็นเด็กกำพร้าในที่สุด เช่นเดียวกับชะตาชีวิตของหนูน้อยวัย 8 ขวบ Yang Xiuxia ผู้ตกตระกำลำบากถูกพ่อแม่ทิ้งไปตั้งแต่คลอดเธอออกมา แต่เธอก็ไม่ท้อแท้ เลือกที่จะลุกขึ้นสู้ออกมาขายผักตามท้องถนนด้วยตนเอง หวังนำเงินที่ได้ใช้ออกตามหาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด Yang Xiuxia ชาวบ้านในเมืองดองกวน ส่วนใหญ่แล้วจะรู้จักเธอเป็นอย่างดี เพราะเธอเริ่มต้นขายผักด้วยตนเองมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ซึ่งทุกวันนี้เธออาศัยอยู่กับ Huang Mengyi คุณยายผู้ไปเจอหนูน้อยถูกทิ้งไว้ข้างทาง เธอรับอุปการะมาเลี้ยงดูอย่างเต็มที่ เท่าที่เธอจะสามารถทำได้ ซึ่งทุกวันหลังเลิกเรียน Xiuxia จะรีบกลับจากโรงเรียนมาเพื่อเตรียมตัวออกไปขายผักที่ย่าน Lianhu หนูน้อยเฝ้าหวังว่าซักวันหนึ่ง เมื่อพ่อแม่ที่แท้จริงของเธอกลับมาที่เมืองนี้ จะเจอเธอนั่งขายผักอยู่ริมทาง นาง Huang ผู้อุปการะคาดว่าสาเหตุที่พ่อแม่ทิ้งเธอไป อาจจะเป็นเพราะเธอไม่ได้เกิดมาพร้อมร่างกายที่แข็งแรงเหมือนเด็กคนอื่นๆ ทุกวันที่ไปขายผักเธอจะห้อยป้ายที่เขียนข้อความไว้ว่า ‘พ่อจ๋า แม่จ๋า พวกท่านอยู่ไหน หนูเกิดมาพร้อมกับความป่วย และท่านก็เอาหนูมาทิ้งไว้หน้าบ้านหญิงชรา’ ตลอดเวลาที่ผ่านมานาง Haung ได้หาเงินมาส่งเสียเลี้ยงดูหนูน้อยส่วนหนึ่งจากการขายผักกับสามีของเธอ …
-
“ปล่อยเถอะ เธอน่าจะตายแล้ว” เพราะคำพูดนี้ ‘หญิงสาวออทิสติก’ รอดการรุมทำร้าย มาเล่าให้เราฟัง!?
หญิงสาวคนหนึ่งได้เหล่าถึงเหตุการณ์ปางตาย ที่สุดท้ายเธอก็รอดมาได้เพราะมีคนตรงนั้นบังเอิญตะโกนขึ้นมาว่า “หยุดได้แล้ว เธอตายแล้ว!!!” เหตการณ์นี้เกิดขึ้นกับ Emily O’Reilly วัยรุ่นสาวชาวอังกฤษซึ่งเป็นเด็กที่มีอาการของออทิสติกอยู่ เธอถูกทำร้ายขณะที่กำลังเดินทางไปที่บ้านเพื่อน เธอถูกดึงผมและผลักลงกับพื้นและโดนทำร้ายสารพัด ทั้งต่อยทั้งเตะจนมีสภาพที่ยับเยิน นอกจากนี้เธอยังถูกขโมยโทรศัพมือถือและกำไลไปอีกด้วย เธอเล่าว่า “ฉันหันไปเจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันเคยรู้จัก เธอเข้ามาข่มขู่และบอกว่าต้องการโทรศัพของฉัน ซึ่งเมื่อฉันปฏิเสธเธอก็่ต่อยเข้าที่หน้าของฉันทันที พร้อมกับล้วงเข้าไปในกางเกงฉันเพื่อที่จะเอาโทรศัพของฉันไป แต่แค่นั้นยังไม่พอเธอยังถอดกำไลของฉันออกไปด้วย ฉันจำอะไรไม่ค่อยได้เลยฉันรู้แค่ว่าถูกเตะและต่อยนับครั้งไม่ถ้วนเลย” หลังจากเหตุการณ์นั้นเธอก็ได้พยายามที่จะไปขอความช่วยเหลือจากผับใกล้ๆ แต่เธอก็ยังเจอผู้หญิงคนเดิมทว่าคราวนี้เธอมาพร้อมกับเพื่อนของเธอหลายคนเลยทีเดียว ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจจะทำร้ายเธออีกครั้งเพียงแต่ว่าในกลุ่มเพื่อนของผู้หญิงคนนั้นได้บอกว่า “เธอตายแล้ว” จึงทำให้ผู้หญิงคนนั้นหันหลังกลับไป ทิ้งไว้แต่ความกลัวในใจของ Emily จนทำให้เธอไม่กล้าที่จะออกไปไหนอีกแล้ว “ฉันพยายามวิ่งไปที่ผับเพื่อขอความช่วยเหลือ ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังเจอเธอพร้อมกับคนจำนวนมาก เพื่อตามหาตัวฉัน” “ถึงแม้เพื่อนของเธอจะบอกว่าฉันตายไปแล้ว เธอก็ยังคงกลับมาเพื่อเช็คฉันให้แน่นอนจริงๆ เหตุการณ์นี้ได้ทิ้งความกลัวไว้ให้ฉัน ฉันเจ็บปวดมากๆ มันทำให้ฉันไม่กล้าแม้แต่จะออกไปข้างนอกอีกต่อไป” จากผลกระทบในครั้งนี้ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถเปิดตาข้างขวาได้เลย ซึ่งแม่ของเธอบอกว่า “ตอนแรกที่ฉันไปที่โรงพยาบาลฉันจำหน้าของเธอไม่ได้เลยด้วยซ้ำ มันย่ำแย่มากๆ เธอได้แต่ร้องไห้ไม่หยุด แถมเธอยังลืมตาข้างขวาไม่ได้อีกตะหาก” นอกจากนี้แม่ของเธอยังบอกอีกว่าลูกของเธอเป็นโรคแอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม จึงทำให้การตอบโต้ของเธอช้ากว่าปกติและไม่สามารถสู้กลับสาวคนนั้นได้ และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กกลุ่มดังกล่าวไม่ค่อยชอบเธอด้วยก็ได้ สุดท้ายแล้วเธอก็อยากแค่ให้ลูกสาวของเธอใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไป แต่ว่าจากเหตุการณ์นี้มันคงจะเป็นไปได้ยากอีกต่อไป ตราบที่เหตุการณ์ร้ายแรงยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ …
-
‘กระต่ายกับเต่า’ ที่ไม่ใช่คู่แข่งเหมือนในนิทาน เพราะทั้งสองกลายมาเป็นเพื่อนรักกันแล้ว!!
ก็อย่างที่รู้กันดีว่า ‘กระต่ายกับเต่า’ ในนิทานที่ใครหลายคนอาจจะเคยได้ยินผ่านหูมาแล้วตั้งแต่เด็กๆ นั้นจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกันซักเท่าไหร่ แต่สำหรับเจ้ากระต่ายและเจ้าเต่าสองคู่ซี้ที่จะมาทำให้ทุกคนเปลี่ยนความเข้าใจใหม่ว่า จริงๆ แล้วกระต่ายกับเต่าน่ะ เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน นาย Ron Brink เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นจากโรงแรม Ritz-Carlton, Dove Mountain ที่ตั้งอยู่ในรัฐ Arizona ได้พบลูกกระต่ายตัวน้อยในช่วงเช้าวันหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังจะไปตรวจดูเจ้าเต่าที่ทางโรงแรมได้เลี้ยงดูอยู่ เป็นเต่าแอฟริกันชื่อว่า Wamba กลายเป็นว่ามันเป็นคนเจอเจ้ากระต่ายน้อยก่อนแล้ว!! ด้วยขนาดที่ใหญ่โตของเต่าอาจจะทำให้เจ้ากระต่ายตัวน้อยตกใจกลัว แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้ากระต่ายกลับยอมรับมันและคอยอยู่ใกล้ๆ กับเจ้า Wamba อยู่ตลอดเวลา หลังจากที่เข้าไปเช็คดูแล้วก็พบว่ามีสาหร่ายเจ้ากรรมได้พันคอของเจ้ากระต่ายอยู่แน่นพอสมควร และมันอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้เลย เพราะตอนนี้มันรัดแน่นจนกลายเป็นเนื้อเดียวกับผิวหนังของมันแล้ว คุณ Brink จึงรีบตัดมันออกอย่างเร็วที่สุดเพื่อช่วยชีวิตของเจ้ากระต่าย จนเจ้ากระต่ายน้อยปลอดภัยดี และทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาตั้งแต่วันนี้ เพราะเจ้ากระต่ายน้อยนั้นต้องการความรักความอบอุ่น และเจ้า Wamba เองก็ดูเหมือนจะรู้ถึงเรื่องนี้เลยคอยอยู่ใกล้ๆ มอบความอบอุ่นให้ตลอดเวลา “มันน่าเหลือเชื่อมากเลย” คุณ Brink กล่าว และตอนนี้เจ้ากระต่ายน้อยก็อยู่ในความดูแลของคุณ Brink และเจ้า Wamba รอคอยวันที่มันเติบโตและแข็งแรงมากพอ จึงจะปล่อยให้มันกลับสู่ธรรมชาติอีกครั้ง…
-
“หนุ่มขายเส้นหมี่” ในจีนดังข้ามคืน เผยคลิปลีลาการตวัดเส้น เร่าร้อนและจี้เส้นเหลือเกิน!!!
เส้นหมี่ถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักของอาหารประเภทซุปของเอเชีย ซึ่งไม่ต่างไปจากน้ำซุปที่ต้องมีรสชาติดีด้วย แต่ต่อให้คุณทำออกมาได้ดีแค่ไหน ถ้าขาดสิ่งที่ดึงดูดคน สุดท้ายก็จะไม่มีใครรู้จักอาหารของคุณเลย แต่สำหรับคนทำเส้นหมี่ในเมืองเฉิงตู ได้ทำการดึงดูดสายตาของคนที่ผ่านไปมาได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้ลีลาอันเร่าร้อน ตวัดเส้นโยนหมี่ให้ไปลงในหม้ออย่างสวยงาม เพราะเส้นยังไม่ตกพื้นเลยสักนิด คลิปนี้ถูกเผยแพร่มาประมาณต้นเดือน หนุ่มคนนี้ใช้ทั้งลีลากระโดด หมุนควง พร้อมกับเต้น จนสื่อจีนหลายสำนักให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และคลิปนี้ก็ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว จนสุดท้ายก็ได้มีการตามหาตัว แล้วก็พบว่าหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Tian Bo วัย 30 ปี ซึ่งปกติแล้วเขาก็ไม่ได้เป็นคนร่าเริงอะไรมากนักหรอก แต่การได้มาทำงานร้านอาหารแห่งนี้แล้ว เขาก็อยากจะทำให้มีลูกค้ามากินที่ร้านนี้มากยิ่งขึ้น เริ่มจากเดือนมีนาคมปีที่แล้ว เขาได้ลองใช้เทคนิคนี้ แล้วมันก็ทำให้ผู้คนสนใจในตัวเขามากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ได้ทำการเต้นประกอบเพลงพร้อมกับดึงเส้นหมี่ไปด้วย และผู้คนก็ไหลมาเทมา ส่วนอาหารจานนี้ที่เขาทำก็คือ “Longevity Noodles” ซึ่งเชื่อกันว่าถ้าได้ทานแล้วจะมีอายุที่ยืนยาวเหมือนกับเส้นนั่นเอง นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมต้องทำเส้นให้ยาว อันมีต้นกำเนิดมาจากเมืองเสฉวน นอกจากนี้เขายังเคยถูกทาบทามงานและโอกาสมากมายหลังจากที่มีชื่อเสียง แต่เขาก็ยังยืนยันที่จะอยู่ที่ร้านอาหารแห่งนี้ต่อไป และวันหนึ่ง เขาก็อยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเองด้วย เห็นแล้วก็อยากไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง นี่น่าจะกลายเป็นร้านอาหารอีกหนึ่งแห่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเที่ยวและไปชิมบะหมี่เลยก็ได้ ที่มา shanghaiist
-
เล่นงี้เลย!! จีนประยุกต์ใช้ “โดรนพ่นไฟ” เพื่อเอาไว้กำจัดขยะที่ติดอยู่ตามสายไฟฟ้าแรงสูง
เป็นเรื่องที่ยากมากๆ สำหรับการกำจัดขยะที่ติดอยู่ตามสายไฟฟ้าที่อยู่บนที่สูง เพราะว่าเป็นงานที่อันตรายและค่าใช้จ่ายสูง ทางบริษัทแห่งหนึ่งในจีนก็เลยปิ๊งไอเดียหนึ่งขึ้นมา ในคลิปนี้เป็นการทำงานของบริษัทไฟฟ้าแห่งหนึ่งในเมือง Xiangyang ประเทศจีน พวกเขาพยายามจะหาวิธีกำจัดขยะที่ชอบลอยไปติดตามสายไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งยากต่อการกำจัดมาก เขาก็เลยดัดแปลงโดรนให้มีความสามารถในการกำจัดขยะ นั่นก็คือการใช้ไฟเผานั่นเอง มีการวิเคราะห์ว่าโดรนตัวนี้เป็นรุ่น DJI S1000+ ที่มี 8 ใบพัด ซึ่งสามารถรับน้ำหนักและมีพลังการบินที่สูง อีกทั้งยังมองไปถึงตัวรีโมทบังคับ Futaba T14 SG ซึ่งเป็นรีโมทที่สามารถเอาไปประยุกต์ใช้กับโดรนได้หลากหลายตัว เมื่อซูมดูใกล้ๆ เราจะเห็นว่าตัวโดรนนั้นได้ติดตั้งถังเชื้อเพลิงไว้สำหรับการพ่นไฟ ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเขาจะเอาไปใช้จริงๆ หรือว่าเป็นการทดลองเฉยๆ เพราะไม่มีคลิปเหตุการณ์ก่อนหรือหลังจากนี้ แต่ดูจากคลิปแล้วมันก็เหมือนจะใช้งานได้ดี ถึงแม้จะเป็นไอเดียการประดิษฐ์ที่ดีเยี่ยม แต่หลายคนเห็นแล้วก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันน่ากลัวมากๆ กับการเอาไฟไปเผาสายไฟฟ้าแรงสูงแบบนั้น แม้ว่าไฟจะเผาขยะได้ก็จริง แต่ตรงสายไฟนี่เป็นอะไรที่หวาดเสียวมากๆ เอาไม้สอยเฉยๆ ไม่ได้เหรอพี่!! ที่มา inverse
-
ชาวบ้านฟิลิปปินส์งงเต๊ก หลังมีตัวอะไรก็ไม่รู้มาเกยตื้นบนชายหาด มีแต่ขนขาวโพลนเต็มตัว…!!
เป็นใครก็ต้องเกิดอาการคำถามขึ้นหัวแหละ ถ้าจู่ๆ มีวัตถุประหลาดที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน มาตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าเรา เมื่อวันที่ 23 กุมพาพันธ์ สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานว่า ชาวบ้านฟิลิปปินส์บนเกาะ Dinagat Islands ถึงกับยืนงงเป็นไก่ตาแตก เพราะจู่ๆ ก็มีสิ่งมีชีวิตสุดประหลาดที่ไม่เคยมีใครพบเห็นมาก่อน มาเกยตื้นอยู่บนชายหาดในบริเวณนั้น เอ๊ะ…หรือว่านี่จะเป็นเอเลี่ยน!? ตัวอะไรก็ไม่รู้…มีแต่ขนเต็มไปหมด หลังจากที่สิ่งมีชีวิตอันน่าพิศวงขึ้นมาเกยตื้นบนชายหาด ชาวบ้านต่างก็พากันมามุงดูพร้อมทั้งถ่ายรูป จนกลายเป็นกระแสที่แพร่สะพัดไปบนโลกออนไลน์ โดยชาวบ้านบางคนก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า ลักษณะของมันคล้ายกับตัว Appa จากหนังเรื่อง The Last Airbender แต่ชาวเน็ตบางคนก็ออกมาแย้งว่านี่ไม่ใช่ตัว Appa แต่มันคือหมาชิสุยักษ์ ที่ถูกกระแสน้ำทะเลพัดพามาจากดินแดนอันไกลโพ้นก็เป็นได้ (สรุปไม่มีสาระซักคน) ตัว Appa ซากสิ่งมีชีวิตปริศนาที่มีขนาดความยาวประมาณ 610 ซม. John Paul Garcia ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งมีชีวิตแปลกๆ ก็ได้ออกมาชี้แจงเช่นกันว่า ลักษณะทางกายภาพของมันคล้ายคลึงกับ ลูกผสมระหว่างปลาวาฬ และหมีขั้วโลก ซึ่งเคยเกยตื้นบนชายฝั่งของประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อ…
-
คุณยายวัย 82 โทรผิดเบอร์เจอหนุ่มวัย 28 แต่ไปๆ มาๆ จีบจนแต่งงานกันเฉยเลยอ๊ะแกร!!
มีบางคนเค้าบอกว่า ความรักนั้นไร้พรหมแดน เพราะไม่ว่าคุณจะเชื้อชาติไหน อายุเท่าไหร่ หรือฐานะทางบ้านจะเป็นยังไง สุดท้ายแล้วในชีวิตของเราต่างก็ต้องเคยรักใครซักคนกันมาแล้วทั้งนั้นแหละ แต่จะว่าไปบางทีเรื่องของความรักนี่มันก็เป็นเหมือนบุพเพสันนิวาศ จู่ๆ มันจะเกิดขึ้น มันก็เกิดขึ้นดื้อๆ ซะงั้น… เช่นเดียวกับเรื่องราวความรักของ Sofian Loho Dandel พ่อหนุ่มวัย 28 ปี ที่เพิ่งสละโสดเข้าสู่พิธีวิวาห์กับคุณยาย Martha Potu วัย 82 ไปหมาดๆ แต่เราก็หากันจนเจอ…… จุดเริ่มต้นของความรักครั้งนี้ มันเริ่มมาจากเมื่อประมาณปีก่อน Sofian ได้รับโทรศัพท์เบอร์แปลก ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเบอร์ของคุณยาย Martha นั่นแหละเพราะเธอโทรผิด และการโทรผิดครั้งนี้ทำให้ทั้งคู่ได้พูดคุยกัน ต่างฝ่ายต่างอยากจะรู้จักกันและกัน จึงทำให้ทั้งคู่โทรจีบกันมานับตั้งแต่วันนั้น ‘ตอนแรกเธอโทรมาหาผม ซึ่งเธอโทรผิดเบอร์ แต่หลังจากวันแรกที่เราได้คุยกันผมก็รู้สึกตกหลุมรักอย่างบอกไม่ถูก ผมไม่เคยออกเดทมาก่อน และตอนนั้นผมก็ไม่รู้ด้วยว่าเธออายุเท่าไหร่..’ Sofian เล่า ภาพจากงานวิวาห์ของทั้งคู่ ทั้งคู่พูดคุยผ่านโทรศัพท์กันได้ประมาณเดือนกว่า พ่อหนุ่มจึงคิดได้ว่าถึงเวลาแล้วที่เขา และเธอจะต้องมาเจอกัน เขาเดินทางไกลกว่า 120 กิโลฯ จากหมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนใต้ของประเทศ เพื่อมาเจอกับ Martha ตอนแรกพ่อหนุ่มก็คิดว่าสาวที่เขาคุยด้วย…
-
หนุ่มจีนต้องยอมเป็นโสด เพราะค่าสินสอดของหญิงสาวแพงเกินไป พุ่งสูงถึง 1 ล้านบาท
ธรรมเนียมสินสอดแต่งงานถือว่าเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมเอเชียมาหลายพันปี โดยหลายๆ ประเทศไม่ว่าจะเป็น ไทย อินเดีย จีน และอื่นๆ อีกหลายประเทศ ก็มีคุ้นเคยกับการเก็บเงินเพื่อไปสู่ขอหญิงสาวมาเป็นภรรยา แต่ล่าสุด ดูเหมือนว่าการเรียกสินสอด จะสร้างปัญหาให้กับหนุ่มชาวจีนเป็นอย่างมาก เมื่อค่าสินสอดพุ่งแตะหลัก 200,000 หยวน หรือราว 1 ล้านบาท จนทำให้หนุ่มๆ หลายคนตัดสินใจยอมเป็นโสดแทน จากการสำรวจของสำนักข่าว People’s Daily ค่าสินสอดโดยเฉลี่ยในปีที่ผ่านมาในมณฑลเหอเป่ย ซานซี ซินเจียง กานซู่ และเขตปกครองตนเองมองโกเลียในอยู่ที่ 200,000 หยวน หรือราว 1 ล้านบาทซึ่งเพิ่มขึ้นถึงสามเท่าจากไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเงินสินสอดดังกล่าวยังไม่รวมกันทรัพย์สินอื่นๆ เช่น แหวน บ้าน รถ และอื่นๆ อีกมากมาย หนึ่งในผู้ใช้งานเว็บไซต์โซเชียลของจีน Weibo จากมณฑลกานซู่ได้เขียนว่า เขาพยายามหาเจ้าสาวมาเป็นเวลากว่า 7 ปี จนกระทั่งเขาได้เจอกับคู่ที่เหมาะสม แต่ครอบครัวเจ้าสาวกลับเรียกเงินกว่า 180,000 หยวน (900,000 บาท)…
-
หนุ่มสวม “Jet Pack” แล้วออกบินกลางเวหา อยากเห็นคนบินได้ก็คราวนี้แหละนะ!!
พูดถึง Jet Pack แล้ว เชื่อว่าหลายคนต้องคิดว่าเป็นอุปกรณ์ที่เหมือนอยู่ในจินตนาการ ที่ยังไม่สามารถ (หรืออาจไม่มีทาง) เป็นจริงได้ในปัจจุบัน (เหมือนๆ พวกรถยนต์บินได้อะไรพวกนั้นแหละ) แต่รู้หรือไม่ ตอนนี้เรามี Jet Pack ตัวต้นแบบจาก JetPack Aviation ที่สามารถบินได้จริงๆ แล้วนะ ซึ่งแทบจะถอดแบบมาจากหนัง 007 เลยล่ะ ล่าสุดสองหนุ่มจากอเมริกา Tyson Henderson และ Carter Hogan ได้นำ JetPack ดังกล่าวมาถ่ายวีดีโอสุดเทพ ที่เพื่อนๆ เห็นแล้วจะต้องอยากได้มาครอบครองซักอันอย่างแน่นอน ลองไปชมคลิปกันดีกว่า แบบว่าเจ๋งสุดๆ ไปเลยอ่ะ ใครอยากเป็นเจ้าของ JetPack อันนี้ ก็ลองไปช่วยระดมทุนกันได้ที่เว็บไซต์ jetpackaviation ได้เลยนะฮะ ตอนนี้ทางวิศวกรกำลังทำงานกันอย่างขมักเขม่น และหวังว่าเวอร์ชั่นสมบูรณ์แบบจะสำเร็จในเร็วๆ นี้นะฮะ ที่มา devinsupertramp
-
ไก่ช่วยด้วย!! “Darla” จากลูกไก่ป่วยใกล้ตาย กลายเป็นไก่นักบำบัดที่ใครๆ ก็ต้องการตัว
นี่เป็นเรื่องราวน่ารักๆ ของ Erika Proctor และลูกชาย Finn จากรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาตั้งองค์กร Green Dogs Unleashed เพื่อช่วยเหลือสุนัขที่หูหนวกตาบอด ทำให้พวกเขาใกล้ชิดกับสัตว์มาก ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 2 ปีก่อน ในปี 2015 Erika Proctor และลูกชาย Finn ได้ไปเที่ยวที่งานจัดแสดงสินค้าแห่งหนึ่ง แล้วได้ไปเจอเข้ากับลูกไก่ป่วย 3 ตัว Finn เลยบอกกับแม่ของเขาว่าอยากจะรับเอาลูกไก่ตัวนั้นมาเลี้ยง แม้ว่ามันอาจจะไม่รอดก็ตาม แต่น่าเสียดายที่พอพาลูกไก่กลับมาบ้านแล้ว พวกมันดันตายไป 2 ตัว เหลือลูกไก่เพียงตัวเดียวที่แข็งแรงพอ พวกเขาเลยตั้งใจจะเลี้ยงมันและตั้งชื่อให้มันว่า Darla วันเวลาผ่านไปพวกเขาก็สนิทกับเจ้าไก่ตัวนี้มากขึ้น เจ้าไก่ตัวนี้เริ่มใช้ประตูบานพับเล็กๆ ของสุนัขเดินเข้าออกบ้านปร๋อ นอกจาก Darla แล้ว ที่บ้านของพวกเขายังมีแมวมีสุนัขตาบอดหูหนวกอยู่หลายตัว แต่พวกมันก็ไม่เคยทะเลาะกันเลย และยังเข้ากันได้ดีกับสัตว์ทุกๆ ตัวด้วย ส่วน Finn เองก็ดูจะชอบเจ้าไก่ Darla มาก พวกเขาจะออกไปเล่นนอกบ้านด้วยกันบ่อยๆ บางครั้งเขาก็จะอ่านหนังสือให้เจ้าไก่เพื่อนยากฟัง และเนื่องจากอากาศที่นั่นค่อนข้างเย็น เจ้าไก่ก็เลยใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการซุกอยู่ในเสื้อกันหนาวของ Finn เป็นหลัก…
-
คิดเห็นอย่างไร? เผยคลิปพยาบาลเต้นรำกันอย่างสนุกสนานต่อหน้าผู้ป่วย จนถูกไล่ออกยกแก๊งค์
กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ของต่างประเทศเมื่อมีคลิปวิดีโอคลิปหนึ่งอัพลงบนเว็บไซต์ยูทูบ.. เนื้อหาในคลิปวิดีโอก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล มีคนสวมชุดคล้ายกับเป็นพยาบาลเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งในคำอธิบายใต้คลิปก็ได้บอกเอาไว้ว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโรงพยาบาลเอกชนในเมือง Antalya ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 23 เดือนธันวาคม ปี 2013 และขณะที่กำลังเต้นรำกันอยู่นั้นก็พบว่าเบื้องหลังของพวกเขาก็มีคนป่วยกำลังนอนอยู่ด้วย แต่เพิ่งจะถูกอัพลงโซเชียลเน็ตเวิร์คเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2017 โดยอดีตพนักงานในโรงพยาบาลที่ต้องสงสัยว่าอาจจะไม่พอใจกับการกระทำดังกล่าว จึงได้ออกมาแฉ แน่นอนว่าชาวเน็ตมากมายต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงตำหนิกลุ่มคนที่เต้นอยู่ในคลิปกันมากมายว่าทำตัวไม่เหมาะสม บ้างก็บอกว่าบางทีอาจจะเป็นวิธีการผ่อนคลายจากการทำงานที่เต็มไปด้วยแรงกดดันและความเครียดก็เป็นได้ จนในที่สุดเมื่อวันที่ 23 กุมถาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานว่า เรื่องไปเข้าถึงหูของนาย Huseyin Sari ผู้บริหารของโรงพยาบาลดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ผมจะยกเลิกสัญญาจ้างงานของพวกเขาในทันที” นาย Huseyin กล่าว นอกจากนี้เขายังได้รายงานพฤติกรรมของกลุ่มคนกลุ่มนี้ไปยังคณะกรรมการหน่วยงานด้านสุขภาพของท้องถิ่นให้ทำการสอบวินัยของเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้อีกด้วย ลองไปชมคลิปดังกล่าวแล้วค่อยตัดสินใจว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นถูกหรือผิดอย่างไร? เป็นอย่างไรกันบ้างจ๊ะ? พอได้ชมคลิปกันแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรก็สามารถคอมเม้นต์กันเข้ามาได้เลยนะ ที่มา : mirror, geogie hagaid
-
Ed Sheeran สวมบทพ่อบ้านใจกล้า ยอมเดินเท้าเปล่าหลังส้นสูงของแฟนสาวหักในงานปาร์ตี้
ไม่ว่าใครก็ชื่นชอบศิลปินหนุ่มชาวอังกฤษที่ชื่อ Ed Sheeran กันทั้งนั้น เพราะนอกจากจะร้องเพลงเพราะแล้ว เขายังมีแต่เรื่องราวดีๆ มาให้เราเห็นอยู่ไม่ขาดเลย ล่าสุดเขาได้ไปร่วมแสดงดนตรีในงาน Brit Awards 2017 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่หลังจากที่การแสดงจบลงแล้ว เขาก็ถูกชื่นชมจากแฟนๆ ในอินเตอร์เน็ตอย่างมาก เพราะหลังจากที่การแสดงจบลง Ed Sheeran ก็ไปร่วมงานปาร์ตี้ระหว่างศิลปินและพาแฟนสาวอย่าง Cherry Seaborn ไปงานกับเขาด้วย แต่ในระหว่างงานปาร์ตี้รองเท้าส้นสูงของ Cherry ก็ดันพังไม่เป็นชิ้นดี พ่อหนุ่ม Ed ของเราก็ไม่รอช้าที่จะถอดรองเท้าของเขาออกมาเพื่อให้แฟนสาวใส่รองเท้าของเขาแทน ส่วนตัวเองก็เดินเท้าเปล่าเหลือแค่ถุงเท้าจูงมือแฟนสาวออกมาจากงาน ทำเอาปาปารัซซี่รัวกดชัตเตอร์กันแบบรัวๆ ภาพในตอนที่เขาและแฟนสาวได้เดินทางมาถึงงาน และนี่คือสภาพของทั้งคู่ตอนจะกลับ อ่าวไหงพี่ Ed ของเราเดินเท้าเปล่าอย่างงั้นล่ะ . . สภาพรองเท้าของ Cherry หลังจากงานปาร์ตี้ ที่ดูแล้วไม่น่าจะใส่ได้อีกต่อไป ตามข่าววงในบอกว่า Cherry Seaborn นั้นรู้จักกับ Ed Sheeran มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว และเธอเองก็เป็นหญิงสาวที่ Ed จริงจังจนอยากจะแต่งงานและสร้างครอบครัวด้วยในอนาคตเลยทีเดียว นอกจากจะร้องเพลงเพราะแถมยังมากความสามารถสุดๆ…
-
งี้ก็ได้เหรอ? ศิลปินหนุ่มวาดรูปยูนิคอร์นบนคอมฯ ละมันดันเล่นกลายเป็นเพลงได้ด้วยนะ
กระบวนการในการทำเพลงนั้นเป็นเรื่องที่คนทั่วไปเข้าใจได้ยาก แม้แต่ #เหมียวฟิ้นเองก็เข้าใจแค่เรื่องพื้นๆ อย่างการอัดเสียงตอนที่เล่นเครื่องดนตรีหรือร้องเพลง แล้วนำมาจัดเรียงตัดต่อให้กลายเป็นเพลงที่ไพเราะ แต่สิ่งที่เราจะพาคุณไปดูในวันนี้มันเป็นอะไรที่อเมซิ่งมาก เพราะมีศิลปินหนุ่มรายหนึ่งได้วาดภาพ “ยูนิคอร์น” ลงบนคอมพิวเตอร์ ก่อนที่มันจะกลายมาเป็นเพลงเจ๋งๆ ออกมาให้เราฟัง!! คลิปดังกล่าวเป็นของยูทูปเบอร์ชื่อดังคนหนึ่งชื่อว่า Andrew Huang เขาได้ศึกษาการทำเพลงโดยการใช้ภาพวาดมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง เขาจึงทดลองวาดภาพม้ายูนิคอร์นสิ่งมีชีวิตในตำนานขึ้นมา จากนั้นเขาก็นำภาพดังกล่าว ไปวาดบนโปรแกรมเสียงมาตรฐาน MIDI พร้อมกับเซตค่าต่างๆ ภายในโปรแกรมให้เหมือนกับภาพม้ายูนิคอร์น สุดท้ายเข้าก็ได้คำสั่งเสียงออกมาหน้าตาแบบนี้ ลองไปชมคลิปกันดู มันออกมาเป็นเพลงจริงๆ นะ โอ้โห ทำแบบนี้ก็ได้เหรอเนี่ย ใครสนใจอยากลองนำภาพต่างๆ มาทำเป็นเพลง ก็ลองศึกษากันดูได้นะฮะ บางทีเราอาจได้เพลงเจ๋งๆ ก็เป็นได้ ที่มา creators.vice
-
นักการเมืองสวีเดนชูนโยบาย ให้พนักงานได้พักกลับบ้านไปปั่มปั๊ม ลดความเครียดจากงาน!!
ปกติแล้วตามกฏหมายแรงงานทั่วไป ในการทำงานหนึ่งวัน (8 ชม.) พนักงานส่วนใหญ่มักจะได้เวลาพัก 1 ชั่วโมง เป็นอย่างน้อย ซึ่งมันก็ดูเหมือนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่หรอก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้พักเลย แต่ที่สวีเดนเค้ากำลังจะขยับก้าวข้ามไปอีกขั้น โดยเว็บไซต์ Vice ได้รายงานว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Per-Erik Muskos นักการเมืองชาวสวีเดนจากพรรค Swedish Social Democrat ได้เสนอให้ทั่วประเทศมีการเพิ่มพักเบรคพิเศษอีก 1 ชั่วโมง เพื่อให้พนักงานทุกคนได้กลับบ้านไปปั่มปั๊มกับคู่รักของตน!! โดยทางด้านของ Per-Erik Muskos ผู้เสนอนโยบายได้กล่าวว่า ‘มันเป็นเรื่องของการกระชับความสัมพันธ์ในระดับครัวเรือน และก็มีงานวิจัยรองรับด้วยว่า การมีเซ็กส์ช่วยทำให้สุขภาพเราดีขึ้นจริง’ พูดอีกก็ถูกอีกนั่นแหละ เซ็กส์ ช่วยทำให้สุขภาพกาย และใจเราดีขึ้นมากจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีงานวิจัยจากหลายสำนัก ออกมาชี้แจงว่าเซ็กส์ช่วยให้ ระดับความดันเลือดลดลง ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับได้ รักษาไข้หวัดได้ หรือแม้แต่อาการสะอึก เซ็กส์ก็ช่วยได้ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการเสนอนโยบายที่น่าสนใจ แต่นโยบายนี้ก็ต้องถูกนำไปพิจารณาในที่ประชุมอย่างเป็นทางการจากสภาสูงของสวีเดนก่อน ผู้เสนอเชื่อว่านอกจากจะช่วยกระชับความสัมพันธ์แล้ว ยังช่วยให้พนักงานได้ลดความเครียดจากการทำงานระหว่างวันอีกด้วย แหม่…ไหนๆ บ้านเราก็จะมีโครงการ ‘สาวไทยแก้มแดงมีลูกช่วยชาติ’ ไม่ทราบว่าท่านผู้ใหญ่สนใจจะลองเอานโยบายนี้ไปอะแด๊ปซักหน่อยมั้ย? รับรองว่าถูกอกถูกใจคนไทยแน่น๊อนน!! ที่มา: Vice
-
เด็กหญิงถูกเพื่อนๆ รังแกเป็นประจำ กลุ่มไบค์เกอร์รุ่นใหญ่ จึงอาสาพาเธอไปส่งโรงเรียน!!
สำหรับเด็กๆ แล้ว โรงเรียนควรจะเป็นสถานที่ที่ทำให้พวกเขาสนุกและรู้สึกปลอดภัย แต่นั่นไม่ใช่กับเด็กหญิง Adriana Reynolds วัย 7 ขวบคนนี้ อาจเพราะความที่เธอมีลักษณะเหมือนสาวห้าวหรือทอมบอย ทำให้เธอมักถูกเพื่อนๆ ที่โรงเรียนแกล้งอยู่เสมอ จนเธอแทบไม่อยากไปโรงเรียน เมื่อคุณแม่ของเธอ Alexandria ได้ยินแบบนั้น เธอจึงคิดวิธีหนึ่งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้ เธอได้ติดต่อไปยังกลุ่มมอเตอร์ไซค์ The Punishers เพื่อช่วยแก้ปัญานี้ให้กับลูกสาวของเธอ แม้กลุ่มไบค์เกอร์เหล่านี้จะดูโหด แต่ความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจและพร้อมจะช่วยเหลือเด็กหญิงคนนี้ Bushey ประธานของกลุ่ม The Punishers กล่าวว่า “พวกเราจะเป็นเสื้อเกราะให้เธอ เราบอกให้เธอคิดว่าพวกเราเป็นเหมือนคุณลุงของเธอ เธอได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของเราแล้ว และถ้าเธอต้องการสิ่งใด ขอให้บอกพวกเรา” พวกเขามอบเสื้อกั๊กของกลุ่มให้กับ Adriana สวมหมวกกันน็อคให้กับเธอ จากนั้นก็พาเธอซ้อนรถ แล้วส่งเธอไปยังโรงเรียน เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่า ถ้าใครรังแกเธอ จะต้องเจอกับอะไรบ้าง “ตอนแรกฉันคิดแค่ว่าการชวนกลุ่มไบค์เกอร์มาจะทำให้เธอรู้สึกดี เพราะเธอชอบมอตอร์ไซค์อยู่แล้ว และมันจะช่วยให้เธอรู้ว่า โลกเรายังมีคนดีๆ อีกเยอะ แต่พวกเขาได้ทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมในการช่วยเหลือเธอ”…
-
คุณแม่แชร์ภาพลูกชาย ที่ต้องต่อสู้กับมะเร็งร้ายทุกวัน ชาวเน็ตจึงร่วมแห่ให้กำลังใจกันคับคั่ง!!
โรคมะเร็งนั้นเป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไปแล้วมากมาย และมันเป็นโรคที่ไม่ว่าใครก็สามารถป่วยเป็นได้ อีกทั้งยังเข้าถึงได้กับทุกเพศทุกวัย ผู้ป่วยทั้งหลายจะได้พบเจอกับความทรมานจากความเจ็บปวดที่เกิดจากก้อนเนื้อร้าย อีกทั้งยังต้องเข้ารับการรักษาที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงไป จนหลายๆ คนเลือกที่จะยอมแพ้ และจากไป และหนูน้อย Drake Medinger วัย 10 ขวบ จากเมือง Romball รัฐ Texas เองก็เป็นอีกรายหนึ่งที่ได้รับความทรมานจากโรคมะเร็งร้าย ซึ่งขณะนี้เขาเองก็กำลังเข้ารับการรักษาด้วยคีโมอยู่ ซึ่งแม่ของเขาเองก็ได้ทำการถ่ายภาพพร้อมกับอัพลงบนโซเชียลมีเดีย จากนั้นก็ถูกแฟนเพจ Love What Matters นำเรื่องราวไปแชร์ต่อเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งให้มีกำลังใจสู้ต่อไป คุณแม่เล่าว่า “นี่เป็นช่วงเช้าหลังจากที่พา Drake ไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ เพราะเขาต้องการคนช่วยเหลือตลอดเวลา ร่างกายที่ผอมแห้งเพราะฉันต้องขอร้องให้เขาทานถั่วเขียวเป็นอาหารมื้อเย็น และดื่มน้ำตลอดทั้งวัน ทุกครั้งที่เขานอนหลับฉันจะต้องคอยอยู่ข้างๆ เพราะเขากลัวว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นเขาจะต้องอยู่เพียงลำพัง” หนุ่มน้อย Drake ป่วยเป็นโรคลูคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลือดขาว) มาตั้งแต่ปี 2012 และเข้ารับการรักษาจนหายดีในปี 2016 จากนั้นไม่นานเขาก็ต้องเริ่มการต่อสู้ครั้งใหม่กับโรคมะเร็งอัณฑะ เรื่องราวของ Drake ถูกแชร์ไปมากกว่า 80,000 ครั้ง…
-
25 ภาพที่จะทำให้เห็นว่า แค่การ “ตัดผม” ก็สามารถเปลี่ยนตัวตนของเราได้ทันที!!
ช่างตัดผมเป็นทั้งศิลปินและนักจิตวิทยาในคนๆ เดียว พวกเขาพยายามทำให้ทรงผมที่ออกมาดูเข้ากับบุคลิกของลูกค้า รวมทั้งต้องทำให้ลูกค้าพอใจกับทรงที่ออกมาด้วย และหลายๆ ครั้ง การตัดผมก็แทบจะเปลี่ยนคนๆ หนึ่งให้กลายเป็นอีกคน ไม่เชื่อลองไปชมการเปลี่ยนแปลงทรงผมของหญิงสาวทั้ง 25 คนนี้ รับรองว่าเพื่อนๆ จะอึ้งเลยว่า คนเราสามารถเปลี่ยนกันได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย จากหญิงวัยกลางคน พอเปลี่ยนทรงผมปุ๊บวัยรุ่นขึ้นเป็นกอง พอผมสั้นลง ก็ดูมั่นใจในตัวเองขึ้นเยอะ ตอนแรกก็สวยอยู่แล้ว พอเปลี่ยนทรงผม ดูสวยยิ่งกว่าเดิมซะอีก แบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ ลองไปชมของสาวๆ ท่านอื่นกันเลย . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . เห็นแบบนี้ ลองไปเปลี่ยนทรงผมกันดูนะเพื่อนๆ รับรองว่าจะได้พบกับความเปลี่ยนแปลงอันน่าตกใจแน่นอน…
-
ไปกันไหม? ญี่ปุ่นเตรียมเปิดรับเด็กจบสาขาเกษตรไปทำงานที่นู่น พักยาวๆ 3-5ปี
ถ้าการได้ไปใช่ชีวิตอยู่ในฟาร์มสักแห่ง ได้ปลูกพืชปลูกผักแบบที่ตัวเองชอบ อยู่กับธรรมชาติเขียวๆ เป็นความฝันของคุณล่ะก็ โอกาสของคุณมาถึงแล้ว เพราะตอนนี้ในประเทศญี่ปุ่นกำลังจะเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติอย่างเราๆ เข้าไปทำการเกษตรที่โน่นกันแบบยาวๆ เลย เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Nikkei ของญี่ปุ่นได้รายงานว่าทางรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมที่จะออกนโยบายเพื่อมองหาบุคลากรที่มีความสนใจหรือมีความเชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรมจากต่างประเทศ เข้ามาทำงานอยู่ภายในประเทศญี่ปุ่น โดยจัดแบ่งเป็นโซนพิเศษให้โดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการเปิดกว้างสำหรับด้านต่างๆ มาแล้วเช่นล่าม พ่อครัว เพื่อช่วยเหลือธุรกิจต่างๆ ให้สามารถรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้านนายกรัฐมนตรี Shinzo Abe ได้เสนอการทำฟาร์มรูปแบบผสมในโซนพิเศษ สำหรับชาวต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาทำงานทางด้านเกษตรกรรม พร้อมกับอนุญาตให้พำนักอยู่ภายในประเทศได้นานตั้งแต่ 3 ถึง 5 ปี ภายใต้ร่างนโยบายดังกล่าวจะมีการอนุมัติคุณสมบัติและข้อกำหนดเกี่ยวกับการเข้าไปทำงานที่ญี่ปุ่น จะต้องมีประวัติการทำงาน มีรับรองคุณวุฒิการศึกษา ซึ่งหากเป็นสายงานอื่นๆ ก็สามารถยืดหยุ่นได้เพื่อรองรับกับสายงานที่กำหนด สามารถทำงานตามที่กำหนดได้ และผู้สมัครจะต้องผ่านการทดสอบด้วย ซึ่งถ้าหากผู้สมัครผ่านการสอบรับรองมาก่อนทั้งภายในญี่ปุ่นและต่างประเทศหรือมีผลงานชนะเลิศการประกวดทางด้านการเกษตรมาก่อนก็จะผ่านรอบคัดเลือกทันที สำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์จะสามารถพำนักอยู่ที่นั่นได้ราวๆ 3-5 ปี เพื่อทำการเกษตร และการว่าจ้างงานชาวต่างชาติของธุรกิจเกษตรกรรมของญี่ปุ่นจะต้องมีเงื่อนไขบางอย่างเช่น จะต้องทำการว่าจ้างบุคลากรมาก่อนแล้วอย่างน้อย 10 คน (ชาวญี่ปุ่น) ถึงจะสามารถว่าจ้างชาวต่างชาติได้โดยตรง (เพิ่มเติม) …
-
หมดกัน… ฟาร์มเสือจีนปล่อย “โดรน” บินว่อนพาเสือออกกำลังกาย แต่ก็โดนตะปบจนพัง!?
ในช่วงต้นปีแบบนี้ยังคงเป็นช่วงฤดูหนาวของประเทศจีน ทำให้มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นและมีหิมะตกในหลายๆ แห่ง นอกจากมนุษย์อย่างเราๆ ที่ใช้ชีวิตลำบากแล้ว พวกสัตว์เองก็เช่นกันนะ อย่างข่าวที่#เหมียวฟิ้นหยิบมารายงานในวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฟาร์มเสือไซบีเรีย China’s Harbin Siberian Tiger Park ที่เมืองฮาร์บิน มณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่นั่นเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว เสือแต่ละตัวก็จะมีร่างกายที่อ้วนท้วมสมบูรณ์ป้องกันอากาศหนาว เนื่องจากอากาศหนาวมากจนพวกมันไม่อยากออกไปไหน ทางฟาร์มเสือจึงออกไอเดียนำเอาโดรนมาบินล่อให้พวกมันวิ่งตาม เพื่อเป็นการกระตุ้นให้พวกมันได้ออกกำลังกายบ้าง แต่ด้วยสัญชาตญาณของเสือ เมื่อพวกมันเห็นอะไรที่บินได้มันก็จะคิดว่าว่าเป็นนก พวกมันจึงวิ่งไล่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งโดรนลำที่ว่านี้บินต่ำลงมาถึงระดับที่พวกเสือจะกระโดดได้พอดี มันจึงเอื้อมไปตะปบจนโดรนหล่นลงมากับพื้นและพังในที่สุด เมื่อพวกเสือเดินเข้าไปดูกับเหยื่อของตัวเองก็พบว่านั่นไม่ใช่นกแต่เป็นสิ่งของหน้าตาประหลาดที่ตัวเองไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่น่าจะกินได้ด้วย… ชมการไล่ล่าโดรนได้ที่นี่เลย ด้าน Ben Pearson เจ้าหน้าที่จากสมาคมพิทักษ์สัตว์โลกได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับคลิปวิดีโอดังกล่าวว่าแม้มันจะดูเป็นเรื่องตลกๆ แต่นี่เป็นชะตากรรมของเหล่าเสือในประเทศจีนเพราะพวกมันถูกเลี้ยงไว้เพื่อสร้างความบันเทิงแก่นักท่องเที่ยวเท่านั้น และโดยธรรมชาติแล้วเสือเองเป็นสัตว์ที่รักความสันโดด การที่ได้เห็นพวกมันมาอยู่รวมกลุ่มกันแบบนี้จึงไม่ใช่ธรรมชาติของพวกมันเลย และเมื่อพวกมันตายไปบางส่วนของร่างกายพวกมันก็ยังถูกนำเอาไปเป็นเครื่องประดับหรือทำยาสมุนไพรด้วย เห็นฮาๆ แบบนี้มีเบื้องหลังให้ดราม่าด้วยนะ ที่มา Shanghaiist , abc
-
เจ้าเหมียวถูกโยนออกจากหน้าต่างรถ เด็กหนุ่มฮีโร่ช่วยมาได้ จนกลายมาเป็นเพื่อนรักกัน
เด็กหนุ่มวัย 14 ปี ที่ขอให้คุณแม่จอดรถกลางทางด่วน เพื่อช่วยเหลือเจ้าเหมียวที่ถูกโยนออกมาจากหน้าต่างรถ จากนั้นพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนรักที่แยกจากกันไม่ได้ ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้าเหมียว Lucky และหนุ่มน้อย Gavin ขณะที่คุณ Erin Brown กำลังขับรถอยู่บนทางด่วนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อพาลูกชาย Gavin ไปปาร์ตี้งานวันเกืดของเพื่อน แต่จู่ๆ ก็ต้องพบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน มีเจ้าเหมียวตัวหนึ่งถูกโยนออกมาจากหน้าต่างของรถคันหนึ่งที่กำลังเคลื่อนไปด้วยความเร็ว เมื่อเห็นดังนั้นแล้วคุณ Erin จึงรีบจอดเข้าข้างทางอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเองเจ้าหนู Gavin ก็รีบวิ่งออกมาจากรถเพื่อไปกดสัญญาณไฟที่อยู่ข้างถนน เพื่อให้รถหยุด ทำให้เขาสามารถวิ่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือกับเจ้าเหมียวที่บอบช้ำได้ เจ้าเหมียวหายใจแรงมากหจากการได้รับบาดเจ็บ เล็บของมันหักและฉีกขาดจากการพยายามที่จะหยุดตัวเองจากแรงกระแทก “มันเกาะที่แขนของ Gavin และ Gavin เองก็กอดมันจนแน่น เพื่อทำให้มันรู้ว่าจะไม่มีใครทำอันตรายกับมันอีกแล้ว จนทำให้เจ้าเหมียวเชื่อใจในมนุษย์อีกครั้ง” Erin เล่า เจ้า Lucky ถูกพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสัตว์ BluePearl Animal Hospital จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็รีบช่วยเหลือมันในทันที แต่เนื่องจากว่าค่ารักษาพยาบาลของมันนั้นแพงมาก แต่หลังจากที่เรื่องราวของเจ้าเหมียวถูกโพสต์ลงไปในโลกโซเชียลก็ทำให้มีผู้คนแสดงความหวังดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือมากมาย แต่…
-
น้ำมะพร้าววิเศษจากแดนมังกร อ้างสรรพคุณดื่มแล้วผิวขาวดุจไข่มุก แถมอกฟูให้อีก!!
อันที่จริงแล้วเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับสาวไทยเราเท่าไหร่หรอก เพราะปกติเรามักจะได้เห็นโฆษณาขายครีมสารพัดประโยชน์ที่สามารถทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ เพียงแค่ทามัน ไม่ว่าจะอกฟู รูฟิต หน้าเนียน จิ๊มิ๊เนียน โอ้ยยครีมอะไรมันจะครอบจักรวาลได้ขนาดน๊านน ทว่าล่าสุดสำนักข่าวจีน Shanghaiist ได้รายงานว่า มีสินค้าชนิดใหม่ที่โฆษณาเปิดตัวได้โดนใจผู้สาวชาวจีนสุดๆ เพราะเป็นมันเป็นน้ำมะพร้าวที่เคลมว่า สาวคนไหนได้ดื่มแล้วจะมีผิวพรรณขาวผ่องดุจไข่มุกอันดามัน แถมยังช่วยทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นได้จริง เรียกได้ว่าใครดื่มแล้วอาจจะโดนสามีสะกิดทุกคืนเลยก็ว่าได้… อยากผิวสวย อกใหญ่ ดื่มน้ำมะพร้าวสิจ๊ะ!! โดยเนื้อหาจากโฆษณาดังกล่าว เป็นหญิงสาวหน้าตาดี ที่กำลังพูดถึงคุณประโยชน์ของน้ำมะพร้าวในทำนองที่ว่า ‘เพียงแค่วันละกระป๋อง ผิวพรรณคุณจะใสขึ้น รวมถึงหน้าอกที่ฟูขึ้นอย่างเห็นได้ชัด’ แต่ดูเหมือนว่าหลังจากที่สินค้าได้ปล่อยโฆษณาตัวนี้ออกมาแล้ว แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมีหญิงสาวที่ยอมซื้อมาดื่มเป็นจำนวนมาก ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งมองว่านี่เป็นโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง โดยสำนักข่าว Shanghaiist ได้ไปสัมภาษณ์นักโภชนาการแล้ว ก็ได้คำตอบกลับมาว่า จริงอยู่ที่น้ำมะพร้าวมีประโยชน์มากมาย แต่ยังไม่เคยมีเอกสารการวิจัยใดๆ ยืนยันว่า มันช่วยทำให้ผิวขาว หรือหน้าอกใหญ่ขึ้นได้จริง!! สื่อท้องถิ่นก็ได้ไปสัมภาษณ์พนักงานจากผลิตภัณฑ์นี้เหมือนกัน ว่าพวกเขามีความรู้เรื่องพวกนี้มากแค่ไหน? โดยพนักงานได้อ้างว่า มีการตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ของเกาะฮ่องกง เมื่อปี 1997 ว่าน้ำมะพร้าวสามารถทำให้อกผู้หญิงใหญ่ขึ้น จึงมีการดึงจุดนี้มาเป็นการตลาดเพื่อใช้ขายสินค้า ถึงแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญจะบอกว่า ไม่มีการรายงานว่าน้ำมะพร้าวช่วยเรื่องนี้ได้จริง แต่ทุกวันนี้สินค้าก็ยังคงขายดีในกลุ่มลูกค้าชาวจีน …
-
ภาพสุดเศร้าของพ่อแม่ อุ้มร่างลูกไร้วิญญาณจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ แต่คิดว่าเป็นแค่ไข้หวัด…
กลายเป็นภาพสุดสะเทือนใจเลยทีเดียว สำหรับการสูญเสียลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของครอบครัว Done ที่ต้องจากไปด้วยวัยเพียงแปดเดือนเท่านั้น ด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบชนิดบี เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2015 Louise และ John Done กำลังเตรียมงานแต่งงานของพวกเขาทั้งสอง ทันใดนั้นเอง Shelby ลูกสาวของ John ก็โทรมาหาทั้งสองแล้วบอกว่า Harry ลูกชายวัยแปดเดือนของเขาดูเหมือนมีอาการป่วย ตอนแรกพวกเขาก็คิดว่าเป็นแค่อาการป่วยของเด็กทารกธรรมดาๆ แต่พอพวกเขากลับมาถึงบ้าน พวกเขาก็รู้ทันทีว่า มันไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว เพราะบนร่างกายของเขามีจ้ำสีม่วงขึ้นอยู่เต็มไปหมด เขาจึงตัดสินใจโทรเรียกรถพยาบาล เมื่อถึงโรงพยาบาล เหล่าแพทย์ได้นำวัคซีนบางอย่างมาฉีดให้กับ Harry รวมทั้งนำถังออกซิเจนมาติดตั้ง เขาจึงได้รู้ว่าลูกชายของพวกเขาไม่ได้ป่วยเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่เป็นโรคที่เรียกว่า “เยื่อหุ้มสมองอักเสบชนิดบี” เพียงคืนเดียวหลังจากเข้าโรงพยาบาล Harry ก็อาการแย่ลงเรื่อยๆ เช้าวันถัดมา เชื้อไวรัสได้ทำลายเยื่อสมองเขาโดยสิ้นเชิง แพทย์บอกว่าพวกเขามีเพียงสองทางเลือก คือหนึ่งถอดเครื่องช่วยชีวิต หรือ ต่อเครื่องไว้เพื่อยื้อชีวิตลูกชายไว้ให้นานที่สุด แต่ก็เสี่ยงจะมีอาการหัวใจวายอยู่ดี พวกเขาตัดสินใจถอดเครื่องช่วยชีวิต และปล่อยให้ Harry ค่อยๆ จากไปอย่างสงบในอ้อมอกของพวกเขา . “มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ คุณแทบไม่สามารถอธิบายได้เลยว่าการสูญเสียลูกเป็นความรู้สึกแบบไหน มันเหมือนฝันร้ายที่กลายเป็นจริง ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกคู่ขนาด มุมมองต่อชีวิตของฉันเปลี่ยนไปตลอดกาล…
-
หนุ่มนักแคสเกม ถ่ายทอดสดโชว์ไม่หยุด 24 ชม. ลงเอยที่หัวใจล้มเหลวจนเสียชีวิต!!
รู้สึกกันไหมว่าตั้งแต่ที่มีดราม่าบนเน็ตจากคุณหมอคนหนึ่ง ที่ออกมาสอนวิธีการเลี้ยงลูกไม่ให้ติดเกม แถมยังไปตราหน้าพ่อแม่คนอื่นๆ ที่ปล่อยให้ลูกเล่นเกมว่า ‘โง่เขลา’ นับตั้งแต่นั้นมาประเด็นเรื่องการเล่นเกมของเด็กไทย ก็ถูกยกเอามาเป็นหัวข้อให้ถกเถียงกัน แต่ทว่าเรื่องราวในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการตัดสินว่าการเล่นเกมมันดี หรือไม่ดี แต่เรื่องราวของ ‘Brian Vigneault’ จะช่วยตระหนักให้เกมเมอร์ทุกคนรู้ว่า อะไรที่มันมากเกินไปอาจกลายเป็นผลเสียให้กับเราได้เหมือนกัน โดยเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว Metro ได้รายงานว่า นาย Brian นักแคสเกมได้ถ่ายทอดสดตัวเองเล่นเกม ‘World of Tanks’ อย่างไม่หยุดพักยาวนานถึง 24 ชม. จนเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าตัวเขาเองเสียชีวิตในเวลาต่อมา!! ‘Brian Vigneault’ ภายในวันนั้นเองเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งให้เข้าไปยังบ้านของนาย Brian และพวกเขาก็ได้พบกับร่างของพ่อหนุ่มนักแคสเกม ที่นอนไม่ได้สติ และไม่มีปฏิกริยาตอบรับใดๆ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปให้แพทย์วินิจฉัย ก่อนจะพบว่าสาเหตุที่ทำให้พ่อหนุ่มเสียชีวิต นั้นมาจากการที่เขาถ่ายทอดสดตลอดเวลา 24 ชม. โดยไม่พักผ่อน และเป็นสาเหตุทำให้เขาหัวใจล้มเหลวในเวลาต่อมา… ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางผู้ให้บริการเกมก็ได้ออกมาชี้แจงว่า ปกติแล้วนาย Brian เป็นผู้เล่นที่มีคนคอยติดตามค่อนข้างเยอะพอสมควรบนโลกออนไลน์ โดยเจ้าตัวจะใช้ชื่อในเกมว่า ‘PoShYbRiD’ ‘พวกเราบริษัท Wargaming รู้สึกสลดใจอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ…
-
สายเปย์ที่แท้จริง!! หนุ่มจีนทำช่อดอกเงินมูลค่า 25,000 บาท เป็นของขวัญให้แฟนสาว
ได้ข่าวว่าช่วงนี้ถ้าจะจีบใครละก็ มีหนึ่งกลยุทธเด็ดที่รับรองว่าช่วยทำให้จีบติดได้แน่นอน 100% นั่นก็คือการเดินทางสายเปย์นั่นเอง ใครจะเดินทางสายนี้ได้บอกก่อนเลยว่าต้องทุนหนา ไม่หนาจริงระวังมีเจ็บตัวนะจ๊ะ และล่าสุดสำนักข่าว Shanghaiist จากจีน ได้รายงานว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งได้เข้ามาใช้บริการที่ร้านรับจัดช่อดอกไม้ ในเมืองฉางชุน มณฑลจี๋หลิน ซึ่งงานนี้เจ้าตัวไม่ได้มาสั่งทำดอกไม้อย่างเดียวนะจ๊ะ เพราะดอกที่พ่อหนุ่มอยากจะเอาให้แฟนหน่ะ เป็นดอกเงินมูลค่ารวมสูงถึง 25,000 บาท เชียวนะเธอ!! จะไม่ให้รักได้ไง ก็แหม…ดอกไม้มันช่างบานสะพรั่งซะขนาดนี้ โดยหนุ่มนิรนามผู้นี้ได้ให้เหตุผลว่า สาเหตุที่เขาเลือกใช้เงินสดแทนดอกไม้ ก็เพราะต้องการมอบเป็นของขวัญที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ให้กับแฟนสาวสุดที่รักสำหรับฉลองวันขึ้นปีใหม่นั่นเอง ‘ถ้าเอาเงินมาพับเป็นดอกนะ ยังไงซะมันก็ต้องมีประโยชน์มากกว่าดอกไม้อยู่แล้ว เพราะถ้าเป็นดอกไม้อีกไม่กี่วันมันก็เฉาตาย เอาไปใช้ประโยชน์ก็ไม่ได้…’ ชาวเน็ตจากจีนคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ ชาวเน็ตจากจีนอีกคนก็บอกว่า ‘ถ้าใช้วิธีนี้แฟนสาวจะต้องมานั่งคลี่ธนบัตรทีละใบ ทำไมไม่เอาเงินให้เป็นตั้งพร้อมดอกไม้ซักดอกไปเลยล่ะ’ แต่จะว่าไปแล้ววิธีไหนก็ดีทั้งนั้นแหละ เชื่อว่าผู้รับยังไงก็ยิ้มระรื่นแน่นอน และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกด้วยแหละ เพราะที่จีนก็มักจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ เอ้าาสายเปย์ที่ไทยเราอย่าไปย๊อมม!! ถ้ามีใครเอาช่อเงินมาให้แบบนี้นะ ยังไงก็ขอรับไว้ก่อนแหละ แต่เรื่องความรักอะไรงี้ค่อยว่ากันทีหลังเนาะ ผ่างงงงง! ที่มา: Shanghaiist
-
ภาพครอบครัวใหญ่ของ “สิงโตขาว” ในเยอรมนี ทั้งอบอุ่นและอบอวลความมุ้งมิ้ง น่ารักมากกก
โดยปกติแล้ว เวลาที่เราเห็นภาพถ่ายของสิงโต มักจะเป็นภาพของสัตว์ตัวใหญ่ที่ดูน่ากลัว และน่าเกรงขาม แต่สำหรับภาพของสิงโตที่เราได้นำมาให้รับชมในครั้งนี้ บอกเลยว่ามันจะทำให้คุณหลงรักสิงโตเหล่านี้ขึ้นมาทันทีเลยล่ะ เพราะเอาจริงๆ แล้ว พวกมันก็มีช่วงเวลามุ้งมิ้งเหมือนกันนะ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ Metro ได้เผยภาพถ่ายหาดูยากของลูกสิงโตสีขาววัยเพียง 8 สัปดาห์ และพ่อแม่ของมัน ที่กำลังคลอเคลีย และนอนพักผ่อนอยู่ด้วยกันที่สวนสัตว์แห่งหนึ่ง ในประเทศเยอรมนี ซึ่งภาพังกล่าว ได้ทำให้เราได้เห็นถึงช่วงเวลาดีๆ ของครอบครัวสิงโตที่ได้อยู่พร้อมกันพ่อแม่ และลูก เรียกได้ว่ามันช่างเป็นภาพที่ดูแล้วน่าประทับใจมากจริงๆ และที่สำคัญเราต้องขอขอบคุณช่างภาพนามว่า Jens Meyer ที่ได้บันทึกภาพหายากเหล่านี้ให้เราได้ชมกัน บอกเลยว่าเห็นแล้วถึงกับยิ้ม และมีความสุขตามเลย ลูกสิงโตน่ารักกำลังเล่นกันอยู่ ส่วนพ่อแม่ก็นอนเฝ้าดูไม่ห่าง ลูกสิงโตขาวตัวน้อยดูรักกั๊นรักกัน อย่าเล่นกันแรงนะลูก ว้าววว!! ภาพครอบครัวสิงโต ที่หาดูได้ยากมากๆ 4 สหายสุดคิ้วท์ สำหรับสิงโตขาว เป็นสิงโตที่มีลักษณะที่แตกต่างจากสิงโตทั่วๆ ไป นั่นก็คือ ขนของมันจะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อน…
-
ชาวเน็ตชอบใจ สาวปั่นจักรยาน ถูกแซวหวังเต๊าะ เธอจึงแก้แค้นดึงกระจกข้างแx่งเลย!!
เรียกได้ว่ากำลังเป็นคลิปวิดีโอที่โด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ เกี่ยวกับเหตุการณ์ของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังปั่นจักรยาน แล้วมาติดอยู่ที่สี่แยก Tottenham Court Road แต่แล้วเธอก็ดันไปเจอกับคนขับรถปากxมา แซวขอเบอร์โทรฯ ของเธอ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บริเวณใจกลางกรุงลอนดอน โดยคลิปวิดีโอทั้งหมดถูกถ่ายไว้ได้จากพลเมืองคนหนึ่ง ที่ดันเข้าไปเห็นเหตุการณ์พอดี เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มมาจาก ตอนที่เธอจอดจักรยานอยู่ที่สี่แยกไฟแดง รถตู้คันข้างๆ ก็ได้แซวออกมาว่า ‘ว่าไงจ๊ะน้องสาว ขอเบอร์โทรฯหน่อยดิ๊?’ หญิงสาวได้โต้กลับไปว่า ‘อย่ามายุ่ง!’ พร้อมกับตบไปที่รถตู้ ซึ่งแทนที่คนขับรถจะหยุดแซว พวกเขากลับทำให้เธอหัวเสียมากกว่าเดิม ชายคนหนึ่งในรถตู้ถามเธอกลับไปอย่างไร้มารยาทว่า ‘โกรธอะไรใครมา นี่เธออยู่ในช่วงประจำเดือนรึเปล่าเนี่ย’ ยังไม่จบเค้ายังแซวต่ออีกว่า ‘ไม่น่ารักเลยนะหนู จบจากโรงเรียนไหนมาจ๊ะเนี่ย’ จากนั้นสี่แยกก็ไฟเขียว… เธอเลือกที่จะแก้เผ็ดผู้ชายปากxมา เธอขับจักรยานตามไปติดๆ จากนั้นเธอก็ดึงกระจกมองข้างของรถตู้ออก ด้วยความหัวร้อน!! ‘นั่นแหละคือสิ่งที่พวกเอ็งควรได้รับ ไอ้พวกเวรเอ้ยย’ พลเมืองผู้ถ่ายเหตุการณ์ทั้งหมดกล่าวกับคนขับรถตู้ วิดีโอเต็มจากเหตุการณ์จริง งานนี้เรียกได้ว่าโดนใจชาวเน็ตสุดๆ เราตามไปดูกันเลยว่าแต่ละคนจะมีท่าทีเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงบ้าง ‘ดีแล้วที่เธอทำแบบนี้ ครั้งหน้าพวกมันจะได้สำนึกซะบ้างว่าไม่ควรพูดจากับผู้หญิงแบบนี้’ ‘สมควรแล้วล่ะ คนพวกนั้นไม่ให้ความเคารพ แถมยังก้าวล้ำเส้นเธอมากเกินไป โดยเฉพาะตอนที่พวกเขาแตะต้องตัวเธอ’…
-
เทรนด์ใหม่กลุ่มแม่ม่ายจีน แห่ร่วม ‘ทำสมาธิในหลุมศพ’ สะเดาะเคราะห์หลังหย่าร้าง!!
จะว่าไปแล้วที่ประเทศจีนนี้ก็มักจะมีเทรนด์แปลกใหม่ มาทำให้เราตื่นตาตื่นใจอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ถ่ายรูป เทรนด์แฟชั่น และอีกสารพัดสิ่งอย่างที่ช่างสรรหามาสร้างความนิยมกันได้อย่างไม่รู้จักคำว่าเบื่อ ล่าสุดเว็บไซต์ OddityCentral ได้รายงานว่า เทรนด์ ‘ทำสมาธิในหลุมศพ’ กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ในกลุ่มแม่ม่ายชาวจีน โดยเชื่อว่าจะนำพามาซึ่งโชคลาภที่ดีหลังหย่าร้างได้!! ลงไปนอนทำสมาธิกันในหลุมศพของจริง การทำสมาธิในหลุมศพนี้ถูกคิดค้นขึ้นโดยแม่ม่ายสาวใหญ่วัย 30 ปี Liu Taijie หลังจากที่เธอหย่าร้างกับสามีในปี 2015 เธอจึงคิดได้ว่า หญิงสาวทุกคนที่ถูกหย่าร้างต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ทว่าชีวิตมันต้องเป็นไป…เธอจึงเริ่มต้นเทรนด์ดังกล่าว เพื่อสื่อให้ได้รู้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเราก็ควรจะทิ้งเรื่องร้ายๆ ไว้ข้างหลัง และเดินหน้าต่อไปด้วยความเข้มแข็ง ‘ฉันรู้ดีว่าผู้หญิงรู้สึกอย่างไร เมื่อถูกหย่าร้าง ฉันเคยผ่านช่วงเวลานั้นมา ซึ่งมันเศร้ามากซะจนฉันเคยคิดจะฆ่าตัวตายเลยก็ว่าได้’ Liu ให้สัมภาษณ์ ส่วนวิธีการนั้นก็เรียบง่ายมาก โดย Liu จะให้หญิงสาวทุกคนนอนราบอยู่บนหลุมศพโดยมีแผ่นพลาสติครองไว้ จากนั้นหญิงสาวจะต้องหลับตา พร้อมทั้งพนมมือแนบไว้กับอก เรียกง่ายๆ ว่าจัดท่าให้เหมือนคนตายนั่นแหละ ถึงแม้จะไม่ได้ระบุว่าหญิงสาวจะต้องอยู่ในหลุมศพนั้นนานเท่าไหร่ แต่พวกเขาเชื่อว่าไอเดียนี้จะช่วยทำให้หญิงสาวที่เสียใจจากการหย่าร้าง รู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว และพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง ‘การนอนในหลุมฝังศพ จะทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนตัวเองตายไปแล้วจากความเศร้า ในขณะเดียวกันพวกเขาจะรู้สึกว่าชีวิตยังไม่ได้ทำอะไรอีกหลายอย่าง และพร้อมที่จะลุกขึ้นมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง’…
-
เปิดตัว “เบียร์ชาเขียวมัทฉะ” เบียร์รสชาติใหม่ ถ้าอยากลองต้องไปประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นจ้า!!
ก่อนหน้านี้เราคงพอจะได้ยินกันมาบ้างแล้วว่า ประเทศญี่ปุ่นได้มีการปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิด ในการคิดค้นสูตรการทำ “เบียร์ชาเขียวมัทฉะ” เบียร์รสชาติแปลกใหม่ เอาใจคนรักสุขภาพกันมาแล้ว และล่าสุด วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 เราได้รับการอัพเดทจากทางเว็บไซต์ Rocketnews24 ว่า ในตอนนี้โรงผลิตเบียร์ยี่ห้อ Yebisu ในโตเกียว ได้มีการวางจำหน่าย “เบียร์ชาเขียวมัทฉะ” แล้วจ้า งานนี้คอเบียร์ทั้งหลายห้ามพลาดเด็ดขาด สำหรับเบียร์ชาเขียวมัทฉะ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Matsuri มันเป็นเบียร์สดที่มีส่วนผสมของชาเขียวคุณภาพดี แถมยังมีรสชาติหอมนุ่มชวนน่าหลงใหล นอกจากนี้ ยังมาในราคาเบาๆ เพียงแค่ 750 เยน หรือราวๆ 230 บาทเท่านั้น ซึ่งถ้าหากคุณได้ลองสั่งมาชิมสักแก้วรับรองว่าจะต้องติดใจแน่นอน และถึงแม้ว่ามันจะไม่โด่งดังเหมือนเบียร์ Asahi, Kirin หรือ Sapporo แต่คนที่เคยลิ้มลองเบียร์ Matsuri ได้บอกว่ามันมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมมาก และถูกแม้ว่ามันอาจจะมีราคาสูงกว่าเบียร์ชนิดอื่นๆ แต่ก็คุ้มที่จะลองนะ และที่สำคัญ เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าความขมของเบียร์ Yebisu…
-
ชมภาพถ่ายประเทศคิวบา ในปี 1954 ดินแดนแห่งเสรี ที่เต็มไปด้วยความศิวิไลซ์และสีสัน
Heinrich Heidersberger ช่างภาพชาวเยอรมัน ผู้ที่ทำงานบนเรือ MS Atlantic ในปี 1954 ได้ทำการบันทึกภาพของนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ที่ล่องเรือจากนิวยอร์กไปยังฮาวานา ประเทศคิวบาเอาไว้ โดยเขายังได้สอนเพื่อนชาวอิตาลี ที่ได้มาร่วมล่องเรือในมหาสมุทรแอตแลนติก เพื่อทดลองถ่ายภาพสีเป็นครั้งแรก จนทำให้ภาพดังกล่าว กลายเป็นภาพในอดีตที่น่าจดจำไม่น้อย สำหรับภาพถ่ายเหล่านี้ ได้ถูกนำไปแสดงโชว์ในการจัดนิทรรศการ “MS Atlantic, New York – Cuba” ที่ Hamburg’s Kunstgut Gallery ซึ่งภาพทั้งหมดนี้ได้แสดงให้เห็นว่าประเทศคิวบาในยุคสมัยนั้น มีความเจริญรุ่งเรืองมากขนาดไหน ว่าแล้วก็ไปรับชมภาพเหล่านั้นกันได้เลย . . . . . . . . . . . . . . . . . . . โชคดีจริงๆ…
-
เจ้าหมาถูกพามาไว้ที่สถานสงเคราะห์ พร้อมโน้ตทิ้งท้าย ‘อยากดูแลแต่ครอบครัวไม่ยอม’
เรื่องราวสุดซึ้งของเจ้าหมาที่ถูกพามาไว้ที่สถานสงเคราะห์เพื่อหาบ้านใหม่ เพราะเจ้าของเก่ามีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถเลี้ยงมันได้อีกต่อไป แต่เรื่องราวมันไม่ได้จบแค่นั้น เพราะหลังจากที่พาเจ้าหมาไปไว้ที่สถานสงเคราะห์แล้วเจ้านายน้อยคนเก่าของมันยังแนบโน้ตซึ้งๆ เอาไว้ให้กับว่าที่เจ้านายใหม่ของมันอีกด้วย เจ้า Rhino Lightning ถูกพามาไว้ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ Humane Society of Utah พร้อมกับกระดาษโน้ตที่ที่เขียนด้วยลายมือของเด็กน้อยที่อ่านแล้วทำให้เหล่าเจ้าหน้าที่ถึงกับต้องน้ำตาคลอ “ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะได้อยู่ในสถานที่ที่ดีกว่านี้ ผมคิดถึงมันมากจริงๆ” นี่เป็นประโยคที่เด็กหนุ่มเขียนเอาไว้ พร้อมกับแนบมันไว้ที่กล่อง หลังจากที่ครอบครัวของเขาพามันมาไว้ที่สถานสงเคราะห์ “ครอบครัวนี้เพิ่งจะรับเจ้า Rhino มาเมื่อ 6 เดือนก่อน แต่พวกเขาเพิ่งจะมีเด็กเล็กๆ อยู่ในบ้าน และพบว่าเจ้าหมามักจะเล่นอย่างรุนแรงกับเด็กๆ ทุกครั้งเมื่อมันตื่นเต้น หรืออยากจะเล่น” คุณ Dean Shepherd เจ้าหน้าที่จาก Humane Society of Utah เล่า “ชื่อแบบเต็มๆ ของมันคือ Rhino Lightning เป็นชื่อสกุลของมัน ได้โปรดอย่าเปลี่ยนชื่อมันเลยนะ” เด็กหนุ่มอธิบายถึงชื่อของมันให้กับครอบครัวใหม่ของเจ้า Rhino นอกจากนี้เขายังเขียนอีกว่าอดีตคู่หูของเขานั้นชื่นชอบการนอนใต้ผ้าห่มมากๆ ชอบการกอด และวิ่งไปรอบๆ ตัวคุณเมื่อมันมีความสุข อย่าเอาลูกเทนนิสให้มันเป็นอันขาด…
-
นางแบบสาวดาวน์ซินโดรม เปิดตัวแบรนด์ส่วนตัวได้สำเร็จใน New York Fashion Week
หลายคนน่าจะเคยได้ยินข่าวที่เกี่ยวกับเด็กสาววัย 18 คนหนึ่งที่ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม ได้พยามเปลี่ยนตัวเองเพื่อกลายเป็นนางแบบจนสำเร็จ เมื่อสองสามปีก่อน แต่ว่าตอนนี้เธอเลื่อนขั้นจนเป็นดีไซน์เนอร์และเจ้าของแบรนด์เองเรียบร้อยแล้ว เธอคนนี้มีชื่อ Madeline Stuart ผู้ป่วยดาวน์ซินโดรมชาวออสเตรเลีย ซึ่งเธอได้รับโอกาส และผันตัวเป็นนางแบบไปเมื่อตอนปี 2015 แต่ว่าตอนนี้เธอกลายกลายเป็นดีไซน์เนอร์เต็มตัวแถมยังมีแบรนด์เป็นของตัวเองในชื่อว่า 21 Reasons Why แถมล่าสุดเธอยังนำแบรนด์ของเธอไปเปิดตัวและเดินแบบในงาน New York Fashion Week ในแมนแฮตตัน เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาอีกด้วย ส่วนเสื้อผ้าที่เธอนำมาเดินโชว์ภายในงาน เป็นเสื้อผ้าคอลเลคชั่นที่มีชื่อว่า “nod to Stuart turning 21 this year and the extra copy of chromosome 21 that is characteristic of Down syndrome” (ทำไมชื่อยาวจัง) คอลเลคชั่นซื้อผ้าเซตนี้จะประกอบด้วย สปอร์ตเลกกิ้ง เสื้อครอป และกระโปร่ง…
-
คนขับรถโรงเรียน ร่วมใจช่วยกันสร้าง “ทางลาด” เพื่อเด็กนักเรียนสาวที่ต้องใช้วีลแชร์!!
สิ่งหนึ่งที่ยังคงทำให้สังคมของเราน่าอยู่ยิ่งขึ้น ก็คงเป็นน้ำใจจากคนในสังคมนี่แหละ… ขอยกตัวอย่างครั้งหนึ่งมหาตมะ คานธีเคยกล่าวไว้ว่า ‘ก่อนเปลี่ยนแปลงโลก จงเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน’ และนั่นอาจเป็นต้นกำเนิดของเรื่องราวดีๆ ในครั้งนี้ เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มพนักงานคนขับรถโรงเรียน พบว่าทุกเช้าเมื่อพวกเขาได้ขับรถมารับหญิงสาวตัวน้อยผู้มีความจำเป็นต้องใช้เก้าอี้วีลแชร์ คุณแม่ของเธอประสบปัญหาการพาลูกสาวลงมาจากตัวบ้าน เนื่องจากพวกเขาไม่มีทางลาดที่ใช้สำหรับวีลแชร์ ‘หลังจากที่พวกเราพบว่าทุกเช้าคุณแม่ของเธอต้องคอยเป็นห่วง ว่าลูกสาวของเธอจะสามารถเข็นวีลแชร์ลงมาจากบันไดได้รึเปล่า ซึ่ งพวกเราคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลย ทำไมทั้งสองจะต้องเผชิญปัญหาแบบนี้อยู่ทุกเช้า พวกเราจึงช่วยกันสร้างทางลาดขึ้นมา เพื่อความสะดวกสบายของพวกเขา’ Mitchell หนึ่งในพนักงานขับรถให้สัมภาษณ์ ซึ่งทางคนขับรถโรงเรียน ก็รวมพลัง รวมใจ และรวมเงินกันสร้างทางลาดนี้ขึ้นมาให้ฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว หลังจากที่ทีมงานคนขับรถโรงเรียน ได้รับอนุญาติจากเจ้าของบ้านให้สร้างทางลาดได้ พวกเขาจึงประกาศรับบริจาควัสดุก่อสร้างเหลือใช้ต่างๆ ซึ่งหลังจากนั้นใช้เวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ทางลาดดังกล่าวก็เสร็จสมบูรณ์ ‘ฉันรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งค่ะ นี่คงเป็นพรจากพระเจ้า เป็นของขวัญที่มีค่ามากที่สุดสำหรับลูกสาวของดิฉัน ต้องขอบคุณทุกคนมากจริงๆ ค่ะ’ คุณแม่ของหนูน้อยกล่าว ทางด้านของพนักงานขับรถโรงเรียนก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ‘ทุกคนในสังคมควรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มันเป็นเรื่องที่ดีมากเลยครับ กับการที่เราได้หยิบยื่นสิ่งดีๆ ให้กันในสังคม ไม่มีความรู้สึกใดจะยิ่งใหญ่เท่ากับการได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อีกแล้วล่ะ’ ต่อจากนี้หนูน้อย และคุณแม่ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้วีลแชร์เข้าออกบ้านอีกต่อไปแล้ว… …
-
ลูกสาวเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ภายหลังครอบครัวค้นพบ “จดหมายอำลา” สุดซึ้ง ในห้องของเธอ!?
‘Athena Orchard’ คือสาววัย 13 ปี เธอมีอนาคตที่สดใสรออยู่ ทว่าวันหนึ่งเมื่อธันวาคม ปี 2013 จู่ๆ เธอก็เป็นลมสลบไปในห้องครัวของเธอเอง จนกระทั่งคุณหมอได้วินิจฉัยและพบว่า เธอป่วยเป็นมะเร็งกระดูก… ตลอดระยะเวลาการรักษา Athena ได้ต่อสู้อย่างสุดความสามารถ แต่ทว่าท้ายที่สุดเธอก็ไม่สามารถเอาชนะมันได้ และทำให้เธอต้องจากโลกนี้ไปในเวลาต่อมา Athena Orchard วันหนึ่งหลังเธอจากไป ครอบครัวได้เข้าไปเก็บของในห้องเธออีกครั้ง และพวกเขาได้พบกับจดหมายอันยาวเหยียดที่เธอทิ้งไว้แบบ จากความยาวของจดหมาย เธอคงเขียนโดยใช้เวลานานมากทีเดียว จดหมายส่งท้ายนั้น มีเนื้อหาใจความดังนี้… ‘ความสุขอยู่ที่ตัวเรา บางทีนี่อาจจะไม่ใช่เรื่องที่จบลงอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่มันคือเรื่องราวของชีวิตจริง เพราะจุดมุ่งหมายของชีวิต คือชีวิตที่มีจุดมุ่งหมาย ความแตกต่างระหว่างความธรรมดา และความพิเศษ คือความสุขนั่นเอง แต่ความสุขเป็นเพียงแค่หนทาง แต่ไม่ใช่จุดมุ่งหมายของทั้งหมด ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งอย่างที่ปรากฏขึ้น จงมีความสุข อยู่อย่างอิสระ และเป็นวัยรุ่นไปตลอดกาล เธออาจรู้จักชื่อฉัน แต่เธอไม่รู้เรื่องราวของฉัน เธออาจรู้ว่าฉันเคยทำอะไรมาบ้าง แต่เธอไม่รู้ว่าฉันต้องผ่านอะไรมาบ้าง ความรักเป็นเหมือนกระจก มันอาจจะดูโปร่งใสและสวยงาม แต่มันก็แตกได้อย่างง่ายดาย ความรักนั้นช่างแปลกนัก บางทีชีวิตก็ดูแปลกประหลาด ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ไปตลอด และผู้คนย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา…
-
วินาทีซึ้งใจ… คุณแม่ผู้สูญเสียลูกสาว โผเข้ากอด “หนูน้อย” ที่รอดชีวิตเพราะหัวใจของลูกเธอ
Amber Travaglio เป็นคุณแม่จากรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐเมริกา เธอมีลูกสาวที่แสนน่ารักวัยเพียง 8 ขวบ ชื่อว่า Melody หลายคนอาจจะมองว่าชีวิตของเธอดูเหมือนจะโรยไปด้วยดอกกุกลาบ แต่ในความจริงแล้วไม่เลย เพราะ Amber ต้องทนอยู่กับอาการโศกเศร้าเสียใจ หลังจากที่หนูน้อยเพียงคนเดียวของเธอได้เสียชีวิตลงในบ้าน เพราะอาการหอบหืดกำเริบเฉียบพลัน หลังจากที่ลูกสาวของเธอได้เสียชีวิตลง เธอก็ได้ตัดสินใจไปบริจาคอวัยวะซึ่งเป็นหัวใจของลูกสาว นั่นทำให้ Amber ได้พบกับเรื่องราวที่ชวนอบอุ่นหัวใจ และทำให้เธอกลับมามีความสุขอีกครั้ง เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า การบริจาคอวัยวะของ Amber ในครั้งนี้สามารถช่วยชีวิตของ Peyton Richardson หนูน้อยวัย 5 ขวบ ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เอาไว้ได้ ย้อนกลับไปก่อนที่หนูน้อย Peyton จะเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เธอเกิดป่วยหนักเพราะได้รับเชื่อไวรัสจากไข้หวัด นั่นทำให้หนูน้อยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ตลอด และทางแพทย์ก็ได้บอกว่าเธอมีโอกาสรอดเพียง 3% เท่านั้น แต่เมื่อได้รับหัวใจจากลูกสาวของ Amber ก็ทำให้เธอสามารถรอดชีวิตมาได้ ทางด้านคุณแม่…
-
สาวผู้ตกเป็นทาสเซ็ก ISIS บอกเล่าประสบการณ์ถูกบำเรอกาม ต่อหน้าลูกของเธอเอง!?
เรารู้จัก ISIS ในฐานะกลุ่มผู้ก่อการร้ายซึ่งมีชื่อในด้านลบตามสำนักข่าวต่างๆ อยู่เสมอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ได้สังหารคนบริสุทธิ์ และทำลายชีวิตของใครหลายๆ คนมาแล้วมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Hanan หญิงชาวอาหรับที่นับถืออิสลามนิกายสุหนี่ผู้โชคร้าย ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยถูกกลุ่ม ISIS ทำลายชีวิตของเธอโดยการข่มขืน และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ เธอถูกคนเหล่านั้นข่มขืนต่อหน้าลูกๆ ของเธออีกด้วย วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ ได้เผยชะตากรรมที่แสนเลวร้ายของ Hanan หญิงวัย 26 ปี ผู้ซึ่งสามีหลบหนีออกจากเมือง Hawijah ไปก่อนหน้า แต่เธอและลูกๆ ต้องแยกจากสามี เธอถูกกลุ่ม ISIS ทำร้ายอย่างทารุณ หลังจากที่ถูกจับพร้อมกับผู้หญิงอีก 50 คน เหตุเพราะพยายามหลบหนีไปที่เมือง Hawijahในอิรัก โดยทางคนในกลุ่มดังกล่าวได้อ้างกับเธอว่า การที่สามีของเธอหนีไป ทำให้เธอไม่ได้เป็นมุสลิมอีกต่อไป และจะต้องแต่งงานกับ ISIS คนหนึ่ง และเมื่อเธอปฏิเสธเพราะว่านั่นไม่ใช่หลักคำสอนที่ถูกต้อง พวกเขาจึงได้จับเธอไปทรมาน ทั้งเฆี่ยนตี และข่มขืน “ผู้ชายคนเดิมเข้ามาข่มขืนฉันทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือนโดยไม่ได้เอาผ้าปิดตา แถมยังทำต่อหน้าลูกๆ ของฉัน ซึ่งลูกสาวของฉันต้องทุกข์ทรมานจากความพิการทางสมอง…
-
พาไปรู้จักการแข่งขันสุดแปลก “ประกวดทรงผมแช่แข็ง” ท่ามกลางอากาศหนาวสุดขั้ว!!
สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ ถ้าเป็นที่บ้านเราก็เริ่มจะเข้าสู่ฤดูร้อนแล้วใช่ไหมล่ะ แต่สำหรับที่เมืองยูคอน ประเทศแคนาดา นับว่าเป็นช่วงที่ชาวเมืองจะได้เผชิญกับสภาพอากาศอันหนาวเหน็บสุดขั้วหัวใจเลยล่ะ และด้วยความที่มันมีสภาพอากาศที่หนาวสุดขั้วเนี่ยแหละ จึงทำให้เกิดประเพณีการแข่งขัน ‘ทรงผมแช่แข็งคอนเทสต์’ ถึงแม้ว่าอุณหภูมิจะติดลบขนาดไหน พวกเขาก็ช่างสรรหาอะไรมาเล่นกันได้ตลอดแหละเนาะ การแข่งขันนี้จะจัดขึ้นที่ ‘Takhini Hot Pools’ ในประเทศแคนาดา เป็นประจำทุกเดือนกุมภาพันธ์ โดยผู้เข้าประกวดก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลหรอก ส่วนใหญ่ก็เป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการบ่อน้ำร้อนนั่นแหละ… จุดประสงค์สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ต้องการให้ผู้คนได้ร่วมสนุกท่ามกลางสภาพอากาศที่แตกต่างกันสุดขั้ว กติกาก็คือผู้เข้าแข่งขันจะต้องแข่งกันทำทรงผมที่แปลกแหวกแนวมากที่สุด จากนั้นให้ถ่ายรูปและส่งภาพไปให้คณะกรรมการ ทีมงานจะทำการคัดเลือกผู้ชนะเลิศ 3 อันดับ และจะประกาศผลในเดือนมีนาคม ตัวอย่างผู้เข้าแข่งขัน เป็นไงล่ะ…ทรงผมเฟี้ยวพอไหม? โดยผู้เข้าแข่งขันที่ชนะเลิศทั้ง 3 อันดับ จะได้รางวัลดังต่อไปนี้… ผู้ชนะเลิศรางวัลที่ 1 จะได้เงินรางวัล $750 พร้อมทั้งเมมเบอร์แช่บ่อน้ำร้อนฟรี 1 เดือน รองชนะเลิศอันดับที่ 1 จะได้เงินรางวัล $200 และเมมเบอร์แช่บ่อน้ำร้อนฟรี 12 ครั้ง รองชนะเลิศอันดับที่ 2 จะได้เงินรางวัล $100 และเมมเบอร์แช่บ่อน้ำร้อนฟรี…
-
คิดเห็นอย่างไร!? กรณีญี่ปุ่นปลิดชีพลิงหิมะ 57 ตัว หลังตรวจพบพันธุ์ผสมจากลิงต่างถิ่น
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างดุเดือดในกรณีของสวนสัตว์ญี่ปุ่นได้ทำการฉีดยา เพื่อทำการการุณยฆาตลิงหิมะ 57 ตัว ให้จากไปอย่างสงบหลังตรวจพบว่าพวกมันเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์กับลิงต่างถิ่นที่บุกรุกเข้ามา สวนสัตว์ Takagoyama Nature Zoo ในเมือง Futtsu ตั้งอยู่ที่จังหวัดชิบะ ได้ให้การว่าพวกเขามีความจำเป็นต้องทำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์เอาไว้ และการกระทำของพวกเขาก็ไม่ได้ผิดต่อหลักกฎหมายแต่อย่างใด เหล่าลิงทั้งหลายนั้นจะถูกฉีดยาให้จากไปอย่างสงบ นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้มีการจัดพิธีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ลิงกลุ่มนี้ในวัดใกล้ๆ อีกด้วย “พวกมันต้องถูกกำจัดเพื่อปกป้องสภาพแวดล้อมดั้งเดิมของเรา” เทศบาลจังหวัดชิบะประกาศถึงเหตุจำเป็นที่จะต้องทำ นอกจากนี้ทางสวนสัตว์ยังให้ข้อมูลอีกว่าการกระทำในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ พวกเขาจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการเพื่อป้องกันการเกิดการผสมข้ามสายพันธุ์ในอนาคต จากการให้การของนาย Junkichi Mima โฆษกจากองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลประจำประเทศญี่ปุ่นได้ให้การว่าการกระจายพันธุ์ของเหล่าลิงวอก ที่เป็นลิงต่างถิ่นนั้นทำให้เกิดปัญหา “เพราะพวกมันเข้ามาผสมพันธุ์กับสัตว์ท้องถิ่น และคุกคามสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ จนอาจทำให้เกิดปัญหาในระบบนิเวศและสภาพแวดล้อมตามมาได้” “การป้องกันความเสี่ยงจากสัตว์ต่างถิ่นนั้นถือเป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะลิงอาจหลบหนีจากสวนสัตว์เปิดเข้าไปแพร่พันธุ์ในธรรมชาติได้” นาย Tomoko Shimura เจ้าหน้าที่จากองค์กร Nature Conservation Society กล่าว ตามรายงานของ สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากร กลา่วว่าปัจจุบันจำนวนประชากรของเหล่า ‘ลิงหิมะ’ เองก็อยู่ในระดับที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์แล้ว หากยิ่งมีการรุกรานจากสายพันธุ์ต่างถิ่นอีก ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้พวกมันสูญพันธุ์มากยิ่งขึ้นไปอีก แล้วเพื่อนๆ ชาวเหมียวมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง ก็สามารถคอมเม้นต์กันเข้ามาได้เลยนะจ๊ะ…
-
หญิงอิตาลีสัญญาจะ “โจ๊กมู๋” ให้กับชาวอิตาลีที่โหวต No ในการลงประชามติ
คนเราเมื่อพูดอะไรไว้ ก็ต้องทำตามที่พูดให้ได้ ถึงจะทำให้เรากลายเป็นคนที่ดูน่าเชื่อถือ และเช่นเดียวกันกับหญิงสาวชาวอิตาลีคนนี้… Paola Saulion หญิงชาวชาวอิตาลีวัย 27 ปี ที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองอันแข็งกล้า ได้สาบานเอาไว้ว่าเธอจะทำการอมนกเขาให้กับชายทุกคนที่โหวต No ในการลงประชามติให้นายกรัฐมนตรี Renzi ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งปัจจุบันเธอก็ได้เริ่มต้นทำการอมนกเขาให้กับผู้โหวต No ไปแล้วกว่า 400 ราย จนถึงกับทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อกรามอักเสบเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงเดินหน้าทำตามสิ่งที่เธอได้ให้คำสัตย์เอาไว้ต่อไป Saulino ได้ทำการตั้งเป้าหมายในการเป็นผู้หญิงที่พูดแล้วไม่คืนคำด้วยการอมนกเขาเป็นจำนวน 1 ล้านครั้ง ซึ่งปัจจุบันมีชาวอิตาลีที่ไปร่วมลงชื่อโหวต No ในการลงประชามติ มากกว่า 100,000 คนอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ ซึ่งตอนนี้ก็กำลังรอการมาถึงของ Saulino อยู่ เธอได้กล่าวถึงเหล่าคนที่โหวต No ในการลงประชามติเอาไว้ว่าพวกเขาเป็นคนที่ฉลาดมากๆ “ด้วยเหตุผลนี้เองฉันอยากจะมอบการอมนกเขาที่แสนวิเศษให้กับพวกเขา และฉันก็คิดว่าพลังของพวกเขานั้นสำคัญกับพวกเราและประเทศชาติของเรามาก ขอบคุณพวกนายมากๆ นะ” Saulino นั้นทำงานเป็นนักแสดงหนังผู้ใหญ่ ซึ่งล่าสุดเธอก็ได้รับการสนับสนุนจากทางองค์กรท้องถิ่นของ SSC Napoli ในการออกเดินทางไปทำภารกิจในครั้งนี้อีกด้วย เพื่อนๆ สามารถติดตามการเดินทางและภารกิจของเธอที่อินสตาแกรม insta_paolina ได้เลยนะจ๊ะ…
-
หนุ่มรับลูกหมามาเลี้ยง ประคบประหงมจนเติบโต กลายเป็น “หมาป่า” ซะอย่างนั้น!?
Ben Hull ชายหนุ่มที่ตั้งใจจะไปรับเจ้าหมามาเลี้ยง โดยตอนแรกเขาตั้งใจอยากเจ้าหมาฮัสกี้มาเลี้ยง แต่ก็ได้รับเจ้าหมาตัวหนึ่งมาเลี้ยงแทน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ในวันแรกที่ได้พบกันจู่ๆ เจ้าหมาน้อยตัวสีดำตัวหนึ่งก็กระโจนเข้ามาสู่อ้อมอกของเขา นั่นทำให้คุณ Ben ตัดสินใจที่จะรับมันกลับไปอยู่ที่บ้านด้วย คุณ Ben ได้ตั้งชื่อให้มันว่า Shade พร้อมกับหวังว่าทั้งคู่จะกลายเป็นเพื่อนซี้ที่ตัวติดกันจนแยกขาดจากกันไม่ได้ แต่แล้ววันเวลาผ่านไปจู่ๆ เจ้าหมาตัวนี้ก็เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมของมัน “ในตอนแรกนั้นมันจะกระโดดเข้าหาผู้คนด้วยความเป็นมิตร จากนั้นก็ดมกลิ่นเลียหน้าเหมือนกับหมาทั่วๆ ไป แต่หลังจากที่มันแก่ตัวขึ้นนิสัยของมันก็เปลี่ยนไป กลายเป็นสุนัขที่มีความดุร้ายมากยิ่งขึ้น” คุณ Ben เล่า เจ้า Shade นั้นจะเชื่อฟังแต่เฉพาะคุณ Ben เท่านั้น แต่สำหรับคนแปลกหน้า และคนที่มันเคยเจอมาก่อนหน้านี้ หรือแม้แต่เจ้าหมาอีก 2 ตัวที่เติบโตมาด้วยกันก็มักจะถูกมันขู่และเห่าใส่ ด้วยความเป็นห่วงคุณ Ben ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับหมาป่ามากมาย เพื่อทำให้มันกลายเป็นหมาที่น่ารักเหมือนในอดีตอีกครั้งหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องยอมแพ้เพราะเขาไม่ได้ฝึกและให้การดูแลมันเป็นพิเศษจนทำให้มันมีปัญหาทางพฤติกรรม “คนเพาะพันธุ์สุนัขไม่ได้บอกเขาเอาไว้ตั้งแต่แรกว่าเจ้า Shade เป็นหมาป่า” คุณ Cate Salansky…
-
ทารกน้อยช่วยเหลือคุณแม่จากโรค “มะเร็งเต้านม” หลังดูดนมจากเต้าแล้วร้องไห้ไม่หยุด!?
คุณแม่วัยสาวได้เปิดเผยเรื่องราวที่ลูกชายตัวน้อยได้ทำการช่วยเหลือชีวิตของเธอเอาไว้จากโรคมะเร็งร้าย… Sarah Boyle วัย 26 ปี พนักงานคอลเซ็นเตอร์ได้เล่าให้ฟังว่าเจ้าหนูน้อย Teddy ลูกชายของตัวเองนั้นได้ทำการช่วยชีวิตเอาไว้ เพราะเขาดูผิดปกติจากเดิม จะร้องเสียงดังและดูกระวนกระวายใจทุกครั้งที่เธอพยายามจะป้อนนมด้วยเต้านมข้างขวา ด้วยความกังวลว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น Sarah จึงได้ไปพบกับคุณหมอเพื่อปรึกษาถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นคุณหมอก็ส่งเธอไปยังโรงพยาบาลเพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง อีกสองสัปดาห์ต่อมาก็พบ่ว่าเธอป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมในระดับที่ 2 แล้ว!! นั่นทำให้เธอสามารถเข้ารับการรักษาด้วยคีโม หลังจากนั้นเธอก็วางแผนที่จะตัดเต้านมทั้งสองข้างออกไปเพื่อลดความเสี่ยงในการป่วยเป็นมะเร็งหลังจากที่เจ้าเนื้อร้ายนั้นได้หายไปแล้ว คุณ Sarah เล่าวว่า “Teddy เป็นฮีโร่ของฉัน ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเขาแล้วล่ะก็ฉันคงจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังเป็นมะเร็งอยู่ ผู้ให้คำปรึกษาของฉันบอกกับฉันว่าการให้ลูกดื่มนมจากเต้านั้น จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของแม่และลูกใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับกรณีของฉันแล้วมันช่วยได้มากกว่านั้น มันช่วยชีวิตของฉัน!” “Teddy อาจจะรับรู้ได้ถึงรสชาติของนมที่เขาดื่มจากข้างขวา ซึ่งมันไม่เหมือนกับนมที่เขาดื่มจากเต้าด้านซ้าย” ก่อนหน้านี้คุณ Sarah เองก็เคยตรวจพบก้อนเนื้อแปลกๆ ที่เต้านมข้างขวานี้ในช่วงปี 2013 แต่คุณหมอบอกว่าไม่ต้องกลัวมันเป็นแค่ก้อนซีสต์เท่านั้น ไม่มีอะไรที่จะต้องห่วง แต่ใครจะรู้เล่าว่าหลังจากผ่านไป 4 ปี มันจะกลายมาเป็นก้อนเนื้อร้าย แถมยังอยู่ในระดับที่สองอีกด้วย ถ้าหากว่าลูกชายของเธอไม่แสดงอาการแปลกๆ ออกมา เรื่องราวอาจไม่จบแบบนี้ก็เป็นได้ …
-
ชิลไปมั้ยพี่!? “ชายหนุ่มขี่ม้า” เข้าไปเลือกซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อ เล่นเอาชาวเมืองพากันงง
ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่มีคนขี่ม้าเข้าไปเลือกซื้อของในร้านสะดวกซื้อแค่นั้นเอง… ใช่แล้ว เพื่อนๆ ฟังไม่ผิดหรอก ‘ม้า’ นี่แหละ!! มีชายหนุ่มคนหนึ่งขี่ม้าเข้าไปในร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต Spar ที่ตั้งอยู่ในจังหวัด Eastern Cape ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เหล่านักช็อปปิ้งทั่งหลายต่างก็ช็อคไปตามๆ กันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นาย Alistair Smith เป็นผู้เก็บภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ ก่อนที่ชายคนขี่ม้าจะถูกขับไล่ออกไปโดยผู้จัดการร้าน ชายวัย 49 ปี เล่าว่า “ผมกะลังเดินเข้าไปในร้าน และก็ได้เห็นม้าตัวใหญ่วิ่งเหยาะๆ เข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ในตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นกิจกรรมเรี่ยไรเงินหรืออะไรซักอย่าง แต่พอเห็นผู้จัดการร้านไล่ออกไปแล้วก็พบว่ามันไม่ใช่แบบนั้น” “มันเป็นอะไรที่ตลกมาก ที่ได้เห็นใบหน้าของเหล่าผู้คนที่มาช็อปปิ้ง ทุกคนต่างก็เบิกตาโพลง พร้อมกับอ้าปากค้างจากความช็อค ซึ่งปฏิกิริยาของทุกคนนั้นเป็นฉากที่ตลกจนอดขำออกมาไม่ได้เลยทีเดียว” “เจ้าม้าดูจะกลัวเล็กน้อย เพราะหลายๆ คนเริ่มจะส่งเสียงพูดคุยกันเสียงดังจนทำให้มันตกใจ” นอกจากนี้นักช็อปปิ้งอีกคนหนึ่ง คุณ Lisa Sipika เล่าว่าเธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นเมื่อได้เห็นเจ้าม้าตัวดังกล่าว “ฉันก็แค่ออกไปที่ร้านเพื่อหาซื้อของในวันอาทิตย์ตามปกติ แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเหมือนฝีเท้าของม้าวิ่งมาข้างหลัง เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่ามีม้าตัวใหญ่กำลังเดินผ่านหน้าฉันไป เขาอยูในร้านเลือกซื้อของเป็นเวลาประมาณ 5 นาที หลังจากที่ถูกไล่ออกไปจากร้านชายหนุ่มก็บังคับม้าเดินที่ร้านเบเกอรี่ข้างๆ ต่อ”…