Yahoo ญี่ปุ่นติดป้ายบอกระดับความสูงของสึนามิบนตึก เพื่อให้คนตระหนักถึงความน่ากลัวของมัน

เราอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของ ‘คลื่นยักษ์สึนามิ’ กันมาบ้างแล้ว ก็อย่างที่รู้กันว่ามันคือคลื่นยักษ์ที่มีพลังทำลายล้างมหาศาล และจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างรุนแรง

หลายๆ คนอาจจะคิดว่าที่เป็นเคลื่นสูง คลื่นยักษ์น่ะมันจะสูงซักเท่าไหร่กันเชียว? เอาเป็นว่าคลื่นที่เคยวัดเอาไว้ เมื่อวันที่ 11 เดือนมีนาคมปี 2011 ที่ผ่านมานั้นมีความสูงมากถึง 16.7 เมตรเลยทีเดียว!!

บ้านเรือนกว่า 3,500 หลัง และประชากรของเมือง Ofunato ในจังหวัด Iwate อีกกว่า 300 ชีวิต ต้องถูกพรากไปเพราะเจ้าคลื่นยักษ์สึนามิในครั้งนั้น

 

ณ เส้นสีแดงที่ขีดไว้นั้นก็คือความสูงของเจ้าคลื่นยักษ์ลูกดังกล่าว

 

เมื่อช่วงเดือนมีนาคมในปี 2012 ที่ผ่านมาทาง Yahoo ของญี่ปุ่นได้ทำการนำป้ายมาติดเอาไว้ที่ ตึกของบริษัท Sony ใน Ginza ย่านดาวน์ทาวน์ของเมืองโตเกียว โดยมีข้อความว่า

“ในทุกๆ ปี เมื่อวันที่ 11 เดือนมีนาคมมาถึงอีกครั้ง เราลองมองย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เมื่อ 6 ปี ก่อน เป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เรียกว่า Great East Japan Earthquake

พวกเราได้บอกกับตัวเองว่าเหตุการณ์ภัยพิบัติแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับเราอีกอย่างแน่นอน ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ว่าอย่างไรมันก็จะต้องเกิดขึ้น

เหตุการณ์ในวันนั้น (ชาวญี่ปุ่นจะเรียกว่า 3-11) จังหวัด Iwate ถูกคลื่นยักษ์สึนามิที่มีความสูงมากที่สุด 16.7 เมตร และถ้าหากสึนามีเกิดขึ้นที่นี่ ที่ใจกลางย่าน Ginza แห่งนี้ก็จะมีความสูงอยู่ที่เส้นสีแดงนี้

ความสูงของมันมากกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ แต่แค่รู้ว่ามันสูงแค่ไหน ก็ทำให้เรารู้แล้วว่าต้องรับตัวกับมันอย่างไร พวกเราสามารถเตรียมตัวและศึกษาเกี่ยวกับมัน หาทางที่จะทำให้ทุกคนปลอดภัย จากความทรงจำอันแสนโหดร้าย และผู้เสียสละ

พวกเราจะไม่มีวันลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นเลย ทาง Yahoo เองก็คิดว่านี่เป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมตัวเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ”

 

 

นอกจากนี้จากรายงานของสำนักข่าว Japan’s Kyodo News ได้รายงานว่าความสูงของคลื่นที่ซักถล่มเมือง Ofunato นั้นแท้จริงแล้วอยู่ที่ 23.6 เมตรเลยทีเดียว ซึ่งนั่นจะทำให้ความสูงของมันเกือบๆ จะเท่ากันกับความสูงของตึก Sony เลยล่ะ

 

 

นี่เป็นเหตุการณ์ที่คนญี่ปุ่นต้องเคยเจออยู่เป็นประจำ แม้ว่ามันจะสร้างความเสียหายมากมายให้แก่ทรัพย์สินและชีวิตของพวกเขา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชาวญี่ปุ่นยอมแพ้ และเลือกที่จะพัฒนาแผนการป้องกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก

 

ที่มา : rocketnews

Comments

Leave a Reply