อดีตนักรบ ISIS สารภาพความผิด สังหารคนไป 500 ศพและข่มขืนหญิง 200 คน เพราะ “ใครๆ ก็ทำกัน”

“มันเป็นเรื่องธรรมดา ที่ใครๆ ตรงนั้นก็ทำ… ผมเองก็เช่นกัน” – Amar Hussein

 

เราอาจจะเคยได้ยินข่าวถึงความรุนแรงของกลุ่ม ISIS อยู่บ่อยครั้ง แต่มีไม่มากที่จะได้ฟังเรื่องเล่าเหล่านั้นจากปากของผู้กระทำเหตุต่างๆ หรือที่พวกเขาเรียกกันว่านักรบของกลุ่ม

และในครั้งนี้จะพาไปรู้จักชายชื่อว่า Amar Hussein อดีตนักรบ ISIS ที่ถูกจับในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จากการกวาดล้างในเมืองคีร์คูก

ซึ่งเขาเล่าว่าในช่วงที่เขาใช้เวลาอยู่ในคุก เขาได้อ่านอัลกุรอานทุกวันจนทำให้เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองดีขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขาสำนึกผิดและออกมาบอกเล่าถึงสิ่งที่เขาทำลงไปในอดีต

 

 

เขาได้ข่มขืนหญิงสาวราวๆ 200 ในขณะที่เขาไปบุกปล้นหมู่บ้านต่างๆ ในอิรัค ช่วงที่กองทัพของเขาเรืองอำนาจ เรื่องเหล่านี้คือสิ่งปกติที่นักรบวัยคะนองทั้งหลายทำกัน แน่นอน เขาคือหนึ่งในคนบาปเหล่านั้น

เขายังบอกอีกว่า ผู้บังคับบัญชาของเขาอนุญาติให้เหล่านักรบทุกคนสามารถที่จะข่มขืนหญิงสาวชาวยาซีดีกี่คนก็ได้ แล้วแต่พวกเขาจะพอใจ เป็นเรื่องแน่นอนที่นักรบวัยรุ่นอยากจะทำเรื่องพวกนี้ พวกเขาจึงบุกปล้นและข่มขืนผู้หญิง บ้านต่อบ้านไปเรื่อยๆ

 

 

ทหารชาวเคิร์ดรายงานว่ามีหลักฐานถึงการฆ่าและข่มขืนของ Amar แต่ก็ไม่รู้ว่าจำนวนที่แท้จริงแล้วอยู่ที่เท่าไหร่ รู้เพียงแค่ว่านักรบของกลุ่ม ISIS ข่มขืนผู้หญิงชาวยาซีดีเป็นจำนวนมาก

นอกจากนั้นพวกเขายังลักพาตัวหญิงสาวเหล่านั้นไปด้วย แต่ถ้าเกิดพวกเขาพบเจอผู้ชาย พวกเขาจะฆ่าผู้ชายเหล่านั้นทิ้งทันที

 

 

นอกจากนี้ Amar ยังพูดอีกว่า “ผมฆ่าคนไปราวๆ 500 คน ข่มขืนไปอีก 200 กว่าคน ซึ่งพวกเราจะฆ่าใครก็ตามที่พวกเราต้องการ ตัดหัวใครก็ได้แต่เราเห็นสมควรว่าควรตัด”

เขายืนยันว่า พวกเขาถูกฝึกฝนมาให้ฆ่า มันเป็นเรื่องยากมาก ตอนที่เหยื่อรายแรกถูกนำมาให้เขาลั่นไกสังหาร แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป ได้ฆ่าหลายศพ มันก็เป็นเรื่องง่ายขึ้น

“เจ็ดคน แปดคน สิบคน สามสิบคน หรือ สี่สิบคน ไม่ว่าจะเท่าไหร่พวกเราก็จะพาตัวพวกเขาออกมากลางทะเลทราย และฆ่าซะ”

 

 

นอกจากนี้เขายังพูดถึงสาเหตุการที่เขาเข้าร่วมกับกลุ่ม ISIS ว่า เขาเข้าร่วมกับกลุ่มมาตั้งแต่ปี 2013 แล้ว โดยตอนแรกครอบครัวของเขามีปัญหาและอยู่ในฐานะที่ยากจนพอสมควร

เขาไม่มีเงินหรือแม้แต่ที่พึ่งเลย แม้แต่เพื่อนของเขาก็ไม่ให้การช่วยเหลือใดๆ กับเขาเลยนี่จึงเป็นเหตุที่ทำให้เขาได้มาอยู่ในกลุ่มก่อร้ายนี้นั่นเอง

 

“ผมไม่มีเงิน และก็ไม่มีใครบอกว่า ‘อะไรคือสิ่งที่ถูก อะไรคือสิ่งที่ผิด’ ผมมีเพื่อนนะแต่ว่าไม่มีใครสักคนเลยที่คิดจะให้คำปรึกษาผมเลย” เขากล่าวปิดท้าย

ที่มา dailymail

Comments

Leave a Reply