สาวผู้ตกเป็นทาสเซ็ก ISIS บอกเล่าประสบการณ์ถูกบำเรอกาม ต่อหน้าลูกของเธอเอง!?

เรารู้จัก ISIS ในฐานะกลุ่มผู้ก่อการร้ายซึ่งมีชื่อในด้านลบตามสำนักข่าวต่างๆ อยู่เสมอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ได้สังหารคนบริสุทธิ์ และทำลายชีวิตของใครหลายๆ คนมาแล้วมากมาย

หนึ่งในนั้นคือ Hanan หญิงชาวอาหรับที่นับถืออิสลามนิกายสุหนี่ผู้โชคร้าย ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยถูกกลุ่ม ISIS ทำลายชีวิตของเธอโดยการข่มขืน

และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ เธอถูกคนเหล่านั้นข่มขืนต่อหน้าลูกๆ ของเธออีกด้วย

 

 

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ ได้เผยชะตากรรมที่แสนเลวร้ายของ Hanan หญิงวัย 26 ปี ผู้ซึ่งสามีหลบหนีออกจากเมือง Hawijah ไปก่อนหน้า แต่เธอและลูกๆ ต้องแยกจากสามี

เธอถูกกลุ่ม ISIS ทำร้ายอย่างทารุณ หลังจากที่ถูกจับพร้อมกับผู้หญิงอีก 50 คน เหตุเพราะพยายามหลบหนีไปที่เมือง Hawijahในอิรัก

โดยทางคนในกลุ่มดังกล่าวได้อ้างกับเธอว่า การที่สามีของเธอหนีไป ทำให้เธอไม่ได้เป็นมุสลิมอีกต่อไป และจะต้องแต่งงานกับ ISIS คนหนึ่ง และเมื่อเธอปฏิเสธเพราะว่านั่นไม่ใช่หลักคำสอนที่ถูกต้อง พวกเขาจึงได้จับเธอไปทรมาน ทั้งเฆี่ยนตี และข่มขืน

 

“ผู้ชายคนเดิมเข้ามาข่มขืนฉันทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือนโดยไม่ได้เอาผ้าปิดตา แถมยังทำต่อหน้าลูกๆ ของฉัน ซึ่งลูกสาวของฉันต้องทุกข์ทรมานจากความพิการทางสมอง

แม้เธออาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เห็น แต่ลูกชายคนโตของฉันมักจะเห็นอยู่บ่อยครั้ง ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี” Hanan กล่าว

หนึ่งเดือนหลังจากที่ถูกจับ ทางพ่อของ Hanan ก็ได้ออกตามหาเธอจนพบ โดยเขาได้มอบรถ พร้อมจ่ายเงินจำนวน 500 เหรียญ หรือราว 17,000 บาท ให้รถแก่กลุ่ม ISIS เพื่อเป็นการไถ่ตัวของเธอออกมาจากขุมนรกแห่งนั้น

 

 

Hanan ยังได้เผยอีกว่า เธอถูกบังคับให้เซ็นชื่อลงในเอกสารในเรื่องที่เธอหลบหนีออกจากดินแดน และคนที่ข่มขืนก็ได้บอกว่าเขาต้องการที่จะแต่งงานกับเธอ แต่ทว่า Hanan และพ่อของเธอกลับปฏิเสธ

ในเดือนมกราคม ปี 2017 เธอบอกว่าหลังจากที่หนีไปกับของครอบครัว เธอไม่ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนอื่นๆ แต่เธอได้ยินมาว่ามีหญิงคนหนึ่งถูกบังคับให้แต่งงานกับคนที่ข่มขืนเธอ

 

ทางด้าน Lama Fakih รองผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคตะวันออกกลางของ HRW ได้ออกมาเผยว่า “เราไม่ทราบมาก่อนเลยว่าหญิงชาวอาหรับสุหนี่จะมาตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเหล่า ISIS และเราก็หวังว่าประชาคมโลก และทางการท้องถิ่นจะพยายามเข้าให้ความช่วยเหลือผู้หญิงเหล่านี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”

 

 

ทั้งนี้ ISIS ไม่เพียงแต่ล่วงละเมิดหญิงชาว Yazidi ที่ไม่ใช่ผู้ศรัทธาในศาสนาเดียวกับพวกเขาเท่านั้น เพราะแม้แต่หญิงชาวอาหรับที่นับถืออิสลามนิกายสุหนี่เหมือนกับพวกเขา ก็ตกเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน

เนื่องจากพวกเขามักจะหาวิธีในการทำให้ผู้หญิงเหล่านั้นตกจากความเป็นมุสลิมในแบบของพวกเขา (ซึ่งหลายคนก็บอกว่านั่นขัดกับหลักศาสนาที่แท้จริง) ก่อนที่จะเข้าทำร้ายพวกเธอในที่สุด

ที่มา : dailymail

Comments

Leave a Reply