สุนัขจิ้งจอกถูกยิง ได้รับการช่วยเหลือจากชายหนุ่ม และมันก็กอดเขาไม่ยอมปล่อยเลย…

มิตรภาพสามารถเกิดได้ทุกที่ทุกเวลา และกับทุกชีวิตไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือมนุษย์ก็ตาม เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มคนนี้และเจ้าสุนัขจิ้งจอก….

 

เรื่องมีอยู่ว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งได้พบเจอกับเจ้าสุนัขจิ้งจอกที่กำลังบาดเจ็บอยู่ จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ Dan Martin อาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์ป่า That Wildlife Rescue Guy

หลังจากนั้นไม่กี่นาทีถัดมาเขาก็มาถึงยังที่เกิดเหตุ Dan ค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ เจ้าสุนัขจิ้งจอก พยายามที่จะเรียกความเชื่อใจจากมัน ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 20 นาทีกว่าที่มันจะยอมให้เขาเข้าถึงตัว

 

 

“ผมค่อยๆ เดินเข้าหามันอย่างช้าๆ พร้อมกับพยายามใช้คำพูดเพื่อเกลี้ยกล่อมัน ดูเหมือนว่ามันจะรู้ว่าที่ผมมาที่นี่เพื่ออะไร จากนั้นผมก็สามารถอุ้มมันขึ้นมาพร้อมกับใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ พันรอบลำตัวของมัน” Dan เล่า

เขาตั้งชื่อเจ้าสุนัขจิ้งจอกว่า Basil แต่เนื่องจากว่ามีปัญหาในการเดินทาง จึงทำให้เขาไม่สามารถพามันไปหาสัตวแพทย์ได้ในขณะนั้น จึงตัดสินใจที่จะพามันกลับไปดูแลที่บ้านก่อนเพื่อมั่นใจว่ามันจะปลอดภัยจากสัตว์ป่าตัวอื่นๆ

เช้าวันต่อมาเจ้า Basil ก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับแววตาที่ร่าเริงและสดใสยิ่งกว่าเดิม พร้อมกับเริ่มทำความรู้จักกับเพื่อนคนใหม่ ที่เพิ่งช่วยชีวิตมันมา

 

 

“มันเป็นหมาที่ขี้อ้อนมากๆ คอยอยู่ใกล้ๆ ผมไม่ห่างเลยล่ะ” Dan เล่า

 

Dan ขับรถพาเจ้า Basil ไปที่คลีนิครักษาสัตว์ และอยู่เป็นเพื่อนมันตลอด ขณะที่กำลังนั่งรออยู่ด้วยกันเจ้า Basil ก็เอาหัวมาคลอเคลียคอยกอดนาย Dan ตลอด ราวกับว่ามันกำลังตอบแทนผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตมันอยู่

 

 

หลังจากเข้ารับการตรวจแล้วก็พบว่าเจ้า Basil นั้นได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนลูกซอง และโชคร้ายที่สัตวแพทย์จะต้องตัดขาของมันทิ้งเพื่อช่วยให้มันรอดชีวิตจากการติดเชื้อ

 

 

หน้าที่ของ Dan ได้จบลงแล้ว และเขาจำใจต้องลาจากจากเพื่อนใหม่ที่กอดกันมาตลอด 1 วันเต็ม และจากนี้ไปเจ้า Basil จะถูกรับไปดูแลต่อโดยศูนย์ช่วยเหลือสุนัขจิ้งจอก National Fox Welfare Society

 

 

การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีและเจ้า Basil ก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ จากนี้ไปแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ Dan ก็ยังคงยืนยันว่าจะมาเยี่ยมหามัน แน่นอนว่าเจ้า Basil เองก็ไม่มีทางลืมความอบอุ่นจากอ้อมกอดของชายผู้ช่วยชีวิตมันอย่างแน่นอน

 

ที่มา : thedodo

Comments

Leave a Reply