Category: ข่าวคราวรอบโลก

ถ้าเลือกเกิดได้ทุกคนก็อยากเป็นคนสวยคนหล่อกันทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเราทำไม่ได้ จึงทำให้บางคนเกิดมามีความผิดปกติทางร่างกายไปบ้าง เหมือนกับ Carter Blanchard เด็กชายวัย 8 ขวบ ที่เกิดมาพร้อมโรค Vitiligo (ด่างขาว) ส่งผลให้ผิวหน้าของมีรอยด่างเป็นบางจุด และเด็กชายก็ไม่ชอบที่เป็นแบบนี้เอาซะเลย     แต่แล้ววันหนึ่งเด็กชายก็เปลี่ยนความคิดเมื่อได้พบกับสุนัขที่มีหน้าตาลักษณะเหมือนกับเขา Carter ไม่รู้สึกเกลียดใบหน้าตัวเองอีกต่อไปแล้ว แต่เขากลับยิ้มได้อย่างภาคภูมิ Rowdy เป็นสุนัขอายุ 13 ปี มีขนสีดำ แต่ขนรอบดวงตาเป็นสีขาว เพราะมันก็เป็นโรค Vitiligo เหมือนกับที่ Carter เป็นอยู่ตอนนี้     การที่สุนัขตัวนี้มีสีขนที่แปลกนี้ทำให้มันเป็นที่รู้จักมากมายในโลนออนไลน์ และเมื่อแม่ของ Carter ไปเจอกับมันเขา เธอจึงตัดสินใจรับมันมาเลี้ยงทันที และเมื่อเด็กชายได้เห็น Rowdy เป็นครั้งแรก เขาตื่นเต้นมาก เพราะมันเป็นโรคเดียวกับเขา และมีลักษณะหน้าตาเหมือนกัน     แม่ของเด็กชายบอกว่า “ตอนที่ลูกชายเจอกับสุนัขตัวนี้ เขาเปลี่ยนสีหน้ารวดเร็วอย่างไม่หน้าเชื่อ จากที่เคยหน้าบึ้งก็กลายเป็นยิ้มแป้นเลยค่ะ” เธอยังบอกอีกว่า “ทุกครั้งที่ขึ้นรถ ลูกจะพูดเสมอว่าเขาเกลียดใบหน้าตัวเอง และไม่ชอบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เลย แต่เมื่อมีเจ้าหมาตัวนี้เข้ามา ดูเหมือนมันจะสอนลูกชายฉันเกี่ยวกับการยอมรับรูปลักษณ์ตัวเองมากขึ้น”     ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนรักกันที่มักจะเล่นด้วยกันเสมอ…

ในโลกนี้ต่อให้จะมีคนมาบอกว่ารักเรามากแค่ไหน แต่คงไม่มีใครที่รักและดูแลเราได้ดีไปกว่าพ่อกับแม่อีก แม้จะอยู่ในช่วงที่ลำบากที่สุด พ่อแม่ก็จะอยู่เคียงข้างเสมอ เหมือนกับคุณแม่วัย 69 ปี คนนี้ ที่แม้จะแก่แล้วแต่เธอยังรวบรวมกำลังทั้งหมดแบกลูกสาวพิการวัย 30 ปี เพื่อไปทำธุรกรรมในธนาคาร     เรื่องราวนี้ถูกโพสต์ในเฟสบูุ๊คโดย Gilbred Cargason Alsagon Jr เป็นช่วงเวลาประทับใจที่บันทึกได้จากธนาคาร DBP (Development Bank of The Philippines) ในเมือง Roxas ประเทศพิลิปปินส์ ภาพของ Julieta Lorenzo วัย 69 ปี เดินเข้ามาในธนาคารพร้อมกับแบกลูกสาว Mary Jane ไว้ข้างหลัง สร้างความประทับใจให้ทุกคนที่พบเห็น     Alsagon บอกว่า หลายคนพยายามจะเข้าไปช่วยเธอ แต่หญิงชราปฏิเสธอย่างสุภาพ เพราะ Mary ไม่ไว้ใจใครเลยนอกจากแม่เท่านั้น ต่อมา Alsagon ได้ทราบว่า แม่ลูกคู่นี้จะมาที่ธนาคารทุกเดือนเพื่อมารับเงินบำนาญ 4,400 บาทต่อเดือน เมื่อมาถึงสองแม่ลูกก็จะนั่งทานของว่างที่วางอยู่บนโต๊ะในระหว่างรอคิว     เมื่อเหตุการณ์นี้ถูกโพสต์ลงในเฟสบุ๊ค ก็มีชาวเน็ตก็มาชื่นชมมากมาย พวกเขาต่างประทับใจกับคุณแม่คนนี้ที่แม้จะแก่แล้วแต่เธอก็ยังดูแลลูกสุดความสามารถ…

ใครที่ชอบพวกเครื่องดื่มชูกำลัง บอกได้ว่างานนี้คุณต้องเซอร์ไพรส์แน่ๆ เพราะนี่ไม่ใช่เครื่องดื่ม ไม่ใช่น้ำ และไม่ใช่ยา แต่มันคือ ซุปบำรุงกำลัง!! แหน่ ไม่เคยได้ยินละสิ นี่คือซุปบำรุงกำลังจากนิชชิน อะ งงเข้าไปอีก ก็ปกติเรารู้จักนิชินในฐานะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใช่มั้ยล่าาาา แต่ครั้งนี้มาในรูปแบบของการชูเรื่องซุปมากกว่าเส้นบะหมี่!!     และซุปให้พลังงานนี้คือ Cup Noodle Energy Miso Ginger Big มีส่วนผสมของกรดอะมิโน อาร์จินีนและวิตามินไนอาซิน (วิตามินบี 3) ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย น้ำซุปนี้ไม่ได้มาแต่น้ำเท่านั้น แต่มาพร้อมกับเนื้อและซุปมิโซะ โดยใช้ขิงและกระเทียมในการเพิ่มรสชาติ นอกจากนี้ในเซตเดียวกันยังมีน้ำซุปรสขิงที่เพิ่มความอร่อยให้ซุปเพิ่มกำลังอีกด้วย   ไม่ได้มาแค่ซุปนะ แต่มาพร้อมเครื่องแบบจัดเต็ม   ข่าวดีคือ Cup Noodle Energy Miso Ginger Big จะวางขายแล้วในวันที่ 27 มีนาคมที่จะถึงนี้ ในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น ราคาถ้วยละ 205 เยน (ประมาณ 63 บาท) เตรียมตัวบินไปลิ้มลองกันได้เลยนะจ๊ะ   ดูจากภาพแล้วน่ากินมากๆ ได้ฟื้นฟูพลังเหมือนเครื่องดื่มชูกำลังแบบนี้ก็เยี่ยมไปเลย ที่มา nissin, rocketnews24

คนจรจัดหรือขอทานนับว่าเป็นปัญหาหลักของหลายๆ ประเทศเนื่องจากเป็นการทำให้ประเทศเสียภาพลักษณ์มีปัญหาอื่นๆ ตามมาอีก แม้ว่าที่ผ่านมาประเทศต่างๆ จะพยายามแก้ปัญหาด้วยวิธีต่างๆ แต่ก็ไม่อาจทำให้คนจรจัดหมดไปจากสังคมได้ โดยเฉพาะในอังกฤษที่มีจำนวนของคนจรจัดพุ่งสูงมากถึง 51%     อังกฤษจึงได้ออกมาตรการกำจัดคนจรจัดอย่างจริงจังด้วยการปรับอย่างน้อย 4,300 บาท (100 ปอนด์) แน่นอนว่าวิธีนี้สร้างความไม่พอใจกับกลุ่มมนุษยชนเป็นอย่างมาก การกำจัดคนจรจัดนี้อยู่ภายใต้ระบบ PSPO (Public Space Protection Order) หรือระเบียบการปกป้องพื้นที่สาธารณะ ซึ่งถูกนำเสนอเมื่อปี 2014 โดยจะทำการปรับคนที่มีพฤติกรรมผิดแปลกไปจากคนทั่วไป เพราะถือว่ามีความผิดทางอาญา     Jenny Hollingsbee สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจาก Shepway Council บอกว่า ที่เสนอให้มีการปรับเป็นเงิน 4,300 บาทนั้น เป็นเพราะไม่อยากให้คนจรจัดมานอนข้างถนน เนื่องจากไม่มีความปลอดภัย เธอยังบอกอีกว่า การปรับนี้จะช่วยจัดการผู้กระทำผิดอย่างถาวรและดูเหมือนว่าจะได้ผลด้วย เพราะหลังจากที่ใช้ระบบนี้พบว่าในพื้นที่ที่ Jenny ดูแล มีคนจรจัดลดลงไปเป็นจำนวนมาก แต่การแก้ปัญหานี้เปรียบเสมือนเหรียญสองด้านคือ มันอาจจะแก้ปัญหาคนต่อต้านสังคมได้ แต่สำหรับคนที่ไม่มีที่อยู่อาศัยจริงๆ วิธีนี้ยิ่งจะเป็นการรังแกพวกเขามากขึ้น     Rick Henderson จาก Homeless Link บอกว่า “มีหลายคนที่ไม่อยากนอนข้างถนนเลย…

ในแต่ละวันมีการก่ออาชญากรรมมากมายจนบางทีตำรวจเองยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำเกิดที่ไหนอย่างไร หรือรู้ในเวลาที่สายเกินไปแล้วและทำให้คนร้ายหลบหนีไปได้ ด้วยเหตุนี้กรมตำรวจในเกียวโตจึงติดตั้งระบบ Predictive Crime Defense System (Yosokugata Hanzai Bogyo System) หรือระบบคาดการณ์สถานที่และเวลาเกิดอาชญากรรม     ระบบนี้ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ที่สามารถบอกตำรวจได้มีการก่ออาชญากรรมประเภทใด เมื่อไหร่และที่ไหน เช่น ถ้าตำรวจกำลังตามตัวคนร้ายแต่ไม่รู้ว่าอยู่ในบริเวณไหน พวกเขาก็แค่พิมพ์ประเภทและเวลาของอาชญากรรมลงในระบบตรวจจับ จากนั้นก็จะมีแผนโชว์ขึ้นมาพร้อมระบุตำแหน่งเป็นสีที่ได้ตั้งไว้     ระบบนี้จะช่วยให้ตำรวจจัดหน่วยลาดตระเวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะรู้ว่าต้องไปตรวจเหตุจุดไหน เวลาไหน เหมือนเป็นการลงพื้นที่ที่ถูกจุดนั่นเอง ซึ่งมันก็ช่วยป้องกันการก่ออาชญากรรมได้เป็นอย่างดีเลย ตั้งแต่นำระบบนี้มาใช้ ตำรวจเกียวโตสามารถจับคนร้ายมี่คุกคามทางเพศในรถได้หลายรายแล้ว โดยระบบจับได้เพระาะไฟกระพริบรถนั่นเอง     นอกจากนี้ ระบบตรวจจับจะเผยให้เห็นการโจรกรรมรถที่เกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียงด้วย ดังนั้นตำรวจจึงต้องมีการตื่นตัวเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินและชีวิต เป้าหมายหลักของเครื่องตรวจจับนี้คือป้องกันการก่ออาชญากรรม ดังนั้นระบบจะเตือนก่อนที่คนร้ายจะลงมือได้สำเร็จเสมอ     ระบบนี้ เกียวโตได้รับไอเดียมาจากเมือง Santa Cruz รัฐแคลิฟอร์เนียอีกที ซึ่งใช้ระบบเดียวกันมานานหลายปีแล้ว และพบว่ามีการก่ออาชญากรรมลดลงถึง 20% ระบบดังกล่าวนี้สร้างมาจากการวิเคราะห์สถิติอาชญากรรมที่เคยเกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความผิดพลาดเลย เพราะบางครั้งก็ทำให้ตำรวจจับผิดตัวบ้าง     เช่นในเดือนก่อนหน้านี้ ในจังหวัดฟุกุโอกะ ชายคนหนึ่งถูกจับเพียงเพราะถือไฟฉาย… จึงกลายเป็นปัญหาว่าควรจะให้ตำรวจใช้ระบบดังกล่าวในการจับคนร้ายต่อไปมั้ย…

การทำศัลยกรรมกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับสังคมปัจจุบันนี้ไปแล้ว แต่ก็อย่างที่รู้ ไม่ว่าจะทำส่วนไหน ยังไง มันก็มีทั้งผลดีและผลเสียตามมาเสมอ โดยเฉพาะการทำหน้าอก ที่มีงานวิจัยล่าสุดพบว่าการอัพเกรดหน้าอกนั้นเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้ ซึ่งเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดหายากและยังไม่มีการรักษาให้หายขาดได้ (ทางการแพทย์เรียกว่า Anaplastic Large Cell Lymphoma) โดยนักวิจัยทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกาได้ศึกษารูปแบบต่างๆ ของซิลิโคนเสริมหน้าอก และพบว่าซิลิโคนบางชนิดไม่มีความปลอดภัย นำไปสู่การเป็นมะเร็งได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีซิลิโคนหลายชนิดที่ถูกสั่งห้ามมาใช้ในการเสริมหน้าอก     ในสหรัฐฯ นั้น การทำศัลยกรรมหน้าอกได้รับความนิยมเป็นอันดับสองจากการทำศัลยกรรมทั้งหมด โดยพบว่ามีการใช้บริการเสริมหน้าอกมากกว่า 300,000 ครั้งต่อปี และการตรวจสอบที่ผ่านมาพบว่า มีผู้ได้รับผลกระทบจากการทำหน้าอกมากถึง 99% ส่วนการรักษาเบื้องต้นนั้น คือ ต้องนำซิลิโคนที่เสริมอกออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังพบว่า แม้ผู้หญิงที่ทำหน้าอกมานั้นเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองน้อย แต่เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ทำแล้วกลับพบว่ามีความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกัน     คนที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเนื่องจากการทำหน้าอกนั้น ส่วนใหญ่จะได้รับการรักษาด้วยการเอาซิลิโคนออก และฝังแคปซูลไว้รอบๆ จุดที่เคยเป็นตำแหน่งซิลิโคน แต่บางกรณีก็จะรักษาด้วยการทำเคมีบำบัดและฉายรังสี การสำรวจของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2017 พบว่า มีคนที่ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเนื่องจากซิลิโคนทำหน้าอก 359 คน และเสียชีวิตไปแล้ว 9 ราย ส่วนในการกระบวนการทำศัลยกรรมหน้าอกนั้น มีรูปแบบที่หลากหลาย แต่ในสหรัฐฯ…

เคยมั้ย? มองไปทางไหนก็รู้สึกเบื่อไปหมด ต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมๆ บรรยากาศเดิมๆ สิ่งก่อสร้างเดิมๆ ไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้นเลย ถ้าไม่อยากเบื่อแบบนี้ก็ทำให้สิ่งที่น่าเบื่อกลายเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากขึ้นในแบบของคุณสิ เหมือนกับผู้ใช้อินสตาแกรมจากสแกนดิเนเวียคนนี้ที่เปลี่ยนเมืองตัวเองให้น่ามองยิ่งขึ้น     โดยปกติแล้วฤดูหนาวในภูมิภาคสแกนดิเนเวียจะกินเวลานานถึง 6 เดือน ทำให้บางคนรู้สึกเบื่อเป็นธรรมดา ชาวเมืองต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมๆ อาการศเดิมๆ วันแล้ววันเล่า ด้วยเหตุนี้ผู้ใช้อินสตาแกรมที่ใช้ชื่อว่า uppsala.ser.dig จึงได้ทำให้สิ่งแวดล้อมรอบตัวให้น่ามองด้วยการไล่ติดดวงตาปลอมไปทั่วเมือง ไม่ว่าจะเป็นบนต้นไม้ เสาไฟฟ้า ถึงขยะ รูปปั้น และอื่นๆ ที่ติดได้   นี่คือบรรยากาศในฤดูหนาวของประเทศวีเดน   ทีนี้เวลาออกจากไปบ้านก็จะมีสิ่งที่ชวนให้ตื่นเต้นแล้ว คุณจะรู้สึกเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ตลอดเวลา และไม่ว่าจะไปทางไหน คุณก็จะเจอกับสายตาคู่นั้น แหม่ มันอาจจะดูเหมือนการเล่นแบบเด็กๆ นะ แต่ปฏิสเธอไม่ได้เลยว่า สิ่งเหล่านี้ได้ทำลายความเบื่อหน่ายลงไปมากเลยล่ะ   ทำให้สิ่งของกลายเป็นสิ่งที่ยิ้มได้   เพื่อทำลายความน่าเบื่อ ยิ้มให้เต็มที่ไปเลย   อันนี้อาจจะดูหลอนไปซะหน่อยนะ   ใส่ดวงตาให้เจ้าเหมียวยักษ์สักหน่อย   อะไรๆ ก็มีตาได้ ดูสิ . . . . .  …

ในสมัยที่ทุกคนกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยม เชื่อว่าทุกคนต้องเคยมีโมเมนต์ที่เบื่อการเรียนคณิตศาสตร์มากๆ เพราะนอกจากมันจะยากแล้ว การเรียนการสอนมันก็ช่างแสนน่าเบื่ออีกด้วย (#เหมียวอ๊อดโด้ ล่ะคนหนึ่งที่เกลียดวิชาคณิตศาสตร์มากๆ) แต่คุณครูชาวแอฟริกาใต้คนนี้ได้คิดค้นวิธีการสอนคณิตศาสตร์ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนได้อย่างสนุกสนานไม่และไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ด้วยการนำเพลงฮิปฮอป การแรป และการเต้นเข้ามาเป็นสื่อช่วยสอน     ฟังดูแล้วไม่น่าเชื่อที่คณิตศาสตร์กับเพลงฮิปฮอปจะมาอยู่ด้วยกัน แต่ก็เป็นเรื่องจริง คุณครูคนนี้มีชื่อว่า Kurt Minnaar วัย 31 ปี จากเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ เขาเล่าว่าเด็กนักเรียนของเขาหลายคนประสบปัญหากับวิชาคณิตศาสตร์มาก เนื่องจากการเรียนการสอนคณิตเป็นเรื่องน่าเบื่อ จนพวกเขาไม่สามารถโฟกัสไปที่เนื้อหาได้ ซึ่ง Kurt ก็เข้าใจดีเพราะเคยผ่านมาก่อน ด้วยความที่เขาเคยเป็นนักออกแบบท่าเต้นและศิลปินเพลงฮิปฮอปมาก่อน เขาจึงตัดสินใจลองพัฒนาแนวทางการสอนใหม่ๆ ขึ้นมาด้วยความรู้ที่เขามี จนกลายเป็นการสอนคณิตศาสตร์แบบฮิปฮอปอย่างที่เราได้เห็นกัน     “วิธีการสอนแบบดั้งเดิมนั้นน่าเบื่อมาก มีเด็กในห้องของผมบางคน ทำโจทย์ระดับประถมไม่ได้ด้วยซ้ำ ผมจึงลองใช้เพลงแรป สร้างวิธีการสอนแบบใหม่ขึ้นมา เพื่อให้เหมาะกับเด็กๆ ที่สมาธิสั้นหรือมีอาการไดอาเล็กเซีย” Kurt กล่าว     โดยเขาได้เขียนเพลงแรปที่มีเนื้อหาเป็นการสอนบวกลบคูณหารขึ้นมาหลายเพลงและให้นักเรียนได้จำไปร้อง ขณะเดียวกันระหว่างอยู่ในชั้นเรียน เขาก็จะสอนนักเรียนเต้นไปด้วย เพื่อให้นักเรียนได้ผ่อนคลาย และกลับมามีสมาธิกับสิ่งทีกำลังสอน     ซึ่งหลังจากทดลองนำสื่อฮิปฮอปมาใช้งาน ผลปรากฎว่านักเรียนของเขาสามารถเรียนวิชาคณิตศาสตร์ได้ดียิ่งขึ้น “ผมเห็นผลลัพธ์ในแง่บวกของนักเรียนของผม…

โยคะถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่หลายๆ คนชอบเล่น เพราะนอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยฝึกสมาธิอีกด้วย และถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากลองเล่นโยคะท่ามกลางบรรยากาศแบบธรรมชาติๆ ล่ะก็ ลองไปรู้จัก “โยคะแพะ” อันนี้กันดีกว่า “โยคะแพะ” คิดค้นขึ้นมาโดย Lainey Morse เจ้าของฟาร์ม No Regrets จากรัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอเล่าว่าปกติแล้วทุกๆ เทศกาลวันสำคัญ อย่างเช่นวันเด็ก เธอจะเปิดฟาร์มให้ครอบครัวอื่นๆ ได้มาจัดปาร์ตี้กัน จนวันหนึ่ง ผู้ปกครองท่านหนึ่งที่เป็นครูสอนโยคะพูดขึ้นมาว่า “ที่นี่เหมาะเป็นสถานที่เรียนโยคะดีนะ” เมื่อได้ยินแบบนั้น เธอจึงทดลองจัดคลาสโยคะขึ้นมาทันที     โดยผู้เข้าร่วมทั้งหมดจะทำกิจกรรมกันกลางฟาร์ม และปล่อยให้สิงสาลาสัตว์ต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมอย่างอิสระ ซึ่งทางผู้ที่เข้าร่วมต่างบอกว่า สัตว์เหล่านี้ช่วยให้ผ่อนคลายเป็นอย่างมาก Morse เผยว่าหลังจากทดลองเปิดคลาสโยคะที่นี่ ก็มีคนสนใจเป็นจำนวนมาก หลายๆ คนถึงกับยอมเดินทางกว่า 200 กิโลเมตร เพื่อมาร่วมคลาสกันเลยทีเดียว       ใครนึกภาพไม่ออกลองชมคลิปนี้ดู   ตอนนี้เธอกำลังมีแผนจะจัดคลาสโญคะเพิ่มในช่วงปลายปีนี้ ใครสนใจก็จองคิวกันได้นะ ที่มา wideopenpets

สำหรับเด็กๆ ส่วนใหญ่แล้ว วันเกิดก็เป็นอีกหนึ่งวันพิเศษที่พวกเขาจะได้รับของขวัญชิ้นโปรด หรือได้จัดปาร์ตี้สนุกๆ กับเพื่อนๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีตอนโต แต่สำหรับหนูน้อยวัย 6 ขวบ จากชิคาโก Armani Crews เธอต้องการของขวัญวันเกิดที่แตกต่างออกไป ของขวัญที่เธอต้องการไม่ใช่ของเล่น หรือของสะสมน่ารักๆ แต่มันคือการได้ช่วยเหลือคนไร้บ้าน จากน้ำใจที่แท้จริงของตัวเธอเอง   เธอชักชวนให้เพื่อนทุกคนเปลี่ยนจากการส่งของขวัญวันเกิด ให้มาช่วยกันทำแซนวิชคนละไม้คนละมือ เพื่อนำไปแจกให้กับคนไร้บ้าน   หลังจากที่เธอได้โพสต์ความต้องการของเธอลงบนเฟซบุ๊ก ชาวเน็ต และเพื่อนบ้านต่างก็ร่วมแรงร่วมใจส่งของใช้จำเป็นมาให้ บ้างก็ส่งเป็นเงินบริจาค เพื่อที่เธอจะได้นำไปแจกจ่ายให้กับคนไร้บ้าน   เธอเกิดไอเดียที่จะช่วยสังคมดีๆ แบบนี้ทันที หลังจากที่วันหนึ่งเธอเห็นน้องชายของเธอนำอาหารไปให้กับคนไร้บ้าน   และเมื่อวันเกิดของเธอมาถึง หนูน้อย Armani ก็ได้สวมมงกุฏประจำตำแหน่งแบบน่ารักๆ พร้อมทั้งพาครอบครัวไปตั้งโต๊ะแจกจ่ายน้ำดื่ม เสื้อผ้า และของใช้ยามจำเป็นอื่นๆ ให้กับคนไร้บ้านในเมืองที่เธออาศัยอยู่   งานนี้มีคนไร้บ้านมากกว่า 125 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือจากเธอ พวกเขาต่างรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของหนูน้อยอย่างที่สุด   เป็นอีกเรื่องราวดีๆ ที่เราได้เห็นเด็กน้อยลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อสังคม โลกนี้น่าอยู่ขึ้นไปอีกเย๊อะ ที่มา: Viralnova

นี่คือภาพขณะที่ทางเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติภารกิจเพื่อเข้าไปช่วยชีวิตแม่วัวโชคร้ายตัวหนึ่ง ที่ดันเดินตกลงไปในหน้าผาสูงกว่า 100 ฟุต (30 เมตร) หลังเดินแยกออกจากกลุ่มของมันที่อาศัยอยู่บริเวณ Polzeath ในคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ แต่โชคดีที่มันได้รับการช่วยเหลือเอาไว้ได้ทัน จนทำให้มันรอดชีวิตมาได้     เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า แม่วัวสีขาวตัวนี้ถูกพบในหมู่บ้านที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง ในช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 18 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของ Polzeath Coastguard และกองทัพเรือกู้ภัยจาก Padstow Lifeboat ได้รับแจ้งว่ามีวัวพันธุ์ White Park ที่พบได้ยากต้องการความช่วยเหลือ นั่นทำให้พวกเขาได้รีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุทันที     แต่ทว่า ในขณะนั้นทางเจ้าหน้าที่อาจยังไม่สามารถช่วยเหลือมันได้ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ปริมาณน้ำกำลังเพิ่มขึ้น อีกทั้งท้องฟ้าก็เริ่มมืดมิด ดังนั้น จึงเป็นการยากที่จะให้ความช่วยเหลือมัน ซึ่งพวกเขาต้องรอจนกว่าจะเป็นช่วงเช้าอีกวันหนึ่งจึงจะสามารถช่วยชีวิตแม่วัวตัวนี้ได้     วันรุ่งขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เดินทางกลับไปยังที่เกิดเหตุอีกครั้ง และพวกเขาก็ต้องโล่งใจ หลังพบว่าแม่วัวยังคงติดอยู่กับโขดหินตรงที่เดิม และพวกเขาก็ยังรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่มันไม่ถูกกระแสน้ำพัดลงไปน้ำ หรือจมน้ำตาย หลังจากที่เห็นว่าแม่วัวยังคงปลอดภัย พวกเขาก็พยายามเข้าช่วยเหลือมัน…

ถ้าใครอยากเอาใจผู้หญิง บอกเลยไม่ยากค่ะ แค่พาเธอช้อปปิ้ง ซื้อเครื่องสำอางค์ ดูหนัง ฟังเพลง ทำเซอร์ไพรส์ หรืออะไรก็ได้ที่คิดว่าเธอชอบ แต่ถ้ายังไม่ได้ผลอีก เราขอแนะนำให้คุณฟิตหุ่นให้ล่ำๆ หาแมวมาอุ้มในอ้อมกอดสักตัว รับรองว่าผู้หญิงต้องใจละลายแน่นอน เหมือนกับชายหนุ่มกับแมวเหล่านี้จากอินสตาแกรม hotdudeswithkittens ที่ใครเห็นก็ต้องกริ๊ดดดด   1. อุ๊ตะ อยากเป็นแมวน้อยจุง   2. ผู้ชายก็หล่อ แมวก็น่ารัก มาอยู่ด้วยกันแล้วลงตั๊วลงตัว   3. มีความมุ้งมิ้งกับเมี๊ยวตัวน้อย   4. นี่มันจะสวีทเกินหน้าเกินตาไปแล้ว   5. ต๊ายตาย ยิ้มหวานเชียว   6. ขออยู่แทนที่เหมียวได้มั้ย   7. ผู้ชายแมนก็รักสัตว์นะ   8. ดูเป็นผู้ชายอบอุ่นอ่า อยากได้   9. อยากได้คนช่วยเลี้ยงแมวมั้ยคะ   10. แหม่ อยากเข้าไปลูบแมวจัง   11. แบบนี้แหละที่จะทำให้ผู้หญิงใจละลาย  …

เรื่องราวของเจ้าหมีสองตัวที่เกษียณชีวิตจากการทำงานในคณะละครสัตว์ ที่ถูกทิ้งเอาไว้ทั้งอย่างนั้น…   นาย Pavel Kurya อดีตครูฝึกสัตว์จึงตัดสินใจที่จะรับเจ้าหมีสองตัวมาดูแลต่อ ในบ้านที่ตั้งอยู่ในเขต Kalachyovsky District เมือง Volgograd Oblast ประเทศรัสเซีย เจ้าหมีสองตัวชื่อว่า Egor และเจ้า Heaven ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นนักแสดงในคณะละครสัตว์ ก่อนที่จะตัดสินใจลดขนาดลงเมื่อปี 2014 จึงต้องมีการโละสัตว์บางตัวทิ้งไป และแจ๊คพ็อตก็มาตกที่พวกมันสองตัว เนื่องจากว่าเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ และต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในการดูแล แน่นอนว่าการที่จะปล่อยพวกมันให้ไปอยู่ในธรรมชาตินั้นเป็นเรื่งอที่เป็นไปไม่ได้เลย เพราะตลอดชีวิตมันถูกเลี้ยงดูมาด้วยความหวาดกลัวมาโดยตลอด   และนี่คือภาพของชีวิตหลังเกษียณในบ้านของเจ้าหมีทั้งสองตัวที่อยู่ในบ้านของนาย Kurya…   ถึงเวลาให้อาหารแล้ว   พร้อมทั้งมีการทำเก้าอี้แบบพิเศษเพื่อให้มันนั่งอีกด้วย   ได้เวลาอาบน้ำแล้ว   หลังจากที่มันถูกทิ้งอย่างไม่ใยดี นาย Kurya ก็ตัดสินใจที่จะรับมันมาเลี้ยงไว้ที่บ้าน   ช่วงเวลางีบตอนกลางวัน   Kurya จะคอยดูแลเจ้าหมีทั้งสองตัวเป็นอย่างดี ทั้งน้ำอาหาร แต่ด้วยความที่พวกมันเป็นสัตว์ที่มีความอันตรายจึงต้องมีการสวมที่รัดปาก และต้องอยู่ในกรง . . .   แม้ว่าคุณภาพชีวิตของพวกมันไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อยก็ทำให้มันรอดชีวิตจากการถูกปล่อยเอาไปไว้ในธรรมชาติที่พวกมันจะต้องเผชิญกับความตายอย่างแน่นอน   ที่มา…

ต้องยอมรับว่าโซเชียลมีเดียมีอิทธิต่อสังคมปัจจุบันนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งมันก็มีทั้งผลดีและผลเสีย แต่ถ้าคุณรู้จักใช้มันให้เป็นคุณก็ได้รับประโยชน์จากมันอย่างมหาศาลเลยล่ะ เหมือนกับ Sjana Earp นางแบบสาวชาวออสเตรเลีย ที่ทำให้วงการอินสตาแกรมกลายเป็นแหล่งขุมทรัพย์จนประสบความสำเร็จในทุกวันนี้     Earp เป็นผู้ใช้อิสตาแกรมที่มีผู้ติดตาม 1.2 ล้านคน และมีรายได้จากโพสต์รูปลงอินสตาแกรมสูงถึง 5 แสนบาทต่อหนึ่งโพสต์ (15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) แน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่งานอดิเรกเท่านั้น แต่การเล่นอินสตาแกรมคือสิ่งที่เธอยึดเป็นอาชีพหลัก และไม่ใช่แค่การหารายได้เพียวอย่างเดียวแต่มันยังช่วยให้เธอเอาชนะโรคซึมเศร้าด้วย     หญิงสาวเล่าให้ฟังว่า “ตอนอายุ 10 ฉันต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้าจนต้องเข้าไปคุยกับจิตแพทย์ในบางครั้ง ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจหยุดเรียนในปลายปีนั้น” “หลังจากออกมา ฉันก็ตัดสินใจเรียน Certificate III เพื่อฝึกสมรรถภาพทางกายและศึกษา Photojournalism (ภาพถ่ายเชิงข่าวสารคดี) ไม่นานหลังจากนั้นฉันก็มีรายได้จากการเล่นอินสตาแกรม”     รายได้จากอินสตาแกรมนั้น มาจากการที่ Earp เล่นโยคะแล้วอัพรูป ซึ่งมันเป็นการฝึกที่ช่วยบำบัดจิตให้เธอเป็นอย่างดีเลย “ฉันใช้อินสตาแกรมในการระบายความในใจ และฉันก็คิดวมันเป็นการแสดงออกที่สร้างสรรค์นะ ต่อมาฉันก็ได้รับการติดต่อให้ถ่ายรูปใน Perth งานนี้ทำให้ฉันได้เดินทางไปบาหลีในฐานะผู้เชี่ยวชาญการฝึกโยคะ” หญิงสาวเล่า “ฉันจำไม่ได้ว่าเคยโพสต์เรื่องสุขภาพจิตของตัวเองตั้งแต่เมื่อไร แต่ฉันจำได้ว่าตัวเองเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่อินสตาแกรมทำให้ฉันได้พูดมากขึ้นผ่านตัวหนังสือ ซึ่งคนที่ติดตามก็บอกเหมือนกันว่าฉันพูดมากขึ้น เปิดใจมากขึ้น”     ตอนนี้เธอไม่ใช่คนพูดน้อยอีกแล้ว แต่เธอเป็นหญิงสาวผู้ร่าเริงที่สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ…

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้สื่อโซเชียลมีผลต่อสังคมมาก จนบางคนให้ความสนใจกับโลกออนไลน์มากกว่าชีวิตในโลกแห่งความจริงซะอีก และสำหรับการทำธุรกิจผ่านโซเชียลนั้นเราอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว แต่สำหรับ THIRDHOME มีระบบการทำงานที่ง่ายกว่าที่คุณเคยได้เห็นแน่และมันก็น่าสนใจมากๆ ซะด้วยสิ     สิ่งที่บริษัทต้องการคือ ให้คุณกลายเป็นคนดังในอินสตาแกรม แล้วก็ส่งคุณไปเที่ยวตามสถานที่ชื่อดังต่างๆ และงานที่คุณต้องทำก็แค่ถ่ายรูปสถานที่พักภายในเครือบริษัท แล้วแชร์ให้คนทั้งโลกได้ดู ในการทำงานนั้น ทางบริษัทจะให้คุณไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ได้พักภายในบ้านพักสุดหรู เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ทางบริษัทก็จะครอบคลุมให้ทั้งหมด!!     Wade Shealy ผู้ก่อตั้งบริษัท THIRDHOME รวมถึงเป็น CEO ได้บอกไว้ว่า “สมาชิก THIRDHOME จะได้พักในบ้านพักตากอากาศสุดหรู มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่คุณต้องรักในการเดินทางจริงๆ” นอกจากค่าใช้จ่ายตลอดทริปที่ทางบริษัทออกให้แล้ว คุณยังจะได้รับเงินเดือนอีกเดือนละ 3 แสนกว่าบาท (10,000 ดอลลาร์) เรียกได้ว่าไม่มีอะไรคุ้มกว่านี้อีกแล้ว     แต่คุณก็ต้องทำงานให้คุ้มกับค่าจ้างเช่นกัน คือ หลังจากที่ทำข้อตกลงแล้ว คุณต้องเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ที่บริษัทเตรียมไว้ให้ จากนั้นก็แชร์รูปของคุณกับสถานที่เหล่านั้นลงในสื่อโซเชียล ภายใต้สัญญาจ้าง 3 เดือน โดยคุณสมบัติที่ผู้สมัครต้องมีคือ มีความรู้ในด้านอุตสาหกรรมโรงแรม…

โตเกียวนอกจากเป็นเมืองหลวงญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนทั่วโลกแวะเวียนเข้าไปเยี่ยมชม และแน่นอนว่าภาพที่เห็นจึงมักจะเต็มไปด้วยผู้คน รถรา และความวุ่นวายของสังคมเมือง แต่สำหรับช่างภาพอย่าง Yota Yoshida แล้ว เขามักจะนำเสนอมุมที่แตกต่างออกไป หรือมุมที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยจะได้เห็นกันมากนัก     Yoshida ได้ถ่ายทอดความเหงาของโตเกียว เพื่อให้เห็นว่าท่ามกลางสังคมที่วุ่นวายนั้น ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่ใช้ชีวิตท่ามกลางความเงียบสงบและเรียบง่าย สำหรับภาพชุดนี้ ช่างภาพได้รับแรงบันดาลใจจาก Jorge Luis Borges, Paul Gauguin และวัฏจักรของชีวิตในทัศนะของพุทธศาสนา ซึ่งมีทั้งเกิด แก่ เจ็บ และตาย     ในแต่ละวัน Yoshida มักจะออกไปเดินเล่นตามท้องถนนพร้อมกล้องประจำตัว เพื่อดูวิถีชีวิตของผู้คนและถ่ายรูปเก็บเอาไว้ ภาพทุกภาพที่ถ่ายมานั้นจะแฝงไปด้วยความเหงาเล็กน้อยอยู่เสมอ แน่นอนว่ามันอาจจะเป็นภาพทั่วไป แต่มันกลับทำให้คนดูรู้สึกถึงความเหงาที่เขาต้องการถ่ายทอดได้อย่างชัดเจน ลองดูภาพชุดนี้กันนะคะ คุณอาจจะสัมผัสความเหงาภายในเมืองใหญ่ก็เป็นได้   . . . . . . . . . . . . . . . . . .…

ถ้าพูดถึงรถไฟในประเทศญี่ปุ่น เราอาจนึกถึงรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูงที่สามารถวิ่งจากเหนือจรดใต้ด้วยระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่ล่าสุดทางประเทศญี่ปุ่นกำลังจะเปิดตัวรถไฟสุดหรูสายชิว ที่ให้เพื่อนๆ สามารถนั่งชมความงดงามของภูมิทัศน์ พร้อมๆ กับบริการอันสะดวกสบายราวกับโรงแรมห้าดาว ขบวนรถไฟดังกล่าวมีชื่อว่า Train Suite Shiki-Shima เป็นของบริษัท East Japan Railway Company ออกแบบโดยผู้ที่เคยออกแบบให้รถหรู Porsche, Ferrari, และ Maserati     รถไฟขบวนดังกล่าวจะวิ่งผ่านทางด้านตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น โดยมีแพ็คเกจแบบหนึ่งคืน สองคืน สามคืน ภายในรถไฟจะมีห้องอาหาร เลาจ์พักผ่อน จุดชมวิว และอื่นๆ อีกมากมาย   บริเวณห้องอาหาร ผู้โดยสารสามารถรับชมทิวทัศน์ภายนอกผ่านกระจกใสด้านหลัง   โดยในหนึ่งเที่ยว จะมีผู้โดยสารแค่ 34 คนเท่านั้น ห้องพักบนรถไฟก็ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยดีไซน์แสนงดงามและหรูหรา   อ่างอาบน้ำ   บาร์เครื่องดื่ม   รถไฟขบวนนี้ออกแบบโดย Ken Okuyama ผู้เคยเป็นหัวหน้าทีมออกแบบของบริษัท General Motors และเคยออกแบบ Ferrari Enzo, Maserati Quattroporte, Porsche AG…

Leonardo Viscarra เป็นเด็กหนุ่มวัย 14 ปี จากประเทศโบลิเวีย ร่างกายของเขาปกติดีแทบทุกอย่างยกเว้นเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือมือซ้ายที่ไม่พัฒนาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ซึ่งเกิดจากโรคความผิดปกติของน้ำคร่ำ (amniotic band syndrome) ด้วยความที่มือซ้ายของเขาผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้เขาแทบไม่สามารถใช้มือซ้ายทำกิจวัตรประจำวันได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการหยิบจับหรือยกสิ่งของขึ้นมา จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาทำของเล่นตก และเขาเห็นว่าภายในของเล่นประกอบไปด้วยกลไกลมากมาย เหตุการณ์นั้นจึงจุดประกายให้เขาอยากสร้าง “มือเทียม” ที่จะมาทำให้ชีวิตเขาง่ายขึ้นมา     หลังจากพยายามศึกษาด้วยตนเองมาหลายปี ในที่สุดเขาก็สามารถประดิษฐ์มือเทียมของตนเองขึ้นมาได้สำเร็จ แม้มันจะออกมาหน้าตาเหมือน “คีม” มากกว่า “มือ” แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาสามารถหยิบจับสิ่งของได้อย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน ถ้านับว่าเป็นความพยายามครั้งแรก ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจล่ะนะ ต่อมา Leonardo ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กชายชาวฝรั่งเศสที่ใช้มือเทียมอัจฉริยะที่สร้างจากเครื่องพิมพ์สามมิติ เขาจึงขอข้อมูลจากเด็กชายคนนั้น และพบว่ามีองค์กรการกุศลแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาได้ผลิตมือเทียมเหล่านี้ให้กับเด็กๆ ที่ต้องการ เขาจึงติดต่อกับมูลนิธิดังกล่าวทันที ซึ่งทางมูลนิธิก็ได้จัดส่งมือเทียมมาให้เขาในเวลาต่อมา แต่โชคร้าย มือเทียมดังกล่าวกลับมีขนาดใหญ่เกินไปจนเขาไม่สามารถใช้งานได้อย่างพอดี     แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขายอมแพ้แต่อย่างใด เขาจึงใช้ความรู้ที่มีศึกษามือเทียมอัจฉริยะที่ได้มา ประกอบกับศึกษามือเทียมแบบอื่นๆ บนอินเตอร์เน็ต รวมทั้งความช่วยเหลือจากสถาบันหุ่นยนต์ Sawers Robotics Institute แล้วก็สร้างมือเทียมอัจฉริยะของตนเองขึ้นมา ซึ่งปกติแล้วค่าใช้จ่ายในการสร้างมือเทียมอัจฉริยะจะอยู่ที่ 15,000 ดอลลาร์…

บางครั้งคนที่ทำผิดก็ไม่ไช่คนที่ไม่ดีเสมอไป บางครั้งพวกเขาอาจจะตัดสินใจไปโดยพลการโดยที่ยังใตร่ตรองได้ไม่ถี่ถ้วนก็เป็นได้ หากได้รับกำลังใจ หรือคำพูดดีๆ ก็อาจทำให้พวกเขารู้สำนึก และกลับตัวกลับใจได้ทัน เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้…   เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 19 เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ คนขับรถแท็กซี่วัย 66 ปี ก็ทำการจอดรถที่ข้างถนนเพื่อรอรับลูกค้าตามปกติ เมื่อช่วงเวลา 1.00 น. ชายหนุ่มวัย 25 ก็เดินเข้ามาในรถ แต่ก่อนที่คุณลุงแท็กซี่จะถามถึงจุดหมายปลายทาง เขาก็ถูกล็อคคอจากด้านหลังอย่างรุนแรง     “มีเงินเท่าไหร่ส่งมาให้หมด” ผู้โดยสารหนุ่มกล่าว ขณะที่เอามือล็อคคอของคุณลุงคนขับรถแท็กซี่อยู่ ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์น่ากลัวแบบนี้แต่คุณลุงกลับใจเย็น พร้อมกับตอบไปอย่างใจเย็นว่า “นายยังเด็กอยู่เลยนะ นายต้องทบทวนสิ่งที่นายกำลังทำอยู่ให้ดีกว่านี้”     ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ คำพูดของคุณลุงก็ทำให้ชายหนุ่มผู้เกือบกลายเป็นอาชญากรฉุกคิดขึ้นมาได้ จากนั้นคุณลุงก็ทำเรื่องที่เหนือความคาดหมาย ด้วยการขับรถพาชายหนุ่มไปทานอาหารที่ร้านอาหารแบบสายพานด้วยกัน หลังจากที่ทานอาหารเสร็จแล้ว ก็ไม่ทราบว่าทั้งคู่ได้พูดคุยอะไรกันบ้าง แต่หลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วโมง ช่วงเวลา 2.00 ของวันเดียวกัน ชายหนุ่มก็ได้เดินไปที่สถานีตำรวจใกล้ๆ เพื่อทำการมอบตัว     เป็นเรื่องน่าเศร้าที่จะรู้ว่าในอีกไม่นานที่ประเทศญี่ปุ่นจะมีการใช้รถยนต์อัตโนมัติที่ขับเคลื่อนโดยระบบ AI และคงจะไม่มีแท็กซี่ผู้ใจดีแบบนี้เกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว… ที่มา : sankei,…

ถ้าคุณเห็นบ่อน้ำที่มีจระเข้อยู่ แล้วเพื่อนท้าให้โดดลงไปเล่นกับมัน เป็นคุณจะโดดมั้ย? แน่นอนคงไม่ แต่พ่อหนุ่มคนนี้กลับโดดลงไปหน้าตาเฉ๊ย!? เมื่อวันที่ 19 มีนาคม สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานเรื่องของ Lee De Paauw หนุ่มออสซี่วัย 18 ปี ผู้รอดชีวิตมาได้หลังถูกจระเข้งับแขน เหตุเพราะถูกเพื่อนท้าให้ลงไปเล่นกับมัน   Lee De Paauw   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บริเวณ Johnstone River ทางตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย โดยตอนนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณ ตี 2.30 ของเช้าวันอาทิตย์ หนุ่มคนดังกล่าวได้เล่าว่า พวกตนได้เดินผ่านมายังบริเวณริมแม่น้ำที่เกิดเหตุ แล้วเกิดความคึกคะนองท้าทายให้เพื่อนกระโดดลงไปในแม่น้ำที่ชาวบ้านต่างรู้ดีว่ามีจระเข้อาศัยอยู่ ทันทีที่ Lee De Paauw กระโดดลงไป เขาก็พบว่ามีจระเข้ตัวหนึ่งเข้ามางับที่แขนเข้าอย่างจัง และพยายามจะลากเขาลงไปกินในน้ำ แต่ด้วยสัญชาติญาณการเอาตัวรอด พ่อหนุ่มตัดสินใจชกเข้าไปที่ปลายจมูกจระเข้อย่างจัง ทำให้เขารอดกลับมาได้   บริเวณแม่น้ำที่เกิดเหตุ   Brenton Gangemi หนึ่งในผู้ดูแลบริเวณนั้นได้เล่าว่า ตนเชื่อว่าจระเข้ตัวนั้นน่าจะเป็นตัวที่มีขนาดยาว 3 เมตรครึ่ง ซึ่งมักจะมาให้ชาวบ้านในละแวกนั้นได้พบเห็นอยู่บ่อยๆ   หลังจากที่เขารอดมาได้ก็ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที…

ในอดีตนั้นปัญหาการเหยียดผิวนับว่ารุนแรงมาก และแม้ว่าปัจจุบันนี้จะไม่ค่อยมีให้เห็นแล้ว มันก็ยังคงปรากฏในรูปของสินค้า โดยเฉพาะตุ๊กตาคนที่มักจะผลิตให้เป็นคนผิวขาวอยู่เสมอ ดังนั้นเมื่อคุณพ่อคนหนึ่งต้องการซื้อตุ๊กตาเป็นของขวัญให้ลูกสาว แต่ในร้านนั้นมีแค่ตุ๊กตาผิวขาวเท่านั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะทำตุ๊กตาผิวสีด้วยตัวเอง     Taofick Okoya วัย 43 ปี ได้ทำตุ๊กตาด้วยตัวเอง โดยทำให้มีสีผิวที่หลากหลายเพื่อมอบเป็นของขวัญวันเกิดให้ลูกสาวในปี 2007 แต่ใครจะไปรู้ว่าตุ๊กตานั่นได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก Taofick จึงตัดสินใจผลิตตุ๊กตาแบบบาร์บี้ขายจนประสบความสำเร็จและอยู่มาถึงปัจจุบันนี้     ตุ๊กตาของเขามีชื่อว่า Queens of Africa ที่ไม่เหมือนบาร์บี้ทั่วไปในแน่นอน เพราะมันเป็นบาร์บี้ที่มีความหลากหลายทางผิวสี เสื้อผ้า ที่เด็กสาวไนจีเรียสามารถเลือกตามต้องการได้เลย สนนราคาอยู่ที่ตัวละ 200 บาท รูปลักษณ์ของตุ๊กตาบาร์บี้ชุดนี้ทำขึ้นมาให้เหมือนกับ 3 ชนเผ่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมอุดมคติผู้หญิงในเรื่องความเข้มแข็ง รักความสงบและอดทน     ปัจจุบันตุ๊กตาบาร์บี้ของ Taofick ได้รับความนิยมสูงมาก จนสามารถขายได้ 9,000 ตัวต่อเดือน และ 15% ของตุ๊กตาในท้องตลาดของที่เห็นๆ อยู่ก็คือบาร์บี้ของเขานี่เอง แต่ Queens of Africa ไม่ได้ขายแค่ในประเทศเท่านั้น เจ้าของยังได้ขายออนไลน์ให้กับคนทั่วโลก โดยเฉพาะอเมริกา บราซิล…

สำหรับคนที่ชอบสัตว์ ไม่ว่าสัตว์ชนิดไหนก็ดูน่ารักไปซะหมด อยากเลี้ยงให้เต็มบ้านไปเลย แต่ถ้าคุณได้เห็นความจริงที่ซ่อนอยู่ตัวของสัตว์ต่อไปนี้ คุณอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ เพราะมันคือภาพช่องปากของสัตว์ชนิดต่างๆ ที่มีความสยดสยองจนน่าขนลุกเลยทีเดียว นี่เราพูดจริงๆ นะ เพราะฉะนั้นโปรดทำใจให้พร้อมก่อนเลื่อนลงไปชม….   1. และนี่คือด้านในของเต่ามะเฟือง   2. นี่ก็ปากเต่าเช่นกัน   3. ช่องปากเต่าอีกแล้ว   4. ห่านผู้เลอโฉม แต่ดูปากของมันสิ   อะ ซูมเข้าไปดูใกล้อีกนิด ยึ๋ย   5. ช่องปากเพนกวิน   6. ช่องปากกวาง   7. ช่องปากปลาแลมป์เพรย์   8. ปากอูฐ   9. ฟันฉลาม   10. ปากวาฬหลังค่อม   11. ตัวนี้มีชื่อว่า Promachoteuthis sulcus   12. ปากปลาชีพส์เฮด   13. ปลาคู้  …

ถ้าพูดถึงปัญหาเรื่อง ‘ซีสต์’ (ถุงน้ำหรือก้อนตุ่มไตที่ผิดปกติ) ที่สาวๆ มักจะพบเจออยู่บ่อยๆ เชื่อว่าขนาดของมันอาจจะอยู่ในระดับประมาณไม่กี่ซม. หรือไม่กี่มล. แต่สำหรับสาวชาวเม็กซิโกวัย 24 คนนี้ คุณหมอเชื่อว่าเธอมีซีสต์ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการเคยค้นพบมา Dr. Erik Hanson Viana คุณหมอผู้รับผิดชอบการผ่าตัดในครั้งนี้ เขาได้เล่าว่าหญิงสาวคนดังกล่าวมีก้อนซีสต์ขนาดเทียบเท่าได้กับเด็กทารก 10 คนในครรภ์มารดา!! **คำเตือน: ภาพที่จะได้เห็นต่อไปนี้อาจทำให้รู้สึกไม่สบายใจได้**   ด้วยซีสต์ที่ใหญ่ขนาดนี้ ทำให้เธอหายใจไม่สะดวก จะลุกเดิน หรือทานอาหารก็ไม่ได้ และอยู่ในภาวะที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต   ‘นี่เป็นซีสต์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา มันมีขนาดมากกว่า 95% ของพื้นที่หน้าท้องคนไข้ มันใหญ่ยิ่งกว่าบันทึกงานวิจัยที่เคยมีเมื่อปี 1902 อีกครับ’ คุณหมอเล่า โดยแรกเริ่มเดิมทีผู้ป่วยรายนี้ต้องการจะไดเอทลดน้ำหนักให้ตัวเอง เธอเริ่มสังเกตเห็นว่าบริเวณแขน ขา หรือแม้แต่ใบหน้าของเธอดูผอมลง แต่บริเวณหน้าท้องกลับดูใหญ่โตมากขึ้นเรื่อยๆ     ‘ตอนที่เราได้พบกับคนไข้คนนี้ครั้งแรก เธอสามารถเดินได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดหายใจ ด้วยน้ำหนัก และขนาดของซีสต์ที่ใหญ่มากเกินไป ทำให้มันไปเบียดพื้นที่ปอดของเธอ’ ทีมพยาบาลเล่า   ภาพเอ็กซ์เรย์เผยให้เห็นถึงขนาดที่แท้จริงของก้อนซีสต์ มันมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางครึ่งเมตร และเส้นรอบวงยาว 157 ซม.…

ในโลกศิลปะนั้นมักจะทำให้เราเกิดความหลงใหลอยู่เสมอ เพราะไม่ใช่แค่ความงามเท่านั้นแต่ศิลปินยังมีการถ่ายถอดอารมณ์ ความรู้สึกผ่านภาพเหล่านั้นให้คนดูรู้สึกอินไปกับมันมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับผลงานชิ้นนี้ที่ได้มีการถ่ายทอดภาพอาคารบ้านเรือนให้มีมุมมองที่แตกต่างออกไป เพื่อให้คนดูได้เสพงานศิลปะที่มีความน่าหลงไหลยิ่งขึ้น     และนี่คือ Flying Houses เป็นชุดภาพอาคารลอยฟ้าที่สร้างสรรค์ขึ้นโดย Laurent Chéhère ผู้เป็นทั้งนักเขียน ศิลปินและช่างภาพ Laurent ได้นำเสนออาคารเก่าและทรุดโทรมของกรุงปารีสโดยเน้นการสื่ออารมณ์ผ่านภาพเหล่านี้ โดยทำให้ภาพดูเสมือนจริงด้วยการเติมสีสันต่างๆ ให้สดใสน่ามอง     ความโดดเด่นของผลงานชุดนี้ไม่ได้อยู่ที่การนำเสนอตัวอาคารแบบธรรมดา แต่ทำให้มันเป็นบ้านลอยฟ้า ให้ดูเหมือนถอดบ้านออกจากฐานแล้วล่องลอยสู่ฟากฟ้า ทั้งนี้ในแต่ละภาพในได้มีการนำเสนอวิถีชีวิตของผู้คนลงไปด้วย เพื่อให้เห็นวัฒนธรรมของคนปารีสที่ต้องอยู่กับอาคารบ้านเรือนเก่าๆ     คนดูจะได้เห็นอาคารในรูปแบบต่างๆ ทั้งโรงแรม บ้าน อพาร์มเม้นต์ และบาร์ ซึ่งอยู่ในลักษณะลอยอยู่กลางอาคาร แม้แต่หน้าต่างๆ ที่เป็นจุดเล็กๆ ศิลปินก็ยังได้มีการใส่ภาพคนเข้าไปเพื่อให้ดูสมจริงทุกตารางนิ้ว     แต่กว่าจะมาเป็นภาพที่น่าหลงใหลได้ขนาดนี้ Laurent ต้องถ่ายภาพเหล่านี้แยกกัน แน่นอนว่าต้องถ่ายภาพเป็นร้อยๆ รูปเลยล่ะ จากนั้นก็นำภาพที่มีองค์ประกอบต่างกันเหล่านี้มาตัดต่อให้อยู่ในภาพเดียวกันแต่มีความกลมกลืนกันอย่างลงตัว และเกิดเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบอย่างนี้แหละพี่น้อง     ภาพที่เหมือนอาคารทั้งหลังกำลังลอยอยู่กลางอากาศ   รายละเอียดภายในบ้าน   มีการเติมสีสันในภาพให้ดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้น   แม้มองระยะใกล้ มันก็ยังคงดูสมจริง   อาคารเก่าๆ ที่ยังมีการใช้งาน   ทั้งสัตว์ก็ถูกนำมาเติมในภาพเช่นกัน  …

โดยปกติแล้วห้องน้ำสาธารณะจะมีทิชชู่ไว้บริการเสมอ แต่บางทีเราก็ยังต้องพกติดตัวอยู่ดี เป็นการป้องกันปัญหาห้องน้ำที่ไม่มีทิชชู่หรือทิชชู่หมดบ้าง รวมทั้งมีคนขโมยไปด้วย อาจจะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยแต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี เพราะมันกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อได้ทำการอนุมัติติดตั้งเครื่องสแกนใบหน้าไว้ที่ตู้ทิชชู่ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันคนที่จะมาเอาทิชชู่ซ้ำแล้วซ้ำอีก ตู้ทิชชู่สแกนใบหน้านี้ถูกติดตั้งไว้ที่ห้องน้ำของหอสักการะฟ้า (Temple of Heaven) อันเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังมากที่สุดของจีน และเป็นแหล่งมีการถูกขโมยทิชชู่มากที่สุดด้วย ทำให้ทางการต้องเสียเงินซื้อทิชชู่ในแต่ละเดือนเป็นจำนวนมาก     ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มีการเปลี่ยนตู้ทิชชู่แบบเก่าให้มีความไฮเทคมากขึ้น ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีสแกนใบหน้า โดยจะให้ทิชชู่ความยาว 60 เซนติเมตรต่อหนึ่งคน ซึ่งมันก็เพียงพอสำหรับการทำธุระส่วนตัวในแต่ละครั้งแน่นอน บางคนสงสัยว่า งั้นก็ใช้ห้องน้ำนี้ได้แค่ครั้งเดีวยวสิ? ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เพราะเครื่องสแกนนี้จะจดจำใบหน้าลูกค้าเพียงชั่วคราวเท่านั้น และจะกลับมาใช้ได้ในอีก 10 นาทีข้างหน้า     ระบบบริการทิชชู่แบบใหม่นี้ทำขึ้นมาเพื่อลดต้นทุนการซื้อทิชชู่ในระยะยาว และเพื่อให้ผู้ใช้บริการทุกคนได้รับทิชชู่กันอย่างทั่วถึงด้วยนั่นเอง ก่อนหน้านี้สำนักข่าว Beijing Evening News ได้รายงานว่า มีหลายคนที่เข้ามาในห้องน้ำของหอสักการะฟ้า เพียงเพื่อมาขโมยทิชชู่ไปใช้ ฟังดูอาจจะไม่น่าเชื่อแต่มันก็เกิดขึ้นจริง!!     เครื่องสแกนดังกล่าวนี้จะเปิดทดลองใช้ประมาณ 1 สัปดาห์ หากผู้ใช้บริการรู้สึกว่าไม่สะดวกหรือไม่โอเคกับเครื่องนี้ ทางผู้ประกอบการก็จะทำการยกเลิกในภายหลัง แต่หากผู้ใช้รู้สึกพอใจ ก็จะมีการนำเครื่องสแกนนี้ไปติดตั้งไว้ที่ห้องน้ำสาธารณะอื่นๆ ของจีนด้วยเช่นกัน เพราะมันเป็นเทคโนโลยีแบบใหม่ ดังนั้นในช่วงการทดลองนี้จะมีพนักงานคอยบริการอยู่ โดยจะคอยบอกวิธีการใช้เครื่องสแกนใบหน้านี้ให้กับผู้ใช้บริการทุกคน…

หลายคนเชื่อว่าการตั้งชื่อนั้นมีผลต่อชีวิต ดังนั้นก่อนจะตั้งชื่อพวกเขาจึงได้มีการศึกษามาเป็นอย่างดีเช่น ดูดวงบ้าง ตั้งให้ตรงกับราศีเกิดบ้าง หรือบางคนก็ให้พระตั้งให้ก็มี แต่สำหรับชายหนุ่มคนนี้เขาดันมีชื่อว่า ซัดดัม ฮุสเซน ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับอดีตผู้นำอิรักจอมเผด็จการ จนทำให้เขาต้องตกงานเพราะชื่อนี้     ซัดดัม ฮุสเซนเป็นวิศวรกรทางทะเลจากเมือง Jamshedpur ประเทศอินเดีย แต่แล้วเพราะชื่อของเขาทำให้ต้องเสียตำแหน่งนี้ไป ซึ่งชื่อนี้ปู่ของซัดดัมเป็นคนตั้งให้เมื่อ 25 ปีก่อน ไม่มีใครคิดว่ามันจะส่งผลอะไรต่อชีวิตแถมมันยังเป็นชื่อที่ฮอตในหมู่ชาวมุสลิมอินเดียด้วย จนกระทั่งถึงเวลาที่เข้าสู่วัยทำงาน… หลังจากที่จบจากมหาวิทยาลัย Tamil Nadu’s Noorul Islam University เขาก็หางานในฐานะวิศวกรทางทะเล ในขณะที่เพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันต่างได้มีงานทำกันหมดแล้ว เพื่อนๆ ได้ร่วมงานกับบริษัทต่างๆ ทั่วโลก ยกเว้นซัดดัมที่ยังคงดิ้นรนหางานด้วยความยากลำบาก   ซัดดัม ฮุสเซน อดีตผู้นำประเทศอิรัก   เขาเคยไปสัมภาษณ์งานกับบริษัทขนส่งข้ามชาติประมาณ 40 ครั้งแล้ว แต่ก็โดนปฏิเสธทุกครั้ง ในตอนแรกเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงหางานไม่ได้สักที ในที่สุดเขาจึงตัดสินใจถามฝ่ายบุคคลของบริษัทแห่งหนนึ่งที่เขาไปสมัคร ซัดดัมเล่าว่า “ผมถามฝ่ายบุคคลว่า ทำไมถึงไม่ได้รับเลือกเข้าทำงาน พวกเขาตอบว่า มันเป็นเพราะชื่อของผมที่เป็นปัญหา และพวกเขาก็กลัวที่จะจ้างผม” จริงๆ แล้วชื่อนี้หากทำงานภายในประเทศคงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ตำแหน่งและบริษัทที่ซัดดัมไปสมัครนั้นต้องมีการเดินทางระหว่างประเทศเป็นประจำ ซึ่งชื่อนี้จะเป็นอุปสรรคเวลาเดินทางแน่นอนและจะทำให้บริษัทเดือนร้อนไปด้วย เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ซัดดัมคิดว่าถ้ายังใช้ชื่อนี้ต่อไป คงไม่มีโอกาสได้ทำงานเป็นวิศวกรทางทะเลแน่ๆ เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อเป็น Sajid…

อู้วววว้าววว!! วันพีชถือเป็นการ์ตูนคุณภาพอีกเรื่องนี้มีผู้ติดมากที่สุดและเป็นการ์ตูนโปรดของคนทุกเพศทุกวัย ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการผลิตสินค้าในธีมวันพิซเพื่อเอาใจแฟนๆ อีกด้วย และไม่ว่าจะผลิตอะไรออกมาในธีมวันพีชมันก็มักจะได้รับการตอบรับดีเสมอ เช่น ตุ๊กตา ของใช้ ของตกแต่ง รวมทั้งเสื้อผ้า เพราะสามารถเข้าถึงได้ทุกวัย แต่ทว่าของเล่นชุดใหม่นี้ มีเป้าหมายเป็นกลุ่มลูกค้าที่อายุเกิน 15 ปี ขึ้นไป อาจจะไม่เหมาะกับเด็กๆ สักหน่อย…     สำหรับของเล่นชิ้นนี้ทาง Weekly Shonen Jump ได้ออกแบบมาเพื่อเอาใจแฟนๆ ผู้ชายโดยเฉพาะ แต่อย่าลืมว่าต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไปเท่านั้นนะ เพราะนี่คือ นามิ ตัวละครผู้หญิงในจากกลุ่มหมวกฟางที่มีหุ่นยั่วยวนซะจนหนุ่มๆ เอาไปเพ้อฝันแล้วหลายต่อหลายคน และอีกคนคือ ทาชิงิ มือขวาที่เปรียบเสมือนน้องสาวของสโมคเกอร์ มาในลุคสาวคาดแว่นที่มีหุ่นแซ่บไม่แพ้กัน     ทั้งนามิและทาชิงิถูกนำมาทำเป็นรูปสามมิติในชุดว่ายน้ำที่รัดติ้ว แถมดูเหมือนมันจะเล็กว่าสัดส่วนซะด้วย ทำให้อะไรต่อมิอะไรโผล่ออกมาให้หนุ่มๆ ได้กลืนน้ำลายไปตามๆ กัน สำหรับคุณผู้ชายที่อยากได้พวกเธอมากครอบครอง 24 มีนาคมนี้ เตรียมตัวเตรียมเงินไว้เลย เพราะจะมีการเปิดจองตั้งแต่ 13.00 น. เป็นต้นไป     หลังจากหมดเวลาจองแล้ว ทางบริษัทจะมีการจัดส่งสินค้าในต้นเดือนกันยายน…

เป็นที่รู้กันว่าปกติแล้วสภาพความเป็นอยู่ของคนเมืองนั้นนอกจากการอยู่แบบคนปกติบ้านธรรมดาๆ แล้วมัมก็มักจะมีพื้นที่หนึ่ง ที่แบ่งแยกออกมาระหว่างคนปกติและคนมีเงินอย่างชัดเจนซึ่งบางครั้งสองพื้นที่นี้ก็มักจะไม่อยู่ใกล้ๆ กันสักเท่าไหร่ แต่ทว่าก็มีไม่น้อยเช่นกันที่เราสามารถมองเห็นความต่างของพื้นที่เหล่านั้นเพียงแค่ไม่กี่ก้าวหรือเพียงแค่กั้นด้วยรั่วเหล็กบางๆ วันนี้เราเลยจะมาดูภาพที่รวบรวมมาจากทั่วมุมโลกที่แสดงให้เห็นถึงความต่างของสลัม และพื้นที่คนรวยที่ถูกกั้นโดยพื้นที่เล็กๆ แต่เหมือนอยู่กันคนละโลก อย่ารอช้ามาดูกันเลยดีกว่า   ภาพจากเมืองเดอร์บันในแอฟริกาใต้ ที่แสดงให้เห็นถึงสนามกอลฟ์สุดหรู the Papwa Sewgolum Golf Course ที่อยู่ห่างจากชุมชนสลัม tin shacks   ภาพของย่านสลัมในเขต Paraisopolis รัฐเซาเปาลูประเทศบราซิล ที่อัดแน่นไปด้วยบ้านเรือนและมีคนอาศัยมากถึง 60,000 คนแต่ถูกกั้นด้วยกำแพงเล็กๆ ถัดจากนั้นก็เป็นโรงแรมที่สระว่ายน้ำสุดหรู   ภาพของกำแพงที่ชื่อว่า Wall of Shame ในประเทศเปรู ที่ใช้สำหรับกั้นชุมชนสลัมออกจากชมุชนคนเมืองอย่างชัดเจน   ภาพจากประเทศเม็กซิโก ที่แสดงให้เห็นความต่างของชนชั้นสุดๆ โดยทางซ้ายคือย่านสลัมที่ชื่อว่า ramshackle ส่วนทางขวาก็คือย่านที่อยู่อาศัยของคนรวยที่ถูกกั้นด้วยกำแพงบางๆ และนี้คือภาพจริงๆ ไม่ได้ตัดมาต่อกันแต่อย่างใด   ภาพของแฟลทชนบทในประเทศเม็กซิโก ที่เป็นฉากหลังของโรงแรมสุดหรู ซึ่งสามารถแสดงความต่างและขยายภาพข้างบนได้เป็นอย่างดี ภาพจากนครมมุมไบที่แสดงให้เห็นถึงย่านสลัมของชนชั้นแรงงาน และมีอพาร์ทเม้นท์ที่พึ่งสร้างใหม่เป็นฉากหลังที่ดูแล้วอยู่ห่างกันไม่มาก   ชุมชนสลัมในประเทศบลาซิลที่ถูกกั้นกับชุมชนของคนรวยด้วยเนินเขาเล็กๆ   ตึกที่ใช้กระจกเป็นกำแพง ซึ่งดูจากภายนอกไฮโซมากๆ โดยเป็นตึกที่สร้างขึ้นใหม่แถมอยู่ห่างจากตัวสลัมในเมืองบังคาลอร์ประเทศอินเดียแค่นิดเดียวอีกต่างหาก   มุมไบถือเป็นหนึ่งในเมืองที่มีการแบ่งแยกมากที่สุดในโลก ตัวสลัมก็ตั้งอยู่ไม่ห่างจากย่านคนรวยมากเท่าไหร่นัก…

ในบัจจุบันมีการพัฒนาวัตกรรมต่างๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เพราะสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์และแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ทั้งทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย และเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องที่ยากขึ้น ห๊ะ!? วันนี้ เราจะพาทุกคนไปดู 25 สิ่งประดิษฐ์ที่ใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ กับการใช้ชีวิตของเรา แต่บางอย่างก็อดสงสัยไม่ได้เหมือนกันว่าอาจจะทำให้ชีวิตลำบากมากกว่าเดิมรึเปล่านะ ฮร่า   1.เริ่มต้นที่สิ่งแรก สกูตเตอร์รถเข็นเด็ก เหมาะสำหรับพ่อแม่สายเข็นที่ขี้เกียจเข็น 2. ไม้โกยหน้าอก ไหลหลบมุมก็ใช้ไม้อันนี้โกยมันออกมา 3. ประตูที่กลายเป็นโต๊ะ ปิงปองได้   4. ร่มส่องทะลุได้ ไม่ต้องกลัวเดินชนอะไรตอนกางร่มอีกต่อไปแล้ว   5.ผ้าเช็ดพื้นที่ติดกับเจ้าตัวน้อย คลานไปที่ไหนสะอาดที่นั่น แต่ต้องระวังเรื่องความสะอาดด้วยนะ   6. หมอนสำหรับสาวขี้เหงา ทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้รับความอบอุ่นตลอดเวลา   7.เวลาเช้าคือชั่วโมงเร่งรีบ เตารีดที่ใช้ความร้อนจากกาแฟ รีดไปด้วยกินไปด้วยละกัน 8.อุปกรณ์สร้างซิกแพค สำหรับคนขี้เกียจ   9.ถุงใส่อาหารลาย “ขึ้นรา” ที่จะช่วยปกป้องอาหารของคุณจากผีตู้เย็น   10.เข็มขัดบอกรอบเอว   11.หมวกไหมพรมแบบนี้ อุ่นทั้งหน้าทั้งหัวเลยนะเนี่ย   12.ถุงนอนสำหรับคนชอบละเมอ มาเป็นชุดปีนเขาไปเลย   13.ตะกร้อครอบปาก เปลี่ยนจากหมาให้กลายเป็นเป็ด…

พูดถึงอาหารจีน หนึ่งในเมนูที่หลายๆคนต้องนึกถึง ก็คงหนีไม่พ้นติ่มซัมแน่ แล้วจะฟินแค่ไหน ถ้าได้กินติ่ซัมระดับ มิชลินสตาร์ พร้อมกับชมความสวยงามของเมืองฮ่องกงพร้อมๆกันล่ะ อ่า นี่มันสวรรค์ชัดๆ สำหรับใครที่กำลังมีแผนที่จะไปเที่ยวฮ่องกง วันนี้เราของนำเสนอ “คริสตรัลบัส” ซึ่งจะพาคุณท่องเที่ยวไปรอบๆเกาะฮ่องกง พร้อมทั้งเสริฟอาหารเย็นเป็น ติ่มซำระดับ มิชลินสตาร์!!     ตามชื่อของมัน “คริสตรัลบัส” คือรถบัสสุดหรูที่ประดับตกแต่งด้วย คริสตัลบริสุทธิ์มูลค่าถึง 300,000 ดอลล่าร์ฮ่องกง (1.3 ล้านบาทไทย) พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งทีวีและวีดีโอเกมส์ ครบครันความบันเทิง ซึ่งนอกเหนือจากนั้นแล้ว คุณก็จะได้รับอาหารชุดติ่มซำ 7 อย่าง ที่ถูกปรุงแต่งจากภัคตาคารท้องถิ่นในระดับมิชลินสตาร์ ให้คุณได้ลิ้มรถชาติความอร่อยในระหว่างการนั่งชมเมืองฮ่องกง     โดยค่าใช้จ่ายในการเดินทางสุดพิเศษนี้ สนนราคาอยู่ที่ 380 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 1,700 บาทเท่านั้น   รถบัสคันนี้ สามรถจุผู้โดยสารได้ทั้งหมด 47 ที่นั่ง โดยจะแบ่งการเดินทางออกเป็นสองรอบ รอบละ 2 ชั่วโมง ซึ่งเส้นทางการท่องเที่ยวนั้นจะอยู่ในบริเวณเมืองเกาลูน และเกาะฮ่องกง  …

เดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็เจอแต่ร้านกาแฟเต็มไปหมด บางทีเปิดติดกันเลยก็มีนะ ทีนี้คงต้องมีวัดกัดด้วยอุบายของแต่ละร้านแล้วล่ะว่าจะงัดไม้เด็ดอะไรมาเรียกลูกค้า แต่จะบอกว่าวิธีการของร้านกาแฟหลายแห่งในอเมริกามันช่างเด็ดอะไรเบอร์นี้ ไม่เหมือนใครแถมเรียกลูกค้าดีมากๆ โดยเฉพาะผู้ชาย ไม้เด็ดนี้มารูปแบบของการบริการ บาริสต้าบิกินี่ โดยบาริสต้าจะเป็นสาวสวยที่มาในชุดบิกินี่ชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่บางคนอยากเอาใจลูกค้ามากหน่อยก็แก้ซะหมดเลย     Bikini Beans Espresso หนึ่งในร้านกาแฟที่มีบาริสต้าใส่บิกินี่ได้เปิดเป็นสาขาที่สองแล้วที่รัฐแอริโซนา หลังจากประสบความสำเร็จกับสาขาแรกในวอชิงตัน โดย Carlie Jo ผู้เป็นเจ้าของร้านบอกว่า “ในฐานะที่เราเปิดร้านบาริสต้าบิกินี่เป็นเจ้าแรกในแอริโซนา เราได้ทำบริการนี้ขึ้นเพื่อให้ผู้หญิงมีความภูมิใจในตัวเองครับ” เขายังบอกอีกว่าอยากให้สังคมให้ความเท่าเทียมกันทางเพศ โดยระบุไว้ว่า “ผู้หญิงทุกคนมีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนน มีสิทธิ์ที่จะเป็นเกย์ มีสิทธิ์ที่จะเป็นผู้นำ และมีสิทธิ์ที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ รวมทั้งการเป็นประธานาธิบดีด้วย” “ดังนั้นเราจึงเต็มทำงานร่วมกับทุกคน ไม่ว่าคุณจะใส่สูทหรือใส่แค่บิกินี่ เพราะทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่ากัน”   อย่างไรก็ตาม สำหรับบริการดังกล่าวนี้ก็มีบางคนไม่เห็นด้วย เช่น Mike Fagan บอกว่า “การให้บาริสต้ามาให้บริการแบบนี้ ดูไม่เหมาะสมเอาซะเลย”  “คุณเปิดร้านกาแฟควรจะเน้นในเรื่องของกาแฟ ไม่ใช่ไปเน้นในเรื่องของรูปลักษณ์ของผู้ให้บริการ เพราะทำแบบนี้บางคนเข้าร้านมาไม่ได้ตั้งใจมาทานกาแฟ พวกเขามาดูเรือนร่างของบาริสต้ามากกว่า แน่นอนว่าถ้าลูกค้าเห็นบาริสต้าปิดส่วนสำคัญด้วยสติ๊กเกอร์เล็กๆ เพียง 3 ชิ้น พวกเขาคงอยากทานกาแฟแล้วแน่ๆ”     Kimberly Curry จากเมือง Spokane ก็เห็นด้วยกับ ZAGAT ว่า “ปัญหามันไม่ได้อยู่แค่พวกเขาจะเห็นอะไร…

เป็นข่าวดีสำหรับใครที่กำลังมองหางานทำในต่างประเทศ เมื่อประเทศจีนกำลังจะออกใบอนุญาตทำงานที่มีอายุนานถึง 5 ปี เพื่อลดความยุ่งยากของการทำงานในประเทศจีน เว็บไซด์ caixin รายงานว่า ทางการจีนเตรียมออกกฎหมายใหม่สำหรับชาวต่างชาติที่ทำงานติดต่อกันภายในประเทศอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป สามารถที่จะขอใบอนุญาติทำงานระยะยาวนี้ได้ เป็นข่าวดีอย่างมากสำหรับ ผู้ที่กำลังทำงานอยู่ในประเทศจีน เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาและความยุ่งยากในการ ต่อใบอนุญาติทำงานแบบเดิม ตามรายงานกล่าวว่าโครงการนี้ มีแผนที่จะเริ่มบังคับใช้ในปลายปีนี้ โดยจะเริ่มใช้กับ 9 มลฑลใหญ่ๆ อย่างเช่น ปักกิ่ง หวู่ฮั่น และเหอเป่ย และอีก 11 เขตการค้าเสรี เช่น เทียนจิน ฉงชิ่ง และเหอหนาน เป็นต้น     และนอกจากนี้ยังมีแผนที่จะมอบที่พำนักถาวรให้กับชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศจีนมากว่า 4 ปีขึ้นไปอีกด้วย ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณารายละเอียดและความเป็นไปได้ของแผนนี้ โดยเมื่อไม่นานมานี้จีนเริ่มดำเนินมาตรการในการที่จะดึงดูดนักลงทุนใหญ่ๆ จากต่างชาติให้เข้ามาในประเทศมากยิ่งขึ้น โดยมีการผ่อนคลายนโยบายที่พักอาศัยและการเข้าเมืองให้กับชาวต่างชาติกว่า 1,567 คนแล้วในปีที่ผ่านมา และเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทางการจีนได้ประกาศให้ชาวต่างชาติที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยของจีน หรือมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่มีชื่อเสียง สามารถที่จะขอวีซ่าสำหรับทำงานได้ทันทีเมื่อเรียนจบ ซึ่งก่อนหน้านี้จะต้องมีประสบการณ์ทำงานในระดับปริญญาโทอย่างน้อย 2 ปี     ถือว่าเป็นข่าวดีมากเลยนะครับ ที่ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างประเทศจีนกำลังเปิดประเทศ นึกไม่ออกเลยว่า เศษฐกิจของจีน จะเติบโตมากขนาดไหน ส่วนใครที่สนใจจะทำงานในต่างประเทศก็ลองศึกษารายละเอียดดีๆ ก่อนนะครับ…

ในทุกๆ ปี Mercer หนึ่งในบริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลที่ใหญ่ที่สุดของโลกจะจัดอันดับเมืองและประเทศที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลกเป็นประจำทุกๆ ปี และในคราวนี้ก็เป็นปี 2017 ล่าสุด… โดยเกณฑ์ในการจัดอันดับจะครอบคลุมด้านต่างๆ มากที่สุด เช่น ด้านการศึกษา เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชน เป็นต้น และนี่คือ 23 อันดับประเทศที่ดีที่สุด ไปดูกันเลยดีกว่า   23 เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของแคนาดา และเป็นเมืองที่ผู้คนพูดภาษาฝรั่งเศสมากที่สุดในโลกจนกลายเป็นศูนย์กลางการค้าการเงินและเทคโนโลยี   22. เมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย ออสเตรเลียเป็นประเทศที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก โดยมีชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศอยู่ที่เมืองทางตะวันตกของออสเตรเลีย   21. ลักเซมเบิร์ก ลักเซมเบิร์ก เป็นประเทศเล็กในยุโรปที่มีพรมแดนติดกับเบลเยี่ยม ฝรั่งเศส และเยอรมนี เป็นประเทศที่มีอาชญากรรมและความรุนแรงต่ำมาก ซึ่งบางคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกก็อยู่ในประเทศนี้เช่นกัน   20. เมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน สตอกโฮล์มนับเป็นเมืองหลวงที่ดีที่สุดในโลก เพราะผู้คนมีคุณภาพชีวิตดี มีความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม   19. เมืองฮัมบวร์ค (ฮัมบูร์ก) ประเทศเยอรมนี ฮัมบวร์คเป็นเมืองท่าสำคัญในภาคเหนือของเยอรมนีซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศ และกลายเป็นศูนย์กลางของสื่อและอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของธนาคาร…

ในวัยเด็กเพื่อนๆ เคยหลงทางมั้ย? มันไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะ เพราะหากไปเจอคนไม่ดีเข้าเราอาจจะไม่ได้กลับบ้านเลยก็ได้ แต่ถ้าโชคดีเจอคนดีๆ เค้าก็จะช่วยและพาเรากลับบ้านในที่สุด เหมือนกับเรื่องราวของคนขับรถประจำทางคนนี้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นฮีโร่ หลังจากที่เธอช่วยเด็กชายวัย 5 ขวบที่เดินหลงทาง ให้ได้กลับไปหาพ่อแม่อีกครั้ง     ในวันเกิดเหตุนั้น Denise Wilson คนขับรถประจำทางจากระบบขนส่ง Milwaukee County Transit System กำลังเลอยู่ว่าจะหยุดพักหรือจะขับต่อไปดีนะ?? แต่แล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะพัก และนั่นนับว่าเป็นเรื่องโชคดีมากๆ เพราะตอนที่เอารถไปเก็บที่ศูนย์นั้น เธอก็เห็นเด็กชายคนหนึ่งวิ่งร้องไห้อยู่กลางถนนคนเดียว     เด็กชายวิ่งไปร้องไห้ไป Wilson จึงวิ่งตามไป และพาเด็กชายมาอยู่ในรถสบัสที่เธอขับ… เด็กชายอยู่ในสภาพมอมแม ไม่ใส่รองเท้า ใส่เสื้อตัวใหญ่ๆ ซึ่งน่าจะมีคนจากปั๊มน้ำมันใกล้ๆ นี้ให้มาอีกที และใส่กางเกงขาสั้นขาดๆ ตัวหนึ่ง จากนั้นเด็กชายก็บอกกับ Wilson ว่า “ผมหลงทางครับ” จากนั้นคนขับรถบัสจึงซื้อขนม ซื้อของเล่นให้เพื่อทำให้เด็กชายรู้สึกดีขึ้น และส่วมเสื้อแจ็คเก็ตให้เขาด้วยเพราะเขาตัวเย็นมาก     จากนั้นเธอก็โทรแจ้งตำรวจเพื่อตามหาพ่อแม่เด็ก และมาทราบในตอนหลังว่า เด็กชายเดินออกจากบ้านโดยไม่บอกพ่อแม่ไว้ แต่เมื่อเดินไกลออกไปเรื่อยๆ ก็จำทางกลับบ้านไม่ได้ จึงเป็นเหตุทำให้หลงทาง อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณ Wilson ที่ช่วยเหลือเด็กชายไว้ และเธอยังเป็นฮีโร่ที่ช่วยให้เด็กชายได้กลับไปเจอพ่อแม่อีกครั้ง  …

เป็นปกติที่คนวัยชราจะรู้สึกห่อเดี่ยวและโดดเดี่ยว ดังนั้นเราจึงต้องหากิจกรรมต่างๆ ให้ทำเพื่อทำให้ท่านเหล่านี้มีความสุขในบั้นปลายของชีวิต เหมือนที่ Providence Mount St. Vincent ใน Seattle ซึ่งเป็นบ้านพักคนชรา ที่พยายามจะหากิจกรรมสนุกๆ ให้กับคนชราที่อาศัยอยู่ในนี้กว่า 400 คน     ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นบ้านพักคนชราเท่านั้น แต่ยังเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองสำหรับเด็กๆ ก่อนวันเรียนด้วย ดังนั้นแต่ละวันจึงมีแต่เสียงเด็กเจี๊ยวจ๊าวทั่วไปหมด ซึ่งนั่นแหละที่เป็นความสุขของคนชรา การให้เด็กๆ มาอยู่กับคนชราเป็นกิจกรรมที่ Providence Mount St. Vincent ได้จัดขึ้น เพื่อให้เด็กได้มาเรียนรู้ชีวิตของผู้ใหญ่ เพราะสักวันหนึ่งพวกเขาก็จะต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่เช่นเดียวกัน     นอกจากนั้น กิจกรรมนี้ยังเป็นการทำให้คนชรารู้สึกผ่อนคลายได้อีกด้วย พวกเขาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเมื่อมีเด็กวิ่งเล่นอยู่รอบๆ ตัว พวกเขาเล่นกับเด็กและร้องเพลงให้เด็กฟัง จากการสำรวจที่ผ่านมาพบว่า คนชรากว่า 43% ต้องอยู่แยกออกจากสังคม ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงรู้สึกโดดเดี่ยวและกลายเป็นโรคซึมเศร้าซึ่งส่งผลให้สุขภาพจิตและกายแย่ลงไปด้วย และในอีก 25 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีผู้ใหญ่ที่อายุ 65 ขึ้นไปเพิ่มมากขึ้นอีกเป็นสองเท่าจากตอนนี้…     ดังนั้นกิจกรรมนี้จึงเปรียบเสมือนให้เด็กๆ และคนชราได้มาแลกเปลี่ยนความสุขให้กับกันและกัน เด็กได้เรียนรู้และเข้าใจคนชรามากขึ้น ในขณะที่คนชราเองก็มีความสุขกับการได้เล่นกับเด็กๆ อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกแล้ว หลังจากกิจกรรมนี้เสร็จสิ้น…

โดยปกติแล้ว ‘คนอ้วน’ มักจะถูกตัดสินให้อยู่ในอีกสถานะหนึ่งในสังคม ทั้งๆ ที่พวกเขาก็เป็นมนุษย์ เพียงแต่ว่ามีความสุขกับการกิน และไม่ค่อยชอบการออกกำลังกายเท่านั้นเอง แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าความอ้วนนั้นมันไม่ดีต่อร่างกาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังโดนผู้คนในสังคมเดียวกันดูถูกและเหยียดหยามจนทำให้กำลังใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือลดน้ำหนักหายไปจนหมด จนอาจก่อให้เกิดอาการซึมเศร้าได้ เช่นเดียวกันกับร้านทำเล็บที่ตั้งอยู่ในรัฐ Tennessee นี้ ที่กำลังโดนชาวเน็ตของสหรัฐฯ โจมตีอย่างหนักหลังขึ้นป้ายประกาศว่าจะทำการเก็บเงินคนที่มีน้ำหนักมากเกินไปที่มาใช้บริการที่ร้าน     มีคนถ่ายภาพป้ายประกาศนี้และนำมาแชร์ลงบนเฟซบุ๊ค ทำให้ชาวเน็ตมากมายเข้ามาต่อว่าทางร้านกันเพียบ… “ขออภัย หากคุณเป็นคนที่มีน้ำหนักมากเกินไป การทำเล็บเท้ากับร้านของเรา ก็จะขอเก็บค่าบริการเพิ่มเติมเป็นมูลค่า 45 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,560 บาท) ขอบคุณ!”   ภาพดังกล่าวถูกแชร์ไปมากกว่า 500 ครั้ง หลายๆ คนต่างก็ตกใจกับภาพดังกล่าวว่าทำไมราคามันถึงบวกเพิ่มเข้าไปสูงซะขนาดนั้น บางคนก็ถึงกับต่อว่าทางร้านว่า ‘เป็นการกระทำที่รุนแรงมาก’ ซึ่งโดยปกติแล้วทางร้าน Rose Nails จะเก็บค่าบริการเพิ่มเติมเป็นจำนวน 30 ดอลลาร์อยู่แล้ว (ประมาณ 1,040 บาท) แต่สำหรับคนอ้วนต้องเสียเพิ่มอีก 15 ดอลลาร์ (ประมาณ 520 บาท)     เจ้าของร้าน Rose…

ประสบการณ์และการฝึกฝน เป็นหนึ่งในสิ่งที่จะขัดเกลาให้งานศิลปะออกมาได้สวยงามและมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น เหมือนกับคุณยายท่านนี้ ที่เป็นช่างภาพมาแล้วถึง 64 ปี!! นักถ่ายภาพสาวผู้คร่ำหวอดในวงการถ่ายภาพของจีนผู้นี้เธอมีชื่อว่า Li Yuzhen ปัจจุบันเธอมีอายุกว่า 105 ปี นับว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์ถ่ายรูปมาอย่างยาวนานคนหนึ่งเลยทีเดียว     ดูจากกล้องที่ใช้ก็รู้เลยว่ารุ่นใหญ่ขนาดไหน   เมื่อวันที่ 14 มีนาคมสำนักข่าว China Daily ได้รายงานเรื่องราวของเธอให้กับชาวเน็ตได้รับรู้ จากการสัมภาษณ์นั้นระบุว่าเธอเริ่มต้นถ่ายรูปครั้งแรกในปี 1953 หลังจากที่แต่งงาน โดยที่สามีของเธอเป็นคนสอนถ่ายรูปและเทคนิคให้ แถมทั้งคู่ยังมีสตูดิโอถ่ายภาพเล็กๆอยู่ในเมือง Guangdong อีกด้วย     ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาเธอได้ฝึกฝนทักษะเกี่ยวกับการถ่ายภาพและการล้างภาพในห้องมืด จนได้เป็นผู้จัดการในสตูดิโอถ่ายภาพหลายๆ แห่งในประเทศจีน ทั้งนี้คุณยาย Li Yuzhen ได้เล่าว่าเธอได้เห็นพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมการถ่ายภาพในประเทศจีนตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา     ทุกวันนี้คุณยายยังคงทำงานช่วยเหลือสตูดิโอถ่ายภาพแบบโบราณของน้องสาวเธอ ที่อยู่ในเมือง Lianhui เขตปกครองพิเศษ Guangxi     คุณยายมีความสุขทุกครั้งเมื่อได้เห็นฟิล์มที่ล้างออกมาจากฝีมือการถ่ายภาพของเธอ   แหม่ ดูท่าทางการจับกล้องซะก่อน โปรเฟสชันแนลไม่เบา การได้ถ่ายรูปกับคนในครอบครัวคือสิ่งที่มีความสุขที่สุดสำหรับเธอ   สายเลือดของความเป็นช่างภาพของคุณยาย ถูกถ่ายทอดไปสู่หลานสาวตัวน้อย เมื่อเธอเริ่มถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนเป็น เราได้เห็นเรื่องราวของคุณยาย ที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและรักมาอย่างยาวนาน เพราะการทำในสิ่งที่เราชอบเนี่ย ต่อให้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็เราก็ยังคงสนุกและมีความสุขกับมันใช่ไหมล่ะครับ!! ที่มา shanghaiist

กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างเผ็ดร้อนในโลกโซเชียลของต่างประเทศ กับเหตุการณ์นักศึกษามหาวิทยาลัย 2 คน ง้างปากฉลามที่เกยตื้นขึ้นมาบนชายหาด เพื่อใช้ฟันของมันเจาะกระป๋องเบียร์     ซึ่งเทคนิคการดื่มแบบนี้เค้าเรียกว่า ‘ช็อตกัน’ นักดื่มจะดื่มเบียร์จากรูที่ถูกเจาะจากข้างกระป๋อง ที่ถูกเจาะโดยกุญแจ หรืออะไรก็ตาม และมักจะเป็นสิ่งที่ทำกันเป็นประจำในระหว่างช่วง Spring Break หรือช่วงหยุดปิดเทอมเมามายของเหล่านักศึกษา     การดื่มแบบนี้จะทำให้เครื่องดื่มที่อยู่ในกระป๋องสามารถไหลออกมาได้เร็วขึ้น และทำให้ผู้ดื่มเมาเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย แต่แทนที่จะใช้กุญแจ หรืออุปกรณ์ที่หาได้ทั่วไป หนุ่มนักศึกษากลับใช้ฟันของปลาฉลามที่เกยตื้นอยู่บนชายหาดมาเจาะรูกระป๋องแล้วดื่มอย่างสนุกสนาน     ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันได้เลย…   ทำให้ชาวเน็ตหลายคนไม่พอใจ บ้างก็แช่งให้พวกเขาถูกฉลามกัดจนแขนขาด   บ้างก็บอกว่า “มันไม่โอเคเอาซะมากๆ เลย ปลาฉลามควรได้รับความเมตตามากกว่านี้ และไม่ควรถูกนำมาใช้เป็นเครื่องเปิดกระป๋องโดยเด็กหนุ่มสองคนนี้” บางคนก็บอกว่า “ฉันยังไม่เห็นเลยว่ามันจะสนุกตรงไหน? และมันไม่ใช่การดื่มแบบช็อตกันที่เจ๋งเลย” ชาวเน็ต Erin Jasper ให้ความเห็นว่า “เจ้างั่ง 2 ตัวนี้ต้องการที่จะดูเท่เพียงแค่ 3 วินาที โดยการแลกกับชีวิตอีก 1 ชีวิตเนี่ยนะ!?” ชาวเน็ต tiglet5 ให้ความเห็นว่า “นี่เป็นเรื่องที่โง่เง่าที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลยล่ะ”   แล้วเพื่อนๆ…

หลังจากที่มีรายงานข่าวของชายหนุ่มชาวสหรัฐอเมริกาถูกจับกุมข้อหาพกโคเคนมากกว่า 5 กิโลกรัม มูลค่า 6 ล้านบาทซ่อนไว้ในกางเกงหลังพยายามเข้าเมืองนิวยอร์ค ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่เดินทางกลับมาจากการไปท่องเที่ยวที่ประเทศสาธารณรัฐโดมินิกัน และเดินทางกลับมาโดยเครื่องบินถึงที่สนามบิน John F. Kennedy International Airport ในนิวยอร์ค หน่วยป้องกันชายแดนของสหรัฐอเมริกาก็สังเกตเห็นว่าชายคนดังกล่าวมีท่าทางพิรุธ ขาของเขาทั้งสองข้างนั้นดูบวมใหญ่มากกว่าปกติ หลังจากเข้าไปในห้องตรวจลับก็พบว่ามีห่อที่บรรจุผงสีขาวถูกพันด้วยเทปติดแนบไปกับขาของเขาอยู่     แต่ล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมาเว็บไซต์ Daily Mail ก็ได้รายงานว่ามีการพบเหตุการณ์เดียวกันนี้ที่สนามบิน John F. Kennedy International Airport ชายหนุ่มพยายามจะพกพาโคเคนเป็นมูลค่ากว่า 2.9 ล้านบาทมัดติดกับขา เข้ามายังประเทศสหรัฐอเมริกา     Mayobanex Ruiz Gomez ชาวสาธารณรัฐโดมินิกันกำลังเดินทางมาถึงที่สนามบิน และพบว่าดูท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงพาเขาเข้าไปในห้องตรวจลับ จากการตรวจสอบก็พบโคเคนปริมาณ 5 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 2.9 ล้านบาท ถูกพันเอาไว้รอบๆ ขาของเขาด้วยเทปกาว เป็นวิธีเดียวกับชายที่ถูกจับก่อนหน้านี้เด๊ะๆ เลย     ขณะนี้เขาก็ถูกจับกุมและรอดำเนินคดีต่อไป แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้บอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งสองเหตุการณ์นี้มีส่วนเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด…   แหม่…

เจ้าหน้าที่ฝ่ายชันสูตรได้ออกมาแจ้งเตือนว่าที่ชาร์ต iPhone นั้นสามารถก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้เลย หลังจากที่ผลชันสูตรของชายคนหนึ่งที่เสียชีวิตเพราะถูกไฟฟ้าช็อตขณะอาบน้ำไปด้วยเล่นโทรศัพท์ที่เสียบสายชาร์จแบตฯ ไปด้วย นาย Richard Bull จากเมือง Ealing ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงลอนดอนได้เสียชีวิตในบ้านของตนเอง เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมทีผ่านมา     ชายวัย 32 ปี ถูกพบว่ากำลังนอนอยู่ในห้องน้ำโดยภรรยา Tanya ที่คิดว่าสามีของตัวเองถูกทำร้ายเพราะมีรอยไหม้อย่างรุนแรงอยู่ที่หน้าออกของเขา จากการสืบสวนการตายของเขาเจ้าหน้าที่ชันสูตรได้ออกมาเตือนว่าอุปกรณ์ที่เราใช้กันในปัจจุบันแบบทั่วไปอาจจะสร้างอันตรายถึงแก่ชีวิตได้หากนำไปใช้ในห้องน้ำ อย่างเช่นการใช้ไดร์เป่าผมในห้องน้ำ “ผู้ผลิตควรจะติดป้ายเตือนบนตัวอุปกรณ์ด้วยว่าห้ามใช้โทรศัพท์ขณะอยู่ในห้องน้ำ” เจ้าหน้าที่ชันสูตรกล่าว เจ้าหน้าที่ Craig Pattison ได้ให้ข้อมูลในการไต่สวนคดีที่ศาล West London Coroner’s Court ว่า “พวกเราพบสายชาร์จแบตไอโฟนกำลังเสียบอยู่ และมันเชื่อมต่อเข้าไปในห้องน้ำ” และผลจากการชันสูตรก็สรุปได้ว่านาย Bull เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ เนื่องจากถูกกระแสไฟฟ้าจากโทรศัพท์ไอโฟนที่เสียบสายชาร์จเกิดลัดวงจรขึ้นมาขณะที่เขากำลังใช้งานในอ่างอาบน้ำ ซึ่งในตอนแรกเจ้าหน้าที่คิดว่าเป็นการฆ่าตัวตาย     ในวันนั้นนาย Bull กำลังจะเตรียมตัวเพื่อออกไปเยี่ยมหาครอบครัวในงานฉลองวันคริสต์มาส ร่วมกับพ่อแม่ของเขา และก็ต้องตกใจเมื่อทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว     แม่ของเขาคุณ Carole บอกว่า “ฉันรู้สึกเป็นห่วงผู้คนอีกหลายๆ คน โดยเฉพาะเหล่าวัยรุ่น ที่ไม่สามารถแยกตัวเองให้อยู่ห่างจากโทรศัพท์ได้…

เรื่องราวชีวิตของเจ้าหมาที่กำลังจะถูกนำไปทำเป็นยาบำรุงในประเทศเกาหลี จนในที่สุดก็ถูกมนุษย์ผู้ใจดีช่วยเหลือ และได้พบกับชีวิตที่เป็นอิสระร่วมกับเจ้าของผู้ในดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา!?   เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คุณ Jiyoon Yi ได้เดินทางไปยังตลาดในเมือง Daegu ประเทศเกาหลีใต้ และที่นั่นเธอก็ได้พบกับเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจ มีหน้าร้านแห่งหนึ่งที่มีแม่หมาและลูกๆ อีก 5 ตัวถูกขังอยู่ในกรงเล็กๆ กำลังร้องขอความช่วยเหลืออยู่ ที่้รานไม่ได้ขายมันเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง แต่เป็นอะไรที่น่ากลัวกว่านั้น เพราะความเชื่อในเรื่องของการทำยาบำรุงด้วยสุนัขของชาวเกาหลี ที่สามารถรักษาโรคได้ทุกโรค     การทำเครื่องดื่มสุนัขนั้น เหล่าสุนัขทั้งหลายจะต้องถูกฆ่า ลอกหนังออก แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ จากนั้นเนื้อของมันก็จะถูกนำไปต้มรวมกับสมุนไพรจนกลายเป็นของเหลวสีดำ ในร้านแห่งนี้แม่สุนัขและลูกๆ ของมันถูกขังเอาไว้ในกรง เพื่อรอเวลาที่จะถูกนำไปทำเป็นยาบำรุง     คุณ Ek Park ผู้ก่อตั้ง Free Korean Dogs ที่เป็นองค์กรช่วยเหลือสุนัขจากการซื้อขายเนื้อ ได้ออกมากล่าวอย่างมั่นใจว่าเหล่าสุนัขทั้งหลายที่ถูกขังอยู่ก็รับรู้ได้ถึงโชคชะตาของตัวเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน “แม้พวกมันจะพูดไม่ได้ แต่มันก็รู้ว่ามันจะถูกทำอะไรบ้าง เหล่าสุนัขทั้งหลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนโยน และพวกมันสามารถหวาดกลัวได้ จากภาพแล้วเราจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของความกลัว” คุณ Ek กล่าว     หลังจกาที่คุณ Yi กลับมาถึงบ้านก็หยุดคิดถึงเจ้าหมาที่อยู่ในกรงไม่ได้เลย สองวันต่อมาเธอก็เลยตัดสินใจกลับไปที่ร้านนั้นอีกครั้ง และตั้งใจที่จะจ่ายเงินซื้ออิสรภาพให้กับพวกมัน แต่พอไปถึงแล้วก็พบว่าตัวแม่ของมันไม่อยู่แล้ว คาดว่าน่าจะถูกฆ่าไปแล้ว…

ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับหนุ่มน้อยวัย 5 ขวบ Dresden Manning และคุณย่าของเขา คุณ Patricia Manning ทั้งคู่นั้นสนิทกันเป็นอย่างมาก     “เธอเป็นคนพิเศษสำหรับเขา และแน่นอนว่าคุณย่าเองก็คิดแบบนั้นเช่นกัน” คุณ Brandon พ่อของเจ้าหนู Dresden เล่า ก็เหมือนกันกับคุณย่าคนอื่นๆ คุณ Patricia สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้หลานของตัวเองมีความสุข และคุณย่าก็สังเกตเห็นว่าเจ้าหนู Dresden นั้นชื่นชอบการชมยูทูบแชแนล Guava Juice ที่มักจะเอาตัวลงไปแช่สิ่งของต่างๆ ในอ่างอาบน้ำ   ก็เลยตัดสินใจที่จะทำอ่างอาบน้ำแบบพิเศษให้กับหลานชายบ้าง   “เธอเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่งมาก และมักจะชอบทำอะไรบ้าๆ บอๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดูน่าสนุกเสมอ” คุณ Brandon กล่าวถึงแม่ของตัวเอง   ด้วยการสั่งซื้อเส้นสปาเก็ตตี้มาต้ม และย้อมเป็นสีต่างๆ ที่มีน้ำหนักมากกว่า 7 กิโลกรัมมาเติมลงในอ่างอาบน้ำให้เจ้าหนู Dresden ได้กระโดดลงไปเล่นอย่างสนุกสนาน   คุณ Brandon เล่าว่าคุณย่า Patricia ใช้เวลาในการเตรียมอ่างอาบน้ำนี้เป็นเวลามากกว่า 3 ชั่วโมง  …

สุนัขไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงธรรมดา แต่พวกมันยังถูกเลี้ยงไว้เพื่อใช้งานหรือทำหน้าที่ต่างๆ ด้วย โดยต้องอยู่ในการดูแลของผู้ควบคุม แต่สำหรับเหตุการสุดสะเทือนใจนี้ ได้สร้างความสะเทือนใจไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อสุนัขรักษาความปลอดภัยหลุดออกไป จนทำให้มันต้องถูกยิงตาย เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ประเทศนิวซีแลนด์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงสุนัขรักษาความปลอดภัยของสนามบิน Auckland Airport เนื่องจากมันหลุดออกไปและพนักงานไม่สามารถไปจับตัวมันกลับมาได้     Grizz เป็นสุนัขรักษาความปลอดภัยประจำสนามบิน ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเจ้าหน้าตำรวจที่ได้รับรายงานว่ามันหลุดออกไปเมื่อเวลา 04.00 ของวันนี้ เมื่อไม่สามารถพา Grizz กลับมาได้ พนักงานของสนามบินจึงได้แจ้งให้ตำรวจยิง Grizz ทันที เพราะเกรงว่ามันจะไปทำร้ายผู้โดยสารในสนามบิน     ในขณะที่ Tracy Phillips เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Manukau บอกว่า “เราได้ยิงสุนัขตัวดังกล่าว เพราะคิดว่าเป็นคำสั่งของหน่วยรักษาความปลอดภัยของสนามบิน ที่มีความเกี่ยวข้องกับสุนัขตัวนี้ ก่อนจะมารู้ภายหลังว่า คนที่สั่งให้ยิงนั้นเป็นพนักงานของสนามบินนี้เท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับสุนัขเลย” อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะถูกสอบสวนหาข้อเท็จจริงในการยิงสุนัข เพื่อให้ความยุติธรรมกับหมาที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเสมอมา และนี่ถือว่าเป็นการเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ด้วย หลังจากเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตมากมายออกมาแสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้ อย่างเช่น… “ทำไมต้องยิงสุนัขด้วย ทำไมคุณไม่ใช่ปืนยาสลบแทนที่จะฆ่ามัน”   “นี่มันวันศุกร์ที่ควรจะแฮปปี้ แต่ทำไมต้องมารู้เรื่องการยิงสุนัขตายแต่เช้าเนี่ย”   “ทางสนามบินคงรอไม่ไหวก็เลยสั่งยิงสุนัขทิ้ง ต่อจากนี้พวกเขาจะสั่งยิงใครอีกล่ะ ถ้าเกิดมีเหตุการณ์ดีเลย์?”  …

การจากลาเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากพบเจอ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่สามารถหลีกหนีไปจากมันได้…   เช่นเดียวกันกับเรื่องราวชีวิตของคู่รัก Patricia และ Christopher Armstrong จากรัฐ North Carolina ได้ทำการปฏิญาณรักกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในโรงพยาบาลที่เจ้าหนู Conner ลูกชายวัย 1 เดือนของพวกเขาพักรักษาตัวอยู่     หนูน้อย Conner เกิดมาพร้อมกับโรค Edward’s syndrome เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นโดยที่มีโครโมโซมที่ 18 เพิ่มขึ้นมาอีก 1 โครโมโซม ซึ่งอาการผิดปกตินี้ร้ายแรงเป็นอย่างมาก และส่วนใหญ่เด็กที่เกิดมาพร้อมกับโรคนี้จะเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน   ด้วยความที่ไม่อยากให้ลูกชายพลาดเหตุการณ์สำคัญ Christopher และ Patricia ตัดสินใจที่จะแต่งงานกันในโรงพยาบาล Lexington ที่ตั้งอยู่ใน New York City “พวกเราเหลือเวลาอีกไม่มากที่จะได้อยู่กับลูกชายของเรา พวกเราก็เลยอยากให้เขาได้อยู่ร่วมในงานแต่งงาน เพื่อเป็นสักขีพยานรักคนสำคัญให้กับพวกเราด้วย” คุณ Christopher กล่าว     คู่รักอุ้มหนูน้อย Corner ไว้ในอ้อมแขน ขณะที่ดำเนินพิธีกรรมไปด้วย ในตอนแรกคุณ Patricia เกรงว่าสภาพบรรยากาศของงานจะออกมาดูน่ากลัว…

ในสังคมตะวันตกนั้น นอกจากคนผิวสีที่มักถูกแกล้งและถูกเหยียดหยามแล้ว ยังมีคนอีกประเภทหนึ่งที่มักโดนกลั่นแกล้งไม่แพ้กัน นั่นก็คือคนผมแดง อย่างที่เราเห็นว่าในหนังเรื่อง Harry Potter ว่าตัวละคร “รอน” มักจะโดนล้อเรื่องผมแดงอยู่บ่อยๆ สาเหตุต้องย้อนกลับไปในอดีต สมัยที่เกาะอังกฤษยังมีอาณาจักรต่างๆ อยู่มากมาย และหนึ่งในคู่กัดตลอดกาลก็คือชาวอังกฤษกับชาวไอริช ซึ่งชาวไอริสนี้เองมักจะมีผมสีแดง ทำให้ใครที่มีผมสีแบบนี้ ก็จะถูกรังเกียจและกลั่นแกล้งอยู่บ่อยๆ ล่าสุด Brian Dowling ตากล้องชาวอเมริกัน ได้สร้างสรรค์ผลงานชุดใหม่ในชื่อว่า “ความงามของสาวผมแดง” เพื่อแสดงให้โลกได้เห็นว่า พวกเธอนั้นงดงามขนาดไหน รวมทั้งยังเป็นการต่อต้านการกลั่นแกล้งผู้ที่มีผมแดงอีกด้วย     โดยเขาได้ถ่ายภาพนางแบบสาวผมแดงกว่า 130 คนทั่วโลก และใช้เวลากว่า 1 ปี จึงสามารถถ่ายภาพชุดนี้สำเร็จ   ลองไปชมผลงานของเขากันเลย . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…

เมื่อพูดถึง “คุก” หลายคนคงจะนึกถึงภาพสถานที่ที่เต็มไปด้วยความแออัด สกปรก และแคบ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีคุกจากหลายๆ ที่ทั่วโลก ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แถมบางที่ก็มีความหรูหรา และอลังการงานสร้างมาก ยกตัวอย่างเช่น HMP Berwyn เรือนจำแห่งใหม่ในสหราชอาณาจักร ที่นอกจากจะไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่รองรับผู้ต้องขังเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อให้เหล่าผู้คุมขังได้ใช้บริการ โอ้ววว นี่มันคุกหรืออะไรเนี่ย ทำไมสบายแบบนี้…   .   สำหรับเรือนจำ HMP Berwyn ตั้งอยู่ในเมือง Wrexham ทางตอนเหนือของเวลส์ โดยมีงบประมาณในการสร้างมากถึง 250 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 1 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังสามารถรองรับนักโทษได้มากกว่า 2,000 คน โดยภายในห้องขัง สามารถให้นักโทษไปอาศัยอยู่ได้ห้องละ 2 คน แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ใช้อย่างครบครัน ทั้ง แล็ปท็อป โทรศัพท์ ฝักบัวอาบน้ำ และโถส้วม แต่ในส่วนของแล็ปท็อปนั้น จะไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ แต่จะใช้เพื่อให้ผู้ต้องขังได้จัดการตารางการเข้าเยี่ยม สั่งอาหารในแต่ละสัปดาห์ เลือกซื้อสินค้าประจำสัปดาห์ และใช้ในด้านเพื่อการศึกษา…

เรื่องราวที่ทำให้รู้ว่า ในเมืองใหญ่ สังคมสมัยใหม่ที่ต่างคนต่างอยู่มากขึ้น ก็ยังมีน้ำใจของเพื่อนมนุษย์ให้เห็นอยู่เสมอ…   ปกติแล้วเวลาที่เราอกหัก หรือร้องไห้  ถ้าโชคดีหน่อยก็ยังมีคนข้างๆ หรือเพื่อนฝูงที่คอยปลอบใจเรา แต่ถ้าใครโชคร้ายก็อาจจะไม่มีใครมาคอยเป็นห่วงเป็นใยหรือที่ปรึกษา และคงไม่มีใครคิดว่าเราจะได้รับการปลอบใจจาก “คนแปลกหน้า” ด้วยเช่นกัน เรื่องนี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเธอได้แชร์เรื่องนี้ผ่านทวิตเตอร์ของเธอที่ชื่อว่า @egyptique       เธอเล่าว่าคืนหนึ่งเธอเพิ่งถูกแฟนหนุ่มหักอก จึงกลับมายังที่พักในสภาพของคนที่ไร้หนทาง เธอไม่มีแรงจะไปให้ถึงห้องด้วยซ้ำ จึงร้องไห้คนเดียวอยู่ตรงทางเดินของตึกนี้ ในระหว่างที่เธอร้องไห้ มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งน่าจะพักอยู่ตึกเดียวกันเดินผ่านมา หญิงคนนั้นไม่ได้เข้ามาปลอบใจและปล่อยเธอร้องต่อไป เธอก็คิดว่าเป็นคนแปลกหน้าเดินผ่านมาเท่านั้น แต่รุ่งเช้า กลับพบช่อดอกไม้ และข้อความจากหญิงสาวคนนั้นส่งมาให้เธอโดยเฉพาะ ข้อความระบุว่า… “การร้องไห้เพราะเสียใจมันก็แย่อยู่แล้ว แต่การต้องเสียน้ำตาเพราะผู้ชายมันกลับแย่ยิ่งกว่า และฉันก็หวังว่าช่อดอกไม้นี้จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นนะ”   หลังจากที่ภาพของเรื่องราวนี้ได้เผยแพร่ออกไปก็มีกระแสตอบรับที่ดีมากๆ พร้อมกับมีคนรีทวีตมากถึง  34,000 ครั้ง และมีคนกดชอบมากกว่า 140,000 ครั้ง แถมยังมีข้อความชื่นชมและร้องไห้กับเรื่องราวนี้เช่นกัน   ฉันว่าผู้หญิงคนนั้นน่าจะเป็นเพื่อนสาวที่ดีที่สุดได้เลยนะ   นี้และผู้หญิงในแบบที่พวกเราต้องการ   ฉันอยากจะร้องไห้เลย นี่มันคือความดีบริสุทธิ์ที่แท้จริง ขนาดเป็นคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่หญิงสาวแปลกหน้าคนนั้นก็แสดงให้เห็นถึงน้ำใจแบบที่เพื่อนมนุษย์ร่วมโลกมีให้กัน มันเป็นแรงผลักดัน ให้เราใส่ใจคนรอบข้างมากขึ้น เพราะบางครั้งคนเข้มแข็งก็มีช่วงเวลาที่อ่อนแอ และเขาอาจจะต้องการแค่ใครสักคนมาทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้นก็ได้นะ…  …

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์เดลีเมล์ได้เผยแพร่ภาพพร้อมคลิปวีดีโอเหตุการณ์สุดระทึก ขณะที่หญิงวัย 25 ปี กำลังกระโดดออกจากด้านหลังกระโปรงรถสีดำคันหนึ่งที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ เพื่อหลบหนีชายคนหนึ่งที่ลักพาตัวเธอ     จากการรายงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันอังคาร เวลาประมาณ 22.30 น. ที่ผ่านมา โดยหญิงสาวผู้โชคร้ายได้ออกมาเผยว่า ในขณะที่กำลังจะเดินไปที่อพาร์ทเม้นต์ของเธอในเบอร์มิงแฮม จู่ๆ ก็มีชายแปลกหน้าคนหนึ่ง ได้ข่มขู่เธอด้วยปืน พร้อมกับเรียกร้องเงิน แต่หลังจากที่เธอบอกว่าเธอไม่มีเงิน ชายคนดังกล่าวก็รีบเข้าไปจับตัวเธอ พร้อมฉกโทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าสตางค์มาแทน ก่อนที่จะบังคับให้เข้าไปอยู่ด้านหลังกระโปรงรถของเธอเอง     จากนั้นเขาก็ขับรถมาจอดยังปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง และได้เดินออกมาจากรถเพื่อถอนเงินจากตู้ ATM ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังเค้าเตอร์ในร้านสะดวกซื้อ เพื่อขอความช่วยเหลือในการถอนเงิน     ทางด้าน Yosef Alsabah เจ้าของปั๊มน้ำมันได้ออกมากล่าวว่า “ชายคนดังกล่าวพยายามที่จะถอนเงินออกจากตู้ ATM หลายครั้ง ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาขอความช่วยเหลือ ซึ่งผมก็ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเขา ชายคนนั้นเหมือนกับพกปืนอยู่ในกระเป๋า”     Yosef ได้เฝ้ามองชายคนนั้นอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งเขาเข้าไปในรถ ซึ่งในขณะที่เขากำลังจะขับรถออกไป Yosef ก็ได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งกระโดดลงมาจากกระโปรงท้ายรถ…

ช่วงนี้ประเด็นข่าวเกี่ยวกับอูเบอร์กำลังมาแรงซะเหลือเกิน ทั้งกระแสดีบ้าง ไม่ดีบ้าง และไม่ใช่แค่บ้านเราเท่านั้น ต่างประเทศก็มีการพูดถึงอูเบอร์เช่นกัน แต่เรื่องนี้ค่อนข้างจะสะเทือนใจสักหน่อย เมื่อหญิงคนหนึ่งบอกว่าเธอถูกคนขับอูเบอร์ทำร้ายร่างกาย จนคนขับดังกล่าวต้องถูกยกเลิกใบอนุญาตจากอูเบอร์ไป     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ Annastazia Merrett คุณแม่ลูกอ่อนวัย 25 ปี เธออ้างว่า ถูกคนขับอูเบอร์ทำร้ายร่างกายถึง 2 ครั้ง จนทำให้ขอบตาช้ำ นอกเหนือจากนั้นเขายังด่าเธอด้วยถ้อยคำหบายคายอีกด้วย ตอนที่เกิดเหตุนั้น Merrett ได้ใช้บริการอูเบอร์คันหนึ่งพร้อมลูกน้อย โดยเอาเก้าอี้เด็กขึ้นไปด้วย เมื่อถึงที่หมาย หญิงสาวก็ลงรถอย่างทุลักทุเล ทั้งต้องเอาเก้าอี้เด็กลง ต้องปิดประตู ไหนจะต้องถือของอื่นๆ อีก คุณแม่จึงหันไปถามคนขับอย่างสุภาพว่า “ช่วยหน่อยได้มั้ยคะ?” ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เธอทำกุญแจหล่น คนขับจึงหยิบขึ้นมา แต่แทนที่จะยื่นให้ดีๆ เขากลับโยนกุญแจอย่างแรงจนมาโดนหน้าลูกสาวของเธอเต็มๆ     แค่นั้นยังไม่พอ คนขับยังตะโกนเธอด้วยถ้อยคำหยาบคายอีก ทั้งที่ Merrett ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำอะไรผิด จนทำให้เธอทนไม่ไหวเลยเดินไปทางฝั่งคนขับ ยังไม่ทันได้ทำอะไร คนขับอูเบอร์ก็ชกเข้าที่หน้าเธออย่างแรง หญิงสาวเองก็ชกคืนเช่นกัน แต่เธออ้างว่ามันเป็นการป้องกันตัวเท่านั้น จากนั้นทั้งสองคนก็มีการปะทะกันอย่างรุนแรง โดยคนขับพยายามจะลากเธอเข้าในรถ เธอจึงกรีดร้องขึ้นมาอย่างดัง และพยายามควานหาโทรศัพท์เพื่อโทรแจ้งตำรวจ     ตอนนั้นมีเพื่อนบ้านได้ยินเสียงร้องจึงรีบวิ่งออกไปดู…

ตอนนี้เชื่อว่าหลายคนคงจะบ่นว่าอากาศร้อนอย่างโน้นอย่างนี้จนไม่อยากออกไปไปไหนเลยทีเดียว แต่ในอีกมุมโลกนั้นพวกเขากลับต้องอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวจัดจนอยากหนีมาบ้านเราเลยล่ะ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาได้เกิดพายุลมแรงที่พัดผ่านเมือง Webster ในนิวยอร์ก ส่งผลให้มีน้ำแข็งปกคลุมอยู่ทั่วทะเลสาบ Lake Ontario     ไม่เพียงแค่ทะเลสาบเท่านั้นที่กลายเป็นน้ำแข็ง แต่บ้านเรือนที่อยู่ติดทะเลสาบก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่เป็นผลกระทบที่สวยงามจนน่าทึ่งไปเลย ภาพที่น่าตื่นตาเหล่านี้ถ่ายโดย John Kucko Digital ก่อนจะโพสต์ลงเฟสบุ๊ค ภาพที่ว่านี้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากคลื่นที่ซัดขึ้นฝั่งในช่วงที่มีลมพายุพัดมา ทำให้น้ำเหล่านั้นกลายเป็นน้ำแข็งตามบ้านเรือนในแนวชายฝั่งทะเลสาบ Lake Ontario     เมื่อพระอทิตย์ขึ้น น้ำแข็งที่ปกคลุมทะสาบก็จะค่อยๆ ละลาย จนกลายอยู่ในสภาพปกติ ในขณะที่น้ำแข็งที่มาเกาะบนบกยังคงเกาะกันแน่น เพราะไม่มีอะไรมากัดเซาะให้มันละลาย     นี่เป็นปรากฏทางธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งที่มีให้เห็นไม่บ่อยนัก ถ้าเป็นเด็กๆ คงคิดว่าเป็นฝีมือเจ้าหญิงเอลซ่าแน่ๆ เลย ใครได้เป็นเห็นกับตานับว่าเป็นคนโชคดีนะ แต่น้ำแข็งเกาะซะแน่นขนาดนี้คงต้องหนาวมากแน่ๆ เลย     นี่แค่ดูภาพเฉยๆ ยังรู้สึกหนาวไปด้วยเลย   นี่คงไม่ใช่ฝีมือเอลซ่าใช่มั้ย   ถ้ามีคนไปยืนอยู่ตรงนั้นช่วงที่มีลมพายุพัดเข้ามา คนคนนั้นจะกลายเป็นน้ำแข็งมั้ยนะ?   ลองไปสัมผัสดูสักครั้งมั้ย คงลืมอากาศร้อนในบ้านเราแน่ๆ ที่มา mlive l twistedsifter

ในบางครั้ง ภาพเพียงภาพเดียวอาจสามารถที่จะเล่าเรื่องราวในชีวิตทั้งหมดได้ดีกว่าคำพูด และภาพถ่ายที่เราได้นำมาให้ชมในครั้งนี้ บอกเลยว่ามันเต็มไปด้วยอารมณ์แห่งความสุข กลิ่นอายของความรัก และความรู้สึกดีๆ อยู่เต็มเปี่ยม เชื่อเถอะว่าหากคุณได้เห็น 15 ภาพเหล่านี้ รับรองว่าคุณจะต้องรู้สึกดี เหมือนกับได้รับความรักเลยละ   Patton Oswalt นักแสดงตลก ฉลองรางวัล Emmy Awards เป็นระยะเวลาหลายเดือน หลังจากที่ภรรยาของเขาเสียชีวิต   ข้อความจากแม่ที่ประกาศตามหาลูกชายที่หายไป “แม่สัญญาว่าจะตามหาลูก จนกว่าจะหาเจอ”   ผู้เป็นแม่กำลังฟังเสียงหัวใจของลูกชาย ที่ได้บริจาคให้กับหญิงสาวคนนี้ หลังจากที่เขาเสียชีวิต   สามีของผู้หญิงคนนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่เธอก็ยังคงรับประทานอาหารกับเขาทุกวัน   ข้อความที่ห้อยบนพวงมาลัยของคนขับรถแท็กซี่ “ถึงพ่อ… ขอบคุณมากที่ทำงานหนักเพื่อพวกเรา เรารักพ่อมากนะ”   ภาพสุดท้ายกับเพื่อนผู้ซื่อสัตย์   พ่อแม่ของหนูน้อยพิการคนนี้ สร้างรถเข็นของเขาให้กลายเป็นรถขายไอศกรีมสุดเท่ในวันฮาโลวีน   ในวันที่รู้สึกเศร้า ฉันได้เดินออกไปเดินเล่น และเมื่อฉันได้เห็นเจ้าเหมียว มันทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาทันทีเลย ขอบคุณนะ!!   พนักงานวัย 22 พาคุณตาออกเดทในรอบ 55 ปี หลังรู้ว่าเขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่อย่างโดดเดี่ยว…  …

สิ่งหนึ่งที่ผู้ชายทุกคนไม่อยากจะเจอในชีวิต ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นหนุ่มเล็ก หนุ่มใหญ่ หรือหนุ่มรุ่นปู่ ก็คือ ‘ความแห้ว’ ที่เกิดจากการจีบสาวคนที่ชอบไม่ติดนั่นเอง เช่นเดียวกับคุณตา Jim Moroney ถึงเจ้าตัวจะอายุได้ 73 ปีแล้ว แต่คนเราก็ต้องมีเหงากันบ้าง เขาประกาศตามหาหญิงสาวที่จะมาร่วมเป็นคู่ชีวิตสุดท้ายของเขา แต่ทว่าเจ้าตัวกลับแห้วไม่เป็นท่า อ้ออ๊อยยย….   Gabby Foresta หลานสาววัย 16 ปี และคุณตาผู้อาภัพรักของเธอ   โดยเมื่อช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา คุณตาของเธอได้นัดแนะไปออกเดทกับหญิงสาวที่รู้จักกันบนโลกออนไลน์คนหนึ่ง เจ้าตัวรู้สึกตื่นเต้นสุดๆ ถึงกับแต่งตัวดูดีเพื่อเป็เกียรติให้ฝ่ายหญิง อีกทั้งยังเตรียมช่อดอกกุหลาบไว้เซอร์ไพรส์เธออีกด้วย   หล่อเข้มขนาดนี้ ดูสิว่าคุณตาลงทุนกับการออกเดทครั้งนี้ขนาดไหน   ‘นี่เป็นวิธีการออกเดทกับสาวของคนยุคผม ผมก็แค่หวังว่าจะได้เจอกับใครซักคนที่ไว้ใจได้ มอบความรักให้กัน และสร้างความสุขร่วมกันในช่วงบั้นปลายของชีวิต’ คุณตาเล่าทั้งน้ำตา   ทว่าเมื่อถึงวันนัดเดทคุณตาแกก็เฝ้ารอแล้วรอเล่า คู่เดทที่นัดไว้ก็ไม่ปรากฏตัวมาให้เห็นซักที และดูเหมือนว่าคราวนี้แกจะได้กินแห้วอีกแล้วล่ะ   หลังจากที่ผิดหวังกับความรัก เจ้าตัวเลยไปหาหลานสาว และระบายความในใจกับเธอแทน   หลานสาวเธอรู้สึกไม่พอใจ จึงโพสต์เรื่องนี้ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ‘ตาฉันแต่งตัวอย่างหล่อเพื่อนัดสาวไปออกเดท ขับรถไปไกลกว่า 45 นาที เตรียมทั้งช็อคโกแลต…

เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตกใจให้กับโรงพยาบาลขึ้นเมื่อ คุณลุงในประเทศจีนถูกพามายังโรงพยาบาล หลังจากที่จับปลาเป็นๆ ยัดเข้าไปในรูทวาร หลังดื่มหนักมากเกินไป ซึ่งภายในนั้นก็คือปลาหมู (Pond loach) 2 ตัว กำลังแหวกว่ายอยู่ในลำไส้ของเขา มีตัวหนึ่งว่ายทะลุผ่านผนังลำไส้ จนทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงให้กับผู้ป่วย คุณหมอในเมือง Guangzhou ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน ได้ทำการผ่าตัดเพื่อนำเจ้าปลาสองตัวออกมาได้สำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้นผู้ป่วยก็ยังคงต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อรอดูอาการอย่างใกล้ชิด   ภาพการเอกซเรย์ภายใน   ตามรายงานเล่าว่าเมื่อวันที่ 10 มีนาคมทีผ่านมาชายวัย 45 ปี ดื่มเหล้าจนเมาแอ๋ และก็นึกสนุกขึ้นมาเอาปลามายัดเข้าไปในรูทวารด้วยตัวเอง ในวันต่อมาก็ถูกพาตัวไปที่โรงพยาบาลในเครือของมหาวิทยาลัย Jinan University เพราะมีอาการไข้ขึ้นสูง ความดันเลือดต่ำ และอาการปวดท้องอย่างรุนแรง เพราะว่าเจ้าปลาหมูเจ้ากรรมสองตัวได้อาศัยอยู่ในร่างกายของเขามานานมากกว่า 24 ชั่วโมง หลังจากที่ศัลยแพทย์ทำการตรวจสอบร่างกายของผู้ป่วยด้วยการฉายรังสีเอ็กซ์ในช่องท้องก็ต้องประหลาดใจเป็นอย่างมาก   ปลาหมู (Pond loach)   ผู้ป่วยถูกวินิจฉัยว่าอาการทั้งหมดนี้เกิดจากอาการลำไส้ฉีกขาด และมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการช็อคเนื่องจากติดเชื้อ จนในที่สุดศัลยแพทย์ก็สามารถนำเจ้าปลาตัวแรกออกมาได้ ซึ่งมีความยาวมากกว่า 15 เซนติเมตรเลยทีเดียว!! แต่ตัวที่สองศัลยแพทย์ไม่สามารถหาตำแหน่งของมันได้ จึงต้องเริ่มจากการหาตำแหน่งของแผลที่ลำไส้ซะก่อน จากนั้นไม่นานก็พบตัวที่สองที่ว่ายลึกเข้าไปอยู่ในบริเวณหน้าท้องด้านบนซ้ายของผู้ป่วย ซึ่งตัวที่สองนี้มีความยาวเพียงแค่ 10 เซนติเมตรเท่านั้นเอง คุณหมอบอกว่าเขาอาจจะเสียชีวิตได้เลยหากเจ้าปลาตัวนี้ว่ายขึ้นไปถึงอวัยวะส่วนด้านบน…

เรียกว่าเปิดมิติใหม่แห่งการกลับรถเลยทีเดียว สำหรับรถบรรทุกจีนคันหนึ่งโชว์โหดกลับรถกันกลางทางด่วน ชนิดที่เห็นแล้วต้องตกใจว่า แบบนี้ก็ได้เหรอ ทางตำรวจจีนเตรียมจับกุมและตัดแต้มใบขับขี่จนอาจทำให้คนขับรถต้องไปทำใหม่อีกรอบ   เรื่องราวเกิดขึ้นในทางด่วนสายปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ ในประเทศจีน เมื่อรถบรรทุกคันหนึ่งบังเอิญขับเลยจุดกลับรถของตนเอง ทำให้พวกเขาตัดสินใจจอดรถกลางถนน   จากนั้นพนักงานขับรถทั้งสองก็ลงมาจากรถ แล้วรื้อที่กั้นบริเวณเกาะกลางถนนเพื่อให้รถสามารถผ่านไปได้   พอรื้อเสร็จ พวกเขาก็กลับรถดื้อๆ กันตรงนั้นเลย   หารู้ไม่ว่า ตรงนั้นมีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้อยู่ เราจึงได้เห็นพฤติกรรมทั้งหมดของพนักงานขับรถดังกล่าว   ล่าสุดทางตำรวจได้จับกุมพนักงานขับรถคนดังกล่าวได้แล้ว และได้ทำการปรับเงินจำนวน 200 หยวน (1,000 บาท) จากการกระทำครั้งนี้ และทำการตัดแต้มใบขับขี่ 12 แต้ม ซึ่งหมายความว่าเขาจะถูกยึดใบขับขี่ทันที และต้องไปเริ่มการสอบใบขับขี่ใหม่ทั้งหมด   เพราะความมักง่ายโดยแท้ ไม่น่าจริงๆ ที่มา shanghaiist

โดยปกติแล้วการที่เราจะเข้าประเทศอื่นๆ ได้นั้น สิ่งที่สำคัญมากที่สุดเลยก็คงหนีไม่พ้น ‘พาสปอร์ต’ นี่แหละ ซึ่งการที่เรามีพาสปอร์ตติดตัวอยู่ก็จะทำให้เราสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้อย่างง่ายดาย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามีแค่พาสปอร์ตเพียงอย่างเดียวแล้วจะสามารถเดินทางไปที่ไหนในโลกก็ได้นะ เพราะบางที่ก็ต้องทำวีซ่าเพื่อขอเข้าประเทศด้วย แต่สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมอินโฟกราฟิคแสดงพาสปอร์ตของแต่ละประเทศที่ทรงพลังมากที่สุดประจำปี 2017 แค่มีพาสปอร์ตใบเดียวก็สามารถเดินทางไปทั่วโลกได้แล้วโดยไม่ต้องขอวีซ่าเลย   และอันดับหนึ่งของเราก็คือพาสปอร์ตจาก ประเทศเยอรมนี ที่สามารถเดินทางเข้าเข้าประเทศได้ทั้งหมด 176 ประเทศโดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า ถือได้ว่าเป็นพาสปอร์ตที่ทรงพลังมากที่สุดในโลก!!     อันดับที่สอง ได้แก่ ประเทศสวีเดน สามารถเดินทางไปได้ถึง 175 ประเทศ ต่อด้วยเดนมาร์ก, ฟินแลนด์, อิตาลี และ สเปน ส่วน สหรัฐอเมริกา ที่อยู่ในอันดับที่ 3 เดินทางไปได้ 174 ประเทศ โดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่สำหรับปีนี้ประเทศอังกฤษตกลงมา 1 อันดับ เพราะโดนยกเลิกสัญญาไป จนทำให้ตกลงมาอยู่ในอันดับที่ 4 หลังจากที่อยู่ในอันดับ 1 ร่วมกับเยอรมนีมายาวนานร่วม 3 ปี ตั้งแต่ปี 2013…

เป่าลูกโป่งด้วยจมูกหลบไป เป่ายางรถด้วยจมูกเทพกว่าเยอะ!! Tong Junhai หนุ่มชาวจีนวัย 44 ปี ได้ประสบความสำเร็จในการสร้างชื่อเสียง โดยเขาสามารถเป่ายางรถได้ด้วยจมูกของเขาเอง เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาที่เมืองซีอานประเทศจีน และกลายเป็นกระแสพอสมควรบนโลกอินเตอร์เน็ต เมื่อเขาคนนี้ได้อัพคลิปวีดีโอที่เขาแต่งชุดกังฟูพร้อมกับโชว์เปายางรถด้วยจมูกเพียงอย่างเดียว     เขายังพิสูจน์ว่ามันเป็นความสามารถที่ใช่ว่าใครจะทำได้ โดยการให้ชาวบ้านรอบๆ ลองใช้ปากเป่าลมดู แต่แน่นอนว่ามันคือยางรถเส้นบะเริ่มเทิ่ม ที่ต้องใช้เครื่องสูบ หรือไม่ก็เครื่องเติมลมเท่านั้นแหละ สุดท้ายก็ไม่มีใครสามารถทำให้ยางรถเต็มได้…     ส่วนวิธีการที่เขาใช้ในการเป่าก็คือการอุดรูจมูกไว้ข้างหนึ่ง เพื่อเร่งแรงดันในการเป่า แต่ทว่าเราจะสังเกตุเห็นได้จากเส้นเลือดที่ปูดขึ้นบนหน้าผากของเขาว่ามันดูจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยล่ะ   คลิปแสดงการเป่าลมยางด้วยจมูก จมูกอย่างเดียวเท่านั้น…   ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ใช่ชายคนคนเดียวในประเทศจีนที่สามารถเป่ายางรถได้ด้วยจมูกหรอกนะ เพราะว่าก่อนหน้านี้ 4 ปีก่อน  Xie Quanguo จากมณฑลเฉิงตูก็สามารถทำได้เช่นกัน แถมชายคนนี้เป่ายางรถได้ด้วยการเป่าเพียงแค่ 15 ครั้งเท่านั้น   ไม่ใช่แค่นั้น เพราะเมื่อ 3 ปีก่อนมีชายที่ชื่อว่า Nie Yongbing โชว์ในการเป่ายางรถเช่นกันแต่สำหรับนายคนนี้เขายางวงใหญ่กว่า Tong และ Xie เสียอีกแถมใช้เวลาแค่ 20 นาทีในการเป่าเท่านั้น…

แค่พูดชื่อ “งู” ขึ้นมาก็รู้สึกจั๊กเดียมไปทั่วทั้งตัวแล้ว แล้วคิดดูถ้าเราต้องเผชิญกับมันแบบระยะเผาขนจะทำยังไง คงสติหลุดถึงสลบไปเลยก็ได้ และนี่คือ Monica Dorsett จากรัฐฟลอริดา ผู้ที่เคยมีประสบการณ์สุดเสียว เมื่อต้องเผชิญกับงูในระยะเผาขนขณะที่เธอขับรถอยู่!!     เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม โดย Kristina Dorsett ลูกสาวของ Dorsett  ได้โพสต์เรื่องสุดหวาดผวาของแม่ลงในทวิตเตอร์ของเธอ เธอบอกว่า “ขณะที่แม่ขับรถอยู่ดีๆ นั้น จู่ๆ ก็มีงูเลื้อยออกากจากช่องระบายอากาศ คุณแม่ตกใจมาก จนเกือบจะขับรถชนเลยล่ะ”     ในขณะที่ Dorsett บอกว่า “ตอนที่ฉันขับรถอยู่บนถนนสี่เลน อยู่ๆ ก็มีงูเลื่อยออกมาจากช่องระบายอากาศทางด้านซ้ายมือ มันอยู่ใกล้มากๆ จนทำอะไรไม่ถูก แต่ฉันก็พยายามรวบรวมสติภายในสองวินาที” หลังจากตั้งสติได้ เธอก็ขับรถจอดที่ข้างถนนแล้วรีบออกจากรถ และไม่ลืมที่จะถ่ายวิดีโอวินาทีระทึกนี้ไว้ด้วย จากนั้นก็โทรเรียกสามีให้มาช่วย     ต่อมา Dorsett เล่าว่า “ฉันไม่รู้ว่ามันเข้าไปอยู่ในนั้นได้ยังไง ฉันแน่ใจว่าช่องระบายอากาศมันปิดสนิทแล้วนะ และฉันก็ไม่ได้เปิดมันเป็นเวลานานด้วย”   โอ้ยยยย!! ขวัญเอ้ยขวัญมา   เจอแบบนี้ ต้องตั้งสตินะคะ เพราะสติเท่านั้นที่จะทำให้รอดได้  …

Cao Hui เป็นชื่อของศิลปินจีนที่สร้างผลงานประติมากรรมสุดแปลกแหวกแนวขึ้นมามากมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาได้สร้างผลงานเฟอร์นิเจอร์ที่มีทั้ง โซฟา เก้าอี้ ฯลฯ ขึ้นมา ในรูปแบบสุดสยอง จนทำให้ผลงานของเขาถูกนำไปจัดแสดงโชว์ในแกลลอรี่หลายต่อหลายแห่ง และล่าสุด เขาก็ได้ออกมาเผยภาพผลงานใหม่ล่าสุดที่มาในรูปแบบของ “รูปปั้นวีนัส” งานประติมากรรมชิ้นเอกที่หลายๆ คนคุ้นตากันเป็นอย่างดี แต่สำหรับผลงานของศิลปินคนนี้ บอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะเขาได้ใส่ชิ้นส่วนอวัยวะ รวมถึงเลือดเนื้อที่เหมือนมนุษย์ลงไปในรูปปั้นอีกด้วย     ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะผลงานรูปปั้นเหล่านี้ไม่ได้มาในแบบธรรมดาทั่วไป แต่มันยังสามารถแยกชิ้นส่วนต่างๆ ออกจากกันราวกับว่าได้เรียนแบบจำลองอวัยวะภายในของมนุษย์ จากห้องเรียนชีววิทยาเลยละ     สำหรับผลงานรูปปั้นที่เห็นนี้ ได้รับการออกแบบที่ถูกต้องตามหลักกายวิภาค ที่หลอมรวมเอาวิทยาศาสตร์ และศิลปะเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว และผลงานที่ออกมา ก็ทำให้เราได้เห็นถึงความสยอง และน่าขนลุกไม่น้อย     มารับชมผลงานของเขากันเลย . . . . . . . .   ว้าววว!! เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ดูน่าสนใจไม่น้อย ขณะเดียวกันก็มีทั้งความสยดสยอง และน่ากลัวปะปนอยู่ ที่มา : sobadsogood

เลโก้นับว่าเป็นของเล่นชั้นเยี่ยมชิ้นหนึ่ง เพราะไม่ว่าเมื่อไรมันก็ยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างดีเสมอ และยังสามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัยด้วย แต่ตัวเลโก้ที่เราเคยเล่นกันเนี่ยจะมีขีดจำกัดของมันอยู่ เหลี่ยมยังไงก็เหลี่ยมยังนั้น ไม่สามารถทำให้มันเป็นทรงกลมหรือดัดให้มันโค้งตามต้องการได้ ทำให้เล่นได้เฉพาะกับพื้นราบบนกระดานเท่านั้น   แต่สำหรับไอเดียใหม่ของทางทีมพัฒนา Nimuo ได้ต่อยอดพวกมันขึ้นไปอีกขั้น เปลี่ยนจากการเล่นบนพื้นราบหรือบนกระดานที่จำกัด ให้กลายเป็นเทปซึ่งสามารถแปะไปได้ทุกที่   เลโก้เทปที่สามารถเล่นได้ทุกที่   เลโก้เทปนี้ไม่ได้มีมาเพื่อเล่นไปวันๆ เท่านั้น แต่มันยังสามารถเอาไปตกแต่งข้าวของ เครื่องใช้ได้อีกด้วย ให้สิ่งของของคุณดูเก๋ไม่ซ้ำซากยังไงล่ะ ยังไม่พอเท่านี้ มันยังเป็นของเล่นสุดคุ้มที่ราคาไม่แพง แต่สามารถเล่นได้หลากหลายแบบ ราวกับมีของเล่นเป็นร้อยชิ้นอยู่ในมือ     โดยปกติแล้วราคาเลโก้จะอยู่ที่ 380 บาทต่อ 2 ม้วน และถ้าอยากได้ 10 ม้วน ก็จ่ายเพียงแค่ 1,700 บาทเท่านั้น โอ้ววแม่เจ้า อะไรจะคุ้มเบอร์นี้ รออะไรล่ะ หาเลโก้มาครอบครองสิ โดยสามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ indiegogo   มันสามารถติดได้แทบจะทุกพื้นผิว   กระทั่งเพิ่มความเก๋ไก๋ให้รองเท้าด้วยเลโก้   มีแรงมีเวลาเล่นก็เล่นไปเล้ยยยย เพราะเลโก้ไม่มีที่สิ้นสุด   อ่างล้างหน้าก็เปลี่ยนเป็นสนามเด็กเล่นได้แค่นำเลโก้มาวาง   เลโก้จะตามคุณไปทุกที่   ทำให้ของใช้ไม่ซ้ำซากจำเจ…

หนุ่มๆ ทั้งหลายเคยคิดกันเล่นๆ มั้ยว่า ชายคนที่ได้เข้าไปเป็นนักแสดงวงการหนังโป๊ ชีวิตของพวกเขาจะน่าอิจฉาขนาดไหน แหม่…ได้แสดงหนังแบบเนื้อแนบเนื้อกับสาวสวยไม่ซ้ำหน้า แต่ใครจะรู้ว่าของแบบนี้ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง เพราะล่าสุดพ่อหนุ่ม แดนนี่ ไวลด์ นักแสดงผู้คร่ำวอดในวงการที่หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาดี ได้ออกมาประกาศโบกมืออำลาวงการที่ชายหลายคนใฝ่ฝัน เหตุเพราะมันทำให้เขาติดยาปลุกเซ็กส์มากจนเกินไป   แดนนี่ ไวลด์ เคยคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้างมั้ยเอ่ย?   เจ้าตัวได้ระบุว่า เขาได้ใช้ยา ‘เซียลิส’ ซึ่งเป็นยาที่ใช้เพิ่มสมรรถภาพทางเพศมาเป็นเวลานาน นับตั้งแต่เริ่มเข้าวงการแรกๆ โดยในช่วงแรกดูเหมือนยาจะไม่มีผลข้างเคียงอะไร แต่ทว่านานวันเข้าอาการก็เริ่มปรากฏให้เห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ… เพราะเจ้าตัวต้องประสบภาวะน้องชายแข็งค้าง เป็นเวลานานถึง 12 ชั่วโมง จนกลายเป็นความเจ็บปวดทรมาน ซึ่งเขาต้องเผชิญกับภาวะนี้มาแล้วมากกว่า 3 ครั้ง จนแพทย์ต้องสั่งให้หยุดใช้ยา ก่อนที่อวัยวะเพศของเขาจะเสื่อมสภาพอย่างถาวร   เนื่องจากต้องหยุดใช้ยา เจ้าตัวจำเป็นต้องโบกมือลาวงการอย่างเป็นทางการ   จริงๆ แล้วแดนนี่ มีชื่อจริงว่า ‘คริสโตเฟอร์ ซายเช็กก์’ เขาเป็นพระเอกอยู่บนเส้นทางนี้มานานกว่า 10 ปี มีผลงานออกมาแล้วมากถึง 600 เรื่อง ทำงานเพียงเดือนละ 6 วัน และได้ค่าจ้างสูงถึงเดือนละ 141,000 บาท…

ทุกวันนี้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบนดินหรือใต้ดินในเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก ถือว่าเป็นสิ่งที่สะดวกสบายเป็นอย่างมาก เพราะมันทั้งรวดเร็วและตรงเวลา จนทำให้ปัญหาการจราจรบนท้องถนนลดลงไปด้วย วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับสองหนุ่มจากอังกฤษ James Heptonstall และ Noel Carroll ที่ได้ทำการวิ่งแข่งกับรถไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อทดสอบว่า “มนุษย์” กับ “เครื่องจักร” อะไรจะเร็วกว่ากันกันแน่   ทั้งสองเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยอยู่ชมรมกรีฑาในมหาวิทยาลัยเบอร์มิ่งแฮม และก็ชอบทำอะไรสนุกๆ ท้าทายๆ ร่วมกัน พวกเขาจึงทำคลิป “Race The Tube” ซึ่งเป็นการวิ่งแข่งกับรถไฟฟ้าใต้ดินขึ้นมา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2014 เมื่อพวกเขาได้ทำการทดลองวิ่งจากรถไฟที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Mansion House ไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Cannon Street ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ     วิ่งๆๆๆ   ลองไปชมคลิปของเขากันดู   สุดท้ายวิ่งมาทันด้วยนะเนี่ย   ส่วนใครที่อยากเห็นการแข่งขันแบบชัดๆ มีคลิปแบบแบ่งจอเรียลไทม์ด้วยนะ   สุดยอดจริงๆ ว่าแต่ใครอยากลองไปวิ่งแข่งกับรถไฟฟ้าในบ้านเราบ้างมั้ย น่าสนุกดีนะ ฮาาา ที่มา Epic Challenges

เป็นเรื่องปกติสามัญทั่วไปที่โรงเรียนจะต้องมีกฏ มาคอยควบคุมให้นักเรียนอยู่ในระเบียบ อย่างไทยเราก็คงเป็นเรื่องของทรงผม จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครเข้าใจว่ามันไปเกี่ยวข้องอะไรกับการเรียน… และล่าสุดสำนักข่าว Metro ได้รายงานว่า ผู้ปกครองเด็กนักเรียนจากโรงเรียน Bedale High School ต่างพากันแสดงความไม่พอใจ หลังโรงเรียนออกกฎอนุญาตให้เด็กๆ พักเข้าห้องน้ำได้แค่วันละ 2 ครั้งเท่านั้น!   Bedale High School จากเมือง North Yorkshire   โดยทางโรงเรียนได้ให้เหตุผลว่า สาเหตุที่ออกกฎให้นักเรียนพักเข้าห้องน้ำได้แค่ระหว่างเวลา 11.05 – 11.25 น. และ 12.25 – 12.45 น. เพราะนอกเหนือจากเวลานี้ นักเรียนไม่ควรมีสิทธิ์เข้าไปยังบริเวณตึกใหญ่ (ที่ตั้งของห้องน้ำ) ซึ่งเด็กคนไหนที่มีความจำเป็นจริงๆ จะต้องมีใบสั่งแพทย์มายืนยันก่อนพักเข้าห้องน้ำนอกเวลาทุกครั้ง! ผู้ปกครองคนหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์ว่า ‘เป็นกฎที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนเด็กนักเรียนมากที่สุด กับการที่ไม่อนุญาตให้ลูกๆ ของเราเข้าห้องน้ำได้ตามเวลาที่ต้องการ’     แต่นอกเหนือจากเรื่องของเวลาแล้ว ทางโรงเรียนก็ได้ออกมาชี้แจงว่า เป็นการควบคุมไม่ให้ห้องน้ำกลายเป็นแหล่งมั่วสุมของนักเรียน และลดปัญหาความรุนแรงจากการกลั่นแกล้ง ที่มักจะเกิดขึ้นในบริเวณดังกล่าว ซึ่งผู้ปกครองฝ่ายที่เห็นด้วยก็ให้เหตุผลว่า ‘ที่โรงเรียนทำไปเพื่อแก้ปัญหาลูกๆ ของคุณที่ชอบทำตัวเกเรไปแกล้งคนอื่นยังไงล่ะ สาเหตุมันก็เริ่มมาจากเด็กๆ กลุ่มนี้ เพราะฉะนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองที่ต้องช่วยกันดูแลเด็กให้ดี เพื่อลดปัญหาดังกล่าว’     ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวิธีนี้จะใช้แก้ปัญหาตามที่เค้าอ้างได้จริงมั้ยน้อ……

เรื่องราวของเจ้าลิงอุรังอุตังที่ถูกขังอยู่ในกล่องไม้เล็กๆ เป็นระยะเวลานานตลอดชั่วชีวิต ไม่เคยได้เห็นเดือนเห็นตะวัน จนในที่สุดก็ได้รับการช่วยเหลือจนเป็นอิสระแล้ว!! เจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ International Animal Rescue (IAR) ได้เข้าไปตรวจค้นในบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่บนเกาะ Borneo ประเทศอินโดนีเซีย และพบว่ามีลิงอุรังอุตังตัวหนึ่งถูกขังอยู่ในนั้น และคาดว่ามันน่าจะอยู่ในนี้มาเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว     เจ้า Amy ลิงอุรังอุตังเพศเมียวัย 7 ขวบ ได้ถูกช่วยเหลือออกมา ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเปิดประตูกรงออกมาเจ้า Amy กลับก้มหัวลงด้วยความหวาดกลัวและไม่ยอมมองหน้าใครเลย     “ตาของมันดูไม่มีชีวิตชีวาเอาซะเลย เพราะช่วงชีวิตที่ผ่านมาของมันต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว และถูกทอดทิ้ง ดูเหมือนว่ามันจะยอมแพ้ที่จะมีชีวิตอยู่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” โฆษกขององค์กร IAR กล่าว     กรงไม้ที่มันอาศัยอยู่นั้นมีขนาดเล็กมาก ทำให้เจ้า Amy ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ แถมเจ้าของของมันก็ใช้โซ่ล่ามไว้ที่คอของมันอีก โซ่ดังกล่าวรัดแน่นมากจนบาดลึกลงไปในผิวหนังของมัน     คุณ Sulhi Aufa เจ้านหน้าอาสาสมัครของ IAR ได้ยื่นมือเข้าจับมือของเจ้า Amy อย่างใจเย็น ด้วยความอ่อนน้อมและความอบอุ่นจากมือของคุณ Aufa เจ้า Amy ก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเธอ    …

หากพูดถึงนกอินทรีในบ้านเรา มันอาจจะดูเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างไกลตัวและเข้าใจถึงได้ยาก แต่สำหรับบางพื้นที่นกอินทรีคือเครื่องมือหากินที่เยี่ยมยอดเลยล่ะ อย่างที่เรารู้กันดีแล้วว่านกอินทรีเป็นสัตว์นักล่าที่เก่งกาจและแข็งแรงมากที่สุดชนิดหนึ่ง เพราะกรงเล็บที่แข็งแรงของมันสามารถจิกเอาสัตว์ชนิดอื่นที่ตัวใหญ่กว่ามันถึงหนึ่งเท่าตัวได้อย่างชิลๆ     ด้วยเหตุนี้นักล่าสัตว์ชาวมองโกเลียที่จึงใช้นกอินทรีเนี่ยแหละในการล่าสัตว์ ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่ทำมาตั้งแต่สมัย Khitans หรือในปี ค.ศ. 936 จนถึงปัจจุบันนี้ บนที่ราบทางตะวันตกของประเทศมองโกเลียมีกลุ่มชาวคาซัคสถานที่อาศัยร่วมกันเป็นชุมชนที่เรียกว่า Burkitshi โดยมีการสืบทอดประเพณีแบบดั้งเดิมท่ามกลางกระแสสังคมสมัยใหม่     พวกเขาใช้ชีวิตเหมือนบรรพบุรุษในอดีตโดยการอยู่กับนกอินทรีมานานหลายปี ดังนั้น พวกเขาจึงมีความคุ้นเคยกับนกอินทรีเป็นอย่างดี และรู้ว่าจะใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร สิ่งหนึ่งที่สืบทอดกันมายาวนานคือ การล่าสุนัขจิ้งจอกด้วยนกอินทรี และสิ่งที่ทำให้ชาวมองโกเลียประทับใจคือ นกอินทรีสามารถล่าหมาจิ้งจอกที่ตัวใหญ่เกือบเท่ากับตัวมันเอง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมชาวมองโกเลียจึงใช้นกอินทรีในการล่าสัตว์ ทั้งๆ ที่ปัจจุบันก็มีเครื่องมือที่ทันสมัยแล้ว แต่นั่นมันอาจจะไม่มีประสิทธิภาพเท่านกอินทรีก็ได้ ที่สำคัญยังเป็นการสืบทอดธรรมเนียมของบรรพบุรุษด้วย     และนี่คือเบื้องหลังการล่าสุนัขจิ้งจอกของนกอินทรี ที่ใช้กล้องโกโปรติดตัวมันไว้เพื่อบันทึกภาพ   แข็งแรงขนาดนี้ อย่าคิดเข้าไปแหย่เล่นเชียวล่ะ ที่มา ozzyman  

ทุกวันนี้มีสัตว์จรจัดมากมายตามข้างถนน แนวทางการป้องกันคือทำหมันให้พวกมันนั่นเอง แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ผลซะทีนเดียว เพราะมีคนเลี้ยงหมาบางคนที่ละเลยไม่ทำหมันให้ จนทำหมาหลายตัวต้องถูกทิ้งตั้งแต่เด็ก เช่นเดียวลูกสุนัข 3 ตัวนี้ ที่ถูกพบอยู่ในป่าโดย Tek เจ้าหน้าที่ของหน่วยลาดตระเวน K9 จากรัฐจอร์เจีย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา     ในวันที่เจอนั้น Tek ได้ออกตรวจไปกับเพื่อนที่ชื่อ Trooper Jordan Ennis แล้วพวกเขาก็ได้พบกับลูกหมา 3 ตัว อยู่ในป่ารกที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ โดยซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ เห็นได้ชัดว่าพวกมันถูกนำมาทิ้งไว้ที่นี่ ใบหน้าของลูกหมาทั้ง 3 ดูเศร้างหมองอย่างไร้ความหวัง พวกมันดูอ่อนแรงเนื่องจากไม่ได้กินอาหาร เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คน จึงรีบพาลูกหมาขึ้นรถลาดตระเวน และหาอาหารให้กับพวกมัน หลังจากเอาอารหารแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ได้พาลูกสุนัขทั้งหมดไปให้กับศูนย์พักพิงสัตว์ เพื่อตรวจร่างกายและทำการเยียวยาต่อไป พร้อมทั้งหาคนใจดีรับไปเลี้ยง ทางด้านคนที่นำสุนัขมาทิ้งไว้นั้น ตำรวจก็ไม่ได้ปล่อยเหมือนกัน แต่ได้ทำการติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดี และหวังว่าจะได้รับการลงโทษที่ทำกับสัตว์แบบนี้     จริงๆ แล้วถ้าไม่พร้อมจะเลี้ยงสุนัขก็ไม่ควรปล่อยให้มันท้องตั้งแต่แรกนะ สงสารลูกหมาที่ต้องลำบากตั้งแต่ทั้งๆ ที่พวกมันไม่รู้เรื่องอะไรเลย ที่มา thedodo

เดี๋ยวนี้โลกออนไลน์ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตเราเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับให้ความสำคัญกับโลกออนไลน์มากกว่าชีวิตจริงซะอีก และไม่ใช่ทำกันเล่นๆ นะแต่จริงจังถึงขั้นเอามาทำเป็นธุรกิจกันเลยทีเดียว อย่าง Family Romance บริษัทในญี่ปุ่นที่มีการจ้างพนักงาน เพื่อให้สร้างภาพกับลูกค้าผู้มาใช้บริการ     ในเทศกาลต่างๆ บางคนอาจจะไม่มีเพื่อนไปด้วย ถ่ายรูปลงโซเชียลทีก็ต้องถ่ายคนเดียว แต่ถ้าคุณใช้บริการของบริษัทแห่งนี้ คุณจะมีเพื่อนร่วมเฟรมมากมาย ลงรูปทีก็เรียกยอดไลค์ได้งามเลยล่ะ สำหรับลูกค้าที่ต้องการหาเพื่อนร่วมถ่ายรูปนั้น สามารถระบุเพศ อายุ หรือคุณลักษณะอื่นๆ ตามต้องการได้เลย จากนั้นบริษัทก็จะหาให้ตามที่คุณร้องขอมา     ลูกค้าคนหนึ่งได้เล่าถึงประสบการณ์การใช้บริการที่ผ่านมาว่า “ผมเคยขอพนักงานจาก Family Romance จำนวน 10 คน เพื่อมาร่วมงานวันเกิดผม เราฉลองด้วยกันเหมือนเพื่อนจริงๆ เลย มันเป็นช่วงเวลาที่สนุกมากและผมก็ได้ถ่ายรูปกับพวกเขาเพื่อลงเฟสบุ๊คและทวิตเตอร์ด้วยครับ”   อาจจะฟังดูเป็นธุรกิจที่แปลกใหม่ แต่เชื่อหรือไม่ว่ามันได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก เพราะบางคนที่มีเพื่อนน้อยแต่ต้องการให้สังคมออนไลน์รู้ว่าตัวเองเป็นเข้าสังคมเก่ง เป็นคนมีเพื่อนเยอะ ก็ใช้บริการของบริษัทนี้แหละ หรือใครที่ถูกแฟนบอกเลิก แล้วต้องการให้แฟนเก่ารู้ว่าตัวเองมีใหม่แล้ว ก็จะใช้บริการนี้เช่นกัน แม้จะเป็นการสร้างภาพปลอมๆ แต่มันก็คือความสุขของคนกลุ่มหนึ่งนั่นเอง     แต่ราคาสำหรับเช่าพนักงานแต่ละครั้งไม่ใช่ถูกๆ เลยนะ โดยต้องจ่ายค่าบริการครั้งละ 8,000 บาท และต้องโทรจองล่วงหน้าก่อนสองชั่วโมงเพื่อจะได้พนักงานตามต้องการ ที่สำคัญ ลูกค้าต้องจ่ายค่าเดินทาง…

เคยไหมที่พอถึงวันวาเลนไทน์หรือวันสำคัญต่างๆ คนรอบข้างเรามักจะได้ช่อดอกไม้ รวมถึงของขวัญสวยๆ หรูๆ จากคนรู้ใจพร้อมกับถ่ายรูปคู่กับของที่พึ่งได้มาอวดบนโซเชี่ยลให้เราอิจฉาตาร้อนจนรู้สึกว่า ‘แล้วไหนล่ะ ช่อดอกไม้ของเรา?’ ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้ประกอบการรัสเซียหัวใสเริ่มธุรกิจนี้ขึ้นมา เจ้าธุรกิจที่ว่านี่ก็คือธุรกิจเปิดให้เช่าช่อดอกไม้สุดสวยไปถ่ายรูปแถมยังบริการส่งถึงบ้านอีกต่างหาก ซึ่งมันเหมาะสำหรับคนโสดหรือคนมีคู่แต่ว่ามีเงินไม่มากพอจะไปซื้อขาดช่อดอกไม้สวยๆ     บริการเช่าดอกไม้นี้กำลังเป็นอะไรที่ฮิตมากๆ และมีคนหันมาทำเยอะสุดๆ ในกรุงมอสโกของรัสเซีย Eugene ชายผู้อ้างตัวว่าเขาคือคนแรกที่คิดธุรกิจนี้ขึ้นมา เขาเล่าว่าได้ไอเดียนี้จากการที่เขาเห็นผู้หญิงสามคนนั่งอยู่ในคาเฟ่ แล้วผลัดกันถ่ายรูปกับช่อดอกไม้ 1 ช่อ     ตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดว่าธุรกิจนี้มันจะฮิตหรอก (ถึงแม้เขาจะแอบหวังบ้างเล็กๆ ว่ามันอาจจะดัง) แต่พอเอาเข้าใจจริงๆ เสียงตอบรับมันกลับดีเกิดคาดจนเขาตั้งตัวไม่ทันแถมส่วนใหญ่ยังขอให้ขยายเขตบริการออกไปนอกกรุงมอสโกเพิ่มด้วย เขายังบอกอีกว่าหลังจากธุรกิจนี้ของเขากลายเป็นทอคออฟเดอะทาวน์ไปเป็นที่เรียบร้อย ก็เริ่มที่จะมีคนหันมาลอกเลียนธุรกิจของเขา แถมยังเพิ่มลูกเล่นใหม่คือมีนายแบบให้เช่าด้วย เพื่อที่จะได้ทำทีว่ามีผู้ชายเอาช่อดอกไม้มาให้     ส่วนราคาของการเช่าดอกไม้นี้จะอยู่ที่ราวๆ 400-500 บาทต่อช่อ และสามารถเช่าได้ 10 นาทีซึ่งถ้าสนใจจะต่อเวลาจะคิดอยู่ที่ราวๆ 250 บาท สำหรับทุกๆ 10 นาทีต่อไปนั่นเอง ส่วนราคาของขวัญหรูๆ และเครื่องประดับ ก็อาจจะแตกต่างกันออกไปตามราคามูลค่าสินค้านั้น แต่มันก็ทำเงินให้เขาได้มากทีเดียว     ฟังดูแล้วมันก็ดูน่าสนใจจริงๆ นะเนี่ย ใครสนใจจะเริ่มธุรกิจนี้ในไทยบ้างไหม? ที่มา odditycentral

“เซ็กส์ดอล” หรือ “ตุ๊กตายาง” ถือว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ตอบสนองอารมณ์ทางเพศที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน ด้วยรูปร่างที่เหมือนมนุษย์จริงๆ ทำให้มันกลายเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ     แต่สุดทางตำรวจของนอร์เวย์ได้เปิดเผยว่า มีการสั่งซื้อตุ๊กตายางที่มีลักษณะเหมือนเด็กผู้หญิงจำนวนมากจากฮ่องกงในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ซึ่งจำนวนนั้นเหล่านั้นค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยผู้ที่สั่งซื้อมีอายุตั้งแต่ 18-60 ปี     โดยพวกเขาได้แสดงความกังวลว่า ตุ๊กตายางเด็กหญิงเหล่านั้น อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาชญากรรมทางเพศในเด็กในอนาคต นอกจากนี้มันยังอาจฝ่าฝืนกฎหมายบางอย่างของนอร์เวย์อีกด้วย จนตอนนี้ผู้ที่ครอบครองตุ๊กตาดังกล่าวกำลังถูกติดตามอย่างใกล้ชิดโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากที่นอร์เวย์แล้ว ในออสเตรเลียก็มีประชาชนกว่า 60,000 คน ร่วมลงชื่อแบนการซื้อขายและนำเข้าตุ๊กตายางเด็กหญิงนี้ เนื่องจากอาจเป็นการส่งเสริมพวกที่ชอบร่วมเพศกับเด็ก (paedophile)     อย่างไรก็ตาม องค์กรให้คำปรึกษาทางด้านเพศ  Sexpo ได้แสดงความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวว่า พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการแบนตุ๊กตายางดังกล่าว เพราะตุ๊กตายางเหล่านั้นถูกสร้างมาเป็นทางเลือกในการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศของผู้ที่ชื่นชอบการร่วมเพศกับเด็ก (paedophile) ซึ่งการแบนอาจทำให้เกิดปัญหามากกว่าประโยชน์ (แต่ในหลากหลายประเทศต่างมีข้อกำหนดในการต่อต้านเรื่องทางเพศที่เกี่ยวกับเด็กอย่างจริงจัง)   แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองแสดงความเห็นกันเข้ามานะฮะ ที่มา dailymail

ปัจจุบันผู้คนมักจะหันมาดูแลสุขภาพของตนเองกันมากขึ้น หลายคนที่อยากมีรูปร่างที่ดี ก็พากันออกกำลังกาย รวมถึงการเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพอย่างอาหารมังสวิรัติ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และในขณะเดียวกันที่ประเทศโปรตุเกสในตอนนี้ มีการออกกฎหมายหมายบังคับให้โรงอาหารสาธารณะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในเรือนจำ โรงพยาบาล และโรงเรียน และตามสถานที่สาธารณะต่างๆ ที่มีการประกอบอาหารให้กับบุคลากร     เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า กฎหมายการบังคับให้โรงอาหารสาธารณะทั่วประเทศเพิ่มทางเลือกอาหารมังสวิรัติ ได้รับการอนุมัติโดยเสียงข้างมากจากรัฐสภาไปเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า โรงอาหารในโรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล เรือนจำ และอาคารสาธารณะอื่นๆ จะต้องเพิ่มตัวเลือกการบริโภคอาหารที่ปลอดจากเนื้อสัตว์ และถ้าหากทุกอย่างดำเนินการไปได้ด้วยดี กฎหมายอาจมีผลได้ภายในเวลาเพียง 2 หรือ 6 เดือน ขณะเดียวกันหากมีปริมาณอาหารที่ไม่เพียงต่อสำหรับการบริโภค โรงอาหารสามารถยกเลิกมื้ออาหารมังสวิรัติได้     สำหรับการออกกฎหมายดังกล่าว ได้ถูกริเริ่มโดย Associação Vegetariana Portuguesa (สมาคมมังสวิรัติโปรตุเกส) ที่ได้เป็นผู้รวบรวมคำร้องมากกว่า 15,000 ฉบับ ซึ่งทางรัฐสภาของประเทศก็ได้มีการปรึกษาหารือในเรื่องดังกล่าว เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทางด้าน Nuno…

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 เมษายนถึง 16 เมษายน 2016 ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก หนึ่งในนั้นคือ ปราสาทคุมะโมะโตะ ซึ่งเป็นปราสาทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงเมืองโออิตะ อีกด้วย และนอกจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ จะทำให้สถานที่ต่างๆ ได้รับความเสียหายแล้ว ยังทำให้ผู้คนเสียชีวิตอย่างน้อยกว่า 50 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 3,000 คนเลยทีเดียว     และเมื่อใกล้จะถึงวันครบรอบของการเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทาง Sapporo ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเบียร์ชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น จึงได้เกิดไอเดียสุดบรรเจิด โดยการเนรมิตเบียร์รุ่นลิมิเตดขึ้นมา ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งทางบริษัทจะระดุมทุนเพื่อนำไปช่วยในการปรับปรุง และฟื้นฟูปราสาทคุมะโมะโตะที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปีที่ผ่านมานั่นเอง       สำหรับเบียร์รุ่นดังกล่าวจะเริ่มนำออกจำหน่ายในวันที่ 22 มีนาคม 2560 ที่จัดถึงนี้ โดยมีราคาเพียงแค่กระป๋องละ 10 เยน หรือราวๆ 3 บาทเท่านั้นเองจ้า     ถ้าหากใครที่กำลังมองหาเบียร์รุ่นดังกล่าว แต่อาจจะไม่เข้าใจในตัวอักษรคันจิของญี่ปุ่น คุณสามารถมองหากระป๋องเบียร์ที่มีรูปปราสาทคุมะโมะโตะ ประดับไปด้วยดอกเชอร์รี่ที่บานสะพรั่ง พร้อมกับฉากหลังที่เป็นท้องฟ้าสีครามสดใส เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นในปลายเดือนนี้…

ทุกวันนี้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทำให้มนุษย์เราสามารถสร้างสรรค์งานศิลปะเจ๋งๆ ได้อย่างไม่มีขีดจำกัดทางด้านจินตนาการ อย่างเช่นศิลปินจากตุรกีคนนี้ ที่เขาได้ทำโปรเจคภาพถ่าย “โลกแนวตั้ง” สุดเจ๋งขึ้นมา รับรองว่าเพื่อนๆ เห็นแล้วจะต้องนึกถึงฉากในหนัง Inception อย่างแน่นอน ศิลปินคนนี้มีชื่อว่า Aydın Büyüktaş เขาได้ตระเวนถ่ายภาพทั่วสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็นรัฐอริโซน่า เท็กซัส แคลิฟอร์เนีย และ นิวเม็กซิโก เพื่อตามหาภาพสวยๆ มาสร้างเป็นโปรเจคภาพสุดเจ๋ง     โดยเขาได้เล่าว่า ภาพดังกล่าวเขาได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือ Flatland: A Romance of Many Dimensions ของนักเขียน Edwin Abbat ซึ่งเป็นนวนิยายแนวไซไฟชื่อดังในช่วงต้นศตวรรษที่ 20     เขาบอกว่าเขาได้ลองหาโลเคชั่นดีๆ จาก Google Earth จากนั้นเขาก็เดินทางไปถ่ายภาพสถานที่นั้นๆ โดยใช้เวลาทั้งหมด 2 เดือน และต้องเดินทางกว่า 16,000 กิโลเมตร     ซึ่งสถานที่แต่ละแห่งเขาต้องถ่ายประมาณ 18 – 20 ภาพ จากนั้นก็นำภาพทั้งหมดมารวมกันในคอมพิวเตอร์ จนกลายเป็นภาพโลกแนวตั้งอย่างที่เราเห็นกันอย่างนี้  …

“ดาราหนังโป๊” กับ “ครูสอนศาสนา” อาจเป็นสองอาชีพที่ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง แต่หญิงสาวคนนี้เคยเป็นทั้งสองอย่างมาแล้ว อะไรที่ทำให้เธอเป็นแบบนั้น เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยดีกว่า เรื่องราวดังกล่าวเป็นของ Crystal Bassette วัย 33 ปีหญิงสาวจากเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อตอนที่เธออายุ 16 ปี เธอตั้งท้องอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เธอต้องกลายเป็นคุณแม่วัยรุ่น ณ ตอนนั้นเธอตัดสินใจไม่ทำแท้ง และตั้งใจจะเลี้ยงลูกออกมาให้ดีที่สุด     ช่วงแรกเธอก็ประกอบอาชีพด้วยการเป็นนางแบบ นักเต้นรูดเสา และอื่นๆ อีกมากมาย แต่เธอก็พบว่าเงินที่เธอหามานั้น ยังแทบไม่พอจะเลี้ยงลูกน้อยกับต้นเองด้วยซ้ำ จนมีเอเยนต์หนังผู้ใหญ่คนหนึ่งติดต่อเธอมา และเขาบอกเธอว่าเธอสามารถหาเงินต่อเดือนได้มากกว่า 25,000 ดอลลาร์ (800,000 บาท) อย่างสบายๆ     เมื่อได้ยินดังนั้น เธอจึงตัดสินใจหันหน้าเข้าอุตสหกรรมหนังผู้ใหญ่ในทันที ที่นั่นทำเงินให้เธออย่างมากมาย ตลอดเวลา 10 ปีที่เธออยู่ในวงการนั้น เธอมีรายปีละกว่า 250,000 ดอลลาร์หรือราว 8 ล้านบาท จำนวนเงินเหล่านี้เพียงพอที่จะทำให้เธอสามารถครอบครองบ้านหลังใหญ่ รถสปอร์ตคันงาม และส่งลูกชาย Justin…

เรื่องราวของเจ้าหมูจรจัด Holly ที่ถูกทิ้งเอาไว้ให้ต้องเผชิญโลกกว้างอย่างเดียวดาย ในที่สุดก็ถูกช่วยเหลือโดยชายหนุ่มผู้ใจดีและมันก็ตกหลุ่มรักเขาอย่างหมดหัวใจ “มันเป็นหมูที่น่ารักมากๆ แต่ดูเหมือนว่าจะติด Alex สามีของฉันซะแจเลย” คุณ Alesja Daehnrich ผู้ก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์สัตว์ Blind Spot Sanctuary ที่อยู่ในรัฐ North Carolina เล่า     เมื่อช่วงวันคริสต์มาสที่ผ่านมา Dr. Laureen Bartfield เพื่อนรักของคุณ Alesja ได้พบกับเจ้า Holly กำลังเดินเตร่อยู่บนถนนใกล้ๆ กับฟาร์มของเธอ จึงได้ตัดสินใจที่จะใช้มัฟฟินล่อมันมาไว้ในโรงม้า เพื่อช่วยให้มันปลอดภัย     ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหน แต่พอตรวจดูสภาพร่างกายของมันแล้วก็พบว่ามีแต่บาดแผลเต็มไปหมดทั้งแผลเป็น แผลไฟไหม้ แผลพุพองเป็นหนอง (ใช้เย็นเตร็ก อ่าว ไม่ใช่!!!!) ราวกับว่ามันเคยเดินทางไปทัวร์นรกมาก่อนเลยทีเดียว     “มันน่าจะถูกทิ้งมาแล้วนานพอสมควร เพราะเท้าของมันถูกตัดออกไป แถมยังมีแผลสด และแผลติดเชื้อที่น่าจะมาจากถูกสุนัขกัด” คุณ Alesja เล่า ในวันต่อมา Bartfield ติดต่อไปยัง Alesja และ Alex…

ปัจจุบันนี้มีรองเท้าแตะให้เลือกใส่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้องเท้าแบบคีบ แบบสวม แบบหนา บาง แบบหรูหรือบ้านๆ แล้วแต่ใครชอบแบบไหนก็เลือกใส่ได้เลย เมื่อพูดถึงรองเท้าแตะแล้วคงจะละเลยรองเท้ายี่ห้อ Crocs ไปไม่ได้ เพราะตั้งแต่ตีตลาดมาก็ยังคงได้รับความนิยมมาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้     จุดเด่นของรองเท้าแตะรุ่นนี้คือ เป็นรองเท้าหุ้มปลายเท้าที่มาพร้อมกับช่องระบายอากาศ ทีนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าเท้าจะอับหรือจะมีกลิ่นอีกแล้ว แม้จะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องแต่ Crocs ก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ล่าสุดได้พัฒนารองเท้าแต่รุ่นดังกล่าวขึ้นมาอีก โดยให้ชื่อว่า Crocs Furry หรือรองเท้ารุ่นขนเฟอร์นั่นเอง     รองเท้า Crocs Furry สร้างสรรค์ขึ้นมาโดย Christopher Kane นักออกแบบชาวสกอต ที่เติมขนฟูๆ เข้าไปก็เพื่อให้เหมาะสมกับฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึงนี้ โดยร้องเท้าฟูฟ่องนี้ได้เปิดตัวแล้วที่งาน London Fashion Week เมื่อไม่นานมานี้เอง     เท้าก็ต้องการความอบอุ่นนะ จัดมาสิ   ใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงนะขอบอก   ส่วนราคานะหรอ เบ๊าาาาเบา อยู่ที่คู่ละประมาณ 12,000 บาท และวางขายหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าหาก เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจอยู่ ก็สามารถเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ christopherkane นะคะ เพราะยังมีลายอื่นๆ ขายอยู่นะ…

เทศกาลหนึ่งของไทยเราที่เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติเป็นอย่างดีก็คือ ประเพณียี่เป็งของภาคเหนือ โดยเฉพาะการปล่อยโคมลอย ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมเป็นจำนวนมากในแต่ละปี แต่จริงๆ แล้วการปล่อยโคมลอยไม่ได้มีแค่ในบ้านเราเท่านั้น ที่จังหวัด Niigata ประเทศญี่ปุ่น ก็มีเทศกาลปล่อยโคมที่คล้ายๆ เหมือนกัน     เทศกาลปล่อยโคมของจังหวัด Niigata นี้ ได้รับแรงบันดาลจากฉากในภาพยนต์ ซึ่งเป็นเทศกาลที่งดงามมากจนหลายเป็นเทศกาลประจำปีของที่นี่ เทศกาลปล่อยโคมในญี่ปุ่นเริ่มจัดครั้งแรกมเมื่อปี 2012 โดยมีชื่อเรียกว่า Tsunan Yuki Matsuri หรือเทศกาลหิมะ Tsunan     บรรยากาศภายในงานก็ไม่ต่างจากยี่เป็งของเราเลย เพียงแต่เปลี่ยนมาเป็นที่ญี่ปุ่นแทน โดยในช่วงเย็นจะมีคนมาขายโคมไฟเต็มไปหมด และจะรอปล่อยพร้อมกันในช่วงกลางคืน เกิดเป็นภาพที่สวยงามจนต้องเก็บภาพเอาไว้หลายๆ ใบ แต่ในญี่ปุ่นมีความต่างเล็กน้อยคือ ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ยังคงมีหิมะตกเล็กน้อย ดังนั้น โคมที่ปล่อยจึงขึ้นสวนทางกับหิมะที่ตกลงมา ทั้งสวยและน่าทึ่งจนบางทีเราเองก็น่าจะลองไปเห็นสักครั้งนะ     สำหรับในปี 2016 ที่ผ่านมาเทศกาล Tsunan Yuki Matsuri ถูกจัดขึ้นตรงกับวันเสาร์ที่ 12 มีนาคม ที่ลานสกี New Greenpia Tsunan Ski Area มีที่จอดรถฟรี เข้างานฟรี…

สำหรับคุณผู้ชายสมัยนี้เวลาจะโกนหนวดทีต้องมีอุปกรณ์เยอะแยะมากมาย เช่น มีดโกนอย่างดี โฟม หรือบางคนเลือกที่ไปเข้าร้านบาร์เบอร์แทน สบายใจกว่า แต่รู้มั้ยสมัยก่อนตอนที่อุปกรณ์พวกนี้ยังไม่มี พวกเขาจะอะไรโกนหนวด หึ จะบอกว่าลำบากกว่าพวกคุณเย๊อะ เพราะพวกเขาใช้ขวานในการโกนหนวดน่ะสิ!!     แล้วก็ไม่ใช่ขวานวิเศษวิโสอะไรหรอก มันก็คือขวานอันเดียวกับที่ใช้ตัดไม้ ตัดฟืนนั่นแหละ ซึ่งตอนนั้นมีช่างโกนหนวดสองคนที่เป็นที่รู้กันดีคือ Paul Criss ผู้เป็นนักขายของชั้นยอดจากบริษัท Kelly Axe และอีกคนคือ Leonard Wallulis ช่างตัดไม้แห่ง Oregon หนึ่งในสินค้าที่มีชื่อเสียงของ Kelly Axe คือ Perfect Axe ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ Criss ใช้โกนหนวดให้ผู้คนในสมัยนั้น     ในขณะที่ Wallulis นั้น ได้เข้าประกวดในงาน Ripley’s Believe It or Not ซึ่งเป็นการแข่งขันโกนหนวดที่จัดขึ้นที่เมือง Portland ใน Oregon ปี 1936 โดยในแข่งขันนี้ Wallulis มีเทคนิคที่แตกต่างไปจากคนอื่นๆ นั่นก็คือการใช้ขวานโกนหนวด จนเข้าตากรรมการและทำให้เขาเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ     จากการประกวดครั้งนี้ได้จุดประกายให้ Criss เสนอให้บริษัทขายขวานรุ่นพิเศษ ซึ่งเป็นขวานที่ถูกออกแบบมาเพื่อการโกนหนวด และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ขวานเป็นที่รู้จักในฐานะอุปกรณ์โกนหนวดผ่านชายทั้งสองคนนี้…

เฮโรอีนจัดเป็นสารเสพติดที่มีฤทธิ์กดประสาท ซึ่งหากเข้าสู่ร่างกายมากๆ จะทำให้ร่างกายจะทรุดโทรม น้ำหนักตัวลด และมีความคิดสับสน และไม่ใช่กับร่ายกายมนุษย์เท่านั้น ถ้าสัตว์ได้รับเฮโรอีนเข้าสู่ร่างกายมันก็จะมีอาการแบบเดียวกัน…     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่รัฐเท็กซัส เมื่อตำรวจได้รับแจ้งว่าพบรถของผู้ต้องสงสัยสองคนจอดอยู่ที่หน้าร้านค้าแห่งหนึ่ง และจากการตรวจสอบพบเฮโรอีนจำนวนพร้อมด้วยสุนัขวัยประมาณ 3 เดือนอยู่ในรถ ต่อมาได้ชื่อว่า Lucky ดูจากสภาพของสุนัขแล้ว เจ้าหน้าที่สงสัยว่ามันคงกินเฮโรอินเข้าไปแน่ๆ เพราะสุนัขมันอาการเฉยๆ และดูจะมีความสับสนแปลกๆ     Jolene DeVito หนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า “สุนัขดูไม่ค่อยมีแรง มันไม่ค่อยตอบสนองเหมือนสุนัขปกติเลยครับ” พวกเขาจึงรีบติดต่อไปยังศูนย์บริการสัตว์ Carrollton Animal Services เพื่อพาไปพบแพทย์ เมื่อแพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายพบว่า Lucky ได้รับเฮโรอีนเข้าสู่ร่างกายจริง และรับเข้าไปในปริมาณที่ค่อนข้างมาก ส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจต่ำ และมีอุณหภูมิของร่างกายต่ำมากจนแทบจะยกหัวเองไม่ได้     ทีมแพทย์จึงรับจัดการเอาสารเหล่านี้ออกจากร่างกาย Lucky ด้วยการให้ยาที่เรียกว่า Narcan ซึ่งเป็นยาที่จะขับสารเกินขนาดออกจากร่างกาย Dr. Stacie Fowler หมอจากคลินิก North Texas Emergency Pet Clinic บอกว่า “หลังจากเราขับสารออกจากร่างกายของมันแล้ว Lucky ก็มีการตอบสนองมากขึ้น อัตราการเต้นของหัวก็ค่อยๆ เข้าสู่ภาวะปกติ…

เดี๋ยวนี้การแต่งหน้าไม่ได้แต่งเพื่อเพิ่มความสวยอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันกลายเป็นงานศิลปะที่สามารถแต่งได้ทั้งตัว และมีความหลากหลายในการเนรมิตเรือนร่างตามต้องการ อย่าง Danny Quirk ศิลปินหนุ่มชาวอเมริกันคนนี้ ที่นำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาผสมกับงานศิลปะได้อย่างกลมกลืนและสมบูรณ์แบบ     Quirk ใช้น้ำยาเคลือบ สีอคริลิก และชาร์ป สร้างภาพเหมือนจริงบนเรือนร่างมนุษย์ เพื่อทำให้งานศิลปะของเขามีความน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น ผลงานของศิลปินคนนี้เผยให้เห็นอวัยวะต่างๆ ที่อยู่ภายใต้ผิวหนัง ทั้งกระดูก กล้ามเนื้อ หรือแม้แต่เส้นเลือด มันถูกวาดออกมาให้ดูสมจริงจนน่าขนลุกเลยหล่ะ     แน่นอนว่าการวาดภาพอวัยวะภายในได้ขนาดนี้ จินตนาการอย่างเดียวคงไม่พอ แต่ศิลปินต้องมีความรู้ทางกายวิภาคพอสมควรด้วยเช่นกัน จริงๆ แล้ว Quirk มีความสนใจในด้านกายวิภาคอยู่แล้ว มันจึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสร้างสรรค์การแต่งเอฟเฟกต์นี้ขึ้นมา     และได้พูดถึงผลงานตัวเองว่า “ผลงานของผมเป็นการนำเอาความสนใจทางกายวิภาคมาผสมผสานกับการวาดรูป ที่แสดงให้เห็นโครงสร้างต่างๆ ที่อยู่ใต้ผิวหนัง เมื่อนำมาจัดให้อยู่ในแสงที่เหมาะสม บางทีมันก็ดูสยดสยองนะ” ที่สำคัญ Quirk ไม่ได้สร้างสรรค์ผลงานนี้ขึ้นมาเพื่อการชมงานศิลปะเท่านั้น แต่เขาต้องการสร้างตำราทางการแพทย์ที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ และคิดว่าน่าจะประสบความสำเร็จแน่นอนเพราะมันทำให้คนเรารู้จักส่วนต่างๆ ของร่างมากขึ้นนั่นเอง     ทั้งสวยและสยองในเวลาเดียวกัน              …

การจะทำอาชีพอะไรสักอย่างนั้นนอกจากต้องดูความต้องการของตลาดแล้ว ทรัพยากรในพื้นที่นั้นๆ ก็มีความสำคัญต่อการตัดสินใจเช่นกัน จากการรายงานของ South China Morning Post หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน Donggaozhuang ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจีน เมื่อก่อนชาวบ้านส่วนใหญ่ก็จะปลูกข้าวสาลีและข้าวโพดเหมือนหมู่บ้านอื่นเพื่อหารายได้ แต่ตอนนี้พวกเขาหันมาสร้างรายได้จากการขายเส้นไหมผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ จนทำให้กลายเป็นเศรษฐีไปแล้วหลายสิบคน ในขณะที่ส่วนที่เหลือก็มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า     ความสำเร็จของหมู่บ้าน Donggaozhuang เริ่มต้นจากชาวบ้านคนหนึ่งได้สร้างร้านค้าบนเว็บไซต์ Taobao ซึ่งเป็นเว็บไซต์ขายไหมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน หลังจากที่ลองขายไปเพียงแค่ 3 เดือน เขาก็สามารถได้กำไรคืนมากว่า 100,000 บาท ซึ่งมันมากกว่าที่เขาคาดหวังไว้หลายเท่า หลังจากนั้นธุรกิจของชาวบ้านคนดังกล่าวนี้ก็เฟื่องฟูขึ้นเรื่อยๆ จนได้รับความสนใจจากชาวบ้านคนอื่นๆ ก่อนจะมาขอให้ชายคนนี้สอนวิธีการขายออนไลน์ให้ เมื่อรู้วิธีการขายออนไลน์แล้ว ทุกคนในหมู่บ้านจึงผลิตไหมและขายตามแบบฉบับที่ชายคนแรกสอนให้ จนธุรกิจของพวกเขาเติบโตไปพร้อมๆ กัน การขายไหมกลายเป็นรายได้หลักของหมู่บ้าน ดังนั้นพวกเขาส่วนใหญ่จึงทิ้งอาชีพเก่าและหันมาให้ความสนใจเฉพาะไหมเท่านั้น เรียกได้ว่าทำกันแบบจริงจังมาก นอกจากนี้ยังมีการซื้อขนสัตว์มาเพื่อแปรสภาพให้เป็นไหม ก่อนจะนำไปโพสต์ขายผ่านเว็บไซต์ ทำให้ตอนนี้คนในหมู่บ้าน Donggaozhuang กลายเป็นเจ้าของร้านค้าขายไหมออนไลน์ใน Taobao กว่า 400 รายแล้ว     การขายไหมสร้างรายได้ดีมากๆ จนเด็กๆ ในหมู่บ้านถึงกับลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาช่วยครอบครัวทำธุรกิจ ดังนั้นหากใครกำลังมองหาธุรกิจดีๆ สักอย่าง ก็ควรที่จะศึกษาข้อมูลความต้องการของลูกค้ากับวัตถุดิบที่เรามี ปรับเปลี่ยนวิธีการไปตามเทคโนโลยีด้วย  …

หากคุณเป็นคนที่มีความฝัน อย่าหยุดที่จะทำตามฝันแม้ต้องเจออุปสรรคมากมายแค่ไหนก็ตาม เพราะเมื่อถึงวันที่คุณได้ทำความฝันจนสำเร็จ มันจะกลายเป็นความสุขที่คุณไม่อาจลืม เช่นเดียวกับ Owen Mann ศิลปินที่คนนี้ที่หลงไหลในงานปั้นมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ดังนั้นของเล่นส่วนใหญ่ของเขาไม่ว่าจะเป็น เครื่องบิน สัตว์ ทหาร และเครื่องเล่นอื่นๆ เขาก็จะปั้นเองกับมือทั้งนั้น     แน่นอนว่าของเล่นพวกนี้มันอาจจะไม่สวยเหมือนที่ขายในร้าน แต่ Owen ก็เต็มใจที่จะเล่น เพราะเป็นฝีมือของเขาเองและเขาก็ภูมิใจเสมอที่ได้ทำมัน ตั้งแต่นั้นมา Owen ก็จะปั้นทุกอย่างที่สามารถทำได้ และหัดปั้นดอกไม้ครั้งแรกตอนอายุ 10 ขวบ ดอกแรกที่ทำคือ ดอกกุหลาบสีแดงและสีขาวเพื่อมอบให้แม่     เมื่อโตขึ้น เขาก็คิดจะหันมาปั้นเซรามิกเพื่อหารายได้ และมันคงจะไปได้สวยแน่นอน แต่แล้วเขาก็ล้มเลิกไปซะก่อน และหันหลังให้กับการปั้นจนกระทั่งอายุ 26 ปี ตลอดเวลาที่ทิ้งงานปั้นไปทำงานอย่างอื่น เขากลับรู้สึกว่า การปั้นกำลังเรียกหาเขาตลอดเวลา ในที่สุดเมื่อทนไม่ไหว Owen ก็ตัดสินใจกลับไปหางานปั้นอีกครั้ง Owen เริ่มต้นปั้นสิ่งที่ตัวเองถนัด นั่นก็คือ ดอกไม้ โดยเน้นที่การทำกลีบดอกไม้ ซึ่งเขาสามารถนำเซรามิกมาปั้นเป็นดอกไม้ต่างๆ ได้อย่างสวยงามและเหมือนจริงมากๆ     ปัจจุบันหลังจากที่ทำงานปั้นมา 4 ปี…

ปกติแล้วถ้าชาวนาต้องการที่จะเลี้ยงแกะสักฝูง พวกเขาก็มักที่จะเลี้ยงมันในฟาร์มแบบเปิดหรือโรงนาแบบปกติทั่วๆ ไป แต่ทว่ามีชาวนาคนหนึ่งที่เขากลับไม่คิดแบบนั้น แถมเขายังเกิดไอเดียสุดบรรเจิดสร้างแมนชั่นสุดหรูให้เพื่อนขนฟูของเขาแทน ปราสาทแกะสุดหรูที่เรากำลังจะได้เห็นต่อไปนี้ถูกสร้างโดยชาวนาที่ชื่อว่า Colin Stokes เขาสร้างมันขึ้นในราวๆ ปี 1980 ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ แต่ทว่าเกิดเรื่องไม่คาดฝันที่เขาไม่ได้เตรียมใจไว้ นั่นก็คือพอมีเหมืองมาเปิดใกล้ๆ ซึ่งรบกวนความสงบสุขของเขา จึงเป็นเหตุผลที่ต้องทิ้งบ้านแกะนี้ไป   ตอนแรกเขาก็สร้างไว้อยู่กับแกะของเขา แต่สุดท้ายเขาก็ต้องทิ้งมันไปซะงั้น!?   ในปี ค.ศ 2000 มีเหมืองหินมาเปิดใกล้ๆ และรบกวนการใช้ชีวิตอันสงบสุขของเขา ด้วยเหตุนั้นเขาก็เลยเก็บเสื้อผ้ารวมถึงฝูงกะของเขาย้ายไปที่ประเทศสกอตแลนด์ เหลือทิ้งไว้แต่เพียงสิ่งก่อสร้างที่สุดยอดที่สุดตั้งแต่มีมา . .   เขาใช้เวลาถึง 11 ปีในการสร้างบ้านหลังนี้ เขาใช้ก้อนหินเป็นวัสดุหลักซึ่งเป็นก้อนหินที่เขาพบรอบๆ บริเวณบ้านของเขานั่นและ   ในช่วงที่แกะของเขาต้องออกลูก เขาจะย้ายไปนอนที่ชั้นสองและปล่อยให้แกะของเขามีความสุขกับชั้นล่าง   ในตอนแรกเขาก็ไม่ได้กะจะสร้างมันให้หรูหราอะไรหรอก   แต่เอาเข้าจริงๆ มันกลับหรูหราสุดๆ จะเรียกว่าปราสาทก็ได้ แต่มันคงมากไปสำหรับคนหนึ่งคน   แถมกระจกยังเป็นกระจกสี ที่ทำออกมาสวยงามและตั้งใจสุดๆ . . . .   ดูๆ แล้วดีไซน์บ้านนี่หยั่งกับหลุดมาจากโลกแฟนตาซีเลยนะเนี่ย สุดท้ายแล้วถึงแม้เขาจะย้ายออกไป แต่เขาก็ได้แวะเวียนกลับมาเยี่ยมที่นี้ครั้งหนึ่งเพื่อลำลึกถึงความทรงจำที่เคยมีกับบ้านหลังนี้ นอกจากนี้…

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!!ว่าเพียงแค่กล้วยลูกเดียวก็สามารถใช้ปล้นได้ ชายสวมหน้ากากคนหนึ่งได้ก่อคดีบุกปล้นร้านอาหารฟิชแอนด์ชิพในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งเขาได้บุกเข้าไปในร้านพร้อมตะโกนลั่นว่า “เปิดลิ้นชัก แล้วส่งเงินมาสิโว้ย!”     ชายคนนี้พยามใช้เทคนิคในการหลอกให้พนักงานตกใจและคิดว่าเขามีปืนจริงๆ แต่แล้วพนักงานคนหนึ่งก็เหมือนจะสังเกตุเห็นได้ว่า ถุงที่เขาใช้ครอบปืนในมือมันดูจะงอๆ ไปสักหน่อยเกินกว่าที่จะเป็นปืน ซึ่งคาดเดาว่ามันน่าจะเป็นกล้วยมากกว่า   ลักษณะปืนของเขา ก็ตามภาพนั่นแหละครับ!!   สุดท้ายโจรคนนี้เหมือนจะรู้ตัวว่าของที่อยู่ในมือถูกจับได้แล้วว่ามันไม่ใช่ปืน เขาก็เลยรีบหนีออกจากร้านไปทันที โดยที่เขาไม่ได้เงินกลับไปเลย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกตามหาคนร้ายคนนี้แล้ว จากภาพบันทักตำรวจคาดว่าคนร้ายคนนี้น่าจะสูงราวๆ 180 เซนติเมตร แต่ด้วยความที่เขาปิดทั้งหน้าเลยทำให้ยากที่จะตามตัว     คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของทางร้าน   เจ้าหน้าที่ตำรวจ David Johnston ได้บอกว่า “ผมยินดีที่จะรับทุกเบาะแสที่จะช่วยให้หาคนร้ายคนนี้ได้ เขาได้สร้างความหวาดกลัวและทำให้พนักงานในร้านเสียขวัญ แถมยังทำให้ผู้คนต้องตกอยู่ในอัตราย ซึ่งถ้าใครมีเบาะแสอะไรก็สามารถแจ้งเข้ามาที่กรมตำรวจได้เลย”   แหม่ เกือบไปแล้วไหมล่ะ!! ที่ metro

องค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งในการสร้างบ้านคือ ห้องครัว ซึ่งถ้าจะออกแบบมั่วๆ ก็คงไม่ได้ เดี๋ยวแม่ครัวเค้าจะเบื่อเอา ดังนั้นคนทำกับข้าวของบ้านว่าไงก็ต้องจัดให้แบบนี้ แต่ต่อให้สร้างตามต้องการ สักวันก็คงต้องเบื่ออยู่ดี จะดีกว่ามั้ยถ้าองค์ประกอบต่างๆ ในห้องครัวสามารถเคลื่อนย้ายได้ โดยไม่ต้องออกแรงมาก แถมสะดวกสบายยิ่งกว่า และนี่คือแบบห้องครัวเคลื่อนได้ ที่บอกได้เลยว่ามันดีมาก!!   1. โต๊ะเคลื่อนที่สองส่วน จะเห็นว่าโต๊ะนี้มีอยู่สองส่วนคือส่วนที่กว้างและส่วนที่แคบ ซึ่งถ้าสองส่วนสามารถแยกกันได้ด้วยวิธีง่ายๆ เพราะมีการติดล้อไว้แล้ว ทีนี้ก็อยู่ที่คนจะใช้แล้วล่ะว่าต้องการโต๊ะแบบกว้างหรือโต๊ะเล็กๆ ดีน้าาา   2. โต๊ะทำกับข้าวเคลื่อนได้ แม้จะเป็นโต๊ะใหญ่ มีน้ำหนักมากแต่การติดล้อจะช่วยให้คุณสามารถเคลื่อนย้ายโต๊ะตัวนี้ได้ง่ายขึ้น   3. โต๊ะที่สร้างจากวัสดุที่ต่างกัน โต๊ะตัวนี้ทำจากคอนกรีต ไม้ และมีการติดลิ้นชักไว้ด้วย คุณสามารถเลือกเก็บสิ่งของให้เหมาะสมกับส่วนต่างๆ ของโต๊ะได้เลย และยังสามมารถเลือกวางโต๊ะส่วนไหนก็ห้องครัวก็ได้   4. ห้องครัวที่เรียบง่าย สำหรับคนชอบความเรียบง่าย ความสะอาด ห้องครัวสีขาวแบบนี้ดูจะเหมาะกับคุณมาก และยังมีเคาร์เตอร์ไม้ให้คุณสะดวกในการทำอาหาร ทั้งยังเคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องกลัวมีรอยขีดข่วนด้วย   5. ห้องครัวขนาดใหญ่ บางทีหากคุณมีห้องครัวที่มีขนาดใหญ่ นอกจากทำกับข้าวแล้ว มันอาจจะประยุกต์เป็นห้องอย่างอื่นได้ด้วย ดังนั้นการมีโต๊ะเคลื่อนที่ได้จะช่วยให้คุณจัดการทุกอย่างได้ง่ายขึ้น   6. ห้องครัวที่มีทั้งโต๊ะทำอาหารและโต๊ะกินข้าว ในห้องครัวของคุณอาจจะมีทั้งโต๊ะกินข้าวและโต๊ทำกับข้าว…

ชายหนุ่มชาวสหรัฐอเมริกาถูกจับกุมข้อหาพกโคเคนมากกว่า 5 กิโลกรัม มูลค่า 6 ล้านบาทซ่อนไว้ในกางเกงหลังพยายามเข้าเมืองนิวยอร์คไปแบบเนียนๆ แต่ก็ไม่รอด Juan Carlos Galan Luperon ได้เดินทางกลับมาจากการไปเที่ยวที่ประเทศสาธารณรัฐโดมินิกัน และเดินทางกลับมาโดยเครื่องบินมาลงที่สนามบิน John F. Kennedy International Airport ที่อยู่ในนิวยอร์ค     หน่วยป้องกันชายแดนของสหรัฐอเมริกาได้เล่าว่า ขณะที่นาย Luperon กำลังเดินผ่านด่านตรวจก็พบว่าเขามีอาการกังวล และพบว่าที่ขาของเขาทั้งสองข้างนั้นดูบวมใหญ่มากกว่าปกติ ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจที่จะพาเขาเข้าไปในห้องตรวจลับ และก็พบว่ามีห่อที่บรรจุผงสีขาวถูกพันด้วยเทปติดแนบไปกับขาของเขาอยู่     หลังจากที่นำไปตรวจสอบแล้วก็พบว่ามันคือ โคเคนเป็นปริมาณทั้งหมด 5 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 6 ไม่ต่ำกว่าล้านบาท หนุ่ม Luperon ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในทันที และเขาจะถูกส่งไปดำเนินคดีต่อโดยชั้นอัยการที่นิวยอร์คต่อไป…   แหม่ เกือบเนียนแล้วเชียว ไว้คราวหน้ามาลองใหม่นะไอ้หนุ่ม 555+ ที่มา : dailymail

เวลาที่เราดูการแสดงกายกรรม แน่นอนว่าหนึ่งในประเทศที่จะต้องนึกถึงเลยก็คือ ประเทศจีน ซึ่งถ้าหากใครที่มีความใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นนักกายกรรมที่เก่งระดับมืออาชีพละก็… ง่ายนิดเดียว!! เพียงแค่คุณเดินทางไปเยือนที่หมู่บ้าน Konglou ในฤดูร้อนนี้ ความฝันในการเป็นนักกายกรรมมืออาชีพของคุณก็จะกลายเป็นความจริงขึ้นมาแล้ววววว   และนี่คือภาพของผู้คนใน Konglou หมู่บ้านเล็กๆ ในมณฑลซานตง ประเทศจีน ที่ขึ้นชื่อ และรู้จักกันดีในเรื่องของการเรียนการแสดงกายกรรม   จากการรายงานของทางเว็บไซต์ Shanghaiist ระบุว่า ในแต่ละปี มีผู้คนจากหลายๆ ประเทศทั่วโลก ได้เดินทางมายังหมู่บ้านแห่งนี้ เพื่อฝึกฝนทักษะความแข็งแรง และความคล่องแคล่ว ในขณะที่ผู้คนบางส่วนที่ได้เข้ามาฝึกฝนการเรียนกายกรรม มักจะมีอุดมคติว่ามันจะสามารถทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นได้   .   สำหรับหมู่บ้านกายกรรมแห่งนี้ จะมีการฝึกสอนตั้งแต่เด็กอายุ 6 ขวบ โดยจะฝึกฝนในช่วงระยะเวลาสอง หรือสามเดือน ก่อนที่จะให้เด็กๆ กลับไปยังบ้านเกิดของตน จากนั่นก็ให้เข้าร่วมคณะแสดงกายกรรมท้องถิ่น ซึ่งในการแสดงแต่ละครั้งพวกเขาจะสามารถทำเงินได้ 100 หยวน (500 บาท) ถึง 300 หยวน (1,500 บาท) เลยทีเดียว     และนี่คือภาพส่วนหนึ่งจากหมู่บ้าน…

ความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คนก็คงจะเป็นการได้ท่องเที่ยวทั่วโลกไปพร้อมๆ กับคนรัก แต่ในความเป็นจริงแล้วคงทำได้ยากเพราะมีปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน เวลา และอื่นๆ อีกมากมาย แต่สำหรับ Eser Aksan Erdogan นักบินจาก Pegasus Airlines และสามี Volkan ซึ่งเป็นนักบินเหมือนกัน กลายเป็นคู่รักที่ใครก็ต่างพากันอิจฉา เพราะพวกเขาได้เดินทางไปสวีทด้วยกันทั่วโลก!!     โดยปกติแล้วอาชีพนักบินค่อนข้างจะยุ่งจนไม่มีเวลาให้กับคนอื่นมากนัก โดยเฉพาะคนรักของตัวเอง แต่สำหรับ Eser และ Volkan แล้ว พวกเขาโชคดีที่เป็นนักบินด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้นในช่วงพักจากการบิน พวกเขาก็จะไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ พร้อมถ่ายภาพมาอวดในอินสตาแกรม ที่มีคนติดตามถึง 59,000 คนแล้ว น่าอิจฉาขนาดนี้ เรามาทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นซะหน่อยดีกว่าเนาะ Eser วัย 31 ปี เป็นนักบินของสายการบินตุรกี Pegasus Airlines เติบโตมาจากฮอลแลนด์ ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่เมืองอิสตันบูลประเทศตุรกี     ส่วน Volkan อายุ 33 ปี เป็นนักบินเช่นกัน ทั้งคู่คบกันมา 5…

มนุษย์ไม่รู้จักความสิ้นสุดและชอบความท้าทายใหม่ๆ อยู่เสมอ จนทุกวันนี้ได้มีกิจกรรม การแข่งขัน หรือกีฬาที่แปลกพิสดารเกิดขึ้นเพื่อความท้าทายความสามารถของมนุษย์นั่นเอง เช่นเดียวกับ Tough Guy Challenge หรือการแข่งขัดความอึด ที่เปิดโอกาสให้คนทุกเพศ ทุกวัย ได้เข้ามาประชันความสามารถภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน Tough Guy Challenge เป็นจัดขึ้นในหมู่บ้าน Perton ใกล้กับเมือง Wolverhampton ของประเทศอังกฤษ เป็นการแข่งขันที่ให้ผู้เข้าร่วมมาพิสูจน์พลังกายและพลังใจของตัวเอง ว่าจะสามารถผ่านพ้นอุปสรรคสุดหินได้มากขนาดไหน     และในระหว่างที่เอาตัวรอดนั้นผู้เข้าแข่งขันจะได้เจออุปสรรคหลากหลายชนิด ที่มีทั้งโคลน, ไฟ, การช็อตไฟฟ้า, ลวดหนาม, ความสูง และอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับการแข่งในปี 2016 ได้ผู้ชนะคือ Connor Hancock วัย 22 ปี จากเมือง Sheffield โดยสามารถผ่านด้านอปุสรรคทุกด่านด้วยสถิติ 1 ชั่วโมง 31 นาที การแข่งขันจะเริ่มด้วยการวิ่งข้ามประเทศ ตามด้วยการฝ่าด้านอุปสรรคที่คิดชื่อขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น Dead Leg Brook, Vietcong Torture Tunnel, Battle…

Julie หญิงสาวผู้หลงใหลในธรรมชาติชาวยุโรปที่ไปอาศัยอยู่ในประเทศแอฟริกาใต้ พร้อมกับเปิดฟาร์มเพื่อดูแลเหล่าสัตว์ทั้งหลาย โดยเฉพาะไก่!? และตอนนี้ก็มีไก่อยู่เต็มฟาร์มของเธอไปหมด เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ที่ Julie ย้ายเข้ามาเปิดฟาร์มอยู่ที่นี่ เธอยังคงมีไก่อยู่ฟาร์มเพียงแค่ 30 ตัวเท่านั้น ซึ่งเธอเป็นเจ้าของจริงๆ อยู่แค่ไม่กี่ตัวเท่านั้น แต่บางตัวก็เป็นไก่ป่าหลงมา บ้างก็เป็นไก่พิการที่เธอทาง Julie ให้การช่วยเหลือมาไว้ที่ฟาร์ม บ้างก็เป็นไข่ที่ถูกทิ้งเอาไว้ จนตอนนี้มีไก่อยู่มากมายนับร้อยตัวอยู่ในฟาร์มของเธอแล้ว Julie ตั้งใจจะดูแลมันให้ดีที่สุด เพราะเธอรักธรรมชาติ และรักสัตว์ เธอคิดว่าตัวเองเกิดมาบนโลกนี้เพื่อดูแลพวกมัน…   ในทุกๆ วัน Julie จะต้องตื่นมาพบกับเหล่าไก่มากมาย ซึ่งมันเป็นเหมือนสวรรค์ของเธอ   เจ้าตัวนี้มีชื่อว่า Pinky มันสวยมากๆ และมันก็เป็นไก่ที่น่ารักมากๆ ด้วยเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่มันไม่อยู่ซะแล้ว T T   เจ้า Pinky   เจ้า Molo เป็นไก่ตัวแรกของฉัน และเป็นบรรพบุรุษของไก่ทุกตัวที่อยู่ที่นี่ พร้อมกับลูกๆ คนโตของมันเจ้า Twisty และเจ้า Peach   เจ้า Molo   และนี่คือเจ้า…

เพื่อนๆ คนไหนเคยลอกสิวเสี้ยนบ้าง? โดยเฉพาะการใช้แผ่นลอกสิว เมื่อดึงออกมาแล้วจะเห็นสิวเสิ้ยนหลุดออกมาเต็มเลย จนอาจทำให้หลายคนฟินกับแบบนั้นก็ได้ อ้าาา แล้วถ้าใครฟินกับการได้เห็นสิวเสี้ยนนะ วันนี้เราจะทำให้คุณได้ฟินแบบจัดเต็มกับภาพการลอกสิวเสี้ยนเต็มแผ่น จนคุณต้องรีบขอตัวไปลอกสิวบ้าง มันอาจจะดูแล้วฟินก็จริงนะ แต่การลอกสิวเสี้ยนบ่อยๆ จะทำให้คุณมีรูขุมขนกว้างขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วลอกได้แต่ให้อยู่ในความพอดีนะคะ   หื้มมมม นี่มันสิวเสี้ยนหรือเนี่ย นึกว่าใครมาปลูกอะไรไว้   แผ่นลอกมันน้อยไปใช่มั้ย . . .   ซูมกันให้เห็นแบบใกล้ๆ ชัดๆ กันไปเลย . .   ลอกครั้งเดียวคงไม่พอ ต้องซ้ำ แบบนี้มันต้องซ้ำ .   มองผ่านๆ นึกว่าดอกเห็ด . .   ลอกสิวเสี้ยนมันต้องแบบนี้ ออกมา ออกมาให้หมด . .   นี่คงจะฟินซะจนหยุดไม่ได้   อะ ชัดพอมั้ย . .   เห็นแล้วก็คันมือยิกๆ . .…

กลายเป็นคดีปริศนาที่หลายๆ คนตั้งข้อสังเกตกันเลยทีเดียว สำหรับการเสียชีวิตของอาสาสมัครสาว หลังพยายามช่วยเหลือสุนัขตัวหนึ่งที่กำลังหลงทาง โดยทางตำรวจตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นการฆาตกรรม แต่ใครกันต้องการฆ่าหญิงสาวที่แสนใจบุญคนนี้? เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อทางญาติได้แจ้งความกับตำรวจว่า Jacqueline Watts อาสาสมัครจากมูลนิธิ Indyclaw Rescue วัย 33 ปี ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยกว่าหนึ่งสัปดาห์ โดยทางญาติได้เล่าว่า เธอกำลังขับรถไปเจอกับสามีที่บ้านก่อนจะมีทริปไปกรุงวอชิงตันดีซีด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้านั้นเธอได้แวะบ้านพ่อแม่เพื่อนำกระต่ายและสุนัขของเธอไปฝากไว้ในช่วงที่ไม่อยู่บ้าน จากนั้นเธอก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย     เมื่อทางตำรวจทำการสืบสวน มีพยานเล่าว่าเห็น Watts กำลังไล่ตามช่วยสุนัขหลงทางตัวหนึ่งชื่อว่า Ringo ซึ่งมีอาการหูหนวกและมีต้อกระจกที่ดวงตา     ต่อมาตำรวจได้พบรถของเธอจอดติดเครื่องและมีสัญญาณไฟกระพริบอยู่ที่เขตริเวอร์ไซด์ไดรฟ์ ในเมืองโคลัมบัส รัฐอินเดียน่า ซึ่งประตูด้านคนขับของรถเปิดอยู่ ภายในมีโทรศัพท์และกระเป๋าเงินของเธอวางไว้ รอบๆ รถไม่มีร่องรอยของการต่อสู้ต่ออย่างใด     จนสุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ได้พบศพของ Watts และสุนัข Ringo อยู่บริเวณริมแม่น้ำแฟลตร็อค ใกล้กับสวนสาธารณะนอร์บลิตต์ ตอนนี้ทางตำรวจยังไม่ได้เปิดเผยว่าสาเหตุการเสียชีวิตของเธอคืออะไร เพราะต้องรอการชันสูตร แต่พวกเขาว่าอาจเกิดจากการฆาตกรรมก็เป็นได้     เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกตะลึงให้กับมูลนิธิต่างๆ เป็นอย่างมาก เพราะเธอเป็นคนที่คอยช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ มาโดยตลอด “เธอเป็นคนที่พร้อมจะช่วยเหลือสัตว์อื่นเสมอโดยไม่ลังเล เธอทุ่มเททั้งชีวิตให้กับความเชื่อของเธอ…

เจ้าช้างเอเชียวัย 43 ปี ชื่อว่า Mali ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวมานานกว่า 40 ปี ท่ามกลางกำแพงคอนกรีตแคบๆ ไม่เคยได้สัมผัสกับต้นไม้ใบหญ้าเลยแม้แต่น้อย เจ้า Mali เกิดในป่าที่ประเทศศรีลังกา แต่ในขณะที่มันยังเด็กๆ อยู่ คนใจร้ายก็จับมันแยกออกมาจากครอบครัวแล้วย้ายมาไว้ที่สวนสัตว์ ภายหลังมันถูกย้ายไปอยู่ที่สวนสัตว์ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์เมื่อปี 1997 ในตอนแรกยังมีช้างอีกสองตัวอยู่เป็นเพื่อนกับมัน แต่ไม่นานทั้งาองตัวก็ตายลงไปโดยไม่ทราบสาเหตุ     ทำให้เจ้า Mali ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวในสวนสัตว์แห่งนี้มานานกว่า 20 ปี แล้ว   ภายในสวนสัตว์แห่งนั้นมีเพียงลูกบอล ยาง รางน้ำที่คอยกั้นเอาไว้ให้ห่างจากคน ภาพวาดต้นไม้ฝีมือห่วยๆ ที่กำแพง เท่านั้น “เจ้า Mali มาอยู่ที่นี่ก่อนผมเกิดซะอีก ผมได้ทำสิ่งต่างๆ มากมายในชีวิต แต่กลับกันเจ้า Mali ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวในกรงซีเมนต์ที่เดิม กับของเล่นเดิมๆ มานานกว่า 20 ปี” Ashley Fruno เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์ PETA Asia กล่าว     ในปี 2009…

ปัจจุบันนี้แม้จะว่าหลายๆ ประเทศจะบอกว่าผู้ชายกับผู้หญิงควรมีความเท่าเทียมกัน แต่ก็ยังไม่มีกฎหมายออกมาอย่างเช่นเจน นั่นเท่ากับว่าผู้หญิงยังคงอยู่ในสถานะที่ด้อยกว่าผู้ชายอยู่ ทุกวันนี้ผู้หญิงมีบทบาททางสังคมมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงก็ไม่ได้มีอะไรด้อยไปกว่าผู้ชายเลย ด้วยเหตุนี้ไอซ์แลนด์จึงต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมด้วยการออกกฎหมายสนับสนุนฐานรายได้ผู้หญิงให้เ่ท่าเทียมกับผู้ชาย     ในวันสตรีสากลที่ผ่านมานนายกรัฐมนตรีของประเทศไอซ์แลนด์ Bjarni Benediktsson ได้เข้าร่วมประชุมสุดยอดวันสตรีสากลและได้กล่าวย้ำว่า “การให้ความเท่าเทียมทางเพศนั้นจะส่งผลดีต่อเราทุกคน” ดังนั้นจึงได้มีการนำกฎหมายความเท่าเทียมทางเพศมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะกับทุกบริษัทต่างๆ ซึ่งบริษัทใดก็ตามที่มีพนักงานตั้งแต่ 25 คนขึ้นไป จะต้องมีจำนวนผู้ชายและผู้หญิงเท่าๆ กัน     และจากการนำกฎหมายนี้ไปใช้พบว่า ปัจจุบันไอซ์แลนด์มีช่องว่างทางรายได้ระหว่างเพศชายและเพศหญิงน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในขณะที่ประเทศเสรีอย่างสหรัฐอเมริกากลับพบว่าผู้หญิงมีรายได้น้อยกว่าผู้ชายถึง 83%     ดังนั้นผู้หญิงควรได้รับโอกาสทางสังคมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางธุรกิจหรือการเมือง เพราะสุดท้ายมันไม่ได้ส่งผลต่อแค่กลุ่มผู้หญิงเท่านั้น แต่เป็นการยกระดับสังคมของประเทศด้วย อย่างไรก็ตามกฎหมายดังกล่าวนี้ได้รับความสนใจจากประเทศทั่วโลก แต่จะถูกนำไปใช้เมื่อไร อย่างไรนั้น คงต้องอยู่ที่พื้นฐานและเงื่อนไขของแต่ละประเทศ     กราฟเทียบรายได้ของผู้หญิงของประเทศต่างๆ ซึ่งพบว่าไฮซ์แลนด์เป็นประเทศที่ผู้หญิงมีฐานรายได้ดีที่สุด   แล้วเพื่อนๆ ละคะ มีความคิดเห็นอย่างไรกับกฎหมายนี้บ้าง ที่มา distractify

หลายคนอาจจะชอบการได้ออกไปท่องเที่ยว บ้างก็ปั่นจักรยาน ขับรถ หรือนั่งเครื่องบิน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในพาหนะสุดคลาสสิคของมนุษย์อย่าง “บอลลูน” มันให้ประสบการณ์การเที่ยวที่ไม่เหมือนอย่างอื่นจริงๆ Kristina Makeeva  ช่างภาพสาววัย 29 ปี จากกรุงมอสโก ได้แชร์รูปภาพที่เธอไปถ่ายมาจากแคปพาโดเชีย  ซึ่งเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับการขึ้นบอลลูนชมทัศนียภาพรอบๆ และถ้าถามว่าที่แห่งนี้สวยยังไงทำไมคนถึงชอบไปขึ้นบอลลูนกัน เอาเป็นว่าลองมาดูภาพของเธอกันแล้วจะเราก็จะเข้าใจเองว่าทำไม     Kristina ได้พูดถึงประสบการณ์การมาสถานที่แห่งนี้ว่า “เมื่อตอนที่ฉันและทีมได้มาที่ Cappadocia พวกเรารู้สึกตะลึงกับความสวยงามของสถานที่แห่งนี้สุดๆ ทั้งรูปร่างหน้าตาของก้อนหิน รวมถึงลายของมันที่เฉพาะตัวสุดๆ และไหนจะเมืองที่อยู่ข้างใต้อีก พอเอาทุกอย่างมารวมเข้ากับบอลลูนที่แห่งนี้มันก็กลายเป็นเหมือนสถานที่จากเทพนิยายไปทันที” “การถ่ายภาพที่นี่มันง่ายมากๆ เพียงแค่โฟกัสให้ดีและก็กดชัตเตอร์เท่านั้น เพราะสถานที่นั้นมันสวยซะจนไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรช่วยเลย”     ที่แห่งนี้เป็นที่รู้กันว่าเป็นหนึ่งในสถานที่สวยและเหมาะที่สุดสำหรับคนที่ชื่นชอบการนั่งบอลลูน  ด้วยสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวแถมยังสามารถมาได้สัมพัสประสบการณ์ท่องเที่ยวได้ทั้งปี Cappadocia จึงเป็นเป้าหมายในฝันที่เหล่าช่างภาพควรจะมาเยือนสักครั้งในชีวิต     ในอินสตาแกรมของเธอนั้นมีแฟนคลับติดตามมากกว่า 200,000 คน และถ้าใครถูกใจ ถ้าใครสนใจอยากจะติดตามงานของเธอเพิ่มเติมสามารถเข้าไปได้ที่อินสตาแกรมของเธอที่ลิ้งนี้ได้เลย hobopeeba   . . . . . . . . .…

ปกติแล้วคนเราจะจัดงานแต่งงานกับคนรักคนเดิมเพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น แต่ทว่าใครจะคิดว่าคู่รักสูงวัยคู่นี้จะขอกันแต่งานใหม่อีกครั้งหลังจากที่เคยทำกันไปเมื่อนานมาแล้ว ภาพชุดนี้ถูกโพสต์ผ่านทวิตเตอร์โดย Christin Koch หญิงสาววัย 18 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของคู่รักในรูป ซึ่งเธอเล่าว่า แม่ของเธอป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และได้รับการผ่าตัดพร้อมกลับมาพักฟื้นที่บ้านนับตั้งแต่นั้น     เธอบอกว่าพ่อและแม่ของเธอ Jim และ Laura แต่งงานกันมาแล้วนานถึง 26 ปี แต่ทว่าพ่อของเธออยากจะทำอะไรที่มันพิเศษให้กับภรรยาของเขา เขาขอภรรยาของเขาแต่งงานอีกครั้งในขณะที่เธอกำลังอยู่บนเตียงผู้ป่วย เพื่อย้ำเตือนทั้งคู่ว่าพวกเขาผ่านอะไรด้วยกันมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องดีและไม่ดี ทั้งตอนสุขภาพดีหรือตอนป่วย แม่ของเธอร้องไห้หลังจากที่พ่อของเธอขอแต่งงานอีกครั้งด้วยแหวนวงใหม่ แต่มาในรูปร่างหน้าตาและเพรชแบบเดิม หลังจากพิธีแต่งงานจบลงแม่ของเธอพูดว่า “นี้สินะ คือสิ่งที่เรียกว่ารักแท้ เขายังรักฉันเหมือนเดิมแม้ว่าฉันจะป่วยและมีสภาพที่แย่แบบนี้ ฉันไม่คิดเลยว่าฉันจะได้เจอกับรักแท้แบบนี้ในชีวิต”     หลังจากที่ Christin ได้ทวีตภาพเหตุการณ์ในครั้งนี้ออกไป ก็มีกระแสตอบรับกลับมาที่เดียวเลยล่ะ ลองมาดูตัวอย่างกัน   ดูนี้สิที่รัก มันสุดยอดไปเลย   ฉันถึงกับร้องไห้เลย นี้มันเจ๋งสุดๆ   พวกเขาน่ารักมากเลย ขอให้พระเจ้าอวยพรให้พวกเขาด้วย   ความรักของทั้งสองคนนี้ช่างสวยงามจริงๆ ที่มา thechive

การท้องนั้นแม้จะทำให้ผู้เป็นแม่มีความสุข แต่การต้องแบกท้องหนักถึง 9 เดือนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะในเรื่องของการเดินทาง ในรถโดยสารเรามักจะเห็นป้ายว่าลุกให้คนชรา เด็ก และสตรีมีครรภ์นั่ง แต่เหตุการณ์จริงที่เจอคือ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงมักจะแกล้งทำเป็นไม่เห็นเพราะไม่อยากเสียสละเก้าอี้ตัวเอง ต้องเข้าใจว่าคนท้องไม่ได้การแย่งที่นั่งใครหรอกแต่การต้องแบกท้องหนักแล้วยืนเป็นเวลานานๆ ดูไม่โอเคทั้งต่อคุณแม่และลูกในท้องด้ววย ดังนั้นหากมีใครสักคนลุกให้คนท้องนั่งด้วยความเต็มใจ จะทำให้คนท้องซาบซึ้งมากๆ เลยทีเดียว     เช่นกับเดียวกับ Yvonne Lin ที่ท้อง 8 เดือนแล้ว และเธอได้ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่วันนั้นที่นั่งเต็มพอดีเธอจึงจำเป็นต้องยืนแม้จะท้องแก่แล้วก็ตาม และเมื่อมองไปรอบๆ กลับไม่มีใครสนใจที่จะสละเก้าอี้ให้เธอเลย… นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอแบบนี้ แต่เธอเคยเจอมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง จนเธอหล่อรูปปั้นขนาด 7 นิ้ว เพื่อทำเป็นถ้วยรางวัล รอวันที่จะมอบให้กับผู้ที่พร้อมจะเสียสละเก้าอี้ให้เธอ   ดังนั้นทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก Lin ก็จะพกถ้วยรางวัลนี้ติดตัวไว้ตลอด และครั้งนี้ก็เช่นกัน ซึ่งเธอก็คิดในใจว่า ‘วันนี้ก็คงไม่มีใครได้รางวัลนี้เหมือนเช่นเคยสินะ’ แต่แล้วรางวัลนี้ก็ถูกใช้เมื่อ มีชายคนหนึ่งเงยหน้าขึ้นมอง Lin แล้วทำหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นแล้วพูดกับเธอว่า “เชิญนั่งเลยครับ ขอโทษด้วยผมเพิ่งเห็นจริงๆ” Lin ซาบซึ้งกับการเสียสละนี้มาก หลังจากนั่งแล้วเธอจึงหยิบถ้วยรางวัลออกมาจากกระเป๋าแล้วมอบให้กับชายหนุ่มคนนั้นพร้อมถ่ายรูปเขาไว้ ก่อนจะนำมาโพสต์ลงอินสตาแกรม เพื่อยกย่องในการเสียสละและรางวัลที่เขาสมควรได้รับ     มันอาจจะเป็นการเสียสละเพียงเล็กน้อย แต่มันเป็นการช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนท้องนะ ที่มา distractify

ความอ้วนมันจะมาใครละจะห้ามได้… แต่แม้จะไม่แคร์หุ่นก็ควรจะห่วงสุขภาพด้วยนะ เพราะความอ้วนมันมักจะมาพร้อมโรคนั่นโรคนี่เสมอ จนเรียกกันว่าโรคอ้วน ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้น สัตว์เลี้ยงเองก็เป็นโรคอ้วนได้เช่นกัน Pearl สุนัขที่อ้วนจนไม่สามารถเดินได้หรือแม้แต่หันหัวมันก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน     Pearl มากจาก Augusta รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ 2 ปีที่แล้ว มันมาในสภาพอ้วนฉุ เวลาไปไหนมาไหนต้องนั่งรถเข็นให้คนเข็นให้ ในขณะที่ทางสัตวแพทย์ก็บอกว่ายังไม่เคยเห็นสุนัขที่อ้วนขนาดนี้มากก่อนเหมือนกัน ซึ่งความอ้วนเช่นนี้สามารถทำให้หัวใจของมันหยุดทำงานได้ทุกเมื่อ Pearl จึงจำเป็นต้องลดความอ้วนก่อนจะสายเกินไป     แต่ในที่สุดเมื่อ Dog Networking Agents Inc ได้รู้ข่าวของ Pearl พวกเขาไม่ลังเลที่ยื่นมือเข้ามาช่วยมันทันที  Hayley Zielinski ผู้ช่วยเหลือสัตว์ วัย 48 ปี บอกว่า “ตอนที่ฉันไปรับสุนัขตัวนี้ มันตัวอ้วนหลุ่มเหมือนลูกบอลเลยค่ะ” และจากการตรวจสอบพบว่า การที่มันไม่สามารถเดินหรือหันหัวได้ เป็นเพราะมันมีไขมันในร่างกายมากเกินไป ดังนั้นทุกคนจึงช่วยกันทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้ไขมันน้อยลง     หลังจากการช่วยเหลือผ่านไป 2 ปี พบกว่าน้ำหนัก Pearl ลดไป 16 กิโลกรัม ส่วนวิธีการลดนั้นอยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญ มีการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย…

ปัจจุบันนี้เว็บไซต์ Youtube แทบจะกลายเป็นสื่อหลักที่คนเราใช้ในการรับชมวีดีโอกันไปแล้ว โดยเราสามารถหาชมคลิปวีดีโอหลากหลายประเภทได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นมิวสิกวีดีโอ สอนแต่งหน้า ทำอาหาร หรือเล่นเกม ซึ่งในหมู่ของผู้ทำวีดีโอนั้น ก็มีคนจำนวนหนึ่งสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมจนมีผู้ติดตามเป็นล้านๆ คน และสามารถทำรายได้ปีละไม่ต่ำกว่าล้านบาทเลยทีเดียว และนี่คือ 15 ยอดจอมยุทธยูทูปเบอร์ ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลก จะมีใครบ้าง เราไปดูกันเลย   15. Fine Brother – ผู้ติดตาม 15 ล้านคน ชาแนลที่ทำวีดีโอเกี่ยวกับปฏิกิริยาของคนต่อสิ่งต่างๆ ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ คนแก่ หรือแม้กระทั่งยูทูปเบอร์ด้วยกัน   14. KSI  –  ผู้ติดตาม16 ล้านคน จากอดีตผู้เข้าแข่งขันเกม FIFA กลายเป็นยูทูปเบอร์คนดัง ที่ทำวีดีโอเกี่ยวกับเรื่องทั่วๆ ไป วิพากษ์วิจารณ์นู่นนั่นนี่อย่างสนุกสนาน   13. Dude Perfect – ผู้ติดตาม 16.2 ล้านคน ชาแนลที่ทำเรื่องฮาๆ เกี่ยวกับกีฬา ก่อตั้งโดยแก๊งห้าเพื่อนซี้ที่เคยเป็นนักบาสตัวโรงเรียนมาก่อน   12. Markiplier – ผู้ติดตาม…

ในขณะที่เด็กวัย 5 ขวบคนอื่นๆ ได้ไปโรงเรียนเล่นกับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนาน แต่สำหรับเด็กหญิงวัย 5 ขวบจากจีนคนนี้ กำลังต้องแบกรับภาระอันใหญ่หลวงด้วยการดูแลคุณย่าที่ป่วยหนักไว้บนบ่า จนเธอแทบไม่มีชีวิตวัยเด็กของตนเอง   เด็กหญิงคนนี้คนนี้มีชื่อว่า Anna Wang วัย 5 ขวบจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ทุกวันนี้เธอต้องดูแลคุณย่าที่ป่วยหนักวัย 92 ปี เพียงลำพัง   นับตั้งแต่คุณย่าของเธอป่วยหนักจนแทบไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เธอก็รับหน้าที่ทำอาหารและหาเลี้ยงคุณย่าในทุกๆ วัน ขณะที่เด็กคนอื่นสามารถใช้ชีวิตวัยเด็กอย่างสนุกสนาน   นอกจากนี้เธอยังทำงานบ้านอื่นๆ อย่างเช่น กวาดบ้าน พาคุณย่าอาบน้ำและเข้าห้องน้ำอีกด้วย   ครอบครัวของเธออาศัยอยู่ในบ้านอันแสนเงียบงันในทางตอนตะวันตกเฉียงใต้ของจีน   ทุกๆ เช้าเธอต้องตื่นขึ้นมาทำทุกอย่างในบ้าน โดยไม่มีใครคอยช่วยเหลือ   พ่อของเธอถูกตำรวจจับด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้เขาต้องติดคุกตั้งแต่เธออายุเพียง 3 เดือน   ส่วนแม่ของเธอก็แต่งงานใหม่และทิ้งเธอให้ใช้ชีวิตกับคุณย่าตามลำพัง   เวลาเธอเตรียมอาหาร เธอต้องหาเก้าอี้มาเหยียบเพื่อให้สามารถประกอบอาหารบนโต๊ะได้   โชคดีที่เพื่อนบ้านของเธอเล็งเห็นถึงความยากลำบาก ทำให้พวกเขาอนุญาตให้เธอเข้าไปเก็บผัก ผลไม้ จากสวนของพวกเขาได้แบบฟรีๆ   คุณย่าของเธอป่วยเป็นโรคข้อต่ออักเสบขั้นรุนแรง ทำให้แทบไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้…

ในโลกของแฟชั่นมันไม่เคยหยุดนิ่งเลยนะ แต่มีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนบางทีแฟชั่นมันก็ล้ำซะจนตามไม่ทันซะแล้ว Yuri Yumetsuki เองในฐานะนักออกแบบแฟชั่นก็ไม่ได้หยุดอยู่กับที่เช่นกัน เธอจึงได้ออกแบบถุงน่องรุ่นใหม่ล่าสุด ที่บอกเลยว่าแหวกแนว ชิคๆ แบบว่าสาวๆ พลาดไม่ได้ซะแล้ว     Corset Piercing-Style Stockings เป็นแบนด์การออกแบบของ Yumetsuki โดยเธอได้ทำให้ถุงน่องมีความน่าสนใจมากขึ้นอีกขั้นด้วยการเพิ่มลูกเล่นบนถุงน่อง ลูกเล่นที่ว่านี้คือการเจาะรูถุงน่องแล้วนำเชือกมาร้อยตามรู คล้ายๆ กับการผูกเชือกรองเท้านั่นแหละ เป็นการสร้างความสะดุดตาให้กับเรียวขาสาวๆ     แต่นี่ไม่ใช่แค่เพื่อความสะดุดตาเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มความแน่นหรือความกระชับให้กับขาสาวๆ ด้วย ในกรณีที่เราใส่ถุงน่องแล้วรู้สึกหลวมๆ เราก็สามารถผูกเชือกให้แน่นขึ้นได้เลย สำหรับเชือกผูกถุงน่องนี้มีให้เลือกถึง 5 สี คือ ฟ้า, ขาว, ไวน์, ม่วง และสีดำ เพื่อตอบสนองความชื่นชอบของแต่ละคน โดยจะมีถุงน่องสองแบบให้เลือกคือแบบที่ผูกเชือกที่ต้นขา และแบบที่ผูกเชือกต่ำกว่าหัวเข่า แล้วแต่ใครจะชอบแบบไหนมากกว่า   . .   และไม่ใช่แค่ถุงน่องแบบใสเท่านั้น แต่มีถุงน่องสีดำให้เลือกด้วย ดูเซกซี่ไปอีกแบบ ส่วนราคาถุงน่องแต่ละแบบนั้นอยู่ที่ประมาณ 1900 บาทต่อชิ้น ใครที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ vvstore เลยนะคะ    …

ในเรื่องของการแข่งขันกีฬา เราต่างก็รู้กันดีว่าทุกคนต้องการที่จะเป็นที่หนึ่งด้วยกันทั้งนั้น แต่ทว่าในการแข่งขันทุกครั้งก็ไม่ได้หมายถึงการเอาชนะกันเพียงอย่างเดียว ยังคงมีเรื่องของน้ำใจนักกีฬาที่มอบให้กับคู่แข่งด้วย ดั่งเช่นนักเรียนหนุ่มคนหนึ่งได้ทำการโชว์สปิริตของน้ำใจนักกีฬาให้ชาวโลกได้เห็น ด้วยการอุ้มเพื่อนร่วมชั้นวิ่งเข้าเส้นชัยไปพร้อมๆ กัน     จู่ๆ Riley Watson ก็ล้มลงไปเพราะเป็นตะคริวทั้งๆ ที่อยู่ห่างจากเส้นชัยเพียง 20 เมตรเท่านั้น ในงานแข่งขันวิ่งในงานกีฬาโรงเรียนที่เมือง Lincolnshire ประเทศอังกฤษ แทนที่นักเรียนหนุ่มผู้ใจดี Julian Otu จะวิ่งตรงเข้าเส้นชัยเพื่อทำอันดับ แต่เขากลับไม่ยอมทิ้งเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่แม้ว่า ณ ขณะนั้นจะเป็นคู่แข่งกันอยู่ก็ตาม เอาไว้ตรงนั้น ก็เลยตัดสินใจที่จะอุ้ม Riley ขึ้นมา แล้วก็เดินเข้าเส้นชัยไปพร้อมๆ กัน     เหตุการณ์นี้ทำให้หลายๆ คนนึกถึงภาพของสองพี่น้อง Brownlee ที่ฝ่ายพี่ Alistair เป็นคนอุ้มน้องชายวิ่งเข้าเส้นชัยในการแข่งขันไตรกีฬาชิงแชมป์โลก ที่จัดขึ้นในประเทศเม็กซิโก จู่ๆ Jonathan Brownlee ก็เกิดปัญหาล้มลงก่อนที่จะเข้าเส้นชัยอีกเพียงไม่กี่เมตร พอ Alistair เห็นดังนั้นก็เลยตัดสินใจยอมเสียสละโอกาสในการเข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่งด้วยการพาน้องชายของตัวเองเข้าเส้นชัยไปพร้อมๆ กัน     Amanda Turner คุณครูของเจ้าหนู Julian…