Tag: หนัง

มันจะสุดยอดขนาดไหนกันนะ ถ้าก่อนที่เราจะซื้อตั๋วเข้าไปชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ในโรงหนัง แล้วโปสเตอร์หนังบอกเนื้อเรื่องจริงๆ แบบไม่หมกเม็ด ให้เราได้เข้าใจว่าจริงๆแล้ว มันเป็นเนื้อเรื่องประมาณไหนกันแน่ จะว่าไปถ้าทำแบบนั้น คงไม่มีใครยอมเสียเงินซื้อตั๋วหนังในโรงแน่ๆ ด้วยเหตุนี้เอง #เหมียวบ็อบ ดันไปเจอกับภาพโปสเตอร์หนังดัง ที่โดนชาวเน็ตเอามายำกันมันส์มือ เปลี่ยนชื่อหนังเท่ๆ ให้กลายเป็นเนื้อเรื่องจริง ที่เราจะได้เจอในหนัง มันจะออกมาเป็นยังไงไปดูกันเลย **คำเตือน: อาจมีคำหยาบคายบ้าง เพื่อเพิ่มอรรถรสในการพิมพ์ และการอ่านให้สนุกมากยิ่งขึ้น**   1. รถแข่งมาริโอ้ เวอร์ชั่นวันสิ้นโลก ขับรถไล่กันไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรมาก แต่โคตรมันส์เลยว่ะ!!   2. ได้โปรด จับหมาเธอไปทำหมันบ้างเถอนะ เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมดแล้ว!!   3. ศึกแย่งบัลลังค์เวอร์ชั่นสัตว์โลกนั่นแหละ ‘Hamlet’ คือชื่อของตัวละครตัวหนึ่ง จากวรรณกรรมอันโศกเศร้าของเชคสเปียร์   4. ทุกอย่างมันจบลงแล้ว และในภาคต่อนี้ มันจบลงแล้วจริงๆ โว้ย!!!   5. สาวบริสุทธิ์ ตกหลุมรักกับโจรลักพาตัว นี่มันโรคสต็อกโฮล์ม ซินโดรมชัดๆ   6. ไม่มีอะไรมาก ก็แค่โสเภณีโชคดีคนหนึ่ง   7. หนาวนิด กินเนื้อหน่อย แถมโดนหมีตบด้วย…

สำหรับหนังสยองขวัญทั้งหลายแล้ว สิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นความสำเร็จของผู้กำกับ ก็คือการฝากความหลอน หรือความน่ากลัวเอาไว้ในจิตใจของคนดูอย่างเราๆ โดยเฉพาะหลังจากดูเสร็จ ถ้ารู้สึกว่าอินจัด และกลัวเหลือเกิน นั่นแหละถือว่าภารกิจของผู้กำกับสำเร็จแล้ว แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า 20 หนังสยองขวัญชื่อดัง ที่อาจจะเคยผ่านหูผ่านตามาบ้างแล้วทั้งหลายนี้ มีเค้าโครงมาจากเหตุการณ์จริง ก่อนที่จะนำมาดัดแปลงบทเพื่อให้เหมาะสมกับภาพยนตร์ให้เราได้ดูกัน   1. Hard Candy เรื่องราวของหญิงสาวที่หลอกล่อผู้ชายให้มาติดกับดักของเธอ โดยชายคนนั้นคือคนที่เธอคาดว่าเคยก่อเหตุข่มขืนมาก่อน โดยได้เค้าโครงมาจากเรื่องราวจริงของสาวญี่ปุ่น ที่มักจะหลอกล่อนักธุรกิจตามท้องถนน ให้ไปนอนค้างในโรงแรมกับเธอ ก่อนที่จะทำการปล้นพวกเขาซะ   2. From Hell เรื่องราวของนักสืบที่ต้องการจะสืบสวนคดีของ ‘Jack The Ripper’ ซึ่งชื่อของฆาตกรคนนี้โด่งดังสุดๆในช่วงปี 1888 เพราะเขาทำการฆาตกรรมหญิงสาวมากถึง 5 คน และกลายเป็นปริศนาที่แม้แต่ตำรวจก็ยังไม่สามารถตามจับได้ .   3. Dead Ringers เรื่องราวของฝาแฝดที่ใช้ชีวิตร่วมกันทุกอย่าง แต่สุดท้ายต้องแตกแยกเพราะผู้หญิง หนังเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องของ ฝาแฝด Stewart และ Cyril Marcus ทั้งคู่ทำทุกสิ่งอย่างร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเล่นยาเสพติด ทำอาชีพเดียวกัน…

ช่วงนี้กระแสกราบรถกำลังมาแรง #เหมียวสามสี ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามาจากไหน (ทำตาใสปิ๊งๆ) ก็เลยอยากจะเกาะกระแสนี้สักหน่อยด้วยการรวมรวมเอาหนังเกี่ยวกับรถที่ดีงามทั้งหลาย ซึ่งดูจบแล้วแทบจะอยากกราบรถเลยทีเดียว ความจริงหนังแข่งรถก็มีมากมายหลายอารมณ์ บางเรื่องก็เน้นไปทางด้านแข่งรถเต็มๆ บางเรื่องก็แอ็กชั่น บางเรื่องก็ดราม่า วันนี้ก็เลยจะพาทุกท่านมาดูกันว่าแต่ละเรื่องที่คัดมานั้นน่าดูเพียงใด   1. Cars เริ่มจากแนวแอนนิเมชั่นก่อนเลย ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังจาก Pixar แล้ว ก็ต้องอวยไว้ก่อน เพราะว่าทำมากี่เรื่องต่อกี่เรื่องก็ดีทั้งนั้น แต่ถึงแม้ว่า Cars จะไม่ได้แอนนิเมชั่นอันดับต้นๆ แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีตามสูตร   2. The Fast and the Furious ถือเป็นหนังแข่งรถเรื่องแรกๆ เลยที่ทำให้คนมาสนใจหนังแข่งรถมากขึ้น เพราะเป็นหนังแข็งรถจ๋าที่เข้มข้นเป็นอย่างมาก แล้วก็เพิ่งมาเพิ่มฉากบู้ในภาคหลังๆ เป็นอีกเรื่องที่ดูแล้วอยากกราบรถของพี่ไบรอันเลย   3. Death Race เป็นหนังที่มี 2 เวอร์ชั่น อันแรกเป็นของดั้งเดิมฉบับปี 1975 ที่มีชื่อว่า Death Race 2000 แล้วก็นำกลับมาทำใหม่ในปี 2008 ใช้ชื่อว่า Death Race เฉยๆ ซึ่งเรื่องนี้เน้นไปทางด้านฉากแอคชั่นที่ร้อนระอุ ใครชอบแนวๆ ห้ามพลาด  …

ต้องยอมรับเลยว่านี่คือยุคของหนังซุปเปอร์ฮีโร่ครองโรงภาพยนตร์จริงๆ เพราะไม่ว่าจะเดือนไหนปีอะไร ก็ต้องมีภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ออกมาให้เราชมกันอย่างน้อย 3-5 เรื่อง และในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา สตูดิโอภาพยนตร์หลายๆ ค่ายได้มีการประกาศสร้างหนังซุปเปอร์ฮีโร่ ทั้งภาคต้น ภาคต่อกันออกมามากมาย #เหมียวฟิ้นเลยขอหยิบเอามาสรุปให้เพื่อนๆ ได้รู้กันว่า นับตั้งแต่วันนี้ไปจนสิ้นปี 2018 จะมีหนังเรื่องอะไรออกมาให้เราชมกันบ้าง? (เอาแค่ 2 ปีก็ดูกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว)     1. Logan (3 มีนาคม 2017) เป็นหนังภาคที่ 3 แล้ว สำหรับหนังเดี่ยวของ Wolverine โดยภาคนี้ใช้ชื่อสั้นๆ เพียง “Logan” เนื่องด้วยตัวหนังน่าจะโฟกัสความสำคัญไปที่ตัวละคร Logan โดยเฉพาะ ซึ่งหากใครได้ดูตัวอย่างแล้วก็จะพบว่าในภาคนี้ดูมีความแฟนตาซีน้อยกว่าที่ผ่านๆ มา แต่เพิ่มความเป็นหนังดราม่าเวสเทิร์นเข้ามาอยู่ไม่น้อย โดยในภาคนี้จะเกิดขึ้นในอนาคตอันไกล หลังจากเหตุการณ์ทุกๆ เหตุการ์ณใน X-Men เราจะได้เห็นตัวละครที่น่าสนใจอย่างหนูน้อย Laura Kinney หรือ X-23 (นำแสดงโดย Dafne Keen) ที่มีพลังและความสามารถคล้ายกับ Logan ทั้งกรงเล็บและการฟื้นฟูร่างกายของตัวเอง แม้ว่าทั้ง 2 ภาคก่อนหน้านี้จะไม่ค่อยเป็นที่ถูกใจแฟนๆ หรือนักวิจารณ์เท่าไหร่ แต่เราก็หวังว่าภาคนี้มันจะออกมาดีนะ…

ในภาพยนตร์หลายๆ เรื่องนั้น อาจจะมีนักแสดงนำเป็นดาราชื่อดังมากมายเพื่อเป็นจุดสนใจให้เหล่าผูชมเข้ามาดูกัน แต่ก็มีอยู่หนังประเภทหนึ่งที่ใช้นักแสดงนำเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น แน่นอนว่าเหล่าดาราที่รับงานเรื่องที่แสดงคนเดียวนั้นต้องมีความสามารถสูง ถึงขั้นสูงมาก จึงจะสามารถสะกดคนดูทั้งโรงตลอดทั้งเรื่องด้วยตัวเขาเพียงคนเดียวได้ วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มีลิสต์ของ 17 รายชื่อหนังที่ผ่านการจัดอันดับจาก BrightSide ว่ามีนักแสดงนำ ‘เพียงคนเดียว’ เท่านั้น แต่ก็ยังสามารถสะกดผู้ชมจากทั่วโลกได้…ลองมาดูกันดีกว่าว่าจะมีเรื่องไหนบ้าง   High Strung ดำเนินเรื่องราวโดย Steve Oedekerk ที่รับบทบาทเป็น Thane Furrows ผู้ที่วันๆ ไม่ทำอะไรมาก ก็แค่ไม่ทำอะไรเลย เอาแต่เที่ยวปากพล่อย บ่น และกวนประสาทคนรอบข้างไปเรื่อย แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาทำให้ตัวละครดูมีเสน่ห์อย่างมาก และเป็นหนึ่งในหนังที่ควรดูอย่างน้อยสักครั้งในชีวิตเลยล่ะ!!   The Shallows พึ่งออกมาสดๆ ร้อนๆ เลยกับภาพยนตร์เรื่องนี้ นำแสดงโดยนักแสดงสาวที่ทั้งสวยและมากฝีมืออย่าง Blake Lively ที่ต้องเอาชีวิตรอดจากฉลามตัวร้ายหลังจากเธอต้องไปติดเกาะเพราะออกไปโต้คลื่น นอกจากมีอาการบาดเจ็บแล้ว พื้นที่ปลอดภัยก็ยังลดลงเรื่อยๆ ซะอีกเพราะช่วงน้ำขึ้น ตื่นเต้นและลุ้นเกือบทุกจังหวะจริงๆ   Duel หนึ่งในผลงานชิ้นแรกๆ ของพ่อมดฮอลลีวู้ด Steven Spielberg แถมใช้เวลาถ่ายทำเพียงแค่ 13 วันเท่านั้น!! เรื่องราวของหนุ่มธรรมดาๆ…

มันมีคำพูดหนึ่งของศิลปินชื่อดังปิกัสโซ่ที่ว่า “ศิลปินชั้นดีลอกเลียน ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ขโมย” ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ได้มีความหมายในเชิงลบเท่าไหร่ เพราะการลอกเลียนเหล่านี้เป็นเหมือนการเอามาอ้างอิงและสื่อความหมาย ช่างภาพและนักทำหนังท่านหนึ่งชื่อว่า Vugar Efendi ได้ทำการเปรียบเทียบภาพวาดชื่อดังจากในอดีตมาเทียบกับซีนในหนังดัง ซึ่งบางเรื่องเราอาจจะเคยเห็นมาบ้าง โดยทำออกมาเป็นคลิปชื่อว่า Film Meets Art ซึ่งเราจะได้เห็นกัน “ทุกงานศิลปะนั้นเอื้อต่อกันและกัน และหนังก็ไม่ต่าง ภาพวาดเป็นแรงบันดาลใจให้หนัง หนังก็เป็นแรงบันดาลใจให้ภาพวาด และผมก็ชอบทั้งสองอย่างนี้”     ชมคลิปกันเลย   หนังก็เหมือนเป็นการเอาประวัติศาสตร์มาเล่าซ้ำอีกครั้งผ่านความงามในภาพเคลื่อนไหว การเลือกใช้ภาพวาดมาเป็นแหล่งอ้างอิงก็เพื่อทำให้เกิดความงามภาพและทำให้ผู้ชมเกิดภาพที่คุ้นตา ที่มา sobadsogood

เชื่อว่ามีใครหลายๆคน ที่ชื่นชอบการทำให้หัวใจตัวเองมันเต้นรัว พร้อมด้วยอาการหลอนที่มาจากการดูหนังสยองขวัญทั้งหลายแน่ๆ และสำหรับผู้ชื่นชอบหนังสายโหด ที่เต็มไปด้วยเลือด ความเจ็บปวด และการทรมาณ เราขอแนะนำให้รู้จักกับ 19 หนังสยองขวัญที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า หลายๆเรื่องดูแล้วอาจทำให้เกิดอาการอึนๆ จิตตก ไปหลายวันกันเลยทีเดียว (เป็นลิสต์ที่รวมหนัง 19 เรื่อง โดยไม่ได้จัดเรียงว่าอันไหนดีที่สุด)   1. Dead Alive / Braindead (1992) เมื่อลิงบ้าตัวหนึ่งเผลอไปกัดใส่ผู้หญิงเข้า ทีนี้ละชิบหายวายป่วนกันไปทั้งเมือง เพราะเชื้อในลิงมันเปลี่ยนให้คนกลายเป็นซอมบี้ ออกมาไล่ล่าฆ่าแกงกันเอง แม้แต่ผู้กำกับ Roger Ebert ยังบอกเองเลยว่า นี่คือผลงานที่น่าสยองและสะอิดสะเอียนที่สุด ที่เค้าเคยกำกับมา   2. Cabin Fever (2002) กลุ่มเพื่อนนักศึกษาออกมาเช่าบ้านพักตากอากาศกลางป่าเขา แต่แล้วก็ต้องโดนไวรัสที่มาจากไหนก็ไม่รู้ ค่อยๆกัดกิ้นเนื้อในร่างกาย จนตายไปทีละคนสองคน   3. ABCs of Death เป็นหนังที่กำกับโดยผู้กำกับ 26 คน ประกอบไปด้วยตอนสั้นๆ 26 ตอน…

ช่วงนี้กระแสหนังซอมบี้วิ่งอุตลุตกำลังมาแรงจาก “Train To Busan” ซึ่งก็เป็นหนึ่งเรื่องที่เลือกจะไม่ใช่ซอมบี้แบบเดินช้าๆ ตามที่เราเห็นในภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง แต่มาเป็นซอมบี้เวอร์ชั่นนั่งวิ่งร้อยเมตรแทน แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแรก และไม่ใช่เรื่องเดียวด้วยที่มีซอมบี้วิ่งเร็ว หลายๆ คนถึงกับบอกว่า ชอบเวอร์ชั่นวิ่งเร็วมากกว่า เพราะมันตื่นเต้นเร้าใจมากกว่าแบบวิ่งช้านั่นเอง และวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 9 หนังซอมบี้ที่ซอมบี้วิ่งกันอุตลุต จนแทบนึกว่ายูเซน โบลท์มาเอง มีเรื่องอะไรบ้าง ลองไปชมกันเลย! (บางเรื่องอาจจะได้คะแนนจาก IMDB น้อยบ้าง มากบ้าง แต่การดูหนังก็เป็นรสนิยมของแต่ละคน คุณอาจจะชอบในเรื่องที่คนอื่นๆ ไม่ชอบก็เป็นได้)   9. Dawn of the Dead, 2004 (IMDB Score :7.4) เรื่องราวการระบาดของเชื้อโรคร้ายที่เปลี่ยนคนเป็นให้กลายเป็ซอมบี้ ผู้รอดชีวิตกลุ่มสุดท้ายได้เข้าไปหลบภัยในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง พวกเขาต้องพยายามเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ให้ได้ ใครอยากดูหนังที่ซอมบี้วิ่งเต็มฝีเท้า เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องแรกๆ เลยล่ะ   8. Quarantine, 2008 (IMDB Score : 6.0) เรื่องราวของกลุ่มนักข่าวที่เข้าไปยังอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสเพื่อทำข่าว แต่พวกเขาถูกปิดตายให้อยู่ในนั้นโดยหน่วยงานของรัฐบาล…

ภาพยนตร์ก็ถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาอย่างยาวนาน เป็นหนึ่งในความบันเทิงที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยก็ยังสตรองอยู่ได้ สำหรับวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็อยากจะพาเพื่อนๆ ย้อนรอยไปดูเหล่าบรรดาภาพยนตร์ที่สามารถทำเงินได้เยอะที่สุดในรอบเกือบๆ ศตวรรษที่ผ่านมา ลองมาดูกันเลยว่าจะมีเรื่องที่เพื่อนๆ ชอบกันอยู่รึเปล่า โดยใช้ข้อมูลรายได้สุทธิของหนังและเรทติ้งของแต่ละเรื่องจากทางเว็บไซต์ภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง  IMDb ล่ะ (ในส่วนของค่าเงินได้ทำการปรับตามอัตราเงินเฟ้อ เพื่อให้เห็นภาพที่เท่ากันในแต่ละปี) ว่าแล้วเราก็มาดูตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันกันเลย!!!   “Tom Sawyer” (1930) รายได้สุทธิ 159 ล้านเหรียญ เรทติ้ง 6.5   “Frankenstein” (1931) ทำเงินไปทั้งหมด 190 ล้านเหรียญ เรทติ้ง 8.0   “King Kong” (1933) ทำรายได้รวม 185 ล้านเหรียญ ได้เรทติ้ง 8.0   “It Happened One Night” (1934) ทำรายได้ 45 ล้านเหรียญ เรทติ้ง 8.2   “Top Hat” (1935) ทำรายได้สูงถึง…

ปัจจุบันนี้มีหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ออกมามากมาย ถือเป็นหนังเฟรนไชน์ที่ทำออกมาไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ประสบความสำเร็จแน่ๆ เพราะว่ามีแฟนๆ รอต้อนรับอยู่มากมาย (ถ้าทำออกมาดีนะ) แต่ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ได้ เมื่อก่อนก็เคยมีหนังฮีโร่ออกมาเหมือนกัน แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ยังไม่ก้าวหน้า ทำให้ไม่สามารถสร้างอะไรที่มันอลังการได้ขนาดนี้ แต่มันก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ยกตัวอย่างเช่นหนังของ Superman ในช่วงยุค 70s จนกระทั่ง Marvel ได้ทำการจับจักรวาลหนังมารวมกันได้ ทำให้แฟนๆ เริ่มติดตตามอย่างจริงจังและทางฝั่ง DC ก็ทำตามๆ กันมา และวันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปดูหนังฮีโร่ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เราไปดูกันว่าจะมีเรื่องอะไรกันบ้าง *รายได้ดังกล่าว เปิดเผยจากทาง Box Office Mojo โดยมีการปรับตามอัตราเงินเฟ้อ เพื่อให้เท่าเทืยมกันทั้งเรื่องเก่าและใหม่   10. “Iron Man 3” (2013) — กวาดรายได้ $422,680,300 เหรียญ   9. “Spider-Man 3” (2007) — กวาดรายได้ $423,597,700 เหรียญ   8. “Avengers: Age of Ultron” (2015)…

สำหรับใครที่ตามการ์ตูนอนิเมชั่นของดิสนีย์หรือทางตะวันตกก็คงจะทราบกันดีกว่าการออกแบบตัวละครนั้นต้องทำออกมาให้ดูน่ารักเพื่อดึงดูดคนดู จนบางทีมันก็เหนือจริงเกินไปบ้างในด้านของสรีระ แต่แล้วนักวาดคนหนึ่งชื่อว่า Roosa Karlsson หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ TheNamelessDoll เธอได้ทำการวาดตัวละครเหล่านั้นขึ้นมาให้โดยให้มันมีความ “ธรรมดา” มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่เราเคยเห็นคือมีตาที่โต หัวใหญ่ ตัวเล็ก เธอก็จะทำให้มันหายไป เธอได้ใช้โปรแกรม Photoshop ในการตัดต่อตัวการ์ตูนเหล่านี้ซะใหม่ เราไปดูผลงานของเธอกันเลยว่าตัวละครที่เราเคยเห็นจะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน   King Agnarr และ Queen Iduna จาก “Frozen”   Linda จาก “Rio”   Rapunzel จาก “Tangled”   Anna จาก “Frozen”   Mavis จาก “Hotel Transylvania”   Gothel จาก “Tangled”   Colette จาก “Ratatouille”   Susan จาก “Monsters Vs Aliens”   Roxanne จาก “Megamind”   Merida…

เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมกันมากสำหรับการทำหนังภาคต่อ 2-3 ภาค ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่กำลังดี แต่เราก็เคยเห็นกันมาแล้ว บางเรื่องปาเข้าไป 7-8 ภาคเลยทีเดียวล่ะ แน่นอนว่าการทำหนังภาคต่อก็ต้องถูกเปรียบเทียบกันบ้าง และมักจะถูกกล่าวหาว่าแย่กว่าภาคแรกบ่อยๆ วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็ได้นำเอาลิสต์ของ 20 หนังภาคต่อที่ทำออกมาดีกว่าหนังภาคแรกของทาง Business Insider ว่าแล้วเราลองมาดูกันเลยว่ามีเรื่องไหนบ้าง แล้วจะเป็นไปตามอย่างคุณคิดเอาไว้รึเปล่า?   “Toy Story 2” (1999)   ถึงภาคแรกจะมีทั้งความน่ารักและเป็นเรื่องแอนิเมชั่นสุดน่ารักขนาดไหน แต่ภาคต่อของมันกลับตีแผ่เรื่องราวเกี่ยวกับความดีงามและมิตรภาพมากกว่า   “Harry Potter and the Prisoner of Azkaban” (2004)   เป็นที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนานว่าในเวอร์ชั่นของหนังสือ ภาคนี้เป็นภาคที่ดีที่สุด และเวอร์ชั่นของภาพยนตร์ก็เช่นกัน Alfonso Cuarón คือผู้กำกับที่ร้อยเรียงความเหนือจินตนาการของเรื่องนี้ออกมาได้ดีมากๆ   “Mad Max 2: The Road Warrior ” (1981)   ถึงแม้ภาคแรกจะได้รับคำชมเป็นอย่างมากว่าสะท้อนให้เห็นถึงโลกหลังการล่มสลายได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ภาคต่อ The Road…

วันนี้ #เหมียวสามสี มีหนังสั้นดีๆ แต่เต็มไปด้วยอารมณ์และความสะเทือนใจเป็นอย่างมาก หนังเรื่องนี้มีชื่อว่า ‘Gift’ กำกับโดย Zsófia Zsemberi ที่เล่าเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่รับเลี้ยงลูกบุญธรรมมาเป็นลูกสาว พวกเขามีความสุขมากที่ได้มีลูก และใช้เวลาด้วยกัน ในตอนแรกๆ นั้นเด็กสาวมีความสุขจากการได้รับความสนใจของพ่อและแม่ แต่พอมีเรื่องราวที่ทำให้พวกเขาไม่พอใจ พ่อแม่ก็เริ่มตีตัวออกห่าง เนื่องจากว่าไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เขาหวังไว้   เป็นหนังสั้นที่ตั้งคำถามอะไรให้เราในหลายๆ แง่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือความรัก เริ่มจากการตัดสินใจไปรับเด็กมาเลี้ยง ทำไมพวกเขาดูมีความสุขกับการมีลูก   แต่พอมีเรื่อง พวกเขากลับไม่สนใจลูกแม้แต่น้อย…   จนสุดท้ายเรื่องราวก็ถึงจุดแตกหัก เมื่อเจอเด็ก เล่นของจนรกเต็มไปหมด   ความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นพื้นฐานของครอบครัว นั้นเริ่มหายไป หรือว่าพวกเขาไม่เคยคิดว่าเธอเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวมาก่อน   ส่วนจะลงเอยอย่งไร… ทุกคนควรรับชมเองดีกว่านะ   หนังสั้นนี้ไม่ได้สะท้อนชีวิตครอบครัวเท่านั้น เพราะองค์กรในฮังการีที่ทำหนังสั้นชุดนี้คือองค์กรช่วยเหลือสัตว์ ซึ่งทำมาสะท้อนการรับเลี้ยงสัตว์ที่นั่นว่ามี 1 ใน 10 สุนัขที่ถูกรับเลี้ยงกลับถูกทิ้งเพราะว่ามันไม่เหมือนเดิม ที่มา Zsemberi Film

ดูท่าจะเป็นประเด็นร้อนให้ชาวเน็ตและกลุ่ม LGBT (กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ) ได้ถกเถียงกันอยู่ในเฟซบุ๊กขณะนี้เลย สำหรับกรณีที่มีทีมงานภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง สร้างแคมเปญแจกกางเกงว่ายน้ำของนักแสดงชายให้กับคนทางบ้าน เพื่อโปรโมทหนัง!?   เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทีมงานของภาพยนตร์เรื่อง Sweet Boy ได้โพสต์ภาพโปรโมทหนังเพื่อให้ชาวเน็ตได้มาร่วมสนุกลุ้นรับรางวัลเป็นกางเกงว่ายน้ำทั้ง 7 ตัว ของ 7 นักแสดง ที่ใช้ใส่ถ่ายภาพยนตร์จริงๆ โดยจะมีกติกาอยู่ว่า ต้องโพสต์รูปตั๋วภาพยนตร์ ‘สวีทบอย’ จำนวนที่นั่งติดกันตั้งแต่ 10 ใบขึ้นไปมาที่เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และทวิตเตอร์   แต่หลังจากที่ภาพแคมเปญนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ดูจะได้รับกระแสตอบรับจากชาว LGBT และคำวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบอยู่มากทีเดียว โดยในหลายๆ ความเห็นมองว่ากิจกรรมแบบนี้เป็นกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม ฝ่ายการตลาดของภาพยนตร์เรื่องนี้ควรจะปรับปรุงวิธีการโปรโมทให้ดูดีกว่านี้ เพราะการทำแบบนี้ยิ่งส่งผลเสียและภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของชาว LGBT เข้าไปอีก .   .   หารกันไม่ลงตัว…เดี๋ยวๆ!!   และนี่คือคอมเม้นท์ที่เราคิดว่าน่าสนใจมากที่สุด…   การโปรโมทด้วยการแจกสิ่งของให้กับแฟนๆ ทางบ้านแบบนี้ก็ไม่ถือเป็นเรื่องที่ผิดอะไร แต่อย่างที่ชาวเน็ตออกมาบอกว่ามันทำให้ภาพลักษณ์ของชาว LGBT ดูไม่ดีในสายตาของคนอื่นๆ นะ ใครมีความเห็นว่ายังไงลองแลกเปลี่ยนความเห็นกันดูได้นะ ที่มา Facebook

ใครที่เบื่อหนังไทยแนวตลก ผี รักทั้งหลายแหล่ วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมหนังไทยอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดในปีนี้กับเรื่อง “พริกแกง” “พริกแกง” เป็นเรื่องของสองครอบครัวที่รักและหวงแหนอาหารไทย จนวันหนึ่งสมาชิกรุ่นใหม่ของทั้งสองครอบครัวได้มาเจอกัน จนเกิดเป็นเรื่องราวสุดสนุกขึ้นมา หนังได้ดาราดังๆ มากมายตั้งแต่ นิรุตต์ ศิริจรรยา, พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยาเพ็ญพักตร์ ศิริกุล, พงศ์พิชญ์ ปรีชาบริสุทธิ์กุลอัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ, นลินทิพย์ เพิ่มภัทรสกุล มาร่วมแสดง   . . . .   ไปชมตัวอย่างกันเลย ใครหิว #เหมียวอ๊อดโด้ ไม่รับผิดชอบนะ   หนังจะเข้าฉายช่วงวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ที่จะถึงนี้ ใครสนใจก็ลองไปชมกันในโรงภาพยนตร์ได้นะฮะ ที่มา Wandee media channel

หลังจากที่เพิ่งจะหลอนไปกับ The Conjuring 2 ของผู้กำกับ James Wan ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดเราจะได้หลอนอีกครั้งกับหนังที่เขาเป็นผู้อำนวยการสร้างอย่าง Lights Out โดยมี David F. Sandberg มาเป็นผู้กำกับให้ จะหลอนแค่ไหน หรือควรค่าแก่การพาคนสนิทของคุณไปกรี๊ดหรือไม่? ลองมาฟังความเห็นของ #เหมียวฟิ้น หลังจากที่เพิ่งออกจากโรงกันเลย     Lights Out (มันออกมาขย้ำ) เป็นหนังที่ถูกดัดแปลงมาจากหนังสั้นในชื่อเดียวกัน ว่าด้วยเรื่องราวของโซฟีคุณแม่ผู้มีอาการทางประสาท เธอพูดคุยกับตัวเองบ่อยครั้งจนลูกๆ เริ่มเป็นกังวล วันหนึ่งฝันร้ายก็เริ่มกลายเป็นรูปร่างเด่นชัด เมื่อบุคคลปริศนาที่เธอชอบพูดคุยด้วยอยู่บ่อยๆ เริ่มแสดงอิทธิฤทธิ์มากขึ้น และหมายจะเอาชีวิตลูกๆ ของเธอ ทำให้รีเบ็คก้าและมาร์ติน ต้องต่อสู่กับสิ่งลี้ลับที่มักจะออกมาในช่วงที่ไร้แสงไฟเท่านั้น…     แม้หนังเรื่องนี้จะเล่นกับความมืดเหมือนกับหนังผีหลายๆ เรื่อง แต่ในหนังเรื่องนี้ใช้ความมืดได้อย่างเป็นประโยชน์ต่อตัวผี ต่อตัวผู้ชม และต่อตัวละคร ดังเช่น ประโยชน์ต่อผี ความมืดช่วยเอื้อให้ตัวละครผีในการปรากฏตัวแต่ละครั้ง ผีในเรื่องนี้จะไม่ได้โผล่มาตุ้งแช่พร้อมกับเสียงดังลั่น แต่จะโผล่มาเงียบๆ ในชั่วพริบตา เหมือนกับที่คุณได้เห็นมันจากตัวอย่างนั่นแหละ ประโยชน์ต่อผู้ชม มันทำให้คนดูพยายามสอดส่องไปทั่วจอ เหมือนได้สำรวจไปพร้อมๆ กับตัวละคร และหวาดกลัวทุกครั้งที่ตัวละครต้องอยู่ในที่มืดๆ ประโยชน์ต่อตัวละคร ความมืดช่วยให้ตัวละครรู้สึกหวาดกลัวก็จริง แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้เห็นถึงพัฒนาการที่ตัวละครพยายามจะหาวิธีต่างๆ มาต่อสู้กับผี  …

หลังจากที่ละครเวที The Cursed Child ในซีรีส์ของ Harry Potter นั้นจบแสดงจบลงไป ก็ได้มีกระแสเรียกร้องให้สร้างเป็นภาพยนตร์เป็นอย่างมาก และตอนนี้ก็ได้มีข่าวลือเกี่ยวกับว่า The Cursed Child อาจจะได้สร้างเป็นหนังแล้ว เมื่อมีคนตาดีไปเห็นว่าทาง Warner Bros. ได้ไปจดเครื่องหมายการค้าของ Harry Potter And The Cursed Child ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว     ถึงแม้ว่า เจ.เค. โรว์ลิ่งจะออกมายืนยันเมื่อหลายเดือนก่อนว่า The Cursed Child นั้นจะทำเป็นละครเวที และ Fantastic Beasts and Where to Find Them จะทำเป็นหนังไตรภาค   แต่ที่น่าสนใจก็คือการจดครั้งนี้เป็นแบบ Class 9 ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าเกี่ยวกับ motion picture films กล่าวคือภาพเคลื่อนไหวที่เราเห็นในจอไม่ว่าจะเป็นหนัง ทีวี และสินค้าต่างๆ แต่ก็ยังไม่มีข้อพิสุจน์ว่าจะเอาไปทำหนังแต่อย่างใด แต่การจดเครื่องหมายการค้าครั้งนี้อาจจะเป็นสัญญาณในอนาคตที่ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเวอร์ชั่นหนังจริงๆ ก็ได้นะ   ที่มา unilad, muggle-v

สำหรับคอหนังแล้ว การได้ดูหนังที่นักแสดงคนโปรดของเราเล่นเป็นอะไรที่มีความสุขจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นบทไหนๆ เราก็จะมองว่าเขาแสดงได้ดีสุดๆ และวันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปย้อนอดีตสู่หนังเรื่องแรกของพวกเขา เรียกได้ว่าเป็นผลงานแจ้งเกิดเลยก็ว่าได้ เราไปดูกันดีกว่าว่าจากเรื่องแรกมาจนถึงปัจจุบัน พวกเขาเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน   Robert Downey Jr. Pound (1970) vs. Captain America: Civil War (2016)   Charlize Theron 2 Days in the Valley (1996) vs. Snow White and the Huntsman 2 (2016)   Leonardo DiCaprio Santa Barbara (1984-1993) vs. The Revenant (2015)   Arnold Schwarzenegger Hercules in New York (1969) vs.…

สำหรับช่างภาพแล้ว การถ่ายภาพให้ได้มุมและองค์ประกอบดีๆ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย บางครั้งก็ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง แล้วลองนึกภาพว่าหนังที่มีภาพสวยๆ กว่าจะได้ช็อตเหล่านั้นมาต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ เวลาเราดูหนังดีๆ สักเรื่อง บางครั้งเราอาจจะมองข้ามความงามขององค์ประกอบภาพที่ผู้กำกับพยายามจะสื่อออกมาให้เราได้เห็น ไม่ใช่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็ได้นะ เพราะแต่ละช็อตมีความหมายอยู่ในตัว และนี่ก็คือศิลปะของคนที่ทำหนังออกมาให้เราได้ดูผ่านมุมกล้อง แสง เงา องค์ประกอบ การจัดภาพ การยืนของตัวละคร ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นจากการกำกับทั้งหมด เพื่อให้ได้ซีนที่ทุกคนดูแล้วต้องพึงพอใจ เราไปดูกันดีกว่าว่าแต่ละเรื่องที่นำมาให้ดูในวันนี้ เราเคยดูไปแล้วกี่เรื่องบ้าง   Children of Men (2006)   Oldboy (2013)   Saving Private Ryan (1998)   Stand By Me (1986)   The Deer Hunter (1978)   The Dark Knight (2008)   A Clockwork Orange (1971)  …

นับตั้งแต่เริ่มปี 2016 มา มีหนังเจ๋งๆ ออกมาให้เราชมมากมายหลายหลายแนว ซึ่ง #เหมียวอ๊อดโด้ เชื่อว่า เพื่อนๆ อาจจะพลาดบางเรื่องไปอย่างน่าเสียดาย งั้นวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 17 หนังน่าดูในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2016 ที่คอหนังไม่ควรพลาด จะมีเรื่องอะไรบ้าง ไปชมกันเลย   1.The Jungle Book   หนังเวอร์ชั่นล่าสุดของนิทานชื่อก้องโลก The Jungle Book ฝีมือการกำกับของ Jon Favreau (Iron Man 1-2) ถือว่าเป็นหนึ่งในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของนิทานเรื่องนี้ แถมยิ่งได้ฝีมือการแสดงระดับเทพของ Neel Sethi ยิ่งทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของครึ่งปีแรกของปี 2016   2. The Nice Guys   ถ้าใครกำลังมองหาหนังตลกๆ ผลงานล่าสุดจาก Ryan Gosling และ Russel Crowe เรื่องนี้ถือว่าน่าสนใจมาก เมื่อนายตำรวจคนหนึ่งต้องร่วมมือกับนักเลงโตเพื่อไขคดีฆาตกรรมปริศนา จนสุดท้ายต้องเข้าไปพัวพันกับแก๊งอาชญากรและกลุ่มตำรวจเลวที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้  …

ถ้าพูดถึง “สตีเวน สปีลเบิร์ก” แล้ว เราก็คงนึกถึงหนังดีๆ หลายเรื่องที่เขาได้สร้างมา เป็นเวลากว่า 40 ปี แล้วที่เขาได้อยู่ในแวดวงฮอลลีวูดและสร้างผลงานมากมาย และเรื่องล่าสุดที่จะเข้าก็คือ “The BFG” ก็ยังเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก ฉายาพ่อมดแห่งฮอลลีวูดนั้นเป็นสิ่งที่เขาสมควรได้รับจริงๆ จากผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นมารวมไปถึงเรื่อง The BFG ก็เป็นเรื่องที่ 30 แล้ว แต่ละเรื่องก็เล่าเรื่องราวได้แตกต่างกัน ต่างยุคต่างสมัย และวันนี้ทางเว็บไซต์ Businessinsider ได้ทำการจัดอันดับหนังของเขา ซึ่ง #เหมียวสามสี ก็จะมานำเสนอ 10 อันดับหนังที่ควรค่าแก่การดู รับรองว่าดูแล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอน จะมีเรื่องอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย   10. ‘Empire of the Sun’ (1987) เป็นผลงานดัดแปลงมาจากนิยายของเจมส์ แกรม บัลลาร์ด โดยเรื่องนั้นจะเล่าถึงเด็กชายวัย 10 ขวบชื่อว่า เจมส์ แกรม ลูกชายของเจ้าของโรงงานทอผ้าที่อยู่อย่างสุขสบาย จนกระทั่งได้มีกองทัพญี่ปุ่นบุกเข้ามาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนไป เรื่องราวยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อเด็กน้อยผู้ถูกเอาแต่ใจต้องมาพลัดหลงกับพ่อแม่ และต้องเผชิญกับชีวิตที่อันตรายท่ามกลางสงคราม ถือเป็นหนังสงครามของสปีลเบิร์กที่ทำออกมาได้สะเทือนใจสุดๆ     9. ‘Indiana…

“ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” เป็นประโยคสุดคลาสสิคที่เอาไว้ใช้เปรียบเปรยหญิงสาว ว่าจะสวยงามได้ก็ต้องเกิดจากการแต่งแต้มเครื่องสำอางน่ะนะ แล้วยิ่งเป็นดารานักร้องด้วยแล้ว ภาพลักษณ์ยิ่งเป็นสิ่งสำคัญเข้าไปใหญ่   แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเธอเหล่านั้นไมได้แต่งหน้า? พวกเธอจะยังสวยอยู่หรือไม่? หรือแฟนๆ จะยังจดจำพวกเธอได้หรือเปล่า? ถ้าอยากรู้เราลองไปชมภาพของ 18 เซเลบเหล่านี้กันเลย   1. Uma Thurman อดีตดาราสาวเซ็กซี่ยุคก่อน   2. Jennifer Lawrence นักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์   3. Kim Kardashian เซเลบคนดัง ผู้ชอบแต่งตัวเซ็กซี่…จำแทบไม่ได้   4. Emilia Clarke แม่มังกรจากซีรี่ส์ Game of Thrones   5. Hillary Duff นักแสดงสาวผู้แจ้งเกิดจาก Disney   6. คุณแม่ Beyonce   7. Kirsten Dunst นางเอกจากไตรภาค Spider-Man   8. Cameron Diaz หน้าเปลี่ยนไปเยอะ   9.…

ถ้าใครจำได้ สำนักข่าวแมวเหมียวของเรา เคยนำเสนอเรื่องราวของ “บ๊อบ” แมวสุดน่ารักที่เปลี่ยนชีวิตของหนุ่มจรจัดคนหนึ่งไปตลอดกาล (ข่าวเก่า) รู้หรือไม่ ตอนนี้ มีหนังที่ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงของ “บ๊อบ” แล้วนะ จะเป็นยังไง ไปชมกันเลยดีกว่า หนังเรื่องนี้มีชื่อว่า “A Street Cat Named Bob” เป็นหนังที่ดัดแปลงจากหนังสือขายดีและเรื่องจริงของอดีตหนุ่มจรจัดที่ชื่อว่า “เจมส์ โบแว็น” ที่ชะตาชีวิตได้นำพามาพบกับแมวจรจัดที่ชื่อว่า “บ๊อบ” และเจ้าแมวตัวนี้เอง ที่ทำให้ชีวิตของเขามีความหวังอีกครั้ง     ส่วนนักแสดงที่จะมารับบทนำก็มี Luke Treadaway ในบท เจมส์ โบแว็น รวมด้วย Ruta Gedmintas,  Joanne Froggatt, และที่ขาดไม่ได้เลย เจ้าเหมียวบ๊อบตัวจริง ก็มาร่วมแสดงด้วยเช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจในหนังเรื่องนี้คือ สถานที่ที่ใช้ถ่ายทำ เป็นสถานที่จริงๆ ที่บ๊อบและเจมส์เคยใชชีวิตร่วมกันในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ฟังดูน่าสนุกใช่มั้ยละ   .   ไปชมตัวอย่างกันดีกว่า   หนังมีกำหนดฉายช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ใครสนใจก็คงต้องรอลุ้นให้มีค่ายหนังซื้อมาฉายในไทยนะฮะ ที่มา Sony Pictures…

ในช่วงนี้สตูดิโอภาพยนตร์หลายๆ ค่าย ดูจะให้ความสนใจกับหนังแนวเอเลี่ยนบุกโลกเป็นพิเศษ (จริงๆ ก็สนใจมานานแล้ว) สาเหตุคงเป็นเพราะว่า ในปีนี้มีหนังแนวเอเลี่ยนบุกโลกมาให้ชมกันหลายเรื่องทีเดียว เช่น 5th Wave เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และ Independence Day Resurrection ที่กำลังจะฉายในเร็วๆ นี้     ล่าสุดสตูดิโอภาพยนตร์เมืองหมีขาว ประเทศรัสเซีย ก็ขอส่ง Attraction หนังเอเลี่ยนบุกโลกมาชิมลางกับเขาบ้าง ตามเรื่องย่อที่ปล่อยออกมา บอกว่ามีวัตถุประหลาดจากอวกาศตกลงมาจากท้องฟ้า มีลักษณะคล้ายบอลทรงกลม ทำให้มนุษย์รู้ว่าในจักรวาลนี้ไม่ได้มีแค่พวกเขาเท่านั้น     เจ้าวัตถุประหลาดนี้ตกลงมาแถวๆ กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ทำให้ชาวบ้านในย่านนั้นรู้สึกแตกตื่น จนเกิดการตั้งคำถามถึงอารยธรรมอื่นๆ นอกเหนือจากมนุษย์ และพวกมันต้องการอะไรจากโลกกันแน่!!? . .   และนี่คือตัวอย่างเต็มๆ ดูอลังการงานสร้างพอสมควรเลย     สุดท้ายก็ไม่พ้นชาวเน็ตแซวว่า หนังเรื่องนี้ต้องเลียนแบบฮอลลีวู้ดแน่ เพราะมีทั้ง….   Leonardo DiCaprio   Ewan McGregor   และ Sarah Wayne Callies ร่วมแสดงด้วย…

นอกจากหนังรักและหนังแอคชั่นแล้ว หนังสงครามก็ถือว่าเป็นหนังอีกประเภทที่ได้รับความนิยม และมีการหยิบยกเหตุการณ์ต่างๆ มาสร้างเป็นหนังอยู่เรื่อยๆ และวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 14 หนังสงครามระดับพระกาฬ ที่ชาตินี้ต้องหามาดูให้ได้ซักครั้ง จะมีเรื่องอะไรบ้าง ลองไปดูกันดีกว่า!   “Platoon” (1986) Platoon เล่าความโหดร้ายของสงครามเวียดนามที่เหล่าทหารอเมริกันต้องไปร่วมรบ พวกเขาต้องพบกับความยากลำบากในการแยกว่าใครเป็นชาวบ้าน และใครเป็นสายลับฝ่ายศัตรู รวมถึงการเอาชีวิตรอดในสงครามที่ว่ากันว่า สร้างความหวาดผวาให้กับทหารอเมริกันมากที่สุดครั้งหนึ่ง   “Good Morning Vietnam” (1987) หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงของนักจัดรายการวิทยุชาวอเมริกันคนหนึ่ง ที่ต้องจัดรายการในช่วงเช้าในเมืองไซง่อน ประเทศเวียดนาม ในขณะที่สงครามยังปะทุในทั่วทุกหัวระแหง ถือว่าเป็นหนึ่งในหนังที่ประชดแดกดันสงครามได้อย่างเจ็บแสบที่สุด จน Robin William ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์เลยทีเดียว   “Full Metal Jacket” (1987) หนังเล่าเรื่องของสองนายทหารใหม่ ที่ต้องเข้าไปร่วมรบในสงครามเวียดนาม พวกเขาต้องพบกับความยากลำบากของการฝึกฝน รวมถึงความโหดร้ายของสงครามเวียดนาม จนกลายเป็นหนึ่งในหนังสงครามสุดคลาสสิกที่ใครๆ ก็ต้องดูซักครั้งหนึ่ง   “Glory” (1989) Matthew Broderick, Denzel Washington, Cary Elwes, และ…

หากคุณกำลังมองหาหนังสนุกเบาสมอง โดยที่ไม่ต้องไปซีเรียสกับเนื้อเรื่อง การหักมุม และตัวละครมากมายแล้วล่ะก็ หนังเรื่องนี้เหมาะกับคุณมากทีเดียว เพราะนี่คือ Monster Trucks      หนังเล่าเรื่องราวของ Tripp (Lucas Till ที่หลายๆ คนคุ้นหน้าคุ้นตาเขาจากหนังชุด X-Men ไตรภาคใหม่) ที่อาศัยอยู่นอกเมือง แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อได้มาเจอเข้ากับเอเลี่ยนหน้าตาประหลาดตัวหนึ่ง     เจ้าเอเลี่ยนตัวนี้มีหน้าตาคล้ายกับปลาหมึกผสมโลมาและอีกหลายๆ อย่าง มันอาศัยอยู่ในน้ำ กินน้ำมันเป็นอาหาร เท่านั้นยังไม่พอ มันยังเข้าไปอาศัยอยู่ในรถกระบะ และเปลี่ยนให้มันกลายเป็นเครื่องยนต์ที่เคลื่อนไหวได้เหมือนกับตัวของมันเอง     แต่เนื่องจากมันเป็นตัวประหลาดที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน จึงมีแก๊งสเตอร์ออกตามล่ามัน เรื่องราวการผจญภัยจึงเริ่มต้นขึ้น     ชมคลิปตัวอย่างได้ที่ด้านล่างเลย ดูแล้วนี่น่าจะเป็นหนังครอบครัวที่ดูสนุกและเบาสมองอีกเรื่องนึงเลยทีเดียว หนังมีกำหนดฉายในช่วงมกราคมปี 2017 โหว อีกนานเลยนะเนี๊ยะ ที่มา Paramount Pictures

การดัดแปลงวรรณกรรมหรือนวนิยายให้เป็นหนังโรงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะประสบความสำเร็จ เพราะหลายๆ ครั้งที่ทำออกมา ก็ถูกแฟนๆ ตำหนิว่า “ไม่ดีเท่าเวอร์ชั่นหนังสือ” หรือ “ไม่เหมือนหนังสือเลย” แต่นั่นไม่ใช่ทุกเรื่องไป เพราะวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมกับ 7 หนังที่ดัดแปลงจากเวอร์ชั่นหนังสือได้ดีมากๆ จนพลาดไม่ได้เป็นอันขนาด จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย   Forrest Gump หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า Forrest Gump เคยเป็นหนังสือนวนิยายมาก่อน โดยเวอร์ชั่นหนังสือนั้นเขียนขึ้นโดย Winston Groom ซึ่งเมื่อถามความเห็นของผู้ที่เคยอ่านและดูทั้งสองเวอร์ชั่นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เวอร์ชั่นหนังมีสเน่ห์กว่ามากๆ   The Curious Case of Benjamin Button The Curious Case of Benjamin Button เวอร์ชั่นหนังนั้นต่างจากเวอร์ชั่นเรื่องสั้นของ F. Scott Fitzgerald เป็นอย่างมาก ซึ่งเวอร์ชั่นต้นฉบับมีเนื้อหาเพียงสองสามหน้าเท่านั้น แต่ผู้กำกับ David Fincher ได้แต่งเติมสีสันให้ชีวิตของ Benjamin Button ออกมาสนุกและน่าประทับใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ   The Shawshank…

ในวัยเด็กเพื่อนๆ หลายคนคงมีภาพยนตร์ที่มักจะดูอยู่บ่อยๆ อย่างเช่นการ์ตูนหรือภาพยนตร์แนวแฟนตาซีต่างๆ ที่จะช่วยสร้างเสริมจินตนาการอันตระการตาและสร้างความสนุกสนาน แต่เอาจริงๆ แล้วภาพยนตร์เหล่านั้นมักจะมีเนื้อหาที่น่าสนใจสอดแทรกอยู่ด้วยเสมอ ซึ่งในสมัยเด็กๆ เราไม่เคยสนใจมันเลยเพราะสนุกไปกับภาพที่สวยงามจากจินตนาการและตัวการ์ตูนน่ารักๆ เพียงอย่างเดียว วันนี้ #เหมียวหง่าว จะมาแนะนำภาพยนตร์สำหรับเด็กที่ผู้ใหญ่ควรต้องดู เพราะเนื้อหาภาพยนตร์นั้นมีอะไรมากกว่าตัวการ์ตูนที่น่ารักและโลกแห่งจินตนาการ   1. A Little Princess (1995) เป็นหนังที่สอนให้เห็นความสำคัญของคุณค่าในตัวเอง คุณค่าของมิตรภาพ และเสริมสร้างจินตนาการของโลกเวทมนตร์   2. The Iron Giant (1999) จริงๆ แล้วมันเป็นภาพยนตร์การ์ตูนที่สนุกมาก เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าตัดสินหนังสือจากหน้าปกของมัน และตอนจบอาจจะทำให้ใครหลายๆ คนต้องหลั่งน้ำตา   3. UP (2009) เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าคุณจะแก่แค่ไหน แต่คุณก็สามารถออกไปผจญภัยท่องเที่ยวตามความฝันในวัยเด็กของคุณได้   4. Spirited Away (2001) เป็น 1 ชั่วโมงครึ่งที่คุ้มค่ามาก เพราะเรื่องราวในภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้จะทำให้เห็นถึงการเจริญเติบโตของตัวเอกและการเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ในชีวิต   5. Labyrinth (1986) ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ข้อคิดมากมายหลายประการ…

ตลอดระยะเวลาที่เราเติบโตมา แน่นอนว่าเรามีโอกาสได้ไปชมภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง ก็มีทั้งเรื่องที่ชอบ ถูกใจและไม่ถูกใจปนๆ กันไป นั่นก็เป้นอีกหนึ่งของสีสันแห่งชีวิตล่ะเนาะ แต่หนังบางเรื่องนี้ต้องบอกว่า มันน่าจะมีภาคต่อเหลือเกิ๊นนนนน แต่รอมาจนขนาดนี้ก็คงต้องบอกว่าสิ้นหวังแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็เลยอยากจะพาเพื่อนๆ ไปชม 18 ภาพยนตร์ดัง ที่ควรมีภาคต่ออย่างยิ่ง…แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีมาให้เราได้เห็น จะมีเรื่องไหนบ้างเรามาดูกันเลยดีกว่า   “Unbreakable” (2000) ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เด่นดังหรือทำรายได้ๆ มาก แต่ก็มีข่าวคราวเกี่ยวกับภาคต่อที่จะออกมาตลอด แต่ถ้าพูดถึงหนังซุปเปอร์ฮีโร่สมัยนี้แล้ว คงไม่มีสตูดิโอที่ไหนจะนำเรื่องนี้มาทำภาคต่อหรือรีเมคหรอก -*-   “Good Will Hunting” (1997) หนังที่แสดงโดย Matt Damon และ Ben Affleck แถมการันตีโดยผลงานออสการ์ ภาคต่อที่พวกเขาจะมาแสบต่อน่ะเหรอ?? คงไม่มีโอกาสมีแล้วล่ะ เพราะพวกเขามัวยุ่งอยู่กับการแสดงเป็น Bourne และ Batman อยู่   “True Lies” (1994) หลายๆ คนคงอยากเห็น Arnold Schwarzenegger ไปไล่ล่าผู้ร้ายอีก แต่ยิ่งเวลาผ่านไปความน่าสนใจก็น้อยลงเรื่อยๆ แถม James Cameron ก็ต้องไปทำเรื่อง…

หลังจากที่ปล่อยตัวอย่างแรกออกมาให้เราชมเมื่อต้นปี ก็ทำเอาแฟนๆ ที่ชื่นชอบการ์ตูนแอนิเมชั่นถึงกับตื่นเต้นสุดๆ เลย สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Sing แอนิเมชั่นจากค่าย Illumination (ที่ก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จไปกับ Despicable Me, Dr. Seuss’ The Lorax และ Minions)     ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมาทางช่องยูทูบของ Illumination ก็ได้ปล่อยตัวอย่างใหม่ของ Sing ออกมาให้เราชมกันแล้ว ในตัวอย่างนี้ได้เผยฉากใหม่ๆ ที่ทำให้ผู้ชมสามารถประติดประต่อเรื่องราวได้มากขึ้น     Sing เล่าเรื่องราวบนโลกสมมุติที่มีสัตว์ชนิดต่างๆ อยู่ร่วมกันในสังคม วันหนึ่ง บัสเตอร์ มูน หมีโคอาล่าเจ้าของโรงหนังที่กำลังซบเซา ได้จัดการประกวดร้องเพลงขึ้นมา เพื่อให้โรงหนังของเขา กลายเป็นที่สนใจของผู้คนอีกครั้ง     โดยการแข่งขันครั้งนี้จะมีเงินรางวัลตอบแทนสูงถึง 100,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.5 ล้านบาท) ทำให้เหล่าสัตว์ทั้งหลายพยายามเข้าแข่งขันการประกวดร้องเพลงครั้งนี้ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป       จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่าหนังเล่าเรื่องของกลุ่มสัตว์ที่มาเข้าร่วมการแข่งขันร้องเพลง ซึ่งสไตล์การร้อนของแต่ละคน (ตัว) ก็จะแตกต่างกันออกไป และแต่ละคนก็มีเหตุผลในการเข้าร่วมประกวดร้องเพลง และน่าเอาใจช่วยไปซะทุกตัวเลยก็ว่าได้     โดยหนังจะได้ดาราดังๆ มาพากย์เสียงมากมาย เช่น แมทธิว แม็คคอนนาเฮย์, รีส…

ทุกวันนี้เทคโนโลยีมันไปไกลมาก อะไรที่เราคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ปัจจุบันก็เป็นไปได้หลายอย่างแล้ว จริงอยู่ที่เทคโนโลยีมันทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น แต่ในความง่ายของมันนั้นก็อาจจะทำให้เราไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเองเลย ถ้าเกิดว่าเราขาดเทคโนโลยีไป วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยเอาหนังสั้นเรื่องหนึ่งมาให้ทุกท่านได้ชม ชื่อว่า “Hyper-Reality” โดย Keiichi Matsuda แสดงให้เห็นถึงโลกอนาคตที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีมากจนเกินไป   ไม่ต้องพกมือถืออะไรแล้ว ทุกอย่างลอยขึ้นมาเป็นโฮโลแกรมหมด ขนาดเกมก็ยังเป็นแบบนี้   การติดต่อสื่อสารก็ดูง่าย แต่รุงรังเต็มไปหมด   ดูเหมือนทุกอย่างจะเก็บเป็นแต้มไปหมดเลย จะบอกว่าทุกอย่างคือเกม?   ช็อปปิ้งก็กลายเป็นเรื่องที่ง่าย อยากรู้ว่าหมาที่เลี้ยงนั่นเลี้ยงจริงจังหรือเป็นแค่เกม   มีการเลเวลอัพด้วย   ลองไปชมคลิปโลกอนาคตอันเหนือจริงนี้กันเลย   ดูแล้วมันก็น่าสนุกอยู่นะ แต่อย่าให้มันเกิดขึ้นจริงเลย น่ากลัวเกิ๊นนนนน ที่มา Keiichi Matsuda

สำหรับคนที่เป็นคอหนัง ที่ชอบดูหนังแบบทะลุปรุโปร่ง ก็คงจะชอบมองความงามที่หนังถ่ายทอดมาในแต่ละซีนว่าสวยงามเพียงใด แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเทคนิกการใช้สีนั่นเอง หลังจากหนังเรื่อง The Artist ประสบความสำเร็จอย่างมากจากรางวัลออสการ์ ซึ่งสร้างเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นหนังขาวดำ ที่สร้างให้ดูสมัยใหม่ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าถึงแม้ไม่มีสีก็สามารถทำหนังดีๆ ออกมาได้ แต่ปัจจุบันสีก็มีส่วนสำคัญอยู่เหมือนกัน เพราะมันช่วยทางด้านอารมณ์ อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พล็อตเดินไปเรื่อยๆ อีกด้วย วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยจะมาแนะนำให้รู้จักกับ @cinemapalettes   ภายใน @cinemapalettes นี้จะทำให้เราได้เห็นถึงฉากในหนังดังแต่ละเรื่องว่าเขาใช้ใช้โทนสีอะไรบ้าง ซึ่งแต่ละอันบอกเลยว่าดีงามสุดๆ และนี่เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น เราไปดูกันเลย   #1 Mad Max: Fury Road (2015) Dir. George Miller   #2 Harry Potter And The Deathly Hallows: Part 2 (2011) Dir. David Yates   #3 Alice Through The Looking Glass…

ในช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมานี้ มีคลิปของพ่อหนุ่มเทพพิทักษ์ แอสละถูกแชร์อยู่ในโลกออนไลน์กันอย่างแพร่หลายทีเดียว หากใครไม่รู้ว่าเขาคือใคร#เหมียวฟิ้นจะขออธิบายว่าเขาคือหนุ่มบ้านๆ คนหนึ่ง ที่ทำผมสีทอง หน้าขาว ปากแดงและชอบถ่ายคลิปแบ๊วๆ ของตัวเองมาแชร์ให้เพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กได้ดูกัน     ดูจากบุคคลิกภายนอกแล้วอาจจะดูเหมือนเป็นคนโหดๆ หน่อย แต่คำพูดคำจากลับดูแบ๊วและน่ารักสวนทางกับรูปลักษณ์ภายของเขา ทำให้ผู้คนชอบใจจนต้องกดแชร์ไปตามๆ กัน     ล่าสุดผู้กำกับชื่อดังอย่างพชร์ อานนท์ ที่เพิ่งจะประสบความสำเร็จแบบถล่มทลายไปกับหนังเรื่องหลวงพี่แจ๊ส 4G และกวาดรายได้ไปกว่า 400 ล้านบาท ได้ประกาศตามหาพ่อหนุ่มเทพพิทักษ์ผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง และจะชวนมาเล่นหนังด้วยกัน หวังโค่นหลวงพี่แจ๊ส 4G!?     ทั้งนี้พชร์ อานนท์ได้โพสต์ข้อความว่า “ยังตามตัวไม่ได้เลยรู้แต่ว่าขับรถส่งของแถวลพบุรี ชัยภูมิใครรู้จักช่วยบอกให้หน่อย” และ “ได้โปรดมาเล่นหนังให้พี่หน่อยนะจะเอามาฆ่าพี่แจ๊สพี่นิกพี่โต๊สได้โปรดติดต่อกลับหรือรับสายอย่าเพิ่งตัดผมนะ”   ได้โปรดมาเล่นหนังให้พี่หน่อยนะจะเอามาฆ่าพี่แจ๊สพี่นิกพี่โต๊สได้โปรดติดต่อกลับหรือรับสายอย่าเพิ่งตัดผมนะ โพสต์โดย พชร์ อานนท์ บน 12 พฤษภาคม 2016   นี่จะเป็นเพียงชื่อเสียงที่พุ่งเข้ามาชั่นครู่ชั่วยาม หรือจะเป็นโอกาสยาวๆ ให้กับพ่อหนุ่มเทพพิทักษ์กันแน่ คงต้องรอดูกันต่อไปล่ะนะ ที่มา พชร์ อานนท์ , เทพพิทักษ์ แอสละ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ออกมาให้เราชมกันอย่างมากมาย และหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เหล่าผู้ชมจดจำ ก็คือเหล่าตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่ที่เป็นผู้หญิงนั่นเอง และวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมผลการจัดอันดับ 10 ตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่หญิง โดยทางเว็บไซต์ Orzzzz เรียงความฮอทฮิต ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมาแล้วทั่วโลกมากที่สุด จะมีใครบ้าง ไปชมกันเลย   10. Ellen Page : Kitty Pryde นับตั้งแต่ ปรากฏตัวครั้งแรกใน X-Men : The Last Stand เมื่อปี 2006 Ellen Page ก็เข้าไปครองใจสาวกมนุษย์กลายพันธุ์และแฟนๆ ซุปเปอร์ฮีโร่ทุกโลกในทันที ด้วยฝีมือการแสดงอันน่าประทับใจ และน่าตาอันน่ารัก เท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เธออยู่ในใจแฟนๆ หนังทุกคนแล้ว   9. Blake Lively : Carol Ferris แม้หนัง Green Lantern จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก แต่บทบาทที่ Blake Lively ได้รับในเรื่องนี้ก็ถือว่าโดดเด่นพอสมควร เรียกได้ว่าแค่นั่งดูหน้าและหุ่นสวยๆ ของเธอ…

  ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีการถ่ายภาพมันไปไกลมากๆ จนเราตามแทบไม่ทันแล้ว สิ่งหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมก็คือการถ่ายภาพแบบ 360 องศา ซึ่งเราสามารถดูได้ทุกทิศทางราวกับว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของคลิปนั้นได้เลย แต่จะว่าไปยังไม่เคยเห็นหนังเรื่องไหนเอาการถ่ายแบบ 360 มาใช้เลย เพราะว่ามันยาก ปกติหนังธรรมดาเราแค่ควรคุมสิ่งที่มันเกิดขึ้นในเฟรมสี่เหลี่ยมก็พอ แต่ถ้าเป็นกล้อง 360 องศาแล้ว ต้องควบคุมทุกอย่างเลย วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยจะพามาดูหนังเรื่อง HELP หนังสั้นที่ถ่ายทำด้วยกล้อง 360 องศา กำกับโดย Justin Lin จาก The Fast and the Furious 3-6 นอกจากนี้ยังทำแนวไซไฟอีกด้วย แน่นอนว่าต้องมีเรื่อง CG มาประกอบ ทำให้ยากขึ้นไปอีกขั้น เราไปชมภาพเรียกน้ำย่อยกันก่อนดีกว่า   ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูหนังเรื่องนี้พร้อมๆ กันเลย แนะนำว่าเน็ตต้องแรงนิดนึงจะ ถึงจะได้เห็นภาพแบบชัดๆ   ที่มา Google Spotlight Stories

  ช่วงนี้บอกได้เลยว่ามีหนังฮีโร่เข้าโรงกันแบบมีให้เลือกดูไม่หวาดไม่ไหว จะเป็นฮีโร่ของฝั่ง Marvel หรือ DC ก็หลากหลายอารมณ์ แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปชมหนังฮีโร่จากสัญชาติรัสเซียที่เจ๋งไม่แพ้กันเลย เรื่องนี้มีชื่อว่า Guardians หรือ Zashchitniki โดยมีฮีโร่ชูโรงออกมา 4 ตัว ซึ่งคาแรกเตอร์นั้นแตกต่างกันออกไป ดูผ่านๆเหมือนตัวละครในเกมเป็นอย่างมาก และความสามารถของแต่ละคนนั้นก็เว่อร์วังอลังการสุดๆ ก่อนหน้านี้ก็เคยปล่อยตัวอย่างสั้นๆ มาเรียกน้ำย่อยแล้ว คราวนี้จัดเต็มมากับตัวอย่างฉบับเต็ม เราไปชมพร้อมๆ กันเลย   Guardians มีกำหนดเข้าฉายในเดือกุมภาพันธ์ปี 2017 แต่ไม่รู้ว่าบ้านเราจะได้ชมกันรึเปล่า ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนังฮีโร่ที่ดูแปลกตา เพราะความโหดของมันนี่แหละ   ที่มา Официальные Трейлеры

ในช่วงที่ไม่รู้จะดูหนังอะไรดีแบบนี้ #เหมียวสามสี มีตัวอย่างหนังเด็ดๆ เรื่องหนึ่งมาให้ทุกท่านดู ซึ่งบอกเลยว่ามันน่าดูเป็นอย่างมาก หนังเรื่องนี้มีชื่อว่า Swiss Army Man เป็นภาพยนตร์แนวดราม่า ตลก กึ่งผจญภัยนิดๆ ของ 1 ชีวิตที่กำลังติดเกาะ และศพอีก 1 ร่างที่สามารถพูดได้ โดยทั้งคู่ได้พบเจอกันโดยบังเอิญที่ชายหาดขณะที่คนที่มีชีวิตนั้นกำลังจะฆ่าตัวตาย จนได้เกิดเรื่องราวมากมายขึ้น     ในเรื่องนี้จะได้พบกับการกลับมาของพ่อมดน้อย Daniel Radcliffe รับบทเป็นแมนนี่ (ศพพูดได้) และ Paul Dano รับบทเป็น แฮงค์ คนที่พยายามคิดจะฆ่าตัวตาย รวมไปถึงยังได้นางเอกสาว Mary Elizabeth Winstead จากเรื่อง 10 Cloverfield Lane อีกด้วย อย่ารอช้า เราไปชมตัวอย่างกันเลย!!   ถือเป็นหนังอีกเรื่องที่น่าจับตามองมากๆ เพราะแค่ตัวอย่างก็ถึงกับอุทานออกมาว่า What The F*ck แล้ว หวังว่าบ้านเราจะเอามาฉายด้วยนะ ส่วนที่ต่างประเทศหนังเข้าฉาย 17 มิถุนายนนี้ ที่มา A24

เวลาเราจะดูหนังซักเรื่อง อย่างแรกเราต้องดูเนื้อเรื่องย่อของหนังเรื่องนั้นๆ ก่อนใช่มั้ยละ ซึ่งโดยปกติแล้วเรื่องย่อหนังก็จะบอกข้อมูลเบื้องต้นของหนังเอาไว้ เช่นใครเป็นตัวเอก ใครเป็นตัวร้าย เรื่องเกิดขึ้นที่ไหน แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 25 ทวิตสรุปเนื้อเรื่องหนังดังแบบสุดฮา ที่ถ้าไม่เกรียนจริง คิดอะไรแบบนี้ไม่ได้นะเนี่ย จะฮาขนาดไหน ไปชมกันเลย   เด็กหนุ่มใช้เวลา 7 ปี ในการเป็นมือที่สามของคนอื่น   หญิงสาวอารมณ์แปรปรวนใช้เวลาหลายปีคิดว่าจะเลือกใครดีระหว่างศพเดินได้กับหมา   กลุ่มคนใช้เวลา 9 ชั่วโมงในการนำอัญมณีไปคืน   ทุกคนพยายามเล่น Ice Bucket Challenge   กบพูดได้พยายามกล่อมให้ลูกชายไปฆ่าพ่อของตัวเอง   ลีโอนาโด ดิคาปริโอฟันฝ่าดินแดนเปลี่ยวร้างอันหนาวเหน็บเพื่อตามหาออสการ์   หญิงสาวติดยาหลอกใช้หนุ่มปัญญาอ่อนมากว่า 3 ทศวรรษ   ชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตคนเดียวในป่ากำลังจูบกับศพโดยมีคนอีกเจ็ดคนยืนดูอยู่   เด็กหญิงตื่นมาแล้วพบว่ามีคนแปลกหน้ายืนอยู่หัวเตียง แต่ไม่เป็นไร เขาหล่อดี   นี่คือที่ Jennifer Aniston เสียสามีของตนเองไปต่อหน้าผู้คนทั้งโลก   โดนัลด์…

ถือเป็นภาคต่อที่กลับมาพบกับผู้ชมอย่างรวดเร็วพอสมควรเลย สำหรับภาคต่อของหนังนินจาเต่า Teenage Mutant Ninja Turtles: Out of the Shadows ที่ภาคแรกเพิ่งเข้าฉายไปเมื่อช่วงปลายปี 2014 และกวาดรายได้ไปถึง 493 ล้านดอลลาร์     จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่สตูดิโออย่าง Paramount จะรีบเข็นเอาภาค 2 มาให้ผู้ชมได้ชมกันในเวลาอันรวดเร็ว ล่าสุดทางทีมงานได้มีการปล่อยตัวอย่างที่ 3 ออกมายั่วน้ำลายแฟนๆ กันแล้ว     ในภาคนี้แก๊งค์นินจาเต่าจะต้องต่อสู้กับด็อกเตอร์ Baxter Stockman (Tyler Perry) และศัตรูตัวฉกาจอย่าง Shredder (Brian Tee) กับหมู่ป่ากลายพันธุ์ Bebop(Gary Anthony Williams) และ Rocksteady (Myles Humphus)     แถมยังมีตัวร้ายจากมิติอื่นมาสร้างความวุ่นวายให้กับโลก (คล้ายกับใน Avengers ภาคแรก) แต่แก๊งค์นินจาเต่าก็ได้พันธมิตรคนใหม่อย่าง Casey Jones (Stephen Amell) มาร่วมทีมด้วย    …

ในทุกๆ ปี Maggie Storino และเหล่าลูกสาวของเธอจะรอชมว่า มีหนังเรื่องไหนบ้างที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากนั้นพวกเธอจะก็ทุ่มเทความคิด ทำภาพเลียนแบบสุดฮาและน่ารักจากหนังเหล่านั้นออกมา ในชุดภาพที่ชื่อว่า “Don’t Call Me Oscar” และในปีนี้อีกครั้งกับภาพล้อเลียนหนังเข้าชิงรางวัลออสการ์ชุดใหม่ ซึ่งหนังดังๆ ก็ถูกนำมาล้อเลียนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Revenant, Room, The Big Short และอื่นๆ อีกมากมาย จะน่ารักน่าชังขนาดไหน ไปชมกันเลย   The Big Short   “The Martian”   “Brooklyn”   “The Revenant”   “Mad Max: Fury Road”   “Spotlight”   “Bridge of Spies”   “Room”     ฮา แต่ละอันนี่ไอเดียเจ๋งเป้งทั้งนั้น เอาซะเหมือนเลย…