Category: Highlight

ใครที่เคยดูภาพยนตร์เรื่อง ‘Gone Girl’ เชื่อว่าหลังดูจบแล้วคงรู้สึกหลอนกับความร้ายกาจของมนุษย์เมียไปตามๆ กัน แม่คุณเอ๊ย… คงไม่มีใครจะร้ายกาจได้เท่าเธออีกแล้วแหละ ทว่าล่าสุดสำนักข่าว Dailymail ได้รายงานเรื่องราวที่คล้ายๆ กับในหนังแต่ไม่มีความเป็นมืออาชีพเท่า เมื่อหญิงสาววัย 18 ปี Breana Harmon Talbott ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจว่าเธอถูกลักพาตัว และถูกข่มขืน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพบว่าทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ!!   Breana Harmon Talbott   เมื่อวันที่ 8 มีนาคม คู่หมั้นหนุ่มของเธอได้โร่เข้าแจ้งความกับตำรวจ โดยให้การว่าแฟนสาวของเขาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ในขณะที่รถยังจอดอยู่ โดยประตูรถถูกเปิดทิ้งไว้ มีกุญแจบ้าน โทรศัพท์มือถือ และรองเท้าของเธอถูกทิ้งไว้ในรถอย่างน่าสงสัย เจ้าหน้าที่ต่างก็เชื่อว่าเธอถูกลักพาตัวไป จนกระทั่งในเย็นวันเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเมือง Denison รัฐเท็กซัส เธอเหลือเพียงแค่ชุดชั้นใน และตัวของเธอก็เปียกโชกไปด้วยเลือด ซึ่งหลายคนคาดว่าเธอน่าจะถูกข่มขืน     หลังปรากฏตัวเธอให้การกับตำรวจว่า เธอถูกชายผิวสี 3 คน สวมหน้ากากย่องเข้ามาที่อพาร์ทเม้นท์ของเธอ ก่อนจะลักพาตัว และพาเธอไปข่มขืน ทว่าหลังจากที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนอย่างจริงจัง เจ้าหน้าที่ก็พบจุดที่น่าสงสัยหลายประการที่บ่งชี้ว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้น่าจะเป็นเรื่องโกหก เพราะทีมสืบสวนได้พบกับข้อเท็จจริงจากคุณหมอที่เธอถูกส่งตัวไปรักษาว่า ร่างกายของเธอไม่มีรอยฟกช้ำที่ชี้ให้เห็นถึงการข่มขืน…

นึกย้อนไปตอนที่เราอายุ 4 ขวบ เราสามารถทำอะไรได้บ้าง หรือรู้จักเทคโนโลยีดีแค่ไหน แน่นอนว่าในวัยเพียงเท่านี้คงไม่รู้จักอะไรมากนัก พ่อแม่ยังคงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด Roman เด็กชายวัย 4 ขวบ ก็ไม่ได้ต่างจากเด็กทั่วไปเลย แต่เมื่อต้องเจอเหตุการณ์คับขัน เขากลับตัดสินใจจัดการกับปัญหาได้อย่างชาญฉลาด     Roman อาศัยอยู่ในย่าน London ทางตอนใต้ของ Kenley เขากลายเป็นฮีโร่ตัวน้อยที่ช่วยชีวิตแม่ด้วยการใช้แอพลิเคชั่นสิริ ในรายงานไม่ได้ระบุว่าแม่ของเด็กชายประสบกับอะไรมา แต่อยู่ในสภาพที่หมดสติและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ในวันนั้นมีเพียง Roman กับพี่ชายฝาแฝด และน้องชายที่อยู่ในบ้าน เมื่อเห็นแม่เป็นลมหมดสติ เด็กชายพยายามปลุกแม่ให้เธอ แต่แม่ไม่โต้ตอบเลย Roman จึงตัดสินใจวิ่งไปหยิบโทรศัพท์ของแม่ จากนั้นจับนิ้วของแม่มาปลดล็อคโทรศัพท์ และขอความช่วยเหลือจากหน่วยฉุกเฉินผ่านแอพฯ สิริ     โดยปกติแล้ว พ่อแม่จะไม่ให้ลูกในวัยนี้เล่นโทรศัพท์เพราะกลัวว่าจะก่อปัญหา แต่สำหรับเด็กชายคนนี้กลับใช้โทรศัพท์ได้อย่างคล่องแคล่ว คงจะเป็นเพราะเขาจำมาจากพ่อแม่นั่นเอง โดยคลิปเสียงที่ตำรวจได้รับนั้น เด็กชายบอกว่า “แม่ตาย” “เธอหลับตาและไม่หายใจ” นอกจากนี้เด็กชายยังได้ระบุตำแหน่งอย่างชัดเจนด้วยว่าอยู่ที่ไหน เจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยจึงรีบมายังที่เกิดเหตุทันที พบเด็กชาย 3 คนอยู่ในบ้าน โดยมีแม่นอนหมดสติอยู่ หน่วยกู้ภัยจึงรีบน้ำตัวแม่ส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงทันที     เรื่องราวนี้นอกจากทำให้ได้เห็นความสามารถของเด็กแล้ว ยังได้มีการพูดถึงระบบการปลดล็อคระบบโทรศัพท์ว่า เด็กชายอาจจะช่วยชีวิตแม่ไม่ทัน ถ้าปลดล็อคโทรศัพท์ไม่ได้…

Dawson Shull เป็นชื่อของหนูน้อยที่เกิดมามีความน่ารักเหมือนเด็กทั่วๆ ไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้หนูน้อยดูแตกต่างก็คือ เขาประสาทหูพิการมาตั้งแต่เกิด นั่นทำให้ชีวิตส่วนใหญ่ของเขาต้องสัมผัสอยู่กับความเงียบ จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อหนูน้อยได้รับการฝังประสาทหูเทียม เรื่องราวดีๆ ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมา     วันที่ 22 มีนาคม 2017 ทางเว็บไซต์เดลีเมล์ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวของ Dawson Shull หนูน้อยจากมลรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา วัยเพียง 10 เดือน ที่ติดเชื้อ Cytomegalovirus ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ที่ติดต่อระหว่างคนสู่คน และเมื่อรับเชื้อเข้ามาแล้วมันจะอาศัยอยู่ในร่างกายไปตลอดชีวิต… ส่วนเด็กที่อยู่ในครรภ์มารดา จะมีโอกาสติดเชื่อผ่านทางรก ส่งผลให้เด็กมีความพิการมาแต่กำเนิด ด้วยเหตุนี้นี่เอง จึงทำให้หนูน้อย Dawson ต้องสูญเสียการได้ยินไปอย่างถาวร     แต่หลังจากนั้นไม่นาน หนูน้อย Dawson ก็ได้เข้ารับการฝังประสาทหูเทียม (เป็นเทคโนโลยีการแพทย์ชนิดเดียว ที่สามารถช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของประสาทการได้ยิน) จนในที่สุดหนูน้อยก็สามารถได้ยินเสียงที่อยู่รอบๆ ตัวของเขาได้แล้ว     จากคลิปวีดีโอที่เราได้นำมาให้รับชมในครั้งนี้ ปรากฏเป็นภาพของ Dawson ขณะกำลังนั่งดู Minnie Mouse อย่างเงียบๆ…

คงไม่มีใครไม่รู้จัก “โรมิโอและจูเลียต” วรรณกรรมชื่อก้องโลกจากปลายปากกาของ วิลเลี่ยม เชคสเปียร์ นักเขียนชาวอังกฤษในช่วงหลายร้อยปีก่อน จนชื่อ โรมิโอ และ จูเลียต แทบจะกลายเป็นชื่อที่คนรู้จักมากที่สุดในโลก ล่าสุดเกิดเรื่องบังเอิญในโรงพยาบาล Coastal Carolina ในรัฐเซาท์แคโรไลน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อทางโรงพยาบาลได้เผยแพร่ภาพของเด็กทารกสองคนชื่อ โรมิโอ และ จูเลียต นอนอยู่ในตู้อบข้างๆ กัน     ทารกดังกล่าวมีชื่อว่า โรมิโอ เฮอนานเดซ และ จูเลียต ชิฟฟ์เล็ต โดยครอบครัวทั้งสองไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จนกระทั่งทางโรงพยาบาลได้แจ้งความบังเอิญที่เกิดขึ้นให้ได้ทราบ มอร์แกน เฮอนานเดซ พ่อของโรมิโอกล่าวว่า “มันน่าตลกมากเพราะเราไม่ได้ตั้งชื่อเขาจากเช็คสเปียร์ด้วยซ้ำ แต่เราตั้งชื่อตามนักร้องที่ชื่อว่า โรมิโอ ซานโต๊ส ต่างหาก” ส่วนครอบครัวชิฟฟ์เล็ตก็กล่าวว่า ที่ตั้งชื่อลูกสาวว่าจูเลียต เพราะอยากได้คล้องจองกับพี่ชายของเธอที่ชื่อว่าโจนาส โดยไม่ได้คิดถึงวรรณกรรมชื่อดังของนักเขียนชาวอังกฤษแต่อย่างใด     ทั้งสองครอบครัวก็ได้มารู้จักและถ่ายภาพร่วมกัน พร้อมคุยกันเล่นๆ ว่า น่าจะเตรียมจัดงานแต่งงานของทั้งสองไว้เลยดีกว่า จะได้ไม่จบเหมือนในวรรณกรรม นอกจากนี้ทั้งสองยังคิดกันเอาไว้แล้วว่าช่วงงานวันเกิดครั้งแรก จะจัดขึ้นในธีมเชคสเปียร์ เพื่อให้เข้ากับชื่อของทั้งสอง  …

หมาป่าที่พบทั่วไปมักจะเป็นสีเทา ซึ่งคนธรรมดาอย่างเราๆ ถ้าไม่สนใจจริงๆ ก็คงไม่รู้ว่าหรอกว่ามันเป็นอะไร หรือมีพันธุ์ไหนบ้าง แต่สำหรับหมาป่าแล้วก็ไม่ต่างจากสัตว์ชนิดอื่นๆ หรอกที่มีทั้งพันธุ์หายากและพันธุ์ที่พบได้ทั่วไป และเมื่อไม่กี่วันมานี้ก็มีคนบังเอิญพบหมาป่าพันธุ์หายากในประเทศแคนาดา     วันนั้น Rhonda Miller กำลังขับรถอยู่ถนนทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศแคนาดา และสายตาเธอก็เหลือบไปพบเข้ากับหมาป่าสีดำ 2 ตัว กำลังวิ่งตีคู่กับรถยนต์อยู่ข้างถนน ในตอนแรก Miller คิดว่ามันเป็นคน แต่ก็สงสัยว่าทำไมคนต้องมาเดินในพื้นที่ห่างไกลแบบนี้ เธอเลยเปลี่ยนความคิด และมั่นใจว่ามันต้องเป็นหมีแน่ๆ เพราะมันตัวใหญ่และมีสีดำ     และเมื่อขับรถเข้าไปใกล้ขึ้นก็พบวามันเป็นหมาป่าสีดำ ไม่ใช่คนหรือหมีอย่างที่เข้าใจเลย ทำเอาหญิงสาวตกใจมาก เพราะเธอไม่เคยเห็นหมาป่าสีดำมาก่อนเลยที่สำคัญพวกมันวิ่งตามรถเธอมาติดๆ เลย Miller จึงลดความเร็วลงและได้ถ่ายรูปพวกมันไว้ ก่อนที่ทั้งสองตัวจะวิ่งออกจากรถของเธอท่ามกลางหิมะหนาแน่น     สำหรับหมาป่าทั่วไปนั้น เมื่อโตเต็มไว้พวกมันจะมีการผลัดขนเป็นสีเทาแกมขาว แต่ก็มีบางตัวที่ยังมีขนสีดำทั้งตัวซึ่งมีน้อยมาก ทั้งนี้การที่หมาป่ามีขนสีดำทั้งตัวนั้นเป็นเพราะความผิดปกติทางพันธุกรรม และมีจำนวนที่น้อยมาก ดังนั้นพวกมันจึงจัดให้อยู่ในพวกหมาป่าพันธุ์หายากนั่นเอง   .   มีใครเคยเห็นหมาป่าสีดำแบบนี้บ้างมั้ยเอ่ย? ที่มา dailymail

ปกติแล้วถ้าเรารู้ตัวว่าไปโรงเรียนสาย เราก็คงจะหาเหตุผลอ้างกับครูไปว่าแอบเล่นเกมจนนอนดึกบ้าง ต้องช่วยแม่ทำงานบ้านตอนเช้าเลยมาสายบ้าง อะไรก็ว่ากันไป แต่สำหรับเด็กหนุ่มจากยูเครนคนนี้ ทันทีที่คุณพ่อรู้ตัวว่าเขาต้องไปโรงเรียนสาย คุณพ่อเขาก็จัดการแก้ปัญหาด้วยการขับเฮลิคอปเตอร์คู่ใจ ไปส่งลูกถึงหน้าโรงเรียนมันซะเลย วีไอพีสุดๆ โดยสำนักข่าว Metro ได้รายงานว่าเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นที่เขต Lypky ของเมืองเคียฟ ประเทศยูเครน เป็นภาพของคุณพ่อที่กำลังลงจอดฮ. รุ่น The Robinson R22 Beta บริเวณหน้าโรงเรียน     ไม่น่าแปลกใจที่ครอบครัวนี้จะสามารถขับฮ. มาส่งลูกถึงโรงเรียนได้ เพราะนักข่าวได้ไปสืบประวัติและพบว่าเด็กคนดังกล่าวเป็นลูกชายของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงกีฬา แห่งประเทศยูเครน Andrey Palchevskii  หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวแพร่สะพัดอยู่บนโลกออนไลน์ หลายกระแสก็บอกว่าคุณพ่อสปอยล์เด็กมากจนเกินไป บางคนก็กล่าวหาว่าภาพดังกล่าวเป็นการจัดฉากขึ้น ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งก็บอกว่า ‘อย่าอิจฉาไปเลย ก็ครอบครัวเขามีฐานะพอที่จะทำอะไรแบบนี้ได้ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรือ?’   ถ้าเปรียบง่ายๆ ย่าน Lypky ก็คือย่านคนมีตังค์ของยูเครนเค้าล่ะ คล้ายๆ กับ Beverly Hills อะไรทำนองนั้น   บอกตรงๆ ว่าเราก็อิจฉาเหมือนกัน ถ้าตอนเด็กๆ พ่อเราขับฮ.ไปส่งที่โรงเรียนแบบนี้ได้ คงเป็นอะไรที่เฟี้ยวฟ้าวน่าดูเลย ที่มา: Metro

พูดถึงสงครามแล้ว เราอาจนึกถึงความโหดร้าย ความตาย และการเฆ่นฆ่ากันระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ แต่เชื่อหรือไม่ว่าครั้งในหนึ่งสงครามครั้งที่ใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ เคยมีการพักรบกันระหว่างทหารสองฝ่ายและเตะฟุตบอลกระชับมิตรในช่วงคริสตมาส แม้คืนก่อนหน้านั้น พวกเขายังสาดอาวุธเข้าใส่กันก็ตาม   (ภาพประกอบไม่เกี่ยวของกับเหตุการณ์แต่อย่างใด)   เรื่องราวเกิดขึ้นในในปี 1914 ที่สงครามโลกครั้งที่หนึ่งยังครุกรุ่นอยู่ทั่วยุโรป กองทหารอังกฤษและกองทหารเยอรมันกำลังปะทะกันอย่างหนักหน่วง ณ สมรภูมิ Ploegsteert ที่ประเทศเบลเยี่ยม การสู้รบของทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ จนการสู้รบยืดยื้อมาจนถึงช่วงวันคริสต์มาส สำหรับชาวตะวันตกแล้ว วันคริสต์มาสคือวันที่พวกเขาควรจะได้อยู่เฉลิมฉลองกับครอบครัวอย่างมีความสุข แต่นายทหารเหล่านั้นกลับต้องสู้รบกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำให้จิตใจของพวกเขาห่อเหี่ยวเป็นอย่างยิ่ง     แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นในวันคริสต์มาสนั้นเอง จากคำบอกเล่าของร้อยเอก A.D. Chater ที่เขียนจดหมายกลับไปเล่าเรื่องราวให้กับมารดาของตนเองฟังว่า ในช่วงเวลาประมาณสิบโมงเช้า ทหารอังกฤษสังเกตเห็นทหารเยอรมันคนหนึ่ง โบกไม้โบกมืออยู่ฝั่งตรงข้ามของบังเกอร์ จากนั้นเขาก็เห็นทหารเยอรมันอีกสองคนเดินมุ่งตรงมาที่พวกเขา     ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมต่อสู้นั้นเอง พวกเขาก็สังเกตเห็นว่าทหารเยอรมันนั้นสองนั้นไม่ได้พกอาวุธมาด้วย นายทหารอังกฤษคนหนึ่งจึงตัดสินใจเดินออกไปพบกับทหารฝ่ายศัตรูทั้งสอง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ทหารทั้งฝ่ายต่างจับมือและอวยพรวันคริสต์มาสให้แก่กันและกัน หลังจากนั้นนายทหารคนอื่นๆ ก็ออกไปร่วมแจมด้วย พวกเขาต่างอวยพรให้สามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย จากนั้นก็ถ่ายภาพและเปลี่ยนบุหรี่ซึ่งกันและกัน ราวกับจำไม่ได้ว่าวันก่อนหน้านั้น พวกเขายังมุ่งร้ายต่อกันอยู่   ไม้กางเขนรำลึกที่ถูกปักอยู่นอกบริเวณป่า Ploegsteert อันเป็นสนามฟุตบอลที่ทหารทั้งสองฝ่ายเตะบอลร่วมกันในวันคริสต์มาส ปี 1914  …

เรื่องราวดีๆ มักจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเรารู้จักกับ ‘การให้’ เช่นเดียวกับชายหนุ่มคนนี้ที่ตัดสินใจจะจะมอบงานพรอมที่แสนวิเศษให้กับเด็กสาวที่ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม จนสร้างความประทับใจไปทั่วโลกออนไลน์ Shaedon Wedel เด็กหนุ่มวัย 18 ปี จากเมือง Kansas เขาได้ตัดสินใจที่จะชวนเพื่อนสนิทของน้องสาวของตัวเอง Carlie Wittman ไปงานพรอมด้วยกัน ด้วยวิธีการที่พิเศษที่สุดเท่าที่จะทำได้     สาวน้อย Carlie Wittman วัย 15 ปี ที่เกิดมาพร้อมกับโรคดาวน์ซินโดรม และเธอมีความใฝ่ฝันมาตลอดว่า “อยากจะเป็นเจ้าหญิงเหมือนกับซินเดอเรลล่า”  และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหนุ่ม Shaedon ก็เลยตัดสินใจที่จะไปเซอร์ไพรส์ชวน Carlie ไปร่วมงานพรอมด้วยพร้อมกับไปในธีมเสื้อโดริโทสซะเลย     เขาสวมเสื้อโดริโสพร้อมทั้งถือขนมโดริโทสไปด้วย ซึ่งบนเสื้อนั้นก็ได้มีข้อความเขียนเอาไว้ว่า “แม้ว่าผมจะชอบนาโช่มากกว่าโดริโทส แต่ผมก็รู้สึกดีมากและอยากจะขอชวนเธอไปงานพรอมด้วย จะไปด้วยกันมั้ย?” หนุ่ม Shaedon ได้ให้เหตุผลของธีมโดริโทสนี้เอาไว้ว่า “ผมตัดสินใจที่จะไปพร้อมกับธีมโดริโทส ก็เพราะว่าผมรู้จักเธอมานานกว่า 7 ปีแล้ว และไม่เคยมีวันไหนเลยที่เธอจะไม่กินโดริโทส ดูเหมือนว่าเธอจะชื่นชอบมันมากๆ เลยล่ะ”      ลองไปชมคลิปเหตุการณ์ที่หนุ่ม Shaedon ไปเซอร์ไพรส์ขอชวนสาวน้อย…

ขอเตือนก่อนเลยนะคะว่า สำหรับคนที่กลัวงู คุณสามารถข้ามบทความนี้ไปได้เลย เพราะในเนื้อหานี้จะมีแต่ภาพงู งู แล้วก็งูเต็มไปหมด และไม่ใช่งูที่เห็นตามป่าหรือสวนสัตว์นะ แต่พวกมันมาทักทายมนุษย์ถึงบ้านกันเลยทีเดียว ใครเห็นเป็นต้องวิ่งหนีแน่ๆ และสำหรับออสเตรเลียนั้น การที่มีงูเข้าบ้านกลายเป็นเหตุการณ์ที่ผู้คนต้องเจอกับอยู่บ่อยมาก เพราะอะไรนะหรอ ไปดูกันเลยดีกว่า   1. เราอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่าออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีงูจำนวนมาก   ออสเตรเลียมีงูมากมายหลายชนิด โดยแบ่งเป็นงูบก 140 ชนิด งูทะเล 32 ชนิด แต่มีเพียง 12 ชนิดเท่านั้นที่อันตรายถึงชีวิตได้   2. ออสเตรเลียมีงูพิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลกอยู่ 21 ชนิด จากทั้งหมด 25 ชนิด   3. และมี 100 ชนิดที่เป็นงูมีพิษทั่วไป   4. จึงไม่แปลกที่จะเห็นงูอยู่รอบๆ บ้าน   5. บางทีพวกมันก็จะเคาะประตูบ้าน   6. แต่บางทีพวกมันก็แอบเข้าไปไม่ได้เจ้าของบ้านรู้ตัว   7. หรือบางทีก็ซ่อนอยู่ในห้องนอน   8.…

เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยมีอะไรที่ตัวเองชอบจนถึงขีดสุดแล้วรู้สึกว่า เฮ้ย!! เราจะต้องเป็นแบบนั้นให้ได้ เราจะต้องมีแบบนี้ให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าหญิงสาวที่เรากำลังจะพูดถึง ก็มีความรู้สึกแบบนั้นเช่นกัน เธอคนนี้มีชื่อว่า Sydney Smith อายุ 30 ปีจากลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย ผู้ซึ่งเรียกตัวเองว่า “แม่ยีราฟสาว” โดยเธอต้องการที่จะให้ทั้งโลกรู้ว่าเธอคือผู้หญิงที่มีคอยาวที่ซู๊ดดดดด     ซึ่งหลายคนคงเดาว่าเธอจะได้ต้องได้รับแรงบรรดาลใจจากกะเหรี่ยงคอยาวบ้านเราแน่ๆ ใช่แล้วคุณเดาไม่ผิด เพราะเธอได้แรงบรรดาลใจจากชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาวจริงๆ แต่ไม่ใช่แค่นั้นเธอยังชื่นชอบในตัวยีราฟด้วย พอเอาทั้งสองมาผสมกัน ก็เลยเกิดเป็นแรงบรรดาลใจนี้ขึ้นมา ด้วยเหตุนี้เธอจึงเริ่มหันมาสวมเหล็กที่คอวงแหวนที่คอเหมือนกับชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาว ซึ่งใช้เวลา 5 ปีค่อยๆ เพิ่มวงแหวนที่เธอใส่จนมีจำนวนมากถึง 15 วง แถมตอนนี้มันยังหนักถึง 2 กิโลกรัม ส่วนจุดประสงค์ของเจ้าวงแหวนที่คอก็เพื่อที่มันจะได้กดช่วงไหล่ลงไป เพื่อยืดกระดูกคอให้ยาวขึ้นตามแบบที่กะเหรี่ยงคอยาวทำนั่นเอง     “ฉันใช้เวลานานถึง 5 ปี ใช้ชีวิตอยู่กับวงแหวนที่คอ แต่แล้วฉันก็รู้สกว่าฉันถูกมันครอบงำชีวิตไปซะแล้ว ฉันกลายเป็นคนเก็บตัว เหมือนกับว่าทุกอย่างในชีวิตขึ้นอยู่กับวงแหวนพวกนี้” “ฉันไม่สามารถที่จะทำงานแบบคนปกติได้เต็มที่ในอเมริกา ถ้ายังคงสวมใส่วงแหวนพวกนี้อยู่” นั่นทำให้หลังจากใช้ชีวิตกับความฝันเป็นยีราฟสาวมา 5 ปี เธอตัดสินใจถอดมัน เลิกยุ่งกับมัน แล้วเข้ารับการกายภาพบำบัดเพื่อให้คอกลับมาเป็นปกติ     แม้เธอจะถอดมันออกมาสักระยะแล้ว…

อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยของเรานั้นเป็นหนึ่งในเป้าหมายในสถานที่ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันงดงามแล้ว ข้าวของในไทยของเราก็ถูกจนหลายๆ คนต่างอยากมาช็อปปิ้งกลับบ้านซักครั้งเหมือนกัน วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ เลยรวบรวม 10 ของฝากจากไทย ที่ชาวต่างชาตินิยมซื้อกลับไปฝากที่บ้าน เสมอๆ จะมีอะไรบ้าง เราไปชมกันเลย   10. สาหร่ายเถ่าแก่น้อย ไม่น่าแปลกใจที่สาหร่อยเถ่าแก่น้อยจะได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ เพราะมันแปลก อร่อยไม่เหมือนใครจริงๆ   9. ผงชาไทย ชาเย็นหรือชานมถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก ฉะนั้น ผงชาจึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาอยากนำกลับไปทำดื่มเองที่บ้านของเขายังไงล่ะ   8. ขนมโก๋แก่ ด้วยรสชาติอันหอมหวาน พร้อมด้วยกลิ่นของน้ำกะทิ ทำให้ชาวต่างชาตินิยมซื้อถั่วโก๋แก่กลับไปฝากเพื่อนๆ เป็นอย่างมาก ก็แหงล่ะ มันทุกเม็ด…   7. ยาดม ยาดมอาจเป็นของบ้านๆ ของคนไทย แต่สำหรับชาวต่างชาตินั้น พวกเขาชื่นชอบในความสดชื่นหลังได้สูดกลิ่นของยาดมเข้าไปเป็นอย่างมาก ด้วยราคาเพียงอันละไม่กี่สิบบาท ทำให้ยาดมกลายเป็นของฝากยอดนิยมอีกชิ้นหนึ่ง   6. ถุงยางดูเร็กส์ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถุงยางถึงติดอันดับ สาเหตุจริงๆ แล้วเป็นเพราะว่า ถุงยางดูเร็กส์ในประเทศไทยค่อนข้างถูกกว่าที่ต่างประเทศเป็นอย่างมาก ทำให้พวกเขานิยมซื้อกลับไปฝากและใช้งานกัน   5. กระเป๋า BKK Original…

หลังจากผ่านแต่วันอันแสนยาวนานและเหน็ดเหนื่อย การได้เข้าไปนวดอบไอน้ำในสปาดีๆ ซักแห่ง คงจะเป็นความฝันสูงสุดของใครหลายๆ คน เพราะมันจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและได้ปลดปล่อยความเครียดที่สะสมมาทั้งวัน ล่าสุดในเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย พวกเขาได้เปิดสปาแห่งใหม่ชื่อว่า Baby Spa Perth ที่ไม่ได้ให้บริการกับผู้ใหญ่ทั่วไป แต่เป็นเด็กทารกอายุไม่เกิน 6 เดือน!!   Baby Spa Perth แห่งนี้ให้บริการนวดและอาบน้ำให้กับเด็กทารกเท่านั้น   ที่นี่เด็กๆ จะได้ว่ายน้ำในอ่างอาบน้ำอย่างมีความสุข   แต่ละคนก็จะได้รับห่วงยางช่วยลอยของตนเอง   พ่อแม่ก็สามารถชมได้อย่างใกล้ชิด   ท่าทางน่าสนุกใช่มั้ยล่ะ   ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเขามีความสุขขนาดไหน   หลับปุ๋ยเชียว   ดุ๊กดิ๊กๆๆ   ไปชมความน่ารักของเขากันเลย . . .   น่ารักจริงๆ เลยเนอะ ในไทยน่าจะมีอะไรแบบนี้บ้าง น่าจะได้รับความสนใจไม่น้อยเลยนะ ที่มา Boredpanda, Baby Spa Perth

ขึ้นชื่อว่าช่างภาพแล้ว พวกเขามักจะหาอะไรมีความแปลกใหม่อยู่เสมอ เช่น การถ่ายรูปในสถานที่แปลกๆ การเข้าไปเก็บภาพในมุมที่คนอื่นมองข้าม และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อนำมาสร้างเป็นผลงานที่มีความแตกต่างอย่างโดดเด่น เช่นเดียวกับ Alexander Petrosyan ที่ใช้เวลาหลายปีในการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ของถนน St. Petersburg ประเทศรัสเซีย โดยผลงานของเขานั้นไม่เพียงแต่สวยงามแต่ยังดูแปลกตาอีกด้วย     หากเป็นคนทั่วไปคนจะไปถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆ ที่มีการโปรโมตในโปสการ์ดหรือสถานที่ขึ้น แต่สำหรับ Petrosyan แล้ว เขาเลือกที่ไปถ่ายในมุมที่ไม่มีในโปสการ์ดหรือมุมที่คนไม่คุ้นชินโดยไม่มีการจัดฉากแต่อย่างใด Petrosyan มีกล้องเป็นของตัวเองครั้งแรกตอนวันเกิดครอบรอบ 12 ปี แต่กว่าจะมาถึงทุกวันนี้เขาได้เลิกถ่ายรูปและกลับมาถ่ายใหม่อีกหลายครั้ง     ในที่สุดปี 2000 เขาก็ตัดสินใจเป็นช่างภาพมืออาชีพอย่างเต็มตัว และแรงบันดาลใจของเขาก็คือถนน St. Petersburg นี่แหละ เพราะทั้งชีวิตของเขาผูกพันอยู่กับที่นี่     Petrosyan พูดถึงประวัติศาสตร์รัสเซียว่า “จากสมัยของจักรวรรดิรัสเซียมาจนถึงการทำลายล้างในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และตอนนี้รัสเซียอยู่ภายการปกครองของ Vladimir Putin จะเห็นว่าที่นี่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มากมาย และทั้งหมดนี้แหละคือโลกของผม”     ดังนั้นในทุกๆ วัน Petrosyan จะออกไปบ้านพร้อมกล้องถ่ายเสมอ เขาจะเก็บภาพจากมุมต่างๆ ที่น่าสนใจ โดยไม่สนว่าฉากจะเป็นยังไง เพราะต้องการให้คนได้เห็นภาพที่แตกต่างออกไปนั่นเอง  …

เราทุกคนต่างรู้ดีว่าซักวันหนึ่งเวลานั้นก็ต้องมาถึง เวลาที่ร่างกายของเราไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะด้วยโรคร้ายแรง หรืออายุขัยก็ตามแต่ และ ‘คำขอครั้งสุดท้าย’ ก็เปรียบเสมือนเครื่องบรรเทาจิตใจ ที่จะช่วยทำให้พวกเขารู้สึกดี และจากไปได้อย่างสงบ ทางเว็บไซต์ Boredpanda ก็ได้รวบรวม 10 คำขอครั้งสุดท้าย จากบุคคลต่างๆ ทั่วโลกที่เล่นเอาเราน้ำตาซึมได้โดยไม่รู้ตัว   1. สาวน้อย Elena วัย 6 ขวบ ผู้จากไปด้วยโรคมะเร็งสมอง ช่วงที่เธอป่วยเธอพยายามซ่อนจดหมายน้อยไว้ทั่วบ้าน เพื่อให้พ่อแม่ของเธอได้มาเปิดอ่านในวันที่เธอจากไปแล้ว   2. ชายไร้บ้านผู้กำลังจะจากไปด้วยโรคมะเร็ง คำขอสุดท้ายในชีวิตเขาต้องการเพียงแค่ใครซักคน ที่จะรับดูแลสุนัขเพื่อนซี้ของเขาต่อไป   3. ในวันสุดท้ายก่อนที่คุณตาผู้นี้จะจากไป เขาได้ขอให้หลานชายแอบนำเบียร์เข้ามาในห้องผู้ป่วย เพื่อที่จะได้ดื่มด่ำรสชาติของมันเป็นครั้งสุดท้าย…   4. คุณยายต้องการเจอแมวเหมียวเพื่อนซี้ Oliver เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อบอกลา ก่อนที่เธอจะจากไปอย่างสงบ   5. คุณแม่ผู้ต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งมานานกว่า 15 ปี ในวันสุดท้ายเธอไม่ต้องการสิ่งใดพิเศษ นอกจากการได้เต้นรำกับคู่ชีวิตของเธอเป็นครั้งสุดท้าย   6. คำขอสุดท้ายของผู้ป่วยมะเร็งวัย 54 ปีคนนี้ ต้องการจะกลับไปบอกลายีราฟเพื่อนซี้…

เมื่อมองไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน เคหะวัตถุที่ใหญ่ที่สุดที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็คงจะเป็นดวงจันทร์ ดาวบริวารเพียงหนึ่งเดียวของโลกที่ตั้งอยู่ห่างออกไป 300,000 กิโลเมตร แม้ปัจจุบันเทคโนโลยีของมนุษย์จะก้าวไกลจนมนุษย์สามารถขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ได้แล้ว แต่มันก็ยังเป็นดาวเคราะห์ที่น่าพิศวงและน่าหลงไหลอย่างไม่เปลี่ยนแปลง และมันจะดีแค่ไหน หากเราสามารถนำดวงจันทร์ดวงนั้น มาตั้งในห้องของคุณได้ ล่าสุดในเว็บไซต์ขายของออนไลน์ Etsy ได้มีการเปิดจำหน่ายโคมไฟดวงจันทร์อันแสนงดงาม ที่เพื่อนๆ เห็นแล้วจะต้องอยากได้ซักอันแน่นอน     โคมไฟดังกล่าวเป็นผลงานของบริษัท Pulsar Moonlight โดยโคมไฟแต่ละอันจะถูกออกแบบมาให้เหมือนดวงจันทร์ของจริงมากที่สุด ทั้งลักษณะของพื้นผิวและสี     ลองไปชมกันเลย รับรองว่าเพื่อนๆ ต้องอยากได้ซักอันแน่นอน . . . . . . .   ใครสนใจก็สั่งซื้อกันได้นะฮะ สนนราคาอยู่ที่ชิ้นละประมาณ 2,000 – 4,000 บาท รับรองว่าบ้านของคุณจะมีสีสันขึ้นอย่างแน่นอน   ที่มา PULSARMOONLIGHT

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา #เหมียวขี้ส่อง ได้นำเสนอเรื่อง พ่อนำภาพวาดของลูกมาวาดใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นการนำจินตนาการของลูกมาผสมกับฝีมือของพ่อจนเกิดเป็นภาพที่สวยงามสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว วันนี้เราจึงนำภาคต่อมานำเสนอให้เพื่อนๆ ได้ดูกันอีกครั้ง เพราะลูกชายยังคงชอบวาดภาพตามจินตนาการเหมือนเดิม ส่วนพ่อก็ไม่พลาดที่นำภาพวาดของลูกมาบรรจงตกแต่งรายละเอียดให้สวยงาม     Thomas Romain ศิลปินชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ในกรุงโตเกียว ทำเขาทำงานทางด้านการ์ตูนและอนิเมะต่างๆ มากมามายเช่น Symphogear, Space Dandy, Aria และ Basquash! แต่กว่าจะมาถึงจุดๆ นี้ได้นั้น เขาก็ฝึกฝีมือเรื่อยมาพร้อมกับผลงานของลูกนั่นเอง     ลูกชายของ Thomas เป็นคนชอบวาดรูปเหมือนเด็กๆ ทั่วไป แต่รูปภาพของเขาไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เพราะผู้เป็นพ่อได้นำภาพของลูกมาวาดใหม่ให้สวยงาม สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ในภาพวาดชุดใหม่นี้ก็เช่นกัน ลูกชายยังคงชอบวาดตัวปีศาจและอัศวินต่างๆ เหมือนเดิม แต่เขาได้วาดให้ตัวการ์ตูนมีความแตกต่างจากชุดที่ผ่านมา ซึ่งภาพเหล่านี้ก็มาจากจินตนาการของเขาเองนั่นแหละ     ดังนั้นเมื่อพ่อนำภาพของลูกมาวาดใหม่ให้มีความสมบูรณ์ มันจึงกลายเป็นเอกลักษณ์ของพ่อลูกคู่นี้ ที่ไม่ซ้ำกับใครแน่นอน เห็นไหมล่ะว่าจินตนาการของเด็กๆ สำคัญแค่ไหน ดังนั้นอย่ามองข้ามในสิ่งในเด็กทำแต่ควรสนับสนุนพวกเขาจะดีกว่า แล้ววันหนึ่งคุณอาจจะประสบความสำเร็จเหมือนกับพ่อลูกคู่นี้ก็ได้ เพื่อนๆ สามารถติดตามผลงานของ Thomas ได้ที่ทวิตเตอร์ ThomasRomain ロマン・トマ     อัศวินผู้พิทักษ์แห่งอัคคี   เจ้าปีศาจนักฆ่า   โดยหลังจากที่พ่อได้นำภาพวาดของรูปมาวาดใหม่เสร็จแล้ว เวลาจะเผยแพร่เขาจะใส่เครดิตไว้สองคนเสมอ เช่น…

หลายคนอาจจะคิดว่าการซื้อสาวบริการมูลค่านับแสนต่อคืน จะต้องแลกมาด้วยเซ็กส์อันเผ็ดร้อนและถึงใจที่สุดเท่านั้น แต่อาจจะไม่ใช่เสมอไป…   เว็บไซต์เดอะซัน รายงานข่าวจากการให้สัมภาษณ์ของ Lana Jade สาวขายบริการชั้นสูง ผู้มีค่าตัวสูงถึง 1 แสนบาทต่อคืน หรือถ้าคิดเป็นรายชั่วโมง เธอก็จะให้บริการในราคาประมาณ 24,000 บาทต่อชั่วโมง เธอให้บริการทั้ง ชาย หญิง และคู่รักที่ต้องการซื้อตัว แต่กลับออกมาบอกว่า ผู้ชายที่มาใช้บริการเธอไม่ได้สนใจแค่เรื่องเซ็กส์ แต่พวกเขาบางคนต้องการเพียงแค่ให้เธอกอดเท่านั้น     แต่ด้วยการที่เธออยู่ในแวดวงของการขายบริการ จึงไม่แปลกที่เธอจะมีลูกค้าที่มีความสนิทสนมพอสมควรอยู่ ซึ่งเธอก็ได้พูดถึงลูกค้าของเธอว่า “ลูกค้าบางคนสนใจในเรื่องของความรู้สึกมากกว่าการกระทำที่ป่าเถื่อน” “นอกจากนั้นลูกค้าส่วนใหญ่ ชอบที่จะสัมผัสประสบการณ์ดีๆ ที่เร่าร้อนมากกว่าความสัมพันธ์แบบหุ่นยนต์ ที่ทำให้เสร็จๆ แล้วก็แยกย้าย”     “หลายคนชอบที่จะกอดและจูบ มากกว่ามีเซ็กส์เสียด้วยซ้ำ”    นอกจากนี้เธอยังพูดเสริมว่าลูกค้าบางคนถึงกับจองตัวเธอ เพื่อไม่ได้มามีเซ็กส์ แต่ต้องการเพียงแค่พูดคุยหรือแลกเปลี่ยนเรื่องราวเพื่อให้รู้สึกสบายใจเท่านั้น บางคนยังชอบที่จะใช้เวลาอยู่กับเธอ พวกเขาบอกว่าถือเป็นการบำบัดอย่างหนึ่ง สุดท้ายเธอบอกว่า “ช่วงเวลาส่วนใหญ่นอกจากเซ็กส์แล้ว ส่วนใหญ่มันก็คือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเท่านั้น และ เพื่อช่วยให้พวกเขาสบายใจ”   . .   บางครั้งการกอดเฉยๆ อาจจะทำให้รู้สึกดีกว่าการมีเซ็กส์อีกนะเออ ที่มา thesun  

เราแทบจะไม่ได้เห็นกรณีการที่ถูกแยกกันระหว่างพ่อแม่และลูก ด้วยเหตุผลที่ว่า “แก่เกินไป” แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในอิตาลีนี้ มันทำให้เราได้รับรู้ว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วย…   ย้อนกลับไปในปี 2009  Luigi ฝ่ายสามีอายุ 69 และภรรยา Gabriella De Ambrosis อายุ 57 ปี ทั้งคู่อยากจะมีลูกก็เลยตัดสินใจผสมเทียมด้วยการสร้างเด็กหลอดแก้ว ต่อมาในปี 2010 ฝ่ายภรรยาก็ได้ให้กำเนิดลูกสาวที่มีสุขภาพแข็งแรง ทั้งคู่กลายเป็นข่าวใหญ่พอสมควรเลยล่ะ และทั้งคู่ก็ได้ชื่อว่าเป็น พ่อแม่ที่เป็นคุณตาและคุณยายได้ในเวลาเดียวกัน แม้ว่าพวกเขาเจอกับข้อครหาว่าพวกเขาทั้งคู่แก่เกินกว่าจะดูแลเด็กได้ แต่ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ยังดูแลเด็กได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะในตอนนั้นที่อิตาลียังไม่มีกฏหมายในเรื่องของผู้สูงวัยกับการมีลูก     แต่ทว่าช่วงเวลาแห่งความสุขก็อยู่ได้ไม่นาน เวลาผ่านไปเพียงแค่ 15 เดือนเท่านั้น วันหนึ่งพวกเขาปล่อยลูกสาวคนนั้นในที่นั่งเด็กไว้ในรถยนต์เพียงลำพัง เพื่อเดินเข้าไปชงนมภายในบ้าน แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียง 7 นาที แต่เพื่อนบ้านคนหนึ่งซึ่งเห็นสองคนเข้าบ้านโดยไม่มีลูก ก็เห็นว่าลูกอยู่ในรถจึงโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดู พอตำรวจมาถึงเห็นทั้งสองอยู่ในบ้านและทิ้งลูกในรถ จึงตั้งข้อกล่าวหาทั้งสองในข้อหาละเลยลูก ด้วยเหตุนี้ศาลจึงตัดสินคดีให้พวกเขาไม่เหมาะสมที่จะเลี้ยงดูลูกสาวของพวกเขาอีกต่อไป     แถมในปี 2013 พวกเขายังต้องซวยซ้ำซวยซ้อน เมื่อศาลตัดสินว่าพวกเขาให้กำเนิดบุตรสาวโดยวิธีการผสมเทียมซึ่งมันเป็นอะไรที่ผิดธรรมชาติ แถมพวกเขายังอายุมากเกินจะดูแลลูกแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ลูกสาวของพวกเขาต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าทันที แต่เรื่องราวนี้มันเทียบไม่ได้เลยกับความรู้สึกที่พวกเขาต้องแบกรับ ความรู้สึกที่ลูกของตัวเองจะต้องถูกพรากไปให้คนอื่นดูแลต่อ แทนที่จะพวกพ่อแม่อย่างพวกเขาเอง   ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้ อีก 3 ปีต่อมา Adriana…

ปัจจุบันนี้มีคาเฟ่โน่น นี่ นั่นเปิดเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่แมวหรือคาเฟ่กระต่าย ซึ่งคาเฟ่เหล่านี้ก็มีได้รับกระแสตอบรับดีเสมอ แต่ขึ้นชื่อว่ามนุษย์แล้ว ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้นหรอก อย่างล่าสุดที่ญี่ปุ่นก็มีการเปิดตัว ‘World Sleep Day’ หรือคาเฟ่งีบ ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่อยากจะงีบพักผ่อนชาร์จพลังระหว่างวัน     World Sleep Day เกิดจากความร่วมมือระหว่างแบรนด์ Nescafe และ France Bed เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการนอนหลับ ท่ามกลางบรรยากาศแบบคาเฟ่ แต่คาเฟ่งีบนี้ไม่ได้เปิดบริการทุกวันเหมือนคาเฟ่ทั่ว ทว่าจัดขึ้นในบางช่วงเวลาเท่านั้น โดยปกติแล้วมักจะจัดขึ้นในวันศุกร์ก่อนช่วงเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิของทุกปี คาเฟ่งีบจัดขึ้นที่ร้านกาแฟ Nescafe Harajuku โดยมีการตกแต่งภายในด้วยไฟสลัวๆ และมีเตียงนอนอิเล็กทรอนิกส์จำนวน 10 เตียง จาก France Bed ให้ลูกค้าได้ทดลองนอนด้วย     แต่สำหรับเตียงนอนที่บริการลูกค้านั้นจะเป็นเตียงนอนไฟฟ้าสุดหรูหรา ซึ่งมีให้เลือกถึง 3 แบบด้วยกัน อย่างเช่น Bosutesso BO-08 เตียงนอนสุดหรู นอนสบาย ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาท     Gran…

ปกติแล้วเด็กวัยแรกเกิดในช่วงไม่เกิน 1 ขวบพวกเขามักจะยังมีผมที่ยังยาวไม่มาก แต่ใครจะเชื่อว่ามีเด็กผู้หญิงจากเมือง Chelmsford ประเทศอังกฤษ ที่มีผมที่ยาวมากๆ ทั้งที่เธอพึ่งจะอายุเพียงแค่ 8 เดือนเท่านั้น วันนี้จะขอพาทุกคนไปรู้จักกับหนูน้อย Bella Cole ผู้ซึ่งกลายมาเป็นคนดังของท้องถิ่นละแวกบ้านและโลกออนไลน์ จากผมยาวดกดำ และหน้าตาบ้องแบ๊วเหมือนตุ๊กตานั่นเอง Philippa Rabbitts วัย 28 ปีผู้เป็นแม่ของเด็ก บอกว่าลูกสาวของเธอมีมีผมสีดำที่หนาอยู่เต็มไปหมด เวลาออกไปข้างนอกก็จะมีคนถามถึงตลอดเวลาว่าทำไมลูกของเธอถึงมีผมเยอะ ผมของเด็กเป็นผมจริงๆ ใช่ไหม   คุณแม่ Philippa ถ่ายคู่กับลูกสาวของเธอ   คุณแม่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวว่า “ผู้คนมักจะถามฉันและคิดว่าลูกของฉันเป็นตุ๊กตา และไม่ก็ฉันเอาวิกให้เธอใส่ เวลาเราออกไปข้างนอกด้วยกันฉักมักจะถูกผู้คนถามไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งต่อวัน ด้วยเรื่องผมของเธอว่ามันคือผมจริงๆ ใช่ไหม!!?”     Bella ตกเป็นที่สนใจของผู้คนตั้งแต่วันแรกที่เธอเกิดมาแล้ว เพราะตอนที่เธอเกิดออกมาเธอมีน้ำหนักเพียงแค่ 2.1 กิโลกรัมแถมตอนนี้เธอก็ยังมีขนาดตัวที่เล็กมากๆ อีกต่างหาก มันก็คงไม่แปลกที่คนจะมองว่าเธอเป็นตุ๊กตา แต่ถ้าไม่นับเรื่องขนาดร่างกายของเธอแล้ว ทุกส่วนก็ถือว่าสมบูรณ์แบบนะ โดยเฉพาะผมของเธอ แต่ครอบครัวของเธอก็จะหาคำตอบกันต่อไปว่าอะไรทำให้เธอถึงตัวเล็กนัก   ตัวเธอก็ดูเล็กจริงๆ นะเนี่ย   นอกจากนั้น Philippa ยังบอกว่าลูกของเธอชื่นชอบที่จะสระและหวีผมของเธอตลอดเวลา แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอไม่ชอบและดูจะไม่สนใจจะใช้มันเลยก็คือไดร์เป่าผม เธอจะจะใช้วิธีการเอาผ้าขนหนูมาเช็ดให้ลูกสาวของเธอแทน แต่ว่าไม่แน่ในอนาคตเธออาจจะชอบมันก็ได้  …

ถ้ามีใครมาว่าคุณขีเกียจ จงภูมิใจไว้เลยว่าคุณเป็นคนฉลาด เพราะคนขี้เกียจเนี่ยมักจะทำอะไรแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่มันก็สำเร็จได้เหมือนกัน และนี่คือเหตุผลว่าทำไมคนขีเกียจถึงโคตรๆ ฉลาดเลย จนคุณเองก็ยังต้องนับถือ   1. คนขี้เกียจจะหาวิธีที่ง่ายที่สุดในการทำสิ่งต่างๆ   2. คนขี้เกียจจะมีทางเลือกที่ง่ายที่สุดสำหรับตัวเองเสมอ   3. ขี้เกียจแม้กระทั่งเรื่องธรรมดาทั่วไป เช่น จะเข้าห้องน้ำทีก็ต้องรอให้ปวดมากๆ จนถึงขั้นกระเพาะจะแตกนั่นแหละ แล้วค่อยไป   4. เวลาแสดงความคิดเห็น คนขี้เกียจมักจะได้รับเสียงปรบมือเสมอ “สิ่งที่ฉันต้องการนะหรออยู่บ้านแล้วก็กิน กิน กิน ค่ะ” เพราะพวกเขามักจะเสนอทางที่ทำให้ไม่ต้องทำงานนั่นเอง   5. คนขี้เกียจมักจะเข้าถึงแอพลิเคชั่น เครื่องมือ ข่าวสารต่างๆ อย่างไม่เคยตกบกพร่องและไม่เคยสายด้วย นี่แหละงานถนัด วันๆ อยู่แต่กับโทรศัพท์   6. พวกเขามักจะมีความคิดสร้างสรรค์ในแบบที่คุณคาดไม่ถึง   7. พวกเขามักจะรอจนถึงขั้นสุดแล้วค่อยจัดการ เช่น อั้นฉี่ รอคนมาเปิดพัดลมให้ นอนหิวได้เป็นชั่วโมง และดูอะไรน่าเบื่อซ้ำไปซ้ำมา แค่เพราะขี้เกียจคำเดียว   8. การทำให้อะไรหลายๆ อย่างพร้อมกันคืองานถนัดเลยล่ะ  …

Kelly Herron หญิงสาวจากเมืองซีแอตเทิล ซึ่งเธอเป็นคนที่จะออกมาวิ่งจ๊อกกิ้งในทุกๆ เช้าที่สวนสาธารณะ Golden Gardens Park แต่ทว่ามีวันหนึ่งที่มันไม่เหมือนเดิม เหตุเกิดขึ้นเมื่อราวๆ สัปดาห์ที่แล้วเธอถูกโจมตตีโดยชายคนหนึ่งบริเวณห้องน้ำสาธารณะของสวนที่เธอกำลังวิ่งอยู่ ชายคนนี้เข้าจู่โจมเธออย่างกระทันหันหวังจะข่มขืนเธอ   ภาพบริเวณสถานที่เกิดเหตุ     แต่ทว่าในวินาทีสุดท้าย เธอรวบรวมพลังทั้งหมดสู้กลับไป ปรากฏว่าชายคนนั้นไม่สามารถจะสู้กับเธอได้เลย นั่นเป็นเพราะว่านอกจากเธอจะชอบออกกำลังกายแล้ว เธอยังเคยเข้าคลาสเรียนศิลปะการป้องกันตัวมา จึงรู้วิธีโต้ตอบหากโดนทำร้าย ยัง… เท่านั้นยังไม่พอ นอกจากจะตอบโต้เอาตัวรอดแล้ว เธอยังเก่งถึงขั้นจับเขาขังเอาไว้ในห้องน้ำสาธารณะ และรอตำรวจมา เธอได้บอกว่าตอนนั้นเธอตะโกนใส่ชายคนนั้นด้วยว่า “ฝันไปเหอะ ไอ่@#$%^” สุดท้ายตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ และจับตัวชายคนนั้นไปตามระเบียบ   เธอยังโพสภาพของเธอผ่านอินสตาแกรม run_kiwi_run หลังจากที่ไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษานอกจากนี้เธอยังโชว์ภาพของ GPS ที่จับตำแหน่งของเธอได้ในขณะที่เธอถูกโจมตีโดยชายคนนั้น   นี้คือสภาพของเธอหลังจากที่สู้กับชายคนนั้น   ดูเธอจะไม่เป็นไรมากเลยนะเนี่ย   ส่วนนี้คือสภาพของชายคนนั้นหลังจากสู้กับเธอ ดูเละกว่าเธออีก   ครั้งหน้าจะเลือกเหยื่ออะ ดูให้ดีนะ แต่ถ้าให้ดีอย่าทำเลยดีกว่า เชื่อพี่เหอะ!! ที่มา boredpanda

ถ้าหากพูดเจ้าสุดฮอต เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงจะต้องนึกถึง จ้าชายแฮร์รีส์ แน่ๆ เพราะไม่ว่าจะทำอะไร หรือไปทางไหนก็มีแต่คนจับตามองทั้งนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนมาพบกับอีกมุมที่น่ารักๆของเจ้าชายสุดฮอตคนนี้กัน เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าชายแฮรี่ได้ออกมาทักทายกับประชนหลังจากเสร็จงานเฉลิมฉลองราชสมบัติของราชวงค์อังกฤษ บริเวณหน้าโบสถ์ Westminster ประเทศอังกฤษ และได้พบกับเด็กหญิงวัย 16 ปี จากนั้นพระองค์ได้จับมือทักทายกับเด็กหญิงคนนั้นจนเธอยิ้มแก้มปริเลยทีเดียว      เด็กหญิงคนนี้ก็คือ Rebecca Thornton สาวน้อยผู้มีปัญหาทางด้านการได้ยิน ที่กำลังยืนต้อนรับและรอมอบดอกไม้ให้กับองค์ราชินีอยู้บริเวณหน้าโบสถ์นั่นเอง     หลังจากเสร็จพิธีแล้วเจ้าชายแฮรี่ได้พบปะและให้โอวาทกับเหล่านักเรียนจากโรงเรียน Francis Holland ด้านนอกโบสถ์ ซึ่งในขณะที่กำลังทักทายกับนักเรียนที่มาเข้าเฝ้านั้น ก็มีเด็กหญิงคนหนึ่งถามเจ้าชายว่า “นี่ใช่เจ้าชายแฮรรี่จริงๆ เหรอคะ” เจ้าชายก็หัวเราะเบาๆ แล้วตอบว่า “ใช่แล้ว หรือเธอคิดว่าฉันคือ Ed Sheeran กันล่ะ?” ซึ่งทำให้ทุกคนในที่นั้นเกิดอารมณ์ขันอย่างมาก     แหม่ทั้งหล่อทั้งอาร์รมณ์ขันเลยนะเนี่ย แบบนี้เหมือนหนุ่มในสเปคของสาวๆ คนไหนบ้างรึเปล่าน้า ที่มา dailymail

เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มและเจ้าเหมียวที่พบกันโดยบังเอิญบนถนน ในวันที่สภาพอากาศหนาวจัดและเจ้าเหมียวกำลังจะตายลงเพราะถูกแช่แข็ง ขณะที่รถคันอื่นๆ ขับผ่านไปโดยไม่สนใจ แต่เขากลับตัดสินใจที่จะลงไปช่วยมัน     เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาชายหนุ่มชื่อว่า Slava กำลังขับรถไปบนถนนท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวจัด อุณหภูมิติดลบ 18 องศา แต่แล้วเขาก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างรูปร่างเหมือนก้อนหินที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งวางอยู่ที่ข้างถนน “ผมคิดว่ามันจะต้องเป็นสัตว์แน่ๆ และในสภาพอากาศแบบนี้มันจะต้องถูกแช่แข็งจนตายอย่างแน่นอน” คุณ Slava เล่า ทั้งๆ ที่มีรถผ่านไปมามากมายแต่ไม่มีใครจอดช่วยเหลือเลยซักราย และเขาก็รู้ได้เลยว่าเจ้าเหมียวตัวนี้ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุด!!     “อากาศหนาวมากๆ ผมก็เลยหยิบมันขึ้นมาแล้วก็ใช้ผ้าขนหนูห่มให้กับมัน จากนั้นก็อุ้มกลับมาที่รถพร้อมกับเปิดฮีตเตอร์ในรถเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับมัน” Slava เล่า   พร้อมกับตั้งชื่อให้มันว่า Nika   นาย Slava ขับรถพาเจ้าเหมียวไปที่บ้านของพ่อ ซึ่งก่อนหน้านี้เองเขาก็ได้โทรบอกให้พ่อเตรียมเตียงอุ่นๆ ผ้าห่มหลายผืน และฮีตเตอร์ไว้ให้เจ้าเหมียวเรียบร้อยแล้ว     หลังจากที่แน่ใจว่าเจ้าเหมียวได้รับความอบอุ่นเพียงพอแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องไปหาคุณหมอเพื่อเช็คดูอาการแล้วล่ะ   พอถึงมือคุณหมอก็ได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด และก็พบว่าเจ้าเหมียวมีอายุประมาณ 6 เดือน หางของมันถูกหิมะกัดอย่างรุนแรง ซึ่งคุณหมอจำเป็นที่จะต้องตัดออก     หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์เจ้า Nika ก็กลับมาร่างกายแข็งแรงอีกครั้ง…

บริษัทโฆษณากำลังถูกฟ้องร้องจากสวนสัตว์หลังจ่ายเงินยืมตัวแรคคูนของพวกเขาไปถ่ายทำโฆษณาแบบ ‘อีโรติค’ เข้าฉากร่วมกับผู้หญิงเปลือย   เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมในปีที่ผ่านมาแรคคูนที่มีชื่อว่า Thomas ถูกจ้างไปเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญโฆษณาที่ดำเนินการโดยบริษัท Art-Msk ที่ตั้งอยู่ในเมือง Moscow ประเทศรัสเซีย แต่อย่างไรก็ตามทางสวนสัตว์ก็ไม่ได้ทราบว่าเจ้า Thomas จะต้องมาเข้าร่วมฉากกับนางแบบเปลือยด้วย   จากภาพเราจะเห็นว่านางแบบแสนสวยกำลังเล่นกับเจ้าแรคคูนอยู่อย่างสนุกสนานทั้งๆ ที่ไม่สวมเสื้อผ้า   จึงเกิดเป็นกระแสต่อต้านขึ้นมาจากสวนสัตว์ Animals Are Not Toys ทางสวนสัตว์ก็เลยดำเนินการฟ้องร้องกับบริษัทโดยให้เหตุผลว่า “มันเป็นเรื่องที่ผิดที่ใช้สัตว์มาอยู่ร่วมกับภาพโป๊เปลือยแบบนี้” นอกจากนี้พวกเขายังเรียกร้องให้บริษัท Art-Msk ยกเลิกโฆษณาชิ้นนี้ซะ แต่บริษัทก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือแต่อย่างใด     จนถึงเดือนตุลาคมทางสวนสัตว์ก็ตัดสินใจที่จะดำเนินการยื่นเรื่องไปที่ศาล และก็ถูกปฏิเสธอีกครั้ง ก่อนที่จะยื่นฟ้องร้องอีกครั้งในเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สวนสัตว์บอกว่าเจ้า Thomas มีอาการบอบช้ำจากการมีประสบการณ์เป็นนายแบบร่วมกับผู้หญิงเปลือย หนึ่งในเจ้าหน้าที่เล่าวว่าตั้งแต่มันได้พบกับนางแบบเปลือย หลังจากนั้นมันก็มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป เธออ้างว่าสัตวแพทย์บอกว่าเจ้า Thomas กำลังอยู่ในสถานะช็อคอยู่ และดูเหมือนว่ามันจะไม่ยอมรับแม้แต่คู่ของมันที่เคยอยู่ร่วมกันในกรงเลย     ขณะเดียวกันทางด้านบริษัท Art-Msk ก็ได้ออกมาให้การว่า คดีนี้เป็นเรื่องที่ ‘ไร้สาระ’ แถมยังกล่าวหาว่าเจ้า Thomas ได้ขโมยบราของนางแบบไปอีกต่างหาก    …

สุนัขขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ เพราะมันมีความซื่อสัตย์และภักดีต่องเจ้าของและจะอยู่เคียงข้างจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต เช่นเดียวกับสุนัขผู้ซื่อสัตย์ Bobby ตัวนี้ที่วิ่งตามศพเจ้าของ เพื่อร่ำลาเป็นครั้งสุดท้าย…     เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมาที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซีย เมื่อเจ้าของที่เป็นทั้งเพื่อนและครอบครัวของ Bobby ได้จากไปอย่างไม่มีวันหวนคืน เจ้า Bobby ดูจะงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่มันพอจะเข้าใจว่าตอนนี้เจ้าของของมันไม่สามารถจะเล่นหรือลูบมันได้เหมือนเดิมแล้ว     จนกระทั่งวันที่มีการเคลื่อนศพเพื่อนำไปฝัง ในขณะที่ทุกคนนั่งรถไป Leong Khai Wai หลานชายของผู้เสียชีวิตก็สังเกตเห็น Bobby กำลังวิ่งตามรถคันที่เคลื่อนย้ายร่างเจ้านายของมันอยู่ Leong บอกว่า “ตอนแรกไม่มีใครรู้เลยว่า Bobby ตามมาด้วย แต่เมื่อผมเห็นมัน ผมมั่นใจเลยว่ามันมาตามหาคุณย่าผมแน่ๆ”     ตั้งแต่มาถึง ทั้งในช่วงประกอบพิธี ในขณะที่หลายคนโศกเศร้า ร้องไห้ เจ้า Bobby เองก็นั่งเฝ้าโลงศพเจ้าของมันไม่ห่างเลย จนกระทั่งเมื่อมีการนำโลงศพลงไปในหลุมเพื่อฝัง สุนัขมองศพเจ้าของด้วยสายตาที่แสนเศร้า แม้แต่ตอนที่ทุกคนจะต้องกลบดินฝัง มันก็ไม่ยอมลุกไปไหน แต่พวกเขาก็เข้าใจ Bobby จึงปล่อยให้มันร่ำลากับเจ้านายแสนรักเป็นครั้งสุดท้าย     หลังจากฝังเสร็จเรียบร้อย Bobby ก็ยังคงนั่งเฝ้าอยู่ที่หลุมศพ เหมือนมันยังไม่พร้อมทำใจกับการจากไปในครั้งนี้ จนคนในงานต้องเข้าไปปลอบมัน โดยผู้ที่มาร่วมงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นความจงรักภักดีของสุนัขที่มีต่อเจ้าของ’     แต่แม้ว่าจะมีคนมาปลอบใจมันมากมาย…

ในเดือนเมษายน ปี 2015 ที่ผ่านมา ศิลปินที่ชื่อว่า Sally Nixon ได้เริ่มสร้างโปรเจคที่ชื่อว่า “365” ซึ่งเป็นการค้นหาแรงบันดาลใจในชีวิตของตัวเธอเอง นั่นทำให้ศิลปินสาวได้เริ่มวาดภาพสุดอาร์ทเป็นระเวลาตลอดทั้งปี โดยมีจุดประสงค์เพื่อต้องการเผยให้เห็นอิริยาบถในชีวิตประจำวันของผู้หญิง ขณะอยู่คนเดียว หรือตอนที่ไม่มีใครสนใจ และภาพทั้งหมดนี้ ก็จะทำให้เราได้เห็นถึงโลกส่วนตัวของผู้หญิงส่วนใหญ่มากขึ้น ทั้งยังสะท้อนให้เห็นว่าในขณะที่พวกเธอไม่ต้องอยู่ในภายใต้กรอบของความไม่เป็นตัวของตัวเอง และไม่ต้องแคร์สายตาของใคร พวกเธอจะเป็นอย่างไร ว่าแล้วก็มารับชมภาพไปพร้อมๆ กันเลย   นั่งอึ๊ฟินๆ กับสัตว์เลี้ยงตัวโปรด   ทั้งกินทั้งนอน   อาบน้ำแปรงฟัน ในสภาพโทรมๆ มันนี่แหละ   ขอแค่ได้เอนหลังบนเตียง หาอะไรอ่านไปเรื่อย   เรื่องกินหรูแบบในไอจีเหรอ เราสร้างภาพทั้งนั้นแหละ   กลับมาก็จัดแจงถอดเสื้อผ้าระเนระนาด   วันหยุดถ้าอากาศมันร้อน ก็สภาพนี้แหละ   ส่วนถ้าหน้าหนาว ก็ขอนอนซุกผ้าห่มฟินๆ   กับหนังสือเล่มโปรดสักเล่ม   และสุดท้ายก็หนีไม่พ้นความหิว กิน กิน กิน มันเข้าไป   เห้อมมมมมม… ชีวิตผู้หญิงก็เท่านี้…

หลายๆ คนต่างก็เข้าใจกันดีว่าอดีตคู่รักที่เลิกกันไปแล้วมักจะกลับมาสานสัมพันธ์กันไม่ได้เหมือนเดิม แต่สำหรับคู่นี้แล้วเพื่อลูกพวกเขาทำได้ทุกอย่าง คุณ Jessica Sigleton เป็นคุณแม่ของเด็กที่แสนน่ารักชื่อว่า Pierson ส่วนคุณพ่อของหนุ่มน้อยชื่อว่านาย Jon แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ได้เป็นคู่รักกันเหมือนเมื่อก่อนแล้วก็ตาม…     ล่าสุดเธอได้โพสต์ความรู้สึกถึงอดีตสามีของตัวเองลงบนเฟซบุ๊ค ความว่า     “นี่คืออดีตสามีของฉัน ส่วนนี่คือสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของฉัน มันมีค่ายิ่งกว่าทองคำซะอีก นี่คือผู้ชายที่ไม่ยอมเสียเงินใช้จ่ายซื้อของฟุ่มเฟือย เพราะเมื่อลูกต้องการเสื้อผ้าใหม่ ฉันก็เรียกหาเขาได้ทันที นี่เป็นผู้ชายที่ซื้อหนังสำหรับเด็กจาก เว็บไซต์ Vudu นั่นทำให้ฉันสามารถมีความสุขร่วมกับลูกชายของฉันที่บ้าน เขาเป็นผู้ชายที่ซื้อบาร์โหนสำหรับออกกำลังกายราคา 1,500 บาท มาไว้ให้ที่หน้าบ้าน เพื่อที่ฉันจะได้ไม่อุ้มลูกแล้วออกไปซื้อที่ร้าน เป็นชายที่ยอมเดินทางมาไกลเพื่อมาดูแลลูกชายแค่ 10 นาที เพราะฉันมีอะไรให้ทำมากมาย หรือในช่วงที่ต้องการเวลางีบ”   .   “เป็นผู้ชายที่ยอมฟังฉันร้องไห้เพราะฉันรู้สึกเครียด เป็นผู้ชายที่บอกลูกชายของเขาว่าอย่าลืมแฟนของแม่ เมื่อลูกชายลิสต์รายชื่อคนที่ชอบที่สุดเอาไว้ ชายที่รีบมาหาเพราะพวกเราเข้าบ้านไม่ได้ และเขาก็ใช้เวลาทั้งช่วงเย็นเพื่อเปิดประตูให้กับเรา ผู้ชายที่ซื้อของขวัญให้ลูกมากมาย แต่เขียนติดป้ายบอกว่าเป็นของขวัญจากแม่ เพราะรู้ว่าฉันไม่มีเงินหาซื้อของขวัญมาให้ลูกๆ ชายที่ยังคงดูแลลูกชายของพี่สาวของฉัน เพื่อที่จะได้เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ผู้ชายที่พาฉันไปเจอคนที่ติดต่อกันผ่านเว็บหาคู่ Craigslist เพื่อดูให้แน่ใจว่าฉันปลอดภัยดีและไม่ถูกหลอก นี่คือคนสะพายกระเป๋าผ้าอ้อม, ขวดนมช็อคโกแล็ต,…

ยังจำได้มั้ยว่าสมัยที่เราเป็นเด็กๆ นอกเหนือจากการ์ตูนญี่ปุ่นที่ฉายทางช่อง 9 แล้ว ก็มีเหล่าขบวนการ 5 สี เนี่ยแหละ ที่เล่นเอาเรานั่งจิ้นไปตามๆ กัน ทว่าล่าสุดเว็บไซต์ EliteDaily ได้รายงานว่า Ricardo Medina หนุ่มวัย 38 ปี ผู้เคยสวมบทบาทเป็น Cole Evans (สีแดง) จากขวนการ Power Rangers Wildforce (ออนแอร์ช่วงปี 2002) ถูกจับในข้อหาใช้ดาบซามูไรแทงรูมเมทจนเสียชีวิต!   Ricardo Medina และบทบาทที่เขาเคยแสดง   เหตุการณ์เกิดขึ้นจาก Medina ใช้ดาบซามูไรที่ตนเก็บสะสม ทำการแทงนาย Josh Sutter เพื่อนร่วมห้องจนเสียชีวิตในปี 2015 เนื่องจากมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง   Josh Sutter รูมเมทของนาย Ricardo Medina   ทางด้านของ Donald Sutter บิดาของผู้เสียชีวิต ก็ได้ออกมาชี้แจงในชั้นศาลว่า ‘ผมไม่เชื่อว่านี่คือการป้องกันตัว…

ความสวยความงามเป็นเรื่องที่ไม่มีมาตรฐานตายตัว แต่เป็นความชอบส่วนบุคคล ดังนั้นรู้ไว้เลยว่า ไม่ว่าคุณจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร คุณก็คือคนสวย คนหล่อ และจงภูมิใจกับสิ่งที่คุณเป็น เหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ ที่มีเสน่ห์เป็นของตัวเองในแบบที่ไม่ซ้ำใคร จนได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก และยังเป็นแบบอย่างให้ทุกคนภูมิใจในความงามของตัวเองด้วย   1. Connie Chiu Connie Chiu เกิดมาจากครอบครัวชาวจีน เธอมีพี่น้องสี่คน แต่มีเธอคนเดียวที่มีผิวสีเผือก ต่อมาครอบครัวของ Connie ได้ย้ายไปอยู่สวีเดน โดยเธอเลือกเรียนสาขาเสรีนิยมและการสื่อสารมวลชน เมื่ออายุ 24 ปี เธอก็ได้ก้าวเข้าสู่วงการนางแบบ พร้อมทั้งเป็นน้องร้องเพลง Jazz จนกลายเป็นคนโด่งดังที่สื่อทั่วโลกจับตามอง   2. Nikia Phoenix Nikia Phoenix เป็นนางแบบชาวอเมริกัน เธอมีความโดดเด่นกว่านางแบบคนอื่นๆ เพราะมีผิวสีเข้มและมีกระทั่วใบหน้า จุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอกลายเป็นคนดังคือ เมื่อคนในบริษัท Alternative Apparel ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเสื้อผ้า ไปพบกับ Nikia ในระหว่างที่เธอจิบกาแฟในคาเฟ่แห่งหนึ่ง พวกเขาจึงได้ดึงเธอมาร่วมงานจนกลายเป็นที่จดจำไปทั่วโลก และเธอยังเล่นโฆษณาให้กับผลิตภันฑ์ชื่อดังอย่าง Coca-Cola และห้าง Target มาแล้วด้วย   3. Stephen Thompson Stephen Thompson…

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาได้เกิดเรื่องราวสุดน่ารักที่ชาวเน็ตทั่วโลกต่างก็ให้ความสนใจเมื่อรายงานข่าวสดของช่อง BBC ถูกป่วนโดยหนูน้อยสองพี่น้องสุดน่ารัก ในคลิปจะเห็นว่าช่วงรายงานข่าวสดของช่อง BBC News ขณะที่กำลังรายงานข่าวรอบโลก BBC World News ผ่านทางเว็บแคมกับศาสตราจารย์ Robert E Kelly ที่อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้     ขณะที่ท่านศาสตราจารย์ Kelly กำลังรายงานข่าวผ่านทางเว็บแคมให้กับห้องส่ง ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นไปได้ด้วยดี และมีท่าทางจริงจังเหมือนกับรายงานข่าวทุกครั้ง จู่ๆ ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามาในห้องสร้างความปั่นป่วนให้กับทั้งท่านศาสตราจารย์ Kelly และห้องส่ง แต่ถึงอย่างนั้นความน่ารักของแขกทั้งสองคนก็ได้สร้างความสุขให้กับผู้คนทั่วโลกเลยทีเดียว     หลังจากที่ความน่ารักนี้ไปแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ก็ได้สร้างทั้งความสุขทั้งรอยยิ้มให้กับผู้คนมากมาย จนตอนนี้ก็ได้มีคนทำคลิปล้อเลียน Kelly แล้วเหมือนกัน แต่คลิปนี้ต่างออกไปจากต้นฉบับ เพราะพวกเขามาในร่างของตัวละครจากเรื่องสตาร์วอร์ ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตไม่น้อยไปกว่าคลิปต้นฉบับเลย     ผู้ที่เล่นเป็นศาสตราจารย์ Kelly มาในลุคของ Darth Vader จากเรื่องสตาร์วอร์ โดยในคลิปนั้นเขากำลังพูดคุยกับ Darth Sidious ผ่านวิดีโอคอลเหมือนกับคลิปต้นฉบับ ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญ 2 ตัว ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ R2D2 เปิดประตูเข้ามา เข้ามาป่วนและตามด้วย…

เดี๋ยวนี้การช้อปปิ้งออนไลน์นับว่าได้รับความนิยมสูงมาก เพราะมีความสะดวกสบาย ไม่ต้องไปถึงร้านก็ซื้อของได้แล้ว แค่จิ้มๆ เลือกๆ โอนเงิน รอของ ก็เป็นอันเสร็จกระบวนการ แต่อย่าชะล่าใจไป เพราะการช้อปออนไลน์คุณจะไม่ได้เห็นของจริงจนกว่าของจะมาถึงบ้าน ซึ่งบางทีของที่ได้อาจไม่ตรงกับที่คุณคิดหรือสั่งไว้ก็ได้ เหมือนพวกเขาเหล่านี้ที่ต้องเจ็บปวดจากการช้อปออนไลน์!!   1. สั่งซื้อคอนโดแมวจากอะเมซอน แล้วเหมียวจะใช้ยังไง หุ้วว   2. สั่งซื้อกางเกงขายาวสีดำ แต่สิ่งที่ได้คือ… ไม่เอาลายได้ม้ายยยย   3. จำได้ว่าสั่งรองเท้าปีนเขาไม่ใช่หรอ แล้วนี่มันปีนบันไดหน้าบ้านได้มั้ยเนี่ย?   4. ประมูลซื้อเก้าอี้มา 50 ตัว แต่ดูของที่ได้สิ คงต้องไปบริจาคให้ศูนย์เด็กเล็กล่ะ   5. เดี๋ยวๆ ตอนดูในเว็บไม่ได้เป็นแบบนี้นี่   6. สั่งถุงน่องมา กะจะใส่ไปงานฮาโลวีนสักหน่อย โถ่วว นี่คงนึกว่าเราซื้อมาให้ตุ๊กตาสินะ   7. สั่งเครื่องประดับภาพครอบครัว แล้วดันได้รูปครอบครัวใครมาก็ไม่รู้ แถมนกเพนกวิ้นให้อีกต่างหาก   8. เฮ้ยยย สั่งทีวีไป ทำไม่ได้ไม้อัดมา   9.…

ก่อนหน้านี้เราคงได้เห็นข่าวคราวเรื่องของเรือนจำ จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ต้องถูกปิดตัวลงไปหลายแห่งอันเนื่องมาจากอัตราการก่อเหตุอาชญกรรมของชาวเมืองที่นั่น ลดลงอย่างน่าใจหาย และปัจจุบันสถานที่เรือนจำเหล่านั้นถูกเปลี่ยนให้เป็นบ้านพักสำหรับผู้ลี้ภัย พวกเขายินดีต้อนรับคนจากทุกเชื้อชาติไม่ว่าจะเป็น ซีเรีย อิรัก หรือลิเบีย ที่ต้องการจะหลบหนีสงคราม และเริ่มต้นสร้างชีวิตใหม่ เราตามไปดูกันเลยว่าปัจจุบันเรือนจำเหล่านั้นจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน   ในปี 2015 เนเธอร์แลนด์คาดว่ามีผู้ลี้ภัยเข้ามามากถึง 60,000 คน   นี่คือตัวอย่างของเรือนจำจากเมือง Haarlem ที่ถูกเปลี่ยนมาเป็นที่พักอาศัยของผู้ลี้ภัย   ทางรัฐบาลได้จัดแบ่งโซนไว้ชัดเจนสำหรับชายหญิง เพื่อที่พวกเขาจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข   ‘ความปลอดภัยของพวกเขา เป็นเหมือนภารกิจหนึ่งของเรา ประเทศเราอาจใหม่สำหรับพวกเขา และนั่นก็เป็นหน้าที่เราที่ต้องคอยดูแลทุกคน’ Menno Schot ผู้ดูแลเรือนจำกล่าว   อ้างอิงจากสื่อ AP ผู้ลี้ภัยหลายคนบอกว่าชีวิตของพวกเขาดีขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร และการอยู่อาศัย   ประตูที่เหล็กที่เคยใช้คุมขังนักโทษ ตอนนี้ก็ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นประตูที่มอบความปลอดภัยให้ผู้ลี้ภัยทุกคน   ‘ผมไม่รู้สึกว่าเราอยู่ในคุกเลยแม้แต่น้อย เพราะที่นี่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยมากกว่าบ้านเกิดเราซะอีก’ ผู้ลี้ภัยวัย 16 ปี คนหนึ่งให้สัมภาษณ์   ผู้ลี้ภัยหลายคนยังเป็นวัยรุ่น บ้างก็อพยพมากับครอบครัว บ้างก็ต้องหลบหนีมาตัวคนเดียว อย่างเช่น Shazia Lutfi สาววัย 19 จากอัฟกานิสถานคนนี้  …

เนื่องด้วยภาวะการแข่งขัน และเศรษฐกิจ ทำให้บางประเทศมีอัตราประชากรตกงาน จนกลายมาเป็นคนไร้บ้านเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าสิ่งเดียวที่พวกเขาต้องการก็คือ ‘โอกาส’ นั่นเอง นี่เป็นเรื่องราวที่ทำเอาชาวเน็ตทั่วโลกรู้สึกประทับใจไปตามๆกัน เมื่อ Ginger Jones Sprouse คุณแม่ผู้หยิบยื่นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตให้แก่ชายไร้บ้าน ซึ่งพวกเขาทั้งคู่ต่างก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน   Victor Hubbard หนุ่มไร้บ้านวัย 32 ปี เธอมักจะเห็นเขานั่งอยู่ข้างทางเป็นประจำทุกวัน ตอนไปทำงาน   เป็นเวลานานกว่า 3 ปี ที่หนุ่มไร้บ้านคนนี้ต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน เขาเฝ้ารอวันที่จะได้พบกับมารดาผู้ให้กำเนิดที่ทอดทิ้งเขาไปอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าความฝันนั้นอาจไม่เป็นความจริง ด้วยความเห็นอกเห็นใจ เธอจึงทำการสร้างเพจขึ้นมาเพื่อทำทุกวิถีทางให้ชายไร้บ้านคนนี้ ได้กลับมามีชีวิตอยู่ได้ด้วยตนเองอีกครั้ง   เธอสร้างเพจขึ้นมา พร้อมทั้งประกาศให้คนในละแวกนั้นรู้ว่าเธอต้องการจะช่วยเหลือเขา เผื่อว่ามีใครสนใจอยากจะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม   คุณแม่ได้ทำการระดมทุนจากชาวเน็ตได้มากถึง 9 แสนบาท พร้อมทั้งพาเขาย้ายมาอยู่อาศัยด้วยกัน จนกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน   ‘เขาไม่เคยเรียกร้องขอเงิน และไม่เคยเรียกร้องขออะไรเลย เขาต้องการเพียงแค่อาหารประทังชีวิต ทุกครั้งฉันพยายามจะเสนอสิ่งต่างๆ ให้เขา แต่เขาก็มักจะปฏิเสธกลับมาเสมอ เขาเป็นคนดีมากๆ และไม่มีอันตรายใดๆ กับคนรอบข้างค่ะ’     คุณแม่ได้พาเขาไปตรวจสายตา และจัดแจงให้เขาได้แว่นสายตามาใช้ฟรีๆ  …

การจะสร้างบ้านดีๆ สักหลังนั้น คงต้องใช้เวลาและงบไม่น้อยเลยเพื่อให้ได้บ้านตามต้องการ ไหนจะต้องซื้อวัสดุ อุปกรณ์โน่นนี่นั่น ไหนจะต้องจ้างคนมาทำให้อีก แต่ก็ไม่เสมอไปนะ เพราะบ้านบางหลังใช้งบน้อยแต่ได้บ้านสวยหรู เหมือนกับหญิงสาวคนนี้ที่สร้างบ้านจากตู้คอนเทนเนอร์ ประหยัดทั้งเวลาและเงิน แถมน่าอยู่จนอยากทำตามเลย Claudie Dubreuil จากเมือง Mirabel รัฐ Quebec ประเทศแคนาดา ได้ตัดสินใจสร้างบ้านจากตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ 4 ใบ โดยโทรสั่งจากบริษัทวิศวกรรมแห่งหนึ่ง     หญิงสาวได้ใช้เวลา 2 สัปดาห์ในการทำความสะอาดตู้ทั้ง 4 ใบ ส่วนแบบบ้านนั้นเธอได้มีการออกแบบไว้ล่วงหน้าแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามแบบเท่านั้นเอง เริ่มต้นการติดไม้กระดานทับตู้คอนเทนเนอร์ให้ทั่ว ซึ่งก็ทำเสร็จภายในวันเดียวเท่านั้น จากนั้นก็จัดการกับภายในด้วยการทาสีให้ทั่วทุกซอกทุกมุม     รอสีแห้งก็จัดการติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นเช่น ทำบันได ติดตั้งหลอดไฟ ห้องน้ำ ห้องครัว สายไฟฟ้า รวมทั้งการนำเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งตามต้องการด้วย     ภายในกว้างมาก พอนำเฟอร์นิเจอร์เข้ามาก็ยิ่งน่าอยู่เข้าไปอีก   มีบันไดเกลียวด้วยนะ   ในห้องครัวก็มีอุปกรณ์ที่จำเป็นทุกอย่าง สะดวกสบายมากค่ะคุณขา   มีทั้งตู้อบไฟฟ้า ตู้เย็น และพัดลมระบายอากาศ   ห้องน้ำที่ดูเรียบง่ายแต่สวยงาม…

การมีลูกแฝดนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีนะ เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกถึง 2 ตัว แต่การต้องดูแลลูกสองพร้อมๆ กันนั้นทำให้พ่อแม่ต้องเหนื่อยมากเป็นพิเศษ คุณพ่อลูกแฝดชาวอังกฤษคนนี้ก็เช่นกัน ที่เลี้ยงลูกแฝดจนเหนื่อยและเครียด จนต้องหาอะไรสนุกๆ ทำ เพื่อให้การเลี้ยงลูกแฝดเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากขึ้น   แฝดที่มาพักในโรงแรมแล้วถูกพ่อจัดฉากให้เป็นแฝดผู้น่ากลัวเหมือนหนัง The Shining   Martin Hughes มีลูกแฝดคือ  Poppy และ Isabella วัย 4 ขวบ ทั้งคู่เป็นเด็กน่ารักมากๆ แต่ผู้เป็นพ่อเกิดอยากเล่นสนุกขึ้นมา จึงจับลูกมาแต่งตัวให้กลายเป็นเด็กแฝดผู้น่ากลัวเหมือนในหนังเรื่อง The Shining โดยคุณพ่อได้ให้สองสาวจับมือกันแล้วไปยืนอยู่ที่ทางเดินของโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอนในระหว่างไปพักผ่อนช่วงวันหยุด โดยให้ดูเหมือนคู่แฝด Grady จากหนังสยองขวัญของ Stanley Kubrick ที่ฉายในปี 1980   สองสาววัย 4 ขวบ กลายเป็นคนน่ากลัว ทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครคือเด็กแฝดในเรื่อง The Shining   จากนั้นคุณพ่อก็ได้เผยแพร่ภาพลูกสาวลงในทวิตเตอร์ @wefail และเมื่อภาพนี้ถูกแชร์ไปทั่วลอนดอนก็สร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนจำนวนมาก ภาพของเด็กแฝดทำให้แขกในโรงแรมบางคนถึงกับบอกว่าถ้ามันเป็นเรื่องจริงคงต้องออกแน่ๆ และบางคนถึงกับไม่กล้าเข้ามาใช้บริการโรงแรมนี้อีก แหม่ ก็ไม่รู้ว่าเด็กๆ จะรู้มั้ยนะว่าพ่อได้ทำให้พวกเขากลายเป็นคนน่ากลัวไปซะแล้ว   ดูจากรูปแล้วใส่แคปชั่นว่า “มาเล่นกันเถอะ” ยึ๋ยยย ใครไม่กลัวก็บ้าแล้ว   แต่ความเป็นจริงแล้วพวกเค้าน่ารักมากๆ ไม่มีความน่ากลัวอยู่ในตัวเลย   แต่โปรดเข้าใจคุณพ่อด้วยนะว่าไม่ได้ตั้งใจทำให้ใครกลัวจริงๆ ซึ่งคุณพ่อบอกว่า การเลี้ยงแฝดพร้อมกันมันเหนื่อยมากๆ…

สำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบการฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจแล้ว ไอเทมที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คงหนีไม่พ้น ‘หูฟัง’ และปัจจุบันเทคโนโลยีเกี่ยวกับหูฟังก็พัฒนาไปไกลมาก จากที่เมื่อก่อนต้องมีสายเอาไว้เสียบกับตัวเครื่อเล่นก็กลายเป็นหูฟังแบบบลูทูธแทน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะดีเสมอไปหรอกนะ เพราะการที่มันไร้สายทำให้ต้องมีตัวสร้างแหล่งพลังงาน ซึ่งก็คือแบตเตอรี่นี่เอง ที่เราเองก็ไม่ทราบว่ามันจะเกิดระเบิดขึ้นมาเมื่อไหร่   เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้โดยสารบนเครื่องบินที่จะเดินทางจากเมือง Beijing ไปยังเมือง Melbourne ประเทศออสเตรเลีย หลังหญิงสาวชาวออสเตรเลียได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า และมือ จากเหตุการณ์หูฟังระเบิด ขณะที่เธอกำลังนั่งฟังเพลงอย่างสบายใจเฉิบอยู่บนเครื่องบิน     เจ้าหูฟังดังกล่าวนั้นเป็นหูฟังแบบบลูทูธที่ต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งเหตุเกิดขึ้นหลังจากที่เธอขึ้นเครื่องมาแล้วเป็นเวลา 2 ชั่วโมง “ฉันได้ยินเสียงระเบิดดังตู้มมม จากนั้นก็สะบัดหัวอย่างแรง ฉันรู้สึกว่าหน้าของตัวเองกำลังจะถูกไฟไม้ จึงเอามือไปจับที่หน้า ทำให้หูฟังร่วงลงไปที่คอ” หญิงสาวผู้ประสบอุบัติเหตุเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ฉันยังคงรู้สึกว่ามันกำลังไหม้ที่คอฉันอยู่ ก็เลยตัดสินใจที่จะดึงมันออกแล้วโยนลงไปที่พื้น จากนั้นมันก็ช็อตแล้วมีไฟลุกอีกเล็กน้อย” “ขณะที่ฉันกำลังกระทืบเพื่อดับไฟที่ลุกไหม้อยู่นั้น พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็รีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับถังน้ำพร้อมกับสาดไปที่มัน จากนั้นพวกเขาก็หยิบหูฟังไปใส่ในถังน้ำแล้วก็เดินกลับเข้าไปที่ด้านหลัง” เธอเล่าเสริม     ซึ่งตอนนี้ก็ยังคงไม่มีรายงานถึงยี่ห้อของหูฟังดังกล่าว… ทางหน่วยรักษาความปลอดภัยของสนามบิน Australian Transport Safety Bureau เชื่อว่าสิ่งที่ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ก็คือแบตเตอรี่ของหูฟังนี่เอง หญิงสาวเล่าว่าบนเครื่องบินลำนั้นอบอวลไปด้วยกลิ่นของพลาสติกที่ถูกละลายด้วยความร้อน กลิ่นไหม้ของเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลิ่นไหม้ของผมของเธอเอง “ผู้โดยสารคนอื่นต่างก็สำลักควัน และไอตลอดการเดินทาง” เธอเล่า   จากการที่รีบเอามือไปปัดออก…

เรื่องราวของเจ้าเหมียวผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี ได้รับโอกาสในการมีชีวิตอยู่เป็นครั้งที่สอง จากนั้นมันก็ตอบแทนความรักที่ได้มาจากทาสนำไปมอบให้กับเหมียวตัวอื่นๆ   ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้าเหมียว Pokey   เจ้า Pokey นั้นถูกพบขณะที่กำลังนอนอยู่ใกล้กับศพของพี่น้องเมื่อปี 2012 ที่ผานมา ไม่มีวี่แววของแม่ ตอนนั้นมันมีอายุเพียงแค่ 3 สัปดาห์แลัมีน้ำหนักไม่ถึง 5 ขีดซะด้วยซ้ำ มันถูกช่วยเหลือมาไว้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Animal Rescue League of Boston ด้วยเนื้อตัวที่สกปรก และความหิวโหย ทำให้มันร้องเสียงดังไม่ยอมหยุด จนคุณ Jen ผู้ที่พามันมายังศูนย์ เดินเข้ามากอดมันไว้ทำให้มันสงบลงไปบ้าง   จากนั้นไม่นานมันก็ใช้เวทมนตร์สะกดจิต ยึดครองหัวใจของคุณ Jen และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ จนในที่สุดมันก็ได้เข้ามาอาศัยอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์แห่งนี้เป็นการถาวร จากนั้นเจ้า Pokey ก็เริ่มที่จะตอบแทนในความมีน้ำใจของทาส ด้วยการเข้าไปกอดและปลอบใจแมวเหมียวตัวอื่นๆ ที่ถูกช่วยเหลือเข้ามาไว้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์แห่งนี้     “พวกเราเริ่มรับแมวเหมียวเข้ามาอุปถัมป์ที่ศูนย์ช่วยเหลืออีกครั้งขณะที่เจ้า Pokey อายุได้ 2 ปี จากนั้นมันก็เดินเข้ามาหาเจ้ามิ้วน้อยทันที พร้อมกับเลียขนให้กับเจ้ามิ้วน้อย เล่นด้วยกัน และพาไปเดินเที่ยวเล่นตามที่ต่างๆ ทั่วศูนย์” คุณ Jen เล่า…

เดี๋ยวนี้การเลี้ยงหมาแมวค่อนข้างที่เป็นเรื่องง่ายๆ เพราะนอกจากอาหารแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายที่ผลิตออกมาเพื่อสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับสัตว์ที่มีความพิการด้วย แต่สำหรับปลาแล้ว เราคงไม่ค่อยได้เห็นกันสักเท่าไร จะมีก็แต่ตู้ปลา ของตกแต่งตู้ปลาและอาหารชนิดต่างๆ ตามที่คุ้นตากัน…   แล้วถ้าพวกมันมีความผิดทางร่างกายล่ะ จะช่วยมันยังไง?   ถึงจะเป็นแค่ปลาตัวน้อยๆ แต่มันก็สมควรได้รับการความรักและการดูแลเหมือนสัตว์เลี้ยงทั่วไปๆ… Taylor Dean วัย 19 ปี จากซานอันโตนิโอ ปัจจุบันเป็นยูทูปเบอร์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง โดยมีเพื่อนสนิทชื่อ Derek วัย 20 ปี ทำงานที่ร้านพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำท้องถิ่นในเมืองเดียวกัน ทั้งคู่เป็นคนที่รักสัตว์เหมือนกัน และมักจะช่วยเหลือสัตว์ที่มีปัญหาอยู่เสมอ อย่างล่าสุดเมื่อลูกค้าคนหนึ่งของ Derek นำปลาทองมาทิ้งไว้เพราะมันไม่สามารถลอยตัวได้ พวกเขาได้ตรวจความผิดปกตินี้ แล้วก็พบว่าปลาทองตัวนี้กำลังทรมานจากโรคเกี่ยวกับถุงลม ซึ่งเป็นสาเหตุให้มันลอยน้ำไม่ได้นั่นเอง     ตามรายงานของโรคนี้พบว่า ถุงลมเป็นอวัยวะที่ทำให้ปลาสามารถลอยอยู่นน้ำได้ แต่เมื่อมันทำงานผิดปกติ ติดเชื้อ หรือได้รับความเสียหาย จะทำให้ปลาทองสูญเสียการทรงตัวในน้ำไป ปัจจุบันโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ดังนั้นปลาทองตัวนี้จึงต้องอยู่แต่ในก้นถังปลา เวลาให้อาหารมันก็ไม่สามารถว่ายขึ้นมากินได้ จึงต้องช่วยหยิบมันขึ้นมากินทุกครั้ง     แม้จะให้การดูแลเป็นอย่างดี ป้อนอาหารให้เสมอ แต่ Derek ก็ไม่สามารถทนเห็นปลาทองตัวน้อยทรมานแบบนี้ต่อไปได้ จึงได้ตัดสินใจสร้าง รถเข็นปลาทอง ให้…

เมื่อพูดถึงเกาะ เราคงจะนึกถึงมันในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวใช่มั้ยละ แต่ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับคนบางกลุ่มเหมือนกันนะ อย่างเกาะ Migingo นับว่าเป็นเกาะที่น่าสนใจ ตรงที่ว่ามันไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว ไม่มีชายหาดเหมือนเกาะทั่วๆ แต่มันเป็นที่อยู่อาศัยล้วนๆ     เกาะ Migingo เป็นเกาะหินขนาดเล็กที่ทะเลสาบวิกตอเรีย ในประเทศเคนย่ามีขนาดเพียง 0.49 เอเคอร์ (ประมาณ 1,900 ตร.ม.) แต่มีประชากรอาศัยอยู่ถึง 1,000 คน จนขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก       ด้านความเป็นมาของเกาะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน แต่ตามรายงานบอกว่า ในอดีตมันเกิดจากการตกลงกันของชาวประมงชาวเคนย่า 2 คน คือ Dalmas Tembo และ George Kibebe  ทั้งสองคนได้เข้ามาตั้งที่อยู่อาศัยบนเกาะ Migingo เมื่อปี 1991 ก่อนที่จะมีคนอื่นๆ ตามมาจนถึงปัจจุบันนี้   แต่ก็มีบางรายงานบอกว่า ที่นี่บุกเบิกโดย Joseph Unsubuga ซึ่งเป็นชาวยูกันดา ก่อนจะนำเพื่อนๆ มาอยู่ด้วยในภายหลัง     เพราะประวัติที่ไม่ชัดเจนนี้ ทำให้เกิดการถกเถียงกันว่าใครเป็นเจ้าของเกาะ Migingo ระหว่างชาวเคนย่าและชาวยูกันดามาเป็นเวลานาน แต่การเถียงกันอยู่อย่างนี้ไม่ได้ช่วยให้อะไรเปลี่ยนหรือดีขึ้น ทั้งสองประเทศจึงปรองดองและอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขจนทุกวันนี้ สำหรับตอนนี้มีประชากรเข้ามาตั้งที่อยู่อาศัยกันอย่างหนาแน่นแล้ว เพราะที่นี่นับว่าเป็นเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก เหมาะกับการทำอาชีพประมง…

ในโลกของเราล้วนเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมากมายตามแต่พื้นที่และชนชาติ จึงทำให้เกิดเทศกาลเฉลิมฉลองแบบแปลกๆ ขึ้นทั่วโลก อย่างของไทยเราเองก็มีเทศกาลแห่นางแมวขอฝนหรือเทศกาลปล่อยโคมยี่เป็งเหมือนกัน ซึ่งในบทความนี้เอง #เหมียวฟิ้น จะขอพาทุกๆ คนไปรู้จักกับอีกหนึ่งเทศกาลแปลกๆ อย่างเทศกาล “จู๋” จากญี่ปุ่นกัน…     ในทุกๆ ปี จะมีการจัดเทศกาล Hodare Festival หรือเทศกาล “จู๋” ขึ้นที่เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองกระปู๋ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เทศกาลนี้จะมีการจัดขึ้นในทุกวันอาทิตย์ที่สองของเดือนมีนาคมในทุกๆ ปี สืบต่อกันมาเป็นหลายร้อยปีแล้ว แต่ยิ่งวันเวลาผ่านไป มันก็ค่อยๆ โด่งดังและมีคนเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ     จุดประสงค์ของงานนี้ก็คือการให้หญิงสาวที่แต่งงานไปแล้ว 1 ปี ใส่ชุดเจ้าสาวมาเข้าร่วมเทศกาล โดยพวกเธอจะต้องนั่งบนท่อนไม้ที่มีลักษณะเหมือนกับอวัยวะเพศชายขนาดยักษ์ (บ้านเราคงเรียกปลัดขิก) แล้วแห่ไปตามถนนรอบเมือง ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อกันว่าหากใครก็ตามที่ได้เข้าร่วมเทศกาลนี้แล้วจะเกิดความโชคดีต่อชีวิตคู่และประสบความสำเร็จด้านครอบครัว     นอกจากนี้ยังมีความเชื่อกันอีกว่าหากใครได้สัมผัสกับปลัดขิกยักษ์ที่นำมาแห่ในงานและร่วมอธิษฐานขอพร มันจะนำความโชคดี มาให้พวกเขาด้วย     แม้ว่าเทศกาลนี้จะถูกจัดขึ้นในหมู่บ้านเล็กๆ แต่ก็สามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้มากมายกว่าพันคนทีเดียว และทุกๆ คนก็ให้ความสำคัญกับงานด้วยการแต่งตัวให่เข้ากับงาน เช่น สวมจมูกปลอมที่เป็นจู๋ หรือนำของกินอย่างไอศกรีมกับปลาหมึกที่มีหน้าตาเหมือนจู๋มาขายให้คนซื้อไปกิน   .   ของขายเกือบจะทุกอย่างจะเป็น “จู๋” หมดเลยนะเนี่ยะ .   ปลัดขิกยักษ์ที่เล่าไปตอนต้นหน้าตาเป็นแบบนี้…

จากกรณีของศาสตราจารย์ Robert E Kelly ที่กำลังให้สัมภาษณ์สดออกอากาศกับสำนักข่าว BBC News อยู่ แต่แล้วการสัมภาษณ์สดก็ถูกรบกวนโดยลูกๆ ที่น่ารักทั้งสองคน กลายเป็นเรื่องที่โด่งดังไปทั่วโลก… เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ผ่านมาช่วงรายงานข่าวสดของช่อง BBC News ขณะที่กำลังรายงานข่าวรอบโลก BBC World News ผ่านทางเว็บแคมกับศาสตราจารย์ Robert E Kelly ที่อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้   ขณะที่ท่านศาสตราจารย์ Kelly กำลังรายงานข่าวผ่านทางเว็บแคมให้กับห้องส่ง ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นไปได้ด้วยดี และมีท่าทางจริงจังเหมือนกับรายงานข่าวทุกครั้ง   จู่ๆ ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามาในห้องสร้างความปั่นป่วนให้กับทั้งท่านศาสตราจารย์ Kelly และห้องส่ง แต่ถึงอย่างนั้นความน่ารักของแขกทั้งสองคนก็ได้สร้างความสุขให้กับผู้คนทั่วโลกเลยทีเดียว ฮร่าๆ ลูกสาวของเขาสวมเสื้อสีเหลืองค่อยๆ เดินเข้ามาพร้อมกับเต้นรำอย่างอารมณ์ดี   ไม่นานก็มีลูกน้องขี่รถตามเข้ามาหวังจะสร้างความก่อกวนในระหว่างการออกอากาศ นี่เอ็งกำลังแข่งรถกันอยู่ใช่ม๊ายยยย   ลองไปชมคลิปความน่ารักที่เกิดขึ้นกันที่ข้างล่างนี้ได้เลยนะ   ล่าสุดเขาก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว… ท่านศาสตราจารย์ Rebert และภรรยา คุณ Kim Jung-A เล่าว่าพวกเขาได้รับการติดต่อเข้ามามากมายเพื่อทำการสัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น   เขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The Wall Street Journal เป็นที่แรก…

ใครจะไปเชื่อละว่าฝาขวดเบียร์ธรรมดาๆ ที่เราเพียงแค่เปิดแล้วทิ้งไปนั้น จะสามารถนำมาสร้างสรรค์ และดัดแปลงให้กลายเป็นผลงานศิลปะอันงดงาม และทรงคุณค่าได้ และเมื่อไม่นานมานี้ ชายหนุ่มชื่อผู้ใช้ IDunkedMyTesticlesInMayo จากเว็บไซต์ Imgur ได้เผยภาพผลงานการออกแบบโต๊ะบาร์สุดเจ๋ง โดยการใช้ฝาขวดเบียร์!! เอ…ว่าแต่มันจะออกมาเป็นแบบไหนกันละเนี่ย     หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงว่าฝาขวดจะนำมาดัดแปลงเป็นงานศิลปะได้ แต่สำหรับชายหนุ่มคนนี้ รวมถึงเพื่อน และครอบครัวของเขา ได้นำฝาขวดที่สะสมเอาไว้ได้กว่า 2,530 ชิ้น เป็นเวลานานกว่า 5 ปี มาดัดแปลงเป็นงานศิลปะบนโต๊ะในห้องครัวได้อย่างงดงาม     สำหรับเวลาในการสร้างสรรค์ทั้งหมดนี้ เขาเผยว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยถึง 4 ชั่วโมง ในการนำเอาฝาขวดไปวางไว้บนโต๊ะตามรูปแบบที่เขาต้องการ โดยการไล่ระดับสีที่เรียกว่า ROYGBIV (ซึ่งเป็นลำดับของเฉดสีที่มีแม่สีทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีแดง, สีส้ม, สีเหลือง, สีเขียว, สีฟ้า, สีคราม และสีม่วง)     สำหรับผลงานการสร้างสรรค์โต๊ะบาร์จากฝาขวดเหล่านี้ นอกจากจะมีความแปลกตา และสวยงามแล้ว มันยังช่วยเป็นการประหยัดเงินอีกด้วย “ผมรู้สึกภูมิใจกับชิ้นงานเหล่านี้มากๆ เลยละ” เขากล่าว…

เด็กหนุ่มชาวเดนมาร์กได้รับการบ้านให้ทำรายงานเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สอง พ่อเลยแซวเล่นๆ ว่าลองไปเดินในสวนข้างบ้านดูมั้ย เผื่อเจออะไร แต่เอาไปเอามา เด็กชายดันเจอซากเครื่องบินรบของนาซีเยอรมันจริงๆ ซะอย่างงั้น เรื่องราวมีอยู่ว่า Daniel Kristensen เด็กหนุ่มวัย 14 ปีจากประเทศเดนมาร์กได้รับการบ้านจากโรงเรียน ให้ทำรายงานเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สองสักเรื่องหนึ่ง     เมื่อกลับมาบ้าน เขาก็จำได้ว่าครั้งหนึ่งคุณปู่ของเขาเคยเล่าว่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองเคยมีฝูงบินขับไล่ Luftwaffe ของเยอรมันมาตกในฟาร์มของครอบครัวของเขาลำหนึ่ง เขาจึงเล่าเรื่องราวดังกล่าวให้ Klaus พ่อของเขาฟัง พ่อเขาก็พูดเล่นๆ ว่า “ลองออกไปหาดูสิ เผื่อจะเจออะไรซักอย่าง”  ทั้งสองคว้าเครื่องตรวจจับโลหะและเดินออกไป แต่ Klaus ก็ไม่คิดว่าจะเจออะไร เพราะซากเครื่องบินดังกล่าวคงถูกเก็บกู้ไปเนิ่นนานแล้ว     หลังจากเดินสำรวจอยู่พักนึง ในที่สุดเครื่องตรวจจับโลหะก็พบอะไรบางอย่างใต้ดิน พวกเขาตัดสินใจขุดลงไปสำรวจทันที และก็ได้พบกับเศษซากของเครื่องยนต์เครื่องบินขับไล่และชิ้นส่วนของนักบินผู้ขับเครื่องบินลำนั้น “พวกเราพบโครงกระดูกมนุษย์และเสื้อผ้าของนักบินที่ขับเครื่องบินลำนั้น รวมทั้งข้าวของส่วนตัวบางอย่าง ทั้งกระเป๋าเงิน หนังสือ คัมภีร์ไบเบิ้ล แต่เราไม่ได้หยิบออกมา” Klaus กล่าว     หลังจากนั้นเขาก็แจ้งเรื่องดังกล่าวกับทางการ และมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบในเวลาต่อมา ซึ่งพวกเขาบอกว่า เครื่องบินดังกล่าวคือเครื่องบิน ME 109 Messerschmitt จากสมัยสงครามโลกครั้งที่สองจริงๆ   ดูเหมือนว่าตอนนี้ Daniel…

กลายเป็นเรื่องราวสุดน่ารักบนอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว เมื่อวัยรุ่นหนุ่มคนหนึ่งวิ่งเกือบ 9 กิโลเมตร เขียนข้อความลงบนแผนที่ เพื่อชวนสาวไปงานพรอมด้วย ด้านชาวเน็ตต่างชื่นชมความคิดสร้างสรรค์และความโรแมนติกอย่างที่ไม่มีใครเหมือนของหนุ่มคนนี้     เรื่องราวดังกล่าวเป็นของ Joran Fuller วัยรุ่นชายชาวอเมริกัน เมื่อโรงเรียนของเขากำลังจะจัดงานพรอมประจำปี แน่นอนว่าเขาอยากจะชวน Claire Short มาเป็นคู่ควงในค่ำคืนนั้น แต่การชวนแบบปกติมันธรรมดาไป เขาจึงตัดสินใจเปิดแอพฯ จับจีพีเอสในโทรศัพท์มือถือของเขา จากนั้นก็วิ่งไปรอบๆ เมืองเป็นระยะทางกว่า 5.5 ไมล์ หรือราว 9 กิโลเมตร จนเกิดเป็นคำว่า “PROM?” ขึ้นมา แล้วก็ส่งไปให้เธอได้ดู     สำหรับสังคมอเมริกันนั้น งานพรอมถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับวัยรุ่น และพวกเขามักจะใช้โอกาสนี้ในการชวนคนที่ตนเองสนใจไปเป็นคู่ควงในงาน เมื่อเธอได้เห็นภาพดังกล่าว ก็รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก และได้นำเรื่องราวดังกล่าวไปโพสลงทวิตเตอร์ของเธอ พร้อมคำบรรยายว่า “จะมีใครยอมวิ่ง 5.5 ไมล์เพื่อชวนคุณไปงานพรอมหรือเปล่า?”     ซึ่งหลังจากที่เธอโพสข้อความไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นอย่างมากมาย   “ฉันต้องใช้เวลาประมาณ 5 นาทีกว่าจะรู้ว่าเขาเขียนว่าอะไร แต่มันน่ารักมาก จริงๆ นะ”  …

เคยไหมที่เราสังเกตุดูเพื่อนของตัวเองในตอนโตแล้วเกิดคำถามในใจว่า ตอนเด็กเพื่อนเราหน้าตาก็ออกจะดี หรือไม่ก็หน้าตาขี้เหร่ แต่พอทำไมโตมาหน้าตากลับสวนทางกันได้ขนาดนั้น ซึ่งมันไม่ได้เกิดขึ้นกับคนธรรมดาเท่านั้นหรอกนะ ดาราและคนดังก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเช่นกัน บางคนตอนเด็กก็ดูขี้เหร่แต่พอโตมากับดูดีหยั่งกับคนละคน ซึ่งล่าสุดทางเว็บไซต์ BoredPanda ก็ได้นำภาพของเหล่าคนดังในตอนเด็กและโตมาให้ดูกันว่ากาลเวลาได้เปลี่ยนพวกเขาไปแค่ไหน อย่ารอช้ามาดูกันเลยดีกว่า…   George Clooney   Brad Pitt   Jimmy Fallon   Benedict Cumberbatch   Leonardo DiCaprio   Freddie Mercury   Taylor Swift   Sir Elton John   Adele   Ben Stiller   Channing Tatum   Chloe Grace Moretz   Rihanna   Madonna   Chris Pratt   Lady…

Niki Wyatt วัย 30 และ Samantha Lochrie วัย 23 คู่รักดาวน์ซินโดรม ซึ่งทั้งสองก็ผ่านพิธีหมั้นแล้วกำลังจะแต่งงานกันอีกไม่นาน แต่ภายในงานเลี้ยงสโมสรเยาวชน พวกเขาจูบแสดงความรัก และกลับถูกห้ามเนื่องจาก “มันไม่เหมาะสม” ทั้งๆ ที่พวกเขามีอายุเกิน 18 แล้วด้วยซ้ำ แถมในงานก็มีคนปกติจูบกันเป็นเรื่องปกติ เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นข้อถกเถียงกันในโลกออนไลน์ และต่างคนต่างก็มีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป…     Kim แม่ของ Samatha ได้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับลูกตัวเองว่า “พวกเขาทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมานานแล้วนะ แต่พวกเขาพึ่งจะมาเริ่มคบหากันจริงๆ ก็ตอนที่ Samatha มีอายุ 18 ปี ซึ่งพวกเรารู้สึกแย่มากๆ ในตอนทั้งคู่ถูกปฏิเสธไม่ให้จูบกันในงาน ด้วยเหตุผลที่ว่า มันไม่เหมาะสม”     ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เธอตัดสินใจที่จะตั้งสโมสรใหม่ขึ้นมาเพื่อเหล่าคนพิการโดยเฉพาะ และนอกจากแม่ของ Samatha แล้ว Jackie แม่ของ Niki ก็ออกมาพูดในทำนองเดียวกันว่า “ถ้าคุณคือคนพิการ ในตอนเด็กคุณจะรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่แปลกและแตกต่างพอสมควร แต่ทว่าพอโตขึ้นมาแล้วคุณจะรู้ได้ทันทีว่าตัวคุณเองก็ไม่ได้ต่างอะไรจากคนธรรมดาหรอก ตอนที่ฉันไปสโมสรเยาวชน ฉันยังสามารถที่จะจูบได้ปกติเลย แล้วทำไมพวกเขาถึงทำไม่ได้ เพราะพวกเขาพิการอย่างงั้นเหรอ?”  …

อย่างที่เราทราบว่าโรงแรมต่างๆ ทั่วโลกของเรามีการแบ่งระดับตามราคาและค่าบริการ ยิ่งบริการดีเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายก็จะยิ่งแพงขึ้นเท่านั้น แต่เพื่อนๆ เคยสงสัยหรือไม่ว่า ค่าใช้จ่ายส่วนต่างนั้น มันแตกต่างกันขนาดไหน แล้วมันคุ้มค่าหรือไม่? ล่าสุดทางเว็บไซต์ Buzzfeed ได้ทำการทดลองเพื่อไขข้อสงสัยนั้น ด้วยการเข้าใช้บริการโรงแรมตั้งแต่ราคาเพียงคืนละ 1,400 บาท ยันราคา 1.2 ล้านบาท ว่าแต่ละที่แตกต่างกันขนาดไหน เราลองไปชมกันเลยดีกว่าเป็นยังไง   นี่คือทีมงาน Buzzfeed ที่จะไปทำการทดลองกัน   เริ่มจากโรงแรมแรกในเมืองลอสแองเจลลิสชื่อว่า Podshare ซึ่งมีราคาอยู่ที่คืนละ 50 ดอลลาร์หรือราว 1,400 บาท โรงแรมแห่งนี้จะมีลักษณะเป็นโฮสเทลมากกว่า โดยลูกค้าแต่ละคนจะมีเตียงเล็กๆ ของตนเอง (เหมือนแคปซูล)   ที่พิเศษคือเตียงสามารถพับขึ้นได้เพื่อกลายเป็นโต๊ะทำงาน เรียกว่าเจ๋งสุดๆ ซึ่งพวกเขาต่างเห็นดีเห็นงามว่านี่คือโรงแรมที่คุ้มค่าที่สุดในแอลเอ (ในราคานี้นะ)   ต่อไปพวกเขาก็เดินทางไปยังโรงแรม Redbury Hollywood ซึ่งมีราคาประมาณ 350 ดอลลาร์ถึง 450 ดออลาร์ (12,000 – 15,000 บาท)   โดยแต่ละห้องจะมีห้องนั่งเล่นของตนเอง…

เจ้า Buddy สุนัขพิทบูลที่ตกเป็นผู้ต้องหา หลังจากตำรวจตั้งข้อสงสัยว่ามันทำร้ายเด็กน้อยคนหนึ่งจนบาสเจ็บสาหัสบริเวณริมแม่น้ำ Murray ในประเทศออสเตรเลีย แต่แล้วเรื่องราวก็ไม่ใช่อย่างที่ใครๆ คิด…     เรื่องราวมันเริ่มขึ้นเมื่อวันหนึ่งเจ้า Buddy ของคุณ Jess smith ดันบังเอิญเห็นคุณแม่วัย 27 ปี กำลังพยายามจับลูกชายวัย 5 ขวบและ 9 ขวบของเธอถ่วงน้ำ พร้อมกับปล่อยลงในแม่น้ำหวังให้พวกเขาตาย โดยที่ไม่มีใครทราบเหตุผล ด้วยความที่มันถูกฝึกมา เจ้าหมาเห็นดังนั้นเลยพยายามเข้าไปช่วยเหลือ ด้วยการกัดและลากเด็กน้อยขึ้นมาบนฝั่ง สุดท้ายมันสามารถช่วยชีวิตเจ้าหนูวัย 9 ขวบไว้ได้เพียงคนเดียว แลกกับร่องรอยการกัดและแผลบนตัวของเจ้าหนู ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการพยายามช่วยชีวิตนั่นเอง   ตำรวจช่วยกันพยายามหาตัวศพของเด็กชายวัย 5 ขวบ ส่วนเด็กชายวัย 9 ขวบได้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเรียบร้อย   ในตอนแรกนั้น ทางตำรวจจำเป็นต้องตั้งข้อกล่าวหาให้กับเจ้าพิทบูล เพราะร่องรอยการกัดทั้งที่ตัวแม่และตัวลูกชายคนโตที่รอดชีวิต ซึ่งฝ่ายคุณแม่ก็ทำเหมือนตัวเองเป็นผู้เคราะห์ร้าย แต่ภายหลังจากการสืบสวน พบว่าแท้จริงแล้วคุณแม่ต่างหากคือคนร้าย ขณะที่เจ้า Buddy คือฝ่ายที่พยายามช่วยชีวิตของเด็กๆ ไว้ ทำให้นำไปสู่การรณรงค์แคมเปญช่วยชีวิตมันให้รอดจากการถูกกล่าวหา   สุดท้ายตำรวจก็พบกับศพของเด็กชายวัย 5 ขวบ แต่ทว่าในภายหลังทางตำรวจก็ได้พยายามหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่า เจ้าพิทบุลตัวนี้ไม่ได้ตั้งใจที่จะกัด…

กลายเป็นข่าวสุดมุ้งมิ้ง เมื่อทางเว็บไซต์เดอะซัน ได้เผยแพร่คลิปของเหล่านักดับเพลิงเข้าไปช่วยเจ้าหมูกว่า 150 ตัว ออกจากโรงนาซึ่งกำลังมีไฟลุกไหม้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน Chernaya Rechka ประเทศรัสเซีย เมื่อพวกเขาได้รับเหตุแจ้งไฟไหม้ที่โรงนาแห่งหนึ่ง พวกเขาไปถึงที่เกิดเหตุก็พบว่านอกจากจะเป็นโรงนาแล้ว มันยังเป็นเล้าหมูที่มีหมูจำนวนมากด้วย   งานนี้ก็ต้องเกิดภารกิจช่วยชีวิตสุดน่ารักขึ้นมาแล้ว!!   ภาพของนักดับเพลิงที่เรียงแถวลำเลียงหมูออกมาและส่งต่อให้กันไปเรื่อยๆ ในขณะที่พนักงานคนอื่นๆ ก็พยามช่วยกันดับเพลิงให้สำเร็จ ยังดีที่ผลกระทบของไฟไหม้ในครั้งนี้ สร้างความเสียหายให้กับตึกเพียงหลังเดียวเท่านั้น   เจ้าหน้าที่ดูจะมีความสุขนะที่ช่วยพวกมันได้   ค่อยๆ ทยอยพากันออกมาตัวสองตัว   ตามคำบอกเล่าของเจ้าของฟาร์มบอกว่ามีหมูและลูกหมูมากถึงราวๆ 200 ตัว ซึ่งถูกเลี้ยงดูอยู่ในโรงนา และกว่าจะช่วยพวกลูกหมูออกมาได้ทั้งหมดนั้นต้องใช้นักดับเพลิงมากถึง 26 คนเลยทีเดียวล่ะ และเมื่อข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปสู่โซเชียลมีเดีย ก็มีกระแสตอบรับออกมามากมาย ตัวอย่างเช่น “ถึงแม้เราจะรู้ว่ามันเป็นหน้าที่ของพวกเขา แต่อดที่จะชื่นชมพวกเขาไม่ได้อยู่ดี” และยังมีคนบอกว่า “ขอบคุณจริงๆ เหล่าผู้กล้า”   ฮุยเลฮุ่ยยยยย พวกหมูก็ยอมให้อุ้มแต่โดยดี เหมือนรู้ว่ามันจะปลอดภัยแน่ๆ ถ้าไม่ดิ้น ฮ่าาาาา   ดูสภาพของพวกมันสิเปื้อนไปหมดเลย แถมยังมีแม่หมูอีกตะหาก   ค่อยๆ อุ้มมันออกมาส่งต่อไปเป็นทอดๆ   เอ่อ หมูตัวนั้นมันลายสีดำ…

โดยทั่วไปแล้ว เด็กควรได้รับการดูแลที่ดีเป็นพิเศษเพราะเด็กมีภูมิคุ้มกันต่ำ ดังนั้นสถานที่จะให้เด็กอาศัยอยู่จะต้องสะอาด รวมทั้งอาหารที่ถูกต้องตามหลักสุขอนามัย แต่เรื่องที่คุณได้อ่านต่อนี้ สร้างความสะเทือนอย่างยิ่งในแบบที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน และมันก็เลวร้ายเกินกว่าใครจะรับได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมือง Lancashire ในสหราชอาณาจักร เมื่อตำรวจได้รับแจ้งให้เข้าไปตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง และเมื่อเข้าไปก็พบกับเด็กเล็ก 4 คนอยู่ในสภาพที่คล้ายกับ ‘ซอมบี้’     เด็กทั้ง 4 คน อายุต่ำกว่า 5 ขวบ พวกเขาถูกทิ้งในอยู่ในบ้านเพียงลำพัง โดยขังไว้ในห้องเต็มไปด้วยอุจจาระ และมีกลิ่นเหม็นคลุกเคล้าไปกันหมด นอกจากนี้พวกเขายังถูกทิ้งให้อดตายอีกด้วย เนื่องจากทุกคนอยู่ในสภาพที่หมดแรง ไม่มีการตอบสนองใดๆ เฉื่อยช้าคล้ายกับซอมบี้ โดยมีผื่นขึ้นตามตัวเต็มไปหมด สภาพห้องโดยรวมแย่มาก เพราะมีผ้าอ้อมกระจายเต็มพื้น และมีอุจจาระป้ายตามผนังอีก สภาพคล้ายกับบ้านร้าง ซึ่งเด็กไม่สมควรที่จะมาอยู่ในที่แบบนี้เลย เมื่อเห็นว่าเด็กกำลังอยู่ในอาการหิวโหย ตำรวจจึงรีบวิ่งเข้าไปในครัวเพื่อหาอาหารให้ แต่พบว่าในครัวนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากกัญชาและหม้อหุงข้าว ส่วนขวดนมเด็กนั้นมีราขึ้นจนไม่สามารถใช้ได้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งช่วยเด็กออกมาหมดแล้วแล้ว พวกเขาก็ได้สำรวจส่วนอื่นๆ ของบ้านเพื่อเก็บหลักฐานแล้วก็พบว่า ในห้องน้ำไม่มีน้ำอุ่น อ่างอาบน้ำเต็มไปด้วยสี สภาพที่ไม่น่าจะอาบน้ำให้เด็กได้     ในขณะที่พ่อของเด็กอ้างว่าเขาอาบน้ำให้ลูกในอ่างล้างจาน และทุกอย่างที่ทำให้ลูกๆ มันก็ดีที่สุดสำหรับพวกเขาแล้ว เนื่องจากทั้งคู่มีปัญหาทางจิต แต่ก็สารภาพว่าได้ละเลยลูกๆ จริง แต่ข้ออ้างของพ่อแม่เด็กไม่สามารถใช้ในชั้นศาลได้ ในที่สุดทั้งคู่จึงถูกศาลตัดสินจำคุกโดยไม่ให้มีการประกันตัว ส่วนเด็กๆ ทั้ง 4…

‘การคลอดลูก’ ในมุมมองของหลายๆ คนอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากที่สุด การมีลูกนั้นเป็นเรื่องที่เจ็บปวด เป็นเรื่องที่เครียด อีกทั้งยังสร้างความเหนื่อยหน่ายให้กับทั้งร่างกายและจิตใจ แต่เมื่อมันผ่านไปก็จะหลงเหลือไว้เพียงความสุขและความภาคภูมิใจ แต่สำหรับคุณแม่มือใหม่ Thaise De Mari แล้วกลับไม่ได้คิดอย่างนั้นแต่อย่างใด เธอแชร์ภาพของตัวเองหลังการคลอดลูกลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ     และมันก็เป็นการถ่ายรูปร่วมกับสมาชิกใหม่ กลายเป็นการเซลฟี่ครอบครัวที่ดูมีความสุขมากที่สุดในโลก!! ภาพดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ Thaise เพิ่งออกจากห้องผ่าตัดคลอดไม่นาน ข้างๆ กันนั้นก็มีสามี และลูกน้อยของเธอที่เพิ่งเกิดมาลืมตาดูโลก ทุกคนยิ้มกันอย่างมีความสุขในภาพเซลฟี่ครั้งแรงของครอบครัว ในภาพแสดงให้เห็นถึงความงดงาม ทำให้รู้ว่าไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าช่วงเวลาที่ได้พบหน้ากับลูกของคุณในครั้งแรกอีกแล้ว…   ภาพดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมายจนมีคนเข้าไปกดถูกใจในอินสตาแกรมถึง 13,600 คนเลยทีเดียว!!   ดูซิ เกิดมาไม่ทันไรก็แปลงร่างกลายเป็นนางเงือกซะแล้ว!!   เธอจะต้องเติบโตมาด้วยความสุขสนุกสนานอย่างแน่นอน   ดูเธอจะชอบเค้กวันเกิดเอาซะมากๆ เลยนะหนูน้อย   ความรักของพ่อแม่ที่ดูแลทะนุถนอมกันมาเป็นอย่างดี   เย้!! อีกไม่นานฉันก็จะโตเป็นสาวแซ่บแล้ว   มีความเป็นนางแบบถ่ายภาพเล่นกล้องตั้งแต่เด็กๆ   เป็นครอบครัวที่น่ารักสุดๆ   เพื่อนๆ สามารถเข้าไปติดตามความน่ารักของครอบครัวนี้ได้ที่อินสตาแกรม thaisedemari ได้เลยนะจ๊ะ   แหม่ ช่างเป็นครอบครัวที่น่ารักจริงๆ แบบนี้หนูน้อยจะต้องเติบโตมาด้วยความรักและความอบอุ่นอย่างเต็มเปี่ยมอย่างแน่นอน ที่มา…

ตอนเด็กๆ เวลาผู้ใหญ่เล่านิทานให้ฟังเราก็จะจินตนาการตาม จนบางทีบางเรื่องเราก็เก็บมาคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง ทว่าเมื่อเราโตขึ้นความคิดเหล่านั้นก็ยังคงเป็นเพียงแค่นิทาน อย่างไรก็ตามจินตนาการมักจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเกิดความคิดสร้างสรรค์ไม่สิ้นสุดเสมอ เหมือนกับ Brian Kesinger ศิลปินที่นำเอาจินตนาการในวัยเด็กมาทำเป็นผลงานศิลปะที่มีความโดดเด่นเช่นนี้   1. มังกรก็กลัวนักล่าเหมือนกันนะ   Kesinger บอกว่า “ในฐานะที่ผมเป็นเด็กในยุค 80 มังกรจะมีอิทธิพลกับผมมาก ทั้งจากการฟังนิทาน ภาพยนตร์หรือวิดีโอเกม มันก็ล้วนมีผลกับจินตนาการของผมทั้งสิ้น”  ด้วยจินตนาการนี้เขาจึงได้ถ่ายทอดผ่านภาพวาด เพื่อแสดงด้านต่างๆ ของมังกร และเป็นไปในทางที่แตกต่างออกไป เพราะปกติแล้วเรามักจะรู้จักมังกรในคราบความดุ น่ากลัว และชั่วร้าย แต่ศิลปินคนนี้มองต่างออกไปและได้ลบภาพลักษณ์เดิมๆ ของมังกรออกไป เพราะเขาคิดเสมอว่า จริงๆ แล้วมังกรก็มีความคิดไม่ต่างจากมนุษย์เลย   2. มังกรมีอารมณ์ความรู้สึกเศร้าเหมือนกัน   3. รักในการเรียนรู้อยู่เสมอ   4. มีช่วงที่หลงทางบ้างเหมือนกัน   5. ของว่างของมังกรก็คือเหล่าอัศวินผู้น่าสงสาร   6. มังกรอาจจะรู้สึกดีเหมือนเจ้าชาย ที่ได้เจอเจ้าหญิงและช่วยเธอเอาไว้   7. ปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นบนตัวมังกร และมันจะพังลงเมื่อมีคนไม่เชื่อฟังแล้วไปทำให้มังกรตื่น ดังนั้นถ้าเราไม่ทำอะไรมัน มันก็ไม่ทำอะไรเราเหมือนกัน   8.…

ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นภัยที่ยากต่อการรับมือโดยเฉพาะสึนามิ ที่ไม่ว่าจะเกิดที่ไหนก็สร้างความเสียหายมากมายมหาศาลทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน นี่ก็ผ่านไป 7 ปีแล้ว นับแต่การเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุในประเทศญี่ปุ่น เป็นเหตุทำให้เกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิตามมาด้วย ถือเป็นการระเบิดของไฮโดรเจนที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล     จากเหตุการนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18,000 คน และต้องทำการอพยพผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิ ออกจากพื้นที่กว่า 100,000 คน วันนี้เราจึงนำภาพก่อนและหลังที่เกิดสึนามิที่ถ่ายในปี 2011 และปี 2016 ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวขนาด 9.0 ริกเตอร์ คลื่นยักษ์และอุบัติเหตุจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์   แผ่นดินไหวเกิดในเวลา 2.46 น. ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ปี 2011 ทำให้เมืองเคะเซ็นนุมะ มีสภาพพังยับเยิน โดยสึนามิได้พัดเอาเรือประมงขนาดใหญ่ขึ้นฝั่งด้วย   หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวไปไม่ถึงชั่วโมง คลื่นสึนามิขนาดใหญ่ก็ซัดขึ้นมาบนฝั่ง   เมืองนะโตะริ ได้รับผลร้ายแรงที่สุด ทั้งๆ ที่นักวิทยาศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะมีแรงสั่นสะเทือนน้อยสุด   เมืองริคุเซนทะกะตะ ได้รับผลกระทบจากคลื่นสูง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,700 คน   ในบางพื้นที่เจอกับคลื่นสูงถึง 38…

คนเป็นแม่ทุกคนก็คงอยากเห็นการเติบโตของลูกตั้งแต่ที่วันที่คลอดเค้ามา แต่สำหรับ Danijela Kovacevic คุณแม่วัย 25 ปี ไม่มีโอกาสได้เห็นการเติบโตของลูกนาน 7 ปี Danijela จาก Vojvodina ประเทศเซอร์เบีย ได้ติดเชื้อในครรภ์ขณะที่คลอดลูกสาว Marija ส่งผลให้เธอต้องมีสภาพย่ำแย่ หลับใหลโดยไม่สามารถสามาถตอบสนองกับอะไรทั้งสิ้น ในขณะที่คุณแม่ต้องนอนโคม่ารักษาตัวอย่างไร้ความรู้สึกนั้น Marija ก็เติบโตขึ้นทุกวันจนเข้าสู่วัยเรียน ตอนนี้เธอก็อายุ 7 ขวบแล้ว     และหลังจากเลิกเรียน ทุกๆ วันเด็กหญิงจะเข้าไปอยู่ใกล้ๆ แม่ กอดแม่ และพูดกับเธอเสมอว่า “แม่จะต้องไม่ยอมแพ้นะ หนูจะอยู่ข้างๆ แม่เสมอค่ะ” และแล้วปาฏิหาริย์ก็มีจริง หลังจาก Danijela นอนหลับใหลยาวนานกว่า 7 ปี เธอก็ฟื้นขึ้นมา สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก เพราะที่เซอร์เบียไม่เคยมีกรณีแบบนี้มาก่อน โดยเฉพาะครอบครัวของเธอที่รู้สึกดีใจมากๆ เพราะทุกคนก็หวังอยู่เล็กๆ ว่าเธอจะฟื้นขึ้นมา พยายามดูแลเธอมาตลอด 7 ปีจวบจนถึงทุกวันนี้ และวินาทีที่คุณแม่ได้เจอลูกสาวครั้งแรกนั้น ทำให้ทุกคนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ มันเหมือนแม่ได้เจอลูกครั้งแรก ส่วนเด็กหญิงแม้จะไม่ใช่ครั้งที่เจอแม่ แต่มันคือครั้งแรกที่แม่ตอบสนองต่อเธอ    …

แม้ชีวิตของเราจะต้องเจอแต่เรื่องแย่ๆ แต่ก็อย่าเพิ่งหมดหวังซะล่ะ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของเจ้าหมาชิวาว่าตัวนี้ ที่ต้องใช้ชีวิตราวกับตกนรกทั้งเป็นอยู่ในสถานเพาะพันธุ์สุนัข จนทำให้มันหวาดกลัวไปซะทุกอย่าง แต่ท่าทางและแววตาที่มีแต่ความหวาดกลัวนั้นเองก็ทำให้มันได้เจอกับเจ้านายคนใหม่ที่แสนใจดี   Claire Stokoe กำลังนั่งเล่นเฟซบุ๊คเช็คหน้านิวส์ฟีดของตัวเองอยู่ๆ จู่ๆ ก็ได้เห็นภาพของเจ้าหมาชิวาว่าตวเล็กตัวหนึ่งที่ดูท่าทางหวาดกลัวมาก ยืนอยู่ใกล้ๆ กับผักกระป๋อง Heinz ที่ตัวของมันไม่ได้ใหญ่ไปกว่ากระป๋องนั้นซักเท่าไหร่เลย “มันไม่กล้าแม้แต่จะเดินเข้าไปหากระป๋องเลย และมันก็ดูน่ารักมากๆ น่าทะนุถนอมมากๆ เลยล่ะ” Claire เล่า       เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับโทรไปหาสถานสงเคราะห์ที่เป็นคนโพสต์หาบ้านให้กับมัน เพื่อติดต่อขอรับมันมาเลี้ยงที่บ้านพร้อมกับตั้งชื่อให้มันว่าเจ้า Brie หลังจากที่มารับตัวมัน Claire ก็ได้รู้ว่าเจ้า Brie นั้นมาจากสถานเพาะพันธุ์ลูกสุนัขในชนบทของประเทศ Wales ที่ซึ่งชีวิตของมันเหมือนกับตกอยู่ในนรกทั้งเป็น     เจ้า Brie นั้นมีอาการหวาดกลัวต่อทุกสิ่ง แถมยังมีอาการลืมตาลำบากในที่ที่มีแสงสว่างเยอะๆ ทำให้ Claire เชื่อว่ามันต้องใช้ชีวิตอยู่กับความมืดมาตลอดอย่างแน่นอน     เจ้า Brie นั้นตัวเล็กมาก และขาดสารอาหารอย่างหนัก เพราะมันถูกใช้เป็นแม่พันธุ์ในการคลอดลูกไปมากกว่า 2 ครอกแล้ว ซึ่งสร้างภาระหนักให้กับร่างกายของมันมากๆ  …

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้มีการจัดงานงานโชว์การแสดงละครสัตว์ที่สวนสัตว์ Hangzhou Safari Park ที่ประเทศจีน แต่จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เพราะดันมีเจ้าเสือขาวหนึ่งในสัตว์โชว์แสดงตัวหนึ่งกลับดื้อไม่ยอมฟังคำสั่งของครูฝึก กัดอุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดงพร้อมกับค่อยๆ ลากนักแสดงออกไปข้างๆ เวที จนทำให้มันตกลงไปในอ่างน้ำ     ในระหว่างนั้นเองก็มีเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์อีกคนหนึ่งพยายามที่จะหยุดยั้งพฤติกรรมอันก้าวร้าวของเจ้าเสือขาวตัวดังกล่าวด้วยการเอาแส้ฟาดเข้าไปที่ใบหน้าของมันหลายครั้ง     หลังจากที่เจ้าเสือตัวแรกตกลงไปในน้ำแล้ว จู่ๆ ก็มีเสือขาวอีกตัววิ่งเข้ามาเอาจมูกดมๆ ด้วยความเป็นห่วง ราวกับจะมาเช็คดูว่าเพื่อนของมันปลอดภัยดีอยู่หรือเปล่า     ทันใดนั้นเองครูฝึกก็เดินเข้ามาหามันเพื่อที่จะใช้แส้ไล่ให้เจ้าเสือขาวตัวที่สองกลับไปยืนประจำที่บนเวทีของมัน ซึ่งมันก็ทำตามแต่โดยดี จากนั้นเจ้าเสือที่ตกไปในน้ำก็สามารถปีนขึ้นมาได้ในที่สุด พอเห็นดังนั้นเพื่อนเสือตัวอื่นๆ ก็วิ่งกรูกันเข้ามาเพื่อเช็คดูว่ามันปลอดภัยหรือไม่ สุดท้ายครูฝึกก็เหวี่ยงแส้ไล่ให้ทุกตัววิ่งเข้าประตูออกจากเวทีไป และปิดการแสดงเพราะรู้ว่าไม่สามารถคุมพวกมันได้แล้ว     ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กันก่อนได้เลยนะจ๊ะ…   คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกแชร์ต่อไปมากมายในโซเชียลเน็ตเวิร์คของประเทศจีน เพราะประทับใจในมิตรภาพที่แสนงดงามของเหล่าเสือที่ดูจะเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนของมันมาก “ในคลิปวิดีโอนั้นแสดงให้เห็นว่าเสือทุกตัวนั้นมีความเป็นห่วงเพื่อนๆ ของมัน หลังจากที่รู้ว่าเจ้าตัวนั้นกำลังมีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ การกระทำของครูฝึกนั้นเรียกได้เลยว่าเป็นความรุนแรง” Dave Neal เจ้าหน้าที่จากองค์กรช่วยเหลือสัตว์ป่า Animals Asia กล่าว ทางองค์กร Animals Asia ได้ติดตามการกระทำของเหล่าคณะละครสัตว์ในประเทศจีนมานานมากแล้ว จากการสำรวจก็พบว่ายังมีคณะละครสัตว์มากมายที่ทำการทารุณกรรมสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิงโต เสือ และสัตว์อื่นๆ จนทำให้พวกมันมีร่างกายที่ผอมกะหร่อง  …

เรื่องราวที่กำลังเป็นดราม่าและถกเถียงกันแบบเบาๆ ในโลกออนไลน์ของต่างประเทศ จากเหตุการณ์ที่ชายคนหนึ่งได้สร้างวีรกรรมสุดกล้าหาญด้วยการเข้าไปช่วยเด็กสาวสองคนออกมาจากบ้านที่กำลังไหม้ แต่ทว่ารางวัลที่เขาได้กลับมา กับเป็นรางวัลส่งตัวเขาเองกลับไปยังประเทศบ้านเกิดซะงั้น… Robert Chilowa 46 ปี ได้รับการยกย่องจากวีรกรรมที่เขาเข้าไปช่วยเด็กๆ ในบ้านของพื่อนบ้านที่กำลังไฟไหม้ในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ     หนุ่มชาวซิมบับเวคนนี้เข้าไปช่วยเด็กน้อย 2 คนจากจากบ้านที่กำลังลุกไหม้ พร้อมบอกให้เด็กทั้งสองเกาะเขาไว้จนหนีออกมาได้สำเร็จ แต่ทว่าเรื่องกลับไม่ได้แฮปปี้เอนดิ้ง เพราะกลายเป็นว่าจากเหตุนี้ทำให้เขามีชื่อเสียงขึ้นมาในละแวก และยังต้องเป็นพยานให้กรณีที่บ้านไฟไหม้ มันก็ดูปกติเว้นแต่ว่า… เขาเป็นคนเข้าเมืองที่ผิดกฎหมายนั่นเอง สุดท้ายเขาก็เลยถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทำเรื่องส่งตัวเขากลับไปที่ประเทศซิมบับเวบ้านเกิดของเขาซะงั้น แถมเขายังไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้เลย เขาบอกว่าเขามาอยู่ที่นี้มาตั้งแต่ 2001 แล้วแต่ผลตอบแทนที่เขาได้รับมันเหมือนการตบเข้าที่หน้าของเขาแรงๆ ถึงแม้เขาจะได้รับการยกย่องจากทั้งตำรวจท้องถื่นและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย     “หัวใจผมถึงกับแตกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อผมรู้ถึงเรื่องที่ผมต้องเผชิญต่อจากนี้ ไม่ได้ทำอะไรผิด ผมไม่มีแม้แต่ประวัติอาชญากรรมอะไรเลยแท้ๆ ใครก็ได้ช่วยเห็นใจผมที” ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องถูกส่งกลับไปประเทศซิมบับเวภายในเดือนมีนาคมที่จะนี้อยู่ดี สุดท้ายชายคนนี้ก็ไม่ได้พูดถึงสาเหตุของของการไม่อยากกลับไปที่ประเทศบ้านเกิดของเขา   เขาถูกตัดรายได้ทั้งหมด และถูกบีบบังคับให้ต้องออกจากบ้าน เพื่อที่จะได้ส่งเขากลับประเทศบ้านเกิด   จากเพลิงไหม้ในครั้งนั้นทำให้ Mohammed Awad วัย 56 และ Hasma Awad วัย 47 ซึ่งเป็นคุณปู่และคุณย่าของเด็กทั้งสองที่ Robert ได้ช่วยไว้ ต้องตายจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น…

เคยคิดมั้ยว่าถ้าวันสิ้นโลกมาถึงจริงๆ เราจะรับมือกับมันยังไง… จะยอมตาย หรือสู้เพื่อมีชีวิตต่อดีนะ #เหมียวขี้ส่อง เชื่อว่า หลายคนคงอยากมีชีวิตรอดกันทั้งนั้นแหละ แล้วถ้าอยากรอด เพื่อนๆ จะมีเตรียมตัวอย่างไรกันบ้าง? ตอนนี้ได้มีการเปิดตัวรถหุ้มเกราะที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับวันสิ้นโลกโดยเฉพาะ     รถยนต์คันนี้มีชื่อว่า Globecruiser Family 7500 ออกแบบโดยบริษัทสัญชาติออสเตรีย Action Mobil ที่เหมาะสำหรับการขับขี่ระยะไกล และรองรับพื้นที่ขรุขระได้เป็นอย่างดี มีการออกแบบภายนอกให้คล้ายกับรถทหาร แต่มีน้ำหนักเทียบเท่ากับรถยนต์ธรรมดาถึง 20 คันเชียวนะ เพราะน้ำหนักของมันอยู่ที่ 18 ตัน มีความสูง 3.8 เมตร และยาว 10 เมตร     ส่วนล้อรถเป็นล้อออฟโรดขนาดใหญ่ถึง 6 ล้อด้วยกัน เครื่องยนต์ขนาด 530 แรงม้า และมีราคาออกมาเรียบร้อยแล้วคือ 27 ล้านบาท!! ใครที่กำลังห่วงว่าน้ำมันจะเพียงพอหรือเปล่านั้น หายห่วงได้เลยเพราะมีการติดตั้งถังน้ำมันขนาดใหญ่ ซึ่งใช้ได้นานกว่ารถทั่วไปแน่นอน มีถังที่สามารถจุน้ำดื่มได้ถึง 1,000 ลิตร พร้อมติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ 240 วัตต์…

การร่วมมือกันของนักสำรวจจากเยอรมนีและอียิปต์ได้ทำให้พวกเขาได้ค้นพบวัตถุสำคัญทางประวัติศาสตร์ชิ้นใหม่ ซึ่งพวกเขาคาดเดาว่าวัตถุชิ้นนี้จะมาอายุมากถึง 3,000 ปีเลยทีเดียว การค้นพบนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านที่ย่านสลัมอันรู้จักกันในชื่อ Matariya ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดยสิ่งที่พวกขุดเจอนั่นก็คือรูปปั้นฟาโรห์ที่มีขนาดสูงถึง 8 เมตร   ภาพของนักสำรวจที่กำลังตรวจสอบชิ้นส่วนของรูปปั้นที่พวกเขาเจอ   ตัวรูปปั้นที่พบเห็นนั้นอยู่ในสภาพแตกหัก มันถูกสร้างด้วยหินควอตไซต์ ซึ่งทำให้พวกเข้าค้นพบรูปปั้นชิ้นอื่นๆ ตามมา และหากสำรวจบริเวณนี้ได้เรียบร้อย รูปปั้นเหล่านี้จะถูกนำไปจัดแสดงใน Grand Egyptian Museum  พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ที่จะสร้างเสร็จในปี 2018     ตรงส่วนนี้น่าจะเป็นฐานที่มีข้อความบ่งบอกถึงอะไรสักอย่าง   หลังจากการสำรวจเบื้องต้น พวกเขาคาดเดาว่ารูปปั้นนี้น่าจะเป็นรูปปั้นของฟาโรห์ Ramses II ซึ่งเป็นฟาโรห์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีฟาโรห์มาทุกพระองค์เลยทีเดียว เชื่อกันว่าเขาเป็นคนสร้าง Heliopolis (และกลายมาเป็น Matariya ในปัจจุบัน) การขุดค้นครั้งนี้ถือเป็นอีกครั้งสำคัญที่สุดแห่งประวัติศาสตร์ เพราะทำให้พวกเราทราบถึงประวัติศาสตร์อียิปต์มากยิ่งขึ้น   ส่วนตัวของรูปปั้นที่แตกหัก   นอกจากนี้ การขุดค้นอาจจะทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวในอียิปต์กลับมาบูมอีกครั้ง หลังจากที่ถดถอยลงไปกว่า 6 ปี เพราะปัญหาทางการเมือง สงคราม และการก่อการร้ายนั่นเอง  …

ภาพที่สัตว์นักล่าจอมโหดอย่าง “งู” จัดการเหยื่อของมันอย่างโหดเหี้ยมและง่ายดาย คงเป็นสิ่งที่เราพบเห็นกันเป็นประจำ แต่วันนี้เรื่องราวกลับตาลปัตร เมื่องูดันกลายเป็นเหยื่อซะเอง แถมนักล่าก็ไม่ใช่ใคร เป็นกบตัวเขียวที่ใครเห็นก็แทบไม่เชื่อว่ามันจะสามารถจัดการงูพิษตัวนี้ได้ เรื่องราวเกิดขึ้นที่รัฐควีนส์แลนด์ในประเทศออสเตรเลีย เมื่อลูกสาวของ Jenny Basford สังเกตุเห็นกบสีเขียวตัวหนึ่งกำลังต่อสู้กับงูพิษอย่างดุเดือด ในสวนหลังบ้านของเธอ     จนสุดท้ายเจ้ากบเป็นฝ่ายชนะ และกินงูจนหมดทั้งตัว สร้างความตกตะลึงให้กับเธอเป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่คิดว่ากบจะสามารถเอาชนะงูได้     “เธอเดินออกไปข้างนอก และเธอพบว่าเจ้ากบสีเขียวที่มักโผล่มาในสวนหลังบ้านของเรา กำลังจัดการงูตัวเป้งอยู่ พอมันชนะ มันก็กินเจ้างูตัวนั้นจนหมดแล้วก็นั่งพุงกางอยู่แถวนั้น” คุณนาย Basford กล่าว นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่า เธอเห็นเจ้ากบตัวนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่นี้เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นมันกินงู     สำหรับบ้านเราอาจเป็นเรื่องแปลก แต่กบในออสเตรเลียนั้นถือว่าโหดพอตัว และงูท้องแดงที่แม้จะเป็นงูพิษ แต่ก็มักถูกกบยักษ์กินเป็นประจำ ที่มา Dailymail

ก็อยากมีเงินเก็บเหมือนคนอื่นเค้านะ แต่มันไม่มีแรงจุงใจให้เก็บอ่า ทุกวันนี้ออมสินที่บ้านเลยว่างเปล่า ซื้อมาวันแรกยังไงตอนนี้ก็อยู่อย่างนั้น ถ้าเพื่อนๆ มีอาการแบบนี้ของแนะนำ Spirited Away กระปุกเก็บเงินที่จะทำให้คุณอยากเก็บเงินมากขึ้น ขนาดว่าไม่มีเงินแล้วคุณก็ยังอยากหยอดเข้ากระปุกเรื่อยๆ แบบไม่มีหยุด     Spirited Away คงเป็นชื่อที่เราคงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นภาพยนต์อนิเมชั่นชื่อดังของ Studio Ghibli ที่ออกฉายในปี 2001 และเป็นอนิเมะที่ทำรายได้สูงสุดในญี่ปุ่นด้วย ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะเอกลักษณ์ของเจ้าตัวละครวิญญาณไร้หน้าผู้โดดเดี่ยว ชอบอยู่แต่ที่มืด และมีปากอยู่ที่คอเผยให้เห็นฟันขาวๆ น่าสยดสยองและมันจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้านี่แหละ     ด้วยเหตุนี้ทำให้ตัวการ์ตูนตัวนี้โด่งดังจนมีคนไปทำเป็นผลิตภันฑ์ ของใช้ต่างๆ และแม้แต่การคอสเพลย์ เจ้าวิญญาณไร้หน้าตัวนี้ ก็มักเรียกกระแสได้ดีในกลุ่มคนทุกเพศทุกวัยเสมอ และตอนนี้ทางบริษัท Benelic ผู้อยู่เบื้องหลังสินค้าต่างๆ ของ Studio Ghibli ก็ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ออกมาดูดเงินพวกเรา เปลี่ยนเจ้าวิญญาณไร้หน้าให้กลายเป็นกระปุกออมสินอัตโนมัติที่มีชื่อว่า Spirited Away No Face Munching Piggy Bank     กระปุกออมสินตัวนี้จะยืนถือชามสีแดงไว้ตรงหน้า รอให้คนนำเหรียญมาใส่ เมื่อได้เหรียญน้ำหนักที่ต้องการคือ 30 กรัม ก็จะมีเสียงจากเจ้ากระปุกว่า “อ่าาา…

ใครๆ ต่างก็เคยได้ยินเรื่องอุกกาบาตครั้งใหญ่ ที่เป็นสาเหตุให้สิ่งมีชีวิตยุคไดโนเสาร์ต้องสูญพันธุ์ไป แน่นอนว่าหลายคนก็คงจะคิดว่ามันเป็นการสูญพันธุ์เพียงครั้งเดียวที่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ แต่ทว่าจริงๆ แล้วการสูญพันธ์ุนั้นเกิดขึ้นมาแล้วมากถึง 5 ครั้งเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เรารู้ได้ก็มาจากการที่นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์ฟอสซิลจากใต้ทะเล ทำให้พวกเขาพบว่า ก่อนหน้ายุคไดโนเสาร์ ได้มีการสูญพันธ์ของสิ่งมีชีวิตบนโลกมาแล้วมากถึง 4 ครั้ง ว่าแต่จะมีอะไรบ้างเรามาดูกันเลยดีกว่า   1. ช่วง 430-440 ล้านปีก่อน การสูญพันธุ์ยุคแรกรู้จักกันในชื่อว่า ยุคออร์โดวิเชียน (Ordivician) ซึ่งเป็นยุคที่สิ่งมีชีวิตประเภทปะการัง ไบรโอซัว และปลาหมึก อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก พอเข้าสู่ยุคไซลูเรียน (Sulurian) ก็เริ่มมีสิ่งมีชีวิตประเภทปลาที่มีขากรรไกรและสัตว์บกขึ้นเป็นครั้งแรก รวมถึงพืชที่ขยายพันธุ์ด้วยสปอร์ ส่วนสาเหตุของการสูญพันธุ์คาดว่าน่าจะเกิดจากน้ำทะเลลดระดับลง จากการก่อตัวเป็นก้อนน้ำแข็งยักษ์ และต่อมาน้ำทะเลเพิ่มระดับขึ้นกะทันหัน จากการละลายของก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ ทำให้สายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต 25% ในโลกต้องสูญพันธุ์ไป และคิดเป็น 60% ของสายพันธุ์สิ่งมีชีวิตที่อาศัยในน้ำทั้งหมดเลยทีเดียว   2. ช่วง 364 ล้านปีก่อน ช่วงเวลานี้จะอยู่ในยุคดีโวเนียน (Devonian) ซึ่งเป็นยุคที่อเมริกาเหนือ-กรีนแลนด์ ยังรวมเข้ากับยุโรปอยู่ และเป็นยุคของปลาดึกดำบรรพ์ต่างๆ (แมลงได้เกิดขึ้นครั้งแรกในยุคนี้) แถมพืชจำพวกเมล็ดก็เริ่มขยายพันธุ์ออกไปจนเกิดเป็นป่าขึ้นมา สาเหตุของการสูญพันธุ์ในยุคนี้ยังไม่มีสมมติฐานที่มีน้ำหนักเพียงพอในการสรุปว่าอะไรเป็นสาเหตุกันแน่ แต่ทว่าผลลัพธ์ของเหตุการณ์นี้ทำให้สายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตสูญพันธุ์ไป 22% ซึ่งคิดเป็น…

ทุกวันนี้เทคโนโลยีพัฒนาขึ้นไปมาก จนเราสามารถสร้างโมเดลต่างๆ โดยไม่ต้องส่งโรงงานหรือสร้างบล็อกพิมพ์เหมือนสมัยก่อน เพียงแค่ใช้อุปกรณ์แค่ชิ้นเดียวอย่างเช่นปากกาวาดภาพสามมิติหรือเครื่องพิมพ์สามมิติ ล่าสุด #เหมียวอ๊อดโด้ ได้ไปเจอผลงานของหนุ่มคนหนึ่ง เขาสามารถสร้างโมเดลโปเกมอนสุดเจ๋ง ด้วยการใช้ปากกาวาดภาพสามมิติเพียงแท่งด้วย จะเจ๋ง จะเทพขนาดไหน เราลองไปชมกันเลย     ผลงานดังกล่าวเป็นของชายหนุ่มที่ใช้นามแฝงว่า “3dpenlab” เขาได้บรรยายในชาแนลบนยูทูปของเขาว่า เขาชื่นชอบการสร้างโมเดลด้วยปากกาวาดภาพสามมิติเป็นอย่างมาก และเขาก็ชอบที่จะคิดค้นและค้นหาวิธีใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงาน     ลองไปชมคลิปของเขากันดูสิ   เจ๋งใช่มั้ยล่า ถ้าใครชื่นชอบผลงานของเขา สามารถเข้าไปชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ 3D Pen Lab หรือไอจี @3dpenlab ได้เลย มีคลิปเจ๋งๆ อีกเพียบให้ชมแน่นอน ส่วนเพื่อนๆ คนไหนอยากลองทำโมเดลด้วยปากกาวาดภาพสามมิติ ทางเว็บของเราเคยนำเสนอไปแล้วในบทความเก่า (ย้อนอ่าน : ไม่ง้อกระดาษอีกต่อไป!! ปากกาวาดรูปแบบสามมิติ วาดได้แม้ไม่ต้องใช้กระดาษ) ซึ่งในตอนนั้นปากกายังมีขนาดใหญ่อาจไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่ปัจจุบันขนาดของปากกาดังกล่าวเล็กลงกว่าเดิมมาก อย่างเช่น LIX 3D Printing Pen อันนี้     สนนราคาอยู่ที่แท่งละ 139.95 เหรียญหรือราว 5,000 บาท ใครสนใจไปพรีออเดอร์ได้ที่เว็บไซต์ lixpen ได้เลยนะฮะ…

โดยปกติแล้วมนุษย์เราต้องใช้เวลาประมาณ 8 ถึง 10 ชั่วโมงบนเตียงนอน นั่นแปลว่าเราใช้เวลาเกือบ 3,000 ชั่วโมงในแต่ละปีบนพื้นที่สี่เหลี่ยมนี้ ฉะนั้นหากเตียงนั้นไม่สะดวกสบายไม่สวยไม่เก๋แล้ว มันคงจะไม่มีความสุขเป็นแน่แท้ แน่นอนว่าบางคนอาจเลือกเตียงธรรมดาๆ เพื่อเป็นการเพลย์เซฟ แต่ถ้าเป็นเตียงธรรมดาๆ มันก็ไม่โดดเด่นน่ะสิ ซึ่งถ้าคุณต้องการเตียงแบบเจ๋งๆ ลองดูด้านล่างได้เลย #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 23 เตียงหน้าตาสุดประหลาด ที่เพื่อนๆ เห็นแล้วต้องอึ้งในความคิดสร้างสรรค์ของคนออกแบบ จนอยากทิ้งตัวลงไปนอนซักครั้งจริงๆ   เตียงหนังสือ ไอเดียผลงานโดยศิลปินญี่ปุ่น Yusuke Suzuki   เตียงม้าโยก Manuel Kloker ออกแบบเตียงให้คุณโยกเล่นได้อย่างสบายใจ . เตียงแนวตั้ง ถ้าคิดว่าการนอนเอนตัวมันสบายไป ลองเตียงแนวตั้งผลงานของคุณ Ernesto Neto สักครั้งไหม   เตียงแฮมเบอร์เกอร์ นอนแล้วหิวเลยโดย Kayla Kromer   เตียงรังนก เหมือนได้เป็นลูกนกเกิดใหม่ ผลงานโดย Merav Eitan & Gaston Zahr   เตียงอะตอม ที่ควรจะอยู่ในพิพิธภัณฑ์มากกว่า โดย  Jacob+MacFarlane   เตียง Trix…

ทุกวันนี้ธุรกิจการท่องเที่ยวมีการแข่งขันที่สูงมาก ดังนั้นแต่ละบริษัทจึงมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวเรื่อยๆ เพื่อดึงดูดลูก และสิ่งที่ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวนั้นคือ สถานที่พักนั่นเอง ด้วยเหตุนี้บริษัท Huis Ten Bosch ในเมืองซะเซะโบะ ประเทศญี่ปุ่นจึงได้มีการพัฒนาสถานที่พักให้น่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยการทำ ‘ห้องพักแคปซูลลอยน้ำ’ ที่ให้ลูกค้าได้ลอยไปตามที่ต่างๆ ในขณะที่หลับอยู่     ห้องพักแคปซูล ออกแบบเป็นทรงกลมสองชั้น โดยชั้นบนจะเป็นห้องนอน ส่วนชั้นล่างจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งคาดว่าน่าจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้ผู้ประกอบการมีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ในการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ไปพร้อมๆ กับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เนื่องจากญี่ปุ่นมีเกาะมากมายที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด โดยจะจำกัดให้อยู่ในพื้นที่บริเวณ Ōmura Bay ทั้งหมด 39,000 ตารางเมตร     นอกจากนี้ทาง Bloomberg บอกว่า ญี่ปุ่นมีแผนที่จะทำเกาะสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นเกมการเอาตัวรอดมีลักษณะคล้ายๆ กับ Hunger Game แต่ในที่นี้จะให้ใช้ปืนปลอมเท่านั้น จุดประสงค์ทำขึ้นเพื่อความบันเทิง แคปซูลลอยน้ำนี้สามารถจุคนได้ 4 คน โดยจะเสียค่าใช้จ่ายประมาณคืนละ 9,000-12,000 บาท ราคาอาจจะฟังดูสูงแต่เมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวได้รับแล้ว นับว่าคุ้มมากๆ     เพราะคุณสามารถชมวิวนอกข้างนอกผ่านหน้าต่างกระจกทั้งได้กลางวันและกลางคืน…

การจะถ่ายรูปให้ออมาดูดีนะ นอกจากหน้าตา เสื้อผ้า หน้าผมแล้ว ท่าโพสต์ก็สำคัญนะ เพราะการโพสต์ท่ากับมุมกล้องต้องมีความสัมพันธ์กันเสมอ เหมือนกับท่าโพตส์เหล่านี้ ที่ช่างภาพส่วนใหญ่บอกว่าเป็นท่ามาตรฐานที่จะทำให้ทุกคนถ่ายรูปสวยได้ ที่สำคัญมันจะทำให้คุณดูเป็นมืออาชีพในการถ่ายรูปด้วยนะ   1. ท่าที่จะทำให้คุณดูผอมลง ท่านี้คุณต้องหันข้างให้กล้อง แล้วมองตรงมายังกล้องโดยกดคางลงพร้อมยกไหล่ขึ้นเล็กน้อย แค่นี้คุณก็จะได้ภาพเพอร์เฟคตามต้องการ   2. ภาพยืนที่ดีที่สุด การยืนถ่ายรูปที่ดีคือ คุณต้องถ่ายเทน้ำหักลงที่ขาข้างใดข้างหนึ่ง แล้วบิดตัวให้ได้องศาที่ไม่มากหรือน้อยเกินไป   3. การถ่ายภาพพอ์ตเทรท การถ่ายภาพแนวนี้ต้องใช้มือช่วยเพื่อความสมบูรณ์ คือ ให้เรามือดันเพดานหือวางบนต้นไม้ทั้งสองข้าง ก้มหน้าเล็กน้อยแล้วมองกล้อง เป็นท่าที่เหมาะสำหรับถ่ายเน้นหน้านะ   4. การถ่ายรูปสำหรับคนผมยาว ถ้าคุณเป็นคนผมยาว ให้คุณสบัดผมอย่างรวดเร็วแต่ต้องทำหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ จะทำให้ภาพดูน่าสนใจมากขึ้น   5. การถ่ายภาพนั่ง นี่เป็นท่านั่งมักจะใช้ในการถ่ายรูป เพราะมันจะทำให้ดูสบายเป็นธรรมชาติ และไม่ว่าจะถ่ายในสตูดิโอหรือสถานที่อื่่นๆ ท่านี้ก็ดูจะเหมาะสมที่สุดแล้ว   6. ท่าโพสต์ที่ดีที่สุดสำหรับถ่ายบนโซฟา   7. ท่าโพสต์เมื่อต้องนั่งพื้น เมื่อต้องนั่งพื้นถ่ายรูป ควรจะหาท่าที่จะทำให้คุณดูแพง ด้วยการยันเข่าขึ้นข้างหนึ่ง มือแตะที่ผม ต่อให้เป็นคนธรรมดา ถ้าคุณถ่ายรูปท่านี้ คุณก็จะดูเหมือนนางแบบมืออาชีพทันที…

สาวๆ คนไหนที่ชื่นชอบการทาลิปกลอสเป็นชีวิตจิตใจ เชิญทางนี้เลยจ้า เพราะในวันนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอเต็มใจนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดส่งตรงจากญี่ปุ่น ที่เอาใจสาวๆ ผู้เป็นทาสแมวโดยเฉพาะนั่นก็คือ “ลิปกลอสแมวเหมียว” นั่นเอง สำหรับลิปกลอสแมวเหมียวเหล่านี้ Felissimo บริษัทสำหรับคนรักแมว เป็นผู้ที่ได้ทำการสร้างสรรค์ขึ้นมา โดยมันไม่เพียงแต่จะเพิ่มความโดดเด่น และเพิ่มสีสันที่สวยงามบนริมฝีปากของคุณเท่านั้น แต่เมื่อได้ลองทาแล้วคุณจะรู้สึกราวกับว่าได้จูบจมูกของแมวเลยละ     และที่สำคัญหากได้ลองใช้เพียงครั้งแรก มันจะทำให้ปากของคุณรู้สึกเย็นสดชื่นมากๆ อีกทั้งตัวลิปกลอสยังมีส่วนประกอบของเชียบัตเตอร์และกรดไฮยาลูโรนิก ที่จะช่วยทำให้ริมฝีปากอ่อนนุ่ม และชุ่มชื่น นอกจากนี้ ลิปกลอสแมวเหมียวยังมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสีชมพูแสนหวาน สีส้มที่ช่วยให้ใบหน้าสาวๆ ดูมีชีวิตชีวา รวมถึงสีน้ำตาลอ่อน แสนน่ารัก     สาวๆ คนไหนที่สนใจอยากจะได้ลิปกลอสน่ารักๆ แบบนี้เอาไว้ครอบครอง สามารถคลิกเข้าไปสั่งซื้อ หรือรับชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Felissimo โดยมาในราคาแท่งละ 1,300 เยน หรือราวๆ 400 บาทเท่านั้นเอง และที่สำคัญคุณยังสามารถซื้อไปเป็นของขวัญให้กับเพื่อนสาว หรือสำหรับคนรักแมวได้อีกด้วย อ้อ!! หากใครที่สั่งผ่านเว็บไซต์แน่นอนว่าเงินส่วนหนึ่งของคุณ จะถูกนำไปร่วมในมูลนิธิช่วยเหลือแมวของ Felissimo ด้วยน้า ที่มา…

นี่คือ Poppy น้องหมาพิการที่น่าสงสาร มันได้รับบาดเจ็บสาหัสที่กระดูกสันหลังตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มันเป็นอัมพาตช่วงล่างจนขาหลังไม่สามารถใช้การได้ แม้ว่าชีวิตของมันอาจจะฟังดูรันทด และหดหู่ แต่เราอยากบอกให้คุณรับรู้ว่าตอนจบของเรื่องนี้มันแฮปปี้มากๆ เลยละ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Thedodo ได้เปิดเผยเรื่องราวของเจ้า Poppy หมาขาพิการที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกสัตว์ตัวอื่นๆ ทำร้าย จนทำให้มันต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับความเจ็บปวดเป็นเวลานานนับเดือน ก่อนที่มันจะลากสังขารของตัวเองไปขอความช่วยเหลือจากมนุษย์     ทางด้าน Amanda Stronza หนึ่งในผู้ที่ทำงานในค่ายวิจัยในภาคเหนือของ Okavango ในบอตสวานา และเพื่อนร่วมงานของเธอถึงกับตกใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้เห็นสภาพของเจ้า Poppy ในขณะที่มันกำลังเดินขาลากเข้ามายังสถานที่ทำงานของพวกเขา “มันคลานเข้ามาในค่ายวิจัยของเรา เพราะขาหลังของมันเหมือนใช้การไม่ได้ และมันก็ไม่สามารถเดินไป ในตอนนั้นมันหวังที่จะได้รับความรัก และอยากจะขอความช่วยเหลือ” Amanda กล่าว นั่นจึงทำให้ Amanda และเพื่อนร่วมงานของเธอ ได้พาเจ้า Poppy เข้ามาและดูแลมันอย่างสุดความสามารถ อีกทั้งยังส่งตัวมันไปรักษากับสัตว์แพทย์ที่โดยใช้เวลาเดินทางด้วยรถถึง 8 ชั่วโมง และนั่งเรือข้ามแม่น้ำไปยังคลินิกสัตวแพทย์ที่ใกล้ที่สุด     หลังจากที่ส่งตัวมันถึงสัตว์แพทย์ พวกเขาก็เฝ้ามองเจ้าหมาที่น่าสงสารอยู่ไม่อย่าง และเมื่อมันได้รับการรักษา…

บางคนอาจจะมองว่าแมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่วันๆ ไม่ทำอะไรเลย มัวแต่สร้างวีรกรรมแสบๆ ที่ชวนปวดหัวได้ทั้งวัน แต่สำหรับ Smudge แมวเหมียวที่แสนน่ารักตัวนี้ บอกเลยว่า มันไม่ใช่แมวธรรมดาๆ ทั่วไป แต่มันคือแมวฮีโร่ที่สามารถช่วยเด็กน้อยจากการถูกรังแกได้ สุดยอดเลย!!     โดยเรื่องของเรื่องมันได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อ Sarah Fenton ช่างทำผมที่อยู่ภายในห้องครัว กำลังเฝ้ามองเด็กผู้ชายตัวน้อยสองคนเล่นกันอยู่ด้านนอก และแล้วเธอก็ได้สังเกตเห็นเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ๆ ทางด้าน Sarah ได้เผยว่า “ฉันเฝ้าดู Ethan ในวัย 5 ขวบ และ Ashton ในวัย 2 ขวบ กำลังเล่นฟุตบอลอยู่ที่สวน ต่อมาก็เห็นเด็กผู้ชาย 3 คน ที่สูงกว่า Ethan เดินผ่านเข้ามา และฉันก็ได้ยินพวกเขาร้องเรียกชื่อ Ethan ถึงสองครั้ง แต่ Ethan ไม่สนใจ และยังคงเล่นกับ Ashton…. จนในที่สุดพวกเขาก็ตะโกนใส่ Ethan อีกครั้ง แล้วเด็กผู้ชายคนหนึ่งก็พูดว่า ทำไม เธอไม่ฟังฉันเลย…

เจ้าหมาพันธุ์ Labrador ตาบอดได้พลัดหลงออกจากบ้านไปนานกว่า 1 สัปดาห์เต็มๆ ถูกพบตัวแล้วอยู่บนภูเขาที่อยู่ห่างออกจากบ้านไปไม่ไกล… คุณ Beth Cole ผู้เป็นเจ้าของเล่าว่าเขาและครอบครัวเข้านอนไปในคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ในบ้านที่ตั้งอยู่ที่เมือง Boulder Creek รัฐ California ขณะที่เจ้าหมา Sage สายพันธุ์ Labrador วัย 12 ปีหายตัวไป   แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือตาของมันบอดสนิทเนื่องมาจากโรคต้อหิน   ด้วยความเป็นห่วงคุณ Cole และครอบครัวออกตามหาซะทั่ว นอกจากนี้ก็ติดต่อไปยังศูนย์ชุมชนเพื่อให้พวกเขาช่วยออกตามหาด้วย หลายชั่วโมงผ่านไปจนทุกคนเริ่มจะตัดใจยอมแพ้… เพราะนอกจากปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นของมัน ก็มีรายงานเข้ามาอีกว่ามันได้หลงเข้าไปในภูเขาที่เป็นเขตที่อยู่อาศัยของสิงโต     คุณ Cole เล่าว่า “เพื่อนบ้านของเรา และสมาชิกของกลุ่มชุมชนคนอื่นๆ ช่วยกันออกตามหาทั้งกลางวันและกลางคืนเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ พวกเราตามหามันทุกที่แต่ก็ไม่เจอ” ขณะเดียวกันนั้นเองนักผจญเพลิงชื่อว่านาย Dan Estrada กำลังอยู่ในช่วงพักร้อน และชวนเพื่อนก็คือนาย Victor Lopez ออกไปทำกิจกรรมปีนเขากันที่บริเวณใกล้ๆ กับที่เกิดเหตุเจ้า Sage…

เรื่องราวความประทับใจของชายหนุ่มที่ป่วยเป็นมะเร็งรายหนึ่ง แม้ว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองใกล้จะจากโลกนี้ไปเต็มทีแล้ว แต่ก็ยังลุกขึ้นมหาเงินระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งคนอื่นๆ   Pablo Ráez หนุ่มวัย 20 ปี เป็นชาวเมือง Marbella ประเทศสเปน เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย) เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมานี้เอง หลังจากที่ทำการปลูกถ่ายไขกระดูก และทำคีโมไม่กี่ครั้ง ก็หายกลับมาเป็นปกติ หนุ่ม Pablo กำลังจะได้กลับมาใช้ชีวิตแบบคนปกติธรรมดาอีกครั้ง แต่โชคร้ายที่มันกลับมาทำร้ายเขาอีก และดูเหมือนว่ารอบนี้จะรุนแรงและหนักหน่วงกว่าครั้งที่ผ่านมามาก แต่แทนที่เขาจะยอมแพ้ เขากลับลุกขึ้นมาทำบางอย่างที่แตกต่างออกไป     เขาได้ริเริ่มแคมเปญผ่านทางแฮชแท็ก #retounmillón (#onemillionchallenge) โดยจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อีกไม่กี่เดือนเพิ่มยอดผู้บริจาคไขกระดูกสันหลังจากจำนวน 230,000 คนให้กลายเป็นจำนวน 1,000,000 คนก่อนที่เขาจะจากไป     ในช่วงต้นปี 2017 เมื่อรู้ว่าการเดินทางของตัวเองใกล้จะจบลง ก่อนที่มันจะถึงปลายทางพ่อหนุ่ม Pablo ก็ได้โพสต์ข้อความถึงแพนๆ ผ่านทางอินสตาแกรมว่า “ผมคิดอะไรบางอย่างได้ และคิดว่าอยากจะเล่าให้ทุกคนได้ฟัง พวกเราอาศัยอยู่ในสังคมที่ทำงานเพื่อเงิน นั่นเป็นเป้าหมายของการมีชีวิตอยู่ เราเปรียบเสมือนเป็นทาสของเงินยอมทำทุกอย่างเพื่อมัน” “โลกของเราค่อยๆ ตายลงอย่างช้าๆ ด้วยฝีมือของพวกเราเอง พวกเราทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย…

หญิงสาวถูกกลุ่มวัยรุ่นต่อยเข้าที่หน้าอย่างจังหลังพยายามห้ามกลุ่มวัยรุ่นไม่ให้ทรมาณลูกแมวน้ำตัวน้อยที่นอนอยู่บนชายหาด หญิงสาวคนดังกล่าวมีชื่อว่า Sarah Tough วัย 25 ปี เธอถูกต่อยจนได้รับบาดเจ็บ มีเลือดไหลออกมาจากโพรงจมูก หลังจากที่เธอพยายามเข้าไปห้ามแก๊งวัยรุ่นที่กำลังจับลูกแมวน้ำมาฝังลงไปในทรายทั้งเป็น     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่หาด Crimond Beach ใกล้ๆ กับเมือง Hartlepool ประเทศอังกฤษ ในวันเกิดเหตุ Sarah ได้พาสุนัขของเธอ เจ้า Tally ออกไปเดินเล่น แต่จู่ๆ ก็พบกับกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังกลั่นแกล้งลูกแมวน้ำอยู่ เธอจึงตัดสินใจที่เข้าไปช่วยเหลือมัน   Sarah ได้โพสต์รูปภาพบาดแผลของตัวเองลงบนโซเชียลมีเดียพร้อมกับแคปชั่นว่า “โดนไอพวกกุ๊ยขี้ยาต่อยเข้าที่จมูก เพราะพวกมันกำลังทารุณลูกแมวน้ำอยู่ที่หาด Crimdon Beach ด้วยการกลิ้งมันไปมา ฝังในทราย ปล่อยให้หมาเล่น… ฉันก็เลยเดินเข้าไปบอกพวกเขาว่าให้ออกไปจากตรงนี้ซะ ไม่งั้นจะแจ้งตำรวจ จากนั้นมันก็เดินมาต่อยฉัน”     จากความรุนแรงที่เธอได้รับ ก็ทำให้เจ้าลูกแมวน้ำตัวนั้นปลอดภัย อีกทั้ง Sarah ยังเล่าต่อว่าศูนย์คุ้มครองสัตว์ Royal Society for the Prevention of Cruelty to…

T-Shirt เป็นชื่อของเจ้าเหมียวตัวหนึ่ง ได้เข้ามาอยู่ในความดูแลของ Rowan Jones เมื่อตอนที่มันอายุเพียง 6 สัปดาห์ โดยก่อนหน้านี้มันเป็นลูกแมวตัวน้อยของเพื่อนร่วมงานของเขา ซึ่งเธอได้นำมันมาที่ทำงาน เพื่อดูว่ามีใครต้องการอยากจะรับเจ้าเหมียวตัวนี้ไปเลี้ยงหรือไม่ และหลังจากที่ Rowan ได้พบกับมันเขาก็รู้สึกชื่นชอบมันทันที “ฉันตกหลุมรักเจ้า T-Shirt ทันทีที่เห็น เพราะมันเป็นแมวที่น่ารักมาก และในขณะที่วันนั้นเป็นวันสุดท้ายในการทำงานของปี… ดังนั้น ฉันจึงต้องพามันไปเลี้ยงฉลองกับฉัน และดูเหมือนว่าเจ้าเหมียวจะไม่มีปัญหาอะไรเลย แถมยังชอบเข้าไปคลุกคลีกับคนที่บาร์อีกด้วย” Rowan กล่าว     T-Shirt เป็นแมวที่ชื่นชอบการผจญภัยเป็นอย่างมาก มันชอบออกไปเดินเล่นนอกบ้าน เพื่อพบปะกับผู้คนในละแวกบ้าน บางครั้งมันก็มักจะออกไปเที่ยวนานเกินไป จนทำให้ Rowan รู้สึกเป็นห่วง แต่สุดท้ายเขาก็พบว่าความจริงแล้วมันกำลังเล่นอยู่กับครอบครัวของเพื่อนบ้าน และด้วยความที่ T-Shirt ไม่ใช่แมวจรจัด ดังนั้น ทาง Rowan จึงต้องสวมปลอกคอให้กับมัน     T-Shirt เป็นแมวที่มีอายุประมาณ 1 ปี มันไม่เคยหายตัวออกจากบ้านเป็นเวลานานานเลย จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อมันออกไปเที่ยวนอกบ้านเหมือนทุกวัน หลังจากวันนั้นเจ้า T-Shirt ก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย… ทางด้าน…

เราอาจจะเคยเห็นการแกล้งคนแปลกๆ ฮาๆ กันในอินเตอร์เน็ตมานักต่อนักแล้ว แต่ครั้งนี้ขอบอกเลยว่ามันเป็นอะไรที่แบบว่า เป็นการแกล้งที่สมบูรณ์แบบ ชนิดที่ว่า ‘เหยื่อ’ ก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่าโดนเข้าแล้ว เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า Samuel Annis ได้วางแผนที่จะแกล้งน้องสาวของตัวเองเมื่อไม่กี่วันก่อนด้วยการเปลี่ยนปลาทองสุดรักของเธอให้กลายเป็นแครอทแทน   เจ้าปลาทองบุ๋งๆ จากวันนี้เอ็งจะต้องไปอยู่ที่บ่อใหม่ชั่วคราวก่อนนะจ๊ะ     จากนั้นก็ให้เจ้าแครอทสองตัวเข้าไปอยู่แทน   หลังจาเวลาผ่านล่วงเลยไป 3 วัน ก็พบว่าน้องสาวของตัวเองก็ยังไม่รู้สึกตัวว่าปลาทองสุดรักของตัวเองได้กลายเป็นแครอทแล้ว นาย Samuel ก็เลยนำวีกรรมการแกล้งน้องสาวของตัวเองไปโพสต์ลงในทวิตเตอร์ พร้อมกับใส่แคปชั่นว่า “ผ่านไปแล้ว 3 วันตั้งแต่ผมเอาแครอทไปไว้แทนที่ปลาทองของน้องสาว”   ทำให้มีชาวเน็ตมากมายให้ความสนใจจนมียอดไลค์พุ่งสูงขึ้นไปถึง 200,000 ครั้ง และรีทวีตไปอีก 61,800 ครั้งเลยทีเดียว!! ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนต่างก็สงสัยว่าแล้วปลาทองตัวจริงล่ะ? มันไปอยู่ที่ไหนกัน? ยังปลอดภัยดีไหม?   เขาก็บอกว่ามันปลอดภัยดีอยู่ในตู้ปลาที่ห้องของฉันนี่แหละ   มีชีวิตดีแบบสุดๆ   บ้างก็บอกว่าอยากให้อัพเดตเหตุการณ์ต่อไปอีก นาย Samuel ก็ตอบกลับมาว่าผ่านไป 4 วันแล้วเธอก็ยังไม่รู้   ชาวเน็ตอีกจำนวนหนึ่งก็มาจวกน้องสาวของเขาว่าเธอไม่ควรได้รับแม้แต่แครอทด้วยซ้ำ ปลาเองก็เช่นกัน เธอไม่ได้ให้อาหารมันเลยเหรอเนี่ย??  …

ปกติถ้าเรานึกถึงเนื้อปลา เราจะนึกถึงเนื้อปลาสีแดง ส้ม หรือ ขาวเป็นสีแรกๆ ใช่มั้ยล่ะ แต่เพื่อนๆ เชื่อหรือไม่ว่าในโลกของเรามีปลาที่มีเนื้อสีฟ้าด้วยนะ เรียกว่าพลิกตำราความรู้ควมเชื่อของเราไปอีกด้านหนึ่งเลยทีเดียว จะเป็นยังไง เราไปชมพร้อมๆ กันเลย     เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคุณ Jim Russell ได้โพสต์คลิปวิดีโอสุดประหลาดผ่านไอจี @bigjimspearo  เมื่อพวกเขาได้ดำน้ำลงไปจับปลาลิงคอดตัวหนึ่ง จากนั้นก็ได้ทำการแล่เพื่อประกอบอาหารแบบสดๆ     แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ เมื่อพวกเขาแล่เนื้อแล้วนั้น ปรากฎว่าเนื้อของปลากลับมีสีฟ้า ราวกับน้ำทะเลเลยทีเดียว   ก่อนอื่นลองไปชมคลิปการแล่ปลาตัวนี้กันดู      ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกเข้าชมกว่า 40,000 ครั้ง และมีคอมเมนต์จากชาวเน็ตมากมายตั้งแต่ “ฉันไม่เคยเห็นปลาสีฟ้ามาก่อนเลย” หรือ “พระเจ้า มันเป็นสีฟ้า”      หลายคนอาจคิดว่านี่เป็นสิ่งมีชีวิตจากอีกดาวหนึ่งหรือเปล่า ถึงได้ประหลาดแบบนี้ ทางนักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายว่า สีฟ้าดังกล่าวเกิดจากพฤติกรรมการกินของเหล่าปลาลิงคอด ที่กินพืชที่เต็มไปด้วยคลอโรฟิลด์มากเกินไป ซึ่งมีโอกาสราวๆ 20 เปอร์เซ็น ที่พวกมันจะมีเนื้อสีฟ้าน้ำทะเลแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้น สีฟ้าเหล่านั้นอาจหายไปจนหมด เวลาเนื้อถูกนำไปประกอบอาหาร กลายเป็นสีเนื้อปลาแบบปกติที่เรากินกันนี่แหละ     แต่..…

พูดถึงเมืองที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่าหลายๆ คนต้องนึกถึง “เมืองเกียวโต”  อดีตเมืองหลวงของญี่ปุ่นในยุคโบราณอย่างแน่นอน เพราะเมืองแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมและผังเมืองอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่ใดในญี่ปุ่น (รวมทั้งที่อื่นๆ บนโลกอีกด้วย) ล่าสุดตากล้องชาวตะวันตก Leslie Taylor ที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ได้ปล่อยภาพอีกมุมมองหนึ่งอันแสนงดงามของ “เมืองเกียวโต” ออกมา ซึ่งรับรองว่าถ้าเพื่อนๆ เห็นแล้วจะต้องรู้สึกอยากไปเที่ยวซักครั้งอย่างแน่นอน   ศาลเจ้ายาซากะ   โดยอุปกรณ์ที่เขาใช้ในการถ่ายภาพอันแสนงดงามเหล่านี้มีเพียงแค่กล้องถ่ายภาพรุ่น Nikon 1 และกล้องจากโทรศัพท์ iPhone ที่เขาใช้งานอยู่เท่านั้น   ถนนนิเนนซากะ   ภาพถ่ายของเขาได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น “นี่คือเหตุผลที่ฉันอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นซักครั้งในชีวิต” อีกท่านก็กล่าวว่า “ฉันไปญี่ปุ่นมา 6 ครั้ง ฉันยังไม่เคยได้เห็นมุมมองอันสวยงามแบบนี้เลย”    ทางเดินเลียบป่าไผ่อายาชิราม่า   ลองไปชมผลงานของเขากันเลย แล้วจะรู้ว่าสวยแบบไม่ได้โม้จริงๆ   ภูเขาไฟฟูจิ   ร้านราเมนในเกียวโต   ร้านราเมน   วัดอาซาคูสะ กรุงโตเกียว   สถานีอุเอโนะ กรุงโตเกียว   ทะเลสาบไซโกะ หนึ่งในห้าทะเลสาบที่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิ…

โดยปกติแล้วหากพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมเกิดขึ้นกับเหตุการณ์หรือชีวิตประจำวัน หลายๆ คนก็คงจะเกิดอาการแปลกใจ และตั้งคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น จากนั้นก็หาวิธีการแก้ปัญหา อาจจะเป็นการแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้ามาแก้ไข เป็นต้น เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์นี้ เมื่อชาวเมืองเล็กๆ ที่อยู่ในรัฐ Alberta ได้พบกับเหตุการณ์แปลกๆ เมื่อจู่ๆ น้ำประปากลายเป็นสีชมพูขึ้นมา!?     ชาวเมือง Onoway ที่มีประชากรประมาณ 1,000 คน ได้สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเมื่อช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ผ่านมา   ชาวเมืองที่ได้พบเห็นกับเหตุการณ์ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันดูน่ากลัวสุดๆ   “น้ำเสียซะแล้ว ขอบคุณเมืองของฉันมาก ให้มันได้อย่างนี้สิ!!” ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่เป็นหนึ่งในชาวเมืองผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้กล่าวในแคปชั่นของวิดีโอที่เขาโพสต์   หลายๆ คนต่างก็สงสัยว่าเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากมันส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตชองชาวเมืองมากๆ เพราะน้ำประปาที่ต่างประเทศนั้นไม่ได้มีไว้ใช้อาบ หรือซักล้างเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้ดื่มกินได้อีกด้วย     ซึ่งในเช้าวันต่อมาทางนายกเทศมนตรีของเมือง Onoway ก็ออกมาประกาศแจ้งให้ชาวเมืองทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นความผิดพลาดของระบบบำบัดน้ำของโรงงานบำบัดน้ำเสีย “พวกเรากำลังดำเนินการหาข้อผิดพลาดที่แน่ชัดอยู่ และก็พบว่าวาล์วของท่ออาจจะเสีย เลยทำให้สารโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต (ด่างทับทิม) ไหลเข้าไปในอ่างเก็บน้ำจนมากเกินไป จึงทำให้น้ำที่ถูกส่งไปตามบ้านเรือนต่างๆ กลายเป็นสีชมพู” ท่านนายกเทศมนตรีกล่าว ด่างทับทิมนั้นถูกใช้เพื่อดับกลิ่น และรสชาติอันไม่พึงประสงค์ที่อยู่ในน้ำประปา และกระบวนการผลิตน้ำดื่ม อย่างแพร่หลาย ซึ่งหากใช้มันในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้น้ำกลายเป็นสีชมพูได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามทางเทศบาลก็กำลังดำเนินการชำระล้างน้ำที่ปนเปื้อนกับด่างทับทิมที่มากเกินไปอย่างเร่งด่วน เพราะถ้าหากชาวเมืองเกิดบริโภคเข้าไปล่ะก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน…