‘อลิซาเบธ บาโธรี่’ ฆาตกรหญิงสุดโหดสังหารมานับไม่ถ้วน เพียงเพื่อต้องการอาบเลือด!?

นี่คือเรื่องราวที่โหดสัสของ ‘อลิซาเบธ บาโธรี่’ ฆาตกรสาวอันดับ 2 ของประวัติศาสตร์โลก จากฮังการี

ต้องย้อนกลับไป ณ จุดเริ่มต้น… เธอเติบโตมาในตระกูล ‘บาโธรี่’ ซึ่งเป็นตระกูลที่ร่ำรวย และมีอำนาจล้นฟ้า พวกเขาปกครองแคว้นทรานซิลเวเนียมาหลายชั่วรุ่น เป็นธรรมดาที่ชนชั้นปกครองมักจะสืบสกุลภายในครอบครัวเดียวกัน และนั่นก็ทำให้ผู้สืบสกุลอย่าง อลิซาเบธ เกิดมาพร้อมความบกพร่องทางจิตใจ

 

อลิซาเบธ บาโธรี่

 

เธอเกิดมาพร้อมกับอาการปวดหัวเรื้อรังตลอดชั่วชีวิตของเธอ มีการบันทึกเอาไว้ว่าครั้งหนึ่งตอนที่เธอรู้สึกปวดหัวขั้นรุนแรง เธอทนไม่ไหวจึงกัดเนื้อตรงไหล่ของพยาบาลสาวหลุดออกมา และเธอก็ได้ค้นพบว่าเสียงกรีดร้องอันโหยหวน คือสิ่งที่ทำให้เธอหายจากอาการป่วยได้!

วันหนึ่งขณะที่สาวใช้กำลังสางผมให้เธอ อาจจะด้วยความประหม่า หรือสัพเพร่า ทำให้เส้นผมของเธอหลุดออกมาเป็นกระจุก ด้วยความโมโหเธอจึงหยิบเชิงเทียนที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กระหน่ำฟาดเข้าไปยังศรีษะของสาวใช้จนเสียชีวิต มีเลือดกระเด็นติดอยู่เต็มร่างกายเธอ และเมื่อเช็ดออกเธอกลับรู้สึกว่าเลือดสดๆ ทำให้ผิวหนังของเธอดูอ่อนเยาว์ลง

 

จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น

 

 

เธอเชื่อว่าเลือดของหญิงสาวบริสุทธิ์ทำให้เธอเป็นอมตะ หลังจากที่ได้สัมผัสกลิ่นคาวเลือดอันหอมหวลเป็นครั้งแรก เธอได้สั่งให้มีการรวบรวมสาวบริสุทธิ์จากทั่วทั้งดินแดน โดยอ้างว่าเป็นการรับสมัครคนให้เข้ามาทำงานในวังร่วมกับเธอ

หญิงสาวกว่า 600 ชีวิตต่างรู้สึกยินดี และปลาบปลื้มที่จะได้เข้าไปรับใช้เธอในวัง โดยไม่ทันได้รู้ว่าตัวเองจะถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม

ทุกคนถูกคั้นเลือดออกมาสดๆ บ้างก็ถูกเหล็กร้อนเผาลำคอ และบ้างก็ถูกเธอใช้มือล้วงเข้าไปในปาก แล้วฉีกร่างออกเป็นสองซีกทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ ทั้งหมดที่เธอทำไปก็เพียงแค่ต้องการเลือดจากสาวบริสุทธิ์ มาใช้อาบประโลมผิวของเธอให้ดูอ่อนเยาว์เสมอ

 

 

จนกระทั่งชาวเมืองเริ่มสงสัยถึงการหายตัวไปอย่างลับๆ ของหญิงสาวหลายร้อยชีวิต ทำให้ในที่สุดมีการสืบสวนเกิดขึ้น และพบว่า ‘อลิซาเบธ บาโธรี่’ คือผู้อยู่เบื้องหลังความโหดร้ายทั้งหมดนี้

จนในที่สุดก็มีการจับกุมตัวเกิดขึ้น จากโศกนาฏกรรมแห่งความวิปริตดังกล่าว เธอถูกนำตัวไปขังในคุกมืดจนเสียชีวิตอย่างน่าอนาถใน 4 ปีต่อมา และได้รับสมญานามว่าเป็น ‘Countess Dracula’

 

มีการนำเรื่องราวของเธอมาสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วยเหมือนกัน

 

ไม่อยากเชื่อเลยว่า จะมีอะไรที่โหดสัสขนาดนี้อยู่ด้วย

ที่มา: Facts

Comments

Leave a Reply