Author:

  • ผู้คนนับร้อย ร่วมให้กำลังใจส่ง “เจ้าเต่า” กลับท้องทะเล หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บจนหายดี!!

    ผู้คนนับร้อย ร่วมให้กำลังใจส่ง “เจ้าเต่า” กลับท้องทะเล หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บจนหายดี!!

    เรามักจะได้เห็นข่าวคราวของสัตว์ทะเล หรือสัตว์ป่าชนิดต่างๆ ที่เผลอเกิดอุบัติเหตุหรือได้รับบาดเจ็บขึ้น บางครั้งพวกมันก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และย่อมเป็นหน้าที่ของมนุษย์ซึ่งต้องใช้ความรู้ในการช่วยชีวิตพวกมัน… นี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง หลังจาก Poppy เจ้าเต่าหัวค้อนผู้โชคร้ายที่ถูกไปพบอยู่ในคลองของโรงงานไฟฟ้าแห่งหนึ่ง เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดเดาว่ามันน่าจะติดอยู่ในนั้นเป็นเวลานานพอสมควรสังเกตุได้จากเพรียงที่เกาะอยู่บนตัวมัน ด้วยเหตุนี้อาสาสมัครจาก  Loggerhead Marinelife Center ในรัฐฟลอริดาก็รีบเข้าช่วยชีวิตมันทันที และนำมันกลับมารักษาที่ศูนย์ดูแลนั่นเอง     จากการตรวจสอบพบว่ามันขาดสารอาหารจำนวนมาก อาสาสมัครจึงให้สารอาหารต่างๆ ที่มันขาดไป อย่างเช่น วิตามิน ธาตุเหล็ก ยาปฏิชีวนะ และให้มันแช่อยู่ในน้ำสะอาดเป็นเวลานานถึง 2 วันเต็มๆ เพื่อให้เพลียงและคราบต่างๆ บนตัวมันหลุดออก หลังจากนั้นถึงย้ายมาไปไว้ในสระน้ำเค็ม     นับตั้งแต่นั้นมันก็ได้รับการดูแลจากอาสาสมัครมาตลอดจนร่างกายกลับมาแข็งแรง   ทำให้ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ อาสาสมัครเตรียมนำมันกลับสู่ทะเลที่ๆ มันจากมาแล้ว     พวกเขาไม่ได้ปล่อยมันเพียงลำพังเท่านั้น แต่แจ้งกับประชาชนในละแวกด้วยว่า จะทำการปล่อยเจ้าเต่าคืนสู่ท้องทะเล และเรื่องที่น่าประทับใจก็เกิดขึ้นแบบไม่น่าเชื่อ เมื่อมีผู้คนกว่า 500 คน แห่มาร่วมให้กำลังในมันในการกลับไปใช้ชีวิตในท้องทะเลดังเดิม เจ้าหน้าที่เคลื่อนรถเข็นพาเจ้าเต่าเดินผ่านผู้คนที่ส่งเสียงเชียร์ แถมวันนั้นอากาศยังเป็นใจท้องฟ้าแจ่มใสอีกต่างหาก     ผู้คนต่างพากันมาดูและร่วมให้กำลังใจเจ้า Poppy กันเต็มไปหมด ถึงขนาดมีคนใส่ชุดเต่ามาเลยนะ  …

  • หญิงสาวแชร์เรื่องราววันสุดท้าย ของเธอและหมาแสนรัก หลังรับเลี้ยงมานานถึง 9 ปี…

    หญิงสาวแชร์เรื่องราววันสุดท้าย ของเธอและหมาแสนรัก หลังรับเลี้ยงมานานถึง 9 ปี…

    สำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์แล้ว เราย่อมมีความผูกพันธ์กับสัตว์ที่เราเลี้ยงไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นแมว หมา กระต่าย หรือกระทั่งจิ้งจกที่เราเห็นหน้าอยู่ทุกๆ วัน ก็อาจจะผูกพันธ์ไม่รู้ตัว แล้วลองคิดสิว่า หากอยู่ด้วยกันตั้ง 9 ปี มันจะเป็นความรักที่มากขนาดไหน…   เมื่อสมาชิกเว็ปไซต์ Imgur ที่มีชื่อว่า Thedoctorsmistress ได้ออกมาแชร์ภาพและความทรงจำสุนัขตัวโปรดของเธอที่ชื่อว่า Cash ก่อนที่มันจะจากไปอย่างสงบหลังจากที่ทั้งคู่ใช้เวลาอยุ่ด้วยกันมานานถึง 9 ปี เธอเล่าว่ามันป่วยด้วยสภาวะตับและไตล้มเหลว ซึ่งทำให้มันใช้ชีวิตอย่างทรมานมากๆ จนกระทั่งถึงขั้นสุดท้ายของการรักษา ครอบครัวของพวกเธอไม่อยากให้มันทรมานอีกต่อไป จึงตัดสินใจให้มันได้จากไปอย่างสงบ     ย้อนกลับไปตอนเริ่มแรก เธอขอร้องให้พ่อแม่ของเธอรับเลี้ยงมันจากสถานพักพิงแห่งหนึ่งตั้งแต่ตอนที่มันยังอายุเพียงแค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น จนสุดท้ายมันโตเป็นสุนัขขนาด 60 กิโลกรัม จนกระทั่งมาถึงวันสุดท้ายของชีวิต เธออยากจะให้ทุกคนได้รับรู้ภาพความน่ารักของมัน ก็เลยทำการถ่ายภาพมันและเล่าเรื่องในโลกออนไลน์ “มันเป็นหมาขนาด 60 กิโลกรัมที่พวกเรารัก ฉันและมันเรียกได้ว่าโตมาด้วยกันเลยก็ว่าได้” เธอกล่าวถึงเจ้า Cash อย่างเอ็นดู   ในภาพชุดนี้จะเห็นได้ว่า เธอถ่ายทอดพฤติกรรมต่างๆ ที่มันชอบทำ อย่างเช่นมาแอบคอยกินอาหาร ชอบคุ้ยขยะ และถ่ายมันคู่กับของเล่นที่มันรัก รวมถึงคนที่รักมันที่สุดอย่างตัวเธอเอง…   มันมีนิสัยที่ชอบนอนมากๆ   จึงทำให้ที่บ้านมีที่นอนของมันเต็มไปหมดเลยล่ะ  …

  • ความพยายามของ Alex Ross จากเด็ก 3 ขวบที่ชอบวาดรูป กลายเป็นนักวาด DC-Marvel

    ความพยายามของ Alex Ross จากเด็ก 3 ขวบที่ชอบวาดรูป กลายเป็นนักวาด DC-Marvel

    ใครจะคิดว่าจากเด็กชายวัย 3 ขวบ ที่ชื่นชอบในการวาดภาพซุปเปอร์ฮีโร่ จะเปลี่ยนความชอบให้ตัวเองกลายเป็นนักวาดชื่อดังแห่ง DC Comics และ Marvel ได้สำเร็จ Nelson Alexander “Alex” Ross เกิดเมื่อ 22 มกราคม ปี ค.ศ. 1970 ที่เมืองพอร์ตแลนด์ ในรัฐโอเรกอน แต่ทว่าเขาไปโตที่เมืองลับบ็อก รัฐเท็กซัส ซึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาได้เริ่มวาดรูปครั้งแรกหลังจากที่เขาได้รู้จักกับ Spider-Man ผ่านรายการเด็กที่ชื่อว่า The Electric Company จากนั้นเขาก็เริ่มติดตามเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่มาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะจากค่ายไหนๆ   Alex ในวัย 7 ขวบถ่ายรูปกับซูเปอร์แมน บ่งบอกถึงความชื่นชอบฮีโร่ของเขา   แม้จะชื่นชอบตัวละครฮีโร่จากทุกๆ ค่าย แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาก็มักจะวาดการ์ตูนจากค่าย DC เสียมากกว่า ซึ่งสามารถดูผลงานตอนเด็กของเขาจากภาพเหล่านี้   ผลงานของเขาเมื่อตอนอายุ 3 ขวบ และ 7 ขวบ .   ผลงานของเขาเมื่อตอน 10 ขวบ และ…

  • สื่ออเมริกาตีข่าว “อินทรีหัวขาว” สัญลักษณ์ของประเทศกำลังล้มตายอย่างมาก แต่ไม่มีใครสนใจ!?

    สื่ออเมริกาตีข่าว “อินทรีหัวขาว” สัญลักษณ์ของประเทศกำลังล้มตายอย่างมาก แต่ไม่มีใครสนใจ!?

    เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้น เมื่ออินทรีหัวขาวตัวหนึ่งถูกพามามาที่สถานพักฟื้นสัตว์ป่าในสภาพที่เป็นอัมพาตและยกหัวไม่ขึ้น ซึ่งทำให้เหล่าเจ้าหน้าที่เกิดทั้งความสงสัยและสงสารในเวลาเดียวกัน เรื่องนี้มักจะเกิดขึ้นกับอินทรีหัวขาวบ่อยๆ Lynn Tompkins หัวหน้าของ Blue Mountain Wildlife Rehabilitation and Education Center ได้บอกว่าเธอพยามที่จะช่วยอินทรีพวกนี้มานานแล้วกว่า 30 ปี แต่มันก็ยังเป็นปัญหาที่แก้ไขไม่ได้สักที     เธอได้พูดว่า “หัวของมันตกตลอดเวลา ด้วยพิษของตะกั่วที่ไปทำลายเส้นประสาทในสมอง ทำให้มันไม่สามารถที่จะควบคุมกล้ามเนื้อของร่างกายได้ ไม่แม้แต่จะกางปีก ยืน หรือแม้แต่อ้าปากเพื่อกินอาหารด้วยซ้ำ” ส่วนสาเหตุที่ทำให้อินทรีหัวขาวพวกนี้ติดพิษจากตะกั่วนั้น มาจากการที่พวกมันเป็นสัตว์นักล่าและกินเหยื่อที่ตายแล้วเป็นอาหาร ซึ่งเหยื่อที่ตายนั้นก็จะมาจากการที่ถูกมนุษย์ยิงเข้าด้วยกระสุนตะกั่วนั่นเอง เธอบอกว่า “พวกนักล่าส่วนใหญ่ก็เต็มใจที่จะกินเหยื่อที่กลายเป็นซากอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่พวกมันจะกินพวกสัตว์ที่ตายแล้ว พวกมันกินทุกอย่างที่ถูกยิง และแน่นอนว่ากระสุนตระกั่วก็เป็นปัจจัยนั่นเอง”   ภาพภายในตัวของศพหมาป่าโคโยตี ที่แสดงให้เห็นว่าถึงแม้จะถูกยิงลำตัว แต่เศษกระสุนก็กระจายไปทั่วร่าง   ถึงแม้จะว่าระดับสารพิษจากตะะกั่วในตัวอินทรีหัวขาวจะอยู่ในจุดที่ต่ำมากๆ มันก็มากพอที่จะสามารถทำให้พวกมันกลายเป็นอัมพาตได้เช่นกัน ขั้นต่ำก็คงจะเป็นมันไม่มีแรงยืนไม่ขึ้น ซึ่งถ้าพวกเธอไม่เข้าไปช่วยเหลือพวกมันโดยปล่อยทิ้งไว้ตามธรรมชาติพวกมันก็จะตายอย่างช้าๆ และทรมานนั่นเอง     ด้วยเหตุนี้ Ryan Zinke เลขานุการกระทรวงมหาดไทยของอเมริกา จึงได้ร่วมลงนามให้มีการแบนไม่ให้ใช้กระสุนตะกั่วกับสัตว์ป่าอีกต่อไป  ซึ่งจะได้ช่วยชีวิตพวกมันจากทั้งการโดนยิงตรงๆ และการถูกสารพิษจากกระสุน ไม่ใช่แค่เพื่อช่วยชีวิตเหล่าอินทรีหัวขาวสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศแล้ว ยังถือเป็นการช่วยสัตว์อื่นๆ อีกด้วย  …

  • รวม 19 ภาพการเข้าทำงานวันแรกของ “เจ้าหมาน้อยตำรวจ” น่ารักจนใจละลายได้ง่ายๆ เลย!!

    รวม 19 ภาพการเข้าทำงานวันแรกของ “เจ้าหมาน้อยตำรวจ” น่ารักจนใจละลายได้ง่ายๆ เลย!!

    สุนัขเป็นสัตว์ที่เป็นที่ฉลาดและซื่อสัตย์แถมยังมีความสามารถในการดมกลิ่นอีกต่างหาก จึงไม่แปลกที่เหล่าตำรวจจะนำเจ้าตูบสี่ขาพวกนี้มาเป็นเพื่อนร่วมงาน แต่ใช่ว่าสุนัขทุกตัวจะเป็นตำรวจได้ พวกมันจะต้องผ่านการฝึกตั้งแต่เด็กเสียก่อนนั่นเอง แต่ด้วยความที่พวกมันยังเป็นเพียงลูกหมาตัวเล็กๆ จึงทำให้เราได้มีโอกาสเห็นภาพน่ารักๆ ของพวกมันทั้งก่อนและหลังจากการทำงาน และด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดเป็นหัวข้อในครั้งนี้ขึ้นมากับ 19 ภาพของเหล่าลูกสุนัขที่พึ่งจะเข้ามาฝึกงานเป็นวันแรก จะน่ารักขนาดไหนไปดูกันเลย   เข้างานวันแรกก็หมดแรงจนเดินไม่ได้เลยนะ   ไหวไหมเนี่ยเราอะ สงสัยจะฝึกหนักนะเนี่ย หลับสบายเลย ผมพร้อมแล้ว ว่าแต่ตำรวจคู่หูผมไปไหนเนี่ย   เราจะไปกันได้ยังฮะ? ฝึกหนักจัง ผมหมดแรงแล้วนะ   หมดแรงทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่เลยแหะ   ส่วนเจ้าตัวนี้ เข้างานวันแรกยังห่างตุ๊กตาไม่ได้เลย เจ้าหนู   ผมจะเป็นสุนัขนำทางที่ดีเเหมือนพี่ๆ ให้ได้เลยฮับ   ออกตรวจวันแรก ดูตั้งใจสุดๆ เลยนะเนี่ย   สงสัยต้องรอโตอีกสักหน่อย ค่อยมาสมัคร K-9 ใหม่นะ   ชัวนะ ว่าลูกพี่ไม่ได้หยิบเสื้อมาให้ผมผิดเนี่ย   ผ่านการฝึกปุ๊บผมก็โตพอจะใส่เสื้อแล้ว   ถึงผมจะเล็ก แต่ผมไม่แพ้พวกพี่ๆ แน่นอนครับ   ดูเหมือนเจ้าหนูนี้จะยังห่างแม่ไม่ได้นะเนี่ย   เช้าวันทำงานที่สดใส  …

  • ชาวเน็ตร่วมกันแชร์ 12 ภาพความล้มเหลวในการประกอบเฟอร์นิเจอร์ IKEA มันช่างยากเสียจริง!?

    ชาวเน็ตร่วมกันแชร์ 12 ภาพความล้มเหลวในการประกอบเฟอร์นิเจอร์ IKEA มันช่างยากเสียจริง!?

    IKEA เป็นที่รู้ดีว่าเป็นแบรนด์ที่เน้นขายเฟอร์นิเจอร์เป็นหลัก แถมยังมีให้เลือกหลากหลายแบบอีกด้วย แต่ทว่าปัญหามันดันอยู่ที่ว่า เราจะต้องประกอบเฟอร์นิเจอร์พวกนี้เองเนี่ยสิ และมันไม่ใช่คุณคนเดียวที่ประกอบยาก ชาวเน็ตอีกหลายๆ คนก็เช่นกัน พวกเขาเลยร่วมกันแชร์ภาพความช้ำเมื่อต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นมาประกอบเอง แต่มันก็ไม่เป็นไปตามที่คิดซะงั้น!!! วันนี้ #เหมียวมู่ทู่ เลยจะพามาดู 12 ภาพความล้มเหลวในการต่อเฟอร์นิเจอร์จาก IKEA กันว่าถ้าคนที่ทำไม่เป็นเลยมันจะล้มเหลวขนาดไหน มาดูกันเลย   1. จำได้ว่าซื้อเก้าอี้มานะ   2. นี้ตูทำอะไรลงไปวะ   3. จำได้ว่าประกอบเก้าอี้นะ ไหงมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้   4. มันควรจะเป็นแบบนี้จริงๆ เหรอ   5. มันเป็นโต๊ะแล้ว ชิ้นส่วนที่เหลือช่างมันเหอะ   6. ถ้าไม่สังเกตุที่กระดาษสินค้า นี่เดาไม่ออกเลยนะว่ามันคือ ม้านั่ง   7. ไขแต่พอดีก็ได้ เอาซะเละเชียว   8. เดี๋ยวนะ!! ทำไมมันขาดๆ  เหมือนหายไปชั้นหนึ่ง   9. รถมันอยู่แบบนี้จริงๆ เหรอ   9.…

  • ชายหนุ่มขอแฟนสาวแต่งงานบนเครื่องบิน มันจะโรแมนติกถ้า ไม่เมาเครื่องจน “อ้วก” ซะก่อนเนี่ย!!

    ชายหนุ่มขอแฟนสาวแต่งงานบนเครื่องบิน มันจะโรแมนติกถ้า ไม่เมาเครื่องจน “อ้วก” ซะก่อนเนี่ย!!

    หากพูดถึงการขอแต่งงานแล้ว มันคือช่วงเวลาพิเศษอีกอย่างหนึ่งของเหล่าคู่รัก เพราะอีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องเตรียมตัวให้ดีเพื่อจะมาเซอไพร้ส์ ขณะที่อีกฝ่ายก็ไม่รู้ตัวมาก่อน เท่าที่เห็นบ่อยครั้งมันก็เป็นช่วงเวลาแสนโรแมนติก ที่ฝ่ายหญิงยอมรับคำขอของฝ่ายชาย แล้วทั้งสองก็กอดหรือจูบกันอย่างหวานแหวว แต่คงไม่ใช่กับครั้งนี้….   Darrell Hamilton ตั้งใจจะขอแฟนสาวแต่งงานด้วยวิธีการสุดโรแมนติก ด้วยการพาเธอไปนั่งเครื่องบินเพื่อชมภูมิทัศน์อันสวยงามของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งช่วงเวลาที่แฟนสาวกำลังตื่นตะลึงกับภูมิทัศน์ข้างล่าง ทำให้เขามีเวลามากพอที่จะซ่อนแหวนและอารมณ์ของเขาไว้ได้ แต่ตอนนั้นเขาก็รู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไรแล้ว ‘ผมเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีแล้ว  คาดว่าน่าจะเกิดจากการที่ผมเป็น Motion Sickness และมันกำลังแย่ลงเรื่อยๆ’ พอเวลาผ่านไปสักพักจนถึงระยะทางที่เขาวางไว้ เขาก็ชี้ให้เธอเห็นคำขอแต่งงานที่อยู่บนพื้น พร้อมกับนำแหวนเพรชออกมาแล้วขอเธอแต่งงาน     แต่ทว่าทุกอย่างก็เหมือนจะลงตัว แฟนสาวของเขาดีใจมากที่เขาขอแต่งงาน พร้อมกับยิ้มออกมา นี่มันคือความโรแมนติกอย่างที่เราได้เห็นในหนังหลายๆ เรื่อง แต่ทว่าเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น  อาการเมาเครื่องบินโจมตีเขากระทันหันทำให้จากความโรแมนติก แปรเปลี่ยนเป็นช่วงเวลาของอ้วกที่เขาปล่อยออกมาบนเครื่องบิน   รับคำขอแล้วเหรอ งั้นขออ้วกแปร๊บบบบบบบบบบบบบ   แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถเปลี่ยนความในใจของเจ้าสาวที่มีให้กับเขาได้ เธอตอบตกลงที่จะแต่งงานกับเขาพร้อมกับลูบหลัง Darrell เบาๆ ด้วยความเป็นห่วง     โชคดีที่เขาไม่ได้รู้สึกแย่กับเหตุการณ์ครั้งนี้แถมยังนึกสนุก อัพคลิปของตัวเองเพื่อให้คนทั้งโลกได้ชมอีกตะหาก ซึ่งสามารถรับชมได้จากคลิปข้างล่าง สุดท้ายแล้วเขาได้เล่าว่า ‘ตอนที่ผมเอาคลิปเหตุการณ์นี้ให้เพื่อนๆ ดูพวกเขาแนะนำให้ผมแชร์คลิปนี้ออกไปให้คนอื่นดู ผมก็รู้สึกอายเหมือนกันนะที่จะต้องแชร์มันออกไป แต่ยังไงซะมันก็เป็นช่วงหนึ่งในชีวิต’     ยังไงซะก็ยินดีกับนายด้วยนะ Darrell…

  • ชาวเน็ต 21 ภาพล้อเลียนสุดฮา ที่บ่งบอกถึงความรู้จริงๆ ของคนเป็นพ่อแม่ได้เจ็บจี๊ด

    ชาวเน็ต 21 ภาพล้อเลียนสุดฮา ที่บ่งบอกถึงความรู้จริงๆ ของคนเป็นพ่อแม่ได้เจ็บจี๊ด

    สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ในช่วงที่ต้องเลี้ยงดูลูกวัยแบเบาะ คงจะรู้ดีว่าช่วงเวลาสุดยากลำบากมันเป็นยังไง ช่วงเวลาที่ต้องตื่นมากลางดึกเมื่อลูกร้อง ช่วงเวลาที่รู้สึกว่างานบ้านเท่าเดิมแต่ทำไมมันเหนื่อยมากขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย วันนี้เราก็เลยจะมาให้ภาพ 21 ภาพนี้มาตอบแทนความรู้สึกของพ่อแม่ที่เห็นแล้วจะต้องรู้สึกจี๊ดทันทีแน่ๆ   เมื่อแม่บอกว่าขอเวลา 5 นาที เลยเกิดเหตุการณ์นี้ที่หน้าห้องของเธอ ฮ่าาาา   เมื่อเตือนลูกๆ ให้ระวังเล่นอะไรแล้วมันจะเจ็บ มันก็ไม่เคยฟัง…. สุดท้ายเป็นไงล่ะ!!   เมื่อสามีกลับจากที่ทำงาน แล้วถามว่าลูกๆ เป็นยังไงบ้าง….   นี้คือหน้าของพ่อแม่ เวลาที่จะแอบย่องออกมาตอนลูกหลับ แต่ดันไปเหยียบของเล่นแล้วมีเสียงดังขึ้นมา   พ่อแม่: เป็นเด็กดีสิลูก อย่าแกล้งคนอื่น ลูก: ไม่ได้แกล้งสักหน่อย เล่นกันเฉยๆ   สภาพของภรรยา เมื่อสามีบอกว่าวันนี้อยู่ทำงานดึก   นี้คือสภาพของลูกเมื่อพ่อแม่บอกว่า โลกไม่ได้หมุนรอบตัวลูก   สภาพของแม่ เมื่อรอให้ลูกๆ หลับแล้วจะได้ทำงานต่อ แต่แล้วก็….   นี้คือความรู้สึกเมื่อตอนที่จะเอาลูกเข้านอน   ความต่างของพ่อแม่เมื่ออยู่ข้างนอก กับพ่อแม่ที่อยู่ที่บ้าน   ความจริงเกี่ยวกับทำห้องให้ลูกคนแรกและลูกคนที่สอง   เมื่อภรรยาต้องการจะมีลูกคนที่สอง…

  • ถึงแม้จะเหลือแค่สองขา แต่เจ้าเหมียว Simon ก็ไม่ยอมให้มาทำลายความซนได้หร๊อกกกก!!

    ถึงแม้จะเหลือแค่สองขา แต่เจ้าเหมียว Simon ก็ไม่ยอมให้มาทำลายความซนได้หร๊อกกกก!!

    สำหรับสัตว์ 4 ขาแล้วการที่อยู่ดีๆ จะต้องเหลือ 2 ขาถือว่าเป็นเรื่องที่แย่และสามารถเปลี่ยนชีวิตพวกมันได้เลยทีเดียว บ้างก็อาจจะต้องยอมแพ้หรือนอนอยู่เฉยๆ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับเจ้าเหมียวตัวนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Simon ซึ่งมันถูกเลี้ยงดูโดยคู่รักจากเมืองออกแลนด์ ในประเทศนิวซีแลนด์ เรื่องมันเริ่มขึ้นเมื่อราวๆ 3 ปีก่อน ทั้งคู่ได้ไปเจอกับมันในสถานพักพิงแห่งหนึ่ง และด้วยอะไรบางอย่างทำให้ทั้งคู่ตกหลุมรักเจ้าแมวสีส้มเข้าทันทีตั้งแต่แรกเจอ     ท่านั้น แต่พวกเขาก็ตกลงปลงใจรับมันมาเลี้ยงแล้ว และถึงแม้มันจะขาไม่สมบูรณ์ แต่มันก็เป็นแมวที่ยังสามารถเคลื่อนที่ได้ปกติและว่องไวมากๆ     แต่ทว่าเรื่องร้ายก็ต้องเกิดขึ้นกับเจ้า Simon เมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อนมันถูกสุนัขในละแวกบ้านกัดเข้า จนขาหน้าข้างซ้ายบาดเจ็บสาหัส ซึ่งพอมันถูกพาไปหาสัตวแพทย์เพื่อรับการผ่าตัดและรับการรักษา ขาหน้าของมันกลับดูเหมือนจะไม่ดีขึ้นเลย จนแพทย์ต้องตัดสินใจตัดขามันออกเพื่อให้มันมีชีวิตต่อไปได้     ถึงอย่างนั้นเจ้าเหมียวก็ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิตของมัน หลังจากพักฟื้นจนหายดี ด้วยขาขวาทั้งสองข้างที่มันยังคงเหลืออยู่ มันพยามจนสามารถที่จะกลับมาวิ่งได้อีกครั้ง แถมยังวิ่งได้อย่างคล่องตัวอีกด้วย   McCarthy เจ้าของ Simon ได้บอกว่า “พวกเราคิดว่าถ้ามันสามารถพูดได้ มันคงจะบอกกับเราว่า ไม่เป็นไรผมสบายดี อย่างแน่นอน”    ใครที่อยากรู้เพิ่มเติมก็สามารถดูเรื่องราวของมันได้จากคลิปข้างล่างนี้เลย   หรือจะเข้าไปติดตามเจ้า Simon ได้โดยตรงจากแฟนเพจของมันที่มีชื่อว่า Simons “All Right” ร่วมเป็นกำลังใจให้มันกลายเป็นเหมียวผู้แข็งแกร่ง ช่วยกันยึดครองโลกใบนี้ให้ได้นะ!!…

  • วิชาจมูกเหล็ก!! ชาวจีนโชว์ “เป่ายางรถยนต์” จนเต็ม ได้ด้วยจมูกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

    วิชาจมูกเหล็ก!! ชาวจีนโชว์ “เป่ายางรถยนต์” จนเต็ม ได้ด้วยจมูกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

    เป่าลูกโป่งด้วยจมูกหลบไป เป่ายางรถด้วยจมูกเทพกว่าเยอะ!! Tong Junhai หนุ่มชาวจีนวัย 44 ปี ได้ประสบความสำเร็จในการสร้างชื่อเสียง โดยเขาสามารถเป่ายางรถได้ด้วยจมูกของเขาเอง เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาที่เมืองซีอานประเทศจีน และกลายเป็นกระแสพอสมควรบนโลกอินเตอร์เน็ต เมื่อเขาคนนี้ได้อัพคลิปวีดีโอที่เขาแต่งชุดกังฟูพร้อมกับโชว์เปายางรถด้วยจมูกเพียงอย่างเดียว     เขายังพิสูจน์ว่ามันเป็นความสามารถที่ใช่ว่าใครจะทำได้ โดยการให้ชาวบ้านรอบๆ ลองใช้ปากเป่าลมดู แต่แน่นอนว่ามันคือยางรถเส้นบะเริ่มเทิ่ม ที่ต้องใช้เครื่องสูบ หรือไม่ก็เครื่องเติมลมเท่านั้นแหละ สุดท้ายก็ไม่มีใครสามารถทำให้ยางรถเต็มได้…     ส่วนวิธีการที่เขาใช้ในการเป่าก็คือการอุดรูจมูกไว้ข้างหนึ่ง เพื่อเร่งแรงดันในการเป่า แต่ทว่าเราจะสังเกตุเห็นได้จากเส้นเลือดที่ปูดขึ้นบนหน้าผากของเขาว่ามันดูจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยล่ะ   คลิปแสดงการเป่าลมยางด้วยจมูก จมูกอย่างเดียวเท่านั้น…   ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ใช่ชายคนคนเดียวในประเทศจีนที่สามารถเป่ายางรถได้ด้วยจมูกหรอกนะ เพราะว่าก่อนหน้านี้ 4 ปีก่อน  Xie Quanguo จากมณฑลเฉิงตูก็สามารถทำได้เช่นกัน แถมชายคนนี้เป่ายางรถได้ด้วยการเป่าเพียงแค่ 15 ครั้งเท่านั้น   ไม่ใช่แค่นั้น เพราะเมื่อ 3 ปีก่อนมีชายที่ชื่อว่า Nie Yongbing โชว์ในการเป่ายางรถเช่นกันแต่สำหรับนายคนนี้เขายางวงใหญ่กว่า Tong และ Xie เสียอีกแถมใช้เวลาแค่ 20 นาทีในการเป่าเท่านั้น…

  • เป็นคุณจะลองกินไหม… “ทาโก้” ราคาแพงที่สุดในโลก แค่อันละประมาณ 900,000 เอ๊ง!!

    เป็นคุณจะลองกินไหม… “ทาโก้” ราคาแพงที่สุดในโลก แค่อันละประมาณ 900,000 เอ๊ง!!

    ทาโก้ อาหารแม็กซิกันที่ถือว่าเป็นอาหารข้างทางที่มีราคาไม่แพงสำหรับชาวแม็กซิกัน ซึ่งหนึ่งชิ้นส่วนใหญ่จะอยู่ที่ราคาราวๆ 0.5 ดอลลาร์ (ราวๆ 17 บาทไทย) เท่านั้นเอง แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนนำอาหารชนิดนี้ไปทำใหม่จนมันมีราคาชิ้นเดียวสูงถึง 8 แสนบาท!!   และนี่คือคุณ Juan Licerio Alcala เชฟจาก Velas Los Cabos Resort รีสอร์ทสุดหรูที่ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เขาคือคนที่คิดค้นเมนูทาโก้มูลค่า เกือบ 900,000 บาทชิ้นนี้ขึ้นมา ซึ่งถ้าใครอ่านแล้วก็คงจะรู้สึกว่า ทาโก้บ้าอะไรราคาตั้งเกือบล้านแพงขนาดที่ซื้อรถได้เลยนะ     แต่บอกเลยว่าถ้าได้เห็นส่วนประกอบของเมนูนี้แล้วจะรู้ได้ทันทีว่าทำไมมันถึงแพงนักหนา… ซึ่งส่วนประกอบของทาโก้ชิ้นนี้ประกอบด้วย แป้งตอร์ตียาที่ผสมด้วยทอง 24 กะรัต, เนื้อโกเบ , เนื้อนอร์เวย์ลอบสเตอร์ , ไข่ปลาคาเวียร์ Almas Beluga และ บรีชีสทรัฟเฟิลดำ จากนั้นก็จะตกแต่งด้วย พริก Morita , กาแฟขี้ชะมด และทองแผ่น     ส่วนการที่จะกินทาโก้ชิ้นนี้ ใช่ว่าจู่ๆ จะเดินเข้าไปในร้านแล้วสั่งมากินได้เลยนะ เพราะมันมีเงื่อนไขในการสั่งอยู่เช่นกัน โดยลูกค้าจะต้องกินที่ห้องอาหารของรีสอร์ทเท่านั้น และจะต้องวางเงินมัดจำค่าทาโก้ก่อน 4 แสน…

  • 18 ภาพสุดฮา ที่ช่วยตอกย้ำคำว่า “โหดสัสรัสเสีย” ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด

    18 ภาพสุดฮา ที่ช่วยตอกย้ำคำว่า “โหดสัสรัสเสีย” ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด

    อย่างที่เรารู้กันดีว่าประเทศรัสเซียเป็นประเทศที่มีความโหด ดุดัน และทำอะไรแปลกไม่เหมือนใครไม่ว่าจะด้วยตัวคนในประเทศหรือแม้แต่ผู้นำอย่าง วลาดิเมียร์ ปูติน ก็ขึ้นชื่อเรื่องพวกนี้ จนทำให้เกิดเป็นวลีแซวจากชาวเน็ตที่ว่า โหดสัสรัสเซีย ขึ้นมา แน่นอนว่าในบางครั้งคนที่ได้ยินคงรู้สึกว่า ทำไมต้องโหดสัสรัสเซีย เป็นชาติอื่นไม่ได้เหรอ วันนี้เราเลยจะมาดู 18 ภาพหลุดสุดฮาจากโซเชียลเน็ตเวิร์คของรัสเซีย ซึ่งภาพพวกนี้จะช่วยยืนยันว่าคำนี้มันคู่ควรกับคนประเทศนี้จริงๆ   หรือมันคือเทรนด์ถ่ายรูปแนวใหม่ ด้วยการใช้ผ้าอนามัยปิดหน้าผาก?!   ถ่ายรูปเอามีดจี้หมาแมวมันธรรมดา ระดับรัสเซียต้องนี่     และคุณลุงคนนี้ก็คงคิดแบบเดียวกัน…   นั่งกินเหล้าแบบชาติอื่นๆ ก็ไม่ได้ วงเหล้าแบบรัสเซียต้องนั่งยองๆ 555   เป็นถึงรัสเซีย จะใส่ยกทรงแบบธรรมดาได้ยังไง มันต้องแบบนี้ถึงจะถูก   วิธีกินข้าวโพดแบบโหดสัสรัสเซีย ต้องกินต่ำๆ   แต่งหน้าว่าโหดสัสแล้ว การทำท่าทางถ่ายรูปโหดสัสกว่าอีก   กินทีละนิดมันก็ไม่โหดสัสรัซเสียใช่ไหมล่ะ   ไม่รัสเซียแท้ๆ ไม่กล้าเอามาเล่นนะเนี่ย   เป็นถึงรัสเซียจะดูดทีละมวนก็ยังไงอยู่   เด็กแถวบ้านพี่ที่รัสเซียเอง โหดสัสไหมล่ะ   สงสัยผมคงเข้าไม่ถึงความโหดสัสของพี่คนนี้   จัดหนักกันได้โหดสัสมากๆ แถมหน้าตาน่าจะไม่เมากันสุดๆ  …

  • สายการบินการ์ต้า เปิดตัวชั้นธุรกิจใหม่ “เตียงดับเบิ้ลเบด” พร้อมสามารถกั้นเป็นห้องส่วนตัวได้!!

    สายการบินการ์ต้า เปิดตัวชั้นธุรกิจใหม่ “เตียงดับเบิ้ลเบด” พร้อมสามารถกั้นเป็นห้องส่วนตัวได้!!

    สำหรับเตียงนอนบนเครื่องบินนับว่าไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรในยุคนี้และหลายคนๆ ก็คงจะเคยได้ยิน แต่ทว่าถ้าเป็นเตียงคู่แถมยังกั้นห้องให้เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วย ฟังดูน่าสนใจไหมล่ะ? Qatar Airways ได้เปิดตัวเที่ยวบินพิเศษชั้นบิสซิเนสคลาสที่มีเตียงขนาดดับเบิ้ลเบดเพื่อให้ผู้ที่สนใจ ประกอบด้วยเตียงเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ และมีผนังกั้นรอบทิศทางเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวกับผู้ใช้บริการ   ที่นั่งซึ่งสามารถปรับเป็นเตียงขนาดดับเบิ้ลเบด สำหรับผู้โดยสารที่มาเป็นคู่กันได้…   ซีอีโอของสายการบิน Akbar Al Baker ได้เปิดเผยว่าต้องใช้เวลากว่า 2 ปีเพื่อให้ทีมออกแบบและวิศวกร ช่วยกันออกแบบที่นั่งพิเศษสำหรับเที่ยวบินนี้ ด้วยสีอันเป็นเอกลักษณ์ของสายการบินนี้ จะทำให้คุณรู้สึกสะดวกสบายมากที่สุด “ด้วยนวัตกรรมเหล่านี้ สายการบินกาตาร์แอร์เวย์ได้ปฏิวัติวิถีการบริการของเรา โดยเฉพาะลูกค้าชั้นธุรกิจ พวกเขาจะได้มีความรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ในชั้นเฟิร์สคลาส ในราคาแบบชั้นบิซิเนสคลาสเท่านั้น…”     ที่นั่งแบบส่วนตัวมีจอมอนิเตอร์เพิ่มอำนวยความสะดวกสบายให้กับทุกคนในแต่ละที่นั่ง แถมยังสามารถที่ปรับเปลี่ยนผนังกั้น กลายเป็นห้องส่วนตัวขนาด 4 ที่นั่งได้ด้วย เพื่อที่ครอบครัวหรือเพื่อนฝูงที่มาด้วยกันหลายคนสามารถใช้เวลามร่วมกันได้   ตัวอย่างจากภาพโปรโมท ปรับเบาะเป็นห้องส่วนตัวสำหรับครอบครัวเล็กๆ   ส่วนใครที่ยังสงสัยว่าราคาประมาณเท่าไร เท่าที่เปิดเผยผ่านสื่ออังกฤษมา ราคาจากกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ไปยังมหานครลอนดอนนั้น ก็อยู่เที่ยวละ 160,000 บาทเท่านั้นเอ๊งงงงงงงง (พิมพ์ไปก็เหงื่อออกมือไป #เหมียวมู่ทู่ คงจะได้แค่ฝันสินะ ฮ่าาาาา)   แลกกับความสะดวกสบายขนาดนี้แล้วเงินเหลือๆ ก็เรียกว่าคุ้มค่าที่จะใช้บริการอยู่นะเนี่ย ที่มา dailymail

  • 24 ภาพสุดน่ารักของเหล่า “สัตว์เบบี๋” ที่บางชนิดคุณก็อาจไม่รู้ ว่ามันมีอยู่บนโลก

    24 ภาพสุดน่ารักของเหล่า “สัตว์เบบี๋” ที่บางชนิดคุณก็อาจไม่รู้ ว่ามันมีอยู่บนโลก

    ถ้าพูดถึงลูกสัตว์ต่างๆ เราก็มักจะนึกถึงลูกแมวลุกหมา หรือลูกสัตว์ที่พบเจอได้ทั่วไป แต่บางครั้งเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าแล้วสัตว์หายากแปลกๆ หน้าตาพวกมันจะเป็นยังไงนะ จะน่ารักหรือเปล่า? หรือแม้แต่ถ้าคุณเป็นคนรักสัตว์ขนานแท้ พวกคุณก็จเอเคยเจอแค่เศษเสี่ยวหนึ่งของสิ่งมีชีวิต 1,367,555 สายพันธุ์บนโลก นี่ยังไม่นับรวมพวกแมลงเข้าไปอีกนะ แต่ยังไงก็เถอะอย่าให้ตัวเลขพวกนี้มันมากวนใจเราเลย ฉะนั้นคิดถึงแค่สัตว์ที่เรายังไม่เคยเจอมาก่อนก็พอ วันนี้เราก็เลยจะมาดู 24 ลูกสัตว์หายากต่างๆ จากทั่วโลกว่าพวกมันมีหน้าตาเป็นยังไง แต่บอกเลยว่าพวกมันจะต้องพิชิตใจหลายๆ คนได้อย่างแน่นอน มาดูกันเลย ก็ลูกหมึกดัมโบ้่   หรือจะเป็นลูกหมาจิ้งจอกเฟนเนคหูกางๆ   ลูกชูการ์ไกรเดอร์ตัวน้อย   ลูกอาย อาย   ลูกของตัวควอลล์   ลูกอาร์มาดิลโล   ลูกแรดสุมาตรา   ลูกของตัวควอลล์สายพันธุ์ตะวันออก   ลูกตัวนิ่ม   ลูกค้างคาวแอฟริกัน   ลูกของ Southern Pudu Fawn ซึ่งจัดอยู่ในสัตว์จำพวกกวาง     ลูกบ่างตัวจิ๋ว   ลูกอูฐสองหนอก     ลูกอาร์ดวาร์ก  …

  • สาวกมินเนี่ยนเตรียมเงินให้พร้อม เพราะตัวอย่างใหม่ Despicable Me 3 ปล่อยออกมาแล้ว

    สาวกมินเนี่ยนเตรียมเงินให้พร้อม เพราะตัวอย่างใหม่ Despicable Me 3 ปล่อยออกมาแล้ว

    รับรองว่าสาวกมิเนี่ยนจะต้องกรี๊ด เพราะล่าสุด Illumination ปล่อนตัวอย่างใหม่ตัวที่สองของ Despicable Me 3 มาเรียกน้ำย่อยเหล่าสาวกกันต่อแล้วจ้า หลังจากตัวอย่างในภาคแรกเราได้เห็นชีวิตของ Gru  หลังจากการเลิกเป็นวายร้าย แต่กลายเป็นฝ่ายที่ต้องมาจับวายร้ายแทน ซึ่งในภาคนี้วายร้ายคนใหม่ก็คือ Balthazar Bratt  แต่ทว่าในตอนจบของตัวอย่างแรก Gru ปล่อยให้ Balthazar หนีไปได้นั่นเอง     มาถึงตัวอย่างที่สองเป็นการพูดถึงตอนต่อจากตัวอย่างแรกที่ Gru ปล่อยให้เป้าหมายของเขาหนีรอดไปได้ ทำให้เขาถูกไล่ออกและต้องตกงาน   แต่แล้วชีวิตก็ชีวิตพลิกผัน เขาได้รับข้อความจากน้องชายฝาแฝดที่พลัดพรากจากกันไปนาน ชื่อของเขาก็คือ Dru ซึ่งทุกอย่างของทั้งคู่เหมือนกันไปหมดทั้งเป็นวายร้ายเหมือนกัน หน้าตาเหมือนกัน จะต่างกันก็แค่… ทรงผม ดะ เดี๋ยวววว ทรงผมนี่มันคุ้นๆ นะ!!   Dru ชวนให้ Gru ไปออกปล้นด้วยกัน ซึ่งเรารู้ดีว่าเขาทิ้งชีวิตแบบวายร้ายไปแล้ว แต่ด้วยความที่ว่าวายร้ายมันอยู่ในสายเลือด เขาก็เลยต้องออกปล้นกับ Dru อีกครั้งหนึ่งจึงเกิดเป็นเรื่องราวอลหม่านในภาคนี้นั่นเอง   . .   Despicable Me 3 จะเข้าฉายในวันที่ 15 มิถุนายน ที่จะถึงนี้แถมยังได้ทีมพากย์ชุดเดิมกลับมาให้เสียงกันครบครันโดยมี Steve…

  • วินาทีระทึก ระหว่างที่ชายคนหนึ่งกำลังโต้คลื่น แต่ต้องเจอกับ “วาฬเพชฌฆาต” เข้ากลางทาง..

    วินาทีระทึก ระหว่างที่ชายคนหนึ่งกำลังโต้คลื่น แต่ต้องเจอกับ “วาฬเพชฌฆาต” เข้ากลางทาง..

    สำหรับชาวต่างชาติแล้วการโต้คลื่นถือเป็นกิจกรรมทางน้ำอย่างหนึ่งที่พวกเขานิยมกันมากๆ แต่ทว่าจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ ถ้าเกิดว่าอยู่ดีๆ ก็มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาใกล้ขณะที่เรากำลังโต้คลื่นอยู่ Luke Reilly นักโต้คลื่นหนุ่มคนหนึ่งได้ออกไปโต้คลื่นนอกบริเวณชายฝั่ง Kuaotunu ที่ประเทศนิวซีแลนด์ แต่ทว่าหลังจากที่เขาออกไปโต้คลื่นได้ไม่นาน ก็เจอกับเจ้าถิ่นเข้าให้ มันคือ วาฬเพชฌฆาต นั่นเอง ซึ่งมันได้ว่ายเข้ามาอยู่ใต้บอร์ดของเขานานกว่า 5 นาที จนในวินาทีสุดท้ายเจ้าวาฬก็ทำท่าเหมือนจะงับบอร์ดของเขา   วินาทีที่เขารู้สึกตัวว่ามีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาใกล้กับเขา   ดูเหมือนเจ้าวาฬกำลังจะทำอะไรสักอย่าง   โชคดีที่เขาส่งเสียงเพื่อไล่มันไปได้ทัน พร้อมกับหัวเราะปิดท้าย และหลายๆ คนก็คาดว่าเขาหัวเราะเพื่อลบความตื่นเต้นในจังหวะที่เกือบถูกทำร้ายเข้าให้   จนมันตัดสินใจที่จะงับเข้าที่บอร์ดของเขา แต่ทว่าเขาส่งเสียงไล่มันได้ทัน ทำให้เขาไม่เป็นอะไร   ในส่วนของเหตุการณ์ที่เหลือสามารถกดเข้าไปดูคลิปเต็มๆ ของเหตุการณ์นี้ได้ที่คลิปข้างล่างเลย   ส่วนใครที่สงสัยว่าทำไมต้องตกใจเมื่อเจอเข้าวาฬเพชฌฆาตตัวนี้ฉะนั้นก็จะขออธิบายให้เข้าใจกันว่า วาฬเพชฌฆาต เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เป็นนักล่า แถมมันยังมีความฉลาด และร่วมกันล่าเป็นฝูง ซึ่งมันก็สามารถทำงานเป็นทีมเพื่อล่าเหยื่อได้แทบทุกชนิด แต่อาหารหลักๆ ของมันก็คือเหล่าแมวน้ำอุ๋งๆ นั่นแหละ ที่สำคัญด้วยความที่เป็นนักล่าและกินเนื้อก็คงไม่แปลกที่เราจะต้องรู้สึกกลัวไว้ก่อน แต่โดยปกติแล้ววาฬเพชรฆาตจะไม่เข้ามาล่าบริเวณใกล้ชายฝั่งที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ ถึงแม้โอกาสที่มันจะโจมตีมนุษย์จะน้อยมากๆ ก็ตาม  ครั้งนี้ก็เลยอาจจะแปลกไปสักนิด และไม่ผิดอะไรที่เขาจะกลัวนะ!!   ที่มา boredomtherapy,wikipedia

  • เรื่องราวของ “มนุษย์เงินเดือน” พบรักกับ “แมวจรจัด” จีบกันเป็นปี กว่าจะยอมให้เลี้ยง!!

    เรื่องราวของ “มนุษย์เงินเดือน” พบรักกับ “แมวจรจัด” จีบกันเป็นปี กว่าจะยอมให้เลี้ยง!!

    เป็นโอกาสอันดีที่คุณสมาชิกหมายเลข 1182411 ได้ให้ทางแคทดั๊มบ์เผยแพร่เป็นเรื่องราวสุดน่ารักของเขากับ “เหมียว” เจ้าแมวจรจัดที่เขาใช้เวลาจีบมันนานถึง 1 ปีเต็มกว่าจะได้ตกลงปลงใจ… เรื่องมันเริ่มจากเดือนมิถุนายน 2015 โดยตัวเขาได้งานใหม่แถวๆ ราชปรารภซึ่งมันอยู่ใกล้ๆ กับประตูน้ำ ทำให้เขาไปเช่าหอพักอยู่แถวนั้นเพื่อสะดวกต่อการเดินทาง และด้วยความที่เขาคนนี้เป็นคนที่ชอบออกสำรวจร้านค้าต่างๆ รอบบริเวณที่เขาอยู่ทำให้เขาได้ไปเจอกับแมวจรจัดตัวหนึ่ง ที่กลายมาเป็นตัวแสดงหลักของเรื่องนี้     ด้วยความที่เขาไม่เคยเลี้ยงแมว เขาจึงไม่รู้วิธีการที่จะรับมือกับมัน ในช่วงแรกเขาได้พยามที่จะให้อาหารชนิดต่างๆ กับมันแต่สิ่งเดียวที่มันกินในตอนนั้นคือหมูปิ้ง แถมเจ้าเหมียวยังขี้กลัวสุดๆ ไม่ยอมให้เข้าใกล้เลย มันกลัวขนาดว่าแค่ลมพัดอะไรมาโดนตัวมันยังกลัวเลย แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้หรอกนะ!!! เขาเปลี่ยนจากการให้หมูปิ้งมาเป็นการไปซื้ออาหารเปียกจากร้านสะดวกซื้อมาแทน ทว่าบางวันเขามาแล้วกลับไม่เจอเจ้าเหมียว ซึ่งเขาก็เกิดความสงสัยจนไปถามป้าแม่ค้าที่ขายของแถวนั้นเป็นประจำ จนสุดท้าย เขาได้รู้ความลับว่าเจ้าเหมียวตัวนี้มันจะออกมาเฉพาะช่วงเวลาเย็นๆ แถมคนแถวนี้เขาก็ไม่ชอบแมวสักเท่าไหร่ ถ้าป้าเขาไม่มาขายของวันไหนแมวตัวนี้ก็จะอด     นอกจากนั้นเขายังได้รู้ต้นเหตุความกลัวของเจ้าเหมียวแล้วว่า ที่มันกลัวคนมากขนาดนี้ก็เพราะคนชอบไล่และทำร้ายมันมาเป็นเวลานาน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ลดความตั้งใจซื้อน้ำและอาหารมาให้มันอย่างสม่ำเสมอ เขาบอกว่าแมวตัวนี้เนี่ยมันไม่เหมือนแมวจรจัดตัวอื่นๆ เพราะมันเรียบร้อยมาก และไม่ตะกละด้วย เวลารออาหารมันก็จะนั่งรออย่างเรียบร้อย มาถึงจุดนี้ก็ดูเหมือนเขาจะเริ่มตกหลุมรักมันเข้าแล้ว เขาเริ่มศึกษาและตัดสินใจที่จะนำมันมาเลี้ยง แต่ทว่าปัญหาใหญ่ก็คือ แมวยังไม่ยอมให้เขาจับทั้งๆ ที่เขาให้อาหารมันมาเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้ว แถมช่วงนั้นก็เป็นหน้าฝนเขาเกิดความเป็นห่วงว่ามันจะป่วย เขาจึงเริ่มคิดหาวิธีต่างๆ เพื่อจะได้นำมันกลับไปเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด     แต่แล้วไม่ว่าจะวิธีการไหนๆ มันก็ไม่ได้ผลหรือไม่น่าจะใช้งานได้เลย ทั้งการคิดจะยิงยาสลบ หรือการให้ขนมแมวเเพื่อล่อมันเข้ากระเป๋า ก็ล้วนแต่ไม่สำเร็จทั้งสิ้น…

  • ความน่ารักของเจ้าแพรี่ด็อก ที่ถึงแม้จะเสียบ้านเพราะไฟไหม้ แต่คนดีๆ ก็ทำให้มันยิ้มได้!!

    ความน่ารักของเจ้าแพรี่ด็อก ที่ถึงแม้จะเสียบ้านเพราะไฟไหม้ แต่คนดีๆ ก็ทำให้มันยิ้มได้!!

    โชคร้ายของเจ้าพวกสัตว์ทั้งหลาย ที่อยู่กันมาดีๆ บ้านก็ดันไฟไหม้ซะงั้น…. Vern คือชื่อของเจ้าแพรี่ด็อกสุดแสนจะน่ารักตัวหนึ่ง ที่มีชีวิตสุดแสนสงบสุขอยู่กับเพื่อนสุนัขสองตัวและครอบครัวมนุษย์ของมันในรัฐเพนซิลเวเนีย แต่แล้วโชคร้ายก็เกิดขึ้น เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาบ้านของมันอยู่ดีๆ ก็เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นทำให้บ้านต้องเกิดความเสียหายอย่างหนัก จนถึงขั้นอยู่อาศัยไม่ได้ และเมื่อเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปก็ได้ มีอาสาสมัครที่ชื่อว่า Red Paw Emergency Relief Team ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกมันทั้งเรื่องความเป็นอยู่รวมถึงที่ๆ พวกมันจะไปอยู่ต่อในอนาคต     จุดประสงค์หลักของอาสาสมัครทีมนี้ ก็คือการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเข้าช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ ที่ต้องการดูแลและต้องแยกตัวจากเจ้าของไม่ว่าจะด้วยเหตุร้ายอะไรก็ตาม พวกเขานำเรื่องราวของครอบครัวนี้ไปโพสต์ลงบนหน้าแฟนเพจของพวกเขา และมีคนมาให้ความสนใจมากมาย     แน่นอนว่าบ้านหายไปทั้งหลังครอบครัวมนุษย์ของมันก็คงจะต้องนำเงินไปจัดการในส่วนนั้น และไม่มีงบมากพอที่จะมาดูแลเจ้า Vern และเพื่อนๆ สุนัขของมัน แต่โชคดีที่มีคนใจดีพอได้รับรู้ถึงเรื่องของพวกมันก็ได้บริจาคอาหารมาที่อาสาสมัครทำให้พวกมันไม่ต้องอยู่อย่างยากลำบาก   และนี้ก็คือเจ้า Vern และแก๊งหมาของมัน แม้จะเสียบ้าน แต่ก็ไม่ได้เสียกำลังใจ เพราะชีวิตมันเริ่มมีความหวังใหม่ขึ้นมาแล้ว   ดูเหมือนเจ้าหมาก็จะรู้ตัวเช่นกัน ว่ามีคนอื่นๆ ที่ใจดีคอยช่วยเหลืออยู่   อย่างน้อยพวกมันก็ยังมีความสุขได้   นอนสบายเชียวนะ ที่มา thedodo

  • รัสเซียเปิดบริการให้สาวๆ เช่าช่อดอกไม้และของขวัญราคาแพง มาถ่ายรูปอวดคนอื่นๆ ได้!!

    รัสเซียเปิดบริการให้สาวๆ เช่าช่อดอกไม้และของขวัญราคาแพง มาถ่ายรูปอวดคนอื่นๆ ได้!!

    เคยไหมที่พอถึงวันวาเลนไทน์หรือวันสำคัญต่างๆ คนรอบข้างเรามักจะได้ช่อดอกไม้ รวมถึงของขวัญสวยๆ หรูๆ จากคนรู้ใจพร้อมกับถ่ายรูปคู่กับของที่พึ่งได้มาอวดบนโซเชี่ยลให้เราอิจฉาตาร้อนจนรู้สึกว่า ‘แล้วไหนล่ะ ช่อดอกไม้ของเรา?’ ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้ประกอบการรัสเซียหัวใสเริ่มธุรกิจนี้ขึ้นมา เจ้าธุรกิจที่ว่านี่ก็คือธุรกิจเปิดให้เช่าช่อดอกไม้สุดสวยไปถ่ายรูปแถมยังบริการส่งถึงบ้านอีกต่างหาก ซึ่งมันเหมาะสำหรับคนโสดหรือคนมีคู่แต่ว่ามีเงินไม่มากพอจะไปซื้อขาดช่อดอกไม้สวยๆ     บริการเช่าดอกไม้นี้กำลังเป็นอะไรที่ฮิตมากๆ และมีคนหันมาทำเยอะสุดๆ ในกรุงมอสโกของรัสเซีย Eugene ชายผู้อ้างตัวว่าเขาคือคนแรกที่คิดธุรกิจนี้ขึ้นมา เขาเล่าว่าได้ไอเดียนี้จากการที่เขาเห็นผู้หญิงสามคนนั่งอยู่ในคาเฟ่ แล้วผลัดกันถ่ายรูปกับช่อดอกไม้ 1 ช่อ     ตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดว่าธุรกิจนี้มันจะฮิตหรอก (ถึงแม้เขาจะแอบหวังบ้างเล็กๆ ว่ามันอาจจะดัง) แต่พอเอาเข้าใจจริงๆ เสียงตอบรับมันกลับดีเกิดคาดจนเขาตั้งตัวไม่ทันแถมส่วนใหญ่ยังขอให้ขยายเขตบริการออกไปนอกกรุงมอสโกเพิ่มด้วย เขายังบอกอีกว่าหลังจากธุรกิจนี้ของเขากลายเป็นทอคออฟเดอะทาวน์ไปเป็นที่เรียบร้อย ก็เริ่มที่จะมีคนหันมาลอกเลียนธุรกิจของเขา แถมยังเพิ่มลูกเล่นใหม่คือมีนายแบบให้เช่าด้วย เพื่อที่จะได้ทำทีว่ามีผู้ชายเอาช่อดอกไม้มาให้     ส่วนราคาของการเช่าดอกไม้นี้จะอยู่ที่ราวๆ 400-500 บาทต่อช่อ และสามารถเช่าได้ 10 นาทีซึ่งถ้าสนใจจะต่อเวลาจะคิดอยู่ที่ราวๆ 250 บาท สำหรับทุกๆ 10 นาทีต่อไปนั่นเอง ส่วนราคาของขวัญหรูๆ และเครื่องประดับ ก็อาจจะแตกต่างกันออกไปตามราคามูลค่าสินค้านั้น แต่มันก็ทำเงินให้เขาได้มากทีเดียว     ฟังดูแล้วมันก็ดูน่าสนใจจริงๆ นะเนี่ย ใครสนใจจะเริ่มธุรกิจนี้ในไทยบ้างไหม? ที่มา odditycentral

  • ข่าววงในระบุ Warner Bros. เตรียมรีบูทสร้างหนัง The Matrix ใช้นักแสดงชุดใหม่หมด

    ข่าววงในระบุ Warner Bros. เตรียมรีบูทสร้างหนัง The Matrix ใช้นักแสดงชุดใหม่หมด

    เป็นกระแสหนาหูกันมาพักใหญ่ๆ แล้วนะครับสำหรับสุดยอดหนังแนว Sci-fi แห่งปี 1999 อย่าง The Matrix ที่มีข่าวว่าจะทาง Warner Bros. ต้องการจะรีบูทมันขึ้นมาใหม่ แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันสักที ล่าสุด The Hollywood Reporter ก็ได้ออกมาบอกว่าพวกเขาได้ข่าวจากวงในว่า Warner Bros. อยู่ในขั้นตอนรีบูทขั้นแรกเรียบร้อยแล้ว แถมจะกำลังวางตัวว่าจะให้ Michael B. Jordan มาเป็นนักแสดงนำอีกต่างหาก   Michael B. Jordan กับ  The Matrix ภาครีบูทงั้นหรือ!?   Zak Penn มือเขียนบทชื่อดังตอนนี้กำลังอยุ่ในช่วงเจรจาเกี่ยวกับบทของฉบับรีบูทที่ว่า ซึ่งตัวเขาเองก็มีผลงานมากมายจากการเขียนบทกับให้กับหนังซูปเปอร์ฮีโร่หลายเรื่องเช่น X-Men: The Last Stand, The Avengers, and Elektra  รวมทั้งตัว Michael B. Jordan เองก็ยังไม่ได้ตกลงอย่างเป็นทางการแต่ตามที่รายงานไปว่าเขาถูกวางตัวให้มาอยู่ในบทหลักแน่ๆ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเจรจาเช่นกัน     แถมยังมีข่าวว่า Joel Silver โปรดิวเซอร์ผู้สร้าง The Matrix ต้นฉบับได้เดินทางไปที่ Warner Bros. พร้อมกับไอเดียที่จะสร้างเรื่องใหม่สำหรับแฟรนไชส์นี้…

  • Nike เปิดตัวคอลเลคชั่น “ฮิญาบ” ออกแบบโดยคนมุสลิม ให้กีฬาข้ามความต่างศาสนา!!

    Nike เปิดตัวคอลเลคชั่น “ฮิญาบ” ออกแบบโดยคนมุสลิม ให้กีฬาข้ามความต่างศาสนา!!

    สำหรับชาวมุสลิมผู้หญิงปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในการในการเล่นกิฬาก็คงจะเป็นการใส่ ฮิญาบ ที่บางครั้งมันก็ดูจะไม่ค่อยคล่องตัวสักเท่าไหร่ และนั่นอาจจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้หลายๆ คนไม่อยากเล่นกีฬา ซึ่งทาง Nike ได้ร่วมมือกับนักกีฬามืออาชีพที่เป็นชาวมุสลิมและต้องใส่ฮิญาบในการเล่นกีฬาทุกครั้งมาช่วยพัฒนาคอลเลคชั่นตัวนี้ ซึ่งพวกเขาบอกว่าต้องใช้เวลาหลายปีเลยทีเดียวเพื่อที่จะให้ผลงานชิ้นนี้ออกมาดีที่สุด   Nike Pro Hijab สินค้าคอลเลคชั่นใหม่ที่จะมาตอบสนองนักกีฬาสาวชาวมุสลิม   ผ้าทำจากโพลีเอสเตอร์ ซึ่งมีน้ำหนักเบา จะเห็นได้ว่ามีโลโก้ Nike ติดอยู่ทางด้านซ้ายด้วย   ทาง Nike ได้บอกว่าฮิญาบที่พวกเขาออกแบบมานี้ใช้ผ้าที่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี   “ทางบริษัทเรียกผ้าชิ้นนี้ว่า ผ้าที่หายใจได้มากที่สุด โดยการใช้ Nike Pro เพียงเลเยอร์เดียว”   Nike บอกว่าจะเปิดขายฮิญาบนี้ในปีหน้า   แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีฟีดแบ็คเกี่ยวกับตัวฮิญาบอยู่หลายเสียงเหมือนกัน จึงขอหยิบมายกเป็นตัวอย่างเช่น   ฮิญาบสำหรับกีฬานี้มันไม่ได้ใหม่เลย แถมก็ไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรพิเศษนอกจากมีโลโก้ Nike ติดอยู่   หรือบางคนก็รู้สึกตื่นเต้นกับฮิญาบชุดนี้   ส่วนเธอคนนี้ดูจะตื่นเต้นมากๆ ถึงกับบอกว่าเหมือน Nike ทำความฝันของเธอให้เป็นจริง   ไม่ว่าจะมีความคิดเห็นกันยังไง แต่ก็มั่นใจได้ว่า Nike พยามที่จะเข้าตีตลาดชาวมุสลิม ซึ่งก็ฟังดูน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะ และดูทรงว่าคงจะขายดีอย่างแน่นอน ที่มา buzzfeed

  • ชายหนุ่มสำรวจ “เหมืองหินเก่า” แล้วดันเจอกับ “กองทัพรถยนต์” ตั้งแต่สมัยสงครามโลก

    Vincent Michel อาจารย์พละจากประเทศเบลเยียม ได้บรรยายพร้อมกับโชว์ภาพของโรงเก็บรถเก่าแก่ที่เขาได้ไปเจอเข้าในในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเขาคาดว่ามันจะเป็นโรงจอดรถตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 รถพวกนี้น่าจะถูกเอามาซ่อนไว้ด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่ทว่าท้ายที่สุดก็เหมือนว่าพวกมันจะถูกลืมและถูกทิ้งร้างไว้จนเหลือแต่สนิม ซึ่งมันก็คงจะเป็นเวลานานกว่า 70 ปีเลยทีเดียว เอาเป็นว่าเรามาลองดูภาพที่พวกเขาไปเก็บมากันก่อนดีกว่า..     Michel บอกว่า “มันรู้สึกเหมือนได้เดินทางย้อนเวลากลับไปเมื่อ 70 ปีก่อนเลยนะ แล้วผมก็ได้แต่คิดว่ามันเป็นไปได้ยังไงกัน” “พวกเราคาดว่ารถพวกนี้มันน่าจะถูกนำมาซ่อนไว้ในเหมืองหินแห่งนี้ ตั้งแต่ช่วงเริ่มสงครามโลก เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันถูกยึดไป” รถส่วนใหญ่ล้วนว่างเปล่า เหลือทิ้งไว้แต่เศษสนิมและโครงเหล็กเปล่าๆ   เขายังเสริมอีกว่า ‘ไม่นานหลังจากที่พวกเรามาที่นี่ เจ้าของเหมืองก็ได้มาเอารถบางคันออกไปและนำไปประมูล แต่รถส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ในที่ของมันอย่างเดิม เพราะบางคันมันเสียหายเกินกว่าจะเคลื่อนย้ายได้’ และเขาบอกปิดท้ายว่า เขาหวังว่าจะเจอสถานที่แบบนี้อีก เพราะมันน่าหลงไหลมากๆ เลยทีเดียวล่ะ เขาเล่าถึงความรู้สึกหลังจากที่ไปเจอที่แห่งนี้ว่า มันให้ความรู้สึกเหมือนเขาได้ย้อนเวลากลับไปในยุคก่อนเลย ซึ่งมันน่าตื่นเต้นมากๆ เลย!! . . . . . . . . . .     มันเป็นสถานที่สำคัญแห่งประวัติศาสตร์ และหวังว่าในอนาคตก็อาจจะถูกพัฒนาอย่างเหมาะสมต่อไปนะ!! ที่มา dailymail 

  • 24 ภาพหายากของเหล่าคนดัง เปรียบเทียบตอนเด็กและปัจจุบัน กาลเวลาทำให้เปลี่ยนแค่ไหน!?

    24 ภาพหายากของเหล่าคนดัง เปรียบเทียบตอนเด็กและปัจจุบัน กาลเวลาทำให้เปลี่ยนแค่ไหน!?

    เคยไหมที่เราสังเกตุดูเพื่อนของตัวเองในตอนโตแล้วเกิดคำถามในใจว่า ตอนเด็กเพื่อนเราหน้าตาก็ออกจะดี หรือไม่ก็หน้าตาขี้เหร่ แต่พอทำไมโตมาหน้าตากลับสวนทางกันได้ขนาดนั้น ซึ่งมันไม่ได้เกิดขึ้นกับคนธรรมดาเท่านั้นหรอกนะ ดาราและคนดังก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเช่นกัน บางคนตอนเด็กก็ดูขี้เหร่แต่พอโตมากับดูดีหยั่งกับคนละคน ซึ่งล่าสุดทางเว็บไซต์ BoredPanda ก็ได้นำภาพของเหล่าคนดังในตอนเด็กและโตมาให้ดูกันว่ากาลเวลาได้เปลี่ยนพวกเขาไปแค่ไหน อย่ารอช้ามาดูกันเลยดีกว่า…   George Clooney   Brad Pitt   Jimmy Fallon   Benedict Cumberbatch   Leonardo DiCaprio   Freddie Mercury   Taylor Swift   Sir Elton John   Adele   Ben Stiller   Channing Tatum   Chloe Grace Moretz   Rihanna   Madonna   Chris Pratt   Lady…

  • ดราม่าชาวเน็ต เมื่อคู่รักดาวน์ซินโดรมโดนสั่ง “ห้ามจูบ” ด้วยเหตุผลว่าไม่เหมาะ ทั้งที่หมั้นกันแล้ว!?

    ดราม่าชาวเน็ต เมื่อคู่รักดาวน์ซินโดรมโดนสั่ง “ห้ามจูบ” ด้วยเหตุผลว่าไม่เหมาะ ทั้งที่หมั้นกันแล้ว!?

    Niki Wyatt วัย 30 และ Samantha Lochrie วัย 23 คู่รักดาวน์ซินโดรม ซึ่งทั้งสองก็ผ่านพิธีหมั้นแล้วกำลังจะแต่งงานกันอีกไม่นาน แต่ภายในงานเลี้ยงสโมสรเยาวชน พวกเขาจูบแสดงความรัก และกลับถูกห้ามเนื่องจาก “มันไม่เหมาะสม” ทั้งๆ ที่พวกเขามีอายุเกิน 18 แล้วด้วยซ้ำ แถมในงานก็มีคนปกติจูบกันเป็นเรื่องปกติ เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นข้อถกเถียงกันในโลกออนไลน์ และต่างคนต่างก็มีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป…     Kim แม่ของ Samatha ได้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับลูกตัวเองว่า “พวกเขาทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมานานแล้วนะ แต่พวกเขาพึ่งจะมาเริ่มคบหากันจริงๆ ก็ตอนที่ Samatha มีอายุ 18 ปี ซึ่งพวกเรารู้สึกแย่มากๆ ในตอนทั้งคู่ถูกปฏิเสธไม่ให้จูบกันในงาน ด้วยเหตุผลที่ว่า มันไม่เหมาะสม”     ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เธอตัดสินใจที่จะตั้งสโมสรใหม่ขึ้นมาเพื่อเหล่าคนพิการโดยเฉพาะ และนอกจากแม่ของ Samatha แล้ว Jackie แม่ของ Niki ก็ออกมาพูดในทำนองเดียวกันว่า “ถ้าคุณคือคนพิการ ในตอนเด็กคุณจะรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่แปลกและแตกต่างพอสมควร แต่ทว่าพอโตขึ้นมาแล้วคุณจะรู้ได้ทันทีว่าตัวคุณเองก็ไม่ได้ต่างอะไรจากคนธรรมดาหรอก ตอนที่ฉันไปสโมสรเยาวชน ฉันยังสามารถที่จะจูบได้ปกติเลย แล้วทำไมพวกเขาถึงทำไม่ได้ เพราะพวกเขาพิการอย่างงั้นเหรอ?”  …

  • นักวิทยาศาตร์คิดค้น “ฟองน้ำซับน้ำมัน” หวังพัฒนา และช่วยแก้ปัญหาน้ำมันรั่วในอนาคต

    นักวิทยาศาตร์คิดค้น “ฟองน้ำซับน้ำมัน” หวังพัฒนา และช่วยแก้ปัญหาน้ำมันรั่วในอนาคต

    นักวิทยาศาตร์จากศูนย์ Argonne National Laboratory ได้คิดค้นฟองน้ำชนิดใหม่ขึ้นมา ซึ่งพวกเขาเคลมว่าเจ้าฟองน้ำตัวใหม่นี้จะสามารถดูดซับคราบน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยมกว่าฟองน้ำไหนๆ ที่เคยมีมา ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่มีปัญหาน้ำมันรั่วฟองน้ำที่จะถูกนำมาใช้ซับคราบก็คือ Sorbents ซึ่งมันสามารถดูดซับคราบนรน้ำมันได้ดี แต่กลับใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เลยทำให้นักวิทยาศาตร์ต้องคิดค้นฟองน้ำชนิดใหม่ขึ้นมานั่นเอง     แน่นอนว่าเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่มันย่อมดีกว่าของเก่ามา พวกเขาได้ให้เหตุผลในการคิดค้นเจ้าฟองน้ำตัวนี้ว่า มันจะเป็นนวัตกรรมที่สามารถช่วยธรรมชาติได้อย่างรวดเร็ว ดูดซับมากกว่าแบบเก่าถึง 90 เท่า โดยเฉพาะเวลาที่มีเหตุการณ์น้ำมันรั่วในทะเล เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าการจะขจัดคราบน้ำมันในทะเลได้ต้องใช้เวลานานมากๆ เลยทีเดียว       ทางหัวหน้าทีมพัฒนา Seth Darling ได้อธิบายถึงคุณสมบัติของเจ้าฟองน้ำชนิดใหม่นี้ว่า มันคือฟองน้ำที่สร้างจาก Polyurethane และพลาสติก Polyimide แถมยังเคลือบด้วยสารอณู Silane ทำให้มันสามารถดูดซับคราบน้ำมันได้มากถึง 90 เท่าของน้ำหนักตัวมันเอง ที่สำคัญยังสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีกด้วย   ภาพนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของฟองน้ำชนิดใหม่ได้เป็นอย่างดี . คราบน้ำมันบนผิวน้ำเหรอ ไม่ต้องกลัวฟองน้ำชนิดใหม่นี่จัดการได้สบายๆ เลยล่ะ . ภาพนี้แสดงให้ว่ามันสามารถที่จะรีดน้ำมันออกแล้วนำกลับมาใช้ซ้ำได้   และจากการทดลองหลายๆ ครั้งก็พบว่าเจ้าโฟมชนิดใหม่นี้มันใช้งานได้ดีกว่า Sorbent จริงๆ แต่ก็ยังมีคำถามในเรื่องที่ว่าถึงแม้จะขจัดคราบบนผิวน้ำได้ แล้วคราบที่อยู่ในทะเลลึกล่ะ พวกเขาจะรับมือยังไง ซึ่งก็ต้องอยู่ในการพัฒนาในจุดนั้นต่อไป… แต่ไม่ว่ายังไงการคิดค้นฟองน้ำตัวนี้ขึ้นมาก็น่าจะช่วยประหยัดเวลาและช่วยเรื่องปัญหาคราบน้ำมันรั่วบนท้องทะเลได้มากขึ้นเลยทีเดียวล่ะ   สามารถรับชมความสามารถของมันแบบเต็มๆ…

  • Job Stauffer ชายหนุ่มผู้ลดน้ำหนักเกือบ 25 กิโลกรัมได้ เพราะการเล่นเกมผ่านเครื่อง VR!!!

    Job Stauffer ชายหนุ่มผู้ลดน้ำหนักเกือบ 25 กิโลกรัมได้ เพราะการเล่นเกมผ่านเครื่อง VR!!!

    สื่อเกมนอกชื่อดังอย่าง PC Gamer ได้สัมภาษณ์ชายคนหนึ่งหลังจากที่เขาลดน้ำหนักไปมากเกือบ 25 กิโลกรัม ด้วยวิธีการเล่นเกมผ่านเครื่อง VR เท่านั้น ชายคนที่ว่านี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เพราะเขาคือ Job Stauffer หัวหน้าแผนก Creative Communications ของบริษัทสร้างเกมเล่าเรื่องชื่อดัง Telltale ซึ่งเริ่มแรกเขาได้แชร์เรื่องของเขาผ่านทวิตเตอร์ตัวเองว่า เขาประสบความสำเร็จลดน้ำหนักตัวเองลงถึง 50 ปอนด์ (ราวๆ 25 กิโลกรัม) ผ่านการเล่นเกม VR ที่ชื่อว่า Soundboxing     ถ้าใครที่ไม่รู้จักกับเกมนี้ก็จะขอเล่าให้คร่าวๆ ว่ามันคือเกมที่ต้องใช้เครื่อง VR ในการเล่นโดยตัวเกมจะมีรูปแบบก็คือ ต้องต่อยตัวโน้ตที่ไหลมาเป็นจังหวะต่างๆ ซึ่งเพลงภายในเกมผู้เล่นก็สามารถที่จะดึงมาจากยูทูปได้ตรงๆ เลย แถมยังมีจัดอันดับคะแนนทั่วโลกอีกตะหาก   นี่คือตัวอย่างเกมเพลย์ของ Soundboxing ที่เราจะได้เห็นเวลาใส่ VR   ส่วนี่คือตัวอย่างการเล่นด้วยเครื่อง VR ที่คุณต้องออกกำลังกายตามไปด้วย   เขาได้เล่าว่าจริงๆ แล้วเจ้าเกมนี้เนี่ยมันไม่ได้เคลื่อนไหวมากมายเท่าไหร่หรอก แต่ถ้าหากคุณได้ลองเล่นสักครั้ง คุณอาจจะเผลอเต้นตามไปโดยอัตโนมัติ เพราะเกมมันสนุกมากๆ   ทางนิตยสาร PC Gamer…

  • 10 อันดับ “ย่านถนน” ที่มีชื่อเสียงมากสุดในโลก และมีของไทยติดมาด้วยนะ!!

    10 อันดับ “ย่านถนน” ที่มีชื่อเสียงมากสุดในโลก และมีของไทยติดมาด้วยนะ!!

    ถ้าจะให้พูดถึงสถานที่ท้องเที่ยวหรือที่ๆ คนชอบไปเราก็มักจะคิดถึงสถานที่สวยๆ ตามมุมโลก ประเทศที่คนชอบไป หรือแม้แต่ร้านอาหารชื่อดังก็มักจะถูกคิดถึงและจัดอันดับเป็นอย่างแรก แต่ทว่าในครั้งนี้เราจะไม่พูดสถานที่ต่างๆ เหล่านั้น เพราะว่าเราจะไปดูเฉพาะเจาะจงถึงเฉพาะ ย่านถนน ที่คนชอบไปกัน ซึ่งใครจะคิดว่าเมืองๆ เดียวมีถนนนับร้อยนับพันสาย แต่ถนนเหล่านี้จะฮิตสุดๆ ซะได้ ว่าแต่จะมีย่านไหนบ้างนั้นมาดูกันเลย   10. Lombard Street Lombard Street ตั้งอยู่ระหว่างถนน Hyde และ Leavenworth ในซานฟรานซิสโก ถนนแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นถนนที่มีความคดเคี้ยวมากที่สุดในโลกซึ่งประกอบด้วยโค้งหักศอกถึง 8 โค้งด้วยกัน และถนนเส้นนี้ถูกจำกัดความเร็วอยู่ที่ 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น   9. Abbey Road Abbey Road เป็นย่านถนนที่อยู่ทางเหนือของกรุงลอนดอน ซึ่งที่นี่มี The Abbey Road Studios ตั้งอยู่บริเวณทางตอนใต้ของถนนดยรู้จักกันว่าเป็นสตูดิโอที่บันทึกเพลงกว่า 90% ของ The Beatles และจุดเด่นที่ทำให้ผู้คนรู้จักนี้กันเป็นอย่างดีก็คือ “ทางม้าลาย” ที่อยู่บนปกอัลบั้ม Abbey Road ของ The…

  • “สุนัขพิทบูล” ช่วยชีวิตเด็กน้อยวัย 9 ขวบ จากแม่ผู้พยายามฆ่าเขา ด้วยการให้จมน้ำตาย!?

    “สุนัขพิทบูล” ช่วยชีวิตเด็กน้อยวัย 9 ขวบ จากแม่ผู้พยายามฆ่าเขา ด้วยการให้จมน้ำตาย!?

    เจ้า Buddy สุนัขพิทบูลที่ตกเป็นผู้ต้องหา หลังจากตำรวจตั้งข้อสงสัยว่ามันทำร้ายเด็กน้อยคนหนึ่งจนบาสเจ็บสาหัสบริเวณริมแม่น้ำ Murray ในประเทศออสเตรเลีย แต่แล้วเรื่องราวก็ไม่ใช่อย่างที่ใครๆ คิด…     เรื่องราวมันเริ่มขึ้นเมื่อวันหนึ่งเจ้า Buddy ของคุณ Jess smith ดันบังเอิญเห็นคุณแม่วัย 27 ปี กำลังพยายามจับลูกชายวัย 5 ขวบและ 9 ขวบของเธอถ่วงน้ำ พร้อมกับปล่อยลงในแม่น้ำหวังให้พวกเขาตาย โดยที่ไม่มีใครทราบเหตุผล ด้วยความที่มันถูกฝึกมา เจ้าหมาเห็นดังนั้นเลยพยายามเข้าไปช่วยเหลือ ด้วยการกัดและลากเด็กน้อยขึ้นมาบนฝั่ง สุดท้ายมันสามารถช่วยชีวิตเจ้าหนูวัย 9 ขวบไว้ได้เพียงคนเดียว แลกกับร่องรอยการกัดและแผลบนตัวของเจ้าหนู ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการพยายามช่วยชีวิตนั่นเอง   ตำรวจช่วยกันพยายามหาตัวศพของเด็กชายวัย 5 ขวบ ส่วนเด็กชายวัย 9 ขวบได้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเรียบร้อย   ในตอนแรกนั้น ทางตำรวจจำเป็นต้องตั้งข้อกล่าวหาให้กับเจ้าพิทบูล เพราะร่องรอยการกัดทั้งที่ตัวแม่และตัวลูกชายคนโตที่รอดชีวิต ซึ่งฝ่ายคุณแม่ก็ทำเหมือนตัวเองเป็นผู้เคราะห์ร้าย แต่ภายหลังจากการสืบสวน พบว่าแท้จริงแล้วคุณแม่ต่างหากคือคนร้าย ขณะที่เจ้า Buddy คือฝ่ายที่พยายามช่วยชีวิตของเด็กๆ ไว้ ทำให้นำไปสู่การรณรงค์แคมเปญช่วยชีวิตมันให้รอดจากการถูกกล่าวหา   สุดท้ายตำรวจก็พบกับศพของเด็กชายวัย 5 ขวบ แต่ทว่าในภายหลังทางตำรวจก็ได้พยายามหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่า เจ้าพิทบุลตัวนี้ไม่ได้ตั้งใจที่จะกัด…

  • Joseph Pujol คนเดียวในโลกที่เป็น “นักตดมืออาชีพ” ออกทัวร์แสดงตด จนมีชื่อเสียงโด่งดัง

    Joseph Pujol คนเดียวในโลกที่เป็น “นักตดมืออาชีพ” ออกทัวร์แสดงตด จนมีชื่อเสียงโด่งดัง

    ด้วยความน่าอายจากการ “ตด” นั้น ปกติก็จะทำให้หลายๆ คนไม่ค่อยกล้าที่จะตดในบางโอกาสหรือจำเป็นจะต้องหาที่ลับๆ เพื่อที่จะตดออกมา แถมบางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าการตดของเราในครั้งนั้นจะมีเสียงหรือกลิ่นหรือเปล่า ถ้าคนจับได้ก็คงจะน่าอายพอตัวเลย   แต่ทว่ากลับมีผู้ชายคนหนึ่งที่เขาไม่อายที่จะตด แถมยังสามารถเอามันมาเป็นอาชีพได้อีกตะหาก ชายคนนี้มีชื่อว่า Joseph Pujol ที่เราจะเล่าเรื่องของเขาให้ฟัง… เขามีชื่อในวงการว่า Le Pétomane ได้ตระเวนไปโชว์ตดทั่วฝรั่งเศสและยุโรปในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จนได้รับการเข้าชมและชื่อเสียงมากมาย มีหลายคนให้สมญานามของเขาว่า “นักตดมืออาชีพ” คนแรกและคนเดียวบนโลกใบนี้     แต่กว่าจะมาถึงจุดนั้น เขาก็เป็นคนหาเช้ากินค่ำทั่วไป ทำงานบาร์เทนเดอร์ และคอยเอนเตอร์เทนลูกค้าจากหลังเคาน์เตอร์ด้วยการตดเป็นเสียงเพลง พร้อมกับตดใส่เครื่องดนตรีโดยที่ลูกค้าไม่รู้ว่าเขาทำแบบนั้นได้อย่างไร หลังจากนั้นเขาได้มีโอกาสขึ้นเวทีโชว์ในเมือง Marseilles เมื่อปี 1887 และเป็นการเริ่มต้นของเส้นทางอาชีพนักแสดงตดของเขา เขามีไฮไลท์เด็ดอย่างเช่น การตดเสียงยิงปืนใหญ่ ตดเสียงพายุฟ้าผ่า รวมถึงกระทั่งดับเทียนที่อยู่ห่างไปเป็นเมตรด้วยตดของเขาเอง หลังจากจบสงครามโลกครั้งที่ 1 เขาก็ขอถอนตัวจากวงการแล้วกลับไปดูแลร้านเบเกอรี่ของเขาในเมือง Marseilles ต่อจากนั้นไม่นานเขาก็ได้เปิดโรงงานบิสกิตในเมือง Toulon และท้ายที่สุดเขาก็เสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1945 ที่อายุ 88 ปี   หนึ่งในอุปกรณ์เครื่องดนตรี ที่เขาใช้ในการแสดง โดยการเสียบเข้าที่ก้นของเขาและบรรเลงออกมา   นอกจากการขึ้นโชว์ตามงานต่างๆ…

  • นี่คือ “ร้านขายเป็ดยาง” อย่างเดียวเท่านั้น มองไปทางไหนก็มีแต่เป็ด เป็ด และเป็ดก๊าบๆๆ!?

    นี่คือ “ร้านขายเป็ดยาง” อย่างเดียวเท่านั้น มองไปทางไหนก็มีแต่เป็ด เป็ด และเป็ดก๊าบๆๆ!?

    ใครจะคิดว่าเจ้า “เป็ดยางลอยน้ำ” สีเหลืองๆ ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี จะกลายมาเป็นของที่ทำให้คนคนหนึ่งคลั่งไคล้ และนำมาสู่การเปิดร้านขายพวกมันโดยเฉพาะได้ เรื่องราวมันเริ่มต้นไม่กี่ปีก่อนในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อคุณ Oude Leliestraat เจ้าของร้านของเล่น เริ่มสังเกตว่าแม้ร้านของเขาจะมีของเล่นเจ๋งๆ มากมาย แต่ลูกค้าหลายรายก็เพ่งความสนใจไปที่เป็ดยางสีเหลืองซะมากกว่า นั่นคือแรงบันดาลใจให้เขา ด้วยเหตุนี้เขาก็เลยจัดการเอาของเล่นอย่างอื่นทิ้งไปให้หมด แล้วหันมาโฟกัสที่การขายเป็ดยางอย่างเดียวเท่านั้น นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของร้าน Amsterdam Duck Store   นี่แหละ Amsterdam Duck Store   จะเห็นได้ว่าในร้านมีเป็ดยางอยู่เต็มไปหมด   และอีกสาเหตุที่เขาเปิดร้านเป็ดยางอย่างจริงจัง เพราะครั้งหนึ่งได้ไปเจอกับคำพูดของ Florentijn Hofman ศิลปินชาวดัตช์ที่เป็นเจ้าของผลงาน เป็ดยักษ์ลอยน้ำ อันเลื่องชื่อซึ่งศิลปินคนนี้ได้กล่าวไว้ว่า   “เป็ดยางมันไม่มีขอบเขตหรอกนะ มันไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้คนและไม่มีความหมายแฝงทางการเมืองอีกต่างหาก เจ้าเป็ดยางพวกนี้ยังสามารถช่วยเยียวยาความเครียดของผู้คนได้ด้วย แถมมันยังนุ่มนิ่มและเป็นมิตรกับทุกคน”   จึงเป็นที่มาของข้อความที่ติดอยู่ในร้านแบบนี้   The Amsterdam Duck Store ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมามากที่สุดของเมืองเยอรมัน ภาพนับพันของเจ้าเป็ดยางพวกนี้ถูกแชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์ค แถมบางคนยังตั้งใจเดินทางไกลเพียงเพื่อจะได้แวะเวียนมาที่ร้านขายเป็ดยางสุดฮิตนี้เท่านั้น ธุรกิจนี้มันไม่ได้หยุดอยู่แค่เมืองเดียว เพราะไม่กี่ปีต่อมาร้านขายเป็ดยางนี้ก็ขยายธุรกิจและเปิดสาขามากมายทั่วหัวเมืองต่างๆ ในยุโรปไม่ว่าจะเป็น เวนิส, บาร์เซโลน่า, ฟลอเรนซ์, โตรินและมายอร์ก้า ก็ล้วนมีสาขาตั้งอยู่แล้วทั้งนั้น…

  • เปิดตำนานสงคราม “พังพอน” ยกพวกตีกันระหว่างแก๊ง ด้วยเหตุผลเรื่องเซ็กส์!??

    เปิดตำนานสงคราม “พังพอน” ยกพวกตีกันระหว่างแก๊ง ด้วยเหตุผลเรื่องเซ็กส์!??

    ชีวิต การล้างแค้น เลือด ศักดิ์ศรี และผู้หญิง เรื่องพวกนี้มันคือชีวิตมาเฟีย แต่ไม่ใช่แค่กับคนนะ!! ปกติแล้วการต่อสู้ของสัตว์ ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นระหว่างตัวของมันเองกับโจทย์ของมันเท่านั้น แต่ว่ากลับมีสัตว์อยู่ชนิดหนึ่งที่ไม่ได้จัดการปัญหาด้วยตัวเอง แต่ว่าพวกมันอยู่กันเป็นแก๊งยังกะมาเฟีย   Dr. Faye Thompson นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเอ็กเซเตอร์ได้เดินทางไปตามท้องถนนในประเทศยูกันดา เพื่อศึกษาพฤติกรรมยกพวกตีกันของพังพอนที่อยู่ๆ ก็เกิดขึ้นอย่างรุ่นแรงและต่อเนื่อง ทั้งที่ปกติแล้วพังพอนจะเป็นสัตว์ที่มีความก้าวร้าวน้อยมากๆ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้จึงทำให้เขาแปลกใจว่าทำไมมันถึงกลายเป็นสัตว์ที่ชอบตีกันไปซะได้!?     จากการสังเกตุเขาได้คาดเดาว่าสาเหตุของสงครามแก๊งพังพอนนี้ น่าจะเกิดจากการที่มีพังพอนจากแก๊งหนึ่งเข้าไปทำร้ายลูกพังพอนของอีกฝ่ายจนตาย รวมถึงพบรักและผสมพันธุ์ข้ามกลุ่มด้วย เขายังอธิบายเพิ่มเติมถึงเหตุการณ์สงครามแก๊งที่เขาไปเจอมาว่า “การต่อสู้มันเกิดขึ้นระหว่างพังพอนราวๆ 20 หรือ 30 ตัวต่อแก๊ง ก่อนการเผชิญหน้า พวกมันเรียงแถวเข้าสู้กันเหมือนกับสงครามแก๊งของมนุษย์เลย ซึ่งการต่อสู้ของพวกมันดูโกลาหลมาก”     แต่อะไรละ คือสาเหตุจริงๆ ที่ทำให้เจ้าสัตว์ตัวเล็กน่ารักพวกนี้กลายเป็นสัตว์ก้าวร้าวขึ้นมาได้!? ซึ่ง Dr. Faye ก็ได้บอกว่า “มันน่าจะเกิดจากการที่ชัยชนะของแต่ละแก๊ง จะเป็นตัวบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งและความสามัคคีในแก๊ง โดยจะทำให้แต่ละแก๊งสามารถเข้าถึงทรัพยากรอาหารได้ นั่นรวมถึงการสืบพันธุ์ของแก๊งด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าหากขั้วอำนาจของแต่ละแก๊งในละแวกนั้นเกิดเหลื่อมล้ำกันขึ้นมา การเข้าโจมตีเพื่อตัดกำลังจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ” นอกจากนั้นนักวิจัยยังพบข้อสังเกตุอีกอย่างหนึ่งว่า พังพอนที่กำลังตั้งครรภ์จะไม่เข้าร่วมในสงคราม พวกมันจะหลบตัวออกมาเพื่อที่จะได้คลอดลูกพังพอนออกมาและช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มในอนาคต     ต่อไปนี้คงไม่ต้องด่าพวกป่วนเมืองว่าตีกันเหมือนหมาแล้ว ใช้ศัพท์ใหม่ว่าตีกันเหมือนพังพอน…

  • ช่วงเวลาแห่งความน่ารัก… นักดับเพลิงเข้าช่วยชีวิต “หมูอู๊ดๆ” นับร้อยตัว จากโรงนาที่ไฟไหม้!!

    ช่วงเวลาแห่งความน่ารัก… นักดับเพลิงเข้าช่วยชีวิต “หมูอู๊ดๆ” นับร้อยตัว จากโรงนาที่ไฟไหม้!!

    กลายเป็นข่าวสุดมุ้งมิ้ง เมื่อทางเว็บไซต์เดอะซัน ได้เผยแพร่คลิปของเหล่านักดับเพลิงเข้าไปช่วยเจ้าหมูกว่า 150 ตัว ออกจากโรงนาซึ่งกำลังมีไฟลุกไหม้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน Chernaya Rechka ประเทศรัสเซีย เมื่อพวกเขาได้รับเหตุแจ้งไฟไหม้ที่โรงนาแห่งหนึ่ง พวกเขาไปถึงที่เกิดเหตุก็พบว่านอกจากจะเป็นโรงนาแล้ว มันยังเป็นเล้าหมูที่มีหมูจำนวนมากด้วย   งานนี้ก็ต้องเกิดภารกิจช่วยชีวิตสุดน่ารักขึ้นมาแล้ว!!   ภาพของนักดับเพลิงที่เรียงแถวลำเลียงหมูออกมาและส่งต่อให้กันไปเรื่อยๆ ในขณะที่พนักงานคนอื่นๆ ก็พยามช่วยกันดับเพลิงให้สำเร็จ ยังดีที่ผลกระทบของไฟไหม้ในครั้งนี้ สร้างความเสียหายให้กับตึกเพียงหลังเดียวเท่านั้น   เจ้าหน้าที่ดูจะมีความสุขนะที่ช่วยพวกมันได้   ค่อยๆ ทยอยพากันออกมาตัวสองตัว   ตามคำบอกเล่าของเจ้าของฟาร์มบอกว่ามีหมูและลูกหมูมากถึงราวๆ 200 ตัว ซึ่งถูกเลี้ยงดูอยู่ในโรงนา และกว่าจะช่วยพวกลูกหมูออกมาได้ทั้งหมดนั้นต้องใช้นักดับเพลิงมากถึง 26 คนเลยทีเดียวล่ะ และเมื่อข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปสู่โซเชียลมีเดีย ก็มีกระแสตอบรับออกมามากมาย ตัวอย่างเช่น “ถึงแม้เราจะรู้ว่ามันเป็นหน้าที่ของพวกเขา แต่อดที่จะชื่นชมพวกเขาไม่ได้อยู่ดี” และยังมีคนบอกว่า “ขอบคุณจริงๆ เหล่าผู้กล้า”   ฮุยเลฮุ่ยยยยย พวกหมูก็ยอมให้อุ้มแต่โดยดี เหมือนรู้ว่ามันจะปลอดภัยแน่ๆ ถ้าไม่ดิ้น ฮ่าาาาา   ดูสภาพของพวกมันสิเปื้อนไปหมดเลย แถมยังมีแม่หมูอีกตะหาก   ค่อยๆ อุ้มมันออกมาส่งต่อไปเป็นทอดๆ   เอ่อ หมูตัวนั้นมันลายสีดำ…

  • ผู้กำกับ Game of Thrones ยืนยัน Season 7 จะมีพ่อหนุ่ม Ed Sheeran มาแจมในเรื่องด้วย!!

    ผู้กำกับ Game of Thrones ยืนยัน Season 7 จะมีพ่อหนุ่ม Ed Sheeran มาแจมในเรื่องด้วย!!

    ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือหนาหูกันมาสักพักแล้ว กับการที่พ่อหนุ่ม Ed sheeran อาจจะได้ไปร่วมแจมในซีรีย์ยอดฮิต Game of Thrones ซึ่งล่าสุดฝันของแฟนๆ ก็เป็นจริงเพราะเขาจะได้ไปอยู่ในซีรีส์จริงๆ แล้ว!! โปรดิวเซอร์อย่าง D.B. Weiss และ  David Benioff ได้ออกมาประกาศผ่านงาน SXSW (South by Southwest) ที่จัดขึ้นในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ว่าพวกเขาจะนำตัว Ed Sheeran เข้ามาแจมในซีรี่ส์ด้วย     เรื่องนี้ทำเอาพี่น้องตระกูลสตาร์คอย่าง Maisie Williams และ Sophie Turner แถบจะระงับอารมไว้ไม่อยู่และรู้สึกดีใจมากๆ ที่นักร้องในดวงใจจะมาร่วมแสดงซีรี่ส์กับเธอด้วย พวกเขาให้สัมภาษณ์ในงานว่า พวกเขาพยายามาเป็นปีๆ แล้วที่จะนำตัว Ed Sheeran เข้ามาอยู่ในเรื่อง และแฟนซีรีส์หลายคนก็น่าจะรู้เป็นอย่างดีว่ามีนักร้องมากมายเข้ามาแจมในเรื่องก่อนหน้านี้แล้ว แถมการมาของเขาทำให้สองพี่น้องสตาร์คมีความสุขอย่างมากเลยทีเดียว     เหตุผลที่นักแสดงนำทั้งสองคนแฮปปี้มากๆ โดยเฉพาะ Maisie  ก็เพราะว่าเธอชื่นชอบและอยากจะเจอ Ed Sheeran ตัวเป็นๆ…

  • พาชมปราสาทหรูที่ไม่ได้สร้างให้คนอยู่ แต่เพื่อ “แกะ” ต่างหาก… (เสียดายที่โดนทิ้งร้าง!!)

    พาชมปราสาทหรูที่ไม่ได้สร้างให้คนอยู่ แต่เพื่อ “แกะ” ต่างหาก… (เสียดายที่โดนทิ้งร้าง!!)

    ปกติแล้วถ้าชาวนาต้องการที่จะเลี้ยงแกะสักฝูง พวกเขาก็มักที่จะเลี้ยงมันในฟาร์มแบบเปิดหรือโรงนาแบบปกติทั่วๆ ไป แต่ทว่ามีชาวนาคนหนึ่งที่เขากลับไม่คิดแบบนั้น แถมเขายังเกิดไอเดียสุดบรรเจิดสร้างแมนชั่นสุดหรูให้เพื่อนขนฟูของเขาแทน ปราสาทแกะสุดหรูที่เรากำลังจะได้เห็นต่อไปนี้ถูกสร้างโดยชาวนาที่ชื่อว่า Colin Stokes เขาสร้างมันขึ้นในราวๆ ปี 1980 ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ แต่ทว่าเกิดเรื่องไม่คาดฝันที่เขาไม่ได้เตรียมใจไว้ นั่นก็คือพอมีเหมืองมาเปิดใกล้ๆ ซึ่งรบกวนความสงบสุขของเขา จึงเป็นเหตุผลที่ต้องทิ้งบ้านแกะนี้ไป   ตอนแรกเขาก็สร้างไว้อยู่กับแกะของเขา แต่สุดท้ายเขาก็ต้องทิ้งมันไปซะงั้น!?   ในปี ค.ศ 2000 มีเหมืองหินมาเปิดใกล้ๆ และรบกวนการใช้ชีวิตอันสงบสุขของเขา ด้วยเหตุนั้นเขาก็เลยเก็บเสื้อผ้ารวมถึงฝูงกะของเขาย้ายไปที่ประเทศสกอตแลนด์ เหลือทิ้งไว้แต่เพียงสิ่งก่อสร้างที่สุดยอดที่สุดตั้งแต่มีมา . .   เขาใช้เวลาถึง 11 ปีในการสร้างบ้านหลังนี้ เขาใช้ก้อนหินเป็นวัสดุหลักซึ่งเป็นก้อนหินที่เขาพบรอบๆ บริเวณบ้านของเขานั่นและ   ในช่วงที่แกะของเขาต้องออกลูก เขาจะย้ายไปนอนที่ชั้นสองและปล่อยให้แกะของเขามีความสุขกับชั้นล่าง   ในตอนแรกเขาก็ไม่ได้กะจะสร้างมันให้หรูหราอะไรหรอก   แต่เอาเข้าจริงๆ มันกลับหรูหราสุดๆ จะเรียกว่าปราสาทก็ได้ แต่มันคงมากไปสำหรับคนหนึ่งคน   แถมกระจกยังเป็นกระจกสี ที่ทำออกมาสวยงามและตั้งใจสุดๆ . . . .   ดูๆ แล้วดีไซน์บ้านนี่หยั่งกับหลุดมาจากโลกแฟนตาซีเลยนะเนี่ย สุดท้ายแล้วถึงแม้เขาจะย้ายออกไป แต่เขาก็ได้แวะเวียนกลับมาเยี่ยมที่นี้ครั้งหนึ่งเพื่อลำลึกถึงความทรงจำที่เคยมีกับบ้านหลังนี้ นอกจากนี้…

  • ชายหนุ่มอพยพ บุกไปช่วยชีวิตเด็กในบ้านไฟไหม้ ลงเอยด้วยการถูกส่งกลับประเทศเดิม!?

    ชายหนุ่มอพยพ บุกไปช่วยชีวิตเด็กในบ้านไฟไหม้ ลงเอยด้วยการถูกส่งกลับประเทศเดิม!?

    เรื่องราวที่กำลังเป็นดราม่าและถกเถียงกันแบบเบาๆ ในโลกออนไลน์ของต่างประเทศ จากเหตุการณ์ที่ชายคนหนึ่งได้สร้างวีรกรรมสุดกล้าหาญด้วยการเข้าไปช่วยเด็กสาวสองคนออกมาจากบ้านที่กำลังไหม้ แต่ทว่ารางวัลที่เขาได้กลับมา กับเป็นรางวัลส่งตัวเขาเองกลับไปยังประเทศบ้านเกิดซะงั้น… Robert Chilowa 46 ปี ได้รับการยกย่องจากวีรกรรมที่เขาเข้าไปช่วยเด็กๆ ในบ้านของพื่อนบ้านที่กำลังไฟไหม้ในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ     หนุ่มชาวซิมบับเวคนนี้เข้าไปช่วยเด็กน้อย 2 คนจากจากบ้านที่กำลังลุกไหม้ พร้อมบอกให้เด็กทั้งสองเกาะเขาไว้จนหนีออกมาได้สำเร็จ แต่ทว่าเรื่องกลับไม่ได้แฮปปี้เอนดิ้ง เพราะกลายเป็นว่าจากเหตุนี้ทำให้เขามีชื่อเสียงขึ้นมาในละแวก และยังต้องเป็นพยานให้กรณีที่บ้านไฟไหม้ มันก็ดูปกติเว้นแต่ว่า… เขาเป็นคนเข้าเมืองที่ผิดกฎหมายนั่นเอง สุดท้ายเขาก็เลยถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทำเรื่องส่งตัวเขากลับไปที่ประเทศซิมบับเวบ้านเกิดของเขาซะงั้น แถมเขายังไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้เลย เขาบอกว่าเขามาอยู่ที่นี้มาตั้งแต่ 2001 แล้วแต่ผลตอบแทนที่เขาได้รับมันเหมือนการตบเข้าที่หน้าของเขาแรงๆ ถึงแม้เขาจะได้รับการยกย่องจากทั้งตำรวจท้องถื่นและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย     “หัวใจผมถึงกับแตกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อผมรู้ถึงเรื่องที่ผมต้องเผชิญต่อจากนี้ ไม่ได้ทำอะไรผิด ผมไม่มีแม้แต่ประวัติอาชญากรรมอะไรเลยแท้ๆ ใครก็ได้ช่วยเห็นใจผมที” ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องถูกส่งกลับไปประเทศซิมบับเวภายในเดือนมีนาคมที่จะนี้อยู่ดี สุดท้ายชายคนนี้ก็ไม่ได้พูดถึงสาเหตุของของการไม่อยากกลับไปที่ประเทศบ้านเกิดของเขา   เขาถูกตัดรายได้ทั้งหมด และถูกบีบบังคับให้ต้องออกจากบ้าน เพื่อที่จะได้ส่งเขากลับประเทศบ้านเกิด   จากเพลิงไหม้ในครั้งนั้นทำให้ Mohammed Awad วัย 56 และ Hasma Awad วัย 47 ซึ่งเป็นคุณปู่และคุณย่าของเด็กทั้งสองที่ Robert ได้ช่วยไว้ ต้องตายจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น…

  • โจรหนุ่มใจกล้า ใช้ “กล้วย” แทนปืนบุกปล้นร้านค้า โดนเค้าจับได้ เดินหนีแทบไม่ทัน!!

    โจรหนุ่มใจกล้า ใช้ “กล้วย” แทนปืนบุกปล้นร้านค้า โดนเค้าจับได้ เดินหนีแทบไม่ทัน!!

    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!!ว่าเพียงแค่กล้วยลูกเดียวก็สามารถใช้ปล้นได้ ชายสวมหน้ากากคนหนึ่งได้ก่อคดีบุกปล้นร้านอาหารฟิชแอนด์ชิพในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งเขาได้บุกเข้าไปในร้านพร้อมตะโกนลั่นว่า “เปิดลิ้นชัก แล้วส่งเงินมาสิโว้ย!”     ชายคนนี้พยามใช้เทคนิคในการหลอกให้พนักงานตกใจและคิดว่าเขามีปืนจริงๆ แต่แล้วพนักงานคนหนึ่งก็เหมือนจะสังเกตุเห็นได้ว่า ถุงที่เขาใช้ครอบปืนในมือมันดูจะงอๆ ไปสักหน่อยเกินกว่าที่จะเป็นปืน ซึ่งคาดเดาว่ามันน่าจะเป็นกล้วยมากกว่า   ลักษณะปืนของเขา ก็ตามภาพนั่นแหละครับ!!   สุดท้ายโจรคนนี้เหมือนจะรู้ตัวว่าของที่อยู่ในมือถูกจับได้แล้วว่ามันไม่ใช่ปืน เขาก็เลยรีบหนีออกจากร้านไปทันที โดยที่เขาไม่ได้เงินกลับไปเลย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกตามหาคนร้ายคนนี้แล้ว จากภาพบันทักตำรวจคาดว่าคนร้ายคนนี้น่าจะสูงราวๆ 180 เซนติเมตร แต่ด้วยความที่เขาปิดทั้งหน้าเลยทำให้ยากที่จะตามตัว     คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของทางร้าน   เจ้าหน้าที่ตำรวจ David Johnston ได้บอกว่า “ผมยินดีที่จะรับทุกเบาะแสที่จะช่วยให้หาคนร้ายคนนี้ได้ เขาได้สร้างความหวาดกลัวและทำให้พนักงานในร้านเสียขวัญ แถมยังทำให้ผู้คนต้องตกอยู่ในอัตราย ซึ่งถ้าใครมีเบาะแสอะไรก็สามารถแจ้งเข้ามาที่กรมตำรวจได้เลย”   แหม่ เกือบไปแล้วไหมล่ะ!! ที่ metro

  • เว็บญี่ปุ่นเปิดขายขนมหวานใหม่ “โมจิหยดน้ำ” ที่ข้างในมีดอกซากุระจริงๆ ดูสวยแถมน่ากิน!!

    เว็บญี่ปุ่นเปิดขายขนมหวานใหม่ “โมจิหยดน้ำ” ที่ข้างในมีดอกซากุระจริงๆ ดูสวยแถมน่ากิน!!

    หลายคนน่าจะคุ้นเค้ยกับชื่อของ เค้กหยดน้ำ หรือ โมจิหยดน้ำ กันมาบ้างใช่ไหม ซึ่งถ้าใครคิดภาพไม่ออกว่ามันคืออะไร มันก็คือเจ้าก้อนใสๆ เหมือนหยดน้ำที่ดูน่ากินที่เคยฮิตอยู่ช่วงหนึ่งในบ้านเรานั่นเอง ตัวอย่างของขนมโมจิหยดน้ำ…   พอดีกับช่วงนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ที่ดอกซากุระจะเบ่งบาน และดูท่าคนญี่ปุ่น (รวมถึงนักท่องเที่ยว) จะคลั่งไคล้เทศกาลชมซากุระกันมากเลยทีเดียว จนเป็นกระแสซากุระฟีเวอร์ขึ้นมาในทุกๆ ปี เจ้าโมจิหยดน้ำนี้เดิมที่ก็เป็นขนมที่มาจากทางฝั่งญี่ปุ่นอยู่แล้วก็ไม่แปลกที่ทางญี่ปุ่นจะนำมันไปต่อหยอดอีกขั้นโดยการนำเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นอย่างดอกซากุระเข้ามาผสมผสานจนเกิดเป็น โมจิหยดน้ำดอกซากุระ!!     โมจิหยดน้ำดอกซากุระที่ว่านี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทผลิตขนมเก่าแก่ของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Eitaro ซึ่งจริงๆ แล้วพวกเขาผลิตเจ้าโมจิหยดน้ำนี้มากว่า 13 ปีแล้วแต่มันพึ่งจะมาบูมเอาเมื่อปีที่แล้ว แถมยอดขายยังทะลุเป้าสุดๆ พวกเขาขายมันได้ราวๆ 250,000 กล่องเลยทีเดียว   แบบกล่องสามชิ้นดีไซน์สวยงาม เหมาะสำหรับไว้เป็นของขวัญ เซตนี้สนนราคาอยู่ที่ราวๆ 270 บาท แต่ถ้าใครสนใจแบบ 9 ชิ้นก็จะอยู่ที่ราวๆ 730 บาท   ถ้าใครสนใจเซตข้างบนนี้แล้วละก็สามารถเข้าไปสั่งออนไลน์ได้โดยตรงจาก eitaro ได้เลย นอกจากเจ้าโมจิหยดน้ำซากุระแล้ว ยังมีรูปแบบอื่นๆ ที่ดูน่ากินอีกมากมายเลยเช่นกัน   แต่ถ้าใครสนใจและได้เดินทางไปที่ญี่ปุ่นในช่วงนี้แล้วอยากจะลองชิมโมจิหยดน้ำซากุระแบบข้างบนแต่ว่าหาซื้อไม่ได้แล้วละก็ สามารถเดินทางหาซื้อได้ที่ย่านรปปงงิจากร้านที่ชื่อว่า Sun Fruits โดยหน้าตาของโมจิหยดน้ำที่นี้ก็จะมีหน้าตาคล้ายๆ ตัวข้างบนแต่จะเสิร์ฟในถ้วยเซรามิคสวยงาม     ของเจ้านี้จะราคาอยู่ที่ราวๆ 160…

  • พบรูปปั้นฟาโรห์ Ramses II อายุ 3,000 ปี ซ่อนตัวใต้สลัมอียิปต์ หนึ่งในการค้นพบแห่งประวัติศาสตร์!!

    พบรูปปั้นฟาโรห์ Ramses II อายุ 3,000 ปี ซ่อนตัวใต้สลัมอียิปต์ หนึ่งในการค้นพบแห่งประวัติศาสตร์!!

    การร่วมมือกันของนักสำรวจจากเยอรมนีและอียิปต์ได้ทำให้พวกเขาได้ค้นพบวัตถุสำคัญทางประวัติศาสตร์ชิ้นใหม่ ซึ่งพวกเขาคาดเดาว่าวัตถุชิ้นนี้จะมาอายุมากถึง 3,000 ปีเลยทีเดียว การค้นพบนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านที่ย่านสลัมอันรู้จักกันในชื่อ Matariya ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดยสิ่งที่พวกขุดเจอนั่นก็คือรูปปั้นฟาโรห์ที่มีขนาดสูงถึง 8 เมตร   ภาพของนักสำรวจที่กำลังตรวจสอบชิ้นส่วนของรูปปั้นที่พวกเขาเจอ   ตัวรูปปั้นที่พบเห็นนั้นอยู่ในสภาพแตกหัก มันถูกสร้างด้วยหินควอตไซต์ ซึ่งทำให้พวกเข้าค้นพบรูปปั้นชิ้นอื่นๆ ตามมา และหากสำรวจบริเวณนี้ได้เรียบร้อย รูปปั้นเหล่านี้จะถูกนำไปจัดแสดงใน Grand Egyptian Museum  พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ที่จะสร้างเสร็จในปี 2018     ตรงส่วนนี้น่าจะเป็นฐานที่มีข้อความบ่งบอกถึงอะไรสักอย่าง   หลังจากการสำรวจเบื้องต้น พวกเขาคาดเดาว่ารูปปั้นนี้น่าจะเป็นรูปปั้นของฟาโรห์ Ramses II ซึ่งเป็นฟาโรห์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีฟาโรห์มาทุกพระองค์เลยทีเดียว เชื่อกันว่าเขาเป็นคนสร้าง Heliopolis (และกลายมาเป็น Matariya ในปัจจุบัน) การขุดค้นครั้งนี้ถือเป็นอีกครั้งสำคัญที่สุดแห่งประวัติศาสตร์ เพราะทำให้พวกเราทราบถึงประวัติศาสตร์อียิปต์มากยิ่งขึ้น   ส่วนตัวของรูปปั้นที่แตกหัก   นอกจากนี้ การขุดค้นอาจจะทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวในอียิปต์กลับมาบูมอีกครั้ง หลังจากที่ถดถอยลงไปกว่า 6 ปี เพราะปัญหาทางการเมือง สงคราม และการก่อการร้ายนั่นเอง  …

  • รวม 18 ภาพสิ่งต่างๆ บนโลกในอีกมุมมองหนึ่ง ซึ่งต่างออกไปจากที่เราคุ้นเคย!?

    รวม 18 ภาพสิ่งต่างๆ บนโลกในอีกมุมมองหนึ่ง ซึ่งต่างออกไปจากที่เราคุ้นเคย!?

    ปกติแล้วภาพส่วนใหญ่ที่ถูกนำมาใช้หรือเสนอให้เห็นกัน เราก็มักจะเห็นภาพเดิมๆ จากมุมมองเดิมๆ ที่คนส่วนใหญ่ก็มักจะเห็นกันได้บ่อยๆ นั่นเอง แต่ทว่าหากเราได้มองอะไรในมุมที่มันต่างออกไป ก็น่าจะเปิดหูเปิดตาให้เราได้อีกมากมาย และวันนี้เราจะมาลองดูภาพแปลกๆ ที่มาจากมุมมองแปลกๆ ที่เราไม่เคยเห็นกันบ้าง   เริ่มต้นกันด้วยภาพของไข่ปลาหมึก ในเวอร์ชั่นซูมเข้ามาชัดๆ   ภาพแสงเหนือจากมุมมองนอกโลก ที่ดูอลังการงานสร้างไม่แพ้ดูจากในโลกเลย   ภาพของสายรุ้งแบบเต็มวง ที่ถูกถ่ายผ่านกระจกบนเครื่องบิน   ภาพของคณะเดินทางยอดเขาเอเวอเรสต์ ในเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 2013   ภาพของดาวอังคารที่แสดงให้เห็นรายละเอียดแบบชัดที่สุดตั้งแต่มีมา   และนี่คือภาพสีที่แท้จริงของดาวอังคาร ซึ่งถ่ายโดยหุ่นยนต์สำรวจ Curiosity     ภาพเดย์โทนาบีช หาดชื่อดังในรัฐฟลอริดา ปี ค.ศ 1957   ภายในของสายไฟใต้น้ำ   บ่อลาวาที่ยังประทุของภูเขาไฟ Erta Ale ในประเทศเอธิโอเปีย   ภาพของพายุฝุ่นขนาดใหญ่ ในประเทศออสเตรเรีย ปี ค.ศ. 2013   จุดเริ่มต้นของกำแพงเมืองจีนบริเวณชายหาดปั๋วไห่ ซึ่งจุดนี้จะรู้จักกันในชื่อ “Old Dragon’s…

  • 14 ข้อมูลน่าสนใจของ “วาฬสีน้ำเงิน” ทำให้เรารู้ว่ามันเป็นสัตว์ที่ยิ่งใหญ่เพียงใด

    14 ข้อมูลน่าสนใจของ “วาฬสีน้ำเงิน” ทำให้เรารู้ว่ามันเป็นสัตว์ที่ยิ่งใหญ่เพียงใด

    เป็นที่รู้กันว่า วาฬสีน้ำเงิน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่ทว่านั้นไม่ใช่แค่ความจริงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีความลับอีกมากมายเกี่ยวกับวาฬสีน้ำเงินที่เราอาจจะรู้หรือบางคนก็ไม่รู้อยู่ ฉะนั้นวันนี้เราจะมาดู 14 ข้อมุลที่น่ารู้ของวาฬสีน้ำเงินกันว่าเจ้าสัตว์ยักษ์ใหญ่แห่งทะเลนี้มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง   1. วาฬสีน้ำเงินสามารถพ่นน้ำได้สูงถึง 9 เมตร หรือให้เทียบความสูงของตึก ก็เท่ากับตึก 3 ชั้นเลยทีเดียว   2. ตามปกติแล้ว วาฬสีน้ำเงินจะว่ายน้ำด้วยความเร็ว 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถ้าพวกมันว่ายเต็มสปีด มันจะว่ายได้เร็วถึง 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง   3. แค่ลิ้นของวาฬสีน้ำเงินเพียงอย่างเดียว มีน้ำหนักพอๆ กับช้างตัวหนึ่งเลยทีเดียว   4. หัวใจของวาฬสีน้ำเงิน มีน้ำหนักราวๆ เกือบ 1 ตัน และถ้าเทียบง่ายๆ ก็มีขนาดที่ใหญ่พอๆ กับรถยนต์มินิคูเปอร์ 1 คันเลยทีเดียว   5. เส้นเลือดของวาฬสีน้ำเงินมีขนาดที่ใหญ่มากๆ ใหญ่พอที่จะให้คนเข้าไปอยู่ข้างในได้เลยล่ะ   6. ถ้าวาฬสีน้ำเงินโตเต็มที่จะมีความยาวถึง 31.2 เมตร ซึ่งเทียบเท่ากับสนามบาสเก็ตบอล NBA เลยล่ะนั้น…

  • ศิลปินสาวกับ 14 ภาพถ่ายจากงานบอลลูนในตุรกี ที่สวยซะจนคิดว่าอยู่ในโลกแฟนตาซี

    ศิลปินสาวกับ 14 ภาพถ่ายจากงานบอลลูนในตุรกี ที่สวยซะจนคิดว่าอยู่ในโลกแฟนตาซี

    หลายคนอาจจะชอบการได้ออกไปท่องเที่ยว บ้างก็ปั่นจักรยาน ขับรถ หรือนั่งเครื่องบิน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในพาหนะสุดคลาสสิคของมนุษย์อย่าง “บอลลูน” มันให้ประสบการณ์การเที่ยวที่ไม่เหมือนอย่างอื่นจริงๆ Kristina Makeeva  ช่างภาพสาววัย 29 ปี จากกรุงมอสโก ได้แชร์รูปภาพที่เธอไปถ่ายมาจากแคปพาโดเชีย  ซึ่งเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับการขึ้นบอลลูนชมทัศนียภาพรอบๆ และถ้าถามว่าที่แห่งนี้สวยยังไงทำไมคนถึงชอบไปขึ้นบอลลูนกัน เอาเป็นว่าลองมาดูภาพของเธอกันแล้วจะเราก็จะเข้าใจเองว่าทำไม     Kristina ได้พูดถึงประสบการณ์การมาสถานที่แห่งนี้ว่า “เมื่อตอนที่ฉันและทีมได้มาที่ Cappadocia พวกเรารู้สึกตะลึงกับความสวยงามของสถานที่แห่งนี้สุดๆ ทั้งรูปร่างหน้าตาของก้อนหิน รวมถึงลายของมันที่เฉพาะตัวสุดๆ และไหนจะเมืองที่อยู่ข้างใต้อีก พอเอาทุกอย่างมารวมเข้ากับบอลลูนที่แห่งนี้มันก็กลายเป็นเหมือนสถานที่จากเทพนิยายไปทันที” “การถ่ายภาพที่นี่มันง่ายมากๆ เพียงแค่โฟกัสให้ดีและก็กดชัตเตอร์เท่านั้น เพราะสถานที่นั้นมันสวยซะจนไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรช่วยเลย”     ที่แห่งนี้เป็นที่รู้กันว่าเป็นหนึ่งในสถานที่สวยและเหมาะที่สุดสำหรับคนที่ชื่นชอบการนั่งบอลลูน  ด้วยสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวแถมยังสามารถมาได้สัมพัสประสบการณ์ท่องเที่ยวได้ทั้งปี Cappadocia จึงเป็นเป้าหมายในฝันที่เหล่าช่างภาพควรจะมาเยือนสักครั้งในชีวิต     ในอินสตาแกรมของเธอนั้นมีแฟนคลับติดตามมากกว่า 200,000 คน และถ้าใครถูกใจ ถ้าใครสนใจอยากจะติดตามงานของเธอเพิ่มเติมสามารถเข้าไปได้ที่อินสตาแกรมของเธอที่ลิ้งนี้ได้เลย hobopeeba   . . . . . . . . .…

  • ภาพสุดหวานซึ้ง… คุณพ่อขอคุณแม่ “แต่งงานใหม่” อีกครั้งหลังจากที่เธอหายป่วยมะเร็ง

    ภาพสุดหวานซึ้ง… คุณพ่อขอคุณแม่ “แต่งงานใหม่” อีกครั้งหลังจากที่เธอหายป่วยมะเร็ง

    ปกติแล้วคนเราจะจัดงานแต่งงานกับคนรักคนเดิมเพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น แต่ทว่าใครจะคิดว่าคู่รักสูงวัยคู่นี้จะขอกันแต่งานใหม่อีกครั้งหลังจากที่เคยทำกันไปเมื่อนานมาแล้ว ภาพชุดนี้ถูกโพสต์ผ่านทวิตเตอร์โดย Christin Koch หญิงสาววัย 18 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของคู่รักในรูป ซึ่งเธอเล่าว่า แม่ของเธอป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และได้รับการผ่าตัดพร้อมกลับมาพักฟื้นที่บ้านนับตั้งแต่นั้น     เธอบอกว่าพ่อและแม่ของเธอ Jim และ Laura แต่งงานกันมาแล้วนานถึง 26 ปี แต่ทว่าพ่อของเธออยากจะทำอะไรที่มันพิเศษให้กับภรรยาของเขา เขาขอภรรยาของเขาแต่งงานอีกครั้งในขณะที่เธอกำลังอยู่บนเตียงผู้ป่วย เพื่อย้ำเตือนทั้งคู่ว่าพวกเขาผ่านอะไรด้วยกันมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องดีและไม่ดี ทั้งตอนสุขภาพดีหรือตอนป่วย แม่ของเธอร้องไห้หลังจากที่พ่อของเธอขอแต่งงานอีกครั้งด้วยแหวนวงใหม่ แต่มาในรูปร่างหน้าตาและเพรชแบบเดิม หลังจากพิธีแต่งงานจบลงแม่ของเธอพูดว่า “นี้สินะ คือสิ่งที่เรียกว่ารักแท้ เขายังรักฉันเหมือนเดิมแม้ว่าฉันจะป่วยและมีสภาพที่แย่แบบนี้ ฉันไม่คิดเลยว่าฉันจะได้เจอกับรักแท้แบบนี้ในชีวิต”     หลังจากที่ Christin ได้ทวีตภาพเหตุการณ์ในครั้งนี้ออกไป ก็มีกระแสตอบรับกลับมาที่เดียวเลยล่ะ ลองมาดูตัวอย่างกัน   ดูนี้สิที่รัก มันสุดยอดไปเลย   ฉันถึงกับร้องไห้เลย นี้มันเจ๋งสุดๆ   พวกเขาน่ารักมากเลย ขอให้พระเจ้าอวยพรให้พวกเขาด้วย   ความรักของทั้งสองคนนี้ช่างสวยงามจริงๆ ที่มา thechive

  • มิตรภาพต่างสายพันธุ์ของ “นักพายเรือ” และ “วาฬเพชรฆาต” ที่กลายมาเป็นเพื่อนกันซะงั้น!?

    มิตรภาพต่างสายพันธุ์ของ “นักพายเรือ” และ “วาฬเพชรฆาต” ที่กลายมาเป็นเพื่อนกันซะงั้น!?

    ถ้าพูดถึงวาฬเพชฌฆาต เราก็คงจะรู้จักกันดีว่ามันคือนักล่าแห่งท้องทะเลที่มีนิสัยดุร้ายพอสมควร แถมยังอาศัยอยู่กับเป็นฝูงอีกตะหาก แต่ทว่าในบางครั้งเราก็จะเห็นเจ้าวาฬสายพันธุ์นี้บางตัวมีนิสัยที่รักสงบและน่ารักเช่นกัน แถมมันยังฉลาดมากเป็นอันดับต้นๆ ของสัตว์โลกที่ไม่นับมนุษย์ด้วย เราจะพาย้อนไปดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนักพายเรือพายเรือคายัคชาวออสเตรเรียที่ชื่อว่า Nathan Pettigrew เขาได้เล่าถึงวาฬเพชฌฆาตเพื่อนรักของเขาตัวหนึ่งที่เจอกันเมื่อปี 2010     โดยเขาเล่าว่า “ผมเจอกับมันครั้งแรกเมื่อตอนปี 2010 และได้พายเรือเล่นกับมันหลายครั้งเลยล่ะ นับตั้งแต่เจอมันครั้งแรก” เขาได้ตั้งชื่อให้กับวาฬเพชฌฆาตตัวนี้ว่า Pickle      พอถามว่าวาฬเพชฌฆาตมันก็หน้าตาเหมือนกันหมดแล้วเขาจำเพื่อนของเขาได้ยังไง เขาก็บอกว่าเพื่อนของเขาตัวนี้จะมีครีปที่หลังที่โดดเด่นไม่เหมือนตัวไหนๆ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาจำเพื่อนของเขาได้ เป็นเวลาหลายปีที่ทั้งคู่ได้เป็นเพื่อนกัน เขาบอกว่ายิ่งเวลาผ่านไปเจ้า Pickle ก็ยิ่งมีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากครั้งแรกที่ทั้งคู่เจอกัน แต่ถึงแม้เวลาจะผ่านไปแค่ไหน ทั้งคู่ก็ยังมาเจอกันและจำกันได้ดี     แต่ใช่ว่ามันจะจำเขาได้จากหน้าตานะ เพราะว่า Nathan พยามที่จะใส่ชุดแบบเดิมเสมอเมื่อเขาไปพายเรือรอบบริเวณน่านน้ำนิวซีแลนด์ “ผมพยามที่จะใส่เสื้อสีแดง และหมวกแดงเสมอเวลาที่ผมออกไปพายเรือ ซึ่งผมคิดว่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ Pickle จำผมได้ แถมท่าทีที่มันมีต่อผมก็ยังแตกต่างจากวาฬเพชฌฆาตตัวอื่นๆ อีกด้วย”     จะบอกว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องบังเอิญก็ไม่ได้ เพราะว่าทั้งคู่ยังมีปฏิสัมพันธ์ให้กันเสมอเป็นถึง 5 ปีเต็มๆ จนกระทั่งนำมาสู่คลิปวิดีโอกึ่งสารคดีนำเสนอมิตรภาพของเขาและเจ้าวาฬตัวดังกล่าว เราลองมาชมคลิปวิดีโอดังกล่าวจากแชแนล The Kayaking World of Nathan Pettigrew ด้านล่างนี้เลยครับ……

  • รู้จัก “การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่” ของสิ่งมีชีวิตทั้ง 5 ครั้ง ที่เคยเกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์โลก!!

    รู้จัก “การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่” ของสิ่งมีชีวิตทั้ง 5 ครั้ง ที่เคยเกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์โลก!!

    ใครๆ ต่างก็เคยได้ยินเรื่องอุกกาบาตครั้งใหญ่ ที่เป็นสาเหตุให้สิ่งมีชีวิตยุคไดโนเสาร์ต้องสูญพันธุ์ไป แน่นอนว่าหลายคนก็คงจะคิดว่ามันเป็นการสูญพันธุ์เพียงครั้งเดียวที่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ แต่ทว่าจริงๆ แล้วการสูญพันธ์ุนั้นเกิดขึ้นมาแล้วมากถึง 5 ครั้งเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เรารู้ได้ก็มาจากการที่นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์ฟอสซิลจากใต้ทะเล ทำให้พวกเขาพบว่า ก่อนหน้ายุคไดโนเสาร์ ได้มีการสูญพันธ์ของสิ่งมีชีวิตบนโลกมาแล้วมากถึง 4 ครั้ง ว่าแต่จะมีอะไรบ้างเรามาดูกันเลยดีกว่า   1. ช่วง 430-440 ล้านปีก่อน การสูญพันธุ์ยุคแรกรู้จักกันในชื่อว่า ยุคออร์โดวิเชียน (Ordivician) ซึ่งเป็นยุคที่สิ่งมีชีวิตประเภทปะการัง ไบรโอซัว และปลาหมึก อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก พอเข้าสู่ยุคไซลูเรียน (Sulurian) ก็เริ่มมีสิ่งมีชีวิตประเภทปลาที่มีขากรรไกรและสัตว์บกขึ้นเป็นครั้งแรก รวมถึงพืชที่ขยายพันธุ์ด้วยสปอร์ ส่วนสาเหตุของการสูญพันธุ์คาดว่าน่าจะเกิดจากน้ำทะเลลดระดับลง จากการก่อตัวเป็นก้อนน้ำแข็งยักษ์ และต่อมาน้ำทะเลเพิ่มระดับขึ้นกะทันหัน จากการละลายของก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ ทำให้สายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต 25% ในโลกต้องสูญพันธุ์ไป และคิดเป็น 60% ของสายพันธุ์สิ่งมีชีวิตที่อาศัยในน้ำทั้งหมดเลยทีเดียว   2. ช่วง 364 ล้านปีก่อน ช่วงเวลานี้จะอยู่ในยุคดีโวเนียน (Devonian) ซึ่งเป็นยุคที่อเมริกาเหนือ-กรีนแลนด์ ยังรวมเข้ากับยุโรปอยู่ และเป็นยุคของปลาดึกดำบรรพ์ต่างๆ (แมลงได้เกิดขึ้นครั้งแรกในยุคนี้) แถมพืชจำพวกเมล็ดก็เริ่มขยายพันธุ์ออกไปจนเกิดเป็นป่าขึ้นมา สาเหตุของการสูญพันธุ์ในยุคนี้ยังไม่มีสมมติฐานที่มีน้ำหนักเพียงพอในการสรุปว่าอะไรเป็นสาเหตุกันแน่ แต่ทว่าผลลัพธ์ของเหตุการณ์นี้ทำให้สายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตสูญพันธุ์ไป 22% ซึ่งคิดเป็น…

  • Selina Juul หญิงเพียงหนึ่งเดียว ผู้รณรงค์ลดปริมาณเศษอาหาร จนรัฐบาลเดนมาร์กยกย่อง!!

    Selina Juul หญิงเพียงหนึ่งเดียว ผู้รณรงค์ลดปริมาณเศษอาหาร จนรัฐบาลเดนมาร์กยกย่อง!!

    ในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศเดนมาร์กกลายเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำที่รณรงค์เรื่องการลดปริมาณเศษอาหารของโลก แถมต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดยังเกิดโดยผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้น Selina Juul คือชื่อของผู้หญิงคนนั้น เธอคนนี้เป็นลูกครึ่งรัสเซีย-เดนมาร์ก โดยเธอได้ย้ายมาอยู่ในเดนมาร์กเมื่อตอนอายุ 13 ปี ซึ่งเธอบอกว่าเธอตกใจมากๆ เมื่อเธอเห็นจำนวนอาหารที่ถูกทิ้งเป็นของเหลือในซุปเปอร์มาร์เก็ต     เธอเล่าว่าตอนที่เธออยู่ที่รัสเซีย อาหารเป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆ บางวันก็ไม่รู้ว่าจะมีอาหารกินหรือเปล่า แต่พอเธอย้ายมาที่เดนมาร์กเธอเห็นอาหารมีเยอะแยะไปหมดแต่ว่า อาหารเหล่านั้นพอขายไม่หมดก็จะถูกทิ้งอย่างสูญเปล่า ทำให้ในปี 2008 เธอจึงสร้างเพจเฟซบุ๊กขึ้นมาและใช้ชื่อว่า “Stop Spild Af Mad” ซึ่งวิธีที่เธอทำในการลดปริมาณเศษอาหาร เธอเริ่มต้นที่ตัว ซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นอย่างแรก และเริ่มต้นโครงการดังกล่าวที่ต้นเหตุของการทิ้งอาหารนั่นก็คือ “ซุปเปอร์มาร์เก็ต” เป็นอย่างแรก นั่นทำให้ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เธอกลายเป็นบุคคลตัวอย่างของประเทศนี้ทันที     เธอทำได้อย่างไร!? Rema 1000 เป็นที่รู้จักกันว่าเป็น ซุปเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศซึ่งมีสาขามากกว่า 283 สาขาในเดนมาร์ก โดยตอนแรกทางร้านได้ขายของแบบลดราคาเมื่อซื้อจำนวนเยอะๆ ทีนี้พอซื้อเยอะแล้วได้ลด คนก็พากันซื้อปริมาณมากเพื่อหวังส่วนลดนั้น แต่พอ Selina เข้ามารณรงค์ ทางร้านก็ยอมเปลี่ยนเป็นลดราคาชิ้นต่อชิ้นแทน แถมมันยังช่วยได้อย่างเห็นผลเลยทีเดียว   Max…

  • รวม 17 เรื่องราวเกี่ยวกับ Hugh Jackman ที่จะทำให้คุณรู้จักในตัวผู้ชายคนนี้มากขึ้น!!!

    รวม 17 เรื่องราวเกี่ยวกับ Hugh Jackman ที่จะทำให้คุณรู้จักในตัวผู้ชายคนนี้มากขึ้น!!!

    ด้วยกระแสของภาพยนตร์เรื่อง Logan ในช่วงนี้ พระเอกกล้ามโต ฮิวจ์ แจ็คแมน จึงเป็นทอคออฟเดอะทาวพอสมควรเลยทีเดียว สังเกตุเห็นได้จากหน้าเฟสบุ๊คของใครหลายๆ คนคงจะมีแต่คนพูดถึงเรื่องของเขาเต็มไปหมด แถมยิ่งใครที่ได้ไปดู Logan มาแล้วก็คงจะยิ่งสนใจในตัวเขาคนนี้มากขึ้นอย่างแน่นอน แต่นอกจากเรื่องเขาจะรับบทวูฟเวอร์รีนเป็นครั้งสุดท้ายแล้วมีอะไรที่เรายังไม่รู้เกี่ยวกับเขาอีกล่ะ? ฉะนั้นวันนี้เราเลยจะมาทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้นกับ 17 เรื่องน่ารู้ของ ฮิวจ์ แจ็คแมน   1. ชื่อเต็มๆ ของเขานั้นไม่ใช่ Logan หรือ Wolverine หรอกนะ แต่คือ Hugh Michael Jackman   2. เขาเจอกับภรรยาของเขา Deborra-Lee Furness จากการเป็นนักแสดงหน้าใหม่ร่วมกับเธอในทีวีซีรีย์เรื่อง Correlli ที่ฉายในประเทศออสเตรเรีย ปี ค.ศ. 1995   3. ถึงแม้ภรรยาของเขากับตัวเขาเองจะมีช่วงอายุที่ห่างกันหลายปีมากๆ แต่ทั้งคู่ก็ไม่ให้ปัญหานั้นมาเป็นอุปสรรค ซึ่งทั้งคู่แต่งงานกันมาแล้วนานกว่า 20 ปี   4. ทว่าทั้งสองไม่สามารถมีลูกได้เพราะ Deborra-Lee Furness แท้งลูกถึงสองครั้ง พวกเขาจึงรับเลี้ยงเด็กสองคนในระยะเวลาที่ห่างกัน ซึ่งเป็นลูกชายกับลูกสาวชื่อว่า Oscar Maximillian Jackman และ Ava Eliot Jackman  …

  • ชีวิตอันปรับตัวยาก ของ “เปาเปา” แพนด้าที่เกิดในอเมริกา แต่ต้องย้ายมาอยู่ในเมืองจีน!?

    ชีวิตอันปรับตัวยาก ของ “เปาเปา” แพนด้าที่เกิดในอเมริกา แต่ต้องย้ายมาอยู่ในเมืองจีน!?

    เป็นที่รู้กันว่าสำหรับใครที่เติบโตในสถานที่หนึ่งมาเป็นเวลานาน แต่ทว่าจู่ๆ ก็ต้องย้ายที่อยู่ไปยังสถานที่ใหม่ ภาษาใหม่ อาหารใหม่ วัฒนธรรมใหม่ๆ ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งใหม่และไม่คุ้นเคยเอาซะเลย ทำให้เรารู้สึกไม่มีความสุขกับช่วงปรับตัวเท่าไหร่นัก แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นกับเฉพาะคนหรอกนะ เพราะว่าล่าสุดมันเกิดขึ้นกับหมีแพนด้าตัวหนึ่งที่ชื่อว่า เปาเปา มันเป็นแพนด้าที่เกิดและโตที่สวนสัตว์ในวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ล่าสุดมันถูกส่งกลับไปอยู่ไปประเทศจีนตามข้อตกลงของรัฐบาลจีน และสหรัฐอเมริกา ที่ตกลงกันไว้ว่าจะต้องส่งมอบคืน เนื่องจากลูกแพนด้าที่เกิดนี้ถือเป็นสมบัติของทางจีน     เจ้าเปาเปา ถูกส่งมายังสถานีอนุรักษ์แพนด้าตูเจียงเอี้ยนในเฉิงตู และจะถูกกักบริเวณไว้ที่แห่งนี้เป็นเวลาราวๆ 1 สัปดาห์ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพที่นี้ ในช่วงนี้เจ้าเปาเปา ยังปรับตัวได้ไม่ค่อยดีนัก เพราะว่าช่วงเวลา 3 ปีที่มันโตในอเมริกา มันถูกเลี้ยงดูโดยผู้แลที่พูดภาษาอังกฤษ รวมถึงยังให้กินคุกกี้แบบอเมริกา แต่พอต้องมาอยู่ที่นี้ผู้ดูแลพูดเพียงแค่ภาษาจีนเท่านั้น แถมยังให้มันกินเป็นขนมปังข้าวโพดแทนที่จะเป็นคุกกี้     ผู้คุมบอกว่า มันไม่มีการตอบสนองอะไรกับภาษาจีนเลย สิ่งที่มันเข้าใจเพียงอย่างเดียวก็คือชื่อของมันเท่านั้น แถมอาหารที่ให้มันกินมันก็ปัดทิ้งหมดทุกอย่าง จะมีก็แต่เพียงไผ่เท่านั้นที่มันยอมกินแต่โดยดี   คลิปข่าวจาก CCTV เรื่องการปรับตัวของเจ้าเปาเปา ที่ชาวเน็ตต้องส่งใจช่วยหน่อยล่ะ!!   ยังไงซะก็คงต้องให้เวลามันสักหน่อยล่ะนะ เพื่อที่มันจะได้ปรับตัวให้เข้ากับบ้านใหม่ของมัน ที่มา shanghaiist

  • หมาชิวาว่าจรจัด กลายเป็นหมาที่ใครๆ ก็อยากเลี้ยง หลังโพสต์ท่า ¯\_(ツ)_/¯ ถ่ายรูปสุดฮา!!

    หมาชิวาว่าจรจัด กลายเป็นหมาที่ใครๆ ก็อยากเลี้ยง หลังโพสต์ท่า ¯\_(ツ)_/¯ ถ่ายรูปสุดฮา!!

    เรื่องราวที่กลายมาเป็นกระแสสุดฮาบนโลกออนไลน์ หลังจากที่มีสมาชิกเฟซบุ๊กคนหนึ่งโพสต์ภาพเจ้าหมาชิวาว่าลงบนเน็ต ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาต้องการที่จะหาใครสักคนมารับเลี้ยงสุนัขลูกครึ่งชิวาว่าสีดำ ตัวนี้ แต่ทว่าภาพที่เขาโพสเพื่อประกาศ แทนที่จะเป็นภาพน่ารักใสๆ ของเจ้าสุนัข เขากลับเลือกเป็นรูปที่มันกำลังทำท่า ¯\_(ツ)_/¯ ที่ดูแล้วมันเหมือนจะเป็นการถ่ายรูปที่ผิดพลาด แต่ดูดีๆ มันทั้งน่ารักและตลกสุดๆ จนชาวเน็ตบอกว่าเขาเลือกภาพมาใช้ได้ถูกต้องแล้วล่ะ     และแน่นอน มันกลายมาเป็นกระแสที่คนแชร์ต่อกันอย่างมาก เพราะถ้าใครเห็นภาพนี้ของมันแล้ว ก็คงจะยากที่จะไม่ตกหลุมรักมันอย่างแน่นอน จากเจ้าหมาจรจัดที่ไม่มีใครต้องการ มันกลายมาเป็นดาราบนโลกออนไลน์ มีใครต่อใครพากันแชร์ภาพมัน และหลายคนอยากจะรับเลี้ยงมันขึ้นมาทันที นอกจากภาพนี้แล้ว มันยังมีภาพมุมมองปกติที่น่ารักๆ ด้วยนะ…   ในมุมมองปกติมันก็ดูน่ารักดีนะ   แถมยังดูขี้เล่นอีกตะหาก   ดูๆ แล้วมันก็มีความสุขมากๆ เลยนะเนี่ย .   เห็นความน่ารักของมันกันขนาดนี้แล้ว จะมีใครใจดีมารับมันไปเลี้ยงบ้างไหมนะ!? ที่มา boredpanda

  • เหล่านักแสดงจาก Twilight เปลี่ยนไปแค่ไหนจาก “ภาคแรก vs ภาคสุดท้าย vs ปัจจุบัน”

    เหล่านักแสดงจาก Twilight เปลี่ยนไปแค่ไหนจาก “ภาคแรก vs ภาคสุดท้าย vs ปัจจุบัน”

    เป็นเวลากว่า 9 ปีแล้วที่หนังสุดฮอตฮิตอย่าง Twilight ภาคแรกออกฉายในปี 2008 ซึ่งสร้างความชื่นชอบและมีบรรดาแฟนคลับติดตามเป็นแฟนของภาพยนตร์กับหนังสืออย่างล้นหลาม และเป็นเวลา 5 ปีนับจากภาคสุดท้าย The Twilight Saga: Breaking Dawn Part 2 ในปี 2012  แต่ทว่าเหล่านักแสดงภายในเรื่องก็ยังคงอยู่ แน่นอนว่าพวกเขาก็มีอายุที่มากขึ้นเช่นกัน เราเลยจะย้อนกลับไปดูว่าทุกวันนี้นักแสดงจากทั้ง “ภาคแรก vs ภาคสุดท้าย vs ปัจจุบัน” พวกเขาจะเปลี่ยนไปแค่ไหนบ้าง…   Kristen Stewart รับบทเป็น Bella Swan   Robert Pattinson รับบทเป็น Edward Cullen   Taylor Lautner รับบทเป็น Jacob Black   Anna Kendrick รับบทเป็น Jessica Stanley   Billy Burke รับบทเป็น Charlie Swan…

  • “เจ้าหมาผู้โดดเดี่ยว” ในสถานรับเลี้ยง ดีใจเมื่อรู้ว่ามันกับ “ตุ๊กตาช้างแสนรัก” ได้ไปบ้านใหม่!!

    “เจ้าหมาผู้โดดเดี่ยว” ในสถานรับเลี้ยง ดีใจเมื่อรู้ว่ามันกับ “ตุ๊กตาช้างแสนรัก” ได้ไปบ้านใหม่!!

    เจ้า Smokey สุนัขวัย 5 ขวบ ที่ถูกเลี้ยงมาโดยเจ้าของคนเดียวมาตลอด แต่ทว่าแล้ววันหนึ่งเจ้าของเก่าของมัน จำใจจะต้องทิ้งมันไว้ที่สถานพักพิง เพราะว่าเขาต้องสูญเสียบ้านของตัวเองไป ซึ่งสาเหตุไม่ทราบแน่ชัด อาจจะเป็นปัญหาทางเงินก็เป็นได้ มันถูกนำมาทิ้งไว้ในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา พร้อมกับตุ๊กตาช้างสีเทา ของเล่นโปรดของมัน ซึ่งนับตั้งแต่วันนั้นมันก็เศร้ามาตลอด เหมือนกับสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป ทางสถานดูแลก็เลยลองให้มันอยู่กับตุ๊กตาที่มันถูกทิ้งมาด้วย กลายเป็นว่ามันมีความสุขขึ้นยามที่ได้เล่นตุ๊กตา แต่ก็ไม่ใช่แววตาของสุนัขที่มีความสุขอย่างเต็มเปี่ยม     แต่ทว่ามันก็ยังคงต้องการบ้านและครอบครัวใหม่อยู่ดี ทางศูนย์จึงประกาศที่จะหาบ้านใหม่ให้กับมัน โดยบรรยายถึงลักษณะนิสัยของมันโดยรวม และแน่นอนพวกเขายังกำชับด้วยว่า อย่าลืมที่จะพาตุ๊กตาช้างเพื่อนรักของมันไปด้วย ตามประกาศคร่าวๆ นั้น พวกเขาระบุว่า “เจ้า Smokey มีนิสัยที่น่ารักและขี้อาย ตอนแรกมันอาจจะขี้กลัวหน่อยๆ แต่ถ้าให้เวลามันสักนิดมันจะน่ารักมากๆ เลยล่ะ มันชอบที่จะวิ่งไปมาพร้อมกับไล่ของเล่น แน่นอนว่ามันจะกลายเป็นเพื่อนที่ดีเลยล่ะ ถ้าคุณโยนของเล่นให้มัน ถ้าเป็นไปได้เราอยากจะให้มันได้มีเพื่อนสักตัว น่าจะช่วยมันได้เยอะเลยล่ะ”     หลังจากที่ข่าวของมันถูกเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชี่ยลได้ไม่นานนัก ก็มีอาสาสมัครสองคนจาก  Have A Dream Rescue Organization มาเจอกับมันเข้าที่ศูนย์พักแห่งนี้ พวกเขาตกหลุมรักเจ้า Smokey เข้าทันทีหลังจากที่เห็น พวกเขาได้ยื่นมือเข้ามาช่วยมัน เพื่อที่มันจะสามารถหาครอบครัวจริงๆ ได้สักที แต่ทว่าทาง…

  • 10 ฉากดวลไลท์เซเบอร์ในตำนาน Star Wars ที่ยังตราตรึงใจแฟนๆ มาถึงทุกวันนี้

    10 ฉากดวลไลท์เซเบอร์ในตำนาน Star Wars ที่ยังตราตรึงใจแฟนๆ มาถึงทุกวันนี้

    เชื่อว่าถ้าพูดถึง Star Wars จะต้องมีน้อยคนแน่ๆ ที่ไม่รู้จักสุดยอดมหากาพย์ล่าล้างจักรวาลเรื่องนี้ และถ้าให้พูดถึงจุดเด่นของซีรีย์นี้ ก็คงจะหนีไปพ้น ดาบไลท์เซเบอร์ อย่างแน่นอน และแน่นอนว่าจุดเด่นของภาพยนตร์ก็ไม่ใช่ฉากดวลปืน แต่คือการดวลไลท์เซเบอร์สุดมันของยอดนักรบต่างหาก วันนี้เราเลยจะมาย้อนดู 10 ฉากการต่อสู้ควรค่าแก่การจดจำ ว่าฉากไหนนะ ที่จะเป็นฉากในตำนานที่สุด…   10. Obi-Wan Kenobi vs General Grievous ในภาค Revenge of the Sith   ฉากที่ Obi-wan จะต้องสู้กับนายพล Grievous ผู้มาพร้อมกับไลท์เซเบอร์ 4 อัน ซึ่งฉากนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของตัวเขาในเรื่องของการดวลดาบได้เป็นอย่างดี (หรือว่าจริงๆ เจ้า Grievous นี้มันอ่อนกันแน่)     9. Obi-Wan vs Darth Vader จากภาค New Hope   แมทช์ล้างตาของศิษย์และอาจารย์ ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันมานานเกี่ยวกับการที่อยู่ดีๆ Obi-Wan ก็หายวับไปกับตา ด้วยเทคโนโลยีในสมัยนั้นจัดว่ามันเจ๋งมากๆ แต่ทว่าฉากนี้กลับเป็นฉากที่แฟนๆ บอกว่าเป็นหนึ่งในฉากต่อสู้ที่แย่ที่สุดฉากหนึ่งใน…

  • พ่อบ้านเล่าประสบการณ์ “พาเมียไปช็อปปิ้ง” ถึงเลวร้ายขนาดไหน แต่ก็รักเหมือนเดิมนะจุ๊บๆ

    พ่อบ้านเล่าประสบการณ์ “พาเมียไปช็อปปิ้ง” ถึงเลวร้ายขนาดไหน แต่ก็รักเหมือนเดิมนะจุ๊บๆ

    เหล่าพ่อบ้านทั้งหลายน่าจะเคยสัมผัสประสบการณ์ “การไปช็อปปิ้งกับแฟนสาว” ทั้งการเลือกเสื้อผ้าหรือเครื่องสำอาง ก็ตามที มีเรื่องเล่ากันว่า พวกเธอล้วนใช้เวลาที่นานมากๆ ในการเลือกดู ซึ่งพ่อบ้านอย่างเราๆ ก็คงไม่มีสิทธิที่จะต่อรองอะไรได้เลยนอกจากการนั่งรอ จนทำให้หลายๆ คนเบื่อนั่นเอง ชายคนนี้ก็เช่นกัน เขาเป็นคนที่ชื่นชอบจะอยู่กับบ้าน และไม่ชอบจะออกไปไหนโดยเฉพาะการออกไปเลือกซื้อเฟอนิเจอร์ แต่ทว่าโชคชะตาก็เล่นตลกกับเขา เมื่อแฟนสาวออกปากว่าจะไป IKEA เพื่อช็อปปิ้งของแต่งบ้านสักหน่อย และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการเดินทางในครั้งนี้   “เรามาที่นี่ ทั้งๆ ที่อพาร์ทเม้นเราก็ตกแต่งเสร็จหมดแล้วแท้ๆ ผมไม่รู้ว่าทำไมจะต้องกลับมาที่นี่อีก”   “พวกเราเริ่มด้วยการแวะกินข้าวกันก่อน”   “ผมเผลอทำซอสหกใส่กางเกงซะงั้น ถามป้าในเฟซบุ๊คก็บอกว่าให้เอาน้ำร้อนทำความสะอาด มันจะออกได้ง่าย แต่ต้องห้ามลืมถอดกางเกงก่อนนะ ไม่งั้นลวกไข่แน่ๆ”   “หลังจากที่ผมกินข้าวเสร็จ ผมก็มาเจอที่ฝากของตรงนี้ ผมก็เลยฝากของกินที่พึ่งซื้อมาไว้ตรงนี้ซะเลย”   “ผมบอกเธอว่า ‘ที่รัก เราไม่มีเด็กเยอะขนาดที่จะซื้อตู้นี้ไปหรอกนะ’ แต่เธอก็ตอบกลับมาว่า ‘อืม ไม่แน่เราอาจจะมีลูกสัก 8 คน’ โชคดีที่เรายังไม่มีลูก เราเลยผ่านไป”   “เดินมาถึงแผนกขายเชิงเทียน อืมม ผมว่าพวกเรามีเทียนเยอะแยะเลยนะ แต่มันก็ยังน่าสนใจอยู่ดี”   “เธอถามถึงเครื่องครัวของเรา ผมก็บอกเธอว่าเราไม่มีที่ว่างมากพอจะเก็บหรอก…

  • 12 เรื่องที่เราเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “ร่างกาย” เรามาโดยตลอด จะได้เข้าใจใหม่อย่างถูกต้อง!!

    12 เรื่องที่เราเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “ร่างกาย” เรามาโดยตลอด จะได้เข้าใจใหม่อย่างถูกต้อง!!

    ทุกวันนี้มีข้อมูลข่าวสารมากมายบนโลกใบนี้ที่เราสามารถเลือกจะเสพรับเข้ามาในสมองเราได้ แต่ทว่าข้อมูลทั้งหมดก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็นความจริง เป็นข้อมูลปลอมๆ หรือแม้แต่ข้อมูลที่เป็นเพียงความเชื่อที่ยังไมไ่ด้รับการพิสูจน์ก็ตาม ซึ่งทางเว็บไซต์ Brightside เลยทำภาพ 12 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับร่างกายของเรา ที่เราเชื่อกันแบบนั้นมาตลอดแต่จริงๆ แล้วมันคือข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิด ฉะนั้นมาดูกันเลยว่าจริงๆ แล้วข้อมูลที่ถูกต้องมันคืออะไรกันแน่   ความเชื่อ: เซลล์สมอง หยุดพัฒนาเมื่อโตขึ้น ความจริง: ส่วนเซลล์ประสาทจะยังคงพัฒนา ไปทั้งชีวิตของเราจนกว่าเราจะตายไป   ความเชื่อ: ตาของคนเราจะสึกหรอ ถ้าเราอ่านหนังสือในที่มืด หรือจ้องจอคอมพิวเตอร์นานๆ ความจริง: ตาของเราจะแค่ล้าไปเท่านั้น เช่นเดียวกับอวัยวะอื่นๆ ที่ใช้งานหนักก็เกิดความเหนื่อยอ่อน พอเราหลับและตื่น ตาก็จะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม   ความเชื่อ: เราสามารถรักษาปัญหาผมแตกปลายได้ด้วย แชมพู หรือ ครีมนวดต่างๆ ความจริง: เราสามารถรักษามันได้ด้วยวิธีการตัดเท่านั้น ส่วนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผมแตกปลาย   ความเชื่อ: คนเรามีประสาทการรับรู้แค่ 5 อย่างเท่านั้น การเห็น การได้ยิน การกิน การฟัง และการสัมผัส ความจริง: แต่จริงๆ แล้วเรามีประสาทการรับรู้มากถึง…

  • และนี่คือ 27 สุดยอดการ “คอสเพลย์” แบบโคตรเจ๋งจากทั่วโลก ในรอบปีที่ผ่านมา!!

    และนี่คือ 27 สุดยอดการ “คอสเพลย์” แบบโคตรเจ๋งจากทั่วโลก ในรอบปีที่ผ่านมา!!

    ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ โลกของคอสเพยล์ก็เริ่มจะมีคุณภาพของงานที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคุณภาพ รายละเอียด รวมถึงเอฟเฟกพิเศษที่ใส่มา สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างความตื่นตาตื่นใจขึ้นทุกๆ ปีเลยทีเดียว วันนี้เราเลยจะมาดู 27 ภาพการคอสเพลย์แห่งปี 2016 ที่ถูกรวบรวมโดยเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Kotaku กันว่าในรอบปีที่ผ่านมาทางต่างประเทศเขามีคอสเพยล์เจ๋งๆ อะไรกันบ้างนะ ต้องยอมรับว่า 2016 เป็นปีของ Overwatch และ The Witcher 3 จริงๆ นั่นก็คงจะช่วยไม่ได้ถ้าภาพในเซตนี้จะหนักไปทางสองเกมที่กล่าวถึงสักหน่อย เอาเป็นว่ามาดูกันเลยดีกว่า   Widow Maker จาก Overwatch   ร่างต่างๆ ของ Evee จาก Pokemon ในแบบฉบับนักรบหญิง   Luke Skywalker จาก Star Wars: Episode VII   Virus G จาก Resident evil   Samus ตัวเอกจาก Metroid  …

  • พ่อพระแมวแห่งอเลปโป กลับมาฟื้นชีพ “สถานสงเคราะห์แมว” ที่ถูกทำลายจากสงครามซีเรีย

    พ่อพระแมวแห่งอเลปโป กลับมาฟื้นชีพ “สถานสงเคราะห์แมว” ที่ถูกทำลายจากสงครามซีเรีย

    เป็นเวลาหลายปีที่สถานสงเคราะห์แมวจรจัดแห่งนี้ ให้ความหวังและความสุขแก่ชาวแมวเหมียวแห่งเมืองอเล็ปโป ประเทศซีเรีย แต่อยู่ดีๆ วันหนึ่งผลพวงของสงครามก็เกิดขึ้น และสถานที่แห่งนี้ก็ถูกลูกหลงของระเบิด ทำให้ทุกคนต่างสิ้นหวังและคิดว่ามันเป็นไปได้ยากที่จะฟื้นฟูที่แห่งนี้กลับมา   .   ที่ลี้ภัยแมวแห่งนี้เริ่มต้นโดยชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า Mohammad Alaa Jaleel เขาก่อตั้งมันขึ้นในปี 2012 โดยในตอนแรกก่อนที่มันจะเป็นที่ลี้ภัย เขาช่วยเหลือและเลี้ยงแมวจรจัดไว้เพียง 20 ตัวเท่านั้น เวลาผ่านไปไม่กี่ปีจำนวนแมวก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 ตัว ทำให้เขาเริ่มสร้างลี้ภัยนี้ขึ้นนั่นเอง     ที่ลี้ภัยแห่งนี้รู้จักกันในชื่อว่า House of Cats Ernesto ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับแมวของเขา เขาพยามปกป้องและดูแลที่แห่งนี้เป็นอย่างดีพร้อมกับบอกว่า “ผมจะปกป้องที่แห่งนี้ ทุกคนออกจากประเทศไป รวมถึงเพื่อนของผมด้วย แมวพวกนี้ก็เลยกลายเป็นเพื่อนรักของผม”     แต่ทว่าเมื่อสงครามเกิดขึ้นและขยายวงกว้างมาจนถึงเมืองนี้ ที่ลี้ภัยแห่งนี้ก็โดนลูกหลงไปด้วย แน่นอนว่าเขาคนนี้ก็อยู่เพื่อช่วยเหลือเจ้าเหมียวในที่ลี้ภัยจนวินาทีสุดท้าย แต่สุดท้ายเขาก็จำเป็นจะต้องไปอยู่กับครอบครัวของเขาที่ประเทศตุรกีเพื่อหนีภัยสงครามที่เกิดขึ้น พร้อมกับแมวของเขา Ernesto     แต่เขาไม่ได้จะกลับมาอยู่กับครอบครัวถาวรหรอกนะ เขาแค่ลี้ภัยเพื่อเอาชีวิตรอดเท่านั้น ซึ่งเขาได้วางแผนที่จะฟื้นฟูสถานลี้ภัยแห่งนั้นกลับมาอีกครั้ง ด้วยการช่วยเหลือจากคนทั่วโลกที่ติดตามเขา ยังจำได้ไหมว่าเราเคยนำเสนอเรื่องของเขาไปในบทความ Aljaleel ผู้คอยช่วยเหลือแมวนับร้อย ที่ถูกทิ้งในเมือง Aleppo ของซีเรีย หลังเกิดสงคราม..!!  เขาก็คือคนเดียวกันนี่แหละ…    …

  • ทารกน้อยกำมือฝาแฝดป่วยหนัก เคียงข้างคอยดูแลตั้งแต่เกิดจนโต ไม่ทิ้งกันไปไหน…

    ทารกน้อยกำมือฝาแฝดป่วยหนัก เคียงข้างคอยดูแลตั้งแต่เกิดจนโต ไม่ทิ้งกันไปไหน…

    เรื่องราวสุดซาบซึ้งของเด็กแฝดคู่หนึ่ง ที่ตอนเกิดออกมาคนหนึ่งป่วยรางกายไม่ปกติ แต่อีกคนกลับมีสุขภาพที่แข็งแรงดี ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ไม่ทิ้งกันไปไหน ด้วยสายสัมพันธ์ของพี่น้องแน่นแฟ้นตั้งแต่แรกคลอด นี่คือเรื่องราวของ Cooper Keen  และ Lucas Keen สองพี่น้องที่เกิดมามีร่างกายไม่เหมือนกัน… ทางฝ่าย Lucas เป็นเด็กชายที่เกิดมาปกติสมบูรณ์ดีทุกอย่าง แต่ทว่า Cooper กลับเกิดมาพร้อมกับอาการเลือดออกในสมองและมีกลูโคสที่ต่ำ ทางทีมแพทย์จึงต้องรีบช่วยเหลือทันที     พ่อแม่ของทั้งคู่ Owen Keen และ Kerrie Keen พวกเขาต่างเป็นวิตกกังวล และเป็นห่วงลูกของพวกเขา กลัวว่าเขาจะไม่รอด แต่ทว่าปฏิปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น Cooper น้อยสามารถรอดชีวิตมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ภาพที่พวกเขาเจอก็คือทารกน้อยอีกคน Lucas จับมือของ Cooper ไว้แน่นไม่ปล่อยไปไหนเลย หรือว่า Cooper จะสัมผัสได้ถึงกำลังใจจากฝาแฝดของเขา!?     หลังจากนั้นเวลาผ่านไปอาการของ Cooper ก็ดีขึ้นเป็นระยะๆ แต่ทว่าตอนย่างเข้าช่วงเดือนที่ 7 ก็มีข่าวร้ายเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเขามีภาวะน้ำคั่งในโพรงสมองและป่วยเป็นโรคสมองพิการ     Cooper นั้นไม่สามารถที่จะเดินได้ด้วยตัวเอง ซึ่งแม่ของเขาก็ได้บอกว่า เขาเรียนรู้ที่จะเคลื่อนที่ได้ด้วยการกลิ้ง จนตอนนี้เขาอายุได้ 3 ขวบ แล้ว…

  • เด็กน้อยป่วย “เนื้องอกในสมอง” อุทิศวันเกิดตัวเอง เพื่อช่วยเหลือสัตว์ในสถานรับเลี้ยง…

    เด็กน้อยป่วย “เนื้องอกในสมอง” อุทิศวันเกิดตัวเอง เพื่อช่วยเหลือสัตว์ในสถานรับเลี้ยง…

    นี่คือหนูน้อย Bryce Hill เด็กตัวเล็กที่ใจไม่เล็ก…   เมื่อปีที่แล้ว หนูน้อยถูกวินิจฉัยว่ามีเนื้องอกในสมอง ซึ่งพบได้ยากมากๆ สำหรับเด็กอายุแค่นี้ อาจเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่ Bryce ก็ต่อสู้กับมันมาจนถึงตอนนี้ แม้ว่าจะต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้งก็ตาม ตอนนี้หนูน้อยต้องต่อสู้กับโรคร้าย แต่ก็ไม่ลืมที่จะเป็นผู้ให้ โดยเฉพาะคนที่ต้องการความช่วยเหลือ     Bryce อายุครบ 6 ขวบเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เขาได้จัดงานปาร์ตี้เล็กๆ กับครอบครัวพร้อมเพื่อนๆ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาทำแตกต่างออกไป แทนที่เขาจะอยากได้ของขวัญ หนูน้อยกลับอยากให้แขกที่มาร่วมงานช่วยกันบริจาคของให้กับสถานรับเลี้ยงสัตว์ที่อยู่ในละแวกบ้าน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวดีๆ เพราะเดือนที่แล้ว Bryce ได้ไปเยี่ยมสถานรับเลี้ยง Illinois Valley Animal Rescue (IVAR) แล้วมอบของเล่นและอาหารให้กับสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ     คุณแม่ Gina Panther เล่าว่าเธอภูมิใจในตัวลูกเป็นอย่างมาก และยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ทางสถานรับเลี้ยงยังให้หนูน้อยได้เป็นอาสาสมัครกิตติมศักดิ์ พร้อมกับได้เล่นกับเหล่าสัตว์ที่อยู่ที่นั่นด้วย     ในตอนนี้หนูน้อยก็ยังต้องเข้ารับการรักษาอย่างสม่ำเสมอที่โรงพยาบาล พร้อมทั้งยังได้เป็นอาสาสมัครที่มีโอกาสได้เข้าถึงสัตว์ในสถานรับเลี้ยงนี้อีกด้วย นอกจากนี้หนูน้อยยังได้รับหมาน้อยกลับบ้านมาเป็นเพื่อนแก้เหงา คอยดูแลซึ่งกันและกัน นี่อาจจะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับเขาเลยก็ได้     ถือเป็นเรื่องราวที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก เด็กตัวแค่นี้ แต่มีความคิดที่เอื้อเฟื้อแก่ผู้อื่น…

  • ผู้ตรวจช็อค!! พบสวนสัตว์แห่งหนึ่งในอังกฤษ มีสัตว์ป่าตายเกือบ 500 ตัว ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา

    ผู้ตรวจช็อค!! พบสวนสัตว์แห่งหนึ่งในอังกฤษ มีสัตว์ป่าตายเกือบ 500 ตัว ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา

    ยังเป็นข้อถกเถียงมาจนถึงปัจจุบันว่าสวนสัตว์นั้นเป็นสิ่งสถานที่ที่เหมาะสมหรือเปล่าสำหรับการเอาสัตว์ป่ามาอาศัยอยู่ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลของเจ้าหน้าที่และสวนสัตว์ว่าจะให้ความอบอุ่นกับสัตว์มากแค่ไหน แต่จากข่าวที่ผ่านมาเราก็คงเห็นบ่อยครั้งว่าสวนสัตว์หลายที่ปล่อยปะละเลยจนบางตัวก็ผอม บางตัวก็ดูเหมือนมีอาการหวาดกลัวคนหรือซึมเศร้า   .   แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์น่าเศร้าขึ้นเมื่อได้มีผู้ตรวจการจาก Captive Animals’ Protection Society (CAPS) ได้ไปเยี่ยมสวนสัตว์ South Lakes Safari Zoo หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Cumbria Zoo ในประเทศอังกฤษเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ก็ได้เจอภาพอันน่าสลด Madeline Taylor เจ้าหน้าที่จาก CAPS เล่าว่าเธอได้เห็นภาพของจิงโจ้ที่นอนในสภาพผอมซูบ หรือแม้กระทั่งตัวพังพอนที่เป็นโรคผิวหนังก็ถูกละเลยจนแทบไม่เหลือขนติดตัว   .   นอกจากนี้เธอยังพบกับอีกหลากหลายปัญหา เช่นย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ได้มีสัตว์ตายมากมายด้วยโรคขนาดสารอาหาร มีภาวะตัวเย็นเกิน หรือไม่ก็มีบาดแผลตามตัว ซึ่งถ้านับแล้วภายในเวลา 4 ปีที่ผ่านมา มีสัตว์ตายกว่า 486 ตัวแล้ว     นอกจากนี้เธอยังไปเจอกับกลุ่มเพนกวิ้นที่กำลังเกาะกลุ่มกันในบ่อที่น้ำแห้ง และตอนนั้นก็เป็นฤดูร้อนด้วย ซึ่งไม่ใช่ธรรมชาติของเพนกวิ้นที่ต้องอยู่แบบนี้   .   เธอมองเห็นว่าสวนสัตว์แห่งนี้ดูแลสัตว์ได้ไม่ดีพอ ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเคยได้รับแจ้งมาแล้วเกี่ยวกับการดูแลสุภาพและความปลอดภัยของ South Lakes Safari Zoo นอกจากนี้ในปี 2013…

  • นักเรียนจีนงง!! เมื่อค้นพบว่าครูหนุ่มเป็นนัก “คอสเพลย์” แถมแต่งเป็นผู้หญิงด้วย

    นักเรียนจีนงง!! เมื่อค้นพบว่าครูหนุ่มเป็นนัก “คอสเพลย์” แถมแต่งเป็นผู้หญิงด้วย

    เราคงจะเคยเห็นการคอสเพลย์มานักต่อนักแล้ว การคอสเพลย์สมัยนี้ไม่จำเป็นต้องแบ่งแยกเพศอีกต่อไป ผู้หญิงบางคนก็สามารถคอสเป็นผู้ชายได้ และผู้ชายบางคนก็สามารถคอสเป็นผู้หญิงได้ด้วยเช่นกัน คอสเพลย์เหมือนเป็นงานอดิเรกที่คนกลุ่มหนึ่งนิยมกัน และคนทั่วไปก็ไม่สามารถเดาได้เลยว่ามีใครที่เคยแต่งชุดคอสเพลย์มาบ้าง เพราะว่าภาพตอนแต่งนั้นจำแทบไม่ได้เลย เหมือนอย่างคุณครูชาวจีนท่านนี้ในนามแฝง Crome Moe จากเมืองกวางตุ้ง เขาทำให้ห้องเรียนลุกเป็นไฟ หลังจากที่นักเรียนได้ค้นพบอีกตัวตนหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณครู   เหตุการณ์เริ่มจากมีนักเรียนคนหนึ่งทักครูไป พร้อมกับส่งภาพนักคอสเพลย์สาวคนหนึ่งที่ถูกสงสัยว่าเป็นครู   แต่แล้วเหตุการณ์ก็ถูกเปิดเผย เมื่อค้นไปค้นมาก็พบว่าครูก็คือคนที่อยู่ในภาพจริงๆ แถมไม่ใช่แค่ภาพนี้ภาพเดียวด้วย   ครูยังคอสเพลย์เป็นอีกหลากหลายตัวละครจากหลายๆ เรื่อง ไปดูกันว่าแต่ละชุดนั้นจะน่ารักแค่ไหน   The Guild Sweetheart จาก Monster Hunter .   Hanayo Koizumi จาก Love Live!   Rikka Takanashi จาก Chuunibyou demo Koi ga Shitai! . . .   Riko Aida จาก Kuroko no Basuke . .…

  • Nintendo เคลือบสาร “ขมที่สุดในโลก” ลงบนแผ่นเกม คนแห่ลองชิมเพียบ ว่าจะแค่ไหนกัน!!?

    Nintendo เคลือบสาร “ขมที่สุดในโลก” ลงบนแผ่นเกม คนแห่ลองชิมเพียบ ว่าจะแค่ไหนกัน!!?

    เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมานินเดนโด้ก็ได้ปล่อยเครื่องตัวใหม่ Nintendo Switch ออกมาให้ได้สัมผัสกันเป็นที่เรียบร้อย แน่นอนว่ากระแสตอบรับของเจ้าเครื่องนี้ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเลยล่ะ ไม่ว่าจะทั้งแง่จำนวนที่ขายได้ และรีวิวที่ได้รับจากสื่อสำนักต่างๆ แต่ทว่ามันกลับมีเรื่องแปลกๆ อยู่เรื่องหนึ่งคือ รสชาติของตลับเกมของเจ้าเครื่องนี้มันแย่สุดๆ เลยล่ะ อ่านกันมาถึงตรงนี้คงจะสงสัยว่า “บ้า!! แล้วจะไปกินตลับเกมทำไมกันเล่า!?” เรื่องนี้มันเริ่มมาจากที่นินเทนโด้ได้บอกว่าตลับเกมของเครื่อง Nintendo Switch มีขนาดที่เล็กถ้าไม่ระวังให้ดีเด็กๆ อาจจะเผลอเอาเข้าปากแล้วกลืนลงไปได้     นินเทนโด้เลยแก้ปัญหาโดยให้มันจะมีรสชาติที่แย่สุดๆ โดยเคลือบสารที่มีชื่อว่า Denatonium Benzoate ซึ่งพวกเขาระบุว่ามันเป็นสารที่มีรสชาติขมที่สุดที่มนุษยชาติรู้จักเลยทีเดียว แต่แน่นอนว่าถ้าพูดกันถึงขนาดนี้เหล่ามนุษยชาติมีเหรอที่จะไม่อยากรู้อยากลอง สื่อดังหลายสำนักอย่าง Kotaku หรือ IGN ก็ได้ออกมาอัดคลิปทดลองชิมเจ้าตลับ Nintendo Switch กันยกใหญ่เลยทีเดียว   เริ่มกันที่ Kotaku กันก่อนเลย Mike Fahey จาก Kotaku ก็เป็นหนึ่งคนที่เกิดความสงสัยว่า เฮ้ย ตลับเกมเนี่ยมันมีรสชาติที่แตกต่างกันจริงๆ อย่างงั้นเหรอ เขาก็เลยลองไปหาตลับเกมจากเครื่องเกมหลายๆ อัน ปรากฏว่าจะมีของเครื่อง Super Nintendo ที่รสชาติจะออกขมๆ หน่อยซึ่งเขาเดาว่าตลับเกมของเจ้า Nintendo Switch มันก็น่าจะคล้ายๆ กันแต่โหดกว่า   แต่ก็มีเสียงตอบรับจากคลิปพี่แกว่า…

  • รู้จัก 10 สาวหมวยสวยเอ็กซ์ จาก “มาส์กไรเดอร์” ที่จะมาทำให้คุณแฮ่กๆ ไปด้วยกัน

    รู้จัก 10 สาวหมวยสวยเอ็กซ์ จาก “มาส์กไรเดอร์” ที่จะมาทำให้คุณแฮ่กๆ ไปด้วยกัน

    สำหรับใครที่ชื่นชอบดูซีรีย์มาสก์ไรเดอร์ต่างๆ ก็มักจะชื่นชอบในตัวไรเดอร์ หรือนักแสดงหลักที่มีความหล่อ ความเท่แตกต่างกันไป แต่ #เหมียวมู่ทู่ ก็เชื่อว่าจะต้องมีเหล่าชายวัยกลัดมันทั้งหลายจะไม่พลาดเป็นแฟนของสาวๆ ในเรื่องเพราะพวกเธอทั้งสวยและแซ่บสุดๆ จนเด่นไม่แพ้กับพวกไรเดอร์เลยล่ะ วันนี้เราเลยจะมาดูกันว่าสาวๆ ในซีรีย์มาสก์ไรเดอร์แต่ละเรื่องจะแจ่มขนาดไหนกันนะ ฉะนั้นอย่ารอช้ากันเลย!!   1. Matsumoto Wakana พี่สาวสุดสวยจาก “มาสก์ไรเดอร์ เดนโอ” ที่มีรอยยิ้มพิมใจ จนทำเอาหลายคนต้องตกหลุมรัก .   2. Miwako Kakei สาวตัวประกอบจาก มาสก์ไรเดอร์ไดร์ฟภาคหนังโรง ซึ่งถึงแม้เธอจะเป็นแค่ตัวประกอบ แต่โดดเด่นและน่าจดจำอย่างไม่น่าเชื่อ .   3. Yuria Haga สาวสวยน่ากลมจาก มาสก์ไรเดอร์ไฟซ์ ที่สวยแซ่บสุดๆ แถมเธอยังมีผลงานแสดงหนังเรท R ด้วยนะ แต่จะเป็นเรื่องอะไรนั้นคงต้องหาวาร์ปกันเอาเอง .   4. Rio Uchida ตำรวจสาวสวยและนางเอกจาก มาสก์ไรเดอร์ไดร์ฟ  โดยตัวเธอเริ่มเข้าวงการตอนช่วงปี 2010 แต่ด้วยความน่ารักปนเซ็กซี่เล็กๆ ทำให้เธอได้มารับบทดาวเด่นในเรื่อง . .   5. Fumika Baba เธอคนนี้รับบทเป็นตัวร้ายที่ชื่อว่า Medic…

  • รวม 14 ภาพโฟโต้บอมบ์โดย “เจ้าตูบ” จิตใจพวกเอ็งทำด้วยอะไร โหดร้ายมาก!!

    รวม 14 ภาพโฟโต้บอมบ์โดย “เจ้าตูบ” จิตใจพวกเอ็งทำด้วยอะไร โหดร้ายมาก!!

    เป็นที่รู้กันดีว่าสุนัขเป็นสัตว์ที่ทั้งซื่อสัตย์และเป็นมิตรกับมนุษย์มากๆ แต่ทว่าพวกมันกลับมีปัญหาใหญ่หลวงอยู่ข้อหนึ่ง นั่นก็คือพวกมันชอบปล่อยอุนจิ หรือที่เราเรียกว่า ขี้ บ่อยมาก และด้วยเรื่องการขี้ของพวกมันจึงทำให้เกิดเรื่องฮาๆ นี้ขึ้นมา เพราะไม่ว่าเมื่อไรที่มนุษย์จะถ่ายภาพ ดูเหมือนพวกมันจะรู้จักการเข้ามาก่อกวนได้ตลอด จนเกิดเป็นการโฟโต้บอมบ์เหล่านี้ขึ้นมา ฉะนั้นเราเลยจะมาดู 14 ภาพที่ถูกโฟโต้บอมบ์จากเจ้าสุนัขทั้งหลาย   แทนที่เราจะไปโฟกัสที่คนทั้งสาม กลายเป็นว่าโดนแย่งซีนไปหน้าตาเฉย   แทนที่จะได้โฟกัสหุ่นของผู้หญิงในรูป   จะถ่ายภาพของลูกๆ เจอแย่งซีนกันไปง่ายๆ เลย   หมดกันความโรแมนติก   แทนที่จะได้ภาพความทรงจำดีๆ ของเพื่อนรัก ต้องมาจบลงเพราะเจ้าหมา   หมดกันความทรงจำวัยเด็ก!!   แม้แต่จะแสดงความรักกับเจ้าตูบของตัวเอง เจ้าตัวอื่นก็ยังมาทำลายมันได้ลง   กระทั่งภาพถ่ายครอบครัว มันก็ยังไม่เว้น   Kelley นี้คือเจ้าหมาที่กำลังขี้อยู่ใช่ไหม   แถมบางครั้ง กล้องถ่ายรูปเหมือนจะรู้งาน ไปโฟกัสมันแทนซะอีก   พังไม่เป็นชิ้นดี กับภาพความประทับใจของเหล่าเพื่อนฝูง   บอมบ์แบบระยะเผาขน   รูปนี้ดูเหมือนพ่อหนุ่มจะตั้งใจให้บอมบ์มากกว่านะ ขี้บนหัวเลยทีเดียว   แม้แต่หมาก็ยังโฟโต้บอมบ์กันเอง   จะโฟโต้บอมบ์แบบนี้ได้ใจต้องหมาพอสมควรเลยนะเนี่ย……

  • 13 ภาพ “หน้าจัดเต็ม vs หน้าสด” ของเหล่าผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส ที่บ่งบอกความงามของพวกเธอ

    13 ภาพ “หน้าจัดเต็ม vs หน้าสด” ของเหล่าผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส ที่บ่งบอกความงามของพวกเธอ

    ทุกๆ ปีที่มีการประกวดมิสยูนิเวิร์สเราก็จะมีเหล่าสาวงามจากทั่วโลกเข้าร่วมประกวดกันเต็มไปหมด ซึ่งแต่ละคนก็จัดเต็มในเสื้อผ้าหน้าผมกันสุดๆ แน่นอนว่าพวกเธอก็สวยมากๆ เช่นกัน แต่ทว่าพวกเราเคยสงสัยกันไหมว่าในใบหน้าที่จัดเต็มของพวกเธอ ภายใต้นั้นถ้าเราลบเครื่องสำอางออกจะเป็นยังไงกัน พวกเธอจะยังคงสวยเหมือนเดิมไหมน่ะ!? วันนี้เราเลยมีคำตอบนั้นมาให้ทุกคนได้ดูกัน   Rebecca Rath อายุ 23 ปี  ประเทศเบลีซ ก่อนเข้าประกวดเธอทำงานเป็นผู้จัดการร้านอาหาร   Raquel Pelissier  อายุ 25 ปี ประเทศเฮติ ก่อนเข้าประกวดเธอทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์   Yam Kaspers Anshel อายุ 18 ปี ประเทศอิสราเอล   Johanna Acs อายุ 24 ปี ประเทศเยอรมนี ก่อนเข้าประกวดเธอเป็นนักศึกษา   Roshmitha Harimurthy อายุ 22 ปี ประเทศอินเดีย ก่อนเข้าประกวดเธอเป็นนักศึกษา   Hildur Maria อายุ 24 ปี ประเทศไอซ์แลนด์ ก่อนเข้าประกวดเธอทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน   Carolina…

  • คนติดดินของจริง!! พบกับหนุ่มอินเดียผู้เสพติดการกิน “หิน ดิน โคลน” เป็นชีวิตจิตใจ

    คนติดดินของจริง!! พบกับหนุ่มอินเดียผู้เสพติดการกิน “หิน ดิน โคลน” เป็นชีวิตจิตใจ

    ใครจะเคยคิดว่าจะมีคนที่กินก้อนหินก้อนดินเป็นชีวิตจิตใจจริงๆ แถมกินจนเข้าขั้นเสพติดอีกต่างหากซึ่งเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆ กับชายหนุ่มอินเดียคนนี้นั่นเอง เขาคนนี้มีชื่อว่า Pakkirappa Hunagundi อายุ 30 ปี โดยเขาเล่าย้อนไปว่าครั้งแรกที่เขาพบว่ารสชาติของก้อนดินพวกนี้ถูกใจเขา ก็ตอนที่เขามีอายุ 10 ขวบเท่านั่น ซึ่งนับตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็หยิบก้อนหินก้อนดินจากท้องถนนจากรัฐกรณาฏกะ ในประเทศอินเดียเป็นต้นมา ที่สำคัญเขายังบอกว่ามันไม่มีผลเสียอะไรเลยจากการทำอะไรแบบนี้     การกินอะไรแบบนี้ ล้วนไม่ให้ประโยชน์อะไรกับตัวเขาแน่นอน แต่ถ้าดูดีๆ แล้วฟันของเขากลับอยู่ปกติดีแถมยังอยู่ครบอีกด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วการกัดอะไรแข็งๆ แบบนี้มันไม่น่าจะเป็นมิตรกับฟันแท้ๆ ถึงแม้เราจะเห็นว่าเขาเสพติดและกินก้อนดินพวกนี้ได้อย่างปกติ แต่ว่าใจจริงๆ แล้วเขาก็อยากที่จะเลิกกินมันเช่นกัน เขาพยายามขอคำแนะนำจากคนอื่นๆ ว่าพอจะมีอะไรที่ช่วยให้เขาหยุดกินได้ไหม     เขาบอกว่า “ผมกินก้อนดินพวกนี้มาแล้วกว่า 20 ปี ซึ่งมันก็เป็นเวลาที่นานมากๆ จนตอนนี้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมไปซะแล้ว ผมสามารถที่จะไม่กินข้าวได้นะ แต่ผมขาดก้อนดินพวกนี้ไม่ได้จริงๆ” เขาไม่ใช่คนเดียวหรอกที่พยายามจะหยุดการกินของตัวเอง แม่ของเขาก็พยายามมาแล้วเช่นกัน ซึ่งใช้เวลามากถึง 20 ปี เพื่อหยุดไม่ให้ลูกของตัวเองกัดกินชิ้นส่วนบ้านของตัวเองและคนอื่นในหมู่บ้าน     เขายังเผยอีกว่า เขาไม่สนใจในรสชาติของอาหารอื่นเลย ต่อให้มีคนนำน้ำทิพย์ที่พระเจ้าประทาน มาให้เขากินเขาก็จะปฏิเสธมันและเลือกก้อนหินเหมือนเดิม หนึ่งในเพื่อนของเขาบอกว่า “ตั้งแต่เรื่องของเขาได้มีการเผยแพร่ออกไป เขาก็กลายเป็นคนดังทันที แต่ทว่าเขาก็ยังจนเหมือนเดิม ผมหวังว่าจะมีใครสักคนเข้ามาช่วยเขา”…

  • 15 คุณแม่ยังสวย MILF จากโลกอนิเมะ ที่หนุ่มๆ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ใช่เลย!!”

    15 คุณแม่ยังสวย MILF จากโลกอนิเมะ ที่หนุ่มๆ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ใช่เลย!!”

    หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า MILF คือคำนิยามสำหรับเหล่าคุณแม่สุดสวยเอ็กเซ็กซี่ ซึ่งเป็นรสนิยมที่หลายๆ คนก็คงน่าจะชื่นชอบพอสมควรเลยใช่ไหมล่ะ!? ที่จริงแล้วคำว่า MILF นั้นมาจาก Mothers I’d like to F*** ส่วนมันจะแปลว่าอะไรนั้น คงต้องไปหากันเอาเองนะ เดี๋ยวมันจะติดเรทกันไปใหญ่ และเมื่อเหล่าคุณแม่ยังสาวเหล่านี้มาอยู่ในอนิเมะแล้วละก็ ดีกรีความฮอตของพวกเธอจะพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมล่ะ เผลอๆ บางครั้งอาจจะมากกว่านางเอกเลยก็ว่าได้ ซึ่งหลายคนก็คงจะมีคุณแม่ที่ตัวเองชื่นชอบอยู่ในใจกันอยู่ใช่ไหมล่ะ ฉะนั้นวันนี้เราจะมาดู 15 เหล่า MILF ที่ฮอตเสียจนอยากจะหยิบทิตชู่ขึ้นมาแล้ว แฮ่กๆ กับพวกเธอซะเหลือเกิน เอาเป็นว่าเราไปทำความรู้จักพวกเธอกันได้!!   1. Masane Amaha จาก Witchblade .   2. Yasuko Takasu จาก Toradora .   3. Rinko จาก Gundam Build Fighters .   4. Hatsuho Kazami จาก Onegai☆Teacher…

  • ร้าน McDonald’s ที่ข้างนอกดูธรรมดา แต่ข้างในกลับเหมือนโลกเวทมนตร์แห่ง Harry Potter

    ร้าน McDonald’s ที่ข้างนอกดูธรรมดา แต่ข้างในกลับเหมือนโลกเวทมนตร์แห่ง Harry Potter

    ปกติแล้วร้านแมคโดนัลด์ทั่วๆ ไปจะตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือเป็นแบบไดร์ฟทรู ซึ่งถ้าเป็นปกติแล้วภายในร้านก็จะได้รับการตกแต่งแบบปกติมั่วไปคล้ายๆ กันแต่ทว่ากลับมีอยู่สาขาหนึ่งที่แตกต่างไม่เหมือนใครอย่างสิ้นเชิง แมคโดนัลด์สาขาที่ว่านี้มีตั้งอยู่ที่ชาร์ปเชอร์ ในประเทศอังกฤษ ซึ่งถ้าตัดสินกันแต่ภายนอกเราก็คงจะคิดว่ามันเป็นเพียงร้านแมคโดนัลด์ธรรมดาๆ ทั่วไปๆ ที่ภายในก็คงจะเหมือนกันไปหมด   ภาพจากด้านหน้าของร้าน   แต่ทว่าความจริงกลับไม่เป็นแบบนั้น เมื่อเราเดินเข้าไปภายในร้าน เราก็จะรู้ได้ถึงความแต่งต่างได้ทันทีระหว่างแมคโดนัลด์สาขานี้กับสาขาอื่นๆ ว่าที่นีมันสุดยอด ด้วยการตกแต่งภายในตามแบบสไตล์ศตวรรษที่ 12 ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลาไปนั่งอยู่ในโรงเตี๊ยมยุคกลางยังไงยังงั้น แถมบรรยากาศคลับคล้ายโลกแห่งเวทมนตร์ในภาพยนตร์สุดฮิตอย่าง Harry Potter เช่นกัน     การตกแต่งในแนวย้อนยุค ยังคงความคลาสสิคสไตล์อังกฤษ   ถึงแม้โต๊ะไม้จะดูไม่ย้อนยุคมาก แต่ก็สามารถทดแทนด้วยโคมไฟ ให้รู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในสมัยที่ความเชื่อและเวทมนตร์ยังคงเป็นใหญ่   มุมหนึ่งในร้านที่คิดดูแล้วเหมาจะเป็นมุมมืดๆ สำหรับพวกตัวละครแนวลึกลับๆ มานั่งอยู่เลยแฮะ .   ถึงแม้ภายในร้านจะดูย้อนยุค แต่ว่าชุดพนักงานก็ไม่ได้ย้อนยุคตามหรอกนะ   แต่ถึงมันจะเจ๋งแค่ไหน ด้วยสภาวะเศรษฐกิจและเหตุผลด้านการเงิน แม็คโดนัลด์สาขานี้ก็ปิดตัวลงไปเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากเปิดให้บริการมาอย่างยาวนานกว่า 34 ปี ยังไม่มีการระบุว่าสถานที่แห่งนี้จะถูกนำไปทำเป็นอะไรต่อไป แต่ต้องยอมรับในใจเจ้าของสาขา ว่าเขาได้ทำตามฝัน สร้างความงามอันแตกต่างของร้านฟาสฟู๊ด ให้โลกได้จดจำไว้เรียบร้อยแล้ว…. ที่มา theladbible

  • จากผลวิจัยใหม่ พบว่าเด็กที่ฉลาดมักจะโตไปเป็น “นักดื่มแอลกอฮอล์” และ “ใช้กัญชา”!?

    จากผลวิจัยใหม่ พบว่าเด็กที่ฉลาดมักจะโตไปเป็น “นักดื่มแอลกอฮอล์” และ “ใช้กัญชา”!?

    เว็บไซต์แลดไบเบิล จากประเทศอังกฤษ รายงานข่าวจากผลสำรวจในสหราชอาณาจักร จากคน 6,000 คน พบว่าเด็กที่ฉลาดมีโอกาสที่จะดื่มแอลกอฮอล์ และสูบกัญชามากกว่าคนทั่วไปสูงพอสมควร ผลวิจัยที่ถูกเผยแพร่ผ่าน วารสารการแพทย์ของอังกฤษ พบว่าเด็กๆ ที่เข้าทำสอบช่วงอายุราวๆ 11 ปี และได้รับคะแนนที่สูงมีโอกาสจะเป็นนักดื่มและสูบกัญชามากกว่าคนปกติ แต่เด็กฉลาดเหล่านั้นจะมีโอกาสสูบบุหรี่น้อยลงด้วย!?     James Williams และ Gareth Hagger-Johnson ผู้ทำงานวิจัยนี้ขึ้นมาได้บอกว่า “วัยรุ่นที่มีความสามารถสูง มีโอกาสเปิดรับต่อกัญชาได้มากกว่า แต่อย่างน้อยพวกเขาก็กังวลกับมันอยู่ โดยเฉพาะตอนเป็นวัยรุ่นช่วงต้น ซึ่งพวกเขากังวลว่ามันจะส่งผลเสียต่อร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงกลัวทำผิดกฎหมายด้วยเช่นกัน”     จากการวิจัยยังพบอีกว่าเด็กๆ ที่มีความฉลาดและก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นในช่วงอายุ 18-20 ปี จะเริ่มหันมาสนใจกัญชามากขึ้นเพราะว่าด้วยความอยากรู้ที่มีมากกว่าเด็กทั่วไป รวมถึงเพื่อที่จะแสดงให้ผู้ใหญ่เห็นว่าเขาโตพอที่จะรับอะไรพวกนี้เขามาแล้ว ถึงอย่างนั้นก็ยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า เด็กในชั้นมัธยมศึกษาช่วงอายุ 11 ปี มีโอกาสที่จะสูบบุหรี่น้อยลงเรื่อยๆ แต่ทว่ากลับมาโอกาสที่จะดื่มเบียร์และสูบกูญชาเพิ่มมากขึ้น     แต่ถึงยังไงซะผลจากการวิจัยนี้ทางผู้เผยแพร่ยังบอกว่า ทั้งหมดยังคงเป็นข้อสรุปที่ได้จากการวิจัยเบื้องต้น แถมการใช้สารเสพติดเหล่านี้จะอยู่แค่ในช่วงที่อยากรู้อยากลองเท่านั้นนั่นเอง ยังไงซะทั้งหมดก็มาจากผลการวิจัยเท่านั้น ไม่ได้ความว่าการดื่มหรือสูบจะเป็นเรื่องที่ดีและควรทำ เพราะยังไงซะทุกอย่างล้วนมีทั้งคุณและโทษ อะไรที่มันเกินพอดีย่อมไม่ดีแน่นอน   ที่มา theladbible

  • รวม 18 ภาพชวดหงุดหงิด จิตหงุดเงี้ยว ที่เห็นแล้วรู้สึกว่าชีวิตมันช่างโชคร้ายจริงจริ๊ง!!

    รวม 18 ภาพชวดหงุดหงิด จิตหงุดเงี้ยว ที่เห็นแล้วรู้สึกว่าชีวิตมันช่างโชคร้ายจริงจริ๊ง!!

    เคยไหมที่เวลาเราทำอะไรสักอย่างหนึ่ง มันจะมีต้องอะไรที่มาขัดใจเราเสมอ จนเรารู้สึกว่าชีวิตเรานี้บัดซบสุดๆ จะกินพิซซ่าหน้าพิซซ่าก็เละหมด ต่อแถวซื้อของก็ดันมาหมดที่เราซะงั้น หรือแม้กระทั่งเราไปเจออะไรแบบนี้กลางทาง มันก็ชวนให้หงุดหงิดเหมือนๆ กันตลอดเลยใช่ไหมล่ะ!? วันนี้เราเลยจะมาดู 21 รูปภาพที่แสดงให้เห็นว่า ชีวิตเรามันแย่และน่ารำคาญขนาดไหน (ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาา)   ไม่กินมันก็ได้ ช็อคโกแลตนั่นนะ   สรุปบาร์โค๊ดนี้จะไว้กันขโมย หรือกันไม่ให้ตูอ่านกันแน่เนี่ย   ทำไมสติกเกอร์ฉลากบัวรดน้ำ ไม่แปะข้างๆ แต่ต้องมาแปะตรงนี้ด้วย!?   และนี้คือสิ่งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นกับชีวิต   นี้ก็เช่นกัน บีบแต่พอดีๆ ดีกว่าไหม   จานพวกนี้ออกแบบมากันยังไง จะให้เป้นพิซซ่าทั้งถาดแต่มันดันมีขนาดไม่พอดีกันซะงั้น   เข็มขัดรถที่คาดไม่ได้ เพราะมันดัดไปคดเคี้ยวแบบนี้ไง   เมื่อคุณซื้อขนมปังมา แล้วรู้สึกว่าได้จ่ายค่าอากาศไปซะเยอะเลย   เช่นเดียวกันกับพิซซ่า ที่คนส่งคงจะวิ่งผ่านสงครามโลกมาแน่ๆ   พอไม่กินพิซซ่า ไปที่ตู้กดจะซื้อขนม ก็เจอแบบ…..   กลับเข้ามาในบ้านเปิดตู้เย็นจะเอาเนยมาทาขนมปัง ก็เจอคนหั่นไปแบบนี้ หุ้วววว   สุดท้ายก็ต้องมาจบที่กล้วย แต่คือจะดึงออกมาอันเดียวแท้ๆ   กระทั่งการเหลาดินสอก็ยัง เอิ่ม……

  • ช่างภาพใช้โดรนถ่ายมุมสูง ทางตอนใต้ของ “ออสเตรเลีย” นี่หรือคือภาพที่นกเห็นเป็นประจำ?

    ช่างภาพใช้โดรนถ่ายมุมสูง ทางตอนใต้ของ “ออสเตรเลีย” นี่หรือคือภาพที่นกเห็นเป็นประจำ?

    มีใครเคยฝันว่าอยากบินหรืออยากลอยได้บ้าง ในความเป็นจริงมันเป็นไปได้ยากมากที่เราจะขึ้นไปลอยอยู่บนอากาศ ขนาดพี่ตูนบอดี้สแลมยังอยากเห็นคนไทยบินได้ แต่เราก็ทำได้แค่กระโดดหยองๆ ห่างจากพื้นได้แค่ไม่กี่วินาที แต่อย่างว่า เทคโนโลยีมันก็ไปไกลแล้ว บางทีเราไม่จำเป็นต้องบินได้ ก็สามารถมองเห็นวิวจากข้างบนเช่นกัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะต้องขึ้นเครื่องบินไปถ่ายรูป หรือไม่ก็เป็นภาพถ่ายจากอวกาศนู่นเลย แต่เดี๋ยวนี้แค่มีโดรนก็สามารถ่ายภาพมุมสูงออกมาได้อย่างง่ายดายแล้ว ช่างภาพหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่า Mr Bo จากทางตอนใต้ของออสเตรเลีย เขาได้ใช้โดรนในการถ่ายภาพมุมกว้างที่เผยให้เห็นมุมมองแปลกๆ ใหม่ๆ ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน     “ภารกิจของผมก็คือการหาภาพแปลกๆ ซึ่งมันขับเคลื่อนผมให้ออกเดินทางและค้นหามุมมมองใหม่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์”     เขาเดินทางโดยใช้ Google Maps และ Google Earth ในการเสาะหาโลเคชั่นดีๆ     งานภาพของเขาจะพยายามสื่อให้เห็นถึงรายละเอียด ความสมมาตร และองค์ประกอบของธรรมชาติ   . . . . . . . . . . . . . . . . . .  …

  • หัวขโมยหื๊นหื่น บุกร้าน ‘เซ็กส์ช็อป’ เพื่อดูหนังโป๊ แถมขากลับหยิบ “ตุ๊กตายาง” ตัวเป็นหมื่นไปอีก!?

    หัวขโมยหื๊นหื่น บุกร้าน ‘เซ็กส์ช็อป’ เพื่อดูหนังโป๊ แถมขากลับหยิบ “ตุ๊กตายาง” ตัวเป็นหมื่นไปอีก!?

    ปกติแล้วเรามักจะเห็นข่าวหัวขโมยเข้าไปปล้นในบ้านคนเพื่อหวังเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาแพง หรือไม่ก็ร้านสะดวกซื้อ ร้านทองอะไรก็ว่าไป แต่คราวนี้มันยกระดับไปอีกนิดหนึ่งแล้ว…. สำนักข่าวเมโทรในประเทศอังกฤษได้รายงานว่า มีโจรคนหนึ่งกำลังหลบหนีการจับกุม หลังจากที่เขางัดเข้าไปดูวีดีโป๊ภายในร้านและขโมยเซ็กส์ดอลล์ออกมา ตำรวจกำลังตามล่าชายคนหนึ่งหลังจากก่อคดีสุดคาว เข้าไปขโมยตุ๊กตายางมูลค่าประมาณ 11,000 บาท ออกมาจากร้านขายของเล่นผู้ใหญ่ในมืองบิวรี่ ประเทศอังกฤษ   ตามรายงานระบุว่า เขาเข้าและออกผ่านทางเพดานที่เขาทุบให้มันเป็นรู     Alan Brook เจ้าของร้านเซ็กส์ช็อปแห่งนี้ได้เล่าว่า นอกจากชายคนนี้จะบุกเข้ามาขโมยของแล้วเขายังได้เปิดดูหนังโป๊อีกด้วย ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขารู้ก็เพราะว่า วีดีโอโป๊นั้นยังเปิดคาไว้บนคอมพิวเตอร์ในร้านอยู่นั่นเอง “มันรู้สึกแปลกดีนะ ที่ของภายในร้านที่มีมูลค่ามากอย่าง คอมพิวเตอร์ กล้องดูดาวมูลค่าเป็นแสนและอื่นๆ อีกมากมาย แต่ชายคนนี้ก็ไม่เอาไป เขากลับเลือกเซ็กส์ดอลล์ไปซะงั้น ซึ่งเท่าที่ผมตรวจสอบดูนอกจากคอมพิวเตอร์ที่เปิดหนังโป๊ทิ้งไว้ เซ็กส์ดอลล์ และเพดานร้านก็ไม่มีอะไรผิดปกติหรือหายไปแล้ว” สุดท้ายแล้วเจ้าของร้านยังบอกปิดท้ายเป็นการโฆษณาเบาๆ ว่า “ไม่ต้องอายไป ของในร้านเราไม่แพงหรอก ลองเข้ามาดูกันก่อนได้ แล้วคุณจะติดใจนะอิอิ”     เจ้าของร้านบอกขนาดนี้ พ่อหนุ่มรีบกลับมาเอาตังค์มาจ่ายๆ ไปซะก็จบเรื่อง ดูท่าทางพี่เค้าคงจะใจดีอยู่นาาาาาา ที่มา metro

  • รวม 15 เรื่องราวที่คุณควรรู้ก่อนไปดู Logan หนังภาคสุดท้ายของเฮีย ในบทวูลฟ์เวอรีน!!!

    รวม 15 เรื่องราวที่คุณควรรู้ก่อนไปดู Logan หนังภาคสุดท้ายของเฮีย ในบทวูลฟ์เวอรีน!!!

    ภาพยนต์เรื่อง Logan ก็กำลังจะเข้าสู่โรงภาพพยนต์ให้ทุกคนได้ดูกันแล้วนะครับ แน่นอนว่ากระแสของหนังเรื่องนี้ถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง และหลายคนก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยกันอย่างยิ่ง แต่ก่อนที่เราจะได้ไปเจอกับเรื่องนี้ #เหมียวมู่ทู่ อยากจะชวนเพื่อนๆ มาเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองสักหน่อย ด้วย “15 เรื่องราวที่คุณควรรู้ก่อนไปดู Logan”  แล้วคุณจะดูหนังเรื่องนี้อย่างสนุกขึ้นแน่นอน…   1. Logan จะเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่ Hugh Jackman จะรับบทเป็น Wolverine เพราะเขามีอายุที่เยอะมากแล้วแถมยังป่วยเป็นมะเร็งผิวหนังอยู่บ่อยครั้งอีกด้วย   2. หนังเรื่อง Logan มีต้นฉบับมาจากช่วงหนึ่งในคอมมิค ของ Mark Millar ที่ชื่อว่า Old man Logan   3. James Mangold ผู้กำกับของเรื่องบอกว่า Logan จะมีความเป็น “มนุษย์” มากกว่าหนังตระกูล X-men เรื่องอื่นๆ เพราะเขาใช้กรีนสกรีนให้น้อยมาก รวมถึง CGI ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ความเป็นมนุษย์ในจิตใจของวูฟล์เวอรีน ก็ดูจะเด่นชัดกว่ามนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นๆ เช่นกัน   4. นี่เป็นหนังของตระกูล Wolverine เรื่องแรกที่ Patrick Stewart ได้รับเล่นเป็นตัวละครหลักภายในเรื่อง…

  • เจ้าของโพสต์รูป “หมาที่หยุดยิ้มไม่ได้” หลังไปคุ้ยดินในสวนหลังบ้าน สร้างความฮาทั่วเน็ต!!

    เจ้าของโพสต์รูป “หมาที่หยุดยิ้มไม่ได้” หลังไปคุ้ยดินในสวนหลังบ้าน สร้างความฮาทั่วเน็ต!!

    Pandora เป็นชื่อของเจ้าหมาตัวนี้ โดยปกติทั่วไปแล้ว มันก็จะเป็นเจ้าหมาขี้เล่นซุกซน ปกติตามประสาหมาๆ แต่ทว่าวันหนึ่งด้วยความซุกซนและอยากช่วยเหลือเจ้าของ ทำให้มันค้นพบบางสิ่งบางอย่าง เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่เดือนก่อนที่ประเทศบราซิล เมื่อ Lucas Alves Magalhães ได้เก็บเจ้า Pandora มาเลี้ยงตั้งแต่ยังแบเบาะ จนตอนนี้มันโตขึ้นพอที่จะขุดอะไรสักอย่างได้ ซึ่งพอมันเริ่มขุดสวนหลังบ้าน เขาก็เริ่มสังเกตุได้ว่ามันมีความด้านการขุดที่ชำนาญมากๆ เลยทีเดียว แต่แล้ววันหนึ่งเจ้า Pandora ก็ขุดค้นพบบางอย่างในสวนหลังบ้าน มันคือ เตาบาบีคิว (ไปอยู่ได้ไงฟระ!!) ซึ่งเจ้าหมาก็ดูจะมีความสุขมากๆ กับการคนพบสมบัติหลังบ้านของมัน     แต่ทว่าอยู่มาวันหนึ่งเจ้าหมานักขุดก็ได้ไปขุดเจอบางสิ่งบางอย่าง แถมเจ้าสิ่งนี้เหมือนจะติดอยู่ในปากของมันซะด้วย และเมื่อ Lucas จับหน้าของมันขึ้น เขาก็ต้องหัวเราะดังลั่นออกมา เพราะภาพที่เธอเห็นคือ ฟันปลอมที่ติดอยู่กับปากของมัน แถมยังทำให้ดูเหมือนมันกำลังยิ้มแปลกๆ อีกด้วย   “ตอนที่ฉันยกหัวของมันขึ้นแล้วเห็นหน้าชัดๆ ของมัน ฉันหัวเราะจนเกือบตายเลยล่ะ มันขำมากๆ เลย”  เขากล่าวถึงเจ้าหมา   หลังจากที่เธอได้ถ่ายรูปของเจ้าหมาพอหอมปากหอมคอแล้ว เขาก็ถอดฟันปลอมนั้นออกแล้วเก็บไว้เป็นสมบัติของเจ้าหมานักขุดตัวนี้   ดูรอยยิ้มของมันสิ ยิ้มจนเงือกแห้งหมดแล้ว   จะมองมุมไหนก็ขำสุดๆ   พอมันใส่เจ้าฟันปลอมนี้แล้ว มันดูน่าเกลียดและตลกในเวลาเดียวกันเลยแหะ…

  • 9 เทคนิคตามหลักวิทยาศาสตร์ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจาก “การนอน” ให้หายเป็นปลิดทิ้ง

    9 เทคนิคตามหลักวิทยาศาสตร์ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจาก “การนอน” ให้หายเป็นปลิดทิ้ง

    เรามักจะรับรู้ว่าแค่ว่าเราควรจะนอนระหว่าง 7- 9 ชั่วโมงต่อวันเพียงเท่านั้น แต่ทว่าเรากลับไม่รู้ว่าเราควรจะนอนยังไงนอนท่าไหน เพราะบางครั้งที่เราตื่นขึ้นมา เราก็มักจะมีอาการต่างๆ ตามมาบ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้ทาง TechInsider จึงได้จัดปัญหาการนอนทั่วๆไปที่พบได้มากที่สุดมารวมกันไว้ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหลังทั่วไปจนถึงความรู้สึกกระสับกระส่ายต่างๆ ด้วยความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ จากวิทยาศาศตร์และการแพทย์ โดยแค่ลองทำตามวิธีทั้ง 9 นี้ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป   อาการปวดไหล่ สำหรับคนที่มีอาการปวดไหล่ สามารถแก้ไขการนอนด้วยการ อย่านอนตะแคงข้าง หรือ ถ้าคุณชอบนอนตะแคงและปวดไหล่ข้างเดียว พยายามนอนอีกข้างแทน แต่การนอนหงายและใช้การกอดหมอนตามแบบในภาพก็สามารถช่วยได้เช่นกันนะ   อาการปวดคอ ผู้มีปัญหาปวดคอ แนะนำว่าควรจะเปลี่ยนหมอนอย่างน้อยทุกๆ 2 ปี ซึ่งมีรายงานว่าหมอนประเภท หมอนยางพารา  จะเป็นหมอนที่สร้างความสบายมากที่สุด ถ้าคุณกำลังปวดคออยู่ หมอนที่คุณนอนอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งก็ได้     อาการปวดหลัง สำหรับอาการปวดหลัง การย้ายหมอนมาวางไว้ที่ตำแหน่งต่างๆ เช่นนำหมอนมาวางใต้ต้นขาถ้าคุณนอนคว่ำ หรือไว้ที่ใต้ขาถ้าคุณนอนหงาย เป็นสิ่งที่จะช่วยให้อาการเหล่านี้หายไป   อาการนอนไม่หลับสักที คนที่นอนหลับยาก ให้หลีกเลี่ยงพวกคาเฟอีนหลายชั่วโมงก่อนจะเข้านอน ไม่ก็ออกกำลังกายในตอนเช้าหรือตอนบ่าย อย่าออกกำลังแบบหักโหมตอนใกล้จะนอน และที่สำคัญขอแนะนำว่าควรเลี่ยงการดูมือถือก่อนนอนเพราะมันจะกินเวลาจนลืมง่วงไปได้ ทางที่ก็ปิดมือถือก่อนเข้านอนหรือเอาไปเก็บไว้ให้ไกลเลยก็ได้  …

  • จะเป็นยังไงถ้าลองเอาตัวเอง เข้าไปอยู่ในหินนานถึง 1 สัปดาห์ โดยที่ไม่ออกมาสู่โลกภายนอกเลย

    จะเป็นยังไงถ้าลองเอาตัวเอง เข้าไปอยู่ในหินนานถึง 1 สัปดาห์ โดยที่ไม่ออกมาสู่โลกภายนอกเลย

    หลายคนน่าจะเคยได้ยินหรือเห็นผ่านๆ ตากันมาบ้างกับศิลปินที่จัดแสดงนิทรรศการฝังตัวเองลงไปในรูเล็กๆ หรือเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในหุ่นจำลองเป็นเวลายาวนานติดต่อกัน เพื่อจุดประสงค์ในการแสดงออกอะไรบ้างอย่าง… ศิลปินคนนี้มีชื่อว่า Abraham Poincheval เป็นชาวฝรั่งเศสที่จัดนิทรรศการศิลปะโดยการเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานที่แปลกๆ อย่างที่ใครหลายคนก็คิดไม่ออก ซึ่งล่าสุดในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาได้เริ่มโปรเจคใหม่อีกครึ่งแต่ทว่าครั้งนี้ เขาจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ข้างในก้อนหิน แถมจะอยู่ข้างในก้อนหินนั้นนานถึง 8 วันเลยทีเดียว     นิทรรศการนี้จัดขึ้นใน Paris’s Palais de Tokyo gallery ที่ตั้งอยู่ในประเทศฝรั่งเศส โดยก้อนหินที่เขาจะเข้าไปอยู่จะมีการผ่าครึ่งและทำเป็นที่นั่งให้ไว้รวมถึงยังมีอาหารจำพวกซุปและเนื้อตากแห้ง ไว้เพื่อประทังชีวิต เขาได้เล่าถึงจุดประสงค์ที่เขาทำแบบนี้ว่า เขาต้องการที่จะรู้ถึงความรู้สึกของรอยแตกร้าวภายในหินว่ามันจะรู้สึกยังไง และเมื่อเขาเข้าไปอยู่ข้างในลมหายใจของเขาก็จะไหลเวียนอยู่ภายใน ทำให้เขาสัมผัสความรู้สึกของก้อนหินได้นั่นเอง     นอกจากนี้แล้วเขายังบอกว่า เขากลัวว่าการที่เขาเข้าไปอยู่ข้างในนั้นนานๆ โดยที่ไม่สื่อสารกับใครเลยแถมยังมีแต่ความมืด มันจะทำให้เขาเหงาและรู้สึกแย่จากการที่ไม่ได้พูดคุยกับใครจนเสียสุขภาพจิต ซึ่งเขาก็หวังว่าจะมีคนที่มาดูนิทรรศการ และพูดคุยกับก้อนหินของเขาบ้างสักนิดก็ยังดี     แต่ผู้คนกลับไม่คิดแบบนั้น คนส่วนใหญ่เป็นห่วงในเรื่องของการขับถ่ายของเขาว่าเขาจะทำยังไง ซึ่งเขาก็ให้คำตอบว่าเขาจะขับถ่ายใส่พวกขวดหรือภาชนะต่างๆ และในส่วนของกลิ่นเขายังบอกว่า ก้อนหินน่าจะช่วยดูดซับกลิ่นได้ดีฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เขาเอาอยู่     สำหรับใครที่กลัวว่าจะมีแต่ก้อนหินไม่มีอะไรเลย ไม่ต้องเป็นห่วงไปเพราะผู้เข้าชมนิทรรศการสามารถที่จะดูถ่ายทอดสดภายในก้อนหินผ่านจอมอนิเตอร์ใกล้ๆ กับตัวก้อนหินได้เพื่อที่จะได้รู้ความเคลื่อนไหวของเขา และสุดท้ายเราก็คงต้องมาดูกันว่า เขาจะอยู่รอดไปจนครบ 8 วันไหม…

  • ชม “เมืองร้างกลางทะเลทราย” ในแคลิฟอร์เนีย ตั้งเป้าจะเป็นแบบเวกัส แต่สุดท้ายล้มเหลว…

    ชม “เมืองร้างกลางทะเลทราย” ในแคลิฟอร์เนีย ตั้งเป้าจะเป็นแบบเวกัส แต่สุดท้ายล้มเหลว…

    ดินแดนแห่งนี้เคยถูกกล่าวอ้างว่า มันจะกลายเป็นดินแดนยูโทเปียที่น่าอยู่ เพียงแค่พวกคุณย้ายมาลงหลักปักฐาน ความฝันก็จะเป็นจริง แต่ความจริงมันช่างสวนทางกับความฝันที่กล่าวอ้าง เพราะดินแดนแห่งนี้มีเพียงทะเลทรายที่ว่างเปล่า ภาพถ่ายชุดนี้เผยแพร่โดยช่างภาพนามว่า Chang Kim เขาตามไปถ่ายดินแดนซึ่งครั้งหนึ่งถูกตั้งเป้าว่ามันจะเป็นสวรรค์บนดินของชาวอเมริกัน แต่เรื่องนั้นมันไม่เคยเกิดขึ้น การพัฒนานั้นหยุดนิ่ง ไม่มีใครได้เห็นว่าความรุ่งเรืองของมันจะเป็นอย่างไร จนกระทั่งผู้คนต่างพากันย้ายออกไปจนเกือบหมดตั้งแต่ราวๆ ปี 1960     “ถ้าวัดจากขนาดพื้นที่ ที่นี่เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสาม ของรัฐแคลิฟอร์เนียเลยนะ แต่ทว่าภาพที่เราเห็นมันกลับมีแต่พื้นที่ว่างเปล่า ไม่มีใครมาลงหลักปักฐานสักคน แถมยังมองเห็นแต่ทะเลทรายกว้างใหญ่ไพศาลสุดๆ รวมถึงไม่มีสัญญานของการพัฒนาอะไรเลย”     “ถ้ามองดูจากภาพมุมสูงจะเห็นว่าเหลือเพียงถนน ที่ทำให้เห็นผังเมืองที่วางมาอย่างดี ซึ่งผู้คนในยุคนั้นต่างฝันที่จะตามหาเหมืองทองเพื่อจะได้สร้างชีวิตที่มั่งคั่งและลงหลักปักฐานที่นี่  แต่สุดท้ายเพียงแค่กี่ปีที่แห่งนี้ก็แปรเปลี่ยนเป็นเพียงแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ”     “ถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงสนใจที่ดินแห่งนี้ถึงแม้มันจะรกร้างเหลือแต่เพียงเศษดิน แต่ทว่าความล้มเหลวก็เป็นความโรแมนติคอย่างหนึ่ง ทำให้ผมเกิดคำถามขึ้นกับตัวเองว่า ทำไมคนเราต้องสร้างตัวเลือกให้ตัวเอง และคิดว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดในตอนนี้จะส่งผลถึงอะไรในอนาคต “     จะเห็นได้ว่ามันถูกออกแบบมาเป็นเมืองในทะเลทรายอันยิ่งใหญ่ จนอาจจะยกชั้นเทียบ “ลาส เวกัส” ได้เลยทีเดียว   มีร่องรอยของชุมชนเล็กๆ ซึ่งผู้คนแทบจะย้ายออกไปหมดแล้ว   ขณะที่บ้านบางหลังก็ยังคงอยู่ พร้อมป้ายประกาศขายบ้านและที่ดิน ซึ่งหาคนมาซื้อต่อได้ยากเต็มที .…

  • ถ้าให้เหล่า Avengers ในหนังมาสวมชุดแบบในคอมมิคเป๊ะๆ แต่ละตัวหน้าตาเป็นยังไง!?

    ถ้าให้เหล่า Avengers ในหนังมาสวมชุดแบบในคอมมิคเป๊ะๆ แต่ละตัวหน้าตาเป็นยังไง!?

    สำหรับแฟนๆ Marvel ที่เคยอ่านหรือตามคอมมิคอยู่ เคยสงสัยไหมว่าทำไมทาง Marvel Studio ถึงไม่ให้ตัวละครในสังกัตภาพพยนต์ของตัวเองสุดในชุดแบบในคอมมิคกันนะ!? วันนี้เราเลยจะมาดูภาพที่ชาวเน็ตทำขึ้นมาเพื่อเปรียบเทียบสมาชิกทีม Avengers  กันว่าถ้าให้พวกเขาใส่ชุดตามคอมมิคจะมีหน้าตาเป็นยังไงนะ!?   Hawkeye   สำหรับพ่อหนุ่ม Clint Barton คนนี้ถือว่าเป็นการดีแล้วที่ให้ใส่ชุดตามแบบภาพยนตร์เพราะถ้าใส่ชุดตามคอมมิคก็คงจะต้องเป็นสีม่วงเกือบทั้งตัวแถมยังต้องใส่หน้ากากที่พอทำจริงๆ แล้วมันคงจะตลกหน้าดู แถมตัวนักแสดงอย่าง Jeremy renner ก็เคยตอบคำถามว่าถ้าเขาต้องใส่ชุดแบบในคอมมิคเขาจะยังแสดงเป็นพ่อตาเหยียวต่อไปไหม คำตอบที่ได้คือ “ไม่” ทันทีเลยล่ะ แต่ยังดีหน่อยที่ตอนหลังๆ มาชุดของ Hawkeye ในคอมมิคก็เริ่มเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยแล้วด้วยนะ     Captain America   สำหรับตัวกัปตันอเมริกา ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากเพราะว่าสำหรับชุดในเวอร์ชั่นคอมมิคนั่นได้ออกมาแล้วในภาคแรก แต่จะเป็นยังไงล่ะ ถ้าให้เขาใส่ชุดนั้นตลอดเวลา มันคงจะตลกพอสมควรเลยสำหรับยุคปัจจุบัน(แต่ก็ถือว่าเป็นความคลาสสิกอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้) ที่สำคัญตอนนี้ในฉบับคอมมิคก็ชุดของกัปตันก็ได้เปลี่ยนไปแล้วจากโล่วงกลมก็กลายเป็นโล่สามเหลี่ยมแทน แถมตำแหน่งกัปตันก็ถูกยกให้ Sam Wilson หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า Falcon ไปช่วงหนึ่งอีกด้วย     Thor   สำหรับธอร์นั้น ชุดคอสตูมเรียกได้ว่าแทบจะไม่ต่างอะไรจากตัวคอมมิคมากนัก ที่จะต่างก็แค่ไม่มีหมวกเท่านั้นเอง แต่ว่าในความจริงแล้วเจ้าหมวกเหล็กที่มีปีกติด ตัวธอร์ก็เคยใส่ในฉบับภาพพยนต์มาแล้วในภาคแรก ตัวนักแสดงอย่าง Chris Hemsworth…

  • 2 สาวนักคอสเพลย์ ตกลงแต่งงานกัน งานนั้นก็ออกมาสวยงามเปรียบราว “โลกเทพนิยาย…”

    2 สาวนักคอสเพลย์ ตกลงแต่งงานกัน งานนั้นก็ออกมาสวยงามเปรียบราว “โลกเทพนิยาย…”

    ก่อนหน้านี้หลายคนคงเคยเห็นข่าวเกี่ยวกับคอสเพลย์เยอร์หนุ่มสองคน ที่ชื่นชอบในการแต่งเป็นพาวเวอร์เรนเจอร์ได้ตกลงแต่งงานกันไปบ้างแล้ว ซึ่งก็เป็นภาพที่น่าประทับใจมากๆ เลยทีเดียวมาวันนี้ก็ถึงคิวของคอสเพลย์เยอร์สาวกันบ้างนั่นเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องของคอสเพลย์เยอร์สาวสองคนจากประเทศเดนมาร์ก ซึ่งทั้งสองคนเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า Carina และ Soerine ทั้งคู่นั้นเคยมีผลงานคอสเพลย์ตัวละครต่างๆ ให้แฟนคลับได้ติดตามอยู่มากมาย ลองมาดูตัวอย่างผลงานของพวกเธอกัน   เปิดตัวด้วย Neon Genesis Evangelion   เป็นทั้ง Supergirl และ Powergirl   Sailor Moon ก็มา   หรือจะเป็น Harry Potter เวอร์ชั่นผู้หญิงก็ได้เช่นกัน   ส่วนนี่ก็เป็น Carina (ซ้าย) และ Soerine (ขวา) ในแบบลุคสาวสดใส ธรรมดาๆ   ทั้งสองคนเริ่มรู้จักกัน จากการมีความชอบในการคอสเพลย์เหมือนกัน และนั่นทำให้พวกเธอเข้ากันได้เป็นอย่างดี ความสัมพันธ์พัฒนาจากคนรู้จัก กลายเป็นคนรัก และสุดท้ายก็เป็นการตัดสินใจแต่งงานกันในที่สุด…   ภาพการขอแต่งงานของทั้งคู่   ทว่างานแต่งของพวกเธอ ได้เลือกที่จะไม่คอสเพลย์แต่งงานเหมือนกับคอสเพลย์เยอร์คนอื่นๆ พวกเธออยากจะเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ดังนั้น พวกเธอจึงเข้าพิธีในชุดเจ้าสาวที่สวยงามดุจดั่งหลุดออกมาจากเทพนิยายดีๆ สักเรื่องหนึ่ง ตามความใฝ่ฝันที่จะทำให้งานออกมาสวยแบบเรียบหรู   .…

  • แม้จะอ้วกเป็นสายโลหิต เกมเมอร์ก็ไม่ยอมทิ้ง “สหายร่วมรบ” เป็นอันขาด พวกเราต้องชนะ!!

    แม้จะอ้วกเป็นสายโลหิต เกมเมอร์ก็ไม่ยอมทิ้ง “สหายร่วมรบ” เป็นอันขาด พวกเราต้องชนะ!!

    หลายๆ ครั้งที่เราจะมักพบเห็นข่าววัยรุ่นจีนเกิดเหตุการณ์ผิดปกติขึ้นขณะที่พวกเขาใช้เวลาอยู่ในอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เป็นเวลานานๆ ไม่ว่าจะทั้งสลบไปหรือหรือเลวร้ายกว่านั้นก็คือถึงตายก็ตาม ซึ่งล่าสุดมันก็ได้เกิดขึ้นกับชายคนหนึ่งในมณฑลอานฮุย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันพุธ ที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยทางตำรวจในมณฑลอานฮุย รับสายฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยหลังจากที่มีชายคนหนึ่งในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ล้มพับลงไปกับพื้นพร้อมกับเริ่มที่จะกระอักเลือดออกมา     ตำรวจได้รายงานว่า พวกเขารีบเร่งไปที่เกิดเหตุก็พบกับชาวคนนี้นอนกระอักเลือดพร้อมกับหมดสติอยู่บนพื้นแล้ว ซึ่งจากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุก็ได้รู้ว่านายคนนี้ได้เล่นเกมในร้านแห่งนี้มานานกว่า 9 ชั่วโมงติดต่อกันแล้วโดยที่ไม่พักเลย หลังจากนั้นไม่นานรถพยาบาลก็ได้มาถึงเพื่อจะพาเขาไปรักษา แต่ทว่าอยู่ดีๆ ชายหนุ่มคนนี้ก็เหมือนจะได้สติขึ้นมาก่อนที่รถพยาบาลจะออกตัว พร้อมกับนึกได้ถึงสิ่งที่เขากำลังทำพร้อมพูดกับเจ้าหน้าที่ว่า “พาฉันกลับไป พวกเรากำลังจะชนะอยู่แล้ว!!”      แน่นอนว่าทางเจ้าหน้าที่ย่อมไม่ยอม พวกเขาปิดเกมคอมนายคนนี้ลงและพาเขามุ่งตรงไปที่โรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษา เพราะว่าอาการอาเจียนออกมาเป็นเลือดนี่แสดงว่าร่างกายผิดปกติบางอย่าง จนสุดท้ายอาการของเขาก็กลับมาดีขึ้นนั่นเอง   .   สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะทำอะไร ถ้าทำจนหักโหมเกินไปมันก็ล้วนไม่ดีต่อสุขภาพทั้งนั้น ฉะนั้นอย่าลืมดูแลสุขภาพและทำกิจกรรมอะไรให้มันแต่พอดีนะครับ เพื่อตัวคุณเอง   ถึงแม้จะไม่รู้ว่านายคนนี้เล่นอะไร แต่อย่ารีพอร์ตเขาเลยนะ เขาอยากจะพาทีมชนะจริงๆ แต่ร่างกายมันไม่ไหวแล้ว ที่มา shanghaiist

  • นักออกแบบทำเค้ก “กาแล็กซี่” กับลวดลายสวยเพลินตา ต้อนรับกระแสค้นพบ “ระบบสุริยะใหม่”

    นักออกแบบทำเค้ก “กาแล็กซี่” กับลวดลายสวยเพลินตา ต้อนรับกระแสค้นพบ “ระบบสุริยะใหม่”

    จากกระแสข่าวล่าสุดที่ NASA เปิดเผยถึงการค้นพบระบบดาวเคราะห์ใหม่ที่มีความคล้ายคลึงกับโลกมากๆ ออกมา เรื่องนี้ก็เป็นที่พูดถึงกันพอสมควร แน่นอนว่าบางคนก็คงจะอินไม่น้อยกับกระแสข่าวนี้ ชาวเน็ตคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Pedagiggle ได้ออกมาโชว์เค้กกาแล็กซี่ที่ว่านี้ รวมถึงวิธีการทำคร่าวๆ ซึ่งน่าจะช่วยให้เข้ากับกระแสช่วงนี้ได้ดีเลยล่ะ ปกติแล้วเค้กทั่วไปจะทำแป้งเค้ก แล้วนำมาแต่งหน้าจากภายนอก แต่เขาสร้างความแตกต่างด้วยการทำให้แป้งเค้กนั้นมีลวดลายเฉพาะของตัวมันเอง ตั้งแต่ภายในตัวเค้กกันเลย     เธอเล่าถึงวิธีการทำว่า เริ่มแรกเธอต้องทำแป้งแยกออกมาเพื่อเป็นส่วนดวงดาวต่างๆ จากนั้นก็ทำส่วนผสมของตัวเค้กแล้วนำไปอบก่อนราวๆ 10 นาที จากนั้นจึงค่อยเพิ่มดวงดาวต่างๆ ที่ทำแยกไว้เข้าไปข้างในตัวแป้งหลัก แล้วอบต่ออีกราวๆ 20 นาที สุดท้ายเธอตกแต่งเค้กด้วยน้ำตาลไอซิ่ง และน้ำตาลก้อนรูปต่างๆ   และนี้ก็คือผลลัพธ์ที่ได้   ภาพนี้ก็เป็นส่วนนอกที่ตกแต่งเรียบร้อย   นอกจากเค้กแล้วก็ยังมีคุกกี้ด้วยน่ะ แน่นอนว่ามาในธีมอวกาศเช่นกัน   เรียกได้ว่าเข้ากับกระแสช่วงนี้เลยทีเดียว แถมยังน่ากินอีกตะหาก   ที่มา boredpanda, Imgur

  • กระทรวงศึกษาญี่ปุ่น เร่งพัฒนา “ภาษาอังกฤษ” เพื่อโอลิมปิก 2020 เพราะผลสอบยังไม่น่าพอใจ!?

    กระทรวงศึกษาญี่ปุ่น เร่งพัฒนา “ภาษาอังกฤษ” เพื่อโอลิมปิก 2020 เพราะผลสอบยังไม่น่าพอใจ!?

    เป็นที่รู้กันดีว่าญี่ปุ่นจะได้เป็นเจ้าภาพงานโอลิมปิกในปี 2020 ที่จะถึงนี้ แล้วด้วยเหตุนี้ทางญี่ปุ่นก็ได้เริ่มที่จะเตรียมการรับมือกับอีเวนท์ใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้หลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของ “ภาษา” นั่นเอง ญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีกำแพงภาษาสูงมากๆ ทำให้ภาษาอังกฤษเป็นอะไรที่ยากสำหรับชาตินี้พอสมควร และหลังจากโตเกียวได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิคมาตั้งแต่ปี 2014 ภาครัฐจึงต้องเร่งเตรียมความพร้อมรับมือ เมื่อเห็นเป็นดังนั้นทางกระทรวงศึกษาธิการ จึงเห็นว่าควรจะเพิ่มศักยภาพให้กับประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนในประเทศเพื่อรองรับโอลิมปิคที่กำลังจะมาถึง     ซึ่งสิ่งที่พวกเขาจะไปเพิ่มก็คือ คาบเรียนภาษาต่างประเทศที่จะเน้นความสนุกสนานในการเรียน ให้กับนักเรียนชั้นประถมเป็นหลัก รวมถึงการทดสอบความรู้ของตัวนักเรียนและอาจารย์ด้วย เพื่อจะให้การพัฒนานี้สัมฤทธิ์ผลทางกระทรวงมองเห็นว่าต้องเริ่มจากตัวอาจารย์ที่เป็นคนสอนให้นักเรียนก่อน โดยกระทรวงจะให้เหล่าอาจารย์เข้ารับการทดสอบ TOEIC เพื่อประเมินผลทักษะทุกๆ วัน     ซึ่งล่าสุดจากการทดสอบอาจารย์ในเขตการศึกษาเกียวโตที่ถูกทดสอบมีจำนวนทั้งหมด 74 คน แถมผลลัพธ์ยังออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยด้วย ทางกระทรวงตั้งเป้าคะแนนไว้ที่ 730 จาก  990 แต่เรื่องที่น่าเศร้าสุดๆ จากการทดสอบครั้งนี้คือมีอาจารย์เพียง 16คนเท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด แถมแย่ไปกว่านั้นมีอาจารย์มากถึง 14 คนที่คะแนนไม่ถึง 500 ด้วยซ้ำซึ่งคะแนนต่ำสุดอยู่ที่ 280 เท่านั้น กระทรวงจึงตั้งเป้าไว้เป็นเวลา 3 ปีเพื่อเพิ่มคุณภาพภาษาให้กับประชากรในประเทศ ที่สำคัญกระทรวงยังบอกอีกว่าก่อนจะไปเพิ่มคุณภาพในส่วนของ วัฒนธรรม กีฬา เทคโนโลยีและอื่นๆ ควรจะพัฒนาภาษาอังกฤษเป็นอย่างแรกนั่นเอง     ต้องบอกว่าญี่ปุ่นเขาตั้งใจเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาคโอลิมปิกจริงๆ แถมการทำแบบนี้ยังส่งผลในระยะยาวเรื่องของคุณภาพประชากรด้วยนะเนี่ย…

  • เข้ากันม๊ากมากกก… จีนสร้าง “ไอรอนแมน” ขนาดยักษ์ เคียงคู่กับ “สฟิงซ์” มันเกี่ยวอะไรกัน!?

    เข้ากันม๊ากมากกก… จีนสร้าง “ไอรอนแมน” ขนาดยักษ์ เคียงคู่กับ “สฟิงซ์” มันเกี่ยวอะไรกัน!?

    สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มักจะมีคอนเซปท์และธีมการท่องเที่ยวเป็นของตนเอง อย่างเช่น สวนดอกไม้ก็จะตกแต่งไปในทางเดียวกัน สวนประวัติศาสตร์ หรือสวนสนุกแนวไดโนเสาร์ก็มีแนวแบบนั้น ถ้ามันเกิดมีการตกแต่งอะไรที่ต้องผสมผสานกัน ก็ต้องย่อมมีความลงตัวมากยิ่งขึ้น แต่คงใช้ไม่ได้กับสถานที่แห่งนี้… เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ The World Cultural Heritage Expo Park ในมณฑลอานฮุย ซึ่งเป็นที่ๆ เดียวกับที่มีรูปปั้น (สฟิงซ์ ก็อปปี้เกรด เอ) ที่สร้างขึ้นในปี 2015 คู่กับปิรามิดลูฟ     แต่ทว่าปีรามิดและสฟิงซ์ ก็ไม่สามารถที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้อีกต่อไป จึงทำทาง Expo Park ต้องคิดวิธีใหม่ออกมาเพื่อเรียกคน อะไรที่มันโมเดิร์น อะไรที่คนรุ่นใหม่จะชอบ จนสุดท้ายก็เกิดเป็น ไอรอนแมนเวอร์ชั่นฮัคบัสเตอร์ ขนาดยักษ์ขึ้นมา     ซึ่งเจ้าไอร่อนแมนตัวนี้เป็น ไอร่อนแมนรุ่นฮัลค์บัสเตอร์ ที่มีขนาดสุงถึง 30 เมตรเลยทีเดียว แต่ทว่ารายละเอียดของตัวไอร่อนแมนตัวนี้ แม้จะดูจะพิการไม่ค่อยเหมือนต้นแบบสักเท่าไหร่ แต่ก็คงจะพอช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้บ้าง     นอกจากสฟิงซ์และไอร่อนแมนก็อปเกรด เอ แล้วที่ Expo Park แห่งนี้ก็พึ่งจะเปิดตัว ทหารดินเผาก็อปปี้ขน่าด 1 ต่อ…

  • รวม 29 ภาพของเหล่าเซเลบคนดังเมืองนอก ที่แม้ไม่แต่งหน้า ก็ยังดูดีได้เช่นเดิม!!

    รวม 29 ภาพของเหล่าเซเลบคนดังเมืองนอก ที่แม้ไม่แต่งหน้า ก็ยังดูดีได้เช่นเดิม!!

    ปกติแล้วเวลามีงานประกาศรับรางวัลหรือเปิดตัวอะไรสักอย่าง เหล่าดาราเซเลบต่างๆ ก็มักจะตบเท้ากันมาออกงานนั้นๆ กันเต็มไปหมด แน่นอว่าเราก็มักจะคุ้นเคยกับเซเลบคนโปรด ในภาพที่แต่งหน้าสวยสดงดงาม พร้อมกับชุดราตรีสวยหรูกันเสมอ ฉะนั้นเราเลยจะมาดูกันว่า พอเหล่าเซเลบทั้งหลายลบเครื่องสำอางที่ปกปิดใบหน้าของพวกเธอออกแล้ว จะมีหน้าตาเป็นยังไง จะแตกต่างกันแค่ไหนกันนะ มาดูกันเลยดีกว่า   Adele   Adriana Lima   Alicia Keys   Ashley Graham   Carrie Underwood   Ciara   Cindy Crawford   Demi Lovato   Drew Barrymore   Eva Longoria   Gabrielle Union   Gigi Hadid   Gina Rodriguez   Gwyneth Paltrow   Katie Holmes  …

  • นี่คือเจ้า Buffy สุนัขผู้ยิ้มรับทุกอย่าง ไม่ว่าจะเวลาไหน จะเกิดอะไร พี่ก็จะไม่หยุดยิ้ม!!

    นี่คือเจ้า Buffy สุนัขผู้ยิ้มรับทุกอย่าง ไม่ว่าจะเวลาไหน จะเกิดอะไร พี่ก็จะไม่หยุดยิ้ม!!

    เคยมีคนกล่าวไว้ว่า ต่อให้เรื่องมันแย่แค่ไหน… “รอยยิ้ม” ก็ทำให้เรื่องเหล่านั้นทุเลาลงได้ พบกับ Buffy  สุนัขวัย 13 ปี ที่ยิ้มตลอดเวลา ไม่ว่าจะเวลาไหนมันก็จะยิ้มอยู่เสมอ แถมมันยังเป็นขวัญใจของทุกคนในละแวกบ้านที่อ๊อกซฟอร์ดเชอร์ ในประเทศอังกฤษอีกด้วย Jill Cox เจ้าของได้เล่าว่า เธอพึ่งจะรู้ตัวว่าสุนัขของตัวเองสามารถยิ้มได้ก็เมื่อ 4 ปีที่แล้วแถมยังบอกอีกว่าสุนัขของเธอส่งยิ้มให้แทบจะตลอดเวลาเลย จนเธอมีรูปของมันมากเป็นพันๆ รูปเลยก็ว่าได้     เธอยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า “จริงๆ แล้วมันคงยิ้มามาตลอดเป็นเวลานานแล้วล่ะ เพียงแต่ว่าพวกเราไม่ได้สังเกตเท่านั่นเอง จนเมื่อฉันรู้เลยย้อนกลับไปดูรูปสมัยก่อน มันก็ยิ้มตั้งแต่ตอนนั้นแล้วจริงๆ” หลังจากภาพของเธอถูกเผยแพร่ออกไปทางอินเตอร์เน็ตก็มีคนจำนวนมากที่ชอบในรอยยิ้มของมัน แต่ว่าก็มีคนจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่คิดว่าภาพรอยยิ้มของมันถูกตัดต่อ ซึ่งพวกเขาก็พยามเรียกร้องให้ส่งภาพของมันเพื่อยืนยันในจุดนั้น หลายคนที่ได้เจอกับมัน ก็จะถ่ายรูปมันเก็บไว้ แถมบางครั้งมันก็จะถูกขอถ่ายเซลฟี่เพื่อใช้ในการให้กำลังใจกับใครสักคนอีกจะหาก      แต่ว่าจากที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่มักจะขอภาพของมัน เพื่อที่จะช่วยให้พวกเขากลับมายิ้มได้อีกครั้ง ในวันที่พวกเขารู้สึกแย่และต้องการกำลังใจจากใครสักคน แน่นอนว่าภาพของ Buffy ก็ช่วยพวกเขาได้มากๆ เลยล่ะ “บางคนก็บอกกับฉันว่ามันคงมีความผิดปกติอะไรที่หน้าของมัน แต่ฉันว่ามันคงจะยิ้มเพราะมีความสุขเหมือนกับที่คนทำนั้นและ”     สุดท้ายเธอก็บอกว่าเธอภูมิใจและดีใจมาก ที่มีมันเข้ามาอยู่ในครอบครัว เจ้า Buffy เปรียบเหมือนดั่งดาวดวงน้อยที่ส่องประกายตลอดเวลาให้กับครอบครัว   . .…

  • รับเลี้ยง “แมวตาเดียว” กังวลจะเข้ากับ “หมาบูลเทอร์เรีย” ที่บ้านได้หรือไม่ แต่มันก็รักกันซะแล้ว!!

    รับเลี้ยง “แมวตาเดียว” กังวลจะเข้ากับ “หมาบูลเทอร์เรีย” ที่บ้านได้หรือไม่ แต่มันก็รักกันซะแล้ว!!

    ในยุคนี้มักจะมีคนที่เลี้ยงสัตว์เพียงเพราะแฟชั่นหรือเพราะความอยากชั่วครู่ จนท้ายที่สุดก็ไม่ได้ดูแลดีเท่าที่ควร จนต้องนำมันไปปล่อยทิ้งหรือประกาศหาเจ้าของใหม่ ซึ่งนั่นก็เป็นชะตาเดียวกับเจ้าเหมียวพันธุ์สฟิงซ์ตัวนี้ที่ทั้งบาดเจ็บและถูกปล่อยทิ้ง Phoebe Gill ที่รับเลี้ยงเจ้าเหมียว Stitch มา ได้เล่าว่าเธอไปเจอรูปของมันที่กำลังประกาศหาคนรับเลี้ยงต่อ ซึ่งครั้งแรกที่เธอเห็นเธอก็ตัดสินใจได้ทันทีว่าจะต้องรับเลี้ยงเจ้าเหมียวตัวนี้     แต่ว่าก็อย่างที่เห็น มันมีตาที่บาดเจ็บอยู่หนึ่งข้างนั่นเอง ตาข้างที่เจ็บเป็นแผลที่เรื้อรังมานานแล้ว ซึ่งเจ้าของเก่าของมันไม่แม้แต่จะพามันไปหาหมอเลยสักนิด จนสุดท้ายตาข้างที่เจ็บก็บอดและช่วยอะไรไม่ได้ หลังจากเธอรับอุปการะ เธอเลยพามันเพื่อไปผ่าตัดเอาตาที่บอดและเรื้อรังนั่นออก จนสุดท้ายมันก็กลับมามีสุขภาพที่ดีเหมือนเดิม พร้อมกับเข้ามาเป็นครอบครัวใหม่กับเธอ     แต่ว่าในตอนแรกเธอออกจะกลัวว่ามันจะไม่สามารถเข้ากับเจ้า Alaska หมาบูลเทอร์เรียเพศเมียที่เธอเลี้ยงไว้ก่อนหน้านี้ได้ เธอกังวลว่าเจ้าเหมียวจะกลัวหมาของเธอ หรือเลวร้ายกว่านั้นคือมันเข้ากันไม่ได้เลย และเจ้าหมาจะทำร้ายแมวเหมียว แต่เรื่องกลับผิดคาดเพราะมันทั้งคู่เข้ากันได้ดีมากๆ เลยล่ะแถมยังดูรักกันสุดๆ ห่างกันไม่ได้เลยทีเดียว…     ภาพของ Phoebe และ Stitch หลังจากผ่าตัดเสร็จ ดูมันสิหลับสบายเชียว   นอนหลับมีความสุขเชียวนะ   ตอนแรกเธอก็สงสัยว่าทั้งคู่จะไปด้วยกันได้ไหม   แต่ว่าปัญหานั้น ก็หมดไปหลังจากที่เห็นพวกมันเข้ากันได้ดีขนาดนี้ นี่คือหมากลายเป็นทาสแมวไปแล้วสินะ!?   ตัวติดกันตลอดเวลาเลยล่ะ   นอนด้วยกันไม่ห่างไปไหนเลย น่ารักจริงๆ เชียว…

  • Jirocho และ Ishimatsu สองเหมียวบริกรสุดน่ารัก แห่งร้านกาแฟ Café Arles ย่านชินจูกุ

    Jirocho และ Ishimatsu สองเหมียวบริกรสุดน่ารัก แห่งร้านกาแฟ Café Arles ย่านชินจูกุ

    ในยุคนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักคาเฟ่แมวแน่ๆ ซึ่งถึงแม้จะผ่านมาสักพักแล้วกระแสความนิยมของคาเฟ่แมวก็ยังคงไม่เสื่อมคลาย แน่นอนว่าในญี่ปุ่นก็เช่นกัน กระแสของคาเฟ่แมวก็ยังคงดีอย่างต่อเนื่องถึงแม้จะเบาลงบ้างนิดหน่อย แต่เหล่าทาสแมวก็ยังคงชอบที่จะแวะเวียนไปหาเจ้าเหมียวอยู่ดี   วันนี้เราก็เลยจะพาไปรู้จักกับคาเฟ่แมวแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Café Arles ซึ่งเป็นหนึ่งในคาเฟ่แมวลำดับต้นๆ ในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ แต่ถึงอย่างนั้นที่นี้ก็ไม่ได้มีแมวมากหน้าหลายตาเหมือนที่อื่น เพราะที่นี้มีลูกจ้างเป็นเจ้าเหมียวเพียงแค่ 2 ตัวเท่านั้น แถมมันยังไม่ได้ทำงานประจำเหมือนกับคาเฟ่อื่น เพราะมันทำงานตามอารมณ์ของพวกมันเท่านั้น     ซึ่งหน้าที่ของทั้งสองคือสร้างความสนุกสนานให้กับลูกค้าภายในร้าน โดยถ้าพวกมันทำได้ดีก็จะได้รับค่าตอบแทนอย่างดีเป็นอาหารชั้นเยี่ยม และความเอ็นดูจากทั้งเจ้าของของและลูกค้า ถึงแม้จะมีเจ้าเหมียวเพียงแค่สองตัวพวกมันก็ทำหน้าที่ได้อย่างดี บวกเข้ากับบรรยากาศที่สบายเป็นกันเองภายในร้านเหมาะแก่การจิบกาแฟและอ่านหนังสือสักเล่มเลย   เจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่า Ishimatsu ซึ่งมันชอบนอนมากๆ เลยล่ะ   ดูหน้ามันสิ บ่งบอกได้ว่า ออกไปอย่ามายุ่งนะ เจ้ามนุษย์   ส่วนเจ้าตัวนี้ชื่อว่า Jirocho เจ้าตัวนี้มันออกจะซนพอสมควรเลยทีเดียว   ด้วยความที่มันมีความชิล ดูสบายกว่าคาเฟ่เหมียวทั่วๆ ไป เพราะมันเหมือนร้านกาแฟที่เลี้ยงแมวไว้เป็นเพื่อเล่นซะมากกว่า การได้อ่านหนังสือแถมยังมีเจ้าเหมียวทั้งสองช่วยสร้างความเพลิดเพลินใกล้ๆ อีกต่างหาก นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ร้านแห่งนี้เป็นที่นิยมนั่นเอง       แถมหลายๆ คนก็ชอบที่จะเล่นกับมันด้วยนะ   คนในย่านนั้นจะรู้จัก Jirocho กันดีเลยมันชอบที่จะออกไปข้างนอกบ่อยๆ แต่ไม่ต้องห่วงแปปเดียวมันก็กลับมาแล้วล่ะ   ข้างนอกร้านก็ตกแต่งได้ดีไม่แพ้กันเลย  …

  • ส่องบ้านพักตากอากาศมหาเศรษฐี “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ประกาศขายในราคา 11 ล้านเหรียญ

    ส่องบ้านพักตากอากาศมหาเศรษฐี “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ประกาศขายในราคา 11 ล้านเหรียญ

    เป็นอย่างที่รู้ๆ กันว่าบ้านของเหล่าอภิมหาเศรษฐีต่างๆ มักจะมีความหรูหราพอสมควรตามฐานะของพวกเขา ซึ่งแน่นอนว่าบ้านของคนมีเงินเหล่านี้มักจะน่าสนใจเสมอ แถมนอกจากบ้านปกติแล้ว ด้วยความที่มีเงินมากจนแทบใช้ไม่หมด พวกเขาเหล่านี้ยังนิยมที่จะมีบ้านพักตากอากาศอีกตะหาก วันนี้เราเลยจะมาดูบ้านพักตากอากาศของนักลงทุนชาวอเมริกันที่มีชื่อว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ กัน ส่วนใครที่ไม่รู้จัก วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะขอเล่าสั้นๆ ให้ฟัง เขาเป็นนักลงทุนสัญชาติอเมริกัน ซึ่งเขามาชื่อเสียงจากปรัชญาการลงทุนแบบเน้นคุณค่าและความเป็นอยู่อย่างประหยัด ถึงแม้ว่าเขาจะร่ำรวยเกือบที่สุดในโลกก็ตาม และเขายังมีชื่อเสียงจากความใจบุญด้วย     เขาคนนี้เคยติดอันดับคนที่รวยที่สุดอันดับที่  3 ในปี 2554 ซึ่งมีทรัพย์สินมากถึง 5 พันล้านเหรียญ (ตีเป็นราวๆ 1.7 แสนล้านบาท) ที่สำคัญเขายังเป็นเพื่อนกับ บิลล์ เกตส์ ด้วยนะ ซึ่งทั้งคู่ชอบที่จะเล่นเกมไพ่บริดจ์กับบิลล์ เกตส์ผ่านทางระบบออนไลน์บ่อยๆ เพื่อลับสมอง… ก็พอรู้จักเขาคนนี้ไปพอประมานแล้วนะ เอาเป็นว่าเรามาส่องบ้านพักสุดหรูของเขากันเลยดีกว่า   เขาได้ซื้อบ้านนี้ไว้ตั้งแต่ปี 1971 ในราคา 1.7 แสนเหรียญเท่านั้น (ราวๆ 5.9 ล้านบาท) แต่ว่าล่าสุดเขาได้เปิดขายบ้านหลังในราคา 11 ล้านเหรียญ (ราวๆ 380 ล้านบาท) เรียกว่าราคาดีดสูงมากๆ เลยทีเดียว  …

  • รวม 14 “สะพานลอยสัตว์” จากทั่วทุกมุมโลก ช่วยชีวิตสัตว์ป่าได้นับหมื่นต่อปี…

    รวม 14 “สะพานลอยสัตว์” จากทั่วทุกมุมโลก ช่วยชีวิตสัตว์ป่าได้นับหมื่นต่อปี…

    เป็นที่รู้กันดีว่าเวลาคนจะข้ามถนน ก็จะมีทางม้าลาย สัญญานไฟ หรือสะพานลอยไว้ให้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับคนที่ข้ามถนน แต่ว่าใช่เพียงแค่คนเท่านั้นที่จะต้องการความปลอดภัยในการข้ามถนน สัตว์ก็ต้องการเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บางประเทศมีการสร้างสะพานหรือทางเดินไว้สำหรับข้ามถนนให้กับเหล่าสัตว์ต่างๆ ให้พวกมันสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับความเจริญของมนุษย์ ซึ่งพัฒนาเข้าไปในพื้นที่ของพวกมันนั่นเอง หากย้อนกลับไปในอดีต สะพานสัตว์แห่งแรกถูกสร้างขึ้นในราวๆ ปี ค.ศ.1950 ชื่อว่า Natuurbrug Zanderij Crailoo อยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ แถมสะพานนี้ก็เป็นสะพานสัตว์ที่ยาวที่สุดอีกด้วย   หน้าตาของสะพานสัตว์แรกและมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด…   ฉะนั้นวันนี้เราเลยจะพาไปดูตัวอย่างของสะพานเพื่อสิ่งมีชีวิตร่วมโลกของเรากันบ้าง ทั้งสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่จากหลายๆ ประเทศ ว่าจะมีหน้าตาอย่างไรบ้าง…    สะพานปู ในเกาะคริสต์มาส   สะพานสำหรับสัตว์ป่าอีกแห่ง ในประเทศเบลเยียม   อุโมงตรงรางรถไฟสำหรับเต่าเดินผ่านรางได้ ในประเทศญี่ปุ่น   สะพานสัตว์อุทยานแห่งชาติ Banff ในประเทศแคนาดา   สะพานสัตว์ป่า ในประเทศเยอรมนี   สะพานสำหรับเหล่านกและสัตว์อื่นๆ ในประเทศออสเตรเลีย   สะพานสัตว์ขนาดใหญ่ ในประเทศสิงคโปร์   อุโมงทางลอดสำหรับเหล่าสัตว์ ในประเทศฟินแลนด์   สะพานข้ามถนนสำหรับลิง ในประเทศบราซิล   สะพานลอยสำหรับสัตว์ ในประเทศแคนาดา  …

  • เด็กสาวเสียชีวิตด้วย “โรคหอบหืด” จากแพทย์ที่ปฏิเสธรักษาเพราะ “เลยเวลานัด 4 นาที”

    เด็กสาวเสียชีวิตด้วย “โรคหอบหืด” จากแพทย์ที่ปฏิเสธรักษาเพราะ “เลยเวลานัด 4 นาที”

    เรื่องราวดราม่าบนโลกออนไลน์ของต่างประเทศ จากการที่เว็บไซต์ข่าวแลดไบเบิล รายงารการจบชีวิตของเด็กสาวคนหนึ่ง หลังจากหมอปฏิเสธรักษาเธอ เพราะเธอมาถึงช้ากว่าเวลานัดประมาณ 4 นาที สาวน้อยวัย 5 ขวบ Ellie-May Clark ได้จากไปอย่างกระทันหันด้วยโรคหอบหืด เนื่องจากคุณหมอ Joanne Rowe  วัย 53 ปี ได้ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือเธอ ตามรายงานในภายหลังนั้นระบุว่า คุณหมอเองก็ทราบดีว่าอาการของหนูน้อยอยู่ในอันตราย และอาจจะถึงแก่ชีวิตได้ แต่ยังปฏิเสธการพบในครั้งนั้นด้วยเหตุผลเดิม   ภาพที่คุณแม่ของเด็กโพสต์เอง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ให้มีการลงโทษคุณหมอ   ซึ่งเมื่อโดนปฏิเสธ ทางครอบครัวก็ได้รับคำแนะนำให้กลับมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ แต่ทว่าเรื่องร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อตอนเย็นพวกเขาพบว่า เด็กสาวไม่หายใจอีกแล้ว Shanice แม่ของเด็กสาวบอกว่าเธอพบลูกของเธอไม่หายใจนานกว่า 1 ชั่วโมงแล้ว นับตั้งแต่ที่แม่ของเธอพาเธอไปนอนที่เตียงตอนกลับมาบ้าน ผลของเหตุการณ์นี้ทำให้แพทยสภาออกมาพูดถึงเหตุการณ์นี้ว่า การที่คุณหมอ Joanne ปฏิเสธจะเข้ารักษานั้นเป็นสาเหตุการตายของเด็กสาวคนนี ล่าสุดมีรายงานว่าคุณหมอคนดังกล่าวไม่ได้ถูกไล่ออก เพียงถูกพักงาน 6 เดือน แต่ยังได้รับค่าจ้างอยู่เช่นเดิม   ภาพที่คุณแม่ของเด็กโพสต์เอง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ให้มีการลงโทษคุณหมอ   Brandi คุณยายของเด็กสาวได้บอกว่า “พวกเราไม่เคยได้รับคำขอโทษใดๆ เลยจากปากของคุณหมอ Joanne หมอที่เอาแต่จ้องนาฬิกาห่วงแต่เวลานัดของตัวเอง…

  • พนักงานร้านอาหารเมาท์มอย 5 ประสบการณ์แย่ๆ ของ “คู่เดท” ที่พวกเขาเคยเจอมา

    พนักงานร้านอาหารเมาท์มอย 5 ประสบการณ์แย่ๆ ของ “คู่เดท” ที่พวกเขาเคยเจอมา

    เวลาที่เราอยากจะชวนใครไปเดทด้วยสักคน สถานที่แรกๆ ที่เรามักจะคิดถึงและชวนกันไปมักจะเป็น “ร้านอาหาร” เสมอๆ เพราะฉะนั้นเหล่าพนักงานในร้านอาหาร ก็มักจะได้เห็นคู่เดทเหล่านี้มาใช้บริการกันบ่อยๆ วันนี้เราเลยจะมาดูเรื่องเล่าของเดทแย่ๆ จากประสบการณ์ตรงผ่านปากพนักงานร้านอาหาร ที่เขาจะออกมาเล่าให้พวกเราได้ฟังว่า ประสบการณ์เดทแย่ๆ ที่เคยเจอนั้น เป็นอย่างไรบ้าง…   1. “ผมไม่รู้จะอ้างยังไง แต่คุณช่วยพาผมออกไปจากที่นี้ที่เหอะ” เรื่องนี้เป็นเรื่องชองสมาชิก Reddit ที่ชื่อว่า XelaKebert เธอเล่าว่า“ฉันทำงานที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีคืนหนึ่งที่ฉันกำลังทำงานอยู่ก็มีคู่เดทคู่หนึ่งเข้ามาที่ร้าน พวกเขาก็กินข้าวด้วยกันปกติ แต่แล้วอยู่ดีๆ ผู้ชายคนนั้นก็เข้ามาหาฉันพร้อมกับยื่นผ้าเช็ดหน้าที่มีเงินอยู่ในนั้นราวๆ 700 บาท พร้อมกับบอกฉันว่า ‘นี่มันเป็นเดทที่ห่วยที่สุดในชีวิตของผมเลย ผมไม่รู้จะหาข้ออ้างออกไปจากนี้ยังไงดี ฉะนั้นเอาเบอร์โทรของผมไป แล้วช่วยโทรหาแล้วทำทีว่าให้ผมต้องรีบกลับบ้านทีเถอะ ผมไม่สนว่าคุณจะอ้างว่าอะไร ขอแค่ให้ผมได้ออกไปจากเดทนรก นี้ทีเหอะ’ แน่นอนฉันก็โทรไปหาชายคนนั้นทันที ที่ฉันมีโอกาสเพื่อทำตามคำขอและรับค่าจ้าง”   2. “ชายคนหนึ่ง พูดโอ้อวดแต่เรื่องของตัวเอง ว่าเขาพิเศษกว่าคนอื่นยังไง”  สมาชิก Reddit ที่ชื่อว่า frogsmouth เล่าว่า “ฉันเจอคู่เดท คู่หนึ่งที่มาเดทด้วยกัน แต่ว่าประโยคสนทนาทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องของตัวผู้ชายเท่านั้น เขาเล่าแต่ว่าเขาดียังไง พิเศษยังไง เรื่องทั้งหมดล้วนเป็นแค่เรื่องของเขาคนเดียวเท่านั้น แถมเวลาที่ผู้หญิงจะพูดอะไรสักอย่างเขาจะขัดไม่ให้ผู้หญิงพูดทันที นี้มันแย่มากๆ เลยล่ะ”   3. “เขาเอาแต่คุยแต่กับแม่ของเขา โดยที่ไม่สนใจคู่เดทสักนิด”…

  • ท่าโคตรพระเอก!! เมื่อ “กระรอกน้อย” ทำท่าต่อยดินสุดเท่ งานนี้โดนรุมยำอีกตามเคย

    ท่าโคตรพระเอก!! เมื่อ “กระรอกน้อย” ทำท่าต่อยดินสุดเท่ งานนี้โดนรุมยำอีกตามเคย

    เป็นที่รู้กันดีว่าในยุคอินเตอร์เน็ตแบบนี้ ถ้ามีภาพอะไรเจ๋งๆ โผล่ออกมาแล้วถูกโยนไว้บนเน็ตแล้วละก็ ภาพนั้นคงจะไม่รอดที่จะถูกหยิบมาตัดต่อแน่ๆ ล่าสุดก็มีคนโพสภาพของเจ้ากระรอกที่ทำท่าสุดเท่จนทุกคนต้องหยิบมาตัดต่อ ท่าที่มันทำนั้นเป็นท่าแบบคุกเข่าหนึ่งข้าง และทำท่าเหมือนจะเอามือทุบดิน ที่เหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ที่หลายๆ คนชอบทำนั่นเอง อย่ามัวแต่รอช้ากันเลย เรามาดูผลงานการตัดต่อของชาวเน็ตกันเลยดีกว่า ว่าจะเฟี้ยวขนาดไหน!!   ภาพออริจินอลฮีโร่แลนดิ้งของเจ้ากระรอก   ท่าทางการสตาร์ทเครื่องตัดหญ้า บอกเลยชั้นเซียนอะ   ฮะโช๊ว อ๊ะเช๊ะ   ยอดมนุษย์กระรอกสุดโหด   UFC ก็มา ต่อยยับอะ   จะทำความสะอาดห้องเรียนก็ได้เหมือนกัน   บอกแล้วอย่าให้มันกินเยอะ พอมันโตแล้วก็อาละวาดซะเละเลย   ข้าคือซามูไร ผู้ปกป้องปราสาทแห่งนี้   เข้าที่… ระวัง…. กระรอก สายฟ้าฟาด   ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ของทีม GotG   รับกระแส Logan กันหน่อย วูฟเวอร์รอก   กองทัพกระรอกบุกเมือง   รอดูเลย ช็อตนี้ลงแน่นอน   เดอะ เมทริกซ์…

  • เหตุการณ์ตัว “เxี้ย” บุกร้านอาหาร หญิงสาวใจกล้าจับหางลากออกไปชิลๆ คนอื่นได้แต่งง!??

    เหตุการณ์ตัว “เxี้ย” บุกร้านอาหาร หญิงสาวใจกล้าจับหางลากออกไปชิลๆ คนอื่นได้แต่งง!??

    ประเทศออสเตรเลีย เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยสัตว์อัตรายมากมาย นั่นก็รวมถึงสัตว์ตระกูลตัวเงินตัวทอง หรือที่เราเรียกว่า “เxี้ย” ด้วยเช่นกัน ซึ่งล่าสุดก็ได้มีเพจ Mimosa Wines ได้โพสเหตุการณ์ที่มีเจ้า Goanna ตัวหนึ่งหลุดเข้าไปในร้าน ซึ่งมันก็เป็นสัตว์สายพันธุ์เดียวกับเหี้ยนี่แหละแต่ทว่ามันอาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียเท่านั้น และมันอันตรายที่มากกว่าตัวเหี้ยปกติตรงที่มันสามารถฟาดหางได้อย่างรุนแรง กรงเล็บที่แหลมคม ที่สำคัญน้ำลายของมันเป็นพิษร้ายแรงทำให้ถึงตายได้เลยทีเดียว ซึ่งมันก็สร้างความปั่นป่วนให้คนในร้านพอสมควรเลยทีเดียว แถมดูแล้วก็ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปจัดการมัน แต่แล้วก็มีฮีโร่คนหนึ่งโผล่ขึ้นมาเธอคือพนักงานสาวคนหนึ่งที่ชื่อว่า Samia Lila เธอเข้าไปจับหางของเจ้านั่น แล้วก็ลากมันออกไปราวกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น   เธอเข้าไปลากเจ้านี่ออกไปอย่างสบายๆ เลยล่ะ ดังที่เห็นในคลิปวิดีโอด้านล่าง…   เธอเป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแห่งนี้ แต่ทว่าในขณะที่เธอกำลังทำงานอยู่ เจ้าสัตว์ท้องถิ่นนี้ก็โผล่ออกมา ทำให้ฮีโร่สาวคนนี้ต้องเข้าไปจัดการมัน เพราะนักท่องเที่ยวคนอื่นมีท่าทีจะกลัวมันพอสมควร และไม่มีใครยอมเข้าไปจัดการกับมันสักที   ภาพของ Samia ที่จัดการกับมัน   เธอให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่ทำ “ฉันรู้ว่ามันอันตรายแต่ว่ามันเข้าไปใกล้ลูกค้าคนอื่นๆ และฉันก็ไม่ได้กลัวมันเลย เพราะฉันออกจะชอบสัตว์เลื้อยคลานเสียด้วยซ้ำ” หลังจากคลิปวีรกรรมของเธอถูกเผยแพร่ออกไป จนตอนนี้ยอดวิวมีมากถึง 600,000 วิว และยอดแชร์มากกว่า 3,000 แชร์เลยทีเดียว แถมยังมีคอมเมนต์ต่างกันไปอีกด้วยเช่น   “Samia เธอเป็นคนที่ดีมากๆ เลย ดูความกล้าของผู้ชายทั้งร้านที่เข้าไปช่วยสิ ฮ่าๆ”  (ประชด)   “พวกเรากำลังกินข้าวอยู่ในเหตุการณ์ เธอเข้าไปจัดการตัวเxี้ยทันทีโดยที่ไม่ต้องคิดเลย ซึ่งเธอกล้าหาญมากๆ”…

  • ร้านอาหารจัดโปรสุดเจ๋ง ส่วนลดพิเศษสำหรับครอบครัวที่ “ควบคุมบุตรหลาน” ได้อยู่หมัด

    ร้านอาหารจัดโปรสุดเจ๋ง ส่วนลดพิเศษสำหรับครอบครัวที่ “ควบคุมบุตรหลาน” ได้อยู่หมัด

    เคยไหมเวลาที่เราออกไปกินข้าวข้างนอก แล้วเราจะต้องเจอกับครอบครัวที่พาลูกๆ เด็กๆ มากินด้วย แต่แล้วเด็กพวกนี้เนี่ย กลับก่อความวุ่นวาย ส่งเสียงดังไปทั่วทั้งร้าน จนเราไม่อยากจะออกไปกินข้าวตามร้านอาหารเลย แต่ทว่าปัญหานี้จะหมดไป เมื่อร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Antonio Ferrari แห่งนี้ เขาได้มองเห็นถึงปัญหานี้และตั้งโปรโมชั่นใหม่ขึ้นมาว่า “ถ้าลูกๆ ของคุณทำตัวเป็นเด็กดีไม่รบกวนคนอื่น คุณจะได้รับส่วนลด 5% ทันที”     เจ้าของร้านคือคุณ Antonio Ferrari ชื่อเดียวกับร้านอาหารเลยนั่นและ เขากล่าวก่อนว่า “ผมเคยเห็นเด็กวัย 5 ขวบเอาเท้าวางไว้ที่โต๊ะ และเด็กวัย 4 ขวบปีนขึ้นไปยื่นอยู่บนโต๊ะและเก้าอี้ในร้าน พ่อแม่ของเด็กพวกนั้น เขาไม่ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ” “ที่สำคัญหลังจากผมไปบอกพ่อแม่ของเด็กพวกเขากลับตอบมาว่า ลูกๆ ของพวกเราจะทำอะไรก็ได้ที่พวกเขาอยากทำ”       ด้วยเหตุดังกล่าว เขาเลยตั้งกฎขึ้นมาเป็นพิเศษ นอกจากจะเป็นการช่วยเตือนใจกลุ่มพ่อแม่ที่พาลูกๆ มาทานในร้านให้รบกวนคนอื่นน้อยลง ยังทำให้ทุกคนที่ทำตามกฎได้ส่วนลดดีๆ ไปด้วย Antonio ยังพูดเสริมถึงจำนวนลูกค้าที่ได้รับการลดราคานั่นมีเพียงแค่ 3 ครอบครัวเพียงเท่านั้น นับตั้งแต่เขาเริ่มจัดโปรโมชั่นนี้ขึ้นมา ซึ่งเขาบอกว่ามันหาได้ยากมากๆ ที่จะเจอเด็กกับครอบครัวที่วางตัวดีๆ สักครอบครัวหนึ่ง     ท้ายที่สุดเขายังคงหวังว่าจะเจอกับเด็กๆ…

  • เมืองโอจิในญี่ปุ่น เปิดตัว “โดรนน้องหมาบินได้” เป็นมาสคอตนำเที่ยวสุดน่ารัก

    เมืองโอจิในญี่ปุ่น เปิดตัว “โดรนน้องหมาบินได้” เป็นมาสคอตนำเที่ยวสุดน่ารัก

    สำหรับเมืองเล็กๆ ในญี่ปุ่น ต่างจากเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกีบง หรือโอซาก้า ที่มีสถานที่น่าสนใจเหลือเฟือ การจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาได้นั้นเป็นเรื่องที่อยากลำบากพอสมควรเลยทีเดียว พวกเขาต้องพยามกันเป็นอย่างมากเพื่อคิดแผนโปรโมตให้คนมาที่เมืองของเขา แต่ทว่าล่าสุดเมืองโอจิ ในจังหวัดนาระ ได้เปิดตัวมาสคอตตัวใหม่ เป็นโดรนที่มีหน้าตาเป็นหมาน้อยน่ารักอย่างที่เราได้เห็นกันนี้ เจ้ามาสคอตตัวนี้มีชื่อว่า Yukimaru ที่สำคัญพวกเขายังทำเป็นวีดีโอโปรโมตออกมาด้วย นอกจากความน่ารักมุ้งมิ้ง มันก็ยังเป็นตัวแทนการท่องเที่ยวของเมืองอย่างเป็นทางการอีกหนึ่งตำแหน่ง     จากวีดีโอข้างบนเราจะเห็นว่าเจ้า Yukimaru เนี่ยลอยไปสถานที่ท้องเที่ยวประจำเมืองมากมายหลายที่เลย ไม่ว่าจะเป็น วัดดารุมะ, แม่น้ำยามาโตะ และ ภูเขาเมียวจิน เป็นต้น ในวีดีโอเราจะเห็นเจ้าชายโชโทคุ และ ดารุมะ แจมอยู่ในวีดีโอด้วย ซึ่งทั้งคู่เป็นตำนวนที่อยู่คู่มากับเมือง โดยตำนานเล่าว่าเจ้าชายโชโทคุ ได้มอบอาหารและเสื้อผ้าให้กับ ดารุมะซึ่งเป็นนักบวชที่หิวโซ เพื่อทำให้เขารอดชีวิตจากกความอดอยาก     จนแล้วจนรอด ดารุมะก็ตายไปอยู่ดี ด้วยความรักและเคาระเจ้าชายก็เลยให้คนสร้างหลุมศพให้กับเขา… แต่เรื่องราวก็ยังไม่จบแค่นั้น เพราะตอนหลังศพของเขาหายไปอย่างไรร่องรอย กลายมาเป็นชื่อวัดแห่งนี้มาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ เจ้าชายโชโทคุยังคงเลี้ยงหมาไว้อีกตัวหนึ่ง เมื่อหมาเขาตายไป เขาก็สร้างหลุมศพของหมาไว้ที่สุสานในวัดแห่งนี้ และกลายมาเป็นเจ้าหมาโดรนบินที่เราเห็นกันนี่แหละ       ฉะนั้นเจ้าหมา Yukimaru ก็เลยถือว่าเป็นสัตว์คู่ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้มาอย่างยาวนาน แถมในเวอร์ชั่นนี้มันยังถือว่าเป็นโดรนมาสคอตตัวแรกอีกด้วย (คงเพราะไม่เคยมีใครทำมาก่อนสินะ -*-) ดูรายละเอียดของมันแบบชัดทุกรูขุมขน…

  • ประเทศจีนเริ่มใช้ “หุ่นยนต์ลาดตระเวนตรวจอากาศ” เพื่อรายงานสภาวะความเป็นพิษ ให้ผู้คนได้รับทราบ

    ประเทศจีนเริ่มใช้ “หุ่นยนต์ลาดตระเวนตรวจอากาศ” เพื่อรายงานสภาวะความเป็นพิษ ให้ผู้คนได้รับทราบ

    ยิ่งนานวันหุ่นยนต์ยิ่งเข้ามามีบทบาทกับชีวิตของเรามากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตประจำวัน หรือจะเป็นในเรื่องของอุตสาหกรรมต่างๆ หุ่นยนต์ต่างล้วนมีเข้ามีบทบาททั้งสิ้น และอย่างที่เรารู้ว่า ปัญหาสภาพอากาศอันเลวร้ายในหลายๆ เมืองของประเทศจีนกำลังถูกพูดถึงในวงกว้าง ผู้คนก็เลยคิดว่ารัฐบาลควรจะมีมาตรการอะไรสักอย่างมาช่วยและล่าสุดจีนก็ได้ปล่อยหุ่นยนต์ตัวใหม่ออกมาเพื่อช่วยดูแลผู้คนในสถานีรถไฟกันแล้ว หุ่นยนต์ตัวนี้ประจำการอยู่ที่สถานีรถไฟเจิ้งโจวตะวันออก ในเมืองเจิ้งโจว ซึ่งมันมีหน้าที่ตรวจสอบสภาพอากาศ ความชิ้น รวมถึงควันไฟภายในสถานีและโชว์ออกมาผ่านทางหน้าจอมอนิเตอร์ แม้กระทั่งตอนกลางคืนมันก็ยังทำหน้าที่ได้อย่างดี   นี้คือหน้าตาของเจ้าหุ่นลาดตระเวนที่ว่า   ดูแล้วเหมือนเด็กๆ จะชอบเจ้าหุ่นตัวนี้เป็นพิเศษเลยล่ะ มันถูกออกแบบมาให้หน้าตาเป็นมิตร และเข้าถึงกับทุกคน มันจะสามารถเดินไปเดินมาเพื่อทำให้คนทราบสภาวะของอากาศตอนนั้นว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย   มันยังเป็นที่สนใจมากๆ สำหรับคนที่ผ่านไปมาในสถานีอีกด้วย นอกจากจะช่วยรายงานเรื่องสภาพอากาศแล้ว ตอนกลางคืนมันยังกลายเป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่จะคอยเดินเคลียร์สถานีรถไฟให้สะอาดอยู่เสมอ   ถ้าเพิ่มฟังค์ชั่นอื่นๆ เข้าไปอีก มันคงจะน่าสนใจไม่น้อยเลยนะเนี่ย   ไม่ว่าจะรูปไหนก็มีเด็กๆ เสมอ ถือว่ามันเป็นที่ถูกอกถูกใจเด็กๆ มาก   ถือว่านี้เป็นก้าวแรกของยุคอนาคตเลยก็ว่าได้สำหรับการนำห่นยนต์เข้ามามีบทบาทในที่สาธารณะแบบนี้ อีกหน่อยเราอาจจะต้องใช้ชีวิตอยุ่กับพวกมันแบบในภาพยนตร์หลายๆ เรื่องก็ได้ใครจะรู้ แต่ที่รู้แน่ๆ คือพวกมันช่วยอำนวยความสะดวกให้เรามากๆ เลยล่ะ!! ที่มา chinadaily

  • ไอเดีย “ที่พักรถริมทาง” สุดร่มรื่นในหมู่บ้านอังกฤษ ชาวบ้านยังงงว่าใครมาสร้างไว้!?

    ไอเดีย “ที่พักรถริมทาง” สุดร่มรื่นในหมู่บ้านอังกฤษ ชาวบ้านยังงงว่าใครมาสร้างไว้!?

    สำหรับคนที่ชอบเดินทางไกลแล้วการได้ไปหยุดที่จุดพักรถถือเป็นสวรรค์ดีๆ นี่เอง เพราะว่าเราจะได้มีเวลาพักผ่อนจากการขับรถนานๆ อาจจะได้นอนพัก ทานอาหาร หรือเขาห้องน้ำ เติมพลังเพื่อการเดินทางครั้งต่อไป และที่หมู่บ้าน Walkhampton ในเมือง Devon ก็มีจุดนี้เหมือนกัน แต่ที่แปลกกว่าที่อื่นก็คือจุดพักรถนี้เป็นจุดเล็กๆ แต่ดูอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก และที่งงกว่านั้นคือไม่มีใครรู้เลยว่าใครเป็นใครทำ เพราะเห็นอีกทีก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว     ชาวบ้านที่นั่นเล่าว่า “มันเป็นสิ่งดีๆ และทำให้หมู่บ้านดูมีสีสันขึ้นมาเลย” เพราะว่าการตกแต่งนั้นทำออกมาเหมือนห้องนั่งเล่น ต่างจากที่อื่นๆ ซึ่งเราคุ้นตาจะมาเป็นรูปแบบศาลาริมทางไว้ให้เราได้พอพักผ่อนชั่วครู แต่ที่นี่เหมือนจะให้เรางีบหลับกันได้อย่างสบาย และบรรยากาศก็ดูเหมือนบ้านหลังน้อยๆ หลังหนึ่ง   ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ฤดูร้อนปีที่แล้ว ตอนแรกมันก็๋เป็นเพิงที่พักธรรมดาสร้างด้วยหินแบบศาลาริมทางทั่วไป ในคืนนั้นอยู่ดีๆ บ้านหนังนี้ก็ถูกเปลี่ยนข้ามคืนด้วยเก้าอี้และโซฟา แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งเดือน นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฮาโลวีนหรือว่าจะเป็นตอนวาเลนไทน์ จุดพักรถนี้ก็จะเปลี่ยนไปตามเทศกาลเหล่านั้นด้วยการตกแต่งที่แตกต่างจากปกติ เพื่อให้เข้ากับเทรนด์ที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตลอดปี     ตอนนี้ก็ยังเป็นปริศนาอยู่ว่าใครเป็นคนทำของเหล่านี้ขึ้นมา แต่มันก็ทำให้ที่ที่ไม่เคยมีอะไรให้ดูมีอะไรขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยเนอะ เดิมทีที่แห่งนี้เป็นจุดพักรถบัสซึ่งถูกสร้างมาในปี 2013 แต่หลังจากที่รถบัสหยุดให้บริการตรงเส้นทางสายนี้ ตอนนี้มันกลายเป็นจุดพักรถทั่วไปแล้ว ถือเป็นอีกความงดงามที่เกิดขึ้นโดยฝีมือใครก็ไม่รู้   ที่มา bbc

  • จาก ‘นกน้อย’ ที่บินมากวนเขาตอนกินข้าวเที่ยงทุกวัน กลายเป็นเพื่อนสนิท ขาดกันไม่ได้ซะแล้ว!!

    จาก ‘นกน้อย’ ที่บินมากวนเขาตอนกินข้าวเที่ยงทุกวัน กลายเป็นเพื่อนสนิท ขาดกันไม่ได้ซะแล้ว!!

    ปกติแล้วเวลาที่เราออกไปกินข้าวตามร้านอาหารข้างทางต่างๆ เรามักจะเจอสุนัขเจ้าถิ่นแถวนั้น มารอแบ่งอาหารจากเรา ซึ่งแน่นอนว่าบางคนก็จะรำคาญ หรือบางคนก็เต็มใจที่จะแบ่งให้พวกมัน ซึ่งมันก็เกิดขึ้นกับชายคนนี้เช่นกัน แต่ทว่าสัตว์ที่มากวน มันดันเป็น ‘นก‘ นะสิ เรื่องของชายคนนี้มันเริ่มขึ้นในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากที่เขาออกไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารแล้วบังเอิญก็มีนกตัวหนึ่งบินมาเกาะอยู่บนจานของเขา และพยามที่จะแย่งอาหารในจานของเขาไป ซึ่งในตอนแรกเขาก็รู้สึกรำคาญมันพอสมควรจนต้องไล่มันให้ออกไปจากจานข้าวของเขา…     วันนั้นผ่านไปเขาก็คิดว่ามันจบแล้ว แต่ในทุกๆ วันที่เขามากินข้าวก็จะมีนกมาเกาะที่จานข้าวของเขาเหมือนเดิมทุกๆ วันจนชายคนนี้เริ่มเอะใจเกี่ยวกับเจ้านกที่มาขอข้าวกิน ซึ่งทุกตัวที่มามันมีตำหนิเหมือนเดิม จนเขารู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา มันคือนกตัวเดิม นอกจากนี้ชายนี้ยังพูดอีกว่า “ผมยอมรับว่าในตอนแรกมันก็น่ารำคาญพอสมควรเลย แต่ว่าจากรอยตำหนิที่ปีกของมันทำให้ผมพอจะเดาได้ว่านกตัวนี้ต้องบาดเจ็บหรือป่วยอยู่แน่ๆ ช่วงแรกผมจะใช้มือปัดเพื่อไล่มันไป แต่ทว่ามันกลับล้มลงแทนที่จะบินหนี นั่นจึงทำให้ผมรู้สึกแย่มากๆ ตั้งแต่นั้นมาหลังจากที่ผมกินข้าวเสร็จผมก็จะแบ่งอาหารให้มันทุกครั้ง”     ท้ายที่สุดชายคนนี้ก็ตั้งชื่อให้กับเจ้านกว่า Baldie และนับตั้งแต่นั้นมาการกินข้าวเที่ยงด้วยกันของทั้งคู่จึงกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปเสียแล้ว “ทุกครั้งที่อยู่มันๆ ก็หายไป ผมจะรู้สึกเป็นกังวลมาก ว่ามันจะเป็นอะไรไหม จะเกิดอะไรขึ้นกับมันหรือเปล่า แต่ทว่าสุดท้ายมันก็กลับมาพร้อมกับกระเพาที่หิวโหย”     สุดท้านแล้วจากชายที่ปลีกตัวเพื่อมากินข้าวคนเดียวและต้องการความสงบ ตอนนี้เขาก็ได้เพื่อนกินข้าวเพิ่มมาหนึ่งตัว และดูเหมือนเขาจะมีความสุขกับเพื่อนตัวใหม่ของเขามากๆ เลยทีเดียว กลายเป็นเพื่อนที่ขาดไม่ได้ไปซะแล้ว… ที่มา thedodo

  • 19 ภาพอาหารการกินแบบขัดใจแม่ จนต้องรออุทานว่า “ทำไมถึงทำชั้นด๊ายยยยย!?”

    19 ภาพอาหารการกินแบบขัดใจแม่ จนต้องรออุทานว่า “ทำไมถึงทำชั้นด๊ายยยยย!?”

    เคยไหมที่บางครั้งเราก็กินอาหารด้วยวิธีที่มันผิดแปลกจากชาวบ้าน หรือบางทีเราก็มีเพื่อนหรือคนรู้จักเป็นแบบนั้นเช่น บางคนอาจจะใช้มือกินก๋วยเตี๋ยวแทนตะเกียบ บางคนอาจจะใช้ส้อมในการตักข้าวแทนช้อน (มันมีด้วยเหรอฟระ!?) ซึ่งเวลาเราเห็นแล้วบางครั้งมันก็น่าหงุดหงิดสุดๆ เลยทีเดียว วันนี้เราเลยจะมาดู 19 ภาพการกินอาหารที่ดูแล้วชวนให้รู้สึกขัดใจตะหงิดๆ อย่างบอกไม่ถูกกัน   การกินพิซซ่าที่ไม่ต้องสนใจว่ามันมีกี่ชิ้น เริ่มจากตรงกลางไปขอบๆ แทนซะ   ยังอีก ยังไม่เลิกตักกินแต่ตรงกลางอีก   ยังจะกัดตรงกลางกันอยู่อีกเหรอ   เมื่อคุณไปซื้อเฟรนช์ฟราย แล้วพบว่าถ้าจะราดซอสเยอะขนาดนี้นะ ส้อมก็ไม่แถม ไม้ก็ไม่ให้   นี้ก็อีกคน กัดซะแหว่งจากตรงกลางเชียว (กัดจากหัวมันดิ๊)   คนทั่วไปจะใส่ซีเรียลก่อนค่อยเทนมตาม พี่เค้าเลยมารีวิวการกินแบบใส่นมก่อนใส่ซีเรียล (มันต่างกันมั้ย!? -*-)   เขาทำให้หัก พี่ก็หักสิครับไม่ใช่กัดมันทีเดียวแบบนั่น   นี่ก็เช่นกัน เขาออกแบบมาให้หักครึ่งได้นะรู้ยัง   เช่นเดียวกับป๊อปทาร์ต ซึ่งถูกออกแบบมาให้แบ่งกินได้ทีละชิ้น   นี้ก็ฮาร์ดคอเกินไปนะ กินทีละเส้นสิ   ควักกินมันทีเดียวทั้งลูกเนี่ยและ   ปกติมีคนอื่นกินกีวี่ทั้งเปลือกไหมนะ   ส้มก็เช่นกันกับกีวี่ด้านบน   บิดชมครีมจุ่มนม..เดี่ยวนะนั่นมันน้ำเปล่านิ ปกติต้องจุ่มนมไม่ใช่เหรอ  …

  • อดีตนักรบ ISIS สารภาพความผิด สังหารคนไป 500 ศพและข่มขืนหญิง 200 คน เพราะ “ใครๆ ก็ทำกัน”

    อดีตนักรบ ISIS สารภาพความผิด สังหารคนไป 500 ศพและข่มขืนหญิง 200 คน เพราะ “ใครๆ ก็ทำกัน”

    “มันเป็นเรื่องธรรมดา ที่ใครๆ ตรงนั้นก็ทำ… ผมเองก็เช่นกัน” – Amar Hussein   เราอาจจะเคยได้ยินข่าวถึงความรุนแรงของกลุ่ม ISIS อยู่บ่อยครั้ง แต่มีไม่มากที่จะได้ฟังเรื่องเล่าเหล่านั้นจากปากของผู้กระทำเหตุต่างๆ หรือที่พวกเขาเรียกกันว่านักรบของกลุ่ม และในครั้งนี้จะพาไปรู้จักชายชื่อว่า Amar Hussein อดีตนักรบ ISIS ที่ถูกจับในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จากการกวาดล้างในเมืองคีร์คูก ซึ่งเขาเล่าว่าในช่วงที่เขาใช้เวลาอยู่ในคุก เขาได้อ่านอัลกุรอานทุกวันจนทำให้เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองดีขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขาสำนึกผิดและออกมาบอกเล่าถึงสิ่งที่เขาทำลงไปในอดีต     เขาได้ข่มขืนหญิงสาวราวๆ 200 ในขณะที่เขาไปบุกปล้นหมู่บ้านต่างๆ ในอิรัค ช่วงที่กองทัพของเขาเรืองอำนาจ เรื่องเหล่านี้คือสิ่งปกติที่นักรบวัยคะนองทั้งหลายทำกัน แน่นอน เขาคือหนึ่งในคนบาปเหล่านั้น เขายังบอกอีกว่า ผู้บังคับบัญชาของเขาอนุญาติให้เหล่านักรบทุกคนสามารถที่จะข่มขืนหญิงสาวชาวยาซีดีกี่คนก็ได้ แล้วแต่พวกเขาจะพอใจ เป็นเรื่องแน่นอนที่นักรบวัยรุ่นอยากจะทำเรื่องพวกนี้ พวกเขาจึงบุกปล้นและข่มขืนผู้หญิง บ้านต่อบ้านไปเรื่อยๆ     ทหารชาวเคิร์ดรายงานว่ามีหลักฐานถึงการฆ่าและข่มขืนของ Amar แต่ก็ไม่รู้ว่าจำนวนที่แท้จริงแล้วอยู่ที่เท่าไหร่ รู้เพียงแค่ว่านักรบของกลุ่ม ISIS ข่มขืนผู้หญิงชาวยาซีดีเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นพวกเขายังลักพาตัวหญิงสาวเหล่านั้นไปด้วย แต่ถ้าเกิดพวกเขาพบเจอผู้ชาย พวกเขาจะฆ่าผู้ชายเหล่านั้นทิ้งทันที     นอกจากนี้ Amar ยังพูดอีกว่า “ผมฆ่าคนไปราวๆ 500 คน ข่มขืนไปอีก…

  • หวังให้ทุกคนอนุรักษ์สัตว์หายาก ศิลปินสาวเลยสร้าง “ประติมากรรมลวด” เป็นรูปสัตว์อันแสนงาม

    หวังให้ทุกคนอนุรักษ์สัตว์หายาก ศิลปินสาวเลยสร้าง “ประติมากรรมลวด” เป็นรูปสัตว์อันแสนงาม

    ศิลปินชาวบัลแกเรียนามว่า Nevena Atanasova เธอได้สร้างผลงานประติมากรรมจากเส้นลวดขึ้นมา โดยเธอได้สร้างเป็นรูปปั้นสัตว์ต่างๆ ที่มีขนาดเล็กพอดีๆ แต่ว่าก่อนที่เธอจะตัดสินใจสร้างผลงานชิ้นนี้เธอได้เล่าถึงแรงบันดาลใจว่า… เธอเป็นคนที่เกิดและโตในประเทศบัลแกเรีย ซึ่งเธอชื่นชอบธรรมชาติมากๆ ทำให้เธอจึงเลือกที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแสนสงบสุขในหุบเขา Rhodope Mountains โดยเธอพยามที่จะหาแรงบันดาลใจจากพื้นที่แสนสงบสุขแห่งนี้แต่ว่าเธอก็ยังไม่รู้ว่าจะสร้างผลงานยังไงดี!?     ศิลปะที่เธออยากจะทำ มันต้องเป็นศิลปะที่ช่วยอนุรักษ์และเตือนถึงปัญหาของทรัพยากรธรรมชาติ ที่กำลังจะหมดไปจากโลกนี้ด้วยน้ำมือของมนุษย์ จึงเป็นที่มาของงานรูปสัตว์ ทั้งแบบที่สวยงาม หายาก และบางชนิดก็ใกล้สูญพันธุ์ไป…     เธอตั้งเป้าไว้ว่าเธอจะใช้วัสดุรีไซเคิลเท่านั้น เพียงแต่ว่าการจะสร้างประติมากรรมสักชิ้นด้วยวัสดุรีไซเคิลเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร ด้วยความที่ว่าไม่รู้จะใช้วัสดุอะไรดี จนสุดท้ายแล้วเธอก็ค้นพบว่าเส้นลวดเป็นวัสดุที่หาได้ไม่ยาก เธอจึงเริ่มลงมือสร้างประติมากรรมเส้นลวดขึ้นมานั่นเอง ส่วนนี้ก็คือตัวอย่างผลงานทั้งหมดของเธอ   . . . . . . . . . . . . . .   สุดท้ายแล้วเธอได้บอกว่าตอนนี้เธอกำลังเริ่มโปรเจคประติมากรรมเส้นลวดใหม่ ในชุดของ 12 ราษีและตัวละครในตำนานกรีก ซึ่งถ้าใครที่สนใจอยากจะสั่งซื้อผลงานของเธอก็สามารถกดเข้าได้ดูที่ Etsy นอกจากเส้นลวดแล้วเธอยังมีผลงานอื่นๆ อีกมากมายเลยล่ะ ที่มา boredpanda

  • 20+ ภาพชวนน่ารักของเหล่า “ชูการ์ไกลเดอร์” พวกเอ็งจะทำตัวมุ้งมิ้งเกินไปแล้วนะเฮ้ย!!

    20+ ภาพชวนน่ารักของเหล่า “ชูการ์ไกลเดอร์” พวกเอ็งจะทำตัวมุ้งมิ้งเกินไปแล้วนะเฮ้ย!!

    อ๊ะ มันไม่ใช่นก ไม่ใช่เครื่องบิน แต่มันบินได้ นั่นแหละคือเจ้าสัตว์เลี้ยงหน้าเหมือนหนูผสมกระรอกอย่าง “ชูการ์ไกลเดอร์” ซึ่งหลายคนนิยมเลี้ยงกันในช่วงหลัง สำหรับใครที่กำลังมองหาสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ แต่ว่าแมวกับหมามันก็ดูจะธรรมดาเกินไ ปเลยไม่รู้จะเอายังไงดี วันนี้ #เหมียวมู่ทู่ ขอเสนอสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กสุดน่ารักอย่างชูการ์ไกลเดอร์ ที่ทั้งน่ารักแถมยังบินได้อีกตะหาก ถ้าไม่เชื่อว่าพวกมันน่ารักและน่าสนใจแค่ไหนลองดูภาพที่หามาให้ดูกันก่อนแล้วจะต้องเปลี่ยนใจแน่นอน อย่ารอช้าไปดูกันเลย..   เพราะคุณสามารถเกามันได้ โดยมันจะทำหน้ามุ้งมิ้งตอบ   และบางครั้งมันก็จะกอดคุณตอบด้วย   ช่วงนี้อากาศมันหนาว บรึ๊ย   และจุดเด่นของ ชูการ์ไกลเดอร์ มันบินได้!!   แถมตอนได้ส้มไป ทำหน้าฟินเชียว   สงสัยมันจะฝันว่าตัวเองกำลังฝึกกังฟูอยู่แน่ๆ ฮึบๆ   ชูก้าอินพ็อกเก็ต   นี่ๆๆๆ หนูหิวน้ำ   อะไรจะน่ารักขนาดนั้น   ครอบครัวชูก้า   หลับสบายเชียวนะ   ทำหน้ามีความสุขเชียวหลังจากได้ของกินไป   บ้านมะพร้าวของพวกเรา!!   มาเป็นคู่ยิ่งน่ารักสุดๆ   จ๊ะเอ๋!!   บอกแล้วว่าอย่าซ่า ดูซิดามคอยาวๆ เลย…

  • 12 สถานที่พักผ่อน “นอนดูดาว” จากรอบโลก ทั้งแสนสบาย แถมได้ยลโฉมท้องฟ้าอันตราตรึงใจ

    12 สถานที่พักผ่อน “นอนดูดาว” จากรอบโลก ทั้งแสนสบาย แถมได้ยลโฉมท้องฟ้าอันตราตรึงใจ

    ปกติแล้วถ้าเราอยากจะออกไปนอนดูดาว เราก็จะตั้งแคมป์กันตามปกติ แต่ว่าถึงอย่างนั้นความสะดวกสบายมันก็คงไม่เท่านอนในบ้านหรือที่พักจำพวกโรงแรมอยู่ดี แต่มันจะดีกว่าไหมถ้าจะมีโรงแรมหรือที่พัก ที่ทำให้เราสามารถอิ่มเอมกับที่พักสุดแสนสบายพร้อมกับสามารถรับชมท้องฟ้า บรรยากาศรอบๆ และดวงดาวไปพร้อมๆ กันได้แถมยังสบายอีกตะหาก วันนี้เราเลยจะมาดู 12 สถานที่พัก ที่สามารถดูดาวและพักผ่อนย่อนใจได้อย่างเต็มที่จากทั่วทุกมุมโลก อย่ารอช้าไปดูกันเลย   Kakslauttanen Glass Igloos ประเทศฟินแลนด์ ด้วยห้องพักที่หรูหรา แถมหลังคาทรงโดมแบบโปร่งใส ยังสามารถมองแสงเหนือได้จากภายในห้อง จะเรียกว่าเป็นที่พักในฝันก็ยังได้ .     7th Room Treehotel ประเทศสวีเดน ห้องพักที่ตั้งอยู่บนบ้านต้นไม้นี้มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ที่สะดวกสะบาย ระเบียงแบบตาข่ายให้คุณรู้สึกเหมือนกับนอนเปล แถมเรายังสามารถจะเพลิดเพลินกับบรรยากาศรอบๆ ในมุมสูง ได้อย่างเต็มเปี่ยม .     Lion Sands Game Reserve ประเทศแอฟริกาใต้ อีกหนึ่งที่พักที่เป็นบ้านต้นไม้ แถมยังเปิดกลางแจ้งบนพื้นที่กว้างขวาง ที่สำคัญคือมันไม่มีหลังคาอยู่เลย ทำให้คุณได้รับความรู้สึกแบบไปเข้าค่ายกางเต้นท์ และสามารถชื่นชมท้องฟ้าและธรรมชาติได้เต็มปอดเลยทีเดียว .     Estate Bungalow ประเทศศรีลังกา ลึกเข้าไปในป่าฝนของประเทศศรีลังกา ยังมีที่พักแห่งนี้ที่เป็นแนวเปิดกว้างทำให้เราสามารถมองเห็นป่ารอบๆ ได้อย่างเต็มที่…

  • 15 แมวเหมียวน้อย ที่ยืนยันถึงความติ๊งต๊อง และยังไม่พร้อมจะโตเป็นแมวผู้ใหญ่ซะเล๊ยยยย!!

    15 แมวเหมียวน้อย ที่ยืนยันถึงความติ๊งต๊อง และยังไม่พร้อมจะโตเป็นแมวผู้ใหญ่ซะเล๊ยยยย!!

    ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ถ้าพูดถึงช่วงวัยเด็กแล้วละก็ ทุกคนล้วนมีช่วงเวลาที่ไร้เดียงสา ยังไม่รู้อะไรอย่างดีแน่นอน นั่นย่อมหมายถึงความป่วน กวนๆ และทำอะไรก็ดูตลกไปหมดแน่นอน เจ้าเหมียวพวกนี้ก็เช่นกัน ฉะนั้นเราจะมาดูความไร้เดียงสาของพวกมันกัน ว่าเจ้าเหมียวพวกนี้มันไร้เดียงสาและน่ารักขนาดไหน!? คำเตือน: ทาสแมวเตรียมรับมือความเสียหาย   ดูเหมือนเจ้าเหมียวตัวนี้พยามจะกินนมจากถ้วยเป็นครั้งแรกนะเนี่ย   ส่วนเจ้าเหมียวตัวนี้ก็ดูจะไม่พร้อมสำหรับอาหารมื้อนี้ที่มันเยอะเกินไป หลับคาถ้วยเลยทีเดียว   เจ้าเหมียวตัวนี้กำลังเตรียมพร้อมที่จะตะครุบเป็นครั้งแรกแล้วล่ะ   ขอกินหน่อยได้ไหม หนูพร้อมจะกินแล้วเนี่ย   หนูหนาว ขอนอนด้วยได้ไหม   ขอหนูนอนด้วยได้ไหมอะ   เจ้าเหมียวกำลังหัดปีนผา แต่ดูจะไม่ได้ไม่สวย   เอ๊ะ ทำไมเข้าไปไม่ได้หว่า   เจ้าเหมียวพบสวนสนุกแห่งใหม่แล้วล่ะ   เอ๊ะ ที่นี้ที่ไหน มันกว้างจัง   ขอหนูชั่งน้ำหนักด้วยได้ไหม   บรื้นๆ เดี๋ยวนะเจ้าเหมียวนั่นมันรถของเล่น   เลียหางตัวเอง เป็นเด็กดูดนิ้วเลย   เอาอีกๆ ขอหนูอีก   นั่นหางแม่นะ ไม่ใช่ของเล่นเจ้าเหมียว   หวังว่าพวกเอ็งจะเรียนรู้ในโลกใบนี้…

  • เรื่องราวของคนเก็บขยะชาวจีน ผู้บริจาคเงินให้เด็กยากไร้กว่า 800,000 บาท ส่งเรียนจบ 37 คน!!

    เรื่องราวของคนเก็บขยะชาวจีน ผู้บริจาคเงินให้เด็กยากไร้กว่า 800,000 บาท ส่งเรียนจบ 37 คน!!

    ปกติแล้วเราจะบอกว่าต้องเป็นคนรวยถึงจะบริจาคให้ผู้ยากไร้ได้ แต่เขาคนนี้เป็นเพียงคนกวาดถนนเท่านั้น… ชายคนนี้มีชื่อว่า Zhao Yongjiu อายุ 56ปี เขาทำงานคนกวาดขยะอยู่ที่เมืองเสิ่นหยาง เขาจะทำงานพวกนี้สองแห่งด้วยกัน เริ่มแรกเขาจะออกไปทำงานตอนตี 4 ครึ่งของทุกวัน และจะไม่กลับมาจนกว่าจะถึงเวลา 3 ทุ่มของทุกวัน ซึ่งนี้จะเห็นได้ว่าเขาเป็นคนที่ทำงานหนักมากๆ โดยค่าตอบแทนที่เขาได้ในแต่ละเดือนจะอยู่ที่ราวๆ 12,000 บาท     ถึงแม้เขาจะทำงานเป็นคนเก็บขยะแต่เขาก็สามารถที่จะแบ่งสันปันส่วนเงินของเขาออกมาเพื่อบริจาคให้กับเด็ก 37 คนที่ไม่มีโอกาสได้ไปเรียนหนังสือ ได้ไปโรงเรียนและมีการศึกษา ที่สำคัญเขาทำแบบนี้ติดต่อกันมาเป็นระยะเวลา 30 ปีแล้ว แถมเงินที่บริจาคไปก็มากถึง 8 แสนกว่าบาทเลยทีเดียว     และด้วยเหตุนี้เขาจึงพยามทำให้ชัวร์ว่าเงินของเขาจะไปถึงเหล่าเด็กๆ เขาได้ขายบ้านที่เป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียวของเขาไป และไปเช่าห้องพักอยู่เดือนละ 3700 บาท เราอาจจะมองว่าการที่เขาทำแบบนี้ทำไปเพื่ออะไร แต่ว่าเขาได้บอกว่านี้เป็นวิธีที่เขาจะตอบแทนทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยได้รับมา…       ย้อนกลับไปในปี 1976 ซึ่งเป็นปีที่พ่อของเขาได้ตายจากไป และแม่ของเขาก็ต้องอยู่ดูแลเขาพร้อมกับต่อสู้กับชีวิตที่ยากลำบากเพื่อหาเงินมาเลี้ยงตัวเองและเขา ซึ่งพวกเขาก็สามารถที่จะผ่านช่วงยากลำบากนั้นมาได้ ต้องขอบคุณเพื่อนบ้านและเพื่อนๆ ที่ช่วยเหลือเขามาตลอด ทำให้เขาบอกว่าเขาไม่มีทางที่จะลืมความช่วยที่เขาได้รับในตอนนั้น และเขาจะตอบแทนมันกลับไปให้กับคนที่ลำบากเหมือนเขาในตอนนั้น     หลังจากที่เรื่องนี้กระจายออกไปชาวเน็ตในจีนก็ออกมาชื่นชมเป็นเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาทำให้โลกน่าอยู่ และการเสียสละช่วยผู้ยากไร้กว่า…

  • “ปล่อยเถอะ เธอน่าจะตายแล้ว” เพราะคำพูดนี้ ‘หญิงสาวออทิสติก’ รอดการรุมทำร้าย มาเล่าให้เราฟัง!?

    “ปล่อยเถอะ เธอน่าจะตายแล้ว” เพราะคำพูดนี้ ‘หญิงสาวออทิสติก’ รอดการรุมทำร้าย มาเล่าให้เราฟัง!?

    หญิงสาวคนหนึ่งได้เหล่าถึงเหตุการณ์ปางตาย ที่สุดท้ายเธอก็รอดมาได้เพราะมีคนตรงนั้นบังเอิญตะโกนขึ้นมาว่า “หยุดได้แล้ว เธอตายแล้ว!!!” เหตการณ์นี้เกิดขึ้นกับ Emily O’Reilly วัยรุ่นสาวชาวอังกฤษซึ่งเป็นเด็กที่มีอาการของออทิสติกอยู่ เธอถูกทำร้ายขณะที่กำลังเดินทางไปที่บ้านเพื่อน เธอถูกดึงผมและผลักลงกับพื้นและโดนทำร้ายสารพัด ทั้งต่อยทั้งเตะจนมีสภาพที่ยับเยิน นอกจากนี้เธอยังถูกขโมยโทรศัพมือถือและกำไลไปอีกด้วย     เธอเล่าว่า “ฉันหันไปเจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันเคยรู้จัก เธอเข้ามาข่มขู่และบอกว่าต้องการโทรศัพของฉัน ซึ่งเมื่อฉันปฏิเสธเธอก็่ต่อยเข้าที่หน้าของฉันทันที พร้อมกับล้วงเข้าไปในกางเกงฉันเพื่อที่จะเอาโทรศัพของฉันไป แต่แค่นั้นยังไม่พอเธอยังถอดกำไลของฉันออกไปด้วย ฉันจำอะไรไม่ค่อยได้เลยฉันรู้แค่ว่าถูกเตะและต่อยนับครั้งไม่ถ้วนเลย”     หลังจากเหตุการณ์นั้นเธอก็ได้พยายามที่จะไปขอความช่วยเหลือจากผับใกล้ๆ แต่เธอก็ยังเจอผู้หญิงคนเดิมทว่าคราวนี้เธอมาพร้อมกับเพื่อนของเธอหลายคนเลยทีเดียว ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจจะทำร้ายเธออีกครั้งเพียงแต่ว่าในกลุ่มเพื่อนของผู้หญิงคนนั้นได้บอกว่า “เธอตายแล้ว” จึงทำให้ผู้หญิงคนนั้นหันหลังกลับไป ทิ้งไว้แต่ความกลัวในใจของ Emily จนทำให้เธอไม่กล้าที่จะออกไปไหนอีกแล้ว “ฉันพยายามวิ่งไปที่ผับเพื่อขอความช่วยเหลือ ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังเจอเธอพร้อมกับคนจำนวนมาก เพื่อตามหาตัวฉัน” “ถึงแม้เพื่อนของเธอจะบอกว่าฉันตายไปแล้ว เธอก็ยังคงกลับมาเพื่อเช็คฉันให้แน่นอนจริงๆ เหตุการณ์นี้ได้ทิ้งความกลัวไว้ให้ฉัน ฉันเจ็บปวดมากๆ มันทำให้ฉันไม่กล้าแม้แต่จะออกไปข้างนอกอีกต่อไป”     จากผลกระทบในครั้งนี้ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถเปิดตาข้างขวาได้เลย ซึ่งแม่ของเธอบอกว่า “ตอนแรกที่ฉันไปที่โรงพยาบาลฉันจำหน้าของเธอไม่ได้เลยด้วยซ้ำ มันย่ำแย่มากๆ เธอได้แต่ร้องไห้ไม่หยุด แถมเธอยังลืมตาข้างขวาไม่ได้อีกตะหาก” นอกจากนี้แม่ของเธอยังบอกอีกว่าลูกของเธอเป็นโรคแอสเพอร์เกอร์ ซินโดรม จึงทำให้การตอบโต้ของเธอช้ากว่าปกติและไม่สามารถสู้กลับสาวคนนั้นได้ และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กกลุ่มดังกล่าวไม่ค่อยชอบเธอด้วยก็ได้ สุดท้ายแล้วเธอก็อยากแค่ให้ลูกสาวของเธอใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไป แต่ว่าจากเหตุการณ์นี้มันคงจะเป็นไปได้ยากอีกต่อไป ตราบที่เหตุการณ์ร้ายแรงยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้    …

  • “หนุ่มขายเส้นหมี่” ในจีนดังข้ามคืน เผยคลิปลีลาการตวัดเส้น เร่าร้อนและจี้เส้นเหลือเกิน!!!

    “หนุ่มขายเส้นหมี่” ในจีนดังข้ามคืน เผยคลิปลีลาการตวัดเส้น เร่าร้อนและจี้เส้นเหลือเกิน!!!

    เส้นหมี่ถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักของอาหารประเภทซุปของเอเชีย ซึ่งไม่ต่างไปจากน้ำซุปที่ต้องมีรสชาติดีด้วย แต่ต่อให้คุณทำออกมาได้ดีแค่ไหน ถ้าขาดสิ่งที่ดึงดูดคน สุดท้ายก็จะไม่มีใครรู้จักอาหารของคุณเลย แต่สำหรับคนทำเส้นหมี่ในเมืองเฉิงตู ได้ทำการดึงดูดสายตาของคนที่ผ่านไปมาได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้ลีลาอันเร่าร้อน ตวัดเส้นโยนหมี่ให้ไปลงในหม้ออย่างสวยงาม เพราะเส้นยังไม่ตกพื้นเลยสักนิด     คลิปนี้ถูกเผยแพร่มาประมาณต้นเดือน หนุ่มคนนี้ใช้ทั้งลีลากระโดด หมุนควง พร้อมกับเต้น จนสื่อจีนหลายสำนักให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และคลิปนี้ก็ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว จนสุดท้ายก็ได้มีการตามหาตัว แล้วก็พบว่าหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Tian Bo วัย 30 ปี ซึ่งปกติแล้วเขาก็ไม่ได้เป็นคนร่าเริงอะไรมากนักหรอก แต่การได้มาทำงานร้านอาหารแห่งนี้แล้ว เขาก็อยากจะทำให้มีลูกค้ามากินที่ร้านนี้มากยิ่งขึ้น เริ่มจากเดือนมีนาคมปีที่แล้ว เขาได้ลองใช้เทคนิคนี้ แล้วมันก็ทำให้ผู้คนสนใจในตัวเขามากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ได้ทำการเต้นประกอบเพลงพร้อมกับดึงเส้นหมี่ไปด้วย และผู้คนก็ไหลมาเทมา     ส่วนอาหารจานนี้ที่เขาทำก็คือ “Longevity Noodles” ซึ่งเชื่อกันว่าถ้าได้ทานแล้วจะมีอายุที่ยืนยาวเหมือนกับเส้นนั่นเอง นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมต้องทำเส้นให้ยาว อันมีต้นกำเนิดมาจากเมืองเสฉวน นอกจากนี้เขายังเคยถูกทาบทามงานและโอกาสมากมายหลังจากที่มีชื่อเสียง แต่เขาก็ยังยืนยันที่จะอยู่ที่ร้านอาหารแห่งนี้ต่อไป และวันหนึ่ง เขาก็อยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเองด้วย     เห็นแล้วก็อยากไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง นี่น่าจะกลายเป็นร้านอาหารอีกหนึ่งแห่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเที่ยวและไปชิมบะหมี่เลยก็ได้ ที่มา shanghaiist

  • พบกับอายแชโดว์โลกเวทมนตร์ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” สีสันงามๆ สาวกเห็นเป็นต้องอยากได้!!!

    พบกับอายแชโดว์โลกเวทมนตร์ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” สีสันงามๆ สาวกเห็นเป็นต้องอยากได้!!!

    น้อยคนนักที่ไม่รู้จัก “แฮร์รี่ พอตเตอร์” และคนส่วนมากที่รู้จักก็มักจะหลงใหลในโลกเวทมนตร์ จนบางทีเราก็เคยจินตนาการว่าโลกพ่อมดแม่มดมันมีอยู่จริงๆ   แต่วันนี้ #เหมียวสามสี ขอเอาใจสาวๆ ที่เป็นสาวกแฮร์รี่สักหน่อย ถ้าใครอยากเป็นแม่มด ตอนนี้เราไม่ต้องไปง้อฮอกวอตส์ให้ส่งจดหมายมาให้เราแล้ว เพราะตอนนี้เราสามารถกลายเป็นแม่มดอย่างง่ายดาย รออะไรอยู่ ปรบมือสิครับ   เพราะนี่คือ “อายแชโดว์ สำหรับพ่อมด-แม่มด” เห็นความงามของมันมั้ย แต่ละสีน่าลองมากๆ   โดยพาเลตนี้จะประกอบไปด้วย 12 สีสไตล์เวทมนตร์ ชื่อของแต่ละสีก็อ้างอิงมาจากสิ่งของต่างๆ ในโลกเวทมนตร์นั่นเอง งามหยดย้อย!!   ถ้าลองเอาแต่ละสีมาแต่งแบบผสมๆ กัน มันก็ได้ออกมาในลักษณะนี้เลย อย่างในภาพนี้ใช้สี Prophecy, Spell Book, และ Merlin   และที่ดีงามสุดท้ายก็คือแพ็กเกจของมันทำออกมาเป็นเหมือนหนังสือนิทาน ถ้าเราเปิดออกมาก็จะเจอสีต่างๆ เหมือนเป็นไอเทมเวทมนตร์ที่เราสามารถเอามาใช้งานเมื่อไหร่ก็ได้   อีกทั้งยังเปิดให้พรีออร์เดอร์กันแล้ว ถ้าใครอยากได้ก็ลองเข้าไปในเว็บไซต์ Storybook Cosmetics ได้เลย ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,800 บาท กำลังพอดีๆ นะ   นี่สินะที่เขาบอกว่าการแต่งหน้าก็เหมือนเวทมนตร์ที่เสกให้เราสวยได้เพียงไม่กี่นาที   ที่มา buzzfeed

  • สุดยอดไอเดีย “บ้านจิ๋วพับได้” มอบความวิเศษให้คุณ สามารถพกบ้านไปได้ในทุกที่!!

    สุดยอดไอเดีย “บ้านจิ๋วพับได้” มอบความวิเศษให้คุณ สามารถพกบ้านไปได้ในทุกที่!!

    ถ้าพูดถึงที่พักที่สามารถพกพาได้ เราก็คงคิดถึงเต้นท์ แต่กว่าเราจะประกอบเสร็จก็นานอยู่ หรือจะเป็นแบบโยนแล้วให้มันกางเลย ขนาดมันก็จะใหญ่มากอยู่ดี แต่ไม่ต้องกลัวแล้วว่าเราจะต้องแบกที่พักหนักๆ เพราะวันนี้มีของเจ๋งๆ มานำเสนอ นี่คือ “บ้านจิ๋วพับได้” ที่ทำมาจากวัสดุอย่างดีที่สามารถเก็บความอุ่นไว้ได้พอสมควร เหมาะสำหรับการเอาไปใช้ในหน้าหนาว เรียกได้ว่าดีกว่าเต้นท์อีกนะเนี่ย     ไม่ใช่เฉพาะวัสดุที่เข้ากับทุกสภาพอากาศได้เท่านั้น เจ้าบ้านจิ๋วอันนี้ยังสามารถพับเก็บไว้ในกระเป๋าได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับว่าเป็นเสื้อตัวหนึ่งเท่านั้น อยากใช้งานเมื่อไหร่ก็แค่หยิบออกมาเขย่าๆ ก็ได้ที่พักง่ายๆ หนึ่งอันแล้ว   เอาใส่กระเป๋ากางเกงก็ยังได้เลย   อยากใช้ก็แค่หยิบออกมา แล้วก็สะบัดๆ มันก็จะพองตัว พร้อมที่จะให้เราเข้าไปอยู่ข้างในแล้ว .   ภายในกว้างจนสามารถยืนได้ แถมยังรักษาอุณหภูมิได้อย่างดี   ภาพประกอบแบบเข้าใจง่ายๆ   Martin Azua ผู้สร้างไอเดียนี้ได้เล่าว่าอยากสร้างที่พักที่สามารถอยู่ได้ทุกสภาพอากาศ และปกป้องเราจากอากาศร้อนและหนาวได้ในเวลาเดียวกัน โดยตั้งคอนเซ็ปต์ว่ามีทุกอย่างแบบที่เหมือนไม่ต้องมีอะไรก็ได้   . .   ชมคลิปการทำงานของบ้านจิ๋วพับได้ของเขาเลย   ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าเขาจะทำขายหรืออะไรยังไง ถ้าใครชอบไอเดียของเขาก็ลองไปติดตามเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Martin Azua ได้เลย ที่มา sobadsogood

  • เล่นงี้เลย!! จีนประยุกต์ใช้ “โดรนพ่นไฟ” เพื่อเอาไว้กำจัดขยะที่ติดอยู่ตามสายไฟฟ้าแรงสูง

    เล่นงี้เลย!! จีนประยุกต์ใช้ “โดรนพ่นไฟ” เพื่อเอาไว้กำจัดขยะที่ติดอยู่ตามสายไฟฟ้าแรงสูง

    เป็นเรื่องที่ยากมากๆ สำหรับการกำจัดขยะที่ติดอยู่ตามสายไฟฟ้าที่อยู่บนที่สูง เพราะว่าเป็นงานที่อันตรายและค่าใช้จ่ายสูง ทางบริษัทแห่งหนึ่งในจีนก็เลยปิ๊งไอเดียหนึ่งขึ้นมา ในคลิปนี้เป็นการทำงานของบริษัทไฟฟ้าแห่งหนึ่งในเมือง Xiangyang ประเทศจีน พวกเขาพยายามจะหาวิธีกำจัดขยะที่ชอบลอยไปติดตามสายไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งยากต่อการกำจัดมาก   เขาก็เลยดัดแปลงโดรนให้มีความสามารถในการกำจัดขยะ นั่นก็คือการใช้ไฟเผานั่นเอง   มีการวิเคราะห์ว่าโดรนตัวนี้เป็นรุ่น DJI S1000+ ที่มี 8 ใบพัด ซึ่งสามารถรับน้ำหนักและมีพลังการบินที่สูง อีกทั้งยังมองไปถึงตัวรีโมทบังคับ Futaba T14 SG ซึ่งเป็นรีโมทที่สามารถเอาไปประยุกต์ใช้กับโดรนได้หลากหลายตัว     เมื่อซูมดูใกล้ๆ เราจะเห็นว่าตัวโดรนนั้นได้ติดตั้งถังเชื้อเพลิงไว้สำหรับการพ่นไฟ   ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเขาจะเอาไปใช้จริงๆ หรือว่าเป็นการทดลองเฉยๆ เพราะไม่มีคลิปเหตุการณ์ก่อนหรือหลังจากนี้ แต่ดูจากคลิปแล้วมันก็เหมือนจะใช้งานได้ดี ถึงแม้จะเป็นไอเดียการประดิษฐ์ที่ดีเยี่ยม แต่หลายคนเห็นแล้วก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันน่ากลัวมากๆ กับการเอาไฟไปเผาสายไฟฟ้าแรงสูงแบบนั้น     แม้ว่าไฟจะเผาขยะได้ก็จริง แต่ตรงสายไฟนี่เป็นอะไรที่หวาดเสียวมากๆ เอาไม้สอยเฉยๆ ไม่ได้เหรอพี่!! ที่มา inverse

  • Ed Sheeran สวมบทพ่อบ้านใจกล้า ยอมเดินเท้าเปล่าหลังส้นสูงของแฟนสาวหักในงานปาร์ตี้

    Ed Sheeran สวมบทพ่อบ้านใจกล้า ยอมเดินเท้าเปล่าหลังส้นสูงของแฟนสาวหักในงานปาร์ตี้

    ไม่ว่าใครก็ชื่นชอบศิลปินหนุ่มชาวอังกฤษที่ชื่อ Ed Sheeran กันทั้งนั้น เพราะนอกจากจะร้องเพลงเพราะแล้ว เขายังมีแต่เรื่องราวดีๆ มาให้เราเห็นอยู่ไม่ขาดเลย ล่าสุดเขาได้ไปร่วมแสดงดนตรีในงาน Brit Awards 2017 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่หลังจากที่การแสดงจบลงแล้ว เขาก็ถูกชื่นชมจากแฟนๆ ในอินเตอร์เน็ตอย่างมาก     เพราะหลังจากที่การแสดงจบลง Ed Sheeran ก็ไปร่วมงานปาร์ตี้ระหว่างศิลปินและพาแฟนสาวอย่าง Cherry Seaborn ไปงานกับเขาด้วย แต่ในระหว่างงานปาร์ตี้รองเท้าส้นสูงของ Cherry ก็ดันพังไม่เป็นชิ้นดี พ่อหนุ่ม Ed ของเราก็ไม่รอช้าที่จะถอดรองเท้าของเขาออกมาเพื่อให้แฟนสาวใส่รองเท้าของเขาแทน ส่วนตัวเองก็เดินเท้าเปล่าเหลือแค่ถุงเท้าจูงมือแฟนสาวออกมาจากงาน ทำเอาปาปารัซซี่รัวกดชัตเตอร์กันแบบรัวๆ   ภาพในตอนที่เขาและแฟนสาวได้เดินทางมาถึงงาน   และนี่คือสภาพของทั้งคู่ตอนจะกลับ อ่าวไหงพี่ Ed ของเราเดินเท้าเปล่าอย่างงั้นล่ะ . .   สภาพรองเท้าของ Cherry หลังจากงานปาร์ตี้ ที่ดูแล้วไม่น่าจะใส่ได้อีกต่อไป   ตามข่าววงในบอกว่า Cherry Seaborn นั้นรู้จักกับ Ed Sheeran มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว และเธอเองก็เป็นหญิงสาวที่ Ed จริงจังจนอยากจะแต่งงานและสร้างครอบครัวด้วยในอนาคตเลยทีเดียว   นอกจากจะร้องเพลงเพราะแถมยังมากความสามารถสุดๆ…

  • กลุ่มเพื่อนทำพิธีศพให้กับชายหนุ่ม หลังจากที่เขาพ่ายแพ้ “มีแฟน” ในวันวาเลนไทน์

    กลุ่มเพื่อนทำพิธีศพให้กับชายหนุ่ม หลังจากที่เขาพ่ายแพ้ “มีแฟน” ในวันวาเลนไทน์

    เคยไหมที่ในช่วงชีวิตที่มีกลุ่มเพื่อนสนิทที่ทุกคนล้วนเป็นคนโสดไปไหนไปด้วยกันตลอด เที่ยวกันกัน กินด้วยกัน เมาด้วยกัน แต่ทว่าวันหนึ่งเพื่อนคนหนึ่งก็ค่อยๆ หายตัวไปดุจดั่งตายจากไปเพราะว่าเพื่อนคนนั้นดันมี “แฟน” แล้ว   เรื่องนี้ถูกแชร์ออกมาโดย Ben Hull กลุ่มเพื่อนของนาย Adam Milner นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย St. Mary ในรัฐเท็กซัส ซึ่งพวกเขาได้จัดการทำพิธีศพให้กับนาย Adam หลังจากที่ได้รู้ถึงสาเหตุที่เขาหายบ่อยๆ ก็เพราะว่าเขาได้มีแฟนแล้วนั่นเอง   หลับให้สบายนะพลทหาร พวกเราจะไม่ลืมนายเลย   “พวกเราใช้เวลาด้วยกันมานาน ทั้งออกไปเที่ยวด้วยกัน ทุกข์ สุขด้วยกัน แต่ตั้งแต่เขามีแฟนเราก็เจอเขาน้อยลงเรื่อยๆ จนเขาหายไปไม่กลับมาอีกเลย”     ด้วยเหตุนี้ Ben จึงเรียกรวมตัวกลุ่มเพื่อนเพื่อทำพิธีนี้ โดยเขาได้กล่าวคำบอกลาถึงเพื่อนรักของเขา และยังร้องเพลง Can’t Take My Eyes Off of You ด้วยกันเพื่อลำลึกถึงเพื่อนคนนี้ว่าพวกเขายังต้องเดินหน้าไปต่อโดยที่ไม่มีเพื่อนคนนี้อีกแล้ว   หลังจากที่ Ben ได้โพสต์เรื่องนี้ออกไปก็มีคนเข้ามารีทวีตมาก 6,000 ครั้งแล้วด้วย   สุดท้ายแล้วเมื่อ Adam รู้ถึงเหตุการณ์นี้เขาก็ออกมาขอบคุณเพื่อนๆ ของเขาพร้อมกับบอกว่า…

  • นางแบบสาวดาวน์ซินโดรม เปิดตัวแบรนด์ส่วนตัวได้สำเร็จใน New York Fashion Week

    นางแบบสาวดาวน์ซินโดรม เปิดตัวแบรนด์ส่วนตัวได้สำเร็จใน New York Fashion Week

    หลายคนน่าจะเคยได้ยินข่าวที่เกี่ยวกับเด็กสาววัย 18 คนหนึ่งที่ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม ได้พยามเปลี่ยนตัวเองเพื่อกลายเป็นนางแบบจนสำเร็จ เมื่อสองสามปีก่อน แต่ว่าตอนนี้เธอเลื่อนขั้นจนเป็นดีไซน์เนอร์และเจ้าของแบรนด์เองเรียบร้อยแล้ว เธอคนนี้มีชื่อ Madeline Stuart ผู้ป่วยดาวน์ซินโดรมชาวออสเตรเลีย ซึ่งเธอได้รับโอกาส และผันตัวเป็นนางแบบไปเมื่อตอนปี 2015 แต่ว่าตอนนี้เธอกลายกลายเป็นดีไซน์เนอร์เต็มตัวแถมยังมีแบรนด์เป็นของตัวเองในชื่อว่า 21 Reasons Why     แถมล่าสุดเธอยังนำแบรนด์ของเธอไปเปิดตัวและเดินแบบในงาน New York Fashion Week ในแมนแฮตตัน เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาอีกด้วย ส่วนเสื้อผ้าที่เธอนำมาเดินโชว์ภายในงาน เป็นเสื้อผ้าคอลเลคชั่นที่มีชื่อว่า “nod to Stuart turning 21 this year and the extra copy of chromosome 21 that is characteristic of Down syndrome” (ทำไมชื่อยาวจัง)       คอลเลคชั่นซื้อผ้าเซตนี้จะประกอบด้วย สปอร์ตเลกกิ้ง เสื้อครอป และกระโปร่ง…

  • 11 ความผิดพลาดแบบเงิบๆ หลุดๆ ในอนิเมชั่นดัง ที่ชาวเน็ตตาดี ดั๊นจับผิดได้ด้วย!?

    11 ความผิดพลาดแบบเงิบๆ หลุดๆ ในอนิเมชั่นดัง ที่ชาวเน็ตตาดี ดั๊นจับผิดได้ด้วย!?

    ปกติแล้วเวลาเราไปดูอนิเมชั่นหรือหนังสักเรื่องหนึ่ง ส่วนใหญ่เราก็จะไปเพ่งสมาธิอยู่กับสิ่งที่เราดูเสียมากกว่าจนบางครั้งถึงแม้จะมีจุดที่ผิดพลาด หรืออะไรที่ผิดคิวเกิดขึ้นในเรื่อง เราก็ไม่ได้สนใจมันมากเท่าไหร่นักนั่นเอง แต่ว่าวันนี้เราจะมาดูจุดผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ ในอนิเมชั่นเรื่องโปรดของหลายๆ คน แถมชาวเน็ตก็ตาดี๊ดี ช่วยกันจับผิดซะจนเห็นข้อบกพร่องตรงนั้นจนได้ มีเรื่องไหนที่เกิดจุดผิดพลาดแบบฮาๆ เงิบๆ บ้าง ลองมาติดตามกันครับ…   Inside Out ในตอนแรกเราจะเห็นว่าแม่ของ Riley ใส่แว่นในตอนแรก แต่พอเป็นในมุมมองของ Riley กลับเธอกลับไม่มีแว่นเสียแล้ว .   ตอนแรกที่เธอแนะนำตัวในห้องหนังสือสีฟ้าอยู่ข้างบน แต่พอเธอนั่งลงกลายเป็นหนังสือสีเหลืองซะงั้น .     Monsters, Inc. ตู้ล็อคเกอร์ของ Sullivan ที่ตอนแรกเป็นเลข 193 แต่ตอนหลังเปลี่ยนเป็น 150 ซะงั้น .   Cars ฉากที่ Lightning McQueen เลี้ยวซ้ายบนถนนราดยาง แต่เปลี่ยนมุมมองในฉากเดียวกัน เขากลับเลี้ยวซ้ายบนถนนถนนลูกรังไปซะได้ .   Big Hero 6 ในฉากที่ Hiro Hamada เจอกับ Professor Robert Callaghan ในตอนแรกเขาใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้า…

  • บทเรียนเตือนใจสังคม… จากเงินแค่ 15 บาท ลงเอยที่ลูกค้าฆ่าเจ้าของร้านบะหมี่!?

    บทเรียนเตือนใจสังคม… จากเงินแค่ 15 บาท ลงเอยที่ลูกค้าฆ่าเจ้าของร้านบะหมี่!?

    เรื่องนี้เกิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ชายแซ่หูอายุ 22 ปี หลังจากที่เขากินก๋วยเตี๋ยวจนเสร็จพร้อมกับจ่ายเงิน แต่แล้วเขาก็พบว่าเจ้าของร้านได้โกงเงินเขาไปชามละ 1 หยวน ซึ่งเขากินไปทั้งหมด 3 ถ้วยด้วยกัน จึงรวมกันเป็นทั้งหมด 3 หยวน     ซึ่งเจ้าของร้านได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานั้นจนทั้งคู่เกิดเหตุทะเลาะกันยกใหญ่ ซึ่งสุดท้ายแล้วนายหูก็ได้หยิบมีดมาตัดคอเจ้าของร้านวัย 42 ปี แล้วนำไปทิ้งไว้ในถังขยะใกล้ๆ กับร้าน สุดท้ายแล้วตำรวจก็ได้เข้าจับกุมตัวนายหู โดยตำรวจได้ตรวจค้นประวัติของเขาคนนี้ก็พบว่าเขาเป็นคนจากมณฆลเสฉวน แถมยังเคยมีประวัติการเข้ารับการรักษาทางจิตและยังมีประวัติการใช้ความรุนแรงมาก่อนในช่วงหนึ่งปีที่แล้ว ญาติของเขาได้ให้ปากคำกับตำรวจว่า นายหูมีปัญหาทางจิตและชอบใช้ความรุนแรงมานานแล้ว เขาชอบที่จะทำร้ายร่างกายคนในครอบครัวของเขาบ่อยๆ รวมถึงพ่อและแม่ของเขาด้วย     แม่ของนายหูกล่าวกับผู้สื่อข่าว “ต้องขอโทษจริงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันสอนเขามาไม่ดีเอง” ท้ายที่สุดแล้วจากรายงานของเพื่อนบ้านแถวนั้นได้บอกว่า เจ้าของร้านคนนี้อาศัยอยู่กับลูกชายวัน 13 ปีเพียงสองคนหลังจากเขาแยกทางกับภรรยาของเขาเมื่อ 5 ปีก่อน แถมชาวบ้านแถวนั้นยังบอกอีกว่าเจ้าของร้านเป็นที่ซื่อสัจสุจริตมากๆ เขาไม่เคยโกงลูกค้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว     สุดท้ายแล้วเจ้าของร้านโกงจริงหรือเปล่าก็ไม่มีใครรู้ หรือจริงๆ แล้วนายหูอาจจะหลอนแล้วคิดไปเองอย่างงั้นเหรอ? เรื่องนี้ก็คงต้องรอให้ทางตำรวจพิสูจน์กันต่อไป…   ที่มา shanghaiist

  • “คีอานู รีฟส์” บอกว่า John Wick 3 มาแน่ พร้อมเปิดเผยเนื้อเรื่อง ส่วนที่ต่อจากภาค 2

    “คีอานู รีฟส์” บอกว่า John Wick 3 มาแน่ พร้อมเปิดเผยเนื้อเรื่อง ส่วนที่ต่อจากภาค 2

    [ เนื้อหาในโพสต์นี้มีสปอยล์ตอนจบของภาค 2 ใครที่ยังไม่ได้ดูขอแนะนำให้ข้ามไปได้เลยครับ ]   เป็นกระแสที่แรงมากๆ ในช่วงนี้เลยก็ว่าได้สำหรับภาพยนตร์เรื่อง John Wick 2 หลังจากที่เข้าฉายบ้านเราไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แถมกระแสจากสื่อนอกก็ดีจนล่าสุดผู้กำกับยืนยันถึงภาค 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย สำหรับใครที่ได้ไปดู John Wick 2 มาแล้วก็คงจะรู้กันดีว่าในเนื้อเรื่องภาคนี้ตอนสุดท้ายมันคือการปูไปภาค 3 แน่นอนจากเหตุที่เขาฝ่าฝืนกฏของโรงแรมนักฆ่า Continental โดยการฆ่า Santino ภายในโรงแรม ด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกตัดขาดจากตัวโรงแรมและสมาคมนักฆ่าทั้งหมด     และด้วยเหตุนั้นจึงทำให้เขามีค่าหัวสูงถึง 14 ล้านเหรียญ แถมยังเป็นสัญญาว่าจ้างระดับโลกอีกตะหาก ด้วยเหตุนี้ John Wick จึงตกอยู่ในสถานะการณ์ยากลำบากสุดๆ เลยก็ว่าได้ แต่ทว่าล่าสุดทาง Chad Stahelski และ Keanu Reeves ก็ได้ให้สัมภาษณ์ในการสัมภาษณ์ของ Empire ถึงเนื้อเรื่องเปิดใน John Wick 3 ว่า     “ผมคิดว่าฉากเริ่มแรกของภาค 3 ควรจะเป็นฉากที่ต่อจากภาค 2 โดย John Wick พยายามหนีจากเมือง New…

  • เด็กหนุ่มซุ่มพับกระดาษรูปหัวใจ 1,500 ดวงตลอดปี แจกให้เพื่อนทุกคนที่ ในวันวาเลนไทน์…

    เด็กหนุ่มซุ่มพับกระดาษรูปหัวใจ 1,500 ดวงตลอดปี แจกให้เพื่อนทุกคนที่ ในวันวาเลนไทน์…

    ในช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมาเชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้สึกเหงาเปล่าเปลี่ยว เวลาเห็นคนมีคู่กระหนุงกระหนิงกันอยากจะเดินเข้าไปสร้างความร้าวฉานให้ทันที และนี่จึงทำให้ชายนิรนามคนหนึ่งในเข้าใจความรู้สึกนี้ เขาจึงแจกจ่ายความรักให้คนทั้งโรงเรียน ทรอย ไฮสคูล ในรัฐโอไฮโอ ซึ่งในโรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนมากถึง 1,500 คน แต่ว่ามีนักเรียนคนหนึ่งที่ได้ทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่มอบให้กับทุกคนในช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมา เขาทำการพับกระดาษสีสันสดใสเป็นรูปหัวใจพร้อมกับเขียนข้อความให้กับทุกคนในโรงเรียน เพียงเพราะว่าเขาไม่อยากให้คนที่ไม่มีคู่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวในวันแห่งความรักนี้     เจ้าหน้าที่คนหนึ่งในโรงเรียนได้บอกว่านักเรียนนิรนามคนนี้เริ่มทำหัวใจพวกนี้ตั้งแต่กันยายนปีที่แล้ว เขาเขียนข้อความไว้ว่า “You are loved” เพื่อให้ทุกคนรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ถูกรักและมีความสำคัญ ความพยายามของเขาตลอดปีเป็นผลสำเร็จ มีหลายๆ คนที่ชอบและประทับใจกับของขวัญวันวาเลนไทน์ชิ้นนี้ จึงมีการแชร์ต่อไปอย่างแพร่หลาย และไม่ใช่แต่ที่โรงเรียนนี้แห่งเดียว เขาเป็นแบบอย่างให้กับหลายๆ ที่อีก…     และเมื่อเรื่องราวนี้กระจายออกไป ก็เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันขึ้นในที่อื่นๆ ก็ได้ทำเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าบางที่ก็จะมีข้อความจำเพราะแต่ละใบที่ต่างไป หรือมีลูกอมหัวใจแนบติดมาด้วยนั่นเอง อย่างเช่นที่โรงเรียนนี้ดูเหมือนจะเป็นแม่เหล็กรูปหัวใจแทนกระดาษ แถมมีชื่อทุกคนด้วยนะ   ส่วนภาพนี้ไม่ได้ทำคนเดียวแต่เป็นกลุ่มนักเรียนผู้หญิงแทน แถมมีรูปของพวกเธอด้วย   ภาพนี้จากออสวีโก ไฮสคูล ซึ่งมีหัวใจมากถึง 1,800 ดวงเยอะกว่าตัวต้นฉบับอีก แถมข้อความแต่ละใบยังเขียนมือและไม่เหมือนกันเลย ยอมใจคนทำจริงๆ   ของที่นี้ดูน่าจะน้อยไปหน่อย 380 ดวง แต่ดูจากข้อความแล้วน่าจะยาว และไม่เหมือนกันสักใบเช่นกัน   การกระทำพวกนี้ก็แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้เราจะไม่มีคู่รักในวาเลนไทน์แต่ว่าความรักก็มีได้หลากหลายรูปแบบนั่นเอง…

  • 25 ภาพมุมสูงจากเมืองต่างๆ รอบโลก งดงามในแบบที่เราแทบไม่เคยเห็นมาก่อน…

    25 ภาพมุมสูงจากเมืองต่างๆ รอบโลก งดงามในแบบที่เราแทบไม่เคยเห็นมาก่อน…

    ปกติแล้วเวลาเราอยากจะได้รูปถ่ายสถานที่สวยๆ สักที่หนึ่งเราก็จะเดินทางไปแล้วถ่ายรูปกันตามปกติ หรือถ้าอยากจะได้มุมที่ดูสูงขึ้นอีกหน่อยเราก็มักจะขึ้นไปบนที่ๆ สูงขึ้นเพื่อจะได้วิวสวยๆ ยิ่งขึ้น แต่ว่าถ้าเกิดเราอยากได้ภาพที่เป็นมุมสูงระดับนกหรือเครื่องบินมองลงมาล่ะ!? ล่าสุดก็ได้มีทีมช่างภาพจากรัสเซียที่มีว่า AirPano ซึ่งพวกเขาเห็นว่าการไปเที่ยวถ่ายรูปเมืองต่างๆ จากพื้นดินนั้นมันยังไม่ตอบโจทย์การเที่ยว ที่จะได้เห็นส่วนต่างๆ ของเมืองแบบชัดๆ พวกเขาก็เลยริเริ่มโปรเจ็คถ่ายภาพมุมสูงโดยภาพเหล่านี้โชว์ให้เห็นถึงรูปทรงและสถาปัตยกรรมที่สวยงามของแต่ละสถานที่ ซึ่งเราไม่ค่อยได้เห็นกันทั่วไปเท่าไหร่เลยด้วย   เม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโก   ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์   บัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา   อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์   ป้อมอัครา ประเทศอินเดีย   มาดริด ประเทศสเปน   คริสตจักรซากราดาฟามีเลีย บาร์เซโลนา ประเทศสเปน   ปารีส ประเทศฝรั่งเศส   พาราณสี ประเทศอินเดีย   เซาเปาโล ประเทศบราซิล   โทรอนโต ประเทศแคนาดา   ปรัมบานัน ประเทศอินโดนีเซีย   ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์   ซีเอนา ประเทศอิตาลี   ลิมา ประเทศเปรู   ปารีส ประเทศฝรั่งเศส .   อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์…

  • อุทยานแห่งชาติอินเดีย ยิงผู้ลักลอบล่าสัตว์กว่า 50 คน เพื่อปกป้องชีวิตของ “แรด” เอาไว้…

    อุทยานแห่งชาติอินเดีย ยิงผู้ลักลอบล่าสัตว์กว่า 50 คน เพื่อปกป้องชีวิตของ “แรด” เอาไว้…

    ชิ้นส่วนต่างๆ ของสัตว์จำพวก งาช้าง นอแรด อุ้งตีนหมี ของพวกนี้ถือว่าเป็นของที่มีมูลค่าสุงมากๆ แต่ว่ากว่าจะได้มากลับต้องแลกไปด้วยชีวิตผู้บริสุทธิ์มากมาย ทำให้สิ่งมีชีวิตข้างต้นลดจำนวนลงไปมากจนถึงขั้นเกือบจะสูญพันธ์ แต่ทว่าก็ยังมีอุทยานแห่งหนึ่งที่ยังสามารถปกป้องบางชีวิตไว้ได้…. อุทยานแห่งชาติกาซีรังคา เป็นที่เรารู้ดีว่าอุทยานแห่งนี้ประสบความสำเร็จในเรื่องของการการอนุรักษ์ แรดอินเดีย ที่ใกล้จะสูญพันธ์ุ แต่สาเหตุหนึ่งที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จนี้ก็เพราะว่า อุทยานแห่งนี้อนุญาติให้เจ้าหน้าที่สามารถยิงพวกลักลอบล่าสัตว์ได้ทันทีโดยที่ไม่ได้โทษใดๆ     แถมล่าสุดก็ได้รับการยืนยันว่าทางอุทยานได้ทำการยิงพวกลอบล่าสัตว์ในอุทยานตายไปถึง 50 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งพวกเขายืนยันว่าจากการที่พวกเขาจัดการพวกลักลอบล่าสัตว์พวกนี้ ทำให้จำนวนการตายของแรดมีร้อยกว่าการตายของพวกลักลอบล่าสัตว์เสียอีก     ในยุคร้อยกว่าปีก่อน แรดถือเป็นสัตว์ที่มีจำนวนเยอะมากๆ แต่ว่าผลกระทบของการถูกล่าจากพวกลักลอบทำให้แรดอินเดียเหลือจำนวนน้อยมาก แต่ว่าถึงอย่างนั้นในอุทยานแห่งชาติกาซีรังคามีแรดอินเดียมากถึง 2,400 ตัว ซึ่งนับเป็นประชากรสองในสามของแรดอินเดียทั่งโลกเลยทีเดียว     ส่วนสาเหตุที่พวกลักลอบพยามจะล่านอแรดก็เพราะว่า นอแรดหนึ่งอันสามารถขายได้มากถึงราว 200,000 บาท  ต่อนอ 100 กรัม ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคานอแรดแพงมากกว่าทองเสียอีก แถมหลายๆ ที่ยังบอกอีกว่านอแรดเป็นยาวิเศษที่ช่วยในการรักษาโรคต่างๆ จึงไม่แปลกที่คนบางกลุ่ม ที่จะล่าแรดเหล่านี้       เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่คอยปกป้องแรดเหล่านี้จากพวกลักลอบล่าสัตว์   ยังคงมีกลุ่มคนจำนวนมาก ที่พยายามปกป้องพวกมันเอาไว้…     ถึงแม้ว่าแรดจะเป็นสัตว์ที่ต้องการการปกป้อง…

  • มิวสิควีดีโอสุดเจ๋งจากญี่ปุ่น โชว์ให้เห็นโลกของคน “ฮิคิโคโมริ” อาการชอบเก็บตัวในห้อง

    มิวสิควีดีโอสุดเจ๋งจากญี่ปุ่น โชว์ให้เห็นโลกของคน “ฮิคิโคโมริ” อาการชอบเก็บตัวในห้อง

    หลายคนน่าจะเคยได้ยินเรื่องราวของชาวญี่ปุ่นที่ชอบเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ไม่ออกไปไหนหรือสุงสิงกับใครจนเป็นเวลานาน บางรายอาจจะแค่ไม่กี่วัน ไม่กี่สัปดาห์ แต่บางรายก็เป็นหนักมากกว่า 6 เดือน ซึ่งเราจะเรียกคนพวกนี้ว่า “Hikikomori” อย่างที่เราเคยได้ยินในข่าวหรือโทรทัศน์บ่อยๆ นั่นเอง ซึ่งล่าสุดก็ได้มีคนทำเอ็มวีที่แสดงให้เห็นถึงมุมมองของคนเหล่านี้ออกมาแล้ว ผลงานนี้มีชื่อว่า “No Reason” กำกับโดย Oscar Hudsonและเป็นเพลงของศิลปินชาวอังกฤษที่มีชื่อว่า Bonobo ซึ่งเขาได้ทำเพลงนี้ออกมาเพื่อจะแสดงให้เห็นถึงมุมมองของเหล่า Hikikomori ผ่านทางมุมกล้องขนาดเล็กที่ค่อยๆ ไหลผ่านแต่ละห้อง มุมมองนี้จะทำให้เราเห็นถึงความรู้สึกของพื้นที่คับแคบ ความวิตกกังวลทางจิตและความรู้สึกที่ไม่มีสิ้นสุดทำให้ต้องทนทุกข์ทรมานของประชากรคนญี่ปุ่นที่เป็นอาการดังกล่าวมากถึงราวๆ 700,000 คน   เริ่มแรกเราจะเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งนอนอยู่บนฟูกตรงหน้าม้วนกระดาษ ที่เขียนว่า “บ้านหลังน้อยของฉัน”   จากนั้นห้องต่อๆ ไปก็จะเป็นชายคนเดิมกำลังทำสิ่งต่างๆ ทั้งอ่านมังงะ เล่นเกม หรือกินบะหมี่สำเร็จรูป   จากนั้นเราจะเริ่มเห็นได้ว่าตัวเขาค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นและห้องก็แคบเท่าเดิม ทำให้เห็นถึงความระส่ำระสายของเขาที่เพิ่มขึ้น คล้ายกับสวาพจิตใจของเขา   จนเมื่อไปถึงห้องสุดท้าย กล้องก็เริ่มย้อนกลับมาแสดงให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง เพื่อให้เรารู้ว่ายังมีจุดเริ่มต้นใหม่ๆ รออยู่ข้างหลังประตูแห่งความสัญโดษนี้   เป็นที่รู้กันดีว่าบ้านในญี่ปุ่นมีขนาดที่แคบมากๆ และตัว MV นี้ก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงภาพจิตใจของคนที่เป็นอาการ “Hikikomori” ดีที่ต้องอยู่ในห้องแคบๆ ตลอดเวลา ซึ่งการใช้ชีวิตแบบนี้เป็นชีวิตที่พวกเขาถูกบีบบังคับให้เป็น ท้ายที่สุดแล้วทางรัฐบาลญี่ปุ่นก็พยามสุดความสามารถเพื่อที่ช่วยกลุ่มคนเหล่านี้ ใครที่สนใจอยากจะชมแบบเต็มๆ รวมถึงเบื้องหลังก็สามารถดูได้จากข้างล่างนี้เลย  …

  • ไอเดีย “ฟิกเกอร์แวนโก๊ะ” แบบถอดหูออกได้ ทำมาน่ารักซะจนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า!!

    ไอเดีย “ฟิกเกอร์แวนโก๊ะ” แบบถอดหูออกได้ ทำมาน่ารักซะจนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า!!

    สำหรับใครที่กำลังมองหาของขวัญสักอย่างที่จะเอาไปให้คนรู้จักที่ชื่นชอบในศิลปะ แต่ว่าก็ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรให้ดี จะเป็นเซ็ทเครื่องเขียนหรือของอาร์ตๆ ดีนะ แต่ถ้าคนรู้จักคนนั้นเขาชื่นชอบแวนโก๊ะเป็นทุนเดิมอยู่แล้วละก็ ของขวัญชิ้นนี้ต้องโดนใจเขาคนนั้นแน่นอน เพราะว่าของขวัญชิ้นนี้มันก็คือ “แอ็คชั่นฟิกเกอร์ แวนโก๊ะ” แอ็คชั่นฟิกเกอร์ตัวนี้คิดค้นขึ้นมาโดยบริษัที่มีชื่อว่า Today Is Art Day โดยพวกเขาได้หยิบนำจิตรกรชื่อดังอย่าง แวนโก๊ะ มาย่อขนาดให้ดูน่ารักๆ พร้อมกับใส่เสื้อสีผ้าติดดอกทานตะวันเล็กๆ แถมยังมีรูปวาด The Starry Night มาเป็นพรอพประกอบอีกด้วย แต่จุดสำคัญมันอยู่ตรงที่เราสามารถเอาหูแวนโก๊ะออกได้ด้วยนะ ตามที่เขาว่าแวนโก๊ะตัดหูตัวเองยังไงล่ะ ด้วยหูถอดออกได้นี้มันเลยทำให้หลายคนที่เห็นตกหลุมรักไปในทันที   ถ่ายคู่กับภาพ The Starry Night ที่โด่งดัง   ภาพ Sunflowers ก็มีนะ   มุมมองด้านข้างของตัวฟิกเกอร์ ที่ดูดีไม่ยอก   ถอดหูได้ด้วยนะเออ   น่ารักใช่ไหมล่ะ นี้และของขวัญชั้นยอดเลย   ใครที่สนใจแอ็คชั่นฟิกเกอร์ แวนโก๊ะ ตัวนี้อยู่ละก็สามารถเข้าไปติดตามและร่วมลงขันกับโปรเจคคิกสตาร์ทเตอร์ได้ที่ลิ้งนี้เลย todayisartday แต่ต้องร่วมลงทุนมากกว่า 28 ดอลลาร์แคนาดา (ราวๆ 900 บาท) นะ ถึงจะได้แวนโก๊ะมานอนกอด ตอนนี้โปรเจ็คกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะจากเป้าที่ตั้งไว้ที่ 20,000 ดอลลาร์แคนาดา (ราวๆ 520,000…

  • ญี่ปุ่นออกภาพไกด์วาดรูป “ตัวละครขี้เกียจ” ให้มือสมัครเล่น ได้ไปฝึกฝนอย่างง่ายดาย!!

    ญี่ปุ่นออกภาพไกด์วาดรูป “ตัวละครขี้เกียจ” ให้มือสมัครเล่น ได้ไปฝึกฝนอย่างง่ายดาย!!

    สำหรับนักวาดแล้วการหาภาพอ้างอิง หรือมาเป็นแนวทางเพื่อศึกษาแนวทางท่าทาง ล้วนเป็นวิธีที่จะใช้กันอยู่บ่อยๆ ซึ่งปกติก็จะมีหนังสือภาพอ้างอิงที่จะเป็นรูปจำพวกภาพปกติทั่วไป หรือถ้าเป็นรูปคน ก็จะท่าทางปกติทั่วไปใช่ไหมล่ะ!? แต่ว่าล่าสุดก็ได้มีหนังสืออ้างอิงตัวใหม่โดยชาวญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า Daratto shita Pose Catalogue หรือจะแปลเป็นภาษาไทยว่า แคทตาล็อกภาพคนขี้เกียจ ซึ่งภาพในหนังสือทั้งหมดจะเป็นภาพใช้อ้างอิงถึงท่าทางของโมเดลคนที่ทำท่าทาง ขี้เกียจ เอื่อยเฉื่อยอยู่ในบ้านแถมยังมีทั้งในชุดลำลองและชุดชั้นในอีกด้วย     ในหนังสือภาพนี้จะมีโมเดลอยู่สามคนทั้งหญิงและชาย ซึ่งทั้งหมดสวมใส่เสื้อผ้าและท่าทางที่เหมือนจะหมดอาลัยตายอยากจริงๆ จึงเป็นแบบที่เหมาะมากๆ ในการใช้วาดภาพแนวนี้ ตัวหนังสือจะใช้แบบ 3 ตัวละคร ซึ่งนายแบบนางแบบแต่ละคนก็ดูเหมาะแก่ความขี้เกียจจริงๆ และที่สำคัญหนังสือเล่มนี้มีภาพให้เลือกดูมากถึง 800 ภาพเลยทีเดียว   ภาพของโมเดลผู้ชายทั้งสองคนที่พิงกับกำแพงด้วยท่าทางที่ขี้เกียจ .   โมเดลเด็กสาวที่กำลังบิดขี้เกียจกับท่าทางที่ดูสบายๆ   ภาพนี้จะช่วยเป็นช่วยในการใช้อ้างอิงสำหรับการวาด ตัวละครผู้ชายที่ดีแน่นอน กว่า 240 หน้าในหนังสือจะเป็นภาพโมเดลในกิริยาท่าทางต่างๆ บนโซฟาเก้าอี้ หรือที่นอน   ใครที่สนใจหนังสือเล่มนี้ก็สามารถไปสั่งซื้อกันได้ผ่านทาง  Amazon สนนราคาอยู่ที่ราวๆ 770 บาท   ใครที่กำลังหาหนังสืออ้างอิงดีๆ ต้องไปจัดสักเล่มแล้ว ที่มา rocketnews24

  • วีรกรรมน่ายกย่อง เมื่อวัยรุ่นคนหนึ่งเสี่ยงตัวเอง เข้าไปช่วยเด็กสาวจากรถที่กำลังลุกไหม้

    วีรกรรมน่ายกย่อง เมื่อวัยรุ่นคนหนึ่งเสี่ยงตัวเอง เข้าไปช่วยเด็กสาวจากรถที่กำลังลุกไหม้

    ปกติแล้วถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นและมีเวลาเพียงชั่วอึดใจที่จะสามารถช่วยผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุนั้นได้ เราจะเลือกที่เข้าไปช่วยผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นไหม!? แต่กับเขาคนนี้เขาเลือกที่จะลงมือทำมัน เด็กหนุ่มคนวัย 16 คนนี้มีชื่อว่า Emmanuel Toula เขาเล่าว่าเขากำลังอยู่ในเหตุการณ์ประท้วงของวัยรุ่นผิวสีแต่ทว่าในระหว่างเหตุการณ์ประท้วงเขาก็ได้เห็นเด็กสาวคนหนึ่งติดอยู่ในรถที่กำลังลุกไหม้     “ในช่วงเวลาที่ผมเห็นรถคันนั้น ผมคิดว่ารถมันสามารถที่จะระเบิดตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้นผมต้องไปช่วยเธอ” เขาบอกว่าในตอนแรกรถคันนี้ได้ขับมาตามถนนปกติ แต่ว่าก็ต้องเจอกับฝูงผู้ประท้วงที่มาพร้อมกับถังขยะติดไฟและรถคันนี้ก็ไม่สามารถจะเคลื่อนไปไหนได้ จึงถูกลูกหลงของผู้ประท้วงทั้งโยนก้อนหินและถังขยะเข้าใส่รถ     “ผมมีน้องชาย 4คน และน้องสาวอีก 2 คน ซึ่งผมเข้าใจได้ทันทีว่าผมก็จะไม่ปล่อยให้เด็กสาวคนนั้นต้องติดอยู่ในนั้น ยิงในช่วงเวลาแบบนั้นที่มีคนอยู่รอบๆ แต่กลับไม่มีใครทำอะไรเลย ผมบอกกับตัวเองว่าผมต้องลงยื่นมือเข้าไปช่วยเธอให้ได้” ในตอนแรกแม่ของเด็กๆ ในรถได้พาลูกชายออกมาก่อน แต่ทว่าลูกสาวกลับยังติดอยู่ในรถที่ไฟลุกคันนั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะเข้าไปช่วย     เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดพอดีระหว่างการประท้วงของคนผิวสีต่อตำรวจสหรัฐอเมริกา หลังจากมีข่าวความรุนแรงกับคนผิวสี ซึ่งเขาก็ไปอยู่ในเหตุการณ์พอดี เขาบอกว่าเขาไม่ใช่พวกหัวรุนแรงหรือก่อความไม่สงบ เป็นเพียงแค่ประชาชนที่อยากออกมาแสดงจุดยืน เขาก็ไม่ได้คิดว่าตำรวจทุกคนจะเป็นคนไม่ดี เพียงแต่ว่าตำรวจไม่ดีมันก็มีอยู่มากมายนั่นเอง     สุดท้ายแล้วหลังจากข่าวของเขาถูกเผยพร่ออกไป เขาก็ไดรับคำชมมากมายรวมถึงจากทางกรมตำรวจท้องที่ว่า @prefpolice “ทางกรมตำรวจต้องขอสรรเสริญความกล้าหาญ ของเด็กหนุ่มที่ช่วยเด็กสาวออกจากรถที่กำลังลุกไหม้” @Emmanuel_Toula ก็เลยออกมาตอบกลับว่า “ผมไม่ใช่ฮีโร่ ผมเป็นแค่พี่ชายคนหนึ่ง ที่กำลังคิดว่ามีน้องสาวกำลังอยู่ในอันตรายและหวาดกลัว”     สุดท้ายแล้วต่อให้เด็กหนุ่มคนนี้จะพูดยังไง เขาก็ยังคงเป็นฮีโร่ของสาวน้อยคนนั้นอยู่ดี ที่มา metro

  • เรื่องราวของ “คู่เดทดาวน์ซินโดรม” ที่ทำให้ชาวเน็ตต่างชาติปลาบปลื้ม ในความน่ารักของทั้งคู่

    เรื่องราวของ “คู่เดทดาวน์ซินโดรม” ที่ทำให้ชาวเน็ตต่างชาติปลาบปลื้ม ในความน่ารักของทั้งคู่

    ปกติแล้วคนที่ป่วยเป็นดาว์นซินโดรม มักจะไม่ค่อยมีโอกาสที่ดีเหมือนคนปกติเท่าไหร่นัก นั่นอาจจะเพราะความไม่ปกติเหมือนคนอื่นๆ จนถูกมองว่าแปลกแยกหรือด้อยในบางสิ่งบางอย่าง แต่ว่าล่าสุดก็ได้มีกระแสไวรัลหนึ่งเกิดขึ้นบนโลกอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับผู้ป่วยดาว์นซินโดรม ซึ่งเป็นภาพที่หลายๆ คนคิดเห็นตรงกันว่าน่ารักมากเลยล่ะ ยูสเซอร์ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า ThatGuyJigg ได้แชร์ภาพของคู่รัก ที่น่ารักที่สุดในโลกตอนนี้ นั่นก็คึอพี่ชายของเขา Josh ที่ถ่ายกับคู่เดทไปงานพรอม Victoria นั่นเอง       ทั้งคู่ป่วยเป็นดาว์นซินโดรมและทั้งคู่ก็แต่งสวยแต่งหล่อกันเพื่อที่จะได้ไปงานพรอมที่มีชื่อว่า Night to Shine ที่เป็นงานที่จัดให้กับคนที่ป่วยเป็นดาว์นซินโดรโดยเฉพาะ แน่นอนว่าทั้งคู่จะไม่ลืมประสบการณ์ที่ดีจากงานนี้เลยล่ะ นอกจากนี้ ThatGuyJigg ยังโพสต์ขอให้ทุกคนในทวิตเตอร์ช่วยกันรีทวิตภาพนี้ให้มันกลายเป็นไวรัลจนดังเปรี้ยงปร่าง แน่นอนว่าชาวเน็ตก็จัดให้ทันที มียอดคนถูกใจหลังจากเห็นคู่รักนี้กว่า 660,000 ครั้งเลยทีเดียว   นี้คือภาพของ ThatGuyJigg กับพี่ชายของเขา Josh ถ่ายรูปรวมกันซะหน่อย   ปิดท้ายด้วยรูปถ่ายกับคุณแม่   กระแสโด่งดังซะจนมีคนวาดรูปมาให้ด้วยนะ น่ารักจริงๆ   นอกจากนี้ก้ยังมีความเห็นจากคนที่รีทวีตอีกมากมาย โดยจะเอาหยิบยกมาสักสองสามอันให้ดูกัน   @Caeles_ “นี่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันเคยเห็นในปี 2017 เลย”   @Albaaa_gux “ฉันถึงกับหลั่งน้ำตาเลย พวกเขาน่ารักมากๆ”   @kickitoldschool “ฉันอายุ 50 แล้ว ยังไม่เคยดูหล่อเท่า พ่อหนุ่มคนนี้เลย”   ยังไงซะก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีกิจกรรมดีๆ สำหรับผู้ป่วยดาว์นซินโดรม ซึ่งถ้าใครอยากจะเป็นโฮสจัดงานปาร์ตี้แบบนี้สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ทางเว็บไซต์ของ Night to Shine ได้เลยครับ… ที่มา distractify

  • งี้ก็มี… เด็กหนุ่มญี่ปุ่นขโมยจักรยาน ปั่นหนีออกจากบ้าน 900 กิโล ไม่กินอะไรเลย 3 วัน 3 คืน!?

    งี้ก็มี… เด็กหนุ่มญี่ปุ่นขโมยจักรยาน ปั่นหนีออกจากบ้าน 900 กิโล ไม่กินอะไรเลย 3 วัน 3 คืน!?

    ปัญหาการว่างงานนั้น เป็นปัญหาเรื้อรังกันมานานแล้วในสังคมญี่ปุ่น เพียงแต่ใครจะคิดว่าการที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งว่างงานจะผันตัวมาเป็นหัวขโมยจักรยาน แถมเขายังปั่นมันข้ามจังหวัดกันเลยทีเดียว! ตำรวจจากจังหวัดอะโอะโมะริได้รายงานว่า พวกเขาได้จับเด็กหนุ่มอายุ 18 ปี ที่ว่างงานคนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยคดีขโมยจักรยานได้ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ส่วนชื่อของเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้รับการเปิดเผยเพราะว่ายังคงเป็นผู้เยาว์   ภาพแผนที่การขโมยจักรยาน และปั่นข้ามประเทศของเขา   ตำรวจได้บอกว่าเขาคนนี้ได้ขโมยจักรยานจากเมืองโมะริงุจิ จังหวัดโอซาก้า จากการคาดเดาของตำรวจชายหนุ่มคนนี้น่าจะปั่นจักรยานมาไกลถึง 900 กิโลเมตรเพื่อมาจังหวัดอะโอะโมะริ แถมยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่าเด็กชายคนนี้ได้หนีออกจากบ้านในเมืองโยะโกะฮะมะตั้งแต่กันยายนปีที่แล้ว จักรยานที่ผู้ต้องสงสัยได้ขโมยมาเป็นจักรยานของเด็กนักเรียนคนหนึ่งจากโรงเรียนมัธยมในโอซาก้า โดยตัวจักรยานที่ถูกขโมยมาเดิมทีจอดอยู่ที่จุดจอดจักรยานของเมืองโมะริงุจิ ซึ่งจากการคาดการณ์ จักรยานนี้มีมูลค่าประมาณ 3,000 บาท และตำรวจคาดว่าจะขโมยตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว     ในช่วง 6 โมงเย็นของวันที่ 17 กุมภาพันธ์นั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบถามถึงประวัติโดยรวมของเด็กหนุ่มคนนี้พร้อมกับตั้งข้อหา ซึ่งเด็กหนุ่มก็ยอมรับความผิดที่เขาทำแต่โดยดี นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังบอกเพิ่มเติมว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีเงินติดตัวอยู่แค่ไม่กี่เยนเท่านั้น แถมเขายังบอกว่าเขาไม่ได้กินอะไรมามากกว่า 3 วันแล้วด้วย แต่ถึงอย่างนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่รู้ถึงแรงจูงใจของเด็กหนุ่มอยู่ดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนหาข้อเท็จจริงที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง     ขโมยจักรยานยังไม่พอ เล่นปั่นข้ามจังหวัดไกลเป็น 900 กิโล จิตใจเขาทำด้วยอะไรกันนะ!? ที่มา sankei

  • รวม 17 เด็กที่ดูเนิร์ดๆ ติ๋มๆ ในอดีต ตอนนี้กลายเป็นนักแสดงหนุ่มสุดฮอตไปซะแล้ว!!

    รวม 17 เด็กที่ดูเนิร์ดๆ ติ๋มๆ ในอดีต ตอนนี้กลายเป็นนักแสดงหนุ่มสุดฮอตไปซะแล้ว!!

    ในชีวิตของใครหลายๆ คนน่าจะมีเพื่อนประเภทที่ว่าตอนเด็กขี้เหร่ หมาดติ๋มๆ เนิร์ดๆ และดูไม่น่าจะหล่อกลายเป็นขวัญใจสาวๆ ได้ แต่กลายเป็นว่าพอโตมาดันหล่อบาดใจซะงั้น ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนทั่วไปเพียงอย่างเดียว เหล่าดารามากหน้าหลายตาก็เคยมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเองเช่นกัน นี่จึงเป็นเหตุที่เราจะมาดู 17 ดาราหนุ่มที่พอโตขึ้นมาแล้วหล่อเฟี้ยวกันสุดๆ จนสาวๆ จะต้องกรี๊ดสลบวอเตอร์วอล์กกันเป็นแถวๆ เลยล่ะ   Jake Gyllenhaal นักแสดงผู้สร้างชื่อจากภาพยนตร์หุบเขาเร้นรัก ตอนเด็กนี่ก็ดูมาดเนิร์ดอยู่พอสมควรนะ โตขึ้นมานี่กลายเป็นหนุ่มสุดฮอทไปซะแล้ว   Richard Madden จากเด็กอ้วนวัย 11 ที่พึ่งเข้าวงการ กลายร่างเป็น ร็อบ สตาร์คที่ฮอตฮิตสุดๆ ในเกมออฟโทรน   Aaron Taylor-Johnson จากนักแสดงในเรื่อง Kick Ass กลายมาเป็นหนุ่มรอสุดฮอตในตอนนี้   Zac Efron จากเด็กที่ดูผอมแห้ง ผ่านไปเพียงแค่ 15 ปีจนตอนนี้เขาพึ่งอายุ 29 แต่ดีกรีความฮอตนี้มาเต็มจริง   Matthew Lewis ย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน คงไม่มีใครคิดว่า เนวิลล์ ลองบัตท่อม จะกลายมาเป็นหนุ่มฮอทขนาดทุกวันนี้หรอกนะ   Chris…

  • เมื่อสถาปนิกสาวหันมาทำ “Mirror Glaze Cake” เค้กอลังการงานสร้าง สวยซะจนไม่กล้ากิน…

    เมื่อสถาปนิกสาวหันมาทำ “Mirror Glaze Cake” เค้กอลังการงานสร้าง สวยซะจนไม่กล้ากิน…

    ปกติแล้วอาชีพสถาปนิกถ้าพูดถึงความสามารถในการออกแบบสิ่งต่างๆ ต้องบอกเลยว่าแต่ละอย่างต้องสวยไม่ธรรมดาแน่นอน แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราเอาสถาปนิกมาทำขนมเค้กสุดสวย Mirror Glaze Cake   มาทำความรู้จัก Mirror Glaze Cake กันก่อนว่าคืออะไร มันก็คือเค้กที่ใช้น้ำตาลมาเคลือบผิวหน้าให้เกิดความเงางามราวกับกระจก บางทีก็จะเรียกว่า Marble Cake เพราะความแวววาวดึงดูดตาของมันนั่นเอง ลองไปดูวิธีทำในบทความเก่า: วิธีทำ ‘Mirror Marble Cakes’ เค้กแสนอร่อย สวยเนียนแบบไร้ที่ติ ใครๆ ก็สามารถทำได้   สถาปนิกคนนี้มีชื่อว่า Marie Troïtski จากรัสเซีย แถมตอนนี้เธอยังเป็นนักศึกษาสถาปัตยกรรมศาสตร์ เรียนอยู่ในโรงเรียนสถาปัตยกรรม Paris-Malaquais ในกรุงปารีสอีกด้วย     นอกจากนั้นเธอได้ไปฝึกงานอยู่ที่ Antonio Bachour Kitchen ทำให้เธอจะต้องสร้างเค้กใหม่ๆ ขึ้นมา แน่นอนว่าด้วยความที่เธอเรียนสถาปนิกมา ทำให้ทุกครั้งที่เธอจะออกแบบเค้กสักชิ้นจะต้องใช้เวลาพอสมควร โดยเธอจะเริ่มจากคิดถึงส่วนต่างๆ ของเค้กในเชิงสถาปัตยกรรมเสียก่อน จากนั้นเธอจะเริ่มร่างแบบขึ้นมา หลังจากนั้นเธอก็จะคิดถึงรสชาติที่จะต้องใช้ และสร้างเป็นเค้กหนึ่งชิ้น และนี้ก็เป็นเค้กทั้ง 18 แบบที่ #เหมียวมู่ทู่ หยิบมาให้ดูกันแต่ละงดงามสุดๆ เลยล่ะ   .   และนี่คือวิดีโอตัวอย่างการทำเค้กสักชิ้นของเธอ……

  • อาสาสมัครช่วยชีวิตงูชาวอินเดียเสียชีวิต เพียงเพราะ “พยายามจูบงู” ที่เขาช่วยจากตลาดมืด

    อาสาสมัครช่วยชีวิตงูชาวอินเดียเสียชีวิต เพียงเพราะ “พยายามจูบงู” ที่เขาช่วยจากตลาดมืด

    เราน่าจะมีภาพที่ติดตากันพอสมควรสำหรับหมองูจากอินเดียที่มักจะเป่าปี่เพื่อให้งูเต้นรำตามในหนังสือการ์ตูน หรือจะเป็นหมองูบ้านเราที่โชว์จูบงูให้เห็นกันบ่อยๆ แต่ว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จูบงูได้สำเร็จ หนุ่มคนนี้ก็คือหนึ่งในผู้โชคร้ายคนนั้น….   อาสาสมัครช่วยชีวิตงูนายนี้มีชื่อว่า Somnath Mhatre อายุ 18 ปี เขาคือเจ้าหน้าที่ขององค์กรพิทักษ์ ที่มีหน้าที่คอยช่วยเหลืองูจากตลาดค้าของผิดกฎหมาย เพื่อนำมันกลับเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในธรรมชาติ ในครั้งล่าสุด เขาได้เดินทางไปช่วยงูเห่าตัวหนึ่งจากย่านการค้า ในมุมไบ เพื่อที่จะได้นำมันไปปล่อยในที่ปลอดภัยห่างจากผู้คน แต่ก่อนจะปล่อยเจ้างูตัวนี้ไป เขาก็อยากจะถ่ายรูปคู่กับมันสักหน่อย เขาค่อยๆ ยกงูขึ้นมาพร้อมกับจะจูบตรงกลางหัวมันเพื่อบอกลา แต่ทว่าเรื่องที่ไม่ขาดคิดก็เกิดขึ้น เจ้างูเห่าพุ่งเข้าฟังขมเขี้ยวลงกลางอกของเขาทันที   ภาพของเขาที่เคยถ่ายกับงูก่อนหน้านี้   เขาถูกหามส่งโรงพยาบาลในมุมไบทันที แต่ทว่าโชคกลับไม่เข้าข้างเขา เพราะ 5 วันหลังจากต่อสู้กับพิษงู เขาก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับมันและตายลงอย่างสงบในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อาสาสมัครที่ไม่ประสงค์ออกนามอีกคนบอกว่า “Somnath  เขาเดินทางเพื่อไปช่วยงู ที่ย่านการค้า ในมุมไบ แต่ว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นขณะที่เขากำลังจะถ่ายรูปกับงูที่เขาช่วยมา แต่ว่างูดันหันมาฉกเขาเข้าที่กลางอก”     คนที่รู้จักต่างก็บอกว่า… Mhatre เขาเป็นคนที่รักสัตว์มากๆ ก่อนที่เขาจะตาย เขาได้ช่วยงูมากแล้วมากกว่า 100 ตัวเลยทีเดียว   .

  • อีกครั้งกับ 20 ภาพที่คนรักความเพอร์เฟค เห็นแล้วจะต้องฟินกันอย่างเต็มเปี่ยม!!

    อีกครั้งกับ 20 ภาพที่คนรักความเพอร์เฟค เห็นแล้วจะต้องฟินกันอย่างเต็มเปี่ยม!!

    เคยเป็นกันบ้างไหมที่บางครั้งเวลาเราไปเจออะไรที่ทุกอย่างมันเข้ากันได้อย่างลงตัวหรือจัดเรียงกันได้พอดี เราจะรู้สึกดีสุดๆ ทุกครั้งที่เห็นอะไรแบบนี้ แน่นอนว่าตามหลักวิทยาศาสต ร์มันเป็นธรรมชาติของคนเราอยู่แล้วที่เวลาเห็นอะไรแบบนี้ ไม่แปลกอะไรที่จะรู้สึกฟิ๊นฟินนนนน เพราะเราจะรู้สึกสบายตา และปลอดภัยมากกว่าเห็นอะไรยุ่งเหยิง (ซึ่งอาจจะมีอะไรบางอย่างที่เป็นอันตรายจนทำให้เราไม่สบายใจ) วันนี้ #เหมียวมู่ทู่ เลยจะขอหยิบ 20 ภาพที่พอเห็นแล้วจะต้องรู้สึกฟินกับความลงตัวสุดเพอร์เฟคมาให้ดูกัน   การจัดเรียงยาลงตลับอย่างพอดีทั้งสัปดาห์ แถมดูสวยงามอีกตะหาก   ภาพของน้ำที่ไหลลงรูอ่างล้างหน้าพอดีเป๊ะ   รูนี้มันบังเอิญพอดีกับเจาเหมียว หรือเจ้าเหมียวทำให้รูพอดีกับมันกันนะ   เจ้านกฮูกตัวนี้กลมกลืนกับต้นไม้สุดๆ   นี้จะต้องเป็นเพอร์เฟกแซนวิชของโลกแน่ๆ   หิมะที่เกาะตัวบนเก้าอี้อย่างพอดี   แตงโมที่จัดเรียงชิ้นกันมาอย่างดีในถุงสี่เหลี่ยม   ขนมที่วางกันได้สวยสุดๆ แถมพอดีถาดอีกตะหาก   การไล่สีนี้มันช่างฟินลูกตา   งูผู้เกิดมาเพื่อแผ่นปูพื้น หรือจะเป็นแผ่นปูพื้นที่เกิดมาเพื่องู!?   ต้องยอมใจคนจัดเรียงจริงๆ ออกมาพอดีเป๊ะ   การเรียงตัวขององค์ประกอบในแก้วที่ฟินสุดๆ   อยากจะปรบมือให้คนเรียงผักพวกนี้จริงๆ   แพนเค้กที่หน้าเรียบเนียนสุดๆ   ลายบนกล่องหมากฝรั่งที่ต่อกันอย่างลงตัว   ปลั๊กไฟที่เหมือนทำมาสายชาร์จ MAC ของคุณโดยเฉพาะ   เยลลี่สีต่างๆ ที่เอามาเรียงแยกสีอย่างเป็นระเบียบ…

  • จงชาบูข้าซะเจ้าพวกมนุษย์ ยอดแมวฮีโร่ ช่วยเพื่อนบ้านจากการเกือบเสียแขน

    จงชาบูข้าซะเจ้าพวกมนุษย์ ยอดแมวฮีโร่ ช่วยเพื่อนบ้านจากการเกือบเสียแขน

    เจ้าเหมียวจากรัฐออนแทรีโอ ในประเทศแคนาดา ได้กลายมาเป็นฮีโร่ในโลกออนไลน์ จากการช่วยเพื่อนบ้านผู้ซึ่งติดเหงกอยู่ตรงประตูโรงรถของเขา โดยที่บังเอิญเจ้าเหมียวอยู่ข้างในบ้านของเขาในช่วงที่เกิดเหตุการณ์พอดี เรื่องมันมีอยู่ว่า Ivy ลูกแมวที่อายุเพียงแค่ 2 ปี ที่อาศัยอยู่กับคุณยายอายุ 72 ปีผู้เป็นเจ้าของ แมรี่ จอหน์สัน ในเมืองเมื่องเล็กๆ ที่มีชื่อว่า Tehkummah เจ้าแมวตัวนี้เป็นแมวที่เชื่องและสงบมาก     แต่ทว่าวันหนึ่งมันมีพฤติกรรมที่แปลกไปจากเดิมคือ มันเดินไปมาระหว่างหน้าต่างกับที่นอน ราวกับว่ามันกำลังวิตกกังวลกับบางสิ่ง ซึ่งแมรี่ได้บอกว่า “ไอวี่ปกติแล้วมันจะนอนอยู่เก้าอี้นอนถัดจากโซฟาของฉันเวลาที่ฉันกำลังอ่านหนังสือ ”  แต่ว่าในวันนั้นเจ้าแมวมีพฤติกรรมที่ผิดปกติมันมีพฤติกรรมที่พยายามให้แมรี่สนใจ แต่ก็ดูจะไม่สำเร็จนัก ทำให้มันกระโดดมาที่ตักของแมรี่และพยายามเรียกร้องความสนใจอย่างมาก นั้นคือสิ่งที่เจ้าเหมียวไม่เคยแสดงออกมาก่อน     “ฉันได้ยินเสียงบางอย่าง อะไรที่ฉันคิดนั้นเป็นเสียงของแมวที่กำลังตกอยู่ในอันตราย และมันจะทำเสียงคำราม” เธอจึงออกไปข้างนอกและตามเจ้าเหมียวไอวี่ พร้อมกับเสียงนั้นไปที่ทางฟาร์มของเพื่อนบ้าน ไม่นานเธอก็พบว่าเสียงนั้นไม่ได้มาจากแมว แต่เป็นเพื่อนบ้านของเธอ Eric Russell แขนของอีริคติดแหงกอยู่กับประตูโรงรถและไม่สามารถออกมาได้ “เขากำลังซ่อมประตูโรงรถของเขาแต่ว่าอยู่ดีๆ สปริงประตูก็หลุดออกและแขนของเขาก็ติดอยู่ตรงนั้นไม่สามารถจะเอาแขนออกมาได้ “   ทันทีทันใดนั้นเธอจึงรีบขอความช่วยเหลือ และพวกเขาก็พาอีริคไปรักษาแขนที่โรงพยาบาล แขนของเขาได้รับความเจ็บปวดไม่น้อยรวมถึงเส้นประสาทด้วย หมอบอกว่าถ้าแขนของเขาเอาออกมาช้ากว่านี้ เขาอาจจะสูญเสียแขนของเขาไปเนื่องจากมันถูกประตูหนีบจนขาดเลือดไปล่อเลี้ยง ดังนั้นเท่ากับว่าเจ้าแมวน้อยไอวี่จึงช่วยชีวิตเขาไว้ได้ในวันนี้ “ฉันคิดว่าเจ้าแมวคงได้ยินเสียงของความทุกข์และนั้นเป็นสิ่งกวนใจมัน มันจึงคิดว่ามันควรจะจัดการกับต้นตอของเสียงที่มากวนใจมัน”     อีริครู้สึกขอบคุณที่ไอวี่ได้ยินเขาและได้ให้ความสนใจกับเขาในวันนั้นทำให้เขาไม่ต้องเสียแขนไป…

  • คุณแม่ลูกสองผู้กินจั๊งค์ฟู๊ดวันละเกือบ 10,000 แคลอรี่ จนหนักกว่า 187 กิโล พยายามหาทางลดหุ่น…

    คุณแม่ลูกสองผู้กินจั๊งค์ฟู๊ดวันละเกือบ 10,000 แคลอรี่ จนหนักกว่า 187 กิโล พยายามหาทางลดหุ่น…

    อาหารฟาสต์ฟู๊ด หรือที่บางคนเรียกว่า จั๊งค์ฟู๊ด ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเป็นอาหารที่หากินได้ง่าย สะดวก และมีราคาถูก(ในต่างประเทศ) นั่นทำให้หลายคนถึงกลับเสพติด และนั่นแน่นอนว่ามันส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างปฏิเสธไม่ได้ Tiffaney Anderson คุณแม่ลูกสอง วัย 26 ปี จากรัฐยูทาห์ ซึ่งเธอคนนี้มีน้ำหนักมากถึง 187 กิโลกรัม ด้วยผลของการกินอาหารฟา่สต์ฟู๊ดทุกวันของเธอทำให้เธอได้รับแคลอลี่มากถึง 11,000 แคลอรี่ทุกวัน   แน่นอนว่าการมาติดอาหารของเธอนั้นก็มีสาเหตุ เธอบอกว่ามันเกิดจากความเครียด จากผลที่เธอถูกรังแกโดยพ่อและเพื่อนร่วมคลาสของเธอทำให้เธอหันมากินอาหารจำนวนมากนั่นเอง “ฉันกินอาหารฟาสต์ฟู๊ด ทุกวันโดยที่ฉันไม่สนเลยว่าปริมาณแคลอรี่ในแต่ละมื้อที่กินมันจะสูงแค่ไหน นี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันอ้วนขึ้นไวมากๆ” “ที่แย่ไปว่านั้นหลังหลังจากที่ฉันกินมื้อแรกเสร็จ 20 นาทีต่อมาฉันก็กลับไปที่แมคโดนัลและสั่งอาหารแบบเดิมมาอีกชุดก่อนจะไปทำงาน” เธอเล่าว่าเธอกินเพราะเธออารมณ์เสียมากๆ เธอเติบโตมาอย่างไม่ค่อยมีความสุขนัก และอาหารก็คือสิ่งที่ทำให้เธออารมณ์ดีขึ้น “ฉันโตมาด้วยสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีนัก แถมยังถูกรังแกที่โรงเรียนอีกตะหาก พวกเขาเรียกฉันว่า ยัยวัวอ้วน หรือยัยวาฬยักษ์” .   แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความที่เธอเริ่มอ้วนมากเกินไป ทำให้เธอต้องเริ่มหันมามองการผ่าตัดเอาไขมันออก เธอบอกว่าหลังจากที่เธอดูดไขมันทำให้น้ำหนักของเธอลดลงถึง 108 กิโลกรัมแต่ว่าผลกระทบจากการดูดไขมันทำให้เธอต้องมีผิวหนังที่เหี่ยวและดูน่าเกลียดมากๆ   เธอจำเป็นต้องใช้เงินถึง 520,000 บาท แต่ว่าเธอไม่มีเงินมากขนาดนั้น เธอจึงเริ่มที่จะทำงานหนักมากขึ้นพร้อมกับขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ เพื่อให้เธอกลับมาสวยอีกครั้ง แต่หลังจากการดูดไขมันตอนนี้เธอก็ผอมสวยลงบ้าง สุดท้ายแล้วเธอจะได้ผ่าตัดเอาหนังส่วนเกินออกหรือไม่ เราคงต้องเป็นกำลังใจให้เธอแล้วล่ะ  …

  • หมาที่ถูกทิ้งได้รับการช่วยเหลือ แต่ไม่ยอมไปกับคน จนกว่าจะไปช่วย “กระต่าย” เพื่อนมันด้วย!?

    หมาที่ถูกทิ้งได้รับการช่วยเหลือ แต่ไม่ยอมไปกับคน จนกว่าจะไปช่วย “กระต่าย” เพื่อนมันด้วย!?

    เมื่อเราสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไป สิ่งที่น่าจะช่วยประคองให้เรายังคงเดินต่อไปได้ก็คงจะหนีไม่พ้นเพื่อนๆ คนใกล้ตัวหรือครอบครัวของเรา เหมือนกับเรื่องราวของเจ้าหมาและกระต่ายคู่นี้ก็เช่นกัน   Dan O’Grady คนขับรถบรรทุกจากรัฐโอไฮโอ ได้ขับผ่านแถบแจ็คสันวิลล์เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งนั่นทำให้เขาได้เจอกับเจ้าหมาตัวหนึ่งที่เดินอยู่ตรงไหล่ทางของถนนอย่างโดดเดี่ยว เขาจึงไม่รอช้ารีบขับรถเข้าไปใกล้เพื่อจะรับเจ้าหมาขึ้นมาบนรถของเขาด้วยความเป็นห่วง แต่ว่าทุกครั้งที่เขาเดินเข้าไปใกล้มัน เจ้าหมาก็พยามที่จะเดินออกห่างจากเขาและพยามเดินเข้าไปทางป่าข้างทางแทน ดูเหมือนมันจะไม่ยอมมาด้วยดีๆ และต้องการสื่ออะไรบางอย่าง เมื่อเห็นเป็นเช่นนั้นเขาจึงตัดสินใจเดินตามเจ้าหมาไป     มันนำทางเขาเข้าไปในป่าลึกไปเรื่อยๆ ซึ่งนี้แสดงให้เห็นได้ชัดว่าเจ้าหมาอยากให้เขาได้เห็นบางอย่างแน่นอน และเมื่อเดินไปถึงพุ่มไม้ เขาก็ได้เลือบไปเห็นกระต๋ายสีขาวตัวหนึ่งใต้พุ่มไม้นั้น เมื่อเห็นดังนั้นเขาจึงอุ้มเจ้ากระต่ายกลับไปที่รถของเขา ดูเหมือนเจ้าหมาจะยอมให้เขาเข้าหากระต่ายโดยดี ส่วนเจ้าหมาก็เดินตามไม่ห่าง ราวกับว่าภารกิจช่วยชีวิตกระต่ายตัวนี้ได้บรรลุเลยทีเดียว ระหว่างทางกลับเขาก็ได้ให้อาหารที่เขาพอจะมีอยู่กับคู่หูทั้งสอง ซึ่งเขาก็ได้ตั้งชื่อให้มันทั้งสองตัวโดยเจ้าหมามีชื่อว่า Highway ส่วนกระต่ายได้ชื่อว่า Interstate ชื่อทั้งสองจะเป็นเพียงชื่อชั่วคราวเท่านั้น เพราะเขาตั้งใจจะพามันไปส่งสถานรับเลี้ยงสัตว์ที่ใกล้ที่สุด และหาคนที่ดูแลพวกมันได้อย่างจริงๆ จังๆ นั่นเอง     แต่ว่าเมื่อไปถึงเขาได้รู้ถึงข่าวร้ายว่าสถานรับเลี้ยงที่เขามานั้นไม่รับเลี้ยงกระต่ายแต่พวกเขายินดีจะรับเจ้าหมาไป ซึ่งนี่คงจะต้องเป็นการแยกจากกันของทั้งสอง แ ต่ว่า Dan ก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะหาบ้านให้เจ้ากระต่าย เขาได้เดินทางกลับไปที่โอไฮโอ ที่นั้นเข้าได้เจอกับสถานรับเลี้ยงที่มีชื่อว่า Humane Society of Summit County สถานรับเลี้ยงแห่งนี้จึงกลายเป็นบ้านใหม่ของเจ้ากระต่าย แต่ว่ามันก็คงจะดีกว่านี้ถ้าทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน ถึงอย่างนั้นใครจะรู้ว่าเจ้าสองตัวนี้โชคดีแค่ไหนที่ยังสามารถรอดชีวิตอยู่ในป่าด้วยกันได้นานขนาดนั้น แ ละก็โชคดีของเจ้า…

  • พ่อเด็กฟิลิปปินส์ เห็นลูกแอบจิ๊กอาหารออกจากบ้าน ตามไปพบกับภาพแบบที่เห็นนี่ล่ะ…

    พ่อเด็กฟิลิปปินส์ เห็นลูกแอบจิ๊กอาหารออกจากบ้าน ตามไปพบกับภาพแบบที่เห็นนี่ล่ะ…

    ปกติแล้วถ้าเกิดมีการขโมยเกิดขึ้น โดยทั่วไปเราก็จะไม่ให้อภัยหัวขโมยคนนั้นอย่างแน่นอน แต่ว่าสำหรับเรื่องนี้พอรู้ความจริงของสาเหตุการขโมยแล้วเรากลับจะต้องให้อภัยเขาอย่างแน่นอน เรื่องนี้เป็นเรื่องของเด็กชายวัย 9 ขวบชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งที่มีชื่อว่า Ken Amante เขาชอบที่จะเดินทางออกจากบ้านทุกวันพร้อมกับอาหารมากเป็นพิเศษ และด้วยการที่เขาเป็นคนเงียบๆ เขาจึงไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางที่เขาไปในทุกวัน พ่อแม่ก็เลยนึกว่าไปเล่นกับเพื่อนตามประสาเด็ก     นั่นจึงทำให้พ่อของ Ken รู้สึกสงสัยในจุดหมายปลายทางที่ลูกของเขาไป ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าลูกของเขาเป็นเด็กดีแต่เขาก็อยากจะมั่นใจว่าลูกของเขาไม่ได้ไปในสถานที่ไม่ดี เขาจึงเลือกที่จะตามเด็กชายที่แอบหอบกระเป๋าที่เต็มไปด้วยอาหารตามไป ภาพที่เขาเห็นเป็นภาพของเด็กชายที่กำลังให้อาหารสุนัขจรจัดข้างทาง ซึ่งสุนัขบางตัวมีสภาพที่ดูไม่ได้เลยทีเดียว บางตัวซูบผอมเหลือแต่กระดูก บางตัวก็ดูจะเป็นโรคเรื้อน แต่เด็กชายก็ไม่มีท่าทีจะกลัวหรือรังเกียจเลยแถมยังป้อนอาหารพวกมันอย่างตั้งใจ     โดยปกติแล้วสุนัขจรจัดจะต้องกลัวการเข้าใกล้มนุษย์และอยู่ให้ห่างมากที่สุด แต่เจ้าหมาพวกนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น พวกมันยอมที่จะเข้าใกล้ Ken และเล่นกับเขา หลังจากเรื่องราวนี้กระจายออกไปผู้คนมากมายก็อยากที่จะช่วยเจ้าหมาพวกนี้ เงินบริจาคจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลเข้ามา ถึงแม้ว่า Ken จะเป็นเพียงเด็กชายวัย 9 ขวบ แต่เขามีความฝันที่จะเปิดที่พักพิงให้สำหรับสัตว์ ด้วยเงินก้อนนี้จึงทำให้เขาทำความฝันเป็นจริง เขาตั้งชื่อมันว่า The Happy Animals Club   แน่นอนว่าสัตว์กลุ่มแรกที่เขาดูแลก็คือเจ้าสุนัขจรจัดทั้งสามตัวนั้นเอง เขาตั้งชื่อให้พวกมันว่า Whitey, Brownie และ Blackie ซึ่งหลังจากนี้เขาก็จะยังคงทำตามความฝันที่จะช่วยพวกสัตว์จรจัดต่อไปแน่นอนว่าที่บ้านของเขาก็สนับสนุนเช่นกัน     ก็หวังในอนาคตเมื่อ Ken…

  • ไอเดียเมนูใหม่ “เบอร์เกอร์เลโก้” เปลี่ยนของเล่นในวัยเด็ก มาเป็นของกินอันแสนน่าหม่ำ

    ไอเดียเมนูใหม่ “เบอร์เกอร์เลโก้” เปลี่ยนของเล่นในวัยเด็ก มาเป็นของกินอันแสนน่าหม่ำ

    เลโก้ นับว่าเป็นของยอดฮิตสำหรับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่หรือเป็นคนที่ไหน ของเล่นชนิดนี้ก็ยังเป็นอะไรที่หลายคนชื่นชอบอย่างแน่นอน แถมในยุคสมัยนี้เลโก้ก็กลายเป็นสิ่งต่างๆ นอกจากของเล่นแล้ว ซึ่งอาหารก็เช่นกัน ล่าสุดก็ได้มีร้านเบอร์เกอร์เปิดใหม่ในชื่อว่า Brick Burger ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยร้านแห่งนี้ทำตัวขนมปังเบอร์เกอร์เป็นรูปตัวต่อเลโก้ขนาด 4×4 ออกมาแถมตัวเบอร์เกอร์ยังมีขนาดที่ใหญ่มากๆ เลยทีเดียว…   หน้าตาของเบอร์เกอร์เลโก้ ซิกเนเจอร์เมนูใหม่ของร้าน   นอกจากขนาดของตัวเบอร์เกอร์แล้ว เจ้าเบอร์เกอร์เลโก้ยังมีสันหลากหลายและเมนูให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็น Darth Burger ที่ชื่อเหมือน Darth Vadar ซะเหลือเกิน หรือจะเป็น Cheesy Mac เลโก้สีเหลืองอัดแน่นไปด้วยชีส จะมาทำให้คนรักชีสชุ่มฉ่ำจนใจละลาย     ชีสเต็มขนาดนี้ เหมาะกับคนรักชิสแน่นอน   นอกจากตัวเบอร์เกอร์ที่เป็นรูปร่างเลโก้แล้ว ตัวร้านก็ยังตกแต่งด้วยรูปทรงเลโก้เช่นกัน แถมยังตกแต่งได้ออกมาสวยงามเลยทีเดียวล่ะ   แม้แต่เลโก้แบทแมนยังต้องมาลอง   ใครที่สนใจหรือชอบเบอร์เกอร์เลโก้นี้ก็สามารถเข้าไปกดไลค์ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ Brick Burger หรือกดดูคลิปเกี่ยวกับทางร้านได้ที่ข้างล่างเลย   บอกเลยว่าถ้าใครชอบกินเบอร์เกอร์และชอบเลโก้เป็นทุนเดิมต้องไม่พลาด นี่#เหมียวมู่ทู่ ทำไปหิวไปเลยนะเนี่ย   ที่มา rocketnews24

  • อดีตนักรบ ISIS เผยเหตุตัดสินใจออกจากกลุ่ม หลังเห็นความโหดร้ายต่อเชลยทาสเซ็กส์…

    อดีตนักรบ ISIS เผยเหตุตัดสินใจออกจากกลุ่ม หลังเห็นความโหดร้ายต่อเชลยทาสเซ็กส์…

    จิตใจของมนุษย์ต่อให้ทำเรื่องโหดร้ายแค่ไหน แต่ว่าลึกลงไปแล้วความเป็นมนุษย์ก็จะย้ำเตือนเราเสมอว่า สิ่งที่ทำนั้นถูกหรือผิด ซึ่งเรื่องที่เกิดกับกับชายคนนี้ก็เช่นกัน ชายคนนี้รู้จักกันในชื่อว่า Nizar เขาเคยเป็นคนของกลุ่มก่อการร้าย ISIS และครั้งหนึ่งอุทิศชีวิตให้กับองกรณ์นี้ ซึ่งเขาได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เปลี่ยนความคิดของเขาให้ลาออกจากกลุ่มนี้ ว่าอะไรเปลี่ยนความคิดของเขากันแน่!?     เขาเล่าถึงเด็กหญิงคนหนึ่งที่ต้องตายอย่างทรมาน จากการที่พวกเขาปล่อยให้เธอเลือดไหลจนหมดตัวตาย หลังจากที่เธอถูกข่มขืนในกรงขังของเธอ เขาไม่ได้พูดว่าการกระทำพวกนี้มันเป็นอุบัติเหตุ แต่เขาบอกสาเหตุที่พวกเขาทำแบบนั้นก็เพราะว่าคนอื่นบอกว่า “นักโทษก็คือนักโทษ จะทำอะไรกับพวกเขาก็แล้วแต่เลย”      ย้อนกลับไปหลังจากที่ ISIS เข้าบุกยึดเมืองของเขาในซีเรีย เขาก็คิดว่ามันจะเป็นความคิดที่ดี ถ้าเขาเข้าร่วมกับกลุ่ม ISIS และเข้าเป็นหน่วยรบของกลุ่ม “มันทำให้รู้สึกได้ถึงความเป็นอิสลามในตัวของผม พวกเราเริ่มที่จะหันไปเข้ามัสยิดและรับฟังคำสอนต่างๆ” กลุ่มคนอิสลามจากหลากหลายเชื้อชาติเริ่มที่จะรวมตัวกันจนกลายเป็นกลุ่มที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น พวกเขาเข้าจับกุมตัวผู้ชายมากกว่า 100 คนทุกวัน ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ต้องเผชิญกับข้อหาตั้งแต่สูบบุหรี่ไปจนถึงการมีภรรยา “พวกเขาจะถูกกักขังและเขี่ยนตี หลังจากนั้น 2-3วันพวกเขาก็จะถูกปล่อยตัวออกมา”     หลายอย่างยิ่งแย่ขึ้นไปอีกเมื่อหญิงสาว 475 คน ซึ่งรวมถึงหญิงสาวชาวอีรัคและยาซิดี้ พวกเธอถูกจับมาเพียงเพราะพวกเขาต้องการให้พวกเธอกลายเป็นภรรยาของเหล่านักรบและทหารฝ่ายค้าน “ในตอนที่ผมเดินลงบันไดมาเจอพวกเธอ ผมถึงกับช็อคมากๆ”     เขายังบอกอีกว่าพวกนักโทษผู้หญิงได้แต่ร้องไห้เพราะพวกเธอถูกพรากจากลูกๆ ของเธอ และทุกๆ ครั้งที่มีคนใหม่เข้ามาพวกเธอก็จะได้รับเสียงเชียร์จากเหล่านักรบ ISIS ซึ่งหลังจากนั้นเหล่าผู้ก่อการร้ายนับสิบคนก็จะเข้ามาเพื่อเลือกหญิงสาวเหล่านี้ไปเป็นทาสทางเพศให้กับพวกเขาเป็นเวลา 3 วัน พวกเธอจะถูกทารุณกรรมหรือถูกจับไปแต่งงานกับคนแปลกหน้า…

  • ชีวิตของเจ้าหมา ที่ต้องร้องเพลงน้องพลับ “ใครๆ ก็ไม่รักผม” เพียงเพราะผมน่าเกลียด!?

    ชีวิตของเจ้าหมา ที่ต้องร้องเพลงน้องพลับ “ใครๆ ก็ไม่รักผม” เพียงเพราะผมน่าเกลียด!?

    ปกติแล้วพวกสัตว์เลี้ยงถ้ามีหน้าตาที่น่าเกลียด พวกมันมักจะถูกรังเกียจโดยเจ้าของเสียส่วนมาก และแน่นอนว่าเรื่องนี้มันก็เกิดขึ้นกับสุนัขตัวที่เรากำลังจะพูดถึงนี้เช่นกัน Bandit คือชื่อของเจ้าหมาพุดเดิลที่ดันเกิดออกมาหน้าตาแต่งต่างจากพุดเดิ้ลตัวอื่นๆ  มันเกิดในครอบครัวที่เป็นนักเพาะเลี้ยงสุนัขขายเป็นอาชีพ และด้วยความที่พิการมันเลยถูกทอดทิ้ง     โดยพวกเขาขาดหวังว่าเจ้าหมาตัวนี้มันจะโตขึ้นมาแล้วมีหน้าตาที่ปกติเหมือนกับตัวอื่นๆ แต่สุดท้ายเมื่อไม่เป็นแบบที่หวาดหวังไว้ พวกเขาก็ทำการเขี่ยมันทิ้งทันที เจ้า Bandit เป็นพุดเดิ้ลที่มีตัวเป็นสีขาวทั้งตัวเหมือนกับพุดเดิ้ลทั่วไป เพียงแต่าว่าส่วนหัวของมันปนเปไปด้วยสีขาวดำและเทา เหมือนกับว่ามันพรางหน้าของมันไว้เหมือนกับโจร ทำให้มันได้ชื่อ Bandit ที่แปลว่าโจรมานั่นเอง ซึ่งยังไงก็ตามดูเหมือนเจ้าของเก่าของมันจะอยากจะกำจัดมันออกไปจากบ้านของเธอให้ไวที่สุด โดยเธอได้โพสผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คว่า ใครก็ได้มาเอาเจ้าหมานี้ไปให้เร็วที่สุด   โชคดีของมันที่เวลาผ่านไปไม่นาน มีคนได้เห็นข้อความและส่งต่อไปให้ใครสักคนที่คิดว่าน่าจะช่วยมันได้ แน่นอนว่าเหมือนเจ้าของใหม่จะตกหลุมรักมันเข้าเต็มๆ ทำให้เธอรีบเดินทางมารับมันไปทันที ซึ่งเจ้าของใหม่ของมันมีชื่อว่า Stephanie Marinelli เธอได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ในตอนแรกที่ฉันเห็นข้อความเกี่ยวกับเจ้า Bandit ฉันก็รีบติดต่อกลับไปยังเจ้าของมันทันที โดยคำถามส่วนใหญ้่ที่ฉันถามก็จะเป็นสุขภาพของมันรวมถึงให้พวกเขาส่งรูปมาให้ดู” “เจ้าของเก่าของมันยังพูดอีกหมา หมาที่เธอเพาะเลี้ยงทุกตัวมีสีสันและรูปร่างที่สวยงาม สามารถทำเงินให้เธอได้มากกว่า 7,000 บาทต่อตัว แต่เจ้าตัวนี้มันมีหน้าตาที่หน้าเกลียดเขาเลยไล่ให้ฉันรีบมารับมันแล้วกลับไปให้ไวๆ ซะ”   .   ตอนแรกเมื่อเจ้าหมากลับมาถึงบ้านใหม่ของมัน มันก็ยังคงมีรอาการกล้ากลัวๆ อยู่บ้างแต่เมื่อมันเริ่มคุ้นชินมันก็กลายเป็นหมาที่ขี้เล่นและร่าเริงมากๆ แถม Stephanie ก็มีพุดเดิ้ลอยู่ก่อนหน้าแล้วหนึ่งตัวชื่อว่าเจ้า Gracie ซึ่งพอมีเจ้า Bandit มาอยู่ด้วยอีก ทั้งคู่ก็ดูจะกลายเป็นเพื่อนซี้กันทันที  …

  • รู้จัก “เจ้าเหมียวผู้ไม่มีใครต้องการ” สถานดูแลพยายามหาบ้านให้มัน นานถึง 433 วัน!!!

    รู้จัก “เจ้าเหมียวผู้ไม่มีใครต้องการ” สถานดูแลพยายามหาบ้านให้มัน นานถึง 433 วัน!!!

    เป็นปกติที่สัตว์จรจัดหลายๆ ตัวเมื่อถูกเก็บได้หรือถูกทิ้งพวกมันก็มักจะไปจบอยู่ที่ศูนย์รับเลี้ยง เพื่อรอจนกว่าจะมีคนใจดีมารับพวกมันไปเลี้ยงต่อ หรือบางแห่งอาจจะฟังดูโหดร้ายหน่อยคือต้องฆ่าหมาหรือแมวพวกนั้น เมื่อมันเต็มเพื่อเปิดรับให้ตัวใหม่เข้ามา เช่นเดียวกับ Champas เจ้าเหมียวอายุุ 5 ปี ที่ได้อยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ในซิดนีย์มาเป็นเวลาปีกว่าแล้ว ซึ่งเจ้านี่มันถูกพามาที่ศูนย์พักพิงแห่งนี้เมื่อปี 2015     ในตอนแรกนั้น มันก็เป็นเหมือนแมวที่มาอยู่ในสถานที่ใหม่ๆ มันตื่นกลัวในผู้คนรอบๆ ตัวมันมาก และไม่ยอมไว้่ใจใครเลย แม้พวกเขาจะพยายามปลอบใจมัน จนแล้วจนรอดเวลาผ่านไปสุนัขและแมวอื่นๆ ในศูนย์ก็ถูกรับไปตัวแล้วตัวเล่า เหลือเพียงมันเพียงตัวเดียวที่ได้แต่นั่งดูอย่่างเศร้าสร้อย     เมื่อไม่สามารถจะหาครอบครัวที่เลี้ยงมันได้ Champas จึงจบด้วยการทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับของศูนย์พักพิงสัตว์แห่งนี้ ซึ่งนั้นก็ทำให้มันได้คุ้นเคยกับผู้คนมากขึ้น เวลาผ่านไปนานนับปี มันยังคงทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับเช่นเคย แต่ศูนย์รับเลี้ยงก็รู้ดีว่าพวกเขาอาจจะดูแลมันตลอดไปไม่ได้ และอยากจะหาเจ้าของที่พร้อมจะดูแลมันจริงๆ ซึ่งล่าสุดศูนย์พักพิงสัตว์ก็ได้จัดแคมเปญขึ้นในวันวาเลนไทน์เพื่อหาบ้านให้กับเจ้าเหมียวอยู่ เพื่อที่มันจะได้มีบ้านของตัวเองสักที และจะได้อยู่กับครอบครัวนั้นไปตลอดกาล “เขาไม่ใช่แมวที่เข้ากับใครก็ได้หรือครอบครัวไหนๆ จะยอมรับมันไปเลี้ยง แต่เราเชื่อว่าจะต้องมีครอบครัวที่เข้ากับมันได้แน่นอน และพร้อมจะรับมันไปเลี้ยงเพื่อให้มันมีความสุข” เจ้าหน้าที่ของศูนย์พักพิงได้ให้สัมภาษณ์ถึงเจ้า Champas     สำหรับแคมเปญนี้ พวกเขาจับมันมาถ่ายรูปโปรโมตพร้อมกับเขียนป้ายคำน่ารักๆ เพื่อช่วยให้มันได้เจอกับเจ้าของคนใหม่สักที สุดท้ายแล้วทางศูนย์พักพิงก็ได้ลดราคาค่ารับเลี้ยงดูเจ้า Champas ให้เหลือเพียงราวๆ 1,700 บาทเท่านั้น (การรับเลี้ยงหมาแมวในหลายที่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน) เพื่อช่วยให้มันสามารถหาบ้านของตัวเองได้สักที   . หลังจากที่แคมเปญของมันได้ถูกโพสออกไปเพียงแค่ 4…

  • สาวไปลองเสื้อใน 11 ห้องของเสื้อแบรนด์ดัง พบความแตกต่าง และเทคนิคการตลาดที่แฝงไว้!?

    สาวไปลองเสื้อใน 11 ห้องของเสื้อแบรนด์ดัง พบความแตกต่าง และเทคนิคการตลาดที่แฝงไว้!?

    ปกติแล้วเวลาที่เราไปเลือกซื้อเสื้อผ้า สถานที่หนึ่งในร้านที่เราจะใช้เวลาอยู่นานพอๆ กับตอนเลือกเสื้อผ้านั่นก็คือ “ห้องลองเสื้อ” แถมสถานที่แห่งนี้เป็นจุดที่ตัดสินชะตากรรมของเสื้อผ้าที่เราเลือกมาเลยก็ว่าได้ แต่ใช่ว่าห้องลองเสื้อที่ไหนก็จะเหมือนๆ กันไปหมดเพราะความลับที่ร้านค้าไม่ได้บอกเรามันอยู่ที่เจ้าห้องนี้นั่นเอง และด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดกา่รทดลองนี้ขึ้นมาโดยสาวชาวรัสเซียคนหนึ่ง เธอคนนี้ชื่อว่า Inna ซึ่งเธอเกิดความสงสัยในห้องแห่งความลับเหล่านี้เธอจึงตัดสินใจที่จะหาความจริงโดยการถ่ายภาพเซลฟี่ของตัวเองจากกระจกที่บ้าน แล้วไปเปรียบเทียบกับกระจกในห้องลองเสื้อของร้านค้าชั้นนำที่ต่างๆ ในเสื้อผ้าหน้าผมแบบเดิมตลอด คราวนี้และเราจะรู้แล้วว่าในห้องนี้มันมีความลับอะไรอยู่ เราถึงตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าได้ง่ายๆ หลังจากลองในห้องพวกนี้   เริ่มต้นด้วยภาพจากกระจกบ้านของเธอ   Promod สำหรับห้องลองเสื้อที่นี้จะดูมีผ้ากั้นข้างหลังเป็นสีแดง พร้อมกับแสงที่ดูแแล้วทำให้ใบหน้าดูสดใสและหุ่นของเธอดูเพรียวขึ้นมากๆ   H&M สำหรับ H&M เธอได้บอกไว้ว่าห้องลองเสื้อที่นี้กว้างมากๆ และกระจกก็ดูสดใสแต่ไม่ดีมากเท่าที่ Promod แต่ก็อยู่ในระดับที่โอเคเลยล่ะ   Sela เธอบอกว่าเธอชอบห้องลองเสื้อของ Sela มากๆ ถึงขนาดที่บอกว่ามาอาศัยอยู่ในนี้ได้เลย แถมตัวกระจกและแสงก็ทำให้เธอดูเด็กลงอีกด้วย   Mango เธอบอกว่าแสงที่นี้ไม่ได้สว่างมาก แถมยังทำให้รู้สึกสบายตาด้วยแสงที่พอดีๆ จนทำให้เธอรู้สึกอยากจะซื้อใหม่ขึ้นมาทันที   Ostin สำหรับห้องลองเสื้อของ Ostin ที่ใช้ผ้าข้างหลังเป็นสีดำสนิท มันทำให้ห้องดูมืดและแสงก็ทำให้สีของผ้าจำพวกสีดำดูกลืนและไม่สวยทันที   Zara เธอบอกว่าห้องลองเสื้อของที่นี้มันฝันร้ายชัดๆ ทั้งแสงที่ทำให้หน้าของเธอดูมืดและโทรมยังมาพร้อมกับห้องที่แคบแถมยังมีเสื้อที่กำลังลดราคาวางอยู่ใกล้ๆ อีกด้วย   New Yorker…

  • ญี่ปุ่นเปิดตัว รถบัสนำเที่ยว Your Name ที่พร้อมพาคุณไปเที่ยว ตามรอยอนิเมชั่นดัง!!

    ญี่ปุ่นเปิดตัว รถบัสนำเที่ยว Your Name ที่พร้อมพาคุณไปเที่ยว ตามรอยอนิเมชั่นดัง!!

    หลายคนน่าจะเคยเห็นข่าวเกี่ยวกับการไปตามรอยซีรีย์เรื่องโปรดกันมาแล้ว แต่ว่าถ้าเรายังอินกับ Your Name ไม่หาย อยากจะไปตามรอยเรื่องนี้บ้างล่ะจะมีโอกาสไหม!? สำหรับใครที่อยากจะตามรอยอนิเมะเรื่องเยี่ยมอย่าง Your Name ตอนนี้เวลาของพวกคุณได้มาถึงแล้ว เพราะล่าสุดทางจังหวัดกิฟุ ในประเทศญี่ปุ่น ได้มีการเปิดตัวรถบัสที่จะพาทุกคนไปย้อนรอยอนิเมะเรื่องนี้   รูปแบบของรถบัสนำเที่ยวตามรอย Your Name โดยเฉพาะ โดยเส้นทางที่จะไปนั้นก็จะแบ่งออกเป็น 2 เส้นทางด้วยกัน อย่างที่รู้กันว่าตัวเอกของเรื่องอยู่ต่างที่กัน ทำให้สถานที่ถูกจัดไว้สองแห่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยครึ่งแรกจะเป็นเมืองโตเกียว ย่านชินจูกุ ส่อนครึ่งหลังก็จะเป็นเมืองฮิดะ ในจังหวัดกิฟุ เพื่อให้คุณได้ซึมซับกับบรรยากาศของอนิเมชั่นเรื่องนี้อย่างเต็มเปี่ยม โดยเส้นทางที่สามารถเริ่มได้ทั้งจาก เมืองฮิดะไปโตเกียว หรือจะเริ่มจากโตเกียวมาฮิดะก็ได้     ที่สำคัญต้องขอบคุณอนิเมะเรื่องนี้ที่ทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลหลั่งไหลเข้าสู่เมืองฮิดะ ทำให้ ได้จัดทำรถบัสตามรอยอนิเมะเรื่องนี้ขึ้นมา ตัวรถบัสจะเริ่มวิ่งตั้งแต่ 27 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ยิงยาวไปจนถึงเมษายนปีหน้าเลยล่ะ ส่วนอัตราค่าบริการก็จะเริ่มต้นที่ราวๆ 2,000 กว่าบาทต่อการใช้บริการหนึ่งครั้ง ซึ่งรถบัสจะใช้เวลาราวๆ 6 ชั่วโมงในกาารเดินทางจากจุดเริ่มต้นจนถึงจุดสิ้นสุด ใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวและอยากจะตามรอยบ้าง ลองดูรายละเอียดกันได้ที่เว็บไซต์ของทาง Nohi Bus เลยครับ   .     ใครที่ชื่นชอบและสนใจอยากจะตามรอยอนิมเรื่องโปรด ตอนนี้เวลาได้มาถึงแล้วเก็บกระเป๋าแล้วไปกันเลย!! ที่มา rocketnews24

  • ชาวเน็ตร่วมแชร์ภาพความหลอน ตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางดึก แล้วเจอสัตว์ประหลาดอยู่หลังประตู!??

    ชาวเน็ตร่วมแชร์ภาพความหลอน ตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางดึก แล้วเจอสัตว์ประหลาดอยู่หลังประตู!??

    เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะกลัวผีหรือกลัวความมืดกันอย่างแน่นอน แถมเมื่อต้องอยู่คนเดียวดึกๆ ด้วยแล้วละก็ นี้มันนรกของคนขี้กลัวผีหรือเกลียดความวังเวงชัดๆ เลยล่ะ แต่ถึงอย่างนั้นสมมติว่าคุณตื่นขึ้นมากลางดึก แล้วต้องเจอเหตุการณ์แบบที่ #เหมียวมู่ทู่ กำลังจะเอาให้ดูนี้ล่ะ พวกคุณจะทำยังไงกัน ภาพชุดนี้ถูกปล่อยออกมาโดย emceNNa อ้างอิงจากชาวเน็ตคนหนึ่งที่ส่งเข้ามา ซึ่งเป็นภาพแห่งความหลอนที่มีชาวเน็ตร่วมส่งต่อกันมากถึง 40,000 กว่าแชร์ (ยอดแชร์เยอะขนาดนี้ มันต้องเป็นอะไรที่ขนลุกมากแน่ๆ)   เมื่อคุณกลับเข้ามาที่บ้านตอนดึก แล้วเห็นอะไรตรงนั้นนะ!?   เดี๋ยวนะ…เห็นอะไรเหมือนกันใช่ไหม หลังประตูนั้น เด็ก!? ผี!?  ก็อบลิน!? คนแคระ หรือ ฮอบบิท!? มันโผล่มาตอนกลางคืนเนี่ยนะ เชี่ยยยยยยยยยย แล้วทำไมไปอยู่ตรงนั้นละ ยิ่งดูใกล้ๆ มันจะหลอนเกินไปแล้วโว้ย!! แบบนี้ต้องพิสูจน์ให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย   คุณค่อยๆ รวบรวมความกล้า เอื้อมมือไปตรงที่จับประตูนั้น แล้วเผชิญหน้ากับมัน   อะไรอยู่ข้างหลังนั้น ขอดูทีเหอะ…เฮ้ย!!     เฮ้ย!!!!   ไอ้บ้าเอ๊ยยยย เมื่อกี้ตูกลัวอะไรฟระ!?   โถ่ว สุดท้ายความจริงก็มีเพียงหนึ่งเดียว มันช่างบ้าจริงๆ เล๊ยยยยยยย ที่มา buzzfeed

  • ศิลปินหนุ่ม(หล่อ) ผู้เปลี่ยนยางรถยนต์ไร้ค่านับร้อยเส้น เป็นงานศิลปะสุดอะเมซิ่ง!!

    ศิลปินหนุ่ม(หล่อ) ผู้เปลี่ยนยางรถยนต์ไร้ค่านับร้อยเส้น เป็นงานศิลปะสุดอะเมซิ่ง!!

    เรามักจะเห็นศิลปินมากหน้าหลายตาสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่อยู่เสมอ แต่ที่ทำให้น่าสนใจคือศิลปินบางคนก็มักจะหยิบของต่างๆ ที่คนทิ้งหรือไม่ได้ใช้มาสร้างเป็นผลงานของตัวเอง ศิลปินคนนี้ก็เช่นกัน เขามีชื่อว่า Blake McFarland จากรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเขาได้นำยางรถที่ไม่ได้ใช้แล้วมารีไซเคิลใหม่ ให้กลายเป็นศิลปะขั้นสุดยอดที่บอกเลยว่าเห็นแล้วต้องร้อง ว้าว!! เขาบอกว่างานแต่ละชิ้นจะใช้ยางตั้งแต่ 100-400 เส้นตามขนาดของงาน จากนั้นนำมาตัด คัดเฉพาะส่วนที่ต้องการของยากเส้นนั้น โดยเฉพาะส่วนหน้ายางที่ยังคมชัด จะช่วยให้ผลงานดูมีลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์   เริ่มกันด้วยของชิ้นเล็กก่อนกับ แจกัน หลากหลายรูปแบบ     เริ่มแรก Blake ทำงานเป็นจิตกรวาดทัศนียภาพของทะเลด้วยสีอะคริลิค แต่ว่าหลังจากนั้นสองสามปีเขาก็เริ่มที่จะมองหาสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร จนกระทั่งเขาได้พบกับงานศิลปะยาง และดูเหมือนว่าเขาจะชอบและหลงไหลมันมากๆ เลยทีเดียว ยางทุกอันเป็นยางที่รีไซเคิล 100% โดยยางพวกนี้เป็นยางที่ใช้แล้วและถูกวางทิ้งไว้ ส่วนงานที่เขาทำเขาใช้ยางในรูปทรงที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนของชิ้นงาน อย่างกล้ามเนื้อหรือขนเป็นต้น แน่นอนว่าเราก้ต้องรอดูกันว่าผลงานในอนาคตของเขาจะเจ๋งแค่ไหน ลองดุตัวอย่างกันต่อเลย     ตามมาด้วยงานชิ้นใหญ่ขึ้น อย่างหมีตัวนี้   ลิงบาบูนก็เท่ไม่หยอก   ลำตัวคนอันนี้ก็เท่สุดๆ เลย   ฉลามหัวค้อนก็มี   ส่วนนี้ก็คือภาพของตัวเขาเองกับผลงานม้าสุดอลังการของเขา   เขาบอกว่ากว่าจะสร้างผลงานแต่ละชิ้นได้ต้องใช้ยางเยอะมากๆ เลยทีเดียว แถมผลงานบางชิ้นนั้น…

  • ไปรู้จัก The Servants วงร็อคที่ตั้งโดย “แม่ชี” แถมยังมีเพลงฮิตจนได้เปิดคอนเสริ์ต!!

    ไปรู้จัก The Servants วงร็อคที่ตั้งโดย “แม่ชี” แถมยังมีเพลงฮิตจนได้เปิดคอนเสริ์ต!!

    ปกติแล้ววงดนตรีที่เป็นหญิงล้วน คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรในยุคสมัยนี้ แต่ถ้าจะบอกว่าวงดนตรีหญิงที่จะเอามาให้ดูกัน เป็นแม่ชีล้วนๆ ทั้งวงแบบนี้จะแปลกพอไหม!? วงดนตรีจากประเทศเปรู ที่มีชื่อว่า  The Servants  ซึ่งสมาชิกของวงนี้ล้วนเป็นแม่ชีทั้งหมด โดยแม่ชีแต่ละคนก็จะมาจากประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เปรู จีน ชิลีหรือเอกวาดอร์ เป็นต้น     ในส่วนของชุดที่พวกเธอใช้ใส่ในการแสดงใน MV ของพวกเธอก็จะเป็นชุดแม่ชีแบบเต็มชุด แถมยังเล่นดนตรีอยู่บนลานจอดเฮลิคอปเตอร์อีกด้วย แน่นอนว่าหลังจากที่ปล่อยเพลงแรกออกไป เพลงของพวกเธอก็ฮิตพอสมควรเลยทีเดียว และนี้ก็จะทำให้เธอแปลกใจพอสมควร นอกจากนี้แม่ชี Monica ยังบอกอีกว่า “เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า จะมีคนเข้ามาฟังเพลงของเธอเยอะขนาดนี้”     จากนั้นไม่นานพวกเธอก็ได้รับข้อความจากบาทหลวงในแม็กซิโกว่า อยากให้พวกเธอไปแสดงสดที่นั้น แน่นอนว่าพวกเธอตอบตกลงทันที     พวกเธอจึงเดินทางไปเมืองซิวแดด ฮัวเรซ ในเม็กซิโกทันที แถมยังได้แสดงต่อหน้าผู้คนกว่า 200,000 คน อีกตะหาก นี้จึงทำให้พวกเธอเกิดเป้าหมายของวงขึ้นมาคือ การใช้ชื่อเสียงนี้เผยแพร่คำสอนของพระเจ้า ด้วยบทเพลงของพวกเธอ     ส่วนใครที่สนใจอยากจะฟังเพลงของพวกเธอแล้วละก็ สามารถกดฟังได้จากคลิปข้างล่างได้เลย   ต้องบอกว่าเพลงของพวกเธอมีทำนองที่น่าฟังพอสมควรทีเดียวเลยล่ะ ถึงว่าจึงดังจนได้มีคอนเสิร์ตของตัวเอง!!!  …

  • ประเทศจีน เปิดใช้งาน “ทางจักรยานลอยฟ้า” ยาวที่สุดในโลก ระยะทาง 7.6 กิโลเมตร

    ประเทศจีน เปิดใช้งาน “ทางจักรยานลอยฟ้า” ยาวที่สุดในโลก ระยะทาง 7.6 กิโลเมตร

    เป็นที่รู้กันดีว่าประเทศจีนเป็นประเทศใหญ่อันดับต้นๆ ของโลกและมีประชากรเยอะที่สุดในโลก ทำให้ประเทศนี้เวลาจะทำอะไรทีต้องยิ่งใหญ่อลังการพอสมควรเลยทีเดียว!!   ซึ่งล่าสุดเมืองเซี่ยเหมิน ในประเทศจีนนี่แหละ ก็ได้สร้างสิ่งที่สุดยอดจนติดอันดับโลกขึ้นมา ซึ่งนั้นก็คือ ทางจักรยานที่ยาวที่สุดในโลกนั่นเอง Skyway เส้นทางจักรยานลอยฟ้าแห่งนี้มีความยาวถึง 7.6 กิโลเมตรสูง 5 เมตรเหนือพื้นถนน  ซึ่งเดือนนี้กำลังจะเปิดทดลองทำการให้ทุกคนสามารถเข้ามาปั่นได้   Skyway จะเปิดทำการทุกวัน อนุญาตให้ปั่นได้ในช่วงเวลาตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปจนถึง 4 ทุ่มครึ่งโดยเป้าหมายของเจ้าทางจักรยานแห่งนี้ก็คือ เพื่อลดปัญหาการจราจรในตัวเมืองและรณรงค์ให้คนหันมาใช้พลังงานสีเขียวแทน โดยการยกทางพิเศษเพื่อจักรยานโดยเฉพาะ   แน่นอนว่า Skyway น่าจะทำให้จักรยานกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในจีน ซึ่งการกลับมาใช้จักรยานจะช่วยปัญหาการจราจรได้มากเลยทีเดียวล่ะ แถมยังเป็นการลดมลพิษ ส่งเสริมคนให้หันมารักษ์สุขภาพด้วยการออกกำลังกายมากขึ้นอีกด้วย     จากมุมนี้เห็นได้ชัดเลยว่ายาวจริงๆ   แถมผู้คนก็ดูจะให้ความสนใจมากๆ   ถือเป็นการแสดงความใส่ใจต่อประชาชน และสร้างจุดเด่นให้กับเมืองได้อย่างมากอีกด้วยเนอะ ที่มา shanghaiist

  • ไขข้อข้องใจ ชาวเน็ตสงสัยทำไม Mia จาก Resident Evil 7 ถึงมีฟันที่สวยสุดๆ แทนที่ควรจะดูน่ากลัว

    ไขข้อข้องใจ ชาวเน็ตสงสัยทำไม Mia จาก Resident Evil 7 ถึงมีฟันที่สวยสุดๆ แทนที่ควรจะดูน่ากลัว

    [เนื้อบางส่วนมีการเปิดเผยเนื้อหาของเกม]   หลังจากปล่อยให้ได้สัมผัสกันไปได้สักระยะแล้วนะครับสำหรับเกม Resident Evil 7 ซึ่งคาดว่าหลายคนก็น่าจะได้ลองเล่นกับตัวเองมาบ้าง แต่ก็มีไม่น้อยเลยที่ยังไม่ได้สัมผัสเกมนี้ ได้แต่บางคนก็ได้แต่ดูผ่านยูทูปหรือในคลิปที่เกมเมอร์เล่นให้ดู ทำให้ไม่รู้เนื้อเรื่องที่ชัดเจนสักเท่าไร ล่าสุดก็มีกลุ่มคนที่สงสัยเกี่ยวกับตัวละครที่ชื่อว่า Mia Winters ซึ่งเป็นภรรยาของตัวเอง แต่ในภายหลังได้ถูกไวรัสและติดเชื้อไปแถมยังเข้ามาทำร้ายเราอีกตะหาก     บ่อยครั้งที่ Mia จะเข้ามาทำร้ายเรา เธอจะเข้าโจมตีเราด้วยการ Jump Scare (โผล่เข้ามาแบบโคตรหลอน) เหมือนกับตัวละครติดไวรัสอื่นๆ ซึ่งปกติถ้าเราถูกจู่โจมโดยไม่เตรียมใจเราจะต้องตกใจในความน่ากลัว ชแต่สำหรับ Mia กลับมีบางสิ่งบางอย่างที่ต่างกันออกไป ชาวเน็ตหลายคนจึงตั้งคำถามว่าทำไมตัวละครนี้มันดั๊นมีฟันที่สวยใส (ไม่กลัว แทนแถมยังไปโฟกัสที่ฟันสุดสวยของเธออีกตะหาก) จนเกิดเป็นคำถามว่าทำไม Mia ที่แม้จะกลายร่างแล้วก็ยังฟันสวยยิ้มใสกันนะ!?     ร้อนไปถึงทางโปรดิวเซอร์ของเกมนี้ Masachika Kawata ก็ได้ออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้ผู้เล่นทั้งหลายหายสงสัยกันว่า เขาได้ใช้เทคโนโลยีและเทคการถ่ายทำด้วยการสแกนแบบ 3 มิติ จากโมเดลของคนจริงๆ “เราใช้วิธีที่เรียกว่า Photogrammetry ซึ่งผสมผสานการสแกน 3 มิติและคนจริงๆ เพื่อสร้างกราฟิกเสมือนจริง ในกรณีของตัวละครตัวนี้ เราต้องขอขอบคุณนักแสดงที่มีฟันสวยงามด้วยล่ะ” แต่ต้องขอบคุณโมเดลที่เป็นแบบให้ Mia จริงๆ เพราะว่าเธอมีฟันที่สวยมากๆ ตัวละคร Mia…

  • Disney ประกาศลงโทษ “Pewdiepie” หลังเขาจ้างคนทำคลิปวิดีโอตลกแนว “ต่อต้านชาวยิว”

    Disney ประกาศลงโทษ “Pewdiepie” หลังเขาจ้างคนทำคลิปวิดีโอตลกแนว “ต่อต้านชาวยิว”

    ถ้าให้พูดถึงยูทูปเบอร์ที่มียอดสับตะไคร้สูงที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น Pewdiepie หนุ่มชาวสวีเดนคนนี้อย่างแน่นอน เพราะเขามียอดผู้ติดตามสูงถึง 53 ล้านคนเลยทีเดียว แต่ล่าสุดก็ได้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับเขาเสียแล้ว เมื่อล่าสุดทาง Disney ต้นสังกัดของ Felix Kjellberg (หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า Pewdiepie) ได้ประกาศลงดาบเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ในช่วงหลังมานี้เขาได้ลงคลิปที่มีเนื้อหาเกี่ยวนาซีและต่อต้านยิวอยุ่บ่อยครั้ง   แต่ว่าครั้งล่าสุดที่จะหนักที่สุดก็คงจะมาจากตัวคลิปที่เขาได้ไปจ้างชาวอินเดียผ่านทางเว็ปที่ชื่อว่า Fiverr (เว็บไซต์แนวๆ รวมเหล่าคนรับงานฟรีแลนซ์ ให้คุณจ้างทำอะไรก็ได้) โดยเขาจ้างเพื่อต้องการสร้างความสนุกสนาน และไม่คาดคิดว่าคนในเว็บนั้นจะรับเขียนคำว่า “death to all Jews” (หรือก็คือพวกยิวไปตายให้หมดซะ) จนเขียนออกมาจริงๆ แล้วก็ออกมาเป็นคลิปวิดีโอแนวๆ เสียดสีของเขา     นอกจากชาวอินเดียทั้งสองคนแล้วเขายังไปจ้างคนอื่นๆ Fiverr อีกเช่นกันแต่ว่าคนที่หนักพอๆ กับชาวอินเดียทั้งสองก็คงจะเป็น Jesus ที่เขาจ้างให้พูดว่า “Hitler did absolutely nothing wrong” (ฮิตเลอร์ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย)     แน่นอนว่ากระแสตอบรับจากเรื่องนี้ก็มีทั้งที่ออกมาดีและไม่ดี แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นทางไม่ดีเสียมากกว่า แถมไอดี Fiverr ก็ยังถูกแบนติดๆ กันถึงสามครั้ง แถมล่าสุดทาง Maker Studios (ต้นสังกัดเขาที่ถูก Disney ซื้อไป) ระบุไว้ว่า “แม้…

  • นักท่องเที่ยวชาวบราซิล อยากไปจับลูกฉลามมาถ่ายคลิป จนเกือบต้องเสียนิ้วไปตลอดชีวิต!!

    นักท่องเที่ยวชาวบราซิล อยากไปจับลูกฉลามมาถ่ายคลิป จนเกือบต้องเสียนิ้วไปตลอดชีวิต!!

    หลายคนน่าจะเป็นที่รู้กันดีว่าฉลามนั้นเป็นสัตว์ที่ดุร้ายพอสมควรเลยที่เดียว ยิ่งถ้าเป็นคนปกติแล้วเวลาเราเจอฉลามเราก็จะต้องเอาตัวรอดก่อนแบบไม่ต้องคิดอะไรเลยใช่ไหมล่ะ แต่บางครั้งฉลามมันก็ไม่ได้มาในแบบตัวเต็มวัย และนักท่องเที่ยวสาวก็คงคิดว่ามันเป็นสัตว์น่าจับมาถ่ายภาพเล่น… เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ หมู่เกาะเฟร์นันดูจีนอโรนยาในประเทศบราซิล ซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่าเธอได้ไปเที่ยวพักร้อนกับสามีของเธอที่เกาะแห่งนี้ ในระหว่างทางที่เธอกำลังเดินเล่นอยู่ริมชายหาด เธอก็ได้มองเห็นลูกฉลามมะนาวตัวหนึ่งว่ายอยู่ใกล้ๆ     เธอไม่รอช้ารีบเข้าไปจับเจ้าลูกฉลามตัวนั้นหวังว่าจะได้ภาพเซลฟี่สวยๆ แต่เธอหารู้ไม่ว่าเธอได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดมากๆ ในชีวิตลงไป เธอคงจะคิดว่าลูกฉลามตัวน้อยน่าจะไม่มีพิษภัย แต่เจ้าลูกฉลามกัดเข้าที่มือเธออย่างจัง ฟันของมันฝังลึกไปบนนิ้วของเธอและดูท่าว่ามันก็จะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ   นี้ก็คือคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอ   เนื้อหาข่าวไม่ได้ระบุว่าพวกเขาทำยังไงกับเจ้าลูกฉลาม (อาจจะปล่อยมันไป) สุดท้ายเราก็ไม่รู้ว่าเจ้าลูกฉลามจะเป็นยังไง ก็คงได้แต่หวังให้มันปลอดภัยจากเงื้อมมือของมนุษย์และมีชีวิตต่อไป ส่วนหญิงสาวนางนี้เธอดูเธอจะไม่เป็นไรมาก นอกจากเย็บแผลที่นิ้ว 4 เข็มและเสียเงินนิดหน่อยจากค่ารักษาเท่านั้น แต่… ยังไม่จบ!!     แต่ว่าเธอกับสามีต้องมาเจ็บมากกว่าเดิมในภายหลังเพราะว่า ฉลามมะนาวเป็นสัตว์ที่ได้รับการคุ้มครองซึ่งถ้าใครไปทำอัตรายให้กับพวกมันแล้วละก็ จะถูกปรับถึง 56,000 บาท และด้วยการที่จุดเกิดเหตุอยุ่ในหมู่เกาะคุ้มครองโดยกองทัพเรือค่าปรับจึงคูณสองเป็นเงินถึง 112,000 บาทเลยทีเดียว งานนี้เจ็บตัวไม่เท่าไร แต่เจ็บใจเรื่องโดนปรับคงจะเข็ดไปนาน…     เรียกได้ว่าค่ารักษายังไม่เจ็บค่าปรับนั่นเอง ก็คงได้แต่หวังว่านี้จะเป็นบทเรียนราคาแพงให้กับหญิงสาวนางนี้ และคนอื่นๆ ในอนาคตเนอะ   ที่มา thedodo

  • Word Lens ประกาศซัพพอร์ทภาษาญี่ปุ่น ส่องกล้องแปลได้ทันใจ ลดปัญหาการสื่อสาร

    Word Lens ประกาศซัพพอร์ทภาษาญี่ปุ่น ส่องกล้องแปลได้ทันใจ ลดปัญหาการสื่อสาร

    ตั้งแต่ปี 2015 เราก็มีเจ้าแอพ  Google Translate เป็นตัวช่วยเรื่องภาษากันมาตลอดแถมยังใช้งานได้ดีอีกตะหาก แถมตัวแอพยังมาพร้อมกับโปรแกรมเสริมที่เรียกว่า Word lens ที่ช่วยให้เราสามารถแปลภาษาได้ทันที ซึ่งหลายคนก็เคยจะเคยใช้กันมาก่อน     ตัวอย่างการใช้ Word Lens แปลภาษาอื่นมาเป็นภาษาอังกฤษ   แต่ว่าล่าสุดทาง Google ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าตอนนี้ Word Lens รองรับภาษาญี่ปุ่นอย่างเต็มตัวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตัว ฮิรางานะ คาตาคานะหรือแม้แต่ คันจิ ที่มีตัวหนังสือเยอะเกินจะบรรยายก็สามารถแปลได้เช่นกัน แถมไม่ได้แค่ประกาศเฉยๆ นะ Google ยังให้วงดนตรีจากญี่ปุ่น OKAMOTO’S มาช่วยอีกแรงหนึ่งด้วย โดยใช้เพลง Lagoon มาทำเป็นมิวสิกวิดีโอโปรโมต ซึ่งออกมาดูดีเลยล่ะ   ศิลปินชาวญี่ปุ่น OKAMOTO’S กับเพลง “Lagoon” ร่วมกับ Google Translate ออกมาเป็น MV สุดเฟี้ยว   แปลภาษาได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นป้าย   หรือปกแผ่นเพลง ก็แปลได้ทันที   เมนูอาหารก็ไม่ใช่ปัญหา ไปญี่ปุ่นสบายตัวแน่นอน  …

  • ลือหนาหู “Ben Affleck” นอกจากไม่อยากกำกับแล้ว ถึงขั้นอยากเลิกเป็น “Batman” ด้วย!?

    ลือหนาหู “Ben Affleck” นอกจากไม่อยากกำกับแล้ว ถึงขั้นอยากเลิกเป็น “Batman” ด้วย!?

    เป็นข่าวที่หนาหูกันมาสักพักแล้วสำหรับ Ben Affleck ที่มีความรู้สึกว่าไม่อยากจะกำกับ “The Batman” อีกต่อไปแถมข่าวเกี่ยวกับเรี่องนี้ก็ยังมีออกมากันเรื่อยๆ ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดหลังจากที่ Ben ปัดที่จะกำกับในหนังเดี่ยวของแบทแมน จนได้ Matt Reeves (ที่เคยฝากผลงานมาแล้วทั้ง Cloverfield และ Dawn of the Planet of the Apes) มาเป็นผู้กำกับคนใหม่     แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีข่าวลือจากหลายสำนักออกมาอีกว่าตอนนี้นอกจากจะไม่อยากกำกับแล้ว ป๋าเบนแกเริ่มไม่อยากจะเป็นแบทแมนแล้วด้วย ทางรายการ Collider Movie Talk ที่จัดโดย John Campea ได้ออกมาบอกว่าเขาได้ยินข่าวลือจากแหล่งข่าวสามแห่งซึ่งเกี่ยวข้องกับตัว Warner Bros. ว่าเป็นเวลากว่า 4 วันแล้วที่ป๋าเบน พยามจะหาทางที่เลิกเป็นแบทแมนให้ได้     นอกจากนี้ John ยังบอกอีกว่าแหล่งข่าวของเขาได้ยินเกี่ยวกับที่ Ben ได้พูดคุยกับ Warner Bros. ในเรื่องของสัญญาที่จะให้เขาแสดงบทนี้ต่อไปรวมถึงหนังเดี่ยวของแบทแมนด้วย แต่ว่าถ้าการพูดคุยนี้ไม่สามารถที่จะตกลงกันได้หนังเดี่ยวแบทแมนก็จะเป็นการปรากฏตัวครั้งสุดท้ายของเขาในบทแบทแมน     ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างก็ยังคงเป็นเพียงแค่ข่าวลือจากแหล่งข่าวต่างๆ ก็อย่าพึ่งรีบด่วนสรุปไป แต่ก็อย่างที่รู้กันว่ามันข่าวลือที่ Ben ไม่อยากกำกับมันก็เกิดขึ้นจริงไปแล้ว ยังไงซะก็ได้หวังให้ป๋าอย่าเลิกเป็นแบทแมนเลยเถอะ แต่อย่างน้อยปีนี้เราก็ได้เห็นป๋ากับบทแมน ในหนังเรื่อง Justice League…

  • ปาร์ตี้วันเกิดสุดอาร์ต ชวนเพื่อนมา “วาดภาพวิว” ตามคลิปสอนวาดรูป แต่ละคนจะสวยแค่ไหน!?

    ปาร์ตี้วันเกิดสุดอาร์ต ชวนเพื่อนมา “วาดภาพวิว” ตามคลิปสอนวาดรูป แต่ละคนจะสวยแค่ไหน!?

    เคยคิดบ้างไหมว่าวันคล้ายวันเกิดของตัวเองที่จะมาถึง อยากจะจัดงานเลี้ยงแบบไหน อยากจะจัดแบบปาร์ตี้เมากันหัวทิ่มหรือจะเป็นแบบ ปาร์ตี้เล็กๆ กินข้าวสังสรรค์กันแต่พอประมาณดี แต่สำหรับหนุ่มคนนี้เขากลับจัดงานวันเกิดสุดอาร์ตขึ้นมาแทน Chris Nervegna ชายหนุ่มจากรัฐนิวเจอร์ซี่ได้ปิ้งไอเดียฉลองวันเกิดของตัวเองขึ้นมา โดยเขาได้เชิญชวนเพื่อนของเขามาฉลองงานวันเกิดครบรอบ 22 ปี ด้วยการวาดรูปในธีม Bob Ross   แล้ว Bob Ross คือใคร!? สำหรับใครที่ไม่รู้จัก Bob Ross ละก็ เขาคือนักวาดภาพภูมิทัศน์ชาวอเมริกาและยังเป็นอาจารย์น์สอนวาดภาพอีกด้วย นอกจากนี้เขามีรายการทางทีวีของตัวเองด้วยนะ ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดัง และแน่นอน เขาก็มีแฟนๆ มารอดูเขารายการสอนวาดภาพของเขา ทำให้ Chris ปิ๊งไอเดียพาเพื่อนๆ มาวาดไปพร้อมกันซะเลย     เขากับเพื่อนก็เริ่มวาดรูปตรงหน้าทีวีจอยักษ์เพื่อที่จะได้วาดรูปแบบเดียวกับที่ Bob วาดในจอซึ่งเขาก็ได้โพสต์ปาร์ตี้วันเกิดนี้ลงไปในทวิตเตอร์แถมยังมีกระแสตอบรับที่ดีมากๆ เลยทีเดียว   Chris กับเพื่อนๆ ของเขานั่งล้อมรอบทีวีเพื่อที่จะได้วาดพร้อมกับ Bob   ถึงแม้พวกเขาจะวาดรูปเดียวกันก็เถอะ ทุกคนก็ต่างใช้เทคนิคที่แตกต่างกัน ทำให้สุดท้ายแล้วงานก็ไม่ได้ออกมาเหมือนกันสักทีเดียว   เริ่มออกมาเป็นรูปเป็นร่างแล้วไหมละ   เป็นยังไงล่ะ ภาพของแต่ละคนไม่ธรรมดาเลยจริงๆ   เรื่องราวความน่ารักกลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ ขนาด ABC…

  • มิตรภาพ “โบรแมนซ์” แสนโรแมนติก ที่เกิดขึ้นในเกม H1Z1 เกมฆ่ากันที่คนในเกมก็รักกันได้…

    มิตรภาพ “โบรแมนซ์” แสนโรแมนติก ที่เกิดขึ้นในเกม H1Z1 เกมฆ่ากันที่คนในเกมก็รักกันได้…

    เป็นปกติที่ในโลกออนไลน์ยุคนี้ มิตรภาพสามารถเกิดขึ้นได้เสมอหลากหลายวิธี ซึ่งหนึ่งในวิธีสุดฮิตที่ทำให้เกิดมิตรภาพออนไลน์บ่อยๆ ก็คือ เกมออนไลน์ นั่นเอง แต่ว่าสำหรับเกมแนวเอาตัวรอดส่วนใหญ่การสร้างมิตรภาพจะเกิดขึ้นได้ยากมาๆ เพราะทุกคนล้วนต้องการจะมีชีวิตพร้อมกับไม่อยากจะเสียไอเท็มทั้งหมดที่พวกเขาหามา ยิ่งสำหรับเกมที่ชื่อว่า H1Z1: King of the Kill เกมเอาตัวรอดที่ทุกคนจะต้องคำนึงถึงตัวเองเป็นหลักแล้ว มิตรภาพกับคนแปลกหน้าถือว่าเกิดขึ้นได้ยากพอสมควรเลยละ     แต่ล่าสุดได้มีทวิตจากยูสเซอร์เนมที่มีชื่อว่า @koumai_jp  ได้โพสคลิปเกี่ยวกับมิตรภาพที่เขาได้เจอกับผู้เล่นคนหนึ่งกลางทาง โดยในตอนแรกผู้เล่นคนนี้ก็ไม่ได้ไว้ใจหนุ่มเจ้าของทวิตสักเท่าไหร่นักเพราะว่าตัวละครของเขาในตอนนั้นไม่มีอาวุธอะไรเลย แต่แล้วเมื่อเจ้าของทวิตเริ่มพูดคุยกับผู้เล่นแปลกหน้าคนนั้น บทสนทนานี้จึงเกิดขึ้น   “นายเป็นคนที่ไหนเหรอ?”   ด้านคนแปลกหน้าก็ตอบกลับมาว่า “เราเป็นคนไมอามี่ แล้วนายล่ะ”   “เราเป็นคนญี่ปุ่น”   เมื่อหนุ่มไมอามี่ได้ยินถึงที่มาของเจ้าของทวิตแล้ว เขาก็ตะโกนออกมาทันทีว่า “ฉันรักญี่ปุ่น” เมื่อเจ้าของทวิตได้ยินเช่นกันเขาจึงแบ่งไอเท็มบางชิ้นในตัวให้กับหนุ่มไมอามี่คนนั้น จนเกิดเป็นมิตรภาพของสองคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันมาก่อน พวกเขาทั้งสองก็ได้แยกทางกันไปแต่แล้วในตอนท้ายที่สุด มิตรภาพแบบโบรแมนซ์ที่แท้จริงก็เกิดชึ้น   เมื่อเจ้าของทวิตได้สู้กับผู้เล่นแปลกหน้าอีกคนหนึ่งแต่ว่าตัวเจ้าของทวิตกลับพ่ายแพ้ไป แต่แล้วอยู่ดีๆ พ่อหนุ่มไมอามี่ก็พุ่งออกมาจากที่ไหนไม่รู้พร้่อมกับตะโกนว่า “แกฆ่าเจแปนนนนนน” พร้อมกับกราดกระสุจใส่คนแปลกหน้าคนนั้น แต่น่าเศร้าที่ไมอามี่บอย ก็ต้องตายเช่นเดียวกับ เจแปนบอย   ซึ่งเจ้าของทวิตก็ได้โพสปิดท้ายว่า จนสุดท้ายแล้วเขาก็ยังไม่ได้เจอกับไมอามี่บอยคนนั้นอีกเลย ซึ่งเขาก็ได้แต่หวังว่าเขาจะได้เจอกับไมอามี่บอยในเกมอีกครั้งหนึ่ง หรือไม่แน่เขาอาจจะได้เจอกันในชีวิตจริงก็ได้นะ และเมื่อเหตุการณ์นี้ได้ถูกทวิตออกไป กระแสตอบรับที่ได้กลับมามันดีอย่างไม่น่าเชื่อ…

  • “โค้กซากุระ” เครื่องดื่มรสชาติใหม่จากแดนปลาดิบ ที่เห็นแล้วต้องอยากจะโดนสักขวด

    “โค้กซากุระ” เครื่องดื่มรสชาติใหม่จากแดนปลาดิบ ที่เห็นแล้วต้องอยากจะโดนสักขวด

    ในอดีตที่ผ่านมา บ้านเราก็เคยมีโค้กรสชาติแปลกๆ ให้ได้ลิ่มลองกันเช่นโค้กวินาลาเป็นต้น แต่ว่าในต่างชาตินั้นโค้กกลับมารสชาติแปลกๆ ให้ได้ลิ่มลองอยู่มากมายเลยทีเดียว ล่าสุดทางโค้กญี่ปุ่นก็ได้ออกโค้กรสชาติใหม่ในชื่อ “โค้กซากุระ” ซึ่งรสชาติของมันระบุว่าถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ สำหรับช่วงเวลาชมซากุระเช่นนี้ (ความจริงแล้วหลายคนน่าจะเคยเห็นรสชาตินี้มาก่อนแล้ว แต่ว่ามันไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ของโค้กนะซิ เพราะว่ารสชาติซากูระที่เราเคยเห็นกันมาก่อนหน้านี้มันดันเป็นของ เป็ปซี่ นั่นเอง)     ซึ่งโค้กรสชาติซากูระนี้ จะขายในรูปแบบลิมิเตดอิดิชั่น ที่มาพร้อมกับดีไซน์ขวดที่สวยงามดีไซน์สีชมพูมาเฉพาะกิจ ส่วนฝาอลูมิเนียมสีแดงดูโดดเด่น โดยเริ่มเปิดขายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ และจะขายเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น   ในส่วนของโค้กที่ทำเป็นรสชาติลิมิเตดนั้น ซากุระไม่ได้เป็นรสชาติแรกที่ทำแบบนี้ ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นเคยปล่อยรสชาติลิมิเตดมาแล้วสองอันด้วยกันนั่นก็คือ รสเลม่อน และรสขิง (ลองจินตนาการดูสิว่ารสชาติแบบนั้นจะเป็นอย่างไร!?)   แต่สุดท้ายแล้วพวกเราชาวไทยจะได้ลิ่มรสของ โค้กหรือน้ำอัดลมลดชาติแปลกๆ อีกไหมก็คงต้องลุ้นกันเอาแล้วล่ะ ส่วนตัว #เหมียวมู่ทู่ คิดถึงเป็ปซี่ไฟกับไอซ์จังเลยแฮะ     ที่มา rocketnews24

  • ช่างญี่ปุ่นฝีมือดี ออกแบบ “เซรามิกชิบะ” ใช้งานได้แถมน่ารัก เห็นแล้วก็ยิ้มตาม

    ช่างญี่ปุ่นฝีมือดี ออกแบบ “เซรามิกชิบะ” ใช้งานได้แถมน่ารัก เห็นแล้วก็ยิ้มตาม

    เครื่องใช้เซรามิกจานชามต่างๆ ล้วนเป็นสิ่งที่เราใช้กันในชีวิตประจำวันแต่บางทีเราก็อยากจะหาเครื่องใช้เซรามิกแบบใหม่ๆ สวยๆ ไว้แต่งบ้านหรือใช้กับร้านกาแฟของเรา แต่ก็ยังหาแบบที่ชอบไม่ได้สักที #เหมียวมู่ทู่ ขอเสนอเครื่องเซรามิกที่มีหน้าตาเป็นหมาชิบะสุดน่ารัก เอาใจคนชอบหมาชิบะนั่นเอง!!!   เครื่องเซรามิกชุดนี้ออกแบบโดยศิลปินญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Tetsuya Iseda ซึ่งเขาอาศัยอยู่ในเมืองฟุกุโอกะ และหลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เขาก็เริ่มต้นเส้นทางช่างเซรามิกอย่างเต็มตัว เซรามิกที่เขาออกแบบใช้วัตถุดิบมากมายหลายแบบเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น โคลน ดินขาว หรือโคลนญี่ปุ่น ส่วนรูปร่างที่เขาทำออกมาก็มาในหลายรูปแบบ   แต่ที่เห็นจะโด่งดังที่สุดก็คงเป็นรูปเจ้าพวก “ชิบะ” ที่แหละ   แก้วชาเขียวชิบะ ขนาดกำลังพอดีมือเลยล่ะ   จานชิบะสุดมุ้งมิ้ง   จานแบบยาวก็มีนะ     หรือจะเป็นแบบเล็กๆ น่ารักๆ ก็มีเช่นกัน   กระถางต้นกระบองเพรชก็น่ารักใช่เล่น   แบบแจกันเสียบดอกไม้ก็มีเช่นกัน   เครื่องเซรามิกที่เขาออกแบบไม่ได้มีแค่ลายหมาชิบะนะ แต่ว่าปกติแล้วเรายังออกแบบลายอื่นๆ อีกด้วยไม่ว่าจะเป็น รูปแมว หรือสุนัขพันธ์ปั๊ก เป็นต้น   ใครที่สนใจสินค้าของเขาคนนี้ก็สามารถเข้าไปติดตามได้ที่ etsy มีให้เลือกช็อปมากมายเลยล่ะ ราคางานแฮนด์เมดพวกนี้ก็อยู่ที่ราวๆ 800-2,000 บาท ก็ขอบอกว่า น่ารักๆ ทั้งนั้น…

  • คุณแม่ชาวจีนเผลอให้ลูกกิน “ดินวิทยาศาสตร์” เพราะเข้าใจผิดว่าเป็น “ลูกอม” ไปซะได้

    คุณแม่ชาวจีนเผลอให้ลูกกิน “ดินวิทยาศาสตร์” เพราะเข้าใจผิดว่าเป็น “ลูกอม” ไปซะได้

    สำหรับใครที่เคยปลูกต้นไม้น่าจะพอรู้จักดินวิทยาศาสตร์กันมาบ้างอย่างแน่นอน และก็เป็นที่รู้กันว่าเจ้าดินวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งที่ไม่ควรกินเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าเรื่องน่าเศร้านั้นก็เกิดขึ้นเมื่อมีคุณแม่เข้าใจผิดคิดว่าดินวิทยาศาสตร์เป็นลูกอมซะงั้น เรื่องมันมีอยู่ว่าคุณชาวจีนจากมณฑลเจียงซูท่านหนึ่ง ได้ไปซุปเปอร์มาเก็ตพร้อมกับซื้อดินวิทยาศาสตร์กลับมาถุงหนึ่ง ซึ่งเธอคิดว่าเจ้าลูกบอลจิ๋วหลากสีสันนี้ เป็นลูกอมโปรดของลูกสาววัย 3 ขวบของเธอไปซะได้     รายงานข่าวจากเว็บไซต์ Shanghaiist ระบุว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา พอเธอกลับไปถึงที่บ้าน เธอก็ทำการให้สามีป้อนเจ้าดินวิทยาศาสตร์ที่เธอคิดว่าเป็นลูกอมกับลูกน้อยของเธอชิ้นต่อชิ้น จนรู้ตัวอีกทีเจ้าลูกอมนี้ก็หมดเสียแล้ว แต่กว่าคุณแม่ท่านนี้จะรู้ตัวว่าสิ่งที่เธอให้ลูกกินมันเป็นดินวิทยาศาสตร์ ลูกเธอก็กินมันเข้าไปแล้วมากกว่า 280 ลูก ซึ่งเมื่อทั้งคู่รู้อย่างนั้นพวกเขาจึงรีบพาลูกสาวไปหาหมอทันที!!!     ซึ่งหมอก็ได้ทำการเอ็กซเรย์ให้เห็นถึงภาพของเด็กสาวที่เต็มไปด้วยดินวิทยาศาสตร์เต็มท้องของเธอ โดยทั้งคู่ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีพร้อมกับเข้าใจถึงความผิดพลาดนี้ทัน แถมในตอนนั้นดินวทิยาศาสตร์ก็เริ่มที่จะดูดซับน้ำในท้องของเด็กแล้วด้วย และถ้ายิ่งปล่อยไว้นานมันก็ยิ่งจะทำให้ท้องของเธอเต็มไปด้วยดินวิทยาศาสตร์ที่ขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม     หมอจึงให้ยาแก่เด็กสาวเพื่อที่เธอจะได้ขับเจ้าดินวิทยาศาสตร์นี้ออกมาก่อนที่มันจะขยายไปกว่านี้ พร้อมกับบอกว่าดินวิทยาศาสตร์พวกนี้จะออกมาจนหมดภายใน 24 ชั่วโมงอย่างแน่นอน โชคดีที่เจ้าหนูสามารถรอดมาได้อย่างปลอดภัย และน่าเป็นอุทาหรณ์ให้กับพ่อแม่คู่นี้ไปนานเลยล่ะ เวลาจะเอาอะไรให้ลูกกินคงต้องดูให้ดีๆ แล้วล่ะ   ว่าแต่ของมันไม่น่าจะวางอยู่ตรงชั้นของกินในห้างสรรพสินค้าเลยนะเนี่ย ที่มา shanghaiist

  • เจ้าของต๊กกะใจ เมื่อหมาลาบาดอร์คลอดลูก 5 ตัว ทุกตัวปกติ ยกเว้นมีตัวนึง “สีเขียว”!?

    เจ้าของต๊กกะใจ เมื่อหมาลาบาดอร์คลอดลูก 5 ตัว ทุกตัวปกติ ยกเว้นมีตัวนึง “สีเขียว”!?

    ปกติแล้วสุนัขเวลาที่มันออกลูกมาสีของลูกสุนัขก็จะขึ้นอยู่กับตัวพ่อพันธ์แม่พันธ์ ไม่ก็จะอยู่ในโทนสีดำ ขาว น้ำตาล อะไรจำพวกนี้แล้วแต่พันธ์ของสุนัข แต่ทว่าล่าสุดก็ได้มีเรื่องแปลกเกิดขึ้นกับลูกสุนัขตัวหนึ่งที่พึ่งเกิดออกมา?!! เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเจ้าสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์เพศเมียที่ได้ให้กำเนิดลูกออกมาทั้งหมด 5 ตัว ซึ่งเป็นตัวผู้ 4 ตัวและตัวเมีย 1 ตัว ซึ่งปัญหามันไม่ได้อยู่แค่มันเป็นตัวเมียเพียงตัวเดียว แต่มันดันมีสีที่ผิดแปลกจากตัวอื่นซะงั้น   พี่น้องของมันเป็นสีทองล้วนตามสไตล์หมาลาบาดอร์ แต่มีแค่เจ้าลูกหมาตัวนี้เท่านั้นที่ไม่เหมือนใคร   Elaine Cooper เจ้าของหมาตัวนี้เชื่อว่ากรณีนี้เป็นกรณีที่ 3 ของโลก ซึ่งเธอได้ตั้งชื่อเจ้าหมาตัวนี้ว่า Ffif โดยชื่อของมันมาจากเจ้าหญิง ฟิโอน่า จากเรื่องเชร็ค “ตอนแรกมันคลอดออกมาจากถุงน้ําคร่ําฉันคิดว่ามันจะมีสีที่มืดๆ จนคิดว่ามันจะเป็นลาบราดอร์สีดำ” “แต่พอทำความสะอาดถุงน้ำคล่ำเสร็จ ฉันถึงกับหัวเราะออกมา พร้อมกับพูดว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่มันจะเป็นสีเขียว ตัวอื่นก็เป้นสีทองหมดแท้ๆ”   กลายเป็นโดดเด่นกว่าตัวอื่นเลย   สาเหตุที่ลูกสุนัขเป็นสีเขียว ทางผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เพราะน้ำดีที่มีเขียวที่เรียกว่า Biliverdin ซึ่งจะพบได้ในรกของสุนัข โดยคราบของน้ำดีจะเครือบอยู่บนตัวสุนัขเมื่อมันรวมตัวกับน้ำคร่ำ แต่ว่าของเหลวนี้ไม่ได้มีอัตรายอะไรแถมมันยังช่วยปกป้องและบำรุงลูกสุนัขอีกตะหาก พอผ่านไปไม่กี่สัปดาห์สีเขียวที่ติดวตัวลูกสุนัขก็จะหายไป แต่ถว่ากรณีแบบนี้เกิดขึ้นได้ยากมากๆ ซึ่งมันมักจะเกิดขึ้นกับสายพันธ์ที่มีสีสว่างเช่นลาบราดอร์เป็นต้น     สุดท้ายเธอบอกว่า เธอกับสามีวางแผนจะขายลูกหมาทั้งหมดเมื่อพวกมันโตพอ ซึ่งเธอยังพูดเสริมอีกว่าเธอได้ค้นหาดูแล้วและพิสูจน์ได้จริงๆ ว่าทั้งโลกมีลูกลาบราดอร์เกิดออกมาเป็นสีเขียวเพียง 3 ตัวเท่านั้น โดยตัวแรกเกิดที่ประเทศสเปน…

  • ไอเดีย “หุ่นยนต์รับใช้” เดินตามคุณไปตลอด-ขนของได้ ราวกับ BB-8 จากสตาร์วอร์ส

    ไอเดีย “หุ่นยนต์รับใช้” เดินตามคุณไปตลอด-ขนของได้ ราวกับ BB-8 จากสตาร์วอร์ส

    มั่นใจได้ว่าคนที่ได้ดูสตาร์วอร์สถ้าถามถึงสิ่งที่ชอบภายในเรื่องแล้วละก็ เจ้าหุ่นต่างๆ ภายในเรื่องคงจะอยู่ในอันดับแรกๆ กันใช่ไหมละ ไม่ว่าจะเป็น R2-D2, BB-8 หรือจะเป็นจากภาคล่าสุดอย่าง K-2S0 ซึ่งหลายคนก็คงฝันอยากจะได้เจ้าหุ่นพวกนี้ในชีวิตจริงแน่ๆ แต่ล่าสุดได้มีบริษัทที่สร้างหุ่นพวกนี้ขึ้นมาแล้วนั่นเอง บริษัทหนึ่งในบอสตันที่มีชื่อว่า Piaggio Fast Forward ได้คิดค้นหุ่นที่มีชื่อว่า Gita ขึ้นมาเพื่อให้มันเป็นผู้ช่วยที่จะคอยติดตามเจ้าของคล้ายๆ กับ BB-8 ในสตาร์วอร์ส และมันยังสามารถที่จะหาทางกลับบ้านเองได้เหมือนกับ หมาหรือแมวเลยล่ะ   Rita สามารถเดินตามได้เหมือน BB-8 เลยนะ   Gita ออกแบบมาให้ใช้ในงานประเภทช่วยถือของหรือส่งของให้กับเพื่อนบ้านใกล้ๆ Rita ขับเคลื่อนด้วยล้อหมุนตามแกนแนวตั้ง ซึ่งจะทำให้ตัวช่องเก็บของอยู่ในแนวตั้งตลอดเวลา หมดปัญหาเรื่องของจะหกออกมา   Gita สามารถที่จะปืนขึ้นลงพื้นที่ต่างระดับได้ด้วยนะ   Gita มีช่องเก็บของที่ใหญ่พอสมควรเลยทีเดียว ใช้ช่วยซื้ออของ หรือส่งเอกสารภายในออฟฟิศได้ด้วยนะ   มีหน้าจอแสดงผล LED ที่ช่วยบอกแบตเตอรี่ด้วยนะ มันสามารถใช้เป็นพนักงานต้อนรับ หรือนำทางลูกค้าคุณได้   ล้อยาง…   เปรียบเทียบกับเจ้า BB-8   ที่สำคัญ Gita…

  • รวมภาพข้อเสียของการจอดรถช่อง “คนพิการ” ชาวเน็ตช่วยกันจัดเต็มให้โลกได้รู้!!

    รวมภาพข้อเสียของการจอดรถช่อง “คนพิการ” ชาวเน็ตช่วยกันจัดเต็มให้โลกได้รู้!!

    ปกติแล้วลานจอดรถในสถานที่ต่างๆ ล้วนจะทำจุดจอดรถสำหรับ “คนพิการ” ไว้เสมอ ซึ่งนั่นก็เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้พวกเขา ทั้งที่จอดซึ่งกว้างกว่า รวมถึงใกล้กับสถานที่ไม่ต้องเดินไปไกล เพราะพวกเขาก็ไปไหนมาไหนลำบากกว่าคนปกติอยู่แล้ว แต่จากดราม่าหลายๆ ครั้งที่เราเห็น ก็เป็นที่รู้กันดีว่าเรามักจะไม่ค่อยเห็นคนพิการจริงๆ มาจอดกันเท่าไหร่หรอก ส่วนมากเราจะเจอกับคนพิการทางความคิดอะไรพวกนี้เสียมากกว่า ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเลย มาวันนี้เลยมีการรวมภาพจากชาวเน็ตในหัวข้อที่ว่า รวมเหตุผลที่คุณไม่ควรจอดในที่จอดรถคนพิการ ถ้าคุณไม่ได้เป็นคนพิการ และพวกเขาก็ร่วมส่งภาพเหล่าคนไม่พิการจริงๆ ที่มาแอบจอดแบบเนียน พร้อมกับการลงโทษทางสังคมแบบแสบสันเลยล่ะ   นี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าเราไปจอดในจุดคนพิการในบลาซิล ถึงกับยอมลงทุนเสียเวลาแปะ เอาให้อายกันไปข้างเลยทีเดียว    ส่วนนี้เป็นวิธีรับมือจากทางฝั่งรัสเซีย ถ้าไม่มีป้ายคนพิการจะโดนโฮโลแกรมออกมาบอกให้หยุดทันที   ส่วนที่พี่จอดเลยมานี้คือเขาทำเผื่อไว้ให้คนพิการลงสะดวก จิตใจพี่ทำด้วยอะไรกัน   ส่วนนี่คือการลงโทษที่โหดร้ายขึ้นไปอีกขั้น (แม้จริงๆ การทำรถเขาเสียหายจะผิดเช่นกัน แต่ก็ได้ความสะใจจากชาวเน็ตไป)   รายนี้ไม่โหดเท่าข้างบนแต่ก็ต้องไปทำสีหนักพอสมควร   ที่จอดรถว่างตั้งเยอะก็ยังจะมาแย่งที่คนพิการอีก แถมควบสองช่องเลย   คนเดียวควบไป 4 ช่อง ควรจะหาที่จอดที่ดีกว่านี้นะครับพี่   แม้แต่มอเตอร์ไซค์ ก็ยังไม่เว้น ซึ่งพวกเขาระบุว่าช่องว่างพวกนี้มีไว้เพื่อคนพิการนะ ไม่ใช่เพื่อจอดมอเตอร์ไซค์   แม้แต่ตำรวจก็ยังพิการ คิดเอาก็แล้วกัน    ส่วนนี่ก็เป็นการแก้ปัญหาที่สะใจชาวเน็ตเช่นกัน ยกกันไปงี้แหละ!!  …

  • โรงพยาบาลนี้ช่วยชีวิตเด็กหนุ่มที่ถูกยิง ถัดมา 9 ปี เขากลายมาเป็น “คุณหมอ” จนได้…

    โรงพยาบาลนี้ช่วยชีวิตเด็กหนุ่มที่ถูกยิง ถัดมา 9 ปี เขากลายมาเป็น “คุณหมอ” จนได้…

    เคยคิดกันไหมถ้าเราเจอกับเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ทำให้เราเกือบไม่รอด แต่แล้วเหตุการณ์นั้นก็เป็นแรงบันดาลใจหรือแรงผลักดัน ที่จะเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล เรื่องนี้เกิดขึ้นกับชายหนุ่มคนหนึ่งในดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน เขาคนนี้มีชื่อว่า Kevin Morton Jr ขาถูกยิงเข้าที่ท้องถึง 9 นักในคืนหนึ่ง หลังจากที่เขาปิดร้านอาหารที่ทำงานและเดินทางกลับบ้าน แต่ถูกกลุ่มคนร้ายดักปล้น     หลังจากที่เขาถูกยิง เขาก็ถูกหามส่งโรงพยาบาล Detroit’s St. John ทันที ทีมแพทย์รีบเข้ามาดูทันที ครอบครัวของเขาบอกว่าตอนนั้น Kevin มีโอกาสรอดเพียงแค่ 10% เท่านั้น แต่แพทย์หญิงคนหนึ่งชื่อว่า Dr. Sheth- Zelmanski กลับสามารถที่จะช่วยชีวิตเขาไว้ได้ในคืนนั้น “ฉันรู้ว่าเขายังไม่ยอมแพ้ แล้วทำไมพวกเราจะต้องยอมแพ้ล่ะ? พวกเราต้องทำมันให้สำเร็จ” Dr. Sheth ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่เธอยังคงพยามช่วย Kevin แม้เขาจะมีโอกาสรอดแค่ 10%     ตอนแรกเขาวางแผนไว้ว่า เขาจะเข้าทำงานเกี่ยวกับเภสัชกรรม แต่หลังจากที่เขาต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลนานถึง 50 วันที่โรงพยาบาล St. John รวมถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ที่ทำให้เขารอดมาได้ มันทำให้เขาตระหนักถึงการช่วยเหลือชีวิตของผู้อื่น มันทำให้เขารู้สึกว่าเขาควรจะเดินในเส้นทางสายนี้เช่นกัน หลังจากนั้น 10 ปี เขาได้เรียนจบจาก Michigan State University’s College of…

  • หญิงสาวรับงาน “แม่บ้านเปลือย” ทำความสะอาดบ้าน ไม่ขายตัว แต่ได้เงิน 2,000 ต่อชั่วโมง

    หญิงสาวรับงาน “แม่บ้านเปลือย” ทำความสะอาดบ้าน ไม่ขายตัว แต่ได้เงิน 2,000 ต่อชั่วโมง

    คุณแม่วัยสาวอายุ 25 ปี สามารถที่จะสร้างรายได้สูงถึง 2,000 บาทต่อชั่วโมง ด้วยการเป็นแม่บ้านเท่านั้น แต่ว่าวิธีการทำงานของเธอนั้นพิเศษไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน?!! Emily Nikols คุณแม่วัย 25 คนนี้เธอทำงานเป็นแม่บ้านที่มีวิธีแตกต่างจากคนอื่นพอสมควรคือ เวลาเธอทำงานเป็นแม่บ้านเธอจะสวมเพียงแค่ถุงมือยางในการทำงานเท่านั้น…     ใช่แล้ว เธอบอกว่าชุดทำงานประกอบด้วยถุงมือยางอย่างเดียวเท่านั้น เธอจะไม่ใส่ชุดอะไรทำงานเลย นั่นหมายความว่าเธอเปลือยนั่นเอง… แต่ก่อนที่จะคิดกันไปไกล เธอไม่ได้ทำอะไรนอกจากงานเป็นแม่บ้านเลยนะ เพราะเธอมีกฏอยู่ว่าลูกค้าจะไม่สามารถทำอะไรลามกอนาจารกับเธอได้เลย แต่ถึงอย่างนั้นแม้เวลาพวกเขามาจ้องดูเธอทำงานบ้าน เธอกลับรู้สึกว่าเธอไม่ได้เป็นวัตถุทางเพศแต่อย่างใด “ฉันรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยที่จะต้องเปลือยทำงาน มันรู้สึกสบายเสียด้วยซ้ำเวลาเคลื่อนไหวแล้วไม่มีเสื้อผ้ามารบกวน แถมยังเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับฉันมากๆ เลยล่ะ”     นอกจากนี้จากบทสัมภาษณ์ยังได้ถามถึงคำถามที่ว่าแล้วแบบนี้ลูกค้าจะรู้สึกยังไง เวลาที่เธอแก้ผ้าทำงานแบบนี้ ซึ่งเธอก็ตอบกลับมาว่า “เท่าที่พบเจอมาลูกค้าส่วนใหญ่ พวกเขาจะให้ความคารพฉันพอสมควรเลยนะพวกเขาช่วยยังช่วยถืออุปกรณ์ให้ฉันอีกต่างหาก แถมยังเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ อีกด้วย”     นอกจากนี้จากบทสัมภาษณ์ยังได้ถามถึงความรู้สึกของครบครัวและเพื่อนๆ ของเธอว่ารู้สึกยังไงที่เห็นเธอมาทำงานแบบนี้ “พวกเพื่อนๆ และครอบครัวของฉันออกจะสนับสนุนฉันซะด้วยซ้ำนะ แต่ว่าสามีของฉันก็ออกจะเป็นห่วงอยู่บ้างถึงความปลอดภัยของฉัน แต่สุดท้ายเขาก็โอเคกับมันเพราะเขาเชื่อใจ”     มาถึงกันขนาดนี้แล้ว หลายคนคงอยากจะจ้างแม้บ้านเปลือยสักคนใช่ไหมล่ะ แต่บอกเลยว่าราคามันเจ็บพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งชั่วโมงแรกจะต้องจ่ายในราคาราวๆ 2,800 เลยทีเดียว ส่วนชั่วโมงต่อไปจะอยู่ที่ราคาราวๆ…

  • ศิลปินสาวผู้สร้างสรรค์ “ต้นไม้เรืองแสง” ของแต่งบ้านเพิ่มพื้นที่สีเขียว สวยงามชวนว้าว

    ศิลปินสาวผู้สร้างสรรค์ “ต้นไม้เรืองแสง” ของแต่งบ้านเพิ่มพื้นที่สีเขียว สวยงามชวนว้าว

    โลกของเรานั้นเดี๋ยวนี้มีมลพิษมากมายเต็มไปหมด ทำให้หลายคนเริ่มที่จะหันมาแต่งห้องแนวธรรมชาติกันดูบ้าง แต่ว่าก็ยังเลือกไม่ได้สักทีว่าจะเอาต้นไม้อะไรมาแต่งออกดีนะ ฉะนั้นวันนีเราก็เลยมีของใหม่มานำเสนอซึ่งรับรองว่าหลายๆ คนที่กำลังมองหาของแต่งห้องอยู่น่าจะต้องชอบอย่างแน่นอน มันก็คือต้นไม้เรื่องแสงสุดฮิพยังไงล่ะ เจ้าต้นไม้เรืองแสงที่พูดถึงนี้่ ผลิตโดยบริษัท Mar de fe ที่ตั้งขึ้นโดยศิลปิน Mariana Folberg ซึ่งเจ้าต้นไม้เรืองแสงที่ว่านี้ไม่ใช่ต้นไม้จริงๆ หรอกนะ แต่ว่าเป็นโคมไฟรูปต้นไม้ตะหาก   โดยบริษัทที่ออกแบบเจ้าต้นไม้เรืองแสงนี้ พวกเขาบอกว่าพวกเขาได้ใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ให้ได้สุนทรียภาพ ดุจดั่งต้นไม้จริงๆ รวมถึงรูปทรงและตัวใบของมันแต่ละต้นก็จะมีรูปร่างที่เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร   ตัวโคมไฟใช้หลอดไฟ LED ในการให้แสงสว่าง ซึ่งก็เท่ากับว่าตัวโคมไฟจะไม่ได้สว่างมากเหมือนโคมไฟตั้งโต๊ะทั่วๆ ไปแต่จะให้ไฟสลัวๆ จากโคนต้นไปถึงใบของมัน เหมาะกับการเอาไปตั้งไว้บนโต๊ะหนังสือหรือเป็นของแต่งห้องที่สวยงามพอสมควรเลยทีเดียว   ถ้าไม่ได้เปิดไฟ ตัวต้นไม้ก็จะออกเป็นใสๆ แบบนี้ซึ่งดูแล้วมันก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย ใครที่สนใจเจ้าต้นไม้เรืองแสงนี้ อยากได้ไวเป็นของแต่งห้องฮิพๆ ก็สามารถเข้าไปติดตามรายละเอียดได้ที่เฟสบุ๊ค Mar de Fe by Mariana Folberg หรือถ้าใครสนใจอยากจะสั่งซื้อก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ etsy แต่บอกเลยว่าราคาก็ตามความสวยของตัวต้นไม้เลยล่ะ ที่มา boredpanda

  • ตำนานของชาย 2 คน ที่ขโมยเครื่องบินโบอิ้ง ขับหายไปจากสนามบิน จนตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ!?

    ตำนานของชาย 2 คน ที่ขโมยเครื่องบินโบอิ้ง ขับหายไปจากสนามบิน จนตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ!?

    เรื่องราวลึกลับรอบโลกนั้นมีมากมายกายกอง มีทั้งที่หาข้อสรุปได้และยังหาข้อสรุปไม่ได้ ซึ่งทุกเรื่องก็ล้วนน่าสนใจทั้งนั้น ซึ่งมีอยู่เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ และทุกวันนี้ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงง… หลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินหรือรู้จักเรื่องนี้กันมาบ้าง แต่ถ้าใครยังไม่รู้ก็ปูเสื่อนั่งฟังกันได้เลยครับ… โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องของเครื่องบิน Boeing 727-223 ที่อยู่ดีๆ ก็หายไปนานนับสิบปี จนตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลว่ามันหายไปไหน     25 พฤษภาคม ค.ศ. 2003 เครื่องบิน Boeing 727-223 ออกบินจาก Quatro de Fevereiro Airport ในประเทศแองโกลา ตามรายงานระบุว่า ในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน มีชายสองคนแอบลักลอบขึ้นไปบนเครื่องบินที่จอดอยู่ในสนามบิน และพามันบินขึ้นโดยไม่มีการอนุญาตก่อน โดยเรื่องผิดปกติที่เกิดขึ้นก็คือ ตอนนั้น(ต้องใช้คำว่าตอนนั้น เพราะตอนหลังเค้าก็ทราบนี่นา)ไม่มีใครรู้เลยว่าใครเป็นคนขับเจ้าเครื่องบินลำนี้ออกไป แถมเจ้าหน้าที่วิทยุการบินก็พยายามห้ามพวกเขา แต่ถูกตัดการสื่อสารไป มีคนเชื่อว่าเครื่องบินถูกขโมยไปโดยคนเพียงสองคนเท่านั้น โดยทั้งสองคนนี้มีชื่อว่า Ben Charles Padilla และ John Mikel Mutantu โดยทั้งคู่ได้รับการรับรองให้สามารถขับ Boeing 727 ได้ (เพียงแต่ว่าโดยปกติแล้วการจะขับเครื่องบินแบบนี้ได้จำเป็นจะต้องมีลูกเรือขั้นต่ำ 3 คน)   ภาพของ Ben Charles Padilla   เครื่องบินแล่นออกจากสนามบินโดยที่ไม่ติดต่อวิทยุการบินรวมถึงไม่มีไฟนำทางเข้าสู่รันเวย์แม้แต่น้อย หลังจากที่บินขึ้นได้สักระยะตัวเครื่องบินมุ่งตรงสู่มหาสมุทรแอทแลนติก อย่างไม่มีเหตุผลอะไรรองรับจุดหมายของทั้งคู่ และแน่นอน…

  • ญี่ปุ่นออกไอเดีย “Neko Muffler” ผ้าพันคอแมว ที่จะเปลี่ยนเจ้าเหมียวให้ดูดีขึ้นอีก!!

    ญี่ปุ่นออกไอเดีย “Neko Muffler” ผ้าพันคอแมว ที่จะเปลี่ยนเจ้าเหมียวให้ดูดีขึ้นอีก!!

    แมวเหมียว ถือเป็นอีกสัตว์ชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมเลี้ยงอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และบ่อยครั้งที่เราเห็นมันถูกพาไปไหนมาไหนบ่อยๆ พร้อมกับชุดคอสเพลย์น่ารักในแบบญี่ปุ่นที่เจ้าของสรรหามา ล่าสุดมีได้มีคนผลิตแฟชั่นใหม่ล่าสุดให้กับเจ้าเหมียวได้ใส่กัน ซึ่งมันก็คือ “Neko Muffler หรือ ผ้าพันคอเจ้าเหมียว” นั่นเอง โดยผ้าพันคอเจ้าเหมียวนี้ทำมาจากด้ายอะคริลิคที่มีน้ำหนักเบาและหนุ่ม     ผ้าพันคอเจ้าเหมียวนี้จะมาในรปแบบ 2 สี คือสีแดงและน้ำเงินสลับกันซึ่งมันจะทำให้เข้ากับเจ้าเหมียวทุกสีทุกพันธ์ุ ส่วนไซส์ของผ้าพันคอจะมีด้วยกันสองไซส์ด้วยกัน ไซส์กลางจะมีขนาดราวๆ 21-25 เซนติเมตรเหมาะสำหรับเจ้าเหมียวอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี ไซส์ใหญ่จะมีขนาดราวๆ 26-30 เซนติเมตร เหมาะสำหรับเจ้าเหมียวอายุ 2 ปีขึ้นไป   เมื่อเอามาใส่กับแมวของคุณ…   ตัวผ้าพันคอจะมาพร้อมกับกล่องที่สวยงาม ใครที่สนใจอยากหาให้เจ้าเหมียวของตัวเองใส่ก็สามารถสั่งซื้อได้จาก amazon หรือ col ซึ่งราคาจะอยู่ที่ราวๆ 600 บาทต่อชิ้น   ภาพของกล่อง ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีเช่นกัน…   นอกจากผ้าพันคอแล้ว ยังมีหมวกไว้ใส่ให้เข้าเซตน่ารักๆ ด้วยนะ     ส่วนอันนี้อาจจะดูไม่เข้ากับผ้าพันคอ แต่ก็น่ารักไปอีกแบบ   สงสัยต้องไปหาให้เจ้าเหมียวที่บ้านใส่บ้างแล้ว ใส่แล้วคงจะน่ารักน่าดูเลยล่ะ ที่มา rocketnews24

  • ตามส่อง 17 เมนูจาก McDonald’s ทั่วโลก ที่มีขายเฉพาะประเทศนั้น ที่อื่นอดนะจ๊ะ!!

    ตามส่อง 17 เมนูจาก McDonald’s ทั่วโลก ที่มีขายเฉพาะประเทศนั้น ที่อื่นอดนะจ๊ะ!!

    McDonald’s คือแฟรนไชส์ร้านฟาสต์ฟู๊ดที่เปิดสาขาไปแทบทุกประเทศทั่วโลก และแน่นอนว่าแม้จะขายเบอเกอร์เป็นหลัก แต่ในแต่ละประเทศก็จะไม่มีเมนูที่ไม่เหมือนของที่ไหนอีกด้วย ปกติแล้ว McDonald’s ในแต่ละประเทศมักจะมีเมนูที่ซิกเนเจอร์ของตัวประเทศนั้นๆ ในส่วนของไทยก็มี แต่เราก็คงจะกินกันจนเป็นปกติแล้วล่ะเนอะ วันนี้เราเลยจะมาดูเมนูซิกเนเจอร์ของประเทศอื่นๆ กันบ้างว่าจะน่ากินขนาดไหนกันนะ   Sweety con Nutella เบอร์เกอร์นูเทล่าล้วนๆ จากประเทศอิตาลี   Poutine เฟรนช์ฟรายส์ราดด้วยน้ำเกรวี่และชีส จากประเทศแคนาดา   McKroket  เนื้อบดทอดผสมกับชีสและซอสมัสตาร์ด จากเนเธอร์แลนด์   Pancake Helado แพนเค้กโปะด้วยไอศกรีมวนิลาจากประเทศอุรุกวัย   Twister Fries เฟรนช์ฟรายส์ที่มีหน้าตาโค้งๆ ที่จะขายทุกช่วงตรุษจีนในประเทศสิงคโปร์   Shaka Shaka Chicken ไก่ทอดผสมกับผงรสชาติต่างๆ (เลม่อน,พริกไทย,ชีส) จากประเทศญี่ปุ่น   Churros จากประเทศเกาหลีใต้   Prosperity Burger เบอร์เกอร์ไก่ที่ขายเฉพาะช่วงตรุษจีนมาพร้อมกับแฮชบราวน์ จากประเทศมาเลเซีย   Veggie Crunch Burger  เบอร์เกอร์มังสวิรัติ จากประเทศสิงคโปร์   Frozen…

  • ถ้าพลาดป่อง ก็มาซื้อนมที่เรานะ… บริษัท Durex ทุ่มเงินซื้อกิจการ “นมผง” ยักษ์ใหญ่เรียบร้อย

    ถ้าพลาดป่อง ก็มาซื้อนมที่เรานะ… บริษัท Durex ทุ่มเงินซื้อกิจการ “นมผง” ยักษ์ใหญ่เรียบร้อย

    Reckitt Benckiser Group หรือ R.B. บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ดังที่เราใช้กันอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น Dettol,ผลิตภัณฑ์ยา Nurofen, สเปรย์ปรับอากาศ Air wick หรือจะเป็น Durex ก็เป็นสินค้าในเครือนี้ ซึ่งล่าสุดตอนนี้ทางบริษัทก็ได้ทำสัญญาซื้อขายกิจการกับบริษัทผลิตนมผงยักษ์ใหญ่ Mead Johnson Nutrition เป็นที่เรียบร้อย     สาเหตุที่ทาง R.B. เลือกที่จะหันมาลงทุนซื้อกิจกรรมนมผงนั่นก็เพราะว่า ในตอนนี้ผลประกอบการที่เป็นอยู่มีกำไรที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก ทาง R.B. จึงจำเป็นจะต้องหาแบรนด์ใหม่เข้ามาเพื่อที่ช่วยเสริมกำลัง และด้วยตัว Mead Johnson Nutrition ครองตลาดในฝั่งเอเชียอยู่แล้ว การเข้าซื้อกิจกรรมในครั้งนี้จึงเป็นทั้งการเข้าตีตลาดและกู้วิกฤติกลับมานั่นเอง สำหรับตัวบริษัท Mead Johnson Nutrition เป็นเครือที่ผลิตนมผงและอาหารเสริมสำหรับเด็กเป็นหลัก แถมที่สำคัญกิจการในเครือนี้ยังทำรายได้มหาศาลมากถึงราวๆ 126,000 ล้านบาท จึงไม่แปลกเลยที่ R.B. จะอยากเข้ามาตีตลาดผ่านบริษัทนี้     Rakesh Kapoor ประธานของ R.B. ยังบอกอีกว่าเขาคาดหวังกับดีลในครั้งนี้พอสมควรเลยทีเดียว และยังหวังว่าการดีลในครั้งนี้จะช่วยสร้างเม็ดเงินให้เขาราวๆ 8,000 ล้านบาทในช่วงเวลา 3 ปี เขาบอกว่าธุรกิจของทาง Mead Johnson Nutrition นั้นผลิตทั้งนมผงและอาหารเสริมสำหรับเด็กซึ่งในทางฝั่งของจีนที่มีนโยบายไม่ให้มีลูกมากกว่า 1 พ่อแม่จึงจำเป็นจะต้องเลี้ยงดูลูกๆ…

  • ช่างภาพตามถ่าย “สวนสัตว์อิรัก” สะท้อนปัญหาที่พวกมันได้รับ จากสงครามของมนุษย์ผู้บ้าคลั่ง

    ช่างภาพตามถ่าย “สวนสัตว์อิรัก” สะท้อนปัญหาที่พวกมันได้รับ จากสงครามของมนุษย์ผู้บ้าคลั่ง

    แน่นอนว่าสงคราม นั้นนำมาซึ่งความสูญเสีย และมันไม่ใช่สำหรับคนเท่านั้น แต่มันคือความสูญเสียสำหรับสิ่งอื่นๆ ทั้งสังคม บ้านเมือง กระทั่งสัตว์เช่นกัน ภาพที่จะได้เห็นต่อไปนี้เป็นภาพจากสวนสัตว์ Mosul ที่อยู่ในอิรัก โดยเราจะเห็นว่าสัตว์หลายชนิดถูกทิ้งไว้ให้หิวตายอยู่ภายในสวนสัตว์   ภาพของสิงโตที่หิวโหยในกรง กำลังมองสิงโตอีกตึวหนึ่งนอนตายอยู่ภายในหลุม   เมือง Mosul เคยถูกยึดครองโดยกลุ่มไอซิส และภาพเหล่านี้ถูกเผยแพร่ออกมาโดยช่างภาพของกลุ่ม Mosul Eye ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านไอซิส พวกเขาต้องการให้หน่วยงานด้านสัตว์ในระดับนานาชาติ มองเห็นถึงความทารุณและโหดร้ายของที่นี่ เพื่อพวกมันได้จะได้รับการช่วยเหลือ เพราะในสภาวะสงครามเช่นนี้พวกเขาแทบไม่มีงบเลย “ในขณะที่สงครามทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าไปปกป้องและจัดการกับพวกสัตว์เหล่านี้” Abu Omar เจ้าของสวนสัตว์กล่าว   นอกจากสิงโตแล้ว ยังมีหมีอีกหนึ่งตัวที่สภาพผอมซูบ   ภาพของเด็กๆ และผู้คนที่แวะมาเยี่ยมเยียนพวกสัตว์ ที่พยามจะช่วยชีวิตให้พวกมันมีชีวิตต่อไปได้   นอกจากนี้ยังมีภาพของสภาพรอบๆ สวนสัตว์ที่แสดงให้เห็นผลกระทบของสงครามได้ทิ้งไว้ หลังจากที่สงครามจากไป ความสูญเสียก็ไม่ได้ตามไปกับสงคราม แต่มันยังคงอยู่ในที่แห่งนี้   ภาพของป้ายสวนสัตว์ที่ถูกทิ้งร้างไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้ครอบครัวต่างๆ มักจะพาลูกหลานมาเที่ยวกัน   จากภาพนี้จะเห็นได้ว่าสภาพของสวนสัตว์หลังจากถูกทิ้งร้างมันแย่ขนาดไหน   จุดนี้เคยเป็นจุดที่มีกรงลิงอยุ่ แต่ว่าด้วยลูกหลงของระเบิดมันจึงกลายเป็นหลุมแบบที่เห็น เด็กแถวนั้นโชว์ให้เห็นถึงลอยข่วนจากลิงที่หลุดออกมา   จากภาพทั้งหมดเราจะเห็นได้ว่าผลกระทบของสงคราม มันส่งผลให้ทุกสิ่งรอบๆ ไม่ว่าจะเป็นคน ที่อยู่อาศัย…

  • อาสาสมัครนิวซีแลนด์เร่งช่วยเหลือวาฬกว่า 400 ตัว หลังโดนคลื่นซัดมาเกยชายหาดเอง

    อาสาสมัครนิวซีแลนด์เร่งช่วยเหลือวาฬกว่า 400 ตัว หลังโดนคลื่นซัดมาเกยชายหาดเอง

    อาสาสมัครในประเทศนิวซีแลนด์เร่งเข้าช่วยเหลือเหล่าวาฬเกยตื่น หลังจากพบว่ามีวาฬนำร่อง (Pilot Whale) หลายร้อยตัวต้องตายอย่างทรมานหลังจากเกยตื่นอยู่บนฝั่งเป็นเวลานาน นี่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าหลังจากมีคนพบเห็นปลาวาฬนำร่องทั้งหมด 416 ตัว กำลังนอนเกยตื่นอยู่บนชายฝั่งแฟร์เวลล์สปิต ทางใต้ของ โกลเดน เบย์ เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยล่าสุดชาวบ้านและอาสาสมัครก็ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเป็นการด่วน แต่ก็พบว่ามีวาฬตายไปแล้วกว่า 275 ตัว     ถึงอย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังคงพยามช่วยเหลือพวกมันโดยการทำให้ตัวของพวกมันเปียกออยู่ตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้นการช่วยเหลือก็ยังคงเป็นไปอย่างล่าช้า ซึ่งเมื่อเข้าใกล้เวลาเที่ยงวันร่างกายของพวกวาฬก็เริ่มที่จะแห้งไวขึ้นเนื่องจากผลกระทบของแสงแดด Cheree Morrison นักข่าวที่ในพื้นที่กล่าวว่า “คุณจะได้ยินเสียงพวกมันพยามดิ้นรนเอาชีวิตรอดตลอดเวลา ยิ่งพวกวาฬเด็กยิ่งดูจะทรมานมากที่สุด ภาพพวกนี้มันเศร้าเสียจนฉันไม่รู้จะพูดอะไรออกมานอกจากได้แต่ร้องไห้ และพยามช่วยพวกมันอย่างสุดความสามารถ”     ตามรายงานบอกว่าวาฬนำร่องมีขนาดที่ใหญ่มากๆ ทำให้ยากที่จะพลักพวกมันกลับลงไปในทะเล พวกเขาจึงต้องพยามยื้อชีวิตพวกมันและรอเวลาให้น้ำขึ้นสูงอีกครั้ง หลังจากที่พวกเขาช่วยวาฬส่วนใหญ่ได้แล้ว พวกเขาจำเป็นจะต้องสร้างกำแพงมนุษย์ขึ้นมาเพื่อกันไม่ให้พวกวาฬที่พวกเขาช่วยไว้ได้หันกลับเข้าฝั่งมาเกยตื่นอีกครั้ง เพราะพวกมันไม่เต็มใจที่จะทิ้งฝูงของมันไว้แน่ๆ พวกเขาก็ได้แต่หวังว่ากระแสน้ำจะพาพวกมันกลับลงไปในทะเลได้อย่างปลอดภัย     การเกยตื่นในครั้งนี้นับว่าเป็นเหตุการณ์เกยตื่นที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากเหตุการณ์ที่เมืองออกแลนด์ในปี 1985 ที่มีวาฬเกยตื้น 450 ตัว และเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นที่หาดในหมู่เกาะชัตแฮมปี 1918 ที่มีวาฬมาเกยตื่นถึง 1000 ตัว     พวกเราก็คงได้แต่หวังว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกบ่อยๆ กับพวกวาฬที่น่าสงสารพวกนีั้ ที่มา dailymail

  • มาแล้ว… “อินุยาฉะ” ฉบับละครเวทีกำลังจะเปิดฉาย พร้อมกับเผยนักแสดงหลัก

    มาแล้ว… “อินุยาฉะ” ฉบับละครเวทีกำลังจะเปิดฉาย พร้อมกับเผยนักแสดงหลัก

    หลังจากที่กระแสตอบรับของนารูโตะฉบับละครเวทีออกมาเป็นที่น่าพอใจ ก็คงจะช่วยปูทางให้กับละครเวทีจากการ์ตูนได้ไม่ยาก และเราน่าจะได้เห็นเรื่องอื่นๆ ตามมาอีกเพียบ ซึ่งล่าสุดก็เป็นคราวของการ์ตูนดังอย่าง “อินุยาฉะ เทพอสูรจิ้งจอกเงิน” ก็ได้ประกาศเป็นละครเวทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับการเปิดเผยนักแสดงนำ     นอกจากจะประกาศทำเป็นละครเวทีแล้วนักแสดงก็ได้มากันครบเป็นที่เรียบร้อยโดยจะมีรายชื่อนักแสดงตามนี้ แถวบนไล่ซ้ายไปขวา Yutaka Kyan แสดงเป็น อินุยาฉะ , Yumi Wakatsuki แสดงเป็น คาโงเมะ แถวกลางไล่ซ้ายไปขวา Hiroki Sana แสดงเป็น เส็ตโชมารู, Junna Itō แสดงเป็น คิเคียว, Yukihiro Takiguchi แสดงเป็น มิโรคุ และแถวล่าง  Ryou Kimura แสดงเป็น นาราคุ   ภาพการถ่ายโปรโมทละครเวทีเรื่องนี้   เรื่องย่อของการ์ตูนเรื่องนี้… ส่วนใครที่ไม่รู้จักเรื่อง อินุยาฉะ เทพอสูรจิ้งจอกเงิน ก็จะขอเล่าเนื้อย่อๆ ให้อ่านกัน โดย “อินุยาฉะ” เป็นลูกครึ่งอสูรซึ่งเกิดจากพ่อผู้เป็นจอมปีศาจจิ้งจอกผู้ยิ่งใหญ่ แต่มีแม่เป็นมนุษย์ นั่นจึงทำให้อินุยาฉะมีปมด้อยและไม่เป็นที่ยอมรับทั้งจากบรรดาปีศาจหรือมนุษย์ธรรมดา ทำให้เขาต้องออกตามหาลูกแก้วสี่วิญญานเพื่อที่จะกลายเป็นอสูรอย่างเต็มตัว     แต่ว่าการจะได้ลูกแก้วมานั้นเขาจะต้องสู้กับมิโกะที่มีชื่อว่า คิเคียว ซึ่งทั้งคู่ก็สู้กันแล้วกันเล่าแต่ก็ไม่มีใครที่กล้าทำร้ายกันจริงๆ สักทีเพราะว่าทั้งคู่มีใจให้กันนั่นเอง…

  • ย้อนวัยกับ 8 เกมฮิตในยุคอดีต ที่เด็กร้านเกม ต้องเคยผ่านมามันมาแทบทั้งนั้น!!!

    ย้อนวัยกับ 8 เกมฮิตในยุคอดีต ที่เด็กร้านเกม ต้องเคยผ่านมามันมาแทบทั้งนั้น!!!

    ถ้าให้มองย้อนกลับไปราวๆ 10 กว่าปีก่อนแล้วมองว่าหาว่าช่วงนั้นเป้นยุครุ่งเรืองของอะไร รับรองได้ว่าสำหรับผู้ชายร้านเกมจะต้องอยู่ในเรื่องแรกๆ ที่ปิ๊งขึ้นมาชัวๆ #เหมียวมู่ทู่ มั่นใจได้ ผู้ชายหลายๆ คนน่าจะเข้าใจช่วงยุครุ่งเรืองของร้านเกมแน่นอน เพราะในยุคนั้นนี้การจะเล่นเกมที่บ้านด้วยเน็ตขูดบัตรเป็นอะไรที่เจ็บปวดพอสมควร จนเวลาไปสักพักเน็ตขูดจึงจะหายไปแต่ร้านเกมก็ยังคงเป็นจุดศูนย์รวมของกลุ่มวัยรุ่นชายที่ในตอนนี้ อายุก็น่าจะราวๆ 25+ แน่นอน   1. Ragnarok หนึ่งในเกมออนไลน์สุดฮิตยุคแรกๆ ที่รับรองได้ว่าเวลานั้นวัยรุ่นส่วนใหญ่จะต้องได้สัมพัสเกมนี้แน่นอน ซึ่งถึงแม้ตอนนี้เกมนี้จะยังเปิดบริการในไทยอยู่โดยบริษัท EXE แต่เชื่อเหอะ ว่าความรู้สึกของการขูดบัตรเติมเงิน พร้อมกับเน็ตความเร็วเตา ที่พร้อมจะหลุดตลอดเวลาเมื่อมีคนโทรเข้า แถมการเข้าไปเดินใน Morrocในยุคนั้นนี้มันที่สุดแล้ว ยิ่งนัดเจอกับสมาชิกปาร์ตี้ในร้านเกมช่วงกิลวอมันเป็นอะไรที่คนยุคนั้นเท่านั้นถึงจะเข้าถึงจริงๆ   ภาพของบัตรเติมเงินที่เรารู้จักกันดี   เพลงที่เราต่างก็คุ้นหู…   2. Counter-strike ถ้าจะบอกว่า Quake หรือ Unreal tournament เป็น FPS ยุคบุกเบิกของต่างชาติ Counter-strike นี้ก็คงต้องเป็น FPS ยุคบุกเบิกของร้านเกมในไทยแน่นอน (สุดยอดความคลาสสิกที่มาพร้อมกับด่าน ยูไนเต็ด ที่จริงๆ มันไม่ได้เรียกว่ายูไนเต็ดนะเว้ย)     3. Winning eleven 4 ถึงแม้ Winning…

  • คำขอสุดท้ายเด็กสาวป่วยมะเร็ง มีเวลาอยู่ได้อีกไม่กี่วัน อยากได้ “ลูกแมว” ตัวหนึ่งมาเลี้ยง…

    คำขอสุดท้ายเด็กสาวป่วยมะเร็ง มีเวลาอยู่ได้อีกไม่กี่วัน อยากได้ “ลูกแมว” ตัวหนึ่งมาเลี้ยง…

    “ฉันเคยได้ยินว่า สัตว์เปรียบเหมือนทูตสวรรค์ ฉันไม่เคยเข้าใจความหมายของมันเลยจนกระทั่ง Liza ได้เจอกับ Kylie”       Kylie เด็กสาววัย 12 ขวบผู้มีนิสัยร่าเริงสดใสและเป็นรอยยิ้มของคนในบ้าน วันหนึ่งเธอก็ถูกตรวจพบว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งกระดูกซึ่งจะอยู่ได้อีกไม่นานนัก เธอร้องขอให้ที่บ้านหาลูกแมวให้เธอได้ไหม เป็นคำขอสุดท้ายของเธอเพราะเธออยากจะได้มันมาเลี้ยงสักตัว แน่นอนว่าทางบ้านของเธอก็ไม่รอช้าที่จะหาลูกแมวมาให้เธอ โดยเจ้าแมวตัวนี้มีชื่อว่า Eliza ซึ่งมันมาจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ และในตอนแรกที่บ้านของทาง Kylie ไม่ได้ต้องการจะเลี้ยงเจ้าเหมียวนี้ไปตลอด พวกเขาต้องการให้มันอยู่กับเธอจนวันสุดท้ายของชีวิตเท่านั้น     แน่นอนว่าเมื่อเธอได้เห็นเจ้าเหมียวที่ครอบครัวหามาให้ เธอก็กลับมายิ้มอีกครั้ง ซึ่งนั้นทำให้ครอบครัวของเธอก็กลับมายิ้มได้อีกครั้งหลังจากที่ทุกคนไม่ได้ยิ้มกันมานานแล้ว เธอและเจ้าเหมียวดูจะเข้ากันได้ดีมาก ซึ่งเธอเรียกเจ้าเหมียวตัวนี้ว่า Liza ทุกครั้งที่เธอเผลอหลับไปเจ้าเหมียวก็จะมานอนอยู่บนตัวเธอเสมอต่อให้จะผ่านไปหลายวันแล้วก็ตาม แม้เธอจะอยู่ในช่วงบำบัดเจ้าเหมียวก็ไม่ยอมที่จะเล่นกับคนอื่นเลยนอกจากเธอ..     จนถึงวันสุดท้ายที่เธอต้องลาจากไป แม่ของเธอเล่าว่า “Kylie บอกให้ฉันดูแลเจ้า Liza แทนเธอให้มันได้อยู่กับครอบครัวของเธอตลอดไป”    และเมื่อ Kylie ได้จากไปเจ้าเหมียวก็รู้ได้ทันทีครอบครัวของเธอต้องการอะไร มันก็ไม่รอช้าที่จะเข้าไปคลอเคลีย Robin ทันทีและอยู่ข้างๆเพื่อปลอบเธอ   ท้ายที่สุดเจ้าเหมียว Lisa ก็ได้กลายเป็นตัวแทนของ Kylie เป็นตัวแทนแห่งรอยยิ้มที่จะช่วยให้ทุกคนในครอบครัวยิ้มได้เสมอ นั่นเอง  …

  • เปิดตัว “ตู้ถ่ายรูปเลโก้” ออกแบบตัวต่อเลโก้ รูปหน้าของคุณเอง ได้ง่ายกว่าที่คิด…

    เปิดตัว “ตู้ถ่ายรูปเลโก้” ออกแบบตัวต่อเลโก้ รูปหน้าของคุณเอง ได้ง่ายกว่าที่คิด…

    เคยหรือไม่… ที่เราอยากจะทำเลโก้ให้เป็นรุปหน้าตัวเอง แต่การมานั่งออกแบบเองมันก็ดูจะวุ่นวายเสียเหลือเกิน แถมกว่าจะหาตัวเลโก้จำนวนมากๆ ก็ต้องใช้เงินเยอะพอสมควรเลยกว่าจะหาสีครบอีก แต่ปัญหานี้จะหมดไปเพราะตู้ผลิตเลโก้รูปหน้าคนอัตโนมัติมาแล้ว….   คลิปวิดีโอโปรโมทการทำงานของตู้ต่อเลโก้รูปหน้าคุณ…   โดยวิธีการทำงานของเจ้าตู้เลโก้นี้ก็ง่ายๆ เพียงแค่ให้เราเข้าไปในตู้ ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับตู้ถ่ายสติ๊กเกอร์   จากนั้นก็ไปที่เคาน์เตอร์เพื่อซื้อตั๋วมาถ่ายรูปที่ตู้   จากนั้นก็เตรียมตัวถ่ายรูปหน้าตัวเอง   จากนั้นก็เลือกแบบหน้าที่ต้องการ จากหลายๆ แบบที่ถ่ายมา   เลนส์สามารถที่จะปรับระดับตามส่วนสูงของเราได้   หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยก็อดใจรอ 5 นาที ซึ่งขณะรอก็จะมีวีดีโอที่แสดงให้เห็นว่า ตัวเลโก้กำลังทำงานอยู่   พอเสร็จแล้วก็รับชุดเลโก้ไปต่อได้เลย   และนี้ก็คือตัวอย่างหน้าตาของเลโก้หน้าของเรา โดยสีหลักๆ ของเลโก้ชุดนี้จะเป็น สีเหลืองขาวเทาและดำนั่นเอง…   ใครที่สนใจอยากจะทำเลโก้หน้าเราเอง ก็สามารถเดินทางไปได้ที่ Lego Flagship Store ซึ่งอยู่ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษเลยจ้า   ที่มา: gotrip

  • 23 สิ่งบนโลกนี้ ที่ดันไปคล้ายกับอีกบางสิ่งบางอย่างมากๆ ซะจน “ไม่น่าใช่เรื่องบังเอิญ”

    23 สิ่งบนโลกนี้ ที่ดันไปคล้ายกับอีกบางสิ่งบางอย่างมากๆ ซะจน “ไม่น่าใช่เรื่องบังเอิญ”

    หลายครั้งในชีวิตของเราที่มักจะเกิดเรื่องบังเอิญอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องดีและไม่ดี ซึ่งบางครั้งบางคราวมันก็บังเอิญซะจนคิดว่ามีใครตั้งใจรึเปล่า แต่ก็ทำให้เรามีรอยยิ้มได้เสมอ… โดยวันนี้เราก็จะมาดูรูปของสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากความบังเอิญเช่นกัน แถมมันยังออกมาดูดีเสียด้วย อย่ารอช้ามาดูกันเลยดีกว่า….   ชินนาม่อนโรลที่บังเอิญไปเหมือนหน้าของ ET ซะงั้น   เงาช่างภาพที่ดันไปเหมือนสุนัขพันธ์ุ “ลาบราดอร์” แทนที่จะเป็นเงาพี่แก   หูฟังที่ดันขดตัวเป็นรุปตัวโน้ต แหม่…เข้าถึงดนตรีของจริงสินะ แบบนี้   มันเทศที่รูปร่างมันดันไปคล้ายกับแมวน้ำซะได้ ถ้าใครเป็นแฟนเซาท์พาร์คจะรู้ได้ทันทีว่ามี “อีริค” อยู่ในรูปด้วย เฮ้ย นั่นมันเดธสตาร์ใช่ไหม รอยบนโต๊ะ ดันมีหน้าตาเหมือนเจ้าตูบซะงั้น   ถ้าใครเข้าใจความหมายของตัวเลขบนรั้วนี้เพียงแค่มอง แสดงว่าคุณหยาบคายพอสมควรเลยทีเดียว   ช่องว่างระหว่างก้อนหินที่บังเอิญเป็นรูป “แมว” พอดีเลย   นกนี้มันก็เข้าใจหาที่ทำรังจริงๆ   มันฝรั่งที่ดันมีหน้าตาเหมือน Admiral Ackbar  จากสตาวอร์ซะงั้น   ดูเหมือนเจ้าพริกหยวกจะโมโหใครมาหรือเปล่า?   Jabba the Hutt is that you!?   มะเขือเทศที่มีรูปร่างเหมือนเป็ดยางหรือจริงๆ มันคือเป็ดยางย้อมสีแดงกันนะ!?  …

  • “ร้านสะดวกซื้่อญี่ปุ่น” เริ่มสนองนโยบายรัฐ เอาพื้นที่สูบบุหรี่ออก ต้อนรับโอลิมปิค 2020

    “ร้านสะดวกซื้่อญี่ปุ่น” เริ่มสนองนโยบายรัฐ เอาพื้นที่สูบบุหรี่ออก ต้อนรับโอลิมปิค 2020

    ปกติแล้วด้านหน้าของร้านสะดวกซื้อต่างๆ ทั้งในญี่ปุ่นและชาติอื่นๆ ก็จะมีที่เขี่ยบุหรี่วางไว้ข้างหน้าร้านเสมอ อาจจะเป็นเพราะว่าต้องการจัดสถานที่สูบให้เป็นที่เป็นทาง แน่นอนว่าแม้จะมีข้อดีเรื่องการสูบเป็นที่เป็นทาง มีที่เขี่ยบุหรี่ และมีถังขยะให้ทิ้ง แต่เวลาผู้คนต้องการที่จะเข้าไปก็จำเป็นจะต้องเดินผ่านเหล่าสิงห์อมควันทั้งหลาย ซึ่งมันไม่ดีต่อสุขภาพของคนทั่วไปแน่นอน   ไม่นานมานี้ ในปี 2015 ทางญี่ปุ่นได้เริ่มมีการควบคุมยาสูบและขอร้องให้ร้านสะดวกซื้อต่างๆ เอาที่เขี่ยบุหรี่ออกไป หรือย้ายจุดให้ไกลออกไปจากประตูทางเข้าเพื่อช่วยลดมลพิษนั่นเอง     สร้างภาพลักษณ์ในโอลิมปิคที่จะถึง… ล่าสุดหลังจากที่ญี่ปุ่นได้รับให้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิค 2020 รัฐบาลญี่ปุ่นจึงเริ่มรณรงค์ให้คนงดสูบบุหรี่เพื่อเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพโอลิมปิคกันมากขึ้น หนึ่งในนโยบายนั้นก็คือการทำให้ประเทศปรับตัวเข้าหาแบบตะวันตกมากกว่าเดิม อะไรหลายๆ อย่างที่เป็นแนวๆ ญี่ปุ่นสไตล์ ก็เลยต้องทำให้ลดน้อยลงไปด้วย หนึ่งในนั้นคือวัฒนธรรมสูบบุหรี่จัดนั่นเอง และผลจากการร่วมรณรงค์จึงกลายเป็นโอกาสอันดีที่จะช่วยโน้มน้าวให้ร้านสะดวกซื้อเริ่มนำที่เขี่ยบุหรี่ออกไป     ซึ่งล่าสุดตอนนี้ตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ เริ่มมีป้ายให้งดสูบบุหรี่แปะไว้ข้างหน้าร้านและใกล้กับที่เขี่ยบุหรี่แล้ว นอกจากนั้นทาง 7-Eleven ก็กำลังวางแผนที่จะนำที่เขี่ยบุหรี่ออกไป (ซึ่งปกติที่เขี่ยบุหรี่จะอยู่ใกล้กับทางเข้าร้าน) แน่นอนว่าทางร้านสะดวกซื้ออื่นๆ อย่าง Family Mart หรือ Lawson ก็เตรียมที่จะทำตามเช่นเดียวกัน เพื่อเคลียร์ให้ติดเป็นนิสัย แม้ว่าจะมีเวลาอีก 3 ปีกว่าที่โอลิมปิกจะเริ่ม     การทำแบบนี้ถือว่าเป็นนิมิตรหมายอันดี ที่จะช่วยให้คนญี่ปุ่นเลิกสูบบุหรี่รับโอลิคปิคที่จะถึง แต่ว่าการทำแบบนี้ไม่ใช่ดีแค่กับภาพลักษณ์ของประเทศ แต่มันจะส่งผลถึงคุณภาพชีวิตของคนในชาติแน่นอน     ที่มา rocketnews24

  • เมื่อรัฐอาร์คันซอ อนุญาตให้ผู้ข่มขืน ฟ้องเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องการทำแท้งได้!?

    เมื่อรัฐอาร์คันซอ อนุญาตให้ผู้ข่มขืน ฟ้องเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องการทำแท้งได้!?

    ปกติแล้วคดีข่มขืนถือว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรงมากๆ และตัวเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายสามารถที่จะเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ แต่ถ้าเกิดกรณีที่ข่มขืนแล้วท้องขึ้นมาล่ะ!? กรณีข่มขืนและท้องในแต่ละประเทศก็จะมีนโยบายด้านกฎหมายต่างกัน บ้างก็ยังผิดกฎหมายด้านการทำแท้ง ทำให้เกิดการทำแท้งเถื่อนตามมา หรือบางประเทศก็จะเปิดให้ทำแท้งได้เป็นกรณีพิเศษ     ล่าสุดมีรายงานว่าทางรัฐอาร์คันซอในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ตั้งกฏหมายขึ้นมาใหม่ว่า ถ้าเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากคดีข่มขืนต้องการที่จะทำแท้ง สามารถที่จะถูกฟ้องจากผู้ก่อเหตุคดีข่มขืนได้ ในฐานะที่เป็นพ่อของลูกคนนั้น กฏหมายตัวนี้จะถูกนำมาใช้งานในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้ โดยนาย Andy Mayberry ตัวแทนของรัฐอาร์คันซอและเป็นผู้ร่วมลงนามในกฏหมายตัวนี้ ได้บอกว่า “ถึงแม้กฏหมายตัวนี้จะอนุญาตให้ผู้ก่อเหตุคดีข่มขืนสามารถฟ้องร้องผู้เสียหายในกรณีที่จะทำแท้งได้ แต่พวกเขาก็ไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องสิทธิทางการเงินต่างๆ เช่นกัน”     Karen Musick ผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายผู้สนับสนุนการทำแท้ง ที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้ก็ออกมาตอบโต้ถึงกรณีที่กฎหมายดังกล่าวกำลังจะถูกนำมาใช้งานจริง “ฉันไม่เข้าใจสักนิดเดียวว่าทำไม ผู้ก่อเหตุคดีข่มขืนที่ทำให้ผู้เคราะห์ร้ายตั้งครรภ์ โดยที่พวกเขาไม่ได้ตั้งใจหรือพร้อมที่จะมีลูก ได้รับสิทธิที่ชอบธรรมนั้นไป”  กฎหมายตัวนี้ที่เรียกว่า Act.45 จะแบนการทำแท้งในระยะที่ 2 ของการตั้งครรภ์ (ช่อง 4-6 เดือน) ซึ่งกว่า 95% ของคนที่ทำแท้งจากการตั้งครรภ์โดยผิดพลาด จะใช้ช่วงนี้มากที่สุด และหากใครละเมิด ก็อาจจะโดนโทษปรับสูงถึง 350,000 บาทเลยทีเดียว     กฏหมายตัวนี้จึงยังเป็นเรื่องถกเถียงกันเป็นอย่างมาก ว่าการให้สิทธิแบบนี้กับผู้ที่ก่อคดีข่มขืนเป็นเรื่องที่ถูกแล้วเหรอ? การทำแบบนี้จะช่วยลดการทำแท้งได้จริงไหม? การอนุญาตให้ทำแท้งได้เป็นเรื่องสิทธิของตัวคนที่ตั้งครรภ์หรือเปล่า? แล้วแบบนี้เพื่อนๆ คิดยังไงกันบ้างเกี่ยวกับกฏหมายตัวนี้…

  • เมื่อแฟนสาวบอกว่า “ไม่ชอบดอกไม้” แฟนหนุ่มจัดให้เลย “ช่อไก่ทอด” ชุดใหญ่ไฟกะพริบ!!

    เมื่อแฟนสาวบอกว่า “ไม่ชอบดอกไม้” แฟนหนุ่มจัดให้เลย “ช่อไก่ทอด” ชุดใหญ่ไฟกะพริบ!!

      ปกติแล้วหนุ่มๆ ทั้งหลายเวลาเราจะให้ของขวัญแก่สาวๆ ในดวงใจสักคนเราก็คงอยากจะมอบช่อดอกไม้ให้กับเธอ ซึ่งแน่นอนว่าสาวๆ ก็มักจะชอบช่อดอกไม้พวกนั้น แต่นั้นไม่ใช่สำหรับเธอคนนี้แน่นอน เรื่องเกิดขึ้นเมื่อสาวสวยวัย 19 ชาวฟิลิปปินส์นามว่า Annika Aguinaldo เธอรู้จักกับแฟนคนปัจจุบันคือ Rico Villanueva มาตั้งแต่ตอนเรียนประถมด้วยกันแล้ว     เธอบอกว่าสถานที่เดทแรกของเธอกับแฟนหนุ่มคือร้าน McDonald’s และเธอกับเขาก็มักจะหาเวลาว่างมากินอะไรด้วยกันบ่อยๆ อีกอย่างคือบางครั้งพวกเขาก็เซอร์ไพรส์กันด้วยของกินอร่อยๆ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่ทันกินอะไรมา     ซึ่งเธอได้เคยบอกกับแฟนหนุ่มเล่นๆ ว่าเธอไม่ชอบช่อดอกไม้อยากจะได้เป็นช่อไก่นักเก็ตแทนจะได้ไหม!? ด้วยเหตุนี้ช่อไก่นักเก็ตพร้อมปีกไก่อีกเพียบจึงบังเกิดขึ้น เธอบอกภายหลังว่าเธอแค่แกล้งพูดกับเขาเล่นๆ แต่ไม่นึกว่าจะทำช่อนักเก็ตไก่มาให้จริงๆ   ซึ่งภาพถูกบันทึกโดยเพื่อนของเธอที่มาด้วยกันพร้อมกับโพสรูปลงทวิตเตอร์ทันที และหลังจากภาพช่อนักเก็ตไก่ได้ถูกทวิตออกไปก็มีกระแสตอบรับออกมาดีมากๆ เลยทีเดียว BradleyKiely1 นี้มันคือเป้าหมายของชีวิตชัดๆ   barry b benson ฉันยังรอวันที่ จะมีผู้ชายมาทำอะไรแบบนี้ให้บ้าง   ด้วยเหตุผลนี้ทางแมคโดนัลในฟิลิปปินส์ ก็เลยเชิญทั้งสองคนมาทานชุดอาหารสุดโรแมนติกที่ร้านซะเลย   สำหรับคู่รักไหนที่ชื่นชอบการกินเป็นชีวิตจิตใจ การทำช่อดอกไม้ของกินไปให้ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยนะเนี่ย เชื่อว่าคงมีสาวไหนหลายๆ คนอยากจะได้แบบนี้แน่ๆ ส่วนใครที่อยากติดตามเธอคนนี้เพิ่มก็ตามไปได้ที่ทวิตเตอร์เธอได้เลย @AnnikaAgs     ที่มา buzzfeed

  • กลุ่มสาวๆ เซลฟี่อยู่ เจอคุณยายพลัดหลงกับสามี ชวนมาเข้าแก๊งชะนีวัยรุ่นซะเลย!!

    กลุ่มสาวๆ เซลฟี่อยู่ เจอคุณยายพลัดหลงกับสามี ชวนมาเข้าแก๊งชะนีวัยรุ่นซะเลย!!

    เป็นปกติในยุคนี้ที่เวลาสาวๆ ออกไปเที่ยวที่ไหนก็อดใจไม่ไหวที่จะต้องหยิบมือถือออกมาถ่ายรูปเซลฟี่ ซึ่งสถานที่ยอดฮิตก็คงจะหนีไม่พ้นในห้องน้ำนั่นเอง Mahri Smith สาวสวยวัย 18 ปี ออกไปเที่ยวกับเพื่อนของเธอใกล้ๆ กับคาสิโนแห่งหนึ่งในเมืองออตตาวา ประเทศแคนาดา โดยเธอได้แวะเข้าห้องน้ำและแน่นอนเธอก็ไม่ลืมที่จะเซลฟี่ตามปกติที่เคยทำ     แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ ก็มีคุณยายท่านหนึ่งเดินเข้ามาและขออาสาเป็นคนถ่ายรูปให้เธอกับกลุ่มเพื่อนๆ จึงทำให้เธอประหลาดใจอย่างมาก โดยเธอได้เล่าว่า “คุณยายคนนั้นเข้ามาพูดและชมฉัน เหมือนกับว่าเราเป็นคนรุ่นเดียวกัน แถมเธอยังบอกว่า เธอคิดถึงสมัยก่อนตอนที่เธอยังอายุใกล้ๆ กับฉันว่า เมื่อก่อนเธอก็จะแต่งตัวและออกไปเที่ยวกับแฟนหนุ่มบ่อยๆ เธอคิดถึงความรู้สึกแบบนั้น”   นี้ก็เป็นภาพที่เธอทวิต ภาพถ่ายเซลฟี่ด้วยกันกับคุณยายในห้องน้ำแห่งนั้น   เธอไม่ได้ให้คุณยายถ่ายให้ แต่ชวนคุณยายมาเข้าแก๊งชะนีด้วยกันซะเลย   สุดท้ายคุณยายคนนั้นก็กลับเข้าไปในคาสิโน เพื่อตามหาสามีและกลุ่มเพื่อนของเธอที่มาด้วยกัน Mahri ได้บอกทิ้งท้ายไว้ว่า “มันเป็นเรื่องที่ดีมากจริงๆ แถมคุณยายแกก็ดูจะเป็นคนที่นิสัยดีมากๆ เลยด้วย” แต่ช่างน่าเศร้า ที่เธอไม่ได้ถามชื่อของคุณยายคนนั้นไว้ทำให้มิตรภาพครั้งนี้ต้องจบลงตรงนั้นนั่นเอง และหลังจากที่เธอทวิตออกไปก็ดูเหมือนว่า เหตุการณ์นี้จะโดนใจใครหลายๆ คนเลยทีเดียว มีคนกดถูกใจอย่างล้นหลาม     มีการรีทวีตภาพไปเกือบ 80,000 ครั้ง และกดถูกใจอีกเกือบ 300,000 ครั้งด้วย ตามภาพ คุณยายแกก็ดูจะมีความสุขจริงๆ นั่นและ ที่ได้คุยแลกเปลี่ยนความรู้สึกกับสาวๆ อย่างน้อยก็คงทำให้เธอได้รู้สึกกลับไปเป็นสาวอีกครั้ง…

  • ภารกิจช่วย Mister Pickle แมวจรที่มาขออาหารทุกวัน อยู่ดีๆ ก็หายไปแล้วกลับมาพร้อมแผลรถชน…

    ภารกิจช่วย Mister Pickle แมวจรที่มาขออาหารทุกวัน อยู่ดีๆ ก็หายไปแล้วกลับมาพร้อมแผลรถชน…

    Mister Pickle แมวจรจัดที่ถูกรถชนจนต้องเข้ารับการรักษาเป็นเงินมากกว่า 210,000 บาท จนทำให้มันได้พบกับครอบครัวใหม่ที่ทำให้ชีวิตของมันเปลี่ยนไป   เรื่องมันเริ่มขึ้นจากหญิงสาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Melissa Popham ซึ่งเธอทำงานอยู่ที่ร้านเพ็ทช็อปและได้เจอกับเจ้า Mister Pickle แมวจรจัดที่มันจะมาขออาหารเธอกินอยุ่เสมอ จนวันหนึ่งเจ้าแมวเหมียวได้หายไปนานถึง 5 วัน… หลังจากนั้นมันก็กลับมา แต่ไม่ได้มาแบบปกติ มันพร้อมกับสภาพที่เหมือนกับซอมบี้หยั่งกับว่าหลุดมาจากหนังสยองขวัญ จนเธอจะต้องเรียกเพื่อนร่วมงานของเธอมาช่วยกันทำแผลให้เจ้าเหมียวทันที พวกเขาสันนิษฐานว่ามันต้องจะต้องถูกรถชนเข้าแน่นอน ดูได้จากกรามที่หักและหนองที่ออกมาจากตัว…     แผลที่เกิดขึ้นกับมันหนักหนาพอสมควรเลยทีเดียว ทำให้มันต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 210,000 บาท แต่ว่า Melissa ก็ดูยินดีที่จะจ่ายค่ารักษานี้เพื่อช่วยเจ้าเหมียวให้รอดตาย ชีวิตของเจ้า Mister Pickle พลิกผันสุดๆ จากการเป็นแมวจรจัดใกล้ตาย ตอนนี้มันก็กลายเป็นแมวที่มีเจ้าของไปแล้ว แถมยังรักมันมากๆ อีกด้วย สุดท้าย Melissa ได้พูดทิ้งท้ายว่า “เจ้า Mister Pickle มันเป็นแมวที่ดีมากๆ เลยล่ะ มันไม่ใช่เป็นแค่สัตว์เลี้ยงแต่ยังเป็นเพื่อนรักของฉันอีกด้วย ฉันดีใจมากๆ ที่ได้มันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉัน”     พอเวลาผ่านไปสองเดือนเจ้าเหมียวก็ดูจะดีขึ้นเรื่อยๆ   หลังจากนั้น Melissa ก็พามันกลับมาอยู่บ้านด้วย แถมตอนนี้มันยังมีพี่ชายแล้วนะ   แถมมันยังดูรักกันมากๆ…

  • เมื่อเอาฟิกเกอร์โงกุน มารวมกับโฮโลกราฟิกสุดล้ำ กลายเป็นพลังคลื่นเต่าแบบสมจริงขึ้นมา!!

    เมื่อเอาฟิกเกอร์โงกุน มารวมกับโฮโลกราฟิกสุดล้ำ กลายเป็นพลังคลื่นเต่าแบบสมจริงขึ้นมา!!

      ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาฟิกเกอร์ได้พัฒนาขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งแบบที่น่าสนใจสุดๆ ก็คงจะเป็นฟิกเกอร์ที่มีตัวเอฟเฟคต่างๆ เพิ่มเข้ามาด้วย แต่ว่าทำไมเราถึงจะหยุดกันอยู๋แค่ฟิกเกอร์ที่มีเอฟเฟกนิ่งๆ ล่ะ? ในเมื่อเราสามารถทำมันได้ดีกว่านั้น เพราะในบางครั้งการมองตัวฟิกเกอร์ที่มีเอฟเฟคต์พลาสติกลอยออกมา มันก็ดูธรรมดาไปในบางครั้ง วันนี้เราเลยจะมาเพิ่มระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเอาฟิกเกอร์โงกุนธรรมดาๆ มารวมเข้ากับโฮโลกราฟิกนั่นเอง   ผลงานดังกล่าวเป็นการออกแบบของทาง  ZW Design ซึ่งต้องการออกแบบให้ฟิกเกอร์พระเอกดราก้อนบอลของเราเท่ไปอีกขึ้น เลยบรรจงสร้างเครื่องทรงปิรามิดขึ้นมาโดยเฉพาะ   เอาฟิกเกอร์ธรรมดาๆ ไปวางไว้ตรงกลางเครื่องฉายโฮโลกราฟฟิค   เตรียมชาร์จพลังคลื่นเต่า….   เพิ่มเอฟเฟคต์จากโฮโลกราฟิคเข้าไปอีกขั้นหนึ่ง   ยังไม่พอจัดไฟสีฟ้าเข้าไปอีก เพื่อความสมจริงและโอ้วว้าวมากยิ่งขึ้น   แบบภาพนิ่งมันยังไม่พอ จัดแบบภาพเคลื่อนไหวจากแชแนล ZW Design ไปเลย   นอกจากโงกุนแล้ว ซาสึเกะก็มีนะเออ…   เท่ไม่ยอกเลยทีเดียว ไม่คิดว่าแค่เพิ่มโฮโลกราฟฟิกเข้าไปจะเปลี่ยนฟิกเกอร์ธรรมดาๆ ให้ดูดีได้ขนาดนี้ยิ่งถ้าเพิ่มเสียงเข้าไปจะยิ่งแจ่มสุดๆ เลยล่ะ ที่มา rocketnews24

  • 20 ภาพถ่ายในประวัติศาสตร์ ที่ไม่มีในหนังสือเรียน แต่ก็ควรค่าแก่การรับรู้…

    20 ภาพถ่ายในประวัติศาสตร์ ที่ไม่มีในหนังสือเรียน แต่ก็ควรค่าแก่การรับรู้…

    ปกติแล้วภาพถ่ายประวัติศาสตร์ก็จะมีเยอะแยะมากมายต่างกันไป ซึ่งส่วนใหญ่ที่เราเห็นตามข่าวหรือหนังสือเรียน ที่จะได้เห็นเรื่องราวในหลักสูตรที่เปิดสอน แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องทีเดียวซึ่งไม่ได้มีสอนและเราอาจจะเผลอมองข้ามมันไป… แต่ถึงอย่างนั้นภาพประวัติศาสตร์ก็ยังคงเป็นภาพที่สามารถบอกได้ถึงอะไรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกความทรงจำรวมไปถึงความอยากรู้ ว่าเกิดอะไรขึ้นในภาพนั้นๆ จนบางทีเราก็สามารถมองมันได้เป็นชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนภาพที่จะเอามาให้ดูกันในวันนี้เป็นภาพที่หาดูทั่วไปได้ยากพอสมควรเลยทีเดียว อย่ารอช้ามาดูกันเลยดีกว่า…     ภาพของเรือ SS Normandie ที่พังลงมาบริเวณท่าเทียบเรือ Pier 88 ในนิวยอร์ค ภาพนี้เกิดขึ้นเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 1942   ภาพของ อาโนล ชวาสเนกเกอร์ เมื่อตอนอายุ 16 กับการประกวดเพาะกายครั้งแรกของเขา   ภาพความประทับใจของชาวประมงจากแม่น้ำวอลกาในรัสเซีย ที่จับปลาขนาดใหญ่ได้ในปี ค.ศ. 1924   ภาพของเด็กสาวชาวเอสกิโม กับลูกสุนัขฮัสกี้ของเธอ ในปี ค.ศ. 1949   ภาพของนักโต้คลื่นในปี ค.ศ. 1922 ที่สมัยก่อนกระดานโต้คลื่นยังเป็นไม้แผ่นอยู่เลย   ภาพของเหล่าไบเกอร์ในปี ค.ศ. 1960 ว่าแต่ไบเกอร์สาวในภาพนี้สวยคมดีจริงๆ   ภาพของเจ้าหนู ที่ได้ดูโทรทัศน์เป็นครั้งแรกผ่านกระจกร้านค้าในปี ค.ศ. 1948   ภาพของ James Naismith…

  • รวม 15 ภาพโฆษณาที่ดูรอบเดียวคงไม่พอ เพราะมันเตะตา จนต้องหันกลับมามองอีกรอบ..

    รวม 15 ภาพโฆษณาที่ดูรอบเดียวคงไม่พอ เพราะมันเตะตา จนต้องหันกลับมามองอีกรอบ..

    ในยุคที่โฆษณามีอยู่ทุกที่บนท้องถนน หรือตามป้ายบิลบอร์ดต่างๆ เราก็มักจะไม่ค่อยได้สนใจมันเสียเท่าไหร่ เพราะบางทีมันก็ดูธรรมดาไม่น่าสนใจ หรือไม่ก็เป็นอะไรที่ดูซ้ำไปซ้ำมาซะหมด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นักโฆษณาหลายๆ คน ต้องหาไอเดียและคตวามแตกต่างให้กับโฆษณาของตนเอง เพื่อสร้างงานอันเตะตาและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมากที่สุด อย่างเช่น 15 ภาพโฆษณาในวันนี้ ซึ่งต้องยอมรับถึงไอเดียของเหล่าคนคิดเลยล่ะ จะมีอะไรกันบ้างมาดูกันเลย….   โฆษณารณรงค์ ถ้าอนาคตข้างหน้า โลกขาดน้ำ เราจะยังดูมันไหลผ่านเฉยๆ แบบนี้อีกเหรอ   Boots leg and foot cream เพื่อหัวเข่าและเท้าที่ดูเซ็กซี่… (บอกว่าหัวเข่าก็ หัวเข่าดิ)     Splashdown Waterpark  สวนน้ำที่มันซะจนเสื้อผ้าอยู่ไม่เป็นที่   พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะจัดพิพิธภัณฑ์กลางคืน…..แต่ดูแล้วงานน่าจะดึกหน่อยนะ แวนโก๊ะยังต้องถ่างตาอยู่ หูฟัง AIAIAI “ที่ฟังแล้วจะรู้สึกเซ็กซี่ทันที”   “ตัว R กับ เด็ก คุณเห็นอะไรก่อน? ….ฉะนั้นขับรถก็หยุดพิมพ์ซะ”   ที่โกนหนวด Shick  “ปลดปล่อยมัน จากผิวหนังของคุณซะ”   ถุงยาง Durex “กล้องพร้อม…

  • ฝาแฝดคนละสีผิว “Kalani และ Jarani” กับโอกาสเกิดขึ้นเพียง 1 ใน 500 และก็น่ารักเสียจริงๆ

    ฝาแฝดคนละสีผิว “Kalani และ Jarani” กับโอกาสเกิดขึ้นเพียง 1 ใน 500 และก็น่ารักเสียจริงๆ

    ปกติแล้วเวลาคนเราเกิดขึ้นมาแล้วดันเป็นแฝด ความต่างที่จะเกิดขึ้นส่วนใหญ่ก็จะเป็น เพศ ที่ต่างกันหรือบางส่วนของหน้าตานิดๆ หน่อยๆ ที่ต่างกัน แต่จะมีโอกาส 1 ใน 500 เท่านั้นที่สีผิวจะต่างกันออกไป เรื่องนี้เกิดขึ้นกับทารกแฝดวัย 9 เดือนจากรัฐอิลลินอยส์ ได้รับการยืนยันแล้วว่ามีสีผิวที่แตกต่างกัน ซึ่งทั้งคู่มีชื่อว่า Kalani และ Jarani สีผิวของทั้งคู่ก็มาจากพ่อกับแม่ของเธอนั่นเอง     Kalani ได้รับผิวขาวมาจากแม่ของเธอ Whitney ที่เป็นชาวคอเคเชี่ยนส่วน Jarani ได้รับผิวสีมาจากพ่อของเธอ Tomas ที่เป็นชาวชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ซึ่งหลังจากที่ได้รับการยืนยันเรื่องสีผิวของลูกๆ แล้ว Whitney ผู้เป็นแม่ก็ได้ทำการโพสรูปลูกๆ ของเธอลงเพจของเธอพร้อมกับแคปชั่นว่า “พวกเราคือฝาแฝด โดยมีโครโมโซม Kalani อยู่ทางซ้าย และของ Jarani อยู่ทางขวา”   ภาพรวมกับคุณพ่อคุณแม่ ชุดแดงมาเชียว   แต่แม้สีผิวจะต่าง แต่ก็สังเกตได้ว่าหน้าตาของพวกเขาเป็นฝาแฝดกันแน่ๆ   ดูราเริงเชียวเจ้าหนู Jarani   อยากจะเห็นจริงๆ ว่าถ้าเจ้าหนูสองคนนี้โตไปจะเป็นยังไง   เรื่องผิวสีนี้ก็ดูจะชัดเจนตั้งแต่แรกๆ แล้วนะเนี่ย   เคสดังกล่าวก็เรียกได้ว่าเป็นเคสที่หายากจริงๆ สำหรับฝาแฝดที่มีผิวต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามมันก็มีความเป็นไปได้อยู่แล้วเพราะพ่อกับแม่ ไม่ได้เป็นคนเชื้อชาติเดียวกันนั่นเอง…

  • ไอเดีย “กางเกงในกาแล็กซี่” ดื่มด่ำไปกับห้วงอวกาศ เรืองแสงได้แม้ค่ำคืนที่มืดมิด

    ไอเดีย “กางเกงในกาแล็กซี่” ดื่มด่ำไปกับห้วงอวกาศ เรืองแสงได้แม้ค่ำคืนที่มืดมิด

    หลายๆ คนน่าจะชื่อชอบห้วงอวกาศหรือกาแล็กซี่อะไรพวกนี้ แล้วก็มีของสะสมเป็นของใช้ต่างๆ เช่นเสื้อ กางเกง รองเท้า หมวก หรืออื่นๆ อีกมากมาย แต่รับรองได้ว่าไอเทมประเภทนี้จะต้องยังไม่มีอยู่ในคอลเลคชั่นแน่นอน ของที่เรากำลังพูดถึงอยู่มันก็คือ กางเกงใน นั่นเอง ซึ่งเจ้ากางเกงในคอลเลคชั่นนี้จะมาพร้อมกับลานกาแล็กซี่ที่สวยงาม แถมยังสามารถเรืองแสงในที่มืดได้ด้วย!!   ดูดีใช่ไหมล่ะ?     เจ้ากางเกงในเรืองแสงนี้ ออกแบบโดย Make It Good Apparel ร้านค้าเสื้อผ้าในโอเรกอน ซึ่งทำสินค้าของทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทำให้กางเกงในนี้ก็เลยมีของทั้งสองเพศด้วย ใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติม รวมถึงเลือกซื้อกันได้ที่ร้าน makeitgoodapparel  กันได้เลยครับ…   แบบขาสั้นก็มีนะ หรือจะเป็นแบบขายาวดี?   ของผู้ชายก็มีเช่นกัน แต่ว่าเหมือนจะมีแค่แบบเดียวเนี่ยสิ ไฮไลท์หลักก็คือตอนเรืองแสงนี้แหละ สวยฟรุ้งฟริ้งเชียว   ก็เรียกได้ว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงแม้เราจะไม่ค่อยได้ใส่กางเกงในโชว์ใครก็เหอะ แต่ถ้าใครที่ชอบแนวนี้อยู่แล้ว ก็น่าโดนไม่น้อย!!!   ที่มา boredpanda

  • เมื่อกระรอก 2 ตัว ต้องมาแย่งชิง “วอลนัท” ลูกเดียวกัน มันเลยเกิดเป็นฉากต่อสู้สุดมันส์

    เมื่อกระรอก 2 ตัว ต้องมาแย่งชิง “วอลนัท” ลูกเดียวกัน มันเลยเกิดเป็นฉากต่อสู้สุดมันส์

    กระรอกเป็นผู้ที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นสัตว์ที่ชื่นชอบในการเก็บสะสมอาหารที่หามาได้ ไม่ใช่เฉพาะปกป้องจากกระรอกด้วยกันเท่านั้น แต่รวมถึงจากพวกนก และสัตว์ตัวอื่นๆ ที่จะมาขโมยอาหารของพวกมันด้วยเช่นกัน ภาพที่จะโชว์ให้ดู เป็นภาพที่กระรอกสองตัวสู้กันอย่างดุเดือด เพื่อแย่งชิงอาหารกัน แต่ถ้าจะดูแค่มันสู้กันก็คงจะธรรมดาไป เพราะว่าท่าทางที่พวกมันสู้กันนั้น ประดุจดั่งว่าใช้วิชานินจาและกังฟู เข้าห้ำหั่นกันเลยทีเดียว เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกภาพไว้โดย  Martin Docker เขาบอกว่าปกติแล้วกระรอกจะมีหลุมเก็บอาหารเป็นของตัวเอง และมันจะเก็บรักษาลูกนัทอย่างดี แต่ถ้ามีสักตัวเข้ามายุ่มย่ามกับอาหารของมันล่ะก็ จะเกิดเป็นฉากบู๊อย่างที่เรากำลังจะได้เห็นนี่แหละ…   เจอลูกเตะลอยฟ้าหน่อยเป็นไง!!   วิชาลับ คมเขี้ยวกระรอก!!   ฝามือกระรอกบินน!!   สู้ไม่ได้ต้องเจอนี่…  ท่าไม้ตายกระรอกบดไข่   จากข้อมูลระบุว่าในศึกแย่งอาหาร สัตว์ชนิดอื่นยากที่จะเข้าไปแย่งมาได้เพราะกระรอกมีสายตาที่เฉียบคม จึงทำให้ส่วนใหญ่กระรอกจะสู้กับกระรอกด้วยกันเองเป็นส่วนมาก เพราะว่าพวกมันสามารถที่จะขาดเดาได้ว่า คลังเสียงของกระรอกตัวอื่นเก็บไว้ที่ไหน ท่าทางการสู้ของพวกมันก็เท่ไม่หยอกเลยนะเนี่ย เรียนมาจากสำนักไหนกันนะ จะไปฝากตัวเป็นศิษย์สักหน่อย!!!   ที่มา mirror

  • หญิงสาวถูก “งูน้อย” ที่เลี้ยงไว้เข้าไปในรูเจาะหู กลายเป็นต่างหูมีชีวิต แบบน่าขนลุกซะงั้น!!

    หญิงสาวถูก “งูน้อย” ที่เลี้ยงไว้เข้าไปในรูเจาะหู กลายเป็นต่างหูมีชีวิต แบบน่าขนลุกซะงั้น!!

    ปกติแล้วก็น่าจะมีหลายคนที่ชื่นชอบในการเจาะตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะปาก จมูก หรือหู แต่ส่วนที่นิยมเจาะกันให้เป็นรูกว้างๆ มากที่สุดก็คงไม่พ้น หู อย่างแน่นอน หญิงสาวคนนี้ก็เช่นกัน เธอมีชื่อว่า Ashley Glawe เธอก็เป็นหญิงสาวธรรมดาๆ ที่ชอบเจาะหูไว้ใส่ต่างหูเท่ๆ ตามแฟชั่น และเธอก็เลี้ยงงูเอาไว้ตัวหนึ่งด้วย ซึ่งสิ่งที่ทำให้เธอดังทั่วโลกออนไลน์ในช่วงข้ามคืนก็เพราะ เธอได้โพสต์ภาพของเธอที่มีงูเข้าไปอยู่ในรูติ่งหูของเธอ พร้อมกับสภาพที่เธออยู่บนเตียงของห้องฉุกเฉิน     เธอได้อธิบายเพิ่มว่า “ฉันกำลังถือเจ้า Bart อยู่ดีๆ เจ้างูบ้านี้มันก็เห็นรูที่ติ่งหูของฉัน มันคงคิดว่าเป็นไอเดียที่ดีถ้าจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในรูนั้น” “มันเกิดขึ้นไวมากจนฉันไม่ทันตั้งตัว กว่าจะรู้ตัวมันก็เข้าไปอยู่ในรูที่ติ่งหูของฉันแล้ว รู้อีกทีฉันก็มานั่งอยู่ในห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลซะงั้น”     เรื่องราวของเธอดังซะจนเป็นข่าวทางทีวีเลยด้วย   อีกข่าวหนึ่ง ซึ่งเธอแชร์ลงมาหน้าเฟซบุ๊คของเธอเอง   ลองไปดูตัวอย่างคอมเม้นท์ที่ชาวเน็ตต่างพูดถึง เมื่อได้เห็นภาพแฟชั่นใหม่ของเธอ   ภาพนี้ใช้ Photoshop แน่ๆ ซึ่งก็อย่างที่เรารู้กันว่ามันคือของจริง!!   หรือจะเป็นคอมเมนท์นี้ที่แนะนำให้เธอใช้เป็นรูปโปรไฟล์ซะเลย   ตอนนี้ทางทีมแพทย์ก็ช่วยเอางูออกมาจากหูได้อย่างปลอดภัย แต่อย่างน้อยเราก็น่าจะได้เทรนด์แฟชั่นใหม่ขึ้นมาแน่ๆ หรือใครสนใจจะเอาไปเป็นไอเดียทำจิวเวอร์รี่ ไหม? ใครสนใจก็สามารถไปติดตามเธอได้ที่เฟสบุ๊คของเธอได้เลย Ashley Glawe ที่มา distractify

  • ชายหนุ่มมาโชว์ความสามารถ “แร็ป” ติดต่อกัน 77 วินาที โดยหายใจเพียงแค่ครั้งเดียว!!

    ชายหนุ่มมาโชว์ความสามารถ “แร็ป” ติดต่อกัน 77 วินาที โดยหายใจเพียงแค่ครั้งเดียว!!

    บ่อยครั้งที่เราเห็นผู้คนมากมายออกมา แร็ปแข่งกัน บ้างก็แร็ปแข่งความเจ๋งของคำ บ้างก็แข่งแร็ปไว แต่ว่ามีชายคนหนึ่งที่ล่าสุดเขาออกมาแร็ปติดต่อกันนานถึง 77 วินาที โดยเขาหายใจเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งหลายๆ คนน่าจะเคยเห็นชายคนนี้ผ่านตากันมาบ้าง ชื่อของเขาคือ Mac Lethal โดยนายคนนี้ทำคลิปแร็ปมาเยอะมากๆเลยล่ะ เอาเป็นว่าเรามาดูคลิปที่ว่ากันก่อนดีกว่า   คลิปเริ่มประมาณ 03.25 นะครับ   จะเห็นได้ว่าก่อนที่จะเริ่มแร็ป เขาอธิบายถึงวิธีการที่เขาสามารถกลั่นหายใจได้นานๆ โดยวิธีนี้เรียกว่า Wim Hof Method ซึ่งเป็นวิธีที่มาจากนายคนหนึ่งที่ชื่อว่า Wim Hof Wim Hof เป็นนักวิ่งท้าตายที่วิ่งอยู่ในอากาศหนาว เขามีเทคนิคที่ทำให้ตัวเขาสามารถปรับเปลี่ยนอุณหภูมิในร่างกายได้ รวมถึงยังคิดค้นวิธีการควบคุมลมหายใจเฉพาะตัวออกมา วิธีการนั้นทำโดย โดยการหายใจเฮือกใหญ่แล้วค่อยๆ ปล่อยออกมา ซึ่งเขาบอกว่ามันเป็นเทคนิคเฉพาะที่ควรจะอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ เพราะมันอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณได้เช่นกันหากฝึกอย่างผิดวิธี     ภาพของคุณ Wim Hof   ถึงแม้ท้ายที่สุดเขาจะตั้งเป้าไว้ที่ 90 วินาที แต่เขาก็ทำได้แค่ 77 วินาทีเท่านั้น แต่ว่าการแร็ปติดต่อกันโดยหายใจแค่หนึ่งครั้ง ได้ขนาดขนาดนี้ก็ต้องบอกว่าเขาสุดยอดจริงๆ ส่วนคลิปอื่นๆ ที่น่าสนใจของเขาและมียอดวิวสูงที่สุดถึง 35 ล้านครั้งครั้งเลยทีเดียวใครที่สนใจก็เข้าไปดูช่องของเข้าได้ที่ Mac Lethal ที่มา twistedsifter

  • เมื่อ D.Va จาก Overwatch กลายเป็นตัวแทนของสิทธิสตรี ในการรณรงค์ที่เกาหลีใต้!!

    เมื่อ D.Va จาก Overwatch กลายเป็นตัวแทนของสิทธิสตรี ในการรณรงค์ที่เกาหลีใต้!!

    การเดินขบวนประท้วงสิทธิของสตรีต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาและทั่วทั้งโลก ไม่ว่าจะเป็น ยุโรป ออสเตรเลีย และที่อื่นๆ ของโลกก็ก็ยังมีการรวมตัวออกมาประท้วงในเรื่องนี้ แต่ว่ามีอยู่ประเทศหนึ่งที่แปลกกว่าที่อื่นๆ นั่นก็คือการประท้วงใน กรุงโซล ที่เลือกจะหยิบสัญลักษณ์ของตัวละคร D.Va จากเกมชื่อดังอย่าง Overwatch มาเป็นสัญลักษณ์ท้วงสิทธิของสตรีในครั้งนี้     โดยกลุ่มผู้ประท้วงที่ใช้สัญลักษณ์ D.Va ในการประท้วงได้ใช้ชื่อกลุ่มของพกวเขาว่า For D.Va หรือชื่อเต็มก็คือ The National D.Va Association ซึ่งทางเพจของคนกลุ่มนี้ได้พูดถึงที่มาของพวกเขาว่า “For D.Va (The National D.Va Association) ในตอนแรกถูกตั้งโดยกลุ่มเรียกร้องสิทธิสตรีที่เป็นเกมเมอร์ โดยพวกเราได้รวมตัวกันเพื่อที่จะกระจายความคิดของพวกเราหลังจากที่ประธานาธิบดี พัก กึน ฮเย ได้ถูกถอดถอนออกจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหลังจากนั้นพวกเราก็ตัดสินใจที่จะยังไม่ยกเลิกกลุ่มนี้ แต่จะยังคงสู้เพื่อสิทธิของสตรีต่อไป” ตั้งแต่นั้นมากลุ่ม For D.Va ก็ยังคงต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิและเสรีภาพของสตรีในกรุงโซล เพื่อให้คนมองเห็นปัญหาของสิทธิและเสรีภาพของสตรีนั่นเอง   ภาพของเข็มกลัดรวมถึงสติ๊กเกอร์ของกลุ่ม For D.Va พร้อมกับคำพูดประจำตัวของ D.va นั่นก็คือ Neft This!   ส่วนนี้ก็คือภาพของธงที่พวกเธอใช้ในการประท้วงซึ่งจะเป็นว่ามีสัญลักษณ์กระต่ายของ D.Va…

  • ประเทศเดนมาร์ก ขอคนไทยช่วยโครงการ Help a Dane เพื่อให้คนเดนนิชเป็นมะเร็งน้อยลง

    ประเทศเดนมาร์ก ขอคนไทยช่วยโครงการ Help a Dane เพื่อให้คนเดนนิชเป็นมะเร็งน้อยลง

    เป็นปกติอยู่แล้วของชาวต่างชาติที่จะชื่นชอบในการอาบแดดเป็นชีวิตจิตใจ แน่นอนว่าสำหรับชาวเดนมาร์กก็เช่นกัน พวกเขาเป็นชาติที่ชอบที่จะอาบแดดเป็นอย่างมาก… ด้วยความที่ว่าประเทศเดนมาร์กมีช่วงเวลากลางวันที่ยาวนานพระอาทิตย์จะตกในเวลา 4 ทุ่ม แถมอากาศก็ไม่ร้อนมากเพราะในช่วง กรกฎาคม-สิงหาคม อากาศจะเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 20-25 องศา จึงทำให้ชาวเดนมาร์กติดนิสัยการชอบอาบแดดนั่นเอง     แต่เมื่อชาวเดนมาร์กมีนิสัยที่ชอบในการอาบแดด ซึ่งเมื่อต้องออกเดินทางในต่างประเทศที่มีอากาศร้อนพวกเขาก็ยังไม่ลืมที่จะอาบแดดอยู่ดี แต่หารู้ไม่ว่าการอาบแดดที่แรงและร้อนเป็นระยะเวลาติดกันมากๆ จะทำให้เป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ง่าย     ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ประเทศเดนมาร์ก เกิดแคมเปญหนึ่งขึ้นมาซึ่งใช้ชื่อว่า Help a Dane เพื่อขอความช่วยเหลือจาก ประเทศอื่นๆ เพราะชาวเดนมาร์กมีอัตราเสียชีวิตจากโรคมะเร็งผิวหนังเป็นจำนวนมาก พวกเขาอยากให้คนไทยซึ่งเป็นคนท้องถิ่น เมื่อพบหรือรู้ว่านักท่องเที่ยวอาบแดดเป็นชาวเดนมาร์กที่เสี่ยงอันตรายนั้น ช่วยเตือนพวกเขาให้ป้องกันตัวเองด้วย ไม่ว่าจะด้วยวิธีการบอกให้พวกเขา ทาครีมกันแดด ใส่หมวก กางร่ม หรือเตือนให้พวกเขาไม่อาบแดดนานจนเกินไป     เราอาจจะมองว่าทำไมพวกเขาไม่แก้ปัญหากันเอง แต่ด้วยความที่พวกเขาติดนิสัยจากชีวิตประจำวันของเขามา อาจจะทำให้พวกเขาลืมตัวไปได้หรืออาจจะไม่รู้ว่าแดดบ้านเราแรงขนาดไหน แคมเปญนี้จึงร้องขอให้คนจากทุกๆ ชาติช่วยชาวเดนมาร์กด้วยอีกแรง ฉะนั้นใครที่รู้จักหรือเป็นไกด์ท่องเที่ยวอยู่ ช่วยวอนบอกพวกเขาด้วยว่า แดดที่ไทยมันแรงมาก ควรป้องกันตัวเองหรืออาบแดดแต่พอดี เท่านี้ก็สามารถช่วยชีวิตเพื่อนร่วมโลกจากการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้แล้ว     ใครที่สนใจอยากจะดูเกี่ยวกับแคมเปญนี้เพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูได้ที่เฟสบุ๊คเพจ Help a Dane หรือใครที่สนใจอยยากจ็ะเป็นอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือชาวเดนมาร์กก็สามารถเข้าไปสมัครได้ที่เว็ปไซต์ helpadane ได้เลยครับ   คลิปของโครงการ ซึ่งเป็นภาษาไทยซะด้วย…  …

  • เผยความรู้สึก “โทชิโอะ ซูซูกิ” คิดอย่างไรเมื่อ Your Name เป็นอนิเมะทำเงินสูงสุดแทนที่ Spitired Away

    เผยความรู้สึก “โทชิโอะ ซูซูกิ” คิดอย่างไรเมื่อ Your Name เป็นอนิเมะทำเงินสูงสุดแทนที่ Spitired Away

    หลังจากที่ Your name ดังถล่มทลายไปแล้วทั่วโลก จนตอนนี้เรียกได้ว่ารายได้พุ่งทะยานจนแซงอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดในญี่ปุ่นอย่าง Spitired Away ไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งได้นักข่าวจากนิตยสาร Shukan Bunshun ตามไปบทสัมภาษณ์ โทชิโอะ ซูซูกิ ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Studio Ghiubli เกี่ยวกับความคิดเห็นของเขา และให้เขาตอบว่าเมื่อ Spitired Away จากสตูดิโอของเขา ที่เคยสร้างรายได้ถล่มทลายไปเมื่อ 16 ปีที่แล้ว ถูกล้มแชมป์ไปในปัจจุบัน…   แต่แทนที่จะรู้สึกแย่ทาง โทชิโอะ ซูซูกิ ก็ได้ออกมาบอกในทำนองว่า เขาไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไร แต่กลับรู้สึกดีเสียด้วยซ้ำที่จะมีอนิเมะดีๆ ออกมา และสามารถทำเงินได้สูง ซึ่งนอกจากนี้จากบทสัมภาษณ์ยังได้ถามอีกว่า แล้วถ้า Your Name สามารถที่จะแซง และกลายเป็นอนิเมะที่ทำเงินระดับโลกได้มากกว่า Spitired Away ล่ะ เขาจะรู้สึกยังไง   “ถ้าวันนั้นมาถึง ผมก็ไม่คิดว่าผมจะรู้สึกแย่อะไรนะ ผมรู้สึกว่ามันดีนะ ที่เราได้อยู่ในอันดับสูงสุด แต่ผมก็คิดไว้อยู่แล้วว่า ในอนาคตมันจะต้องถูกแซงเข้าสักวันหนึ่ง” “และมันจะไม่น่าตื่นเต้นเลยเหรอ ถ้ามีใครมาทำลายสถิติของคุณได้?” โทชิโอะ ซูซูกิ ได้สัมภาษณ์ ปิดท้ายไว้อย่างน่าสนใจ   **(บทสัมภาษณ์มาก่อนหน้า และถูกตีพิมพ์ในวันที่ 26…

  • ใครจะคิดว่า “เป็ด” จะมาเป็นเพื่อนซี้กับ “เด็กน้อย” ได้ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ

    ใครจะคิดว่า “เป็ด” จะมาเป็นเพื่อนซี้กับ “เด็กน้อย” ได้ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ

    ปกติแล้ว เป็ด จะถูกเลี้ยงไว้เป็นอาหาร ไม่ก็ไว้ออกไข่ให้เรากินกัน น้อยครั้งที่เราจะได้เห็นเป็ด เป็นสัตว์เลี้ยงเช่นเดียวกับหมาหรือแมว อย่างที่เราเห็นกันอยู่ปกติทั่วไป แต่ไม่ใช่สำหรับเจ้าเป็ดตัวนี้มีชื่อว่า Nibbles มันอาศัยอยู่กับคนเป็นปกติเหมือนสัตว์เลี้ยงทั่วไป ซึ่งมันชอบที่จะไปส่งเด็กๆ ของครอบครัวที่เลี้ยงมันอยู่ไปโรงเรียนเป็นประจำ รวมถึงไปรอรับกลับจากโรงเรียนด้วย   นี่คือเรื่องราวของเจ้า Nibbles   และครอบครัวหรรษา โดยมี Jonny เป็นพระเอก…   เมื่อเจ้า Nibbles เห็นเด็กๆ ดูมันจะดีใจมากๆ เลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น Nibbles ยังดูจะสนิทกับ Jonny มากกว่าคนอื่นในบ้านเสียอีก ดูได้จากคลิปส่วนมาก มันจะชอบอยู่กับเขาบ่อยๆ   อย่างเช่นคลิปวิดีโอตอนที่เจ้า Nibbles นั่งรถไปกับคุณแม่เพื่อรับ Jonny กลับจากโรงเรียน   Nibbles ชอบที่จะอยู่กับเขามากๆ เลยล่ะ ส่วนเขาก็ดูจะรักเจ้าเป็ดตัวนี้มากๆ เช่นกัน   แถมมันยังเต้นได้ด้วยนะเออ   ใครที่ชอบหรืออยากจะ ติดตามความน่ารักของเจ้าเป็ด Nibbles สามารถเข้าไปติดตามเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ค The Adventures of Jonny and Nibbles หรือยูทูปชาแนล Jamie Toschi ได้เลยครับ…  …

  • 8 นวัตกรรมเจ๋งๆ ที่มีขายในญี่ปุ่น และมันช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ราวกับอยู่ยุคอนาคต..

    8 นวัตกรรมเจ๋งๆ ที่มีขายในญี่ปุ่น และมันช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ราวกับอยู่ยุคอนาคต..

    โลกในยุคนี้มันจะมีนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงไอเดียใหม่ๆ ออกมาให้ได้เห็นกันบ่อยๆ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีที่โลกของเราจะได้มีอะไรใหม่ๆ เจ๋งๆ ออกมาให้เราใช้อยู่เสมอๆ วันนี้ก็เลยจะขอหยิบ 8 นวัตกรรมที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้ดูกัน…   สมาร์ทแทค โดย “MAMORIO” ที่จะช่วยป้องกันของหาย สั่งซื้อได้ที่นี่ ราคาประมาณ 1,200 บาท   เจ้าสมาร์คแทคตัวนี้ มันจะมาช่วยให้เราสามารถตามหาสิ่งของต่างๆ ของเราได้ ซึ่งเราสามารถพกติดกับพวกกุญแจ หรือห้อยติดกระเป๋าของเราไปได้ เวลาเราทำของพวกนี้หายหรือลืมไว้ที่ไหน ก็แค่ใช้สมาร์ทโฟนที่ติดตั้งโปรแกรมของ MAMORIO เท่านี้เราก็สามารถที่จะตามตัวเจ้า สมาร์ทแทค อันนี้ได้นั่นเอง   หูฟังจาก VIE SHAIR เราจะไม่เจ็บหูเมื่อสวมเฮดโฟนนานๆ อีกต่อไป สั่งซื้อได้ที่นี่ ราคาประมาณ 12,000 บาท     เฮดโฟนตัวนี้มีชื่อว่า VIE SHAIR ความพิเศษของหูฟังตัวนี้ก็คือ มันจะมาพร้อมกับส่วนที่เรียกว่า Air frame ซึ่งจะช่วยปกป้องหูของเรา ที่ในบางครั้งเราสวมใส่เฮดโฟนไปนานๆ เราจะรู้สึกว่าเฮดโฟนมันรัดหูจนเจ็บ     Qrio Smart Lock ประตูที่ไม่ต้องใช้กุญแจ สั่งซื้อได้ที่นี่ ราคาประมาณ 6022 บาท…

  • จากเจ้าเหมียวที่ถูกเจ้าของเก่าทิ้ง กลายมาเป็นพี่เลี้ยงหนูน้อย 2 ขวบ เกิดมิตรภาพน่ารักๆ

    จากเจ้าเหมียวที่ถูกเจ้าของเก่าทิ้ง กลายมาเป็นพี่เลี้ยงหนูน้อย 2 ขวบ เกิดมิตรภาพน่ารักๆ

    เมื่อเจ้าเหมียวตัวอ้วนวัย 2 ขวบ ที่มีชื่อว่า Larry กลายเป็นที่ไม่ต้องการของเจ้าของเก่า แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ฟังดูแย่ แต่อาจจะเป็นโชคชะตาของมันให้มาเจอกับเจ้าของใหม่ที่ดีกว่าก็ได้ แต่แล้วเมื่อเจ้าเหมียว ได้มาเจอกับ Abel เด็กตัวน้อยๆ ในบ้านหลังใหม่ ที่ตัดสินใจอุปการะมัน มันจึงกลายเป็นเพื่อนรักของเด็กน้อยในทันที     แม่ของ Abel ได้เล่าว่า “ฉันอยากได้แมวสีส้มมานานแล้ว จนกระทั่งเพื่อนฉันบอกว่า อยากกำจัด Larry เจ้าเหมียวอ้วนสีส้มตัวนี้ซะ เพราะว่ามันดันแอบไปกินอาหารในตู้ พวกเขาเลยไม่อยากเลี้ยงมันอีกต่อไป”  “วันแรกที่ Abel กลับมาถึงบ้าน เจ้า Larry ก็ตกหลุ่มรักเขาทันที และคำพูดแรกที่เขาพูดถึงเจ้าเหมียวก็คือ ‘Yarry’ “     หลังจากที่ปรับตัวเข้าหากัน ไม่ว่า Abel จะไปที่ไหน Larry ก็จะตามไปด้วยทุกที่ และถ้าเขาร้องไห้เจ้าเหมียวก็จะรีบไปปลอบทันที   แม่ของ Abel ยังบอกว่า พวกเขามีแมวมาแล้วก็หลายตัวแต่ Larry เนี่ยพิเศษกว่าตัวไหนๆ ที่เคยมีมาเลยล่ะ มันทำในสิ่งที่แมวอื่นๆ ไม่ทำ แม้มันจะอ้วนไปสักหน่อย แต่มันก็เข้ากับเจ้าหนูได้ดีที่สุด และเมื่อเขาโตขึ้น…

  • ความแตกต่างระหว่าง “การมองเห็น” ของเด็กแรกเกิด ไปจนถึง 1 ขวบ พวกเขามองเห็นอย่างไร!?

    ความแตกต่างระหว่าง “การมองเห็น” ของเด็กแรกเกิด ไปจนถึง 1 ขวบ พวกเขามองเห็นอย่างไร!?

    เกือบทุกครั้งที่มีเด็กเกิดออกมา พ่อแม่ของพวกเขาก็อยากจะทำเรื่องดีๆ เพื่อสร้างความทรงจำดีๆ ให้กับลูกน้อยได้เห็นแต่ว่าเราเคยสังสัยกันไหม  แล้วเด็กในช่วงแรกเกิดจนถึง 1 ขวบ พวกเขาจะมองเห็น หรือเห็นอย่างที่เราอยากให้เห็นหรือไม่!?     ล่าสุด Mr. Romesh Angunawela ผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการผ่าตัดตา ประจำ Moorfields Eye Hospital ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการมองเห็นของเด็ก ตั้งแต่ช่วงแรกเกินไปจนถึง 1 ขวบ ว่าจริงๆ แล้วเมื่อเด็กเกิดออกมาจะมีการมองเป็นยังไง Mr.Romesh ยังได้บอกอีกว่า เมื่อเด็กๆ เกิดออกมาแล้วพวกเขาจะยังไม่สามารถมองเห็นหน้าของพ่อแม่เด็กได้ แต่ว่าจะเป็นเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกเท่านั้น หลังจากนั้นสมองส่วนการมองเห็น จะเริ่มสั่งการให้เด็กเรียนรู้และรับข้อมูลการมองเห็นให้ดียิ่งขึ้น “เด็กแรกเกิดจะมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดในระยะ 10 เซนติเมตร เพียงเท่านั้น พวกเขาจะค่อยๆ มองเห็นได้ชัดขึ้นเมื่อพวกเขาโตขึ้น” Mr.Romesh ได้กล้าวเสริม   นี้คือภาพที่เด็กมองเห็น ในช่วงแรกเกิด จะเห็นได้ว่าในระยะไกลกว่า 10 เซนติเมตรนั้น เบลอจนแทบจะไม่เห็นอะไรเลย   นี้คือภาพการมองเห็นของเด็กช่วงอายุ 6 เดือน จะเห็นว่าเด็กเริ่มที่จะมองเห็นรอบข้างได้เยอะขึ้น และยังรับรู้ถึงสีได้ด้วย แต่ก็ยังไม่ชัดทั้งหมด   ภาพนี้เป็นภาพที่เด็กมองเห็นหลังจากมีอายุครบ 1…

  • อุทาหรณ์สอนใจ… หนุ่มขับรถพร้อม “ดูหนังโป๊ & สไลด์หนอน” จนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

    อุทาหรณ์สอนใจ… หนุ่มขับรถพร้อม “ดูหนังโป๊ & สไลด์หนอน” จนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

    อุบัติเหตุบนท้องถนนสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แถมในปัจจุบันก็เกิดขึ้นได้ง่ายและบ่อยมากๆ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะด้วยความประมาทของเรา พื้นถนน สภาพอากาศ หรือคู่กรณีที่มาชนเราก็ตามซึ่งใครๆ ก็คงไม่อยากให้มันเกิดขึ้นแน่นอน แต่ว่าเรื่องที่จะมาพูดถึงกันในวันนี้เป็นข่าวอุบัติเหตุที่ #เหมียวมู่ทู่ บังเอิญไปเจอมาพอดี แน่นอนว่ามันไม่ใช่ข่าวอุบัติเหตุทั่วๆ ไปที่เกิดขึ้นได้บ่อยแน่นอน     เรื่องมันมีอยู่ว่านาย Clifford Ray Jones วัย 58 จากเมืองมิชิแกน ได้เกิดอุบติเหตุรถพลิกคว่ำในตอนรุ่งเช้าวันอาทิตย์ หลังจากที่ตำรวจได้รับทราบข่าวก็รีบไปยังที่เกิดเหตุทันที และเมื่อตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ ตำรวจถึงกับต้องกุมขมับเลยทีเดียวเพราะจากหลักฐานหลายๆ อย่างตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุการตายเขามาจากการดูหนังโป๊และช่วยตัวเอง!? จากหลักฐานในที่เกิดเหตุพบว่านาย Clifford ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยแต่อย่างใด ทำให้เมื่อรถพลิกคว่ำตัวเขากระเด็นออกมาจากรถนั่นเอง แต่ที่สำคัญศพของเขาไม่ได้สวมกางเกงอยู่ด้วยพร้อมมือถือที่มีหลักฐานวิดีโอโป๊ ตำรวจจึงสันนิษฐานสาเหตุการตายของเขาน่าจะมาจากการที่เขากำลังดูหนังโป๊ในมือถือขณะขับรถ พร้อมกับช่วยตัวเองไปด้วย     จากการสัมภาษณ์ของสำนักข่าว ดีทรอยต์ ที่ได้สัมภาษณ์ Mike Shaw ร้อยโทของกรมตำรวจเมืองมิชิแกน ที่พูดถึงสาเหตุการตายส่วนมากบนท้องถนนว่า “จากสาเหตุการตายที่พวกเราเจอบ่อยๆ มักจะมาจากการไม่มีสมาธิขณะขับรถไม่ว่าจะมาจาก ปัญหาสุขภาพ อ่านหนังสือ แต่งหน้า รวมทั้งในยุคนี้ เทคโนยีสามารถเข้าถึงได้ง่ายดายจึงทำให้คนไปจดจ่อกับสิ่งอื่นมากกว่าที่จะมีสถาธิอยู่กับการขับรถ”     สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะยังเราก็ควรจะมีสติตลอดเวลาในขณะที่กำลังขับรถ เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุไปนอกจากตัวเราที่จะบาดเจ็บแล้ว ทั้งคนรอบข้างรวมถึงคนอื่นที่ใช้ถนนร่วมกับเรา อาจจะได้รับผลกระทบด้วยนะ ยังไงซะก็ควรตั้งสติกับการขับรถให้ดีเป็นอันดับแรก อุบัติเหตุจะได้ไม่เกิดบนท้องถนนอีก…

  • ถึงกับงง เมื่อโลกออนไลน์แชร์ภาพเจ้าชายซาอุดีอาระเบีย ซื้อตั๋วเครื่องบินให้เหยี่ยวกว่า 80 ที่!!

    ถึงกับงง เมื่อโลกออนไลน์แชร์ภาพเจ้าชายซาอุดีอาระเบีย ซื้อตั๋วเครื่องบินให้เหยี่ยวกว่า 80 ที่!!

    สมมุติว่าเรามีสัตว์เลี้ยงจำนวนมาก แถมเรายังรวยเละ อีกตะหาก เราจะขนย้ายพวกมันยังไงกันดี? ล่าสุดได้มีสมาชิกเว็ปไซต์ Reddit นามว่า lensoo ได้โพสรูปพร้อมบอกว่า เพื่อนที่เป็นกัปตันบนเครื่องบินได้ส่งรูปเจ้าชายจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่ซื้อตั๋วเครื่องบินให้นกของเขาทั้งหมด 80 ตัว!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนเครื่องบินของสายการบินแห่งหนึ่ง จากภาพจะเห็นได้ว่ามีเหยี่ยวจำนวนมากนั่งอยู่บนที่นั่งของผู้โดยสารปกติ     หลังจากที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำให้เกิดเสียงตอบรับแตกต่างกันไป เช่น Mithridates12 “เหตุการณ์แบบนี้เนี่ย มันไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกนะ มีคนเคยโพสแบบเดียวกันเมื่อ 4 ปีที่แล้วด้วย” พร้อมกับแนบรูปมา aussie_engi “เป็นที่ชัดเจนว่าสายการบินในรูป ไม่ใช่ชั้นประหยัดแน่ๆ ของ Qatar Airline แน่ๆ เพราะว่า Qatar จำกัดให้เอานกขึ้นไปได้แค่ 6 ตัวเท่านั้น “ หรือจะเป็นแนวตลกๆ แบบที่ winxpmasterrace “เขาไม่รู้เหรอว่านกเนี่ยมันก็บินได้” qwerty-confirmed “ผมจะไม่ยอมให้นก มาเอาเครื่องบินของผมไปบินแน่นอน”     แถมพอ#เหมียวมู่ทู่ ยิงขุดลงไปเรื่อยๆ ก็พบว่าการพานกขึ้นเครื่องแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยสำหรับสายการบิน Etihad,Emirates หรือ Qatar เพราะถ้าได้เดินทางกับสายการบินนี้บ่อยๆ ก็จะเจอคนพานกขึ้นเครื่องมาบ่อยๆ เลยล่ะ     ซึ่งเมื่อสืบหาข้อมูลเพิ่มเติมลงไปอีกก็พบว่าเหยี่ยวในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะต้องมีพาสปอร์ตได้ด้วยนะ เพราะว่าเหยี่ยวพวกนี้สามารถทำเงินได้มากถึงตัวละ…

  • เหล่าลูกแร็คคูนวัยแบเบาะ ต้องเสียแม่ไปเพราะ “กับดักมนุษย์” แต่มันถูกช่วยเหลือแล้ว…

    เหล่าลูกแร็คคูนวัยแบเบาะ ต้องเสียแม่ไปเพราะ “กับดักมนุษย์” แต่มันถูกช่วยเหลือแล้ว…

    มีชายคนหนึ่งในฟลอริด้าได้วางกับดักไว้บนห้องใต้หลังคาของเขา เพื่อที่จะจัดการเจ้าแรคคูนที่มาป่วนเปี่ยนบนนั้น แต่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเมื่อเขาได้รู้ว่า เขาได้ทำเรื่องที่เลวร้ายมากๆ ลงไปแล้วนั่นเอง เขาไม่รู้เลยว่าเจ้าแรคคูนตัวนั้น ได้มาทำรังอยู่บนห้องใต้หลังคาของเขา และกำลังให้กำเนิดลูกน้อยในรังของมัน นั้นก็หมายถึงว่าชีวิตของพวกมันจะอยู่รอดได้ก็ขึ้นอยู่กับแม่ของมัน ซึ่งก็คือแรคคูนตัวนั้นก็ได้ถูกเขาฆ่าตายนั้นเอง ดังนั้นเขาจึงนำแรคคูนตัวน้อยๆที่กำพร้าแม่ไปยังสถานที่พักฟื้นสัตว์ป่า ซึ่งเขาพบว่าจากบันทึกประวัติของสถานพักฟื้นแล้ว เรื่องแบบนี้มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ จนรู้สึกได้ว่ามันบ่อยจนเกินไปด้วยซ้ำ     “บ่อยครั้งมากที่แม่ของสัตว์มักจะถูกฆ่าโดยกับดักของนักล่า และสุดท้ายลูกๆ ของมันก็จะถูกนำมาไว้ยังองค์กรพื้นฟูสัตว์ป่าแห่งนี้ มีหลายกรณีมากที่พวกเขาขู่จะฆ่าลูกๆ ของมันเพียงถ้าหากว่าพวกเราไม่ยอมรับเลี้ยงสัตว์พวกนั้น” Damen Hurd ประธานองค์กรศูนย์ศึกษาและพื้นฟูสัตว์ป่าในฟลอริด้าได้กล่าวอธิบายบนเพจเฟสบุ๊คในวันพฤหัสบดี “ผมไม่ค่อยได้โพสอะไรมาก แต่สิ่งนี้ทำให้ผมรู้สึกท้อแท้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว”     จริงๆ แล้วมันมีวิธีที่ดีและมีมนุษธรรมมากกว่าหากแค่เมื่อเจอแรคคูนในห้องใต้หลังคาของคุณ คุณก็แค่นำมันออกจากห้องใต้หลังคา และก็ปล่อยพวกมันกลับคืนสู่ป่า Damen ยังได้พูดอีกว่า “เราขอแนะนำให้ติดต่อกู้ภัยสัตว์ป่า หรือ ศูนย์ฟื้นฟูในท้องถิ่นเพื่อทำการขอให้ทำการย้ายสัตว์ป่าเหล่านี้หรือปล่อยพวกสัตว์เหล่านี้ แทนที่การวางกับดักเพื่อฆ่าพวกมันให้เสียชีวิต”      แม้ว่าชีวิตพวกมันเฉียดใกล้ความตายหรือสูญเสียพ่อแม่ของมันกระทันหัน แรคคูนตัวน้อยที่กำพร้าแม่ก็ได้รับอาหารผ่านเข็มฉีดยาเล็กๆและได้อยู่ในความดูแลขององค์กรอย่างดี   Damen กล่าวปิดท้ายว่า “เจ้าแรคคูนพวกนี้กำลังไปได้ดีเลยล่ะ เราป้อนอาหารพวกมันหลายครั้ง และพวกมันก็มีสุขภาพแข็งแรงดีเลยทีเดียว เพียงแต่พวกมันกลับโชคร้ายที่ต้องกำพร้าแม่ตั้งแต่เกิด”     สุดท้ายแล้วเพื่อที่จะช่วยยกระดับสัตว์เล็กๆพวกนี้ ศูนย์ฟื้นฟูสัตว์ป่ากำลังพยายามสร้างโรงพยาบาลขนาดใหญ่เพื่อสัตว์ป่าในกรณีต่างๆ ถ้าใครที่กำลังสนใจอยากจะช่วยบริจาคสามารถเข้าไปที่หน้าแฟนเพจของ Wildlife,Inc. Education & Rehabilitation Center ได้เลย…

  • ย้อนประวัติศาสตร์… 15 ภาพเล่าเรื่องจาก “ค่ายกักกัน” อันโหดร้าย สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

    ย้อนประวัติศาสตร์… 15 ภาพเล่าเรื่องจาก “ค่ายกักกัน” อันโหดร้าย สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

    ถ้าพูดถึงบุคคลในประวัติศาสตร์ รับรองได้ว่าชื่อของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซีและผู้อยู่เบื้องหลังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวจะต้องเป็นชื่อแรกๆ ที่ลอยเข้ามาในหัวอย่างแน่นอน   การฆ่าล้างเผา่พันธุ์ชา่วยิวในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ได้คร่าชีวิตชาวยิวมากกว่า 6 ล้านคน ซึ่งชาวยิวจากทั่วยุโรปจะถูกนำไปยังค่ายกักกัน จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็ถูกนำไปรมแก๊สพิษจนตาย ค่ายกักกันที่แรกก็คือ ค่ายกันกันเบวเชตซ์ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเมืองลูบลิน ในประเทศโปแลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1942 และนอกจากค่ายกักกันเบวเชตซ์ ยังมีค่ายกักกันอื่นๆ อีกถึง 5 ค่ายเลยทีเดียว แต่ค่ายที่ใหญ่ที่สุดมีชื่อว่า ค่ายกักกันเอาชวิทซ์   ภาพของค่ายกักกันเอาชวิทซ์  ที่ถูกปลดปล่อยเมื่อ 72 ปีที่แล้ว   เพียงแค่ค่ายกักกันเอาชวิทซ์เพียงแห่งเดียว ก็พรากชีวิตผู้คนไปถึง 1.1 ล้านคน และเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมาก็เป็นวันรำลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นั่นเอง เราเลยจะมาย้อนดูภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้กัน   ภาพเดินสวนสนามของเหล่าทหาร ที่ถือคบเพลิงไปด้วยด้านนอกประตูบรันเดนบูร์ก ในเบอร์ลิน เพื่อเฉลิมฉลองที่ฮิตเลอร์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี   ภาพของทหารชุทซ์ชทัฟเฟิลที่ลำเลียงชาวยิวไปยังค่ายกักกัน ผ่านถนนในเบอร์ลินในปี ค.ศ. 1934   ภาพของชาวโปแลนด์ ที่ถูกสังหารโดยทหารเยอรมัน ในปี…

  • นักวิทย์คิดค้น “แมลงปอไซบอร์ค” เทคโนโลยีควบคุมแมลงปอ ให้กลายเป็นหุ่นยนต์ทำตามคำสั่ง

    นักวิทย์คิดค้น “แมลงปอไซบอร์ค” เทคโนโลยีควบคุมแมลงปอ ให้กลายเป็นหุ่นยนต์ทำตามคำสั่ง

    ปกติเราจะเห็นเทคโนยีแปลกๆ ล้ำๆ ภายในหนังไซไฟ กันอยู่บ่อยๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มักจะเป็นเทคโนยีที่ทำให้แมลงสามารถจะเป็นสายลับหรือติดกล้องสอดแนมไว้ได้ แต่มาวันนี้เรื่องพวกนี้มันจะไม่ได้อยู่แค่ในโลกไซไฟอีกต่อไป เพราะล่าสุดได้มีคนคิดค้น แมลงปอไซบอร์ค ขึ้นมาแล้วนั่นเอง ผลงานนี้สร้างโดย Jesse Wheeler วิศวกรรมชีวการแพทย์อาวุโส ที่ได้ร่วมมือกับ Howard Hughes  พัฒนาเจ้าแมลงปอไซบอร์คนี้ขึ้นมาและเรียกมันว่าโปรเจค DragonflEye     ซึ่งวิศวกรได้พัฒนาวิธีการที่จะปรับเปลี่ยนพันธุกรรม ในส่วนระบบประสาทของแมลงปอเพื่อที่จะสามารถให้แมลงปอตอบสนองต่อแสงต่างๆ โดยการจะทำแบบนั้นได้ พวกเขาก็จำเป็นจะต้องให้โปรตีนเพิ่มขึ้นแก่เซลล์ประสาท ฯspins ซึ่งเป็นกลุ่มเซลล์ประสาทที่ไวต่อแสง โดยเมื่อเซลล์ประสาทนี้ตอบสนองต่อแสง มันก็จะประมวลผลแล้วส่งไปยังชีพบนหลังของแมลงปอ เพื่อใช้สั่งการเจ้าแมลงปอให้ทำสิ่งที่พวกเขาควบคุมนั่นเอง   ครึ่งแมลง ครึ่งจักรกล เกิดเป็นแมลงไซบอร์ค ที่ขับเคลื่อนด้วยชิพแผงโซล่าเซลล์ขนาดเล็กไว้บนหลัง   ภาพของชิ้นส่วนแผงควบคุมของเจ้าแมลงปอไซบอร์ค ซึ่งถูกขยายออกมาให้เราได้เห็นชัดมากขึ้น   แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการควบคุมแมลงที่เป็นสิ่งมีชีวิต แต่นักวิทย์ผู้พัฒนาก็ระบุว่า สิ่งเหล่านี้ทำขึ้นมาในแง่ของประโยชน์ต่อมนุษย์ เพื่อนำวิทยาการมาช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของทุกคน ซึ่งจุดประสงค์หลักของตัวโปรเจค  DragonflEye นี้ก็เพื่อพัฒนาให้ในอนาคต นักวิทยศาสตร์สามารถจะพัฒนาเครื่องมือที่ขนาดเล็กและดียิ่งขึ้นซึ่งจะสามารถนำมาใช้กับแมลงต่างๆ เช่น ผึ้ง เป็นต้น โดยเราสามารถใช้มันในการนำทางแมลงต่างๆ หรือจะใช้สำหรับค้นหาผู้ประสบภัยต่างๆในพื้นที่ ที่เข้าถึงยาก และพื้นที่อันห่างไกลนั่นเอง ใครที่สนใจก็สามารถดูบทสัมภาษณ์เพิ่มเติมได้ที่คลิปด้านล่างเลยครับ..     ที่มา: dailymail

  • หญิงสาวเจอ “กระสอบปริศนา” ในไร่ และเธอก็พบว่าได้เปลี่ยนชะตากรรม “ลูกสุนัข” ให้มันรอดชีวิต

    หญิงสาวเจอ “กระสอบปริศนา” ในไร่ และเธอก็พบว่าได้เปลี่ยนชะตากรรม “ลูกสุนัข” ให้มันรอดชีวิต

    เคยคิดกันไหมว่าบางสิ่งบางอย่างล้วนเกิดขึ้นอย่างบนโลกใบนี้มีเหตุผล ทุกๆ อย่างที่เราตัดสินใจทำจะนำเราไปในที่ๆ ควรจะเป็นเสมอ และก็เชื่อว่าทุกสิ่งที่เราทำมันมีเหตุผลและวัตถุประสงค์บางอย่างอยู่ สำหรับเรื่องนี้ก็เช่นกัน….   เรื่องมันเริ่มที่ระหว่างที่ หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินเล่นในวันอาทิตย์เช้าที่สดใส เธอดันไปสังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติ ในขณะที่เธอกำลังให้อาหารไก่ที่เธอเลี้ยงไว้อยู่นั้น เธอสังเกตเห็นว่ามีลูกสุนัขที่ถูกทิ้งตัวหนึ่ง โชคดีที่น้องสาวของเธอ Juliana Castañeda Turner เป็นเจ้าของและดูแล Juliana’s Animal Sanctuary  ซึ่งที่แห่งนี้ก็คือสถานที่พักพิงและอนุรักษ์สัตว์ในอเมริกาใต้ น้องสาวของเธอ Juliana คิดว่าน่าจะมีลูกสุนัขมากกว่าหนึ่งตัว เลยให้เธอลองออกค้นดูรอบๆ อีกครั้งและเธอก็ได้พบถุงกระสอบปริศนา     และพบว่าข้างในนั้นมีลูกสุนัขแสนน่ารักอีกหลายตัวถูกทิ้งในกระสอบ พวกมันถูกทิ้งไว้ที่นั้นเพื่อนอนรอความตายเพียงอย่างเดียว แต่ก็โชคดีที่หญิงสาวได้ไปเจอเข้าเสียก่อน   ลูกสุนัขน่าจะหิวมากๆ เลยดูพวกมันรีบกินนมกันใหญ่เลย   “พวกเรารีบนำพวกมันไปหาสัตว์แพทย์ และ เริ่มต้นด้วยการตรวจสุขภาพ กำจัดเห็บหมัดและป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ “ Juliana ได้แชร์ข้อความนี้บน Sanctuary’s facebbook พี่น้องทั้งสองเชื่อว่าฝีมือคนทำเป็นคนไม่ใกล้ไม่ไกล อาจจะคนที่อาศัยบริเวณใกล้เคียงนำลูกสุนัขโยนลงในกระสอบข้าวอย่างไม่ใยดี “คนพวกนี้มักจะเป็นคนชั่วร้ายใจดำกับสัตว์รวมถึงสุนัขทั้งหลาย” เธอกล่าว     ตอนนี้เจ้าลูกสุนัขได้ที่อาศัยในศูนย์อนุรักษ์สัตว์แห่งนี้และอยู่ในช่วงฟื้นฟู ซึ่งเธอก็หวังว่าพวกมันจะกลับมามีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง จากนั้นพวกเธอจะหาบ้านให้พวกมันได้ในอนาคต แต่สำหรับการหาบ้านใหม่ให้พวกมันเป็นอะไรที่ยากพอดู อย่างแรกก็คือจำนวนสุนัขจรจัดที่ถูกทิ้งนั้นมีจำนวนมาก อย่างที่สองผลจากการที่พวกมันถูกทิ้ง ทำให้ลูกสุนัขจะไม่วางใจในมนุษย์ได้ง่ายๆ…

  • “หยำฉา” ได้มีการ์ตูนของตัวเองแล้ว จากตัวประกอบหมายเลข 1 สู่การเป็นพระเอกเต็มตัว!!!

    “หยำฉา” ได้มีการ์ตูนของตัวเองแล้ว จากตัวประกอบหมายเลข 1 สู่การเป็นพระเอกเต็มตัว!!!

    ถ้าพูดถึงดราก้อนบอล ก็คงยากที่จะมีคนไม่รู้จักการ์ตูนระดับตำนานเรื่องนี้ แต่ว่าถ้าถามถึงตัวละครในเรื่อง คนส่วนใหญ่ก็คงจะรู้จักและชื่นชอบกันไม่กี่ตัวเช่น โกคู เบจิต้า หรือ พิกโกโร่ เป็นต้น แต่ก็มีตัวละครหนึ่งที่หลายคนน่าจะรู้จักเขาดี แต่ไม่มีใครที่อยากจะเป็นเขาคนนี้ เขาคนนี้ก็คึอ “หยำฉา”     สำหรับใครที่ไม่รู้จักหยำฉา ก็จะขอเล่าประวัติคร่าวๆ ของตัวละครตัวนี้ก่อนนะครับ โดยเริ่มแรก หยำฉา โผล่ออกมาในฐานะศัตรู คนแรกๆ ของโกคู แต่ว่าในภายหลังก็ได้เข้าเป็นพวกกัน แถมยังเคยเป็นแฟนกับบลูม่าแล้วเลิกรากันไป แต่จุดพีคมันอยู่ตรงนี้ ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ภาคศึกชิงเจ้ายุทธภพ บทของหยำฉาก็อ่อนลงไปเรื่อยๆ จนชีวิตเริ่มพลิกผลัน เมื่อเบจิต้าปรากฏตัวครั้งแรกพร้อมกับนัปปะ แต่ก็ถูกไซบะแมนที่นัปปะเรียกออกมาสู้ด้วย ระเบิดตัวตายไปพร้อมกับเขา นี่จึงเป็นการตายครั้งแรกของเขา     หลังจากนั้นเขาก็ได้รับการชุบชีวิตขึ้นมาโดยเทพเจ้ามังกร และได้รับการฝึกฝนมากมายในภายหลัง แต่สุดท้ายบทของเขาก็ยังไม่เด่นขึ้นมาอยุ๋ดี แถมยังมาตายในครั้งที่สองจากการกลายเป็นช็อคโกแลตโดยจอมมารบูอีก (แต่ก็ฟื้นขึ้นมาได้ในภายหลัง หุ้ววววว)   แต่ไม่ว่ายังไง ยิ่งนานไปตัว หยำฉา บทก็จะยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ ที่แม้หยำฉาจะถูกจัดอันดับว่าเป็นคนเก่งอันดับต้นๆ ของโลก แต่ในเรื่องมันดันมีเอเลี่ยนเยอะเนี่ยสิ แล้วจากตัวเอกก็เลื่อนขั้นไปเป็นตัวประกอบหมายเลข 1 ซะได้ นี่ขนาดฉากยืนเรียงกันยังถูกบดบังไปซะเกือบมิด เทนชิงฮันยังเด่นกว่าอีก     แต่ว่าล่าสุดหยำฉาก็โชคดีกับเขาสักที…

  • หนุ่มเป็นอัมพาตมา 2 ปี ตัดสินใจ “ขอแฟนสาวแต่งงาน” ก่อนถอดเครื่องช่วยหายใจและตายจากไป

    หนุ่มเป็นอัมพาตมา 2 ปี ตัดสินใจ “ขอแฟนสาวแต่งงาน” ก่อนถอดเครื่องช่วยหายใจและตายจากไป

    อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ เพียงแต่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นทั้งนั้น เพราะอุบัติเหตุล้วนพามาแต่เรื่องเศร้าสลดอยู่บ่อยครั้ง แน่นอนว่ากับหนุ่มชาวอังกฤษคนนี้ก็เช่นกัน Tony Cowan หนุ่มชาวอังกฤษวัย 31 ปี ได้ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ในปี 2014 ที่ผ่านมา ทำให้เขาบาดเจ็ยสาหัสบริเวณคอไปจนถึงกระดูกสันหลัง ทำให้เขากลายเป็นอัมพาตตั้งแต่คอลงไป ซึ่งแพทย์ที่ดูแลเขาอยู่บอกว่า เขามีโอกาสที่จะไม่รอดสูงมาก     Tony เป็นคนอังกฤษแถบเดอร์แฮม ที่นั้นเขาได้พบกับแฟนสาวของเขา Karen Dawson ซึ่งทั้งคู่ก็ได้สู้ชีวิตและคบหากันมานานแล้วถึง 12 ปี ตัวเขาเองก็มีความฝันที่อยากจะขอแฟนสาวแต่งงานมาตลอด แต่เขาก็กลัวว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ จะทำให้เขาไม่รอดไปจนถึงวันที่ความฝันของเขาเป็นจริง   ภาพถ่ายของ Tony และ Karen ก่อนที่เขาจะประสบอุบัติเหตุ แม้ช่วงเวลา 12 ปีที่คบกันมาของพวกเขาก็ต้องจบลง แต่มันก็เป็นภาพความทรงจำที่เต็มไปด้วยความสุข ของทั้งคู่   จนล่าสุดเมื่อช่วงคริสมาสต์ที่ผ่านมา Tony ก็ได้ตัดสินใจที่จะปิดเครื่องช่วยหายใจของเขาลง เขาคิดว่าทั้งแม่และแฟนสาวดูแลเขามามากพอแล้ว เขาไม่อยากจะเป็นภาระมากเกินไปอีก แต่ก่อนที่เขาจะทำอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ลืมความฝันของเขา เขาได้ขอ Karen แต่งงาน 4 วันก่อนที่เขาจะสิ้นลม ซึ่งนั้นก็ทำให้เขาได้จากไปอย่างสงบนั่นเอง “เขาขอฉันแต่งงาน 4 วันก่อนที่เขาจะสิ้นใจลงอย่างสงบในโรงพยาบาล”…

  • หนุ่มชาวจีนปีนเข้าไปในกรงเสือ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องจำใจ ปลิดชีพเสือเพื่อช่วยคน…

    หนุ่มชาวจีนปีนเข้าไปในกรงเสือ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องจำใจ ปลิดชีพเสือเพื่อช่วยคน…

    คำเตือน: เนื้อหานี้มีรูปภาพที่รุนแรง อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้อ่านบางท่าน ควรหลีกเลี่ยง   เหตุการณ์ที่มีคนกระโดดหรือพลัดตกเข้าไปในกรงสัตว์นั้น มีให้เห็นกันอยู่บ่อยครั้งเลยทีเดียว และจุดจบส่วนมากของเหตุการณ์เหล่านี้ มักจะจบลงที่สัตว์ถูกยิงตาย (ยกตัวอย่างได้ง่ายๆ ในกรณีของ Harambe เจ้ากอลิล่าที่เป็นข่าวดังนั่นเอง) ซึ่งในครั้งนี้เป็นคราวของสวนสัตว์หย่าเกอเอ่อ ที่อยู่ในเมืองจีน เมื่อมีรายงานว่าในวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่จู่ๆ ก็ได้เดินเข้าไปในกรงเสือโคร่ง ที่มีเสือสามตัวอยู่ใกล้ๆ ก็ได้เจ้าโจมตีเขาทันที     รายงานข่าวระบุว่า หนุ่มแซ่จาง ไปเที่ยวสวนสัตว์กับนายลี่ และภรรยาของนายลี่ แต่ในขณะที่นางลี่และลูกๆ ซื้อตั๋วอย่างถูกต้อง นายจางกลับนายลี่ กลับพยายามปีนลักลอบเข้าสวนสัตว์ ทั้งสองอาจจะทราบหรือไม่ทราบก็ตามว่านั่นคือกรงเสือ แต่มีป้ายเดือนอยู่และกำแพงสูงกว่า 3 เมตร นายจางปีนเข้าไปแต่นายลี่ไม่ยอมตามเพื่อนของเขาเข้าไปด้วย และเขาก็เจอเสือจู่โจมเข้า   ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะทำการไล่เสือโคร่งทั้งสามด้วยประทัดแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีเสือโคร่งตัวหนึ่งที่ยังขย้ำชายคนนั้นไม่ปล่อย จนท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ของส่วนสัตว์ก็ได้ทำการยิงปลิดชีวิตของเสือตัวนั้นลง ท้ายที่สุดทีมแพทย์ก็ได้นำตัวชายคนนี้ไปส่งโรงพยาบาล แต่ว่าด้วยบาดแผลที่มีมากจนเกินไปทำให้เขาเสียชีวิตลงในที่สุด     นอกจากนี้ ยังมีคำสัมภาษณ์จากพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งบอกกับทางสำนักข่าว South China Morning Post ว่า “ฉันเห็นเสือขย้ำคนๆ นั้นอยู่ หน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด…

  • ลิงแสมที่กลายเป็น “แม่บุญธรรม” ของลูกหมากำพร้า ชาวบ้านคาดว่ามันสูญเสียลูกไป…

    ลิงแสมที่กลายเป็น “แม่บุญธรรม” ของลูกหมากำพร้า ชาวบ้านคาดว่ามันสูญเสียลูกไป…

    ปกติแล้วเมื่อเรามีอายุที่มากขึ้นหรือเคยมีลูกมาก่อน ก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกของการเป็นพ่อเป็นแม่ เมื่อเราเห็นหรีอได้พบเจอกับเด็กที่กำพร้าไม่ก็ต้องการความช่วยเหลือ เราก็มักจะอยากจะเข้าช่วยเหลือด้วยวิธีการต่างๆกันไปไม่มากก็น้อย สัตว์ก็เช่นกัน โดยเรื่องเกิดขึ้นเมื่อมีคนเห็นลิงวอกตัวหนึ่งที่หิ้วลูกหมาจรจัดไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลา ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเรื่องทอล์คออฟเดอะทาวน์ในเมืองเอโรด รัฐทมิฬนาฑู ในทางใต้ของอินเดีย   ตามข่าวบอกว่าเจ้าลิงจะเป็นห่วงและรักลูกหมามากๆ   ผู้คนที่พบเห็นก็ต่างเล่าเป็นเสียงเดียวกัน เจ้าลิงรักลูกหมาที่มันเลี้ยงดูอยู่มาก ไม่ว่าจะไปไหนมันก็จะพาด้วยเสมอ รวมถึงเวลาปีนขึ้นไปบนต้นไม้มันก็ยังคงพาเจ้าลูกหมาตามไปด้วยตลอดเวลา รวมถึงถ้าเกิดมีหมาจรจัดตัวอื่นเข้ามาวอแวกับลูกหมา เจ้าลิงวอกตัวนี้ก็จะเข้าปกป้องและสู้กับหมาจรจัดทันที!!   คอยหาเห็บหมัดรวมถึงทำความสะอาดให้ลูกหมาอย่างดี   ไม่ว่าแม่ลิงจะไปไหนมันก็จะอุ่มลูกหมาไปด้วยทุกที่แบบนี้   แม้แต่ปีนต้นไม้แบบนี้ก็พาไปด้วยไม่ให้ห่าง   ถ้ามีใครเอานมมาให้ เจ้าลิงวอกก็จะให้ลูกหมาได้กินก่อนเสมอ   ด้วยความเป็นแม่ต่อให้ต่างสายพันธ์ ใครเข้าวุ่นวายเธอก็พร้อมจะสู้!!   แต่สุดท้ายถึงแม้ชาวบ้านที่พบเห็นจะบอกว่าไม่รู้ว่าทุกอย่างมันเริ่มต้นยังไง เจ้าลิงไปเจอลูกหมาได้ยังไง มีบางส่วนมองเป็นแง่ลบว่าเจ้าลิงอาจจะเสียลูกไปจนเสียใจมาก และขโมยลูกหมามาเลี้ยงเอง หรือบางคนก็บอกว่า เจ้าหมาโดนแม่ทิ้ง แล้วเจ้าลิงนี้เสียลูกไปพอดี ก็เลยเก็บมา ยังไงก็ตาม… เรื่องพวกนี้ไม่มีใครที่ทราบแน่ชัด แต่ที่รู้แน่นอนก็คือความรักของผู้ที่เป็นแม่ต่อให้ต่างสายพันธุ์ ยังไงก็พร้อมที่เสียสละและดูแลลูกของตัวเองให้ดีที่สุด!!!     ที่มา: สำรวจโลก, dailymail

  • ชาวเน็ตช่วยกันรวม 12 ภาพที่จะช่วยให้ความรู้สึกดีๆ เพื่อเพิ่มกำลังใจในวันที่เราย่ำแย่

    ชาวเน็ตช่วยกันรวม 12 ภาพที่จะช่วยให้ความรู้สึกดีๆ เพื่อเพิ่มกำลังใจในวันที่เราย่ำแย่

    หลายครั้งที่เราจะเจอกับเรื่องแย่ๆ มากมายในแต่ละวัน ไม่ว่าจะมาจากการทำงาน เพื่อนฝูง หรือเรื่องทุกอย่างรอบข้าง บางครั้งคนเราเมื่อมีความรู้สึกด้านลบ เราก็อยากที่จะหาอะไรที่เป็นพลังงานด้านบวกเพื่อที่อย่างน้อยให้เราได้รู้สึกดีขึ้นมาบ้างก็ยังดี ในคราวนี้ชาวเน็ตก็เลยช่วยกันรวบรวมภาพที่จะช่วยให้คุณอมยิ้ม มีความสุข หรือรู้สึกดีขึ้นมาได้ เพื่อมาประชันกันว่าภาพไหนจะถูกใจคนอื่นๆ มากที่สุด (ใช้การเกริ่นแบบนี้ดีกว่า) และคาดว่าคนที่ได้ดูก็คงจะรู้สึกดีขึ้น รวมถึงสามารถรับรู้ได้ถึงพลังงานด้านบวกจากรูปพวกนี้ได้บ้างไม่มากก็น้อย เอาเป็นว่าเรามาดูทวิตพวกนี้กันเลยดีกว่า   วัวใครไม่รู้มานอนทับขาเฉย แต่ดูหน้ามันก็มีความสุขดีนะ ทำให้ผมขยับไม่ได้เลยเพราะกลัวว่าจะปลุกมันตื่นจากฝันหวานนี่สิ!?   ภาพนี้เป็นภาพของคุณปู่ที่เก็บหมวกของมหาลัยต่างๆ ที่ลูกหลานของเขาได้ไปเข้าเรียน และวันนี้ก็เป็นคิวของเจ้าของภาพที่จะมอบหมวกนี้ให้คุณปู่ของเขา   ดูผีเสื้อจะชอบเจ้าปั๊กตัวนี้นะ   ใครที่คิดว่าวันนี้มันเป็นวันที่เลวร้ายที่สุด ก็ให้ดูภาพเจ้าหมาตัวนี้เสียก่อน มันคงคิดว่าขบวนพาเหรดนี้จัดให้มันอย่างแน่นอน     ตอนแรกก็คิดพี่แกว่าเอามือบังอะไร ที่ไหนได้….   ฝูงนกเขาพวกนี้มารุมล้อมเจ้าม้า กะว่าจะได้กินอาหารที่อยู่ในถัง เจ้าม้าเห็นแบบนั้นเลยเตะถังให้พวกนกเขาได้กินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย   พ่อแม่ของเจ้าของภาพกลับไปเรียนใหม่ด้วยกัน และวันนี้ก็เป็นวันที่ทั้งคู่เรียนจบ ดูรอยยิ้มนั้นสิ คงมีความสุขน่าดู   ภาพนี้เป็นภาพของพี่สาวเจ้าของทวิตที่กำลังขอแต่งงานแฟนสาวของเธอ แล้วดูหน้าป้าข้างหลังนั้นสิ ยังไงก็แสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะ   เมื่อเจ้าหมาเห็นเจ้านายของมันเศร้า มันก็พยามปลอบใจด้วยการไปหาลูกสนมาให้เป็นของขวัญ ดูหน้าเจ้าหมานั้นสิ   ภาพของลูกหมาที่พึ่งเกิด พร้อมกับพ่อหมาที่ดูจะดีใจมากๆ เลยนะเนี่ย  …

  • ในที่สุดก็มีคนคิดค้น “เบียร์โอริโอ้” ให้คุณได้ดื่มด่ำเบียร์ พร้อมรสชาติหอมหวานวัยเด็ก

    ในที่สุดก็มีคนคิดค้น “เบียร์โอริโอ้” ให้คุณได้ดื่มด่ำเบียร์ พร้อมรสชาติหอมหวานวัยเด็ก

    เคยรู้สึกไหมที่อยากจะกินอะไรบางอย่างเช่น นม หรือคุกกี้ แต่เป็นเวอร์ชั่นที่สำหรับผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่ว่ามันก็ดันหาอะไรที่ตอบโจทย์ยากเหลือเกิน ล่าสุดมีบริษัทผลิตเบียร์แห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า The Veil Brewing Company ใน รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถที่จะตอบโจทย์นี้ได้แล้วโดยการผลิต เบียร์โอริโอ้ ขึ้นมานั่นเอง แน่นอนว่ายิ่งถ้าใครชอบโอริโอ้เป็นทุนเดิม แถมยังเป็นนักดื่มเบียร์ตัวยง ฉะนั้นเบียร์โอริโอ้นี้รับรองได้ว่าตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน ส่วนประกอบของเบียร์จะประกอบไปด้วย Hornswoggler Chocolate Milk 7% และโอริโอ้ ปริมาณแบบจัดเต็มด้วยจำนวนส่วนผสมของโอริโอ้ก็คงการันตีได้เลยว่าตอบโจทย์ได้ขนาดไหน   บรรยากาศในร้านของ The Veil Brewing Company ที่ผู้คนต่างก็มารอกันที่จะได้ชิมเบียร์ตัวนี้กันเต็มร้าน   ใครที่กลัวว่าถ้าดื่มๆ ไปแล้วเกิดเมาขึ้นมา รสชาติของตัวโอริโอ้จะเสียหมด ไม่ต้องกลัวไป ส่วนผสมโอริโอ้หนักขนาดนั้นเมายังไงก็ยังรสชาติเดิมแน่นอน   ล่าสุดเห็นว่าเจ้าเบียร์ชนิดนี้ขายจนหมดสต๊อกเป็นที่เรียบร้อย แถมยังหมดในเวลาเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น!!   นอกจากเบียร์โอริโอ้แล้วบริษัทนี้เขายังมีเบียร์รสชาติอื่นด้วยนะ แถมดีไซน์กระป๋องก็สวยใช้ได้เลยทีเดียว   ใครที่สนใจเจ้าเบียร์โอริโอ้นี้อยู่ละก็คงต้องควานหากันหน่อยแล้วล่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครนำเข้ามาหรือเปล่า ถ้าใครเจอหาเจอแล้วได้ลองชิมก็อย่าลืมมาบอกด้วยน่ะ ว่ารสชาติดีสมคำร่ำลือไหม   ที่มา distractify

  • เป็นเวลาเกือบ 20 ปี ในที่สุดแก๊งร็อคเก็ต ก็ได้ลิ้มรสแห่งชัยชนะเป็นครั้งแรก [Spoil Alert]

    เป็นเวลาเกือบ 20 ปี ในที่สุดแก๊งร็อคเก็ต ก็ได้ลิ้มรสแห่งชัยชนะเป็นครั้งแรก [Spoil Alert]

    [เนื้อหาบางส่วนมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องตอนล่าสุด ใครที่ไม่อยากถูกสปอยเนื้อเรื่องก่อน แนะนำให้เลี่ยง]   ใครที่ติดตามซีรีย์โปเกม่อนมาเป็นเวลานานตั้งแต่ยุคแรก ก็คงจะรู้จักกับแก๊งร็อคเก็ตเป็นอย่างดี ทั้งมูซาชิและโคจิโร่ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมามากมายขนาดไหน ไม่ว่าจะปิกาจูช็อตสายฟ้ามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน พยามสู้กับซาโตชิครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ได้พบแต่ความพ้ายแพ้ เป็นเวลาเกือบ 20 ปีที่แก๊งร็อคเก็ตจะต้องทนทุกข์อยู่กับความพ่ายแพ้ของพวกเขา แต่ล่าสุดตอนล่าสุดของ Pokemon Sun & Moon ฝันร้ายของมูซาชิกับโคจิโร่ก็จบลงเมื่อพวกเขาสามารถเอาชนะซาโตชิลงได้     ในตอนล่าสุดนี้พวกซาโตชิได้ออกไปทำกิจกรรมกันริมชายทะเลกับเพื่อนๆ ส่วนพวกมูซาชิโคจิโร่ก็ออกไปตามจับโปเกม่อนในภูมิภาคออโร่ล่า เพื่อให้หัวหน้าของพวกเขาพอใจ จนกระทั่งโคจิโร่ได้ไปเจอกับโปเกม่อนที่มีชื่อว่า “ฮิโดอิเดะ” ซึ่งในตอนแรกฮิโดอิเดะดูเหมือนจะไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ จนกระทั่งมันดันไปงับหัวของโคจิโร่เข้า ด้วยความที่ฮิโดอิเดะเป็นโปเกม่อนที่มีพิษพองับหัวโคจิโร่ ทำให้โคจิโร่มีหน้าที่เป็นสีม่วงบวกกับหน้าตาและทรงผมที่ดันไปคลา้ยกับฮิโดอิเดะพอดี เลยทำให้ฮิโดอิเดะหลงรักเข้าซะงั้น     ภาพที่แสดงให้เห็นจังหวะที่ ฮิโดอิเดะ หลงรักโคจิโร่เข้าเต็มเปา   และในตอนนั้นเองที่ซาโตชิโผล่เข้ามา แน่นอนว่ามันก็จะเป็นไปตามปกติที่แก๊งร็อคเก็ตจะเข้าไปแย่งปิกาจูมาให้ได้ ซึ่งถ้าเป็นไปตามปกติพวกแก๊งร็อคเก็ตก็คงจะโดนจัดการได้ไม่ยาก แต่ในคร่าวนี้มันกลับไม่ใช่อย่างงั้น เพราะโคจิโร่มี ฮิโดอิเดะที่หลงรักโคจิโร่เข้าเต็มเปา ทำให้นอกจากปกติที่จะมีแค่ “มิมิคคิว” ที่เกลียดปิกาจูเข้าไส้ กลายเป็นวันนี้ทั้งสองรวมพลังกันจนชนะปิกาจูได้สำเร็จ!!   มิมิคคิว ที่เกลียดปิกาจู ก็เข้าโจมตีไม่ยั้งเลยทีเดียว   ส่วนมุคุโร่ ก็โดน ฮิโดอิเดะไล่กวดไม่ปล่อยเลยทีเดียว  …

  • พ่อแม่พาลูก 3 ขวบเที่ยวรอบโลก โดยไม่ต้องลาออกจากงาน เพียงแค่ “วางแผน” ให้ดีที่สุด!!

    พ่อแม่พาลูก 3 ขวบเที่ยวรอบโลก โดยไม่ต้องลาออกจากงาน เพียงแค่ “วางแผน” ให้ดีที่สุด!!

    บ่อยแค่ไหนที่เราจะได้ยินเรื่องของคนที่ลาออกจากงานประจำเพื่อที่จะได้ทำอะไรหลายๆ อย่างที่พวกเขาอยากจะทำ โดยส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะออกไปเที่ยวไปดูโลกกว้าง ซึ่งแน่นอนว่าจะมีเกิดคำถามตามมาทันทีว่า “แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อหลังจากลาออก?” “ลาออกแล้วจะมีเงินพอเหรอ?” “มันจะยุ่งยากเกินไปไหม?”   Taita Hills, Kenya     เรื่องที่กำลังจะพูดถึงนี้เป็นเรื่องของ Łajka กับ Wadyń และลูกสาววัย 3 ขวบของพวกเขา Zazu เดิมทีทั้ง สองทำงานประจำอยู่แล้ว แต่ทั้งคู่ก็เป็นคนที่ชอบเที่ยวเป็นทุนเดิม นั่นจึงทำให้พวกเขาคอยจัดแจงเวลาเพื่อให้พอที่พวกเขาจะได้พาลูกไปเที่ยวที่ต่างๆ อยู่เสมอ พวกเขาเป็นครอบครัวที่จะกำหนดแผนการเดินทางล่วงหน้าตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นแผนสำหรับตอนเย็น แผนสำหรับสุดสัปดาห์ แผนของเดือนหน้า หรือแม้แต่สำหรับครึ่งปีหน้า พวกเขาก็วางแผนไว้ล่วงหน้าเช่นกัน   Tonle Sap, Cambodia     ซึ่งแน่นอนว่าแผนที่วางไว้ก็เป็นไปได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นไปเจอครอบครัว ไปช็อปปิ้ง ไปเจอเพื่อนฝูง และแน่นอนว่าบ่อยครั้งก็จะเป็นแผนเพื่อไปเที่ยวนั่นเอง ในช่วงเวลา 10 เดือนพวกเขาเดินทางไป 39 สถานที่ใน 9 ประเทศ 3 ทวีป ซึ่งมันเยอะมากๆ เลยทีเดียว เอาเป็นว่ามาดูตัวอย่างกันดีกว่า ว่าพวกเขาไปไหนมาบ้าง   Athens, Greece…

  • เมื่อขวดเก่ามีค่า นำมารีไซเคิลเป็น “ตัวเชื่อมข้อต่อ” ทำเฟอร์นิเจอร์แข็งแรงไม่แพ้ตะปู!!

    เมื่อขวดเก่ามีค่า นำมารีไซเคิลเป็น “ตัวเชื่อมข้อต่อ” ทำเฟอร์นิเจอร์แข็งแรงไม่แพ้ตะปู!!

    ไม้และพลาสติกเป็นวัสดุดิบที่ถูกทิ้งเรี่ยราดอยู่ทั่วไปตามพื้นของเมืองต่างๆ ดีไซน์เนอร์สาวชาวอังกฤษนามว่า Micaella Pedros ได้คิดค้นวิธีการใช้ขยะพลาสติกให้เป็นประโยชน์นอกจากทิ้งไว้เฉยๆ เธอเรียกโปรเจคนี้ว่า Joining Bottles เป็นโปรเจคที่เธอจะใช้ขวดพลาสติกมาทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมกับเศษไม้ต่างๆ ทำเฟอร์นิเจอร์ โดยจะใช้พลาสติกแทนตะปูนั่นเอง หลักการทำงานง่ายๆ คือการใช้ความร้อนทำให้พลาสติกหดตัวลงล็อคกับข้อต่อที่ต่างกันไปของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นๆ และเธอก็พบว่ามันแข็งแรงใช้งานได้ซะด้วย เผื่อใครงงลองดูขั้นตอนที่เธอทำกันครับ…   เริ่มจากตัดขวดหัว-ท้ายตามรูป หรือจะตัดให้เป็นแผ่นๆก็ได้นะ   จากนั้นเราก็เอาขวดไปสวมกับขาเก้าอี้หรือสิ่งของที่เราต้องการจะเชื่อม จากนั้นก็เป่าด้วยความร้อนให้บางส่วนละลายและหดตัวลงไปเข้ากับล็อค   หรือจะใช้ใช้ยึดติดเหมือนเทปกาวเลยก็ยังได้   และนี้ก็คือหน้าตาของโปรเจค Joining Bottles ที่เธอทำเสร็จแล้ว   มาถึงตรงนี้ใครยังคิดว่า มันไม่น่าจะทนทาน แต่เธอบอกว่ามันทนไม้ทนมือดีมาก   เธอเลยพิสูจน์ต่อด้วยการกระโดดขึ้นเหยียบขนาดนี้ก็ยังแข็งแรงดี!!   ใครที่มาถึงตรงนี้แล้วสนใจ อยากดูวิธีแบบเต็มๆ ก็สามารถกดเข้าไปดูในคลิปข้างล่างได้เลย   วันนี้เราก็ได้รู้ถึงประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของขวดพลาสติกกันแล้วว่ามันสามารถเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างแทนที่จะปล่อยให้มันเป็นขยะที่ย่อยสลายได้ยาก ถึงแม้ว่ามันจะทดแทนตะปูได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นก็เถอะ ถึงฉะนั้นการหยิบมันกลับมารีไซเคิลใช้ประโยชน์ใหม่จึงเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยทีเดียว   ที่มา: boredpanda

  • อินสตาแกรมรวมภาพ “หมารอเจ้าของนอกร้าน” เมื่อคุณไม่อยู่ใกล้ พวกมันก็เหงานะ!!

    อินสตาแกรมรวมภาพ “หมารอเจ้าของนอกร้าน” เมื่อคุณไม่อยู่ใกล้ พวกมันก็เหงานะ!!

    ปกติเราก็จะเห็นภาพที่คุณผู้ชายทั้งหลายแสดงสีหน้าต่างๆเวลารอแฟนกันไปเยอะแล้ว ซึ่งภาพส่วนใหญ่ก็จะเป็นสีหน้าของเหล่าผู้ชายที่ต้องอดทนรอเหล่าแฟนสาว แน่นอนว่าความรู้สึกของการรอเนี่ยมันทรมานมากๆ เลยทีเดียวล่ะ (ฮ่าาาาาา) แน่นอนสำหรับเจ้าตูบก็เช่นกัน วันนี้เราเลยจะพาไปรู้จักกับแอคเคาน์อินสตาแกรมอันหนึ่ง ซึ่งทำการรวมภาพเจ้าหมากำลังรอคุณอยู่หน้าร้าน ในชื่อ saddogsoutsideshops ด้วยความที่ว่าร้านค้าส่วนมาก โดยเฉพาะร้านอาหารก็จะไม่ค่อยอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปเจ้าตูบพวกนี้จึงทำได้แค่รอข้างนอก เขาก็เลยตามถ่ายมาว่าเจ้าตูบพวกนี้มันจะทำหน้าอย่างไร!?   เจ้าโกลเด้นตัวนี้ดูหน้าตาละห้อยเลยทีเดียว ว่าแต่เจ้านายเมื่อไหร่จะกลับมากันนะ   เจ้าบีเกิ้ลตัวนี้คงคิดถึงเจ้าของมากๆ ถึงกับต้องชะโงกหัวเข้าไปดูในร้านเลย   เจ้าบลูด็อกผู้น่าสงสารได้แต่นั่งรอเจ้านายโดยมีเสาเป็นเพื่อน (เจ้านายนี้คนที่นั่งติดกระจกนั่นป่ะ?)   บางครั้งพวกมันก็อาจจะได้ตั้งสมาคมใหม่อยู่หน้าร้าน   ดูหน้ากับตาเจ้าหมาตัวนี้สิ สงสัยมันคงคิดถึงเจ้านายมากๆ   เจ้าตูบทั้งสองนี้คงรอมานานพอสมควรเยนะเนี่ย ดูตัวซ้ายสิตาละห้อยเชียว   เจ้านายเข้าไปนานจัง มืดแล้วเมื่อไหร่จะได้กลับบ้าน   สุดท้ายแล้วด้วยกฏของทางร้านค้าต่างๆที่ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปได้นั้นก็ยังเป็นข้อบังคับที่เลี่ยงไม่ได้อยู่ดีสำหรับเจ้าตูบพวกนี้ เพราะฉะนั้นใครที่รู้ตัวว่าเจ้าหมาของตัวเองจะคิดถึงมากๆ ก็อย่าปล่อยมันทิ้งไว้นานนักล่ะ เดี๋ยวมันจะเหงาแย่นะ ฮ่าาาาาา!! ที่มา rocketnews24

  • คุณยายวัย 80 ปี ผู้รับทำความสะอาดดวงตา ด้วยการ “เลียให้สะอาด” คนแห่ใช้ตรึม

    คุณยายวัย 80 ปี ผู้รับทำความสะอาดดวงตา ด้วยการ “เลียให้สะอาด” คนแห่ใช้ตรึม

    Hava Celebic หรือที่รู้จักกันในชื่อ Nana Hava หญิงชราชาวบอสเนีย เธอคนนี้คือผู้ที่บอกว่าเธอสามารถรักษาดวงตาของคนอื่นได้ด้วยการใช้ลิ้นของเธอเอง!! คุณยายวัย 80 คนนี้จะค่อยๆใช้ลิ้นของเธอช่วยขจัดเศษตะกั๋ว เหล็ก ฝุ่นผงต่างๆออกจากดวงตาของคนที่มารักษาหลังจากที่เธอทำความสะอาดภายในปากของเธอด้วยแอลกอฮอล์     นี่คือภาพของการรักษา คุณยายเฮน่าค่อยๆเลียบนลูกตาของลูกค้าอย่างเบาๆและตั้งใจ   คุณยาย Heva แกอาศัยอยู่ในชนบทบอสเนียและเฮอร์เซโกว่า แถมคุณยายยังบอกอีกว่าเธอเป็นคนเดียวบนโลกที่สามารถรักษาดวงตาของผู้คนด้วยการเลีย   “คุณยายเฮว่าเล่าว่า ‘ฉันเรียนรู้วิชานี้มาจากผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกเรียกว่า เฮว่า เหมือนกับฉัน แต่ยังไงก็ตามฉันไม่สามารถที่จะส่งต่อวิชานี้ให้คนรุ่นต่อไปได้ เพราะพวกเขารู้สึกรังเกียจที่จะเลียดวงตาให้คนแปลกหน้า แถมพวกเขายังบอกว่าจะตัดลิ้นของฉันไปรักษาคนอื่นต่อหลังจากที่ฉันตายอีกด้วย’” นอกจากนี้คุณยายยังบอกว่าเธอรักษาดวงตามาแล้วมากกว่า 5,000 คน แถมยังหลากหลายเชื่อชาติตั้งแต่คนอเมริกันไปจนถึงคนรัสเซีย ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะกลับมาให้เธอรักษาซ้ำแบบเดิมเรื่อยๆ   สุดท้ายแล้วก็ไม่รู้ว่าการรักษาดวงตาด้วยลิ้นของคุณยาย เฮน่า จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นจริงๆหรือเปล่า ่แต่ว่าดูแล้วคนส่วนใหญ่ก็กลับมาและติดใจการรักษาของเธอ แถมบางคนก็ยังบอกว่า การรักษาจากโรงพยาบาลหรือการรักษาแบบปกติก็ไม่ช่วยให้หาย แต่การรักษาของคุณยายกลับได้ผลจริง!! ใครที่สนใจอยากให้คุณยายเฮน่ารักษาก็เตรียมเงินไว้กันคนละ 10 ยูโรได้เลย เพราะนี้เป็นราคาค่ารักษาที่คุณยายแกกำหนดไว้ แต่ถ้าไม่มีรายได้ประจำคุณยายแกก็รักษาให้ฟรีด้วยนะเอ่อ   สำหรับใครที่อยากจะเห็นการรักษาแบบภาพเคลื่อนไหว ลองชมวิดีโอของทางแชแนล Caters Clips กันด้านล่างเลยครับ…   ไหนใครสนใจอยากให้แมวเหมียวเลียตาให้บ้างไหม!?   ที่มา Dailymail

  • นักแสดงหนุ่ม ชวนคุณยายวัย 89 มาอยู่ด้วยที่บ้าน เพราะเห็นว่าเธอไม่มีใครดูแลเลย…

    นักแสดงหนุ่ม ชวนคุณยายวัย 89 มาอยู่ด้วยที่บ้าน เพราะเห็นว่าเธอไม่มีใครดูแลเลย…

     ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นบ่อยนัก ที่เราจะได้เห็นหนุ่มวัย 31 ปีที่จะมาเป็นเพื่อนซี้กับคุณยายวัย 89 ได้แต่เรื่องนี้มันได้เกิดขึ้นแล้วกับชายหนุ่มนายหนึ่งที่มีนามว่า Chris Salvatore กับคุณยาย Norma Cook เรื่องมันเริ่มจากทั้งสองคนนั้นเป็นเพื่อนบ้านมาระยะเวลากว่า 1 ปี และเมื่อเจอหน้ากันคุณยายก็มักจะเรียกพ่อหนุ่มว่า “หลานชาย” อยู่เสมอ เพราะเธอไม่เคยมีหลาย และเขาก็ยินดีที่จะถูกเรียกแบบนั้น เรื่องราวดำเนินมาอย่างปกติ จนกระทั่งคุณยาย Norma แกป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลไปด้วยอาการแทรกซ้อนจากโรคลูคีเมีย     คุณยายแกมีปัญหาเรื่องการหายใจจากโรคปอดบวม แน่นอนว่าคุณยายรู้ตัวว่าตัวเองจะอยู่ได้อีกไม่นานแน่นอน ฉะนั้นทั้งคู่จึงตัดสนใจที่จะใช้เวลาที่เหลือด้วยกันให้ได้มากที่สุด ซึ่งหลังจากที่ออกโรงพยาบาลมาได้ไม่นานตัวคุณยายจำเป็นจะต้องได้รับการดูแล 24 ชั่วโมง ด้วยเหตุผลนี้การที่เขาจึงรับคุณยายมาอยู่ด้วย ก็เพื่อที่เขาจะได้ดูแลคุณยายได้นั่นเอง     แน่นอนว่าหลังจากที่รับคุณยายมาอยู่ด้วยกันแถมยังต้องดูแล 24 ชั่วโมงเขาจึงเริ่มเปิดแคมเปญบนเว็ป GoFundMe เพื่อนำมาช่วยในการดูแลคุณยาย โดยเขาระดมทุนได้ถึง 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.6 ล้านบาทเลยทีเดียว “ทางอื่นที่เหลือทางเลือกเดียวของคุณยายก็คือต้องไปอยู่สถานดูแล ซึ่งผมให้เป็นแบบนั้นเกิดคุณกับคนที่เหมือนคุณยายแท้ๆ ของผมไม่ได้หรอก”      “Chris เป็นคนที่ดีมากๆเลยล่ะ แล้วถ้า Chris ไม่ได้เป็นนักแสดงฉันว่าเขาสามารถไปเป็นเชฟได้เลยนะ” คุณยายพูดถึงหนุ่ม Chris พร้อมบอกอีกว่าเธอชอบอาหารที่เขาทำมากๆ…

  • เมื่อมีคนบังเอิ๊ญ บังเอิญไปเจอถังขยะ “หน้าโดนัลด์ ทรัมป์” เลยเอามาตัดต่อให้ฮากันไปอีกขั้น!!

    เมื่อมีคนบังเอิ๊ญ บังเอิญไปเจอถังขยะ “หน้าโดนัลด์ ทรัมป์” เลยเอามาตัดต่อให้ฮากันไปอีกขั้น!!

    ปกติเราจะเห็นสงครามโฟโต้ช็อปกันบ่อยๆทั้งในทวิตเตอร์หรือตามหน้าเพจเฟสบุ๊คต่างๆ โดยส่วนใหญ่ก็ล้วนเกิดจากการที่มีอะไรเป็นภาพไวรอลหรือมีคนอยากให้ตัดต่อมาร้องขอจนเกิดเป็นสงครามโฟโต้ช็อปขึ้นมานั่นเอง ล่าสุดไม่นานมานี้ก็เกิดสงครามโฟโต้ช็อปกันบนโลกอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง เมื่อมียูสเซอร์ทวิตเตอร์นายหนึ่งนามว่า Thomas Regembal ได้ไปถ่ายรูปถังขยะจากถนนในเมืองปารีส ซึ่งจริงๆ แล้วมันจะไม่พิเศษอะไรเลยถ้าถังขยะใบนี้เป็นถังขยะธรรมดา แต่เจ้าถังขยะใบนี้เนี่ยมันดันบังเอิญหน้าเหมือน โดนัลด์ ทรัมป์ เนี่ยสิ!!     โดยรูปของตานี้ดันไปเข้าตา The Poke ซึ่งเป็นเว็ปไซต์ตลกจากประเทศอังกฤษที่คอยเชิญชวนคนอื่นมาทำนั้นทำนี้กับรูปต่างๆ แน่นอนว่ารูปนี้ก็ไม่รอดอย่างแน่นอน The Poke ได้โพสต์ข้อความด้วยแฮชแท็ค #TheAdventuresOfDonaldTheBin หลังจากนั้นก็ใช้เวลาไม่นานที่จะกระจายรูปนี้ออกไปสู่มือดีบนโลกอินเตอร์เน็ต จนตอนนี้ก็เกิดเป็นสงครามโฟโตช็อปขึ้นมาแล้วนั่นเอง เอาเป็นว่าเรามาดูรูปตัวอย่างกันดีกว่าว่าจะเทพแค่ไหน   Donald The Bin เวอร์ชั่นกล่องส้ม ทรัมป์กับภาพหลุดประชุมลับกับคณะในสภา     ภูเขาทรัม์ปมอร์   การพจญภัยสุดตื่นเต้นของปูตินและทรัมป์   ทรัมป์บิ้วเดอะวอล อิน มายคราฟ   ถังขยะแห่งปีบนปกไทม์   American Gothic หลบไป American Gothbin มาแล้ว   ทรัมป์ปฏิญาณว่าจะเป็นถังขยะดีที่   ทรัมป์กับอินทรีที่ดูเหมือนรักเขามากเลยทีเดียว   ก็เรียกได้ว่ามีคนเข้ามาร่วมสงครามครั้งนี้เยอะสมควรเลยทีเดียว ใครที่อยากติดตามเพิ่มเติมก็ตามไปที่แฮชแท็ค #TheAdventuresOfDonaldTheBin กันได้ หรือใครจะเอาไปทำก็อย่าลืมเอามาแชร์กันบ้างนะ!! ที่มา: boredpanda

  • เบื่อปีนหน้าผาธรรมดาไหม มานี่เลย “หน้าผาอวัยวะเพศ” ให้การปีนกระตู้ววู้วขึ้นกว่าเดิม!!

    เบื่อปีนหน้าผาธรรมดาไหม มานี่เลย “หน้าผาอวัยวะเพศ” ให้การปีนกระตู้ววู้วขึ้นกว่าเดิม!!

    กีฬาปีผาจัดว่าเป็นกีฬาเอ็กซ์จตรีมอย่างหนึ่งที่หลายๆคนคงจะชอบไปเล่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้มันก็เป็นกีฬาปกติที่ไม่แปลกอะไรอีกต่อไป ล่าสุดก็ได้มีบริษัทออกแบบที่มีชื่อว่า Bompas & Parr ได้เปิดตัวผาแบบใหม่ที่มีรูปร่างหน้าตาล่อแหลมพอสมควรเลยล่ะ     หน้าผาจำลองนี้มีชื่อว่า “Grope Mountain” โดยตัวผาจะมีรูปร่าวหน้าตาประกอบไปด้วย อวัยะเพศชายหญิง เต้านม ก้น รวมถึงใบหน้าก็มีเช่นกัน ตัวอวัยวะที่แปะติดอยู่กับกำแพงจะมีสีสันที่สดใส แถมตัวอวัยวะพวกนี้ยังทำมาจากพลาสติกชั้นดี ฉะนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องความทนทานพร้อมที่จะให้พวกเราได้ปีนขึ้นไปถึงจุดสุดยอดกัน (หมายถึงจุดสุดยอด จุดสูงสุดของหน้าผานะ!!)     ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกสนใจเจ้า Grope Mountain ผาอวัยวะนี้ขึ้นมาแล้ วอยากจะบอกไปปีนดูก็คงต้องลงทุนออกค่าตั๋วเครื่องบินแพงสักหน่อย(แพงสักหน่อย) เพราะว่าเจ้าผา Grope Mountain นี้จะจัดแสดงที่เมืองลอนดอน และลิเวอร์พูลเท่านั้น” งานจะจัดขึ้นวันที่ 11-13 ในลอนดอนและ 14 กุมภาพันธ์ ในลิเวอร์พูล แน่นอนว่ามันตรงกับวันวาเลนไทน์นั่นเอง ใครที่กำลังหาที่ออกเดทใหม่ๆอยู่เจ้า Grope Mountain นี้ก็เรียกได้ว่าน่าสนใจไม่น้อยนะเออ     สุดท้ายแล้วถ้าใครที่อยากไปแต่ว่า 14 วาเลนไทน์มันกระชั้นชิดเกินไปก็สามารถไปเยี่ยมเยียนเจ้ากำแพงนี้ได้ที่ “Museum of Sex” ซึ่งอยู่ในนิวยอร์คหลังจากงานในอังกฤษสิ้นสุดแล้วนั่นเอง ฉะนั้นก็เก็บกระเป๋าแล้วเตรียมไปปีนให้ถึงจุดสุดยอดกันได้เลย!! ที่มา Metro

  • หนุ่มจีนปั่นจักรยานกลับบ้านตรุษจีน นานนับเดือนกว่า 530 กิโล แต่โดนตำรวจทักว่า “มาผิดทาง!!”

    หนุ่มจีนปั่นจักรยานกลับบ้านตรุษจีน นานนับเดือนกว่า 530 กิโล แต่โดนตำรวจทักว่า “มาผิดทาง!!”

    มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เราจะขี้เหนียวหรืออยากจะประหยัดเงินด้วยการลดค่าใช้จ่ายด้วยการปั่นจักรยานไปไหนมาไหน ซึ่งหนุ่มชาวจีนคนนี้ก็เช่นกัน แต่มันจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยถ้าเขาไม่ปั่นจักรยานไกลถึง 531 กิโลเมตร แถมยังปั่นกลับบ้านผิดทางอีกตะหาก!!   ภาพของเขาจากกล้องวงจรปิด รายงานข่าวจากทาง People’s Daily Online ระบุว่าหนุ่มชาวจีนคนนี้มาทำงานต่างถิ่น แต่ทว่าเมื่อถึงช่วงเทศกาลเขากลับไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าตั๋วรถไฟเพื่อเดินทางกลับบ้าน ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจปั่นจักรยานกลับบ้านด้วยตัวเอง แต่ทว่าในขณะที่เขาปั่นจักรยานอยู่บนทางหลวง เขาก็ถูกตำรวจหยุดไว้และถามว่าจะไปที่ไหน จนท้ายที่สุดเขาก็ได้รู้ว่า ตัวเองปั่นมาผิดทางตลอดทางจริงๆ ที่เขาต้องปั่นไปคือขึ้นไปทางเหนือ แต่เขากลับปั่นมาทิศใต้ซะงั้น แถมปั่นมาแล้ว 531 กิโลเมตร อีกตะหาก!!   ตำรวจเรียกตัวเขาให้หยุดตรวจ จนกระทั่งบอกเขาว่ามาผิดทาง   ปั่นมาแล้วกว่า 531 กิโลเมตร ต้องเรียกว่าความอดทนของเขาสูงมาก จากรายงานของตำรวจบอกว่านายคนนี้เขาอ่านตัวหนังสือบนป้ายบอกทางไม่ออก ฉะนั้นจึงไม่แปลกเลยที่จะหลงทางจนปั่นผิดทิศมาได้ขนาดนี้   ซึ่งเขากะปั่นจากเมืองรี่เฉา ไปยังเมืองฉีฉีฮา ที่เป็นบ้านของเขาซึ่งคิดระยะทางยาวกว่า 1,738 กิโลเมตร   หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทางตำรวจกับเจ้าหน้าที่ทางหลวงได้สมทบทุนให้กับเขาเพื่อให้เขาได้ซื้อตั๋วกลับบ้านกลับไปเฉลิมฉลองกับที่บ้านเป็นที่เรียบร้อย ส่วนใครที่กำลังจะเดินทางไปไหนก็อย่าลืมศึกษาเส้นทางหรือสังเกตุป้ายบอกทางให้ดีละ พลาดหลงไปไกลเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!! ที่มา: dailymail

  • เผยคลิปเจ้าหมาฮีโร่ กระโดดช่วยเหมียวที่กำลังจะจมน้ำ พาขี่หลังกลับขึ้นฝั่งชิลๆ

    เผยคลิปเจ้าหมาฮีโร่ กระโดดช่วยเหมียวที่กำลังจะจมน้ำ พาขี่หลังกลับขึ้นฝั่งชิลๆ

    พวกเราต่างได้ยินและเป็นเชื่อกันมานานว่า หมาและแมว เนี่ยมันไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ ซึ่งแน่นอนว่าพวกเราส่วนใหญ่ก็เราก็ล้วนรู้อยู่แล้วว่ามันไม่จริงอย่างที่เขาว่ากัน หมากับแมวนั้นไปด้วยกันไปเสมอถ้าคุณไม่เชื่อละก็ลองดูข่าวนี้เสียก่อน   เรื่องราวถูกเปิดเผยผ่านทางแชแนลยูทูป Voodooman จากชื่อคลิปเป็นภาษารัสเซีย เรื่องนี้จึงสันนิษฐานได้ว่าเกิดในประเทศรัสเซียนั่นเอง เมื่อมีแมวลายขาวดำตกลงไปในแม่น้ำ แมวตัวนี้ก็เกิดอาการวิตกกังวลทันที (ใครจะไม่วิตกล่ะตัวเองกำลังจะจมน้ำนะ!!)   แต่ก็โชคดีสำหรับเจ้าแมวตัวนี้เพราะว่ามีหมาตัวนึงอยู่แถวนั้นพอดี ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้าหมาตัวนี้ก็รู้ได้ทันทีว่าจะต้องไปช่วยมัน   เจ้าหมากระโดดลงไปช่วยเจ้าแมวตัวนี้ จากนั้นก็ให้เจ้าเหมียวขึ้นขี่หลังทันที!! จากนั้นเจ้าหมาก็ว่ายมาถึงฝั่ง พร้อมกับพยายามปีนขึ้นมา   นั่นไง ถึงจะทุลักทุเลไปหน่อย แต่ก็ช่วยได้สำเร็จ   ถึงแม้ว่าในตอนจบเจ้าเหมียวจะขึ้นฝั่งอย่างทุลักทุเลแถมกระเด็นตกจากหลังของเจ้าหมา แต่สิ่งสำคัญก็คือเจ้าแมวนั้นรอดชีวิตอย่างปลอดภัย และหมากับแมวก็ไปด้วยกันได้อย่างแน่นอน     เอาล่ะ อย่างไรก็ตามแม้จะมีคนชื่นชมเรื่องความแสนรู้ของเจ้าหมาที่ช่วยแมวได้ แต่ก็ยังมีชาวเน็ตที่ตั้งข้อสงสัยเรื่องที่มาของคลิป และวิจารณ์ถึงความน่าสงสัยบางจุด ตัวอย่างคอมเม้นท์เช่น คุณ E Smith บอกว่าอาจจะเป็นคนถ่ายเองรึเปล่า ที่โยนแมวลงน้ำให้หมาไปช่วย   ส่วนคุณ javelin jav ก็บอกว่าพวกคุณนั้นและที่โยนเจ้าแมวลงไปเพื่อจะโชว์ให้เห็นว่าหมาของคุณตอบสนองคำสั่งที่คุณสอนมันได้   บ้างก็ว่าแมวนั้นว่ายน้ำเป็นเช่นกัน หรือบางก็คอมเม้นท์ในทางชื่นชมและตลกกับท่าทางของทั้งสองตัว อย่างเช่นคอมเม้นท์ของคุณ vobb nobb  ก็บอกว่าในตอนสุดท้ายแมวก็พยายามจะข่วนตาเจ้าหมาเหมือนที่หมาแมวปกติทำกัน   หรือของคุณ Mr. Toolsofrenewal ที่บอกว่าจริงๆแล้วแมวต่างหากที่บังคับให้หมามารับมันกลับฝั่ง   ไม่ว่ามันจะลงเอยอย่างไร แต่ก็อยากให้มองในแง่ดีว่าเขาอาจจะบังเอิญไปเจอแมวตกน้ำ…

  • หญิงสาวอธิบายความต่าง “การข่มขืน” และ “สมยอม” ให้เข้าใจใน 5 ประโยค จนคนถูกใจล้นหลาม

    หญิงสาวอธิบายความต่าง “การข่มขืน” และ “สมยอม” ให้เข้าใจใน 5 ประโยค จนคนถูกใจล้นหลาม

    ภาพหน้าปกจาก: กลุ่มนักเรียนถ่ายภาพสุดสะเทือนใจ สะท้อนปัญหา “นักโทษข่มขืน” ที่ถูกปล่อยตัวเร็วเกินไป!!   หลายๆ คนยังคงแยกความแตกต่างกันระหว่างคำว่า “ข่มขืน” กับ “การสมยอม” ไม่ออก ผู้ชายหลายๆ คนยังคงเข้าใจว่ามันก็เป็นเพียงการมีเพศสัมพันธ์เหมือนกันมันไม่เห็นจะต่างกันตรงไหน แต่วันนี้เราจะมาอธิบายความแตกต่างของมันให้เข้าใจกัน โดยเมื่อไม่นานมานี้เราได้ไปเจอกับทวิตเตอร์ของหญิงสาวนางหนึ่งที่มียูสเซอร์เนมว่า @thatxxv โดยเธอได้อธิบายถึงความแตกต่างของสองคำนี้ได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว เราลองไปอ่านข้อความของเธอกันเลย   “ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมการข่มขืนมันดูเข้าใจยากสำหรับผู้ชายบางคน แต่ถ้าเอาตัวอย่างพวกนี้ให้ดูพวกเขาจะเข้าใจได้ทันทีเลยล่ะ”   “ถ้าคุณมาขอเงินฉัน 5 ดอลลาร์ และฉันเมาเกินกว่าที่จะตอบตกลงหรือปฏิเสธ แต่คุณก็ยังถือวิสาสะเอาเงินฉันอีก เพียงเพราะว่าแค่ฉันไม่ได้ปฏิเสธงั้นเหรอ!?”   “ถ้าคุณเอาปืนมาจ่อหัวฉันแล้วบอกให้ฉันเอาเงินให้คุณ 5เหรียญ คุณก็ยังถือว่าขโมยเงินอยู่ดี ถึงแม้ฉันจะยื่นเงินให้คุณเองก็ตาม”   “ถ้าฉันให้คุณยืมเงิน 5 เหรียญ นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเพื่อนคุณจะมีสิทธิ์มาหยิบเงิน 5เหรียญไปจากกระเป๋าเงินของฉัน” โดยบอกว่า ‘ก็คุณให้เขาแล้วทำไมผมจะขอบ้างไม่ได้!?’ “   “ถ้าคุณมาขโมยเงินฉัน 5 เหรียญ และฉันไม่สามารถพิสูจน์ได้ในศาลก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ได้ขโมยเงิน 5 เหรียญ ปจากฉัน”   “เพียงแค่เมื่อก่อนฉันเคยให้เงินคุณ 5 เหรียญ ไม่ได้หมายความว่าฉันจะให้ 5 เหรียญกับคุณอีกในอนาคต”…