Category: Highlight
-
มหาเศรษฐีรัสเซียทุ่มเงิน 15,000 ล้านบาท สร้างเรือยอร์ชสุดอลังการ สูงกว่าหอคอยบิ๊กเบน
เรือหรู มักจะถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์แทนความมั่งคั่งของกลุ่มชนชั้นสูง สังเกตจากไฮโซหรือคนดังหลายๆ คนมักมีเรือส่วนตัวเป็นของตัวเอง ยิ่งหรูมากเท่าไหร่ยิ่งแสดงถึงฐานะของบุคคลนั้น ล่าสุดได้มีโครงการสร้างเรือยอร์ชหนึ่งในเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูงยิ่งกว่าหอคอยบิ๊กเบน ที่อยู่ระหว่างการทดสอบในยิบรอลตาร์ ก่อนจะส่งมอบให้เจ้าของผู้ร่ำรวย เรือสุดอลังการนี้มีชื่อว่า Sailing Yacht A ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเรือยอร์ชที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มี Andrey Melnichenko มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เป็นเจ้าของและเป็นเจ้าของโครงการนี้ด้วย ผู้ออกแบบคือ Philippe Starck ซึ่งเป็นนักออกแบบชาวฝรั่งเศส โดยเธอต้องออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อรวบรวมเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเรือให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังต้องผ่านการพูดคุยถึงรายละเอียด การวางแผนอีกนับครั้งไม่ถ้วน ทุกอย่างนี้ก็เพื่อความสมบูรณ์แบบที่สุด ก่อนจะส่งมอบแบบให้ Nobiskrug นาวิกโยธินชาวเยอรมันเพื่อก่อสร้างต่อไป ความโดดเด่นของเรือ Sailing Yacht A คือ เสาทั้งสาม ที่มีความสูง 90 เมตร มีที่จอดเฮลิคอปเตอร์ และมีห้องสังเกตการณ์ใต้น้ำด้วย ในขณะที่ทางสื่อ Superyachtfan.com รายงานว่า Sailing Yacht A ขับเคลื่อนด้วยชุดไฮบริดดีเซลไฟฟ้าพร้อมด้วยใบพัดที่ต้องมีการควบคุม โดยได้ออกแบบเพื่อรองรับผู้โดยสาร 20 คน และลูกเรือ 54 ราย Melnichenko เริ่มโครงการสร้างเรือขนาดยักษ์นี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา…
-
ชวนฟัง 5 เสียงประหลาดสุดลึกลับ ที่มนุษย์บันทึกมาได้จากห้วงอวกาศอันไกลโพ้น…
นอกจากโลกเราแล้ว ในอวกาศอันไกลโพ้นยังคงเต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับและปริศนารอให้มนุษยชาติอย่างเราเข้าไปค้นหาคำตอบ ไม่ว่าจะเป็นดาวเคราะห์ อุกกาบาต หรือแม้กระทั่ง “เสียง” ในอวกาศที่ส่งผ่านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ถึงแม้จะเป็นเสียงในอวกาศ แต่ก็ถือเป็นข้อมูลล้ำค่าที่สามารถจะนำมาเป็นแหล่งอ้างอิงเพื่อใช้ในการศึกษาสิ่งต่างๆ ต่อไป #เหมียวปั๊ก เลยอยากมาแบ่งปัน 5 เสียงสุดแปลกประหลาดและน่ากลัว ที่บันทึกได้จากอวกาศอันไกลโพ้นที่บันทึกโดยเครื่องบันทึกเสียงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าให้ทุกคนลองฟังกัน เสียงคลื่นความถี่บนดาวเสาร์ เมื่อยานอวกาศ Cassini เข้าสู่วงโคจรดาวเสาร์เมื่อเดือนเมษายนปี ค.ศ.2002 ยานอวกาศเริ่มบันทึกสัณญาณเสียงแปลกๆ จากขั้วของดาวเสาร์ โดยคลื่นความถี่มีความสัมพันธ์กับลักษณะการปรากฏตัวของออโรร่าบนดาวเสาร์ โดยปกติแล้วมนุษย์นั้นไม่สามารถได้ยินคลื่นความถี่นี้ แต่ทาง NASA ได้ทำการแปลงคลื่นเสียง เพื่อให้มนุษย์สามารถได้ยิน บางทฤษฎีก็ได้สันนิษฐานว่า เสียงที่ได้จากการบันทึกนั้นดูมีความซับซ้อนและโทนเสียงเหมือนภาษาที่สิ่งมีชีวิตชั้นสูงไว้ใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน เสียงของอวกาศ ในปี(วรรค)ค.ศ.2012 หลังจากการเดินทางกว่า 35 ปี ยาน Voyeger 1 ได้กลายมาเป็นยานอวกาศลำแรกของมนุษย์ที่เดินทางข้ามไปมาระหว่างดวงดาว ในการเดินทางของ Voyeger 1 มันได้บันทึกเสียงของคลื่นแรงกระแทกจากพลังงานแสงอาทิตย์กับพลาสม่าในอวกาศ โดยปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อก๊าซที่ถูกไอออไนซ์เซชั่นรวมตัวกันและกระทบกับบรรยากาศชั้นนอกของดวงอาทิตย์ส่งเสียงออกไปกว่า 19.2 ล้านกิโลเมตร เสียงสัตว์ประหลาดจากอุกกาบาต เมื่อยานอวกาศ Rosetta ได้เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้กับอุกกาบาต 67/P Churyumov-Gerasimenko ในเดือนสิงหาคมปี ค.ศ.2014 มันได้บันทึกเสียงที่แปลกประหลาดและน่ากลัวไว้ได้…
-
14 ภาพเปรียบเทียบดาราคนดัง “ตอนออกสื่อ vs ตอนอยู่หลังกล้อง” คุณเดาออกไหม!?
เป็นอย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า ดารา หรือนักแสดง หน้าที่ของพวกเขาก็คือการแสดงบทบาทสมมุติ ผ่านออกมาเป็นตัวละครที่แล้วสมจริงเหลือเกิน ด้วยความที่การแสดงได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของบุคลิกภาพ ทำให้พวกเขาเลือกที่จะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาผ่านภาพถ่ายทั้งหมดนี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ.. ช่างภาพไม่ได้ระบุว่าภาพไหนคือการแสดง หรือภาพไหนเป็นตัวตนที่แท้จริง เอาเป็นว่าลองตามไปเดากันดูเลย Anne Hathaway Ewan McGregor Cynthia Nixon Jeremy Renner Gerard Butler Bryce Dallas Howard Richard Gere Glen Powell Lily-Rose Depp Rachel Weisz Aaron Eckhart Amy Adams Jennifer Connelly Sigourney Weaver …
-
เมื่อแมวเหมียว VS หนุ่มหล่อ โพสต์ท่าสุดแซ่บเหมือนกันเป๊ะ คุณจะอยู่ทีมไหน!??
จำได้ว่าก่อนหน้านี้เราเคยนำเสนอภาพเปรียบเทียบระหว่างแมวเหมียว กับหนุ่มหล่อ ที่มาไฟว์โพสต์ท่าถ่ายรูปได้เหมือนกันแบบเป๊ะๆ จนแทบตัดสินไม่ได้เลยว่าฝ่ายไหนดูดีกว่ากัน ในครั้งนี้ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เพราะเรามีภาพของบรรดาหนุ่มหล่อสุดเซ็กซี่ กับน้องเหมียวแสนมุ้งมิ้งมาให้ได้ชมกันอีกครั้ง…. งานนี้ทั้งสองฝ่ายได้พากันมาประชันโฉมในท่าโพสต์เดียวกัน ในแบบที่ไม่มีใครยอมใครอีกเช่นเคย ว่าแต่ถ้าหากเห็นแล้วคุณจะเลือกฝ่ายไหนน้า ระหว่างหนุ่มหล่อ กับน้องแมว เฮ้อ…คิดแล้วก็เครียด มันเลือกยากมากจริงๆ อื้อหืออออ งานดีงานเนี๊ยบทั้งคู่ งานเซ็กซี่ก็มา ไม่มีใครยอมใครเลยจริงๆ กรรมการอย่างเราๆ ดูเหมือนจะเริ่มตัดสินยากแล้วละสิ ท่าโพสต์สุดเซ็กซี่ กับใบหน้าที่ดูยั่วยวนใจ มาแนวหนอนหนังสือ ดูขยันกันเหลือเกิน นายมีนก เราก็มีเหมือนกัน อู้ววววววว ท่าทางมาเต็มจริงๆ เอิบ!! เจ้าเหมียว คือ…จะถ่ายแบบนี้แน่ใจแล้วใช่ไหม พวกเขาผู้มากับแสงไฟ สว่างไสวแม้จะอยู่ในที่มืด ฝ่ายไหนจะกินขาด โปรดดูเอาเองเถิด 0.0 งานมงกุฏดอกไม้ก็มา หนุ่มหล่อ VS น้องเหมียวผู้รักในเสียงเพลง รู้สึกว่าจะเริ่มหลงทั้งคนทั้งแมวแล้วนะเนี่ย …
-
ชายหนุ่มทุ่มเงินเกือบล้าน เปลี่ยนตัวเองให้เป็น “เอลฟ์ในชีวิตจริง” เจ็บแค่ตัว แต่สุขที่ใจ…
ปัจจุบันการศัลยกรรมถือเป็นเรื่องที่แทบจะปกติในสังคมไปแล้ว ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่สร้างความมั่นใจให้ใครหลายๆ คน แต่ที่อาจจะไม่พบได้บ่อยครั้งนักก็คือ… บางคนยังศัลยกรรมเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้เหนือมนุษย์ปกติไปอีกขั้นด้วย รูปลักษณ์เหนือมนุษย์นี้ก็คือการศัลยกรรมเลียนแบบตัวละครจากนวนิยายหรือจากหนังแฟนซี ที่มักจะมีรูปร่างหรือส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ไม่เหมือนมนุษย์ปกติทั่วไป ทำให้หลายคนคลั่งไกล้จนอยากมีรูปร่างเช่นนั้น Luis Padron วัย 25 ปี คือหนึ่งในผู้หลงใหลตัวละครแฟนซี ถึงขนาดยอมทุ่มเงินมากกว่า 900,000 บาท เพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองให้เหมือนเอลฟ์ให้ได้ Padron จากบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เขาบอกว่าตัวเองถูกรังแกมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่มีสังคม ดังนั้นชีวิตของเขาจึงหมกมุ่นอยู่กับโลกเทพนิยายของเอลฟ์ นางฟ้า และโลกเหนือจินตนาการ และเมื่อโตขึ้น เขาจึงเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เหมือนตัวละครที่เขาชื่นชอบ โดยเฉพาะเอลฟ์ เขาเริ่มด้วยการฟอกสีผมและทำสีผิว ระหว่างนี้เขาต้องใช้เงินเดือนละประมาณ 150,000 บาท เพื่อใช้ครีมทาผิวที่มีคุณสมบัติพิเศษ ใช้ครีมเปลี่ยนสีผิว ครีมบำรุงผิว และครีมกันแดด SPF 100 นอกจากนี้เขายังทำศัลยกรรมผ่าตัดกราม แก้ไขจมูก กำจัดขนทั้งตัว และเปลี่ยนสีดวงตาด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เขาใช้เงินไปประมาณ 900,000 บาท ตอนนี้รูปร่างหน้าตาของ Padron เปลี่ยนไปจนห่างไกลความเป็นมนุษย์มากขึ้นทุกทีๆ แต่เขาก็ไม่สนใจว่าใครจะว่าหรือจะมองเขายังไง และจะไม่หยุดทำจนกว่าจะเปลี่ยนตัวเองให้เหมือนเอลฟ์จริงๆ Padron…
-
ม่านดำมืดมิดกับลวดลายแสงไฟ ให้คุณรู้สึกว่า ใช้ชีวิตอยู่ในเพนท์เฮาส์หรูบนตึกสูง
การสร้างบ้านนั้นนอกจากโครงสร้างภายนอกแล้ว การตกแต่งภายในก็สำคัญเช่นกัน เพราะบรรยากาศในบ้านจะน่าอยู่หรือไม่ก็อยู่ที่การจัดวางและตกแต่งนี่แหละ ผ้าม่าน เป็นหนึ่งในของตกแต่งบ้านที่เราไม่ควรมองข้าม ซึ่งผ่าม่านโดยทั่วไปนั้นมีไว้เพื่อความสวยงาม บังแดด บังแสง แต่จะดีแค่ไหนถ้ามีผ้าม่านที่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศในห้องของคุณได้ด้วย ถ้าคุณกำลังมองหาผ้าม่านเจ๋งๆ อยู่ละก็… นี่เลยผ้าม่านที่สามารถเปลี่ยนกลางวันให้เป็นกลางคืนได้ แม้แดดข้างนอกจะแรงแค่ไหน ผ้าม่านตัวนี้ก็เอาอยู่ ย้อนกลับไปในอดีต เมื่อปี 1939 สหราชอาณาจักรถูกฝ่ายตรงข้ามคุกคามทางอากาศ ดังนั้นรัฐบาลจึงสั่งให้ประชาชนทุกคนทุกบ้านปิดไฟให้หมดทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าของศัตรู แต่เนื่องจากประชาชนจำเป็นต้องความสว่างในชีวิตประจำวัน พวกเขาจึงแก้ปัญหาด้วยการนำผ้าสีดำสนิทมาแขวนเป็นผ้าม่านไว้ในบ้าน รวมทั้งในรถด้วยเพื่อให้มีแสงจากภายในเล็ดลอดออกไปแม้แต่นิดเดียว แม้ว่าม่านที่มืดมิดนี่จะทำให้รู้สึกอึดอัดสักหน่อย แต่มันก็ทำให้เกิดบรรยากาศความเป็นส่วนตัว ดังนั้นเมื่อสงครามสงบลง ประชาชนบางส่วนจึงเก็บผ้าดำนั้นไว้เพื่อเอาไว้ใช้ในยามที่ต้องการ ปัจจุบันผ้าม่านสีดำนี้ถูกนำมาใช้อีกครั้ง ไม่ใช่เพื่อหลบหลีกสงคราม แต่เพื่อตกแต่งและสร้างบรรยากาศภายในบ้านมากกว่า ซึ่งผ้าดำที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดนั้นจะมีความหนาเป็นพิเศษและสามารถป้องกันรังสี UV ได้ถึง 99% เลยทีเดียว ดังนั้นหากคุณใช้ผ้าตัวนี้แทนผ้าม่านทั่วไป ผู้ผลิตระบุว่ามันจะช่วยดักความร้อนไม่ให้ให้แผ่เข้ามาบ้าน และจะช่วยคุณประหยัดไฟได้มากเลยล่ะ แต่การต้องอยู่ภายในห้องที่มองไปทางไหนก็เห็นความมืด บางทีมันอาจจะทำให้คุณรู้สึกเบื่อก็ได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้นำผ้าดำมาสร้างลวดลายให้น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น ลวดลายที่ว่านี้ เป็นลายตึกรา บ้านช่อง และเมื่อลายเหล่านี้ถูกกระทบกับแสงภายนอก มันจะให้ความรู้สึกเหมือนคุณกำลังอยู่ในช่วงเวลากลางคืน ทั้งๆ ที่เวลานั้นแดดข้างนอกกำลังจ้าอยู่เลย…
-
เด็กหนุ่มถูกเพื่อนขโมย “การ์ดโปเกม่อน” ชาวเน็ตรวมตัวช่วยเหลือ ได้คืนมาตั้ง 3,000 ใบ!!
เรื่องราวดีๆ ในครั้งนี้ เกิดขึ้นกับเด็กหนุ่ม Nate ลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัวหนึ่ง เดิมทีหนุ่มน้อยมีความสนใจที่จะเก็บสะสมการ์ดโปเกม่อนมาอย่างตั้งใจ จนสะสมได้ครบ 400 แผ่น ทว่าตอนที่เขาไปโรงเรียน กลับถูกเพื่อนร่วมห้องขโมยการ์ดสุดที่รักไปทั้งหมด เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยเพราะเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ ทั้งที่ใช้เวลานับปีสะสมมาจนได้ขนาดนี้ ความรู้สึกของเขาถูกทำลาย และเขาก็ไม่รู้สึกว่าอยากจะไปเล่นกับเพื่อนที่โรงเรียนอีกแล้ว… ด้วยความเป็นห่วงคุณพ่อจึงโพสต์ขอบริจาคการ์ดโปเกม่อน จากเพื่อนๆ ในกลุ่ม The Geek Asylum และปรากฎว่าทุกคนต่างก็เข้ามาช่วยเหลือหนุ่มน้อยกันให้เพียบ เจ้าตัวถึงกับตื่นเต้นมาก เพราะไม่น่าเชื่อว่าจะมีเพื่อนๆ ชาวเน็ตของพ่อ ซื้อของขวัญมาปลอบใจมากขนาดนี้ เจ้าตัวเปิดกล่องของขวัญทั้งหมด ก็พบว่าตัวเองได้การ์ดมากถึง 3,000 ใบ!! ถึงแม้ว่าบางคนจะติดธุระมาไม่ได้ พวกเขาก็ไม่ลืมที่จะฝากของขวัญ และเขียนจดหมายกำลังใจมาให้พ่อหนุ่มตัวน้อย ดูจากหน้าก็คงไม่ต้องบอก.. ว่าหนุ่มน้อยจะมีความสุขมากขนาดไหน นอกเหนือจากการ์ดโปเกม่อน ก็มีของฝากอย่างตุ๊กตาปิกาจู หรือแม้แต่ภาพการ์ตูนของตัว Nate เอง และปิกาจูคู่ซี้ของเขา ‘มันเป็นอะไรที่วิเศษมาก ผมก็ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนซื้อของขวัญมาให้เยอะขนาดนี้ มันไปไกลเกินกว่าที่ผมคิดไว้มากๆ ครับ’ คุณพ่อเล่า เรียกได้ว่ากลุ่ม…
-
แก๊งค์ 4 หนุ่มชวนชาวเน็ตมาทาย “หาดิลโด้ให้เจอสิ ถ้านายแน่จริง!!” ก็ลองหากันดู…
แก๊งค์ 4 หนุ่มที่ไม่ใช่ F4 แต่ก็เกือบเหมือน จากอินสตาแกรม @subtledildo ได้ปิ๊งไอเดียที่จะถ่ายรูป และเชิญชวนชาวเน็ตจากทั่วโลกให้เข้ามาร่วมเล่นเกม กฎกติกาการเล่นก็ไม่มีอะไรมากเลย โดย 4 หนุ่มนี้จะทำการซ่อนแท่งดิลโด้เอาไว้ในภาพ เราก็แค่ต้องหาให้เจอว่ามันซ่อนอยู่ตรงไหน แต่ถึงแม้งานนี้ไม่มีของรางวัลให้ ก็มีเสียงตอบรับจากชาวเน็ตมากมาย เพราะมันช่างเป็นเกมที่เล่นฆ่าเวลาแก้เบื่อได้ดีเหลือเกิน ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า เราจะไม่เฉลย ไม่บอกใบ้ เพราะมันยากโคตร!! ดิลโด้อยู่ไหนน๊าา รูปนี้ก็มีดิลโด้เหมือนกันนะ หาให้เจอสิถ้าตาดีจริง อันนี้หาง่ายมาก กลางมหานครนิวยอร์ค ก็มีดิลโด้ซ่อนอยู่เหมือนกัน มาทดสอบสายตากัน ฉลองดินเนอร์วันคริสต์มาสด้วยดิลโด้ที่ซ่อนอยู่ ดิลโด้อยู่ไหนว๊าา อันนี้ต้องตาดีจริงๆ ถึงจะเห็น ภาพนี้ก็ง่ายมาก ภาพนี้เหมือนจะยาก แต่เอาจริงๆ มันก็ยากนั่นแหละ ถ้าเห็นแล้วจะเห็นเลย บางทีอาจจะเป็นแค่เส้นผมบังภูเขา ลองหาดูดีๆ ที่บาร์ก็มีดิลโด้เหมือนกัน อยู่ไหนนะ!? …
-
หนุ่มญี่ปุ่นถาม “จะเลิกกับแฟนดีไหม เพราะเธอลบเซฟโปเกม่อน!?” ชาวเน็ตร่วมกันตอบคับคั่ง
สำหรับชาวเกมเมอร์ทั้งหลายแล้วต้องขอบอกเลยว่า ‘เซฟเกม’ แสนรักนั้นเป็นของรักของหวง ที่รักยิ่งกว่าชีวิตซะอีก เพราะตัวละครแต่ละตัวก็จะมีแนวทางการเล่นที่แตกต่างกันออกไป และทุกตัวล้วนเกิดมาจากความตั้งใจ ความใส่ใจของเราทั้งสิ้น เรียกได้ว่าเป็นชีวิตอีกชีวิตที่สร้างขึ้นมาเลยทีเดียว!! สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะพาเพื่อนๆ ไปชมผลสำรวจของชาวเกมเมอร์ญี่ปุ่น ว่าพวกเขามีความคิดเห็นอย่างไรหากแฟนหนุ่มหรือแฟนสาวมาถือวิสาสะแอบลบเซฟเกมโปเกมอนในเครื่องเกมของเราซะเหี้ยนเลย เรื่องมีอยู่ว่ามีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @mizutarou00312 ได้ตั้งโพลสำรวจขึ้นมาพร้อมกับแคปชั่นว่า “ถึงเหล่าแฟนๆ โปเกมอนทั้งหลาย ลองจินตนาการดูนะว่าถ้าคุณมีปัญหาทะเลาะกับแฟนหนุ่มหรือแฟนสาวของตัวเอง หลังจากนั้นเขาหรือเธอก็ลบเซฟเกมโปเกมอนไปทั้งหมด หลังจากนั้นคู่รักของคุณก็มาสำนึกผิด คุณจะให้อภัยกับพวกเขาหรือไม่?” เวลาผ่านไปแค่ 2 วัน พบว่ามีคนให้ความสนใจร่วมตอบผลสำรวจมากกว่า 33,000 คน แถมยังมียอดรีทวีตไปอีกกว่า 3,400 ครั้งเลยทีเดียว!! และมากกว่า 2 ใน 3 (65%) ของผู้ลงคะแนนโหวตเลือกที่จะไม่ให้อภัยกับคู่รัก และตั้งใจจะเลิก ดูเหมือนว่าจะมีแต่เหล่าฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ที่มาร่วมตอบผลสำรวจ ซึ่งบางครั้งเราก็อาจจะคิดว่าพวกเขาดูหัวรุนแรงไปซักหน่อย ซึ่งทางฝั่งผู้ที่ลงชื่อเป็นเสียงส่วนน้อยเลือกที่จะให้อภัยกับคู่รัก “คุณก็แค่เริ่มเล่นใหม่ จับโปเกมอนใหม่อีกครั้ง มันจะไปยากอะไร” ชาวเน็ตรายหนึ่งกล่าว แต่ลองกลับมามองคอมเม้นต์ของเหล่าผู้ที่โหวตว่าจะไม่ให้อภัยกับคู่รัก พร้อมกับประกาศแข็งกร้าวเลยว่าหากมาทำแบบนี้รับรองว่าเลิกแน่นอน!! โดยพวกเขาให้เหตุผลว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเกมเท่านั้น แต่ยังสามารถมองทะลุไปถึงนิสัยใจคอของคู่รักว่าไม่เหมาะกับการจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอีกด้วย “มันไม่เกี่ยวหรอกว่าจะให้อภัยกับพวกเขาหรือไม่…
-
วิวาห์ล่ม.. เจ้าสาวจับได้ เจ้าบ่าวจ้างคนแปลกหน้ากว่า 200 คน มาเป็นเพื่อนในวันแต่ง!?
สำหรับหญิงสาวที่ใฝ่ฝันอยากจะมีครอบครัว หรือมีพิธีวิวาห์ที่สวยหรูละก็.. บางทีมันก็อาจจะไม่ได้สวยงามอย่างที่เราวาดฝันไว้เสมอไป เพราะล่าสุดสื่อจีน Shanghaiist ได้รายงานเรื่องราวของสองคู่รักชาวจีน ที่เข้าสู่พิธีวิวาห์กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าสาวดันจับได้ว่าเพื่อนร่วมงานทั้งหมดนั้นเป็นหน้าม้าถูกจ้างมา!! ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งของทั้งคู่ ที่ไม่สามารถเปิดเผยหน้าตาได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่มณฑลซีอาน ท่ามกลางงานแต่งที่ทุกอย่างดูเหมือนจะปกติ และเป็นไปได้ด้วยดี ความฝันของเจ้าสาวก็ต้องทลายลง เมื่อเธอเริ่มรู้สึกว่าแขกที่มาร่วมงานหน้าตาไม่คุ้นเคยเอาซะเลย และเธอก็จับได้ว่าเพื่อนร่วมงานกว่า 200 คนนั้นถูกจ้างมา หลังจากที่เจ้าสาวได้พูดคุยกับแขกในงานคนหนึ่งซึ่งเธอคิดว่าเป็นญาติห่างๆ แต่พวกเขากลับไม่รู้เรื่องราวอะไรของทั้งคู่เลยแม้แต่น้อย และบอกได้แค่ว่าเป็นเพื่อนของเจ้าบ่าวเท่านั้น สำนักข่าวท้องถิ่นได้ไปสัมภาษณ์แขกในงาน เจ้าตัวก็ให้การว่าที่มาร่วมงานนี้เพราะได้ยินมาว่าจะได้รับเงินค่าจ้างคนละ 80 หยวน (ราวๆ 350-400 บาท) แถมยังมีอาหารฟรีเลี้ยงด้วย ยิ่งไปกว่านั้น… เจ้าสาวเริ่มสังเกตว่าทำไมญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายชายถึงไม่มาร่วมงานซักที ทั้งที่เป็นงานสำคัญของครอบครัว จนกระทั่งความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผย ครอบครัวของเจ้าสาวถึงกับโทรแจ้งตำรวจจับนาย Wang เจ้าบ่าวทันที ซึ่งทางด้านของเจ้าบ่าวก็ให้การกับตำรวจว่า ทุกคนที่มาร่วมงานได้รับค่าจ้างจริง ส่วนสาเหตุก็เพราะพ่อแม่ของตนเองไม่เห็นด้วยกับการแต่งงาน ผู้ที่มาร่วมงานให้การว่า เจ้าบ่าวได้ประกาศชักชวนผ่านแอพพลิเคชั่น WeChat พวกเขาจึงชวนคนรู้จักมา เพราะเห็นว่าเป็นงานที่จ่ายเงินราคาดี แถมมีข้าวฟรีเลี้ยงด้วย ทางด้านของเจ้าสาวได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตลอดหลายปีที่คบกันมาตนไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้มาก่อน และเธอก็ไม่รู้เลยว่าพ่อแม่ฝ่ายชายที่เคยเจอ แท้จริงแล้วคือนักแสดงที่ถูกจ้างมาเช่นกัน แขกผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นใคร รู้แค่ว่าจบงานจะได้เงิน…
-
เรื่องบนเตียงขอสู้ตาย!! 9 เรื่องราวการผสมพันธุ์ของ “หมึก” ที่ทั้งซึ้ง ทั้ง 18+ และชวนสยอง
ทุกสรรพสิ่งบนโลกล้วนต้องมีการสืบพันธุ์เพื่อออกลูกออกหลานมาเรื่อยๆ ไม่ให้สายพันธุ์ของพวกมันสูญพันธุ์ไปจากโลก สัตว์บางชนิดมีการผสมพันธุ์ข้ามเพศ บางตัวสามารถผสมพันธุ์และให้กำเนิดลูกๆ ได้ด้วยตัวของมันเอง แต่มีสัตว์อยู่ชนิดหนึ่งอย่างหมึกที่ทุกวันนี้#เหมียวฟิ้นก็ยังเกิดคำถามสงสัยอยู่เลยว่าพวกมันมีพฤติกรรมหรือผสมพันธุ์กันยังไง!? เชื่อว่าคำถามนี้หลายๆ คนก็คงสงสัยเหมือนกัน เราเลยไปขุดคุ้ยหาข้อมูลลับเฉพาะแบบ 18+ ของพวกมันมาให้ทุกคนอ่านกัน ลองมาดูกันไปทีละข้อๆ เลย 1. หมึกตัวผู้จะความจำเสื่อมหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์แล้วก็ตายจากไป แม้ว่าหมึกตัวผู้และตัวเมียจะผสมพันธุ์เสร็จโดยที่ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน แต่ทั้งคู่จะเริ่มเข้าสู่สภาวะแก่ชราและมีอาการคล้ายกับสมองเสื่อม ตัวผู้จะเริ่มใช้ชีวิตอยู่อย่างสันโดษ กินอาหารน้อยลงจนล่องลอยไปตามท้องทะเลแบบไร้จุดหมาย ซึ่งจะกลายเป็นเป้านิ่งให้นักล่าจับมันกินเป็นอาหาร ส่วนตัวเมียจะยังคงดูแลไข่ของลูกๆ อยู่ มันช่างน่าเศร้าอะไรขนาดนี้ 2. การผสมพันธุ์บางครั้งนำไปสู่โศกนาฏกรรม นักวิจัย Richard Ross จากสถาบันวิจัยสัตว์น้ำ California Academy of Science’s Steinhart Aquarium ได้เคยศึกษาพฤติกรรมการใช้ชีวิตคู่ของหมึก พวกเขาพบว่าบางครั้งถ้ามีอาหารไม่เพียงพอ พวกหมึกตัวเมียจะจับตัวผู้กินเป็นอาหาร ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง…อึ๋ยยย… 3. หมึกเพศผู้ได้รับความเสี่ยงสูงเวลามีเพศสัมพันธุ์ การผสมพันธุ์ของหมึกมีความซับซ้อนและค่อนข้างรุนแรง แต่หมึกตัวผู้ก็ยังต้องแบกรับความเสี่ยงอันตรายทั้งหลายไว้ หมึกตัวเมียอาจรัดคอตัวผู้จนบาดเจ็บสาหัส ดึงหนวดตัวผู้จนขาด ฉะนั้นหมึกตัวผู้จะรู้ดีว่าไม่ควรจะไปแหยมกับตัวเมียถ้าไม่จำเป็น 4. หมึกตัวผู้จะตัดแขนตัวเองจนขาด เพื่อสะบัดหนีออกจากตัวเมียก่อนจะโดนทำร้ายจนตาย บางครั้งหมึกตัวผู้จะรับรู้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามาในระหว่างที่กำลังผสมพันธุ์อยู่ พวกมันจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการตัดหนวดของตัวเองทิ้งแล้วผละจากตัวเมียเพื่อหนีเอาตัวรอด แต่ถึงจะหนีไปแบบหน้าตั้งแต่ก็ถือว่าการผสมพันธุ์นั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว…
-
22 ภาพวิถีชีวิตที่บ่งบอกความเป็นฮิปสเตอร์ ว่ามันค่อนข้างจะฮิป แหวกแนวไปสักหน่อยแล้ว
วิถีฮิปสเตอร์ถือว่าเป็นเทรนที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แต่บอกใด้เลยหากคุณไม่ได้มีความเป็นฮิปสเตอร์ในตัว หรือเป็นเพราะทำตามคนอื่นเนี่ย คุณจะเป็นฮิปสเตอร์ได้ไม่นาน เพราะเส้นทางนี้มันไม่ง่ายเลย พวกเขามักจะทำอะไรที่คนอื่นไม่ค่อยทำ โดยเฉพาะร้านนั่งชิลทั้งหลาย ที่มักจะมีเมนูแปลกๆ ใช้ภาชนะเก๋ๆ เก่าๆ แต่นั่นคือชีวิตปกติของพวกเขาเลยแหละ ซึ่งบางทีมันก็ดูชิคๆ ซะจนอยากจะเป็นชาวฮิปสเตอร์บ้าง 1. ร้านฮิปสเตอร์เสิร์ฟเบียร์ใส่เหยือก อร๊าาาาาา 2. แค่เปลี่ยนชื่อร้านนิดเดียว ก็สามารถอัพราคาได้ถึง 10 เท่า 3. รังสรรค์เมนูแปลกๆ เช่น ผักผสมกับคุกกี้ 4. เสิร์ฟมาร์ตินี่กระป๋องให้ลูกค้า 5. เปลี่ยนจากคำว่าเวลาเปิดปิด เป็นเวลาแห่งความสร้างสรรค์ 6. บางทีก็นำของเก่าสำหรับตั้งโชว์มาใช้งานจริง อย่างเครื่องปั่นเนยตัวนี้ 7. ใช้แว่นตาหรือหนวดเป็นตราสัญลักษณ์ผลไม้พันปี 8. และของบางอย่างเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร!? มีแต่ชาวฮิปเท่านั้นที่เข้าใจ 9. ใช้โดนัทมาตกแต่งผนัง 10. ป้ายเชิญชวนที่ไม่ต้องประณีตมากแต่แฝงไปด้วยข้อความดึงดูด 11. บิลในกระดูก ไม่ฮิปจริงเข้าไม่ถึงนะ 12. นำอาหารใส่ในกล่องไข่แทนจาน…
-
ตามไปส่อง “อาหารเช้า” ของชาวญี่ปุ่น 20 คน มื้อง่ายๆ แต่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์
เพื่อนๆ เคยได้ยินกันไหมว่า “มื้อเช้าคือมื้อที่สำคัญที่สุด” ซึ่งในแต่ละประเทศก็มีอาหารเช้าที่แตกต่างกันออกไป โดยในครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปส่องอาหารมื้อเช้าของชาวญี่ปุ่นว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง แม้อาหารญี่ปุ่นต่างๆ ทั้งซูชิ อุด้ง ซาชิมิ จะโด่งดังไปทั่วโลกแต่เรากลับยังไม่เคยเห็นมื้ออาหารเช้าของชาวญี่ปุ่นเท่าไรดังนั้นเราไปดูกันดีกว่าว่าจะน่าทานแค่ไหน 1. หนุ่มวัย 20 จาก โตเกียว – ชาญี่ปุ่น – กล้วย – ถั่วนัตโตะ(ถั่วหมัก) – ไข่ไก่ดิบ เขากล่าวว่า “ผมชอบทานถั่วนัตโตะมาก แล้วก็ชอบทานมันผสมกับไข่ดิบและข้าว” 2. หนุ่มวัย 20 อีกคนจากโตเกียว – หมูผัดขิง – ซุปมิโสะ – ข้าวสวย อาหารง่ายๆ แต่อร่อยสุดๆ 3. ชายวัย 30 ในเมืองฟูกุโอกะ – ข้าวสวย – ถั่วนัตโตะ(ถั่วหมัก) – ซุปผัก 4. ชายหนุ่มวัย 30 ปี ในเมืองโตเกียว นี่คืออาหารเช้า 3…
-
ช่างภาพจับเอา “ของเล่น” มาเซ็ทฉากถ่ายรูป สร้างเรื่องราวสุดล้ำ ที่ดูไปก็อมยิ้มไป…
วันนี้ #เหมียวปั๊ก จะพาทุกท่านไปดูผลงานภาพถ่ายของคุณ Mitchel Wu ตากล้องผู้มีไอเดียการจับเหล่าของเล่นตัวน้อยๆ จากภาพยนต์และการ์ตูนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Starwars, Marvel, The Muppet, Disney และอื่นๆ อีกมากมาย มาถ่ายมาโพสท่าให้มีเรื่องราวที่น่าสนใจ โดยคุณ Mitchel Wu นั้นเป็นตากล้องมากประสบการณ์ที่มีไอเดียการนำเสนอเรื่องราวและความหลากหลายของจักรวาลตัวละครในเรื่องต่างๆ ผ่านการถ่ายภาพของเขา โดยไม่จำเป็นว่าตัวละครนั้นจะต้องอยู่ในเรื่องเดียวกัน ด้วยเทคนิคการถ่ายภาพที่เน้นความสนุกสนาน จึงทำให้ภาพของเขานั้นดูมีชีวิตขึ้นมา พวกข้ามาแล้ววว เจ้ากบ Kermit กับการนั่งสมาธิของเขา มาเล่นน้ำกันดีกว่า ~ ม่ายยยย เพื่อน จับมือชั้นไว้ วู้!! Spiderman มาแล้ว นั่งพักกันหน่อยเพื่อน ไปเลยเพื่อน วู้ว!! ตายละ… โดนจับได้แล้ว ไม่มีใครหยุดข้าได้ ย้าาาาาาก!! เมื่อโอบิวันต้องรับศึกหนัก ของรักของข้าอยู่ไหน…
-
26 สิ่งประดิษฐ์ที่ถูกออกแบบมา เพื่อให้ “มนุษยชาติ” สามารถ “กินอาหาร” ได้สะดวกสบายขึ้นเยอะ!!
ขึ้นชื่อว่ามนุษย์แล้วย่อมต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองสะดวกสบายที่สุด ดังนั้นทุกวันนี้จึงมีการคิดค้น ประดิษฐ์สิ่งต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ รวมทั้งการกินอาหารที่ว่าง่ายแล้วก็ยังทำให้ง่ายขึ้นไปอีก วันนี้เราได้นำสิ่งที่ต้องเจอในชีวิตประจำวันแต่ถูกทำให้มีความสะดวกมากขึ้นมาให้เพื่อนๆ ดู เอาใจคนรักความสะดวกสบาย ไปดูกันสิจะถูกใจเพื่อนๆ มั้ย!? 1. อโวคาโดที่มีสติกเกอร์แปะกำกับเพื่อให้รู้ว่าสุกแค่ไหนถึงจะกินได้ 2. ภาชนะใส่ของกินและเครื่องดื่ม เป็นทั้งแก้วทั้งจาน ประหยัดพื้นที่ไปเยอะ ไม่ต้องถือหลายมือด้วย 3. รถเข็นที่มีแว่นขยายสำหรับผู้สูงอายุ 4. เป็นทั้งตะเกียบและส้อม 5. เป็นทั้งโต๊ะสำหรับเด็กและยังเป็นเก้าอี้ได้อีกด้วย 6. วัสดุที่ทำมาเพื่อห่อหุ้มอาหารทานเหลือโดยเฉพาะ ทำให้มันคงสภาพเดิมมากกว่าพลาสติกหุ้มธรรมดา 7. ห่อกระดาษสำหรับใส่เฟรนซ์ฟราย และด้านข้างยังมีช่องใส่ซอสด้วยนะ 8. หัวฉีดสเปรย์ที่เสียบเข้าไปในผลไม้แล้วฉีดออกมาได้เลย 9. ป้ายบอกระดับความสุกของกล้วยที่พร้อมทาน เพื่อให้คุณได้ทานกล้วยที่มีความสุกพอดี 10. ที่ช้อนขนมให้อยู่ขอบภาชนะ ไม่ต้องล้วงไปหยิบให้เปื้อนมืออีกแล้ว 11. น้ำแข็งกาแฟจะเติมกาแฟหรือทานเป็นก้อนเลยก็ได้ 12. เสิร์ฟเบียร์แบบไม่ต้องใช้พนักงานเสิร์ฟ แต่ใช้รถเลื่อนของเล่นแทน 13.…
-
เจ้าของโพสต์ภาพพา “หมาตาบอด” เดินเล่นยามดึก นำสู่ดราม่า ถ้าเป็นแบบนี้จะเลี้ยงไว้ทำไม??
สุนัขแม้จะเป็นแค่สัตว์ธรรมมดาแต่มันก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ ดังนั้นมนุษย์หลายๆ คนที่มีความผูกพันกับสุนัขจึงยอมทำทุกอย่างให้มันมีความสุขจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต ดังนั้นคนที่ตัดสินใจเลี้ยงสุนัขต้องเตรียมใจรับมือกับช่วงสุดท้ายของชีวิตพวกมันด้วย เหมือนกับ Kiefer สุนัขที่ต้องคอยดูแลเป็นพิเศษเพราะมันป่วยหนัก Kiefer เข้ารับการผ่าตัดเอาลูกตาออกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เนื่องจากมีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรง แต่หลังจากผ่าตัดอาการของมันก็แย่ลงเรื่อยๆ แต่มันโชคดีที่มีเจ้าของที่รักและเป็นห่วงมันเสมอ เจ้าของได้อยู่ดูแล Kiefer อย่างใกล้ชิด แต่พยายามทำทุกอย่างให้สุนัขป่วยตัวนี้มีความสุขที่สุดก่อนมันจากไป อาการของมันยังคงทรุดลงอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดมันไม่ยอมขยับไปไหนเป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้ว ทำให้ทุกคนในบ้านเตรียมใจรับมือกับการจากลาของมันในอีกไม่ช้านี้ แต่แล้วคืนหนึ่งเวลาประมาณ 01:30 น. Kiefer ก็ลุกขึ้นยืนและทำท่าเหมือนอยากออกไปเดินเล่นให้ได้ เจ้าของถึงกับแปลกใจ แต่ก็ไม่ลังเล ตัดสินใจพามันออกไปเดินเล่นทันที เพราะนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้ทำเพื่อเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ตัวนี้ก็ได้ เจ้าของพา Kiefer เดินไปยังร้านพิชซ่า แล้วแบ่งให้มันกินด้วย จากนั้นก็พามันเดินไปตามถนนเรื่อยๆ สุนัขดูมีความสุขมาก มันเดินไปทุกที่แม้จะมองไม่เห็นแล้วก็ตาม เจ้าของเองก็ไม่ลืมที่จะถ่ายภาพช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ไว้ด้วย หลังจากนั้นเจ้าของก็ได้แบ่งบันเรื่องนี้ในเว็บไซต์ Imgur จนมีชาวเน็ตมากมายเข้ามาให้กำลังใจ แต่แล้วเรื่องราวดราม่าก็บังเกิด ชาวเน็ตหลายคนคอมเม้นท์ไปในทางที่ว่ามันป่วยหนัก แต่ก็ไม่ยอมปล่อยให้มันไปสบายด้วยการการุณยฆาต กลับเลี้ยงมันเอาไว้ให้มันทรมาน ก็มีบางส่วนบอกว่า ‘ทำแบบนี้มันทรมานสัตว์ชัดๆ รู้ทั้งรู้ว่ามันป่วยก็ยังพาออกมาเดินเล่นอีก’ หรือบางคนก็บอกว่า ‘เขาไม่ได้ทำเพื่อหมาแต่ทำเพื่อความสบายใจของตัวเองมากกว่า’ …
-
โปรเจ็คถ่ายรูปเหล่าผู้บกพร่อง สื่อให้เห็นว่าแม้พวกเขา “ไม่สมบูรณ์แบบ” แต่ก็เป็นคนเหมือนกับเรา
เราทุกคนคงไม่มีใครอยากเกิดมาพร้อมความพิการ เพราะจะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตรวมทั้งขีดความสามารถในการเรียนรู้ที่จำกัดด้วย แต่ถึงจะเกิดมาพิการก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะแย่ไปเสียหมด หากเราเปิดใจแล้วก้าวเข้าในโลกของคนพิการเราจะเห็นถึงความพิเศษและได้เข้าใจพวกเขามากขึ้น Zoe Proctor ช่างภาพจากหน่วยงาน Zebedee Management ที่รวบรวมภาพของบุคคลที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ เพื่อให้ทุกคนมองข้ามความพิการและทำความเข้าใจกับสิ่งที่พวกเขาเป็น สำหรับแรงบันดาลใจในการถ่ายรูปครั้งนี้ เกิดจากการที่ช่างภาพได้เห็นคนใกล้ตัวซึ่งมีความบกพร่องทางการเรียนรู้ แต่เขาสามารถทำอะไรมากกว่าที่เราคิด เช่นบางคนอาจจะอ่านได้ช้า แต่มีความสามารถในการคิดเลขได้อย่างรวดเร็ว บางคนอาจจะพูดตอบโต้ได้ช้า แต่สามารถจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้อย่างแม่นยำ เพราะพวกเขาแค่มีบางสิ่งต่างไปเท่านั้นเอง สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า คนพิการบางคนแม้จะดูไม่ปกติ แต่พวกเขาเกิดมาพร้อมพรสวรรค์พิเศษที่คนอื่นไม่มี และที่หลายๆ คนไม่เคยรู้เป็นเพราะมองพวกเขาเป็นเพียงคนพิการเท่านั้น ดังนั้นหากคุณอยากเห็นความสามารถของพวกเขา ลองเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อคนพิการ เปิดโอกาศให้พวกได้แสดงความสามารถ และไม่ควรแบ่งแยกเขาออกจากสังคม แต่ควรจะปฏิบัติกับพวกเขาเช่นเดียวกับคนธรรมดาทั่วไป . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
งานแต่งงานแนว Harry Potter ที่จะทำให้ทุกคนอิจฉา เพราะโลกเวทมนต์มีอยู่จริง!!
บอกได้เลยว่าแฟนๆ ของหนังและนิยายซีรีส์ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” นั้นมีอยู่ทั่วโลกทั่วจักรวาล บางคนก็ชอบเพราะความสนุก บางคนก็ลงลึกไปถึงรายละเอียดต่างๆ ของเรื่อง แต่ก็ยังไม่มีใครที่จะกล้าทำงานแต่งงานให้ออกมาได้อลังการราวกับมีเวทมนตร์เท่าคู่รัก Cassie และ Lewis Byrom แล้ว กว่างานแต่งครั้งนี้จะเกิดขึ้นได้ ทั้งคู่ใช้เวลาเป็นปี ในการเตรียมงาน ซื้อของจาก Ebay เพื่อรายละเอียดของงานจะได้เป๊ะ อีกทั้งยังมีแขกกว่า 130 ชีวิตที่จะมาร่วมเป็นสักขีพยาน และทุกคนจะได้รับไม้กายสิทธิ์เพื่อให้เข้ากับธีมของงาน ส่วนที่สำคัญที่สุดของงานแต่งก็คือแหวนนั่นเอง โดยแหวนแต่งงานนั้นจะสื่อถึง “เจ้าชายเลือดผสม” หรือก็คือเซเวอรัส สเนป ชายผู้มีความรัก “ตลอดกาล” นั่นก็หมายความว่าความรักของทั้งคู่จะมีให้กันตลอดนั่นเอง Cassie และ Lewis Byrom ตัดสินใจที่จะมีงานแต่งงานที่มาจากสิ่งที่พวกเขาชอบนั่นก็คือ… …แฮร์รี่ พอตเตอร์!! เริ่มตั้งแต่ป้ายประกาศจับในวันแต่งงาน.. รองเท้า… และเครื่องประดับ . เจ้าสาวยังทาเล็บเป็นเครื่องรางยมทูตด้วย รายละเอียดเยอะจริงๆ แม้กระทั่งกางเกงในก็ยังเป็นลายแฮร์รี่ ช่อดอกไม้ของเจ้าสาวนั้นทำมาจากกระดาษของหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ฉบับนิยายจำนวน 20…
-
มาดู “ห้องนอน” ของนักบินและลูกเรือ ที่ซึ่งผู้โดยสารหลายคน อาจจะยังไม่เคยเห็นมาก่อน
หลายคนอาจจะคิดว่างานของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนั้นเป็นงานที่สบาย แต่การทำงานจริงๆ ต้องมีความรับผิดชอบสูงมากต่อชีวิตผู้โดยสารในสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ โดยเฉพาะนักบินผู้ซึ่งเป็นคนสำคัญที่จะพาผู้โดยสารไปถึงที่หมายโดยปลอดภัย พวกเขาเหล่านี้ต้องดูแลทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบายของผู้โดยสารตลอดเวลา แต่หากพวกเขาเหล่านี้ถึงเวลาพัก พวกเขาจะพักกันที่ไหนและบรรยากาศจะเป็นเช่นไร #เหมียวปั๊ก มีความภูมิใจที่จะพาทุกท่านไปดูห้องพักลับของนักบินและลูกเรือ ที่ซึ่งใครหลายๆ คนไม่มีโอกาสได้เข้าไปดู แท่น แทน แท้นนนนนนน… พื้นที่บนเครื่องบินโดยส่วนใหญ่มีจำกัด จึงต้องมีการออกแบบแต่ละส่วนให้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด โดยในส่วนที่ลูกเรือและนักบินใช้ในการพักผ่อน เราเรียกกันว่า CRCs หรือ ห้องพักลูกเรือ ห้องพักลูกเรือโดยส่วนใหญ่มักจะอยู่หัวเรือและท้ายเรือ และมักถูกซ่อนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากผู้โดยสาร สำหรับลูกเรือที่เหนื่อยล้า เตียงนอนนุ่มๆ สักเตียงคงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด บันไดที่จะขึ้นไปสู่ห้องพักลูกเรือ จะนอนเป็นคู่ ก็ดูเก๋ไปอีกแบบ ห้องพักลูกเรือมีอยู่หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับสายการบิน ด้วยพื้นที่จำกัด ก็อาจจะต้องนอนรวมกับเพื่อนๆ ในเตียงแบบนี้ ในบางเที่ยวบินส่วนตัว ห้องพักนักบินก็มีหน้าตาที่หรูหราแบบรูปนี้ สำหรับนักบิน ห้องพักมักอยู่ไม่ไกลจากคันบังคับ เครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ ห้องพักนักบินอาจจะมีเก้าอี้เสริมให้นักบินด้วย นอกจากการพักผ่อนที่เพียงพอ การผ่อนคลายหลังจากความเครียดก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักบิน …
-
สุดยอดคัมภีร์เลือกที่นั่ง ในการโดยสาร “ขนส่งมวลชน” ให้มีโอกาสรอดชีวิตมากที่สุด!!
การเดินทางไม่ว่าจะมีวิธีไหนก็ล้วนเกิดความเสี่ยงต่อภัยอันตรายต่างๆ ได้เสมอ ไม่ว่าจะด้วยตัวเอง หรือแม้แต่การเดินทางด้วยระบบขนส่งอื่นๆ อย่างเครื่องบินหรือรถไฟก็ตาม ฉะนั้นวันนี้ #เหมียวมู่ทู่ ก็เลยจะมานำเสนอคัมภีร์ลับสำหรับการเลือกที่นังยังไง ให้เซฟมากที่สุดถ้าต้องเกิดอุบัติเหตุ ว่าแต่จะมีวิธีไหนบ้าง แล้วใช้ได้กับระบบขนส่งชนิดไหนบ้างมาดูกันเลย 1. รถเก๋ง รถแท็กซี่ จุดปลอดภัย: เบาะหลังคนขับและเบาะหลังตรงกลางจะเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุดเพราะถ้ารถต้องชนจุดนี้จะได้รับผลกระทบน้อยที่สุดนั่นเอง จุดอันตราย: ที่นั่งข้างๆ คนขับจะอันตรายมากที่สุดเพราะในรถบางรุ่นจะไม่มีถุงลมนิรภัยสำหรับที่นั่งจุดนี้ ทำให้เวลาชนมีโอกาสที่จะหัวฟาดอย่างรุนแรงไม่ก็ทะลุออกจากรถไปได้ 2. รถตู้ จุดปลอดภัย: บางรุ่นจะมีจุดที่นั่งสวนทางกับทางที่รถเคลื่อน ที่จุดนี้ปลอดภัยที่สุดก็เพราะสามารถเข้าออกจากรถได้ง่าย และแรงกระแทกจะไม่ทำให้หน้าต้องพุุ่งไปทิศทางเดียวกับจังหวะที่ชน จุดอันตราย: เช่นเดียวกับรถเก๋ง ที่นั่งข้างคนขับเป็นอะไรที่อันตรายมากที่สุด ยิ่งกับรถตู้ด้วยแล้วกระจกที่แตกสามารถทำอันตรายกับตัวเราได้ง่ายมากๆ แถมยังสามารถนั่งได้ถึงสองคน คนที่อยู่ตรงกลางจะหนีออกมาได้ยากมากๆ 3. รถเมล์ จุดปลอดภัย: ควรจะนั่งในจุดที่จุดตรงข้ามกับทางขึ้นลงและโล่งเพื่อสะดวกในการหนีออกจากตัวรถ ที่สำคัญควรนั่งให้ห่างจากระจกเพื่อลดอัตราได้รับบาดเจ็บในจังหวะที่กระจกแตก จุดอันตราย: จุดที่อันตรายที่สุดก็จะเป็นที่นั่งข้างหลังสุดของตัวรถ เพราะว่ารถเมล์มีตัวป้องกันส่วนหลังที่ต่ำมากๆ ส่วนที่นั่งติดกระจกและทางออกก็ถือว่าอันตรายเช่นกัน 4. รถไฟ จุดปลอดภัย: ควรจะเลือกนั่งตรงกลางโบกี้และนั่งในโบกี้ที่จะกลางขบวนมากที่สุด เพราะในยามที่มีปัญหาจุดนี้จะเป็นจุดที่รับรู้ทุกอย่างได้รวดเร็วรวมถึงอันตรายต่างๆ จะเข้ามาถึงยาก จุดอันตราย: นั่งทิศทางเดียวกับตัวรถ จะเป็นจุดที่อันตรายที่สุด เพราะจะมีโอกาสที่กระเด็นไปข้างหน้ามากที่สุด ส่วนโบกี้ที่อันตรายก็จะเป็นโบกี้หัวและท้ายขบวน 5.…
-
16 มนุษย์อัจฉริยะ ผู้ยกระดับการแก้ปัญหาขึ้นไปอีกขั้น จนเราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว!!
ว่ากันว่าคนขี้เกียจจะมีมันสมองที่อัจฉริยะอย่างเหลือเชื่อ แต่ถ้าพูดขึ้นมาเฉยๆ อาจจะไม่เห็นภาพ ทว่าถ้าลองมองกลับไปที่สิ่งต่างๆ ที่เหล่าคนขี้เกียจทำ พวกเขาจะสามารถแก้ปัญหายากๆ ได้อย่างรวดเร็วและเหลือเชื่อด้วยวิธีที่สุดล้ำขนาดที่ว่าเราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว วันนี้เราก็เลยจะมาดู 16 ภาพการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เหมือนจะขี้เกียจแต่มันกลับได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ จนต้องยอมรับในความอัจฉริยะของพวกเขาเลยทีเดียว นอกจากไม่ต้องเปลี่ยนมือถือใหม่ วอลเปเปอร์อันนี้ยังสร้างความคิดสร้างสรรค์ไว้อวดเพื่อนได้ด้วย เท่จริงๆ วิธีการแก้ปัญหาแบบเฟี้ยวๆ ง่ายๆ แค่เติมคำว่า Tis but a scratch (แค่รอยขีดข่วนเท่านั้น) เข้าไปก็พอแล้ว อีกหนึ่งวิธีการเติมคำเข้าไปเพื่อแก้ปัญหารอยต่างๆ ได้อย่างมีชั้นเชิง อย่างอันนี้ก็จะเป็น อย่าข่วนรถสิโว้ยวูฟเวอร์รีน!! ถังขยะมันมีรอยแตก แค่เติมหน้าเข้าไปปัญหาก็ได้รับการแก้ไข แถมดูตลกดีด้วยนะ ก็ถ้าหิมะมันเป็นปัญหาขนาดนั้น ก็เอามาแช่เบียร์ไว้กินเย็นๆ เลยแล้วกัน อยากว่ายน้ำ แต่ฝนตกหนักน้ำท่วมไม่รู้ทำไง ก็เล่นน้ำฝนนี่แหละ ถ้าน้ำท่วมมันเดินทางปกติลำบาก เรือก็ไม่มี กะละมังนี่แหละทางออกของคุณ แบบนี้แหละที่เรียกพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เออ กลัวแล้วให้ก็ให้ พายุพัดต้นไม้แรงเสียจนจะล้ม แต่มันก็ไม่ล้มจนรากหลุดหมด จะเอากลับมาที่เดิมก็ลำบาก…
-
Oatman เมืองสุดคลาสสิกบนถนน Route 66 ที่ประชากรหลักเป็นลา ลา และลา เต็มไปหมด!!
ส่วนใหญ่หนังคาวบอยเราจะเห็นเมืองต่างๆ ที่มีผับมีบาร์รวมถึงบ้านคนที่เป็นไม้เก่าๆ ดูคลาสสิก ส่วนคนก็จะขี่ม้าไปมาในเมือง แต่เคยคิดไหมว่าจะมีเมืองแนวนั้นอยู่ทว่าเปลี่ยนจากม้าให้กลายเป็นลาแทน?!! อ่านดูแล้วอาจจะคิดว่าบ้า.. เป็นเมืองคาวบอยทำไมถึงเปลี่ยนม้าเป็นลาล่ะ!? แต่เมือง Oatman เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ เมือง Oatman ตั้งอยู่บนถนนสาย Route 66 อันโด่งดังในรัฐแอริโซนาประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเมืองเล็กๆ แห่งนี้ยังคงกลิ่นอายความเป็นคาวบอยด้วยสิ่งก่อสร้างแบบดั่งเดิม แต่ที่ต่างก็คงจะเป็นเมืองแห่งนี้จะมีลาเดินเดินเพ่นพ่านเต็มถนนไปหมด ส่วนสาเหตุที่ทำให้เมืองนี้กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากเดิมก็เพราะว่า ผลพวงจากเมือง Laughlin ในรัฐเนวาด้าที่เป็นเมืองคาสิโนและมีประชากรมากขึ้น ทางเมืองจึงอยากจะระบายผู้คนโดยการโปรโมทเมืองอื่นๆ และ Oatman ก็ได้ผลประโยชน์จากส่วนนั้นนั่นเอง ส่วนต้นตอของประชากรลาภายในเมืองมันเริ่มมาจากลาที่หลงฝูง รวมถึงลาที่เป็นลูกหลานของฝูงลาในยุคบุกเบิกขณะที่ชาวเมืองยังคงขุดแร่เป็นหลัก และพวกมันก็แพร่พันธุ์ในเมืองแห่งนี้จนมีทายาทอยู่เต็มไปหมด จนถึงตอนนี้พวกมันก็ได้รับการคุ้มของจากกระทรวงมหาดไทยของสหรัฐอเมริกาแล้วด้วย ยืนดูรถซ้ายขวาว่าจังหวะไหนข้ามได้แล้วบ้าง รถหยุดให้แล้ว จังหวะนี้แหละข้ามเลยย.. ถ้าใครคิดว่าลาพวกนี้จะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวเมือง ก็ต้องบอกเลยว่าคุณกำลังคิดผิด เพราะลาที่อาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้พวกมันฉลาดมากๆ มันเรียนรู้ว่าเวลาไหนควรจะข้ามถนน จุดไหนคือจุดกินอาหาร รวมถึงจำสถานที่โปรดของพวกมันได้ด้วย นอกจากนั้นยังมีป้ายประกาศสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อย้ำเตือนให้ระวังลาภายในเมือง อยู่ทั่วห้างร้านและรอบๆ ตัวเมืองอีกด้วย จุดให้อาหารลาที่พวกมันรู้ดีว่าถ้ามาตรงนี้ได้กินอาหารแน่นอน บางตัวก็จะถูกเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงของผู้คนในเมือง..อย่างเจ้าตัวนี้จะมีชื่อว่า Harley หรือจะเป็นเจ้าลูกลาตัวนี้ที่กำลังหลับอยู่บนถนน น่ารักไหมล่ะ ถ้าคุณมาที่นี่รับรองว่าคุณจะกลายเป็นคนชอบลาขึ้นมาทันที เพราะมีทั้งพ่อแม่ลูกลาอยู่เต็มไปหมด แถมบางตัวก็ดูลายน่ารักซะขนาดนี้…
-
ญี่ปุ่นเปิดตัว “เสื้อซามูไรยุคใหม่” ปรับความดั้งเดิมให้ทันสมัย ใส่สบายรับหน้าร้อน
บ่อยครั้งที่ #เหมียวหน่า ได้นำเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับสวยๆ ของผู้หญิงมาฝากเพื่อนกัน ซึ่งอาจทำให้หนุ่มน้อยใจเอาได้ แต่ในครั้งนี้เราขอเอาใจหนุ่มๆ ด้วยเสื้อสุดเท่สไตล์ซามูไรที่ใส่สบายและเท่สุดๆ หลายคนอาจจะคิดว่าเครื่องแต่งกายสไตล์ซามูไรมันจะดูเว่อร์วังไปหรือเปล่านะ ไม่ต้องห่วงเลยเพราะเสื้อผ้าในวันนี้สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ แถมเหมาะกับการใส่สบายๆ ระหว่างวันสุดๆ เราไปทำความรู้จักกับมันกันดีกว่า แบรนด์เครื่องแต่งกายจากญี่ปุ่น Trove เคยเปิดตัวสินค้าที่มีสไตล์ของซามูไรมาแล้วในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบเสื้อคลุมยาว ที่สามารถสร้างความอบอุ่นให้แก่ผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี นี่คือภาพของเสื้อซามูไรที่ได้รับผลตอบรับอย่างดีในฤดูหนาวปีก่อน และอีกครั้งกับการต้อนรับฤดูร้อนทางแบรนด์ก็ได้เปิดตัวสินค้าใหม่สุดชิคที่ได้แรงบันใจมาจากซามูไรเช่นกันแต่มีการเปลี่ยนวัสดุผ้าและรูปทรงให้เข้ากับหน้าร้อนมากขึ้น โดยตัดเสื้อให้สั้นลงและใช้ผ้าที่มีน้ำหนักเบาเพื่อระบายอากาศ เสื้อซามูไรสีเทาลายสวยงามตัวนี้ทำมาจากผ้าฝ้าย 65% และผ้าไหม 35% ซึ่งเป็นผ้าทีได้จากแบรนด์ของอังกฤษที่ชื่อว่า Liberty ส่วนเสื้อซามูไรสีฟ้าน้ำทะเลตัวนี้ทำมาจากผ้าฝ้าย 100% และมีรูแขนที่กว้างกว่าเพื่อให้สวมใส่สบายยิ่งขึ้น รุ่นนี้มีชื่อว่า “กากี” ทำมาจากผ้าฝ้าย 100% เป็นผ้าทออย่างประณีตจึงให้ความรู้สึกนุ่มนวลเหมือนผ้าซาติน การออกแบบนี้ยังมีเชือกขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ภายในปกเสื้อเพื่อให้สามารถสวมใส่แบบปิดด้านหน้าได้ เสื้อคลุมสีดำสุดเรียบหรูชุดนี้ ทำมาจากผ้าฝ้าย 100% มีพื้นผิวคล้ายซาตินและมีเชือกผูกด้านในเช่นกัน เสื้อซามูไรเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของคอลเลคชั่น Wa-Robe (Robe Robe) ในช่วงฤดูร้อนของแบรนด์ Trove และมีราคาอยู่ที่ 15,120 เยน หรือประมาณ 4,500 บาท เสื้อตัวต่อไปเป็นเสื้อที่ดูเรียบง่ายและเท่สุดๆ เสื้อนี้มีชื่อว่า…
-
“มีกระสุนเป็นตับ จะเอาป้ะละ!?” คุณแม่ชักปืนขึ้นมาขู่ช่างผม หลังตัดลูกตัวเองชักช้าไม่ทันใจซะเลย
ทุกครั้งที่เราไปใช้บริการใดๆ ก็ตามแล้วได้รับการบริการที่ช้าจนเรามักจะหัวร้อนอยู่บ่อยๆ ซึ่งปกติเราก็จะมีวิธีการแก้ปัญหาหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการบ่น ยกเลิกบริการ หรือไม่ก็อดทนรอ แต่ว่าเมื่อ 16 เมษายน 2017 ที่ผ่านมาในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ได้มีคุณแม่ผิวสีคนหนึ่งหยิบปืนมาจ่อยิงคนในร้านเนื่องจากพนักงานตัดผมให้ลูกชายของเธอช้า จนเธอต้องระเบิดอารมณ์ออกมาแล้วพูดว่า “ฉันมีกระสุนเป็นตับ และฉันก็จะยิงพวกแกให้หมดเลย” เหล่าพนักงานจึงพยายามพูดให้เธอใจเย็นลง เพื่อช่างตัดผมจะได้รีบตัดผมให้ลูกชายของคุณแม่จนเสร็จ และสุดท้ายทั้งคู่ก็ออกไปจากร้านทันที ทิ้งไว้แต่ความมึนงงให้กับพนักงานทั้งหมดภายในร้าน Al Pugh พนักงานฝึกหัดในร้านออกมาบรรยายถึงความรู้สึกของตัวเองเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเขาถึงกับรู้สึกช็อค “คุณไม่รู้หรอกว่าคนอื่นคิดยังไง บางทีเธออาจจะยิงผม หรืออาจจะยิงลูกตัวเองด้วยก็ได้ ใครจะรู้จริงไหม?” นอกจากนี้ Al ยังบอกปิดท้ายอีกว่า “เธอไม่น่าวู่วามทำแบบนั้นเลย เพราะเธอไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายสักหน่อย” แถมลูกชายของเธอในตอนนั้นก็นั่งนิ่งทำอะไรไม่ถูกเลยล่ะ ด้านเจ้าของร้าน Michael D’Amico บอกว่าเขาเปิดร้านนี้มาตั้งแต่ปี 1960 เขาไม่อยากให้หญิงสาวคนดังกล่าวถือปืนไปมาบนท้องถนนที่มีคนเต็มไปหมด เขาจึงแจ้งตำรวจให้ตามจับเธอทันที สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึงเพื่อตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และตามหาคุณแม่คนดังกล่าว ทว่าเจ้าหน้าก็ไม่พบเบาะแสเกี่ยวกับคุณแม่ใจร้อนคนดังกล่าวเลยนั่นเอง สามารถรับชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวข้างล่าง จะทำอะไรก็คิดดีๆ อย่าใจร้อนเลยนะทุกคน ค่อยๆ คุยกันสิ ที่มา cleveland19
-
จัดเต็ม!! 31 พัฒนาการด้านแฟชั่น ของคุณแม่แขศรี Katy Perry ที่ต้องบอกว่าเผ็ชแซ่บถึงทรวง
หากพูดถึงนักร้องสาวเพลงป๊อบสุดปังและมีเพลงฮิตมากมายคงไม่ใช่ใครนอกจาก นักร้องสาวน้ำเสียงมีเอกลักษณ์อย่าง Katy Perry ด้วยความสามารถและงานเพลงที่โดดเด่นทำเธอก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในนักร้องสาวที่ทรงอิทธิพลและเป็นแนวหน้าในวงการเพลงสากล แต่เธอก็ไม่ได้มีดีแค่การเป็นนักร้องที่ทรงเสน่ห์เท่านั้น ในด้านแฟชั่นก็ทำได้ดีจนอยากเรียกเธอว่าเป็นผู้นำแฟชั่นเลยก็ว่าได้ เธอมีการแต่งกายที่สุดจะอลังการมาให้ทุกคนได้ว้าวเสมอ เราจึงนำพัฒนาการแฟชั่นของ Katy Perry มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน กลับไปในปี 2008 ที่งาน Fashion Rocks เธออยู่ในชุดสีสันสดใสอย่างสุดๆ แถมแต่งหน้าเบอร์แรงแซงชุดที่ใส่อยู่ไปเลย ในงาน Spike’s Guys Choice Awards ปี 2008 เธอโฉบชุดมินิเมทัลลิคสีส้ม มองไปมองมาก็ดูคล้ายกับแคนดี้ซะจริงๆ หลังจากปี 2008 เธอโด่งดังสุดๆ กับเพลง “I Kissed A Girl” และได้รับเชิญเป็นแขกพิเศษในงาน MTV’s TRL in a retro romper ในงาน Grammys ปี 2009 เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลด้วย และเธอมาในชุดราตรียาวพริ้งสีชมพูอ่อน ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น Perry ได้เข้าร่วมงานกาล่าของ “The Model as Muse:…
-
อลังการสุดๆ!! “ลิปสติกลายหินอ่อน” เปลี่ยนการทาลิปธรรมดา สู่ศิลปะอันน่าทึ่ง
ผู้หญิงกับลิปสติกเป็นเรื่องที่แยกออกจากกันไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าสาวๆ หลายคนจะมีลิปสติกทุกสีทุกเฉดกองอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง แต่เชื่อได้เลยว่าคุณต้องยังไม่เคยลองทาลิปในแบบที่เราจะนำมาเสนอในวันนี้อย่างแน่นอนเพราะมันคือ “ลิปลายหินอ่อน”!? Suuz Brouwer ช่างแต่หน้าสาวที่เปลี่ยนการทาลิปสติกสีสันธรรมดาๆ เป็นศิลปะบนริมฝีปากที่โด่งดังทั้งในอินสตาแกรมและเพจเฟสบุ๊กของเธอ ด้วยฝีไม้ลายมือที่ไม่ธรรมดาทำให้ริมฝีปากนั้นมีลวดลายสวยงามอย่างกับหินอ่อนแท้ๆ ยังไงอย่างงั้นเลยล่ะ เธอบอกว่าเทคนิคนี้ทำได้ไม่อยากเลยเพียงแค่ทาลิปสีพื้นที่คุณต้องการลงไปก่อนแล้วจากนั้นก็ใช้พู่กันปลายแหลมวาดลายหินอ่อนโดยใช้สีที่ตัดกันกับสีพื้นแค่นี้ก็จะได้ลิปลายหินอ่อนสวยๆ แล้วล่ะ . . เหมือนหินอ่อนจริงๆ ยังไงอย่างงงั้น . ลองทาลิปสีฟ้าเป็นพื้นแล้วตัดลายด้วยสีทองก็ดูหรูหราสุดๆ สีละมุนมากๆ . . แวววาวอย่างกับเป็นหินจริงๆ สาวๆ คนไหนที่มีลิปสติกกองอยู่เต็มโต๊ะเครื่องแป้งก็อย่าลืมหยิบมาวาดลวดลายบ้างนะ หรือจะลองสร้างสรรค์เป็นลายอื่นดูบ้างก็ไม่ว่ากัน ลองไปดูแรงบันใจสวยๆ จากช่างแต่งหน้า Suuz Brouwer ได้ที่อินสตาแกรมของเธอได้นะ suuzbrouwer ที่มา www.boredpanda
-
สภาพก่อนและหลังขึ้นโชว์ ของเหล่านักดนตรี บ่งบอกได้ว่าปลดปล่อยพลังไปขนาดไหน!!
Brandon Andersen หนึ่งในช่างภาพที่ได้เดินทางไปเก็บภาพบรรยากาศงานคอนเสิร์ต Vans Warped Tour ที่จัดขึ้นทั่วสหรัฐอเมริกาตลอดระยะเวลา 3 เดือน แต่นอกจากภาพปกติแล้วเขาได้ตัดสินใจจะทำอะไรที่แตกต่างออกไปจากช่างภาพคนอื่น นั่นก็คือภาพก่อนและหลังของเล่นคอนเสิร์ตของเหล่านักดนตรีนั่นเอง.. สำหรับคอนเซ็ปต์ในงานชิ้นนี้เขาบอกว่าก็ไม่มีอะไรมากนัก เขาแค่คิดว่าอยากจะถ่ายภาพก่อนขึ้นแสดงของเหล่านักดนตรีกับหลังแสดงเสร็จเพียงเท่านั้น ส่วนเครื่องมือที่ Brandon ใช้ก็จะเป็นเครื่องมือง่ายๆ กล้องที่ใช้เป็นก็จะเป็น Canon EOS 5D Mark III และเลนส์ ever-sharp 24–70mm f/2.8 L II ส่วนฉากหลังก็แปะติดกับรั้วงาน Davey จากวง VANNA สภาพของเขาก่อนขึ้นที่รวบผมมาเป็นอย่างดี แต่พอจบโชว์เท่านั้นแหละ ผมที่รวบไว้ก็หลุดออกมาพร้อมกับใบหน้าที่บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าจากโชว์ Devin จากวง The Color Morale ก่อนโชว์เขามาด้วยมาดสุดเท่กับการเซตผมมาเป็นอย่างดี แต่หลังโชว์สภาพของเขาเรียกว่าดูไม่ได้เลยทีเดียว แสดงว่าโชว์ของเขาต้องมันหยดแน่ๆ Drew จากวง Stray From The Path ถึงแม้ก่อนและหลังโชว์ ทรงผมของ Drew จะไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่ แต่สีหน้าของเขาบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่ามันเหนื่อยสุดๆ เลยทีเดียว…
-
แบบนี้ก็มี!? ตำรวจเร่งสืบสวน คนร้ายจับแมวเหมียวไป “โกนขนหน้าท้อง” ก่อนปล่อยพวกมันคืนเจ้าของ
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ Waynesboro เมืองเล็กๆ ในรัฐ Virginia ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีคดีสุดแปลก เมื่อมีใครบางคนได้ลักพาตัวเจ้าเหมียวที่เดินอยู่ตามถนนมาโกนขนหน้าท้องหรือขา ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเจ้าเหมียวมาแล้วกว่า 9 ตัว ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาทำมันไปเพื่ออะไร โดยร้อยตำรวจเอก Kelly Walker ได้กล่าวกับสื่อว่า “แมวที่ถูกโกนขนทั้งหมดได้ถูกปล่อยคืนแก่เจ้าของ แถมยังไม่ถูกทำร้าย หรือมีร่องรอยของการทารุณกรรมแต่อย่างใด” เจ้าของแมวได้โชว์ร่องรอยการถูกโกนหน้าท้องของเจ้าเหมียว ร้อยตำรวจเอก Walker ได้ให้ข้อมูลว่าแมวที่ถูกโกนขนทั้งหมดนั้นล้วนมีเจ้าของที่ใส่ปลอกคอและถูกดูแลเป็นอย่างดี ทางด้านตำรวจยังไม่แน่ใจนักว่าจะตั้งข้อหาอะไรกับมือโกนตัวฉกรรจ์นี้ดี แต่ทางเจ้าของแมวกลับไม่คิดเช่นนั้น Maia Oden หนึ่งในผู้เสียหายได้กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า “มันควรที่จะมีใครสักคนนึงที่คอยช่วยสอดส่องดูแล เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในละแวกบ้านเราอีก” Maia Oden ผู้เสียหาย โชว์ผู้สื่อข่าวถึงบริเวณที่เจ้าเหมียวถูกโกนขนหน้าท้อง โดยในขณะนี้ทางตำรวจได้อนุญาตให้ผู้ที่อยู่อาศัยในละแวกนั้นสามารถติดประกาศเพื่อเตือนผู้ที่เดินผ่านไปมา จะได้แจ้งข้อมูลของผู้ร้ายให้ตำรวจได้รับทราบ นี่คือป้ายประกาศที่ผู้อยู่อาศัยติดเพื่อหวังว่าจะมีคนให้ข้อมูลผู้ร้ายแก่ตำรวจได้ เรื่องนี้บานปลายถึงขนาดผุดมาเป็นทฤษฎีที่ว่า เหตุผลที่ผู้ร้ายทำเช่นนี้เกิดมาจากความต้องการที่จะแยกเพศแมวหรือแยกแมวจรจัดออกจากแมวที่มีเจ้าของ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่คิดเช่นนั้น เนื่องจากแมวบางตัวนั้นถูกโกนขนมากกว่าหนึ่งครั้ง หนึ่งในผู้เสียหาย Mary Sproles Martin ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กของเธอว่า “แมวของฉันโดนโกนขนมาแล้วกว่า 3 ครั้ง…
-
ฮีโร่ตัวจริง!! หนุ่มฮ่องกงตัดสินใจหยุดรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อช่วยชีวิตแมวน้อยบนทางด่วน
ความกล้าหาญและการตัดใจที่เด็ดเดี่ยวของชายหนุ่มผู้หนึ่ง ทำให้เจ้าเหมียวตัวน้อยที่กำลังหวาดกลัวอยู่ท่ามกลางรถยนต์จำนวนมากมากบนทางด่วน สามารถมีชีวิตรอดได้ พบกับเรื่องราวของ Kwok Kin Wai หนุ่มฮ่องกงผู้ตัดสินใจเข้าช่วยชีวิตเจ้าเหมียวบนถนน ทั้งๆ ที่รถคันอื่นกำลังแล่นอยู่!! Kwok Kin Wai กลายเป็นฮีโร่ทันที หลังจากที่เขาตัดสินใจเสี่ยงชีวิตเข้าช่วยเจ้าแมวน้อยที่อยู่บนถนน ในขณะที่รถคันแล้วคันเล่าแล่นผ่านตัวมันไปอย่างน่าหวาดเสียว โดยเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมาได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอจากกล้องติดรถยนต์ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์สุดน่าประทับใจนี้ไว้ ระหว่างทางบนถนน Lion Rock Tunnel ไปยังเขตปกครอง เกาลูนของเกาะฮ่องกง และนี่คือคลิปวีดีโอดังกล่าว Kwok Kin Wai ได้เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ระหว่างที่เขากำลังขี่มอเตอร์ไซค์บนถนนสายดังกล่าว ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนและทันใดนั้นเขาสังเกตเห็นเจ้าเหมียวตัวน้อยกำลังเคลื่อนที่อยู่บนท้องถนน ในตอนแรก Kwok คิดว่าอันตรายเกินไปที่จะจอดรถอย่างกะทันหันบนถนนที่การจราจรหนาแน่นแบบนี้ แต่ชีวิตของเจ้าเหมียวน้อยก็สำคัญเช่นกัน ชายหนุ่มจึงค่อยๆ ตั้งสติและชะลอรถเพื่อลงไปช่วยเจ้าเหมียว คุณ Kwok ตัดสินใจด้วยความกล้าเพื่อช่วยชีวิตเจ้าลูกแมว และนี่คือเจ้าเหมียวน้อยที่ถูกช่วยชีวิตเอาไว้ หลังจากนั้นชายหนุ่มได้เล่าเรื่องราวการช่วยเหลือลูกแมวและการประกาศหาผู้ที่ต้องการรับเจ้าเหมียวไปดูแลต่อ ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างมาก โดยมีคนกดไลค์มากกว่า 38,000 คนและแชร์ข้อความของเขาอีกกว่า 5,000 ครั้ง เมื่อวันพฤหัสที่ 27 เมษายนก็มีคนใจบุญเข้ามาติดต่อขอรับลูกแมวไปเลี้ยงดูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคุณ Kwok…
-
เจ้าเหมียวหางกุดเอาชนะใจ คุณยายผู้เกลียดแมว และช่วยพาเธอหลุดพ้น จากความเศร้าโศก
เมื่อไม่นานมานี้มีเรื่องราวน่าประทับใจมากเรื่องหนึ่ง เมื่อเจ้าแมวหางด้วนที่ถูกช่วยชีวิตจากทางรถไฟถูกโชคชะตาพามันให้มาพบกับคุณยายวัย 55 ปีที่สูญเสียสามีไป การพบกันครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา เมื่อคุณยายเป็นคนที่เกลียดแมวสุดๆ แต่ทว่าเจ้าเหมียวก็สามารถเอาชนะใจคุณยายได้และทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนรักกัน พบกับเรื่องราวของ Mitsie เจ้าเหมียวหางด้วนที่ใช้ความน่ารักและนิสัยขี้อ้อนของมัน เอาชนะใจหญิงชราผู้ที่ไม่ชอบแมวเป็นอย่างมาก เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วที่คุณยาย Lulia ต้องสูญเสียสามีที่แต่งงานและอยู่กินกันมาเป็นเวลานาน ไปอย่างกระทันหัน เธอเศร้าโศกเสียใจอย่างมาก ดังนั้นทางครอบครัวจึงพยายามหาวิธีที่จะช่วยให้เธอหลุดออกจากความเศร้านี้ โดยการหาสัตว์เลี้ยงมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ แต่มันมีปัญหาอยู่นิดหน่อยเมื่อคุณยายเป็นคนที่เกลียดแมวเอามากๆ ดังนั้นพวกเขาจึงล้มเลิกความตั้งใจที่จะหาสัตว์เลี้ยงเพื่อมาเป็นเพื่อนคุณยาย แต่แล้วช่วงหน้าร้อนในปี 2016 เจ้าเหมียวตัวหนึ่งก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งในสมาชิกของบ้านหลังนี้ คุณ Theo Stefanescu สัตวแพทย์ผู้ได้ช่วยเหลือเจ้าเหมียวหางกุดนี้มาจากทางรถไปแห่งหนึ่ง เธอพบมันในวันที่อากาศแย่มากๆ ตัวของมันผอมเหลือแต่หนังติดกระดูก เจ้าแมวดูอ่อนแรงและสกปรกสุดๆ เธอพามันมารักษาตัว โดยตั้งชื่อให้เจ้าเหมียวตัวนี้ว่า Mitsie ในวันหนึ่งขณะที่ Theo กำลังมองหาบ้านหลังใหม่ให้เจ้าเหมียว เธอได้จัดงานวันกิดขึ้นที่บ้าน และคุณยายของเธอก็เดินทางมาร่วมงานวันเกิดด้วย เธอประหลาดใจอย่างมากเมื่อเห็นคุณยาย Lulia ตกหลุมรักเจ้าเหมียวทันทีในครั้งแรกที่พบ ในงานวันเกิดนั้นเจ้า Mitsie วิ่งออกจากอ้อมแขนเธอไปยังโซฟาที่คุณยายนั่งอยู่ มันพยายามออดอ้อนและเรียกร้องความสนใจจากหญิงชราเป็นอย่างมาก ทันใดนั้นคุณ Lulia ผู้ที่ปฏิเสธการเลี้ยงแมวมาโดยตลอดก็เสนอให้ฝากแมวเหมียวตัวนี้ไว้ที่เธอก่อน จนกว่าที่จะหาบ้านหลังใหม่ให้มันได้ เจ้าเหมียวก็ทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี มันสามารถปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่ได้อย่างรวดเร็ว มันรู้ว่าควรทำตัวอย่างไรเพื่อช่วยรักษาบาดแผลในใจของคุณยาย คุณ Theo บอกว่า “หลังจากนั้นฉันยังคงมองหาบ้านใหม่ให้กับเจ้าเหมียว และบอกให้คุณยายทราบว่าฉันจะต้องพามันไปแล้ว แต่คุณยายไม่ยอมให้ฉันแยกเจ้าเหมียวไปจากเธอเลย” …
-
นี่คือ 15 ลักษณะของผู้ชาย ถ้าหากว่าคุณได้เจอแล้ว อย่าปล่อยให้เขาหลุดมือไปเด็ดขาด!!
หากคุณเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังตามหาใครบางคนที่จะเข้ามาเติมเต็มชีวิตคุณ คุณสมบัติแบบไหนที่คุณต้องการ ผู้ชายแบบไหนที่เหมาะกับคุณ และไม่ใช่เรื่องง่ายใช่ไหมที่จะหาคนที่เข้ากับคุณได้ทุกอย่าง แต่อย่างน้อยสาวๆ ก็ควรสังเกตหนุ่มๆ ว่าเขามีลักษณะที่ดีเหมาะสมที่จะเข้ามาดูแลใจของเราหรือไม่? ครั้งนี้เราจึงจะพาสาวๆ ไปดูลักษณะของผู้ชายที่คู่ควรกับคุณ คนที่จริงใจ คนสุดท้ายที่คุณจะฝากชีวิตไว้ ต้องเป็นคนแบบไหนไปดูกันเลย 1. จงรักษาความโสดไว้จนกว่าคุณจะเจอผู้ชายที่ทำให้คุณมั่นใจว่าจะปลอดภัยตลอดเวลาที่อยู่กับเขา ผู้ชายที่จะจูงมือคุณข้ามถนนอย่างปลอดภัย ผู้ชายที่จะปกป้องคุณจากสิ่งต่างๆ รอบข้าง 2. จงรักษาความโสดไว้จนกว่าคุณจะเจอผู้ชายที่กล้าจูงมือและจูบคุณโดยไม่แคร์สายตาคนอื่น ผู้ชายที่ไม่อายที่จะแสดงความรักต่อคุณแสดงว่าเขารักและภูมิใจในตัวคุณเอามากๆ 3. จงรักษาความโสดไว้จนกว่าคุณจะเจอผู้ชายที่พาคุณไปพบพ่อแม่ของเขาอย่างภูมิใจ หากเขาพาคุณไปพบพ่อแม่ของเขาแสดงว่าถึงความจริงใจว่าคุณคือคนสุดท้ายของเขา 4. จงรักษาความโสดไว้จนกว่าคุณจะเจอผู้ชายที่แนะนำคุณให้กับเพื่อนๆ ของเขา การแนะนำแฟนให้เพื่อนๆ รู้จัก แสดงว่าเขาภูมิใจในตัวคุณและอยากให้คุณรู้จักกับเพื่อนของเขา 5. จงรักษาความโสดไว้จนกว่าคุณจะเจอผู้ชายที่เป็นห่วงคุณและดูแลคุณตลอดเวลาไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน คนที่โทรและแชทหาคุณว่าทำอะไร เป็นยังไง ทานข้าวหรือยัง แสดงให้เห็นถึงว่าเขามีคุณในทุกเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน 6. จงรักษาความโสดไว้จนกว่าคุณจะเจอผู้ชายที่ไม่พยายามเปลี่ยนตัวตนของคุณ คนรักทั้งสองคนต้องรู้จักให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกัน เมื่อมีเรื่องไม่เข้าใจก็ต้องปรับเข้าหากัน 7. จงรักษาความโสดไว้จนกว่าคุณจะเจอผู้ชายที่ให้เวลากับคุณมากกว่าเกมส์ ผู้ชายที่แบ่งเวลาให้คนรักและงานอดิเรกของเขา แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบและความเป็นผู้ใหญ่ 8. จงรักษาความโสดไว้จนกว่าคุณจะเจอผู้ชายที่รู้จักขอโทษเมื่อเขาทำผิด คนที่กล้าขอโทษในสิ่งที่ทำผิดคือคนที่กล้าหาญและมีความรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ 9. จงรักษาความโสดไว้จนกว่าคุณจะเจอผู้ชายที่ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นเมื่อคุณเศร้าเสียใจ ผู้ชายที่คอยปลอบโยนและพูดให้คุณรู้สึกดีขึ้นในเวลาที่คุณแย่ที่สุด 10. จงรักษาความโสดไว้จนกว่าคุณจะเจอผู้ชายที่ทำให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าที่เดิม…
-
แฟนสาวบอกแค่ว่าเศร้า แฟนหนุ่มก็เปย์ด้วยเครื่องสำอาง จนชาวเน็ตอิจฉาพาล้อกันยับ!!
สำหรับหนุ่มๆ แล้วเวลาที่เห็นแฟนของตัวเองกำลังโศกเศร้า ต้องการกำลังใจ หรือแม้แต่ถูกงอน วิธีการง่ายที่สุดที่จะช่วยให้พวกเธอกลับมาอารมณ์ดีได้อีกครั้ง ก็คือการเปย์!! ซึ่งพ่อหนุ่มคนในเรื่องนี้ก็จัดการด้วยวิธีดังกล่าวเช่นกัน Ben Nguyen และ Devanne Tran คู่รักวัยทีนจากรัฐเท็กซัสผู้เป็นเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ โดยเหตุการณ์มันเริ่มจากที่ Devanne ได้บอกกับแฟนหนุ่มของว่า วันนี้ที่โรงเรียนเธอต้องเจอกับเรื่องแย่มากมาย มันทำให้ทำตัวเธอรู้สึกเศร้ามากๆ ทางด้าน Ben ได้ยินแฟนสาวพูดแบบนั้น ก็ไม่รอช้าจัดการซื้อเครื่องสำอางชุดใหม่ให้กับแฟนสาวเพื่อเรียกกำลังใจของเธอกลับมาทันที แน่นอนว่าเมื่อมีเหตุการณ์ประทับใจแบบนี้เกิดขึ้น Devanne ก็ไม่รอช้าที่จะแบ่งปันเรื่องดังกล่าวให้กับชาวเน็ตได้รับรู้ โดยเธอทวีตเรื่องดังกล่าวผ่านทวิตเตอร์ของเธอ @devannetrvn แต่ทว่าแทนที่คนจะมาแสดงความคิดเห็นในเชิงซึ้งถึงวีรกรรมของพ่อหนุ่ม ชาวเน็ตกลับมาตอบโพสท์ว่า “Ben I’m Sad” ซึ่งเป็นความนัยทำนองว่า เบนฉันเศร้า ซื้อเครื่องสำอางให้หน่อยสิ ลองมาดูตัวอย่างของชาวเน็ตกันว่านอกจากคำดังกล่าวแล้ว ยังมีอะไรอีกบ้าง เธอคนนี้ยังถือว่าปกติในระดับ Ben I’m sad แต่เธอคนนี้เริ่มบอกความเศร้าที่แปลกขึ้นด้วยการบอกว่าตัวเองอยู่โรงพยบาล หนักกว่าก็คงเป็นแม่สาวคนนี้ที่ถึงกับบอกว่า ฉันป่วยเป็นมะเร็งกระดูกที่หายากมากๆ ฉันอยากจะเจอกับ Ben สักครั้งก่อนตาย ช่วยรีทวีตแล้วทำให้ความฝันฉันเป็นจริงทีได้ไหม เรียกว่าแต่ละคนทุ่มเทเพื่อให้พ่อหนุ่ม Ben หันมาเปย์กันสุดๆ…
-
ช่างภาพรวบรวมโทนสีผิวของมนุษย์ บันดาลให้เป็นโมเสกมหึมา สะท้อนการแบ่งแยกสีผิว…
ในโลกของเรานั้นเต็มไปด้วยการแบ่งแยกประเภทของทุกสรรพสิ่ง แม้แต่มนุษย์ด้วยกันยังแบ่งแยกชนชั้นและสีผิว ทำให้เกินความรู้สึกแปลกแยกในแต่ละเผ่าพันธุ์ จึงเกิดความขัดแย้งต่างๆ ขึ้น บทความนี้เราจึงนำโปรเจคดีๆ จากช่างภาพสุดเจ๋งที่จะสื่อให้โลกได้รับรู้ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นมีความผสมกลมกลืนกันและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โปรเจคสุดเจ๋งนี้มีชื่อว่า “humanae” ที่ได้รวบรวบภาพถ่ายบุคคลของแต่ละสีผิวที่แตกต่างกัน หลายๆ คนมาจัดวางเรียงคละกันเป็นภาพใหญ่เกิดเป็นภาพเฉดสีผิวของมนุษย์ที่ผสมรวมกันอย่างกลมกลืน โปรเจคนี้เป็นการเฉลิมฉลอง “ความหลากหลายของมนุษยชาติ” ซึ่งจัดทำขึ้นโดยช่างภาพชาวบราซิล Angélica Dass และเขาก็ได้จัดวางรูปที่ถ่ายคละเฉดสีกันอย่างกลมกลืนแทรที่จะแบ่งแยกสีผิวแต่ละสีผิวออกจากกัน แนวความคิดนี้คือการเปลี่ยนทัศนคติในการตัดสินคนคนหนึ่งก่อนที่เราจะได้รู้จักตัวตนของเขา Dass กล่าวว่า “คำที่เราใช้อธิบายซึ่งกันและกันเช่น ดำ ขาว เหลือง เป็นเรื่องไม่จริง เราจะขจัดความคิดนี้โดยให้ทุกคนได้เห็นโทนสีผิวของมนุษย์ที่หลากหลาย ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน” สาวคนหนึ่งที่ได้รับเลือกเป็นแบบในการถ่ายภาพ กล่าวว่า “ฉันเข้าในแนวคิดของช่างภาพที่ต้องการสื่อถึงคนทั่วโลก โดยมีช่างถ่ายภาพและรูปถ่ายเป็นตัวอธิบายระหว่างเรื่องของสีผิวกับตัวตนที่แท้จริง “ โปรเจคนี้เปิดกว้างและไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นทุกคนสามารถที่จะเป็นส่วนหนึ่งของภาพโมเสกมหึมานี้และจะก็หยุดต่อเมื่อประชากรทั้งหมดของโลกได้เข้าร่วมถ่ายภาพในโปรเจคนี้ เราไปดูรูปตัวอย่างของโทนสีผิวจากหลากหลายเชื้อชาติกันเลย ว่าง่ายๆ ก็คือถ่ายไปเรื่อยๆ ไม่มีสิ้นสุดนั่นเอง . . . . . . . . . . . . .…
-
เกรียนตัวพ่อ!! เมื่อทัวร์คนไทยถูกโฟโต้บอมบ์โดยนักแสดงคนเหล็ก “อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์”
หลายๆ คนน่าจะรู้จักกับการโฟโต้บอมบ์กันอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ? แต่ว่าถ้าใครไม่รู้ ก็จะขออธิบายความหมายของคำนี้ ให้อ่านกันแบบสั้นๆ การโฟโต้บอมบ์ก็คือการที่อยู่ๆ ก็มีอะไรก็ตามที่มาตัดหน้าหรือทำให้ภาพถ่ายดังกล่าวถูกเบนความสนใจไปที่สิ่งๆ นั้นแทน เช่น คุณอยากถ่ายภาพหมู่กับครอบครัว แต่อยู่ดีๆ มีลุงบ้าที่ไหนไม่รู้มาตัดหน้าหรือทำท่าทางกวนๆ อยู่ข้างหลัง จนแทนที่จะโฟกัสครอบครัว ตาลุงคนนั้นกลับเด่นขึ้นมาเฉย เช่นเดียวกันกับกระทู้ของสมาชิกเว็บไซต์พันทิปของคุณ y-g2006 โดยเขาได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองไปเที่ยว ณ กรุงปารีสกับคณะทัวร์ และพวกเขาทั้งหมดก็เตรียมตัวจะถ่ายรูปกับหอไอเฟลข้างหลัง ทว่าอยู่ดีๆ ก็มีตาลุงที่ไหนก็ไม่รู้ขี่จักรยานตัดหน้า ไม่พอแค่นั้นยังจอดถ่ายรูปเซลฟี่ทำท่าทางกวนโอ๊ยอีกต่างหาก แน่นอนว่าคณะทัวร์ไม่รู้หรอกว่าตาลุงท่าทางกวนทีนคนนี้เป็นใคร จนกระทั่งหัวหน้าทัวร์พูดขึ้นมาว่า “นั่นมัน อาร์โนลด์!!” . วินาทีนั้นทุกคนถึงกับบางอ้อทันที เจ้าของกระทู้ยังได้บอกอีกว่านอกจากอาร์โนลด์ที่มาโฟโตบอมบ์แล้วเขายังมีบอดี้การ์ดตามมาอีก 5 ถึง 6 คนเลยทีเดียวล่ะ หลังจากดูมุมมองทัวร์ไทยกันไปแล้ว ลองมาดูมุมมองในอินสตาแกรมของตาลุงคนเหล็กกันบ้างว่าแกพูดว่าอะไรเกี่ยวกับการโฟโต้บอมบ์ของเขากัน “เป็นการปั่นจักรยานในปารีสที่วิเศษจริงๆ ผมไม่รู้จะบรรยายถึงความสวยงามของเมืองนี้ยังไงถึงจะพอ และก็ขอบคุณคณะทัวร์ที่ให้ผมเข้าไปโฟโต้บอมบ์ภาพของพวกคุณ” . นอกจากได้ไปเที่ยวปารีสแล้ว กลับได้ถ่ายรูปกับอาร์โนลด์ ตัวเป็นๆ อะไรจะคุ้มขนาดนั้น ที่มา schwarzenegger, pantip
-
จากเด็กผู้เคยติดบุหรี่ สูบวันละ 40 มวนในช่วง 2 ขวบ สามารถเลิกได้อย่างเด็ดขาดแล้ว
เมื่อหลายปีที่แล้วหลายคนคงจะจำภาพของเด็กน้อยที่กำลังพ่นควันบุหรี่ พร้อมกับเล่นรถของเล่นไปด้วยกันได้บ้างอย่างแน่นอน Ardi Rizal เด็กน้อยที่เคยทำให้โลกต้องช็อคกับพฤติกรรมของเขาเมื่อปี 2010 โดยเขาได้เริ่มสูบบุหรี่ครั้งแรกด้วยอายุเพียง 18 เดือนเท่านั้นจากบุหรี่ที่ผู้เป็นพ่อยื่นให้ แต่ตอนนี้เด็กคนดังได้เติบโตขึ้นเป็นหนุ่มน้อยและเขาได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว ไปชมเรื่องราวของเขาได้จากข่าวนี้กันเลย… หลังจากที่สูบบุหรี่อย่างหนักถึง 40 มวนต่อวัน ในขณะที่มีอายุเพียงแค่ 2 ขวบ ตอนนี้ Ardi Rizal หนุ่มน้อยวัย 9 ขวบได้เลิกพฤติกรรมดังกล่าวแล้วและหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยเขาได้รับความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยให้เจ้าหนูสามารถเลิกพฤติกรรมดังกล่าวและมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ แต่ว่าก็ต้องใช้เวลาอยู่นานพอสมควรเพราะตอนที่อายุ 5 ขวบเจ้าหนูก็ดันติดอาหารฟาสต์ฟู้ดอีกจนเป็นเหตุให้น้ำหนักของเขาเกินกว่ามาตรฐานอย่างมาก ในตอน 5 ขวบเขามีน้ำหนักตัวถึง 25 กิโลกรัมซึ่งมากกว่าเด็กทั่วไปที่อายุเท่ากัน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่พ่อและแม่พยายามที่จะให้เลิกบุหรี่โดยการให้เด็กน้อยทานอาหารแทน เมื่อ 4 ปีที่แล้วแม่ของเจ้าหนูได้บอกว่า “ในตอนแรกที่เราพยามจะให้เขาเลิกบุหรี่นั้น เขาโกรธอย่างมากและไล่พวกเราไปไกลๆ “ เด็กหนุ่มกับภาพในวัยเด็กของเขา เขายังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจว่าบุหรี่ทำร้ายร่างกายแค่ไหน อีกทั้งมีน้ำหนักตัวที่มากเกินกว่าเด็กทั่วไปที่อายุเท่ากัน พ่อแม่ของเด็กยังคงหาวิธีที่จะทำให้ลูกของพวกเขาเลิกพฤติกรรมแบบนี้อยู่ พวกเขาได้ปรึกษาเรื่องนี้กับนักโภชนาการ และได้รับคำแนะนำให้เด็กทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างเนื้อปลา ผัก ผลไม้ และดื่มนมอย่างน้อยวันละ…
-
เหมียวซึ้งใจมนุษย์พามาอยู่บ้าน ไม่รู้จะตอบแทนยังไง จ้องหน้าสะกดจิตคนที่ช่วยก็แล้วกัน!!
สำหรับเรื่องราวการช่วยเหลือแมวที่เรามักเอามานำเสนอนั้น ส่วนใหญ่เราจะเห็นว่าแมวเหมียวชอบจะตอบแทนด้วยความน่ารัก หรือความเกรียนแบบว่ายึดบ้านเฉยเลย แต่สำหรับเรื่องราวของเจ้าเหมียว Wilbur ดูเหมือนว่ามันจะไม่อยากยึดบ้านเท่าไหร่ แต่สงสัยว่ามันจะซึ้งใจจนไม่รู้จะตอบแทนยังไง เลยนั่งจ้องหน้าทาสมนุษย์มันทั้งวันทั้งคืนซะเลย จ้อง!! ‘ฉันรับเจ้า Wilbur มาจากข้างถนน มันทานอาหาร และวิ่งเล่นกับเหมียวตัวอื่นอย่างปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือ… เผลอทีไรมันก็จะมายืนจ้องหน้าฉันแบบนี้ตลอด’ เจ้าของบ้านเล่า แม้ว่าเธอจะหนีมาอีกห้อง มันก็ยังตามมาจ้องหน้าอยู่ ตอนเธอทำงานเจ้า Wilbur ก็มักจะเข้ามานั่งจ้องหน้าใกล้ๆ ‘ทุกวันนี้เจ้า Wilbur มักจะมารอหน้าประตูบ้านเสมอ เมื่อไหร่ที่ฉันกลับบ้านมันก็จะเดินเข้ามาจ้องหน้าทันที มันไม่ร้อง ไม่อะไรเลย แค่จ้องหน้าเท่านั้น’ เจ้าของบ้านเล่าเสริม แม้แต่ตอนจะนอนหลับ เจ้า Wilbur ก็ยังบุกเข้ามาจ้องหน้าเธอถึงในห้อง ทุกเช้าวันใหม่ก่อนที่เธอจะออกไปทำงาน Wilbur ก็จะมานั่งจ้องแบบนี้ เมื่อไหร่ที่เธอดูทีวี เจ้า Wilbur จะหันมาดูหน้าเธอแทน ไม่ว่าเธอจะทำอะไร อยู่ส่วนไหนของบ้าน หรือยุ่งอยู่มากขนาดไหน ก็จะมีเจ้าเหมียวมานั่งจ้องหน้าแบบนี้เสมอ …
-
ศิลปินจีนถ่ายภาพ “เจ้าหญิงดิสนีย์ในยุคปัจจุบัน” แต่ละคนจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน
เป็นอย่างที่รู้กันว่าโลกปัจจุบันที่พวกเราอาศัยอยู่ เป็นยุคสมัยที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และแฟชั่นที่ดูโดดเด่นเลิศสะแมนแตน Qingjian Meng ช่างภาพหนุ่มเชื้อสายจีน ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้ปิ๊งไอเดียถ่ายภาพเจ้าหญิงดิสนีย์ในยุคปัจจุบัน ลองไปดูว่าถ้าพวกเธอมีชีวิตจริงๆ ตอนนี้พวกเธอจะเป็นยังไงกันบ้างนะ? เจ้าหญิงเบลล์ ‘ผมได้ไอเดียมาจากการตั้งคำถามที่ว่า พวกเธอจะเป็นยังไงถ้าเราเปลี่ยนวิถีชีวิตในเรื่องเล่าปรัมปรา ให้ตรงกับโลกยุคสมัยปัจจุบัน พวกไม้กายสิทธิ์ต่างๆ ก็คงถูกแทนที่ด้วยสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ไฮเทคทั้งหลาย’ เจ้าของผลงานเล่า โดยช่างภาพได้ให้เหตุผลเสริมว่า นิทานเรื่องเล่าของเจ้าหญิงดิสนีย์ดูจะเชื่อมต่อกับหญิงสาวในยุคปัจจุบันได้ยาก เพราะวิถีชีวิต หรือเครื่องมือ ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สโนวไวท์ มู่หลาน โพคาฮอนทัส ‘ภาระหน้าที่ ความสัมพันธ์ รวมไปถึงชีวิตการทำงาน ของยุคสมัยก่อน กับยุคสมัยนี้ค่อนข้างแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือ.. พวกเธอทุกคนต่างทำงานหนัก ต่อสู้กับความยากลำบาก และมีความสุขในตอนท้าย’ ช่างภาพให้สัมภาษณ์ เอสเมอรัลด้า ถ้าใครอยากจะติดตามผลงานภาพถ่ายของช่างภาพคนนี้เพิ่มเติมละก็ สามารถเข้าไปตามชมได้ที่เว็บไซต์รวบรวมผลงาน QingJianMeng เลยจ้า เจ้าหญิงจัสมิน ถ้ามีคนเอาหนังเจ้าหญิงดิสนีย์ทั้งหมด มารีเมคเป็นเวอร์ชั่นคนแสดงในโลกยุคปัจจุบัน คงเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ…
-
นี่คือ 10 แบรนด์มหาอำนาจ ที่ควบคุมสินค้าบริโภคทั่วโลก โดยที่เราอาจไม่รู้ตัว!?
ลองคิดดูสิว่าทุกวันนี้มีสินค้าบริโภคอะไรบ้าง ที่เรามักจะซื้อทุกครั้งที่แวะเข้าร้านสะดวกซื้อ บางคนอาจจะชอบซื้อขนมขบเคี้ยวที่มีแต่ลมอย่างเลย์ หรือบ้างก็น้ำอัดลมอย่างโค้ก เป๊ปซี่ แม้ว่าในร้านสะดวกซื้อจะเต็มไปด้วยสินค้านับพันให้เราเลือกซื้อ แต่รู้มั้ยล่ะว่าเกือบทั้งหมดนั้นส่วนใหญ่แล้วมาจาก 10 บริษัทยักษ์ใหญ่มหาอำนาจทั้งหมดนี้ต่างหากล่ะ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นบริษัทที่ผลิตสินค้าบริโภคเช่นขนม น้ำเปล่า อาหารสำเร็จรูป เรียกได้ว่าอาจจะควบคุมนิสัยการบริโภคเราอยู่ โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยก็ว่าได้ 1. Kellogg’s นอกจากป้ายยี่ห้อ Kellogg’s ที่เรามักจะได้เห็นบนกล่องซีเรียลแล้ว พวกเขายังเป็นบริษัทแม่ของขนมดังอย่าง Pringles หรือ Eggo ที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศตะวันตก 2. Associated British Foods นับว่าเป็นบริษัทที่มีสินค้าบริโภคน้อยที่สุด แต่ก็ค่อนข้างครอบคลุมเลยทีเดียว เพราะนี่คือบริษัทแม่ของ Twinnings Tea ชาจากลอนดอนที่ส่งออกไปทั่วโลก หรืออาหารเช้าซีเรียลยี่ห้อ Dorset 3. General Mills ถ้าพูดชื่อบริษัทนี้อาจจะไม่มีใครรู้จัก แต่ถ้าบอกว่าเป็นบริษัทแม่ของไอศครีมชื่อดังอย่าง Haagen-Dazs หลายคนอาจจะร้องอ๋อทันที หรือแม้แต่สินค้าอาหารสำเร็จรูปยี่ห้อ Hamburger Helper ก็มาจากบริษัทนี้เหมือนกัน 4. Danone อีกหนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ที่น่าจะคุมตลาดโยเกิร์ตเกือบทั่วทั้งโลก เพราะสินค้าที่เค้าส่งออกไปทั่วโลกก็มีทั้ง…
-
18 สิ่งประดิษฐ์สุดอัจฉริยะ สำหรับพ่อแม่เลี้ยงลูกได้ง่ายขึ้น เจ๋งจนต้องร้องเชร้ดดด!!
สำหรับคุณพ่อ คุณแม่ ในยุคโพสต์โมเดิร์นแบบนี้… การเลี้ยงลูกซักคนหนึ่งคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไหนจะต้องออกไปทำงาน ไหนจะต้องคอยดูแลลูกให้พ้นจากอันตรายที่มีอยู่รอบด้าน ด้วยเหตุนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 18 สินค้าสิ่งประดิษฐ์สุดอัจฉริยะ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ยุคใหม่ รับรองว่าการเลี้ยงลูกจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 1. เสื้อฮู้ดสำหรับคุณแม่ (สั่งซื้อ) 2. ที่กั้นน้ำสำหรับอาบน้ำให้เด็ก (สั่งซื้อ) 3. กระเป๋าสะพายของคุณแม่ ที่ปรับเป็นเก้าอี้จิ๋วให้ลูกน้อยได้ (สั่งซื้อ) 4. ด้ามจับสำหรับล้างมือให้ลูกน้อย (สั่งซื้อ) 5. หมอนสารพัดประโยชน์ สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งท้อง (สั่งซื้อ) 6. ช้อนป้อนอาหารเพื่อคุณลูก (สั่งซื้อ) 7. รถเข็นเด็กที่เป็นได้ทั้งจักรยานในตัวเดียวกัน (สั่งซื้อ) 8. ที่รองเข่าสำหรับคุณแม่ เพื่อการอาบน้ำให้คุณลูก (สั่งซื้อ) 9. หมวกอาบน้ำคุณลูก น่าร๊ากกก (สั่งซื้อ) 10. ผ้าปูโต๊ะที่คุณลูกสามารถวาดเขียนได้ตามใจชอบ (สั่งซื้อ) …
-
หนูน้อยล็อคตัวเองไว้ในรถ นักดับเพลิงเร่งช่วยเหลือ แต่ดันหัวเราะชอบใจซะงั้น!?
นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยทั้งความน่ารัก และความใสสื่อไร้เดียงสาของหนูน้อยวัย 14 เดือน Brandon Emery เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นเมื่อคุณแม่ Kristy Green และหนูน้อยตั้งใจจะมาช็อปปิ้งที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ขณะกำลังจะจอดรถกุญแจดันตกพื้น.. ตอนที่คุณแม่กำลังจะก้มเก็บ หนูน้อยก็ดันเล่นซนเผลอกดล็อคตัวเองไว้ในรถซะงั้น งานนี้ถึงกับต้องโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือ พวกเขาทั้ง 5 ต่างก็พยายามงัดหน้าต่างรถออกมาอย่างสุดความสามารถ แต่ดูเหมือนหนูน้อยจะคิดว่าเค้ากำลังเล่นอะไรกันอยู่รึเปล่า? ในวินาทีเร่งด่วน เจ้าตัวกลับหัวเราะยิ้มแย้มชอบใจเฉ๊ยย!! โชคดีที่ใช้เวลาเพียงแค่ไม่นานนัก เจ้าหน้าที่ก็สามารถช่วยเหลือหนูน้อยออกมาได้อย่างปลอดภัย ‘ตอนแรกฉันตกใจมากเลยค่ะ ไม่รู้ว่าจะช่วยลูกออกมายังไงดี จนมีชาวบ้านมาช่วยกันโทรแจ้งเจ้าหน้าที่’ คุณแม่เล่า โฉมหน้าทีมนักดับเพลิงที่มาช่วยเหลือจาก Bude Community Fire Station เมือง Cornwall ประเทศอังกฤษ ‘ตอนแรกฉันตื่นกลัวมาก แต่พอเห็นว่า Brandon ยิ้มแย้มหัวเราะชอบใจ มันก็ทำให้ความเครียดทุกอย่างหายไปทันที’ คุณแม่เล่าเสริม อีกทั้งคุณแม่ยังให้สัมภาษณ์ว่า เธอจะไม่ปล่อยให้ลูกน้อยถูกขังอยู่ในรถคนเดียวอีกแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะดูชอบใจมากก็ตาม แหม๊…หัวเราะชอบใจซะน่ารักเลย >< ที่มา: Boredpanda
-
20 ภาพที่จะแสดงให้คุณเห็นว่า ในรอบ 70 ปีที่ผ่านมา โลกของเราเปลี่ยนไปมากแค่ไหนกัน?
เชื่อว่าพวกเราหลายคนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าทุกวันนี้สภาพอากาศของโลกเรากำลังเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดความแปรปรวนหลายๆ อย่าง เช่นบางครั้งหน้าหนาวก็กลับไม่หนาว หรือบางทีหน้าแล้งก็แล้งซะเหลือเกิ๊น!! ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในโลกเรานั้นสาเหตุหลักก็คงจะมาจากพวกเรานี่แหละ ทั้งการก่อมลพิษ การตัดไม้ทำลายป่าและอื่นๆ อีกมากมาย และถ้าหากว่าคุณยังไม่รู้สึกว่าโลกเราถูกทำลายไปมากแค่ไหน ภาพชุดที่เรานำมาให้ดูกันในวันนี้คงจะทำให้คุณเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกมากยิ่งขึ้นแน่นอน… 1. อุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธารน้ำแข็ง Muir ใน อลาสก้า ภาพด้านซ้ายถ่ายเมื่อ: เดือนสิงหาคม ปีค.ศ. 1941 ส่วนภาพด้านขวาถ่ายเมื่อ: เดือนเดียวกัน ในปีค.ศ. 2004 2. ในภาพเราจะเห็นปริมาณหิมะที่ลดลงของยอดเขา Matterhorn ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ภาพด้านซ้ายถ่ายเมื่อ: เดือนสิงหาคม ปีค.ศ. 2000 ส่วนภาพด้านขวาถ่ายเมื่อ: เดือนเดียวกัน ปีค.ศ. 2005 3. ลูกศรสีเหลืองแสดงให้เห็นถึงการบุกรุกพื้นที่ป่าในภูเขา Elgo อุทยานแห่งชาติ ประเทศยูกันดา ภาพด้านซ้ายถ่ายเมื่อ: ปีค.ศ. 1973 ส่วนภาพด้านขวาถ่ายเมื่อ: ปีค.ศ. 2005 4. ภาพแสดงถึงการบุกรุกพื้นที่ป่า Salta ของประเทศอาร์เจนตินา ภาพด้านซ้ายถ่ายเมื่อ: ปีค.ศ. 1972 ส่วนภาพด้านขวาถ่ายเมื่อ:…
-
Maru เจ้าสุนัขไซบีเรียนฮัสกี้สุดเพี้ยน ที่คิดว่าตัวเองเป็น “หมีแพนด้า” แถมยังมีความสุขตลอดเวลา
สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ เป็นสุนัขภาพลักษณ์ดูเท่ ดูสง่าด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาและขนที่ฟูของพวกมันจึงทำให้คนนิยมที่จะหันมาเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้กันมากขึ้นทุกวัน แต่ว่ากันว่าสุนัขพันธุ์นี้นั้นเป็นสุนัขที่ปัญญาอ่อน ซึ่งขัดกับลักษณะและท่าทางของมัน นั่นก็คงจะไม่ใช่เรื่องโกหกอย่างแน่นอน เพราะถ้าได้รู้จักกับเจ้า Maru ฮัสกี้ที่คิดว่าตัวเองเป็นแพนด้าตัวนี้แล้วละก็ เชื่อเหอะมันปัญญาอ่อนจริงๆ นั่นแหละ แล้วถ้ามันคิดว่าตัวเองเป็นแพนด้าจริงๆ มันจะรู้วิธีกินไผ่ไหม แล้วมันรู้ป่าวว่าแพนด้ามาจากจีน แล้วมันรู้วิชากังฟูเหมือนในกังฟูแพนด้าไหม? แต่ที่รู้แน่คือมันทำให้เราหยุดยิ้มเวลาดูมันไม่ได้เลยล่ะ นอกจากเจ้า Maru จะปัญญาอ่อนและดูติ้งต๊องแล้ว มันยังเป็นฮัสกี้ที่มีความสุขมากๆ แถมยังทำท่าเหมือนกำลังยิ้มบ่อยๆ อีกด้วย จนกระทั่งทำให้มียอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมของมันก็มีมากถึง 180,000 คนเลยทีเดียว แพนด้า แพนด้า เต็มไปหมดเลย ละดูหน้าเจ้า Maru สิ ฟินอะไรขนาดนั้น ชัดไหมว่ามันปัญญาอ่อนจริงๆ แต่เวลามันยิ้มก็น่ารักมากๆ เลยนะ จะมุมไหนก็ไม่ทิ้งความน่ารักปัญญาอ่อน ขนาดนอนยังน่ารัก ที่สำคัญ Maru ตาสองสีด้วยนะ Maru อยากจะเป็นแวมไพร์ พยายามทำให้หน้าบานเหมือนแพนด้า เวลาทำหน้านี้มันดูปลื้มปริ่มสุดๆ เลยนะเนี่ย …
-
นักเขียนสาวไต้หวันฆ่าตัวตาย เผยเรื่องจริงอันขมขื่น ผ่านนิยายเล่มแรกที่เพิ่งวางขาย…
หลินอีว์หาน นักเขียนสาวดาวรุ่งวัย 26 ปี ชาวไต้หวันได้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย หลังจากที่ผลงานเขียนชิ้นแรกของเธอที่ชื่อว่า Fang si Chi’s First Love Paradise เพิ่งจะวางขายจนเป็นนิยายขายดีอันดับต้นๆ ได้ไม่นาน และกำลังตีพิมพ์ซ้ำเป็นครั้งที่ 5 แล้ว ทางด้านพ่อแม่ของเธอก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุการแขวนคอตายของลูกสาวว่า เธอน่าจะทำไปเพราะความเครียดที่สะสมมาเป็นเวลานานและไม่ได้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าทั่วไป เดิมทีตัวเธอเป็นคนที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะดี นอกจากนั้นคนในครอบครัวของเธอก็ทำงานสายอาชีพแพทย์กันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือพี่ชายของเธอก็ตาม ส่วนตัวหลินเองก็ไม่ได้น้อยหน้าแต่อย่างใด เพราะเธอเป็นคนที่หัวดี เคยทำคะแนนสอบได้มากถึง 75% จนสามารถเข้าเรียนคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ได้ แต่ทว่าเธอก็ต้องพักการเรียนไปหลังจากเข้าเรียนได้ 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นผลจากการที่เธอป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จากนั้นไม่นานเธอก็หันไปเรียนด้านวรรณคดีจีนแทน แต่หลังจากที่เธอเรียนไปได้เป็นเวลา 1 ปี เธอก็ตัดสินใจที่จะหยุดเรียนอีกครั้งหนึ่งด้วยสาเหตุเดิม นั่นก็คือสภาพจิตใจของเธอที่ย่ำแย่มากๆ จนกระทั่งคิดฆ่าตัวตายครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งหนึ่งเธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันมองว่าตัวเองเป็นผู้ป่วยทางจิตประเภทหนึ่ง แต่ก็ฉันก็มีความฝันอยากจะเขียนหนังสือให้ได้เหมือนกับ เคนซาบุโร โอเอะ (นักเขียนชื่อดังชาวญี่ปุ่น) ซึ่งฉันก็พยายามพัฒนาตัวเองโดยเริ่มจากการอ่านหนังสือ เพื่อให้เข้าถึงวัฒนธรรมต่างๆ และเพิ่มพูนความรู้” . ตามรายงานจากเว็บไซต์ Koalasplayground บอกว่าเนื้อหาเกี่ยวนิยายดังกล่าวที่เธอเป็นคนแต่งขึ้นมา…
-
รัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติให้ พนักงานใส่ชุดสบายๆ มาทำงานได้ เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน
ฤดูร้อนแบบนี้ไทยเราคงต้องใช้ตัวช่วยดับร้อนอย่างเครื่องปรับอากาศกันอย่างหนักเลยใช่ไหมล่ะ และที่ญึ่ปุ่นก็ไม่ต่างกันแต่อาจจะไม่ร้อนมากเท่าบ้านเราเท่าไหร่ ซึ่งทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้ตระหนักถึงการประหยัดพลังงานจึงเกิดเป็นโครงการดีๆ ที่จะช่วยลดการใช้พลังงานแถมยังดีต่อหนุ่มสาวออฟฟิศอีกด้วย รัฐบาลญี่ปุ่นได้จักโครงการดีๆ ขึ้นสำหรับหน้าร้อนนี้ โดยโครงการนี้มีชื่อว่า “Cool Biz” คือการรณรงค์ให้หนุ่มสาวออฟฟิศแต่งตัวสบายๆ มาทำงาน เพื่อเป็นการลดการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศ โครงการนี้มีวิธีดำเนินการโดยให้ประชาชนตั้งความเย็นของเครื่องปรับอากาศให้อยู่ที่ 28 องศาเซลเซียส ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ซึ่งโครงการ Cool Biz นี้จะดำเนินโครงการจนไปถึงสิ้นเดือนกันยายน โดยเจ้าหน้าที่รัฐในสำนักงานของรัฐบาลสามารถมาทำงานได้โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องใส่เนคไทและเสื้อคลุม ส่วนข้าราชการก็สามารถสวมใส่เสื้อโปโล รองเท้าผ้าใบหรือจะเป็นเสื้อฮาวายในที่ทำงานได้เช่นกัน “เราต้องการให้ธุรกิจต่างๆ ริเริ่มทำตามโครงการ Cool Biz เพราะการแต่งกายสบายๆ นั้น จะช่วยให้เราประหยัดพลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศได้” Naofumi Masuda ผู้อำนวยการสำนักงานการจัดการพลเมืองและสิ่งแวดล้อมได้กล่าวถึงโครงการนี้ โครงการนี้จะเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2005 และได้มีการจัดทำการสำรวจออนไลน์จากกระทรวงสิ่งแวดล้อมในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าประชากรมากถึง 90% ได้ตระหนักและทำตามโครงการนี้ โดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่นเป็นผู้เริ่มโครงการ Cool Biz เป็นการรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน และชาวญี่ปุ่นเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมตั้งเป้าว่าจะสามารถลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาจากบ้านเรือนได้ 40% เมื่อเทียบกับปริมาณก๊าซที่ปล่อยในปี…
-
กลุ่มเพื่อรักนาวิกโยธิน ฉลองครบรอบ 50 ปีที่คบกัน ด้วยการรำลึกความหลังถ่ายภาพย้อนวัย
หลายๆ คนคงมีเพื่อนที่สนิทที่รู้ใจกันอยู่แล้วทุกคน และแน่นอนว่าต้องเคยผ่านเหตุการณ์ทั้งทุกข์และสุขมาด้วยกันมามากมาย ไม่ว่าจะทะเลาะกันหรือเถียงกันหนักแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายแค่เอ่ยคำว่าขอโทษทุกอย่างก็จบลงเพราะสายสัมพันธ์ของเพื่อนมันช่างเหนียวแน่นซะเหลือเกิน… อย่างกลุ่มทหารนาวิกโยธินกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย Dennis Puleo, Tom Hanks, Bob DeVenzia, Bob Falk ที่มีความสัมพันธ์ยั่งยืนกันมาจนถึง 50 ปีด้วยกัน พวกเขารู้จักกันครั้งแรกเมื่อสมัยที่ฝึกนาวิกโยธินตอนหนุ่มๆ พวกเขาได้นัดกันไปเที่ยวเล่นที่ชายหาดใน California ด้วยกัน ไม่กี่อาทิตย์ต่อมา เขาจะต้องนั่งเรือไปทำสงครามที่เวียดนาม พวกเขาก็เลยตัดสินใจแชะรูปร่วมกัน พวกเขาทุกคนมีชีวิตรอดมาจากสงครามที่เวียดนามและก็คบเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันมาตั้งแต่นั้น จนเวลาล่วงเลยผ่านมากว่า 50 ปี พวกเขาก็เลยตัดสินใจที่จะเฉลิมฉลองช่วงเวลานี้ด้วยการรวมตัวไปเที่ยวเล่นด้วยกันที่ชายหาดที่ได้เคยไปด้วยกันครั้งแรก และถ่ายรูปด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง ลองไปชมคลิปเหตุการณ์ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… ช่างเป็นมิตรภาพที่ยืนยาวซะจริงๆ เลยนะเนี่ย #เหมียวหง่าว เองก็มีเพื่อนเยอะแยะเลยนะ และก็คิดว่าพวกเราคงจะคบกันไปยาวเป็น 50 ปีแบบนี้มั่ง หรือไม่ก็นานกว่านี้อีกเนอะเพื่อนๆ ^^ (เค้าหมายถึงพวกเพื่อนๆ น่ะแหละ อยู่ด้วยกันไปนานๆ น๊าาาาา อิอิ) ที่มา : USA TODAY, Lifebuzz
-
ลุงญี่ปุ่นหัวใจมุ้งมิ้ง ได้รับบันทึกสถิติจากกินเนส มีคอลเลคชั่น Kitty มากกว่า 5,169 ชิ้น!!
ทัศนะคติต่อ Kitty ที่ว่าสาวๆ เท่านั้นถึงจะชอบ ต้องเปลี่ยนไป ถ้าคุณได้รู้จักกับชายคนนี้ !! Masao Gunji คือคุณลุงวัยกลางคนชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในเมืองโยสึไกโดะ ประเทศญี่ปุ่น โดยเขาเป็นผู้ชายที่ได้รับการบันทึกว่าเป็นคนที่มีคอลเลคชั่นคิตตี้มากที่สุดในโลก!! พูดเฉยๆ ก็จะหาว่าโม้ แต่คุณลุงได้รับการยืนยันและจดบันทึกลงใน Guinness World Record เป็นที่เรียบร้อยว่ามีคอลเลคชั่น Hello Kitty มากถึง 5,169 ชิ้น แถมยังไม่ซ้ำกันเลยด้วย อู้วหู้ววววว!! ส่วนใครที่สงสัยว่าแล้วลุงแกเอาคอเลคชั่นพวกนี้ไปเก็บไว้ที่ไหน คำตอบก็คือ..ในบ้านนั่นแหละ แต่ทั้งบ้านก็จะเต็มไปด้วยคอลเลคชั่นของแก ทั้งบนกำแพง บนโต๊ะ บนตู้โชว์ รวมถึงวางบนพื้นก็มี แถมที่สำคัญบ้านของลุงแกยังเป็นสีชมพูไปหมดเลยด้วย ส่วนคุณลุง Masao ก็ได้เล่าถึงสาเหตุที่เขาชอบคิตตี้มากๆ ว่า “Hello Kitty ช่วยให้กำลังใจกับผมทุกครั้ง ในเวลาที่ผมรู้สึกไม่มีความสุข” นอกจากตัวคุณลุงแล้ว ภรรยาของแกก็เป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันแถมยังสนับสนุนสุดๆ ไม่ใช่แค่นั้นมันยังครอบคลุมไปถึงเพื่อนบ้านของแกอีกด้วย เหล่าเพื่อนบ้านกลายเป็นแฟนคลับของคุณลุงทันทีและแวะเวียนมาที่บ้านของเขาบ่อยๆ และในการจดบันทึกลง Guinness World…
-
ข่าวดี วิทยาศาสตร์ชี้ การเลี้ยงเหล่าแมวเหมียวทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นถึง 12 ประการ!!!
ประโยชน์ของเหล่าแมวเหมียวน่ะมีมากมาย ถ้าจะให้เอามาแฉกันจนหมดก็คงจะมีความยาวหลายกิโล แต่ตอนนี้ใครจะเชื่อล่ะ การเลี้ยงแมวทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วยนะจ๊ะ!!? เพราะล่าสุดมีเหล่านักวิทยาศาสตร์จากหลายสำนักเลยล่ะออกมาบอกว่า การเลี้ยงแมวจะทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้น ทั้งทางร่างกายและด้านจิตใจเลยทีเดียว วันนี้เราก็จะมาจำแนกข้อดีเหล่านี้กัน… 1. แมวช่วยในเรื่องของระบบหัวใจและหลอดเลือด จากงานวิจัยของ University of Minnesota เหล่าผู้เลี้ยงแมวเหมียวมีโอกาสตายด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดน้อกว่าคนที่ไม่เลี้ยงถึงร้อยละ 30-40 เลยทีเดียว แถมยังช่วยลดภาวะหัวใจล้มเหลวในมนุษย์อีกด้วยล่ะ (อาจเป็นได้เพราะความน่ารักของเหล่าแมวเหมียวนั่นเอง) 2. แมวช่วยในเรื่องของระบบภูมิคุ้มกัน แค่มีแมวระบบภูมิคุ้มกันของคุณก็เพิ่มขึ้นได้แล้วล่ะ เพราะการที่คุณเลี้ยงแมวนั้นจะช่วยในด้านความเพลิดเพลินที่ไม่ต้องอยู่ตัวคนเดียวจากความเหงา แถมได้ออกกำลังกายเวลาเล่นกับพวกมัน แค่นั้นก็ดีต่อสุขภาพแล้วล่ะ แถมแมวยังจะสามารถรู้ได้ว่าเวลาไหนที่คุณเศร้าหรือไม่สบาย ทีนี้มันก็จะมาปลอบประโลมคุณทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นอีกด้วย 3. ช่วยในเรื่องของโรคภูมิแพ้และทางเดินหายใจ ยิ่งเด็กๆ ที่เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวตั้งแต่วัยเยาว์นั้น จะเป็นเหมือนการกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันต่ออาการแพ้ต่างๆ ทำงานได้ดีกว่าปกติ แถมเด็กๆ ที่ถูกเลี้ยงดูมากับสัตว์เลี้ยงนั้นมีแนวโน้มที่จะมีจิตใจที่ดีมีความเมตตาต่อสัตว์มากกว่าด้วย 4. ทำให้ความดันเลือดลดลง จากผลวิจัยของ State University of New York แค่เลี้ยงแมวก็สามารถลดความดันเลือดได้แล้ววว 5. ลดคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด การออกกำลังกายและลดอาหารก็อาจจะช่วย แต่จากงานวิจัยของทางประเทศแคนาดานั้นพบว่า แค่การเลี้ยงแมวก็ช่วยลดได้แล้วล่ะ…
-
ความหมั่นไส้เป็นเหตุ… เมื่อ Joffrey โพสต์ภาพกอดหมาปั๊ก แฟนๆ ก็รุมตัดต่อสร้างผลงานสุดฮา
ถ้าใครที่ตามซีรีส์ Game of Thrones มาแต่แรกก็คงจะรู้จักตัวละครที่ชื่อว่า Joffrey กันเป็นอย่างดีว่าเขาเป็นตัวละครที่ทุกคนรักและชื่นชอบกันมากแค่ไหน ดูได้จากกระแสที่แม้ตัวเขาในเรื่องจะจากไป ผู้คนก็ยังคงพากันคิดถึงไม่ลดลงเลยยยยยยยยยยยย (ไม่ได้ประชดจริงๆ นะ) จนล่าสุดก็ได้มีภาพของ Jack Gleeson นักแสดงผู้รับบทเป็นนี้กำลังกอดหมาปั๊กและทำหน้าดีใจ ชาวเน็ตก็ไม่รอช้าด้วยความรักและชื่นชอบในตัวละครโปรดของพวกเขา ก็เลยจัดการงัดฝีมือโฟโต้ช็อปออกมาตัดต่อรูปดังกล่าวกันเพียบ และนี่คือภาพต้นฉบับ จากภาพต้นฉบับเราก็จะเห็นองค์ประกอบมากมายที่เหมาะกับการตัดต่อจริงๆ ทั้งสุนัขข้างหลัง หมาปั๊ก หรือแม้แต่หน้าของ Jack เองก็ตาม และมันก็คงทำให้หลายคนอยากจะรู้ว่าชาวเน็ตจะสร้างสรรค์ผลงานออกมาเด็ดแค่ไหนกันแล้วล่ะสิ แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน Nymeria ก็ยังชอบกัด Joffrey อยู่ดี ตามรอยอาย่าด้วยการเป็นเด็กขายหอยซะเลย ใครกลัวสปอยเตรียมหลบให้ดี เพราะภาพนี้มีสปอย King Joffrey.. สปอยเลอร์ อย่าทำร้ายซานซ่าอีกเลยนะ Joffrey ราชาแห่งพงไพรถือกำเนิดแล้ววว ถ้าในซีรีส์เป็นแบบนี้ เขาจะกลายเป็นราชาสุดมุ้งมิ้งทันที ดีใจกับท่านอาด้วยที่ได้รับรางวัล มะมือขวานั้นมันของท่านพ่อใช่ไหม!!? เจ้านายฮะ ผมชอบฉากนี้มากเลย ไม่คิดว่า King Joffrey…
-
รวมภาพสัตว์โลกที่ตัวกลมเกินไป กลมจนหยุดไม่อยู่ กลมจนความน่ารักทะลุขีดจำกัด!!
เชื่อว่านอกจาก #เหมียวมู่ทู่ แล้วคงจะมีหลายคนเลยที่ชอบอะไรทรงกลม เวลาเห็นแล้วอยากจะสัมผัสอยากจะจับจะบีบให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกบอล หรือสิ่งของอะไรก็ตามที่ดูกลมๆ นูนๆ โค้งเว้าาาาาาาา เพราะด้วยผิวสัมผัสของทรงกลมที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด มันเป็นอะไรที่ฟินมากๆ เลยทีเดียว ยิ่งเป็นอะไรที่นุ่มด้วยยิ่งฟินกว่าเดิม นอกจากนั้นถ้ายิ่งเป็นสัตว์ขนฟูหรือตัวอ้วนด้วยแล้ว ก็ไม่แปลกเลยที่เราจะต้องตกหลุมรักทรงกลมของพวกมัน ฉะนั้นวันนี้เราก็เลยจะมาดู สัตว์ต่างๆ ที่มีรูปร่างเป็นทรงกลมกัน เหมียวมู่ทู่รับรองว่าถ้าเห็นแล้วจะต้องอดใจไม่ไหวแน่นอน หึหึ นะ นะ นั่นมันก้อนอะไรน่ะ เจ้าเหมียวตัวนี้หน้ากลมจนกลายเป็นดอกทานตะวันเลย นกฮูกตัวกลม อยากจะเอามือลูบๆ จัง ตัวมันอ้วน หรือขนมันฟูกันนะ แม้แต่เจ้าจิ้งจอกก็ยังดูกลมได้ เมื่อดูจากข้างหน้า เจ้าฮัมมิ่งเบิร์ดที่นอกจากกลมแล้ว สีสันยังสวยงามสุดๆ อีกหนึ่งนกตัวกลมกับเจ้านก Tailed Tit และก็ยังหนีไม่พ้นนกตัวกลมอีกหนึ่งสายพันธุ์ Reedling หรือจะเป็นตรู๊ดเจ้าชินชิล่า สำหรับปลาปักเป้า ก็คงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ จะ..เจ้านกฮูกตัวนี้มันจะกลมเกินไปแล้ว!! ภาพแมวน้ำตัวกลมที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นผ่านตากันมาบ้าง พวกนกตัวเล็กๆ นี่มันกลมดีจริงๆ…
-
มิติใหม่ของการขายบ้าน!! หนุ่มประกาศขายลอตเตอรี่แค่ 86 บาท ใครชนะเอาบ้าน 34 ล้านไปเลย…
ขายตรงๆ ไม่ได้ ก็ขายแบบเสี่ยงดวงเอาเลยก็แล้วกัน!! Dunstan Lowe หนุ่มอังกฤษวัย 37 ปี ผู้ตกหลุมรักเข้ากับ Melling Manor คฤหาสน์หลังโตในเมืองแลงคาเชอร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งเขายอมทุ่มทุนซื้อมาในราคา 544,000 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 18 ล้านบาท) เมื่อปี 2011 หลังจากซิ้อมันมา เขาก็ยังลงทุนเพิ่มตกแต่งรีโนเวทจนภายในกลายเป็นบ้านอันทันสมัยและถูกใจตัวเอง ซึ่งผลงานที่เสร็จแล้วนั้นต้องบอกว่ามันสวยน่าอยู่เอามากๆ เลยล่ะ แต่แล้วเขาก็ต้องเจอกับปัญหาการชำระเงินจำนองบ้าน ซึ่งมันบีบบังคับให้เขาต้องประกาศขายมันไปในที่สุด โดยตอนแรกเขาประกาศขายมันไปในราคา 1,000,000 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 34 ล้านบาท) จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครสนใจจะซื้อบ้านต่อเขาสักที พอเข้าสู่เดือนธันวาคมปี 2016 เขาก็รู้ทันทีว่าด้วยราคาดังกล่าวมันคงจะขายไม่ออกแน่ เขาเลยปิดการขายและเปิดด้วยราคาใหม่จนเวลาผ่านไปก็ยังไม่มีคนสนใจจะซื้อมันอยู่ดี เขาจึงตัดสินใจลดราคามันลงมาเรื่อยๆ จนเหลือเพียง 813,000 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 27 ล้านบาท) ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ช่วยอะไรเลย เขาจึงปรึกษาภรรยาของเขาเพื่อช่วยกันหาทางออก จนตัดสินใจใช้วิธีใหม่นั่นก็คือ การขายบ้านแบบตั๋วลอตเตอรี่ในราคาใบละ 2.5 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 86 บาท) เท่านั้น แถมถ้าชนะรางวัลก็จะได้คฤหาสน์หลังโตไปครองทันที!! ฟังดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ดี แต่วิธีนี้ก็ยืนอยู่บนความเสี่ยงเช่นกัน…
-
เปิดตำนาน Slinky สปริงของเล่นสุดฮิตยุคเก่า ที่ใครจะเชื่อว่า มันถูกคิดค้นโดยความบังเอิญ!?
หลายคนที่โตมาในช่วงยุค 90 น่าจะคุ้นเคยกับเจ้าของเล่นที่มีรูปร่างเป็นสปริงกลมๆ สีสันสวยงามกันมาก่อนใช่ไหมล่ะ และแน่นอนว่าคนมากมายก็น่าจะคิดว่ามันถูกออกมาแบบมาอย่างดีเพื่อที่จะเป็นของเล่นสุดฮิตในยุคนั้น ถ้าใครคิดไม่ออก ลองไปดูการเล่นสุดเฟี้ยวกันในคลิปนี้ก่อน… แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆ แล้วไอ้เจ้าสปริงกลมๆ ที่เรียกว่า Slinky เนี่ยมันไม่ได้ถูกออกมาแบบมาอย่างตั้งใจหรอกนะ เพราะมันเกิดมาจากความบังเอิญต่างหาก อ๊ะ เรามาทำความรู้กับมันให้มากขึ้นกันเถอะ… ในปี 1943 Richard James ผู้เป็นวิศวกรเครื่องกลทางทะเลประจำที่อู่ต่อเรือ William Cramp & Sons ในเมืองฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในตอนนั้นเขาต้องการที่จะสร้างสปริงที่มาช่วยสนับสนุนและรักษาเสถียรภาพเครื่องมือที่สำคัญบนเรือระหว่างที่เดินทะเล จนวันหนึ่ง Richard ได้บังเอิญเผลอทำเจ้าสปริงที่เขาคิดค้นขึ้นมาตกลงจากชั้นวาง แล้วเลือบไปเห็นว่ามันค่อยๆ ตกลงมาจากชั้นลงไปที่โต๊ะ จากนั้นก็ลงไปต่อที่พื้นโดยทับกันเป็นชั้นๆ อย่างสวยงาม ก็เลยปิ๊งงงงง ออกมาเป็นเจ้านี่… พอกลับมาถึงบ้านเขาบอกกับ Betty ภรรยาของเขาว่า เขาค้นพบบางอย่างที่น่าสนใจมากๆ และถ้าเขาสามารถหาเหล็กที่ตรงตามต้องความการได้ เขาก็สามารถที่จะทำให้เจ้าสปริงนี้มันเดินได้เช่นกัน เขาได้ลองใช้เส้นลวดเล็กมากมายหลากหลายชนิดมาเป็นวัสดุเป็นเวลากว่า 1 ปี จนในที่สุดเขาก็ทำให้มันเดินได้สำเร็จ แถมภรรยาของเขายังบอกว่าเด็กๆ ในหมู่บ้านก็ดูจะให้ความสนใจกับเจ้าสปริงเดินได้ของพวกเขามากๆ จนเธอได้ตัดสินใจเรียกมันว่า Slinky นั่นเอง ผลงานจากความบังเอิญ…
-
เจ้าคอร์กี้โพสท่าแสนภูมิใจ หลังจากปลูกต้นไม้ให้เติบโตได้ ด้วยอุนจิของมันเอง!!
มีใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง “เดอะ มาร์เชียน” ซึ่งตัวเอกต้องเอาตัวรอดบนดาวอังคารให้ได้ และเขาก็ใช้วิธีการปลูกมันฝรั่งด้วยการใช้อุนจิของตัวเองมาเป็นส่วนผสมของปุ๋ย และดูเหมือนเจ้าหมาตัวนี้จะได้แรงบันดาลใจจากพ่อหนุ่มวัทนีย์มาเต็มๆ เรื่องราวทั้งหมดต้องย้อนกลับไปเดือนตุลาคมปี 2016 เมื่อตอนที่ Meya เจ้าสุนัขพันธุ์คอร์กี้จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ตอนนั้นมันอายุได้ 2 ขวบพอดี มันได้ช่วย Alexandra Gleber ผู้เป็นเจ้านายของมันปลูกต้นฝักทองข้างหลังบ้าน Alexandra เล่ากับเว็บไซต์เดอะโดโด้ว่า “ตอนนั้นเราปลูกฟักทองไว้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเทศกาลฮัลโลวีน แต่ Meya ดันเขมือบมันซะหมดเลย ทำให้ฉันจะต้องปลูกพวกมันขึ้นมาใหม่” หลังจากเธอเก็บกวาดหลังบ้านเสร็จแล้วเธอก็ออกมาเพื่อเตรียมดำเนินการขุดหลุม แต่เจ้า Meya ก็จัดการขุดหลุมรอไว้แล้ว เหมือนกับว่ามันรู้เธอจะต้องขุดหลุมอย่างแน่นอน ภาพถ่ายของมันกับกอฟักทองตอนขึ้นใหม่ๆ จากนั้นเธอก็จัดการหว่านเมล็ดลงไป พร้อมกับใช้อึของเจ้าตูบมาทำเป็นปุ๋ย และดูเหมือนเจ้าตูบก็จะรู้ดีว่าเธอใช้อึของมัน มันจึงตั้งใจดูแลสวนหลังบ้านเป็นอย่างดี คอยมายืนเฝ้าเวลาเธอดูแล(หรือยืนกวนกันแน่??) และจัดการสัตว์ต่างๆ ไม่ให้มาใกล้ต้นฟักทองของมัน เวลาผ่านไป Alexandra ได้เล่าถึงผลลัพท์ที่ออกมาว่า “ฉันอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียที่รู้กันดีว่าดินในบริเวณนี้ปลูกพืชยากพอสมควร แถมยังแห้งแล้งอีกต่างหาก และฉันปลูกอะไรก็ไม่ค่อยสำเร็จเท่าไหร่ แต่เชื่อไหมว่า Meya ทำได้ ฟักทองที่ปลูกด้วยอึของมันเติบโตอย่างไม่น่าเชื่อ แถมมันก็ดูจะภูมิใจในอึตัวเองมากๆ เลยล่ะ” ดูเหมือนว่ามันจะรู้นะว่านี่คือผลผลิตของอึมันเอง เลยโพสท่าซะฮา แม้เรื่องนี้มันจะไม่ได้เป็นคนพรวนดิน ผสมปุ๋ย หรือกระทั่งซื้อเมล็ดฟักทองมาเอง…
-
ช่างภาพตามถ่าย “โลกลับๆ ของเหล่าแมวจรจัด” จากมุมมองแปลกใหม่ ที่ไม่ค่อยได้เจอทั่วไป
เรามักจะได้เห็นภาพความน่ารักของแมวบ้านที่ลงตามเพจต่างๆ หรือมีเจ้าของภูมิใจเอามานำเสนอ แต่หากจะพูดถึงแมวจรจัด ภาพที่เราคิดขึ้นมาก็คงเป็นเหล่าเหมียวน่าสงสารที่ต้องอยู่ข้างถนนอย่างอดอยากสินะ?? ช่างภาพชาวคาซัคสถาน Evgeniya Gor ออกมาเผยแพร่ภาพแมวจรจัดในอริยาบทต่างๆ ผ่านเว็บไซต์ BoredPanda โดยเขาใช้ธีมของภาพเป็นขาวดำเพื่อสื่อเรื่องราวออกมาให้ดูลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เข้าได้เล่าถึงสาเหตุของการมาทำภาพเซตนี้ว่า “ผมเริ่มทำโปรเจค Among the worlds ตั้งแต่ 2006 ซึ่งตอนนั้นผมไม่ยังไม่มีประสบการณ์อะไรเลย แต่ผมก็ทำมันด้วยความที่ผมชอบความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เท่านั้นเอง” “ส่วนแมวถือเป็นโปรเจคหลักสำหรับผม เพราะพวกมันอยู่ในงานของผมมากที่สุด และภาพแมวส่วนใหญ่ที่ผมถ่ายก็จะเป็นแมวจรจัดทั้งสิ้น เวลาผมไปไหนมาไหนก็จะพกอาหารติดตัวเสมอ เพื่อที่จะได้แบ่งปันให้กับพวกมัน แถมนอกจากนั้นผมยังบริจาคเงินไปยังองค์กรต่างๆ เพื่อช่วยเหลือพวกมันอีกด้วย” . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ภาพทุกภาพ แทบจะไม่ต้องมีคำบรรยายแต่สื่อถึงอารมณ์และงานศิลป์ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว และถ้าใครชอบงานของ Evgeniya รวมถึงอยากจะติดตามก็เข้าไปดูกันได้ที่อินสตาแกรม gykavka ยังมีภาพสวยๆ…
-
เคยสงสัยไหม… ทำไมตัวละครหลักในการ์ตูนดังหลายๆ เรื่อง ถึงต้อง “ตัวสีเหลือง” กันนะ!?
เวลาที่เราดูแอนิเมชั่นต่างๆ หรือการ์ตูนทั้งจากฝั่งตะวันออกหรือตะวันตก เราเคยสังเกตกันไหมว่าทำไมตัวละครเอกหลายๆ ตัวในเรื่องที่เราดู มีสีผิวเป็นสีเหลืองเสมอๆ หรือพบเจอพวกมันเป็นสีเหลืองบ่อยครั้ง บางครั้งเราก็อาจจะคิดว่าไม่ตั้งใจ หรือบังเอิญแน่ๆ แต่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอนเพราะ SpongeBob, Tweety, Winnie the Pooh, Minions, Pikachu, The Simpsons, Pluto ทุกตัวละครล้วนเป็นสีเหลืองแถมก็เป็นเรื่องที่ฮิตๆ ทั้งนั้น ทำไมกันล่ะ? ล่าสุดทางได้มีช่องยูทูบที่ชื่อ ChannelFrederator ได้ออกมาอธิบายถึงเหตุผลดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันดูเข้าท่าเข้าทางเลยทีเดียว เริ่มกันที่เหตุผลแรกกันก่อน โดยเขาได้อธิบายเกี่ยวกับทฤษฎีสีไว้ว่า สีแต่ละสีจะตรงข้ามและส่งเสริมกันอย่างเช่นสีเหลืองกับน้ำเงินเป็นต้น นอกจากนั้น ในระบบดิจิตอลหรือทีวีจะใช้ระบบสีที่เรียกว่า RGB model ทำให้สีเหลืองกับสีน้ำเงินเกิดการเสริมกันเลยทำให้เวลาใช้สีทั้งสองมันจะตัดกันอย่างสิ้นเชิงนั่นเอง . ลองกลับมาที่เรื่องของแอนิเมชั่นกันต่อ ภายในแอนิเมชั่นต่างๆ เรามักจะเห็นพื้นพลังฉากเป็นท้องฟ้าหรือธรรมชาติอยู่บ่อยๆ แน่นอนว่าท้องฟ้าก็จะต้องเป็นสีฟ้าหรือน้ำเงิน ซึ่งตามทฤษฎีข้างบนเราก็จะเห็นว่าว่าเหลืองและน้ำเงินเป็นสีที่ตัดกัน จึงไม่แปลกเลยที่ตัวละครจะกลายเป็นสีเหลืองเพื่อที่จะทำให้ตัวละครในเรื่องดูโดดเด่นและไม่กลืนไปกับฉาก ดูเด่นขึ้นมาไหม!? แล้วลองดูกางเกงของ SpongeBob ที่กลืนกับพื้นหลัง ต่อมาเหตุผลที่สองกับจิตวิทยาสี ซึ่งถ้าใครได้ดูเรื่อง Inside out ก็คงจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ไม่ยาก จิตวิทยาสีก็คือเรื่องของสีที่บ่งบอกอารมณ์ต่างๆ…
-
โปรเจ็คถ่ายภาพ Then&Now ของเหล่าคนอายุ 100+ ปี เปรียบเทียบกับตัวเองในตอนวัยรุ่นสุดเฟี้ยว…
ปกติแล้วการ Before และ After เรามักจะไว้เพื่อดูผลของการเปลี่ยนแปลง และถ้าเป็นภาพของตัวบุคคลส่วนใหญ่เราก็มักจะเห็นภาพที่เปลี่ยนแปลงช่วงอายุไม่มากนัก อย่างเยอะก็ราวๆ 20 ปีเท่านั้น แต่ Jan Langer ช่างภาพมือดีได้เริ่มโปรเจคที่ชื่อว่า Faces Of Century ขึ้นมา โดยโปรเจคที่ว่าจะเป็นภาพของคนที่มีอายุมากกว่า 100 ปีทุกคน เป้าหมายของเธอก็เพื่อเทียบกับภาพในช่วงวัยรุ่นของพวกเขา ว่าพอช่วงเวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ลักษณะร่างกายและความคิดจิตใจของพวกเขาจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน 1. Marie Burešová ตอนอายุ 23 ปีและกำลังจะเข้าพิธีแต่งงาน / กับช่วงอายุ 101 ปี ที่ดูไม่เปลี่ยนแปลงจากตอนนั้นเท่าไหร่นัก 2. Antonín Kovář วัย 25 ปี ในตอนนั้นเขาเป็นหัวหน้าวงดนตรีของเขาเอง / แต่พออายุ 102 ปี เขาก็ยังดูไม่เปลี่ยนไป สายตาและรอยยิ้มยังคงอยู่ตามเดิม 3. Vlasta Čížková วัย 23 ปี โดยภาพในตอนนั้นเป็นภาพที่เธอถ่ายหลังจากเพิ่งจบจากไฮสคูลหมาดๆ / ตอนนี้เธออายุ 101 ปี…
-
ตามไปชม “การต่อสู้เพื่อหาเมีย” ของชนเผ่าซูริ ที่ต้องดื่มเลือดวัว และถึงขั้นแลกมาด้วยชีวิต!!
The Donga หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า การต่อสู้ด้วยกระบองไม้ (Stick Fight) เป็นพิธีกรรมการต่อสู้แบบดั่งเดิมของชนเผ่าซูริ ชนเผ่าดั่งเดิมในประเทศเอธิโอเปีย ซึ่งสืบต่อกันจากรุ่นสู่รุ่นมายาวนาน ส่วนสาเหตุที่ต้องทำพิธีกรรมนี้ นั่นก็เพื่อที่ผู้ชายในเผ่าได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเอง รวมถึงเพื่อชิงสิทธิได้ครองคู่กับสาวในเผ่าที่ตัวเองชอบเมื่อได้รับชัยชนะในพิธีกรรม แต่ว่าก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น นักสู้ทั้งหมดจะต้องเข้ารับพิธีการดื่มเลือดวัวเสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ต้องทำแบบนั้นก็เพราะว่าพวกเขาเชื่อว่าในเลือดวัวมีวิตามินสูงและมันจะช่วยมอบกำลังวังชาให้กับพวกเขา พวกเขาจะใช้ธนูเล็กๆ ทิ่มเข้าไปให้เกิดแผลกับตัววัวของแต่ละคนโดยไม่ฆ่ามัน และใช้ภาชนะมารองรับ ลิ้มรสเลือดสดเหล่านั้น พวกเขาล้วนมีวัวในครอบครอง เพราะวัวเปรียบเสมือนสมบัติของแต่ละคนนั่นเอง ส่วนกติกาก็ง่ายมากๆ การต่อสู้จะเป็นแบบ 1 ต่อ 1 โดยแต่ละหมู่บ้านจะต้องส่งนักสู้ของตัวเองเข้าร่วมตั้งแต่ 20 ถึง 30 คน กฏแพ้ชนะก็แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้หรือตายกันไปข้างหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นผู้ตัดสินก็สามารถที่จะตัดสินได้ว่าฝ่ายไหนแพ้ชนะได้ตามแต่สมควรโดยที่ทั้งคู่ไม่ต้องยินยอมก็ได้ กติกาอย่างหลังนี้มีขึ้นมาเพื่อปกป้องการตายที่เกิดขึ้นทุกครั้งในสมัยก่อน แม้จะมีผู้ตัดสินมา บางคนก็ยังเสียชีวิตจากบาดแผลอยู่เช่นเดิม ทางด้านฝ่ายหญิงนั้น พวกเธอสามารถที่จะปฏิเสธการขอเป็นคู่กับนักรบคนไหนก็ได้ แต่การได้รับคำขอจากแชมป์เปี้ยนจะถือว่าเป็นเกียรติอย่างมากต่อตัวเธอเองและครอบครัว นอกจากนั้นตัวผู้หญิงเองยังมีการเจาะปากรวมถึงวางชิ้นส่วนของสัตว์ต่างไว้บนหัว ซึ่งการทำแบบนี้สำหรับผู้ชายในเผ่าแล้วมันถือว่าเป็นตัวบ่งบอกความงามของพวกเธอนั่นเอง สำหรับผู้ชนะจะมีการเฉลิมฉลองและแสดงความยินดีก่อนที่จะทำการเลือกคู่ครอง นักรบที่แข็งแกร่งมักจะไม่สวมเครื่องป้องกันใดๆ ในการต่อสู้เสมอ ส่วนวิธีการเลือกคู่ครองนั้น พวกเขาจะทำการยื่นไม้กระบองไปที่หญิงสาวคนที่เขาถูกใจ และถ้าหญิงสาวเอาสร้อยคอแขวนกลับมาก็ถือว่าเป็นอันตกลง …
-
เว็บนอกเผย 25 สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งควรไปให้ได้สักครั้ง ก่อนมันจะสูญหายไปตามเวลา…
บนโลกเรามีสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอยู่มากมายเต็มไปหมด ทั้งจากยุคเก่าที่เกิดจากธรรมชาติ หรือจะเป็นยุคใหม่ที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของมนุษย์ แต่ยิ่งเวลาผ่านไปสิ่งมหัศจรรย์ของโลกเหล่านี้ก็ค่อยๆ เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา แถมใครจะรู้ว่าอีก 50 หรือ 100 ปีข้างหน้าสิ่งมหัศจรรย์ของโลกหลายๆ แห่งอาจจะพังทลายไปก็ได้ ทั้งจากการทำลายของมนุษย์ รวมถึงภัยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก ฉะนั้นวันนี้เราจะมาดู 25 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่เว็บไซต์ BusinessInsider แนะนำควรแวะไปเยี่ยมเยือนก่อนจะไม่มีโอกาสได้ไปกัน 1. Big Sur ใน California เดิมที่บริเวณนี้จะเป็นจุดที่ใช้ดูฝูงวาฬตามชายฝั่ง แต่ความเปลี่ยนแปลงของโลก ก็ทำให้วาฬเริ่มจะหายไปเรื่อยๆ ทุกปี 2. Glacier National Park ใน Montana ภูเขาธรรมชาติที่เคยมีธารน้ำแข็งปกคลุมอยู่เต็มไปหมด แต่เพียงแค่ 15 ปี ธารน้ำแข็งมากกว่า 150 จุดได้ละลายเหลือเพียง 25 จุดเท่านั้น ถ้าสภาพอากาศยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปคาดว่าอาจจะไม่เหลือธารน้ำแข็งอีกต่อไปก็ได้ 3. Machu Picchu ในประเทศ Peru ซากอารยธรรมชนเผ่าอินคาที่มีนักท่องเที่ยวมากมายมาเยี่ยมเยือนทุกปี ทว่าในแต่ละวันสถานที่แห่งนี้จะเปิดให้ผู้คนเข้าเยี่ยมชมเพียงแค่วันละ 2,500 คนเท่านั้น นอกจากนั้นคนมากมายยังเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้มีโอกาสที่พังลงมาได้ในอนาคต เนื่องจากสถานที่ตั้งอันเสี่ยงกับการถูกกัดเซาะด้วยลมฝนและภัยพิบัติแผ่นดินไหวนั่นเอง…
-
สุนัขกำพร้าโดนรับไปเลี้ยง แต่สุดท้ายถึงกับงง ทำไมถูกพากลับมาที่เดิมซะได้ เฮ้อออมมมม!?
สำหรับสุนัขจรจัดนั้น การมีคนมารับไปเลี้ยงถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จอย่างหนึ่งในชีวิตของพวกมันเลยก็ว่าได้ เพราะนั่นนับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากๆ ในชีวิต บ้านหลังใหม่ ชีวิตอันอบอุ่น…แต่นั่นไม่ใช่กับเจ้า Athena เรื่องมันเริ่มเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเมื่อตอนที่เจ้าหมาตัวนี้ เพิ่งจะถูกช่วยเหลือจากศูนย์พักพิงสัตว์ที่แออัดโดย Miami-Dade Animal Services ในรัฐฟลอริด้า และไม่นานนักพวกเขาก็ประกาศหาคนมารับเลี้ยงมันไป การ์ดประวัติส่วนตัวของมัน… แน่นอนว่าก็มีคนใจดีมารับมันไปเลี้ยง เจ้าหน้าที่จึงดีใจมาก ที่สุดท้ายมันก็ได้บ้านสักที แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่า เพียงแค่ 2-3 สัปดาห์ต่อมาเจ้าของก็พามันกลับมาที่ศูนย์เพื่อทำเรื่องขอส่งคืนมัน พร้อมกับเตียงของมันอีก ส่วนเหตุผลที่พวกเขาขอคืนเจ้า Athena นั้นก็ไม่มีใครทราบ เจ้าหน้าที่บรรยายถึงเหตุการว่า “พวกเขากลับมาพร้อมกับ Athena และขอทำเรื่องคืนมันให้กับศูนย์ แถมเอาเตียงนอนของมันมาให้ที่ศูนย์ด้วย เจ้า Athena ผู้น่าสงสารคงไม่รู้ตัวแน่ๆ ว่ามันได้ถูกทิ้งและต้องกลับมาอยู่ที่จุดเริ่มต้นมันอีกครั้ง” พวกเขาจำเป็นต้องอัพเรื่องราวของมันลงเพจอีกครั้ง “คนพวกนี้จิตใจเขาทำด้วยอะไรถึงพามันกลับมา ทั้งๆ ที่มันติดพวกเขาจนถึงกับเดินตามกลับไปทั้งๆ ที่โดนทิ้งแล้วแท้ๆ ยังไงก็รบกวนช่วยแชร์โพสต์นี้เพื่อที่ Athena จะได้เจอบ้านที่ดีกว่าเดิม” ล่าสุดเมื่อเรื่องของ Athena ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ไม่นานนักก็มีคนใจดีอาสาที่จะมารับมันไปเลี้ยงแทนแล้ว ถือว่าโชคดีของมันจริงๆ และก็หวังว่ามันจะได้เจอครอบครัวใหม่ที่รักมันจริงๆ สักที จะว่าน่าสงสารก็น่าสงสาร แต่ถ้ามองในแง่ดี มันก็โชคดีที่ได้เจ้าของใหม่ ที่จะพร้อมดูแลมันตลอดชีวิต ดีกว่าอยู่กับคนที่ไม่พร้อมและทิ้งๆ ขว้างๆ ละเนอะ??…
-
รู้จักตัวจริงของ 4 สาวเอเลี่ยนจาก Guardian of the Galaxy ใครจะคิดว่าสวยแฮ่กๆ ขนาดนี้!!
นอกจากความสนุกที่อัดแน่นมาเต็ม Guardian of the Galaxy แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยก็คงเป็น 4 สาวนักแสดงหลักที่ถึงกับลงทุนทาสีตัวให้เป็นสีต่างๆ จนแทบจะไม่เหลือลุคเดิมในชีวิตจริงเลย ลองนึกว่าพวกเธอในชีวิตจริงถ้าไม่นับ Gamora พวกคุณคิดลุคชีวิตจริงของพวกเธอจะเป็นยังไงล่ะ!? โดยเฉพาะ Nebula ที่ตัวนักแสดงถึงกับลงทุนโกนผมเพื่อรับบทนี้ อยากรู้กันใช่ไหมล่ะ งั้นลองมาดูกันเลยดีกว่า (คำเตือน: ควรเก็บทิชชู่ไว้ให้ใกล้มือท่าน) Zoe Saldana รับบทเป็น Gamora ลุคของเธอคนนี้ก็ดูไม่แตกต่างจากตัวบทของเธอมาก ด้วยความที่ตัวละคร Gamora มีผมที่ยาวเหมือนกับเธอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นอกจากนั้นหลายคนก็น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาของเธอกันมาบ้าง เพราะเธอรับแสดงในภาพยนตร์ดังๆ หลายเรื่องเลยล่ะ ทั้ง Avatar และ Star Trek . . Karen Gillan รับบทเป็น Nebula มาถึงคิวของน้องสาวตัวฟ้า Nebula ที่เราจะเห็นว่าในภาพยนตร์เธอถูกดัดแปลงแล้วมีศีรษะที่โล้น แต่ใครจะคิดว่าลุคภายนอกของเธอจริงๆ จะสวยเริ่ดขนาดนี้ ที่สำคัญตอนแสดงเธอยังลงทุนโกนผมเพื่อรับบท Nebula เลยนะ ทำให้ตอนภาคแรกเธอจะต้องสวมวิกไปออกงานต่างๆ เลยทีเดียว…
-
หนุ่มจีนได้กลับมาพบหน้าพ่ออีกครั้ง เพราะรสชาติ “หอยทอด หลังถูกลักพาตัวหายไป 13 ปี
เรื่องราวของการพลัดพรากนั้นเป็นเรื่องน่าเศร้า มันสร้างความเสียใจให้แก่คนที่ต้องจากกัน และเฝ้ารอว่าวันหนึ่งจะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง และข่าวที่จะนำเสนอต่อไปนี้ ก็ทำให้เราได้ชื่นใจในความสุขได้อย่างแน่นอน… Li Risheng หรือ Ye Fengqiang (ชื่อที่ถูกตั้งโดยครอบครัวใหม่ของเขา) แรกเริ่มเดิมทีเขาเป็นเด็กชายที่ถูกแม่ของเขาลักพาตัว และขายให้กับครอบครัวอื่น โดยที่พ่อของเขาไม่ได้ยินยอมเป็นเวลานานกว่า 13 ปี ตอนแรกเขาพยายามหนีหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ ซึ่งในตอนนั้นเขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากยอมรับและต้องอาศัยกับครอบครัวที่ซื้อเขาไป ทว่าตอนนี้ Li มีอายุ 20 ปีเรียบร้อย เขาจึงเริ่มตามหาครอบครัวจริงๆ ของตัวเอง โดยบอกว่าตนเริ่มตามหาครอบครัวจริงๆ ตั้งแต่ 10 ปีก่อน เพราะเขาอยากรู้ว่าจริงๆ แล้วตัวตนที่แท้จริงเป็นใครกันแน่และมาจากที่ไหนกัน นอกจากนั้นใครคือครอบครัวจริงๆ ของเขากัน!? แต่แล้ววันหนึ่งระหว่างออกตามหาปูมหลังของตัวเอง เขาได้แวะกินอาหารที่ร้านหอยทอดแห่งหนึ่งในเมืองม่าวหมิง ซึ่งหลังจากที่ได้ลิ่มรสชาติของหอยทอดจากร้านดังกล่าว อยู่ดีๆ ความทรงจำของเขาก็ย้ำเตือนทันทีว่าหอยทอดที่เขากำลังกิน มันคือรสชาติต้นตำรับของบ้านเกิดเขา!! ด้วยเหตุนี้เขาจึงมั่นใจว่าที่นี้แหละคือบ้านเกิดของเขา ทำให้ Li เริ่มประกาศหาคนในครอบครัวของตน โดยการตามหาว่าชายแก่คนใด สูยเสียจากเหตุการณ์หายตัวไปของลูกชายเมื่อ 13 ปีก่อน จนกระทั่งมีชายคนหนึ่งมาขอให้ช่วยตรวจ DNA ให้หน่อยเพราะลูกชายของตัวเองก็หายไปเมื่อ 13 ปีก่อนเช่นกัน และเขาก็พยายามตามหามาโดยตลอดจนท้อใจ ก็ยังไม่ตามเจอตัวสักที… …
-
สายใจพี่น้อง… เจ้าเหมียวกำพร้า 2 ตัว นอนกอดกันไม่ห่าง จนคนรับเลี้ยงต้องยอมเอาไปแพ็คคู่
เรื่องราวของเจ้าเหมียวกำพร้าสองตัว กับโมเมนต์สุดน่ารักของทั้งคู่ เมื่อมันทั้งสองนอนกอดกันตลอดเวลาไม่ยอมห่าง และไม่ว่าตัวหนึ่งไปไหนอีกตัวก็จะตามไปด้วยเสมอ Kellie Wester ผู้เป็นคนดูแลจัดการอาณาจักรแมวจรจัดและเจ้าของเพจ My Friendly Ferals ได้เล่าถึงช่วงเวลาที่เธอไปช่วยเจ้า Princess และ Sweet Pea เมื่อหลายเดือนก่อน เธอบอกว่าเจ้าเหมียวพี่น้องทั้งสองมันรักกันมากๆ และดูจะเป็นห่วงเป็นใยกันสุดๆ ตัวแทบจะติดกันตลอดไม่ห่างไปไหนเลย จากนั้นเธอก็ติดต่อไปยัง SPCA of Wake County สถานพักพิงสัตว์ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เพื่อให้ช่วยหาบ้านใหม่ให้เจ้าเหมียวทั้งสองที และเมื่อมันทั้งสองได้รับการดูแลจาก SPCA ในเรื่องของความสะอาด จัดการโรคภัยรวมถึงฉีดวัคซีนต่างๆ เรียบร้อย ก็ถึงเวลาประกาศตามหาเจ้าของใหม่กันแล้ว ซึ่งทั้งคู่ก็ถูกย้ายไปยังจุดรอคนมารับเลี้ยง เผื่อจะมีคนเดินมาเจอมันทั้งคู่ ทว่าแม้จะถูกย้ายไปที่ไหนทั้งคู่ก็ยังตัวติดกันไม่ห่างอยู่ดี เมื่อมันถูกย้ายมายังโซนรับเลี้ยง พวกเขาก็จะถ่ายภาพมันลงประกาศทีละตัว แต่ก็ทำไม่ได้เพราะมันไม่ห่างกันเลย เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจถ่ายรูปมันแบบแพ็คคู่นี่แหละ จะได้หมดเรื่องยาก ฮ่าาาา และนี่คือภาพที่พวกเขาโพสต์ลงประกาศ… แต่เชื่อไหมว่าเวลาเพียงไม่นาน เพียงแค่ไม่ถึง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ทั้งคู่ก็ต้องตากับเจ้าของใหม่ใจดีทันที และถูกทำเรื่องขอรับเลี้ยงทั้งสองไปแบบแพ็คคู่เลยทีเดียว โดย Kellie ได้บรรยายถึงช่วงเวลาตอนนั้นว่า “ฉันจำได้ว่ามันเป็นเวลาแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ที่ทั้งคู่ถูกย้ายมายังโซนรับเลี้ยง…
-
Han Byul สาวน้อยวัย 11 ขวบ ว่าที่ราชินี K-Pop กับความน่ารัก จนกรรมการยังอดเขินไม่ได้
ถ้าให้พูดถึงดาวเด่นดวงใหม่ที่หน้าจับตามองในวงการเกาหลีก็คงจะหนีไม่พ้นสาวน้อย Han Byul วัย 11 ขวบที่กำลังร้อนแรงสุดๆ ในขณะนี้ หลังจากที่เธอไปได้เข้าแข่งขันในรายการโชว์สุดฮิตของเกาหลี KPOP STAR 6 และในโชว์ล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์เธอก็ได้โชว์การร้องเพลง All About That Bass ของ Meghan Trainor ที่แม้แต่เสียงจะยังไม่โดดเด่นมานักเพราะยังเด็ก แต่ด้วยสำเนียงและลีลาท่าทางของเธอก็จัดว่าเด็ดลบจุดนั้นไปได้สบายๆ เลยทีเดียว ไม่ใช่แค่นั้น นอกจากโชว์ของเธอจะจัดว่าดีแล้ว เธอยังเรียกคะแนนความชอบจากเหล่ากรรมการได้สบายๆ โดยเฉพาะความน่ารักเวลายิ้มของเธอ ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูจากสีหน้าของเหล่าประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสามเสียก่อน ยิ้มทีถึงกับเขินกันไปตามๆ กัน ยิ่งประธานของ JYP Entertainment อย่าง Park Jin-young ดูจะปลื้มปลิ่มกับสาวน้อยคนนี้สุดๆ . แต่เห็นลุคน่ารักใสๆ แบบนี้หารู้ไม่ว่าตอนที่สาวน้อย Han Byul เปิดตัวในรอบออดิชั่นเธอไม่ได้โชว์ร้องเพลงหรอกนะ แต่มาในการโชว์เต้นด้วยลีลาจัดจ้าน จนน่าจับตามองต่างหาก ถึงแบบนั้นในโชว์ออดิชั่นของเธอ ก็มีเสียงตอบรับจากชาวเน็ตที่ไม่ดีสักเท่าไหร่การท่าเต้นที่ออกจะเซ็กซี่กับเสื้อผ้าที่โชว์สัดส่วน ซึ่งแม้เราจะรู้กันดีว่าสไตล์นี้เป็นเรื่องปกติของเกาหลีและมีการเซฟกันโป๊ไว้แล้วก็ตาม เสียงตอบรับก็ยังไปในทิศทางลบด้วยความที่เธอยังคงเป็นเด็กนั่นเอง แต่กลับกันในโชว์ร้องเพลง เธอกลับได้กระแสตอบรับที่ดีกว่า รวมถึงได้รับแรงเชียร์ให้เธอได้พัฒนาต่อไปในอนาคตอีกด้วย ตอนนี้สาวน้อย Han…
-
สุนัขถูกทิ้งได้เจอเจ้านายใหม่ผู้รักจริง ที่พิสูนจ์ความรักต่อสุนัข ด้วยการวิ่งมาราธอน!!
ธรรมชาติของสุนัขมักจะรักและซื่อสัตย์กับเจ้าของเสมอ แต่มีมนุษย์บางคนที่ไม่ได้เห็นความสำคัญเหล่านี้มากพอ จึงทำให้สุนัขหลายตัวต้องถูกทิ้งทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย เหมือนกับสุนัขตัวนี้ที่ถูกทอดทิ้งอย่างน่าสงสาร แต่โชคดีที่มันได้เจอคนดีๆ และมีความรักให้มันจริงๆ ทำให้ชีวิตของมันเปลี่ยนไปตลอดกาล Kai อายุ 3 ปี ถูกทิ้งอยู่ที่สถานีตำรวจในสก๊อตแลนด์ โดยมีเชือกที่ผูกมันกับราวเอาไว้ และที่ข้างๆ มีกระเป๋าใบหนึ่งที่เต็มไปด้วยข้าวของของมัน ทั้งของเล่น อาหาร ชามใส่อาหารและหมอน ต่อมาเมื่อ Scottish SPCA ผ่านมาพบกับเจ้า Kai พวกเขาจึงพามันกลับมาที่ศูนย์ด้วย โดยตั้งใจที่จะหาบ้านและเจ้าของใหม่ให้ จริงๆ แล้ว Kai มีไมโครชิปติดตัวมาด้วย แต่ทางครอบครัวบอกว่า พวกเขาได้ขายหมาตัวนี้ไปเมื่อ 2 ปีก่อนแล้ว และไม่มีข้อมูลที่จะติดต่อเจ้าของคนที่ทิ้งมันได้เลย Stewart Taylor จาก Scottish SPCA บอกว่า “การซื้อ-ขายสัตว์เลี้ยงออนไลน์ มักจะมีปัญหาแบบนี้ตามมา เพราะบางคนที่ซื้อไปไม่ได้รู้จักกับสัตว์ตัวนั้นจริงๆ เมื่อรับนิสัยมันไม่ได้ ก็จะนำไปปล่อยทิ้งเหมือนเคสนี้” หลังจากเอามาอยู่ในศูนย์เพียงไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็ประกาศหาบ้านให้กับ Kai และหลังจากโพสต์ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีคนมากมายติดต่อเพื่อขอรับเลี้ยงมัน Alan Gran ผู้ช่วยใน Scottish SPCA…
-
คุณหมอใจดีทำ “หูสำรองสุดคิ้วท์” ให้น้องหมาหลังรับการผ่าตัดรักษาหู เพื่อเป็นการปลอบใจ
เวลาที่สัตว์เข้ารับการผ่าตัด แล้วร่างกายของมันไม่เหมือนเดิม บางทีมันก็สูญเสียความไม่มั่นใจ จนทำให้รู้สึกไม่มีความสุขไปเลยก็ได้นะ แต่สำหรับน้องหมา Remi แม้จะต้องรับการผ่าตัดหู และต้องปิดแผลเป็นเวลานาน แต่ก็มีความสุขได้เพราะคุณหมอได้ทำหูปลอมสุดน่ารักให้กับมันหลังผ่าตัดนั่นเอง ก่อนที่จะผ่าตัดนั้น หูข้างหนึ่งของเจ้า Remi มีอาการบวมผิดปกติ ทำให้ Carlie Childres ผู้เป็นเจ้าของตกใจมาก แม้จะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เธอก็กลัวว่าจะทำให้สุนัของเธอเจ็บปวด Remi มีพี่ชายอีกตัวชื่อ Cooper ซึ่งทั้งคู่ได้รับการช่วยเหลือจาก Lucky Lab Rescue and Adoption และเป็นส่วนหนึ่งของสุนัขทั้ง 7 ตัวที่ถูกช่วยออกมาจากบ้านหลังหนึ่งใน Liberty County รัฐเท็กซัส ก่อนที่ Carlie จะทำหน้าที่ดูแลทั้งคู่ในเวลาต่อมา ดังนั้นหญิงสาวจึงติดต่อไปยัง Lucky Lab แล้วบอกพวกเขาว่า Remi มีอาการบวมที่หูและเธอคิดว่ามันอาจจะอันตรายกับสุนัขด้วย ทางเจ้าหน้าที่จึงขอให้เธอส่งรูปมาให้ดู เมื่อตรวจดูแล้วจึงรู้มันเป็นอาการของ Hematomas หรือภาวะเลือดออกในเนื้อเยื่อ ซึ่งคุณหมอ Lynanne Mockler แนะนำให้ผ่าตัดทันที ไม่งั้นจะเป็นอันตรายกับน้องหมาได้ แต่คุณหมอ Mockler บอกว่าการผ่าตัดหูลักษณะนี้ค่อนข้างมีความเสี่ยง เนื่องจากการรักษาหลังผ่าตัดจะทำได้ยากและไม่ทั่วถึง อาจจะทำให้แผลติดเชื้อได้ ต่อมาคุณหมอก็ได้กำหนดวันผ่าตัดให้ ในขณะที่ Carlie ยังคงกังวลกับผลค้างเคียงที่จะตามมาหลังผ่าตัด แต่เธอก็ตั้งใจที่จะดูแลมันเป็นอย่างดีและไม่อยากทำให้เกิดผลข้างเคียงโดยเด็ดขาด จึงตัดสินใจให้ Remi…
-
นักเรียนตาบอดสีวัย 17 สร้างแบรนด์ถุงเท้าของตัวเอง และประสบความสำเร็จภายใน 4 ปี
การที่มนุษย์เราเกิดมาพร้อมความบกพร่องทางร่างกายนั้นอาจะทำให้มีอุปสรรคในชีวิต และอาจจะมีโอกาสทางสังคมที่น้อยกว่าคนธรรมดาทั่วไป แต่สำหรับบางคนแล้วจุดด้อยเหล่านั้นกลับกลายเป็นแรงผลักดันชั้นยอด รู้จักที่จะนำข้อบกพร่องของตัวเองมาทำใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ อย่างเช่น Brennan Agranoff นักเรียนหนุ่มวัย 17 ปี เป็นคนตาบอดสี และเขาสามารถผลิตแบรนด์ถุงเท้าของตัวเอง จนมีรายได้จากการขายถุงเท้าไปแล้วมากกว่า 34 ล้านบาทภายในระยะเวลา 4 ปีเท่านั้น Brennan Agranoff Brennan ได้ริเริ่มที่จะทำบริษัทถุงเท้าของตัวเองตอนอายุ 13 ปี ซึ่งตอนนั้นเขาได้เล่นบาสเกตบอลที่โรงเรียนมัธยมใน Sherwood และมักจะเห็นเพื่อนๆ ใส่ถุงเท้า NIKE สีขาวเหมือนกันหมด นักเรียนหนุ่มจึงคิดว่า การใส่ถุงเท้าสีขาวมันดูธรรมดาและเหมาะสำหรับเด็กๆ มากกว่า ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะทำถุงเท้าที่มีสีสันและลวดลายที่เหมาะกับวัยรุ่นมากขึ้น แต่เขาก็ไม่ได้ลงมือทำทันที ชายหนุ่มเริ่มด้วยการศึกษา ค้นคว้าหาข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง ทั้งผ้าที่จะใช้ทำ เครื่องจักร และเทคโนโลยีการพิมพ์แบบดิจิตอล รวมทั้งจัดทำแผนธุรกิจด้วย โดยใช้เวลาในการเตรียมตัวอยู่ 6 เดือน เมื่อวางแผนจนทุกอย่างลงตัวแล้ว เขาก็ได้ไปขอยืมเงินจากพ่อแม่มาก้อนหนึ่ง ตอนแรกพ่อแม่ก็ลังเลที่จะให้เขายืมเงินมากขนาดนั้น แต่เมื่อชายหนุ่มคุยให้พ่อแม่เข้าใจ พ่อแม่ก็สนับสนุนและให้ยืมเงินไปลงทุน 100,000 บาท …
-
จุดจบของชายคบซ้อน ที่ถูกสองสาวเซอร์ไพรส์เอาคืน เดินโผล่มาพร้อมกันถึงกับกินจุด…
คู่รักหลายคู่ที่ต้องเลิกรากันไป สาเหตุหนึ่งก็มาจากการมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องนี่แหละ แต่บอกไว้เลยนะว่าคนที่คบซ้อนทั้งหลาย มักจะมีจุดจบที่ไม่สวยสักเท่าไหร่นัก Mared Parry วัย 20 ปี และ Georgia วัย 23 ปี สองสาวที่เพิ่งจะรู้ว่ากำลังคบผู้ชายคนเดียวกัน นั่นก็คือ Matt Lewis ทั้งคู่จึงคิดแผนที่จะแก้แค้นชายหนุ่มคนนี้ด้วยกัน!! Mared Parry คนซ้าย และ Georgia คนขวา Georgia เล่าว่าชายหนุ่มพยายามกลับมาง้อคืนดีด้วย แต่เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาแล้ว ก็เลยทำการปฏิเสธไป แต่ชายหนุ่มก็ยังคงตามง้อเรื่อยๆ จนเธอยอมกลับไปคบด้วย แต่ในครั้งนี้เธอตั้งใจที่จะคบเล่นๆ ไม่ได้จริงจังอะไรเหมือนแต่ก่อน ต่อมา Georgia เริ่มสังเกตว่าชายหนุ่มมีท่าทีที่เปลี่ยนไป เธอก็เลยตามสืบดูแล้ว จึงได้รู้ว่าแฟนหนุ่มกำลังคบกับผู้หญิงอีกคน แต่แทนที่จะโวยวายตามประสา เธอกลับเข้าไปบอกความจริงกับผู้หญิงอีกคน นั่นก็คือ Mared เมื่อทั้งคู่รู้ความจริงแล้ว จึงได้วางแผนร่วมกันที่จะเอาคืนหนุ่มเจ้าเล่ห์จอมเจ้าชู้คนนี้ และรอจนกว่าทุกอย่างจะลงตัว นั่นก็คือวันที่ชายหนุ่มนัดทานข้าวกับสาว Mared ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในลอนดอน Mared กับ Matt ระหว่างที่รอ Mared กับ Matt มาตามนัดที่โรงแรม Georgia ก็ได้ไปซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ เมื่อทั้งคู่มาถึง Mared…
-
รวม 10 หนังที่คุณควรดูก่อนอายุ 30 เพราะมันจะเปลี่ยนความคิดคุณไปตลอดกาล
เคยมีคำกล่าวกันว่า หนังดีๆ สักเรื่องสามารถเปลี่ยนชีวิตคุณได้ เพราะมันให้แรงบันดาลใจและข้อคิดกับเราได้ และข้อคิดเหล่านั้นก็จะกลายมาเป็นตัวขับเคลื่อนให้เรายึดถือเอามาดำรงชีวิตต่อไป ยิ่งเราค้นพบข้อคิดหรือแนวทางดีๆ ได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งถือเป็นเรื่องที่ดีเท่านั้น วันนี้#เหมียวฟิ้นเลยขอรวบรวม 10 ภาพยนตร์ให้แรงบันดาลใจ ที่คุณควรดูก่อนอายุ 30 จะมีเรื่องอะไรกันบ้างลองมาชมกันเลย 1. Once Once เล่าเรื่องราวของนักดนตรีเปิดหมวกคนหนึ่ง ที่ดันไปตกหลุมรักหญิงสาวเสียงดีที่มีครอบครัวแล้วแต่ไม่ค่อยจะแฮปปี้เท่าไหร่ เขาจึงชวนเธอมาทำเพลงร่วมกัน เรื่องราวทั้งหมดดำเนินไปได้ด้วยดี แต่กลับมีความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้คนสองคนไม่อาจรักกันได้อย่างสนิทใจ หนังจะช่วยให้คุณเข้าใจในความรักอีกรูปแบบหนึ่ง ที่แม้จะไม่ใช่ความรักแบบถูกครอบครอง แต่ก็ยังสามารถเป็นมิตรที่ดีต่อกันได้ 2. Blue Valentine หนังเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของคู่รักคู่หนึ่งที่แต่งงานและอยู่ด้วยกันมาสักพักจนระหองระแหง แต่พวกเขาก็พยายามที่จะรักษามันเอาไว้ด้วยการพาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่แปลกออกไป เพื่อรำลึกถึงความหลังที่พวกเขายังคงรักกันดีเหมือนในวันแรกๆ ที่เจอกัน หนังให้ข้อคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ได้ดีทีเดียว เพราะมันคือตัวอย่างที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่ชีวิตคู่ของคนสองคนจะเกิดขึ้นได้ หากวันใดความรักของคุณมีอันต้องสิ้นสุดลง คุณก็ไม่อาจจะรั้งมันไว้ได้อีกต่อไป 3. Harry Potter Harry Potter เป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่ต้องออกผจญภัยไปในโลกเวทย์มนต์ แม้ว่าหน้าหนังจะดูเป็นหนังแฟนตาซี แต่ก็ยังคงเล่าเรื่องราวความรัก มิตรภาพระหว่างเพื่อน ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันไปตั้งแต่เด็กจนโต ทำให้คนดูรู้สึกเติบโตไปพร้อมๆ กับตัวละคร นอกจากมิตรภาพแล้ว หนังยังสอนเราด้วยว่าการจะอยู่รอดในสังคมได้นั้น แม้ตนเองจะเป็นคนที่แข็งแกร่งหรือโด่งดังแค่ไหนก็ตาม แต่คุณก็ควรจะมีมิตรแท้ไว้คอยช่วยเหลือในยามจำเป็นอย่างเช่น…
-
เจ้าของยอมเจ็บ ใช้ร่างกายเข้าปกป้อง ‘สุนัขแจ็ครัสเซล’ ของตัวเอง หลัง “พิทบูล” สองตัวรุมกัด!?
วินาทีระทึกเมื่อสุนัขพิทบูลสองตัวของหญิงสาวคนหนึ่งเกิดคลั่ง หันไปโจมตีสุนัขแจ๊ครัสเซลของชายวัยกลางคน แต่ในช่วงวินาทีชีวิตของสุนัขตัวเล็ก เจ้าของมันได้ตัดสินใจเข้าไปรับคมเขี้ยวแทนเพื่อปกป้องสุนัขอันเป็นที่รักของเขา… John Brady วัย 52 ปี เขาพยามที่จะปกป้อง Josh สุนัขแจ๊ครัสเซลวัย 6 ขวบของเขา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นที่เกาะซานตาคาตาลินา ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สุนัขพันธุ์พิทบูล 2 ตัวของหญิงสาวคนหนึ่ง เข้าโจมตี Josh โดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าสุนัขสายพันธุ์ดังกล่าวมีแรงที่เยอะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้พวกมันสามารถจัดการสุนัขตัวเล็กแบบ Josh ได้อย่างง่ายดาย แต่มีหรือที่ John จะปล่อยให้สุนัขของเขาตายไปต่อหน้า เขากระโดดลงไปบังสุนัขของเขาทันที นั่นทำให้เขาถูกพวกมันกัดเข้าอย่างจัง แต่ว่าเหตุการณ์ผ่านไปได้ไม่นานเจ้าหน้าที่บริเวณท่าเรือเข้ามาช่วยเขาได้ทัน ทว่าเหตุการณ์ยังไม่จบแค่นั้น เพราะสุนัขพิทบูลวัย 11 ปีทั้งสองหันหน้าเข้ากัดกันสร้างความตกใจให้เข้าหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของอย่างมาก พร้อมกับเสียงร้องของเธอที่ได้รับบาดเจ็บจากการที่พยายามห้ามปรามสุนัขทั้งสอง และนี้ก็คือคลิปจากเหตุการณ์ดังกล่าว John ให้สัมภาษณ์กับ KTLA ว่า “สิ่งเดียวที่ผมคิดในตอนนั้นคือช่วยเจ้า Josh ให้รอดจากภัยอันตราย ในตอนที่ผมช่วยมันได้สำเร็จผมรุ้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก และก็รู้สึกดีที่ว่ามันยังไม่ตาย เพราะมันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในโลกสำหรับผมแล้ว” ตามรายงานข่าว CBS Local ระบุว่าตัวของ John คงจะฟ้องหญิงสาวเจ้าของหมาดังกล่าว ผู้สร้างความวุ่นวายและทำให้ทั้งเขาและหมาบาดเจ็บ ส่วนทางด้านหญิงสาวเจ้าของพิทบูลทั้งสอง ก็ยอมลงความเห็นว่า เธอเห็นด้วยกับการการุณยฆาตสุนัขทั้งสองของเธอ…
-
ก้าวไปอีกขั้น.. นักวิจัยทดลองเลี้ยงตัวอ่อนแกะในถุงครรภ์เทียม และประสบความสำเร็จ!!
นับว่าเป็นอีกข่าวดีจากวงการวิทยาศาสตร์ในรอบปี ที่ในอนาคตเราสามารถนำความสำเร็จนี้ ไปต่อยอดช่วยชีวิตเด็กทารกที่ต้องคลอดก่อนกำหนดได้ และความสำเร็จของทีมวิจัยจากโรงพยาบาลเด็กประจำเมืองฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Nature Communications โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้… นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองสร้างถุงครรภ์เทียมขึ้นมา โดยใช้ถุงพลาสติกที่ภายในประกอบด้วยน้ำ ออกซิเจน และสารอาหารต่างๆ เพื่อจำลองให้เหมือนกับถุงครรภ์ของแม่แกะจริงๆ ทีมวิจัยได้ทำการทดลองกับลูกแกะ 8 ตัว ที่มีอายุระหว่าง 105 – 120 วัน (เท่ากับเด็กทารกอายุ 23 – 24 สัปดาห์) พบว่าลูกแกะมีพัฒนาการทางสมองและปอดได้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้ถุงครรภ์จำลองเหล่านี้ มีการเชื่อมต่อระหว่างสายสะดือ และเครื่องปั๊มอากาศจากภายนอก เพื่อออกซิเจนที่เพียงพอสำหรับการเจริญเติบโต Colin Duncan ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ‘นับว่านี่เป็นการทดลองที่ประสบความสำเร็จ และส่งผลเป็นวงกว้างต่อมวลมนุษยชาติ ซึ่งข้อมูลที่ได้จากความสำเร็จในครั้งนี้ จะสามารถนำไปต่อยอดช่วยชีวิตเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนดได้ในอนาคต’ แต่ก็ใช่ว่าเราจะสามารถนำวิทยาการนี้ไปใช้กับมนุษย์ได้ในทันที เพราะยังมีอีกหลายกลไกในการเจริญเติบโตที่แตกต่างกันอยู่มากระหว่างเด็กทารกและลูกแกะ โดยปกติแล้วเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด (ประมาณ 25 สัปดาห์ก่อนกำหนด) มักจะเกิดมาพร้อมกับสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง ทำให้มีโอกาสรอดชีวิตที่น้อยมากๆ ถึงแม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีวิทยาการแพทย์ขั้นสูงอยู่ แต่ปัญหาดังกล่าวก็ยังเป็นเรื่องที่แก้กันไม่ตก ซึ่งทีมวิจัยก็จะนำความสำเร็จนี้ไปศึกษาต่อยอด…
-
เชื่อเหอะ ใครๆ ก็รักสาว 2D แม้แต่เจ้านกเพนกวิ้น ก็ยังตกหลุมรักยืนจ้องไม่เคยห่าง!!
เชื่อไหมว่าการตกหลุมรักสาว 2D ไม่ได้เกิดขึ้นกับมนุษย์เท่านั้น เพราะเพนกวิ้นก็เป็นกับเขาเหมือนกัน!! เพราะล่าสุดทางทวิตเตอร์ของสวนสัตว์ Tobo ในจังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่นได้แชร์ภาพของเจ้าเพนกวิ้นที่ชื่อ Grape ซึ่งในภาพเจ้า Grape มันยืนนิ่งและจ้องรูปตัวละครจากอนิเมะที่ชื่อว่า Hululu ที่เป็นเพนกวิ้นในร่างมนุษย์จากการ์ตูนเรื่อง Kemono Friends ไม่ขยับไปไหนเลยราวกับว่ามันตกหลุมรักอย่างหัวปักหัวปำ Hululu นับเป็นหนึ่งจากสัตว์หลากหลายชนิดที่อยู่ในอนิเมะเรื่อง Kemono Friends ที่เพิ่งจะฉายไปได้ไม่นานในญี่ปุ่นและมีกระแสตอบรับที่ดีมากๆ ทางสวนสัตว์จึงนำตัวละครดังกล่าวมาติดไว้ทั่วสวนสัตว์ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าไม่ได้มีเพียงแค่ตัวละครเพนกวิ้น ยังมีตัวละครที่เป็นสัตว์ชนิดอื่นๆ อยู่ตามกรงสัตว์ที่เป็นชนิดเดียวกันกับตัวละครอีกเพียบ แม้แต่อูฐหรืออัลปาก้าก็ยังมีเลย . กลับมากันที่เจ้าเพนกวิ้นเจ้าของเรื่องกันบ้าง เจ้า Grape เป็นเพนกวิ้นวัย 20 ปี ซึ่งถ้าเปรียบกับคนก็คงจะเป็นคุณลุงแล้ว ความรักของเจ้า Grape ที่มีต่อตัวละคร Hululu นั้นมันดูมากมายสุดๆ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนมันก็แทบจะไม่ห่างไปไหนเลย นอกจากยืนจ้องแล้ว มันยังวนเวียนอยู่บริเวณรูปของ Hululu ตลอดเวลา ซึ่งแรกๆ มันก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่านานเข้าอาการของมันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่าไม่เป็นอันกินอันนอนเลยทีเดียวล่ะ . จนทางเจ้าหน้าที่จะต้องจบตำนานความรักของเจ้า Grape ลงด้วยการกันมันออกจาก Hululu เพื่อให้มันได้กินได้นอนบ้างโดยการกั้นรั้วไว้ซะ แต่จากภาพที่เห็น มันก็ไม่ยอมละสายตาจาก Hululu…
-
รีวิว “อาหารถาดหลุม” สุดอลังการจากโรงอาหารเกาหลี น่ากินมากๆ แถมตักได้ไม้อั้น!!
เมื่อย้อนไปตอนเด็กๆ เชื่อว่าทุกคนต้องเคยทานอาหารถาดหลุมกันที่โรงเรียนกันอย่างแน่นอน มีทั้งอาหารที่อร่อยถูกปากและอาหารที่เด็กๆ อยากจะร้องไห้กลับบ้าน และในคราวนี้เรามีการรีวิวอาหารถาดหลุมแต่ไม่ใช่ในไทยเราแต่เป็นที่ประเทศเกาหลีใต้เลย โดยเจ้าของกระทู้จากเว็บไซต์พันทิปที่ใช้ชื่อว่า annopu มีโอกาสได้ไปฝึกงานไกลถึงเกาหลีใต้ และได้ถ่ายภาพอาหารแต่ละมื้อที่เขาได้กินในโรงอาหารของเกาหลี มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน จะน่ากินแค่ไหน? จะอร่อยเท่าที่ไทยหรือเปล่า? ไปชมกันเลยจ้า มื้อนี้เป็นเนื้อผัดซอส (คล้ายๆ ซอสหอย+น้ำมันงา) ซุปกิมจิ สาหร่าย ลิ้นจี่แช่แข็งและกิมจิต้นหอม ซุปสาหร่าย ไก่ผัดเผ็ด กิมจิ บล็อคโคลี่ลวกและโยเกิร์ต ส่วนถาดนี้เป็นไข่ตุ๋น แอปเปิ้ล ยำสาหร่าย หมูผัดโคชูจัง(เชหยุกโพกกึม) และซุปฝรั่งจืดๆ หน่อย มื้อนี้เจ้าของกระทู้ชอบมาก เพราะมันมีสแปมแฮม ซึ่งเป็นแฮมกระป๋องยี่ห้อ SPAM กับไข่นกกระทาที่ปรุงเหมือนพะโล้ ผัดผัก แล้วก็ซุปปลาแบบเผ็ดๆ ส่วนของวันนี้เป็นเต้าหู้กิมจิ เครื่องเคียงเป็นปลาหมึกกิมจิ ปลาทอดที่รสชาติเหมือนปลาทู ซุปข้างๆ คือ “ซอรองทัง” เป็นซุปเนื้อคล้ายก๋วยเตี๋ยว มื้อนี้คือไก่ทอด มีเครื่องเคียงเป็นมันบด ผัดผัก ซุปถั่วงอก กับน้ำผลไม้ มื้อนี้ดูชีวจิตมาก ประกอบด้วยข้าวกล้อง…
-
ครอบครัวทำตามคำขอสุดท้าย ของสาววัย 20 ปี ผู้ป่วยมะเร็งกระดูก “ขอตายแบบสวยที่สุด…”
ในโลกนี้มีคนจำนวนมากที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งต่างๆ บางคนก็เป็นในตอนที่อายุมาก หรือบางคนก็ป่วยตั้งแต่ยังเด็ก ที่สำคัญเรารู้ดีว่ามะเร็งเป็นโรคที่รักษาหายได้ยาก ยิ่งมันเข้าสู่ระยะสุดท้ายโอกาสรอดเรียกว่าแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ Racine Pregunta สาวสวยวัย 20 ปีจากประเทศฟิลิปปินส์คนนี้ก็ตกเป็นเหยื่อของโรคเช่นกัน เธอป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูกและเธอก็สู้กับมันจนวินาทีสุดท้าย แต่เธอก็รู้ว่าเธอจะไปไม่รอดแน่นอน เธอจึงตัดสินใจฝากคำขอสุดท้ายไว้กับพี่สาวของเธอก่อนที่เธอจะตายว่า ในตอนที่เธอตายขอให้ช่วยแต่งให้เธอสวยที่สุดในตอนที่อยู่ในโลงศพได้ไหม ด้วยเหตุนี้ Rolyn Pregunta พี่สาวของ Racine จึงจัดการให้ตามคำขอของน้องสาว ที่เอ่ยปากขอเธอเมื่อตอน 5 วันก่อนที่เธอจะสิ้นใจว่า เธออยากจะสวยที่สุดก่อนจากโลกใบนี้ไป นอกจากเธอจะขอให้ตัวเองดูสวยแล้ว เธอยังขอให้ช่างแต่งหน้าประจำตัวของเธอมาช่วยแต่งหน้าให้ และขอสวมใส่ชุดสีที่เธอชอบอย่างสีม่วง น้ำเงิน และเขียวมิ้นต์ และเมื่อวันงานพิธีศพมาถึงคำขอของเธอก็ได้รับการเติมเต็ม ซึ่งศพของเธอก็ถูกฝังไว้ใกล้ๆ กับหลุมศพของพ่อเธอนั่นเอง . แม้จะต้องจากไปก่อนวัยอันควร แต่ก็ถือว่าเธอได้สำเร็จคำขอสุดท้ายและไม่ได้จากไปอย่างเศร้าโศก หวังว่าในชาติหน้าเธอจะได้เกิดมาสวยเหมือนตอนที่เธอจากไปนะ… ที่มา dailymail
-
พนักงานหน้านิ่งโนแคร์ แม้จะถูกปล้นมีปืนจ่อหน้า หยิบเงินให้ชิวๆ จะเอาก็เอาไปเลย…
ลองคิดว่าถ้าเพื่อนๆ ต้องทำงานอยู่ในร้านค้าแห่งหนึ่งที่เปิดไปจนถึงเช้า แล้วจู่ๆ กลางดึกก็มีลูกค้าน่าสงสัยชักปืนออกมาเพื่อปล้นเงินของร้านไป เพื่อนๆ จะทำยังไง? เป็นใครก็ต้องตกใจจนทำอะไรไม่ถูก จะเอาเงินให้หรือจะรับมือกับโจรยังไงดี ล่าสุดคลิปเหตุการณ์ของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นพนักงานให้กับร้าน Jimmy Johns ในรัฐแคนซัส ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 3 ทุ่ม 15 ของวันที่ 26 เมษายน ชายหนุ่มกำลังต้อนรับลูกค้าที่เดินเข้ามาสั่งอาหาร ในตอนแรกก็มีท่าทีปกติแต่สักพักเขาก็ชักปืนออกมาพร้อมบอกให้ชายหนุ่มส่งเงินให้เขา ปกติแล้วถ้าคนถูกปล้นแถมมีปืนจ่ออยู่ตรงหน้าก็จะต้องมีท่าทีตื่นกลัวหรือแสดงสีหน้าออกมา แต่พนักงานชายคนนี้กลับไม่แสดงสีหน้าตกใจหรืออะไรเลย แถมค่อยๆ ทำทุกอย่างตั้งแต่ถอดถุงมือจนถึงควักเงินให้กับโจร ที่สำคัญเขาถึงกับยกลิ้นชักเงินออกมาให้กับโจรคนนั้นไปเลยทีเดียว ทว่าโจรคนดังกล่าวเหมือนจะไม่ได้คิดในส่วนของการปกปิดใบหน้ารวมถึงกล้องวงจรปิด ทุกการกระทำถูกบันทึกไว้หมดแล้ว และสามารถเห็นหน้าตาของโจรคนนี้ได้อย่างชัดเจน . ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของรัฐแคนซัสได้ตั้งข้อหาชายคนดังกล่าว พร้อมให้กับให้ประชาชนที่เคยเห็นหรือรู้จักแจ้งเบาะแสเข้ามา แต่ด้วยใบหน้าที่ชัดเจน ทำให้ทางกรมตำรวจใช้เวลาไม่นานนักพร้อมกับออกมาชี้แจงว่าพวกเขารู้ว่าโจรคนดังกล่าวคือใครแล้ว เหลือเพียงแค่การออกตามหาตัว สุดท้ายก็ต้องชื่นชมชายหนุ่มพนักงานคนดังกล่าวที่ตอบโต้กับเหตุการณ์ได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาใจเย็นหรือเบื่อหน่ายกับชีวิตกันนะ นิ่งสุดๆ เลยทีเดียว พี่โจรแกลืมไปหรือเปล่าว่านี้มันยุค 2017 แล้ว กล้องวงจรปิดยุคนี้มันชัดมากเลยนะเฮ้ย ที่มา ladbible
-
นักศึกษาสาวคว้ารางวัล “ห้องสกปรกที่สุดแห่งปี” ความภูมิใจที่ไม่ควรมีเป็นครั้งที่ 2
ช่วงที่เรียนมหาลัย วัยรุ่นส่วนใหญ่จะเช่าหอพักอยู่ อาจจะเพาะต้องการความเป็นส่วนตัว หรืออยู่ใกล้มหาวิทยาลัย แต่ที่แน่ๆ คือ ได้เป็นอิสระ ทำอะไรได้ตามใจชอบ โดยไม่ต้องมีใครมาบ่นมาว่าเลย แต่เพราะด้วยเหตุนี้เอง ทำให้หอพักนักศึกษาหลายๆ แห่งกลายเป็นแหล่งรวมความซกมก เหมือนกับหอพักที่มหาวิทยาลัย Bristol University ในสหราชอาณาจักรที่มีคนทำห้องรกจนได้รับรางวัลห้องสกปรกที่สุดแห่งปี!! ห้องที่ว่านี้เป็นห้องของนักศึกษาสาว Brittani Cooper และรูมเมท พวกเค้าทำห้องรก โดยไม่ยอมเก็บกวาด ไม่เคยทำความสะอาดจนส่งกลิ่นเหม็นมาถึงข้างนอก ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ในห้องที่มีสภาพแบบนี้ได้อย่างไรกัน สำหรับความสกปรก ซกมกนี้ ครอบครัวของ Brittani ก็ทราบเป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อพ่อแม่ได้เห็นข่าวการประกวดห้องสกปรก พวกเขาจึงได้ส่งลิงก์ไปให้ลูกสาวเพราะคิดว่าเหมาะกับเธอที่สุดแล้ว ดูจากชื่อการประกวดแล้วไม่น่าจะเข้าร่วมเลย แต่สำหรับ Brittani และรูมเมทกลับไม่ลังเล พวกเขาถ่ายรูปสภาพห้อง ณ ขณะนั้นโดยไม่ต้องจัดฉากอะไรเลย เพราะมันสกปรกอยู่แล้ว… เมื่อผลการประกวดออกมา ปรากฏว่ารางวัลห้องสกปรกที่สุดแห่งปี ก็ตกเป็นของ Brittani พร้อมกับเช็คเงินสดอีก 400 ปอนด์หรือราวๆ 22,400 บาท เธอบอกว่ามันคุ้มค่านะกับการโชว์ห้องสกปรกเพื่อแลกกับรางวัลนี้ ผู้เป็นพ่อก็เลยมาแซวเล่นว่า “อย่าลืมแบ่งเงินให้พ่อด้วยนะ เพราะพ่อเป็นคนให้เราส่งประกวด” แต่หญิงสาวตอบกลับไปว่า “ไม่มีวันซะหรอกพ่อ”…
-
หนุ่มแสบบอกเลิกสาวก่อนงานพรอม แถมทวงเงินคืน สาวจัดเหรียญให้ไปนับเองนะ!!
สำหรับชายหนุ่ม หญิงสาว ที่ตกลงปลงใจคบหาเป็นแฟน สิ่งหนึ่งที่เราเชื่อว่าทุกคู่ไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุด ก็คือการที่ต้องเลิกรากันนี่แหละ บางคู่อาจจะจากกันไปด้วยดี แต่บางคู่อาจจะเลิกแบบเกลียดเข้ากระดูกดำกันไปเลย เช่นเดียวกับ Maria สาวสวยที่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกก่อนงานพรอม แถมยังไม่พอเจ้าตัวยังมาขอเงินคืนอีก!! Maria กำลังจะจบชั้นไฮสคูลจากรัฐโคโลราโด ทว่า 1 อาทิตย์ก่อนงานพรอม แฟนหนุ่มกลับบอกเลิกเธอซะอย่างนั้น หลังจากที่เธอถูกบอกเล่า วิญญาณนักสืบมนุษย์แฟนเก่าก็เข้าสิงทันที เธอไปสืบทราบมาว่าอดีตแฟนหนุ่มของเธอบอกเลิกเธอก็เพียงเพราะ.. อยากจะไปงานพรอมกับหญิงสาวอีกคนหนึ่ง หลังจากนั้นไม่นานพ่อหนุ่มก็ส่งข้อความมาบอกว่า ‘ขอเงินคืนด้วยนะ เอาไปวางไว้ตรงไหนก็ได้เดี๋ยวไปหยิบเอง เอาที่สบายใจเธอว่าเลย’ Maria เล่าว่า ตอนที่แฟนเก่าส่งข้อความทวงเงินมา เธอกำลังสังสรรค์ชีวิตโสดครั้งใหม่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยกับเพื่อนสาว พวกเธอจึงช่วยกันระดมความคิดว่าจะแก้เผ็ดผู้ชายตัวแสบคนนี้ยังไงดี ‘ฉันคิดว่าเราควรจะแก้เผ็ดอะไรซักอย่าง ก่อนที่จะเลิกรากันไปให้สมกับที่ทำให้ฉันเสียใจ ซึ่งจริงๆ แล้วฉันก็ไม่ใช่คนที่ชอบความรุนแรงอะไรด้วย เพราะฉะนั้นนี่อาจจะเป็นวิธีที่ทำให้หมอนั่นหัวเสียไปเลยก็ว่าได้..’ Maria เล่า จำนวนเงินทั้งหมดที่แฟนหนุ่มต้องการคือ 95 ดอลล่าร์สหรัฐฯ งานนี้แฟนสาวเลยไปขอแลกเป็นเหรียญเพนนี (เหมือนเหรียญสตางค์) จากธนาคารซะเลย และทั้งหมดนี้ก็คือเหรียญเพนนีที่รวมกันได้ 95 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับข้อความที่ว่า ‘นี่ไง… $95…
-
สุดประทับใจ… เมื่อช่างซ่อมรู้ว่าลูกค้าพึ่งมีจะสมาชิกใหม่ เขาจึงซ่อมงานให้ฟรีไม่คิดเงิน!!
ถ้าสมมุติวันหนึ่งในวันที่อากาศหนาวมากๆ แล้วเครื่องทำน้ำอุ่นของคุณก็ดันเสีย แถมพายุก็บังเอิญมาเข้าในวันนั้น หนักไปกว่านั้นคือ เมื่อวานคุณพึ่งจะรับลูกที่พึ่งเกิดกลับมาดูแลที่บ้านอีก ฟังดูแย่เกินจริงใช่ไหมล่ะ? แต่นี่แหละคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของ Maria และ Jesse Hulscher จากรัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากที่ Maria พึ่งจะคลอดลูกได้ไม่นาน Maria กับ Jesse Hulscher พร้อมกับลูกชายคนแรก และสมาชิกตัวน้อยคนใหม่ล่าสุด ด้วยอากาศแย่แบบนั้นมันคงไม่ดีต่อลูกน้อยของพวกเขาอย่างแน่นอน ทั้งคู่ก็ไม่รอช้าเรียกช่างซ่อมเครื่องทำน้ำอุ่นจากบริษัท Magnuson Sheet Metal ซึ่งเป็นบริษัทในท้องถิ่นให้มาช่วยซ่อมให้ และเมื่อช่างมาถึงก็จัดการดำเนินงานทันที และในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเครื่องทำน้ำอุ่นของพวกเขาก็กลับมาใช้งานได้ดีอีกครั้ง จนเวลาผ่านไปหลายวันทางบริษัทก็ส่งใบแจ้งหนี้เพื่อให้ทั้งคู่ไปชำระเงิน แต่พวกเขากลับรู้สึกตื้นตันใจและไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อเห็นข้อความที่อยู่ในใบแจ้งหนี้ว่า “ไม่มีค่าใช้จ่าย ดูแลสมาชิกใหม่ของพวกคุณให้ดีนะ” ซึ่งเมื่อเรื่องราวในครั้งนี้ได้เผยแพร่ออกไป ทางสำนักข่าว Fox 9 ก็ไม่รอช้าเดินทางไปสัมภาษณ์บริษัทดังกล่าวทันที และ Craig ผู้จัดการของบริษัทก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมจัดการซ่อมให้พวกเขาฟรีๆ เพื่อแสดงความยินดีกับลูกชายที่พึ่งเกิดของพวกเขา” ด้วยเหตุนี้ Jess จึงแชร์ข้อความรู้สึกของเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กว่า “ผมไม่รู้จะต้องขอบคุณพวกเขายังไงถึงจะพอกับการบริการที่ดีแบบนี้ ทั้งรวดเร็วและช่างซ่อมที่มีคุณภาพรวมถึงจิตใจที่เข้าใจลูกค้า บริษัทแบบนี้ควรค่าที่จะได้ใจของลูกค้าคนหนึ่งไปชั่วชีวิต และขอบคุณ Craig กับทีมงานของคุณที่มอบประสบการณ์ดีๆ…
-
น้องหมาถึงกับนอยด์ เมื่อเจ้าของฝรั่งพาไปตัดขนกับช่างจีน แต่ดันพูดกันไม่รู้เรื่อง…
ใครที่เลี้ยงหมาอยู่ อย่าปล่อยให้พวกมันมีขนรกรุงรังนะคะ ควรจะตัดแต่งขนให้กับมันด้วย และไม่ใช่ทรงไหนก็ได้นะ เพราะถึงจะเป็นหมาก็อยากสวยอยากหล่อเหมือนมนุษย์เรานี่แหละ ฮร่าาาา แต่ดูเหมือนเจ้า Seren พันธุ์เยอรมันเชฟเฟิร์ด จะโชคร้ายหน่อย เมื่อเจ้าของซึ่งเป็นชาวอังกฤษพามันไปตัดขนในร้านให้มีช่างเป็นคนจีน และพวกเขาก็สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เพราะเขาไม่สามารถพูดภาษาจีนได้เลยแม้แต่คำเดียว… Leigh Simmons วัย 27 ปี เป็นเจ้าของน้องหมา Seren เขาทำงานอยู่กับ Kat ผู้เป็นภรรยาที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน เป็นระยะเวลา 7 เดือนแล้ว ทรงขนเดิมของเจ้า Seren สำหรับสุนัขตัวนี้ Simmons ไปเจอมันอยู่ข้างถนนใกล้กับ Merthyr Tydfil ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเวลส์ เขาจึงเก็บมันมาเลี้ยงจนถึงตอนนี้ ระหว่างอยู่จีนนั้นเขาก็ได้พาน้องหมาสุดที่รักไปตัดขน เพราะตอนนั้นอากาศร้อนมาก แต่ Simmons พูดภาษาจีนไม่ได้เลย ส่วนช่างตัดขนก็พูดอังกฤษไม่ได้เช่นกัน เขาก็เลยใช้ภาษาท่าทางเพื่ออธิบายให้ช่างเข้าใจว่าต้องการทรงไหน ทรงขนที่ได้จากการสื่อสารไม่รู้เรื่อง ระหว่างช่างกับเจ้าของ!? เขาต้องการบอกให้ช่างโกนขนให้น้องหมา เขาก็เลยทำท่าโกนพร้อมกับทำเสียงที่โกนขน ช่างคนนั้นพยักหน้า ประหนึ่งว่า ‘อ๋อ เข้าใจแล้ว จะเอาแบบนั้นใช่มั้ย!?’ จากนั้นช่างก็บอกให้ Simmons กลับมารับสุนัขอีกทีประมาณ 16.00 น.…
-
โครงการดีๆ ที่เชิญแก๊งลามะร่วมงานแต่งงาน สร้างความประทับใจ และระดมเงินช่วยการกุศล
งานแต่งงานถือเป็นวันสำคัญสำหรับคู่บ่าวสาว ดังนั้นทุกอย่างจึงถูกจัดเตรียมมาเป็นเดือนๆ เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด รวมทั้งกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่เจ้าภาพเตรียมไว้เซอร์ไพรส์แขกที่มาร่วมงานด้วย แต่หากใครยังไม่รู้จะเซอร์ไพรส์ยังไง เราขอแนะนำลามะจาก Mtn Peaks Therapy Llamas & Alpacas ที่พร้อมจะไปปรากฏตัวในงานแต่งคุณได้ทันที หากคุณเชิญเจ้าลามะพวกนี้ไปงานแต่ง คุณจะไม่รู้สึกผิดหวังเลย เพราะพวกมันได้รับการฝึกเป็นอย่างดี พวกมันรู้ว่าต้องจะแต่งตัวแบบไหน วางตัวอย่างไร และจะทำยังไงให้แขกในงานมีความสุข และพวกมันก็ไม่ใช่มือใหม่ด้วย มีประสบการณ์ไปร่วมงานแต่งมาแล้วมากมาย และงานไหนก็ตามที่มีแก๊งลามะไปร่วมด้วย งานนั้นจะวิเศษมากๆ เลยล่ะ แขกบางคนไม่เคยเห็นหรือเคยสัมผัสลามะมาก่อน ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้มาเห็นลามะในงาน พวกเขาจะรู้สึกตื่นเต้นมาก ยิ่งถ้าได้เล่นกับลามะด้วยแล้ว พวกเขาจะไม่มีวันลืมความสุขเหล่านั้นไปได้เลย ทีนี้ก็มั่นใจเลยว่าการเซอร์ไพรส์ด้วยลามะได้ผลเกินคาดจริงๆ แต่การเชิญลามะไปงานแต่ง อาจจะต้องมีค่าจ้างให้พวกมันเล็กๆ น้อยๆ เพราะพวกมันกำลังทำภารกิจหาเงินเพื่อองค์กรบำบัดและการศึกษา ซึ่งเป็นองค์การกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร โปรแกรมดีๆ แบบนี้ก็วินวินกันทั้งสองฝ่าย คุณได้เซอร์ไพรส์แขก ลามะได้ระดมทุนช่วยองค์กร แต่น่าเสียดายหน่อยก็ตรงที่ไม่อาจเชิญลามะไปรอบโลกได้ โครงการนี้จำกัดอยู่ในพื้นที่ เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา…
-
มหกรรมภาพลูกช้างแสนซน กับความน่ารักน่าเอ็นดู ที่จะทำให้คุณหลงรักได้ทันทีทันใด
ชาติถือเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยเรา แต่น้อยคนนักที่จะได้สัมผัสความน่ารักของมันพวกมัน ซึ่งอาจเป็นเพราะความเข้าถึงยากเพราะเป็นสัตว์ป่า และด้วยขนาดตัวที่ใหญ่มากๆ แต่จริงๆ แล้ว ถ้าคุณลองไปสัมผัสกับพวกมัน จะเห็นถึงความน่ารักที่ไม่คาดคิดมาก่อน โดยเฉพาะลูกช้างที่ชอบแสดงความน่ารักออกมาจนคุณต้องหลงรักไม่ต่างจากสุนัขหรือแมวเลย . ช้างแรกเกิดจะมีน้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม สูง 90 เซนติเมตร พวกมันจะมีท่าทางเงอะงะเป็นเวลาประมาณ 3 เดือน เพราะอยู่ในช่วงหัดเดิน แต่ก็จะมีแม่คอยดูแลอยู่ไม่ห่างตลอดเวลา นอกจากนี้คุณจะเห็นลูกช้างมักจะส่ายหางและงวงไปมาตลอดเวลา นั่นเป็นเพราะพวกมันยังไม่รู้จักวิธีควบคุม ดูรวมๆ ก็ลักษณะคล้ายกับคนเมาแต่ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว จนกระทั่งมันโตขึ้น ช้างตัวผู้จะแยกออกจากโขลงหลังจากที่มีอายุ 12 ปี แต่สำหรับตัวเมียนั้นมันจะอยู่กับครอบครัวไปตลอดชีวิต ซึ่งมันก็ดีต่อแม่ช้างที่ไม่อยากให้ลูกจากไปไหน ความน่ารักของลูกช้างมันบรรยายยากนะ เอาเป็นว่าให้ภาพเหล่านี้บอกละกันว่าพวกมันน่ารักขนาดไหน รับรองว่าเห็นแล้วคุณต้องอยากไปเล่นกับพวกมันแน่ๆ . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
อังกฤษทดลองเปิด ‘ยิมสำหรับงีบ’ สอนวิธีที่ถูกต้อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของสมอง
การออกกำลังกายถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับมนุษย์ ดังนั้นจึงได้มีการเปิดโรงยิมมากมายให้ผู้คนได้มาออกกำลังกายให้สุขภาพแข็งแรง รวมทั้งการทำให้รูปร่างดูดี แต่นอกจากการออกกำลังกายแล้ว การงีบพักก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน ด้วยเหตุนี้โรงยิมแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรจึงได้เปิดคอร์สสอนการงีบสำหรับผู้ที่เหน็ดเหนื่อยหรือต้องการพักผ่อนในระหว่างวัน ได้ยินแบบนี้มันแปลกๆ อยู่แฮะ เพราะการงีบเป็นเรื่องที่เราทำกันเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว หากง่วงตึงไม่สดชื่นก็งีบหลับซักพัก แต่ที่นี่เค้าไม่ได้ให้คุณมานอนงีบเหมือนอยู่บ้านนะ แต่เขาจะสอนวิธีการงีบที่ถูกต้องให้ด้วย โรงยิมสำหรับงีบนี้จะมีการปรับอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการงีบหลับ โดยจะมีเทรนเนอร์คอยแนะนำว่าต้องทำอะไรบ้าง เริ่มแรกต้องยืดกล้ามเนื้อก่อน 15 นาที ต่อด้วยการงีบ 45 นาที ผู้ที่ก่อตั้งโรงยิมแห่งนี้ เรียกการงีบลักษณะนี้ว่า Nap-Ercise ซึ่งเป็นคลาสที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจและอารมณ์ของผู้ที่อยู่ในอาการเหนื่อยล้าหรือเครียด รวมทั้งเผาผลาญแคลลอรี่ที่ไม่จำเป็นอีกด้วย นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาคิดขึ้นมาเองลอยๆ แต่ผลวิจัยของวิทยาลัย Allegheny College ออกมารองรับเรื่องนี้ด้วย โดยการศึกษาพบว่า ‘ผู้ที่ได้งีบในช่วงเวลากลางวัน 45 นาที จะจัดการความเครียดได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้งีบเลย’ นอกจากนี้ยังมีการวิจัยของ UC Berkeley ที่พบว่า ‘การงีบในช่วงบ่ายอาจเพิ่มขีดความสามารถในการเรียนรู้ของสมอง’ ตอนนี้ยิมสำหรับนอนได้มีการทดลองเปิดที่แรกที่ David Lloyd Clubs ในย่าน Sidcup, London ประเทศอังกฤษ และหากประสบความสำเร็จ ยิมทั่วประเทศก็จะเพิ่มคอร์สการงีบเหมือนกัน .…
-
ไม่อยากได้ให้แกล้งตาย… แมลงปอตัวเมียจะแกล้งตาย เพื่อเลี่ยงตัวผู้ที่จะเข้ามาผสมพันธุ์!?
นับว่าเป็นอีกความแปลกใหม่ของธรรมชาติที่เราอาจไม่เคยรู้กันมาก่อน ก็อย่างที่ทุกคนทราบดีว่า.. ถ้าวันไหนเรารู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีอารมณ์ที่อยากจะเล่นจ้ำจี้เลยแม้แต่น้อย เราก็แกล้งทำเป็นหลับไปซะ เช่นเดียวกับแมลงปอตัวเมีย พวกมันก็รู้จักที่จะนำพฤติกรรมนี้มาใช้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งถูกค้นพบโดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเวลานานกว่า 10 ปี ที่ Rassim Khelifa ได้ทำการศึกษาค้นคว้าพฤติกรรมของแมลงปอ และเก็บตัวอย่างสายพันธุ์ของพวกมันจากเทือกเขาแอลป์ ระหว่างการเก็บรวบรวมตัวอย่างสายพันธุ์ เขาก็ได้สังเกตเห็นว่าบางครั้งเมื่อตัวผู้ออกตามหาตัวเมียเพื่อผสมพันธุ์ ตัวเมียก็มักจะแกล้งทำเป็นบินต่ำลง และแกล้งทำเป็นนอนตายแน่นิ่งอยู่บนพื้น อะชึ้บ อะชึ้บ ทำกิจกรรมเข้าจังหวะ… หลังจากที่ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมดังกล่าวจากแมลงปอ เขาก็ได้ทำการศึกษาจากแมลงปอตัวเมียจำนวน 31 ตัว และพบว่าหากตัวเมียไม่รู้สึกอยากผสมพันธุ์ด้วย พวกมันจะพยายามบินต่ำลง และทิ้งตัวนอนลงบนพื้น ให้เหมือนกับว่าตายไปแล้วจริงๆ ‘ส่วนใหญ่แล้วแมลงปอตัวเมีย มักจะแกล้งตายก็ต่อเมื่อพวกมันรู้สึกว่าตัวเองถูกบังคับให้สืบพันธุ์มากเกินไป หรือบางครั้งตัวผู้ก็มีพฤติกรรมที่เกรี้ยวกราดมากเกินไป’ Rassim กล่าว พฤติกรรมดังกล่าวนอกจากจะเกิดขึ้นกับแมลงปอตัวเมียแล้ว ทีมวิจัยยังค้นพบว่าในกลุ่มแมลงอย่างแมงมุม แมลงวันหัวบุบ หรือตั๊กแตน ก็มีพฤติกรรมที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งทีมวิจัยจะทำการศึกษาเชิงลึกต่อไปว่า เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นอย่างเฉพาะเจาะจงกับสัตว์บางชนิดเท่านั้นหรือไม่อย่างไร เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.. ถ้าอีกฝ่ายเค้าไม่ยอมเราก็อย่าไปฝืนใจเค้าเลย มันไม่ดีนะจ๊ะ ที่มา: Unilad
-
ชาวเน็ตร่วมใจกันแชร์ ภาพถ่ายสไตล์ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูกเหมือนกันเป๊ะ!!
เคยได้ยินประโยคที่ว่า ‘ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น’ กันจนเบื่อแล้วใช่ไหมล่ะ? ซึ่งจะว่าไปแล้วมันก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริงเหมือนกันนะ เมื่อชาวเน็ตจากทั่วโลกต่างร่วมใจกันนำภาพถ่ายเปรียบเทียบระหว่างตัวเอง และภาพถ่ายของพ่อแม่ ในอดีตมาเปรียบเทียบในวัยเดียวกัน บอกได้เลยคำเดียวว่าเหมือนเป๊ะอะไรขนาดน๊านน พ่อ และลูก ตอนที่ทั้งคู่อายุ 20 ปี พ่อลูกเหมือนกัน แถมยังได้ทำงานเสิร์ฟเหมือนกันอีกด้วย อันนี้เป็นพ่อกับลูกสาว เหมือนเป๊ะ! พ่อหนุ่มคนนี้บอกว่าถึงพ่อเขาจะจากไปตั้งแต่อายุได้ 4 ขวบ แต่คนรอบข้างมักจะบอกเสมอว่า ตัวเขามีความเหมือนพ่อมากเหลือเกิน จากรุ่นแม่สู่รุ่นลูก ท่าโพสเดียวกันเลย คุณพ่อ และลูกสาว ทั้งตา คิ้ว จมูก ปาก เหมือนไปหมด พ่อลูกในวัยเดียวกัน ด้วยเสื้อผ้าที่เหมือนกัน Like Father Like Son เมื่อแม่นำภาพตัวเองตอนเด็ก มาเทียบกับลูกสาวตอนนี้ ภาพซ้ายคุณพ่อเมื่อปี 1976 ส่วนภาพขวาเป็นลูกชายเมื่อปี 2012 คุณแม่…
-
หมู่เกาะแฟโรขาดแคลนผู้หญิง ต้องการเติมส่วนที่ขาดหาย โดยเฉพาะสาวเอเชีย!!
เรียกได้ว่านี่อาจเป็นโอกาสดีสำหรับสาวเอเชียแถวๆ นี้เลยนะเนี่ย ที่มีความประสงค์อยากจะย้ายถิ่นฐานลองไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกเมืองนาบนเกาะแฟโร อันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเดนมาร์ก เพราะล่าสุดทางสำนักข่าว BBC ได้รายงานว่า ปัจจุบันหมู่เกาะแฟโรต้องเผชิญกับปัญหาความไม่สมดุลกันระหว่างประชากรชายที่มีจำนวนมากกว่าประชากรหญิงหลายเท่าตัว โดยเมื่อช่วงหลายปีก่อนหน้านี้หมู่เกาะแฟโร ก็ต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนประชากรอันมาแล้ว เนื่องมาจากการกระจายตัวของคนรุ่นใหม่ ที่มักจะเข้าไปแสวงหาชีวิตและการศึกษาในเมืองใหญ่ อ้างอิงข้อมูลจากนายกรัฐมนตรี Axel Johannesen ได้กล่าวว่า อัตราจำนวนประชากรระหว่างหญิงและชาย มีอัตราส่วนอยู่ที่ 1 ต่อ 2,000 (นั่นก็คือหญิง 1 คน ต่อชาย 2,000 คน) บวกกับวัฒนธรรมอาหารเอเชียอย่างไทยและฟิลิปปินส์ ที่ได้รับความนิยมสูงจากประชากรที่นี่ ทำให้หนุ่มๆ มีความสนใจสาวไทยและสาวฟิลิปปินส์มากเป็นพิเศษ จากปัญหาขาดแคลนประชากร ทำให้หมู่เกาะแฟโรขาดแคลนประชากรด้านแรงงานไปด้วย และทางรัฐบาลก็ได้เล็งเห็นว่า การที่หญิงสาวชาวเอเชียย้ายสำมะโนครัวมาอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้กับครอบครัวชาวเดนมาร์ก จะช่วยสร้างตลาดแรงงานให้มีความคึกคักขึ้นมาได้อีกครั้ง ‘ช่วงเวลาที่ผ่านมาทางรัฐบาลเราเล็งเห็นแล้วว่า ผู้ชายที่นี่จะแต่งงานกับหญฺิงสาวชาวเอเชียมากขึ้น และนั่นก็นำมาซึ่งตลาดแรงงานที่เรากำลังขาดแคลน ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดีมากๆ สำหรับหมู่เกาะของเรา’ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ ทางด้านของ Magni Arge นักการเมืองท้องถิ่นจากเกาะแฟโร ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนประชากร และการเข้ามาของประชากรสาวเอเชียไว้ว่า ‘จากระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมานี้ เราได้สังเกตเห็นว่า…
-
ต้องยอมรับจริง!! ชาวญี่ปุ่นคือจ้าวแห่งความมีระเบียบ กระทั่งแปะสติกเกอร์ก็ไม่เหมือนใครๆเขา…
ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่เจ้าระเบียบ ไม่ว่าจะทำอะไรที่ไหน คนญี่ปุ่นส่วนมากมักจะเป็นคนที่ทำอะไรเป็นระบบระเบียบ และค่อนข้างซีเรียสกับเรื่องนี้มาก มีผู้ใช้ Twitter ชาวญี่ปุ่นคนนึงใช้ชื่อว่า Nagisa Ayu ได้โพสภาพของบอร์ดหนึ่งที่คล้ายๆเป็นผลสำรวจว่า “พวกคุณมาจากประเทศไหน?” และถ้าเป็นคนประเทศนั้นมาเที่ยวเยี่ยมชม ก็ให้แปะสติกเกอร์ลงไปในบอร์ดดังกล่าวนั่นเอง… นี่คือภาพดังกล่าว… จากภาพที่เห็นก็จะมีประเทศ ฝรั่งเศส อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี จีน มาเลเซีย ฮ่องกง/มาเก๊า สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร สเปน แคนาดา ออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ จากที่เราเห็นนั้นจะสังเกตเห็นได้ว่าการทำผลสำรวจนี้ ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีการแปะสติ๊กเกอร์สีแดงได้เป็นระเบียบอย่างมาก ซึ่งมันสื่อให้ถึงความเป็นเจ้าบ้านที่ดี และบ่งบอกถึงความมีระเบียบวินัยไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ได้หมายความว่าประเทศอื่นๆจะไม่มีระเบียบวินัยกันซะทั้งหมด เพราะเจ้าสิ่งนี้ก้ไม่ได้บ่งบอกว่าคนประเทศไหนไม่มีระเบียบวินัย เอาจริงๆแล้วของอย่างนี้มันขึ้นอยุ่ที่บุคคลซะมากกว่า แต่ด้วยประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างเคร่งในเรื่องนี้คนส่วนมากก็เลยต้องเคร่งครัดตามกันเป็นธรรมดา ที่มา : twitter
-
ชายหนุ่มถูกจับในข้อหา แอบอาศัยอยู่ในห้องน้ำสาธารณะนานถึง 3 ปี… พี่ทำได้ยังไง!?
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2017 ที่ผ่านมา ณ เมืองอุซุกิ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการจ้างผู้รับเหมาเพื่อเริ่มบูรณะและซ่อมแซมสถานที่สาธารณะต่างๆ ภายในตัวเมือง นั่นรวมถึงห้องน้ำสาธารณะด้วย แต่ทว่าเมื่อตอนที่ผู้รับเหมาได้เข้าไปดูตรวจเช็คห้องน้ำในสวนสาธารณะอุซุกิ ก็ได้พบเข้ากับเงาของคนผ่านกระจก ซึ่งดูเหมือนว่าเขากำลังติดตั้งหลอดไฟหรืออะไรบางอย่าง ทางผู้รับเหมาก็เลยแจ้งให้ทางการส่งคนเข้ามาตรวจสอบ ปกติแล้วภายในเพดานของห้องน้ำสาธารณะจะอนุญาตให้ใช้พื้นที่ราวๆ 50 ตารางเมตรเพื่อคนทั่วไปสามารถเข้ามาใช้ส่วนนี้ได้อิสระ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ไปถึงและทำการตรวจสอบห้องน้ำดังกล่าว ทำให้ตำตรวจถึงกับผงะ… เมื่อพบว่าภายในเพดานห้องน้ำขนาด 92 ตารางเมตร กลับถูกตกแต่งอย่างดี แถมยังมีเฟอร์นิเจอร์ยังชีพ อย่างฮีทเตอร์ เตาแก๊ส รวมถึงหนังสือแม็กกาซีนและเสื้อผ้าจัดวางอยู่ภายในห้องน้ำเต็มไปหมด แถมภายในก็ไม่ได้รกเรี่ยราด ของทุกชิ้นถูกจัดเรียงอย่างมีระเบียบและสะอาดสุดๆ พร้อมกับชายวัยกลางคนที่ทำท่ายืนงงอยู่กลางห้อง ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงรวบตัวเขาไปเพื่อสอบสวน พบว่าชายคนดังกล่าวชื่อว่า Takashi Yamanouchi วัย 54 ปีและเป็นคนจากจังหวัดกิฟุ เขาเล่าว่าหนีออกจากบ้านมาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อนและเร่ร่อนจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งมาตลอด จนมาหยุดที่เมืองอุซุกิ จังหวัดโออิตะ ในตอนแรกมีคนอาศัยห้องน้ำอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงขออาศัยอยู่กับชายคนนั้นจนในที่สุดเขาก็ได้ย้ายออกไป แต่ Takashi ยังเลือกที่จะอยู่ต่อ พร้อมกับเพิ่มเฟอร์นิเจอร์เข้าไปมากมายเป็นเวลาถึง 3 ปี ทว่ามีเรื่องที่แปลกอยู่อย่างหนึ่งคือ เขาเก็บปัสสาวะของตัวเองไว้ในขวด…
-
12 ดาราดังผู้ได้รับผลกระทบแย่เกินจะบรรยาย จากชุดคอสตูมที่พวกเขาต้องใส่แสดงภาพยนตร์
สำหรับการแสดงแล้วนอกจากตัวนักแสดง บทและสเปเชี่ยลเอฟเฟคต่างๆ ที่ใช้ประกอบในภาพยนตร์ คอสตูม ของตัวละครก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เช่นกัน แต่เราจะรู้กันไหมว่าคอสตูมบางชุด ก็สร้างผลกระทบที่ไม่ดีให้กับนักแสดงเช่นกัน บางคนถึงกับเสียชีวิตเลยก็มี ฉะนั้นเราเลยจะไปดูเรื่องราวของคอสตูมที่สร้างผลกระทบอันร้ายแรงให้กับนักแสดง แต่ละคนต้องอดทนจากความเจ็บปวดเหล่านั้นอย่างไรบ้าง? 1. Jennifer Lawrence ได้รับสารพิษสะสมจนเกิดเป็นสิวและแผลพุพองทั่วทั้งตัว จากเมคอัพที่เธอแสดงเป็นมิสทีคใน X-Men ภาคต่างๆ ซึ่งเราก็รู้กันดีว่าบทนี้จะมีตัวสีฟ้าทั้งตัวและมีเกล็ดตามร่างกาย 2. Buddy Ebsen ในปี 1939 เขาได้รับบทเป็น Tin Man ในเรื่อง The Wizard of Oz จนภายหลัง Jack Haley มารับบทนี้แทนเขา ส่วนสาเหตุที่เปลี่ยนคนแสดงเพราะ การที่เขารับบทนี้จำเป็นจะต้องทาตัวให้มีสีเงินด้วยผงอลูมิเนียม แต่หลังจากรับบทนี้ไปได้ 9 วันเขาก็ล้มป่วยทันที 3. Margaret Hamilton จากเรื่อง The Wizard of Oz เช่นเดียวกัน โดยเธอรับบทเป็นแม่มดภายในเรื่อง และบทนี้เธอจะต้องทาตัวสีเขียว จนเธอได้เข้าถ่ายฉากหนึ่งที่ต้องหนีผ่านประตูกลและไฟ ซึ่งถ้าตามเนื้อเรื่องเธอสามารถหลบหนีไปได้อย่างปลอดภัย แต่ทว่าสีเขียวที่เธอทาอยู่บนตัวนั้นไวต่อไฟ ทำให้ผิวของเธอถูกไฟคลอก และต้องไปนอนซมอยู่ในโรงพยาบาลนานหลายวัน…
-
Tihon เหมียวยักษ์ตาสองสีจากรัสเซีย ชอบอ้อนวอนขอกอด จากทาสมนุษย์ตลอดเวลา
การกอดนอกจากจะเป็นการมอบความรักความอบอุ่นให้แก่กันและกันแล้ว มันยังช่วยทำให้ทั้งผู้กอดและผู้ถูกกอดรู้สึกดีอีกด้วย เหมือนกับเจ้าเหมียวตัวนี้ที่เติบโตขึ้นมา พร้อมกับกอดที่อบอุ่นจากเจ้าของของมัน อย่างเจ้า Tihon เหมียวตัวโตน่ากอดพันธุ์ Maine Coon จากประเทศรัสเซีย เจ้าเหมียวตัวโตขนฟูตัวนี้ถูกนำมาเลี้ยงเมื่อมันอายุได้ 6 เดือน ในทุกๆ วันที่มีโอกาสเธอก็จะอุ้มเจ้า Tihon ขึ้นมากอดเพื่อมอบความรักให้กับมัน เจ้าของมันบอกกับเว็บไซต์ LoveMeow ว่า “มันชอบเข้ามานั่งในอ้อมแขนฉัน เจ้า Tihon ไม่ชอบอยู่เพียงลำพัง นอกจากนี้มันยังตามฉันไปแทบจะทุกที่ แม้กระทั่งตอนฉันเข้าห้องน้ำ” เมื่ออายุได้ 6 เดือนเจ้าเหมียวตัวโตขึ้นมาก Tihon มีขนาดใหญ่โตกว่าแมวบ้านทั่วไป มันดูเหมือยกับยักษ์นิ่งใจดีเลยทีเดียว เธอบอกว่า “ชื่อของมัน ในภาษารัสเซียแปลว่าเงียบ เนื่องจากลักษณะท่าทางของมันที่ดูเป็นแมวนิ่งๆ ฉันจึงตั้งชื่อของมันว่า Tihon” เจ้าเหมียวมักจะกอดกับเจ้าของมันทุกครั้งที่มีโอกาส นอกจากนี้มันยังมีดวงตาสองสีอีกด้วย ซึ่งข้างหนึ่งเป็นสีน้ำเงิน และอีกข้างเป็นสีน้ำตาลแดง และเมื่อดูรวมๆ แล้วเจ้าเหมียวของเราช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน แถมมันยังชอบให้เจ้าของอุ้มมันไปรอบๆ บ้านอีกด้วย ดังนั้นเธอจึงสังเกตได้ว่าเจ้าเหมียวตัวโตขึ้นทุกวัน และถึงแม้ว่ามันจะเป็นแมวที่ตัวใหญ่แต่ก็มักจะยอมให้แมวตัวอื่นๆ นั่งในที่ของมันและยอมเป็นลูกน้องพวกเจ้าเหมียวตัวเล็กๆ ด้วย …
-
รวม 20 ภาพวีรกรรมสัตว์จอมแสบ ปีศาจขนปุยที่เรียกว่า “แมว” ไม่เคยแคร์อะไร
หลายๆ คนที่เลี้ยงเจ้าเหมียวไว้ที่บ้านคงจะรู้นิสัยของพวกมันเป็นอย่างดี ทั้งความซนและความเอาแต่ใจ และที่สำคัญพวกมันยังชอบทำตัวเหมือนกับว่าจะครองโลกอีกด้วยนะ ฮ่าๆ ก็แน่ละถ้าเกิดเราเผลอทำอะไรไม่ถูกใจพวกพี่แกล่ะก็ ต้องมีอาการโวยวายแน่นอน และต่อไปนี้คือภาพที่จะแสดงให้เห็นว่า พวกแมวนี่แหละ คือปีศาจขนปุยที่แท้จริง!! แต่ละตัวจะป่วนแค่ไหนไปชมกันเลย… 1. เจ้าเหมียวที่พยายามทำหน้าให้เหมือนกับเจ้าของมัน 2. ไม่เอานะ ห้ามเอาปากมาใกล้ 3. อยากแปรงฟันบ้างหรือไง 4. โถ่!! หมดกันผนังใหม่ 5. ใจเย็นๆ ลูกพี่เดี๋ยวได้กินข้าวแล้ว 6. กำลังทำพิธีอัญเชิญปีศาจออกมาจากเตาอบ 7. นั่งจิบชาอยู่ดีๆ ก็มีแมวมานอนเป็นเพื่อน แต่… 8. จะฝนเล็บทั้งสองที่พร้อมๆ กันซินะ เฮ้อ จะรีบไปไหน!! 9. (แมวตัดต่อ) ข้าไม่ได้ทำโว้ย แต่เป็นหมาฝั่งนู้น โน่นนนน 10. ให้เธอได้กับเขาาาาาาา 11. ภาพทางด้านซ้ายคือแมวทั่วไป…
-
นักวิทย์ไขปริศนา น้ำตกสีเลือดในทะเลแอนตาร์กติกาได้แล้ว หลังหาคำตอบนาน 100 ปี
การที่เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติแปลกๆ นั้น ทำให้ปัญหาตกอยู่ที่มนุษย์ เพราะเราต้องมาคิดกันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร หรือมีที่มาที่ไปอย่างไร อย่างน้ำตกที่ไหลเป็นสีเลือดในทะเลแอนตาร์กติกา ซึ่งก็ทำให้มนุษย์งงว่ามันคืออะไรและเกิดขึ้นได้อย่าง โดยเหล่าบรรดานักวิทยาศาสตร์ต่างทำงานอย่างหนักเพื่อหาที่มาของน้ำสีเลือดนี้ และหลังจากที่มีการไขปริศนาของเรื่องนี้มานานกว่า 100 ปี ทางนักวิทยาศาตร์ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า พวกเขารู้สาเหตุของปรากฏการณ์นี้แล้ว น้ำตกสีเลือดนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1911 โดยนักธรณีวิทยาชาวออสเตรเลีย ซึ่งตอนนั้นเขาเชื่อว่ามันเกิดจากสาหร่ายสีแดง ต่อมาในปี 2003 ก็มีคนแย้งว่า น้ำสีแดงนี้ไหลมาจากธารน้ำ Taylor Glacier โดยมีธาตุเหล็กออกซิไดซ์เป็นสาหตุที่ทำให้เกิดสีแดง หรือบางทีมันอาจจะเป็นเศษซากที่ตกตะกอนในทะเลสาบน้ำเค็มที่มีอายุกว่า 5 ล้านปี อย่างไรก็ตามตอนนี้ได้มีการค้นพบทฤษฏีใหม่โดยมหาวิทยาลัย University of Alaska และวิทยาลัย Colorado College ระบุว่า มันคือน้ำที่ไหลจากทะเลสาบขนาดใหญ่ และรวมกันอยู่ใต้น้ำแข็งมานานกว่า 1 ล้านปี ทฤษฏีนี้เกิดจากการที่นักวิทยาศาสตร์ได้ติดตามที่มาของน้ำตกสายนี้โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Echolocation หรือการหาตำแหน่งของวัตถุโดยใช้เวลาและทิศทางของการสะท้อนกลับ พวกเขาบอกว่า “เราได้ขยับเสาอากาศไปรอบๆ ธารน้ำแข็งในรูปแบบคล้ายตาราง แล้วเราได้เห็นสิ่งที่อยู่ใต้น้ำแข็งเหล่านั้น” แผนภาพแสดงระบบการกักเก็บน้ำของน้ำตกสีเลือดแห่งนี้ นอกจากนี้ทางทีมวิจัยก็ได้ยืนยันว่า ธารน้ำแข็งดังกล่าวนี้ มันมีระบบจัดการน้ำเป็นของตัวเอง…
-
“ฉลาดเหมือนแม่” นักวิจัยพิสูจน์แล้วว่า ลูกจะสืบทอดสติปัญญาจากแม่ได้มากกว่าพ่อ!!
นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบมานานแล้วว่า ยีนส์ความฉลาดของมนุษย์เรา จะอยู่ในโครโมโซม X ซึ่งเป็นโครโมโซมที่ผู้หญิงจะมีสอง ส่วนผู้ชายจะมีแค่โครโมโซมเดียว ทำให้อาจได้ข้อสรุปว่าระดับสติปัญญาจากแม่ จะตกทอดสู่รุ่นลูกได้มากกว่าจากพ่อ ซึ่งงานวิจัยชิ้นล่าสุดของมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ ก็ได้ออกมาช่วยยืนยันแล้วว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องจริง! โดยทีมนักวิจัยได้ทำการสำรวจจากกลุ่มคนอายุ 14 – 22 ปี จำนวน 30,000 คน เป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี 1994 โดยจะมีการทดแบบทดสอบ และการสัมภาษณ์ต่างๆ ระหว่างลูก แม่ และพ่อของผู้เข้าร่วมวิจัย ซึ่งพวกเขาก็ได้คำตอบว่าสติปัญญาของลูกจะได้จากแม่ มากกว่าพ่อเป็นเรื่องจริง แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือ การเข้าไปศึกษาเกี่ยวกับยีนสติปัญญาของหนูทดลอง โดยทีมวิจัยได้ค้นพบว่าหนูที่มียีนตกทอดจากแม่มากกว่า จะมีขนาดสมองที่ใหญ่กว่า แต่ลำตัวจะเล็กกว่า ตรงกันข้ามกับหนูที่มียีนจากพ่อมากกว่า ซึ่งจะมีขนาดสมองที่เล็กกว่า แต่ลำตัวจะใหญ่กว่า และยีนความฉลาดที่ตกทอดจากแม่มาสู่ลูกจะพบได้มากในบริเวณ Cerebral Cortex (เปลือกสมอง) ซึ่งเป็นส่วนที่คอยสั่งการใช้ความคิดเชิงตรรกะ เช่น การเรียนรู้ภาษาหรือการวางแผน และเมื่อเปรียบเทียบกับ ยีนที่ตกทอดมาจากรุ่นพ่อแล้ว นักวิจัยพบว่ายีนชนิดนี้จะพบได้มากในบริเวณระบบลิมบิค (Lymbic System) ซึ่งเป็นส่วนที่ทำงานเกี่ยวกับกลไกการสืบพันธุ์ อาหาร และความโกรธเกรี้ยว จากการค้นพบดังกล่าวทำให้ทฤษฏีที่ว่า…
-
21 ภาพชวนคิดลึก ที่เกิดจากความไร้เดียงสาของเด็กวัยซน เด็กนี่มันเด็กจริงๆ เฮ้อ…
วัยเด็กเป็นวัยที่ไร้เดียงสา ไม่รู้หรอกว่าอะไรควรไม่ควร อะไรที่เห็นว่าสนุกก็เล่นหมดแบบไม่ต้องคิดอะไร มีแต่ผู้ใหญ่มากประสบการณ์อย่างเราๆ นี่แหละ ที่คิดมากจนเกินไปกับการกระทำของเด็กน้อยทั้งหลาย แต่บางทีมันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ เหมือนกับภาพต่อไปนี้ที่การเล่นขำๆ ของเด็กกลายเป็นเรื่องที่แอบทะลึ่ง เอาหน่า เด็กก็คือเด็ก อย่าไปถือสาเลย ปล่อยๆ ไปบ้าง ชีวิตจะได้มีสีสัน 1. เด็กวัยหัดเดิน ขอจับหน่อยทำเป็นตกใจไปได้ 2. ไปจำจากไหนมาลูก 3. มีที่เยอะแยะ ก็เลือกจะจุ๊บตรงนั้นเนาะ 4. เป็นไงสวยมั้ยคะ ทั้งใหญ่และยาว หนูทำเองกับมือเลยนะ 5. ใส่ผิดด้านแล้วหนู 6. แอบเอาถุงยางของพี่ไปเล่น คิดว่ามันเป็นลูกโป่งล่ะสิ 7. เด็กยังไม่หย่านม เข้าใจเค้าหน่อยละกัน 8. ทุกครั้งที่แม่ออกจากห้องน้ำ หนูน้อยก็จะมองก้นแม่ด้วยสายตาแบบนี้ 9. ทำไมไม่ใส่กางเกง นี่แหน่ะ 10. เด็กตั้งใจทำบ้านให้นกเฉยๆ คิดมากไปได้ ‘มาเข้าปากฉันสิ’ อิอิ…
-
พาไปดูบ้านหลังน้อยผู้โดดเดี่ยว ตั้งอยู่บนเกาะ Elliðaey อันห่างไกลในประเทศไอซ์แลนด์…
สำหรับคนที่หลงใหลในธรรมชาติ และชื่นชอบการอยู่อย่างสันโดษ พวกเขามักเลือกที่จะยู่ห่างไกลจากตัวเมือง และความวุ่นวายที่มาคู่กับศิวิไลซ์ และที่เกาะ Elliðaey ในประเทศไอซ์แลนด์ที่ทำให้ชาวโลกต้องอึ้งไปตามๆ กัน เพราะไม่น่าเชื่อว่าบนเกาะที่ดูอ้างว้างแห่งนี้ จะมีบ้านของคนตั้งอยู่ด้วย แล้วมันจะเป็นบ้านของใครกันนะ? บนพื้นที่เกาะขนาด 278 ไร่ แทบจะไม่มีใครเชื่อว่าจะมีคนมาอาศัยอยู่ และไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้วเป็นบ้านของใคร ทำให้ชาวบ้านบางคนก็ให้ข้อสันนิษฐานว่า เป็นพื้นที่ๆ ทางรัฐบาลไอซ์แลนด์ ได้มอบให้กับศิลปินนักร้องสาวชื่อดัง Bjork บางคนก็บอกว่าเป็นภาพตัดต่อ มันคงไม่มีบ้านหลังนี้อยู่จริงๆ หรอก ความจริงก็คือ ย้อนกลับไปเมื่อ 300 ปีก่อน เกาะแห่งนี้เคยมีครอบครัวอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 ครอบครัว พวกเขาหาเลี้ยงชีพด้วยการจับปลา และล่านกพัฟฟิน จนกระทั่งในปี 1930 ครอบครัวที่เคยอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ ก็ได้ย้ายถิ่นทำมาหากินเข้าไปอาศัยอยู่ในเมืองไอซ์แลนด์กันหมด จนไม่มีใครมาอยู่อาศัยแถวนี้อีก ต่อมาในปี 1950 รัฐบาลไอซ์แลนด์ได้ค้นพบว่า บริเวณของเกาะ Elliðaey เป็นบริเวณที่สามารถหาปลาและล่านกพัฟฟินได้ดีที่สุด จึงทำให้มีการจัดตั้งสมาคมล่านกพัฟฟินขึ้น และทางสมาคมก็ได้สร้างบ้านไว้หลังหนึ่งบนเกาะแห่งนี้ เพื่อใช้สำหรับเป็นที่พักชั่วคราวของสมาชิกนั่นเอง ทฤษฏีที่ว่าเป็นบ้านของศิลปินสาว เป็นภาพโฟโต้ช็อป…
-
ครอบครัวน่ารัก… คุณแม่พร้อมลูกชายทั้ง 6 ยอมไว้ผมยาวเป็นปี ตั้งใจบริจาคให้ผู้ป่วยมะเร็ง
การไว้ผมยาวนับเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กผู้หญิง แต่ในหมู่เด็กผู้ชายนั้นเราไม่ค่อยจะได้เห็นกันสักเท่าไร เพราะเป็นผู้ชายก็คงชอบที่จะไว้ผมสั้นเสียมากกว่า แต่สำหรับลูกชายทั้ง 6 คนของ Phoebe Kannisto พวกเขาตัดสินใจไว้ผมยาวเป็นปีๆ โดยมีเป้าหมายที่จะเอาไปบริจาคให้ผู้ป่วยที่ต้องการนั่นเอง คุณแม่และลูกชายทั้ง 6 คน คุณแม่ไม่ได้บังคับให้ลูกๆ ให้ไว้ผมยาว แต่เธอถามความสมัครใจจากพวกเขาก่อนทุกคน โดยคนที่อาสาไว้ผมยาวเป็นคนแรกคือพี่ชายคนโตสุด Andre วัย 10 ขวบ ต่อมาเป็นลูกชายฝาแฝด Silas และ Emerson วัย 8 ขวบ และน้องเล็กสุดซึ่งเป็นแฝดสามวัย 5 ขวบ คือ Herbie, Reed และ Dexter โดยคุณแม่ก็ทำภารกิจนี้เช่นกัน จริงๆ มีลูกสาววัย 2 ขวบอีกคนหนึ่ง แต่เธอมีผมน้อยเกินไปจึงไม่ได้ร่วมทำภารกิจนี้ พวกเขาอดทนไว้ผมนาน 1-5 ปี ด้วยความเป็นเด็กผู้ชาย การผมยาวจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย บางครั้งพวกเขาก็อึดอัดบ้าง รำคาญบ้าง ที่ร้ายกว่านั้นคือ บางคนยังถูกเพื่อนๆ ที่โรงเรียนแกล้งอีกด้วย แต่ทุกคนได้รับกำลังใจจากคุณแม่ และมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะไว้ผมยาวเพื่อเอาไปบริจาคให้เด็กๆ ที่สูญเสียผม…
-
ภรรยาจับได้ว่าสามีแอบซ่อนหนังไว้ใต้โต๊ะ จึงวาดรูปเพื่อตักเตือนให้รู้ไว้ ก่อนจะหักแผ่นทิ้ง!!
ส่วนมากถ้าพูดถึงเรื่องหนังผู้ใหญ่กลุ่มผู้ชมก็คงจะเป็นชายโสดที่ยังมีความกลัดมัน แต่ทว่าบางคนแต่งงานแล้วก็ยังชอบอะไรแบบนี้อยู่ ถ้าเกิดว่าคุณภรรยาไม่ได้ซีเรียสอะไรก็แล้วไป แต่ถ้าหากว่าไม่อยากให้ดูก็ต้องเก็บซ่อนไว้ให้มิดชิด อย่าให้โดนจับได้ล่ะ เพราะอะไรจะเกิดขึ้นตามมาก็ไม่อาจจินตนาการได้ ฮร่าาา อย่างกรณีนี้ที่คุณสามีแอบดูหนังโป๊ และเก็บซ่อนแผ่นเอาไว้ในที่ลับตา แต่คิดหรอว่าภรรยาจะไม่รู้ มาดูกันสิว่าเมื่อเธอเจอแผ่นหนังโป๊ของสามี เธอจะจัดการอย่างไร… เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเรื่องราวของเจ้าของทวิตเตอร์ที่ชื่อ @terajun6966 ซึ่งเจ้าตัวก็แต่งงานแล้ว และได้แยกออกมาอยู่กับภรรยาตามลำพัง แต่ด้วยความเป็นผู้ชายทั่วไป ที่ไม่ถนัดทำงานบ้านถนัดแต่ทำรก ภาระงานบ้านทุกอย่างก็เลยต้องตกเป็นหน้าที่ของคุณภรรยา (ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับบทความ) โดยวันที่เกิดเหตุนั้นก็เหมือนกับทุกครั้ง เขาบอกให้ภรรยาช่วยทำความสะอาดโต๊ะให้หน่อย คุณภรรยาก็น่ารักเข้าไปจัดเก็บข้าวของให้โดยไม่บ่นสักคำ แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะที่โต๊ะของเขาไม่ได้แค่หนังสือหรือฝุ่น แต่สามีแอบซ่อน DVD หนังโป๊เอาไว้ด้วย แล้วจะเกิดอะไรขึ้นนะ?? หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้รับข้อความจากภรรยา เป็นข้อความรูปภาพที่เธอวาดเอง แต่ภาพนี้มันคุ้นๆ เหลือเกิน เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน… แล้วสามีก็อยู่ในอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อเขาได้เห็นกล่อง DVD วางอยู่ข้างๆ โน๊ตรูปวาด ซึ่งเป็นภาพสาวในชุดนักเรียนซะด้วย!! โดยในภาพนั้นมาพร้อมกับใจความว่า.. “เจอไอ้เนี่ยซ่อนอยู่โต๊ะของคุณ เพราะฉะนั้นแล้วฉันก็จะหักแผ่นแล้วก็โยนทิ้งไปซะ!!” แต่ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาโดนจับได้ เพราะในปี 2012 เขาเคยโดนมาก่อนแล้ว แต่ตอนนั้นเป็นแฟลชไดร์ฟที่เขาเซฟภาพโป๊เอาไว้ แล้วเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อแต่ดันลืมเอาออกมา …
-
แมวน้ำน้อยหลงทางมาไกล ร้องหน้าประตูบ้านขอความช่วยเหลือ พาอุ๋งกลับทะเลหน่อย…
ลองนึกภาพในเช้าวันหยุดที่สดใส เมื่อคุณตื่นเช้าพร้อมกับกาแฟแก้วโปรดในบ้านพักตากอากาศริมทะเล และระหว่างที่จะเดินออกจากบ้านเพื่อรับลมเย็นๆ แต่แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น พอเปิดประตูปุ๊บก็เจอแมวน้ำนอนทำตาแป๋วใส่!? แหม ก็เล่ามาซะเหมือนกับการ์ตูนเลยแฮะ แมวน้ำที่ไหนจะมาเคาะประตูบ้านคนได้ มันไม่มีจริงหรอกกกก ผ่างงงงงงง!! เจ้าอุ๋ง แกมาได้ยังไง? แต่… ถ้าไม่เชื่อก็คงต้องเชื่อแล้ว หลังจากที่เจ้าแมวน้ำตัวหนึ่งเกิดหลงทางมาไกลจนน่ากลัว ต้องร้องขอความช่วยเหลือที่หน้าประตูหน้าบ้านของมนุษย์ เพื่อจะได้พามันกลับไปทะเลหน่อย!! เจ้าแมวน้ำตัวน้อยผู้หลงทางทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางทะเลต้องออกแรงช่วยเหลือมันเพื่อนำมันไปยังชายฝั่ง โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ย่าน Redcar, Teesside ในทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ เจ้าหน้าที่กู้ภัยของ RNLI ได้โพสข้อความลงเฟซบุ๊คถึงเหตุการณ์นี้ว่า “ระหว่างที่พวกเรากำลังเตียมเรือชูชีพกันในตอนเช้า หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของเราได้รับการแจ้งว่า มีแมวน้ำนอนอยู่หน้าอพาร์ตเม้น Royal Esplanade” “หลังจากที่ได้รับการแจ้งเรื่องเข้ามา พวกเรารีบไปยังเจ้าแมวน้ำตัวนั้นทันทีและหาทางที่จะพามันไปสู่ชายฝั่ง ซึ่งในตอนแรกพวกเราไม่รู้ว่าจะช่วยมันอย่างไรดี แต่ว่ามีผู้รักษาการชายฝั่งได้เสนอวิธีใช้กรงสุนัข เขารีบไปยังร้านสัตวเลี้ยงในละแวกนั้นและนำกรงมาให้กับพวกเรา เพื่อทำการขนย้ายแมวน้ำตัวน้อย” หนึ่งในเจ้าหน้าที่บอกกับผู้สื่อข่าว เมื่อเจ้าตัวเล็กได้สัมผัสน้ำทะเลริมชายฝั่ง มันก็ค่อยๆ เคลื่อนไหวออกจากกรงอย่างช้าๆ และกระดึ๊บๆ กลับลงสู่ท้องทะเลได้อย่างปลอดภัย เราไปชมวินาทีที่เจ้าแมวน้ำดีใจสุดๆ ที่ได้กลับบ้านของมันอีกครั้ง ในคลิปวีดีโอด้านล่างนี้ได้เลย ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัดว่าทำไมแมวน้ำถึงขึ้นมายังฝั่งแบบนี้ และเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น ย้อนกลับไปในปี 2013…
-
พบกับ ‘Suhyup’ เจ้าเหมียวเฝ้าแผงปลาจากเกาหลี ประจำที่ตัวเองตลอด ไม่มีบกพร่อง!!
แมวเนี่ยอย่าให้มันไปอยู่ใกล้ปลาเชียวนะ ไม่งั้นคุณอาจจะไม่เหลือปลาเลยสักตัว เพราะเสร็จเจ้าแมวขี้ขโมยเหล่านี้แน่นอน แต่ดูเหมือนทฤษฎีนี้จะใช้ไม่ได้กับแมวตัวนี้ซะแล้วล่ะ… เพราะเจ้าเหมียว Suhyup จากเกาหลีใต้ตัวนี้ ที่นอกจากจะไม่กินปลาแล้ว มันยังทำหน้าที่เฝ้าแผงขายปลาในตลาดสดให้เจ้าของอีกด้วย!! เจ้าของเล่าให้ฟังว่า “มันไม่เคยแตะต้องปลาของฉันเลยค่ะ ต่อให้มีคนยื่นปลาให้ มันก็ไม่ยอมกิน มันเป็นแมวที่มีความอดทนสูงมากเลยค่ะ” นอกจากนี้มันจะไม่ยอมกินอาหารจากคนแปลกหน้าเลย มันจะยอมกินจากมือเจ้าของเท่านั้น และในทุกๆ ครั้งมันก็จะนั่งอยู่ที่เก้าอี้พลาสติกประจำตำแหน่ง เพื่อคอยปกป้องแผงปลาสดให้กับเจ้าของ และถ้าเมื่อไหร่ที่มีใครเอาตัวมันออกไปจากร้านขายปลา มันจะรีบวิ่งกลับไปทันทีที่มีโอากาส เพราะอยากจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ที่เจ๋งกว่านั้นคือมันไม่ใช่แมวขี้เซาเหมือนแมวทั่วไปด้วย มันจะตื่นตัวอยู่เสมอ หากใครที่คิดจะขโมยปลา อย่าหวังเลยว่าจะพ้นสายตาของ Suhyup ไปได้!! ณ จุดๆ นี้คงไม่มีใครทำงานหนักและดีกว่าเจ้าเหมียวตัวนี้อีกแล้ว และถ้าคุณเห็นมันวิ่งไปยังที่แคบๆ ก็อย่าแปลกใจล่ะ เพราะโจรผู้ร้ายที่น่ากลัวของแม่ค้าในตลาดสดก็คือ ‘หนู’ นั่นเอง ซึ่งสำหรับเจ้าเหมียว Suhyup ก็ไม่พลาดที่จะจับจอมโจรหนู หากจับไม่ได้มันจะไม่ยอมกลับไปเด็ดขาด ดังนั้นตั้งแต่ Suhyup มาเฝ้าร้าน ก็แทบจะไม่เห็นหนูมาวิ่งเพ่นพ่านผ่านแผงปลาอีกเลย แต่ในบางครั้งก็แมวตัวอื่นที่หวังจะมาขโมยปลาเช่นกัน มันก็จะวิ่งไล่จนแมวตัวนั้นไม่กล้ามาแหยมกับแผงปลาอีกเลย ให้มันรู้ซะบ้างว่าที่นี่ใครคือขาใหญ่ตัวจริง!! เลี้ยงแมวทั้งทีมันต้องสอนให้ได้แบบนี้ ทำงานดียิ่งกว่าหมาซะอีก…
-
พี่ชายผู้เป็นโรคซึมเศร้า แต่งเป็นเจ้าชายโฉมงาม เพื่อเซอร์ไพรส์น้องสาวในวันเกิด
การที่ต้องมีพี่น้องอายุห่างกันมากๆ บางทีมันอาจจะให้เกิดระยะห่างระหว่างความเป็นพี่น้องได้ จนทำให้คุณไม่มีความสนิทกัน แต่ทว่าบางครั้งมันก็ไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป เพราะสำหรับบางคนแล้วต่อให้อายุห่างกันมาแค่ไหน พวกเขาก็มีความสนิทสนมกันมากและดูแลกันอย่างดี เหมือนดั่งหนุ่มน้อย Anthony วัย 13 ปีคนนี้ Anthony ประสบกับโรคซึมเศร้า ดังนั้นการที่จะเห็นเขามีความสุขถือเป็นที่เรื่องยากมากๆ เว้นเสียแต่เวลาที่เขาได้อยู่กับ Anabel น้องสาววัย 5 ขวบของเขา เด็กหญิงเป็นคนช่างพูด มีนิสัยร่างเริง ดังนั้นไม่ว่าจะไปที่ไหนเธอก็จะมีเพื่อนอยู่เสมอ แต่เพื่อนที่เด็กหญิงสนิทด้วยมากที่สุดก็คือ Anthony พี่ชายของเธอเอง พวกเขามีพี่น้องทั้งหมด 7 คน แต่มีแค่ Anthony และ Anabel ที่สนิทกันมากที่สุด แม้อายุจะห่างกันมากก็ตาม พี่ชายมักจะดูหนังกับเธอ สอนเธอเล่นสเก็ตบอร์ด และเป็นคนที่คอยอุ้มเธอไปนอนบนเตียง นอกจากนี้ทั้งคู่จะมีกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่รู้กันอยู่สองคน อย่างเช่นก่อนนอน พี่ชายจะทำพิธีปัดฝันร้ายให้น้องสาว ด้วยการวางเกลือที่สมมติว่ามันเป็นเกลือวิเศษไว้บนหัวเตียง เพื่อให้น้องสาวรู้สึกอุ่นใจและนอนหลับฝันดีตลอดคืน เมื่อถึงช่วงวันคล้ายวันเกิดของน้องสาว Anabel คุณแม่จึงอยากจะถ่ายรูปเธอในชุดเจ้าสาวดิสนีย์ โดยคุณแม่ได้เลือกซื้อชุดจากร้านค้าออนไลน์ แต่ Anthony ดันมาเห็นเข้าซะก่อน เขาจึงขอให้แม่หาชุดเจ้าชายให้เขาด้วย ตอนแรกคุณแม่ก็แปลกใจว่าทำไมลูกถึงอยากใส่ชุดเจ้าชาย จนตอนนี้ก็ได้คำตอบแล้วว่า เขาจะใส่ชุดเจ้าชายเพื่อถ่ายรูปคู่กับ Anabel…
-
เพื่อนบ้านใจร้าย!! สัญญาจะดูแลหมาให้คุณยาย สุดท้ายเอาไปปล่อยทิ้งอย่างน่าสงสาร
สำหรับนิยามของคำว่าเพื่อนบ้าน อาจจะเป็นพวกที่รู้หน้าไม่รู้ใจก็เป็นได้ ต่อหน้าพูดอีกอย่าง พอลับหลังก็พูดอีกอย่าง ดังนั้นต่อให้รู้จักกันมานานก็ไม่อาจไว้ใจได้ง่ายๆ เหมือนเรื่องของคุณยาย Yvonne Radcliffe วัย 76 ปีคนนี้ เธอเลี้ยงสุนัขแสนรักชื่อ Tessa วันหนึ่งเมื่อคุณยายต้องย้ายไปอยู่แคนาดา เธอจึงตัดสินใจให้เพื่อนบ้านพามันไปเลี้ยงดูต่อ เนื่องจากว่าคุณยายไม่สามารถพา Tessa ไปด้วยได้ เพราะมันมีอายุมากแล้ว คุณยายเกรงว่าการนั่งเครื่องบินนานๆ จะเป็นอันตรายกับมัน… ดังนั้นคุณยายจึงขอให้เพื่อนบ้านที่รู้จักมานานกว่า 9 ปีให้ช่วยรับเจ้า Tessa ไปดูแลต่อ ตอนนั้นเพื่อนบ้านทำท่าตื่นเต้นมาก และบอกกับคุณยายว่า “ยินดีมากเลยที่จะให้มันมาอยู่ด้วย เพราะผมก็ชอบสุนัขมากๆ เราจะเลี้ยงดูมันอย่างดีครับ” และเมื่อได้ยินแบบนั้นคุณยายก็หายห่วง บินไปแคนาดาด้วยความโล่งใจ… แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้น ก็มีคนไปพบเจ้า Tessa ถูกทิ้งอยู่ในทุ่งหญ้าแห่งหนึ่ง พร้อมกับโน๊ตข้อความยาวเหยียดที่ถูกเขียนไว้โดยเพื่อนบ้านคนเดิมที่คุณยายไว้ใจด้วยใจความประมาณว่า “เจ้าหมาตัวนี้ไม่ใช่ของผม แต่เป็นเพื่อนบ้านที่ฝากให้เลี้ยงแทน เพราะจะย้ายไปอยู่แคนาดา ผมตอบตกลงไป แต่ผมรู้ว่าผมได้อยากเลี้ยงมัน เจ้า Tessa ชอบชากาแฟและนม อาหารมื้อแรกของมันจะเริ่มที่เวลา 11.30 น. แต่ตอนนี้เพื่อนบ้านของผมย้ายไปแคนาดาแล้ว และกำลังคิดว่า Tessa อยู่ในการดูแลเป็นอย่างดี…
-
ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า… ชายหนุ่มจ่อฟ้องหย่าภรรยา เนื่องจากว่าเธอไม่มีอวัยวะเพศ!?
ใช่ว่าคู่รักทุกคู่จะสามารถประคับประคองความรักไปได้ตลอดรอดฝั่ง หลายคู่ต้องเลิกรากันไปด้วยร้อยแปดเหตุผล และในบรรดาเหตุผลเหล่านั้นก็อาจทำให้คุณถึงกับเหวอได้เหมือนกัน… นี่เป็นเรื่องราวของคู่สามีภรรยาอย่าง Alejandro และ Tania ที่ไปออกรายการทีวี Caso Cerrado (ศาลคู่รัก) โดยที่ฝ่ายชายกำลังจะหย่ากับภรรยาของเขาเนื่องจากเธอไม่มีช่องคลอดและไม่สามารถทำหน้าที่ภรรยาได้อย่างสมบูรณ์ดั่งที่เขาหวังไว้ นาย Alejandro เล่าผ่านรายการทีวีว่าเขาและแฟนสาวเดทกันมาประมาณ 1 ปี ซึ่งในระหว่างนั้นเขาและเธอไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กันเลย เนื่องจาก Tania ได้บอกว่าอยากจะเก็บสิ่งนั้นไว้ในตอนที่พวกเขาแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว แต่แล้ววันหนึ่งความจริงก็ปรากฏเมื่อนาย Alejandro พบว่าภรรยาสาวของเขาไม่มีอวัยวะเพศ นั่นถึงกับทำให้เขาตกใจและรู้สึกรับไม่ได้ที่เธอปิดบังเรื่องนี้กับเขามาโดยตลอด จึงพยายามจะขอหย่ากับเธอผ่านทางรายการ ที่ผ่านมา Tania รับรู้ถึงปัญหาข้อนี้ของตัวเองดีจึงติดต่อหมอศัลยแพทย์เพื่อผ่าตัดอวัยวะเพศให้กับเธอ แต่ถึงจะได้รับการผ่าตัดแล้วเธอก็ไม่เกิดความรู้สึกใดๆ บริเวณนั้นเมื่อมีเพศสัมพันธ์เลย เธอยอมรับว่าหลังจากที่เธอผ่านการผ่าตัดเธอก็ฝันที่จะได้ทำหน้าที่ภรรยาอย่างสมบูรณ์เพราะเธอรู้ว่ามันคือหน้าที่ของภรรยาที่ดี แต่เธอกลับล้มเหลวแม้จะผ่าตัดแล้วมันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา อาการที่ Tania เจออยู่นี้มีชื่อเรียกว่า Rokitansky Syndrome ทำให้ช่องคลอดและมดลูกไม่สามารถพัฒนาได้ตามปกติ บางรายอาจจะมีช่องคลอดที่เล็กมาก และในบางรายก็ไม่มีอวัยวะเหล่านี้ตั้งแต่เกิดเลย นั่นจึงทำให้ผู้หญิงที่มีอาการแบบนี้ไม่มีประจำเดือนและไม่สามารถตั้งท้องได้ หลังจากที่ทั้ง Alejandro และ Tania โต้เถียงกันผ่านในรายการ สุดท้ายพิธีกรก็ตัดสินให้ทั้งคู่หย่าขาดจากกันท่ามกลางความสะเทือนใจของผู้ชม ที่มา thesun , ladbible
-
หนุ่มกลับบ้านเจอแฟนสาวนอนกับชู้ แต่ใจนิ่งมาก ถ่ายเซลฟี่เก็บไว้ให้รู้ว่าตรูเหนือกว่า!!
เรียกได้ว่านี่อาจจะเป็นตัวอย่างของการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่มีใครอยากเจอมากที่สุด เมื่อกลับบ้านมาต้องพบว่าแฟนสาวตัวเอง เอาผู้ชายที่ไหนไม่รู้มานอนด้วย!? ถ้าคนทั่วไปอาจจะรู้สึกโมโหเป็นฟืนเป็นไฟจนถึงขั้นวางมวย หรือไม่ก็ต้องมีเลือดตกยางออกกันแน่ๆ แต่พ่อหนุ่มคนนี้มาเหนือชั้นกว่า เขาไม่ทำอะไรให้กระโตกกระตาก แค่ถ่ายเซลฟี่ลงเฟซฯ ก็พอแล้ว นี่คือภาพที่เจ้าตัวต้องกลับมาเจอกลางดึก ทั้งคู่หลับสนิทด้วยสภาพที่เมาหนัก จนแทบไม่รู้เรื่องอะไรเลย ‘เมื่อคุณกลับบ้านมาเจอผู้ชายคนอื่นอยู่บนเตียงของคุณ กับคนที่คุณรัก… ผู้ชายที่ดีสมควรจะคู่กับผู้หญิงที่ดีว่ะ!!’ แคปชั่นจากหน้าเฟซฯ ของเจ้าตัว จากนั้นพ่อหนุ่มก็ถ่ายเซลฟี่เป็นที่ระทึกเก็บไว้ซะเลย หลังจากที่เจ้าตัวโพสต์รูปภาพดังกล่าว ก็มีชาวเน็ตส่งข้อความมาให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม จนเจ้าตัวต้องออกมาโพสต์ขอบคุณทุกกำลังใจด้วยตนเอง ‘ผมได้รับข้อความให้กำลังใจนับพันจากคนทั่วโลก พวกเขาต่างแสดงความยินดีที่ผมเลือกที่จะเดินออกมา ยอมรับว่าตอนแรกผมรู้สึกอกหักเสียใจเอามากๆ แต่ด้วยกำลังใจจากทุกคนมันช่วยได้มากจริงๆ บางทีโลกก็ไม่ได้แย่อย่างที่เราคิด มันไม่จำเป็นที่เราจะต้องไปทะเลาะกับใครด้วยเรื่องพวกนี้ สิ่งที่ดีที่สุดก็คือการที่มีคนชื่นชมทุกอย่างเกี่ยวกับคุณ’ ข้อความจากแคปชั่น และล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาโพสต์ให้ทุกคนรู้ว่า ‘ผู้ชายคนนี้ยังยิ้มได้อยู่นะ…’ ไม่เสียใจเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ก็อย่างที่พี่เค้าบอก ‘คนดีสมควรที่จะคู่กับคนดี’ นั่นแหละนะ ที่มา: Cheezburger
-
สตาร์บัคจีนมีโปรฯ ลดราคาให้ลูกค้าที่นำแก้วมาเอง หนุ่มจีนจัดกะละมังไปแม่มเลย!!
ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ร้านกาแฟชื่อดังอย่างสตาร์บัคเพิ่งออกโปรโมชั่นลดราคาให้กับลูกค้าที่นำแก้วมาใส่กาแฟเอง สำหรับคอกาแฟทั่วไปอย่างเราคงคิดว่า อืม..ก็ดีแล้วแหละ แต่สำหรับนักเขียนหนุ่มชาวจีน Zha Bao พี่แกขอใช้โอกาสนี้ในการลองของกับร้านกาแฟเฟรนไชส์ทั่วโลกซะเลย ในประกาศชี้แจงว่า ทางร้านพร้อมจะมอบส่วนลดมูลค่า 3 หยวน (15 บาท) ให้กับลูกค้าที่นำภาชนะมาใส่กาแฟเอง งานนี้พ่อหนุ่มนักเขียนจีน ก็เลยขอลองของกับพนักงานสตาร์บัคดูซะหน่อย ซึ่งเริ่มแรกเจ้าตัวเอาภาชนะเล็กๆ ดูปกติไปให้พนักงาน ก่อนที่จะเริ่มขยายเป็นภาชนะที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ รอบแรกเจ้าตัวเอากาน้ำชาขนาดจิ๋วมา สังเกตสายตาพนักงานยังเฉยๆ อยู่ ด้วยความที่กาน้ำขนาดเล็กเกินไป พนักงานเลยแถมแก้วมาให้ด้วย (แอบใจดีนะเนี่ย) คราวนี้พ่อหนุ่มก็มารอบสอง เอาขวดพลาสติกจากร้านสะดวกซื้อให้พนักงานดูบ้าง ถ่ะ..แด๊มม! อันนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ดูปกติไม่มีอะไร คราวนี้พี่แกเริ่มเพิ่มขนาด มาเป็นหม้อตุ๋นยาจีนเลย เจ้าตัวสั่งมัทฉะแฟรบปูชิโน่ โดนคิดราคาไปทั้งหมด 102 หยวน (500 บาท) พนักงานก็จัดให้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย มีวิปครีมมาให้ด้วย คราวนี้พี่แกแอดว๊านซ์ขึ้นไปอีก เอากะละมังมาเลยจ้าา.. …
-
อธิบดีจากหน่วย MI5 เผยขั้นตอนการเป็นสายลับอังกฤษ ถ้ามีความสามารถมากพอก็เป็นได้
หลายๆ คนที่ชื่นชอบหนังสายลับไม่ว่าจะเป็น Jason Bourne, James bond หรือองค์กรอย่าง Kingsman คงจะคุ้นเคยกับบทบาทของสายลับกันเป็นอย่างดีทั้งลีลาการเอาตัวรอด การต่อสู้ และไหวพริบของพวกเขา และในตอนเด็กๆ พวกเราก็คงจะต้องแอบหวังอยากจะเป็นสายลับกันบ้างใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆ และตอนนี้ความฝันของพวกเรากำลังจะเป็นจริงแล้ว เพราะใครๆ ก็สามารถเป็นสายลับได้!! แต่… แต่ว่าต้องผ่านเงื่อนไขกันนิดนึงนะ อ่า และเราก็ได้นำเงื่อนไขในการเป็นสายลับ จากผู้ที่อยู่ในวงการสายลับตัวจริงอย่างหน่วย MI5 มาฝากกัน คุณ Andrew Parker อธิบดีจากหน่วย MI5 (Military Intelligence, Section 5) ได้เปิดเผยถึงวิธีการที่จะเป็นสายลับของประเทศอังกฤษ โดยเขาได้บอกว่า “เพื่อเป็นการรักษาความลับสูงสุดของประเทศเรา ดังนั้นสายลับของหน่วย MI5 จะต้องเป็นคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้และเป็นผู้ที่มีความสามารถสูง เราต้องการทำงานกับผู้ที่มีศักยภาพที่แท้จริง” และสิ่งที่สำคัญที่สุดของสายลับอังกฤษควรมี นั่นก็คือการเก็บความลับในระดับสุดยอด คุณไม่สามารถเปิดเผยเรื่องนี้กับคนอื่นๆ นอกจากคนที่ไว้ใจได้เท่านั้น คุณอาจจะบอกกับภรรยาว่าคุณเป็นสายลับได้แต่ต้องมั่นใจจริงๆ ว่าเธอก็ไม่ใช่สายลับของฝั่งตรงข้ามเช่นกัน การที่จะสมัครเข้ามาเป็นสายลับ MI5 นั้นคุณอาจจะไม่ต้องจบปริญญา หรือเป็นชาวอังกฤษแต่อย่างใด โดยคุณ Andrew Parker บอกว่า “สายลับคือหน่วยข่าวกรองลับที่เป็นมนุษย์ โดยพวกเขาจะเป็นคนที่สืบหาความลับสุดยอดจากแหล่งต่างๆ ซึ่งการสมัครนั้นไม่มีขั้นตอนที่แน่ชัด…
-
ปาเงินใส่จอ!! เคสซิลิโคน “บั้นท้ายสัตว์” มีทั้งหมา หมี แมว ม้า โอ้ยยย ขอเหมาให้หมดเลย
“เคสโทรศัพท์” หนึ่งในไอเทมยอดฮิตสำหรับคนยุคนี้ที่นิยมใช้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ซึ่งสามารถใช้เป็นตัวบ่งบอกถึงรสนิยมความชอบหรือแฟชั่นของตัวเองได้ดีพอสมควรเลยล่ะ แล้วถ้าใครที่กำลังซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ แต่ไม่รู้ว่าจะซื้อเคสแบบไหนดีนะ #เหมียวมู่ทู่ ก็เลยมีตัวเลือกน่าสนใจมานำเสนอ เป็นเคสน่ารักๆ ที่แปลกนิดๆ แต่รับรองว่าถูกใจคนรักสัตว์อย่างแน่นอนเพราะเคสที่ว่าก็คือเคสซิลิโคน “บั้นท้ายสัตว์” ที่ทำขายโดย Miko Ho ศิลปินชาวจีน แถมวัสดุที่ใช้ก็เป็นขนแกะ 100% ที่สำคัญเป็นงานทำมือทั้งหมดเลยนะ ถ้าคิดภาพตามไม่ออกว่ามันจะเป็นยังไง ลองดูภาพตัวอย่างกันก่อนดีกว่า… มีหลากหลายแบบและหลายสีเลยนะ แถมมีหางด้วย หรือถ้าใครไม่ชอบแบบมีหาง แพนด้าก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว ที่สำคัญยังมีให้เลือกหลายรุ่นหลายขนาด ตัวนี้เป็นการเอาลายแมวกับสีเคสมาทำให้ดูเข้ากัน ก็น่าใช้งานไปอีกแบบ แต่ถ้าใครชอบสีหวานๆ กับสายรุ่งอันนี้ก็น่าสนใจนะ แต่ถ้าคนชอบคอร์กี้ ก็ต้องอันนี้เลย ที่สำคัญตัวเคสยังมีหลายแบบ หลายพื้นผิว ตัวพื้นผิวและตูดสัตว์เป็นสินค้าแฮนด์เมด ด้วยการใช้ไอเดียอันสุดบรรเจิด จนเกิดเป็นก้นคอร์กี้น่ารักๆ ไม่ใช่หมาแมวเท่านั้น แม้แต่ก้นหมูน่ารักๆ ก็มีให้สั่งทำนะ หรือจะเป็นลิงก้นแดงๆ ก็น่ารักไปอีกแบบ ม้าลายก็เท่ไม่หยอกเลยล่ะ แต่สำหรับคนขี้รำคาญเคสใหญ่ๆ…
-
ทุกอย่างพร้อมยกเว้นกล้อง เพราะแบตหมดยังไม่ทันเริ่ม ช่างภาพก็งัดโทรศัพท์มาถ่ายแทน!!
เป็นเรื่องราวที่เราจะทำให้ทุกคนได้เห็นว่า การถ่ายภาพเนี่ยบางทีเราก็ไม่จำเป็นต้องใช้กล้องราคาหลายหมื่น หรือต้องมีออพชั่นเสริมจนหมดเงินเป็นแสน เราก็สามารถถ่ายภาพสวยๆ ได้ ถ้าเรามีการฝึกฝนที่ดีมาก่อน Aaron Browning ช่างภาพจากซิดนีย์ได้มีแผนที่จะถ่ายนางแบบเพื่อนสนิท ทว่ากล้องกับแบตฯ หมดตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม เขาจึงใช้ไอโฟนถ่ายแทน และนี่คือบทพิสูจน์ให้เห็นว่าถ้าฝีมือดี อะไรๆ มันก็ออกมาดูดีไปหมด จะเชื่อไหมล่ะ? ถ้าบอกว่าภาพที่เห็นนี้ถูกถ่ายโดยกล้องจากไอโฟน 6 ทั้งหมด ด้วยความที่ทุกอย่างพร้อมแล้ว แต่กล้องกับแบตฯ หมด เขาเลยจำเป็นต้องหาทางแก้ไขให้งานออกมาดีที่สุด เขาเลือกใช้แอพฯ Camera+ บนระบบปฏิบัติการ iOS 10 ภาพที่เขาลองสังเกตความแตกต่างของแสงจากธรรมชาติ ที่มีผลต่อภาพจากกล้องของไอโฟน Jasmine Scose-Chen (นางแบบ) ก็ยังไม่เชื่อว่าแม้แต่ไอโฟน จะสามารถถ่ายภาพแฟชั่นให้ออกมาดูน่าสนใจแบบนี้ได้ ‘ว่ากันตามตรงเลย ผมต้องอะแด๊ปความรู้ทุกอย่างมาใช้กับกล้องไอโฟน ซึ่งมันก็ท้าทายดีนะ’ ช่างภาพเล่า เขายังเล่าเสริมอีกว่า ด้วยความที่กล้องในไอโฟนมีข้อจำกัดเยอะเหลือเกิน ทำให้มันกลายเป็นความท้าทายใหม่ๆ ที่เขาได้สัมผัส แหม่.. ถ้าเรามีสกิลการหามุมถ่ายภาพแบบนี้บ้าง เราคงถ่ายภาพแฟชั่นกันได้ทุกวันไม่มีเบื่อเลย เป็นอีกข้อพิสูจน์ให้เห็นว่า สิ่งที่สำคัญมากกว่าอุปกรณ์ราคาแพง…
-
ผู้เชี่ยวชาญการทหารสหรัฐฯ ตั้งข้อสังเกตอาวุธที่เกาหลีเหนือนำมาโชว์ ว่าเป็นของปลอม!?
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ที่เกาหลีเหนือได้มีจัดงานเดินขบวนเพื่อเฉลิมฉลองในวันครบรอบคล้ายวันเกิด 105 ปีของอดีตท่านผู้นำคิม อิล ซุง (รุ่นตา) ภายในงานกองทัพเกาหลีเหนือก็ได้ขนอาวุธยุทโธปกรณ์ ออกมาให้ชาวโลกได้ยลโฉมกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปืนใหญ่ หรือแม้แต่จรวดมิสไซล์ ทว่าล่าสุด Michael Pregent ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธสงครามจากสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาชี้แจงว่าอาวุธทั้งหมดที่เห็นในภาพ ส่วนใหญ่เป็นของปลอม!? ภาพของทหารถือปืน AK-47 และที่ยิงระเบิด ซึ่งจริงๆ แล้วผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า มันเป็นแมกกาซีนสำหรับใส่ลูกกระสุนปืน ภาพของทหารถือปืนอาร์พีจี ซึ่ง Michael ให้การว่าน่าจะเป็นของปลอม เพราะหัวจรวดของจริงจะมีน้ำหนักมาก และท่านผู้นำก็คงไม่อยากให้มีใครยิงจรวดใส่ จากภาพนี้เขามองว่าเป็นการถือปืนไรเฟิลที่น่าขันมากที่สุด เพราะวัสดุที่ใช้ห่อหุ้มปลายปืนเป็นพลาสติก สังเกตว่าซ้ายมือท่านผู้นำ จะมีปืน AK-47 กระบอกสีเงินอยู่ ซึ่งเขาก็ให้ความเห็นว่ามันน่าจะถูกเอามาทาสีซะมากกว่าที่จะเป็นเงินจริงๆ เช่นเดียวกับแว่นตาของทหาร เขาให้ความเห็นว่านี่เป็นแว่นตาธรรมดาที่ไม่เหมาะสมจะเอามาใช้ทางการทหาร เพราะตามหลักที่ถูกต้องควรจะเป็นแว่นที่สามารถยึดกับศรีษะได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับปืนของทหารชุดนี้ เขากล่าวว่ามันดูเหมือนของเล่นปลอมๆ ซะมากกว่า โดยดูจากวัสดุที่ใช้ Michael เชื่อว่าทั้งหมดนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างภาพให้แก่ประเทศของตัวเอง ให้ดูน่าเกรงขาม…
-
ผัวหัวไหม้ที่เมียเปลี่ยนนามสกุล เพียงเพื่อขึ้นเงินเดือน เลยจ้างรถเทปูนอัดเข้าไปในรถเมีย!?
เมื่อช่วงสัปดาห์ถึงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวหนึ่งที่โด่งดังมากในประเทศรัสเซีย เป็นกรณีของสามีชาวรัสเซียรายหนึ่งที่โมโหภรรยาจนถึงขั้นเทปูนใส่รถภรรยาหน้าตาเฉย!? แถมเขายังดูจะซะใจสุดๆ เลยล่ะ เรื่องนี้เกิดขึ้นที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย โดยทุกอย่างเริ่มต้นที่ชายเจ้าของคลิปได้จ้างรถปูนซีเมนต์มาเทปูนให้เต็มรถของภรรยา พร้อมกับอธิบายสาเหตุของการกระทำครั้งนี้ว่าที่ผ่านมาเขากับภรรยาไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่ และยังทะเลาะกันบ่อยๆ ด้วย จนล่าสุดภรรยาของเขาเปลี่ยนนามสกุลจากที่ตอนแรกทั้งคู่ใช้นามสกุลเดียวกัน กลายเป็นชื่อของซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เธอทำงานอยู่แทน เพื่อให้ตัวเองได้รับการเลื่อนขั้นตามนโยบายของซุปเปอร์มาร์เก็ต นโยบายที่ว่าก็คือ ทางซุปเปอร์มาเก็ตจะจ่ายเงินให้กับลูกจ้างที่เปลี่ยนนามสกุลเป็นชื่อของซุปเปอร์มาเก็ต เป็นเงิน 875 เหรียญ (ราวๆ 3 หมื่นบาท) ที่สำคัญต่อเดือนด้วยนะ!! นอกจากนั้นเธอยังบอกอีกว่า จริงๆ แล้วเธอก็ไม่ได้ซื่อสัตย์กับสามีอยู่แล้วด้วย การทำแบบนี้จึงเป็นเรื่องง่ายมากๆ ที่จะตัดสินใจ ด้วยเหตุนี้สามีที่รู้เรื่องเบื้องหลังทั้งหมดพร้อมกับหัวที่ลุกเป็นไฟ จึงจัดการล้างแค้นด้วยวิธีที่กล่าวไปข้างต้นนั่นเอง ว่าแต่ชาวเน็ตจะตอบรับกับเรื่องนี้ยังไงลองมาดูกันดีกว่า จริงๆ เขาควรจะฝากรอยมือ พร้อมข้อความไว้หน่อยนะ ปูนที่เทลงไปยังมีมูลค่ามากกว่ารถเสียอีก นี่แหละที่เขาเรียกว่าความสัมพันธ์แน่นแฟ้นเป็นคอนกรีต สุดท้ายเราก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ว่าชายคนนี้จะโดนข้อหาอะไรไหม แต่ถ้าโดนจริงๆ คนขับรถปูนน่าจะซวยไปด้วยแน่ๆ เลยล่ะงานนี้ ที่มา dailymail
-
โคนันฉลองยอดขายครบ 200 ล้านเล่ม เปิดโอกาสให้คุณ ออกแบบตัวละครด้วยตัวเอง!!
คงจะถูกใจแฟนๆ การ์ตูนเจ้าหนูยอดนักสืบโคนันแน่นอน เมื่อทางต้นสังกัดได้ทำเว็บไซต์เพื่อฉลองยอดขายการ์ตูนครบ 200 ล้านเล่ม!! ซึ่งภายในเว็บไซต์มีกิจกรรมสนุกๆ ให้แฟนๆ ได้ร่วมเล่นกัน นั่นก็คือการสร้างตัวละครโดยใช้ลายเส้นของอาจารย์ โอยาม่า โกโช งานนี้คงจะถูกใจเหล่าสาวกนักสืบจิ๋วแน่นอน!! ข้อความฉลองครบ 200 ล้านเล่มหน้าเว็บไซต์ หลังจากที่เข้ามาในเว็บไซต์ conan-face-maker แล้วเราก็จะเห็นหน้าเว็บเป็นข้อความฉลองยอดขายหนังสือการ์ตูน เลื่อนลงมาด้านล่างจะพบกับแถบสีแดงดังภาพข้างล่าง จากนั้นกดเข้าไปเลย!! กดที่แถบข้อความอันนี้ แล้วเตรียมตัวสนุกกันได้เลย!! หลังจากที่กดเข้ามาแล้ว ทีนี้เราจะพบกับหน้าจอสำหรับการสร้างคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนในแบบของเราโดยจะเริ่มจากการเลือกหน้าตา ที่มีให้เลือกทั้งชายและหญิงกว่า 127 แบบ ซึ่งในส่วนนี้จะมีหน้าที่ถูกล๊อคไว้ 4 แบบนั่นก็คือ เงาดำ, จอมโจรคิด, ไยบะและอาจารย์โอยาม่า โกโช อ่า.. แบบนี้หลายคนที่ชื่นชอบจอมโจรคิดคงจะเสียใจใช่ไหมล่ะ แต่ไม่ต้องห่วงทางเว็บไซต์ mangozero ได้รวบรวมโค๊ดปลดล๊อคเอาไว้ให้แล้วดังต่อไปนี้ 1. เงาดำ: BLACK (ตัวใหญ่หมดนะ) 2. จอมโจรคิด: 1412 3. ไยบะ: なまこおとこ 4. อาจารย์ โอยาม่า โกโช: とっとり หน้าจอเมื่อกดเข้ามาตอนแรก…
-
เจ้าเหมียวผู้กลัวทุกอย่างในชีวิต โผกอดทาสมนุษย์ หลังได้พบความรักครั้งใหม่…
อีกหนึ่งเรื่องเล่าจากทางบ้านโดยคุณเหมียว Symphony ซึ่งเธอจะมาเล่าถึงเหตุการณ์ในชีวิต ที่ทำให้เธอรู้สึกกลับมาตกหลุมรักทาสมนุษย์ได้อีกครั้ง ย้อนกลับไปเมื่อช่วงมกราคม ปี 2016 คุณเหมียว Symphony ได้รับการช่วยเหลือมาจากเจ้าหน้าที่ หลังจากที่เธอถูกปล่อยทิ้งไว้ในบ้านร้าง พร้อมกับเพื่อนร่วมชะตากรรมอีก 46 ชีวิต และนี่คือคุณเหมียว Symphony (ซิมโฟนี) โดยเธอได้เล่าว่า จากประสบการณ์อันเลวร้ายที่เธอถูกทาสมนุษย์หักหลังในอดีต ทำให้เธอกลายเป็นโรควิตกกังวล และรู้สึกกลัวการเข้าสังคมเป็นที่สุด ถึงแม้ว่าเธอจะได้ย้ายมาอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงร่วมกับเพื่อนร่วมชะตากรรมตัวอื่นๆ แต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย เธอไม่กล้าที่จะสุงสิงกับใคร หรือออกไปเล่นกับใครเลย ทางด้านเจ้าหน้าที่ก็ได้ช่วยเหลือเธอเต็มที่ พวกเขาส่งตัวเธอเข้าสู่โปรแกรมการฟื้นฟูสภาพจิตใจแมวเหมียว ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่สุดท้ายเธอก็ยังรู้สึกแปลกแยกจากสังคมอยู่ดี ช่วงนั้นไม่ว่าจะไปไหน มาไหน หรือทำอะไร เธอก็มักจะไม่กล้าเผชิญหน้าตรงๆ และแอบหลบซ่อนตัวเองอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีคู่สามีภรรยาเดินทางมายังศูนย์พักพิงสัตว์ เพื่อตามหาแมวเหมียวไปเลี้ยงดูอุปการะอย่างดี ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า… นี่คือจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ในชีวิตของคุณซิมโฟนี ‘ตอนนั้นเป็นวันจันทร์ ที่ 19 ธันวาคม อีกไม่กี่อาทิตย์ก่อนวันคริสต์มาส ทันทีที่ผู้ชายคนนั้นเห็นคุณซิมโฟนีเข้า เหมือนกับทั้งคู่รู้สึกถูกชะตา และเมื่อเขาได้ลองอุ้มมัน ก็ปรากฏว่าคุณซิมโฟนีก็โผกอดเขาเช่นเดียวกัน’ เจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงเล่า …
-
นักแสดงสาววัย 24 ปี โดนรัฐบาลกัมพูชาสั่งแบน 1 ปี เนื่องจากแต่งตัว “เซ็กซี่เกินไป”
เป็นเรื่องธรรมดาที่เหล่านักแสดงสาวไม่ว่าจะในไทยหรือในต่างประเทศจะแต่งตัวเซ็กซี่บ้างในบางโอกาส เพื่อเป็นการสร้างจุดสนใจ สร้างภาพลักษณ์เซ็กซี่ให้กับตัวเองบ้าง แต่ก็ใช่ว่าทุกประเทศจะยอมรับความเซ็กซี่ของคุณได้หมดนะ และบางครั้งมันก็อาจจะสร้างความเดือดร้อนให้นักแสดงสาวเหล่านั้นได้เลย เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมาเว็บไซต์ข่าวท้องถิ่นของประเทศกัมพูชาอย่าง Cambodiadaily.com ได้รายงานว่าทางภาครัฐของประเทศกัมพูชาได้สั่งแบนนักแสดงสาวรายหนึ่งเป็นเวลา 1 ปี เนื่องจากเธอแต่งตัว “เซ็กซี่เกินไป” !? ตามรายงานบอกว่านักแสดงสาวรายนี้มีชื่อว่า Denny Kwan วัย 24 ปี ได้ถูกลงโทษทางวินัยโดยห้ามปรากฏตัวในรายการทีวีหรือบนสื่อภาพยนตร์เป็นเวลา 1 ปี เนื่องจากทางกกระทรวงวัฒนธรรมและศิลปกรรมของกัมพูชามองว่าเธอแต่งตัวเซ็กซี่เกินไปและยังละเมิดหลักจรรยาบรรณของพวกเขาด้วย หลังจากที่มีประกาศแบนดังกล่าวออกมาเธอก็ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจผ่านสื่อว่า “ในประเทศกัมพูชามีศิลปินเซ็กซี่อยู่หลายคน บางคนยิ่งกว่าฉันอีก มีทั้งจูบและฉากอีโรติกด้วย” “ฉันรู้ดีว่ามันเป็นสิทธิของฉันที่จะแต่งตัวยังไงก็ได้ตามที่ฉันต้องการ แต่ด้วยวัฒนธรรมของเราชาวกัมพูชา ไม่อาจยอมรับตรงนี้ได้ ฉันจะพยายามไม่เซ็กซี่เหมือนช่วงก่อนๆ ที่ฉันเคยโพสต์ลง Facebook ก็แล้วกัน” นอกจากนี้นักแสดงสาวยังแสดงความรู้สึกต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมว่าพวกเขาสั่งสอนเธอ “เหมือนกับเป็นลูกของพวกเขา” ตามประมวลกฎหมายของกระทรวงฯ พวกเขามุ่งมั่นที่จะ ‘อนุรักษ์รักษาศิลปวัฒนธรรมประเพณีและอัตลักษณ์ของประเทศ’ รวมทั้ง ‘ป้องกันผลกระทบเชิงลบของศิลปะและประเพณีของประเทศ’ แต่การประกาศแบนนักแสดงสาวครั้งนี้ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามาในหลายๆ ด้าน เช่นความเท่าเที่ยมกันของชายหญิงในกัมพูชา หรือการใช้อำนาจสั่งให้ผู้หญิงแต่งตัวแบบใดแบบหนึ่งทั้งที่ไม่มีกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าขอบเขตของการแต่งตัวเซ็กซี่อยู่ตรงไหนกันแน่ เพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้บ้าง? เพราะในไทยเองก็มีดาราสาวแต่งตัวเซ็กซี่เหมือนกันนะ…
-
หนุ่มยอมสละวันหยุด เพื่อทำความสะอาดป้ายหลุมศพทหารที่ถูกลืม ให้ดูเอี่ยมอ่องอีกครั้ง
ส่วนใหญ่แล้วในช่วงวันหยุดประจำสัปดาห์ของแต่ละคน เราส่วนใหญ่คงอยากจะพักผ่อนทำตัวขี้เกียจอยู่บ้านบ้าง และคงไม่มีใครอยากพาตัวเองไปลำบากในวันหยุดหรอกจริงไหม? แต่สำหรับพ่อหนุ่ม Andrew Lumish เขามีความตั้งใจที่แตกต่างออกไป เพราะทุกวันหยุดประจำสัปดาห์เขาจะใช้เวลาอยู่กับป้ายบนหลุมฝังศพของเหล่าทหาร เพื่อขัดถูและทำความสะอาดให้จนดูใหม่เอี่ยมอ่องอีกครั้ง ตัวอย่างผลงานการทำความสะอาดป้ายหลุมศพ ซึ่งหลุมฝังศพทั้งหมดนี้ เป็นสถานที่ของทหารอเมริกันที่เคยออกไปร่วมรบในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปกติในวันธรรมดาพ่อหนุ่มชาวฟลอริด้าคนนี้ จะทำงานเป็นช่างทำความสะอาดพรม และเปิดบริษัทรับทำความสะอาด แต่ด้วยความที่เขารู้สึกว่า… ไม่อยากให้เรื่องราวของฮีโร่ที่ไม่ได้ถูกเล่าขาน จะต้องถูกลืมไปอย่างน่าเสียดาย เขาจึงตัดสินใจสละวันหยุดทุกวันอาทิตย์ มานั่งขัดถูทำความสะอาดหลุมศพเหล่านี้ให้ดูใหม่เอี่ยมอีกครั้ง วิธีการก็ง่ายมาก ขั้นตอนแรกเขาจะฉีดน้ำก่อน จากนั้นก็ตามด้วยสารเคมี D/2 เสร็จแล้วก็ลงมือขัดๆ ถูๆ ป้ายหลุมฝังศพส่วนใหญ่ของที่นี่มีอายุมาตั้งแต่ช่วงปี 1900s และก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะขัดคราบเหล่านั้นออกให้หมดได้ หลังจากที่บูรณะเสร็จแล้ว เขาก็จะถ่ายรูปผลงานลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมทั้งนำชื่อของคนๆ นั้นไปค้นหาเรื่องราววีรกรรมในอดีตเพิ่มเติม โดยเขาเชื่อว่า ยังมีเรื่องราวจากฮีโร่ไร้นามอีกมากมายที่ชาวอเมริกันยังไม่ได้รับรู้ และเรื่องราวเหล่านี้ก็ไม่ควรที่จะปล่อยให้ถูกลืมไปตามกาลเวลา และแน่นอนว่าทั้งหมดนี้เขาไม่ได้ค่าตอบแทนเลยแม้แต่เซนต์เดียว หากแต่เป็นการทำออกมาจากใจล้วนๆ กว่าจะขัดให้ขาวสะอาดได้อีกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องใช้ทั้งเวลาและแรงกายแรงใจ แบบนี้ต้องชมพร้อมกันว่า เยี่ยมจริงๆ! เยี่ยมจริงๆ! เยี่ยมจริงๆ! ที่มา:…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ ที่สุดแห่งวีรกรรมจากคุณแม่ ที่แกล้งคุณลูกได้แสบเกินจะรับมือไหว!!
คงไม่ต้องบอกก็รู้กันอยู่แล้วว่า ‘แม่’ คือผู้มีพระคุณที่หาอะไรมาทดแทนก็คงเทียบไม่ได้ ทั้งเฝ้าดูแลเลี้ยงดูเราตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ ไหนจะต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวอีก ทว่าเมื่อคุณแม่ทำงานหนักมาทั้งชีวิต บางทีพวกเธอก็อยากจะทำอะไรฮาๆ ให้คนในครอบครัวบ้าง และทั้งหมดนี้คือวีรกรรมสุดแสบจากคุณแม่ที่ชาวเน็ตเอามาร่วมแชร์กัน เมื่อนักบวชจากลัทธิมอร์มอนเข้ามาพูดคุยกับคุณแม่ เอาไปเอามา…ได้ช่วยแม่ทำสวนซะงั้น เมื่อลูกบอกว่าวันเกิดอยากได้เค้กพระเยซูขี่ไดโนเสาร์ คุณแม่เลยบอก ‘จัดไปจ้า!!’ เมื่อหนุ่มๆ ถ่ายเซลฟี่ไปอวดแม่ ทีมคุณแม่ไม่ยอมเลยต้องส่งกลับไปอวดกันบ้าง นอกจากคุณแม่จะทำเนคไทให้พ่อหนุ่มคนนี้แล้ว เธอยังทำให้เจ้าเหมียวอีกด้วย เมื่อคุณแม่อาการเริ่มกรึ่ม จู่ๆ เธอก็เอามันฝรั่งมาเรียงไว้บนโต๊ะ เพื่อ!? เมื่อลูกชายไปเรียนต่างประเทศ แล้วส่งรูปนี้กลับมาให้ครอบครัว คุณแม่เลยจัดการให้ตามคำขอซะเลย อันนี้ไอเดียเก๋มาก คุณแม่ผู้ทำที่ห้อยถุงเท้าเพื่อตามหาคู่ของมัน คุณแม่ผู้ห่อของขวัญวันคริสต์มาสให้ลูกสาวได้สะบะละฮึ่มเอามากๆ คุณลูกชื่นชอบทนายที่ติดอยู่บนโฆษณาแถวบ้านเหลือเกิน คุณแม่เลยจัดงานวันเกิดเป็นธีมนี้ให้ซะเลย เมื่อลูกอยากเป็นนักบินอวกาศ คุณแม่เลยบอกว่า… จัดไปไอ้น้อง!! เมื่อมีดทำครัวที่บ้านหักครึ่ง แต่คุณแม่กลับส่งรูปนี้มาแทน เอาซะตกใจเลยตอนแรก คุณแม่ผู้อำลูกๆ ว่าถ้าอยากคุยกับซานต้า ให้ใช้โทรศัพท์ที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของพ่อนะลูก เมื่อลูกชายขอที่คั่นหนังสือเจ๋งๆ จากแม่ซักอัน…
-
กิจกรรมในชีวิตประจำวันจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป แค่ลองมองมุมกลับ ปรับมุมมอง เอ้าเริ่ม!!
หากคุณกำลังรู้สึกเบื่อกับกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ลองเปลี่ยนมุมมองดูสิ แล้วจะรู้ว่าสิ่งที่เราพบเห็นอยู่ทุกวันนี้ มันอาจจะมีอะไรที่ซ่อนอยู่มากกว่านั้นก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันก็ไม่ได้มีสาระที่จะพลิกชีวิตของคุณหรอก แต่มันจะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับจินตนาการเล็กๆ น้อยๆ เป็นการเติมสีสันในชีวิตที่น่าเบื่อยังไงล่ะ 1. รูปร่างไก่ตัวนี้เหมือนคนกำลังทำหน้าโมโหเลย 2. เห็นเงานั่นมั้ย เหมือนหน้าคนมีหนวดเลย 3. เอ๋ ทำไมหน้าเหมือนเราจัง 4. ม้วนพลาสติกที่ดูเหมือนตัวประหลาดไรสักอย่าง 5. โอ้วววแม่สาวน้อย มาทอดหุ่นอยู่นี่เอง 6. เหมือนรองเท้ากำลังคิดแผนร้าย 7. อาจจะมีปีศาจแฝงอยู่ในรถก็เป็นได้ 8. ไข่คงจะร้อนมาก เลยแปลงร่างเป็นหน้าผีซะเลย 9. เมาแอ๋เลย 10. ดูสิ ทำเหมือนไม่อยากออกจากบ้านงั้นแหละ 11. ขี้นกเป็นรูปเป็นร่างเชียว 12. เห็นเหมือนกันมั้ย หมีทำหน้ายิ้ม 13. อุโมงค์ที่พร้อมจะกลืนทุกอย่าง 13. นี่กล้องวงจรปิด…
-
โมเม้นน่ารัก เมื่อเจ้าตูบแสนรู้บริการส่งทิชชู่ให้เจ้านายถึงที่ จนต้องหลงรักซ้ำแล้วซ้ำอีก
การมีสัตว์เลี้ยงไว้ในบ้านเนี่ยมันดีต่อใจนะ เพราะพวกมันชอบทำตัวน่ารักและทำให้เรามีความสุขอยู่เรื่อยเลย นอกจากนี้พวกมันยังช่วยเหลือเราในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ได้ด้วยนะ ดูอย่าง Ozzy เจ้าหมาแสนรู้ตัวนี้สิ จริงๆ มันก็เหมือนสุนัขทั่วไปนี่แหละ อาจจะมีเล่นซนบ้าง ทำลายข้าวของบ้าง แต่หลังจากที่มันทำความดีให้เจ้าของเพียงครั้งเดียว ความผิดเหล่านั้นก็ถูกลืมทันที เจ้าของเจ้าตูบตัวนี้ชื่อ Sabina ที่อยู่บ้านกับแฟนหนุ่ม ในวันนั้นทั้งคู่เกิดปวดท้องขึ้นมาพร้อมกัน แต่โชคดีนะ ที่มีห้องน้ำสองห้อง พวกเขาจึงแยกกันไปทำธุระส่วนตัวคนละห้อง แต่ปัญหาคือ Sabina ลืมดูว่าห้องน้ำที่เธอเข้านั้น ไม่กระดาษทิชชู่ กว่าจะรู้ตัวก็ทำธุระเสร็จซะแล้ว จะทำยังไงดีละเนี่ย แฟนก็อยู่ในห้องซะด้วย หญิงสาวเล่าว่า “ตอนที่ทำธุระเสร็จ ก็หากระดาษทิชชู่ แต่ไม่มีค่ะ ฉันก็เลยตะโกนเรียกแฟนให้เอาทิชชูมาให้ แต่เขาเองก็ยังทำธุระไม่เสร็จ” “ดังนั้นเขาจึงเรียก Ozzy ให้ไปหาในห้องน้ำ สักพักเขาก็ตะโกนมาบอกฉันว่า ‘เรียก Ozzy ให้ไปหาสิ’ ครั้งแรกฉันก็งงนะว่าให้เรียกทำไม แต่ก็ลองเรียกดู” เธอบอก และเมื่อ Ozzy มาถึงห้องน้ำที่หญิงอยู่ ดูสิ เจ้าหมาแสนรู้มาพร้อมกับทิชชูก้อนโต ที่แฟนของหญิงสาวใช้สายชาร์จโทรศัพท์คล้องไว้กับคอของมัน ถ้าเป็นสุนัขทั่วไป ป่านนี้ทิชชู่คงถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดีแล้ว แต่ Ozzy ไม่ทำเช่นนั้น มันคล้องทิชชู่แล้วเดินไปตามเสียงเรียกอย่างว่านอนสอนง่าย Sabina บอกว่า…
-
20 ผลงานสตรีทอาร์ตสุดครีเอท ที่สร้างสรรค์ออกมาให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมรอบๆ
งานศิลปะในโลกนี้มีอยู่หลายประเภท ทั้งงานประติมากรรม ภาพพิมพ์ ภาพวาด หรืองานเขียน แต่สิ่งที่เหมือนกันของทุกผลงานในทุกสาขาก็คือ การถ่ายทอดความคิดโดยใช้เทคนิคและวิธีการของศิลปิน มายังผู้ชมหรือผู้เสพย์งานศิลป์อย่างเราๆ และหลายๆ คนก็คงจะคุ้นเคยกับงานศิลปะตามท้องถนนหรือที่เรียกว่าสตรีทอาร์ตกันมาบ้างพอสมควร โดยงานศิลป์ประเภทนี้เป็นการแสดงผลงานของศิลปินโดยใช้พื้นถนนหรือผนังของตึกแทนผืนผ้าใบ และเราก็ได้นำผลงานสตรีทอาร์ตที่สวยงามและสุดจะครีเอทมาให้ได้ชมกัน โดยศิลปินได้ทำสร้างสรรค์ผลงานของพวกเขาและอาศัยสภาพแวดล้อมรอบๆ เช่นต้นไม้ ท้องฟ้า พุ่มไม้หรือตึก ทำให้งานของพวกเขาสมบูรณ์และดูมีชีวิตชีวามากขึ้น จะสวยงามแค่ไหนไปชมกันได้เลย…. 1. ภาพของเด็กหญิงบนผนังตึกและต้นไม้ ทำให้ผลงานนี้เหมือนเธอกำลังรดน้ำต้นไม้จริงๆ 2. แค่พุ่มไม้ธรรมดาๆ ก็สามารถทำให้กลายเป็นนกกระจอกเทศได้ เจ๋งสุดๆ 3. งานปฏิมากรรมชิ้นนี้ดูสมจริงมาก 4. สีที่ไหลออกมาเป็นดอกไม้ 5. ภาพของเด็กหญิงที่พยายามดึงตึกลงมาเพื่อให้มองเห็นท้องฟ้า ผลงานนี้บอกอะไรเราได้หลายอย่างเหมือนกัน 6. ต้นไม้ถูกนำมาใช้ในผลงานชิ้นนี้ ทำให้ดูเหมือนว่าชายหนุ่มกำลังหวีผมอยู่ 7. ภาพของร่างกายส่วนล่างกับพุ่มไม้ มองให้มันเป็นศิลปะนะอย่าคิดมาก ฮ่าๆ 8. ลักษณะอาเจียนออกมาเป็นดอกไม้ที่แทรกอยู่ในผนัง 9. เจ้ากบตัวนี้กำลังแอบกวาดใบไม้ไว้ใต้พื้นถนน 10. งานปฏิมากรรมชิ้นนี้ ทำให้ดูเหมือนกับว่าพื้นที่ตรงนั้นถูกหนีบจริงๆ …
-
พบกับ Andrey Nagorny ชายชาวรัสเซีย ผู้ชนะการประกวดถ่ายแบบชุดชั้นในผู้หญิง!?
ในปัจจุบันความต้องการเสรีภาพของคนเราเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ข้อจำกัดทางด้านต่างๆ ไม่อาจปิดกันศักยภาพและความต้องการในการแสดงออกของมนุษย์ได้ ซึ่งข้อจำกัดที่ว่านี้ยกตัวอย่างเช่นสีผิว เชื้อชาติ หรือแม้แต่เพศสภาพเองก็ตาม เหมือนหนุ่มรัสเซียผู้นี้ ที่ส่งรูปถ่ายของตัวเองเข้าประกวดการถ่ายแบบชุดชั้นในของผู้หญิง!! Andrey Nagorny หนุ่มรัสเซียวัย 20 ปีกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก เมื่อเขาตัดสินใจถ่ายภาพของตัวเองส่งเข้าร่วมการประกวดถ่ายแบบชุดชั้นในของผู้หญิงที่จัดโดยร้านค้าแห่งหนึ่ง และได้รางวัลชนะเลิศกลับมาอีกด้วย!! Andrey Nagorny ชายหนุ่มจากเมือง Yuzhno-Sakhalinsk ของประเทศรัสเซีย ได้ข่าวการประกวดนี้จากแฟนสาวของเขา และด้วยร่างกายที่คล้ายกับผู้หญิง เขาจึงตัดสินใจที่เข้าร่วมการประกวดดังกล่าว โดยผู้ที่ช่วยแต่งหน้าทำผมและจัดท่าทางของเค้านั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือแฟนสาวของเขานั่นเอง ในตอนแรกที่ส่งผลงานไปพวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะชนะการประกวด หลังจากที่ชนะการประกวด ทางร้านขายชุดชั้นในได้มอบรางวัลชนะเลิศให้กับเขาและเรียก Andrey Nagorny ว่า “Miss Avocado” แต่พวกเขาก็ต้องยกเลิกตำแหน่งดังกล่าวที่มอบให้กับเขา เนื่องจากทางผู้จัดงานทราบภายหลังในตอนที่จะถ่ายรูปโปรโมทสินค้าว่าเขาเป็นผู้ชาย และพวกเขาเกรงว่าภาพพจน์ของแบนรด์จะเสียหายจึงได้มอบตำแหน่งนี้ให้กับอันดับสองแทน Zheanna Stolpovskaya ผู้จัดการของทางร้านขายชุดชั้นและเป็นผู้จัดการประกวดนี้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า “เค้ามีรูปร่างที่เหมือผู้หญิงมาก ตอนแรกเราไม่ได้จำกัดเพศในการประกวดครั้งนี้ รูปที่เขาส่งมานั้นมันดูดีมากและนั่นจึงทำให้เราเลือกเขาเป็นผู้ชนะ แต่ว่าในการถ่ายแบบครั้งสุดท้ายเราไม่สามารถให้เขาถ่ายแบบได้ เพราะรูปพวกนั้นจะออกสู่สาธารณะและเราไม่รู้ว่าคนทั่วไปจะรู้สึกอย่างไรหากเรานำภาพของเขาขึ้นโฆษณา” แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับชัยชนะอย่างที่ควรจะได้ แต่ Nagorny ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ เพราะเขาไม่ได้หวังว่าจะชนะการประกวดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาแค่ต้องการ่วมสนุกแค่นั้นเอง และเมื่อทางร้านได้เผยแพร่ภาพชุดชั้นในดังกล่าวและไม่มีผู้ชนะที่แท้จริงอย่าง Nagorny ผลการตอบรับจากคนทั่วไปก็ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาคาดไว้ มีหลายความคิดเห็นที่ออกมาตำหนิการกระทำดังกล่าวของทางร้าน บางคนถึงขั้นออกมาบอกว่าการกระทำนี้เป็นการเลือกปฏิบัติทางเพศและเป็นการไม่เปิดกว้างทางการแสดงออกเลย ตอนนี้หลายๆ คนก็ได้แต่หวังว่าทางคณะกรรมการจะยอมรับฟังความคิดเห็นและมอบชัยชนะคืนให้กับเขา…
-
เปิดตัวโรงเรียน Witcher School สานฝันเป็นนักปราบมาร จอมขมังเวทย์ในชีวิตจริง!!
สำหรับใครที่ได้ลองเล่นเกม RPG สุดเทพอย่าง The Witcher แล้วติดใจจนเฝ้าฝันอยากจะเป็นนักล่าอสูรเหมือนกับตัวเอกอย่าง Geralt of Rivia ก็ได้แต่คิดว่ามันคงเป็นจริงไม่ได้ แต่ทว่าตอนนี้คงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่แล้ว เพราะ Witcher School ได้เปิดตัวในโลกแห่งความจริงแล้ว!! โรงเรียนนักปราบมารแห่งนี้เปิดตัวขึ้นที่ประเทศโปแลนด์ โดยบริษัทเอเจนซี่ที่ชื่อ 5 Żywiołów Agencja ซึ่งตัวโรงเรียนจะใช้ปราสาท Grodziec และ Moszna เป็นที่ตั้งของโรงเรียน สำหรับโรงเรียนแห่งนี้จะมีหลักสูตรที่ผู้เข้าเรียนจะต้องศึกษาเป็นระยะเวลา 3 วันด้วยกัน และนักเรียนก็จะต้องสวมบทบาทเป็นตัวละครของตัวเองในโลกของ The Witcher จริงๆ ระหว่างที่เข้าเรียน ส่วนหลักสูตรวิชาที่ต้องเรียนก็จะประกอบด้วยวิชาสำคัญต่างๆ ที่จำเป็นในการล่าปีศาจเหมือนกับในเกมเป๊ะๆ ซึ่งจะประกอบด้วย 1. คาถาเวทย์มตร์และน้ำยาวิเศษ 2. ทักษะการเอาตัวรอด 3. ทักษะการฟันดาบ 4. ทักษะการยิงธนู 5. เกมและวัฒนธรรมของโลก The Witcher 6. สิ่งลี้ลับและวิธีการต่อสู้กับพวกอสูรต่างๆ 7. สมุนไพรและการฝึกสมาธิ . .…
-
คุณพ่อชาวจีนสวมชุด “ปิกาจู” ขอรับบริจาคเงิน เพื่อนำไปรักษาลูกสาวที่ป่วยเป็นโรคลูคีเมีย
เมื่อลูกน้อยเกิดความลำบาก แน่นอนว่าคนที่มีหัวใจของความเป็นพ่อแม่นั้น ย่อมทนเห็นลูกตกอยู่ในความยากลำบากนั้นไม่ไหวแน่ ผู้เป็นพ่อและแม่ย่อมพยายามทำทุกวิถีทางที่จะให้ลูกของพวกเขาได้สิ่งที่ดีที่สุด และเรื่องต่อไปนี้ก็คงจะอธิบายนิยามของความเป็นพ่อแม่ได้เป็นอย่างดี เมื่อคุณพ่อชาวจีนยอมลงทุนแต่งตัวด้วยชุดมาสคอต เพื่อเรี่ยไรเงินมารักษาลูกสาวตัวน้อยที่ป่วยเป็นโรคลูคีเมีย เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้วที่คุณพ่อชาวจีนวัยหนุ่ม Liu ต้องแต่งตัวด้วยชุดมาสคอตปิกาจู เพื่อไปขอรับเงินบริจาคในสถานีรถไฟใต้ดินของเมืองฉางตู เพื่อหาเงินมารักษาลูกสาววัยขวบกว่าซึ่งป่วยด้วยโรคร้ายที่ว่านี้ สาวน้อยผู้เคราะห์ร้ายรายนี้ชื่อว่า Yu Yan เธอลืมตาขึ้นมาดูโลกเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2015 และหลังจากนั้นไม่ถึงหนึ่งปี ความสุขของพวกเขาก็หมดลง เมื่อลูกสาวของพวกเขาเริ่มหยุดทานอาหารและมีอาการทรมานจากโรคหวัดอย่างรุนแรง เธอถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของเมืองเฉิงตู เมื่อเดือนมกราคมปี 2016 แพทย์ได้วินิจฉัยว่าสาวน้อยเป็นโรคลูคีเมียแบบฉับพลัน คุณหมอบอกว่ามีโอกาศที่จะรักษาชีวิตลูกของเค้าได้เพียง 70 เปอร์เซนต์และต้องใช้ค่ารักษาที่แพงมากถึงหลายแสนบาท แต่ถึงอย่างนั้นผู้เป็นพ่อก็ไม่ยอมแพ้ ชายหนุ่มวัย 24 ปีลาออกจากงานก่อสร้างทันที เนื่องจากงานที่ทำอยู่นั้นจะจ่ายเงินในตอนสิ้นปี แต่ทว่าตอนนี้เขาต้องการเงินอย่างมากในการรักษาลูกสาว พวกเขาใช้เงินในการรักษาไปแล้วกว่า 8 แสนบาทสำหรับค่ารักษาพยาบาล Liu และภรรยาเป็นหนี้สินมากมายเนื่องจากค่ารักษาที่แพงมาก โดยในแต่ละวันค่ายาของหนูน้อยจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท ในต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาเขาตัดสินใจสั่งซื้อชุดมาสคอตในร้านขายสินค้าออนไลน์ แต่หลังจากที่ Liu เล่าเรื่องราวของลูกสาวให้พวกเขาฟัง ทางร้านก็มอบชุดนี้กับเขาฟรีๆ จากนั้นเขาก็แต่งกายด้วยชุดปิกาจู พร้อมทั้งนำเอกสารยืนยันอาการป่วยของลูกสาว และประกาศขายรูปถ่ายในชุดตุ๊กตาแลกกับเงินบริจาค…
-
อายุเป็นเพียงตัวเลข!! คุณปู่ญี่ปุ่นวัย 73 ปี สร้างผลงานภาพสุดอลังจาก Microsoft Excel
ปกติแล้วเรามักจะใช้โปรแกรม Microsoft Excel ในการเขียนงานตารางเอกสารหรือบันทึกสถิติต่างๆ กันบ่อยๆ แต่เคยคิดไหมว่าเราอาจจะนำไปใช้ทำอย่างอื่นได้ อย่างการวาดรูปอะไรทำนองนี้… Tatsuo Horiuchi คุณปู่ชาวญี่ปุ่นวัย 73 ปีผู้หลงใหล และเริ่มหันมาสนใจศิลปะดิจิตอลเมื่อ 13 ปีที่แล้วก่อนที่เขาจะเกษียณ แต่ว่าอย่างที่รู้กันว่าพวกอุปกรณ์รวมถึงโปรแกรมเกี่ยวกับงานสายนี้มีราคาที่แพงมากๆ เขาจึงจำเป็นจะต้องหาทางเลือกอื่นแทน และเขาก็พบว่าโปรแกรม Microsoft Excel ก็สามารถสร้างงานสายนี้ได้เช่นกัน เขาจึงเริ่มท้าท้ายความสามารถตัวเอง ด้วยการเริ่มฝึกฝนตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปถึงจนถึงระดับขั้นสูง โดยที่เขาแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับโปรแกรมตัวนี้ แถมในปี 2006 เขายังเอาชนะการประกวด Excel Autoshape Art Contest อีกด้วย เดี๋ยวจะหาว่าโม้ลองดูผลงานของเขาก่อนเป็นไง กว่าจะเป็นรูปเป็นร่างได้ หลากหลายขั้นตอนมากๆ แต่พอเสร็จแล้วก็ออกมาสวย จนไม่อยากจะเชื่อสายตาว่ามาจาก Microsoft Excel ให้ความรู้สึกสุดทุกรูปจริงๆ แถมภาพนี้เอาแปะตกแต่งบ้านรับรองความสวยงาม ต้องยอมรับในฝีมือของคุณปู่จริงๆ ภาพของคุณปู่ กับผลงานอันน่าภาคภูมิใจของแก ถ้าใครสนใจอยากลองโหลดไฟล์งานของคุณปู่แกไปดูให้เห็นกับตา สามารถกดดาวน์โหลดได้จากลิ้งค์เลยจ้า Cherry Blossoms at Jogo Castle และ Kegon…
-
อินเตอร์เน็ตไทยไม่ได้เรื่องจริงหรือไม่ เทียบให้เห็นชัดๆ ซัดกับความเร็วของต่างประเทศ!!
ถ้าพูดถึงเรื่องอินเตอร์เรามักจะมีคำพูดที่ว่า อินเตอร์เน็ตชาติอื่นเน็ตเขาไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว มีแต่เน็ตไทยที่ห่วยสุดๆ โหลดหนังก็ช้า เข้าเว็บก็ช้า ทำอะไรก็ช้าไปหมดจนหลายคนรู้สึกหัวร้อนสุดๆ กับอินเตอร์เน็ตในประเทศไทย แต่เราเคยตั้งคำถามกันไหมว่า สรุปแล้วอินเตอร์เน็ตบ้านเรามันช้าจริงๆ เหรอ มันห่วยสุดๆ จริงใช่ไหม แล้วระดับโลกที่ว่าเนี่ยมันคือที่ไหน มันจะเร็วจริงหรือเปล่า? ฉะนั้นถ้าคุณกำลังตั้งคำถามเหล่านี้วันนี้ #เหมียวมู่ทู่ มีคำตอบเอาให้รู้กันเลยว่าอินเตอร์เน็ตไทยมันห่วยจริงหรือไม่ 1. ค่าเฉลี่ยความเร็วอินเตอร์เน็ตจากทั่วโลก เริ่มกันที่ค่าเฉลี่ยจากทั่วโลกกันก่อนเลย โดยข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลจากการรวบรวมในไตรมาสที่ 3 ของปี 2016 ซึ่งค่าเฉลี่ยของทั่งโลกจะอยู่ที่ 6.3 Mbps ถือว่าไม่สูงเลย ทีนี้เราลองมาดูความเร็วสูงสุดจากแต่ละประเทศทั่วโลกกันบ้าง สีคือตัวบ่งบอกความเร็วในแต่ละประเทศ สีแดงคือช้าที่สุด ส่วนสีเขียวคือไวที่สุด 2. 10 อันดับประเทศที่มีค่าเฉลี่ยอินเตอร์เน็ตเร็วที่สุดในโลก ได้เห็นค่าเฉลี่ยของโลกกันไปแล้วซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าประเทศทั่วโลกจะมีความเร็วอินเตอร์เน็ตอยู่เท่านั้น เพราะบอกเลยว่า 10 อันดับค่าเฉลี่ยเน็ตที่เร็วที่สุดในโลกมันโหดสุดๆ เลยล่ะ โดยเรียงลำดับตามนี้ 1. ประเทศเกาหลีใต้ 26.3 Mbps 2. ฮ่องกง 20.1 Mbps 3. ประเทศนอร์เวย์ 20.0 Mbps 4. ประเทศสวีเดน 19.7 Mbps…
-
สุดยอด 22 ผลงานสร้างสรรค์จากนักคิดทั่วโลก กับรางวัลชนะเลิศบนเวทีการออกแบบแห่งปี!!
การผลิตอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อวางขายในตลาด นอกจากเพื่อการนำไปใช้ประโยชน์แล้ว ยังจต้องมีการออกแบบให้มีความน่าสนใจเพื่อดึงดูดลูกค้าอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ในแต่ละปีจึงได้มีการจัดแข่งขันออกแบบผลิตภัณฑ์ภายใต้งาน A’ Design Award & Competition ซึ่งเป็นการประกวดการออกแบบในเชิงสร้างสรรค์ ดังนั้นในทุกๆ ปี งานนี้จะเป็นที่สนใจของบรรดานักออกแบบ นักประดิษฐ์ และนักคิดจากทั่วโลก สำหรับการผลการประกวดระหว่างปี 2016-2017 ก็เพิ่งจะประกาศไปเมื่อไม่นานนี้เองเหมือนกัน ต้องบอกได้เลยว่า แต่ละผลงานที่ได้รับรางวัลนั้น เป็นนวัตกรรมสุดล้ำที่อาจจะเปลี่ยนโลกที่เรารู้จักกันก็เป็นได้ และในการประกวดครั้งนี้ มีผลงานเจ๋งๆ กว่า 1,200 ผลงานเลยล่ะ มีทั้งเฟอร์นิเจอร์ บรรจุภัณฑ์ งานกราฟิก และสถาปัตยกรรม ผลงานที่ส่งประกวดนี้อยู่ภายใต้พื้นฐานของการนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นรางวัลที่ได้จึงไม่ใช้แค่เงินเท่านั้น แต่ผลงานของผู้ชนะจะได้รับการนำไปใช้ในตลาดจริงๆ ด้วย และนี่คือผลงานส่วนหนึ่งที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ดูสิว่าแต่ละชิ้นจะสร้างสรรค์และน่าสนใจแค่ไหน… ผู้ชนะรางวัลการออกแบบบรรจุภัณฑ์ 1. Little Pocket นี่คือกล่องเฟรนช์ฟราย ที่มาพร้อมช่องด้านข้างสำหรับใส่ซอส ซึ่งเป็นบรรุภันฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคด้วย 2. บรรจุภัณฑ์ของ Marais Piano Cake ไม่บอกก็รู้ว่าบรรจุภัณฑ์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเปียโน ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่มีตัวโน๊ตเรียงกันอยู่ และแต่ละตัวนั้นก็มีเสียงที่แตกต่างกัน แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว …
-
รวม 11 หมู่บ้านและเกาะที่ถูกสัตว์น่ารักเข้าครอบครอง และพร้อมต้อนรับทุกคนอย่างเป็นมิตร
สวรรค์ของคนรักสัตว์ก็คงจะหนีไม่พ้นการได้อยู่ท่ามกลางสัตว์ผู้น่ารักมากมาย แต่นี่จะไม่ใช่แค่ความฝันนะ เพราะมันมีแหล่งที่สัตว์รวมตัวกันเพื่อมอบความฟินให้คนรักสัตว์อยู่บนโลกนี้จริงๆ และไม่ใช่แค่ที่เดียวที่เป็นเช่นนั้น มีอยู่หลากหลายที่ทั่วโลกรอให้คุณเข้าไปสัมผัส จะมีที่ไหนบ้างนั้น เราไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ 1. หมู่บ้านหมาจิ้งจอก ประเทศญี่ปุ่น หมู่บ้านหมาจิ้งจอกตั้งอยู่ในจังหวัดมิยากิของญี่ปุ่น มีสุนัขจิ้งจอกอาศัยอยู่มากกว่า 100 ตัว ที่ประกอบไปด้วย 6 สายพันธุ์ โดยทั้งหมดนี้อยู่อย่างอิสระในป่าใหญ่ คนที่จะเข้าไปหาแก๊งหมาจิ้งจอกเหล่านี้ต้องจ่ายค่าเข้า 200 บาท และคุณยังสามารถให้อาหารพวกมันได้อีกด้วย สำหรับคนญี่ปุ่นนั้นถือว่า สุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่มีพลังความลึกลับและจะนำความโชคดีมาให้ 2. เกาะกระต่าย เกาะกระต่ายรู้จักกันในชื่อ Okunoshima ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ อยู่นอกชายฝั่งของจังหวัดฮิโระชิมะ ซึ่งเป็นที่อยู่ของสัตว์กว่า 100 ชนิด แต่มีเพียงกระต่ายเท่านั้นที่มักจะเข้าไปรุมล้อมนักท่องเที่ยวเพื่อแย่งอาหาร จริงๆ ไม่มีใครรู้ว่า เกาะแห่งถูกกระต่ายยึดได้อย่างไร แต่ในช่วงปี 1930 ถึง 1945 เกาะแห่งนี้ถูกใช้เป็นพื้นที่ทดสอบยาพิษ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการจับกระต่ายมาเป็นหนูทดลองด้วย ใครที่มาเกาะกระต่ายพร้อมอาหาร ก็จะถูกกระต่ายไล่ตามเป็นฝูงแบบนี้แหละ 3. เกาะปู บนเกาะคริสต์มาสคาดว่ามีปูมากกว่า…
-
มหาเศรษฐีสาว อายุน้อยที่สุดในโลกด้วยวัยเพียง 20 ปี เที่ยวรอบโลกด้วยวงเงินไม่จำกัด!!
การจะเป็นเศรษฐี ไม่ได้เป็นกันง่ายๆ อย่างที่คิด กว่าจะไปถึงจุดนั้นก็ต้องทำงาน ต้องใช้ความพยายามถึงจะเป็นได้ บางคนกว่าจะได้เป็นเศรษฐีก็อายุมากแล้ว เลยเหลือเวลาเผาผลาญสมบัติไม่มากนัก แล้วจะดีแค่ไหนถ้าคุณได้เป็นเศรษฐีตั้งแต่อายุยังน้อย อื้อหือ ถ้าเป็น #เหมียวขี้ส่อง นะ จะไม่ทำอะไรเลย วันๆ จะใช้เงินอย่างเดียว มีความคิดอยากจะทำอะไรก็จะทำให้หมด!! สำหรับคนที่ขี้เพ้อฝันแบบนี้ คงต้องอิจฉาเธอคนนี้แน่ๆ เลย เพราะเธอคือเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลก ด้วยวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น Alexandra Andresen วัย 20 ปี เป็นแชมป์ขี่ม้าเยาวชน 3 สมัย และเธอยังเป็นที่รู้จักในฐานะมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลกด้วย โดยมีสมบัติมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาท การเป็นเศรษฐีในวัยเท่านี้ ทำให้ Alexandra มีทางเลือกมากมายในชีวิต ไม่ว่าเธออยากทำอะไร หรือไปที่ไหน เธอก็จะสามารถทำมันได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็มีเงินเหลือเฟือเหลือใช้แทบจะทั้งชีวิตแล้ว และสิ่งที่มหาเศรษฐีสาวคนนี้อยากทำก็เป็นสิ่งที่วัยรุ่นทุกคนอยากทำนั้นแหละ นั่นคือการไปเที่ยวรอบโลก โอ้ยยย น่าอิจฉาไปไหน หลายคนคงสงสัยว่าทำไมหญิงสาวอายุ 20 คนนี้ถึงกลายเป็นเศรษฐีได้ นั้นเป็นเพราะครอบครัวของเธอเป็นเจ้าของแบรนด์ยาสูบที่ชื่อ Tiedemanns ซึ่งเป็นที่รู้จักดีในประเทศนอร์เวย์ …
-
เด็กวัย 13 ขวบ เดินเท้าไกลกว่า 3 กิโลฯ เพื่อช่วยเหลือลูกสุนัขที่กำลังจะตาย…
อีกเรื่องราวการช่วยเหลือน้องหมาที่กำลังจะตาย จากเด็กชายวัย 13 ขวบ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ Delft หนึ่งในชุมชนที่ยากจนที่สุดในแอฟริกาใต้ เมื่อวันหนึ่งเด็กชายชาวแอฟริกา ได้ไปเห็นเจ้าสุนัขตัวน้อยที่อดอาหารมานานหลายวัน และกำลังจะตายในไม่ช้า แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะซื้ออาหารให้ ก็ไม่สามารถที่จะหยุดการช่วยเหลือครั้งนี้ไว้ได้ เด็กชายคนดังกล่าวไปพบเจ้าหมาน้อยตัวนี้ที่ Tin Can Town ครั้งแรกที่เขาไปเจอมัน เขาพบว่าเจ้าตูบมีอาการท้องเสีย ขับถ่ายออกมาเป็นเลือด เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจอุ้มมันขึ้นมาจากข้างทาง และออกตามหาการช่วยเหลือ ‘มันผอมมาก และมันกำลังจะตายครับ พวกพี่ต้องช่วยเหลือมันนะ ถึงแม้ว่าผมจะไม่มีเงินก็ตาม’ เจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงสัตว์เล่าถึงคำพูดของเด็กชายคนนั้น หลังจากนั้นเจ้าตูบก็ได้อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ ‘เราบอกกับเด็กน้อยคนนั้นว่า เราจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือมันนะ และเราก็จะพยายามหาบ้านหลังใหม่ให้มันด้วย’ เจ้าหน้าที่เล่า เจ้าสุนัขถูกตั้งชื่อให้ว่า Nanuk และสัตวแพทย์ก็ตรวจพบว่ามันเป็นโรคพาร์โวไวรัส (ลำไส้อักเสบ) ในระยะแรกเจ้าตูบไม่สามารถกินอะไรได้เลย พวกเขาจึงต้องทำทุกวิถีทางให้มันกลับมามีชีวิตปกติได้อีกครั้ง แม้กระทั่งพามันไปเล่นกับน้องเหมียวที่ถูกช่วยเหลือมาเหมือนกัน และดูเหมือนว่าวิธีนี้จะได้ผลซะด้วยสิ ‘ไม่น่าเชื่อว่าตั้งแต่เราพาเจ้าเหมียวตัวน้อยมาอยู่เป็นเพื่อนมัน เจ้า Nanuk ก็ดูร่าเริงขึ้นทันตาเห็น’ เจ้าหน้าที่เล่าเสริม ข่าวดีก็คือ.. ตอนนี้มันหายป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายแล้ว…
-
หนุ่มเข้าพักที่โรงแรม กลัวแม่บ้านจะเบื่อเลยท้าแข่งจัดเตียง จนกลายเป็นกำลังใจดีๆ ให้กัน
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเริ่มจากความนึกคึกอยากสนุก หรือความอยากกวนทีนแม่บ้าน ของนักท่องเที่ยงหนุ่มผู้ไม่ประสงค์ออกนามกันแน่ เมื่อเจ้าตัวได้ไปเที่ยวที่เมืองอาร์เซอไบจาน อยู่ดีๆ ก็คิดขึ้นได้ว่าอยากจะท้าแม่บ้านมาแข่งจัดเตียงแบบแปลกใหม่ จนสุดท้ายเอาไปเอามากลายเป็นการส่งความรู้สึกดีๆ ให้กันแทน ด้วยความรู้สึกเบื่อหรืออะไรมิทราบ วันแรกมาถึงพี่แกก็เปิดก่อนเลยจ้า เมื่อแม่บ้านมาเห็นก็ทิ้งข้อความไว้ให้ เหมือนจะบอกว่า… ก็ดีอ่ะ วันที่สองพ่อหนุ่มไม่ยอมแพ้ ต้องเอาให้เหนือกว่าเดิม แต่พอกลับมาก็พบว่าแม่บ้านแอบจัดให้ใหม่ ดูเนี๊ยบกว่าเดิม พร้อมกับทิ้งรอยยิ้มที่เหมือนจะบอกว่า… ยังอ่อนหัดนะจ๊ะ วันที่สามพ่อหนุ่มเล่นใหญ่กว่าเดิม มาเป็นสัตว์ประหลาดเลยเว่ยเฮ้ย!! วันที่ 4 ก็เอาอีกมาเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้.. ดูเหมือนฝีมือการจัดเตียงพี่แกจะเริ่มมา วันที่ 5 ก็ยังไม่ยอมแพ้ถึงช่วงนี้แม่บ้านจะไม่ยอมมาเล่นด้วย มาเป็นต้นไม้เลย ในที่สุดเมื่อเขากลับมาก็พบข้อความจากแม่บ้าน ก็โอเคอ่ะนะ มาถึงวันที่ 8 หนุ่มก็ยังไม่ยอมแพ้ คราวนี้มีการวาดรูปใส่ด้วย จนเขาไปทำธุระกลับมาก็พบกระดาษโน๊ต ‘ช่วยทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย ขอบคุณมากๆ นะ’ ดูเหมือนผลงานจะเริ่มเข้าตากรรมการแล้วนะ วันที่ 9 พี่แกก็ยังไม่หยุด คราวนี้มีหน้าตามาเป็นจริงเป็นจัง…
-
คุณแม่และลูกวัย 7 ขวบ เปลี่ยนตัวเองมาเป็น “เจ้าหญิงดิสนีย์” อลังการยิ่งกว่าครั้งไหนๆ!!
นี่คือหนูน้อย Layla เด็กน้อยสดใสวัยเพียง 7 ขวบ แต่เมื่อเธอได้สวมใส่ชุดตัวละครจากดิสนีย์แล้ว มันจะทำให้เธอกลายเป็นคนละคนกันอย่างสิ้นเชิง โดยได้พลังจากคุณแม่ในการเปลี่ยนแปลงเธอครั้งนี้ คุณแม่ของเธอก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี เพราะเป็นสิ่งที่จะทำให้หนูน้อยมีความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งเธอเริ่มทำแบบนี้มาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เมื่อคุณแม่ช่างภาพ Camillia Courts ได้พาเธอไปที่ดิสนีย์แลนด์ พร้อมกับแต่งตัวแบบจัดเต็ม ซึ่งภาพถ่ายครั้งนั้นก็เป็นแรงบันดาลใจมาจนถึงทุกวันนี้ เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่นั้น ส่วนหนึ่งเธอตัดเอง และบางส่วนก็มีให้ร้านตัดให้บ้าง ซึ่งหนูน้อย Layla ก็ชอบการแต่งตัวเป็นเจ้าหญิงมากๆ คุณแม่ก็เลยต้องแต่งเป็นตัวร้าย และภาพที่เธอชอบมากที่สุดก็คงจะเป็นซีรีส์ “The Little Mermaid” ซึ่งหนูน้อยได้กลายเป็นแอเรียล และคุณแม่กลายเป็นเออร์ซูล่า . . . . . . . . . . . . . . . . . ตอนนี้คุณแม่และลูกมีผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า…
-
เรื่องราวของหญิงสาวที่จำทุกวันในชีวิตของเธอได้ ความพิเศษที่มีเพียง 60 คนในโลกเท่านั้น!!
เพื่อนๆ ยังจำช่วงเวลาสมัยที่เราออกมาลืมตาดูโลกได้มั้ย? แล้วจำช่วงเวลาที่เรายังเป็นเด็กเริ่มหัดพูดได้มั้ย? แน่นอนว่าคงจำกันไม่ค่อยได้ หรือถ้าได้ก็อาจจะลางมากๆ แต่สำหรับ Rebecca Sharrock หญิงสาววัย 27 ปี จากเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย เธอสามารถจำทุกช่วงวินาทีที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้เป็นอย่างดี และน่าแปลกใจที่โลกนี้มีคนเป็นแบบนี้เพียงแค่ 60 คนเท่านั้น Rebecca Sharrock ‘ภาพแรกที่ฉันเห็นคือตอนที่อายุได้ 12 วัน เป็นวันที่พ่อแม่กำลังอุ้มฉันมาไว้ที่เบาะหลังรถ จากนั้นก็ถ่ายรูป ซึ่งตอนนั้นฉันเห็นภาพแต่ไม่รู้เรื่องเลยว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไร…’ เธอเล่า เธอเล่าว่าความทรงจำของเธอทั้งหมด มันเริ่มตั้งแต่วันที่เธออายุได้ 12 วันเท่านั้น เธอสามารถจำเหตุการณ์ได้ แต่ด้วยวัยที่ยังเด็ก ทำให้เธอไม่รู้ว่านี่คือความแปลกอย่างหนึ่ง จนกระทั่งในช่วงปี 2014 เธอได้อ่านบทความเกี่ยวกับเรื่องของคนที่สามารถจดจำเหตุการณ์ทุกอย่างในชีวิตได้ และนั่นก็ทำให้เธอตั้งคำถามกับตัวเอง และค้นพบว่าเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน อาการดังกล่าวเรียกว่า HSAM (Highly Superior Autobiographical Memory) หรือความสามารถในการจดจำความทรงจำแบบพิเศษ ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถลืมภาพเหตุการณ์ในอดีตได้เลย ทว่าด้วยความที่เป็นอาการผิดปกติที่หาเจอได้ยากมากๆ ทำให้ทางการแพทย์ยังคงต้องศึกษาหาข้อมูลเชิงลึกในสมองของผู้ที่มีอาการดังกล่าวต่อไป …
-
สาวอินโดนีเซียหน้าใส ผู้คลั่งไคล้กับการเลี้ยงแมงมุมตัวจ้อย ขนปุกปุยมากกว่า 1,500 ตัว!!
เข้าใจว่าเทรนด์การเลี้ยงสัตว์แปลกๆ กำลังเป็นอะไรที่มาแรง แต่… บางทีสัตว์บางชนิดก็ดูไม่น่าจะเอามาอยู่ร่วมกับคน อย่างก่อนหน้านี้เราก็เคยนำเสนอเรื่องของ สาวน้อยที่ชอบอยู่กับแมลงสาบ ไปแล้ว นี่… หนูชอบอยู่กับแมลงสาบจริงๆ นะ และคราวนี้ก็ชวนให้รู้สึกสยึ๋มกึ๋ยได้ไม่แพ้กัน เพราะ Ming Cu สาวหน้าใสจากอินโดฯ วัย 28 ปี ผู้มองเห็นความงดงามในตัวของแมงมุมมีพิษ แถมขนยาวเฟื้อยอย่างกับหนวด และส่วนใหญ่พวกมันก็เป็นสายพันธุ์ทารันทูร่าซะด้วย! ซึ่งเธอใช้เวลาสะสม และเลี้ยงดูลูกๆ ของเธอมา 7 ปีแล้ว ทุ่มเงินไปมากกว่า 2 ล้านบาท แต่ถึงเธอจะคลั่งไคล้มากขนาดไหน การเลี้ยงดูของเธอก็เป็นไปตามคำแนะนำจากหนังสือของผู้เชี่ยวชาญอยู่ตลอด เธอใช้เวลาศึกษาพฤติกรรมของแมงมุม และการป้องกันตัวเองจากพวกมัน (ถือว่ามีความรู้มากเลยล่ะ) เมื่อพ่อแม่ของเธอเริ่มเห็นในความตั้งใจ และความมุ่งมานะของลูกสาว พวกเขาจึงยอมใจอ่อนให้เธอสามารถเลี้ยงแมงมุมไว้ในบ้านได้ จนกระทั่งตอนนี้ก็ปาเข้าไปมากกว่า 1,500 ตัวเข้าให้แล้ว ‘พ่อแม่ของฉันก็ยังกลัวอยู่ค่ะ แต่ก็ยังดีนะที่พวกเขายังไม่ถึงขั้นกลัวจนอยู่ไม่ได้’ Ming กล่าว เธอตั้งใจที่จะเก็บสะสมแมงมุมสายพันธุ์ทารันทูร่าจากทั่วโลก ซึ่งเธอเล่าว่าตอนนี้สายพันธุ์ที่พบได้ในอินโดนีเซีย เธอเก็บสะสมไว้หมดแล้ว และจุดมุ่งหมายของเธอตอนนี้ก็คือแมงมุมพันธุ์หายากจากอินเดีย และแอฟริกาใต้ …
-
Knops ชุดอุดหูที่กันเสียงทุกอย่างให้เงียบสงบ จะดังมากแค่ไหนก็ตาม ก็กั้นได้หมด…
การต้องอยู่ในสังคมเมืองแบบนี้ เป็นธรรมดาที่คุณต้องยินเสียงรบกวนบ้าง ทั้งเสียงคน เสียงรถ เสียงการก่อสร้าง เสียงผู้คนทะเลาะถกเถียงกัน หรือในห้องสมุดบางครั้งยังมีเสียงเข้ามารบกวนการอ่านหนังสือของเราเลย แต่จะดีแค่ไหน หากมีตัวช่วยทำให้คุณไม่ได้ยินเสียงเหล่านั้น ต้องนี่เลย Knops ชุดอุดหูที่สามารถกันเสียงทุกอย่างให้เกิดความเงียบสงบ จะดังแค่ไหนก็ไม่ได้ยิน!! Knops มีรูปทรงคล้ายหีบเสียงที่มีการติดตั้งแผ่นเงินและทอง โดยขอบของชุดเก็บเสียงนี้สามารถหมุนได้ ใช้สำหรับการปรับโหมดการเก็บเสียง ที่มีให้เลือกถึง 4 โหมดด้วยกัน นั่นก็คือ โหมดกำจัดเสียง ปิดเสียงรบกวนจากสังคมเมือง ปิดเสียงดนตรี และปิดเสียงทั้งหมด นอกจากช่วยในการปิดเสียงแล้ว ชุดเก็บเสียงตัวนี้ยังช่วยถนอมหูของผู้ใช้อีกด้วย เพราะในแต่ละวันคุณต้องเจอกับเสียงที่มีความหลากหลาย แต่เมื่อคุณมาใช้ชุดเก็บเสียงนี้ มันจะช่วยปรับเสียงที่เหมาะสมกับหูของคุณ สำหรับผู้คิดค้น Knops คือ หัวหน้าวิศวกร Arjen De Jong โดยได้รับความช่วยเหลือจาก Koen Brouwer และ Quinten Huigen ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Thunderplugs เป็นแบรนด์ปลั๊กอุดหูซิลิโคนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ปัจจุบัน Knops อยู่ระหว่างการระดมทุนเพื่อนำไปสู่การผลิตภายใต้แคมเปญในเว็บไซต์ Kickstarter ซึ่งตอนนี้มียอดสบทบทุนมากถึง 5.3 ล้านบาทแล้ว ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการระดมทุน อาจจะมีการจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการภายในอนาคต แฟนเก่าขี้บ่น ไม่อยากจะฟัง…
-
‘ดอกมังกร’ พืชธรรมชาติสุดแปลก ที่มีลักษณะเหมือนหัวกะโหลก เมื่อแห้งเหี่ยวเฉาตามกาลเวลา
ผู้หญิงสวยมักจะถูกเปรียบเทียบกับดอกไม้ ที่มีทั้งความสวย ทั้งกลิ่นหอมและน่าสัมผัส ยิ่งถ้าชายหนุ่มได้มีโอกาสเด็ดมาดมนะ คงจะฟินสุดๆ ไปเลยล่ะ แต่ช้าก่อน เพราะดอกไม้มันไม่ได้มีความสวยงาม น่าสัมผัสเสมอไป มันออกจะน่ากลัวปนสยองเสียด้วยซ้ำ จนสาวๆ ไม่อยากถูกเปรียบเป็นดอกไม้อีกแล้วก็เป็นได้ ดอก Snapdragon หรือ ดอกมังกร เป็นหนึ่งในพืชที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสวนทั่วยุโรป อเมริกา และแอฟริกาเหนือ การที่ดอกชนิดนี้ถูกตั้งชื่อว่า ดอกมังกร ก็เพราะมันมีลักษณะเหมือนปากมังกรที่มีการเปิดและปิด และหากคุณลองบีบดอกนี้เบาๆ คุณก็จะได้เห็นด้านมืดของมันอีกระดับหนึ่ง ดอกมังกรนี้มีที่มาที่ไปที่เป็นตำนานด้วยนะ ตามความเชื่อโบราณบอกว่า มันมีพลังเหนือธรรมชาติแฝงอยู่หากปลูกไว้ในบ้าน จะช่วยป้องกันคำสาป และขจัดปัดเป่าโรคร้าย หรือถ้าเอาไปให้ผู้หญิงกิน จะทำให้ไม่แก่ ไม่เฒ่า เป็นสาวตลอดกาล ต่อมาในยุควิคตอเรีย ดอกมังกรถูกตั้งให้เป็นสัญลักษณ์แห่งการหลอกลวง ความสงสัย ความลึกลับ เพราะมันมีรูปร่างที่แปลกประหลาด แต่หากใครที่ซ่อนดอกชนิดนี้ไว้ในเสื้อผ้า จะทำให้บุคคลนั้นมีเสน่ห์และน่าหลงใหล ว่าแต่ทำไม้ดอกที่ทำให้มีเสน่ห์และมีความสง่างามถึงมีรูปลักษณะเหมือนกะโหลกเช่นนี้ล่ะ? Johanna L. Roose นักชีวเคมีบอกว่า “รูปร่างที่คล้ายกะโหลกนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ดอกไม้ได้รับการผสมเกสร และกลีบที่ค่อยๆ เหี่ยวไปตามกาลเวลา และการที่มันมีรูปร่างเปลี่ยนไปคล้ายกะโหลกเป็นเพราะว่า เกสรตัวเมียมีละอองเรณูและรูปร่างที่เกิดจากช่องรังไข่ เมื่อมันถูกทิ้งไว้จนตายก็จะเกิดช่องโหว่ที่มีลักษณะคล้ายเบ้าตาและช่องปาก …
-
เจ้าหมาถูกจับถ่ายรูปทั้งที่ไม่เต็มใจ ชักสีหน้างอแงแรง ตรูกำลังเห่อสนามหญ้าใหม่อยู่!!
ความคาดหวังของคนเลี้ยงสุนัขก็คงอยากจะถ่ายรูปสวยๆ คู่กับหมาตัวโปรดสักรูปแหละ แต่จะรูปที่ออกมาดีตามคาดหรือไม่นั้น คงต้องดูที่เจ้าตูบของเราด้วยว่ามันจะให้ความร่วมมือหรือเปล่า… Kaycee Marie เป็นอีกหนึ่งคนที่อยากถ่ายรูปคู่กับ Doobie น้องหมาตัวโปรดวัยสองเดือนครึ่งของเธอ แล้วดูสิน้องหมาจะให้ความร่วมมือมั้ย? ปกติแล้วหญิงสาวก็ถ่ายรูปกับ Doobie บ่อยๆ นะ และมันก็จะให้ความร่วมมือด้วยการยิ้มหวานอยู่เสมอ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะพิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะน้องหมาแสดงอาการเหมือนไม่อยากถ่ายรูปด้วยเลยแม้แต่นิดเดียว ฮร่า ภาพนี้เป็นวันที่ Marie เพิ่งจะกลับจากงานพรอม แต่ก่อนที่จะเปลี่ยนชุด เธอก็อยากถ่ายรูปสวยๆ กับน้องหมาตัวโปรดสักรูปหนึ่ง ว่าแล้วหญิงสาวก็จับน้องหมาขึ้นมา แล้วทำท่าเหมือนจูบ พลางคิดในใจรูปนี้ต้องออกมาสวยมากแน่ๆ ภาพแรกผ่านไป ออกมาดูดีใช้ได้นะ ภาพสอง ภาพสาม ค่อยๆ ผ่านไป… แต่พอจะถ่ายอีก มันก็ทำการหักหลังเจ้าของทันที ด้วยการทำหน้าแปลกๆ และแสดงทีท่าต่อต้านทันที หญิงสาวเองยังงงเลยว่าทำไมมันถึงแสดงอาการเช่นนี้ และแล้วเธอก็ได้รู้ว่าที่มันไม่ยอมถ่ายรูปสวยๆ ด้วย ก็เพราะมันกำลังตื่นเต้นกับสนามหญ้าใหม่ มันต้องการจะวิ่งเล่นมากกว่าจะมาถ่ายรูปตอนนี้ ก็หมามันพูดไม่ได้นี่หว่า อยากจะบอกความรู้สึกยังไงก็บอกไม่ได้ เลยต่อต้านด้วยการแสดงออกทางสีหน้านี่แหละ ได้ผลทันตาเห็น เจ้าของปล่อยตัวปุ๊บมันรีบวิ่งไปเล่นทันที ดู๊ดูมันทำหน้า แต่ต่อให้มันจะแสดงอาการต่อต้านขนาดนี้ มันก็ยังคงเป็นสุนัขที่น่ารักที่สุดอยู่ดี…
-
รวม 10 สุดยอดไอเดียที่เปลี่ยนของใช้ทั่วไป ให้แปลกใหม่และน่าใช้อย่างไม่น่าเชื่อ
ญี่ปุ่นถือเป็นชาติที่มีระดับความคิดสร้างสรรค์อยู่ในระดับหัวกระทิเลยก็ว่าได้ หลายสิ่งหลายอย่างที่พวกเขาคิดค้นออกมามันมักจะล้ำลึกและน่าสนใจไม่มากก็น้อยอยู่เสมอ ล่าสุดก็ได้มีสมาชิกทวีตเตอร์ที่ชื่อว่า GOES idea note ได้นำเสนอไอเดียของสิ่งของต่างๆ มากมายมีทั้งที่น่าสนใจและแปลกตาพอสมควร แต่ในความแปลกล้วนมีไอเดียที่น่าสนใจแฝงออยู่เสมอ ฉะนั้นอย่ารอช้าเราไปดูกันเลยดีกว่า ว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง ฟิ้ววว ปลอกยางลบที่เป็นรูปตู้ขายน้ำหลากหลายแบบ ซึ่งจริงๆ แล้วปลอกยางลบก็เป็นหนึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อเหมือนกันนะ กระป๋องที่เปลี่ยนรูปทรงนิดหน่อยให้ง่ายต่อการเปิด แถมดีไซน์นี้ดูจะใช้งานได้ดีด้วยนะ เล็บไม่หักแล้วจ้า หมุดที่มีรูปทรงเหมาะสำหรับติดโปสเตอร์เข้ากับกำแพง ใช้งานได้ดีไม่มีหลุด กระดาษโน๊ตที่มีหน้าเป็นข้าวหน้าต่างๆ ซึ่งจะเปลี่ยนไปทุกๆ แผ่นไม่ซ้ำซาก เขียนไปต้องมีหิวกันมั่งล่ะ ที่ชาร์จถ่านรูปร่างหน้าตาเป็นปืน โดยถ้ามองปกติมันก็เท่ดีอยู่หรอก แต่พอเอาไปเสียบแล้วมันตลกแปลกๆ ดีนะ สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องคนมากดกริ่งขายของ แนะนำให้ลองทำตามไอเดียนี้ โดยเอาปุ่มกดกริ่งไว้ในปากของกำแพงที่หน้าตาน่ากลัว รับรองคนไม่กล้ากดแน่นอน กรวยที่มีรูปแมวอยู่ เพื่อกันไม่ให้คนชนกรวยเพราะคิดว่ามีแมวอยู่ข้างใน อย่างน้อยทาสแมวก็ไม่กล้าแน่นอน พัดรูปเบค่อน ที่จะช่วยให้คุณหายร้อนกาย แต่ร้อนใจแทน..ดูแล้วหิวโว้ยยย ร่างกายต้องการเบค่อนนนน!! นาฬิกาปลุกที่รูปร่างหน้าตาเป็นป้ายทะเบียนรถ ดูแล้วน่าจะเหมาะกับนักแทงหวยจากทะเบียนรถนะ มีให้เลือกทุกวันทุกเวลาเลย ส่วนตัวแล้ว #เหมียวมู่ทู่ ชอบอันนี้ที่สุดแล้วล่ะ มันดูใช้ได้ดี ตกแต่งได้สวยงาม…
-
5 บทเรียนชีวิตอันล้ำค่าของ Keanu Reeves ที่สามารถใช้ดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข…
Keanu Reeves พระเอกมาดเท่ผู้โด่งดังจากหนังเฟรนไชรน์ The Matrix จนล่าสุดก็มีผลงานฮิตอย่าง John Wick ซึ่งทำรายได้ไปอย่างมหาศาล แต่ถึงแม้จะมีรายได้มากขนาดนั้น ตัวเขากลับเป็นคนที่ใจดี สุขุมและไม่ลุ่มหลงกับชื่อเสียงที่เขามี เหมือนกับดาราคนอื่นๆ ในวงการเดียวกัน นั่นจึงทำให้เขาดูเหมือนจะเป็นคนที่ผ่านอะไรมากมายหลายอย่างในชีวิตสุดๆ ไม่ว่าจะทั้งการทำงานหลากหลายอาชีพ การสูญเสียคนรอบตัว และเรื่องราวร้ายๆ ในวัยเด็ก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จเช่นทุกวันนี้ได้ เพราะอะไร? และนี่ก็คงจะเป็นคำตอบที่เราตามหากับ 5 บทเรียนชีวิตจาก Keanu Reeves ที่ทุกคนควรเรียนรู้และนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อมีชีวิตที่ดีแบบพระเอกมาดเท่คนนี้ 1. การเริ่มต้นอันยากลำบาก ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตที่เหลือ Keanu Reeves เกิดที่เมืองเบรุต ประเทศเลบานอนเมื่อปี 1964 เขาต้องใช้ชีวิตที่ยากลำบากตั้งแต่วัยเด็ก พ่อของเขาทิ้งเขาไปเมื่อตอนอายุได้ 3 ขวบ และยังต้องโทษค้ายาเสพติดอีก ส่วนแม่ของเขาตั้งแต่หย่ากับพ่อของเขา ก็พาลูกๆ เดินทางไปทั่ว จนสุดท้ายจบลงที่เมืองโตรอนโต้ ประเทศแคนาดา เขาป่วยเป็นโรค ‘Dyslexia‘ ทำให้เขามีปัญหาด้านการอ่าน จึงทำให้เขาถนัดการเล่นกีฬามากกว่าเรียนจนเขาวางแผนจะเล่นกีฬาระดับอาชีพ แต่ภายหลังเขาบังเอิญบาดเจ็บจนต้องเลิกเล่นกีฬาไป แถมยังเคยถูกไล่ออกจากโรงเรียนอีกต่างหาก แต่สุดท้ายเขาก็กลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ด้วยความที่เขามีความรับผิดชอบและรู้วิธีการตัดสินใจด้วยตัวเอง ฉะนั้นไม่ว่าเราจะเริ่มต้นได้ลำบากขนาดไหน…
-
เมื่อเอาฮีโร่จาก Marvel มารวมร่างกับหุ่นยนต์กันดั้ม เรื่องของความเท่ไม่ต้องพูดถึง!!
ในยุคนนี้ถ้าพูดถึงเหล่าฮีโร่จาก Marvel คงจะมีน้อยคนที่ไม่รู้จักพวกเขา หรือแม้ต่อให้ไม่รู้จักทั้งหมดอย่างน้อยก็ต้องมีสักชื่อหนึ่งจากค่ายนี้อยู่ในหัวพวกเราอย่างแน่นอนเช่น Iron man เป็นต้น แต่ครั้งนี้เราไม่ได้จะเอาใจแค่สาวก Marvel เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะว่าสาวกกันดั้มก็จะต้องถูกใจแน่นอนเหมือนกัน แล้วยิ่งถ้าเป็นติ่งของทั้งสองอย่างนี้แล้วละก็คุณจะยิ่งฟินกว่าเดิม เพราะเราจะมาดูผลงานจากสมาชิกเว็ปไซต์ pixiv ที่ชื่อ 油屋とんび กัน ซึ่งผลงานของเขาจะเป็นการหยิบเอาตัวละครจากทางฝั่ง Marvel มารวมเข้ากับหุ่นยนตร์จากซีรีส์กันดั้ม ซึ่งบอกได้เลยว่า เท่ฝุดๆ Winter Soldier + Barbatos Ghost Rider + Zogok Ghost Rider + Phantom Gundam Nick Fury + Zeong Wasp + F91 และ Ant-Man + Vigna Captain America + Gundam Turn…
-
ในที่สุดเจ้าเหมียวที่ถูกรังแก ก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ทิ้งอดีตอันขมขื่นไว้เป็นเบื้องหลัง!!
ชีวิตของเจ้าเหมียวจรจัดขนฟูต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อมันได้รับการช่วยเหลือจากหญิงสาวใจดี ที่มาพร้อมกับอาหารในมือ เชิญพบกับเจ้า Brian แมวจรจัดผู้มีปูมหลังอันน่าสงสาร Brian คือแมวจรจัดที่ถูกเจ้าของเก่าทิ้งไว้จนต้องเดินร่อนเร่ไปบนถนนในประเทศกาตาร์ เพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตรอดไปวันๆ Happy Homes Animal Rescue หน่วยงานช่วยเหลือสัตว์ที่ได้ให้ความช่วยเหลือแก่เจ้า Brian ได้บอกกับเว็บไซต์ Lovemeow ว่า “เคยมีคนเจอมันกำลังซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ เพื่อหลบการถูกรังแกจากแมวตัวอื่นๆ และดูเหมือนมันจะถูกทิ้งนานพอที่ขนของมันเป็นตังเมขนาดนี้” ด้วยเหตุนี้คู่รักพลเมืองดีจึงเริ่มคิดหาทางที่จะช่วยมัน เริ่มด้วยการให้อาหารกับมันก่อน จากนั้น Yolanda ผู้ทำงานช่วยเหลือสัตว์ และเป็นเจ้าของมูลนิธิ EvenStar Charitable Organization ก็ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติม เนื่องจากขนที่จับกันเป็นก้อนของเจ้า Brian ทำให้ Yolanda จำเป็นจะต้องที่ตัดขนของมันออกทั้งหมด เพื่อให้ขนของมันงอกกลับมาใหม่และสวยดังเดิม จากนั้นเธอก็ได้ติดต่อกับ Happy Homes Animal Rescue ในรัฐนิวเจอร์ซี่ เพื่อให้พวกเขาช่วยหาเจ้าของใหม่ให้มันหน่อย ในระหว่างที่รอประกาศหาคนมารับเลี้ยง ชีวิตการเป็นอยู่ของเจ้า Brian ก็ดูจะดีขึ้นตามลำดับ นับตั้งแต่ที่มันถูกโกนขน มันก็รู้สึกเหมือนตัวเบาหวิวเหมือนได้เกิดใหม่เลยล่ะ ชีวิตการเป็นอยู่ที่ศูนย์ EvenStar ของมันเรียกว่าสบายกว่าตอนอยู่ตามท้องถนนมากๆ มีอาหารให้กินตลอดทั้งวัน มีผ้าอุ่นๆ ให้นอน แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดก็เพื่อที่ตัวมันจะได้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง…
-
หนุ่มโคตรแหวกแนว แว่นตาจริงไม่ถึงใจ ขอสักแว่นตาลงบนหน้า ช่างสักก็ไม่ว่าจัดไปน้อง!!
เคยไหมที่บางครั้งเราอยากจะมีแว่นตา แต่เราไม่อยากใส่แว่นตา!? ชายหนุ่มจากเว็บไซต์ flickr ที่ใช้ชื่อว่า matthewg15 ได้โพสต์ภาพที่เขาเดินทางไปที่ร้านสักเพื่อขอให้ช่างสัก ออกแบบรอยสักแว่นตาให้เขาหน่อย แต่ว่าแว่นตาที่ว่าไม่ใช่รูปแว่นสักลงตรงจุดอื่นอะไรทำนองนี้หรอกนะ แต่มันคือรอยสักแว่นตาที่เป็นเหมือนแว่นตาจริงๆ ลงบนใบหน้าของเขา จะด้วยจุดประสงค์อะไรก็ตามเราก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ต้องยอมรับว่าเขาบ้าและกล้ามากๆ เลยล่ะ เพราะมันจะอยู่กับเขาไปอย่างถาวร!! เริ่มจากไปหาช่างสักกันก่อน เปิดด้วยทักทายกันตามภาษา โย่วๆ!! ผมอยากสักให้เหมือนกับแวนของผมแบบนี้เลย พี่ทำได้มั้ย ไม่มีปัญหาน้อง!! ขอเวลาพี่ ออกแบบสักครู่หนึ่งนะ ดูพี่ช่างสักเขาจะวาดออกมาได้ดีเลยนะเนี่ย จากนั้น พี่ก็ขอวัดจากแว่นจริงๆ ถ้าโอเคแล้ว ขอเวลาพี่วาดลงบนหน้าแป๊บ เรียบร้อยโรงเรียนจีน ลองไปส่องกระจกดูสิว่าชอบมั้ย? อื้มมม…โอเคแล้วพี่ ลุยเลยดีกว่า!! มันจะเจ็บๆ หน่อยนะ…แต่พี่ว่าน้องสักทั้งตัวขนาดนี้ไม่น่าจะมีปัญหาแล้วล่ะ เลือดออกเพียบเลยแฮะ เอาล่ะ เสร็จสักที!! อู้วววว… ผมว่าใช้ได้เลยนะเนี่ย เป็นยังไงล่ะ มองด้านข้างเหมือนใส่แว่นเลยใช่รึเปล่า? กลับบ้านอย่างสบายใจ พร้อมกับแว่นที่เพิ่มมาใหม่ …
-
เจ้าหน้าที่อิสราเอลปิ้งย่างสร้างกลิ่นหอม เพื่อเป็นการยั่วยุเหล่านักโทษ ที่อดอาหารประท้วง
เมื่อเหล่านักโทษปาเลสไตน์ ทำการประท้วงเจ้าหน้าที่ด้วยวิธีการคลาสสิกแต่ได้ผลเสมอมาอย่างการอดอาหาร แต่ทว่าดูเหมือนมันจะใช้ไม่ได้ผลนักในเหตุการณ์ครั้งนี้ เพราะสมาชิกพรรคฝ่ายขวา Ichud Leumi (สหภาพแห่งชาติ) ได้จัดการยั่วยุเหล่านักโทษด้วยวิธีการที่โหดเสียกว่าการทำร้ายร่างกายหรือพูดจาไม่ดีใส่เสียอีก เพราะวิธีที่ว่าก็คือการตั้งปาร์ตี้ปิกนิกพร้อมแจกอาหารฟรี และทำการโจมตีด้วยกลิ่นอาหารปิ้งย่าง!! แถมกลิ่นที่ว่า ก็ไม่ใช่กลิ่นไม่ดีหรือเป็นพิษแต่อย่างใด แต่มันคือกลิ่นของเนื้อย่างบาร์บีคิวหอมๆ ที่ลอยไปตามลมจนเล็ดลอดผ่านเข้าไปถึงห้องขังของเหล่านักโทษที่ทำการประท้วงกว่า 1,500 ชีวิต ในเรือนจำ Ofer เขตเวสต์แบงก์ ของประเทศอิสราเอล การประท้วงอดอาหารดังกล่าว นำโดยนักโทษชาวปาเลสไตน์นามว่า Marwan Barghouti เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อเป็นการกดดันให้ทางการอิสราเอลมอบสวัสดิการทางการแพทย์ที่ดีและให้สิทธิ์นักโทษสามารถใช้โทรศัพท์ได้ และเกิดเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์กับเจ้าหน้าที่อิสราเอลเมื่อวันที่ 20 เมษายน ภายนอกเรือนจำทางตอนเหนือของเยรูซาเลมด้วย ในระหว่างที่ผู้ถูกคุมขังชาวปาเลสไตน์กำลังทำการอดอาหารประท้วงอย่างต่อเนื่องภายในเรือนจำ ลองคิดสภาพเราเป็นชาวเน็ตที่กำลังหิวแล้วอยู่ดีๆ ก็เลื่อนไปเจอภาพอาหารที่น่ากินในยามดึก แค่นั้นมันก็ทรมานสุดๆ แล้ว แต่นี้อดอาหารประท้วงอยู่ กลับต้องรู้ว่าข้างนอกมีปาร์ตี้ของกินอยู่และแค่นั้นยังไม่พอ ดันส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลอีก… คลิปจากเหตุการณ์ดังกล่าว กับความทรมานในความหิวโหยของนักโทษในคุก ที่กำลังอดอาหารประท้วงอยู่ โหดร้ายสุดๆ รูปอาหารยามดึกยังเทียบชั้นไม่ติด!! ที่มา rt
-
ตามติดชีวิตเจ้าเหมียว “LB” จากแมวจรจัดถีบตัวเองจนได้ดี เป็นเจ้าของฟิตเนสเลย!!
ถ้าพูดถึงวีรกรรมของแมวเหมียว ที่พวกมันมักจะแกล้งทำตัวน่าสงสาร แถมยังทำสายตาละห้อยให้มนุษย์ใจอ่อนรับไปเลี้ยง ส่วนใหญ่พวกมันเลือกเป้าหมายเป็นบ้าน หรือไม่ก็โรงเรียน (ที่เห็นกันบ่อยๆ อ่ะนะ) แต่คราวนี้เล่นใหญ่มาก เพราะเจ้าเหมียวที่ใครๆ ในยิมก็ตั้งชื่อให้ว่า LB มันถีบตัวเองจากแมวจรจัดที่ต้องดิ้นรนอยู่ข้างถนน จนวันนี้มันได้กลายมาเป็นเจ้าของกิจการฟิตเนสไปซะแล้ว! หลักฐานยืนยัน ใครที่มาใช้บริการที่นี่ต้องทำความเคารพมันก่อนทุกครั้ง ผู้ใช้บริการยิมคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า ‘วันหนึ่งมันเดินเข้ามาในยิมร้องเมี๊ยวๆ แล้วหลังจากนั้นมันก็อยู่ที่นี่มาโดยตลอด ไม่ยอมไปไหนเลย แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีมากเลยนะ เพราะมันช่วยทำให้พวกเราทุกคนรู้สึกออกกำลังได้ดีขึ้น ไม่รู้เป็นเพราะอะไร’ ตอนนี้มันมีชีวิตเหมือนเสือนอนกิน สิ่งที่มันทำในแต่ละวันก็แค่.. กิน กิน กิน แล้วก็กิน แถมบางทีมันยังผันตัวเองมาเป็นโค้ช คอยให้คำแนะนำผู้ใช้บริการอีกด้วย แต่ถ้าวันไหนลูกพี่อารมณ์ไม่จอย ก็ไม่มีนุษย์หน้าไหนจะได้เล่นเครื่องเล่นตรงบริเวณที่เค้านอนอยู่ หรือบางวันถ้าอากาศดี ลูกพี่ LB ก็จะออกมานำวอร์มร่างกายด้วยตัวเอง ‘ตั้งแต่เจ้า LB เข้ามามันก็ยึดกิจการของผมไปซะแล้ว ตอนนี้มันกลายเป็นเจ้าของที่แห่งนี้แล้วล่ะ มันสามารถทำให้ทุกคนสนุกกับการออกกำลังกายได้ดีกว่าผมซะอีก ทุกคนที่ใช้บริการจะเข้ามาเล่นกับมันทุกครั้ง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเจ้านายที่ขี้เกียจมากก็ตาม แต่ทำยังไงได้ก็คนมันรักไปแล้วนี่เนอะ’ เจ้าของกิจการเล่า และจากวันนั้นที่แห่งนี้ก็กลายเป็นโรงยิมที่เต็มไปด้วยความสุขมาโดยตลอด แหม่…ชีวิตดี๊ดี…
-
พาไปชมความสวยงามของ “กุหลาบหิน” พันธุ์หายาก คนรักการปลูกต้นไม้ห้ามพลาด!!
ก่อนหน้านี้ #เหมียวเวจจี้ ได้แนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับพืชอวบน้ำสุดน่ารัก ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่นอย่างต้นโลมา และต้นกระต่ายน้อย เชื่อแน่ว่าหลายคนกำลังออกตามหาเจ้าต้นไม้ทั้ง 2 ชนิดนี้มาประดับประดาเพิ่มความน่ารักให้กับบ้าน หรือที่ทำงานกันอยู่ใช่มั้ยล่ะ เพื่อเอาใจสายเขียว เอ้ย!! คนรักธรรมชาติ วันนี้เราก็มีพืชอวบน้ำอีกชนิดที่จะมาแนะนำให้รู้จักกัน ลักษณะลำต้นคล้ายกับดอกกุหลาบ แต่ไม่ใช่ดอกกุหลาบแท้ๆ หรอกนะ ต้นไม้ที่ว่านี้ก็คือต้น Greenovia Dodrentalis เป็นหนึ่งในตระกูลพืชอวบน้ำ และจัดอยู่ในวงศ์กุหลาบหิน ส่วนโค้งของลำต้นมีลักษณะคล้ายกับดอกกุหลาบ หลายๆ คนที่ชื่นชอบการปลูกต้นไม้ อาจจะคุ้นเคยกับกุหลาบหินกันเป็นอย่างดี แต่เจ้าต้น Greenovia Dodrentalis นั้นไม่เหมือนกัน มันเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่หายาก โดยพบได้มากที่หมู่เกาะคะแนรี นอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกาในมหาสมุทรแอตแลนติกนู่นเลยทีเดียว!! เราไปชมความสวยงามของกุหลาบหินพันธุ์นี้กันได้เลย รับรองถูกใจคนรักต้นไม้อย่างแน่นอน… . . ไม่ว่าจะมุมไหนก็ดูคล้ายกับกุหลาบจริงๆ นะเนี่ย . . เอามาจัดเป็นช่อแบบนี้ก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย . หรือจะปลูกต้นเล็กๆ แบบนี้ไว้ใกล้ๆ โต๊ะทำงานก็น่ารักดีเหมือนกันนะ . . . . . . .…
-
ชาวเน็ตแห่ชื่นชม!! สามีภรรยาที่ทำเสื้อทีมมาเชียร์ลูกสาว ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะหย่ากันแล้ว..
ชีวิตในช่วงวัยเด็กเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ ในช่วงนี้เด็กจะมีการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวเด็กนั้น มีผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยเป็นอย่างมาก ตัวอย่างของการดูแลเอาใจใส่ลูกสาวของสามีภรรยาคู่หนึ่ง ที่ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวใหม่แล้วก็ตาม แต่ก็ยังรักและดูแลลูกของพวกเขาอยู่เสมอ… ครอบครัวของ Maelyn Cazeau สาวน้อยวัย 4 ขวบจากรัฐจอร์เจีย ได้ทำเรื่องราวที่สุดแสนจะน่ารักและได้รับคำชมเชยจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก เมื่อพวกเขาทำชุดฟุตบอลเป็นทีมของครอบครัว โดยใส่เบอร์ 37 ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัวของสูกสาว เพื่อไปเชียร์เจ้าตัวน้อยในการแข่งฟุตบอล ถึงแม้ว่าคุณ Clara Cazeau และสามีของเธอจะหย่ากันและทั้งสองต่างมีคู่ชีวิตใหม่แล้ว แต่ก็ยังคงมาให้กำลังใจหนูน้อย Maelyn ในการแข่งฟุตบอล นอกจากนี้ทั้งสองครอบครัวยังช่วยกันเลี้ยงดูลูกสาวของพวกเขาอีกด้วย Maelyn เป็นเด็กที่โชคดีมาก เธอได้รับความรักจากพ่อแม่ถึง 2 คู่ด้วยกันซึ่งทั้งพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงก็รักและเอ็นดูสาวน้อยมาก คุณ Clara บอกกับนักข่าวอย่างภาคภูมิใจเกี่ยวกับการร่วมกันเลี้ยงดูลูกน้อยของเธอว่า “มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ลูกของเราควรจะเติบโตมาและเข้าใจว่าพ่อและแม่ ได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อเค้า” และนี่คือชุดทีมฟุตบอลที่ครอบครัวของเธอทำขึ้นมา เมื่อรูปชุดทีมฟุตบอลที่มีทั้งแม่กับพ่อเลี้ยง และพ่อกับแม่เลี้ยงของสาวน้อยได้ถูกเผยแพร่ในทวิตเตอร์ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมและแสดงความคิดเห็นมากมาย ภาพดังกล่าวทำให้หลายๆ คนรู้สึกดีและซาบซึ้งกับสิ่งที่พวกเขาทำอย่างมาก อย่างสาวคนนี้บอกว่า “ฉันหวังว่าพ่อแม่จะดูแลฉันแบบนี้หลังจากที่พวกเขาหย่ากันนะ เด็กคนนี้โชคดีจริงๆ” บางคนก็เข้ามายกย่องพวกเขา หรือบางคนถึงขั้นซึ้งจนร้องไห้กันเลยทีเดียว!! และผู้ใช้งานเฟซบุ๊คที่ใช้ชื่อ Emilee Plaayer ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของ Maelyn…
-
ชมวินาทีชีวิต นักดับเพลิงเกาหลีใต้ช่วยชีวิตคนฆ่าตัวตาย โหนตัวลงมาถีบอย่างกับนินจา!!
ขอพาทุกท่านเข้าสู่ช่วงสกู๊ปพิเศษ… รายการวินาทีชีวิต ที่จะพาทุกท่านไปลุ้นระทึกกับภารกิจช่วยชีวิตของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จากเกาหลีใต้ในครั้งนี้ โดยผู้สื่อข่าวจากเกาหลีใต้ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 เมษายน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีหญิงสาวกำลังคิดจะกระโดดตึก และถึงแม้ว่าจะให้ญาติเข้ามาพยายามไกล่เกลี่ยแล้ว ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล งานนี้นักดับเพลิงหนุ่มผู้กล้า ต้องแอบปีนขึ้นมาจากห้องด้านบนอย่างช้าๆ เขาค่อยๆ โหนตัวเองลงมาจากระเบียง ไม่มีสลิง ไม่มีตัวแสดงแทน นี่มันช็อตเสี่ยงตายชัดๆ!! ชั่วพริบตาเดียว เจ้าหน้าที่ได้โหนตัวเองลงมา พร้อมกับเอาเท้าถีบไปที่หญิงสาวเข้าอย่างจัง ก่อนที่จะกระโดดทิ้งตัวลงไปที่ระเบียง พี่เค้าทำเซียนเหมือนเรียนมาเลย ถ้าใครอยากชมวิดีโอเหตุการณ์เต็มก็ตามนี้เลย แต่เชื่อเถอะ..ว่าเราเล่าไปหมดแล้ว ฮ่าๆ ด้วยปัญหาชีวิต และอะไรหลายๆ อย่างอาจจะทำให้เธอคิดสั้น ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้แล้วกันนะ ที่มา: Allkpop
-
‘Muji’ เปิดตัวกระต๊อบมินิมอลขนาดเล็กจิ๋ว พร้อมขายที่ญี่ปุ่น ถูกใจชาวฮิปสเตอร์ได้อีก!!
เราเคยสงสัยมั้ยว่าจริงๆ แล้วคำว่า ‘Minimal’ มันหมายถึงอะไรกันแน่ ซึ่งบางคนก็ให้คำนิยามไว้ว่า ‘Less is more’ แต่ยิ่งพูดก็ยิ่งชวนให้งง เอาเป็นว่าบ้านหลังเล็กจิ๋วของ Muji นี่แหละ ที่จะทำให้เรารู้จักคำว่ามินิมอลเข้าไปอีกนิด ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 บริษัท Muji เคยออกมาประกาศว่าจะนำหลักปรัชญามินิมอล มาประยุกต์เข้ากับการสร้างบ้านให้ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนญี่ปุ่น และนี่คือผลงานล่าสุดที่เขาปล่อยออกมา ถ่ะแด๊มมม..!! นี่ไงกระต๊อบเล็กจิ๋วแบบมินิมอลสุดๆ จนกระทั่งในที่สุด ก็ถึงเวลาที่ทางบริษัทได้เปิดตัว ‘Muji’s Hut’ ให้ทั่วโลกได้ชมกันซักที นอกจากจะได้อยู่อาศัยในแบบฮิปๆ คูลๆ แล้ว ทางบริษัทยังได้เลือกสร้างโครงการบ้านหลังน้อยทั้งหมดนี้ ไว้บนพื้นที่ขนาดกว้าง โดยมีทั้งห้องน้ำ ห้องรับแขก ออฟฟิศ หรือแม้แต่ห้องทานอาหาร คอยรับรองให้ผู้อยู่อาศัยอีกด้วย ตัวอย่างแบบแปลนบนพื้นที่โครงการ เรียกได้ว่ากระต๊อบหลังเล็กจิ๋วนี้ ถูกออกแบบมาสำหรับใช้เป็นที่พักผ่อนจริงๆ คือนอนได้อย่างเดียว ถึงจะมีขนาดพื้นที่เพียงแค่ 9 ตม. แต่ทางบริษัทเคลมว่าถ้าอัดกันอยู่จริงๆ มันสามารถอยู่ได้ตั้ง 4 คนต่อหนึ่งหลังเลยนะเออ …
-
ตามไปดูปฏิกิริยาของชายอกสามศอก ที่ได้สัมผัสความเจ็บของผู้หญิงตอนคลอดลูก!!
เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า ผู้ชายเนี่ยยังไงก็ไม่มีวันที่จะเข้าใจความเจ็บปวดในการคลอดลูกของผู้หญิงหรอก ซึ่งเราก็คิดว่ามันจริงนั่นแหละ เพราะการจะให้กำเนิดชีวิตใหม่ออกมามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ดังนั้นที่มหาวิทยาลัย Lincoln Memorial จึงได้สร้างเครื่องจำลองความเจ็บปวดนี้ขึ้นมา และอาสาสมัครนักศึกษาชายผู้กล้าในครั้งนี้ก็คือ Johnny Wade โดยเครื่องดังกล่าวจะทำหน้าที่คล้าย กับเครื่องตรวจวัดชีพจรที่จะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมา ซึ่งครั้งนี้พ่อหนุ่มอาสาสมัคร จะต้องนำเครื่องดังกล่าวไปติดไว้ที่บริเวณกระปู๋ของเขา หลังจากที่เครื่องเริ่มทำงาน พ่อหนุ่มก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก เขาสามารถทนเจ็บได้เพียงแค่ประมาณ 20 วิฯ เท่านั้น ก่อนจะโบกมือขอยอมแพ้ไปซะงั้น ดูสีหน้าของเค้าซะก่อน ว่ามันจะเจ็บปวดขนาดไหน เห็นแค่รูปมันไม่ชัดเจน ขอแนะนำให้เปิดเสียงลำโพงดังๆ ไปเลย ฮ่าๆ เห็นแล้วก็รู้สึกว่า… ถ้าผู้ชายต้องมาคลอดลูกด้วย มนุษยชาติคงสูญพันธุ์ไปนานแล้วแน่ๆ ที่มา: Boredpanda
-
โปรเจค ‘ตามล่าฝัน’ ชีวิตของผู้คนอินเดียกับอาชีพที่ทำอยู่ และเผยอาชีพในความฝัน…
ยังจำได้มั้ยว่าตอนเด็กๆ เราเคยฝันอยากจะเป็นอะไรกันบ้าง? บางคนอาจจะอยากเป็นตำรวจ เป็นทหาร เป็นหมอ หรือพยาบาล ก็ว่ากันไปตามความฝันของแต่ละคน ทว่าพอเราโตขึ้นปัจจัยเงื่อนไขหลายอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป และบางทีมันก็ทำให้เราลืมคิดย้อนกลับไปถึงความฝันในวัยเด็ก Deeksha Rathore นักศึกษาชาวอินเดีย จึงได้ออกเดินทางถ่ายภาพของผู้คนเปรียบเทียบระหว่าง อาชีพที่พวกเขาทำอยู่จริง และอาชีพในความฝันของพวกเขา ในโปรเจคที่ชื่อว่า Dreamcatcher 1. แม่บ้าน เธอฝันอยากจะเป็นนักเต้น Bharatanatyam (ศิลปะการเต้นของอินเดีย) 2. คนทำขนม Mithai (ขนมของอินเดีย) ฝันอยากเป็นแฟชั่นดีไซน์เนอร์ 3. แอร์โฮสเตสสาว เธอฝันอยากจะเป็นดีเจ 4. คนขายอัญมณี ฝันอยากจะเป็นแอร์โฮสเตส 5. คนขายน้ำผลไม้ เคยฝันอยากเป็นทหาร 6. หนุ่มบาร์เทนเดอร์ ฝันอยากเป็นพนักงานขององค์กรขนาดใหญ่ 7. คุณหมอ ฝันอยากจะเป็นนักกีฬาคริกเก็ตระดับมืออาชีพ…
-
“The Kailasa Temple” วิหารในอินเดีย ที่สร้างมาจากก้อนหินยักษ์เพียงก้อนเดียว
วันนี้ขอเปลี่ยนอารมณ์ผู้อ่านจากเรื่องแมวๆ หมาๆ มาเป็นเรื่องสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจของโลกนี้กันบ้างดีกว่า และอาจเรียกได้ว่านี่เป็นวิหารที่สร้างมาจากหินยักษ์เพียงก้อนเดียว ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ The Kailasa Temple ตั้งอยู่ในรัฐมหาราษฏระ (Maharashtra) ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นสถานที่ๆ ถูกสร้างขึ้นมาให้เหมือนกับเขาไกรลาส ที่ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของพระศิวะ ตามความเชื่อของชาวฮินดู ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าทั้งหมดนี้ถูกสร้างมาจากพลังแห่งศรัทธา โดยใช้ก้อนหินยักษ์เพียงก้อนเดียวเท่านั้น ย้อนกลับไปเมื่อสมัยคริสตศักราชที่ 760 กษัตริย์คริชนะที่ 1 ทรงสั่งสร้างวิหารแห่งนี้ขึ้นมา โดยมีการผสมผสานศิลปะของวัฒนธรรมปัลลวะ (Pallava) และศิลปะจากราชวงศ์จาลุกยะ (Chalukya) เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าจากชาวอินเดียในท้องถิ่นเล่าว่า สมัยก่อนตอนที่กษัตริย์ทรงป่วยหนัก พระมเหสีได้สวดมนต์ขอพรจากองค์พระศิวะ โดยอธิษฐานว่าจะสร้างวิหารถวายให้พระองค์ หลังจากนั้นอาการของกษัตริย์ก็ดีขึ้นตามลำดับ กษัตริย์เมื่อรู้เรื่องเข้าจึงได้มีพระราชโองการสั่งให้เกณฑ์ช่างแกะสลักฝีมือดีมาสร้างวิหารดังกล่าวขึ้น โดยตามตำนานเล่าว่าวิหารแห่งนี้ใช้เวลาสร้างเพียงแค่ 1 อาทิตย์เท่านั้น รายละเอียดทุกตารางนิ้วภายในวิหารแห่งนี้ จะเป็นการสื่อนัยยะถึงความศรัทธาที่มีต่อพระศิวะ ตามความเชื่อของชาวฮินดู งานแกะสลักรูปช้างที่ดูเหมือนกำลังแบกวิหารศักดิ์สิทธิ์นี้อยู่ ซึ่งก็เป็นการอ้างอิงจากตำนานความเชื่อของศาสนาฮินดูเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นอีกสถานที่ๆ ครั้งหนึ่งควรจะไปเที่ยวชมให้ได้เลยล่ะ ไม่น่าเชื่อว่าวิหารทั้งหมดนี้จะถูกสร้างจากหินเพียงก้อนเดียว คนสมัยนั้นต้องอัจฉริยะมากแน่ๆ ที่มา:…
-
เปิดประสบการณ์ใหม่ หนุ่มไทยพาทัวร์กัญชาที่ซีแอตเทิล ได้ความรู้เน้นๆ ย้ำเยิ้มๆ
วันที่ 20 เมษายน หรือวัน 420 ของชาวสายเขียวเพิ่งจะผ่านพ้นไปหมาดๆ และวันนี้เราจะพาผู้อ่านไปสัมผัสกับประสบการณ์ทัวร์ฟาร์มกัญชาจากเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ที่คุณ พีรชาติ อำไพจิตร หนุ่มไทยวัย 32 ปี ได้ไปสัมผัสมาด้วยตัวเอง แหม่.. ขอบอกเลยว่างานนี้สายเขียวห้ามพลาดเลยล่ะ FB: Peerachart Umpaichitr IG: n0te Note: HAPPY 420 DAY ทัวร์ฟาร์มกัญชาที่ซีแอตเทิลครับ ราคาค่าทัวร์ครั้งนี้ 150 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 5,200 บาท ใช้เวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมงครึ่ง เริ่มแรกก็จะมีเจ้าหน้าที่มาให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกัญชากันก่อน จากนั้นก็พาไปชมบ้องแปลกๆ ที่สร้างมาจากการเป่าแก้ว อย่างเช่นภาพนี้เป็นบ้องกีต้าร์ จะโซโล่ไปด้วย ดูดกัญชาไปด้วยก็ยังได้ จากนั้นก็พาไปชมฝีมือการเป่าแก้วของศิลปิน กว่าที่จะนำมาวางขายตามช็อปได้ไม่ใช่ง่ายๆ เลย ส่วนนี่คือตู้คอนเทนเนอร์ปลูกกัญชาเอนกประสงค์ เพียงแค่เสียบปลั๊ก เติมน้ำ ก็สามารถปลูกได้ทันที ต่อไปก็มีรถมารับพาไปชมฟาร์มกัญชา…
-
ดาราสาวสาวเกาหลี “อีแทอิม” เผยทานข้าวแค่วันละ 3 ช้อน ก็เพื่อหุ่นที่เพรียวบาง!!
การมีหุ่นผอมเพรียวนั้นเป็นสิ่งที่สาวๆ ทุกคนใฝ่ฝัน ผู้หญิงทั้งหลายจึงสรรหาสารพัดวิธีที่จะทำให้ตัวเองนั้นมีเรือนร่างที่สวยงาม มีส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างที่ต้องการ แต่มีดาราสาวเกาหลีคนหนึ่งที่มีวิธีการลดน้ำหนักโดยทานข้าวแค่วันละ 3 ช้อน!? ทำให้ตอนนี้เธอมีรูปร่างที่ผอมเกินไป จนใครๆ ที่ได้เห็นก็ต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน ทึ่งกันยกใหญ่กับนักแสดงสาวเกาหลียอดนิยม Lee Tae Im ที่เปิดเผยว่าเธอกินข้าวแค่วันละ 3 ช้อนต่อวัน เพื่อรักษารูปร่างให้ผอมเพรียวและบางเฉียบของเธอ เธอได้ปรากฎตัวในรายการ Video Star ของช่อง MBC Every1 และเป็นที่ตกตะลึงต่อแขกที่ร่วมรายการอย่างมากเพราะความผอมบางจนเกินเหตุของเธอ เธอยอมรับว่า 6 เดือนที่ผ่านมาเธอได้ทำการลดน้ำหนักอย่างหนักโดยกินข้าวแค่ 3 ช้อนต่อวันเท่านั้น เธอสารภาพว่าก่อนหน้านั้นเธอรู้สึกแย่กับรูปร่างของเธอหลังจากที่ถ่ายภาพร่วมกับเพื่อนนักแสดงสาวคนอื่นๆ ที่มีรูปร่างที่ดีกว่าเธอ โดยที่เธอก็ยอมรับว่าการลดน้ำหนักแบบนี้นั้นไม่ดีต่อสุขภาพและไม่แนะนำให้ใครทำตาม แต่ที่เธอใช้วิธีทานข้าววันละ 3 ช้อนนี้ เพียงเพราะเธออยากที่ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วและปรากฎตัวบนหน้าจอโทรทัศน์ได้อย่างสวยงามในฐานะนักแสดงหญิง แขกที่ร่วมรายการ Video Star ก็แสดงถึงความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของเธอว่าควรจะทานข้าวให้มากกว่านี้ ส่วนแฟนคลับของเธอก็ได้มาแสดงความคิดเห็นในภาพบนอินสตาแกรมถึงรูปลักษณ์ที่ผอมเกินไป “Lee Tae Im” ก็ยอมรับว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ที่ได้พบเธอก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เธอนั้นดูผอมบางจนเกินไปแล้ว …
-
เปิดสูตรขนมไทยจากแม่บ้านนอร์เวย์ “โดนัทข้าวเหนียวมะม่วง” หวานละมุน หน้าตาดี๊ดี
ฮัลโหลล!! เพื่อนๆ ชาวเหมียวช่วงนี้ก็เข้าสู่ฤดูร้อนกันแล้วนะ อยากหาของหวานฉ่ำๆ มาทานกันใช่ไหมล่ะ? หน้าร้อนแบบนี้ผลไม้ยอดนิยมคงหนีไม่พ้นมะม่วงสุก ที่ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว ถ้าได้ทานกับข้าวเหนียวมูนนุ่มๆ ราดกะทิหน่อย คงจะเป็นอะไรที่ฟินมาก ดังนั้นจะรออะไรล่ะ เราไปทำข้าวเหนียวมะม่วงกินกันดีกว่า แต่ครั้งนี้พิเศษหน่อยนะเพราะเราจะทำเป็นแบบ “โดนัทข้าวเหนียวมะม่วง” เป็นสูตรจากแม่บ้านไทยในนอร์เวย์ เจ้าของกระทู้ในเว็บไซต์พันทิปที่ใช้ชื่อว่า “Diary Delicious” ที่มีสูตรอาหารน่าทานมากมายให้เราเข้าไปชมกัน แต่ตอนนี้เราไปทำโดนัทข้าวเหนียวมะม่วงกันก่อนดีกว่าจ้าา ส่วนผสมข้าวเหนียวมูน – ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 300 กรัม (หรือถ้าไม่มีก็เอาข้าวเหนียวธรรมดาก็ได้นะ) – น้ำกะทิ 1.5 ถ้วยตวง – น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง – เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ – สารส้มสำหรับขัดข้าวเหนียว – ใบเตย สูตรน้ำกะทิราดข้าวเหนียว – กะทิ 1 ถ้วย – แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนชา – เกลือ 3/4 ช้อนชา…
-
เส้นทางของหนุ่มอ้วนกว่า 200 กิโล สู่การเป็นเทรนเนอร์สายสุขภาพ เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง!!
หลายครั้งที่เราเปลี่ยนตัวเองเพื่ออะไรบางอย่าง เพื่อความรัก เพื่อการงาน เพื่อคนอื่น บ้างก็ทำสำเร็จบ้างก็ล้มเหลว แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีในการที่เราได้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เหมือนกับหนุ่มคนนี้ ที่เขาลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา หนุ่มคนนี้ไม่ได้ทำเพื่อใครแต่เขาทำเพื่อตัวเองและเขาก็ทำสำเร็จซะด้วย หนุ่มคนนี้นามว่า “Luis Trigo” เขาลุกขึ้นมาลดน้ำหนักกว่า 100 กิโลเพื่อรักษาภาวะซึมเศร้าของเขา เขาเคยหนักกว่า 200 กิโลกรัม และเริ่มคิดว่าต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองหลังจากที่เจอแต่เรื่องร้ายๆ เช่น ถูกบังคับให้ลาออกจากงานเพราะไม่สามารถที่จะยืนทำงานได้อย่างคนอื่นเนื่องจากตัวหนักเกินไป และที่หนักที่สุดก็คือแฟนสาวก็ยังมาทิ้งไปอีก แพทย์ได้บอกกับ Luis ว่า น้ำหนักที่มากล้นของเขาคือปัญหาใหญ่และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเขามากๆ ไม่น่าเชื่อว่า 6 ปีต่อมา ผู้คนก็รู้จักเขาในฐานะเทรนเนอร์ส่วนตัว โค้ชเกี่ยวกับสุขภาพและโภชนาการ และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คนอีกด้วย Luis บอกว่าเขาอ้วนมาตั้งแต่เด็กและมาอ้วนหนักๆ ก็ตอนอยู่ช่วงประถม และเมื่อเขาได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยก็มัวแต่สนใจแต่เรื่องการเรียนโดยไม่สนเรื่องสุขภาพร่างกายเลย นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักของเขาพุ่งทะลุเพดานขนาดนี้ เมื่อตอนที่เขามีน้ำหนัก 150 กิโลกรัม เขาไม่สามารถที่จะยืนทำงานในคลังสินค้าได้มันทำให้เขาเหนื่อยตลอดเวลา และหลังจากที่ออกจากงานมาแล้ว น้ำหนักของเขาก็พุ่งขึ้นเป็น 200 กิโล และถูกวินิจฉัยว่าจะเป็นโรคเบาหวานหากไม่ลดน้ำหนักตั้งแต่ตอนนี้ จากนั้นเขาก็เริ่มคลั่งการออกกำลังกาย…
-
10 ภาพปัจจุบันของนักแสดงเด็กในหนังสยองขวัญ กับประสบการณ์ขนหัวลุกที่เคยมอบให้คุณ…
สำหรับแฟนๆ หนังสยองขวัญต้องเคยดูหนังแนวนี้ ที่มีเด็กๆ แสดงมากันบ้างแน่นอน โดยพวกเด็กๆ ที่แสดงในเรื่องก็มักจะมีหลายบทบาทแตกต่างกันออกไป บางคนเล่นเป็นผีเด็ก บางคนเล่นเป็นตัวเอกที่นำมาซึ่งเรื่องราวลึกลับขนหัวลุก แต่เมื่อเวลาผ่านไปพวกเค้าเหล่านั้นก็ย่อมเติบโตขึ้น บางคนยังคงอยู่ในวงการภาพยนตร์ แต่บางคนก็ไม่ได้แม้แต่แสดงละครทีวีแล้ว ซึ่งถ้าหากคุณคือแฟนหนังสยองขวัญละก็ คงจะคิดถึงพวกเขาบ้างแน่ๆ และเพื่อให้หายคิดถึง เราจะพาไปชมภาพของเหล่านักแสดงเด็กจากหนังสยองขวัญในอดีตที่โตมาเป็นผู้ใหญ่ แต่ละคนจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหนไปชมพร้อมๆ กันเลย 1. Lisa and Louise Burns เด็กคู่แฝดในโรงแรมผีสิงจากเรื่อง The Shining และนี่คือพวกเธอทั้งคู่ในตอนนี้ 2. เด็กน้อยผู้มาอยู่กับครอบครัวจากเรื่อง The Shining เหมือนกัน แหม่ เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะเนี่ย 3. Danielle Harris รับบทเป็น Jamie Lloyd ในเรื่อง Halloween 4 และ 5 และนี่คือเธอในปัจจุบัน หนุ่มๆ ใจเย็นๆ นะ 4. Harvey Stephens รับบทเป็นเด็กซาตาน จากเรื่อง The Omen…
-
“หญิงสาวในฟองสบู่” สาวออสซี่ผู้ป่วยด้วยโรคร้าย แพ้สารเคมีแทบทุกอย่างบนโลก..
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันการแพทย์จะก้าวหน้าไปอย่างมาก หลายๆ โรคที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้ ถูกค้นพบแนวทางการรักษา ทำให้สามารถช่วยชีวิตป่วยจากโรคร้ายเหล่านั้นได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีบางโรคที่ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังคงหาคำตอบของสาเหตุการเกิดและวิธีการรักษาไม่ได้ อย่างเช่นโรคที่เกี่ยวกับอาการภูมิแพ้ต่างๆ ซึ่งบางอาการแพ้ก็ยังไม่สามารที่จะหาแนวทางการรักษาที่ชัดเจนเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยหายขาดจากโรคได้ และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายคนหนึ่งที่ป่วยด้วยอาการภูมิแพ้ โดยโรคของเธอนั้นรุนแรงอย่างมาก ทำให้เธอต้องลาออกจากงานและต้องอาศัยอยู่แต่ในห้องที่ปราศจากสารเคมี… Amelia Hill หญิงสาววัย 41 ปีหรือที่รู้จักกันในชื่อของ “ผู้หญิงในฟองสบู่” ต้องอาศัยอยู่ภายในบ้านราวกับเป็นนักโทษ เนื่องจากอาการแพ้สารเคมีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างรุนแรงของเธอ ทำให้เธอไม่สามารถออกมาใช้ชีวิตตามปกติภายนอกได้ เธอบอกว่าเธอเริ่มมีอาการแพ้ครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 15 ปีหลังจากที่ได้สัมผัสกับสเปรย์ฉีดปลวก สาวผู้เคราะห์ร้ายวัย 41 ปีบอกว่า “บางครั้งเป็นอาการแพ้ของฉันเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง มันทรมานอย่างมาก ฉันทั้งปวดกล้ามเนื้อ มีผื่นขึ้นและอ่อนแรง” นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่า บางครั้งสารเคมีในบ้านอย่างพวกน้ำยาล้างพื้นก็ทำให้เธอแพ้ได้ บางทีแค่เธอได้สัมผัสมันก็เกิดอาการหายใจไม่ออกและเกือบเอาชีวิตไม่รอดเลยทีเดียว จนกระทั้งตอนอายุ 33 เธอได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการแพ้สารเคมีหลายชนิด มีอาการอ่อนล้าเรื้อรัง (Chronic Fatigue Syndrome) และเป็นโรคอาการไวต่อการสัมผัสสนามแม่เหล็ก (Electromagnetic Hypersensitivity) โดยก่อนที่จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคดังกล่าว เธอทำงานเป็นนักออกแบบและบรรณาธิการนิตยสารแห่งหนึ่ง แต่เมื่ออายุ 30 ปีอาการแพ้ของเธอเริ่มหนักขึ้น เธอรู้สึกอ่อนแรงและไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ จึงเข้ารับการรักษาและนั่นจึงทำให้เธอต้องออกจากงานเพื่อพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน อาการเเพ้ของเธอตอบสนองกับสารเคมีแทบจะทุกชนิด…
-
วิถีครัวเร่งรีบ เมนู “มันฝรั่งอบชีส” สำหรับคนมีเวลาน้อย ทำแป๊บเดียวก็ได้ทานแล้ว!!
ห่างหายจากการเข้าครัวไปซักพักวันนี้กลับมาเอาใจคนรักชีสหน่อยนะ กับเมนูที่ทานเป็นอาหารหลักหรือทานเป็นของว่างก็ได้แถมทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยากในสไตล์ #เหมียวหน่า ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง ปาร์ตี้สนุกๆ ก็สามารถมีเมนูนี้ไว้ทานกันได้ และเมนูของเราก็คือ “มันฝรั่งอบชีส” มาเอร็ดอร่อยกับมันฝรั่งชิ้นหนาที่อบจนกรอบหอมอบอวลไปด้วยพาเมซานชีส แค่พูดก็น้ำลายสอแล้วยังจะรออะไรอีก? รีบไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยดีกว่า วัตถุดิบและส่วนผสม – มันฝรั่งแดงหรือมันฝรั่งธรรมดาลูกขนาดพอดีไม่ต้องใหญ่มาก ปลอกเปลือก 5 ลูก – พาเมซานชีสขูด 1/2 ถ้วยตวง – ผงพริกปาปริก้า 1 ช้อนชา – ผงกระเทียม 1 ช้อนชา – น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ – เกลือนิดหน่อย – พาร์สลีย์สับ(เอาไว้โรยหน้า) ไปลงมือทำกันเลยยย!!!! อันดับแรกเรามาหั่นมันฝรั่งให้เป็นชิ้นครึ่งวงกลมหนาๆ ไม่ต้องบางมาก แบบในภาพเลย จากนั้นเทมันฝรั่งที่หั่นแล้วลงไปในชามใหญ่ และใส่ส่วนผสมเครื่องปรุงทั้งหมดลงไป ผงพริกปาปริก้า ผงกระเทียม น้ำมันมะกอก เกลือเล็กน้อยและพาเมซานชีส ยกเว้นพาร์สลีย์ไว้โรยตอนท้าย…
-
คนโสดเรียนเชิญ พาไปดูร้านอาหารเกาหลีสำหรับ “กินคนเดียว” อร่อยเองไม่ต้องง้อใคร
เมื่อคุณรู้สึกหิวและอยากออกไปทานข้าวกับใครซักคน แต่พอไปหาแม่ แม่ก็ซักผ้า ไปหาย่า คุณย่าก็ไม่อยู่ ไปหาปู่ ปู่ก็ติดเล่นไพ่ พอ!! จะโทรหาแฟนก็ไม่มีให้โทร แล้วชีวิตนี้จะต้องทำยังไงงงงงงงง!! ร้านอาหารในไทยก็ชอบจัดแต่โปรโมชั่นที่มาเป็นคู่รักบ้าง มาสี่จ่ายสามบ้าง เคยคิดถึงหัวอกคนไม่มีใครบ้างไหม!? ว่ามันเหงาและโดดเดี่ยวแค่ไหน ถ้ามีร้านที่มันเหมาะกับคนเหงาๆ อย่างเราก็คงจะดี แต่ใครจะไปรู้ว่ามันมีจริงๆ!!! นั่นก็คือร้าน “Jean dokgo” ซึ่งร้านนี้ตั้งอยู่ในเมือง Bucheon จังหวัด Gyeonggi ประเทศเกาหลีใต้ เป็นร้านที่เหมาะกับคนเหงาสุดๆ ร้านตั้งอยู่บนถนน Rodeo Street ใกล้ๆ กับ Bucheon Central Park เมนูก็จะเป็นเนื้อย่างเกาหลีและเมนูอาหารเกาหลีอื่นๆ . เป็นร้านที่มีโต๊ะนั่งเรียงๆ กันโดยมีที่กั้น มีเตาแก๊ส แถมยังมีทีวีให้ดูอีกด้วยไม่เหงาแล้วเรา โต๊ะก็กว้างขวางเหมาะสำหรับวางอาหารหลายๆ อย่าง ถึงเราจะกินคนเดียวแต่ก็สั่งมาเหมือนทานสิบคนได้ . ร้านเปิดให้บริการสองช่วงเวลา นั่นก็คือช่วงเช้า 11:00 นาฬิกาถึง 15:30 นาฬิกา และเปิดอีกทีในเวลา…
-
20 ภาพที่จะสร้างความปั่นป่วนให้กับจิตใจของคุณ เจอแบบนี้ถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว..
ในการใช้ชีวิตประจำวันของเราทุกคน มันจะต้องมีเรื่องที่น่าหงุดหงิดใจเกิดขึ้นกันบ้างละน่าจริงไหม?? อันที่จริงอาจจะเกิดจากความไม่มีสติของเรา หรือคนอื่นที่ดันทำเรื่องไม่เป็นเรื่องจนทำให้เราต้องปวดเศียรเวียนเกล้ากันเลยทีเดียว และต่อไปนี้คือรูปภาพที่เมื่อคุณเห็นแล้วจะต้องสับสน งงงวย อยากหาคำตอบกับคนที่ทำเรื่องพวกนี้แน่ๆ ขอเชิญพับกบ แฮร่!! พบกับ 20 รูปภาพที่คุณเห็นแล้วจะต้องอุทานออกมาว่า “-ัสเอ้ยยยย” 1. ขนมปังหน้าแยมกับเนยถั่วเป็นอะไรที่สุดยอดมาก แต่ทำไมแกเอาประกบกันแบบน้านนนน โถ่!! 2. เอ่อดีเหมือนกันจะได้เสริมแคลเซียมด้วย ปัดโถ่มันใช่มั้ยเนี่ยย 3. ในมือของคุณมีโยเกิร์ตสุดแสนจะอร่อย คุณรีบแกะมันทันทีด้วยความหิวแต่.. 4. ไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านผิดหรือช่างทำผิดกันแน่นะเนี่ย 5. เอ่อถ้ามีดไม่คมก็ใช้หวีแทนก็ได้ โอยย มันใช่มั้ยละพี่ แหม่ เอาซะเนียนเลย 6. อ่ะ โอเค ซ้อน โอเค 7. อยากกินปลาสดๆ ลองเอาไอเดียของพี่คนนี้ไปใช้ก็ได้นะ 8. บางครั้งคุณอยากใส่มะนาวลงในเครื่องดื่มให้สดชื่น แต่มันดันไม่เป็นใจ 9. เปิดกระเป๋าเงินมาน้ำตาแทบไหล แทนที่จะเป็นหัวหอม กลับกลายเป็นมะเขือเทศ…
-
เคยเห็นกันหรือเปล่า!? ตำรากามสูตรจากศตวรรษที่ 18 ท่วงท่าเหมือนดั่งทวยเทพ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่อง “เซ็กส์” เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้มนุษยชาติยังคงดำรงเผ่าพันธุ์กันมาได้จนถึงทุกวันนี้ ถ้าหากไม่มีการทำกิจกรรมเข้าจังหวะที่ว่า พวกเราๆ อาจจะไม่ได้เกิดมาแล้วก็ได้ แน่นอนล่ะ คนไม่ได้เกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่นี่น่าใช่ไหม!? การมีเพศสัมพันธ์น่าจะเป็นสิ่งแรกๆ ที่มนุษย์เราเริ่มเรียนรู้เลยก็ว่าได้ และเพื่อนๆ ทราบกันมั้ยว่าหนังสือสอนเซ็กส์หรือพวกกามสูตรเนี่ยมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 แล้ว!! และต่อไปนี้เราขอแนะนำให้รู้จักกับ I Modi หรือ The Way หนังสือเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ที่เก่าแก่ที่สุดเล่มหนึ่ง หรือที่รู้จักกันในชื่อ The Sixteen Pleasures อ่า.. มันมีต้นกำเนิดอย่างไรและใครเป็นคนแต่ง เราไปรู้จักที่มาที่ไปของหนังสือเล่มนี้พร้อมๆ กันเลย ภาพบางส่วนในหนังสือ The Sixteen Pleasures หนังสือเล่มที่ว่านี้ถูกตีพิมพ์โดย Marcantonio Raimondi ศิลปินชาวอิตาลีในปี ค.ศ. 1524 ซึ่งเขาได้รวบรวมภาพนู้ดแกะสลักต่างๆ ที่วาดโดย Giulio Romano หลังจากที่หนังสือเล่มนี้ได้กระจายไปอย่างแพร่หลายในสมัยเรอเนสซองซ์ ก็มีผู้ที่เห็นว่ามันไม่เหมาะสมและดูจะเป็นสิ่งที่มีพิษภัยกับศาสนจักร จึงได้แจ้งความกับผู้จัดพิมพ์และหลังจากนั้น Raimondi ก็ได้ถูกจับและหนังสือทั้งหมดก็ได้ถูกเผาทำลายทิ้ง แต่ตำนานของหนังสือเล่มนี้ไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้ เมื่อ Pietro Aretino นักเขียนชาวอิตาลี ได้ยินถึงเรื่องของหนังสือเล่มนี้และต้องการที่จะพบกับ Romano เพื่อที่จะได้เห็นภาพต้นฉบับในหนังสือฉาวเล่มนั้น (ถึงแม้ว่า Romano จะเป็นผู้วาดภาพนู้ดแต่เขาไม่ได้ถูกดำเนินคดีเพราะไม่ได้เป็นคนตีพิมพ์หนังสือ) Aretino ตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องราวอีโรติกพร้อมทั้งนำภาพวาดของ…
-
ช่างภาพเดินทางไปทั่วโลก เพื่อถ่ายทอดความงามของ “สาวผมสีแดง” กว่า 130 คน
ด้วยความงามที่ราวกับเพลิงไฟลุกโชนของสาวๆ ผมสีแดงทำให้ช่างภาพหนุ่มชาวอเมริกันคนหนึ่งหลงใหลและอยากที่จะรวบรวมความงามนี้ไว้ “Brian Dowling” ช่างภาพที่อาศัยอยู่ในกรุงเบอร์ลินประเทศเยอรมนี เขาได้เดินทางไปถ่ายภาพของคนผมแดงกว่า 130 คน จาก 20 เมืองที่แตกต่างกันออกไป ด้วยโปรเจคที่ชื่อว่า “Redhead Beauty” ผมแดงเป็นสีผมที่หายากที่สุดในโลก เกิดจากการกลายพันธุ์ของยีน MC1R และเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจว่าในโลกนี้มีประชากรผมแดงน้อยว่า 2% หรือประมาณ 140 ล้านคน โดยมีสก็อตแลนด์เป็นที่ที่มีอัตราส่วนคนผมแดงมากที่สุดถึง 13% ของประชากร ตามมาด้วยไอร์แลนด์ 10% ในงานวิจัยบางชิ้นกล่าวว่าคนผมแดงอาจมีความไวต่อการเจ็บปวดจากความร้อนหรือเย็นมากกว่า ในการผ่าตัดก็เช่นกัน มีการชี้ให้เห็นว่าคนผมแดงบางคนต้องใช้ยาสลบมากกว่าคนผมสีอื่นถึง 20% ทีเดียว แม้จะมีความแตกต่างจากคนทั่วไปอยู่บ้างแต่ความงามของเส้นผมสีเพลิงที่โดดเด่นทำให้พวกเธอสวยงามอย่างกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย ไปดูความงดงามของพวกเธอกันเลย #1 An Early Morning With Alina From Kiev, Ukraine สาวสวยผมแดง “Alina”จากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน #2 Madeline From Washington State, Usa สาวผู้สดใส…
-
“จิมิทั้ง 5 ประเภท” ที่สาวๆ ไม่เคยรู้มาก่อน มาส่องให้รู้ว่าของคุณเป็นแบบไหน!?
ตั้งแต่สาวๆ อย่างเราเกิดมาเราไม่เคยมีคำถามหรือข้อสงสัยอะไรทั้งนั้นเกี่ยวกับจิมิของเราว่ามันมีลักษณะแบบไหน?? เราจึงไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วจิมิของเราก็มีลักษณะแตกต่างกันออกไปนะ ดังนั้นเราจะพาสาวๆ และหนุ่มๆ (ที่อยากรู้) เข้าไปส่องโลกของผู้หญิงว่าจิมิมันมีแบบไหน มีลักษณะเหมือนอะไร ลองเข้าไปชมภาพแล้วเปรียบเทียบกันดูเลย จิมิเป็นของลับของห่วงของสาวๆ แต่ใครกันน้าาา? ที่มาแบ่งประเภทของมันแล้วแต่ละประเภทมันจะเป็นยังไง!? นี่เป็นแบบจำลองช่องคลอดในรูปแบบกางเกงใน ทำให้เราได้เห็นลักษณะภายในอย่างชัดเจน ซึ่งดูไปดูมาก็รู้สึกน่ากลัวเบาๆ อย่าซื้อมาใส่เลยนะขอร้อง จิมิแบบที่ 1 จิมิ Ms. Barbie พอฟังชื่อแล้วก็รู้สึกได้เลยว่าเป็นจิมิที่มีความสวยงามตามอุดมคติด้วยลักษณะที่แนบชิดราวกับเป็นจิมิของสาวผู้บริสุทธิ์ ถ้าคุณมีน้องลักษณะแบบนี้ก็ต้องขอปรบมือดังๆ ให้เลย!! แสดงความยินดีด้วยจริงๆ ค่ะซิส จิมิแบบที่ 2 จิมมี่ Ms. Curtains เป็นจิมิที่พบได้บ่อยกว่า Ms. Barbie ดูลักษณะก็จะร่าเริงๆ อย่างในรูปนั่นแหละ จิมิแบบที่ 3 จุ๋มจิ๋ม Ms. Puffs มีความคล้ายกับ Ms. Barbie แต่มีกระดูกหัวหน่าวที่ใหญ่กว่า จิมิแบบที่ 4 อาโบ๊ะจามะ Ms. Tulip ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะลักษณะของมันเหมือนกับดอกทิวลิปวัยแรกแย้มที่กำลังจะผลิบานนั่นเอง…
-
สาวญี่ปุ่นกลัวโจรมาขโมยปลาทอง ใช้วิธีติดหัวตุ๊กตาปลอม น่ากลัวยิ่งกว่าขโมยซะอีก!!
ในยุคสมัยที่การเกิดอาชญากรรมมีอยู่แทบจะทุกพื้นที่บนโลก และข่าวเกี่ยวกับก่อการร้ายมีให้เห็นแทบจะทุกวัน ย่อมที่จะทำให้มนุษย์ตาดำๆ ผู้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อย่างเราต้องคอยระแวงกันอยู่ตลอดเวลา และถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่นก็ไม่เว้น ที่นี่ก็ยังคงทีข่าวอาชญากรรมอยู่เหมือนกันทั้งการกระชากกระเป๋า หรือการบุกงัดบ้าน แต่ตอนมีชาวเน็ตที่ญี่ปุ่นคนหนึ่ง เธอได้เสนออีกวิธีที่เป็นการป้องกันโจรที่แปลกใหม่ แทนที่จะทำการเลี้ยงหมาดุๆ เอาไว้ หรือติดตั้งเหล็กดัดแน่นหนา อย่างที่คนอื่นทำกัน เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งที่ชื่อว่า omott ได้แชร์วิธีจัดการกับหัวขโมยที่ขโมยปลาทองของเธอ ด้วยวิธีการติดหัวตุ๊กตาไว้ในใกล้กับบ่อปลาทองของเธอ!! เธอได้ถ่ายภาพการทำการนำศรีษะปลอมของตุ๊กตามาติดตามจุดต่างๆ ที่เสี่ยงต่อการถูกขโมย ซึ่งเรียกเสียงฮาและความสนใจจากชาวเน็ตได้อย่างมาก โดยมีผู้รีทวีตข้อความของเธอกว่า 20,000 ครั้ง เจ้าของโพสบอกว่า “นี่คือกล้องรักษาความปลอดภัยจากขโมย ขอโทษด้วยทุกคนที่ต้องทำให้ตกใจ นี่คือ Miharu กับ Mamoru ที่จะคอยปกป้องปลาทองของฉันจากขโมย” Miharu เขียนเป็นตัวอักษรคาตานะเป็นชื่อผู้หญิง หมายถึง “เฝ้าระวัง” ส่วน Mamoru เป็นชื่อของเด็กผู้ชายมีความหมายว่า “ป้องกัน” Mamoru (ซ้าย) และ Miharu (ขวา) จะคอยปกป้องปลาทองให้กับเธอ หยึ๋ย!? ดูหลอนๆ ยังไม่ไม่รู้นะเนี่ย เป็นวิธีป้องกันขโมยที่ครีเอทดีจริงๆเลยนะเนี่ย แต่หวังว่าตอนกลางคืนมันคงไม่ดูหลอนเกินไปนะฮ่าๆ ไม่อย่างนั้นคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้น มีหวังตกใจกลัวกันแน่ๆ ที่มา rocketnews24
-
แม่เม่นถูกรถชนจนบาดเจ็บ แต่ยอมอดทนสู้ เพื่อมีชีวิตดูแลเจ้าตัวน้อยที่กำลังจะเกิด…
หลายๆ คนคงจะเคยได้ยินประโยคสุดคลาสสิคที่ว่า “หน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง” กันมาบ้างแล้วแน่นอน และเรื่องของการรับผิดชอบต่อหน้าที่นั้น เจ้าสัตว์ตัวเล็กๆ ตัวนี้คงจะอธิบายความหมายของประโยคนี้ได้อย่างชัดเจน เจ้าเม่นเคราะห์ร้ายตัวหนึ่ง มันถูกรถชนบนถนนในประเทศอิสราเอล มันได้รับบาดเจ็บอย่างมาก แต่ด้วยหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของมัน จึงทำให้มันต้องอดทนต่อความเจ็บปวดเพื่อมีชีวิตรอดต่อไป และแล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดเมื่อมีคนใจดีมาพบมันเข้า เขาได้นำมันไปส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ แต่ทำไมเจ้าเม่นต้องอดทนเพื่อให้มีชีวิตรอดด้วย?? เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โรงพยาบาลสัตว์ป่าแห่งหนึ่งใน อิสราเอล ได้ทำการช่วยเหลือเม่นเพศเมียตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรถชน มันถูกนำตัวมาส่งโรงพยาบาลในสภาพที่แย่มาก หลังจากแพทย์ได้ช่วยเหลือมันและเอกซเรย์ก็พบว่ามันกำลังตั้งท้อง และมีลูกเม่นอยู่ในนั้นถึง 5 ตัวด้วยกัน แม่เม่นมีบาดแผลที่บริเวณศรีษะ สัตวแพทย์พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยมันและลูกๆ พวกเขารักษาบาดแผลที่หัวของเม่นเพศเมียตัวนั้นและดูแลมันอย่างดีด้วยน้ำกับที่นอนอันแสนอบอุ่น ถึงแม้ว่ามันจะบาดเจ็บสาหัส แต่ความเป็นแม่จึงทำให้มันยอมแพ้ไม่ได้ มันอดทนต่อบาดแผลที่ได้รับจากอุบัติเหตุเพื่อลูกน้อยที่อยู่ในท้องของมัน ลูกน้อยของมันดูแข็งแรงและน่ารักมากๆ และในที่สุดแม่เม่นท้องแก่กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง เมื่อครบกำหนดคลอดมันก็ให้กำเนิดลูกน้อยน่ารักถึง 5 ตัวด้วยกัน เหล่าเม่นน้อยทั้งหมดดูแข็งแรงและน่ารักน่าเอ็นดูอย่างมาก สัตวแพทย์ผู้ดูแลแม่เม่นและลูกๆ ของมันบอกว่า “ตอนนี้พวกมันดูแข็งแรงอย่างมาก แม่เม่นสามารถให้นมลูกน้อยได้แล้ว เรากำลังดูแลพวกมันทั้งครอบครัวให้แข็งแรงและพร้อมที่จะกลับไปใช้ชีวิตในป่าได้อีกครั้ง” ลองไปชมความน่ารักของเม่นเพศเมียตัวนี้กับลูกๆ ของมันกันเลย โอโห ต้องนับถือความอดทนของแม่เม่นตัวนี้มากเลยนะเนี่ย ที่แข็งใจเพื่อให้ลูกๆ ของมันได้มีชีวิตรอดและมีโอกาสได้ลืมตามาดูโลก ความอดทนของผู้เป็นแม่นี่สุดยอดจริงๆ เลย…
-
เด็กหญิงแอบนำ”ม้า”เข้ามาถ่ายเซลฟี่ในบ้าน จนป่านนี้ 2 ปี พ่อของเธอก็ยังไม่รู้เรื่อง..
เชื่อว่าหลายคนที่เคยผ่านวัยเด็กมา ต้องมีเรื่องที่แอบทำอะไรโดยไม่บอกพ่อแม่กันบ้างแน่ๆ อย่างเช่นแอบเอาเงินไปซื้อของเล่น หรือแอบเอาเพื่อนมาเล่นในบ้านแล้วทำแจกันของคุณแม่แตก อะไรประมาณนี้กันบ้างใช่ไหมล่ะ ยอมรับกันมาซะดีๆ และเมื่อไม่นานมานี้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า Kait ได้เผยเรื่องราวซนๆ ขอเธอลงในทวิตเตอร์ โดยเธอได้อัพรูปเซลฟี่คู่กับมาแคระตัวหนึ่งพร้อมทั้งแคปชั่น “ครั้งหนึ่งฉันเคยแอบเอาม้าแคระมาถ่ายรูปหน้ากระจก จนตอนนี้ 2 ปีกว่าแล้วพ่อฉันยังไม่รู้เรื่องนี้เลย ฮ่าๆ” และนี่คือภาพและข้อความที่เธออัพ ดูท่าสาวน้อยจะภูมิใจมากนะเนี่ย!! เธอบอกว่าเจ้ามาตัวนี้ชื่อว่า Tucker มันสูงประมาณ 130 เซนติเมตรและหนัก 400 กิโลกรัม เธอพามันมาถ่ายรูปเพราะว่ามันเป็นม้าที่น่ารักและมีนิสัยไม่ก้าวร้าวเหมือนม้าตัวอื่นๆ เธอบอกว่า “ฉันพามันเข้ามาและถ่ายรูปกับมันเพราะว่าฉันอยากได้รูปเซลฟี่ตลกๆ แบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนไว้ดูเล่นเท่านั้นเอง ฉันถ่ายภาพนี้ตอนในช่วงวันหยุดของมหาวิทยาลัย ในช่วงที่พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน ฉันใช้เวลาถ่ายแค่ห้านาทีเท่านั้นและทุกอย่างก็เรียบร้อยก่อนที่พ่อกับแม่จะกลับมา” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอแอบเอาม้าเข้ามาถ่ายภาพในบ้าน เธอบอกว่าก่อนหน้านี้เธอเคยเอาม้าตัวเล็กๆ เข้ามาในห้องครัวแล้วถึง 2 ครั้ง เจ้า Tucker ดูเหมือนจะเป็นมืออาชีพมากๆ มันให้ความร่วมมือกับเจ้าของเป็นอย่างดี มันเดินเข้ามาในบ้านโดยไม่มีอาการตกใจเลยแม้แต่น้อย และเพื่อไม่ทิ้งรอยเท้าเลอะเทอะในบ้าน สาวน้อยจึงได้ใส่รองเท้าบูทให้เจ้าม้าทั้ง 4 เท้าด้วย แหม่ๆ แผนเนียนจริงๆ เลยนะเนี่ยไม่ทิ้งหลักฐานไว้ด้วย ฮ่าๆ เธอบอกว่าตอนนี้เธอเอาภาพเซลฟี่ชุดนี้ให้แม่ดูแล้ว และแม่หัวเราะชอบใจมาก แต่ว่าตอนนี้คุณพ่อยังไม่รู้เรื่องเลย!! สังเกตที่เท้าของเจ้าม้าดีๆ ใส่รองเท้าด้วยนะเนี่ย …
-
เศรษฐีหนุ่มยอมทิ้งความสุขสบาย เสี่ยงชีวิตช่วยเหลือสุนัขจากตลาดขายเนื้อในแถบเอเชีย
Mark Ching หนุ่มนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่เขากลับเลือกที่จะไม่ใช้ชีวิตแบบปกติเหมือนกับคนทั่วไป เขาจะใช้เวลาว่างเพื่อช่วยเหลือเหล่าสุนัขที่ถูกทำร้าย และหาบ้านใหม่ให้กับพวกมัน หลังจากที่เขาได้ยินเรื่องราวของความน่ากลัวว่ามีประเพณีการขายเนื้อสุนัขในประเทศจีน จึงทำให้เขาตัดสินใจว่าจะต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อช่วยเหล่ามะหมาให้รอดพ้นจากการถูกฆ่า ชีวิตของนาย Mark ได้เปลี่ยนไปตั้งแต่ปี 2015 เมื่อเขาได้ยินเรื่องราวของเทศกาลประจำปีของชาวจีนชื่อว่า Yulin Dog Meat Festival ที่จะนำสุนัขมาเชือดแล้วก็ขายกันเป็นหมื่นๆ ตัว จึงได้ทำการตัดสินใจที่จะตีตั๋วบินจากนคร Los Angeles ไปสู่ประเทศจีน และทำการช่วยชีวิตของเหล่ามะหมาผู้มีชะตากรรมโชคร้ายออกมาให้ได้มากที่สุด “ทริปแรกของผมเป็นช่วงหลังจบงานเทศกาล Yulin เมื่อวันที่ 1 กันยายน เมื่อผมเดินทางไปถึงเมืองจีน ผมเห็นสิ่งที่พวกเขาทำ ผมรู้ดีว่าที่นี่เค้าทานเนื้อสุนัขกัน แต่ไม่รู้มาก่อนเลยว่าก่อนที่จะฆ่าพวกมันเพื่อเอาเนื้อมาทานนั้นได้มีการทารุณกรรมพวกมันด้วย ผมว่ามันไม่ถูกต้อง” Mark กล่าว จากนั้นเขาก็เดินทางไปยังประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชียอย่างเช่น เกาหลีใต้ และเวียดนาม เยี่ยมชมตลาดซื้อขายเนื้อสุนัขและโรงฆ่าสัตว์ พร้อมกับเริ่มดำเนินการช่วยเหลือพวกมัน ตอนแรกเขาตั้งใจไว้ว่าจะช่วยเจ้าหมาที่กำลังจะถูกฆ่าเพื่อนำเนื้อไปขายกว่า 249 ตัว ใน 4 ทริปแรกที่เขาเดินทางมาที่นี่ แต่ท้ายที่สุดก็พบว่าพวกมันได้ถูกฆ่าไปจนเกือบหมด…
-
หนุ่มแชร์พฤติกรรมแปลกๆ ของเจ้าหมาน้อย ชอบคาบ ‘ลูกสน’ กลับมาเก็บไว้ที่บ้าน…
บางครั้งเหล่ามะหมาทั้งหลายเองก็มักจะมีกิจกรรมอะไรที่ตัวเองชอบทำ และเราที่เป็นเจ้าของก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ เช่นเดียวกันกับเจ้าหมาชื่อว่า Buddy ตัวนี้ ที่มีงานอดิเรกคือการเก็บสะสม ‘ลูกสน’ เจอเป็นไม่ได้ต้องคาบกลับมาเก็บไว้ที่บ้านทุกที!? นี่คือ Joey Sweren หนุ่มวัย 19 ปี และเจ้าหมาของเขาชื่อว่า Buddy ทั้งคู่อาศัยอยู่ในเมือง Ocean City รัฐ Maryland นาย Joey เล่าว่าเขารับเจ้า Buddy มาเลี้ยงเมื่อ 5 ปีก่อน “มันเป็นหมาที่มีความมั่นใจสูงมาก มันไม่เคยกลัวหมาที่ตัวใหญ่กว่าเลย พอเห็นก็จะพุ่งเข้าใส่แล้วก็เล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน” แต่ว่าเจ้า Buddy มันมีงานอดิเรกที่แปลกและไม่เหมือนใคร เพราะมันชอบเก็บสะสมลูกสนเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ Joey ย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองนี้เมื่อ 7 เดือนก่อน ตอนนี้เจ้า Buddy ก็ได้เก็บสะสมลูกสนมาแล้วมากกว่า 60 ลูกเลยทีเดียว และมันก็จะเอาไปเก็บไว้บริเวณตู้คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ “มันมักจะกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจเมื่อหาลูกสนพบ ความจริงแล้วในทุกๆ วันการพามันออกไปเดินเล่นจะจบลงก็ต่อเมื่อมันเจอลูกสนและคาบกลับมาเก็บไว้ที่บ้าน” เขาก็เลยตัดสินใจถ่ายภาพ…
-
10 เซเลปคนดัง ที่เติบโตมากับ Disney จากวันนั้นถึงวันนี้ พวกเขาเปลี่ยนไปเยอะม๊าาาาากกก
ดิสนีย์ถือเป็นหนึ่งช่องทางสำคัญที่ให้กำเกิดคนดังในปัจจุบันมากมาย ทั้งดารา นักร้อง ซึ่งเติบโตไปสร้างชื่อเสียงในวงการระดับนานาชาติมากมาย แต่ก่อนหน้านั้นพวกเขาต่างก็เคยเป็นเด็กน้อยวัยใสไร้เดียงสากันมาก่อน วันนี้เราก็เลยจะมาดูความเปลี่ยนแปลงของดาราเด็กจากดิสนีย์ที่พอโตแล้วเปลี่ยนลุคจากใสๆ เป็นเซ็กซี่หรือแฮนซั่มกันจนไม่น่าเชื่อ หรือบางคนก็อาจจะหลุดโลกไปเลยก็ได้ ว่าแต่จะมีใครบ้างนะ!? 1. Britney Spears ถ้าพูดถึงชื่อของเธอคงจะมีน้อยคนที่ไม่รู้จักคุณแม่แห่งวงการเพลงป็อบคนนี้ ที่ตอนหลังเธอจะอยู่ในลุคที่เซ็กซี่ตลอด แต่รู้ไหมว่าเธอคนเป็นสายน้อยวัยใสคู่กับดาราดังหลายๆ คนอย่าง Justin Timberlake, Christina Aguilera และ Ryan Gosling ในรายการ Mickey Mouse Club ทางช่องดิสนีย์ด้วยนะ โตแล้วสวยแซ่บสุดๆ ไหมล่ะ 2. Christina Aguilera อีกหนึ่งสาวจากยุคเดียวกับ Britney Spears ซึ่งก่อนที่เธอจะหันมาร้องเพลงสุดฮิตอย่าง Genie In A Bottle เธอก็อยู่ในรายการทีวีของดิสนีย์ Mickey Mouse Club มาก่อนเหมือนกัน ส่วนตอนนี้เธอก็ถือเป็นนักร้องชื่อดังกับลุคผมสีบลอนด์ที่ติดตา 3. Lindsay Lohan ก่อนจะมาเป็นนักแสดงชื่อดังอย่างทุกวันนี้ รู้ไหมว่าเธอเริ่มเข้าวงการตั้งแต่วัยเด็กแล้ว โดยเธอเริ่มเป็นนางแบบตั้งแต่อายุเพียงแค่ 3 ขวบเท่านั้น…
-
ประติมากรรม “เซรามิค” ที่ใช้เทคนิคการปั้นสมัยราชวงศ์หมิง ทำให้ออกมาดูร่วมสมัย
การผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมอันเก่าแก่กับความคิดสร้างสรรค์สมัยใหม่ ทำให้เกิดงานศิลปะที่มีความสวยงามและร่วมสมัยขึ้นมากมาย Lei Xue หนุ่มผู้หลงใหลในศิลปะ เขาเป็นทั้งปฏิมากร, ช่างภาพ, ศิลปินภาพพิมพ์และนักตัดต่อวีดีโอ ได้สร้างสรรค์งานศิลปะแบบร่วมสมัย โดยนำรูปแบบของกระป๋องน้ำอัดลมที่ถูกใช้แล้ว มาปั้นและเเต่งแต้มลวดลายโดยใช้เทคนิคเดียวกับการทำเครื่องปั้นดินเผาลายครามในสมัยราชวงศ์หมิ่ง เขาใช้ชื่อผลงานสุดครีเอทนี้ว่า “Drinking Tea” ลองไปชมผลงานชุดนี้ของเขากันได้เลย… . ลายครามในชิ้นงานถูกวาดอย่างปราณีต . ลวดลายและเทคนิคในการทำเครื่องปั้นดินเผาในสมัยโบราณถูกนำมาใช้ในงานศิลปะนี้ . รูปทรงต่างๆ ของกระป๋องเพิ่มความน่าสนใจให้กับงานศิลป์ชุดนี้ สวยงามมากเลยนะเนี่ย แต่งานศิลปะของคุณ Lei Xue ไม่ได้มีเพียงเท่านี้นะ เค้ายังนำเทคนิคงานศิลปะแบบจีนโบราณมารวมกับวัฒนธรรมสมัยใหม่อีกหลายผลงาน ถ้าใครสนใจก็ลองเข้าไปชมเพิ่มเติมได้ที่ artsy และ detterer ได้เลย ที่มา boredpanda
-
แมวหายจากบ้านไปสี่ปี เจออีกทีไปโผล่อยู่แคนาดา ห่างจากบ้านกว่า 4,000 กิโลเมตร!!
หลายๆ คนที่เลี้ยงน้องแมวอยู่ต้องเคยเจอกับปัญหาที่พวกมันชอบออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านไกลๆ บ้างแน่นอน ยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูผสมพันธุ์นี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย อาจทำให้มันลืมกลับบ้านและหายตัวไปได้ง่ายๆ เหมือนกับเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ ที่หลงออกจากบ้านและเดินทางไกลจากอเมริกาไปถึงแคนาดา!! เรื่องราวการผจญภัยของมันจะเป็นอย่างไรไปชมพร้อมๆ กันเลย บูบู้เจ้าเหมียวน้อยผู้หลงหลงทาง หายตัวออกจากบ้านไปกว่า 4 ปี… เจ้าเหมียวน้อย บูบู้ หายตัวไปจากบ้านของมันเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เจ้าของมันคุณ Ashley Aleman และครอบครัวของเธอช่วยกันหามันเป็นเวลานาแต่ก็ไม่พบ จนเมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไปความหวังที่จะได้พบกับเจ้าเหมียวน้อยของพวกเขาก็เป็นเพียงแค่ความฝัน พวกเขาไม่คิดว่าจะได้พบมันอีกต่อไปแล้ว แต่ไม่น่าเเชื่อ!! หลังจากที่หายไปนานกว่า 4 ปีครอบครัว Aleman ได้พบกับเจ้าบูบู้อีกครั้ง!! Ashley Aleman ผู้เป็นเจ้าของบอกว่า “หลังจากผ่านไปกว่า 4 ปีพวกเราคิดว่าคงจะไม่ได้เจอกับมันอีกแล้วแน่ๆ แต่ไม่น่าเชื่อมันปรากฏตัวอีกครั้งที่แคนาดา” ระหว่างที่เจ้าบูบู้ หลงทางไปไกลถึงแคนาดา มันถูกพบและช่วยเหลือไว้โดยองค์กร Guelph Humane Society ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือสัตว์จรจัดใน Guelph ประเทศแคนาดา เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิพบมันเข้าและดูเหมือนว่ามันจะแข็งแรงมาก อาจเป็นไปได้ว่ามีผู้ใจบุญคอยให้อาหารมันระหว่างหลงทางอย่างแน่นอน ระยะทางที่เจ้าบูบู้หลงไปถ้าหากดูจาก Google Map ไกลเหมือนกันนะเนี่ย พวกเค้าได้สแกนร่างกายมันและพบไมโครชิปที่มีข้อมูลที่อยู่ของมันในนั้น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อกลับไปยังเจ้าของมัน ตามที่อยู่ในไมโครชิป ไมโครชิปที่ฝังอยู่ในตัวมัน ช่วยทำให้มันได้กลับไปพบเจ้าของอีกครั้ง…
-
เมื่อได้เห็น 18 ภาพพวกนี้ ทุกคนจะหลงรักและอยากเลี้ยง ‘หมาจิ้งจอกอาร์คติก’
เหมียวเชื่อว่าหลายคนคงไม่เคยได้ยินชื่อ Arctic Foxes หรือว่า ‘หมาจิ้งจอกอาร์คติก’ กันมาก่อน เหมียวจะอธิบายคร่าวๆว่ามันเป็นหมาจิ้งจอกสายพันธุ์หนึ่งที่อาศัยแถมชายฝั่งมหาสมุทรอาร์กติกน่ะแหละ ความพิเศษอันเป็นเอกลักษณ์ก็คือ ในช่วงฤดูหนาวมันจะมีขนสีขาวเป็นปกติ แต่พอเข้าสู่ฤดูร้อนขนมันก็จะแปลงร่างเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลได้อีก คงจะเดากันออกว่าเพื่อช่วยป้องกันภัยจากศัตรูและช่วยในการล่าเหยื่อนั่นเอง ช่างภาพ Ivan Kislov ชื่นชอบพวกมันเป็นอย่างมาก และอยากจะถ่ายทอดความงามออกมาสู่สายตาชาวโลก เหมียวเห็นว่ามันน่ารักดีเลยจะเอามายั่วใจแฟนเว็บเล่นๆสักหน่อยนะจ๊ะ แม้จะเป็นฤดูร้อน แต่ก็ยังมีหิมะตกอยู่นะเธอว์ (ไม่เหมือนเมืองไทย ฤดูหนาวแต่เหงื่อแตกพลั่กๆ) . . ตอนหาวก็ยิ่งน่ารักป๊ะละ แหนะ เล่นกล้องซะด้วย!! ทำไมแค่ลมเพียงแผ่วเบา ยังทำให้เหน็บหนาว… . . คุณกำลังโดนความน่ารักทำร้ายซะแว้ววว . . . . . เฮ้ยๆ!! ได้ข่าวว่าเอ็งเป็นตัวผู้ทั้งคู่ จะกินกันเองซะละ . . . ปิดท้ายด้วยความหล่อของช่างภาพคนนี้ ใครสนใจงานก็ไปติดตามกันต่อไดที่แฟนเพจนี้เลยนะจ๊ะ www.facebook.com/ivan.kislov.7
-
มาสคาร่ายี่ห้อถูกสั่งแบน เนื่องจากโฆษณาเกินจริง ขนตายาวหนาเด้ง ทั้งๆ ที่ใช้ของปลอม!!
ในปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมากมายมาให้สาวๆ ได้เลือกใช้กัน ทำให้เกิดการโฆษณาสินค้าต่างๆ เพื่อจูงใจผู้บริโภค ซึ่งเครื่องสำอางยี่ห้อ Rimmel ก็เช่นกัน พวกเขาได้ออกคลิปโฆษณาสินค้าที่เป็นมาสคาร่า โดยในคลิปนั้นเมื่อปัดมาสคาร่าแล้วก็จะฟู หนา เด้ง ขึ้นมาได้อย่างสุดขั้ว จนผิดสังเกตเกิดเป็นเรื่องราวอย่างที่จะนำเสนอกันในครั้งนี้ The Advertising Standards Authority (ASA) องค์การมาตรฐานการโฆษณาของอังกฤษได้สั่งแบนผลิตภัณฑ์มาสคาร่ายี่ห้อ Rimmel ที่มีการโฆษณาเกินจริง ซึ่งในคลิปโฆษณามีการใช้ขนตาปลอมและวาดเส้นขนตาเพิ่ม ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้ใช้จึงต้องงดการออกอากาศโฆษณา โฆษณามาสคาร่าของยี่ห้อ Rimmel ที่นำแสดงโดย “Cara Delevingne” ที่ดูใช้เทคนิคเกินจริงในโฆษณาผลิตภัณฑ์มาสคาร่าที่เมื่อปัดแล้วดูหนาและเด้งสุดๆ โดยไม่มีการแจ้งบอกว่านักแสดงสาวได้ใช้ขนตาปลอมแบบแยกเส้นติดเพื่มเข้าไป อีกทั้งยังมีการวาดเพิ่มเส้นขนตาเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ส่วนในด้านของ Coty UK เจ้าของแบรนด์ของผลิตภัณฑ์มาสคาร่าได้กล่าวว่า คลิปโฆษณานี้ได้นำเสนอสินค้าอย่างถูกต้อง เพราะมาสคาร่าตัวนี้ทำให้ขนตาของนักแสดงสาว Cara Delevingne ทั้งยาว หนาและเด้งขึ้นมาจริงๆ ก่อนที่จะมีการใช้เทคนิตการถ่ายทำพิเศษเพิ่มเข้าไป Coty กล่าวว่า “การใช้ขนตาแบบแยกเส้นนั้นเป็นการเติมช่องว่างระหว่างเส้นขนตาให้มีความสม่ำเสมอเรียงเส้นสวยงาม ซึ่งเป็นวิธีตามแนวปฏิบัติของอุตสาหกรรม และการวาดขนตาเพิ่มเข้าไปนั้นก็เพื่อที่จะให้มองเห็นขนตาได้ชัดขึ้นเพราะนางแบบมีการแต่งเปลือกตาโดยใช้อายแชโดว์สีดำ แต่ไม่ได้มีการเพิ่มความยาวหรือความหนาแต่อย่างใด” แต่อย่างไรก็ตาม “องค์การมาตรฐานการโฆษณาของอังกฤษ” ก็ได้เห็นว่าการใช้เทคนิคทั้งสองแบบที่อ้างมานั้น ก็ทำให้นางแบบมีขนตาที่ดูหนาและยาวเกินจริง เกินกว่าที่ตัวผลิตภัณฑ์จะทำได้ จึงสรุปว่าโฆษณานี้ทำให้เกิดความเข้าใจผิด Coty ได้เผยว่าแม้จะเสียใจกับคำตัดสินที่ออกมาแต่ก็จะปฏิบัติตามคำตัดสินและงดการออกอากาศโฆษณาชุดนี้ทางโทรทัศน์ …
-
เจ้าเหมียวจอมแย่งซีน เดินเข้ามาจิบกาแฟของนายกเทศมนตรี ระหว่างให้สัมภาษณ์สด!!
“แมว” สัตว์ที่มีความคิดจะครองโลก ในมุมมองของพวกมันมนุษย์เราก็คือทาสดีๆ นั่นเอง แต่ที่จริงอาจจะไม่ขนาดนั้นหรอกฮ่าๆ สำหรับเหล่าเจ้าเหมียวเนี่ยขึ้นชื่อเรื่องเอาแต่ใจตัวเองอยู่แล้ว ถ้าใครที่เป็นทาสแมวก็คงจะรู้ดี… และเมื่อไม่นานมานี้เจ้าเหมียวตัวหนึ่งก็ได้แสดงออกถึงความเป็นแมวจริงๆ ให้ผู้ชมทั่วประเทศลัตเวียได้เห็น ในระหว่างที่ท่านนายกเทศมนตรีของเมืองริกา ประเทศลัตเวีย กำลังตอบคำตามจากทางบ้านในรายการสดอยู่นั้น เจ้าแมวน้อยขาวดำตัวหนึ่งก็ดันเข้ามาขโมยซีนหน้าตาเฉย!? ท่านนายกเทศมนตรีได้แต่ส่งสายตาเตือนเจ้าเหมียว แต่ดูเหมือนมันจะไม่แคร์ เลยนะเนี่ย!! เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมาในขณะที่ท่านนายกเทศมนตรี Nils Usakovs กำลังออกอากาศในรายการสดอยู่นั้นก็มีแขกขนปุยไม่ได้รับเชิญตัวหนึ่งโผล่เข้ามากลางรายการ ในนาทีที่ 17 ของการออกอากาศ เจ้าแมวน้อยขนปุยตัวหนึ่งซึ่งเป็นแมวที่เลี้ยงไว้ในออฟฟิศ ได้เดินเข้ามาใกล้ๆ กับท่านนายกเทศมนตรีและหยุดอยู่ตรงหน้าแก้วกาแฟ หลังจากนั้นมันค่อยๆ ดมในแก้วนั่นและเหมือนมันจะอยากชิมกาแฟของท่านนายกเทศมนตรี นายกเทศมนตรีถึงกับหยุดการให้สัมภาษณ์ออนไลน์ไปชั่วขณะ ในตอนที่เจ้าเหมียวเดินออกมา และได้แต่มองส่งสายตาอ่อน เหมือนกับว่าแกกำลังทำอะไรน่ะ โมเม้นต์นี้ทำเอาชาวเน็ตฮาไปตามๆ กันเลยทีเดียว ลองไปชมวินาทีที่เจ้าเหมียวปรากฏตัวในคลิปวีดีโอนี้ได้เลย คุณ Usakovs เป็นที่รู้จักกันดีของคนในเมืองว่าเป็นคนรักแมว เขาเลี้ยงแมวไว้ในทีทำงานสองตัวคือเจ้า Kuzya และ Muris โดยพาพวกมันมาจากบ้านเกิดในปี 2011 และตอนนี้มันก็เป็นที่รักของคนในสำนักงานเป็นอย่างมาก เจ้า Kuzya (ลายเสือ) และ Muris (ลายขาวดำ) มักจะมาช่วยเจ้านายมันทำงานอยู่บ่อยๆ ท่าทางมันจะชอบทำงานมากนะเนี่ย การประชุมมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อมีบอสใหญ่มาคุม!!…
-
สาวน้อยชาวเยอรมัน ผู้ไม่ตัดเล็บมานาน 3 ปี จนทำให้ชีวิตมีปัญหาตามมา!!
ไม่แปลกหรอกหากสาวๆ หลายคนจะรักการเพ้นท์เล็บเป็นชีวิตจิตใจ ไหนจะต้องไปขัดเล็บ ตัดแต่งเล็บ ทาเล็บให้มีลวดลายนู้นนี้ มันก็ดูเป็นปกติของผู้หญิง แต่กับสาวน้อยคนนี้มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว!! เพราะเธอมีเล็บที่ยาวกว่าคนปกติ ยาวมากๆ ยาวสุดๆ ถึง 15 เซนติเมตร คิดภาพแล้วก็นึกถึงนางรำฟ้อนเล็บ ว่าแต่เธอจะมีปัญหากับเล็บยาวๆ ของเธอหรือเปล่า “Simone Taylor” สาวน้อยชาวเยอรมัน อายุ 16 ปี เธอใช้เวลากว่า 3 ปี เพื่อไว้เล็บของเธอซึ่งมีความยาวถึง 15 เซนติเมตร!!!! เมื่อมีเวลาว่างเธอมักชอบเพ้นท์สีเล็บของเธอให้สวยงามแต่กว่าจะเพ้นท์เสร็จก็ปาเข้าไป 3 ชั่วโมง ด้วยเล็บที่ยาวของเธอทำให้มีปัญหากับการเรียนวิชาพลศึกษาเป็นอย่างมากและเธอต้องเรียนรู้วิธีการพิมพ์โดยที่มีเล็บยาวๆ คอยกวนใจอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเวลาที่เธออาบน้ำหรือแต่งตัวยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษเพราะเล็บเธออาจจะหักได้ เธอได้กล่าวว่า “ฉันรู้สึกเจ็บมือมากๆ เวลาที่ทำข้อสอบ และก็มีปัญหาในวิชาพลศึกษามากๆ เพราะไม่สามารถที่จะเล่นวอลเลย์บอล บาสเกตบอล หรือกีฬาอะไรพวกนี้ได้เลย คุณครูในวิชาพลศึกษามักโน้มน้าวฉันให้ไปตัดเล็บซะ แต่ยังไงฉันก็ไม่ยอมตัดทำให้มีเกรดแย่ๆ ในวิชาพลศึกษา” เธอเริ่มไว้เล็บของเธอเมื่อเธอไปเห็นคลิปการเพ้นท์เล็บต่างๆ และชื่นชอบศิลปินเพ้นท์เล็บซึ่งพวกเขามีเล็บที่ยาว และตอนนี้เธอก็กลัวการตัดเล็บมาก เธอจะปล่อยให้มันยาวไปเรื่อยๆ เท่าที่มันจะยาวได้ …
-
เจ้าหมาที่ถูกล่ามโซ่มาตลอดชีวิต กับอิสรภาพชีวิตใหม่ที่ถูกปลดปล่อย โดยมนุษย์ผู้ใจดี!!
เรื่องราวชีวิตอันน่าหดหู่ของเจ้าหมาที่ถูกโซ่ล่ามคอมาอย่างยาวนาน จนขนบริเวณคอของมันถูกย้อมไปด้วยสีของเหล็กเพราะถูกเสียดสี หญิงสาวคนหนึ่งบังเอิญขับรถผ่านมาเห็นเจ้าหมาที่ชื่อว่า Violet พร้อมกับเพื่อนๆ ของมันอีก 5 ตัว ที่ถูกล่ามเอาไว้แบบเดียวกันในบ้านหลังหนึ่ง “จากภาพก็สามารถคาดเดาได้ว่าพวกมันน่าจะถูกล่ามแบบนี้มาตั้งแต่เกิด” Angela Stell ผู้อำนวยการขององค์กรช่วยเหลือสัตว์ NMDOG เล่า บ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่ในแถบ Miguel County รัฐ New Mexico ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในพื้นที่นี้การล่ามสุนัขทิ้งไว้โดยที่ไม่มีเจ้าของคอยดูแล ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย คุณ Angela จึงตัดสินใจเดินทางไปแจ้งกับองค์กรช่วยเหลือสัตว์ Animal Welfare Coalition of Northeastern New Mexico ที่อยู่ในรัฐ New Mexico และสำนักงานนายอำเภอ เพื่อเรียกร้องอิสระภาพให้กับเจ้าหมา “ฉันเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีคนอยู่ในบ้านหลังนี้หรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหมาเหล่านี้ถูกทิ้งขว้างให้อยู่อย่างน่าอดสู” คุณ Angela เล่า เธอสามารถช่วยเหลือเหล่าหมาที่ถูกล่ามออกมาได้ทั้งหมด และรีบพามันไปหาหมอเพื่อทำการรักษา เจ้า Violet นั้นดูเหมือนจะมีอาการหนักกว่าเพื่อนผิวหนังของมันเป็นแปลและถูกแมลงวันเข้ามาวางไข่จนเกิดอาการติดเชื้อ เจ้าหน้าที่จึงทำการรักษาด้วยการขูดเนื้อบริเวณที่ติดเชื้อออก และตอนนี้อาการของมันก็ดีขึ้นมากแล้ว “มันเป็นหมาที่ขี้กลัวมากๆ ถ้าหากว่าเราขยับมือ หรือร่างกาย…
-
แม่แมวได้มีโอกาสทำหน้าที่แม่อีกครั้ง ในการดูแลเจ้าหมา หลังจากที่ต้องสูญเสียลูกไป…
คุณเคยได้ยินคำว่า “หัวอกเดียวกัน” บ้างรึเปล่า มันมักจะเป็นคำที่เราพูดเมื่อเจอคนที่ผ่านเรื่องราวที่คล้ายกับเรามาก่อน คนหัวอกเดียวกันมักจะเข้าใจเรื่องราวของกันและกันได้ดี แต่ก็ไม่ใช้แค่คนเท่านั้นที่จะมีหัวอกหัวใจเหมือนกัน ถึงแม้จะเป็นพวกสัตว์ก็สามารถที่จะเข้าใจเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกันได้ เรื่องราวของหมากับแมวคู่หนึ่งที่ผ่านเรื่องราวร้ายร้ายมาเหมือนกัน ถึงแม้ว่าสัตว์ทั้งสองชนิดนี้แทบจะไม่ถูกกันเลยก็ตาม แต่พวกมันทั้งสองก็สามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี และกลายมาเป็นครอบครัวเดียวกันในที่สุด… สองแม่ลูกต่างสายพันธุ์ที่ผ่านเรื่องร้ายๆ มาเหมือนกัน Gertrude แมวน้อยเพศเมียอายุ 2 ปี เธอถูกสุนัขกัดในขณะที่กำลังอุ้มท้องอยู่ จนทำให้มันได้รับบาดแผลฉกรรจ์บริเวณหน้าท้อง ในขณะที่ชีวิตของแมวท้องแก่กำลังอยู่ระหว่างความเป็นความตายนั้น หญิงสาวผู้หนึ่งในเมืองเม็กซิโกก็พบมันเข้า และพามารักษาตัวยัง Compassion Without Borders (CWOB) สถานดูแลสัตว์แห่งหนึ่งในเม็กซิโก เจ้าหน้าที่พยามอย่างมากที่จะช่วยชีวิตของมันและลูกน้อยเอาไว้ พวกเขาเย็บบาดแผลที่ท้องและรักษาชีวิตของมันเอาไว้ได้ แต่ก็น่าเศร้าที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถช่วยชีวิตลูกน้อยของมันเอาไว้ได้ นี่คือบาดแผลของเจ้าเหมียวผู้น่าสงสารตัวนี้ (อาจมีภาพที่สะเทือนใจ) มันเจ็บปวดกับบาดแผลที่ท้องและการต้องสูญเสียลูกน้อยไป ในระหว่างที่มันกำลังรักษาตัวอยู่ที่คลินิกสัตว์นั้น ก็ได้มีลูกหมาน้อยผู้น่าสงสาร Clementine ที่ถูกช่วยไว้เข้ามารักษาตัวในที่นี่แห่งนี้เช่นกัน Clementine กับเพื่อนของมันทั้งสามตัวถูกนำมาทิ้งไว้ในคลินิก พวกมันดูอ่อนแออย่างมาก พวกมันถูกเจ้าของผู้ใจร้ายนำมาปล่อยไว้เนื่องจากอาการป่วย “เจ้าหมาทั้งสามสภาพแย่มาก มันดูผอมแห้งและไม่แข็งแรง พวกมันอายุไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์เราพยามอย่างมากที่จะช่วยลูกหมาทั้งหมดไว้ แต่ก็มีเพียงแค่ Clementine เท่านั้นที่รอดมาได้ “ คุณ Camblor ผู้ก่อตั้งคลินิกสัตว์แห่งนี้บอกกับนักข่าว Clementine หมาน้อยผู้รอดชีวิตจากการถูกทิ้ง ในช่วงที่ทั้งสองตัวกำลังพักฟื้นอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ได้อุ้มเจ้าหมาน้อยไว้ในอ้อมแขนผ่านกรงของเจ้าแมว และเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น!! เจ้าหน้าที่ Claudia…
-
ชายหนุ่มคิดค้น “อุปกรณ์ยึดมือถือกับกระเป๋ากางเกง” จะเก่งแค่ไหน ก็ล้วงไปไม่ได้!!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ปัจจุบันสมาร์ทโฟนถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีส่วนสำคัญในชีวิตของเราอย่างมากจนแทบจะกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของใครหลายๆ คนไปแล้ว เพราะแค่เพียงเครื่องเดียวเราก็สามารถที่จะทำอะไรได้หลายอย่างทั้งถ่ายรูป โทรศัพท์ติดต่อธุรกิจ คุยหาเพื่อนหาแฟน จีบสาวที่อยากรู้จัก หรือแม้แต่เป็นไฟฉายในยามฉุกเกินก็ยังได้ แต่ปัญหาหนึ่งที่ทุกคนมักจะเจอกันก็คือ มันชอบหาย!! ถึงแม้ว่าเราจะเก็บมันไว้อย่างดีในกระเป๋าแค่ไหน มันก็มักจะหล่นหรือโดนล้วงไปได้ง่ายๆ แต่ต่อจากนี้เราไม่ต้องกังวลว่ามือถือจะหล่นจากกระเป๋าอีกต่อไป เพราะมีหนุ่มคนหนึ่งผู้เคยประสบกับปัญหานี้เช่นกัน เขาได้คิดค้นอุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรมมือถือ หน้าตาและการทำงานของมันจะเป็นอย่างไรติดตามได้จากข่าวนี้เลย… อุปกรณ์ป้องกันมือถือโดนขโมย ถึงจะดูเล็กๆ แต่กลับมีประโยชน์อย่างมาก หนุ่มสวีเดนเล่าถึงประสบการการโดนขโมยโทรศัพท์ของเขาว่า “ในระหว่างที่ผมกำลังเดินอยู่บนถนนในกอเทนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ผมได้เดินชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่ง ในครั้งแรกผมไม่ได้รู้สึกเอะใจอะไรจนกระทั่งผ่านมาได้ซักพัก ผมพบว่าโทรศัพท์ของผมหายไป ผมพยายามตามหาอย่างมากแต่ก็ไม่พบ นั่นจึงเป็นที่มาของโปรเจคนี้ มันคืออุปกรณ์ที่จะช่วยป้องกันมือถือคุณจากการโดนขโมย” เค้าอธิบายถึงที่มาของอุปกรณ์ที่ชื่อว่า C-Safe ที่จะคอยช่วยปกป้องมือถือของคุณ สบายใจได้เลยว่า โทรศัพท์ของคุณจะถูกปกป้องจากการถูกขโมยอย่างแน่นอน การทำงานของมันนั้นก็ง่ายๆ เพียงแค่คุณติดตัวยึดเล็กๆ ไว้หลังมือถือคุณแล้วนำไปเกี่ยวกับที่เกี่ยวที่ติดอยู่กับกระเป๋ากางเกง หรือกระเป๋ามือถือคุณ เพียงแค่นี้มือถือก็จะปลอดถัย ไม่หล่นหรือโดนขโมยอีกต่อไปแล้ว และที่สำคัญเจ้า C-Safe นี้ยังกันน้ำและมีความทนทานอย่างมากอีกด้วย และนี่คือหน้าตาและส่วนประกอบของมัน ถึงแม้จะดูเรียบง่ายแต่มีประโยชน์เกิดตัวจริงๆ . ลองไปชมคลิปวีดีโอสาธิตการทำงานของมันเต็มๆ ได้เลย และตอนนี้เค้ากำลังเปิดระดมทุนผ่าน KickStarter…
-
มาพบกับ “ฮานะ” แมวน้อยเซเลปตาโต๊โตจากญี่ปุ่น ที่ทำให้ชาวเน็ตละลายด้วยความน่ารัก!!
เชื่อว่าประชากรในประเทศไทยมากกว่า 1 ล้านคนต้องเป็นทาสแมวแน่ๆ เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่คนแชร์รูปแมวน่ารักๆ เต็มไปหมด วันนี้ #เหมียวเวจจี้ ก็มีรูปน้องเหมียวสุดน่ารักน่าหยิกมาฝากกัน โดยเจ้าแมวตัวนี้เดินทางมาไกลถึงประเทศญี่ปุ่น เจ้าเหมียวน้อยน่ารักตัวนี้มีชื่อว่า ฮานะ แมวเพศเมียพันธ์ุสก็อตทิช โฟลด์อายุ 3 ขวบ ขณะนี้กำลังโด่งดังอย่างมากบนโลกอินเตอร์เน็ต ด้วยดวงตาที่กลมโตและขีสวยของมัน ทำให้ตอนนี้เจ้าเหมียวมีแฟนคลับติดตามกว่า 270,000 คนแล้ว!! 1. งืออ!? อย่าแกล้งเค้า โดยเจ้าของน้องฮานะแมวน้อยที่มีดวงตากลมโตน่ากอดตัวนี้ ได้ถ่ายรูปชีวิตประจำวันของมันเช่น การนอนหลับ ความขี้อ้อน และเวลาที่มันเล่นซนกับเจ้านกน้อย Sai เพื่อนของมันและอัพเดทลงในอินเตอร์เน็ต ฮานะจังไม่เหมือนกับแมวตัวอื่น มันค่อยๆ เล่นกับเจ้านกน้อยเพื่อนของมันอย่างเบามือ และทั้งคู่ก็แลดูจะรักกันมาก เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปชมความน่ารักตะมุตะมิของน้องฮานะจังกันเลย… 2. ไยหย๋อ?? 3. ไม่ว่าท่าไหนก็น่ารักจริงๆ นะเนี่ย 4. เอ๋?? แอบถ่ายเค้าอีกแล้ว 5. ตาโตแบบนี้ใส่แกใส่บิ๊กอายรึเปล่านะ 6. แนะๆ มองอะไรอยากกินขนมหรอ?? 7.…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ 23 ภาพการสั่งอาหารสุดเฟล เมื่อเธอและฉันไม่เข้าใจกัน มันก็กลายเป็นความฮา
การสั่งอาหารแล้วได้ไม่ตามที่สั่ง นี่มันคือความล้มเหลวของชีวิตชัดๆ เดี๋ยวๆ ก็ว่าไปนั่น อันที่จริงก็อาจะไม่ขนาดนั้นหรอกนะ แต่มันก็ทำให้เราต้องมีอาการเซ็งกันบ้างแหละน่าจริงไหม?? อย่างเช่นบางครั้งสั่งผัดกะเพาได้ผัดไทยยังพอว่านะ แต่ถ้าสั่งอย่างหนึ่งแล้วได้อีกอย่างเหมือนกับภาพต่อไปนี้ล่ะก็ไมเกรนคงจะขึ้นกันเลยทีเดียว เพราะแต่ละเมนูที่ได้มานั้นน่าปวดหัวม๊ากมาก ไม่รู้ว่าจะฮาหรือโกรธดีนะเนี่ย 1. หลังจากทานอาหารเสร็จ หนุ่มคนนี้ได้สั่งพนักงานว่า “ขอเบียร์ล้างปากนิดหน่อยครับ” และนี่คือสิ่งที่เขาได้ 2. ขอเอสเปรสโซ่ ดับเบิ้ลช็อตครับ และนี่คือสิ่งที่ได้ ปัดโถ่เอ้ย!? 3. ขอเพิ่มมายองเนสด้านบนของเบอร์เกอร์ด้วยครับ 4. ชายหนุ่นคนหนึ่งสั่งพิซซ่าถาดใหญ่เพิ่มชีสสติ๊ก 8 ชิ้น ดันได้ชีสเค้กมาแทน 5. เพิ่มครีมหน้าขนมปังเยอะใช่มั้ย?? ได้เดี๋ยวจัดให้ เอาให้เยิ้มเลย 6. เบอร์เกอร์ถั่วในรูปกับของจริงช่างแตกต่างกันเหลือเกิน 7. สั่งน้ำส้มแก้วเล็ก ก็เล็กเกิ้น ได้แก้วเท่าขวดเกลือ กินกี่แก้วมันจะอิ่มฟร๊ะเนี่ย 8. ไปแมคโดนัลด์สั่ง “ไอศกรีมแซนด์วิชครับ” พอขึ้นรถมากำลังจะกินเท่านั้นแหละ เซอไพร์!! 9. สั่ง “อัฟโฟกาโต” ได้…
-
ข้อคิดดีๆ จากการปราศัยของ แจ๊ค หม่า “ถ้าหากอยากจะมีชีวิตที่เรียบง่าย ก็จงอย่าเป็นผู้นำ”
หลายๆ คนคงจะรู้จักและคุ้นเคยกับ Jack Ma กันเป็นอย่างดี จากผู้ที่ไม่มีอะไรเลย สามารถพาบริษัท Alibaba พุ่งทะยานสู่ความสำเร็จและความรุ่งเรืองได้ คงไม่มีใครสงสัยในความเก่งของนักธุรกิจชาวจีนท่านนี้อย่างแน่นอน และเมื่อไม่นานมานี้ เขาเพิ่งได้กล่าวคำปราศัยที่สำคัญมากอีกครั้งหนึ่ง Alexa von Tobel ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท LearnVest ผู้ที่เข้าใจถึงความหมายของคำปราศัยนี้อย่างสุดซึ้ง และเธอจะมาให้คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ต้องการจะเติบโตและประสบความสำเร็จในชีวิต เธอบอกว่า “บางครั้งการที่อยู่ในบทบาทของผู้นำอาจทำให้การพัฒนาตัวเองของคุณหยุดลง ในบางวันคุณอาจจะทำได้ดีมาก แต่บางวันมันก็อาจจะไม่เป็นเช่นนั้น ดังนั้นคุณต้องพัฒนาตัวคุณเองและพร้อมจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา” และนี่ก็คือ 3 ข้อสำคัญที่จะช่วยคุณในการพัฒนาตนเอง จากทัศนคติของแจ๊ค หม่า เอง 1.คุณต้องมีความรัก เธอบอกว่าในการปราศัยนั้น แจ๊ค หม่า กล่าวถึง IQ 3 แบบที่ผู้นำควรจะมี ซึ่งประกอบไปด้วย IQ, EQ และ LQ สำหรับสองอย่างแรกนั้น หมายถึงความฉลาดทางด้านสติปัญญาและความฉลาดทางด้านอารมณ์ แต่สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ผู้นำควรจะมีก็คือ ความฉลาดทางด้านความรัก หรือ LQ (Love Quotient)…
-
หนุ่มน้ำหนักกว่า 100 กิโล ถูกแฟนสาวขอเลิก เกิดแรงฮึดสร้างซิกแพคภายในไม่กี่เดือน
ภาวะน้ำหนักเกิน อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้ และแน่นอนว่าคนที่มีน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐานย่อมจะเกิดภาวะเสี่ยงต่างๆ ตามมาแน่นอนทั้งโรคความดัน หัวใจ เบาหวานและอีกสารพัดโรค นั่นจึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ใครหลายๆ คนกำลังพยายามอย่างมากที่จะลดน้ำหนักเพื่อให้ตัวเองดูดีและไม่ป่วย เรื่องราวของ Miro Judt หนุ่มวัย 33 ปีนี้อาจเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังลดน้ำหนักได้บ้าง เพราะเขาเคยเป็นคนที่อ้วนกว่า 133 กิโลกรัมและตอนนี้น้ำหนักเขาลดลงไปแล้วกว่า 41 กิโลกรัมแล้ว หลังจากที่ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับอาหารฟาสต์ฟู้ดจนน้ำหนักเกินและถูกแฟนสาวบอกเลิก Miro Judt ก็ทำการลดน้ำหนักจนมีหุ่นดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ!! หลังจากที่ต้องเสียใจกับอาการอกหักเนื่องจากน้ำหนักตัวที่มีมากเกินไป เขาก็ได้พบกับโค้ชฟิตเนส Joe Wicks ผู้อยู่เบื้องหลังที่คอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลร่างกาย รวมไปถึงการวางแผนการออกกำลังการและการกินอาหารที่มีประโยชน์ และเมื่อเวลาผ่านไปเพียงแค่ปีเดียว หนุ่มผู้นี้ก็ทำการลดน้ำหนักได้มากถึง 41 กิโลกรัม จนกลับมาดูดีมีกล้ามได้อีกครั้ง เขากำลังมีความสุขกับร่างกายใหม่กับแฟนสาวนางแบบ ตอนนี้เขาก็กำลังทำงานเป็นเทรนเนอร์ให้กับเว็บไซต์ออกกำลังกายด้วย เขาทำคาร์ดิโออย่างหนักวันละ 2 ครั้งและมีตารางเวทเทรนนิ่งที่เคร่งครัด จนสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 41 กิโลกรัมภายในหนึ่งปี เขาพบรักกับนางแบบสาว Victoria Wilson จากเว็บไซต์หาคู่ซึ่งเธอประทับใจในความแข็งแรงของพ่อหนุ่มคนนี้มาก จนทำให้ทั้งคู่เริ่มใกล้ชิดกันจนคบหาดูใจมาปีกว่าแล้ว พวกเขาทั้งสองยังชอบที่จะไปออกกำลังกายด้วยกันอยู่บ่อยๆ พวกเขาคอยเป็นเทรนเนอร์ให้กันและกัน ดูแล้วน่ารักมาเลยนะเนี่ย Miro บอกว่า “เมื่อตอนผมเด็กผมไม่เคยใส่ใจกับการกินเลย ผมกินทั้งอาหารที่ไม่มีประโยชน์และดื่มน้ำอัดลมเยอะมาก ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าอะไรคือสารอาหารที่มีประโยชน์สำหรับการควบคุมน้ำหนัก” หลังจากที่เลิกกับแฟนเก่าที่คบกันมาถึง…
-
‘Boomer’ เจ้าเหมียวใจกล้าเดินเข้าไปในงานประกวดสุนัข แต่มันกลับผูกมิตรกับเจ้าตูบทุกตัว!?
อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าเจ้าเหมียวและเจ้าตูบนั้นเป็นสัตว์คู่กัดกัน เจอหน้ากันที่ไหนเป็นต้องขู่แฮ่!! ใส่กันอยู่เสมอ หรือแม้แต่ไล่ฟัดกันจนตายกันไปข้างนึงเลยก็มี #เหมียวหง่าว ไปเจอเรื่องราวสุดหวาดเสียว ชายหนุ่มชาวต่างชาติได้พาแมวของเขาเข้าไปในงานโชว์ประกวดสุนัข ซึ่งภาพที่ออกมามันน่าเหลือเชื่อมาก เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้วเจ้าเหมียวที่ชายคนดังกล่าวพาไปกลับเข้ากันได้กับเจ้าตูบทุกตัวในงานเฉยเลย!? เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ไปชมพร้อมๆ กันได้เลยย… เจ้า Boomer เหมียวพันธุ์เบงกอล ที่มีความใจกล้าหน้าทน บุกรุกเข้าไปยังถิ่นของศัตรูคู่อริ อย่างงานประกวดสุนัข ที่มีสุนัขร่วมร้อยชีวิตอยู่ในงาน ด้วยการฝึกฝนมาอย่างดี ทำให้เจ้า Boomer สามารถเข้ากับเจ้าตูบได้ทุกตัวในงานโดยไม่ขู่ฟ่อใส่แม้แต่ครั้งเดียวเลย แถมยังเป็นฝ่ายรุกเข้าไปหาเค้าอีกต่างหากแหน่ะ แบบนี้ทำเอาเจ้าหมาถึงกับตกใจในความใจกล้าของมันเลยแฮะ ฮร่า เจอพี่เบิ้มเข้าหน่อยก็มีเหวอๆ อยู่เหมือนกันนะเนี่ย ถถถ+ นอนสบายใจเฉิบเชียว เอ็งกำลังลืมอะไรไปรึเปล่าว่าตอนนี้กำลังอยู่ในดงของเจ้าหมานะ!! ลองไปชมคลิปแบบเต็มๆ กันได้เลย… แหม่ ไอ่เราก็ดูไปลุ้นไป เกรงว่ามันจะฟัดกันตอนไหนมั่ง แต่เอาเข้าจริงๆ ดั๊นนน ออกมาน่ารักน่าชังกันซะงั้น ทั้งเจ้า Boomer และเจ้าตูบทุกตัวในงานต่างก็ช่างมีอัธยาศัยดีกันซะจริง ที่มา : catmantoo, viralnova
-
เบื่อเฟ้ย!! รวม 13 เรื่องสุดจะอัดอั้นตันใจ ที่เหล่านักวาดการ์ตูนอยากจะบอกให้คุณได้รับรู้
พวกเราล้วนเติบโตมากับการ์ตูนอย่างนารูโตะ วันพีซ โคนัน โดราเอมอน ดราก้อนบอล บลาๆๆ ซึ่งการ์ตูนเหล่านั้นก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ หลายคนอยากเติบโตมาเป็นนักวาดการ์ตูนบ้าง แต่เราจะบอกว่าเส้นทางนี้มันไม่ง่ายเลย ต้องฝึกฝีมือและผ่านการคัดเลือกไม่ต่างจากอาชีพอื่นๆ แถมในแต่ละวันยังต้องรับมือกับเหล่านักอ่านที่มาพร้อมกับเรื่องปวดหั้วปวดหัวตลอดเวลา เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวฟิ้น ได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนนักวาดการ์ตูนจาก Line Webtoon ถึงเรื่องที่พวกเขาอัดอั้นและอยากจะระบายให้คนอ่านได้เข้าใจ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้บอกสักที มาไล่ดูกันไปเป็นข้อๆ เลย 1. รอ 7 วันอ่าน 7 วิ การ์ตูน 1 ตอน ไมใช่จะวาดกันง่ายๆ นะ ยังไงแล้วอย่าเพิ่งรีบอ่านมาก บางทีพวกเราวาดฉากกันนาน ถมดำไปเป็นชั่วโมง เปิดผ่านวิเดียวเท่านั้น นี่มันอะไร๊!! 2. สั่งให้นักวาดการ์ตูนวาดฉากที่อยากดู นักวาดแต่ละคนจะมีโครงเรื่องไว้ในหัวอยู่แล้ว แต่เนื่องจากคนอ่านอยากได้ฉากนั้นฉากนี้เพิ่มเติม พวกเขาก็จะเอาแต่บ่นและบ่น เพื่อให้นักวาดการ์ตูนวาดฉากที่พวกเขาอยากดู…เอ่อ…ตกลงนี่มันการ์ตูนใครล่ะเนี่ยะ!? 3. ตอนจบเป็นยังไง? เป็นปัญหาที่นักวาดเจอกันทุกคน คืออยากรู้ตอนจบ ไม่ว่าจะการตูนทั่วๆ ไปหรือการ์ตูนระดับตำนานก็ล้วนเจอปัญหานี้ทั้งนั้น แล้วนัดวาดคนไหนเขาจะเอาตอนจบของการ์ตูนตัวเองมาเล่าให้คนอื่นฟังกันเล่า ปั๊ดโถ่ 4.…
-
ไปไม่ถึงฝั่ง!! เว็บไซต์นอกจัด 10 อันดับการตายที่น่าเศร้าที่สุดในซีรีส์ Game Of Thrones
ใกล้ถึงบทสรุปเข้ามาเต็มทีแล้วสำหรับมหาสงครามชิงบัลลังค์ หนังแนวหนังจักรๆ วงศ์ๆ ของฝรั่งที่ฮิตกันไปทั่วโลกอย่าง Game Of Thrones ที่อีกไม่กี่เดือนซีซั่น 7 ก็จะเริ่มฉายแล้ว เป็นธรรมดาที่ซีรีส์เรื่องนี้อยู่แล้วที่ชอบกำจัดตัวละครอยู่บ่อยๆ ตัวไหนเด่นๆ ต้องมีอันเป็นไปทุกที และก็ไม่รู้ว่าซีซั่นที่กำลังจะเข้าฉายนี้ตัวละครไหนจะตายอีกนะเนี่ย แต่ใครจะตายหรือไม่ก็ไม่สำคัญเราไปลุ้นเอากันในซีซั่นหน้ากันดีกว่า สำหรับวันนี้เราจะขอพาคุณไปย้อนชม “10 อันดับการตายที่น่าเศรา้ที่สุดในซีซั่น 1-6” ที่จัดอันดับโดยเว็บไซต์ Businessinsider การตายของใครน่าเศร้าที่สุดนั้นไปชมพร้อมๆ กันเลย 10. Ygritte ตายตอนไหน: ซีซั่น 4 ตอน: 9 “The Watchers on the Wall” สาเหตุการตาย: เธอถูกธนูยิ่งเข้าที่หน้าอก ระหว่างการต่อสู้ใน Castle Black คะแนนความเศร้า: 8 คะแนน ทั้งคู่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งระหว่างการต่อสู้ใน Castle Black ขณะที่คนดูกำลังจิ้นกับการพบกันอีกครั้งของทั้งสองคน หนุ่มตัวแสบ Olly (เด็กที่แทง Jon Snow ตาย) ก็ดันยิงธนูใส่เธอจนตาย เป็นฉากที่น่าเศร้าและทำร้ายจิตใจคนดูอย่างมาก และสุดท้าย Jon ก็ได้แก้แค้นให้กับหญิงสาวผู้เป็นที่รัก โดยการแขวนคอ Olly ในซีซั่น 5 9.…
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นกำลังคลั่งไคล้ “ต้นโลมา” เพราะมีความน่ารักเหมือนโลมาจิ๋วเป๊ะๆ!!
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา #เหมียวเวจจี้ ได้นำเสนอเรื่องเกี่ยวกับต้นกระตายที่กำลังฮิตในประเทศญี่ปุ่น (อ่านข่าวเก่า พาไปรู้จัก “ต้นไม้กระต่าย” สุดคาวาอิ้จากญี่ปุ่น หน้าตาเหมือนกระต่ายกำลังชู 2 นิ้ว!?) และตอนนี้ได้มีกระแสปลูกต้นไม้แปลกๆ กำลังฮิตในญี่ปุ่นขึ้นมาอีกแล้ว เมื่อชาวเน็ตคลั่งไคล้ความน่ารักของ “ต้นโลมา” อ๊ะ หลายๆ คนอาจจะไม่รู้จักมัน ถ้าอย่างนั้นเราลองไปชมรายละเอียดของเจ้าต้นไม้สุดน่ารักนี้กันเลย… ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการปลูกด้นไม้เล็กๆ เอาไว้พักสายตาระหว่างทำงาน หรือประดับห้องนอน ห้องนั่งเล่นละก็ ไม่ควรพลาดเจ้า “ต้นโลมา” นี้อย่างแน่นอน มันคือต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีความน่ารัก คล้ายกับปลาโลมาตัวเล็กๆ ซึ่งกำลังฮิตอย่างมากในญี่ปุ่นขณะนี้ ชื่อเต็มๆ ของมันก็คือต้น Senecio peregrinus มันมีลักษณะของใบคล้ายกับปลากโลมากำลังกระโดดอยู่กลางอากาศ มันมีลักษณะลำต้นสูง ถ้าหากปลูกหลายต้นจะยิ่งเพิ่มความสวยงามและทำให้บ้านของคุณดูมีสีสันขึ้นมาทันที โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ ผู้หนึ่งได้โพสรูปของพวกมันลงบนโลกออนไลน์เมื่อไม่นานมานี้ และได้รับความนิยมอย่างมาก ลองไปชมภาพน่ารักๆ ของเจ้าต้นไม้ที่ว่านี้กันเลย… ลักษณะของในที่คล้ายกับปลาโลมาตัวเล็กๆ นี่คือส่วนดอกของมันที่กำลังจะบาน . สาวๆ คงจะถูกใจไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าตอนนี้บ้านเรามีขายรึยังน้า ถ้าใครรู้แหล่งช่วยบอก #เหมียวเวจจี้ ด้วยนะอยากปลูกด้วยคน ที่มา boredpanda
-
สื่อนอกจัดอันดับ 10 เมือง “โคมแดง” ที่ขึ้นชื่อเรื่องของการค้าประเวณีและแหล่งโลกีย์
โสเภณีอาจเป็นอาชีที่ผิดกฏหมายในหลายๆ ประเทศ แต่ในบางประเทศอาจเป็นอาชีพที่ถูกกฏหมาย การค้าประเวณีถือว่าเป็นเรื่องที่ขัดต่อศีลธรรมอันดี เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมการค้ามนุษย์แล้ว การซื้อบริการทางเพศจากเด็กก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ดีอีกด้วย เมื่อไม่นานมานี้สื่อต่างชาติ Therichest ได้จัดอันดับเกี่ยวกับประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการค้าประเวณีอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว ลองไปดูมุมมองของพวกเขาดีกว่า ว่าประเทศใดบ้างที่พวกเขาจัดให้เป็น “เมืองเซ็กส์ทัวร์” อันดับ 10. สาธารณรัฐโดมินิกัน เป็นอีกหนึ่งประเทศในแถบทะเลคาร์ริเบียนที่การค้าประเวณีเป็นสิ่งถูกกฏหมาย มีผู้หญิงขายบริการที่นี่กว่า 60,000 ถึง 100,000 คนและโดยส่วนมากเป็นชาวเฮติ แต่สิ่งที่น่าเศร้ามากที่สุดก็คือหญิงขายบริการของที่นี่ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน สิ่งที่ทำให้ผู้คนสนใจมาเที่ยวที่โดมินิกัน อาจเป็เพราะการเดินทางที่ง่ายเนื่องจากที่นี่ตั้งอยู่ระหว่างอเมริกาและยุโรป อันดับที่ 9. ประเทศ กัมพูชา ถึงแม้ว่ากัมพูชาจะมีกฏหมายที่เข้มงวดเกี่ยวกับการค้าประเวณี แต่ในความจริงนั้นตรงกันข้าม ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการมาเที่ยวเซ็กส์ทัวร์ ปัจจุบันกัมพูชากำลังประสบกับปัญหาการค้าประเวณีเด็กอยู่ ความยากจนของครอบครัวบีบให้พ่อแม่ต้องส่งลูกเข้าสู่วงการด้านมืดนี้ อันดับที่ 8. ประเทศ เนเธอร์แลนด์ กรุงอัมสเตอร์ดัมเป็นอีกเมืองที่มีการค้าประเวณีสูงที่สุดของประเทศเนเธอร์แลนด์ หลายคนคงจะคุ้นเคยกับป้ายไฟสีแดงริมถนนที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้เป็นอย่างดี มันเป็นสิ่งที่จะทำให้คุณทราบว่าร้านที่ประดับด้วยป้ายไฟนีออนสีแดง มีการขายบริการอยู่หลายรูปแบบเช่นการอาบน้ำโชว์ เต้นอะโกโก้ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่นี่อาชีพโสเภณีเป็นสิ่งถูกกฎหมายและได้รับการดูแลด้านสวัสดิการอย่างดี อันดับที่ 7. ประเทศ เคนย่า สำหรับคนที่ชอบความเสี่ยงที่นี่อาจจะเหมาะกับคุณ เคนย่าก็เหมือนกับประเทศต่างๆ…
-
เจ้าตูบได้กลับมาเจอเจ้านายอีกครั้ง แต่เกือบจำไม่ได้ เพราะลุงผอมลงเยอะเกิ๊นน!!
อีกเรื่องราวน่ารักๆ ของเจ้า Willie สุนัขที่ถูกรับเลี้ยงมาจากศูนย์พักพิงสัตว์ แต่ก็เป็นโชคดีของมันที่ได้อาศัยอยู่ร่วมกับ Shane Godfrey ผู้เป็นทั้งเจ้านาย เพื่อน และคุณพ่อ ทว่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ Shane ต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานหลายเดือน หลังตรวจพบว่าเป็นโรคปอดบวม ไตล้มเหลว และโรคไขข้อสมองอักเสบ Shane ต้องเข้ารับการรักษาอยู่นานซะจนเขาไม่ได้เจอ Willie เพื่อนรักอีกเลย จนมันอาจคิดว่าเขาจะไม่กลับมาอีกแล้ว ‘น้ำหนักผมลดลงไปมากถึง 23 กิโลฯ ตลอดระยะเวลา 5 สัปดาห์ที่ต้องวนเวียนอยู่ในโรงพยาบาล แต่ก็โชคดีที่ผมรอดมาได้ ตอนนี้ร่างกายผมกลับมาแข็งแรงแล้วเหลือก็แค่พักฟื้นเท่านั้นเอง’ Shane เล่า สภาพของเขาตอนอยู่ในโรงพยาบาล หลังจากที่คุณหมอบอกกับญาติๆ ว่าสุขภาพของเขากำลังดีขึ้นตามลำดับ น้องสาวของเขาเลยปิ๊งไอเดียที่จะพาเจ้า Willie มาเยี่ยมเพื่อนรักของมันที่โรงพยาบาล ‘เป็นช่วงเวลาที่น่ารักมากเลยครับ ตอนแรกมันเอาแต่เห่าใส่ผมอย่างเดียวเลย จากนั้นมันก็ค่อยๆ เข้ามาใกล้ๆ จนมันได้ดมกลิ่นถึงได้มัน่ใจว่าเป็นผมจริงๆ จากนั้นปฏิกริยาของมันก็เปลี่ยนไปกลายเป็นสุนัขที่ดี๊ด๊าสุดๆ ไปเลย’ Shane เล่าเสริม น้องสาวของเขาได้ถ่ายวิดีโอช่วงวินาทีที่ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่ตอนแรกดูเหมือนเจ้าตูบจะจำไม่ได้นะ ‘จะไม่มีวันที่เราสองชีวิตจะจากกันอีก ต่อจากนี้ไม่ว่าจะต้องไปที่ไหนผมจะเอามันไปอยู่เคียงข้างด้วยเสมอ’ …
-
สานฝันท่านผู้นำ มีหน้ากากขายที่ Ebay ราคาสูงกว่า 100,000 บาท ใครอยากได้ก็ซื้อเลย!!
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อนๆ คงได้เห็นคลิปวิดีโอของคนที่ใส่หน้ากากปลอมตัวเป็นผู้นำของประเทศมหาอำนาจอย่าง Donald Trump, Putin และคิม จอง อึน ออกมาเต้นกระดุ๊กกระดิ๊กในที่สาธารณะจนสร้างเสียหัวเราะให้กับผู้คนทั่วโลกกันมาแล้ว ลองไปชมคลิปวิดีโอดังกล่าวที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… และในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปซูมชมหน้ากากที่พวกเขานำมาใส่กันให้เห็นแบบชัดๆ ว่ามันไม่ได้เป็นหน้ากากแบบธรรมดาๆ เพราะราคามันช่างสูงลิบลิ่วซะเหลือเกินนน รายละเอียดของหน้ากากนั้นต้องขอบอกเลยว่าทำออกมาได้เสมือนจริง ทั้งเส้นขน และพื้นผิว รอยเหี่ยวย่นต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดูราวกับเป็นของจริง หลังจากที่คลิปวิดีโอของชายสามคนที่สวมหน้ากากกลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลก จู่ๆ ก็มีคนนำหน้ากากที่เหมือนกับในคลิปเด๊ะๆ มาวางขายลงในเว็บไซต์ Ebay และราคาของมันก็โคตะระจะเว่อร์วัง อยู่ที่ 4,300 เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 150,000 บาทเลยทีเดียว!! สามารถเข้าไปสั่งซื้อได้ที่ ebay . ในส่วนของท่านประธานาธิบดีของรัสเซีย Putin อนู่ที่ราคา 77,000 บาท ไม่รวมค่าจัดส่ง หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจก็เข้าไปสั่งซื้อได้ที่ ebay .…
-
เจ้า Bert หมาพันธุ์ปอมฯ ที่ถูกทิ้งกลับกลายมาเป็นมาสคอต ประจำแกลอรี่ศิลปะ!!
ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้า Bert หมาพันธุ์ Pomeranian ที่ถูกนำไปทิ้งไว้ที่สถานสงเคราะห์ ขณะที่มีอายุได้ 5 เดือนเท่านั้น แต่โชคชะตาชีวิตของมันก็พลิกผันจากเจ้าหมาที่ต้องนั่งๆ นอนๆ อยู่ในสถานสงเคราะห์ให้เวลาผ่านไปวันๆ กลายมาเป็นเซเลบที่เป็นผู้ดูแลพิพิฒพันธ์งานศิลปะในนิวยอร์คซิตี้ซะงั้น!? Kathy Grayson เจ้าของอาร์ตแกลอรี่ The Hole ที่ตั้งอยู่ในเมืองนิวยอร์คซิตี้ ได้ทำการเปิดใช้งานเว็บไซต์ PetFinder เพื่อดูน้องหมาเล่นๆ แต่ก็ต้องไปสะดุดตากับเจ้า Bert ที่ดูแล้วมันช่างน่ารักซะเหลือเกิน Kathy จึงตัดสินใจที่จะนั่งเครื่องบินไปยังเมือง Tulsa และขับรถต่อไปยังเมืองเล็กๆ ชื่อว่า Sallisaw เพื่อพบกับเจ้า Bert และพามันกลับมาอยู่ที่นิวยอร์คด้วย “มันเหมือนมีอะไรบางอย่าง เมื่อฉันได้จ้องมองเข้าไปในดวงตาของมัน” Kathy เล่า “ในวันะรุ่งนี้เรามีงานเปิดตัวอาร์ตแกลอรี่ใน NYC จะมีคนมากมายหลายคนมาร่วมงาน และเฉลิมฉลองแสดงความยินดีร่วมกับเรา และฉันก็คิดว่าเจ้า Bert ก็พร้อมที่จะเข้าสู่โลกแห่งศิลปะแล้วล่ะ” ทั้งคู่อาศัยอยู่ด้วยกันมาโดยตลอด และตอนนี้ก็ผ่านมาเป็นเวลากว่า 4 ปีแล้ว และทุกวันนี้เจ้า Bert ก็ยังคงเดินทางไปทำงานกับเจ้านายของมันอยู่เป็นประจำทุกวัน พร้อมกับสร้างรอยยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทุกคนที่เข้ามาชมผลงานศิลปะในอาร์ตแกลอรี่ “ในตอนแรกที่มันมาอยู่ที่นี่ มันค่อยข้างที่จะเงียบ…
-
ศิลปินตัดต่อภาพตัวละครดีสนีย์ ลงไปในภาพของเซเลปคนดัง และมันออกมาเจ๋งสุดๆ!!
สำหรับแฟนๆ เจ้าหญิงดิสนีย์แล้ว ขอรับประกันเลยว่าจะต้องชอบผลงานของศิลปินท่านนี้อย่างแน่นอน!! ศิลปินจากเมือง Jakarta ประเทศอินโดนีเซีย Andhika Muksin ได้สร้างผลงานศิลป์สุดเจ๋ง ด้วยการนำภาพของเจ้าหญิงดิสนีย์ ไปตัดต่อเข้ากับภาพของดาราเซเลบคนดัง และมันก็ออกมาดูเจ๋งโคตรๆ เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ลองไปชมผลงานของพี่แกกันแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… เหมือนกับว่า Pocahontas กับ Snow White กำลังเต้นกันอย่างสนุกสนานในงาน Coachella จริงๆ และ Aurora ก็กำลังเต้นแบบออกท่าทางการเต้นอย่างสนุกสนาน Ariel กับเจ้าชาย Eric ไปออกเดทกันในเมือง Tiana แลพ Naveen ไปออกงานที่ผับบด้วยกัน Belle กับชุดเดรสราตรีสีเหลือตัวเก่งของเธอ Cinderella และ เจ้าชาย Carmings กำลังเดินทางไปพักร้อนด้วยกัน และไม่ได้มีแค่การตัดต่อเฉพาะภาพเจ้าชายกับเจ้าหญิงเท่านั้น แต่ยังมีการสร้างคู่จิ้นระหว่าง เจ้าชาย Eric VS เจ้าชาย…
-
คอนเซ็ปต์ ‘คุกเรือขนาดยักษ์’ จากปานามา แม้แต่พี่ไมเคิลก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะแหก!!
สำหรับแฟนๆ ซีรีส์ชื่อดังอย่างเรื่อง Prison Break ก็จะรู้กันดีว่าเหล่าชาวแก๊งของตัวละครเอกอย่าง ไมเคิล สโกฟิลด์ มีความสามารถในการแหกคุกที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ แต่สำหรับคุกที่ทางสถาปนิกชาวปานามาได้ออกแบบมานั้น ต้องขอบอกเลยว่าแม้จะเป็น ไมเคิล และทีมงาน ก็คงหนีออกมาไม่ได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน Panama Papers Jail เรือขนาดยักษ์ที่มีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่คล้ายแผงโซลาร์เซลล์นี้ แท้จริงแล้วเป็นห้องขังนับ 1,000 ห้อง ที่มีต้นแบบมาจาก ‘คุกลอยฟ้า’ ที่ Tyrion Lannister ถูกนำไปขังไว้ในเรื่อง Game of Thrones เป็นการออกแบบโดยสถานปนิคของปานามาที่ออกแบบมาเพื่อขังนักโทษมากกว่า 3,300 คน แต่ถึงอย่างนั้นแบบแปลนนี้ก็ถูกโจมตีอย่างหนัก เพราะเชื่อว่าที่ทำแบบนี้ขึ้นมาก็เพื่อหลบเลี่ยงภาษี ประเทศปานามานั้นเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการเป็นสรวงสวรรค์ของการเลี่ยงภาษี และการฟอกเงิน แล้วบริษัท Panama Papers นี้เองก็เป็นคนช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทั่วโลกมาเปิดบริษัทที่ปานามา แน่นอนว่าแบบแปลนโครงสร้างที่ดูเว่อร์วังอลังการแบบนี้ไม่ว่าใครต่างก็เห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรสักอย่างแน่ แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นเพียงแค่คอนเซ็ปต์เท่านั้น ส่วนจะทำการก่อสร้างขึ้นมาใช้งานจริงๆ หรือไม่นั้นก็ต้องคอยติดตามกันต่อไป… . . . …
-
รู้ว่าอนาคินเกลียดทรายมาก แฟนคลับก็กล้าหาญ นำโหลทรายไปให้ตัวจริงเซ็นชื่อ!!
แม้ว่าคุณจะไม่ใช่แฟนของหนังเฟรนไชรน์สงครามลิเกอวกาศอย่าง สตาร์วอร์ คุณก็น่าจะเคยได้ยินหรือเห็นผ่านตาเกี่ยวกับมีมล้อเลียนตัวละครอนาคินที่ว่า “ข้าไม่ชอบทราย” กันมาบ้างใช่ไหม!? แน่นอนว่าหลายคนอาจจะคิดว่ามีมนี้มันฮิตเฉพาะในบ้านเรา เพราะเสียงพากย์ของพี่ชาคริตที่มันฮาอย่างไร้เหตุผล แต่จริงๆ แล้วมีมที่ว่านี้มันฮิตระดับโลกเลยทีเดียวล่ะ ลองดูตัวอย่างเสียงพากย์ชาคริตกันดู เริ่มกันที่ฉากปกติกันก่อน แล้วถ้ามันกลายเป็นเสียงฟันดาบดูล่ะ ลองข้ามมาดูมีมจากทางฝั่งฝรั่งกันบ้างว่าเขาเล่นมีมนี้กันยังไงกันนะบ้างนะ… สงสัยเจ้าดอลลี่จะต้องโดนสั่งสอนที่มาล้อเลียนอนาคินแน่ๆ – ข้าชอบทราย มันนุ่มนิ่มมมมม (ตัดภาพมาที่หน้าอนาคิน) และนี้ก็คือสีหน้าของอนาคินเมื่อเจอเข้ากับทะเลทราย และเมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมาก็ได้มีงานฉลองครบรอบ 40 ปีสตาร์วอร์ขึ้น แน่นอนว่านักแสดงจากเฟรนไชน์นี้ก็ต่างตบเท้ามากันให้เพียบ รวมถึง Hayden Christensen ผู้รับบทเป็น Anakin Skywalker ก็มาด้วยเช่นกัน ด้วยโอกาสอันดีแบบนี้ Spike Springe พ่อหนุ่มวัย 22 ปีผู้ชื่นชอบในหนังเรื่องนี้ก็ไม่พลาดจะเข้าไปขอลายเซ็นกับดาราคนโปรด แต่เขาไม่ได้ขอลายเซ็นแบบธรรมดา เพราะเขานำเอาขวดโหลที่มีทรายอยู่ข้างในไปให้ Hayden เซ็นด้วย (นี่นายรู้ว่าเขาไม่ชอบทราย ก็ยังกล้ามหยามกันขนาดนี้เชียวเหรอ) ถือว่าเป็นวีรกรรมอันกล้าหาญเลยทีเดียวล่ะ จากการนำสิ่งที่อนาคินไม่ชอบไปให้เจ้าตัวเซ็นถึงที่ แม้เราจะรู้ดีว่ามันเป็นมีมตลกๆ เฉยๆ แต่เขาก็ได้รับการยกย่องพอสมควรเลย ฮร่าาาา พอถามถึงความรู้สึกของพ่อหนุ่ม…
-
เจ้าหมาผู้น่าสงสาร มีกระสุนฝังอยู่ในตัวกว่า 20 เม็ด ตำรวจเชื่อว่าเป็นฝีมือเพื่อนบ้าน!!
เจ้า Jackson หมาพันธุ์ English Mastiff ที่มีน้ำหนัก 45 กิโลกรัม ถูกเพื่อนบ้านขี้ยาใช้ปืนบีบีกันยิงเข้าที่ลำตัวจนสร้างบาดแผลมากมาย แถมกระสุนบางลูกยังคงฝังอยู่ในร่างกายของมันอีกต่างหาก ในตอนแรกที่คุณ Hayden Howard จากเมือง Seymour รัฐ Indiana ได้พบกับมันตอนแรกก็คิดว่าเป็นแผลจากการถูกแมลงกัด นาย Tim Woodward เพื่อนบ้านของเธอ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง และคาดว่านั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดบาดแผลบนตัวของเจ้า Jackson “บนร่างกายของมันมีแต่รอยแผลเต็มไปหมด ตอนแรกฉันคิดว่าเป็นแผลจากการถูกแมลงกัด แต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาฉันก็รู้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้น” คุณ Hayden เล่า เธอพามันไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสัตว์ทันที และพอไปถึงเจ้าหน้าที่ก็ทำการโกนขนในบริเวณที่เป็นแผลออก พบว่ามีลูกกระสุนบีบีกันมากกว่า 20 ลูกฝังอยู่ในตัวของมัน และอีก กว่า 20 รอยแผล จากการตรวจค้นในบ้านของนาย Tim เจ้าหน้าที่ตำรวจพบสารเสพติดมากมายหลายชนิดทั้งกัญชา และเมทแอมเฟตามีน นอกจากนี้ยังมีปืนบีบีกันอยู่ด้วย แน่นอนว่าเขาจะต้องถูกเพิ่มข้อหาทารุณกรรมสัตว์ในการตัดสินโทษของเขาด้วย และตอนนี้เจ้า Jackson ก็ได้กลับมาอยู่ที่บ้านด้วยการดูแลของคุณ Jayden กับลูกชายแล้ว เชื่อว่าต่อจากนี้ไปมันคงจะได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยไร้การกลั่นแกล้งจากคนใจร้ายแล้วล่ะ …
-
สองนักเทนนิสต้องหยุดแข่งขัน หลังได้ยินเสียงร่วมรักดังลอดเข้ามา ทำเอาเสียสมาธิหมด!!
เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยคลิปวีดีโอโมเมนต์ชวนขำ ในระหว่างการแข่งขันทัวร์เทนนิส ที่ Sarasota Open ในฟลอริดา ซึ่งเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างสองนักเทนนิสชาวอเมริกัน Frances Tiafoe และ Mitchell Krueger โดยขณะที่ทั้งคู่กำลังทำการแข่งขันกันอยู่นั้น จู่ๆ ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงคู่รักคู่หนึ่งที่ดูเหมือนจะกำลังร่วมรักกันดังก้องไปทั่วอณาบริเวณ งานนี้บอกเลยว่าเล่นเอาทั้งตัวนักกีฬา และผู้ชมถึงกับหลุดขำออกมากันเป็นแถว จากการรายงานระบุว่า ในขณะที่สองผู้เล่นชาวอเมริกันกำลังแข่งขันเทนนิสรอบแรกที่สนาม James T. Driscoll ในวันอังคารที่ผ่านมาอยู่นั้น… ทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งเล็ดลอดเข้ามาจนทำให้พวกเขาถึงกับเสียสมาธิในการเล่น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ Frances นักกีฬาเทนนิสถึงกับหยุดเล่น และหัวเราะขึ้นมาทันที พร้อมกับตะโกนออกไปว่า “มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ทางด้าน Mike Cation ผู้บรรยายการแข่งขันกีฬาเทนนิส ได้ออกมาเผยว่า “อาจจะเป็นเพราะมีคนกลุ่มหนึ่งลืมที่จะลดเสียงโทรศัพท์ลงขณะที่เขากำลังเปิดดูหนังผู้ใหญ่ ผมไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร แต่ที่แน่ๆ มันต้องเป็นโทรศัพท์ของใครบางคนที่มาร่วมดูการแข่งขันแน่ๆ” ในขณะที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์บางคน ได้ออกมากล่าวว่า “นี่ไม่ใช่เสียงที่มาจากโทรศัพท์แน่นอน แต่มันคือเสียงที่มาจากอพาร์ทเมนต์ที่อยู่ใกล้ๆ กับบริเวณที่แข่งขันเทนนิส”…
-
ซวยซ้ำซวยซ้อน พ่อหนุ่มโดนรถชนต้องผ่าตัดหนัก แต่กิ๊กกับแฟนดันมาพร้อมกันว่ะเฮ้ย!!
คิดว่าคงไม่มีใครจะซวยได้เท่าพ่อหนุ่มคนนี้อีกแล้วแหละ คนเราแค่โดนรถชนก็นับว่าซวยมากๆ แล้ว แต่พอมานอนอยู่โรงพยาบาล แฟนกับกิ๊กก็ดันมาป๊ะหน้ากันอีก โอ้ยตายๆๆ โดยเรื่องราวความซวยในครั้งนี้ เกิดขึ้นกับพ่อหนุ่มผู้ใช้อินสตาแกรมนามว่า @jay_be_actin_up เขาได้โพสต์ภาพของตัวเองนอนอยู่บนเตียงพยาบาล พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวที่ตัวเองต้องไปประสบมา ภาพจากอินสตาแกรมของเขา โดยเจ้าตัวได้เขียนแคปชั่นไว้ว่า: ‘แม่มโคตรจะบ้าเลยกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แต่โชคดีจริงๆ ว่ะที่กูรอดมาได้ หมอก็บอกว่ากูโชคดีชิพหายเลยที่ยังฟื้นขึ้นมาได้ และเกือบจะต้องเสียขาทั้งสองข้างไปแล้ว แต่ตอนนี้ต้องเข้าผ่าตัดรอบที่ 2 ด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยมว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แล้วเดี๋ยวกูจะกลับไปเจอกับทุกคน เราจะได้กลับไปสนุกกันอีก ขอบคุณทุกคนมากที่อยู่เคียงข้างผมเสมอ’ แต่หลังจากที่โพสต์นี้ได้ไม่นาน จู่ๆ ก็มีหญิงสาวปริศนานามว่า Kayla ปรากฏตัวขึ้น ทุกคนในห้องก็ถึงกับงงกันยกใหญ่ โดยเฉพาะแฟนสาวของผู้ป่วยที่มาอยู่เคียงข้าง ซึ่งงานนี้อยู่เฉยๆ พ่อหนุ่มก็ถึงกับงานงอก เมื่อ Kayla เดินเข้ามาพร้อมกับเสียงกรี๊ดตกใจ ‘เขาเป็นอะไร เมื่อคืนเขายังนอนกับฉันอยู่เลยนะ!!’ เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำเอาบรรยากาศเปลี่ยนฉากทันที พยาบาล และคุณหมอ รวมทั้งครอบครัวของผู้ป่วยก็อยู่ในความมึนงง จนถึงขนาดที่อัตราการเต้นหัวใจของสูงขึ้นอย่างฉับพลัน เราก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น เอาเป็นว่าไปดูความเสียหายที่เกิดขึ้นเองเลยล่ะกัน (ถ้ากดดูไม่ได้ให้กดไป ที่นี่) When you the Goat…
-
นี่คือ 27 วงดนตรีไทยเจ๋งๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยทำเพลงฮิต แต่วันนี้พวกเขาหายไปไหนกันหว่า?
เมื่อพูดถึงวงดนตรีในไทย เอาจริงๆ มันก็มีเยอะแยะไม่รู้กี่ร้อยกี่พันวง และที่สังเกตเห็นคือหลายๆ วงทิ้งเพลงฮิตติดหูไว้ให้เราฟังตั้งมากมาย แต่ในวันนี้พวกเขาหายไปไหนกันแล้วนะ? ด้วยความที่แอบคิดถึงเพลงดีๆ ของหลายวงที่เคยปล่อยออกมาให้เราฟัง แต่จู่ๆ พวกเขาก็หายตัวไปจากวงการซะงั้น (คือไม่ค่อยเห็นข่าวคราวเลย) พวกเราก็เลยมานั่งนึกกันว่า มีวงดนตรีไทยเจ๋งๆ วงไหนบ้างน๊าที่ตอนนี้เงียบหายไปแล้ว 1. ฟาเรนไฮต์ วงร็อคสาวเสียงทรงพลัง มีใครรู้บ้างว่าตอนนี้เค้าไปทำอะไรกันอยู่? 2. No More Tear สาวร็อคแห่งจีนี่ย์ที่ตอนนี้หายไปไหนก็ไม่รู้ 3. Skooba นี่ก็คล้ายๆ กันโผล่มาแป๊ปเดียว หายไปไหนก็ไม่รู้… 4. เล้าโลม ฉันหยุดแล้วแล้วเธอหยุดได้หม๊ายย หลังจากนั้นก็ปล่อยมาอีกไม่กี่อัลบั้มซักแปปก็หายไปไหนก็ไม่รู้ 5. Pancake หน้าชาปากชาขาชาไอ้นั่นก็ชา… แต่หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ 6. NaNa อาจจะดูแว๊นซ์หน่อยๆ แต่เมื่อก่อนเพลงดังจริงๆ นะ แต่ตอนนี้หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ 7. Senorita วงผู้หญิงล้วนกับเสียงของพี่เนยอันหวานหู จนใครๆ ก็โหลดเอาไปเป็นริงโทน แต่ตอนนี้หายไปไหนก็ไม่รู้ …
-
คุณยายวัย 70 ปีหาเงินเพื่อรักษาลูกสาวบุญธรรม ภายใต้มาสคอตมินนี่ผู้ร่าเริง…
ปกติแล้วเวลาไปเที่ยวสวนสนุกเรามักจะเห็นมาสคอตตัวการ์ตูนมาสร้างสีสัน สร้างรอยยิ้มให้เด็กๆ รวมทั้งให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมถ่ายรูปเก็บไว้ แต่เราเคยสงสัยมั้ยว่า ภายใต้มาสคอตหน้ายิ้มนั้น พวกเขากำลังคิดอะไรหรือกำลังทำหน้ายังไงอยู่ พวกเค้าจะมีความความสุขเหมือนมาสคอตที่แต่งมั้ย? และนี่คือเรื่องราวของคุณยายวัย 70 ปี ที่สวมชุดมาสคอตมินนี่เม้าส์ผู้น่ารัก คอยให้ความสนุกกับทุกคน แต่แท้จริงแล้วเธอคือมินนี่ที่เศร้าที่สุด คุณยาย Yin Pizhi แม้จะอายุมากแล้ว แต่เธอก็ยังมาทำงานเป็นมาสคอตในสวนสนุก ไม่ใช่เพราะชอบ แต่จำเป็นต้องทำเพื่อหาค่ารักษาพยาบาลให้ลูกบุญธรรม People’s Daily Online รายงานว่า ลูกสาวบุญธรรมของ Pizhi ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งมีค่าใช้จ่ายจำนวนมากจนครอบครัวไม่อาจจ่ายได้ ด้วยเหตุนี้ Pizhi จึงตัดสินใจมาทำงานในสวนสนุกด้วยการแต่งชุดมาสคอตเป็นมินนี่เม้าส์ทุกวัน ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปด้วย แลกกับเงิน 5-25 บาทต่อรูป โดยจะรวบรวมเงินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนชุดมินนี่เม้าส์นี้เธอก็ไม่ได้ซื้อเอง แต่ยืมมาจากลูกชายของเพื่อนอีกที และมันไม่ใช่งานง่ายเลยสำหรับผู้หญิงสูงวัยอย่างเธอ เพราะต้องทนอยู่กับความร้อนอบอ้าวภายในชุด แต่ก็ต้องอดทนไว้เพื่อลูกสาว การแต่งเป็นมินนี่ทำให้คุณยายต้องทำตัวร่าเริงตลอดเวลา ต้องก้มลงไปคุยหรือถ่ายรูปกับเด็กๆ บ่อยๆ เมื่อทำงานเป็นเวลานานๆ บวกกับอากาศที่ร้อนมากๆ เธอจึงต้องพักบ่อยกว่าคนอื่นๆ เพราะอายุมากแล้วจึงเหนื่อยง่าย ตอนนี้ Wang Hai-mei ลูกสาวของเธอนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล Ningjin…
-
เด็กหญิงผิวเผือก ผู้มีความงามที่โดดเด่น จนได้รับเชิญให้เป็นนางแบบจากหน่วยงานทั่วโลก
โรคผิวเผือกนั้นเกิดจากความผิดปกติทางพันธุ์กรรม ซึ่งควบคุมโดยยีนด้อย ทำให้คนที่เป็นโรคดังกล่าวนี้มีความผิดปกติทางร่างกายภายนอก รวมทั้งปัญหาสุขภาพภายในที่มองไม่เห็น และถ้าหากมีอาการมากๆ พวกเขาก็อาจจะสูญเสียโอกาสทางสังคมไปด้วย แต่สำหรับหนูน้อย Nariyana วัย 8 ขวบ คนนี้ แม้จะเป็นโรคผิวเผือก แต่ก็ได้รับข้อเสนอให้เป็นนางแบบมากมายจนมีฉายาว่า ‘สโนว์ไวท์’ Nariyana เกิดที่ Yakutia ในไซบีเรีย โดยสมาชิกในครอบครัวทั้งหมดมีผมสีดำ ส่วนเธอนั้นเกิดมาพร้อมผมสีบลอนด์ และมีผิวพรรณที่เงางามไม่เหมือนใคร เพราะความโดดเด่นเหล่านี้ทำให้มีหน่วยงานในวงการแฟชั่นต่างเสนอให้เธอมาร่วมงานด้วย แต่คุณแม่ของเด็กหญิงยังไม่อยากให้ลูกสาวทำงานหน้ากล้องในขณะนี้ Albert และ Elena พ่อแม่ของเด็กหญิงบอกว่า Nariyana เป็นคนแรกในครอบครัวที่เป็นโรคผิวเผือก เธอชอบเต้นและวาดรูป คุณแม่บอกกับสำนักข่าว Siberian Times ว่า “เราได้รับการติดต่อจากวงการแฟชั่นและหน่วยงานโฆษณาเยอะมาก แต่ฉันยังไม่อยากให้ลูกทำตอนนี้ค่ะ แต่ถ้าโตขึ้นฉันจะให้เลือกทำในสิ่งที่เธออยากทำแน่นอนค่ะ” Nariyana และพี่สาววัย 14 ปี “ปกติแล้วเธอจะชอบเต้นและวาดรูปในเวลาว่างค่ะ แต่ตอนนี้ดูเหมือนเธอเริ่มหวั่นไหวกับคำเชิญชวนแล้ว เพราะเมื่อถามว่าอยากเป็นอะไร เธอมักจะตอบว่าอยากเป็นนางแบบค่ะ” คุณแม่บอก แต่ครั้งหนึ่ง ช่างภาพ Vadim Rufov ได้มีโอกาสถ่ายรูปเด็กหญิงผิวเผือกคนนี้ เขาเล่าให้ฟังว่า “เธอเป็นเด็กหญิงที่ไม่ธรรมดาที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นเลยครับ” “เธอเป็นเด็กหญิงผิวเผือกที่มีความตั้งใจสูงมาก…
-
สองลูกหมาคิดว่าแมวเป็นแม่ ติดอกติดใจตามตลอด จนย้อมตัวขอสมัครเป็นลูกแมวด้วย!!
โดยปกติแล้วสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มักจะกินนมจากเต้าแม่ของตัวเอง ในขณะที่สัตว์ตัวแม่ก็จะให้นมเฉพาะกับลูกตัวเองด้วย เราจึงไม่ค่อยเห็นพวกมันมันกินนมจากสัตว์ต่างสายพันธุ์สักเท่าไร แต่เจ้าลูกหมาสองตัวนี้มันได้ฉีกกฏที่ธรรมชาติที่เราคาดหวังไว้ ด้วยการมากินนมแมวแทนอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนแม่แมวเองแม้จะไม่เต็มใจแต่ก็อดสงสารพวกมันไมได้ เลยจำใจให้ลูกหมาดูดนมไปโดยปริยาย ลูกหมาสองตัวนี้อาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ ตอนแรกพวกมันก็อยู่กับแม่หมาเนี่ยแหละ แต่จู่ๆ ชีวิตของพวกมันก็ได้ย้ายเข้าอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเลี้ยงแมวเอาไว้ด้วย ในช่วงที่ลูกหมาทั้งสองย้ายเข้ามานั้น เป็นช่วงที่แมวในบ้านเพิ่งคลอดลูกพอดี และมันก็อยู่ในช่วงให้นมลูก แล้วคิดดูว่า ลูกหมาที่ยังไม่หย่านมจริงๆ กับแม่แมวที่เพิ่งคลอดลูกมาเจอกัน จะเกิดอะไรขึ้น!? แน่นอน เมื่อมันเห็นเต้าอันเต่งตึงของแม่แมว ทำให้ทั้งสองคิดถึงเต้านมของแม่หมา พวกมันเลยตัดสินใจเข้าไปหาแม่แมวแล้วดูดนมจากเต้าทันที เจอแบบนี้แม่แมวก็งงสิ แม่แมวพยายามจะวิ่งหนีลูกหมาสองตัวนี้ แต่ดูเหมือนทั้งสองตัวจะหิวมาก มันก็เลยนอนให้ทั้งสองดูดนมจนอิ่ม ประเด็นคือมันไม่จบแค่นั้นสิ ดูเหมือนลูกหมาทั้งสองจะติดใจในรสชาตินมแมวมาก มันเลยเดินตามแม่แมวต้อยๆ เพื่อขอดื่มนมอีก นี่กะจะไม่เหลือไว้ให้ลูกแมวบ้างหรอ ห๊ะ!! คุณป้าเจ้าของบ้านบอกว่า “ฉันรับทั้งสองตัวมาอยู่ในบ้าน ทั้งๆ ที่คิดว่าพวกมันหย่านมแล้ว แต่พอมาเจอแม่แมวที่บ้านพวกมันก็เริ่มดื่มนมอีก ครั้งแรกฉันก็คิดว่ามันจะดื่มอีกแค่อาทิตย์เดียวนะ ที่ไหนได้ ถึงตอนนี้มันยังไม่เลิกเลยค่ะ” จริงๆ แล้ว เจ้าของก็มีนมสำหรับทั้งสองตัวนะ เธอใช้นมผงชงให้แล้วใส่อาหารเม็ดลงไป และดูเหมือนพวกมันก็ชอบนะ…
-
23 ทักษะการแอคติ้งของแมว ตัวแม่ออกอาการเวอร์เกินจริง นิดๆ หน่อยๆ ทำมาเป็น…
หลายคนชอบเลี้ยงแมว เพราะมันมีนิสัยขี้อ้อน ชอบมาคอลเคลีย และชอบอยู่นิ่งๆ แต่รู้มั้ย จริงๆ แล้วแมวเนี่ยเป็นพวกที่แสดงละครได้สุดยอดเลย จะทำอะไรก็แอคติ้งให้เวอร์ตลอด เหมือนแมวต่อไปนี้ 1. เมื่อเจ้าของเล่นกับหมา อิจฉาออกหน้าออกตาเลยนะ 2. ก็แค่การเดินทางธรรมดาป่ะ ทำไมต้องทำหน้าตื่นเต้นขนาดนั้น 3. อุ๊ตะ!! ลั่นแตะน้ำ ถึงกับไปไม่เป็นเลย 4. โอ้ววว ม่ายยย อย่าไปนะ 5. นี่หลับหรือซ้อมตาย 6. มันฟินอ่า มันฟินนนน 7. อย่าไปนะ อย่าจากฉันไป 8. สีหน้าตอนเป็นอิสระ vs ตอนถูกจับใส่กระเป๋า 9. กลัวแล้วๆ อย่าทำอะไรเก๊าเบย 10. อยู่ดีๆ ก็มีเด็กน้อยมาอยู่ในบ้าน ทั้งตกใจทั้งงงไปหมด 11. หืม นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ตัวฉันล่ะ…
-
32 ภาพความวุ่นวายปนฮา เมื่อปล่อยชะตากรรมสัตว์เลี้ยง ให้อยู่ในกำมือของเด็กน้อย
เด็กกับสัตว์เลี้ยงเนี่ย จะมีอะไรบางอย่างทำให้พวกเขาเข้ากันได้ดีจนน่าแปลกใจ พวกเขาสามารถสื่อสารกันด้วยภาษาของพวกเขาเอง และเป็นเพื่อนกันได้อย่างน่าแปลกใจ แต่ไม่ว่าจะสนิทกันมากแค่ไหน ผู้ปกครองก็ไม่ควรปล่อยให้พวกเขาอยู่ด้วยกันตามลำพังนะ เพราะมันบางทีพวกเขาอาจจะสร้างเรื่องปวดหัวให้ก็เป็นได้… 1. เห็นน้องหมามีแค่สองสี เลยแต่งแต้มความสดใสให้ 2. ก็คนมันรักสัตว์อ่า รักมาก อยากอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา 3. ทำนมหก ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันนะ!! 4. เอิ่มมมม เจ้าหมาเป็นคนทำครับ 5. เปลี่ยนแมวหน้าจืดให้เป็นแมวหน้าสวย 6. ปล่อยเจ้าหมาไว้กับลูกแค่ 20 นาที ดูสิ่งที่ได้ ปาร์ตี้น้ำชากันหรอ 7. จะเล่นไร ดูหน้าแมวเหมียวซะก่อน 8. ช่างภาพน้อยวัย 6 ขวบ จับน้องหมามาถ่ายแบบ จัดเต็มกันไปเลย 9. นึกอยากทำอะไรกับสัตว์เลี้ยงก็ทำ เห้อออ 10. เมื่อหมาตัวจริงเข้าบ้านไม่ได้ หนูน้อยเลยให้อาหารกับตุ๊กตาหมาแทน …
-
เจ้าสุนัขโกลเด้น ขอบคุณผู้ช่วยชีวิตมันยกใหญ่ หลังจากถูกช่วยขึ้นมาจากบ่อน้ำได้สำเร็จ
หลายคนคงจะรู้จักสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ พวกมันเป็นสุนัขพันธุ์หนึ่งที่มีนิสัยขี้เล่นและรักเจ้าของมาก เผลอดูเหมือนว่าพวกมันจะเป็นหมาไฮเปอร์พันธุ์หนึ่งเลยก็ว่าได้ และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีเหตุการณ์เกี่ยวกับความน่ารักๆ ของเจ้าสุนัขพันธุ์นี้เกิดขึ้น เมื่อมันพยามที่จะแสดงความขอบคุณกับผู้ที่ช่วยชีวิตมัน รายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ไปชมพร้อมกันเลย เมื่อปลายเดือนมีนาคม ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอผ่านทาง Weibo โซเชียลเน็ตเวิร์คชื่อดังในของประเทศจีน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังช่วยเหลือเจ้าสุนัขพันธุ์โกลเด้นผู้โชคร้ายที่ตกลงไปในบ่อน้ำลึกกว่า 3 เมตรออกมา วีดีโอขณะที่นักดับเพลิงกำลังช่วยเหลือเจ้าหมาผู้เคราะห์ร้ายนี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นวลาประมาณ 1 ทุ่ม ที่ มลฑลอานฮุย ในประเทศจีน ขณะที่เจ้าสุนัขโกลเด้นผู้น่าสงสารกำลังเดินเล่นกับเจ้าของมันอยู่บนถนน Shuangfeng ได้พลัดตกลงไปในบ่อน้ำที่อยู่ใกล้กับบริเวณสี่แยกนั้น ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเธอได้โทรแจ้งหน่วยกู้ภัยเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากที่ได้รับแจ้งทางสถานีดับเพลิงอานฮุย ได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมายังที่เกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือเจ้าหมาน้อยที่เคราะห์ร้ายโดยทันที เมื่อมาถึง คุณ Miao Kanglei นักดับเพลิงหนุ่มวัย 25 ได้ลงไปยังบ่อน้ำนั้นเพื่อช่วยมันออกมาโดยขณะที่เขาอุ้มมันขึ้นมาจากบ่อซีเมนต์ที่ลึกนั้น เจ้าสุนัขอยู่ในอาการตกใจอย่างมาก มันพยามใช้ขาของมันถีบคุณ Miao อยู่ตลอดเวลา แต่หลังจากใช้ความพยายามในการช่วยชีวิตหมาน้อยผู้น่าสงสารอยู่นาน ในที่สุดคุณ Miao และเจ้าสุนัขก็ขึ้นออกมาจากบ่อน้ำพร้อมกัน Miao รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมากกับภารกิจครั้งนี้แต่เจ้าโกลเด้นผู้เคราะห์ร้ายกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น มันดีใจมากที่สามารถออกมาจากบ่อน้ำนั่นได้ สุนัขตัวน้อยวิ่งไปรอบๆ ตัวของผู้ช่วยชีวิตมันและกระโดดเข้ากอดคุณ Miao เพื่อแสดงความขอบคุณ เป็นภาพที่น่ารักมาทำเอาคนอื่นที่อยู่ในเหตุการ์นั้นอดหัวเราะไม่ได้ คุณ Miao บอกว่า…
-
สะเทือนวงการแพทย์!! หมอชาวจีนประสบความสำเร็จ ในการปลูกถ่ายหูเทียมไว้ที่แขนผู้ป่วย
ปัจจุบันการแพทย์ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว การรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ในปัจจุบันมีความเข้าใกล้กับหนังแนววิทยาศาสตร์ที่เราเคยได้ชมกัน เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวใหญ่อีกข่าวหนึ่งที่ถือว่าเป็นความก้าวหน้าทางการแพทย์เลยทีเดียว เมื่อแพทย์ชาวจีนประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายหูเทียมลงบนแขนมนุษย์!! เมื่อวันที่ 31 มีนาที่ผ่านมาทางเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานข่าวว่ามีศัลยแพทย์ชาวจีน ได้ปลูกถ่ายหูเทียมลงบนแขนของชายผู้หนึ่งหลังจากที่เขาประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรงในปี 2015 คุณ Ji หนุ่มจีนผู้ได้รับการทำศัลยกรรมในครั้งนี้ เขาประสบอุบัติเหตุอย่างร้ายแรงในปี 2015 จนทำให้เสียหูด้านขวาไป แพทย์ไม่สามารถที่จะทำให้หูของเขาให้กลับคืนมาได้อย่างเดิม ต้องพึ่งการศัลยกรรมเท่านั้น หลังจากนั้นดอกเตอร์ Guo Shuzhong ศัลยแพทย์จากโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย Xi’an Jiaotong ได้รับคุณ Ji ผู้เคราะห์ร้าย เข้ามาเป็นคนไข้ในการดูแลและได้ทำการปลูกถ่ายหูเทียมที่ต้นแขนของเขาเพื่อนำไปติดที่เดิม คุณหมอได้ทำการสร้างหูเทียมขึ้นมาจากเครื่องปริ้นสามมิติ โดยใช้กระดูกอ่อนจากกระดูกซี่โครงของผู้ป่วยเป็นวัตถุดิบในการสร้างอวัยวะเทียมในครั้งนี้ “หูเทียม” ถูกปลูกถ่ายไว้ยังต้นแขนของเขาและสามารถเติบโตได้ดี ผู้ป่วยต้องนอนพักในโรงพยาบาลอีกเป็นเวลา 2 อาทิตย์เพื่อดูการทำงานของอวัยวะเทียมที่ได้รับการปลูกถ่ายครั้งนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าหูที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่นี้ สามารถเข้ากับเซลร่างกายของเขาได้ ก่อนที่มันจะถูกนำไปติดยังที่ศีรษะของเขาแทนหูเดิมที่สูญเสียไปจากอุบัติเหตุ หูเทียมถูกปลูกถ่ายลงในแขนของนาย Ji และสำเร็จในเดือนพฤศจิกายน 2015 คุณหมอ Guo Shuzhong กำลังตรวจสอบแผลการผ่าตัดหลังจากที่ปลูกถ่ายหูเทียมลงที่แขนของผู้ป่วย การตรวจสอบหูเทียมที่ปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วย โอโหการแพทย์สมัยนี้ก้าวหน้ามากเลยนะเนี่ย ไม่ว่าอวัยวะอะไรแพทย์ก็สามารถสร้างของเทียมขึ้นมาทดแทนได้ สุดยอดมากๆ ที่มา dailymail
-
คุณหมออายุกว่า 105 ปี ผู้ผ่านโลกมาแล้วมากมาย และเคยบอกให้ “ซัดดัม” เลิกบุหรี่!!
“อาบน้ำร้อนมาก่อน” คงเป็นสุภาษิตที่หลายคนคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เพราะผู้ที่มีอายุมากนั้นมักจะผ่านเหตุการณ์สำคัญๆ และมีประสบการ์ในการใช้ชีวิตที่มากกว่า การเรียนรู้หรือทำความรู้จักกับชีวิตของผู้มากประสบการณ์เหล่านั้นก็เหมือนกับเราได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปด้วยในตัว หลายๆ คนที่มีอายุร่นคุณปู่คุณย่าของเรานั้นก็คงจะผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มามากมาย ถ้าหากใครเคยดูหนังรางวัลออสก้าเรื่องดังอย่าง ฟอร์เรสท์ กัมพ์ ที่พระเอกของเรานั้นผ่านเหตุการณ์สำคัญๆ มาอย่างมากมายเหลือเกิน และต่อจากนี้เราจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับฟอร์เรสท์ ในโลกแห่งความเป็นจริง พร้อมทั้งเรียนรู้ประวัติศาสตร์กับแพทย์อาวุโสท่านหนึ่งที่มีอายุถึง 105 ปีและมีประสบการการใช้ชีวิตอย่างโชคโชนมากมาย ทั้งเคยผ่านค่ายกักกันทหารที่เกาะนรกของญี่ปุ่มมาแล้ว เคยสั่งให้ซัดดัม ฮุสเซนงดบุหรี่!! และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ทุกวันนี้เค้ายังคงเป็นคุณหมออยู่ นายแพทย์อาวุโสท่านนี้มีชื่อว่า คุณหมอ Bill Frankland เป็นลูกของนายอำเภอ เกิดเมื่อวันที่ 19 มีนาคมปี 1912 ในรัฐเท็กซัส ประเทศอเมริกาและย้ายตามครอบครัวมายังประเทศอังกฤษมี คุณหมอพี่น้องทั้งหมด 4 คนและเขาเป็นคนสุดท้อง เมื่อไม่นานมานี้คุณปู่เพิ่งได้รับการ์ดอวยพรวันเกิดครบ 105 ปีจากราชินีอังกฤษ ถึงแม้ว่าจะอายุมากกว่า 100 ปีแล้วแต่เขายังคงทำงานวิจัยทางการแพทย์อยู่และเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา งานวิจัยชิ้นล่าสุดของเขาเพิ่งจะถูกตีพิมพ์ ในชื่อ “การศึกษาแผลไฟไหม้เรื้อรังของเชลยสงครามในช่วงปี 1942 ถึง 1945” คุณหมอผู้เชี่ยวชาญทางด้านการรักษาเกี่ยวกับทางเดินหายใจท่านนี้ถูกยกย่องให้เป็น “Grandfather of Allergy” หรือคุณปู่แห่งโรคภูมิแพ้เลยทีเดียว…
-
ตำรวจได้รับแจ้งว่าเด็กๆ เล่นฮอกกี้เสียงดัง ก็เลยร่วมเล่นด้วย ก่อนจะสอนสิ่งที่ถูกต้องให้!?
ในระหว่างที่เรากำลังทำเรื่องสนุกๆ กับเพื่อนอยู่ บางครั้งเราอาจจะเล่นกันจนเพลิน เผลอเรอส่งเสียงดัง หรือทำตัวรบกวนคนอื่นๆ โดยที่ไม่รู้ตัวก็เป็นได้นะ… และเหตุการณ์ต่อไปนี้ก็เช่นกัน เมื่อมีชาวบ้านได้โทรแจ้งความกับตำรวจในท้องที่ ให้มาจัดการกับกลุ่มเด็กๆ ที่กำลังเล่นกันเสียงดังภายนอกบ้าน แต่เมื่อตำรวจมาถึงเรื่องราวกลับไม่เป็นไปตามที่ผู้โทรแจ้งหวังไว้ เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการรายงานข่าวว่า ผู้พักอาศัยในหมู่บ้านแห่งเกิดความรำคาญเมื่อพวกเด็กจอมซนที่มาวิ่งเล่นในสนามหญ้าและถนนหน้าบ้านเขา พร้อมกับส่งเสียงดังโวยวาย เขาจึงต้องการที่จะหยุดการเล่นสนุกของเด็กๆ พวกนั้นโดยการโทรแจ้งกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้มาจัดการเรื่องนี้โดยด่วน ทันทีที่ได้รับการโทรแจ้ง ตำรวจก็รีบมายังบ้านหลังนั้น และเขาก็พบกับพวกเด็กๆ กลุ่มหนึ่งที่กำลังเล่นกันฮอกกี้กัน อย่างสนุกสนาน อยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว คุณตำรวจไม่รอช้า เดินเข้าไปหาพวกเด็กโดยทันทีและหยิบไม้ฮอกกี้ขึ้นมาตีกับเด็กๆ ซะเลย จนคนแถวนั้นคิดว่านี่แจ้งให้มาหยุดหรือมาเล่นกันแน่นะ (ฮ่าาา) ระหว่างที่พวกเขากำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานนั้นก็ได้มีผู้ถ่ายภาพอันแสนอบอุ่นนี้และอัพเดทลงในเฟซบุ๊ค พร้อมกับแคปชั่นที่ว่า “เด็กก็คือเด็ก” แต่ก็ไม่ใช่เล่นด้วยเฉยๆ นะ เพราะพวกเขายอมปิดถนนประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อเล่นกับเด็ก ก็ย่อมหวังว่าพวกเขาจะพัฒนาไปในทางที่ดี หลังจากเล่นจบเกม พวกเขาก็เริ่มทำหน้าที่ตำรวจที่ดี พวกเขาบอกเด็กๆ เหล่านั้นว่ามาเล่นตรงจุดนี้มันสร้างความเดือดร้อนให้กับคนในบ้านหลังอื่นๆ นอกจากนี้ยังกีดขวางถนนอีกด้วย และได้แนะนำให้เด็กๆ ไปเล่นในลานว่างที่ใกล้เคียงในละแวกนั้นแทน จะเห็นได้ว่าเด็กๆ ก็ยอมเชื่อฟังตำรวจแต่โดยดี เพราะรู้สึกเหมือนกับพวกเขาเป็นส่วนหนึ่ง เป็นทีมของกันและกัน… ลองคิดว่าหากเป็นกรณีที่ตำรวจมาบอกให้หยุดตั้งแต่แรก พวกเขาก็คงเกิดการต่อต้านแน่ๆ แต่พอตำรวจยอมเสียเวลาเล่นด้วยและแนะนำวิธีที่ถูกต้อง พวกเขาก็พร้อมปฏิบัติตาม และสัญญาว่าคราวหน้าจะย้ายที่เล่นไปยังที่ซึ่งตำรวจแนะนำด้วย…
-
อินสตาแกรมเสื้อมือ 2 ที่โคตรฮามาแรง ขนเสื้อผ้าพี่สาวมาขาย เพราะรกตู้ไม่ไหวล๊าว!!
ปกติเรามักจะเห็นร้านขายเสื้อผ้าโพสต์ภาพสินค้าลงขายในอินสตาแกรมอยู่บ่อยๆ แต่เชื่อเถอะว่าวินาทีนี้ไม่มีร้านเสื้อผ้ามือสองไหนจะฮาแตกและมาแรงได้เท่าร้านนี้อีกแล้ว กับอินสตาแกรมที่ใช้ชื่อว่า @angrysisterrr โดยเสื้อผ้ามือสองทั้งหมดที่เอามาขายมันไม่ใช่ของเธอ แต่เป็นของพี่สาวที่เธอต้องแอบขโมยมาขาย เพื่อจะได้แย่งชิงพื้นที่ในตู้เสื้อผ้ากลับคืนมา!! โอ๊ยยแบบนี้ก็มีด้วยเหรอเนี่ย ฮ่าๆๆ แค่เปิดหัวมาก็ฮาแล้ว ด้วยแคปชั่นที่ว่า “แอบขายเสื้อผ้าพี่สาวจ้า ส่วนใหญ่เป็นไซส์S สไตล์ลุยๆ(ลุยหาผัว) ค่าส่งคุยกันได้ ถามเล่นๆก็ได้จ้า. (ถ้ามึงบังเอิญมาเจอละเสียดายตัวไหน เม้นด่าได้เลยจ้า) *อัพแดดค่าส่ง อ่าน*” ด้วยความที่มันโคตรฮา ทำให้มีคนติดตามเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงชั่วข้ามคืน และนี่คือคำแนะนำก่อนจะซื้อเสื้อ… ตกลงว่านี่ขายเสื้อ หรือว่าขายแหดักปลาเนี่ย 555+ อ้าวเฮ้ย ขายให้น้องหมาเฉ๊ยย ฮร่าา ชุดสำหรับไปเดทกับแฟนที่ร้านหมูกระทะ แฉพี่สาวตัวเองไปอีกกก ไอ้เราเห็นแล้วก็คิดเหมือนกัน ‘นี่มันเสื้อเห้ไร!?’ แบบนี้ก็มีด้วย จะเอาฮาไปไหน จับตั้งก็ตั้งนี่เสื้อหรืออะไรอ่ะเจ๊? ส่วนอันนี้พีคสุด เธอไม่ขาย แต่แค่เอามาประจานพี่สาวเฉยๆ 555+ และนี่คือการต่อสู้เพื่อแย่งชิงตู้เสื้อผ้าคืนมาของน้องสาว อะไรมันจะฮาขนาดน๊านน ตอนนี้คนติดตามก็พุ่งไปหลายหมื่นคนแล้วล่ะ ไม่รู้ว่าพี่สาวเธอจะจับได้รึยัง…
-
พาชม ‘RedStar 3’ ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของเกาหลีเหนือ จะเป็นยังไงไปดูกัน…
ถ้าพูดถึงเกาหลีเหนือ หลายคนอาจจะเห็นภาพของประชาชนตาดำๆ ที่ต้องอยู่ภายใต้ระบอบการปกครองแบบผูกขาดจากตระกูลคิม (พล็อตเรื่องคุ้นๆ มั้ย?) ประมาณว่าผู้นำว่าไง ผู้ตามก็ต้องว่างั้น ครั้งหนึ่ง Will Scott อดีตพนักงานจากบริษัทกูเกิ้ล มีโอกาสได้ไปดูงานที่มหาวิทยาลัยเปียงยาง เขาก็ไม่ลืมที่จะแอบซื้อระบบปฏิบัติการบนคอมพิวเตอร์ของเกาหลีเหนือ Red Star 3 มาลองใช้ดูด้วย ลองตามไปดูว่าคนเกาหลีเหนือต้องใช้คอมพิวเตอร์แบบไหนกันนะ ตัวอย่างภาพนักศึกษาที่กำลังใช้คอมพิวเตอร์ ในมหาวิทยาลัยคิมอิลซุง เมื่อลงระบบปฏิบัติการเรียบร้อยแล้ว เปิดคอมพิวเตอร์มาก็จะเจอกับภาพนี้ก่อนเลย แต่ก่อนที่จะเข้าไปใช้คอมฯ ได้ ต้องเลือกโซนซะก่อน น่าแปลกใจตรงที่ไม่มีโซนเกาหลีใต้ หรือกรุงโซล ให้เลือก จากนั้นก็ต้องล็อกอิน เสมือนเป็นการรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานยังไงยังงั้น (ชักจะคล้ายแถวนี้มากขึ้นทุกที) กว่าจะเข้ามาได้ผ่านหลายด่านเหลือเกิน พอเห็นอินเตอร์เฟสแล้วรู้สึกว่าคุ้นๆ มั้ย? มีข่าวลือมาว่าเมื่อปี 2013 เคยมีคนจับภาพ คิม จอง อึน ใช้ iMac จึงเกิดทฤษฏีสมคบคิดที่ว่า… เขาน่าจะลอกแบบมา ในส่วนของโปรแกรมสำหรับการพิมพ์งาน หรือจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ส่วนนี่ก็เป็นระบบอีเมล์ เหมือน Outlooks…
-
รักเราไม่เก่าเลย… ชาวเน็ตร่วมแชร์ภาพถ่ายในวันวาน & ปัจจุบัน ของตัวเองและพี่น้อง
ใครที่เป็นลูกคนเดียวก็ไม่ต้องน้อยใจไป แต่สำหรับใครที่เกิดมามีพี่น้องร่วมสายเลือดแล้วละก็ มั่นใจเลยว่าตลอดเวลาตั้งแต่เด็กยันโต มันมีเรื่องเกรียนๆ ฮาๆ ระหว่างเรากับพี่น้องให้เล่ากันได้ 3 วันก็คงไม่จบ และด้วยความคิดถึงวันวานในอดีต ทำให้ชาวเน็ตต่างร่วมใจกันออกมาแชร์ภาพถ่ายของพี่น้องตัวเองในอดีต เปรียบเทียบกับปัจจุบัน ถึงจะโตเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว แต่ความเป็นพี่น้องยังไง๊ ยังไงมันก็ไม่เคยโตตาม ตอนแรกก็นึกว่าน้องชายกับพี่สาวซะอีก ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ความเกรียนก็ยังอยู่ เมื่อก่อนยังไง วันนี้ก็ยังงั้น จากเด็กตัวกะเปียก จนตอนนี้สูงแซงคุณแม่ไปซะแล้ว 4 พี่น้องที่ตอนเด็กซนยังไง โตมาก็ซนเหมือนเดิม เกือบจะแยกไม่ออกแล้วเนี่ย คนไหนพ่อคนไหนลูก ครั้งหนึ่ง… ครั้งหนึ่งเธอจำได้ไหม? เหมือนเป๊ะ!! ดูเค้าเป็นพี่ชายน้องชายที่รักกันดีเนาะ ตอนเด็กพี่ดมทีนผมยังไง โตมาก็ต้องดมทีนผมเหมือนเดิม อ่าวเฮ้ย!! ตอนเด็กไม่เห็นมันจะพังเลยนี่หว่า ฮ่าๆๆ คนขวาสุดนี่คือโตขึ้นแล้วใช่ป่ะ? รูปนี้คลาสสิคมาก ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น และวัยชรา จะให้ถ่ายกับกล่องใบเดิมก็คงจะไม่ได้แล้วอ่ะเนาะ…
-
Rocket แมวน้อยที่เกิดมาไม่มีขาหลัง แต่ความน่ารักของมัน ทำให้มนุษย์หลงรักเต็มเปา
Rocket เจ้าเหมียวน้อยที่มีความน่ารักเหมือนกับแมวทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างจากแมวตัวอื่นๆ ก็คือ มันเป็นแมวที่เกิดมาไม่มีขาหลัง แต่นั่นกลับไม่ใช่อุปสรรคในการใช้ชีวิตของมันเลยสักนิด เพราะเมื่อน้องเหมียว Rocket อายุได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ มันก็พร้อมเรียนรู้ในการปรับตัวให้เข้ากับการเดินสองขาเหมือนแมวตัวอื่นๆ ว้าววววว!! สุดยอดเลยเจ้าเหมียว สำหรับ Rocket มันเป็นลูกแมวจรตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ก็ทำให้มันได้พบกับ Mareen (เจ้านายคนใหม่ในอนาคต) จากกรุงเบอร์ลิน และนั่นก็ทำให้เธอเริ่มสนใจในตัวของมันทันที “เจ้าเหมียวเกิดมาพร้อมกับขาหน้าเพียงสองขาเท่านั้น ในวันแรกที่ฉันเห็นมัน เจ้าเหมียวมีอายุเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น แถมมันยังขี้อายมากๆ เพราะในขณะที่ฉันเดินไปหามัน เจ้าเหมียวก็รีบหลบฉันทันที” Mareen กล่าว และในทุกๆ วัน Mareen ก็มักจะแอบไปหามันอยู่เสมอ พร้อมกับนำอาหารไปให้เจ้าเหมียว เนื่องจากเธอกำลังพยายามที่จะเข้าไปทำความคุ้นเคยกับมัน และเมื่อนานวันเข้า Mareen ก็สามารถเข้าไปจับตัวของมันได้แบบง่ายๆ แถมยังพามันกลับบ้านอีกด้วย ในตอนแรกแมวน้อยแสนน่ารัก รู้สึกประหลาดใจกับสถานที่แห่งใหม่ แต่กลังจากที่ Mareen พยายามเข้าไปใกล้ชิด และคุยกับมัน ก็ทำให้เจ้าเหมียวเริ่มไว้ใจเธอมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นแมวที่มีเพียงสองขา…
-
สลด!! หมีขั้วโลกวัย 21 ปี ตรอมใจตาย หลังคู่ของมันถูกแยกตัวไปเพื่อทำการผสมพันธุ์
ความเป็นเพื่อนนั้นไม่ใช่จะสร้างกันง่ายๆ และการจะเจอเพื่อนแท้สักคนมันก็ต้องใช้เวลา ต้องสร้างความผูกพัน และต้องผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะแยะมากมาย จึงจะรู้ว่าได้ว่าใครคือเพื่อนแท้ของเรา และหากมีเพื่อนแท้อยู่เคียงข้างสักคน คุณก็คงไม่อยากจากกันไปไหน เช่นเดียวกับเจ้าหมีขั้วโลกตัวนี้ ที่มีเพื่อนเพียงตัวเดียว แต่แล้วมันก็ถูกจับแยก จนทำให้มันต้องตรอมใจตาย Szenja เป็นหมีขั้วโลกวัย 21 ปี อยู่ใน San Diego SeaWorld มันอยู่ที่นี่กับเพื่อนหมีขั้วโลกตัวเมียที่ชื่อว่า Snowflake ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ปี 1997 แล้ว ทำให้ทั้งสองมีความผูกพันกันมากเป็นพิเศษ แต่แล้วหมีตัวเมียก็ถูกส่งตัวไปที่สวนสัตว์ Pittsburgh เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์เพื่อการขยายพันธุ์ ซึ่งก่อนหน้านั้น มันก็เคยถูกส่งตัวไปแล้วครั้งหนึ่งในปี 2014 โดยที่มีเจ้า Szenja เดินทางไปด้วยกัน แต่สำหรับครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้พาเจ้า Snowflake ไปเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น เนื่องจากไม่สะดวกต่อการเดินทาง ด้วยเหตุนี้ทำให้ Szenja รู้สึกว่าตัวเองถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง จริงๆ แล้วก่อนที่จะตัวเมียจะถูกส่งตัวไป ได้มีผู้ลงชื่อคัดค้านกว่าพันรายชื่อ พวกเขาอ้างว่ามันเป็นการกระทำที่โหดร้ายต่อสัตว์ และไม่มีความจำเป็น โดยเสริมอีกว่า ทุกวันนี้หมีขั้วโลกกว่า 60% ต้องตายเพราะถูกมนุษย์เข้ามาคุกคาม แต่ทาง SeaWorld ก็ยังยืนยันที่จะส่งตัวมันไปในที่สุด…
-
ศิลปินทั่วโลกร่วมพัฒนา “สีดำระดับ 2.0” ความดำสนิทที่ทุกคนเข้าถึงได้ ในราคาไม่แพง!!
เมื่อพูดถึงสีดำแล้ว เราก็คงจะนึกว่ายังไงมันก็ดำเหมือนกันหมดนั่นแหละ ว่าแต่เพื่อนๆ คิดถึงสีดำระดับไหนล่ะ เพราะแม้จะเป็นสีดำเหมือนกัน แต่ระดับความดำของมันมีความแตกต่างกันนะ ก็อย่างว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า ดังนั้นเหนือดำก็ยังมีดำหม่นเข้าไปอีก และสีดำที่ว่านี้ มันเป็นสีดำที่เรียกได้ว่าอภิมหาดำ หรือเป็นสุดยอดแห่งความดำ!! ไหนดูสิจะมีความดำมากสักแค่ไหนเชียว สุดยอดสีดำนี้พัฒนาขึ้นโดยศิลปินชาวอังกฤษ Stuart Semple ที่ตั้งราคาไว้ไม่แพงมากนัก เพื่อให้ศิลปินทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และนำไปใช้งานศิลปะต่อไป สำหรับสุดยอดสีดำนั้นปกติแล้วทำขึ้นจากเม็ดสี Vantablack ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่มีความดำมากที่สุดในโลก แต่ราคามันค่อนข้างจะแพงมากๆ เลยล่ะ แต่ก็ใช่ว่าคนมีเงินจะหามาครอบครองได้ทุกคน เพราะสำหรับคนที่อยู่นอกสหราชอาณาจักรจะต้องได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลเสียก่อน จึงจะนำไปใช้ได้ เนื่องจากสีตัวนี้มีกลิ่นคล้ายกับสารเคมี ดังนั้น Stuart จึงได้พัฒนาสีดำของตัวเองขึ้นมา โดยร่วมมือกับศิลปินนับพันคนทั่วโลก เพื่อยกระดับให้เป็น สีดำเวอร์ชั่น 2.0 อันเป็นสีอะคริลิคที่มืดสนิท มีกลิ่นคล้ายเชอร์รี่และสามารถนำไปใช้ได้ในทุกที่โดยไม่ต้องขออนุญาตจากทางการอีกต่อไป สุดยอดสีดำมีกาวอะคริลิคช่วยยึดเกาะ ทำให้มันมีความดำมากกว่าสีดำทั่วไป Stuart บอกว่า “มันเป็นสีดำที่แสงไม่สามารถส่องผ่านได้ หากคุณต้องการใช้สีดำสนิทจริงๆ สีตัวนี้ตอบโจทย์ได้ดีเลยครับ ที่สำคัญมันไม่เป็นพิษต่อผู้ใช้แน่นอนครับ” และทุกคนสามารถหาซื้อได้ในราคาประมาณ 515 บาท (15 ดอลลาร์) ต่อ 150…
-
ขะ…แข็งแกร่ง!! หนุ่มชิลีรอดตายจากการถูกยิง เพราะมีสมาร์ทโฟนจีนบังกระสุนไว้
เป็นอีกครั้งที่สมาร์ทโฟนสัญชาติจีน Huawei สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ด้วยการปกป้องชีวิตจาก ‘กระสุนปืน’ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ชายหนุ่มชาวชิลีรายหนึ่งกำลังเดินออกมาจากธนาคารในเมือง Santiago ประเทศชิลี หลังจากเข้าไปถอนเงินมูลค่ากว่า 160,000 บาทออกมากับคุณลุงของเขา จากนั้นทั้งคู่ก็ไปแวะดื่มกาแฟกันก่อนที่จะถูกแก๊งมิจฉาชีพ 3 คนเข้ามาปล้นเงินอย่างอุกอาจ ชายหนุ่มพยายามที่จะต่อสู้ขัดขืนแต่ถูกคนร้ายคนหนึ่งใช้ปืนยิงเข้าใส่บริเวณลำตัว แต่โชคดีที่กระสุนพุ่งไปโดนใส่โทรศัพท์ Huawei รุ่น Honor 5X และหยุดอยู่แค่นั้น ทำให้เขารอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด ต่อมาไม่นานแก๊งมิจฉาชีพ 2 คนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ส่วนอีกคนยังคงลอยนวลอยู่พร้อมกับเงินที่ชิงไปจากคุณลุงและชายหนุ่ม มีเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงปีก่อนในประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อนักธุรกิจรายหนึ่งถูกยิงเข้าที่หน้าอกในระยะที่ใกล้มาก จากการถูกปล้นโดยอาชญากรบริเวณนอกบ้านของเขาในเมือง Capetown แต่กลับรอดมาได้เพราะโทรศัพท์ Huawei P8 Lite ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของเขา++ ด้วยการตลาดอันแยบยลของ Huawei จึงได้มอบโทรศัพท์เครื่องใหม่ รุ่นใหม่ล่าสุด Huawei P9 Lite ให้กับนักธุรกิจคนดังกล่าวไปแบบฟรีๆ และคาดว่าชายหนุ่มชาวชิลีก็อาจจะได้รับโทรศัพท์เครื่องใหม่เป็นการเยียวยาด้วยเช่นเดียวกัน ขะ แข็งแกร่งอะไรเบอร์นั้น!! ที่มา : shanghaiist
-
ศิลปินสาว ใช้ทักษะแต่งหน้าสร้างงาน ‘ภาพลวงตา’ นี่มันไปไกลเกินกว่า การแต่งหน้าแล้ว!!
โดยปกติแล้วสาวๆ มักจะใช้การเมคอัพแต่งหน้าเพื่อเสริมสร้างความสวย และความมั่นใจให้กับตัวเอง… แต่สำหรับศิลปินสาว Mimi Choi จากเมือง Vancouver ประเทศแคนาดา ได้ใช้ความสามารถในการแต่งหน้าแบบขั้นเทพสร้างเป็นผลงานศิลปะภาพลวงตาสุดเจ๋งขึ้นมา จนทำให้เธอโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์มีผู้ติดตามมากกว่า 150,000 คนเลยทีเดียว และนี่ก็คือบทสัมภาษณ์ของ Mimi ถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานของเธอ “เมื่อฉันสร้างผลงานศิลปะ ฉันจะวาดทุกอย่างลงไปโดยมีแรงบันดาลใจมาจากสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว ณ ตอนนั้น ทั้งรูปภาพ รูปวาด และอารมณ์ความรู้สึก ฉันพยายามที่จะไม่ดูผลงานของศิลปินท่านอื่นๆ มากเกินไป เพื่อทำให้ผลงานของตัวเองมีความเป็นเอกลักษณ์ให้มากที่สุด เป้าหมายในการสร้างสรรค์ผลงานแต่ละครั้งคือการเอาชนะตัวเอง และต้องการที่จะแข่งขันกับตัวเองในทุกๆ ครั้ง เพื่อสร้างผลงานที่ดีกว่าขึ้นมา” . . . . . ช่างเป็นผลงานที่ดูแล้วชวนปวดหัวซะจริงๆ -*- . ต้องขอบอกเลยว่านอกจากจะมีทักษะการแต่งหน้าที่สุดยอดแล้ว สกิลในการวาดภาพก็ต้องเป็นเลิศด้วยนะเนี่ย . แต่พอดูไปดูมาก็รู้สึกหลอนแปลกๆ แฮะ หนะ หน้าทำไมเบี้ยวอย่างนั้นล่ะ!? . …
-
รู้จักกับโปรแกรมวาดภาพ AutoDraw จาก Google ที่จะเปลี่ยนภาพวาดห่วยๆ ให้ดูสวยงาม
สำหรับเพื่อนๆ ที่รู้ตัวเองว่าไม่มีความสามารถในการวาดภาพ แล้ววันนี้ #เหมียวหง่าว มีโปรแกรมวาดรูปแบบใหม่มานำเสนอ ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ AutoDraw โปรแกรมวาดภาพที่แม้ว่าคุณจะวาดภาพไม่สวย แต่ก็สามารถดลบันดาลให้ภาพที่เราวาดกลายเป็นภาพที่สามารถเอาไปใช้งานต่อได้ เมื่อก่อนหน้านี้เพื่อนๆ คงเคยรู้จักกับอัลกอริทึม AI QuickDraw มาแล้ว ที่จะเดาว่าคุณวาดภาพอะไรลงไปในเว็บไซต์ เป็นผลงานของทีมงานจาก Google และวิธีการใช้งานของเจ้า AutoDraw ก็ไม่ยากอะไรเลย เพราะระบบการทำงานของมันก็ไม่ต่างอะไรกับโปรแกรม Paint มากมายนัก เพียงแต่ว่ามันมีระบบพิเศษขึ้นมาก็คือการจับคู่รูปภาพที่เราวาด กับภาพวาดต่างๆ ที่ทางระบบ AI ได้จดจำมาไว้เรียบร้อยแล้ว พอเราวาดอะไรลงไปมันก็จะประมวลผลและนำรูปภาพที่ใกล้เคียงกันมาให้เราเลือกข้างบน ที่เราต้องทำก็คือเลือกภาพที่เราต้องการ กี่ภาพก็ได้ตามที่ต้องการ จากนั้นก็ลงสี แถมยังสามารถบันทึกเอาไว้ไปใช้งานเนื่องในโอกาสต่างๆ ได้อีกด้วย!! รถโทรมๆ ก็เปลี่ยนให้เป็นภาพวาดรถที่ดูสวยงามได้ หอยทากเองก็เช่นกัน เราสามารถวาดยีราฟให้ออกมาดูสวยงามได้ด้วยนะ บ้านเบี้ยวๆ ก็ปรับให้ตรงได้ เจ้าหมาที่ว่าวาดยากๆ ก็สามารถวาดออกมาได้อย่างง่ายดาย เพื่อนๆ สามารถเข้าไปทดลองใช้งานที่เว็บไซต์ AutoDraw ได้เลย ไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว (เสียแต่ค่าไฟกับค่าเน็ต ฮร่าๆ)…
-
คู่รักที่แม้จะแยกทางกันแล้ว แต่ยังคงรักษาน้องหมา ผู้เป็นสื่อกลางเชื่อมโยงหัวใจไว้ด้วยกัน!!
คู่รักหลายๆ คนหลังจากที่เลิกรากันไปก็มักจะไม่เหลือเยื่อใยที่ดีให้แก่กันอีกต่อไป แต่สำหรับคู่นี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น แม้ว่าทั้งคู่จะแยกกันอยู่แล้ว แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่เสมอ เพราะมีสายใยที่คอยเชื่อมถึงกันอยู่ ซึ่งก็คือเจ้าหมาที่รับมาเลี้ยงด้วยกันตอนยังคบกันอยู่นั่นเอง และนี่คือ Rebecca Hernandez และ Frankie แฟนหนุ่มสุดที่รักที่คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม และทั้งคู่ก็แต่งงานกันไปเมื่อปี 2012 หลังจากที่ Rebecca เรียนจบมหาวิทยาลัย Frankie ทำงานเป็นนาวิกโยทิน ทำให้ทั้งคู่ต้องย้ายออกจากบ้านเกิดใน Texas ทันทีหลังจากที่แต่งงานกัน จากนั้นไม่นานพวกเขาก็ตัดสินใจรับลูกหมามาเลี้ยงหนึ่งตัวชื่อว่าเจ้า Apollo ซึ่งขณะนั้นมันมีอายุเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น Rebecca เล่าถึงเจ้าหมาของตัวเองว่า “มันมักจะทำของทุกอย่างพัง ทุกอย่างที่พวกเราซื้อมาให้มัน แต่มันก็ยังคงน่ารัก และความน่ารักนั้นเอง ก็ช่วยสร้างความสุขให้กับทุกๆ คน” แต่น่าเศร้าที่หลังจากแต่งงานกันมาไม่นาน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มมีปัญหา Rebecca กล่าวว่า มันเป็นความผิดของพวกเขาทั้งคู่ “เหมือนกับว่าฉันไม่ได้รู้สึกอะไรเลย พวกเรายังคงต้องเติบโตไปอีกมาก และเวลาที่คุยด้วยกันเราก็ยังคงมีอารมณ์อ่อนไหวต่อกันเสมอ ก็เพราะว่าเรายังคงรักกันอยู่” Rebecca เล่า คู่รักแยกกันอยู่มานานกว่า 2 ปีแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้หย่ากันแต่อย่างใด…
-
สองหนุ่มปิ๊งไอเดีย ผลิต “กาแฟใส” รสชาติและกลิ่นยังจัดเต็ม เพียงแต่สีเหมือนน้ำเปล่าเลย!?
โดยทั่วไปแล้วเรารู้จักกาแฟที่มีสีน้ำตาล รสขม หรือบางทีก็มีการปรุงให้มันมีรสชาติต่างๆ ที่สำคัญคือ หากใครที่เสพติดกาแฟมากๆ ก็อาจจะมีปัญหาฟันมีคราบเหลืองตามมาเป็นของแถมได้ แต่ปัญหาฟันเหลืองจะหมดไป ถ้ากาแฟนั้นไม่มีสี แต่เอ๊ะ…บ้าหรือเปล่า กาแฟที่ไหนไม่มีสี ก็เพราะปัญหาเรื่องฟันเนี่ยแหละ สองหนุ่มจึงคิดค้นกาแฟไร้สีขึ้นมา เพื่อให้คุณยิ้มอย่างมั่นใจแม้จะเสพติดกาแฟก็ตาม กาแฟ Clr Cff หรือกาแฟใส เกิดจากการคิดค้นร่วมกันของ Adam และ David Nagy แต่ก็น่าเสียดายนะที่พวกเขาไม่ได้เปิดเผยวิธีการทำให้ใครรู้ แต่ไม่เป็นไร เรามาดูที่ตัวกาแฟสีใสนี่กันดีกว่า พวกเขาบอกว่า กาแฟตัวนี้มีรสชาติอ่อนๆ มีสารให้ความหวานและไม่มีสารกันบูดแน่นอน ส่วนส่วนผสมของกาแฟตัวนี้ ก็อย่างที่บอกแหละค่ะว่าพวกเขาไม่ยอมเปิดเผยให้ใครรู้ แต่บอกเพียงแค่ว่า มันมีน้ำเปล่า กาแฟอาราบิก้า แล้วก็สารคาเฟอีน ปัจจุบัน Clr Cff มีวางจำหน่ายเฉพาะในสหราชอาณาจักรและสโลวะเกียเท่านั้น แต่ก็ไม่แน่ ในอนาคตอาจจะมีการวางขายทั่วโลกก็ได้ . กาแฟสีที่จะช่วยปกป้องฟันของคุณ คอกาแฟว่าไง อยากลองป่ะ? ที่มา thesun l clrcff
-
จีนค้นพบ “สมุดจดโพย” อายุกว่า 100 ปี ที่นักเรียนในอดีต ใช้ทุจริตการสอบข้าราชการ
การทุจริตในห้องสอบนั้นพบว่ามีอยู่ในเกือบทุกสังคม ซึ่งก็มีวิธีที่หลากหลายกันไป ที่สำคัญคือ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งมี มันมีประวัติศาสตร์ยาวนาน มาตั้งแต่ก่อนที่เราจะเกิดด้วยซ้ำ โดยเฉพาะนักเรียนจีนในปัจจุบันนี้ที่เป็นที่รู้จักกันดีว่า มักจะใช้อุปกรณ์ไอเทคเพื่อการทุจริตในการสอบ Gaokao ประจำปีเสมอ ที่สำคัญนั้นหลักฐานชิ้นใหม่ยังพบว่า บรรพบุรุษชาวจีนบางคนนั้นทุจริตการสอบมามากกว่า 100 ปีแล้ว หลักฐานสำคัญที่ยืนยันเรื่องนี้คือ สมุดเล่มเล็กๆ เล่มหนึ่งที่ถูกพบใน Changsha เมืองหลวงของหูหนาน ข้างในสมุดเล่มนี้เต็มไปด้วยการจดโพยข้อสอบ ที่เป็นการคัดลอกข้อความจากหนังสือ Four Books and Five Classic ( 四書五經) ทั้งนี้เป็นหนังสือขงจื้อดั้งเดิมที่นักเรียนจีนต้องท่องจำให้ได้ทุกคนเพื่อเอาไปใช้ในการสอบบรรจุเป็นข้าราชาการพลเรือนในสมัยนั้น เจ้าของร้านหนังสือโบราณและหนังสือหายากในประเทศจีนบอกว่า นักวิชาการของราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงสมัยนั้นจะแอบนำสมุดเล็กๆ เหมือนกับสมุดโพยเล่มนี้เข้าห้องสอบด้วย โดยซ่อนไว้ในเสื้อผ้าหรือรองเท้า วิธีการเช่นนี้เป็นที่นิยมมาก เพราะในสมัยนั้นทุกคนก็อยากเป็นข้าราชการกันทั้งนั้น จึงหวังว่าการจดโพยเข้าไปจะช่วยพวกเขาเขาได้บ้าง แต่ก็ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ผู้คุมสอบในสมัยนั้นใช้วิธีการอย่างไรในการจัดการและป้องกันการทุจริตในห้องสอบ… สำหรับปัจจุบันนี้ โรงเรียนหลายๆ แห่งในประเทศจีน ได้ออกมาตรการให้นักเรียนสอบกลางแจ้งหรือนอกอาคาร โดยจะถูกจับตาดูด้วยกล้องส่องทางไกล และยังมีผู้คุมสอบที่เดินคุมในสนามสอบอีกด้วย นอกจากนี้บางโรงเรียนจะให้นักเรียนหากระดาษครอบหัวเอาไว้ เพื่อป้องกันการลอกข้อสอบ รวมทั้งการแยกนักเรียนให้อยู่ห่างกันมากๆ ราวกับทำข้อสอบคนเดียว…
-
เจ้าหน้าที่กู้ภัย รุดเข้าช่วยแม่แมวและลูกน้อยอีก 4 ตัว หลังติดอยู่ในท่อลึกเกือบ 20 เมตร
เมื่อหน่วยกู้ภัย Hope for Paws ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้รับแจ้งว่ามีแมวเหมียวติดอยู่ในท่อระบายน้ำเป็นเวลานาน นั่นจึงทำให้ทางเจ้าหน้าที่รีบเข้าไปช่วยเหลือมันทันที ซึ่งหลังจากที่พวกเขาเดินทางมาถึงยังสถานที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ก็พบว่าเจ้าเหมียวตัวนั้นไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวเพียงลำพัง แต่มันยังอยู่กับลูกน้อยของมันถึง 4 ตัวอีกด้วย แทบจะมองไม่เห็นเจ้าเหมียว เพราะท่อนั่นแคบและก็อยู่ลึกมากด้วย จากการรายงานระบุว่า แม่แมวตัวดังกล่าวได้ติดอยู่ภายในท่อที่ยาวถึง 60 ฟุต (เกือบ 20 เมตร) พร้อมกับลูกๆ ของมัน โดยในขณะนั้นทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะเข้าไปช่วยเหลือพวกมันได้ทันที เนื่องจากมันอยู่ในท่อที่ลึกมาก ดังนั้น พวกเขาจึงได้กลับไปยังศูนย์กู้ภัย เพื่อที่จะได้นำอุปกรณ์ต่างๆ มาช่วยเหลือพวกมัน “เราตระหนักดีว่าการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในการช่วยเหลือครอบครัวของเจ้าเหมียว จะต้องดำเนินไปอย่างรวดเร็ว” เจ้าหน้าที่กล่าว จากนั้นไม่นาน ภารกิจช่วยชีวิตครอบครัวเหมียวก็ได้เริ่มต้นขึ้น โดยทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือพวกมันอย่างเต็มที่ และในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกับครอบครัวของเจ้าเหมียวที่ติดอยู่ในท่อ หลังจากที่พบเจ้าเหมียวแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็รีบนำตัวของพวกมันออกมา โดยเริ่มจากการนำแม่แมวออกมาก่อน ตามด้วยลูกๆ ของมัน การช่วยลูกแมวน้อยค่อนข้างจะดำเนินการไปได้ยาก เนื่องจากพวกมันไม่สามารถเดินได้ และมีขนาดตัวที่เล็กมากนั่นเอง แม้ในตอนแรกแม่แมวจะรู้สึกหวาดกลัว แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามทำให้มันสงบลงได้ ด้วยความพยายามของทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย จึงทำให้พวกเขาสามารถช่วยชีวิตแมวน้อยๆ…
-
ผลวิจัยเผย ผู้ชอบโพสต์ “ความสัมพันธ์ของตัวเอง” ลงโซเชียล ที่จริงแล้วมีปมเรื่องความรัก??
ต้องยอมรับเลยนะว่า ในปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น เพราะไม่ว่าเราจะทำอะไร ก็เป็นอันต้องโพสต์ภาพต่างๆ อวดเพื่อนๆ บนโลกโซเชียลอยู่เสมอ นั่นอาจจะเป็นเพราะหลายคนอยากจะเผยไลฟ์สไตล์และชีวิตความเป็นอยู่ในแต่ละวันของตัวเองให้คนอื่นได้รู้ หรือบางคนก็โพสต์อะไรหลายๆ อย่างเพื่อแอบแฝงเจตนาเอาไว้ เช่น การอวดของกิน อวดสิ่งของเครื่องใช้ รวมไปถึงอวดแฟน ก็มีเช่นกัน และเมื่อไม่นานมานี้ มีผลการวิจัยร่วมจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Personality and Social Psychology Bulletin ซึ่งได้กล่าวถึงกลไกทางจิตวิทยาว่า… การที่ผู้คนเหล่านั้นได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขาลงบนสื่อออนไลน์ นั่นหมายความว่า พวกเขากำลังรู้สึกกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของตน อีกทั้งพวกเขายังต้องการย้ำเตือนให้คนรู้จักได้เห็นว่า ความสัมพันธ์ของเขากับคนรักยังดีอยู่ ทั้งที่จริงๆ แล้ว พวกเขาไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย ทางด้านผู้วิจัยได้ออกมาเผยว่า “ในชีวิตประจำวันหากผู้คนรู้สึกไม่มั่นใจในความรักของตัวเอง พวกเขาก็จะมีแนวโน้มในการทำให้ความสัมพันธ์ของตัวเองสามารถมองเห็นได้ ซึ่งเหมือนกับเป็นการวาดภาพตนเองในแบบที่อยากให้ผู้อื่นมองเห็นนั่นเอง” และก่อนที่จะสรุปเป็นผลการศึกษาดังกล่าว ทางด้านนักวิจัยเคยได้ทำการทดสอบถึง 3 ครั้ง โดยในการทดสอบครั้งแรกเกี่ยวข้องกับผู้ที่รู้สึกกังวลใจ และแรงจูงใจที่ทำให้พวกเขาโพสต์ความสัมพันธ์ของตัวเองลงบนเฟสบุ๊ค ซึ่งจากผลวิจัยพบว่า พวกเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงความกังวลเหล่านี้ได้ เพราะคิดว่าความสัมพันธ์ของตนกำลังไม่มั่นคง ดังนั้น จึงต้องทำการโพสต์อวดความสัมพันธ์ของตัวเอง อวดความรักกันดี เพื่อเน้นย้ำให้ผู้อื่นรู้ว่าความรักของตนยังคงดีอยู่ อีกทั้ง Lydia…
-
บันทึกเรื่องราว 2 ปีที่ “เจ้าหมา” ยอมดูแล “แมวน้อย” ที่เจ้านายเก็บมาเลี้ยง จนกลายเป็นคู่ซี้
Tuukka เป็นลูกแมวตัวน้อยวัยเพียง 1 เดือน ที่ถูกพบขณะที่ตัวของมันแขวนอยู่บนต้นไม้เพียงลำพังในรัฐเท็กซัส แต่ชีวิตของมันกลับไม่ได้โชคร้ายอย่างที่หลายๆ คนคิด เพราะอย่างน้อยเจ้าเหมียวก็ยังโชคดีที่ชาวสะมาเรียคนหนึ่งช่วยชีวิตเอาไว้ พร้อมกับพามันกลับบ้าน หลังจากที่ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหม่ Taryn Choquette ผู้เป็นเจ้าของได้เผยว่า เจ้าแมวตัวน้อยขี้อายมาก มันพยายามซ่อนตัวให้พ้นจากสายตาคนในบ้าน รวมทั้ง Brady พี่หมาโกลเด้นแสนใจดี Tuukka กลัวสภาพแวดล้อมใหม่ๆ เป็นอย่างมาก เนื่องจากมันอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นเคย ซึ่งทาง Taryn ก็เข้าใจว่ามันอาจจะต้องการเวลาเพื่อปรับตัวสักพัก ดังนั้น เขาจึงได้นำมันไปอยู่ในห้องๆ หนึ่ง ที่มีความสะดวกสบาย เพราะมันจะช่วยทำให้เจ้าเหมียวรู้สึกผ่อนคลาย และปลอดภัยมากขึ้น “Brady สนใจเจ้า Tuukka ขึ้นมาทันที เพราะว่ามันรักสัตว์ทุกตัว และมันก็ดูเหมือนต้องการเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเจ้าเหมียว ในทุกๆ วัน เจ้าหมามักจะไปนั่งอยู่ที่หน้าประตูห้องของแมวเหมียว เพื่อรอให้เพื่อนตัวน้อยๆ ออกมาเล่นด้วย… แต่เจ้า Tuukka กลับกลัวเจ้าหมาตั้งแต่แรกเห็น เพราะมันมีขนาดตัวที่ใหญ่ยักษ์มากๆ เมื่อเทียบกับตัวของมัน” Taryn กล่าว …
-
เปิดบ้านสไตล์โมเดิร์นจากยุค 60s ถึงอายุจะเก่า แต่ความงดงามนั้น ไม่เก่าตามเวลา…
ไม่ต้องตกใจไปนี่ไม่ใช่เว็บลงประกาศขาย หรือเว็บโชว์ไอเดียบ้านอย่าง NaiBann แต่เป็นเว็บเหมียวเรานี่แหละ ที่จะขอเปลี่ยนอารมณ์ เปลี่ยนบรรยากาศ ไปดูบ้านโมเดิร์นแบบฮิปๆ เอาไว้ให้เพ้อฝันเล่นๆ กันบ้าง บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ที่ St. Louis Parl รัฐมินเนโซต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเดิมทีมันก็ถูกสร้างมาตั้งแต่ช่วงยุค 1960 แต่น่าแปลกใจตรงที่จวบจนปัจจุบัน มันก็ยังดูโมเดิร์นทันสมัยอยู่ บ้านพักติดธรรมชาติแถมมีน้ำตกนี้ เป็นผลงานการออกแบบของ Frank Lloyd Wright นักสถาปนิกชื่อดังชาวอเมริกา จากการออกแบบของเขานั้น ทำให้บ้านดูสวยไม่เสื่อมไปตามกาลเวลาจริงๆ ซึ่งตอนนี้เค้าก็ประกาศขายอยู่นั่นแหละ ราคาก็เบาๆ แค่ 1.4 ล้านดอลล่าร์ คิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 48 ล้านบาทเอ๊งง!! สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 1960 จนถึงทุกวันนี้ผ่านไปแล้ว 57 ปี แต่ภายในยังดูโมเดิร์น ไม่ตกยุคสมัยเลย ถ้าพูดถึงในแง่ของสถาปัตยกรรมแล้ว ต้องถือว่าการออกแบบของที่นี่เป็นเหมือนภาพตัวแทนของงานดีไซน์จากยุคกลางศตวรรษเลยก็ว่าได้ ภายในห้องนอนก็เต็มไปด้วยกระจกที่โอบล้อมเราไว้ท่ามกลางธรรมชาติ นึกภาพดูซิว่าตื่นเช้ามาบนที่นอนแบบนี้ จะฟินขนาดไหน อ่าาาห์… ห้องน้ำก็ยังไม่ทิ้งความใกล้ชิดธรรมชาติ นั่งทำธุระนานๆ ซักชั่วโมงก็ดูจะเป็นอะไรที่เพลินดีนะ…
-
16 เรื่องราวน่ารักๆ จากสัตว์โลก ถึงแม้มันไม่ได้ยิ่งใหญ่ แต่ก็ทำให้คุณยิ้มกริ่มได้ทั้งวัน
เคยได้ยินคำกล่าวของลุงวินมอเตอร์ไซค์แถวบ้าน แกบอกเอาไว้ว่า… ‘ความสุขนั้นหาไม่ยากเลย บางทีมันก็อยู่ใกล้ๆ ตัวเรานี่แหละ’ ซึ่งมันก็ดูเป็นเหมือนประโยคที่ใครๆ เค้าก็พูดกัน เพื่อนๆ หลายคนอาจจะต้องทำงานเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน พวกเราเลยอยากจะหยิบยื่นรอยยิ้มเล็กๆ ให้กันบ้าง เพราะภาพน่ารักๆ ของสัตว์โลกทั้งหลายนี้จะทำให้เรารู้สึกว่า ความสุขอยู่ไม่ไกลตัวเราเลยจริงๆ เพียงแค่เรายิ้มออกมา 1. คู่หูตูบเหมียวข้างบ้าน เจ้าขาวจะมาจูบทักทายเจ้าน้ำตาลเป็นประจำทุกวัน อร๊ายยย >< 2. อยู่ดีๆ ก็มีวัวจากไหนไม่รู้ เดินมานอนบนตัก บางที… วัวอาจจะกำลังบอกให้เธอได้พักผ่อนกับธรรมชาติบ้างก็ได้นะ 3. เมื่อคุณไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คุณก็ยังมีใจที่อยากจะเข้าไปช่วย ฮ่าๆๆ 4. เจ้าตูบไม่เคยเห็นตัวเองบนกระจก เจ้าของเลยบอกมันทุกวันว่ามันหล่อขนาดไหน 5. เจ้าเหมียวผู้ชอบสะสมก้อนหินเป็นชีวิตจิตใจ ทำไมมันน่าร๊ากกแบบนี้ 6. เมื่อคุณจะแพ็คของไปเที่ยววันหยุด แต่ดูเหมือนเจ้านายจะไม่ให้ไป 7. เมื่อคุณทำตัวเป็นมิตรกับผู้คนรอบข้าง แม้กระทั่งจระเข้ -*- 8. หลังจากเจ้ากบน้อยได้รับคำชมว่า ตัวเองสวยมากขนาดไหน มันก็ยิ้มไม่หุ้มเลยทีเดียว …
-
พาไปรู้จักเทศกาล “ฆ่างูหางกระดิ่ง” แม้จะดูโหดร้าย แต่ทำสืบต่อกันมานานอย่างมีเหตุผล?!?
ในแต่ละประเทศทั่วโลก ก็ย่อมมีเทศกาล หรือประเพณีที่แตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกับที่เมือง Sweetwater (แหม่ เชื่อเมืองนี่น้ำหวานเชียว) รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นประจำทุกปีที่นี่จะถูกจัดงาน ‘เทศกาลฆ่างูหางกระดิ่ง’ ถึงแม้จะดูโหดร้ายอยู่บ้าง ทว่าเทศกาลฆ่างูนี้ก็มีเหตุผล และที่มาที่ไปของมันอยู่เหมือนกัน และไม่ใช่แค่ฆ่าเอาสนุกอย่างเดียว… ต้องเล่าก่อนว่าเดิมทีในหลายๆ รัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา ชาวบ้านต้องเผชิญกับปัญหาถูกงูหางกระดิ่งเข้ามารุกรานถิ่นที่อยู่อาศัย (น่าจะสลับกันมั้ง?) จึงทำให้เกิดวัฒนธรรมการล่างูหางกระดิ่งขึ้น ในบางพื้นที่ชาวเมืองใช้วิธีหยอดน้ำมันลงไปในหลุมของพวกมัน ทำให้หายใจไม่ออก และตายยกรังในที่สุด ที่เมือง Sweetwater ก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ๆ มีจำนวนประชากรงูหางกระดิ่งชุกชุมมากเป็นอันดับต้นๆ โดยผู้จัดงานได้ให้เหตุผลว่าเทศกาลดังกล่าวจะช่วยลดจำนวนประชากรงูหางกระดิ่งที่มากเกินไป ให้อยู่ในระดับที่พอดีต่อห่วงโซ่อาหารทางธรรมชาติได้ ในช่วงไม่กี่อาทิตย์ก่อนถึงเทศกาล ชาวบ้านมักจะรวมกลุ่มจับทีมกันออกล่างูหางกระดิ่งนับพัน เพื่อนำมาแสดงในงานเทศกาล และงูหางกระดิ่งทั้งหมดจะถูกปลิดชีพทั้งเป็นต่อหน้าฝูงชนที่มาร่วมงาน นอกจากนั้นยังมีเงินรางวัลให้กับทีมที่สามารถล่างูหางกระดิ่ง ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด หรือทีมที่ล่าได้จำนวนมากที่สุด ด้วยเช่นกัน แต่มันก็ไม่ได้มีแต่การมาฆ่าอย่างเดียวนะ ช่วงหลังนี้งานถูกทำให้เป็นวิชาการมากขึ้น มีการจัดแสดงให้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้เข้าร่วม รวมถึงให้ความรู้ไปพร้อมๆกัน ภายในงานจะมีทั้งการสาธิตวิธีการรับมือกับงูหางกระดิ่ง รวมถึงมีการให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์จากเซรุ่มของงู และการแสดงสินค้า หรืออาหารที่แปรรูปมาจากงูด้วยเหมือนกัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีข้อกังขาจากองคฺ์กรอนุรักษ์งู (ASP)…
-
หญิงสาวได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น ‘โรคจิตเภท’ เริ่มวาดภาพจากสิ่งที่เธอเห็น หวังให้คนอื่นเข้าใจมากขึ้น…
สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคจิตเภท (Schizophrenia) พวกเขาต้องต่อสู้กับอาการเห็นภาพที่ไม่มีอยู่จริง หรือภาพหลอนซึ่งเกิดขึ้นบางครั้ง ซึ่งถ้าใครที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคนี้ ก็คงจะไม่มีวันเข้าใจถึงสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญจริงๆ เช่นเดียวกับ Kate สาววัย 18 ปี เธอมีอาการผิดปกติมองเห็นภาพที่ไม่มีอยู่จริงในชีวิตประจำวันของเธอ เมื่อไปพบหมอก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตเภทซึ่งไม่ได้มีอาการรุนแรงนัก หลังจากนั้น เธออยากให้คนอื่นๆ ได้เข้าใจผู้ป่วยโรคนี้ ผสมกับความฝันอยากเป็นศิลปิน เธอจึงตั้งใจวาดภาพสิ่งที่เธอเห็นทั้งหมดออกมา เพื่ออธิบายให้คนรอบข้างได้รับรู้ถึงอาการดังกล่าว Kate เล่าว่า ตั้งแต่เด็กจนอายุได้ 17 ปี เธอมักจะมองเห็นภาพที่ไม่เป็นความจริงอยู่ตลอด จนหมอวินิจฉัยว่าเธอป่วยเป็นโรคจิตเภท หลายคนที่ป่วยอาการนี้ไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้คนในสังคมได้อีก แต่เธอเลือกที่จะวาดรูปสิ่งที่เห็นออกมา เพื่อเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน นอกจากภาพแล้ว อาการป่วยยังทำให้เธอได้ยินเสียงที่ไม่มีอยู่จริง บ่อยครั้งที่เธอมักจะเห็นแมลงเกาะอยู่บนหน้า หรือดวงตาที่ถลนออกมา แต่ภาพที่เธอเห็นบ่อยที่สุดก็คือภาพแมลง ภาวะความเครียดต่างๆ ทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า เช่นเดียวกับภาพของแมลงวันตัวนี้ที่เธอวาดมันออกมาอย่างมีนัยยะ บ่อยครั้งที่เธอมักจะเห็นภาพของแมงมุมหลายตา ไต่อยู่บนเพดานบ้าน พร้อมกับทำเสียงแปลกๆ ภาพนี้คือภาพวาดของตัวเธอเอง เธอมองเข้าไปในกระจก และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เธอเห็น.. นอกจากภาพหลอนแล้วเธอก็ยังต้องรับมือกับอารมณ์ที่แปรปรวณ บางทีเธอก็มักจะได้ยินเสียงกระซิบบอกให้เธอเผาทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากอง ภาพตัวอย่างของลูกตาที่เธอเห็น มันมักจะมาปรากฏอยู่บนกำแพง…
-
เซอร์ไพรส์!! สัตวแพทย์หญิงพบกระเป๋าปริศนา ระหว่างไปทำงาน พอเปิดดูพบมิ้วน้อย 15 ตัว
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาสัตวแพทย์หญิงได้เดินไปทำงานที่คลินิค Vets4Pets ตั้งอยู่ในเมือง Dagenham ประเทศอังกฤษ แต่ระหว่างทางเธอได้พบกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ถูกทิ้งอยู่ สภาพของกระเป๋านั้นมีรูเล็กๆ ถูกเจาะอยู่ ด้วยความสงสัยเธอตัดสินใจเดินเข้าไปเปิดกระเป๋าใบนั้นเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน ปรากฎว่าข้างในนั้นมีแก๊งมิ้วน้อย 15 ตัวกำลังเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองเธอพร้อมกับร้องเมี๊ยวๆ และโชคดีมากๆ ที่พวกมันทุกตัวยังมีชีวิตอยู่ เหมียว เมี๊ยว มิ้ว มุ้วววว แม๊วววววว ไม่ทราบว่ากระเป๋าใบและมิ้วน้อยที่น่ารักเหล่านี้เป็นของใคร แต่ดูเหมือนว่าคนที่จะมีคนเอามาทิ้งไว้อย่างแน่นอน อาจจะมาจากสาเหตุว่าเขาไม่สามารถดูแลพวกมันได้หมดทุกตัว จึงเลือกที่จะทิ้งพวกมันไว้ก็เป็นได้ ด้วยการช่วยเหลือของสัตวแพทย์หญิง เธอได้พามันไปไว้ที่ศูนย์ช่วยเหลือแมว Cats Protection Hornchurch & District Branch และพวกมันจะได้รับการอุปถัมป์จนเติบโตพอที่จะย้ายไปอยู่ยังบ้านหลังใหม่ แหม่ ก็ภาพตอนถูกช่วยมันมุ้งมิ้งขนาดนี้ ไม่แปลกหรอกที่จะได้รับบ้านใหม่อย่างรวดเร็ว “มีเจ้าเหมียว 5 ตัวที่มีอายุน้อยมาก พวกเราต้องป้อนนมให้กับมัน ส่วนอีก 10 ตัวนั้นมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดี” โฆษกของ Cats Protection กล่าว ตั้งแต่เรื่องราวการค้นพบของพยาบาลสาวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลร์ ก็ทำให้มีทาสแมวมากมายติดต่อเข้ามายัง Cats Protection เพื่อขอรับเจ้าเหมียวเหล่านี้ไปอยู่ด้วยที่บ้าน และเมื่อถึงเวลา เจ้ามิ้วน้อยทั้ง 15 ตัว ก็จะได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่กลายเป็นราชาใช้ชีวิตอยู่กับทาสมนุษย์ผู้แสนซื่อสัตย์ แหม่…
-
เตือนใจพ่อแม่… เด็กชาย 7 ชวบ กระโดดตึกชั้น 10 พร้อมร่ม 1 คัน เกือบไม่รอดแล้วนะเจ้าหนู!?
เด็กชายวัย 7 ขวบชาวจีนรอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิด หลังเล่นพิเรนทร์กระโดดลงมาจากหน้าต่างชั้น 10 พร้อมกับร่ม 1 คัน!? ใครจะคิดว่าเรื่องราวของเด็กที่เลียนแบบการ์ตูนในทีวี ด้วยการกระโดดจากตึกและร่ม ค่อยๆ ร่อนลงพื้นนั้น จะมีเด็กนำไปเลียนแบบจริงๆ และก็เกือบกลายเป็นข่าวสลด ตามรายงานของสำนักข่าว Dailymail เล่าว่าเมื่อวันที่ 15 เดือนเมษายนที่ผ่านมา เด็กชายชาวจีนถูกพบตัวอยู่บนถนนมีอาการบาดเจ็บสาหัสหลังจากกระโดดลงมาจากตึกสูง 10 ชั้น พร้อมกับร่ม 1 คัน จากการตรวจสอบก็พบว่าในวันนี้เขาถูกทิ้งไว้ให้อยู่ในอพาร์ตเม้นท์เพียงลำพัง แต่ภายหลังรอดชีวิตมาได้เพราะถูกช่วยเหลือพาส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา “เขาได้รับบาดเจ็บอย่างร้ายแรง แต่เพราะเขาถูกพามาส่งที่โรงพยาบาลทันเวลา จึงทำให้พวกเราสามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้” แพทย์กล่าว เจ้าหน้าที่เผยข้อมูลว่าเด็กชายถูกทิ้งเอาไว้ให้อยู่บ้านเพียงลำพัง โดยที่พ่อแม่ของเขาคิดว่าลูกของตัวเองสามารถอยู่คนเดียวได้ และจะนั่งดูการ์ตูนอย่างเรียบร้อยที่หน้าจอทีวีอย่างเรียบร้อย แต่กลับกลายเป็นว่าการ์ตูนที่เขาชื่นชอบนั้นดันมีตัวละครที่โชว์การกระโดดจากที่สูงลงมาด้วยร่ม ราวกับใช้เป็นร่มชูชีพ จึงทำให้เขาอยากลองทำตามดู ซึ่งตามรายงานไม่ได้มีการเขียนไว้ว่าเป็นการ์ตูนเรื่องอะไร โชคดีที่ก่อนจะตกลงมาถึงพื้นตัวของเด็กชายตกลงมาถูกสายโทรศัพท์ จึงทำให้เขารอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด สภาพของบริเวณที่เกิดเหตุ เต็มไปด้วยที่พักและตึกสูง ถือเป็นอุทาหรณ์เตือนใจวำหรับพ่อแม่หลายๆ คน ว่าการให้ดูการ์ตูนนั้นเราควรจะให้คำแนะนำหรือเสริมความรู้ในโลกของความเป็นจริงให้กับลูกๆ…
-
Walter White ตัวจริง!? ศาสตราจารย์เคมี กลายเป็นเจ้าพ่อยาเสพติด สร้างรายได้ 20 ล้านต่อปี
และนี่กลายเป็นคดี ที่ชาวเน็ตจีนแซวว่าเป็นเรื่องของ Walter White จากซีรี่ย์เรื่อง Breaking Bad ในชีวิตจริง… ศาสตราจารย์ด้านเคมีวิทยาชาวจีน ถูกจับกุมเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากทำการผลิตยาเสพติดและส่งขายไปยังต่างประเทศ สร้างรายได้ให้กับตัวเขาเองมากกว่า 20 ล้านบาทต่อปี หลังจากที่เข้าเรียนในสาขาเคมีในมหาวิทยาลัยหวู่ฮั่น ชายนามว่า Zhang ก็กลายมาเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยเดียวกันนี้ ขณะออกไปทำการสำรวจงานวิจัยในประเทศออสเตรเลีย เขาก็ค้นพบว่ายากล่อมประสาทนั้นเป็นที่ต้องการในประเทศออสเตรเลียเป็นอย่างมาก พอกลับมาที่เมืองจีนเขาก็ทำการเช่าโรงงานผลิตที่มีเนื้อที่ 800 ตารางเมตรในเมืองแห่งนี้ เพื่อเปิดเป็นโรงงานผลิตสารเคลือบทางการแพทย์และตัวทำละลาย ด้วยการจัดการทางการเงินของเขาผ่านทาง Western Union และ Bitcoin ก็ทำให้บริษัทผลิตสารเคมีของเขาสามารถส่งยาเสพติดไปยัง สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, แคนาดา, และ ออสเตรเลีย และรับเงินได้อย่างง่ายดาย และนาย Zhang เองก็ทำธุรกิจค้ายามานานนับสิบปี จนมาถึงปี 2014 เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดพัสดุของเขากว่า 9 กล่อง ที่บรรจุไปด้วย Methylone ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในยาอี จากนั้นในปี 2015 เจ้าหน้าที่ได้ทำการบุกค้นในแล็บของนาย Zhang และก็พบยาเสพติดที่มีน้ำหนักมากกว่า…
-
หญิงสาวขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวรอบโลก หลังจากที่แฟนเก่าไม่พาไป เพราะเขาว่า “มันอันตรายเกินไป…”
หญิงสาวผู้ออกไปท่องเที่ยวรอบโลกพร้อมกับมอเตอร์ไซค์คู่ใจ หลังจากที่แฟนเธอบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้…. Nikki Misurelli หรือที่รู้จักกันในชื่อ Alaska Moto Girl ได้ทำการออกไปท่องเที่ยวรอบโลกร่วมกับมอเตอร์ไซค์คู่ใจ โดยเธอให้เหตุผลว่าที่ทำแบบนี้เพราะต้องการลบคำสบประมาทของแฟนเก่า ที่บอกเธอว่า ‘มันอันตรายเกินไป’ “ฉันขอร้องให้เขาพาฉันออกไปท่องเที่ยวด้วยกันกับเขา แต่เขาบอกว่า ‘ไม่ได้ มันเป็นทริปของผู้ชายเท่านั้น เพราะมันอันตรายมากเกินไป เธอไม่สามารถควบคุมมันได้หรอก’” “ฉันก็เลยตัดสินใจเลิกกับเขา และออกทริปไปด้วยตัวเอง” และทริปแรกของเธอนั้นคือการออกเดินทางจากรัฐ Alaska ไปยังเมือง Panama ที่ตั้งอยู่ในแถบอเมริกากลาง จากนั้นตามด้วยการขับผ่านประเทศต่างๆ ไปอีกกว่า 9 ประเทศ ในระยะเวลา 6 เดือน เป็นระยะทางไปแล้วกว่า 19,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว!! ภาพของเธอที่บันทึกเอาไว้ระหว่างการเดินทาง . และที่คุณ Misurelli ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะพารถทรงสปอร์ตคู่ใจของเธอ Honda CBR 600rr ไปออกทริปที่ยุโรปด้วยในอนาคต นอกจากนี้ก็ยังมีแถบตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และส่วนอื่นๆ ของโลกอีกด้วย “ฉันมีเป้าหมายในชีวิตอีกมากมายที่ต้องทำให้สำเร็จ และ 1 ในนั้นก็คือการออกไปเที่ยวรอบโลก…
-
เรื่องราวของ ‘นักวิ่งมาราธอนหญิง’ คนแรกของโลก ในยุคที่โดนผู้ชายรุมกีดกัน มันไม่ง่ายเลย…
หากย้อนกลับไปในอดีตเราจะพบว่าความคิดเรื่องความเท่าเทียมของ ‘เพศสภาพ’ เป็นอะไรที่ดูรุนแรงจนทำให้พวกเราที่ใช้ชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบันนั้นยากที่จะจินตนาการถึงได้เลยล่ะ ถ้าไม่เชื่อล่ะก็ลองไปชมเรื่องราวของคุณยาย Kathrine Switzer วัย 70 ปี ที่วีรกรรมอันเด็ดเดี่ยวของเธอ ต้องย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 1967 เธอได้กลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่ลงแข่งขันในการวิ่งมาราธอน Boston City Marathon และเป็นหญิงสาวคนแรกที่สามารถวิ่งจนจบได้ ‘อย่างเป็นทางการ’ หลายๆ คนก็อาจจะคิดว่ามันก็แค่การวิ่งมาราธอนธรรมดาๆ ไม่เห็นมีอะไรยากเลยนี่นา ทำไมถึงกลายเป็นเหตุการณ์ที่น่าจดจำได้ถึงขนาดนี้ล่ะ? ก็เพราะว่าในช่วงนั้นผู้คนยังมีความเชื่อว่าผู้ชายนั้นต้องเป็นใหญ่ และผู้หญิงจะไม่สามารถออกมาทำกิจกรรมอะไรที่ทัดเทียมกับผู้ชายได้เหมือนในปัจจุบัน และยิ่งเป็นการวิ่งมาราธอนที่เป็นกิจกรรมของผู้ชายก็ยิ่งทำให้กลายเป็นที่น่าจับตามอง แม้ว่าจะมีนักวิ่งมาราธอนหญิงอีกหลายคนที่เข้าร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอน แต่สำหรับคุณยาย Switzer เป็นคนเดียวที่ทำการลงสมัครอย่างเป็นทางการและวิ่งจนเข้าเส้นชัย แต่ระหว่างการวิ่งนั้นมันไม่ได้ง่ายดายเหมือนที่คิด เพราะเธอต้องถูกกลุ่มชายหัวรุนแรงที่ไม่ยอมรับการกระทำของเธอพยายามเข้ามาทำร้าย และไล่เธอออกไปจากการแข่งขัน พร้อมกับเสียงโห่ร้องของคนที่ไม่เห็นด้วยอีกมากมาย เธอเล่าถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นว่า “ฉันรีบวิ่งออกไปโดยสัญชาตญาณ พร้อมกับมีผู้ชายร่างใหญ่พยายามเข้ามาทำร้ายฉัน เขาพยายามที่จะจับตัวของฉันเหวี่ยงออกไปอย่างรุนแรง พร้อมกับตะโกนว่า ‘ออกไปจากการแข่งขันของฉัน และเอาป้ายนั่นมาซะ!!’” ภาพนี้กลายเป็นหนึ่งในภาพตำนานประวัติศาสตร์ของโลก หลังจากที่จบการแข่งงขันในครั้งนั้นคุณยาย Switzer ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเรียกร้องความเท่าเทียมให้กับสตรีเพศในการเล่นกีฬา นอกจากนี้เธอก็ยังเป็นเสียงสำคัญในการเรียกร้องสิทธิสตรีในกีฬาต่างๆ ด้วยการเข้าร่วมการแข่งขันมาราธอนอีกมากมายกว่า 39 รายการ สร้างสถิติและกวาดถ้วยรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันมาราธอนที่…
-
เมื่อหนุ่มหล่อ ‘คนขับรถบรรทุก’ เจอเจ้าเหมียวนอนอยู่กลางถนน ซิ่งไปด้วยกันซะเลยงานนี้!!
เรื่องราวความน่ารักระหว่างคนขับรถบรรทุกที่บังเอิญพบกับเจ้าเหมียวตัวน้อยโดยบังเอิญ เขาเห็นมันกำลังนอนรอความช่วยเหลืออยู่กลางถนน ขณะที่คุณ Matt คนขับรถบรรทุก กำลังขับรถอย่างชิลๆ จู่ๆ ก็พบเจ้าเหมียวน้อยตัวหนึ่งกำลังนอนอยู่บนถนน “ผมเจอเจ้าเหมียวกำลังนอนอยู่กลางถนนที่มีรถพลุกพล่าน ผมก็เลยตัดสินใจจอดรถและช่วยเหลือมัน” “มันค่อยๆ คลานมาจากพุ่มไม้ที่ข้างถนน ดูเหมือนว่ามันจะเกิดที่นั่น แต่ด้วยเหตุการณ์อะไรบางอย่าง จึงทำให้แม่ของมันหนีออกจากรังไป และคาบลูกตัวอื่นๆ ไปด้วย แต่ดันทิ้งเจ้าตัวนี้เอาไว้” ในวันต่อมาคุณ Matt ก็ตัดสินใจพาเจ้าเหมียวไปหาหมอ ลำตัวของมันมีแต่เห็บหมัดอยู่เต็มไปหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็สามารถจัดการออกไปได้โดยไม่มีปัญหา “ขณะกลับจากการไปหาหมอ เจ้าเหมียวก็หลับมาตลอดทางพร้อมกับหายใจเป็นเสียงกรน ดังราวกับหัวเครื่องจักรรถไฟเลยทีเดียว และผมก็ไม่กล้าเปิดวิทยุซะด้วย เพราะกลัวว่าจะรบกวนมัน” ดีแล้วที่หลับ เพราะถ้ามันตื่นก็จะกวนแบบนี้ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเขาก็ไม่ได้รับเลี้ยงมันไว้หรอกนะ เนื่องจากตัวเองก็ก็เป็นภูมิแพ้ขนสัตว์ และไม่มีประสบการณ์เลี้ยงแมวเลย แต่ก็ได้ส่งต่อให้กับคนที่พร้อมดูแลเป็นที่เรียบร้อย “เนื่องจากว่าผมป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ จึงต้องทำการหาบ้านใหม่ให้กับเจ้าเหมียว และตอนนี้มันก็ได้บ้านหลังใหม่พร้อมกับทาสคนใหม่ และเพื่อนๆ แมวเหมียวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และที่นั่นเองมันก็คงจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอย่างแน่นอน” คุณ Matt เล่า ถือว่าเป็นโชคดีของเอ็งแล้วล่ะนะเจ้าเหมียว ขอให้ใช้ชีวิตใหม่อยู่ในบ้านหลังใหม่อย่างมีความสุขล่ะ ^^…
-
คุณตาเปิดศึกไฟท์หน้าบ้านพักคนชรา เพราะงอนอีกฝ่ายไม่มีเวลาให้ จบด้วย.. การคลำหาแว่น -*-!!
โดยปกติแล้วคนเฒ่าคนแก่นั้นมักจะเป็นคนใจเย็น มีการเคลื่อนไหวเชื่องช้า เพราะภาพร่างกายที่เสื่อมไปตามกาลเวลา ดังนั้นเราจึงไม่ค่อยได้เห็นพวกเขาทำอะไรแบบหุนหันพลันแล่นสักเท่าไร แต่คุณตาสองคนได้ฉีกกฏเหล่านี้ไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยการเปิดศึกชกต่อยสุดมันส์ แถมยังต่อยกันตรงบริเวณบ้านพักคนชราที่พวกเขาอาศัยอยู่อีกด้วย… เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ Hebburn (เมืองเล็กๆ ใกล้กับ Newcastle ในประเทศอังกฤษ) ขอแทนชื่อด้วยคุณตาเสื้อดำ และคุณตาคนเสื้อแดงนะคะ ทั้งคู่อยู่ในบ้านพักคนชราด้วยกัน แต่ไม่รู้ไปไงมาไงเกิดศึกไฟท์กันซะได้ การปะทะของพวกขาเกิดขึ้นเมื่อมีคนไปพบคุณตาทั้งสองวางถุงพลาสติกลงแล้วมีปากเสียงกัน… เริ่มด้วยคุณตาเสื้อดำพูดจาด่าทอด้วยความโมโห พร้อมทั้งชี้หน้าด้วย ทำให้คุณตาเสื้อแดงไม่พอใจเลยกระโดดต่อยคุณตาเสื้อดำทันที กำปั้นคุณตาเสื้อแดงคงจะหนักไม่ใช่เล่น ทำให้แว่นคุณตาเสื้อดำถึงกับกระเด็นออกจากหน้า จนมองอะไรพร่ามัวไปหมด ทำไงล่ะทีนี้ เมื่อไม่มีแว่นพวกเขาก็ตัดสินใจหยุดศึก แล้วช่วยกันหาแว่นของคุณตาเสื้อดำ และกว่าจะหาเจอทั้งคู่ก็หายโกรธกันพอดี ก่อนจะหันมายิ้มให้กันและแล้วเดินกลับบ้านพักคนชราด้วยกัน ต่อมาคนที่เห็นเหตุการณ์นี้บอกว่า คุณตาสองคนทะเลาะกันเพราะหนึ่งในคุณตางอนอีกฝ่ายที่ปล่อยให้เขาต้องอยู่คนเดียวมาหลายเดือนแล้ว เกิดเลยนำสู่การปะทะกันเนี่ยแหละ แต่ตอนนี้ดีกันแล้วนะ และเย็นนี้พวกเขาคงจะมีปาร์ตี้เล็กๆ ด้วยกันแน่ๆ ก็ไม่รู้จะทะเลาะกันไปทำไมเนาะ แต่จะว่าไปก็น่ารักดีนะ คนแก่งอนกัน เอ๊ะ เป็นเรื่องของคนทะเลาะกัน… ทำไมดูแล้วยิ้มละ ฮ่าาา ที่มา dailymail
-
หญิงสาว ใช้ “พาวเวอร์พอยท์” บอกรักชายหนุ่มในฝัน ได้ผลหรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ มันเจ๋งอ่า
หากคุณแอบชอบใครสักคน คุณจะมีวิธีบอกเค้ายังไง!? แต่ก็อย่างที่รู้กันแหละ ว่าหลายคนไม่กล้าบอก เพราะกลัวโดนปฏิเสธ สุดท้ายก็ต้องมานั่งเศร้าอยู่คนเดียว (อ๊ะ เหมือนชีวิตตัวเองเบยยยยยย) แต่ถ้าไม่อยากถูกปฏิเสธก็ลองให้วิธีบอกรักแบบเจ๋งๆ สิ หรือวิธีที่ทำให้ใครคนนั้นประทับใจได้ เหมือนกับหญิงสาวคนนี้ที่ตัดสินใจบอกรักด้วยการทำพาวเวอร์พ้อยสุดครีเอท เธอคนนี้คือ Lizzy Fenton นักศึกษาคณะพันธุศาสตร์ สาขาชีววิทยาและการพัฒนาเซลล์ มหาวิทยาลัย University of Minnesota สไลด์เธอใส่รูปตัวเองกับข้อความ “รู้มั้ย ทำไมคุณควรจะเดทกับฉัน?” โปรแกรมพาวเวอร์พอยท์นั้น หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี รวมทั้งหญิงสาวคนนี้ด้วยที่มักจะนำเสนองานทางวิทยาศาสตร์ด้วยโปรแกรมนี้บ่อยๆ และตอนนี้เธอกำลังแอบชอบพ่อหนุ่ม Carter Blochwitz อยู่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะบอกเขายังไงดี ในที่สุดเเธอก็ตัดสินใช้พาวเวอร์พอยท์นี่แหละเป็นตัวช่วย ว่าแล้ว Lizzy จึงได้ทำผลงานจำนวน 6 สไลด์ ที่เกิดจากความตั้งใจล้วนๆ ส่งให้ชายหนุ่มดู โดยหวังว่าเขาจะประทับใจกับสิ่งที่เธอตั้งใจทำนี้ รายละเอียดของสไลด์นั้น เป็นการให้เหตุผลว่าทำไม Carter ควรเดทกับเธอ รวมทั้งบอกเธอว่าจะพาไปรู้จักครอบครัว หรือแม้กระทั่งการทำทรงผมต่างๆ ที่น่าสนใจด้วย เธอยังบอกถึงข้อดีตัวเองอีกว่า เธอเป็นคนพูดเก่ง มีอารมณ์ขัน รับรองว่าแม่ของชายหนุ่มต้องชอบแน่ๆ นอกจากนี้เธอจะแต่งตัวสวยๆ ในทุกๆ เทศกาลไม่ให้น้อยหน้าใครแน่นอน สไลด์ต่อมาเป็นภาพหญิงสาวกับเพื่อน และด้านล่างเป็นภาพหญิงสาวกับทรงผมที่แตกต่างกัน 3 ทรง …
-
ลูกสาวมุสลิม อับอายจนคิดจะถอด “ฮิญาบ” คุณพ่อจึงให้กำลังใจซึ้งๆ จนถูกใจชาวเน็ตทั่วโลก!!
ความเชื่อทางศาสนานั้นอยู่คู่กับมนุษย์มานานแล้ว โดยถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น และปฏิเสธไม่ได้ว่าคนส่วนใหญ่นั้นมักจะนับถือศาสนาตามพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด หรือใครอาจจะไม่เชื่อก็ตาม เราก็ไม่ควรลบหลู่ดูหมิ่นความเชื่อที่แตกต่างจนเกินไป… แต่สำหรับเด็กปัจจุบันนี้มีแนวโน้มที่จะออกห่างจากศาสนามากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อโตพอที่จะคิดเองได้ พวกเขามักเลือกทุกอย่างด้วยตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจสร้างความไม่พอใจให้กับพ่อแม่บางคนได้ เหมือนอย่างเรื่องราวของ Lamyaa วัย 17 ปี ชาวอาหรับและเป็นมุสลิมจากรัฐเพนซิลวาเนีย ปัจจุบันอาศัยอยู่ในซาอุดิอาราเบีย เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ Lamyaa ได้เข้าร่วมกลุ่มที่เริ่มโดยเพื่อนคนหนึ่งของเธอ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นมาเพื่อวิจารณ์ประธานธิบดีทรัมป์โดยเฉพาะ และไม่ใช่แค่กลุ่มเพื่อน แต่ยังมีคนที่เธอไม่เคยรู้จักมากมายเข้าร่วมกลุ่มนี้ด้วย เธอบอกว่า “การที่ทรัมป์ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีมันส่งผลกระทบกับฉันมากเลยค่ะ เพราะฉันเป็นคนอาหรับและเป็นชาวมุสลิม” หากเราได้ติดตามเรื่องราวทางการเมือง จะเห็นว่า ทรัมป์ได้ประกาศไม่ให้คนมุสลิมเข้าสหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วัน แน่นอนว่ามันส่งผลกับชาวมุสลิมไม่น้อยเลย จนทำให้ผู้หญิงมุสลิมหลายคนอยากถอดฮิญาบออก ในกลุ่มนั้นหญิงสาวได้บอกทุกคนว่าเธอเป็นผู้หญิงมุสลิม และเธอก็ได้วิจารณ์นโยบายของทรัมป์ที่มีต่อศาสนาอิสลามด้วย จนทำให้หนึ่งในสมาชิกกลุ่มแชทไม่พอใจกับคำวิจารณ์ของเธอ ชายคนนั้นบอกว่า “เธอควรจะหยุดเข้าข้างศาสนาตัวเองได้แล้วนะ เพราะมันเป็นศาสนาที่ทำให้เธอต้องใส่ฮิญาบอยู่ตลอดเวลา หรือพ่อเธอบังคับให้ใส่หรือเปล่า?” ส่วนตัว Lamyaa เองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมต้องใส่ฮิญาบด้วย ทั้งที่เธอก็ไม่ได้อยากใส่ตั้งแต่แรกแล้ว ยิ่งมาเจอสถานการณ์กดดันแบบนี้มันยิ่งคิดหนักเข้าไปใหญ่ และอยากถอดญิหาบออก แต่ก็ไม่ลืมที่จะนำเรื่องนี้ไปบอกพ่อก่อน บทสนทนาดังกล่าว…. Lamyaa: พ่อหนู่มีอะไรจะบอก พ่อ: ว่ามาเลยลูก Lamyaa:…
-
ช่างภาพสงครามในซีเรีย เล่าถึงวินาทีต้องทิ้งกล้อง ยอมไม่เอาภาพ เข้าไปช่วยเด็กจากระเบิด…
ถึงแม้ว่าไทยเราอาจจะอยู่ไกลจากสมรภูมิรบในซีเรีย ทำให้ดูเหมือนจะไม่ค่อยส่งผลต่อประเทศเราสักเท่าไหร่ หลายคนจึงมองข้ามและไม่ค่อยได้รับรู้เรื่องราวรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนั้น ทว่าตัวเลขการเสียชีวิตของบริสุทธิ์กลับมีจำนวนมากขึ้นทุกที Abd Alkader Habak หนึ่งในช่างภาพผู้ติดตามถ่ายเหตุการณ์สงครามในซีเรีย เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาเกิดเหตุระเบิดพลีชีพที่เมือง Aleppo ซึ่งเขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ และต้องเห็นภาพของเด็กๆ ผู้จากไปอย่างน่าเศร้าต่อหน้าต่อตา ทว่าหากเป็นนักข่าวคนอื่นคงเลือกที่จะไม่เข้าไปยุ่งกับเหตุความรุนแรง แต่ทันทีที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น Abd Habak เลือกที่จะเข้าไปช่วยเหลือเด็กๆ ทันที เขาไปอยู่ในที่เกิดเหตุหลังเกิดเหตุระเบิดมีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตมากมาย และจำนวนมากในนั้นก็เป็นเด็กๆ ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แต่กลับต้องมารับผลกรรมจากสงคราม ทันทีที่ช่างภาพสงครามคนนี้เห็น เขาต้องเลือกระหว่างการทำหน้าที่นักข่าวอย่างเต็มที่ บันทึกภาพเหตุการณ์ให้ได้มากที่สุด เพื่อนำกลับไปเสนอต่อสำนักข่าว หรือเลือกที่จะไม่เก็บภาพบางส่วน แต่วิ่งเข้าไปช่วยเหลือเด็กๆ ที่ติดอยู่ในกองเพลิง โดยหวังว่าพวกเขาจะสามารถมีชีวิตรอดกลับมาได้ ภาพของช่างภาพหนุ่มที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก หลังจากที่ตนต้องเห็นเด็กๆ ตายไปต่อหน้าต่อตา ถูกถ่ายไว้ได้โดยช่างภาพอีกคนหนึ่ง ‘มันเป็นภาพเหตุการณ์ที่น่ากลัวมาก ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแน่นอน ผมเห็นระเบิดต่อหน้าต่อตา ผมเห็นเด็กๆ และผู้คน นอนร้องขอความช่วยเหลือ และก็จากไปในที่สุด’ ช่างภาพให้สัมภาษณ์กับ CNN จากเหตุระเบิดดังกล่าวคาดว่ามียอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 126 คน และกว่า 68 คนที่เสียไป…
-
น่ารัก… “เจ้าชายวิลเลี่ยม” วิดีโอคอลหา “เลดี้กาก้า” ในการรณรงค์ ให้คนระบายเรื่องทุกข์ใจแก่กัน
สำหรับภาวะความเศร้าจากเรื่องราวร้ายๆ ในอดีต ที่บางทีก็ส่งผลกระทบมาถึงการใช้ชีวิตในปัจจุบัน บางคนอาจจะรับมือด้วยการทำเป็นไม่คิดถึงมัน หรือลืมๆ มันไปซะ แต่เรื่องราวความน่ารักระหว่างบทสนสทนาอันเป็นกันเองของเจ้าชายวิลเลี่ยม และเลดี้กาก้า จะทำให้เราได้รู้ว่า การที่เราระบายความทุกข์ใจที่เกิดขึ้น ก็ช่วยทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้จริงๆ และนี่ก็เป็นหนึ่งในการสนับสนุนแคมเปญแฮชแท็ก #oktosay ด้วยเช่นกัน หลังจากที่เจ้าชายวิลเลี่ยมได้อ่านจดหมายเกี่ยวกับ เลดี้กาก้า ที่เธอต้องอาศัยอยู่กับความเครียดจากเหตุการณ์สะเทือนใจ ก็ทรงติดต่อเธอทันที ทั้งคู่ได้สนทนาเพื่อระบายความทุกข์ใจที่ส่งผลต่อปัจจุบันให้แก่กันและกัน โดยเจ้าชายวิลเลียมทรงเล่าว่า ‘ในช่วงที่เกิดอุบัติเหตุรถชนกับเจ้าหญิงไดอาน่า ที่ปารีส เมื่อปี 1997 ตลอดระยะเวลา 20 ปี เราต้องพยายามไม่คิดถึงเรื่องนั้น เพราะมันจะยิ่งทำให้เรารู้สึกเศร้า และเราก็ค้นพบว่าเมื่อเราได้พูดระบายมันออกมา มันช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้นได้จริงๆ’ ในส่วนทางด้านของ เลดี้ กาก้า เธอก็ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้สึกแย่ที่อัดอั้นอยู่ในใจ โดยเธอเล่าว่า ‘บางทีการที่คุณต้องอาศัยอยู่กับเรื่องสะเทือนใจในอดีต มันก็ไม่สามารถทำให้คุณกลายเป็นคนที่มีความสุขได้ ถึงแม้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคุณจะเลิศเลอเพอร์เฟคมากขนาดไหนก็ตาม บ่อยครั้งที่ฉันตื่นนอนมาพบว่าตัวเองรู้สึกไม่อยากจะทำอะไรอีกต่อไปแล้ว ไม่อยากแม้แต่จะขึ้นเวทีไปร้องเพลง แต่ก็จำใจต้องทำ มันเป็นความรู้สึกที่แย่มากๆ และเหมือนว่ามันพยายามจะฉุดรั้งฉันเอาไว้’ แฮชแท็ก #oktosay เป็นหนึ่งในโครงการที่เจ้าชายวิลเลียมทรงจัดทำขึ้น เพื่อตระหนักให้ทุกคนกล้าที่จะออกมาพูดคุยระบายความทุกข์ในใจ ไม่ว่าจะกับเพื่อน…
-
ยืนยันแล้ว E-Sport ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในกีฬา แห่งเอเชียนเกมส์ปี 2018 และ 2022
ถ้าพูดเกมกีฬาที่นิยมและกำลังได้รับการจับตามองจากทั่วโลกในตอนนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้นกีฬาประเภท Electronic Sports หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า E-Sports อย่างแน่นอน ล่าสุดทางสำนักข่าวบีบีซี ได้รายงานว่าทาง The Olympic Council of Asia (OCA) บอกว่าพวกเขาต้องการที่จะตอบสนองต่อความต้องการของกีฬาชนิดนี้ที่เติมโตและพัฒนาจนยอดนิยมอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาไม่กี่ปีมานี้ และบรรจุมันลงไปในเอเชียนเกมส์ที่จะถึงนี้ การแข่งขัน E-Sports ในเอเชียนเกมส์จะเริ่มครั้งแรกในปี 2018 ที่จะจัดในกรุงจากาต้า ประเทศอินโดนีเซีย โดยจะจัดในรูปแบบของการแข่งขันกีฬาสาธิต เพื่อให้ผู้คนเห็นและเข้าใจในกีฬาชนิดนี้ก่อน และจะจัดอย่างเต็มรูปแบบในปี 2022 ที่หางโจว ประเทศจีน แต่การแข่งขันขันระดับภูมิภาคร่วมกับกีฬาปกติจริงๆ อย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้นที่งาน Asian Indoor and Martial Arts Games (AIMAG) ที่กำลังจะจัดขึ้นที่ประเทศเติร์กเมนิสถาน ในปี 2017 นี้ ส่วนประเภทของเกมที่จะใช้แข่งขันในงานแน่ ก็จะเป็นเกม Fifa 2017 และคาดว่าน่าจะมีเกมประเภท MOBA อย่าง Dota หรือ League of Legend ตามมาอย่างแน่นอน…
-
สาวก One Piece เตรียมกรี๊ดกับ “บิกินี่สุดฮอต” ที่มาจากเหล่าตัวละครสาวในเรื่อง
วันพีซเป็นหนึ่งในการ์ตูนที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น จุดเด่นของเรื่องนี้อยู่ที่ตัวการ์ตูนแต่ละตัวที่มีเอกลักษณ์ เช่นเดียวกับชุดของตัวละครซึ่งก็๋โดดเด่นและเป็นที่จดจำไม่แพ้กัน ในบทความนี้เราจึงมานำเสนอชุดของตัวละครของเรื่องวันพีซแต่เป็นชุดที่แตกต่างออกไป นั่นก็คือ “ชุดบิกินี่” ที่บริษัทเครื่องแต่งกายจากญี่ปุ่นได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวละครสาวๆ ในการ์ตูนเรื่องนี้ จะเซ็กซี่และน่ารักขนาดไปตามไปดูกันเลย แบรนด์เสื้อผ้า Peach John ได้เปิดตัวชุดรุ่นใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก 4 ตัวละครสาว นามิ โรบิน แฮนค็อก และองค์หญิงชิราโอชิ จากการ์ตูนเรื่องวันพีซ ซึ่งในคอลเลคชั่นนี้เป็นเซตบิกินี่น่ารักๆ ที่ทำเอาสาวกการ์ตูนเรื่องต้องกรี๊ดหนักๆ กันเลยทีเดียว และทางบริษัทมีแผนที่จะวางขายภายในปลายเดือนนี้ด้วย ชุดแรกเป็นชุดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดของ นามิ ชุดว่ายน้ำประกอบด้วยบิกินี่ด้านบนและด้านล่างอีกทั้งยังมีกางเกงขาสั้นน่ารักๆ สนนราคาอยู่ที่ 8,980 เยน หรือประมาณ 2,700 บาท ต่อไปเป็นชุดของ โรบิน ที่มาเป็นเซตชุดว่ายน้ำและผ้ามัดเอวสวยๆ ราคาก็แพงกว่าของนามินิดหน่อยอยู่ที่ 9,980 เยน หรือ 3,000 บาท สำหรับชุดของ แฮนค็อก ที่มาพร้อมกับบราและกระโปรงสั้นสีจัดจ้าน เหมาะกับเดินสวยๆ ที่ริมทะเล ส่วนราคาก็อยู่ที่ 7,980 เยน หรือประมาณ 2,500 บาท และสุดท้ายเป็นชุดขององค์หญิงของอาณาจักรเงือก “ชิราโอชิ”…
-
แคมเปญสุดเจ๋ง “เติมเต็มความรักในช่องว่าง” เพื่อกระตุ้นให้รับเลี้ยงสัตว์ถูกทิ้ง แทนการซื้อมา…
ทุกวันนี้มีสัตว์มากมายที่ต้องการบ้าน ทางด้านกลุ่มที่ช่วยเหลือสัตว์เองก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้พวกมันมีบ้านโดยเร็วเช่นกัน เช่นกัน บางทีเราอาจจะเห็นการรณรงค์ต่างๆ เช่น ให้ซื้อน้อยลง รับเลี้ยงมากขึ้น หรือบางพื้นที่ถึงกับมีกฎหมายเพื่อบังคับไม่ให้มีร้านขายสัตว์ จะเลี้ยงก็ต้องรับเลี้ยงเท่านั้น ในวิธีการต่างๆ เหล่านั้นก็คงจะแตกต่างกันไป อย่างเช่น วิธีการโปรโมทของกลุ่ม World For All ที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในขณะนี้ World For All ตั้งอยู่ในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ตอนนี้พวกเขากำลังทำเคมเปญสำคัญ เพื่อกระตุ้นให้มนุษย์รับเลี้ยงสัตว์ในศูนย์พักพิงมากขึ้น ความน่าสนใจของแคมเปญนี้คือ การทำภาพลวงตา ที่ทำโดยมนุษย์นี่แหละ แล้วให้ช่องว่างระห่างมนุษย์นั้นออกเป็นรูปสัตว์ชนิดต่างๆ พร้อมสโลแกนที่ว่า “ช่องว่างมีอยู่เสมอสำหรับการรับเลี้ยง” สำหรับความคิดสร้างสรรค์นี้เกิดจาก Amol Jadhav และทีม McCann Worldgroup ในอินเดีย แคมเปญดังกล่าวนี้ประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ หลังจากได้ทำแคมเปญนี้พบกว่า สัตว์ในศูนย์พักพิงถูกรับเลี้ยงเพิ่มขึ้นเป็น 150% จากปีที่แล้ว ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยนะ Ruchi Nadkarni ผู้ก่อตั้ง World For All บอกว่า “แคมเปญของเราได้รับความสนใจวงกว้างมากขึ้น และทำให้เกิดกลุ่มรณรงค์ส่งเสริมการรับเลี้ยงสัตว์เพิ่มมากขึ้นด้วย ส่วนหนึ่งนั้นก็มาจากภาพลวงตาที่เราสร้างขึ้นเนี่ยแหละ” เธอยังบอกอีกว่า “เราอยากจะจัดมันขึ้นมาทุกๆ…
-
กลุ่มศิลปิน ร่วมทำแบบจำลองเมืองจิ๋ว 50 ประเทศทั่วโลก รายละเอียดสวยงามด้วยงบ 1,600 ล้าน
ในโลกศิลปะนั้นอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ เรียกได้ว่าเป็นการรังสรรค์จินตาการให้ให้ออกมาเป็นรูปธรรม เพื่อถ่ายทอดให้ผู้คนได้เห็นได้รับรู้ เหมือนกับนิทรรศการนี้ที่กลุ่มศิลปินได้ทุ่มเงินกว่า 1,680 ล้านบาท และใช้พื้นที่กว่า 4.5 ไร่ ในการจำลองเมืองต่างๆ จาก 50 ประเทศทั่วโลก ไทม์สแควร์ในนิวยอร์ก นิทรรศการนี้มีชื่อว่า Gulliver’s Gate เป็นการจำลองสถานที่และเมืองต่างๆ ทั่วโลก โดยย่อขนาดให้เล็กลง ซึ่งในแต่ละสถานที่นั้นก็จะมีการใส่รายละเอียดที่เหมือนของจริงมากๆ ดังนั้นเมื่อคุณได้เข้าชมงานนี้ คุณจะรู้เหมือนได้เข้าไปอยู่ในสถานที่นั้นจริง และคุณยังสามารถเที่ยวมชมสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งวันด้วยซ้ำ พีระมิดและสฟิงซ์ในอียิปต์ นิทรรศการนี้จัดแสดงที่นิวยอร์ค ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน ไปจนถึง 30 ธันวาคม 2017 นี้ หากใครมีโอกาสก็ลองไปชมดูนะคะ แล้วอย่าลืมกลับมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังด้วยล่ะ Chichen Itza ในเม็กซิโก สะพานบรูคลินในนิวยอร์ก สโตนเฮนจ์ การสร้างเมืองจิ๋วในปารีส ประเทศฝรั่งเศส Arc de Triomphe…
-
หนุ่มจีนสุดทน ห้องข้างบนชอบทำตึงตังเสียงดัง ลงทุนซื้อ “เครื่องเขย่าตึก” มาเอาคืนเต็มที่!!
การเช่าที่พักนั้น ถ้าเจอเพื่อนบ้านดีก็โชคดีไปเนอะ แต่ถ้าไม่เป็นแบบนั้นล่ะก็… เราต้องเจอกับปัญหามากมาย โดยเฉพาะปัญหากับเพื่อนบ้านที่อาจจะมีการทำเสียงรบกวนบ้างจนทำให้เรารำคาญใจ สำหรับคนที่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ก็อาจจะแก้ป้ญหาที่แตกต่างกันไป เช่น เข้าไปบอกเพื่อนบ้านตรงๆ หาอะไรอุดหู หรือถ้ายังไม่ดีขึ้นอีกก็คงต้องย้ายออกสินะ แต่สำหรับพ่อหนุ่มคนนี้ เมื่อถูกเพื่อนบ้านทำเสียงรบกวนบ่อยๆ เข้า เขาได้ทำการเอาคืนด้วยการซื้อเครื่องเขย่าตึกมา เพื่อให้เพื่อนบ้านห้องข้างบนได้รับรู้ถึงรสชาติการถูกรบกวน เรื่องนี้เกิดขึ้นกับหนุ่ม Zhao จากมณฑล Shaanxi ของจีน เขาได้ไปเช่าห้องพักแห่งหนึ่ง และมักจะถูกรบกวนจากห้องที่อยู่ชั้นบนอยู่เป็นประจำ ในวันหยุดของ Zhao แทนที่จะได้นอนพักผ่อนสบายๆ แต่ลูกชายของห้องชั้นบนมักจะวิ่งเล่นรอบห้อง บางทีก็กระโดดเสียงดัง จนทำให้เขาต้องตื่น สร้างความรำคาญไม่น้อยเลย แรกๆ ที่ถูกรบกวนแบบนี้ ชายหนุ่มพยายามจะหาเหตุผลดีๆ ไปคุยกับห้องชั้นบน และได้ขอให้พวกเขาเบาเสียงในบางช่วงเวลา แต่ทางห้องชั้นบนก็ไม่เคยทำตาม พวกเขายังคงทำเสียงรบกวนอย่างต่อเนื่อง และแล้วความอดทนของ Zhao ก็มาถึงจุดสิ้นสุด เขาตัดสินใจที่จะเอาคืนครอบครัวนี้อย่างจริงจัง ด้วยการสั่งซื้อ ‘เครื่องเขย่าตึก’ จากร้านค้าออนไลน์ ในราคา 2,000 บาท นอกจากนี้ เครื่องเขย่าตึกยังสามารถบังคับได้ด้วยสมาร์ทโฟน เพื่อให้การใช้งานนั้นง่ายยิ่งขึ้น และนั่นคือสิ่งที่ Zhao ทำ เขาตั้งเวลาให้เครื่องทำงานในวันศุกร์ตั้งแต่ 2 ทุ่มเป็นต้นไป…
-
บริษัทอังกฤษคิดค้นผลิตภัณฑ์ “ลูกบอลน้ำ” ดื่มได้ง่ายๆ หวังใช้ทดแทนขวดพลาสติก
เป็นเวลานานมาแล้วที่ขวดน้ำพลาสติกเข้ามามีบทบาทในชีวิตของมนุษย์ ซึ่งมันก็สร้างความสะดวกสบายในหลากหลายทาง แต่ในทางกลับกันด้วยผลระยะยาวมันก็สร้างปัญหาขยะจนมนุษย์เราต้องปวดหัวกับการจัดการมันทีเดียว ด้วยเหตุนี้ผู้คนมากมายต่างเริ่มที่จะหันมาสนใจในปัญหาขยะที่เกิดจากขวดพลาสติกที่เกิดขึ้น ด้วยการหาวัสดุหรือวิธีที่จะทดแทนขวดพลาสติกได้อย่างถาวร และล่าสุดบริษัทในประเทศอังกฤษ Rocks Lab ก็ได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ชื่อว่า Ooho! ขึ้นมา เจ้า Ooho! ที่ว่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีหน้าตาเป็นลูกบอลใสขนาดพอดีมือ โดยออกแบบมาเพื่อให้สามารถจะหยิบกินได้ทันทีและลดปริมานขวดพลาสติกให้น้อยลงจนไปถึงสามารถทดแทนมันได้จริงๆ ส่วนวัสดุที่ใช้ในการผลิตก็จะเป็นพลาสติกที่สกัดมาจากสาหร่ายธรรมชาติ ทำให้มันสามารถที่จะกินและย่อยสลายในท้องเราได้ทันที รวมถึงถ้าไม่มีการกินเกิดขึ้น เจ้าสาหร่ายลูกบอลน้ำนี้ มันก็จะย่อยสลายไปเองในระยะเวลา 4 ถึง 6 สัปดาห์ เป็นไงฟังดูแล้วสุดยอดเลยใช่ไหมล่ะ… แต่ถึงมันจะดูสุดยอดแค่ไหน มันก็ยังไม่สามารถทดแทนขวดพลาสติกได้อย่าง 100% ตามที่บริษัทตั้งเป้าไว้อยู่ดี เพราะปกติแล้วเวลาที่เรากินน้ำ เราก็มักจะกินน้ำในปริมาณที่เยอะ และตัว Ooho! ก็มีขนาดกับปริมาณที่เท่ากับการกินน้ำหนึ่งอึกเท่านั้น จึงเหมาะกับการใช้ในบางโอกาสที่ต้องกินน้ำเร็วๆ และปริมาณที่ไม่มากเพื่อดับกระหาย และอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญเลย ตัวผลิตภัณฑ์เป็นวัสดุที่อ่อน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการฉีกขาดในเวลาที่เกิดการกระแทกแรงๆ ได้ ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับการพกพาไปไหนขณะที่ทำกิจกรรมที่ต้องมีการกระแทกแรงๆ นั่นเอง สุดท้ายแล้วเจ้า Ooho! ก็ยังถือว่าเป็นความก้าวหน้าของการลดปริมาณขยะอยู่ดี และหวังว่าในอนาคตทางบริษัทจะพัฒนาคุณภาพรวมถึงรูปแบบของมันให้ใช้งานได้ในหลากหลายมากขึ้น รวมถึงมีคนอื่นนำไปต่อยอดด้วยเช่นกัน สำหรับงานวิ่งที่ต้องแจกขวดน้ำหรือแก้วน้ำให้นักวิ่งซึ่งสร้างขยะได้เยอะพอสมควร แต่เจ้าลูกนี้น่าจะช่วยลดปัญหาที่ว่าได้ระดับหนึ่งเลยนะเนี่ย ลองดูคลิปตัวอย่างเจ้า Ooho!…
-
นี่แหละแม่ของลูก… รวม 16 ภรรยาเกรียนๆ ที่เหล่าชายหนุ่มฝันอยากจะแต่งงานด้วย (มั้ง?)
จะว่าไปแล้วการเลือกใครซักคนมาอยู่เป็นคู่ชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน เพราะหลังจากที่ได้แต่งงานกันแล้ว เขาและเธอก็จะต้องอยู่ร่วมกันเป็นสามีภรรยาไปอีกนานหลายสิบปี (มันคือชีวิตหวานๆ ที่เราใฝ่ฝันใช่ไหมล่ะ) บ่อยครั้งเราจะได้เห็นพฤติกรรมเกรียนๆ ของมนุษย์ผัว ผู้ซึ่งชอบแกล้งเมียอยู่เป็นประจำ และยิ่งนานวันก็จะยิ่งแกล้งทวีความหนักขึ้นเรื่อย จนเราเห็นความฮาในโลกออนไลน์อยู่บ่อยๆ แต่ในวันนี้ เหล่าผัวทั้งหลาย ขอออกมาร่วมแชร์ภาพพฤติกรรมโคตรเกรียนจากมนุษย์เมีย จะร้ายได้ขนาดไหนนะถ้าพวกเธอขอแกล้งสามีคืนบ้าง 1. สามีบอกภรรยาว่า ‘อย่าคิดจะมาตัดเล็บเท้าตอนฉันหลับ!!’ แต่พอตื่นมาก็เจอแบบนี้ซะแล้ว 2. เมื่อสามีกลับบ้านมาเหนื่อยๆ ภรรยาจึงเตรียมการตอนรับไว้อย่างดี… 3. นี่ก็ยิ่งกว่า Gone Girl อีกล่ะมั้งเนี่ย? เมื่อภรรยาถาม.. ที่รักอยากเล่นเกมมั้ย? สามีผู้ติดเกมมีหรือจะรอช้า ‘เล่นสิจ๊ะ แต่เค้าขอเล่น Fallout4 นะ’ อ๊ะ!! เจอแผ่นแล้วอยู่นี่ไง ‘ไรอั้นจ๋า ฉันเอาแผ่นเกมของตัวเองไปซ่อนแหละ อย่าโกรธกันเลยนะ เราจะได้รู้สึกรักกันมากขึ้นไงล่ะ จุ๊บๆ’ ‘ล้อเล่นต่างหากโว้ย แผ่นเกมแกอยู่ใต้แผ่นรองเม้าส์ ลองหาดูสิ’ ‘จ๊ะเอ๋..!! ไอ้โง่ คิดว่าฉันโง่พอที่จะฆ่าตัวเองง่ายๆ แบบนี้เร๊อะ…
-
21 ภาพความเกรียนของเจ้าหมา นี่เอ็งเข้ามาทำลายช่วงเวลาดีๆ หมดเลยปั๊ดดโถ่ววว๊อยยย!!
เมื่อไหร่ที่เรากำลังจะมีช่วงเวลาดีๆ ของชีวิตละก็.. อย่าเผลอเชียวล่ะ เพราะไม่อย่างนั้นช่วงเวลาดีๆ ของคุณอาจหายไปได้ภายในช่วงพริบตาเดียว ดังนั้นเราจะพาไปชม 21 ตัวอย่างความงี่เง่าจากเจ้าหมาโง่ ที่ชาวเน็ตทั่วโลกต่างเอามาแชร์ผ่านเว็บไซต์ Boredpanda คงจะไม่มีอะไรเกรียนเท่านี้อีกแล้วแหละ ถ่ายรูปครอบครัวเหรอ? เซอไพรส์!! คู่รักกำลังจะถ่ายรูปสำหรับงานหมั้น แต่เจ้าตูบขอแจมด้วย เอ็งไปยืนอะไรตรงน๊านนน!! 1… 2… ชีสสสส… เรื่องถ่ายรูปหมู่นี่ขอให้บอก น้องตูบถนัด แต่ถนัดสุดก็คงเป็นอึ๊บหน้าหมู่ เดี๋ยวๆๆ แบบนี้ก็ได้เหรอ? แม้แต่ช่วงเวลาการขอแต่งงาน เจ้าตูบก็ไม่วายขอแจมด้วย จริงๆ จะถ่ายรูปปลานั่นแหละ แต่สายตาของตัวที่อยู่ข้างหลังแย่งซีนไปซะงั้น โผล่มาหน้ากล้องทีไร ดึงจุดโฟกัสไปทู๊กกที เค้าอุตส่าห์จะถ่ายรูปพ่อหนุ่มขับรถเท่ๆ นี่แกโผล่หน้ามาทำไม!? เมื่อตูบเห็นสาวๆ ถ่ายรูปกันมุ้งมิ้ง งานนี้เค้าขอถ่ายด้วยคนสิ แม้แต่หมาของไอร่อนแมนก็ยังไม่เว้น… เดี๋ยวๆ ไอ้ตัวข้างล่างโผล่มาจากไหนเนี่ย รูปนี้เกือบจะเพอร์เฟคแล้ว…
-
“Kinako” เจ้าเหมียวส้มผู้เปลี่ยน “คุณปู่อัลไซเมอร์” ให้กลับมามีชีวิตแฮปปี้ และสดใสอีกครั้ง
หลายคนอาจจะมองว่าชีวิตในวัยชรา เป็นช่วงที่เราได้พักทั้งกาย และใจอย่างเต็มที่ แต่ความจริงแล้วการที่ต้องอยู่ในช่วงปั้นปลายของชีวิตนั้น มันอาจไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับผู้สูงอายุหลายคนเลย เนื่องจากผู้สูงอายุส่วนใหญ่ อาจรู้สึกอ้างว้างเดียวดาย บางคนก็เกิดอาการเหงาได้ทุกเวลา เหมือนดังเช่น Jiji คุณปู่ในวัย 94 ปีคนนี้ เขาก็ต้องทนอยู่กับความเหงาของชีวิตวัยแก่เช่นกัน แต่ทว่าหลังจากที่ได้มาพบกับแมวเหมียวตัวหนึ่ง ชีวิตของคุณปู่ก็สดใสขึ้นมาทันทีเลย สำหรับคุณปู่ Jiji เขาอาศัยอยู่กับภรรยา และ Akiko DuPont หลานสาวผู้เป็นช่างภาพ ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหลังจากที่คุณปู่อายุมากแล้ว เขาก็ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์ และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณปู่ต้องสูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตไป จนกระทั่งเขาได้พบ Kinako ย้อนเวลากลับไปก่อนที่คุณปู่จะรู้ว่าตัวเองป่วย เขาก็เป็นคนๆ หนึ่งที่ใช่ชีวิตตามปกติเหมือนกับชาวญี่ปุ่นทั่วๆ ไป แถมคุณปู่ก็ยังเคยเป็นคนที่กระตือรือร้น และมีความสุขในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก แต่หลังจากที่ช่วงชีวิตเข้ามาสู่วัยชรา และยังต้องมาพบกับอาการป่วย นั่นทำให้คุณปู่ได้กลายเป็นคนชราที่ไม่มีความสุขในการใช้ชีวิตเลยแม้แต่น้อย เมื่อเป็นเช่นนี้ Akiko ผู้เป็นหลานสาวจึงคิดว่า เธอควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ปู่ของตัวเองกลับมามีความสุขอีกครั้ง นั่นจึงทำให้เธอได้รับเจ้าเหมียวส้ม Kinako วัยเพียง 4 เดือน…
-
มนุษย์ตกใจ เจ้าเหมียวไม่ยอมนั่งในวงกลม-สี่เหลี่ยม แต่นั่งใน “ดาวห้าแฉก” เอ็งเป็นปีศาจใช่มั้ย!?
ใครที่เลี้ยงแมวอยู่ อย่าชะล่าใจไปล่ะ เพราะเห็นน่ารักๆ แบบนี้ บางทีพวกมันอาจจะเป็นปีศาจแฝงตัวมาก็ได้ ไม่เชื่อลองทดสอบแมวของคุณดูสิ อย่างเช่น เจ้าของแมวคนนี้ที่ลองทดสอบว่า แมวจะเป็นปีศาจอย่างที่ใครๆ ว่ากันหรือเปล่า เขาเริ่มด้วยการวาดวงกลมบนพื้น แล้วดูว่าแมวจะตอบสนองอย่างไร… และก็จริงด้วย ปรากฏว่ามันไม่ตอบสนองอะไรเลย เจ้าเหมียวไม่ตอบสนองกับวงกลมเลย เมื่อเห็นแมวยังนอนนิ่ง เขาก็เลยลบวงกลมออกแล้วเปลี่ยนเป็นสี่เหลี่ยมแทน แต่เจ้าเหมียวตัวดีก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ อีกเช่นกัน ไม่แคร์สี่เหลี่ยมด้วย เช๊อะะะะ สุดท้ายเขาก็วาดรูปดาวห้าแฉก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจ หลังจากวาดเสร็จก็รอดูปฏิริริยาของแมวตัวเดิม… ปรากฏว่าเจ้าเหมียวมันตอบสนองต่อสัญลักษณ์นี้ทันที ด้วยการเข้าไปนั่งในตรงกลางของดาวห้าแฉกนี้ งั้นที่ใครๆ ว่าแมวเป็นปีศาจก็เป็นความจริงสิ โอ้วววม่ายยย!! แต่… อันนี้มันนั่ง แหม่ นี่มันอาจจะเป็นความบังเอิญก็ได้ ถ้าอยากมั่นใจ ทดสอบกับแมวของคุณดูสิ ที่มา boredpanda
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ 25 ภาพพัฒนาการฝีมือวาดรูป ตอกย้ำว่าไม่มีใคร “เก่งมาตั้งแต่เกิด”
ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นล้วนต้องอาศัยการเรียนรู้ ฝึกฝน และอดทน เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งนั้น ซึ่งมันอาจจะต้องใช้เวลาหน่อย แต่มันก็คุ้มค่านะ เช่นเดียวกับภาพวาดเหล่านี้ ที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของการวาดรูป แน่นอนว่าการวาดภาพครั้งแรกนั้นมันอาจจะออกมาธรรมดามาก แต่เมื่อฝึกฝนต่อไปเรื่อยๆ จะพบกับความสำเร็จที่เหลือเชื่อเลยล่ะ 1. ฝีมือของ Jade Mere 2005 vs 2017 2. Miles กับพัฒนาการในระยะเวลา 10 ปี 3. พัฒนาการภายใน 11 เดือนของ Itsmehoswa 4. พัฒนาการของ Abigail Diaz 5. ฝีมือของ Laura Brouwers ในเวลา 9 ปี 6. 1 ปี ของ Zary 7. ฝีมือของ Isvoc ใน 3 ปี 8. พัฒนาการของ Sara…
-
ชมตัวอย่าง “เข็มทะลุเหล็ก” หนังไทยแอคชั่นทะลุโลก (เงิบ) ระห่ำยิ่งกว่าหนังบอลลีวู้ด!!
หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ‘คนไทยถ้าตั้งใจทำอะไรก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก’ แน่นอนเราก็เป็นหนึ่งในคนที่เห็นด้วยกับข้อความปลุกใจข้างต้น ก็ถ้าคนไทยไม่สนับสนุนของไทย แล้วใครจะมาสนับสนุนของเรา? ดังนั้นเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับหนังไทยฟอร์มยักษ์ “เข็มทะลุเหล็ก” ที่หลายสำนักคาดคะเนกันว่ามาแรงแซง Fast 8 แล้วแบบนี้จะไม่ให้พวกเราสนับสนุนของไทยได้ยังไงกันเล่า… เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เอาเป็นว่าไปชมตัวอย่างหนังกันก่อนเลย หลังจากที่เราได้ชมตัวอย่างหนังที่ต้นสังกัดปล่อยออกมาแล้ว… เราก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่านี่แหละ หนังตลก เอ๊ยย หนังบู๊ที่จะมาเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ในปีต่อไปแน่นอน โดยผลงานทั้งหมดนี้เป็นการกำกับของ ดร.กิตติมศักดิ์ ประสิทธิชัย สุรยุทธคุณ (ชื่อเค้าเขียนมาแบบนี้จริงๆนะ) และหนังเรื่องนี้จะเสร็จสมบูรณ์ไปไม่ได้ ถ้าขาดฝีมือการกำกับด้านคิวบู๊จาก แดนนี่ แตง!! (อ่าวงงดิ ไม่เป็นไรงงเหมือนกัน) โดยเนื้อหาในภาพยนตร์จะเป็นการเล่าถึงเรื่องราวความรัก และความผูกพันธ์ของคนกับช้าง (คุ้นๆเนาะ) จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อความลับบางอย่างถูกสลักไว้บนงาช้าง และคนร้ายก็พยายามที่จะเข้ามาช่วงชิงความลับนั้นไป ซึ่งเป็นหน้าที่ของ ‘เข็ม’ (แดนนี่ แตง) ที่จะเข้ามาจัดการสะสางปัญหาทั้งหมด งานนี้มีนักแสดงชื่อดังหลายคนมาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น.. ดาว ขำมิน และโจอี้ เชิญยิ้ม ตามไปดูกันบ้างดีกว่าว่าหลังจากที่ชาวเน็ตได้ชมตัวอย่างหนังเรื่องนี้แล้ว พวกเขามีปฏิกิริยายังไงกันบ้าง… ก็นั่นแหละครับท่านผู้ชม… ทางเราก็สงสัยไม่แพ้กัน…
-
อะไรก็เกิดขึ้นได้… ตำรวจแต่งตั้ง “กิ้งก่ามังกรเครา” ให้เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจจับยาเสพติด!?
ถ้ามีคนบอกว่า ‘สัตว์โลก’ สามารถถูกฝึกให้ทำงานคู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ คนส่วนใหญ่ก็คงนึกถึงสุนัข สัตว์เลี้ยงที่ดูเหมือนจะเข้ากับมนุษย์ได้ดีที่สุด แต่ถ้าบอกว่าเป็นกิ้งก่าล่ะ? ใครเชื่อก็บ้าแล้ว!! และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ช่วยพิสูจน์ให้เราเห็นว่า อะไรๆ มันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เพราะที่รัฐแอริโซน่า สถานีตำรวจ Avondale Police Department มีเจ้ากิ้งก่าเบียร์ดดราก้อน (กิ้งก่ามังกรเครา) เป็นเจ้าพนักงานตรวจจับยาเสพติดอยู่จริงๆ เจ้าพนักงานตัวจิ๋วผู้นี้มีชื่อว่า Iroh ไม่มีใครรู้ว่าก่อนหน้านี้เจ้ากิ้งก่าน้อยไปผจญภัยที่ไหนมาบ้าง จนกระทั่งเมื่อต้นปีที่แล้วมันก็ปรากฏตัวอยู่ที่สถานีตำรวจแห่งนี้ และดูเหมือนมันจะรู้สึกชอบที่นี่เอามากๆ ซะด้วยสิ ซึ่งตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ประกาศลงในเฟซบุ๊กเล่นๆ ว่าจะมีการแต่งตั้งให้เจ้ากิ้งก่าจิ๋ว Iroh เป็นหนึ่งในทีมตรวจจับยาเสพติด และไม่น่าเชื่อว่าจมูกของมันสามารถจับกลิ่นยาเสพติดได้จริง!! มีการมอบตราสัญลักษณ์ตำรวจ และใบประกาศณียบัตร พร้อมทั้งกล่าวคำปฏิญาณตามธรรมเนียมทุกประการ ‘มีงานวิจัยที่ออกมายืนยันแล้วว่า ต่อมการรับกลิ่นของเจ้า Iroh ทำงานได้ดียิ่งกว่าสุนัข K-9 ซะอีกครับ ซึ่งเราก็ได้ลองพามันไปทดสอบการทำงานดู ผลปรากฏว่าจมูกของมันสามารถตรวจจับหายาเสพติดได้จริงๆ’ ผู้หมวดเล่า บางทีเจ้า Iroh ก็มาช่วยพี่ๆ ทำงานด้านเอกสาร แต่ส่วนใหญ่แล้วงานของมันคือการออกนอกพื้นที่กับนายตำรวจคู่ซี้ ตรวจตราความเรียบร้อยให้บ้านเมือง เอ่อเว่ยเฮ้ยย..ใครมันจะไปคิดล่ะ ว่ากิ้งก่าก็เป็นตำรวจได้…
-
แบบนี้ดิ!! ศิลปินรัสเซียสร้างภาพวาดสวยๆ บนรถยนต์สุดเขรอะ ที่ไม่ใช่บอกว่า ‘ล้างรถบ้าง’
เวลาที่ได้มองเห็นรถยนต์เขรอะๆ กำลังโลดเล่นอยู่บนท้องถนน มันก็ทำให้เราอยากจะเข้าไปบอกเจ้าของว่าล้างรถบ้างนะ แต่สำหรับ Nikita Golubev ศิลปินผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย คนนี้ เขาไม่คิดอย่างนั้นแน่นอน แต่เขากลับทำอะไรที่มันเจ๋งมากกว่าเดิมหลายเท่า และภาพทั้งหมดที่คุณกำลังจะได้เห็นนี้ บอกเลยว่ามันจะต้องทำให้คุณร้องว้าวอย่างแน่นอน เพราะทาง Nikita ได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิด โดยการเปลี่ยนรถยนต์สกปรกเลอะเทอะที่จอดนิ่งๆ อยู่ตามท้องถนน ให้กลายเป็นผลงานศิลปะได้อย่างน่าทึ่งแบบนี้… ไม่ว่าคุณจะต้องการ หรือไม่ต้องการให้รถถูกวาด แต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเห็นรถของคุณเต็มไปด้วยฝุ่น รถคันนั้นก็จะตกเป็นเป้าหมายทันที ต้องขอขอบคุณนักวาดภาพชาวรัสเซียคนนี้เป็นอย่างมาก ที่ได้มานำเสนอผลงานศิลปะที่น่าตื่นตาตื่นใจแบบนี้ให้เราได้ชมกัน บอกเลยว่ามันงดงามมากจริงๆ คงไม่มีใครเคยคิดหรอกว่า คราบสกปรกเลอะเทอะบนตัวรถ จะกลายมาเป็นชิ้นงานที่สวยงามแบบนี้ ไปรับชมผลงานของเขากัน . . . . . เพื่อนๆ คนไหนที่ชื่นชอบ สามารถเข้าไปรับชมผลงานอื่นๆ ของเขาได้ทั้งในอินสตาแกรม proboynick และเว็บไซต์ behance เลยจ้า ที่มา : boredpanda
-
IKEA สุดใจดี บริจาค “เตียงนอนตุ๊กตา” ให้น้องเหมียวในศูนย์พักพิง ได้นอนอย่างสบายๆ
ไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์เท่านั้นนะ ที่ต้องการพื้นที่สบายๆ ในการหลับนอน เพราะในความจริงแล้ว เพื่อนตัวน้อยของเราอย่างเจ้าเหมียว ก็ต้องการที่หลับนอน หรือเตียงนอนดีๆ เช่นกัน ด้วยเหตุนี้นี่เองที่ทำให้บริษัท IKEA ซึ่งเป็นแหล่งรวมสินค้า และอุปกรณ์เจ๋งๆ มากมาย ได้ทำการบริจาคเตียงนอนของตุ๊กตา Duktig doll (เตียงขนาดเล็กสำหรับตุ๊กตา) ให้กับบรรดาน้องเหมียวในศูนย์พักพิง Etobicoke Humane Society ที่รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา และนอกจากจะมอบเตียงอันแสนอบอุ่นให้แล้ว IKEA ยังใจดีสุดๆ มอบทุนให้กับทางศูนย์พักพิงอีกกว่า 300 เหรียญ หรือราวๆ 10,000 บาท เพื่ออนาคตอันสดใสของเพื่อนสี่ขาในศูนย์พักพิงอีกด้วย “เตียงเหล่านี้ง่ายต่อการทำความสะอาดเป็นอย่างมาก ตอนนี้เจ้า Catsby และ Frankie ก็ได้มีเตียงนอนอุ่นเป็นของตัวเอง เพื่อที่จะทำให้มันได้นอนขดตัวอย่างสบายๆ แล้ว” ทางศูนย์พักพิง Etobicoke Humane Society กล่าว สำหรับ IKEA เป็นห้างที่ไม่ได้มีการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์เพื่อสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะหรอก…
-
ร้านเหล้าหัวหมอ ทำเขาวงกตเพื่อเลี่ยงกฎหมายที่ว่า ต้องห่างจากถนนหลวง 500 เมตร!!
ที่ไหนมีสุรา ที่นั่นย่อมต้องมีกฎหมายควบคุมอยู่ อย่างบ้านเราก็เช่น ห้ามตั้งร้านเหล้าใกล้สถานศึกษา หรือกำหนดเวลาการซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น เราบินไปที่อินเดียบ้าง ที่นี่ก็มีกฎหมายเกี่ยวกับการตั้งร้านเหล้าเช่นกัน นั่นก็คือ ร้านเหล้าต้องอยู่ห่างจากถนนหลวงไม่ต่ำกว่า 500 เมตร ซึ่งเป็นกฎที่เพิ่งบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2017 ที่ผ่านมา ผลกระทบจากกฎหมายดังกล่าว ทำให้ร้านเหล้าหลายแห่งต้องปิดตัวลง เนื่องจากอยู่ใกล้ถนนต่ำกว่า 500 เมตร แต่ก็มีบางคนไม่ยอมปิดกิจการ แต่เลือกที่จะสรรหาวิธีรับมือกับกฎหมายใหม่แทน ร้าน Aishwarya Bar ใน Kerala ก็ถูกสั่งให้ปิดกิจการเช่นกัน แต่แทนที่จะปิด ทางร้านกลับหลีกเลี่ยงกฎหมายด้วยการล้อมร้านด้วยเขาวงกตที่มีความคดเคี้ยว เพื่อให้ระยะทางจากถนนถึงร้านเหล้านั้นห่างออกไปอีกหน่อย เจ้าของร้านได้จ้างคนงานให้มาทำอิฐบล็อกให้เป็นเขาวงกตล้อมรอบร้าน โดยใช้เวลาทั้งหมด 3 วัน จนทำให้ร้าน Aishwarya Bar อยู่ห่างจากถนนหลวงด้วยระยะ 520 เมตร (แหนะ!! มีเกินมา 20 เมตรเลยนะ) โดยเชื่อว่าวิธีนี้จะทำให้สามารถเปิดบริการต่อไปได้อย่างถูกต้อง Shiju P. ผู้จัดการร้านบอกว่า “เราไม่ได้ทำผิดกฎหมายนะครับ เพราะเราได้ทำให้ร้านอยู่ห่างจากถนนหลวงมากขึ้น…
-
เกือบไปแล้ว… หนุ่มแชร์ประสบการณ์ จะเกิดอะไรขึ้น หากคุณไม่ได้จ้างช่างภาพในงานแต่ง!?
งานแต่งงานนั้นนับว่าเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตวันหนึ่ง ดังนั้นหลายคนจึงทุ่มเทกับงานนี้มาก ตั้งแต่ถ่ายพรีเวดดิ้ง ชุดแต่งงาน ธีมงาน รวมถึงการช่างภาพในงาน สำหรับการเก็บภาพในงานนั้น หลายคนอาจไม่อยากจ้างช่างภาพ ด้วยนานาหลายเหตุผล เดี๋ยวขอภาพจากแขกในงานแทนก็ได้ แต่… จะบอกว่า ภาพที่ได้จากแขกที่มาร่วมงาน มันจะไม่เหมือนกับฝีมือช่างภาพมืออาชีพน่ะสิ!! รูปที่ได้จากแขกในงาน แล้วมันจะเป็นยังไงน่ะเหรอ? วันนี้ Eirik Halvorsen จะมาแชร์ประสบการณ์ตรงให้ได้รู้กัน เพื่อแสดงให้เห็นว่า ควรจะมีช่างภาพมืออาชีพในงานแต่งนะ!! Eirik เล่าว่า “ก่อนแต่งงานผมได้เข้ากลุ่มแต่งงานใน Facebook เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับงานแต่งงาน โดยได้บอกพวกเขาว่า ผมต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย จะมีช่องทางไหนที่ผมจะทำได้บ้างครับ?” คู่รักได้ไอเดียนี้จากกลุ่ม Facebook ทางด้านคนในกลุ่มแนะนำว่า “ไม่ต้องจ้างช่างภาพน่าจะช่วยได้เยอะนะ เพราะภาพในงานเราปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแขกที่มาร่วมงานก็ได้ หลังจากนั้นคุณก็แค่รวบรวมภาพจากพวกเขาแล้วรวมเป็นอัลบั้มของคุณเอง” แต่เมื่อถึงเวลาจริง Eirik ตัดสินใจที่จะไม่ทำตามคำแนะนำนั้น เขาได้จ้างช่างภาพในงานแต่ง เพื่อเก็บภาพบรรยากาศทั้งหมดเอาไว้ กันเหนียวไว้ก่อนนนนนนน หากจะประหยัดค่าใช้จ่าย ด้วยการไม่จ้างช่างภาพในงานแต่งล่ะ!? ปัจจุบันงานแต่งของเขาผ่านไปเกือบ 4 ปีแล้ว พวกเขาจึงได้นำภาพบรรยากาศในงานมาเปิดดูอีกครั้ง แล้วก็เห็นถึงความแตกต่างระหว่างฝีมือแขกกับฝีมือช่างภาพ… และนี่คือภาพที่ได้จากแขกในงาน …
-
หลีกทางไป!! 16 ภาพของบุคคลที่ใส่อะไรก็ดูดี ใครก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะมั่นใจซะอย่าง
เชื่อว่าเพื่อนๆ บางคนต้องเคยเจอปัญหาแบบนี้แน่ๆ อย่างเวลาจะออกไหนแต่ละทีต้องหมุนไปหมุนมา หมุนแล้วหมุนอีกอยู่หน่ากระจกว่าตัวเองนั้นดูดีหรือยัง สวยหรือยัง ชุดดูเวอร์ไปหรือเปล่า ยิ่งถ้าเป็นสาวๆ ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ ได้เลย แต่เพื่อนๆ เคยได้ยินหรือเปล่าว่า “แค่มั่นใจใส่อะไรก็สวย” ซึ่งไม่ว่าเราจะแต่งตัวแต่งหน้ามาอย่างไร แค่เรามีความมั่นใจเราก็จะดูสวยโดดเด่น เป็นสาวมั่นได้ขึ้นมาทันที ทฤษฎีนี้จะจริงหรือเปล่าน้าาา?? ถ้างั้นเราลองไปชมภาพของหนุ่มๆ สาวๆ ที่พวกเขาพกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า จะมั่น!! จะสตรอง!! แค่ไหนไปชมกัน 1. สาวใหญ่คนนี้มั่นสุดๆ ด้วยการโฉบบิกินี่สีดำสุดเซ็กซี่มาให้หนุ่มๆ ได้มองกันตาไม่กระพริบ บอกเลยว่าสวยแซ่บมวกกก 2. เอวลอยใครว่าใส่ได้แค่ผู้หญิง เป็นชายแท้ๆ ขอโชว์ขนอุยนุ่มๆ ให้สาวๆ ได้กรี๊ดบ้างไม่ได้หรอออ!? เซ็กซี่สุดๆ 3. ความชมพูก็มา ถึงฉันจะอวบและมีผิวสีแต่ก็มั่นใจทำไรก็ดูเก๋ไปหมดอยู่ดีนั่นล่ะ คนไหนทำไม่ได้อย่างฉัน ก็เงียบไปเลย!! 4. วันนี้อยากใส่อะไรก็หยิบๆ มา ฉันมั่นใจ ฉันมีความสุข 5. เรื่องแฟชั่นคุณยายไม่ยอมใครอยู่แล้ว ว่าแต่ลูกๆ หลานๆ สู้ยายได้ปะละ 6. ชิคๆ…
-
แชร์สูตร “Milo Cube” ขนมช็อกโกแลต กำลังฮอตเบอร์แรง ทำเองได้ง่ายด้วยนะ!!
หากจะพูดถึงขนมที่ฮอตฮิต และกำลังกลายเป็นกระแสที่โด่งดังในโลกออนไลน์ ณ วินาทีนี้ คงจะหนีไม่พ้นไมโลก้อน (Milo Cube) อย่างแน่นอน เพราะช่วงก่อนวันสงกรานต์ที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่าผู้คนในโลกออนไลน์ ต่างก็พาแชร์ภาพของเจ้าไมโลก้อนขนาดจิ๋ว ที่มีรูปร่างเป็นทรงสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ดูแล้วช่างไม่คุ้นตาคนไทยอย่างเราๆ ซะเหลือเกิน เพราะความแปลกเลยทำให้ใครๆ ต่างก็พากันอยากจะลิ้มลองรสชาติของมันดูสักครั้ง แต่ทว่าเจ้าไมโลชนิดนี้ มันช่างหายากซะเหลือ เนื่องจากมันไม่ได้มีวางจำหน่ายในบ้านเรา งานนี้ #เหมียวขี้อ้อน ก็เลยคิดว่าในเมื่อมันหาทานยากนัก และถ้าสั่งในอินเทอร์เนตก็มีราคาแพงแน่นอน ดังนั้น ทำทานเองเลยดีกว่า เพราะวัตถุดิบที่ใช้ก็มีเพียงไม่กี่อย่าง แถมยังทำง่ายมากๆ อีกด้วย หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจ อยากจะลองทำตามดูบ้าง ก็ขอเชิญเลื่อนลงมารับชมวิธีการทำ Milo Cube ไปพร้อมๆ กันเลย วัตถุดิบ -ไมโลดิบ 1 ถ้วยตวง -นมข้นหวาน 1/4 ถ้วยตวง อุปกรณ์ -ถ้วยผสม -ถาดรอง -ช้อน (สำหรับคน) -ถาดแช่น้ำแข็ง -ถ้วยตวง (ใช้หรือไม่ใช้ก็ได้)…
-
พาไปดูอาหารและพฤติกรรมแปลกๆ ของชาวฮิปสเตอร์ ทำให้ง่ายขึ้น หรือลำบากกว่าเดิม!?
ในปัจจุบันเทรนด์กระแสแฟชั่นใหม่สุดฮิตคงหนีไม่พ้นฮิปสเตอร์ เขาว่ากันว่าฮิปสเตอร์คือ เหล่าผู้คนที่ชื่นชอบเสื้อผ้า ดนตรี อาหาร และกิจกรรมต่างๆ ที่นอกเหนือไปจากความนิยมของสังคมกระแสหลัก # เหมียวหน่า จึงนำภาพทั้ง 25 ภาพ การทานอาหารแปลกๆ และพฤติกรรมงงๆ ของเหล่าฮิปเตอร์ จนคุณต้องคิดให้ดีก่อนว่าจะเป็นฮิปเตอร์ดีไหม จะเท่ ชิค คูล ขนาดไหนเราไปฝึกเป็นฮิปสเตอร์กันเลย!!! สปาเก็ตตี้เป็นจานมันตกเทรนด์ไปแล้ว ลองแบบโดนัทดูสิ 2. สลัดเป็นก็เหมือนกัน เบื่อแล้ว เอาผักมาจิ้มน้ำสลัดแล้วทานเลยดีกว่า 3. กินชาเแบบเดิมมันไม่ชิค ขอเปลี่ยนบีกเกอร์แทนได้ป่ะ ได้ฟีลนักวิทยาศาสตร์ 4. สปาเกตตี้แบบพกพา คือทำอะไรก็ได้ที่คนอื่นเข้าไม่ทำกันฮิปสเตอร์จริงๆ 5. เสิร์ฟในจานมันไม่ชิด ลองเสิร์ฟจากชั้นวางหนังสือดูสิ เฮ้อออ ดูลำบาก… 6. สลัดที่เป็นสลัดจริงๆ 7. ฮิปสเตอร์เลี้ยงแมวมันเยอะแล้ว ลองเลี้ยงนกยูงดูบ้างสิ 8. เอาเลโก้มาทำเป็นชาม เจ๋งดีเหมือนกันนะเนี้ย 9.…
-
‘Weed Tea’ ผลิตภัณฑ์น้ำชา สกัดจากกัญชา อ้างสรรพคุณช่วยบันดาลหัวเราะให้เกิดขึ้นได้!!
กำลังเป็นที่พูดถึงของคนไทยทั้งประเทศ เกี่ยวกับสินค้าน้ำวิเศษยี่ห้อหนึ่งที่วางขายใน 7-11 ที่มีคนแห่กันไปซื้อมารีวิวให้เพียบ และได้ผลสรุปว่าดื่มแล้วรู้สึกอารมณ์ดี ผ่อนคลาย บางคนถึงกับหัวเราะออกมาเองเลยก็มี (จริงอ๊ะ?) แต่จะว่าไปแล้วถ้าพูดถึงอะไรที่ทำให้หัวเราะออกมาเองได้ มันก็ชวนให้เรานึกถึง ‘กัญชา’ เพราะฉะนั้นเราจะพาไปรู้จักกับชาที่ทำมาจากกัญชา งานนี้กล้ารับประกันเลยว่าดื่มแล้วหัวเราะเองได้จริง!! รูปตัวอย่างผลิตภัณฑ์ (ขออนุญาตไม่เปิดวาร์ปนะ เหมียวไม่อยากโดนปรับทัศนคติ) ต้องบอกก่อนว่าบทความนี้เราไม่ได้มาแนะนำแหล่งซื้อขายของผิดกฎหมายนะ เพียงแต่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ ‘ชา’ ที่สกัดมาจาก ‘กัญชา’ เท่านั้นเอง ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ซะทีเดียว เพราะมีหลากหลายวัฒนธรรมที่มีการสกัดชาจากกัญชามาตั้งแต่อดีต บ้างก็เกี่ยวโยงกับความเชื่อทางศาสนา (อย่างเช่นอินเดีย) บ้างก็ถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านอย่างหนึ่ง ภาพตัวอย่างชาจากกัญชาในอินเดีย ที่เรียกว่า ‘บัง’ (Bhang) หลังจากดื่มไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น? ถึงแม้ว่าจะเป็นการนำกัญชามาเข้าสู่กระบวนการทำให้เป็นน้ำชา แต่สาร THC ตัวสำคัญยังคงอยู่ ทำให้หลังจากที่ได้ดื่มเข้าไปแล้ว สารดังกล่าวจะเริ่มออกฤทธิ์ภายในระยะเวลา 30 นาที – 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับระดับเผาผลาญในเม็ดเลือดของแต่ละคน ซึ่งกลไกการทำงานของสาร THC จากน้ำชา จะทำงานคล้ายคลึงกับวิธีการสูบกัญชานั่นเอง มันจะออกฤทธิ์ต่อสมองทำให้เราเกิดความรู้สึกเคลิบเคลิ้ม สบายตัว หรืออาจจะทำให้บางคนรู้สึกง่วงนอนไปเลยก็เป็นได้…