คุณหมออายุกว่า 105 ปี ผู้ผ่านโลกมาแล้วมากมาย และเคยบอกให้ “ซัดดัม” เลิกบุหรี่!!

“อาบน้ำร้อนมาก่อน” คงเป็นสุภาษิตที่หลายคนคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เพราะผู้ที่มีอายุมากนั้นมักจะผ่านเหตุการณ์สำคัญๆ และมีประสบการ์ในการใช้ชีวิตที่มากกว่า การเรียนรู้หรือทำความรู้จักกับชีวิตของผู้มากประสบการณ์เหล่านั้นก็เหมือนกับเราได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปด้วยในตัว

หลายๆ คนที่มีอายุร่นคุณปู่คุณย่าของเรานั้นก็คงจะผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มามากมาย ถ้าหากใครเคยดูหนังรางวัลออสก้าเรื่องดังอย่าง ฟอร์เรสท์ กัมพ์ ที่พระเอกของเรานั้นผ่านเหตุการณ์สำคัญๆ มาอย่างมากมายเหลือเกิน

และต่อจากนี้เราจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับฟอร์เรสท์ ในโลกแห่งความเป็นจริง พร้อมทั้งเรียนรู้ประวัติศาสตร์กับแพทย์อาวุโสท่านหนึ่งที่มีอายุถึง 105 ปีและมีประสบการการใช้ชีวิตอย่างโชคโชนมากมาย ทั้งเคยผ่านค่ายกักกันทหารที่เกาะนรกของญี่ปุ่มมาแล้ว เคยสั่งให้ซัดดัม ฮุสเซนงดบุหรี่!! และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ทุกวันนี้เค้ายังคงเป็นคุณหมออยู่

นายแพทย์อาวุโสท่านนี้มีชื่อว่า คุณหมอ Bill Frankland เป็นลูกของนายอำเภอ เกิดเมื่อวันที่ 19 มีนาคมปี 1912 ในรัฐเท็กซัส ประเทศอเมริกาและย้ายตามครอบครัวมายังประเทศอังกฤษมี คุณหมอพี่น้องทั้งหมด 4 คนและเขาเป็นคนสุดท้อง เมื่อไม่นานมานี้คุณปู่เพิ่งได้รับการ์ดอวยพรวันเกิดครบ 105 ปีจากราชินีอังกฤษ

ถึงแม้ว่าจะอายุมากกว่า 100 ปีแล้วแต่เขายังคงทำงานวิจัยทางการแพทย์อยู่และเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา งานวิจัยชิ้นล่าสุดของเขาเพิ่งจะถูกตีพิมพ์ ในชื่อ “การศึกษาแผลไฟไหม้เรื้อรังของเชลยสงครามในช่วงปี 1942 ถึง 1945” 

คุณหมอผู้เชี่ยวชาญทางด้านการรักษาเกี่ยวกับทางเดินหายใจท่านนี้ถูกยกย่องให้เป็น “Grandfather of Allergy” หรือคุณปู่แห่งโรคภูมิแพ้เลยทีเดียว

“สาเหตุที่ผมตัดสินใจมาเป็นหมอก็เพราะว่า การวินิจฉัยโรคในสมัยก่อนไม่มีความถูกต้องแม่นยำมากเพียงพอ พี่สาวของผมและน้องชายฝาแฝด ต้องถูกตัดต่อมทอลซินออกเพราะหมอวินิจฉัยโรคผิดผลาด” คุณหมอผู้อาวุโสกล่าว

“ผมว่าการเป็นหมอก็เหมือนการเป็นนักสืบ การวินิจฉัยคนไข้ก็เหมือนการสืบสวนหาความจริง” คุณปู่ Frankland เสริม

Frankland และ Pauline ภรรยาของเขา ในวันแต่งงาน ปี 1941 ก่อนที่จะถูกย้ายไปประจำอยู่ที่สิงคโปร์

หลังจากที่จบการศึกษาจากทางการแพทย์จาก St Mary’s Hospital ลอนดอน ประเทศอังกฤษก็ได้เข้ารับราชการเป็นหน่วยแพทย์ของกองทัพและถูกส่งไปประจำการอยู่ที่สิงคโปร์หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดสงครามอ่าวเพิร์ล ฮาร์เบอร์ขึ้น

โรงพยาบาลที่เขาทำงานอยู่ที่สิงคโปร์ถูกโจมตี เพื่อนร่วมงานถูกสังหารไปมากกว่าครึ่ง ส่วนตัวเขาถูกจับไปเป็นเชลยที่ค่ายกักกันอันโด่งดัง Changi และต้องทนทุกข์ทรมาณเป็นเวลานาน

เขาเล่าว่า “เราอดอยากอย่างมากในค่ายกักกันนั่น ผมและเพื่อนผอมแห้งมากพวกเราแทบไม่ได้กินอะไรเลย ผมเคยเกือบโดนทหารญี่ปุ่นเอามีดปลายปืนเสียบเข้าที่หน้าอกแล้ว แต่โชคดีที่เพื่อนผมช่วยเอาไว้ได้”

หลังจากเป็นอิสระในปี 1945 เขากลับมาทำงานที่โรงพยาบาล St Mary’s ตามเดิมและได้มีโอกาสทำงานและใกล้ชิดกับดอกเตอร์ Alexander Fleming ผู้คิดค้นยาเพนนิซิลีนด้วย

ในปี 1979 เป็นอีกหนึ่งปีที่น่าตื่นเต้นของ ด๊อกเตอร์ Frankland เขาได้เข้ารับการรักษาให้กับพบกับซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำคนใหม่ของอิรัก

“เขาบอกผมว่าเป็นโรคหอบหืดและภูมิแพ้ แต่เมื่อทำการทดสอบทางผิวหนังแล้วกลับไม่พบอาการของโรคแต่อย่างใด แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือเค้าสูบบุหรี่จัดมากถึงวันละ 40 ตัว

ผมบอกกับเขาว่าถ้าหากคุณไม่ดูแลสุขภาพของตัวเองอีกสองปีข้างหน้าคุณอาจจะไม่ได้เป็นประธานาธิบดีก็ได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนขอทานหรือประธานาธิบดีถ้าหากยังไม่ใส่ใจกับสุขภาพ ผมจะไม่เสียเวลามารักษาคุณหรอก”

เช้าวันรุ่งขึ้นมีคนมาบอกผมว่า ผู้นำของเขากำลังปฏิบัติตามคำแนะนำของผมอย่างเคร่งครัด ผมดีใจมากที่เห็นเขาพยายามแบบนั้น แต่หลังจากนั้นไม่นานผมเพิ่งทราบข่าวว่าเขายิงรัฐมนตรีสาธารณะสุขของตัวเองตายเพราะมีความคิดเห็นขัดแย้งกับเขา” คุณปู่แห่งโรคภูมิแพ้กล่าว

ความสำเร็จและประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของเขาเป็นสิ่งที่ยังคงทำให้เขาได้รับความเคารพมาจนถึงทุกวันนี้

โอโห ถือว่าเป็นคนแก่ที่มีประสบการณ์มากมายเลยนะเนี่ย เห็นเรื่องราวของคุณหมอท่านนี้แล้วนึกถึงหนังเรื่อง ฟอร์เรสท์ กัมพ์ ขึ้นทันที

ที่มา dailymail