Category: ข่าวคราวรอบโลก

มีนักวิชาการและนักโภชนาการหลายต่อหลายคนออกมาเตือนผู้ปกครองเกี่ยวกับการป้อนอาหารแก่เด็กเล็กๆ ว่าควรจะกินอาหารที่มีประโยชน์ เช่นการดื่มนมจากอกของแม่หรือทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่ก็ยังคงมีพ่อแม่ชาวอินโดนีเซียบางคนที่ยังคงให้ลูกๆ ของพวกเขากินอาหารกระป๋องหรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่     ซึ่งอาหารเหล่านั้นอุดมไปด้วยโซเดียมจำนวนมากและไม่ได้มีสารอาหารอะไรเลย ทางการของอินโดนีเซียจึงได้จัดงานประชุมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แล้วบอกว่า “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กโตมาเป็นเกย์ได้?     เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Takepart ได้รายงานว่า อินโดนีเซียได้มีการจัดงานประชุมการส่งเสริมโภชนาการที่เมือง Tangerang ประเทศอิโดนีเซีย โดยนายกเทศมนตรี Arief Wismansyah ได้ออกมากล่าวว่า “เพื่อที่จะสร้างเด็กชาวอินโดนีเซียที่มีสุขภาพดี ฉลาดและแข็งแรง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การให้พวกเขารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะการดื่มนมแม่”     นายกเทศมนตรี Wismansyah ยังบอกอีกว่าพ่อแม่รุ่นใหม่เอาแต่ทำงานจนไม่มีเวลาหาอาหารที่มีประโยชน์ให้เด็กๆ และให้พวกเขากินแต่นมกระป๋องหรือบำหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งไม่มีคุณค่าทางสารอาหารเท่าไหร่ “ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมเราถึงมีกลุ่ม LGBT (กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ) มากขึ้น”     นอกจากนี้นายกเทศมนตรียังกล่าวอีกว่ากลุ่มเด็กๆ ที่ได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพออาจส่งผลให้พวกเขามีพัฒนาการที่บกพร่องทางร่างกายได้ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ใดๆ ที่จะชี้ชัดว่าการกินอาหารเหล่านั้นมีปัจจัยต่อการเบี่ยงเบนทางเพศ   ไม่รู้ว่านายกเทศมนตรีมีความแค้นอะไรกับผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรือเปล่านะเนี๊ยะ แต่ที่แน่ๆ การให้เด็กๆ กินบะหมี่กึ่งแต่เล็กก็เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอยู่แล้วล่ะนะ ที่มา takepart

จะว่าไปแล้วก็ต้องยอมรับว่าเป็นข่าวคราวที่โหดเหี้ยมและสะเทือนใจมากจริงๆ สำหรับการประหารประชากรชายทั้งหมู่บ้าน ในแถบตอนใต้ของประเทศอิหร่าน หลังจากหน่วยงานในพื้นที่ตรวจสอบพบว่าพวกเขามีส่วนพัวพันกับการค้ายาเสพติด!!? Shahindokht Molaverdi รองประธานด้านสตรีและครอบครัวได้ออกมากล่าวว่า ‘ประชากรชายในหมู่บ้านแห่งนั้นทั้งหมด (ไม่ได้พูดชื่อหมู่บ้าน) ถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิต แม้กระทั่งเด็กๆ เพราะพวกเขามีแนวโน้มที่จะเติบโตมาเป็นผู้ค้ายาเช่นกัน และจะหาช่องทางแก้แค้นให้กับครอบครัวพวกเขาอย่างแน่นอน เราจะไม่สนับสนุนผู้คนแบบนี้ ให้ก่อเหตุการณ์เช่นนี้อีก’ สำหรับประเทศอิหร่านก็ถือว่าเป็นอันดับ 2 ในด้านการประหารนักโทษ รองจากประเทศจีนเพียงประเทศเดียวเท่านั้น จากรายงานในปี 2015 ที่เพียงไม่ถึงครึ่งปีแรก ประเทศอิหร่านได้ประหารนักโทษด้วยการแขวนคอไปถึง 700 คนด้วยกัน!!!   Shahindokht Molaverdi   Molaverdi ยังกล่าวต่ออีกว่า แต่ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Hassan Rouhani พวกเราได้นำเอาครอบครัวของเหล่านักโทษที่ถูกประหารมาเข้าโปรแกรมสนับสนุน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในแผนงานพัฒนาประเทศ ‘เราเชื่อว่าถ้าเราไม่สนับสนุนผู้คนเหล่านี้ พวกเขาก็จะกลับไปกระทำความผิดอีก และนี่คือเหตุผลที่สังคมต้องร่วมรับผิดชอบความเป็นอยู่ของครอบครัวผู้ถูกประหาร’ สำหรับการกระทำนี้ก็เรียกได้ว่ามีผู้ไม่เห็นด้วยอย่างมาก โดยเฉพาะ Maya Foa หนึ่งในสมาชิกของแคมเปญต่อต้านการประหารชีวิต กล่าวว่า ‘เราเห็นได้ชัดเลยล่ะว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอัตราการประหารชีวิตของประเทศอิหร่านถึงพุ่งขึ้นสูงมากๆ นั่นก็เพราะพวกเขาเล่นประหารชีวิตประชากรชายไปทั้งหมู่บ้านนี่เอง แถมเชื่อสิว่าการประหารเหล่านี้น่ะไม่ได้ผ่านการไต่สวน สืบสวนอย่างเป็นธรรม และผู้ถูกประหารก็ยังถูกทารุณต่างๆ นานาด้วยล่ะ’     และเหตุผลดังกล่าวนั้นเป็นหนึ่งที่ทำให้นักเคลื่อนไหวทางสังคมหลายคนออกมาร้องขอให้ UN เลิกสนับสนุนทางการเงินให้กับประเทศอิหร่าน เพื่อไปใช้ในการปราบปรามการค้ายาเสพติด…

สำหรับในบ้านเรา น้อยครั้งมากจริงๆ ที่จะได้เห็นรถหน้าตาแปลกประหลาดออกมาโลดแล่นอยู่บนท้องถนน แต่ถ้าเป็นพี่จีนละก็ เรียกได้ว่าภาพแบบนี้มักจะมีให้เห็นได้บ่อยๆ กันเลยละ และล่าสุด เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยภาพของหนุ่มรายหนึ่ง ที่มาพร้อมกับรถคันจิ๋วรูปร่างคล้ายกระสุนขับซิ่งอยู่ในเมืองหนานชาง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ทำเอาผู้ใช้รถใช้ถนนต่างก็พากันงงว่านี่มันคือรถอะไรกันละเนี่ย     จากภาพเราจะเห็นได้ว่า โครงสร้างภายในของรถจิ๋วคันนี้ น่าจะเป็นรถถีบคล้ายจักรยาน โดยภายนอกรถจะใช้พลาสติกหุ้มอีกทีหนึ่ง     แต่ทว่ารถประหลาดคันนี้ ดูเหมือนจะไม่ได้นำออกมาโลดแล่นอยู่บนถนนอีกแล้วละสิ เพราะเมื่อตำรวจจราจรเมืองหนานชางบังเอิญมาพบเข้า จึงรีบจัดการบอกให้ชายหนุ่มลงมาจากรถทันที แถมยังสั่งห้ามไม่ให้นำรถลักษณะนี้ออกมาขับบนถนนอีก     และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกซะด้วยสิ ที่นักประดิษฐ์ชาวจีนทั้งหลาย นำรถประหลาดที่พวกเขาได้สร้างกับมือออกมาวิ่งอยู่บนถนน เพราะจากที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่ามีรถแปลกๆ ถูกนำเอาออกมาโชว์เก๋มากมาย ไม่ว่าจะเป็น…   รถเครื่องบิน D.I.Y   รถที่ทำจากไม้ทั้งคัน   หรือจะเป็นรถไม้แบบโบร๊าณโบราณก็มีมาแล้วนะจ๊ะๆ   แหมๆ เรื่องไอเดียออกแบบรถต้องขอยกให้พี่จีนเค้าละ หน้าตาแต่ละคันสร้างสรรค์เกิ๊น ที่มา : shanghaiist

เรียกว่าเป็นหนังสือที่โด่งดังและประสบความสำเร็จที่สุดในโลกในยุคปัจจุบันก็คงจะไม่ผิดอะไร สำหรับวรรณกรรมเยาวชนชุด Harry Potter ของนักเขียน J.K. Rowling ซึ่งแม้จะจบไปหลายปีแล้ว แต่ก็ยังมีคนพูดถึงอยู่เรื่อยๆ   ล่าสุดมีการเปิดเผยว่า ทางเว็บไซต์ขายหนังสือออนไลน์ AbeBook ได้ปล่อยหนังสือไกด์ไลน์เกี่ยวกับหนังสือหายากที่เหล่านักสะสมต้องการครอบครองมากที่สุด และหนังสือชุด Harry Potter ก็มีอยู่ในลิสต์เช่นกัน จะมีเล่มไหนบ้าง ไปชมกันเลย ไม่แน่…คุณอาจมีขุมทองอยู่บนชั้นหนังสือของคุณก็เป็นได้!!     1. เริ่มจาก หนังสือ Harry Potter ภาคแรก the Philosopher’s Stone ฉบับปกแข็ง พิมพ์ครั้งที่ 1 ที่มีเลขการพิมพ์ 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 และเครดิตเขียนว่า “Joanne Rowling” แทนที่จะเป็น “J.K. Rowling” ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1997 ถือว่าเป็นเหมือน “จอกศักดิ์สิทธิ์” ของเหล่าสาวกแฮรี่ พ็อตเตอร์เลยทีเดียว…

ในตอนนี้เรื่องราวของการนั่ง ‘ขรี้’ กลางที่สาธารณะจะเกิดขึ้นบ่อยมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน รวมไปถึงประเทศรัสเซียก็ได้เกิดเหตุการณ์นั่ง ‘ขรี้’ ในที่สาธารณะมาแล้วเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้เผยภาพวงจรปิดจากซูเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่ง ในประเทศรัสเซีย ซึ่งจากภาพเราจะเห็นได้ว่ามีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง กำลังเดินช้อปปิ้งอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้     แต่แล้วจู่ๆ เธอก็แสดงอาการพิรุธออกมา เริ่มจากการหันมองซ้ายมองขวา ก่อนหันหลังให้กับตู้แช่ผัก จากนั้นเธอก็เอามือปลดกางเกงลง แล้วนั่งหย่อนก้นลงทันที งานนี้สงสัยข้าศึกจะบุก จนไม่สามารถตั้งรับมือได้ทัน ก็เลยปล่อยมันตรงนี้นี่แหละ     แหมๆๆๆ คุณป้าแกมีการระแวงกลัวคนจะมาเห็น ถึงกับมองซ้ายมองขวาก่อนนั่งปลดทุกข์ แต่กลับไม่ได้สนใจหญิงอีกรายที่กำลังเลือกซื้อของอยู่ใกล้ๆ ซะงั้น จนหญิงเสื้อสีฟ้าเผอิญเหลียวมาเห็นฉากนั่งขรี้เต็มๆ ตา ทำเอาเธอถึงกับผงะ แล้วรีบเดินหนีไปทันที     เรียกได้ว่าเมื่อคลิปวีดีโอนี้ ถูกเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียล ต่างก็มีชาวเน็ตแห่กันเข้าไปชมคลิปเหตุการณ์ชวนตะลึงของคุณป้ากันมากมาย ซึ่งในตอนนี้ก็มียอดวิวกว่า 2.5 ล้านครั้งแล้วนะจ๊ะ   ว่าแล้วก็ลองไปชมคลิปกันเลย   ที่มา : mirror

การออกกำลังกายถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะมันช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายเราสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้อีกด้วย ดั่งที่เราเห็นว่ามีหน่วยงานออกมารณรงค์ให้ประชาชนออกกำลังอยู่ตลอด แต่การออกกำลังกายนั้น ควรออกอย่างมีสติและรู้ขีดจำกัดของตนเอง ไม่เช่นนั้นเรื่องราวที่ควรจะออกมาดี อาจกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่หลายคนไม่อยากเจอก็เป็นได้ ดั่งเช่นหนุ่มอังกฤษคนนี้     เรื่องราวเกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันวิ่งมาราธอนในประเทศมอลตา มีชายชาวอังกฤษคนหนึ่งล้มลงในช่วงไม่กี่สิบเมตรก่อนถึงเส้นชัย เนื่องจากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน แม้ทีมแพทย์ประจำการแข่งขันจะพยายามช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทันการ แหล่งข่าวท้องถิ่นรายงานว่า ภรรยาของผู้เสียชีวิตได้มาร่วมชมการแข่งขันด้วย เธอบอกว่าสามีของเธอมีอาการเจ็บหน้าอกเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ซึ่งสามีของเธอได้ไปพบแพทย์แล้ว แต่แพทย์ยืนยันว่า เขาสามารถเข้าร่วมการแข่งขันวิ่งได้อย่างปกติ จนกระทั่งเกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นอย่างที่ได้รายงานไป     ล่าสุดทางโฆษกสำนักงานต่างประเทศและเครือจักรภพได้ออกมาแสดงความเสียใจแก่เรื่องดังกล่าว “พวกเราจะยืนเคียงข้างและจะคอยช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตในช่วงเวลายากลำบาก” สำหรับในประเทศไทยเอง ก็เคยมีข่าวทำนองนี้เช่นกัน กับข่าวที่หนุ่มหัวใจวายเสียชีวิตคาลู่วิ่ง ในฟิตเนสเซ็นเตอร์บนห้างดังแห่งหนึ่ง (ข่าวเก่า) จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศมาแล้ว   เห็นแบบนี้แล้ว ใครจะออกกำลังกาย ก็ขอให้ดูขีดจำกัดของตัวเองด้วยนะเหมียว ไม่งั้นอาจเกิดเรื่องน่าเศร้าแบบนี้ได้ ที่มา Metro

อื้อหือออ งานนี้เหยื่อราคะอาจไม่ใช่สาวๆ ซะแล้ว แต่เป็นท่านชายที่เดินเตร็ดเตร่ไปมาตามท้องถนนยามวิกาลในประเทศซิมบับเวไปซะนี่!!? ล่าสุดทางกรมตำรวจประเทศซิมบับเวได้ออกมาเตือนประชาชน โดยเฉพาะเพศชายให้ระวังแก๊ง ‘3 สาวนักรีดอสุจิ’ ที่กำลังอาละวาดลากชายหนุ่มไปข่มขืนแบบรุมโทรม แล้วนำเสปิร์มดังกล่าวไปประกอบพิธีกรรมบางอย่าง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองบูลาวาโย ประเทศซิมบับเว ซึ่งทางโฆษกของกรมตำรวจ บูลาวาโย ประเทศซิมบับเว ได้ออกมากล่าวเตือนประชาชนโดยเฉพาะเหล่าชายหนุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการโบกรถตามถนนทางหลวงมิเช่นนั้นอาจโดนสามสาวลากไปข่มขืนได้   นักรีดอสุจิ!!?     ซึ่งจากคำให้การของหนุ่มๆ หลายรายได้กล่าวคล้ายๆ กันว่า สาว ๆ ในแก๊งนี้ขับรถยี่ห้อโตโยต้าสีขาว มักออกหาเหยื่อเป็นชายหนุ่มที่บังเอิญมาโบกรถเพื่อขอติดรถไปตามทางด้วย ก่อนจะจอดรถในที่ลับตาคนเพื่อลงมือรุมข่มขืนเหยื่อชายหนุ่มอย่าทารุณ หญิงสาวหนึ่งคนจะใช้ถุงยางอนามัยขณะลงมือขืนใจเหยื่อ ในขณะที่อีก 2 รายมีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อโดยปราศจากการป้องกันใดๆ และพอได้น้ำอสุจิและสาแก่ใจพวกเธอแล้ว ก็จะโยนเหยื่อราคะไว้ข้างถนน   ทารุณเหลือเกินนนน     สำหรับตอนนี้ทางกรมตำรวจก็ยังไม่ทราบถึงแรงจูงใจที่ทำให้เกิดพฤติกรรมเช่นนี้  แต่คาดกันว่าน่าจะเป็นเพราะความเชื่อด้านพิธีกรรม เพราะกรณีดังกล่าวคล้ายคลึงกับคดีที่เคยเกิดขึ้นบ่อยครั้งเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนได้มีการบุกเข้าจับกุมสาวสามพี่น้องและชายหนุ่มอีกหนึ่งราย ที่กำลังทำการรุมโทรมเหยื่อเพศชายในห้อง โดยทั้งหมดให้การสารภาพว่า การเก็บน้ำอสุจินั้นเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมที่มีชื่อว่า “จูจู” ซึ่งเป็นพิธีเสริมดวงชะตาตามความเชื่อ…   อื้อหือออ เป็นอะไรที่โหดร้ายทารุณที่สุดเลยนะเนี่ย หนุ่มๆ คนไหนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศนี้ เมืองนี้ก็ระวังตัวกันไว้นะจ๊ะ หรืออยากลองของก็แล้วแต่ งานนี้ #จ่าสิบเหมียว ลาก่อยยยย >< ที่มา:…

ปารีส ถือเป็นเมืองในฝันของหลายๆคนที่ชอบการท่องเที่ยวและเดินทาง ด้วยความงามแบบเมืองผู้ดี บวกกับสถาปัตยกรรม แฟชั่น อาหารและงานศิลปะแบบฝรั่งเศส ทำให้มีนักท่องเที่ยวไหลเวียนเป็นจำนวนมาก     แต่คนจนๆอย่าง #เหมียวสามสี ก็คงต้องเก็บตังอีกหลายปี กว่าจะได้ไปที่นั่น ตอนนี้ก็ได้แค่นั่นดูหนังหรือคลิปที่เกี่ยวกับปารีส จนกระทั่งได้มาเจอคลิปนี้เข้า ทำเอาอิ่มอกอิ่มใจไปเลย ที่ที่คนนิยมไปก็มักจะเป็นพิพิธภัณฑ์ลูฟ โรงอุปรากรปาแลการ์นีเย หรือจะเป็น พระราชวังแวร์ซาย เราก็สามารถเก็บได้หมดจากคลิปนี้คลิปเดียว อย่ารอช้า เราไปชมกันก่อนเลยดีกว่า   คลิปนี้ถ่ายโดยช่างภาพ Tyler Fairbank เขาได้ใช้เวลากว่า 2 อาทิตย์ในการอยู่ที่ปารีสแห่งนี้กับแฟนสาวของเขา พร้อมกับถ่ายวิดีโอแบบ time-lapse เพื่อให้เห็นวิวของเมืองได้อย่างชัดเจนและทุกส่วนที่เขาได้ไป พอได้ดูพร้อมกับภาพชัดๆแบบ HD ดีแล้ว มันก็ฟินไปอีกแบบโดยที่ไม่ต้องไปจริงๆ ก็ยังได้เลยอ่ะ ตอบโจทย์ดีจริงๆเลย ที่มา Tyler Fairbank

หนึ่งในสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของกรุงลอนดอนนอกจากหอนาฬิกา ชิงช้าสวรรค์ London’s Eye หรือรถบัสสีแดงสองชั้นแล้วก็คงจะมีตู้โทรศัพท์สาธารณะสีแดงนี่แหละที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ล่ะ แต่น่าเสียดายที่การเข้ามาของสมาร์ทโฟนและโทรศัพท์มือถือต่างๆ ทำให้ตู้เหล่านี้ค่อยๆ หายไปเพราะไม่มีใครใช้งาน แต่คู่รักคู่นี้กลับขอซื้อมา 1 ตู้ แล้วเปิดเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ซะเลย ร้านกาแฟของพวกเขาชื่อว่า Kape Barako เปิดที่ถนน Hampstead High ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2559 ต้นเดือนที่ผ่านมานี้เอง   Umar Khalid และ Alona Guerra   เริ่มจากการขายของง่ายๆ อย่างกาฟ น้ำชา รวมถึงช็อกโกแลตร้อนสำหรับเด็กๆ พาย และขนมอบต่างๆ ที่คนแถบนั้นชื่นชอบ แถมมีมันฝรั่งทอดกรอบต่างๆ ด้วยนะจ๊ะ Khalid ผู้ที่เคยเป็นพนักงานบัญชีของสำนักงานแห่งหนึ่งได้กล่าวว่า ‘ฉันมีความฝันที่จะมีร้านกาแฟเป็นของตัวเองมาตลอด’ พวกเขาเช่าตู้โทรศัพท์จากบริษัทจัดตั้งร้านแผงลอย ที่ซื้อมาจากองค์การโทรศัพท์แถบนั้นอีกที และเขาก็ได้ทำการตัดสินใจทำสัญญากับบริษัทแผงลอยนี้ถึง 3 ปีเลยทีเดียว   แถมด้วยความเก๋ไก๋ไม่เหมือนใครทำให้พวกเขาขายดีด้วยนะเออ   นอกจากนี้เจ้าของร้านทั้งสองยังบอกว่าเคล็ดลับที่ทำให้ลูกค้าติดร้านของพวกเขาก็คือความเป็นมิตร และบริการจากใจ นอกจากนี้ตู้โทรศัพท์ดังกล่าวก็มีส่วนช่วยได้มาก เพราะมักดึงดูดสายตาคนผ่านไปมาให้มองมันได้เสมอๆ ซึ่งตอนนี้ Khalid ก็ได้ออกจากงานพนักงานบัญชีเพื่อมาทำร้านอย่างเต็มตัว ส่วนภรรยาของเขานั้นจะมาช่วยเสมอหลังจากทำงานเสิร์ฟที่ร้านของเธอเสร็จ…

ก็เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่น่าจับตามองกันเลยทีเดียว เมื่อพนักงานต้อนรับบนสายการบิน E1 A1 ได้ขอให้คุณยายวัย 81 เปลี่ยนที่นั่ง เพราะลูกค้าข้างๆ เป็นคนทรงศีลเคร่งครัดของศาสนายูดาย ซึ่งเน้นหนักเรื่องการอยู่ใกล้ๆ ผู้หญิง Renee Rabinowitz คุณยายวัย 81 ปีที่ทำอาชีพทนายความมาก่อน และได้ย้ายมาอยู่ที่อิสราเอลตั้งแต่ยุคนาซีที่มีการไล่กวาดล้างชาวยิวในตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 และใช้ชีวิตที่นี่นับตั้งแต่นั้นมา   สำหรับเที่ยวบินดังกล่าวคือเที่ยวบินของสายการบิน E1 A1 เส้นทางจาก Newark ไปยัง Tel Aviv…   ด้วยการที่เธอเป็นหญิงสูงอายุ เข่าก็ไม่ดี ลุกนั่งก็ลำบากแถมต้องใช้ไม้เท้าเพื่อช่วยเดิน ทำให้เธอรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก แต่กระนั้นเธอก็ทำตามคำขออย่างลังเลเบาๆ ‘ฉันได้แต่คิดกับตัวเอง ถึงแม้จะอายุขนาดนี้ ผ่านอะไรมามาก เห็นโลกมามาก ก็ยังมาดันถูกผู้ชายคนหนึ่ง มาตัดสินใจว่าฉันควรจะนั่งข้างๆ เขาหรือเปล่า ก็ได้แต่รำพึงรำพันกับตัวเองว่า ‘ทำไมๆๆ’ เพียงเท่านั้น’ คุณยายกล่าว ซึ่งจากการสัมภาษณ์และสอบสวนเบื้องต้น ไม่ได้มีการแนะนำจากพนักงานต้อนรับว่าให้ผู้ชายลุกย้ายที่ให้กับเธอเลย…   สายการบินดังกล่าว   จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางโฆษกของสายการบินก็ได้ออกมาปกป้องพนักงานต้อนรับของตัวเองก่อนว่า ‘หน้าที่ของเหล่าลูกเรือก็คือต้องดูแลผู้โดยสารในเครื่อง ซึ่งแน่นอนว่ามีคำขอมากมาย พวกเขาต้องรับความกดดันเหล่านี้ พยายามดูแลให้ทั่วถึงในเกือบทุกๆ คำขอ และหน้าที่หลักก็คือจัดแจงทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่เครื่องจะขึ้น และดูแลให้เหล่าผู้โดยสารถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ’ สำหรับตอนนี้คุณยายในฐานะอดีตทนายเก่าก็เตรียมแผนการณ์ที่จะฟ้องสายการบินเกี่ยวกับงานด้านบริการแล้วล่ะ…

อึ้งแป๊บ… สาวคนนี้ไม่รู้ว่าเธอนึกคึกอะไร เธอได้ทำการเข้าไปอยู่ในบอลยักษ์ที่เขาเอาไว้เล่นวิ่งลอยน้ำนั่นแหละ แต่ปกติเราเห็นคนเล่นแต่ในบึงในสระ อันนี้เจ๊แกเล่นเอามาวิ่งในทะเลเลยทีเดียว เธอคนนี้ชื่อว่า Lindsey Russell เธอมีความตั้งใจที่จะใช้ลูกบอลยักษ์นี้วิ่งเป็นระยะทางกว่า 34.8 กิโลเมตรเพื่อเดินทางจากตอนเหนือของไอร์แลนด์ไปสู่ประเทศสก็อตแลนด์ โดยใช้เวลาประมาณ 14 ชั่วโมงถึงจะถึงที่หมาย   แต่โชคไม่ดีเลย เมื่อเธอเดินทางไปได้ประมาณ 10 ชั่วโมง ก็ต้องเจอกับปัญหา เนื่องจากว่ามีคลื่นที่ซัดเข้ามาหนักมาๆ ทำเอาลูกบอลของเธอเสียศูนย์ไป และเธอก็ต้องจบการเดินทางของเธอไปก่อนที่จะถึงจุดหมาย   แต่อย่างน้อย เธอก็ได้เอาภาพบรรยากาศสวยๆมาฝากพวกเรา เราไปชมความพยายามของเธอกันเลย   แม้แต่ความมืดก็ทำอะไรเธอไม่ได้   ช็อตสวยๆ ตอนพระอาทิตย์ตกดิน   ที่มา lifebuzz

หลายครั้งที่เราได้ยินเรื่องราวความรักของคนเฒ่าคนแก่ ที่มีความรักที่ยั่งยืนและซื่อสัตย์ต่อกัน จน#เหมียวฟิ้น เห็นแล้วก็พลอยอิจฉาไปด้วย เช่นเรื่องราวความรักเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ของคู่รักชาวสหรัฐที่เหมียวจะเล่าต่อไปนี้     เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวของคุณตา Arthur Burch วัย 76 ปี กับคุณยาย Patricia วัย 77 ปี ที่ยังคงมีความรักที่หวานซึ้งแม้ว่าสุขภาพของพวกเขาจะโรยราไปตามกาลเวลาก็ตาม     คุณยาย Patricia นั้นป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์มานานกว่า 8 ปี ทำให้เธอต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล Wesley Manor Retirement Center ในหลุยส์วิลล์ รัฐเคนตักกี แต่คุณตา Arthur เองก็ไม่ยอมแพ้ ลงทุนขับรถไปเยี่ยมเธอทุกๆ วันไม่เคยขาดเลย     คุณตา Arthur เล่าว่าเขาไปนั่งกินข้าวและพูดคุยกับเธอในช่วงเวลาเที่ยงถึงบ่ายสามทุกๆ วัน ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากคุณยายป่วยอยู่ทำให้เขาไม่สามารถจะพาคุณยายกลับมาที่บ้านได้เหมือนเมื่อก่อน เขาจึงตัดสินใจสักรูปของคุณยายลงไปที่หน้าอกของเขา     คุณตา Arthur ตัดสินใจแน่วแน่ จึงตรงไปยังร้านสัก Good Luck Tattoo & Piercing…

หนึ่งในเนื้อยอดสัตว์นิยมที่เราๆ ชอบรับประทานกันนั่นก็คือเนื้อไก่นั่นเอง และแน่นอนว่าด้วยการบริโภคที่มากขนาดนี้ของประชากรทั้งโลกแบบนี้ก็ต้องมีการผลิตขนาดใหญ่เช่นกัน วันนี้ #จ่าสิบเหมียว เลยอยากจะพาเพื่อนๆ ไปเปิดหูเปิดตา ดูความเป็นไปและชีวิตอันแสนเศร้าของเหล่าไก่ตั้งแต่แรกเกิดจนโดนชำแหละ ที่ต้องบอกว่าเศร้ามากๆ โดยเจ้าของคลิปก็คือทาง Animal Equality ที่ไปถ่ายมาสดๆ จากฟาร์มใหญ่แห่งหนึ่ง…   คลิปวิดิโอที่ว่า เห็นแล้วรู้สึกสะเทือนใจจริงๆ ราวกับว่าชีวิตเกิดมาก็ถูกตัดสินซะแล้ว แน่นอนว่าไก่เพศเมียจะมีค่ามากกว่าเพราะสามารถให้ไข่ได้ช่วงเวลาหนึ่ง แต่ชะตากรรมสุดท้ายก็เหมือนกัน นั่นก็คือถูกส่งไปชำแหละนั่นเอง   เริ่มตั้งแต่เกิดในวันแรกก็ถูกคัดแยกเพศ   ก่อนถูกส่งไปตามฟาร์มต่างๆ ในฐานะลูกไก่   ไม่ได้รับการดูแลหรืออ่อนโยนแม้แต่น้อย   ตามธรรมชาติของลูกไก่ที่จะต้องการความรักความอบอุ่นจากแม่ไก่ในช่วงแรกเกิด   บางตัวก็ตายในไข่ เพราะไม่สามารถกระเทาะเปลือกออกมาได้และไม่มีใครช่วยเหลือ   ถูกนำไปเลี้ยงในฟาร์ม พร้อมสารเร่งโต ซึ่งถ้าลองให้อาหารแบบเดียวกันนี้กับมนุษย์แล้วล่ะก็ ภายใน 2 เดือนลูกมนุษย์จะมีน้ำหนักถึง 270 กิโลกรัมเลยล่ะ!!!   และชะตากรรมสุดท้ายของชีวิต   จะเรียกว่าชีวิตที่ไม่ใช่ชีวิตก็คงจะไม่แปลก ก็เป็นการเปิดหูเปิดตาว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกไก่บ้าง ใครสงสารก็หันมาทางมังสวิรัติกันบ้างก็ถือว่าเป็นการช่วยได้ส่วนหนึ่งนะจ๊ะ ที่มา: Metro, Animal Equality

หากพูดถึงการถูกสัตว์มีพิษกัด สำหรับผู้คนในยุคปัจจุบันอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว เพราะว่าเมื่อบ้านเมืองเจริญขึ้นเรื่อยๆ จำนวนของสัตว์มีพิษไม่ว่างูหรือว่าแมงมุมก็ลดลงไปเรื่อยๆ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าพวกมันไม่มีอยู่แล้ว เพราะวันหนึ่งคุณอาจโชคร้ายเหมือนชายคนนี้ก็เป็นได้ วันหนึ่งขณะที่ James Gray นักฟุตบอลอาชีพจากทีม Wrexham ในประเทศอังกฤษ กำลังนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง เขาก็ถูกแมงมุมตัวหนึ่งกัดเข้าที่แขนซ้าย แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงอะไร เขาจึงไม่ได้สนใจแผลเท่าไหร่นัก     ต่อมาหลังจากนั้นสองสามวัน เขาเริ่มมีอากาศเป็นไข้และนอนไม่หลับ และแผลที่โดนแมงมุมกัด เริ่มมีหนองสีเหลืองๆ ไหลออกมา     ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงรีบไปโรงพยาบาลในทันที ทางแพทย์ได้ตัดเนื้อของเขาไปทำการทดสอบ ว่าเป็นพิษชนิดใด จึงทำให้แผลของเขามีสภาพเป็นอย่างนั้น ซึ่งหลังจากแพทย์ได้ทำการวิเคราะห์แล้ว ผลปรากฏว่าทั้งหมดเกิดจากพิษของแมงมุม เขาจึงต้องเขารับการผ่าตัดโดยด่วน แพทย์ได้ทำการคว้านเนื้อส่วนที่เน่าบริเวณแขนออกไปทั้งหมด จนทำให้แขนของเขาเกิดเป็นรูโบ๋น่าสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง     ซึ่งแมงมุมพันธุ์ที่กัด James เป็นแมงมุมพันธุ์ False Widow หรือแมงมุมแม่มาย โดยปกติแล้วพิษของมันไม่ค่อยทำให้ถึงตาย เพียงแต่มีอาการป่วยไข้เท่านั้น ไม่เหมือนญาติของมันอย่าง Black Widow หรือแมงมุมแม่ม่ายดำ ที่สามารถทำให้ผู้ที่ถูกกัดเสียชีวิตได้เลยทีเดียว     หลังจากเหตุการณ์นั้น ทาง James ก็ได้ออกมาเตือนทุกคนว่า “อย่าให้ถูกแมงมุมกัด…

ขึ้นชื่อว่าการสอบมันต้องหนักหนาและสาหัสอย่างแน่นอน ไม่เว้นแม้แต่ในช่วงชั้นอนุบาลของประเทศญี่ปุ่น ที่จะมีการทดสอบกระโดดข้ามเบาะอันสูงชัน ดูเป็นไปได้ยากสำหรับเด็กอนุบาล แต่เด็กๆ หลายคนก็สามารถผ่านไปได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าน้องคนนี้ที่ทำยังไง ก็ไม่ผ่านซักที     หนุ่มน้อยรายนี้ พยายามที่จะกระโดดข้ามเบาะไปให้ได้ พยายามกี่ครั้งก็ตามแต่ ผลที่ออกมาก็คือไม่ผ่าน เพราะตัวดันไปติดกับเบาะตลอด คุณครูก็ให้โอกาสทดสอบใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อหวังให้หนุ่มน้อยสามารถกระโดดข้ามไปได้     แต่จนแล้วจนรอดพ่อหนุ่มน้อยของเราก็ยังไม่สามารถกระโดดข้ามไปได้ซักที ถึงกับออกอาการท้อแท้ ร้องไห้ออกมาเลยล่ะ พอเพื่อนๆ เห็นปุ๊บก็คิดได้ว่าควรจะทำอะไรซักอย่างแล้ว     เพื่อนๆ เห็นว่าเขากระโดดไม่ผ่านหลายรอบ จึงลุกขึ้นมาพร้อมกันและตั้งวงบูมให้ เพื่อเรียกพลัง ขวัญและกำลังใจ จนในที่สุดพ่อหนุ่มน้อยของเราก็สามารถกระโดดข้ามเบาะไปได้อย่างสวยงาม!! พลังสปิริตจากคนรอบข้างนี่รุนแรงจริงๆ   何度も涙を拭きながら、園児の挑戦 感動の10段跳び Posted by 有村吉孝 on Saturday, February 20, 2016   ที่มา : 有村吉孝

นี่ถือเป็นเรื่องราวที่ชวนสลดใจและทำให้รู้สึกชื่นชมในเวลาเดียวกับ สำหรับเรื่องราวของหนูน้อยชาวสหรัฐคนหนึ่ง ที่ยอมเสียสละตัวเอง ช่วยเหลือเด็กๆ อีกสองคนให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุ ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา   เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Independent ได้เปิดเผยเรื่องราวความกล้าหาญของหนูน้อย Kiera Larsen วัย 10 ขวบ ในเมืองซาดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา       ตามรายงานบอกว่าในขณะที่เธอกำลังนั่งเล่นกับเด็กๆ อีก 2 คน อายุ 1 ขวบ และ 2 ขวบ ในละแวกบ้านของเธอ จู่ๆ กลับมีรถ SUV เมอร์ซิเดส เบ๊นซ์ที่จอดอยู่บนเนินค่อยๆ ไหลลงมาทางพวกเธอ Kiera จึงตัดสินใจผลักเด็กๆ ทั้ง 2 คนออกไปให้พ้นทาง ทำให้เธอโดนรถชนไปเต็มๆ   จากอุบัติเหตุทำให้ร่างของ Kiera ถูกอัดเข้ากับรั้วจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา เมื่อเรื่องราวของเธอกลายเป็นข่าวโด่งดัง ผู้คนในละแวกนั้นต่างก็ยกย่องให้เธอกลายเป็นฮีโร่แถมยังแสดงความอาลัยต่อการจากไปของเธออีกด้วย     ทางด้านนาง Alissa Jenkins คุณแม่ของเด็กๆ…

ปกติหากพูดถึงตัวการ์ตูน Pokemon ที่มีชื่อเสียงที่สุด เราอาจนึกถึง “ปิกาจู” ขึ้นมาเป็นชื่อแรกๆ เพราะปิกาจูถือว่าเป็นหนึ่งในตัวการ์ตูนที่มีคนรู้จักมากที่สุดในโลกตัวหนึ่ง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ตัวละครตัวอื่นจะขายไม่ได้ และล่าสุดบริษัทขายของเล่นชื่อดัง Bandai ได้เตรียมปล่อย สินค้าเกี่ยวกับ Pokemon ชุดใหม่ออกมา ซึ่งเป็นการนำ Pokemon อีกตัวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้กันมาเป็นจุดขาย นั่นก็คือที่นอนสุดน่ารักลาย “คาบิก้อน” นั่นเอง     โดยเจ้าที่นอนอันนี้มีความยาวประมาณ 120 เซนติเมตร หนาประมาณ 60 เซนติเมตร เรียกว่าแทบจะเท่ากับขนาดตัวจริงๆ ในการ์ตูนเลยทีเดียว     ด้วยความหนาขนาดนี้ แปลว่าเราสามารถกระโดดลงไปนอนได้อย่างสบายใจ โดยที่ไม่ต้องกลัวเจ็บเลยทีเดียว (ยกเว้นพุ่งเลยไปเองนะ)   ซึ่งท่าทางของเจ้าที่นอนคาบิก้อนอันนี้นี้ เรียกว่าเลียนแบบมาจากในการ์ตูนเด๊ะๆ เลย เห็นแล้วต้องบอกว่า น่ารักสุดๆ ไปเลยล่ะ   สนนราคาของเจ้าที่นอนอันนี้ อยู่ที่ประมาณ 52,000 เยนหรือราว 16,000 บาท ใครที่เป็นแฟนคาบิก้อน ก็ลองหามาใช้งานกันได้นะเหมียวว    …

สำหรับนักเดินทางแล้ว การได้มีที่พักถือเป็นสิ่งที่ทำให้อุ่นใจได้อย่างดี เพราะไม่เหมือนกับนักท่องเที่ยวที่ต้องจองโรงแรมล่วงหน้า พร้อมกับวางแผนการเที่ยวไว้เรียบร้อย แต่นักเดินทางต้องลุยเอาดาบหน้าอย่างเดียว ดังนั้นถ้าไม่มีที่พักก็หาที่นอนเอง แต่ถ้าคุณเป็นนักเดินทาง และกำลังจะไปเที่ยวที่สก็อตแลนด์ วันนี้ #เหมียวสามสี มีที่พักที่ๆ ความจริงแล้วที่นี่ไม่ใช่โรงแรมนะ แต่เป็นร้านขายหนังสือที่ชื่อว่า The Open Book ตั้งอยู่ในเมือง Wigtown เขาเปิดให้นักเดินทางให้พักฟรีเลยล่ะ จริงๆ ที่ร้านก็เปิดให้เช่าคืนละประมาณ 2,000 บาท แต่ถ้าคุณเดินทางมาด้วยความแน่วแน่ อยากจะลองเปิดร้านหนังสือเป็นของตัวเอง โดยชั้น 1 นั้นจะเป็นร้านหนังสือเปิดให้คนที่เข้าพักได้บริหารเหมือนเป็นเจ้าของร้านเองเลย ทั้งตื่นมาเปิดร้าน จัดหนังสือ ต้นรับ คิดเงิน ทำทุกอย่างที่เจ้าของร้านทั่วไปพึงมี ทำอาทิตย์ละ 40 ชั่วโมงเหมือนเจ้าของร้านเป๊ะๆ     สำหรับคนที่อยากมีร้านหนังสือเป็นของตัวเอง และอยากได้ที่พักฟรีๆ ก็ลองไปที่ร้านนี้ดูได้นะ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook | Airbnb ที่มา lostateminor, mymodernmet

การจะเป็นฮีโร่หรือวายร้าย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณสวมชุดอะไรอยู่ แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณทำอะไรต่างหาก ดั่งเช่นเหตุการณ์ที่เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชมวันนี้ ต้องบอกว่ากลับตาลปัตรจริงๆ เพราะแทนที่การสวมชุดฮีโร่จะทำแต่เรื่องดีๆ กลับไปทำเรื่องไม่ดีซะอย่างงั้น เล่นเอาเงิบไปเลย เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงคืนวันพุธที่ผ่านมา ตาหนุ่ม Jose Escalona-Matinez วัย 42 ปี ได้ใส่ชุดแบทแมน ซุปเปอร์ฮีโร่ชื่อดังขวัญใจคนทั่วโลก ออกเดินไปเดินมาในย่าน Time Squares ในเมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา และคอยโพสท่าถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว (รูปไม่เกี่ยวนะจ๊ะ ยืมมาใช้เฉยๆ)   และขณะที่มีนักท่องเที่ยวจากไอร์แลนด์สองคนมาขอถ่ายรูปด้วย อิตา Jose ดันครึ้มใจอะไรไม่รู้ กระชากเงิน 50 เหรียญมาจากกระเป๋านักท่องเที่ยว แล้วก็วิ่งหนีไป โชคดีที่เขาไม่ใช่ Bruce Wayne ตัวจริง เพราะหลังจากวิ่งออกไปได้ไม่นาน เขาก็ถูกตำรวจรวบได้ทันควัน คาชุดแบทแมนนั่นแหละ     สุดท้ายเขาก็ถูกตำรวจตั้งข้อหาลักทรัพย์และมีของโจรไว้ในครอบครอง แล้วก็ได้ไปนอนในซังเตตามระเบียบ..โถ่ พ่อแบทแมนเอ๋ยยย ทีหลังไปช่วยปราบเหล่าร้ายสิ ไม่ใช่มาเป็นเหล่าร้ายซะเอง ถถถ ที่มา Metro

ก็เรียกได้ว่าเป็นใครก็คงโมโห คงเดือดปุดๆ เลยล่ะทีนี้ เมื่อหนุ่มใหญ่ชาวเยอรมันคนหนึ่ง ประกาศรางวัลนำจับสองคู่รักสุดหื่นที่มามีเซ็กส์กันบนรถของเขาถึง 790ยูโร หรือราวๆ 30,000 บาท!!! Erik Roschetsky เดือดเป็นฟืนเป็นไฟ หลังมีคู่รักมามีเซ็กส์บนรถของเขา และทำให้เขาต้องจ่ายเงินเสียค่าซ่อมรถไปกว่า 2,372 ยูโร หรือราวๆ 9 หมื่นบาท!!!!   ‘มีทั้งร่องรอยของร่างกาย ลายนิ้วมือ แต่ที่หนักที่สุดก็คือมีคราบน้ำอสุจิไหลไปทั่วรถเลยทีเดียว น่าจะผ่านมาได้สองวันราวๆ นั้น’ หนุ่มใหญ่กล่าว     สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น คุณลุงแกได้นำรถเข้าไปจอดไว้ในโรงจอดรถ เพราะรู้ว่าแถบที่เขาอยู่จะมีงานเทศกาล แต่กระนั้นคู่รักสุดหื่นที่มีอาการเมาสุราทั้งคู่ก็ค้นพบว่าโรงรถของคุณลุงนั้นไม่ได้ล็อค และแน่นอนเข้าไปทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันบนรถของแกซะเลย!!! พอคุณลุงกลับบ้านมาอีกวันหนึ่งเท่านั้นแหละ ช็อกซีนีม่าเลยทีเดียวกับสิ่งที่เข้าเห็น แถมกระจกรถข้างหนึ่งยังถูกดึงออกไปอีกด้วย (อาจเพราะความเสียวซ่านหรืออารมณ์คึกสุดๆ อันนี้ก็ไม่แน่ใจ -*-)   ขนาดจอดไว้ในโรงจอดรถ     ส่วนตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มารับแจ้งความไว้แล้ว และได้เก็บตัวอย่างของ DNA ที่พบ (จากน้ำอสุจินั่นแหละ อย่างที่เราๆ ทราบกัน) และจะตามหาผู้กระทำความผิดให้ได้ในเร็ววัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ตั้งข้อหาเกี่ยวกับการทำลายทรัพย์สินและบุกรุกยามวิกาลไว้แล้วล่ะ…   แหม๊…ถ้าจะเมาแล้วควบคุมอารมณ์ความอยากกันไม่ได้ขนาดนั้น #จ่าสิบเหมียว สงสารคุณลุงจริงจริ๊งงงง…

งานสบาย รายได้ดี มักจะมีผู้คนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ถ้าหากว่าคุณได้ยินว่ามีการรับสมัครตำแหน่งแพทย์ฝึกหัดส่วนศัลยกรรม รายได้ต่อปี 400,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ประมาณ 9.6 ล้านบาท) มีส่วนแบ่งเพิ่มให้อีกจากการทำเคส มีวันหยุดประจำปีให้ 3 เดือนเต็มๆ แถมด้วยไม่มีการเรียกมาทำงานช่วงกลางคืนหรือช่วงวันหยุดอีกด้วย ฟังๆ ดูแล้วนี่ตาลุกวาวขึ้นมาทันที!!   Dr. Alan Kenny     อย่างไรก็ตาม การประกาศหาผู้ที่จะเข้ามารับงานในตำแหน่งนี้ ผ่านมาได้ถึง 2 ปีกว่าแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหาผู้ที่เหมาะสมมาได้ซักที จนถึงขั้นที่ Dr. Alan Kenny แพทย์ผู้ประกาศรับสมัครงานจากคลินิกศัลยกรรมในเมือง Tokoroa, South Waikato ประเทศนิวซีแลนด์ ยอมรับว่าถอดใจที่จะตามหาแล้ว   Tokoroa, South Waikato   เหตุที่ต้องจ้างด้วยเงินเดือนสูงกว่าเรททั่วไปในนิวซีแลนด์ พร้อมสวัสดิการดีเยี่ยมขนาดนี้ นั่นก็เป็นเพราะว่าในหนึ่งปีจะมีผู้ป่วยที่เข้ามาภายในคลินิกมากกว่า 6,000 ราย จึงจำเป็นที่จะต้องรับคนเพิ่ม และพร้อมที่จะจ่ายค่าเหนื่อยให้อย่างงาม   แต่มันดันไม่ประสบความสำเร็จตรงที่ไม่มีใครซักคนเดียวที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการ Dr. Alan…

อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลา ไม่เว้นแม้แต่ภายในบ้านอันแสนอบอุ่นและในเวลาที่เรากำลังนอนหลับกันอยู่ โดยที่เรื่องราวอันน่าเศร้านี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของ Demetrius Johnson ชายหนุ่มวัย 24 ปี จากนิวยอร์ก เกิดเหตุไฟไหม้บ้านทั้งหลัง!!   Demetrius Johnson คุณพ่อวัย 24 ปี   Johnson ได้กลิ่นไหม้ภายในบ้านเช่าในช่วงเช้ามืดของวันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เขาจึงรีบทำการปลุกคู่หมั้น Tempest Thomas และลูก Treasure Brighorn วัย 8 ขวบ กับ Demaris Johnson วัย 15 เดือน พาออกไปจากบ้านที่กำลังโดนไฟไหม้โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง     เขาสามารถพาทั้งสามคนออกมาจากบ้านได้อย่างปลอดภัย แต่เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่ายังมีลูกชายวัย 3 ขวบอีกหนึ่งคน Demetrius Johnson Junior ยังคงติดอยู่ภายในบ้าน ‘ผมจะไม่ยอมปล่อยให้ลูกชายตายอยู่ในนั้นเด็ดขาด’ นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่ลุยไฟเข้าไปในบ้านอีกครั้ง     ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว กลับเข้าไปตรวจสอบก็พบว่าลูกชายวัย 3…

จะว่าไปเรื่องปลดทุกข์กลางที่สาธารณะของพี่จีน มักจะมีมาให้เห็นได้บ่อยจริงๆ และล่าสุดก็มาอีกแล้วครัชท่าน แต่คราวนี้เล่นเอาบนรถเมล์กันเลยทีเดียว งานนี้เหมียวก็แอบสงสารผู้โดยสารบนรถเหมือนกันนะ เพราะถ้าหากอยู่ในที่สาธารณะกลางแจ้งก็พอเดินออกห่างได้ แต่นี่เล่นปล่อยขณะอยู่บนรถก็จำเป็นต้องทนกลิ่นกันไปแล้วละเหมียว     โดยคลิปวีดีโอดังกล่าวบันทึกได้จากประเทศจีน ซึ่งในคลิปเราจะเห็นได้ว่ามีชายหนุ่มรายหนึ่ง กำลังนั่งปลดทุกข์บนถังสีขาว ที่เขาใช้เป็นส้วมฉุกเฉินอย่างสบายออกสบายใจ ขณะที่รถเมล์กำลังแล่น ท่ามกลางผู้โดยสารที่อยู่บนรถเป็นจำนวนมาก แถมมีทีท่าว่าจะไม่แคร์สื่ออีกด้วย     อีกทั้งผู้โดยสารชาย 2 คนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ต่างก็พากันเอือมระอา รีบหันหลังพร้อมเอามืออุดจมูก เพราะทนกลิ่นเหม็นที่คละคลุ้งไปทั่วรถไม่ได้ เฮ้อ…น่าเห็นใจจริงๆ     เป็นเหมียวก็คงจะไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกัน ก็ดูสิ…เล่นนั่ง ‘ขรี้’ กลางผู้คนแบบนี้ ใครจะไปทนไหว ที่มา : liveleak

พูดถึงเรื่องบนเตียงมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์แหละ เล่นจ้ำจี้จึ๊กกะดึ๋ยเพื่อสร้างสีสันในชีวิตคู่กันซักหน่อย แต่บางคู่ก็อยากจะเล่นให้มันพิสดารมากขึ้นไปอีก ด้วยการนำของเล่นอะไรต่อมิอะไรเท่าที่จะสรรหามาได้     อย่างในกรณีอันน่าเศร้าของคู่รักหนุ่มใหญ่เซลล์แมน Oliver Dietmann วัย 46 ปี กับ Rica Varna วัย 46 ปี ที่ดันชอบนำผักมาเป็นอุปกรณ์เสริมใช้ในระหว่างบำเรอรักบนเตียง ซึ่งทั้งคู่ใช้มันบ่อยๆ ด้วยนะ และในคราวนี้ก็เป็น ‘แตงกวา’   Oliver Dietmann เซลล์แมนชาวเยอรมันวัย 46 ปี   จากรายงานบอกว่าก่อนที่จะขึ้นไปทำกิจกรรมบนเตียงทั้งคู่จิบไวน์ด้วยกันประมาณ 4 ขวด แล้วก็พากันไปเล่นจ้ำจี้บบนเตียงก่อนที่ฝ่ายชายจะคว้าแตงกว่ามายัดปากคู่รัก แต่จู่ๆ เขาก็สังเกตเห็นว่ามีควันพวยพุ่งออกมาจากเตา เนื่องจากย่างเนื้อไว้เป็นอาหารสำหรับสุนัขทิ้งไว้     เขาก็เลยรีบไปที่ห้องครัว และให้อาหารน้องหมาด้วยเนื้อที่ย่างทิ้งไว้ จากนั้นก็ไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงก่อนที่จะกลับมาที่ห้องนอน ปรากฏว่า Rica หมดสติไปแล้ว เพราะดันลืมที่จะเอาแตงกวาออกจากปากก่อน!!     ทั้งนี้สาเหตุการตายก็คือแตงกว่าหลุดเข้าไปติดในลำคอทั้งแท่ง ทำให้ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต และผลพิจารณาคดีนี้ศาลตัดสินให้เขาต้องถูกจำคุกเป็นเวลา 5 ปีเต็ม ที่มา :…

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยคลิปวีดีโอของชายชาวจีนรายหนึ่ง ที่กำลังปีนหน้าต่างแฟลตออกมาในสภาพเปลือยเปล่า ท่ามกลางสายตาของผู้คนที่อยู่ภายในบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก เอ…ว่าแต่หนุ่มคนนี้จะทำไปเพื่ออะไรกันนะ ความจริงแล้วที่หนุ่มคนนี้ปีนออกมาจากหน้าต่างในสภาพล่อนจ้อนก็ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก เพราะเขาดันไปเล่นชู้กับเมียชาวบ้าน จนสามีตัวจริงโผล่มา งานนี้ก็เลยกลายมาอยู่ในสภาพอย่างที่เห็นนี้ยังไงละเหมียว     ซึ่งจากคลิปวีดีโอเราจะเห็นได้ว่า ชายคนดังกล่าวรีบปีนออกมาจากหน้าต่างของห้องชั้น 3 โดยที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แถมยังโหนตัวอยู่ตรงท่อภายนอกอาคารเป็นเวลานานสองนาน ก่อนตัดสินใจเริ่มไต่ลงมาด้านล้าง     ในขณะที่เขาเริ่มไต่ลงมา เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เพราะเขาเกิดพลาดท่าตกลงมากับพื้นซะงั้น งานนี้เล่นเอาผู้เห็นเหตุการณ์ต่างก็พากันตกอกตกใจ ก่อนที่จะรีบเข้าไปให้ความช่วยเหลือ     นับว่าเป็นโชคดีของชายรายนี้ ที่สามารถรอดชีวิตจากเหตุการณ์อันน่าละอายนี้มาได้ หวังว่าเขาคงจะเข็ดไปอีกนานเลยละ ที่มา : mirror

เรื่องราวแปลกๆ จากทั่วโลก มีให้เห็นกันอยู่แทบทุกวันจริงๆ เลยนะเหมียว โดยล่าสุดก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความสะพรึงให้กับผู้คนกันอีกตามเคย และคราวนี้ก็เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติแนชวิลล์ ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งทางสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า มีชายร่างท้วมคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าพี่แกร้อนหรือคิดอะไรอยู่กันแน่ เล่นเดินเปลือยผ้าล่อนจ้อน แล้วเข้าไปต่อคิวเช็กอินหน้าเคาน์เตอร์ของสายการบิน American Airlines ซะงั้น เฮ้อ…เห็นแล้วก็อายแทนเหลือเกิน     ในขณะที่ Tod Brilliant หนึ่งในผู้โดยสารที่เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า เขาเห็นชายคนดังกล่าวแก้ผ้าเปลือยล่อนจ้อนอยู่ เขาจึงได้ทำการแชะภาพสุดสะพรึงนี้ไว้ พร้อมนำไปโพสต์ลงบนโลกออกไลน์ นอกจากนี้ Tod ยังได้เดินเข้าไปหาแล้วพูดกับชายคนนั้นว่า ‘คุณน่าทึ่งมาก’ และคำตอบที่เขาได้รับก่อนที่ชายผู้นั้นจะเดินจากไปก็คือ ‘ขอบคุณ’     จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบิน ก็ได้ช่วยกันพาตัวชายร่างท้วมคนดังกล่าวออกไปจากบริเวณนั้น ก่อนส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวด้วยข้อหากระทำอนาจารในที่สาธารณะยังไงละเหมียว ทั้งนี้คาดว่า เหตุที่ชายคนดังกล่าวได้ออกมาเดินแก้ผ้าไปทั่ว เป็นเพราะเขากำลังประชดประชันระบบรักษาความปลอดภัยอันเข้มงวดของสนามบิน ที่ต้องมีการสแกนกันอย่างละเอียดก็เป็นได้ ทีนี้ก็เลยเล่นเปลือยล่อนจ้อน จนด่านตรวจคงไม่ต้องสแกนกันเลยทีเดียว ที่มา : huffingtonpost

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าว Dailymail ได้เผยเรื่องราวที่กำลังกลายเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลกโซเชียลอยู่ในขณะนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อ Ruslan Schedrin หนุ่มน้อยชาวรัสเซียวัย 16 ปีคนนี้ เป็นคนที่เข้าเว็บไซต์ขายแขนเสมือนจริง ที่ใช้สำหรับเล่นเกม และเขาก็เป็นคนที่ 100,000 พอดี เลยทำให้ได้รับรางวัลสุดพิเศษมาครอบครองนั่นก็คือ เขาจะได้อยู่ในโรงแรมร่วมกับดาราหนังโป๊สาวนามว่า Ekaterina Makarova เป็นเวลา 1 เดือนเต็มๆ นั่นเอง     Ruslan ได้เผยว่า ในตอนแรกเขาแทบไม่เชื่อเลยว่าจะได้รับรางวัลนี้ แต่พอมันเป็นเรื่องจริง ทำให้เขารู้สึกมีความสุขสุดๆ       เขาได้ติดตามผลงานของ Ekaterina มาตลอด และเมื่อได้รับรางวัลนี้มันก็ยิ่งทำให้รู้สึกแฮปปี้มากๆ แถมยังอยากจะพบกับเธอเร็วๆ ซะด้วย     ทางด้าน Vera Schedrina แม่ของหนุ่มน้อยได้เผยว่า เธอไม่เห็นด้วยแน่ๆ ที่จะให้ลูกชายไปอยู่กับดาราหนังโป๊ตลอดเวลา  1 เดือนเต็ม เพราะเขายังเด็ก และกำลังเรียนหนังสืออยู่  …

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สร้างความสะเทือนใจให้กับคนรักหมาไม่น้อย เพราะเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยภาพของเจ้าตูบสายพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด ตัวหนึ่ง ที่ดูท่าทางเศร้าสร้อย ไม่สดใสร่าเริงเหมือนกับสุนัขทั่วๆ ไป แต่ถ้าหากคุณได้ทราบสาเหตุที่มันเป็นเช่นนี้ อาจจะทำให้หลายๆ คนรู้สึกสะเทือนใจไปตามๆ กันก็เป็นได้     ซึ่งจากภาพเราจะเห็นได้ว่า เจ้าตูบตัวนี้กำลังนั่งคอยเจ้านายกลับบ้านด้วยท่าทางที่เหงาหงอย เนื่องจากเจ้านายของมันไม่กลับบ้านมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว เห็นแล้วก็น่าสงสารจริงๆ     อย่างไรก็ตามทางสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นาย Hatem Abuharbid วัย 54 ปี พนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในเมืองฮูสตัน ถูกโจรอำพรางใบหน้าบุกปล้นร้าน จนทำให้เขาโดนยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา     งานนี้เมื่อเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของ Hatem พวกเขาก็ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมของสุนัขอันเป็นที่รัก นั่งรอคอยเจ้านายผู้ล่วงลับของมันกลับบ้าน จนทำให้บรรดาเพื่อนบ้านรู้สึกสงสาร จนต้องคอยเอาน้ำ และอาหารไปให้มันอยู่เสมอ     นอกจากนี้เพื่อนบ้านของนาย Hatem ยังได้กล่าวว่า ตั้งแต่เจ้านายของมันจากไป มันก็นั่งรอคอยเจ้านายอย่างมีความหวังทุกวันโดยที่ไม่ยอมลุกไปไหน บางทีมันก็วิ่งตามรถที่ขับผ่าน แต่พอเห็นว่าไม่ใช่เจ้านายของมัน…

คนเราถ้าหากอายุมากขึ้น ใบหน้า รูปร่าง หรือส่วนต่างๆ ของร่างกายก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่จะมีสักกี่คนบนโลกใบนี้กันนะ ที่แม้ว่าจะอายุมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทั้งใบหน้าและรูปร่างกลับไม่เคยเปลี่ยนแปลง แถมยังดูเด็กตลอดเวลาด้วยซ้ำ แค่คิดก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยใช่ไหม แต่มันกลับเป็นไปแล้ว เพราะสาวจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนคนนี้ เพื่อนๆ อาจจะคิดว่าเธอเป็นเด็กสาวอายุ 16 แต่ทว่าถ้าหากเราได้บอกอายุของเธอให้คุณรู้แล้วละก็ มีหวังได้อึ้งกันเป็นแถวแน่ๆ     ความจริงแล้วสาวน้อยหน้าตาน่ารักที่เพื่อนๆ ได้เห็นกันนี้ เธอมีอายุปาเข้าไปถึง 38 ปีแล้วนะ แต่ดูสิ…หน้าตาของเธอกลับไม่แก่เลยสักนิด แถมยังดูเด็กจนน่าเหลือเชื่อ     แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ภาพของเธอถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ เพราะหากย้อนไปเมื่อ 2 ปีก่อน เธอคนนี้นี่แหละที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก ในฐานะหญิงสาววัยเลข 3 ที่มีใบหน้าอ่อนเยาว์ราวสาวน้อยวัยมัธยม     นี่ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าเธอมีอายุปาเข้าไป 38 ปีแล้ว เพราะหน้าตาของเธอเด็กมากจริงๆ   นอกจากหน้าเด็กแล้ว เธอยังมีหุ่นที่สะพรึงเว่อร์ แถมผิวพรรณก็ดี๊ดี งานนี้เล่นเอาสาวๆ อิจฉาหนักมากแน่ๆ     นี่ถ้าบอกว่าเป็นเด็กอายุ 16 17 เหมียวก็เชื่อนะ…

ริลัคคุมะถือเป็นตัวการ์ตูนที่ครองใจคนทั่วโลกได้อย่างสวยงาม ด้วยความน่ารักของมันจากนักวาดการ์ตูน อากิ คอนโด พร้อมกับเพื่อนๆของเจ้าหมีอย่าง โคะริลัคคุมะ และ คิอิโร่ยโทริ มาเป็นเซ็ตเลยนะ   เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่สามเกลอนี้ได้วนเวียนอยู่ในสินค้าสุดน่ารัก ที่ใครเห็นเป็นต้องอยากได้เป็นเจ้าของ และไม่นานมานี้ก็เพิ่งเปิดตัวเพื่อนใหม่ที่ชื่อว่า โคกุมะจัง   ความน่ารักนี้ไม่หยุดเพียงแค่สินค้าเท่านั้น เพราะตอนนี้ทาง San-X ได้ทำการเปิดตัวคาเฟ่แห่งใหม่ที่ฮาราจุกุ ตกแต่งไปด้วยป่าน้ำผึ้งตามต้นฉบับเลยไป แต่เห็นน่ารักแบบนี้คงต้องรีบหน่อยนะ เพราะเมนูน่ารักๆ เหล่านี้จะมาแค่ช่วงเวลาวันที่ 10 มีนาคม ถึง 10 เมษายนนี้เท่านั้น ใครที่กำลังจะไปญี่ปุ่นก็อย่าลืมศึกษาแผนที่และเวลาเปิดปิดด้วยนะจ๊ะ   บอกไว้ก่อนเลยว่าที่คาเฟ่แห่งนี้รับเฉพาะการจองโต๊ะเท่านั้น โดยเวลาเปิดให้จองมีดังนี้ ① 11:00 a.m. – 12:20 p.m. ② 12:30 p.m. – 1:50 p.m. ③ 2:00 p.m. – 3:20 p.m. ④ 3:30 p.m. – 4:50 p.m.…

ประสบการณ์งูเข้าบ้านเป็นอะไรที่หลอกหลอนมากๆ  ถ้าใครเคยมีงูเข้าบ้านจะรู้ว่าเราต้องระแวงจะหลอดเวลาว่ามันจะโผล่มาตอนไหน เราต้องรีบหาตัวมันให้เจอ แล้วเอาไปปล่อยข้างนอกหรือกำจัดมันเสียก่อน ถึงจะสบายใจและอยู่บ้านได้อย่างสงบสุขได้ เหมียวอย่างชายคนหนึ่งในบราซิล เขาได้พบกับงู “อานาคอนด้าเขียว” ซึ่งเป็นชนิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีน้ำหนักถึง 90 กิโลกรัม และมีความยาวถึง 5 เมตร ถือว่าเป็นนักล่าที่โหดเลยทีเดียว ชายคนนี้ได้เจอมันนอนอย่างชิว เขาก็เลยอยากลองดีไปสัมผัสมันสักครั้งด้วยมือเปล่า พร้อมกับถ่ายคลิปไปด้วย   และในขณะที่กำลังเอามือลูบๆ มันอยู่นั้น จู่ๆงูก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง และพุ่งเข้ามาฉกอย่างจัง แต่เขาก็สามารถเอาตัวหลบมาได้อย่าหวุดหวิด   เตือนไว้ก่อนว่าในคลิปมันน่ากลัวมากๆ ใครที่เห็นว่ามีงูอยู่ในบ้านอย่าคิดว่ามันมาดีล่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราก็ไปชมคลิปกันเลย ที่มา distractify

ในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือ เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์การสื่อสารอย่างหนึ่ง ที่มีสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์เป็นอย่างมาก แถมยังมีราคาที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงไม่แปลกใจสักเท่าไหร่ที่เวลาบางคนโทรศัพท์หาย ก็รีบตามหากันให้วุ่น เหมือนดังเช่นเหตุการ์ของสาวรายนี้ ที่กำลังเดินเล่นที่สวนสาธารณะ ในเมืองหลิ่วโจว มณฑลกวางสีของจีน แต่จู่ๆ เธอก็พลาดท่าเข้าให้ ทำโทรศัพท์มือถือ iPhone 5 สุดรัก ตกลงไปในทะเลสาบในจุดที่ลึกกว่า 2 เมตรกันเลยทีเดียว งานนี้เธอจะทำอย่างไรละเนี่ย     หลายคนคงจะเริ่มถอดใจ หากโทรศัพท์ของคุณตกลงไปในน้ำที่มีความลึกถึง 2 เมตร แต่ความคิดแบบนี้มันใช้ไม่ได้กับแม่สาวจีน เพราะเธอได้ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว โดยการดำดิ่งลงไปงมหาโทรศัพท์ของเธอในน้ำทันที     นอกจากนี้ยังมีผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งได้เล่าว่า ในขณะที่เขากำลังเดินผ่านบริเวณนั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคนตกลงไปในน้ำ ตอนแรกก็นึกว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ที่ไหนได้เขากลับเห็นแม่สาวคนนี้ ลงไปงมหาโทรศัพท์มือถือ iPhone ขึ้นมาจากก้นทะเลสาบ     ขณะที่ทางผู้จัดการสวนสาธารณะ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า แม้ว่าระดับน้ำในบริเวณที่สาวจีนรายนี้ ได้ลงไปงมหาโทรศัพท์จะลึกเพียง 2 เมตร แต่ทว่าการกระทำดังกล่าวก็ถือเป็นสิ่งที่อันตรายมากๆ เช่นกัน     จริงอยู่ที่โทรศัพท์มือถือมีราคาแพง และน่าเสียดายถ้าหากมันตกลงไปในน้ำ แต่เราก็ไม่ควรเอาชีวิตไปเสี่ยง…

ปัญหาการจอดรถผิดที่ผิดทางนี่เจอกันแทบทุกประเทศจริงๆ อย่างเมื่อช่วงเดือนก่อนเหมียวนำเสนอข่าว หญิงวัยกลางคน ซื้อกรวดขนาด 1 ตัน มาวางขวางทางออก เพื่อแก้เผ็ดเพื่อนบ้านที่ชอบเนียนมาจอดหน้าบ้านเธอ (ข่าวเก่า) แต่ถ้าวิธีนั้นยังไม่สาแก่ใจเพื่อนๆล่ะก็ วันนี้เหมียวมีอีกวิธีแก้เผ็ดพวกชอบเนียนจอดรถมานำเสนอ รับรองว่าเด็ดไม่แพ้กันแน่นอน     เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในโรงจอดรถแห่งหนึ่ง ในเมืองชิงเต่า มณฑซานตง ประเทศจีน เจ้าของโรงจอดรถแห่งนี้พบว่า มีรถตู้สีน้ำเงินและรถเก๋งสีดำจอดขวางทางเข้าโรงจอดรถของเขาอยู่ ด้วยความเอือม เพราะเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาหลายครั้งแล้ว เขาจึงโทรเรียกรถยกมาในทันที แต่ไม่ได้ยกรถออกจากทางเข้าเฉยๆ นะ เขาบอกให้รถยก ยกขึ้นไปไว้บนหลังคาเลย!!     เจ้าของโรงจอดรถกล่าวว่า พวกเขาสมควรได้รับการปฏิบัติเช่นนี้แหละ เพราะดันไม่มีมารยาทเอง   ฮาาา วิธีนี้เหมียวว่าก็เจ๋งเหมือนกันนะ บ้านไหนที่เจอปัญหานี้บ่อยๆ ก็ลองเอาไปปรับใช้ดูนะ รับรองว่าเข็ดไปอีกนานแน่นอน ที่มา Shanghaiist

อื้อหือออ เห็นข่าวนี้แล้ว #จ่าสิบเหมียว รู้สึกกลัวแทนหลายๆ คนจริงๆ ที่จริงแล้วการลดความอ้วนที่ดีที่สุดและดีต่อสุขภาพด้วย นั่นก็คือการออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ และการควบคุมอาหารต่างหาก!!! แต่ล่าสุดกับเจอกรณีที่น่ากลัวมากๆ เพราะมีคุณหมอท่านหนึ่งได้โพสต์ข้อความผ่านสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับอาการของคนไข้ที่เขาเจอมากับตัว  เมื่อตรวจพบว่าเลือดของคนไข้รายหนึ่งเป็น “สีชมพู” ซึ่งสาเหตุมาจากการกินยาดีท็อกซ์ลดความอ้วน!!! ถึงจะมีส่วนผสมจากสมุนไพรอย่าง ‘มะขามแขก’ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นยาระบาย แถมยาตัวดังกล่าวยังมีผลทำให้อ้วน ไขมันในเส้นเลือดสูง และมีผลกระทบต่อตับอีกด้วย   เลือดสีชมพู!!?   นอกจากคนไข้จะมีเลือดเป็นสีชมพูแล้ว คนไข้รายนี้ยังมีอาการปวดท้องและมีอาการแทรกซ้อนหลายอย่าง จนต้องใส่ท่อช่วยหายใจเลยทีเดียว แถมเลือดที่เอามาตรวจนั้นก็ไม่สามารถเอามาตรวจอะไรได้   ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน ก็ออกมาเตือนในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน     ลองมาติดตามโพสต์ของคุณหมอกันแบบเต็มๆ ได้ที่นี่ อยากผอมจนตับพังไหมล่ะคุณ???”มีผู้ป่วยอาการหนักมาอีกแล้วครับ มีคนส่งมาให้ดู สาเหตุเดิมๆ กินยาลดความอ้วน!!!ผู้ป่วยได้ถือ… Posted by ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน on 22 กุมภาพันธ์ 2016     เหมือนที่ #จ่าสิบเหมียว บอกไว้ตอต้น ว่าเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ เลยนะเนี่ย โดยเฉพาะที่คุณหมอวงกลมให้เห็นในส่วนสีขาวขุ่น ที่อธิบายไว้ว่าเป็นไขมันในเลือดที่สูง…

เรียกว่าฮอทที่สุดในชั่วโมงนี้กันเลยทีเดียว สำหรับเจ้าชายหนุ่มหล่อจากประเทศเพื่อนบ้าน AEC อย่างบรูไนของเรานี่เอง จนสาวๆ ไทยต่างพากันหลงหัวปักหัวปำ เจ้าชายพระองค์นี้มีชื่อว่า อับดุล มาทีน เป็นเจ้าฟ้าชายลำดับที่สี่แห่งราชวงศ์บรูไน ปัจจุบันมีพระชันษา 24 ปี ซึ่งตอนนี้พระองค์กำลังเป็นที่ชื่นชอบในหมู่สาวๆ ชาวไทยเป็นอย่างมาก หลังจากเพจ “หนูน้อยบนยอดดอยอันหนาวเหน็บ” ได้นำเรื่องราวของพระองค์มาแชร์ จนตอนนี้ยอดติดตามใน IG ส่วนพระองค์ เพิ่มขึ้นนับหมื่นคนภายในคืนเดียว     ซึ่งล่าสุดพระองค์ได้ให้สัมภาษณ์กับทางนิตยสาร GQ ฉบับภาษาไทยว่า พระองค์ชื่นชอบอาหารไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ “ลาบ” เรียกว่าโปรดปรานแบบสุดๆ เห็นแบบนี้แล้วสาวๆ หลายคน คงเปิดสูตรลาบกันเป็นพัลวันเลยล่ะสิ       ว่าแล้วก็ไปเสพความแซ่บของพระองค์กันเลยดีกว่า ว่าจะหล่อเท่ขนาดไหน     เป็นไงล่ะสาวๆ หล่อเท่อย่างที่เหมียวบอกรึเปล่า ใครที่ชื่นชอบพระองค์ ก็ไปกดติดตามได้ใน Instagram ของพระองค์ได้นะฮะ รับรองว่ามีอะไร “ดีๆ” ให้ดูอีกเพียบ อิอิ ที่มา หนูน้อยบนยอดดอยอันหนาวเหน็บ

ใกล้หน้าร้อนแบบนี้ #จ่าสิบเหมียว เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนคงอยากไปเที่ยวสถานที่ๆ มีน้ำ อย่างเช่นทะเล หรือน้ำตกกันใช่มั้ยล่ะ อิอิ แต่ถ้านึกถึงน้ำตก หลายๆ คนก็คงคิดถึงน้ำตกไนแองการ่าที่สวยๆ หรือทีลอซู ของบ้านเราที่ติดอันดับโลก กระนั้นวันนี้ทางเราก็ขอพาเพื่อนๆ ไปพบกับ 18 น้ำตกสวยๆ จากรอบโลก ที่เพื่อนๆ อาจไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อมาก่อนเลยทีเดียว เหมือนเป็นคนสวยที่หลบอยู่มุมห้องนั่นแหละ ซึ่งวันนี้เพื่อนๆ จะได้ไปยลโฉมกัน!!!   1. Arctic Godafoss แห่งประเทศไอซ์แลนด์ สวยงามและเยือกเย็นมากๆ   2. พระอาทิตย์ตกยามเย็นที่น้ำตก Seljalandfoss ประเทศไอซ์แลนด์เช่นกัน   3. Cascades d’Ouzoud แห่งประเทศโมร็อคโค   4. สวยใสดุจมรกตกับน้ำตก Plitvice ในประเทศโครเอเชีย   5. น้ำตก Pontneddfechan แห่งสหราชอาณาจักร   6. อย่าลืมไปเยี่ยมน้ำตก Schiessentümpel และสะพานสุดน่ารักที่ประเทศลักเซมเบิร์ก   7. น้ำตก Stirling ในประเทศนิวซีแลนด์…

อ้วนแล้วมันหนักหัวใคร? อ้วนแล้วจะทำไม? สำหรับคำว่า ‘ความอ้วน’ นั้น แน่นอนว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ถ้าอ้วนเกินไปก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่ แน่นอนเลยหลักๆ แล้วก็เพราะว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพนั่นแหละ เหมือนกับผู้หญิงคนนี้ Dana Falsetti ที่ตอนนี้เธอมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมากในอินสตาแกรมของเธอ หลังจากชีวิตเธอที่เคยน้ำหนักกว่า 130 กิโลกรัม Dana เริ่มเข้าไปออกกำลังกายในยิมและการตัดสินใจครั้งนั้นได้ทำให้เธอมีความสุขขึ้น แน่นอนว่าน้ำหนักของเธอลดลงไปมากมาย แต่เธอเริ่มรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้ เธอเลยลองเปลี่ยนการออกกำลังกายไปเล่นโยคะดู และนั่นแหละจุดเปลี่ยนล่ะ   ‘ฉันเข้าไปครั้งแรกรู้สึกกลัวมาก เพราะขนาดฉันลดน้ำหนักมาเยอะแล้ว ฉันยังตัวใหญ่ที่สุดในคลาสอยู่ดี’ Dana กล่าว   ‘ตอนชั้นเริ่มเล่นใหม่ๆ ชั้นแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย ขนาดการยกตัวขึ้น เพราะน้ำหนักที่มาก ฉันรู้สึกร้อนแขนไปหมด แต่กระนั้นก็เหมือนว่าร่างกายของฉันค่อยๆ ปรับตัว จากที่ทำได้กึ่งๆ กลางๆ ก็กลายเป็นทำได้ในที่สุด’ เธอกล่าวเพิ่มเติม จากครั้งแรกที่เธอกลัวว่าเธอจะไม่สามารถทำได้ เป็นการแสดงให้เห็นว่าที่จริงแล้วร่างกายไม่ได้สร้างข้อกำหนดให้กับคุณหรอกนะ จิตใจของคุณต่างหาก ที่บอกกับตัวเองว่ายากไป หรือทำไม่ได้!!!   ‘หลายๆ คนคิดว่าจำเป็นต้องผอม ร่างกายถึงจะยืดหยุ่นได้ แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เลยล่ะ’ เธอกล่าวเพิ่ม Teaching forearm balance (aka holding…

เคยมีคำกล่าวที่บอกว่า ‘จงดูแลร่างกายของคุณให้ดี เพราะมันเป็นสถานที่ๆ เดียวที่คุณอยู่!!’ เรื่องนี้คงจะเป็นอะไรที่จริงสุดๆ สำหรับคุณยายอายุ 100 ปีคนนี้ ขณะที่เราละเลยการออกกำลังกาย หรือแม้แต่การเดินไปเดินมา แต่คุณยายคนนี้ที่อายุครบ 100 ปีบริบูรณ์นามว่า Jean Dawson กลับเล่นโยคะอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยก็ 30 ปีให้หลังมานี้ล่ะ   Jean Dawson อายุ 100 ปี   เธออายุครบ 100 ปีไปเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมานี่เอง และเธอให้เครดิตกับการเล่นโยคะนี่แหละที่ทำให้ชีวิตเธอยืนยาวขนาดนี้   เธอเริ่มเข้าคลาสโยคะเมื่ออายุได้ 67 ปี ในโรงยิมท้องถิ่น และตั้งแต่นั้นมาเธอก็เล่นโยคะอย่างเป็นประจำทุกๆ ครั้งที่มีโอกาส   ‘ตั้งแต่ชั้นเข้าคลาสโยคะมารู้สึกว่าชีวิตฉันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง อาการปวดกล้ามเนื้อปวดกระดูกกระเดี้ยวหายไปเกือบหมดเลยล่ะ’ คุณยายกล่าว   โดยมีเทรนเนอร์ (สาว) ของยิมโยคะแห่งนี้ Christine Tyson ซึ่งเธอก็มีอายุถึง 66 ปีแล้วล่ะ   แถมการเข้าร่วมคลาสโยคะคนแก่ของเธอยังทำให้เธอเจอเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ๆ…

ความจริงเลยก็คือ ถ้าพูดถึงรายชื่อหนุ่มฮอตที่สาวๆ ทั้งโลกอยากจะไปใช้ชีวิตคู่ด้วย หนึ่งในนั้นก็คงไม่พ้นพ่อหนุ่ม Cristiano Ronaldo สตาร์ดังของวงการฟุตบอลยุคนี้ แต่ความคลั่งไคล้เกี่ยวกับตัวเขานั้น ยังแผ่ขยายไปถึงเหล่าชายหนุ่มอีกด้วยล่ะเออ น่าสนใจจริงๆ เรื่องนี้ โดยเฉพาะเจ้าหนูวัย 17 ปีจากประเทศเดนมาร์กคนนี้ ที่ลงทุนเปลี่ยนชื่อแซ่ให้เหมือนเขาเลยทีเดียว!!!   Cristiano Ronaldo สตาร์แห่ง Real Madrid ที่นอกจากหล่อแล้วยังมากความสามารถอีกด้วย   แต่ต้องบอกเลยล่ะว่าเจ้าหนุ่มคนนี้ระดับความคลั่งไคล้ของเขานั้นไม่ใช่ของคนธรรมดาทั่วไปแล้วล่ะ   Shanta Ronaldo หนุ่มน้อยวัย 17 ปีจากประเทศเดนมาร์ก ที่เสียเงิยไปแล้วอย่างมากมายเลยทีเดียวในการโมดิฟายรูปลักษณ์ของตัวเองให้กลายเป็นสตาร์คนดังใจในของเขา เหมือนที่ #จ่าสิบเหมียว บอกไปแล้วว่าความคลั่งไคล้ของเขานั้นอยู่ในระดับที่เกินคนธรรมดาไปแล้ว ถึงขั้นเปลี่ยนนามสกุลของเขาให้เป็น Ronaldo ซะเลย!!! จะเหมือนแล้วก็เหมือนให้สุด ให้รู้แล้วรู้รอดเลยสินะ   ‘ผมคลั่งไล้โรนัลโด้เป็นอย่างมาก จนผมไม่รู้แล้วล่ะว่าผมจ่ายเงินไปเท่าไหร่เพื่อที่จะได้มีรูปลักษณ์คล้ายคลึงกับเขา’ หนุ่มน้อยกล่าว   ความคลั่งไคล้ต่อโรนัลโด้ของเจ้าหนุ่มนั้นก็เป็นเรื่องง่ายๆ ‘ผมอยากเป็นเหมือนเขาเพราะเขารวย ดัง และมีชีวิตที่สุดๆ ไปเลย’ หนุ่มน้อยกล่าวเสริม   Shanta เริ่มติดตามคริสเตียโน่ โรนัลโด้ตั้งแต่เขาย้ายมาค้าแข้งที่สโมสร Real Madrid ประเทศสเปนในปี…

ธรรมชาติ มักสร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ที่มีความสวยงาม และน่าตื่นตาตื่นใจมาให้มนุษย์เราได้เห็นกันอยู่เสมอ เหมือนดังเช่น ปรากฏการณ์น้ำแข็งซ้อน หรือ Ice stacking ที่ผู้ใช้ยูทูบชื่อ RadiantSpiritGallery ได้โพสต์ให้เราได้รับชมกันนี้…     เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากแผ่นน้ำแข็งที่มีความหนาราว 1/4-3 นิ้ว บนผิวทะเลสาบ ถูกกระแสน้ำข้างใต้พัดไปชนปะทะกับสิ่งกีดขวางต่างๆ จนเกิดแตกหักเป็นแผ่นเล็กแผ่นน้อย     เมื่อมีการปะทะกันกับสิ่งกีดขวางต่างๆ แผ่นน้ำแข็งที่แตกหักเหล่านี้ จึงเริ่มซ้อนทับกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เกิดเป็นภาพที่ดูเหมือนกระจกที่แตกหักซ้อนกันมากมายอยู่เต็มตลิ่ง     เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่มีทั้งความสวยงาม และความมหัศจรรย์ในแบบที่น้อยคนนักจะเคยเห็น เพราะในปัจจุบันเริ่มหาชมได้ยากมากๆ แล้ว     เหตุมาจากสภาพอากาศในอเมริกาอุ่นขึ้น ทำให้อัตราการระเหยของน้ำที่ผิวน้ำเพิ่มขึ้น และระดับน้ำในแหล่งน้ำลดลง จึงไม่เอื้อให้เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวยังไงละ   ลองไปชมคลิปวีดีโอกันเลย   ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นที่ ทะเลสาบสุพรีม ในแหล่งท่องเที่ยวแคแนลพาร์ค เขตดูลุธ รัฐมินเนโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมากเลยละเมี๊ยว ที่มา : huffingtonpost

การมีกฎมีระเบียบ มีข้อบังคับ ก็แน่นอนว่ามีไว้เพื่อให้มนุษย์ได้อยู่ร่วมกันแบบมีความสุข ไม่เบียดเบียนผู้อื่น แต่กระนั้นคนที่ทำผิดกฎ จนบางครั้งบางทีมีโทษหนักถึงต้องประหารชีวิตนั้น…เขาจะไม่มีโอกาสกลับตัวได้แล้วจริงหรือ?? และนี่ก็อาจจะเป็นหนึ่งในแนวคิดของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส “Pope Francis” ผู้นำแห่งโลกคริสจักรที่ได้ออกมาเรียกร้องให้ประเทศคริสเตียนยกเลิกโทษประหารชีวิตเหล่านักโทษเสีย!!?   โป๊ปได้ออกมาเรียกร้องให้เหล่าผู้นำของประเทศคริสเตียนละเว้นการประหารชีวิตตลอดปีนี้   ‘ตามพระบัญญัติแล้วกล่าวว่า ‘เจ้าอย่าฆ่าคน’ นั้นครอบคลุมทั้งเหล่าคนดีและคนที่ทำความผิดไม่ต่างกัน’ นี่คือคำกล่าวของเขาที่ประกาศต่อผู้คน ณ จตุรัส St.Peter’s   ‘ฉันขอเชิญช่วนให้เหล่าผู้นำประเทศโลกคริสเตียนทั้งหลายยกเลิกโทษประหารเสีย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและเป็นแบบอย่างต่อผู้นำประเทศอื่นๆ ขอให้ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งความเมตตานี้ไม่มีการประหารด้วยเทอญ’ พระสันตะปาปากล่าว สำหรับปีศักดิ์สิทธิ์แห่งความเมตตานี้ ตามที่พระสันตะปาปาประกาศเริ่มั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว จนถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2559 ที่จะถึงนี้ ช่วงนี้ก็ถือว่าโป๊ปฟรานซิสได้เริ่มออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองบ่อยครั้งขึ้น เพราะไม่กี่สัปดาห์ก่อนเขาก็ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัล ทรัมป์ เกี่ยวกับเรื่องการสร้างกำแพงระหว่างชายแดนสหรัฐฯ – เม็กซิโก ของเขาว่าเป็นการกระทำที่ไม่มีน้ำจิตน้ำใจของชาวคริสต์เอาซะเลย   “A World without the Death Penalty,”   สำหรับสถิติการประหารนักโทษที่สูงที่สุดในโลกตกเป็นของประเทศจีน อิหร่าน อิรัก ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอเมริกาตามลำดับ และถ้าพิจารณาเฉพาะในส่วนของโลกตะวันตกแล้วล่ะก็ สหรัฐฯ…

บางครั้งบางทีเวลาที่เราต้องเดินทาง อยู่บนรถ หรือขึ้นเที่ยวบินไกลๆ หรืออาจไปอยู่ที่ๆ คนเยอะๆ เราก็อยากจะปลีกวิเวกบ้าง การเอากระดาษทิชชู่หรืออะไรมาปิดหูก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มีไอเดียที่ปิดหูน่ารักๆ ของนักออกแบบชาวญี่ปุ่นชื่อ Mao Yamamoto ที่เป็นรูปหมาไส้กรอกโผล่ออกมาจากหู น่ารักแปลกตาสุดๆ ไปเลย   เป็นภาพสุนัขพันธุ์ดัชชุน (Dachshund)   พอเสียบเข้าไปในหูทั้งสองข้างแล้วเหมือนว่าเจ้าหมาตัวนี้จะยืดยาวทะลุหูของเลยทีเดียว   ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจล่ะก็มีวางขายตามท้องตลาดแล้วจ้า ประมาณ 1,296 เยน หรือ 400 บาท (แพงเอาเรื่องเลยนะเนี่ย)   มีให้เลือกกันหลายสีด้วยล่ะ   หนานุ่มปิดกั้นเสียงได้มิดชิด   น่าใช้มากๆ เลยว่ามั้ย ^^   เรื่องเล็กๆ น้อยๆ น่ารักๆ ก็สามารถผลิตเป้นสินค้าจากไอเดียดีๆ ทำขายได้เลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆ ทีนี้เราลองมาหัดสังเกตปัญหาต่างๆ ในชีวิตประจำวัน แล้วมาทำอย่างเขาคนนี้กันบ้างเนาะ รวยไม่รู้เรื่องเลยนะเนี่ย >< ที่มา: Boredpanda

หากพูดถึงห้องสมุด เพื่อนๆ จะนึกถึงภาพออกมาเป็นแบบไหน ท่านอาจนึกถึงตึกเก่าๆ ที่มีชั้นหนังสือนับร้อยนับพันวางอย่างเป็นระเบียบ พร้อมกับบรรณารักษ์ที่ชอบทำหน้าเข้มๆ เวลาเดินผ่านใช่หรือไม่   แต่ถ้าเพื่อนๆ ได้เห็นห้องสมุดจากมหาวิทยาลัย Seikei ในประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้แล้วล่ะก็ รับรองว่าเพื่อนๆ จะต้องตื่นตะลึงอย่างแน่นอน เพราะว่ามัน “ล้ำ” โพดๆ เลยล่ะ ไม่เชื่อ ไปชมกันเลย   มหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่าน Kichijoji-Kitamachi ซึ่งกำลังจะมีอายุครบ 110 ปีในปี 2016 นี้เอง โดยห้องสมุดของมหาวิทยาลัย Seikei ถือว่าเป็นหนึ่งในห้องสมุดที่สวยงามที่สุดในโลก เป็นอาคารขนาดห้าชั้น ออกแบบโดยใช้กระจกเป็นวัสดุหลัก เพื่อการประหยัดพลังงาน   แต่สิ่งที่เจ๋งที่สุดของห้องสมุดแห่งนี้ก็คือ ห้องประชุมส่วนตัวที่พวกเขาเรียกกันวา่ “ดาวเคราะห์” (Planet) ที่ตั้งอยู่ที่ชั้นสี่และห้าของอาคาร เจ้าห้องประชุมอันนี้มีลักษณะเป็นโดมกระจก ลอยอยู่เหนือพื้น ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปข้างในด้วยทางเดินสกายวอร์คจากชั้นสี่และชั้นห้า   ภายในก็จะมีโต๊ะ เก้าอี้ จอภาพ และไวท์บอร์ดให้ได้เลือกใช้งาน   โอ้โห ใครมีโอกาสก็ลองไปเยี่ยมชมห้องสมุดแห่งนี้ดูนะ เหมียวว่ามันจะต้องเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดอย่างแน่นอน ว่าแต่วันไหนประเทศเราจะมีห้องสมุดแบบนี้กับเขาบ้างน้า ที่มา Rocketnews24

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าว Dailymail ได้รายงานว่า พนักงานโรงงานรายหนึ่ง ในเมืองซื่อโจว ประเทศจีน ได้พบสุนัขตัวหนึ่ง ซึ่งเขาคิดว่าสุนัขตัวนี้เป็นสุนัขเร่ร่อนไม่มีเจ้าของ ดังนั้นหนุ่มรายนี้จึงทำการจับเจ้าสุนัขผู้น่าสงสารไปฆ่ากินในห้องพักกับรูมเมทอีก 2 คน แต่ทว่าเรื่องราวมันกลับตาลปัตรมากขึ้นกว่าเดิม เพราะในวันต่อมาเขาได้พบใบปลิวประกาศตามหาสุนัขพันธุ์คอร์กี้ตัวดังกล่าวจากเจ้านายทั่วโรงงาน งานนี้เล่นเอาหนุ่มจีนถึงกับเหงื่อตก เพราะสุนัขในรูปมันช่างเหมือนกับตัวที่กินเข้าไปเหลือเกิน   น่ารักน่าเอ็นดูซะด้วย   นอกจากนี้ทางเจ้านายของเขายังมีการแนบรูปถ่าย พร้อมระบุข้อความเอาไว้ว่า ‘สุนัขพันธุ์คอร์กี้ของผมหายไป ผมกระวนกระวายใจมาก ขอให้คนที่พบเห็นมันติดต่อกลับมาหาผมด้วยเถอะ’ ส่วนใครที่สามารถนำเจ้าสุนัขตัวดังกล่าวมาคืนได้ เขายังเสนอเงินรางวัลให้กับคนที่นำมาคืนกว่า 44,000 บาท และอีก 5,500 บาท สำหรับคนที่แจ้งเบาะแส     งานนี้เล่นเอาหนุ่มพนักงานถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว เพราะสุนัขในรูปคือตัวเดียวกันกับที่เขาทานมันเข้าไปแล้ว ในที่สุดเขาก็ได้ออกมาสารภาพกับเจ้านาย พร้อมทั้งขอชดเชยความสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่เจ้านายของเขากลับปฏิเสธทุกอย่าง สุดท้ายหนุ่มพนักงานรายนี้ก็ถูกจับในข้อหาขโมยสุนัข ส่วนรูมเมทอีก 2 ราย ที่ช่วยกันฆ่า ก็ถูกไล่ออกไปตามระเบียบเลยจ้า ที่มา : dailymail

จะบอกว่าชั่วก็ยังน้อยไปเลยมั้งเนี่ย สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อหนุ่มวัย 20 ปีคิดได้ว่าเขายังไม่พร้อมที่จะเป็นพ่อคน เลยตัดสินใจเผาแฟนของเขาทั้งเป็น แล้วซ่อนศพเธอไว้ในป่า!!!? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใกล้ๆ กับกรุงเบอร์ลิน ในประเทศเยอรมนี Eren Toben หนุ่มน้อยวัย 20 ปี ลวงแฟนสาวของเขา Maria Peiner วัย 19 ปีที่กำลังท้อง 8 เดือนเข้าไปในป่าชานเมือง ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนสมัยเรียนของเขา Daniel Mueller   Eren Toben   โดยการหลอกแฟนสาวชวนเธอออกมาซื้อเสื้อผ้าสำหรับเด็ก เขาและเพื่อนของเขาก็ได้ปรี่เข้าไปทำร้าย Maria ตีเธอด้วยไม้จนสลบ ลากเธอเข้าไปในป่า แทงเธออีกหลายแผลด้วยมีดหั่นขนมปัง เทน้ำมันราดลงบนตัวเธอแล้วจุดไฟเผา!!! ศพของเธอถูกพบในวันต่อมาโดยคนที่ชอบมาเดินเล่นในแถบนั้น ตำรวจก็สืบสวนและจับ Eren Toben และเพื่อนผู้ร่วมก่อเหตุของเขา Daniel Mueller อย่างรวดเร็ว เพราะบริเวณที่เกิดเหตุนั้นมีมีดหั่นขนมปังที่มีรอยนิ้วมือของ Eren Toben อยู่   แฟนสาวของเขา Maria Peiner วัย 19 ปีที่กำลังท้อง 8 เดือน   Regina Alex ผู้พิพากษาที่ทำการตัดสินคดีนี้ได้ตัดสินโทษจำคุกให้ทั้งคู่เป็นระยะเวลา 14…

ในปัจจุบัน โดยเฉพาะยุคโซเชียลมีเดียแบบนี้กิจกรรมที่คนชอบทำกันมากที่สุดก็เห็นจะไม่พ้นการถ่ายภาพเพื่อนำไปโพสต์ลงในโลกโซเชียลนี่แหละ ซึ่งบางครั้งบางทีก็อาจจะรุนแรงเกินไปเสียด้วยซ้ำ ล่าสุดก็ได้มีเหตุการณ์ในฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นักท่องเที่ยวหนุ่มดันไปลากเอาปลาฉลามขึ้นมาจากทะเล แล้วนำมาถ่ายรูปบนชายหาดซะงั้น เอิ่มมมม ดีนะเนี่ยที่ไม่ถูกกัด แต่สงสารเจ้าฉลามจริงจริ๊งงง   เจ้าฉลามที่ถูกซัดมาที่หาดโดยคลื่น กลายเป็นเหยื่อพ่อหนุ่มไปโดยปริยาย   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ Palm Beach ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าฉลามนับพันๆ ตัวจะว่ายน้ำผ่านพื้นที่แถบนี้ในช่วงฤดูหนาว   สำหรับวิดีโอนี้ถูกถ่ายไว้โดย Ashleigh Walters เหยี่ยวข่าวของสำนักข่าว WPTV ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของเจ้าหนุ่มเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อไม่นานมานี้ก็เกิดเหตุคล้ายคลึงกัน นั่นคือเหล่านักท่องเที่ยวรุมเอาลูกโลมามาถ่ายภาพเซลฟี่ จนขาดน้ำเสียชีวิตในที่สุด   ในคลิปเจ้าหนุ่มลากฉลามขึ้นมาบนบกราวๆ 1 นาทีเต็มๆ เลยทีเดียว และกดมันไว้กับพื้น ขณะที่มันพยายามดิ้นเพื่ออิสรภาพ   คงจะเอาไปทำเป็นรูปโปรไฟล์อ่ะเนาะ -*-   ภายหลังพวกเขาก็นำฉลามลงไปปล่อย แต่ก็นั่นแหละมันคงยังมีอาการมึนๆ อยู่ ถูกน้ำพัดกลับเข้าฝั่งอีกรอบสองรอบเลยทีเดียว   ลองมาดูวิดีโอกันแบบเต็มๆ ได้ที่นี่ Shark Capture, Release on Palm BeachVIDEO: Shark capture, release on…

เมื่อไม่นานมานี้เราเคยนำเสนอภาพของ นายแบบหนุ่ม คนหนึ่ง ที่ดูแว๊บแรกหลายคนคงคิดว่าเขาจะต้องเป็นผู้หญิงแน่ๆ เพราะทั้งใบหน้า รูปร่างของเขานั้น เรียกได้ว่าเหมือนผู้หญิงซะเหลือเกิน แถมดูไปดูมายังสวยกว่าผู้หญิงซะอีก ซึ่งในตอนนั้นเรียกได้ว่าภาพของเขาได้กลายเป็นกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์พอสมควร     และล่าสุด 22 กุมภาพันธ์ 2559 ทางเว็บไซต์ดังของจีน  ก็ได้เผยภาพของนายแบบหนุ่มรูปงามคนนี้กันอีกครั้ง แต่ในคราวนี้บอกเลยว่าสตรองหนักขึ้นอีกกว่าเดิมอีกนะแก เพราะเขามาในลุคนางสนมเอกสุดเป๊ะปัง เพื่อโปรโมทซีรีส์เรื่องใหม่ แถมอวดสรีระอ้อนแอ้นอรชร เรียกได้ว่าสวยล้ำเกินบรรยายกันเลยทีเดียว     ขุ่นพระ!! นี่ดูเผินๆ เหมียวขี้อ้อนก็นึกว่ามันเป็นการถ่ายภาพของชายหญิงทั่วๆ ไป   แต่แท้จริงแล้วนี่คือภาพชายคู่ชายต่างหากละ   ป้าดดดดดด นอกจากหน้าตาจะสวยหวานหยาดเยิ้มปานประหนึ่งน้ำผึ้งเดือนห้าแล้ว รูปร่างของเธอ เอ้ย!! เขายังเหมือนผู้หญิงสุดๆ อีกด้วย     นี่ถ้าไม่ดูให้ดีๆ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคน อาจจะคิดว่าหนุ่มคนนี้เป็นผู้หญิงจริงๆ ก็ได้นะ   โอ๊ยยย แค่แต่งเนื้อแต่งตัวเป็นผู้ชาย นี่ก็นึกว่าผู้หญิงแล้ว งานนี้พี่แกเล่นแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นหญิงทั้งตัว แทบแยกไม่ออกเลยทีเดียว   เอามดลูกไปเลยมั้ยยย   สวยหวานขนาดนี้ ยังไงก็เหลือพื้นที่เล็กๆ…

ในเมืองใหญ่ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่แออัด และที่สำคัญความรวดเร็วในการไปถึงที่หมายโดยเฉพาะเวลาทำงานนั้น คนส่วนมากก็ต้องหวังพึ่งระบบขนส่งมวลชน ที่ทางประเทศและหน่วยงานในเมืองนั้นๆ จัดหามาให้กับประชาชนในพื้นที่ แต่กระนั้นบางเมืองของโลกก็มีระบบขนส่งมวลชนที่แพงเหลือเกิน วันนี้ #จ่าสิบเหมียว เลยอยากจะพาเพื่อนๆ ไปชม 9 มหานครใหญ่ที่มีระบบขนส่งมวลชนที่แพงที่สุดในโลก สำหรับการเปรียบเทียบจะดูจากรายรับโดยเฉลี่ยของประชากรที่ได้รับต่อเดือน กับค่าเฉลี่ยตั๋วไป-กลับที่ขนส่งมวลชนได้รับ อาศัยข้อมูลอ้างอิงจากทาง Expert Market …ซึ่งผลที่ได้ก็คือ!!!   อันดับ 9 ปารีส   หลักๆ แล้วการเดินทางในมหานครอย่างปารีสก็ยังเป็นรถไฟใต้ดิน ที่เปิดทำการมาแล้วกว่า 115 ปีด้วยกัน ในเดือนๆ หนึ่งเฉลี่ยแล้วชาวปารีสจะใช้เงินเดือนถึง 11% ไปกับค่าโดยสาร   อันดับที่ 8 ลอนดอน   ทั้งแออัด ทั้งรีบเร่ง มีระบบขนส่งมวลชนให้เลือกมากมายทั้งรถไฟใต้ดิน รถราง รวมไปถึงรถบัสสีแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง โดยลอนดอนเนอร์จะใช้เงินเดือนกว่าร้อยละ 13 ไปกับค่าเดินทาง   อันดับ 7 Athens   เมืองหลวงของประเทศกรีซ มีค่าเฉลี่ยรายรับต่อหัวของประชากรอยู่ที่ 785 เหรียญ/ เดือนหรือราวๆ 27,000 บาท…

จะว่าไปแล้วเหมือนเป็นกระแสของหนังดังในแต่ละปีเลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆ และล่าสุดก็ตามคาด ผลโหวตผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุดในโลกครั้งนี้ก็ตกเป็นของหนุ่มไอริชไปตามคาดหมาย สำหรับการโหวตนี้จัดทำขึ้นโดย MissTravel.com ซึ่งได้แจกแบบสอบถามแก่เหล่าสาวโสดชาวอเมริกากว่า 66,000 คนด้วยกัน เพื่อเฟ้นหาว่าหนุ่มชาติไหนหล่อเซ็กซี่เร้าใจมากที่สุด หนุ่มไอริชได้คะแนนอย่างท่วมท้นถึง 7,862 เลยทีเดียว!!!   ก็แน่ล่ะสิ มีทั้ง Jame Dornan จาก Fifty Shade หนุ่มหล่ออย่าง Colin Farrell และคุณพ่อดีเด่นอย่าง Liam Neeson ที่ต้องไปตามเมียและลูกหลายๆ รอบ   นอกจากนี้ในผลสำรวจยังบอกว่านอกเหนือจากหน้าตาที่หล่อเร้าใจแล้ว หนุ่มๆ ชาวไอริชยังมีสำเนียงการพูด (ภาษาอังกฤษ) ที่แปลกๆ และดูมีเสน่ห์มากกว่าชาติอื่นๆ อีกด้วย   ส่วนอันดับรองลงมาก็มีออสเตรเลีย 6,486 คะแนน และปากีสถาน 4,761 คะแนนด้วยกัน   ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว #จ่าสิบเหมียว จะพาไปดูเหล่าหนุ่มไอริชหล่อๆ กันหน่อยดีกว่า…เริ่มด้วยลุงนิ้วก้อย Aiden Gillen จาก Game of Thrones…

แน่ะๆๆๆๆ อย่ามาปฏิเสธ ถึงจะกินแล้วอ้วนก็ตามเถอะแต่ #จ่าสิบเหมียว เชื่อเป็นอย่างยิ่งเลยล่ะว่า ‘ช็อกโกแลต’ เป็นขนมสุดโปรดของเพื่อนๆ หลายๆ คนที่ยากจะปฏิเสธกันเลยทีเดียวเชียว จากการรายงานของสำนักข่าว Metro ประเทศอังกฤษ ได้ออกมาเผยว่า นักวิทยาศาสตร์หลายรายออกมาคอนเฟิร์มแล้วว่า การรับประทานช็อกโกแลตอย่างเป็นประจำนั้น จะทำให้คุณมีสุขภาพสมองที่ดีขึ้น!!!   ก็อย่างที่รู้ๆ กันมาก่อนแล้วว่าการกินช็อกโกแลตอย่างเป็นประจำทำให้มีสุขภาพดี   เพราะในช็อกโกแลตอุดมไปด้วยสาร Flavanols หรือ Cocoa Flavanols ที่จะช่วยเสริมสร้างในด้านกล้ามเนื้อหัวใจ ป้องกันมะเร็ง แถมมากไปกว่านั้นยังช่วยในเรื่องของสมรรถภาพทางเพศด้วยนะเออ!!! นั่นไง คุณผู้ชายนี่หูผึ่งเลยทีเดียวเชียว แต่ต้องระวังนิดนึงนะจ๊ะในการทาน เพราะอาจอ้วนฉุกันได้ง่ายๆ เพราะช็อกโกแลตส่วนมากนั้นมีน้ำตาลเป็นส่วนผสม ถ้าจะให้ดีหันมากินดาร์กช็อกโกแลตขมๆ กันเพื่อสุขภาพดีกว่า   ในด้านการทำงานของสมอง?   ในส่วนของการทำงานของสมองนั้น การเก็บข้อมูลได้สุ่มตัวอย่างจากอาสาสมัครหลากหลายรูปแบบ แบ่งเป็นกลุ่มที่ทานอาหารหลากหลาย กลุ่มบริโภคผักและผลไม้ ช็อกโกแลต และกลุ่มที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ และนำมาทดสอบหลากหลายรูปแบบเพื่อทดสอบการทำงานของสมอง ผลการเก็บข้อมูลพบว่า กลุ่มที่บริโภคช็อกโกแลตอย่างเป็นประจำนั้น มีการทำงานของสมองที่ดีกว่า ซึ่งไม่สำคัญว่าจะบริโภคอาหารประเภทอื่นๆ และถ้าจะให้ดีสาร Flavanols นั้นจะมีอยู่มากใน Dark Chocolate มากกว่าช็อกโกแลตประเภทอื่นๆ นะจ๊ะ   งานนี้เพื่อนๆ…

สำหรับตอนนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นปัญหาสถานการณ์รุนแรงเลยทีเดียวในประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อล่าสุดนักชกระดับโลก Manny Pacquiao ออกมากล่าววิพากษ์วิจารณ์เพศที่ 3 อย่างรุนแรงว่า ‘แย่ยิ่งกว่าสัตว์’ ทำให้สร้างความไม่พอใจแก่เหล่าเพศทางเลือกอย่างมาก จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ Nike บริษัทผลิตภัณฑ์กีฬาแบรนด์ดังของโลกตัดสินใจปลดเขาจากการเป็นพรีเซนเตอร์แบบฟ้าผ่ากันเลยทีเดียว เพราะกระทบถึงภาพลักษณ์ของทางบริษัทและสินค้าของพวกเขา    Manny Pacquiao หรือ The Pacman   แต่กระนั้น ก็มีรายงานการเผาสินค้าของ Nike แล้วโพสต์ลงในโซเชียลของชาวฟิลิปปินส์หลายคน ซึ่งก่อนที่จะเผาพวกเขาก็ได้กล่าวร้องตะโกนว่า ‘พวกเราสนับสนุนแมนนี่ ปาเกียว พวกเราจะเผารองเท้าเพื่อจิตวิญญาณของพวกเรา’ และ ‘เราไม่ได้เกลียดเพศที่ 3 หรอก แต่เราเกลียดการโปรโมทตัวตนของพวกเขา’ ‘พวกเราเผารองเท้าเพื่อจะสนับสนุนข้อเท็จจริงที่ว่า การแต่งงานของเพศเดียวกันนั้นเป็นเรื่องที่ผิด แต่กระนั้นเราก็ยังรักพวกเขา ทั้งเกย์ ไบ เลสเบี้ยน แต่แค่ไม่ชอบการโปรโมทที่มากเกินไปเท่านั้นเอง…’    คลิปดังกล่าวถูกแชร์อย่างมากในโลกออนไลน์ ของแมนนี่ ปาเกียว ที่ให้สัมภาษณ์ว่าเพศที่ 3 แย่ยิ่งกว่าสัตว์ ซึ่งทำให้ Nike ฉีกสัญญาของเขา Manny Pacquiao on same-sex marriage“Mas masahol pa…

ใครที่กำลังท้อแท้กับการออกกำลังกายหรือเบื่อหน่ายรูปร่างของตัวเองแล้วล่ะก็ #เหมียวฟิ้นอยากจะชวนเพื่อนๆ มาอ่านเรื่องราวของนางแบบสาวชาวรัสเซียคนนี้ดูหน่อย รับรองว่าเมื่อคุณได้อ่านเรื่องของเธอแล้วจะต้องทึ่งในความสามารถของเธอแน่ๆ     นี่คือ Tanya Rybakova นางแบบสาวชาวรัสเซียวัย 25 ปีที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย ไม่ใช่เพราะว่าความสวยเซ็กซี่ในปัจจุบันของเธอนะ แต่เป็นภาพในอดีตของเธอต่างหาก     พวกคุณลองมองรูปร่างของนางแบบสาวคนนี้ให้ดีๆ ซิ พวกคุณเห็นอะไรไหม? เหมียวจะบอกให้ว่าก่อนหน้าที่หุ่นเธอจะแซ่บขนาดนี้ เธอเคยมีรูปร่างที่ท้วมจนคุณแทบไม่เชื่อเลยทีเดียว     แต่ก่อน Tanya ได้แต่เจ็บใจที่มีคนชอบล้อเธอว่ามีรูปร่างเหมือนหมูตอนน่าเกลียด และเอาไปพูดกันเป็นเรื่องตลกขบขัน จนเธอรู้สึกแย่ เธอจึงตัดสินใจหันมาออกกำลังอย่างเอาจริงเอาจังและควบคุมอาหารเป็นพิเศษ     ส่วนนี่น่ะเหรอ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเธอสมัยที่ยังอ้วนท้วนตราเด็กสมบูรณ์นั่นเอง       และนี่คือภาพการกินแตงโมอย่างเอร็ดอร่อยของเธอ แม้จะไม่ได้เป็นปัญหากับตัวเองเท่าไหร่ แต่มันกลับกลายเป็นปัญหากับคนรอบๆ ตัวเธอ เธอเลยไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นอีกต่อไป       และนี่คือเรื่องราวน่าทึ่งๆ ของนางแบบสาวที่ชื่อ Tanya Rybakova และคุณเองก็สามารถมีเรื่องราวน่าทึ่งๆ แบบนี้ได้เช่นกัน       #เหมียวฟิ้นขอเอาใจช่วยใครก็ตามที่พยายามจะบอกลาไขมันรอบๆ เอว หรือฝันอยากจะมีหุ่นเฟิร์มๆ ขอให้ตั้งใจและมีวินัย…

นี่ถือเป็นเรื่องน่าอิจฉาทีเดียว เพราะเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวออกมาว่าหนุ่มมะกันรายหนึ่งชื่นชอบเครื่องบินมากและอยากจะนำเครื่องบินมาทำเป็นบ้านจริงๆ และในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จแถมยังกินนอนอยู่เครื่องบินที่ว่านี่มากว่า 15 ปีแล้วด้วยนะ     เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวของนาย Bruce Campbell หนุ่มจากรัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา     เขาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาอาศัยอยู่ในบ้านเครื่องบินโบอิ้ง 727 ในเมืองพอร์ทแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกามานานกว่า 15 ปีแล้ว เขาเปลี่ยนให้ส่วนต่างๆ ภายในเครื่องบินให้กลายเป็นเตียงนอน ห้องครัว ห้องซักล้าง และห้องอาบน้ำ     นาย Campbell กล่าวว่าการจะปรับเปลี่ยนทุกอย่างบนเครื่องให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยนั้นต้องใช้งบประมาณกว่า 220,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 7.8 ล้านบาทเลยทีเดียว     ย้อนกลับไปในปี 1999 อดีตวิศวกรไฟฟ้าได้มีความคิดว่าอยากจะเก็บรักษาเครื่องบินที่ปลดประจำการไม่ให้กลายเป็นเศษเหล็ก โดยการซื้อเครื่องบินที่ว่านั่นมาเป็นของเขาซะ     ในตอนนั้นนาย Campbell อยู่ในวัย 20 ต้นๆ เขาได้เริ่มต้นโครงการนี้ด้วยการซื้อที่ดินเปล่าๆ มา 2…

ปกติแล้วเรามักจะเห็นว่าพี่กับน้องต้องทะเลาะกันบ่อยๆ แต่วันนี้ #เหมียวสามสี มีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับพี่และน้องมาให้ทุกท่านได้ประทับใจกัน หนูน้อย Abby วัย 6 ขวบ ตอนนี้เธอได้กลายเป็นน้องสาวที่ดีที่สุดที่ไม่มีใครสามารถทำลายสถิตินี้ได้แล้ว ด้วยความที่เธออายุยังน้อย แม่จึงซื้อหนูแฮมสเตอร์ให้เลี้ยง แต่พี่ชาย วัย 9 ขวบ Daniel ก็อยากจะได้บ้าง ก็เลยพยายามทำงานให้หนักขึ้น เพื่อที่จะได้เงินค่าขนมไปซื้อหนูแฮมสเตอร์     แต่หนู Abby เธอมีเงินเก็บ 55 ดอลล่าร์จากงานวันเกิดของเธอ เมื่อแม่ของเธอ Rachel Stout ถามว่าจะเอาเงินไปทำอะไร หนูน้อยก็ตอบกลับมาอย่างไรเดียงสาว่า “หนูจะทำเซอร์ไพรส์พี่ด้วยการซื้อแฮมสเตอร์ให้ เพราะพี่ทำงานหนักมากๆเลย” หลังจากนั้นครอบครัวก็รอช่วงเวลาที่ Daniel กลับบ้านหลังจากไปเที่ยวที่บ้านเพื่อนมา เหตุการณ์สุดน่าประทับใจก็เกิดขึ้น เราไปชมในคลิปกันเลย ตอนพี่ร้องไห้ น้องสาวถามว่า “ร้องไห้ทำไมพี่?” ช่างเป็นคำถามที่ดูน่ารักและไร้เดียงสามากๆ นอกจากพี่จะได้แฮมสเตอร์แล้ว พี่ยังได้น้องสาวที่ดีที่สุดด้วยนะ สุดท้ายพี่ชายก็ตั้งชื่อแฮมสเตอร์ว่า “Cubby” ที่มา kztv

โลกของเราใบนี้นั้นกว้างใหญ่เหลือเกิน เรากูเป็นเพียงจุดเล็กๆ จุดหนึ่งบนโลกใบนี้เท่านั้น และแน่นอนว่ามีเรื่องแปลกๆ ใหม่ๆ ให้เราได้ตกใจกันไม่เว้นแต่ละวัน วันนี้ #จ่าสิบเหมียว เลยขออาสานำเพื่อนๆ ไปชม 18 ภาพหาดูยากจากรอบโลก ที่ไม่ได้เจอกันทุกๆ วัน หรือทุกๆ พื้นที่ ลองมาดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง…   พื้นห้องที่ติดตั้งเครื่องทำความร้อนไว้ ในต่างประเทศจะใช้แบบนี้เพราะอากาศหนาว   ภาพภายในโรงงานสายไหม (ขนมหวาน)   ภาพซูมของหอยทากที่กำลังกินหยดน้ำ   เถาวัลย์ที่ขึ้นเป็นรูปต้นไม้   Xie Qiuping ผู้หญิงชาวจีนที่ผมยาวกว่าความสูงของตัวเอง   การอพยพของปูนับล้านตัวที่เกาะคริสมาสต์   กระบวนการสร้างเรือสำราญ   ดอกไม้ที่ถูกหยดน้ำค้างแช่แข็งในเช้าฤดูหนาว   ภายในรถถัง   บอลที่ทำมาจากที่หนีบกระดาษ   การข้ามสะพานใน Maha Kumbh Mela ประเทศอินเดีย   ศิลปินที่สร้างผลงานจากปูนที่ยังไม่แห้ง   กิ่งมะเขือเทศที่ดันไปคล้ายกับคนไร้หัวแบบพอดี   เห็ดที่งอกบนเห็ด   ขวดพลาสติกก่อนเป่า…

ดูเหมือนว่าดราม่าครั้งนี้จะไม่จบง่ายๆ สำหรับนักมวยชื่อก้องโลกชาวฟิลิปปินส์ แมนนี่ ปาเกียว หลังจากถูก Nike บริษัทกีฬาชื่อดังจากอเมริกาตัดสปอนเซอร์ เพราะเขาแสดงความเห็นต่อต้านชาวรักร่วมเพศ ซึ่งเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นไปหยกๆ เมื่อวานนี้เอง แต่ควันไฟยังไม่ทันจางหาย พ่อแมนนี่ ปาเกียว ผู้ประกาศตนว่าเป็นคริสต์ศาสนิกชนที่เคร่งครัดนั้น ก็ได้ออกมาเรียกดราม่าอีกครั้ง หลังโพสภาพพร้อมกับภรรยา แล้วบรรยายแคปชั่นด้วยข้อความจากคัมภีร์ไบเบิ้ล เหน็บชาวรักร่วมเพศว่า “สมควรตาย”     โดยข้อความดังกล่าว เป็นหนึ่งในคำสอนจาก พระธรรมเลวีนิติ บทที่ 20 ข้อ 13 ซึ่งกล่าวไว้ว่า “ชายใดก็ตามที่เพศสัมพันธ์กับชายเหมือนกับที่มีกับผู้หญิง พวกเขานั้นได้ทำสิ่งที่น่ารักเกียจลงไปแล้ว พวกเขาจะต้องตาย และเลือดจะหลั่งไปทั่วศีรษะของเขาเอง”  ซึ่งแม้เขาจะลบหลังจากโพสลงได้ไม่นาน แต่ก็ยังมีชาวเน็ตแคปภาพเอาไว้ได้ทัน     หลังจาก Nike ได้ยกเลิกสัญญากับปาเกียวแล้ว ทางนักข่าวก็ได้สัมภาษณ์ปาเกียวเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาตอบว่า “ผมมีความสุขดี ผมมีความสุขดีเสมอ เพราะพระเจ้าอยู่กับผลตลอดเวลายังไงล่ะ”     ดูท่าชื่อเสียงของแกคงจะป่นปี้ ไม่มีทางหวนกลับคืนแล้วล่ะ เล่นปล่อยออกมาสองดอกติดๆ กันแบบนี้ บางทีเรื่องบางอย่าง คิดได้แต่ไม่ได้แสดงออกก็ได้นะเหมียว == ที่มา BBC

หากนึกถึงหุ่นไล่กา เราอาจนึกภาพของหุ่นฟางหน้าตาน่ากลัวหรือไม่ก็หุ่นที่ทำจากไม้ แต่สำหรับชาวนาชาวจีนคนนี้ ต้องบอกว่าเปิดมิติใหม่แห่งวงการหุ่นไล่กาเลยทีเดียว เพราะเขานำ “ตุ๊กตายาง” มาทำหุ่นไล่กานั่นเอง!! ภาพที่เราเห็นคือ มีตุ๊กตายางสภาพสะบักสะบอม ถูกนำมาทำเป็นหุ่นไล่กาพร้อมสวมหมวกสีเหลือง ตั้งอยู่ใกล้กับไซต์งานก่อสร้าง ในเมืองเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน   ซึ่งเจ้าหุ่นไล่กาตัวนี้ ได้สร้างความตกอกตกใจให้แก่ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะใบหน้าอันร่าเริงแต่ไม่มีชีวิตชีวาของมัน     หลายคนอาจบอกว่าแปลก แต่สำหรับชาวจีนแล้ว ตุ๊กตายางนั้นเป็นสิ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย (และหลากหลาย) มาก เช่นบริษัทจีนได้นำ “ตุ๊กตายาง” มาแจกให้กับพนักงานชาย แทนเงินโบนัสปลายปี จนกลายเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกมาแล้ว     ถ้าเหมียวเจอแบบนี้ดึกๆ เหมียวว่าต้องมีวิ่งกันเปิดเปิงกันบ้างล่ะ จะน่ากลัวไปไหนเนี่ย หุ่นไล่กาปกติยังไม่น่ากลัวขนาดนี้เลย จริงมั้ยเพื่อนๆ (ฮา) ที่มา Metro

ในยุคที่ใครๆ ก็มีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง ทำให้คนจำนวนมากติดโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นไลน์ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ จนไม่อาจจะละสายตาได้ แม้แต่ตอนจะนอนก็ยังเลื่อนขึ้นๆ ลง แถมยังเสียบสายชาร์จทิ้งไว้ใกล้ๆ กับที่นอน รู้หรือไม่ว่านั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะได้     ในต่างประเทศเองมักจะมีข่าวเกี่ยวกับกรณีที่ชาวบ้านชอบเสียบสายชาร์จมือถือ แล้ววางไว้บนเตียงหรือใต้หมอน จนเกิดระเบิดขึ้น ทางสถานีตำรวจแห่งนิวยอร์กจึงได้รวบรวมเอาภาพเหตุการณ์น่าสยดสยองเหล่านั้นมาเตือนใจผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนว่า “อย่าชาร์จมันไว้บนเตียงเด็ดขาด”     ภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้นส่วนใหญ่เป็นภาพที่หมอนหรือเตียงนอนถูกไฟลุกไหม้เป็นหย่อมๆ สาเหตุเกิดมาจากมือถือนั้นถูกวางไว้ใต้หมอน ทำให้เครื่องไม่สามารถระบายความร้อนออกไปได้ และระเบิดในที่สุด     ซึ่งก็สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของนาย David Berardesca หัวหน้าหน่วยดับเพลิงในรัฐ Connecticut สหรัฐอเมริกา ที่ได้เคยออกมาเตือนเหล่าผู้ใช้มือถือก่อนหน้านี้ว่า การชาร์จมือถือโดยการวางไว้บนเตียงและมีหมอนทับอยู่ อาจทำให้แบตเตอรีร้อนจนเกิดลุกไหม้ได้     ทางที่ดี#เหมียวฟิ้นว่าควรจะชาร์จมือถือไว้ในที่โล่งๆ อย่างบนโต๊ะหรือไม่ได้ที่ที่มีลมถ่ายเทได้ หรือถ้าจะให้ดีควรชาร์จให้เรียบร้อยก่อนเข้านอนจะเป็นการดีที่สุดนะ ที่มา dailymail

Anshu Agarwal เขาเกิดมาพร้อมกับทักษะการถ่ายภาพที่สวยงามไม่เหมือนใคร เขาได้ปล่อยภาพชุดหนึ่งออกมา เล่าเรื่องราวของเด็กๆ และคุณครูคนหนึ่งในหมู่บ้านใน Uttarakhand ประเทศอินเดีย ที่กำลังเล่นกีฬาควิชดิช ซึ่งเป็นกีฬาชื่อดังในแฮร์รี่ พอตเตอร์ หมูบ้านแห่งนี้ชื่อว่า Kalap เป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลสถานีรถไฟไป 210 กิโลเมตร และ Anshu Agarwal ก็เป็นคนหนึ่งที่เคยมาเยือนที่แห่งนี้ในฐานะครูสอนพูดภาษาอังกฤษจากวรรณกรรมและหนัง     หลังจากที่เขาเปิดหนังเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ให้เด็กๆดู พวกเขาก็เริ่มมีความฝันว่าอยากจะเป็นพ่อมดขึ้นมาทันที เขาก็เลยตัดสินใจสร้างการแข่งขันนี้มา พร้อมกับถ่ายภาพเด็กๆ ในคราบนักกีฬาควิชดิช ที่กำลังลอยตัวอยู่บนไม้กวาด   .   ตอนที่เขาบอกกับนักเรียนว่าจะสอยลอยตัวให้ พวกเขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก พร้อมกับพาเขาไปที่ลานกว้าง ใช้เวลานานกว่า 4 วันในการถ่ายรูปในส่วนต่างๆ ถ่ายมาเยอะมากจนเด็กๆ พอใจ   .   ดูจากภาพแล้วก็พอจะรู้ว่าการถ่ายลอยตัวมันยากแค่ไหน แต่เด็กๆ ก็ไม่ยอมแพ้ พยายามกระโดดให้เท่ากันและดูเหมือนลอยจริงๆ   . และนี่คือคุณ Anshu Agarwal ช่างภาพและคุณครูผู้ใจดี ที่ทำให้เวทมนตร์เกิดขึ้นได้จริงๆกับเด็กๆ ที่มา brightside

หญิงชาวจีนนี่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดอยู่แล้ว โดยเฉพาะเวลาจับได้ว่าสามีของพวกเธอนั้นนอกใจ อย่างที่เราเห็นข่าวเป็นประจำ ที่ภรรยาหึงโหด ทุบรถสามีซะเละเทะ!! แต่ถ้าเพื่อนๆ ได้เห็นข่าวนี้แล้วล่ะก็ บอกเลยว่าการทุบรถนั้นเป็นเรื่องเด็กๆ ไปเลย เพราะหญิงคนนี้ เล่นเอามีดปังตออันเบ้อเริ่ม ฟันเข้าที่ศีรษะของสามี จนมีดปักคาหัวสุดหวาดเสียวอย่างที่เห็นในภาพ     ทางสำนักข่าวจีนได้รายงานว่า ชายคนดังกล่าวถูกภรรยาของเธอเอามีดฟันเข้าที่ศีรษะ เพราะว่าภรรยาเขาจับได้ว่าเขาแอบมีกิ๊กและเกิดมีปากเสียงกันขึ้นมา หลังจากนั้นเขาก็ถูกนำส่งโรงพยาบาลในสภาพมีดอันใหญ่ ปักอยู่บนหัว และกำลังทำการผ่าตัดเพื่อทำการรักษา ปัจจุบันก็ยังไม่มีรายงานว่า เขายังสบายดีอยู่หรือไม่     ไปชมคลิปกันเลยดีกว่า     ก็พอเข้าใจนะว่าโมโห แต่มันคงไม่ต้องถึงขนาดนี้หรอกมั้ง เห็นแล้วหวาดเสียวแทน ทีหลังทะเลาะกันก็ใจเย็นๆ ก่อน อย่าให้ของมีคมอยู่ใกล้มือเลยเนาะ ที่มา mirror

BASE Jumping เรียกได้ว่าเป็นกีฬากระโดดดิ่งพสุธาสุดเอ็กซ์ตรีม สำหรับผู้ที่คิดว่าตัวเองใจกล้าพอ และที่ชอบท้าทายความหวาดเสียว ซึ่งกีฬาชนิดนี้ต้องอาศัยความแข็งแกรงของร่างกายพอสมควรเลยละ ในครั้งนี้เราจะพาทุกๆ คนมาเปิดประสบการณ์สุดหวาดเสียว ไปพร้อมๆ กับสาวรัสเซียนามว่า Ksenia Smirnova ผู้ที่ท้าทายความแกร่งของร่างกาย โดยการกระโดดเบสจัมพ์ลงน้ำเย็นยะเยือกที่มีอุณหภูมิถึง -11 องศาเซลเซียส     โดยเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าว Dailymail ได้เผยคลิปวีดีโอของสาวรายนี้ ในขณะที่กำลังเตรียมตัวพร้อมจะกระโดดเบสจัมพ์ลงบ่อน้ำแข็ง บริเวณใต้สะพานในเมืองโนโวคซเนทส์ ทางตอนใต้ของรัสเซีย โดยเธอใส่เพียงบิกินี่ตัวจิ๋วเท่านั้น     แต่ทว่านี้ไม่ใช่การกระโดดเบสจัมพ์ธรรมดาๆ แต่ Ksenia กลับทำในสิ่งที่ท้าทายยิ่งกว่า เพราะเธอได้ใช้ตะขอเชือกสลิง มาเกี่ยวปีกแผ่นหลังทั้ง 2 ข้างเอาไว้ แทนการใช้ชุดอุปกรณ์ของมันยังไงละ     ในขณะที่เธอกำลังจะกระโดด พวกเพื่อนที่อยู่ด้านล่างจะคอยบอกทิศทาง เพื่อให้เธอกระโดดลงมาตรงกับบ่อน้ำเย็นที่ขุดไว้ ซึ่งแน่นอนว่า Ksenia ทำสำเร็จ เธอสามารถกระโดดลงมาได้อย่างไม่มีพลาด ‘นี่เป็นครั้งแรกที่ได้กระโดดลงบ่อน้ำแข็ง เธออยากลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน’ Ksenia กล่าว    …

ปกติการขนส่งสัตว์ชนิดต่างๆ เรามักจะเห็นเจ้าหน้าที่ใช้รถบรรทุกคันใหญ่ๆ ในการขน ไม่ว่าจะเป็นหกล้อ สิบล้อ หรือว่ารถตู้คอนเทนเนอร์ก็ตาม ซึ่งแต่ละคนก็จะมีกรงเอาไว้ขนส่งอย่างเป็นระเบียบ   แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศสาธารณรัฐเช็คนี้ ต้องบอกว่าเปิดมิติใหม่แห่งการขนสัตว์ขนาดใหญ่จริงๆ เพราะพี่แกเล่นเอาสิงโตขาวสองตัวขึ้นเบาะหลังรถบีเอ็มดับเบิลยู แล้วขับไปดื้อๆ อย่างงั้นเลย   โดยภาพดังกล่าวถูกถ่ายโดย Jenda Stedronsky นักขี่มอเตอร์ไซด์ที่บังเอิญไปเห็นเหตุการณ์พอดี เขาจึงถ่ายรูปแล้วอัพลงโซเชียล พร้อมแคปชั่นสุดฮา “สงสัยวันนี้ผมทำงานหนักเกินไป”   เดี๋ยวๆ สิงโตนะเฮ่ยยย เอาขึ้นรถกันง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ   ตอนแรกเขาก็คิดว่าอาจเป็นตุ๊กตา แต่ซักพักสิงโตในนั้นมีการเปลี่ยนท่าทางด้วย เขาจึงรู้ในทันทีว่า ไม่ใช่ตุ๊กตาอย่างแน่นอน     ทำไมพวกแกนั่งกันเจี๋ยมเจี๊ยมจังล่ะเนี่ย   ล่าสุดทางตำรวจเช็คได้ปฏิเสธที่จะออกความเห็นเกี่ยวกับภาพเหล่านี้ แม้จะมีหลายคนทักท้วงว่า อาจมีการขโมยสิงโตสองตัวนี้ มาจากที่อื่นหรือเปล่า     แหม ท่าทางเจ้าสิงโตสองตัวนี้จะว่าง่ายพอสมควรเลยนะ ท่าทางไม่เดือดร้อนอะไรซักอย่างเลย หวังว่าพวกแกจะไม่ได้ถูกขโมยมาจากที่ไหนนะ! ที่มา Dailymail

พักหลังมานี้มีข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุบันใดเลื่อนในประเทศจีนเกิดขึ้นบ่อยมากเหลือเกิน จนบางครั้งเวลาที่ได้ใช้บันใดเลื่อนบนห้างสรรพสินค้า ก็ทำให้คนดูอย่างเราๆ หวาดเสียวตามไปด้วย ล่าสุดทางสำนักข่าว Shanghaiist ก็ได้ออกมารายงานว่า มีเด็กชายชาวจีนวัย 3 ขวบคนหนึ่ง ที่ผู้ปกครองปล่อยไว้ให้อยู่ตามลำพังในห้างสรรพสินค้านครหนานจิง เมืองหลวงของมณฑลเจียงซู ประเทศจีน ได้เล่นซุกซนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น     ทั้งนี้พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เด็กชายคนดังกล่าวเล่นอยู่ตรงจุดเกิดเหตุเพียงลำพัง โดยไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วย งานนี้จึงทำให้เด็กที่กำลังเล่นอยู่ในห้าง เกิดอุบัติเหตุมือไปติดอยู่กับเครื่องจักรตรงร่องบันไดเลื่อนยังไงละเหมียว     เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มาถึงยังจุดเกิดเหตุ พวกเขาก็ได้เร่งเข้าช่วยเด็กทันที ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ทางด้านแพทย์จากโรงพยาบาลได้เผยว่า มือของเด็กได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีบาดแผลฉกรรจ์จนอาจจะต้องตัดนิ้วมือทิ้งถึง 3 นิ้ว เพื่อทำการรักษา     นอกจากนี้ยังมีการรายงานอีกว่า พ่อและแม่ของเด็กเป็นคนขายของอยู่ในห้าง ซึ่งอาจจะกำลังยุ่งกับที่ร้าน จนเผลอละสายตาไปจากลูกของพวกเขา จนทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว และนี่ก็เป็นกรณีตัวอย่างที่พ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลายควรตระหนักไว้ว่า  อย่าปล่อยปะละเลยลูกหลานตัวน้อยๆ ของท่าน ให้อยู่เพียงลำพังเป็นอันขาด เพราะมิเช่นนั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นได้ ที่มา : shanghaiist

สิ่งหนึ่งที่ยังเป็นคำถามมาจนถึงปัจจุบันก็คือนอกโลกยังมีสิ่งมีชีวิตอยู่หรือไม่ ถ้ามีจริงๆ มันจะมีลักษณะเหมือนคน มีความรู้ มีความคิดเหมือนกันรึเปล่า หรือว่าจะมาแบบซุปเปอร์แมนไปเลย เพื่อตอนปัญหานี้ นักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ต่างก็พยายามสร้างสิ่งประดิษฐ์เพื่อตรวจหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก แต่มาจนถึงตอนนีก็ยังไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันที่สามารถพิสูจน์ได้จริงๆ   รัฐบาลจีนเล็งเห็นว่าปัญหานี้ควรได้รับการแก้ไข จึงจัดการสร้างโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อตรวจหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก โดยตั้งชื่อมันว่า Five-hundred-metre Aperture Spherical Radio Telescope (FAST) ซึ่งความกว้างของมันประมาณ 30 สนามฟุตบอลนั่นเอง   ถ้ามองดีๆจะเห็นว่ามันประกอบจากสามเหลี่ยมเล็กๆ ทำเป็นรูปจานขนาดใหญ่ เพื่อที่ว่าจะสามารถรับคลื่นวิทยุได้ดี โดยจะให้วิศวกรและนักวิทยาศาสตร์หลายคนร่วมกันค้นหาสิ่งเหล่านี้ ด้วยการตรวจจับที่ไกลถึง 10,000 ล้านปีแสงเลยทีเดียว   แต่การสร้างก็ต้องแลกมาด้วยการเชิญชาวบ้านในแถบนั้นให้ย้ายออกไปด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่จนที่สุดในประเทศ แต่ทางรัฐก็มีค่าชดเชยให้ประมาณ 66,000 บาท   ที่มา orzzzz

‘มนุษย์’ เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ที่ประเสริฐกว่าสัตว์อื่นๆ มากที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน ‘มนุษย์’ ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ขึ้นชื่อได้ว่าโหดร้าย และน่ากลัวที่สุดในโลกเช่นกัน และเรื่องราวที่เราจะนำมาเสนอต่อไปนี้ อาจจะทำให้คนรักสัตว์โดยเฉพาะน้องหมาใจสลายได้ เพราะเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยคลิปวีดีโอแฉพฤติกรรมของพวกมนุษย์ใจบาป ที่ทำร้ายสัตว์ไม่มีทางสู้อย่างน้องหมาได้ลงคอ     ซึ่งจากภาพเราจะเห็นได้ว่า เจ้าสุนัขผู้โชคร้ายถูกจับมัดขาหน้ากางออก 2 ข้างในท่ายืน จากนั้นก็ถูกมนุษย์ใจโหดปามวนบุหรี่ และรองเท้าใส่ แถมยังหัวเราะออกมาด้วยความชอบอกชอบใจอีกด้วย เฮ้อ…เห็นแล้วสะเทือนใจมากจริงๆ     โดยคลิปวีดีโอที่เพื่อนๆ กำลังจะได้รับชมนี้ Laxmi Agarwal จากนครมุมไบ ประเทศอินเดีย ได้ทำการเผยแพร่ลงในเฟซบุ๊กที่ชื่อ Laxmi Agarwal พร้อมเขียนข้อความไว้ว่า เธอได้รับคลิปวีดีโอมาจากโซเชียลมีเดีย และขอให้ช่วยแชร์ต่อๆ กันเพื่อหาเบาะแสของผู้ถ่ายคลิป     ***คำเตือน วีดีโอนี้อาจจะทำให้คนรักสัตว์สะเทือนใจได้ หากใจไม่ถึงห้ามดูเด็ดขาด***   ทั้งนี้คาดว่าคลิปดังกล่าว อาจถูกถ่ายขึ้นในอินเดีย ซึ่งตอนนี้กำลังถูกแชร์ต่อกันทั่วโลกออนไลน์ โดยชาวเน็ตที่ได้เข้ามาชมต่างก็พากันวิจารณ์ถึงการกระทำอันโหดร้าย และป่าเถื่อน พร้อมร้องขอให้เจ้าหน้าที่ออกมาช่วยสืบค้นหาตัวของผู้กระทำมารับโทษให้ได้ ที่มา : dailymail

เหมียวขี้อ้อนเชื่อว่า บนโลกของเราใบนี้ยังมีเรื่องราวอันน่าสะพรึงอีกมากมาย ที่เราอาจไม่เคยได้รู้มาก่อน และในวันนี้เราก็จะขอมาเผยเรื่องราวของสายน้ำมรณะกลางป่าอะเมซอน ในประเทศเปรู ผ่านประสบการณ์ของ Andrés Ruzo นักธรณีวิทยาหนุ่ม ที่ได้ไปสัมผัสสายน้ำแห่งนี้ด้วยตัวเองมาแล้ว     Andrés เคยได้ยินเรื่องราวของสายน้ำมรณะมาจากคุณปู่ ซึ่งคุณปู่ได้เล่าว่ามีนักผจญภัยกลุ่มหนึ่งในยุคจักรวรรดิอินคาช่วงสุดท้าย เข้าไปในป่าอะเมซอนเพื่อค้นหาทอง แต่เมื่อพวกเขาได้เข้าไปแล้ว กลับมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดชีวิต โดยพวกเขาได้เผชิญกับฝันร้ายในที่แห่งนั้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่เป็นพิษ งูกินคน และสายน้ำที่พร้อมจะฆ่าทุกชีวิตแบบทั้งเป็น     Andrés ไม่ได้สนใจในคำบอกเล่าของปู่มากนัก จนกระทั่งเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้จากปากของน้าที่เคยไปเยือน ณ สถานที่แห่งนี้มาแล้ว จึงทำให้เขาเริ่มประหลาดใจ และอยากที่จะลองไปสัมผัสสายน้ำมรณะแห่งนี้ด้วยตัวเองสักครั้ง     แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เขาก็ยังคงสงสัยว่า สิ่งที่ปู่ และน้าได้เล่ามามันไม่น่าจะเป็นไปได้เลย เขาจึงได้ถามเพื่อนที่ทำงานในบริษัทเหมืองและก๊าซ ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คือ ‘มันไม่มีอยู่จริง’     คำพูดของเพื่อนที่บอกว่ามันไม่มีอยู่จริง กับของน้าที่บอกว่ามันมีอยู่จริง จึงทำให้ Andrés ได้ออกเดินทางไปหาคำตอบด้วยตัวเองในปี 2011 และในที่สุดเขาก็พบว่า สายน้ำที่เดือดระอุมีอยู่จริงบนโลกใบนี้ยังไงละเหมียว     เมื่อเขาเดินทางไปถึงเขาก็พบว่า แม่น้ำ Mayantuyacu แห่งนี้ทอดตัวยาวกว่า…

ในช่วงทีกระแสคนรักแมวกำลังมาแรงแบบนี้ เหล่าบริษัทห้างร้านก็ต่างพากันออกสินค้ามายั่วเหล่าทาสแมวให้เสียเงิน ซึ่งแต่ละอย่างต้องบอกเลยว่า เห็นแล้วชวนให้จับจ่ายใช้สอยเหลือเกิน   ล่าสุดทางบริษัท Unihabitat ได้เปิดตัวชุดจั๊มสูทลายน้องเหมียว ที่เหล่าทาสแมวเห็นแล้วต้องตาเป็นประกายอย่างแน่นอน เพราะว่ามันทั้งน่ารักและเก๋ไก๋ไปพร้อมๆ กันน่ะสิ   โดยในช่วงปลายปีที่แล้ว เราอาจเห็นชุดแมวเหมียวแบบนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง (ข่าวเก่า) แต่ชุดนั้นมีไว้สำหรับช่วงฤดูหนาว แต่วันนี้จะเป็นชุดที่เนื้อผ้า “บาง” ลงมา ซึ่งเหมาะในการใส่ ในทุกฤดู   โดยในชุดมีฟังค์ชั่นเจ๋งๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหางจำลอง ปุ่มมือที่ปลายแขนเสื้อ หรือหูแมวที่บริเวณฮู๊ด   ส่วนใครที่สงสัยว่า เวลาเข้าห้องน้ำจะทำยังไง ไม่ต้องห่วง เขาออกแบบ “ระบบขับถ่าย” เอาไว้เรียบร้อยแล้ว   นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าหน้าท้องด้วยนะ   สนนราคาชุดแมวสุดน่ารักนี้อยู่ที่ประมาณ 8,100 เยน หรือราว 2,500 บาท ใครที่สนใจก็สั่งซื้อได้จาก เว็ปไซต์  Amazon หรือ Rakuten ดูนะเหมียว     กรี๊ด น่ารักมาก เห็นแล้วอยากได้ซักตัวจริงๆ ขอเก็บตังแปป จะซื้อมาใส่อยู่บ้านทุกวันเลย อิอิ ที่มา Rocketnew24

การทำดี โดยที่ไม่หวังสิ่งใดๆ ตอบแทน ถือเป็นสิ่งที่เราทุกคนควรปฏิบัติ เพราะนอกจากคุณจะได้รับคำยกย่องแล้ว ยังเป็นที่ยอมรับในสังคมอีกด้วย เหมือนกับเรื่องราวของคุณป้าวัย 50 ที่ทางสักนักข่าวต่างประเทศได้นำมาเผยในครั้งนี้ เรียกได้ว่ามันช่างน่าประทับใจมากจริงๆ เพราะคุณป้าแก ยอมเปียกปอนกระโดดลงน้ำเพื่อลงไปช่วยเหลือชีวิตเด็กยังไงละ     เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าว Shanghaiist ได้รายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่า มีเด็กชายวัย 8 ขวบรายหนึ่ง กำลังเล่นโรลเลอร์สเกตอยู่ในเมืองต้าหยุน มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน     แต่จู่ๆ เด็กน้อยก็เกิดพลัดตกน้ำไปซะอย่างนั้น งานนี้เมื่อคุณป้าวัย 50 ที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี จึงรีบจะกระโดดลงไปช่วยเด็กชายผู้เคราะห์ร้าย แล้วพาเขากลับขึ้นฝั่ง พร้อมกำชับคนบนฝั่งดูแลเด็กอีกด้วย     หลังจากพาตัวเด็กขึ้นฝั่งแล้ว ยังไม่มีใครได้เอ่ยคำขอบคุณ คุณป้าก็ว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งอีกฝั่งหนึ่งแล้ว จากนั้นเธอก็เดินกลับบ้านไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น     เมื่อภาพของคุณป้าถูกเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างก็พากันยกย่องถึงความดีของเธอ ว่าเธอนั้นเป็นคนดีที่แท้จริง แม้แต่มีสื่อมาขอสัมภาษณ์ คุณป้ายังขอปฏิเสธ บอกเพียงแต่ว่า มันเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยที่คนคนหนึ่งควรพึงกระทำเท่านั้น ที่มา : shanghaiist

อย่างที่เราทราบกันดีกว่า ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้าเท่าไหร่ ราคาของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกก็จะถูกลงยิ่งขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะสมาร์ทโฟน จากที่เมื่อก่อนเราอาจต้องมีเงินหมื่นถึงจะมีมาครอบครอง แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะตอนนี้แค่เรามีเงินร้อยกว่าบาท เราก็สามารถมีสมาร์ทโฟนเป็นของตนเองได้แล้ว! โดยบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์จากอินเดีย Ringing Bells ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่น Freedom 251 ซึ่งน่าจะเป็นสมาร์ทโฟนที่ถูกที่สุดในโลก ด้วยราคาเพียง 251 รูปี หรือราว 130 บาทเท่านั้น!!     แต่ถึงจะราคาถูกขนาดนี้ สเป็คของเครื่องก็ไม่ใช่ขี้ๆ นะจ๊ะ ตัวเครื่องใช้หน้าจอขนาด 4″ ความละเอียด 960×540 พิกเซล, ใช้ชิป MediaTek ควอดคอร์ความถี่ 1.3GHz, รัน Android 5.1 Lollipop, หน่วยความจำภายใน 8GB (เพิ่ม microSD ได้) แรม 1GB, กล้องหลังความละเอียด 3.2 เมกะพิกเซล และกล้องหน้า VGA, แบตเตอรี่จุ 1450 mAh ซึ่งถ้าใครยังนึกภาพไม่ออกว่า โทรศัพท์เครื่องนี้ ราคาถูกขนาดไหน #เหมียวอ๊อดโด้…

คุณพ่อหลายท่าน เมื่อเวลามีลูกที่ต้องดูแลแล้ว มักจะไม่มีเวลาทำสิ่งที่ตัวเองเคยทำเหมือนสมัยก่อน เพราะว่าเราต้องคอยเอาใจใส่เด็กอยู่เสมอ แต่สำหรับคุณพ่อ Calum Neff เขาสามารถจัดการปัญหานั้นได้ด้วยการให้ลูกมีส่วนร่วมกับกิจกรรมนั้นๆเลย นั่นก็คือการวิ่งมาราธอนนั่นเอง คุณพ่อได้นำลูกสาววัย 11 เดือนที่ชื่อว่า Holland ไปวิ่งฮาล์ฟมาราธอนโดยใส่เธอไว้รถเข็นเด็ก โดยใช้เวลาไปทั้งหมด 1 ชั่วโมง 11 นาที 27 วินาที คุณพ่อเล่าว่ามันเป็นวันที่สุดยอดมากๆวันหนึ่งเลย ที่ได้ใช้เวลากับลูกสาว มันแสดงให้เห็นว่าการที่คุณมีลูกไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ได้ทำอะไรตามใจชอบแล้ว   อีกทั้งคุณพ่อและลูกยังวิ่งเข้าเส้นชัยอันดับแรก และทำลายสถิติโลกการวิ่งฮาล์ฟมาราธอนพร้อมกับรถเข็นเด็กอีกด้วย   สมกับเป็นคุณพ่อที่ยึดมั่นในอุดมการณ์จริงๆ ถึงแม้มีหน้าที่ แต่ก็สามารถจัดเวลาให้สามารถทำด้วยกันได้ ที่มา Today

สำหรับโซเชียลมีเดียนั้นก็เรียกได้ว่ากลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของมนุษย์ไปซะแล้ว ซึ่งบางครั้งเรามีอาการติดกันแบบงอมแงมเลยทีเดียว ลองคิดดูกันเล่นๆ สิว่าวันๆ หนึ่งเราต้องหยิบเอาโซเชียลมีเดียขึ้นมาเล่นไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้!? แถมง่านวิจัยใหม่ของทาง California State University ของศาสตราจารย์ Ofir Turel ได้สังเกตการทำงานของสมองของอาสาสมัครที่เข้าร่วมทดลองจำนวน 20 คน พบว่าการทำงานของสมองนั้นราวกับกำลังเสพสารเสพติดอยู่เลยทีเดียว   ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับสมองนั้นคล้ายกับการใช้โคเคน   แต่อย่างหนึ่งที่มีความแตกต่างกันก็คือ เวลาติด Facebook นั้น สามารถเลิกได้ง่ายดายกว่า และก็ไม่มีอาการเมาหนักเหมือนโคเคนอีกด้วย Ofir Turel นักจิตวิทยากล่าวว่า ‘ผู้ที่ติด Facebook มีความสามารถที่จะควบคุมพฤติกรรมในการติดของเขา แต่กระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้มีแรงจูงใจพอที่จะควบคุมมัน เพราะพวกเขาไม่คิดว่าผลจากการติดนั้นจะรุนแรงและมีผลต่อชีวิต’ การทดสอบอาสาสมัครคือการนำพวกเขามาดูภาพไปทีละภาพ ทั้งภาพที่มีความเกี่ยวข้องกับเฟซบุ๊ค ภาพการจราจร และภาพอื่นๆ ซึ่งพวเขาจะสามารถแตะหรือไม่แตะจอภาพก็ได้ หลักๆ แล้วผลที่ได้ออกมาก็คือ พวกเขามักจะกดภาพที่มีสัญลักษณ์ของเฟซบุ๊คกันแบบหยุดไม่อยู่ และสามารถควบคุมพฤติกรรมในการกดภาพอื่นๆ เช่นป้ายจราจรได้   อาการติดเฟซบุ๊ค     ‘เอาง่ายๆ เลยก็คือ Facebook มีผลต่อสมองของมนุษย์ในส่วนของสมอง เกี่ยวกับอารมณ์รุนแรงซึ่งควบคุมไม่ได้ เช่นโกรธใครก็ทำร้ายผู้นั้นเลย กรณีนี้เราจะเปรียบเทียบกับการขับรถที่ผู้ใช้ Facebook อาจจะตอบข้อความเร็วกว่าการสังเกตป้ายจราจรเสียอีก’ ศาสตราจารย์กล่าวเสริม แต่ข่าวดีก็คือสมองในส่วนที่ควบคุมการยับยั้งนั้นยังสามารถควบคุมอาการตัวนี้ได้ และนี่คือข้อแตกต่างระหว่างการติดเฟซบุ๊คกับติดโคเคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอาการนี้สามารถรักษาได้…

ถึงแม้ว่าในต่างประเทศจะเริ่มยอมรับกันแล้ว ว่าเป็นพืชที่มีประโยชน์ทางด้านการแพทย์และอารมณ์ (ถ้าใช้ในปริมาณที่เหมาะสม) แต่กระนั้นก็ยังมีหลายกรณีที่ผู้ใช้บางรายได้รับผลกระทบทางด้านความผิดปกติทางจิตมากกว่าผู้ใช้รายอื่นๆ ราวๆ 1% ของผู้ใช้กัญชาจะมีปัญหาทางด้านนี้ (ได้รับผลกระทบจากการสูบมากกว่าคนทั่วไป) ซึ่งนักวิทยาศาสตร์แห่ง University of Exeter และ University College London (UCL) กำลังศึกษาเพื่อหากลุ่มคนที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบของกัญชามากกว่าคนอื่นๆ ซึ่งนำไปสู้ความผิดปกติทางจิตได้ในที่สุด จากการทดสอบโดยการนำผู้ที่มีสุขภาพดี มีการตอบโต้ตอบสนองที่ปกติมาทดลองสูบ เพื่อค้นหาต้นตอว่ามันมีผลต่อสมองยังไง ซึ่งในการค้นพบเบื้องต้นนั้นพบว่า ผู้ใช้กัญชาที่เป็นเพศหญิงนั้น มีโอกาสที่จะสูญเสียความสามารถในเรื่องความทรงจำระยะสั้นมากกว่าเหล่าผู้ใช้ที่เป็นเพศชาย   และกระบวนการนี้ทำให้เหล่านักวิทยาศาสตร์พบยีนที่อาจเป็นสาเหตุของเรื่องนี้…AKT1   สำหรับการเก็บข้อมูลมีผู้เข้าร่วมถึง 442 คนด้วยกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ใช้กัญชารุ่นเยาว์ ซึ่งศาสตราจารย์ Celia Morgan และ Val Curran พบว่าเหล่าอาสาสมัครที่มาเข้าทดลองที่มียีนตัวนี้อยู่ จะได้รับผลกระทบจากการสูบกัญชามากกว่าอาสาสมัครคนอื่นๆ !? ศาสตราจารย์ Celia Morgan กล่าวว่า ‘เหล่าอาสาสมัครที่มียีน AKT1 นี้ จะได้รับผลกระทบจากกัญชามากกว่าผู้สูบรายอื่นๆ ถึงแม้พวกเขาจะสุขภาพดีสมบูรณ์เต็มร้อยก็ตาม และการใช้บ่อยๆ และมากขึ้นจะนำไปสู่อาการทางจิตในที่สุด’   กัญชาทำให้มีอาการทางจิต!?   ‘โดยเฉพาะการใช้กัญชาบ่อยๆ สำหรับผู้ที่มียีนนี้ นั่นหมายความว่าพวกเขาจะเข้าไปสู่ภาวะอาการทางจิตบ่อยครั้งขึ้น จนทำให้เกิดอาการนี้ขึ้นจริงๆ ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่างานวิจัยและผลงานชุดนี้จะเป็นส่วนช่วยเหลือในการป้องกันและรักษาผู้ที่มีอาการทางจิตจากการใช้กัญชา’ ศาสตราจารย์กล่าวปิด…

สัตว์ก็มีหัวจิตหัวใจ และความรู้สึกเหมือนกับมนุษย์ เมื่อถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง มันก็เกิดอาการเหงา และซึมเศร้าได้เช่นกัน ก็เหมือนกับเรื่องราวของ เจ้า Ponso ชิมแปนซี ที่ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้นำมาเผยในครั้งนี้ บอกเลยว่าหากคนรักสัตว์ได้อ่าน จะต้องสงสารมันจับใจแน่นอน เพราะเรื่องราวของมัน เรียกได้ว่าสามารถทำให้คุณน้ำตาซึมออกมาก็เป็นได้     เจ้า Ponso เป็นชิมแปนซีอายุ 40 ปี มันเป็นหนึ่งในกลุ่มชิมแปนซีหลายสิบตัว ที่ถูกศูนย์โลหิตของนครนิวยอร์ก จับมาใช้ในการทดลองยา จนในที่สุด พอหมดประโยชน์จากการทดลองยา ก็เอาไปไว้บนเกาะร้างในประเทศประเทศโกตดิวัวร์ โดยที่ไม่คิดว่าพวกมันจะอยู่กับธรรมชาติได้ไหม     และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ เรียกได้ว่านี่ก็เป็นระยะเวลานานกว่า 30 ปีแล้วสินะ ที่เจ้า Ponso และครอบครัว พร้อมกับเพื่อนๆ ของมัน ถูกทิ้งไว้บนที่แห่งนี้ แต่ทว่าพวกเพื่อนๆ ก็ได้จากมันไปหมดแล้ว เหลือก็แต่เพียง Ponso นี่แหละ…ที่ยังมีชีวิตอยู่!!     แม้ว่าเจ้า Ponso ต้องใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังอยู่บนเกาะเล็กๆ โดยไม่มีแม้กระทั่งอาหาร หรือน้ำตามธรรมชาติ แต่โชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่นะ เพราะมันได้รับอาหารจากชาวบ้านใจบุญในบริเวณใกล้เคียงอย่าง Germain  …

หากคุณจะหาของกินที่มีหน้าตาสุดสร้างสรรค์ น่ารักฟรุ้งฟริ้ง เราขอแนะนำให้ไปประเทศญี่ปุ่นเลย เพราะอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าประเทศนี้เขามักจะมีไอเดียเด็ดๆ ในการทำอาหาร และขนมหวานออกมาให้เราได้ร้องว้าวกันอยู่เสมอ และมาในครั้งนี้ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังอีกเช่นเคย เพราะร้าน Kokone ในเมือง Musashino ประเทศญี่ปุ่น เค้าได้ทำการเนรมิตเจ้าขนมปังรูป ‘หมีบิน’ แสนน่ารัก ที่กำลังได้รับความนิยมในตอนนี้เลยก็ว่าได้     โดยเมื่อผู้ใช้ที่มีชื่อว่า ここね ได้นำภาพของเจ้าขนมปังหมีบินไปแชร์ในทวิตเตอร์ งานนี้บรรดาชาวเน็ตต่างก็ไม่รอช้าพากันแชร์ต่อๆ กันอย่างมากมาย จึงทำให้เจ้าหมีบินตัวน้อยขายดีเป็นเทน้ำเทท่ายังไงละเหมียว     หลายคนอาจจะคิดว่ามันก็แค่ขนมปังธรรมดาๆ ที่มีรูปร่างเป็นหมี แต่ความจริงแล้วมันมีสิ่งที่พิเศษซ่อนอยู่นะจ๊ะ เพราะเขาว่ากันว่าสิ่งที่ดีงามที่สุดของมันคือ ‘ส่วนหัว’ ที่มาพร้อมกับไส้คัสตาร์ด และมันฝรั่งหวานอัดแน่นอยู่ข้างใน ส่วนตัวเนื้อขนมปังก็เป็นรสชาติโกโก้ ที่ดูแล้วคล้ายกับสีของเจ้าหมีเป๊ะ!! โหยยยย น่ารักยังไม่พอ ยังน่ากินอีกด้วย แต่รสชาติจะถูกปากเพื่อนๆ หรือไม่นั้น สามารถเชิญไปลิ้มลองได้ที่ร้าน Kokone เลยจ้า ที่มา : rocketnews24

วันวาเลนไทน์ นอกจากจะเป็นวันแห่งความรักแล้ว ยังเป็นวันช้ำรักด้วยนะ เพราะมีหลายคู่ที่สุขสมหวัง แต่กลับอีกหลายๆ คู่ก็กินแห้วไปตามๆ กัน เหมือนดังเช่นกรณีหนุ่มนักศึกษาปี 4 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศจีน ที่เกิดอาการช้ำรักอย่างหนักเพราะสาวไม่รับรักในวันวาเลนไทน์ งานนี้เขาจึงได้ทำสิ่งที่ไม่คิดคิดขึ้น…     โดยเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยภาพสุดอุจาดของหนุ่มจีนรายนี้ กลางถนนหวังกวนจวง ในเมืองจี่หนาน มณฑลซานตง ประเทศจีน ในสภาพเปลือยล่อนจ้อน รอบๆ ตัวมีเศษดอกไม้กระจัดกระจายเต็มไปหมด     ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาได้กระทำสิ่งที่น่าอายเช่นนี้ เป็นเพราะว่าอาจารย์สาวที่เขาแอบชอบ ได้ปฏิเสธความรัก และไม่ยอมสานสัมพันธ์กับเขานั่นเอง     เท่านั้นยังไม่พอนอกจากจะนอนแก้ผ้าเปลือยล่อนจ้อนไม่อายฟ้าดินแล้ว หนุ่มรายนี้ยังนอนดิ้น และกรีดร้องออกมาด้วยความปวดใจเป็นเวลานานร่วมครึ่งชั่วโมงต่อหน้าผู้คนมากมาย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวของเขาออกไปในที่สุด     เมื่อคลิปวีดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงสู่โลกโซเชียล ชาวเน็ตต่างก็ออกมาให้ความเห็นกันมากมาย โดยมองว่าหนุ่มรายนี้ทำตัวเหมือนเด็กอนุบาล ขณะที่บางส่วนมองว่า อาจารย์สาวคิดถูกแล้วละ ที่ไม่รับรักหนุ่มรายนี้ ที่มา : dailymail

ก็เรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีเลยทีเดียว ของคนธรรมดาที่จะได้ขับรถสปอร์ตสุดหรูราวกับออกมาจาก Furious 7 ก็มิปานที่ Classic Car Club of Manhattan แห่งมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่คุณต้องการก็มีเพียงแค่ใบขับขี่และก็บัตรสมาชิกเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น Lamborghini Huracan, Ferrari 458 Spider และอีกไม่นานก็จะมี McLaren 570S มาให้ขับกันแบบชิวๆ อีกด้วย โดยตอนนี้มีการสมัครสมาชิกในสองระดับคือ ระดับ Silver จ่ายเงินค่าแรกเข้า 5,000 เหรียญ (175,000 บาท) และระดับ Premium ค่าแรกเข้า 15,000 เหรียญ (525,000 บาท) ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสมาชิกระดับไหนของคลับ ก็จะต้องจ่ายค่าบำรุงรักษารายเดือนอยู่ที่ 180 เหรียญ หรือราวๆ 6,300 บาทแค่นั้นเอง อื้อหือออ ถ้าเทียบกับราคารถแต่ละรุ่นต้องบอกว่าถูกมากๆ   Classic Car Club of Manhattan   โดยจำนวนชั่วโมงของคุณที่สามารถขับรถได้นั้นจะขึ้นอยู่กับระดับของสมาชิก แต่ก็มีเงื่อนไขเล็กๆ น้อยๆ…

คนทุกๆ รุ่นทุกๆ สมัย ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไหร่ สิ่งที่เราหลีกหนีกันไม่ได้เลยนั้นก็คือความแก่เฒ่าชรานี่เอง และในวัยแก่ชราของพวกเขานั้น พวกเขาจะไปอยู่ที่ไหนใครจะดูแล?? ก็ล้วนแล้วแต่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ส่วนในประเทศฝรั่งเศส มีโซนสำหรับคนชราที่เหมือนจะถูกลืมเลือนไปแล้วอยู่ล่ะ โดยช่างภาพชาวฝรั่งเศสอย่าง Laurent Kronental ก็ได้ไปเก็บภาพและบรรยากาศของสถานที่อยู่อาศัย อีกหนึ่งมุมของมหานครอย่างปารีสที่พวกเราอาจไม่เคยได้พบเห็นกันมาก่อน ลองมาดูกันเลย   โปรเจ็คต์บ้านคนชรานี้เริ่มขึ้นเมื่อราวๆ ปี 1950-1980 “Grands Ensembles” (large housing projects)   ตั้งอยู่รอบๆ ใจมหานครกรุงปารีสอย่างเป็นระเบียบ   จุดประสงค์ของช่างภาพก็คือการไปสำรวจวิถีชีวิตพวกเขา เพราะบางทีผู้คนและพื้นที่ส่วนนี้ก็ถูกลืมเลือนไปเหมือนกัน   ช่างภาพคนดังกล่าวใช้เวลากว่า 4 ปีเต็มเพื่อเข้าไปเก็บภาพในพื้นที่เหล่านี้   ในต่างประเทศการที่ให้ผู้สูงอายุมาอยู่รวมกันในที่เดียวนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก   เพราะลูกหลานก็ต้องแยกตัวไปมีครอบครัว และไม่มีเวลาว่างที่จะดูแล   ผู้สูงอายุมารวมกันอยู่ในโซนเดียว ก็จะสามารถจัดการเรื่องผู้ดูแล เพื่อดูแลพวกเขาอย่างทั่วถึงได้   ขณะที่สถานที่เหล่านี้ก็อยู่ในมหานครแห่งแสงสีอย่างปารีส แต่กลับเหมือนแคปซูลเวลาที่ค่อยๆ เลือนลางหายไปอย่างช้าๆ   พร้อมกับเหล่าผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ที่นี่   จากภาพรู้สึกถึงความเหงาและเศร้าจริงๆ เหมือนที่เคยเกริ่นไว้ข้างต้น      …

สำหรับใครที่กลัวความสูง แต่อยากจะลองสัมผัสประสบการณ์ความเสียวดูสักครั้งในชีวิต วันนี้เรามีคลิปวีดีโอสุดท้าท้ายของสมาชิกเว็บไซต์ยูทูบที่ใช้ว่า On the Roofs มาให้ชมกัน รับรองว่าหากคุณได้ดูแล้วจะต้องลุ้นระทึก และหวาดเสียวไปตามพวกเขาเหล่านี้แน่นอน     และนี่ก็คือภาพของ 3 หนุ่มชาวรัสเซีย ที่กำลังเริ่มปฏิบัติการท้าตาย ด้วยการปีนขึ้นไปบนยอดตึกชุนหิ่งสแควร์ ณ เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน     ซึ่งตึกที่ว่านี้มีความสูงเป็นอันดับ 3 เมืองเซินเจิ้น และอันดับที่ 28 ของโลกกันเลยทีเดียว ดูแล้วเรียกคะแนนความหวาดเสียวได้เต็มร้อยเลยละ     พวกเขาได้เดินทางขึ้นสู่ยอดตึกด้วยลิฟต์ ก่อนจะค่อยๆ ปีนขึ้นบันใดมาถึงชั้นที่สูงที่สุดอยู่ที่ 384 เมตร แล้วค่อยๆ  ปีนต่อขึ้นไปบนเสาล่อฟ้า ซึ่งมีความสูงมากถึง 59 เมตร!! นี่ถ้าไม่กล้าจริงทำไม่ได้นะเนี่ย   ลองไปชมคลิปวีดีโอกันเลย   พอปีนขึ้นมาถึงจุดที่สูงที่สุด บรรดาหนุ่มๆ ก็ได้ทำการควักกล้องออกมาเซลฟี่เอาไว้เป็นที่ระลึก โดยไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย งานนี้ต้องขอปรบมือรัวๆ ให้กับความกล้าของพวกพี่ๆ แกเลยฮะ ที่มา : shanghaiist

ก็อาจจะเรียกได้ว่าปมปัญหาของเรื่องนี้ได้คลี่คลายลงในบางส่วนแล้ว เมื่อล่าสุดมีรายงานเกี่ยวกับการที่มีรองเท้าพร้อมกระดูกเท้ามนุษย์ ถูกพัดพาเข้าฝั่งในประเทศแคนาดา ข่าวรองเท้าและซากกระดูก ซึ่งก็ได้มีหลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสันนิษฐานในเรื่องนี้ ตั้งแต่ปี 2007 เกิดมาถึง 13 ครั้งเลยล่ะ จนเมื่อไม่นานมานี้มีการพบเข้ากับรองเท้าและซากเท้าปริศนาอีกครั้งหนึ่ง จึงเกิดการสืบค้นหาข้อมูลอย่างจริงจังมากขึ้น   รองเท้าพร้อมซากกระดูกที่ถูกพัดพาเข้าฝั่ง   แต่สิ่งหนึ่งที่มีคล้ายๆ กันเลยก็คือ มีเฉพาะซากเท้าในรองเท้าสำหรับวิ่งเท่านั้นที่ถูกพบในกรณีนี้!!!?   สำหรับผู้ที่ให้ข้อสังเกตในเรื่องดังกล่าวคือผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมวิทยา Gail Anderson จาก Simon Fraser University ‘เท้าเหล่านั้นไม่ได้ถูกซัดขึ้นมาบนหาดเปล่าๆ หรือเป็นรองเท้าบู๊ท หรือแม้แต่รองเท้าแตะ แต่เป็นรองเท้าสำหรับวิ่ง’ ในทุกๆ ปีก็เรียกได้ว่ามีผู้คนหลายพันที่เสียชีวิตในทะเล แน่นอนก็เริ่มเกิดการเน่าเสีย ย่อยสลาย และที่สำคัญที่สุดคือโดนเหล่าสัตว์ตามธมมชาติเช่น ปู หอย กุ้ง และปลาแทะกิน   และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับกระดูกของศพหมู หลังจากถูกทะเลกลืนกิน อาจใช้เวลาไม่กี่วันหรือเป็นเดือนๆ เลยทีเดียว   สุดท้ายแล้วอุปกรณ์อย่างเช่นรองเท้าวิ่งก็ช่วยในเรื่องนี้เช่นกัน เพราะมันเป็นอุปกรณ์ที่สามารถ ‘ลอยได้’ เศษซากของกระดูกจึงยังคงสภาพอยู่ในรองเท้า และถูกพัดพาขึ้นชายฝั่งให้สยองกันเล่นๆ อย่างที่เห็น   ทั้งนี้ Anderson ก็เชื่อว่าตอนนี้หลายๆ คนก็คงไปตามชายหาดเพื่อหารองเท้าซากกระดูกแบบนี้อยู่ เหมือนเป็นปรากฏการณ์ใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น แต่กระนั้นผู้เชี่ยวชาญของเราก็ไม่เยาะเย้ยคนที่เชื่อว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากการฆาตกรรมหมู่หรือฆาตกรต่อเนื่องแต่อย่างใด…

หลายครั้งที่เราได้เห็นภาพของสัตว์น้อยใหญ่ ที่เกิดมามีรูปร่างหน้าตาที่ผิดปกติไปจากธรรมชาติของมัน ซึ่งบางทีมันก็สร้างความฮือฮาให้กับเราไม่น้อย ก็เหมือนกับเจ้าหมูน้อยน่าสงสารตัวนี้ ที่เกิดมามีลักษณะที่แปลกไม่เหมือนลูกหมูทั่วๆ ไป เพราะตรงดวงตาของมันมีก้อนปูดขึ้นมา 2 ก้อน แถมมีขนอ่อนๆ ปกคลุมอยู่ แถมยิ่งมีจมูกยาวๆ ของมันเข้ามาประกอบด้วย งานนี้เรียกได้ว่าดูไปดูมา หน้าตาของมันดันไปคล้ายกับลูกอัณฑะของท่านชายซะอย่างนั้น เย้ยยย!! พิลึกดีแท้     ภาพดังกล่าวถูกโพสต์ขึ้นมาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2559  โดย darkbluemullet ซึ่งเขาได้เผยว่า เจ้าหมูตัวนี้คงจะเกิดการกลายพันธุ์อะไรขึ้นสักอย่าง ตอนที่คลอดออกมามันยังมีชีวิตอยู่ แต่ดูท่าทางน่าจะสมองตาย     เมื่อภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาแสดงความสงสารเจ้าหมูน้อยตัวนี้ โดยเหตุที่ใบหน้าของมีความแปลกประหลาด อาจจะเกิดจากความผิดปกติในการเจริญของดวงตาและเปลือกตาก็เป็นได้ แต่ถ้าเป็นเมืองไทย ป่านนี้หมูน้อยคงโดนถูๆ ไถๆ และถูกตีเป็นตัวเลขไปแล้วเมี๊ยว ที่มา : thesun

สำหรับอาการอกหัก เราก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันเป็นอาการยังไงกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ก็คือไม่มีใครชอบมัน เพราะการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเอย ปวดหัวเอย ปวดหน้าอกตรงหัวใจเอยก็ตาม อาจจะเป็นเวลาวันสองวัน หรือไม่แน่อาจติดต่อกันเป็นเดือนเลยก็มี แต่ล่าสุดจากงานวิจัยของทางมหาวิทยาลัย Aberdeen แห่งประเทศสกอตแลนด์ได้แสดงให้เราเห็นว่า อาการอกหักนั้นจะอยู่ติดตัวกับเราไปนานเลยทีเดียว แม้ผ่านไปกว่า 4 เดือนก็ยังมีผลของอาการนั้นๆ อยู่!!!?   ผลของอาการอกหัก   สำหรับตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยก็กำลังศึกษาถึงเรื่องผลกระทบในระยะยาวของอาการอกหักอยู่ด้วยล่ะ โดยผู้นำทีมวิจัยหัวข้อนี้ก็คือ Dr. Dana Dawson ‘ความเชื่อเดิมของเราเชื่อว่าผลจากอาการอกหักนั้นสามารถควบคุมได้ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือพอระยะเวลาผ่านไป ผู้มีอาการอกหักก็ยังดูอ่อนแรง หรือมีอาการไม่อยากทำงานอยู่’ Dr. Dana กล่าว ‘สำหรับตอนนี้หลายๆ ปัจจัยก็ได้ชี้นำให้เราเชื่อไปในทิศทางที่ว่า อาการนี้ไม่สามารถรักษาได้ ขณะที่นักจิตวิทยาแนวหน้าหลายๆ คนก็เชื่อแบบนั้นเช่นกัน’ เธอกล่าวเสริม   Dr. Dana Dawson   อาการเครียดมากๆ แบบเฉียบพลันจะทำให้เกิดอาการของโรคกล้ามเนื้อหัวใจ หรือที่เรียกกันว่า ‘broken heart syndrome’ (โรคอกหัก) ซึ่งอาจเกิดได้จากการหย่าร้าง การสูญเสียความรัก และอุบัติเหตุ และอาการอกหักนั้น อาจทำให้ผู้อกหักรู้สึกเหมือนว่าตัวเองมีอาการของโรคกล้ามเนื้อหัวใจ แม้ว่าเลือดลมจะสามารถเดินได้อย่างปกติและไม่ได้มีโรคความดันก็ตามที!!!   สำหรับตอนนี้เรื่องนี้ก็อยู่ในช่วงของการวิจัยอยู่นะจ๊ะ…

ถ้าจะพูดถึงเรื่องการรักร่วมเพศนั้น ในปัจจุบันก็เรียกได้ว่าเริ่มเป็นที่ยอมรับกันมากขึ้นในระดับโลก เพราะสุดท้ายแล้วมันก็เป็นความชอบ ความสมัครใจของแต่ละคนเสียมากกว่า แต่ก็มีพระอยู่ท่านหนึ่งเป็นชาวสหราชอาณาจักรชื่อว่า Damon Jonah Kelly ในวัย 54 ปี ที่เที่ยวแจกใบปลิวมาแล้วกว่า 40,000 ใบ ตามบ้านกว่า 11 ประเทศ เพื่อเผยแพร่แนวคิดต่อต้านการรักร่วมเพศ โดยเขาเห็นว่ามันเป็น ‘บาป ผิดศีลธรรม และเป็นการกระทำอันชั่วช้าของปีศาจ’ !!   Damon Jonah Kelly   แถมยังมีรายงานสุดแสบถึงเจ้าหน้าที่บ่อยๆ ด้วยว่าเขามันเดินไปหาเหล่าคู่รักเลสเบี้ยน แล้วกล่าวกับพวกเธอว่า ‘พวกนังแม่มด สมัยก่อนพวกเธอคงถูกเผาแล้วล่ะ ฉันกำลังทำงานของพระเจ้า’  จากเหตุการณ์ปะทะคารมหลายๆ ครั้ง เขาเลยถูกศาลสั่งห้ามไม่ให้แพร่กระจายแนวคิดดังกล่าว รวมถึงการเข้าไปต่อว่าผู้คน ทั้งในสหราชอาณาจักรเอง และประเทศเวลส์ที่เขามักไปเผยแพร่แนวคิดนี้ แถมยังถูกตัดสินให้ต้องทำงานเพื่อสังคมกว่า 170 ชั่วโมงเต็มเพื่อชดเชยกับสิ่งที่เขาทำอีกด้วย อดีตพระสังกัดกลุ่ม คาทอลิกหัวรุนแรงแห่งสกอตแลนด์ที่ชื่อว่า ‘Black Hermit’ (นักพรตดำ) ก็ออกมาเรียกร้องถึงสิทธิของเขา และจะไม่ยอมให้ใครมาหยุดเขากับการทำงานของพระเจ้า (ที่เขาเชื่อ) ได้!!!!   พระจากกลุ่มนักพรตดำ   เขาจึงต่อสู้ในชั้นศาลซะเลย…

หากใครยังจำกันได้ เมื่อเนิ่นนานมาแล้วมีข่าวคราวเกี่ยวกับการประกวดเฟ้นหา ‘จิมิที่สวยงามที่สุดในโลก’ (คือมันไม่น่าจะมีการประกวดแบบนี้ขึ้นมาได้ แต่มันก็มีขึ้นจริงๆ) จัดการประกวดโดยบริษัทเซ็กส์ทอยที่ชื่อว่า Autoblow (ข่าวเก่า)     มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะเนี่ย การประกวาดนี้จริงจังมาก มีเงินรางวัลให้กับผู้ชนะด้วย และเหล่ากรรมการทั้งหลายก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ทางด้านการเก็บและประมวลผลข้อมูล เพื่อทำการวิจัยว่าจิมิแบบไหนที่ได้รับความนิยมจากผู้คนมากที่สุด     โดยเหล่ากรรมการจะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ขนาด 15 นิ้ว (ซูมให้เห็นหมดทุกรูขุมขน) ถึงกับสามารถนำไม้บรรทัดมาวัดขนาดได้บนหน้าจอกันเลยทีเดียว และจะให้คะแนนจากความซับซ้อนของส่วนซ่อนเร้นและพื้นผิว (แหม่ ถึงกับขนาดนั้นเลย)     จนในที่สุดก็ได้ผลโหวตออกมาปรากฏว่า 51% ชอบแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อนหลายชั้นมาก (Class 1-2) ส่วนอีก 49% ชอบแบบหลายๆ ชั้น หนาๆ หน่อย   ประเทศและจำนวนผู้ที่เข้าร่วมประกวด     มาถึงกันขนาดนี้แล้วผู้ชนะการประกวดจิมิสวยก็คือ สาวชาวอังกฤษนามว่า Nell วัย 27 ปี คว้าเงินรางวัล 178,000 บาท ติดไม้ติดมือกลับบ้าน อีกทั้งจิมิของเธอก็ได้นำไปเป็นแบบของเล่นชิ้นใหม่ของบริษัทต่อไป…

ถ้าจะพูดถึง IQ หรือ ไอคิวนั้น เพื่อนๆ หลายๆ คนคงได้ยินคำนี้มาตั้งแต่เด็กๆ เลยทีเดียว กล่าวง่ายๆ เลย ไอคิวก็คือ ระดับเชาวน์ปัญญา (Intelligence quotient) มีความเกี่ยวข้องกับการคิด การใช้เหตุผล การคำนวณ และการเชื่อมโยง เป็นอะไรที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิน เปลี่ยนแปลงและแก้ไขได้ยาก สำหรับการวัดค่าไอคิวของแต่ละคนนั้นสามารถทำได้ ออกมาเป็นค่าสัดส่วนตัวเลขที่แน่นอนได้เทียบกับอายุคน ส่วนใหญ่มีไอคิวช่วง 90-110 ส่วนคนที่มีไอคิวเกิน 120 ถือว่าเป็นคนที่มีไอคิวในระดับสูง!!! และล่าสุดเราก็มีผลการสำรวจทางด้านไอคิวของ IQ-Research ที่ออกมาเผยให้เห็นถึงไอคิวของคนในแต่ละพื้นที่ และประเทศต่างๆ ของโลก เราลองมาดูกัน…   พื้นที่สีแดงมีระดับไอคิวที่ต่ำสุด ส่วนสีม่วงคือโซนที่ระดับไอคิวสูงสุด   อย่างที่เราเห็นกันได้ชัดๆ เลยว่า โซนที่มีระดับไอคิวต่ำที่สุดนั้นจะอยู่ที่แถบประเทศในแอฟริกา อาจเป็นเพราะการขาดแคลนอาหารการกินที่ดีในแถบนั้นๆ ส่วนโซนที่มีไอคิวสูงที่สุดนั้นก็คงไม่พ้น จีน ฮ่องกง เกาเหลี และญี่ปุ่น ที่มีไอคิวเฉลี่ยในระดับสีม่วง คือมากกว่าหรือเท่ากับ 105 เลยทีเดียว ส่วนพื้นที่สีเทานั้นเป็นพื้นที่ตกสำรวจ   อาจเป็นเพราะแบบนี้ฝรั่งเลยมีคำพูดล้อเลียนกันเล่นๆ ว่า ‘ถ้าคุณเก่งอะไรมากๆ สักอย่าง จงระลึกไว้ ว่าที่เอเชียมีเด็กอายุประมาณ 7…

พลังงานนิวเคลียร์ถือว่าเป็นพลังงานสะอาดอีกทางเลือกหนึ่ง ที่คุ้มค่าและใช้ประโยชน์ได้จริง แต่อย่างไรก็ตาม โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงเช่นกัน ดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เชอร์โนบิลและฟุกุชิมะ ที่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เกิดอุบัติเหตุ จนแกนกลางหลอมละลายและมีกัมมันตรังสีรั่วออกมา ทำให้พื้นที่รอบๆ หลายสิบกิโลเมตร กลายเป็นที่ที่สิ่งมีชีวิตไม่สามารถอยู่อาศัยได้     แต่อย่างไรก็ตามล่าสุด ทางบริษัท Nuclear Engineering Construction Corporation  ได้ออกมาเปิดเผยว่า พวกเขากำลังจะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ที่ไม่มีวัน “ละลาย” ในมณฑลฉางตง ประเทศจีน พวกเขากล่าวว่า พวกเขาได้พัฒนาเทคโนโลยีการสร้างโรงไฟฟ้าขึ้นมาใหม่ โดยใช้แร่แกรไฟต์เป็นส่วนประกอบ และใช้แก๊สฮีเลียมในการระบายความร้อน ซึ่งพวกเขาอ้างว่า มันจะไม่มีวันละลายเด็ดขาด     ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังวางแผนให้โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ชุดใหม่ของเขานี้ กลายเป็นสินค้าส่งออกทำเงินให้กับบริษัทอีกด้วย     เยี่ยมไปเลย ถ้าทำได้แบบนี้จริงๆ พลังงานนิวเคลียร์จะกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเลยล่ะ แต่เอ.. ทำไมพอเป็นพี่จีนคอนเฟิร์มแบบนี้ เหมียวไม่ค่อยรู้สึกมั่นใจเท่าไหร่เลย ฮาาาา ที่มา Shanghaiist

แม้เรื่อง “เรื่องเล่า” อาจติดอยู่ในหัวเราไปหลายวัน แต่เชื่อได้ว่าไม่นาน เราก็อาจจะลืมเลือนไป แต่หากเป็น “ภาพถ่าย” แล้ว เชื่อเลยว่า ถ้าคุณเห็นเพียงครั้งเดียว มันจะติดตาคุณไปอีกนานแสนนานเลยล่ะ และวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 17 ภาพสุดสยอง ที่รับรองว่าเห็นเพียงครั้งเดียว จะติดตาคุณไปหลายค่ำคืนเลยล่ะ จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย   ลองมองกระจกหลังสิ   เพื่อนมาหา   อะไรอยู่บนโต๊ะ   ใครอยู่ในกระจก   ดูเหมือนจะมีคนอยากถ่ายรูปด้วยนะ   พวกนายอาจไม่ได้อยู่กันแค่สองคน   ใครอยู่ที่บันได   เธออยู่กับใคร!!   ใครอยู่ในทีวี!!   มีคนมาหาน่ะ   มาเล่นกันเถอะ   หัวเราะ   ไม่ได้ตาฝาดไปใช่มั้ย   ลองมองไปที่หน้าต่างสิ   อย่ามอง   มีคนรออยู่   ผู้ร่วมงาน?…

หากเป็นเหตุการณ์ที่ชวนให้คนดูทั้งโลกอึ้งไปตามๆ กัน แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องยกให้พี่จีนเค้าเลยละ เพราะบ่อยครั้งที่เราได้นำเสนอเรื่องราว หรือเหตุการณ์ต่างๆ ของคนประเทศนี้ เรียกได้ว่ามีแต่เรื่องแปลกๆ ชวนตะลึงซะส่วนใหญ่     และล่าสุดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ก็ได้เผยภาพพฤติกรรมสุดยี้ของพี่จีนอีกเช่นเคย ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้เกิดขึ้นที่เมืองหลานโจว ในมณฑลกานซู จากภาพเราจะเห็นอาตี๋รายหนึ่ง อยู่ในสภาพปลดกางเกงเปลือยก้น แล้วนั่งยองๆ ทำท่าเหมือนกำลังปล่อยอึบนพื้นกลางป้ายรถเมล์ และดูท่าทางไม่มีการเขินอายเลยแม้แต่น้อย     เท่านั้นยังไม่พอนอกจากพี่แกจะปล่อยอึกลางที่สาธารณะแล้ว อาตี๋คนนี้ยังเอาบุหรี่ขึ้นมาดูดอย่างสบายใจเฉิบอีกด้วย เอิ่ม!! ทำไปได้เนาะ   ลองไปชมคลิปวีดีโอกันเลย   ดูเหมือนว่าสิ่งที่อาตี๋กำลังทำ จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาในบรรดาคนจีนไปซะแล้วนะเนี่ยเมี๊ยวววว ที่มา : mirror

อาชีพครูเป็นอาชีพแห่งการให้โดยแท้จริง นักเรียนอาจจะมองครูว่าสบาย แต่ความจริงแล้วมันเหนื่อยกว่าที่เราคิดมาก ครูไม่ได้มีหน้าที่แค่สอนหนังสือ แต่ยังต้องทำคะแนน ถ้าคิดว่าการบ้านของนักเรียนเยอะแล้ว ของครูเยอะยิ่งกว่า ยิ่งเป็นครูที่อเมริกายิ่งเหนื่อยยิ่งกว่า ที่นู่นเขามองว่าครูกับนักเรียนเท่ากัน เราจึงจะเห็นว่านักเรียนกับครูจะโต้เถียงกันบ่อยๆ หรือถ้าครูคนไหนขี้เกียจสอนก็เคยมีกรณีที่นักเรียนเดินออกจากห้องไปเลยก็มี   แต่สำหรับคุณครู Kyle Simpler วัย 56 ปี เขาเป็นครูอีกคนที่เป็นที่รักของนักเรียน คุณครูท่านนี้ประจำอยู่ที่โรงเรียน Burleson High School และเขาก็ไม่มีโอกาสได้จัดฉลองวันเกิดมานานกว่า 10 ปีแล้ว   เด็กนักเรียนจึงติดสินใจที่จะจัดวันเกิดให้คุณครูท่านนี้ซะเลย ทำเอาพูดไม่ออก เราไปชมบรรยากาศจากในคลิปนี้เลย Threw our teacher a surprise party. He doesn’t remember the last time he has a bday cake pic.twitter.com/yR3jOGByTw — Sae (@Saeya8) February 11, 2016 คลิปนี้ถูกรีทวีตไปกว่า 5 หมื่นครั้ง…

ค่านิยมในปัจจุบันนั้น การมีหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่ก็ถือว่าเป็นอะไรที่ดีสำหรับสาวๆ แต่ก็นั่นล่ะบางครั้งมันก็เป็นภาระเหมือนกัน เพราะขนาดและไซส์ที่มันออกจะใหญ่เกินไปจนเกินพอดี ทำอะไรก็ติดขัดกันไปเสียหมด แต่สำหรับดาราดังทั้ง 10 คนนี้ก็ผ่าตัดศัลยกรรมเหมือนกัน แต่เป็นการ ‘ลด’ ความอึ๋มของพวกเธอ!!! ด้วยจะเหตุผลใดก็แล้วแต่ เรามาชมกันเลยดีกว่าว่ามีใครบ้าง…   Patricia Heaton หลังจากที่เธอมีลูกน้อย 4 คน เธอก็รู้สึกว่าหน้าอกของเธอนั้นหย่อนยาน และไม่สามารถใส่เสื้อผ้าสวยๆ ได้ เลยไปผ่าลดไซส์เพื่อให้กระชับขึ้น   Pamela Anderson มีชื่อเสียงโด่งดังด้วยหน้าอกอันกลมกลึงสวยงามของเธอ แต่สิ่งที่ช็อคทุกคนคือเธอไปลดไซส์ของมันซะงั้น…แต่ภายหลังเธอก็ใส่เพิ่มให้กลับมาเป็นไซส์เดิมแล้ว   Queen Latifah เหตุผลหลักที่เธอไปผ่าลดอึ๋มก็เพราะว่าอาการปวดหลังและความยากลำบากในการออกกำลังกายที่อึ๋มเธอสร้าง แต่กระนั้นเธอเลือกใช้การออกกำลังกายเพื่อลดอึ๋มของเธอแทน   ด้วยการที่มีโครงร่างเล็ก ดาวตลกสาว Janeane Garofalo เลยไปผ่าตัดลดอึ๋มมา และมันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นทั้งในการแสดงและการใช้ชีวิต   เรียกได้ว่าเป็นที่จับตามองของหลายคนเลยทีเดียวกับ Jennifer Connelly หลายคนไม่เชื่อว่าในอดีตเป็นหน้าอกของเธอจริงๆ ที่ไม่ได้ศัลยกรรม อย่างไรก็ตาม ในวัย 40 ปีตอนนี้ เธอได้ลดไซส์ลงแล้วล่ะ   Drew Barrymore ไป่าลดไซส์ตอนปี 1992 หลังจากรู้สึกว่ามันใหญ่เกินไป…

ในส่วนของปลาวาฬ ก็เป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งในอดีตนั้นมันเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อมนุษย์มากๆ โดยเฉพาะในด้านการหาน้ำมันปลาวาฬเพื่อมาเป็นแสงสว่าง แม้ในปัจจุบันก็ยังมีการล่าอยู่ถึงจะประปรายก็ตาม แต่ประชากรของวาฬก็ยังลดจำนวนลงเรื่อยๆ และเนื่องจากวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาของทุกๆ ปีนั้นเป็นวันวาฬโลก วันนี้เราก็เลยขอนำภาพสวยๆ ของปลาวาฬมาฝากกันล่ะ   ก่อนอื่นเรามารู้ที่มาของวันวาฬโลกกันสักนิด วันวาฬโลกนั้นเริ่มตั้งแต่ปี 1980 ในฮาวาย โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อทำให้ผู้คนตระหนักรู้ถึงความสำคัญและประชากรที่ลดน้อยลงของเจ้าเพื่อนตัวใหญ่ของเรา ทุกๆ ปีจะมีทั้งขบวนพาเหรด การแต่งัวด้วยเสื้อผ้าสวยงาม และเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนานที่ Maui ในฮาวาย ลองชมภาพสวยๆเหล่านี้กันฮะ…   วาฬและนักประดาน้ำ   วาฬ Beluga   เพนกวินกำลังมองปลาวาฬ   เจอแบบนี้จะกลัวไหมหน๊ออออ   Albino Humpback Whale   จับมือกันหน่อย   วาฬและลูกของมัน   วาฬหลังค่อม   ถ่ายได้ใกล้ๆ แบบนี้เลย   อะไรอยู่ข้างใต้   สวยงามมาก   สิงโตทะเลยืมเซิร์ฟเล่นซะเลย   หน้าตาเหมือนตัววายร้ายเลย…

การจากลา แม้มันจะเป็นเรื่องที่โหดร้าย แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็มีแต่ต้องทำใจยอมรับมันและดำเนินชีวิตต่อไป เช่นเดียวกับวัยรุ่นสาวที่ชื่อ Chrisya Sabaru ที่สูญเสียคุณพ่อไป     เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Boredpanda ได้เปิดเผยเรื่องราวของ Chrisya Sabaru หญิงสาวที่เดินทางไปเรียนต่อที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เธอสูญเสียคุณพ่อไปเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ปี 2013 และในวันนี้เองก็ถือเป็นวันครบรอบ 3 ปีที่คุณพ่อของเธอจากไป     ด้วยความคิดถึงคุณพ่อที่จากไปอย่างสุดหัวใจ Chrisya จึงบรรเทาความคิดถึงของเธอด้วยการออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ในเมลเบิร์น ซึ่งเป็นสถานที่ที่คุณพ่อของเธอได้เคยไปและถ่ายรูปเก็บเอาไว้     Chrisya ได้เล่าวว่าเมื่อปี 2011 คุณพ่อและคุณแม่ของเธอได้เคยเดินทางมาเที่ยวที่เมลเบิร์นแล้วครั้งหนึ่ง และถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ของเมือง เธอจึงไปค้นหาภาพเหล่านั้นมาดูอีกครั้งและตัดสินใจออกเดินทางไปตามจุดต่างๆ ที่พ่อของเธอเคยมา และทำท่าเดียวกับคุณพ่อของเธอ เพื่อระลึกถึงคุณพ่อที่จากไป     Chrisya บอกกับชาวเน็ตว่า “14 กุมภาพันธ์ปีนี้จะเป็นวันครบรอบ 3 ปีที่พ่อของฉันจากไป ฉันยังคงคิดถึงเขาสุดหัวใจ ฉันเลยตัดสินใจเชื่อมต่อและยอมรับการจากไปของเขาในแบบที่ไม่เหมือนใคร”     นอกจากนี้เธอยังเตือนคนอื่นๆ ด้วยว่า หากคุณได้รับแรงบันดาลใจดีๆ…

มันคงจะเป็นเรื่องสยองมาก หากคุณกำลังเดินเล่นอยู่ตามชายหาดอย่างสบายอารมณ์ในวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่จู่ๆ กลับเจอรองเท้าพร้อมซากกระดูกลอยมาเกยอยู่ที่ชายหาด…     เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานว่า นาง Charlotte Stephens และครอบครัวได้เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนที่เกาะแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา แต่ก็ต้องขนลุกสุดขีดเมื่อสามีของเธอพบเข้ากับรองเท้าออกกำลังกายเน่าๆ พร้อมกับซากกระดูกภายในรองเท้าลอยมาเกยตื้นที่ชายหาด     พวกเขาจึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าว และพบว่านี่เป็นรองเท้าข้างที่ 16 แล้วที่มีการค้นพบตั้งแต่เมื่อปี 2015 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งสืบหาว่ารองเท้าและซากกระดูกที่พบนั้นเป็นของใคร     ตามรายงานบอกว่าหน่วยงานชันสูตรศพได้มีการเข้ามาพิสูจน์ซากกระดูก และพบว่านั่นคือกระดูกของมนุษย์จริงๆ โดยคาดกันว่ารองเท้าข้างนี้น่าจะเป็นของผู้ที่หายตัวไปตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2013 ถึงธันวาคมปี 2015   แม้จะยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ แต่เจ้าหน้าที่เชื่อกันว่านี่อาจจะเป็นการฆ่าตัวตาย       เป็นเหมียว ถ้าเจอรองเท้าลอยมาแบบนี้ ขอเป็นลมดีกว่าจ้า สยอง ที่มา mirror

เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่สุดสลดใจจนทำให้เราต้องถามหาคำว่า ‘มนุษยธรรม’ กันใหม่เลยทีเดียว เมื่อสาวใจบุญได้เข้าไปช่วยเหลือเด็กน้อยคนหนึ่ง ที่เหน็ดเหนื่อย ไร้เครื่องสวมใส่ และเดินเตร็ดเตร่อยู่กลางถนน สำหรับชุดภาพสุดสะเทือนใจนี้ถูกโพสต์ลงในโลกออนไลน์โดย Anja Ringgren Lovén ผู้ก่อตั้ง African Children’s Aid Education and Development Foundation ที่ทำงานช่วยเหลือเด็กๆ ในแอฟริกา   ‘ภาพเหล่านี้เป็นภาพที่ถูกพบเห็นได้จนชินตา ในช่วง 3 ปีนี้’ เธอกล่าว   ‘มันดูไร้สาระมากๆ เด็กๆ นับพันๆ คนถูกกล่าวหาว่าเป็นพ่อมดแม่มด เราเห็นมาหมดทั้งเด็กๆ ที่ถูกทรมานให้ยอมรับ เด็กๆ ที่ต้องเสียชีวิต และเด็กๆ ที่มีอาการหวาดกลัวจนถึงที่สุด’ Anja Ringgren กล่าวเสริม ‘ฉันก็หวังว่าภาพชุดนี้จะช่วยทำให้ผู้คนตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากขึ้น และเข้าใจถึงเหตุผลที่ฉันย้ายมาทำงานเพื่อสังคมที่นี่’ Anja Ringgren กล่าว   แต่ก็มีเรื่องน่ายินดีอยู่ เพราะเริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์แล้วล่ะ   ส่วนเจ้าหนูคนนี้ที่ถูกช่วยเอาไว้ก็มีอาการดีขึ้น แถมเล่นกับลูกชายของ Anja Ringgren ได้บ้างแล้ว ราวกับว่าได้ชีวิตใหม่เลยทีเดียว   ‘ฉันแทบอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ มันเป็นอะไรที่ซาบซึ้งมาก นี่แหละความอัศจรรย์และความสวยงามของชีวิตล่ะ’ Anja Ringgren กล่าวปิด…

ทุกวันนี้เราก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ว่า โซเชียลมีเดียนั้นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่กระนั้นเพื่อนๆ เคยสงสัยกันบ้างรึเปล่าล่ะว่า โซเชียลมีเดียของค่ายไหนมีผู้ใช้เยอะที่สุด หรือว่าสัดส่วนการใช้งานด้านไหนดีที่สุด!!? วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มีอินโฟกราฟิคดีๆ ที่จะให้ความรู้เพื่อนๆ เกี่ยวกับโซเชียลมีเดียของค่ายต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วโลก จากการเก็บข้อมูลของ Smart Paper Help ล่ะ ว่าแล้วเราลองมาดูกันเลย   Infographic สัดส่วนของโซเชียลมีเดีย   ถ้าในด้านการใช้งานตอนนี้ โซเชียลมีเดียที่กำลังครองแชมป์เป็นเจ้าตลาดเลยก็เห็นจะไม่พ้น Facebook ด้วยปริมาณผู้ใช้งานรวมแล้วกว่า 1,500 ล้านคน รองลงมาเป็น Youtube ที่ 1 พันล้านคน และ Instagram 400 ล้านคนด้วยกัน ส่วนอีกสถิติที่น่าสนใจก็คือในส่วนของ Youtube มีจำนวนผู้ใช้ที่เป็นวัยรุ่นกว่า 82 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว และ 91 เปอร์เซ็นต์ของคน Gen Y นั้น กำลังใช้ Facebook อยู่ น่าแปลก จำนวน 8 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งานในอินสตาแกรมนั้นเป็น…

ต้องยอมรับในฝีมือทักษะของทั้งสถาปนิกและวิศวกรในสมัยนี้จริงๆ โดยเฉพาะเรื่องการสร้างตึกสูงๆ ที่ต้องบอกเลยว่าอลังการงานสร้างสุดๆ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คงจะไม่พ้นเหล่าผู้คนที่ก่อสร้างมันขึ้นมานี่ล่ะ ตอนสร้างถึงจุดสูงสุดนี่ #จ่าสิบเหมียว ล่ะไม่อยากคิดเล้ยยยยย วันนี้ทางเราก็เลยอยากจะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพมุมสูงจากทั้ง 10 ตึก ที่เรียกได้ว่าสูงระดับท็อปของโลกเลยล่ะ มาฝากกัน ลองมาดูกันเลยว่าจะเสียววูบวาบไปทั้งตัวขนาดไหน ><   Abraj Al-Bait แห่งซาอุดิอาระเบีย 450 เมตร   Al Hamra Tower แห่งคูเวต กับความสูงที่ 412 เมตร   Burj Khalifa แห่งดูไบ ด้วยความสูงกว่า 828 เมตร   ย่าน Causeway Bay ในฮ่องกง   Empire State Building แห่งนิวยอร์ก กับความสูงกว่า 443 เมตร   The Golden Gate Bridge แห่งซานฟรานซิสโก กับความสูงกว่า…

การได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่เราชอบ แน่นอนว่าเป็นความสุขที่ยากจะหาสิ่งใดมาเทียบ และถ้าพูดไปถึงขั้นที่ว่าได้แต่งงานกับเหล่าดาราในดวงใจที่เราชื่นชมและชื่นชอบมาตลอดล่ะ!!!? มันคงเป็นอะไรที่ฟินน่าดูเลยทีเดียว วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มีเรื่องราวสไตล์นี้ ของคู่ชีวิตทั้ง 16 คู่ ที่ฝ่ายหนึ่งเคยเป็นเพียงผู้ชื่นชมเท่านั้น จนกระทั่งพวกเขาได้พบรักและแต่งงานกันในที่สุด ต้องขอบอกเลยว่าโชคดีจริงๆ เล๊ยยยยยย ทำบุญมาด้วยอะไรเนี่ยยย   Anne Hathaway กับสามีของเธอ Adam Shulman ซึ่งอดีตเขาเป็นเพียงช่างทำเครื่องประดับ   Nicolas Cage และ Alice Kim ที่เผอิญเดินไปเจอกันตรงทางเท้า และลงเอยด้วยการแต่งงานกันในปี 2004 เป็นภรรยาคนที่ 3 ของเขา   Matt Damon กับอดีตบาร์เทนเดอร์สาวอย่าง Luciana Barroso พวกเขาเจอกันตอนที่แมทไปถ่ายหนังที่ Miami ปี 2004   Julia Roberts กับ Danny Moder อดีตผู้ช่วยในกองถ่ายที่เผอิญเจอกันตอนถ่ายหนัง ตอนนั้นเธอเป็นดาราดังมาก มีหลายๆ ฝ่ายขัดขวางแต่ทั้งคู่ก็ยังแต่งงานกันในท้ายที่สุด   John Travolta กับแฟนสาวของเขา Kelly Preston…

ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้นั้นย่อมมีวิวัฒนาการ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของ ก็ล้วนแล้วแต่ผ่านกระบวนการนี้กันมาทั้งนั้น จนเกิดเป็นเราๆ อย่างทุกวันนี้ สำหรับวันนี้เราก็มีภาพการ์ตูนเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งต่างๆ บนโลก ที่ต้องบอกได้ว่าแอบจิกกัดและเสียดสีได้ค่อนข้างเจ็บแสบเลยทีเดียว เราลองมาชมกันเลย   วิวัฒนาการของมนุษย์   วิวัฒนาการของมือถือ   การเปลี่ยนแปลงของปรสิต (เจ็บนะเนี่ย)   มนุษย์???   พัฒนาการของกางเกงใน ฮ่าๆๆ   วิวัฒนาการของพระเจ้า   หลังจากผ่านสงครามนิวเคลียร์   วิวัฒนาการของสื่อ   อาวุธ   คน – หมู (พฤติกรรมการกินของคนปัจจุบัน)   โฮโมเซเปี้ยน   พัฒนาการของช่างถ่ายภาพ   เลโก้   ตัวหยุดวิวัฒนาการ??   วิวัฒนาการของสงคราม   กว่าจะมาเป็นมนุษย์ในปัจจุบัน   แต่ไม่ว่ายังไงความสัมพันธ์กับแมลงก็ยังคงเดิม -*-   อุปกรณ์ที่ใช้ในการเอาชีวิตรอด   วิวัฒนาการของสงคราม!!!…

ในทางทฤษฎีแล้ว มนุษย์ทุกคนในโลกนี้มีฝาแฝดอยู่ แม้กระทั่งคนที่ไม่ได้มีฝาแฝดจริงๆ กล่าวคือเป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนเราทุกประการหรือ Doppelganger นั่นแหละ…แต่ถ้าในกรณีของสัตว์ล่ะ?? วันนี้ #จ่าสิบเหมียวจะมาพิสูจน์ให้ทุกๆ คนได้เห็นว่า กรณีของสัตว์ก็มีเหมือนกันนะ อิอิ ที่เผอิญมาเหมือนคน ลองมาดูภาพถ่ายของเหล่าคนดังและสัตว์น่ารักๆ ที่เหมือนกันจนคุณต้องขำกลิ้งกันเถอะ!!!   Chaning Tatum เจ้าเหมียวที่ดันไปเหมือน Channing Tatum   และเจ้า Snowball ที่ดันไปเหมือน Hitler จอมเผด็จการ   ฮามากๆ ลิงที่เหมือน Adrien Brody โดยเฉพาะตรงตา ฮร่าาา   แมวที่เหมือน Leonardo (อะไรจะเป๊ะขนาดน้านนนน)   Snoop Dog !!?   Richard Branson กับหมาที่หน้าตาเหมือนเขา   Madonna ชัดๆ !!!   Peyton Manning ยอดนักฟุตบอล   ก๊ากกกก ภาพนี้ลั่นจริงๆ…

ปัญหาการจอดรถผิดที่ผิดทาง ดูเหมือนจะไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในประเทศไทย เพราะในอังกฤษ ก็มีคนที่มักง่ายเช่นนี้เหมือนกัน จนเกิดเป็นเรื่องฮาๆ แบบนี้ขึ้นมา Julie Geue วัย 48 ปี มักประสบกับปัญหามีคนมาแย่งที่จอดรถบ้านเธอ ทำให้หลายครั้ง เธอไม่สามารถจอดรถในบ้านของตัวเองได้ และวันนี้อีกครั้ง ที่เธอกลับมาถึงบ้าน แล้วก็มีรถใครก็ไม่รู้จอดอยู่ เธอพยายามตามหาเจ้าของรถอยู่นาน แต่ก็ไม่ประสบผล ด้วยความโมโห เธอจึงโทรสั่งให้บริษัทขายอุปกรณ์สร้างบ้าน นำกรวดปริมาณกว่า 1 ตันมาวางไว้หลังรถคันดังกล่าว พร้อมทั้งแปะป้ายบนรถว่า “ขุดให้สนุกนะ หวังว่าฝนจะไม่ตกนะจ๊ะ”   หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าของรถคันดังกล่าวก็มาปรากฎตัว เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด จริงๆ แล้วเขาตั้งใจจะจอดที่จอดของบ้านเพื่อนต่างหาก แต่เผอิญมาจอดผิดที่เท่านั้นเอง ทางคุณนาย Julie เลยตอบกลับไปว่า “ตลอดสิบปีที่ผ่านมา ฉันต้องปวดหัวกับเรื่องแบบนี้มากมาย บางคนก็หยาบคาย บางคนก็ข่มขู่ฉัน ฉะนั้นจะมาอ้างว่าเข้าใจผิด ฉันก็ไม่สนแล้วล่ะ”     ใครที่ประสบปัญหานี้บ่อยๆ ลองเอาวิธีนี้ไปใช้ดูก็ได้นะเหมียว รับรองว่าเข็ดไปอีกนานอย่างแน่นอน ที่มา Metro

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยภาพของคู่รักวัยรุ่นคู่หนึ่ง ที่ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับทีมหน่วยกู้ภัยเหตุแผ่นดินไหวของไต้หวัน และชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ซึ่งทางหน่วยกู้ภัยได้พบร่างของคู่รักวัยรุ่นชายหญิง ที่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคุนชาน เมืองไถหนาน นอนกอดกันแน่นอยู่ในอ้อมแขนของกันและกัน จนถึงแก่ความตายจากเหตุแผ่นดินไหวนั่นเอง     พวกเขาต้องใช้ความพยายามในการแยกร่างของทั้งคู่ให้ออกจากกัน เพราะฝ่ายชายนั้นกอดฝ่ายหญิงไว้แน่น ซึ่งคาดว่าในขณะที่ตึกกำลังถล่มลงมา ฝ่ายชายพยายามปกป้องฝ่ายหญิงด้วยชีวิต จนกระทั่งตึกพังถล่มลงมาทับร่างของทั้งคู่ และเสียชีวิตในที่สุด     เมื่อศพของพวกเขาถูกพบ ก็ได้ทราบว่าทั่งคู่เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคุนชาน โดยฝ่ายชายมีชื่อว่า Cai Meng  ส่วนฝ่ายหญิงมีชื่อว่า Huang Ruoxin     ทั้งนี้ทางการไต้หวันได้ประกาศจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรวมทั้งสิ้น 62 ราย และผู้สูญหายอีกจำนวน 62 รายเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้สูญหายอาจจะติดอยู่ในซากของตึก และโอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตก็มีน้อยมากๆ เลยทีเดียว ที่มา : cctvnewschina

เมื่อคืนของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ตามช่วงเวลาท้องถิ่นของประเทศไทย อีกฟากหนึ่งของโลกกำลังจัดงานแถลงการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษย์ มันก็คือ ‘คลื่นแรงโน้มถ่วง’ ซึ่งเป็นการค้นพบครั้งแรกของโลก และได้ทำการถ่ายทอดสดให้ผู้ชมทั่วโลกได้รับชมไปพร้อมๆ กัน     มาถึงแบบนี้ หลายๆ คนอาจจะงงว่ามันคืออะไร ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า Gravitational Waves (คลื่นแรงโน้มถ่วง) เป็นทฤษฏีของไอน์สไตน์ที่ตั้งขึ้นมานานแล้ว แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีจริงหรือไม่ จนระยะเวลาผ่านไปเกือบร่วมๆ 100 ปี วันนี้ก็มาถึงแล้ว     ซึ่งทีมงาน LIGO (Laser Interferometer Gravitational-Wave Observatory) ออกมายืนยันว่าค้นพบคลื่นความโน้มถ่วงเป็นครั้งแรก จากวันที่ 14 กันยายน 2015 ตรวจพบแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากหลุมดำสองหลุม ขนาดมวล 29 และ 36 เท่าของดวงอาทิตย์รวมตัวกัน และปล่อยพลังงานออกมาเป็นคลื่นแรงโน้มถ่วง สามารถวัดคลื่นดังกล่าวได้ในเวลาเดียวกันทั้งสถานีที่ Hanford, Washington และ Livingston, Louisiana     โดยลักษณะของคลื่นแรงโน้มถ่วงจะไม่เหมือนกับคลื่นธรรมชาติอื่นๆ เป็นรูปแบบการบิดงอของตัวอวกาศ ระยะทางสองทิศยืดและหดออกจากกัน…

หากคุณคิดว่าการเดินทางไปทำงานในตอนเช้าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อและวุ่นวายแล้วล่ะก็ ลองเปลี่ยนมาใช้การปั่นจักรยานแบบคุณหมอคนนี้ดูไหมล่ะ เพราะเขาตัดสินใจที่จะเดินทางไปไหนมาไหนด้วยจักรยาน ตอนนี้ผ่านมา 6 ปีแล้วก็ไม่กลับไปขับรถอีกเลย     เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวของคุณหมอรายหนึ่งที่มีชื่อว่า Steven Fabes คุณหมอจากกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ที่ตัดสินใจหันมาปั่นจักรยานเพื่อท่องโลกกว้างช่วยเหลือคนเมื่อปี 2010 ผ่านมา 6 ปีแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะหลงรักการเดินทางรูปแบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลงทีเดียว ตามรายงานบอกว่าคุณหมอ Steven ได้ขี่จักรยานมาแล้วกว่า 85,753 กิโลเมตร (รวมระยะทางแล้วสามารถปั่นรอบโลกได้ 2 รอบ) ไปมาแล้วกว่า 6 ทวีป ทั้งยุโรป, แอฟริกา (ผ่านตะวันออกกลาง), อเมริกาใต้, อเมริกากลางและอเมริกาเหนือ, ออสเตรเลียและเอเชีย     คุณหมอ Steven ผ่านประสบการณ์มาแล้วมากมาย ทั้งนอนร่วมเต๊นท์กับแมงมุมแม่ม่ายดำและแมงป่อง หรือจะโดนปืนจ่อหัวที่เปรูก็เคยโดนมาแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาก็ยังไม่หยุดปั่นจักรยานเพื่อออกท่องเที่ยวและช่วยเหลือผู้คนในที่ต่างๆ     จากการเดินทางไปใน 6 ทวีป ทำให้เขาได้รับประสบการณ์ต่างๆ มากมาย…

ลิงจิ๋ว หรือ ลิงแคระมาร์โมเสท ที่เพื่อนๆ ได้เห็นกันอยู่นี้ คือลิงสายพันธุ์ Pygmy Marmoset มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ป่าสนแถบลุ่มแม่น้ำอเมซอนตะวันตก ในแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นสัตว์หายาก และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลิงตัวเล็กที่สุดในโลก     และล่าสุด วันที่ 11 กุมพาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า บรรดาคนรวยในประเทศจีน พากันแห่มาเลี้ยงลิงพันธุ์จิ๋วกันอย่างมากมาย  บางคนซื้อมาเลี้ยงดูเล่น หรือเอาเกาะไว้ที่นิ้วประหนึ่งเป็นแหวนเพชร     นอกจากนี้เจ้าของร้านเพชรแห่งหนึ่ง ก็ได้ทำการออกมาโพสต์รูปลิงพันธุ์จิ๋วลงในเว็บไซต์ของจีน แถมยังระบุข้อความราวกับเชิญชวนให้มาซื้อลิงว่า ปีใหม่นี้หากใครยังไม่มีของขวัญ สามารถแวะไปที่ร้านของเขาได้     ลิงพันธุ์จิ๋ว ที่มีขนาดเล็กเพียงเท่านิ้วโป้งนี้ มักจะมีการลักลอบนำมาขายอย่างผิดกฎหมายในประเทศจีน ซึ่งคนมีอันจะกินเท่านั้นที่สามารถซื้อมาเลี้ยงได้ เพราะมันมีราคาสูงถึง 160,000 บาทกันเลยทีเดียว     แม้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกมายืนยันว่าการซื้อและขายลิงพันธุ์นี้ เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย เพราะสัตว์ป่ายังไงก็ไม่ควรนำมาเลี้ยง แต่คนรวยเหล่านี้ก็ไม่สนใจ พวกเขาซื้อมันมาตามเทรนด์ เพื่อต้อนรับปีลิงเท่านั้น ที่มา : shanghaiist

เมื่อเกิดฝนฟ้าคะนอง แน่นอนว่าสิ่งที่อาจจะตามมานั่นก็คือปรากฏการณ์ฟ้าผ่า ซึ่งหลายๆ คนก็คงเคยเห็นกันมาแล้วมากมาย แต่จะเป็นยังไงหากเราเปลี่ยนมุมมองที่เราเคยมองฟ้าผ่าจากบนพื้นดิน เป็นการมองลงมาจากอวกาศ?     เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากช่องยูทูบ News Wolf เผยให้เห็นภาพการเกิดฟ้าผ่าที่ถูกถ่ายโดยนักบินอวกาศชาวอังกฤษที่ชื่อ Tim Peake ที่ขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่บนสถานีอวกาศตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา     ทั้งนี้นาย Tim ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากบนสถานีอวกาศนานาชาติที่กำลังโคจรไปรอบโลกด้วยความเร็วกว่า 26,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผ่านบัญชีทวิตเตอร์ของเขาเอง เป็นคลิปแบบ Timelapse ของพายุฝนฟ้าคะนองที่กำลังก่อตัวไปทั่วยุโรปและแอฟริกา     พร้อมกันนี้นาย Tim ยังโพสต์ข้อความด้วยว่า “ตื่นตาตื่นใจแค่ไหนที่ฟ้าผ่าที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกของเราในเวลาสั้นๆ”       ชมคลิปได่ที่ด้านล่าง   เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นเหมือนกันนะเนี๊ยะ อารมณ์เหมือนเล่น Sim City อยู่เลย ที่มา News Wolf , mirror

ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล้วนมีประโยชน์ในตัวเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกอย่างต้องมาจากความพอดี อะไรที่มากไป แม้จะเป็นสิ่งที่ดี ก็อาจกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายคุณได้ อย่างเช่นสิ่งที่ชายชาวจีนคนนี้เป็น บอกได้คำเดียวว่าเป็นเอามาก เพราะเขาติดเกมถึงขนาดที่ว่า ยกเอาข้าวของเครื่องใช้ มาอาบน้ำกันหน้าคอมกันเลยทีเดียว!! ไม่เชื่อ ไปชมกันเลย   ในช่วงที่ผ่านมามีการแชร์คลิปคลิปหนึ่งบนในโซเชียลเน็ตเวิร์คของจีน เป็นภาพของชายคนหนึ่งที่กำลัง “อาบน้ำ” และ “แปรงฟัน” อยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมถึงเอาเตาแก๊สมาทอดไข่กินหน้าคอม จนหลายคนต้องทึ่งเลยทีเดียว   ผ้าเช็ดตัวพร้อม   แปรงสีฟันก็พกมา   ถึงกับประกอบอาหารหน้าคอมกันเลยทีเดียว     ไปชมลองชมคลิปกันเลย   ซึ่งหลังจากคลิปถูกปล่อยก็ออกมา ก็กลายเป็นที่ฮือฮาพอสมควร แต่ดูจากบริบทแล้ว พวกเขาอาจเป็นนักกีฬา eSports ที่กำลังฝึกซ้อมกันอยู่ที่บริษัทก็เป็นได้ แต่ถ้าเป็นคนธรรมดาแล้วเป็นซะขนาดนี้ เหมียวว่าอาการหนักแล้วล่ะ ฮาาา ที่มา lvraa krrub

ไฟฉายของโดราเอม่อน ทำให้สิ่งต่างๆ รอบตัว มีขนาดเล็กลงไปได้ก็จริง แต่ศิลปินนามว่า Shunichi Matsuba จากญี่ปุ่น ก็สามารถย่อส่วนสิ่งของต่างๆ ให้มีขนาดเล็กจิ๋วได้เช่นกัน ฟังดูแล้วมันช่างวิเศษจริงๆ     และผลงานทั้งหมดนี้ Shunichi Matsuba เป็นผู้ที่ได้สร้างสรรค์มันขึ้นมา โดยเขาได้ตัดสินใจนำสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ และอีกมากมาย มาทำให้มันมีขนาดเล็กลงกว่าเดิมยังไงละ   เย้ยยย นี่มันเล็กกว่าหัวนิ้วโป้งอีกนะเนี่ย   มันเป็นผลงานศิลปะที่สุดยอดมาก   จะมีสักกี่คนกันนะ ที่สามารถเนรมิตสิ่งประดิษฐ์ชิ้นจิ๋วแบบนี้ได้ เพราะถ้าหากคุณอยากลงมือทำมันละก็ แน่นอนว่าสิ่งแรกก็คือ ความอดทน และความตั้งใจจริงนั่นเอง     เขาสามารถสร้างสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ขึ้นมาได้เหมือนจริง แม้ว่ามันจะมีขนาดเล็กกว่านิ้วโป้งก็ตาม ซึ่งถ้าหากเราได้สังเกตสิ่งเหล่านี้แล้ว จะเห็นได้ว่าเขาสามารถเก็บลายละเอียดเล็กๆ น้อยได้แนบเนียนมาก     กว่าจะออกมาเป็นผลงานแต่ละชิ้น มันไม่ใช่เรื่อง่ายๆ เลยนะเหมียว   ส่งต่อภาพเหล่านี้ให้เพื่อนของคุณได้ชมกันเลย รับรองว่าพวกเขาจะต้องทึ่งแน่นอน ที่มา : rocketnews24

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยภาพสุดระทึกของเรือกู้ภัย (ERRV) ลำหนึ่ง ที่กำลังเผชิญหน้ากับคลื่นลมทะเลที่มีความสูงกว่า 30 เมตร งานนี้เรียกได้ว่าทำเอาคนดูถึงกับลุ้นระทึกตามไปด้วย     จากภาพเราจะเห็นได้ว่าเรือกู้ภัยลำนี้ ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางมหาสมุทรในบริเวณทะเลเหนือ ทางตะวันออกของเกาะบริเตนใหญ่ ซึ่งห่างจากชายฝั่งราว 160 กิโลเมตร   โอ้ววว คลื่นลมทะเลแรงเหมือนกันนะเนี่ย ทำเอาเรือแกว่งโคลงเคลงไปมาเลยละเหมียว   น่ากลัวชะมัดเลย   นอกจากนี้ทางสำนักข่าวต่างประเทศยังได้เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้ อยู่ในช่วงที่มีพายุฤดูหนาวเกอร์ทรูด พัดถล่มพื้นที่ทางตอนเหนือของสหราชอาณาจักร ทำให้สภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรง     ดังนั้นจึงเป็นเหตุที่ทำให้เกิดหิมะ ฝนตกหนัก และมีลมกระโชกแรง รวมไปถึงคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงเหมือนดั่งภาพที่เพื่อนๆ เห็นกันอยู่นี้ยังไงละ     ทั้งนี้ภาพทั้งหมดถูกถ่ายขึ้นมาโดยชายรายหนึ่ง ที่โดยสารอยู่ภายในห้องบังคับการของเรือลำนี้   ลองไปชมคลิปกันเลย   ที่มา : dailymail

กลายเป็นประเด็นสุดฉาวกันเลยทีเดียว หลังจากมีการปล่อยคลิปชายคนหนึ่ง ทำร้ายร่างกายแฟนสาวของตนเองไม่ยั้ง หลังเธอแอบดึงปลั๊กคอมพิวเตอร์ เพื่อไม่ให้เขาเล่นเกม โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่แห่งหนึ่งในมณฑลกวางโจว ประเทศจีน ภาพที่เราเห็นคือหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างแฟนที่กำลังเล่นเกมคอมพิวเตอร์อยู่ และเธอพยายามบอกให้เขาเลิกเล่น เพราะว่าเธอรู้สึกว่าเขาละเลย ต่อมาเธอทนไม่ไหว จึงดึงปลั๊กคอมพิวเตอร์ออก ปรากฎว่าชายหนุ่มคนนั้นสะบั้นอารมณ์ เข้าไปทำร้ายร่างกายแฟนสาวอย่างหนักหน่วง   ชายหนุ่มไม่พอใจแฟนสาวอย่างหนัก ที่ดึงปลั๊กคอมพิวเตอร์ของเขาออก   เขาจึงชกเธอเข้าที่หน้า   จากนั้นตามไปชกเธออีกที   แล้วจับเธอเหวี่ยงลงบนพื้น จากนั้นเขาก็กลับไปนั่งเล่นเกมต่ออย่างสบายใจ จิตใจทำด้วยอะไรเนี่ย   ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย   โห ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย สงสัยกำลังจะแพ้ในเกมแน่ๆ เลยโมโหขนาดนี้ เหมียวว่าเหตุการณ์แบบนี้มันไม่เกี่ยวกับเกมหรอก มันเกี่ยวที่คนมากกว่า จริงมั้ยเพื่อนๆ ที่มา Dailymotion

ถ้าหากจะพูดเป็นภาษาโฆษณาล่ะก็ อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้ามีปาปริก้าจริงๆ ฮร่าาา (เกี่ยวอะไรกันเนี่ย -*-) แต่ก็นั่นล่ะ นี่คือเรื่องราวของเธอคนนี้ Olajumoke Orisaguna สาวขายขนมปังท้องถิ่นแห่งประเทศไนจีเรีย แต่ก่อนอื่นต้องเท้าความไปถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ เริ่มจากการที่นักดนตรีสัญชาติอังกฤษ เชื้อชาติไนจีเรียอย่าง Tinie Tempah ได้มีโอกาสกลับไปเยี่ยมบ้านของพ่อแม่เขาในประเทศไนจีเรีย   ที่นั่นเขาก็ได้มีโปรเจ็คต์เล็กๆ สำหรับถ่ายภาพของตัวเองขึ้น   โดยคนที่มาถ่ายภาพให้กับเขาก็คือ Ty Bello ช่างภาพและนักดนตรีสาวชาวไนจีเรียที่อยู่แถบนั้น   ระหว่างการถ่ายภาพข้างถนนอยู่นั้น เผอิญว่ามีคนขายขนมปังในแถบท้องถิ่น เดินเข้ามาในเฟรมพอดี กระนั้น ความเป๊ะของเธอเรียกได้ว่าแย่งซีนหนุ่มนักดนตรีของเราไปเลยทีเดียว   Ty Bello ศิลปินผู้ถ่ายภาพตะลึงในความเป๊ะของเธออย่างมาก เลยขอให้เพื่อนๆ ในโลกออนไลน์ ช่วยตามหาหญิงสาวคนนี้ให้กับเธอ   และในที่สุดก็สามารถหาตัวของเธอจนเจอ Ty Bello ก็อัพเดทภาพของสาวขายขนมปังคนนี้ลงอินสตาแกรม และได้ขอข้อมูลสำหรับติดต่อกับเธอไว้   เพียงสัปดาห์ก่อน Bello ก็แชร์วิดีโอของเธอลงในอินตาแกรมส่วนตัว เธอชื่อว่า Olajumoke Orisaguna และพวกเขามีแผนจะถ่ายภาพด้วยกัน So I found her …our beauty from the @tiniegram…

ใกล้วันวาเลนไทน์เข้ามาทุกทีแล้ว สาวๆ คนไหนที่กำลังโสด อยากจะมีภาพโมเม้นท์หวานๆ กับแฟนหนุ่ม แล้วอัพเดทลงไอจีเหมือนกับคนอื่นๆ บ้าง บอกเลยว่าทำไม่ยากเลย เพราะเรามีทริคดีๆ จาก Hannah Smothers มาฝาก     เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยเรื่องราวของ Hannah Smothers คอลัมนิสต์สาวโสดสนิทวัย 22 ปี ที่ได้มาแชร์เคล็ดลับ และขั้นตอนการแอ๊บมีแฟนให้แนบเนียนโดยที่ไม่มีใครจับได้ งานนี้สาวโสดคนไหนลองทำต้องถูกเพื่อนๆ ถามว่า เฮ้ยยย ไปแอบมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยยย     แม่สาวโสดสุดแสบเผยว่า การแอ๊บมีแฟนหลอกๆ ที่ดี เราควรเริ่มจากทำตัวให้เนียนเข้าไว้ รูปที่โพสต์จะต้องไม่โดดเด่นเกินหน้าเกินตารูปที่คุณโพสต์บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน   เริ่มจากภาพอาหารมื้อเช้าควบเที่ยงสำหรับ 2 ที่ พร้อมแคปชั่น ‘หลบมาพักกับเพื่อนใหม่’ แต่จริงๆ แล้วเธอแค่ไปกินข้าวกับคนรู้จักของเธอนั่นแหละ แหมๆๆ แสบใช่เล่นนะยะ   หลังจากนั้นเธอก็เริ่มสานเรื่องราวการแอ๊บมีแฟนให้น่าติดตามมากยิ่งขึ้น โดยได้โพสต์ภาพทั้งหมดในระยะเพียง 1 สัปดาห์…

สำหรับกาแฟ หลายๆ คนคงจะรู้ถึงคุณประโยชน์ของมันกันดี หลักๆ แล้ว กาแฟทำให้สดชื่น กะปรี้กะเปร่ามากขึ้น แต่ประโยชน์แฝงอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเมื่อล่าสุดนี้มีงานวิจัยตัวหนึ่งที่ออกมาชี้ชัดว่าทำให้อัตราการเป็นมะเร็งเต้านมในผู้หญิง ลดลงด้วยล่ะ!!! Helena Jernstroem กับงานวิจัยของเธอ ที่ชี้ให้เห็นถึงข้อดีของกาแฟในจุดนี้ สำหรับสาวๆ ที่ดื่มกาแฟมากกว่า 3 แก้วต่อวันจะช่วยลดอัตราการเป็นมะเร็งได้ แต่กระนั้น ยังมีผลพวงทางด้านอื่นที่หลายๆ ท่านอาจไม่พึงประสงค์ตามมาด้วย!!?   เพราะกาแฟจะทำให้หน้าอกของคุณมีขนาดที่น้อยลง (หรือหดลงนั่นแหละ!!!)   เพราะจากการสำรวจ เธอพบว่าสาวๆ กว่า 270 คนที่ดื่มกาแฟ กว่าครึ่งเลยล่ะที่มียีนตัวที่ทำให้หน้าอกหน้าใจของพวกหล่อนมีขนาดลดลง และถ้าพวกเธอยังดื่มต่อไปอีกเรื่อยๆ Jernstroem เชื่อว่าหน้าอกของพวกเธอจะลดขนาดลงอย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะหายผลุบเข้าไปในหลุมดำหรอกนะจ๊ะ อย่างที่นักวิจัยสาวบอกเราก็คือ ‘หน้าอกของสาวๆ จะมีขนาดที่ลดลงเท่านั้น ไม่ได้ถึงกับหายไปเลย’ Jernstroem   การดื่มกำแฟทำให้หน้าอกลดขนาดลง!!?   แต่แน่ล่ะว่าการที่มีหน้าอกที่มีขนาดใหญ่เกินไป ก็เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้ง่ายกว่า เพราะฉะนั้นอาจมีความเกี่ยวข้องกันที่ว่าการทำให้อัตราการเป็นมะเร็งที่ลดลงของกาแฟ นั่นหมายถึงการทำให้มัน ‘หด’ ลง ก็เป็นได้ ฮร่าาา (นี่ข้อสังเกตของ #จ่าสิบเหมียว เองน้าาา -*-)   เอาเป็นว่าสาวๆ ก็อย่าพึ่งตื่นตกใจกันไปมากมายละกันเนาะ…

ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยล่ะว่า ชื่อเหล่านี้ ‘มานี ปิติ มานะ ชูใจ’ นั้น ฝังอยู่ในความทรงจำสมัยวัยเด็กของนักเรียนไทยอย่างเราๆ จนยากจะลืมเลือน และอาจเรียกได้ว่าเป็นความทรงจำที่ดี น่ารักๆ ในวัยเด็กเรื่องหนึ่งเลยล่ะ และวันนี้เราก็มีเรื่องราวดีๆ จากเพจ มานะ มานี ปิติ ชูใจ ถึงบทสรุป และเรื่องราวต่างๆ ที่เพื่อนๆ อาจไม่เคยทราบมาก่อนเกี่ยวกับพวกเขา บทสรุปตั้งแต่วัยเด็กจนกระทั่งพวกเขาโตเลยทีเดียว… เริ่มอยากรู้เรื่องราวของพวกเขามากขึ้นแล้วใช่มั้ยล่ะ อิอิ ว่าแล้วก็ตาม #จ่าสิบเหมียว มาดูกันเลยดีกว่า!!!   เริ่มต้นด้วยเรื่องราวของมานี   ต่อไปเป็นชูใจ   ปิติ   มานะ รักเผ่าไทย   วีระผู้ชอบการสืบสวน (เหมือนโคนันเลยนะเนี่ย ฮร่าาา)   เพชร   จันทร   และเรื่องราวของคนอื่นๆ และสถานการณ์ต่างๆ    โพสต์หลักจากทางเพจ…เข้าไปชมและแสดงความคิดเห็นกันได้นะจ๊ะ ^^ บทสรุป เรื่องราวหลายๆ เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยทราบเกี่ยวกับ มานะ มานี ปิติ…

อย่างที่เราทราบข่าวกันดีว่า ในช่วงปีที่ผ่าน สงครามในซีเรียทำให้มีผู้อพยพชาวมุสลิมหลั่งไหลเข้าไปในทวีปยุโรปเป็นจำนวนมาก และบางส่วนของผู้อพยพก็เข้าไปสร้างปัญหาให้กับประเทศที่รับไปอีกด้วย อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศเยอรมันในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ผู้อพยพชาวมุสลิมนับพันคน บุกเข้าไปกลางงานเคาท์ดาวน์ในเมืองโคโลญจน์ แล้วก่อเหตุลวนลามทางเพศหญิงสาวจำนวนมาก     หลังจากนั้น ทางตำรวจเยอรมันก็จับตามกุมผู้กระทำผิด และไล่ออกประเทศไปตามระเบียบ หลังจากเหตุการณ์นั้นก็เกิดกระแสต่อต้านผู้อพยพชาวมุสลิมไปทั่วประเทศและทั่วยุโรป และดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เยอรมันประเทศเดียว ที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้ แม้แต่ประเทศสุดโหดอย่างรัสเซีย ก็ต้องประสบกับเหตุการณ์แบบนี้เช่นกัน     เรื่องราวมีอยู่ว่า กลุ่มผู้อพยพชาวมุสลิมราว 50 คนที่เพิ่งถูกเนรเทศมาจากประเทศนอร์เวย์ ได้มาแวะพักที่เมือง Murmansk และพวกเขาได้เข้าไปเที่ยวในไนท์คลับแห่งหนึ่งในเมือง ด้วยความครึ้มอกครึ้มใจอะไรไม่รู้ พวกเขาได้ก่อเหตุลวนลามหญิงสาวในไนท์คลับอีกครั้ง จนผู้อยู่ในเหตุการณ์ต้องแจ้งตำรวจให้เข้ามาช่วยจัดการหน่อย     หลายคนอาจคิดว่าเรื่องราวคงจบเหมือนที่เยอรมัน ที่ตำรวจจับแล้วก็เนรเทศออกประเทศไป แต่เปล่าเลย ต้องบอกว่า พวกเอ็งซ่าผิดที่แล้วล่ะ เพราะทันทีเหล่าผู้อพยพกำลังจะหลบหนี ก็มีกลุ่มชายฉจกรรจ์ชุดดำโผล่มาจากไหนไม่รู้ เข้ามาจับตัวเหล่าผู้อพยพไว้ แล้วซ้อมจนน่วม ก่อนที่ตำรวจจะมาถึงแล้วก็ซ้อมต่ออีกหน่อย และจับเข้าซังเตไปตามระเบียบ       แหม ไปเล่นกับใครไม่เล่น เจอพี่ปูตินเข้าไป โหดสัสรัสเซียมั้ยละเอ็ง บอกได้คำเดียวว่าซ่าผิดที่แล้ววววว ที่มา Russian Insider

ก็ไม่ใช่ความลับอะไร ที่ทางเฟซบุ๊คสอดส่องและเก็บข้อมูลพฤติกรรมของเหล่าผู้ใช้ ขณะที่ใช้งานใน Facebook เพื่อวิเคราะห์ว่าผู้ใช้ชอบอะไร จากการโพสต์และไลค์ของพวกเขา เพื่อที่จะได้ป้อนโฆษณาที่เหมาะสมและถูกกลุ่มลูกค้าผู้สนใจ แต่สิ่งที่คนไม่ค่อยรู้กันก็คือ ขณะนี้ Facebook ยังสอดส่องไปถึงพฤติกรรมของเหล่า ‘ผู้ที่ไม่ใช้’ Facecbook อีกด้วย!!!   Facebook สอดแนมพฤติกรรมของผู้ที่ไม่ใช้!!?   หน่วยความมั่นคงของประเทศฝรั่งเศสรายงานว่า ทางบริษัท Facebook มีพฤติกรรมสอดส่องการใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ ในคอมพิวเตอร์ของเหล่าผู้ที่ไม่ใช้บริการเฟซบุ๊ค แถมยังส่งข้อมูลข้ามประเทศ กลับไปยังสหรัฐอีกด้วย!!? ซึ่งสาเหตุที่หน่วยความมั่นคงหันมาใส่ใจเรื่องนี้ก็เพราะว่า ล่าสุดสนธิสัญญา ‘Safe Harbour’ ซึ่งเป็นสัญญาเกี่ยวกับการส่งข้อมูลต่างๆ ของผู้ใช้ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา (ประเทศแม่ของเฟซบุ๊ค) ที่ได้หมดลงไปเมื่อราวๆ สัปดาห์ก่อน นั่นหมายถึงหน่วยความมั่นคงจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่ ส่วนการสอดแนมพฤติกรรมของ Facebook ต่อเหล่า ‘ผู้ที่ไม่ใช้ Facebook’ นั่นก็คือการดู Cookie ในบราวเซอร์อินเตอร์เน็ตต่างๆ ที่พวกเขาเข้าไป เพียงแค่พวกเขาเข้าไปชมเพจต่างๆ ใน Facebook สักครั้งหนึ่ง ข้อมูลของพวกเขาก็ถูกส่งไปยังสหรัฐอเมริกาแล้วล่ะ…   การถูกสอดแนม   ‘และที่สำคัญที่สุดก็คือ ข้อมูลเหล่านี้เป็นสิ่งที่ค่อนข้างถือว่าส่วนตัวเลยทีเดียว โดยไม่มีการให้ผู้ใช้กดยอมรับข้อตกลงก่อน…

ถือว่าเป็นโศกอนาตกรรมครั้งหนึ่งของชาวญี่ปุ่นเลยทีเดียว สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิถล่มที่เมืองอิชิโนมากิ รวมถึงการละลายของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟุกิชิมา ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ ภาพของความสูญเสีย ก็ยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำของชาวญี่ปุ่น แม้เหตุการณ์จะผ่านไปหลายปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าวิญญาณของผู้เสียชีวิตกว่า 6,000 คน ยังคงวนเวียนไม่ไปไหน และยังคงใช้ชีวิตอย่างปรกติ เหมือนกับไม่รู้ว่าตนเองนั้น ได้จากโลกนี้ไปนานแสนนานแล้ว!!     โดยมีแท็กซี่คนหนึ่งเล่าว่า ในช่วงที่กำลังบูรณะเมืองขึ้นมาใหม่ เขาได้ไปขับรถรับผู้โดยสารอยู่แถวนั้น กลางดึกคืนหนึ่งเขาได้รับผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งขึ้นมา เธอบอกให้เขาไปส่งที่ย่านมิฮามิฮามะ คนขับแท็กซี่ได้ยินดังนั้นจึงบอกเธอไปว่า เขตมินามิฮามะถูกคลื่นยักษ์ถล่มพังพินาศไปหมดแล้ว ผู้โดยสารคนหญิงคนนั้นฉุกกึกขึ้นมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบว่า “ฉันตายแล้วเหรอ” (ภาพประกอบ ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์จริง)   คนขับแท็กซี่งุนงงกับคำพูดของเธอ เขาจึงหันกลับไปดู แต่แล้วเขาต้องตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อเบาะหลังไม่มีใครนั่งอยู่ซักคนเดียว!! ยังไม่จบเท่านั้น คนขับแท็กซี่อีกท่านก็เล่าว่า เขาเคยรับผู้โดยสารชายคนหนึ่ง แต่เมื่อเดินทางไปถึงจุดหมาย ปรากฎว่าไม่มีใครนั่งรถมากับเขาด้วย!? ไม่เพียงแต่แท็กซี่เท่านั้น ชาวเมืองอิชิโนมากิก็เคยเห็นเหตุการณ์ประหลาดๆ เช่นกัน พวกเขาเล่าว่าบางครั้งเขาเห็นเพื่อนบ้านที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ซึนามิเดินไปเดินมาอยู่แถวบ้านที่พวกเขาอยู่เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ หรือบางคนก็เห็นพวกเขาเดินจับจ่ายซื้อของในซุปเปอร์มาเก็ต แม้กระทั่งบางคนก็เคยเห็นวิญญาณไร้หัว หรือแขนขาดขาขาด ป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณที่เคยมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก     อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่คิดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องลึกลับ ทางมหาวิทยาลัยโตโฮกุกล่าวว่า ผู้ที่มีส่วนร่วมหรืออยู่ในเหตุการณ์ที่มีความสูญเสียครั้งใหญ่ อาจมีอาการทางจิต และเห็นภาพหลอนอยู่เป็นระยะๆ ดังเช่นที่ชาวเมืองอิชิโนมากิ เคยสูญเสียญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน คนรัก…

เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน #จ่าสิบเหมียว ขอบอกกันไว้ก่อนเลยว่า ฝาแฝดที่เกิดมานั้นไม่ได้เป็นลูกของคนข้างบ้านหรือคนส่งแก๊สอะไรเทือกนั้นหรอกนะจ๊ะ ฮร่าาาา ลูกของพวกเขาจริงๆ นั่นแหละ เอิ๊กๆๆ Hannah Yarker คุณแม่มือใหม่ที่พึ่งคลอดลูกได้ไม่นานได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นในประเทศอังกฤษว่า ‘ฉันรู้สึกค่อนข้างตกใจเลยล่ะ หลังจากที่ฉันคลอดลูกฝาแฝดไปเมื่อปีที่แล้ว’   เพราะลูกฝาแฝดของเธอที่ลืมตามาดูโลกกลับมีผิวคนละสี อย่างกับคนละเผ่าพันธุ์กันเลยทีเดียว   สำหรับฝาแฝดที่ผิวขาวนั้นชื่อว่า Anaya เรียกได้ว่าเหมือนแม่ของเธอมาก (คุณแม่เป็นชาวผิวขาว) ส่วนลูกสาวผิวสี Myla นั้นเหมือนคุณพ่อ Kyle Armstrong (ที่มีเชื้อสายชาวผิวสีอยู่)   ‘ตอนแรกเพื่อนๆ ก็ล้อกันเล่นๆ ขำๆ ว่าเธอได้แฟนเป็นหนุ่มผิวสี ถ้าเกิดได้ลูกผิวคนละสีขึ้นมาล่ะจะทำยังไง…ตอนนี้การล้อเล่นนั้นกลายเป็นความจริงสำหรับเราแล้วล่ะ’ คุณแม่กล่าว   และเวลาเธอไปที่ไหน คนก็มักจะหยุดถามเสมอๆ เพราะเด็กสาวทั้งสองคนนั้นไม่มีอะไรคล้ายกันเล้ยยยยย   ‘เวลาฉันออกไปข้างนอกบ้าน เช่นไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต มีหลายๆ คนสงสัย และหยุดถามชั้นตลอดเลย ซึ่งก็ต้องตอบพวกเขาไปว่าพวกเธอน่ะเป็นฝาแฝดกันจริงๆ’ คุณแม่กล่าวเสริม   แถมนิสัยของพวกเธอทั้งสองก็ยังมีความต่างอย่างเห็นได้ชัด คือ Myla (แฝดผิวสี) จะกระปริ้กระเปร่ากว่า ชอบคลานไปไหนมาไหนตลอด ส่วน Anaya นั้น จะชอบนอนเสียมากกว่า  …

พลังงานนิวเคลียร์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งพลังงานที่คุ้มค่าที่สุดที่เคยปรากฏขึ้นมาบนโลกใบนี้ แต่ถึงแม้พลังงานนิวเคลียร์จะให้ประโยชน์มากมาย แต่มันก็มีโทษและความเสี่ยงมากมายเช่นกัน ทำให้หลายๆ ประเทศต่างพากันทะยอยปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และแม้เราจะรู้จักพลังงานนิวเคลียร์มานาน แต่มีใครเคยเห็นหรือเปล่า ว่าเชื้อเพลิงของพลังงานนิวเคลียร์นั้น หน้าตาเป็นอย่างไร ถ้ายังไม่เคยล่ะก็ ตาม #เหมียวอ๊อดโด้ ไปชมโรงงานผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์จากประเทศรัสเซียนี้กันเลย   โรงงานแห่งนี้มีชื่อว่า Novosibirsk Chemical Concentrates Plant ตั้งอยู่ในประเทศรัสเซีย ถือว่าเป็นหนึ่งในโรงงานผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ชั้นนำของโลกในปัจจุบันเลยทีเดียว พนักงานที่ทำงานในโรงงานทุกคน ต้องสวมเสื้อผ้า หมวก และผ้าปิดปากที่มีคุณสมบัติในการป้องกันรังสี   ป้ายสัญลักษณ์กัมมันตรังสีในตึกหลัก   ป้ายอธิบายข้อมูลแบบคร่าวๆ ของโรงงานแห่งนี้   เครื่องมือทั่วไป   กรวยขนาดใหญ่นี่ คือที่บรรจุแร่ยูเรเนียมและสารเติมแต่ง   กล่องใส่แร่ยูเรเนียมแบบเม็ด   โดยเจ้าเม็ดยูเรเนียมพวกนี้ จะถูกนำไปเผาด้วยไฟ Oxyhydrogen ที่ความร้อน 1,750 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 ชั่วโมง   เมื่อผ่านกระบวนการเผาแล้ว เม็ดยูเรเนียมเหล่านี้จะถูกนำไปขัดและขึ้นรูปให้พอดี   โดยแต่ละชิ้นจะมีน้ำหนัก 4.5 กรัม แต่สามารถให้พลังงานเท่ากับน้ำมัน 2 บาร์เรล…

#จ่าสิบเหมียว เชื่อว่าเหตุการณ์แบบนี้นั้นเคยเกิดขึ้นกับเราทุกคนแหละ เพราะทุกวันนี้การถ่ายภาพนั้นจัดว่าเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ ไม่จำเป็นต้องมีกล้อง แค่มีมือถือก็สามารถถ่ายภาพสวยๆ กันได้แล้วล่ะ   และในปริมาณภาพมหาศาลเหล่านั้น ต้องมีกันบ้างแหละสักภาพสองภาพ ที่ทับซ้อนกันจนออกมาได้ชวนงงสุดๆ และทำให้ต้องนั่งดูมันอยู่หลายรอบเลยทีเดียว กว่าจะแยกออกได้ และวันนี้เราก็มีภาพชวนพิศวงเหล่านั้นมาฝากกันถึง 21 ภาพเลยล่ะ ลองมาดูกันว่างงจริงรึเปล่า!!?   ดูดีๆ ใครกำลังแบกใครกันแน่?? ฮร่าาาา   เธอมีกี่ขากันเนี่ย   เกิดอะไรขึ้นบนโลกใบนี้กันแน่??   เอิ่มมมมม คิดเหมือนเรารึเปล่าาา กิกิ   มนุษย์สามขา!!?   สัตว์ประหลาดที่โผล่ขึ้นมาจากทะเล!!!   ใครขี่หลังใครอีกล่ะเนี่ย -*-   ร่างไหนของใครเนี่ย โอ้ยยยตาลาย ฮ่าๆๆๆ   ตัดต่อมาใช่มั้ยยยยย??   ชายหาดนี้โป๊เดินได้ด้วย   น่าสงสารพี่เขาเนาะ รูปร่างเป็นผู้หญิงเลย   หนูๆ ไปโกนขนหน้าแข้งหน่อยมั้ยจ๊ะ   แขนใคร!!?   คุณพ่ออยู่ในภาพเขียนใช่ป่าว…   สาวสองหัว!!?…

ถ้าจะกล่าวถึงความสวยความงามแล้วล่ะก็ เชื่อได้เลยล่ะว่ามีในตัวของสาวๆ ทุกคนเลยล่ะ ‘ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง’ ไม่ว่าจะน้อยนิดแค่ไหน ก็ขอสักฉะสองฉะเป็นอย่างน้อยก่อนที่จะออกจากบ้านเถอะ ฮร่าาา และถ้าสาวๆ คนไหนเป็นแฟนพ่อมดน้อยแฮร์รี่ พอตเตอร์ด้วยล่ะก็ วันนี้จ่าสิบเหมียวก็มีไอเดียดีๆ ภาพการทาสีเล็กตีมแฮร์รี่เก๋ๆ มาฝากกันล่ะ รับรองว่าชอบกันอย่างแน่นอน   แฮร์รี่เสกคาถาผู้พิทักษ์   ละเอียดมาก ตามบ้านต่างๆ    แฮร์รี่กับจอมมาร มีไม้กายสิทธิ์ด้วยนะ!!!   สำหรับแฟนๆ ที่ชอบพ่อหนุ่มมัลฟอย   คาถาผู้พิทักษ์   แฮร์รี่กับรอน   สัตว์เลี้ยงสุดเลิฟของแฮร์รี่   และถ้าใครที่เลือกไม่ถูก ก็จัดซะหมดแบบนี้เลย   แบบน่ารักๆ    สวยมาก   บ้านต่างๆ ของโรงเรียนพ่อมดแม่มด   คาถาต่างๆ จากในเรื่อง   ชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่   แฮร์รี่และควิดดิช   ทำออกมาได้เนียนมาก     Dobby เอลฟ์ประจำบ้าน…

ถ้าจะพูดถึงนิยามเกี่ยวกับ ‘ความรัก’ นั้น ก็คงจะมีมากมายจนกองเท่าภูเขา เพราะความรักของแต่ละคน ในแต่ละรูปแบบก็แตกต่างกัน และมีเหตุผล-เรื่องราวเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น แต่เรื่องที่ทุกๆ คำนิยามนั้นมีเหมือนกันก็คือ สิ่งเล็กๆ ระหว่างคนสองคนที่เกิดขึ้นทุกๆ วันที่เราเห็นเป็นเรื่องธรรมดานี่แหละ วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มีภาพน่ารักๆ คำนิยามเกี่ยวกับความรักจาก App ที่ช่วยให้คนรักกันอย่าง LoveByte มาฝากกันแหละ ลองมาดูนะว่าจะจริงรึเปล่า   ความรักคือ…อยากให้เธอมาสนใจบ้าง (เยอะไปจะรำคาญเอานะจ๊ะ เตือนหน่อย อิอิ)   นอนพักผ่อนด้วยกันในวันหยุด   การที่ได้ตื่นนอนขึ้นมาแล้วพบว่าคนรักอยู่ข้างๆ   หมั่นไส้ อยากแกล้งเขาอยู่ตลอดเวลา   และนึกถึงกันเสมอ แม้ว่าเรากำลังสนุกอยู่   อยากหยุดเวลาที่อยู่ด้วยกันเอาไว้   และบอกรักแบบไร้เหตุผล   การพยายามทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้คนรัก   หรือแค่เพียงการกอดกันเวลาดูทีวี   เป็นคนแรกที่พอตื่นนอนแล้วเราอยากส่งข้อความไปให้   คือความอบอุ่น…   ทำเรื่องน่าเบื่อๆ ด้วยกัน   ดูแลกันเวลาเจ็บไข้   รู้สึกเสมอว่ามีเธออยู่ข้างๆ  …

หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องราวของพ่อแม่ที่บอกให้ลูกรีบมีแฟนไวๆ จะได้เป็นฝั่งเป็นฝาซักที แต่วันนี้เรื่องราวกลับตาลปัตร เพราะแทนที่แม่จะอยากให้ลูกมีแฟน กลับกลายเป็นว่าลูกอยากให้แม่มีแฟนซะอย่างงั้น! มีงี้ดั้ว!!   ผู้หญิงคนนี้ชื่อ Eva เป็นชาวนอร์เวย์วัย 69 ปี เธอหย่ากับสามีคนที่สองเมื่อ 7 ปีก่อน หลังจากนั้นมาก็ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมาโดยตลอด   ลูกชายของเธอ Alex Lyngaas กลับรู้สึกว่าชีวิตของแม่เขานั้น ออกจะจืดชืดไปซักหน่อย เขาเลยอยากให้แม่หาแฟนใหม่ซักที   ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงแอบถ่ายทำวีดีโอเกี่ยวกับแม่ของเขาเป็นเวลาหนึ่งปี และเขาก็ตัดต่อคลิปดังกล่าวแล้วโพสลงเว็บไซต์ Youtube ในชื่อ Looking for Adam เพื่อโปรโมตแม่ตัวเอง ในการตามหารักแท้   คุณแม่ถึงจะวัย 69 แล้ว แต่ก็ยังแข็งแรง เทนนิสนี่เล่นประจำ   บางทีก็ไปเล่นสกีหิมะ   โยคะก็ชิวๆ   แถมเต้นเก่งด้วยนะ   เธอรู้ว่าการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ต้องทำยังไง   ตอนที่ Alex เปิดวีดีโอให้เธอดูครั้งแรก เธอถึงกับอึ้งไปเลย แต่เธอก็ชอบมันนะ   หวังว่าคุณแม่จะเจอคู่แท้ในเร็ววันนะฮะ…

นอกจากญี่ปุ่น จะเป็นประเทศที่มีไอเดียการทำอาหารให้ออกมาสร้างสรรค์ และมีหน้าตาที่น่ารับประทานแล้ว ในเรื่องของความแปลก ญี่ปุ่น ก็ไม่เป็นสองรองใครเช่นกัน อย่างเช่นร้านอาหารที่ชื่อว่า Chinju-ya นี้ เรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารที่ให้บริการเฉพาะเมนูแปลกๆ เท่านั้น ซึ่งทางพ่อครัวก็มักจะทำเมนูเปิบพิสดารขึ้นมา สำหรับบรรดานักชิมใจกล้า ที่ชื่นชอบความแปลกแหวกแนวโดยเฉพาะเลยละ ซึ่งแต่ละเมนูนั้นบอกเลยว่าคนธรรมดาๆ อย่างเราไม่กล้ากินกันอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น…   พวกแมลงเอย   หนอน   ตุ๊กแกก็มีนะ   จระเข้มาทั้งขากันเลยทีเดียว   แมงป่อง   และเมนูนี้ใครไม่กล้าจริง กินไม่ได้นะจ๊ะสำหรับเมนู ซาลาแมนเดอร์ทอด   จริงๆ แล้วพวกแมลง หรือพวกหนอนทอด บ้านเราก็นิยมทานกันอยู่ไม่น้อย แต่สำหรับบางเมนูก็ทำเอาคนดูขนลุกไปตามๆ กัน เพราะสัตว์ที่นำมาทำเป็นอาหารนั้น คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมรับประทานกันสักเท่าไหร่ แต่ก็เอาเถอะในเมื่อทำออกมาแล้ว คนชอบกินแปลกก็ต้องไปลองชิมดูสักครั้งแล้วละเมี๊ยว ที่มา : viralnova

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยภาพสุดระทึกของเสือดาวเพศผู้ตัวใหญ่ ที่ได้หลุดเข้ามาเดินเตร่ในบริเวณโรงเรียนนานาชาติ Vibgyor ในเมืองบังกาลอร์  ประเทศอินเดีย ซึ่งจากภาพเราจะเห็นได้ว่าเจ้าเสือดาว มีอาการตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด และกระโจนเข้าใส่แทบทุกคนที่มันเห็น งานนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงช่วยกันล้อมจับเสือดาวตัวดังกล่าว และสามารถยิงยาสงบได้สำเร็จ โดยใช้เวลากว่า 10 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว     จากการรายงานของทางสำนักข่าวต่างประเทศพบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 6 ราย  ซึ่งหนึ่งในนั้นมีผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าคือนาย Sanjay Gubbi ที่ถูกเสือดาวกระโจนเข้าใส่ ขณะพยายามล้อมจับมันที่บริเวณข้างสระน้ำของโรงเรียน     กว่าที่เสือดาวตัวดังกล่าวจะยอมถอยออกไป นาย Sanjay  ได้ใช้กล้องส่องทางไกลฟาดที่ตัวของมันเพื่อป้องกันตัว โดยเขาได้รับบาดเจ็บที่แขน     ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการระบุตัวบุคคลที่ได้รับบาดเจ็บอย่างแน่ชัดครบทุกราย แต่ในจำนวนนั้นพบว่ามีเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ 1 ราย ตากล้อง 1 ราย และผู้สื่อข่าวอีก 1 ราย รวมอยู่ด้วย     ที่มา : dailymail

สำหรับผู้ที่รักสัตว์แล้ว ช่วงเวลาทำงานในแต่ละวันนั้นถือว่าาเป็นเวลาอันแสนน่าเบื่อ เพราะต้องอยู่ห่างจากสัตว์เลี้ยงแสนรักของตนเอง (ยกเว้นแต่ว่าบริษัทของคุณจะอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงไปที่ทำงาน)   ด้วยเหตุนี้เอง ทางบริษัทผลิตสินค้าไอทีของญี่ปุ่น จึงผลิตเมาส์ Pnitty Mouse ออกมา เพื่อเอาใจพนักงานออฟฟิศที่รักสัตว์ทั่วโลก    โดยเมาส์ตัวนี้ออกแบบมาให้ดูเหมือนกับอุ้งเท้าสัตว์ ซึ่งบอกได้คำเดียวเลยว่าน่ารักแบบสุดๆ   แต่ความเจ๋งของมันไม่ได้อยู่ที่หน้าตาอย่างเดียวหรอกนะ เราต้องพลิกด้านล่างมันขึ้นมา ความมหัศจรรรย์ก็อยู่ตรงนั้นเอง!!   ด้านล่างของเมาส์จะมีแผ่นซิลิโคนหนึบๆ ติดอยู่ ซึ่งทางผู้ผลิตเคลมว่า ให้ความรู้สึกเหมือนกับอุ้งเท้าน้องหมาหรือแมวอายุประมาณ 6 เดือนเด๊ะเลยล่ะ   ถ้าเอานิ้วไปจิ้ม จะให้ความรู้สึกเหมือนกำลัง HIGH 5 กับเจ้าตูบอยู่เลยล่ะ   ซึ่งทางผู้ผลิตยังบอกอีกว่า เจ้าอุ้งเท้าจำลองนี้ทำมาจากซิลิโคนที่ทำความสะอาดง่าย และสามารถรองรับการกดได้หลายพันครั้งเลยทีเดียว   นอกจากนี้เรายังสามารถดึงซิลิโคนออกไป แล้วไปติดที่ข้าวของอื่นๆ ได้ด้วยนะ   ข่าวร้ายคือ ตอนนี้บริษัทเพิ่งทำตัวต้นแบบขึ้นมาเท่านั้น และกำลังระดมทุนอยู่บนเว็บไซต์ Makuake ซึ่งเป้าหมายอยู่ที่ 260,000 บาท ซึ่งตอนนี้พวกเขาทำยอดได้เพียง 20 เปอร์เซ็นเท่านั้น และเหลือเวลาอีกเพียง 51 วันก็จะหมดเขตแล้ว ต้องรอลุ้นกันต่อไปว่า จะทำออกได้สำเร็จหรือไม่ ใครที่สนใจก็ตามไปสมทบทุนได้นะเหมียว…