Author:
-
สาวน้อยเห็นเจ้าสาว คิดว่าเป็นเจ้าหญิงที่หลุดมาจากนิยาย กับความประทับใจที่น่ารักสุดๆ!!
เชื่อว่าในช่วงวัยเด็กของหญิงสาวหลายๆ คน หนึ่งในความฝันของพวกเธอคือการได้เจอกับเจ้าหญิงในดวงใจตัวเป็นๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหญิงจากค่ายดิสนีย์ หรือว่าค่ายไหนก็ตามแต่ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มันน่ารักเกินกว่าที่เราจะเก็บไว้ดูคนเดียวได้ เพราะในระหว่างที่ Scott Robertson กำลังถ่ายภาพพรีเวดดิ้งอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเด็กสาวตัวน้อยเดินเข้ามาบอกว่า.. เธอคือเจ้าหญิงที่หนูน้อยตามหามานานแสนนาน “เราสองคนแต่งงานกันเมื่อปีที่แล้ว และในระหว่างการถ่ายภาพก็มีสาวน้อยเดินเข้ามาในซีนของเรากับคุณแม่ของเธอ” “จากนั้นหนูน้อยได้บอกกับภรรยาของผมว่า คุณคือเจ้าหญิงที่หนูชอบมากที่สุด และคุณก็เป็นเจ้าหญิงที่มาจากหนังสือที่หนูชอบอ่าน” สามีเล่า ด้วยความน่ารักของหนูน้อย ฝ่ายภรรยาจึงมอบดอกไม้ให้หนูน้อยเป็นการตอบแทน… ด้วยน้ำใจเพียงเล็กๆ น้อยๆ ดอกไม้ของเธอทำให้หนูน้อยยิ้มแก้มปริไปตลอดทั้งวันทั้งคืน เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ ในระหว่างการถ่ายภาพ ด้วยเหตุนี้ช่างภาพจึงได้ตัดสินใจเก็บภาพเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเอาไว้ “ภรรยาของคุณจะกลายเป็นเจ้าหญิงของลูกสาวฉันไปอีกตลอดกาล ขอบคุณสำหรับน้ำใจมากๆ เลยนะคะ” คำพูดสุดท้ายที่คุณแม่กล่าวให้เจ้าสาว ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้าย นับว่าเป็นอีกเรื่องราวน่ารักๆ ที่ช่วยทำให้รู้สึกว่าโลกนี้น่าอยู่ขึ้นมาอีกครั้ง ที่มา: แพนด้าขี้เบื่อ
-
ชมตัวอย่าง “บ้านเครน” ไม่น่าเชื่อว่าเครนยกของ ก็สามารถรีโนเวทให้เป็นบ้านสุดฮิปได้!!
ถ้าพูดคำว่า ‘บ้านเครน’ หลายคนอาจจะงงว่ามันคืออะไร? เครนก็คือปั้นจั่นแบบเคลื่อนที่ไม่ได้ ไว้ใช้สำหรับขนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก แล้วบ้านกับเครนเนี่ยนะมันจะไปด้วยกันได้ยังไง ส่วนไหนของเครนกันล่ะที่มันกลายเป็นบ้านได้? ย้อนกลับไปเมื่อปี 1950 คือช่วงเวลาที่ Crane 29 ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับเพื่อใช้ในงานก่อสร้าง ทว่าเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ก็ได้มีคนกลุ่มหนึ่งเลือกที่จะเปลี่ยนเครนเก่าคร่ำครึคันนี้ ให้กลายเป็นบ้านพักสุดเก๋เหมาะสำหรับเด็กยุคใหม่เป็นที่สุด รูปร่างหน้าตาของบ้านเครน ก่อนหน้านี้มันถูกใช้เป็นเครื่องจักรสำหรับก่อสร้าง แต่ปัจจุบันจุดประสงค์ของมันก็เปลี่ยนไป เพราะมันได้กลายเป็นที่พักรายคืนให้นักท่องเที่ยวไปซะแล้ว อีกทั้งยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘บ้านรถเครน’ แห่งแรกของโลก แถมยังเคลมว่าไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมด้วย บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ที่ Bristol Harbor ประเทศอังกฤษ และสูงจากระดับพื้นดิน 8 เมตร อีกทั้งบ้านหลังนี้ยังถูกออกแบบมาด้วยระบบ ‘Carbon Neutral’ ซึ่งทำให้บ้านหลังนี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนการตกแต่งภายในได้เลือกใช้วัสดุที่มีอายุทนนาน เช่น ไม้พาเลท ใยไฟเบอร์จากพืชผัก และประกอบไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ที่ช่วยทำให้คุณหายใจได้ชุ่มปอดมากยิ่งขึ้น ดูตัวอย่างห้องนอนสิ.. ถึงข้างนอกจะดูเป็นกล่องสี่เหลี่ยมธรรมดา แต่ข้างในน่าย้ายสัมโนครัวเข้ามาอยู่มากๆ Crane29 เป็นผลงานการรีโนเวทของบริษัท Canopy…
-
แมวสาวท้องแก่แผนสูง เดินพันขาหนุ่มคลอเคลียไม่ไปไหน จนใจอ่อนต้องรับไปเลี้ยง!!
นี่อาจจะเป็นอีกครั้งที่จะทำให้คุณรู้สึกว่า “อีกแล้วเหรอ?” แน่นอน… เพราะแผนการณ์ยึดครองโลกของพวกแมวเหมียวยังคงดำเนินต่อไป และดูจะใกล้เป็นความจริงมากขึ้นทุกที คราวนี้เป็นการรายงานผลงานของกลุ่มพันธมิตรเหมียว Lovemeow โดยได้ระบุว่าล่าสุด แม่สาวท้องแก่ลายส้มสามารถยึดบ้านมนุษย์ได้สำเร็จ แถมยังเปลี่ยนหนุ่มเฟี้ยวให้กลายเป็นทาสแมวได้อีกด้วย!! และนี่ก็คือวิธีการของเพื่อนเหมียว พวกเราไม่ต้องทำอะไรมากแค่เดินวนไปมา ทำเสียงอ้อนนิดหน่อยภารกิจก็สำเร็จแล้ว “มันเป็นเจ้าเหมียวที่ตุ้ยนุ้ยและน่ารักมากครับ ตอนแรกที่เราเจอกันมันก็เดินเข้ามาส่งเสียงทักทายผม จากนั้นก็เอาตัวมาถูขาคลอเคลีย ผมนี่ใจอ่อนจนต้องอันเชิญเค้ามาเป็นเจ้าที่ประจำบ้านเลยล่ะ” หนุ่มเจ้าของเรื่องเล่า ทันทีที่เสียงร้องเมี๊ยวครั้งที่ 3 ได้เปล่งออกมา พ่อหนุ่มก็รู้ตัวทันทีว่าเค้าถูกมันสะกดใจเข้าให้แล้ว และนั่นก็ทำให้เค้ายอมอุ้มแมวขึ้นรถไปโดยไม่คิดจะตั้งคำถามใดๆ ดูเหมือนว่าเจ้าเหมียวจะรู้หน้าที่ตัวเองดี ทันทีที่ได้ขึ้นรถมันก็รีบกระโดดไปนั่งเบาะหลังราวกับว่ามันกำลังจะโชว์เซียนเหมือนเรียนมา หนึ่งวันผ่านไปพ่อหนุ่มได้รู้ว่าแมวสาวพราวเสน่ห์ได้ท้องมานานกว่า 6 เดือนแล้ว และนั่นก็ยิ่งทำให้เขาอยากจะดูแลเอาใจใส่เจ้านายเหมียวให้ดียิ่งขึ้นไปอีก แต่น่าเศร้าที่ลูกๆ ของเธอทั้งหมดต้องเกิดมาพร้อมกับโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ทำให้เด็กๆ ไม่สามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้ ทว่าหลังจากที่เจ้าของบ้านทราบเรื่อง เขาก็ได้พาเจ้าเหมียวไปหาสัตวแพทย์เพื่อรักษาอาการ และพวกเขาก็ได้ตั้งชื่อให้มันว่า Sunny Bunny Sausage หลังจากที่มันคลอดลูก ดูเหมือนว่าร่างกายของมันจะอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ครอบครัวก็พร้อมที่จะดูแลและเอาใจใส่มันอย่างดี ไม่กี่วันต่อมาเจ้า Sunny เริ่มกลับมาแข็งแรงเป็นปกติ และนี่ก็ถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะแนะนำให้มันได้รู้จักกับรุ่นพี่ของบ้านหลังนี้…
-
สาวถ่ายภาพคนส่งของ นั่งเซลฟี่กับสุนัขของเธอ กลายเป็นภาพน่ารักๆ ให้ชาวเน็ตได้ชื่นใจ
อีกเรื่องราวน่ารักๆ บนโลกออนไลน์ เมื่อ Staci Burns สาวจากรัฐหลุยเซียน่า ได้นั่งรอพนักงานส่งของ UPS และเธอก็ได้แอบถ่ายภาพโมเม้นท์สุดน่ารักที่เกิดขึ้น เพราะทันทีที่พนักงานส่งของมาถึง ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะมีความสนิทสนมกับสุนัขประจำบ้านหลังนี้ดี ราวกับว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน Staci Burns “คุณ Daniel Kidd มักจะแวะเล่นกับสุนัขของเราเป็นประจำ และดูเหมือนว่าพวกเขาจะสนิทสนมมากขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นภาพที่น่ารักมากจริงๆ ค่ะ” Staci กล่าว ไม่ใช่แค่เจ้าของบ้านเท่านั้นที่แอบเอามือถือขึ้นมาถ่ายภาพ เพราะคุณ Kidd พนักงานส่งของก็ไม่ลืมที่จะเซลฟี่กับแก๊งตูบด้วยเหมือนกัน ด้วยความน่ารักที่เข้าไปโผล่บนหน้าเฟซฯ ของใครหลายคน ทำให้ชาวเน็ตเริ่มหันมาสนใจเรื่องราวของพนักงานส่ง UPS คนนี้ และได้พบกับความจริงที่ว่า.. ก่อนหน้านี้ Daniel Kidd และสุนัขสายพันธุ์ออสเตรเลียแชพเพิร์ดเคยเจอกันมาก่อนแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อเดือนก่อนเจ้าตูบ Reba ได้หนีหายออกจากบ้านไป และคนที่สามารถพาเจ้าตูบกลับมาบ้านได้อย่างปลอดภัยก็คือพนักงานคนนี้นี่เอง “ไม่ใช่แค่บ้านฉันเท่านั้นหรอกค่ะ ที่เขาจะหยุดเล่นกับสุนัข ไม่ว่าบ้านไหนที่มีสุนัขเขาก็มักจะหยุดเล่นกับพวกมันเสมอ ชาวบ้านแถวนี้รู้จักเค้าเป็นอย่างดี” เพื่อนบ้านคนหนึ่งเล่า หลังจากที่เจ้าของบ้านนำคลิปวิดีโอนี้โพสต์ลงโซเชียล ก็มีชาวเน็ตแห่มากดถูกใจและให้ความเห็นกันเพียบ …
-
บริษัทชุดชั้นในเผย สถิติของสาวญี่ปุ่นมีขนาดหน้าอกใหญ่ขึ้น ยอดขายคัพใหญ่พุ่งปรี๊ด..!!
ถ้าหากคุณเป็นอีกคนที่ชอบมองหน้าอกสาวญี่ปุ่นไม่ว่าจะในหนังติดเรท หรือหนังไม่ติดเรทก็ตามแต่ ดูเหมือนว่าตอนนี้เรากำลังจะมีข่าวดีที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับประเทศชาติบ้านเมืองเราเท่าไหร่มาบอก โดยล่าสุดงานวิจัยและรวบรวมสถิติจากบริษัทชุดชั้นในรายใหญ่ Triumph ประจำประเทศญี่ปุ่นได้เผยถึงสถิติล่าสุดอ้างอิงจากยอดขายที่ชี้ชัดว่า ปัจจุบันหน้าอกของสาวญี่ปุ่นใหญ่ขึ้น และก็มีแนวโน้มว่าจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย!! บริษัทได้รวบรวมสถิติการซื้อ-ขาย มาตั้งแต่ปี 1980 อ้างอิงจากสถิติล่าสุดที่เผยออกมาพบว่า ตั้งแต่ช่วงปี 2015 – 2016 ตัวเลขยอดขายของชุดชั้นในไซส์เล็กเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัดดังนี้… จากภาพนี้จะสังเกตเห็นว่าตัวเลขยอดขายของคัพ A – C ลดลง แต่ในขณะเดียวกันยอดขายของคัพ D ไปจนถึงคัพ F กลับเพิ่มขึ้นอย่างน่าตื่นเต้น… และหากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ยอดขายมวลรวมของสินค้าทั้งหมดแล้ว บริษัทพบว่ายอดขายชุดชั้นในคัพ D, E และ F มีมูลค่าเท่ากับ 51.3% ของยอดขายบริษัทเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นบริษัทก็ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่า ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วย ยกตัวอย่างเช่น ในกลุ่มสาวๆ ที่มีหน้าอกไซส์ใหญ่มักจะมีแนวโน้มซื้อชุดชั้นในบ่อยกว่าสาวๆ กลุ่มที่มีหน้าอกไซส์เล็ก ทว่าเปอร์เซนต์ยอดขายชุดชั้นในคัพใหญ่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ก็สามารถชี้วัดได้ว่า… สาวๆ ญี่ปุ่นอาจจะไม่ได้มีขนาดหน้าอกเล็กอย่างที่คุณคิดเสมอไป…
-
เกิดขึ้นแล้ว! งานแต่ง 3 หนุ่มคู่รักชาวโคลอมเบีย โลกทั้งใบเรายกให้นายสามคน…
นับว่าเป็นเรื่องที่กำลังโด่งดังและฮือฮาสุดๆ ในประเทศโคลอมเบีย หลังจากที่มีการประกาศงานแต่งงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายของทั้ง 3 หนุ่ม เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า เจ้าบ่าวทั้ง 3 คนนั้นประกอบไปด้วย Victor Hugo Prada (นักแสดง) John Alejandro (โค้ชกีฬา) และ Manuel Jose Bermudez (นักเขียน) โดยล่าสุดพวกเขาเพิ่งได้จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว Rincon Perfetti นักกฎหมายผู้ต่อสู้เพื่อชาว LGBT ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ในโคลอมเบียมีคู่รักที่มากกว่า 2 คนอยู่หลายครัวเรือน ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่ทุกอย่างจะเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ” ซึ่งในแง่อีกหนึ่งมันช่วยชี้ให้เห็นว่า สังคมได้ยอมรับการมีอยู่ของครอบครัวรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Polyamorous Family จากการลงประชามติเกี่ยวกับกฎหมายการสมรสเพศเดียวกันเมื่อเดือนเมษายน ปี 2016 ทำให้ประเทศโคลอมเบียกลายเป็นประเทศที่ 4 ในแถบอเมริกาใต้ที่การแต่งงานเพศเดียวกันเป็นเรื่องถูกกฎหมาย และยอมรับได้ในสังคม โดยทั้ง 3 หนุ่มได้เดินทางไปจดทะเบียนสมรสกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องที่เมืองเมเดยิน นอกจากเรื่องของการยอมรับทางสังคมแล้ว การแต่งงานอย่างถูกกฎหมายยังช่วยทำให้พวกมีสิทธิที่จะจัดการเรื่องของมรดก หรือการเลี้ยงดูลูก ให้เป็นไปตามกฎหมายได้เช่นกัน …
-
Disney World เปิดให้เช่าพื้นที่จัดงานแต่ง รับประสบการณ์แบบเทพนิยายสุดหรูในราคาแค่ 2.6 ล้านบาท!!!
อาจเรียกได้ว่าเป็นความฝันของใครๆ สาวๆ คนเลยทีเดียวที่ชื่นชอบดิสนีย์ เพราะตั้งแต่เด็ก ใครๆ ก็อยากมีชีวิตแบบสุขสันต์นิรันดรแบบเจ้าหญิงดิสนีย์กันใช่มั้ย!? แต่เรื่องนั้นจะไม่ได้แค่อยู่ในความฝันหรือจินตนาการอีกต่อไปแล้ว เพราะล่าสุดทาง Disney World แห่งฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดให้เช่าพื้นที่จัดงานแต่งกันได้แล้ว…ยะฮู้วววว!!! ราวกับออกมาจากเทพนิยาย ใกล้ๆ กับโซนปราสาท กับวิวที่สวยงามอย่างยิ่ง East Plaza Garden นั้น มีบรรยากาศแบบงานแต่งงานของเหล่าคนดังหรือแบบเชื้อพระวงศ์เลยทีเดียว แถมเจ้าสาวจะเลือกเข้ามาในงานแต่งแบบซินเดอเรลล่าก็ได้นะ ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่นัก เพราะมีคู่รักหลายคู่จัดการแต่งงานกันที่นี่อยู่แล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทาง Disney จะเปิดแบบจริงจัง แถมมีบริการให้อย่างเต็มที่กันเลยทีเดียว โดยราคาจะเริ่มตั้งแต่ 2,500 – 75,000 เหรียญ หรือประมาณ 87,500 – 2,600,000 บาท สามารถจุแขกได้ทั้งหมดสูงสุดถึง 100 รายเลยล่ะ คู่รักที่แต่งงานกันในสวนคู่ก่อนๆ เสียอย่างเดียวเท่านั้นแหละ ถ้าคุณอยากจะไปงานแต่งนี้ ต้องไปตั้งแต่ 9.30 น. ในตอนเช้าเลย…
-
คุณตาวัย 71 เตรียมฟ้อง หลังถูกพนักงานสายการบิน “United Airlines” ผลักล้ม!?
ถ้าใครยังจำได้เมื่อช่วงหลายเดือนก่อนเพิ่งมีประเด็นดราม่าเกี่ยวกับสายการบิน United Airlines ที่มีการฉุดกระชากลากถูผู้โดยสารให้ลงจากเครื่อง ล่าสุดก็ได้มีการเผยถึงเหตุการณ์ในปี 2015 ที่กลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อ Ronald Tigner คุณตาวัย 71 ปี ถูกพนักงานของสายการบินผลักล้มไปนอนกองกับพื้น เพียงเพราะเจ้าตัวเข้าไปถามเรื่องตั๋วเดินทาง!? ภาพจากกล้องวงจรปิดในสนามบินชี้ให้เห็นว่า คุณตาได้เดินเข้าไปถามพนักงานเกี่ยวกับตั๋วเครื่องบินอย่างปกติ ทว่าจากนั้นจู่ๆ เจ้าตัวก็ถูกพนักงานผลักล้มไปนอนกองกับพื้นอย่างน่าตกใจ จนเวลาผ่านไปก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีพนักงานคนไหนเข้ามาช่วยดูแลอาการของคุณตาเลยแม้แต่คนเดียว เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นกระแสที่ทำให้สายการบินถูกโจมตีไปทั่วโลกออนไลน์ ซึ่งจากการสอบสวนพบว่าพนักงานคนดังกล่าวชื่อว่า Alejandro Anastasia และเจ้าตัวกำลังจะถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา William Hoke ทนายความของผู้เสียหายได้ให้สัมภาษณ์ว่า “พนักงานคนดังกล่าวได้ตอบกลับคุณ Ronald ว่า คุณไม่เห็นเหรอว่าพวกเรากำลังยุ่งกันอยู่? จากนั้นเขาก็ผลักผู้โดยสารล้มลงไปนอนกับพื้นพร้อมทั้งหัวเราะเยาะ และทำท่าทางเหมือนจะเตะซ้ำ” ชายผู้เสียหายต้องนอนนิ่งเป็นเวลานาน กว่าจะมีคนเริ่มเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ดูเหมือนประเด็นจะร้อนขึ้นไปอีก เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาถึงจุดเกิดเหตุ แต่พนักงานของสายการบินกลับให้การปฏิเสธว่า ผู้โดยสารหกล้มด้วยตนเองไม่มีการทำร้ายร่างกายใดๆ เกิดขึ้น จากนั้นไม่นานก็มีพลเมืองดีรีบเข้ามาช่วยเหลือ และนำตัวผู้เคราะห์ร้ายไปส่งที่โรงพยาบาล จากเหตุการณ์ทั้งหมดทำให้นาย Anastasia ถูกจับข้อหาทำร้ายร่างกายผู้สูงอายุ…
-
ศิลปินสาว ตกแต่งโคนให้น้องหมา เพิ่มสีสันใส่ลวดลายกลายเป็นความน่าร๊ากก~
นับตั้งแต่ที่ Erin Einbender ได้เริ่มเป็นอาสาสมัครให้กับศูนย์ช่วยเหลือสุนัข One Tail at a Time ในช่วงที่เธอต้องทำตัวจบเกี่ยวกับศิลปะ ซึ่งเธอก็ได้รู้ว่า.. เหล่าสุนัขทุกตัวต่างดูเศร้าโศกทุกครั้งเมื่อพวกมันต้องใส่โคน ในระหว่างที่เธอคิดถึงหัวข้อตัวจบพร้อมกับดูแลเหล่าสุนัขจรจัดไปด้วย เธอก็ได้ปิ๊งไอเดียที่จะทำโปรเจคสุดท้ายของการเป็นนักศึกษาให้ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือสัตว์โลกได้อย่างพร้อมๆ กัน “พวกมันดูเศร้ามากเลยค่ะทุกครั้งที่ต้องใส่โคน แต่บางทีพวกมันก็จำเป็นต้องใส่จริงๆ ดังนั้นฉันจึงปิ๊งไอเดียที่จะช่วยทำให้พวกมันหาบ้านได้ง่ายขึ้น” Erin เล่า ไอเดียครั้งนี้เธอเลือกที่จะนำโคนมาตกแต่งด้วยสีสันสดใส ใครดูต่างก็รู้สึกว่าพวกสุนัขน่ารักน่าเอ็นดูขึ้นอีกเป็นกอง เธอเลือกที่จะใช้วัสดุตกแต่งทั่วไปเช่น ดอกไม้ปลอม ผีเสื้อปลอม หรือวัสดุอะไรก็ตามแต่ที่ดูมีสีสันสดใส “ดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่พวกมันได้รับโคนแฟนซี พวกมันก็ดูร่าเริงขึ้น บางทีสิ่งนี้อาจจะช่วยทำให้สุนัขทั้งหลายรู้สึกว่าตัวเองมีความหมายมากขึ้นก็ได้นะ” เธอเล่าเสริม ยกตัวอย่างเช่นเจ้าตัวนี้ เจ้าหน้าที่เล่าว่าก่อนหน้านี้มันดูซึมเศร้า แต่หลังจากที่มันได้โคนแฟนซีไปมันก็ยอมให้ถ่ายรูป แถมยังกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมอีกด้วย หรือจะมาเป็นโคนหัวใจ น้องหมาพร้อมส่งต่อความรักให้ทุกครอบครัวแล้วคร๊าบบ ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าวิธีนี้ ช่วยทำให้มีผู้คนหันมาสนใจรับพวกมันไปอุปการะมากขึ้น ในอนาคตเธอก็วางแผนที่จะประสานงานกับศูนย์ช่วยเหลือที่อื่นๆ เพื่อทำโคนแฟนซีให้น้องหมา และช่วยให้พวกมันทุกตัวได้อาศัยอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง Erin ให้สัญญาว่าถึงแม้เธอจะเรียนจบแล้ว เธอก็ยังจะสานต่อโครงการนี้ต่อไปเพื่อความสุขของสุนัขจรจัดทุกตัว แต่เจ้าตัวไหนที่มีนิสัยดื้อมากเป็นพิเศษ ก็อาจจะได้โคนที่ตกแต่งด้วยขยะไปแบบนี้แทน…
-
ตามไปดู.. ปกอัลบั้มของศิลปินดัง ที่ถูกเซ็นเซอร์ซะมิดชิด ก่อนวางขายในตะวันออกกลาง!?
ขณะที่เรามองไปบนปกอัลบั้มของศิลปินยุคใหม่จากอเมริกา เรียกได้ว่าทุกวันนี้ไม่มีศิลปินคนไหนที่จะแต่งตัวมิดชิดตามประเพณีของชาวตะวันออกกลาง แต่ทว่าหากพวกเขาต้องการจะนำอัลบั้มเพลงไปขาย ก็ต้องผ่านกองเซ็นเซอร์ก่อน และนี่คือผลงานทั้งหมดที่ถูกรวบรวมมาโดยเว็บไซต์ Boredpanda เราลองไปดูกันว่าระหว่างประเทศแถวนี้ กับแถบตะวันออกกลาง กองเซ็นเซอร์ของใครจะทำงานได้โหดกว่ากัน… Nirvana อัลบั้ม Nevermind ถึงเด็กจะจู๋เล็กอยู่ แต่ยังไงก็ต้องเซ็นเซอร์นะจ๊ะ Lady Gaga อัลบั้ม Do What U Want ถ้าโป๊เกินไปก็จะถูกเปลี่ยนให้เป็นแบบนี้แทน Mariah Carey อัลบั้ม Butterfly Mariah Carey อัลบั้ม #1’S โชว์ไหล่มันไม่สุภาพ แต่เดี๋ยวนะ.. จะเอาขนแมวมาปิดแบบนี้จริงๆ เหรอ? Shakira อัลบั้ม Oral Fixation ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอัลบั้มนี้โดนเซ็นเซอร์แน่นอน Christina Aguilera อัลบั้ม Lotus เริ่มรู้สึกชอบวิธีการเซ็นเซอร์ของเค้าขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ… Miley Cyrus อัลบั้ม…
-
เจ้าตูบกระสันอยากเป็นไกด์ นำทางให้คนถ่ายภาพสตรีทวิวของกูเกิล เดี๋ยวพี่จะหลงนะ!?
เป็นอีกครั้งที่เราจะได้เห็นพฤติกรรมแปลกๆ ปนความน่ารักของเจ้าสุนัขนิรนามสัญชาติเกาหลีใต้ตัวนี้ เรื่องมันมีอยู่ว่าวันหนึ่งชาวเน็ตได้เข้าไปชมภาพวิวของย่าน Ulleung-gun ที่จังหวัด Gyeongbuk ประเทศเกาหลีใต้ แล้วดันไปพบกับเจ้าสุนัขตัวนี้เข้า!! ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหน ชื่ออะไร แต่เราพอจะเดาออกว่ามันน่าจะอยากทำงานกับกูเกิ้ลเอามากๆ ถึงขั้นที่ไม่ว่าช่างเก็บภาพสตรีทวิวจะไปทางไหน เจ้าตูบก็ขออาสานำทางประหนึ่งเป็นไกด์ส่วนตัวให้กันเลยทีเดียว… พี่มะนุ๊ดด มาสำรวจอะไรกันเอ่ย..?? ไม่ว่าชาวเน็ตคนไหนที่เข้ามาชมภาพแถวย่านนี้ ก็จะได้เห็นภาพเจ้าตูบรีทรีฟเวอร์ตัวนี้วิ่งตามอยู่เสมอ ดูท่าทางมันจะอยากช่วยสำรวจเส้นทางมากเลยนะเนี่ย งานนี้ตูบขอทำหน้าที่สำรวจบ้านคนอื่นให้เอง บางทียังมีการวิ่งนำเหมือนพยายามจะบอกว่า “ลองมาทางนี้มั้ยนายจ๋า” ทางแคบๆ แบบนี้ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเราจะนำล่วงหน้าเอง ดู๊วว ดูมันเอาจริงเอาจังกับการสำรวจมากเลยนะเนี่ย บางทีก็หันมายิ้มให้กล้องด้วยนะ น่ารักแสนรู้ดีจริงๆ จะซ้ายหรือขวาดีน๊าา บางทีตูบก็ตัดสินใจไม่ถูกเลย และดูเหมือนว่าตอนนี้บริษัทกูเกิ้ลสาขาเกาหลีใต้ จะได้พนักงานสำรวจพื้นที่พิเศษเพิ่มเข้ามาแล้วล่ะ ท่าทางจะชอบสำรวจมากเลยนะเนี่ย แถมยังเฟรนด์ลี่ด้วย ใจดีจริงๆ ที่มา: Boredpanda
-
เจ้าสนัขขอลาออกจากการเป็นตัวเอง เบื่อเลี้ยงลูกหมาแล้ว ขอหันมาเลี้ยงลูกเจี๊ยบแทน!?
จะว่าไปไม่ได้มีแค่คนเราเท่านั้นหรอกนะ ที่จะรู้สึกขี้เบื่อกับสิ่งต่างๆ ได้ง่ายดายซะเหลือเกิน เช่นเดียวกับคุณตูบสี่ขาที่ชื่อว่า Mac หลังจากที่ Brittany Gillott ผู้เป็นเจ้าของบ้านได้นำลูกเจี๊ยบกลับมาด้วย 6 ตัว งานนี้ดูเหมือนเจ้า Mac จะขอลาออกจากการเป็นหมา แล้วหันมาทำหน้าที่เป็นแม่ไก่แทนซะงั้น!? จะเจี๊ยบหรือจะโฮ่งดีละงานนี้ “มันแปลกมากเลยตั้งแต่ที่ฉันพาลูกเจี๊ยบทั้ง 6 ตัวเข้ามาอยู่ในบ้าน เจ้าแมคก็ทำหน้าที่คอยเลียขน ประคบประหงมดูแลอย่างดีเลย” Brittany เล่า เดิมทีเจ้า Mac ถูกรับเลี้ยงมาจากศูนย์พักพิงสัตว์เมื่อปีก่อน ดูเหมือนมันจะเข้าใจดีว่า ความรู้สึกการถูกทิ้งมันเป็นอย่างไร และมันก็คงไม่อยากจะให้ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นกับลูกเจี๊ยบตัวน้อยทั้งหลาย “วันแรกที่เราไปรับเจ้า Mac มาอยู่ที่บ้าน ฉันจำได้ว่าท่าทางมันสงบนิ่งมาก มันเป็นสุนัขที่น่ารักสุดๆ ทันทีที่มันมาถึงครอบครัวของดิฉันก็ต้อนรับมันอย่างดี และดูเหมือนตอนนี้มันกำลังจะส่งต่อความรักอีกครั้ง” เจ้าของกล่าวทั้งน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม ในทุกๆ เช้า Mac จะเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อย และช่วยเลียขนให้กับลูกเจี๊ยบทุกตัวก่อนที่จะเริ่มทานอาหารเช้าพร้อมๆ กัน ถ้าหากมีคำว่าทาสแมว สำหรับ Mac แล้วมันก็คงจะกลายเป็นทาสลูกเจี๊ยบไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว …
-
หนุ่มผู้กลัวแม่เป็นห่วง เที่ยวรอบโลกพร้อมป้าย ‘ผมยังสบายดี’ ผ่านมาหนึ่งปีก็ยังบอกอยู่!!
หลังจากที่พ่อหนุ่ม Jonathan Kubben Quiñonez ได้ลาออกจากการเป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจให้กับบริษัทแห่งหนึ่งในในเมืองบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม เขาก็ได้ตัดสินใจที่จะออกเดินทางท่องไปเที่ยวไปรอบโลกตั้งแต่ปี 2016 แล้ว ทว่าหลังจากที่พ่อหนุ่มเริ่มออกเดินทางได้ไม่นาน เขาก็คิดได้ว่า “นี่ตูยังไม่ได้บอกแม่เลยนี่หว่า” และด้วยความที่เขากลัวว่าคุณแม่จะเป็นห่วง พ่อหนุ่มจึงจัดทำป้ายแสดงข้อความให้คุณแม่เห็นว่าตัวเขาเองยังสบายดี คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ!! เชื่อผมสิแม่ ผมสบายดีจริงๆ นะ จนกระทั่งบัดนี้เขาก็ได้ออกไปเที่ยวรอบโลกเป็นเวลา 1 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่วายกลัวแม่จะเป็นห่วงเหมือนเดิม ก็เลยยังคงคอนเซปท์ป้ายบอกแม่ ‘ผมยังสบายดี’ เพื่อให้คุณแม่ได้รู้สึกอุ่นใจ รวมไปถึงการสร้างสรรค์วิธีสร้างตัวอักษรใหม่ๆ ให้แหวกแนวยิ่งขึ้น!! บางทีผมก็ไม่ได้สบายดีคนเดียวนะแม่ มีคนอื่นมาสบายดีด้วยเต็มไปหมดเลย ไม่ว่าผมจะทำอะไรอยู่ที่ไหน แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมสบายดีเสมอ ดูสิแม่… เพื่อนผมเค้าอาศัยอยู่ใต้น้ำ ก็ฝากมาบอกว่าเราสบายดีแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ดูเหมือนว่าการท่องเที่ยวในครั้งนี้ จะเต็มไปด้วยมิตรภาพ และรอยยิ้ม จากคำว่า ‘แม่ผมสบายดี!’ “ผมมั่นใจว่าใครๆ ก็ชอบท่องเที่ยวกันทั้งนั้นแหละ และผมก็อยากจะท้าให้ทุกคนออกมาทำตามความฝันให้มันเป็นความจริง” พ่อหนุ่มให้สัมภาษณ์ แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่างานนี้คุณแม่จะวางใจเรื่องความปลอดภัยของลูกได้รึเปล่า เพราะดูเหมือนว่าแต่ละที่ๆ พ่อหนุ่มเอาป้ายไปชู…
-
แบบนี้ก็มี? โจรแอบขโมยนมในตู้เย็นของตำรวจ เจ้าหน้าที่สุดจะทนใช้กุญแจล็อคแม่มเลย
เราเข้าใจดีว่าคงไม่มีอะไรจะน่าโมโหไปกว่า การที่เรามาถึงออฟฟิศยามเช้าตรู่ ตั้งใจจะเปิดตู้เย็นเพื่อหาของกินที่ซื้อมาเก็บไว้ แต่… ใครมันแอบเอาไปกินฟร๊ะ!? และไม่น่าเชื่อว่าแม้แต่กรมตำรวจจาก Halifax ประเทศอังกฤษ ก็ต้องตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน เมื่อพวกเขาเปิดตู้เย็นมาแล้วพบว่ามีโจรมือดี แอบขโมยนมของพวกเค้ากิน ปกติแล้วถ้าของหายไปจากตู้เย็นเราก็คงจะแก้ปัญหาอะไรมากไม่ได้ แต่สิ่งที่กรมตำรวจแห่งนี้ทำมันช่างแตกต่างออกไป… ชาวเมืองถึงกับต้องขำค้างไปตามๆ กัน เมื่อสถานีตำรวจ Halifax ได้โพสต์ภาพขวดนมที่ถูกโจรมือดีแอบขโมยเอาไปกิน แล้วเอากลับมาวางไว้ที่เดิม ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาของกรมตำรวจที่นี่ก็น่ารักมาก โดยพวกเขาได้ตกลงกันที่จะหาแม่กุญแจมาล็อคขวดนมไว้ โดยใช้วิธีหาภาชนะอีกชิ้นหนึ่งมาครอบไว้บนปากขวด จากนั้นก็เจาะเหล็กทะเลไปตรงกลางให้สามารถล็อคได้ เจ้าหน้าที่ Ryan Sharp ผู้ริเริ่มไอเดียนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมก็แทบจะไม่เชื่อตัวเองเหมือนกัน ว่านมของพวกเราถูกโจรขโมยเอาไปดื่ม ถึงตอนนี้เราจะยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ แต่ยังไงเราก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไปก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นเราก็จะไม่เหลือนมให้ดื่มอีกเลย” ดูวิธีการล็อคขวดนมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเค้าสิ ดูน่ารักมุ้งมิ้งอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ ว่าแต่… ใครกันนะที่เป็นคนขโมยนม หรืองานนี้จะมีหนอนบ่อนไส้!? ที่มา: Metro
-
เจ้าหน้าที่สนามบิน จัดปาร์ตี้เลี้ยงส่งเจ้าตูบวัยเกษียณ เพื่ออำลาเพื่อนร่วมงานที่ดีที่สุด
เชื่อเถอะว่าสุนัขพวกนี้มันรักเรามากกว่าที่เราคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราได้ทำงานร่วมกับสุนัขด้วยแล้ว พวกมันคงเป็นได้ทั้งเพื่อนร่วมงาน เพื่อนเล่น เพื่อนกิน หรือแม้แต่เพื่อนนอน เช่นเดียวกับเจ้า Germa สุนัขผู้ทำหน้าที่คอยดูแลรักษาการณ์สนามบินนานาชาติออร์แลนโด เป็นเวลานานกว่าหลายปีที่มันคอยดูแลความสงบให้สนามบิน แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา และในที่สุดวันเกษียณอายุของมันก็มาถึง Germa ทำผลงานคุณงามความดีให้กับสนามบินแห่งนี้มานานกว่า 5 ปี สำหรับมนุษย์แล้ว Germa เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีที่สุด มันไม่เคยบ่น มันไม่เคยขอขึ้นเงินเดือน และมันก็ไม่เคยขอลาป่วยเลยแม้แต่วันเดียว “ในความมืดมิด เธอเป็นทั้งดวงตา เป็นทั้งน้องสาว คนคุ้มกัน และในยามที่เราโดดเดี่ยวเธอก็มักจะอยู่เคียงข้างเราเสมอ” คู่หู Germa โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรียกได้ว่าหนึ่งในผลงานการจับกุมพ่อค้ายาเสพติด และของผิดกฎหมายที่ลักลอบขนส่งกันในสนามบิน ล้วนแล้วต้องเคยผ่านจมูกของ Germa และผองเพื่อนมาแล้วทั้งนั้น “นี่คืองานเฉลิมฉลองที่ทรงคุณค่ามากที่สุด Germa เป็นเพื่อน และผู้ร่วมงานที่ซื่อสัตย์ที่สุด และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะให้เธอได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุข” ประกาศจากสนามบิน ถึงงานอาจจะไม่ได้ดูใหญ่โตเท่ากาล่าดินเนอร์ แต่เชื่อเถอะว่าทุกคนมาร่วมงานด้วยใจ และความรู้สึที่อยากจะเลี้ยงส่ง Germa จริงๆ และในฐานะที่กำลังจะเกษียณ…
-
ชม 19 ภาพจินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ตอนแรกไม่เห็นหรอก แต่เห็นแล้วก็จะเห็นเลย..!?
เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ‘จินตนาการสำคัญกว่าความรู้’ กันมั้ย? แน่ล่ะว่าใครก็ต้องเคยได้ยิน เพราะอย่างน้อยมันก็กลายมาเป็นข้ออ้างแก้ตัวให้เราได้ดี ตอนที่เราสอบตก และนี่ก็เป็นครั้งที่ 8,485 ได้แล้วล่ะ ที่เราจะพาทุกคนไปพิสูจน์จินตนาการด้วยภาพจากรอบโลก ถึงแม้ว่าครั้งแรกอาจจะยังมองไม่ค่อยเห็น แต่เชื่อเถอะว่าถ้าเห็นแล้วก็จะเห็นเลย!! ใครบอกว่าถังน้ำ นี่มันหนอนใส่แว่นหนาเต๊อะกำลังทาลิปสติกอยู่ต่างหาก “แม่จ๋าา… หนูรักแม่นะ” หรือพระเจ้ากำลังจะประทานเสียงโซโล่กีต้าร์จากฟากฟ้ามาให้เรา? เอ๋… หนาวๆ แบบนี้เจ้าเหมียวมันไม่แข็งตายเอาเหรอ? สังเกตรูที่อ่างอาบน้ำสิ ดูเหมือนมันพยายามจะบอกว่า “ใครก็ได้ช่วยผมด้วย” ซวยแล้วนายเอ๋ยย… ซื้อเครื่องดื่มมาแต่เจอกบอยู่ในแก้วซะงั้น!? ดูเหมือนครีมกำลังพยายามจะบอกเราว่า.. ได้โปรดนะอย่าขยี้ฉันเลยนายจ๋า เอเลี่ยนกำลังจะยึดโลกเราแล้วนะ ไม่เชื่อดูสิ.. มันมานั่งเนียนบนรถเมล์แล้วนั่นไง เหมือนถังขยะกำลังจะบอกเพื่อนคนข้างๆ ว่า รถเก็บขยะมาแล้วโว้ยย!! ระวังไว้นะ ใบไม้หน้าคุณอาจเป็นนินจาปลอมตัวมาก็ว่าได้ เมื่อไฟแช็คกำลังส่งเสียงเชียร์ทุกคนให้รู้ว่า เลือกชั้นสิๆ!! ไม้ถูพื้นชาวร็อค ผมยาวอย่างกับพี่โป่ง หินเหล็กไฟ เมื่ออุปกรณ์ติดฝาผนังกำลังตะโกนบอกค้อนว่า อย่าตีฉันเลยนะพี่จ๋าา…
-
รู้จักกับ “Hallerbos” ผืนป่าสีน้ำเงินจากประเทศเบลเยียม สวยงามราวกับโลกเทพนิยาย…
ใครที่ชื่นชอบการเที่ยวชมธรรมชาติเป็นชีวิตจิตใจ วันนี้เราจะขอนำเอาอีกหนึ่งสถานที่ดีๆ จากประเทศเบลเยียมมาให้ทุกคนได้รู้จักกัน ‘Hallerbos’ เป็นผืนป่าอันเงียบสงบที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีน้ำเงินเรียงรายอยู่สองข้างทางให้เราได้ชื่นชมกัน และว่ากันว่าความสวยงามของที่นี่ ถ้าหากได้มาสัมผัสแล้วอาจทำให้รู้สึกเหมือนดั่งได้อยู่ในโลกเทพนิยายเลยล่ะ หากจะเทียบป่าแห่งนี้กับบ้านหรูซักหลัง เราก็คงพูดได้ว่าบ้านหลังนี้มีความพิเศษก็ตรงที่ พื้นบ้านทุกตารางนิ้วถูกปูด้วยดอกบลูเบลล์ และมีหลังคาบ้านเป็นร่มไม้อันเขียวขจี ไม่ว่าคุณจะมองไปทางไหน คุณจะได้เห็นทุ่งดอกบลูเบลล์อยู่ทั่วทั้งผืนป่า ทุ่งดอกบลูเบลล์แห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตการดูแลของประเทศเบลเยียม บนพื้นที่ขนาดกว้างกว่า 3,556 ไร่ มีการบันทึกถึงการค้นพบครั้งแรกในปี 686 จนต่อมาเกือบถูกทำลายไปโดยกองทัพเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ทว่าช่วงปี 1930 – 1950 รัฐบาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูพื้นที่ป่าแห่งนี้ และนั่นก็ทำให้มนต์เสน่ห์ของทุ่งดอกบลูเบลล์กลับมาอีกครั้ง ฤดูกาลที่เหมาะสมสำหรับการไปเที่ยวชมผืนป่าแห่งนี้มากที่สุด คือช่วงกลางเดือนเมษายน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางสภาพอากาศในช่วงนั้นๆ ด้วย แต่ไม่ต้องกลัวว่าไปแล้วจะเสียเที่ยว เพราะเราสามารถเข้าไปติดตามข้อมูลการท่องเที่ยวได้ที่ Hallerbos แต่สิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนควรจะระวังไว้ให้ดี ก็คือการปฎิบัติตนตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เช่น ห้ามไม่ให้เดินเข้าไปในทุ่งดอกบลูเบลล์ (เค้าทำทางเดินไว้ให้แล้ว) เป็นต้น ทว่าด้วยความที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ความสนใจ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่จะพยายามควบคุมดูแลยังไง ก็ยังมีคนมือบอนชอบเด็ดดอกไม้ หรือทำลายธรรมชาติให้เห็นเป็นประจำ “สำหรับปี 2017…
-
เรื่องราวของ “Spirtle” โลมาเกยตื้นชายฝั่ง โดนแดดเผาจนผิวเหวอะ ก่อนได้รับการช่วยเหลือ…
ไม่น่าเชื่อเหมือนกันนะว่าไม่ได้มีแค่มนุษย์เราเท่านั้น ที่ต้องต่อสู้กับแสงแดดที่พร้อมจะแผดเผาทุกสภาพผิวให้ราบเป็นหน้ากอง เพราะเรื่องราวของ “Spirtle” จะทำให้เราได้รู้ว่าโลมาก็ผิวไหม้ได้เหมือนกัน เดิมทีเจ้า Spirtle ถูกพบโดยเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ หลังจากที่มันขึ้นมาเกยตื้นบนชายฝั่ง Cromarty Firth ประเทศสก็อตแลนด์ ในตอนแรกเจ้าหน้าที่ตั้งใจจะปล่อยมันคืนสู่ทะเล ทว่าพวกเขากลับสังเกตเห็นรอยแผลไหม้บนเรือนร่างของมัน เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่ามันน่าจะเกยตื้นอยู่บนฝั่งนานกว่า 24 ชั่วโมง จนทำให้ผิวหนังของมันถูกแดดเผาจนไหม้ ด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าอาการบาดเจ็บจะรุนแรงจนทำให้มันไม่สามารถมีชีวิตรอดได้ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือจึงตัดสินใจที่จะรับมันมาดูแล และรักษาพยาบาลเป็นอย่างดีก่อนปล่อยคืนสู่ทะเล ทันทีที่มันถูกย้ายมาอาศัยกับทีมวิจัยของมหาวิทยาลัย Arberdeen มันก็ได้อาศัยอยู่กับกลุ่มโลมาอีก 200 กว่าตัว อีกทั้งทีมวิจัยก็ได้ทุ่มเทเวลาไปกับการรักษาบาดแผล จนมันค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ ภาพถ่ายหนึ่งวันหลังจากที่ช่วยเหลือ Spirtle มาได้ (กรกฎาคม 2016) ในระยะแรกทีมวิจัยแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่า นี่คือสภาพผิวไหม้เกรียมของสัตว์ใต้ทะเลอย่างโลมา และบาดแผลก็ดูรุนแรงเกินกว่าที่จะเยียวยาได้ ทีมวิจัยได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ในช่วงแรกดูเหมือน Spirtle จะค่อนข้างบาดเจ็บพอสมควร แต่สิ่งที่น่าสังเกตก็คือช่วงแรกมันมีพฤติกรรมแยกตัวออกจากฝูง ไม่มีการทำพฤติกรรมร่วมกัน และมันพยายามที่จะว่ายน้ำไม่ให้ชนตัวเพื่อนตลอด” ภาพถ่ายจากเดือนกันยายน ปี 2016 เผยให้เห็นถึงสภาพผิวหนังของมันที่ค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นมาบ้างแล้ว …
-
พาไปรู้จัก 18 แบรนด์สนีกเกอร์นอกกระแส ที่คนไทยอาจไม่คุ้นเคย แต่ดีไซน์เท่ไม่แพ้ใคร!!
วันนี้ขอปรับเข้าโหมดแฟชั่นสตรีทกันบ้าง เชื่อว่าตอนนี้มีคนไทยไม่น้อยที่ค้นพบว่าตัวเองชื่นชอบการเก็บสะสมรองเท้าผ้าใบ หรือที่เราเรียกกันว่า ‘สนีกเกอร์’ นั่นแหละ พอพูดถึงรองเท้าผ้าใบหลายคนอาจจะรู้จักแต่แบรนด์ดังขึ้นห้างไม่กี่แบรนด์เท่านั้น เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับแบรนด์สนีกเกอร์เจ๋งๆ ที่อาจจะไม่ได้โด่งดังมากมายในบ้านเรา แต่ในวงการแฟชั่นโลกแล้วถือว่าดีไซน์เท่ไม่เป็นรองใครเลยล่ะ 1. Clae . 2. Visvim . 3. Gourmet . 4. Superga . 5. Blackspot . 6. Common Projects . 7. Generic Surplus . 8. Newton Running . 9. Creative Recreation . 10. Pointer Footwear . 11.…
-
ศิลปินออกแบบสำรับไพ่แนวใหม่ ดูน่ารักมุ้งมิ้งหมาผุดดอก ชวนให้น่าป๊อกยิ่งกว่าเดิม..!!
สำหรับขาไพ่ทั้งหลายอาจจะมีรู้สึกเบื่อลายโพธิ์ดำ โพธิ์แดง หรือไม่ก็รูปข้าวหลามตัดบนไพ่กันบ้างแล้วใช่มั้ยล่ะ? บางทีก็ชวนให้คิดเหมือนกันนะว่า ที่ป๊อกเก้ามันไม่ยอมเด้งนี่เป็นเพราะลายไพ่ด้วยรึเปล่า? แต่คราวนี้เราจะพาไปชมผลงานการออกแบบของ John Littleboy ด้วยความที่เจ้าตัวอาจจะรู้สึกเบื่อ หรือไพ่มันไม่ยอมเด้งก็ไม่ทราบได้ ศิลปินได้ปิ๊งไอเดียเปลี่ยนรูปน่าเบื่อในไพ่แบบเดิมๆ ให้กลายเป็นภาพสัตว์เลี้ยงน่ารักสุดๆ เป็นรูปรอยเท้าน้องหมาก็มา น่ารักมั้ยล่ะ ไม่ว่าคุณจะเป็นเซียนโปกเกอร์ ไพ่สลาฟ หรือแม้แต่เจ้ามือป๊อกเด้ง คุณก็ใช้ได้เหมือนกัน ผลงานจากศิลปินชาวซานฟรานซิสโกชุดนี้ใช้ชื่อว่า Pack of Dogs “เริ่มต้นจากจินตนาการของผู้สร้าง ไพ่ธรรมดาสำรับนี้เป็นเปรียบได้ดั่งกล่องสมบัติขนาดเล็ก” คำอธิบายจากร้านค้า ภาพน้องหมาที่ถูกวาดลงไปบนไพ่ อันที่จริงแล้วเป็นน้องหมาเพื่อนรักของตัวศิลปินเอง ลองนึกภาพสิว่า ถ้าป๊อกเก้าสองเด้งภาพจะออกมาน่ารักขนาดไหน ในส่วนของหมวดไพ่ฝรั่งก็มีการจัดคอสตูมให้น้องหมาเหมือนกัน จะเอามาเล่นสลาฟกับเพื่อนก็สนุก เล่นป๊อกเด้งก็ดูจะเฮงได้อีก เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Artiphany หรือถ้าหากว่าเบื่อไม่มีเพื่อนเล่นด้วย จะเอาไพ่คอลเล็คชั่นน้องหมา มาเล่นกับหมาที่บ้านก็ได้เหมือนกันนะ… ทั้งหมดที่เล่ามาเราไม่ได้สนับสนุนให้เล่นการพนันจริงๆ น๊าา ที่มา: Boredpanda
-
เทรนด์แปลกๆ เมื่อนักธุรกิจจีนหันมาจ้างหน้าม้า “ฝรั่ง” เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ธุรกิจ!?
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาในประเทศจีนมีเศรษฐกิจด้านนิคมอุตสาหกรรม และบ้านจัดสรรผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด และสิ่งหนึ่งที่กลุ่มนักลงทุน (เจ้าของกิจการ) มักจะทำเพื่อสร้างมูลค่า และเพื่อให้บริษัทดูมีความอินเตอร์เนชั่นแนลก็คือการจ้างฝรั่งเข้ามามีส่วนในภาคธุรกิจ เทรนด์ดังกล่าวกลายเป็นที่นิยมอย่างสูงในสังคมจีน ไม่ว่าจะเป็นการจ้างชาวต่างชาติมาเป็นพนักงานต้อนรับ จ้างมาเป็นเลขาฯ ส่วนตัว หรือแม้แต่จ้างมาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เดินทางมาเปิดงานแบบปลอมๆ!? เรียกได้ว่าชาวตะวันตกหลายๆ คนที่อาศัยอยู่ในประเทศจีนระยะยาว ต่างก็เคยสัมผัสงานนี้กันมาแล้วทั้งนั้น David Borenstein หนุ่มชาวตะวันตกผู้ใช้ชีวิตอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ และคร่ำวอดในการเป็นหน้าม้ามาแล้วหลายอีเว้นท์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ทุกอย่างมันง่ายครับ เราแค่ติดต่อบริษัทเอเจนซี่และเมื่อไหร่ที่มีงานพวกเขาก็จะโยนมาให้เรา หน้าที่ก็ไม่มีอะไรมากพวกเขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าคุณเป็นใคร มาจากไหน หรือจบการศึกษาไหนมา พวกเขาสนแค่รูปพรรณสัณฐาน เราแค่ทำตัวให้ดูน่าเชื่อถือเหมือนกับว่าเป็นนักธุรกิจจากต่างชาติจริงๆ” เบื้องหน้าพวกเขาต้องสวมบทบาทเป็นนักธุรกิจ นักลงทุน ผู้เชี่ยวชาญ หรือหุ้นส่วนบริษัทจากต่างประเทศ เพื่อให้บริษัทนั้นๆ ดูดีมีความน่าเชื่อถือ Li Bonchuan นักวิจัยด้านวัฒนธรรมได้ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า กระแสดังกล่าวสามารถสะท้อนถึงความไม่มั่นใจในอัตลักษณ์ตนเองของชาวจีน บวกกับโฆษณาชวนเชื่อที่ได้รับมาจากชาติตะวันตก ทำให้เทรนด์ดังกล่าวได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ในโลกของธุรกิจเท่านั้นที่มีการจ้างชาวตะวันตกมาเป็นหน้าม้า เพราะในกลุ่มวัยรุ่นชาวจีนที่ครอบครัวร่ำรวยก็มักจะว่าจ้างชาวต่างชาติวัยใกล้เคียงกันให้ไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนร่วมก๊วน เพื่อให้ตัวเองดูโก้เก๋กว่าคนอื่นๆ ภาพจากรายของเว็บไซต์ VICE เผยให้เห็นถึงชาวต่างชาติที่ไปรับหน้าที่เป็นเพื่อนนั่งดื่มให้กับวัยรุ่นชาวจีน Jonathan Zatkin ชาวอเมริกันผู้อาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่งมานหลายปี ได้เปิดเผยข้อมูลกับสื่อ CNN…
-
แสบได้อีก… พี่ชายตัวจิ๋วสอนน้องชายวัย 1 ขวบ แอบปีนออกนอกเปล ระทึกอย่างกับแหกคุก
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน เว็บไซต์ Yahoo ได้เผยคลิปวิดีโอสุดน่ารักที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลกโซเชียล ณ ขณะนี้ โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นภาพของหนูน้อยออยลีวัย 3 ขวบ แอบย่องไปที่เปลของฟินเลย์น้องชายวัย 1 ขวบ ก่อนกระทำการปล้นตัวประกันหลุดหนีออกไปจากเปลได้สำเร็จ!! พี่ชายเริ่มต้นกระทำการโจรกรรมด้วยการหยิบเก้าอี้มาก่อน… จากนั้นก็แอบปีนเข้าไปในเปลของน้องชาย แถมยังมีการสาธิตทำเป็นตัวอย่างให้น้องดูด้วยนะ น้องชายก็ดูเหมือนจะเรียนรู้งานได้ไว พี่ชายสอนแป๊ปเดียวน้องก็พร้อมจะทำตามแล้ว จากนั้นคนพี่ก็รีบปีนออกไปก่อนที่จะพยายามรับตัวน้องออกไปด้วย… “เราทำได้นะฟินน์ กระโดดมาเลยเราทำได้แน่นอน!!” และแล้วทั้งคู่ก็ทำสำเร็จ พวกเขาสามารถหนีออกจากเปลที่เปรียบดั่งคุกอัซคาบันได้… “ตอนที่ลูกๆ กำลังทำภารกิจพวกเราก็แอบดูอยู่ห้องข้างๆ นี่แหละครับ สารภาพตามตรงเลยว่าพวกเราก็อดขำพฤติกรรมน่ารักๆ ของลูกชายเราไม่ได้เลยจริงๆ” คุณพ่อให้สัมภาษณ์ คลิปวิดีโอตัวเต็มจาก Dailybump ใครเห็นก็เป็นอันต้องอมยิ้มไปตามๆ กัน พ่อแม่เห็นพี่น้องรักกันแบบนี้ก็น่าชื่นใจเป็นที่ซู๊ดดด… ที่มา: Yahoo
-
ประมวลเหตุการณ์ “เพลิงไหม้” ตึกอพาร์ตเมนต์สูง จากตะวันตกของลอนดอน
เมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาของอังกฤษ ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่ Grenfell Tower ที่ตั้งอยู่บนถนน Latimer ในเวสท์ลอนดอน จากการรายงานของข่าวเผยว่า เหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังต้องใช้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมากกว่า 200 ชีวิต กว่าที่จะควบคุมไฟได้ และทั้งหมดนี้คือภาพจากเว็บไซต์ Dailymail ที่นำมาให้เราได้ชมกัน มีการรายงานว่า ผู้พักอาศัยบนชั้นสูงๆ ถึงกับต้องเอาผ้าปูที่นอนหรือเสื้อผ้ามามัดต่อกันเป็นเชือก จากนั้นก็โรยตัวลงมาเพื่อหนีเอาชีวิตรอด อีกทั้งชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็ให้สัมภาษณ์ว่า กลิ่นควันไหม้นั้นเหม็นมาก และตึกทั้งตึกก็ถูกไฟเผาในเพียงไม่กี่นาที มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เช่นบางคนได้รับควันพิษเข้าไปในปอดมากเกินไป ไฟเริ่มลุกจากชั้นสามก่อนจะลามไปทั่วทั้งตึกเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น เหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต้องใช้รถดับเพลิงมากกว่า 40 คัน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีกกว่า 200 ชีวิต ชาวบ้านหลายคนต้องหนีออกมาทั้งที่ใส่ชุดนอนอยู่ และพวกเขาต้องคอยระวังว่าตึกจะถล่มลงมาหรือไม่ ถึงแม้ว่ามีชาวบ้านในละแวกนั้นหลายคนต้องการจะเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ แต่พวกเขาต้องถูกปฏิเสธ เพราะอาจเกิดความเสี่ยงต่อชีวิตตามมาได้ . ภาพของผู้เคราะห์ร้ายที่ติดอยู่ในตึก และกำลังพยายามที่จะปีนหนีออกมาจากทางระเบียง ถึงกระนั้นก็ยังมีประชาชนอีกหลายชีวิตที่ไม่สามารถออกมาได้ และเจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ ชายคนหนึ่งผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดเล่าว่า “มันเต็มไปด้วยความตื่นกลัว…
-
ลองมาดู 10 ข้อที่คุณยังไม่เข้าใจ จนกว่าคุณจะลองรับเลี้ยงสุนัขเข้ามาในชีวิตสักตัว…
สำหรับใครที่เพิ่งเลี้ยงสุนัขก็อาจจะเจอประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ยังไม่เข้าใจในตัวเจ้าตูบของเรา ในบางตัวก็มีพฤติกรรมที่แสดงออกต่อเจ้านายที่แตกต่างจากตัวอื่นๆ หลายๆ คนที่ไม่เคยเลี้ยงสุนัขนั้นก็อาจจะไม่เข้าใจว่าเจ้าของนั้น จะทำแบบนี้กันไปทำไม #เหมียวปั๊ก เลยได้รวบรวม 10 ข้อที่มีแต่คนที่เลี้ยงสุนัขเหมือนกันเท่านั้นจึงจะเข้าใจ การเข้าห้องน้ำ สุนัขก็มีความต้องการในการเข้าห้องน้ำไม่ต่างอะไรไปจากเราๆ แต่ในบางครั้งพวกมันอาจจะเผลอ “เข้าห้องน้ำ” ตามโซฟา มุมโต๊ะหรือพรมก็ได้ ดังนั้นนอกจากการพามันไปเดินเล่นแล้วการเก็บของเสียจึงถึงเป็นสิ่งที่ต้องทำทุกวันไปโดยปริยาย ขนร่วง ก่อนออกจากบ้านสำหรับคนที่เลี้ยงสุนัขก็ต้องเช็คให้ดีๆ ว่ามีขนเจ้าตูบติดอยู่ที่เสื้อผ้ารึเปล่า แต่ความมากน้อยของขนนั้นก็จะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของพวกมัน สำหรับคนที่ไม่เคยเลี้ยงเจ้าตูบอาจจะคิดว่านี่คงเป็นอะไรที่น่ารำคาญ ก็จริงอย่างที่คิดนะ แต่มันก็น่ารักด้วยในเวลาเดียวกัน ความต้องการด้านอาหาร แน่นอนว่าเจ้าตูบก็มีอารมณ์ความรู้สึกไม่ต่างอะไรจากมนุษย์ที่มี “ความอยากอาหาร” เหมือนกัน สำหรับคนที่ไม่เคยเลี้ยงสุนัขอาจจะคิดว่าพวกมันกินไม่เลือก เห็นอะไรก็กินไปหมด ที่จริงแล้วมันก็มีความอยากกินอะไรที่มันอร่อยๆ ไม่ต่างจากมนุษย์เลย การออกกำลังกาย อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การพาเหล่าเจ้าตูบไปเดินเล่นนั้นจะกลายเป็นกิจกรรมประจำวัน เพราะเจ้าตูบนั้นมีพลังอยู่ในตัวมาก การพามันไปออกกำลังกายจึงถือเป็นอีกสิ่งสำคัญ และถ้าใครไม่พามันไปออกกำลังกายมันก็อาจจะเอาพลังนี้มาปล่อยกับการแทะรองเท้า แทะโซฟาก็ได้ ความสนใจ แหม่ ก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากกับความสนใจของเจ้าตูบที่พวกมันชอบเรียกร้องอยู่เสมอๆ ถึงแม้ว่าเราจะให้ความสนใจมันแล้วมันพวกมันก็ยังไม่วายที่เรียกร้องความสนใจจากเราๆ อีกไม่ว่าจะเป็นการเลียหน้าตอนเช้า การเห่าและการเล่น ความฉลาด ใช่ครับ พวกมันฉลาดกว่าที่คิด มันอาจจะฉลาดมากจนแกล้งโง่เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเรา (และอาจจะเรียกเสียงฮา)…
-
หนังสือเรียนโบราณ ” How a Baby is Made ” หรือการทำเด็กที่บอกซะทุกขั้นตอน!!!
ประเจิดประเจ้อเกินไป…อาจจะใช้คำพูดนั้นได้ แต่ก็แน่ล่ะนั่นเป็นความเข้าใจที่ถูกต้องเลยทีเดียวสำหรับวิธีการให้ความรู้ เพราะวันนี้เหมียวจะพาไปชมหนังสือเรื่อง How a Baby is Made ซึ่งเป็นหนังสือของปี 1975 หรือพูดง่ายๆ คือ วิธีการทำเด็กนั่นเอง!!! How a Baby is Made ภาพรวมของหนังสือ มีตั้งแต่เริ่มต้น เริ่มถอด… มีวิธีการบอกด้วยแหละ เหมียวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร อธิบายหน่อยเถอะ อธิบายไว้อย่างละเอียด ขั้นตอนการปฏิสนธิ การเติบโตของเด็กอ่อน ไปโรงพยาบาล ไปหาคุณหมอ มาแล้วเด็กน้อยของเรา Surprise!!! ขณะที่แม่ได้อุ้มลูกของเธอที่พึ่งคลอด และมีพ่อเด็กอยู่ข้างๆ พวกเขามีความสุขและภูมิใจมากๆ เลยล่ะ อิอิ มีบางส่วนนะเนี่ยที่เหมียวไม่เข้าใจเล้ยยยย ยังไงมาอธิบายให้เหมียวหายงงหน่อยก็ดีนะ >< ที่มา: Buzzfeed
-
โหดอีกขั้น… รัฐในอเมริกาเริ่มขึ้นรายชื่อ “ผู้กระทำความรุนแรงกับสัตว์” เพื่อแจ้งให้คนอื่นได้ทราบ
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีกฎหมายที่ออกมาคุ้มครองสัตว์มากมาย แต่นี่ก็ไม่สามรถที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากพอ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทางการรัฐในหลายแห่งของประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มมีมาตรการที่จัดทำ “ทะเบียนรายชื่อผู้กระทำความผิดต่อสัตว์” เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาการทารุณกรรมสัตว์ลงได้ ซึ่งรัฐแรกที่เริ่มกระบวนการการลงทะเบียนดังกล่าวไปแล้ว ก็คือรัฐเทนเนสซีตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2016 หลังจากนั้นจึงเริ่มใช้ในพื้นที่เล็ก ๆ ในรัฐนิวยอร์กและพื้นที่อื่นๆ ในรัฐอิลลินอยส์ โดยการขึ้นทะเบียนนี้ จะทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลพื้นฐานของผู้กระทำผิด ทั้งชื่อ ที่อยู่ รวมไปถึงความผิดที่เคยกระทำต่อสัตว์ ซึ่งจะช่วยให้ข้อมูลที่สำคัญแก่ผู้ค้นหาได้ และในเดือนกันยายนของปีที่แล้ว เมือง Tampa ในรัฐฟลอริดา ก็ได้เข้าร่วมกับฐานข้อมูลของทะเบียนนี้แล้ว ซึ่งในปัจจุบันดูเหมือนว่าจะมีอีกหลายเมืองในอเมริกา กำลังวางแผนจะใช้ฐานข้อมูลทะเบียนนี้เช่นเดียวกัน “ทะเบียนนี้ไม่เพียงช่วยปกป้องสัตว์ แต่สามารถที่จะระบุและอาจป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงต่อสัตว์ รวมไปถึงมนุษย์เช่นกัน” Kevin Beckner ผู้บัญชาการมณฑล Hillsborough เขตฟลอริดากล่าว หลังจากที่เมือง Tampa เห็นชอบกฎหมายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และด้วยไอเดียแบบนี้จึงทำให้ประชาชนในสหราชอาณาจักรเริ่มลงรายชื่อเพื่อนำระบบทะเบียนนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งมีรูปแบบที่ไม่ต่างกับทะเบียนผู้ล่วงละเมิดหรือกระทำผิดทางเพศ หากระบบทะเบียนนี้ได้นำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ก็จะทำให้การทำงานของตำรวจและการตรวจสอบจากประชาชน เกี่ยวกับผู้กระทำความผิดในเรื่องการทารุณกรรมสัตว์นั้น สามารถที่จะทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ข้อดีของระบบทะเบียนนี้คือนอกจากการบันทึกข้อมูลต่างๆ แล้ว ยังสามารถที่จะกรอกสถานะของผู้กระทำผิดด้วยว่าเป็นโรคจิตเภทหรือบุคคลธรรมดาอีกด้วย ที่มา: independent , ladbible
-
ชายตาบอดมองเห็นภรรยาเป็นครั้งแรก ด้วยอุปกรณ์พิเศษ และจัดงานแต่งครบรอบ 15 ปีอีกครั้ง
สำหรับคนที่พิการทางสายตานั้น “การมองเห็น” ถือเป็นปัญหาหลักที่ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันนั้น กลายป็นความยากลำบากรวมไปถึงโอกาสพิเศษต่างๆ อีกด้วย สำหรับชายผู้พิการทางสายตาอย่าง Andrew Airey ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่พบกับปัญหาแบบนี้ทุกวัน แต่วันครบรอบแต่งงานปีที่ 15 ปีนี้จะเป็นอะไรที่พิเศษกว่าปีก่อนๆ เนื่องด้วยปัญหาทางสายตาจากโรค Stargardt โรคทางสายตาหายากที่ทำให้เขาสูญเสียการมองเห็นไป ทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นภรรยาแสนสวยของเขาได้ชัดเจนในวันแต่งงาน… . . เมื่อไม่นานมานี้ทางบริษัท eSight ซึ่งเป็นบริษัทที่ประดิษฐ์แว่นสำหรับผู้พิการทางสายตา ได้ช่วยให้ความฝันที่จะเห็นภรรยาของเขานั้นกลับมาเป็นจริงอีกครั้ง ด้วยการสวมแว่นที่ทางบริษัทได้ประดิษฐ์ขึ้น “ตอนนั้นผมแทบที่จะไม่เห็นอะไรเลย แต่ตอนนี้ผมเห็นเธอชัดขึ้น ผมรู้สึกตื้นตันมาก” เขากล่าว ภาพจากมุมมองของอุปกรณ์ . นอกจากเขาจะสามารถเห็นภรรยาของเขาได้แล้ว เขายังสามารถที่จะเห็นหน้าลูกๆ ของเขาได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิตของเขาต่อไป เขาสามารถมองเห็นลูกได้ชัดเจนอีกครั้ง ชมคลิปวิดิโอตัวเต็มได้ที่นี่ ก็เป็นเรื่องราวที่ดีอีกเรื่องหนึ่ง ที่สามารถเป็นกำลังใจให้เราได้นะ ที่มา: businessinsider
-
ห้องสมุดสาธารณะนิวยอร์คผุดไอเดียสุดเจ๋ง เปลี่ยนรถไฟใต้ดินเป็นห้องสมุดดิจิตอลเคลื่อนที่!!
การเดินทางภายในเมือง New York ด้วยรถไฟใต้ดินนั้นเป็นอะไรที่สะดวกสบายเพราะนอกจากที่จะมีความรวดเร็วแล้ว ยังมีหลากหลายเส้นทางที่สามารถพาเราไปได้หลากหลายพื้นที่ของเมืองด้วย และเมื่อไม่นานมานี้ทาง New York Public Library และ Metropolitan Transit Authority (MTA) ได้ร่วมมือกันเพื่อเปลี่ยนโฉมการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินธรรมดาให้กลายเป็น “ห้องสมุดดิจิตอลเคลื่อนที่” แม้จะไม่มีหนังสือที่จับต้องได้มากมายเหมือนชื่อของมัน แต่ภายในพื้นที่นี้อนุญาตให้ผู้โดยสารสามารถที่จะดาวน์โหลดหนังสือหรือเรื่องสั้นต่างๆ เพื่ออ่านในระหว่างการเดินทางของคุณ ด้วยสัญญาณ Wi-fi ที่ปล่อยอยู่ภายในขบวนจะเป็นจุดเชื่อมต่อที่ผู้โดยสาร สามารถจะดาวน์โหลดหนังสือที่ถูกบริจาคมาจากที่ต่างๆ อ่านภายในรถไฟได้ แม้ว่าจะไม่มีหนังสือจริงๆ แต่ก็สามารถดาวน์โหลดมาอ่านระหว่างการโดยสารได้ . นอกจากหนังสือที่จะมีให้อ่านเยอะแยะแล้ว บรรยากาศด้านนอกของขบวนตัวอักษรสีสันเป็นคำว่า “Subway Library” และภายในยังถูกตกแต่งไปด้วยวอลเปเปอร์ชั้นหนังสือให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในห้องสมุดจริงๆ อีกด้วย ภายนอกที่ถูกตกแต่งให้สะดุดตา ภายในที่ถูกตกแต่งแล้วให้บรรยากาศเหมือนห้องสมุด . ขวบวนรถไฟใต้ดินนี้เป็นเพียงแค่ขบวนชั่วคราวเท่านั้นนะจ๊ะ สำหรับใครคนไหนที่อยากจะลองนั่งรถไฟขบวนนี้ก็สามารถที่จะเจอได้ในสาย E และ F ในส่วนของ Brooklyn , Manhattan และ Queens ได้เลย!! สุดยอดไปเลย ถ้ารถไฟฟ้าบ้านเราทำแบบนี้ #เหมียวปั๊ก…
-
สองเพื่อนรักฮัสกี้และชิวาว่า ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิฯ
ใครจะไปคิดว่าสุนัขที่ถูกช่วยเหลือจากถนนในเวลาไล่เลี่ยกันนั้น แท้จริงแล้วพวกมันเป็นเพื่อนซี้กันที่ถูกเก็บจากถนนในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกัน เจ้า Willy สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัลกี้วัย 3 ขวบ และเจ้า Buck สุนัขพันธุ์ชิวาว่าวัย 6 ขวบ ถูกพบในสวนสัตว์ Lincoln Park รัฐ Michigan โดยในเวลาต่อมาพวกมันถูกพาตัวสถานพักพิงสัตว์ Taylor Animal Shelter “ก่อนหน้านั้นฉันก็ไม่คิดว่าพวกมันจะรู้จักกันมาก่อน แต่พอฉันสังเกตแล้วพวกมันสองตัวมักจะร้องหากันอยู่เสมอ” Kellie Szczepanski หนึ่งในเจ้าหน้าที่อาสากล่าว มันมักจะร้องหากันอยู่เสมอ เมื่อ Kellie เห็นความผิดปกติดังกล่าว เธอจึงลองพาเจ้า Willy และ Buck มาเจอกัน ผลลัพธ์ที่ออกมาคือเจ้าตูบทั้ง 2 ต่างดีใจมาก Willy พยายามมองหาเจ้า Buck เจ้า Buck เพื่อนซี้ของ Willy “เราพาทั้งสองออกไปด้วยกัน ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังพูดคุยกันเหมือนเพื่อนซี้ที่ไม่ได้เจอกันมานาน” Kellie กล่าวเสริม . หลังจากเหตุผลการณ์นี้…
-
เลี้ยงจนโต… เด็กสาวตัดสินใจเก็บหนอนผีเสื้อมาเลี้ยง บ่มเพาะจนกลายเป็นผีเสื้อที่งดงาม
คนทั่วไปส่วนใหญ่หากต้องการที่จะรับเลี้ยงสัตว์สักอย่างคงจะเป็นแมวหรือไม่ก็สุนัข แต่สำหรับสาวคนนี้คิดว่า “เฮ้ย ทำไมเราไม่ลองเลี้ยงหนอนผีเสื้อดูบ้าง?” ในระหว่าที่เธอเดินกลับบ้านนั้น เธอก็ไปสะดุดตาเข้ากับเจ้าหนอนที่กระดึ๊บอยู่บนยอดไม้และเธอไม่ลังเลที่จะเก็บมันมาเลี้ยง นี่ดูเหมือนจะเป็นไอเดียที่แปลก แต่กับสาวคนนี้คิดว่านี่เป็นไอเดียที่แจ่มแมวมากก เธอเก็บเจ้าหนอนผีเสื้อมาจากยอดไม้ ระหว่างทางกลับบ้านของเธอ เธอตั้งชื่อให้มันว่า “Chicken Nugget” หรือ นักเก็ตไก่… เธอไม่ได้จับมันมาเลี้ยงเพียงอย่างเดียว หลังจากที่เธอพามันมาที่บ้านเธอก็ได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวงจรชีวิตของมันเพื่อวางแผนการเลี้ยงแบบจริงจัง แก้วที่ใส่กิ่งไม้และอาหารของมันเข้าไปคือบ้านใหม่ของเจ้านักเก็ตไก่ ในบางวันเธอก็เปิดเพลงให้นักเก็ตไก่ฟังเพื่อผ่อนคลายมันด้วย และแล้วเช้าวันหนึ่งเจ้านักเก็ตไก่ก็แปลงร่างตัวเองกลายเป็นดักแด้ หลังจากที่เจ้านักเก็ตไก่กลายเป็นดักแด้ เธอก็เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อเป็นเวลาถึง 14 วัน จนวันสุดท้ายมันก็กลายร่างเป็น ผีเสื้อสีดำแสนสวยงาม หลังจากเฝ้ารอมา 14 วัน ในที่สุดมันก็กลายร่างเป็นผีเสื้อสีสันสวยงาม!! ดูปีกของมันสิ! ใหญ่พอๆกับฝ่ามือคนเลยนะเนี่ย แต่สุดท้ายไม่มีอะไรที่จีรังยั่งยืน สาวผู้รับเลี้ยงเจ้านักเก็ตไก่คิดว่าเนื่องด้วยมันโตเต็มที่แล้ว เธอจึงตัดสินใจที่จะปล่อยมันกลับคืนสู่ธรรมชาติ คลิปบอกลาเจ้านักเก็ตไก่ เลี้ยงตั้งแต่เป็นหนอนจนมันสามารถเติบโตกลายเป็นผีเสื้อได้ #เหมียวปั๊ก ว่านี่มันสุดยอดไปเลยนะเนี่ยะ ที่มา: honesttopaws
-
คุณพ่อสัมภาษณ์ลูกสาว ในวันแรกที่เปิดเทอมตลอด 12 ปี จนกระทั่งวันเรียนจบม. ปลาย!!
วันเกิดเทอมวันแรกนอกจากจะเป็นวันสำคัญของคุณลูกๆ ในการเรียนรู้แล้ว คุณพ่อคุณแม่หลายคนก็อดที่จะตื่นเต้นไปกับลูกๆ ด้วย เพราะนี่เป็นวันที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการและการเติบโตไปอีกขั้น สำหรับพ่อแม่บางคนอาจจะเพียงแค่ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก แต่คุณพ่อ Kevin Scruggs ถ่ายวิดิโอวันเปิดเทอมวันแรกไว้เพื่อเก็บเป็นความทรงจำทุกปี หลังจากที่คุณพ่อถ่ายวิดิโอครั้งแรกไป เขาก็คิดว่านี่คงจะเป็นไอเดียที่ดีหากนำกิจกรรมนี้มาเป็นธรรมเนียมของครอบครัวเขา ซึ่งเขาได้ถ่ายช่วงเวลาสำคัญของ Mackenzie นี้ตลอดระยะเวลาทั้งสิ้น 12 ปี ตั้งแต่ระดับชั้น ป.1 จนถึง ม.6 ช่วงเริ่มแรกเธอเป็นที่ดูร่าเริง เธอแสดงให้เห็นถึงความสนใจหลายอย่างในทุกปี . “ในวันที่เธอโตและย้ายออกจากบ้านนี้ไป ผมและภรรยาก็ยังคงสามารถที่จะดูวิดิโอนี้เพื่อคลายความคิดถึงได้” Kevin กล่าว ในวิดิโอความยาวกว่า 3 นาทีนี้ นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางด้านร่างกายแล้ว นี่ยังแสดงให้เห็นถึงความสนใจของ Mackenzie ที่เปลี่ยนไปทุกปี ในขณะที่ชั้นป.1 เธอชอบที่จะระบายสีและวาดรูป แต่ในชั้นป.3 เธอกลับชอบที่จะเล่นกับเพื่อนของเธออีกคนหนึ่งที่มีชื่อเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะอยู่ป.4 แล้ว เธอก็ยังคงถูกสัมภาษณ์อยู่ ป.5 เธอลองตัดผมสั้นดูด้วย แหม่ เท่ห์ไม่หยอกเลยนะ ในขณะที่เธอเติบโตขึ้น คุณพ่อ Kevin ก็ได้ให้ข้อมูลว่าการสัมภาษณ์เธอนั้นก็ดูเหมือนจะยากขึ้นตามไปด้วยและในช่วงมัธยมปลายเธอยังให้สัมภาษณ์ภายในวิดิโอว่าเธอเริ่มมีความสนใจในเรื่องของฟุตบอลและหนุ่มหล่อๆ ทั้งหลาย …
-
ผู้เชี่ยวชาญเผย การใช้ “สารสกัดกัญชา” ร่วมกับบำบัดคีโม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพรักษามะเร็งได้!!
อย่างที่ทราบกันว่า “กัญชา” นั้นเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันในปัจจุบันเป็นวงกว้างว่า มันสามารถจะนำมาสกัดเป็นยาเพื่อรักษาโรค รวมไปถึงมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง… งานวิจัยใหม่จาก St. George’s University ในกรุงลอนดอนได้ยืนยันว่าสารเคมี cannabinoids ที่อยู่ในกัญชา มีประสิทธิภาพในการฆ่าเซลล์มะเร็งเมื่อใช้ควบคู่ไปกับการทำเคมีบำบัดของผู้ป่วยมะเร็ง การใช้กัญชาสำหรับรักษาผู้ป่วยมะเร็งนั้นสามารถที่จะทำได้ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายตามสายพันธ์ เช่น สายพันธุ์ Indica สามารถใช้เป็นยาแก้ปวดตามธรรมชาติ โดยมีผลข้างเคียงที่เป็นศูนย์และช่วยในการปรับปรุงความอยากอาหารในผู้ป่วยได้อีกด้วย ด้วยรายงานวิจัยนี้เราสามารถที่จะนำ “สารสกัดจากกัญชา” มาประยุกต์ใช้สำหรับการรักษามะเร็งได้ด้วยการลดเคมีบำบัดสำหรับผู้ป่วยที่ทรมานและเพิ่มการใช้สารสกัด cannabinoids เข้าไปแทน Dr. Wai Liu หนึ่งในทีมนักวิจัยด้านเนื้องอกวิทยา อธิบายว่า “การใช้สาร cannabinoids ร่วมกับเคมีบำบัดนั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโรคมะเร็ง อีกทั้งยังเป็นข้อมูลที่ช่วยให้เราพัฒนาวิธีการรักษาให้ดีขึ้นในอนาคตข้างหน้าอีกด้วย” Dr. Wai Liu หนึ่งในทีมนักวิจัย อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่าการสูบมวนกัญชาจะสามารถรักษามะเร็งได้นะ แต่สิ่งที่จะช่วยรักษามะเร็งได้นั้น เป็นสารสกัดเข้มข้นจากกัญชาที่ชื่อว่า “cannabisnoid” ต่างหาก ถึงแม้จะมีเอกสารยืนยันออกมาแล้ว แต่จะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมให้มากกว่านี้ ก่อนที่จะมีการใช้ cannabinoids ในขั้นตอนการทำเคมีบำบัดในลำดับต่อไป ชมคลิปข่าวได้ที่นี่ ที่มา: distractify,…
-
จิตใจทำด้วยอะไร… ฆาตกรต่อเนื่องลักพาตัวหญิงสาว จับขังเป็นทาสกามารมณ์กว่า 2 เดือน
ไม่นานมานี้ทางกรมตำรวจจากรัฐ South Carolina ได้เผยแพร่ภาพวิดิโอวินาทีบุกช่วยหญิงสาวอายุ 30 ปีที่ถูกจับล่ามโซ่อยู่ภายในตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเป็นทาสบำเรอกามนานกว่า 2 เดือน… หน่วยกู้ภัยและตำรวจพยายามที่จะเข้าช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย หลังจากที่สามารถบุกเข้าไปภายในตู้คอนเทนเนอรได้ ทางตำรวจก็พบกับ Kala Brown วัย 30 ปี หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายซึ่งถูกใส่กุญแจมือและคอถูกล่ามโซ่ติดกับกำแพงของตู้คอนเทนเนอร์ แม้ว่านาย Todd Kohlhepp จะถูกจับได้ แต่ตัวเขานั้นก็ไม่มีทีท่าจะรู้สึกผิดแต่อย่างใด เขาเพียงแค่แสดงอาการเย็นชาเหมือนเขาไม่ได้ทำอะไรผิดและไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขายังคงแสดงท่าทีปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขารับสารภาพว่าเขาได้ลักพาตัวนาง Kala และถูกตัดสินให้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตเนื่องจากให้การรับสารภาพ นอกจากนี้ทางตำรวจยังค้นพบซากโครงกระดูกของเหยื่ออีก 3 รายในพื้นที่นั้น ระหว่างการค้นหา Charles Carver วัย 32 ปี แฟนหนุ่มของ Kala เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับสื่อว่า Kohlhepp ได้สารภาพกับ Kala หลังจากที่จับเธอมาว่าเขาได้ฆ่าคู่แต่งงานไปคู่หนึ่งและฆ่าคน 4 คนที่ร้านมอเตอร์ไซค์ในเมือง Spartanburg ซึ่งยังถือเป็นคดีที่หาผู้กระทำผิดไม่ได้ …
-
ฮีโร่ตัวจริงยิ่งว่าการ์ตูน!! รวม 8 วีรกรรมเรื่องจริงของเหล่าวีรสตรี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น ถือเป็นมหาสงครามระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรกับฝ่ายมหาอำนาจกลางที่ขยายความขัดแย้งไปทั่วโลก ในช่วงนั้นความเท่าเทียมของสตรียังไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก แต่ก็มีเหล่าหญิงสาวที่เสียสละออกมาช่วยเหลือประเทศเหมือนพวกเธอเหล่านี้ Edith Cavell พยาบาลแม่พระผู้ช่วยชีวิตเหลือเหล่าทหาร พยาบาล Edith Cavell วัย 49 ปีกลายเป็นสัญลักษณ์แม่พระของเหล่าทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อเธอช่วยเหลือเหล่าทหารฝ่ายสัมพันธมิตรแอบหนีออกจากโรงพยาบาลในฮอลแลนด์ ในขณะที่ผู้สมรู้ร่วมคิดของเธอถูกลงโทษให้เป็นแรงงาน เธอถูกโทษประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า Gabrielle Petit สายลับสาวเบลเยี่ยม Gabrielle Petit เป็นสาวชาวเบลเยี่ยมที่รับหน้าที่เป็นสายลับในหน่วย British Secret Service คอยหาข่าวกรองจากทหารเยอรมัน แม้เธอถูกจับได้ แต่เธอไม่มีทีท่าจะอ่อนข้อให้ จนทหารเยอรมันมองว่าเธอเป็นผู้หญิงที่อวดดีมากถึงขนาดที่ปฎิเสธที่จะเข้ากระบวนการยุติธรรมของเยอรมัน Marthe Cnockaert สายลับสองหน้าผู้นำประสบการณ์มาเขียนเป็นหนังสือ Marthe Cnockaert เป็นเพียงแค่พยาบาลของเยอรมัน แต่นี่เป็นเพียงแค่งานบังหน้า ในขณะที่ภารกิจจริงของเธอนั้นคือการฆ่าสายลับเยอรมัน รวมไปถึงระเบิดคลังแสงของฝ่ายศัตรู หลังจากผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชนเธอได้นำข้อมูลเหล่านี้มาเขียนเป็นหนังสืออย่าง I was a spy! , Spies I Knew และ A…
-
สาวน้อยกับปั๊ก 3 หน่อ ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่เพื่อนซี้ แต่เป็นทั้งพี่น้องและส่วนหนึ่งของชีวิต
หมาปั๊กเป็นหมาที่มีหน้าตาสั้นย่นและมักจะทำอะไรน่ารักๆ ออกมาโดยไม่รู้ตัว บางครั้งพวกมันก็แสนจะฉลาด แต่บางครั้งพวกมันก็แสนจะใสซื่อไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร และเรื่องราวที่ #เหมียวปั๊ก ได้นำมาให้เพื่อนๆ ชมกันวันนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กหญิง Kennedy กับเจ้าสุนัขปั๊ก 3 ตัวของเธอที่เป็นมากกว่าเพื่อนแต่พวกมันคือ “พี่น้อง” ของเธอ หนูรู้ไหม พวกพี่รอหนูนานแค่ไหน Barnum , Bailey และ Tahlulabelle เป็นสุนัขพันธุ์ปั๊กที่คุณแม่ของ Kennedy เลี้ยงเอาไว้ก่อนที่ลูกสาวเธอจะเกิดมา และเมื่อ Kennedy เกิดมา แม่ของเธอจึงคิดว่ามันคงเป็นไอเดียที่ดีมากๆ หากลูกเธอและสัตว์เลี้ยงมีความสนิทสนมกัน เจ้า Barnum , Bailey และ Tahlulabelle สามหน่อปั๊ก ไม่ว่ายามนอน หรือยามตื่น พี่ก็จะไม่ทิ้งหนูไปไหนนะ อย่าเข้ามาไกลหัวหน้าจะเฟ้ยย ~ บะ บะ แบ่งกล้วยให้พี่กินบ้างสิ แกเคยเห็นแมวไหม ฉันไม่เคยเห็นเลยอะ Kennedy เติบโตมาพร้อมๆ กับเจ้าแก๊งหมาปั๊กทั้ง 3…
-
โจ๋หนุ่มวัย 25 ปี กระทำความผิดบ๊อยบ่อย ถูกจับซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเห็นพัฒนาการรอยสัก!!
ในการถูกจับกุมหลังจากกระทำความผิดนั้น จะมีขั้นตอนในการถ่ายรูปผู้ต้องหาเพื่อเป็นการยืนยันว่าบุคคลนี้ได้กระทำความผิดแต่จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อผู้กระทำผิดถูกจับบ่อยเกินเหมือนนายคนนี้ Robert Hardister โจ๋หนุ่มนักขโมยรถที่มักจะถูกจับได้ และรูปผู้ต้องหาที่เขาถูกถ่ายทุกครั้งนั้น จะแสดงให้เห็นถึงรอยสักใหม่ของเขาที่เพิ่มขึ้นมาในแต่ละครั้ง จนกลายมาเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการของเขา… ย้อนกลับไปในปี 2009 ตอนนั้นเขามีอายุเพียงแค่ 18 ปี ภาพผู้ต้องหาของเขานั้นแสดงให้เห็นถึงใบหน้าที่ยังไม่มีรอยสักแต่อย่างใด ก่อนที่ 7 ปีให้หลังเขามักจะมาเยี่ยมเยือนสถานีตำรวจต่างๆ (ในฐานะผู้ต้องหา) พร้อมกับอวดรอยสักใหม่บนใบหน้าของเขาอยู่เสมอ ในปี 2009 เขาถูกจับข้อหาขโมยรถ ช่างสัก Parker Beaudoin ผู้มากประสบการณ์ได้กล่าวเกี่ยวกับรอยสักต่างๆ บนใบหน้าของ Robert ว่า “เขาอาจจะได้มันมาจากแก๊งในคุกหรืออาจจะทำเองที่บ้านด้วยเครื่องมือง่ายๆ อย่างเช่นสายกีตาร์” รอยสักแรกของเขาเริ่มต้นที่บริเวณคอ ในปี 2011 ต่อมาก็เป็นรอยสักบริเวณใต้ตาในปี 2012 Hardister ได้ถูกจับกุมอย่างน้อยห้าครั้งใน Palm Beach County เพียงที่เดียว เขาถูกตัดสินจำคุก 9 เดือนในปี 2012 สำหรับการโจรกรรมรถยนต์ และเขาถูกจับกุมอีกในวันที่ 15 กุมภาพันธ์…
-
ชม 20 ภาพสุดช็อค สะท้อนวิถีชีวิตการอยู่อาศัยอย่างแออัด ของผู้คนบนเกาะฮ่องกง!?
เกาะฮ่องกงเป็นอีกหนึ่งในสถานที่จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยหลายคน เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะเคยมีโอกาสได้ไปเยือนเกาะแห่งนี้กันมาบ้างแล้ว ทว่าด้วยพื้นที่ๆ มีอยู่อย่างจำกัด สวนทางกับตัวเลขจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่อยู่การอยู่อาศัยของชาวเมืองตามมา และภาพทั้งหมดนี้จะเป็นตัวบอกเล่าวิถีชีวิตทั้งหมดของชาวฮ่องกงได้ดีที่สุด ‘สิ่งที่แย่ที่สุดในการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ก็คือ คุณไม่มีสิทธิแม้แต่จะหายใจด้วยอากาศบริสุทธิ์ แถมยังต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ขนาดแค่ 1.4 ตารางเมตรเท่านั้น’ ชาวบ้านคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ ภาพจากสลัมย่าน Sham Shui Po หลายครัวเรือนมีพื้นที่ใช้สอยเล็กซะจนต้องรวมห้องน้ำ และห้องครัว เป็นห้องเดียวกัน ภาพถ่ายทั้งหมดนี้ถูกนำไปแสดงที่นิทรรศการภาพถ่าย Society for Community Organisation จากสถิติเปิดเผยว่า มีประชากรมากกว่าสองแสนคนบนเกาะฮ่องกง ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก บนเกาะฮ่องกงมีอพาร์ทเม้นท์ขนาดเล็กมากกว่า 88,000 แห่ง และส่วนใหญ่ก็จะมีขนาดห้องที่แคบเอามากๆ ภาพซ้ายจะสังเกตเห็นชักโครกและซิงค์ที่วางอยู่ใกล้กันมากๆ ส่วนภาพขวาเป็นภาพของหนุ่มชาวฮ่องกง และวิถีชีวิตประจำวันของเขา อาจดูเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับชาวฮ่องกง ที่ห้องครัวและห้องน้ำจะรวมเป็นส่วนเดียวกัน อีกภาพที่ชวนให้ชาวฮ่องกงรู้สึกสะเทือนใจมากที่สุด… ครอบครัวที่ต้องแชร์พื้นที่กันอย่างแออัด และต้องทำทุกกิจกรรมอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ชายคนในภาพกำลังตกงาน และเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในห้องพักขนาดแคบ เนื่องจากราคาค่าเช่าที่ค่อนข้างสูง ภาพของหญิงชรา…
-
วินาทีแห่งน้ำตา… หนุ่มได้รับกีต้าร์เป็นของขวัญวันเกิด จากคุณพ่อที่เพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน
กำลังเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก เกี่ยวกับเรื่องราวของเด็กหนุ่มวัย 16 ปี Jonathon Crow จากเมืองมิชิแกน และของขวัญสุดล้ำค่าที่ได้รับจากคุณพ่อที่เพิ่งจากโลกนี้ไปไม่นาน เหตุการณ์ที่ชวนให้ชาวเน็ตทั่วโลกถึงกับหลั่งน้ำตาในครั้งนี้ เกิดขึ้นที่เมือง Port Huron รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่ออยู่ดีๆ พี่สาวเพียงคนเดียวของเขาเอาผ้ามาปิดตา และบอกแค่ว่ามีอะไรบางอย่างจะให้เขาดู… ทันทีที่เขาไปถึง พ่อหนุ่มก็ได้รับจดหมายที่เขียนโดยพ่อของเขา ผู้ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อสองเดือนก่อน ภาพในวัยเด็กของ Jonathon และคุณพ่อของเขา ตอนแรกที่พ่อหนุ่มทราบเรื่องราวดังกล่าว เจ้าตัวก็เกิดอาการงงเล็กน้อยว่าใครกันนะจะมาซื้อกีต้าร์ให้ เพราะคุณพ่อก็ได้จากเขาไปตั้งแต่เมื่อสองเดือนก่อนแล้ว ปรากฎว่าทั้งหมดนี้เป็นของขวัญจากคุณพ่อของเขา ซึ่งก่อนหน้านี้เขาทำงานอยู่ในร้านขายอุปกรณ์ดนตรีแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ๆ เขามักจะพาลูกชายมาเรียนวิชากีต้าร์จากเพื่อนร่วมงานด้วยเสมอ เพื่อนร่วมงานของพ่อเล่าให้ฟังว่า กีต้าร์ตัวนี้ถูกสั่งมาตั้งแต่เดือนมกราคมแล้ว ทว่าคุณพ่อต้องการจะเก็บไว้เซอร์ไพรส์ลูกชาย ก่อนที่ตัวเองจะจากไปเมื่อเดือนเมษายน “ในฐานะพี่สาวเพียงคนเดียวของน้อง ดิฉันรู้เรื่องนี้มานานแล้วค่ะ และดิฉันก็อยากจะสานต่อความฝันของคุณพ่อให้กลายเป็นจริง เขาจะต้องภูมิใจมากแน่ๆ ที่มีลูกชายชื่นชอบในเสียงดนตรีเหมือนกับพ่อ” พี่สาวให้สัมภาษณ์ หลังจากที่คลิปวิดีโอโมเม้นต์แห่งน้ำตาถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ก็กลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลก มีชาวเน็ตแชร์ไปแล้วมากกว่าแสนครั้ง เรื่องราวทั้งหมดที่พี่สาวโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอเอง พร้อมกับบันทึกช่วงเวลาที่น้องชายได้รับกีตาร์จากคุณพ่อผู้จากไป… ที่มา: Dailymail
-
ลื่นไหลไปกับ Clinamen งานศิลป์ที่ผสมผสานระหว่างดนตรี ความสงบนิ่งและการเคลื่อนไหว
หลายคนอาจเคยไปหอศิลป์เพื่อดูงานศิลปะต่างๆ ที่เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่สำหรับงานศิลปะชิ้นนี้ #เหมียวปั๊ก รับประกันเลยว่าถ้าเพื่อนๆ ได้ฟังแล้วจะรู้สึกสบายและสงบนิ่งแน่นอน งานที่มีชื่อว่า “Clinamen” นี้เป็นผลงานของ Céleste Boursier-Mougenot ศิลปินชาวฝรั่งเศสผู้ดึงพลังของการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ และจังหวะของชีวิตเข้ามาผสมกันในรูปแบบของงานศิลปะและดนตรี Céleste Boursier-Mougenot ศิลปินเจ้าของผลงาน . เขาได้นำชามพอร์ซเลนสีขาวลอยอยู่บนสระว่ายน้ำสีฟ้า และปล่อยให้พวกมันหมุนวนอยู่ในกระแสน้ำอ่อนๆ เมื่อชามเกิดกระทบกัน พวกมันก็จะส่งเสียงประสานออกมาตามธรรมชาติที่ฟังดูแล้วสงบนิ่งและเป็นไปตามกระแสน้ำ โดยไม่มีความพยายามในการควบคุมเข้ามาเกี่ยวข้อง ผลงานนี้ตั้งอยู่ที่ National gallery of Victoria เมือง Melbourne ประเทศออสเตรเลีย . ในการผสมผสานลักษณะนี้ จะส่งเสริมให้ทุกคนที่ชมมีส่วนร่วมทางประสาทสัมผัสซึ่งเรียกว่า “Synaesthetic” กับผลงานชิ้นนี้ ด้วยความแปลกประหลาดของงานศิลปะ จะช่วยให้เกิดการพัฒนาเกี่ยวกับองค์ประกอบของความไม่แน่นอนทางดนตรี รวมไปถึงเครื่องดนตรีประเภทอื่นๆ อีกด้วย ลองมาฟังเสียงที่เกิดจาก Clinamen ที่นี่ได้เลย เป็นอะไรที่เจ๋งมากเลยนะ #เหมียวปั๊ก เคยลองทำแบบคุณ Céleste แล้วนะ เอาชามตราไก่ไปลองลอยดู ก็เก๋ไม่หยอกเหมือนกัน ~ ที่มา: ngv , facebook
-
เหมียวน้อยแอบงีบหลับท่าน่ารัก จนเจ้าของต้องถ่ายรูปเก็บไว้ ไปหลับตรงนั้นทำไมลูก ~
บางครั้งที่เราละสายตาจากเจ้าตูบหูตั้งไปทำธุระอะไรสักอย่าง เมื่อเรากลับมาอาจจะได้เห็นภาพน่ารักๆ และสำหรับใครที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงไว้ก็อาจจะเห็นภาพแบบที่ #เหมียวปั๊ก เอามาให้ดูแบบนี้ก็เป็นได้นะ ในวันที่เราทำงานมาอย่างหนักหน่วง เราอาจจะเพียงแค่ต้องการเอนตัวลงไปบนโซฟานุ่มๆ สักตัวและผลอยหลับไป แต่ใครมันจะไปนึกว่านอกจากมนุษย์ที่ทำแบบนั้นได้ เจ้าเหมียวก็สามารถทำได้เช่นกัน ทำงานมาเหนื่อยๆ ก็ต้องเอนพักแบบนี้แหละ เมี๊ยว ~ ดูมัน… ยังไม่รู้ตัวอีก นอกจากการนอนที่น่ารักของมันแล้ว หากสังเกตให้ดีๆ ท่านอนไขว้ขาพร้อมกับการพ้อยท์มือของมันนั้น ก็เฟี้ยวฟ้าวเกินที่จะบรรยายจริงๆ และด้วยความน่ารักตะมุตะมิของมัน ทำให้เจ้าของมันไม่รอช้าที่จะทวิตผ่านชื่อผู้ใช้งาน @ahyachan โดยได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก เจ้าเหมียวได้รับความสนใจและถูก Retweet เป็นจำนวนมาก นอกจากกรณีเจ้าลูกเหมียวตัวน้อยนี้แล้ว ยังเคยมีเจ้าแมวอ้วนที่เคยนอนเอกเขนกอย่างสบายใจที่สามารถเรียกเสียงฮือฮามาแล้วเช่นกัน อ่าห์ ~ สบายสุดๆ ไปเยย หลับสบายเลยนะเจ้าเหมียว เห็นแล้วก็อยากเข้าไปหยิกขาแล้วจริงจริ๊งง หมั่นเขี้ยว ~ ที่มา: rocketnews24
-
ภาพถ่ายหายากถ่ายทอดชีวิต เด็กกำพร้าและคนไร้บ้าน ต้องดิ้นรนในสหภาพโซเวียตช่วงปฏิวัติ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1922 การปฏิวัติของรัสเซียและสงครามกลางเมืองได้ส่งผลให้เกิดการสูญเสียอย่างน้อย 16 ล้านคนภายในเขตแดนของสหภาพโซเวียต เหตุการณ์นี้ทำให้เด็กกว่า 7 ล้านคนกลายเป็นเด็กกำพร้าและไร้บ้าน ความอดอยากครั้งใหญ่ในปี 1921 – 1922 ส่งผลทำให้เด็กๆ กว่า 5 ล้านคนเสียชีวิตด้วยความหิวโหย ในขณะที่เด็กๆ บางส่วนถูกทอดทิ้งโดยพ่อแม่ที่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ นอกจากความอดอยากแล้ว โรคอหิวาต์และโรคร้ายแรงอื่นๆ ก็คร่าชีวิตคนไปเป็นจำนวนมาก แม้จะมีความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึง The American Relief Administration (ARA) ได้เข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่เพียงพอ กลุ่มเด็กกำพร้าต่อคิวเพื่อขึ้นรถไฟ . กลุ่มเด็กกำพร้ารอรอบรถไฟไปสถานรับเลี้ยงเด็กที่ต่างๆ เด็กกำพร้ากับการแต่งตัวของเขา วิถีชีวิตบางวันของพวกเขาคือการนั่งจับกลุ่มเล่นไพ่ แม้ว่าจะอดอยาก แต่เด็กบางคนเลือกที่จะไม่ทิ้งเพื่อนคู่ใจของพวกเขา โต๊ะลงทะเบียนสำหรับเด็กๆ ที่จะเข้าโรงเรียนวิชาชีพที่จัดตั้งขึ้นโดยกรุงมอสโกว . ชั้นเรียนต่างๆ ในโรงเรียนถูดจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย เด็กๆ ล้อมวงกันฟังข่าวสารจากวิทยุ มื้ออาหารแต่ละมื้อที่พวกเขาต้องช่วยกันบริการเพื่อนๆ และตัวเอง .…
-
เจ้าปลาหมึก Bobtail อาจช่วยให้มนุษย์ ค้นพบวิธีรักษาแบคทีเรีย “กินเนื้อ” ในร่างกายได้
เจ้าหมึก Bobtail ตัวน้อย ตัวน้อยน่ารักนี้นอกจากจะน่ารักจิ้มลิ้ม มันอาจเป็นสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่กุมกุญแจสำคัญเกี่ยวกับการรักษาแบคที่เรียที่กินเนื้อมนุษย์ได้ โดยเจ้าหมึกน้อยตระกูล Bobtail นี้สะสมเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่จะทำการตอบสนองต่อแสงโดยการเปล่งประกายระยิบระยับ ซึ่งเจ้าแบคทีเรียที่ชื่อว่า V. fischeri นี้มีความสามารถในการตรวจจับกรดไขมันชนิดสั้นหรือแบบสายโซ่ได้ เจ้าตัวเล็กนี่คือ ปลาหมึก Bobtail ที่มีสีสันที่สวยงาม ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหมึก Bobtail และแบคทีเรีย V. fischeri อยู่ในลักษณะที่เกื้อกูลกัน ในขณะที่แบคทีเรียได้สารอาหาร เจ้าปลาหมึกก็สามารถที่จะพรางตัวในพื้นที่ที่มีแสงต่างๆ ได้อีกด้วย เราพรางตัวได้ด้วยนะพวก!! ด้วยข้อเด่นของแบคทีเรีย V. fischeri นั้นทำให้นักวิทยาศาสตร์สนใจที่จะนำมันมาศึกษาเพื่อขับไล่แบคทีเรียจำพวก Vibrioi (ที่เป็นสาเหตุของอหิวาตกโรค) และเชื้อ Vibrio vulnificus ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่กินเนื้อมนุษย์ (เพื่อนๆ คนไหนอยากรู้ว่าโรคดังกล่าวเป็นอย่างไร สามารถค้นหาได้จากคำว่า Necrotizing fasciitis หรือ แบคทีเรียกินเนื้อคน) นอกจากในเรื่องการยับยั้งแบคทีเรียและเชื้อร้ายต่างๆ แล้ว นี่อาจจะเป็นองค์ความรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดเพื่อพัฒนาให้มนุษย์มีความสามารถ “เรืองแสง” ในที่มืดได้อีกด้วย นอกจากมันจะมีสีสันที่สวยงามแล้ว มันยังกุมกุญแจสำคัญในการรักษาโรคบางอย่างไว้อีกด้วย ที่มา: mymodernmet
-
บทความน่ารู้… 3 สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่า คุณเสี่ยงเป็นผู้ป่วย “จิตเภท” เต็มทีแล้วนะ
วันนี้ขอทำตัวมีสาระพาไปพูดคุยกันถึงเรื่องของ ‘โรคจิตเภท’ กันบ้างดีกว่า เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่รู้จัก หรือไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้เท่าไหร่นัก โรคจิตเภทเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของความคิด ทำให้ผู้ป่วยมีความคิดและการรับรู้ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ดังนั้นวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปรู้จักกับ 3 สัญญาณอันตราย ที่อาจบอกได้ว่าคุณมีสิทธิป่วยเป็นโรคจิตเภทด้วยเหมือนกัน ข้อมูลทั้งหมดนี้อ้างอิงงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ผ่านวารสาร ‘JAMA Psychiatry’ ของ University College London จิตแพทย์ Joseph F. Hayes ได้ศึกษาหาความเชื่อมโยงเกี่ยวกับตัวแปรที่เป็นสาเหตุจากผู้ป่วยโรคจิตเภท ผู้ป่วยโรคจิตอารมณ์ และผู้ป่วยโรคไบโพล่าร์ จากการศึกษาและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอาการผิดปกติ นักวิจัยได้ค้นพบ 3 ปัจจัยหลักที่เป็นได้ทั้งสาเหตุ และสัญญาณอันตรายในกลุ่มผู้มีภาวะความเสี่ยงประกอบไปด้วย ‘พลังงานทางจิตใจ’, ‘วุฒิภาวะทางสังคม’ และ ‘ความสามารถในการจัดการกับอารมณ์’ ‘พลังงานทางจิตใจ – เกี่ยวกับความสามารถในการใช้สมาธิต่อสิ่งรอบตัวต่างๆ รวมไปถึงความสามารถในการโฟกัสในสิ่งที่ทำ และปฏิกริยาการตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ‘วุฒิภาวะทางสังคม’ – ความสามารถในการจัดการกับอารมณ์และพฤติกรรมของตัวเราเอง เพื่อให้กลมกลืนต่อผู้คนในที่สาธารณะ รวมทั้งการจัดการกับความคาดหวังจากคนรอบข้างด้วยเช่นกัน ‘ความสามารถในการจัดการกับอารมณ์’ – หมายถึงศักยภาพในการจัดการกับอารมณ์ของตัวเองให้ไปในทางที่ดีขึ้นยกตัวอย่างเช่น คนที่อ่านข่าวชวนให้เครียดตั้งแต่เช้า แต่ยังสามารถไปทำงาน และใช้ชีวิตได้ปกติ ซึ่งตรงกันข้ามกับคนที่มีความสามารถในการจัดการต่ำ หากพวกเขาได้รับรู้เรื่องชวนให้เครียดหรือผิดหวัง อาจทำให้พวกเขาหมดกำลังใจในการใช้ชีวิตได้ แน่นอนว่าถ้าหากคนใกล้ตัวคุณ…
-
อยากจะได้เพิ่มอีก!! ชุดเลโก้แมวเหมียวหลากสีสัน เหมาะสำหรับทาสแมวผู้ไม่เคยพอ…
ถ้าหากว่า ‘เลโก้’ และ ‘แมวเหมียว’ คือสองสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกมีความสุขได้ล่ะก็ วันนี้เรามีข่าวดีมาบอกเพราะตอนนี้เค้ามีเลโก้แมววางขายแล้วนะ บริษัทสัญชาติฮ่องกง JEKCA ได้ปิ๊งไอเดียออกชุดเลโก้แมวเหมียวหลากหลายสีสันสายพันธุ์ โดยผู้ผลิตเคลมว่าของเล่น และของสะสมชิ้นนี้เหมาะกับคนวัย ‘kidults’ หรือภาษาบ้านเราว่าหมดกับทุกเพศทุกวัยนั่นแหละ แก๊งค์แมวเหมียวมากันตรึม!! . . ทางผู้ผลิตก็ได้ออกแบบแมวเหมียวให้อยู่ในอริยบทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นยืน เดิน นั่ง นอน . . . สนนราคาเลโก้แมวเหมียวชิ้นนี้อยู่ที่ 550 – 690 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 2,400 บาท – 3,000 บาท . . ‘เจ้าเหมียวทุกตัวถูกออกแบบมาให้เหมือนมีชีวิตจริง ในรูปทรงของเลโก้ และที่สำคัญมันไม่มีวันแตกหักแน่นอน’ ผู้ผลิตอธิบายไว้ในเฟซบุ๊ก . . . เอาเป็นว่าถ้าใครอยากได้มาตกแต่งบ้าน ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ JEKCA เลยจ้า ถ้าจะเป็นทาสแมวแล้ว…
-
ช่วงเวลาสุดซึ้งของพี่สาววัย 12 ขอคุณหมอช่วยทำคลอด เพราะอยากให้น้องชายปลอดภัย…
เรื่องราวนี้เป็นช่วงเวลาที่สาวน้อยวัย 12 ขวบ ทำการพยุงส่วนของศีรษะน้องชาย โดยอยู่ในความดูแลของคุณหมอเมื่อวันอังคารที่ 6 มิถุนายน 2017 ที่ผ่านมา Dede Carraway คุณแม่ที่กำลังทำการคลอดลูกชายตัวน้อยได้เล่าเหตุการณ์ว่า ในขณะที่เธอกำลังคลอดอยู่นั้น Jacee Dellapena ว่าที่พี่สาวตัวน้อย ก็ขอร้องคุณหมอ Walter Wolfe ว่าเธออยากจะช่วยคุณหมอทำคลอดให้น้องชายของเธอ คุณพ่อ Zack และคุณแม่ Carraway โชว์รูปอัลตราซาวน์ของลูกเธอ Carraway กล่าวว่า Jacee นั้นเคยต้องการที่จะช่วยคุณหมอทำคลอด Zaydn น้องชายของเธอเมื่อสองปีก่อน แต่พ่อแม่ของเธอคิดว่าเธอนั้นยังเด็กเกินไป… Jacee และแม่ของเธอถ่ายรูปกับ Zaydn น้องชายตัวน้อยที่ถูกอุ้มอยู่ แต่ครั้งนี้หลังจากการปรึกษาหารือกันระหว่างคุณหมอและคุณแม่ Carraway พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะให้ Jacee เข้ามาในห้องทำคลอดโดยอยู่ในความดูแลของคุณหมอ เธอแต่งตัวและทำความสะอาดส่วนต่างๆ เหมือนเป็นคุณหมอคนหนึ่งเลยทีเดียว และแล้วช่วงเวลาที่สำคัญก็มาถึงเมื่อคุณหมอได้ให้ Jacee ช่วยประคองศีรษะของน้องชายเธอไว้ในขั้นตอนสุดท้ายของการคลอด แม้ว่าเธอจะหวั่นๆ และกลัวอยู่บ้าง แต่ก็มีคุณหมอช่วยดูอยู่ตลอด . …
-
หมู่บ้านกลางเขาในสวิตเซอร์แลนด์ ห้ามนักท่องเที่ยวถ่ายรูป เพราะว่าที่นี่สวยเกินไป!?
นี่อาจจะเป็นข้อห้ามที่แปลกที่สุดอีกข้อหนึ่งที่ #เหมียวปั๊ก เจอมา แต่นี่คือเรื่องจริง ณ หมู่บ้าน Bravuogn หรืออีกชื่อหนึ่ง Bergün ที่ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขา Swiss Alps ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับเหตุผลของข้อห้ามดังกล่าวก็คือ แม้ภาพถ่ายจะเป็นอะไรที่สวยงามและสามารถดึงดูดให้คนเข้ามาเยี่ยมชมที่นี่ แต่ในอีกมุมก็สามารถสร้างความรู้สึกอิจฉาและหดหู่ให้กับคนที่ไม่มีโอกาสได้มาเช่นกัน ดังนั้นทางนายกเทศมนตรีท้องถิ่นจึงได้ออกกฎ ห้ามถ่ายรูปบรรยากาศของหมู่บ้านสำหรับนักท่องเที่ยว หมู่บ้าน Bergün อันเงียบสงบที่ออกกฎ ห้ามนักท่องเที่ยวถ่ายรูป!? นี่อาจจะดูเป็นเรื่องตลก แต่มันคือเรื่องที่จริงจังมากถึงขนาดสภาหมู่บ้านออกกฎนี้มา โดยมีการรับรองจากนายกเทศมนตรี โดยโทษของผู้ที่ฝ่าฝืนนั้น จะถูกปรับเป็นเงิน 5 ยูโร หรือ ประมาณ 200 บาท ตามคำแถลงของหน่วยงานการท่องเที่ยวของ Bergün กล่าวว่า “เรามีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าภาพถ่ายในวันหยุดที่สวยงามบนโซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้ชมบางส่วนไม่มีความสุขเพราะพวกเขาไม่สามารถอยู่ที่นั่นได้” ป้ายสัญลักษณ์ห้ามถ่ายรูปภายในหมู่บ้าน “Bergün เป็นเมืองที่สวยงามไปด้วยธรรมชาติและความสงบ เราอยากให้ทุกท่านได้มาเยี่ยมชมด้วยตัวเองเพื่อสัมผัสถึงประสบการณ์นี้อย่างเต็มที่” Peter Nicolay นายกเทศมนตรีได้กล่าวเสริม แต่ถึงกระนั้นหลายคนกลับมองว่า นี่เป็นแผนการตลาดที่ทำให้เราอยากที่จะเข้ามาเยี่ยมชมหมู่บ้านแห่งนี้มากขึ้น ซึ่งข้อเท็จจริงบางส่วนนั้นถูกยืนยันโดย Marc-Andrea Barandun ซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการท่องเที่ยวของหมู่บ้าน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงจังเกี่ยวกับข้อห้ามที่ออกมาใหม่นี้ ทางเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของหมู่บ้าน Bergün ได้ยืนเรื่องไปในส่วนของเว็บไซต์ออนไลน์ต่างๆ…
-
เปิดแล้ว… Playboy Bar ที่ญี่ปุ่น เอาใจหนุ่มเหงาผู้ว้าเหว่ ด้วยบริการจากสาวกราเวียร์!!
‘Weekly Playboy’ หรือ ‘Shupure’ เป็นนิตยสารปลุกใจเสือป่าที่อยู่คู่วิถีชีวิตชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 1966 และถ้าถามว่าเนื้อหาข้างในจะเป็นประมาณไหน เราก็ขออธิบายสั้นๆ ว่า เป็นเหมือนเพลย์บอยเวอร์ชั่นญี่ปุ่นนั่นแหละ และข่าวดีล่าสุดจากบริษัทผู้ตีพิมพ์หนังสือปลุกความสยิวรายสัปดาห์ก็คือ บาร์แห่งใหม่ที่กำลังจะเปิดให้บริการใจกลางกรุงโตเกียว เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองนิตยสารที่อยู่มานานถึง 50 ปี หวังเอาใจหนุ่มเหงา หนุ่มหงี่ ทั้งหลาย!! บาร์แห่งนี้มีชื่อว่า Shupure Bar ตั้งอยู่ในย่าน Kabukicho ของกรุงโตเกียว เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของบาร์แห่งนี้ก็คือ การเลือกใช้โทนสีดำ-แดงเพื่อให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้น และตกแต่งด้วยภาพหรือเนื้อหาที่นำมาจากนิตยสารทั้งหมด ที่สำคัญยังมีอาหารอร่อยๆ คอยให้บริการคุณลูกค้าทุกท่าน อย่างเช่นทูน่าซาชิมิชุดนี้สนนราคาชุดละ 1,690 เยน (ประมาณ 530 บาท) และหนึ่งในกับแกล้มทีเด็ดสำหรับคอเบียร์ ก็ต้องเป็นไก่ทอดคาราเกะ ในเมนูสำหรับการเลือกน้ำซอส ก็แอบมีนางแบบสาวมาส่งสายตาให้หนุ่มๆ ได้ออกอาการขะเขินกันเล่นๆ ที่มากไปกว่านั้นก็คือ บาร์แห่งนี้ได้จับมือร่วมกับเครื่องดื่ม Strong-Zero ด้วยการขาย ‘Chuhai’ เครื่องดื่มที่เคลมว่ามีแอลกอฮอล์อยู่ 9% และเหมาะกับไก่ทอดคาราเกะเป็นที่สุด …
-
พอกันทีกับการกลั่นแกล้ง!! หนุ่มอ้วนตัดสินใจลดน้ำหนักใน 1 ปี เปลี่ยนไปจนเพื่อนๆ จำไม่ได้
การแกล้งหรือรังแก (Bully) เป็นอีกสาเหตุสำหรับที่ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าซึ่งนำไปสู่โรคจิตเภทและโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ได้ โดยหลายๆ คนนั้นก็มีวิธีการรับมือที่แตกต่างกันไป สำหรับนาย Ilija Rajkovcevic ที่เคยถูกกลั่นแกล้งเนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่โตตัดสินใจที่จะ “พอกันที” โดยเขาเริ่มต้นลดน้ำหนักอย่างจริงจังจนเขาสามารถที่จะลดน้ำหนักได้ 90 กิโลกรัมภายใน 1 ปี ซึ่งเรื่องราวของเขานั้นคล้ายคลึงกับพล๊อตหนังเรื่อง The Central Intelligence แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นสายลับเหมือนในหนังแต่เขาก็สามารถลดน้ำหนักจนใครหลายคนจำเขาไม่ได้ รูปภาพก่อนที่เขาจะตัดสินใจลดน้ำหนัก “ตอนนั้นเวลาที่ผมมองกระจก ผมรู้สึกว่าตัวเองคงต้องมีอนาคตที่อับเฉา เอาแต่นั่งกินๆๆ อยู่หน้าทีวี ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะเข้ายิมและออกกำลังกายอย่างจริงจัง” Ilija กล่าว สะสะสุดยอด … ล่ำแล้วยังหล่ออีกด้วย หลังจากการวางแผนไดเอทและการออกกำลังกายอย่างเข้มงวด Ilija กลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น ๆ ผ่านทางช่อง YouTube ของเขาซึ่งวิดิโอเปรียบเทียบที่เขาทำได้รับยอดวิวกว่า 3.6 ล้าน เปลี่ยนไปจนจำเค้าโครงเดิมไม่ได้เลย ภายในหนึ่งปี เขาสามารถลดน้ำหนักได้ขนาดนี้เลยหรอเนี่ย!? Ilija ยังกล่าวเสริมอีกว่า “ผมเหงา โดนแกล้งและโดนดูถูกมาตลอด จนวันหนึ่งผมตัดสินใจที่จะพอกันทีกับการโดนแบบนี้…
-
เด็กหนุ่มวัย 6 ขวบ เกิดมาพิการแขนขา พิสูจน์ตัวเองด้วยการคว้าแชมป์ว่ายน้ำได้สำเร็จ!!
เรามั่นใจว่าเรื่องราวการต่อสู้ในชีวิตของเด็กน้อยวัย 6 ขวบ ชาวบอสเนียคนนี้จะทำให้ใครหลายคนรู้สึกมีกำลังใจในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น Ismail Zulfic เด็กน้อยวัย 6 ขวบ ที่เพิ่งชนะเลิศการแข่งขันว่ายน้ำมาหมาดๆ ก่อนหน้านี้ผู้ปกครองของ Ismail ได้ทุ่มเทหลายสิ่งหลายอย่างให้แก่ลูกชายเพียงคนเดียวของพวกเขา และพวกเขาก็ได้ค้นพบว่ากีฬาว่ายน้ำ เป็นสิ่งที่ลูกชายของเขารู้สึกมีความสุขมากที่สุด “มันไม่ใช่เรื่องของการเอาชนะ หรือความสำเร็จ แต่เป้าหมายของเราก็เพื่อดึงความกล้าในหัวใจของเด็กพิการทุกคน ให้กล้าที่จะลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่พวกเขาถนัด” ครูฝึกให้สัมภาษณ์ ทั้งหมดนี้เป็นโครงการของ Amel Kapo ผู้ก่อตั้งองค์กร Swim Strong Foundation โดยจุดประสงค์หลักก็เพื่อฝึกสอนให้เด็กที่เกิดมาพร้อมความผิดปกติ กล้าที่จะตัดสินใจและใช้ชีวิตในสังคมอีกครั้ง “เมื่อเด็กๆ เห็นว่าตัวเองก็สามารถทำในสิ่งที่คนปกติทำได้ มันไม่มีสิ่งไหนจะยิ่งใหญ่ไปกว่าสีหน้าของพวกเขาในช่วงเวลานั้นอีกแล้ว มันช่วยทำให้พวกเขามีความกล้ามากขึ้นจริง” Amel เล่า จากสถิติคาดการณ์ว่า 6.5% ของเด็กๆ ในประเทศบอสเนีย จะเกิดมาพร้อมกับความผิดปกติของร่างกาย และหนึ่งในปัญหาหลักก็คือการปรับตัวเข้าหาสังคม และการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้คนอย่างกลมกลืน และล่าสุดหนูน้อย Ismail Zulfic ก็เพิ่งคว้าแชมป์การแข่งขันว่ายน้ำมาหมาดๆ “ผมคงต้องยกย่องให้ Ismail…
-
สุนัขกำพร้าสุดโศกเศร้า หวาดกลัวทุกอย่างจนคอตก ที่สุดแล้วก็ยิ้มแก้มปริได้เพราะความรัก
สำหรับสัตว์เลี้ยงผู้น่ารักทั้งหลายแล้ว เชื่อว่าคงไม่มีตัวไหนที่อยากจะให้ชะตาชีวิตของตัวเองลงเอยด้วยการถูกทิ้ง และมาจบที่ศูนย์พักพิงสัตว์ เช่นเดียวกับเจ้าสุนัขวัย 10 ขวบ Annabelle ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่มันอาศัยอยู่ที่ Baldwin Park Animal Shelter มันก็ได้แต่เฝ้ารอว่าจะมีมนุษย์คนไหนใจดีมามอบความรักให้มันอีกครั้ง หนึ่งในภาพที่ชวนให้ชาวเน็ตรู้สึกสะเทือนใจมากที่สุด เมื่อ Annabelle เฝ้ารออย่างไร้ความหวัง จนถึงกับทำคอตกกันเลยทีเดียว ใช่ว่าเรื่องร้ายๆ จะอยู่กับเราไปตลอด… หลังเจ้าหน้าที่โพสต์ภาพสุนัขคอตกลงบนเฟซบุ๊กได้ไม่นาน ก็มีกลุ่มอาสาสมัครรับช่วยเหลือดูแลสัตว์เลี้ยงจรจัด มารับมันไปดูแลทันที ทันทีที่มันรู้ตัวว่าจะได้ไปอยู่กับครอบครัวใหม่ เจ้า Annabelle ก็ถึงกับยิ้มแก้มปริทันที “มันดูตื่นเต้นมากเลยค่ะ ปกติมันจะเซื่องซึมตลอดไม่เคยมีใครเห็นมันร่าเริงได้เท่านี้มาก่อน” เจ้าของคนใหม่ให้สัมภาษณ์ หลังจากที่ Annabelle ได้ย้ายออกมาจากศูนย์พักพิงสัตว์ที่มันอาศัยมาอย่างโดดเดี่ยว เจ้าของคนใหม่ก็พามันไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ ถึงจะเป็นสุนัขอายุ 10 ปี แต่ความแข็งแรงของ Annabelle ไม่เคยลดลงตามวัยเลย “ครั้งแรกที่มันเข้ามาอยู่ในบ้านเรา มันก็ดูจะกล้าๆ กลัวๆ อยู่พอสมควร แต่หลังจากนั้นได้ซักประมาณอาทิตย์พอมันเริ่มชิน ความร่าเริงของมันก็กลับมาให้เราเห็นกันอีกครั้ง มันเป็นสุนัขที่น่ารักมากๆ เลยล่ะ พวกเราดีใจสุดๆ…
-
อุทาหรณ์เตือนใจ.. คุณป้าวัย 67 มัวแต่ก้มหน้ากดโทรศัพท์ จนร่วงลงหลุมเจ็บสาหัส..!!
ถือว่าเป็นเรื่องที่เราเอามานำเสนอเพื่อช่วยย้ำเตือนให้เพื่อนๆ ระวังภัยอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือกันมากขึ้น โดยเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานเหตุการณ์ที่บนถนน Somerset แห่งรัฐนิวเจอร์ซี่ย์ ซึ่งเป็นภาพกล้องวงจรปิดที่จับภาพอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ และมันก็ช่วยเตือนสติให้เราได้อย่างดีด้วยเช่นกัน ภาพของสุภาพสตรีวัย 67 ปี ขณะที่เธอกำลังเดินอยู่ข้างทางเท้า เธอก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาพอดี เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าข้างหน้ามีหลุมขวางทางอยู่ ถึงแม้จะมีการเปิดประตูตั้งขึ้นมาเป็นที่กั้นแล้วก็ตาม เพียงไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็ตกลงไปในหลุมทันที แต่โชคดีที่มีวัยรุ่นสาวกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี พวกเธอจึงรีบวิ่งไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือทันที โชคดีที่มีกลุ่มหญิงสาวเดินมาเห็นเหตุการณ์พอดี ต่อจากนั้นไม่กี่นาทีทีมกู้ภัยก็เข้ามาช่วยเหลือเธอได้อย่างทันท่วงที ถึงแม้ว่าจะไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต แต่สื่อท้องถิ่นได้รายงานว่าหญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่อีกนานหลายเดือนเลยทีเดียว ยังไงซะเราก็ควรจะปลอดภัยไว้ก่อนแหละเนาะ เชื่อว่าอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเลยจริงๆ ที่มา: Dailymail
-
ชาวเน็ตร่วมด้วยช่วยรีวิว #แอพดีบอกต่อ ไล่ตามไปโหลดมาใช้ วันๆ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว!!
ถือได้ว่า “มือถือ” เป็นอะไรที่คู่กับการใช้ชีวิตประจำวันของเราๆ มั่กมากก สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ชอบดาวโหลดแอพพลิเคชั่นมาใช้เวลาว่าง #เหมียวปั๊ก ก็ได้รวบรวมแอพพลิเคชั่นที่ใช้ดีใช้เพลินใช้ได้ทุกโอกาส จากแฮชแท็ก #แอพดีบอกต่อ ที่ชาวเน็ตต่างมาร่วมด้วยช่วยกันรีวิว มาให้เพื่อนๆ ลองโหลดกันดูนะ!! R4VE (iOS) แอพแต่งภาพสไตล์ผสมแบบร่วมสมัย ให้โทนสีแบบฟุ้งเฟ้อจนจะเป็นสีรุ้งกันเลยทีเดียว Palette Nara (iOS), (Android) แอพแต่งภาพและคุมโทนสีในสไตล์ญี่ปุ่น Macaron Cam (iOS), (Android) แอพแต่งรูปอีกหนึ่งตัวที่มีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้หลากหลาย และมีสีสวยมากๆ อีกหนึ่งแอพแต่งรูปยอดนิยม VSCO (iOS), (Android) ที่ใครๆ ก็ต้องมีติดเอาไว้ Retro Brick Game Simulator (Android) หากใครนึกหวนถึงเครื่องเล่นเกมสมัยก่อน ที่มีแต่เกมบล็อคสี่เหลี่ยมๆ ต้องตัวนี้เลย!! ตระกูลแอพ Analog ทั้ง Wedding, Paris และ Budapest…
-
ถึงเวลาที่เธอต้องเลือก… ร่วมโหวต “4 จตุรเทพ Chris” องค์ไหนฮ็อต เซ็กซี่ และน่ากินที่สุด!?
เชื่อว่าถ้าช่วงไม่กี่ปีให้หลังมานี้ ถ้าคุณมีโอกาสได้ดูหนังจากค่ายฮอลลีวูดเราก็ยิ่งมั่นใจเลยว่าคุณต้องเคยสัมผัสกับความหล่อเหลาเอาการของพ่อหนุ่ม Chris ทั้ง 4 แห่งวงการภาพยนตร์มาแล้ว แต่บางทีพวกเขาก็ทำให้เราสับสนได้เหมือนกันนะ ไหนจะมีซิกแพคส์เหมือนกัน เป็นหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวหน้าตาดีเหมือนกันอีก โอ๊ยย.. ฉันว่ามันถึงเวลาที่เราจะต้องเลือกแล้วแหละแกร๊!! ทั้ง 4 คนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือ… ความน่าเสียตัวให้มากเลย อร๊ายย >< และที่สำคัญปัญหาโลกแตกนี้ไม่ใช่ปัญหาเล่นๆ นะจ๊ะ เพราะถึงขนาดที่ต้องมีการวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์กันเลยทีเดียว เอาเป็นว่าเราตามไปดูข้อมูลเชิงลึก โดยเฉพาะด้านหน้าตา และกายภาพของพ่อหนุ่มทั้ง 4 กันเลย ประเดิมด้วยคนแรกพ่อหนุ่ม Chris Hemsworth เจ้าของบทบาทเทพเจ้าแห่งสายฟ้าจากเรื่อง Thor นอกจากความหล่อแบบสายฟ้าฟาดเปรี๊ยะๆ แล้ว พ่อหนุ่มยังมีกล้ามเนื้อที่แน่นเปรี๊ยะชวนให้น่าลูบไล้จัง… ผู้เข้าประกวดคนที่ 2 พ่อหนุ่ม Chris Pine มาจากจักรวาลหนังเรื่อง Star Trek เรื่องความหล่อคงไม่ต้องพูดถึงเพราะเราเห็นหน้าพี่แกโลดแล่นอยู่ในวงการกันมานานแล้ว และล่าสุดเจ้าตัวก็เพิ่งออกมาทำให้หัวใจสาวๆ ทั่วโลกละลายไปกับบทบาท Steve Trevor ในเรื่อง…
-
นี่มัน Tony Stark!! แอบส่องคฤหาสน์หลังใหม่ของ Robert Downey Jr. มูลค่า 120 ล้านบาท
ถึงแม้เขาจะห่างหายจากจอเงินไปสักพัก แต่ Robert Downey Jr. นักแสดงสุดเฟี้ยวผู้รับทเป็น Ironman คนนี้ ได้ตัดสินใจที่จะซื้อคฤหาสน์ใหม่ด้วยราคามากถึง 120 ล้านบาท ณ เมืองมาลิบู ประเทศสหรัฐอเมริกา ป๋า Robert Downey Jr. ผู้รับบท Tony Stark ในจักรวาล Marvel Cinematic คฤหาสน์ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 5,260 ตารางเมตรภายใต้ความดูแลของโครงการ จากข้อมูล Realtor.com นั้นคฤหาสน์หลังนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1972 มีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่ทอดตัวจากพื้นถึงเพดานและข้ามกำแพง พบกับคฤหาสน์หลังน้อยของป๋า Robert เล้ย ~ หนึ่งในหลายห้องนอนของคฤหาสน์ที่เห็นวิวทะเล และหนึ่งในห้องน้ำอันโอ่อ่าหรูหรา อู้วว ส่วนระเบียงนั้นตั้งขนานเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกให้ทัศนียภาพกว้างไกลของน้ำ ห้องครัวที่ทำจากไม้ภายในบ้านซึ่งอยู่ติดกับห้องนั่งเล่นล้อมรอบด้วยรูปสี่เหลี่ยมคางหมูและอ่างล้างจาน มีเตาอบแก๊สไวกิ้งสองเครื่องอีกด้วย ระเบียงไม้ที่ทอดยาวขนานกับเส้นขอบฟ้า . ห้องครัวที่ดูดีมีสไตล์ติดกับห้องนั่งเล่น .…
-
บัณฑิตจีนถ่ายรูป ‘ธีมหน้ากากแพนด้า’ ในวันสำเร็จการศึกษา หวังให้แง่คิดกับทุกคน…
เพื่อนๆ หลายคนคงคุ้นเคยกับรายการหน้ากากนักร้องที่มักจะมีเหล่าดาราและเซเลปชื่อดังมาร้องเพลงภายใต้หน้ากากให้เราทายเล่นๆ กันในแต่ละเทป แต่สำหรับ “หน้ากากแพนด้า” ที่ #เหมียวปั๊ก นำมานั้นไม่ได้มาร้องเพลง แต่มาบอกอะไรบางอย่างกับเรา เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2017 กลุ่มบัณฑิตสาขาการออกแบบจาก University of South China ร่วมถ่ายรูปหมู่ด้วยหน้ากากแพนด้าที่พวกเขาทำเอง ณ เมือง Xiangyang มณฑลหูหนาน ประเทศจีน หน้ากากหมีแพนด้า ในวันสำเร็จการศึกษา ถ้าดูผิวเพินทุกคนอาจจะนึกว่ากลุ่มบัณฑิตเหล่านี้ อาจจะเป็นกลุ่มนักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิให้แพนด้า แต่ทว่าเป็นการแสดงออกเพื่อให้ทุกคนรับรู้อีกมุมมองหนึ่งหลังจากเรียนจบไปแล้ว… ลักษณะคล้ายจะเป็นการเรียกร้องอะไรบางอย่าง บัณฑิตกลุ่มนี้ร่วมใจกันทำหน้ากากแพนด้าไว้ถ่ายรูปในวันสำเร็จการศึกษา เพื่อต้องการจะสื่อว่าชีวิตของคนเราควรมีความขยันและอดทนตั้งแต่เริ่มต้นการทำงาน และอย่าเกียจคร้านเหมือนนิสัยเสียๆ ของหมีแพนด้า แพนด้านั้นน่ารัก แต่หากมองในอีกมุมหนึ่งก็เป็นสัตว์ที่เกียจคร้านเช่นกัน โดยพวกเขาได้สร้างรูปวงกลมรูปหัวใจล้อมรอบตัวอักษรจีนที่มีความหมายว่า “ฝัน” และ “ลำบาก” เพื่อเรียกร้องให้บัณฑิตที่จบใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของความฝัน ที่สามารถเป็นจริงได้จากการฝ่าฟันไปทีละขั้น สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากทราบว่าแพนด้านั้ขี้เกียจยังไง!? ตัวไหนที่ขี้เกียจเหมือนแพนด้าอีกก็สามารถที่จะเข้ามาอ่านได้ใน ลิ้งค์ข่าวเก่า ที่นี่ได้เลย …
-
ผู้โดยสารถึงกับวางตัวไม่ถูก เมื่อคู่รักโชว์เล่นหนังสดบนเครื่อง อดอยากปากแห้งมาจากไหน..!!
ใครมันจะไปนึกละว่าแม้แต่บนเครื่องบินก็ยังมีผู้โดยสารที่เอ่อ.. ไม่รู้เค้าไปอดอยากปากแห้งกันมาจากไหน ถึงได้โชว์วิทยายุทธเหินเวหากันบนน่านฟ้า ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ!! โดยเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า บนเที่ยวบินจากเมืองแมนเชสเตอร์ สู่เกาะอิบิซ่า (หนึ่งในสถานที่ปาร์ตี้ที่มีวัยรุ่นจากทั่วโลกมารวมตัวกัน) มีชาวเน็ตได้ถ่ายภาพของผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ โดยมีผู้หญิงนั่งอยู่ข้างบนหันหน้าเข้าหาผู้ชาย นี่แหละภาพที่ชาวเน็ตจากไฟลท์เดียวกันถ่ายมาได้ Kieran Williams หนุ่มวัย 21 ปี ที่ได้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า “ตอนแรกผมแอบได้ยินเค้าคุยซุบซิบกันเรื่องเล่นเสียวอะไรนี่แหละ ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าเค้าจะกล้าทำจริง” ด้วยความที่มันช่างน่าล่อตาล่อใจให้ผู้โดยสารคนอื่นหันไปมอง พ่อหนุ่มคนที่นั่งประจำการอยู่ก็ตะโกนขึ้นมาว่า “ทำไม!! อิจฉากันรึไงว่ะ!?” ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า “ท่าทางพวกเค้าน่าจะเมามากพอสมควร ตอนแรกคนอื่นก็แอบหัวเราะคิกคักแบบเขินๆ อ่ะครับพี่เข้าใจใช่ป่ะ? ซักแปปผู้หญิงมันถอดกางเกงออกเลยว่ะพี่ แล้วผู้ชายก็ถกยีนส์ตัวเองลงมา แล้วเค้าก็นั่งคร่อมกันผมคงไม่ต้องอธิบายนะว่าคร่อมอะไร..” แต่ก็น่าแปลกใจอยู่เหมือนกัน เพราะผู้โดยสารคนอื่นที่อยู่ใกล้ๆ ได้ขอร้องให้พวกเขาช่วยหยุด หรือย้ายไปทำในห้องน้ำ แต่ดูเหมือนลูกเรือจะไม่มีการเข้ามาห้ามปรามใดๆ ในขณะที่ชาวเน็ตหลายคนก็บอกว่า ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเสียหาย แต่ถือว่าเป็นเรื่องตลกเพราะนานๆ ทีมีอะไรน่าตื่นเต้นมาให้ดูแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน แหม๊… ไปอดอยากกันมาจากไหนพี่เอ๋ยย ที่มา: Dailymail
-
สลด… เด็กน้อยวัย 5 ขวบ จมน้ำกลางสระแต่ไม่มีใครสังเกตเห็น เป็นเวลาร่วมกว่านาที!!
ถือว่าเป็นอีกเรื่องราวเตือนใจภัยใกล้ตัว ที่เราไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับลูกหลาน หรือคนใกล้ชิดของผู้อ่านทุกท่าน โดยภาพฟุตเทจดังกล่าวถูกโพสต์ลงบนเว็บไซต์ Imgur ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ สระน้ำแห่งหนึ่งในเมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เป็นภาพของเด็กน้อยไม่ทราบชื่อวัย 5 ขวบ ที่กำลังจะจมน้ำอยู่กลางสระ… เด็กน้อยพยายามตะเกียงตะกายอย่างสุดความสามารถ ถึงแม้สระจะไม่ลึกสำหรับผู้ใหญ่ (ประมาณเอว) แต่สำหรับเด็กวัย 5 ขวบแล้ว มันท่วมหัวเขามิดเลยล่ะ จากภาพเมื่อกี้ยังมีคนยืนดูอยู่ แต่จู่ๆ พวกเขาก็เลือกที่จะไม่ช่วยเหลือ (อาจจะเข้าใจผิด) ทำให้หนุ่มน้อยต้องตะเกียงตะกายต่อไปในวินาทีเฉียดเป็นเฉียดตาย เด็กในภาพพยายามตะเกียงตะกายอยู่นานสองนาน แต่ก็ไม่มีใครยื่นมาเข้ามาช่วยเหลือเขาเลยแม้แต่คนเดียว เด็กหนุ่มสามารถพาตัวเองไปแตะขอบสระได้ แต่อาการเหนื่อยล้าและหมดแรงทำให้เขาไม่สามารถพาตัวเองขึ้นจากสระได้ จากนั้นไม่นานเขาก็ปล่อยตัวเองลอยไปกลางน้ำ ทั้งหมดเป็นเวลานานนับนาที จนกว่าจะมีคนสังเกตเห็นเด็กลอยอยู่ในน้ำ และรีบเรียกเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ โชคดีที่หนูน้อยไม่ได้รับอาการบาดเจ็บใดๆ ถือว่าเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ ไม่ปล่อยให้เด็กเล็กอยู่เพียงลำพังแล้วกันเนาะ… ที่มา: Dailymail
-
เด็กหนุ่มถึงกับหลั่งน้ำตา เมื่อได้กลับมาเจอสุนัขที่หาย แม้จะคิดว่าไม่มีโอกาสอีกแล้ว…
เคยมีคำพูดที่บอกว่า ‘ครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด’ แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าปฏิเสธคำพูดนี้ แต่สำหรับ Rocco Risso เด็กหนุ่มวัย 11 ขวบ สัตว์เลี้ยงและครอบครัวคือสิ่งเดียวกัน “ผมไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้เลย ช่วงที่เจ้า Jack หายไปจากบ้าน ลูกชายของเราก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ตลอดทั้งวัน พวกเขาทั้งสองสนิทและรักกันมาก” คุณพ่อกล่าว Rocco Risso และ Jack ในเช้าวันหนึ่งสิ่งที่ทำให้เด็กหนุ่มต้องเสียใจมากที่สุดก็ปรากฎต่อหน้าเขา เมื่อเขาไม่พบเห็นเจ้า Jack อีกแล้ว ไม่ว่าจะพยายามออกตามหาไปไกลแค่ไหน ก็ไม่พบแม้แต่ร่องรอยของมัน ความเศร้าโศกเสียใจถึงการหายตัวไปของเพื่อนซี้ ทำให้ลูก Rocco ถึงกับเสียศูนย์ไม่มีสมาธิเรียนหนังสือ ไม่มีอารมณ์กินข้าว และไม่มีแม้แต่ความรู้สึกที่อยากจะออกไปเล่นกับเพื่อนๆ ทว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนจู่ๆ Rocco ก็ฝันเห็นว่า Jack กลับมาเที่ยวหาเขาอีกครั้ง… ดูเหมือนความฝันจะกลายเป็นจริง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเจ้า Jack กลับมาอีกครั้ง พวกเขาไปเจอมันเดินหิวโซเซอยู่ที่ปั๊มน้ำมันใกล้บ้าน “ตอนนั้นเราไปแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มกัน จากนั้นเราก็สังเกตเห็นสุนัขตัวหนึ่งท่าทางเหมือน Jack มากเลย พอเข้าไปดูใกล้ๆ ปรากฎว่าใช่จริงๆ ด้วย เราเลยวางแผนที่จะเซอร์ไพรส์ลูกชายที่รออยู่ที่บ้าน”…
-
เทรนด์ใหม่มาแรงของชาวนิวยอร์ก เมื่อน้องหมาขึ้นรถไฟได้ แต่ต้องอยู่ในกระเป๋าก่อน..!?
ว่ากันว่าเราสามารถพบเจอทุกสิ่งอย่างได้ที่รถไฟใต้ดินแห่งเมืองนิวยอร์ก เมืองที่ไม่เคยหลับใหล และเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความหลากหลายจากผู้คนทั่วโลก ทว่าล่าสุดสถานีรถไฟใต้ดินของชาวนิวยอร์ก ก็ต้องเปลี่ยนเป็นแฟชั่นรันเวย์ทันที เมื่อเหล่าน้องหมาทั้งหลายไม่มีสิทธิที่จะขึ้นรถไฟใต้ดิน แต่มีสิทธิที่จะอาศัยอยู่ในกระเป๋าเจ้าของ จะเป็นยังไงลองตามไปชมดูเลย ประเดิมด้วยภาพแรก เมื่อเจ้าหน้าที่บอกว่า ‘สุนัขต้องอยู่ในกระเป๋าก่อนขึ้นรถไฟ’ จัดไปครับ!! แบบนี้ก็ได้เหมือนกันใช่มั้ย? ก็เค้าอยู่ในกระเป๋าแล้วจริงๆ นะ ไม่ใช่แค่กับรถไฟใต้ดินเท่านั้น เพราะบางทีบนรถบัสประจำทางพวกมันก็โผล่มาร่วมแจมด้วยเช่นกัน ต๊ะเอ๋…!! เจ้าหน้าที่จะไม่ว่าไรเราใช่ป่ะ? บางตัวก็อาจจะมีเหวอๆ บ้างเล็กน้อย เดินอยู่ดีๆ จับตูใส่ถุงเฉยเลย บางตัวก็ดูชิลๆ ไม่มีอะไรให้น่าแปลกใจ แต่ถ้ามาแบบนี้ไม่รู้จะสงสารใครดี ระหว่างคนแบกกระเป๋า กับเจ้าตัวที่อยู่กลางกระเป๋านั่น กฎมีอยู่ว่าขึ้นรถไฟใต้ดินได้ แต่ต้องอยู่ในกระเป๋า และห้ามส่งเสียงโวยวายเด็ดขาด เวลาพวกมันได้ขึ้นรถไฟใต้ดิน แต่ละตัวเลยมีท่าทางดูเกร็งมากเป็นพิเศษ นอกจากจะเป็นทางออกสำหรับคนที่เดินทางมากับสัตว์เลี้ยงแล้ว ตอนนี้ยังกลายเป็นเหมือนเทรนด์แฟชั่นอีกอย่างหนึ่งอีกด้วย ไม่ว่าจะฮิปฮอป ชาวร็อค ชาวเร็กเก้ หรือชาวบ้านธรรมดาๆ ต่างก็มีสัตว์เลี้ยงโผล่หัวมาจากกระเป๋ากันทั้งนั้น แม้แต่ทหารเองก็ต้องใช้เทคนิคลำเลียงพลด้วยวิธีนี้เหมือนกัน ถึงแม้จะมีกฎห้ามไม่ให้สัตว์เลี้ยงเดินเพ่นพล่านบนรถโดยสาร…
-
ชาวเน็ตแชร์.. การตลาดจากร้านค้าญี่ปุ่น ใช้กระจกสร้างภาพลวงตา ล้ำลึกเหลือเกิ๊นนน!!
บางทีการตลาดของสินค้าบางชิ้นอาจจะเข้ามามีผลต่อพฤติกรรมการซื้อของเรา โดยที่เรายังไม่ทันได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ แหม่.. โลกแห่งการค้านี่บางทีมันก็แอบน่ากลัวนิดนึง ล่าสุดเว็บไซต์ Rocketnews24 ได้เผยเรื่องราวของชาวเน็ตจากทวิตเตอร์คนหนึ่ง ที่นำเอาภาพของอาหารกล่องในร้านสะดวกซื้อมาแชร์ ดูผิวเผินก็เหมือนจะเป็นของลดราคาทั่วไปนี่แหละ แต่หารู้ไม่ว่าเขาแอบแฝงการตลาดไว้อย่างล้ำลึกมากๆ เจ้าของทวิตเตอร์ผู้ใช้ชื่อว่า @TakadaK5 ได้เผยภาพกล่องหมูทอดทงคัตสึที่วางขายอยู่ในร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านเขา โดยทั่วไปเราจะรู้กันอยู่แล้วว่า ในช่วงตอนเย็นของทุกวันอาหารทำสดทุกชนิดจะถูกนำมาลดราคาวางขาย ตอนแรกพ่อหนุ่มเห็นชุดหมูทอดทงคัตสึลด 20% ก็ดีใจยกใหญ่ แต่ทันใดนั้นสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นกล่องหมูทอดชุดเดียวกัน แต่ลด 50% วางอยู่ด้านหลัง (เป็นใครก็ต้องหยิบกล่อง 50% สิจริงไหม?) แต่พอเจ้าตัวจะเอื้อมมือไปหยิบกล่องหมูทอดที่อยู่ข้างหลังก็ตกใจ เมื่อพบว่ามันเป็นภาพกระจกสะท้อน!! สรุปแล้วงานเจ้าของเรื่องราวก็ไม่ได้ชุดหมูทอดลด 50% (เพราะมันไม่มีจริง) แต่ด้วยความหิวโหย และเฟิร์สอิมเพรสชั่นที่มีต่อหมูทอดในกล่อง ทำให้สุดท้ายแล้วเจ้าตัวก็ต้องตัดสินใจซื้อมาจนได้ หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียลก็มีชาวเน็ตในญี่ปุ่นออกมาให้ความเห็นมากมาย บ้างก็เล่าว่าตัวเองเคยโดนแบบนี้เหมือนกันจากร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ในขณะที่บางคนก็มองว่าเป็นการตลาดที่โหดร้ายต่อผู้บริโภคเอามากๆ ถือเป็นวิธีการใช้ภาพลวงตาที่ได้ประโยชน์สูงมาก ใครเห็นตัวเลขลดราคาเยอะๆ ก็เป็นอันต้องตาตื่นกันทุกคนแหละน่าาา ที่มา: Rocketnews24
-
Universal Studio Japan สร้างสวนสนุกธีม “Mario” เอาใจคนเหล่าแฟนคลับนินเทนโดแล้วจ้า!!
Universal Studio Japan สวนสนุกที่หลายคนคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี และเป็นอีกสถานที่ฮิตซึ่งคนไทยมักจะไปกันอยู่ในแทบทุกทริป นอกจากสวนสนุกแห่งนี้จะมีความทันสมัยและอะไรให้เล่นมากมาย ก็ยังทยอยเปิดตัวของเล่นใหม่ๆ ออกมาตลอด อย่างเช่นโซนล่าสุดที่เป็นข่าวนี้ อ้างอิงจากทวิตเตอร์และอินสตาแกรมของ L.C.A.Studios ทาง Universal Studio Japan ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างพื้นที่สวนหนึ่งของสวนสนุกให้กลายมาเป็นธีม “Super Mario” ที่จะพาทุกคนไปโลดแล่นในโลกของมาริโอ้ได้อย่างสนุกสนาน . ถึงแม้ว่าส่วนนี้จะยังอยู่ระหว่างการสร้าง แต่นี่ก็สามารถที่จะเรียกเสียงฮือฮาจากเหล่าแฟนคลับ และคนที่ต้องการไปกระโดดโลดแล่นกันในดินแดน Mario แห่งนี้ เมื่อพิจารณาจากขนาดของพื้นที่ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างนั้น คาดการณ์ได้ว่าพื้นที่นี้อาจจะเป็นส่วนขยายใน Super Nintendo World โดยสังเกตได้จากกำแพงอิฐที่สร้างขึ้นรวมไปถึงท่อและเจ้าต้นปิรันย่าด้วย แม้ว่า Super Nintendo World นั้นจะเปิดให้บริการในปี 2020 แต่ด้วยบางส่วนของพื้นที่ที่เริ่มก่อสร้างเสร็จไปแล้วอาจจะเป็นส่วนที่สาธิตเพื่อโปรโมทพื้นที่ใหม่ในเร็วๆ นี้ก็เป็นได้ วิดิโอโปรโมท Super Nintendo World ที่กำลังก่อสร้าง #เหมียวปั๊ก ก็ฝันมานานแล้วว่าจะไปกระโดดดึ๋งๆ เหมือนมาริโอ้สักครั้ง ถ้าทาง USJ สร้างเสร็จเมื่อไหร่นะ เดี๋ยวจะรีบไปเล่นเลย…
-
คุณยายสุดเฟี้ยว ใช้ไดร์เป่าผมหลอกเป็นกล้องจับความเร็ว คนขับเจอก็ชะงักกันเพียบ..!!
ใครบอกว่าการทำความดี หรือการเป็นพลเมืองดีมันยาก เราอยากจะบอกว่ามันไม่จริงเอาซะเลย เพราะขนาดคุณยาย Jean Brooks วัย 64 ปี จากเมืองน็อตติ้งแฮม ยังทำให้ชุมชนของเธอสงบได้ด้วยไดร์เป่าผม!! เรียกได้ว่าตอนนี้เรื่องราวของคุณยายกำลังเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก หลายสื่อสำนักชื่อดังต่างก็แวะเวียนไปสัมภาษณ์เธอ ถึงไอเดียสุดบรรเจิดที่ทำให้ผู้สัญจรไปมาหลายคนต้องขับรถช้าลง คุณยาย Jean Brooks และอาวุธคู่กายของเธอ คุณยายเล่าว่าหลังจากที่ลูกเขยของเธอเสียชีวิตไป เธอได้เปิดคาเฟ่ไว้บริเวณหน้าบ้านตัวเองเพื่อระดมทุนช่วยเหลือองค์กรผู้ป่วย ทว่าเธอกลับสังเกตเห็นผู้ใช้รถใช้ถนนในบริเวณนั้นขับขี่กันด้วยความเร็วที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด ทันทีที่เธอได้ยินเพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่า ที่ประเทศฝรั่งเศสมีคนใช้วิธีเอาไดร์เป่าผมมาหลอกให้คนขับรถเร็วเกินกำหนดคิดว่าเป็นเครื่องตรวจจับความเร็ว เธอก็ปิ๊งไอเดียที่จะหยิบยืมความคิดนี้มาใช้ทันที “ถ้าแค่ถนนหน้าบ้านเรายังทำให้มันปลอดภัยไม่ได้ แล้วเราจะทำให้โลกนี้ปลอดภัยได้ยังไงกัน!?” “เวลาที่คุณได้ยินเสียงรถผ่านไปผ่านมาแบบว่า เฟี๊ยววว… เฟี๊ยววว… มันน่ารำคาญมากและมันควรจะหยุดได้ซักที คนที่อยู่แถวนี้ก็เพื่อนบ้านฉันทั้งนั้น ลูกๆ ของเขาก็เหมือนลูกหลานของเรา ฉันไม่เคยเห็นใครหยุดให้ไฟแดงเลย แต่พอเป็นไดร์เป่าผมละก็จะรีบชะลอกันทันที” คุณยายให้สัมภาษณ์กับ BBC ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าวิธีของคุณยายใช้ได้ผลจริง เพราะทุกวันนี้ไม่ว่าใครก็ตามที่ขับรถผ่านย่าน Hucknall แล้วสังเกตเห็นคุณยายถือไดร์เป่าผมอยู่ ถ้าไม่คิดว่าเป็นตำรวจ ก็ต้องชะลอรถดูกันแทบจะทุกคัน เอาเป็นว่าถ้าใครอยากชมวิธีน่ารักๆ ของคุณยายตามไปชมได้ที่คลิปนี้เลยจ้า แหม่.. ติดใจรอยยิ้มคุณยายรูปที่สองจริงๆ ได้ใจมาก ฮ่าๆๆ ที่มา:…
-
ประเด็นร้อน.. ชาวเน็ตร่วมลงชื่อ เพื่อดำเนินคดี “My Mate Nate” ในฐานทารุณกรรมสัตว์!?
เชื่อว่าถ้าคุณเป็นชาวเน็ตที่มักจะติดตามความเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียล อย่างน้อยๆ ต้องเคยได้ยินชื่อของยูทูปเบอร์ชื่อดังชาวตะวันตก ‘My Mate Nate’ กันมาบ้างแล้ว และล่าสุดก็กลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อมีชาวเน็ตนามว่าคุณ Juntraratn Na Wangkanai ได้สร้างแคมเปญเสนอชื่อให้มีการดำเนินคดีข้อหาทารุณกรรมสัตว์ หลังจากที่ยูทูปเบอร์คนดังกล่าวได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่เข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ My Mate Nate จากเว็บไซต์ Change.org ได้ระบุไว้ว่า ยูทูปเบอร์ชาวต่างชาติคนนี้ได้เผยแพร่วิดีโอที่ใช้ชื่อว่า ‘แมว vs แมงป่อง!!! ใครจะชนะ!?’ และ ‘ลูกโป่งกี่ใบถึงจะทำให้แมวลอยได้’ ซึ่งมีเนื้อหาที่ทำให้ชาวเน็ตหลายคนมองว่าเข้าข่ายต่อการกระทำความผิดพรบ. คุ้มครองสัตว์ ตัวอย่างเนื้อหาส่วนหนึ่งจากคลิปวิดีโอ ถึงแม้ว่าทางด้านของ My Mate Nate จะได้ระบุใต้คลิปวิดีโอไว้แล้วว่า “แมงป่องที่ใช้ในวิดีโอเป็นแมงป่องที่ไม่มีพิษ” แต่ก็ถูกชาวเน็ตหลายคนท้วงติงถึงความเหมาะสม และความรู้สึกของสัตว์เลี้ยง (โดยเฉพาะแมว) ที่ต้องถูกกลั่นแกล้งเพียงเพื่อต้องการเรียกยอดวิว หรือยอดไลค์ จริงอยู่ที่ไม่มีแมวเหมียวตัวไหนได้รับอุบัติเหตุ แต่ชาวเน็ตหลายคนก็ท้วงว่า การกลั่นแกล้งทำให้แมวรู้สึกหวาดกลั่ว ถือว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์เพราะส่งผลต่อสภาพจิตใจของสัตว์เลี้ยงในระยะยาว และดูเหมือนว่าจะมีชาวเน็ตหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมการกลั่นแกล้งสัตว์เลี้ยงของยูทูปเบอร์หนุ่มคนนี้ เพราะตอนนี้มีคนเข้าไปร่วมลงชื่อแล้วมากถึง 31,855…
-
สาวปิ๊งไอเดียเตียงติดตัว สนองความขี้เกียจของตัวเอง อยากนอนตรงไหนก็เอนหลังโลด..!!
ใครๆ ก็ต้องมีอารมณ์ขี้เกียจกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือมนุษย์เงินเดือน โดยเฉพาะในวันที่ฝนตกความขี้เกียจของเราก็จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เช่นเดียวกับสาว Simone Giertz บางทีเธอก็มีความรู้สึกขี้เกียจเหมือนกับคนอื่นๆ เธอเลยปิ๊งไอเดียที่จะทำเตียงพิเศษติดตัว ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนก็มีเตียงติดหลังไปด้วยตลอด อยากนอนตรงไหนก็ได้ สบายไปอี๊กก นี่แหละสภาพเตียงติดตัวที่ว่า วิธีการของเธอก็ง่ายแสนง่าย เธอแค่นอนลงบนแผ่นฟูกขนาดใหญ่จากนั้นก็เอาดินสอมาตีเส้นรอบตัว จากนั้นก็ใช้กรรไกรตัดแผ่นฟูกตามเส้นที่ตีไว้ เสร็จแล้วก็ใช้สก็อตเทป หรือไม่ก็สายรัดอะไรก็ได้ ช่วยรัดระหว่างฟูกกับตัวเราไว้ ถ้ามาเป็นฟูกเฉยๆ มันอาจจะเชยไป เธอเลยเพิ่มผ้าคลุมสีแดงให้ซะเลย ดูไปดูมาเหมือนมีวิญญาณคอยติดตามหลังตลอดเลย และก็เป็นอย่างที่เราคุ้นเคยกันดี ชาวเน็ตเห็นไอเดียของเธอแล้วก็ถูกอกถูกใจกันยกใหญ่ นี่ถ้ามีขายคงต้องขอซื้อมาซัก 10 อัน บางคนก็บอกว่ามองจากข้างหลังแล้วน่ากลัวเป็นบ้า (เออก็จริงนะ.. เหมือนผีเลยฮ่าๆๆ) และแล้วในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการนอนเล่น ถ้าใครอยากเห็นวิธี DIY ของเธอก็คลิกเข้าไปชมที่คลิปนี้ได้เลยจ้า น่ามีเก็บไว้ซักอันจริงๆ ง่วงไหนก็นอนนั่นไปเลยสบ๊ายสบาย ที่มา: Distractify
-
หนุ่มจีนทรมาน… กระปู๋ติดในไขควงนานกว่า 17 ชั่วโมง ทีมแพทย์เร่งช่วยจนเกือบไม่ทัน!?
ต้องบอกว่าสำหรับข่าวนี้คงเป็นอุทาหรณ์สอนใจหนุ่มเหงาทั้งหลายได้ดี เพราะเรื่องนี้จะสอนให้เรารู้ว่าอย่าคิดจะเล่นกับรูที่ไม่คุณไม่คุ้นเคย เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะกลายเป็นข่าวแบบนี้ได้ เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเกี่ยวกับหนุ่มจีนวัย 37 ปี ที่ไม่รู้ไปทำอีท่าไหนเอากระปู๋ไปติดอยู่ในไขควงนานถึง 17 ชั่วโมง!! เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวหนุ่มจีนคนดังกล่าวมาส่งให้โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองหลินไฮ่ ต้องนับว่าเป็นเคสที่พิเศษสุดๆ เพราะตอนแรกทีมแพทย์วางแผนที่จะผ่าเอาเลือดที่บวมอยู่ในอวัยวะออก ทว่าตามกฎหมายต้องได้รับการอนุญาติจากคนในครอบครัวก่อน ด้วยความยุ่งยากทำให้ พวกเขาลองติดต่อให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงผู้เชี่ยวชาญด้านการตัดเหล็กเข้ามาช่วยเหลือ ทว่าทีมดับเพลิงก็ต้องจนปัญญาเมื่อเห็นสภาพของอวัยวะที่ติดอยู่กับไขควง เกือบจะหมดหนทางช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็มีคุณหมอปิ๊งไอเดียออกมาว่าทีมทันตแพทย์น่าจะช่วยเหลือได้ จากนั้นไม่นานทีมทันตแพทย์ก็เข้ามาดูเคสของพ่อหนุ่มทันที โชคดีที่เครื่องมือต่างๆ ของทันตแพทย์เอื้ออำนวยต่อการตัดไขควงที่ติดอยู่ตรงบริเวณนั้น คุณหมอต้องใช้เวลานานกว่า 30 นาที เพ่งสมาธิตัดเหล็กอย่างบรรจง ทั้งทีมดับเพลิง และทีมหมอ ต่างก็ยืนลุ้นเป็นกำลังใจให้พ่อหนุ่ม ไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ไขควงไปติดตรงนั้น แต่เราน่าจะพอเดาออกได้เพราะเจ้าหน้าที่ไปสืบประวัติพ่อหนุ่มแล้วพบว่า.. เขาเป็นชายโสด!! ส่วนนี่ก็เป็นชิ้นส่วนไขควงที่ถูกตัดออกมา เกือบไปแล้ว… เกือบไม่มีให้ใช้แล้วมั้ยล่ะปั๊ดโถ่วว ที่มา: Shanghaiist
-
โฆษณาสระน้ำในซาอุฯ แบนภาพผู้หญิง แถมเปลี่ยนเป็นลูกบอลแทน ชาวเน็ตร่วมฮาเพียบ!!
บางทีเราก็แอบสงสัยเหมือนกันนะว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เค้าทำงานอยู่ในกองเซนเซอร์ต่างๆ มีวิธีการทำงานกันยังไง และเราก็ได้แต่สงสัยแบบเงียบๆ เท่านั้นแหละ ไม่งั้นเดี๋ยวจะอยู่ไม่ยาว จะว่าไปไม่ใช่แค่ที่ประเทศไทยเราเท่านั้น ที่ชอบมีอะไรแปลกๆ เกี่ยวกับการเซนเซอร์มาให้เห็น เพราะล่าสุดชาวเน็ตได้ร่วมกันแชร์ภาพโฆษณาของสระน้ำยี่ห้อหนึ่ง จากซาอุดิอาราเบีย ที่ต้องเอ่อ…เซนเซอร์ภาพผู้หญิงออก สินค้าดังกล่าวเป็นของบริษัท Saco Hardware ซึ่งเป็นบริษัทขายปลีกทางออนไลน์ ทว่ามีชาวเน็ตคนหนึ่งจากซาอุฯ ได้ออกมาโพสต์ภาพโฆษณาสินค้าที่ต้องมีการเซนเซอร์ผู้หญิงออก (และเปลี่ยนเป็นลูกบอลแทน!?) ส่วนนี่ก็คือภาพโฆษณาต้นฉบับ ใช่แล้วคุณตาไม่ฝาดหรอก คุณแม่เปลี่ยนเป็นลูกบอลจริงๆ แถมเด็กๆ ต้องใส่เสื้อยืดทับซะมิดดชิดเลยแฮะ ทันทีที่ภาพดังกล่าวไปเตะตาชาวเน็ตเข้า มันก็กลายเป็นกระแสความฮาบนโลกออนไลน์ เพราะชาวเน็ตทั้งหลายต่างออกมาแซะกันสนุกปากเลยว่า จะเซนเซอร์กันไปทำม๊ายย… ‘ตาผมนี่แทบถลนออกมา เกิดอะไรขึ้นกับโลกเราว่ะเนี่ย!?’ ‘ที่ซาอุฯ เกิดเรื่องแบบนี้บ่อยมากจะบอกให้ ครั้งหนึ่งเราเคยเอาแคตาล็อกของ IKEA มาดู เจ้านั้นก็โดนลบภาพผู้หญิงออกหมดเลยเหมือนกัน’ ‘โฆษณาขายสระว่ายน้ำที่มีครอบครัวเล่นอยู่ข้างใน แต่การตลาดที่ซาอุฯ ทุกคนต้องใส่เสื้อ และผู้หญิงต้องกลายเป็นลูกบอล ตึ่งโป๊ะ!!’ บางคนก็แซวว่า ‘ดูรอยยิ้มเด็กๆ ที่มองไปให้ลูกบอลผู้เลี้ยงดูพวกเขามาจนเติบใหญ่สิ เจ๋งชะมัด!!’ …
-
รู้จักกับ “Mandy Harvey” นักร้องสาวหูหนวก แต่โชว์การร้องเพลงสุดซึ้ง ถึงขั้นน้ำตาซึม…
ใครที่ได้ติดตามเวทีการประกวด America’s Got Talent ที่เพิ่งเปิดซีซั่นไปล่าสุดนี้ คงจะได้เห็นเรื่องราวของนักร้องสาวผู้ไม่ได้ยินเสียงตัวเองมาตั้งแต่วัยเด็ก ‘Mandy Harvey’ กับเรื่องราวที่ทำให้ชาวเน็ตหลายคนน้ำตาซึมมาแล้ว ซึ่งเธอเล่าในช่วงวัยเด็กเธอได้ยินเสียงปกติเหมือนคนทั่วไป ทว่าเธอป่วยด้วยโรคหนังแข็ง (Connective Tissue Disorder) และส่งผลทำให้เธอสูญเสียประสาทการรับฟังทั้งหมด เธอเป็นเด็กสาวอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบการร้องเพลงมาเป็นชีวิตจิตใจมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ แต่ต้องสูญเสียการได้ยินไปตอนอายุได้ 18 ปี หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วเธอจะร้องเพลงได้ยังไง? เธอก็ได้อธิบายไว้ในรายการว่า เธอจำเป็นที่จะต้องมีล่ามภาษามือคอยติดตามด้วยตลอด ด้วยอาการดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ทำให้เธอเรียนรู้ที่จะร้องเพลงด้วยการอาศัยความคุ้นเคยของกล้ามเนื้อ และอาศัยความรู้สึกของแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นในลำคอ ก่อนที่จะเปล่งเสียงออกมา ส่วนในเรื่องของจังหวะดนตรีนั้น เธอต้องอาศัยการจับจังหวะจากแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นบนพื้น เพราะฉะนั้นเธอจำเป็นที่จะต้องถอดรองเท้าในการร้องเพลงทุกครั้ง ส่วนเพลงที่เธอเลือกมาร้องในการแข่งขันครั้งนี้ ต้องถือว่าเป็นเพลงที่มีทั้งเนื้อหา และเรื่องราวที่กินใจเอามากๆ โดยมีชื่อเพลงว่า ‘Try’ เป็นหนึ่งในผลงานที่เธอเขียนขึ้นเองหลังจากที่สูญเสียการได้ยิน “หลังจากที่ฉันสูญเสียการได้ยิน ตอนแรกฉันยอมแพ้กับทุกอย่างในชีวิต แต่ตอนนี้ฉันอยากจะทำอะไรซักอย่างให้กับตัวฉันเอง อะไรที่มีความหมายและคุณค่ามากกว่าการยอมแพ้…” Mandy กล่าวในรายการ หนึ่งล้านคำพูดไม่เท่าตาเห็น เอาเป็นว่าลองไปฟังเสียงที่ถูกขับขานออกมาจากความรู้สึกในใจของเธอกันได้เลย (นาทีที่ 1.53) เรื่องราวของเธอได้กลายเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่รู้สึกท้อแท้ หรือหมดหวังในชีวิต…
-
ครอบครัวจัดงานวันเกิดให้แมวเหมียว ฉลองอายุ 15 ขวบ ยิ่งใหญ่หวานแหว๋วที่สุด!!
ไม่ว่ามนุษย์คนนั้นเดิมทีจะมีนิสัยใจคอดุร้าย หรือเป็นคนกร้านโลกมากขนาดไหนก็ตาม ทันทีที่พวกเขาได้กลายเป็นทาสแมวแล้ว เชื่อเถอะว่าโลกทั้งใบของเขาได้เปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวน่ารักๆ ของเจ้า Luna แมวเหมียวตัวไม่น้อยที่มีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ งานนี้พี่ทาสมนุษย์เลยขอจัดวันเกิดให้สมฐานะซะเลยฮิ้ววว ภาพของ Luna สมัยเด็กๆ เดิมทีมันเคยเป็นแมวจรจัดมาก่อน และโชคดีที่มีมนุษย์ไปเจอมันเข้าตั้งแต่ยังอายุได้แค่ 3 อาทิตย์เท่านั้น Angel Olavarria คุณป้าทาสมนุษย์ผู้หลงใหลการได้รับใช้เจ้าลูน่า คิดจะเซอไพรส์เจ้านายด้วยสิ่งที่เรียกว่า ‘quinceañera’ หลายคนอาจจะงงว่า quinceañera คืออะไร? ซึ่งมันก็คือประเพณีของชาวเม็กซิกัน ที่จะเฉลิมฉลองให้กับหญิงสาวในครอบครัวที่มีอายุครบ 15 ปี โดยตามประเพณีทั่วไปลูกสาวของบ้านจะได้ใส่ชุดเดรสสีสันดูสวยงาม พร้อมกับมีการจัดปาร์ตี้กินเลี้ยงกันเล็กๆ น้อยๆ “เจ้าลูน่าเป็นแมวที่น่ารัก และนิสัยดีมากเลยค่ะ มันส่งเสียงดังและดูท่าทางดีใจเอามากๆ เพราะของกินทุกอย่างบนโต๊ะเราทำมาให้มันโดยเฉพาะ” เจ้าของกล่าว ถึงแม้ว่าตอนนี้เจ้าลูน่าจะอายุครบ 15 ปีแล้ว แต่ความใสซื่อ ทว่าความกวนทีนของมันกลับไม่เคยลดน้อยลงเลย ใครที่เพิ่งจัดงานวันเกิดให้เจ้านายที่บ้านไป เอาภาพมาอวดกันหน่อยเร๊วว ที่มา: Lovemeow
-
รู้จักกับ “Roco” ชิบะบั้นท้ายงามจากญี่ปุ่น จะมาทำให้หัวใจหนุ่มๆ สี่ขาละลายไปพร้อมกัน..!!
เชื่อเถอะว่าวินาทีนี้ไม่มีเจ้าตูบตัวไหนที่จะมาแรงเท่ากับ ‘Roco’ ชิบะสาวสวยจากแดนอาทิตย์อุทัย พร้อมโพสท่าถ่ายแบบสุดเอ็กซ์เซ็กซี่ที่จะมาขโมยหัวใจเหล่าพ่อบ้านสี่ขาไปทั่วทุกสารทิศ เพราะตอนนี้ที่เจแปนเขาถึงกับต้องออกกฎมาตรการระวังภัยมากเป็นพิเศษ หลังจากที่สัตว์เลี้ยงต่างๆ เริ่มออกอาการติดสัดอยากผสมพันธุ์ ทั้งที่ยังไม่เข้าถึงช่วงฤดูเลยด้วยซ้ำ..!! และสาเหตุก็ไม่ใช่ใครที่ไหน มันคือสาวสวยชิบะอินุ Roco เธอผู้มาขยี้หัวใจชายหนุ่มทั่วประเทศ ตอนแรกเธอยังไม่ได้เป็นเน็ตไอดอลไรกับเค้าหรอก แต่พอเริ่มสังเกตเห็นการตลาดเน็ตไอดอลในไทย แล้วคิดได้ว่า… เออตูต้องโชว์ความเอ็กซ์สิถึงจะขายได้ ผลปรากฎว่าเรตติ้งของเธอพุ่งสูงซะยิ่งกว่าจรวดนาซ่า เธอกลายเป็นซูเปอร์สตาร์เพียงข้ามคืน จากภาพถ่าย 4 ช็อตเมื่อกี้ ทำให้เธอกลายเป็นดาราดังไปซะแล้ว ยิ่งกว่าอาโออิ เพราะหนุ่มๆ จากทางบ้านต่างก็อดใจไม่ไหวที่ได้เห็นภาพเธอ บางคนถึงกับเอาไปตัดต่อกันสนุกสนาน กลายเป็นภาพกีฬามันส์ๆ ไปซะงั้น ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เธอกลายเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นใหม่ให้แก่ย่านฮาราจูกุ เรียกได้ว่าเจ้าของต่างก็พาสัตว์เลี้ยงไปทำตัวเซ็กซี่กันให้เพียบ บางทีเธอก็ได้รับภาพจากหนุ่มๆ ทางบ้าน ส่งมาบอกว่า… อูยยความเซ็กซี่ของหนูทำให้ลุงทนไม่ไหวเลี้ยวว ‘เจ้า Roco เป็นชิบะที่น่ารักมาก มันรู้ว่าตัวเองควรจะโพสท่ายังไง และฉันคิดว่ามันต้องจำมาจากนางแบบในทีวีแน่ๆ’ เจ้าของให้สัมภาษณ์ แต่ต้องเสียใจด้วยนะจ๊ะหนุ่มๆ ทั้งหลาย เห็นเธอโลดแล่นอยู่ในวงการแบบนี้ จริงๆ แล้วเธอมีคู่หมั้นแล้วน๊าา …
-
OXFAM เผยไทยติดอันดับ 3 ประเทศที่เหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก จริงแค่ไหนลองดูข้อมูล…
ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอรายชื่อ 14 อันดับเศรษฐีในประเทศไทยที่ถูกจัดอันดับโดยสื่อต่างชาติอย่าง Forbes กันมาแล้ว ลิ้งค์ข่าวเดิม: ฟอร์บสเผย 14 อันดับเศรษฐีรวยที่สุดของไทย มาดูกันว่าใครมีทรัพย์สินเท่าไรกันบ้าง? องค์การ OXFAM ประเทศไทย ได้เปิดรายงานเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ผ่านงานเสวนาหัวข้อเรื่อง “เท่าไหร่(ถึง)เท่ากัน” และทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ทางอ๊อกซ์แฟมได้วิเคราะห์เอาไว้ ซึ่งเราจะขออธิบายแบ่งเป็นข้อๆ ดังนี้ 1. ไทยติดอันดับ 3 ประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก โดยอันดับ 1 ได้แก่รัสเซีย และตามมาด้วยอินเดีย 2. ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา มีคนรวยเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ในขณะที่ความมั่งคั่งของคนรวย 1 คนสามารถกระจายรายได้ให้คนจนทั่วประเทศได้เกือบทั้งประเทศ 3. ตั้งแต่ปี 2551 – 2558 มีจำนวนเศรษฐีระดับพันล้านในไทยเพิ่มมาเป็นทั้งหมด 28 คน 4. ทรัพย์สินรวมกันทั้งหมดของเศรษฐีไทยเท่ากับ 91.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 5. โฉนดที่ดินกว่า 61% ในประเทศไทยอยู่ในมือประชากร…
-
ฟอร์บสเผย 50 อันดับเศรษฐีรวยที่สุดของไทย มาดูกันว่าใครมีทรัพย์สินเท่าไรกันบ้าง?
วันนี้เรามาอัพเดทข่าวคราววงการเศรษฐีในบ้านเรากันบ้างดีกว่า เพราะล่าสุด Forbes ได้จัดอันดับ 50 เศรษฐีที่รวยที่สุดในไทย ทว่าจะให้เราร่ายยาวทั้ง 50 คน ก็กลัวว่าวันนี้จะไม่เสร็จ ดังนั้นเราเลยจัด 11 อันดับเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของไทยมาให้รู้จักกัน และบวกพิเศษอีก 3 คน ที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในรายชื่อ มีใครกันบ้างเราลองตามไปชมกันเลย 1. ตระกูลเจียรวนนท์ เจ้าของบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ (21.5 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ) 2. คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริษัทไทยเบฟเวอเรจ (15.4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ) 3. ตระกูลจิราธิวัฒน์ ประธานบริษัทกลุ่มเซ็นทรัลจำกัด (15.3 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ) 4. คุณเฉลิม อยู่วิทยา หรือฉายาเจ้าพ่อกระทิงแดง (12.5 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ) 5. คุณวิชัย ศรีรัตนประภา เจ้าของกลุ่มกิจการคิงพาวเวอร์ และประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ (4.7 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ) 6. คุณกฤตย์…
-
ลูกสาวถ่ายภาพวันเรียนจบ ให้เหมือนกับที่คุณแม่เคยทำ ชาวเน็ตสังเกต.. พ่อแม่ยังเป๊ะอยู่!!
Madeleine Tarin สาวสวยวัย 18 ปี เธอคิดมาตลอดว่าเมื่อถึงวันที่ตัวเองเรียนจบชั้นไฮสคูล เธออยากจะถ่ายรูปให้ออกมาเหมือนกับวันรับปริญญาของคุณแม่เธอแบบเป๊ะๆ และในที่สุดวันที่เธอเฝ้ารอก็มาถึง เธอได้ขี่คอถ่ายภาพกับครอบครัวเหมือนตอนเป็นเด็กอีกครั้ง ทว่าความหน้าใสไร้สิวของพ่อแม่เธอ กลับทำให้ชาวเน็ตอึ้งกันไปเป็นแถว นี่เค้าใช้ครีมอะไรทำไมหน้าเด๊กเด็ก ภาพนี้ถูกถ่ายเมื่อปี 2000 เป็นวันเรียนจบชั้นไฮสคูลของคุณแม่เธอ 17 ปีต่อมาวันของเธอก็มาถึง เธอขึ้นไปขี่คอคุณพ่อแล้วถ่ายภาพให้เหมือนกับวันวานของครอบครัว แต่ทว่าเรื่องราวความรักของทั้งคู่นั้นไม่ง่ายเลย เธอเล่าว่าคุณแม่ของเธอท้องกับคุณพ่อตอนอายุ 15 ปี พ่อและแม่ของเธอต้องถูกแรงกดดันจากสังคมมากมาย แต่พวกเขาก็เลือกที่จะไม่ทิ้งกัน และช่วยกันดูแลเธอจนถึงทุกวันนี้ ในช่วงที่คุณแม่ของเธอยังเรียนชั้นไฮสคูล คุณพ่อของเธอต้องออกจากโรงเรียนมาทำงานอย่างหนัก เพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว และนี่ก็เป็นเหมือนอีกบทพิสูจน์ความรักของทั้งคู่ ว่าพวกเขาทำได้ แม้ว่าจะต้องถูกแรงกดดันจากสังคมมากมาย แต่คุณพ่อ และคุณแม่วัยหนุ่มสาวก็ได้ช่วยกันเลี้ยงดูลูกสาวจนโตมาเป็นคนดีของสังคม เพราะนอกจากเธอจะเรียนจบไฮสคูลแล้ว เธอยังได้รับทุนศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในรัฐนิวเจอร์ซี่ย์ และได้เป็นนักกีฬาฟุตบอลประจำมหา’ลัย อีกด้วย หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์บนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาซาบซึ้งกับเรื่องราวของครอบครัวที่เกิดขึ้น ‘ผมรู้สึกซึ้งมากเลย น้ำตาจะไหลจนต้องขอแชร์นะครับ’ ‘นี่อาจจะเป็นเป้าหมายในชีวิตคู่ที่จริงที่สุด มันคงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการที่คนสองคนจะเติบโตไปด้วยกัน’ ‘เธอมีครอบครัวที่น่ารักมาก ขอยินดีกับความสำเร็จในครั้งนี้ด้วยนะจ๊ะ’…
-
เพจ “Stop Clickbait” เปิดโปงเนื้อหาแค่ไม่กี่บรรทัดจบ อารมณ์เดียวกับ #จบข่าว เปี๊ยบ….
หลายๆ คนอาจจะรู้สึกเซ็งๆ หรือรำคาญหูรำคาญตาบ้าง เวลาที่เราเห็นคอนเท้นท์ที่มีพาดหัวประมาณว่า “สิ่งนี้จะทำให้คุณต้องอึ่ง..!!” หรือไม่ก็พวก “ไม่น่าเชื่อเลยว่าเค้าจะทำแบบนี้!?” ในโลกโซเชียลบ้านเราก็จะมีเพจ #จบข่าว ที่สรุปเนื้อหาจากเว็บคลิกเบทให้เหลือแค่ประโยคเดียวแบบสั้นๆ ได้ใจความ และที่โลกโซเชียลฝั่งตะวันตกก็มีเหมือนกัน นั่นก็คือเพจ ‘Stop Clickbait’ เอาเป็นว่าลองตามไปดูผลงานของเค้ากันเลย ‘เมื่อชายคนนี้คิดว่าเป็นกระโหลกบิ๊กฟุต แต่สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์บอกจะทำให้คุณต้องอึ้ง..’ – มันเป็นหินไง ‘และนี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าหาก Airpods ของคุณหาย หรือถูกขโมย’ – คุณต้องซื้ออันใหม่… ‘คุณแทบจะไม่เชื่อเลยว่า นี่คือสิ่งที่เพจ Stop Clickbait ทำ..!!’ – พี่แกเลยตอบกลับว่า กำลังกำจัดพวกโรคร้ายบนโลกอินเตอร์เน็ตอยู่ ‘และนี่คือชื่อที่เจ้าชายจอร์จถูกเรียกในโรงเรียน’ – ก็เรียกจอร์จไง… ‘คุณแทบจะไม่เชื่อเลยว่า ดาราฮอลลีวู้ดหน้าใสที่จบปริญญาคนนี้เป็นใคร!?’ – ก็ฮิวจ์ แจ็คแมนไง… ‘คุณแทบจะไม่เชื่อเลยว่า นี่คือใบหน้าของหญิงสาวเมื่อเธอทารองพื้น 100 ชั้น’ – ก็เป็นอย่างที่เห็นในรูปนั่นแหละ …
-
เปิดบทสัมภาษณ์ 10 คำถามที่คุณอยากรู้ แต่ไม่กล้าถามเกี่ยวกับ “ผ้าโพกหัว” ชาวซิกข์!?
เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีความรู้สึกสงสัย และอยากจะเข้าไปสอบถามเกี่ยวกับวิถีชีวิต หรือความศรัทธาของกลุ่มชาวซิกข์ หากแต่กลัวว่ามันจะเป็นการลบหลู่ความเชื่อ และทำให้เราไม่กล้าที่จะถามเค้าไปตรงๆ ทางสื่อ The Mash-Up Americans จึงได้ทำการสัมภาษณ์ Rupinder Singh ชายชาวซิกข์สัญชาติอเมริกัน ที่จะมาไขข้อข้องใจกับ 10 คำถามที่หลายคนอยากรู้ แต่ไม่มีใครกล้าถาม ทำไมถึงต้องใส่ผ้าโพกหัว? “สำหรับชาวซิกข์ผ้าโพกหัวเป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งความเชื่อของพวกเขา วัฒนธรรมการโพกหัวมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 และจุดประสงค์หลักก็เพื่อให้ผู้ศรัทธาตระหนักถึงความเท่าเทียมกัน” ผู้หญิงต้องใส่ผ้าโพกหัวด้วยรึเปล่า? “สำหรับชาวซิกข์แล้ว จะมีแค่ผู้ชายเท่านั้นที่ใส่ผ้าโพกหัว ส่วนผู้หญิงจะมีผ้าคลุมที่เรียกว่า chunni หรือ dupatta แต่ปัจจุบันก็มีผู้หญิงหลายคนหันมาใช้วิธีการโพกหัวแทน” บางครั้งเราเห็นชาวซิกข์ที่ไม่โพกหัวก็มี? “เหมือนกับวัฒนธรรมอื่นๆ ผู้ศรัทธาไม่จำเป็นต้องโพกหัวเพื่อแสดงออกถึงความเชื่อเสมอไป และมีหลายคนที่ไม่โพกหัวแต่ก็ยังคงศรัทธา และยึดมั่นในความเชื่อของตัวเอง” สีของผ้าโพกหัวสามารถบอกให้แก่เราได้บ้าง? “ไม่มีการระบุว่าผ้าโพกหัวจะต้องเป็นสีอะไร ซึ่งอันที่จริงมันจะเป็นสีอะไรก็ได้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ส่วนตัวผมมีผ้าโพกหัวทั้งหมด 20 สีด้วยกัน” ผ้าโพกหัวของชาวซิกข์ แตกต่างจากหมวกทั่วไปอย่างไร? “แตกต่างจากหมวกทั่วไปก็ตรงที่ เราใช้ผ้าที่มีขนาดค่อนข้างยาวมาโพกหัวเราเอง อย่างของผมก็เป็นผ้าที่มีขนาดยาว 640…
-
อีกแง่มุมของ “Marilyn Monroe” เส้นทางชีวิตของเธอ ก่อนจะกลายมาเป็นดาวเด่นแห่งยุค…
หลายคนคงจำภาพของหญิงสาวที่ชื่อ “Marilyn Monroe” ในภาพของสาวผมบลอนด์ ทาลิปสติกสีแดง มาพร้อมกับชุดเดรสหวานแหวว ที่ชวนให้รู้สึกถึงความเซ็กส์ซี่แบบยุควินเทจ เชื่อว่าหลายคนอาจจะเกิดไม่ทันยุคที่เธอโด่งดังสุดๆ และวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับอีกแง่มุมในเส้นทางชีวิตของเธอ ก่อนที่เธอจะกลายมาเป็นดาวเฉิดฉายอยู่ในวงการ หนึ่งในภาพถ่ายของ Marilyn Monroe ที่โด่งดังไปทั่วโลก เดิมทีเธอมีชื่อว่า Norma Jeane Mortenson เกิดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 1926 ในวัยเด็กช่วงแรกเธออาศัยอยู่กับคุณแม่ผู้ให้กำเนิด Gladys Baker หนูน้อย Norma Jeane Mortenson ในวัย 5 ขวบ ช่วงที่เธอกำลังจะโตเป็นสาว เธอย้ายมาอาศัยอยู่กับป้า Ana ในฐานะลูกบุญธรรม พออายุได้ 14 ปี คุณป้า Ana ป่วยหนัก ทำให้เธอต้องย้ายไปอาศัยอยู่กับครอบครัว Goddard ที่ๆ เธอจากมาในวัย 11 ขวบ เพราะถูก Erwin พ่อบุญธรรมลวนลามทางเพศ…
-
เมื่อตากล้องหัวใสจับเอา 2 สิ่ง “แมว” และ “หน่มน๊ม” มันกลายมาเป็นส่วนผสมที่ลงตัว…
อย่างที่ทราบกันดีว่า “แมว” นั้นเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก ในขณะเดียวกัน “หน้าอก” ของคุณผู้หญิงก็เป็นสิ่งที่เย้ายวนสำหรับท่านชาย แต่เมื่อนำมาผสมผสานกันทำให้กลายเป็นโฟโต้บุ๊คสุดเซ็กซี่นี้ขึ้นมา Yuki Aoyama ช่างภาพผู้มากไอเดียชาวเจแปนีสนี่เอง ได้ทำการถ่ายรูปแมวคู่กับหน้าอกของหญิงสาว ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เหล่าชายผู้สูญเสียความควบคุมเมื่อเจอหน้าอก ในขณะที่เจ้าเหมียวยังคงเป็นปกติสุข” อาจจะต้องการสื่อว่าพวกแมวมันไม่แคร์อะไรเลย หรือไม่ก็บอกว่าผู้ชายน่ะอ่อนแอ (ว๊ายยยย) สู้แมวไม่ได้เพราะมันไม่หวั่นไหวสักนิด ก็ดูจากหน้ามันสิ มันแคร์ที่ไหน นี่แน่ะๆ จิ้มๆ ภายใต้ความเซ็กซี่ในรูปภาพนั้นได้มีข้อความที่ Aoyama ต้องการจะสื่อนั่นก็คือ ขณะที่เหล่าชายหนุ่มต่างก็พ่ายแพ้ต่อหน้าอกของหญิงสาว ในเวลาเดียวกันเหล่าหญิงสาวก็พ่ายแพ้ต่อความน่ารักของเจ้าเหมียว โดยที่พวกมันก็ไม่รู้ว่าตัวมันเองนั้นช่างน่าอิจฉาขนาดไหน นุ๊มมมนุ่ม ~ ด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายของลูกแมวเหล่านี้รวมกับร่างกายที่เว้าโค้งของผู้หญิง นี่เป็นอีกวิถึทางที่ทำให้สามารถพบความสงบในจิตใจ (อ่าาาาห์) แหม่ โตจังเลยนะเราอะ ตาโตมาเชียว ภาพเหล่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น สำหรับคนที่สนใจก็สามารถซื้อโฟโต้บุ๊คของคุณ Yuki Aoyama มาเชยชมได้แบบเต็มๆ โดยสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 440 บาท เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจก็สามารถที่จะสั่งซื่อได้ผ่านทางเว็บไซต์ Amazon Japan ที่นี่ได้เลยนะ ที่มา: rocketnews24
-
จอมยุทธ์ว่าไง!? เส้นทาง Parkour ยาวที่สุดในโลกที่บันได 999 ขั้น แห่งภูเขาเทียนเหมินซาน
Parkour เป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ผสมผสานความคล่องตัวและความรวดเร็วเข้าด้วยกันเพื่อเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ในเส้นทางด้วยท่าทางตามธรรมชาติ เป็นการข้ามผ่านอุปสรรคในเส้นทางอย่างเป็นศิลปะและมีประสิทธิภาพมากที่สุด และสำหรับใครที่ชอบกีฬาประเภทเอ็กซ์ตรียมแบบนี้ล่ะก็ #เหมียวปั๊ก ขอเชิญไปพบกับเส้นทาง Pakour ที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งตั้งอยู่ที่ภูเขาเทียนเหมินซาน มณฑลหูหนานประเทศจีน บรรยากาศจากจุด Start เส้นทางดังกล่าวถูกจัดทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อรองรับกิจกรรมโดยเฉพาะ เป็นอุปสรรคและสิ่งกีดขวางตั้งแต่บันไดชั้นบนสุดเรื่อยมาจนถึงชั้นล่าง แห่งภูเขาที่ขึ้นชื่อว่ามีบันได 999 ขั้นท้าทายคนให้เดินขึ้นไป Calen Chan นักกีฬา Parkour นั้นได้ติดตั้งกล้องไว้ที่ศีรษะก่อนที่จะเริ่มทำการวิ่ง กระโดด ปีนป่ายลงมาตามเส้นทาง วู้วววว โอ้วเย่! แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ Celen ก็ไม่หวั่น สไลด์ก็ได้ กระโดดก็ดี หลังจากที่เข้าถึงเส้นชัยเขากฌได้แสดงความรู้สึกว่า “แม้นี่จะเป็นการ Parkour ที่น่าปวดหัวอยู่บ้างเนื่องมาจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาแทรกตัวตามเส้นทาง แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและตื่นเต้นไปอีกแบบ” เพื่อความสมจริง เชิญชมเส้นทาง “บันไดสู่ประตูสวรรค์ 999 ขั้น” ได้เลย ทั้งท้าทาย ทั้งน่าสนุกในเวลาเดียวกัน #เหมียวปั๊ก ได้ยินมาว่า หัวใจสำคัญของ…
-
17 ภาพถ่ายมุ้งมิ้งใน “วันกอดแมวโลก” แต่เหมือนบางตัวจะไม่อยากโดนกอด โถ่วววว…
Hug Your Cat Day หรือ วันกอดแมวโลกนั้นตรงกับวันที่ 4 มิถุนายนของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่ผู้คนจะออกมาแสดงความรักแก่แมวโดยการ “กอดแมว” ไม่ว่าจะเป็นแมวจรจัดหรือแมวบ้านทั่วไปก็จะได้รับการกอดจากผู้คนนั่นเอง และด้วยโอกาสพิเศษในวันแบบนี้ เหล่าเจ้าของน้องแมวก็มักจะถ่ายรูปภาพของตัวเองตอนกอดแมวนำมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ดู แต่ดูเหมือนว่าแมวบางตัวนั้นก็ไม่อยากจะโดนกอดเท่าไหร่หน่ะ โอ๋ยยย เหมือนผมเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ กะ กะ แกจะเอาหน้าแกมาถูหน้าฉันไม่ได้!! เหมือนชีวิตผมดับสูญไป ลาก่อย… เหมือนวิญญาณผมกำลังหลุดลอยไป… กอดไม่ถงไม่ถามข้าซักกคำ โบ๋วว ~ แม่กอดหนูทำไมอะ ไม่เป็นไรเพื่อน แกอาจจะเป็นแมวตัวใหญ่ แต่ฉันก็ยังรักแกเหมือนเดิม เดี๋ยวนะ… ปล่อยข้า… แกคงคิดว่าจะเป่าหูข้าได้สินะ หึ!! แม่… หนูไม่ว่านะจะกอด แต่ทำไมต้องหน้าดุหนูด้วย… แกยิ้มทำไมมนุษย์ แกจะอุ้มฉันทำไมเนี่ยะ!? เห้อมม ขอมองบนแรงๆ สักรอบเถอะ มนุษย์…
-
อุทยานแห่งชาติ Yosemite จะสวยงามเพียงใดหากถ่ายด้วย “อินฟาเรด” ช่างภาพคนนี้เลยทำให้ชม…
อุทยานแห่งชาติ Yosemite ตั้งอยู่ในรัฐแคร์ลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยธรรมชาติที่สวยงามและวิวภูเขาที่เป็นเอกลักษณ์จึงทำให้สถานที่นี้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ช่างถ่ายภาพมักจะมาถ่ายภาพเป็นประจำ Ryan Berg ก็เป็นช่างภาพอีกคนหนึ่งที่ตั้งเป้าหมายจะถ่ายรูปสวยๆ จากอุทยานแห่งนี้ แต่หลังจากที่เขาได้นำรูปเข้าคอมพิวเตอร์เพื่อทำการปรับแต่ง เขาคิดว่าภาพเหล่านี้มันยังดูธรรมดาไป Ryan Berg ชายหนุ่มเจ้าของผลงาน หลังจากที่เขาได้เพ่งพิจารณา เขาก็เกิดไอเดียขึ้นมาว่า “ทำไมเราไม่ปรับภาพให้เป็นแสงอินฟาเรดให้หมดเลยหล่ะ” และเมื่อเขาได้นำรูปทั้งหมดมาปรับแสง จึงเกิดเป็นภาพเหล่านี้ขึ้นมา เมื่อ Ryan ได้ปรับแสงก็เกิดเป็นภาพเหล่านี้ น้ำตกที่เป็นสีขาวราวหิมะ . . ต้นไม้เป็นสีชมพู ราวกับดอกซากุระกำลังบานสะพรั่ง . เหมือนอยู่ท่ามกลางต้นซากุระ . เมื่อเครื่องบินผ่านก็ทำให้ได้ภาพสวยๆ แบบนี้ด้วย . ภาพมุมสูงที่ถูกปรับแต่งแล้ว ยิ่งดูทำให้อุทยานแห่งนี้เหมือนแดนสนธยาเข้าไปใหญ่ . . นี่เป็นเพียงภาพส่วนหนึ่งของ Ryan Berg นอกจากเขาจะถ่ายแนว Landscape แล้ว เขายังถ่ายแนว Portrait และอื่นๆ อีกด้วย เพื่อนๆ…
-
ปิก๊ะ ปิ๊กะ พบกับที่ชาร์จปิกาจูเซินเจิ้น ที่จะชาร์จมือถือของคุณผ่านทาง… เออนั่นแหละ!!
ตัวการ์ตูนน่ารักตัวเล็กสีเหลืองเจ้าของท่าไม้ตาย “ช๊อตไฟฟ้าแสนโวลต์” (บางครั้งก็หมื่น แต่บางทีก็ล้านโวลต์) นั้นคือ เจ้าปิกาจู โปเกม่อนคู่บุญของซาโตชิที่แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแต่เจ้าตัวการ์ตูนนี้ก็ยังคงเป็นที่จดจำของคนหมู่มาก ด้วยความดังของเจ้าปิกาจูและตัวละครอื่นๆ ทำให้ทางบริษัท Pokémon Company ก็มักจะมีสินค้าที่เกี่ยวข้องกับตัวการ์ตูนในแฟรนไชส์ชื่อดังอยู่บ่อยๆ แต่สำหรับร้านค้าออนไลน์อย่าง DHgate ได้เล็งเห็นถึงความน่ารักของเจ้าผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะเสนอผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกัน ซึ่งเป็นเครื่องชาร์จโทรศัพท์ USB แบบพกพาชื่อ Pokémon Pikachu พร้อมสายชาร์จ USB ขนาด 1 เมตรและอแดปเตอร์ที่มีรูปร่างค้ลายปิกาจู โอ้วว แค่ Adapter ก็กินขาดความน่ารักแล้วว แม้ว่าอุปกรณ์ชาร์จนี้จะมีรูปร่างเหมือนเจ้าปิกาจู แต่ตัวบรรจุภัณฑ์นั้นก็ไม่ได้มีตราของบริษัท Pokémon Company แต่อย่างใดแถมยังมีแต่ภาษาจีนอีกด้วย (เดี๋ยวนะ มันชักจะยังไง…) เราสามารถที่จะถอดหูของมันเพื่อมาเป็นตัวเสียบชาร์จ . ด้วยหัวชาร์จที่หลากหลายรองรับความต้องการที่แตกต่าง จะวางไว้มุมทำงานหรือมุมพักผ่อนก็น่ารักลงตัว เพียงแค่นำสายมาเสียบที่หรรมส์… เอ๊ย ตรูด เอ้ยด้านท้ายส่วนล่างของลำตัวมัน ก็สามารถชาร์จมือถือหรืออุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างน่ารักและสะดวกสบาย ถ้าเพื่อนๆ สนใจในความน่ารักของเจ้าที่ชาร์จนี้ ก็สามารถที่จะเข้าไปเยี่ยมชมภายในเว็บไซต์ของ DHgate ได้เลยนะ ไอ้เราก็เพิ่งรู้ว่าปิกาจูปล่อยไฟฟ้าทางไหนก็วันนี้แหละ……
-
20 ภาพเด็กน้อยจากทั่วโลก ความไร้เดียงสา แบบไม่แบ่งแยกเชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์…
ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กแล้วอะไรๆ ก็ดูน่ารักไปหมด ด้วยความที่ตอนนั้นเราอาจจะยังไม่รู้จักความโหดร้ายของโลกใบนี้มากนัก เลยทำให้ไม่ว่าอะไรๆ มันก็ดูอินโนเซ้นส์ไปซะทุกเรื่อง วันนี้เราจะพาไปชม 20 ภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้จากการประกวดภาพถ่ายเด็กน้อยทั่วโลกประจำปี 2017 และนี่คือภาพของเด็กๆ ที่ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ส่วนไหนของโลก พวกเขาก็ยังดูไร้เดียงสา และน่ารักเสมอ Lisa Holloway จากสหรัฐอเมริกา Sandra Cincyte-Stockune จากอังกฤษ Francisco Guerrero จากเปรู Mina Mimbu ประเทศนิวซีแลนด์ Iwona Podlasinska จากโปแลนด์ Ewa Wojczakowska-Skrobisz จากโปแลนด์ (ชื่ออ่านว่ายังไงเนี่ย!?) Lisa Erickson จากสหรัฐอเมริกา Natalia Polomina จากรัสเซีย Mariola Glajcar จากโปแลนด์ Marta Everest จากสเปน…
-
จำได้ไหม!? ภาพหนูน้อยซีเรียผู้บาดเจ็บ ตอนนี้อาศัยกับครอบครัว และดูดีขึ้นมากจริงๆ
ช่วงที่เกิดสงครามซีเรีย หลายคนอาจจะจำหน้าของ Omran Daqneesh คือหนุ่มน้อยวัย 5 ขวบ ที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุนแรงที่เกิดขึ้น ภาพของหนูน้อยที่ชวนให้คนทั้งโลกรู้สึกสลดใจ ก็คือภาพตอนที่เจ้าตัวถูกช่วยเหลือออกมาจากพื้นที่สงคราม และได้รับผลกระทบจากความรุนแรงโดยมีคราบเลือด และบาดแผลติดเต็มใบหน้าเขาไปหมด ลิ้งค์ข่าวเดิม หนุ่มน้อย 6 ขวบที่เคยเขียนจดหมาย ขอให้เด็กซีเรียมาอยู่ด้วย ตอนนี้ได้เข้าพบ Obama แล้ว ถ้าใครนึกไม่ออก.. ก็หนูน้อยคนนี้ไงล่ะ ที่ภาพของเขาโด่งดังไปทั่วโลก ชีวิตของเด็กคนหนึ่งที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนท่ามกลางสงครามอันแสนโหดร้ายไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หนุ่มน้อยต้องสูญเสียพี่ชายวัย 10 ขวบ ไปจากการโจมตีครั้งรุนแรง ทว่าปัจจุบันหนูน้อยได้ย้ายไปอาศัยอยู่กับครอบครัวของเขา โดยทีมงานสำนักข่าวท้องถิ่นได้เข้าไปสัมภาษณ์หนูน้อย และพบว่าเขามีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากพอสมควร โดยก่อนหน้านี้ทางครอบครัวปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อทุกเจ้า เพราะพวกเขากลัวว่าจะกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตของครอบครัวตัวเอง ล่าสุดพวกเขายอมให้สื่อเข้าพบ และถ่ายทอดชีวิตของพวกเขาออกมาเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเจ้าหนูจะเปลี่ยนไปจนเราแทบจำไม่ได้เลยล่ะ แต่ถึงกระนั้นก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย ว่าภาพถ่ายของหนูน้อย Omran อาจเป็นเพียงเครื่องมือของกองทัพสหรัฐฯ ที่นำมาใช้สำหรับการโฆษณาชวนเชื่อให้คนทั้งโลกเห็น แต่ไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไง ขอแค่ตอนนี้หนุ่มน้อยปลอดภัย และไม่ต้องเสี่ยงชีวิตกับสงครามอีก ก็ดูจะเป็นอะไรที่โอเคแล้วล่ะ ในโลกที่เต็มไปด้วยการก่อการร้ายและสงคราม เมื่อไหร่น้อ… ที่มันจะสงบสุขซักที…
-
เมื่อลูกบ่นว่า “หนูไม่อยากไปโรงเรียน” คุณแม่เลยสอนประสบการณ์ล้ำค่า พาเดินขายกล้วยแขก!?
กำลังเป็นกระแสที่ได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากชาวเน็ต สำหรับเรื่องราวของคุณมิว Hathairat Neramittanakul ที่นำมาเผยแพร่ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอเอง เรื่องมีอยู่ว่า.. เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาสาวน้อยพิตต้า ลูกสาวของเธอบ่นกับคุณแม่และคุณพ่อว่า “หนูไม่อยากไปโรงเรียน” พวกเขาเลยพาสาวน้อยไปทดสอบเดินขายกล้วยแขกตามสี่แยกด้วยตัวเองซะเลย ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่อยากไปโรงเรียน เชื่อว่าผู้ปกครองหลายคนคงได้คำตอบเหมือนกันคือ ‘ขี้เกียจ’ หรือ ‘เบื่อ’ ดังนั้นคุณแม่จึงพาคุณลูกไปสัมผัสกับชีวิตจริง ถ้าหากลูกไม่ยอมเรียนหนังสือ ด้วยกระแสตอบรับและคำชมจากชาวเน็ตอย่างท่วมท้น ทีมงาน Catdumb ของเราก็ไม่รอช้า ขอเกาะกระแสสัมภาษณ์คุณแม่กับเค้าบ้าง… ไม่ทราบว่าเสียงตอบรับจากคนในครอบครัว หรือคนใกล้ตัว เป็นยังไงบ้าง? “มิวโชคดีค่ะที่คนรอบข้างให้การสนับสนุน และไม่มีใครว่าอะไรเพราะอยากให้น้องเจอกับเหตุการณ์จริง เพราะเราก็ไม่อยากให้ลูกร้องไห้งอแงตอนไปโรงเรียนถูกไหมคะ? มิวเลยคิดว่าการพาเขาไปสัมผัสสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริงหากเขาไม่ยอมไปโรงเรียน น่าจะทำให้เขาเข้าใจได้มากกว่าการต้องมานั่งอธิบายค่ะ” แต่งานนี้หนูน้อยพิตต้าไม่ได้มาคนเดียวนะจ๊ะ มีคุณพ่อคอยดูแลอยู่ตลอดไม่ห่างไปไหน หลังจากลองใช้วิธีนี้แล้วน้องพิตต้ายังมีแอบงอแงอยู่บ้างมั้ยเอ่ย? “ก็ยังมีอยู่บ้างตามประสาเด็กอ่ะค่ะ แต่ก็น้อยลงมากถ้าเทียบกับเมื่อก่อน เพราะอย่างน้อยเค้าก็เข้าใจด้วยตัวเองแล้วว่า ถ้าเขาไม่ไปโรงเรียน เขาก็ต้องออกมาทำงานเลี้ยงตัวเองนะ” ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราเห็นกระแสจากบางสื่อเกี่ยวกับคำแนะนำการเลี้ยงลูกอย่างสุดโต่ง คุณแม่มีความคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไรบ้าง? “ส่วนตัวมิวมองว่าเด็กแต่ละคนมีความชอบและความสามารถไม่เหมือนกัน เราควรสนับสนุนในสิ่งที่เค้าอยากทำมากกว่าเพราะในใจเราเชื่อเสมอว่า ทุกอาชีพสามารถประสบความสำเร็จได้และลูกเราก็คงจะมีความสุขมากกว่าถ้าเขาได้ทำในสิ่งที่เขารัก แต่สิ่งสำคัญคือพ่อแม่ต้องให้เวลากับลูก คอยดูแล ให้คำแนะนำ ไม่ใช่ปล่อยปะละเลยค่ะ” …
-
เมื่อตากล้องให้นางแบบถือแท่งแสง ถ่ายรูปกับสายฟ้า ภาพมันโคตรทรงพลังเลย!!
การที่เราจะได้ภาพถ่ายที่สวยงามนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคอนเซ็ปต์ที่ดีรวม องค์ประกอบของแสงรวมไปถึงการโพสท่าถ่ายของนางแบบ Eric Paré ช่างถ่ายภาพอิสระได้เกิดไอเดียบบรรเจิดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ โดยเขาได้ติดต่อให้ Kim Henry ให้มาเป็นนางแบบสำหรับชุดภาพถ่ายนี้ของเขา หลังจากที่ได้ติดต่อนางแบบเป็นที่เรียบร้อย เขาและทีมงานทั้งหมดได้มุ่งหน้าสู่พื้นที่โล่งของสนามบินในเมือง Albuquerque รัฐนิวเม็กซิโกเพื่อทำการถ่ายภาพ หลังจากที่พวกเขาตั้งตารอช่วงเวลาเหมาะสำหรับการถ่ายรูป ทันใดนั้นก็เกิดพายุและมีฟ้าผ่าเป็นฉากหลังอย่างที่เขาต้องการ ด้วยความมืออาชีพของ Eric และ Kim ทำให้ภาพถ่ายที่ได้นั้นดูสวยงามและมีพลัง แท่งแสง ท้องฟ้าและสายฟ้า สัดส่วนที่ลงตัวทำให้ภาพนั้นดูโดดเด่น นอกจากนั้น Eric ยังได้รูปภาพที่เธอเหวี่ยงแท่งแสงทำให้เกิดภาพถ่ายที่ดูแปลกตาไปอีกแบบ ก่อนที่ช่วงหลังพวกเขาจะหยุดถ่ายเนื่องจากสภาพอากาศลมแรงที่ไม่เอื้อต่อการถ่ายภาพอีกต่อไป หลังจากเฝ้ารอเวลาที่เหมาะสม ทำให้ได้รูปแบบนี้ออกมา เมื่อนำแท่งแสงมาเหวี่ยงเป็นพื้นหลังก็ทำให้ได้ภาพที่ดูแปลกตา นี่เป็นภาพสุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะปิดกองเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ เวลาที่จะถ่ายได้นั้นมีน้อยมากเลยทีเดียว… และเพื่อนๆ คนไหนที่ชื่นชอบผลงานของพ่อหนุ่ม Eric ก็สามารถที่จะติดตามเขาได้ทาง อินสตาแกรม ของเขาได้ที่นี่เลยนะ ภาพถ่ายของคุณ Eric และการโพสท่าของคุณ Kim ทำให้ #เหมียวปั๊ก คิดถึงเจไดเลยนะเนี่ยะ ทั้งเท่ห์ทั้งเป็นเอกลักษณ์ ที่มา: petapixel
-
รวมภาพไอเดีย “เค้กโทนสีดำ” สุดอลัง ที่ใครเห็นแล้วก็กินไม่ลง (เพราะมันสวยงะ!!)
“เค้ก” เป็นของหวานชนิดหนึ่งที่มีหน้าตาและรสชาติที่หลากหลาย สามารถที่จะทานได้ในวาระต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่ง งานบวช ออกเดท หรือหลังกินหมูกระทะ เราก็สามารถที่จะกินเค้กเป็นของหวานตบท้ายได้ บางคนนั้นมองเค้กเป็นมากกว่าของหวาน Tortik Annushka ร้านเค้กสัญชาติรัสเซียมองว่านี่มันคืองานศิลปะเหมือนภาพเค้กเหล่านี้ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “สีดำ” ที่นำมาผนวกเข้ากับดอกไม้หลากสีและสีทอง แม้จะดูลึกลับ แต่มันกลับมีเสน่ห์ที่น่าค้นหาอย่างบอกไม่ถูก ในทางเดียวกันก็ให้อารมณ์ที่หรูหราและมั่งคั่ง ถึงแม้จะเป็นสีดำ แต่สีดำเองนั้นก็มีหลายเฉดหากนำมาจัดเรียงดีๆ ก็อาจจะสวยแบบนี้ได้ . . . เมื่อนำสีทองและดอกไม้เข้ามาผสมก็จะได้สีสันที่สวยแบบนี้ . เรียบง่ายแต่หรูหรา . . . แม้สีดำจะเป็นเฉดสีหลัก แต่การนำดอกไม้หลากสีมาตกแต่งก็เพิ่มความสะดุดตาแต่ก็ยังคงความเรียบง่ายได้เช่นกัน . . . . . เมื่อนำเฉดสีอื่นเข้ามาในส่วนต่างๆ ของเค้ก มันยิ่งทำให้ดูสวยงามเข้าไปใหญ่ . โดยเฉพาะเค้กลายหินอ่อนพวกนี้ . . เค้กที่ #เหมียวปั๊ก นำมาให้เพื่อนๆ ดูนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งจากทางร้าน ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจก้สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่…
-
เปิดตัว Stratolaunch เครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดย Paul Allen ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์
ปัจจุบันเราอาจะคิดว่าเครื่องบินอย่าง A380 คือเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่อันที่จริงแล้ว เครื่องบินอย่าง Antonov An-225 นั้นถือเป็นเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่เคยทำการบินมา ด้วยขนาดของมันที่สามารถขนรถถังและเครื่องบินได้ จึงทำให้ตำแหน่งยักษ์จ้าวเวหานี้ไปครอง แต่เมื่อไม่นานมานี้ Paul Allen ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Microsoft เศรษฐีวัย 64 ปีผู้นี้ ได้ทำการเผยเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่เขาเป็นคนร่วมทุนอีกด้วย ด้วยความใหญ่ของมัน ทำให้คนดูตัวเล็กไปเลย . . เครื่องบินลำเลียง Stratolaunch นี้ได้ออกจากโรงเก็บของมันที่สนามบิน Mojave Air and Space Port ในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันพุธ ที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมาเพื่อรับการทดสอบการเติมเชื้อเพลิง โดยขนาดของปีกนั้นก็มีความยาวพอๆกับสนามฟุตบอลหนึ่งสนามเข้าไปแล้ว เครื่องบินยักษ์นี้มีปีกที่กว้างถึง 117 เมตร ยาว 72 เมตรและมีความสูงกว่า 72 เมตร ซึ่งขนาดของมันนั้นถูกออกแบบขึ้นเพื่อปฎิบัติภารกิจส่งจรวดขึ้นสู่วงโคจรในระดับความสูง 30,000 ฟุต ด้วยลักษณะของมัน ทำให้ Stratolaunch สามารถลำเลียงอากาศยานได้หลายรูปแบบ บริษัทผู้ผลิตอย่าง…
-
ผู้เฒ่าทหารผ่านศึกแก่ที่สุดในโลกวัย 111 ปี ยังคงชื่นชอบการ “สูบซิการ์-จิบวิสกี้” อย่างที่เคยทำ…
หากเรานึกถึงกิจกรรมที่บุคคลวัยชราทำ สิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวอาจจะเป็นการเล่นกับลูกหลาน หรือเลี้ยงสัตว์ปลูกผักว่ากันไป แต่คงไม่ใช่กับผู้เฒ่าวัย 111 ปีที่เป็นที่รักของชาวเน็ตและชาวเมืองคนนี้ ที่มีกิจกรรมที่แตกต่างออกไปนิดหน่อย Richard Overton ชายชราวัย 111 ปี ทหารที่แก่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่จากสงครามโลกครั้งที่ 2 เลือกที่จะพักผ่อนวันสบายๆของเขาโดยเลือกที่จะนั่งอยู่ริมระเบียงบ้านพร้อมกับสูบซิการ์และจิบวิสกี้เพลินๆ ระลึกถึงความหลังในเมือง Austin ของรัฐเท็กซัส สำหรับชาวเมือง เขาไม่เคยปฏิเสธที่จะแชร์ประสบการณ์ดีๆ ของเขาเลย ตามรายงานของสื่อนั้น Richard มักจะใช้เวลาที่เขานั่งอยู่ที่ระเบียงระลึกถึงความหลังเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เขาได้เข้าร่วม โดยเขาเป็นส่วนหนึ่งในเหตุการณ์อ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ที่เขาประจำการอยู่ ในขณะที่เขากำลังช่วยเหลือเพื่อนๆ ของเขาจากการการโจมตีของกองทัพญี่ปุ่น เขาโชว์ปืน Thomson คู่ใจของเขา เขาเคยแต่งงานมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้มีลูกกับภรรยายคนไหน แต่ถึงกระนั้นในงานวันเกิดปีที่ 111 วันที่ 11 พฤษภาคม ปี ค.ศ.2017 ที่ผ่านมา งานนั้นก็ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีผู้คนเข้ามาร่วมงานกว่า 200 คน โดยคนในเมืองถือโอกาสนี้เปลี่ยนชื่อถนนที่เขาอยู่เป็นชื่อ Richard Overton Avenue เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา…
-
25 สิ่งประดิษฐ์สุดบรรเจิด จากเหล่าชาวจีนทั่วยุทธภพ อั๊วะก็ทำได้ไม่แพ้ใครนะ!!
สิ่งของในชีวิตประจำวันของเรานั้น ล้วนถูกประดิษฐ์ขึ้นมาจากไอเดียและความพยายามโดยผ่านการลองผิดลองถูกกว่านับร้อยนับพันครั้งจนได้มาเป็นสิ่งต่างๆ ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ การประดิษฐ์เป็นการสร้างสิ่งของต่างๆ ขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้คนที่หลากหลาย ถึงแม้สิ่งของบางอย่างจะดูแปลกแต่เชื่อเถอะว่าสิ่งประดิษฐ์ 30 ชิ้นจากนักประดิษฐ์ชาวจีนเหล่านี้มันเจ๋งมากจน #เหมียวปั๊ก อยากมาแบ่งให้เพื่อนๆ ดู กระเป๋ามอเตอร์ไซค์ He Liang ใช้เวลากว่า 10 ปี ในการปรับกระเป๋าเดินทางของเขาให้กลายเป็นมอเตอร์ไซค์สุดเฟี้ยวที่สามารถทำความเร็วได้ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเดินทางได้กว่า 50 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง หุ่นยนต์ประดิษฐ์เอง Tao Xiangli นักประดิษฐ์หนุ่มผู้สร้างหุ่นยนต์จากเศษเหล็กและสายไฟมือสองต่างๆ หลังจากที่เขาสร้างมันขึ้นมาเขาก็เพิ่งตระหนักว่าหุ่นยนต์มันใหญ่เกินไปที่จะออกทางประตูหน้าบ้านของเขา ฮาร์เลย์โฮมเมด Abulajon ใช้เงินกว่า 45,000 บาท ไปกับฮาร์เลย์โฮมเมดนี้ ถึงแม้มันจะสามารถทำความเร็วสูงสุดได้แค่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ความสูงของมันนั้นเป็นที่เตะตาของผู้พบเห็นอย่างแน่นอน เรือดำน้ำDIY ไม่ต้องไปซื้อที่ไหนไกล ชาวนาในมณฑลเหอเป่ย์ประเทศจีนใช้เวลากว่า 5 เดือนในการสร้างเรือดำน้ำDIY ของเขา โดยมันสามารถที่จะดำดิ่งสู้ระดับความลึกกว่า 10 เมตร ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว รถแข่ง F-1…
-
มันยังไงกันว้า… 16 ภาพแผ่นลอกสิวเสี้ยนใช้แล้ว ให้อารมณ์หยึยๆ แต่ก็ฟินสายตาในเวลาเดียวกัน!?
[คำเตือนภาพภายในเนื้อหาอาจกระทบกระเทือนจิตใจ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม] สำหรับคนที่สิวเสี้ยนเยอะมากๆ แม้ว่าจะรักษาความสะอาดเท่าไหร่แต่เจ้าสิวนี้ก็ยังตามรังควานไม่เลิกรา จนต้องใช้ตัวช่วยอย่าง “แผ่นลอกสิวเสี้ยน” เข้ามาลอกขจัดสิวให้หมดไป แต่มีใครบ้าง ที่เวลาลอกสิวเสี้ยนเสร็จปุ๊ปก็จะนำแผ่นลอกสิวเสี้ยนนี้มาเชยชมผลงานก่อนที่จะทิ้งไป สำหรับใครที่ชอบเหมือนกัน #เหมียวปั๊ก ได้รวบรวมภาพแผ่นลอกสิวเสี้ยนมาที่ทั้งฟิน (มั้ง) และน่ารังเกียจในเวลาเดียวกัน ประเดิมด้วยภาพแรก… ยาวสุดๆ ไปเลย … . . . นี่สิวหรืออะไรเนี่ยะ!? . ออกมาแต่ละทีนี่สะเทือนใจสุดๆ T^T . . . ทำไมมันมีทั้งสีดำสีเหลือง …. . . เห็นสิวแล้วมันหวิวๆ ในใจ . . . สิวที่ลอกออกมานั้นเป็นเรื่องธรรมชาตินะ แต่ถึงจะเป็นเรื่องธรรมาชาติเช่นไรเพื่อนๆ ก็อย่าลืมรักษาความสะอาดไม่ให้สิวเกิดขึ้นมาเยอะ ไม่งั้น สภาพผิวหน้าอาจจะพังได้นะ ที่มา: buzzfeed
-
หนุ่มแวะสังสรรค์ริมชายหาด น้องอุ๋งก็เข้ามาหาแบบงงๆ จะถ่ายรูปก็รู้งาน ‘เชิด’ ใส่ซะ!!
แมวน้ำเป็นสิ่งมีชีวิตเลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ใหญ่ของสัตว์พวกตีนครีบ พวกมันมักจะถูกจำสลับกันระหว่างแมวน้ำและสิงโตทะเล แต่ทั้งสัตว์ทั้งสองประเภทนี้นี้ล้วนเป็นญาติที่เกี่ยวพันกัน โดยแมวน้ำเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความน่ารัก ด้วยนิสัยที่กวนโอ้ยของมันทำให้ผู้ที่พบเห็นมักจะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกอยู่เสมอเหมือนกับวัยรุ่นคนนี้ Tyriq “Ty” Bagnerise วัยรุ่นวัย 19 ปี ตัดสินใจเที่ยวกับเพื่อนๆ ของเขาที่ริมชายหาดในคืนวันศุกร์ ที่ 2 มิถุนายน 2017 ที่ผ่านมา Tyriq “Ty” Bagnerise ชายหนุ่มวัน 19 ปี ในระหว่างที่เขากับเพื่อนๆ กำลังสังสรรค์กันอยู่นั้น ได้มีแมวน้ำตัวจุ้นกระดึ้บเข้ามาในวงปาร์ตี้ของเขา มันเดินไปรอบๆ วงก่อนที่จะเริ่มดมตัวของ Ty ชอบดมนักหรอ แอบถ่ายเลย ~ ระหว่างที่มันกำลังเดินอยู่รอบปาร์ตี้ของเขานั้น Ty ก็ได้ผุดไอเดียขึ้นมาว่าไหนๆ ก็ไหนๆ ละ!! ถ่ายรูปกับมันเลยดีกว่า ในขณะที่ Ty กำลังถ่ายรูปนั้น เจ้าแมวน้ำก็โพสต์ท่าถ่ายรูปด้วย!? เธอจะมาสวยสู้ฉันไม่ได้นะ! Ty ~ หลังจากที่เขาได้ทวิตภาพที่เขาถ่ายลง Twitter ก็มีเสียงตอบรับทั้งจากบรรดาเพื่อนๆ…
-
รวม 10 อันดับหนังที่ดัดแปลงจากหนังสือ แต่ดันทำออกมา “ห่วย” จนแฟนหนังสือปวดใจ!!
ครั้งที่แล้ว #เหมียวอ๊อดโด้ ได้นำเสนอหนังที่ดัดแปลงมาจากหนังสือ แต่ดันทำออกมาได้ดีเกินหน้าเกินตาต้นฉบับ ซึ่งก็ได้รับความนิยมจากเพื่อนๆ ไปพอสมควร แน่นอน เมื่อมีเรื่องที่ทำออกมาดี ก็ต้องมีเรื่องที่ทำออกมาแย่บ้าง งั้นวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 10 อันดับหนังที่ดัดแปลงจากหนังสือ แต่ดันทำออกมา “ห่วย” จนแฟนหนังสือปวดใจ 10. Divergent ดัดแปลงจากนิยายแนวโลกล่มสลายของ Veronica Roth แม้หนังจะจับประเด็นจากเวอร์ชั่นหนังสือได้พอสมควร แต่ก็ยังห่างไกลจากคำว่า “ดี” อีกมาก รวมถึงมีการตัดประเด็นหลายๆ อย่างออกไปจนเนื้อเรื่องดูขาดแรงจูงใจ จนเข้าวินมาในอันดับ 10 ของเรา 9. Eragon จากนวนิยายแนวผจญภัยแฟนตาซีของ Christopher Paolini ที่มีส่วนผสมของ “Star Wars” และ “The Lord of the Rings” กลายเป็นหนังแฟนตาซีดาดๆ ที่เต็มไปด้วยความน่าเบื่อ เพราะหนังไม่สามารถดึงส่วนดีของหนังสืออกมาได้แม้แต่น้อย แถมยังดัดแปลงตัวละครบางส่วนอีกด้วย ถ้าไม่โดนแฟนหนังสือด่าก็แปลกแล้ว 8. The Maze…
-
ชมภาพทหารสาวสุดสวยจาก “กองทัพอิสราเอล” ภายนอกแข็งแกร่ง ซ่อนความแซ่บเป็นอาวุธ~
พักเรื่องหนักสมองมาชมสิ่งน่าสนใจ ที่จะทำให้หัวใจของทุกคน (โดยเฉพาะหนุ่มๆ) เต้นตุ๊บตั๊บขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยความน่ารัก ของกองทัพทหารสาวจากอิสราเอล ที่พร้อมจะมาสาดกระสุนใส่หัวใจเราทุกคน โดยภาพทั้งหมดนี้ พวกเราได้ไปกระทำการมือบอนแอบแคปฯ ภาพมาจากอินสตาแกรม @hotisraeliarmygirls เราลองตามไปชมกันดูเลย ว่าพวกเธอจะร้อนแรงสมคำร่ำลืออย่างที่ว่าจริงๆ รึเปล่านะ เกร็ดความรู้: ตามกฎหมายแล้วประชาชนอิสราเอลทุกคนเมื่ออายุถึง 18 ปี จะต้องเข้าไปรับใช้ชาติในกองทัพทหารทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ถ้าไม่บอกก็ไม่เชื่อหรอกนะว่าเป็นทหาร จะมีทหารประเทศไหนที่น่ากดติดตามได้เท่านี้อีกมั้ยน้อ ได้โปรด… มารัฐประหารหัวใจฉันที (แต่อย่าเอาประชาธิปไตยของฉันไปนะ) ไม่อยากจะนึกเลยว่าช่วงเวลาฝึกทหารใหม่ หนุ่มๆ ในค่ายจะมีความสุขกันขนาดไหนนะ แค่ได้รับรู้ว่ามีสาวๆ มารับใช้ชาติด้วยแบบนี้ พูดเลยว่าจะให้วิทพื้น ตัดหญ้า หรือล้างห้องน้ำ อะไรผมก็ทำได้ทั้งน๊านน บางคนตอนเป็นทหารอาจจะยังดูโทรมๆ แต่พอพวกเธอสลัดเครื่องแบบออกเท่านั้นแหละ เฮ้อ… อยากเกิดเป็นเซิร์ฟบอร์ดอันนั้นจังเลย ปืนในมือเธอดูซอฟท์ลงทันที เมื่อเธอยิ้มให้กัน… แต่เห็นอย่างนี้พวกเธอทุกคนต้องเข้ารับใช้ชาติเป็นเวลา 2 ปีเต็มเหมือนกันนะจ๊ะ ด้วยเหตุผลทางการเมืองหลายๆ ด้าน ทำให้ผู้หญิงที่นี่ได้รับการฝึกให้ใช้อาวุธสงคราม อีกทั้งในเวลาราชการ พวกเธอยังสามารถแบกอาวุธไปไหนมาไหนด้วยได้เสมอ …
-
งานวิจัยชิ้นใหม่ชี้… “เตกีลา” มีส่วนผสมของต้นอะกาเว ช่วยลดน้ำหนักและคุมน้ำตาลได้!!
ใครที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองเริ่มอ้วน พุงเริ่มย้วย แถมไข่ก็เริ่มยาน (ไม่ใช่แล้ว!!) แล้วกำลังจะหาสูตรลดน้ำหนักละก็ วันนี้เรามีงานวิจัยชิ้นใหม่มาบอกต่อ โดยทีมวิจัยได้ทำการสำรวจสารประกอบของ “เตกีลา” ส่วนผสมสำคัญในการทำค็อกเทลที่หลายคนรู้จักดี และได้ค้นพบว่ามันมีส่วนผสมของต้นอะกาเวอยู่!! นอกจากจะเป็นการค้นพบสารสำคัญที่ในเตกีลาแล้ว ยังนับว่าเป็นงานวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานในอนาคตอีกด้วย จากการศึกษาทำให้ค้นพบว่าน้ำตาลที่ได้จากต้นอะกาเว เป็นน้ำตาลธรรมชาติแท้ที่เรียกว่า ‘Agavins’ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยหลักการทำงานของน้ำตาลตัวนี้ มันจะไม่ถูกย่อยสลายโดยน้ำย่อยในร่างกาย แต่มันจะทำหน้าที่เป็นเส้นใยอาหาร และไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น อีกทั้งยังช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่มได้นานขึ้น และส่งผลทำให้เรากินได้น้อยลง “เราเชื่อว่า Agavins จะเป็นสารให้ความหวานที่จะเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ในอนาคต ถึงแม้ว่าน้ำตาลจากโรงงานจะให้รสชาติที่ดีกว่า แต่สิ่งเหล่านั้นกลับส่งผลเสียต่อร่างกายเรามากกว่า” Dr. Mercedes G. López ให้สัมภาษณ์ และทีมวิจัยจะนำสารตัวนี้ ไปศึกษาเพิ่มเติมเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ต่อไป จะว่าไปแล้วจริงๆ ต้องบอกว่างานนี้เป็นการค้นพบสารให้ความหวานจากต้นอากาเว่ซะมากกว่า แต่ก็คงไม่มีใครอยากเสียเวลาซื้อต้นไม้มาสกัดทำน้ำตาลกินกันเองหรอกจริงไหม? และตอนนี้เราก็ได้รู้แล้วว่าน้ำตาลธรรมชาติแท้ที่ดีต่อสุขภาพของเรา มันบรรจุอยู่ในขวดเตกีลาที่เราคุ้นเคยกันดีนี่เอง เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ถ้ามีคนมาด่าว่าขี้เมา เราก็อ้างกลับได้เลยว่า “นี่ตูกำลังพยายามลดน้ำหนักด้วยน้ำตาลธรรมชาติแท้อยู่นะโว้ยย!!” ที่มา: Dailymail
-
‘Disney’s Bastard’ ชุดภาพตัวละครดิสนีย์เหลวแหลก มุ่งเข้าสู่สายดาร์ก มั่วสุมเสพของมึนเมา!?
ถ้าพูดถึงการ์ตูนจากค่ายดิสนีย์ แน่นอนละว่ามันต้องเป็นอะไรที่ให้ความรู้สึกมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้ง แถมเรื่องราวก็ดูน่ารักสดใสราวกับวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งดอกลาเวนเดอร์ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ เมื่อศิลปินชาวฝรั่งเศส Gilen Bousquet ได้ลองพาตัวละครจากโลกดิสนีย์ ออกไปทำตัวเป็นขี้เมา ชอบรวมกลุ่มกันเสพของมึนเมา ภายใต้ภาพคอนเซ็ปท์ “Disney’s Bastard” แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าจะทำตัวเxี้ยได้ขนาดไหน จบกันเจ้ากวางน้อยที่เราเคยรู้จักในวัยเด็ก ท่าทางจะหนักไม่เบานะแก๊งนี้ ตาแด๊งแดงแถมยังมี LSD อยู่ในลิ้นอีก เอาให้หลุดโลกไปเลยพี่มิคกี้ยี๊ฮ่าาา!! ถ้าหากพวกมันมีชีวิตจริงๆ นี่อาจจะเป็นสภาพปัจจุบันของพวกมัน หลังดังระเบิดเป็นพลุแตกมาก่อน พี่เป็ดที่เห็นพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง ที่แท้ก็เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง… โถ่วพิน็อคคิโอ้ นี่นายไปโดนตัวไหนมาล่ะเพื่อน!? สภาพแต่ละตัวบอกเลยว่าดูไม่ได้สุดๆ จะขี้เมากันไปถึงไหน เมาคลีที่เห็นว่าเฟี้ยวๆ พอต้องมาอยู่ในเมืองมันก็มีเครียดกันบ้าง และของพวกนี้ก็ช่วยแก้เครียดได้ดีเลยล่ะ โถ่ววจบกันสาวน้อยบู ทำไมถึงดูโหดร้ายกร้านโลกได้ขนาดนี้ละลูกเอ๋ยย พี่หมีนี่ก็ไม่เบาเหมือนกัน ชักเริ่มสงสัยแล้วว่านี่พี่กินน้ำผึ้ง หรือกินอะไรเข้าไปกันแน่? เมื่อพินอคคิโอเกิดความรู้สึกพิเศษที่อยากจะบอกแฟนๆ วัยเด็กว่า “ฟัคยูออลแม๋นนน!!” ที่เห็นเปิ่นๆ ใน Toy Story นั่นเป็นการแสดงใช่มั้ย?…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ เมื่อคุณเลือกที่จะให้อาหารแมวจรจัดแล้ว ก็เตรียมตัวเป็นทาสมันได้เลย!!
หนึ่งในปริศนาที่น่าสงสัยไม่แพ้เรื่องราวของเอเลี่ยนนอกจักรวาล หรือผีสางนางไม้ ก็คงเป็นเรื่องความคิดของพวกเจ้าแมวเหมียวทั้งหลายนี่แหละ ทาสมนุษย์อย่างเราๆ ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจริงๆ แล้วพวกมันกำลังคิดอะไรกันอยู่ และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องเล่าจากทางบ้าน ที่ชาวเน็ตเอามาแชร์ผ่าน Lovemeow ที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่า อย่าได้เผลอหลวมตัวไปช่วยเหลือพวกมันเชียว!! เช่นครอบครัวนี้เมื่อพวกเขาเจอแมวสภาพหิวโซหลงมา ก็เลยให้อาหารมันกิน ปรากฎว่าอีกวันมันกลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันมากันทั้งแก๊งเลยคร้าบบบ ภาพจากชาวเน็ตที่ชื่อ TaraRosey เล่าว่า คืนหนึ่งให้อาหารลูกแมวสองตัวกิน พอตื่นเช้ามาก็พบว่าตัวเองถูกพวกมันยึดบ้านไปซะแล้ว เช่นเดียวกับที่บ้านของ mandylions เป็นประจำเวลาอาหารเย็นที่พวกมันจะกลับมา แถมยังโหวกเหวกโวยวายใส่เจ้าของบ้านด้วยนะ เสียมารยาทที่ซู๊ดด หรือจะเป็นเหตุการณ์ที่ถูกแชร์บน Imgur เมื่อเจ้าของบ้านถูกแมวเหมียวตัวน้อยใช้สายตาสะกดจิตคาประตูบ้านแบบนี้ (ปัจจุบันมันกลายเป็นเจ้าของบ้านแล้ว) เช่นเดียวกับ vldmrt15 ไม่มีใครรู้ว่าลูกแมวมาจากไหน และกำลังจะไปไหน แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้พวกเขาโดนมันเล่นแล้วล่ะ เรื่องราวจาก mrhickey เจ้าตัวเล่าว่าได้ยินเสียงแมวหลงอยู่แถวบ้านตัวเอง พอเอาอาหารไปวางเท่านั้นแหละ รีบมารายงานตัวทันทีเลยนะเอ็ง บางทีพวกมันก็ไม่ได้มาปรากฎตัวซึ่งๆ หน้า แต่อาจจะกำลังวางแผนอย่างลับๆ เหมือนกับเจ้าเหมียวตัวนี้ ที่วางแผนสร้างกองทัพอยู่ในถังน้ำของ CatTaxAuditor และเมื่อมาถึงวันเริ่มปฏิบัติการยึดบ้าน พวกมันก็สามารถทำสำเร็จได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้สายตาสะกดจิต วิ๊งก์ๆ!!…
-
ชม 12 ตัวอย่างเค้กแต่งงานที่แบบว่า… งานแต่งจะเจ๊งก็เพราะเค้กเนี่ยแหละโถ่วว!!
ขึ้นชื่อว่างานแต่งงานคงไม่มีใครอยากรู้สึกผิดหวังหรอกจริงมั้ย? ก็แหม่.. เป็นวันสำคัญที่คนรักสองคนจะได้ประกาศก้องให้ทั้งโลกรู้ว่าต่อจากนี้เขาและเธอจะใช้ชีวิตอยู่เคียงข้างกันตลอดไป (ก่อนจะจบที่การหย่า ผ่าง!!) และหนึ่งไอเท็มชิ้นสำคัญในงานที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ “เค้กแต่งงาน” จะว่าไปมันก็เปรียบเหมือนเป็นหน้าเป็นตาของเจ้าภาพ ถ้าเค้กออกมาดูสวยงามอะไรๆ ก็ดูดี แต่ถ้าเค้กออกมาได้โหลยโท่ยมากเลยล่ะ!? งานนี้ก็เจ๊งสิครับพี่น้อง เช่นเค้กก้อนนี้ ที่คู่วิวาห์สั่งเอาไว้ว่าอยากให้มีดอกไม้ประดับสวยงามเหมือนรูปต้นแบบ แต่ทำไมกลายเป็นงี้ไปได้เนี่ย คู่รักสั่งเค้กที่ดูจะเรียบง่าย และไม่น่าจะทำให้เจ้าตัวรู้สึกผิดหวังได้ แต่สุดท้ายผลที่ออกมาก็ต้องทำให้เจ้าตัวน้ำตาตกใน หรือจะเป็นแบบนี้… สงสัยคนทำเค้กต้องเป็นแฟนเก่าเจ้าบ่าวแน่ๆ เลยเธอ นี่ก็อีกหนึ่งตัวอย่างเฟลๆ ภาพต้นฉบับดูสวยงามน่ากินมาก แต่ไหงออกมาเป็นงี้ฟร๊ะ!? หรือนี่อาจเป็นปรัชญาชีวิต ที่จะสอนให้คู่รักได้รู้ว่า บางทีชีวิตคู่อาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่ใจเราต้องการ บางทีเค้กก็อาจจะไม่ใช่ปัญหา อย่างเช่นภาพนี้ที่เลือกโต๊ะวางเค้กได้แบบว่า.. สงสารน้องเค้กมากเลย เมื่อเขาและเธออยากได้เพนกวินคู่รัก + เค้กที่ดูเอียงๆ เหมือนหอเอนปิซ่า = ผลที่ออกมาก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ บางทีสภาพอากาศก็มีส่วนเหมือนกัน เค้กก้อนนี้ไม่ได้ตกคว่ำลงพื้นหรอกนะ แต่ว่าอากาศในงานมันร้อนจนเค้กละลายหมดเลย เจ้าของภาพนี้เล่าว่า ตัวเองสั่งเค้กสีชมพูสำหรับงานแต่งงาน แต่ผลที่ได้ออกมาเป็นสีแดง ผสมเนื้อเค้กที่มีเขียวนิดๆ เหมือนติดรา เช่นเดียวกับคู่รักคู่นี้…
-
ของเล่นคนว่างจัด… จิ๊กซอว์ยักษ์ CMYK ทั้ง 5,000 เฉดสี ต่อไม่ทันครบเดี๋ยวตาจะเพี้ยน
ใครที่เคยต่อจิ๊กซอว์คงจะรู้ดีอยู่แล้วว่า กว่านำชิ้นส่วนแต่ละชิ้นมาเรียงร้อยต่อกันให้กลายเป็นภาพออกมาได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเอาซะเลย แต่คราวนี้เรามีจิ๊กซอว์ยักษ์รุ่นใหม่มาแนะนำ เหมาะสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะเอาเวลาว่างไปทำอะไรดี เพราะมันเป็นจิ๊กซอว์ที่มีตัวต่อ 5,000 ชิ้น และที่สำคัญงานนี้ไม่ได้มาเป็นรูปนะจ๊ะ มาเป็นเฉดสี CMYK เลยจ้า เห็นแล้วท้อเลย… อันที่จริงแล้วผลงานจิ๊กซอว์ 5,000 สีที่เราเห็นอยู่นี้ เป็นผลงานของ Clemens Habicht ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้สร้างสรรค์ผลงานจิ๊กซอว์ขนาด 1,000 สี มาก่อนแล้ว และคราวนี้ก็ขอขยายสเกลผลงานให้ใหญ่ และยากขึ้นไปอีก จนมาเป็นอย่างที่เราเห็นกันนี่แหละ ความท้าทายอย่างหนึ่งของการต่อจิ๊กซอว์ชิ้นนี้ก็คือ มันไม่ใช่ภาพเหตุการณ์ หรือภาพศิลปะ อย่างที่ชาวบ้านคนอื่นๆ เค้าต่อกัน แต่กลับเป็นเฉดสีที่ไม่ซ้ำกันเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ประมาณว่า… ถ้าจะต่อแบบนี้ได้ก็ต้องแม่นเรื่องสีเอามากๆ เลยนะเนี่ย เพราะแค่เปิดกล่องมา เราก็จะได้เจอกับจิ๊กซอว์จิ๋วในแบบที่ไม่มีการบอกใบ้อะไรให้เลย พอต่อเสร็จครบทั้ง 5,000 สี ได้อย่างถูกต้อง มันก็จะออกมาเป็นภาพแบบนี้ ใครที่สนใจอยากจะลองซื้อมาต่อเล่นๆ ในเวลาว่างดูบ้าง สามารถไปกดสั่งออเดอร์ได้ที่ Colossalshop เลยจ้า มีทั้งขนาด…
-
ชาวเน็ตร่วมใจ ช่วยคุณยายวัย 93 ปี เลือกชุดเดรสสำหรับวันแต่งงาน ครั้งสุดท้ายของเธอ…
เรื่องมันมีอยู่ว่าคุณยาย Sylvia Martin ได้เดทกับแฟนหนุ่มวัยเก๋าของเธอ Frank Raymond มานานกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้คู่เดทของเธอ ได้พยายามขอเธอแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง ทว่าด้วยความรู้สึกผิดต่อสามีคนเก่าที่เสียชีวิตไป ทำให้เธอไม่กล้าที่จะเปลี่ยนนามสกุลเสียที จนกระทั่งคุณยายได้ย้ายมาอาศัยอยู่ที่รัฐแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งกฎหมายที่นี่ผู้หญิงมีสิทธิ์ที่จะไม่เปลี่ยนนามสกุลก็ได้ และนั่นก็ทำให้เธอกล้าที่จะตอบตกลงแต่งงานกับคู่เดทของเธออีกครั้ง ในฐานะที่เธอจะแต่งงานเป็นครั้งที่สอง และครั้งสุดท้ายในชีวิต คุณยายก็ถึงกับเลือกไม่ถูกว่าจะใส่ชุดไหนดี จนทางเพจร้านค้า Birdsnest ได้โพสต์ภาพคุณยาย และให้ชาวเน็ตช่วยกันเลือก ชุดที่ถูกใจ และเข้าตาคุณยายมากที่สุดก็ทั้งหมด 4 ชุดด้วยกัน แบบ B เป็นชุดเดรสสีดำสลับแดง แบบ C เป็นสีแดงเลือดหมูลายลูกไม้ และแบบสุดท้าย เป็นเดรสสีแดงล้วนคลุมทั้งตัว ดูโก้เก๋ไปอีกแบบ หลังจากที่ทางเพจได้โพสต์ภาพ ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาร่วมเป็นสักขีพยานแห่งความรัก ด้วยการช่วยกันออกความเห็นว่าชุดไหน ที่ทำให้คุณยายดูดีมากที่สุด… บางคนก็แนะนำให้เธอใส่ชุดในข้อ D เพราะมันทำให้เธอดูดีมีสไตล์ และดูเหมือนย้อนกลับไปสมัยที่อายุยังไม่แตะเลข 80 บางคนก็บอกว่าต้องเป็นชุด B สิถึงจะสวยที่สุด เพราะมันเหมาะกับรูปร่างของเธอ…
-
ผอ.สนับสนุน กลุ่มนักเรียนสาวรวมตัวประท้วงอย่างสันติ หลังถูกตำหนิเพราะใส่ขาสั้น!?
เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นบนโลกโซเชียลที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกตะวันตก เรื่องราวของนักเรียนสาว Sophie Harris วัย 14 ปี หลังจากถูกติติงเรื่องใส่ขาสั้นมาโรงเรียน โดยเมื่อวันอังคารที่ 30 พฤษภาคม 2017 เธอได้ใส่กางเกงขาสั้นและเสื้อกล้ามไปโรงเรียน Trafalgar Middle School ทว่าเธอกลับถูกคุณครูชายในโรงเรียนว่ากล่าวตักเตือน โดยให้เหตุผลว่า “การใส่เสื้อกล้าม และกางเกงขาสั้น อาจก่อให้เกิดการยั่วยุทางสายตากับนักเรียนชายได้” ประเด็นดังกล่าวสร้างความรู้สึกไม่สบายใจให้แก่กลุ่มนักเรียนหญิงในโรงเรียนแห่งนี้เป็นจำนวนมาก และนำมาสู่ประเด็นคำถามที่ว่า “ถ้าการแต่งตัวของผู้หญิงมันทำให้นักเรียนชายเกิดอารมณ์ได้ มันก็ต้องเป็นปัญหาของตัวผู้ชายเองสิ” แน่นอนว่านักเรียนหญิงทุกคนในโรงเรียนแทบจะไม่เห็นด้วยกับเหตุผลที่ไม่ให้พวกเธอใส่ขาสั้นมาโรงเรียน จนนำมาซึ่งการประท้วงอย่างสันติวิธี ด้วยการรวมตัวกันใส่กางเกงขาสั้น และเสื้อยืด หรือเสื้อกล้าม ตามแต่วิถีแฟชั่นของสาวๆ แต่ละคน “พวกเขาอ้างว่าการแต่งตัวแบบที่หนูแต่ง มันผิดกฎของโรงเรียน พวกเราเลยตั้งใจที่จะรวมกลุ่มกันประท้วงแต่ไม่ใช่เพราะอยากจะเอาชนะหรอกนะ แต่เราอยากจะเรียกร้องความเสมอภาค และความเท่าเทียมกัน” Sophie ให้สัมภาษณ์ ชุดที่เธอใส่ไปโรงเรียนในวันนั้น… Sabine Edney หนึ่งในนักเรียนสาวผู้เข้าร่วมการประท้วงได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ CBC ว่า “เรายอมรับว่าทุกสังคมต้องมีกฎ เพื่อการบริหาร และการจัดการ แต่ว่ากฎนั้นมันควรจะเป็นกฎที่ตั้งอยู่บนความเสมอภาคอย่างเท่าเทียม” ไม่ใช่แค่กลุ่มนักเรียนสาวในโรงเรียนเท่านั้น ที่เห็นด้วยกับการออกมาประท้วงอย่างสันติวิธี…
-
17 ภาพจากทางบ้าน ปัญหาขนๆ ของพวกตัวขน ถ้าไม่เลี้ยงสัตว์ก็ไม่มีวันเข้าใจหร๊อก!!
บางทีก็แอบคิดเหมือนกันนะว่า การดูแลสัตว์เลี้ยงนี่ก็เหมือนการเอาตัวเองไปเป็นทาสกับอะไรบางอย่าง โดยเฉพาะเวลาเลี้ยงแมวนี่แหละ ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นทาสใครมากเท่านี้มาก่อน ความน่ารักอย่างหนึ่งของพวกสัตว์เลี้ยงก็คือขนนุ่มปุกปุยของพวกมันนั่นแหละ ยิ่งช่วงไหนที่ขนฟูฟ่องยิ่งน่ากอดเป็นที่สุด แต่บางทีมันก็ต้องแลกมาด้วยอะไรบางอย่างเหมือนกัน อย่างเช่นปัญหาเรื่องขนๆ เหล่านี้… เรื่องแบบนี้มีแต่คนเลี้ยงสัตว์เท่านั้นที่เข้าใจ นอกจากเข้าใจแล้ว ยังต้องรู้จักที่จะทำใจด้วยนะ เพราะขนของพวกมันจะไปปรากฎอยู่ในทุกที่ๆ มันไป ตัวอย่างเจ๊คนนี้ เล่นกับตูบแค่แป๊บเดียว ก็โดนมันเล่นคืนซะแล้ว มันไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นใคร… และพวกมันก็ไม่สนใจด้วยว่าคุณจะทำอะไรอยู่ เพราะสิ่งเดียวที่คุณจะได้รับจากมันมากยิ่งกว่าความรัก ก็คือขนเนี่ยแหละ เมื่อไหร่ที่มีพวกมันเข้ามาในชีวิต เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย เพราะคุณจะได้สัมผัสกับขน ขน ขน และก็ขน โอ้ยยมีขนทุกที่เลยโว้ยย ขนาดไม่มีมันอยู่ในรถ เราก็ยังเจอขนมันติดอยู่ในรถ!? แต่ถ้าขนติดกางเกงพลอมแพลมแบบนี้ ยังถือว่าเป็นแค่ผู้เลี้ยงสัตว์ขั้นฝึกหัดเท่านั้น ยิ่งขนติดตัวเราเยอะเท่าไหร่ ยิ่งเป็นข้อพิสูจน์ความรักมากเท่านั้น (ใช่เหรอ?) เพราะความรักจากมัน คือความรักที่ไม่สนใจรูปลักษณ์ หรือตับใตไส้พุงใดๆ พวกมันไม่สนว่าขาคุณจะเล็ก น่องคุณจะใหญ่ หรือไข่คุณจะยาน …
-
“Seoullo 7017” เปลี่ยนทางด่วนร้างในกรุงโซล ให้กลายเป็นสวนลอยฟ้ากลางเมือง
นับว่าเป็นอีกโครงการดีๆ เพื่อคุณภาพชีวิตที่แสนจะดี๊ดีของชาวเมืองกรุงโซล เมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประกาศโครงการ “Seoullo 7017” เปลี่ยนทางด่วนที่ปิดตัวลงในกรุงโซล ให้กลายเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้าใจกลางเมือง โดยเส้นทางด่วนนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1970 ด้วยสภาพอายุขัยที่เสื่อมโสม ทำให้มันถูกปิดตัวลงเมื่อปี 2015 ถ้าหากมีการปิดเส้นทางด่วน บางประเทศอาจเลือกที่จะซ่อมแซม หรือบางประเทศอาจเลือกที่จะปล่อยทิ้งมันไว้ซะอย่างนั้น แต่สำหรับที่เกาหลีใต้พวกเขามีวิธีการแก้ปัญหาที่แตกต่างออกไป โดยทางรัฐบาลเล็งเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าว น่าจะเหมาะสำหรับการทำเป็นสวนสาธารณะเพื่อวิถีชีวิตที่ดีของชาวเมือง นอกจากจะใช้เป็นเส้นทางเท้าให้กับชาวเมืองแล้ว ภายในสวนลอยฟ้ายังประกอบไปด้วย ต้นไม้นานาพันธุ์ที่รวบรวมมาจากหลากหลายเชื้อชาติทางฝั่งเอเชียมากกว่า 228 สายพันธุ์ และล่าสุดสวนสาธารณะลอยฟ้าแห่งนี้ก็เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมานี้เอง ช่วงนี้ถ้าใครไปเที่ยวเกาหลีใต้ จะลองไปเดินเที่ยวดูก็ไม่เลวนะ “ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล เราเชื่อว่านี่จะเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้าใจกลางเมืองแห่งใหม่ ที่จะเข้ามาช่วยให้วิถีชีวิตของชาวเมืองดูร่มรื่น และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น” MVRDV บริษัทผู้อยู่เบื้องหลังโครงการนี้ให้สัมภาษณ์ พอตกกลางคืนก็ดูจะเป็นสถานที่ๆ ให้บรรยากาศโรแมนติคใช้ได้เลยนะเนี่ย แต่ถึงกระนั้นสวนสาธารณะลอยฟ้าดังกล่าวก็สร้างผลกระทบต่อพื้นที่ใกล้เคียงด้วยเหมือนกัน เช่น ทำให้ราคาค่าเช่าที่ในบริเวณนั้นสูงขึ้น หรือชาวบ้านบางคนก็บ่นว่าทำให้เสียงดัง และวุ่นวายมากกว่าเดิม “ดีไซน์แย่ ต้นไม้ก็ไม่สวย คนเยอะเกินไป แถมเสียงดังวุ่นวายไปหมด ผิดหวังเอามากๆ”…
-
สองสามีภรรยาตากล้อง ออกผจญภัยเก็บบรรยากาศ ณ ดินแดนแห่งมนต์ขลัง “ไอซ์แลนด์”
Jay Philbrick และ Vicki Philbrick สองสามีภรรยาเจ้าของ Philbrick Photography บริษัทรับถ่ายภาพงานแต่งรวมไปถึงภาพบุคคลซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐ New Hampshire ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ไล่ตามความฝันของพวกเขาในการถ่ายภาพ Jay และ Vicki Philbrick สองสามีภรรยาตากล้องเจ้าของไอเดีย Jay และ Vicki สองตากล้องคู่ชีวิตมีความใฝ่ฝันที่จะถ่ายภาพที่ไม่ธรรมดาในสถานที่ที่ไม่ธรรมดา ทั้งคู่ตัดสินใจที่จะชวน Sarah Maillet นางแบบคู่ใจและทีมงานของพวกไปมุ่งหน้าสู่ประเทศไอซ์แลนด์ ประเทศที่มีทิวทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ หลังจากที่พวกเขาได้มาถึง ความท้าทายแรกที่พวกเขาเผชิญนั่นก็คือลมที่แรงและอุณหภูมิที่เย็นจัด แต่ก็ไม่สามารถที่จะหยุดทีมงาน นางแบบและตากล้องไว้ได้ แม้ว่าจะลมแรง ก็สามารถนำมาเป็นจุดแข็งที่เสริมให้ภาพมีมิติได้ . ถึงแม้อากาศจะหนาว แต่ภาพที่ได้มาก็คุ้มค่าจนหายเหนื่อย . ตลอดทั้งสองสัปดาห์ในไอซ์แลนด์พวกเขาเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ โดยปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่แปรปรวนซึ่งทำให้พวกเขาสามารถที่จะเก็บภาพสวยๆ แบบนี้มาได้ จากไอเดียสร้างสรรค์นำมาผนวกเข้ากับความกล้าและท้าทายทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกเป็นภาพที่สวยงาม ด้วยไอเดียและสถานที่ ทำให้ภาพที่ออกมานั้นดูมีมนต์ขลัง . . . . โดย Jay ได้แสดงความคิดเห็นว่า “มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ ที่เราได้อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมใหม่ๆ…
-
สู้ตายสู้ๆ!! ปูทะเลที่คว้าดอกไม้ทะเล ทำเป็นปอมปอมติดก้าม คล้ายจะเป็นเชียร์ลีดเดอร์
บางคนอาจจะเคยเห็นดอกไม้ทะเลที่เกาะตามโขดหินสีสันสวยงามแตกต่างกันออกไป แต่ใครจะไปรู้ว่าดอกไม้ทะเลนั้นสามารถจะไปอยู่กับปูทะเลจนกลายมาเป็นภาพน่ารักๆ ให้เราได้เห็นแบบนี้ ภาพที่ #เหมียวปั๊ก ได้นำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมในวันนี้เป็นภาพของปูทะเลพันธุ์ Lybia edmondsoni ซึ่งก้ามของมันถูกเกาะโดยดอกไม้ทะเล โดยการเกาะของมันนั้นสามารถช่วยให้ปูสามารถพรางตัวจากสัตว์นักล่าได้และด้วยลักษณะที่ดูเหมือนเชียร์ลีดเดอร์ของมัน ทำให้มันได้ชื่อเล่นว่า “Pom-pom Crab” ทุกคน สู้ๆ นะ ในช่วงแรกนั้นดอกไม้ทะเลยังคงเกาะเพียงก้ามของปูแค่ข้างเดียว แต่ในภายหลังปูจะพยายามฉีกเจ้าดอกไม้ทะเลเพื่อให้ดอกไม้ทะเลนั้นสามารถที่จะเกาะก้ามของมันได้ทั้งสองข้างเหมือนปอมปอม นอกจากนั้นการศึกษาล่าสุดพบว่าเจ้าปูประเภทนี้หากตัวใดยังไม่มีปอมปอม มันก็จะพยายามขโมยปอมปอมมาจากตัวอื่นอีกด้วย!? หลังจากที่มันฉีกดอกไม้ทะเล ไม่นานนักดอกไม้ทะเลจะฟื้นตัวกลับสภาพมาเหมือนเดิม ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้จะทำให้ดอกไม้ทะเลนั้นได้อาหารจากปูทะเลในขณะที่ปูทะเลนั้นก็สามารถพรางตัวจากสัตว์นักล่าได้ดีขึ้น ถือว่าได้ประโยชน์กันทั้งคู่ นอกจากจะพรางตัวได้แล้ว Pom-pom Crab ยังสามารถที่จะใช้ดอกไม้ทะเลคุ้ยอาหารจากผืนทรายได้ด้วย ชมคลิปวิดิโอได้ที่นี่ ก็เป็นภาพที่น่ารักไปอีกแบบ บางทีไม่แน่ถ้าใต้ทะเลมีกีฬาสี เจ้าปูพวกนี้อาจจะกลายเป็นเชียร์ลีดเดอร์แห่งท้องทะเลก็เป็นได้นะ ที่มา: boredpanda , wikipedia , padi
-
โรงเรียนในประเทศจีน สร้างสนามฟุตบอลขึ้นมา โดยมีต้นไม้ตั้งตระหง่านอยู่กลางสนาม!!
เพื่อนๆ หลายคนที่ชอบเล่นฟุตบอลกันหลังเลิกเรียนคงจะคุ้นชินกับสนามกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะมุมไหนก็สามารถที่จะเลี้ยงลูกบอลได้อย่างคล่องแคล่ว แต่สำหรับเด็กๆ โรงเรียนมัธยม Yucai นั้นนอกจากทักษะการเลี้ยงบอลที่ดีแล้วยังต้องมีความคุ้นเคยกับสนามเป็นพิเศษเพราะภายในสนามนั้นมีต้นไม้ตั้งตระหง่านอยู่ ต้นไม้ที่ตั้งอยู่กลางสนามฟุตบอล โรงเรียนมัธยม Yucai นั้นเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในเมืองปักกิ่งประเทศจีน โรงเรียนนี้ถูกรายล้อมด้วยอาคารเก่าแก่มากมาย โดยพื้นที่นี้เป็นเพียงพื้นที่เดียวที่สามารถที่จะสร้างสนามฟุตบอลได้ แต่ก่อนที่งานก่อสร้างนั้นจะเริ่มต้นขึ้น โรงเรียนมีการวางแผนที่จะย้ายต้นไม้นี้ไปปลูกในบริเวณอื่น ก่อนที่คณะกรรมการจะพบว่าต้นไม้นี้ไม่สามารถที่จะย้ายได้ เนื่องจากอายุของมันที่มากกว่า 100 ปีแล้ว ด้วยเหตุนี้หลังจากที่เรื่องเข้าสู่ที่ประชุม คณะกรรมการได้ลงความเห็นว่าต้นไม้นี้คือสมบัติที่ล้ำค่า และการปลูกถ่ายนั้นมีความเสี่ยงมาก จึงทำให้คณะกรรมการตัดสินใจสร้างสนามฟุตบอล โดยเว้นที่ตรงกลางไว้สำหรับ “ต้นไม้” . สิ่งที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นคือ โรงเรียนมัธยม Yucai แห่งนี้นั้นสร้างอยู่ในบริเวณที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปักกิ่งรวมไปถึงประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ชิง อีกด้วย ดูเหมือนต้นไม้ธรรมดา แต่มันก็ผ่านเรื่องราวต่างๆ มามากมาย โดยที่สำนักข่าวของ Beijing News ได้รายงานว่าต้นเอล์มต้นนี้ถือเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองหลวงของจีน ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะวิเคราะห์ได้แน่ชัดว่ามีอายุเท่าไหร่ หลังจากที่ภาพสนามฟุตบอลของโรงเรียนมัธยม Yucai ได้ปรากฎบนอินเตอร์เน็ตเมื่อปีค.ศ.2000 ได้มีความคิดเห็นหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นทั้งเชิงสนับสนุนรวมไปถึงเชิงตลกขบขัน แต่เมื่อทุกคนได้รับรู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงจึงทำให้ต้นไม้กลางสนามฟุตบอลของโรงเรียน Yucai นี้กลายเป็นอีกจุดที่น่าสนใจในเมืองปักกิ่งไปโดยปริยาย ที่มา: odditycentral
-
รวม 17 ภาพความป่วนของเหล่าสัตว์เลี้ยง ที่ไม่รู้จักคำว่า “ความเป็นส่วนตัว” แม้แต่กระติ๊ดเดียว
มีหลายครั้งที่สัตว์เลี้ยงของเรานั้นมักจะมีพฤติกรรมที่แปลกๆ เนื่องมาจากความไร้เดียงสาของมัน จนหลายครั้งที่ทำให้เจ้าของปวดเฮดไปตามๆ กัน #เหมียวปั๊ก เลยได้รวบรวมภาพของเหล่าสัตว์เลี้ยงสุดซื่อบื้อที่ไม่รู้จักคำว่าความเป็นส่วนตัวจนต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป เจ้านายอาบน้ำหรอ ผมอาบด้วยคนสิ มุมนี้มันสบายมากๆ เลยนะ กลิ่นแปลกหน่อยแต่ก็โอเค ~ แม่ หนูขอนอนด้วยคนสิ วิวตรงนี้ดีนะ ผมชอบ เบาะก็นุ่มนิ่มด้วย เจ้านายทำงานไปนะ ส่วนผมจะนอนกอดแบนเป็นกำลังใจให้ ทำไมอะ!? ผมแค่นั่งตกแล้วมันผิดอะไรอะ เหยียบอกไม่เกรงใจเจ้านายเลย เจ้าของจะอาบน้ำแต่เจ้าหมาน้อยอยากอยู่ด้วย งั้นเอาไปไว้ตรงนี้ละกัน!! อ่าห์ ผมนอนพิงเจ้านายเหมือนตอนเล็กๆ เลย สบายสุดๆ มามะ มาให้หอมซักฟอดนึง จ๊ะเอ๋!! ทำอะไรอยู่เอ่ย แม่ทำอะไรในห้องน้ำ!! นะนะหนูขอจับมือหน่อย โอบกอดข้าไว้ มนุษย์ โอบกอดข้าไว้ แม่แต่งหน้ายังไงอะ สอนพวกหนูหน่อยย เดี๋ยวๆ พ่อหนุ่ม…
-
รู้จัก IDF กองกำลังป้องกันอิสราเอลที่ Gal Gadot แห่ง Wonder Woman เคยประจำการกว่า 2 ปี
หากใครที่ได้ติดตามคุณแม่ Gal Gadot ผู้รับบทเป็น Wonder Woman (สามารถติดตามอ่านได้ที่ลิ้งค์ เพราะแม่ก็คือแม่!! มาทำความรู้จัก Gal Gadot สาวแกร่งผู้รับบทเป็น Wonder Woman) ก็จะทราบว่านอกจากที่จะเป็น Miss Israel ปี 2004 แล้ว เธอยังเคยเข้าร่วมกองทัพเป็นระยะเวลา 2 ปีด้วย ด้วยประวัติของกองทัพที่น่าสนใจ #เหมียวปั๊ก เลยอยากจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับ IDF กองกำลังที่เธอเคยประจำการอยู่ซึ่งมีวีรกรรมที่น่าสนใจ ตั้งแต่การรบกับกองกำลังปาเลสไตน์ที่ฉนวนกาซา จนไปถึงการรบกับกลุ่ม ISIS ในพื้นที่ต่างๆ จะทหารหรือ Wonder Woman เธอก็เคยเป็นมาแล้ว ~ IDF (Israel Defense Force) หรือ กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล นั้นก่อตั้งโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม David Ben-Gurion เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ปี ค.ศ.1948 ตราบจนถึงปัจจุบันก็เกือบๆ 70…
-
สลดใจ… เจ้าตูบกำลังตั้งท้อง แต่ถูกมนุษย์ใจร้ายใช้แครอทสวนอวัยวะเพศ จนเสียชีวิต
ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าโลกเราจะมีเหตุการณ์ที่สุดแสนจะโหดร้ายแบบนี้เกิดขึ้นด้วย โดยโศกนาฎกรรมความเศร้าครั้งนี้เกิดขึ้นที่เมือง Gulc ประเทศตุรกี เป็นเรื่องราวของเจ้าตูบ Pamuk (ภาษาตุรกีแปลว่าผ้าฝ้าย) ซึ่งมันเป็นสุนัขแสนรู้ที่รักเจ้าของมาก ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร และกำลังจะเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดลูกน้อยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทว่าบางทีโลกนี้ก็ดูช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย… Cetin Duyar ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของสุนัขวัย 47 ปี ได้พบว่าสุนัขของเขาถูกคนแปลกหน้า แอบนำแครอทสวนเข้าทางช่องคลอดของเจ้า Pamuk อย่างโหดร้ายทารุณ ถึงแม้ว่าเจ้าของจะสามารถพาเจ้าตูบไปรักษาผ่าตัดกับสัตวแพทย์ได้ทันเวลา แต่สุดท้ายแล้วเจ้าตูบ และลูกๆ ในท้องผู้น่าสงสารก็ต้องจากโลกนี้ไปด้วยอาการติดเชื้อ แม้ว่าทีมแพทย์พยายามรักษา และเฝ้าดูอาการมันมานานกว่า 6 สัปดาห์ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถยื้อมันไว้ได้จริงๆ “Pamuk เป็นสุนัขที่น่ารัก แสนรู้ และมันก็ขี้เล่นมาก ผมรักมันมากครับ และผมก็ไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาให้คนที่ทำแบบนี้กับมันดี” เจ้าของหนุ่มกล่าวทั้งน้ำตา ตลอดเวลาที่ผ่านมา Pamuk พยายามต่อสู้กับอาการบาดเจ็บอย่างสุดความสามารถ หากแต่ว่าบาดแผลที่มนุษย์ผู้มีจิตใจหยาบช้าได้ทำกับมันไว้ รุนแรงเกินกว่าที่จะเยียวยา และทำให้มันไม่สามารถทานอะไรได้จนเสียชีวิตไปในที่สุด “เราเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จากการกระทำอันโหดร้ายทำให้อวัยวะภายในของมันติดเชื้อ และทางเราก็พยายามรักษามันไว้อย่างสุดความสามารถแล้วจริงๆ” คุณหมอให้สัมภาษณ์ ช่างโหดร้ายเหลือเกิน จิตใจต้องทำด้วยอะไรนะ ถึงกล้าทำร้ายมันแบบนี้…
-
เทรนด์ใหม่จากญี่ปุ่น เมื่อคุณแม่จับแขนลูก เปรียบเทียบกับก้อนขนมปัง เล่นซะเหมือนเลย!!
ใครที่เคยเลี้ยงลูกหรือมีประสบการณ์เลี้ยงเด็กมาก่อน คงทราบดีว่าช่วงวัยที่เด็กน่ารักที่สุด ก็คงเป็นวัยเด็กน้อยเริ่มจะหัดคลาน หรือหัดพูด ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูน่าร๊ากกไปหมด และถ้าสังเกตดีๆ หลายคนคงเห็นว่าแขนของเด็กทารกตัวน้อย ช่างดูปุ้มปุ้ยน่ารักเหมือนก้อนขนมปังตามร้านเบเกอร์รี่ ซึ่งจะว่าไปแล้วนี่ก็กำลังเป็นเทรนด์ถ่ายภาพของคุณแม่ชาวญี่ปุ่น ที่มาแรงสุดๆ ในตอนนี้เลยล่ะ เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนเริ่มเทรนด์ที่ว่า แต่ดูไปดูมาแขนของน้องน้อยก็ชวนให้คิดถึงก้อนขนมปัง หรือไม่ก็มาสคอตยางรถมิชลินจริงๆ นั่นแหละ เรียกได้ว่าตอนนี้คุณแม่ชาวญี่ปุ่นทั้งหลาย ต่างก็กำลังสนุกสนานกับเทรนด์แฮชแท็ก #我が子の最強ちぎりパン画像 หรือแปลเป็นอังกฤษว่า #MyBaby’sGotTheBestBreadPhoto ซึ่งมันก็คือการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ที่ว่า เมื่อเรานำแขนของลูกน้อยมาเทียบกับก้อนขนมปังแล้ว มันช่างเหมือนซะยิ่งกว่าเหมือน เหมือนจนไม่อยากจะใช้คำว่าเหมือน!! และที่สำคัญคุณแม่ก็สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์แฮชแท็กนี่ได้ง่ายๆ เพียงแค่เดินไปซื้อขนมปังร้านสะดวกซื้อมาเทียบได้เลย จะว่าไปแล้ว ยิ่งดูมันก็ยิ่งเหมือนจริงๆ นั่นแหละ แหม่.. มันช่างน่าหมั่นเขี้ยวจริงๆ ดู๊ววว ดูแขนจ้ำม่ำท่อนนั้นสิ อะไรจะได้สัดส่วนพอดีเป๊ะกับขนมปังขนาดน๊านนลูกเอ้ย บางทีก็อาจจะทำให้เราสับสนได้ว่าอันไหนแขนเด็ก อันไหนขนมปังกันแน่!? เด็กน้อยวัยแบเบาะแบบนี้ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมดแหละเนาะ >< คุณแม่ชาวไทยจะเอาบ้างก็ได้นะ ถ่ายเป็นภาพน่ารักๆ เก็บไว้ให้ลูกดูตอนโต ที่มา: Buzzfeed
-
ชาวเมืองละเหี่ยใจ ถนนเป็นหลุมบ่อรัฐไม่ยอมมาแก้ งั้นก็เอามาปลูกดอกไม้แทนละกันนะ…
จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้มีแค่ประเทศเราที่เดียวเท่านั้น ที่ชาวเมืองต้องมารู้สึกหงุดหงิดใจกับการใช้ท้องถนนที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ มิหนำซ้ำเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องก็ไม่ยอมมาแก้ไขซักที กลายเป็นว่าตอนนี้มีเทรนด์ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก นั่นก็คือการปลูกดอกไม้ประชดหลุมบ่อบนท้องถนน และทั้งหมดนี้คือตัวอย่างภาพที่จะชี้ให้เห็นว่า ไม่ได้มีแค่คนไทยเราหรอกที่ต้องมาจิตหงุดเงี้ยวกับเรื่องแบบนี้ ในบางพื้นที่ต้องใช้เวลายื่นเรื่องนานหลายปี ในขณะที่บางจุดก็ไม่เคยได้รับการซ่อมแซมใดๆ เลย ไม่ใช่แค่เรื่องของความรู้สึกตอนนั่งรถเท่านั้น แต่หลุมบ่อต่างๆ บนท้องถนน ยังเป็นสาเหตุแห่งการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย และดูเหมือนว่าเทรนด์ปลูกดอกไม้ประชดหลุมบ่อ ได้รับความนิยมมากขึ้นในหลายๆ ประเทศ ถึงเราจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนต้นคิดไอเดียการประชดด้วยวิธีนี้กันแน่ แต่อย่างน้อยๆ เราก็รู้แหละว่า การบริหารจัดการบ้านเมืองของพื้นที่นั้นเป็นอย่างไร จะว่าไปแล้ว.. มันก็เหมือนกับการประท้วงด้วยสันติวิธีอย่างหนึ่งนั่นแหละ และปัญหาเรื่องหลุมบ่อก็เป็นสิ่งที่น่ารำคาญใจเอามากๆ เช่นชาวเน็ตคนนี้ที่บอกว่า “ถ้าไม่มาซ่อมหลุมนี้ซักที ก็รอดูดอกไม้ได้เลย” เอาจริงๆ ก็คงไม่มีใครอยากใช้ถนนที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ และเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายหรอกจริงไหม? แหม่.. ถ้าเอาวิธีนี้มาใช้กับบ้านเราบ้าง คงสร้างเป็นสวนสาธารณะได้เลย ที่มา: twistedsifter
-
เรื่องราวของหมี ที่ถูกขังมานานกว่า 8 ปี และชีวิตที่เพิ่งจะรู้จัก ‘อิสรภาพ’ เป็นครั้งแรก
สำหรับชีวิตทุกชีวิตไม่ว่าจะสัตว์เล็ก หรือสัตว์ใหญ่ เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากถูกจองจำ หรือถูกพรากอิสระภาพไปจากชีวิตตัวเอง เช่นเดียวกับเรื่องราวชีวิตของหมีมิราเคิล ผู้ถูกขังอยู่ในกรงขนาดเล็กมานานกว่า 8 ปี ไม่เคยได้สัมผัสผืนหญ้า และอิสรภาพในการใช้ชีวิต จนกระทั่งมันได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่ง น่าสลดใจ เมื่อเจ้าหน้าที่พบว่าเจ้ามิราเคิล ถูกขังมาตลอดชีวิต และมันพยายามใช้หัวโหม่งกรงจนกลายเป็นรอยบุบบนหัว ก่อนหน้านี้มันถูกกักขังไว้ที่ประเทศเวียดนามตั้งแต่ยังเป็นลูกหมี โดยพ่อค้าผู้เฝ้ารอที่จะนำอวัยวะของมันไปขายในจีนอีกที ไม่ใช่เพียงแค่เจ้ามิราเคิล เท่านั้นที่ถูกกักขังอย่างน่าสงสาร จนกระทั่งวันหนึ่งเจ้าหน้าที่จากองค์กรช่วยเหลือสัตว์ ก็สามารถเอาชนะและไถ่ชีวิตพวกมันกลับคืนมาได้ พวกเขาได้ทำการย้ายที่อยู่อาศัยของมันมาอยู่ในศูนย์อนุรักษ์ โดยที่นี่มีทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด “ช่วงแรกที่มันมาถึง สุขภาพของมันย่ำแย่มาก เราต้องคอยดูแลมันอย่างใกล้ชิดไม่ให้มันขาดสารอาหาร เพราะมันอยู่ในสภาพที่น่าสงสารมาก” สัตวแพทย์เล่า ถึงแม้ว่าทุกวันนี้หมีที่ได้รับการช่วยเหลือ จะมีสุขภาพดีมากขึ้น และได้รับการดูแลอย่างดีก่อนปล่อยคืนสู่ผืนป่า แต่ทว่าปัญหาการล่าสัตว์ป่า โดยนำอวัยวะของพวกมันไปขายให้กับตลาดมืด เช่นที่ประเทศจีน ก็ยังคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับองค์กรพิทักษ์สัตว์ทั้งหลาย ปัจจุบันคาดว่ามีหมีมากกว่า 10,000 ตัว ที่ถูกกักขังไว้อย่างน่าสงสาร เพียงเพื่อต้องการนำอวัยวะของมันไปทำเมนูพิศดาร และนี่เป็นเพียงปัญหาส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น เราก็ขออวยพรให้หมีทุกตัวได้รับการช่วยเหลือในเร็ววันด้วยเถิด สาธุ๊… ที่มา: Thedodo
-
ชาวเน็ตสลด!! เผยภาพจากกล้องวงจรปิด สาวจีนใจร้ายเอาลูกมาทิ้งข้างทางอย่างไม่ใยดี
เชื่อว่าหัวอกคนเป็นแม่ส่วนใหญ่แล้วใครๆ ก็ต้องรักลูกของตัวเองกันแทบทั้งนั้นแต่ก็ใช่ว่าจะเสมอไปซะทีเดียว… เพราะบางทีเราก็มักจะได้เห็นข่าวหน้าหนึ่งบนหนังสือพิมพ์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ในแง่ลบอยู่เป็นประจำ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดย Dailymail ได้รายงานว่าเหตุการณ์จากภาพกล้องวงจรปิดดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม เผยให้เห็นภาพของหญิงสาวใจโหดในเมืองกุ้ยหยาง ที่ตัดสินใจนำเด็กทารกมาทิ้งไว้ข้างถนน!! คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ก็กลายเป็นกระแสให้ชาวเน็ตมาวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นาๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็พูดถึงจิตใจอันโหดร้ายของหญิงสาว ที่ทิ้งเด็กทารกทั้งคนไว้ข้างถนน ภาพจากกล้องจะเห็นได้ว่า ตอนแรกเธอก็เดินมาแบบปกตินั่นแหละ… และจู่ๆ เธอก็วางเด็กทารกตัวน้อยผู้ไร้เดียงสาไว้ข้างทาง จากนั้นเธอก็รีบวิ่งหายไป ราวกับว่าไม่ต้องการให้มีคนมาพบเจอ จากการรายงานพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นบริเวณลานจอดรถ ซึ่งมีผู้คนใช้เส้นทางสัญจรไปมาอยู่เป็นประจำ และเชื่อว่าหญิงสาวเลือกที่นี่เพราะต้องการให้ใครซักคนเก็บเด็กทารกไปเลี้ยงแทนเธอ (ทิ้งปัญหาดีๆ นี่เอง) แต่โชคดีที่หนูน้อยไม่เป็นอันตรายอะไร เพราะหลังจากนั้นไม่นานก็มีชาวเมืองเข้ามาสังเกตดู และพาทารกตัวน้อยไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แน่นอนว่าการกระทำดังกล่าว ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ มากมายบนโลกออนไลน์… บางก็ถึงกับหมดคำพูดเลยกันเลยทีเดียว บ้างแย้งว่ามันมีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ เช่นศูนย์รับอุปการะเด็กทั้งหลาย แต่ไม่ใช่การเอาเด็กทารกมาทิ้งไว้ข้างถนน บ้างก็มองว่าการทีเธอเลือกบริเวณที่จอดรถ ก็เพราะอยากให้มีคนมาเอาตัวเด็กไปเร็วๆ ว่าแต่ทำไมไม่แก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นล่ะ? …
-
ชม 20 ภาพจากชาวเน็ต ร่วมพิสูจน์สิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นเมื่อพระเจ้ารู้ว่า.. “คุณเกลียดแมว”
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วแหละ ว่าโลกของเราบางทีอาจจะมีพระเจ้าอยู่จริง โดยเฉพาะพระเจ้าแมวเหมียวที่เหมือนจะรู้ว่ามนุษย์คนไหนรัก หรือเกลียดแมว และเมื่อไหร่ก็ตามที่คนไม่ใช่คนเลี้ยงแมว และไม่คิดอยากจะเลี้ยงมัน หรืออาจจะเกลียดพวกมันสุดๆ นี่คือ 20 ตัวอย่างการลงโทษจากสวรรค์เมื่อคุณเกลียดแมว!! พระเจ้าจะส่งพวกมันมาจัดการกับคุณแบบนี้!! หรือบางทีก็มาเป็นแพ็คคู่ หมาก็ไม่ได้เลี้ยง แมวก็ไม่ได้เลี้ยง เอ้าาแล้วมาไงว๊าา “แฮร่..!! ไอ้มะนุ๊ด เอ็งจะไปไหน” นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้น เมื่อพวกมันรู้ว่าคุณไม่ชอบเลี้ยงแมว บางคนก็ถึงกับงงแตก เดินไปห้องครัวตอนตี 5 เจอสัตว์ประหลาดตัวนี้ยืนอยู่ในซิงก์ (มันมาจากไหนว๊าา) นี่คือบททดสอบจากพระเจ้า.. อ้อนขนาดนี้แล้วยังกล้าปฏิเสธกันได้ลงอีกเหรอ พ่อหนุ่มเห็นว่าอากาศข้างนอกมันหนาวจัด เลยลองปล่อยให้มันมานอนในบ้าน และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น…. หนุ่มบอกนั่งเล่นเกมอยู่ดีๆ มันก็กระโดดเข้ามาจากหน้าต่างเฉยเลย เอ็งซวยแล้วพ่อหนุ่มเอ๊ยย พ่อหนุ่มกำลังทำงานอยู่เพลินๆ ก็มีเจ้าเหมียวกระโดดเข้ามาในรถ พร้อมส่งสายตาว่า “จงเป็นทาสตูซะ” เมื่อคุณตกใจสุดขีดที่มีแมวปริศนาโผล่มาเข้ามาในบ้าน และมันก็ตกใจคุณไม่แพ้กัน (ตกลงบ้านใครกันแน่เนี่ย!?) เจ้าของอู่รู้สึกเหมือนมีโจรมาย่องเบากลางดึก ที่ไหนได้…. ว่าแต่เอ็งมาจากไหนอ่ะ? …
-
หนุ่มติดอยู่กลางรถไฟฟ้า ไปงานรับปริญญาไม่ทัน ชาวบ้านจึงช่วยกันจัดพิธีให้ซะเลย!!
สำหรับงานรับปริญญาสำเร็จการศึกษา อาจจะเป็นวันแห่งความฝันที่ใครหลายคนเฝ้ารอมาตลอดชีวิต เพื่อเป็นอีกเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จอย่างหนึ่งในชีวิต เช่นเดียวกับ Jerich Marco Alcantara หนุ่มผู้เฝ้ารอวันสำเร็จการศึกษาในระดับอดุมศึกษาเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ทว่าระหว่างทางที่เจ้าตัวกำลังจะไปร่วมงานที่สถาบัน Hunter College’s Brookdale กลับเกิดเหตุขัดข้องที่ทำให้เจ้าตัวไปไม่ทันงาน “อันที่จริงผมต้องไปถึงงานก่อน 9 โมง แต่รถไฟฟ้าเกิดเหตุขัดข้องทำให้ดีเลย์นานออกไป 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นผมก็รู้ตัวแล้วแหละว่าคงไปไม่ทันงานจริงๆ” Jerich เล่า ทว่ากลับมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้น เมื่อคนแปลกหน้าบนขบวนรถไฟอาสาที่จะจัดงานรับปริญญาแบบพิเศษให้เขาแทน ถึงแม้จะดูไม่ขลัง และสมจริงเท่ากับพิธีงานจริง แต่เรียกได้ว่างานนี้กินใจทุกคนบนรถไฟไปเต็มๆ “เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกพิเศษมากครับ เมื่อคนอื่นอาสาจะจัดพิธีปริญญาเล็กๆ บนขบวนรถไฟนี้ขึ้นให้กับผม โดยมีผู้ร่วมงานเป็นคนแปลกหน้าหลายสิบชีวิต มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมจริงๆ” เขาเล่าพร้อมรอยยิ้ม คลิปวิดีโอเหตุการณ์ภายในงานที่มีชาวเน็ตถ่ายไว้ได้ นับว่าเป็นวินาทีที่น่าปลาบปลื้มจริงๆ ถึงแม้ว่าพ่อหนุ่มจะโชคร้ายที่ไปร่วมงานสำเร็จการศึกษาที่โรงเรียนไม่ทัน แต่เมื่อเจ้าตัวมาถึง ก็ได้พบว่าเพื่อนๆ ของเขาต่างช่วยกันจัดงานรอบพิเศษให้อีกรอบเช่นกัน “ที่น่ายินดีไปกว่านั้นก็คือ ตอนที่ผมไปถึงโรงเรียนเพื่อนสนิทผมหลายคนได้จัดงานสำเร็จการศึกษารอบพิเศษให้ผม ถึงมันจะดูไม่ขลังเท่ากับพิธีจริงๆ แต่ผมก็ดีใจมากๆ ครับ” ถ้าเป็นไปได้คงไม่มีใครอยากพลาดวันสำเร็จการศึกษาของตัวเองหรอกเนาะ ที่มา: Distractify
-
นี่คือ 15 ความจริงของเหล่ามนุษย์ฟรีแลนซ์ที่ว่า ไม่ได้ง่ายและไม่ได้อิสระอย่างที่คิด!!
เชื่อว่าเด็กจบใหม่ยุคนี้หลายคนอาจจะตั้งเป้าหมายตัวเองไว้ว่าอยากทำงานแบบฟรีแลนซ์ นั่นก็คือการไม่ต้องเป็นมนุษย์ออฟฟิศคอยตอกบัตรเช้า – เย็น อันสุดแสนจะน่าเบื่อ ไหนจะต้องถูกบ่นเซ้าซี้จากหัวหน้าอีก… แต่จะว่าไปแล้วอิสระภาพก็ต้องแลกมาด้วยความรับผิดชอบเหมือนกัน และนี่คือ 15 ความจริงที่เหล่าฟรีแลนซ์ทั่วโลก อยากจะบอกให้ทุกคนได้รู้ว่า การใช้ชีวิตแบบพวกเรานี่มันไม่ง่ายเอาซะเลยนะเธอเอ๋ย 1. ไม่ว่าจะวันหยุด วันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ ก็ต้องตื่นมาเช็คอีเมล์อยู่ตลอด 2. ปวดหัวสุดๆ เมื่อเจอลูกค้าที่คิดว่า.. ฟรีแลนซ์สามารถรับโทรศัพท์ได้ 24 ชั่วโมง โอ่ยยจะบ้าตาย!! 3. เป็นพนักงานออฟฟิศยังมีสิทธิ์ใช้วันลาป่วยได้ แต่ฟรีแลนซ์น่ะเหรอ? ป่วยปุ๊บ รายได้หายปั๊บเลยจ้า 4. ถึงกับไปไม่ถูกเมื่อลูกค้ามาถามว่า.. “แล้วนี่คิดราคาเท่าไหร่ล่ะ?” บางทีพวกเราก็กลัวว่าถ้าเสนอราคาสูงไปลูกค้าก็อาจจะงอนได้ 5. บางวันก็คิดว่าจะจัดการสะสางเคลียร์งานให้หมด พอทำไปทำมาเท่านั้นแหละ… สมาธิหลุดลอยไปแล้วจ้า 6. ส่วนเรื่องนิสัยผลัดวันประกันพรุ่งน่ะ.. ไม่มี๊ ไม่มี จริงๆ 7. พวกเราทำงานตอนไหนก็ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะว่างพอให้เพื่อนๆ ทักแชทมาปรึกษาได้ตลอดทั้งวันทั้งคืนหรอกนะ 8. พวกเราค้นพบพลังแห่งการอยู่คนเดียว……
-
ตำรวจออสฯ เป็นห่วงมาก อาสาส่งหนุ่มเมาแล้วขับถึงเตียงนอน พร้อมกับถ่ายเซลฟี่ไว้ให้ด้วย!!
อย่างที่เราทุกคนรู้กันอยู่ในจิตใต้สำนึกดีอยู่แล้วว่า การเมาเหล้าแล้วขับนับว่าเป็นพฤติกรรมที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบต่อสาธารณะอย่างมาก สังเกตได้จากข่าวอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากความเมา ซึ่งเรามักจะได้เห็นกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เราเชื่อว่าเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นที่รัฐแทสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย จะทำให้เราหลายคนรู้สึกว่าแหม่… นี่มันช่างเป็นประเทศที่คุณตำรวจใจดีเสียเหลือเกิน เรื่องมันมีอยู่ว่าหนุ่ม Reece ได้ออกไปดื่มเหล้ากับเพื่อน และเมาอย่างหนัก จนเรียกได้ว่าถ้าขับรถกลับบ้าน มีหวังโดนหิ้วเข้าซังเตแน่ๆ ซึ่งหลังจากที่นายตำรวจประจำเมืองได้เห็นสภาพอาการเมาอย่างขาดสติของนาย Reece พวกเขาก็ไม่ได้เลือกที่จะจับคนเมาเข้าคุก แล้วตราหน้าว่าเป็นคนผิดของสังคม หากแต่นายตำรวจเลือกที่จะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ด้วยการอาสาขับรถไปส่งพ่อหนุ่มคนเมาให้ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ แถมยังแอบเอามือถือเจ้าตัวมาถ่ายเซลฟี่ไว้ เพื่อที่เจ้าตัวจะได้รู้ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นบ้างหลังภาพตัด… และนี่คือโฉมหน้าของ 2 ตำรวจผู้ใจดี อาสามาส่งคนขี้เมาให้หลับฝันดีถึงห้องกันเลย วันหลังก็ดูแลตัวเองดีๆ หน่อยนะเออ ไม่กี่สัปดาห์รูปภาพดังกล่าวก็ถูกอัพลงบนเว็บไซต์ Reddit ทำให้มีชาวเน็ตหลายคนออกมาให้คำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไปในเชิงรู้สึกอิจฉา ชาวเน็ตคนหนึ่งจาก Reddit ให้ความเห็นว่า “ขอพูดตรงๆ เลยนะ นายแม่งภาพตัด เสร็จแล้วตำรวจก็มาหาตัวคุณเจอ และคุณก็ตื่นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่ที่บ้าน โดยที่มันไม่ใช่ห้องขัง!! นี่มันเมืองในฝันชัดๆ เลยโว้ยย” แหม่.. ตำรวจบ้านเค้าใจดีเนาะ แต่ยังไงก็อย่าเมาแล้วขับละ มันอันตรายจริงๆ นะเออ ที่มา:…
-
สุดเศร้า… เมื่อเจ้าม้า จำใจต้องบอกลามนุษย์เพื่อนรักเป็นครั้งสุดท้าย ในงานศพของเขา
ตลอดช่วงชีวิตของคนเลี้ยงม้า หรือนักแข่งม้าแล้ว เชื่อว่าคงไม่มีอะไรจะสำคัญ และรู้ใจคนๆ นั้นไปมากกว่าม้าคู่ใจของเขาเอง เช่นเดียวกับ Wagner Figueiredo de Lima ชายหนุ่มชาวบราซิล ผู้อาศัยอยู่กับม้าของเขา Sereno แทบจะทั้งชีวิต ทว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา มีพบก็ต้องมีจาก… Lima เสียชีวิตในวัย 34 ปี ด้วยอุบัติเหตุบนท้องถนนในเมือง Paraiba ประเทศบราซิล และเมื่อวันอังคารที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก็ได้มีการจัดพิธีศพให้กับชายคนดังกล่าว โดยมีเพื่อนสนิทมิตรสหายมากมายต่างเดินทางมาร่วมแสดงความไว้อาลัย ทว่ามีเพียง Wando พี่ชายของเขาเท่านั้น ที่รู้ว่าถ้าหากน้องชายของเขาสามารถลุกขึ้นมาบอกกล่าวถึงสิ่งสุดท้ายในชีวิตได้ เขาคงอยากจะเจอเจ้า Sereno ม้าเพื่อนรักเป็นครั้งสุดท้าย ภายในงานไม่มีใครเชื่อว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ กลับกลายเป็นความเศร้าที่ช่วยบีบคั้นน้ำตาให้ผู้คนภายในงานได้เป็นอย่างดี… ทันทีที่โรงศพของ Lima มาถึง เจ้าม้า Sereno ก็รู้ทันทีว่าเพื่อนรักของมันนอนอยู่ในนั้น และสิ่งเดียวที่มันพอจะทำได้ ก็คือการพยายามเอาร่างกายของมันไปใกล้ชิดกับเขาให้ได้มากที่สุด “ทันทีที่โลงศพมาถึง Sereno ก็พยายามเดินวนรอบโลงศพ และดมหากลิ่น จนมันรู้ว่าคนที่อยู่ข้างในนั้นก็คือ Limbo…
-
อย่างฮา!? หนุ่มหวังจะง้อแฟนสาวด้วยช่อดอกไม้ แต่ดันซื้อผิดเป็นช่อผักสลัดซะงั้น
จะว่าไปแล้ว.. บางทีความโป๊ะแตกของแฟนหนุ่ม ที่เวลาตั้งใจจะทำอะไรซักอย่างให้แฟนสาวสุดที่รัก แต่กลับเฟลไม่เป็นท่า ก็ดูจะเป็นอะไรที่มีความน่ารักในตัวเองอยู่เหมือนกัน เหมือนกับคู่รักคู่นี้ Jailyn Hernandez วัย 19 ปี และ Jamarcus Guillory แฟนหนุ่มวัย 20 ปี เรื่องก็มีอยู่ว่า… ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ทะเลาะและมีปากเสียงกันเกิดขึ้น ทำให้แฟนสาวรู้สึกงอน และโกรธแฟนหนุ่มเป็นอย่างมาก เขาจึงคิดจะใช้วิธีการง้อแฟนสาวด้วยการใช้ดอกไม้สวยๆ ซักช่อหนึ่ง และนี่คือช่อดอกไม้ที่พ่อหนุ่มซื้อไปง้อแฟนสาว….!! (นั่นมันผักกาดม่วงไม่ใช่เร๊อะ?) เรียกได้ว่าความฮาโป๊ะแตกในครั้งนี้กลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ จนสื่ออย่าง Buzzfeed ก็ได้ไปสัมภาษณ์พ่อหนุ่ม “ผมนี่รู้สึกหน้าแตกเป็นบ้าเลยครับ ตอนที่ถือช่อดอกไม้ด้วยท่าทางที่โคตรจะมั่นใจ หลังจากที่ผมคุกเข่าแล้วยื่นช่อดอกไม้ให้เธอเผื่อว่าจะดูเท่ๆ แบบในหนังบ้าง แต่ทุกอย่างกลับเจ๊งบ๊ง เพราะเธอตอบกลับมาว่า.. นี่มันผักกาดม่วงโว้ย!!” แต่ถึงกระนั้นฝ่ายคุณแม่ของแฟนสาว ก็ได้บอกลูกสาวของเธอว่า “แฟนหนุ่มคนที่ลูกคบอยู่น่ะ น่ารักมากเลยนะ” หลังจากที่ฝ่ายสาวเจ้าเอาความเปิ่นของแฟนหนุ่มโพสต์ผ่านทวิตเตอร์ งานนี้ก็ดันไปถูกอกถูกใจชาวเน็ตอีกแล้วครับท่าน บางคนก็บอกว่า แหม่..ดูพ่อหนุ่มจะภูมิใจมากกว่าซะอีก แต่ยังไงก็ดูน่ารักแบบแปลกๆ ดีนะ ชาวเน็ตบางคนก็บอกว่าอยากได้แบบนี้บ้าง น่ารักไม่พอแถมยังกินได้ด้วยนะเออ …
-
รวมภาพถ่าย บรรยากาศของโรงพยาบาลบ้า 80 ปีก่อน และวิถีการเป็นอยู่ของผู้ป่วยทางจิต
ถ้าพูดถึงโรงพยาบาลบ้า หรือสถานที่ๆ ใช้รักษาผู้มีอาการทางจิตทั้งหลาย เชื่อว่าหลายคนอาจจะนึกภาพของสถานที่ๆ ชื่อว่า ‘หลังคาแดง’ ที่คนไทยมักจพพูดถึงอยู่บ่อย แต่คราวนี้เราจะย้อนกลับไปในปี 1938 เพื่อตามดูวิถีชีวิตของผู้ป่วยใน Pilgrim State Hospital สถานดูแลผู้ป่วยจิตเวชอันมีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่ครั้งอดีต โดยภาพถ่ายทั้งหมดนี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพนิตยสาร Life Alfred Eisenstaedt เราลองตามไปดูกันเลย ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ Pilgrim State Hospital โรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยทางจิตจากนิวยอร์ก เป็นที่ซึ่งรวบรวมผู้ป่วยอาการทางจิตทุกประเภท ตั้งแต่ระดับเบา ไปจนถึงขั้นรุนแรง โรงพยาบาลขนาดใหญ่แห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว้างกว่า 2,500 ไร่ เดิมทีสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้สำหรับเป็นศูนย์ช่วยเหลือ และบำบัดจิตใจผู้คน แต่กลับดูเหมือนว่าปัญหาอาการป่วยทางจิตของผู้คนในสังคมจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดโรงพยาบาลแห่งนี้ก็มีจำนวนผู้ป่วยมากเกินกว่าที่จะรองรับได้ บอกคนเคยให้นิยามสถานที่แห่งนี้ไว้ว่า ‘Funny Farm’ เนื่องจากที่นี่คุณจะได้พบกับผู้คนมากมายหลายประเภท และแน่นอนว่าส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยทางจิต ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้คนในสังคมได้อย่างปกติ ผู้ป่วยบางคนในโรงพยาบาล ก็ได้รับอนุญาติให้สามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้ แต่กลับบางคนพวกเขาต้องเผชิญกับอาการที่ร้ายแรงกว่า ทำให้พวกเขาต้องถูกจับขังเดี่ยว และภาพของการใช้เสื้อแบบพิเศษ เพื่อมัดร่างกายผู้ป่วยไว้อย่างที่เราเคยเห็นกันในหนึ่ง ก็มีอยู่จริงในที่แบบนี้ …
-
อดีตนายพราน ถึงกับเลิกล่าสัตว์มาแล้ว 10 ปี หลังรับเลี้ยงกวาง และมันเข้ามาเปลี่ยนชีวิต
Aladino Montes ชายชาวสเปนวัย 53 ปี ซึ่งทั้งช่วงชีวิตของเขาที่เติบโตมาในแคว้นอัสตูเรีย ด้วยความที่เติบโตมากับครอบครัวในแถบชนบท เขาได้ทำการเดินป่าล่าสัตว์มาแล้วนับไม่ถ้วน จนเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ ทว่าชีวิตการเป็นนักล่าสัตว์ของเขาก็ต้องสิ้นสุดลง หลังจากที่เขาได้พบกับลูกกวางตัวน้อยเจ้า Bambi จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลา 10 ปีได้แล้ว ที่เจ้าตัวไม่ได้ออกไปล่าสัตว์อีกเลย “ถ้าจะให้ผมกลับไปล่าสัตว์แบบนั้นอีกครั้ง ผมขอยอมตายดีกว่า” Aladino กล่าว เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นเมื่อ 10 ปีก่อน วันหนึ่ง Aladino ได้ขับรถจี๊พคู่ใจของเขาไปตามเส้นทางหุบเขาในหมู่บ้าน กระทั่งเจ้าตัวได้หันไปเห็นภาพของวัวสองตัว กำลังยืนอยู่กับลูกกวาง และนั่นก็ทำให้เค้ารู้สึกแปลกใจอย่างมาก เพราะเขาไม่เคยเห็นภาพวัวอาศัยอยู่กับกวางมาก่อน ด้วยความสงสัยเขาจึงย่องเข้าไปดู ก็ได้พบว่าลูกกวางน้อยตัวน้อยประสบอุบัติเหตุ มีร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผล และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จากนั้น Aladino ได้รีบนำตัวเจ้ากวางน้อยกลับมาที่บ้าน แล้วจัดการก่อไฟเตรียมย่าง เอ๊ย เตรียมการเพื่อช่วยรักษาบาดแผลของมันให้หายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อ Bambi หายจากอาการบาดเจ็บ แทนที่มันจะวิ่งหนีเข้าสู่ผืนป่า มันกลับเลือกที่จะอาศัยอยู่กับ Aladino และครอบครัวของเขา ช่วงเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่าทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มก่อตัว จนทุกวันนี้เจ้า Bambi ก็ได้กลายเป็นกวางสาวน้อยโตเต็มวัย…
-
เปิดกรุ 15 ภาพของ “Freddie Mercury” และความรักกับแฟนหนุ่ม ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน…
สำหรับคอเพลงสากลทั้งหลาย โดยเฉพาะคนที่ชอบติดตามฟังผลงานจากศิลปินยุค 70 เป็นต้นมาเชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก Freddie Mercury ชายผู้เป็นตำนานนักร้องวง Queen คนนี้แน่ ก่อนหน้าที่เจ้าตัวจะเสียชีวิต เขาได้ฝากผลงานเพลงอมตะไว้ให้คนรุ่นหลังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘Bohemian Rhapsody’ หรือที่ทุกคนต้องเคยฟังแน่ๆ ก็อย่างเพลง ‘We Will Rock You’ (โฆษณาเป๊ปซี่ยุคบริทนี่ย์ สเปียร์นั่นแหละ) แฟนเพลงหลายคนอาจจะทราบดีอยู่แล้วว่า Freddie Mercury เป็นกลุ่มเพศที่ 3 ซึ่งในสมัยนั้นจะมีการต่อต้านเยอะกว่าสมัยนี้ และเขาก็ใช้ชีวิตบางช่วงได้อย่างยากลำบากเช่นกัน และทั้งหมดนี้คือภาพหายากอีกมุมหนึ่งจากเจ้าตัว ที่แฟนเพลงหลายคนอาจไม่เคยเห็นกันมาก่อน… ในยุคสมัยที่รักร่วมเพศยังเป็นเรื่องที่ถูกปิดกั้นจากสังคม Freddie Mercury ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว ถึงแม้ว่าหน้าฉากเขาจะเป็นนักร้องระดับโลก ที่มอบความสนุก และความไพเราะให้ผู้คนมากมาย แต่ชีวิตความเป็นส่วนตัว และความรักของเขา กลับต้องคอยปิดบังมันไว้อยู่ตลอดเวลา ทั้งหมดนี้คือภาพถ่ายหายากของ Freddie Mercury และคนรักของเขา Jim Hutton ทั้งคู่เจอกันครั้งแรกในช่วงปี 1980 ในฐานะที่ตอนนั้น…
-
อีกขั้นของประสบการณ์ ผงอาบน้ำกลิ่น “อาหาร” ยกระดับสไตล์กลิ่นตัวคุณ ให้หอมไปอีกขั้น!!
เราจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับผงอาบน้ำกลิ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลาเวนเดอร์ น้ำผึ้ง หรือกลิ่นวนิลา แต่ถ้าเพื่อนๆ คิดว่าเห้ย!! กลิ่นพวกนี้มันไม่พีคพอสำหรับเราเลย งั้น #เหมียวปั๊ก ขอนำเสนอผงอาบน้ำกลิ่นที่จะทำให้คุณ “มีสไตล์” ที่โดดเด่นหาตัวจับได้ยาก จากเว็บไซต์ขายสินค้าปลีกของญี่ปุ่น Village Vanguard ได้ปล่อยผงอาบน้ำรส “อาหาร” ออกมาเอาใจคนชอบของแปลก โดยได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ถึงแม้ว่าผงอาบน้ำพวกนี้จะกินไม่ได้ แต่ก็เชื่อว่าหากคุณใช้แล้วมันก็จะทำให้คุณมีกลิ่นตัวที่น่ากินเหมือนกลิ่นอาหารที่คุณใช้” (แบบนี้ก็ได้หรอ!?) พบกัน ผงอาบน้ำกลิ่นอาหาร ~ และการอาบน้ำของเพื่อนๆ จะเปลี่ยนไป เมื่อได้ฉีกผงอาบน้ำละละเลงมันลงไปในน้ำ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การอาบน้ำเหมือนคุณกำลังแหวกว่ายน้ำอาหารที่คุณชอบ!! กลิ่นพิซซ่าก็ดีนะ หรือจะเอาแบบผักชีก็ได้ ชอบของทอดหน่อยๆ ก็ต้องเกี๊ยวซ่านี่แหละ ถ้าฝันว่าอยากว่าย “เบียร์” ละก็ จัดไปสิครัช กลัวไม่มีกับแกล้ม งั้นเอากลิ่น “ถั่วแระไป” ไปด้วยละกัน ปิดท้ายกันด้วย “เนื้อย่าง” เผื่อบางคนคิดว่ากลิ่นหมูกระทะที่ติดมายังตอกย้ำไลฟ์สไตล์ไม่มากพอ คนไหนที่คิดว่าเห้ย มันเจ๋งมากจนอยากซื้อเป็นของฝากก็สามารถที่จะสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ของ…
-
รวม 18 ภาพป้ายสัญลักษณ์งงๆ ที่ไม่เข้าใจว่าคนทำคิดอะไร หรือจะบอกเราทำไมนะ!?
ป้ายสัญญาณนั้นมักจะมีไว้เพื่อเป็นการเตือนหรือบอกข้อมูล แต่สำหรับบางป้ายนั้นก็ไม่รู้ว่าจะทำมาเพื่ออะไร เหมือนกับป้ายเหล่านี้ที่ยิ่งดูยิ่งงง จะบอกฉันทำไมเนี่ยย ~ ถั่วนี้มีส่วนประกอบของถั่วอยู่… เดี๋ยวนะ หอสมุดจะปิดไปจนกระทั่ง ถึงเวลาเปิด.. ระวัง!! ไฟมันร้อน (มันเย็นมั้งคะ คุณพี่…) มั่นใจได้ครับชาวดาวอังคาร ชิ้นนี้ทำมาจากโลก… ไม่ได้เลย ห้ามกลืนไม้แขวนนะ ที่สำคัญ “อย่าหายใจใต้น้ำนะ” เดี๋ยวสำลัก อย่านั่งบนรั้วนะ … ครับแม่… ไปออกทางอื่นก็ได้ บางต้นก็วิ่งได้ บางต้นก็ชอบอยู่นิ่งๆ นะวังตัวด้วยนะครับ หยุด และนี่เป็นป้ายบอกว่าป้ายนี่คือสัญญาณว่าหยุด!! การฆาตกรรมเป็นเรื่องที่ไม่โอเค (ก็แหง๋สิฟร่ะ!!) ระวังด้วยนะครับ เรื่องดื่มร้อนมัน… “ร้อน” ขับรถยังไงก็ระวังชนเสานะครับ เป็นห่วง ถ้ากระหายมากระวังตาลายนะครับ น้ำนี้กินไม่ได้ ทำไม.. ผมจะหลับตาขับแล้วมันผิดตรงหนาย…
-
ทะเลสาบเกลือมรณะแห่งแอฟริกา เปลี่ยนสัตว์ให้แห้งแข็ง ราวกับก้อนหินไร้วิญญาณ…
#เหมียวปั๊ก เป็นคนที่ชอบการท่องเที่ยวรอบโลกมาก ถึงแม้จะถ่ายรูปไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่แต่การไปพบเจอสถานที่แปลกๆ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถเติมเต็มชีวิตการผจญภัยได้ ในโลกนี้ล้วนมีสถานที่แปลกๆ ที่มักจะหลบซ่อนอยู่ตามมุมโลกรอให้เราไปสัมผัส โดย Nick Brandt หนึ่งในช่างภาพชื่อดังได้ถ่ายภาพที่แสดงให้เห็นถึงทะเลสาบมรณะที่น่าขนลุกในแอฟริกาที่เปลี่ยนสัตว์เป็นๆ ให้กลายเป็นร่างไร้วิญญาณ ราวกับว่ามันหลุดออกมาจากนิยายยังไงอย่างนั้น Nick Brandt ช่างภาพพาเราไปรู้จักทะเลสาบมรณะแห่งนี้ ในหนังสือภาพของ Brandt ได้พูดทะเลสาบ Natron ที่เปลี่ยนสัตว์ให้กลายเป็นหินนั้นตั้งอยู่ทางบริเวณตอนเหนือของประเทศ Tanzania ด้วยลักษณะผิวน้ำที่สงบนิ่งจนเหมือนกระจกมันจึงเป็นกับดักชั้นดีที่จะล่อให้นก ค้างคาว หรือสัตว์เล็กสัตว์น้อยอื่นๆ มาอยู่เสมอ สภาพของทะเลสาบ แต่ด้วยอุณหภูมิของน้ำที่บางครั้งอาจจะสูงถึง 60 องศาเซลเซียสประกอบกับปริมาณกรดและเกลือในน้ำที่สูงมาก ทำให้สัตว์ที่ตกลงไปในทะเลสาบตายและถูกห่อหุ้มด้วยหินปูน และกว่าที่พวกมันจะรู้ตัว พวกมันก็ไม่สามารถหนีรอดแล้ว หลักจากที่พวกมันเสียชีวิตลง Brandt จึงได้ทำการเดินไปตามทะเลสาบและจัดท่าให้พวกมันเหมือนมีชีวิตอีกครั้งก่อนที่จะถ่ายรูปเก็บเอาไว้ พื้นที่ของทะเลสาบจากภาพถ่ายดาวเทียม อย่างไรก็ตาม มีสิ่งมีชีวิตที่สามารถปรับตัว อย่างเช่น ฟลามิงโก้ ที่ได้สีชมพูมาจากทะเลสาบแห่งนี้ แต่สำหรับผู้ที่ไม่รอดชีวิต นกส่วนใหญ่ที่ตาย ยังคงสภาพส่วนหนึ่งไว้ . . ด้วยผิวน้ำที่นิ่งสงบเหมือนกระจก ที่แห่งนี้จึงเป็นกับดักแห่งความตายสำหรับนกและค้างคาวบางชนิด .…
-
ไปเลยเพื่อนรัก!! ช่างภาพค้นพบ “กบขี่ด้วง” ควงกันออกท่องโลก ราวกับอยู่ในการ์ตูน
ไม่ได้มีเพียงแค่มนุษย์เท่านั้นที่ชอบทำอะไรตลกๆ ในบางครั้งเหล่าสัตว์ตัวเล็กๆ ก็มีอารมณ์ขันไม่ต่างจากมนุษย์เหมือนกับภาพของเจ้ากบกับด้วงกว่าง คู่หูคู่ฮาสองตัวนี้ ปกติแล้วเราอาจจะคิดว่าจะได้เห็นสัตว์ต่างสายพันธุ์ มาเป็นเพื่อนกันได้นั้น คงต้องหาชมได้เทพนิยายหรือการ์ตูนสำหรับเด็ก แต่มันก็เกิดขึ้นในธรรมชาติจริงๆ ภาพถ่ายอารมณ์ดีนี้ถูกถ่ายไว้ได้โดย Hendy Lie ช่างภาพสัตว์ป่าที่ถ่ายได้จากบ้านของเขาในเมือง Kalimantan Barat ประเทศอินโดนิเซีย ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้ากบในภาพนี้มีความสุขมากๆ กับการที่มันได้ขี่หลังด้วงดำเพื่อนรัก (มั้ง) ของมัน ลุยกันเลยไอ้เสือออออออ!! “มันเป็นช่วงเวลาที่น่าทึ่งมาก ดูเหมือนว่าเจ้ากบพยายามทำตัวเป็นคาวบอยไล่จับแมลงโดยมีเจ้าด้วงดำเป็นม้าคู่ใจอย่างมีความสุข มันใช้เวลาอยู่บนหลังเจ้าด้วงดำกว่า 5 นาที ก่อนที่เจ้ากบจะลงจากหลังด้วงดำไป” Hendy กล่าวกับสื่อ จับไว้แน่นๆ ละไอ้อ๊บ จะซิ่งละนะ นะนะนายตัวหนักไปไหมเพื่อน ~ นายเห็นยอดเขานั่นไหม ไม่ถงไม่ถามเรื่องสุขภาพหลังซักกกคำ ฉันว่าเราต้องเป็นคู่หูที่ดีมากๆ เลยแหละเพื่อน!! โลกอันกว้างใหญ่นี้ มันมีแค่นายกับฉัน ออกไปผจญภัยด้วยกัน ไม่ว่าเราจะอยู่ห่างกัน 1/4 ไมล์ หรือคนละซีกโลก นายจะยังเป็นพี่น้องของฉันเสมอ… ลาก่อย……
-
NASA วางแผนปล่อยยาน สำรวจแร่มีค่าบนดาวเคราะห์น้อย มูลค่ากว่า 350,000 ล้านล้านล้านล้าน
นอกอวกาศยังมีทรัพยากรที่มีค่าอยู่เป็นจำนวนมาก เช่นเพชรซึ่งตกมาจากฟ้าที่ดาวพฤหัส และแร่บางชนิดที่ไม่มีในโลกที่มีราคาสูงมากๆ ทำให้มีหลายบริษัทผุดไอเดียเกี่ยวกับการท่องอวกาศเพื่อเก็บทรัพยากรที่หายากและมีค่าโดย ดาวเคราะห์น้อยเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 200 กิโลเมตรนี้มีชื่อว่า 16 Psyche สิ่งที่น่าสนใจของมันนั่นก็คือมันมีแร่แพลตตินั่ม (ซึ่งแพงกว่าราคาทองคำถึง 3 เท่า) อยู่จำนวนมาก โดยหากนำมาตีเป็นราคาแล้วอยู่ที่ประมาณ 350,000 ล้านล้านล้านล้านบาท หรือถ้าเขียนเป็นตัวเลขก็ราวๆ 350,000,000,000,000,000,000,000,000,000 บาทเลยทีเดียว!! โฉมหน้าของดาวเคราะห์น้อย 16 Psyche ในขณะที่แกนดาวเคราะห์อื่นๆ นั้นมักจะประกอบไปด้วยหินหรือน้ำแข็งโสโครก แต่กับ 16 Psyche นี้ประกอบไปด้วยนิกเกิ้ลและโลหะซึ่งเหมือนกันแกนกลางของโลก ด้วยลักษณะของมันทำให้นักวิทยาศาสตร์หลายคนตั้งข้อสันนิษฐานว่า 16 Psyche นี้อาจจะเคยเป็นแกนกลางของดาวเคราะห์ขนาดเท่าดาวอังคารก่อนที่จะแตกตัวหลังจากการปะทะหลายพันล้านปีก่อน แม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็อุดมไปด้วยทรัพยากรที่มีค่า บริษัทอเมริกัน Planetary Resources ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย James Cameron ผู้กำกับ Titanic กำลังวางแผนที่จะส่งยานยนต์ไปยังเหมืองแร่และโลหะหายากจากอุกกาบาตนี้เช่นกัน ขณะที่ภารกิจ Psyche ของ NASA นี้ พวกเขาคาดว่าจะตั้งขึ้นในปี ค.ศ.2022 และจะกำหนดเป้าหมายไปยังดาวเคราะห์น้อย 16 Psyche…
-
จับเอา “เหล่าผู้นำ” ของแต่ละประเทศมาถลกหนังออก เราล้วนเหมือนกันภายใต้ผิวนั้น…
ผลงานเหล่านี้เกิดจากกลุ่มคนที่ต้องการชี้ให้เห็นว่าภายใต้ผิวหนังที่หนาเพียงแค่ 1 มิลลิเมตรเราล้วนเป็นมนุษย์เหมือนกัน ด้วยไอเดียของ Alex Wadelton และการรีทัชภาพโดย Marcus Byrne ทำให้ได้ภาพผู้นำในแต่ละประเทศมุมแปลกๆ แบบนี้ พวกเขาอยากจะสื่อให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ ที่ไม่มีใครด้อยไปกว่าใคร แต่บางครั้งเราถูกแยกด้วยสถานะ การศึกษา การเงิน ส่วนเหล่านี้แบ่งเราออกจากกันแต่ภายใต้เนื้อหนังนี้ เราก็ยังเป็นคนเหมือนๆ กัน Donald Trump จากประเทศสหรัฐอเมริกา แม้การตัดต่อของพวกเขาจะเป็นการทำแบบถลกหนังออก แต่ยังคงเอกลักษณ์แต่ละคนเอาไว้ให้เราสามารถดูออกได้ทันทีว่าใครเป็นใคร แม้จะไม่มีป้ายชื่ออยู่ก็ตามที พวกเขาหวังว่างานเหล่านี้จะทำให้ผู้ที่ได้เห็นนั้นเข้าใจประเด็นที่ต้องการสื่อ และเล็งเห็นถึงความเท่าเทียมกันมากขึ้น เพียงแค่ได้ฉุกคิดเล็กน้อย ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว Vladimir Putin จากประเทศรัสเซีย Angela Merkel จากประเทศเยอรมัน Kim Jong-Un จากประเทสเกาหลีเหนือ Theresa May จากสหราชอาณาจักร สำหรับใครที่ต้องการชมวิดีโอความเห็นและเบื้องหลังการทำงานของพวกเขา ในคลิปนี้เลยครับ… นี่เป็นเพียงภาพบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นว่า ภายใต้เนื้อหนังของผู้นำแต่ละประเทศนั้น ไม่ว่าจะศาสนา ความเชื่อทางการเมืองแบบไหน พวกเขาก็ไม่ได้ต่างอะไรจากพวกเราที่เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง…
-
ผลงานตัวจบสุดจ๊าบ จากนักศึกษาศิลปากร เอาความเชื่อวิถีไทยมาถ่ายทอดมุมมองสมัยใหม่
ศิลปะนั้นนอกจากจะเป็นช่องทางที่ใช้ในการสื่อสารทางด้านอารมณ์และความรู้สึกแล้ว ยังเป็นช่องทางที่เราไว้ใช้แสดงความคิดของผู้สร้าง #เหมียวปั๊ก ได้ไปเจองานของพ่อหนุ่ม Kamolchat Pangtho ซึ่งเป็นนักศึกษาคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ จากมหาวิทยาลัยศิลปากรที่ได้วาดภาพเป็นศิลปนิพนธ์ในงาน NoirArtThesis2016 ที่จะจัดขึ้นเร็วๆนี้ โดยผลงานของเขานั้นบอกเล่าถึงความเชื่อในวิถีไทยที่ปรับตัวมีความทันสมัยอยู่เสมอ… ความเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิอยู่ทุกที่แม้กับเรื่องที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ตามเนื้อหาของเจ้าตัวนั้น ระบุว่า… “ความเชื่อความศรัทธาเป็นเรื่องที่อยู่กับคนไทยมาอย่างช้านาน แม้ว่าโลกปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีก้าวล้ำขนาดไหน เนื่องจากสังคมไทยเป็นสังคมอะลุ่มอล่วย ความเชื่อวิถีไทยก็ปรับตัวให้ตามทันเสมอ ยกตัวอย่างเช่น สาธุในโลกออนไลน์ กดถูกใจ กดแชร์ได้บุญ การนำพวงมาลัยไหว้เครื่องยนต์ การเทศน์ของพระที่ใช้เครื่องขยายเสียง เป็นต้น ซึ่งในขั้นแรกอาจมองว่าเป็นความงมงายไร้สติ แต่ถ้าลองมองในมุมมองที่ว่าสิ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นเป็นสิ่งที่ได้ผลจริง มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่จริง เราจะมองเห็นการพึ่งพากันอย่างงงงวยระหว่างความเชื่อและเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ในมุมมองที่ผิดแปลกไปจากความคุ้นชินปกติ และนอกจากนี้ แฝงแง่คิดที่ว่าเราควรละวางความเชื่อที่เหนี่ยวรั้งเราไว้ส่วนหนึ่ง แล้วพิจารณาในความไม่เชื่อของตัวเอง ลดอัตตา และทิฐิ เพื่อยอมรับในความแตกต่างซึ่งกันและกัน” บางครั้ง ศาลพระภูมิที่เราเห็นอาจจะมาจากยานอวกาศก็ได้นะ เขาจึงอยากนำเสนอเนื้อหาดังกล่าวผ่านงานจิตรกรรมที่นำเสนอภาพในโลกจินตนาการที่ผสมผสานระหว่างความเชื่อวิถีไทยเรื่องอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ภูต ผี กับนวนิยายวิทยาศาสตร์ เพื่อหาจุดเชื่อมโยงของทั้งสองสิ่ง ที่ดูเหมือนจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และบางทีเทวดานั้น แท้จริงอาจจะเป็นมนุษย์ต่างดาวก็ได้… . . ความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติที่ถูกสื่อออกมา…
-
รู้จักกับ “อิบราฮิม” ผู้ชนะการวิ่งมาราธอน 23 กิโลเมตร ด้วยถุงเท้าคู่เดียวเท่านั้น!!
ช่วงนี้หลายคนอาจจะได้เห็นกระแสการจัดงานมาราธอนในบ้านเรามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะว่าไปก็นับว่าเป็นข้อดีอย่างมาก เพราะช่วยทำให้ผู้คนเริ่มหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้นด้วยเช่นกัน แต่วันนี้เราจะไปกันที่ประเทศเคนย่า ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตนักวิ่งมาราธอนชั้นเยี่ยม และเป็นบ้านเกิดของหนุ่มนักวิ่งมาราธอนวัย 27 ปี Ibrahim Mukunga Wachira เขาเพิ่งแจ้งเกิดจากการชนะเลิศแข่งขันวิ่งมาราธอนที่ประเทศเอสโตเนีย โดยสิ่งที่ทำให้ยิ่งโด่งดังสุดขีดก็เพราะ วิ่งโดยมีถุงเท้าเพียงคู่เดียวเท่านั้น Ibrahim Mukunga Wachira นอกจากเจ้าตัวจะสร้างปรากฏการณ์คว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันมาราธอน จากการใส่ถุงเท้าคู่เดียวแล้ว เจ้าตัวยังได้สร้างสถิติใหม่ให้แก่การวิ่ง Tartu Half-Marathon ด้วยเวลา 1.13.23 ชั่วโมง ซึ่งอันที่จริงเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา พ่อหนุ่มก็ตั้งใจที่จะไปแข่งขันพร้อมกับรองเท้าวิ่งคู่ใจของเขานั่นแหละ แต่ทว่าเมื่อมาถึงจุดสตาร์ท เจ้าตัวกลับทำหายหลังจากที่ฝากเอาไว้กับคนรู้จักก่อนการแข่งขัน ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะพยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อขอความช่วยเหลือแล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนเวลาจะไม่ทันการ ทันทีที่เสียงปืนนัดแรกดังขึ้น ทุกคนก็ต้องออกวิ่งอย่างพร้อมเพียงกัน “ความรู้สึกช่วงแรกมันเป็นอะไรที่ยากลำบากมากครับ แต่หลังจากนั้นผมก็เริ่มชิน จนกระทั่งผมก็ได้รู้ว่ามันดีกว่าการใส่รองเท้าเยอะเลย” Ibrahim กล่าว จากเรื่องราวดังกล่าวทำให้เจ้าตัวแจ้งเกิดในวงการนักวิ่งเพียงชั่วข้ามคืน มีสำนักข่าวหลายแห่งเข้าไปศึกษาวิถีชีวิตของเขา และพบว่า… ก่อนหน้านี้ Ibrahim ต้องทำงานอยู่ในไร่ชากับครอบครัว และเป็นประจำทุกวันที่เขาต้องวิ่งด้วยเท้าเปล่าในระยะไกลอยู่เป็นประจำ ปัจจุบันเจ้าตัวก็ได้ออกเดินทางแข่งขันมาราธอน และคว้ารางวัลไปทั่วทวีปยุโรป โดยเจ้าตัวก็หวังว่าทั้งหมดนี้จะช่วยสร้างชื่อเสียง และความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ชาวบ้านชาวเมืองของเขาได้เช่นกัน…
-
ประวัติศาสตร์การใช้ “รถถังดัมมี่” ตบตาคู่ต่อสู้ ตั้งแต่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1-2
ย้อนกลับไปในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ซึ่งอันที่จริงพวกเราก็คงไม่มีใครเกิดทันหรอก จะให้เล่าย้อนกลับไปว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ดูจะยืดยาวเกินไป แต่วันนี้เราไปเจอสิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้น เมื่อมีการเปิดเผยว่าในสมัยสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง กองทัพในหลายๆ ประเทศ มีการใช้ “รถถังดัมมี่” หรือรถถังปลอม ในการตบตาศัตรูฝ่ายตรงข้ามด้วยเหมือนกัน ในยุคนั้นรถถังเป็นสิ่งที่มีราคาแพง ผลิตได้ยาก (ยังไม่เป็นยุครุ่งเรืองอย่างสงครามโลกครั้งที่ 2) และแน่นอนมันคือม้าเหล็กในสนามรบที่ทำให้หลายคนยำเกรง การสร้างของปลอมขึ้นมาจึงเป็นอีกหนึ่งกลยุยทธ์สำคัญ ขณะที่ในสงครามโลกครั้งที่ 2 มันก็มีส่วนในหลายกลยุทธ์ เช่น การหลอกว่าจะยกพลขึ้นบกในกรณีต่างๆ การยกทัพปลอม รวมถึงทำให้ฝ่ายนาซีสับสน จนกองทัพสัมพันธมิตรสามารถยึดหาดนอร์มังดีได้เป็นผลสำเร็จ วันนี้ก็เลยมีการรวบรวมภาพของเหล่ารถถังดัมมี่จากหลากหลายกองทัพ ซึ่งดูๆ ไปแล้วรถถังปลอมแต่ละคน น่ารักใช่เล่นเลยล่ะ ปี 1918 กับรถถังปลอมของทหารเยอรมัน ที่ถูกสร้างขึ้นโดยต้นอ้อ ปี 1925 ทหารเยอรมันกำลังนำรถถังดัมมี่ เข้าประจำการ ปี 1928 กับการเคลื่อนทัพรถถังดัมมี่ ที่ไม่สามารถยิงได้ ปี 1926 รถถังดัมมี่ และหน่วยทหารเยอรมัน ปี 1931…
-
ช่างภาพหนุ่มชาวอังกฤษ นำแมลงมาเอ็กซ์เรย์ ทำผลงานที่น้อยคนนักจะได้เคยเห็น!!
ปกติแล้วเราคงเคยเห็นภาพเอ็กซ์เรย์ในร่างกายของตัวเองจากคุณหมอกันมาบ้างแล้ว แต่น้อยคนนักที่จะเคยเห็นภาพเอ็กซ์เรย์ของสิ่งอื่น ที่ไม่ใช่อวัยวะในร่างกายของคนสินะ Nick Veasey ช่างภาพหนุ่มชาวบริติช ได้ปิ๊งไอเดียที่จะนำภาพของแมลงต่างๆ มาเผยแพร่เป็นผ่านเอ็กซ์เรย์จากร่างกายของพวกมัน เอาเป็นว่าลองตามไปชมกันดูเลย… โดยเจ้าตัวรู้สึกว่า การนำเสนอภาพเอ็กซ์เรย์ เป็นอะไรที่ดูแปลกใหม่ และแฝงไปด้วยปริศนาแห่งธรรมชาติไว้อย่างน่าสนใจ Nick Veasey เกิดเมื่อปี 1962 และเจ้าตัวก็ได้ทำงานในวงการสื่อโฆษณามาโดยตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยทำผลงานเกี่ยวกับเอ็กซ์เรย์รองเท้า และสิ่งของอื่นๆ จนทำให้ตัวเองกลายเป็นที่รู้จัก จนกระทั่งเจ้าตัวได้ปิ๊งไอเดีย ที่จะนำแมลงสต๊าฟต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว มาถ่ายภาพเอ็กซ์เรย์ เขาไม่ได้ไปนั่งไล่จับมันมาทีละตัวหรอกนะ สิ่งที่น่าสนใจอย่างมากก็คือกลไกการทำงานในร่างกายของพวกมัน มันเต็มไปด้วยความพิศวง และคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบอีกมากมาย ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น เขาใช้เวลานานกว่า 13 ปี ในการทำความรู้จัก และศึกษาเรื่องการถ่ายภาพเอ็กซ์เรย์จนเชี่ยวชาญ แต่แมลงบางตัวก็เล็กซะจนเอ็กซ์เรย์ออกมาไม่เห็นอะไรเลย ยิ่งเห็นแล้วก็ยิ่งทำให้เราอยากจะรู้จักกับพวกมันมากยิ่งขึ้น… แต่ถ้าใครกลัวแมลง งานนี้อาจจะยากซักหน่อยนะ และใครที่อยากจะติดตามผลงานของช่างภาพคนนี้เพิ่มเติม ก็เข้าไปได้ที่ Nickveasey ซึ่งเจ้าตัวได้รวบรวมผลงานเอ็กซ์เรย์ไว้ให้เราชมอีกมากมาย ที่มา: Designyoutrust
-
ชวนดู 10 ที่พักบ้านต้นไม้ ที่ได้รับการการันตีว่า… ดีและสวยงามที่สุดในโลก!!
ตอนเด็กๆ ใครต่างก็เคยฝันอยากมีบ้านหลังเล็กๆ อยู่บนต้นไม้กันทั้งนั้น ก็แค่คิดเล่นๆ ว่าอยากจะมีฐานทัพลับเป็นของตัวเอง เอาไว้เล่นกับเพื่อนๆ เหมือนในหนังฝรั่งกับเขาบ้าง แต่ถึงทุกวันนี้ความฝันวัยเด็กจะยังไม่เป็นจริง ก็ช่างมันปะไร เพราะเราจะพาไปชม 10 โรงแรมบ้านต้นไม้ที่ดีที่สุดในโลก ผู้ชนะรางวัล Loved by Guest จากเว็บไซต์ Hotels เอาเป็นว่าอยากจะหยิบไอเดียมาผสม สร้างเป็นของตัวเองก็ลองดู หรือถ้าใครรวยหน่อยอยากจะบินไปพักให้ครบก็ไม่ว่ากันนะ… 10. Daintree Eco Lodge & Spa ออสเตรเลีย ตั้งอยู่กลางป่าฝนอันเก่าแก่ Daintree ทางตอนเหนือของควีนส์แลนด์ ซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งในสถานที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ที่ยอดเยี่ยมสุดๆ ไปเลย ส่วนราคาเข้าพักก็ตกคืนละประมาณ 8,800 บาทเองนะเธอ 9. Eureka Springs Treehouses สหรัฐอเมริกา ถ้าคุณรู้สึกอยากจะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โดยมีกลิ่นอายของความเป็นเวนีซ นิวยอร์ก ซานตาเฟ่ หรือแม้แต่ปารีสละก็ ที่นี่มีทุกสไตล์ให้คุณพร้อม ราคาที่พักก็ไม่สูงมากเท่าไหร่ประมาณ 4,800 บาท 8.…
-
ตามไปชม 7 ตัวอย่าง “บ้านไมโคร” ถึงพื้นที่จะน้อย แต่ก็ทำให้บ้านดูเก๋ไก๋ได้ไม่แพ้กัน..!!
สมัยนี้เราไม่จำเป็นต้องมีบ้านที่มีขนาดพื้นที่กว้างขวางอย่างเดียวเท่านั้นถึงจะดูเท่อีกต่อไป เพราะแบบบ้านสไตล์ไมโครกำลังมาแรงสุดๆ โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่อาศัยอยู่ใจกลางเมืองหลวงที่มีขนาดพื้นที่จำกัดทั้งหลาย วันนี้เราจะพาไปชม 7 แบบบ้านไมโคร ถึงแม้ว่าพื้นที่จะมีอยู่อย่างจำกัด แต่คำว่าไอเดียกลับเป็นอะไรที่ใส่เพิ่มลงไปได้อย่างไม่จำกัดเลยทีเดียว… 1. Valentin Apartment เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ส่วนใหญ่แล้วอพาร์ทเม้นท์ในปารีสมักจะมีเพดานสูง และพื้นที่ใช้สอยขนาดเล็ก และที่อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ก็ได้เลือกใช้ปรับให้มันเป็นสไตล์ลอฟท์ โดยออกไปเดียไอเดียนำเอาห้องนอน แขวนอยู่ตรงกลางห้องนั่งเล่น ทำให้พื้นที่ๆ มีอยู่อย่างจำกัดดูเก๋ไก๋มีสไตล์ได้อย่างลงตัว 2. Quintana 4598 เมืองบัวโรสไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า อีกหนึ่งสตูดิโอพาร์ทเม้นท์จากแดนอเมริกาใต้ ที่เลือกใช้เทคนิคบิวท์อิน ในการตกแต่งห้องที่มีพื้นที่ขนาดจำกัด แม้ว่ารูปร่างภายนอกจะดูเรียบง่ายแบบนี้ แต่เอาจริงๆ แล้วมีพื้นที่ใช้สอยอยู่เยอะพอสมควรเลยล่ะ ถ่ะแด๊มม..!! เพราะห้องต่างๆ ภายในอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ ถูกออกแบบมาในลักษณะของบิวท์อิน ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมล่ะว่าลักษณะที่ดูเหมือนตู้เสื้อผ้าแบบนี้ ภายในจะเป็นได้ทั้งห้องครัวและห้องน้ำ 3. East Village Studio เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอย่างที่เรารู้กันดีว่าที่ค่าครองชีพในมหานครนิวยอร์กนั้นสูงมาก และที่ East Village Studio ที่ถูกออกแบบมาตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ โดยมีเพดานที่สูงกว่าปกติ และแผงกั้นจากไม้ที่แยกออกไปเป็นห้องครัว …
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ 17 ภาพเจ้าเหมียว แค่ยึดโลกยังไม่พอ นี่เอ็งจะยึดศาลเจ้าที่-หิ้งพระ ด้วยเร๊อะ..!!
ก่อนหน้านี้พวกเราทีมงาน Catdumb มักจะนำเสนอข่าวคราวเรื่องราวของเจ้าเหมียว ที่คิดวางแผ่นก่อการร้ายหวังจะยึดโลกมาแล้วนับไม่ถ้วน และก็เป็นอย่างที่เราเห็นกันว่า… ส่วนใหญ่แล้วพวกมันทำสำเร็จจริงๆ!! แต่คราวนี้ดูเหมือนว่าแผนการณ์ของพวกมันจะไปไกลมากกว่านั้น เพราะชาวเน็ตหลายคนได้นำภาพมาพิสูจน์ให้เราเห็นกันจะๆ เลยว่า ตอนนี้พวกมันเริ่มแผนการณ์ยึดศาลเจ้าที่แล้วนะเออ เรื่องของเรื่องคือก่อนหน้านี้ คุณ Pranee Kanjanasin ได้แชร์ภาพเจ้าเหมียวที่กำลังจะถูกนรกกินหัวมาให้เราดูกัน เจ้านี่ทำหน้ามึนๆ งงๆ ไม่รู้ร้อนรู้หนาว แล้วก็ก้มลงไปเลียกินน้ำพระอย่างมีความสุข อึ๋ยยยยย แต่ใช่ว่าจะมีแค่เจ้าตัวนี้ตัวเดียวที่ริอาจทำตัวเสมอเจ้า เพราะหลังจากที่เราได้เอารูปลงเพจ ชาวเน็ตต่างก็เอาภาพแมวของตัวเองมาแชร์ต่อกันให้เพียบ ที่บ้านอื่นก็เป็นเหมือนกันนะจ๊ะ ดู๊วว… เจ้าเหมียวนั่งเนียนเลยนะเอ็ง!! เจ้าเหมียวบอกว่า “อะไรกันไอ้พวกมานุ๊ด เรากวักให้จนเหนื่อยแล้วนะ ขอพักบ้างอะไรบ้าง” จิตใจต้องทำด้วยอะไรถึงโหดร้ายขนาดนี้ ไปแย่งที่นอนไม่พอยังแย่งน้ำเจ้าที่กินอีก!! บางทีเจ้าเหมียวก็บอกว่า “ไม่เชื่อก็ขอพรสิมนุษย์ เดี๋ยวเหมียวบันดาลให้เอง” ไหนมนุษย์… มีไรเอ็งว่ามา บางทีเหมียวก็รู้นะว่าไม่สมควร.. แต่หาได้แคร์ไม่ ดูสายตาจดจ้องของมันซะก่อน เอาจริงขนาดไหนถามใจเธอดู ชาวเน็ตบางคนถึงกับไม่มั่นใจ ว่าทุกวันนี้ตัวเองกราบพระ หรือแมวอยู่กันแน่!?…
-
ชายหนุ่มตัดสินใจฆ่าตัวตาย ด้วยเหตุผล “ไม่อยากอยู่ในโลก ที่มีแต่การก่อการร้าย…”
หลายคนอาจจะยังจำได้ดีกับเหตุการณ์เครื่องบินชนตึกเวิร์ลเทรด ในเดือนกันยายนปี 2001 หรือจะเป็นก่อการร้ายในกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ปี 2005 ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังมีเหตุการณ์โศกนาฎกรรมทำนองนี้เกิดขึ้นมาอีกเรื่อยๆ Tony Walter ชายอังกฤษวัย 52 ปี คือหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ในลอนดอนครั้งนั้น ทว่าภาพความทรงจำอันเลวร้ายยังคงตามหลอกหลอนเขามาเสมอ จนทำให้เจ้าตัวตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยเหตุผล “ไม่อยากอยู่ในโลกที่มีการก่อการร้ายอีกต่อไปแล้ว” Tony Walter Walter เป็นหนึ่งในผู้โดยสารของขบวนรถไฟ Edgware Road ที่ถูกระเบิดพลีชีพจนเกิดเป็นเหตุการณ์ 7/7 และทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 7 คน ทว่าหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดในคอนเสิร์ตของ Ariana Grande ที่ผ่านมาไม่นานนี้ เขาก็เป็นอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย และมันกลับกลายเป็นภาพหลอนที่ทำให้เจ้าตัวหวนคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม วันถัดมาเขาก็ยังไปทำงานปกติในวันที่ 23 พฤษภาคม โดยที่มีอาการบ่นถึงเพื่อนร่วมงาน และเล่าให้พวกเขาฟังว่าเหตุการณ์มันทำให้เขาหลอนถึงเรื่องเมื่อ 12 ปีก่อนด้วย “Tony เป็นหนึ่งในเหยื่อของเหตุการณ์ระเบิดที่คอนเสิร์ต เพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เกิดภาพแฟลชแบ็คขึ้นกับเขา ช่วงหลังก่อนที่เขาจะตัดสินใจฆ่าตัวตาย และนี่ก็เป็นความผิดของผู้ก่อการร้าย” เพื่อนร่วมงานของ Tony ให้สัมภาษณ์ โดยเมื่อวันที่…
-
ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์หมัดต่อหมัด หาก “อเมริกา-จีน-รัสเซีย” เปิดสงครามตอนนี้ ใครจะชนะ!?
ในปัจจุบันที่สถานการณ์โลกนั้นมีความร้อนระอุทั้งด้านการก่อการร้าย การขาดดุลทางการค้า อาวุธนิวเคลียร์ รวมไปถึงสถานการณ์ตึงเครียดในแต่ละประเทศ ล้วนเป็นปัจจัยที่สามารถนำไปสู่สงครามได้ทั้งสิ้น เพื่อนๆ เคยคิดเล่นๆ กันใหม่ว่าหากประเทศมหาอำนาจทั้ง 3 อันดับ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน และ สหพันธรัฐรัสเซีย ทำสงครามรบพุ่งกันแบบตรงๆ ไปสนสุนัขสนแมว มันจะเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าประเทศไหนจะสามารถกุมชัยชนะเด็ดขาดได้ แต่วันนี้เลยลองทำการแปลข้อมูลข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกำลังทางทหารของทั้ง 3 ประเทศโดยแบ่งเป็น 4 หัวข้อจากผู้เชี่ยวชาญ มาเป็นอาหารสมองให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ 1. เครื่องบินขับไล่ ฝูงบินของอเมริกามี F-22 ที่มีความโดดเด่นในเรื่องการพรางตัวที่ดี ถึงขั้นที่เรียกกันว่าเครื่องล่องหน จนถูกขนานนามว่าเป็นเครื่องบินขับไล่ที่ดีที่สุดในโลก จึงทำให้อเมริกามีอำนาจในน่านฟ้ามากกว่า 2 ประเทศอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่รัสเซียไม่น้อยหน้าใช้ Su-35BM ที่หน้าจอแสดงผลมีความชัดเจนและยังเชื่อมต่อฐานข้อมูลกับดาวเทียมได้ และจีนที่ใช้ J20 เป็นเครื่องบินขับไล่รุ่นล่าสุดที่โดดเด่นในความปราดเปรียวแม้จะมีขนาดที่ใหญ่ก็ตาม 2. รถถัง รถถัง M1 Abrams แม้จะประจำการมานานในกองทัพสหรัฐแต่ก็ผ่านการอัพเกรดทั้งเกราะและอาวุธจนมีความทันสมัย ในขณะที่ประเทศจีนมีรถถัง Type 99 ยังไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ ดูเหมือนว่าดาวเด่นทางด้านนี้จะตกไปอยู่ที่รัสเซียที่มีรถถังอย่าง T-90 ที่มีอุปกรณ์ทันสมัยอย่าง เครื่องสร้างคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ระบบรบกวนสัญญาณจรวดนำวิถีต่อต้านรถถังอินฟราเรด…
-
สีผิวไม่ได้กำหนดความสวย พบกับ Queen Of The Dark นางแบบสาวซูดานผู้มีเอกลักษณ์
สำหรับหลายคน ความเชื่อเรื่องความสวยงามและสีผิว ยังคงจำกัดอยู่ที่ผิวขาว ผิวเหลือง หรือผิวแทน และมองว่าการมีผิวสีดำนั้นคือความไม่งดงาน แต่เธอคนนี้กลับใช้สีผิวอันเป็นเอกลักษณ์มาสร้างชื่อเสียงให้ตนเอง Nyakim Gatwech เจ้าของฉายา เธอเป็นชาวซูดานที่มีสีผิวที่ดำเนียนสนิท และเมื่อภาพของเธอเผยแพร่สู่สาธารณะ เอกลักษณ์ของเธอเป็นที่สะกดแก่เหล่าแฟนคลับจนเธอได้ฉายาว่า Queen Of The Dark Nyakim Gatwech เจ้าของฉายา Queen Of The Dark ในช่วงแรกเธอยอมรับว่าโดนดูถูกและกดดันจากคนจำนวนมาก เพียงเพราะเธอมีสีผิวที่ไม่เหมือนคนอื่น เนื่องจากสีผิวดำของเธอนั้นอยู่ในโทนที่ดำสนิท ในตอนหลังเธอเรียนรู้ที่จะยอมรับและนำมาเป็นจุดแข็งของเธอในการโพสท่าถ่ายภาพ เธอเคยโดนถามเชิงดูถูกเกี่ยวกับสีผิวของเธอขณะที่เธอกำลังนั่งรถประจำทางเพื่อไปทำงานใจความว่า “ขอโทษนะครับ อย่าหาว่าผมอะไรเลย ถ้าผมจ้างคุณ 10,000 ดอลลาร์ (350,000 บาท) คุณจะยอมฟอกสีผิวเป็นสีขาวไหม” เธอไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับไป เธอเพียงแค่หัวเราะกับเรื่องนี้ตลอดทาง แม้เธอจะโดนดูถูกแต่เธอไม่เคยเก็บมาใส่ใจ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอโดนดูถูกโดยเธอได้แชร์เรื่องราวนี้ออกไปเพื่อเป็นการกระตุ้นว่า “มันไม่สำคัญว่าคุณจะมีสีผิวอะไร มันคือพรที่เราได้รับ เราควรที่จะโอบกอดมัน” นอกจากจะสวยจากข้างนอกแล้ว เธอยังสวยจากข้างในอีกด้วย ภาพถ่ายของเธอล้วนมีเอกลักษณ์ในแบบของเธอ…
-
เริ่ดไปเลยลูกแม่!! พาไปชมขบวนพาเหรด “เจ้าเตี้ยดัชชุน” แต่งแฟนซีอวดโฉมกันที่รัสเซีย
เหล่าสุนัขดัชชุนกว่า 100 ตัวถูกจับสวมชุดแฟนซีเพื่อเดินขบวนพาเหรดประจำปี ซึ่งในปีนี้ก็จะขึ้นเป็นครั้งที่ 6 ณ เมือง St Petersburg ประเทศรัสเซีย ด้วยความน่ารักและขนาดตัวของพวกมันทำให้ผู้ชมบางคนคิดว่าพวกมันเป็นแมว อันที่จริงแล้วมันคือสุนัขพันธุ์ดัชชุน เจ้าของเอกลักษณ์เตี้ยตะแมะแคะ โดยงานนี้ตั้งใจที่จะจัดให้ตรงกับ City Day และวันเด็ก เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้แก่ชาวเมืองของรัสเซีย เรียกข้าว่าสฟิงซ์ เจ้ามนุษย์!! ไหนๆ ใครทำบาป เดี๋ยวผมจิ้มด้วยส้อมเลยนะงิ หนูสวยเกินไปแล้วนะลูก ~ เจ้าหมา 2 ตัวนี้แต่งเป็นแรบไบตามเจ้าของมัน หนูสวยไหม!? โฮโฮ่!! ผมเป็นหมาสัญชาติจีนด้วยแหละฮะ วัวอะไรทำไมตัวเล็กจัง เครื่องแต่งกายนั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นสฟิงซ์ ปิศาจ จนถึงชุดแฟนซีน่ารักๆ ด้วยขนาดตัวที่เล็กนั้นสามารถเรียกเสียงฮือฮาจากเด็กและชาวเมืองได้ตลอดทั้งงานเลยทีเดียว ที่มา: dailymail
-
ตำรวจพาหนุ่มเมาไร้สติไปส่งบ้าน แถมถ่ายเซลฟี่ไว้เป็นหลักฐาน อะไรจะเกรียนขนาดนี้!!
#เหมียวปั๊ก เชื่อว่ามีใครหลายคนที่เคยดื่มหนักจนถึงขนาด “วาร์ป” กันไปข้างหนึ่งมาแล้ว ไม่ว่าจะวาร์ปไปอยู่ที่บ้านเพื่อน หรือนอนอยู่ในรถตัวเอง หรือบางคนก็นอนตรงหน้าร้านนั่นแหละ สำหรับหนุ่มคนนี้ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเขาอยู่ที่เตียงนอนของตนเองอย่างปลอดภัยพร้อมกับทรัพย์สินที่ติดตัวของเขานั้นอยู่ครบ หลังจากที่เมื่อคืนเขาไปปาร์ตี้สุดเหวี่ยงลืมโลก แต่เมื่อเขานำมือถือมาเลื่อนดูรูปเขากลับพบภาพอันน่าประทับใจนี้เข้าให้ สวัสดี!! คราวหลังก็อย่าเมาอีกนะพวก ข้อความที่เขาโพสต์ว่า “ผมก็ดูโทรศัพท์ และก็พบเซลฟี่รูปนี้ในเครื่อง คาดว่าพวกเขาคงถ่ายเป็นหลักฐานหลังจากแบกศพของผมกลับมาบ้านแน่ๆ โคตรเจ๋งอ่ะพี่” หลังจากที่เขาเมาสลบไปข้างถนนดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คนนี้จะเป็นคนพาเขากลับมาที่บ้านอย่างปลอดภัย ก่อนที่พวกเขาจะจากไปก็ได้โพสท่าถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซะด้วย หลังจากนั้นไม่นานผู้ใช้งานชื่อว่า CtrldKilla ได้โพสภาพเหล่านี้ลงบนเว็บไซต์เรดดิท มีชาวเน็ตได้หาข้อมูลเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ 2 คนนี้นั้นมาจากเมือง Launceston รัฐ Tasmania ประเทศออสเตรเลีย รูปภาพดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมากจากคนที่เข้าไปอ่านกระทู้เป็นอย่างมาก มีผู้ใช้หลายคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณตำรวจ 2 ท่านนี้เป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่นั้นได้ให้ความชื่นชมคุณตำรวจว่าเป็นการปฎิบัติงานที่น่ารักมาก บางคนก็กล่าวชื่นชมว่า “ขอยกนิ้วให้เลย!” หรือบ้างก็ว่า “พวกคุณคือเป็นหน่วยช่วยเหลือ (คนเมา) ฉุกเฉินที่แท้จริง” มีความคิดเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับรูปภาพนี้ “ถ้านายเมาในอเมริกาแบบนี้นายโดนจับเข้าคุกไปแล้ว” หรือเช่น “ตำรวจก็เป็นคนเหมือนเรา เขาก็มีอารมณ์ขันเหมือนกันนะ” ก็ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีของชายหนุ่มผู้นี้ที่ได้รับการดูแลจากตำรวจ แต่ทางที่ดีที่สุดคือการดื่มแต่พอดีไม่ขาดสตินะจ๊ะ ที่มา: dailymail
-
10 บุคคลที่บังเอิญชื่อเหมือนคนดัง และพวกเขาบอกว่า มันทำให้ชีวิตลำบ๊ากลำบาก!!
เราอาจจะมีเพื่อนที่ชื่อโหลหรือคล้ายกัน เช่น สมชาย สมศรี สมบัติ แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อทั้งชื่อและนามสกุลของเราดั๊นนนนนน… ดันไปเหมือนกับชื่อของดาราหรือศิลปินชื่อดังจนเกิดเป็นเหตุการณ์ป่วนๆ ในชีวิตประจำวันเหมือน 10 คนนี้ Justin Bieber จาก JacksonVille ไม่มีใครไม่รู้จักป๊อปสตาร์ชื่อดังอย่าง Justin Bieber เด็กหนุ่มเสียงดีมีหน้าตาเป็นอาวุธ แต่กับ Justin Bieber อีกคนหนึ่งนั้น เขาเป็นเพียงชายวัย 35 ปีที่ถูกทางเฟซบุ๊กแบนชื่อของเนื่องจากตรวจพบว่าเป็น “ชื่อปลอม” (แต่มันเป็นชื่อจริงๆ ของเขาโว้ย) เขายังบอกเล่าอีกว่าในทุกคืนเขามักจะได้รับโทรศัพท์จากคนแปลกหน้าโทรมาบอกรักบ้าง ด่าเขาบ้าง และถึงแม้เขาจะเปลี่ยนเบอร์แต่ก็ยังมีมือดีค้นเบอร์และโทรมาหาเขาอีกจนได้!! Beyoncé จาก New York “ทุกๆครั้งหลังจากที่ครูขานชื่อฉันในห้องเรียน เพื่อนๆ ก็มักจะร้องเพลง Single Lady ไล่หลังอยู่เสมอ” หนูน้อย Beyoncé นักเรียนจาก NYC กล่าว แต่ถึงแม้ว่าเธอจะถูกแซวบ้างแต่เธอก็ยังภูมิใจในชื่อของเธอที่เหมือนกับนักร้องสาวผู้เป็นแรงบันดาลใจ Matt LeBlanc จาก Canada นอกจากชื่อที่เหมือนแล้วหน้าตาของเจ้าหนุ่ม Matt LeBlanc…
-
ยิ่งกว่าในหนัง เรื่องราวเจ้าชายแอฟริกัน ครั้งหนึ่งเคยถูกขายเป็นทาสในอเมริกากว่า 40 ปี!!
ในประวัติศาสตร์ของอเมริกา มีอยู่ช่วงหนึ่งที่อเมริกาได้ใช้แรงงานทาสเป็นแรงงานหลักในการทำอุสาหกรรมแถบรัฐตอนใต้ โดยทาสส่วนใหญ่นั้นจะถูกส่งมาจากแอฟริกา โดยที่พวกเขาไม่สนใจว่าคนนั้นจะเป็นใครมาก่อน ขอแค่เป็นคนดำก็ใช้เป็นแรงงานทาสซื้อขายและใช้ทำงานกันได้แล้ว Abdulrahman Ibrahim Ibn Sori หนุ่มผู้มีชะตาพลิกผันคนนี้ เกิดในเมือง Timbo ในแถบแอฟริกาตะวันตกซึ่งปัจจุบันเป็นประเทศกินี โดยที่บิดาของเขาเป็นกษัตริย์ที่ร่ำรวยได้ตัดสินใจส่งเขาไปเรียนทีมหาวิทยาลัย Sankore เมือง Timbuktu ประเทศมาลีในปี ค.ศ.1771 Ibrahim ศึกษากฎหมายและปรัชญาและเมื่อจบการศึกษาเขากลับไปที่ Futa Jalion เพื่อเข้าร่วมเพื่อช่วยเหลือการทำงานของพ่อเขา โดยทำหน้าที่ดูแลกองทหารกองหนึ่ง ภาพวาดแสดงใบหน้าของนาย Abdulrahman Ibrahim ประมาณปี ค.ศ. 1788 เมื่อเขาอายุประมาณ 26 ปี Ibrahim นำกองทหารของบิดาคนหนึ่งเข้าร่วมในสนามรบ แต่น่าเสียดายที่เขาสูญเสียการต่อสู้และถูกจับเข้าคุกโดยชนเผ่าที่เป็นคู่ต่อสู้อย่าง Hebohs หลังจากนั้นเขาก็ถูกขายให้กับพ่อค้าทาสต่าง ๆ จนกระทั่งมาจบลงที่สหรัฐอเมริกาในปี 1788 เขาถูกประมูลไปโดยพันเอก Thomas Foster และกลายเป็นคนเก็บใยฝ้ายในไร่นาในเมืองมิสซิสซิปปี เขาถูกประมูลเพื่อเป็นทาสใช้แรงงานในไร่ฝ้าย เขาต้องใช้ชีวิตในไร่ฝ้ายของ Foster และทำงานอย่างหนักเช่นเดียวกับทาสคนอื่น แต่ไม่นานเขาได้พบกับด๊อกเตอร์ John Cox ซึ่งถือเป็นโชคดีมาก เพราะครั้งหนึ่งครอบครัวของ Ibrahim…
-
ชายหนุ่มทิ้งไข่ดิบไว้ในรถตอนเที่ยงวัน เพื่อพิสูจน์ว่าทำไม เราไม่ควรทิ้งสุนัข&เด็ก ไว้ในรถ!?
ปัญหาเรื่องสัตว์เลี้ยงถูกทิ้งไว้บนรถ มีให้เห็นอยู่เป็นประจำ และบางครั้งลงเอยด้วยความสูญเสียซะด้วย… เราอาจจะคิดว่าการที่เราปล่อยสัตว์เลี้ยงไว้ในรถที่จอดอยู่กลางแจ้งซัก 15 นาทีคงจะไม่เป็นไร แต่อันที่จริงแล้วนี่เป็นการกระทำที่อันตรายสามารถทำให้สัตว์เสียชีวิตได้ ด้วยเหตุที่ชายหนุ่มคนหนึ่งอยากจะทำโครงการรณรงค์ให้เข้าถึงคนที่เห็น ว่าการทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ในรถตอนแดดร้อน แม้เพียงระยะสั้นๆ ก็เป็นอันตราย เขาจึงนำไข่ดิบมาเป็นสิ่งทดสอบในครั้งนี้ ตามข้อมูลจากองค์กร PETA สุนัขหลายตัวต้องทนทุกข์กับการที่เจ้าของทิ้งมันไว้ในรถขณะที่พวกเขาทำธุระ ในวันที่อากาศปกติประมาณ 25 องศาเซลเซียส และมีแดดทั้งวัน อุณหภูมิในรถสามารถที่จะพุ่งทะยานถึง 37-48 องศาเซลเซียสได้โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ส่วนในเมืองร้อน ยิ่งอากาศอุณหภูมิประมาณ 32 องศาเซลเซียส เพียงแค่ทิ้งรถไว้ไม่ถึง 10 นาที อุณหภูมิก็สามารถพุ่งไปถึง 71 องศาเซลเซียสในเวลา 10 นาทีได้เช่นกัน เขาได้ทิ้งไข่ดิบใส่กระทะและเทอร์มอมิเตอร์วัดอุณหภูมิไว้ในรถ ความร้อนภายในรถนั้น ทำให้ไข่ไก่เริ่มสุก ในระยะเวลาไม่นาน ไม่ถึง 15 นาที ไข่ดิบก็กลายเป็นไข่สุกที่ทานได้แล้ว!! ผลจากการทดลองดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ในรถแม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก็สามารถที่จะทำให้สัตว์เลี้ยงเสียชีวิตได้ แม้ว่าจะเปิดกระจกเล็กน้อย แต่บางครั้งก็ไม่เพียงพอต่อการลดอุณหภูมิในรถ …
-
ครอบครัวนี้ได้เห็นแสงเหนือปีละ 200 กว่าวัน เพราะเลือกอาศัยอยู่แถบขั้วโลกเหนือ ในบ้านที่สร้างเอง!!
สำหรับช่วงก่อนเพื่อนๆ ก็คงจะได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับแอร์แสงเหนือกันมาบ้าง แน่นอนว่าการได้เห็นแสงเหนือและแชะภาพด้วยกันมาสักภาพสองภาพนั้นเป็นสิ่งที่หัวใจของหลายๆ คนปรารถนา แต่ไม่ใช่ว่าทุกๆ คนจะสมหวัง เพราะโอกาสที่จะได้เห็นแสงเหนือสวยๆ นั้นค่อนข้างยากเลยทีเดียว ในภาษานอร์เวย์นั้น Hjertefølger แปลออกมาได้ว่า ‘ผู้ทำตามหัวใจปรารถนา’ และแน่นอนครอบครัว Hjertefølger ก็ไม่ทำให้ชื่อของตระกูลของพวกเขาหม่นหมองแต่อย่างใด!! แต่อย่างไรก็ตาม ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้พวกเขาทั้ง 6 คนไปใช้ชีวิตกันในขั้วโลกเหนืออันแสนหนาวเหน็บในปี 2013 และทุกๆ วันนี้ พวกเขาก็ยังใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น ในบ้านเรือนกระจกพลังแสงอาทิตย์ของพวกเขา และที่สำคัญกว่านั้น เฉลี่ยแล้วพวกเขาได้เห็นแสงเหนือ 200 กว่าวันเลยทีเดียวในทุกๆ ปี!!? บ้านของครอบครัว Hjertefølger ตั้งอยู่บนเกาะ Sandhornøya ห่างออกไปทางตอนเหนือของกรุง Oslo ไป 1,000 กิโลเมตร เป็นบ้านโดมเรือนกระจก 3 ชั้น ประกอบด้วย 5 ห้องนอน มีความสูงทั้งสิ้น 7.62 เมตร โดมเรือนกระจกของพวกเขานั้นคือ Geodesic Dome หรือโดมที่ประกอบไปด้วยรูปสามเหลี่ยม โดยบ้านของพวกเขานั้นสร้างจากวัสดุธรรมชาติทั้งสิ้น ทั้งทราย โคลน และน้ำ ออกแบบมาในรูปแบบที่จะสามารถต้านทานกระแสลม ความหนาว…
-
ปรากฎการณ์ Kessler Syndrome ภาวะเศษขยะนอกโลกมากขึ้น จนอาจอันตรายต่อโลกเรา…
เราคงเคยได้ยินการปล่อยจรวดหรือดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศมาบ่อยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เดี่ยวนี้ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทำให้การนำสิ่งต่างๆ ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศและอวกาศได้ง่ายขึ้น แต่เราเคยคิดไหมว่าการที่เราได้ปล่อยจรวดและดาวเทียมขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมากๆ เข้าจะเกิดการสะสมของ “ขยะอวกาศ” โดยปรากฎการณ์นี้นั้นเรียกว่า Kessler Syndrome ภาพจากคอมพิวเตอร์ที่วิเคราะห์ปริมาณขยะอวกาศที่มนุษย์สร้างขึ้น… ย้อนกลับไปในปี 1979 ภาวะ Kessler syndrome ถูกพูดถึงโดยนักวิทยาศาสตร์ Donald J. Kessler และเขายื่นข้อมูลดังกล่าวให้ NASA เพื่อพิจารณาถึงความสำคัญของเรื่องนี้ โดยภาวะ Kessler synrome นั้นกล่าวถึงสถานการณ์ความหนาแน่นของวัตถุในวงโคจรต่ำ ที่นานวันเข้าการสะสมของขยะอวกาศนั้นมีมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อให้เกิดโอกาสการชนกันที่มากขึ้น ซึ่งนี้อาจจะทำให้การปล่อยยานอวกาศในรุ่นต่อๆ นั้นยากมากขึ้นเนื่องมาจากยานไม่สามารถฝ่าขยะอวกาศออกไปได้ หากเราปล่อยไว้ การสำรวจอวกาศในยุคถัดไปอาจจะทำได้ยากขึ้น นอกจากความหนาแน่นของขยะอวกาศแล้วยังเป็นเรื่องของ “ความเร็ว” ที่ขยะพวกนี้โคจรรอบโลกด้วยความเร็วมากกว่า 1,600 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอีกด้วย หนังเรื่อง Gravity แสดงให้เห็นถึงอันตรายของขยะอวกาศได้เป็นอย่างดี หลังจากที่ขยะอวกาศชนกันก็จะก่อให้เกิด “กลุ่มเมฆของเศษขยะขนาดเล็ก” แตกกระจายกันไปทั่วทุกทิศทางโดยมีความเร็วกว่า 32,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลองนึกสภาพว่าเจ้าเศษเล็กๆ เหล่านี้พุ่งชนเข้ากับยานอวกาศอยู่จะเกิดอะไรขึ้น แม้จะดูเล็กน้อยแต่ลองนึกสภาพว่าเศษซากกว่า 100 ชิ้นพุ่งตรงมาทิศเดียวกัน ด้วยความเร็วของเศษขยะอวกาศ มันสามารถที่จะเจาะทะลุเหล็กหนาได้ …
-
หนุ่มผุดไอเดียถ่ายภาพ “พรีอุปสมบท” ให้น้องชาย จนเกิดเป็นกระแสบนโลกโซเชียล!!
ปกติเราคงจะเห็นการถ่ายภาพพรีเว็ดดิ้ง หรือพรีงานสำคัญอะไรก็แล้วแต่กันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ว่านี่อาจจะเป็นครั้งแรกกับการที่มีชาวเน็ตคนหนึ่ง ได้ลองทำอะไรที่แตกต่างออกไป เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ หลังจากที่หนุ่มเจ้าของเฟซบุ๊ก 9Nottie ได้ผุดไอเดียถ่ายภาพให้น้องชายของเขาแนวใหม่ ที่เรียกว่า “พรีอุปสมบท” โดยภาพถ่ายทั้งหมดนี้ใช้ชื่ออัลบั้มว่า “เมื่อน้องชายของฉันกำลังจะบวช” เราลองตามไปชมกันดู ว่าภาพถ่ายพรีอุปสมบทของเขาจะออกมาเป็นยังไง… เขาบอกกับเราว่า… ในฐานะที่น้องชายบวชให้พ่อแม่ทั้งที งานนี้พี่ชายอาสาเป็นช่างภาพให้เอง ภาพจึงถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ของน้องชายก่อนที่จะเข้าพิธี ลองชมภาพเบื้องต้น ก่อนที่จะไปดูบทสัมภาษณ์ความคิดของเจ้าตัวกันด้านล่างครับ… . . . ด้วยกระแสที่มาแรงจนฉุดไม่อยู่ ทั้งแง่ดี และแง่ลบ งานนี้เว็บแคทดดั๊มบ์ก็เลยได้ติดต่อสัมภาษณ์คุณ 9Nottie ผู้เป็นเจ้าของภาพถ่าย ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ชี้แจงรายละเอียดดังนี้ “พระท่านวางแผนว่าจะบวชมาเป็นปีแล้วครับ รูปเซ็ทที่ถ่ายก็ถ่ายก่อนจะบวช 2 เดือนกว่า และก่อนถึงวันที่พระจะบวชจริงๆ ได้มีการเข้าไปอยู่วัดตามแนวทางที่มีการปฏิบัติกันมาครับ อยู่วัดก่อนหลายวันเพื่อจะท่องบทสวดมนต์ต่างๆ และเข้าโบสถ์ทำพิธีอุปสมบทไปแบบเรียบง่าย โดยที่ไม่มีการฉลองหรือจัดงานใหญ่โตอะไรครับ” “เรื่องถ่ายรูปคือถ้ายเสร็จตั้งแต่ต้นเดือนมีนาครับ และตอนจะบวชจริงๆ ก็เข้าวัดอยู่วัดท่องบมสวดมนต์ตามธรรมเนียมปรกติเลยครับ แล้วตอนบวชก็บวชแบบไม่มีการเลี้ยงฉลองหรือกินเหล้าอะไรกันเลย คนส่วนใหญ่อาจจะมองว่าถ่ายตอนนาคเป็นนาคที่กำลังจะเข้าพิธี แต่ผมก็น้อมรับทุกคำวิจารณ์นะครับ ตามที่ผมโพสต์ไว้ที่พันทิปเลยครับเพราะรู้อยู่แล้วว่างานแบบนี้มันต้องมีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบครับ” . . . แล้วไม่ทราบว่ากระแสตอบรับจากอัลบั้มนี้…
-
หนุ่มอังกฤษถูกสั่งจำคุก 9 ปี 6 เดือน ข้อหา “สูบบุหรี่บนเครื่องบิน” ย้ำเตือนกฎสำคัญ!!
ในขณะโดยสารบนเครื่องบินนั้น ผู้โดยสารจะต้องปฎิบัติตามกฎระเบียบที่ได้ตั้งไว้เพื่อความปลอดภัยต่อตัวผู้โดยสารเองและผู้อื่น แต่สำหรับคนบางคนกลับเห็นแก่ตัวและไม่ได้ทำตามจนเป็นเหตุทำให้ถูกลงโทษ โดยเฉพาะหนึ่งในกฎระเบียบที่ทุกคนรู้จักกันดีนั่นคือ “ห้ามสูบบุหรี่ตลอดการบิน” เรื่องราวตอนแรกย้อนไปเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2015 สายการบิน Monarch ได้แจ้งต่อผู้โดยสารว่าขณะนี้เครื่องบินเกิดเหตุเพลิงไหม้ในห้องน้ำ ขณะทำการบินอยู่ที่ความสูง 10,700 เมตรและห่างจากชายฝั่งอียิปต์ออกไป 160 กิโลเมตร บนเที่ยวบินระหว่างอียิปต์มายังประเทศอังกฤษ ด้วยเหตุไฟไหม้จึงทำให้กัปตันตัดสินใจลงจอดฉุกเฉินที่เมือง Sharm el-Sheikh ประเทศอียิปต์ ในการอพยพคนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้ต้องสงสัยถูกกักตัวไว้โดยทางการอียิปต์เมื่อเครื่องบินลงจอด และถูกส่งตัวกลับมายังสหราชอาณาจักรเพื่อดำเนินคดี John Cox ชายชาวอังกฤษวัย 46 ปีผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าตนนั้นเป็นคนวางเพลิงโดยเหตุเกิดจากการที่เขานั้นสูบบุหรี่และทิ้งก้นบุรี่ลงถังขยะที่เต็มไปด้วยกระดาษชำระใช้แล้ว โดยเบื้องต้นโทษของเขานั้นถูกตัดสินให้จำคุก 4 ปี 6 เดือน สาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดมาจากก้นบุหรี่ที่ดับไม่สนิทของ John Cox แต่เมื่อมีการสืบส่วนเพิ่มต้น พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินให้การว่าก่อนที่จะเกิดเหตุ John นั้นมีอาการมึนเมาจากฤทธิ์สุรา โดยแสดงอาการก้าวร้าวและหยาบคายใส่พนักงานและผู้โดยสารคนอื่นอยู่ตลอดเวลาก่อนที่จะเข้าห้องน้ำเพื่อสูบบุหรี่ ด้วยข้อมูลในจากสำนวนนี้ทำให้ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์เห็นด้วยกับผู้พิพากษาศาลสูงสุดว่า โทษที่ให้ไว้นั้นไม่เหมาะสม จึงเพิ่มโทษจาก 4 ปี 6 เดือนเป็น 9 ปี 6 เดือน…
-
อิ่มทั้งหมู่บ้าน… หนุ่มเท็กซัสออกไปล่ากบทำอาหาร โชว์ภาพกบ 6 กิโล ดังลั่นโลกออนไลน์!!
ในโลกเรายังคงมีสัตว์แปลกประหลาดรอให้เราไปค้นหาเหมือนกับเจ้ากบยักษ์นี่ที่สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากชาวเน็ตได้เหมือนกับภาพเจ้ากบ Bullfrog นี้ สำหรับกบดังกล่าว เป็นชื่อที่เอาไว้สำหรับเรียกกบที่มีขนาดใหญ่ โดยเจ้ากบสายพันธุ์นี้อาศัยอยู่ทั่วทุกมุมโลกไม่ว่าจะเป็นทวีปอเมริกา ออสเตรเลีย แอฟริกา หรือแม้กระทั่งเอเชียบ้านเรา ตัวอย่างกบ Bullfrog จากทวีปแอฟริกา เมื่อไม่นานมานี้มีชายหนุ่มรัฐเท็กซัส ในประเทศสหรัฐอเมริกา นามว่า Marcuz Rangel ได้โพสรูปภาพของตนเองกับกบ Bullfrog ที่เขาอ้างว่ามีน้ำหนักถึง 6 กิโลกรัม ซึ่งเจ้ากบดังกล่าวงเขาจับได้ใน Batesville ขณะที่เขาออกไปล่ากบ-ตกปลานั่นเอง ก่อนที่โพสต์นี้จะถูกแชร์ต่อโดยกลุ่มนักล่าสัตว์ South Texas Hunting Association ภาพที่โพสนั้นเรียกไลค์และยอดแชร์ได้เยอะเหมือนกันนะเนี่ยะ หลังจากการตรวจสอบจากทาง Steve Lightfoot โฆษกของสวนสัตว์เท็กซัสและกรมสัตว์ป่าก็พบว่าภาพที่ถ่ายอยู่นี้เป็นภาพจริงไม่มีการตัดต่อ และกบ Bullfrog ขนาด 6 กิโลก็มีอยู่จริง แต่ถึงกระนั้น Steve ก็ออกมากล่าวเพิมเติ่มว่า “สำหรับกบ Bullfrog นี้อาจจะใหญ่ แต่ก็ไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่เหมือนภาพถ่ายจริงๆ ซึ่งนี้เป็นภาพลวงตาที่เกิดจากการนำกบมาวางไว้ในตำแหน่งที่ใกล้กับกล้อง จนเกิดเป็นมุมที่ทำให้กบนั้นดูตัวใหญ่จากความเป็นจริง” หากสังเกตดีๆ เจ้ากบที่ตัวมีขนาดใหญ่อาจจะเป็นเพราะมุมกล้องก็ได้นะ หลังจากที่ภาพถูกเผยแพร่ ผู้ใช้เฟซบุ๊กต่างก็แสดงความคิดเห็นและเสียงวิพากษ์วิจารณ์มีทั้งเชื่อว่าเป็นภาพจริงที่ไม่มีการจัดฉากและภาพลวงโลกก็มี แต่การจับกบขนาด…
-
17 ภาพถ้าเหล่า “ผู้กำกับหนัง” มีบ้านของตัวเอง หน้าตาบ้านพวกเขาคงจะประมาณนี้สินะ!!
สำหรับคนชอบดูหนัง เพื่อนๆ เคยสงสัยเหมือน #เหมียวปั๊ก ไหมว่าถ้าบรรดาผู้กำกับนั้นมีบ้านอยู่ในหนังที่เขาสร้างหน้าตาจะเป็นเช่นไร Federico Babina คือศิลปินที่นำเอาความชอบส่วนตัวนั่นคือ สถาปัตยกรรม ภาพวาด และ ภาพยนตร์ มาเป็นคอนเซ็ปต์และวาดมันออกมาจนกลายเป็นผลงานภาพของบ้านผู้กำกับที่สื่อถึงแนวหนังของพวกเขา ลองมาดูกันสิ เผื่อว่าจะมีผู้กำกับภาพยนตร์คนโปรดและเรื่องในดวงใจของเพื่อนๆ รวมอยู่ในนี้ก็ได้นะ Tim Burton กับบ้านแนวคัลท์ๆ ของเค้า David Lynch ผู้กำกับมากความสามารถไม่ว่าจะการถ่ายภาพรวมไปถึงนัดวาดภาพ George Lucas กับบ้าน Star Wars ของเขา ว้าว!! Alfred Joseph Hitchcock กับบ้านแนวสยองขวัญ Charlie Chaplin นอกจากจะแสดงแล้วยังเป็นผู้กำกับหนังเงียบอีกด้วยนะ!! Federico Fellini ผู้กำกับชาวอิตาลีกับบ้านแนวแฟนตาซีบาโรค Stanley Kubrick กับบ้านที่อ้างอิงจากหนัง The Space Odyssey Emir…
-
เด็กวัย 11 ปี เขียนคำแนะนำถึงครูกรณีทำโทษยกชั้น เพราะผิดอนุสัญญาเจนีวาปี 1949
ใครๆ มักจะบอกว่าเวลาที่เด็กตอบคำถามจะไม่ค่อยโกหกเนื่องมาจากความไร้เดียงสา และดูเหมือนว่าคำกล่าวนี้ยังคงเป็นจริงในปัจจุบัน Ava Morrison-Bell เด็กหญิงอายุ 11 ปีจากสหราชอาณาจักร ได้ให้ข้อเสนอแนะแก่คุณครูในการพัฒนาการเรียนการสอนภายในห้องเรียน เธอไม่รอช้าที่จะเขียนลงไปในใบข้อเสนอแนะของโรงเรียนว่า “คุณครูไม่ควรทำโทษยกชั้นนะ เพราะบางคนยังไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ซึ่งการกระทำแบบนี้ผิดสัญญาเจนีวาปี 1949 นี่ถือเป็นอาชญากรรมทางสงคราม!! “ ครูคะ นี่มันคืออาชญากรรมทางสงคราม!! สำหรับอนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 นั้นจะมีทั้งหมด 4 ฉบับ เป็นอนุสัญญาที่มีไว้คุ้มครองพลเรือนและผู้ที่ไม่มีส่วนในการสู้รบ โดยจะต้องได้รับการยกเว้นไม่ถูกกระทำอันตราย และควรได้รับการปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรม และในกรณีดังกล่าวที่เธอร้องเรียนกับทางโรงเรียนก็คือ ไม่ควรที่จะทำโทษยกชั้นเรียน ทั้งๆ ที่คนอื่นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลยนั่นเอง ด้วยความฉลาดเกินวัยและความไร้เดียงสาของเธอทำให้พ่อของเธอถ่ายภาพคำตอบของเธอ นำมา Tweet ก่อนที่จะมียอดไลค์และยอดแชร์มากกว่า 100,000 นอกจากนั้นคุณพ่อยังถามความคิดเห็นจากชาวเน็ตว่าเขาควรจะทำเช่นไรดี เขาควรจะกักบริเวณเธอหรือควรจะซื้อไอศกรีมให้เธอเป็นรางวัลจากความคิดเห็นของเธอดี หลังจากนั้นไม่นานชาวเน็ตก็ตอบกลับมาเป็นเสียงเดียวกันว่า ซื้อไอศกรีมให้เธอสิ!! แหม่~ ลูกคุณออกจะฉลาดเกินวัยขนาดนี้ สมควรได้รับรางวัลนะ ทำไมต้องกักบริเวณเธอ? ในเมื่อครูอยากได้ข้อเสนอแนะเธอก็ให้นะ เธอควรได้รับรางวัลค่ะ คุณพ่อ ไอศกรีมแน่นอน…
-
ชวนรู้จัก Gal Gadot จากทหารสาวสู่เวทีนางงาม ก่อนจะกลายเป็น Wonder Woman
สำหรับเพื่อนๆ ที่มีแผนจะเข้าชมภาพยนตร์เรื่อง Wonder Woman หนังฟอร์มยักษ์ของ DC Entertainment ที่บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าหญิงไดอาน่าซุปเปอร์ฮีโร่ผู้กอบกู้โลกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยบทบาทที่ต้องบู๊สะบั้นหั่นแหลกตามฉบับของ Wonder Woman จึงเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยที่จะหาคนมารับบทที่นอกจะสามารถบู๊ได้แล้วยังต้องสวยสะกดทุกสายตาด้วย #เหมียวปั๊ก เลยจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ Gal Gadot คุณแม่ลูก 2 สุดแซ่บผู้รับบทเป็น Wonder Woman Gal Gadot เกิดเมื่อวันที่ 30 เมษายน ปี 1985 ที่เมือง Rosh Ha’ayin ประเทศอิสราเอล แต่งงานกับ Yaron Versano เจ้าของโรงแรมสุดหรูและมีลูกด้วยกัน 2 คน ปัจจุบันเธออายุ 32 ปี Gal ถ่ายรูปคู่กับสามีของเธอ Yaron Versano ก่อนที่เธอนั้นจะเลือกเดินเส้นทางบนจอเงิน เธอเคยเข้าร่วมกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล หรือ IDF ประจำการเป็นเวลาถึง…
-
เผยวีรกรรมอันกล้าหาญ ของสายลับหญิง Krystyna Skarbek ในสงครามโลกครั้งที่ 2
ในสงครามนั้นเป็นไปได้ยากที่เราจะสามารถบันทึกได้ประวัติศาสตร์ไว้ได้ซอกทุกมุมและนำมาบอกเล่าต่อในมุมมองที่สามารถเชื่อถือได้ แต่อย่างไรก็ตาม #เหมียวปั๊ก ได้ไปเจอเข้ากับเรื่องราวของนาง Krystyna Skarbek ที่ใครหลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อของเธอ แต่วีรกรรมของเธอได้รับการยืนยันและมีความน่าเชื่อถือจนถึงขนาดเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวละครในหนังฮอลลีวูดเลยทีเดียว ดูผิวเผินเธอไม่ต่างจากผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ด้วยเรื่องราวที่ไม่ธรรมดาของเธอในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 การรุกรานของพรรคนาซีที่โปแลนด์ในปี 1939 ได้แปรเปลี่ยนเธอจากลูกสาวของท่านเค้าท์ ให้กลายมาเป็นสายลับสาว ในปี 1944 เธอถูกขนานนามว่าเป็นสายลับคนโปรดของ Winston Churchill อดีตนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร และด้วยบุคลิกของเธอทำให้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจสร้างตัวละคร Vesper Lynd ในหนัง Casino Royale ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังสายลับ James Bond ด้วย Vesper Lynd ตัวละครสมมติในหนังเรื่อง Casino Royale เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอกำลังเดินทางไปยังลอนดอนกับสามีคนที่ 2 ของเธอในปี 1938 หลังจากที่เธอรู้ข่าวว่าประเทศโปแลนด์อันเป็นที่รักของเธอถูกรุกราน เธอจึงตัดสินใจที่จะเข้ากองทัพของอังกฤษเพื่อช่วยเหลือประเทศของเธอ และนี่เป็นจุดเริ่มต้นภารกิจแรกของการเป็นสายลับของเธอ โดยหนึ่งในภารกิจของเธอนั้น เธอต้องปลอมตัวเป็นนักข่าวประจำอยู่ที่บูดาเปสต์ แทรกซึมไปยังประเทศสโลวาเกีย แล่นสกีตามชายแดนเพื่อข้ามไปยังประเทศโปแลนด์เข้าสู่เมือง Zakopane เพื่อเก็บข้อมูลทางการทหารต่างๆ เธอสามารถแทรกซึมเข้าสู่พื้นที่ต่างๆ ได้ไม่ต่างจากสายลับทั่วไป…
-
5 ลักษณะนิสัยของคนจาก “รูปโปรไฟล์” ไม่ใช่หลักสูตรหมอดู เป็นงานวิจัยจริงๆ จังๆ!!
สำหรับเฟซบุ๊คก็เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่แสดงและยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นๆ โดยเฉพาประเทศไทยนี่เรียกได้ว่าแทบจะเล่นกันทุกคนเลยทีเดียว วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มีบทความดีๆ ที่จะทำให้เพื่อนๆ สังเกตบุคลิกต่างๆ ของคนแต่ละประเภทในเฟซบุ๊ค จากรูปโปรไฟล์ของพวกเขากัน สำหรับงานวิจัยนี้ก็ได้ถูกตีพิมพ์ลงใน AAAI Digital Library ซึ่งทำการวิจัยโดยวิเคราะห์จากรูปของผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายพันคน (ซึ่งในกรณีนี้ก็เป็นรูปโปรไฟล์เหมือนกันนั่นแหละ) ซึ่งหลักๆ แล้วแบ่งออกได้เป็น 5 ลักษณะแหละ อ่านนิสัยคนจากรูปโปรไฟล์ ลักษณะของคนที่มีความซื่อตรง รูปถ่ายของเขาจะดูมีความเป็นธรรมชาติสูง มีสีสัน และจะค่อนข้างดูสว่างๆ แถมมักจะชอบแสดงอารมณ์ในภาพ และหลากหลายบุคลิกที่พวกเขามี อาจกล่าวได้ว่าคนเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะทำในสิ่งที่ผู้คนรอบข้างคาดหวังและคิดว่าเขาจะทำ ลักษณะของผู้ที่เปิดกว้าง และรับประสบการณ์ใหม่ๆ คนเหล่านี้จะมีแนวโน้มในการใช้ภาพที่ดีที่สุดที่พวกเขาเลือกสรรมาเป็นอย่างดี มีความคมชัด และมักมีความแตกต่างกับภาพก่อนๆ สูง แถมมีความอาร์ท แนวๆ ต้องอินดี้ไม่เหมือนใคร แต่ใบหน้าของพวกเขาจะเป็นสัดส่วนหลักของภาพเกือบทุกภาพที่เอาขึ้นรูปโปลไฟล์ล่ะ ลักษณะของคนที่ชอบเข้าสังคม พวกเขาจะชอบใช้รูปภาพที่มีสีสันที่หลากหลาย และมักจะใช้ภาพที่ไม่ได้มีแต่พวกเขาคนเดียว อาจจะมีเพื่อนสักคนสองคน หรือทั้งกลุ่มรวมอยู่ในภาพ และลักษณะสำคัญที่สุดก็คือ มักจะฉีกยิ้มจนกว้างถึงใบหูเกือบทุกๆ ภาพเลยล่ะ ลักษณะของผู้ที่มีความมั่นคงทางอารมณ์สูง มักจะใช้ภาพที่สีสันไม่ฉูดฉาดจนมากเกินไป และไม่แสดงออกทางสีหน้ามาก บางภาพอาจมีการปิดบังใบหน้าของพวกเขาไว้ส่วนหนึ่งอีกด้วย ลักษณะของผู้ที่มีความพึงพอใจกับอะไรได้ง่ายๆ…
-
NASA ปล่อยเทปบันทึกเสียงดาวพฤหัสจากยานจูโน่ เผยเสียงที่ซ้อนทับเหมือนดั่งบทเพลง
ยานอวกาศจูโนถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศทำภารกิจสำรวจดาวพฤหัสเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2011 และไปถึงดาวเคราะห์เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2016 โดยจะทำการสำรวจและบันทึกข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับดาวพฤหัส ก่อนที่จะส่งข้อมูลเหล่านั้นกลับมาสู่โลก อย่างที่เราทราบกันดีว่าดาวพฤหัสนั้น มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะและมีสภาพอากาศเลวร้าย มีพายุขนาดใหญ่จนสามารถสังเกตได้จากนอกอวกาศเลยทีเดียว จุดกลมบริเวณล่างขวาของดาวพฤหัสคือพายุขนาดใหญ่ และเมื่อไม่นานมานี้ทาง NASA ได้ปล่อยเสียงที่บันทึกได้จากยานสำรวจจูโน่ ซึ่งเป็นเสียงพลาสม่าของดาวพฤหัส โดยบันทึกเสียงนี้มีความยาวกว่า 2 นาที แม้จะเป็นเสียงที่ฟังดูน่ากลัว แต่ลักษณะของมันก็มีความคล้ายคลึงกับเสียงเพลงที่ซ้อนทับอยู่ตลอดทั้งบันทึก ยานจูโน่ ยานที่ทำการสำรวจดาวพฤหัส เพื่อนำข้อมูลกลับมายังโลก NASA ได้เพิ่มเติมเอาไว้ว่าข้อมูลที่บันทึกได้นี้ เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการวัดความหนาแน่นของพลาสม่าในชั้นบรรยากาศของดาวพฤหัส และคลื่นเสียงแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทาง NASA บันทึกได้มีความถี่สูงเกินกว่าที่มนุษย์จะได้ยิน ดังนั้นทาง NASA จึงได้ปรับแต่งบันทึกเสียงนี้ให้อยู่ในระดับที่มนุษย์สามารถรับรู้ได้ เสียงที่ยานจูโนสามารถบันทึกได้จากดาวพฤหัส โดยเสียง ‘บี๊บ’ ที่ดังอยู่ในบันทึกนั้น ทาง NASA ยังหาคำอธิบายไม่ได้ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ยานจูโน่สามารถบันทึกเสียงจากชั้นบรรยากาศ Magnetpsphere ของดาวพฤหัสได้ แต่เสียงส่วนใหญ่ที่บันทึกได้มักจะมีความถี่สูงเกินไป ดังนั้น NASA จึงต้องปรับแต่งเสียงที่บันทึกได้ ให้อยู่ในย่านความถี่ที่มนุษย์สามารถฟังออก และหนึ่งในหลายเสียงที่ยานจูโน่สามารถบันทึกได้นั้น…
-
รวม 20 ภาพบรรยากาศจาก “The Boneyard” สุสานเครื่องบินขนาดใหญ่ ที่ถูกปลดระวาง
ในช่วงปีค.ศ. 1960 เป็นช่วงที่ธุรกิจสายการบินนิยมใช้เครื่องบินขนาดใหญ่ เพื่อเป็นความได้เปรียบทางด้านการแข่งขันทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน Boeing-747 หรือ McDonnell Douglas DC-10 ก็เป็นเครื่องบินชั้นดีที่สามารถพาผู้โดยสารไปถึงที่หมายในปริมาณมากได้ แต่ด้วยขนาดของเครื่องที่ใหญ่โต จึงทำให้เครื่องมีต้นทุนในการบำรุงรักษาที่สูง จนกระทั่งถึงเวลาปลดระวางไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ เครื่องบินเหล่านี้จะถูกส่งมาที่ Southern California Logistics Airport หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Boneyard” เมื่อเครื่องบินของใหญ่มารวมกันก็ทำให้เกิดภาพที่แปลกตาเช่นนี้ Southern California Logistics Airport ตั้งอยู่ที่เมือง Victoriaville รัฐแคลิฟอร์เนีย ดูเผินๆ เหมือนไม่ใช่สุสาน เพราะด้วยการจอดเครื่องบินที่เป็นระเบียบ เครื่องบินมีจำนวนที่ไม่น้อยเลย ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำให้สามารถจอดเครื่องบินได้เป็นจำนวนมาก สำหรับเครื่องบางลำที่จอดไว้นั้น อาจจะรอวันนำกลับมาใช้งาน บางลำก็อาจจะถูกขายต่อให้สายการบินอื่น หรือบางลำอาจจะถูกแยกชิ้นส่วนขาย เช่นเดียวกับเครื่องของสายการบิน Orient Thai ที่แยกชิ้นส่วนห้องบังคับออก เครื่องยนต์จะถูกนำออกมาก่อน เพราะเป็นส่วนที่มีค่ามากที่สุด ระบบสายไฟต่างๆ…
-
ชมเบื้องหลังใน Beauty and the Beast กับเทคนิค CGI เนรมิตเจ้าชายอสูรได้ทั้งตัว!!
Beauty and the Beast เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่สร้างมาจากนิทาน La Belle et la Bête ของมาดาม Gabrielle-Suzanne Barbot de Villeneuve ก่อนที่ จะถูกนำมาทำใหม่ให้เป็นเวอร์ชั่นคนแสดง โดยในเวอร์ชั่นคนแสดงนี้ Belle รับบทโดย Emma Watson นักแสดงสาวมากความสามารถและ Beast เจ้าชายอสูรที่รับบทโดย Dan Stevens โดยในการแสดงของเขานั้น จะมีความแตกต่างจากการแสดงทั่วไปอยู่พอสมควร Emma Watson และ Dan Stevens สองนักแสดงนำ Beauty and the Beast อย่างที่ทราบกันว่า Beauty and the Beast เวอร์ชั่นนี้มีการนำ CGI เข้ามาเป็นส่วนประกอบหลัก และในระหว่างการถ่ายทำ Dan จะต้องใส่ชุดที่สูงและมีน้ำหนักถึง 10 กิโลกรัมแสดงในฉากต่างๆ โดยชุดนี้จะทำให้ทีม CGI ของ Disney สามารถเนรมิต Beast ขึ้นมาทั้งตัวได้ …
-
คู่รักหญิง-หญิง จัดงานแต่งงานที่ดิสนีย์แลนด์ เล่นเอาคนโสดอิจฉาไปตามๆ กัน ><
สำหรับใครที่ยังโสด ไม่มีแฟน ไม่มีกิ๊ก หรือไม่มีแม้แต่กระทั่งคนคุยด้วยเลย วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับงานแต่งงานของสองสาวจากญี่ปุ่น โดยครั้งนี้เป็นงานแต่งงานของสาว Haru และสาว Ryo ทั้งคู่คบหากันมายาวนานกว่า 13 ปี และเป็นแฟนตัวยงของค่ายดิสนีย์ เพราะฉะนั้นแล้วงานแต่งสุดพิเศษของพวกเธอ จึงจัดขึ้นที่ Tokyo DisneySea ภายในงานทางฝ่ายสาว Haru มาในชุดวิวาห์ธีมเดียวกับเจ้าหญิงแอนนา ในเรื่อง Frozen ส่วนทางสาว Ryo ก็มาในชุดเจ้าสาวธีมราชินีเอลซ่า ทั้งคู่ผ่านช่วงชีวิตที่ยากลำบากมาด้วยกันนานกว่า 6 ปี และนั่นก็เป็นบทพิสูจน์ให้กับพวกเธอทั้งสองคนแล้วว่า ถึงเวลาที่พวกเธอจะได้อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวซักที ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยจัดงานหมั้นกันที่ DisneySea Resort สาว Ryo เป็นฝายเปิดปากขอคู่รักแต่งงานก่อน ซึ่งเป็นตอนที่ทั้งคู่แต่งตัวเป็นเจ้าหญิง และเจ้าชาย จากเรื่องราพันเซล ถึงแม้ว่าที่ญี่ปุ่นจะยังไม่มีกฎหมายรองรับสำหรับการแต่งงานในกลุ่มคนเพศเดียวกัน ทว่าในบางสังคมประเด็นถือเป็นเรื่องที่รับได้ และเข้าใจได้ แต่ใช่ว่าความรักของทั้งคู่จะไม่มีอุปสรรคจากพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายเลย Ryo เล่าว่า ก่อนหน้านี้พ่อแม่ของเธอคิดว่าการกระทำดังกล่าว เป็นเหมือนเรื่องที่ขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณี ทว่าสุดท้ายพวกเขาก็สามารถปรับความเข้าใจ และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับความอย่างมีความสุข…
-
รู้จัก “จิม โจนส์” เจ้าลัทธิสุดสยอง ผู้เคยหลอกให้คน 900 คนฆ่าตัวตายพร้อมๆ กัน!!
ตลอดระยะเวลากว่า 5,000 ปีของประวัติศาสตร์มนุษย์ มีศาสนาและลัทธิต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย หลายๆ ศาสนาก็สร้างคุณประโยชน์ให้กับมวลมนุษยชาติ แต่ก็มีบางศาสนาที่นำผู้ศรัทธาไปพบกับโศกนาฏกรรมอันน่าสยอดสยอง อย่างเช่นลัทธิสุดสยอง “Peoples Temple หรือ วิหารแห่งปวงชน” ที่เคยหลอกให้ผู้ศรัทธากว่า 900 คนฆ่าตัวตายพร้อมๆ กัน จนกลายเป็นข่าวสุดสะเทือนใจไปทั่วโลก จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ดังกล่าวต้องย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1931 “จิม โจนส์” เด็กชายชาวรัฐอินเดียแอน่าถือกำเนิดขึ้นมาในครอบครัวอันอบอุ่นครับครัวหนึ่ง ในสมัยเด็กเขาชอบอ่านงานเขียนของนักปรัชญายุคเก่าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะงานของ คาร์ล มาส์ก หรือ เซอร์โทมัส มอร์ โดยเฉพาะเรื่อง “ยูโทเปีย” หรือ “ดินแดนในอุดมคติ” ที่ทุกคนเท่าเทียมกัน และความเชื่อนี้เอง ทำให้เขารู้สึกขัดแย้งกับพ่อของตนเองอย่างรุนแรง โดยเฉพาะที่พ่อของเขาเป็นสมาชิกของกลุ่ม “คู คลักซ์ แคลน (Ku Klux Klan)” กลุ่มเหยียดสีผิวชื่อดัง โดยครั้งหนึ่ง จิม พาเพื่อนผิวสีมาที่บ้าน แต่พ่อของเขากลับไม่อนุญาตให้เพื่อนผิวสีคนนนั้นเข้าไปภายในบ้าน ทำให้เขาเกิดความรู้สึก…
-
ช่างภาพชาวเยอรมัน ถ่ายภาพกิจวัตรประจำวันของผู้คน “ใส่ผ้า vs. เปลือยกาย” อู้ววหูวว…!!
Sophia Vogel ช่างภาพสาวชาวเยอรมัน ได้ออกเดินทางถ่ายภาพผู้คนกับกิจกรรมงานอดิเรกของพวกเขา บางคนก็ชอบเล่นดนตรี บางคนก็ชอบเล่นแมว แต่ความพิเศษของงานชุดนี้คือ.. พวกเขาจะเปรียบเทียบกิจกรรมนั้นระหว่างใส่เสื้อผ้า และร่างกายที่เปลือยเปล่า “ฉันก็แค่อยากจะทำให้ผู้คนได้รู้สึกว่า การที่เราโป๊เปลือยเราก็สามารถรู้สึกเป็นปกติเหมือนตอนที่เราใส่เสื้อผ้าได้ เพราะยังไงซะธาตุแท้ของพวกเราทุกคน ต่างก็อยู่ภายใต้เครื่องนุ่งห่มอยู่แล้ว” ช่างภาพสาวเล่า นอกจากเรื่องของความมั่นใจแล้ว เธอต้องการที่จะแสดงให้เห็นถึงความเสมอภาคทางเพศด้วย ยกตัวอย่างเช่นคู่รักคู่นี้ที่ชอบอ่านหนังสือร่วมกัน เมื่อพวกเขาได้ลองเปลือยกายทำกิจวัตรประจำวันร่วมกัน พวกเขาก็รู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติของมนุษย์มากขึ้นจริงๆ นอกจากนั้นแล้วในปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การตัดสินผู้คนด้วยรูปลักษณ์ภายนอก ยังเป็นสิ่งที่มีอยู่ในสังคมจริง กระแสโฆษณาตามสื่อต่างๆ ก็มีผลทำให้เราตัดสินกันเพียงเพราะรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกัน นอกจากนั้นแล้วช่างภาพยังต้องการแสดงออกถึงความงามของสรีระที่แตกต่างกันไป แน่นอนว่าด้วยความที่มันไม่เหมือนกัน เราจึงไม่สามารถวัดได้ว่าอะไรคือดีที่สุด ผลงานทั้งหมดนี้เธอไม่ได้ต้องการจะนำเสนอไปในทางลามกอนาจารแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าในปัจจุบันภาพนู้ดจะถูกนำไปใช้ในเชิงลามกอนาจาร มากกว่างานศิลปะก็ตาม “การโชว์เรือนร่างที่แตกต่างกันของผู้คนทั้งหมดนี้ ฉันต้องการจะสื่อให้เห็นว่า ทุกเรือนร่างมีความงามในตัวมันเอง” ช่างภาพเล่า อาสาสมัครของเธอในการถ่ายภาพทั้งหมดนี้ ก็มีหลากหลายอาชีพแตกต่างกันออกไป บ้างก็เป็นหมอ บ้างก็เป็นนายธนาคาร นักดนตรี หรือแม้แต่แม่บ้าน แต่จะว่าไปแล้ว เมื่อเรานำภาพทั้งสองอย่างมาเปรียบเทียบดู มันก็ช่วยทำให้เราเห็นว่า ไม่มีอะไรแตกต่างขึ้นมาจริงๆ นะ…
-
สภาเมืองพอร์ตแลนด์ แก้ปัญหา “ขอทาน” ด้วยการว่าจ้างให้พวกเขาทำงาน เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
เรียกได้ว่าปัญหาของกลุ่มคนไร้บ้าน เป็นปัญหาที่เรื้อรังมานานในหลายๆ ประเทศทางฝั่งตะวันตก (บ้านเราก็ประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน) ไม่ว่าจะจากปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือปัญหาทางชีวิตของแต่ละคน ทว่าล่าสุดสภาเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ริเริ่มนโยบายที่จะช่วยเหลือกลุ่มคนที่เขาให้คำนิยามว่าเป็น ‘Beggers’ (นิยามนี้รวมทั้งคนไร้บ้านและขอทาน) ด้วยการว่าจ้างให้พวกเขาทำงาน ซึ่งก่อนหน้านี้เทศบาลเมืองพอร์ตแลนด์ เคยออกกฎหมายห้ามเดินเร่ขอทานตามถนนมาก่อนแล้ว โดยอ้างว่าอาจเป็นภัยต่อสาธารณะ รวมทั้งมีการรณรงค์ให้คนเลิกให้เงินขอทาน แต่ทว่าข้อห้ามและรณรงค์ดังกล่าวประสบกับความล้มเหลว ทางสภาเมืองจึงได้ออกนโยบายใหม่ ด้วยการจัดหน่วยรถออกลาดตระเวนไปหากลุ่มคนขอทานทั้งหลาย พร้อมทั้งเสนองานทำความสะอาดสวนสาธารณะและงานแรงงานทั่วไป โดยจะได้รับค่าจ้างเป็นจำนวน 10.68 เหรียญต่อชั่วโมง หรือราว 365 บาทต่อชั่วโมง Jon Jennings นายกเทศมนตรีได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เพราะเราเป็นเมืองที่พร้อมจะช่วยเหลือเหล่าผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดของพวกเขา หากแต่บางทีคนเราต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบากของชีวิตกันบ้าง” แน่นอนว่าจากนโยบายดังกล่าวช่วยเสริมสร้างอาชีพและโอกาส สำหรับการเริ่มต้นชีวิตครั้งใหม่ของกลุ่มคนขอทานและคนไร้บ้านได้จริง เพราะจากผลสำรวจค่าเฉลี่ยเงินบริจาคที่พวกเขาเคยได้รับ อยู่ที่ประมาณ 10 เหรียญต่อวันเท่านั้น ทว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการเปลี่ยนนโยบายจากการตระเวนจับ แต่เปลี่ยนเป็นตระเวนหาและมอบหมายงานให้พวกเขาทำ โดยก่อนหน้านี้มีหลายๆ รัฐที่เริ่มโครงการนี้เช่นที่ San Jose, California และ Chicago และจากรายงานพบว่าเมืองที่ประสบความสำเร็จจากการหันมาใช้นโยบายนี้มากที่สุด ก็คือเมือง Albuquerque…
-
นายกแคนาดา Justin คุยกับปธน. ฝรั่งเศสหวานแหวว ชาวเน็ตร่วมแซวเป็นคู่จิ้นมุ้งมิ้ง!!
สำหรับเวทีการเมืองโลกแล้ว ในกระแสบนโลกอินเตอร์เน็ตตอนนี้ ไม่มีนักการเมืองคนไหนจะมาแรงแซงทุกทางโค้งได้เท่ากับ Justin Trudeau และประธานาธิบดีคนล่าสุดจากฝรั่งเศส Emmanuel Macron ซึ่งหลังจากที่ทั้งสองคนมีการนัดพบปะพูดคุยกัน แทนที่เรื่องมันจะจบตรงนั้น แต่เปล่าเลย… เพราะภาพที่ทั้งสองคุยกันมันกลับดูหวานแหว๋วมุ้งมิ้ง งานนี้ชาวเน็ตเลยออกมาแซวกันให้เพียบ โดยทั้งคู่มีโอกาสได้พูดคุยกันครั้นไปร่วมประชุม G7 ที่เมืองซิซีลี ประเทศอิตาลี แต่ดูเหมือนว่าภาพที่ทั้งสองคนยืนคุยกันอย่างกระหนุงกระหนิง จะถูกชาวเน็ตออกมาสร้างเรื่องราวให้กลายเป็นคู่จิ้น เราลองตามไปเจือกกันเลยว่าชาวเน็ตจากทั่วโลก เขาจะมีปฏิกริยากับสองคู่จิ้นนักการเมืองระดับโลกนี้ยังไงบ้าง.. ‘จงตามหาชายสักคนที่จ้องตาคุณเหมือน Macron มองไปที่ Trudeau แล้วชีวิตจะสมหวังนะ’ ชาวเน็ตบางคนก็บอกว่า ที่ทั้งคู่เดินทางไปซิซิลีน่ะ ไม่ได้ไปประชุมหรอก แต่ไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งต่างหากล่ะ บางคนก็ไปไกลถึงขนาดบอกว่า ‘Justin มันขอหมั้นก่อนแล้วโว้ยย!!’ หลายคนก็ออกมายืนยันว่า นี่แหละ..คู่จิ้นใหม่ของการเมืองโลก นึกว่า Macron จะเด็ดดอกไม้จากกำแพงมามอบให้ Trudeau ซะอีก แหม่ ตอนแรกก็ไม่อยากจะจิ้นหรอกนะ แต่ดูสายตาที่ Macron มองมาให้ Justin สิ…
-
ร่วมเปิดคลัง 10 ของเหลวที่มีมูลค่าราคาแพงที่สุดในโลก ถ้าอยากได้และเงินถึงก็จัดไป!!
ไม่ใช่แค่วัตถุแบรนด์แนมที่ต้องมีรูปร่างให้คนจับต้องได้เท่านั้นหรอกนะ ที่จะมีราคาแพงสูงลิบลิ่วชนิดที่ว่า ถ้าไม่มีความจำเป็นจริงๆ ก็คงไม่มีใครซื้อมาใช้กันเป็นแน่แท้ และคราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 10 ของเหลว ที่ไม่น่าเชื่อว่าเห็นเหลวๆ ไร้รูปร่างแบบนี้ จะมีราคาที่สูงเอาเรื่อง เอาเป็นว่าตามไปชมกันเลย 10. เลือดมนุษย์ ใช่แล้ว..!! เป็นเลือดที่เราไปบริจาคกันนั่นแหละ ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยนะว่ามันจะมีราคาตลาดสูงถึง 1,500 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อแกลลอน หรือประมาณ 51,000 บาทต่อ 4 ลิตรนั่นเอง 9. สารสกัด GHB (Gamma Hydroxybutyric Acid) หลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อนี้กันมาก่อน ซึ่งจัดเป็นวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิต และระบบประสาท ส่วนมากจะถูกใช้ในการแพทย์เพื่อรักษาอาการโรคนอนไม่หลับ หรือลดอาการวิตกกังวล โดยมีราคาสูงถึง 2,500 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (ประมาณ 85,000 บาท ต่อ 4 ลิตร) 8. หมึกพิมพ์สีดำ ฟังไม่ผิดหรอก เจ้าหมึกพิมพ์สีดำที่อยู่ในเครื่องปริ๊นท์ของเราทุกคนนั่นแหละ ที่มีราคาสูงอย่างไม่น่าเชื่อ โดยราคาเฉลี่ยต่อแกลลอน (4 ลิตร) อยู่ที่…
-
งานวิจัยยืนยัน การหลับนอนไม่เพียงพอ ส่งผลทำให้สมองมีประสิทธิภาพที่ด้อยลง..!!
สำหรับใครที่ชอบอดหลับอดนอนอยู่เป็นประจำ หรือชอบทำกิจกรรมถึงดึกดื่น พอตอนเช้าก็ตื่นไปทำงานสายทู๊กกที วันนี้มีงานวิจัยออกมายืนยันถึงผลเสียของพฤติกรรมดังกล่าว ที่มีผลต่อสมองของเราแล้วนะ อ้างอิงผลทีมวิจัยจาก Marche Polytechnic University ประเทศอิตาลี พวกเขาพบว่าสมองส่วนที่เรียกว่า ‘ซิแนปส์’ จะถูกเซลล์ที่เรียกว่า ‘แอสโทรไซต์’ กลืนกินจากสาเหตุเพราะการหลับนอนที่ไม่เพียงพอ โดยทีมวิจัยได้ทำการศึกษากับหนูทดลอง เกี่ยวกับประสิทธิภาพสมองของพวกมัน โดนเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มหนูทดลองที่ได้นอนหลับอย่างเพียงพอ และกลุ่มหนูทดลองที่ถูกกระตุ้นให้ได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอ พวกเขาค้นพบว่า.. เซลล์ส่วนที่เรียกว่า ‘แอสโทรไซต์’ ซึ่งใช้สำหรับการจัดการกับสมองจะส่งผลร้ายมากกว่า ในสภาวะของหนูที่ได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอ เซลล์ดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า ‘แอสโทรไซต์’ ซึ่งมันจะทำหน้าที่คอยกำจัดเซลล์ส่วนอื่นๆ และส่งผลให้สมองอ่อนแอลง มีประสิทธิภาพการทำงานที่น้อยลง “ในสมองส่วน ซิแนปส์ ก็เปรียบได้กับเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ ที่ต้องได้รับการดูแล และทำความสะอาด เพื่อการทำงานของสมองที่ดีในระยะยาว” Michele Bellesi หัวหน้าทีมวิจัยให้สัมภาษณ์ เมื่อพวกเขาได้ลองวิจัยกับสมองของอาสาสมัคร 1,344 คน โดยมีการตรวจวัดระดับความดันในเลือด ระดับน้ำตาล และระดับคลอเรสเตอรอลในเลือด ทำให้พบว่าการนอนหลับไม่ถึง 6 ชั่วโมงต่อวัน จะส่งผลเสียในระยะยาวต่อทั้งสมอง และระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายจริง จากสถิติพบว่าโดยเฉลี่ยแล้วคนที่หลับนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงเป็นประจำ…
-
14 ภาพกิจกรรมธรรมดาๆ ของคนไทย แต่กลับ ‘สวยงาม’ น่าประทับใจในมุมมองต่างชาติ
ภูมิใจได้เลยล่ะว่า ประเทศไทยของเรานั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม และดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างมากมายในทุกๆ ปี แค่เฉพาะในปี 2014 หรือราวๆ 2 ปีที่ผ่านมานั้น มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนกันราวๆ 24 ล้านคนเลยทีเดียว และทางเว็บไซต์แชร์ภาพ EyeEm ก็ได้เปิดการแข่งขันการถ่ายภาพวิถีชีวิตของผู้คนในประเทศไทย เลยได้ภาพสวยเหล่านี้มาล่ะ ทีนี้เรามาลองดูกันว่า ประเทศไทยของเราในสายตาและมุมมองของนักท่องเที่ยวและช่างภาพชาวต่างชาติจะออกมาในลักษณะไหน ลองมาชมกันได้เลย… เด็กๆ ที่กำลังเล่นกันอยู่ในลานวัด ช่วงเวลาที่ควรไปเที่ยวประเทศไทยกันที่สุดก็คือช่วงพฤศจิกายน-มีนาคม ของทุกๆ ปี เพราะอากาศจะเย็นและดีกว่าช่วงอื่นๆ ท่าอากาศยานในประเทศทั้งหมดมีมากกว่า 30 แห่ง แต่สนามบินสุวรรณภูมิคือสนามบินที่มีเที่ยวบินของนักท่องเที่ยวต่างประเทศมากที่สุด วันที่ 11 พฤษภาคม 2492 สยามเปลี่ยนชื่อเป็น ‘ประเทศไทย’ อย่างเป็นทางการ อาหารคือหนึ่งในเสน่ห์ของประเทศนี้ โดยเฉพาะประเภทต้มยำ ที่มีรสชาติอร่อย เผ็ด ร้อน จนชาวต่างชาติต่างติดอกติดใจ แผงอาหารตามตลาดนัดจตุจักรก็มีมากมายหลายประเภท ตั้งแต่ผลไม้ยันแมลงทอด ช้าง เป็นสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ คู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย แถมยังมีหาดสวยๆ…
-
แฟนๆ อยากดูไหม!? โปรดิวซ์เซอร์เผยอาจมีการสร้างหนังเดี่ยวของ X-23 หากมีเนื้อเรื่องที่ดีพอ
หลังจากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง Logan ทั้งการสร้างและรายได้ ทำให้ตัวละครอย่าง X-23 ที่รับบทโดย Dafne Keen ได้มีโอกาสแจ้งเกิดในหนังเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าหนังจะลาจากโรงภาพยนตร์ไปแล้ว แต่ด้วยความสำเร็จของตัวละคร X-23 ที่เฉิดฉายในหนังนั้น ทำให้ทีมผู้สร้างหนังกลับมาหารือเพื่อนำตัวละครนี้กลับมาสร้างเสียงฮือฮาให้แก่ผู้ชมอีกครั้ง Dafne Keen สาวน้อยผู้รับบท X-23 โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ Logan อย่าง Hutch Parker ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่าง IGN ว่าขณะนี้ทีมงานกำลังหารือเกี่ยวกับตัวละคร X-23 ว่าจะเป็นไปในทิศทางใดก่อนที่จะได้ข้อสรุปว่าเธอคงจะไม่ได้ไปร่วมทีมในหนังเรื่อง The New Mutant แต่ความเป็นไปได้สูงที่เธอจะมีหนังบอกเล่าเรื่องราวของตนเองแทน ภาพปกการ์ตูนเรื่อง The New Mutant ที่ทาง Fox เตรียมนำมาสร้างเป็นหนัง “X-23 เป็นตัวละครที่น่าสนใจและสามารถดำเนินเนื้อเรื่องต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการหาเรื่องราวให้เธอได้บอกเล่านั้นจึงเป็นอะไรที่สำคัญมากในการสร้างหนังเดี่ยวของเธอ” Hutch กล่าวกับสื่อ Huntch Parker โปรดิวเซอร์หนังเรื่อง Logan …
-
ยิ่งเก่ายิ่งทวีมูลค่า… สิ่งของทั้ง 7 ประเภท ถ้าหากมีเก็บเอาไว้ อาจขายได้ในราคาสูงมากๆ
สิ่งของหลายอย่างที่อยู่ในรอบตัวเรา บางครั้งเราอาจจะเก็บมันไว้ในบ้านตั้งแต่รุ่นคุณตาคุณยายหรือเก่ากว่า เราอาจจะนึกไม่ถึงว่าสิ่งของเก่าๆ เหล่านี้ เป็นที่หมายตาของเหล่าบรรดานักสะสม ที่พร้อมจะซื้อมาเก็บไว้เป็นคอลเลคชั่นส่วนตัว สำหรับใครที่ชอบสะสมของหรือมีของเก่าอยู่ที่บ้านเยอะแล้วไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ~ #เหมียวปั๊ก ได้รวบรวมประเภทสิ่งของที่เพื่อนๆ มีอยู่ที่บ้านและหากนำมาขายต่อ รับรองว่าเพื่อนๆ จะรวย รวย รวยกันเลยทีเดียว บรรจุภัณฑ์อาหารวินเทจ ด้วยดีไซน์ที่บอกเล่าเรื่องราวในยุคนั้นและความเป็นเอกลักษณ์ ทำให้สินของนี้เป็นที่จับตามองของเหล่านักสะสม สำหรับใครที่มีบรรจุภัณฑ์ที่ยังไม่ได้เปิดหรือเปิดไปแล้วไว้ในครอบครอง ถ้าลองตรวจสอบราคาดีๆ อาจจะสูงถึง 600,000 บาท เหมือนกับเจ้าขวดเครื่องดื่ม Gatorade นี้ก็เป็นไปได้นะ หนังสือที่ตีพิมพ์ครั้งแรก หนังสือดังๆ หลายเล่ม ล้วนจะต้องผ่านการตีพิมพ์เป็นครั้งแรกอยู่แล้ว แต่ด้วยมนต์เสน่ห์ของมันนอกจากจะเป็น “ครั้งแรกและจำนวนจำกัด” ยังมีเรื่องราวที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย เช่นเดียวกับหนังสือ Harry Potter กับศิลาอาถรรพ์เล่มนี้ ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกเพียงแค่ 500 เล่ม แถมยังเขียนชื่อนักเขียนผิดอีก มีราคาสูงถึง 1.8 ล้านบาท!! มือถือรุ่นเก่าๆ แม้เทคโนโลยีจะหมุนเร็วเพียงใด แต่ความเก๋ายังคงอยู่ทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่โทรศัพท์ที่เราใช้กันในทุกวัน หากเพื่อนๆ ที่มีมือถือเก่าๆ และลองเช็คราคาขายต่อดีๆ มันอาจจะแพงเหมือนกับเจ้า iPhone…
-
เปิดวาร์ป!! สาวคอสเพลย์ Wonder Woman สุดร้อนแรง พร้อมจะโดนดาบปักเข้ากลางใจ
อย่างที่เราทราบกันดีว่าภาพยนตร์เรื่อง Wonder Woman นั้นมีกำหนดการเข้าฉายในประเทศไทยเร็วนี้ๆ นอกจากภาพยนตร์จะสามารถเรียกเสียงฮือฮาได้แล้ว ยังมีสาวคอสเพลย์สุดเฟี้ยวที่สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากเหล่าบรรดาแฟนคลับได้อีกด้วย สำหรับคุณ Pichyada Chatkamjaroen สาวสวยมั่นได้แต่งคอสเพลย์เป็น Wonder Woman เพื่อเป็นการเดินสายโปรโมทหนังด้วยความสวยลงตัวทำให้เธอกลายเป็นขวัญใจของชาวเน็ตในเวลานี้ สวยแกร่งตามสไตล์ Wonder Woman . . เจ้าหญิงไดอาน่า ~ น่ารักฝุดๆ . มาแหยมกับชาว Amazon ระวังโดนดาบจิ้มพุงนะ >W< . ด้วยบุคลิกที่เหมาะกับตัวละครทำให้คาแรคเตอร์ดูมีพลัง . . นี่เป็นเพียงภาพส่วนหนึ่งเท่านั้น สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากติดตามเธอก็สามารถที่จะติดตามได้ผ่านทาง Instagram ของเธอที่นี่ นอกจากนี้เธอยังคงเดินสายโปรโมทหนังโดยเพื่อนๆ สามารถเจอตัวจริงของเธอได้ในวันที่ 27 พฤษภาคมที่ Quartier Cine Art เวลา 11.00 – 14.00 น. และ SF Terminal 21…
-
ชาวเน็ตร่วมลงชื่อ ขอให้แพทยสภาตรวจสอบแอดมิน Dad Mom and Kids อาจเข้าข่ายไม่เหมาะสม!?
ก่อนหน้านี้หลายๆ คนคงได้เห็นข่าวคราวประเด็นดราม่าที่พูดถึงเรื่องหลักการเลี้ยงลูกของคุณหมอผู้เป็นแอดมินเพจ Dad Mom and Kids ถ้าใครที่เคยเข้าไปส่องก็จะเห็นว่า เพจดังกล่าวเป็นเพจที่ตั้งขึ้นมาโดยนายแพทย์อิทธิฤทธิ์ จุฬาลักษณ์ศิริบุญ โดยจะคอยให้คำแนะนำต่างๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกตามแนวทางของนายแพทย์เอง ทว่าการให้คำแนะนำต่างๆ ของคุณหมอจากแพทย์ นำมาซึ่งประเด็นถกเถียงของชาวเน็ตทางออนไลน์ ซึ่งก่อนหน้านี้เพจดังกล่าวเคยมีกรณีดราม่าเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงลูก โดยมองว่าเกมเป็นตัวบ่อนทำลายอนาคตเด็ก ทำให้มีชาวเน็ตหลายฝ่ายออกมาโต้แย้งถึงความไม่เหมาะสม ในขณะที่อีกหลายฝ่ายก็เลือกที่จะขอคำแนะนำจากคุณหมอ และกำลังเป็นประเด็นที่ร้อนแรงสุดๆ ในวันนี้ หลังจากที่คุณเนตรดาว สิทธิเวชวรนันท์ ได้ริเริ่มแคมเปญผ่านทางเว็บไซต์ Change.org โดยมีการเสนอให้ชาวเน็ตเข้ามาร่วมลงนาม เพื่อยื่นต่อแพทยสภาให้มีการเข้ามาตรวจสอบถึงจริยธรรมในอาชีพ ตัวอย่างคำแนะนำจากเพจดังกล่าว (อันที่จริงก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนแหละเนาะ ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่) แคมเปญดังกล่าว มีข้อความระบุว่า… “ตามที่ นพ. อิทธิฤทธิ์ จุฬาลักษณ์ศิริบุญ ได้เปิดเพจ https://www.facebook.com/ittiritsarinee/ ในเฟซบุค และมีการขายหนังสือ และคอร์สอบรมต่างๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงดูบุตร โดยมีการโฆษณาเพื่อขายสินค้าและบริการของตนเอง ซึ่งเนื้อหาผิดข้อเท็จจริงที่ควรจะเป็นตามหลักการแพทย์และจิตวิทยา โดยไม่มีหลักฐานอ้างอิง สร้างความเกลียดชัง ดูถูกและแอบอ้างข้อกฏหมายข่มขู่ผู้เห็นต่าง ไม่ฟังคำทัดทานของบุคคลใดๆ ซึ่งอาจสร้างปัญหาทางสุขภาพจิตของเยาวชนในภาพรวมได้ เนื่องจากมีพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมากหลงเชื่อหลักการของเขา เนื่องจาก นพ.…
-
สะกดทุกสายตา ด้วย “รองเท้าส้นสูงนกพิราบ” พร้อมวิธีทำ ให้ทุกย่างก้าวเหมือนดั่งนก!!
ความเป็นมาของรองเท้าส้นสูงนั้นเริ่มต้นในช่วง ปีค.ศ. 1500 ซึ่งเป็นรองเท้าที่ถูกคิดค้นไว้ เพื่อกันเท้าหลุดออกจากเหล็กวางเท้าในการขี่ม้า ต่อมารองเท้าส้นสูงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสูงสง่าในราชสำนัก ก่อนที่มันจะแพร่หลายในหมู่คนทั่วไป โดยปัจจุบันรองเท้าส้นสูง เป็นอะไรที่คู่กับผู้หญิงสวยๆ ซึ่งรองเท้าส้นสูงนั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายรูปแบบและสไตล์ตามความต้องการ แต่ใครจะไปนึกว่ารองเท้าส้นสูงจะสามารถพัฒนาไปอีกขั้นได้ขนาดนี้!? มองเผินๆ อาจจะไม่มีอะไร แต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ เดี๋ยวนะ!? นี่มันรองเท้าส้นสูงนี่หว่า จะด้านหน้าหรือด้านหลังก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยความสวยสง่า (มั้ง) ที่ไม่สามารถซื้อขายได้ตามร้านค้าทั่วไป #เหมียวปั๊ก ก็เลยหาวิธีการทำรองเท้านกพิราบแบบคร่าวๆ มาฝากเพื่อนๆ ด้วย สำหรับคนไหนที่ชอบ “นก” ก็สามารถลองทำกันได้ตามวิธีนี้เลย โดยอุปกรณ์มีดังนี้ รองเท้าส้นสูง, พลาสติกแข็ง, กรรไกรหรือคัตเตอร์, ผ้าใยขนแกะคละสี, กาวลาเท็กซ์, ผ้าใยสังเราะห์คละสี, กระดาษทราย, กาวยาง, สก๊อตเทป, ลวดเหล็ก, คีมดัด และสีอะคริลิคสีแดง เริ่มต้นด้วยการนำพลาสติกแข็งมาร่างโครงตัวนกพิราบ และตัดออกมา หลังจากที่ทำการตัดแล้วเพื่อนๆ สามารถนำกระดาษทรายมาขัดให้รูปทรงนกพิราบนั้นมีความโค้งมนสมจริง อย่าลืมเหลาส่วนหลังของนกให้รับกับส้นรองเท้าที่เราจะติดด้วยนะ นำผ้าใยขนแกะมาติดที่ตัวนกพิราบตามรูปที่เราได้ร่างไว้ เมื่อทำการเหลาเสร็จแล้วก็นำผ้าใยขนแกะมาติดตามโครงร่างนกพิราบด้วยกาวลาเท็กซ์ . นำตัวนกพิราบมาติดบริเวณส้นรองเท้า นำตัวนกพิราบที่เราทำมาติดกับส้นรองเท้าด้วยกาวยาง…
-
20 ภาพการทำอาหารสุดเฟล ที่ทำให้เห็นว่าสิ่งที่คิด กับความเป็นจริงมันช่างต่างกันเหลือเกิน
เมื่อวิญญาณเชพเข้าสิง หลายคนอาจจะนึกอยากทำอาหารหรือของหวานขึ้นมา ดังนั้นคุณจึงไปหาภาพและสูตรจากหนังสือ หรือในโซเชียล จากนั้นก็ขอลองทำตามดูสักครั้ง แต่บางทีผลลัพธ์ที่มันมันไม่อาจจะไม่สวยงามอย่างที่คิดเสมอ ก็เหมือนกับภาพการทำอาหารสุดเฟลเหล่านี้ ที่เห็นแล้วชวนฮาสุดๆ เพราะสิ่งที่คิด กับความเป็นจริงมันช่างดูแตกต่างกันเหลือเกิน เอาเป็นว่านี่ถือเป็นความผิดพลาด และเราจะไม่ตอกย้ำ เพราะถ้าหากคุณฝึกฝน และมีความพยายาม ที่จะพัฒนาตัวเอง สักวันหนึ่งคุณอาจจะกลายเป็นเชพฝีมือดีไปเลยก็เป็นได้ แม้ว่ามันจะดูไม่ค่อยเหมือนสักเท่าไหร่ แต่ถ้าทานได้ก็โอเค ฮร่าๆ เมื่อพยายามทำเค้กวันเกิดเจ้าหญิงเอลซ่าให้ลูกสาว แต่ผลลัพธ์ที่ได้…เอิบ!! ซ้ายคุกกี้ช็อกโกแลตชิพ แล้วขวาละ… มันอาจจะเป็นเพราะใส่ส่วนผสมผิดหรือเปล่าน้า วอดก้ากัมมี่แบร์ตัวอย่าง และความเป็นจริง ทำไมมันต่างกันขนาดนี้ เป็นการทำคัพเค้กที่เละที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา แพนเค้กยักษ์ที่ดูสวยเนียน แต่ไหม้ไปหน่อย ฮ่าๆ โถ่ววว น้องลูกเจี๊ยบที่น่าสงสาร ในเมื่อพยายามแล้ว แต่มันได้เท่านี้ก็ฝึกอีกนิดละกัน พายที่ดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากรู้ว่าไม่ถนัดทำอาหาร อาจจะต้องถึงเวลาปล่อยวางแล้วละ หน้าตามันอาจจะไม่ดีดูเท่า แต่รสชาติอาจอร่อยก็ได้น้า การทำคุกกี้มันอาจไม่ใช่ทางของเราซะแล้ว บอกได้คำเดียวว่า…
-
นักวิจัยเกาหลีเผย ความยาวของนิ้วบ่งบอกถึงความยาว “หรรมส์” อยากรู้ต้องลองวัด!!
หลังจากที่เรามักจะมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการวัดขนาดของ “น้องชาย” ด้วยขนาดรองเท้าบ้าง ขนาดของมือบ้าง วันนี้ #เหมียวปั๊ก มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Gachon ประเทศเกาหลีใต้ ได้ออกมาบอกว่าเราสามารถวัดได้จากความยาวของนิ้ว 2 นิ้ว… ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Asian Journal of Andrology นั้น นักวิจัยได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของนิ้วชี้กับนิ้วนางของชายชาวเกาหลี 144 คน ในช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งชายเหล่านี้ คือผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่กำลังจะได้รับการผ่าตัดทางเดินปัสสาวะในเวลาต่อมา จากการวัดนิ้วชี้และนิ้วนาง นักวิจัยพบว่าความยาวเฉลี่ยระหว่างนิ้วชี้และนิ้วนางคือ 0.38 นิ้ว และอัตรานั้นจะอยู่อยู่ในช่วง 0.35 ถึง 0.44 นิ้ว รวมไปถึงวัดขนาดของอวัยวะเพศพวกเขาด้วย แม้การวัดความยาวจากนิ้ว ค่าอาจจะน้อยเกินไปสำหรับตาเปล่าที่จะสังเกตเห็น แต่เมื่อนักวิจัยเปรียบเทียบความยาวของนิ้วมือเหล่านี้กับความยาวอวัยวะเพศชายก็พบว่า ยิ่งอัตราส่วนความแตกต่างของนิ้วชี้ที่สั้นกว่า ก็ยิ่งบ่งชี้ถึงขนาดของอวัยวะเพศที่ยาวขึ้น ภาพแสดงความยาวของนิ้วชี้และนิ้วนาง “ตามข้อมูลของเราที่มีในบุคคลที่นิ้วชี้สั้นกว่านิ้วนางแสดงให้เห็นว่า ยิ่งนิ้วชี้ของคุณสั้นกว่านิ้วนางเท่าไหร่ อวัยวะเพศชายของคุณก็จะยาวมากขึ้นเท่านั้น” Dr. Tae Beom Kim และอาจารย์ผู้ศึกษาค้นคว้าด้านระบบทางเดินปัสสาวะของมหาวิทยาลัย…
-
ไปซนอีท่าไหน!! เจ้าหมาน้อยโชคร้าย หัวดันไปติดซี่ล้อรถยนต์ มัวแต่ไล่แมวไม่ดูตัวเอง…
สัตว์เลี้ยงบางครั้งนั้นก็อาจจะฉลาด แต่ก็มีหลายครั้งเช่นกันที่พวกมันมักจะทำอะไรด้วยความไร้เดียงสา จนบางครั้งการกระทำที่ไม่รู้ตัวของพวกมัน ก็ทำให้ต้องตกอยู่ในอันตรายเหมือนเรื่องราวที่ #เหมียวปั๊ก ไปเจอมานี้ นาง Jasmine Williams เลี้ยงสุนัขไว้อยู่ 4 ตัวด้วยกัน ซึ่งเจ้า Jade ก็เป็นหนึ่งในสุนัขของเธอ ที่มีนิสัยที่เรียบร้อยและไม่ค่อยที่จะซุกซนเหมือนพี่ๆ ตัวอื่น Jade สุนัขสุดรักของ Jasmine “Jade เป็นสุนัขที่เวลาตัวอื่นๆ ทำอะไรที่ผิด มันมักจะวิ่งและกระโดดมานั่งที่ตัก พร้อมส่งสายตาเหมือนพยายามพูดว่าหนูไม่ได้รู้เรื่องอยู่เสมอ” Jasmine บอกกับผู้สื่อข่าว และในขณะที่เธอออกไปทำงานอยู่นั้น Rayshawn Campbell แฟนหนุ่มของเธอก็ได้โทรมาหาเธอพร้อมกับบอกเธอด้วยประโยคแปลกๆ ที่ว่า “ที่รัก ผมอยากให้คุณกลับมาที่บ้านเวลานี้เดี๋ยวนี้เลย แต่ถ้ามาแล้วอย่าเพิ่งตกใจไป” เธอคิดว่าสงสัยรถของแฟนเธออาจจะถูกชนหรืออะไรสักอย่าง แต่สิ่งที่เธอเห็นกลับทำให้เธอตกใจมากกว่าถูกรถชน นั่นก็คือ ศีรษะของเจ้า Jade ไปติดอยู่กับซี่ล้อรถของแฟนหนุ่มเธอ สภาพของ Jade ขณะที่ศีรษะของมันติดซี่ล้อรถยนต์ Campbell แฟนหนุ่มของเธออธิบายว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะว่า เจ้า Jade กำลังวิ่งไล่ลูกแมวและเมื่อลูกแมวหลบใต้รถ แทนที่ Jade จะมุดลงใต้รถแต่มันกลับเอาหัวของมันมุดผ่านทางซี่ล้อรถยนต์แทน!?…
-
นักศึกษาสาวจีนมุ่งมั่นในวิถีเพาะกาย และกลายมาเป็นแชมป์ ที่มีอายุน้อยที่สุดในจีน!!
สำหรับใครที่คิดว่าการเพาะกายนั้นเป็นเรื่องของผู้ชายเพียงอย่างเดียว อาจจะต้องเปลี่ยนความคิดไป เพราะว่าในปัจจุบันแนวโน้มของผู้หญิงเพาะกายก็มีมากขึ้น ทั้งนี้ก็คือการออกกำลังกายและเพื่อความสวยงามของร่างกายเช่นเดียวกัน นักศึกษาสาว Tu Mengli วัย 20 ปี จากมหาวิทยาลัยเฉิงตู ได้ตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันเพาะกายประเภทบิกินี่ ซึ่งเธอได้บอกเคล็ดลับของการเพาะกายของตัวเองเอาไว้ก็คือ การกินไข่วันละ 10 ฟองและการปฏิบัติตามตารางเพาะกายทุกวัน เธอดูเหมือนหญิงสาวธรรมดา แต่ข้างในนั้นเธอคือ แชมป์เพาะกาย เมื่อเธอสวมชุดออกกำลังกาย เธอดูเป็นคนละคน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Tu Mengli เดินทางไปที่อูลานบาตาร์ เมืองหลวงประเทศมองโกเลียเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน Bodybuilding and Fitness Championship ครั้งที่ 51 ซึ่งเธอได้รับรางวัลเหรียญทองจากประเภท Bikini Fitness รุ่น Junior Women ด้วยความสวยงามและสง่า ทำให้เธอคว้าตำแหน่งมาครองได้ ซึ่งหนทางสู่การเป็นแชมป์ของเธอนั้นไม่ง่ายเลย โดยการแข่งขันที่อูลานบาตาร์ เป็นการผลักดันขีดจำกัดของร่างกายเธอไปอีกขั้น แผ่นหลังอันงดงามของเธอ ในทุกๆ เช้า เธอจะต้องตื่นในเวลาประมาณ 5.30 น.…
-
ไปรู้จักกับ 17 อาชีพไม่ธรรมดาจากทั่วโลก ไม่คิดเลยว่าจะมีอยู่จริง รายได้ก็ดีด้วยนะ!?
ถ้าพูดกันถึงเรื่องของอาชีพทำมาหากิน บางคนอาจจะทำตรงสายกับที่เรียนจบมา หรือบางคนอาจจะกำลังเดินตามความฝัน ค้นหาสิ่งที่ชอบกันอยู่ (เราก็ขอเป็นกำลังใจให้ด้วย) ซึ่งก็แตกต่างกันไปตามนานาทัศนะของแต่ละคน แต่คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 17 อาชีพแปลกๆ จากทั่วโลก ซึ่งรวบรวมโดยเว็บไซต์ Thisisinsider.com เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราตามไปดูกันเลย 1. นักสกัดเซรุ่มงู เป็นอาชีพที่ต้องคอยสกัดพิษของงูสายพันธุ์อันตรายทั้งหลาย เพื่อเอามาทำเป็นเซรุ่ม โดยเฉลี่ยสามารถขายได้กรัมละ 30,000 บาท เลยทีเดียว 2. นักทดสอบกลิ่นกาย ส่วนใหญ่แล้วตำแหน่งนี้จะถูกจ้างโดยบริษัทผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับกลิ่นทั้งหลาย ไม่ว่าจะน้ำหอม หรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม ว่ากันว่าในช่วงการทำงานของหนึ่งคน จะได้ดมเท้ามากถึง 5,600 คู่เลยทีเดียว 3. เพื่อนเจ้าสาวรับจ้าง Jen Glantz คือผู้ริเริ่มก่อตั้งบริษัทรับจ้างเป็นเพื่อนเจ้าสาว หน้าที่คือทำทุกอย่างที่เพื่อนเจ้าสาวควรทำ ซึ่งทำเงินได้ตั้งแต่ 9,000 บาท – 60,000 บาท ต่องานเลยล่ะ 4. เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายภูเขาน้ำแข็ง นับตั้งแต่เหตุการณ์ไททานิคล่ม อาชีพนี้ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น หน้าที่ก็ไม่มีอะไรมากแค่คอยดูแลเส้นทางการเดินเรือ ไม่ให้ไปชนกับภูเขาน้ำแข็งนั่นเอง 5. รับจ้างเป็นญาติผู้ตาย…
-
หนุ่มทำหน้ากากหนังสุดแปลก สมจริง และน่ากลัว ราวกับหลุดมาจากฝันร้าย..!!
ในช่วงที่กระแสรายการ Mask Singer กำลังมาแรงๆ เคยคิดกันเล่นๆ มั้ยว่าถ้าตัวเองมีโอกาสได้ไปออกรายการ จะไปในฐานะหน้ากากอะไรดี? คราวนี้เราจะพาไปดูไอเดียหน้ากากหนังสุดบรรเจิด ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการร้องเพลงเลย หากแต่ว่ามันเนียนซะจนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นหนังคนได้ แถมยังน่ากลัวราวกับว่าหลุดมาจากฝันร้าย บรึ๋ยยย~ ผลงานที่เราจะได้ชมทั้งหมดนี้เป็นของ Alle Ziele หนุ่มนิวซีแลนด์ ผู้คลั่งไคล้จินตนาการในแบบแห่งโลกแฟนตาซี (แต่สายดาร์กนะ) หน้ากากทุกใบจะถูกทำขึ้นมาจากหนังวัว ซึ่งช่วยทำให้ดูสมจริงเอามากๆ โดยเขาได้ไอเดียทั้งหมดมาจากทั้งวรรณกรรม ภาพยนตร์ หรือตัวการ์ตูน ที่มีเนื้อหาเชิงดาร์คแฟนตาซี ‘ผลงานทั้งหมดนี้บางชิ้นก็ใช้เวลานานหลายร้อยชั่วโมงเลยทีเดียวครับ ซึ่งหน้ากากทุกชิ้นเป็นงานแฮนด์เมด จึงต้องใช้เวลาทำค่อนข้างนานเป็นพิเศษ’ เจ้าของผลงานกล่าว เจ๋งสุดๆ เพราะผลงานทั้งหมดนี้ไม่ผ่านกรรมวิธีการใช้เครื่องมือใดๆ เลย ทุกส่วนถูกเย็บขึ้นมาจากแรงมือล้วนๆ นอกจากหน้ากากแล้วโคมไฟที่ทำมาจากหนังสุดสรวยสวยเก๋ก็มีเหมือนกันนะ บวกกับวิถีชีวิตของเจ้าตัวที่ได้ออกเดินทางไปต่างประเทศอยู่บ่อยๆ ทำให้เขาไม่สามารถพกพาเครื่องมืออะไรได้มากนัก นอกจากฝีมือที่แท้จริงของตัวเอง ‘เดิมทีผมเรียนจบชีววิทยามา แรงบันดาลใจเกือบทั้งหมดก็มีส่วนมาจากการศึกษาในเรื่องนี้ด้วย’ แต่กว่าจะถ่ายรูปให้ออกมาดูสมจริงสุดๆ ได้ เจ้าตัวเล่าว่าก็ต้องมีการตกแต่งร่างกาย เพิ่มลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ให้เข้ากับธีมหน้ากากด้วยเช่นกัน ถ้ามีคนใส่มาแกล้งนี่ทำให้ฉี่ราดได้เลยนะเนี่ย…
-
เจ้าหน้าที่ “Apollo” สารวัตรพิทบูล ผู้ผดุงความยุติธรรม ฉันจะลงทัณฑ์แกเอง!!
ส่วนใหญ่แล้วสุนัขที่มารับหน้าที่เป็นผู้ผดุงความยุติธรรม ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะเป็นสุนัข K-9 ที่ต้องมีการฝึกฝนมาอย่างดี แต่คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับสารวัตร Apollo เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื้อสายพิทบูล ผู้ที่จะมาต่อกรกับเหล่าอาชญกรรม และวายร้ายของสังคม โฮ่งๆๆ เสมือนพระเจ้าได้ส่งให้เขาเกิดมาเป็นตำรวจ เพราะไม่ต้องฝึกก็ถูกบรรจุได้เหมือนกัน ทว่าเรื่องราวพื้นเพในชีวิตของท่านสารวัตรกลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ก่อนหน้านี้ท่านสารวัตรต้องใช้ชีวิตโซซัดโซเซ เตร็ดเตร่อยู่ในรัฐวอชิงตัน อยู่นานหลายเดือน จนในที่สุดมีเจ้าหน้าที่ไปพบเข้า และได้นำตัวอะพอลโล่ มาดูแลที่ศูนย์พักพิงสัตว์ ด้วยหน่วยก้านที่ดูสมบุกสมบันกล้าหาญชาญชัย เจ้าหน้าที่จึงได้ลองติดต่อกับทางสถานีตำรวจ ให้เข้ามาดูตัวสารวัตรอะพอลโล่ หลังจากนั้นก็เหมือนพระเจ้าได้ประทานโอกาสมาให้ท่านสารวัตรพิสูจน์ตัวตนอีกครั้ง ‘ก่อนหน้านี้ไม่มีใครต้องการตัวอะพอลโล่เลย ด้วยความที่มันเป็นพิทบูลตัวใหญ่ และไม่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี บวกกับลักษณะนิสัยพื้นฐานของสายพันธุ์นี้ด้วยแล้ว… แต่เรากลับมองเห็นแววบางอย่างในตัวมัน เราจึงมอบโอกาสให้มันอีกครั้ง’ ผู้กองตำรวจให้สัมภาษณ์ จากพิทบูลที่ไม่เคยได้รับการฝึกเลย ตอนนี้มันสามารถจบหลักสูตรการเป็นสารวัตรตำรวจได้อย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เคยเป็นสุนัขโฮมเลส ตอนนี้อะพอลโล่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเก่า มันได้ประจำตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีสวัสดิการจากรัฐบาลคอยดูแล พร้อมทั้งมีครอบครัวคอยมอบความรักให้ด้วย ‘ไม่ใช่แค่เรื่องงานเท่านั้นที่เขาทำได้ดี แต่อะพอลโล่ยังเป็นเหมือนเพื่อนเล่นของพวกเราทุกคน มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของสถานีตำรวจแห่งนี้ไปแล้ว และพวกเราทุกคนก็รักมันมาก’ ตำรวจนายหนึ่งให้สัมภาษณ์ และล่าสุดมันก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสารวัตรประจำสถานี ชีวิตดีขึ้นเป็นกองเลยล่ะ และนี่คือภาพถ่ายของสารวัตรอะพอลโล่ ในวันหยุดสุดสัปดาห์กับเพื่อนชาวแก๊ง …
-
Pornhub เผย เทรนด์หนังโป๊แนว ‘Fidget Spinners’ มาแรง ยอดค้นหาพุ่งทะลุเพดาน..!!
ไม่ว่าจะเนื้อเรื่องแบบไหน หนังแนวอะไร เชื่อว่ามันก็สามารถโยงเข้ามาเป็นหนังโป๊ได้หมดแหละ เพราะขนาดแม้แต่หนังดังระดับโลกหลายๆ เรื่อง เขายังเอามาทำเป็นหนังโป๊กันได้เลย… ทว่าข้อมูลล่าสุดที่ได้มาก็ทำให้เราตกใจอยู่ไม่น้อย เมื่อเว็บไซต์เพื่อนซี้คนเหงาทั่วโลกอย่าง Pornhub ได้ออกมาเผยว่าตอนนี้เทรนด์ที่กำลังมาแรงติดอันดับท็อปสุด คือหนังโป๊แนว Fidget Spinners (มันจะเป็นยังไงฟร๊ะ!?) ลองนึกภาพว่าทีมงานสามารถเชื่อมโยงจักรวาลหนังโป๊ และเจ้าเครื่อง Fidget Spinners ของเล่นที่กำลังมาแรง บอกตรงๆ ว่าเราก็นึกไม่ออกเหมือนกันภาพมันจะเป็นยังไงนะ โดยข้อมูลจากการสำรวจของ Pornhub พบว่า ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมายอดค้นหาคำว่า ‘Fidget Spinner’ ในเว็บไซต์พุ่งขึ้นสูงถึง 282% เมื่อเทียบจากค่าเฉลี่ยของคำค้นหาอื่นๆ จากการสำรวจพบว่ายอดค้นหาเริ่มพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนั้น 10 วัน ยอดค้นหาคำดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ รวมๆ แล้วมีคนค้นหามากกว่า 2.5 ล้านครั้งเลยทีเดียว กราฟจาก Pornhub แสดงให้เห็นว่ายอดค้นหาหนังโป๊แนวดังกล่าว เพิ่มสูงขึ้นมากขนาดไหน ด้วยความสงสัยว่ามันจะออกมาเป็นแนวไหน ทีมงานเราจึงลองเข้าไปสำรวจดู ก็พบว่า.. เป็นการประยุกต์ใช้เครื่องหมุนขนาดเล็กที่เป็นของเล่น มาเปลี่ยนให้กลายเป็นเซ็กส์ทอยได้อย่างไม่น่าเชื่อ…
-
หญิงสาวเล่าประสบการณ์จาก “สถานบำบัดผู้เบี่ยงเบนทางเพศ” โหดร้ายและมีอยู่จริง!!
ไม่น่าเชื่อที่ยุคสมัยนี้ยังมีสถานที่สำหรับใช้บำบัดผู้เบี่ยงเบนทางเพศอยู่ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ที่ Paola Peredes ช่างภาพสาวชาวเอกวาดอร์เคยเจอมา และเธอได้นำประสบการณ์อันแสนเลวร้ายทั้งหมดนี้ มาบอกเล่าผ่านภาพถ่ายทั้งหมดที่ถูกจัดฉากขึ้นมาอีกครั้ง.. ‘ประสบการณ์ทั้งหมดจากสถานที่แห่งนี้ มันส่งผลถึงความเป็นตัวตนของฉันในปัจจุบัน สิ่งที่ฉันรู้สึกช็อคมากที่สุดคือการที่ต้องเห็นหญิงสาวหลายคนถูกบังคับ และคุกคามทางเพศ เพียงเพราะเป็นข้ออ้างว่าจะช่วยรักษาอาการเบี่ยงเบนทางเพศได้’ เธอต้องทำความสะอาดห้องน้ำด้วยแปรงสีฟัน อีกทั้งยังต้องเก็บผมทุกเส้นบนพื้น และถ้าหากเธอทำอะไรผิดพลาด ผู้คุมจะจับหัวเธอกดไว้กับชักโครก และบังคับให้เอามือจุ่มลงไปในน้ำ เธอมีเวลาอาบน้ำเพียงแค่ 7 นาทีเท่านั้น อีกทั้งเธอยังต้องทนฟังบทสวดคาทอลิกนานหลายชั่วโมง และต้องศึกษาวรรณกรรมที่ถูกบังคับ เพื่อรักษาอาการเบี่ยงเบนทางเพศ เธอเล่าว่ามีหญิงสาวชาวเอกวาดอร์ที่ถูกเจ้าหน้าที่ชายข่มขืน โดยให้เหตุผลทรามๆ ว่าเป็นหนึ่งในโปรแกรมสำหรับการรักษา หญิงสาวบางคนถูกฝึกให้แต่งตัวยั่วยวนอารมณ์ทางเพศเจ้าหน้าที่ชาย และยังต้องฝึกเดินให้ถูกใจพวกผู้คุมอีกด้วย อีกภาพที่เธอจำได้ติดตา เธอเห็นหญิงสาวถูกลงโทษห้ามพูดคุยกับคนอื่น เธอถูกจับขังเดี่ยวและต้องอยู่กับเสียงบทสวดทางศาสนา อีกทั้งผู้คุมก็ลงโทษเธอด้วยวิธีการที่แสนจะโหดร้ายทารุณ ถ้าหากมีใครปฏิเสธที่จะทานอาหาร ก็จะถูกเหล่าผู้คุมทำร้ายร่างกายเพื่อเป็นตัวอย่างให้คนอื่นไม่กล้าทำตาม คาดว่ามีสถานบำบัดแบบนี้ในเอกวาดอร์มากกว่า 200 แห่ง โดยส่วนใหญ่มักจะเปิดเป็นสถานบำบัดสำหรับผู้ติดยาเสพติดบังหน้า เป็นประจำทุกวันเวลา 07.30 นาฬิกา ที่หญิงสาวจะต้องถูกบังคับให้นั่งแต่งหน้า โดยมีผู้คุมคอยเฝ้าดูอยู่ และพวกเธอต้องแต่งให้ถูกต้องตามที่ผู้คุมต้องการ อีกหนึ่งในโปรแกรมการฝึกประจำวัน ก็คือการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง โดยมีผู้คุมคอยยืนตะโกนดุด่าหญิงสาวอยู่…
-
อวดโฉม 19 ภาพพัฒนาการน้องหมา พิสูจน์ได้แล้วว่า… โตแต่ตัว นิสัยเหมือนเดิมเป๊ะ!!
ว่ากันว่าคนเราย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เราก็ไม่รู้หรอกว่ามันจริงรึเปล่า แต่ที่รู้ๆ ตอนนี้ก็คือ.. แก๊งค์มะหมาสี่ขาทั้งหลาย เมื่อเวลาผ่านไปร่างกายอาจจะโตขึ้น แต่เชื่อเถอะพฤติกรรมยังเหมือนเดิมเป๊ะ!! เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงไปเอาภาพจากเว็บ Buzzfeed ทั้ง 19 ภาพนี้มาอวด ให้เห็นชัดๆ กันไปเลยว่ายังไงก็น่ารักเหมือนเดิมนะจ๊ะเธอจ๋า 1. ถึงจะโตขึ้นแต่ก็ยังนั่งมุมเดิมทุกวัน 2. สำหรับตัวนี้ไม่ได้ซนเหมือนเดิม แต่ยังรักเจ้านายเหมือนเดิมค๊าบ 3. แบบนี้เรียกว่าโตกันมาเป็นคู่ๆ 4. ส่วนเจ้านี่ขี้เกียจยังไง ก็ยังขี้เกียจเหมือนเดิม ฮร่าา 5. ถึงผมจะโตแต่ก็ยังชอบวิ่งไปคาบไม้เหมือนเดิมนะเคิ๊ฟฟ 6. อันนี้ดูเหมือนยิ่งโตยิ่งขี้สงสัย ‘เอ๊ะ..มันมองไรมันว่ะ?’ 7. แต่เจ้าตัวนี้ดูเหมือนจะเริ่มอยู่เป็น โตมาพร้อมสกิลการขอ 8. น้องตูบคนเดิมเพิ่มเติมคือจมูกที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย 9. หูตั้งลิ้นห้อยตั้งแต่เด็ก โตมาก็ยังเหมือนเดิมเป๊ะ!! 10. เรียกได้ว่ามุมไหนมุมนั้น รักนี้ไม่มีเปลี่ยนแปลง 11. เจ้าตัวนี้ยังชอบให้อุ้มเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือน้ำหนักตัว กินดีอยู่ดีไปไหมลูก…
-
ชม 30 ภาพเบื้องหลังแบบไร้เครื่องปรุง CG ในภาพยนตร์ดัง โอ้วโหว… ล้ำมากเลยครับพี่!!
สมัยนี้เรียกได้ว่าทีมงานกองถ่ายทำภาพยนตร์ไม่จำเป็นต้องเดินทางข้ามน้ำ ข้ามทะเล ไปออกกองกันให้เสียเวลาอีกแล้ว เพราะไม่ว่าจะฉากไหนๆ ก็สามารถสร้างขึ้นได้ที่สตูดิโอ และวันนี้เราจะพาไปชม 30 ภาพเบื้องหลังแบบไม่มี CG ของภาพยนตร์ชื่อดังทั้งหลาย เห็นแล้วก็รู้สึกว่า… เทคโนโลยีในการทำหนังสมัยนี้มันล้ำเอามากๆ เลยครับลวกเพ่!! จากเรื่อง Doctor Strange . ฉากหลังที่เห็นเว่อวังแบบนี้ ซีจีทั้งนั้น . เรื่อง Alice Through the Looking Glass . ที่แท้พี่ม้าก็เป็นคนแสดงเองหรือนี่ . จากเรื่อง Fantastic Beasts and Where to Find Them . จัดว่าเนียนเอามากๆ . จาก Rogue One: A Star Wars Story .…
-
ดีใจสุดๆ หนุ่มจบม.6 ทั้งที งานนี้ต้องประกาศก้องให้โลกรู้ ว่าตูจบแล้วโว้ยยย…!!
ช่วงนี้ถ้าใครเลื่อนผ่านหน้าเฟซบุ๊กคงจะได้เห็นภาพของเด็กหนุ่มตัวจ้ำม้ำ ยืนถ่ายรูปคู่กับประกาศนียบัตรเล่มสีแดงในทุกสถานที่ๆ เจ้าตัวไปเยือน เล่นเอาชาวเน็ตแชร์ต่อความฮากันให้เพียบ ด้วยกระแสความฮา ผสมความน่าสนใจที่ใครๆ ก็แชร์ต่อ ดังนั้นเราจะพาไปรู้จักกับ สมัชญ์กฤช แว่นกลาง หรือน้องบอส เด็กหนุ่มผู้ประกาศก้องให้โลกทั้งใบได้รับรู้ว่า… ตูจบม.6 แล้วนะโว้ยย!! น้องบอสจบชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนบุญวัฒนา จังหวัดนครราชสีมา แต่ก่อนที่จะย้ายเข้าไปเรียนมหาลัย มันต้องถ่ายรูปกับใบประกาศฯ ให้คุ้มค่าซะหน่อย ป้าเป็นใครไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ ผมจบแล้วนะ คอนเซ็ปต์น้องชัดเจนมาก แขนต้องตรง! หน้าต้องนิ่ง!! เจ้าที่เป็นยังไงผมไม่รู้ แต่ตอนนี้ที่รู้ๆ คือผมจบแล้ว อาจารย์สอนวิชาอะไรผมไม่รู้ รู้แค่ว่าผมจบแล้ว อาจารย์เถียงเรื่องอะไรกันผมไม่รู้หรอก รู้แค่ว่า… ผมจบแล้ว!! บอกตรงๆ ว่าทั้งคอลเลคชั่นเราชอบภาพนี้มากที่สุด ฮ่าๆๆ ด้วยกระแสความฮาที่มาแรงจนฉุดไม่อยู่ งานนี้ #เหมียวบ็อบ ก็ได้ทักทายไปสัมภาษณ์พูดคุยกับน้องบอสเล็กๆ น้อยๆ และนี่คือบทสัมภาษณ์ ที่น้องบอสจะมาอธิบายถึงความรู้สึกในใจของเจ้าตัว น้องบอสรู้สึกอย่างไรบ้างเอ่ย หลังจากเรียนจบแล้ว? ดีใจครับพี่…
-
Mark Zuckerberg เข้ารับปริญญา Harvard หลังลาออกมา 13 ปี พร้อมฝากข้อคิดอันล้ำค่าให้ทุกคน..
ในปัจจุบันไม่มีใครไม่รู้จัก Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook เว็บไซต์ Social Media ที่โด่งดังหลังจากที่เขาลาออกจากมหาวิทยาลัย Harvard เพื่อเริ่มต้นบริษัท หลังจาก 13 ปีที่ยาวนาน มหาวิทยาลัย Havard ก็ได้มอบปริญญากิตติมศักดิ์แก่เขา Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook กล่าวสุนทรพจน์ให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาเพื่อเป็นแรงบันดาลใจต่อคนรุ่นใหม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงและการต่อสู้เพื่อความเสมอภาค CEO หนุ่มวัย 33 ได้กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงนั้นเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ เสมอ มันขึ้นอยู่กับพวกเราว่าเราสามารถต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงความไม่เท่าเทียมกันในปัจจุบันได้หรือไม่” Mark ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์แก่ผู้จบการศึกษา ตอนนี้ Mark ถือเป็นบุคคลที่ได้กล่าวสุนทรพจน์ในวันสำเร็จการศึกษาที่ “อายุน้อยที่สุด” ในมหาวิทยาลัย Harvard เขาเริ่มต้นสุนทรพจน์ของเขาด้วยเรื่องชีวิตในวัยเรียนของเขา นอกจากปริญญากิตติมศักดิ์แล้ว ยังเป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์ที่อายุน้อยที่สุดของ Harvard อยู่ด้วย Mark ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ Facebook ที่เริ่มต้นมาจากเว็บไซต์…
-
30 เป้าหมายในการเดินทางท่องโลก ที่นักเที่ยวตัวจริง ต้องไปสัมผัสให้ได้สักครั้ง…!!
สำหรับแก้วตาขาเที่ยวทั้งหลายแล้ว เรามั่นใจว่าทุกคนต้องมีเป้าหมายที่เล็งไว้ในใจอยู่แล้วแน่ๆ อย่างน้อยคนละ 1 ที่ หรืออาจจะหลายๆ ที่ก็ตามแต่ และคราวนี้เราจะพาไปส่อง 30 เป้าหมายในการเดินทางไปรอบโลก ถ้าหากคุณเป็นนักท่องเที่ยวตัวจริงละก็… ขอบอกเลยว่าชีวิตนี้ต้องไปสัมผัสให้ได้เลยล่ะ!! 1. ต้องไปยืนดูน้ำตก Iguazu จากทั้งอาร์เจนติน่า และบราซิล ให้ได้ 2. พาคนรักไปจู๋จี๋สวีทจ๋ากันที่มัลดีฟ 3. ไปตั้งแคมป์ท่ามกลางป่าอะเมซอนซักครั้งในชีวิต 4. ไปยืนถ่ายเซลฟี่แบบชิคๆ บน Hardanger Fjord ที่นอร์เวย์ 5. นั่งกินลมชมวิวเหมือนอยู่ในโลกจอมยุทธ ที่อุทยานแห่งชาติจิ่วไจ้โกว ประเทศจีน 6. ใช้ชีวิตแบบฮิปสเตอร์ที่เมือง Antigua ประเทศกัวเตมาลา 7. หรือว่าจะไปดำน้ำดูปะการังที่เกรตแบร์ริเออร์รีฟดีนะ? 8. ถ้าได้แวะญี่ปุ่นแล้ว ก็อย่าลืมที่จะมาชมภูเขาไฟฟูจิจากฮะโกะเนะ 9. หรือถ้าอยากสัมผัสความพิศวงของธรรมชาติ มาเดินเล่นที่ The Narrows ในอุทยานแห่งชาติเมืองยูท่าห์…
-
สาวน้อยวัย 10 ขวบ ถูกเพื่อนล้อเรื่องสีผิว จนเป็นนางแบบเสื้อผ้า และมีแบรนด์ของตัวเอง..!!
การที่เด็กคนหนึ่งถูกเพื่อนๆ ในโรงเรียนล้อไม่ว่าจะเป็นเรื่องสีผิว หรืออะไรก็แล้วแต่… สุดท้ายแล้วคำพูดที่ปล่อยออกมาแบบไม่ทันได้คิด อาจจะทำให้ชีวิตใครบางคนเปลี่ยนไปตลอดกาลเลยก็ว่าได้ และวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ Kheris Rogers สาวน้อยวัย 10 ขวบ เชื้อสายแอฟริกัน – อเมริกัน ซึ่งก่อนหน้านี้เธอถูกเพื่อนๆ ที่โรงเรียนล้อเรื่องสีผิว ทว่ามันกลับทำให้เธอได้กลายเป็นนางแบบตามความฝันของเธอ Kheris Rogers สาวน้อยผู้ถูกล้อเพียงเพราะเธอมีสีผิวที่เข้มมากกว่าปกติ ‘หนูถูกแกล้งเยอะมากที่โรงเรียน ก่อนหน้านี้หนูต้องคบแต่กับเพื่อนที่เป็นชาวแอฟริกันเหมือนกันเท่านั้น’ สาวน้อยให้สัมภาษณ์ นอกจากเพื่อนร่วมชั้นแล้ว ครั้งหนึ่งคุณครูให้เธอวาดรูปตัวเอง และเธอขอสีน้ำตาล แต่คุณครูยื่นสีดำมาให้ ซึ่งนั่นทำให้เธอรู้สึกว่าถูกล้อเลียน และคุกคามอย่างมาก กระทั่งวันหนึ่งพี่สาวของเธออยากจะทำให้น้องสาวตัวเองรู้สึกดีขึ้นบ้าง จึงโพสต์ภาพของน้องสาวและเรื่องราวทั้งหมดผ่านทวิตเตอร์ตัวเอง และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด หลังมีคนแชร์ต่อไปมากกว่าแสนคน จนทำให้น้องสาวของเธอไปริเริ่มที่จะสร้างแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง โดยเธอใช้ชื่อแบรนด์ว่า Flexin’ in My Complexion แปลเป็นไทยก็ประมาณว่า ‘ความเหมาะสมบนผิวพรรณของตัวเอง’ หลังจากที่เธอเปิดร้านเสื้อผ้าออนไลน์เป็นของตัวเองได้ไม่นาน เธอก็เริ่มที่จะใช้ตัวเองเป็นนางแบบเพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง นอกจากจะทำให้เธอมั่นใจในตัวเองมากขึ้นแล้ว เธอยังสามารถสร้างรายได้พิเศษมาช่วยเหลือครอบครัวได้อีกด้วย ‘มันทำให้หนูรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ก่อนหน้านี้หนูไม่อยากจะไปโรงเรียน…
-
เผยภาพใบหน้าสุดเศร้า ของสัตว์โลกนับร้อยชีวิต จากสวนสัตว์ที่ปิดตัวในอาร์เจนติน่า..!!
ตอนเด็กๆ หลายคนคงเคยมีโอกาสไปทัศนศึกษาที่สวนสัตว์กับโรงเรียนกันมาบ้างแล้ว ซึ่งเอาจริงๆ ในวัยนั้นเราก็ไม่ค่อยจะสนใจว่าจริงๆ แล้วพวกมันอยู่ดีกินดีกันรึเปล่า? ครั้งนี้เราจะพาไปที่สวนสัตว์ประจำเมือง Buenos Aires ประเทศอาร์เจนติน่า ที่ซึ่งปิดให้บริการไปนานหลายปี ไร้ซึ่งการดูแลเลี้ยงดูอย่างทั่วถึง และนี่คือใบหน้าแห่งความเศร้าของพวกมัน… สวนสัตว์แห่งนี้เคยเปิดให้บริการครั้งล่าสุดเมื่อ 140 ปีก่อน และปัจจุบันถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสวนสาธารณะ ทว่าการเป็นอยู่ของพวกมันกลับไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง และอย่างดีเท่าที่ควร เช่น Guille ฮิปโปฯ ผู้อาศัยอยู่ในบ่อน้ำที่ไม่ได้รับการทำความสะอาด และเปลี่ยนถ่ายน้ำมานานแล้ว แม้แต่ชาวเมืองต่างก็รู้ดีว่า ที่นี่เต็มไปด้วยสีหน้าอันเศร้าสร้อยของพวกมัน สวนสัตว์แห่งนี้เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1875 แต่ด้วยพิษเศรษฐกิจที่ทำให้ต้องปิดตัวลง มีหลายองค์กรในภาคเอกชนที่ออกมาเรียกร้องให้มีการปรับปรุง และเคลื่อนย้ายสัตว์ป่าไปอยู่ในที่ๆ มันสมควรจะอยู่ ซึ่งทางหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องก็เคยออกมาประกาศว่าจะมีการปรับปรุงสถานที่แห่งนี้ใหม่ แต่จวบจนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีซึ่งการเปลี่ยนแปลงใดๆ และดูเหมือนพวกสัตว์ทั้งหลายก็ต้องใช้ชีวิตอย่างน่าเศร้าไปแบบวันต่อวัน Claudio Bertonatti อดีตเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องให้สัมภาษณ์ว่า ‘สถานการณ์มันแย่ลงเรื่อยๆ ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแล และมันก็แย่ยิ่งกว่าเรือโนอาห์ที่แตกกลางทะเลซะอีก’ Horacio Rodriguez Larreta นายกเทศมนตรีประจำเมือง ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ‘เรามีโครงการที่จะปรับปรุงพื้นที่ทั้งหมด…
-
บริษัทในสวีเดน ฝังไมโครชิพให้กับพนักงาน อ้างว่าเพื่อการทำงานที่สะดวกกว่าเดิม!?
หลังจากที่เราเห็นข่าวเทคโนโลยีล้ำๆ ที่ขยันมีมาอัพเดทกันให้เห็นทุกวันแล้ว เชื่อเถอะว่านี่อาจจะเป็นอีกข่าวการอัพเดทที่อาจจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกของคนเหล็ก เพราะบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติสวีเดน Epicenter ได้ออกนโยบายฝังไมโครชิพให้แก่พนักงาน (ที่สมัครใจ) โดยเคลมว่านวัตกรรมสุดล้ำชิ้นนี้ จะช่วยทำให้ชีวิตการทำงานในออฟฟิศสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม!! โดยไมโครชิพดังกล่าวจะถูกฝังไว้ตามบริเวณที่เห็นในภาพ อันที่จริงนวัตกรรมการฝังไมโครชิพที่มีขนาดเล็กเท่าเม็ดข้าวสาร ถูกนำมาใช้เพื่อระบุตัวตน หรือข้อมูลของสัตว์เลี้ยงในหลายๆ ประเทศมานานแล้ว จนกระทั่งเมื่อปี 2015 บริษัท Epicenter ก็ได้ออกนโยบายเชิญชวนพนักงานให้ไปฝังไมโครชิพ ซึ่งจะช่วยให้พนักงานสามารถจัดเก็บข้อมูลเวลาการทำงานได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆ ในบริษัทที่ง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน เมื่อนำไมโครชิพมาเทียบกับเหรียญ จะเห็นได้ว่ามีขนาดที่เล็กมาก เรียกได้ว่าพนักงานคนไหนที่ยอมฝังไมโครชิพชิ้นนี้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องห้อยบัตรประจำตัวเพื่อเข้าออกตึก หรือโรงอาหาร และไม่จำเป็นต้องสแกนบัตรตอนเข้าออกงานอีกต่อไป ‘ประโยชน์สูงสุดที่พนักงานจะได้รับก็คือความสะดวกสบาย เพียงฝังไมโครชิพไว้แค่อันเดียว ก็สามารถทดแทนอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการทำงานได้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเครดิตการ์ด หรือกุญแจออฟฟิศก็ตาม’ Patrick Mesterton CEO ประจำบริษัทให้สัมภาษณ์ สำหรับที่บริษัทแห่งนี้การฝังไมโครชิพจึงเป็นเหมือนประเพณีอย่างหนึ่ง และทางบริษัทก็ยินดีที่จะมอบนโยบายนี้ให้กับพนักงานทุกคนฟรี (แค่คุณสมัครใจ) Hannes Sjoblad หนึ่งในพนักงานที่สมัครใจฝังไมโครชิพได้ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า ‘ทุกวันนี้รอบตัวเราเต็มไปด้วยอุปกรณ์ต่างๆ มากมายเต็มไปหมด และมันก็คงจะดีกว่าถ้าเราเปลี่ยนจากการจำรหัสผ่าน มาเป็นการสแกนชิพในมือเราแทน’…
-
ชาวเน็ตแทบงงเต้ก เพราะล่าสุดนี้เค้าใช้นกพิราบส่งยาเสพติดแล้ว โถ่วว..สงสารนก!!
ดูเหมือนว่าภูมิปัญญาของมนุษย์ในยุคอดีตอย่างการใช้นกพิราบส่งจดหมาย จะสามารถนำมาใช้กับบางเรื่องในปัจจุบันได้อย่างไม่น่าเชือ จากเว็บไซต์ข่าว Alarabiya ได้รายงานว่าตำรวจจากประเทศคูเวต สามารถจับกุมนกพิราบผู้ทำหน้าที่เป็นนกต่อคอยส่งยาเสพติดให้กับพ่อค้ายาทั้งหลาย โถ่วว.. น่าสงสารเจ้านกจริงๆ จากเว็บไซต์ข่าวต้นฉบับได้รายงานว่า มีนายตำรวจคนหนึ่งเห็นนกพิราบท่าทางมีพิรุธ เพราะบนด้านหลังของมันมีถุงผ้าขนาดเล็กติดไว้ มายืนหยุดพักอยู่แถวบริเวณสถานีตำรวจ ด้วยความน่าสงสัยที่ว่าสมัยนี้ไม่น่าจะมีคนส่งจดหมายด้วยนกพิราบ นายตำรวจจึงลองเข้าไปค้นดูในถุงผ้าบนหลังนกพิราบ ก่อนจะพบว่าเป็นยาอีจำนวนทั้งหมด 178 เม็ด!! เห็นถุงผ้าเล็กๆ แบบนี้ แทบไม่น่าเชื่อว่าข้างในจะมียาเสพติดซ่อนอยู่ และก็เป็นอย่างที่ทุกคนทราบดี งานนี้ชาวเน็ตออกมาให้ความเห็นกันเพียบ… ‘โอ้วพระเจ้าหยุดเลยนะ!’ แหม..คงทำหน้าเจื๋อนเลยสิเจ้าพิราบ ‘โถ๊วว.. พิราบเจ้าเล่ห์’ หรือบางทีมันอาจจะอยากรวยทางลัดก็ได้นะ บางคนก็บอกว่าพิราบไม่ได้ส่งให้พ่อค้าหร๊อก มันเอาไปเล่นกันเองต่างหากล่ะ ฮ่าๆๆ แอบสงสารนกพิราบ ถ้ามันรู้ว่าเป็นของผิดกฎหมายมันคงไม่รับงานนี้… ที่มา: Distractify
-
รู้จักกับเกาะ Okinoshima ในญี่ปุ่น อนุญาตให้เฉพาะผู้ชาย “แก้ผ้า” เท่านั้นที่จะเข้าไปได้..!!
ใครที่ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น คงทราบดีว่าที่นี่มีทั้งเกาะแมว เกาะกระต่าย ฯลฯ แต่คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับเกาะที่เป็นพื้นที่สำหรับผู้ชายเท่านั้น Okinoshima เป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เขตของเมืองฟุกุโอกะ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือทั้งเกาะมีประชากรเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ผู้ซึ่งทำหน้าที่คอยปกป้องดูแลศาสนสถานประจำเกาะแห่งนี้ หน้าตาของเกาะ Okinoshima ถ้าตามหาบนกูเกิ้ลแมพ เกาะก็จะอยู่แถวๆ ตรงนี้… นอกจากจะเป็นเกาะที่อนุญาตให้เฉพาะผู้ชายเข้าไปได้เท่านั้นแล้ว ตามประเพณีผู้ชายทุกคนที่มาบนเกาะนี้จะต้องเปลือยกายด้วยเช่นกันตามหลักปรัชญาของลัทธิชินโต ส่วนสาเหตุที่ไม่ให้ผู้หญิงสามารถเข้ามาบนเกาะนี้ได้ ตามตำนานว่ากันว่าในช่วงศตวรรษที่ 17 มีหญิงสาวที่ย่างกรายมาบนเกาะนี้ และถูกเปลี่ยนให้เป็นหิน แต่นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า น่าจะมาจากพื้นฐานความเชื่อของลัทธิชินโต ที่เชื่อว่าเลือดประจำเดือนของผู้หญิง เป็นสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ The Japan Times รายงานว่าบริเวณเกาะดังกล่าวสำหรับชาวบ้านแล้ว เป็นเหมือนศาสนสถานที่ต้องให้ความเคารพ ซึ่งเป็นที่ๆ พวกเขาเชื่อว่ามีพระเจ้าทรงประทับอยู่ เดิมทีเกาะแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของศาลเจ้า Munakata Taisha ซึ่งก่อนหน้านี้จะอนุญาตให้เฉพาะนักบวชสามารถเข้าไปทำพิธีในเกาะได้เท่านั้น และปัจจุบันได้เปิดต้อนรับชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นผู้ต้องการเดินทางมาประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว ล่าสุดเกาะแห่งนี้ได้ถูกเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกจากองค์กร UNESCO แต่ด้วยความที่มันถูกรักษาให้เป็นศาสนสถาน ไม่ใช่สถานที่สำหรับท่องเที่ยว จึงทำให้กลุ่มคนผู้ดูแลที่นี่ปฏิเสธการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไป Takayuki Ashizu นักบวชรุ่นอาวุโสผู้ดูแลเกาะแห่งนี้เล่าถึงสาเหตุที่ไม่ยอมขึ้นเป็นมรดกโลกไว้ว่า ‘ทางเราไม่คิดที่จะนำเกาะแห่งนี้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ถึงแม้ว่ามันจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น มีเม็ดเงินเพิ่มมากขึ้น…
-
ครอบครัวย้ายสัตว์กว่า 72 ชีวิต ไปอาศัยอยู่บนภูเขา และที่นั่นก็ได้พบกับความสุขที่แท้จริง…
เป็นเรื่องราวที่จะทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่าโลกนี้มีคนชื่อโนอาห์ และเรือของเขาอยู่จริงๆ เพราะของครอบครัวของชาวเน็ตท่านหนึ่ง ได้ย้ายเหล่าสัตว์น้อยใหญ่มากกว่า 72 ชีวิต ไปอาศัยอยู่บนภูเขาอันแสนสงบสุข และหลังจากที่เขาได้ย้ายพวกมันให้ไปอยู่ในพื้นที่ๆ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ เขาก็ได้ใช้เวลาตามเก็บภาพใบหน้าแห่งความสุขของพวกมันออกมาด้วยเช่นกัน เราตามไปชมกันเลย… อัลปาก้าบอกรู้สึกดี๊ดี อยากวิ่งไปไหนก็ได้ แต่จะว่าไปพวกเขาก็ไม่ได้เริ่มต้นเลี้ยงสัตว์ทีเดียว 72 ตัวหรอกนะ เจ้าของบ้านเล่าว่าตอนแรกสุดก็เลี้ยงแค่สุนัข 2 ตัว จากนั้นก็เริ่มมีแก๊งค์แม่ไก่เพิ่มมาอีก 12 ตัว และก็ตามด้วยอัลปาก้า กระต่าย แกะ เป็ด จนเอาไปเอามาก็ปาเข้าไปกว่า 72 ตัวแล้ว ทั้งหมดมันก็เริ่มมาจากความคิดสนุกๆ ของเจ้าของบ้าน ที่อยากจะอยู่กับสัตว์เลี้ยงนานาชนิดในดินแดนที่สงบสุข และที่สำคัญทั้ง 72 ตัวมีชื่อเรียกเป็นของตัวเองหมดทุกตัว (จำได้ยังไงกันนะ?) เรียกได้ว่าในอนาคตจำนวนประชากรของชาวฟาร์มแห่งนี้ คงเพิ่มขึ้นเป็นหลายร้อยชีวิต เพราะตั้งแต่ย้ายมาอาศัยอยู่ในพื้นที่โล่งกว้าง ดูเหมือนว่าเหล่าสรรพสัตว์ขยันที่จะออกลูกออกหลานกันเหลือเกิน แม้แต่ผึ้งก็มีบ้านให้อยู่กับเค้าด้วยเหมือนกัน เรียกว่าครบวงจรกันเลยทีเดียว ที่สำคัญสัตว์ทุกตัวได้รับอิสระเท่าๆ กัน…
-
หนุ่มทดสอบถ่ายรูปกับเจ้าเหมียวเล่นๆ แต่กลายเป็นภาพพรีเวดดิ้ง ‘คนกับแมว’ เฉยเลย
ถ้าหากคุณกำลังมองหาไอเดียทำกิจกรรมร่วมกับเจ้าเหมียวที่บ้านอยู่ละก็ บอกเลยว่านี่เป็นอีกไอเดียที่น่าสนใจใช้ได้เลยทีเดียว เรื่องราวมันก็มีอยู่ว่าพ่อหนุ่มชาวเน็ตหน้าตาดี ผู้ใช้ Reddit นามว่า wroboat ได้ปิ๊งไอเดียชวนเพื่อนตากล้องของเขา มาถ่ายรูปเจ้าตัวคู่กับแมวเหมียวกันเล่นๆ แต่เอาไปเอามากลายเป็นว่ามันออกมาเป็นรูปถ่ายพรีเวดดิ้งเฉยเลยเว้ยเฮ้ย!! ส่วนนี่ก็คือเจ้า Charlie แต่ดูเหมือนว่าพอตากล้องเริ่มเอากล้องขึ้นมาถ่าย เจ้าชาร์ลีก็ดูจะกลายเป็นเจ้าสาวขึ้นมาทันที ‘ตอนแรกก็กะจะถ่ายกันเล่นๆ นั่นแหละครับ แต่พอรูปออกมาอ้าวเฮ้ย.. ทั้งท่าทาง ทั้งตำแหน่ง อย่างกับถ่ายรูปแต่งงานแน่ะ’ พ่อหนุ่มเล่า แม้แต่ตอนยิ้ม ก็ยังยิ้มพร้อมกัน… แน่นอนว่าสำหรับชายหนุ่มแล้ว เจ้าชาร์ลีเป็นทั้งเพื่อนซี้ และโลกทั้งใบของเขาเลยก็ว่าได้ แต่ดูจากสายตาเจ้าชาร์ลีแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะมองพ่อหนุ่มเป็นทาสซะมากกว่านะ ฮ่าๆๆ และสุดท้ายชาร์ลีก็อยากจะฝากบอกว่า… ถ้าใครอยากหากิจกรรมทำ ชวนแมวเหมียวมาถ่ายรูปแบบนี้ได้นะ ดูไปดูมามันก็เหมือนรูปถ่ายพรีเวดดิ้งจริงๆ นั่นแหละ ที่มา: Lovemeow
-
“อุลตร้าแมน” กลายมาเป็นพี่เลี้ยงแมวเหมียว เลี้ยงไปเลี้ยงมา… ทำไมมันโตเร็วจังฟร๊ะ?!
หลายคนที่เลี้ยงแมว จะรู้ว่ามันเป็นสัตว์ที่โตไวเหมือนกัน บางทีเพิ่งคลอดออกมาเป็นลูกแมวตัวน้อยอยู่หยกๆ เผลอแป๊บเดียวก็ตัวโตไปซะแล้ว เรียกได้ว่าทำเอาคนเลี้ยงเฝ้าดูการเจริญเติบโตของมันแทบไม่ทันเลยละ แต่สำหรับครอบครัวหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น กลับปิ๊งไอเดียสุดจรรเจิดที่จะดูความเปลี่ยนแปลงของเจ้าเหมียวตัวน้อย โดยการไปขอความช่วยเหลือจากอุลตร้าแมน เพื่อให้มาเป็นพี่เลี้ยง และช่วยดูพัฒนาการการเจริญเติบโตของเจ้าเหมียวยังไงละ อื้มมมม เป็นวิธีที่สร้างสรรค์ และน่ารักมากๆ เลย ครั้งนี้เราจึงได้นำภาพน่ารักๆ ของเจ้าเหมียวน้อยกับพี่เลี้ยงที่แสนดีของมันมาให้รับชมกัน โดยภาพทั้งหมดถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า Simimaru (@shlml) ว่าแล้วก็มาดูเรื่องราวของ แมวน้อยกับพี่อุลตร้าแมนกันเลย เจ้าเหมียวที่กำลังนอนกลับอยู่ โดยมีอุลตร้าแมนนั่งเฝ้า มันคงจะรู้สึกอบอุ่น และปลอดภัย แม้ว่าอุลตร้าแมนจะมีภารกิจปกป้องโลกจากพวกปีศาจร้าย แต่เมื่อเขาได้รับเกียรติให้มาดูแลน้องเหมียว แน่นอนว่าเขาพร้อมจะปกป้องมันด้วยชีวิต เมื่อพี่เลี้ยงที่แสนดีเผลอหลับไปกับเหมียวน้อย มีอุลตร้าแมนอยู่เคียงข้าง เราก็รู้สึกปลอดภัย เขาเฝ้ามองมันด้วยความห่วงใย เผลอแป็บเดียวเจ้าเหมียวเติบโตขึ้นแล้ว ตัวใหญ่กว่าพี่เลี้ยงของมันมากๆ เลยละ เมื่ออุลตร้าแมนมาสวมบทบาทเป็นทาสแมว ความน่ารักก็บังเกิด ทั้งคู่คงผูกพันกันมากๆ ก็แน่ละ…เขาอยู่ด้วยกันมานานแล้วนี่นา เทียบความแตกต่าง…ตอนเด็กๆ ตัวพอๆ กับอุลตร้าแมนเลย แต่ดูตอนนี้สิ… เจ้าเหมียวมองพี่เลี้ยงของมันด้วยความรัก …
-
นกเพนกวินพบรักใหม่กับสาวอนิเมะ 2 มิติ หลังจากที่แฟนเพนกวินจริงๆ ทิ้งไปอย่างไม่ใยดี!?
นกเพนกวิน Humboldt นั้นขึ้นชื่อในเรื่องของรักเดียวใจเดียว หากได้รักตัวใดแล้วจะไม่ทิ้งหรือหายไปไหน แต่บางครั้งมันก็ไม่จริงเสมอไป Grape–kun หนึ่งในนกเพนกวินสายพันธุ์ Humboldt ที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์โทบุ เมืองไซตามะ ประเทศญี่ปุ่นนั้นกำลังคบอยู่กับเพนกวินสาวนามว่า Midori ซึ่งอาศัยอยู่ในห้องจัดแดงเพนกวินห้องเดียวกัน Grape-kun เพนกวินพันธุ์ Humboldt ผู้อาศัยอยู่ในสวนสัตว์แห่งนี้ ผู้ดูแลบอกแบบติดตลกว่า.. แต่แล้ววันหนึ่ง Midori ได้พบรักใหม่กับเพนกวินที่หนุ่มกว่ามันในห้องจัดแสดง ฝ่ายสาวจึงทอดทิ้งมันไปและพลอดรักกับเพนกวินหนุ่มตัวนั้นแทน หลังจากที่ Grape-kun โดนทิ้ง มันได้ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการแยกตัวออกจากฝูง นั่งเศร้าสร้อยเหงาหงอยเพียงตัวเดียว พวกเขาเห็นมันเศร้าจึงหาอะไรมาช่วยเหลือมัน ก่อนที่มันจะเจอกับ Hululu สาวอนิเมะจากเรื่อง Kemono Friends ซึ่งมาทำให้ชีวิตมันมีความหวังอีกครั้ง มันเดินไปมาจนได้พบกับ Hululu สาวอนิเมะจากเรื่อง Kemono Friends ที่ดันมาอยู่ตรงนี้พอดี… ตลอดระยะเวลาความเศร้าและเหงาหงอยของ Grape-kun นั้นมีเพียงแค่ Hululu คอยปลอบใจ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เพนกวินหนุ่มหลงรักสาว 2 มิติคนนี้เข้าอย่างจัง ไม่ว่าจะเศร้าขนาดไหน แต่ Hululu จะคอยอยู่ข้างๆ Grape-kun เสมอ ก็แหงสิ เธอจะทิ้งเอ็งไปได้ยังไง……
-
ขออ่านด้วยคนจิ.. “เจ้าตูบ” โผล่เข้าไปกลางรายการทีวีขณะรายงานข่าว กลายเป็นเรื่องเฮฮา
ในการรายงานข่าวสดทางโทรทัศน์นั้น นั้นด้วยความเป็นมืออาชีพของทีมงานและผู้ประกาศข่าว เรามักจะไม่ค่อยได้เห็นข้อผิดพลาดเสียเท่าไหร่ อย่างมากที่สุดก็อาจจะเป็นผู้ประกาศข่าวอ่านข่าวผิดไปบ้างเป็นบางคำ แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากมีแขกรับเชิญแปลกหน้าเข้ามาร่วมแจมในการรายงานข่าวสดหล่ะ ถ้าเป็นคนนี่คงคิดว่ามีใครอยากดัง หรือมาทำร้ายคนในสตูดิโอหรือไม่ แต่นี่ดันเป็นเจ้าหมาซะงั้น!? ในระหว่างที่เธอรายงานข่าว เธอได้ยินเสียงอะไรบางอย่างจากใต้โต๊ะ… ผู้ประกาศข่าว Ilona Linarte จากช่อง Mir24 TV ของรัสเซียพยายามที่จะรายงานข่าวให้จบช่วงของเธอโดยมีเจ้ามะหมาพยายามที่จะมีส่วนร่วมกับเธอด้วย ในระหว่างที่เธอรายงานข่าวเธอยังตะโกนถามทีมงานว่า “เจ้าตูบตัวนี้เข้ามาในสตูดิโอได้ไงเนี่ยะ!?” ก่อนที่เธอจะหันไปรายงานข่าวต่อและพูดหยอกกับผู้ชมเล็กน้อยว่า “อันที่จริงดิฉันชอบแมวนะคะ แหะๆ” ยัง.. ยังไม่ทันขาดคำ อยู่ดีๆ เจ้าหมาก็พุ่งตัวขึ้นมาสร้างความประหลาดใจให้เธอและผู้ชม ยัง… ยังไม่หยุดอีก ดูเหมือนว่ามันพยายามจะอ่านข่าวด้วยนะ จนสุดท้ายเธอดึงเจ้าหมามาอยู่ใกล้ๆ ตัวเพื่อกล่อมให้มันลดความซุกซนลงมา ซึ่งทางสถานีโทรทัศน์ได้อธิบายว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเนื่องจากเจ้าหมาได้หลุดจากปลอกคอของเจ้าของที่เป็นแขกของสตูดิโอเข้ามาในห้องถ่ายทำข่าว จึงเกิดเป็นเหตุการณ์อลหม่านอย่างที่เพื่อนๆ เห็นอยู่นี้ และนี่คือช่วงวินาทีสุดฮา ที่ชาวเน็ตรัสเซียและประเทศอื่นๆ แชร์ไปตลกขบขันกันใหญ่ ถึงแม้ว่าการปรากฎตัวของเจ้าตูบจะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาในเน็ตได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ที่มา: thedodo
-
เปิดตัว 7-Eleven Signature จ่ายเงินด้วย “มือเปล่า” ไม่ต้องมีเงินสด บัตรเครดิต หรือมือถือ!!
การแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบันนั้นมีความก้าวหน้ากว่าสมัยก่อนเป็นอย่างมาก สืบเนื่องมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ๆ เกี่ยวกับการจ่ายเงินที่เปลี่ยนไป ไม่ได้ผูกอยู่กับแค่ธนบัตรแต่เพียงอย่างเดียวแล้ว ทำให้ผู้ผลิตต้องเริ่มหันมาพัฒนาวิธีการเข้าถึงเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในประเทศเกาหลีใต้ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอีกแห่งของเอเชีย ด้วยความร่วมมือของ Lotte และ 7-Eleven ได้เปิดตัวร้านสะดวกซื้อที่มีการจ่ายเงินผ่านระบบ BioPay ที่สาขาใน Lotte Tower โดยใช้ชื่อเก๋ไก๋ว่า 7-Eleven Signature โลโก้ของ 7-Eleven Signature ซึ่งวิธี BioPay นั้นเป็นระบบการชำระเงินนี่ช่วยให้ผู้บริโภคนั้นสามารถชำระเงินโดยใช้ส่วนใดก็ได้ของร่างกายตนที่ทำการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลแทนบัตรเงินสด โดยใช้หลักการไบโอเมตริกซ์ ซึ่งก็คือแนวทางการเก็บรวบรวมข้อมูลและการตรวจเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล เช่น ลายนิ้วมือ หรือม่านตา คล้ายๆ กับที่หลายแห่งใช้ในการสแกนลงเวลาเข้างานหรือเข้าออกสถานที่ต่างๆ นั่นเอง ไม่ต้องพกบัตร เงินสด หรือมือถือก็สามารถซื้อของได้!! 7-Eleven ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับระบบ HandPay ที่อยู่ใน BioPay นั้น หลักๆ คือการจดจำเส้นเลือดในมือนำมาประกอบกับลายนิ้วเมื่อเพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน ระบบจะทำการจดจำเส้นเลือดในเมื่อเพื่อเป็นการยืนยันตัวเองของผู้ใช้ โดยภายในร้านสะดวกซื้อนั้นนอกจากจะได้พบกับแคชเชียร์อัตโนมัติด้วยระบบ A.I. ที่ออกแบบมาทำหน้าที่คิดเงินเราผ่านสินค้าที่เราเลือกแล้ว เรายังได้พบกับตู้เย็นเปิดปิดอัตโนมัติ รวมไปถึงระบบกล้อง…
-
ดู 16 ภาพที่จะมาบอกว่า ที่จริงแล้วพวกสุนัขก็ขี้เมา ไม่ต่างจากลุงแถวบ้านเลยนะเนี่ย..!!
ลองสังเกตแถวละแวกบ้านตัวเอง หรือไม่ก็เพื่อนในกลุ่มตัวเองดูซิว่ามีคนไหนเป็นขี้เมาบ้างรึเปล่า? ไม่ว่าจะเมาอะไรก็ตามแต่ สำหรับพวกเขาแล้วก็พร้อมที่จะเมาได้เสมอตั้งแต่หัววันยันเที่ยงคืน ไม่ใช่แค่กับลุงแถวบ้านเท่านั้นนะที่ชอบทำตัวขี้เมาแต่หัววัน เพราะทั้ง 16 ภาพของพวกเจ้าตูบทั้งหลายนี้แหละ จะมาพิสูจน์ให้เราเห็นว่า พวกมันขี้เมามากขนาดไหน 1. เมื่อคุณไปเจอเพื่อนสายเขียว (ตาเยิ้มเลยนะเอ็ง) 2. สภาพของคุณตอนตื่นเช้ามาทำงาน แต่เมื่อคืนหนักไปหน่อย 3. เมื่อคุณเมาแอ๋ไม่ไหวแล้ว แต่ยังบอกว่าตัวเองไหวอยู่… 4. สภาพของคุณตอนภาพตัด แล้วก็ตื่นมาแบบจำอะไรไม่ได้ 5. เมื่อคุณเมาแอ๋จนพูดไม่รู้เรื่อง แต่ยังอยากจะถ่ายเซลฟี่ 6. เมื่อคุณเมาอิ๊บอ๋าย และกลับบ้านมาพบว่ามีอาหารรออยู่ 7. สภาพของคุณเมื่อแฮงโอเว่อร์ไปทำงาน 8. เมื่อคุณออกมาจากผับแล้วพบว่า… มันเช้าแล้ว!! 9. เมื่อคุณเมาอิ๊บอ๋ายจนหลับใน… 10. สีหน้าของคุณเมื่อรู้ว่า… ข้างหน้ามีด่าน!! 11. สภาพของคุณในเช้าวันเสาร์ หลังปาร์ตี้คืนวันศุกร์หนักเกินไป 12. เมื่อคุณผู้หญิงเมาจนไม่ล้างเครื่องสำอางค์…
-
15 ภาพประวัติศาสตร์หาดูยาก วิถีชีวิตชาวจีนในยุคราชวงศ์ชิง ก่อนเปลี่ยนผ่านเป็นคอมมิวนิสต์
วันนี้เราจะขอพาไปชมอะไรที่ค่อนข้างจะประวัติศาสตร์กันซักหน่อย ประเทศสมญานามพญามังกร ซึ่งปกครองด้วยระดับบคอมมิวนิสต์ในปัจจุบันนั้น หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าในช่วงคริตศักราชที่ 1644-1912 แผ่นดินจีนถูกปกครองโดยราชวงศ์ชิง (ราชวงศ์แมนจู) และนั่นก็เป็นภาพที่เราเห็นในหนังหรือละครจีนย้อนยัค ไปถึงยุคสมัยที่หญิงสาวต้องห่อเท้าตั้งแต่เด็ก ผู้ชายต้องโกนผมครึ่งหัว และเต็มไปด้วยผู้คนที่ถูกมอมเมาด้วยฝิ่น เว็บไซต์เดลีเมล์ นำเสนอภาพหายากทางประวัติศาสตร์จากจีน ก่อนที่จะเปลี่ยนผ่านสู่ยุคของเหมา เจ๋อตุง ว่าชีวิตในยุคนั้นจะเป็นอย่างไร ทางต้นฉบับให้ข้อมูลเอาไว้ว่า ก่อนที่จีนจะเปลี่ยนมาสู่ระบบคอมมิวนิสต์ ประชาชนในยุคนั้นถูกมอมเมาด้วยฝิ่นกันเป็นจำนวนมาก ภายใต้กฎการปกครองของราชวงศ์ชิง ผู้ชายชาวจีนทุกคนจะต้องตัดผมครึ่งหัว และถักเปียไว้ด้านหลังแบบนี้ กลุ่มเด็กผู้ชายบนถนนจากเมืองกวางเจา (ซ้าย) และภาพขนก้อนชาที่หนักกว่า 136 กิโลกรัม ไปในระยะทางไกลกว่า 180 กิโลเมตร (ขวา) ในยุคนั้นหญิงสาวทุกคนจะถูกฝึกให้ห่อเท้าตั้งแต่เด็ก โดยมีความเชื่อว่ายิ่งเท้าเล็ก ก็จะยิ่งมีความสวยงามมาก ภาพจากปักกิ่งเมื่อปี 1869 ก่อนที่วัฒนธรรมดั้งเดิมทั้งหมดจะถูกลบหายไปในยุคการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ภาพของกลุ่มนักบวชลัทธิเต๋าจากปี 1906 ซึ่งภายหลังเรื่องแนวคิดทางศาสนาขัดแย้งกับหลักการปกครองของคอมมิวนิสต์ ทำให้พวกเขาต้องอยู่กันอย่างหลบๆ ซ่อนๆ กลุ่มหญิงสาวผู้เป็นภาพสะท้อนของค่านิยมในยุคราชวงศ์ชิง ภาพของคุณหมอกำลังตรวจเช็คสุขภาพเท้าของชายคนหนึ่ง ในยุคนั้นการแสดงงิ้วยังได้รับความนิยมอย่างสูง ก่อนที่จะถูกควบคุมในยุคของเหมา…
-
ดราม่าร้อน!! สาวน้อยวัย 13 ปี ถูกไล่ออกจากโรงเรียน เพราะไปเป็น “เรซควีน” ในการแข่งรถ
เรียกได้ว่ากำลังกลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนระอุไปทั่วโลกโซเชียลชาวญี่ปุ่น เกี่ยวกับความเหมาะสมของเด็กหญิงวัย 13 ปี กับเส้นทางควาฝันที่อยากจะเป็นนางแบบของเธอ และรับงานในช่วงเวลานอกเหนือเวลาเรียน Momoka Kurita ผู้สร้างเสียงฮือฮาในการเป็นเรซควีนให้กับรายการแข่งขัน MFJ Grand Prix ครั้งที่ 48 ซึ่งงานนี้ก็มีชาวเน็ตออกมาแย้งกันให้เพียบ เกี่ยวกับความเหมาะสมหรือไม่ที่เด็กอายุ 13 ผู้อยากจะเป็นเรซซิ่งควีน!? Momoka Kurita ในขณะที่เธอเรียนอยู่ในชั้นประถมศึกษา หลายคนอาจจะอยากเป็นพนักงานบริษัท อาจารย์ หรือแอร์โฮสเตส แต่เธอมีความฝันที่แตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ นั่นก็คือการได้เป็นนางแบบและเรซควีน ด้วยอายุอานามของเธอที่ยังดูเด็ก ทำให้เรื่องราวความฝันของเธอถูกเอาไปพูดถึงต่อทั่วโลกออนไลน์ และก็เกิดการโต้เถียงของชาวเน็ต บ้างก็ว่าไม่เหมาะสมเพราะเธอยังเด็กเกินไป แต่บ้างก็ว่ามันเป็นสิทธิความชอบส่วนบุคคล ในส่วนของคุณแม่ก็ได้ให้การสนับสนุนเธออย่างเต็มที่ บางคนอาจจะมองว่าสำหรับเด็กวัย 13 ถือเป็นการแต่งตัวที่ดูไม่เรียบร้อย ชาวเน็ตหลายคนก็ได้ให้ความเห็นไปในทำนองที่ว่า Momoka ยังเป็นเด็กอยู่ และการเป็นเรซควีนก็เปรียบเสมือนการเอาร่างกายตัวเองไปขาย ดังนั้นอาจดูไม่ดี และไม่สมควรเท่าไหร่นัก ประเด็นดังกล่าวเริ่มเป็นที่พูดถึง และจากกระแสดังกล่าวทำให้เธอถูกเชิญออกจากโรงเรียนในที่สุด ยิ่งเธอถูกเชิญออก ก็ยิ่งทำให้ประเด็นดราม่ารุนแรงขึ้นไปอีก ถึงทั้งความเหมาะสมของเธอ และการกระทำของโรงเรียนว่าถูกแล้วหรือ!? แต่นั้นก็ไม่สามารถหยุดความฝันของเธอได้ เพราะตอนนี้เธอกำลังเตรียมตัวออดิชั่นเข้าสู่รายการ Tokyo Girls Audition…
-
มหาวิทยาลัยผุดไอเดีย จัดงานรับปริญญา “สัตว์เลี้ยงนักศึกษา” ให้พวกมันมีส่วนในความสำเร็จ!!
สำหรับชีวิตการเป็นนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยนั้น คงไม่มีวันไหนที่จะสำคัญเท่ากับวันรับปริญญา ในบางประเทศถือเป็นพิธีกรรมแสนวิเศษ ขณะที่วัฒนธรรมบางประเทศคือการเฉลิมฉลองการเรียนจบ และอาจจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป แต่จะเป็นยังไงละถ้างานนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับเฉพาะนักศึกษาเท่านั้น!? เพราะที่สถาบัน Eckerd College จากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกไอเดียสุดน่ารักเอาใจนักศึกษา ด้วยการจัดงานรับปริญญาให้แก่สัตว์เลี้ยงซะเลย เม่นน้อยก็ได้รับปริญญากับเค้าบ้างแล้ว เย้!! ซึ่งงานรับปริญญาบัตรครั้งนี้เพิ่งจัดไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยภายในงานมีสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นหมา แมว เม่น หรือแม้แต่กิ้งก่า มาร่วมรับปริญญาบัตร นักศึกษาที่จบรุ่นนี้ สามารถนำพวกมันมาเข้าร่วมงานรับปริญญาพิเศษนี้ได้ทุกตัว ภายในงานมีการต้อนรับผู้สำเร็จการศึกษา (สัตว์เลี้ยง) ด้วยคุ๊กกี้รสนมจากบริษัทอาหารสัตว์เลี้ยง และมีการกล่าวสุนทรพจน์เล็กๆ น้อยๆ ให้กับสัตว์เลี้ยงทุกตัว แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงทุกตัวต้องใส่ชุดครุย และหมวกบัณฑิตให้ถูกต้องตามประเพณี อันที่จริงแล้วสถาบันแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงของนักศึกษามากที่สุด เพราะนักศึกษาสามารถเอาพวกมันมาเข้าเรียนด้วยได้ หรือแม้แต่เลี้ยงสัตว์ในหอพักมหาวิทยาลัยได้ ‘เพราะที่นี่คือสถาบันที่มุ่งเน้นให้เราเข้าใจ ถึงการอยู่ร่วมกันกับทุกสิ่งมีชีวิต’ James Annarelli ประธานนักศึกษากล่าว นอกจากนั้นแล้วทางสถาบันยังมุ่งเน้นที่จะให้นักศึกษาเข้าใจถึงการอยู่ร่วมกัน และการดูแลสิ่งแวดล้อมในสังคม จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ให้นักศึกษาสามารถนำสัตว์เลี้ยงมาด้วยได้ หลายๆ ตัวเคยอยู่อย่างอดๆ อยากๆ และเสี่ยงตายอยู่ข้างถนน และนโยบายของทางมหาวิทยาลัยก็ช่วยทำให้มีสัตว์เลี้ยงได้รับการอุปการะเพิ่มมากขึ้น …
-
เจ้าตูบดีใจมีคนมาช่วยเหลือ หลังมีถูกมัดปาก-มัดเท้า นำมันมาทิ้งไว้ แล้วจะทำไปเพื่อ!?
บางทีเราก็ไม่ค่อยเข้าใจเลยว่า.. ทำไมบางคนถึงชอบกลั่นแกล้งพวกเหล่าหมาแมวกันจังเลย บ้างก็โหดร้ายกลั่นแกล้งซะจนถึงกับเสียชีวิตเลยก็มี เหตุการณ์นี้ก็เช่นเดียวกัน เกิดขึ้นที่เมือง Robstown รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ Carlos Carrillo และเพื่อนได้ยินข่าวมาว่า มีสุนัขดูท่าทางเหมือนจะต้องการความช่วยเหลือมาอาศัยอยู่ในพงหญ้าแห่งหนึ่งแถบเมืองของพวกเขา ทันทีที่พวกเค้าลองไปสำรวจดู ก็พบกับเจ้าตูบผู้โชคร้ายที่โดนมนุษย์กลั่นแกล้งอยู่จริงๆ ‘ตอนแรกเราไม่เชื่อว่ามันเป็นสุนัข จนเข้าไปดูใกล้ๆ ถึงมั่นใจได้ว่ามันเป็นสุนัขจริงๆ มันน่าสงสารมากเลยมีคนใจร้ายเอาสก็อตเทปมาปิดปาก และมัดขาทั้งสองข้างของมันไว้’ Carlos เล่า พอพวกเขาเห็นมันตกอยู่ในสภาพนี้ ก็รีบเข้าไปช่วยเหลือมันทันที ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าตูบนิรนาม และไม่มีใครรู้สาเหตุของการกระทำในครั้งนี้ บางทีอาจจะมีมนุษย์ใจร้ายจงใจอยากจะทำให้มันจากโลกนี้ไปอย่างน่าสงสาร ‘หลังจากที่เราช่วยมันมาได้ เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่สุนัขที่เลวร้ายเลย มันดูต้องการจะขอบคุณเรา และพวกเราก็ยินดีที่จะช่วยมัน’ จากสภาพรอยกาวทำให้เห็นว่าเจ้าตูบถูกมัดอย่างแน่นหนา หลังจากที่แก้มัดให้มันแล้ว ทั้งสองก็พาเจ้าตูบเข้าพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็คร่างกายทันที และโชคดีที่งานนี้เจ้าตูบไม่ได้เป็นอะไรมากนัก และถึงแม้ว่าความยุติธรรมจะไม่ได้ลงโทษคนที่ทำร้ายเจ้าตูบ แต่ตอนนี้มันก็ได้อยู่ภายใต้การดูแลของคนที่พร้อมจะมอบทั้งความรัก และความอบอุ่นให้ คงไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว ใครกันนะใจร้ายเอาสก็อตเทปมาแกล้งกันแบบนี้ ถ้าเจอตัวจะจับตีก้นซะให้เข็ดเลย!! ที่มา: TheDodo
-
ค้นพบตั๊กแตนใบไม้สายพันธุ์ใหม่ ตัวผู้ยังคงมีสีเขียว แต่เพศเมียกลับมีสีชมพูเต็มทั้งตัว!!
ไม่นานมานี้มีการค้นพบตั๊กแตนใบไม้ที่มีสีชมพูกุหลาบฟรุ้งฟริ้ง ซึ่งสีชมพูนี้จะมีแค่ในตัวเมียเท่านั้น ในขณะที่ตัวผู้จะมีสีเขียว ซึ่งทั้ง 2 เพศยังมีรูปร่างหน้าตารวมไปถึงเส้นเลือดที่คล้ายกับใบไม้ใบหนึ่งเลยทีเดียว การค้นพบครั้งนี้เกิดขึ้นได้เมื่อนาย George Beccaloni ได้ทำการถ่ายภาพแมลงตัวนี้ไว้ เขาพยายามที่จะหาว่ามันเป็นแมลงชนิดใด แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่สามารถระบุได้ว่ามันเป็นแมลงอะไร แมลงสายพันธุ์ใหม่ ที่ถูกพบในบริเวณทางตอนเหนือของเกาะบอร์เนียว Beccaloni ได้ส่งรูปถ่ายของเขาไปให้ Sigfrid Ingrisch ผู้เชี่ยวชาญแมลงสายพันธุ์ Katydid ของเอเชีย พวกเขามั่นใจว่านี้คือการค้นพบตั้นแตนใบไม้สายพันธุ์ใหม่อย่างแน่นอน ก่อนที่จะตั้งชื่อทางวิทยาศาสตร์ให้พวกมันว่า Eulophophyllum kirki ด้วยลักษณะปีกที่เป็นรูปใบไม้อย่างชัดเจนและสีที่แยกเพศของพวกมัน ทำให้พวกมันกลายเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีความโดดเด่นมากที่สุดในตอนนี้ ลักษณะสีที่โดดเด่นของตัวเมีย จากการศึกษาเพิ่มเติมของงานวิจัยในวารสาร Orthoptera Research ทำให้ Beccaloni และทีมนักวิจัยได้จำแนกแมลงในสกุล Eulophophyllum ซึ่งเป็นที่รู้จักกันมาก่อนหน้านี้จากหลักฐานที่เก็บรวบรวมในทางตอนเหนือของบอร์เนียวเมื่อเกือบร้อยปีก่อน แมลงในตระกูล Eulophophyllum ที่มีลักษณะคล้ายใบไม้ ทั้งสองสายพันธุ์ที่ค้นพบใหม่แตกต่างจากตัวอย่างที่รู้จักมาก่อนหน้านี้ โดยรูปแบบของหลอดเลือดที่ปรากฏบนปีก ตัว และขาหลังของพวกมัน ทำให้มันดูเหมือนใบไม้และสีชมพูที่มีเฉพาะในเพศเมีย จากข้อมูลนี้เป็นไปได้ว่าแมลง Katydids สายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งค้นพบทั้งสองเพศ ไม่ได้เป็นสีเดียวกันเนื่องจากมีเหตุผลที่แตกต่างกันสำหรับการปลอมตัว ตัวผู้จะมีสีเขียวเพื่อความสะดวกในการเดินทาง Beccaloni กล่าวว่า “ตัวเมียของสายพันธุ์ใหม่นี้อาจจะซ่อนตัวอยู่และอาจกินอาหารที่มีใบอ่อนสีแดง…
-
พาไปชม 10 หมู่บ้านสุดสวยงามจากฝั่งตะวันตก โลกเทพนิยายที่สัมผัสได้บนผืนดินจริงๆ
#เหมียวปั๊ก เป็นคนที่ชอบแบกเป้ออกไปท่องโลกกว้างมากๆ เลยนะ (ถ้ามีเวลากับตังค์น่ะนะ) และบ่อยครั้งที่เหมียวจะเข้าไปหาข้อมูลเพื่อตั้งเป้าหมายสถานที่ที่เหมียวจะไปเป็นที่ต่อไป สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังหาหมู่บ้านสงบๆ เป็นเป้าหมายในการพักผ่อนแล้วล่ะก็ เหมียวขอแนะนำ 12 หมู่บ้านที่มีความสวยงามเหมือนดั่งโลกเทพนิยาย แต่สามารถไปสัมผัสได้จริงๆ และคุ้มค่าแก่การเดินทางแน่นอน Gàsadalur Village หมู่บ้าน Gàsadalur ตั้งอยู่ที่หมู่เกาะแฟโร ประเทศเดนมาร์ก ด้วยทางเข้าหมู่บ้านที่เป็นอุโมงค์ทะลุผ่านภูเขาและวิวทิวทัศน์ทะเลที่สวยงาม รายล้อมไปด้วยภูเขาและเมฆหมอก ทำให้หมู่บ้านนี้มีมนต์ขลังเป็นอย่างมาก Popeye Village ที่นี่คือหมู่บ้าน “Popeye” ที่ตั้งอยู่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ Malta ด้วยความสวยงามของสถานที่ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง Popeye ปี 1980 ซึ่งนำแสดงโดย Robin William นักแสดงอารมณ์ดีผู้มากความสามารถอีกด้วย Mali Village ดูเหมือนเป็นหมู่บ้านที่ธรรมดา แต่ความพิเศษของมันอยู่ที่วิวทิวทัศน์ของแม่น้ำ Niger กับทะเลทรายที่มาบรรจบกันอย่างลงตัว ทำให้มันมีกลิ่นอายของการผจญภัยรวมกับบรรยากาศชิลๆ นั่งมองดูเรือใบบรรทุกของไหลผ่านไปมา Masuleh Village หมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนภูเขาในประเทศอิหร่านโดยมีประชากรประมาณ 550 คน ในตอนกลางวันหมู่บ้านนี้ดูเหมือนจะเป็นหมู่บ้านทั่วไป แต่อย่าให้ได้ตกกลางคืนหล่ะ เพราะคนในหมู่บ้านนะจะพร้อมใจกันเปิดไฟหลากหลายสีสัน ทำให้บรรยากาศครึ้งเครงดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันตา…
-
นักวิทยาศาสตร์เผยถึง 9 สิ่งที่มีแนวโน้มในการเปลี่ยนแปลง ชีวิตของมนุษย์ยุคอนาคต!!
ปัจจุบันมนุษยชาติได้วิวัฒนาการและพัฒนาสิ่งต่างๆ เพื่อความสะดวกสบายและเพิ่มขีดควาสามารถของตนเองในทุกๆ ด้าน ด้วยเหตุผลที่เราต้องการดำรงอยู่ต่อหรือเอาชีวิตรอดจากอันตรายต่างๆ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต #เหมียวปั๊ก ได้เจอบทความของ The Futurist ได้กล่าวถึงหัวข้อเกี่ยวกับเรื่องของ ชีวิตของมนุษย์ชาติจะเป็นเช่นไรในอนาคต เหมียวจึงได้นำข้อมูลจากนิตยสารรวมไปถึงแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมมาประกอบกัน ซึ่งนี่เป็นเนื้อหามุมมองส่วนหนึ่งของบทความหลากหลายอันที่เหมียวได้รวบรวมมานะ ลักษณะทางกายภาพ ด้วยอาหารที่ถูกสุขลักษณะรวมไปถึงอาหารเสริมและการออกกำลังกายที่ถูกจุด จะทำให้มนุษย์นั้นสามารถที่จะเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์และแข็งแรง ส่งผลให้มีร่างกายที่แข็งแรงและ “สูงกว่า” คนในยุคก่อนๆ เป็นอย่างมาก ในสมัยก่อนนั้นยังไม่มีอาหารเสริมหรืออาหารที่ถูกสุขลักษณะ จึงมักจะทำให้มนุษย์นั้นได้รับสารอาหารที่ไม่พอต่อการเจริญเติบโต จากข้อมูลในปี 1880 ส่วนสูงเฉลี่ยของคนอเมริกันอยู่ที่ 170 เซนติเมตร แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 177 เซนติเมตร ข้อเท็จจริงนี้แสดงให้ว่ามนุษยชาตินั้นสามารถที่จะสูงขึ้นได้อีก ไม่มีคนพิการ ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์เราเราสามารถที่จะผลิตเครื่องมือที่มาช่วยให้คนพิการสามารถใช้ชีวิตปกติได้เช่นขาเทียมที่เชื่อมต่อกับเส้นประสาทของสมอง หรือจะเป็นเครื่องช่วยฟังที่สามารถบันทึกเสียงที่ได้ยิน โดยสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในปัจจุบันและหากเรายังคงค้นคว้าและพัฒนาโครงการหรืองานวิจัยด้านนี้ต่อไป เราสามารถจะสร้างเครื่องมือที่ทำให้คนพิการสามารถใช้ชีวิตได้ไม่ต่างจากบุคคลธรรมดาทั่วไป หรือคนธรรมดาก็สามารถที่จะเสริมความสามารถของตนเองได้ด้วยการเพิ่มชิ้นส่วนเครื่องกลเข้าไปในร่างกายได้ ระบบการศึกษาที่เปลี่ยนไป อ้างอิงจากระบบการศึกษาของประเทศชั้นนำอย่างฟินแลนด์ เป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงถึงแนวโน้มการศึกษาในอนาคตที่มุ่งเน้นการสอนเกี่ยวกับทักษะการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากกว่าที่จะสอนเพื่อให้จำชุดข้อมูลจากตำราที่ถูกบันทึกไว้อยู่แล้ว ด้วยระบบเก็บข้อมูล (เนื้อหาเรียน) ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ผ่านอินเตอร์เน็ตในอนาคต เราสามารถที่จะเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกเนื้อหาที่สนใจ และในอนาคตการปรับใช้ทฤษฎีที่เรียนรู้มาเข้ากับการปฎิบัติหน้างาน จะเริ่มมีความสำคัญกว่าการนำทฤษฎีเข้ามาใช้โดยที่ไม่มีความเข้าใจมากพอ ส่งผลให้ไม่สามารถทำงาน หรือบรรลุเป้าหมายงานได้ …
-
ศิลปินหนุ่มวัย 23 ปี ภาพวาดจาก “ปากกาลูกลื่น” ที่เหมือนจนแยกไม่ออกว่า นี่ภาพถ่ายหรือภาพวาด!?
เวลา #เหมียวปั๊ก ว่างๆ ชอบที่จะออกไป Art Gallery เพื่อดูภาพวาดต่างๆ บางคนอาจจะใช้สีน้ำวาด สีเทียน หรือแม้กระทั่งถ่านหินก็สามารถที่จะนำมาเป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์ผลงานได้ แต่ใครจะไปนึกว่าสิ่งของใกล้ตัวเราที่สุดอย่างเช่น “ปากกาลูกลื่น” การสามารถที่จะรังสรรค์เป็นผลงานสวยๆ แบบนี้ได้เช่นกัน พบกับคุณ Alfredo Chamal ศิลปินชาวแม็กซิกันผู้วาดภาพแนว hyper-realistic ที่เน้นการวาดรูปเหมือนโดยใส่รายละเอียดของภาพเข้าไปหมดทุกส่วนทำให้ภาพที่วาดนั้นเหมือนได้มาจากการถ่ายด้วยกล้อง โดยใช้ปากกาลูกลื่นเป็นอุปกรณ์หลักในการวาดภาพของเขา นาย Alfredo Chamal ศิลปินหนุ่มวัย 23 ปี เขาเลือกที่จะใช้ปากกาลูกลื่นสร้างผลงานจะได้ภาพวาดแบบนี้ สำหรับศิลปินหลายท่านอาจจะต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็น 10 ปีกว่าที่จะสามารถใช้เครื่องมือตัวเองได้อย่างชำนาญในการสร้างสรรค์ผลงานเช่นเดียวกับศิลปินหนุ่มคนนี้ที่ฝึกฝนจนตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ปากกาลูกลื่น ด้วยความชำนาญ ทำให้ภาพแต่ละภาพดูเผินๆ เหมือนภาพถ่ายเช่นกัน รูปทรง แสง เงาในภาพหลอกตาเราจนนึกว่าเป็นภาพถ่าย ถึงแม้ว่าปากกาลูกลื่นจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานศิลป์ที่ไม่แพร่หลายนัก เนื่องมาจากการลบลายเส้นหากเกิดการผิดพลาดที่ยากมาก แต่นี่ก็ไม่ได้ทำให้ Alfredo นั้นหยุดที่ใช้จะเครื่องมือโปรดของเขาวาดภาพเหมือนกับศิลปิน Juan Francisco Casas ผู้เป็นแรงบันดาลใจของเขา Juan Francisco Casas ผู้เป็นแรงบันดาลใจของศิลปินหนุ่ม หลังจากที่เขาถ่ายรูปภาพต่างๆ เพื่อมาเป็นแบบ เขาจะใช้เวลาหลายวันในการวาดภาพที่เขาถ่ายจนเสร็จ…
-
บริษัทในญี่ปุ่นใจดี จ่ายโบนัสพิเศษ แก่พนักงานที่ช่วยเหลือ “แมวเหมียวจรจัด” จากข้างถนน
การที่เราจะได้เงินโบนัสจากการที่ทำงานนั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายวิธีการ เช่น การทำงานให้ได้เกินมาตรฐานที่องค์กรตั้งไว้ หรือผลงานหรือการปฎิบัติตัวที่ดีก็สามารถที่จะทำให้เราได้เงินโบนัสเพิ่มเข้ามา แต่สำหรับบางองค์กรนั้นมีการให้โบนัสที่แตกต่างออกไป โดยบริษัทที่ #เหมียวปั๊ก จะเล่าต่อไปนี้จ่ายโบนัสพิเศษให้กับพนักงานโดยนับจากจำนวนแมวที่พวกเขาช่วยเหลือมาอีกด้วย จะเป็นแมวตัวเล็กหรือใหญ่ทางบริษัทก็นับเหมือนกันนะ เมื่อไม่นานมานี้ที่ญี่ปุ่น บริษัท Ferray Corporation ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับไอที ตั้งอยู่ในเมืองโตเกียว ได้มีการจ่ายโบนัสให้พนักงานที่ช่วยเหลือแมวข้างถนนเป็นรายตัว เลี้ยงผมแล้วได้โบนัสด้วยนะ โดยโบนัสที่จ่ายนั้นเป็นจำนวนเงินประมาณ 1,500 บาทต่อแมวหนึ่งตัว นอกจากนั้นบริษัทยังอนุญาตให้พนักงานนำแมวเหล่านี้มาที่ทำงานได้อีกด้วย!! แมว แมว แมวเต็มไปหมด จะบนโต๊ะหรือในห้องประชุมก็มีพวกมันอยู่ทุกที่ Hidenobu Fukuda หัวหน้าของบริษัท Ferray Corporation ได้ให้เหตุผลว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในทำงานนอกจากงานแล้วยังเป็นเรื่องของความรักและอบอุ่นที่ได้จากเจ้าเหมียว คุณ Fukuda ที่กำลังให้สัมภาษณ์ โดนแย่งซีนหน้าตาเฉย เนียนนะเนี่ยะ เราหน่ะ เมืองโตเกียวในปัจจุบันนั้นถือเป็น ที่มี Workaholic (คนบ้างาน) เป็นจำนวนมาก ด้วยจำนวนชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน ทำให้พวกเขาเหล่านี้ไม่สามารถที่จะมีสัตว์เลี้ยงคอยแก้เหงาหรือปลอบได้ เหงาหรอมนุษย์ ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวเค้าให้ความอบอุ่นเอง …
-
ภาพถ่ายพาโนราม่าที่คมชัดสุดของเรือในตำนาน Titanic รำลึก 104 ปี แห่งเหตุการณ์โศกนาฎกรรม
เราอาจจะเคยได้ยินชื่อหรือเคยดูหนังที่เกี่ยวกับเรือสำราญขนาดใหญ่ที่ล่มกลางมหาสมุทร ซึ่งเรือดังกล่าวคือเรือ “RMS Titanic” เรือที่เคยมีขนาดใหญ่และหรูหราที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่มนุษย์เคยสร้างขึ้น วันที่ 15 เมษายน ปีค.ศ. 1912 เรือ RMS Titanic ได้จมลงสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติก หลังชนภูเขาน้ำแข็งระหว่างการเดินทางเที่ยวแรกจากเซาธ์แทมป์ตันในสหราชอาณาจักร สู่มหานครนิวยอร์กในสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดกับ “เรือซึ่งไม่มีวันจม” รวมถึงเรือชูชีพที่ไม่เพียงพอต่อจำนวนคนบนเรือ ทำให้ผู้โดยสารและพนักงานกว่า 1,500 คนเสียชีวิตลง ภาพเรือ RMS Titanic ที่ถ่ายไว้เมื่อปีค.ศ. 1912 ก่อนที่มันจะกลายเป็นเพียงตำนาน เพื่อเป็นการรำลึกถึงโศกนาฎกรรมครั้งนั้น Yadegar Asisi ได้แสดงภาพถ่ายเรือ RMS Titanic ที่ปัจจุบันนี้จมอยู่อยู่ก้นมหาสมุทรและจัดแสดงด้วยสัดส่วนที่ใหญ่ถึง 1:1 หรือเป็นภาพถ่ายซึ่งมีขนาดใหญ่เท่ากับเรือจริงทุกระเบียดนิ้ว ผลงานดังกล่าวถูกจัดแสดง ณ Leipzig Panometer ประเทศเยอรมนี ในชื่อผลงานว่า “TITANIC – The Promise of Modernity” ภาพถ่ายพาโนราม่าของ Titanic ที่เท่ากับขนาดเรือจริง!! ด้วยภาพที่เป็นลักษณะ Panorama…
-
ชายหนุ่มใช้เวลา 4 ปี ตามถ่ายรูปฝูงกระรอก กลายเป็นซี้กันจนกระรอกถ่ายรูปคืนให้ ห๊ะ!?
เป็นเวลานานกว่า 4 ปี ที่ Geert Weggen ใช้เวลาตามติดชีวิตเหล่ากระรอกน้อย เพื่อตามเก็บทุกภาพอริยาบถของพวกมัน จนกระทั่งกลายเป็นเพื่อนซี้กันในที่สุด เขากล่าวเอาไว้ว่า “หลายปีก่อนหน้านี้ผมมักจะทำหน้าที่เป็นคนอยู่หลังกล้อง แล้วตามเก็บภาพพวกกระรอก นก หรือสิงสาราสัตว์อยู่ตลอด แต่คราวนี้ผมอยากให้มันมาทำหน้าที่แทนผมบ้าง ซึ่งภาพถ่ายทั้งหมดนี้มีกระรอกมาร่วมแจมด้วย 4 ตัว และบางรูปก็เกิดจากการเอา 2 ภาพมารวมกัน (เพราะไม่สามารถถ่ายพวกมันแบบเป๊ะๆ ในทีเดียวได้)” นึกไม่ถึงใช่ไหมล่ะว่าคนกับกระรอกจะมาซี้กันได้ แต่มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ แล้วจะเป็นยังไงล่ะถ้าสลับหน้าที่กัน งานนี้แก๊งค์กระรอกขอเป็นช่างกล้องกับเค้าบ้างเด้อ ถ่ะแด๊มม..!! มนุษย์อยู่นิ่งๆ กล้องไม่โฟกัสเลย ภาพถ่ายทั้งหมดนี้ก็มีกระรอกมาเข้าฉากถึง 4 ตัวด้วยกัน พวกมันทั้ง 4 ไม่มีชื่อเรียกหรอก ทว่าเป็นกระรอกที่มักจะมาป้วนเปี้ยนอยู่ในบ้านของช่างภาพอยู่บ่อยๆ พ่อหนุ่มช่างภาพเลยชวนพวกมันมารับหน้าที่เป็นตากล้องกับเค้าบ้างซะเลย เฮ้ยเดี๋ยว!? เล่นกายกรรมกวางเจาเป็นกับเค้าด้วยเหรอเนี่ย แต่บางทีกระรอกก็จะเอ๋อหน่อย แบบชนิดที่ไม่รู้ว่า… เลนส์กล้องอยู่ตรงไหน แน่นอนว่าภาพถ่ายทั้งหมดนี้ ไม่มีกระรอกตัวใดถูกบังคับ หรือได้รับการบาดเจ็บ ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากความสนิทชิดเชื้อ…
-
คุณแม่ใจร้ายขังลูกชาย 2 คนไว้ในกรงสุนัข หลังจากหย่ากับสามีที่แต่งงานกันมากว่า 6 ปี!!
ชีวิตแต่งงานของใครหลายคู่จะจบลงด้วยการหย่า แต่สำหรับชีวิตของลูกๆ ที่เกิดจากการแต่งงานนั้นยังคงดำเนินต่อไป แม้คุณแม่กับคุณพ่อจะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม Noel Richard สามีและอดีตภรรยาของนาง Krystal ได้ตัดสินใจที่จะหย่าหลังจากแต่งงานกันมากว่า 6 ปีและตกลงกันว่านาง Krystal จะเป็นคนเลี้ยงลูกชายทั้ง 2 แต่แล้วใครจะรู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น Noel สามีใจสลายเมื่อรู้ว่าลูกของเขาถูกเลี้ยงดูเหมือนดั่งสุนัข หลังจากที่ได้ตัดสินใจหย่า Noel ก็ได้ขนทรัพย์สินของตนเองออกจากบ้าน ย้ายไปที่อยู่ใหม่ของตนเองโดยที่ได้ฝากลูกชาย 2 คนของเขาไว้กับนาง Krystal บ้านที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นโบสถ์คริสต์ ตอนนี้ได้เป็นบ้านที่อยู่อาศัยของนาง Krystal หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อนาย Noel กลับมาเพื่อเยี่ยมลูกๆ ของเขา ผลปรากฎว่าลูกๆ ของเขานั้นถูกเลี้ยงดูไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยง โดยนาง Krystal ให้ลูก 2 คนของเธอนั้นอาศัยอยู่ในพื้นที่ของบ้านที่ถูกสร้างเหมือนกับ “กรงสุนัข” เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐ Virginia ได้ให้ข้อมูลว่าระหว่างที่เขาได้เข้าไปเพื่อทำการตรวจสอบบ้านของเธอ ผลปรากฎว่า เด็กน้อย 2 คน ซึ่งอีกคนดูเหมือนว่าอีกคนหนึ่งจะเป็นเด็กออทิสติก ถูกขังอยู่ในห้องที่ไม่มีเตียง มีเพียงแค่ถาดอาหารสุนัขและเศษอาหารตามพื้น พร้อมกับรอยเล็บบนกำแพงไม้อัดของห้อง…
-
การผจญภัยแสนน่ารัก พาแก๊งค์มะหมาไปบริจาคเลือด ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งตรวจสุขภาพฟรี!!
คนเราสามารถบริจาคเลือดได้ เรามักจะเห็นการไปบริจาคเลือดอยู่บ่อยๆ เผื่อเวลามีผู้ป่วยที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จะสามารถใช้เลือดนั้นได้ทันที และสำหรับสุนัขก็เช่นกัน ส่วนตัว #เหมียวบ็อบ ก็เพิ่งรู้มาไม่นานนี้เองว่าเหล่าน้องหมาคู่ซี้ประจำบ้านของเรา สามารถไปบริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือเพื่อนสุนัขตัวอื่นๆ ได้เหมือนกัน จนกระทั่งเราได้มาเจอกับเรื่องราวจากเพจ Ninja and the Gang ที่จะพาเราไปรีวิวเปิดประสบการณ์พาน้องหมาไปบริจาคเลือด เอาเป็นว่าเราตามไปชมกันเลย ก่อนอื่นต้องขอแนะนำสมาชิกชาวแก๊งค์ทั้ง 6 ที่ตั้งใจมาบริจาคเลือดกันก่อน แต่ก่อนที่จะพาไปบริจาคได้ คุณสมบัติของน้องหมาต้องมีร่างกายแข็งแรง ฉีดวัคซีนครบถ้วน อายุ 1 ขวบขึ้นไปแต่ไม่เกิน 7 ขวบ และต้องหนัก 17 กิโลกรัมขึ้นไปเท่านั้น (สำหรับเพศเมียต้องรอให้หมดช่วงประจำเดือนก่อนนะจ๊ะ) ดูไม่ค่อยตื่นเต้นกับการไปบริจาคเลือดกันเท่าไหร่เล๊ยย มีช่วยถือของให้ด้วย โดยคราวนี้ชาวแก๊งค์ก็มาบริจาคเลือดกันที่โรงพยาบาลสัตว์ ม.เกษตร มาถึงก็ขึ้นลิฟท์ไปที่ธนาคารเลือดชั้น 3 ได้เลย พอขึ้นมาก็จะเจอกับแก๊งตูบมารอบริจาคเลือดกันให้เพียบ!! แต่ก่อนจะบริจาคได้ก็ต้องมีการเจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจคุณสมบัติกันก่อน ในการเจาะเลือดเพื่อตรวจคุณสมบัติ เจ้าของกระทู้เล่าว่าพยาบาลจะเจาะที่เส้นเลือดบริเวณขาขวาของน้อง แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะเจ็บนะ เพราะขนาดงานนี้โมจิยังบอกเลยว่าจิ๊บๆ เจ็บน้อยกว่ามดกัดซะอีก หลังจากเจาะเลือดเสร็จแล้ว…
-
ตามไปชมแบบบ้านสุดล้ำ ที่ขึ้นชื่อว่า… เปรียบดั่ง “ที่ชาร์จแบต” ให้กับผู้ที่มาอาศัยทุกคน!!
“บ้าน” คือหนึ่งในปัจจัยสี่ที่ทุกคนต่างก็อยากจะมีเป็นของตัวเอง เพราะในอีกแง่หนึ่งมันหมายถึงการได้มีพื้นที่ส่วนตัว และการได้มีสถานที่สำหรับชาร์จแบตแบตเตอรี่ ให้กับวันที่เหนื่อยล้า คราวนี้เราจะพาไปชมแบบบ้านจากบริษัทสัญชาติเดนมาร์ค ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะดูเหมือนบ้านที่ดัดแปลงจากตู้คอนเทนเนอร์ทั่วไป แต่ฟังก์ชั่นต่างๆ และการออกแบบภายในที่สะดวกครบครัน ทางผู้ผลิตเคลมว่ามันช่วยชาร์จแบตชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัยได้จริง ดูผิวเผินแล้วเหมือนตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลงทั่วไป แต่จริงๆ แล้วนี่เป็นผลงานออกแบบของบริษัท Vipp สัญชาติเดนมาร์ค และได้ตั้งชื่อให้กับแบบบ้านหลังนี้ว่า ‘Shelter’ ‘เป็นบ้านที่มีขนาดประมาณ 55 ตารางเมตร สร้างจากวัสดุอย่างดี และเราก็มั่นใจว่าจะช่วยชาร์จพลังงานชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัยได้จริง’ Kasper Egelund เจ้าของแบรนด์กล่าว จุดเด่นของบ้านหลังนี้ก็คือ สามารถขนย้ายไปตามที่ต่างๆ ได้ (แต่ต้องใช้รถสิบล้อนะ) และมีระบบควบคุมอุณหภูมิภายในตัวบ้านอย่างดี กว่าจะสร้างแต่ละหลังให้เสร็จได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องใช้เวลา 6 เดือนในการสร้างโครงเหล็กของบ้านขึ้น และใช้เวลาอีก 5 วัน ในการประกอบ ด้วยความที่มันสามารถขนย้ายได้ตลอด มีการออกแบบภายในที่ดูโมเดิร์นน่าอยู่อาศัย ทำให้ราคาของมันค่อนข้างแพงเอาเรื่องเลยล่ะ สนนราคาก็เริ่มต้นที่ประมาณ 485,000 ยูโร (18.8 ล้านบาท) ต้องบอกตามตรงว่าราคานี้ซื้อบ้านดีๆ สักหลังอยู่ได้เลยนะเนี่ย หลักๆ แล้วบ้านหลังนี้มีองค์ประกอบสองส่วน บริเวณด้านบนมีไว้สำหรับกรองแสง…
-
คนงานเหมืองถูกกล่าวหาว่าข่มขืนผู้หญิง แต่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ เพราะไม่ใช่ผู้ชาย…
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเมือง Mererani ของประเทศแทนซาเนีย เมื่อครั้งหนึ่งคนงานเหมือง Pili Hussein ถูกกล่าวหาว่าทำการข่มขืนหญิงสาวคนหนึ่ง แต่ทว่าความจริงแล้วเขาไม่มีทางทำแบบนั้นได้ เพราะเขาไม่ใช่ผู้ชาย!? ชีวิตของ Pili เป็นหญิงสาวที่หนีสามีที่ชอบลงไม้ลงมือกับเธอ ตั้งแต่เธออายุ 31 ปี เธอจึงตีตัวออกห่างและหางานทำ แต่ทว่าด้วยเศรษฐกิจที่ย่ำแย่จึงทำให้หางานที่เหมาะกับผู้หญิงได้ยาก ดังนั้นเธอจึงตั้งใจจะทำงานในเหมืองของเมือง Mererani แต่เนื่องจากเหมืองมีกฎห้ามผู้หญิงทำงาน เธอจึงทำการปลอมตัวเป็นผู้ชายนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมือง Mererani จุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเธอ การปลอมตัวของเธอนั้นใช้ชื่อ Mjomba Hussein ซึ่งนั่นคือชื่อลุงของเธอ เธอซ่อนผมของเธอไว้ใต้หมวกใบหนา และเปลี่ยนจากการใส่กระโปรงมาเป็นกางเกงและเสื้อแขนยาว เธอให้สัมภาษณ์กับสื่อเพิ่มเติมอีกว่า “ในช่วงนั้นฉันทำงานวันละ 10 – 12 ชั่วโมงโดยมีเหล่าเพื่อนชายล้อมรอบ ไม่มีใครสักคนที่สงสัยว่าฉันเป็นผู้หญิง ฉันยังนั่งกินเหล้าแซวสาวในหมู่บ้านกับพวกเขาอยู่เลย เขาปฎิบัติกับฉันอย่างเท่าเทียม ฉันสามารถซื้อใจพวกเขาได้ จนสามารถโน้มน้าวไม่ให้พวกเขาคุกคามผู้หญิงในหมู่บ้านได้อีกด้วย” สิ่งที่ชาวเหมืองค้นหาคือ Tanzanite พลอยสีน้ำเงินแกมม่วงที่ราคาแสนจะแพง อยู่มาวันหนึ่ง ในหมู่บ้านก็เกิดเหตุการณ์หญิงสาวคนหนึ่งถูกข่มขืน เธอถูกกล่าวหาเป็นหนึ่งในผู้กระทำด้วย หลังจากที่พาไปยังสถานีตำรวจ เธอขอให้ทางตำรวจตรวจร่างกายเธอเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ ไม่นานนักตำรวจก็ได้ปล่อยตัวเธอเพราะพบว่าเธอเป็นผู้หญิง!! ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ความลับที่เธอเก็บซ่อนมาถูกเปิดเผย…
-
Uluburun ซากเรืออัปปางอายุกว่า 3,300 ปี และสินค้าบางอย่างในเรือที่ยังคงกินได้…
สถาบันโบราณคดีทางทะเลเริ่มขุดซากเรือ Uluburun ขึ้นในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2527 ภายใต้การดูแลของผู้ก่อตั้ง George F. Bass และจากนั้นก็ส่งต่อวาระให้กับรองประธานาธิบดีตุรกี Cemal Pulak ให้เป็นผู้กำกับการขุดค้นระหว่างปีพ. ศ. 2528 ถึง พ.ศ. 2537 โดยซากของเรือที่ค้นพบนั้นอยู่ระหว่างความลึก 44 และ 52 เมตรลึกลงไปบนผาลาดสูงชันที่ปกคลุมด้วยทราย กราฟภาพแสดงระดับความลึกและความชันของซากเรือที่ค้นพบ ซากของเรือและสินค้าที่กระจัดกระจายบ่งชี้ว่า เรือมีความยาวระหว่าง 15 ถึง 16 เมตร มันถูกสร้างขึ้นโดยวิธีการที่คล้ายกับของเรือ Graeco-Roman ในศตวรรษต่อมา นักวิจัยกำลังรวบรวมวัตถุโบราณจากซากเรือ เรือถูกสร้างขึ้นด้วยไม้จากต้นเลบานอนซีดาร์และต้นโอ๊ก ซึ่งต้นเลบานอนซีดาร์เป็นต้นสนพื้นเมืองที่เติบโตอยู่แถบภูเขาเลบานอน ตุรกีทางตอนใต้ และไซปรัสกลาง เมื่อทางสถาบันได้นำซากเรือที่ฝังอยู่ในทรายขึ้นมาตรวจสอบ ผลปรากฎว่าสินค้าที่เรือบรรทุกมาไม่ว่าจะเป็น มะเดื่อ องุ่น มะกอก รวมไปถึงอัลมอนด์ นั้นอยู่ในสภาพที่ยังคงรับประทานได้!? เนื่องมาจากแรงดันของน้ำภายในทะเลและความเค็มที่หมักสินค้าเหล่านี้ไว้ไม่ให้เน่าเสีย เหลือเชื่อว่าสินค้าหลายอย่างในไหพวกนี้ ยังสามารถกินได้อยู่!? สินค้าที่ถูกพบบนซากเรือนั้นหากใช้เกณฑ์ทางภูมิศาสตร์พิจารณา…
-
โจ้วๆ!! นักศึกษา Harvard สร้างอัลบั้มเพลง “แร็พ” เพื่อทำเป็นวิทยานิพนธ์จบการศึกษา
ในการเรียนปีสุดท้ายของมหาลัยเราจะต้องทำตัวจบหรือปริญญานิพนธ์ ซึ่งเป็นหัวข้อที่จะวัดว่าเราสามารถนำความรู้ที่เรียนมาปรับใช้ได้จริงหรือไม่? ขึ้นชื่อว่าตัวจบย่อมเป็นอะไรที่เหนื่อยและหนักแน่นอน แต่สำหรับหนุ่มคนนี้กลับเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก เพราะแทนที่เขาจะทำเอกสารค้นคว้าเหมือนคนทั่วไป เขากลับนำเสนอด้วยวิธีที่ตัวเองรักจนเรียกเสียงฮือฮาในอินเตอร์เน็ตอย่างล้นหลามในขณะนี้ พบกับหนุ่ม Obasi Shaw บัณฑิตป้ายแดงผู้เขียนเพลงแร็พขึ้นมา 1 อัลบั้มเพื่อทำเป็นตัวจบ แถมยังได้เกียรตินิยมอันดับ 2 อีกด้วย Obasi Shaw เจ้าของผลงาน สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยใน Harvard ไม่จำเป็นต้องส่งวิทยานิพนธ์ระดับสูงเพื่อจบการศึกษา แต่สำหรับผู้ที่ต้องการจบการศึกษาด้วยเกียรตินิยมล่ะก็นี่เป็นสิ่งจำเป็นสุดๆ แต่แทนที่เขาจะมานั่งเขียนวิทยานิพนธ์เรียงความธรรมดาๆ แม่ของ Shaw กลับสร้างแรงบันดาลใจให้เขานำเรื่องราวมาเล่าผ่านสิ่งที่เขาถนัดและรัก นั่นคือการ “แร๊พ” หนุ่มวัย 20 ปีผู้มีพื้นเพจากเมืองแอตแลนตารัฐจอร์เจียกล่าวว่า “ผมไม่คิดหรอกว่าฮาร์วาร์ดจะยอมรับผลงานนี้” Shaw ถ่ายภาพกับประตูของมหาวิทยาลัยที่เขารัก และสุดท้าย Shaw ก็ได้แต่งเพลงขึ้นมาทั้งหมด 10 เพลง ซึ่งในแต่ละเพลงนั้นจะเล่าเรื่องจากมุมมองของตัวละครสมมุติ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานชิ้นเอกในศตวรรษที่ 14 ของ Geoffrey Chaucer เรื่อง The Canterbury Tales ในส่วนของเนื้อหานั้นจะมุ่งเน้นไปที่เอกลักษณ์ของชนผิวสีในอเมริกา ในเพลงแรกของอัลบั้มที่มีชื่อว่า Declaration of…
-
สาวหมวยแกร่ง “นักดมมลพิษ” ผู้เสียสละทำหน้าที่วิเคราะห์ มลภาวะที่ปนเปื้อนในอากาศ
ในประเทศจีนนั้น ประชาชนทั่วไปต้องรับมือกับหมอกควัน ด้วยการหาหน้ากากมาใส่เพื่อป้องกันฝุ่นและละอองที่มองไม่เห็นถูกสูดเข้าสู่ปอด แต่กับคนกลุ่มหนึ่งนั้นกลับเลือกที่จะทำในสิ่งตรงกันข้าม เมื่อไม่นานมานี้ CGTN ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านสื่อระหว่างประเทศของ CCTV ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับทีมงานที่เรียกว่า “นักดมมลพิษ” ในเมืองหลวงฉือเจียจวง มณฑลเหอเป่ย์ ซึ่งได้รับมอบหมายให้วิเคราะห์มลพิษทางอากาศด้วยการสูดดมกลิ่น ในการทำงานแต่ละวันของพวกเธอคือนั่งดมกลิ่นและรายงานผล โดยในแต่ละวัน “ถุงอากาศ” จากพื้นที่ทั่วเมืองจะถูกส่งมายังห้องทำงานของหญิงสาวเหล่านี้ เพื่อให้พวกเธอ “ดม” เพื่อทดสอบกลิ่น หนึ่งในถุงอากาศที่ทางจนท. ภาคสนามส่งให้ทีมนักดม โดยทางการจีนให้เหตุผลว่าถึงแม้ในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีที่สามารถช่วยงานด้านตรวจสอบมลภาวะได้ แต่สุดท้ายมันก็ไม่สามารถเทียบเท่าการตรวจสอบด้วยวิจารณญาณของมนุษย์อยู่ดี Wang Haiying หนึ่งในนักดมมลพิษได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “วิธีการดมของเรานั้นเป็นวิธีการตรวจสอบที่รวดเร็วว่ามลภาวะทางอากาศของเมืองนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดีหรือไม่” Wang Haiying หัวหน้าทีมนักดมมลพิษ ด้วยสภาพของงานที่อันตรายต่อพวกเธอ อาจจะทำให้สุขภาพของพวกเธอแย่ แต่นาง Wang Haiying ตอบสื่อมวลชนเพิ่มเติมว่า “มันอาจจะอันตราย แต่ก็ไม่ถึงตายหรอกค่ะ” ทุกคนในทีมล้วนเต็มใจอุทิศตัวเพื่อความปลอดภัยของผู้อื่น มณฑลเหอเป่ย์เป็นพื้นที่ที่มีการมลพิษทางอากาศติดเป็นอันดับต้นของประเทศจีนมา 3 เดือนแล้ว และด้วยปัญหานี้จึงทำให้ทางการจีนตื่นตัวและพยายามที่จะแก้ปัญหา โดย หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของประเทศจีนถึงกับให้คำมั่นสัญญาว่า…
-
ป๊าดโท๊ะ!! พิพิธภัณฑ์เมือง Toronto จัดแสดงหัวใจวาฬสีน้ำเงิน ขนาดใหญ่เท่าลูกม้า!!
หัวใจคนเรามีขนาดเท่ากับกำปั้นมนุษย์ 1 กำปั้น แบ่งออกเป็น 4 ห้องที่ไว้คอยสูบฉีดเลือดไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกายอีกทั้งยังเป็นที่ไว้ใส่คนที่เรารักเข้าไปอีกด้วย (ตึ่งโป๊ะ!?) ไม่ว่าหัวใจเพื่อนๆ จะใส่ใครเข้าไป หรือมีขนาดใหญ่แค่ไหน #เหมียวปั๊ก ว่าขนาดหัวใจเพื่อนๆ ก็คงไม่เกินขนาดของหัวใจวาฬน้ำเงินแน่ๆ เมื่อไม่นานมานี้ พิพิธภัณฑ์ The Royal Ontario ในเมือง Toronto ประเทศแคนาดา ได้เปิดตัวหัวใจวาฬน้ำเงินที่เก็บรักษาไว้ในสภาพที่สมบูรณ์ หัวใจของวาฬสีน้ำเงิน ทางทีมงานได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หัวใจวาฬสีน้ำเงินนี้มีน้ำหนักมากถึง 240 กิโลกรัม อีกทั้งยังถูกรักษาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เป็นอย่างมาก โดยการรักษาสภาพแบบนี้จะทำให้มันมีระยะเวลาแสดงไปอีก 1,000 ปีเลยทีเดียว โดยทีมนักวิจัยได้หัวใจวาฬดังกล่าว มาจากวาฬสีน้ำเงิน 9 ตัวที่เสียชีวิตจากเหตุติดกับน้ำแข็งในบริเวณ Newfoundland ของประเทศแคนาดา แต่แล้วปรากฎการณ์ที่หายากก็เกิดขึ้น แทนที่วาฬน้ำเงินจะจมลงสู่ก้มมหาสมุทร ศพวาฬที่เหลือเพียง 2 ตัวกลับเกยตื้นใกล้บริเวณชายฝั่ง Newfoundland และ Labrador เป็นเหตุทำให้ทีมนักวิจัยสามารถที่จะเก็บกู้อวัยวะบางส่วนนำมาทำการวิจัยได้ Jacqueline Miller นักสัตววิทยาของ The Royal Ontario…
-
20 ภาพผลงานช่างแต่งหน้าเอฟเฟคท์ กับไอเดียสุดบรรเจิด ที่สยองและสวยงามในเวลาเดียวกัน
บทความต่อไปนี้มีอาจจะภาพมีลักษณะที่รุนแรงและกระทบกระเทือนจิตใจ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมนะครับ ช่างแต่งหน้า David Harris ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการแต่งหน้าและร่างกายให้มีเอฟเฟคท์ต่างๆ เป็นช่างแต่งหน้าที่นอกจากจะเน้นความสวยงามแล้ว ยังเน้นแต่งหน้าในแนวที่เป็นทั้งรอยแผลต่างๆ หรือแฟนตาซีตามบทที่ผู้แสดงได้รับให้สมจริงที่สุด และในเวลาว่างเขาก็จะใช้มันในการปรับปรุงพัฒนาฝีมือตัวเองอยู่เสมอ และด้วยความหลงใหลในการแต่งหน้าแต่งร่างกายรูปแบบดังกล่าวนี้เอง ทำให้ได้ผลงานที่ทั้งน่ากลัวแต่ก็เป็นที่สนใจในเวลาเดียวกัน เมื่อแฟนผมอยากกอดหมี ผมก็เลยจัดให้เลย เย็บตาแบบนี้ก็ดูแปลกดีนะ เมื่อคืนอ่านหนังสือเผลอหลับ เข็มแทงจมูกเลย T^T ไปสอบตอนเช้าก็เผลอหลับครับ ทะลุเลย… สอบช่วงบ่ายดีหน่อยครับ ทะลุแค่คิ้ว อ้อ ลืมบอกไปว่าถึงจะไม่ค่อยมีตังค์ แต่ผมก็ใส่รองเท้าแบรนด์เนมได้เหมือนกัน… บังเอิญว่าเกี่ยวนิ้วมากไปหน่อย ไปซื้อกับข้าว แล้วกำเงินทอนแม่ค้าแน่นไปหน่อย เป็นคนชอบปลูกต้นไม้ครับ เลยปลูกที่เข่าน่าจะดี ตกเย็นก็ไปเล่นไพ่ แต่เผลอโกงตังค์เพื่อนเลยโดนแบบนี้ ได้ข่าวว่าเชลซีเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ฉลองให้เลยล่ะกัน ลูกเจี๊ยบผมแข็งแรงดีครับ ดูได้จากแรงที่ตะกุยมือผม… เพื่อน!! นายตีลูกแรงไป บังเอิญใช้พลังเนตรวงแหวนรุนแรงไปสักหน่อยน่ะครับ เข้าครัวแป๊ปเดียว ได้แผลมาอีกแล้ว …
-
25 ภาพของเหล่าสัตว์เลี้ยงไร้เดียงสา กระทำความผิดที่ไม่น่าให้อภัย จนต้องถูกประณาม!!
ใครเคยปวดหัวกับพฤติกรรมของเจ้าสัตว์เลี้ยงบ้างครับ #เหมียวปั๊ก ก็ประสพปัญหานี้บ่อยเหมือนกันนะ แต่พอพวกมันทำผิดทีไรก็ไม่กล้าที่จะดุมันซักที เพราะด้วยรักนั่นแหละถึงไม่อยากทำร้าย แต่มนุษย์อย่างเราๆ ก็ช่างสรรหาวิธีการลงโทษให้พวกมันจนได้ อย่างการแขวนป้ายพร้อมข้อหาไว้ให้มันอ่านจนสำนึกแบบนี้ (แล้วพวกมันจะรู้รึเปล่า?) หมากินถุงเท้า ส่วนแมวก็ตุนไว้ให้หมากิน แหม่ ~ ทำงานเป็นทีม เจ้าของต้องออกไปซื้อไข่ เพราะฉันขี้เกียจออกไข่น่ะ… ผมแค่ลองดึ๊บๆ เด็กข้างบ้านเองนะ ผมจะไม่โดนตำรวจจับใช่ไหมอะ แค่แกะกัญชาแมวมาดมทั้งถุงแค่นี้เอง มึนจะเดินไม่ไหวแล้ว รักแม่นะคะ เลยอยากเซอร์ไพรส์แม่ด้วยหนูใกล้ตายซักตัวตอนเช้าๆ ส่วนดิฉันก็หวงไข่คะ กลัวมีใครขโมยมันไป ก็เลยตัดสินใจหม่ำซะเลย ผมอยากให้เพื่อนใหม่อยู่นานกว่านี้นะ… แต่เขาไม่สนใจ แถมเอาทีวีไปด้วย!? หึ แกบังคับให้ฉันลดน้ำหนักหรอ!? งั้นฉันกินรองเท้าแกแทนละกันมนุษย์!! แม่พาแฟนมาอยู่ด้วย หนูก็เลยอ้วกใส่รองเท้ากับคอมเป็นการรับน้องละกัน หนูผิดอีกแล้วหรอ แค่เคี้ยวหัวหมีขาดแค่นี้เองอ่าา ผมหูหนวก แต่ต่อให้ไม่หนวกผมก็ไม่สนไรทั้งนั้น!! เจ้ามนุษยยย์ ~ หนูโดดลงตู้ปลา สัมผัสใหม่แห่งการผจญภัย หนูตดใส่หน้าคุณแม่แล้วก็หนีไป…
-
เด็กชาวออสเตรเลียอายุ 15 ปี ช่วยชีวิตหงส์ด้วยการผายปอด และนวดหัวใจจนมันรอดตาย
CPR นั้นย่อมาจาก Cardiopulmonary resuscitation เป็นการฟื้นคืนชีพให้แก่ผู้ที่หยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้น เพื่อป้องกันเนื้อเยื่อต่างๆ ที่จะได้รับอันตรายจากการขาดออกซิเจน ซึ่งสามารถทำได้หลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการนวดหัวใจหรือผายปอด การทำ CRP ที่ถูกวิธีนั้นสามารถช่วยชีวิตของคนและยังสามารถที่จะช่วยชีวิตสัตว์ได้ด้วย เหมือนเรื่องราวที่ #เหมียวปั๊ก จะเล่าต่อไปนี้ Joshy Martin วัย 15 ปีชาวเมือง Melbourne ประเทศออสเตรเลีย ได้ทำการช่วยเหลือเจ้าหงส์ที่เขาพบจากการไปตกปลากับครอบครัวของเขา สภาพของเจ้าหงส์เมื่อพบครั้งแรก ตอนแรกที่พวกเขาได้พบเจ้าหงส์ สภาพและอาการของมันค่อนข้างแย่ เนื่องด้วยอุณหภูมิร่างกายของมันที่เย็นเฉียบและชีพจรที่ไร้ซึ่งการตอบสนองใดๆ ในระหว่างที่ Joshy และครอบครัวได้ขับรถเพื่อพาเจ้าหงส์โชคร้ายนี้ไปคลีนิคสัตว์แพทย์ที่ใกล้ที่สุด Joshy ได้ตัดสินใจทำการผายปอดและนวดหัวใจให้กับเจ้าหงส์ตามที่เขาได้ร่ำเรียนมา วิธีการผายปอดและนวดหัวใจของ Joshy ต้องขอบคุณการตัดสินใจที่ถูกต้องของ Joshy เจ้าหงส์นั้นกลับมาหายใจได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นการต่อชีวิตมันให้สามารถไปถึงคลีนิคของสัตว์แพทย์ได้ทันเวลา เจ้าหงส์สามารถไปถึงคลีนิคได้ทันเวลา ต้องขอบคุณ Joshy หลังจากการรักษา เจ้าหงส์มีอาการที่ดีตามลำดับ Joshy และครอบครัวของเขาจะปล่อยเจ้าหงส์นี้เมื่อมันฟื้นตัวอย่างเต็มที่ และเรื่องราวนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนอีกหลายคนได้มีส่วนร่วม หากเจอหงส์หรือสัตว์ชนิดอื่นที่กำลังใกล้ตายอีกด้วย Joshy และครอบครัวถ่ายรูปร่วมกับเจ้าหงส์ #เหมียวปั๊ก…
-
อดีตปธน. บารัค โอบาม่า ได้งานใหม่เป็นไกด์ทัวร์ แต่เดี๋ยวนะ นี่มันร่างแยกของท่านนี่หว่า!?
ในขณะที่ #เหมียวปั๊ก กำลังหาข้อมูลเพื่อการเขียนข่าวเกี่ยวกับประธานาธิบดีของสหรัฐคนปัจจุบันอยู่นั้น เหมียวก็ได้เจอข่าวเกี่ยวกับอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ Barack Obama ว่าตอนนี้ท่านได้หมดวาระลงจากตำแหน่งและผันตัวมาเป็นไกด์ทัวร์ แต่พอดูดีๆ แล้วเดี๋ยวนะ เขาไม่ใช่โอบาม่านิ!? รูปนาย Barack Obama ปธน.สหรัฐอเมริกา คนที่ 44 ตัวจริง ดูเหมือนว่าไม่ได้มีแค่เหมียวที่จะดูผิดเพียงคนเดียวนะแต่นักท่องเที่ยวที่มา Cape Verde ก็เช่นกัน โดยบุคคลที่มีหน้าเหมือนอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีนามที่แท้จริงว่า Jose Oliveira พบกับ Jose Oliveira ไกด์ทัวร์ผู้หน้าตาเหมือน Obama!! นาย Jose อายุ 43 ปีทำงานเป็นไกด์นำเที่ยวที่ Cape Verde ในประเทศกาบูเวร์ดี ทวีปแอฟริกา ด้วยหน้าตาที่ละม้ายคล้ายอดีตผู้นำอเมริกามักจะทำให้เขาถูกเข้าใจผิดเสมอว่าเป็นท่านโอบาม่าที่ผันตัวมาทำทัวร์อยู่ที่เกาะ ฮร่าาา เมื่อเขาใส่แว่นตาดำและเสื้อโปโลตัวเก่งล่ะก็ ยากที่จะแยกออก เวลาติดต่องาน เขาก็ดูเท่เหมือนกันนะเนี่ยะ ด้วยความเหมือนที่ยากจะหาใครมาเทียบ เขาจึงถูกเพื่อนๆ ของเขาตั้งฉายาให้ว่า “Mr. Obama”…
-
แม่ร่อนจดหมายถึง ผอ. ให้ไปช้อปปิ้งกับนาง จากการเตือนเครื่องแต่งกายลูกเธออย่างไร้เหตุผล!?
กฎระเบียบของโรงเรียนที่ว่าด้วยเรื่องของระเบียบเครื่องแต่งกายนั้นเป็นที่ถกเถียงกันมาเกือบทศวรรษทั้งในกลุ่มนักวิชาการ กลุ่มผู้ปกครอง และดูเหมือนจะเป็นวงกว้างทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ จุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่ #เหมียวปั๊ก กำลังจะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นเมื่อลูกสาวของ Catherine Pearlman ถูกตักเตือนจากโรงเรียน ว่าด้วยเรื่องการใส่กางเกงขาสั้นที่ไม่เหมาะสม จากความยาวของกางเกงที่ไม่ถึงหนึ่งนิ้ว ลูกสาวของดร.Catherine เธอดูเป็นเด็กน้อยธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ส่วนสูงของเธอนั้นไม่ธรรมดาเลย แม้เธอจะอายุเพียง 13 ปี เธอสูงกว่าแม่ของเธอเสียอีก Dr. Catherine และลูกสาวของเธอ และนี่คือกางเกงตัวปัญยาวไม่เกินหนึ่งนิ้ว ที่ทางโรงเรียนได้ตักเตือนถึงสองครั้ง หลังจากที่คุณแม่ทราบเรื่องการตักเตือน เธอได้โพสต์บ่นลง Facebook เพื่อระบายเกี่ยวกับการหาเสื้อผ้าให้ลูกน้อยของเธอที่ยากเย็นเสียเหลือเกิน และกฎระเบียบที่ดูแล้วไร้เหตุผลเสียจริงๆ แหม่ ลูกชั้นตัวสูงนะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหากางเกงที่พอดีตัวนะเฟ้ย! หลังจากนั้นไม่นาน Catherine ก็ตัดสินใจที่จะเขียนจดหมายตอบกลับพร้อมอธิบายเหตุผลซึ่งกลายเป็นที่ฮือฮาของโลกโซเชียลไปเลยทีเดียว ขอบคุณสำหรับการดูแลลูกฉันเป็นพิเศษนะคะ ฉันก็เลยอยากจะชวนผอ. ลองมาช้อปปิ้งกับดิฉันและลูกค่ะ เพราะเธอสูงถึง 170 เซนติเมตร และเพิ่งอายุ 13 ปี เธอไม่สามารถใส่กางเกงขายาวได้ เชื่อฉันเถอะค่ะ เพราะมันทำให้เธอร้อนและอึดอันส่วนนั้นมาก!!…
-
ตอบสนองไวเป็นเลิศ!! พนักงานสถานีรถไฟฟ้าจีน ช่วยชีวิตนักศึกษาที่พยายามฆ่าตัวตาย
เหตุระทึกขวัญนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมปี 2017 ณ สถานี Xianyou มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน โดยที่กล้องรักษาความปลอดภัยของสถานีสามารถจับภาพเหตุการณ์นี้ไว้ได้ โดยเวลาที่เกิดเหตุนั้นอยู่ที่ประมาณ 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ในคลิปวิดิโอกล้องรักษาความปลอดภัยที่บันทึกนั้นได้ แสดงเหตุการณ์ของนักศึกษาจากมหาลัยแห่งหนึ่งในจีน ที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายและถูกช่วยเหลือไว้ได้ทันโดยเจ้าหน้าที่สถานี ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาที วงกลมสีน้ำเงินคือเจ้าหน้าที่สถานี ส่วนวงกลมสีแดงคือนักศึกษาผู้ก่อเหตุ นักศึกษาเริ่มออกตัววิ่งไปที่รางรถไฟเพื่อจุดประสงค์อะไรบางอย่าง เจ้าหน้าที่สถานีเห็นเหตุการณ์เริ่มไม่ชอบมาพากลจึงตัดสินใจวิ่งตาม เพียงเสี้ยววินาทีต่อมาจนท. รู้ทันทีว่านี่คือการพยายามฆ่าตัวตาย จนท. พยายามหยุดหญิงสาวด้วยการจับที่แขนของเธอไว้ ความพยายามครั้งแรกดูเหมือนจะไม่สำเร็จ แต่จังหวะที่ 2 จนท. สามารถจับมือของหญิงสาวไว้ได้ จนท. พยายามเอนตัวได้ด้านหลังเพื่อดึงเธอขึ้นมาจากราง แม้ว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับมือเธอไว้ได้แต่เหตุการณ์ก็ยังไม่จบลง เพราะรถไฟฟ้ากำลังพุ่งตรงเข้าสู่สถานีและอีกครึ่งตัวของเธอยังคงอยู่บนรางรถไฟฟ้า เสี้ยวนาทีของความเป็นความตาย จนท. คนที่ 2 และชายพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์ท่าไม่ดี จึงได้พยายามเข้ามาช่วยดึงหญิงสาวขึ้นมาจากรางในขณะที่รถไฟฟ้าเริ่มชะลอเข้าสู่สถานีจากความเร็วสูง วงกลมสีน้ำเงินคือชายพลเมืองดีและจนท. คนที่ 2…
-
“ลาก่อนเพื่อนยาก” เกษตรกรฝังรถกระบะคู่หู หลังจากร่วมทางกันมา 48 ปี อย่างสมเกียรติ
ในปัจจุบันคงมีใครหลายๆ คน ที่มีรถยนต์และใช้รถของตัวเองเป็นระยะเวลานาน ไม่ว่ามันจะเก่าหรือพังเช่นไรแต่ก็เลือกที่จะซ่อมแซมให้มันสามารถใช้งานได้ต่อไป หนึ่งในหลายเหตุผลที่ทำให้ใครหลายคนไม่อยากที่จะเปลี่ยนรถยนต์นอกจากเรื่องเงินในกระเป๋าแล้ว ก็อาจจะเกี่ยวกับเรื่องราวที่ได้ผ่านร่วมกันมาระหว่างรถยนต์และเจ้าของ แต่ไม่มีอะไรในโลกยั่งยืนเหมือนกับเรื่องที่ #เหมียวปั๊ก กำลังจะเล่าขณะนี้ นาย Alcides Ravel และรถคู่ใจของเขา Ford F-350 Alcides Ravel ชาวไร่จากประเทศอุรุกวัย ได้ซื้อรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด รุ่น F-350 ในปี 1969 ตอนที่เขามีอายุ 35 ปี หลังจากเวลาผ่านไป 48 ปี เขาได้นำยานพาหนะคู่หูผู้ซื่อสัตย์ของเขาทำการฝังไว้ในฟาร์ม สำหรับคนส่วนใหญ่รถยนต์อาจจะเป็นเพียงเครื่องมือที่ไว้ใช้สำหรับการเดินทางหรือบรรทุกสิ่งของ และนำไปขายต่อเพื่อซื้อรถรุ่นใหม่ แต่ไม่ใช่สำหรับนาย Ravel ที่ถึงแม้รถของเขาจะเสียมาหลายครั้ง จนช่างถึงกับต้องบอกว่าอาการเกินจะเยียวยาได้แล้ว แต่เขาก็ทำการฟื้นคืนชีพเจ้ารถทรหดนี้มาได้ทุกครั้ง หน้าตาของรถกระบะ Ford F-350 โฉมปี 1969 Ravel ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “กว่าหลายสิบปีที่ผ่านมา ผืนดิน ที่นาและเงินที่ผมไว้ใช้เลี้ยงครอบครัว ผมมีสิ่งเหล่านี้ได้ก็เพราะรถกระบะคู่ใจคันนี้” Revel ในวัย 83 ปี ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา…
-
24 ภาพที่ทำให้เราเห็นว่า “ตัวละครดิสนีย์” ไม่ได้เล่นเรื่องเดียว แต่ไปโผล่เรื่องอื่นๆ อีกเพียบ!!
เราอาจจะเคยได้ยินกันบ่อยว่าตัวละครในจักรวาลของดิสนีย์นั้น ชอบที่จะไปโลดแล่นในเรื่องอื่นๆ ภายในจักรวาลดิสนีย์ด้วยเช่นกัน งานนี้ชาวเน็ตก็เลยช่วยกันรวบรวม 24 ภาพตัวละครของดิสนีย์ที่แอบไปโผล่ในเรื่องอื่นๆ แต่สุดท้ายก็โดนจับได้ในที่สุด (อิอิ) ลองมาดูกันว่าจะมีตัวละครตัวโปรดของเพื่อนๆ ไปโผล่เรื่องไหนบ้าง Flynn และ Rapunzel จากเรื่อง Tangled เป็นแขกในงานราชินีภิเษกของ Elsa ในเรื่อง Frozen เบลจาก Beauty and the Beast, พูมบ้าจาก Lion king , พรมวิเศษจาก Aladdin อยู่กันครบในเรื่องคนค่อมแห่งนอเทอร์ดาม พรมวิเศษของ Aladdin ไปโผล่ในเรื่อง The Princess and the Frog ด้วย… แหม่ไปทุกที่จริงๆ เจ้าหญิงออโรร่าจาก Sleeping Beauty อาจจะเป็นญาติของเจ้าชายอีริคในเรื่อง The Little Mermaid ก็เป็นได้นะ พ่อของซินเดอเรลล่าและแกรนด์ดุคพ่อของเจ้าชายฟิลลิป ในเรื่อง Sleeping…
-
หนุ่มน้อยวัย 8 ขวบ ตัดสินใจฆ่าตัวตาย หลังถูกเพื่อนๆ ที่โรงเรียนรุมแกล้ง โดยไม่ยอมปริปาก…
ไม่นานมานี้ทางโรงเรียน Cincinnati school ของสหรัฐอเมริกาได้ปล่อยคลิปวิดีโอ เรื่องราวอันน่าเศร้าของหนุ่มน้อยวัย 8 ขวบนามว่า Gabriel Taye เพื่อเป็นกระตุ้นเกี่ยวกับความอันตรายของการกลั่นแกล้งในกลุ่มนักเรียน ประเด็นกลายเป็นข่าวใหญ่โต หลังจากที่เขาตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการฆ่าตัวตาย โดยที่ตอนแรกพ่อแม่ของเขาก็ไม่รู้เลยว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น เพราะลูกชายไม่ยอมเล่าถึงเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นในโรงเรียน Gabriel ขวบถูกรุมทำร้ายในห้องน้ำที่ติดกับโถงหลักของโรงเรียนโดยเพื่อนๆ ของเขา ก่อนที่หนุ่มน้อยจะตัดสินใจฆ่าตัวตาย 2 วันต่อมา Gabriel Taye หนุ่มน้อยผู้น่าสงสาร ชมวิดิโอเหตุการณ์เต็มได้ทีนี่ ในขณะที่กลุ่มเด็กหัวโจก กำลังแกล้งเด็กคนอื่นอยู่ ระหว่าง Gabriel ก็เดินเข้ามา ดูเหมือนว่าเขาพยายามที่จะปกป้องเด็กอีกคนด้วยการผูกมิตรกับกลุ่มหัวโจก แต่กลับโดนรุมทำร้ายแทน โดยที่ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเขา เมื่อคุณครูได้ยินเสียงผิดปกติจึงได้เปิดประตูออกมาดู แต่ก็ไม่พบการแกล้งใดๆ เนื่องจาก Gabriel นั้นอยู่อีกห้องหนึ่ง Gabriel โดนรุมแกล้งทั้งจากกลุ่มหัวเด็กโจกและเด็กที่เดินผ่านไปมา โดยไม่มีใครเลยที่ช่วยเหลือเขา หลังจากการโดนรุมแกล้งกว่า 5 นาที เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนก็ได้เข้ามาพบ Gabriel พวกเขาได้ทำการช่วยเหลือเขา แต่หารู้ไม่ว่าภายในจิตใจของเด็กน้อยนั้นบอบช้ำเพียงใด ถึงแม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนจะเข้ามาช่วยเหลือ Gabriel แต่ก็ไม่ได้แจ้งให้แม่ของเขาทราบว่าเขาถูกแกล้งแต่อย่างใด ทางโรงเรียนเพียงแค่บอกว่า เขานั้นได้เป็นลมไปและแนะนำให้คุณแม่พาเขาไปโรงพยาบาล…
-
เจ้าของเจอแมวที่เลี้ยงไว้ดั่งปาฎิหาริย์ เพราะคิดว่ามันหายไปกับกองเพลิงเมื่อ 2 เดือนก่อน
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์สุดอัศจรรย์ หญิงสาวรายหนึ่งชื่อว่า Christine Marr ได้รับโทรศัพท์ว่าบ้านของเธอนั้นถูกไฟไหม้ และสิ่งแรกที่เธอคิดถึงนั้นไม่ใช่ทรัพย์สินของเธอ แต่กลับเป็นเหล่าสัตว์เลี้ยงที่อยู่ภายใต้การดูแล พนักงานดับเพลิงกล่าวว่าพวกเขาได้พบเจ้า Chole สุนัขของเธอที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นห้องน้ำภายในบ้าน หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้ช่วยเหลือสุนัขของเธอโดยการสวมหน้ากากให้ออกซิเจนให้กับ Chole เพื่อให้ออกซิเจนฉุกเฉิน พนักงานดับเพลิงได้ช่วยเจ้า Chole ออกมาได้ “Chole เกือบจะไม่รอดแล้ว พวกเขาบอกว่ามันขาดออกซิเจนไปนานมาก จนกระทั่งพวกเขาช่วยให้ออกซิเจนกับมันก็เลยรอดมาได้หวุดหวิด” Christine กล่าว Chole กำลังถูกให้ออกซิเจนหลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือ แต่เมื่อ Christine ได้ถามทางเจ้าหน้าที่ว่าพวกเขาสามารถช่วยแมวของเธออีกตัวได้ไหม เจ้าหน้าที่ได้รายงานกลับไปทาง Marr ว่าเขาไม่พบ Ringer แมวของเธอแต่อย่างใด อาจจะเป็นไปได้ว่า Ringere นั้นเสียชีวิตในกองเพลิงไปแล้ว การจากไปของ Ringer สร้างความเสียใจแก่ครอบครัว Marr เป็นอย่างมาก เพราะ Ringer และ Chole นั้นเติบโตมาด้วยกัน ถึงแม้ทั้งคู่จะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ขี้อาย แต่มันก็สามารถที่จะหาจุดกึ่งกลางอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ หลังจากนั้นเป็นเวลากว่า 2 เดือน ครอบครัว Marr…
-
ฝรั่งเศสสั่งแบนถาดอาหารและถุงพลาสติก ตามนโยบายสิ่งแวดล้อม มีผลบังคับใช้ปี 2020
สภาวะโลกร้อนนั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการผลิตและใช้วัสดุพลาสติก เนื่องจากเป็นวัสดุที่ใช้เวลาในการย่อยสลายยาวนานถึง 450 ปี โดยเมื่อไม่นานมานี้ประเทศฝรั่งเศส ได้ทำการออกกฎหมายที่ว่าด้วยเรื่องของการใช้วัสดุจำพวก แก้ว ถาด ช้อนส้อม และมีดนั้นจะถูกผลิตจากวัตถุดิบทางชีวภาพหรือในชื่อ Bioplastic เพื่อให้แน่ใจว่าพวกมันจะสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Bioplastic มีหน้าตาที่เหมือนกับพลาสติกทั่วไป แต่ย่อยสลายได้ง่ายกว่า วงจรชีวิตของ Bioplastic ที่สามารถกำจัดทิ้งแล้วนำมาปลูกใช้เป็นวัตถุดิบได้เหมือนเดิม กฎหมายนี้จะถูกบังคับใช้ในปีค.ศ. 2020 อันเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานสีเขียว ซึ่งเป็นแผนงานที่มีความทะเยอทะยานที่จะช่วยให้ประเทศฝรั่งเศสมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสภาพอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัญหาขยะที่เกิดจากพลาสติกนั้นส่งผลกระทบทั่วโลก นอกจากคนแล้ว สัตว์เองก็เช่นกันที่ได้รับความเดือดร้อน การนำ Bioplastic มาใช้อาจจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ถึงแม้ว่าอาจจะดูเหมือนเป็นไอเดียที่ดี แต่สำหรับคนบางกลุ่มไม่ได้คิดเช่นนั้น อย่างเช่น Pack2Go Europe เป็นองค์กรในกรุงบรัสเซลส์ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ของยุโรป เชื่อว่ายังไม่มีหลักฐานทางวิชาการว่าวัสดุที่มาจากชีวภาพนั้นสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติอย่างสมบูรณ์และการห้ามใช้พลาสติกอาจทำให้สถานการณ์แย่ลงเนื่องจากประชาชนอาจเข้าใจผิดได้ สหภาพยุโรปบรรจุภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป หรือ Pack2go Europe นาย Eamonn Bates รองเลขาธิการ Pack2go Europe…
-
จากสาวน้อยวัยใสในเรื่อง Spy Kids สู่เส้นทางแห่งสาวแซ่บเวอร์ จนแทบจะจำกันไม่ได้แล้ว!!
ตอนเด็กๆ หากใครที่เคยได้ดูภาพยนตร์เรื่อง Spy Kids ที่ว่าด้วยเรื่องของครอบครัวสายลับที่ปฎิบัติการต่อกรกับเหล่าร้าย ก็ต้องจำภาพกับสาวน้อย Alexa Vega ผู้รับบทเป็น Carmen Cortez สาวน้อยสายลับได้อย่างแน่นอน พ่อของเธอนั้นเป็นชาวโคลอมเบีย และแม่ของเธอก็คือ Gina Rue อดีตนางแบบชาวอเมริกัน เธอยังมีพี่น้อง 6 คนซึ่งรวมถึงพี่สาวของเธอ Makenzie Vega ซึ่งเป็นนักแสดงหญิงเช่นเดียวกัน Alexa Vega สาวน้อยผู้รับบทเป็น Carmen Cortez หลังจากที่เธอได้รับรางวัล Young Artist Award ในปี 2002 เส่นทางอาชีพของเธอก็ดูเหมือนจะรุ่งพุ่งแรงจนฉุดไม่อยู่จนทำให้เธอไปโผล่ในหนังหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น Sleepover, Innocent และ Broken Hill ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอคนนี้คือสาวน้อยสายลับ Carmen Cortez!! ภาพของเธอที่ไปร่วมงาน Fantastic Fest เมื่อปี 2013 . ในวันว่างๆ ของเธอก็แซ่บไม่แพ้กัน เพื่อนๆ…
-
เรื่องราวของ “Chang” ชายผู้ยับยั้งการสร้างนิวเคลียร์ในไต้หวัน และถูกตราหน้าเป็นกบฎ!!
อะแฮ่ม… วันนี้เราจะขอทำตัวมีสาระกันบ้าง โดยเราจะพาไปรู้จักกับเบื้องหลังเรื่องราวของ Chang Hsien-yi นักวิทยาศาสตร์ชาวไต้หวัน ผู้ยับยั้งการสร้างนิวเคลียร์ในประเทศไต้หวันได้สำเร็จ แต่ทว่าเขากลับถูกทางการตราหน้าว่าเป็นกบฎ!! ย้อนกลับไปเมื่อปี 1949 ได้เกิดเหตุที่ทำให้ไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ ต้องแยกตัวออกจากกัน แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือการแข่งขันทั้งทางการทหารและเศรษฐกิจ Chang Hsien-yi จนกระทั่งในช่วงปี 1960 จีนแผ่นดินใหญ่มีโครงการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลทำให้รัฐบาลไต้หวันตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก และเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ Hau Pei-tsun ดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำแห่งเกาะไต้หวัน ทำให้ไต้หวันมีโครงการที่จะสร้างอาวุธนิวเคลียร์ด้วยเช่นกัน ท่ามกลางยุคสงครามเย็นเช่นนี้ มีหลายฝ่ายที่เห็นด้วยกับการสร้างนิวเคลียร์ ทว่ากลับมี Chang Hsien-yi นักวิทยาศาสตร์ผู้ค้านหัวชนฝา และเชื่อว่านิวเคลียร์ไม่อาจนำมาซึ่งสันติภาพที่แท้จริงได้อย่างที่หลายคนคิด โรงงาน 221 เชื่อว่าเป็นสถานที่ทำการวิจัย และทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของจีน Chang เป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกคัดเลือกให้เป็นหัวหน้าประจำสถาบันศูนย์วิจัยพลังงานนิวเคลียร์แห่งไต้หวัน ในช่วงแรกเขามีความสุขกับการได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าที่ได้รับการคัดเลือกจากทางการไต้หวัน ทว่าต่อมา… เจ้าตัวก็เริ่มตั้งคำถามว่า แท้จริงแล้วเกาะไต้หวันต้องการนิวเคลียร์จริงๆ หรือ? บวกกับเหตุการณ์ระเบิดหายนะที่เชอร์โนบิล ประเทศรัสเซีย ก็ยิ่งทำให้เขามั่นใจว่า การไม่มีนิวเคลียร์จะเป็นผลดีต่อทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ และไต้หวัน มากกว่า ด้วยอุดมการณ์ที่ค้านอย่างหัวชนฝา ทำให้ Chang…
-
สาวน้อยวัย 12 ขวบ ถูกรถชนจนสูญเสียขา แต่สู้เพื่อความฝันสู่การเป็นนักเต้นบัลเล่ต์!!
ใครที่กำลังรู้สึกเหนื่อยล้า ท้อแท้กับชีวิตที่ไม่เป็นตามคาดหมาย เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของ Jiang Zhang Ziyi สาวจีนวัย 12 ขวบ กับเส้นทางความฝันการเป็นนักเต้นบัลเล่ต์ของเธอ Jiang Zhang Ziyi ประสบอุบัติเหตุจากรถยนต์ทำให้เธอต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างไปในวัยเพียง 6 ขวบ แต่ข้อแม้ดังกล่าวก็ไม่สามารถหยุดความฝันของเธอไว้ได้ จนกลายเป็นกำลังใจที่ส่งต่อกันไปทั่วโลกโซเชียลในจีน ย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 หลังจากที่คุณหมอได้วินิจฉัยว่าจำเป็นที่จะต้องตัดขาทั้งสองข้างทิ้ง ก็ได้สร้างความลำบากใจให้แก่พ่อแม่ของเธอ ไม่ว่าจะด้วยความเป็นห่วงเรื่องอนาคต และเรื่องการใช้ชีวิตในสังคมของลูกสาวเพียงคนเดียว ทว่าครั้งหนึ่งคุณแม่เล่าว่า ลูกสาวได้เข้ามาปลอบเธอว่า ‘คุณแม่ขา… ยังไงวันเวลาก็ต้องผ่านไปอยู่ดี ไม่ว่าแม่จะร้องไห้ หรือหัวเราะ เรามาช่วยกันทำให้มันเป็นวันดีๆ เถอะนะ’ หนูน้อย Jiang กับการซ้อมเต้นบัลเล่ต์ กระทั่งเมื่อปี 2013 ลูกสาวตัวน้อยได้เห็นการแสดงเต้นบัลเล่ต์ผ่านทางโทรทัศน์ เธอก็ค้นพบทันทีว่านี่คือความฝันของเธอ ‘แม่หนูอยากเรียนบัลเล่ต์… แต่แม่ไม่ต้องห่วงนะ แม่เป็นขาให้หนูได้’ คือประโยคที่กล่าวกับคุณแม่ของเธอ เมื่อเห็นว่าลูกมีความตั้งใจ คุณแม่ก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ Jiang ใช้เวลาแต่ละวันหมดไปกับการซ้อมเต้นบัลเล่ต์ จนกระทั่งเธอสามารถชนะเลิศการแข่งขันรายการหนึ่งมาได้ และเรื่องราวของเธอก็แพร่กระจายไปทั่วประเทศจีน จนตอนนี้สองแม่ลูกมีงานอีเว้นท์เต้นบัลเล่ต์เข้ามาอยู่เรื่อยๆ และล่าสุดทั้งคู่ก็ได้รับเชิญให้ไปทำการแสดงที่รายการ…
-
สาวออสเตรเลียกับอาการคอหักถึง 2 ครั้ง เพียงเพราะเธอจาม และหักอีกครั้งเพราะหัวเราะ!?
เวลาที่เรามีความสุขแน่นอนว่าเราต้องหัวเราะ แต่จะเป็นยังไงล่ะถ้าหากว่าการหัวเราะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้กระดูกคอคุณหัก จนถึงกับต้องใส่เฝือกและนอนพักฟื้นในโรงพยาบาลอยู่นานหลายวัน ไม่น่าเชื่อว่าโลกเราจะมีคนที่ต้องเผชิญกับอาการนี้อยู่จริงๆ เธอคนนั้นก็คือ Monique Jeffrey จาก Rose Bay ประเทศออสเตรเลีย หญิงสาวผู้คอหักมาแล้วถึงสองครั้ง เพียงเพราะเธอจาม และหัวเราะ!? Monique Jeffrey ขณะเข้ารับการใส่เฝือกคอ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 เป็นวันที่ Monique ใช้เวลาเช็คอีเมล์อยู่ในบ้านของเธอเฉกเช่นทุกๆ วัน ทันใดนั้นจู่ๆ เธอก็จามออกมา ทว่ามันไม่ใช่การจามธรรมดา แต่มันทำให้กระดูกคอบริเวณ C1 และ C2 ของเธอ คาดเคลื่อนซะอย่างนั้น ‘ตอนนั้นต้องเรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่แปลกมาก ฉันไม่เคยเจออะไรแบบนี้ในชีวิตมาก่อน มันเป็นการจามที่ตามมาด้วยความเจ็บปวดสุดๆ จนทำให้ฉันต้องใส่เฝือกคออยู่นานหลายสัปดาห์เลยละค่ะ’ Monique เล่า จนกระทั่ง 5 ปีต่อมา อาการดังกล่าวก็เกิดขึ้นกับเธออีกครั้งอย่างไม่ทราบสาเหตุ เป็นวันที่เธอนั่งอยู่กับเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศ ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นปกติ จนเมื่อเธอหัวเราะกับเพื่อนร่วมงาน จู่ๆ อาการดังกล่าวก็กลับมาอีกครั้ง คุณแม่ลูกสองชาวออสเตรเลียเล่าว่า สำหรับอาการครั้งที่ 2 เธอไม่รู้สึกเจ็บเท่าครั้งแรก แต่มันก็เลวร้ายพอที่จะทำให้เธอต้องสวมใส่เครื่องยึดกระดูกไว้…
-
รู้จักกับ “Jordan Belfort” ชายผู้เป็น Wolf of Wall Street ตัวจริง และชีวิตปัจจุบันของเขา…
สำหรับคอหนังตะวันตกที่ชื่นชอบการแสดงของป๋าลีโอนาร์โด ดิ คาปริโอ เราคงจำกันได้ดีกับผลงานเรื่อง Wolf Of Wall Street เรื่องราวของนายหน้าขายหุ้น ที่สร้างมาจากเรื่องจริง หลายคนรู้กันอยู่แล้วว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวชีวิตจริงของนาย Jordan Belfort และวันนี้เราจะพาไปอัพเดทกันว่า ฉายาหมาป่าแห่งถนนวอลสตรีทตัวจริงเสียงจริง ตอนนี้เขาจะทำอะไรอยู่ที่ไหน และอย่างไรบ้างนะ!? คนซ้าย Jordan Belfort ตัวจริงเสียงจริง หลังจากที่เจ้าตัวถูกจับได้ เขาก็ต้องไปชดใช้ความผิดในเรือนจำอยู่นานถึง 22 เดือน และเป็นหนี้ที่ต้องชดใช้คืนให้กับลูกค้าที่เคยโกงมา คาดเป็นเงินสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ทุกวันนี้ Jordan ได้พ้นโทษพ้นคดี และออกมาใช้ชีวิตอย่างอิสระกับครอบครัวเหมือนเดิม ซึ่งเจ้าตัวกล่าวว่ารายชื่อเจ้าหนี้ทั้งหมด ตนเองได้เคลียร์ไปหมดแล้ว (แต่ก็มีหลายคนออกมาร้องเรียนว่ายังไม่ได้) ภาพเจ้าตัวไปเที่ยวที่วาติกัน จากการอัพเดทของสื่อ Inside Editions พบว่า ทุกวันนี้ Jordan ได้กลายเป็นนักพูด นักจัดสัมมนา เกี่ยวกับเทคนิคการขายต่างๆ ให้กับบริษัททั่วโลก ‘ทุกวันนี้ผมก็ยังเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก และออกเดินสายจัดสัมนาพูดเกี่ยวกับเทคนิคการคืน แต่ผมการันตีได้เลยว่า ลูกค้าเก่าของผมทุกคนท่านจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน 100%…
-
ตามไปชม 19 ทรงผมจากไนจีเรียแฟชั่นวีคส์ เมื่อยุค 60s – 70s บอกเลยว่าล้ำโคตร!!
ใครที่กำลังมองหาทรงผมแบบแหวกแนว เผื่อว่าจะมีโอกาสได้ลงปกลุ๊คบุ๊คกับเค้าบ้าง แต่ไม่อยากซ้ำคนอื่นละก็ วันนี้เรามีทรงผมที่โคตรเฟี้ยวฟ้าวมะพร้าวแก้วมาฝาก ภาพทั้งหมดที่คุณจะได้ชมนี้ เป็นผลงานภาพถ่ายที่รวบรวมไว้โดย J.D. Okhai Ojeikere ช่างภาพชาวแอฟริกัน ผู้ตามเก็บเรื่องราววัฒนธรรมทรงผมของชาวไนจีเรีย ตั้งแต่ยุค 60s ไปจนถึง 70s ประเดิมด้วยทรงแรก… เฟี้ยวป่ะล่ะ นับว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่เหมือนกัน เพราะบ้านเราก็ไม่ค่อยได้รับรู้เรื่องราววัฒนธรรมของชาวแอฟริกันซักเท่าใดนัก ช่างภาพตั้งใจรวบรวมภาพทั้งหมดนี้ เพื่อสื่อถึงจิตวิญญาณ วิถีชีวิต และความเชื่อ ผ่านการบอกเล่าด้วยทรงผม ‘การได้ดูช่างทำผม จัดแต่งทรงผมอันโดดเด่นให้พวกเราชาวแอฟริกัน เป็นเหมือนการได้ดูศิลปินสร้างงานประติมากรรมอันเลอค่าเลยล่ะ’ ช่างภาพเล่า ทรงผมทั้งหมดที่เราเห็นนี้ ก็มีตั้งแต่แบบที่เป็นแฟชั่น และแบบที่มาจากประเพณีพื้นเมืองของชนเผ่า บางทรงผมก็จะถูกใช้ในพิธีสำคัญอย่างงานวิวาห์ หรือพิธีทางศาสนาเท่านั้น ในอีกแง่หนึ่ง ทรงผมสามารถบ่งบอกสถานะทางสังคมของชาวแอฟริกันได้ด้วยเช่นกัน แต่บางทรงผมที่ดูแปลกใหม่ ก็เป็นแฟชั่นสมัยนิยมในยุคนั้นเหมือนกัน และในบางครอบครัว ก็อาจจะมีทรงผมที่สืบทอดกันจากรุ่นสู่รุ่นด้วย สำหรับตัวช่างภาพเองแล้ว ทรงผมเหล่านี้เปรียบเสมือนภาพสะท้อนความหลากหลาย ความแตกต่าง และความมีเอกลักษณ์ ของวัฒนธรรมชาวไนจีเรีย บางทรงผมต้องบอกว่ามีแค่คนแอฟริกันเท่านั้นที่ทำได้…
-
เผยโฉมเมืองใต้ดินนาซี สร้างด้วยแรงงานชาวดัตช์ เพื่อเป็นบ้านให้นายทหารกว่า 3,300 นาย
อย่างที่เราทราบกันว่าถึงความโหดร้ายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่ามีสิ่งปลูกสร้างหลากหลายแห่งที่ไว้ใช้สำหรับกิจกรรมทางทหารของนาซีเยอรมนี ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเมืองใต้ผืนดินที่หมู่บ้าน Scheveningen ประเทศเนเธอร์แลนด์ ชุดภาพอันน่าเหลือเชื่อเหล่านี้ ได้เผยให้เห็นสภาพของเมืองใต้ดินซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นบ้านพักสำหรับทหารกองอารักขา Schutzstaffel (ย่อเป็น SS) จำนวนทั้งสิ้น 3,300 นาย โดยเมืองใต้ดินนี้เป็นส่วนหนึ่งของกำแพงแห่งแอตแลนติก ระบบป้องกันชายจากทหารฝ่ายสัมพันธมิตร ภายนอกแม้จะดูเล็กแต่ลึกลงไปสามารถบรรจุคนได้ถึง 3,300 คน หลังจากที่ทางนาซีเยอรมนีได้เข้ายึดพื้นประเทศเนเธอร์แลนด์ในวันที่ 10 พฤษภาคม 1940 และทำให้เนเธอร์แลนด์ล่มสลายภายใน 5 วัน หลังจากนั้นก็ได้ประกาศว่าบริเวณหมู่บ้าน Scheveningen เป็นเขตหวงห้าม ทำให้ชาวบ้านกว่า 135,000 ราย ต้องอพยพหนีออกมา สิ่งอำนวยความสะดวกใต้ดินนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1942 โดยผู้รับเหมาต้องรับมือกับงานสร้างที่มีความซับซ้อน ซึ่งรวมไปถึงทางเดินที่เชื่อมต่อจุดต่างๆ ภายในเมืองใต้ดิน และห้องเก็บยุทโธปกรณ์ต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าแรงงานก่อสร้างนั้นก็คือชาวดัตช์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของนาซี ทางเข้าที่นำไปสู่เมืองใต้ดินของนาซี อาคารทางการทหารประมาณ 900 ห้องทั้งพื้นผิวและใต้ดินนั้น ทำมาจากคอนกรีตเสริมเหล็กมากกว่า 100,000 ลูกบาศก์เมตร และยังมีการค้นพบบังเกอร์กว่า 500 แห่งในช่วง 2-3…
-
แบร่!! น้องเหมียว “โมโม่” หน้าตาเหมือนเกรมลินส์ ปีศาจน้อยแสนซน หุบลิ้นไม่ได้ด้วย
ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายการพาไปรู้จักกับพวกแมวเหมียวจากทางบ้าน และคราวนี้น่าจะเป็นครั้งที่ 745 ได้ ที่เราจะพาไปรู้จักกับแมวเหมียวผู้มีหน้าเหมือนตัวเกรมลินส์ นี่คือเจ้าโมโม่ ถ้านึกไม่ออกว่ามันเหมือนเกรมลินยังไง ลองไปดูภาพต่อไปเลย… นี่คือภาพตัวอย่างเจ้าเกรมลินส์ ที่เคยปรากฎตัวในโลกภาพยนตร์ แต่จริงๆ แล้วโมโม่มีชื่อจริงว่า มอลลี่ ไม่มีนิสัยที่ดุร้ายเหมือนพวกตัวเกรมลินส์หรอกนะ อีกหนึ่งความสามารถที่ไม่มีใครเหมือนก็คือ… การหุบลิ้นไม่ได้เนี่ยแหละ ไม่ว่าจะนั่ง เดิน ยืน หรือนอน ก็มักจะมีลิ้นโผล่ห้อยออกมาจากปากตลอดเวลา ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าโมโม่ ก็เคยเป็นเหมียวจรจัดไร้คนดูแลมาก่อนเหมือนกัน จนกระทั่งวันหนึ่งมีทาสมนุษย์ใจดีไปพบเข้า จึงอาสารับเลี้ยงมาตั้งแต่ตอนนั้น พูดได้เต็มปากว่าทุกวันนี้โมโม่มีชีวิตที่ดี๊ดี เพราะนอกจากกินกับนอนแล้ว โมโม่ก็ไม่ต้องทำอะไรอีกเลย ตอนนี้ก็ได้เวลานอนของโมโม่แล้ว เอาเป็นว่าไว้มีโอกาสจะมาอวดโฉมความน่ารักใหม่นะ แบร่..!! ที่มา: Boredpanda
-
กรมการจัดหางาน รับสมัครคนไทยไปฝึกงานญี่ปุ่น 3 ปี มีเบี้ยเลี้ยงและเงินเดือนตลอดการฝึกงาน!!
นับว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาโอกาส ที่จะได้ไปสัมผัสประสบการณ์การทำงานในวัฒนธรรมแดนปลาดิบ เพราะกรมการจัดหางานกำลังเปิดรับสมัครคัดเลือกผู้รับการฝึกอบรมเพื่อจัดส่งไปฝึกปฎิบัติงานเทคนิคในประเทศญี่ปุ่น ผ่านองค์กร IM ปี 2560 ที่ระบุว่าเป็นตำแหน่งคนงานทั่วไป ระยะเวลา 3 ปี และเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 29 – 31 พฤษภาคม 2560 นี้เท่านั้น (ไม่เสียค่าใช้จ่ายการสมัคร) นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางานกระทรวงแรงงานชี้แจงว่าโครงการจากองค์กร IM ปี 2560 ครั้งที่ 2 นี้ เปิดรับเฉพาะเพศหญิง โดยทางการญี่ปุ่นจะจ่ายค่าโดยสารเครื่องบินไป – กลับ (กรุงเทพฯ – โตเกียว) ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับเบี้ยเลี้ยงตลอดการฝึกงาน โดยเดือนแรกจะได้รับ 80,000 เยน (24,490 บาท) ครอบคลุมถึงค่าที่พัก ค่าไฟฟ้า และค่าน้ำ ส่วนค่าอาหารหรือค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ ผู้สมัครจะต้องจ่ายเอง เมื่อฝึกครบตามกำหนดโครงการผู้เข้าร่วมจะได้เงินสนับสนุนการประกอบอาชีพจำนวน 600,000 เยน (183,000 บาท) เดือนที่…
-
ชาวบ้านอินเดียแห่มุงดูคนฆ่าตัวตาย จนทำให้สะพานถล่ม เป็นเหตุสูญหายไปกว่า 15 คน!!
นับว่าเป็นข่าวอุบัติเหตุจากอินเดีย ที่คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแน่นอน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บนสะพานเก่าแก่แห่งหนึ่งทางตอนใต้ของรัฐกัว ประเทศอินเดีย สำนักข่าว BBC รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ เมือง Curchorem ทางตอนใต้ของรัฐกัว มีชายอินเดียคนหนึ่งต้องการจะกระโดดน้ำ ในแม่น้ำที่เต็มไปด้วยฝูงจระเข้เพื่อหวังจะฆ่าตัวตาย และหลังจากที่ชาวบ้านทราบข่าวก็พากันไปมุงดูที่บริเวณสะพานเก่าแก่เป็นจำนวนมาก ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ในขณะที่ชาวบ้านกำลังมุงดูเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือคนฆ่าตัวตาย สะพานก็ดันถล่มลงมา หลังจากที่เกิดเหตุสะพานถล่ม สื่อท้องถิ่นของอินเดียได้รายงานว่ามีชาวบ้านประสบอุบัติเหตุครั้งนี้ประมาณ 50 คน เสียชีวิตแล้ว 2 ราย และมีผู้สูญหายอีกเป็นจำนวนมาก โดยสะพานดังกล่าวเป็นสะพานที่มีอายุเก่าแก่มากกว่า 60 ปี และก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นก็ได้มีประกาศออกกฎห้ามใช้สะพานดังกล่าวแล้ว จากทวิตเตอร์ของทีมกู้ภัย ซึ่งปัจจุบันก็ยังเร่งค้นหา และช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายอยู่ Narendra Sawaikar สส. ท้องถิ่นแห่งรัฐกัว ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ‘นับว่าเป็นโศกนาฎกรรมที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็ได้ติดป้ายเตือนมาตลอดว่าห้ามใช้งานสะพานแห่งนี้ แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้ก็คือเร่งช่วยเหลือประชาชนทุกคน’ แต่ทว่าตามที่กล่าวไปในข้างต้นแล้ว บริเวณสะพานในช่วงตอนกลางคืนจะชุกชุมไปด้วยฝูงจระเข้ ทำให้การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก ‘เป็นบริเวณที่ไม่มีไฟส่อง เต็มไปด้วยฝูงจระเข้ ทำให้ทีมกู้ภัยดำน้ำลงไปได้ไม่ลึก และอาจจะทำให้การช่วยเหลือล่าช้าลง’…
-
สุดยอด 18 ฉากทรงพลังจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่เคยทำให้รู้สึกกลัวและเศร้ามาแล้ว!!
ถึงแม้ว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโลกเวทมนตร์จะจบลงแล้ว แต่ทุกความทรงจำดีๆ ตลอดช่วงเวลาที่เราได้ติดตามการผจญภัยของแฮร์รี่ พอตเตอร์ร์ และผองเพื่อนก็ยังคงอยู่ในใจเสมอมา วันนี้เราจะพาไปย้อนรำลึกถึง 18 ฉากเหตุการณ์สำคัญจากภาพยนตร์ทั้งหมดของเรื่องนี้ ที่เต็มไปด้วยทั้งความเศร้า ความน่ากลัว ชวนให้น่าขบคิด เรียกได้ว่าหลากหลายอารมณ์ เราตามไปดูกันเลย 1. ฉากที่รอน วิสลีย์ ต้องสูญเสียเฟร็ด วิสลีย์ พี่ชายของตัวเอง 2. ความจริงสุดหลอนที่ว่า หนูสัตว์เลี้ยงของรอนเป็นชายชราปลอมตัวมา แต่ก็มีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมตอนที่ฝาแฝดเฟรด และจอร์จใช้แผนที่ตัวกวน ทำไมถึงไม่มีชื่อของ Peter ที่ปลอมตัวเป็นหนูปรากฎขึ้นมาล่ะ? 3. ฉากการสูญเสียนกฮูกเฮ็ดวิก ทำไมช่างโหดร้ายถึงทำกับนกฮูกน้อยได้ลงคอ ฮือออ T_T 4. ฉากเบลลาทริกซ์ทำโทษเฮอร์ไมโอนี่ ด้วยการสลักคำว่า ‘Mudblood’ ลงไปบนตัวเธอ 5. ฉากที่เฮอร์ไมโอนี่จำเป็นจะต้องลบความทรงจำของพ่อแม่เธอ เพื่อป้องกันอันตรายจากโวลเดอมอร์ เป็นอีกฉากที่ถึงแม้จะมาเพียงแค่ช่วงสั้นๆ แต่ก็เล่นกับความรู้สึกของคนดูได้ยอดเยี่ยมมาก 6. ความจริงอันน่าสยองที่ว่า Quirrell มีโวลเดอมอร์อาศัยอยู่อีกร่างหนึ่งมาโดยตลอด ตอนเห็นครั้งแรกรู้สึกว่าหลอนโคตร 7.…
-
หนุ่มยูทูป ทดสอบจีบสาวด้วยวิธีเนิร์ดๆ ชวนคุยเรื่องประวัติศาสตร์… แถมได้ผลจริงด้วยแหนะ!!
สำหรับหนุ่มโสดทั้งหลายแล้ว ถ้าหากคุณเป็นคนที่อยากจะจีบใครซักคน แต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นยังไง ครั้นจะให้ไปยืนคุยดื้อๆ อาการพูดไม่ออกมันก็มาเยือนอยู่เป็นประจำ เพราะฉะนั้นเราจะพาไปชมวิธีการจีบสาวแบบใหม่ จากผู้หนุ่มยูทูปเบอร์ Ian Kung วิธีการก็ง่ายมาก เจ้าตัวก็แค่เข้าไปคุยกับสาวๆ ด้วยหัวข้อเรื่อง ‘Trebuchet’ ซึ่งมันเป็นเครื่องโยนหินที่เรามักจะเห็นกันในหนังสงครามนั่นแหละ (เนิร์ดพอมั้ยล่ะ) ก่อนอื่นไปชมคลิปวิดีโอตัวเต็มกันก่อนเลย คงดูเป็นอะไรที่เนิร์ดไกลเกินตัวมากๆ ถ้าลองคิดว่าตัวเราเองเดินเข้าไปคุยกับสาวแปลกหน้า ด้วยหัวข้อเกี่ยวกับสิ่งก่อสร้างที่มาจากยุคกลาง คือมันเป็นอะไรที่ไม่มีความเข้ากันได้เลย!! จากตัวอย่างแรก พ่อหนุ่มเข้าไปทักทาย และถามสาวว่าคุณรู้จัก Trebuchet มั้ย? แน่นอนล่ะว่าเธอไม่รู้จัก พ่อหนุ่มเลยอธิบายให้ฟังอย่างละเอียดถี่ยิบ จากนั้นเจ้าตัวก็ปิดฉากเท่ๆ ด้วยการบอกว่า ‘ที่จริงผมแค่อยากหาเรื่องคุยกับคุณเฉยๆ รบกวนขอเบอร์โทรหน่อยได้มั้ย?’ แน่นอนว่าคำตอบก็เป็นอย่างที่เห็นกัน คราวนี้เป็นตาของพ่อหนุ่มอีกคน เข้าไปอธิบายสาวว่า Trebuchet คือ เครื่องที่ใช้ล้อมปราสาทในยุคกลาง จากระยะ 300 เมตร และเขวี้ยงหินหนัก 90 กิโลกรัมได้ เป็นอีกครั้งที่ฝ่ายสาวบอกว่า ‘ฉันไม่รู้หรอกคุณพูดเรื่องอะไร’ แต่นั่นก็ไม่สำคัญหรอก เพราะสุดท้ายพ่อหนุ่มก็ได้เบอร์โทรกลับมาด้วย อีกหนึ่งตัวอย่าง… พ่อหนุ่มเข้าไปชวนคุยเรื่องประเด็นเดิม ฝ่ายสาวก็ออกอาการงงๆ…
-
หนุ่มจีนโกรธจัดหลังถูกไล่ออกจากงาน แค้นนี้เลยชำระผ่านการเผาตู้ ATM แบบจ่ายสด!!
ต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่ตัวอย่างที่ดี และก็ไม่ควรจะเอาไปทำตามด้วยนะจ๊ะ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะถึงขั้นติดคุกหัวโตได้เลยนะ เว็บไซต์ข่าวจีน Shanghaiist ได้รายงานเรื่องราวของหนุ่มจีนสกุล Li อายุ 19 ปี ผู้ทำการประชดชีวิตหลังถูกไล่ออกจากงานด้วยการเผาตู้เอทีเอ็ม เฮ้ยย…เอาจริงดิพี่!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ Pudong ย่านหนึ่งในเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งกล้องวงจรปิดได้จับภาพพฤติกรรมของชายคนดังกล่าวได้ทั้งหมด และนำมาซึ่งการจับกุม ทำให้พ่อหนุ่มใจร้อนต้องเสียเงินค่าปรับไปเป็นจำนวน 120,000 หยวน (6 แสนบาท) พ่อหนุ่มใจร้อนได้สารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเองโดนไล่ออกจากงานที่ทำประจำในโรงงานแห่งหนึ่ง เจ้าตัวจึงรู้สึกคับแค้นใจและอยากจะแก้แค้น Li ได้ใช้มาร์คเกอร์สีดำทาไปที่เลนส์กล้อง ก่อนจะนำค้อนออกมาทุบตู้เอทีเอ็ม เสร็จแล้วก็ใช้น้ำมันราด และจุดไฟเผา ทว่าในความร้ายก็ยังมีความดี พ่อหนุ่มเห็นว่าไฟเริ่มลุกลามจนควบคุมไม่อยู่ เจ้าตัวจึงถอดกางเกงและฉี่ใส่เครื่องเอทีเอ็มตาม (เผาเองดับเอง) หนุ่มตระกูล Li ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า ‘ผมแค่คิดว่า… ถ้าผมตกงานแล้วไม่มีเงิน คนอื่นก็ต้องไม่ได้เงินไปใช้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นผมเลยอยากจะทำลายตู้เอทีเอ็มทิ้งซะ’ สภาพเครื่องเอทีเอ็มหลังเผาเสร็จ คลิปทั้งหมดที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ จาก Shanghaiist โถ่วพ่อหนุ่มเอ๊ยย…
-
หนุ่มอังกฤษผู้มีภรรยา 2 คน ผู้เป็นพ่อคนกับคุณแม่ทั้งสอง ช่วยกันสร้างครอบครัวใหญ่!!
เชื่อเถอะว่าลึกๆ แล้วในใจผู้ชายไทยส่วนใหญ่ก็มักจะมีความอิจฉาตาร้อนอยู่บ้าง เมื่อได้เห็นเรื่องราว 2 ภรรยา 1 สามี ของครอบครัวนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ครอบครัวของคู่รัก 3 คน ที่ประกอบไปด้วย Adam Lyons (สามี) กับ Brooke Shedd (ภรรยา) และ Jane Shalakhova (ภรรยาอีกคน) ก็ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติจริงๆ ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ให้กำเนิดลูกชายมาแล้วหนึ่งคน และข่าวดีคือ พวกเขากำลังจะมีสมาชิกเพิ่ม… แม้ว่ากระแสสังคมจะพูดถึงอย่างเสียๆ หายๆ อยู่บ้าง แต่พวกเขาทั้ง 3 ก็ยืนยันว่าจะสามารถทำหน้าที่เป็นพ่อแม่ที่ดี ให้แก่ลูกๆ ได้ คู่รักทั้ง 3 คนให้ความเห็นว่า ‘การที่พวกเราอยู่กันสามคนแบบนี้ มันช่วยทำให้ชีวิตครอบครัวสมบูรณ์แบบมากขึ้นจริง เราสามารถแบ่งเวลากันไปทำอะไรต่อมิอะไรได้มากมาย’ เรียกได้ว่า ถึงแม้คุณแม่อีกคนหนึ่งจะติดงาน ยังไงซะก็ยังมีคุณแม่คนที่สองจะคอยดูแลลูกๆ ทุกคนอยู่เสมอ ‘ก่อนหน้านี้มีคนบอกว่าความสัมพันธ์ของเรา 3 คน คงเป็นไปได้ไม่นานหรอก…
-
ศิลปินญี่ปุ่นผุดไอเดียเจ๋ง เปลี่ยนความหงิกงอของขนลับ ให้กลายเป็นจังหวะดนตรีตื้ดๆ!!
คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเรื่องไอเดียสร้างสรรค์แบบนอกกรอบอย่างสุดขั้ว คงต้องยกรางวัลที่ 1 ให้กับประชาชนชาวญี่ปุ่นเค้าล่ะ และนี่ก็เป็นอีกครั้งเมื่อ Taku Takahashi ดีเจชื่อดังจากวงการเพลงญี่ปุ่น ได้ปิ๊งไอเดียที่จะเปลี่ยนความหยิกหยอยของเส้นขนหะมอย ให้กลายมาเป็นจังหวะดนตรีแบบตื้ดๆ มันทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอฟร๊ะเนี่ย!? ก่อนอื่นลองไปฟังเสียงเพลงแบบกรู๊ฟๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ขนลับกันก่อนเลย ผลงานเพลงดังกล่าวใช้ชื่อแทร็คว่า ‘In Motion’ ถ้าฟังเผินๆ อาจจะไม่รู้ว่าเพลงทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากขนลับของหญิงสาวทั้งหมด 15 คน ทว่าหญิงสาวผู้อยู่เบื้องหลังนั้นพวกเธอไม่ใช่นักดนตรี หรือโปรดิวเซอร์ หากแต่พวกเธอคืออาสาสมัครจากทางบ้าน ที่สละเส้นขนลับมาให้ดีเจหนุ่ม ใช้สำหรับการสร้างเสียงเพลง ตัวอย่างรูปแบบเส้นขนหะมอย เมื่อเอามาเทียบบนกราฟเส้นเสียง นอกจากนั้นแล้วเพลงนี้ยังได้รับการสนับสนุนจาก Datsumo Recipe เว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับปัญหาขนลับต่างๆ และคำว่า ‘In Motion’ ก็เป็นการเล่นคำ ‘In Mou’ ซึ่งแปลว่าขนลับในภาษาญี่ปุ่น Shiboru Yamane โปรดิวเซอร์ผู้ร่วมงานให้สัมภาษณ์ว่า ‘พวกเราได้ไอเดียนี้มาจากตอนที่เราสังเกตเห็นเส้นขนลับ ซึ่งมีลักษณะที่คดงอคล้ายกับคลื่นเสียง พวกเราจึงใช้สิ่งนั้นสร้างเสียงดนตรีขึ้นมา’ ทว่ามันไม่ง่ายเลยกับการที่เราจะสามารถเปลี่ยนความหงิกงอของขนลับ ให้ออกมาเป็นเมโลดี้ตัวโน้ตชวนให้รู้สึกติดหู ‘ปัญหาใหญ่สุดที่เราเจอก็คือการจูนเสียง มันไม่ง่ายเลยที่คุณจะจูนคลื่นเสียงที่ถอดแบบมาจากขนลับได้อย่างตรงไปตรงมา และความท้าท้ายสูงสุดก็คือ เราอยากรู้ว่า… เราจะสามารถใช้ขนลับสร้างเสียงเพลงได้มากขนาดไหน’ Takahashi ให้สัมภาษณ์…
-
เหมียวน้อยดีใจ มีนักปั่นหนุ่มหล่อมาช่วยชีวิต ตอบแทนด้วยการจุ๊บแก้มซะเลย มั๊วะ!!
สำหรับเหตุการณ์นี้ครั้งนี้อาจจะทำให้สาวๆ หลายคนรู้สึกอิจฉาเจ้าเหมียวตาร้อนเป็นฟืนเป็นไฟเลยก็ว่าได้ ก็แหม.. เล่นมีนักปั่นหนุ่มสุดหล่อมาเอาไปซบอกแบบนี้ ใครล่ะจะไม่อิจฉา โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับหนุ่มนักปั่นชาวบราซิล Viitor Fonseca ในวันที่เจ้าตัวได้ออกไปปั่นจักรยานออกกำลังกาย เขาก็หันไปสังเกตเห็นเจ้าเหมียวตัวน้อยที่รอคอยการช่วยเหลืออยู่ Viitor Fonseca แต่ด้วยความที่ตอนนั้นเจ้าตัวไม่ได้พกกระเป๋า หรืออุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือลูกแมวใดๆ ติดตัวไปเลย (ก็แหงล่ะ ไปออกกำลังกายนี่) ในขณะที่อีกใจหนึ่งเขาก็รู้สึกได้ว่า เจ้าเหมียวที่นอนอยู่ข้างถนนตัวนั้นมันกำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่ เขาจึงตัดสินใจอุ้มมันขึ้นมา และพยุงเจ้าเหมียวน้อยไว้ในชุดนักปั่นของเขาเอง ลองไปชมคลิปตัวเต็มกันสิ น่าร๊ากกซะไม่มี สงสัยว่าพ่อหนุ่มคนนี้จะเป็นเหยื่อที่เจ้าเหมียวแอบเพ่งเล็งมานานแล้วก็ว่าได้นะ เพราะหลังจากที่พ่อหนุ่มได้อุ้มมันเอามาไว้ในชุดนักปั่นแล้ว เจ้าเหมียวก็ออกอาการดีใจดี๊ด๊าไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จากในคลิปเราจะเห็นเจ้าเหมียวเอาแต่จุ๊บ และพยายามใช้ลิ้นเลียบริเวณใต้คางของพ่อหนุ่มใจดี คงจะรู้สึกเดียมๆ จักกะจี้ไม่เบาเลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆ ล่าสุดพ่อหนุ่มก็ได้ออกมาอัพเดทกับ The Dodo ว่าได้รับเลี้ยงเจ้าเหมียวไว้ดูแลอย่างดี และพร้อมจะประกาศหาบ้านให้มัน เมื่อถึงวันที่มันพร้อม ดูท่าทางจะถูกอกถูกใจไอ้เหมียวมันมากเลยนะเนี่ย จุ๊บเอาๆ ที่มา: TheDodo
-
หนุ่มไต้หวันโอด เจอมัลแวร์เรียกค่าไถ่เกือบเท่าเงินเดือน แฮกเกอร์ใจอ่อนไม่แฮกก็ได้จ้าาา
Wannacrypt ถือเป็น Ransomeware ที่กำลังแพร่ระบาดและเป็นที่รู้จักกันอย่างดีในปัจจุบันนี้ โดยมันจะทำงานด้วยการล๊อคข้อมูลสำคัญของเครื่องไว้เพื่อเรียกค่าไถ่จากผู้ใช้งานเป็นเงินประมาณ 10,500 – 21,000 บาท ซึ่งจำนวนเงินค่าไถ่ที่เรียกนั้นถือว่าเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่น้อยถึงขนาดใครสักคนที่โดนไปแล้วจะโอดครวญเหมือนชายหนุ่มที่ #เหมียวปั๊ก จะเล่าต่อไปนี้ จากข้อมูลตามเว็บไซต์ญี่ปุ่น cnet ได้รายงานว่าหนุ่มไต้หวันผู้เคราะห์ร้ายนั้นมีเงินเดือนที่เข้ามาในแต่ละเดือนเพียงแค่ 14,000 บาทและเงินเก็บอันน้อยนิดที่พอประทังชีวิตเข้าไปได้ในแต่ละเดือน หน้าจอหลังจากที่เหยื่อโดนเจ้า WannaCrypt ล๊อคข้อมูลไว้ หลังจากที่เขาโดนเจ้า Ransomeware นี่เข้าไป เขากลับส่งอีเมลกลับไปหาแฮกเกอร์ด้วยใจความสุดเศร้าว่า “นายจะเอาเงินจากเราจริงๆ หรอ ? เราทำงานได้เดือนละ 14,000 บาทเองนะ” หลังจากที่เขาส่งอีเมลไปไม่นานเขาก็ได้รับอีเมลตอบกลับมาด้วยใจความที่ว่า “ไม่หรอก เราไม่เอาเงินของนายหรอก อันที่จริงแคมเปญในไต้หวันของเราค่อนข้างที่จะล้มเหลวเพราะเราประเมินรายได้ของชาวไต้หวันมากเกินความเป็นจริง ดังนั้น นายไม่ต้องจ่ายพวกเราก็ได้ตอนนี้เราได้ทำการปลดล๊อคคอมพิวเตอร์ของนายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าหากคอมพิวเตอร์ยังไม่ปลดล๊อคก็สามารถที่จะติดต่อเราได้ ปล. แต่ถ้านายสนใจในงานของพวกเราก็สามารถร่วมบริจาคเป็นค่ากาแฟได้ตามลิ้งค์นี้เลยนะ” อีเมลที่ทางแฮกเกอร์ได้ส่งกลับมา จะบอกว่าเป็นความโชคดีของเจ้าหนุ่มไต้หวันคนนี้ก็คงจะใช่นะ ถึงแม้จะโดนแฮกข้อมูลไปแล้ว แต่สุดท้ายแฮกเกอร์ก็ยอมปลดล๊อคให้อย่างง่ายดาย เกือบไปแล้วนะเรา ~ ที่มา: cnet , doynews , โอตาคุบริโภคมาม่า
-
นูเทลล่าเตรียมเปิดคาเฟ่ เอาใจคนชอบนูเทลล่าอย่างเป็นทางการ สาขาแรกที่ชิคาโก้…!!
ใครที่ชอบกินนูเทลล่าเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ว่าจะเอาไปทาขนมปัง หรือจะเอานิ้วจิ้มแล้วดูดเฉยๆ คงต้องบอกว่านี่คือข่าวดีของแฟนๆ นูเทลล่าทั่วโลกเลยล่ะ โดย Nutella Café อย่างเป็นทางการสาขาแรกสุดคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะตั้งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Chicago’s Millennium Park Plaza แบบแปลนตัวอย่างของนูเทลล่าคาเฟ่ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต Noah Szporn หัวหน้าฝ่ายการตลาดนูเทลล่าให้สัมภาษณ์ว่า ‘เราต้องการจะเสิร์ฟประสบการณ์ครั้งใหม่ให้แก่แฟนๆ นูเทลล่าทั่วโลก ไม่เพียงแค่เมนูสุดวิเศษที่มีนูเทลล่าเป็นส่วนประกอบเท่านั้น แต่ลูกค้าทุกท่านจะได้สัมผัสถึงประสบการณ์ครั้งใหม่ที่มีต่อนูเทลล่าอีกด้วย’ ตัวอย่างเมนูจากนูเทลล่าอย่างเป็นทางการ ที่ทางบริษัทนำมาแสดง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการเปิดคาเฟ่นูเทลล่าขนาดย่อม ในห้างแห่งหนึ่งที่แคนาดามาแล้ว แต่สำหรับที่ชิคาโก้ ต้องถือว่าเป็นร้านนูเทลล่าคาเฟ่ แบบเต็มตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ถึงแม้ว่าสาขาแรกสุดจะเปิดที่ชิคาโก้ และดูจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างไกลตัวเราไปซักหน่อย แต่ก็ต้องนับว่านี่คือข่าวดีสำหรับคนรักนูเทลล่าทุกคนทั่วโลก เพราะแน่นอนว่าถ้ามีสาขาแรกแล้วผลตอบรับดี ทางบริษัทก็คงอยากจะเปิดคาเฟ่ขยายสาขาไปทั่วโลก และในอนาคตคนไทยเราก็อาจจะได้ลิ้มลองกับเค้าด้วยเหมือนกัน อีกหน่อยคงไปนั่งชิวร้านนูเทลล่า สั่งเมนูช็อคโกแลตมากินชิคๆ ก่อนจะถ่ายรูปลงอินสตาแกรมคูลๆ ถ้ามาเปิดที่ไทยนะแหม่… ฉ่ำเลยพ่อคุณเอ๊ยยย ที่มา: Boredpanda
-
คุณแม่มงลง!! รวมชุดแฟชั่น “ชมพู่ อารยา” อุ้มท้องลูกแฝดสวย เริ่ดพรมแดงเมืองคานส์ 2017
เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 70 เป็นเทศกาลภาพยนตร์ภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดโดยจัดขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1946 ซึ่งถือเป็นเทศกาลที่มีอิทธิพลต่อวงการภาพยนตร์และวงการแฟชั่นในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เทศกาลนี้ได้รับความสนใจทั้งจากผู้ทำหนังและแบรด์แฟชั่นต่างๆ นอกจากหนังที่จะได้รับความสนใจภายในงานแล้ว ยังมีเหล่าเซเลปจากทั่วโลกที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน โดยหนึ่งในเหล่าเซเลปที่เรียกเสียงว้าวภายในงานได้นั่นก็คือ เจ้าหญิงหิ่งห้อย หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “ชมพู่ อารยา” ด้วยความสวยสง่าและความสตองของชุดโชว์ส่วนโค้งท้องของเธอที่แสดงให้โลกรู้ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์นั้น สามารถเรียกเสียงฮือฮาให้กับเหล่าบรรดาตากล้องได้ไม่น้อยในวันแรก สายตาที่สะกดทุกการเคลื่อนไหวของชมพู่ด้วยลุค “Mysterious Magique” สวยสง่า สะกดทุกสายตา เลอค่าสุดๆ แม้จะอุ้มท้องแต่เธอได้พิสูจน์แล้วว่า “ผู้หญิงอย่าหยุดสวย” . แม้งานจะผ่านมาแล้วกว่า 1 วัน แต่คุณแม่ก็ยังไม่มีทีท่าจะหยุดตัวนางจากความงามไว้ได้เลย นางยังคงสวยพัฒนาอย่างต่อเนื่องในวันที่ 2 กับทีมเมคอัพของ L’Oréal เดี๋ยวนะค๊ะ หน้าท้องนางเมื่อวานหายไปไหน ~ สลัดภาพคุณแม่ลูกอ่อน สู่ Fashionista พิฆาตสายตา สวยทุกมุมมองศาสไตล์ Parisian Plum ถ่ายทีเผลอยังสวยขนาดนี้ แม่ทำได้ไงคะ T^T สายตาสวยพยศของเธอสามารถบอกเล่าอะไรได้หลายอย่าง…
-
พาไปดูชุมชนจากจีนขนาดย่อม ท่ามกลางป่าไม้อันกว้างใหญ่ บอกเลยว่าน่าอยู่ม๊ากก!!
เชื่อเถอะว่าสำหรับมนุษย์เราแล้ว มันไม่มีอะไรจะรู้สึกชื่นอกชื่นใจไปกว่าการได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ป่าไม้เขียวขจี มีเสียงนกร้องจิ๊บๆ โอยยนี่มันชีวิตในฝันชัดๆ และวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับชุมชนแห่งหนึ่งจากประเทศจีน ซึ่งอันที่จริงก็เป็นชุมชนที่ชาวบ้านเค้าอยู่กันอย่างปกติสุขเนี่ยแหละ หากแต่ความพิเศษของมันคือที่ตั้งของชุมชนแห่งนี้ยังไงล่ะ ไม่ว่าจะมองซ้าย มองขวา มองหน้า หรือมองหลัง ก็จะเจอต้นไม้เขียวขจีโอบล้อมไปทั่วทุกสารทิศ ชุมชนแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองกุ้ยหยาง มณฑลกุ้ยโจว ทางตอนตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ซึ่งเป็นชุมชนขนาดเล็กตั้งอยู่ใกล้ติดกับอุทยานภูเขา Qianling บนถนน Qianchun แต่ชาวบ้านผู้อยู่อาศัยในละแวกนี้ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า พื้นที่ๆ พวกเขาอาศัยอยู่เป็นพื้นที่สงบ มีอากาศหายใจที่บริสุทธิ์ และไร้ซึ่งเสียงรบกวนยามค่ำคืน ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าป่าไม้ทั้งหมดนี้เปรียบเสมือนเกราะป้องกัน ที่คอยปกป้องพวกเขาจากมลภาวะต่างๆ ในส่วนของที่อยู่อาศัย ชาวบ้านก็จะอยู่กันเป็นชุมชนขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยความสงบสุข ซึ่งที่ดินบริเวณนี้สมัยก่อนขายถูกมาก ทว่าปัจจุบันราคาก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามยุคสมัย เมื่อลองมองจากมุมนกมอง ก็จะได้ภาพตึกอพาร์ทเม้นท์ที่ดูเหมือนจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับต้นไม้เขียวขจี หลายคนอาจจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติเฉพาะช่วงวันหยุด แต่สำหรับชาวบ้านที่นี่พวกเขาได้ใกล้ชิดในทุกช่วงลมหายใจ น่าอิจฉาจริงๆ นับว่าเป็นอีกสถานที่ๆ น่าไปอยู่มาก โอบล้อมไปด้วยป่าเขียวขจี โอ้ยยฟินนห์~ ที่มา: Designyoutrust
-
หนุ่มไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ เซ็งรูปภาพชอบทำหน้าบูดดั่งตูดลิง เลยจัดแอพฯหน้ายิ้มให้เลยนี่!!
จะว่าไปแล้วในสมัยก่อนการจะวาดภาพเหมือนมันคงไม่ง่ายอย่างการถ่ายรูปเซลฟี่สมัยนี้ กว่าจะให้ศิลปินวาดให้จนเสร็จคนเป็นแบบคงนั่งรอจนเมื่อยแล้วเมื่อยอีก ก็ไม่แปลกที่รูปส่วนใหญ่จะออกมาหน้าบึ้ง ด้วยความที่ Olly Gibbs ได้ไปเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในอัมสเตอร์ดัม เจ้ากลับรู้สึกเซ็งเพราะมองไปทางไหนก็เจอแต่รูปคนทำหน้าบึ้ง เลยจัดการเพิ่มรอยยิ้ม แถมสร้างข้อความไว้ให้กลายเป็นมีมที่ดูกวนทีนไปอีก ดูสิ… ที่หน้าบึ้งๆ พอยิ้มขึ้นมาโลกก็สวยทันใด เมื่อคุณแสร้งทำหน้าเนียน แต่ดันโดนเพื่อนจับได้ ความรู้สึกของคุณ เมื่อพบว่าตัวเองเอาหมอนรองคอติดตัวมาด้วย เมื่อมีคนมาบอกคุณว่า คนที่คุณชอบเลิกกับแฟน และกำลังเป็นโสด (ยิ้มแป้นเลย 555+) นี่คือสภาพของสาวๆ เมื่อพวกเธอเห็นป้ายลดราคา พี่ดาว ขำมิน… ใบหน้าของคุณเมื่อช่างตัดผมเสร็จ… เมื่อใครซักคนกำลังพูดถึงคุณอยู่ แล้วคุณดันไปได้ยินพอดี (ประมาณว่า ห๊ะ… เราเหรอ!? 555+) เมื่อคุณแอบตดแต่ไม่มีใครจับได้ เมื่อแฟนบอกคุณว่า… พ่อแม่ไม่อยู่บ้านนะ เมื่อคุณส่องกระจกหลังอาบน้ำเสร็จ แล้วบอกตัวเองว่า… เราก็ดูดีเหมือนกันนี่หว่า รอยยิ้มของมนุษย์แฟนที่บอกว่า ไม่มีอะไรจริงๆ!! แหม่..…
-
ตามไปส่อง 10 วิธีการทางเทคโนโลยีของเกาหลีเหนือ ที่ไม่เหมือนใครในโลกแน่น๊อนน!!
เป็นอย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศเกาหลีเหนือ เป็นประเทศที่มีความยูนีค และมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก สูงซะยิ่งกว่างานแฟชั่นวีคส์จากกรุงมิลานซะอีก ด้วยหลักคิดที่ว่าต้องการพึ่งพาตนเอง และตัดขาดโลกภายนอก ทำให้หลายสิ่งอย่างก็ต้องสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเทคโนโลยีสมัยใหม่ทั้งหลาย เราตามไปส่องกันเลยว่าพฤติกรรมทางเทคโนโลยีของชาวเกาเหลีเหนือ เค้าจะแตกต่างจากประเทศอื่นทั่วโลกมากขนาดไหน 1. เกือบจะไม่มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ อันที่จริงก็มีอินเตอร์เน็ตอยู่หรอก หากแต่ว่าจะเปิดใช้บริการได้เฉพาะบางคนเท่านั้น (นักท่องเที่ยว หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง) แต่สำหรับชาวบ้านตาดำๆ ก็มีเครือข่าย Kwangmyong ให้บริการอยู่ แน่นอนว่าข้อมูลข่าวสารก็ต้องเป็นไปตามที่รัฐกำหนด 2. เฟซบุ๊กก็มีเหมือนกัน แต่เป็นร่างโคลนนะ แน่นอนว่าประเทศนี้ได้ทำการแบนสื่อจากชาติตะวันตกทุกชนิด แต่ทางรัฐบาลก็ได้สั่งสร้างโซเชียลมีเดียรุ่นโคลนนิ่ง ที่ถูกออกแบบโดยบริษัท Dyn Networks เพื่อให้ชาวเมืองเอาไว้ใช้ติดต่อกันนั่นแหละ 3. เพียง 1 ใน 10 ของชาวเกาหลีเหนือเท่านั้นที่มีสมาร์ทโฟน อ้างอิงข้อมูลจากผู้เขียนหนังสือ ‘The Real North Korea’ Andrei Lankov ระบุว่า จากสถิติการเปิดใช้งานกับเครือข่าย Koryolink เผยว่ามีผู้ลงทะเบียนใช้เพียงแค่ 3 ล้านรายเท่านั้น ซึ่งนับเป็น 1 ใน 10…
-
โผล่อีกราย เมื่ออาจารย์ไทเก๊ก ไปท้านักมวยสู้ แต่ดันแพ้ภายใน 7 วินาที (รองเท้ามันลื่น)
ก่อนหน้านี้ #เหมียวเวจจี้ ได้นำเสนอเรื่องราวของปรมาจารย์ไทเก๊ก Lei Lei ที่ได้ออกมาท้าชกกับนักสู้ MMA แต่เจ้าตัวดันแพ้ไปภายในเวลาไม่ถึง 10 วินาที (ลิ้งค์เดิม) เมื่อเดือนก่อน ภาพของอาจารย์ Lei Lei ที่ชกกับนักสู้ MMA คุณ Xu Xiaodong คราวนี้ก็มีโผล่มาอีกราย และกลายเป็นกระแสทอล์คออฟเดอะทาวน์ของชาวเน็ตจีนไปเลยก็ว่าได้ เมื่ออาจารย์ผู้อ้างว่าเป็นปรมาจารย์แห่งศาสตร์การต่อสู้ Wudang ได้ออกมาประกาศขอท้าสู้กับนักมวยรุ่นใหม่ แต่งานนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะปรมาจารย์ถูกน็อคภายในเวลาแค่ 7 วินาทีเท่านั้น ตอนแรกจะเห็นได้ว่าปรมาจารย์ได้สาวหมัดเข้าใส่นักมวย ก่อนที่จะถูกโต้กลับอย่างหนักจนถึงกับล้มทั้งยืน จากกระแสดังกล่าวก็ทำให้ชาวเน็ตออกมาตั้งคำถามกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเหมาะสมที่เอามวยสมัยเก่าเปรียบเทียบกับมวยสมัยใหม่ บ้างก็ตั้งคำถามว่าถ้าหากปรมาจารย์เหล่านี้ไม่ได้แกร่งกล้าจริง ทำไมถึงชอบทำคลิปวิดีโอที่เผยถึงพลังภายในของตน ยกตัวอย่างเช่นคลิปนี้… ส่วนตัว #เหมียวบ็อบ มองว่า.. จะเอามวยเก่าที่มีคุณค่าในเชิงอนุรักษ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ฯลฯ มาเปรียบเทียบกับมวยยุคใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อการกีฬา และการแข่งขัน ก็ดูจะเป็นการเปรียบเทียบที่ไม่ค่อยถูกที่ถูกทางเท่าไหร่นัก พูดง่ายๆ ว่า…
-
ทีมสำรวจแทบสิ้นหวัง เมื่อพบขยะพลาสติกจำนวนมาก บนเกาะห่างไกลกว่า 4,800 กิโลฯ
ดูเหมือนว่าปัญหาขยะล้นโลกจะเป็นอะไรที่แก้กันไม่ตกจริงๆ และไม่น่าเชื่อว่าขยะที่คนทั่วไปอาจจะเผลอทิ้งไว้ข้างชายหาด จะส่งผลเป็นวงกว้างได้มากขนาดนี้ Jennifer Lavers จากมหาวิทยาลัยแทสมาเนีย ได้เดินทางไปยังเกาะ Henderson ที่ซึ่งห่างไกลออกไปจากแผ่นดินใหญ่ถึง 4,800 กิโลเมตร และพบว่าที่นี่กลับเต็มไปด้วยซากขยะหลายสิบล้านชิ้น!! เกาะ Henderson ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิค มีขนาดเพียงแค่ 37.5 กิโลเมตร เท่านั้น ซึ่งเกาะแห่งนี้เป็นพื้นที่ควบคุมของทางการอังกฤษ ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับอนุรักษ์นกทะเลหลายสายพันธุ์ และเต่าทะเลอีกจำนวนมาก หนึ่งในภาพผลกระทบที่เห็นได้ชัดที่สุด ก็คงจะเป็นภาพของปูเสฉวนที่ต้องใช้พลาสติกมาเป็นกระดองให้ตัวเองแทน โดยทีมสำรวจคาดว่าจำนวนขยะมีมากกว่า 37 ล้านชิ้น หนักกว่า 17 ตัน และส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบนิเวศ Dr. Lavers ให้สัมภาษณ์ว่า ‘ฉันเคยเห็นขยะที่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบนชายหาดมาแล้วหลายที่ แต่ไม่เคยเห็นที่ไหนเยอะเท่านี้มาก่อน’ ถึงแม้ว่าในบริเวณรอบเกาะจะไม่มีเส้นทางการเดินเรือของชาวประมง หรือเรือท่องเที่ยว แต่ก็ชี้ให้เห็นว่าขยะจากชายฝั่งตามเมืองใหญ่ สามารถเดินทางไปได้ไกลขนาดไหน บริเวณที่ตั้งของเกาะ ชี้ให้เห็นว่าไม่มีเมืองไหนตั้งอยู่ใกล้เลย แน่นอนว่าขยะทั้งหมดเต็มไปด้วยสารพิษ และมันก็ส่งผลต่อการเพาะพันธุ์สัตว์อนุรักษ์ทางทะเลเป็นอย่างมาก Dr. Lavers ให้สัมภาษณ์ปิดท้ายว่า…
-
รู้จักกับบาทหลวงชาวซิมบับเว ผู้อ้างว่าต่อฮอตไลน์สายตรงถึงพระเจ้าได้ เชร้ดดดด!!
รู้สึกว่าประเทศทางฝั่งแอฟริกาเค้าก็มีเรื่องราวของบาทหลวง หมอดู หรือคนทรง ที่เคลมว่าสามารถติดต่อกับพระเจ้าได้มาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ไม่แพ้บ้านเราเลยแฮะ (น่าจะมีจัดแข่ง) คราวนี้เราจะไปกันที่ประเทศซิมบับเว พาไปรู้จักกับบาทหลวง Paul Sanyangore หรือมีอีกชื่อว่า ‘Pastor Talent’ (อารมณ์หลวงพ่อทันใจบ้านเราไรงี้) ผู้เคลมว่าสามารถติดต่อกับพระเจ้าผ่านโทรศัพท์ได้ เฮ้ยเอาจริงดิ!? หลวงพ่อ Paul เป็นเจ้าของโบสถ์ Victory World International Ministries ซึ่งกำลังโด่งดังไปทั่วโลกโซเชียลของฝั่งแอฟริกา ‘หลวงพ่อสามารถติดต่อกับพระเจ้าได้โดยตรง อันที่จริง… ผมเป็นคนเดียวที่มีเบอร์ของพระองค์ และสามารถติดต่อกับพระองค์ได้เสมอ มันเป็นไปได้ที่เราจะคุยกับพระองค์ผ่านโทรศัพท์ วันหนึ่งผมสวดมนต์แล้วก็ได้ยินเสียงกระซิบให้โทรไปหาจริงๆ’ หลวงพ่อเล่า ที่นอกเหนือไปกว่านั้นคือ ด้วยแรงศรัทธาอย่างท่วมท้นทำให้ตอนนี้หลวงพ่อมีช่องทีวีเป็นของตัวเอง ใช้ชื่อช่องว่า ‘Heaven Online’ ซึ่งเป็นรายการที่ผู้ชมจะได้เห็นหลวงพ่อต่อสายตรงหาพระเจ้า โดยเจ้าตัวมักจะกล่าวในทีวีว่า จะยอมเปิดเผยเบอร์โทรของพระเจ้าให้ เมื่อถึงวันที่พระองค์ทรงบอกให้ทำ ‘เมื่อตอนที่โมเสสได้เป็นผู้นำทางสว่างมาให้แก่ชาวอิสราเอล ก็เช่นเดียวกันกับที่ตอนนี้ผมได้รับสารจากพระเจ้า ให้มาเป็นผู้นำทางสว่างมาให้แก่เหล่าผู้ศรัทธาทุกคน’ หลวงพ่อกล่าว แน่นอนว่าผู้มาร่วมงานส่วนใหญ่ก็เฝ้ารออยากจะได้เบอร์โทรสายตรงต่อถึงพระเจ้าบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วหลวงพ่อมักจะอ้างว่าท่านทรงบอกใบ้เบอร์โทรมาให้อยู่เสมอๆ หากแต่เหล่าผู้ศรัทธาต้องรู้จักสังเกตให้ดี หลวงพ่อขณะทำพิธีพูดคุยกับพระเจ้า ต่อหน้าเหล่าสาวกผู้เข้าร่วมพิธี ถ้าใครอยากรู้ว่ารายการในทีวีของหลวงพ่อเป็นยังไง ก็ลองไปชมคลิปวิดีโอความยาว…
-
หนุ่มฟ้องคู่เดทสาวขอค่าตั๋วคืน เพราะมัวแต่เล่นมือถือระหว่างชม Guardian of the Galaxy 2
ล่าสุดส่วนตัว #เหมียวบ็อบ เองก็เพิ่งไปดูหนังในโรงมาเหมือนกัน แล้วก็เกิดความรู้สึกว่า เอ…เดี๋ยวนี้คนเราติดมือถือกันถึงขนาดที่ว่าต้องเอาขึ้นมาเล่นระหว่างดูหนังเลยเหรอ แถมบางคนอาการหนักไม่ยอมปิดเสียงข้อความก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ และเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นกับชายหนุ่มวัย 37 ปี Brandon Vezmar จากเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาเหมือนกัน โดยเว็บไซต์ Cnet ได้รายงานว่า พ่อหนุ่มวัย 37 ปีคนดังกล่าว ยื่นเรื่องฟ้องร้องคู่เดทสาวของตัวเองเป็นเงินมูลค่า $17.31 ดอลล่าร์สหรัฐฯ (600 บาท) ซึ่งเป็นราคาค่าตั๋วเข้าชมภาพยนตร์แบบสามมิติ ที่เขาได้จ่ายไปนั่นเอง Brandon เผยว่าในคืนวันนั้นเป็นคืนนัดเดทครั้งแรกกับสาวที่เขาเพิ่งรู้จักผ่านทางโลกออนไลน์ ทั้งคู่นัดไปดูหนังเรื่อง Guardian of the Galaxy ภาค 2 กัน ทว่าเจ้าตัวก็ต้องรู้สึกรำคาญใจ เมื่อฝ่ายหญิงเอาแต่กดข้อความบนมือถือ ไม่ให้เกียรติผู้ชมคนอื่นๆ ‘ผมสงสัยว่าเธอคงจะพิมพ์แค่ไอ้คำว่า ไอ แอม กรู้ทๆๆๆ ไอ้แม่มเอ้ยยย เป็นเดทที่บรมโคตรห่วยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลยจริงๆ’ Brandon ให้สัมภาษณ์ หลังจากที่เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นโด่งดังบนโลกออนไลน์ ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ก็ออกมาโพสทวิตเตอร์ว่า ‘ทำไมถึงหยุดฟ้องแค่นี้ล่ะ? เธอน่าจะเข้าคุกมากกว่านะ!’…
-
“B.B.” สุนัขที่ถูกขังไว้ใต้ดินมาตลอดชีวิต กับการได้สัมผัสชีวิตอิสระบนพื้นโลกเป็นครั้งแรก!!
สำหรับสัตว์เลี้ยงทั้งหลายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหมา แมว หรืออะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่พวกมันต้องการมากที่สุดก็คือความรัก และการดูแลเอาใจใส่อย่างดี ทว่ากับเจ้า B.B. สุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลตัวจิ๋ว ที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายลูกแกะ กลับมีชีวิตที่น่าสงสาร เพราะตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมามันไม่เคยได้สัมผัสโลกภายนอกเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตลอดเวลาที่ผ่านมามันถูกเจ้าของใจร้าย ขังมันไว้กับกรงในชั้นใต้ดินมาโดยตลอด ทีมช่วยเหลือคาดว่า เจ้าของเดิมน่าจะใช้มันสำหรับการเพาะพันธุ์เพื่อจำหน่ายเท่านั้น เพราะมันมีขนาดตัวที่เล็กเกินกว่าปกติ ‘มันตัวเล็กมาก สภาพจิตใจก็ทรุดโทรมมากที่สุด เพราะตลอดชีวิตมันถูกขังอยู่แต่ในกรงมาโดยตลอด’ เจ้าหน้าที่เล่า ทว่าตอนนี้ B.B. ถูกนำตัวมายังโรงพยาบาลสัตว์ Cabarrus และได้รับการอุปการะจากพนักงานสาว Brenda Tortoreo เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ‘ในช่วงแรกที่มันย้ายมาอยู่กับฉัน มันขี้กลัวมาก เอาแต่หลบตัวเองอยู่ในมุม และไม่ยอมให้ฉันเล่นกับมันเลยแม้แต่น้อย’ เจ้าของคนใหม่เล่า แต่เมื่อเวลาผ่านไปสภาพจิตใจ และพฤติกรรมความขี้เล่นซุกซน ตามธรรมชาติของสุนัขก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง ‘ตอนแรกมันไม่ยอมวิ่งเลยค่ะ เอาแต่เดินวนไปวนมาอย่างเดียว ฉันคิดว่ามันคงไม่รู้ตัวว่าควรจะทำอย่างไรดี’ มันไม่เคยรู้มาก่อนว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไร ทำให้ช่วงแรกมันอาจจะรู้สึกสับสนบ้างเล็กน้อย ‘ตอนที่เราพามันออกไปเดินเล่นครั้งแรก มันมีท่าทีค่อนข้างจะตื่นกลัวมาก ดูเหมือนมันจะไม่เคยสัมผัสกลิ่นหญ้า แสงอาทิตย์ และการได้วิ่งเล่นกับเพื่อนตูบด้วยกันมาก่อน’…