เผยวีรกรรมอันกล้าหาญ ของสายลับหญิง Krystyna Skarbek ในสงครามโลกครั้งที่ 2

ในสงครามนั้นเป็นไปได้ยากที่เราจะสามารถบันทึกได้ประวัติศาสตร์ไว้ได้ซอกทุกมุมและนำมาบอกเล่าต่อในมุมมองที่สามารถเชื่อถือได้

แต่อย่างไรก็ตาม #เหมียวปั๊ก ได้ไปเจอเข้ากับเรื่องราวของนาง Krystyna Skarbek ที่ใครหลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อของเธอ แต่วีรกรรมของเธอได้รับการยืนยันและมีความน่าเชื่อถือจนถึงขนาดเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวละครในหนังฮอลลีวูดเลยทีเดียว

 

ดูผิวเผินเธอไม่ต่างจากผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง

 

ด้วยเรื่องราวที่ไม่ธรรมดาของเธอในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 การรุกรานของพรรคนาซีที่โปแลนด์ในปี 1939 ได้แปรเปลี่ยนเธอจากลูกสาวของท่านเค้าท์ ให้กลายมาเป็นสายลับสาว

ในปี 1944 เธอถูกขนานนามว่าเป็นสายลับคนโปรดของ Winston Churchill อดีตนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร

และด้วยบุคลิกของเธอทำให้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจสร้างตัวละคร Vesper Lynd ในหนัง Casino Royale ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังสายลับ James Bond ด้วย

 

Vesper Lynd ตัวละครสมมติในหนังเรื่อง Casino Royale

 

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอกำลังเดินทางไปยังลอนดอนกับสามีคนที่ 2 ของเธอในปี 1938 หลังจากที่เธอรู้ข่าวว่าประเทศโปแลนด์อันเป็นที่รักของเธอถูกรุกราน

เธอจึงตัดสินใจที่จะเข้ากองทัพของอังกฤษเพื่อช่วยเหลือประเทศของเธอ และนี่เป็นจุดเริ่มต้นภารกิจแรกของการเป็นสายลับของเธอ

 

 

โดยหนึ่งในภารกิจของเธอนั้น เธอต้องปลอมตัวเป็นนักข่าวประจำอยู่ที่บูดาเปสต์  แทรกซึมไปยังประเทศสโลวาเกีย แล่นสกีตามชายแดนเพื่อข้ามไปยังประเทศโปแลนด์เข้าสู่เมือง Zakopane เพื่อเก็บข้อมูลทางการทหารต่างๆ

 

เธอสามารถแทรกซึมเข้าสู่พื้นที่ต่างๆ ได้ไม่ต่างจากสายลับทั่วไป

 

ด้วยผลงานที่โดดเด่นจึงทำให้หน่วยสืบราชการลับได้บรรจุ Krystyna ในหน่วยลับที่ชื่อว่า Section D ซึ่งเป็นหน่วยที่คอยสืบและหาข่าวเกี่ยวกับตารางเดินรถไฟ การเคลื่อนพลของทหารยามรวมไปถึงการกระจายของโฆษณาชวนเชื่อของพรรคนาซี

 

 

Krystyna ใช้ชื่อแฝงว่า Christina Granville โดยเธอเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางด้วยวีรกรรมที่กล้าหาญของเธอ ไม่ว่าจะเป็นการหลบหนีการสอบปากคำของทหารเยอรมัน โดยการกัดลิ้นตัวเองจนเลือดออกและบอกว่าเธอเป็นวัณโรค

 

ด้วยบุคลิกของเธอจึงทำให้เธอสามารถกลมกลืนกับทุกสภาพสังคมได้

 

แม้เธอจะเคยโดนหน่วยลาดตระเวนของเยอรมันจับได้ ก่อนที่ทหารเยอรมันจะจับแขนของเธอ เธอก็เปิดผ้าคลุมของเธอโดยใต้ผ้าคลุมนั้นมีระเบิดพลีชีพอยู่ ทำให้ทหารเยอรมันตกใจวิ่งหนีเป็นเหตุทำให้เธอสามารถหนีการจับกุมมาได้

นอกจากนี้เธอยังสามารถช่วยหัวหน้าหน่วยต่อต้านของเธอ Francis Cammaerts หลังจากที่เขาถูกคุมขังโดยนาซี เธอเริ่มต้นด้วยการร้องเพลง “Frankie and Johnny” ขณะที่เดินไปรอบ ๆ คุกจนกว่าเธอจะได้ยินเสียงเขาร้องเพลงกลับมาเพื่อเป็นการบอกตำแหน่ง

 

ภาพ Krystyna กับหน่วย Section D

 

หลังจากที่เธอรู้ตำแหน่งของหัวหน้าเธอแล้ว เธอก็เข้าไปแสดงละครตบตาบอกกับทหารยามนาซีเยอรมันว่านี่คือสามีของเธอไม่ใช่หัวหน้าหน่วยต่อต้านจนทหารยาม จนยอมปล่อยทั้งเธอและเขาอย่างหน้าตาเฉย!?

 

นอกจากความสามารถแล้ว ความสวยของเธอก็สามารถหลอกทหารนาซีได้ด้วย

 

แม้ว่าเธอจะถูกแทงเสียชีวิตในปี 1952 เป็นการปิดตำนานหญิงแกร่งแต่เรื่องเล่าวีรกรรมของเธอยังคงอยู่ต่อไป ในปี 2013 หนังสือ The Spy Who Loved ซึ่งเป็นอัตชีวประวัติของเธอได้รับความสนใจและกำลังจะถูกนำมาสร้างเป็นหนังให้ได้รับชมกัน

 

รูปหล่อทองเหลืองของเธอถูกตั้งไว้ที่  Polish Hearth Club ที่เมืองลอนดอนเพื่อเป็นเกียรติแก่วีรกรรมอันกล้าหาญที่เธอได้ทำไว้ในช่วงสงคราม

ที่มา: boredomtherapy