Tag: ข่าวในประเทศ

ทุกครั้งที่ #เหมียวฟิ้น ได้เห็นการแสดงความมีน้ำใจกันหรือช่วยเหลือกันในโลกออนไลน์ มันมักจะทำให้เรารู้สึกดีและใจพองโต แต่ใช่ว่าทุกๆ การช่วยเหลือจะเป็นเรื่องดีเสมอไปนะ…   เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพและเรื่องราวดีๆ ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อจูน แกล้งบ้า’  โดยเจ้าตัวเล่าว่าเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ตัวเองได้เจอเด็กชายคนหนึ่งแถวสะพานใหม่ เขตบางเขน     เด็กคนนั้นได้เข้ามาขอเงินกินข้าวกับเธอ เธอจึงสงสารเลยพาไปนั่งทานอาหารด้วยกันแถมยังมีการเรียกร้องให้เธอซื้ออาหารอีกชุดเพื่อเอาไปฝากยายที่บ้านด้วย เมื่อซักถามจึงทราบว่า เด็กชายคนนี้อายุ 13 ปี เรียนม.1 อยู่กับยาย 2 คน เช่าบ้านไม้อยู่เดือนละ 1000 บาท มีรายได้จากการขอทานวันละประมาณ 200 กว่าบาท (เป็นบางวัน)   ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ หญิงสาวยังได้ซื้อรองเท้าและให้เงินติดตัวเด็กชายไปอีกนิดหน่อย พร้อมกับบอกด้วยว่าหากใครเจอน้องเขาก็ช่วยเหลือกันคนละนิดคนละหน่อย     แต่หลังจากที่เรื่องราวของเธอและเด็กชายถูกเผยแพร่ออกไปในโลกอินเตอร์เน็ต กลับมีสมาชิกคนอื่นๆ และเพื่อนๆ ของเธอพากันบอกว่าเด็กชายคนนี้เป็นพวกโกหก และยังเคยเที่ยวขอเงินกับคนโน่นคนนี้มาแล้วหลายครั้ง แถมยังมีนิสัยชอบสูบบุหรี่อีกด้วย   จากคอมเม้นหลายๆ คอมเม้นพูดตรงกันว่า เด็กชายคนนี้เป็นเด็กเกเร มีบ้านอยู่แถวสะพานใหม่ ซอย…

นี่ถือเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้ใช้รถใช้ถนนได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ สำหรับเรื่องราวของ 2 พ่อลูกที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปมุดใต้ล้อรถพ่วงกลาง 4 แยก ที่ดูแล้วชวนเสียวไส้มากๆ     เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปวิดีโอผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า แมวเหงา เพราะเราคู่กัน เป็นคลิปวิดีโอของ 2 พ่อลูกที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์มาด้วยกัน แต่ในระหว่างที่กำลังจอดติดไฟแดงอยู่นั้นเอง รถเกิดดับกะทันหัน ทำให้ลูกชายซึ่งเป็นคนขับต้องรีบสตาร์ทด้วยความตกใจ     แต่เนื่องจากมอเตอร์ไซค์ไม่ได้อยู่ในเกียร์ว่าง ทำให้รถพุ่งตัวไปด้านหน้าเมื่อสตาร์ทได้แล้ว และพุ่งไปชนเข้ากับล้อรถพ่วงอย่างจัง แต่โชคดีที่ในวินาทีนั้นเองน้องคนขับสามารถไหวตัวทันและลุกออกมาจากใต้ล้อรถพ่วงได้ ทำให้รอดตายอย่างปาฏิหาริย์!!     ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย วีดีโอ วินาทีชีวิตลูกชาย จะจำจนวันตาย. ขอบคุณๆๆๆปฏิหาร(ลูกชายเสื้อแดง) วิดีโอนี้โพสลงเพื่อเตือนสติไม่ให้ประมาท ขับรถให้มีสติ #กรณีนี้รถมันดับตรงทางแยก #น้องคนขับตกใจกัวรถที่ตามหลังจะชน #จึงรีบสตาร์ทลืมปลดเกียร์ว่าง #รถเลยพุ่ง #แรงกระชากมือเลยบิดคันเร่งค่ะ. คงไม่มีใครอยู่ดีๆจะขับรถไปมุดรถพ่วงนะค่ะ หัวอกคนเป็นแม่โพสเพื่อให้เป็นอุทธาหรณ์ค่ะ. ดีใจที่ลูกยังมีชีวิตอยู่ผ่านเหตุการณ์นี้มาได้ และขอบคุณแทนน้องสำหรับทุกๆกำลังใจค่ะ โพสต์โดย แมวเหงา เพราะเราคู่กัน บน 10 มีนาคม 2016   #เหมียวฟิ้น ดูแล้วหวาดเสียวมากเลยนะเนี๊ยะ…

การซื้อของแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าที่มีหน้าร้านจริงๆ หรือร้านค้าออนไลน์ บางครั้งเราก็ต้องสอบถามราคา ไซส์ หรือรายละเอียดต่างๆ ให้แน่ใจ เพื่อจะได้รู้ว่าสินค้าที่เรากำลังมองหานั้นเป็นไปตามที่เราต้องการหรือเปล่า   แต่กับบางร้านค้าอาจจะต้องระวังนิดนึงนะ เพราะแค่เราไปสอบถามกับทางร้าน ก็อาจถูกบังคับให้ซื้อได้ เหมือนอย่างร้านค้าที่เหมียวกำลังจะนำมาเล่าในวันนี้ เรื่องที่#เหมียวฟิ้นจะนำมาเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้ทวิตเตอร์ @minevith     เป็นเรื่องราวที่เจ้าตัวได้ไปติดต่อสอบถามกับร้านขายเสื้อผ้าในเฟซบุ๊กแห่งหนึ่งเพื่อถามว่ามีไซส์ที่เธอต้องการไหม? แต่ทันทีที่ทางเพจได้รับข้อความก็ตอบกลับมาว่า “มีค่ะ” พร้อมกับสรุปยอดและให้เลขบัญชีมาทันทีทั้งที่ยังไม่มีการตกลงว่าจะซื้อแต่อย่างใด     แต่เนื่องจากเธออยากจะสอบถามไว้ก่อน จึงยังไม่ได้ตอบตกลงหรือโอนเงินแต่อย่างใด ทางร้านจึงส่งข้อความกลับมาว่า “สั่งแล้วไม่รับผิดชอบขอลงประจานนะคะ” ทำเอาลูกค้าถึงกับงงเลยทีเดียว       นอกจากนี้ยังมีฟีดแบ็คจากผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกหลายรายบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ร้านค้าออนไลน์แห่งนี้ ให้บริการได้แย่มาก     แม้จะเป็นระบบตอบรับอัตโนมัติ เหมียวว่ามันก็แปลกๆ อยู่ดีนา น่าจะเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สอบถามสินค้าสักหน่อยก่อนจะซื้อนะ มันน่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้เยอะเลย ที่มา Black Hat

ถือเป็นปัญหาที่ชาวกรุงมักจะเจอได้แทบทุกวันเลย สำหรับปัญหารถเมล์ไม่ยอมจอดรับผู้โดยสารตามป้าย อย่างเช่นล่าสุด สมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่าคุณ kolia ก็ได้เข้ามาเล่าประสบการณ์เจ็บๆ เกี่ยวกับการไม่จอดรับผู้โดยสารของรถเมล์สายหนึ่งให้โลกออนไลน์ได้รับรู้กัน     เจ้าของกระทู้ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์ที่เจ้าตัวต้องยืนรอรถเมล์สาย ปอ.524 (ซึ่งเป็นสายที่นานๆ จะโผล่มาซัก 1 คัน) บริเวณธนาคารแห่งประเทศไทย ถนนสามเสน   ในระหว่างนั้นเองเขาก็เห็นรถเมล์สาย ปอ.524 แล่นผ่านมา แต่ดันแช่เลนขวาและขับเลยป้ายไป เจ้าตัวเลยนึกเสียใจเลยนั่งรถอีกคันตามรถเมล์คันนั้นไปจนถึงท่ารถเพื่อสอบถามว่าเหตุใดถึงไม่จอดรถตามป้าย และเป็นการร้องเรียนเพื่อให้คนขับรถทราบข้อผิดพลาด     เมื่อเจ้าของกระทู้ได้พบกับคนขับ เลยสอบถามว่าทำไมถึงไม่ยอมจอด แต่ดูเหมือนเรื่องจะไม่จบอยู่แค่นั้น เพราะคนขับกลับโมโหที่เจ้าของกระทู้ตามไปร้องเรียนถึงท่ารถ จึงขึ้นเสียงและยกป้ายเหล็กทำท่าจะฟาดใส่เขา   แต่โชคดีที่กระเป๋ารถเมล์เข้ามาห้ามไว้ ทำให้ไม่ถูกทำร้ายร่างกาย แต่ก็ได้บาดแผลเล็กๆ น้อยๆ ติดมาด้วยระหว่างล้มลุกคลุกคลานเพื่อหนีคนขับรถเมล์     ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย   และนี่คือบาดแผลที่เจ้าของกระทู้ได้รับมาระหว่างวิ่งหนีคนขับรถเมล์   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีผู้โดยสารร้องเรียนเกี่ยวกับรถเมล์สาย ปอ.524 เพราะเมื่อไปค้นข้อมูลในเว็บไซต์ Google ก็พบว่ามีกระทู้และผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับรถเมล์สายนี้อีกมากมายเลยทีเดียว       ความปลอดภัยของประชาชนอยู่ตรงไหนน้าาาา ที่มา kolia

สิ่งหนึ่งที่#เหมียวฟิ้นมักจะมองเป็นอันดับแรกๆ เวลาไปร้านอาหารเลยก็คือเรื่องของความสะอาดนี่แหละ เพราะถึงแม้อาหารจะรสชาติธรรมดาๆ แต่หากร้านสะอาดมันก็น่านั่งใช่ไหมล่ะ ถ้าหากร้านไหนไม่มีมาตรฐานตรงนี้คงจะเสียลูกค้าไปเยอะทีเดียว เหมือนอย่างกรณีที่เหมียวจะเล่าต่อไปนี้   เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่าคุณ nattanonkun ได้เข้ามาเล่าประสบการณ์สุดขนลุกที่เขาได้เจอมาจากร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว     เจ้าของกระทู้ได้เล่าว่าเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 3 มีนาคม ตัวเองและแฟนได้ไปนั่งทานอาหารญี่ปุ่นที่ห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว เมื่อไปถึงร้านก็ได้สั่งบะหมี่เย็นมานั่งทานกัน แต่ในระหว่างที่กำลังโซ้ยเข้าปากอยู่นั้นเอง พวกเขาก็สังเกตเห็นแมลงตัวเล็กน่ารักตัวหนึ่ง   ใช่แล้ว มันคือแมลงสาบ!! เมื่อเห็นดังนั้นทั้งคู่เลยเรียกพนักงานร้านให้เข้ามาช่วยดู ทางร้านจึงเสนอลดราคาอาหารให้ 50% พร้อมกับการขอโทษขอโพยกันไป   นี่แสดงให้เห็นแล้วว่า แม้จะเป็นร้านอาหารที่อยู่บนห้างใหญ่ ก็มีโอกาศที่จะเจอสิ่งแปลกปลอมแบบนี้ได้ ทางที่ดีเราควรเช็คอาหารก่อนทานด้วย ก็น่าจะเพิ่มการป้องกันให้กับตัวคุณเองได้นะ ที่มา pantip

กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ทีเดียว สำหรับเพลง “ยับแม่” ของวงสปุ๊กนิ๊ก ปาปิยองกุ๊กๆ ที่มีแจ๊ส ชวนชื่น เป็นนักร้องนำ ซึ่งเพลงดังกล่าวมีเนื้อหาที่ค่อนข้างล่อแหลม แถมยังถ่ายทำกันในโรงเรียนอนุบาล   ทำให้ชาวเน็ตมองว่าการกระทำดังกล่าวอาจไม่เหมาะสม พร้อมกับติงไปยังผู้บริการโรงเรียนที่ปล่อยให้มีการถ่ายทำอีกด้วย     ล่าสุดเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา แจ๊ส ชวนชื่น หรือนาย ผดุง ทรงแสง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจของตัวเอง แจ๊ส ชวนชื่น ว่าตอนนี้ได้มีการลบคลิปเพลงดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ Youtube แล้วเรียบร้อย     พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวขอโทษไปยังทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วยว่า “ตอนนี้ทางเราได้ลบเพลง ‘ยับแม่’ ออกเรียบร้อยแล้วนะครับ ขอโทษทุกๆท่านที่ทำให้ไม่พอใจ ขอโทษโรงเรียน เด็กๆ และผู้ปกครอง และแฟนเพลงทุกๆท่านนะครับ ทางเราได้ตัดสินใจลบเพลงออกจาก ช่อง youtube ออกแล้ว ต้องขออภัยมา ณ. ที่นี้ด้วยนะครับ”   อ่านโพสต์เต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย ตอนนี้ทางเราได้ลบเพลง “ยับแม่” ออกเรียบร้อยแล้วนะครับ ขอโทษทุกๆท่านที่ทำให้ไม่พอใจ ขอโทษโรงเรียน เด็กๆ และผู้ปกครอง และแ… Posted by แจ๊ส…

กลายเป็นเรื่องราวที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลยสำหรับภาพของกลุ่มเด็กๆ ม.ต้นกำลังนั่งดื่มเบียร์ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง จนเกิดคำถามว่า “เหมาะสมหรือไม่ที่ร้านอาหารปล่อยให้เด็กๆ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล”     เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊กเพจ อาสาสมัครพิทักษ์เมือง อำเภอ หาดใหญ่ เป็นภาพของกลุ่มเด็กๆ กำลังดื่มเบียร์ในร้านอาหาร พร้อมกับข้อความว่า “งามไส้! 05 มี.ค.59 ด้วยแอดมินได้รับประสานร้องเรียนมาเป็นจำนวนมาก”   “เกี่ยวกับกรณีพบการแชร์ภาพเด็กนักเรียนแห่งหนึ่งในจ.สงขลา สั่งเครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอล์มาดื่ม เบื้องต้นจากแหล่งที่มาแจ้งว่าเป็นร้านเสต็กแห่งนึงใน จ.สงขลา พร้อมวอนผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบเร่งด่วน เพราะการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายผิดกฎหมายหลายมาตตรา รวมทั้งขัดต่อจารีตอันดีของสังคมไทย”         เหมียวเองก็อยากจะขอฝากฝังไปยังผู้ปกครองของเด็กๆ ด้วยนะ เพราะการดื่มเบียร์หรือสุราในวัยนี้เสี่ยงโดนจับโดนปรับได้เลยนะเออ รอให้ถึงวัยก่อนก็ยังไม่สายนะ ที่มา อาสาสมัครพิทักษ์เมือง อำเภอ หาดใหญ่

ในช่วงนี้อาจจะมีชาวเน็ตหลายๆ คนได้เห็นคลิปวิดีโอการแสดงอิทธิฤทธิ์ของพระวัดดังรูปหนึ่ง ที่นำเอาเครื่องรางของขลังมาวางไว้บนมือและจุดไฟแช็คลนเพื่อให้เห็นว่าเครื่องรางที่ว่านี้มีพลังทำให้มือของตนเองไม่เป็นอะไร   แต่แน่นอนว่าเมื่อมีเรื่องเหนือธรรมชาติออกมาแบบนี้ อ. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ก็ต้องออกมาพิสูจน์กันหน่อยว่ามันจริงอย่างที่มีการอวดอ้างหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้โพสต์คลิปวิดีโอการจุดไฟแช็คลนมือแบบที่พระวัดดังได้ทำ แต่แทนที่จะถือเครื่องรางกลับถือช้อนธรรมดาๆ เพื่อให้เห็นว่าทริคที่พระวัดดังทำนั้นไม่เป็นความจริง     พร้อมกันนี้อ.เจษฎา ยังบอกด้วยว่า “ใครที่อินบ็อกซ์มาถามว่า มีคลิปพระอาจารย์วัดดังถือเครื่องลางแล้วไฟแช็กลนมือ ทำไมไม่เป็นไร … ผมก็เคยทำโชว์หลายทีเวลาไปบรรยายตามโรงเรียน … ลองดูคลิปนี้แทนละกันครับ ใครๆก็ทำได้ ถ้าไม่เผลอแช่ไฟไว้นานหน่อย”     ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย ใครที่อินบ็อกซ์มาถามว่า มีคลิปพระอาจารย์วัดดังถือเครื่องลางแล้วไฟแช็กลนมือ ทำไมไม่เป็นไร … ผมก็เคยทำโชว์หลายทีเวลาไปบรรยายตามโรงเรียน … ลองดูคลิปนี้แทนละกันครับ ใครๆก็ทำได้ ถ้าไม่เผลอแช่ไฟไว้นานหน่อย Posted by Jessada Denduangboripant on 28 กุมภาพันธ์ 2016   สรุปว่าไม่มีเรื่องเหนือธรรมชาตินะจ๊ะ เพื่อนๆ ลองเอาไปทำเล่นดูได้ ที่มา Jessada Denduangboripant

#เหมียวฟิ้นเชื่อว่าชาวไทยส่วนใหญ่น่าจะจำเหตุคดีแก๊งวัยรุ่น 4 คนในจังหวัดพัทลุงที่รุมข่มขืนหญิงสาวและฆ่าแฟนหนุ่มของเธอเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี     เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่โต มีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกติดตามตัวแก๊งวัยรุ่นทั้งหมดมาดำเนินคดี ส่วนหญิงสาวก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาบาดแผลทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่ดูเหมือนว่าพอเรื่องทุกอย่างเงียบลง เธอกลับไม่ได้รับการเหลียวแลสักเท่าไหร่   เพราะเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ คุณบุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ได้โพสต์ข้อความเพื่อรายงานให้ชาวเน็ตทราบถึงสถาณการณ์ล่าสุดของหญิงสาวที่ถูกข่มขืนว่ายังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้ความช่วยเหลือเธอเลย     อีกทั้งที่บ้านก็มีภาระหนักเพราะแม่ของเธอต้องออกจากงานเดือนกว่าเพื่อมาคอยดูแลลูกสาวที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ แถมยังมีน้องๆ อีกสองคนที่ยังอยู่ในวัยเรียน เธอจึงอยากจะขอรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นแก่หญิงสาว เพื่อให้หญิงสาวที่ถูกข่มขืนได้ตั้งต้นใหม่   อ่านโพสต์เต็มๆ ได้ที่นี่เลย ท่านจะรู้ไหม? ว่าตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหน เข้าไปช่วยน้องผู้หญิงที่โดนข่มขืนเลย ไม่มีเงินเยียวยา แม่น้องไม่ได้ทำงานเดือน… Posted by ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี on 28 กุมภาพันธ์ 2016   ย้ำกันอีกครั้งนะ หากใครต้องการช่วยเหลือน้องผู้หญิงก็สามารถโอนเงินมาได้ที่ องค์กรทำดี โดย น.ส. ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เลขที่บัญชี 713-2-59590-3 ธ.กสิกรไทย สาขาถนนพระรามที่ 9 ใครที่จะโอนเงินช่วยเหลือต้องใส่เศษสตางค์ .05 ด้วยนะ เพื่อความง่ายต่อการตรวจสอบนะ   #เหมียวฟิ้นขอเป็นกำลังใจให้คุณบุ๋มและทีมงานด้วยนะ…

#เหมียวฟิ้นเชื่อว่าในสมัยเรียน หลายๆ คนต้องเคยผ่านการสอบที่ยากโหดหินจนต้องร้องขอชีวิตมาแล้วแน่ๆ บางคนเตรียมตัวมาดี อ่านหนังสือทำการบ้านก็ทำได้สบายๆ แต่บางคนที่อ่านแล้วแต่ไม่ค่อยเข้าหัว หรือความจำสั้น ก็อาจจะยากหน่อย เผลอๆ มีแอบเขียนขอคะแนนกันโต้งๆ แบบนี้เลยก็มีนะ   เมื่อช่วงดึกของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพกระดาษข้อสอบแผ่นหนึ่งผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sittiporn Pattaradilokrat อาจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง โดยในกระดาษข้อสอบมีข้อความเขียนว่า “หนูทำไม่ได้ค่า ขอความกรุณาหน่อยนะคะ หนูปี 3 แล้ว หนูอยากฝึกงานปีหน้าค่ะ”     หลังจากที่ได้เห็นข้อความดังกล่าว อ.สิธิพรก็ได้นำเอามาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ เพื่อเป็นแบบอย่างแก่นักเรียนนักศึกษาคนอื่นๆ โดยบอกว่า “ถ้าเกรดที่ได้มาจากการ ‘ขอเกรด’ แทนที่จะเป็นความรู้ ปริญญาที่น้องจะได้รับพระราชทานจะมีค่าหรือ”   พร้อมกันนี้ยังบอกกับชาวเน็ตอีกว่าการที่ตนเองนำข้อสอบนี้มาเปิดเผยให้ทุกๆ คนได้เห็นกัน ไม่ใช่เพื่อเป็นการประจาน แต่เพื่อให้เห็นว่าการกระทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดี ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง เพราะหากนักศึกษาจบออกไปแล้ว จะถูกสังคมตัดสินด้วยตัวเอง     ทางด้านชาวเน็ตที่ได้เห็นข้อความดังกล่าวก็พากันแสดงความคิดเห็นในเชิงตำหนินักศึกษารายนี้กันยกใหญ่ อีกทั้งยังมีอาจารย์บางท่านแนะนำเข้ามาอีกว่าให้บอกแแก่นักศึกษาไปตรงๆ เลยว่าควรตั้งใจเรียนดีกว่า   .   อ่านโพสต์เต็มๆ ได้ที่นี่เลย   ขอฝากเรื่องนี้ไว้กับน้องๆ นักศึกษารุ่นใหม่ด้วยก็แล้วกันนะ อยู่ในห้องตั้งใจเรียนถ้าทำได้นั่นคือความรู้ที่เรามี…

ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่#เหมียวฟิ้นได้เห็นในเช้าวันนี้เลยล่ะ สำหรับคลิปของพนักงานสาวจากฟู๊ดคอร์ทในเซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยาบีช ที่เห็นฝรั่งมาทานอาหารแถวนั้น แต่มีอาการสั่นเทาจนไม่สามารถตักข้าวกินเองได้ เธอจึงอาสาออกมาช่วยป้อนข้าวป้อนน้ำให้กับเขา ทั้งๆ ที่ไม่ใช่หน้าที่ของเธอเลยด้วยซ้ำ   เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ Piyamas Buaroung เผยให้เห็นภาพของ ป้านิด พนักงานจากร้านสปิคซิโอ บริเวณฟู้ดพาร์คในเซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยาบีชกำลังป้อนอาหารให้ชาวต่างชาติคนหนึ่ง     จากในคลิปจะเห็นว่าชายชาวต่างชาติรายนี้มีร่างกายที่สั่นเทา อาการคล้ายกับคนเป็นโรคพาร์กินสัน ป้านิดจึงอาสาออกมาป้อนข้าวป้อนน้ำให้กับฝรั่งเพราะเห็นว่าทานอาหารหกเลอะเทอะ จนชาวต่างชาติรายนี้ต้องเอ่ยปากเลยว่า “Good lady”   และเมื่อคลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ก็ทำให้สมาชิกในโลกออนไลน์เข้ามาแสดงความชื่นชมในความมีน้ำใจของหญิงสาวกันอย่างมากมายทีเดียว แถมยังมีการอวยพรให้เธอต่างๆ นานา ซึ่งปัจจุบันมีคนกดแชร์คลิปนี้ไปกว่าพันคนแล้ว     ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย ทำดีต้องชื่นชม ป้านิดพนักงานร้านสปิคซิโอที่ฟู้ดพาร์ค เซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยาบีช เห็นลูกค้าต่างชาติทานข้าวหกเข้าไปช่วยป้อน ส่วนพนักงานร้านคูลเฮ้าส์มีน้ำใจเอาน้ำดื่มมาให้ ลูกค้าเอ่ยปาก Good lady Posted by Piyamas Buaroung on 23 กุมภาพันธ์ 2016   เจอคนแบบนี้ในสังคมแบบนี้ เหมียวล่ะชื่นใจจริงๆ ขอให้เจ้านายมอบรางวัลหรือให้โบนัสเธอเพื่อเป็นขวัญกำลังใจด้วยนะ…

ถือเป็นข่าวเศร้าของเหล่าบรรดาแฟนคลับและเพื่อนๆ ในโลกออนไลน์ทีเดียว สำหรับข่าวคราวการเสียชีวิตของบันนี่เฟียร์ หรือ นางสาว ปุณณดา ศิริชัยสกุล จากอุบัติเหตุรถยน์พุ่งชนขบถนน ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา     และนอกจากสาวบันนี่เฟียร์แล้ว ในรถยังมีชายหนุ่มอีกคนที่นั่งรถไปกับเธอด้วยแต่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ทราบภายหลังว่าคือนาย มาย ภาคภูมิ ร่มไทรทอง เป็นนักร้องที่เคนผ่านเวทีประกวดร้องเพลง The Star มาแล้ว และยังเป็นแฟนคนปัจจุบันของสาวเฟียร์อีกด้วย     ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หนุ่มมายได้โพสต์ภาพและข้อความอาลัยถึงแฟนสาวผ่าน IG ของตัวเองว่า “เป็นภาพแรกๆที่ได้กดชัตเตอร์ถ่ายเฟียร์เองและดีใจที่เฟียร์ชอบ เป็นเหมือนที่มายบอกเสมอว่าชีวิตคนเรามันก็มีเพียงเท่านี้”   “เราควรจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยที่ไม่เบียดเบียนคนอื่น คำที่มายพูดออกจากปากนี้ มีคนกระทำได้จริงเสมอก็คือเฟียร์ ขอบคุณที่มาเติมเต็มส่วนที่เคยตามหาและขอบคุณที่ทำให้รู้ว่าคนดีในชีวิตมีอยู่จริง รักและไม่ต้องห่วงนะ, มาย #ripfurfear”     แต่หลังจากที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไป กลับมีชาวเน็ตกลุ่มหนึ่งแสดงความไม่พอใจ เกี่ยวกับกรณีที่หนุ่มมายไปงานศพของบันนี่เฟียร์เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่กลับไม่แสดงท่าทีว่าอาลัยอาวรถึงอดีตแฟนสาวเลย แถมยังมีท่าทียิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนปกติ จนหลายๆ คนพากันมาต่อว่าเจ้าตัวอย่างหนัก     เมื่อเรื่องราวเริ่มจะบานปลายจนเกินควบคุม จึงมีคนออกมาแสดงตัวว่าเป็นหนึ่งในคนที่ทำงานกับเหล่านางแบบในนิตยสาร Play Boy และรู้จักน้องเฟียร์เป็นอย่างดี จึงฝากขอโทษแทนเหล่านางแบบที่แสดงกิริยาไม่เหมาะสมออกไป   และยังอยากจะคุยกับคุณมายถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ…

กลายเป็นภาพที่มีการส่งต่อกันอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์ในขณะนี้เลย สำหรับภาพของสาวไทยรายหนึ่งขณะสวมใส่ชุดผ้าไหมไปงานรับปริญญาในต่างประเทศ ทำเอาชาวเน็ตพากันชื่นชมในความงามอย่างไทยๆ ที่ไปเผยแพร่ให้ชาวต่างชาติได้เห็นกันอย่างมากมาย     ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ Fon Jatchavala หรือ แพทย์หญิงชนกานต์ ชัชวาลา อาจารย์ประจำภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นภาพที่เจ้าตัวกำลังสวมใส่ชุดไทยบรมพิมาน ขณะอยู่ในพิธีรับปริญญาที่ Usher hall University of Edinburgh สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2558 นั่นเอง   . . . . . ดูสวยและดูเลอค่ามาก #เหมียวฟิ้นเห็นแล้วเลิฟเลย ที่มา Fon Jatchavala

กลายเป็นเรื่องราวสุดสลดใจทีเดียว สำหรับภาพของคุณยายท่านหนึ่งกำลังแก้ผ้าอาบน้ำข้างถนนแบบไม่แคร์สายตาของคนที่เดินผ่านไปผ่านมา บริเวณสี่แยกบางกะปิ กรุงเทพฯ     เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพถ่ายผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ Suriya Yaowasung เป็นภาพของคุณยายไม่สวมใส่เสื้อผ้า กำลังใช้ขันตักน้ำจากในบ่อขึ้นมาอาบ กลายเป็นภาพชวนให้สะท้อนใจว่าเหตุใดถึงมาอยู่ตรงนี้และลูกหลานของคุณยายไปไหนหมด?     นอกจากนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “ผมผ่านไป 4 แยกบางกะปิ เจอยายคนนึงแกแก้ผ้าอาบน้ำ ทำไมไม่ใครหรือหน่วยงานใดเข้ามาดูแลแกเลย สงสารแกจัง ผมเดินผ่านแกๆ ก็แก้ผ้าอาบน้ำเฉยเลย เหมือนแกอยู่ในห้องน้ำของแกเอง เห็นแล้วเศร้าใจจัง ขอใครสักคนมาดูแลแกหน่อยเถอะนะครับ”       ชมภาพเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย Posted by Suriya Yaowasung on 20 กุมภาพันธ์ 2016   หลังจากนั้นภาพดังกล่าวก็ถูกแชร์ออกไปกว่า 6 พันครั้งทีเดียว และมีคนแสดงความเห็นในเชิงสงสารกันอย่างมากมาย ในขณะที่คุณ Suriya ได้โพสต์ตอบกลับว่าหากตนเองพบเห็นคุณยายอีกจะรีบแจ้งไปยังคุณท็อป บิณฑ์ บรรลืฤทธิ์ ให้มาช่วยเหลือคุณยายต่อไป       ไม่รู้ว่าป่านนี้คุณยายไปอยู่ที่ไหนแล้ว หรือมีใครให้ความช่วยเหลือแกหรือยัง…

สืบเนื่องจากกรณีที่มีนักร้อง ฮ. ขึ้นไปเขียนข้อความที่หลักกิโลบนภูชี้ดาวที่จังหวัดเชียงราย ทำให้เกิดกระแสตื่นตัวขึ้นมาในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์ธรรมชาติและมีการรณรงค์ไม่ให้เขียนข้อความในที่ต่างๆ     ล่าสุดที่จังหวัดอุดรธานีก็มีนักท่องเที่ยวมือบอนขึ้นไปเขียนข้อความเลอะเทอะ อย่างเช่นการสลักชื่อตัวเองลงไปบนแผ่นหินหรือเขียนข้อความหยาบๆ คายๆ ลงไป เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนเองนั้นเคยมาที่นี่แล้ว     ภาพชุดดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กเพจ Udonthani Update เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีข้อความว่า “‎น้ำตาจะไหล‬จะเขียนไปทำไม ฝีมือคนไร้การศึกษา คนไร้จิตสำนึก คนไม่มีวัฒนธรรม คนรุ่นหลังอยากดูธรรมชาติไม่ได้ไปดูร่องรอยความคึกคะนอง”   “เขาจะด่าถึงบรรพบุรุษคุณ ‎ภูหินจอมธาตุ‬ อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี ภาพ: Theethawat Singhasiri”     ดูซิ ขนาดมีป้ายกำกับแล้วนะว่าห้ามขีดเขียน ก็ยังไม่วายมีคนมือบอนไปเขียนจนได้             จากนั้นไม่นานก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อคุณ Thongchai Narad ได้เข้ามาแสดงความเห็นว่าตนเองนั้นทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ที่ดูแลภูหินจอมธาตุ และบอกว่าพื้นที่ทั้งหมดมีมากกว่า 25,000 ไร่ แต่มีคนที่ดูแลเพียงแค่ 8 คนเท่านั้น การจะดูแลให้ทั่วถึงเป็นไปได้ยากมาก   แต่ทั้งนี้พวกเขาเองก็มีมาตรการป้องกันเช่นมีการติดป้ายเตือนและแนะนำนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นกลุ่ม…

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอจากช่องยูทูบ JustClip BadBad เป็นเรื่องราวของวินมอเตอร์ไซค์รายหนึ่งที่ลืมต่อทะเบียนรถ เลยต้องมาจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 400 บาท   แต่แทนที่จะใช้แบงค์จ่าย กลับหยิบเหรียญใส่ถุงมาเป็นกอง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องส่ายหัวและบอกให้เทเหรียญออกจากถุงมานับกับเป็นกองๆ แต่ดูเหมือนวินมอเตอร์ไซค์จะยืนกรานว่านับมาเต็มจำนวนแล้ว     ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบอกให้วินมอเตอร์ไซค์ไปแลกเป็นแบงค์มาเพื่อความสะดวกต่อการฝากเจ้าธนาคาร แต่พี่วินมอเตอร์ไซค์กลับทวนประโยคเดิมๆ พร้อมบอกว่าตนเองจะนับให้ดู แถมยังถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่า “เอาเข้าหลวงหรือพี่เอง” ทำให้เจ้าหน้าที่ถึงกับต้องลุกขึ้นมาต่อว่าด้วยความโมโหและไล่ให้วินมอเตอร์ไซค์กลับไปแลกเป็นแบงค์ในที่สุด   ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย   ทั้งนี้เองทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นมีความผิดทางวินัยเพราะไม่รับเงินของประชาชน สามารถถูกลงโทษได้ แต่วินมอเตอร์ไซค์เองก็พูดจาดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาตรา 136 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาทเช่นกันนะจ๊ะ ที่มา Thailand Police Story , JustClip BadBad , thairath

เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ Ju Kongcharoen หรือน.ส.อนุชดา อักษรกูล ครูกวางวัย 28 ปี เป็นภาพของเด็กชาย 2 คนกับคุณยายวัย 80 ปีรายหนึ่ง พร้อมกับเรื่องราวน่าสะเทือนใจ     ตามข้อมูลจากโลกออนไลน์บอกว่าเด็กชาย 2 คนมีชื่อว่าด.ช.เหน่ง อายุ 10 ขวบ และ ด.ช.เด้ง อายุ 9 ขวบ เป็นนักเรียนของโรงเรียนวัดสมหวัง ในอ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ที่มีฐานะยากจน ทุกวันนี้มีรายได้จากการเก็บขยะขายเล็กๆ น้อยๆ และมีเงินสงเคราะห์คนชราอีก 800 บาท     ส่วนบ้านที่พักอาศัยนั้นแทบจะไม่สามารถใช้คำว่าบ้านได้เลย เพราะจากภาพน่าจะเป็นกระต็อบหรือเพิงมากกว่า แถมคุณยายเองก็มีดวงตาที่พร่าพราง ทำให้ไม่สามารถสอนหนังสือแก่เด็กๆ ได้     จึงอยากจะวอนขอความช่วยเหลือแก่ชาวเน็ตเพื่อให้ทุนการศึกษา หรือข้าวสารอาหารแห้งเล็กๆ น้อยๆ แก่เด็กทั้ง 2 คนด้วย       อ่านเรื่องราวเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย…

ในยุคที่โซเชียลมีเดียและสื่อต่างๆ เข้าถึงได้ง่ายๆ ดูเหมือนว่าคุณหมอบางคนจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการให้ความรู้แก่คนไข้ในรูปแบบใหม่ๆ ซะแล้วล่ะ   แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นเกินไป เพราะล่าสุดคุณหมอตั้ม หรือที่บางคนรู้จักในฉายา Mad Doc แพทย์จากโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ได้จัดทำคลิปวิดีโอให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานแบบเพลงแร็พ ผ่านเฟซบุ๊ก InfanTum D Jantub ด้วยล่ะโจ้วๆ !!     โดยเนื้อเพลงมีอยู่ว่า “วันนี้มีคลินิก วันนี้เป็นเบาหวาน คนไข้มีร้อยสองร้อย นี่คือจำนวนที่เป็นมาตรฐานอ่ะ โย่ว สวัสดีคับ สวัสดีตาเพ็ง ผมเห็นน้ำตาลคุณตาแล้วผมก็ต้องมานั่งเซ็ง (น้ำตาล 400 แม่เจ้า) ผมไม่รู้ตาไปกินอะไรมาทำไมน้ำตาลมันสูงจัง สงสัยว่าตารู้มั้ย มันอันตราย มันทำให้ไตพัง”   “น้ำตาลที่มันสูงมันทำให้ไตทำงานหนัก ตามัวแล้วไม่เห็นจะเหินจะเดินก็ไม่ถนัดนัก ในส่วนปลายมือปลายเท้า เดี๋ยวมันก็เริ่มชา ไปเหยียบเศษหิน เศษแก้ว และแล้วก็ไปเหยียบเอาเศษตะปูมา เป็นแผล ที่เท้า แล้วมันก็เริ่มลาม บางคนไม่รักษาเอาไว้ สุดท้ายก็ต้องมาตัดขาตามอ่ะ”     ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลยจ้า Rap เบาหวาน : ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยน่ะคับลุงๆป้าๆทั้งหลาย…

เวลาเห็นคนหนุ่มสาวพยายามทำอะไรด้วยตัวเองสักอย่างแล้ว#เหมียวฟิ้นล่ะอดไม่ได้ที่จะนำเอามาให้เพื่อนๆ ชาวเหมียวได้อ่านกัน อย่างล่าสุดมีชาวเน็ตนำเรื่องราวของวัยรุ่นคนหนึ่งที่พยายามร้องเพลงเปิดหมวก เพื่อหาทุนการศึกษาและแบ่งเบาภาระพ่อแม่ ทำเอาชาวเน็ตพากันชื่นชมใหญ่     เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ ดูดวง หมอซี ได้เผยแพร่ภาพและเรื่องราวของวัยรุ่นหนุ่มคนหนึ่ง ที่ถือกีต้าร์ร้องเพลงอยู่บริเวณสะพานลอยเดอะมอลล์บางกะปิ พร้อมกับมีกระดาษข้อความเล็กๆ ที่วางไว้กับพื้นว่า “อยากช่วยแบ่งเบาภาระพ่อกับแม่ (เป็นทุนการศึกษา) ขอบคุณครับ” ความกตัญญูของน้องทำให้พี่สะดุด. หยุดมองด้วยความชื่มชมเสียงร้องเพราะๆ.. ความกล้าหาญที่แสดงออกเพื่อครอบครัว ทำให้นึกย้อนไป… Posted by ดูดวง หมอซี on 17 กุมภาพันธ์ 2016   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โลกออนไลน์มีการพูดถึงเด็กหนุ่มคนนี้ เพราะก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 มกราคม ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Athur Louise ก็ได้เคยเผยแพร่คลิปวิดีโอการเล่นดรตรีสดๆ ของน้องเขามาแล้ว แถมยังมีน้องตัวเล็กๆ มาออกมาแดนซ์ช่วยพี่ชาย ดูแล้วน่ารักมากทีเดียว       ชมคลิปการร้องเพลงของน้องได้ที่ด้านล่างเลย เด็กแบบนี้น่าสนับสนุนนะครับหาเงินเอง น้องๆ แดนเซอร์นี่เต้นได้สุดเหวี่ยงน่ารักมากครับ ใครเดินผ่านก็แวะไปชมได้นะครับ น้องๆ อยู่บนสะพานลอยข้ามไปเดอะมอลล์บางกะปิ ฝั่งใกล้แฮปปี้แลนด์สาย 1 ครับ…

กลายเป็นเรื่องราวดราม่าอีกแล้วสำหรับการขนส่งสินค้าของไปรษณีย์ไทย เพราะล่าสุดมีแม่ค้าขายคุ๊กกี้ออนไลน์ออกมาตั้งกระทู้ผ่านเว็บไซต์พันทิป ว่าเหตุใดคุ๊กกี้ที่เธอส่งให้ลูกค้ากลับกลายเป็น “เศษผง” คุ๊กกี้ไปได้!?   เมื่อช่วงสายของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่าคุณลูกภูไท ได้เข้ามาตั้งกระทู้ ไปรษณีย์คะ ถ้าพี่จะทำเละขนาดนี้ ไปขายโจ๊กเถอะ โดยเจ้าตัวได้เล่าว่าในแต่ละสัปดาห์ เธอได้ส่งคุ๊กกี้ผ่านไปรษณีย์ไทยอย่างน้อย 5-6 กล่องต่อสัปดาห์ แต่ไม่เคยมีปัญหาอะไร     แต่แม่ค้าขายคุ๊กกี้ก็ถึงกับอึ้งหนักเพราะคุ๊กกี้ล็อตล่าสุดที่เธอส่งให้ลูกค้าที่จังหวัดกาญจนบุรี กลับได้รับความเสียหายหนักจนคุ๊กกี้ที่เคยเป็นชิ้นพอดีคำ กลายเป็นวิญญาณคุ๊กกี้ที่ไม่เหลือเค้าเดิมอีกเลย   นอกจากนี้เจ้าตัวอธิบายอีกว่าได้มีการแพ็คคุ๊กกี้ลงกล่องพลาสติกอย่างดี ติดเทปกาวอย่างหนาแน่นและมีการใช้กระดาษฝอยรองในกล่องพอสมควร       จากนั้นเจ้าของกระทู้ก็ได้มีการร้องเรียนผ่านเฟซบุ๊กเพจไปรษณีย์ไทย จึงได้คำตอบว่าขอบของกล่องพัสดุไปเกี่ยวเข้ากับ Roll Pallet ทำให้กล่องได้รับความเสียหายนั่นเอง       หลังจากที่กระทู้ถูกแชร์ออกไป ทำให้สมาชิกในเว็บไซต์พากันวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่กล่องคุ๊กกี้ได้รับความเสียหายขนาดนี้ โดยมีความเห็นที่น่าสนใจของคุณ อ้วน เตี้ย เปรี้ยว ซ่า บอกว่าแม่ค้านั้นแพ็คกล่องคุ๊กกี้ไม่ดีเอง เพราะเมื่อดูจากภาพแล้วจะเห็นว่ามีช่องว่างเหลืออีกเพียบ การขนส่งคุ๊กกี้ที่ปลอดภัยจะต้องไม่ปล่อยให้มีช่องว่างเหลือเลย     #เหมียวฟิ้นว่างานนี้แม่ค้าก็น่าจะได้ประสบการณ์ไว้ปรับใช้ในการขนส่งครั้งต่อๆ ไปนะ ใครจะส่งอะไรที่มันบอบบางผ่านไปรษณีย์ไทยก็ระวังกันด้วยเด้อ ที่มา pantip

นี่ถือเป็นหนึ่งในเรื่องราวดีๆ ที่สังคมไทยมีให้แก่กันล่ะ เพราะเมื่อไม่นานมานี้#เหมียวฟิ้น ได้เจอเข้ากับรถแท็กซี่น้ำใจงามคันหนึ่ง ที่ประกาศตัวเลยว่าจะให้บริการ์แก่เหล่าทหารจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แบบฟรีๆ เลย     เมื่อช่วงดึกของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊กเพจ ชายแดนใต้ ปลายด้ามขวาน เป็นภาพของรถแท็กซี่คันหนึ่งที่รอบๆ รถมีข้อความที่เขียนด้วยปากกาเมจิกว่า “ฟรีสำหรับทหาร 3 จังหวัดชายแดนใต้ แสดงบัตรทุกครั้งถ้าต้องการนั่งฟรี”   นอกจากพี่แท็กซี่คันนี้จะบริการรับส่งพี่ทหารฟรีแล้ว ยังให้บริการไปถึงเหล่าข้าราชการตำแหน่งอื่นๆ ด้วยนะ เพราะข้อความที่อยู่ด้านท้ายรถระบุว่า “ทหารที่รับราชการที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้และข้าราชการที่อยู่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ทหารพรานและตำรวจตระเวนชายแดน แท็กซี่คันนี้บริการฟรี”       หลังจากที่เรื่องราวของพี่แท็กซี่คันนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนต่างพากันชื่นชมกันอย่างมากมายทีเดียว อย่างเช่นคุณทิวลิป ต้นเตี้ย กล่าวว่า “พวกเราอยากให้นักรบไทยทุกท่านรู้ไว้ว่าคุณเป็นฮีโร่ในใจพวกเราทุกๆคนพวกเรา”    และคุณ สจินต์ เงียเง่ “จริงเปล่านี่ น่าสนใจ พอถึงกรุงเทพจะนั่งรอคันนี้คันเดียวเลย”     ท่านใดเจอพี่แท็กซี่คันนี้ ฝากขอบคุณแทนพวกผมด้วยนะครับ ขอบคุณจากใจนักรบชายแดนครับ Posted by ชายแดนใต้ ปลายด้ามขวาน…

บางครั้งการทำงานกับบริษัทบางแห่งหรือกลุ่มเพื่อนร่วมงานบางคนก็เป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจ จึงทำให้ลูกจ้างบางคนเลือกที่จะเดินออกมาหางานทำใหม่ แต่วิธีแก้ปัญหานี้อาจใช้ไม่ได้กับพนักงานทุกๆ คนนะ     เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวรายหนึ่งได้โพสต์ภาพใบหน้าของตนเองที่เต็มไปด้วยบาดแผลและรอยฟกช้ำ โดยอธิบายว่าเธอถูกเจ้านายทำร้ายร่างกายเพียงเพราะขอลาออกเท่านั้น     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “หนูทำอะไรผิดขนาดนั้นหรอคะ! ถึงได้กระทืบหนูขนาดนี้ถุยน้ำลายใส่หน้าหนู ผลักหนูล้มแล้วกระทืบหนูอีก เหตุผลหนูแค่ขอเขียนใบลาออก เนื่องย้ายหนูทำงานที่ไกลกว่าที่เดิม ก็ด่าหนูเนรคุนบริษัท”   “เป็นถึงผู้บริหารสูงสุดกลับทำตัวเหมือนกับ? กระทืบผู้หญิงได้ลงคอ นี้และสันดานของบริษัท… ฝากให้เพื่อนทุกๆ คนช่วยกันแชร์อย่าให้เกินเหตุการแบบนี้กับใครเลยค่ะ!”   ทั้งนี้เจ้าตัวได้ทำการแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันแล้วเรียบร้อย   หลังจากที่เรื่องราวของเธอถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากพากันเข้ามาให้กำลังใจเธอกันอย่างล้นหลามทีเดียว ซึ่งเจ้าตัวก็ได้โพสต์ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่มีให้ พร้อมกับบอกว่าตนเองเป็นเพียงชาวบ้านคนหนึ่งที่ไม่ได้มีคามรู้อะไรมาก แต่พยายามจะเล่าให้เข้าใจมากที่สุด     และดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่เคสแรกที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อตามไปดูที่เฟซบุ๊กของบริษัทนี้ก็มีพนักงานเข้ามาบ่นในทำนองเดียวกันว่าบริษัทแห่งนี้ใช้งานเขาหนักจนไม่ได้กลับบ้านตรงเวลาเหมือนคนอื่นๆ เลย   ส่วนความเห็นทางด้านลูกค้าเองก็บอกว่าบริษัทแห่งนี้ให้บริการได้ค่อนข้างแย่ เพราะสั่งของไปแล้วแต่กลับไม่ได้ตามกำหนด ครั้นพอสินค้าไม่ได้ตามมาตรฐานหรือสินค้าหมดสต็อกกลับไม่มีการแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าก่อน แถมยังบริการแย่อีกด้วย     งานนี้ดูจะไม่ใช่แค่กรณีเดียวแล้วนะเนี๊ยะ เพราะทั้งพนักงานและลูกค้าออกมาพูดเป็นเพียงเดียวกันแบบนี้ #เหมียวฟิ้นว่าต้องมีการปรับปรุงแล้วล่ะ เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น

เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะได้เห็นข่าวการชุมนุมกันของกลุ่มม็อบพระสงฆ์จำนวนหนึ่งที่ออกมาชุมนุมกันบริเวณพุทธมลฑลเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะยังไม่จบแค่นั้น เพราะในโลกออนไลน์ได้มีการออกมาแฉว่าอาจมีพระบางรูปได้รับปัจจัยว่าจ้างมาก็เป็นได้!?     ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของชายหัวโล้นคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นพระในเหตุการชุมนุมที่พุทธมลฑล ได้โพสต์ภาพของตนเองและข้าวของอีกจำนวนหนึ่ง     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “หมดภารกิจที่พุทธมลฑลแล้วก็กลับบ้านสิ เฮ้อน่าจะมีหลายๆ วัน ไม่คุ้มเลย อุส่าห์ลงทุนหอบของมา”     และแน่นอนว่าหลังจากที่ภาพนี้ถูกแชร์ออกไป ก็ทำให้ชาวเน็ตถึงกับเดือดดาลและต่อว่าชายหนุ่มรายนี้กันยกใหญ่เลยทีเดียว และมีการแชร์ภาพออกไปอีกกว่า 1 พันครั้ง     เอ้า นี่ตกลงว่ายังไงกันแน่นะเนี๊ยะ!? ที่มา ณัฐพงศ์ กลีบศรี

กลายเป็นข่าวโด่งดังและเป็นประเด็นที่ผู้คนให้ความสนใจอยู่มากทีเดียว สำหรับเรื่องราวของอดีตอาจารย์สาวหนีทุน ที่มาขอให้ ทพ.เผด็จ พูลวิทยกิจ ทันตแพทย์ที่คลินิกแห่งหนึ่งในจ.สระบุรี และเพื่อนๆ ช่วยกันค้ำประกันให้กับเธอเพื่อไปเรียนต่อปริญญาโทและปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด     แต่หลังจากที่ไปศึกษาที่นั่นแล้วกลับไม่ยอมกลับมาใช้หนี้ตามที่เคยตกลง ทำให้ทพ.เผด็จต้องใช้หนี้แทนอดีตอาจารย์สาวกว่า 2 ล้านบาท แถมยังไม่มีทีท่าว่าเธอจะกลับมาใช้หนี้ในเร็วๆ นี้ทางทพ.เผด็จจึงต้องลงทุนเปิดบัญชีขอบริจากเงินเพื่อนำไปดำเนินคดีฟ้องร้องแก่อดีตอาจาร์ยสาวให้ถึงที่สุด     ทั้งนี้เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทพ.เผด็จได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “คงถึงเวลาที่ต้องรบกวนแล้วจริงๆครับ ผมขอรับรองว่าจะเอาเงินนี้ไปใช้ในการว่าความกรณีทันตแพทย์หนีทุนเท่านั้น หากมีเงินเหลือจะนำไปบริจาคแก่นักเรียนยากจนแต่ไม่มีทุนเรียนต่อครับ”   “แต่ถ้าไม่พอพวกเราก็คงต้องพยายามหากันต่อครับ ต้องขอโทษที่ต้องรบกวนทุกท่านจริงๆเพราะหลายคนที่คำประกันก็ยังต้องจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยแต่ละเดือนอยู่ครับ ขอบคุณจากใจจริงครับ”        อ่านเรื่องราวเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย คงถึงเวลาที่ต้องรบกวนแล้วจริงๆครับ ผมขอรับรองว่าจะเอาเงินนี้ไปใช้ในการว่าความกรณีทันตแพทย์หนีทุนเท่านั้น หากมีเงินเหลือจ… Posted by เผด็จ พูลวิทยกิจ on 18 กุมภาพันธ์ 2016   มีหนี้ก็ต้องใช้หนี้นะจ๊ะ อย่าปล่อยให้มันกลายเป็นภาระของคนอื่นเลย ที่มา เผด็จ พูลวิทยกิจ

สำหรับเหล่าบิ๊กไบค์คงจะไม่มีอะไรสุขใจไปกว่าการขี่รถขึ้นเขาลงห้วยแบบสบายอารมณ์ แต่คุณต้องระมัดระวังหน่อยนะ เพราะนอกจากจะต้องระวังเรื่องการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์คันเบิ้มแล้ว ยังต้องระวังกับเหล่าสิงสาราสัตว์ที่อยู่ในป่าอีกด้วย     เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pituk Budda พร้อมกับเรื่องราวเฉียดอันตรายที่เจ้าตัวได้ขี่มอเตอร์ไซค์กินลมชมวิวบนถนนเส้นหนึ่งในเขาใหญ่   จู่ๆ มีหมีโผล่พรวดออกมาจากข้างทาง ทำให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ตกใจอย่างมาก แต่ยังสามารถควบคุมสติไว้ได้ทัน ทั้งนี้เจ้าตัวยังยืนยันด้วยว่าไม่ได้ขับรถเร็วหรือมีเสียงดังอะไรด้วย โชคดีที่ทั้งคนและหมีไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร     ทั้งนี้ยังมีข้อความประกอบคลิปด้วยว่า “เวลา 10.30 น. 14/02/2559 ณ.เขาใหญ่. ผมขึ้นจากปราจีน. กำลังขี่รถกินลมชมวิวดูนกดูไม้ไปเรื่อยๆ แล้วผมก็สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่พุ่งเข้ามาหาผม อีกนิดเดียวได้ลงไปคลุกฝุ่นอยู่ด้วยกันแน่ๆ”   “พี่หมีกำลังจะเดินเข้าป่า แต่..พี่หมีเห็นผมขับมาแล้วก็พุ่งออกมาแบบในคลิปล่ะครับ ความเร็วที่ 60-70 ท่อไม่ดังน่ะครับ ที่ผมโพสต์คลิปนี้ลงก็อยากให้จักรยานแล้วมอเตอร์ไซค์ระมัดระวังกันด้วยนะครับขอบคุณครับที่รับชม”     ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   นี่อาจเป็นเครื่องเตือนใจเหล่าไบค์เกอร์ ให้ระมัดระวังตัวเวลาขับรถเข้าไปยังเขตธรรมชาติ เพราะไม่ได้มีแต่รถบนท้องถนนเท่านั้น แต่ยังมีเหล่าสัตว์ป่าน้อยใหญ่ ที่อาศัยอยู่ในบ้านของพวกเขาเอง ยังไงฝากกันด้วยนะจ๊ะทุกคน ที่มา Pituk Budda , Momo Hub

นี่เป็นเรื่องราวที่ทำเอา#เหมียวฟิ้นอ่านแล้วรู้สึกสะเทือนใจเลย นี่เป็นเหตุการณ์ของคุณเกด ที่ขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านในช่วงดึกของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่กลับประสบอุบัติเหตุเข้ากับท่อระบายน้ำของเทศบาล ที่มีการโบกปูนสูงจากพื้น 20 เซ็นติเมตร จนเจ้าตัวอยู่ในอาการโคม่าเข้าขั้นวิกฤต     เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ของคุณ Pongnarin Nualsri ซึ่งเป็นพี่ชายของผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้โพสต์รายงานถึงอาการน้อยสาวว่า “มีแผลถลอกตามตัวหลายที่ แต่ที่หนักสุดคือบริเวณศรีษะ”   “สมองบวม มีเลือดคั่งในสมอง ไม่มีอาการตอบสนองใดๆ ปัสสาวะเยอะมาก ทำให้ร่างกายอยู่ภาวะขาดน้ำ มีไข้ขึ้นสูง ต้องใช้ยากระตุ้น”   #สรุปเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้นะครับ จุดเกิดเหตุบริเวณลานจอดรถตลาดใหญ่ เวลาเที่ยงคืนโดยประมาณ ลักษณะค… Posted by Pongnarin Nualsri on 12 กุมภาพันธ์ 2016   หลังจากนั้นในช่วงค่ำของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ คุณพงศ์นรินทร์ ก็ได้เข้ามาเพิ่มเติมรูปภาพของเจ้าฝาท่อระบายน้ำเจ้าปัญหา ที่มีความสูงจากพื้นดินถึง 20 เซ็นติเมตร จนต้องมีการนำรั้วเหล็กมาปิดล้อมเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก     ต่อมาในช่วงบ่ายของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ คุณพงศ์นรินทร์ก็ได้โพสต์ข้อความอัพเดทอาการของน้องสาวว่า “สมองซีกขวาเริ่มไม่ทำงาน ร่างกายเริ่มแข็งและเย็น ไตเกือบจะไม่ทำงานแล้ว…

เป็นที่รู้กันว่าเวลาที่เราจะเดินทางขึ้นเครื่องบินไปทัังในและต่างประเทศ จะมีการตรวจสอบผู้โดยสารที่มีการนำของเหลวขึ้นเครื่องไปด้วย โดยจะมีกฎว่าสามารถนำของเหลวขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 100 มิลลิลิตร หากเกินกว่านั้นจะต้องถูกริบไว้ที่สนามบินเพื่อความปลอดภัย   แต่คุณรู้หรือไม่ว่าของเหลวต่างๆ ที่เราทิ้งไปนั้น บางทีก็ไม่ได้ถูกทิ้งจริงๆ หรอกนะ เพราะของเหล่านั้นยังมีคนบางคนแอบไปเก็บมา แล้วนำมาขายต่อในราคาถูกๆ ด้วย!?     เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปหมายเลข 2987894 ได้เข้ามาตั้งกระทู้ “พนักงานสนามบิน สามารถเอาของเหลวที่ยึดจากผู้โดยสาร มาขายต่อได้หรอคะ”   โดยภายในกระทู้มีภาพของขวดและกระป๋องของเหลวจำนวนมากที่ถูกนำมาขายผ่านโลกออนไลน์ พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “สนใจปักเลยค่ะ ลทบ 40 EMS 50 บาทค่ะ แม่ค้าจะขอวัดปริมาณจากหนังยางนะคะ ราคาตามปริมาณเนอะ บางอันเหลือเยอะเต็มขวด บางอันเหลือน้อย เพราะเป็นของเหลวที่ยึดจากผู้โดยสาร เข้าใจแม่ค้าด้วยเนอะ”     หลังจากที่กระทู้นี้เริ่มโด่งดัง ก็มีชาวพันทิปจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นและร่วมแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการถูกริบของเหลวที่สนามบิน ทั้งนี้มีบางความเห็นแนะนำด้วยว่าหากจะต้องทิ้งของเหลวจริงๆ ควรบีบออกจากขวดให้หมดหรือทำให้บรรจุภัณฑ์เสียหายซะก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้นำกลับมาใช้ได้ใหม่         ทั้งนี้ กฎการควบคุมการนำของเหลวขึ้นเครื่องมีขึ้นหลังจากที่เกิดเหตุการจี้เครื่องบินเมื่อวันที่ 11 กันยายนปี 2544 กรมการขนส่งทางอากาศออกมาตรการห้ามนำของเพลวขึ้นเครื่องตั้งแต่วันที่…

ต้องบอกว่าหยุดไม่อยู่จริงๆ สำหรับนักร้องรุ่นเก๋า เสก โลโซ ที่เดี๋ยวนี้หันมาทำธุรกิจแบบเอาจริงเอาจัง ทั้งโทรศัพท์มือถือ เครื่องดื่มชูกำลัง ร้านขายของ และล่าสุดเฮียเสกก็เตรียมเปิดค่ายมวยเป็นของตัวเองแล้ว!!     เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กแฟนเพจ SEK LOSO ได้โพสต์คลิปวิดีโอในขณะที่เจ้าตัวกำลังแนะนำให้แฟนๆ ได้รู้จักกับค่ายมวยน้องใหม่ที่เขาเพิ่งทำขึ้นในชื่อว่า “ส.โลโซ”     ทั้งนี้เจ้าตัวได้ระบุไว้ในคลิปวิดีโอว่าค่ายมวยน้องใหม่แห่งนี้เป็นการร่วมมือระหว่างเขาและหุ้นส่วนชาวออสเตรเลีย โดยค่ายมวยแห่งนี้จะตั้งอยู่ที่โรงแรม Ambassador Hotel Bangkok ย่านสุขุมวิท     ทั้งนี้จะมีการจัดการแข่งไทยไฟต์เพื่อออกฉายทาง True Vision, Discovery Channel และถ่ายทอดภายในโรงแรม 700 กว่าห้อง ส่วนสาเหตุที่เจ้าตัวอยากทำค่ายมวย นั่นก็เป็นเพราะว่าศิลปะมวยไทยนั้นเป็นศิลปะที่สวยงาม จึงอยากจะนำเอาศิลปะของไทยมาเผยแพร่ให้ชาวโลกได้เห็นนั่นเอง   ชมคลิปแบบเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย “ค่ายมวย ส.โลโซ” Posted by SEK LOSO on 12 กุมภาพันธ์ 2016   #เหมียวฟิ้นเองไม่ใช่คนไม่ใช่คนที่ชื่นชอบมวยเท่าไหร่นะ แต่พอเห็นความพยายามของเฮียเสกแล้ว รู้สึกอยากเอาใจช่วยเลย ดูซิว่าคราวหน้าพี่แกจะมีธุรกิจอะไรใหม่ๆ มาเซอร์ไพรซ์เราอีก…

ถือว่าแซ่บเด็ดดวงพอสมควร สำหรับภาพขบวนพาเหรดในงานกีฬาของเหล่านักศึกษาภายในรั้วของมหาวิทยาลับเชียงใหม่ ที่มีการหยิบเอาเรื่องการเมือง กฎหมายและความยุติธรรมมาหยอกล้อให้เราได้แสบๆ คันๆ กันบ้าง     และภาพที่วันนี้#เหมียวฟิ้นได้หยิบเอามานำเสนอ เป็นภาพขบวนพาเหรดของคณะกฎหมาย ในธีม “แพะรับบาป” ที่มีการตั้งคำถามกับกฎหมายไทย ว่ามีความเที่ยงตรงแค่ไหน? หรือความยุติธรรมมีให้สำหรับคนมีเงินเท่านั้น?   ภาพถ่าย ขบวนพาหรด งานกีฬามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปีนี้ เรามีภาพส่วนหนึ่งของคณะนิติศาสตร์ มาให้ชมกันครับ ในตอน แพะรับบาป ต… Posted by สมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย on 7 กุมภาพันธ์ 2016   แม้ว่าเหล่านักศึกษาจากมช.จะล้อการเมืองได้ไม่หนักมือเท่าจุฬาและธรรมศาสตร์ แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ที่มีเหล่านักศึกษาให้ความสนใจและเคลื่อนไหวเรื่องนี้อยู่ ยังไงก็ขอให้มีความคิดสร้างสรรค์ออกมาเรื่อยๆ นะ   ภาพถ่าย ขบวนพาหรด งานกีฬามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปีนี้ เรามีภาพส่วนหนึ่งของคณะนิติศาสตร์ มาให้ชมกันครับ ในตอน แพะรับบาป ต… Posted by สมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย on 7 กุมภาพันธ์ 2016   ภาพถ่าย ขบวนพาหรด…

กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ทีเดียว สำหรับภาพการสวมมงกุฎให้เหล่านิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา เนื่องในวันรับปริญญาบัตรเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา   ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก ษัฑวัฒก์ จิตราภิรมย์ พร้อมกับข้อความว่า “เพื่อนอาจารย์(ระดับคณบดี) ส่งภาพมาให้ครับ เทรนด์ใหม่ในการรับปริญญา รับกันไปที่สวนอัมพร เห็นแล้วอึ้ง…ยังกะนางงามรับมง(กุฏ) เสียดาย…ขาดสายสะพาย”         เมื่อภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ก็ทำให้ชาวเน็ตพากันแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย โดยส่วนใหญ่มองว่าพิธีการดังกล่าวเป็นเรื่องที่แปลก เพราะไม่มีที่ไหนทำกัน   ในขณะเดียวกันก็มีชาวเน็ตและนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเฉลิมกาญออกมาโต้แย้งว่าพิธีกรรมดังกล่าวเป็นพิธีที่ทำต่อเนื่องกันมานานแล้ว และการสวมมงกุฎนั้นก็สวมเฉพาะในวันซ้อม ในวันรับจริงไม่ได้มีการสวมมงกุฎแต่อย่างใด แถมยังมีอีกหลายๆ ความเห็นมองว่าแปลกใหม่และสร้างสรรค์อีกด้วย       เพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง ลองแชร์ความเห็นกันได้นะจ๊ะ ที่มา ษัฑวัฒก์ จิตราภิรมย์ , Bulim Natthawoot Nindee

ต้องบอกว่าทุกวันนี้มีมิจฉาชีพรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นแทบจะรายวันเลยทีเดียว ซึ่งหากเราไม่อัพเดทตัวเองและรู้เท่าทันคนเหล่านี้ พวกเราก็อาจจะตกเป็นเหยื่อได้ อย่างเช่นเรื่องที่เหมียวจะนำมาเล่าต่อไปนี้   เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ชื่อว่า Thanawat Panthong เผยให้เห็นภาพของชายรูปร่างท้วมใส่เสื้อสีขาวรายหนึ่ง ที่ทำทีเป็นผู้จัดการร้าน KFC แถวเดอะมอลล์ท่าพระ     ชายคนนี้ได้ขอให้คนที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นช่วยกรอกแบบสอบถามให้กับทางร้าน เพื่อประเมินความพึงพอใจ แต่ในระหว่างนั้นเองชายคนนี้กลับใช้เอกสารที่อยู่ในมือบังมืออีกข้างนึงไว้ จากนั้นก็หยิบเอามือถือของเหยื่อไปแบบหน้าตาเฉย!!     ทั้งนี้เจ้าของคลิปได้ให้รายละเอียดไว้ว่า “เหตุการณ์เกิดขึ้นกับแฟนผม เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559 ที่เดอะมอลล์ท่าพระ ร้าน KFC ชั้น 1 ชายคนดังกล่าวได้แอบอ้างว่าเป็น ผจก.ร้าน KFC ขอความร่วมมือให้ช่วยทำแบบสอบถามประเมินความพึงพอใจของทางร้าน ท่าทางไม่ได้ดูเป็นพิษเป็นภัยใดๆ”     “ระหว่างที่มันให้กรอกแบบประเมินและหยิบมือถือไปแล้ว ก็บอกว่าจะไปเอาของสมนาคุณให้แล้วก็หายไป… อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ และไม่อยากให้บุคคลเช่นนี้ลอยนวล…ไปอย่างง่ายดายรูปมีคลิปมี ชัดมากๆหวังว่าจะได้ตัวในเร็ววัน###ช่วยกันแชร์ได้ครับเตือนลูกเตือนหลานภัยมันใกล้ตัวจริงๆทุกวันนี้”   ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง เหตุการณ์เกิดขึ้นกับแฟนผม เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559 ที่เดอะมอลล์ท่าพระ ร้าน KFC…

งานนี้ดูเหมือนว่าผู้บังคับใช้กฎหมายจะอยู่เฉยไม่ได้ซะแล้ว เพราะล่าสุดมีทนายออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายผ่านโลกออนไลน์ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับทนไม่ได้ ต้องส่งไลน์มาขู่ทนายรายนี้เลยทีเดียว!?   เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพบทสนทนาผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ทนายเกิดผล แก้วเกิด เป็นข้อความของเจ้าหน้าทีตำรวจรายหนึ่ง ที่ส่งข้อความมายังทนายเกิดผล เพื่อต่อว่าที่ทนายโพสต์ข้อความให้ความรู้แก่ชาวบ้าน     โดยมีข้อความบางส่วนบอกว่า “ทนายกำลังยุยงให้ชาวบ้านอ้างกฎหมายกับตำรวจ อันเป็นลักษณะยั่วยุ ปลุกปั่น ชาวบ้าน” “ถ้าตำรวจเข้มงวดกับระเบียบต่อชาวบ้านมากขึ้น เช่นไม่อนุญาติให้ประกันตัวเพราะหัวหมอ ฟังที่ทนายแนะนำ ทนายจะรับผิดชอบยังไงถามหน่อย”     จากภาพดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านในโลกออนไลน์ ต่างพากันต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้กันอย่างมากมาย เพราะการที่มีความคิดแบบนี้ อาจหวังเล่นงานประชาชนที่ไม่รู้ข้อกฎหมายก็เป็นได้ นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตอีกจำนวนมากส่งข้อความให้กำลังใจรายนี้เข้ามาอย่างล้นหลามทีเดียว       เอ่ งานนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไปนะ แต่การช่วยให้ความรู้ด้านกฎหมายแก่ชาวบ้านมันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วไม่ใช่เหรอ? ที่มา ทนายเกิดผล แก้วเกิด

น้ำใจในทุกวันนี้แม้จะเป็นเรื่องที่หาได้ยาก แต่ใช้ว่าจะไม่มีเลย อย่างเช่นเรื่องราวของพ่อหนุ่มจากอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่รายนี้   เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชัยวัฒน์ สิงห์ขา เป็นคลิปที่เจ้าตัวได้พบเจอคุณลุงคนหนึ่งอยู่บริเวณหน้าเซเว่นในอำเภอไชยปราการ ซึ่งขณะนั้นมีอุณหภูมิอยู่ที่ 9 องศา     เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็จัดแจงถอดเสื้อกันหนาวออกมาและสวมมันให้กับคุณลุงไร้บ้านรานนี้ พร้อมกับมอบเงินอีกเล็กน้อยให้เขาไว้ติดตัว พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “อย่ามองคนที่มูลค่า แต่จงมองคนที่คุณค่า เพราะต้นทุนชีวิตทุกคนไม่เท่ากัน #ไชยปราการ 9 องศา #มีไม่มากแต่อยากให้ #พี่โอ๋เป็นคนรวยน้ำใจ”     หลังจากที่คลิปนี้ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวของคุณชัยวัฒน์ คลิปนี้ก็โด่งดังและมีคนกดแชร์ไปกว่า 7 พันครั้งทีเดียว แถมยังมีชาวเน็ตจำนวนมากพากันเข้ามาชื่นชมในความมีน้ำใจของเขาด้วย นอกจากนี้คุณ Beck Hippie ยังเข้ามาโพสต์ภาพว่าพวกเขาก็เคยเจอคุณลุงคนนี้และซื้ออาหารเลี้ยงเขามาแล้วเช่นกัน       ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย อย่ามองคนที่มูลค่า แต่จงมองคนที่คุณค่า เพราะต้นทุนชีวิตทุกคนไม่เท่ากัน #ไชยปราการ9องศา #มีไม่มากแต่อยากให้ #พี่โอ๋เป็นคนรวย…..น้ำใจ Posted by ชัยวัฒน์ สิงห์ขา on 6 กุมภาพันธ์…

รู้สึกว่าในช่วงนี้จะมีข่าวเกี่ยวกับพระและศาสนามาให้เราเห็นแบบรายวันเลยทีเดียว ทั้งพระโดดดำน้ำในทะเล ถวายไอศกรีมแม็กนั่ม 1500 แท่งให้พระสงฆ์ และล่าสุดมีสามเณรพากันเป่าเค้กฉลองวันเกิดอีกด้วยนะ!?   ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แอดเหมียวกันไปสะดุดตาเข้ากับภาพๆ หนึ่งที่มีคนแชร์กันอย่างมากมายในโลกออนไลน์ที่ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่าคุณ Aclair Benyapha เป็นภาพของเหล่าสามเณร 10 รูป กำลังมอบเค้กและของขวัญวันเกิดแก่กัน แบบไม่ได้มีความเกรงอกเกรงใจในผ้าเหลืองที่สวมใส่อยู่เลย     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “เบิร์ดเดย์เพื่อนสาว มันกิจของสงฆ์หรอ” และหลังจากที่ภาพนี้ถูกแชร์ออกไปก็ทำให้ชาวเน็ตพากันก่นด่าไปตามๆ กัน ถึงความไม่สำรวมและไม่เหมาะสมแก่การบวชเป็นสามเณร   อย่างเช่นคุณชัย ช่า ช่า ช่า ได้ตั้งข้อสังเกตว่า “บวชเดี๋ยวนี้มีการสอนหรือเรียนอะไรบ้าง” หรือคุณสมโพด จุ้ยนิ่ม ได้ต่อว่าไปยังผู้รับสามเณรเข้าบวชว่า “ต้องโทษอุปฌาย์ หรือคนที่รับเข้ามาบวช เห็นเต็มไปหมดตามวัดต่างๆ”       ยังไงแล้วเหมียวอยากฝากไปถึงน้องๆ ที่กำลังจะบวชเป็นสามเณรในอนาคต ให้ช่วยสำรวมและนึกถึงภาพลักษณ์ของศาสนาพุทธที่มันจะเผยแพร่ออกไปด้วยนะจ๊ะ ที่มา การเมืองเพื่อชาติ ภาคประชาชน

กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตไปซะแล้ว หลังจากที่ “โจ๊กไอศครีม” พิธีกรสุดห่ามในรายการล่าท้าผี IScream และเน็ตไอดอลสุดเกรียนที่โด่งดังจากการไปร่วมรายการต่างๆ ที่ตัดต่อรูปตนเองถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง แต่กลับเจอตร.ปอท.เล็งเอาผิด ฐาน เข้าข่ายนำเข้าข้อความอันเป็นเท็จซะอย่างงั้น   โดยเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 1 มกราคมที่ผ่ามา โจ๊กไอศครีม ได้โพสต์ภาพตนเองขณะถือล็อตเตอรี่หมายเลข 927800 ซึ่งเป็นภาพตัดต่อให้เหมือนกับถูกรางวัลที่หนึ่ง เพื่อสร้างความสนุกสนานภายในเฟซบุ๊กของตนเอง     แต่ต่อมาในวันที่ 2 มกราคม ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ได้นำเสนอข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ที่เล็งเอาผิดกับ โจ๊กไอศครีม เน็ตไอดอลและพิธีกรชื่อดัง ฐานสร้างข้อความเป็นเท็จ อาจทำให้ผู้อื่นเสียหายหรือสับสนได้     หลังจากที่กลายเป็นข่าวได้ไม่นาน เจ้าตัวก็ได้ทราบเรื่องและออกมาโพสต์ข้อความขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับข้อความว่า “ขอโทษจริงๆครับ ในฐานะที่ผมอยู่ในพื้นที่ตรงนี้ ผมขอให้เคสผมเป็นกรณีศึกษาและอุทาหรณ์ในการแชร์ เช็ค โพส และเล่นให้มีขอบเขตนะครับผม”     อ่านโพสต์เต็มๆ ได้ที่นี่เลย เค้าผิดไปแล้ว เค้าขอโทษนะตัวเอง ขอโทษจริงๆครับ ในฐานะที่ผมอยู่ในพื้นที่ตรงนี้ ผมขอให้เคสผมเป็นกรณีศึกษา และอุทาหรณ์ในการ… Posted by โจ๊ก IScream on 1 กุมภาพันธ์ 2016…

ยังคงมีเรื่องของพระของเจ้ามาให้เราอ่านแบบรายวันเลยทีเดียว เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีข่าวว่าพระภิกษุสงฆ์รวมตัวกันไปดำน้ำดูปะการังแถมแกะกุ้งหอยปูปลากันอย่างสบายใจ   แถมเมื่อวันที่ 31 มกราคมก็ยังมีกรณีของการถวายไอศกรีมแม็กนั่ม 1,500 แท่ง เพื่อมอบเป็น “ปานะ” แก่เหล่าภิกษุสงฆ์ จนทำเอาชาวพุทธในเน็ตถึงกับส่ายหน้าไปตามๆ กัน     ล่าสุดได้ในเฟซบุ๊กเพจ น้อง ออกมาแฉภาพพฤติกรรมของภิกษุสงฆ์อีกแล้ว คราวนี้เป็นภาพในขณะที่กำลังนั่งเลือกรองเท้าส้นสูงภายในห้างพร้อมกับถือสมาร์ทโฟนอยู่ในมือ จนคล้ายกับจะเป็นฆราวาสทั่วๆ ไปมาเลือกซื้อของเองซะมากกว่า   ทั้งนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “นี่แหนะ วันนี้เจอภิกษุมากับกัลยานมิตรสุดรัก แหมๆ เพิ่งปลงผมเข้ากุฏิมาไม่เท่าไหร่ก็สนิทกันแล้วเหรอจ๊ะ ชั้นว่าเรื่องนี้มีลับลมคมในแน่ๆ”     และเมื่อภาพดังเหล่านี้ถูกแชร์ออกไป ก็ทำให้ชาวพุทธในโลกโซเชียลถึงกับทนไม่ได้และเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างร้อนแรงทีเดียว โดยบอกว่านี่คือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทางวัดควรจะจัดการโดยด่วน   ทั้งนี้มีความเห็นที่น่าสนใจของคุณ Adesan Man ได้เข้ามาแชร์ประสบการณ์ว่าตนเองเคยคิดจะบวชตลอดชีวิต แต่เนื่องจากเห็นอะไรหลายอย่างเลยสึกออกมาเสียก่อน   เอิ่ม ไม่รู้ว่าหลวงพี่ไปเลือกส้นสูงทำไมนะเนี๊ยะ เอ่หรือว่าหาซื้อไปให้คนอื่นหรือเปล่าน้า… ที่มา น้อง

เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักวงดนตรีในตำนานอย่างวงพอส ที่ครั้งหนึ่งเคยโด่งดังเป็นพลุแตกเมื่อช่วงปี 2539 – 2544 แต่กลับเกิดเหตุน่าสลดใจเมื่อนักร้องนำอย่าง โจ้ อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ ได้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545     ทำให้แฟนเพลงทั่วประเทศถึงกับเสียใจในการจากไปของโจ้ เหลือไว้เพียงบทเพลงและเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ที่เขาเคยร้องไว้เป็นตำนาน   แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าแฟนๆ จะอึ้งไปตามๆ กัน เพราะเฟซบุ๊กเพจ Pause ที่เป็นเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของวง ได้ปล่อยตัวอย่างเพลงใหม่ของวงพอสโดยมีเสียงของโจ้เป็นนักร้องนำมาให้เราลองฟังด้วย!?     เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เฟซบุ๊กเพจ Pause ได้โพสต์คลิปวิดีโอสกู๊ปพิเศษเกี่ยวกับการทำเพลงใหม่ของวงพอส ที่สมาชิกวงทั้งหมดกลับมารวมตัวกันอีกครั้งโดยมี นิรุจ เดชบุญ (บอส), นรเทพ มาแสง (นอ), พลกฤษณ์ วิริยานุภาพ (เอ) และ อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ (โจ้)     โดยเพลงใหม่นี้มีชื่อว่า “รักอยู่รอบกาย” ซึ่งมีเสียงของโจ้เป็นผู้ร้องนำจริงๆ ทั้งนี้คาดว่าน่าจะเป็นการบันทึกเสียงไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนที่โจ้จะเสียชีวิต แล้วนำมาเรียบเรียงใหม่ โดยทางทีมงานได้นำเอาเพลงนี้ไปเปิดให้กับคุณแม่พิมพ์และคุณพ่อสกล เหลืองบริบูรณ์ฟังเป็นคนแรก     ฟังคลิปเสียงสั้นๆ จากเพลง “รักอยู่รอบกาย” ได้ที่ด้านล่างเลย   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการนำเอาที่ศิลปินดังๆ ที่เสียชีวิตไปแล้วกลับมาออกอัลบั้มใหม่หรือเพลงใหม่นะ เพราะก่อนหน้านี้ในช่วงปลายปี 2014 Michael…

ความรักที่ดี ไม่ใช่ความรักที่มีพรั่งพร้อมไปทุกอย่าง แต่อาจจะเป็นความรักที่คนสองคนอยู่เคียงคู่กันไปจนวันสุดท้ายของชีวิตแบบเรื่องที่เหมียวจะเล่าต่อไปนี้ก็ได้นะ       เรื่องราวต่อไปนี้ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Lalana Kanviseth เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวของคุณตา จำปา องอาจ ที่พาคุณยายใส่ล้อเข็นเพื่อพาไปยังโรงพยาบาลที่ไกลออกไปกว่า 4-5 กิโลเมตร       แต่ในระหว่างที่คุณตากำลังเข็นรถไฟยังโรงพยาบาล ก็มีหญิงสาวขับรถผ่านมาพอดี จึงจอดรถและลงมาสอบถามคุณตาว่าจะเดินทางไปไหน ถึงได้ทราบว่าคุณตากำลังจะพาคุณยายที่ป่วยไปโรงพยาบาล หนำซ้ำสายตาของคุณตาก็แย่มากแล้ว เธอจึงให้คุณตาและคุณยายติดรถไปโรงพยาบาลเธอด้วย       อ่านโพสต์เต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย วันนี้มาทำงานแถวนี้ขับจะไปดูงานบังเอิญเจอตากะยายคู่แท้ดูแลกันดีค่ะกำลังไปหาหมอยายป่วยมากตาเข็นมาไกลตั้ง4-5กิโลเมตรเลยช่ว… Posted by Lalana Kanviseth on 28 มกราคม 2016   ความรักของคุณตาและคุณยายช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน หวังว่าจะมีคนใจดีช่วยเหลือพวกเขามั่งนะ ที่มา Lalana Kanviseth

ไม่รู้ว่าเพราะอากาศมันร้อนเลยทำให้คนใจร้อนไปด้วยหรืออย่างไร ทำให้ผู้โดยสารสาวรายนี้ถึงกับวีนแตก เพราะรถเมล์ที่เธอโดยสารมาดันแวะเติมแก๊สแบบกระทันหัน งานนี้เธอจึงวีนแตกแบบไม่ไว้หน้าสวนสัตว์ที่ไหนเลย   เมื่อช่วงสายของวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวที่ชื่อ Jom Jam เป็นคลิปการทะเลาะกันของผู้โดยสารสาว และกระเป๋ารถเมล์รายหนึ่ง ที่ฝั่งผู้โดยสารเกิดไม่พอใจที่รถเมล์แวะเติมแก๊สโดยไม่บอกกล่าว จึงสบถคำด่าออกมาเป็นชุด     ทางฝั่งกระเป๋ารถเมล์เองเมื่อถูกต่อว่าก็ไม่ยอมเช่นกัน จึงตอบโต้ผู้โดยสารอย่างมีอารมณ์ จนต้องไล่ผู้โดยสารเจ้าปัญหาลงจากรถไปในที่สุด   ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง กระเป๋ารถเมล์ vs ผู้โดยสาร เหตุผู้โดยสารไม่พอใจรถเมล์เติมเเก๊สไม่บอกก่อน… Posted by Jom Jam on 29 มกราคม 2016   แน่นอนว่าหลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตพากันคอมเม้นต์ไปในแง่มุมต่างๆ โดยบางความเห็นมองว่าผู้โดยสารควรจะใจเย็นกว่านี้หน่อย เพราะหากรถเมล์แก๊สหมดกลางทาง อาจทำให้ผู้โดยสารไปไม่ถึงที่หมายเช่นกัน     แต่ในขณะเดียวกันกลับมีความเห็นอีกฝั่งหนึ่งมองว่าคนขับรถเมล์เองก็ควรจะมีความรับผิดชอบ เติมแก๊สให้เต็มถังก่อนจะรับผู้โดยสาร เพราะการจอดรถเพื่อเติมแก๊สครั้งหนึ่งกินเวลาประมาณ 20-30 นาที นั่นอาจทำให้ผู้โดยสารที่มีนัดหมายอยู่ไปสายก็เป็นได้     ใจเขาใจเราเนอะ ทั้งผู้โดยสารเองและกระเป๋ารถเมล์ นี่เหมียวว่าอากาศก็ยังไม่ร้อนมากนะเนี๊ยะ   ที่มา Jom…

มีข่าวออกมาได้หลายปีแล้วว่า โรงเรียนโยธินบูรณะ จะมีการย้ายไปเปิดที่ใหม่ ที่จากเดิมตั้งอยู่บริเวณแยกเกียกกาย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เป็นแถวสะพานพระราม 7 ด้วยเหตุผลเพราะว่าที่ดินเดิมถูกเวนคืนเพื่อสร้างเป็นรัฐสภาแห่งใหม่   ทั้งนี้ โรงเรียนโยธินบูรณะแห่งใหม่นี้จะมีกำหนดสร้างเสร็จในปีการศึกษา 2559 ซึ่งก็ใกล้เข้ามาทุกทีๆ แล้ว วันนี้แอดเหมียวเลยจะพาทุกๆ คนไปชมโรงเรียนแห่งนี้ทั้งด้านนอกและด้านในโรงเรียน มีสนามขนาดกว้าง ห้องเรียนใหม่ หรือแม้กระทั่งบันไดเลื่อน แอดเหมียวมองเผินๆ นึกว่าห้างใหม่เลยนะเนี๊ยะ         ด้านนอกอาคาร   มีบันไดเลื่อน     สนามฟุตบอลขนาดใหญ่ เพื่อรองรับกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต                   มีลิฟท์โดยสาร       อู้หูววว นี่โรงเรียนหรือห้างกันเนี๊ยะ ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างมากๆ ที่มา ร.ร.โยธินบูรณะ , conancnt , lawansuwannarat , mnpimmada

จะเดินทางไปไหนมาไหนในยุคนี้ นอกจากต้องระวังอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นบนท้องถนนแล้ว ยังต้องระวังพวกมิจฉาชีพหรือพวกหัวหมอด้วยนะ   เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปหนึ่งผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวที่ชื่อว่า Jam Atilal เป็นคลิปวิดีโอที่เธอถ่ายไว้ขณะนั่งโดยสารอยู่ยนรถแท็กซี่คันหนึ่งที่มิเตอร์วิ่งเร็วผิดปกติ     ในระหว่างที่เธอนั่งอยู่บนรถเธอสังเกตเห็นว่ามิเตอร์แท็กซี่วิ่งเร็วจนน่าตกใจ เลยหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอเป็นเวลา 15 วินาที ซึ่งมิเตอร์ก็วิ่งจาก 249 บาทไปเป็น 265 บาท รวมแล้ว 15 บาท ก่อนจะถ่ายเลขทะเบียน ทร – 809   ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่าง พึ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้มิตเตอร์ขึ้นทุก1วิ โกงกันขนาดนี้เอากระเป๋าตังกูไปเหอะ Posted by Jam Atilal on 29 มกราคม 2016   แหม่ ถ้าจะทำกันขนาดนี้ เอากระเป๋าตังค์เราไปเลยก็ได้นะ ใครพบเห็นเหตุการณ์แบบนี้อีกแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลยนะ ที่มา Jam Atilal  

ถือเป็นคอนเสิร์ตที่ค่อนข้างเงียบพอสมควร แม้ว่าเหมียวจะไม่ค่อยได้ไปร่วมงานคอนเสิร์ตสักเท่าไหร่ แต่ก็พอรู้ว่ามีคอนเสิร์ตหรือการจัดกิจกรรมที่ไหนยังไงบ้าง แต่กับคอนเสิร์ตเพื่อการกุศลครั้งนี้ถือว่าโปรโมทได้เงียบเชียบซะเหลือเกิน   เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่า ** Riviera ** ได้เข้ามาตั้งกระทู้ “เงียบมาก คอนเสิร์ตการกุศลเพื่อผู้ป่วยยากไร้สูงวัย – ก้อง สหรัถ, ป๋อ ณัฐวุฒิ, เวียร์ ศุกลวัฒน์, หนูนา หนึ่งธิดา ฯลฯ”     ซึ่งเนื้อหาภายในกระทู้กล่าวถึงคอนเสิร์ตการกุศล ศิลปินรวมใจ ต่อลมหายใจผู้ป่วยยากไร้สูงวัย ที่จัดขึ้นเพื่อนำเงินไปช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยยากไร้สูงวัย แต่ดูเหมือนว่าคอนเสิร์ตนี้จะไม่ได้รับการโปรโมทที่ดีพอ ทำให้จนถึงตอนนี้มีคนซื้อบัตรเข้าชมน้อยถึงน้อยมาก   และยิ่งน่าใจหายทีเดียวเพราะล่าสุดทางเฟซบู๊กเพจ คนดี สังคมดี ที่เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนและจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ได้ออกมาบอกเลยว่ายอดผู้ซื้อบัตรชมคอนเสิร์ตจนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถนำเงินไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้เลยแม้แต่รายเดียว     ส่วนหนึ่งที่ทำให้บัตรคอนเสิร์ตในครั้งนี้ขายได้น้อยอาจมาจากราคาบัตรที่ค่อนข้างแพง บวกกับการประชาสัมพันธ์น้อยเกินไป น่าแปลกใจว่าทำไมคอนเสิร์ตที่มีสเกลใหญ่ขนาดนี้ถึงไม่มีการประชาสัมพันธ์ที่ดีกว่านี้ ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ทราบถึงการจัดงาน   ทั้งนี้คอนเสิร์ตจะเริ่มแสดงในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ หรืออีก 8 วันข้างหน้า โดยมีศิลปินอย่าง ก้อง สหรัถ, พี่ป๋อ ณัฐวุฒิ, หนูนา หนึ่งธิดา, เวียร์…

ไม่ว่าคุณจะขับรถไปท่องเที่ยวในเขตธรรมชาติที่ไหนก็ตาม ควรจะใช้ความระมัดระวังมากกว่าปกตินะ เพราะหากคุณประมาทคุณอาจได้รับอุบัติเหตุ หรือเลวร้ายกว่านั้น คุณอาจคร่าชีวิตของสัตว์โลกตัวหนึ่งที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วยก็ได้ เหมือนอย่างเรื่องเล่าที่เหมียวจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้     เรื่องที่แอดเหมียวจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวจากผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่าคุณ Sukpasert Sukpasert โดยเจ้าตัวได้เล่าว่าในระหว่างที่เขาเดินทางกลับบ้านที่ต้องผ่านทางเขาใหญ่ ในระหว่างนั้นเขาเห็นว่ามีรถยนต์เก่าๆ จอดอยู่ข้างทางและมีเจ้ากวางนอนอยู่ริมถนน     จากการสอบถามจึงทราบว่ารถกระบะมีพระสงฆ์โดยสารมาด้วย 2 รูป และมีฆาราวาสเป็นคนขับอีก 2 คน กำลังขับผ่านเส้นทางเขาใหญ่ แต่จู่ๆ มีกวางกระโดดพรวดออกมาจากข้างถนนเพื่อข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่ง ทำให้รถชนกับเจ้ากวางจนขาหักทั้งสองข้าง ส่วนรถยนต์นั้นหม้อน้ำแตกจนไม่สามารถวิ่งต่อได้     ทั้งนี้ได้มีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์เพื่อให้เข้ามาดูอาการของมัน แต่ไม่สามารถมาได้ทันเวลาเพราะติดภารกิจอยู่อีกที่หนึ่ง จนเวลาล่วงเลยมากว่า 1 ชั่วโมงทำให้เจ้ากวางทนอาการบาดเจ็บไม่ไหวและเสียชีวิตในที่สุด       คลิ๊กอ่านเรื่องราวเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย เรื่อง(เล่า)จากป่า… ข้าพเจ้าได้ใช้เส้นทาง(เขาใหญ่)เปนทางผ่าน เพื่อกลับบ้าน ขณะมาถึง(เหวนรก) ได้มีรถกะบะเก่าๆคันนึง ได้… Posted by Sukpasert Sukpasert on 27 มกราคม 2016   อย่างที่เขาบอกล่ะนะ ว่าเข้าบ้านเขาก็อย่าไปรังแกเขา…

กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนๆ ให้โลกออนไลน์หยิบมาพูดถึงอีกแล้ว สำหรับกรณีของเสก โลโซ ที่ออกมาโพสต์ภาพทหารเสียชีวิตพร้อมกับข้อความว่า “ว่างๆ ไปงานศพและไปทำข่าวพวกเขากันบ้างนะ” เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา   จนทำให้ชาวเน็ตถึงกับสงสัยว่าเหตุใดเสก โลโซถึงต้องโพสต์ภาพดังกล่าวในช่วงที่เพิ่งจะมีพิธีเผาศพของหนุ่มปอ ทฤษฎี ไปเมื่อไม่กี่วัน และโยงไปว่าเสก โลโซนั้นแอบเหน็บนักข่าวและสื่อต่างๆ อยู่หรือเปล่า?     เมื่อเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากโลกออนไลน์อย่างมาก แต่เมื่อเจ้าตัวทราบเรื่องก็รีบออกมาแก้ต่างทันทีว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนเข้าใจ โดยในช่วงเย็นวันเดียวกันนั้นเอง เสก โลโซ ได้โพสต์ข้อความถึงแฟนๆ ว่า “เรื่องเด็กๆ แค่นี้ไม่มีทางทำอะไรผมได้หรอก”     “ให้เอาไปคิดดูกันบ้าง เรื่องจะไปอิจฉงอิจฉาผู้เสียชีวิตนี้ไม่มีอยู่ในหัวลูกผู้ชายอย่างผม ผมให้กำลังใจเขาและครอบครัวมาตลอด ไอ้พวกที่เอาไปตีความหมายผิดๆมั่วๆนี่เป็นพวกไร้สมองอย่างมาก ใครมีอะไรสงสัยโทรมาคุยกับผมได้นะ ประสานกับพีอาร์บริษัทผมได้เลย ‘S. LOSO”     หลังจากนั้นไม่นานเสกโลโซ ก็ได้โพสต์ข้อความตัดพ้อเล็กน้อยว่า “โพสท์รูปอะไรก็มีปัญหา งั้นเฮียขอยืนหยัดโพสท์รูปนมต่อไปดีกว่านะจ๊ะ ไม่มีใครด่าดี ฮาๆๆ …”   “โพสท์รูปอะไรก็มีปัญหา งั้นเฮียขอยืนหยัดโพสท์รูปนมต่อไปดีกว่านะจ๊ะ ไม่มีใครด่าดี ฮาๆๆ …” Posted by SEK…

แม้ว่าจะมีห้างร้านหรือธุรกิจมากมายตอบรับต่อกระแส “ลูกเทพ” เป็นอย่างดี ทั้งนำเสนอโปรโมชั่นและบริการใหม่ๆ เพื่อเอาใจคนเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพ แต่ก็ยังมีธุรกิจบางแห่งที่ไม่เห็นด้วยและขอปฏิเสธการนำลูกเทพเข้ามาใช้บริการ   ธุรกิจที่แอดเหมียวกำลังพูดถึงอยู่นี้ก็คือ คันทรีฟาร์มรีสอร์ทแอนด์โฮมสเตย์ ที่ได้ออกมาโพสต์ข้อความเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ว่าห้ามไม่ให้ลูกค้าผู้มาใช้บริการนำเอาตุ๊กตาลูกเทพเด็ดขาด เพราะหากใครนำเข้ามาจะงดให้บริการทันที   ทั้งนี้ยังมีข้อกำหนดอีก 3 ข้อด้วยกัน 1 เพื่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของผู้เข้าพักท่านอื่น ทั้งทางกายและทางใจ 2 ทางเราไม่มีนโยบายส่งเสริมความไร้สติในสังคมไทย 3 เป็นแบบอย่างที่ดีต่อเยาวชนที่ต้องเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีคุณภาพ ศักยภาพ สืบต่อไป     อ่านโพสต์เต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย ทางรีสอร์ทขอประกาศอย่างเป็นทางการว่า #ห้าม!!! นำลูกเทพเข้ามาในบริเวณรีสอร์ท หากทางรีสอร์ท ตรวจพบว่าท่านนำลูกเทพ (ตุ๊กตา… Posted by เดอะคันทรีฟาร์มรีสอร์ทแอนด์โฮมสเตย์ on 24 มกราคม 2016   หากใครรู้สึกอึดอัดใจทุกครั้งที่เจอกับตุ๊กตาลูกเทพเวลาเข้าร้านอาหารหรือสถานบริการต่างๆ ขอให้วางใจได้ว่ายังมีรีสอร์ทแห่งนี้ไว้คอยให้บริการคุณด้วยความปลอดภัยนะจ๊ะ ที่มา เดอะคันทรีฟาร์มรีสอร์ทแอนด์โฮมสเตย์

ต้องบอกเลยว่าตั้งแต่การปรากฏตัวของตุ๊กตาลูกเทพในสังคมไทยนั้น ทำให้เกิดกระแสต่างๆ ตามมามากมายทีเดียว เพราะมันทำให้ผู้คนเชื่อกันเป็นตุเป็นตะว่าเจ้าตุ๊กตาลูกเทพเหล่านี้สามารถบันดาลสิ่งต่างๆ ให้ผู้เลี้ยงได้จริงๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความงมงามตามมาอยู่ไม่น้อย   แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในช่วงนี้เห็นจะเป็นเหล่าธุรกิจรูปแบบต่างๆ ที่พยายามจะเกาะกระแสตุ๊กตาลูกเทพด้วยการออกโปรโมชั่นแปลกๆ เพื่อมารองรับความต้องการของลูกค้า ซึ่งก่อนหน้านี้แอดเหมียวก็เคยได้นำเสนอไปแล้ว วันนี้แอดเหมียวเลยจะขอกลับมาต่อกันในภาค 2 จะมีธุรกิจอะไรให้ลูกเทพใช้บริการบ้าง ลองไปดูกันเลย   1. ธุรกิจสายการบิน พาลูกเทพไปเที่ยวด้วยได้   2. ธุรกิจร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ชวนลูกเทพมานั่งทานแบบไม่อั้น   3. ธุรกิจเสริมความงาม ให้ลูกเทพของคุณหน้าเด้งยิ่งกว่าลูกเทพคนไหนๆ   4. ธุรกิจศัลยกรรม ให้ดั้งของลูกเทพโด่งรับกับใบหน้า   5. ธุรกิจหนังสือออนไลน์ ชวนลูกเทพมาอ่านเสริมสร้างความรู้ จะได้ให้เลขให้พรได้แม่นๆ   6. ธุรกิจเกมออนไลน์ ชวนลูกเทพมาเล่นคลายเครียดจากการใช้ชีวิตมาทั้งวัน   7. ธุรกิจสอนลูกเทพดูหนัง รับรองเต็งได้แน่นอนว่าใครได้ออสการ์   8. ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นสำหรับลูกเทพ ทานง่าย รสชาติเยี่ยม ให้ลูกเทพร้องเลยว่า “โออิชิ!!”   9. ธุรกิจพรีเวดดิ้งลูกเพท เมื่อกามเทพเล่นตลก ความรักแบบงงๆ…

แม้จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพไปแล้วเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา แต่แฟนๆ และประชาชนทั่วไปก็ยังคงรำลึกถึงดาราหนุ่มอย่าง ปอ ทฤษฎี สหวงศ์ อยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย เพราะเป็นคนที่คิดดี ทำดี มีน้ำใจต่อเพื่อนๆ ดาราและคนรอบตัว จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีเรื่องเล่าน่ารักๆ ของเขาออกมาให้เห็นกันตลอดเวลา     ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มกราคม ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @mylucky774 ได้นำเรื่องราวการทำความดีของหนุ่มปอที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนมาเล่าสู่กันฟังด้วย โดยเรื่องราวที่หยิบมาเล่านี้เป็นภาพจากเฟซบุ๊กอีกที เกี่ยวกับคนขับรถตู้รายหนึ่งที่ขับรถรับส่งคุณปอในช่วงหนึ่ง แต่กลับมีสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนัก   คุณปอจึงสอบถามไปยังเพื่อนคนขับรถอีกคนว่าเกิดอะไรขึ้น จึงทราบภายหลังว่าคนขับรถนั้นไม่ค่อยจะมีงานเข้ามาเท่าไหร่ ทำให้รายได้ของเขาน้อยและไม่สามารถหาเงินไปผ่อนรถตู้ได้ เมื่อทราบดังนั้นคุณปอจึงยื่นขวดวิตามินซีให้แก่คนขับรถตู้ เมื่อคนขับรถตู้นำมันกลับไปเปิดดูที่บ้านถึงรู้ว่าข้างในนั้นมีเงินจำนวนหนึ่งซ่อนอยู่     ทำดีเมื่อยามมีชีวิตอยู่ ยามจากไปเรื่องราวดีๆ ของเราก็จะยังคงเป็นที่น่าจดจำเหมือนกับคุณ ปอ ทฤษฎี นี่แหละ แอดเหมียวขอให้ดวงวิญญาณคุณปอไปอยู่ในที่ดีๆ นะจ๊ะ ที่มา @mylucky774

ยังคงเป็นกระแสให้พูดถึงอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว สำหรับเรื่องราวของตุ๊กตาลูกเทพ ที่ก่อนหน้านี้มีสายการบินเปิดบริการให้จองตั๋วให้กับตุ๊กตาลูกเทพได้แล้ว และเมื่อวันที่ 24 มกราคมก็มีร้านบุฟเฟ่ต์เสนอโปรโมชั่นให้นำตุ๊กตาลูกเทพไปนั่งทานได้ในราคาเด็กเล็ก   ล่าสุดเมื่อช่วงดึกของวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ ห่วยตูน ได้โพสต์ภาพพิธีการปลุกเสกตุ๊กตาลูกเทพนับร้อยตัวโดยอาจารย์ท่านหนึ่ง ทำเอาชาวเน็ตต่างก็พากันสยองไปตามๆ กัน   เชี่ย ..กุหลอน Posted by ห่วยตูน on 24 มกราคม 2016   หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็สร้างความตื่นตะลึงให้แก่ชาวเน็ตไม่น้อยทีเดียว ทั้งนี้มีชาวเน็ตบางส่วนมองว่าเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องงมงายเท่านั้น หากจะเชื่อก็ขอให้เชื่อแต่พอดีๆ   ในขณะที่อีกส่วนมองในเชิงธุรกิจ เพราะตุ๊กตาตัวละไม่กี่ร้อย แต่พอผ่านพิธีปลุกเสก กลับมีราคาพุ่งสูงถึงตัวละ 5,000 – 10,000 ทีเดียว ทำให้ผู้ที่ทำพิธีให้กับตุ๊กตาเหล่านี้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ จึงวอนให้รัฐบาลและกรมสรรพากรตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าวด้วย       ไหนๆ ก็มาขั้นนี้แล้ว มีใครสนใจนำตุ๊กตาลูก(แมว)เทพไปเลี้ยงสักตัวไหมล่ะ? ที่มา ห่วยตูน

นับวันภัยสังคมยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นทุกวันๆ นะ จนแอดเหมียวเริ่มรู้สึกว่าสังคมนี้เริ่มจะอยู่กันยากแล้ว เพราะล่าสุดมีสาวอาศัยอยู่ให้ห้องพักย่านรามคำแหงถูกหัวขโมยบุกเค้ามาปล้นถึงในห้องเลย!?     เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพถ่ายอันน่าสลดใจผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า เบนจา คงดี เป็นภาพของหญิงสาวรายหนึ่งที่มีรอยฟกช้ำและบาดแผลน่ากลัวเต็มหน้า แถมยังมีรอยเลือดอีกมากมายกองอยู่บนพื้น     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “เตือนภัย ระวังค่ะ สังคมนี้อยู่ยาก ในซอยรามคำแหง 53 & ลาดพร้าว 112 เข้ามาฉกทองแล้วทำร้ายเจ้าตัวจนทรุดคาห้อง เหตุเกิดคืนวันที่ 23/01/59”     หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจำนวนมากก็พากันช่วยแชร์และกระจายข่าวออกไปในวงกว้าง เพื่อช่วยกันเตือนภัยให้กับสาวๆ ที่อาศัยอยู่ในหอพัก เพื่อป้องกันตนเองจากหัวขโมย       สังคมเราเริ่มอยู่ยากแล้วแฮะ สาวๆ คนไหนที่อยู่หอคนเดียว อย่าเก็บทรัพย์สินมีค่าไว้ในห้องนะ เพราะพวกหัวขโมยมันอาจจ้องจะเล่นงานเราอยู่ก็ได้ ที่มา เบนจา คงดี

กำลังได้รับความนิยมจากชาวไทยหลายๆ คนเลยทีเดียว สำหรับตุ๊กตาแนวใหม่ที่เรียกกันว่า “ตุ๊กตาลูกเทพ” ที่นำเอาตุ๊กตาธรรมดาๆ ไปปลุกเสกเพื่อเรียกเทวดาให้มาสิงอยู่ในร่างของตุ๊กตา ซึ่งหากใครที่นำเอาตุ๊กตาตัวนี้มาเลี้ยง จะต้องปฏิบัติกับตุ๊กตาประหนึ่งว่าเป็นเด็กคนนึงเลยทีเดียว     จนเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมามีข่าวออกมาว่าสายการบินไทยสมายล์ เปิดให้ประชาชนจองตั๋วเครื่องบินสำหรับตุ๊กตาลูกเทพได้แล้ว ซึ่งก็ทำเอาชาวไทยหลายๆ คนถึงกับอึ้งเลย เพราะแค่ตุ๊กตาตัวเล็กๆ ตัวเดียวถึงกับต้องซื้อที่นั่งอีกหนึ่งที่ให้นั่งเลยหรือ?   และหากคุณคิดว่าการที่ตุ๊กตาลูกเทพมีที่นั่งบนเครื่องบินเป็นอะไรที่แปลกแล้ว วันนี้แอดเหมียวจะพาไปดูอะไรที่แปลกแหวกแนว อเมซิ่งไทยแลนด์ยิ่งกว่า เพราะตอนนี้มีร้านบุฟเฟ่ต์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เสนอโปรโมชั่นใหม่ ที่ให้คุณสามารถนำลูกเทพไปนั่งกินอาหารได้อย่างสบายใจแล้ว!!     ร้านบุฟเฟ่ต์ที่แอดเหมียวพูดถึงนี้มีชื่อว่าร้าน Neta Grill ทางร้านได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กเพจ โดยระบุว่าตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา มีคนนำตุ๊กตาลูกเทพไปนั่งทานอาหารแล้วกว่า 30 ราย ทางร้านจึงเสนอให้นำลูกเทพมานั่งทานอาหารในร้านได้ โดยทางร้านจะคิดค่าบริการเท่าเด็กเล็ก 1 คน แต่มีข้อแม้ว่าต้องทานให้หมด       หลังจากที่ภาพโปรโมชั่นของทางร้าน Neta Grill ถูกแชร์ออกไป ก็มีเสียงตอบรับหลากหลายรูปแบบตามมา โดยมีชาวเน็ตบางส่วนที่เชื่อและเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพเอาไว้ แสดงความเห็นว่าโปรโมชั่นนี้น่าสนใจและจะพาตุ๊กตาลูกเทพของตนเองไปนั่งทานอาหารแน่นอน     ในขณะที่ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งมองว่าการทำโปรโมชั่นครั้งนี้ของทางร้าน ไม่ได้เป็นการส่งเสริมหรือเห็นด้วยกับการเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพแต่อย่างใด…

หลายครั้งที่เรามักจะเจอกับปัญหาแบตเตอรี่หมดระหว่างออกไปเดินห้างเพลินๆ ทำให้หลายคนแก้ปัญหาโดยการพกพาวเวอร์แบงค์พะรุงพะรัง หนักกระเป๋า หรือบางครั้งลืมพกพาวเวอร์แบงค์ไปด้วยยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่     แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปเพราะเมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ Central Festival Chiangmai ได้โพสต์ภาพและข้อความ โดยระบุว่าที่เซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ มีการนำตู้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่มือถือมาตั้งไว้ในห้างถึง 3 จุด เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าที่ต้องการชาร์จไฟให้กับมือถือของคุณ     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “บริการใหม่ ที่ชาร์จแบทโทรศัพท์”ฟรี” ชาร์จได้ครั้งละ30นาที มี3จุดนะคะ ที่Tourist rest areaและFood Park แด่ลูกค้าคนพิเศษของเรา คราวนี้ช้อปได้ไม่ต้องกลัวแบทหมดละน๊าาาาา”   นี่แหละคือบริการที่เราเฝ้ารอคอยมานาน ทีนี้ก็ไม่ต้องกลัวแบตหมดระหว่างคุยธุระแล้ว!! ที่มา CentralFestival Chiangmai

เมื่อช่วงดึกของวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของผู้พิพากษาสาวรายหนึ่ง ที่แสดงอาการเกรี้ยวกราดและตะโกนลั่นไปทั่ว เพราะไม่พอใจที่ตนเองโดนใบสั่งในข้อหาจอดในที่ห้ามจอด     คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กนามว่า Piyawat Suwanwong เผยให้เห็นภาพของหญิงสาวเดินตะโกนลั่นไปทั่วสำนักงานแห่งหนึ่ง พร้อมกับแสดงกิริยาอันไม่เหมาะสมแถมยังทำลายข้าวของ และเมื่อรู้ตัวว่ามีคนแอบถ่ายคลิปอยู่ เธอก็หยิบเอาบัตรประชาชนขึ้นมาให้ถ่ายพร้อมบอกว่า “สังวรไว้นะว่ากูเป็นนายของมึง”     ทั้งนี้ยังมีข้อความประกอบคลิประบุว่า “เขาคือใคร? เขาเป็นอะไร? เขาไม่สบายหรือเปล่า? เขายิ่งใหญ่มาจากไหน? เขาอยู่เหนือกฎหมายไทยเหรอ? เหตุเกิดที่อาคาร 1 กรมการขนส่งหมอชิต เป็นผู้พิพากษามาติดต่องานที่ขนส่ง กรณีรถถูกสวมทะเบียน   “แต่จอดรถกีดขวางเลยเจอเจ้าหน้าที่ขนส่งออกใบสั่ง ออกมาเจอใบสั่งติดอยู่ที่รถ เลยออกอาการ ‘วีนแตก’ วิ่งพล่านเป็นหมาโดนน้ำร้อน”     ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย เขาคือใคร? เขาเป็นอะไร? เขาไม่สบายหรือเปล่า? เขายิ่งใหญ่มาจากไหน? เขาอยู่เหนือกฎหมายไทยหรา? #ว่ากันว่า เหตุเกิดที่อาคาร 1 กรมการขนส่งหมอชิต เป็นผู้พิพากษามาติดต่องานที่ขนส่ง กรณีรถถุกสวมทะเบียน แต่จอดรถกีดขวางเลยเจอเจ้าหน้าที่ขนส่งออกใบสั่ง ออกมาเจอใบสั่งติดอยู่ที่รถ เลยออกอาการ “วีนแตก” วิ่งพล่านเป็นหมาโดนน้ำร้อน #โปรดใช้จักรยานในการรับชม เจ๊ครับ นี่มันที่สำนักงานขนส่งนะครับ ไม่ใช่แคทว๊อค เดินหมุนไป หมุนมา…

บัวขาว บัญชาเมฆ ถือเป็นหนึ่งในคนดังระดับโลก ที่ไม่ว่าจะไปมากี่ประเทศๆ มีชื่อเสียงและเงินทองมากมายแค่ไหน แต่วิถีชีวิตก็ยังคงติดดินไม่ได้เปลี่ยนไปเลย     ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ Banchamek Gym ได้โพสต์ภาพวิถีชีวิตของบัวขาว นักชกไทยไฟต์ขวัญใจชาวไทย ที่โดดลงเล่นน้ำในบึงหากุ้งหอยปูหลาตามแบบวิถีของคนอีสาน ทำเอาแฟนๆ ถึงกับชมว่าเป็นคนติดดิน แม้จะมีเงินทองมากมายแล้วก็ตาม     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “หมานๆ เด้อ!! บ่ายๆ ลงห้วย (หลังบ้านบัวขาวคือห้วยทับทัน ชายเขตเเดนสุรินทร์ ศรีษะเกษ)”               หลังจากที่ภาพของบัวขาวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากพากันชื่นชมในความเรียบง่ายของเขา อย่างเช่นคุณ Sakaoduan Makwilai กล่าวว่า “ไม่ลืมพื้นเพตัวเองค่ะ” และคุณ Hazan Toy กล่าวว่า“ชอบผู้ชายคนนี้มาก เวลาเปลี่ยนไป แต่เค่าคนนี้ไม่เคยเปลี่ยน”     แหม่ ทั้งเก่งทั้งติดดินขนาดนี้ ไม่ให้ชาวไทยหลงรักได้ไงล่ะ ที่มา Banchamek Gym

กลายเป็นที่ฮือฮาของสาวๆ ในโลกออนไลน์เลยทีเดียว สำหรับภาพของหนุ่มกล้ามโตกำลังนั่งล้างจานอยู่กับพื้น ที่ทำเอาสาวๆ ถึงกับต้องหยิบมือถือขึ้นมาหาพิกัดร้านกันเลย     ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า nam koew เป็นภาพของพนักงานล้างจานหุ่นแซ่บคนหนึ่งในร้านก๋วยเตี๋ยวแถวโรงงานอมตะนคร จังหวัดชลบุรี เมื่อเห็นดังนั้นเธอจึงขอเข้าไปถ่ายรูปของเขาพร้อมกับพูดคุยเล็กน้อย     จากการสอบถามพบว่าชายหนุ่มมีชื่อว่าน้องปอนด์ ไม่ใช่ลูกเจ้าของร้านหรือคนมีเงินอะไร พูดภาษาเหนือได้ แม้จะขี้อายหน่อยๆ แต่อนุญาตให้นำรูปปเผยแพร่ได้     ทั้งนี้หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้มีชาวเน็ตให้ความสนใจเป็นจำนวนมากทีเดียว ซึ่งในขณะนี้มีสื่อหลายๆ เจ้าให้ความสนใจและออกตามหาชายหนุ่มคนนี้กันจ้าหล่ะหวั่นทีเดียว             เอ้า ใครอยู่แถวโรงงานอมตะนคร จังหวัดชลบุรี เหมียวฝากหาตัวด้วยนะ แฮ่กๆๆ ที่มา dodeden

เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ YoudoLike – คนดูคลิป ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของพระสงฆ์รูปหนึ่งขณะกำลังเต้นอย่างเมามันพร้อมกับเพลงแดนซ์จนจีวรปลิว พร้อมกับข้อความว่า “พระ” สายแดนช์!!”   ทั้งนี้คลิปวิดีโอดังกล่าวมีขนาดสั้นเพียง 37 วินาที เผยให้เห็นภาพของพระกำลังเต้นและเสียงหัวเราะสนุกสนาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดธรรมวินัย และกลายเป็นกระแสอย่างแพร่หลายบนโลกออนไลน์ ซึ่งล่าสุดมีคนแชร์คลิปดังกล่าวไปแล้วถึง 6,400 ครั้งทีเดียว     หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงพระรูปดังกล่าว ที่แสดงกิริยาไม่เหมาะสม เช่นคุณ Chaleamwut Ty Ty Auchern กล่าวว่า “มาอีกแล้วมารศาสนา บวชเพื่อหาเงินใส่กระเป้าหรือเป็นอาชีพ จับสึกให้หมดจะได้ไม่ต้องมาทำลายศาสนา”      และ Sak Siri “ถ้าบวชด้วยใจเราได้บุญ ทำตัวสำรวมไม่มีใครว่าหรอกแต่สมัยนี้อาศัยผ้า้หลืองหากินกันซะเยอะเลย WTF”   ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย ”พระ” สายแดนช์!! ==================== Credit :: Michell Thong Posted by YoudoLike – คนดูคลิป on 13…

นี่คือเรื่องราวดีๆ ของคนไทยน้ำใจงาม ที่พบเห็นชาวต่างชาติได้รับความเดือดร้อน จึงให้ความช่วยเหลือแบบไม่รอช้า พร้อมกับให้เงินช่วยเหลือพวกเขาด้วย     เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพและข้อความผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ Maeji Kamolrat Ayla โดยเจ้าตัวได้เล่าว่ามีนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย 2 คนมานั่งร้องไห้อยู่บริเวณหน้าร้านแต่งรถของตนเอง     เมื่อสอบถามก็พบว่าทั้งคู่เพิ่งถูกปล้นมา เธอจึงติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเพื่อให้ช่วยประสานงานไปยังสถานทูตออสเตรเลีย ในระหว่างนั้นเธอก็ช่วยดูแลนักท่องเที่ยวทั้งสองโดยการหาน้ำดื่มและขนมให้กิน     โชคดีที่ในขณะนั้นเองมีคนขับรถแท็กซี่นำรถมาแต่งที่ร้านของเธอพอดี ซึ่งคนขับแท็กซี่เองก็มีน้ำใจพาทั้งสองคนไปส่งยังสถานทูตด้วยตนเอง จากนั้นหญิงสาวก็ได้มอบเงินส่วนหนึ่งให้นักท่องเที่ยวนำติดตัวไปด้วย     หนุ่มสาวชาวออสเตรเลีย มานั่งหน้าร้าน ร้องไห้อยุ่พักนึง จนลูกน้องตะโกนเรียกเรา เราก็เดินออกมา เค้าต้องการความการช่วยเหลื… Posted by Maeji Kamolrat Ayla on 11 มกราคม 2016   น่ารักด้วย น้ำใจงามด้วย คนแบบนี้แหละน่าจะเป็นเน็ตไอดอลของไทย ที่มา Maeji Kamolrat Ayla

กลายเป็นคู่รักที่สื่อให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ทีเดียว สำหรับ บี้ KPN และ กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ ที่มีข่าวเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาว่าสาวกุ๊บกิ๊บกำลังตั้งท้อง     ซึ่งทั้งคู่ก็ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการขอโทษประชาชนเกี่ยวกับการข้ามขั้นตอนและประเภณี แต่ทั้งคู่ก็ยืนยันว่ารู้สึกแฮปปี้ดีและหลังจากนี้จะทำให้ถูกต้องตามขั้นตอน     ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา หนุ่มบี้ได้มีการแชร์ภาพการขอแต่งงานผ่าน IG ของตัวเอง เป็นภาพในขณะที่เขากุ๊บกิ๊บแต่งงานท่ามกลางหมู่ดวงดาวนับล้านภายในท้องฟ้าจำลอง พร้อมกับข้อความว่า “วันนี้ผมขอแต่งงานกับผู้หญิงที่ผมคิดว่าจะรักเธอตลอดไป และจะดูแลเธอไปตลอดชีวิต”   “ขอบคุณที่เธอเข้ามาในชีวิตผม ที่ทำให้ผมยิ้ม และมีความสุขได้ทุกๆ วัน ขอบคุณที่รักผม รักคนดีนะครับ”     ในขณะเดียวกันทางด้าน IG ของสาวกุ๊บกิ๊บเองก็ได้เขียนข้อความลงใน IG ของเธอว่า “I said yes!! โดนเซอร์ไพรซืหนักมาก ขอแต่งงานในที่ดูดาวท้องฟ้าจำลอง นึกว่าจะไม่มีคุกเข่าของแต่งงานซะแล้ว #ร้องไห้หนักมาก #ทุกอย่างคือฝันที่เป็นจริง”                    …

แม้ว่าการแข่งขันในสมัยนี้จะสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เหล่าพ่อค้าแม่ค้าจึงต้องงัดกลยุทธเด็ดออกมาเพื่อเรียกลูกค้า แต่เหมียวก็ไม่คิดเลยว่ามันจะรุนแรง Hard Sale ได้ขนาดนี้!!     เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของแม่ค้าขายสบู่รายหนึ่ง ที่พยายามโปรโมทสินค้าของตัวเองด้วยการแก้ผ้าถูสบู่โชว์ให้แก่ลูกค้าของเธอเห็นสรรพคุณของสบู่ ว่าสามารถรักษาสิว ฝ้า กระ รวมไปถึงรักษาภูมิแพ้ด้วย แถมยังเปิดรับตัวแทนจำหน่ายอีกจำนวนมาก     หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียล ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัง ถึงการค้าขายที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง อีกทั้งยังใช้เรือนร่างในการโปรโมทสินค้า ทำให้ดูอนาจารมากกว่าจะน่าซื้อ ย่างเช่นคุณ Pattana Comp กล่าวว่า “เป็นการโฆษณาที่โฉ่งฉ่างมาก หาได้เจริญตาไม่ เหมือนเอาลิงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์”         ถ้าจะ Hard Sale ขนาดนี้ เหมียวว่ามันดูไม่งามไปหน่อยนะ ส่วนเรื่องคลิปเหมียวขอไม่เอามาลงนะ แต่คิดว่าคงไม่เกินความสามารถของเพื่อนๆ อย่างแน่นอน ที่มา มีคลิป มาแชร์กัน

เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของหนุ่มขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างรายหนึ่งผ่านเฟซบุ๊กเพจ เรารักพัทยา ที่บริเวณสี่แยกทางรถไฟ ซ.หนองเกตุน้อย ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่ขอทำดีด้วยการขี่รถส่งผู้โดยสารแบบไม่คิดตังค์เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา     ตามรายงานบอกว่าพ่อหนุ่มรายนี้มีชื่อว่านายอรัน วงค์ชาลี อายุ 27 ปี พื้นเพเป็นคนจังหวัดนครราชสีมา แต่ย้ายมาอยู่ที่พัทยา จ.ชลบุรีได้ 11 ปี ปัจจุบันทำอาชีพเป็นพนักงานโรงแรม และขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างเป็นอาชีพเสริมโดยในแต่ละปีเขามักจะฉลองวันคล้ายวันเกิดด้วยการกินดื่มกับเพื่อนๆ เป็นประจำ     มาปีนี้นายอรันอยากจะลองทำดีกับเขาดูบ้าง จึงขอหยุดงานโรงแรม และมาขับมอเตอร์ไซค์ส่งผู้โดยสารฟรีๆ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถึง 17.00 น. พร้อมติดป้ายไว้หน้ามอเตอร์ไซค์ว่า “9 มกราคม 2559 วันเกิดผม บริการส่งฟรี ทำดีอุทิศบุญให้แม่ วินมอเตอร์ไซค์ พัทยา สี่แยกทางรถไฟหนองเกตุใหญ่”   ทำดีไม่อายใครแบบนี้ เหมียวขอชื่นชมและป่าวประกาศให้โลกรับรู้เลยจ้า ที่มา tnews , 77jowo

เดี่ยวนี้มิจฉาชีพมักจะมีวิธีการใหม่ๆ มาใช้หลอกล่อหรือขโมยทรัพย์สินของเราได้แบบไม่รู้จบเลยทีเดียว ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการแฉวิธีการใหม่ๆ มาเตือนให้พวกเราระวังตัวกันอีกแล้ว     เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Palm Sittichai เป็นภาพของผลส้มที่ถูกวางเอาไว้กลายถนน ดูภายนอกแล้วอาจจะเป็นส้มธรรมดา แต่เมื่อดูใกล้ๆ จะพบว่ามันมีตะปูฝังอยู่ หากรถคันใดไปเหยียบเข้าอาจจะทำให้ยางรั่วจนเราต้องจอดรถ และกลายเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพได้     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “เตือนภัย …. !!! ระวังภัยรูปแบบใหม่ตะปูส้ม ขับรถบนถนน เจอส้มแบบนี้หลบหน่อยนะครับ”    โดยปกติวิสัยแล้ว หากเราเห็นสิ่งแปลกปลอมหล่นอยู่บนถนน เราก็จะขับรถเพื่อหลบหลีกมันไป แต่บางคนอาจจะชะล่าใจเห็นว่าเป็นเพียงผลส้ม เลยขับเหยียบมันไปก็ได้นะ ใครจะขับรถไปไหนไกลๆ หรือมืดๆ ค่ำๆ ก็ระวังตัวกันหน่อยนะจ๊ะ ที่มา Palm Sittichai

เป็นหนึ่งในเรื่องราวชวนปวดหัวเรื่องใหม่สำหรับวันนี้เลยก็ว่าได้ (หลังจากที่เมื่อวานมีกระแสหนุ่มเกียร์ R ไปหมาดๆ) สำหรับกรณีของมนุษย์ป้ารายหนึ่งที่โวยวายกลางรถโดยสาร เหตุเพียงเพราะมีคนมานั่งตรงเก้าอี้ข้างๆ เธอเท่านั้น!?   เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้ทีการแชร์คลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊กเพจ ติดตาม จราจร หัวโปก เผยให้เห็นคุณป้ารายหนึ่งกำลังตะโกนโหวกเหวกโวยวายอยู่บนรถเมล์ หลังจากที่มีคุณลุงคนหนึ่งเดินไปนั่งเก้าข้างๆ เธอ     ทั้งนี้ยังมีข้อความประกอบคลิปด้วยว่า “ดูเอาละกันใครผิดใครถูก เพลียจิต ป้าขึ้นรถเมย์สาย 6 ขึ้นมาจากบุคโลขึ้นมานั่งแล้วเอาร่มวางที่นั่งข้างๆ แล้วมีลุงแก่ๆ ขึ้นมาแล้วก็ไม่ยอมเอาร่มออก กระเป๋ารถเมย์เลยเดินมาบอกกับป้าดีๆ ว่าให้เอาร่มออกหน่อยหลังจากนั้นก็ดูในคลิปเลยครับท่านผู่ชม”   ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย #มนุษย์ป้าป่วนอีกแล้วววววว !!!!! ดูเอาละกันใครผิดใครถูก เพลียจิต ป้าขึ้นรถเมย์สาย6ขึ้นมาจากบุคโลขึ้นมานั่งแล้วเอาร่มวางที่นั่งข้างๆแล้วมีลุงแก่ๆขึ้นมาแล้วก็ไม่ยอมเอาร่มออก กระเป๋ารถเมย์เลยเดินมาบอกกับป้าดีๆว่าให้เอาร่มออกหน่อยหลังจากนั้นก็ดูในคลิปเลยครับท่านผู่ชม ——————————— เครดิต@ Fah Pornsawan Posted by ติดตาม จราจร หัวโปก on 8 มกราคม 2016   รถโดยสารเป็นพื้นที่สาธารณะนะ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงมาก ก็แบ่งๆ กันนั่งเนอะ…แต่ตอนนี้…เหมียวแสบหูมากเลยอะ…

การทำศัลยกรรมบนใบหน้านั้นถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เพราะมันคือสิ่งที่อยู่บนใบหน้า ไม่ว่าจะไปไหนทำอะไร คนก็มักจะมองหน้าก่อนเป็นอันดับแรก หากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา มันจะต้องติดอยู่บนใบหน้าของคุณตลอดไปทีเดียว     และเพื่อเป็นการเตือนสติสาวๆ ที่คิดจะสักคิ้วถาวรบนใบหน้า วันนี้แอดเหมียวก็เลยมีกรณีตัวอย่างของคุณ สุมาลี เหมือนเงา มาเล่าสู่กันฟังล่ะ โดยเธอได้ไปสักคิ้วถาวรมาจากร้านแห่งหนึ่ง แต่แทนที่จะได้คิ้วที่สวยงามตามแบบที่เธออยากได้ เธอกลับได้คิ้วหนาดำปื๊ดแบบชินจังมาแทน (คงพอนึกออกนะ)     เมื่อเห็นดังนั้นเธอจึงเกิดอาการเครียดจัดจนคิดอยากฆ่าตัวตายเลยทีเดียว แต่หลังจากนั้นไม่นานเจ้าตัวก็ได้อัพเดทผ่านเฟซบุ๊กของเธอว่าทางร้านสักได้ขอรับผิดชอบแก้คิ้วเดิมให้ โดยการใช้น้ำกรดลบคิ้วออก   แต่ดูเหมือนจะหนักกว่าเก่า เพราะมันทำให้เกิดรอยแผลลึกรอบๆ คิ้วของเธอ จนมีสภาพแย่กว่าตอนแรกซะอีก เจ้าตัวจึงอัดคลิปวิดีโอออกมาเตือนใจสาวๆ ที่คิดอยากจะสักคิ้วว่าควรคิดให้ดีๆ ก่อนจะทำ     ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า   สาวๆ คนไหนเห็นแล้วอยากจะไปลองสักคิ้วถาวรดูบ้าง เหมียวเองก็คงห้ามไม่ได้นะ แต่ก็เลือกหมอเลือกคนทำดีๆ หน่อยละกัน เพราะถ้าพลาดแล้วมันพลาดเลยนะจ๊ะ ที่มา สุมาลี เหมือนเงา

หลังจากที่มีข่าวคราวว่านาย วัชชิระ สวัสดี ชายหนุ่มผู้โชคร้าย เดินตกท่อระบายน้ำของ กทม. ทำให้ได้รับบาดแผลที่ขาจนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล และเย็บแผลไปกว่า 100 เข็ม   ในระหว่างนั้นนาย เชาวฤทธิ์ ทรงนวรัตน์ ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ก็ได้ไปเยี่ยมและมอบเงินส่วนตัวให้จำนวน 3000 บาท และบอกว่าทาง กทม.ไม่มีระเบียบใดๆ ที่จะเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้เลย     ล่าสุดนายวัชชิระก็ได้อัพเดทผ่านเฟซบุ๊กของตัวเองว่า ตอนนี้ได้ตกลงเรื่องค่ารักษาพยาบาลกับทางสำนักงานเขตจตุจักรแล้วเรียบร้อย โดยทางสำนักงานเขตจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมด และได้รับการรักษาเป็นกรณีพิเศษจากโรงพยาบาลในเครือของกรุงเทพมหานคร     เพื่อนๆ สามารถติดตามอ่านแบบเต็มๆ ได้ที่โพสต์ของเจ้าตัวเลยนะ วันนี้ผมกับพ่อเข้าไปที่สำนักงานเขตจตุจักรเพื่อเจรจาอีกครั้ง วันนี้ได้ขอสรุปเป็นที่น่าพอใจครับ -ได้รับเงินเป็นค่ารักษาพย… Posted by วัชชิระ สวัสดี on 8 มกราคม 2016   หลังจากนี้เจ้าตัวบอกว่าจะขอคืนเงินที่ได้รับการเรี่ยไรให้กับทุกๆ คน และจะบวชทดแทนคุณพ่อแม่ต่อไป ที่มา วัชชิระ สวัสดี

ทำเอาเหมียวนี่อึ้งไปเลย เพราะโดยปกติแล้วเวลามีข่าวการจับกุมพ่อค้าแม่ค้ายาเสพติด เราก็จะได้เห็นชาวเน็ตในโลกออนไลน์พร้อมใจกันรุมประณามหยามเหยียดกับสิ่งเลวร้ายที่พวกเขาทำ แต่กับกรณีนี้กลับแตกต่างออกไป เพราะดันมีคนให้กำลังใจคนค้ายาเสพติดซะอย่างงั้น!?   เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอการจับกุมตัวแม่ค้ายาไอซ์ “โบว์ บางพระ” หรือ นางสาวจิดาภา ขันสุวรรณ วัย 20 ปี ได้ที่บริเวณถนนข้าวหลาม บางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี     ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพบของกลางเป็น ยาบ้าจำนวน 10 ถุง ๆละ 200 เม็ด รวม 2,000 เม็ด มูลค่า เจ็ดแสนบาท และยาไอซ์ จำนวน 24 ถุง รวมมูลค่าหนึ่งแสนบาท รวมทั้งหมดกว่าแปดแสนบาท     แต่หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป กลับมีชาวเน็ตจำนวนมากพากันเข้ามาแสดงความเห็นอกเห็นใจแก่แม่ค้ายาไอซ์รายดังกล่าว โดยมีหลายๆ ความคิดเห็นพยายามแก้ตัวให้กับเธอว่าอาจจะทำไปเพราะจนหรือหมดหนทางทำมาหากิน และอย่าไปซ้ำเติมเธอ เพราะหากวันใดที่คุณล้มแบบเขา คุณอาจจะถูกซ้ำเติมบ้างก็ได้!?   คนขายยามันผิดตรงไหน? เขาบังคับให้ซื้อเหรอ?   คนเรามันเดินหลงทางกันได้…

เชื่อว่าในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา น่าจะมีนักท่องเที่ยวจากจังหวัดต่างๆ เดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่กันมากมายเพื่อไปสัมผัสอากาศหนาว และจุดหมายปลายทางก็คงจะหนีไม่พ้นดอยอินทนนท์แน่นอน     แต่ดูเหมือนว่าอากาศที่นั่นจะยังไม่ค่อยหนาวสะใจคอนั่งท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ เพราะจากคำบอกเล่าของหลายๆ คนบ่นกันว่าปีนี้หนาวน้อยกว่าทุกปี แต่หากคุณยังอยากไปสัมผัสอากาศหนาว (จริงๆ) แล้วล่ะก็ ตอนนี้โอกาสของคุณมาถึงแล้ว     เพราะล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 มกราคม ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊กเพจ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นภาพถ่ายจากบนยอดดอยอินทนนท์ ที่มีอุณหภูมิต่ำสุดถึง -3 องศา จนมีน้ำค้างแข็งให้เห็น ถือเป็นอุณหภูมิที่ต่ำสุดในรอบปีเลยก็ว่าได้     ตามรายงานบอกว่าวันนี้ถือเป็นวันที่ 5 แล้วที่มีน้ำค้างแข็งเกาะอยู่ตามดอกไม้ใบหญ้า และรถของนักท่องเที่ยว ทำเอาผู้คนตื่นเต้นไปตามๆ กัน นอกจากนี้ยังมีการรายงานอุณหภูมิในพื้นที่ต่างๆ ด้วย เช่น กิ่วแม่ปาน 0 องศา และที่ทำการอุทยานฯ 6 องศา               โอ้โห คนกรุงอย่างเหมียวนี่อยากจะแว๊บขึ้นไปเดี๋ยวนี้เลย อยากไปสัมผัสอากาศหนาวจริงๆ บ้าง ที่มา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่…

แอดเหมียวเชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักเจ้าพ่อรายการเกมโชว์อย่าง ปัญญา นิรันดร์กุล หรือที่ใครหลายๆ คนมักเรียกเขาว่าเสี่ยตาๆ นั่นเอง     คุณปัญญานั้นเป็นพิธีกรวาไรตี้เกมโชว์มาหลากหลายรายการ แถมยังเป็นผู้บริหารบริษัท Work Point Entertainment ที่มีรายได้เป็นพันล้าน ทำให้ทุกคนต่างคิดว่าเจ้าตัวจะต้องมีวิถีชีวิตที่หรูหราไฮโซแบบมหาเศรษฐีคนอื่นๆ     แต่ในความเป็นจริงแล้วคุณปัญญานั้นใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายมากๆ ทั้งอยู่กับหลาน เลี้ยงไก่ ทำสวน เหมือนกับชาวบ้านทั่วๆ ไปเลย ซึ่งภาพทั้งหมดนี้ถูกเผยแพร่ผ่าน IG @phanya_ni ของเขาเองด้วย ลองไปชมภาพได้ที่ด้านล่างเลย                     แม้จะมีเงินทองมากแค่ไหน แต่ความสุขของเราก็มีเท่านี้ล่ะนะ แอดเหมียวขอเอาคุณปัญญาเป็นแบบอย่างเลย ที่มา phanya_ni

งานนี้ทำเอาสาวๆ ที่รักสวยรักงาม (และการศัลยกรรม) ถึงกับกรีดร้องเลยทีเดียว เพราะกรมสรรพพากรได้ออกมาแจงแล้วว่า การเสริมดั้ง เสริมจมูก และศัลยกรรมสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ แต่ต้องทำกับสถาบันเสริมความงามภายนอกเท่านั้น หากทำกับโรงพยาบาลจะไม่สามารถลดหย่อนได้   เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ได้ออกมาอธิบายถึงการลดหย่อนภาษีดังกล่าวว่าการทำศัลยกรรมที่จะได้รับการลดหย่อนภาษีนั้นจะต้องทำกับสถานบันเสริมความงายภายนอกเท่านั้น เพราะโรงพยาบาลนั้นจะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่แล้ว     แต่หากใช้บริการของสถาบันเสริมความงามที่มีการจดภาษีมูลค่าเพิ่ม จะสามารถนำใบเสร็จมาลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้นายประสงค์ยังบอกด้วยว่าการลดหย่อนภาษีครั้งนี้จะครอบคลุมไปถึงการนวดหน้า นวดตัว หรือการทำสปาได้ด้วย     ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการนำใบเสร็จมาลดหย่อนภาษีจะต้องทำตั้งแต่วันที่ 25-31 ธันวาคม 2558 นี้เท่านั้นนะ เกินกว่านี้ไม่สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้แล้วนะ ใครที่กำลังเล็งๆ อยู่ก็รีบโทรสอบถามสถาบันความงามได้เลยนะจ๊ะ ที่มา matichon

ใกล้ช่วงเทศกาลเข้าไปทุกทีๆ แต่ละบ้านก็คงจะเตรียมงานฉลองหรือปาร์ตี้วันหยุดยาวด้วยการออกไปซื้อขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่จะซื้อทั้งทีก็ต้องดูกฎหมายดีๆ ด้วยนะ เพราะไม่งั้นคุณอาจโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจปรับเอาง่ายๆ แบบเรื่องราวที่เหมียวจะให้ดูต่อไปนี้ก็ได้     เรื่องราวที่ว่านี้ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Chaiwat Neung โดยเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความเตือนแก่ชาวเน็ต เกี่ยวกับการขนเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอลขึ้นรถ ว่าหากจะขนขึ้นรถด้วยจะต้องมีปริมาณไม่เกิน 10 ลิตร หากเกินกว่านั้นจะถูกปรับลิตรละ 10 บาท     ทั้งนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “เตือนภัย ขนเหล้าเบียร์เกิน 10 ลิตรปรับลิตรละ 10 บาท ผมนี่โดนไป 6,360 บาท ข้อหาขนเครื่องดื่มไม่ได้รับอนุญาต ใครจะไปรู้ว่าซื้อเบียร์แค่ 2 ลังก็โดนจับ งันไม่ต้องไปนั่งรอหน้าบริษัทเบียร์เหรอ”     หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเน็ตหลายรายถึงกับตกใจเกี่ยวกับข้อกฎหมายดังกล่าว ในขณะที่สมาชิกบางคนได้เข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ. สุรา พ.ศ. 2493 ที่กำหนดเอาไว้ว่าห้ามมิให้มีการขนสุราเกิน 10 ลิตรขึ้นไป หากเกินกว่านั้นจะต้องมีใบอนุญาตไปด้วย     ข้อกฎหมายนี้เหมียวเองก็เพิ่งรู้เหมือนกันนะเนี๊ยะ ถือเป็นตัวอย่างให้กับขาดื่มในช่วงเทศกาลนี้ก็แล้วกันนะ ที่มา Chaiwat Neung

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ช่วงเวลาประมาณ 13.30 ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข่าวเกี่ยวกับการจากไปของมือกีต้าร์ระดับตำนานอย่างน้าน้อย เจริญชัย สมผลึก วัย 54 ปี หนึ่งในสมาชิกวงมาลีฮวนน่า ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน     ตามรายงานบอกว่าเจริญชัยได้มีอาการหัววายเฉียบพลัน ขณะพักผ่อนอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพร ก่อนที่จะขึ้นแสดงคอนเสิร์ตในงานเทิดพระเกียรติเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และงานรวมใจชาวชุมพรที่บริเวณโครงการแก้มลิงหนองใหญ่ในคืนนี้     เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยผ่านนายคฑาวุธ ทองไทย หรือ ไข่ มาลีฮวนน่า เจ้าตัวเล่าว่าเมื่อช่วงเช้าวันนี้ตนเองกำลังจะชวนนายเจริญชัยออกไปทานอาหารข้างนอก แต่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ตนเองจึงเปิดเข้าไปและพบว่านายเจริญชัยนอนหมดสติอยู่กับพื้น จากนั้นจึงรีบนำตัวนายเจริญชัยส่งโรงพยาบาล แต่แพทย์กลับระบุว่านายเจริญชัยได้เสียชีวิตลงแล้ว   หลังจากที่เรื่องราวของน้าน้อยถูกเผยแพร่ออกไปในเฟซบุ๊ก สมาชิกในโลกออนไลน์ก็ต่างพากันเข้ามาโพสต์ข้อความไว้อาลัยให้แก่ศิลปินผู้ล่วงลับ พร้อมบอกว่าจะจดจำเสียงเพลงและผลงานตลอดไป       แอดเหมียวขอแสดงความเสียใจแก่การจากไปของศิลปินระดับตำนาน พวกเราจะจดจำผลงานของน้าน้อยตลอดไป ที่มา วงมาลีฮวนน่า

เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของคนขับรถแท็กซี่รายหนึ่ง ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ สุวรรณฉัตร พรหมชาติ เป็นคลิปขณะที่คนขับแท็กซี่กำลังอุ้มผู้โดยสารชายชราคนหนึ่ง ที่ท่าทางอ่อนแรงไปส่งที่บ้านในซอยลึก     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “ทุกๆบุญ ที่ผมได้ลงมือทำ ขอให้ผู้ร่วมบุญปิดทองหลังพระ ชีวิตมีแต่ความสุข ความเจริญครับ รู้วันหมอนัด จองคิวเลยครับ 087-331-5421 ไปและกลับฟรีครับ”           หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีสมาชิกในโลกออนไลน์พากันกดไลค์และกดแชร์อีกมากมาย ทั้งนี้ยังมีข้อความอวยพรให้แก่คนขับแท็กซี่อย่างล้นหลามทีเดียว     แม้จะเป็นความดีเล็กๆ แต่เหมียวก็อยากจะส่งต่อให้เพื่อนๆ ชาวเหมียวได้อ่านกัน จะได้เห็นว่าสังคมนี้ยังไม่แล้งน้ำใจเสมอไปยังไงล่ะ ที่มา สุวรรณฉัตร พรหมชาติ

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ไอ’แอม โอปาร์ โดยเจ้าตัวเล่าว่าตนเองได้ทำกระเป๋าสตางค์หล่นที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ในอ.เมือง จ.พะเยา แต่มีคนสติไม่ดีนำมาคืน เจ้าตัวเลยตอบแทนโดยการซื้อน้ำให้เป็นการตอบแทน     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “สินน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ให้คนดีที่ยังมีอยู่ในสังคม คือเรื่องมีว่า เราทำเงินหล่น มันก็ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ นะ พี่คนนี้เขาสติไม่ดี หรือที่เขาเรียกกันว่าคนบ้า พี่เขาเห็นเราทำเงินหล่น พี่เขาเลยเก็บเอามาคืนให้”     ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ก็มีชาวเน็ตรายหนึ่งเข้ามาให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับลุงรันว่า ลุงรันอาศัยอยู่บริเวณตลาดสดท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา มาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน     ใครที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้น ถ้าเจอลุงแกก็สามารถให้น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ แก่ลุงแกด้วยนะ คนดีๆ แบบนี้สังคมควรยกย่องล่ะ ที่มา ไอ’แอม โอปาร์

เป็นธรรมดาที่เรามักจะได้เห็นเหตุการณ์ขโมยขึ้นบ้านของใครสักคนเพื่อลักทรัพย์ภายในบ้าน จนเราต้องมีการแจ้งความกันให้วุ่นวาย แต่ถึงขนาดที่ว่ามีขโมยมาขึ้นบ้านถึง 9 ครั้ง แบบสาวคนนี้ เหมียวว่าน่าเหนื่อยใจจริงๆ นะ   เรื่องราวที่เหมียวจะมานำเสนอในวันนี้เป็นเรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่ถูกขโมยขึ้นบ้านถึง 9 ครั้ง จนเจ้าตัวทนไม่ได้ เลยต้องทำป้ายไวนิลขนาดใหญ่มาติดที่หน้าบ้านเพื่อแจ้งให้คุณโจรทราบว่าบ้านหลังนี้โดนขโมยขึ้นมาหลายครั้งแล้ว จึงอยากจะขอให้คุณขโมยไปขึ้นบ้านหลังอื่นบ้าง     โดยในป้ายมีข้อความว่า “ถึงคุณโจร…คุณโจรขา กรุณาไปขโมยบ้านอื่นบ้างเถอะค่ะ บ้านนี้หมดเกลี้ยงแล้ว ไม่มีอะไรให้ขโมยแล้ว ขโมยมาแล้วตั้ง 9 ครั้ง ขอให้เป็นเลขมงคลสุดท้ายเถอะนะคุณขโมย”     ล่าสุดเจ้าของบ้านได้รายงานเพิ่มเติมว่า ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบพื้นที่และบ้านหลังดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งเชิญเจ้าของบ้านไปให้ปากคำที่สถานีต่อไป       หากคุณขโมยเห็นข้อความของบ้านหลังงนี้แล้ว ขอให้หยุดขโมยเขาได้แล้วนะ สงสารเขาบ้างเนาะ แต่ถ้าจะให้ดีเลิกเป็นขโมยแล้วไปหางานทำจะดีกว่านะ ที่มา facebook

แม้ว่าชาวกรุงจะมีโอกาสได้สัมผัสกับความหนาวเพียงไม่กี่วันต่อปี แต่กับเด็กๆ บนดอยแล้ว ฤดูหนาวถือเป็นฤดูที่ทรมานสุดๆ เลยก็ว่าได้     เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของเด็กๆ บนดอย ขณะยืนเข้าแถวเคารพธงชาติในสภาพอากาศที่หนาวจัดถึง 9 องศา พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “ภาพเพิ่มเติมของเด็ก ๆ ที่ ‘โรงเรียนบรรพตวิทยา’ ยังขาดแคลนเครื่องนุ่งห่ม เสื้อกันหนาวอยู่นะครับ”      “ท่านใดพอมีก็ช่วยกันแบ่งปันไออุ่นให้น้องๆ กันได้ครับ ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แล้วแวะไปที่โรงเรียนได้ครับ อยู่ใกล้ๆ กับ ‘ดอยผาตั้ง’ ได้ไปเที่ยวที่สวยๆ แวะไปแบ่งปันไออุ่นให้น้องๆ กันครับ ‎เปิดแอร์แค่ 25 องศายังหนาวเลย‬ ‎แต่ที่นี่ 9 องศาคิดดูว่าหนาวแค่ไหน‬ แบ่งปันไออุ่นให้น้องๆ ด้วยครับ”‬     ทั้งนี้โรงเรียนบรรพตพิทยาตั้งอยู่ที่ 32 หมู่.14 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย 57310  อยู่ใกล้กับดอยผาตั้ง มีนักเรียนทั้งหมดประมาณ 450 คน และเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น…

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่แอดเหมียวอ่านแล้วรู้สึกประทับใจมากเลย สำหรับเรื่องของพี่ยามคนหนึ่งจากบริษัท Toyota ที่ลงทุนต่อม้านั่งให้คนที่มารอขึ้นรถเมล์ได้นั่งกัน เพราะที่ป้ายรถเมล์ไม่มีเก้าอี้ให้นั่งกัน     เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า อรเฉยๆ อรเฉยๆ โดยมีข้อความระบุว่า “ใครรู้คำตอบบ้างช่วยบอกที ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ทำไมมันไม่มีที่พักผู้โดยสาร แบบเป็นทางการทุกป้าย มันมีเฉพาะบางป้ายที่ห้างร้านบริษัทเมตตาอนุเคราะห์ให้”     “แต่แล้วใครมันมาเอาออก แล้วให้ผดส.ยืนรอขาแข็งแทน คืออยู่แถวนี้มาก็นานเกือบ10ปีละ บางป้ายก็ทำเต็นท์แบบชั่วคราวให้ สังเวชใจในกทม.จัง ฝนตกทีก้อยืนเบียดกัน”     แต่โชคดีที่มีรปภ.น้ำใจยามคนหนึ่งจากบริษัท Toyota ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ลงทุนต่อม้านั่งด้วยตัวเอง แล้วนำมาวางที่ป้ายรถเมล์ พร้อมกับติดป้ายไว้ว่า “อยากให้ทุกคนได้นั่งพัก ด้วยความหวังดี จาก คุณฐิติวัชร์ อัครทวีจิรโชติ รปภ.บริษัท TOYOTA ทำด้วยใจ + ตั้งใจทำ”     หลังจากที่ภาพชุดนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้สมาชิกในโลกออนไลน์ต่างพากันชื่นชมในความมีน้ำใจของคุณฐิติวัชร์ มาก พร้อมทั้งต่อว่าเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้   พร้อมกันนี้ยังมีความเห็นที่น่าสนใจของคุณ โน้ตโลโซ โน้ต โลโซ ปากน้ำสมุทรปราการ ที่บอกว่าบริเวณนั้นเคยมีเก้าอี้ตั้งอยู่ในช่วงปี 2548 –…

ดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่สายการบินต่างๆ ปรับลดราคาตั๋วเดินทางโลว์คอสลงมา อยู่ในระดับที่นักเดินทางสามารถซื้อได้ง่ายขึ้น คนบางกลุ่มก็เลือกที่จะไม่ขึ้นรถทัวร์อีกเลย เพราะมีราคาที่ใกล้เคียงกันแต่ใช้เวลาในการเดินทางมากกว่า     ล่าสุดทางนครชัยแอร์ได้ปรับกลยุทธใหม่ โดยการสร้างโรมแรมโลว์คอสเพื่อไว้บริการนักเดินทางระหว่างจังหวัดต่างๆ โดยนางเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เปิดเผยว่าเตรียมทุ่มงบ 50 ล้านบาทเปิดตัวโรงแรม 3 แห่ง เช่นในกรุงเทพฯ ขอนแก่นและอุบลราชธานี     โดยโรงแรมจะมีทั้งหมด 30-50 ห้อง เน้นสะดวกสะอาดและประหยัด โดยจะเริ่มเปิดให้บริการในช่วงกลางปี 2559 เป็นต้นไป เพื่อกระตุ้นรายได้ที่เริ่มซบเซาให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งนี้นครชัยแอร์ได้ตั้งเป้าปี 2559 เอาไว้ว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 5% หรือคิดเป็น 1,900 ล้านบาท และจะขยายเส้นทางในภาคอีสานอีก 2-3 เส้นทาง   เราคงต้องติดตามกันต่อไปล่ะว่าโรงแรมโลว์คอสที่ว่านี้จะมีหน้าตายังไง และจะสามารถดึงให้คนกลับมาเดินทางด้วยรถทัวร์ได้หรือไม่ ที่มา nakhonchaiairclub

กลายเป็นเรื่องราวที่มีการแชร์กันอย่างมากมายในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมาเลยทีเดียว สำหรับกรณีของคุณครูโหด ที่ใช้สันหนังสือฟาดท้ายทอยเด็กนักเรียนจนเลือดกำเดาไหล สาเหตุเพียงเพราะไม่ได้ตัดเล็บ!?   เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Chomphunut Bunsophap ซึ่งเป็นคุณแม่ของเด็กนักเรียนสาว โดยเจ้าตัวได้เล่าว่าเมื่อเวลาประมาณ 13.30 นาฬิกาของวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ตนเองได้รับโทรศัพท์จากลูกสาว     โดยบอกว่าเธอถูกคุณครูใช้สันหนังสือฟาดเข้าที่ท้ายทอยจนเลือดกำเดาไหล สาเหตุเพียงเพราะว่าเล็บยาวเกินไป ทำให้มีอาการมึนหัวและเจ็บหน้าอก จนต้องไปนอนที่ห้องพยาบาล แต่ดูเหมือนว่าจะมีอาการเจ็บหน้าอกมากขึ้น ทำให้คุณแม่ต้องรีบไปรับลูกสาวไปส่งโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต เพื่อตรวจหาความผิดปกติทางร่างกาย       หลังจาดที่ข้อความของคุณแม่รายนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างแสดงความไม่พอใจในพฤติกรรมของคุณครู พร้อมระบุว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ อยากให้คุณครูที่มีพฤติกรรมแบบนี้ถูกฟ้องร้องและลงโทษทางวินัย     ทั้งนี้คุณแม่ได้เผยว่าล่าสุดลูกสาวอาการดีขึ้นแล้ว และจะทำการฟ้องร้อง เพื่อเป็นตัวอย่างในการยั้งคิดยั้งทำ ในการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุอีกด้วย ที่มา Chomphunut Bunsophap , kapook

หลังจากที่เมื่อวันสองวันที่ผ่านมา มีข่าวว่าพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ผุดไอเดีย ที่จะให้ระบุอาชีพและรายได้ลงไปในบัตรประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มีรายได้น้อย ได้เข้ารับบริการต่างๆ ที่ทางรัฐเตรียมไว้ให้ ทำให้รัฐสามารถจัดสรรงบประมานได้ถูกต้อง     แต่ดูเหมือนว่าในโลกออนไลน์จะมีกระแสต่อต้านนโยบายดังกล่าวอย่างหนักหน่วง และมีการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา เกี่ยวกับสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวของประชาชน เพราะหากมีการระบุรายได้ อาจทำให้เกิดการแบ่งชนชั้นและเป็นอันตรายต่อผู้ถือบัตรได้   นอกจากนี้ยังได้มีการติดแฮชแท็ก #สิ่งที่ควรระบุในบัตรประชาชน เพื่อสอบถามความคิดเห็นของแต่ละคน ว่าหากไม่ระบุอาชีพและรายได้ เราควรระบุอะไรลงไป? ทำให้ชาวทวิตเตอร์ต่างร่วมกันแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย   ระบุข้อมูลทางการแพทย์   ยาที่แพ้และโรคประจำตัว   ยาว…   มีรายได้สูงเป็นอันตรายไหม?   อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เงินเดือน   ควรทำให้สมาร์ทการ์ดใช้การได้   แบบเดิมดีอยู่แล้ว   ทำให้ทุกบัตรรวมอยู่ในบัตรเดียว   อาชีพเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน   แยกสีบัตรไปเลย   บริษัทพ่อแม่จำกัด   ควรให้ประชาชนถ่ายรูปเองได้…   แล้วพวกคุณล่ะ อยากให้ระบุอะไรลงไปในบัตรประชาชน? ร่วมแชร์ความคิดเห็นกันได้นะ ที่มา ฮิปสเตอร์ไปฆ่าพ่อมึงเหรอ , #สิ่งที่ควรระบุในบัตรประชาชน

กลายเป็นเรื่องราวดีๆ ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในขณะนี้เลยล่ะ สำหรับเรื่องราวของวินมอเตอร์ไซค์รายหนึ่งที่สามารถเก็บทองและเงินจำนวนมากของลูกค้ารายหนึ่งได้ แต่แทนที่จะเชิดเอาทรัพย์สินทั้งหมดไป เขากลับมีน้ำใจตามหาลูกค้าจนเจอและนำมันไปคืนให้กับเจ้าของ     เรื่องนี้ถูกแชร์ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Wirat Sawangarom เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีข้อความว่า “เมื่อเช้าไปตลาดวัดตะกล่ำ จะไปจ่ายค่าไฟและเปลี่ยนสร้อยข้อมือที่ชำรุด แขวนกระเป๋าตังค์ไว้หน้ามอเตอร์ไซค์ กระเป๋าร่วง มารู้ตัวอีกทีที่ตลาด” “รีบขับรถกลับไป มีคนบอกวินมอไซค์ชื่อมานพเก็บได้ รีบตามไป พบคุณมานพกำลังไล่บ้านเลขที่ตามบิลค่าไฟฟ้าของเรา เพื่อจะเอากระเป๋ามาคืน ซาบซึ้งในน้ำใจพี่เขาจริงๆ ให้รางวัลพี่เขาไปเล็กน้อย กลับบ้านไปเอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปพี่เขา”   “ประชาสัมพันธ์ความดีของพี่มานพ ขับวินมอไซค์หน้าวัดตะกล่ำ เบอร์ 4 คนนี้ ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ!! เรื่องและภาพ : เครือวัลย์ จ้อยศรีเกตุ”   หลังจากที่เรื่องราวของพี่มานพถูกแชร์ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากพากันเข้ามาแสดงความเห็นและชื่นชมในความซื่อสัตย์ของพี่มานพเป็นอย่างมาก และอวยพรขอให้มีความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปด้วย     ทำดีงี้เหมียวขอชื่นชมเลย อยากให้มีคนแบบพี่มานพเพิ่มขึ้นเยอะๆ เลยนะ ที่มา Wirat Sawangarom

หลังจากวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอการรุมทำร้ายร่างกายของกลุ่มวัยรุ่น 6 คน ที่รุมสกรัมนายกฤษดา อ่อนน้อม วัย 19 ปี บริเวณข้างถนนจนเสียชีวิต โดยมีหญิงสาวยืนอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย     แต่หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงหญิงสาวที่ปรากฏในคลิป ว่าทำไมเธอถึงยืนดูเหตุการณ์เฉยๆ ไม่รู้สึกตกใจอะไรเลย ทำให้บางคนได้ตั้งข้อสังเกตว่าเธออาจเป็นนางนกต่อที่ล่อให้นายกฤษดา มาติดกับก็เป็นได้     ล่าสุดหญิงสาวที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กของเธอ โดยมีใจความว่าตนเองนั้นแม้จะยืนนิ่งก็จริง แต่ก็ได้ใช้เสียงตะโกนห้ามกลุ่มวัยรุ่นแล้ว แต่ไม่สามารถทำอะไรได้   และหากจะเข้าไปห้ามด้วยตัวเองก็คงทำไม่ได้เช่นกัน เพราะเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว ในขณะที่อีกฝ่ายมีอาวุธครบมือ นอกจากนี้เธอยังทิ้งท้ายไว้ด้วยว่าไม่ต้องการอะไร แค่อยากออกมาพูดความจริงเท่านั้น     ยังไงแล้ว เหมียวขอให้ทุกคนใจเย็นๆ อย่าเพิ่งไปกล่าวโทษเธอเลยนะ แค่เธอไม่โดนลูกหลงไปด้วยก็ถือว่าดีมากแล้วล่ะ ที่มา รักเธอประเทศไทยน่ะ

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม เว็บไซต์ Herkid ได้เผยแพร่ภาพบทสนทนาหนึ่ง ของหญิงสาวปริศนาที่ส่งข้อความไปหาชาวเน็ตคนอื่นๆ เพื่อยกลูกชายวัย 4 ขวบให้ ด้วยสาเหตุที่ว่าลูกชายนั้นดื้อเกินไป และตนเองได้สามีใหม่แล้ว!?     เรื่องราวทั้งหมดถูกเผยแพร่ผ่านชาวเน็ตรายหนึ่งที่เข้ามาโพสต์ข้อความในกรุ๊ป Herkid รวมพลคนเห่อลูก เป็นภาพบทสนทนาของหญิงสาว 2 คน พร้อมกับข้อความว่า “ขออนุญาตแอดมินนะคะ ไม่คิดมาก่อนว่าจะได้มาเจออะไรแบบนี้ค่ะ”   “มีใครได้รับข้อความขอยกลูกให้อย่างเราไหมคะ สรุปเด็กคนนั้นจะเป็นยังไง แม่เด็กคิดอะไรของเขากันนะ ขออนุญาติเพิ่มเติมนะคะ มีคุณแม่หลายท่านให้ความเห็นว่าน่าจะเป็นลูกติดสามีเก่าน่ะค่ะ ถึงกระนั้นก็ยังคิดว่า ไม่สมควรยกให้ใครง่ายๆ เขาไม่ใช่สิ่งของ”     หลังจากที่ข้อความของคุณแม่ใจยักษ์ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้สมาชิกในกลุ่ม Herkid รวมพลคนเห่อลูก เข้ามาแสดงความเห็นและต่อว่าหญิงสาวปริศนากันอย่างมากมาย พร้อมกับบอกว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องมีความอดทน ไม่ว่าลูกจะดื้อแค่ไหนก็ต้องสอนเขาให้ได้     ลูกทั้งคนจะมายกให้คนอื่นง่ายๆ แบบนี้ได้ไง ที่มา herkid

เนื่องในโอกาสที่วันนี้เป็นวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม จึงมีเหล่าผู้ให้บริการขนส่งบางคนขอแสดงตัว ออกมาทำอะไรดีๆ เพื่อพ่อหลวงกันบ้างล่ะ   เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 5 ธันวาคม ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของวินมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่ ที่ติดป้ายให้บริการฟรีเนื่องในวันพ่อ ทำเอาชาวเน็ตถึงกับชื่นชมในความมีน้ำใจของพวกเขาเลย   โดยภาพของวินมอเตอร์ไซค์นั้นถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้ทวิตเตอร์ @nat_jojoe3411 ถ่ายได้ในเขตจตุจักร พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “วินมอเตอร์ไซค์เขตจตุจักรให้บริการฟรีวันพ่อ โดยพิมพ์หลังเสื้อ ‘วิ่งฟรีเพื่อพ่อ’ น่ารักจริงๆ”     อีกกรณีหนึ่งเป็นเรื่องราวของคนขับแท็กซี่รายหนึ่ง ป้ายทะเบียน 1มก 5656 กรุงเทพมหานคร ที่มีน้ำใจ ติดป้ายไว้ที่หลังรถโดยระบุข้อความว่า “วันนี้วันพ่อครับผม วันนี้บริการนั่งฟรีครับผม ถวายพ่อหลวงครับผม ผมรักพ่อหลวงครับ (ชีวิตนี้ขอทำดีถวายพ่อหลวงครับผม จากเด็กบ้านนอก)”       ใครที่ต้องเดินทางในเมือง หากเจอพี่วินและพี่คนขับแท็กซี่ ก็สามารถเรียกใช้บริการพวกเขาได้นะจ๊ะ ที่มา NationTV 22 , @nat_jojoe3411

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา โลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอหนึ่งผ่านเฟซบุ๊กเพจ Chotipat Mitkachornkiat เป็นคลิปของชายร่างท้วมรายหนึ่งขณะขับขี่มอเตอร์ไซค์พร้อมสวมหมวกกันน็อค   ต้นเรื่องได้เล่าว่าชายคนดังกล่าวได้ขี่มอเตอร์ไซค์มาเฉี่ยวรถยนต์ของพวกเขาย่านวิภาวดีรังสิต แต่อ้างว่ารถยนต์ของเขาไปชนเข้ากับมอเตอร์ไซค์ก่อน ชายร่างท้วมจึงพยายามเรียกร้องค่าเสียหาย โดยตลอดการพูดคุย ชายท้วมได้ใช้คำพูดที่หยาบคาย และด่าทอแบบเสียๆ หายๆ     สุดท้ายทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันว่าจะไปที่โรงพยาบาลและชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ในระหว่างทาง มอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวกลับไปเฉี่ยวชนเข้ากับรถยนต์อีกคันหนึ่ง พร้อมกับเรียกร้องค่าเสียหายกับรถคันนั้นด้วย   แต่เมื่อพวกเขาขับรถตามไป ชายร่างท้วมกลับขี่มอเตอร์ไซค์หนีไปหน้าตาเฉย ซึ่งเมื่อทางเจ้าของเรื่องได้เข้าไปสอบถามยังรถอีกคัน จึงได้ความว่าเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันกับตนเอง จึงสันนิษฐานไว้ว่าอาจเป็นพวกมิจฉาชีพ แกล้งเฉี่ยวชนเพื่อหลอกเอาเงินนั่นเอง   ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง เตือนภัย+แค้น!! คาด’เป็นมิจฉาชีพ..เที่ยวชนเพื่อกรรโชกค่าเสียหาย (4/12/58) ::–> เตือนภัย+แค้น!! คาด’เป็นมิจฉาชีพ..เที่ยวชนเพื่อกรรโชกค่าเสียหาย (4/12/58) <–:: โดย[@Chotipat Mitkachornkiat]_ได้โพสต์ไว้ว่า: มีเรื่องเตือนภัย ทุกๆคนที่ได้ดูคลิปนี้ !!! #อ้วนตบทรัพย์ สืบเนื่องจาก ได้เดินทางเส้นทาง วิภาวดี รังสิต ช่วงที่ขับรถถึงประมาณดอนเมือง รถค่อนข้างที่จะติด พอ้คลื่อนตัวได้ สักพักนึงมีเสียงชนกับ มอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง ค่อนข้างเบา ระหว่างนั้นคนในรถค่อนข้างตกใจ สักพักนึง…

เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของคุณยายท่านหนึ่งที่ถูกทิ้งไว้ที่สถานีขนส่งจังหวัดเชียงราย แถมตามร่างกายยังมีแผลฟกช้ำ โดยคุณยายอ้างว่าโดนลูกสาวทำร้ายร่างกาย โชคดีที่มีวัยรุ่นสาวผ่านมาเห็นพอดี เลยให้ความช่วยเหลือแก่คุณยายทันที     เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Mild Mintz เผยให้เห็นภาพหญิงชรารายหนึ่งพร้อมกับข้อความว่า “ยายสุข ใจปินตา บ้านแม่คำ แกบอกว่าลูกสาวซื้อตั๋วรถจากเชียงใหม่แล้วมาทิ้งยายไว้ที่ขนส่งเชียงราย ยายมีแผลฟกช้ำ โดนลูกสาวทำร้ายร่างกายทุบแล้วเข้าหญ้าข้างทาง”   “ยายแก่จำอะไรไม่ค่อยได้ ช่วยตามหาหน่อยค่ะ คือเห็นใจยายมากถูกทิ้งไว้ที่ขนส่งยายไม่รู้จะไปไหน ช่วยตามหาหน่อยค่ะ ช่วยแชร์หน่อยค่ะ”       หลังจากที่ภาพและข้อความดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันสงสารและเข้ามาแสดงความเห็นอกเห็นใจอย่างมากมาย ทั้งนี้เจ้าของภาพยังได้เข้ามาตอบความเห็นแก่ทุกๆ คนด้วยว่า ล่าสุดไปซื้ออาหารให้คุณยาย และตอนนี้ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้ามารับช่วงต่อแล้ว     ล่าสุดคุณยายได้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายและอาการบาดเจ็บที่ข้อมือแล้วด้วย         หลังจากนี้เราก็ติดตามกันต่อไปนะฮะ ว่าจะมีอะไรคืบหน้า เรื่องราวจะจบยังไงเหมียวจะคอยเกาะมาฝากกันฮะ!! ที่มา Mild Mintz

กำลังเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีของเมียน้อยที่ส่งข้อความมาราวีอดีตภรรยา หลังจากที่ได้สามีของเธอไปแล้ว แถมยังบอกด้วยว่าอยากได้ลูกชายของเธอไปเป็นคนใช้ ทำเอาชาวเน็ตถึงกับเดือดดาลแทนเลยทีเดียว   เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Suthasinee Pathompatvorakul เป็นภาพบทสนทนาของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่ส่งข้อความมาหาเธอ พร้อมกับข้อความเยาะเย้ยที่สามารถแย่งชิงสามีของเธอไปได้ พร้อมทั้งอวดว่าสามีที่เธอได้ไปนั้นเอาอกเอาใจเธอเต็มที่       ทั้งนี้ยังมีข้อความต่อท้ายด้วยว่า “เห็นว่าเลี้ยงลูกไม่ไหว เอามาก็ได้ค่ะ กำลังอยากได้คนใช้ จะสงเคราห์ให้ค่ะ” ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันโกรธแค้นแทนหญิงสาวและส่งข้อความต่อว่าเมียน้อยกันยกใหญ่   หลังจากที่ภาพและข้อความดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นและให้กำลังใจเธออยู่ไม่น้อย พร้อมทั้งมีการก่นด่าและสาปแช่งเธอจากชาวเน็ตอีกมากมาย “กับเด็กยังคิดร้ายได้ จิตใจทำด้วยอะไร” “คนแบบนี้ไม่มีวันเจอความรักดีๆ”     ที่มา Suthasinee Pathompatvorakul

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอหนึ่ง ของกลุ่มนักเรียนนักศึกษากลุ่มหนึ่ง ที่พากันไปทำกิจกรรมริมทะเล แต่กิจกรรมของพวกเขาจัดว่าโหดร้ายทีเดียว จนชาวเน็ตถึงกับเอ่ยปากว่า นี่รับน้องหรือค่ายทะหารอิรัก?   คลิปวิดีโอดังกล่าวเผยให้เห็นภาพของเหล่าวัยรุ่นกำลังยืนอยู่ริมทะเล โดยรุ่นพี่บังคับให้รุ่นน้องอมของกินไว้ในปาก จากนั้นก็ให้คายใส่ปากของคนอื่นต่อไปเรื่อยๆ ทำเอาผู้ชมถึงกับขยะแขยงเลยทีเดียว     นอกจากนี้ยังมีภาพกิจกรรมในวันนั้นเพิ่มเติมอีก เป็นภาพที่รุ่นพี่กำลังจุดไฟเผาก้นของรุ่นน้อง เพื่อสร้างความสนุกสนานเฮฮาให้กับตัวเอง       ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง รับน้องโหด รักคนไหนให้คนนั้น !!! (30/11/58)::–> รับน้องโหด รักคนไหนให้คนนั้น !!! (30/11/58) <–:: CREDIT: www.facebook.com/PangPondSiamGear ************************* ขอบคุณคลิปแนะนำจาก––@村上佐藤 Posted by YouLike ”คลิปเด็ด” on 30 พฤศจิกายน 2015   หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ก็ทำให้ชาวเน็ตพากับวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง โดยบางคนตั้งข้อสังเกตว่า หากมีใครเป็นโรคร้ายแรง การส่งต่อของกินด้วยปากแบบนี้ อาจทำให้เกิดโรคติดต่อก็ได้   จะทำกิจกรรมอะไรก็ให้อยู่ในขอบเขตนะ เกิดน้องๆ เป็นอะไรขึ้นมา…

หลังจากกลายเป็นข่าวอยู่พักหนึ่ง สำหรับเรื่องราวสุดจินตนาการของ “คุณมัด” ที่ อ.จารย์แบงค์ สื่อกรรม สื่อวิญญาณ กล่าวอ้างว่า เห็นวิญญาณตนนี้ยืนอยู่บนเตียงของคุณปอ ทฤษฎี ทำให้มีอาการป่วย ล่าสุดดูเหมือนว่าวิญญาณตนดังกล่าว อาจจะไม่ใช่วิญญาณจริงๆ ซะแล้วล่ะ   เพราะเฟซบุ๊กเพจ คุณมัด ได้เผยแพร่ภาพการ์ตูนจากเรื่อง Hercules จากค่าย Marvel โดยเป็นภาพของตัวละครหนึ่งที่ชื่อว่า The Mut ที่ทางเพจอ้างว่า อาจเป็นต้นแบบให้กับผี “คุณมัด” ก็เป็นได้   และนี่คือหน้าตาของปีศาจ The Mut ในการ์ตูน Hercules ล่ะ   นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเผยออกมาจากเพจคุณมัดอีกว่า ก่อนหน้าที่ อ.แบงค์ จะวาดรูปวิญญาณคุณมัดให้กับปอ ทฤษฎี เขาเคยวาดรูปคล้ายกันนี้ให้กับคนที่มาขอความช่วยเหลือจากเขาเมื่อปี 2014 เช่นกัน   พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “จริงๆ แล้วจารย์แบงค์วาดรูปมานานแล้วตั้งแต่ปี 2014 ตกลงมัดคนนี้เป็นมัด v.28 อะเปล่า?”     ที่มา คุณมัด

เมื่อเร็วๆ นี้แอดเหมียวได้เห็นเพื่อนๆ แชร์คลิปๆ หนึ่งผ่านหน้าวอลเยอะมาก เป็นคลิปของพ่อหนุ่มคนหนึ่งที่ทำอาชีพส่งพิซซ่า ขณะเดินเข้าไปยังร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อน้ำให้คนจรจัด แม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่เหมียวก็รู้สึกดีและอยากให้เพื่อนๆ ได้รู้สึกแบบเดียวกันล่ะ   คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Pao Mongkol เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เผยให้เห็นภาพของชายหนุ่มสวมเสื้อแขนยาวของร้านพิซซ่าแบรนด์หนึ่ง กำลังเดินเข้าไปยังร้านสะดวกซื้อ และเลือกซื้อน้ำเพื่อนำมันมาให้กับคนจรจัดที่นั่งอยู่ด้านหน้าร้าน   ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย ”เรายังมีงานทำ แต่เขาไม่มีแม้แต่ที่นอน”::–> ”เรายังมีงานทำ แต่เขาไม่มีแม้แต่ที่นอน” เด็กส่งพิซซ่ากล่าว… <–:: CREDIT: web.facebook.com/100002318506054/videos/922062904547651/ ************************* ขอบคุณคลิปแนะนำจาก––@Pao Mongkol Posted by YouLike (คลิปเด็ด) on 26 พฤศจิกายน 2015   หลังจากที่คลิปนั้นถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันแสดงความชื่นชมในน้ำใจของเด็กส่งพิซซ่าอย่างมากมาย แต่ในขณะเดียวกันกลับมีคนบางกลุ่มมองว่านี่อาจเป็นการสร้างภาพ หรือการโฆษณาแฝงก็เป็นได้   สำหรับเหมียวแล้ว จะทำดีเพราะอยากทำดี หรือทำดีเพราะสร้างภาพ ยังไงผลสุดท้ายมันก็คือทำดีล่ะนะ ดีกว่าอยู่เฉยๆ มันก็ไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ล่ะจริงไหม ที่มา Pao Mongkol

กลายเป็นภาพที่มีการส่งต่อกันในโลกออนไลนอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับภาพของการดาษคำตอบรูปแบบใหม่จากมหาวิทยาลัยราชภัฎแห่งหนึ่ง ที่อาจทำให้นักศึกษางงกันเป็นแถบๆ เพราะเปลี่ยนรูปแบบเป็นวงกลม ช่วยให้การลอกข้อสอบนั้นเป็นเรื่องที่ยากขึ้นไปอีกขั้น   ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านสมาชิกเว็บไซต์ Dek-d รายหนึ่ง พร้อมกับข้อความว่า “บอกเลยว่า ถ้าไม่มีหัวกระดาษ ฝนไป เมาไป แน่ๆ” ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันสงสัยว่ากระดาษคำตอบแบบนี้จะสามารถป้องกันการลอกได้จริงหรือ?     หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีสมาชิกในเฟซบุ๊กเข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย บางความเห็นกล่าวว่ากระดาษแบบนี้ไม่ได้เพิ่งมีใช้กัน แต่เริ่มใช้กันมาหลายปีแล้ว ในขณะที่บางคนบอกว่าเป็นเรื่องไร้สาระ และไม่สามารถป้องกันการลอกได้   ที่มา dek-d , kapook

แม้ทุกวันนี้จะยังไม่มีผลงานเปรี้ยงปร้างออกมาให้แฟนๆ ได้ชมกันเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าร็อคเกอร์อย่าง เสก โลโซ ยังคงไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหน แต่ยังคงวนเวียนอยู่ในสื่อให้เราได้เห็นหน้าเห็นตาตลอด แถมยังผุดโปรเจ็คธุรกิจออกมาแบบไม่ขาดสายเลยทีเดียว   และกว่าที่เขาจะมาถึงจุดนี้ได้นั้น ก็ต้องอาศัลการสั่งสมประสบการณ์และผ่านอะไรหลายๆ อย่างมาแล้ว ถึงวันนี้ทำให้เสกเกิดนึกถึงความหลัง ครั้งยังเป็นร็อคเกอร์หนุ่ม ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน เสกเลยขุดเอาภาพสมัยเมื่อตอนที่เขาอายุได้ 23 ปีมาให้แฟนๆ ได้ชมกัน ขอบอกว่าหน้าตาเปลี่ยนไปมาทีเดียวล่ะ       นอกจากนี้ยังมีข้อความระบุด้วยว่าภาพดังกล่าวถูกถ่ายที่ Tower of London ประเทศอังกฤษนั่นเอง           หลังจากที่ภาพนี้ถูกแชร์ออกไปได้ไม่นาน ก็มีเหล่าแฟนคลับต่างพากันเข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างสนุกสนาน โดยมีหลายๆ ความเห็นจากแฟนคลับบอกด้วยว่า ใบหน้าตอนหนุ่มของเขามีลักษณะคล้ายกับ “เป้ อารักษณ์” อดีตสมาชิกวง Slur ยังไงยังงั้นเลย       แหม่ ก็ผ่านมาเป็นไม่รู้กี่ปีแล้ว ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันบ้างเป็นธรรมดา จริงไหมล่ะเฮีย ที่มา SEK LOSO

กลายเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันในโลกอินเตอร์เน็ตอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีการขึ้นป้ายเตือนชาวสหรัฐและสหภาพยุโรป ไม่ให้รบกวนการเมืองภายในประเทศไทย ทำเอาชาวเน็ตถึงกับถามว่า “แค่นี้ภูเก็ตยังเงียบไม่พออีกเหรอ?”     เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก Chanin Klayklung ได้เผยแพร่ภาพป้ายผ้าใบที่ถูกถ่ายได้ในจังหวัดภูเก็ต โดยมีข้อความว่า “สหรัฐและสหภาพยุโรปกรุณาเคารพประเทศของเราด้วย อย่ายุ่งกับการเมืองของประเทศไทย”     หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงป้ายข้อความดังกล่าว โดยมีชาวเน็ตจำนวนหนึ่งบอกว่าการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตนั้นใช่ว่าจะดีเหมือนแต่ก่อน การกระทำแบบนี้เท่ากับทำให้ระบบเศรษฐกิจยิ่งแย่กว่าเดิม     ในขณะที่บางความเห็นได้กล่าวติดตลกว่า หากภูเก็ตไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยว ขอให้มาเที่ยวที่จังหวัดของตนเองได้     ที่มา Chanin Klayklung

หลังจากที่เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก IceLing Rawisara ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของชายคนหนึ่ง ขณะลงไปในแม่น้ำเพื่อหาเศษเหรียญในกระทง ทำเอาชาวบ้านถึงกับเซ็งเพราะเห็นกระทงของตัวเองคว่ำลงไปต่อหน้าต่อตา     ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ เทศบาลเมืองพะเยา ได้รายงานว่าเมื่อเวลา 13.30 นาฬิกา นางสาวจุฬาสินี พรหมเผ่า นายกเทศมนตรีเมืองพะเยา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.เมืองพะเยา ได้แถลงข่าวว่าสามารถตามตัวชายคนดังกล่าวมาได้แล้ว   ตามรายงานบอกว่าชายหนุ่มนามสมมุติชอ ได้ลงไปเก็บเศษเหรียญจากกระทงในกว๊านพะเยา สาเหตุเพราะว่าเจ้าตัวต้องนำเงินไปซื้อนมให้ลูกน้อยวัย 4 เดือนได้กิน ทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและความรู้สึกของนักท่องเที่ยว     ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการสั่งปรับแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงการกล่าวตักเตือนเท่านั้น ทางด้านชาวเน็ตเองก็ได้แสดงความเห็นในเชิงเห็นใจชายหนุ่มเป็นจำนวนมาก พร้อมกับบอกด้วยว่าถือเป็นการทำบุญ เพราะถึงจะใส่เศษเหรียญลงไป แต่เมื่อกระทงจมน้ำเศษเงินนั้นก็ไม่สามารถทำประโยชน์ให้ใครได้อยู่ดี     คนไทยเรามีน้ำใจอยู่แล้ว ที่มา IceLing Rawisara , เทศบาลเมืองพะเยา

หลังจากที่ก่อนหน้านี้กลายเป็นประเด้กให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักถึงความอนาจารย์และความไม่สร้างสรรค์ สำหรับกรณีของรายการทางอินเตอร์เน็ต ที่เหล่าไอดอลสาวพากันออกล่าน้ำอสุจิกันกลางสยาม ล่าสุดพวกเธอได้ออกมากล่าวขอโทษผ่านตอนที่ 2 ของรายการแล้ว     ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ช่องยูทูบ MEMO Channel ก็ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอตอนที่ 2 ของรายการสุดฉาว ในชื่อตอนว่า แอบแกล้งเหยื่อให้แฟนสาวหึง จนหัวใจแทบวาย     โดยในตอนต้นรายการ พิธีกรสาวชื่อเจเล่ ก็ได้ออกมากล่าวขอโทษผ่านรายการ “ก่อนอื่นต้องขอโทษสังคมนะคะ ขอโทษกับทุกคนกับสิ่งที่เจเล่ทำสิ่งไม่ดีหรือว่าพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมลงไป”       ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเน็ตบางคนคิดว่าการขอโทษในครั้งนี้ยังไม่ถือเป็นการขอโทษที่จริงใจ เพราะระหว่างที่พิธีกรกล่าวขอโทษนั้นยังแสดงสีหน้าท่าทางที่ยังไม่สลดเท่าที่ควร เหมือนกับการ ขอโทษแบบส่งๆ     ที่มา MEMO Channel

ต้องกลายเป็นข่าวให้เราได้เห็นกันทุกปีๆ จริงๆ เกี่ยวกับกรณีของการปล่อยโคมลอย ที่หลายครั้งมักจะไปตกใส่บ้านของคนอื่นๆ ทำให้เกิดเพลิงไหม้และความเสียหายอยู่หลายครั้ง และแม้ว่าวันลอยกระทงของปีนี้จะยังมาไม่ถึง แต่ก็มีข่าวโคมลอยตกใส่บ้านคนอื่นมาให้เห็นกันแล้วล่ะ     เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของคุณ นาเซ เฉลิมชัย ได้โพสต์ภาพลงในกลุ่ม รวมพลคนเกษตรพอเพียง เป็นภาพซากโคมลอยกำลังไหม้อยู่บริเวณรั้วเล้าไก่ แต่โชคดีที่ไก่ทั้งหมดช่วยกันส่งเสียงร้อง ทำให้เจ้าของเห็นความผิดปกติและเข้ามาดูเหตุการณ์     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “กลับมาจากที่ทำงาน โคมลอยใครมาตกใส่เล้าได่เรานิ เกือบได้กินไก่ย่างพนักว่าตัวแล้ว ดีนะน้องไก่พากันร้องประสานเสียง บอกสิ่งผิดปกติที่แท้เจ้านี่เอง”     หากใครคิดจะปล่อยโคมลอยในปีนี้อาจจะต้องคิดให้ดีๆ สักนิดนึง เพราะในปีนี้มีการคุมเข้มเรื่องการปล่อยโคม และมีกการสั่งห้ามปล่อยโคมในหลายๆ พื้นที่ ยังไงแล้วก็ช่วยๆ กันนิดนึงนะจ๊ะ ที่มา รวมพลเกษตรพอเพียง , kapook

ถือเป็นภาพน่ารักๆ ที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบัน สำหรับการเขียนกลอนและวาดภาพน่ารักๆ เพื่อส่งกำลังใจให้ผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวอยู่ มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น และคนที่ต้องการกำลังใจที่สุดในตอนนี้ก็เห็นจะหนีไม่พ้นหนุ่มปอ ทฤษฎี สหวงษ์ ที่กำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีนั่นเอง     ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ทางเฟซบุ๊กเพจ ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ ก็ได้เผยแพร่ภาพวาดน่ารักๆ และกลอนเพราะๆ จากแฟนคลับรุ่นจิ๋วชั้น ป.4 จากโรงเรียนสาธิตละอออุทิศ กรุงเทพฯ ที่ส่งแรงใจมาให้ดาราหนุ่มพ้นจากอาการเจ็บป่วย     แม้จะวาดสวยบ้างไม่สวยบ้าง แต่กลอนได้คล้องจองบ้างไม่คล้องบ้าง แต่น้องๆ เขาก็ทำด้วยความตั้งใจเลยนะ เอาล่ะ เราลองไปอ่านบางส่วนจากบทกลอนที่พวกเขาส่งถึงพี่ปอกันดูนะ                 กำลังใจท่วมท้นขนาดนี้ รีบๆ ตื่นแล้วมาตอบแทนแฟนคลับรุ่นจิ๋วพวกนี้เร็วๆ นะพี่ปอ ที่มา ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ

สำหรับใครที่เป็นพ่อเป็นแม่คน และมีลูกตัวน้อยที่ต้องคอยดูแลอยู่ล่ะก็ เหมียวอยากจะให้คุณได้ชมคลิปต่อไปนี้มาก เพราะมันจะทำให้คุณไม่อยากที่จะละสายตาจากลูกๆ ของคุณอีกเลย     คลิปที่จะให้ดูต่อไปนี้ถูกเผยแพร่ผ่านช่องยูทูบ SSHEsociety เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นหนังสั้นที่ใช้ชื่อว่า “อย่าละสายตาแม้แต่วินาทีเดียว” ภายในคลิปเผยให้เห็นเรื่องราวของสองแม่ลูก ในขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่ในสวนสาธารณะ     แต่ในระหว่างที่แม่กำลังยุ่งอยู่กับการคุยโทรศัพท์นั้นเอง ลูกสาวของเธอกลับหายตัวไปอย่างลึกลับ ทำให้เธอต้องเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อออกตามหาลูกสาว       ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   จากการตรวจสอบข้อมูลจากมูลนิธิกระจกเงาพบว่า สถิติเด็กหายในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีเด็กหายไปแล้วกว่า 2,841 คน เป็นชายทั้งหมด 1,049 คน และเป็นหญิงกว่า 1,778 คน และเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 มีเด็กหายตัวไปแล้วกว่า 300 คน     เห็นตัวเลขแบบนี้แล้วตกใจเลยใช่ไหมล่ะ คราวหน้าหากจะไปที่ไหน อย่าปล่อยให้ลูกของคุณอยู่ห่างจากสายตาเด็ดขาดนะ ที่มา SSHEsociety , thairath

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา มีสมาชิกเว็บไซต์เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า นางฟ้า ลดโลกร้อน ได้โพสต์ข้อความลงบนหน้าวอลของเฟซบุ๊กเพจ กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (คสช.) โดยมีข้อความเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ขึ้นเงินเดือนให้แก่เหล่าทหาร เป็น 15,000 ตามเกณฑ์เงินเดือนขั้นต่ำ     ทั้งนี้เธอยังได้ระบุถึงสาเหตุที่เรียกร้องให้ขึ้นเงินเดือนมาด้วย 3 ข้อ 1. ทหารเป็นอาชีพมีเกียรติที่สุด สมควรที่จะต้องได้รับค่าตอบแทนที่ดี 2. เงินเดือนทหารยศขั้นต่ำจะต้อง15,000บาท 3. เพิ่มงบประมาณกลาโหมให้มากกว่าเดิม     หลังจากที่ข้อความนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างมาก เกี่ยวกับถ้อยคำที่เธอสื่อสารออกมา อย่างเช่นความเห็นในเว็บไซต์ Postjung ได้มีชาวเน็ตกล่าวว่า ทุกอาชีพมีความเท่าเที่ยมกัน และเงินเดือน 15,000 นั้นเป็นไปได้ยาก อีกทั้งยังบอกด้วยว่ากระทรวงกลาโหมนั้นมีงบมากพออยู่แล้ว     และนี่คือภาพเปรียบเทียบงบประมาณของกระทรวงกลาโหมตั้งแต่ปี 2548 – 2558 จะเห็นได้ว่างบประมาณมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2558 นั้นอยู่ที่ 193,066 ล้านบาท มากที่สุดในรอบ 10 ปีเลยก็ว่าได้ ที่มา กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย

วงการศัลยกรรมในประเทศไทยนั้น ต้องบอกว่าก้าวไปไกลจริงๆ จนถึงขั้นมีทัวร์จากต่างประเทศพากันมาที่ไทย เพื่อมาเสริมความงามเลยทีเดียว และการทำศัลยกรรมนี้เองก็สามารถเปลี่ยนชีวิตของคนคนหนึ่งให้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือได้อย่างเหลือเชื่อเลย     อย่างเช่นกรณีของน้อง “ต้อมมี่” หนุ่มผู้มีใจเป็นหญิง แต่ด้วยหน้าตาธรรมดาๆ จนได้รับฉายาจากเพื่อนๆ ว่า “อีกปลวก” เธอได้ฮึดสู้ต่อคำครหา และหันมาดูแลตัวเอง และเข้าคอร์สเสริมความงาม จนเปลี่ยนให้เธอกลายเป็นสาวสวยระดับนางแบบเลยทีเดียว     หลังจากที่เรื่องราวของเธอเริ่มโด่งดังในอินเตอร์เน็ต ทำให้เธอออกมาโพสต์ข้อความขอบคุณทุกคำติชมที่แต่ละคนส่งไปหาเธอ โดยเธอเล่าเพิ่มเติมอีกว่าเธอเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ทางครอบครัวยังไม่เปิดรับ จึงเก็บเป็นความลับมาตลอด จนมาเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองชอบอะไรเมื่อตอน ม.4 เธอจึงเริ่มเก็บเงินตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา     เราลองไปชมภาพความเปลี่ยนแปลงของน้อยต้อมมี่ จากอดีตถึงปัจจุบันกันเลยจ้าา                                 อู้หูววว นี่เธอสวยขึ้นจนเหมียวจำภาพแรกของเธอไม่ได้เลยนะเนี๊ยะ ถ้าจะบอกว่าคนละคนก็เชื่ออยู่นะ ที่มา ต้อม มี่

แอดเหมียวต้องบอกเลยว่าตอนนี้ “ผีคุณมัด” ที่เริ่มเป็นที่รู็จักโดย อ.แบงค์ สื่อกรรมสื่อวิญญาณ ตอนนี้เลยคำว่า “ผี” ไปไกลแล้ว   เพราะล่าสุดเมื่อช่วงดึกของวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของคุณ บีเกิ้ลวิ่งไป ไข่สบัด ได้โพสต์ภาพการออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์ผีคุณมัด ในอารมณ์ต่างๆ สร้างความตลกขบขันให้แก่ชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “ตี 3 คืนนี้มาช่วยกันนั่งสมาธิยันเช้า ส่งกระแสจิตไปยัง LINE Corporation ให้สติ๊กเกอร์ชุด ‘คุณมัด’ นี้ผ่านไปได้ด้วยดีด้วยเถอะ ไอเดียเกิดตอนหกโมงเย็น รีบปั่นเลย”     หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันฮากลิ้งเลยทีเดียว ทั้งนี้ยังมีความเห็นหนึ่งของคุณ Premsit Y. Wanitthaya ได้กล่าวแบบติดตลกว่า “ระวังโดนคุณแบงค์ฟ้องเรียกค่าลิขสิทธิ์นะฮะ แล้วคุณมัดด้วยระวังแกไปหานะฮะ แกตัวหนักนะ ทับอกแล้วจุกเลย”       เหมียวนี่อยากโหลดขึ้นมาทันทีเลย ที่มา บีเกิ้ลวิ่งไป ไข่สบัด

หลังจากที่โด่งดังในโลกออนไลน์มาได้สักพัก เธกก็เริ่มก้าวขึ้นมาเป็นเน็ตไอดอล และกลายเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาให้กับผลตภันฑ์มากมาย เช่น เมจิไพเกน และเลย์ สำหรับสาว พิมฐา ฐานิดา เพราะด้วยความน่ารักสดใสบวกกับการถ่ายภาพอย่างมีไสตล์ของเธอ ทำให้ยอดคนติดตามใน IG พุ่งสูงเกือบ 2 ล้านคนแล้ว     ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในเว็บไซต์ Twitter ได้มีการแชร์ภาพในอดีตของสาวพิมฐา สมัยที่ยังเล่น Hi5 ออกมาให้พวกเราได้ชมกัน เหมียวต้องบอกเลยว่าหลังจากที่ได้ดูแล้ว ยิ่งหลงรักสาวคนนี้เข้าไปใหญ่ เพราะเธอน่ารักมาตั้งแต่สมัยโน้นแล้วนั่นเอง     สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักเธอ เหมียวจะเล่าคร่าวๆ ว่าเธอเป็นสาวเชียงใหม่ จบชั้นมัธยมจากโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย จากนั้นไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Ritsumeikan Asia Pacific University             จะสมัยก่อนหรือสมัยนี้ เหมียวว่าเธอก็ไม่ได้ต่างกันเลย น่ารักทั้งคู่ งานนี้เหมียวขอเขียนใบสมัครเป็นแฟน เอ้ย เป็นแฟนคลับด้วยคนนะ ที่มา @freudd , pimtha

ป่วยไปอีกรายแล้ว สำหรับหนุ่มไมค์ พิรัชต์ ที่เพิ่งจะสึกออกมาได้ไม่นาน และเดินทางไปถ่ายภาพกับคู่จิ้นอย่างสาวออม สุชาร์ ที่พม่า ก็มีข่าวคราวว่าหนุ่มไมค์ป่วยหนักจนต้องหามส่งโรงพยาบาลไปอีกคนแล้ว     เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยผ่าน IG ของแม่ตุ๊ก ปราศรัย คุณแม่ของหนุ่มไมค์ เผยให้เห็นภาพของนักร้องหนุ่มขณะนอนป่วยอยู่บนเตียงคนไข้ พร้อมกับข้อความว่า “ชายไมค์ลำไส้ใหญ่อักเสบมีไข้คลื่นไส้ทานอะไรไม่ได้ถ่ายหมดแรงเลยต้องพึ่งน้ำเกลือ”       งานนี้แฟนคลับคงต้องส่งแรงเชียร์ให้พ่อไมค์หน่อยนะจ๊ะ ที่มา instagram

ยังคงมีประเด็นให้พูดถึงอยู่ตลอดเวลา สำหรับกรณีของนักแสดงหนุ่ม ปอ ทฤษฎี ที่นอนป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาล และในช่วงเวลาแบบนี้เองก็มักจะมีเหล่าหมอดูและนักทำนายทายทักมากมาย ต่างใช้โอกาสนี้ออกมาทำนายอนาคตของหนุ่มปอ   บ้างก็บอกว่าสามารถรู้อนาคตของเขาได้ บ้างก็บอกว่ามีกรรมต้องรีบบวชให้ จนทำให้เหล่าแฟนคลับหลายๆ คนต่างหันหน้าไปพึ่งความเชื่อเหล่านั้นกันอย่างมากมาย จนส่งผลให้แอดมินแฟนเพจ ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวไปด้วย     โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 พฤศจิกายน เฟซบุ๊กเพจ ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ ได้โพสต์ข้อความระบายความในใจ เกี่ยวกับประเด็นที่มีลูกเพจบางคนส่งข้อความไปต่อว่าแอดมิน ว่าทำไมถึงไม่โพสขอบคุณหมอดูสื่อกรรมท่านหนึ่ง เพราะเห็นว่าหมอดูท่านั้นอุตส่าห์นั่งทำสมาธิเรียกดวงจิตของหนุ่มปอกลับมาให้   งานนี้ทำเอาแอดมินถึงกับทนไม่ไหว ต้องออกมาชี้แจงเลยว่า “เรื่องบาป เรื่องบุญ เรื่องของกุศล ผมเชื่อครับ แต่เรื่องหมอดูผมไม่เชื่อครับ” พร้อมกันนี้ยังบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็นเสมอไป   หลังจากที่ข้อความของแอดมินเพจ ปอ ทฤษฎีถูกแชร์ออกไป ทำให้เหล่าแฟนคลับต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย อย่างเช่นคุณ Eve Patchree กล่าวว่าเห็นด้วยกับแอดมิน เพราะคิดว่าความเห็นของหมอดูไม่ได้เป็นผลดีกับตัวดาราเลย   ต่อมาคุณ โฟล์ค’ คนเดิม’มม ก็ได้กล่าวว่า “คนที่ช่วยพี่ปออะคือคณะแพทย์ ใม่ใช่ใอ้อ.แบงค์อะใรนั้นเลย” จากนั้นก็มีชาวเน็ตอีกหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกันอีกมากมาย   งานนี้แฟนคลับหนุ่มปอ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร แสดงความคิดเห็นกันมาได้นะจ๊ะ ที่มา ปอ…

กลายเป็นเรื่องราวฮือฮาพอสมควร สำหรับกรณีของวัดพุน้อยชัยมงคลในจังหวัดลพบุรี ที่สามารถรวบรวมเงินจากการทอดกฐินได้อย่างมหาศาลถึง 27 ล้านบาท จนต้องระดมทีมอาสามาช่วยกันนับเงินกันแบบข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว     เมื่อช่วงคำของวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ เรารัก”ลพบุรี” ได้เผยแพร่ภาพกองเงินจำนวนมาก ที่ได้จากงานจุลกฐินสามัคคีของวัดพุน้อยชัยมงคล อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี จนต้องระดมจิตอาสากว่า 100 คนเพื่อมาช่วยกันนับเงินที่เหล่าผู้มีจิตศรัทธานะเงินมาถวาย     ตามรายงานบอกว่าจิตอาสานั้นเริ่มนับเงินตั้งแต่ช่วงเวลา 21.00 ของวันที่ 15 พฤศจิกายน ไปจนถึงวันที่ 16 พฤศจิกายนก็ยังไม่เสร็จดี จนทางธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านหมี่ ต้องส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยนับเงินอีก 4 คนพร้อมกับเครื่องนับเงิน จนสามารถสรุปยอดทั้งหมดได้ที่ 27,098,290 บาท     แหม่ แรงศรัทธาของวัดนี้เขารุนแรงจริงๆ เลยนะเนี๊ยะ ที่มา เรารัก”ลพบุรี”

หลังจากที่เหมียวได้รายงานข่าวไปเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า มีนักท่องเที่ยวฝ่าฝืนคำสั่งของการรถไฟฯ ที่ติดป้ายเตือนเหล่านักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยัง แกรนด์แคนยอนชลบุรี เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยวไปถ่ายรูปและนั่งเล่นบนรางรถไฟด้วย     ล่าสุดในวันที่ 17 พฤศจิกายน ทางการรถไฟฯ ได้ออกมาประกาศแล้วว่าไม่ให้ประชาชนเข้าไปเที่ยวในบริเวณดังกล่าว พร้อมทั้งนำป้ายมาปิดประกาศอย่างชัดเจน ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างพากันเสียดาย เพราะถือเป็นสถานที่ที่สวยงามและสามารถพักผ่อนหย่อนใจได้     พร้อมกันนี้ยังรณรงค์ให้ช่วยกันรักษาความสะอาดด้วย เพราะสถานที่ท่องเที่ยงในชลบุรีนั้นมีน้อยอยู่แล้ว จึงอยากให้ทางการรถไฟฯ โปรดพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง   เป็นไงล่ะ เขาติดป้ายเตือนแล้วไม่ฟังกัน แต่เหมียวเองก็รู้สึกเสียดายเหมือนกันนะ อยากไปสัมผัสด้วยตัวเองเหมือนกัน ที่มา springnews

ถึงจะมีตัวอย่างให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ เกี่ยวกับกรณีการจัดฟันเถื่อนแล้วฟันล้ม ฟันเน่า บางคนถึงขั้นติดเชื้อจนเสียชีวิตมาแล้วก็มี แต่ก็ยังคงมีพ่อค้าแม่ค้าจอมโลภ ที่หวังจะหลอกเอาเงินจากคนไม่รู้ โดยการนำรีเทนเนอร์แบบผิดกฎหมายมาขายอยู่เป็นประจำ   ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของแม่ค้าขายรีเทนเนอร์เถื่อนในเฟซบุ๊กได้โพสต์ข้อความต่อว่าหมอฟันและผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายว่า “แม่ค้าก็เปรียบเหมือนสายการบิน Low Cost ส่วนพวกหมอฟันเหมือนการบินไทย เรามันคนละตลาดกัน” พร้อมกับบอกว่า “อย่าขัดแข้งขัดขากันเลยค่ะ”     ต่อมาในวันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของแม่ค้ารายดังกล่าวก็ได้โพสต์ข้อความว่าตอนนี้รีเทนเนอร์เถื่อนที่เธอขายอยู่ ได้ถูกส่งออกไปขายยังประเทสเพื่อนบ้านแล้ว ทั้งยังบอกว่า “หมอฟันแค่กั๊กไว้รวยเฉพาะพวกหมอฟัน แม่ค้ามาปลดแอกแล้วค่ะ”     อะไรของคุณครับคู๊ณณณณณณ ตรรกะอะไรจะวิบัติขนาดนี้ ที่มา dodeden

ยังคงน่าเป็นห่วง สำหรับอาการป่วยของหนุ่มปอ ทฤษฎี โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่าหนุ่มปอมีเกล็ดเลือดต่ำมาก จนต้องขอรับบริจากกันผ่าน IG ของ Porthrisadeeofficial โดยมีข้อความที่อ้างถึงคุณอาน้ำอ้อย ว่าตอนนี้ทางโรงพยาบาลรามาฯ ได้ขอรับบริจาคเลือดกรุ๊ปโอ เพื่อนำมาทำเกล็ดเลือดให้หนุ่มปอ   ทั้งนี้ยังมีเพื่อนๆ ในวงการช่วยกันแชร์ข้อความดังกล่าวมากมาย รวมไปถึงนักแสดงรุ่นน้องอย่างสาวเมญ่า นนธวรรณ ทองเหล็ง ก็ออกมาช่วยอีกแรง     แต่เมื่อสอบถามไปทางโรงพยาบาลรามาฯ กลับพบว่าทางโรงพยาบาลไม่ได้เป็นผู้ออกประกาศดังกล่าว แต่คาดกันว่าข้อความทั้งหมดน่าจะมาจากญาติของปอเอง ซึ่งตอนนี้ทีมแพทย์ได้มีการเปลี่ยนแปลงวิธีรักษาแล้ว และอยากให้แฟนๆ ทุกคนอย่างเพิ่งตื่นตกใจและติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด     ยังไงก็ติดตามข่าวของหนุ่มปอไว้เรื่อยๆ นะ เหมียวขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองหนุ่มปอด้วยนะ ที่มา maeyagirl , kapook

กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าจับตามองอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับแกรนแคนยอนคีรี ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เพราะเป็นแอ่งน้ำที่มีทะเลสาบอันสวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวอยากจะไปสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก     แต่เนื่องจากยังไม่มีอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยแบบเต็มรูปแบบ นายนพคุณ แซ่ตั๊น กำนัน ต.ห้วยกะปิ จึงได้ออกมาประกาศให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังตัวในการลงไปถ่ายภาพ เพราะอาจเกิดอันตรายได้     แต่ถึงแม้จะมีป้ายเตือนติดไว้มากมาย แต่ก็ยังคงมีประชาชนจำนวนมากแห่กันไปท่องเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสาย     ทั้งนี้เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้ทวิตเตอร์ @LOMTaLay_BB พร้อมกับข้อความว่า “การรถไฟฯ ประกาศเตือนเป็นพื้นที่อันตราย แต่คนยังเข้ามาเที่ยว มาถ่ายรูปกันคึกคัก #แกรนด์แคนยอนชลบุรี”         ใครจะไปเที่ยวก็ระวังหน่อยนะจ๊ะ หรือถ้าใครไม่รีบ ก็รอให้เขาสร้างที่กั้นอะไรให้เรียบร้อยก่อนก็ได้นะ ที่มา ประชาชล

เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของคุณ Worawit Sosut ได้เผยแพร่ภาพของระเบียงหอสมุดปรีดี พนมยงค์ ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมกับระบุว่ามีหญิงสาวตกจากระเบียงดังกล่าว คาดกันว่าน่าจะเป็นการลื่นตกลงมาเอง     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “ล่าสุดมีคนตกจากระเบียงนี้ลงไปข้างล่างครับ ตอนนี้กำลังเรียกรถพยาบาล ขออนุญาตไม่ถ่ายรูปคนตกนะครับ ให้เกียรติคนเจ็บ ตอนนี้รถพยาบาลยังไม่มาเลย ล่าสุดรถโรงบาลมารับออกไปแล้ว ญาติบัณฑิตพรุ้งนี้ระวังด้วยนะครับ”     ในช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงของการรับปริญญาของมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ หากนิสิตนักศึกษาคนไหนอยากจะถ่ายภาพสวยๆ งามๆ เก็บไว้ดูแล้วล่ะก็ ขอให้ระมัดระวังตัวกันนิดนึงนะ ไม่งั้นอาจเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ก็เป็นได้ ที่มา Worawit Sosut  

ทุกครั้งที่มีข่าวว่าใครได้รับความเดือดร้อน เป็นต้องมีเหล่ามิจฉาชีพออกมาฉวยโอกาสนี้เพื่อกอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวเองทุกที อย่างล่าสุดกับกรณีของดาราหนุ่ม ปอ ทฤษฎี ที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกจนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล   แต่ก็ยังไม่วาย มีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นแฟนคลับหรือคนในครอบครัว ออกมาเรี่ยไรเงินเพื่อนำไปช่วยสมทบทุนค่ารักษาตัวของดาราหนุ่ม แต่ความจริงแล้วกลับนำเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง     จนเฟซบุ๊กเพจ ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ ทนไม่ได้ ต้องออกมาแสดงตัวและแจ้งให้แฟนๆ ทราบว่าไม่มีการเรี่ยไรเงินใดๆ ทั้งนั้น หากพบเจอกรณีแบบนี้อีกให้แจ้งความทันที     หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้เหล่าเพื่อนๆ ดาราอย่างเช่นคุณตุ๊กกี้ ชิงร้อยและคุณท็อป ดารณีนุช ช่วยกันกระจายข่าวเพื่อให้เหล่าแฟนคลับไม่ถูกมิจฉาชีพหลอกนั่นเอง     หากแฟนคลับคนไหนห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวของหนุ่มปอแล้วล่ะก็ หมดห่วงได้เลย เพราะก่อนหน้านี้ทางช่อง 3 ได้ออกมาประกาศแล้วว่าจะดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลเอง ตอนนี้เรามาเอาใจช่วยให้เขาพ้นขีดอันตรายดีกว่านะ ที่มา ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พล.ต.ต. มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมนาย ทิวา รังแก้ว วัย 35 ปี ในตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่   นายทิวา เป็นผู้ต้องหาในคดีวิ่งราวกระเป๋านางสาวรวินพร วงค์วรกุล อายุ 24 ปี แอร์โฮสเตสสายการบินแอร์เอเชีย โดยนายทิวาได้ใช้จักรยานยนต์ไร้ป้ายทะเบียนขับขี่เข้าไปหาเหยื่อและฉกเอากระเป๋ายี่ห้อ Celine มูลค่ากว่า 80,000 บาท     พร้อมกับ iPhone 6s มูลค่า 32,000 บาท เงินสดจำนวน 2,000 บาท และเอกสารส่วนตัว รวมมูลค่าแล้วกว่า 1 แสนบาท โดยนายทิวาให้การกับตำรวจว่าตนเองได้หยิบเพียงเงินสด 2,000 บาทออกมาและโยนกระเป๋าทั้งหมดทิ้งไป เพราะคิดว่าไม่มีค่า   ทั้งนี้ นายทิวาเพิ่งพ้นโทษจำคุกในข้อหาลักทรัพย์มาเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และใช้ชีวิตเร่ร่อนไปเรื่อยๆ เลยตัดสินใจกลับมาลักทรัพย์อีกครั้ง    …

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ อ.แบงค์ สื่อกรรมสื่อวิญญาณ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีของนักแสดงหนุ่ม ปอ ทฤษฎี ว่าจะรอดจากอาการป่วยอย่างแน่นอน แต่กลับถูกแฟนคลับต่อว่า เพราะคิดว่าใช้ดาราหนุ่มเป็นเครื่องมือในการโหนกระแส     ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของอ.แบงค์ ก็ได้โพสต์ข้อความถึงเหล่าบุคคลที่ไม่เชื่อเรื่องผีสางและโลกหลังความตาย ว่าหากไม่เชื่อ แนะนำให้ลองพิสูจน์ด้วย 2 วิธี 1. ลองตายดู จะได้เชื่อ! 2. หากพ่อแม่คุณตาย หรือลูกคุณตาย อย่าทำบุญให้ อย่าไปงานศพ อย่านิมนต์พระมาสวดให้พ่อแม่คุณฟัง เพราะคุณไม่เชื่อว่าวิญญาณและโลกหลังความตายมีจริงไม่ใช่เหรอ?     ทั้งนี้ยังมีการกล่าวปิดท้ายด้วยว่า “พ่อแม่คุณจากไป เผาที่ไหนก็ได้ครับ เชิงตะกอนเผาสุนัขตามวัดก็ได้ ไม่มีวิญญาณพวกเขามารับรู้หรอกจริงไหม?!”     แหม่ เจอคำแนะนำแบบนี้ เหมียวล่ะไม่กล้าพิสูจน์เลย ที่มา อ.แบงค์ สื่อกรรมสื่อวิญญาณ

แม้ว่าคุณจะมีเงินซื้อรถราคาเป็นล้าน แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นตัวยืนยันว่าการขับขี่รถของคุณนั้นจะดีตามไม่ด้วยนะ อย่างเช่นข่าวที่เหมียวจะนำมาเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของคนขับรถหรูคันหนึ่งในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ที่จอดรถไม่เป็นที่เป็นทาง แถมยังขับไปเฉี่ยวคนเดินถนนอีก ทำให้ชาวเน็ตทนไม่ได้ต้องถ่ายภาพมาแฉกันเลยทีเดียว     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “ชื่อภาพ ขับรถเป็นล้าน สันดานสลึง วันนี้วันที่12/11/2558 เวลา13.00น. หน้าศูนย์เรียนรวม1 มหาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เป็นภาพรถที่จอดแบบนิ่งสนิท ถามว่าคนเดินเดือดร้อนมั้ย ตอบเลยว่าเดือดร้อน” “แต่ที่เดือดร้อนกว่าคือ ผมเดินสวนกับป้าคนหนึ่ง แล้วป้าเขาถูกรถที่ขับในเลนรถเฉี่ยว ถ้าป้าเขาบาดเจ็บขึ้นมาจะเรียกร้องค่าเสียหายกับใคร เลยอดไม่ได้ต้องถ่ายภาพมาประจาร ที่ลุงคนนึงที่กวาดขยะอยู่ตะโกนมาว่า ไอ้หนู อย่าถ่ายแต่รถมัน ไปถ่ายหน้าเจ้าของมันด้วย นั่งเก๊กหล่ออยู่ตรงนู้น” “อยากกระโดดถีบให้รถบุบแล้วบอกว่า ไม่เห็นนึกว่าทางเดิน เอาให้แม่มันยึดรถ ไม่ให้ขี่มาโชว์สาวนั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งไปเลย แล้วคนอื่นว่าไงครับ”     ดูพฤติกรรมการจอดของรถคันนี้แล้ว อาจจะเพิ่งเริ่มขับรถเป็นก็ได้นะ     เมื่อภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้ผู้คนพากันมาต่อว่าการกระทำของคนขับรถหรันอย่างมากมาย อย่างเช่นคุณ Khanin Puttatummakun กล่าวว่า “มีสมอง แค่ขับรถ แต่ไม่มีสมองในการจอดรถมาครัช” ในขณะที่คุร Fore Fighty บอกว่า…

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ณ เวลานี้ไม่ว่าจะเปิดดูข่าวจากสำนักไหนก็ตาม ก็จะต้องเห็นข่าวคราวอาการป่วยของนักแสดงหนุ่มอย่าง “ปอ ทฤษฎี” กันแบบรายชั่วโมงเลยทีเดียว เพราะเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ไม่เคยมีข่าวเสียๆ หายๆ เลย และปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างแก่สังคมมาตลอด     พอมีข่าวว่านักแสดงหนุ่มป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล ก็ทำให้แฟนๆ ต่างพากันออกมาแสดงตัวและให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม แต่ก็มักจะมีคนบางกลุ่มฉวยโอกาสจากสถานการณ์ดังกล่าว     เช่นกรณีล่าสุดที่เพจดังอย่าง หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ ที่ออกมาจวกเพจ Easy Pass ถึงการดึงเอาตัวนักแสดงที่กำลังป่วยมาเกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์ โดยมีข้อความให้กำลังใจหนุ่มปอ พร้อมกับบอกรายละเอียดที่หนุ่มปอมาใช้บริการ Easy Pass ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้วหรือ?     หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้มีชาวเน็ตจำนวนมากพากันแสดงความคิดเห็นในเชิงต่อว่า ที่ Easy Pass ฉวยโอกาสครั้งนี้ในการโปรโมท พร้อมทั้งบอกว่าเป็นการโปรโมทที่แย่ที่สุดเลยก็ว่าได้     ที่มา หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ

ถือเป็นสปิริตอันแรงกล้าของนักร้องสาวเสียงดีอย่าง “หญิงลี ศรีจุมพล” เลยก็ว่าได้ เพราะในขณะที่เธอกำลังจะขึ้นเวทีเพื่อทำการแสดงนั้นเอง ก็ต้องมาทราบว่าสุดเศร้าว่าคุณย่าแท้ๆ ของเธอนั้นได้เสียชีวิตลงแล้ว แต่ด้วยสปิริตทำให้เธอฝืนใจและขึ้นร้องเพลงจนจบงาน   เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ Yinglee Lalla หญิงลี ศรีจุมพล ขาขาวสาวลำซิ่ง Fanpage ได้โพสต์ภาพของหญิงลี ในขณะที่กำลังร้องไห้และบอกเล่าเรื่องราวทุกข์ใจผ่านหน้าเฟซบุ๊ก     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความที่กล่าวถึงคุณย่าผู้ล่วงลับของเธอด้วยว่า “กำลังจะขึ้นเวที ที่สโมสรทหารบก หญิงต้องเล่นให้สนุกให้งานสมบูรณ์ // เมื่อเสร็จงาน หญิงจะรีบกลับบ้านเกิด นาโพธิ บุรัรมย์ เพื่อไปหาย่า ในวาระที่ย่าบอกลูกหลานว่า ย่าไม่ไหวแล้ว”   “ระบบภายในย่าเสียหาย ในวัยชรา 85 ปี ดับหมดแล้วซึ่ง ไต หู ตา แต่จำลูกหลานดีอยู่ค่ะ เรียกหาพวกเราตลอดว่าจะไปแล้ว”     หลังจากที่ข้อความถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีแฟนๆ แห่แหนกันเข้ามาให้กำลังใจเพียบ ทำให้รู้ว่าเธอไม่ได้อยู่เพียงลำพังและพร้อมจะติดตามผลงานของเธอตลอดไป     เหมียวขอเป็นกำลังใจให้หญิงลีและครอบครัวสามารถผ่านช่วงเวลาเศร้าโศกนี้ไปให้ได้นะ ที่มา Yinglee Lalla…

หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้เคยมีสาวรอยสักคนหนึ่งที่ชื่อว่าน้องเลย์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนใจวัยรุ่น ที่กำลังคิดจะสัก ว่าควรจะคิดให้ดีก่อนและควรจะเตรียมรับมือกับผลกระทบที่กำลังจะตามมา ทำเอาชาวเน็ตแห่กันกดไลค์กระจาย   และล่าสุดเธอก็กลายเป็นประเด็นให้ชาวเน็ตพูดถึงอีกครั้งเมื่อมีคลิปรายการฉาวรายการหนึ่ง ที่ออกตามล่าน้ำอสุจิของชายหนุ่มกลางสยาม และขอให้หนุ่มๆ รีดออกมาเดี๋ยวนั้น โดยที่เธอเองก็เป็นหนึ่งในพิธีกรรายการนี้เช่นกัน ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์     ยกตัวอย่างเช่นคุณ Natthew Thanathon กล่าวว่า “เตรียมเปิดการ์ด #รู้เท่าไม่ถึงการณ์” ในขณะที่คุณ Malinee Saguanpiyapan ได้ตั้งข้อสังเกตุว่านี่อาจเป็นการล่วงละเมิดเด็ก “อยากถามข้อกฎหมาย เด็กผู้ชายหลายคนในคลิปอายุแค่ 16-17 ไม่ใช่หน้าม้าด้วย”   “การเข้าไปรุมขออสุจิ ไม่แน่ใจว่าเข้าข่าย child abuse มั๊ย และการถ่ายหน้าเด็กชัดเจนออกทีวีโดยที่ผู้ปกครองไม่อณุญาติไม่ทราบว่าพ่อแม่เค้าเอาเรื่องได้มั๊ย”     แต่วันนี้เหมียวไม่ได้จะมาพูดถึงตัวรายการนะ เพราะคงมีคนพูดถึงไปหมดแล้ว แต่เหมียวจะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพความน่ารักของน้องเลย์ หนึ่งในพิธีกรและไอดอลสาวของใครหลายๆ คนกัน เหมียวล่ะกรี๊ดเลย                      …

ในทุกสังคมและทุกอาชีพ มักมีคนดีและคนเลวปะปนกันไปนะ ไม่เว้นแม้แต่สังคมของนักถ่ายภาพก็มีให้เราได้เห็นเช่นกัน ล่าสุดแอดเหมียวไปเจอกระทู้เตือนภัยจากสมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่า ifine เขาได้เข้ามาตั้งกระทู้เตือนภัยเกี่ยวกับช่างภาพสุดหื่นรายหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา   โดยเจ้าของกระทู้ได้เล่าถึงพฤติกรรมของช่างภาพรายนี้ว่า มักจะชอบชวนนางแบบสาวไปถ่ายภาพเซ็กซี่ แต่เมื่อไปถึงกลับถูกช่างภาพรายนี้ลวนลาม (มีหนักสุดคือบังคับให้จับอวัยวะเพศเลยทีเดียว)       และไม่เพียงเท่านั้น ช่างภาพรายนี้ยังแสดงพฤติกรรมหื่นๆ ใส่นางแบบสาวไปทั่วหาดใหญ่ จนแต่ละคนทนไม่ได้ ต้องแคปภาพหน้าจอเอามาประจานกันเลย ลองไปชมภาพกัน                       เหมียวก็ขอเอาเรื่องนี้มาเตือนสาวๆ ที่หาดใหญ่และบริเวณใกล้เคียงด้วยนะ ว่าหากจะรับงานก็ให้ระมัดระวังตัวให้ดีๆ นี่ดีนะเนี๊ยะไม่มีการเปิดเผยหน้าหรือชื่อของช่างภาพคนนี้ออกมา ไม่งั้นเรื่องอาจบานปลายกว่านี้ หากรู้ตัวก็รีบกลับใจซะนะ ที่มา ifin

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Wirat Sawangarom‎ เป็นภาพของเด็กนักเรียนชั้นมัธยม ขณะขับขี่มอเตอร์ไซค์ของตำรวจจราจร จอดติดสี่แยกไฟแดงรายหนึ่งโดยไม่สวมหมวกกันน็อค พร้อมกับข้อความว่า “ลูกใครหว่า”     หลังจากภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันสงสัยว่าเด็กหนุ่มนั้นเป็นลูกหลานใคร? ทำไมถึงมีอภิสิทธิ์มากกว่าคนทั่วไป แถมยังไม่สวมหมวกอีก ทั้งที่เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องนัก     ……… ที่มา kapook

กลายเป็นภาพที่ชาวเน็ตกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับภาพของโถปัสสาวะสุดมักง่าย ในงานบางแสนไบค์วีค จังหวัดชลบุรี ที่ไม่มีการกักเก็บของเสียแต่กลับปล่อยลงสู่ทะเลโดยตรง ทำให้ชาวเน็ตถึงกับทนไม่ได้จนต้องถ่ายภาพมาแฉลงในเฟซบุ๊ก     เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Suriya Musketeer เป็นภาพงานออกแบบโถปัสสาวะที่จัดขึ้นที่งานบางแสนไบค์วีค แหลมแท่น บางแสน เมื่อวันที่ 6-7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา     โดยภาพโถปัสสาวะนั้นถูกออกแบบมาให้มีรูปร่างคล้ายกับหญิงสาวกำลังอ้าขาอยู่ แถมยังต่อท่อตรงปล่อยของเสียลงสู่ทะเล ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก         งานนี้หวังว่าผู้จัดงานคงจะได้รับบทเรียนในการจัดงานครั้งต่อๆ ไปแล้วล่ะนะ ยังไงก็ขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาธรรมชาติและความสะอาดกันด้วยนะจ๊ะ ที่มา Suriya Musketeer

กลายเป็นภาพอื้อฉาวที่กำลังมีการแชร์ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย สำหรับภาพของชายสวมชุดคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่ง ขณะกำลังดมอวัยวะเพศของหญิงสาว!?   เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊กเพจ รวมพลังต่อต้านคอร์รัปชั่น เป็นภาพของชายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังคุกเข่าและซุกหน้าเข้าไปที่บริเวณอวัยวะเพศของหญิงสาว พร้อมกับข้อความว่า “พี่ตำรวจห้องอาหาร ขอดมแทนค่าปรับ”     หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็มีชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันเข้ามาต่อว่าพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของชายคนดังกล่าว อย่างเช่นคุร Teerapong Chiyaleak กล่าวว่า “เห็นพี่มีความสุขผมก็เสียภาษีได้อย่างสบายใจ”      แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีชาวเน็ตที่ใช้ชื่อว่า Jackkung รักในหลวงเท่าฟ้า เข้ามาแย้งว่าภาพดังกล่าวนั้นเป็นภาพเมื่อนานมาแล้ว ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น   ที่มา รวมพลังต่อต้านคอร์รัปชั่น

สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ได้รายงานว่ามีนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งได้เดินทางไปเที่ยวลำน้ำในคลองท่าด่าน หลังเขื่อนขุนด่านปราการชลฯนครนายก และถูกปลาปักเป้ากัดจนเป็นแผลเหวอะหวะ     เพราะในช่วงนี้เป็นช่วงที่ปลาปักเป้ากำลังวางไข่ ทำให้พวกมันดุร้ายเป็นพิเศษ ทำให้เจ้าหน้าที่จากกรมประมงต้องลงพื้นที่ตรวจสอบและล่าพวกมันเพราะเป็นสัตว์อันตราย   แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่า Jukday ได้เข้ามาตั้งกระทู้ ขอความเป็นธรรมให้ครอบครัวปลาปักเป้า คลองท่าด่าน จ.นครนายก ด้วยค่ะ โดยเจ้าของกระทู้เล่าว่าตนเองนั้นเป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนี้     ทั้งนี้เจ้าตัวได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา เธอก็ถูกปลาปักเป้ากัดที่บริเวณคลองแห่งนี้เช่นกัน แต่อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับปลาเหล่านั้น เพราะตามข่าวปรากฏภาพของเจ้าหน้าที่กรมประมงกำลังล่าปลาปักเป้ากันอยู่     โดยคุณ Jukday ให้เหตุผลว่าที่ปลาดุร้ายนั้นเป็นเพราะอยู่ในช่วงฤดูวางไข่ และมนุษย์เองก็เป็นฝ่ายไปบุกรุกพื้นที่ธรรมชาติของพวกมันก่อน จึงไม่แปลกอะไรที่พวกมันจะไล่กัดมนุษย์ ทั้งนี้เธอยังเสนอด้วยว่าควรเปลี่ยนจากการล่า มาเป็นการใหความรู้แก่นักท่องเที่ยวจะดีกว่า     หลังจากกระทู้ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีสมาชิกเว็บไซตืพันทิปเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงเห็นด้วยมากมาย อีกทั้งยังกล่าวโทษมนุษย์ด้วยว่าเป็นฝ่าบรุกล้ำพื้นที่เขาก่อนและยังไปฆ่าเขาอีก นี่หรือผู้เจริญ?     นอกจากนี้ยังมีความเห็นหนึ่งของคุณ Josephine est le Chat ที่กล่าวต่อว่าเจ้าหน้าที่กรมประมงด้วยว่า “จนท ก็ทำงานแก้ปัญหาแบบตาต่อตาฟันต่อฟันดีเนอะ…

หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกรณีที่เหล่าดารานักแสดงพากันโพสต์รูปเครื่องดื่มแอกอฮอล์ยี่ห้อหนึ่ง ทำให้ทางคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค ต้องเรียกตัวเหล่าดาราเข้ามาให้ปากคำต่อกรณีที่เกิดขึ้น   และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางดาราสาวอย่างวุ้นเส้น วิริฒิพา ก็ได้ออกมายอมรับต่อสื่อว่าการถือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นเป็นการโฆษณาจริง     ล่าสุดผู้ใช้ทวิตเตอร์ Nantakarn@ThaiPBS ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลรายชื่อเหล่าดาราคนดัง ที่มีกำหนดต้องเข้าให้ปากคำในวันที่ 11 – 16 พฤศจิกายน โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้   11 พฤศจิกายน 2558 น.ส. คริส หอวัง (คริส) น.ส. เจนสุดา ปานโต (เจน) น.ส. ไรบีนา อินทชัย (นานา) วง slot machine   12 พฤศจิกายน 2558 นายฌอห์ณ จินดาโชติ นางรัตนารัตน์ เอื้อทวีกุล (เพชร) น.ส. ญานนีน ภารวี ไวเกล (พลอยชมพู) นายสิทธา สภานุชาติ (เอี๊ยง)   13…

หลังจากมีคดีความฟ้องร้องกันไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กรณีของคิตตี้รีสอร์ทและผู้ใช้บริการรายหนึ่ง ที่ได้ถ่ายภาพห้องพักและส่วนต่างๆ ของรีสอร์ทที่ยังสร้างไม่เสร็จดีมาแฉในเว็บไซต์พันทิป   ทำให้เจ้าของรีสอร์ททนไม่ได้จึงต้องฟ้องร้องกลับ แถมยังมีประเด็นที่ทางรีสอร์ทนำเอาตัวการ์ตูนคิตตี้มาใช้เป็นธีมของโรงแรม โดยที่ทาง Sanrio ไม่ได้อนุญาตอีกด้วย     ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊ก Bobby Nilkamhang เป็นภาพที่ทางคิตตี้รีสอร์ทได้มีการเปิดโซนใหม่ ที่นำเอารูปปั้นชิซูกะและไจแอ้นจากโดราเอมอนมาตั้งไว้ ทำเอาชาวเน็ตถึงกับเงิบในความแปลกประหลาดของหน้าตาตัวละครเลยทีเดียว     หลังจากที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้สมาชิกในเฟซบุ๊กต่างพากันเข้ามาแสดงความเห็นมากมาย แต่มีสมาชิกคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Chonticha Bouranavanich ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า ที่ทางรีสอร์ทไม่สร้างรูปปั้นให้เหมือนกับตัวจริงก็เพราะว่าทางต้นสังกัดจะได้ฟ้องไม่ได้นั่นเอง งานนี้ทำเอาเหมียวฮาอีกแล้ว คราวหน้าจะมีรูปปั้นของอะไรโผล่มาอีกมั่ง เราคงต้องติดตามกันต่อไปล่ะ ที่มา Bobby Nilkamhang , kapook

ดูเหมือนว่าตำรวจจราจรกับผู้ขับขี่รถบิ๊กไบค์จะเป็นอะไรที่ถูกโฉลกกันมากเลยนะ เพราะเราแทบจะได้เห็นประเด็นของคนขับบิ๊กไบค์กับตำรวจอยู่บ่อยครั้งทีเดียว ซึ่งล่าสุดก็มีกรณีที่คล้ายกันนี้ออกมาให้เราได้เห็นอีกแล้ว     เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก ไก่ มีหาง‎ โดยเจ้าตัวได้เล่าว่าตนเองนั้นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกับในข้อหาดัดแปลงท่อไอเสียมอเตอร์ไซค์     แต่เนื่องจาก มอเตอร์ไซค์รุ่น Benelli 300 ของเขานั้นไม่เคยถูกดัดแปลงมาก่อน และออกจากโรงงานมาเป็นแบบนั้นเลย  แต่ทางตำรวจกลับบอกว่า “ก็ดัดแปลงออกจากศูนย์ไง” ทำให้เจ้าของรถเกิดความสงสัยจนต้องมาตั้งกระทู้ถามผ่านโลกออนไลน์       จากนั้นทางเจ้าของรถบิ๊กไบค์คันดังกล่าวก็ได้โทรเรียกให้เจ้าหน้าที่จากศูนย์ Benelli เข้ามาชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ทำให้เขาไม่ต้องเสียค่าปรับใดๆ และสามารถนำมอเตอร์ไซค์ของเขาออกไปขี่ได้ตามปกติ     แต่ต่อมาทางจำรวจจราจรท่านเดิมกลับจะมาเขียนใบสั่งใหม่อีกใบเพื่อแก้ข้อกล่าวหาและจะขอใบสั่งเก่าคืน ซึ่งเจ้าของบิ๊กไบค์ไม่ยอมให้ ทำให้สุดท้ายแล้วตำรวจราจรต้องเดินหนีไป     ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง …….. ที่มา ไก่ มีหาง

นับจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลากว่า 7-8 ปีแล้ว ที่พวกเรา (โดยเฉพาะหนุ่มๆ) ได้รู้จักกับสาวน้อยหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มอย่างน้องแพทตี้ อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาเธอจากภาพยนตร์เรื่อง ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น หลังจากนั้นเธอก็เริ่มกลายเป็นที่รู้จักและมีงานแสดงเข้ามากมาย     ด้วยภาพลักษณ์สาวผมสั้นหน้าตาแบ๊วๆ ทำให้หนุ่มไทยหลายๆ คนต่างชื่นชอบในผลงานของเธอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอก็เริ่มโตขึ้นและมีลุคที่เปลี่ยนไป จากสาวน้อยกลายเป็นวัยรุ่นเต็มตัวแล้ว ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม นิตยสาร MIX Magazine ก็ได้ปล่อยอัลบั้มภาพถ่ายแฟชั่นเซ็ตล่าสุดของแพทตี้มาให้เราได้ชมกันด้วยล่ะ     โดยในการถ่ายแบบครั้งนี้มาในคอนเซ็ปต์ Backpacker ที่เหมาะสำหรับสาวๆ ขาลุยที่รักการเดินทาง ทำให้เราได้เห็นอีกลุคหนึ่งของสาวแพทตี้ ที่มีมุมเท่ๆ และเซ็กซี่กับเขาบ้าง ขอบอกว่าน่ารักสุดๆ ไปเลยล่ะ                   ไม่น่าเชื่อเลยว่าน้องแพทตี้จะโตขึ้นและน่ารักขึ้นได้ขนาดนี้ กรี๊สสสสส ที่มา mixmagazine

ในทุกๆ คืนที่เราต้องนั่งรถไปตามท้องถนนเพื่อเดินทางไปไหนมาไหน เคยสงสัยกันไหมว่าเสาไฟตามข้างทางนั้น มันมีวิธีเปิดวิธีปิดยังไงกันแน่? หากเพื่อนๆ อยากรู้ล่ะก็ วันนี้แอดเหมียวจะมาเปิดเผยให้ได้รู้กันเอง   เมื่อไม่นานมานี้แอดเหมียวได้ไปเจอเข้ากับข้อมูลที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ Gotoknow มาล่ะ เป็นการเปิดเผยถึงวิธีการเปิด-ปิดไฟตามถนน โดยไฟถนนส่วนใหญ่จะเป็นแบบตั้งเวลา ซึ่งควบคุมดวงไฟตามถนนที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆกัน     ในสมัยก่อนจะมีการใช้สวิทช์ไขลาน ที่ต้องคอยไขลานทุกสัปดาห์ แต่ตอนนี้เทคโนโลยีก้าวไกลมาก ทำให้เปลี่ยนจากการไขลานมาเป็นระบบไฟฟ้า มีหน้าปัดหมุนรอบตัวเองและมีคานหรือก้านติดอยู่ที่หน้าปัดเพื่อเปิด-ปิดไฟฟ้าตามเวลาที่ตั้งไว้   ตัวสวิทช์ที่ใช้กับไฟถนนนั้นจะเป็นแบบเดียวกันกับที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศ แต่ใช่ว่านาฬิกาจะถูกตั้งค่าให้เปิดปิดแบบตรงเวลานะ เพราะเมื่อฤดูกาลมีการเปลี่ยนแปลง ทำใช้ช่วงเช้า-ค่ำ มาเร็ว-ช้าต่างกัน แต่เจ้าไฟถนนนี้ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองแบบอัตโนมัติได้เช่นกัน     เมื่อไม่นานมานี้วิศวกรผู้ทำงานด้านไฟถนนได้พัฒนาเครื่องควบคุม แบบโฟโตอิเล็กทริก ขึ้นมาเรียกย่อว่า “เพคู” เพื่อใช้ควบคุมสวิตช์ที่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับดวงไฟตามถนน โฟโตเซลล์ที่อยู่ในเครื่องควบคุมแบบนี้มีสารประกอบทางเคมีที่ไวแสง เช่น แคดเมียมซัลไฟด์ หรือซิลิคอน   ในตอนเช้าตรู่แสงอาทิตย์ที่ส่องกระทบโฟโตเซลล์จะทำให้อิเล็กตรอนในสารประกอบนั้นไหลจากอะตอมหนึ่งไปยังอีกอะตอมหนึ่ง และนำกระแสไฟไปยังสวิตช์ซึ่งจะปิดแสงไฟ ครั้นเวลามืดลงอิเล็กตรอนในสารประกอบนั้นหยุดไหล กระแสไฟที่วิ่งอยู่ก็จะหยุด ทำให้สวิตช์เปิดและไฟถนนก็สว่างขึ้น กระแสไฟในโฟโตเซลล์จะไหลหรือหยุดเมื่อใดนั้นขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศนั่นเอง     นี่ซินะความลับของไฟข้างถนน มันเปิดปิดอย่างนี้นี่เอง ที่มา gotoknow

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพรถตุ๊กๆ คันหนึ่งผ่านเฟซบุ๊กเพจ ตำรวจไทย สู้ๆ เป็นภาพของรถตุ๊กๆ ที่ใช้สำหรับบริการประชาชนตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “เปิดตัว ‘จ่าตุ๊ก’ สายตรวจจราจรสามล้อ คันแรกของโลก จาก สน.สำราญราษฎร์”     ตามรายงานบอกว่าไอเดียดังกล่าวเกิดขึ้นโดย พ.ต.ท. สมเกษม จารักษ์ รองผู้กำกับการจราจร สน.สำราญราษฎร์ ที่มีคำสั่งให้ทาสีรถตุ๊กๆ เป็นสีเดียวกับเสื้อตำรวจและติดป้าย Police เพื่อออกตรวจตรานักท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวได้แก่ โลหะปราสาทวัดราชนัดดา, ภูเขาทองวัดสระเกศ, เสาชิงช้า และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย     นอกจากจะใช้เป็นรถสำหรับตรวจตราประชาชน และใช้รับส่งนักท่องเที่ยวแล้ว ภายในรถคันนี้ยังมีป้าย Check in น่ารักๆ ไว้ให้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะถ่ายภาพด้วย     และที่หลังรถตุ๊กๆ ยังมีเครื่องปริ้นเตอร์ไว้ใช้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ถ่ายภาพเสร็จแล้ว และต้องการปริ้นเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ปริ้นกันแบบทันทีทันใด         หลังจากภาพจ่าตุ๊กๆ ถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันเข้ามาชื่นชมในความน่ารักของรถตุ๊กๆ เช่นคุณ Jureerut Sunipan บอกว่า “เท่ไปอีกแบบนะคะ…

กลายเป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์กันเลยทีเดียว สำหรับกรณีของอดีตนักแสดงสาวเซ็กซี่อย่าง น้องแน๊ต เกศริน ชัยเฉลิมพล ที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าเจ้าตัวได้บวชชีหันหน้าเข้าหาทางธรรม     แต่หลังจากออกจากวัดมาแล้วเจ้าตัวกลับไปถ่ายแบบเซ็กซี่แหวกอกอีกครั้งหนึ่ง จนชาวเน็ตบางคนถึงกับต้องออกมาแซะว่า ‘เข้าวัดบวชชีมาแล้ว น่าจะคิดได้’ งานนี้ร้อนถึงเจ้าตัวต้องออกมาโต้ตอบกับคอมเม้นแรงๆ ที่ถาโถมเข้ามาเลยทีเดียว     ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา น้องแน๊ต ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ จุดเดือด ผางช่อง 2 ถึงกรณีดังกล่าว โดยเจ้าตัวกล่าวว่า “ตัวเองคิดได้หรือยัง อย่าหวังว่าคนที่บวชชีกลับมาแล้วจะเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ ดีไม่ดีอยู่ที่ตัวเรา อย่าไปวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น เพราะตัวเองยังไม่ดีพอ ถ้าดีแล้วคงไม่มาเวียนว่ายตายเกิดแบบนี้”     ทั้งนี้เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา น้องแน๊ตยังได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของตัวเองอีกว่า “สำหรับพวกแอนตี้เข้ามาแล้วแจ้งไปทางเพจว่าเค้าโป๊เปลือยขอโทษนะ ฉันโพสต์ส่วนไหนของภาพที่เห็นไปถึงรูขุมขนหรือเห็นจุกสีชมพูของเค้า”     “ภาพของเค้ามันคือภาพ Sexy แล้วก่อนโพสต์ก็ถามทางสารวัตรตำรวจเรียบร้อยแล้วว่าสามารถโพสต์ได้ ไม่อนาจารโป๊เปลือย”     เอ้า ขาเม้าท์ทั้งหลายได้ยินแบบนี้ก็เลิกตามไปต่อว่าเขาได้แล้วนะจ๊ะ มันเป็นงานของเขานะ ที่มา thaich2 , kapook , น้องแน๊ต เกศริน

เมื่อไม่นานมานี้เฟซบุ๊คเพจ Korat : เมืองที่คุณสร้างได้ ได้มีการเผยแพร่ภาพงานก่อสร้างหอเอนปิซ่า ขนาดเท่าของจริงที่กำลังก่อสร้างกันที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งก่อสร้างเสร็จไปแล้วกว่า 35% ทั้งนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “หอเอนปิซ่า เท่าของจริง แห่งแรกของเมืองไทย!! เร็วๆ นี้ที่ Toscana Valley เขาใหญ่ โคราช แห่งเดียวเท่านั้น”           แต่หลังจากที่มีการแชร์ภาพดังกล่าวออกไป ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการลอกเลียนหอเอนปิซ่าของอิตาลีว่า นายทุนกำลังไปผิดทาง เพราะที่เขาใหญ่มีเอกลักษณ์ที่สวยงามตามธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบต่างประเทศ     แถมยังมีการบอกด้วยว่าสถาปัตยกรรมดังกล่าวถือเป็นทัศนอุจาด (Visual Pollution) นอกจากนี้ยังมีความเห็นหนึ่งได้ต่อว่าทีมงานก่อสร้างไว้ว่า “นับวันจะยิ่งเหมือนพี่จีน ก็อปปี้โน่นี่เต็มไปหมด ความเป็นไทยไม่เหลือแล้ว ฝรั่งมาบ้านเราอยากดูความเป็นไทยแต่ไหงเจอหอเอนปิซ่า โอ้มายก้อด”     ที่มา Korat : เมืองที่คุณสร้างได้ , kapook

คนไทยนั้นได้ชื่อว่าเป็นชนชาติที่มีมารยาทที่สุดในโลกแล้วก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดในโลกนี้ พวกเราก็เคยยกมือประนมไหว้ปะล๊กๆ มาแล้ว ไม่ว่าจะก้อนหินดินทราย หรือแม้แต่เจลลดไข้ที่บวมเป่ง ก็ไม่อาจรอดจากการไหว้ของชาวไทยไปได้   อย่างล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ของไทยได้มีการแชร์ภาพๆ หนึ่งผ่านเฟซบุ๊ค Tanakorn Lekvijittada เป็นภาพของแท่นศาลพระภูมิเปล่าๆ บริเวณหน้าห้าง Terminal21 ย่านอโศก ที่แม้ว่าจะไม่มีศาลหรือรูปปั้นใดๆ แต่กลับมีพวงมาลัยและน้ำแดงวางเรียงรายเต็มไปหมด     นอกจากนี้เจ้าของภาพยังได้อธิบายถึงสาเหตุที่มีแท่นศาลพระภูมิเปล่าๆ เพราะว่าเกิดจากความผิดพลาดที่คนงานคิดจะสร้างศาลพระภูมิ แต่เจ้าของที่กลับไม่ให้สร้าง เพราะเกรงว่าจะทำให้คนหลงงมงายจนมากราบไหว้กันยกใหญ่     เอ้า มัวรออะไรอยู่ล่ะ ยกมือขึ้นมาให้พร้อมซิ ที่มา Tanakorn Lekvijittada

เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะรู้จักนักร้องดังอย่างพี่โป่ง หินเหล็กไฟ เป็นอย่างดี ด้วยเพลงดังต่างๆ มากมาย และงานโชว์ร้องเพลงตามคอนเสิร์ตต่างๆ อีกมากมาย ทำให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าลูกสาวของพี่โป่งนั้น ตอนนี้หน้าตาเป็นยังไงแล้ว?     ล่าสุดแอดเหมียวได้ไปเจอเข้ากับภาพชุดหนึ่งของน้องแองจี้ ฐิติมา ลูกสาวของพี่โป่ง มาล่ะ ซึ่งปัจจุบันนี้เธอโตเป็นวัยรุ่นสาวแล้วนะ แถมยังมีแนวโน้มว่าจะเจริญรอยตามคุณพ่ออีกด้วย เพราะมีข่าวว่าเธอได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง Kamikaze ของ RS เพื่อทำเพลงเร็วๆ นี้ด้วยล่ะ     นอกจากน้องแองจี้แล้ว ยังมีเพื่อนๆ อีกกว่า 18 คนที่ร่วมทำเพลงไปกับเธอด้วยนะ ทั้งน่ารักและเก่งแบบนี้ โด่งดังตามคุณพ่อชัวร์ๆ           พ่อลูกกันจริงๆ นะเออ   เหมียวขอสมัครเป็นแฟนคลับด้วยยยยยย ที่มา teenee , sanook

หลังจากที่คุณแม่โอปอล์ ปาณิสรา โพสต์รูปและข้อความบอกแฟนๆ ว่าเธอได้คลอดลูกแฝดไปเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยตั้งชื่อทั้งสองว่า ดญ. อลิน และ ดช.อรัญ อารยะสกุล ล่าสุดคุณแม่โอปอล์ก็ได้ปล่อยภาพของทั้งสองมาให้เราชมแบบเต็มๆ แล้วล่ะ     เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 16 ตุลาคม โอปอล์ได้โพสต์รูปลูกน้อยของเธอผ่าน IG @Opalpanisara พร้อมกับข้อความว่า “วันนี้ได้กอดทั้งคู่พร้อมกันเลย อลินอยู่ขวา อรัญอยู่ซ้ายของคุณแม่ค่ะ photo by คุณพ่อ @oak_smith”     หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีแฟนๆ ที่ติดตามเธอเข้ามาแสดงความยินดีกับเธอกันยกใหญ่เลยทีเดียว สำหรับใครที่เป็นห่วงเด็กๆ ก็หายห่วงได้เลยนะ เพราะแม้จะคลอดก่อนกำหนด แต่ทั้งคู่ก็แข็งแรงดีล่ะ             แอดเหมียวก็ขอแสดงความยินดีกับคุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ด้วยนะจ๊ะ หวังว่าทั้งคู่จะโตมาน่ารักน่าชังนะ ที่มา kapook , opalpanisara

ดูจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกจริงๆ สำหรับปัญหาเด็กแว้นกวนเมืองที่ชอบออกมาวัดความเร็วกันยามค่ำคืน หนักหน่อยก็ถึงขั้นปิดถนน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก   ล่าสุดในโลกออนไลน์ก็ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอเกี่ยวกับกรณีของเด็กแว้นมาให้ชมกันอีกครั้ง เป็นเหตุการณ์ของกลุ่มเด็กแว้นในจังหวัดจันทบุรี บริเวณแยกศักดิ์ชัย ที่มีรถยนต์วิ่งสวนไปมาอย่างพลุกพล่าน     ในระหว่างนั้นเอง กลับมีรถสปอร์ตสีขาวคันหนึ่งขับมาตามทาง แต่จู่ๆ กลับมีมอเตอร์ไซค์พุ่งสวนเลนขึ้นไปชนอย่างจัง ทำให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์กระเด็นออกไปด้านข้าง ทั้งนี้ไม่มีรายงานว่าผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ได้รับบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด     ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ก็มีชาวเน็ตต่างพากันเข้ามาแสดงความเห็นอย่างมากมาย พร้อมกับสมน้ำหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กแว้นอีกด้วย   ที่มา Ao Nathasedh , kapook

จากที่เมื่อไม่กี่วันมานี้ได้มีข่าวคราวเกี่ยวกับเหล่าดารา ที่พากันโพสต์รูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงใน IG จนทางสดบ.ต้องออกมาสั่งห้ามเหล่าดาราถ่ายภาพเครื่องดื่มเหล่านั้นลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ค แถมยังบอกด้วยว่าหากยังมีใครทำอีกจะมีการลงโทษตามกฎหมาย   ล่าสุดเฟซบุ๊คเพจ สโลว์ไลฟ์ เลยเกิดไอเดียเก๋ๆ ที่นำเอาภาพของเหล่าดาราที่ถ่ายภาพเครื่องดื่มแอกอฮอล์ลงใน IG มาเซ็นเซอร์ซะใหม่ๆ แต่ครั้นจะเซ็นเซอร์ด้วยภาพดำๆ เบลอๆ แบบทั่วไปก็ดูจะธรรมดาไป เขาเลยเปลี่ยนมันให้กลายเป็นขวดนมแทน!! จะน่ารักและฟรุ้งฟริ้งขนาดไหนลองไปชมภาพกันเลย   โอ้โห หญิงแย้ดูอร่อยมาก!!   แก๊งค์นางฟ้าก็ดื่มนมด้วยนะ     เพราะดื่มนมถึงได้กล้ามโตงี้ไง     ถึงกับจ้องมองแบบพิจารณา   กินนมขวดละ 800-900 มาเยอะ ลองได้มาดื่มนมสดๆ งี้ดู ขอบอกว่านุ่มคอมาก!!     ตัวอย่างของเยาวชนเลย       ดื่มเหล้ามันขม ดื่มนมดีกว่านะจ๊ะ     บนระเบียงก็ดื่มนมได้เว้ย!   ทุกอย่างดูฟรุ๊งฟริ๊งเวลาดื่มนม ที่มา สโลว์ไลฟ์

เริ่มจะโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ แล้ว สำหรับน้องโยชิ รินรดา ธุระพันธ์ สาวประเภทสอง ที่ตอนนี้กลายเป็นเน็ตไอดอล ไปแล้วเรียบร้อย สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก แอดเหมียวจะเล่าคร่าวๆ ว่าเธอเป็นเด็กมัธยมที่หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม และกลายเป็นไอดอลให้วัยรุ่นหลายคน   เธอเริ่มกลายเป็นที่พูดถึงมากขึ้นหลังจากการแข่งขัน หัวโป็กก็ทะเล้น ในรายการ The Naked Show และเริ่มเป็นที่รู็จักจนได้มาเล่นภาพยนตร์ เลิฟเฮี๊ยวเฟี้ยวต็อด และมีงานโชว์ตัวมากขึ้น   ปัจจุบันน้องโยชิไม่ใช่เด็กมัธยมอีกต่อไป แต่กลายเป็นนักศึกษาเต็มตัว ไว้ผมยาวจนหนุ่มๆ หลายคนเริ่มแยกไม่ออกแล้วว่าเธอเป็นสาวประเภทสอง เราลองไปชมความน่ารักของเธอแบบเต็มๆ กันเลยจ้า                               โอ้โหยยย เหมียวนี่เลิฟเลย ที่มา yoshirinrada , kapook

เมื่อเร็วๆ นี้แอดเหมียวได้มีโอกาสเห็นคลิปๆ หนึ่งที่เพื่อนๆ ในเฟซบุ๊คแชร์ต่อกันมา เป็นคลิปล้อเลียนคุณตัน ที่มีผู้ชายร่างท้วมแต่งตัวพร้อมกับหมวกกัปตัน ออกมาพูดว่าจะแจกของรางวัลเป็นตั๋วเครื่องบิน เงินสดและแทปเล็ต แอดเหมียวฟันธงเลยว่าต้องเป็นคลิปล้อเลียนแน่ๆ   แต่เมื่อกดดูเนื้อหาดีๆ เหมียวก็ถึงกับน้ำตาซึมเลยล่ะ เพราะกิจกรรมนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้า หรือชิงโชคใดๆ เพียงแค่คุณเล่าเรื่องราวความทุกข์ของคุณ ให้กับพวกเขา คุณก็มีสิทธิ์ได้รับของรางวัลไปเลยล่ะ และที่สำคัญ กิจกรรมนี้จัดขึ้นโดย สสส. ด้วยนะเออ   ชมคลิปที่ว่านี้ได้ที่ด้านล่างเลย   เงื่อนไขของทั้ง 3 รางวัลมีดังนี้ 1. ตั๋วเครื่องบิน 2 ที่นั่ง: ตั๋วนี้แจกแค่ 1 ที่นั่ง สวนอีกที่ เอาไว้พาเด็กสายตาพิการไปเที่ยวภูเก็ตครั้งแรก 2. เงินสด 10,000 บาท:  เอาไว้ซื้ออาหารเลื้ยงสัตว์จรจัด สัตว์พิการ 3. แทปเล็ต: เอาไว้ไปสอนผู้สูงอายุ เล่น เพื่อจะได้คุยกับลูกหลาน ไม่อยู่บ้านเหงาๆ   เป็นที่น่าเสียดายว่ากิจกรรมที่ว่านี้เพิ่งจะประกาศผลรางวัลไปเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่ถึงเพื่อนๆ จะไม่ได้ร่วมกิจกรรม แต่วันนี้เหมียวก็มีคลิปของผู้ที่ชนะกิจกรรมประกวดความทุกข์มาให้ได้ชมกันล่ะ เป็นภาพที่พวกเขาได้รับรางวัลและเล่าเรื่องราวความทุกข์ให้เราฟัง อยากให้เพื่อนๆ ดูกันให้จบนะ…

หลังจากที่กลายเป็นเรื่องราวให้ชาวเน็ตได้ดราม่ากันยกใหญ่ สำหรับกรณีของนักร้องนักแสดงหนุ่มอย่าง โดม ปกรณ์ ลัม ที่โพสต์ภาพขณะตนเองกำลังรินเบียร์ยี่ห้อดังลงใน IG @domepakornlam ของตัวเอง จนมีชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยว่า การโพสต์รูปนี้เป็นเรื่องบังเอิญหรือได้รับสปอนเซอร์มา?   เพราะในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันก็ได้มีดาราคนอื่นๆ ที่แห่กันโพสต์รูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบเดียวกันออกมาเช่นกัน แต่ล่าสุด โดม ปกรณ์ ลัม ได้ลบรูปภาพดังกล่าวออกจาก IG แล้ว พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า   “ถ้าพูดถึงในด้านของการรับผิดชอบต่อสังคม ผมเข้าใจ! และเพื่อที่จะไม่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับน้องๆ เยาวชน ผมจะลบรูปที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออกจาก IG ของผมทั้งหมด” ตามนี้เลยครับ ขอบคุณทุกกำลังใจและคำตักเตือนครับ #น้อมรับครับผม Posted by DomePakornLamOnline on 8 ตุลาคม 2015   ผิดแล้วรูปจักขอโทษ สังคมพร้อมให้อภัยเสมอนะจ๊ะพี่โดม ที่มา DomePakornLamOnline

เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 6 ตุลาคม ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพจากเฟซบุ๊คของ Prasit Fooeang เป็นภาพของบุคคลหนึ่งที่แต่งตัวคล้ายกับพระ กำลังถ่ายภาพเซลฟี่ของตัวเองในขณะเปลือยให้เห็นเนินอกและแผ่นหลัง พร้อมกันนี้ยังแต่งหน้าแน่นกริ๊บ จนสาวๆบางคนยังต้องอาย   ตามรายงานไม่ได้ระบุว่าพระรูปดังกล่าวมีชื่อว่าอะไร หรือจำอยู่วัดไหน แต่เมื่อพิจารณาถึงเครื่องแต่งงานและการปฏิบัติตัวแล้ว คงไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะสวมจีวรพระ     และหลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาต่อว่าพระรูปดังกล่าวอย่างล้นหลาม โดยหนึ่งในความเห็นของคุณ Chanyarak Sanprom บอกว่าพระรูปนี้มีอาการจิตไม่ปกติและเรียกร้องความสนใจ ในขณะที่ คุณ Prasit Fooeang มองว่าอาจจะเป็นภาพตัดต่อก็ได้   สวยเลยนะคะหลวงเจ๊ ที่มา Prasit Fooeang

เป็นประจำที่เรามักจะได้เห็นภาพของเหล่าเทพบุตรนักบิน(หรือที่เราเรียกว่าเด็กแว้นนั่นแหละ) ออกมาซิ่งป่วนเมือง สร้างความรำคาญและเพิ่มความอันตรายให้กับท้องถนน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครทำอะไรพวกเขาได้นะ เพราะยังมีตำรวจจราจรฝีมือดีที่สามารถไล่ล่าเด็กแว้นมาลงโทษได้เหมือนอย่างในคลิปนี้ล่ะ   วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชมคลิปการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนายหนึ่ง ที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ตามเด็กแว้นรายหนึ่งได้อย่าน่าหวาดเสียวประหนึ่งหนังแอ็คชั่นเลย และที่สำคัญในตอนท้ายคลิปยังมีการลงไปวิ่งไล่ตามจนจับตัวได้ด้วย ยอดเยี่ยมจริงๆ   ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   เด็กแว้นทั้งหลายอย่าคิดว่าตำรวจจราจรจะไม่สามารถตามได้ทันนะ เพราะอย่าลืมว่ามอเตอร์ไซค์ของพี่ๆ ตำรวจนั้น เร็วแรงไม่แพ้กันเลยล่ะ ที่มา Ao Nathasedh

ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของเด็กหญิงคนหนึ่งกับแม่ผู้พิการ ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในอำเภอศรีราชา จังหวัชลบุรี โดยมีข้อความระบุไว้ว่าเด็กหญิงกำลังโกรธแม่ของเธอหลังจากที่ไม่ยอมซื้อมือถือเครื่องใหม่ให้   ทำให้โลกออนไลน์ต่างพากันแชร์ภาพและข้อความดังกล่าวออกไป และต่อว่าในการกระทำอันไม่เหมาะสมของเธออย่างมากมาย   หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีความคิดเห็นหนึ่งเข้ามาแย้งว่า ภาพทั้งหมดที่เห็นนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นก็ได้ เพราะเจ้าตัวบอกว่าตนเองรู้จักกับเด็กคนนี้ ตัวจริงเป็นคนนิสัยดีมาก และแม่แท้ๆ ของเธอก็ทิ้งเธอไปนานแล้ว คนที่เห็นในรูปนั้นเป็นเพียงแม่บุญธรรมเท่านั้น ข่าวที่ลงอาจมีการผิดพลาดได้   ในเวลาต่อมาเจ้าของภาพก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจผ่านเฟซบุ๊คของตัวเอง พร้อมขอโทษที่ทำให้เรื่องบานปลายจนเด็กหญิงและแม่ต้องเสียหาย และไม่คิดว่าเรื่องราวที่โพสต์ออกไปนั้นจะมีคนแชร์เยอะขนาดนี้   ทีหน้าที่หลัง จะโพสต์หรือจะแชร์อะไรก็เช็คข้อมูลกันดีๆ ก่อนนะจ๊ะ ไม่งั้นเราอาจทำลายชื่อเสียงหรือทำให้บุลคลผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรต้องเสียหายแบบฟรีๆ ก็ได้ ที่มา kapook

หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับน้องแอปเปิล หรือนางสาวอรวี สำเภาทอง นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนสตรีระนอง ถูกคนร้ายเข้าใช้มีดแทงในซอยเปลี่ยว จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา   ล่าสุดได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโองานฌาปนกิจน้องแอปเปิ้ล ที่จัดขึ้นที่อุปนันทารามในจังหวัดระยอง แต่ในระหว่างที่กำลังทำพิธีอยู่นั้น กลับมีหญิงสาวที่เป็นญาติของผู้เสียชีวิตเกิดอาการคลุ้มคลั่งคล้ายผีเข้า และพยายามจะหนีออกจากวัด ชาวบ้านจึงจับตัวเอาไว้ก่อนที่หญิงสาวจะพูดถึงเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น   ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ใครทำบอกให้หมดเลยแอปเปิ้ล. Posted by Boat Pitthawat on 3 ตุลาคม 2015   จากเหตุการณ์ดังกล่าว ญาติของผู้เสียชีวิตเชื่อว่าอาการดังกล่าวอาจเกิดมาจากความเครียดที่สูญเสียญาติพี่น้องไป ในขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนมองว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเพียงการสร้างสถานการณ์เท่านั้น ที่มา Boat Pitthawat

ถือเป็นหนึ่งในตำนานของไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับลุงต่วย วาทิน ปิ่นเฉลียว ผู้ที่สร้างตำนานต่วยตูน มาแล้วกว่า 45 ปี แต่แฟนๆ ก็ถึงกับช็อคเพราะเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊คเพจ พอกเก็ตแมกาซีน ต่วยตูน ได้รายงานว่า ลุงต่วย ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 85 ปี   ทั้งนี้มีข้อความทั้งหมดว่า “ลุงต่วย วาทิน ปิ่นเฉลียว ผู้สร้างตำนานต่วย’ตูนให้ยืนยงมากว่า 45 ปี ท่านได้จากพวกเราไปแล้วในวันนี้ 4 ตุลาคม 2558 อายุ 85 ปี กำหนดการพิธีศพ คุณวาทิน ปิ่นเฉลียว ณ วัดเทพศิรินทร์ ศาลาภาณุรังษี วันที่ 5 ตุลาคม รดน้ำศพเวลา 16:00น วันที่ 5 ถึง 11 ตุลาคม สวดอภิธรรมเวลา 19:00น.”   ทั้งนี้แอดเหมียวขอแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวปิ่นเฉลียวมา ณ ที่นี้ด้วย ที่มา sanook , kapook

การทำบุญทำทานถือเป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะเราจะได้แบ่งปันทรัพย์สินที่เรามี ไปให้กับคนที่ไร้โอกาสหรือคนยากคนจน แต่ก่อนจะทำบุญต้องดูดีๆ ก่อนนะ เพราะไม่งั้นคุณอาจตกเป็นเหยื่อของเหล่า “เด็กกล่อง” ได้เลยล่ะ     เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 4 ตุลาคม ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊คของนางแบบ Keratikan Klumkomon เป็นภาพในขณะที่เธอกำลังมอบเงินจำนวน 500 บาทให้กับเด็กชายคนหนึ่ง โดยเด็กหนุ่มอ้างว่าจะนำเงินส่วนที่ได้ไปจ่ายค่าเช่าบ้านให้พ่อ   แต่หลังจากนั้นเพียงหนึ่งชั่วโมงให้หลัง นางแบบสาวก็ได้หูตาสว่าง เพราะมีสมาชิกในโลกออนไลน์จำนวนมาก ต่างจดจำใบหน้าของเด็กหนุ่มได้ และส่งข้อความถึงนางแบบสาวว่า เด็กหนุ่มคนดังกล่าวไม่ใช่เด็กที่ยากไร้จริงๆ แต่เป็น เด็กกล่อง ที่เที่ยวขอเงินชาวบ้านไปทั่ว เพื่อเอาไปใช้จ่ายส่วนตัว   หวังว่าหลังจากที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป จะมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ เข้ามาดูแลเรื่องนี้นะ ส่วนคนที่มีจิตกุศล ก็อย่าเพิ่งเสียใจไป เพราะหากเราทำด้วยใจบริสุทธิ์ก็ได้บุยแล้วล่ะ ที่มา Keratikan Klumkomon

ยังคงเป็นประเด็ดที่ให้ชาวเน็ตในโลกออนไลน์ถกเถียงกันแบบไม่จบไม่สิ้นเลยนะ สำหรับกรณีของพระภิกษุขับขี่ยานพาหนะ ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพพระรูปหนึ่งผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ค Songkran Yodkuna   เผยให้เห็นภาพของพระภิกษุขณะกำลังขับขี่มอเตอร์ไซค์ หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดการถกเถียงว่าเป็นพฤติกรรมที่เหมาะสมหรือไม่ โดยความเห็นส่วนหนึ่งมองว่าเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม พระภิกษุไม่ควรขับขี่ยานพาหนะด้วยตัวเอง   ในขณะที่ความเห็นอีกฝั่งหนึ่งมองว่าการที่พระภิกษุต้องขับขี่ยานพาหนะด้วยตนเองเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เพราะหากเป็นวัดที่อยู่ไกลจากความเจริญและไม่มีลูกศิษย์ ก็สามารถเดินทางไปไหนมาไหนด้วยตนเอง     เพื่อนๆ เห็นว่ายังไงบ้าง แชร์ความคิดกับเหมียวได้นะ ที่มา kapook, songkran.yodkuna

เรื่องของการจอดรถขวางหน้าบ้านกัน ถือเป็นปัญหาที่เราพบเห็นได้ทั่วไปตามแหล่งชุมชนนะ เพราะพื้นที่มีน้อยต้องรู้จักเกรงใจซึ่งกันและกัน ไม่งั้นอาจจะเกิดดราม่าแบบกรณีนี้ก็เป็นได้   เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของรถกระบะคันหนึ่ง ที่พยายามจะจอดรถในบ้านของตัวเอง แต่กลับมีรถเก๋งอีกคันจอดขวางอยู่ ทำให้เข้าบ้านไม่ได้ คนขับรถกระบะจึงโมโหและบีบแตรอย่างยาวนานจนชาวบ้านในระแวกนั้นหนวกหูและต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปเอาไว้   แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของรถเก๋งคันดังกล่าวจะอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้นมากนัก จึงเข้ามาขยับรถให้ ทำให้คนขับรถกระบะใจเย็นลงและหยุดบีบแตรเสียที   ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตหลายคนต่างพากันโต้เถียงว่าใครถูกใครผิดในกรณีนี้ โดยบางความเห็นมองว่ารถเก๋งเป็นฝ่ายผิด เพราะจอดไม่ดูตาม้าตาเรือเอง ในขณะที่ความเห็นอีกฝั่งมองว่าควรใช้การพูดคุยกันจะดีกว่า เพราะการบีบแตรแบบนี้อาจทำให้ชาวบ้านเกิดความรำคาญได้ ที่มา noterwork

นี่อาจเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในรสชาติของนมเปรี้ยว “ยาคูลท์” ก็เป็นได้นะ เพราะเร็วๆนี้ยาคูลท์มีแผนจะส่งผลิตภัณฑ์ของตัวเองลงสู่ร้านขายปลีกอย่างเซเว่นอีเลเว่น ทำให้พวกเราสามารถหาซื้อกันได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง   เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Prachachat ได้เผยว่า ยาคูลท์เตรียมที่จะผนึกกำลังกับร้านเซเว่นอีเลว่นเพื่อกระจายสินค้าของตัวเองไปทั่วประเทศ ซึ่งจะมีมูลค่าถึง 8,000 ล้านบาท โดยจะวางขายในราคาขวดละ 8 บาท ซึ่งจะแพงกว่าการขายโดยสาวยาคูลท์เพียง 1 บาท   ในช่วงแรกเริ่มนั้นจะมีการวางขายในสาขาต่างจังหวัดก่อนและจะมีการขยายออกไปในสาขาในเมืองตามลำดับ โดยทางจากคูลท์จะเป็นคนมอบหมายให้สาวยาคูลท์ส่งมอบสินค้าให้กับทางเซเว่นเอง เพราะไม่ต้องการแย่งรายได้จากสาวยาคูลท์ อีกทั้งยังตั้งราคาให้แตกต่างกันด้วย   แต่ถึงจะมีการตั้งราคาของ 2 ตลาดให้มีความแตกต่างกัน แต่ก็มีสาวยาคูลท์ได้ออกมาแสดงท่าทีเป็นกังวลล่ะ เพราะการขายแบบเดิมโดยสาวยาคูลท์นั้นจะได้ส่วนแบ่งขวดละ 1.5 บาท แต่การขายให้เซเว่นจะได้ส่วนแบ่งที่ 75 สตางค์นั่นเอง   ทั้งนี้ชาวต่างจังหวัดอาจจะได้เห็นขวดยาคูลท์ตั้งอยู่ในตู้เย็นของเซเว่นหลายๆ ที่กันไปแล้ว สำหรับใครที่อยากดื่มยาคูลท์แล้วล่ะก็ลองออกไปตามหากันดูได้นะจ๊ะ ที่มา prachachat