Category: ข่าวคราวรอบโลก

ปกติเวลาซื้อข้าวของให้เด็กทารกใช้ พ่อแม่แทบไม่เคยรู้เลยว่าของที่ซื้อมานั้นดีหรือเปล่า เพราะตัวเด็กเองก็ยังพูดไม่ได้ แต่จะให้พ่อแม่เด็กลงไปใช้งานเองก็ทำไม่ได้อยู่ดี ทางบริษัท Contours Bliss จากประเทศสหรัฐอเมริกาก็เล็งเห็นถึงปัญหานี้เช่นกัน พวกเขาจึงผลิต “รถเข็นทารกไซส์ผู้ใหญ่” ขึ้นมา เพื่อให้เหล่าพ่อแม่ได้ทดลองใช้ก่อนจะซื้อให้ลูก   มันถูกออกแบบมาเพื่อให้พ่อแม่ได้ลิ้มลองประสบการณ์การนั่งรถเข็นของลูก   ด้วยความที่เด็กพูดไม่ได้ พ่อแม่จึงต้องเป็นคนทดลองเอง ว่าดีหรือไม่ดี   โดยรถเข็นอันนี้ ถูกจำลองมาจากรุ่นที่ขายดีที่สุดของบริษัทชนิดที่ว่าเหมือนทุกตารางนิ้วเลยทีเดียว   ทีนี้พ่อแม่ก็จะได้รู้แล้ว ว่าเวลาลูกนั่งในรถเข็นเป็นยังไง .   ใครสนใจอยากลองนั่งดูซักครั้งมั้ยละ อิอิ   ฮ่าๆ ถือว่าเป็นไอเดียที่เยี่ยมไปเลย หวังว่าจะไม่มีผู้ใหญ่คนไหนซื้อรถเข็นมานั่งเองนะ ฮาาา ที่มา Boredpanda

ประวัติศาสตร์อันโหดร้ายที่โลกไม่มีทางลืมจากสงครามโลกที่ลุกลามไปทั่ว ชนวนสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เกิดจากการบุกโปแลนด์ของผู้นำสูงสุดของเยอรมนีอย่างฮิตเลอร์ ที่สามารถชักนำทหารให้ฮึกเหิมและเข้าร่วมสงครามได้ด้วยคำพูดปลุกใจ     เราจะได้เห็นแต่ภาพอันน่าเกรงขามของฮิตเลอร์ยามที่เขาออกมาพูดจาปราศรัยต่อหน้ากองทัพ แต่เราไม่เคยเห็นภาพเบื้องหลังของเขาเลย เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากให้ใครเห็น     และการที่จะออกมาพูดปลุกใจได้ทรงพลังขนาดนั้น จะต้องมีการซ้อมเสียก่อน ซึ่งฮิตเลอร์เองก็มักจะซ้อมพูดเป็นประจำ และอยากที่จะเห็นลักษณะท่าทางของตัวเองในขณะที่พูด ก็เลยขอให้ช่างภาพส่วนตัว Heinrich Hoffmann ถ่ายเอาไว้ เพื่อดูว่าตัวเขาเองในจังหวะนั้นดูน่าเกรงขามแค่ไหน     ฮิตเลอร์เป็นคนจำพวกที่มีความประหม่าในตัวเองสูงมาก และหลังจากที่ได้เห็นภาพตัวเองแล้ว เขาก็บอกว่าให้ลบภาพชุดนี้ออกไป เนื่องจากมันดูไม่ค่อยมีราศีซักเท่าไหร่ แต่ Hoffmann ก็ไม่ได้ลบนะ เขายังคงเก็บเอาไว้และเผยแพร่ในภายหลังโดยตั้งชื่อภาพชุดนี้ว่า ‘Hilter Was My Friend’           ที่มา : huffingtonpost, theladbible, ilyke

การแต่งตัวให้มิดชิด ปกปิดร่างกายอย่างเหมาะสม ฟังดูเหมือนก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ทว่าในกรณีนี้มันใหญ่เกินไป ก็คงจะเกินเยียวยาแล้วล่ะ เพราะว่าทำอย่างไรก็ยังคงโดนตักเตือนอยู่ดี ทั้งๆ ที่มันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาได้ขนาดนี้     โดยปกติแล้วสำหรับการแต่งกายของผู้หญิงที่ออกกำลังกายในยิมก็มักที่จะใส่สปอร์ตบราหรือเสื้อกล้าม เพื่อความกระฉับกระเฉง ซึ่ง Jenna Vecchio ก็เป็นผู้ที่แต่งตัวแบบนี้ ไม่มีปัญหาอะไร แต่ทว่าพนักงานในยิม Movati Athletic Club กลับมีปัญหากับเธอ เนื่องจากว่าหน้าอกอันใหญ่เกิน ทำให้ไปรบกวนลูกค้าท่านอื่นๆ ซะงั้น     เธอกล่าวว่า ‘ฉันถูกกล่าวตักเตือนจากพนักงานระดับสูงของยิมว่าเสื้อกล้ามของฉันมันไม่เหมาะสม ทำให้รบกวนทั้งพนักงานและลูกค้าคนอื่น ทั้งๆ ที่เสื้อกล้ามของฉันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากผู้หญิงคนอื่นเลย เว้นเสียแต่ว่าขนาดหน้าอกที่ใหญ่กว่าเท่านั้นเอง’     ‘แม้ว่าจะพยายามอธิบายหาเหตุผลมาบอกว่าเสื้อกล้ามของฉันไม่ได้ต่างจากของผู้หญิงคนอื่นมากแค่ไหนก็ตาม พวกเขาก็ยังคงยืนยันว่าขาดหน้าอกที่ใหญ่ของเธอนั้น ทำให้เธอไม่สามารถสวมใส่เสื้อกล้ามได้’   ภาพเปรียบเทียบจากหน้าเพจของยิม ที่ใช้ภาพโปรโมทโดยมีผู้หญิงที่สวมใส่เสื้อกล้ามแบบเดียวกัน   ‘ฉันรู้สึกละอายใจต่อการเลือกปฏิบัติแบบนี้ ในขณะที่ฉันใส่เสื้อกล้ามไม่ได้ แต่ทำไมผู้หญิงคนอื่นใส่ได้ล่ะ’ ภายหลังจากที่เรื่องเริ่มแดง อาจจะเป็นการเข้าใจผิดและชี้ปัญหาที่ผิดจุด อย่างไรก็ตามผู้อำนวยการยิมดังกล่าวก็พยายามที่จะติดต่อพูดคุยกับเธอเพื่อหาข้อเท็จจริงกันต่อไป   ทำไมคนอื่นใส่ได้ นำมาโปรโมทหน้าเพจของยิมด้วย   จากประเด็นนี้คือ #เหมียวเลเซอร์ คิดว่าไม่น่ามีปัญหามากนะ…

ความปลาบปลื้มปิติยินดีของคนที่คุณรักนับว่าเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดยากที่จะหาอะไรมาเทียบได้ อย่างเช่นพ่อหนุ่ม Michael Latimer รายนี้ ที่รู้มาว่าคุณตาของเขานั้น ไม่มีรถยนต์ใช้เนื่องจากคันเก่าที่แกเคยใช้มันพังจนใช้งานไม่ได้ จะซ่อมก็แพงเหลือเกิน     สืบเนื่องจากว่ารถยนต์คันเก่าถึงแม้จะไม่มีมูลค่ามากมาย แต่กับค่าซ่อมนั้นเทียบเท่าได้กับการซื้อรถยนต์คันใหม่ ตัวคุณตาเองก็ประสบกับปัญหาทางด้านการเงินด้วย จึงไม่มีทางเลือกใดๆ     ดังนั้น Michael เองจึงอาสาแอบไปถอยรถยนต์คันใหม่ และขับตรงไปยังบ้านของคุณตาเพื่อมอบของขวัญสุดวิเศษชิ้นนี้ให้ด้วยตัวเอง     เมื่อไปถึงบ้านคุณตาก็มอบกล่องของขวัญให้ ภายในกล่องซ้อนหลายชั้น เปิดไปเรื่อยๆ คุณตาก็พบว่ามีกุญแจรถยนต์ซ่อนอยู่ เมื่อเห็นแบบนี้แล้วพ่อหนุ่ม Michael จึงพาคุณตาออกไปสัมผัสกับรถคันใหม่ ทำให้รู้สึกปลื้มอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ   คุณตาถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลย!!   ว่าแล้วเราก็มาชมความรู้สึกปลื้มปิติยินดีของคุณตากันเลยดีกว่า ที่มา : theladbible, Viral Online

กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในเครือข่ายสังคมออนไลน์จีนอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีของชายชาวจีนรายหนึ่งที่แต่งตัวสุดวาบหวิวพร้อมกับจีสตริงตัวน้อย ออกมาเดินเลือกซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง จนมีคนถ่ายภาพแอบหวิวมาเผยแพร่ในโลกอินเตอร์เน็ต     ตามรายงานบอกว่าชายหนุ่มรายนี้ออกมาเลือกซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน แต่เนื่องจากการแต่งตัวสุดแหวก ทั้งรองเท้าส้นสูงปรี๊ด เสื้อลายดอกที่รัดติ้ว และกางเกงที่มีรูโหว่อยู่บริเวณบั้นท้าย     ทำให้ทุกๆ สายตาในห้างสรรพสินค้าจับจ้องมาที่เขาและตามถ่ายรูปและคลิปวิดีโอกันยกใหญ่ทีเดียว โดยรูปภาพทั้งหมดนี้ถูกเผยแพร่ผ่านสมาชิกเว็บไซต์ Weibo ที่ชื่อว่า Mr. Danzi ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างมากจนมีคนกดแชร์ไปกว่า 4,000 ครั้ง และมีความเห็นหลั่งไหลกันเข้ามากว่า 2,000 ข้อความเลย     หนึ่งในความเห็นบอกว่า “ฉันเคารพในความคลั่งไคล้ของผู้คนนะ แต่คุณไม่หนาวเหรอที่ใส่ชุดแบบนี้?” ในขณะที่ชาวเน็ตได้แสดงความเห็นถกเถียงกันว่าการที่ชายหนุ่มแต่งตัวแบบนี้มาเดินในที่สาธารณะนั้นเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่?     โดยบางความเห็นบอกว่าเขาดูเซ็กซี่มากที่แต่งตัวแบบนี้ แถมยังหุ่นดีด้วย แต่บางคนก็ก่นด่าเขาที่แต่งตัวแบบนี้แล้วเดินไปทั่ว         แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดว่าการที่เราแต่งตัวตามความชอบถือเป็นสิ่งที่ทำได้ไหม? หรือเราควรจะมีขอบเขตอยู่บ้าง? ที่มา shanghaiist

สมูธตี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มยอดฮิต ที่มีรสชาติอร่อย มีสีสันสดใสน่ารับประทาน และนอกจากความอร่อยแล้ว สมูธตี้ยังถือเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตสำหรับคนที่รักสุขภาพอีกด้วย เพราะส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของผัก และผลไม้ ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่อยากจะลดความอ้วนเป็นพิเศษ     และด้วยความที่ผู้คนหันมาใส่ใจในสุขภาพมากยิ่งขึ้น จึงทำให้มีการแชร์ภาพฝีมือการทำสมูธตี้สีสันสดใสในอินสตาแกรม ซึ่งมีทั้งสมูธตี้ผัก และผลไม้ อีกทั้งยังมีสมูธตี้ไอเดียสร้างสรรค์อีกมากมาย ที่เห็นแล้วชวนยั่วน้ำลายฝุดๆ เลยละ   แค่ชื่อก็ฟังดูน่าทานแล้ว พอเห็นภาพก็ยิ่งน่าทานเข้าไปใหญ่ ก็ดูสิ…สีสันของเค้าสวยสดใสจริงๆ   ขอเสิร์ฟสมูธตี้ถ้วยนี้ ให้กับคนที่รักสุขภาพโดยเฉพาะ เพราะมันมีทั้งผลไม้นานาชนิด รวมทั้งเมล็ดฟักทองอีกด้วย งานนี้นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังได้ประโยชน์อีกเต็มๆ     สมูธตี้ปั่นหลากสีแบบนี้ จริงๆ ทำแล้วไม่ยากหรอก เพียงแค่เริ่มปั่นส่วนผสมในแต่ละชั้นจนเป็นเนื้อเนียนละเอียด แล้วเทส่วนผสมใส่ในแก้วที่เตรียมไว้ให้เป็นชั้นๆ     หรืออาจจะมีการแทรกผลไม้ใส่ตามลงไป เพื่อเพิ่มสีสันให้หน้าตาสมูธตี้ของคุณดูน่าทานมากยิ่งขึ้น   อยากดื่มสักแก้วไหมละ   สมูธตี้แฟนตาซี เครื่องดื่มแสนอร่อยๆ ทานแล้วสดชื่นฝุดๆ   การทำสมูธตี้ให้ได้หลากหลายชั้น และมีสีสันสดใส ถือเป็นเทรนด์ใหม่ในอินสตาแกรมเลยละ   เรียงจากสีเข้มสุดขึ้นมาเป็นสีที่อ่อนสุด อ้อ!! อย่าลืมเพิ่มวิปครีมลงไปเพื่อเพิ่มความอร่อยด้วยนะ  …

ใครจะไปนึกว่าการมีสะโพกที่สวยงาม จะสามารถทำเงินได้มากกว่าเดือนละหนึ่งล้านบาท แต่สำหรับสองพี่น้องฝาแฝดนี้นั่นไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันแต่อย่างใด และแม้จะมีคนวิจารณ์พวกเธอมากมาย แต่เธอก็หาได้แคร์ไม่!!   แฝดสาวทั้งสองมีชื่อว่า ดาน่า และ นาเดีย บรูน่า วัย 30 ปี ทั้งสองถือว่าเป็นเซเลปบนอินสตาแกรมเลยทีเดียว เพราะมีผู้ติดตามเธอกว่า 1.1 ล้านคน ซึ่งสิ่งที่ทำให้เธอมีชื่อเสียงโด่งดังคือ บั้นท้ายดินระเบิดนั่นเอง   แม้เธอจะยอมรับพวกเธอทำศัลยกรรมบั้นท้ายด้วยการย้ายไขมันจากส่วนอื่นๆ มา แต่เธอก็บอกว่าตอนแรกเธอก็มีบั้นท้ายที่สวยตามธรรมชาติอยู่แล้ว   และนอกจากบั้นท้ายแล้ว พวกเธอยังจ่ายเงินอีกกว่า 60,000 เหรียญ หรือราว 2 ล้านบาทเพื่อศัลยกรรมหน้าอกและบางส่วนของใบหน้า เพื่อให้เข้ากับบั้นท้ายสุดบึ้มของพวกเธอ ไม่เพียงเท่านั้น พวกเธอยังออกกำลังกายอย่างหนัก เพื่อให้มีรูปร่างที่เพอร์เฟ็คอีกด้วย   แต่เงินจำนวนนั้นไม่ได้เสียเปล่าไปเลย เพราะพวกเธอกลายเป็นคนมีชื่อเสียงบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค และสามารถทำเงินได้กว่าเดือนละ 30,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1 ล้านบาท จากการขายคลิปและภาพถ่าย “ก้น” ของพวกเธอบนแอปพลิเคชั่น “Supe”   พวกเธอเล่าว่า ตอนแรกเธอก็รู้สึกแย่เหมือนกันที่ถูกมองเหมือนเป็นวัตถุทางเพศ (Sex Object) แต่พวกเธอก็มองโลกในแง่ดีว่า…

เชื่อว่าหนุ่มๆ หลายคนก็คงจะเคยไว้หนวดไว้เครากันมาแล้ว และคุณเคยสังเกตตัวเองบ้างหรือไม่ ว่าระหว่างการไม่มีหนวด และมีหนวดแบบไหนที่เข้ากับคุณมากที่สุด เรียกได้ว่าบางคนไว้หนวดก็อาจจะดูดี แต่สำหรับบางคนไม่ไว้จะดูดีกว่า แล้วถ้าเราลองมาดูภาพเปรียบเทียบของเหล่าเซเลปหนุ่มคนดัง ในตอนที่ไร้หนวด และมีหนวดบ้างละ คุณคิดว่าพวกเขาจะดูดีในลุคไหนมากกว่ากัน   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   ส่วนใหญ่ไว้หนวดแล้วดูดีขึ้นกันทุกคนเลยนะเนี่ย ฮ่าๆ แต่ก็อย่างว่าแหละการไว้หนวดแม้ว่ามันจะทำให้คุณผู้ชายดูเท่ขึ้นก็จริง แต่ก็ใช่ว่าจะเหมาะกับทุกๆ คนหรอกนะ เพราะบางคนก็หล่อ และดูเท่อยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่มีหนวดก็ตาม ที่มา…

แม้ว่าอากาศบ้านเราจะร้อนจัด จนบางคนภาวนาอยากจะให้มีพายุหิมะแรงๆ พัดกระหน่ำแบบในต่างประเทศ แต่เชื่อหรือไม่ว่าสภาพอากาศแบบนั้นก็ไม่ได้ดีเสมอไปนะ…     เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Huffingtonpost ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการทดลองของสถานีอุตุนิยมวิทยา เมาท์วอชิงตัน ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ สหรัฐอเมริกา โดยให้นาย Mike Dorfman ออกไปยืน เดิน วิ่งท่ามกลางสภาพอากาศอันเลวร้ายบนยอดเขาสูง     ตามรายงานบอกว่าในขณะนั้นมีพายุเฮอริเคนที่พัดด้วยความเร็วถึง 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้นาย Mike ไม่สามารถเดินไปข้างหน้าได้ เขาถูกลมพัดและต้านอย่างแรง แม้ว่าเจ้าตัวจะพยายามฝ่าลมแรงออกไปเท่าไหร่ก็ไม่สามารถเดินไปข้างหน้าได้ แต่หลังที่พยายามอยู่นานเขาก็สามารถฝ่าออกไปได้ในที่สุด     นาย Mike กล่าวว่า “มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฝ่าลมแรงขนาดนี้ไปได้อย่างปลอดภัย คุณต้องเสี่ยงชีวิตของคุณพยายามหนีออกไปจากลมแรง (ผมเหนื่อยมากหลังจากที่ใช้เวลาหลายนาทีโต้ลม) หรือยอมติดอยู่ในเฮอริเคน ที่พร้อมจะพัดเอาเศษขยะและของมีคมปลิวไปมา”     ทั้งนี้มีผู้ชมในโลกออนไลน์ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จนมียอดผู้เข้าชมกว่า 500,000 ครั้งแล้ว   ลองชมคลิปการทดลองได้ที่ด้านล่างเลย ถึงแม้อากาศบ้านเขาจะไม่ได้ร้อนจัดเหมือนกับบ้านเรา แต่มันก็ไม่แปลว่ามันคือเรื่องดีเสมอไปนะ ที่มา huffingtonpost , Mount Washington Observatory

นับว่าเป็นปัญหาเรื้อรังที่แก้ไขกันไม่ได้ซักทีกับทางเท้าหรือฟุตบาทที่เราเรียกๆ กัน จะเห็นได้ชัดว่าหลายจังหวัดในประเทศไทยมักจะประสบกับปัญหารถจักรยานยนต์ขับขี่ขึ้นมาบนทางเท้า หวังจะใช้เป็นทางลัดในการสัญจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่รถติด     นอกจากตามเมืองใหญ่ๆ ของประเทศไทยอย่างกรุงเทพแล้ว ที่ประเทศอินโดนีเซียเองก็ประสบกับปัญหานี้เช่นเดียวกัน แต่!!! ในเมื่อมีปัญหาก็ต้องมีฮีโร่ที่กล้าเปลี่ยนแปลง และเธอ…. ผู้หญิงใจกล้าที่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงก็คือ Alfini Lestari วัย 34 ปี ที่พยายามยืนขวางกั้นไม่ให้รถจักรยานยนต์สัญจรบนทางเท้าในกรุงจาการ์ตา     ภายหลังจากที่ภาพของเธอถูกเผยแพร่ออกไป ทั้งหนังสือพิมพ์และอินเทอร์เน็ต ผู้คนต่างก็ยกย่องในความกล้าหาญของเธอที่ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เป็นปัญหามาอย่างยาวนาน     เธอให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่ามันเกิดจากการที่เธอสังเกตเห็นว่ารถจักรยานยนต์มักจะสัญจรเป็นทางเท้าอยู่บ่อยๆ จนทำให้คนที่เดินบนทางเท้าไม่สามารถเดินได้ ซึ่งเธอเองก็ทำแบบนี้มาหลายครั้งเมื่อใดก็ตามที่พบกับรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่บนทางเท้า     ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เธอไม่สนใจว่าจะโดนด่าโดนต่อว่าจากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า พยายามขับชน หรือบอกว่าเธอไม่ได้เป็นเจ้าของทางเท้า เธอคิดว่าทางเท้ามีไว้ให้คนเดิน ไม่ใช่ให้รถจักรยานยนต์สัญจร ‘ฉันบอกกับพวกเขาว่าควรจะละอายตัวเองบ้าง พวกเขามีถนนไว้ใช้สัญจรอยู่แล้วแต่ดันมาเบียดเบียนคนอื่นด้วยการขับขี่บนทางเท้า’ ที่มา : thejakartapost, asiancorrespondent, kompas

แน่นอนว่าค่านิยามความสวยในแต่ละยุคแต่ละสมัยนั้นแตกต่างกัน สมัยก่อนคนสมัยโบราณจะชอบผู้หญิงที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ ตามที่เราเห็นรูปปั้นของหญิงสาวในสมัยบาบิโลน ที่มักจะมีรูปร่างที่อ้วน เพราะราวกับเป็นสิ่งที่สื่อให้เห็นถึงความอยู่ดีกินดีและอุดมสมบูรณ์นั่นเอง แต่ที่แปลกไปกว่านั้น คือราวๆ ปี 1930 เชื่อหรือไม่ว่าเคยมีการจัดประกวด ‘ข้อเท้า’ สวยมาก่อน และเป็นงานประกวดที่เรียกได้ว่าจริงจังสุดๆ ไม่แพ้ในสมัยนี้เลยทีเดียว!!!   ภาพการประกวดข้อเท้าสวยใน Hounslow กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่นายตำรวจกำลังดูข้อเท้าของสาวๆ อยู่ (ภาพถูกถ่ายเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 1930)   ตั้งแต่นั้นมาในสหราชอาณาจักรก็มีเทรนด์การประกวดนี้ขึ้นมากมายทั้งใน Kent ปี 1932 ภาพนี้คุณะกรรมการชายกำลังจับและวัดสัดส่วนของข้อเท้าผู้เข้าแข่งขันอยู่   ปี 1933 มีรายงานว่าการจัดประกวดเริ่มมีสปอนเซอร์แล้วด้วย แต่คณะกรรมการก็ยังเป็นผู้ชายอยู่ดี   และปี 1936 ที่มีคณะกรรมการหญิงเป็นผู้ตัดสิน (น่าจะทำตั้งนานแล้ว เพราะเป้นการประกวดความงามล่ะเนาะ)   และไม่ได้มีแค่การประกวดข้อเท้าสวยเท่านั้น ในกรุงปารีสของฝรั่งเศสก็มีการประกวดขาสวยอีกด้วย (ภาพนี้ถูกถ่ายไว้ในปี 1950)   ที่สำคัญที่สุดคือรูปร่าง หน้าตา และอายุนั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคของสาวๆ ในการสมัครเลยแม้แต่น้อย จนมีครั้งหนึ่งที่สาวใหญ่วัย 50 ปี เคยชนะการประกวดนี้ด้วย!!!  …

ก็เรียกได้ว่ากำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักเลยทีเดียวสำหรับเหล่าชาวเน็ทต่างประเทศ เมื่อมีคุณพ่อคนหนึ่งไลฟ์สตรีมภรรยาของเขาที่กำลังคลอดลูกลงเฟซบุ๊ค จนเกิดกระแสไปทั้ว!!!   Kali Kanongataa คุณพ่อวัย 36 ปีแห่ง Sacramento แคลิฟอร์เนียที่ไลฟ์สตรีมลูกภรรยาของเขาคลอดลูก   ผู้หญิงในภาพคือ Sarah ภรรยาของเขา   เมื่อไม่นานมานี้ก็ถึงกำหนดคลอด และเขาก็ได้ไลฟ์สตรีมเพราะอยากแชร์ช่วงเวลาดีๆ แบบนี้กับเพื่อนๆ ของเขา   ตั้งแต่ช่วงเวลาน่าเบื่อๆ   จนกระทั่งเวลาสำคัญที่ลูกของเขากำลังจะคลอดออกมา   ขณะนั้นคุณหมอและพยาบาลก็ปฏิบัติหน้าที่กันอย่างแข็งขัน   สุดท้ายแล้ววิดีโอและการไลฟ์สตรีมขอเขานั้น มีระยะเวารวมถึง 45 นาทีด้วยกัน มียอดวิวกว่า 95,000 วิว และแชร์ไปเกือบๆ กว่า 300 ครั้ง แน่นอนมีทั้งคนที่ยินดีด้วย   และคนที่ไม่เห็นด้วย….วันนี้มีคนไลฟ์สตรีมคลอดลูกบนเฟซบุ๊คด้วยล่ะ เป็นอีกหนึ่งเรื่องเลยที่ทำให้ฉันอยากเลิกเล่นโซเชียลมากๆ    คุณแม่ ออกแรงหน่อย สู้ๆ !!!   หลังจากได้รับทั้งกำลังใจและคำตำหนิ สมาชิกใหม่ของครอบครัวก็ได้ลืมตาดูโลกซะที   ก็ต้องยอมรับว่าสุดท้ายแล้วเป็นโมเม้นท์ที่ประทับใจมากๆ   บทสัมภาษณ์ของคุณพ่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ ‘มีเรื่องราวไร้สาระมากมายเกิดขึ้นบนเฟซบุ๊ค ผมก็แค่อยากจะส่งข้อความไปถึงหลายๆ…

เรารู้กันดีว่าการจอดรถตากแดดกลางแจ้งนั้น จะทำให้ภายในรถยนต์ร้อนได้มากมายขนาดไหน แค่จอดไม่นานก็ร้อนเหมือนกับเตาอบไมโครเวฟแล้ว อย่างเช่น เชฟออสซี่ย่างเนื้อซี่โครงแกะในรถยนต์ที่จอดกลางแจ้ง แล้วยิ่งถ้าปล่อยสุนัขทิ้งไว้ในรถยนต์แบบนี้ พวกมันจะขาดน้ำได้ในเวลาอันรวดเร็ว และอาจถึงตายได้ภายใน 15 นาทีเท่านั้น!!     และเหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อนักเรียนชาย Bradley North สามารถช่วยชีวิตสุนัขพันธุ์ด็อจ เด บอร์โดซ์ ที่ถูกขังเอาไว้ในรถตู้ได้อย่างหวุดหวิด โดยที่ก่อนหน้านั้นเขาสังเกตเห็นว่ามันพยายามที่จะออกมาจากทางหน้าต่าง แต่สายจูงดันไปเกี่ยวกับสิ่งของภายในรถ ยิ่งทำให้มันตกอยู่ในอันตราย     เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว Bradley วัย 13 ปี จึงไม่รอช้า เขาทุบกระจกรถยนต์และช่วยปลดสายจูงที่รั้งคอมันเอาไว้ นำตัวมันออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์และรอคอยให้เจ้าของกลับมาที่รถตู้เป็นเวลาประมาณ 15 นาที ซึ่งทางเจ้าของสุนัขตัวนี้ก็ได้ขอบคุณเขาที่ช่วยชีวิตมันเอาไว้ และภายหลังจากนั้นชาวเน็ตต่างก็ชื่นชมเขามากมายเช่นเดียวกัน     ‘ผมได้รับข้อความชื่นชมเข้ามามากมายเลยล่ะ ส่วนใหญ่ก็กล่าวถึงความกล้าหาญของผมที่ได้ช่วยชีวิตสุนัขตัวหนึ่งตั้งแต่ที่มีภาพของผมในโลกออนไลน์ และเพื่อนๆ ผมเองก็ชื่นชมเช่นเดียวกันกับสิ่งที่ผมได้ตัดสินใจทำลงไป’ ที่มา : metro, theladbible

เทคโนโลยี แม้จะทำให้คนไกลกันสามารถสื่อสารกันได้ง่ายเหมือนใกล้กัน แต่ก็สามารถทำให้คนที่อยู่ใกล้กันดูเหมือนไกลกันได้นะ…   เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมทึ่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าเจ้าบ่าวชาวซาอุดิอาระเบียได้ขอหย่ากับเจ้าสาวหลังจากที่พวกเขาเพิ่งจะแต่งงานกันได้ไม่กี่ชั่วโมง เหตุเพราะฝ่ายหญิงเอาแต่แชตมือถือกับเพื่อนจนไม่ยอมมีอะไรด้วย!?     ตามรายงานบอกว่าหลังจากที่ทั้งคู่เสร็จพิธีแล้วพวกเขาก็กลับไปยังห้องพักที่โรงแรมในเมืองญิดดะฮ์ แต่เมื่อฝ่ายชายพยายามจะเข้าไปใกล้เธอ ฝ่ายหญิงกลับผลักเขาออกไป เพราะเธอกำลังยุ่งอยู่กับการตอบข้อความที่เพื่อนๆ ของเธอส่งเข้ามาแสดงความยินดีผ่านมือถือ     เมื่อจ้าวบ่าวป้ายแดงเห็นแบบนั้นก็เลยพยายามขอให้เธอหยุดแชตก่อน พร้อมกับถามว่าเพื่อนๆ ของเธอมีความสำคัญมากกว่าเจ้าบ่าวที่อยู่ตรงหน้าหรืออย่างไร? เธอกลับตอบไปว่าใช่ ทั้งคู่จึงเกิดการทะเลาะเบาะแว้งขึ้น จนฝ่ายชายทนไม่ไหวตะโกนขอหย่ากับเธอและออกจากโรงแรมไป     ต่อมาฝ่ายชายได้ยื่นฟ้องศาลเพื่อขอหย่า แม้ว่าทางศาลได้ขอให้ทั้งคู่ประนีประนอมกันแต่ดูเหมือนฝ่ายชายจะไม่ยอม และขอยืนกรานว่ายังไงก็จะขอหย่าให้ได้ แหม่ ได้แต่งงานได้อยู่กับคนรักทั้งที เอาแต่เล่นมือถือไปได้ นึกถึงเรื่องราวอันยากลำบากกว่าที่คนสองคนจะผ่านมันมาได้ซิ ที่มา dailymail

เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักพนันหนุ่มคนหนึ่ง ที่ดันไปรับคำท้าแปลกๆ จากเพื่อน เพื่อเสริมหน้าอกแลกกับเงินจำนวนมาก แต่ที่แปลกกว่านั้นก็คือเจ้าตัวกลับติดใจและใช้ชีวิตมาได้นานถึง 20 ปีทีเดียว!?   นี่เป็นเรื่องราวของนาย Brian Zembic หนุ่มนักพนันและนักมายากลชาวแคนาดาวัย 55 ปี เขาเล่าว่าในอดีตเขาเคยไปเที่ยวกับเพื่อนและแฟนของเพื่อน จู่ๆ เขาก็พูดขำๆ ขึ้นมาว่าหากเขามีหน้าอกเหมือนผู้หญิงบ้างก็คงดี คงมีคนสนใจเขาเยอะขึ้น     เมื่อเพื่อนของเขาได้ยินเข้าก็เลยท้าให้นาย Brian ไปเสริมหน้าอก หากยอมทำจริงเขาจะจ่ายเงินรางวัลให้ 100,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3.5 ล้านบาท และต้องใช้ชีวิตแบบผู้ชายมีหน้าอกต่อไปอีก 1 ปีด้วย   หากเป็นคนทั่วไปก็คงจะปฏิเสธคำท้านี้ แต่กับนาย Brian ผู้รักการพนัน ได้ตอบตกลงหน้าตาเฉย และเดินทางไปหาหมอที่เขารู้จัก เพื่อขอให้เขาช่วยเสริมหน้าอกให้ เขาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมไปหาเขาที่ออฟฟิสและบอกว่า ‘คุณช่วยเสริมหน้าอกให้ผมได้ไหม?’ และเขาก็ตอบว่า ‘นี่เป็นเดิมพันใช่ไหม?’”     เท่านั้นยังไม่พอ หนุ่มนักพนันรายนี้ยังได้ชวนคุณหมอเล่นพนันอีก “ผมเล่นเกมพนันกับเขาเป็นชั่วโมง ปรากฏว่าผมชนะเงิน 78,450 บาท ตู้ม! ผมได้ทำหน้าอกฟรี จากนั้นผมก็ตื่นมาพร้อมหน้าอกเลย” เมื่อเสริมหน้าอกเสร็จแล้ว เขาก็โชว์มันให้เพื่อนของเขาดูและทวงเงินพนันที่ท้าเอาไว้ “ครั้งแรกที่ผมเปิดให้เพื่อนดู…

ในปี 2006 ได้มีการค้นพบเรื่องราวที่น่าประหลาดในที่ห้องใต้ดินที่ถูกปิดผนึกไว้นานแสนนานที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าร้าง และในนั้นประกอบไปด้วยของมากมายนับพันๆ ชิ้น แต่ละอันก็ดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่นสมุดไดอารี่ลึกลับ ที่เราจะได้จะเห็นภาพในบทความนี้     สิ่งเหล่านี้ถูกเรียกว่า Merrylin Cryptid Collection ซึ่งชื่อนั้นมาจากคนที่เคยเป็นเจ้าของสิ่งเหล่านี้ Thomas Theodore Merrylin เขาเกิดในประเทศอังกฤษในช่วงปี 1782 ในครอบครัวชนชั้นสูงและเป็นนักชีววิทยาอีกด้วย Merrylin อุทิศชีวิตให้กับการเก็บสะสมและศึกษาของแปลกๆ และน่าประหลาดใจ (ส่วนมากจะแปลกมากกว่า) มันแปลก บางอันก็สวยด้วย     แต่เรื่องดังกล่าวก็กลายเป็นเพียงตำนานเท่านั้น เมื่อความจริงถูกเฉลยว่าทั้งหมดนี้เป็นงานศิลปะของศิลปินที่ชื่อว่า Alex CF จากเมืองลอนดอน เขาทำออกมาโดยอิงให้ดูมีเรื่องราวเหมือนที่เล่าไปข้างต้น และถือว่าเป็นผลงานที่สมจริงอีกชุดหนึ่งเลยทีเดียว ลองพิจารณาผลงานชิ้นนี้ดูสิ คุณอาจจะหลอนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว . . . . . . . . .   ที่มา boredpanda

ประเทศจีนนี่มีอะไรมาให้เราอึ้งตลอดเวลาจริงๆ กับวันนี้อีกครั้งกับพ่อหนุ่มคนขับรถบัสผ้าขี้ริ้วห่อทอง ที่ใครจะไปรู้ว่า เค้ามีรถหรูราคาหลายล้านอย่างแลมโบร์กินี่และออดี้ขับกับเขาด้วย?!? เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองไท่หยวน มณฑลซานซี ประเทศจีน เมื่อมีชาวเน็ตเผยแพร่ภาพของพนักงานขับรถบัสคนหนึ่ง ที่โชว์หรูด้วยการขับรถแลมโบร์กินี่ กาลาโด้ (Lamborghini Gallardo) และออดี้ อาร์ 8 (Audi R8) มาทำงาน   โดยรายงานเล่าว่า ทุกๆ วันเขาจะขับรถหรูของเขามาจอดที่สำนักงาน ก่อนจะขับรถบัสออกไปรับผู้โดยสาร และเมื่อทำงานเสร็จ เขาก็จะแปลงโฉมเป็นหนุ่มไฮโซและขับรถหรูกลับบ้านไป   นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เขาก็ยังเป็นสมาชิกของชมรมรถหรูแห่งเมืองไท่หยวนอีกด้วย เมื่อชาวเน็ตเห็นภาพดังกล่าวก็ออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย บางคนสงสัยว่าเขาเอาเงินมากขนาดนี้มาจากไหน บางคนก็บอกว่าเขาคงเป็นเศรษฐีในเมืองนี้แหละ แต่มาขับรถบัสเป็นงานอดิเรกเฉยๆ   แต่หลายคนก็วิจารณ์ว่า ถ้าเขารวยขนาดนี้ เค้าควรจะลาออกจากงานไปซะ แล้วให้คนที่มีความจำเป็นจริงๆ มาทำดีกว่า   มีการเปิดเผยผ่านเว็บ NetEase ว่า คนขับรถผู้นี้แม้จะมีรถหรู (ไม่รู้ว่าที่เมืองจีนมีเสี่ยตันไหม) แต่เขาก็ยังมองตัวเองเป็นคนธรรมดาทั่วไป ขับรถมาทำงานประจำของเค้าแล้วก็ขับกลับแบบคนปกติ   แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาดูนะเหมียววว ที่มา Shanghaiist

Leo Camacho ชายหนุ่มผู้ที่ชื่นชอบการแต่งตัวคอสเพลย์เลียนแบบตัวละครจากการ์ตูนดิสนีย์ โดยเฉพาะการเลียนแบบเป็นเจ้าชาย Eric จาก The Little Mermaid เป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงได้แปลงโฉมตัวเองให้มาอยู่ในลุคสุดเท่แบบเจ้าชาย Eric และผลลัพธ์ที่ได้ก็ออกมาเป็นแบบนี้เลย…   โอ้ววว ดูสิ…เขาคล้ายตัวละครจากการ์ตูนดิสนีย์เป๊ะเลย   นี่มันเจ้าชาย Eric ในชีวิตจริงชัดๆ   สำหรับ Leo แล้ว เขาเป็นผู้ที่ชื่นชอบการแต่งตัวเลียนแบบตัวละครเป็นชีวิตจิตใจ อีกทั้งเขายังเป็นผู้ที่ทำการออกแบบ และตัดเย็บชุดคอสเพลย์ด้วยตัวเองทั้งหมดเลยนะ   เรียกได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้ที่แต่งคอสเพลย์เลียนแบบตัวละคร ได้เหมือนกับต้นฉบับมากๆ คนหนึ่งเลยนะเนี่ย   และนอกจากเจ้าชาย Eric แล้ว Leo ยังได้แต่งเลียนแบบตัวละครตัวอื่นๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น…Aladdin   Jack Sparrow จากภาพยนตร์เรื่อง Pirates of the Caribbean   Poe Dameron จากภาพยนตร์เรื่อง Star Wars   กัปตัน Hook จากซีรีย์สุดฮิต Once…

ในโลกนี้มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีความงดงามมากมายเหลือเกิน  ซึ่งสถานที่เหล่านั้นนอกจากจะถูกนำมาใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว ยังได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ รวมไปถึงถูกยกให้เป็นมรดกของโลกอีกด้วย และในวันนี้เหมียวขี้อ้อน จะพาคุณไป 25 ภาพของวัดจากทั่วทุกมุมโลก ที่ถูกสร้าง และออกแบบขึ้นมาอย่างสวยงาม แถมยังมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย เราไปชมกันเลยดีกว่าว่าจะมีที่ไหนกันบ้าง อ้อ!! แอบใบ้นิดนึงว่า มีประเทศไทยด้วยนะ อิอิ   1.มหาวิหารแห่งมิลาน ประเทศอิตาลี   2.วัดทักซัง หรือวัดถ้ำเสือ ในประเทศภูฏาน   3.มัสยิดหลวง Sheikh Zayed ในอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์   4.คริสตจักร  Hallgrimskirkja พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไอซ์แลนด์   5.วัดดอกบัว ในนิวเดลี ประเทศอินเดีย   6.Las Lajas Sanctuary คริสตจักรมหาวิหารที่ตั้งอยู่ใน  Nariño ประเทศโคลัมเบีย   7.มหาวิหารเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์   8.นครวัด เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา   9.โบสถ์พระแม่มารี (Assumption…

หากคุณเคยมีปัญหากับการสั่งอาหารในร้านหรูๆ หรือหวาดกลัวทุกครั้งที่เจอชาวต่างชาติ ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปในเร็ววันนี้ล่ะ เพราะตอนนี้เรามีอุปกรณ์แปลภาษารูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องง้อวุ้นแปลภาษาของโดราเอมอนอีกแล้ว   เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนออุปกรณ์ที่มีชื่อว่า Pilot (ผู้นำทาง) มันคือหูฟังขนาดเล็กแบบไร้สาย 2 ข้าง ที่ให้คน 2 คนที่คุยกันคนละภาษาสวมใส่มันคนละอัน เพื่อช่วยแปลภาษาให้กับพวกเขาแบบคำต่อคำเลยทีเดียว ทางด้านบริษัท Waverly Labs ผู้ผลิตหูฟังตัวนี้ออกมายืนยันว่าเจ้าอุปกรณ์ Pilot ชิ้นนี้เป็น “หูฟังอัจฉริยะ” ตัวแรกที่มีความสามารถในการแปลระหว่างสองภาษา “มันคืออุปกรณ์แบบสวมใส่ชิ้นเล็กๆ ที่มีเทคโนโลยีช่วยแปลภาษาเพื่อให้คน 2 คนที่คุยกันคนละภาษาสามารถเข้าใจซึ่งกันและกันได้”   ส่วนทางด้านการทำงานของเจ้าหูฟัง Pilot นี้ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย เพราะทางผู้ผลิตยืนยันว่ามันมีเทคโนโลยีในการแปลภาษา ฉะนั้นสิ่งที่คุณควรจะทำก็มีเพียงอย่างเดียวคือสวมใส่มันเท่านั้น   ทาง Waverly Labs ได้พิสูจน์ให้เราเห็นว่าเจ้าหูฟังตัวนี้สามารถใช้งานได้จริง โดยการทดลองพาหญิงสาวชาวฝรั่งเศสมานั่งพูดคุยกับหนุ่มอเมริกัน ซึ่งแน่นอนว่าทั้งคู่ต่างฟังอีกฝ่ายไม่รู้เรื่อง แต่พอได้ลองสวมหูฟัง ปรากฏว่าพวกเขาสามารถสื่อสารกันได้ทันที แม้จะมีอาการหน่วงอยู่บ้างเล็กน้อยก็ตาม   นอกจากจะแปลคำพูดธรรมดาๆ ได้แล้ว มันยังสามารถแปลเพลงทั้งเพลงที่เราฟังได้ด้วยนะ แต่ในเบื้องต้นมันยังรองรับแค่ไม่กี่ภาษาเท่านั้น นั่นก็คือภาษาอังกฤษ, สเปน, ฝรั่งเศส และอิตาลี ส่วนภาษาอื่นๆ พวกเขาบอกว่าจะตามมาทีหลัง…

อากาศร้อนๆแบบนี้ใครหลายๆคนคงกำลังมองหาร้านกาแฟเย็นๆ หรืออยากนั่งกินชาเย็นๆซักแก้วเพื่อบรรเทาความร้อนและผ่อนคลายใช่มั้ยล่ะ? นอกจากชาหรือกาแฟเย็นๆซักแก้วแล้ว หลายคนก็คงอยากได้บรรยากาศดีดี อยากมองสิ่งสวยๆงามๆ ที่เห็นแล้วกระชุ่มกระชวยหัวใจ โดยเฉพาะหนุ่มๆที่มาร้านเหล่านี้ก็คงอยากมองสาวน่ารักๆ เป็นธรรมดา   ที่ไต้หวันมีร้านขายชานมไข่มุกที่มีไอเดียเจ๋งๆในการออกแบบแก้วใส่ชานมให้ดูแปลกตาในรูปทรงของ ‘หลอดไฟ’ แต่มันไม่ได้มีแค่นั้นน่ะสิ่ เพราะที่ร้านนี้ยังมีพนักงานสาวสวยและเซ็กซี่สุดๆ ทำให้กำลังมาแรงในเอเชีย ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้   เป็นการทำชานมที่น่าจับตามองจริงๆ!!   ไข่ในมือซ้ายนั่นมีความหมายอะไรรึเปล่า!????   เป็นชา ‘นม’ ที่น่ากินเนอะว่ามะ   สาบานได้ว่าตามองไปที่แก้วหลอดไฟขาวๆนั้นจริงๆ   แทนที่จะใช้แก้วพลาสติกในการใส่ชา แต่เป็นการใส่แก้วหลอดไฟขนาดยักษ์แทน แม้ทางต้นฉบับข่าวไม่ได้มีการยืนยันว่านี่เป็นหลอดไฟจริงๆ หลอดไฟใช้แล้ว หรือเป็นการสั่งทำแก้วขึ้นมาเป็นทรงหลอดไฟ ซึ่งก็น่าคิดว่าหากเป็นหลอดไฟจริงๆ จะมีอันตรายอะไรแอบแฝงไว้รึเปล่า   เอาเป็นว่าหน้าที่ตรวจสอบและประเมินคุณภาพปล่อยให้หน่วยงานของประเทศเค้าจัดการไป ส่วนหน้าดูนม เอ๊ย ดูชานม ก็เป็นของแฟนเพจเหมียวทุกคนคร้าบ…!! ที่มา : rocketnews

#เหมียวฟิ้นเชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยได้ยินการทำท่าแพลงกิ้งมาบ้างล่ะนะ ไอ้การทำท่าแพลงกิ้งที่ว่านี้ก็คือการลงไปนอนแล้วใช้ข้อศอกยันกับพื้นไว้ ทำให้เกิดการเกร็งที่แขนและหน้าท้อง   จะว่าไปแล้วมันก็คือท่าออกกำลังกายที่ดีท่าหนึ่งเลย หากทำในระยะเวลาสั้นๆ แต่คงจะทรมานน่าดูหากต้องทำท่านี้เป็นชั่วโมงๆ!?     เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่ามีการจัดการแข่งขันที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง เพื่อประลองความแข็งแกร่งระหว่างหน่วยสวาทของจีนกับทหารเรือสหรัฐฯ โดยการทำท่าแพลงกิ้งได้นานที่สุด     โดยตัวแทนของฝั่งหน่วยสวาทจีนได้แก่นาย Mao Weidong และฝั่งทหารเรือได้แก่ George Hood เมื่อการแข่งขันดำเนินไปถึงชั่วโมงที่ 7 นาย George เริ่มแสดงอาการล้าให้เห็น และขอหยุดการแข่งขัน โดยเขาสามารถทำเวลาไปได้ 7 ชั่วโมง 40 นาที     แต่นาย Mao ไม่ยอมหยุดแค่นั้น เขายังคงมุ่งมั่นทำท่าแพลงกิ้งต่อไป สุดท้ายเขาก็สามารถทำเวลาไปได้ถึง 8 ชั่วโมง 1 นาที 1 วินาที (บ้าไปแล้ว) ซึ่งทำลายสถิติปีก่อนหน้านี้ที่ 4 ชั่วโมง 26 นาทีลงได้อย่างราบคาบ   . . .  …

พูดถึงเบียร์ เชื่อว่าหลายๆ คนในนี้ถึงกับน้ำลายสอกันเลยทีเดียว เบียร์ถือว่าเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก อาจเพราะด้วยราคาที่ไม่แพงมาก รวมถึงรสชาติที่กลมกล่อม ทำให้เบียร์เข้าไปครองใจนักดื่มทั่วโลก   และหนึ่งในความสุขของนักดื่มเบียร์ คือการได้นั่งจิบเบียร์เย็นๆ ในสวนหลังบ้านของตนเอง แต่ความฝันนั้นอาจพังทลายลงไป เพราะการจะนำตู้แช่ไปตั้งในสวนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กว่าจะเดินเข้าไปหยิบเบียร์ในบ้าน ก็คงจะหมดอารมณ์ดื่มต่อแล้ว หนุ่มชาวเยอรมัน Peter Götting คนนี้ ประสบปัญหานี้เช่นกัน เขาจึงสร้างตู้แช่เบียร์สุดเจ๋งไว้ใต้ดินในสวนหลังบ้าน เพียงแค่โยกคันโยก เบียร์เย็นๆ ก็โผล่ออกมาให้คุณได้ลิ้มลองแล้ว!!   ลองไปดูคลิปกันเลย บอกได้คำเดียวว่าเมพสุดๆ     โอ้โห นี่มันสวรรค์ของคนรักเบียร์ชัดๆ ว่าแล้วเดี๋ยวขอยืมไอเดียไปทำในสวนหลังบ้านมั่งดีกว่า คราวนี้ล่ะฟินไม่มีขาดตอนแน่นอน ฮาา ที่มา Peter Götting

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เมื่อรถไฟคันหนึ่งกำลังพุ่งเข้าไปชนรถบรรทุกที่กำลังติดอยู่ตรงรางรถไฟ ทำให้คนขับรถไฟนั้นต้องรีบทำอะไรบางอย่าง     แต่ในตอนที่เกิดเหตุนั้น คนขับรถไฟ Mateusz Szymanski คุมสติแล้วทำการช่วยผู้โดยสายทุกคนเท่าที่จะทำได้ เขามีเวลาเพียงไม่กี่วินาทีก่อนรถไฟจะพุ่งชนวิ่งไปบอกทุกคนในโบกี้ให้ทำการหาที่ยึด เผื่อว่าจะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ชมคลิปเหตุการณ์นี้กันเลย   โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แต่รถไฟและรถบรรทุกก็ได้รับความเสียหายจากแรงกระแทก Mateusz คนขับรถไฟเล่าว่าเขาดึงสัญญาณเตือนแล้วก็รีบวิ่งไปบอกผู้โดยสารทุกคน ซึ่งตอนนั้นรถไฟวิ่งด้วยความเร็ว 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากเมือง Wagrowiec สู่ Poznan ที่มา mirror

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาช่างภาพชื่อว่า Flo Razowsky ที่อาศัยอยู่ที่เมือง Nogales ในรัฐ Arizona ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการถ่ายภาพกำแพงยาวที่เป็นการแบ่งพรมแดนระหว่างประเทศทั่วโลก และตั้งชื่อโปรเจ็คนี้ว่า ‘Up Against the Wall’ โปรเจ็คนี้เริ่มเมื่อปี 2002 ตอนที่เขาอพยพจากรัสเซียและเป็นพยานในการสร้างกำแพง West Bank ที่มีความยาว 804 กิโลเมตร และสูง 7.62 เมตร เขาเลยเริ่มที่จะสนใจประเภทของกำแพงเหล่านี้และได้เริ่มออกถ่ายภาพตั้งแต่นั้นมา… ประเภทของการแบ่งกำแพงเหล่านี้ห่างไกลจากความผิดปกติ และหลายๆจุดในทั่วโลกนั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดการเสียชีวิตจากการพยายามข้ามกำแพงเหล่านั้น เพื่อไปหาชีวิตใหม่ที่ฝั่งตรงข้าม เมื่อพิจารณาโครงสร้างเหล่านี้ทำให้เราเกิดคำถามว่าทำไมโครงสร้างเหล่านี้ถึงยังอยู่, ใครเป็นคนสร้าง, และสุดท้ายใครกันแน่ที่จะได้รับผลกระทบ? Razowsky บอกว่า “ลองนึกภาพโครงสร้างเหล่านี้ที่ไม่ได้เสนอให้การสร้างกำแพงในโลกนี้สูงขึ้น ต้องเหลือบมองความเป็นจริงที่เรากำลังสร้างต่างหาก”   Playas de Tijuana, Mexico. 2014   West Bank, Palestine. 2005   Nogales, Arizona, U.S. 2014   Lukeville, Arizona, U.S.…

เรื่องของเงินนั้นเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมากๆ ถ้าหากว่าวันหนึ่งวงเงินในบัญชีของเราเพิ่มขึ้นมากจนผิดปกติ บางคนอาจจะรู้สีกดีที่ได้เป็นเศรษฐี แต่จงจำเอาไว้ว่าเงินที่ไม่ใช่ของเรา หากนำไปใช้ก็จะกลายเป็นโจรไปในทันที อย่างเช่นกรณีของสาวนักศึกษาวัย 21 รายนี้     Christine Jiaxin Lee สาวนักศึกษาวัย 21 ปี สาขาวิศวกรรมเคมี ได้กลายมาเป็นเศรษฐีโดยไม่ทันตั้งตัวหลังจากที่ธนาคารได้โอนเงินเข้าผิดบัญชี มาเข้าที่บัญชีของเธอแทนเป็นมูลค่า 162 ล้านบาท (4.6 ล้านดอลลาร์) โดยที่ตัวเธอเองก็ไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติของเงินจำนวนมากในบัญชีเลยแม้แต่น้อย ไม่ติดต่อธนาคารตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา     ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่เงินมูลค่ามหาศาลนี้อยู่ภายในบัญชีของเธอ เธอก็ถอนเงินมาซื้อของอย่างต่อเนื่องแบบหนักหน่วง โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการซื้อของจำพวกกระเป๋าแบรนด์เนม ของใช้เครื่องประดับราคาแพง ยกตัวอย่างเช่น หมอนชาเนล มูลค่า 47,000 บาท กำไลข้อมือ Cartier Love มูลค่า 318,000 บาท กระเป๋าหนังจระเข้ Birkin Himalayan มูลค่า 5.59 ล้านบาท และสิ้นค้าฟุ่มเฟือยอื่นๆ อีกบานตะไท รวมมูลค่าที่ใช้จ่ายไปทั้งหมดก็ประมาณ 84…

ในขณะที่คุณกำลังมองสถาปัตยกรรมที่สวยงามอยู่นั้น คุณเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าเหล่านักออกแบบอาคาร เขาได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ และออกแบบสถาปัตยกรรมสวยๆ มาจากไหน คุณไม่ต้องคิดไปไกลหรอก เพราะบางทีสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ และสวยงาม มันอาจจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติใกล้ตัวของคุณก็เป็นได้ เหมือนดังเช่น 10 ภาพสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งของโลกเหล่านี้ยังไงละ   1.ตึกระฟ้า ในกรุงไทเป   2.สนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่ง หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “รังนก”   3.สำนักงานใหญ่ของ Aldar headquarters เมืองอาบูดาบี แห่งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์   4.หมู่เกาะต้นปาล์ม  (The Palm Islands) โครงการก่อสร้างเกาะจำลองบริเวณอ่าวเปอร์เซีย ในดูไบ   5.ศูนย์ควบคุม และป้องกันโรค ในไต้หวัน   6.ชิคาโก Spire อาคารที่อยู่อาศัยที่สัญลักษณ์ใหม่ของชิคาโก   7.ศูนย์การแข่งขันกีฬาทางน้ำแห่งชาติ ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน   8.ตึกระฟ้า ในลอนดอน   9.วัดดอกบัว (Lotus Temple) สถาปัตยกรรมที่นำสมัยมากที่สุดชิ้นหนึ่งของกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย   10.Olympic…

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เปิดเผยเรื่องราวชวนสลดใจของ Kirsty หญิงสาววัย 23 ปี จากมณฑลเคนต์ ประเทศอังกฤษ ที่นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล เพราะถูกแมลงปริศนากัดเข้าที่หลังของเธอตั้งแต่ตอนอายุ 12 ทำให้เธอต้องวนเวียนอยู่โรงพยาบาลนับตั้งแต่นั้นมา     ตามรายงานบอกว่า Kirsty มีอาการป่วยเรื้อรังมาตลอด 11 ปีที่ผ่านมา ทั้งปวดเนื้อปวดตัวและมีอาเจียน มันทำลายชีวิตความเป็นอยู่ของเธอในแบบที่ไม่ควรจะเป็น อาการของเธอแย่ลงขึ้นเรื่อยๆ ในเดือนที่ผ่านมา เธอต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลบ่อยถึง 4 ครั้งทีเดียว     ทางด้าน Theresa คุณแม่ของ Kirsty ได้กล่าวว่าเธอรู้สึกลำบากใจมากเพราะลูกสาวเอาแต่อ้อนวอนให้พาเธอไปฉีดยาฆ่าตัวตายซะ “Kirsty แย่ลงเรื่อยๆ เธอไม่สามารถรับยาเพราะอาเจียน เธอพยายามแล้ว แต่เธออ่อนแอและอยากจะตาย”     ตลอดระยะเวลาการรักษาตัว 7 ปีที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ได้กล่าวว่า Kirsty อาจเป็นโรค SLE (โรคแพ้ภูมิตัวเอง) แต่สุดท้ายคุณหมอจากโรงพยาบาล Guy’s Hospital ก็ได้ออกมายืนยันว่าไม่ใช่อย่างที่คิด   ชมคลิปสุดสะเทือนใจได้ที่ด้านล่างเลย…

มนุษย์ธรรมดาๆ อย่างเราๆ ทั้งหลายที่เกิดมาตามปกติ ทำทุกสิ่งทุกอย่างได้พอๆ กัน จะแตกต่างกันที่ไลฟ์สไตล์ที่ส่งผลต่อสภาพร่างกาย แต่ไม่มีใครที่เกิดมาพร้อมกับสภาพเหนือมนุษย์เหมือนอย่างในตัวละครภาพยนตร์หรือการ์ตูนหรอก     แต่มันไม่ใช่สำหรับผู้ชายวัย 53 ปีผู้นี้ Dean Karnazes ผู้ที่มาพร้อมกับสภาพร่างกายอันแข็งแกร่งมากกว่ามนุษย์ทั่วไป โดยที่พันธุกรรมของเขานั้นเป็นชนิดพิเศษที่ว่าไม่มีอาการปวดร้าวใดๆ ไม่มีอาการภาวะหายใจเกินในระหว่างที่เขาวิ่งเลย!!     เขาสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 500 กิโลเมตรแบบชิวๆ ภายในเวลา 80 ชั่วโมง 44 นาที โดยที่ไม่ต้องพักเลยด้วยซ้ำ ซึ่งร่างกายของเขานั้นสามารถกำจัดกรดแล็กทิกได้อย่างรวดเร็ว อันเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดเมื่อยจากการออกแรงต่างๆ อย่างหนักนั่นเอง ทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อย ไม่รู้สึกปวด อะไรใดๆ ทั้งสิ้น     Dean กล่าวว่า ‘ผมวิ่งตลอดระยะเวลาสามวัน โดยที่ไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน และในวันที่สามของการไม่ได้นอนนั้นก็บ้อบอไปหน่อย เพราะในระหว่างที่ผมกำลังวิ่งนั้นก็เกิดอาการหลับใน แต่ถึงแม้จะหลับก็ยังคงวิ่งต่อไปอย่างนั้น’     เขาเริ่มสังเกตว่าตัวเองแตกต่างจากคนอื่นเป็นครั้งแรกก็เมื่อปีค.ศ. 2006 ในระหว่างที่กำลังตัวพร้อมร่างกายก่อนที่จะแข่งขันวิ่งมาราธอน 50 รายการเป็นเวลา 50 วันอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงปัจจุบันนี้เขาก็ยังไม่หยุดวิ่ง วิ่งออกกำลังกายในทุกๆ…

ผู้บังคับใช้กฎหมายอย่างตำรวจมักจะมีชื่อเสีย(ง) เรียงนามที่ไม่ค่อยจะเป็นที่ถูกใจประชาชนซักเท่าไหร่นัก เพราะด้วยความโหด สั่งปรับยั้ง มีความผิดก็ว่าไปตามผิด แต่อันที่ไม่ผิดก็ยังจะให้ผิดในบางกรณี ฮ่าๆ ก็ว่ากันไปแหละนะ แต่ถ้าหากว่าตำรวจเป็นคนทำผิดซะเองล่ะ?     โดยในกรณีนี้เกิดขึ้นที่เมือง Groveland รัฐ Florida เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกสั่งปรับให้กับใครหน้าไหนก็ตามที่จอดรถขวางบนทางเท้า แม้ว่าจะจอดอยู่หน้าบ้านของตัวเองก็ตาม ซึ่งค่าปรับก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ โดนครั้งนึงก็ปาเข้าไป 40 ดอลลาร์ (1,415 บาท)     จนกระทั่งครั้งนี้กลับกลายเป็นว่าคุณตำรวจทำผิดกฎหมายซะเอง พลเมืองดีผ่านมาเห็นเข้าและได้ทำการถ่ายรูปโพสต์ลงสื่อออนไลน์ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม แบบว่ามันไม่โอเคเลยที่เห็นแบบนี้ ตำรวจจอดรถบนทางเท้าหน้าบ้านตัวเองก็ต้องโดนเหมือนกัน     สือทราบมาว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของหัวหน้าตำรวจของเมือง Groveland ซะด้วย และภาพชุดนี้ก็ถูกแชร์ต่อไปอย่างมหาศาล ผลสุดท้ายก็โดนสั่งปรับไปตามระเบียบเป็นมูลค่า 45 ดอลลาร์ (1,592 บาท) ยังดีตรงที่กฎหมายของเขายังขลังอยู่ ต้องโดนบีบด้วยหลักฐานยังไงก็ต้องแพ้ ส่วนเมืองไทยของเราน่ะเร๊อะ? ที่มา : unilad

ว่ากันด้วยเรื่องของโจร เป็นผู้คนที่ไม่ดี พร้อมจะทำร้ายทุกคนที่เข้ามาขัดขวางการปล้น ซึ่งในการปล้นแต่ละครั้งจะต้องมีการเตรียมการมาแล้ว และในระหว่างการปล้นก็ต้องทำทุกอย่างแบบรัดกุม เมื่อได้ของที่ต้องการก็หลบหนีไปอย่างลอยนวล   โจรพยายามงัดเข้าประตู้ร้านนาฬิกา โดยมีผู้คนเห็นเหตุการณ์จำนวนมาก แม้แต่ยามเองก็ยังไม่อยากยุ่ง เพราะเกรงว่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่คนถ่ายคลิปไม่รู้สึกกลัวเลย   แต่ทว่าสองอภิมหาโจรที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดนนี้ อาจจะไม่ได้วางแผนมาดีซักเท่าไหร่ และดูเหมือนว่าจะไม่ใช่โจรมืออาชีพ เพราะการปล้นร้านนาฬิกา Klockmaster ในห้าง Kista Galleria แห่งนี้ ดูเงอะๆ งะๆ ไปหมด   หลังจากที่งัดเข้าร้านมาได้แล้ว หนึ่งในโจรที่มีอาวุธปืนพยายามยิงขึ้นเพดาน แต่ปืนขัดลำกล้อง แก้ไขยังไงก็ใช้ไม่ได้ ส่วนพี่เสื้อดำก็ถอยรถมอเตอร์ไซค์มาหน้าประตูร้าน โดยที่ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร   พยายามยิงยังไงก็ยิงไม่ออก แก้แล้วแก้อีก หวังจะยิงข่มขู่ให้คนกลัว   ทุบกระจกตู้สินค้า โกยเข้าถุง ก็ได้เวลาหนีแล้ว   แต่สตาร์ทรถยังไงก็ไม่ยอมติด สตาร์ทแล้วสตาร์ทอีก สังเกตว่าปืนที่ถือจ่อหัวเพื่อนแล้วนะนั่น โถ่ จะปล้นทั้งทีอุปสรรคเยอะเนอะ   สุดท้ายก็ติดซักที แล่นสกู๊ตเตอร์น้อยๆ คู่ใจหลบหนีออกจากห้าง ลากถุงข้าวของที่ขโมยมาไปด้วย พร้อมกับยามที่ตามไปเป็นขบวน   ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจับตัวได้มั้ย…

ใครบ้างที่ไม่รักลูกสุนัข? ภาพและเรื่องราวนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสะเทือนใจเล็กน้อยสำหรับคนรักหมา เมื่อมีการพบเจ้าลูกสุนัขจรจัดป่วยใกล้ตายอยู่ที่รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย เจ้าหมาน้อยตัวนี้กำลังทุกข์ทรมานจากไข้หัดสุนัขและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย แต่คุณจะต้องประหลาดใจในการเปลี่ยนแปลงของมันภายใน 14 วันจากความรัก   นี่คือสภาพของมันตอนถูกพบเจอ…   สภาพของมันผอมเอามากๆ และใกล้จะตายแล้ววว   นอกจากไข้หัดสุนัข มันยังมีแผลและเป็นโรคเรื้อนสุนัขอีก T^T   แต่โชคช่วย ที่มีเจ้าหน้าที่จาก Animal Aid International ได้ไปพบและช่วยเหลือมัน   เขาเอามันกลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อที่จะรักษา   มันได้รับการตรวจสอบและได้รับการให้ยาเป็นอย่างดี   ด้วยความรักและการดูแลของเจ้าหน้าที่ มันเริ่มดีขึ้นแล้วล่ะ…   ในที่สุดมันก็ปลอดภัยดี และอยู่ในสถานที่ที่อยู่ในการดูแลของคนใจดี และมีเหล่าเจ้าหน้าที่สุนัขกู้ภัยคอยดูแล   14 วันถัดมาเท้าของมันดีขึ้นและมีความอยากอาหารมาแล้วว จนมันสามารถยิ้มได้อีกครั้ง (ดีใจด้วยนะเจ้าตูบน้อย :D)   ลองมาชมแบบคลิปวีดีโอกันซะหน่อยย…   นับว่าเป็นเรื่องราวที่สลดใจแต่ก็แฝงไปด้วยความน่ายินดีที่มีมนุษย์ใจดีหลงเหลืออยู่บนโลกใบนี้ เอ็งนี่ดวงแข็งเหมือนกันนะเนี่ยย ขอให้โชคดีกับชีวิตใหม่ล่ะเจ้าตูบ!! ที่มา : newsner

ปัจจุบันนี้มีการรณรงค์ในเรื่องของเมาไม่ขับมากมาย นอกจากจะก่อให้เกิดความเสี่ยงบนท้องถนนจนทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินแล้วยังผิดกฎหมายอีกด้วย ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีบทลงโทษที่เรียกว่าหนักหน่วงจริงๆ สำหรับคนเมาแล้วขับ คือปรับไม่เกิน 70,000 จำคุกตั้งแต่ 72 ชั่วโมง ถึง 180 วัน, พักใบอนุญาตขับขี่ 90-365 วัน และหากตรวจพบว่าครอบครองภาชนะเครื่องดื่มแอลกอฮล์ที่เปิดฝาอยู่ จะถูกขังเพิ่มอีก 3-6 วัน นอกจากนี้ยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายปีเป็นจำนวนเงิน 70,000 บาทเป็นระยะเวลา 3 ปีเพื่อรักษาสถานภาพของใบขับขี่อีกด้วย เพราะในสหรัฐนั้นใบขับขี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก บริษัทหรือการจ้างงานส่วนใหญ่มักจะเรียกตรวจขอดูใบขับขี่กันทั้งนั้น นี่แค่เมาแล้วขับนะ ยังเสียหายหลายแสนเลยนะเนี่ย แต่ถ้าหากว่าเมาแล้วเกิดชนคนตายขึ้นมาล่ะก็ โทษจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล โดยจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับไม่เกิน 700,000 บาท และต้องบำเพ็ญประโยชน์อีก 240-800 ชั่วโมง   ก็เลยมีองค์กรที่คิดไอเดียเพื่อรณรงค์ไม่ให้คนเมาแล้วขับด้วยการให้นักโทษที่ติดคุกเพราะโทษเมาแล้วขับนี้มาคุยกับคนที่กำลังเมาถึงที่เลย   นักโทษคนดังกล่าวคือ Kris Caudilla เขาได้รับการตัดสินให้จำคุกถึง 15 ปีเพราะเขาก่อเหตุเมาแล้วขับชนตำรวจนายหนึ่งจนถึงแก่ชีวิต   เขาก็เลยไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีกก็เลยร่วมมือกับองค์กร We Save Lives ทำโครงการ Reflections from…

ก็เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่น่ารักมากๆ และจะบอกให้ทุกคนบนโลกนี้ได้รู้กันว่าอย่ายอมแพ้กับเรื่องความรักกันนะจ๊ะ กับคุณตาและคุณยายคู่นี้ที่มาพบรักกันตอนอายุปาเข้าไปกว่า 90 ปีเลยทีเดียว Miriam Steiner วัย 93 ปี กับ Harold Sharlin วัย 90 ปี ที่จะมาพิสูจน์ว่าอายุนั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคของการค้นหาความรัก หลังทั้งคู่ Blind Date มาเจอกันที่ร้านหนังสือ Poetry and Prose ในกรุงดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา   ซึ่งการเดทครั้งนี้เหล่าหลานๆ ของ Sharlin เป็นผู้จัดการนัดแนะให้ล่ะ และแน่นอนก็ถ่ายภาพพวกเขาและเอาไปโพสต์ในโลกออนไลน์   และกลายเป็นว่าเรื่องราวน่ารักๆ นี้เป็นที่ถูกใจของชาวเน็ตอย่างมาก จนแชร์กันไปอย่างแพร่หลายเลยทีเดียว   ซึ่งระหว่างการเดทนั้น ทั้งสองก็คุยกันถูกคอเลยทีเดียว ไม่แน่อาจมีนัดเดทกันต่อครั้งต่อไปก็เป็นได้นะเนี่ย อิอิ และเรื่องราวน่ารักๆ ของทั้งคู่ ก็จะเป็นเครื่องย้ำเตือนใจเพื่อนๆ หลายๆ คน ได้เลยว่าอย่ายอมแพ้กับเรื่องความรักนะจ๊ะ เรามีโอกาสลงจากคนได้เสมอ…แม้จะอายุ 90+ แล้วก็ตาม เอิ๊กๆๆ ที่มา: Distractify

เหมียวขี้อ้อนเชื่อว่า หลายต่อหลายคนคงจะเคยเห็น และรู้จักสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลมากแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เต่าทะเล แมงกะพรุน รวมไปถึงปลาน้อยใหญ่ทั้งหลาย แต่คุณแน่ใจหรอว่า? คุณเคยเห็น และรู้จักสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลทั้งหมด แน่นอนว่าคงไม่มีรู้จักพวกสัตว์ทะเลทั้งหมดหรอก เนื่องจากพวกมันมีหลากหลายสายพันธุ์ และหลากหลายชนิดเหลือเกิน  ดังนั้นในครั้งนี้เราจึงได้นำภาพ 15 สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลสุดมหัศจรรย์ที่น้อยคนจะเคยเห็น มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน บอกเลยว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ทั้งแปลก และสวยงามมากๆ เลย แล้วคุณจะร้องว้าว!! เมื่อได้เห็นภาพเหล่านี้   1.The flamingo tongue snail (หอยเบี้ยลิ้นเฟมมิงโก้)   2.Blue Clover Octopus   3.Pinnate Spadefish   4.ปลาแมนดาริน (Mandarin Fish)   5.ปลาการ์ตูน   6.ปลานกแก้ว (Jellybean Parrot Fish)   7.แมงกะพรุน Periphylla periphylla   8.หมึกสายวงน้ำเงิน หรือ…

ที่เมืองนอกเขาจะมีช่วงเวลาที่บ้านจะเอาของที่ไม่ใช้มากองขายหน้าบ้านในราคาที่ถูก เพื่อให้คนที่จำเป็นต้องใช้มาซื้อไป เขาเรียกกันว่า Yard Sale นั่นเอง ครอบครัวหนึ่งที่นิวยอร์คจู่ๆ ก็ได้เจอกับเรื่องราวที่ส้มหล่น เพราะว่าไม่น่าเชื่อว่าถ้วยเซรามิกเก่าๆ ที่เขาซื้อมานั้น จะสามารถนำโชคมากมายมหาศาลมาให้เขาได้   ย้อนไปในปี 2007 ครอบครัวหนึ่งได้ซื้อถ้วยชามใบนี้มาจากการโละของขาย ซึ่งได้มาในราคา 3 เหรียญหรือประมาณ 100 บาท เป็นชาวที่ดูโบราณ มีลวดลายดอกไม้น่ารักๆ   เขาซื้อมาก็ไม่ได้ใช้ แต่เอามาตั้งโชว์ไว้เป็นเวลาหลายปี แต่หารู้ไม่ว่ามันคือของมีค่าอย่างมาก เพราะหลังจากที่เขาเอาชามใบนี้ไปให้คนประเมินราคา ก็พบว่ามันคือสมบัติทางประวัติศาสตร์ที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปีเลย หลังจากรู้แล้วว่ามันคืออะไร ทางครอบครัวก็เลยเอาชามใบนี้เข้าที่ประมูล แล้วก็ทำกำไรไปกว่า 70 ล้านบาท   สืบไปสืบมาก็พบว่านี่คือชามจากประเทศจีนที่ชื่อว่า Ding จากช่วงเวลาราชวงศ์ซ่ง ซึ่งชามที่ครอบครัวนี้ได้ประมูลออกไปในปี 2013 เรียกได้ว่ารวยเละเลยทีเดียว   ที่มา elitereaders

หลายครั้งที่เราได้ดูข่าว ภาพยนตร์ ทีวีซีรี่ส์ เราจะเห็นได้ว่าตำรวจในสหรัฐนั้นค่อนข้างโหดทีเดียวไม่ค่อยจะประนีประนอมสักเท่าไหร่ หากเจอคนถืออาวุธหรือแสดงพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้ใจพวกเขาก็พร้อมเข้าชาร์จทันที แต่ใช่ว่าทุกคนจะถูกฝึกมาให้เป็นแบบนั้นซะหมดนะ   เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยภาพน่ารักๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ Tim Purd จากรัฐนอร์ธแคโรไลนา กำลังนั่งลงบนพื้นเพื่อพูดคุยและปลอบประโลมกับเด็กออทิสติกคนหนึ่งที่ถูกกลั่นแกล้งจนอยากจะฆ่าตัวตาย     ทางเฟซบุ๊กเพจของสถานีตำรวจที่เจ้าหน้าที่คนนี้ทำงานอยู่ได้โพสต์ภาพสุดประทับใจนี้ลงในโลกออนไลน์พร้อมกับข้อความว่า “เพื่อนที่จะสามารถเชื่อมต่อกับหนุ่มน้อยคนนั้นได้ เจ้าหน้าที่ Purdy ได้ลงไปนั่งกับพื้นเพื่อพูดคุยว่าเกิดอะไรขึ้น จนไปถึงสร้างเสียงหัวเราะให้กับเด็กคนนั้น”   “เจ้าหน้าที่ Purdy ได้สร้างความไว้วางใจกับเด็กคนนั้น ทำให้หนุ่มน้อยยอมรับความช่วยเหลือ” หลังจากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ทำให้ผู้คนเข้ามาแสดงความรู้สึกซาบซึ้งภายในเวลาอันรวดเร็ว     ทางกรมตำรวจบอกว่าเนื่องจากวิธีการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ Purdy ทำให้หนุ่มน้อยได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม เพราะแทนที่จะใช้กำลังหรือบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมเหตุการณ์ต่างๆ พวกเขาสามารถเพิ่มการพูดคุยอีกสักนิดและสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชีวิตของใครสักคนได้เลย ที่มา dailymail

ก็เรียกได้ว่าเป็นคนดีทั้งในจอและนอกจอจริงๆ สำหรับสองหนุ่มใจหล่อมากอย่าง Norman Reedus และ Steven Yeun หรือแดริลและเกล็น สองนักแสดงจากซีรีย์ชื่อดังอย่าง The Walking Dead เพราะล่าสุดมีรายงานว่าคู่หูดูโอ้ทั้งสองได้กระโดดลงจากรถมอเตอร์ไซค์ เข้าไปช่วยในเหตุการณ์อุบัติเหตุรถชนกันใน Peachtree City รัฐ Atlanta ประเทศสหรัฐอเมริกา   Norman Reedus และ Steven Yeun   เหตุการณ์รถชน ที่ทั้งสองคนเข้าไปช่วยเหลือ   คนที่ถ่ายมานั้นระบว่า… ทั้งสองคนช่วยอยู่เช็คให้แน่ใจว่าผู้คนที่ประสบอุบัติเหตุไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง และรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง พวกเขาจึงกระโดดกลับขึ้นมอเตอร์ไซค์และเดินทางต่อ…   อื้อหือออ นอกจากจะรับบทบาทเป็นคนที่จิตใจดีมากๆ ในจอแล้ว นอกจอเฮียแกทั้งคู่ก็ฮีโร่ไม่แพ้กันเหมือนกันนะเนี่ย ปล. ชุดเฮียแกทั้งคู่มาเต็มมาก สงสัยกำลังจะไปถ่ายต่อแหละ ฮร่าาาา ที่มา: Metro

สำหรับคนไทยแล้ว “ผักชี” ถือว่าเป็นผักประจำชาติชนิดหนึ่งเลยทีเดียว ด้วยกลิ่นที่รุนแรงเหมาะแก่การนำมาเป็นเครื่องเทศ ทำให้อาหารไทยหลายๆ ชนิด มีส่วนประกอบของผักชีอยู่ แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว ผักชีถือว่าเป็นของหายากและได้รับความนิยมอย่างสูง หากผู้รับประทานต้องการผักชีเพิ่ม บางทีอาจต้องจ่ายเงินจำนวนไม่น้อยเพื่อผักชีเหล่านั้น     ล่าสุด ร้านอาหารไทยชื่อว่า 999 ในประเทศญี่ปุ่น ได้มีการจัดการแข่งขันกินผักชีขึ้นมาในชื่อ “Dynamite Ramen Challenge” ซึ่งผู้ที่สามารถทำตามโจทย์ที่ร้านกำหนดไว้สำเร็จ ก็จะได้สิทธิ์ในการกินผักชีฟรีในครั้งต่อไป!!     สิ่งที่ผู้เข้าร่วมแข่งขันต้องทำก็คือ ทานราเม็งที่โรยหน้าด้วยผักชีปริมาณมหาศาลให้หมด ซึ่งทางร้านจะมีอยู่หลายขนาดให้เลือกเช่น 400 กรัม, 800 กรัม, และ 2 กิโลกรัม โดยรางวัลของผู้ที่สามารถกินผักชี 400 กรัมได้คือจะได้รับผักชีกินฟรีในครั้งหน้า ถ้ากินได้ 800 กรัม จะได้กินผักชีฟรี 3 เดือน และถ้ากินผักชีได้ 2 กิโลกรัม จะสามารถกินผักชีได้ฟรีตลอดชีวิต!!!   (ผักชีสองกิโลฯ มาเสิร์ฟแล้วจ้า)   ล่าสุดทางทีมงานของเว็บไซต์ Rocketnews24 ได้ไปทดลองกินผักชี 2 กิโลฯ กันมา…

เพื่อนๆ จะรู้กันดีว่าเหล่าทหารของสหรัฐอเมริกานั้นต้องออกไปสู้รบกับเหล่าผู้ก่อการร้ายทั้งหลาย ซึ่งในทุกๆ วันพวกเขาจะต้องเสี่ยงต่อการโดนลูกปืน และระเบิด อีกทั้งยังจับไปทรมาน จนทำให้ถึงแก่ชีวิต ด้วยความเสียสละนี้ร้านค้าและร้านอาหารในสหรัฐอเมริกาจึงได้มีส่วนลดเพื่อทหารโดยเฉพาะ #เหมียวหง่าว ขอพาเพื่อนๆ ไปชมเหตุการณ์สุดประทับใจของทหารนายหนึ่งที่จะสร้างกำลังใจให้กับเขาในการสู้รบเพื่อปกป้องประเทศของเขาต่อไป   เว็บไซต์ Lifebuzz ได้นำเสนอเรื่องราวของทหารคนหนึ่งได้ทำการโพสท์เรื่องราวของเขาลงเฟซบุ๊ค   โดยเล่าว่าเขาเข้าร่วมกับกองทัพและได้มีโอกาสได้ไปรบที่ Afghanistan มา 2 ครั้งแล้ว และตอนนี้เขาก็ยังทำหน้าที่นี้อยู่   เขาไม่เคยร้องขอสิทธิพิเศษจากการเป็นทหารเลย แต่เขารู้ว่าร้านค้าทั้งหลายนั้นจะมีส่วนลดสำหรับทหารอยู่ ซึ่งก็เป็นปกติที่เขาจะถามถึงสิทธิ์นี้เวลาไปซื้อใช้บริการตามร้านอาหาร   มีอยู่วันหนึ่งเขาได้ไปซื้อของที่ร้านค้าแห่งหนึ่งและถามถึงส่วนลดกับแคชเชียร์ กลับมีเสียงด่าทอมาจากผู้หญิงที่ต่อแถวอยู่ข้างหลัง   นี่เป็นบทสนทนาคร่าวๆ ในวันนั้น ทหาร : ที่ร้านนี้สามารถใช้ส่วนลดของทหารได้มั้ยครับ? แคชเชียร์ : ไม่มีค่ะ ต้องขอโทษด้วย ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหลัง : แย่มาก… แคชเชียร์และนายทหารยืนมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นด้วยความงุนงง หญิงสาว : พวกคุณทุกคนคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน แค่เป็นทหารก็สามารถเรียกสิทธิพิเศษกว่าคนอื่นๆ ได้แล้วเหรอ? โอ้พระเจ้า… ทหาร : เปล่านะครับคุณผู้หญิง มันเป็นแค่ส่วนลด ไม่ได้หมายถึงสิทธิพิเศษ สิทธิพิเศษสำหรับพวกผมจริงๆ แล้วก็คือการที่ผมสามารถกลับมาพักผ่อนมาอยู่กับครอบครัวได้ และส่วนลดนี้ก็เป็นเพราะหลายๆ…

  ถ้าใครเคยเล่นรถไฟเหาะสักครั้งในชีวิต ก็คงเข็ดกับความน่ากลัวของมัน แต่ความน่ากลัวนั้นเป็นความกลัวที่สนุก เหมือนกับว่าชีวิตได้ผ่านความตายมาแล้ว ตอนรถไฟหยุดก็เหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง ความสนุกมันอยู่ตรงนี้แหละ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟเหาะที่สูงมากน้อยแค่ไหนมันก็หวาดเสียวกันทั้งนั้นแหละ แต่ไหนๆ ก็จะเล่นให้มันเสียวทั้งที ก็ต้องเอาให้มันน่ากลัวที่สุดไปเลย ต้องที่สวนสนุก Cedar Point ใน Sandusky, Ohio รถไฟเหาะนี้มีชื่อว่า The Valravn ซึ่งเป็นรถไฟเหาะที่สูงที่สุดในโลกด้วย รถไฟเหาะสุดสยองนี้วิ่งด้วยความเร็วกว่า 75 ไมล์ต่อชั่วโมง บรรจุคนได้ 24 คน และสุดที่น่ากลัวที่สุดก็คือการทิ้งดิ่งแบบ 90 องศา บอกเลยว่าใครปวดอึอยู่ไม่น่ารอด     และตอนนี้ก็เปิดให้เล่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับคนที่รักความหวาดเสียว และกำลังวางแผนจะไปสหรัฐ แนะนำที่นี่เลย ที่มา lifebuzz

เคยโมโหอะไรแบบสุดๆ มั้ย บางทีอาจเป็นเรื่องเพื่อน เรื่องแฟน เรื่องงาน หรือเรื่องครอบครัวต่างๆ แบบว่าโมโหจนไม่รู้จะทำยังไง จะอาละวาดทำลายข้าวของตัวเองก็เสียดาย จะทำทำลายข้าวของคนอื่นก็ผิดกฎหมาย แล้วทำไงดีล่ะ?! ทางร้าน Whistle Punks จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษแห่งนี้ จึงเสนอหนทางใหม่ในการระบายอารมณ์ให้กับทุกท่าน ด้วยการ “เขวี้ยงขวาน” นั่นเอง!!     โดยทางร้านจะเตรียมขวานอันเล็กๆ พร้อมทั้งเป้าที่ทำมาจากไม้ให้กับผู้ใช้บริการได้เขวี้ยงใส่และระบายอารมณ์กันอย่างสุดเหวี่ยง   First hit face! @gracegl #whistlepunkwednesdays #axethrowing #urbanaxethrowing #whistlepunks #londonfun A video posted by Whistle Punks Axe Throwing (@whistlepunks) on Apr 6, 2016 at 12:52pm PDT   หลายท่านอาจกังวลว่าการเขวี้ยงขวานแบบนี้ ถ้าไม่ชำนาญอาจเป็นอันตรายได้ นั่นไม่ต้องห่วง เพราะทางร้านได้เตรียมผู้เชี่ยวชาญด้านการขว้างขวานเอาไว้ให้แล้ว ฉะนั้นไม่ต้องกลัวเลยว่าจะเขวี้ยงแล้วหลุดมือมาโดนหัวตัวเอง    …

ฝรั่งเศสนี่ขึ้นชื่อผลงานศิลปะ ซึ่งมีหลายชิ้นมากที่โด่งดังไปทั่วโลก ดังนั้นไม่ว่าจะไปที่ไหน เราจะได้เห็นอะไรที่เป็นงานศิลป์บ่อยๆ แม้กระทั่งรถไฟ ตอนนี้ถ้าคุณไปที่ฝรั่งเศส คุณจะสามารถเสพงานศิลปะได้จากรถไฟโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นผลงาน ‘Morning, Sun’ ของปิกัสโซ่ หรือจะเป็น ‘Blue Water Lilies’ ของโมเนต์ โปรเจกต์ครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันของรถไฟฝรั่งเศส บริษัท SNCF และ 3M จากอเมริกา คอนเซ็ปต์ของมันก็คือการย้ายเอาพิพิธภัณฑ์มาอยู่ในที่ที่คนอยู่เยอะ นั่นก็คือในตู้รถไฟนั่นเอง นอกจากจะเพิ่มความสวยงามแล้ว งานศิลป์พวกนี้ยังสามารถลดอัตราการเสียหาย และการทำลายข้าวของในรถไฟได้อีกด้วยนะเออ     เห็นแล้วก็อยากไปขึ้นรถไฟที่นั่นเลย กลัวอย่างเดียวคือจะฟินจนลืมลงอีกสถานี ที่มา Design Boom, sobadsogood

สามเดือนที่แล้วมีแมวสีน้ำเงินชื่อว่าเจ้า ‘Smurf’ เป็นแมวน้อยที่ถูกกลั่นแกล้งโดยการพ่นสีใส่ตัวมันจนมันต้องกลายเป็นแมวสีน้ำเงิน ตอนที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น คนไปเจอมันเข้าใกล้ๆ ที่พักของเขาในรัฐแคลิฟอร์เนีย และสงสารมันมาก เลยติดต่อเจ้าหน้าที่จาก Nine Lives Foundation ให้ทำการเข้าช่วยเหลือมัน   เห็นได้ชัดเลยว่าขนของมันเป็นสีน้ำเงินออกม่วงๆ ผู้ที่พักอาศัยนั้นได้พบเจอเจ้าแมวตัวนี้เลยได้ทำการรีบติดต่อไปยังมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือเจ้าแมวตัวนี้   สัตวแพทย์ Monica Rudiger บอกว่า “ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าแมวตัวนี้ แต่ผมยังไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย” และสำหรับ #เหมียวฮานะ แล้ว รู้สึกเป็นอะไรที่แย่มากๆ สำหรับการกระทำที่เรียกว่า “ไร้มนุษยธรรม” แบบนี้ (ดูหน้าตามันสิน่าสงสารมากแค่ไหน T^T) .   เจ้าหน้าที่ทำการโกนขนของมันก่อน เพื่อขจัดสีตามตัวออกไป และก็พบบาดแผลตามร่างกายของมันด้วย… .   หลังจากนั้นไม่นานเจ้า Smurf ก็ได้พบเจ้า Wanda แมวตาบอดที่ถูกทิ้งติดกับถังขยะและวางไว้ในกรงเดียวกับเจ้า Smurf จนทั้งสองตัวนั้นตอนนี้ได้เป็นเพื่อนซี้กันซะแล้วล่ะ   สามเดือนจากการช่วยเจ้า Smurf นั้นหลังจากที่นำขนที่ติดสีออกไป ขนใหม่ของมันก็ค่อยๆขึ้นมาและกลายเป็นแมวสีเทาที่ดูน่ารักมากๆเลยยย .   มนุษย์เรานี่ก็ช่างใจร้ายจริงๆแกล้งได้แม้กระทั่งแมวน้อยน่ารัก จิตใจทำด้วยอัลไลล!! แล้วอย่างงี้ในอนาคตเราคงต้องคอยมีมาตรการในการลงโทษผู้ที่รังแกสัตว์ที่รุนแรงมากขึ้นไปอีก…

ก็เป็นซะแบบนี้ใครจะไปเป็นฝั่งเป็นฝาลงล่ะเนาะ ฮ่าๆๆๆ ล่าสุดทางเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศก็ได้เปิดตัวแฟนใหม่ของหนุ่มหล่อขวัญใจแฟนๆ ภาพยนตร์อย่าง Leonardo DiCaprio เจ้าของออสการ์คนล่าสุดของเรานั่นเอง หลังจากที่เดทเรียบมาหมดแล้วทั้ง Naomi Campbell, Gisele Bundchen และ Bar Refaeli ล่าสุดพ่อหนุ่มนักล่านางแบบของเราก็กำลังมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับสาวนางแบบชาวโปแลนด์อย่าง Ela Kawalec ล่ะ และต้องบอกว่าคนนี้ก็สวยสะเด็ดไม่แพ้ใครเลยทีเดียว!!!   Naomi Campbell   Gisele Bundchen   และแม้แต่ Bar Refaeli ก็เป็นได้แค่อดีตของเฮียเท่านั้น…   เพราะปัจจุบันคือคนนี้ Ela Kawalec !!!   สวยสะท้านปฐพีมากๆ   ล่าสุดเหล่านักข่าวก็เห็นทั้งคู่ไปเดทด้วยกันในเมืองนิวยอร์กหลังจากได้พบกันเมื่องานปาร์ตี้กลางคืน และขนาดว่าฝ่ายชายสวมหมวกแก๊ปบาสเก็ตบอลและแว่นกันแดดเพื่ออำพราง…ก็ยังไม่พ้นสายตาพวกเขาอยู่ดี ฮ่าๆๆ   ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ เรามีภาพของเธอมาฝากกันอีก 1 กระบุง!!!                     แหม๊…ไม่รู้ว่าเฮียแกทำบุญด้วยอะไรหน๊อออ งานก็รุ่งสาวก็แหล่มมมม…

เอาล่ะสิ สิ่งที่เราเชื่อและรู้เห็นกันมาเกือบตลอดชีวิตและการศึกษาของเรานั้น กลับกลายเป็นสิ่งที่เชื่อถือไม่ได้กันซะงั้น และครั้งนี้ก็เช่นกัน ที่ผู้หญิงดันเกิดตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจขึ้น หลังเธอมีเซ็กส์กับแฟนหนุ่ม…แต่เป็นเซ็กส์ทางทวารหนักนะจ๊ะ -*- เหตุการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ ซึ่งมีอัตราราวๆ 1: 50,000 เท่านั้น Dr. Brian Steixner ผู้เชี่ยวชาญทางด้านท่อปัสสาวะแห่ง Urology Group ใน Atlantic City ได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ‘สิ่งที่เราได้รู้และเรียนมาตอนสมัยประถม หรือมัธยมนั้นเป็นสิ่งที่ไม่จริงไปเลยเสียทีเดียว’ Dr. Brian ออกมากล่าวเกี่ยวกับกรณีนี้   การท้องหลังการมีเซ็กส์ทางทวารหนัก   ด้วยลักษณะนี้คนไข้นั้นมีภาวะที่ค่อนข้างหายากใน 50,000 คนนั้นจะพบเพียง 1 คนเท่านั้น คืออาการ Cloacal Malformation หรือความผิดรูปของทวารหนักและเรคตั้มมาแต่กำเนิด   ลองมาดูรูปแบบของผู้ที่มีอาการแบบนี้กัน จะสังเกตได้ว่าส่วนของเรคตั้ม ท่อปัสสาวะและมดลูกจะไหลมารวมกันที่จุดเดียว   และสำหรับเคสนี้หญิงสาวผู้ตั้งครรภ์ได้ทำการผ่าตัดเพื่อแยกส่วนตั้งแต่ตอนเธอยังเด็กๆ แล้ว แต่กระนั้นนี่เป็นความผิดพลาดของศัลยแพทย์ ที่ยังมีรูเชื่อมอยู่ระหว่างอวัยวะ และในเคสนี้ก็คือมดลูกของเธอดันไปเชื่อมกับลำไส้ใหญ่ซะงั้น -*-   หญิงสาวเลยมาหาคุณหมอแบบงงๆ เพราะเธอมีเซ็กส์ทางทวารหนักเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ก่อนที่เธอจะพบว่าตัวเองตั้งท้อง…   สำหรับตอนนี้ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ ปลอดภัยทั้งคุณแม่คุณลูก ทำการฝากครรภ์เตรียมกำหนดคลอดเรียบร้อย…

ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่น่ารักปนเศร้าของสาวน้อยชาวอังกฤษคนหนึ่ง ที่ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าเพราะสูญเสียคุณแม่ไปในเหตุการณ์ไฟไหม้ กระนั้นเธอก็ได้ย้ายมาอยู่กับคุณป้า ญาติเพียงคนเดียวของเธอ พร้อมกับเจ้าเหมียว 1 ตัวที่อยู่ด้วยกันมาตลอด Kaitlin Bishop หนูน้อยวัย 10 ปี ที่เศร้าโศกเสียใจสุดๆ หลังจากบริษัทที่ดูแลโซนที่พักของเธอ Hyde Group housing association ได้ออกมาขอให้เธอนำเจ้า Jack แมวของเธอออกไปเสีย เพราะที่นี่ห้ามเลี้ยงสัตว์ และกำหนดวันที่เจ้าเหมียวต้องย้ายออกเป็นวันครบรอบที่แม่เธอเสียชีวิต   Kaitlin Bishop และเจ้า Jack   เจ้าหน้าที่จากบริษัทได้มาชี้แจงให้หนูน้อยทราบว่า พวกเขาได้รับแจ้งจากลูกค้าท่านอื่นๆ ที่อยู่ในที่อาศัยใกล้เคียง เกี่ยวกับสิ่งปฏิกูลของเจ้าเหมียวตามโถงทางเดิน ในแฟลตที่ Chichester, West Sussex ประเทศอังกฤษ ซึ่งสาวน้อยก็ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่แมวของเธอ แถมหนูน้อยยังเป็นโรค Asperger’s syndrome อาการคล้ายๆ กับโรคออทิสติกที่ระบบประสาทผิดปกติ การดูแลเจ้าเหมียวจึงเป็นสิ่งที่เธอทำอยู่เป็นประจำ เพราะมันทำให้เธอมีความสุข อีกทั้งยังเป็นภาพตัวแทนของแม่และความทรงจำเก่าๆ อีกด้วย เพราะของอื่นๆ นั้นล้วนแต่หายไปกับเปลวเพลิงจนหมดสิ้น…   เจ้าหนูน้อยและเจ้าเหมียว   กระนั้นถือว่าเธอโชคดีมาก เพราะเมื่อมวลมหาประชาชนรู้เรื่องนี้ ได้มีการล่ารายชื่อเพื่อให้เจ้าเหมียวได้อยู่ต่อ เพราะมีคนเซ็นชื่อลงประชามติให้เจ้าเหมียวกว่า 3,000…

เป็นที่ทราบกันดีว่า ท้องถนนประเทศจีนถือว่าเป็นถนนที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงมากประเทศหนึ่ง (อินเดียก็ใช่) ด้วยวัฒนธรรมและกฎระเบียบที่แตกต่างกัน ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบางครั้ง ต้องถูกตำรวจเรียกบ่อยๆ เพราะไม่เข้าใจกฎระเบียบ ล่าสุดทางหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของเมืองเซี่ยงไฮ้ ได้จัดอบรมเวิร์คช็อปให้กับชาวต่างชาติ เพื่อให้เข้าใจกฎระเบียบและข้อบังคับในการใช้รถใช้ถนนในประเทศจีน ซึ่งค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์ของตนเอง หากเทียบกับประเทศอื่น     โดยเฉพาะกฎข้อหนึ่งของการใช้รถจักรยานยนต์ในประเทศจีนที่หลายคนไม่เคยรู้เลยก็นั่นก็คือ “ห้ามมีผู้โดยสารซ้อนท้ายเป็นอันขาด” ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลายคน ต้องเสียค่าปรับจากการทำผิดกฎข้อนี้ “ผมเชื่อว่าน้อยคนนักจะทราบถึงกฎข้อนี้ ขนาดผมคิดว่าผมศึกษามาดีแล้ว ผมยังไม่เข้าใจทั้งหมดเลย ดังนั้นที่พวกเขาไม่ทำตาม เพราะพวกเขาไม่รู้นั่นเอง” หนึ่งในชาวต่างชาติที่เข้าอบรมกล่าว     โดยในระหว่างการอบรม ทางตำรวจจราจรเซี่ยงไฮ้ได้เน้นย้ำกฎระเบียบสำคัญ 5 ข้อสำหรับชาวต่างชาติดังนี้   1. ห้ามมีคนซ้อนเด็ดขาด (คือรถจักรยานยนต์ต้องมีแค่คนขี่คนเดียว ห้ามมีคนซ้อน แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจเท่าไหร่นะ) 2. สวมหมวกนิรภัยเสมอ (แต่ก็ไม่ค่อยมีใครใส่) 3. รถจักรยานยนต์ทุกคันต้องลงทะเบียนกับทางตำรวจว่าใครเป็นเจ้าของ  4. ห้ามขับขี่บนทางเท้าและจอดรถทับทางม้าลาย 5. ใบขับขี่สากลไม่สามารถใช้ได้ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ชาวต่างชาติต้องทำใบขับขี่ท้องถิ่นเท่านั้น         ใครที่ต้องไปใช้ชีวิตในประเทศจีน อย่าลืมศึกษากฎระเบียบบ้านเมืองเขาให้ดีนะฮะ ไม่งั้นอาจโดนปรับจนอานได้ เดี๋ยวจะหาว่าเหมียวไม่เตือน ฮาาา ที่มา…

เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากเห็นผู้อื่นกำลังตกอยู่ในอันตราย พวกเขาก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือเสมอ ซึ่งสำหรับชายคนนี้ก็เช่นกัน ทันทีที่เขาเห็นว่ามีรถคันหนึ่งประสบอุบัติเหตุ เขาก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยทันที แต่ก่อนหน้านั้น..ขออัดวีดีโอก่อนนะ!! เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองลอสแองเจลลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อชายที่ชื่อว่า Santiago Portillo พบรถคันหนึ่งประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำ เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยคนที่อยู่ข้างในทันที แต่ก่อนที่เขาจะวิ่งไปนั้น เขาตั้งกล้องอัดวีดีโอเอาไว้ก่อน     ลองไปชมคลิปกันเลย   ซึ่งหลังจากคลิปนี่เผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตฝรั่งเข้ามาคอมเมนต์มากมาย อย่างเช่นคอมเมนต์ของ Peggy Hamm อันนี้ เธอกล่าวว่ามันก็เป็นเรื่องดีนะที่เขาพยายามช่วยเหลือคนอื่น แต่นั่นไม่ควรเรียกว่า “ความกล้าหาญ” และเขาไม่สมควรได้รับเกียรติและคำชื่นชมจากคนที่ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรลงไปบ้าง อีกคอมเมนต์หนึ่งของ Sara Boehringer กล่าวว่า การได้เห็นการช่วยคนอื่นก็เป็นเรื่องที่ดี แต่มาอัดวีดีโอแบบนี้มันไม่แปลกไปหน่อยหรือ     อย่างไรก็ตามทางสำนักข่าว Newschannel 3 ได้ไปสัมภาษณ์นาย Santiago Portillo ผู้อัดคลิปดังกล่าว เขาบอกว่าตอนแรกเขาไม่รู้ว่ามีคนอยู่ในรถ แต่พอเขาเห็นว่ามีคน เขาก็รีบวิ่งไปช่วยในทันที แต่มองในอีกมุมหนึ่งก็น่าคิดว่า การที่เราจะทำอะไรในสมัยนี้อาจจะมีอันตรายรอบด้าน หรือเกิดการเข้าใจผิดว่าเขาไปทำอันตรายคนในรถ เลยต้องตั้งกล้องไว้ก่อนเพื่อเป็นหลักฐาน เมื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นมาจะได้มีสิ่งยืนยันในความบริสุทธิ์หรือไม่!??   อย่างไรก็ตามมีชาวเน็ตบางท่านไม่เชื่อว่าเขาไม่เห็นคนอยู่ในรถ และยิ่งกว่านั้น ท่าทางและองศาที่เขาวางกล้องนั้นดูจงใจไปหน่อย หลังจากนั้นชายคนขับรถก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว ส่วนตำรวจคาดว่าเขาเป็นพวกนักซิ่งบนท้องถนน…

สำหรับวันนี้เราก็มีวิถีชีวิตที่ค่อนข้างน่าสนใจของงูชนิดหนึ่งมาฝากกัน นั่นก็คือ Red-sided Garter Snakes สัตว์ที่มีพฤติกรรมการผสมพันธุ์ที่แปลกและดุเดือดมากๆ เพราะในทุกๆ ปี เจ้างูชนิดนี้จะขึ้นมาบนพื้นดินนับพันๆ ตัวด้วยกันหลังจากการจำศีล ราวๆ สัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายน เพื่อมารวมกลุ่มกัน และผสมพันธุ์กันอย่างบ้าคลั่ง   เหมือนสัตว์เลือดเย็นอื่นๆ เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว พวกมันจะเข้าสู่ภาวะจำศีลทันที ซึ่งสำหรับเจ้างูตัวนี้จะกินเวลากว่า 8 เดือนเต็ม!!!   จุดที่พวกมันจะขึ้นมาก็คือ Manitoba ประเทศแคนาดา เพราะมีสภาพเป็นหลุมหินปูน พวกมันเลยเลือกอุโมงค์ใต้นี้เพื่ออาศัยอยู่เสียเลย   Manitoba   แต่ด้วยพื้นที่ๆ จำกัด ทำให้งูนับพันๆ ตัว ต้องอาศัยกันอย่างแออัดอยู่ในหลุมขนมดเท่าห้องนั่งเล่นห้องนึงเท่านั้น   พอถึงฤดูใบไม้ผลิ งูนับพันๆ ตัวในห้องๆ หนึ่งนั้นก็จะค่อยๆ เลื้อยข้ามตัวกันออกมาอย่างทุลักทุเล เพื่อมาที่จุดนัดพบในการผสมพันธุ์และเกิดเป็นพรมงูขนาดใหญ่ขึ้น!!!   ด้วยความกระเหี้ยนกระหือรือ เหล่าตัวผู้ก็จะตามล่าหาตัวเมียทันที!!!   ลักษณะเด่นของตัวเมียก็คือจะมีลำตัวที่ใหญ่กว่าและยาวกว่า ซึ่งก่อนจะเข้าร่วมปาร์ตี้นี้ตัวเมียจะต้องเคียร์ท้องตัวเองให้ว่าง เพื่อรับน้ำเสปิร์มของตัวผู้   เพราะด้วยอัตราส่วนของตัวเมียต่อตัวผู้จะอยู่ที่ประมาณ 1 : 10,000 เรียกได้ว่าตัวเมียตัวเดียวอาจถูกตัวผู้หลายตัวรุมผสมพันธุ์กันอย่างบ้าคลั่งเลยล่ะ   และก็ยังมีงูเพศผู้จำนวนไม่น้อยเลยที่หันมาชอบเพศเดียวกัน…

เป็นที่แน่นอนว่าเพื่อนๆ หลายคนที่เป็นพ่อเป็นแม่คนนั้นมักจะชอบถ่ายคลิปหรือรูปของลูกตัวในขณะที่ยังแบเบาะโพสท์ลงโซเชียลมากมาย ซึ่งทุกคนก็มองว่ามันเป็นเรื่องปกติใช่มั้ยล่ะ!?   แต่ในประเทศฝรั่งเศสหากพ่อแม่แชร์ภาพของลูกตัวเองลงบนโซเชียลมีเดียอาจถูกลูกตัวเองฟ้องร้องเมื่อโตขึ้น ในข้อหาละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวในวัยเด็กโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจต้องจ่ายค่าปรับสูงถึง 1,800,000 บาทเลยทีเดียว   นักวิชาการคาดว่า ในอนาคตเด็กๆ จะเริ่มตระหนักว่าเรื่องราวชีวิตของพวกเขาตั้งแต่เด็กนั้นถูกเผยแพร่สู่โลกอินเตอร์เน็ต ซึ่งทำให้พวกเขาสูญเสียความเป็นส่วนตัวไป   และการวิจัยของมหาวิทยาลัย Michigan พบว่า เด็กอายุ 10-17 ปีมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการที่ผู้ปกครองแชร์เรื่องของพวกเขาในขณะที่แบเบาะลงบนโลกโซเชียล แต่ถึงอย่างไรก็ตามพ่อแม่ทั้งหลายก็ควรระมัดระวัง และเข้าใจไว้ว่า ข้อมูลที่อัพลงบนโซเชียลมีเดียนั้นเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของลูกๆ ของคุณ   เพราะอาจมีคนนำข้อมูลเหล่านี้ไปทำการสวมรอยเป็นลูกของคุณทำให้เกิดความเสียหายตามมา หรือเปิดช่องให้ลูกของคุณถูกล้อเลียนให้เกิดความอับอายด้วยข้อมูลดังกล่าว   เห็นแบบนี้แล้วก็ระวังกันด้วยนะจ๊ะเหล่าพ่อแม่ทั้งหลาย เพราะข้อมูลต่างๆ ที่อัพลงบนโซเชียลนั้นสามารถสร้างภัยอันตรายให้กับลูกๆ ของคุณได้อย่างดายเลยทีเดียว ที่มา : theguardian

ยังมีโรคภัยไข้เจ็บอีกหลายชนิดที่เรายังไม่รู้จัก ซึ่งมันก็มีอาการแปลกๆ ออกมาให้เห็นมากมายอย่างเช่นคนที่มีมือและเท้าคล้ายกับเปลือกไม้ ขนที่มีขนขึ้นเต็มไปทั่วร่าง เป็นต้น และเจ้าหนูน้อย Coco Bradford คนนี้เองก็เช่นกัน เธอป่วยเป็นโรคออทิสติค มองดูเผินๆ แล้ว ก็ดูไม่ผิดปกติอะไรใช่มั้ยล่ะ?   แต่จริงๆ แล้วเธอไม่ปริปากพูดมาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว!! พ่อแม่ของหนู Coco เล่าให้ฟังว่าเธอเริ่มพูดได้เมื่อมีอายุ 2 ขวบ แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็หยุดพูดไปซะเฉยๆ เลย ซึ่งเป็นอาการที่เด็กออทิสติคทั่วไปจะเป็นกัน   กว่า 3 ปีแล้วที่หนู Coco ไม่ปริปากพูดเลย และอยู่มาวันหนึ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อเธอเอ่ยปากพูดออกมา เพื่อขอกินขนมที่เธอชื่นชอบซึ่งก็คือ ขนมปังปิ้งนั่นเอง   พ่อแม่ของเธอตกใจมาก และดีใจสุดขีดในที่สุดเธอก็กลับมาพูดอีกครั้งแล้ว หลังจากที่ทำตัวเหมือนคนใบ้ มากว่า 3 ปี   หนู Coco นั้นดูท่าจะมีความสุขมากเป็นพิเศษหลังจากที่เธอเริ่มพูดแล้ว คุณแม่ของเธอเล่าว่าขณะที่เธอเริ่มเอ่ยปากขอขนมปังได้แล้ว จู่ๆ เธอก็แล้วพูดอีกพร้อมกับกระโดดโลดเต้นไปด้วยความดีใจ   ในครอบครัว Bradford นี้มีลูกถึง 4 คนด้วยกัน แต่มีเพียง Coco ที่เป็นน้องคนสุดท้องเท่านั้นที่ป่วยเป็นโรคออทิสติค…

งานบริการคือความใส่ใจทุกระดับประทับใจ แน่นอนว่าหากลูกค้าได้รับการบริการที่ดี ก็มักจะส่งผลดีต่อกิจการเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่นเนี่ย เขาจริงจังกับงานบริการมากๆ เลยนะ ต่อให้ลำบากลำบน มีอุปสรรคมากมายแค่ไหน ลูกค้าจะเป็นคนยังไง ก็ต้องทำให้บรรลุเป้าหมายให้ได้     อย่างเช่นลูกค้าของโรงแรมรายหนึ่งที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า ‏@subaruchen ในระหว่างที่เขาเข้าพักในโรงแรมแห่งนี้เป็นเวลาหลายวัน เขาก็ปลดปล่อยความเป็นตัวเองเอาไว้ในห้อง ด้วยการ์ตูนผู้ใหญ่หลายเล่ม วางกระจัดกระจายเต็มห้องไปหมด จนต้องออกไปทำธุระแต่ดันลืมเก็บของสำคัญที่ทิ้งไว้เต็มห้องด้วยนี่สิ     เป็นปกติของแม่บ้านผู้ทำความสะอาดห้องของญี่ปุ่น ที่จะต้องทำหน้าที่เก็บกวาดห้องของลูกค้าให้เรียบร้อย ซึ่งผลที่ได้ก็คือแม่บ้านเก็บกวาดห้องแบบสะอาดหมดจด บรรดาหนังสือการ์ตูนผู้ใหญ่ที่วางเรี่ยราดก็ถูกนำมาจัดเรียงวางเป็นชั้นอย่างละเมียดละไมวางอยู่บนเตียง (ไม่รู้ว่าแม่บ้านแอบเปิดอ่านมั่งรึเปล่า)     และดูเหมือนว่าแม่บ้านจะเข้าใจลูกค้าสุดๆ ไม่ลืมที่จะเติมทิชชู่ในกล่องแบบสดใหม่เต็มกล่อง พร้อมกับวางไว้บนหัวเตียงเพื่อความสะดวกของลูกค้า โอ้โห!! บริการทุกระดับประทับใจจริงๆ จะว่าไปถ้าใครมีของแบบนี้แล้วเอาไปไว้ในต่างถิ่นเก็บให้เป็นที่เป็นทางหน่อยก็ดีนะ อิอิ ที่มา : @subaruchen, rocketnews24

เคยรู้สึกไหมว่าการเดินทางในแต่ละวันนั้นช่างเป็นอะไรที่ยุ่งยากซะเหลือเกิน เพราะคุณต้องหิ้วข้าวของมากมายไว้กับตัว อาจจะสะพายเป้หรือถือมันไว้ในมือ ในขณะเดียวกันก็ต้องเดินไปยังที่ต่างๆ ด้วย วันนี้เรามีตัวช่วยให้การเดินทางของคุณสะดวกยิ่งขึ้นล่ะ   #เหมียวฟิ้นขอเสนอสเก็ตบอร์ดไฟฟ้าที่มีชื่อว่า Movpak มันเป็นสเก็ตบอร์ดที่ช่วยให้การเดินทางของคุณง่ายขึ้นด้วยการเพิ่มช่องใส่สัมภาระเข้าไปบนตัวบอร์ด ให้คุณเดินทางไปพร้อมกับข้าวของมากมายแบบไม่ต้องหิ้วพะรุงพะรังให้เมื่อยอีกต่อไป     และเมื่อคุณถึงที่หมายแล้ว จะเก็บสเก็ตบอร์ดแล้วเปลี่ยนให้มันกลายเป็นกระเป๋าเดินทาง คุณก็แค่พับมันลงไปเท่านั้น   เจ้า Movpak สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วที่สุดคือ 32 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ไกล 16 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งเลย     ในกรณีที่คุณไม่เก่งเรื่องการควบคุมสเก็ตบอร์ดหรือเล่นไม่ค่อยเก่ง เขาก็มีรีโมทควบคุมติดมาให้ด้วย ให้คุณควบคุมทิศทาง ความเร็ว และเบรคมันได้ง่ายๆ เพียงแค่สัมผัสปลายนิ้วเท่านั้น   เจ้ากระเป๋าตัวนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมต่อกับมือถือของคุณได้ ดังนั้นคุณจึงสามารถเรียกใช้ Siri หรือ Google Now ได้ในระหว่างที่คุณกำลังเคลื่อนที่อยู่ นอกจากนี้มันมันยังมีช่องเสียบ USB ให้คุณชาร์จแบตเตอรี่ระหว่างทางได้อีกด้วย     Movpak เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2014 และตอนนี้พวกเขาก็กำลังระดมทุนผ่านเว็บไซต์ Indigogo โดยวางเป้าหมายเพียง 50,000 ดอลลลาร์ หรือประมาณ…

เมื่อกล่าวถึงการประกาศขายของออนไลน์แล้ว แน่นอนว่าต้องมีคู่แข่งเป็นจำนวนมาก เนื่องจากว่าใครก็สามารถลงประกาศขายของออนไลน์ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องอยู่ที่การโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์เพื่อเรียกลูกค้าให้เข้ามาชมสินค้าของเราแล้วล่ะ อย่างชายหนุ่มชาวต่างชาติที่ชื่อว่า Lee Wilson คนนี้ได้คิดไอเดียสุดบรรเจิดเพื่อช่วยในการขายบ้านของเขาทางอินเตอร์เน็ต เขาได้ทำการแต่งชุดมาสค็อตเป็นหมีแพนด้าและถ่ายรูปตามห้องต่างๆ ในบ้านของเขา เพื่อเรียกความสนใจจากเหล่าลูกค้าทั้งหลาย   มองเผินๆ ก็เหมือนกระกาศขายทั่วๆ ไปใช่มั้ยล่ะ? แต่ลองจ้องดูดีๆ จะเห็นคุณ Wilson กำลังยืนอยู่ที่ประตูหน้าบ้านในชุดของหมีแพนด้า 555+   เขาแต่งตัวแบบไม่ธรรมดาถ่ายรูปทำกิจวัตรธรรมดาๆ ในบ้าน เหมือนการโฆษณาบ้านทั่วไปเพื่อเรียกความสนใจจากชาวโซเชียล   ดูสิ มองจากข้างในออกไปมันดูสวยสุดๆ ไปเลยใช่มั้ยล่ะ? บวกกับความเกรียนของชุดหมีแพนด้าเข้าไปอีก ดูน่าสนใจสุดๆ 555+   บรรยากาศภายในบ้านก็ดูโปร่ง และโล่งสบาย เป็นเพราะพี่แพนด้า Wilson เขาทำการปรับปรุงและตกแต่งภายในใหม่ให้ดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง   เป็นสถานที่ที่สมาชิกในครอบครัวของเหล่าแพนด้าทั้งหลายสามารถพักผ่อนได้อย่างสบายกายและสบายใจ หลังจากที่ตรากตรำทำงานหนักมาทั้งวัน   และแน่นอนว่ามีพื้นที่ให้เต้นอีกเหลือเฟือด้วย ><   โดยคุณ Wilson ได้รับคำแนะนำในการแต่งตัวเป็นสัตว์เพื่อขายบ้านมาจากตัวแทนเกี่ยวอสังหาริมทรัพย์ Richard Welpton เพราะเขาคิดว่าการสร้างจุดเด่นในการโปรโมทจะช่วยให้มีผู้คนสนใจมากยิ่งขึ้น   เจ้าแพนด้าตัวนี้ถูกชาวเน็ตตั้งชื่อให้ว่าเจ้า Vinny…   ต้องขอขอบคุณเจ้า Vinny ที่ช่วยให้บ้านหลังนี้มีผู้คนสนใจเป็นจำนวนมาก และเชื่อว่าอีกไม่นานบ้านหลังนี้จะต้องขายออกอย่างแน่นอน  …

กลุ่มคนไร้บ้าน คนยากจน ไม่มีที่อยู่ มักจะถูกมองว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่มักจะขอเงินเพื่อนำไปซื้อในสิ่งของที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่สำหรับบางคนพวกเขานำเงินที่ขอมาได้นั้นไปต่อยอดในสิ่งที่พวกเขาขาด เพราะชีวิตของพวกเขานั้นไม่รับโอกาสเหมือนกับคนทั่วไป     Greg Smith ชายหนุ่มวัยทำงานจาก Orlando, Florida ได้พบกับหญิงไร้บ้านคนหนึ่ง เธอมีชื่อว่า Amy Joe เขาพบกับเธอทุกวันตลอดทั้งสัปดาห์ ณ ริมถนน โดยที่เธอพูดเพียงแค่ไม่กี่ประโยค ซ้ำๆ เดิมๆ แต่ไม่เคยมีประโยคขอเงินจากปากเธอแม้แต่ครั้งเดียว     จนเขามารู้ในภายหลังว่า เธอเก็บเงินที่ได้จากน้ำใจของคนที่ให้มานำไปใช้เพื่อเช่าหนังสือจากห้องสมุด เพื่อเรียนรู้การอ่านแทนที่จะนำไปใช้ซื้ออาหารเพื่อประทังชีวิต นั่นเป็นเพราะว่าเธออ่านหนังสือไม่ออก เพราะขาดโอกาสในการเรียน นั่นทำให้ Greg Smith ถึงกับอึ้งไปในทันที     ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงอาสาช่วยสอนหนังสือให้กับเธอ ใช้เวลาร่วมกันประมาณ 30 นาทีทุกวันอังคาร ช่วงเวลาพักเที่ยง ทานอาหารกลางวันด้วยกัน และเขาก็ได้เช่าหนังสือมาเพื่อสอนเธออ่านหนังสือ จากนั้นก็จะให้เธอไปฝึกฝนการอ่านเองตลอดทั้งสัปดาห์และกลับมาพบกันใหม่     แม้ว่าชีวิตของ Amy Joe จะยากลำบากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ แม้จะขาดโอกาสในการเรียนไป…

เราอาจเคยได้ยินพฤติกรรมอันน่าปวดใจของชาวจีนมามาก โดยเฉพาะการขับถ่ายบนระบบขนส่งสาธารณะต่างๆ จนกลายเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นบนรถไฟฟ้า หรือบนเครื่องบิน แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมข่าวที่จะทำให้ทุกคนรู้ว่า จริงๆ แล้วคนจีนดีๆ มารยาทเยี่ยมๆ ก็ยังมีอีกเยอะนะ เพียงแค่ไม่ได้เป็นข่าวเท่านั้นเอง     เรื่องราวมีอยู่ว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน มีปู่ย่าและหลานสาวครอบครัวหนึ่งได้ขึ้นรถไฟฟ้าในนครเซี่ยงไฮ้ ผู้โดยสารท่านอื่นสังเกตว่าเด็กสาวคนนั้นท่าทางกำลังป่วยหนักอยู่ เพราะบนศีรษะของเธอมีแผ่นเจลลดไข้แปะไว้ หลังจากเธอนั่งได้ซักพักใหญ่ๆ ดูเหมือนอาการของเด็กสาวจะแย่ลงกะทันหัน และเธอมีอาการคลื่นเหียนคล้ายจะอาเจียน จังหวะนั้นเองคุณปู่ก็ถอดเสื้อแจ็คเก็ตของตนเองออก แล้วยื่นให้หลานตนเองอาเจียนใส่       เมื่อชาวเน็ตได้ทราบถึงพฤติกรรมอันน่ายกย่องดังกล่าว ก็ได้ออกมาชื่นชมมากมาย เพราะหากคุณปู่ปล่อยให้หลานอาเจียนตรงนั้น คงเป็นเรื่องยากที่พนักงานทำความสะอาดจะเข้ามาทำความสะอาดในทันที และอาจรบกวนผู้โดยสารคนอื่นได้ นอกจากนี้หน่วยงานรถไฟฟ้าประจำนครเซียงไฮ้ ก็ออกมาชื่นชมคุณปู่คนนี้ด้วยเช่นกัน พร้อมให้คำแนะนำว่า หากมีผู้โดยสารที่ป่วย ควรติดต่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของสถานีรถไฟในทันที     สุดยอดไปเลยฮะ เรียกว่ามีจิตสาธารณะอย่างเต็มเปี่ยมจริงๆ #เหมียวอ๊อดโด้ ขอชื่นชมจากใจ เห็นมั้ยล่า คนจีนก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรอย่างที่เราคิดเสมอไปหรอกนะฮะ ที่มา Shanghaiist

แม้ในช่วงหลายปีทีผ่านมา กิจกรรมนันทนาการอย่างเกมคอมพิวเตอร์หรือว่าเกมการ์ด สามารถพัฒนาจนกลายเป็นอาชีพจริงๆ ได้ หากผู้เล่นเก่งกาจพอ (e-Sport อะไรทำนองนั้น)  ทำให้คำครหาบางส่วนที่บอกว่าเกมเหล่านั้นไม่มีประโยชน์ลดลงไปอย่างมาก     แต่ดูเหมือนว่า ยังมีอีกหลายคนที่ไม่เข้าใจและมองว่าเกมเป็นสิ่งที่ไร้สาระ ไม่มีค่าอันใดนอกจากมอมเมาเยาวชน แม้ในกระทั่งในประเทศญี่ปุ่น ที่กิจกรรมเหล่านี้เฟื่องฟูมากที่สุดในโลกที่หนึ่ง เรื่องราวมีอยู่ว่า มีชาวทวิตเตอร์ท่านหนึ่ง @mimi3310mtg ได้ถ่ายภาพบทความของนิตยสาร  BUBKA จากประเทศญี่ปุ่น แล้วแชร์ลงบนโซเชียล โดยใจความกล่าวดูถูกนักเล่นเกมการ์ดมืออาชีพว่า “ไม่ต่างจากเด็ก” รวมถึงบอกว่า นักเล่นหมากรุกญี่ปุ่น “เสียเวลาไปเปล่าๆ กับเกม”     นักเล่นเกม Magic: The Gathering มืออาชีพ (เกมการ์ดชื่อดัง)   รายได้ต่อปี : 2 ล้านเยน (6.5 แสนบาท) – 32 ล้านเยน (10 ล้านบาท) “มือโปรที่ชนะรางวัลเหล่านี้ เอาจริงๆ ก็คงไม่ได้เก่งกาจอะไรเท่าไหร่ ถ้าไม่นับส่วนที่เขาเล่นเกมการ์ดเก่ง อย่างอื่นก็คงไม่ต่างจากเด็กที่เล่นการ์ดโปเกม่อนหรือการ์ดยูกิ จะบอกว่าเกมนี้ฮิตไปทั่วโลกงั้นเหรอ? เฮ้! พวกนายจบจากโรงเรียนประถมแล้วนะ!!”   นักเล่นหมากรุกญี่ปุ่นมืออาชีพ  …

โลกของเรามีความเปลี่ยนแปลงไปมากจากอดีต ทั้งเรื่องของเทคโนโลยี วิถีชีวิต และ ความรักเองก็เช่นกัน ปัจจุบันมีคู่รักมากมาย ที่เป็นเพศเดียวกัน ทั้งชาย-ชาย และหญิง-หญิง แต่ก็ยังมีผู้คนบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยและคิดว่าความรักนั้นต้องเกิดเฉพาะกับชาย-หญิงเท่านั้น อย่างเช่นมหาเศรษฐีชาวจีนผู้นี้ ที่ยอมลงทุนประกาศมอบให้กับชายที่จะเข้ามาเปลี่ยนใจลูกสาวที่เป็นเลสเบี้ยนของเขา   Cecil Chao มหาเศรษฐีชาวจีนได้ทำการประกาศแจกเงินกว่า 6,350 ล้านบาทให้กับชายใดก็ตามที่จะเข้ามาเปลี่ยนให้ Cecil Gigi ลูกสาวของเขากลับมาชอบผู้ชายได้   โดย Gigi นั้นมีแฟนเป็นทอมที่ทั้งคู่ต่างก็รักใคร่กันดีอยู่แล้ว   ทำให้เธอตัดสินใจที่จะปฏิเสธชายที่พ่อของเธอประกาศหามาให้ ด้วยการเขียนจดหมายถึงพ่อของเธอ   ในจดหมายนั้นเป็นการอ้อนวอนขอให้คุณพ่อของเธอยอมรับในตัวเธอและคู่รักทอม Sean Eav    เนื้อหาในจดหมายถูกเขียนไว้ว่า ‘ในฐานะที่เป็นลูกสาว สิ่งที่เธอต้องการคงไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่เห็นพ่อมีความสุข แต่ในเรื่องของชีวิตคู่เธอไม่สามารถที่จะทำตามคำขอของคุณพ่อได้’   คุณ Chao เมื่อได้รับข้อความนี้แล้วกลับไม่พอใจเป็นอย่างมาก   เพราะเขาเชื่อว่าเรื่องของความรักและชีวิตคู่นั้นจะต้องเป็นเรื่องของผู้หญิงและผู้ชายเท่านั้น   เขาไม่เข้าใจว่าทำไม Gigi ถึงเลือกแบบนั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น   ฟังดูเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับ Gigi แล้วใช่มั้ยล่ะ?   แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าอย่างไรคุณ Chao ก็ไม่ยอมรับคู่รักของเธอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว และมีรายงานว่าตอนนี้ คุณ Chao และ…

หลายคนชอบมองว่าตัวเองไม่มีความสามารถพอที่จะทำอะไรยากๆ ได้ และล้มเลิกความพยายามนั้นไปโดยที่ยังไม่ได้เริ่มทำ วันนี้ #เหมียวสามสี มีเรื่องราวที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจมาฝากเพื่อนๆ หนูน้อย Anaya Ellick วัยเพียง 7 ขวบ แต่เธอมีหัวใจที่แข็งแรงและดีเยี่ยม เนื่องจากว่าเธอเกิดมาไม่มีมือ แต่เธอพิสูจน์ให้เห็นด้วยการเข้าประกวดคัดลายมือพร้อมคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้ ทำเอาหลายๆ คนชื่นชมในตัวเธอมาก โดยเฉพาะครอบครัว ความสามารถของเธอนั้นมาจากใจล้วนๆ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มีมือ แต่เวลาที่เธอคิดว่าจะทำอะไร เธอจะลองมือทำทันที ถึงแม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม   เธอและถ้วยรางวัลจากการประกวดคัดลายมือ   และนี่ก็คือลายมือของเธอ ต้องบอกเลยว่าสวยงามมากๆ   พลังใจสามารถเอาชนะทุกอย่างได้จริงๆ     คลิปนี้ก็เรื่องราวของเธอและแม่ เล่าเรื่องราวการฝึกเขียน เห็นได้ชัดเลยว่าเธอใช้ความพยายามอย่างมาก และผลที่ได้ก็ออกมาดีด้วย   หวังว่าเรื่องราวนี้จะช่วยให้หลายคนลุกขึ้นไปทำสิ่งที่คิดว่าตัวเองทำไม่ได้นะจ๊ะ ว่าแล้วก็ลงมือทำกันเลย!! ที่มา The Virginian-Pilot, People

การสอบเรียกได้ว่าเป็นฝันร้ายของนักเรียนทุกคนเลยก็ว่าได้ เพราะเราต้องทบทวนความรู้ทุกอย่างที่ได้เรียนมาตั้งแต่ต้นเทอมถึงท้ายเทอม เป็นอะไรที่หนักหนาเหมือนกัน ไม่ใช่เฉพาะนักเรียนเท่านั้น ครูก็กังวลไปด้วย เพราะการที่เด็กจะสอบได้หรือไม่ได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าครูจะสามารถถ่ายทอดความรู้ให้นักเรียนได้มากน้อยแค่ไหน     เหมือนอย่างที่โรงเรียน Woodbury School System ในนิวเจอร์ซี่ คุณครู Chandni Langford ตั้งใจอยากให้เด็กๆ ทุกคนมีผลสอบที่ดี ก็เลยได้เขียนโน๊ตลงไปบนโต๊ะเพื่อให้กำลังใจเด็กๆ พร้อมกับโดนัทอีก 2 ชิ้น น่ารักมากกกก     ที่นิวเจอร์ซี่นั้น ตอนป.5 จะมีการสอบวัดการเรียนที่ชื่อว่า PARCC ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เด็กๆ จะเครียดและกดดันเป็นอย่างมาก คุณครูก็เลยจัดการเขียนบนโต๊ะเด็กทุกคน ด้วยข้อความที่ไม่ซ้ำกันเลย     ภาพเหล่านี้ถูกโพสต์ในเพจของโรงเรียน จนมียอดแชร์เกือบ 20,000 และผู้คนต่างก็ชื่นชมความเอาใจใส่ของคุณครูท่านนี้อีกด้วย   ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น #เหมียวสามสี ก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน ตอนนั้นครูแจกลูกอมให้ทุกคน มันก็ทำให้เรารู้สึกลดความตึงเครียดลงไปได้เยอะเลย ที่มา distractify

เหน็บปากกาไว้ใต้ราวนม, เอื้อมมืออ้อมหลังมาแตะหน้าอก, กระดาษเอสี่วัดหน้าท้อง, พนมมือจับโทรศัพท์ด้านหลัง และอื่นๆ อีกมากมายที่ว่ามานี้ คือเทรนด์การวัดความสุขภาพดีของสาวจีนที่ช่วงที่ผ่าน ล่าสุดมีเทรนด์ใหม่มาอีกแล้ว แต่คราวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเหรียญบ้าง!! โดยเทรนด์ใหม่นี้ สาวๆ จีนจะวางเหรียญ 1 หยวนที่มีขนาดประมาณ 25 มิลลิเมตรลงบนข้อมือแนวตั้ง หากเหรียญมีขนาดพอดีกันเป๊ะ แปลว่าสุขภาพดีแบบสุดๆ ไปเลยล่ะ!!       โดยการทดสอบวางเหรียญนี้กลายเป็นที่นิยมในเว็บไซต์ Weibo เป็นอย่างมาก จนโพสที่เป็นต้นกำเนิดของเทรนด์นี้ก็ถูกชมกว่า 15 ล้านครั้ง และมีคนมาคอมเมนต์กว่า 20,000 คอมเมนต์     ใครสนใจลองหาเหรียญ 1 หยวนมาทดสอบบ้างดูมั้ยละ       แต่หลังๆ เริ่มมีคนเกรียน วัดสุขภาพด้วยแบงค์แทนแล้ว แถมมูลค่า 1 หยวนเท่ากันด้วยนะ ฮาาาา     แทนที่จะมาทำแบบนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ คิดว่าไปตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลจะดีกว่านะ จะได้รู้ว่าสุขภาพดีจริงหรือไม่ ฮาาา ที่มา Shanghaiist

ช่วงนี้ใครที่มีแพลนว่าจะไปเที่ยวเกาหลี สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนจะคำนึงถึงนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวก็คือ ของกินใช่ไหมละ ซึ่งแน่นอนว่าประเทศเกาหลีใต้ โดยเฉพาะในกรุงโซลนั้น มีอาหาร รวมไปถึงของหวานมากมายให้เพื่อนๆ ได้เลือกช็อป และชิมกัน แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ 9 ไอศกรีมที่มีหน้าตาน่ารับประทาน จากร้านสุดฮอตที่มีขายเฉพาะในกรุงโซล ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ บอกเลยว่าแค่ได้เห็นหน้าตาของไอศกรีมเหล่านี้ เหมียวขี้อ้อนนี่แทบอยากจะตีตั๋วไปเกาหลีซะเดี๋ยวนี้เลย อิอิ!!   1.Swi:t B (ราคา 5,300 วอน หรือประมาณ 160 บาท) Swi:t B เป็นอีกหนึ่งร้านขนมหวาน ที่สาวๆ เห็นแล้วจะต้องกรี๊ด เพราะร้านนี้เขามีไอศกรีมเนื้อนุ่มมาพร้อมกับรสชาติที่หอม หวาน อร่อย และมีหน้าตาเป็นเอกลักษณ์สุดๆ โดยทางร้านจะทำเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ที่ทำจากของหวานหลากหลายชนิด แถมยังมีให้เลือกทานอีกหลายรส ไม่ว่าจะเป็น whisky, cereal และ  pistachio ตบด้วยท็อปปิ้งฟินๆ อีกเพียบ   2.Fell + Cole (ราคา 5,200 วอน หรือประมาณ…

การเลี้ยงสัตว์นั้นไม่ใช่ว่าจะเป็นแต่เรื่องของอาหารการกินแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เราต้องหมั่นเอาใจใส่และดูแลสุขภาพของมันด้วย หากว่าให้แต่อาหารเพียงอย่างเดียวจนอ้วนเกินไปอาจจะทำให้มันเสี่ยงต่อโรคร้ายได้     อย่างเจ้า Tyke สุนัขพันธ์ุคอร์กี้ผสมตัวนี้ที่ถูกปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนอ้วนท้วมมากจนเกินน้ำหนักมาตฐานของสุนัขพันธุ์นี้ไปแล้ว อีกทั้งยังไม่มีการพามันไปออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักเลย     Denise Leitch วัย 59 ปี ผู้เป็นเจ้าของ Tyke ตัวนี้ กล่าวว่าเธอรักสุนัขตัวนี้มาก แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่จากสถานสงเคราะห์สัตว์ได้ทำการยึดตัวมันไป หลังจากที่เพื่อนบ้านสังเกตว่ามันมีอาการหายใจลำบากและเดินไม่ค่อยได้ เพราะมันอ้วนเกินไป     ศาลได้ตัดสินว่าเธอมีความผิดในฐานพยายามฆ่าด้วยความเมตตา เพราะให้อาหารมันมากจนเกินจำเป็นจนเป็นภัยต่อสุนัขที่เลี้ยง ซึ่งศาลก็ได้ให้ทางการส่งตัวเจ้า Tyke ให้กับศูนย์สงเคราะห์สัตว์เพื่อช่วยเหลือปัญหาทางด้านสุขภาพ เมื่อมันกลับมามีสุขภาพดีแล้วก็จะถูกส่งต่อให้กับครอบครัวอื่นที่พร้อมจะดูแลต่อไป ที่มา : dailymail

ใครเคยมีประสบการณ์ที่ว่าพ่อแม่จะมาเยี่ยมหาที่มหาวิทยาลัยบ้างมั้ย แต่ไม่ยอมบอกว่าจะมาหา บางทีก็อาจจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างผิดคาดไปเลยก็ว่าได้ อย่างเช่นคุณแม่รายนี้ที่อยากจะมาเยี่ยมหาลูกสาวที่หอพักแต่ดันเข้าไปผิดหอนี่สิ   McKenna Pilling ลูกสาววัย 18 ปีจากนิวยอร์ก ได้เข้ามาศึกษาอยู่ที่ Utah State University ซึ่งตอนนี้เธอได้ย้ายเข้าไปในหอใหม่แล้ว   ในระหว่างที่ทำการย้ายเข้าหอใหม่นั้น คุณแม่ของเธอ Deanna ก็ตัดสินใจที่จะเข้ามาเซอร์ไพรส์พอดี สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวังเอาไว้   เป็นเพราะว่าคุณแม่อยากจะเข้ามาช่วยย้ายของเข้าหอใหม่ แต่คุณแม่ดันเข้าผิดหอ แถมยังนอนอยู่บนเตียงใครก็ไม่รู้นานตั้ง 5 นาทีแหนะ     คุณแม่ : ดูสิ แม่อยู่ที่ไหน! แล้วลูกอยู่ไหนล่ะเนี่ย? ลูก : ที่ไหนน่ะแม่? หนูอยู่ที่หอหนูนะ ขอร้องช่วยบอกหนูทีว่าแม่ไม่ได้อยู่ในหอคนอื่นนะ คุณแม่ : ตายแล้ว ฉันเข้าผิดหอ โอ้ พระเจ้าาาาา!!   ที่เธอรู้ได้ก็เป็นเพราะว่าเธอไม่ได้อยู่ในหอนั้น คุณแม่ก็เกิดอาการเงิบทันทีเลย   ภายหลังจากที่เกิดเรื่องปุ๊บ เรื่องราวการเซอร์ไพรส์ของแม่เธอก็โดนใจไปทั่วอินเตอร์เน็ตถูกกระหน่ำรีทวีตกว่าหมื่นครั้งแหนะ   ทำเอาทั้งเธอและคุณแม่หยุดขำไม่ได้เลยล่ะ เพราะไม่คิดว่าคุณแม่จะพยายามเซอร์ไพรส์ขนาดนี้ แต่ดันเงิบซะได้นี่…

เปิดฉากไปอย่างอลังการงานสร้างสมกับการรอคอยมานานนับปีจริงๆ สำหรับงานเดินพรมแดง เทศกาลหนังเมืองคานส์ 2016 Cannes Film Festival 2016  ซึ่งเป็นงานที่เราจะได้เห็นบรรดาเซเลปสาวชื่อดังหลายๆ ประเทศใส่ชุดราตรีสวยๆ มาเดินเฉิดฉายอย่างสง่างามในแบบที่ไม่มีใครยอมใคร และในวันนี้เราก็ได้รวบรวมภาพ 28 เซเลปสาวคนดัง ที่มาในชุดราตรีอันแสนสง่าจากงานพรมแดง บอกเลยว่าแต่ละคนเจิดจรัสระดับควีนกันทั้งนั้น และ 1 ใน 28 นี้ก็มีซุปตาร์สาวสุดฮอตของเมืองไทยอย่างชมพู่ อารยา ด้วยนะ ถ้าอย่างนั้นไปชมกันเลยดีกว่าว่าจะมีใครบ้าง   1.Susan Sarandon   2.Naomi Watts   3.Julianne Moore   4.Anna Kendrick   5.Victoria Beckham   6.Barbara Meier   7.Yao Xin   8.Gaia Weiss   9.Kristen Stewart   10.Blake Lively  …

เรียกว่าเป็นดินแดนแห่งของปลอมจริงๆ สำหรับประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋ากุชชี่ปลอม หน้ากากอนามัยปลอมยันถุงยางปลอม และล่าสุดมีการปลอมระดับเทพอีกแล้วกับ “แมงกะพรุน” ปลอม!! ล่าสุดตำรวจเมืองหูโจว ได้แถลวงข่าวบุกทลายโรงงานทำ “แมงกะพรุนปลอม” เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ โดยทางตำรวจกล่าวว่า อาจมีการขายแมงกะพรุนปลอมเหล่านี้ไปแล้วกว่า 10 ตันในช่วงที่ผ่านมา     นายหยวนเจ้าของโรงงานแมงกะพรุนดังกล่าวเล่าว่า แมงกะพรุนธรรมดาต้องใช้เวลาเลี้ยงค่อนข้างนาน เขาจึงทำแมงกะพรุนปลอมขึ้นมา โดยได้สูตรมาจากโรงงานแห่งหนึ่งในเมืองฉางโจว ซึ่งเขาสามารถทำกำไรได้มากกว่า 100,000 หยวนหรือราว 500,000 บาทเลยทีเดียว     วัตถุดิบที่นำมาแมงกะพรุนปลอมดังกล่าว ประกอบไปด้วยสารเคมีสามชนิดได้แก่ กรดแอลจินิก สารส้ม และแคลเซียม คลอไรด์ แอนไฮดรัส ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้ว มีระดับอลูมิเนียมสูงกว่ามาตรฐานถึง 8 เท่า     แมงกะพรุน ถือว่าเป็นอาหารยอดนิยมของชาวจีนโดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน แต่การเลี้ยงแมงกะพรุนต้องใช้เวลาเกือบ 40 วันกว่าจะขายได้ ทำให้แมงกะพรุนไม่พอจำหน่าย จึงมีการทำแมงกะพรุนปลอมขึ้นมา และใช้ต้นทุนถูกว่ามากอีกด้วย ส่วนใครที่อยากรู้ว่าแมงกะพรุนปลอม กับแมงกะพรุนของจริงต่างกันอย่างไร ลองชมภาพข้างล่าง ด้านซ้ายใสๆ ดูเหนียวๆ หนึบๆ นั่นคือแมงกะพรุนปลอม…

ภาพด้านซ้าย คือภาพของลิงที่เรามักจะเห็นกันจนชินตา ส่วนภาพด้านขวานั้นคือลิง Uakari ลิงสายพันธุ์แปลก ที่มีหน้าตาไม่เหมือนลิงทั่วๆ ไป โดยลักษณะใบหน้าโดยรวมของมันก็คือ หน้าแดง และหัวโล้น เรียกได้ว่าน้อยคนนักที่จะเคยเห็นลิงพันธุ์นี้     แต่ถ้าจะมองหาลิง Uakari แถวๆ บ้านเรา หาเท่าไหร่ก็คงหาไม่เจอแน่ๆ เพราะเจ้าลิงพันธุ์นี้อาศัยอยู่ในป่าประเทศบราซิล บริเวณใกล้กับแม่น้ำอเมซอนยังไงละเหมียว   ด้วยลักษณะที่แปลกประหลาด มันจึงถูกเรียกชื่อแบบเก๋ๆ ว่า “ลิงหัวล้าน” ก็เพื่อนๆ ลองดูสิ…หัวของมันแทบไม่มีเส้นขนขึ้นเลยสักเส้นเลย   เท่านั้นยังไม่พอ นอกจากจะหัวล้านแล้ว ใบหน้าของมันยังมีสีแดงก่ำอีกด้วย   ซึ่งใบหน้าสีแดงของมันที่เพื่อนๆ เห็นอยู่นี้ ไม่ใช่ว่ามันกำลังโกรธ หรือโมโหใครอยู่หรอกนะ แต่เป็นเพราะว่าธรรมชาติได้สร้างมันให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ที่สำคัญยิ่งหน้าของมันแดงมากเท่าไหร่ นั่นก็หมายความว่าสุขภาพของมันก็จะดีมากขึ้นเท่านั้น     นอกจากนี้มันยังมีลักษณะพิเศษอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น หางที่มีความสั้นกุด และมีกรงเล็บที่แข็งแรงมากๆ เลยละ   สำหรับ ลิง Uakari เรียกได้ว่ามันเป็นลิงที่หายาก และใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว เนื่องจากมันมักจะถูกชาวบ้านท้องถิ่นจับไปขายในตลาดมืด ให้กับผู้ที่ชื่นชอบนิยมเลี้ยงสัตว์แปลก…

สำหรับเรื่องราวสุดน่ารักนี้ก็เกิดขึ้นในโรงเรียนไฮสคูลแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา Joshua High School ที่เหล่านักเรียนได้แอบรวมตัวกันลับๆ เพื่อนทำการเซอร์ไพร้ซ์คุณครูของพวกเธอ Tonya Andrew คุณครูผู้รักแมวเหมียว มีอาการเศร้าเสียใจอย่างมากเพราะเจ้า Blondie แมวของเธอที่อยู่ด้วยกันมากว่า 16 ปีเต็มพึ่งเสียชีวิตไปหมาดๆ เหล่านักเรียนพอเห็นเธอร้องไห้คิดถึงแมวเลยคิดแผนการขึ้นมาเพื่อให้คุณครูของเธอกลับมายิ้มได้อีกครั้ง เย็นวันนั้นพวกเธอเลยไปรับลูกแมวมาเลี้ยง 2 ตัว พร้อมเตรียมช่อดอกไม้สำหรับไปปลอบขวัญคุณครูสุดที่รักล่ะ!!!   ก็อย่างที่เราพอนึกภาพออก คุณครูของเราแฮปปี้สุดๆ   ‘ตอนแรกพวกเธอนำลูกแมวเข้ามาในห้อง ฉันนึกว่าแค่เอามาให้เล่นด้วย แต่ที่จริงแล้วเด็กๆ นำลูกแมวทั้งสองตัวมาให้กับฉันล่ะ ฉันดีใจสุดๆ ไปเลย’ คุณครูกล่าว ด้านเด็กๆ ก็พูดว่า ‘เธอบอกกับเราเมื่อวานแหละว่ายังไงก็จะหาแมวตัวใหม่มาเลี้ยง แต่เรานำหน้าเธอไปก้าวหนึ่งแล้วล่ะ’   บรรยากาศชื่นมื่นมากๆ   มาชมวิดีโอเหตุการณ์กันได้ที่นี่เลย   We surprised our teacher with kittens because her cat passed away yesterday pic.twitter.com/ozzwCJTVmj — Rachel Hanhart (@ace040913)…

ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจเฟื่องฟูจริงๆ สำหรับบรรดาค่ายหนังผู้ใหญ่ ที่ผลิตออกมาให้เราได้ชมกันแบบไม่ซ้ำในแต่ละวันกันเลยทีเดียว… และสำหรับวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็ได้นำลิสต์ของ 20 รายชื่อดาราหนังผู้ใหญ่ที่ได้รับการ Search ชื่อหามากที่สุดในปี 2016 ที่ผ่านมาของทางฝั่งตะวันตก (นี่ยังไม่พ้นครึ่งปีเลยนะเนี่ย -*-) ว่าแล้วเรามาลองดูกันว่ามีคุ้นหน้าคุ้นตาบ้างรึเปล่า!?   อันดับ 20 Stoya กับใบหน้าที่สวยหวานมาแต่ไกล   อันดับ 19 Peta Jensen   อันดับ 18 Cassidy Banks หน้าตาแบบนี้สเปคฝรั่งเขาล่ะ   อันดับ 17 Mia Malkova ดูความยืดหยุ่นของเธอสิ!!!   อันดับ 16 Riley Reid มาแบบใสๆ   อันดับ 15 Proxy Paige   อันดับ 14 Kim Kardashian ถึงจะมีคลิปหลุดมาแค่คลิปเดียวจนถึงตอนนี้คนก็ยังเสิร์ชหากันมากมายอยู่   อันดับ 13 Lisa Ann แนวแม่ๆ หน่อยๆ ฮร่าาา  …

สำหรับคนที่สายตาสั้น คุณคงจะเข้าใจความรู้สึกตอนที่ไม่ใส่คอนแทคเลนส์ หรือแว่นตา เป็นอย่างดี เพราะนอกจากมันจะเป็นช่วงเวลาที่แสนทรมานแล้ว ยังทำให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆ ไม่ชัดเจนอีกด้วย และถ้าหากลองมองอีกมุมหนึ่ง คนที่ตาบอดโดยกำเนิด หรือตาบอดเพราะสาเหตุอื่นๆ ที่ดวงตาของเขามองไม่เห็นอะไรเลยละ มันจะต้องเป็นความรู้สึกที่แย่ และทรมานกว่านี้หลายเท่าแน่นอน     เหมือนดังเช่น Fran Laver หญิงที่เกิดมาปกติเหมือนกับคนทั่วๆ ไป แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตากลับเล่นตลก เพราะเธอต้องสูญเสียการมองเห็นตั้งแต่อายุ 20 กว่า ด้วยโรค Steven-Johnsons Syndrome ซึ่งเป็นภาวะที่ปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันต้านทานของร่างกาย ตอบสนองผิดปกติต่อสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย     และนับตั้งแต่นั้นมา Laver ก็มองไม่เห็นอะไรอีกเลย แม้กระทั้งหน้าลูก จนลูกของเธอมีหลานตัวน้อยๆ   Laver อยากจะกลับมามองเห็นอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าแทบไม่มีหวังเลย   แต่คนเราเมื่อเจอเรื่องร้ายๆ มันก็คงไม่ได้ร้ายไปตลอดหรอกว่าไหม เพราะวันหนึ่งโชคก็เข้าข้าง คุณยาย Laver ได้รับโอกาสให้เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาบอสตัน (Boston Keratoprothesis) ซึ่งเป็นการใส่กระจกตาเทียม มีลักษณะภายนอกคล้ายกระจกตาธรรมชาติ ที่ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง     และไม่น่าเชื่อเลยว่า…

เราคงเคยชมภาพยนตร์แอคชั่นเกี่ยวกับทหารหรือสงครามกันอยู่บ่อยๆ และพบเห็นฉากที่พระเอกหรือตัวละครอื่นๆ เสียสละชีวิตตัวเองช่วยเหลือเพื่อนหรือลูกน้องในกองด้วยการกระโดดเอาตัวไปรับระเบิด วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมเรื่องราวของฉากสุดฮิตในภาพยนตร์นี้ที่เกิดขึ้นจริงๆ กัน…   พ่อหนุ่ม William Kyle Carpenter เข้าร่วมกับนาวิกโยธินตั้งแต่อายุ 19 ปี   จนกระทั่งอายุ 21 ปีเขาถูกส่งไปอยู่ที่อัฟกานิสถาน   เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนของปีนั้น เขาได้เสียสละตัวเองกระโดดเข้าบังแรงระเบิดจากระเบิดมือเพื่อช่วยเหลือเพื่อนทหารของเขา   โดยร่างกายด้านซ้ายของเราได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ทั้งกระดูกโครงหน้า ดวงตา แขน และปอด แต่เขากับรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์   เขาจึงได้รับมอบเหรียญกล้าหาญจา่กทางการของสหรัฐ (มอบโดยประธานาธิบดีเองเลย) เพื่อแสดงถึงความกล้าหาญ และความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของเขาเพื่อประเทศชาติ   2 ปีครึ่งที่เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล และผ่านการผ่าตัดศัลยกรรมกว่า 40 ครั้ง ตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่   ในช่วงแรกเขาก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตที่เหลืออยู่นี้ดี และเขาก็ตัดสินใจ ที่จะทำหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้คนที่สูญเสียครอบครัว คนรัก หรือครอบครัว ไปในสงคราม ทำให้เขาเดินสายไปทั่วอเมริกา ทำเรื่องต่างๆ มากมาย เพราะตอนนี้เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วแล้ว   วิ่งมาราธอนร่วมกับเหล่าทหารผ่านศึก  …

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ชาวเมืองฟอร์ต แมคเมอร์เรย์ รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ต้องเผชิญกับปัญหาไฟป่าครั้งใหญ่ และเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ผู้คนถูกบังคับให้อพยพออกจากที่พักอาศัย ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่จะต้องเดินทางโดยอาศัยเครื่องบิน แต่ทว่าหากพวกเขามีสัตว์เลี้ยง และมีความจำเป็นที่ต้องนำขึ้นเครื่องด้วย งานนี้จะทำอย่างไรดีละ!? เพราะปกติแล้วหากจะนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่อง พวกมันจะถูกขังไว้ในลังและนำไปไว้ใต้ท้องเครื่องบินเท่านั้น เห็นทีงานนี้คงไม่มีใครกล้าเสี่ยงเป็นแน่     โดยเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า เป็นโชคดีของเหล่าสัตว์เลี้ยง ที่ 2 สายการบิน West Jet และ Canadian North ของแคนาดา ยอมผ่อนกฎการบิน โดยอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงขึ้นมาบนห้องโดยสารกับเจ้าของได้ในช่วงที่อพยพหนีไฟป่า     และในที่สุดเมื่อพวกเขาสามารถนำสัตว์เลี้ยงแสนรักมาอยู่บนห้องโดยสารได้ ก็เกิดเป็นภาพสุดน่ารักอย่างที่เพื่อนๆ ได้เห็นกันอยู่นี้ยังไงละเหมียว     ได้อยู่กับนายแล้วดีใจจังเลย   อย่างน้อยในสถานการณ์ที่ฉุกเฉินแบบนี้ ก็ยังมีสายการบินใจดียอมอนุญาตให้ผู้โดยสาร พาสัตว์เลี้ยงมาอยู่กับพวกเขาได้ มันช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจซะเหลือเกิน     นอกจากนี้ ทางโฆษกสายการบิน Canadian North ยังได้เผยอีกว่า “มันเป็นเรื่องที่แปลกตาสักหน่อยในการย้ายสัตว์เลี้ยงไปในห้องโดยสาร…

ปกติการมีลูกแฝดเกินสอง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นแล้ว แต่สำหรับคุณแม่ชาวออสเตรเลียคนนี้ เธอทำให้โลกต้องตกตะลึง เพราะเธอเพิ่งจะมีลูกแฝด 5 นั่นเอง!! คุณแม่คนดังกล่าวชื่อว่า “คิม” วัย 26 ปี จากเมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย เธอกับสามี “วอร์น” ตั้งใจจะมีลูกครั้งที่สามกัน หลังจากมีลูกมาแล้วสองคน ระหว่างที่เธอตั้งท้อง เธอก็ได้ถ่ายภาพตนเองช่วงนั้นเอาไว้     หลังจากตั้งท้องไปได้ซักพักหนึ่ง เธอก็ไปฝากครรภ์และพบว่า เธอกำลังตั้งท้องแฝดห้า ซึ่งมีโอกาศเพียง 1 ใน 55 ล้านเท่านั้น ตอนแรกหมอแนะนำให้เธอเก็บลูกไว้แค่สองคน เพราะถ้าปล่อยเอาไว้เช่นนั้น ทั้งแม่และเด็กอาจเกิดอันตรายได้ แต่เธอกับสามีตัดสินใจเก็บลูกทั้งหมดไว้   เธอบอกว่าเธอใช้ชีวิตลำบากมาก เพราะการที่ต้องแบกเด็กห้าคนไว้ในท้องไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย แต่เธอก็อดทน และเฝ้ารอวันที่เด็กๆ ของเธอจะลืมตาขึ้นมาดูแล เมื่อถึงกำหนดคลอด มีแพทย์และพยาบาลมากมายมากให้กำลังใจเธอ เธอใช้เวลาเพียง 2 นาทีก็ทำการคลอดด้วยการผ่าตัดจนเสร็จสิ้น และเด็กทั้งหมดก็มีสุขภาพแข็งแรงดี เป็นเด็กชาย 1 เด็กหญิง 4 ลองไปชมภาพของพวกเขากันเลย     น่าร๊ากกกกก…

ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา มีคลิปๆ หนึ่งถูกแชร์ไปทั่วอินเตอร์เน็ต เมื่อมีสาวจีนคนหนึ่ง ทดลองกินข้าวโพดต้มด้วยสว่านไฟฟ้า จนสุดท้ายโชคร้าย เส้นผมถูกม้วนเข้าไปและถูกสว่านดึงผมจนหลุดออกมากระจุกหนึ่ง   ใครยังไม่เคยดูลองไปดูกันก่อน   ซึ่งหลังจากมีการเผยแพร่คลิปออกไป ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาว่า เป็นการจัดฉากหรือเปล่า ร้อนสาวจีนคนดังกล่าวต้องอัดคลิปออกมาชี้แจงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงและผมที่หลุดออกไป ก็ผมจริงๆ ด้วย ลองไปชมคลิปกันเลย   เธอบอกมีภาพประกอบด้วยนะ เห็นมั้ยละ มีจุดแดงๆ ช้ำๆ อยู่บนหัวด้วย   หลังจากนั้น #เหมียวอ๊อดโด้ ได้ไปเจอคอมเม้นท์หนึ่งน่าสนใจที่ว่า…   มันก็น่าคิดเหมือนกันนะ ปกติคนโดนกระชากผมมันจะหลุดง่ายแบบนี้รึเปล่า แล้วแผลมันน่าจะมีอะไรเจ็บกว่านี้ไหม คงต้องให้แพทย์ที่มีความรู้มาช่วยแล้วล่ะ เพื่อนๆ เชื่ออย่างที่เขาบอกหรือเปล่า รึว่าที่จริงแล้วมันเป็นแค่การจัดฉากเพื่อความอยากดังบนอินเตอร์เน็ต ลองแสดงความเห็นกันเข้ามานะช ที่มา BESTVID

ก็เรียกได้ว่าน่ารักสุดๆ สำหรับเทพเจ้าสายฟ้าของเรา Chris Hemsworth ที่นอกจากจะเป็นฮีโร่ในจอแล้ว นอกจอเขาก็ทำหน้าที่ในฐานะพ่อ และการเป็นฮีโร่ของลูกสาวได้ดีไม่แพ้กันเลยทีเดียว เพราะล่าสุดภรรยาของเขา Elsa Pataky ก็ได้อัพโหลดภาพของเขาลงในอินสตาแกรม ที่กำลังอบเค้กวันเกิดแบบฉิวเฉียดให้กับลูกสาวของเขา India Rose ซึ่งต้องบอกเลยล่ะว่าดูท่าทางขึงขังมากๆ ได้ใจแฟนๆ ภาพยนตร์ไปเต็มๆ ล่ะงานนี้   ภาพที่ภรรยาของเขาอัพลงอินสตาแกรม   ในอินสตาแกรมของเขา Chris ได้อธิบายไว้ว่า เขาไปที่ร้านเค้กแล้วแต่ร้านบอกว่าออเดอร์เต็ม ไม่มีเวลาที่จะอบเค้กให้ลูกสาวของเขา เขาเลยจัดการเองซะเลย!!!   ไม่ต้องบอกถึงกล้ามแขนตอนตีแป้งนะ ฮร่าาาาา สาวๆ หลายคนสารภาพมาซะดีๆ พ่อบ้านแบบนี้เอารึเปล่า!!?   จากอินสตาแกรมของภรรยาเขาเมื่อราวๆ เกือบ 1 เดือนก่อน มั่นใจได้เลยว่าเค้กอร่อยแน่นอน เพราะคงซุ่มฝึกฝีมือมาแหละ!!!   จะว่าไปแล้วเทพเจ้าสายฟ้าของเราเป็นหนึ่งในดาราชายที่แฟมิลี่แมนสุดๆ เลยนะเออ มีภาพน่ารักๆ กับครอบครัวออกมาบ่อยมากกกก ><   แหม๊…มาถึงจุดๆ นี้แล้วต้องบอกเลยล่ะว่า ทำอะไรก็ดูดีไปเสียหมดจริงจริ๊งงง พ่อคุณ จะว่าไปแล้ว #จ่าสิบเหมียว ก็อบเค้กเป็นน้าาา สาวๆ คนไหนสนใจรับไปเลี้ยงบ้างรึเปล่า? >< ที่มา:…

สำหรับบ้านเราแล้วเรื่องนี้อาจจะดูไม่รุนแรงมากนัก (ถ้าใครยังจำกันได้มีหนุ่มคะนองคนหนึ่งอัดคลิปพร้อมข้อความ ‘เชิดชูนาซี’ ขึ้นมาจนโด่งดังไปทั่วโลกโซเชียลด้วยนะ -*-) แต่ถ้ากล่าวถึงในส่วนของโลกตะวันตกแล้วล่ะก็ เป็นเรื่องที่ซีเรียสมากๆ เพราะถือเป็นค่านิยมที่ผิด รุนแรง และโหดร้ายสุดๆ ก็อย่างที่เรารู้ๆ กันว่านาซีภายใต้การนำของฮิตเลอร์นั้นฆ่าคนอย่างโหดร้ายไปหลายล้านคนเลยทีเดียว!!! ซึ่งล่าสุดก็มีเรื่องราวของ Markus Meechan หนุ่มวัย 28 ปีแห่ง Coatbridge, North Lanarkshire ที่ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ เพราะปล่อยคลิปวิดีโอการสอนสุนัขพันธุ์ปั๊กของเขาให้ชูมือทำสัญลักษณ์เชิดชูฮิตเลอร์เวลาได้ดูคลิปการพูดสุนทรพจน์ของเขา   เจ้าหมาปั๊กจะทำท่าทางสัญลักษณ์เชิดชูนาซีทันทีถ้าได้ยินคำว่า ‘Sieg Heil’ หรือ “ชัยชนะ จงเจริญ”   หนักไปกว่านั้น คลิปวิดีโอนี้ (แน่นอนว่าถูกลบไปแล้ว) เจ้าตูบได้แสดงความดีอกดีใจสุดๆ ด้วยล่ะเมื่อได้ยินคำว่า ‘Gas the Jews’ หรือ ‘รมแก๊สชาวยิวซะ’ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ตลกเลย -*- และนี่ก็ไม่ใช่คลิปแรกที่เขาได้ทำการบันทึกไว้ ยังมีอีกหลายคลิปที่มีเนื้อหาไปในทิศทางเดียวกันแบบนี้ด้วย…   สุนัขพันธุ์ปั๊กตัวนี้เป็นของแฟนสาวของเขา Suzanne ในวัย 28 ปีเช่นกัน   ทางด้านสารวัตร David Cockburn ผู้ดำเนินการการจับกุมได้กล่าวว่า ‘การจับกุมชายคนนี้เป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังโลกออนไลน์ว่าการทำคลิปแบบนี้น่ะไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แถมคลิปนี้ยังถูกแชร์ไปในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก และมีผู้รับชมไปแล้วกว่า 1 ล้านราย’ ‘แถมลักษณะของข้อความที่ต้องการจะสื่อผ่านคลิปนี้นั้นยังรุนแรง…

ถ้าจะพูดถึงของเล่นของเหล่าสาวๆ แล้วล่ะก็ วัยเด็กไอเท็มสุดโปรดที่สาวๆ ใฝ่ฝันก็เห็นจะไม่พ้นบาร์บี้ ตุ๊กตาสุดน่ารักที่ครองใจเด็กหญิงเกือบทั่วทั้งโลก!!! สำหรับวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มี 19 เรื่องราวเกร็ดความรู้เกี่ยวกับบาร์บี้ที่หลายๆ คงอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนมาฝากกันล่ะ ใครที่เป็นสาวกและแฟนๆ ตัวจริงของตุ๊กตาเหล่านี้ล่ะก็พลาดกันไม่ได้เลย   ตุ๊กตาบาร์บี้   1. ชื่อจริงของตุ๊กตาบาร์บี้ก็คือ Barbara Millicent Roberts ซึ่งตั้งชื่อนี้ตามลูกสาวของผู้ประดิษฐ์ Ruth และ Elliot Handler ส่วนลูกชายมีชื่อว่า Kenneth เพราะฉะนั้นตุ๊กตาเพศชายก็ได้ชื่อนี้มาเหมือนกัน   2. บาร์บี้นั้นอาศัยอยู่ที่เมืองในจินตนาการ Willows ในแถบ Wisconsin ประเทศสหรัฐอเมริกา   3. วันเกิดของบาร์บี้ก็คือ 9 มีนาคม 1959 ตอนนี้เธอก็อายุได้เกือบ 60 ปีแล้วล่ะ!!!   4. หุ่นของบาร์บี้นั้นถ้านำมาเทียบกับของมนุษย์จริงๆ จะได้ประมาณ 36-18-33 หุ่นที่สาวๆ หลายๆ คนปรารถนาเลยทีเดียว   5. ถึงแม้ว่าตุ๊กตาบาร์บี้นั้นจะเน้นสาวผมบลอนด์เป็นหลัก แต่บาร์บี้ชุดแรกที่เปิดตัวมานั้นมีทั้งผมบลอนด์และน้ำตาล     6. บาร์บี้เวอร์ชั่นแรกนั้นมีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และชุดทุกตัวที่บาร์บี้สวมนั้นมาจากการเย็บด้วยมือทั้งสิ้น   7.…

นี่เป็นเรื่องราวชวนให้สะเทือนใจของเด็กชาย Vinny Desautels วัย 7 ขวบ จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่อดทนไว้ผมยาวมานาน 2 ปี เพื่อนำเอาเส้นผมของเขาไปบริจาคทำเป็นวิกเพื่อช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยโรคมะเร็ง     หลังจากผ่านไป 2 ปี นับตั้งแต่วันแรกที่เขาเริ่มไว้ผมยาว เขาสามารถไว้ผมได้ยาวถึง 13 นิ้ว เลยทีเดียว แต่เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกกับเขา เพราะหลังจากที่เขาตัดผมเอาไปทำวิกได้ไม่นาน กลับกลายเป็นว่า Vinny ป่วยเป็นโรคมะเร็งเสียเอง     พ่อแม่ของ Vinny ได้นำตัวลูกชายส่งโรงพยาบาลทันทีที่รุ้เรื่อง เพื่อให้หมอดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชาย จากการตรวจพบว่าเขาเป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายแล้ว เขามีก้อนเนื้อเจริญเติบโตที่รอบๆ สะโพก, ที่กระดูกรอบๆ ดวงตาและแก้มด้านขวา     ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจพอสมควรที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเด็กที่มีจิตใจดีแบบนี้ แต่พ่อกับแม่ของเขาก็ยังคงภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้ และดีใจที่เขาเกิดมาเป็นลูกของพวกเขา     ทั้งนี้ทางด้าน Sue และ Ron ผู้เป็นย่าและปู่ของ Vinny ได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของหลายชายผู้นี้ จึงได้ขอเรี่ยไรเงินค่ารักษาพยาบาลผ่านเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อนำไปจ่ายค่ารักษาแสนแพงในทุกๆ วัน   พร้อมกันนี้ยังมีข้อความบรรยายในเว็บไซต์ด้วยว่า “หลานชายของพวกเราเป็นสิ่งล้ำค่ามาก เขาต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายแบบที่เด็กคนหนึ่งไม่ควรเจอ”     นี่คือภาพของเจ้าหนู Vinny ขณะนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล…

วิชาประวัติศาสตร์ถือว่าเป็นอีกวิชาพื้นฐานที่พบได้ในหลักสูตรการศึกษาของแทบทุกประเทศบนโลก การเรียนรู้ประวัติศาสตร์คือการทำความรู้จักกับรากเหง้าของตนเอง เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งหลายคนอาจชอบ หลายคนอาจไม่ชอบ แต่ดูเหมือนว่าทางการไนจีเรียจะไม่ได้คิดว่าวิชาประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่สำคัญเท่าไหร่นัก เพราะล่าสุดพวกเขาเตรียมยกเลิกการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ในการศึกษาภาคบังคับแล้ว!!     พวกเขาบอกว่า พวกเขายกเลิกวิชาประวัติศาสตร์ในหลักสูตรการศึกษาของชาตินั้นก็เพราะ ต้องการที่จะเน้นการศึกษาด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาติในโลกยุคโลกาภิวัตน์เช่นนี้มากกว่าวิชาประวัติศาสตร์ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเด็กไนจีเรียถูกห้ามเรียนประวัติศาสตร์แต่อย่างใด หากใครต้องการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ ยังมีคลาสเรียนประวัติศาสตร์เจ๋งๆ มากมายให้ลงเรียนตอนอยู่มหาวิทยาลัย ส่วนวิชาประวัติศาสตร์ที่หายไป จะถูกแทนที่ด้วยวิชาการอ่านการ์ตูนแทน     วิชาการอ่านการ์ตูนที่ว่า ไม่ได้อนุญาติให้นักเรียนอ่านสไปเดอร์แมนหรือซุปเปอร์แมนแต่อย่างใด แต่พวกเขาได้สร้างหนังสือการ์ตูนเรื่อง Okiojo’s Chronicles ขึ้นมา เพื่อนำเสนอถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชาวไนจีเรียกว่า 40 ชนเผ่า ประเทศไนจีเรียประสบปัญหาเฉกเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในแอฟริกา นั่นคือความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ซึ่งพวกเขามีชนเผ่าเล็กๆ ใหญ่ๆ รวมกันกว่า 250 ชนเผ่าเลยทีเดียว และนั่นก่อให้เกิดความไม่เข้าใจและขัดแย้งทางวัฒนธรรมของประชาชนในชาติ     “เด็กที่อ่านเรื่อง Okiojo’s Chronicles จนจบ จะได้อ่านเรื่องราวที่แตกต่างกันของชนเผ่าต่างๆ ในไนจีเรียกว่า 40 เผ่า ซึ่งพวกเขาจะเข้าใจผู้คนรอบกายของพวกเขายิ่งขึ้น รวมถึงเข้าใจความเป็น “ไนจีเรีย” ยิ่งกว่าเดิม” Anjorin ผู้ให้กำเนิดสำนักพิมพ์ Panaramic Entertainment ผู้สร้างหนังสือการ์ตูนดังกล่าวกล่าว…

เมื่อเราเห็นเศษขยะถูกทิ้งเรี่ยราดตามถนน หรือทางเดิน มีคนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะเสียสละเวลาอันน้อยนิดเก็บมันไปทิ้ง และถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในคนที่เห็นขยะถูกทิ้งเรี่ยราดแล้วเดินผ่าน ก็จงมาดูตัวอย่างจากเด็กคนน้อยคนนี้กันได้เลย นี่คือ Matilda Rusby เด็กหญิงตัวน้อยวัย 3 ขวบ ชาวเมืองนอร์ธไทน์ไซด์ ประเทศอังกฤษ ผู้ที่มีใจรักในความสะอาด เธอทนไม่ได้ที่ต้องเห็นเศษขยะถูกทิ้งเกลื่อนกลาดเต็มถนน ดังนั้นเธอจึงได้ลงมือทำในบางสิ่ง ที่ผู้ใหญ่บางคนเห็นแล้วถึงกับอาย     ภาพของ Matilda เด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่ถูกถ่ายขึ้นโดยคุณแม่ Frankie Rusby กำลังก้มเก็บขยะใส่ในถุงขยะที่เธอหิ้วอยู่ในมือ เรียกได้ว่าเป็นภาพที่น่าประทับใจมากจริงๆ เพราะแม้แต่เด็กตัวน้อยๆ ยังใส่ใจ และรู้ว่าการทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทางนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง     โดยทาง Frankie Rusby ผู้เป็นแม่ได้ออกมาเผยว่า ลูกสาวของเธอไม่เข้าใจว่า เมื่อสภาเมืองเพิ่งเข้ามาเพิ่มจำนวนถังขยะ เพิ่มผู้ตรวจตรา และทำป้ายเตือนขึ้นใหม่ แต่ทำไมยังเห็นเศษขยะถูกทิ้งไปทั่ว ดังนั้นเธอคิดว่าต้องลงมือเก็บกวาดกันเสียที     ด้าน Jake Rusby คุณพ่อของหนูน้อยก็รู้สึกปลื้มใจที่ลูกสาววัย 3 ขวบของตน รู้ว่าการทิ้งขยะนอกถังเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ในขณะที่ผู้ใหญ่บางคนกลับไม่เคยใส่ใจในเรื่องนี้เลย มันเป็นเรื่องที่น่าอายเด็กมากจริงๆ    …

บ่อยครั้งที่เราเห็นข่าวหน้า 1 ในหนังสือพิมพ์ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับคดียาเสพติด ซึ่งนอกจากมันจะทำลายสุขภาพแล้ว มันยังทำให้ผู้เสพเกิดอาการคุ้มคลั่ง ไร้สติ บางรายถึงขั้นไปทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงขั้นเสียชีวิตก็มี และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์เตือนใจ สำหรับคนที่คิดอยากจะลองเสพยาเสพติด ซึ่งภาพ และคลิปวีดีโอที่คุณได้รับชมอยู่นี้ ถูกถ่ายขึ้นที่สวนสาธารณะในเมืองทรูโร มณฑลคอร์นวอล สหราชอาณาจักร     โดยเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า Alice Coyle ในวัย 19 ปี หญิงสาวจากคลิปวีดีโอดังกล่าว กำลังนอนแผ่บนเก้าอี้ เพื่อทำการอะไรบางอย่าง ซึ่งจากภาพได้ปรากฏให้เห็นว่า หญิงสาวรายนี้ได้เริ่มปฏิบัติการช่วยเอง ท่ามกลางผู้คนที่อยู่บริเวณรอบๆ สวนสาธารณะ แบบไม่แคร์สายตาใครเลยแม้แต่น้อย     แน่นอนว่าคนธรรมดาๆ ที่มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน คงไม่มีใครกล้าทำสิ่งที่อุบาดตาแบบนี้ได้ แต่สำหรับ Alice เธอได้ทำการเสพยาสไปซ์เข้าไปเป็นจำนวน ดังนั้นจึงทำให้เธอเกิดอาการเมายาขั้นหนักจนกลายเป็นคนขาดสติ งานนี้คนที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้แอบถ่ายภาพของเธอไว้ และนำไปโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ ซึ่งคลิปวีดีโอดังกล่าวก็ถูกชาวเน็ตแชร์ออกไปกว่าหมื่นครั้งเลยทีเดียว     อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวหญิงสาวรายดังกล่าวเอาไว้ได้ เธอก็ได้รับโทษโดยการบำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 12 เดือน นอกจากนี้…

หากจะพูดถึง “หนู” หลายคนอาจจะถึงขั้นร้องยี้ เพราะนอกจากมันจะเป็นสัตว์ที่สกปรกแล้ว มันยังชอบออกมารบกวนคนในบ้าน โดยการออกมาแอบกินอาหารดึกๆ ดื่นๆ อีกด้วย แต่ทว่าหากคุณได้ฟุงเรื่องราวของเจ้าหนูจิงโจ้ (Kangaroo Rat) สัตว์พันธุ์จิ๋วที่มีลักษณะขาหลังยาวกว่าขาหน้า มีหางเป็นปุยและตัวเล็ก รูปร่างคล้ายจิงโจ้ตัวนี้ คุณอาจจะสงสารมันขึ้นมาทันทีก็เป็นได้     โดยเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ Dailymail ได้เผยภาพของเจ้าหนูจิงโจ้จอมซนตัวดังกล่าว ณ บ้านหลังหนึ่งที่ San Diego ในสภาพที่เห็นแล้วน่าสงสารเหลือเกิน เพราะไม่รู้ว่ามันไปทำอีท่าไหน หัวถึงได้เข้าไปติดแหง่กอยู่ในรูเสียบปลั๊กไฟแบบนี้…     T^T น้องหนูจิงโจ้ตัวจิ๋วน่าสงสารจัง   อาจจะเป็นเพราะความซนของมัน เลยทำให้ตัวติดกับรูเสียบปลั๊กพอดีเป๊ะ แถมยังดึงออกไม่ได้อีกต่างหาก งานนี้ก็เลยทำให้หัวของมันเสียบคาอยู่ ณ จุดจุดนั้น เป็นเวลานานแสนนาน   รู้สึกโดดเดี่ยวมาก มันเป็นช่วงเวลาที่แสนลำบากเหลือเกิน   แต่ในความโชคร้าย ก็แฝงไปด้วยความโชคดีเหมือนกัน เพราะหลังจากที่เจ้าของบ้านได้พบเจอมันเข้า เข้าก็ได้ทำการช่วยเหลือค่อยๆ ขันน็อตออก เพื่อช่วยชีวิตมัน แม้ว่าครั้งแรกอาจจะตกใจนิดหน่อย ว่ามันมาได้ยังไงกันเนี่ย  …

เป็นประจำทุกปีที่จะมีการจัดงาน Beijing Auto Show ขึ้นที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน งานมหกรรมโชว์รถจากแบรนด์ต่างๆ เพื่อกระตุ้นการซื้อรถและโชว์วิสัยทัศน์ของแบรนด์ต่างๆ และในปีนี้เองก็มีผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์ต่างๆ กว่า 80 แบรนด์เข้าร่วงงาน มีรถกว่า 150 รุ่น และผู้เข้าชมงานกว่า 800,000 คน เลยทีเดียว   แน่นอนว่าสิ่งที่จะสามารถเรียกความสนใจจากผู้เข้าชมงานก็เห็นจะหนีไม่พ้นคอนเซ็ปต์คาร์ หรือรถรุ่นต้นแบบที่แต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์เข็นออกมาโชว์กัน ทั้งล้ำ และสวยงามเกินบรรยายจริงๆ เราลองไปดูกันดีกว่าว่ามีรถรุ่นไหนเตะตาเราบ้าง?   10. Dongfeng HUV รถกระบะสไตล์ออฟโรดครูเซอร์ รูปทรงสี่เหลี่ยมสมบุกสมบัน กระจกหน้าเกือบจะตั้งฉากกับตัวรถ เครื่องยนต์เบนซินสี่สูบ เตรียมจำหน่ายจริงในปีหน้า   9. Zhiche Auto SUV มาถึงรถไฟฟ้ากันบ้าง รถทรง SUV 4 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ดีไซน์เพื่อให้รับกับหลักอากาศพลศาสตร์มากที่สุด มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อรถกับรถคันอื่นๆ และอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ ได้ง่ายๆ วางขายปี 2017   8. Ranz RF-EA1 รถเก๋งซีดานรูปทรงเพรียวบางที่ออกแบบมาเพื่อให้เตะตาคนเป็นพิเศษ เป็นการร่วมทุนกับบริษัท FAW-Toyota เพื่อสร้างรถเก๋งไฟฟ้าประหยัดพลังงาน ถึงแม้ว่าบริษัทนี้จะยังไม่สามารถผลิตรถออกมาได้จริงสักคันตั้งแต่ปี 2013 แต่ก็ยังคงมุ่งหน้าดำเนินธุรกิจต่อไป  …

บ้านเรามีวันแม่นั่นก็คือวันที่ 12 สิงหาคม แต่ที่เมืองนอกก็มีวันแม่เป็นของตัวเองเหมือนกันนะ และส่วนมากก็จะใช้วันแม่สากล ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมนั่นเอง กิจกรรมของวันนี้ก็คล้ายๆ กับบ้านเรานั่นแหละ เด็กๆ จะทำการ์ดน่ารักๆ ให้กับคุณแม่ เพื่อแสดงถึงความรัก   วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยเอาภาพความน่ารักของแม่และลูกสาวที่ต้องใช้คำว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เพราะว่าทั้งคู่เข้ากันอย่างลงตัวเลยล่ะ   1.   2.   3.   4.   5.   6.   7.   8.   9.   10.   11.   12.   13.   14.   15.   16.   17.   18.…

ที่หมู่บ้าน Yeli ประเทศจีน ชาย 2 คนสร้างมิตรภาพขึ้นมา แล้วรวมทีมกันทำเรื่องราวดีๆ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ต้องเล่าย้อนไปเมื่อ 16 ปีที่แล้ว… Jia Haixia ได้สูญเสียการมองเห็นไป เขาได้พบกันเพื่อนสนิท Jia Wenqi ผู้ซึ่งพิการแขนตั้งแต่ตอนเด็กๆ ทั้งคู่ได้ทำการปลูกต้นไม้กว่า 10,000 ต้นรอบๆ หมู่บ้าน จนตอนนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจไปทั่วโลก   “ผมคือแขนของเขา..”   “และเขาก็คือตาของผม”    “เราปลูกต้นไม้ด้วยกัน”   เรื่องราวนี้เกิดขึ้นจากคุณ Jia Wenqi ได้ปลูกต้นไม้ตั้งแต่ปี 2002   จนถึงตอนนี้ Jia Wenqi ก็ได้แบกเพื่อนเขาข้ามแม่น้ำแห่งนี้มานานกว่า 13 ปีแล้ว   ทั้งคู่ช่วยกันปลูกป่าแห่งนี้ จากที่เมื่อก่อนไม่มีอะไรเลย ตอนนี้ก็ได้มีสีเขียวให้เราได้เห็นแล้ว   ต้นไม้ก็เหมือนทหารเขียวที่คอยปกป้องหมู่บ้านนี้จากรุ่นสู่รุ่น   การทำงานก็ต้องมีอุปสรรคกันบ้าน โดยเฉพาะเรื่องการเงิน    ตอนนี้พวกเขาก็ทำงานด้วยกัน..   และไม่รู้สึกเลยว่าตัวเองพิการเลย เพราะมีกันและกัน     ไปชมคลิปการทำงานและความประทับใจของคุณลุงทั้งสองกันได้เลย   ที่มา Great…

หนึ่งในความผูกพันที่แน่นแฟ้นที่สุดของมนุษย์นั่นก็คือความสัมพันธ์ของแม่-ลูก นี่แหละ ล้ำค่าหาคำพูดมาเปรียบเทียบและอธิบายไม่ได้เลยจริงๆ และความประทับใจสุดๆ ที่หลายๆ คนอาจจะไ่เคยนึกถึงมาก่อนเลยก็คือ แม่ที่เข้ามาให้กำลังใจลูกสาวที่กำลังจะเป็นแม่คนล่ะ!!! สำหรับวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็อยากจะให้เพื่อนๆ ได้ลองมาดูความสัมพันธ์และความประทับใจในรูปแบบนี้กัน กับ 20 ภาพสุดซึ้ง ของเหล่าคุณแม่ที่มาให้กำลังใจลูกสาวของพวกเธอตอนคลอดลูก มาดูกันซิว่าจะน่ารักและซึ้งน้ำตาไหลขนาดไหน   ผ่านความเจ็บปวดคือความสวยงามที่กำลังจะเกิดขึ้น   ความรักความผูกพันที่สามารถเห็นได้ผ่านแววตา   ความรักความห่วงใยในฐานะคุณแม่คนหนึ่ง   ถึงลูกสาวของเธอที่กำลังจะได้เป็นแม่คนเช่นกัน…   ราวกับแบกรับความเจ็บปวดของเธอมาด้วย   อยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคนเป็นแม่   ให้กำลังใจ   อยู่เคียงข้างเสมอ…                           แต่ละภาพเห็นถึงความรักความอบอุ่นที่แสดงออกมาจริงๆ โดยเฉพาะในแววตาของพวกเธอ ยากที่จะหาความสัมพันธ์ไหนมาเทียบเทียมได้จริงๆ >< ที่มา: Boredpanda

เมื่อกล่าวถึงประเทศ ‘รัสเซีย’ แล้วเพื่อนๆ หลายคนก็คงจะรู้ว่าที่นี่เป็นประเทศที่มีอาณาเขตกว้างขวางมากที่สุดในโลก ซึ่งทำให้มีผู้คนมากหน้าหลายตาอาศัยอยู่ที่นี่ แถมยังขึ้นชื่อเรื่องอากาศที่เย็นยะเยือก และเหล่าหมี ทั้งหลาย วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมเหตุการณ์ต่างๆ ที่ขอบอกไว้เลยว่าสามารถพบเจอได้ในประเทศรัสเซียเท่านั้น ฮร่า…   1. เป็นเรื่องปกติมากถ้าใครจะเล่นกับเจ้าหมีตัวโต   2. เสื้อโค้ทหนาๆ แบบนี้จะช่วยให้อบอุ่นท่ามกลางสภาพอากาศที่โหดร้ายในประเทศรัสเซียได้   3. ทรงผมที่ดูน่ากลัวพอๆ กับปืนอาก้าที่เขากำลังถืออยู่   4. รถถังยังมีปัญหากับกฎหมายจราจร   5. แก้วช็อตมันไม่ทันใจ   6. สรุปแล้วเอ็งตกปลาเก่งหรือยิงปืนแม่น!?   7. คนรัสเซียมีชั้นผิวหนังที่หนามากๆ   8. มีขนมอร่อยๆ ให้เจ้าสาวทานหลังงานแต่งงาน   9. กองขยะสุดเซ็กซี่   10. การไปเที่ยวทะเลพร้อมกับชมวิวของเรือดำน้ำไปด้วย   11. ดูเหมือนชายหนุ่มคนนี้จะไม่อายใครเลยนะ ฮร่า   12. นอนเล่นกับเจ้าปลาเพื่อนรัก  …

คำพูดที่บอกว่า “อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข” นั้นมันสามารถพิสูจน์ได้จริง ๆ นะ บางทีสิ่งที่เราอยากทำมาตลอดชีวิต มันกลับมีโอกาสทำก็ตอนแก่นู่น จะไม่ให้ทำตอนนั้นก็จะเสียดาย ดังนั้นแก่แล้วอยากทำอะไรก็ต้องเอาให้สุดๆ เหมือนอย่างคุณยาย Livia วัย 80 ปี เธอขอให้หลานสาวแต่งหน้าให้สวยๆ จนไม่น่าเชื่อว่าหลังจากโพสต์ภาพออกไป คุณยายก็ดังไปทั่วโลกแล้ว Tea Flego ช่างแต่งหน้าชาวโครเอเชียได้ทำให้โลกได้เห็นเวทมนตร์แห่งการแต่งหน้าด้วยการลดอายุของคุณยายลง 20 ปี   นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ของยายและหลานได้อย่างดี   หลานเล่าว่า “การได้อยู่บ้านเฉยๆ แล้วจู่ๆ คนทั้งโลกก็สนใจ มันมีความหมายกับเธอมาก”   และตอนนี้ Glam-Ma (ฉายาใหม่) ก็สนุกกับความโด่งดังของเธอแล้ว   สุดท้ายก็ขายของหน่อย กดติดตามที่อินสตาแกรมในภาพเลย   ที่มา boredpanda

ปัญหากลิ่นเท้าไม่ใช่เรื่องตลก โดยเฉพาะเวลาเราต้องนั่งอยู่ในห้องปรับอากาศเล็กๆ กับคนที่มีกลิ่นเท้า ลองนึกดูว่าต้องดมกลิ่นเท้าที่โชยมาตามสายลมตลอดเวลา มันจะเป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจขนาดไหน     การมีกลิ่นเท้าอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ บางคนอาจเกิดจากเท้าของตนเอง บางคนอาจเกิดจากถุงเท้า และบางคนอาจมีกลิ่นมาจากรองเท้าที่ค่อนข้างเก่า ซึ่งไม่ว่ามันจะเป็นเพราะอะไร หากมีอันใดอันหนึ่งเหม็น ทุกอย่างก็จะกันเหม็นไปหมด แต่มันจะดีขนาดไหน หากโลกนี้มี “ถุงเท้า” ที่สามารถป้องกันกลิ่นเท้าเราได้ ที่ต่อให้รองเท้าหรือเท้าเราเหม็นขนาดไหน มันก็จะไม่เหม็นตาม ฟังดูน่าสนใจใช่มั้ยล่ะ งั้นเราไปชมกันเลยดีกว่า     ถุงเท้าสุดเจ๋งอันนี้เป็นผลงานของ Steve และ Jenny Whitley เจ้าของฟาร์มแกะแองโกล่าในเมืองแบล็กดาวน์ฮิลล์ ประเทศอังกฤษ พวกเขาเล่าว่าในแต่ละปี พวกเขาจะตัดขนแกะสองครั้ง ก่อนจะนำไปแปรรูปเป็นผ้าพันคอ กางเกง และที่สำคัญที่สุดก็คือถุงเท้านั่นเอง!     ตอนแรกเขาก็ไม่รู้หรอกว่า ถุงเท้าของพวกเขามีคุณสมบัติพิเศษ แต่จนกระทั่งลูกค้าซื้อไปแล้วกลับมารีวิวว่า ถุงเท้าเขาไม่ค่อยมีกลิ่นเลย แม้จะใส่มาหลายวันโดยไม่เปลี่ยนก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น มีนักดนตรีคนหนึ่งบอกว่า เขาใส่ถุงเท้าของ Steve มาปีกว่าแล้วโดยไม่ซัก แต่ก็ยังไม่มีกลิ่น!!     ถุงเท้าขั้นเทพอันนี้มีราคาอยู่ที่คู่ละ 9 ถึง 14 ยูโร และ Steve…

นับตั้งแต่เราประดิษฐ์เครื่องพิมพ์และคอมพิวเตอร์ขึ้นมา ดูเหมือนว่าการเขียนหนังสือด้วยมือก็ถูกลดบทบาทลงไป เพราะบางทีความไม่สม่ำเสมอของลายมือ ก็อาจสร้างความยากลำบากให้แก่ผู้อ่านได้ ไม่เหมือนกับเครื่องพิมพ์ที่ไม่ว่าใครพิมพ์ก็จะออกมาหน้าตาเหมือนๆ กันหมด แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 17 ลายมือระดับเทพ ที่สวยอย่างกับหลุดมาจากคอมพิวเตอร์ ที่ถ้าใครชอบ “ความเป๊ะ” ฟินไปสามวันเจ็ดวันแน่นอน จะเป็นไง ไปชมกันเลย    แต่ละแบบที่เรานำเสนอวันนี้ ล้วนเต็มไปด้วยความเป็นระเบียบ   เจ๋งทุกฟ้อนท์จริงๆ   โดยเฉพาะอันนี้ ไม่บอกนึกว่าปริ้นท์มาติดนะเนี่ย    แม้จะเป็นคนไร้บ้าน ก็ยังมีฝีมือระดับหาตัวจับยาก   ลองไปชมภาพอื่นๆ กันเถอะ   เห็นลายมือพวกนี้แล้วรู้สึกละอายใจจัง ทำไมลายมือของ #เหมียวอ๊อดโด้ ไม่สวยแบบนี้บ้างนะ สมัยเด็กๆ เพื่อนยืมงานไปดูทีไร โดนด่าลายมือไม่สวยทุ๊กที T^T ที่มา Boredpanda

เมื่อพูดถึง ‘การสอบ’ ในช่วงชีวิตการเรียนของเพื่อนๆ แล้ว หลายๆ คนคงเคยใช้วิธีต่างๆ นาๆ เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจในการทำคะแนนสอบออกมาได้ดี ยกตัวอย่างเช่นอย่างการบนบานสศาลกล่าว เพื่อสวดมนต์ขอพร หรืออธิษฐานกับดาวตก เป็นต้น วันนี้ #เหมียวหง่าว ขอพาเพื่อนๆ ไปชมกิจกรรมกรรมสุดแปลก ของนักศึกษาชาวสก็อตแลนด์ ที่พวกเขาเชื่อว่าถ้าทำแล้วจะทำให้คะแนนสอบออกมาดี   นักศึกษาหนุ่มสาวในมหาวิทยาลัย St Andrews University ในประเทศสก็อตแลนด์มีกิจกรรมสุดแปลกที่เรียกว่า The May Day    ซึ่งเป็นการแก้ผ้าวิ่งลงไปเล่นน้ำใน ทะเล North Sea อันหนาวเหน็บ   กิจกรรมจะเริ่มในยามเช้าของวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี   นักศึกษาที่จะเข้าร่วมกิจกรรมนี้จะต้องอดหลับอดนอนและแก้ผ้าลงเล่นน้ำทะเลอันหนาวเหน็บ และต้องเป็นในช่วงที่กลุ่มนักร้องประสานเสียงของทางมหาวิทยาลัยกำลังขับร้องเพลงอยู่ด้วย   โดยมีความเชื่อว่าถ้าทำแบบนี้แล้ว จะนำพาความโชคดีมาให้ในการสอบที่จะมาถึงในสิ้นปี   แหม่…เห็นแบบนี้แล้ว #เหมียวหง่าว อยากจะสมัครไปเป็นแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ซะจริงเชียว >< ที่มา : dailystar

การทำกายภาพบำบัดมักจะเกิดขึ้นหลังจากที่เราประสบกับอุบัติเหตุจนทำให้อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งใช้งานไม่ได้ไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือเข้ารับการผ่าตัดแล้วส่งผลให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายไม่สามารถใช้งานได้ปกติ ต้องมีการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและกลับมาใช้งานได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้ไม่ได้มีเพียงแต่กับมนุษย์เพียงเท่านั้น เพราะเจ้าหมาก็สามารถเข้ารับกายภาพบำบัดและหายดีไดด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ว่าเดินไม่ได้แล้วก็เดินไม่ได้เลยไปซะทีเดียวลเยนะจ๊ะ…   อย่างเจ้า Dillon หมาพันธุ์ลาบาดอร์ วัย 11 ปี ตัวนี้ ที่ได้รับการผ่าตัดบริเวณกระดูกสันหลังมา จนทำให้มันเดินไม่ได้ เจ้าของของมันรู้สึกสงสารมันมากเพราะวันๆ มันมัวแต่นอนไม่ขยับไปไหนเลย   พวกเขาจึงพามันไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ Yorkshire Vet Physio ซึ่งพวกเขาก็ได้ทำกายภาพบำบัดให้กับเจ้า Dillon อย่างเร็วไว   โดยเริ่มจากการใช้ผ้าช่วยพยุงตัวมันให้ขาได้สัมผัสกับพื้นก่อน แล้วก็พาไปเดินในน้ำ จากนั้นก็สลับมาใช้ลูกบอลช่วยบนบก   จนผ่านไปกว่า 8 สัปดาห์ ในที่สุดเจ้า Dillon ก็สามารถกลับมาเดินได้อย่างเป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง!!   ลองไปชมคลิปแบบเต็มได้ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้าา… น่าทึ่งไปเลยใช่มั้ยล่ะ ปัจจุบันเทคโนโลยีเกี่ยวกับการแพทย์ไม่ได้พัฒนาไปเพียงแค่เฉพาะกับคนเท่านั้นนะ กับเหล่าสัตว์ทั้งหลายก็สามารถรักษาให้พวกมันหายกลับมาเป็นปกติได้อย่างเร็วไวได้อีกด้วย >< ที่มา : viralnova, yorlshire Vet Physio

อักษรเบรลล์ เป็นอักษรที่ทำออกมาเพื่อให้คนพิการทางสายตาสามารถอ่านหนังสือได้จากการสัมผัส ซึ่งปัจจุบันก็ได้มีการใช้อักษรเบรลล์นี้อย่างแพร่หลายเพื่อให้คนพิการทางสายตาสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไป และตอนนี้ก็ได้มีโปรเจกต์หนึ่งชื่อว่า The Braille Bricks โดยมูลนิธิ Dorina Nowill Foundation For The Blind เป็นการสร้างอักษรเบรลล์ให้มีณุปร่างเหมือนเลโก้ ของเล่นยอดฮิตที่เสริมสร้างจินตนาการให้กับเด็กๆ ทั่วโลก ซึ่งการผลิตครั้งนี้ก็หวังเพื่อให้เด็กๆ ที่พิการทางสายได้สามารถอ่านอักษรเบรลล์ได้ตั้งแต่เด็ก และได้เล่นของเล่นไปด้วย ตอนนี้ให้องค์กรแห่งหนึ่งในเซาเปาโลเป็นผู้ผลิตเลโก้อักษรเบรลล์นี้อยู่สำหรับเด็กนักเรียน 300 คน และก็ได้จดสิทธิบัตรเป็นแบบ Creative Commons ให้คนสามารถนำไปผลิตเองได้อย่างเสรี   ชมคลิปโฆษณาเลโก้อักษรเบรลล์   ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีสำหรับการเสริมสร้างจินตนาการ รวมถึงการได้เรียนรู้ภาษาของผู้พิการทางสายตาไปในตัว สุดยอดไอเดียจริงๆ ที่มา demilked, mentalfloss, boredpanda

กลายเป็นเรื่องราวที่สะเทือนขวัญคนทั้งประเทศจีนเลยทีเดียว หลังจากมีข่าวว่า มีเด็กออทิสติกคนหนึ่งถูกบังคับให้เดินกลางแดดกว่า 19 กิโลเมตรจนเสียชีวิตคาที่ โดยทางสถานบำบัดอ้างว่าเป็นหนึ่งในกระบวนการรักษา เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เมื่อนาง Zhang Wei ได้รับแจ้งจากสถาบำบัดโรคออทิสติกว่า ลูกชายของเธอ Jiajia เสียชีวิตแล้วและให้มารับศพกลับไป     เธอเล่าว่าเมื่อเธอได้เห็นศพของลูกชาย เธอแทบช็อคไปเลย เพราะลูกชายของเธอทั้งผอม ทั้งเกรียมแดด และมีรอยถลอกทั่วร่างกาย วันที่ลูกชายของเธอเสียชีวิตนั้น เขาถูกบังคับให้ใส่เสื้อหนาๆ แล้วถูกบังคับให้เดินกว่า 10 กิโลเมตรหลังจากทานอาหารเช้า และกลับมาพักให้ทานอาหารเที่ยง และให้ออกไปเดินอีก 9 กิโลเมตร     การฝึกเช่นนี้เป็นสิ่งที่สถานบำบัดโรคออทิสติกเอกชนแห่งหนึ่งชื่อว่า Tiandao Zhengqi ที่เป็นประจำ พวกเขาเชื่อว่าโรคออทิสติกเกิดขึ้นจากความขี้เกียจและความสปอยด์ในการเลี้ยงดูของพ่อแม่ พวกเขาบอกว่าการจะรักษาโรคออทิสติก ต้องให้เด็กๆ ฝึกฝนร่างกายอย่างหนัก อย่างเช่นการบังคับให้เดินวันละ 10 ถึง 20 กิโลเมตร และมีการจำกัดปริมาณอาหารที่เด็กรับประทานในแต่ละมื้ออีกด้วย     ครอบครัวของ Zhang Wei มาจากทางตอนเหนือของมณฑลเหลียวหนิง เธอเล่าว่า Jiajia มีพัฒนาการค่อนข้างช้า และมักปฏิบัติการสื่อสารกับผู้อื่น…

คนทั่วไปอาจมองว่า “ห่าน” ก็คือสัตว์ธรรมดาๆ ทั่วไป ที่ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยกับใคร แต่เดี๋ยวก่อน!! กรุณาหยุดความคิดของคุณไว้สักครู่ แล้วมาดูภาพเหล่านี้กัน เพราะมันจะทำให้คุณเห็นธาตุแท้ที่อยู่ลึกลงไปภายในจิตใจของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าห่านได้ ภาพของสองพี่น้อง Stevie Gidden หญิงสาววัย 17 ปี กับ Summer เด็กหญิงวัย 5 ขวบที่เพื่อนๆ เห็นกันนี้ รู้หรือไม่ว่าเห็นคนน้องที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุข และดูเป็นเด็กไร้เดียงสา จะต้องมาเจอเหตุการณ์สุดเงิบในวัยเพียง 5 ขวบเท่านั้น ในวันนี้เราจะมาขอเล่าเรื่องราวประสบการณ์สุดเงิบในชีวิตของเธอให้ฟังก็แล้วกัน ตั้งใจฟังดีๆ นะ อย่าขำกลางทางกันละ!!     สำหรับ Summer เธอคือเด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่มีความน่ารัก และอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็ก อยู่มาวันในขณะที่เธอได้แวะไปดูลูกห่านของบ้านข้างๆ เรื่องราวที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น โถๆๆ เด็กน้อยผู้อยากจะมีความทรงจำดีๆ กับห่าน แต่เมื่อเธอยิ่งเข้าไปดูมันใกล้ๆ ก็ยิ่งทำให้แม่ของมันเกิดอาการเดือด และไม่พอใจเป็นอย่างมาก สุดท้ายหนูน้อยก็ถูกแม่ห่านไล่ และเธอก็วิ่งหนีมันแบบไม่คิดชีวิต     เด็กหญิงตัวน้อยถูกแม่ห่านไล่ พร้อมเข้ามาจู่โจมแบบไร้ความปราณี จนเธอสะดุดล้มร้องไห้จ้า เป็นภาพที่น่าสงสารซะเหลือเกิน     งานนี้เมื่อภาพถูกเผยแพร่ลงสู่โลกโซเชียล…

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2559 ทางสำนักข่าว Dailymail ได้รายงานว่า รายการโทรทัศน์ Story ช่อง TV3 จากเมืองแฮมิลตัน ประเทศนิวซีแลนด์ ทำเอาผู้ชมถึงกับอึ้งไปตามๆ กัน เพราะในขณะที่กำลังรับชมถ่ายทอดโชว์ร้านอาหารแนวแปลกพิสดาร แบบต้องเปลือยกายทานอยู่นั้น จู่ๆ ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น งานนี้นอกจากจะทำให้ผู้ชมสตั้นไปชั่วขณะแล้ว ทางรายการยังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียลอีกด้วย     และนี่ก็คือภาพที่มาของเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยปรากฏให้เห็นเป็นภาพของสาวเสิร์ฟ กำลังเดินเปลือยกาย โชว์ให้เห็นจิ๊มิด้านล่างแบบไม่มีเซ็นเซอร์ ขณะที่รายการกำลังออกอากาศสดยังไงละเหมียว     ด้าน Duncan Garner และ  Kim Vinnell สองพิธีกรจากรายการดังกล่าว ก็ได้ออกมาขอโทษ พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที หลังจากที่ภาพถูกตัดไปยังห้องส่ง     หลังจากที่เหตุการณ์ได้ผ่านพ้นไป Garner หนึ่งในพิธีกรก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ว่า  มันเป็นความผิดพลาดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ทันจริงๆ เพราะขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่ภาพถูกตัดไปที่สาวเสิร์ฟ ซึ่งตรงกับตอนที่เธอเดินถืออาหารออกมาจากห้องครัวพอดี     นอกจากนี้เขายังระบุอีกว่า ทางทีมงานก็รู้สึกเป็นกังวลมากเช่นกัน และตัวเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าภาพนั้นจะออกอากาศไป     ด้านชาวเน็ต…

รู้หรือไม่ว่าวันที่ 4 พฤษภาคมของทุกปีนั้นจะเป็น “วันนักดับเพลิงสากล” ซึ่งเป็นวันที่ทุกคนจะรำลึกถึงความกล้าหาญของนักผจญเพลิงที่ได้เสี่ยงชีวิตเข้าไปในกองไฟเพื่อช่วยชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนมากมาย เพื่อเป็นการยกย่องความกล้าหาญของพวกเขา วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยเอา 19 เหตุการณ์ของนักผจญเพลิงที่ยอมเสี่ยงชีวิตไปช่วยเหล่าสัตว์ต่างๆ ที่ติดอยู่ตามเหตุไฟไหม้ ซึ่งเป็นภาพที่ดูแล้วทรงพลังมากๆ เพราะทุกชีวิตมีค่าเท่ากันหมด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เลือกปฏิบัติ เราไปชมภาพเหล่านี้กันเลย!!   1. นักดับเพลิงชาวรัสเซียช่วยชีวิตแมว   2. นักดับเพลิงชื่อ Ray Spellmyer ได้ช่วยสุนัข Joseph ออกจากตึกที่กำลังเกิดเพลิงไหม้   3. ช่วยชีวิตนกฮูกตัวน้อย   4.   5. นักดับเพลิงชาวเดนมาร์กช่วยเหลือแมวจากบ้านที่ไฟไหม้   6. โคอาล่าชื่อว่า Sam ได้รับน้ำดื่มจากนักดับเพลิงอาสา   7. นักดับเพลิงช่วยแมวจากท่อ   8. นักดับเพลิงใน Lacey ได้ช่วยชีวิตหนูแฮมสเตอร์จากเหตุเพลิงไหม้ กำลังให้ออกซิเจน   9.   10. สุนัขถูกช่วยเหลือจากตึกที่เกิดเพลิงไหม้กำลังได้รับออกซิเจนจากนักดับเพลิง Mark A. Monaghan   11. หมาตาบอดถูกช่วยชีวิตจากทะเลสาบ…

อารมณ์ชั่ววูบของคนเรามักจะนำพาไปสู่เหตุการณ์อันรุนแรงอยู่เสมอ ซึ่งหากใครที่เคยผ่านช่วงเรียนมหาวิทยาลัยหรือกำลังเรียนอยู่นั้นจะรู้ได้ว่าการทำวิทยานิพนธ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จะต้องผ่านหลายขั้นตอน รวมไปถึงการรับคำแนะนำจากอาจารย์ที่ปรึกษา   Dr. Hj Nurain Lubis อาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ วัย 57 ปี   เหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้เกิดขึ้นที่ North Sumatra Muhammadiyah University (UMSU) ประเทศอินโดนีเซีย ทางสำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่าอาจารย์ Dr. Hj Nurain Lubis วัย 57 ปี จากคณะศึกษาศาสตร์ได้มีปากเสียงทะเลาะเรื่องวิทยานิพินธ์กับนักศึกษานามว่า Rormardo Sah Siregar วัย 21 ปี     จากที่ควรจะเป็นการปรึกษาหาแนวทางแก้ไขกลับกลายเป็นสิ่งที่บันดาลโทสะให้กับนักศึกษารายนี้ หลังจากที่การสนทนาจบลงอาจารย์ก็ได้ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ โดยที่มีนักศึกษาคนเดิมมาดักรออยู่ เมื่อสบโอกาสนักศึกษาก็คว้ามีดปาดคออาจารย์ทันที เธอกรีดร้องจนวินาทีสุดท้ายก่อนที่จะล้มลงไป     นักศึกษาผู้ก่อเหตุก็ได้เอาแต่หลบซ่อนขังตัวเองอยู่ภายในห้องน้ำ เพราะข้างนอกมีผู้คนรอรุมประชาทัณฑ์เป็นจำนวนมากอันเนื่องมาจากสิ่งที่เขาเลือกกระทำลงไป จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นเข้ามาควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป ที่มา : hirunews, rappler, newsgra, inquirer

งานพรอมถือเป็นงานที่วัยรุ่นทุกคนตั้งตารอเป็นอย่างมาก เพราะเราจะได้ใส่ชุดสวยๆ มาประชันกันแบบเต็มที่ หลังจากที่ใส่ชุดเรียบร้อยมาตลอดการเรียนที่ผ่านมา เมื่อถึงงานนี้ก็ต้องปล่อยผีกันหน่อยแล้ว ชุดที่คนส่วนมากจะใส่มาก็คือชุดราตรี ส่วนผู้ชายก็จะเป็นสูท ซึ่งเป็นธรรมดามากๆ ที่จะเลือกชุดแบบนี้ แต่บางทีใส่ชุดพวกนี้มันก็น่าเบื่อไปใช่ไหมล่ะ เด็กกลุ่มหนึ่งก็เลยปิ๊งไอเดียที่จะทำให้ชุดมันมีสีสันมากยิ่งขึ้น ในงานพรอมของโรงเรียน Subiaco Academy ในเมือง Arkansas มีกลุ่มนักเรียนชายได้ซ่อนชุดฮีโร่ไว้ในชุดสูท คล้ายๆ กับตอนที่ซุเปอร์แมนจะแปลงร่าง แล้วกระชากกระดุมเผยให้เห็นโลโก้ของฮีโร่อยู่ข้างใน จนออกมาอย่างที่เห็นในภาพเลย     งานนี้มีทั้งฮีโร่จาก Marvel และ DC มารวมกัน ซึ่งถือเป็นความน่ารักของวัยรุ่นที่ชอบคิดอะไรเจ๋งๆ ออกมาได้แบบนี้     ใครที่กำลังจะมีงานพรอมหรืองานเลี้ยงรุ่นก็ลองเอาไอเดียนี้ไปใช้ได้นะ เพื่อนๆ เห็นแล้วต้องกรี๊ดมากแน่ ฮ่าๆ ที่มา boredpanda

ในเมื่อจำนวนของประชากรที่มีอยู่มากมาย จะคาดหวังให้แต่ละคนนั้นมีลักษณะนิสัยที่เหมือนกันก็คงจะไม่ได้ เพราะแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์ ความชอบ และนิสัยส่วนตัว ไม่อาจจะไปบังคับใครได้ แต่ถ้าจะให้มองเป็นภาพรวมใหญ่ๆ แล้ว ศิลปิน João Rocha จึงจัดทำภาพเปรียบเทียบว่าบนโลกใบนี้มักจะมีบุคคลอยู่ 2 ประเภท จากกิจกรรมที่มีทางเลือกในสิ่งเดียวกัน แล้วคุณล่ะ เป็นแบบไหนกันบ้างจ๊ะ   มาในเรื่องของอาหารการกินกันก่อน บีบซอสเพิ่มรสชาติก็ต้องดูหน้าตาอาหารด้วย   กินพิซซ่าจากขอบหรือปลายก่อน?   คนไม่ชอบกินขอบก็มีเหมือนกัน   เลือกที่จะเก็บภาพในวิถีดิจิตอลหรือแบบดั้งเดิม   ถ่ายรูปทั้งทีเลือกที่จะใช้แฟลชเสริมหรือปิดไปเลย   อ่านหนังสือเรื่องเดียวกัน แต่ชอบแบบเป็นเล่มหรือแบบดิจิตอล?   บุคคลที่โพสต์แบบธรรมดาๆ หรือแบบติดแฮชแท็กรัวๆ   ต่อกันที่รูปภาพ มีทั้งแบบเก็บเป็นไฟล์ในคอมพิวเตอร์หรือจะนำภาพไปล้างเพื่อเก็บเป็นอัลบั้มจริงๆ   นาฬิกาบอกเวลาประจำตัว แบบอนาล็อกหรือดิจิตอล   เลือกที่จะคุยผ่านลำโพงหรือใส่หูฟังบลูทูธ?   ชอบที่จะหันปลายม้วนกระดาษชำระไว้ด้านในหรือด้านนอกล่ะ?   ความแตกต่างของการดูแลต้นไม้ หมั่นรดน้ำหรือปล่อยละเลย   ชอบดูจอเล็กหรือแบบเต็มจอ   แม้แต่ในเรื่องของการเขียนหนังสือก็แตกต่างกัน   จัดการระบบระเบียบหน้าจอคอมพิวเตอร์กันบ้างมั้ยจ๊ะ?   จัดการปิดหีบห่อให้เป็นระเบียบหรือแบบแปะปิดๆ…

ช่วงนี้กระแสยุค 90 ก็มารุนแรงเหลือเกิน ซึ่งก็เป็นบรรยากาศในอดีตๆ ที่หลายๆ คนหวนคิดถึงกัน แน่นอนว่ามันต่างจากยุคนี้เกือบจะสิ้นเชิงเลยทีเดียว สำหรับวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็อยากจะนำเสนอความต่างในเรื่องนี้ โดยจะพาไปชมภาพของห้องนอนของเหล่าเด็กๆ และวัยรุ่นในยุค 90 มาดูซิยังจำกันได้รึเปล่า?? อิอิ   สิ่งแรกที่สังเกตกันได้เลย ไม่มีคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คหรอกนะจ๊ะ   ผลงานภาพชุดนี้เป็นของ Adrienne Salinger ที่ถ่ายไว้ในยุคนั้น   โดยเธอได้ขอไปถ่ายภาพห้องนอนของพวกเขา เพื่อเก็บภาพบรรยากาศไว้   รวมถึงเอกลักษณ์ของการตกแต่งห้องนอนของพวกเขา   มาจนถึงวันนี้ภาพเหล่านี้ได้กลายเป็นภาพแห่งความทรงจำเลยทีเดียว   มีการตกแต่งในแบบต่างๆ ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน   และที่สำคัญ แทบจะทุกๆ ห้องก็เรียกได้ว่ามีวิทยุ หรือเครื่องเล่นเทปตั้งอยู่ เพราะได้รับความนิยมมากกกก     โทรทัศน์ของยุคนั้น   โปสเตอร์ของเหล่าดาราและคนดังที่เราชอบและชื่นชม             ห้องนอนของเพื่อนๆ ล่ะ เหมือนแบบนี้รึเปล่า!?       ใครที่ผ่านยุค…

“The World In Faces” คือหนึ่งในผลงานภาพถ่ายของช่างภาพอิสระนามว่า Alexander Khimushin ลูกครึ่งรัสเซีย-ออสเตรเลีย ผู้ที่ได้ออกเดินทางไปเยือนประเทศต่างๆ มาแล้วกว่า 84 ประเทศทั่วโลก รวมระยะทางทั้งหมดกว่า 28,500 กิโลเมตร เพื่อเก็บภาพถ่ายของผู้คนในท้องถิ่นจากประเทศต่างๆ ซึ่งแต่ละภาพจะแสดงให้เห็นถึงรูปร่างหน้าตา วัฒนธรรมความเป็นอยู่ รวมไปถึงลักษณะการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้คนในแต่ละพื้นที่อีกด้วย ว่าแต่เขาได้ไปเก็บภาพของผู้คนมาจากที่ใดบ้าง และภาพถ่ายของผู้คนเหล่านั้นจะดูเป็นอย่างไร หากมองผ่านผลงานของเขา ถ้าอย่างนั้นเราไปชมกันเลย   1.เด็กหญิงในชนเผ่ามายา   2.ชายหนุ่ม Bodi ชนเผ่าพื้นเมืองในเอธิโอเปีย   3.ชาวเผ่า Samoan   4.ผู้หญิงในชนเผ่า Daasanach ประเทศเอธิโอเปีย   5.สาวญี่ปุ่น   6.หญิงชาว Wakhi   7.สาวชาวมอริเตเนีย   8.หญิงในชนเผ่า Tsemay   9.สาวชาวเผ่า Shughnan   10.หญิงในชนเผ่า Hamar ประเทศเอธิโอเปีย   11.ชนเผ่า…

ประเทศจีนนั้นถือว่าเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำของเลียนแบบ ว่ากันว่าพิมพ์เขียวของสิ่งของทุกอย่างบนโลก สามารถหาได้จากโรงงานในจีน แต่วันนี้ของจีนถือว่าพัฒนาไปอีกขั้นแล้ว เพราะไม่เพียงแต่ปลอมแค่สิ่งของเท่านั้น แต่พวกเขายังปลอม “พระ” อีกด้วย!! เรื่องราวมีอยู่ว่า เฟสบุ๊คของคุณ Akihiro Koki Tomikawa ได้ออกมาเตือนนักท่องเที่ยวที่กำลังจะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นว่า อย่าหลงเชื่อพระญี่ปุ่นที่ออกมาเรี่ยไรเงินตามสถานที่ท่องเที่ยว เพราะแท้ที่จริงแล้วเป็นเกษตรกรชาวจีนปลอมตัวมา!!   日本で出没するニセ僧呂に注意（拡散希望） โปรดระวังพระสงฆ์ปลอมที่ญี่ปุ่นนะครับ (แชร์กันด้วยนะครับ) 中国は現在さまざまなコピーを作り出し輸出して国際問題になっていますが、今回僧侶のコ… โพสต์โดย Akihiro Koki Tomikawa บน 3 พฤษภาคม 2016     โดยชาวจีนเหล่านั้น โกนผมและแต่งตัวเหมือนพระญี่ปุ่น และคอยขายของอ้างว่านำเงินไปทำบุญตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เมื่อนักท่องเที่ยวเห็น ก็หลงเชื่อซื้อของบริจาคเงินกันไป     ตอนนี้ทางตำรวจญี่ปุ่นได้จับกุมพระปลอมบางส่วนได้แล้ว ซึ่งทางตำรวจพบว่า พวกเขาสามารถหลอกเงินไปได้ถึง 450,000 เยนหรือนราว 150,000 บาทภายในระยะเวลาเพียง 10 วันเท่านั้น       แบบนี้ก็มีด้วย ใครจะไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้ก็ขอให้ระมัดระวังนะฮะ ตรวจสอบกันดีๆ ซะก่อน อย่าเพิ่งหลงเชื่อ ไม่งั้นอาจตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่ประสงค์ดีเหล่านี้ก็เป็นได้ ที่มา Akihiro…

แม้วงการแพทย์จะก้าวหน้าและพัฒนาขึ้นขนาดไหน แต่สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ทุกคนไม่สามารถหลีกหนีได้ก็คือความชรานั่นเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นคนมีชื่อเสียงหรือชาวบ้านธรรมดา ก็ไม่อาจรอดพ้นกฎแห่งกาลเวลาได้ แล้วคุณเคยคิดหรือไม่ ว่าตอนที่คุณแก่ตัวลงไป คุณจะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร? วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมงานโฟโตช็อประดับเทพของเหล่าชาวเน็ตในต่างประเทศ เมื่อพวกเขาได้เปลี่ยนเหล่าดาราและคนดังให้แก่ตัวลง พวกเขาจะมีหน้าตาเช่นไรกัน ว่าแล้วก็ไปชมกันเลยดีกว่านะฮะ   Christina Aguilera   Gwen Stefani   Paris Hilton   Halle Berry   Charlie Sheen   Marilyn Monroe   Tobey MaGuire   Cameron Diaz   Obama   Adrien Brody   Kate Moss   Miley Cyrus   Robert Pattinson   Emma Watson…

เรียกได้ว่าน้อยครั้งมากๆ ที่จะมีคนรอดชีวิตจากการพลัดตกจากที่สูง เพราะจากที่ผ่านมาเราจะเห็นข่าวการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวเคราะห์ร้าย ที่พลัดตกจากที่สูงอยู่บ่อยๆ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่กับนักท่องเที่ยวรายนี้ ที่ได้พลัดตกจากกำแพงเมืองจีนสูงชันมากถึง 9 เมตร แต่ยังโชคดีที่รอดชีวิตกลับมาได้ราวปาฏิหาริย์ โอ้ววว น่าเหลือเชื่อมากๆ เลยละ     โดยเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า นักท่องเที่ยวรายดังกล่าว กำลังยืนชะเง้อมองวิวทิวทัศน์ด้านล่างของกำแพงเมืองจีนอยู่ แต่แล้วจู่ๆ เรื่องราวที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น…     ในขณะที่เขากำลังมองวิวด้านล่างบริเวณเจี้ยนโค่วฉางเฉิง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองจีนที่ยังไม่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมและมีลักษณะเป็นเขาสูงชันอยู่นั้น จู่ๆ เขาก็เกิดเสียหลัก จนทำให้ร่างถูกพลัดตกลงไป และนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นดิน ด้านล่างยังไงละเหมียว     ทันทีที่หน่วยกู้ภัยมาถึง ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เช็คอาการเบื้องต้น ปรากฏว่านักท่องเที่ยวรายนี้ มีอาการกระดูกหักที่ขาและสะโพก ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวของเขาส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาต่อไป     ที่มา : dailymail

มีหนุ่มๆ หลายคนมักจะมีปัญหากับน้ำหนักแฟนสาว บางครั้งเมื่อสาวๆ เริ่มกินเก่ง มีน้ำหนักเพิ่มากขึ้น มีรูปร่างท้วมขึ้น พวกเขาก็จะพยายามบอกให้แฟนสาวไปลดน้ำหนักเพื่อให้กลับมารูปร่างดี จนบางครั้งหลายๆ คู่ทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้มานักต่อนักแล้ว   แต่กับเรื่องราวของ Christina Carter วัย 28 ปี กลับแตกต่างออกไป เพราะแฟนหนุ่มของเธอไม่ยอมให้เธอผอม!? เมื่อเธอเริ่มปฏิบัติการลดน้ำหนัก ชายหนุ่มก็เกรี้ยวกราดใส่และเกิดอาการหึงหวงเธออย่างแรง     ตอนนั้น Christina มีน้ำหนักอยู่ที่ 124 กิโลกรัม ซึ่งเธอไม่อาจจะทนกับมันต่อไปได้อีกแล้ว เธอจึงลดน้ำหนักอย่างจริงจัง แต่แฟนหนุ่มของเธอไม่เห็นด้วยเธอจึงรู้ตัวว่าถูกแฟนหนุ่มบงการเข้าให้แล้ว เธอก็เลยบอกเลิกกับเขาซะเลย     เมื่อเธอตัดสินใจแล้ว เธอก็เข้ารับการผ่าตัดกระเพาะอาหารให้มีขนาดเล็กลง จากนั้นก็ออกกำลังกาย ควบคุมอาหารแบบเต็มที่ นั่นทำให้น้ำหนักของเธอลดไปถึง 68 กิโลกรัมเลยทีเดียว     รูปร่างที่ดีและน้ำหนักที่ลดลงนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นจากการออกกำลังกายและควบคุมอาหารเท่านั้น แต่เป็นเพราะเธอเลิกกับแฟนที่มีความคิดแย่ๆ ไปด้วย นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดล่ะ     วันหนึ่ง Christina ได้ค้นตู้เสื้อผ้าและพบเข้ากับชุดว่ายน้ำสีเขียว ที่เคยเป็นชุดว่ายน้ำตัวจิ๋วที่เธอเกือบจะใส่ไม่ได้ แต่วันนี้เธอลองเอามันกลับมาใส่ดู ปรากฏว่ามันกลายเป็นชุดที่พอเหมาะพอดีกับเธอสุดๆ   อย่าปล่อยให้คนอื่นๆ…

โดยปกติแล้วเหล่าคุณแม่ทั้งหลายมักจะเลือกเสื้อผ้าให้เหล่าลูกน้อยใส่กันเป็นประจำ แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อคุณลูกเลือกชุดให้คุณแม่ใส่บ้าง? วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพน่ารักๆ ของคุณแม่คนหนึ่งที่ยอมใส่เสื้อผ้าอะไรก็ตามที่ลูกเลือกให้เป็นเวลา 1 สัปดาห์   Summer คุณแม่ลูกสองคนนี้เธอเป็นคนที่ช่างเลือกในการแต่งตัวเอาซะมากๆ ดูสิสวยเช้งเชียว ><   มีอยู่วันหนึ่งเธอคิดอะไรสนุกๆ ขึ้นได้ ด้วยการให้ เจ้าหนู Rockwell (คนซ้าย) ลูกชายวัย 3 ขวบของเธอกลายเป็นสไตล์ลิชส่วนตัวเลือกเสื้อผ้าให้เธอใส่บ้าง เป็นเวลา 1 สัปดาห์   ซึ่งเป็นงานที่ท้าทายอย่างมากสพหรับหนูน้อย Rockwell เขาค่อยๆ เลือกเสื้อผ้าแต่ละชิ้นอย่างบรรจง จนออกมาเป็นแบบที่เห็น   สำหรับชุดนี้ Rockwell บอกว่าในเมื่อชุดเป็นลายดอกไม้แล้ว ถุงเท้าก็ต้องมีลายดอกด้วยถึงจะเข้ากันนะจ๊ะแม่จ๋า ><   คุณแม่ Summer มีความสุขเป็นอย่างเมื่อเห็นลูกๆ ของเธอเลือกเสื้อผ้าให้เธอใส่กันอย่างสนุกสนาน   ซึ่งเธอก็ไม่เกี่ยงเลยสักครั้งไม่ว่าลูกๆ ของเธอจะเลือกอะไรมาให้ใส่ก็ตาม อย่างการใส่รองเท้ากันคนละข้างแบบนี้   หรือใส่เสื้อซ้อนกันสองตัวแบบนี้ก็ได้ ฮร่า   การทำแบบนี้ได้ช่วยสร้างความสนุกสนานให้กับตัวเธอเองและเด็กๆ ถึงมันจะเป็นอะไรที่แปลก แต่เธอก็รับได้ ซึ่งเธอก็ได้โพสท์เรื่องราวน่ารักๆ นี้ลงบนโซเชียลด้วยเช่นกัน  …

จะว่าไปแล้วเวลาเราดูหรือมองสิ่งต่างๆ นั้น เราไม่สามารถที่จะดูครั้งเดียวแล้วรู้เลยว่ามันเป็นอะไรหรอก เพราะไม่แน่การมองเพียงผิวเผินก็อาจหลอกสายตาของคุณได้!!! สำหรับวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มีผลงานของศิลปินชาวสเปน Chema Madoz มาฝากกัน โดยภาพของเขานั้นเป็นคอนเซ็ปต์ภาพหลอกตา ต้องทำให้เพื่อนๆ มองกัน 2-3 รอบเป็นอย่างต่ำเลยทีเดียว ไม่เชื่อลองมาดูผลงานของเขากันเลย   ดูเผินๆ แล้วเหมือนเป็นต้นไม้เลยนะ   แน่ะๆๆๆๆ รู้นะคิดอะไร ฮร่าาาาา   เหมือนการ์ตูนเรื่องหนึ่งเลยอ่ะ   เส้นทางรถไฟก็ได้นะเออ   คนละขั้วเลยจริงๆ   เหมือนเปลวเพลิง   ผีเสื้อ   กระจก / หน้าต่าง   หน้าหนังสือ   เข็มและด้าย   จิ๊กซอว์   ลายตาราง   รองเท้ากี่คู่   หนวดหรือหวี   หน้าหนังสือเช่นกัน   เค้ก   ท่อระบายน้ำ  …

สำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบภาพยนตร์สยองขวัญแล้วคงจะถูกใจกันไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะวันนี้ #เหมียวหง่าว จะพาเพื่อนๆ ไปชมสถานที่หลอนๆ จากรอบโลก ที่ต้องบอกเลยว่าแค่เห็นภาพก็ขนลุกซู่ไปทั้งตัวแล้ว…   1. ป่าช้าของชาวยิว ในกรุง Prague ประเทศ Czech Republic   เคยมีงานศพมากมายถูกจัดขึ้นที่ป่าช้าแห่งนี้ในช่วงปี 1439 – 1787 มีชาวยิวถูกฝังอยู่ในที่แห่งนี้กว่า 100,000 ราย แต่มีป้ายหลุมศพอยู่ประมาณ 12,000 ป้ายเท่านั้น เพราะพื้นที่ที่จำกัดจึงทำให้ต้องฝังศพให้ทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปทำให้มีต้นไม้ขึ้นแทรกตามหลุมศพแต่ละหลุม สร้างบรรยากาศหลอนให้มากยิ่งขึ้นไปอีก   2. เกาะตุ๊กตา ในประเทศ Mexico Julián Santana Barrera ชายผู้รักสันโดษได้ทำการเก็บตุ๊กตาเด็กที่ถูกทิ้งตามถังขยะมาไว้ที่เกาะทางตอนใต้ของเมือง Mexico City ตั้งแต่ในช่วงปี 1950 เพื่อให้ดวงวิญญาณของเหล่าเด็กหญิงที่จมน้ำตายในบริเวณนั้นได้มีที่สิงสู่ และสุดท้ายเขาเองก็ตายด้วยการจมน้ำที่เกาะนั้นเช่นกันในปี 2001แต่ทว่าตุ๊กตากว่า 1,000 ตัวยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน   3. เกาะ Hashima ในประเทศญี่ปุ่น บนเกาะ Hashima ในอดีตนั้นได้มีการตั้งรกรากเพื่อทำการขุดหาแร่กันขึ้น ซึ่งแร่ที่ว่านั้นถูกค้นพบในปี 1887…

ในปัจจุบันนี้ เป็นไปได้ยากมากๆ ที่เพื่อนๆ จะได้รอยสักที่ถูกใจ และแน่นอนสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความไม่เหมือนใคร ที่จะบ่งบอกความเป็นตัวตนของเราออกมาได้ดีที่สุด แต่ล่าสุดศิลปินชาวยูเครนอย่าง Rita Zolotukhina  ก็ได้ค้นพบวิธีการที่จะทำให้แทททูของคุณไม่เหมือนใคร แถมยังรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งร่วมกับธรรมชาติอีกด้วย ผลงานของเธอต้องบอกว่างดงามมากจริงๆ ไอเดียแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเธอก็คือ การทำให้ผู้คนรู้สึกเข้าถึงธรรมชาติมากขึ้น โดยการใช้ใบไม้ใบหญ้าจริงๆ มาช่วยในการสร้างแทททูลายต่างๆ ให้กับลูกค้าของเธอ   โดยเธอจะนำใบไม้ ต้นไม้ หรือดอกไม้เหล่านั้นมาจิ้มลงในถังหมึกลายฉลุซะก่อน และแปะเข้ากับผิวหนังของลูกค้า   กระบวนการนี้ของเธอเรียกได้ว่ารักษาความเป็นใบไม้ ดอกไม้นั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ   หลักๆ แล้วไม่ต่างจากฟอสซิลต่างๆ จากยุคโบราณเลยทีเดียว   ไม่ว่าจะเป็นลวดลายของใบ้ไม้ แม้จะเล็กแค่ไหนก็เก็บรายละเอียดไว้ได้หมด   และแน่นอนหลังจากนั้นเธอก็จะจัดการเนรมิตรอยสักสุดชิคให้กับลูกค้าของเธอ   ออกมาเหมือนจริงมากๆ   เห็นแล้วขนลุกเลยทีเดียว ><       เลือกลายกันได้ตามสะดวกและความถูกใจเลยจ้าาาา   ไอเดียดีเหมือนกันนะเนี่ย สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ชอบรอยสัก อยากได้ลายที่ไม่เหมือนใครแถมรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติล่ะก็ ลองเอาไอเดียนี้ไปทำกันดูก็ได้น้าาา ที่มา: Boredpanda

ก็เรียกได้ว่าช่วงนี้ก็มีกระแสเด็กๆ ยุค 90 ออกมากันเยอะเหลือเกิน แต่ตอนนี้ 90’s มันตกเทรนด์ไปแล้วล่ะ เพราะเค้าย้อนไปยุค 40 กันเลยทีเดียว ฮร่าาาา ล่าสุดที่ทางพระราชวัง Kensington ของราชวงศ์อังกฤษที่ได้ปล่อยภาพถ่ายของเจ้าหญิงชาร์ลอตกับครอบครัวของพระองค์ออกมาสู่สายตาของประชาชน และก็แน่นอนว่าประชาชนก็เริ่มลงความเห็นกันว่า…   ทำไมเครื่องแต่งกายของพระองค์จึงดูย้อนยุคนัก ราวกับออกมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็มิปาน!!?   และไม่ใช่แค่องค์หญิงน้อยของเราเท่านั้น…เป็นกันทั้งวัง ฮร่าาา   คอมเม้นท์จากเหล่าพสกนิกรที่เห็นภาพถ่ายที่ทางราชสำนักปล่อยออกมา   เอาจริงๆ ถ้าเพื่อนๆ ไม่รู้ว่ายุค 1940 หรือสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่งตัวกันยังไงล่ะก็…   และนี่คือภาพของเจ้าชาย George ที่ถ่ายไว้ในปี 2014 เห็นถึงความแตกต่างกันบ้างมั้ย??   โอ้วพระเจ้า รองเท้านี่มันใช่เลย   ถุงเท้าเด่นมาเลยทีเดียวเชียว   ถ่อววววว พาสเทลมาเชียว ><   กางเกงนี่จะสูงไปไหนนนนนนน   และล่าสุดขณะเข้าพบประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า   ด้วยความสงสัยว่าเชื้อพระวงศ์ยุโรปอื่นๆ…

อื้อหือออ เรียกได้ว่ารอดปาฏิหาริย์มาก สำหรับคุณตาวัย 72 ปี ผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเอกวาดอร์ ติดอยู่ในซากปรักหักพังกว่า 2 อาทิตย์เต็ม!!! Manuel Vasquez คุณตาวัย 72 ปี ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไต ถูกพบนอนอิดโรย บาดเจ็บ และอ่อนแรง อยู่ในซากปรักหักพัง 2 อาทิตย์หลังจากเหตุแผ่นดินไหวในเมือง Jaramijó ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากๆ เหล่าอาสาสมัครก็ไม่คิดว่าจะเจอใครที่รอดชีวิตอยู่ ณ ตอนนั้น   ประธานาธิบดีประเทศโบลิเวียและเอกวาดอร์เยี่ยมผู้ประสบภัย   หลังจากถูกช่วยเหลือ คุณตาดายฮาร์ดของเราได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนที่สุดทันที มีอาการไตวาย ขาดน้ำ-สารอาหารอย่างรุนแรง มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ และมีอาการฟกช้ำและบาดแผลหลายจุดจากของที่ตกใส่แกตอนแผ่นดินไหว สำหรับแผ่นดินไหวครั้งนี้ก็นับได้ว่ารุนแรงมากกว่า 7.8 ริกเตอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยกว่า 569 ราย และอีกกว่า 29,000 รายต้องกลายเป็นคนไร้บ้านเพราะที่อยู่พังถล่มไปจนหมด   เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาซากแผ่นดินไหว   จุดเกิดแผ่นดินไหว     สำหรับเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ประธานาธิบดีได้คาดการณ์ความเสียหายไว้ราวๆ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 105,000 ล้านบาท…

เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าที่วิศวกรรมมากที่สุดในโลก ซึ่งหลายคนอาจคิดว่า เป็นแค่คำโม้หรือเปล่า วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปพิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเขาไม่ได้มีแค่ราคาคุยเท่านั้น! อย่างที่ทราบกันดีว่า เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นประสบกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวจนได้รับความเสียหายในวงกว้างและหนึ่งในสิ่งที่ได้รับความเสียหาย ก็คือถนนนั่นเอง     แน่นอน เมื่อถนนได้รับความเสียหาย ก็ต้องมีการซ่อมแซมให้เร็วที่สุด เพราะนั่นคือเส้นทางในการลำเลียงความช่วยเหลือต่างๆ เข้าไปยังพื้นที่ประสบภัย ทางการญี่ปุ่นจึงโชว์เทพ ซ่อมถนนให้กลับมาเป็นปกติภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น!!     ไปชมภาพแบบชัดๆ กัน อื้อหือ ญี่ปุ่นนี่มันญี่ปุ่นจริงๆ   แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด อาจเพราะว่าประเทศเค้าประสบกับเรื่องแบบนี้บ่อย จึงมีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา อย่างย้อนกลับไปในปี 2011 พวกเขาก็ซ่อมถนนเสร็จภายในระยะเวลาไม่ถึงหกวันเท่านั้น!!       เรื่องแบบนี้ต้องยกให้เขาจริงๆ เพราะความเป็นญี่ปุ่นนี้เอง ทำให้พวกเขาสามารถฟิ้นตัวขึ้นมาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว แม้จะได้รับความเสียหายขนาดไหน คิดเหมือนกันมั้ยละเพื่อนๆ ^^ ที่มา @UN19640410

การตีหมอนถือเป็นกิจกรรมที่น่ารัก เรามักจะเห็นตามเอ็มวีเพลงรักที่จะมีคู่รักเอาหมอนสีขาวมีตีกันแล้วก็จะมีขนที่ยัดอยู่ในหมอนฟุ้งกระจาย หลายคนเห็นแล้วอิจฉา แต่เหมียวมองว่าโคตรเสียดายหมอนเลย แพงนะเนี่ย 5555 วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปเที่ยวที่ยูเครนในเมือง Kiev ซึ่งที่แห่งนี้คุณจะได้เจอกับขนเป็ดมากมายที่หลุดออกมาจากหมอนไม่รู้กี่ร้อยกี่พันอัน เพราะนี่คือเทศกาลตีหมอนนั่นเอง ช่างภาพ Roman Pilipey ได้เก็บภาพบรยากาศงานนี้มา ซึ่งจะจัดในวันที่ 24 เมษายนของทุกปี วัยรุ่นหลายร้อยคนจะมีรวมตัวกันที่ดาวน์ทาวน์ในงาน “Pillow Battle 2016” ซึ่งผู้คนที่เข้าร่วมนี้จะเห็นได้ว่าหน้าเปื้อนยิ้มกันทุกคนเลย     มันเหมือนได้กลับไปเล่นอะไรเด็กๆ อีกครั้งหนึ่ง ได้บ้า ได้เฮฮา และเจอกับผู้คนที่เราไม่รู้จัก แต่ก็รักความบ้าเช่นเดียวกัน คงเป็นอะไรที่สนุกสุดๆ ไปเลยเนอะ ที่มา sobadsogood, China Daily

ก็เรียกได้ว่าเป็นอุทาหรณ์สอนใจเพื่อนๆ โดยเฉพาะคนที่ชอบถ่ายภาพเซลฟี่กับอะไรแปลกๆ ต้องระวังกันเลยนะจ๊ะ ช่วงนี้ก็มีข่าวคราวเกี่ยวกับการเสียชีวิตขณะถ่ายภาพเซลฟี่เยอะมากมายเหลือเกินนนนนน Ramandeep Singh วัย 15 ปีจาก Shiv Nagar ประเทศอินเดีย ที่ปืนดันลั่นเข้าหัวของตัวเองหลังจากพยายามถ่ายภาพเซลฟี่คู่กับปืนพก .32 Bore revolver แต่เกิดอุบัติเหตุปืนลั่นเข้าที่ขมับของเขาเข้าให้ ทำให้บาดเจ็บอย่างสาหัส   ปืนพก .32 Bore revolver   เด็กชายผู้โชคร้าย Ramandeep Singh   สำหรับปืนพกที่ว่าก็เป็นของพ่อของเจ้าหนุ่ม ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นั้นก็ได้นำเขาไปส่งที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน สำหรับตอนนี้ก็ยังไม่ทราบสถานการณ์ของเจ้าหนู เพราะอาการบาดเจ็บค่อนข้างรุนแรงอย่างมาก ในปัจจุบันก็มีข่าวคราวเกี่ยวกับผู้ที่เสียชีวิตจากการเซลฟี่อย่างหนาหูขึ้น โดยเฉพาะประเทศอินเดียที่มาในอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ จนบางพื้นที่ต้องออกกฏห้ามการเซลฟี่กันเลยทีเดียว   ก็อยากจะให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจให้เพื่อนๆ ที่ชอบถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยนะจ๊ะ อย่าไปทำอะไรแปลกๆ พิเรนทร์ๆ กันล่ะ #จ่าสิบเหมียว เป็นห่วง ที่มา: Metro

หลักๆ แล้วคนหล่อทำอะไรก็หล่อนั่นแหละ เราไม่ได้รักชอบพอเขาเฉพาะหน้าตาและรูปร่างภายนอกของเขาเท่านั้น แต่เราชอบในความเป็นเขาทั้งหมดนั่นแหละ ล่าสุดก็ไม่มีอะไรมาก เฮียแกจัดการทรงผม Dreadlocks ของแกไปเรียบร้อยแล้วล่ะ หลักๆ แล้วเหตุผลที่แท้จริงแล้วไม่ใช่อะไรหรอก เพราะมีสาวมาบอกว่าเค้าทำทรงนี้แล้วดูแย่ที่สุดก็เท่านั้นเอง ฮร่าาาา   ทรงผมที่เขาแสนจะภาคภูมิใจ   หลักๆ แล้วก็เพราะว่ามีสาวๆ หลายรายมาบอกว่าทรงนี้น่ะมันไม่เหมาะกับผมเลย…   ล่าสุดก็ขอแสดงความยินดีสำหรับคนที่ไม่ชอบด้วย เขาจัดการตัดมันซะเหี้ยนไปเลยล่ะ ฮ่าๆๆ   กลายเป็นจัสตินกับทรงใหม่ สกินเฮดกันไปเลยทีเดียว!!!   หล่อขึ้นมั้ยจ๊ะ ฮร่าาาาา!?   ก็มีทั้งสาวๆ ที่มาแสดงความเสียใจ และดีใจแบบพอๆ กัน   เอาเป็นว่าอยู่ที่ความชอบของแต่ละคนล่ะเนาะ -*-   สุดท้ายแล้วที่พวกเธอชอบก็คงไม่ใช่เฉพาะทรงผมและรูปร่างหน้าตาหรอก เป็นความที่เป็นตัว ‘จันติน’ นี่แหละ ถึงเขาจะตัดทรงมหาดไทยความหล่อความคูลของเขาก็ไม่ลดลงหร๊อกกก #จ่าสิบเหมียวมั่นใจเลย เอิ๊กๆๆๆ ที่มา: Buzzfeed

หลายคนคงทราบถึงอันตรายของการเล่นมือถือขณะขับรถอยู่ ซึ่งการขับรถนั้นต้องใช้สมาธิอย่างสูง ดังนั้นเราจะได้เห็นการณ์รงค์ทั้งง่วงไม่ขับ เมาไม่ขับ และตอนนี้มีการห้ามเล่นมือถือด้วย แต่คนมันจะเล่น อะไรก็ฉุดไม่อยู่แล้วล่ะ เหมือนอย่างหญิงสาว Christal McGee วัย 18 ปี ขณะที่เธอกำลังขับรถกลับจากที่ทำงานพร้อมกับเพื่อน ก็ได้นึกอยากจะเล่น Snapchat ซึ่งเป็นแอพฯโซเชียลที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ความต้องการของเธอก็คือการเซลฟี่ตอนขับรถอยู่ แต่ด้วยความที่เธอขับรถเร็วมาก และอยากจะอวดความเร็ว เพราะแอพฯ Snapchat มันจับความเร็วได้ ทำให้เธอขับเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนไปชนเข้ากับรถแท็กซี่ Uber อย่างจัง ซึ่งผู้ขับคือ Wentworth Maynard   รถของ McGee ชนเข้ากับรถของ Maynard ด้วยความเร็ว 107 ไมล์ต่อชั่วโมง   โชคยังดีที่เธอและเพื่อนบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หัวของเธอแตกเพราะว่าไปชนกับของแข็ง และเพื่อนมีบาดแผลนิดหน่อย แต่สำหรับคนขับแท็กซี่ เขาได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานถึง 5 สัปดาห์   นอกจากนี้อุบัติเหตุยังมีผลกระทบต่อสมองของเขา ทำให้ต้องนั่งวีลแชร์ อีกทั้งยังทำให้สูญเสียความทรงจำ และมีปัญหาทางด้านการสื่อสารด้วย อุบัติเหตุครั้งนี้คงเป็นบทเรียนให้กับเธอเป็นอย่างมาก เพราะเธอต้องขึ้นโรงขึ้นศาลจากการประมาทครั้งนี้     ที่มา Washington Post

คงจะเคยได้ยิน ได้อ่านผ่านๆ กันมาบ้างแล้วเกี่ยวกับชื่อเสียงเรียงนามของสัตว์ประหลาดที่โผล่ขึ้นมาอยู่บนผิวทะเลสาบล็อกเนสส์ในสก็อตแลนด์ ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่ และมันมีตัวตนอยู่จริงๆ หรือเปล่า?     เนสซี หรือ สัตว์ประหลาดล็อกเนสส์ นั้นปรากฏตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 1933 มีผู้คนเห็นมากมาย แต่ก็ยังไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันความจริงได้ และแม้ว่าจะมีหลักฐานก็แต่ไม่หนักแน่นอยู่ดี ด้วยเวลาที่ล่วงเลยมานาน มีการพิสูจน์หลายต่อหลายครั้งก็ยังไม่สามารถเผยความจริงได้เสียที     และในครั้งนี้เอง ทางคณะนักสำรวจจากบริษัท Kongsberg Maritime ของประเทศนอร์เวย์ จึงทำการพิสูจน์อีกครั้งโดยกระบวนการสแกนคลื่นโซนาร์ในน้ำลึก ควบคุมกระบวนการผ่านหุ่นยนต์ Munin ที่ส่งไปในใต้น้ำลึกกว่า 230 เมตร     ในที่สุดภาพสแกนก็ถูกส่งมา พบลักษณะรูปร่างตามที่เคยกล่าวกันไว้ก่อนหน้านี้ของเจ้าเนสซีอยู่ใต้ก้นบึ้งทะเลสาบ แต่ความจริงก็คือมันเป็นเพียงแค่โมเดลที่ใช้ประกอบในภาพยนตร์     Adrian Shine ผู้เชี่ยวชาญสัตว์ประหลาดล็อกเนสส์เผยว่า ‘เราพบเจ้าเนสซีแล้วล่ะ แต่มันไม่ใช่อย่างที่หลายคนคิด มันเป็นเพียงแค่โมเดลที่จมน้ำมาอย่างยาวนานก็เท่านั้นเอง’     โดยโมเดลที่ว่านี้เป็นพร็อพที่ใช้ประกอบในภาพยนตร์ The Private Life of Sherlock Holmes ปีค.ศ. 1969…

การลวนลามนั้นถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการลวนลามของชายหญิง หรือหญิงชาย ทุกอย่างล้วนมีบทลงโทษทั้งสิ้น แต่บางทีบทลงโทษนั้นอาจยังไม่ถึงตัวกฎหมายก็อาจจะโดนได้แล้ว เมื่อท่านไปเจอกับคนที่เขามีทักษะการต่อสู้ขั้นสูงและยากที่จะต่อกร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน เมื่อ People’s Daily ได้ทำการเผยแพร่คลิปจากกล้องวงจรปิดในลิฟต์ เป็นภาพขิงหญิงสาวที่กำลังถูกชายโรคจิตที่อยู่ในลิฟต์ด้วยกำลังลวนลามด้วยร่างกาย ทำให้หญิงสาวเกิดความรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย   แต่แล้วเหตุการณ์ก็ไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อหญิงสาวได้ทำการซัดเจ้าโรคจิตคนนี้ซะลงไปนอนฟุบ โถ..   เราไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย   เห็นแล้วก็นึกถึงข่าวเมื่อเดือนที่แล้ว ที่มีชายหนุ่มสะกดรอยตามหญิงสาววัย 21 แล้วพยายามจะข่มขืน สุดท้ายก็โดนอัดเช่นเดียวกัน แล้วดูหน้าคนร้ายที่โดนอัดสิ รู้เลยว่าต้องเป็นนักสู้ชั้นยอดแน่ๆ   จากเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ได้รู้ว่าการเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ก็อาจจะทำให้เราปลอดภัยจากภัยร้ายที่คาดไม่ถึงได้นะจ๊ะ ที่มา distractify

ในช่วงอายุย่างเข้าสู่วัยรุ่นของเรากำลังทำอะไรกันอยู่นะ ก็คงจะมีแต่ประสบการณ์เล่นๆ นอนๆ ตลอดทั้งวันแหงๆ ไม่เคยพบกับเหตุการณ์ชวนระทึกอย่างหนุ่มน้อยคนนี้แน่ๆ     Chris Gaither วัย 11 ปี ได้กระทำในสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิดว่าเด็กวัยนี้จะทำได้ เหตุเกิดที่ Talladega, Alabama สหรัฐอเมริกา อันเนื่องมาจากในช่วงนั้นเขาอยู่บ้านคนเดียว และได้ยินเสียงใครบางคนแอบเข้ามาในบ้าน มั่นใจได้เลยว่าต้องเป็นขโมยแน่ๆ     Chris จึงตัดสินใจคว้าปืนขนาด 9 มม. บรรจุกระสุน 12 นัด ติดตัวออกไปเผชิญหน้ากับโจร เมื่อเจอหน้ากันแล้ว พยายามขู่ฆ่าแต่ดันเจอ Chris เล็งปืนใส่ จึงกลายเป็นเลือกที่จะหลบหนีแทน       เจ้าหัวขโมยดันนำตะกร้าขนาดใหญ่พร้อมของที่ขโมยมาติดตัวไปด้วย Chris ก็วิ่งไล่เพื่อเอาของคืน ยิงปืนสกัดทั้งสิ้น 12 นัด จนในที่สุดก็โดนขาของขโมย ร้องครวญครางอย่างเจ็บปวดราวกับเป็นเด็กในร่างผู้ใหญ่กันเลยทีเดียว อะไรจะใจเด็ดขนาดนั้นล่ะเนี่ย ที่มา : wate, theladbible, wvtm13

เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ที่ประเทศญี่ปุ่นได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7 แม็กนิจูด ที่เกาะคิวชูในเมืองคุมาโมโตะ สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมากต่อชีวิตและทรัพย์สิน ในเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 9 คน และบ้านเรือนเสียหายเป็นจำนวนมาก ทำให้หลายคนไม่มีที่อยู่อาศัยหรือที่นอนเลย จนกระทั่งได้ “เตียงกล่อง” ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่นำเอากล่องลังมาใช้ใหม่ เพื่อให้ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวได้นอนพักบนเตียง เตียงเหล่านี้ถูกคิดโดย J Pack บริษัทกระดาษจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเขาทำแบบนี้มาตั้งแต่แผ่นดินไหวในปี 2011 แล้ว และตอนนี้เขาก็ได้ทำมันอีกครั้งในเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่คุมาโมโตะ   การประกอบก็แสนจะง่าย เพียงแค่พับแล้ววางตามรูปเลย แถมยังมีที่กำบังเพื่อให้รู้สึกเป็นส่วนตัวอีกด้วยนะ ซึ่งกล่องนั้นก็สามารถรับน้ำหนักได้สูงถึง 20 คนเลยทีเดียว     ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่แผ่นดินไหวบ่อย ด้วยความที่มีระเบียบวินัยและการเตรียมพร้อมอย่างดี ทำให้ทุกครั้งที่เกิดเหตุร้ายแรงแบบนี้ก็สามารถรับมือได้ เยี่ยมจริงๆ ที่มา rocketnews

ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากในชีวิต และไม่ใช่ทุกคนอีกเหมือนกันที่เจอมันแล้วจะเข้มแข็งและมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เหมือนกับเรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะนำมาเล่าให้คุณฟังในวันนี้   เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เปิดเผยเรื่องราวของชายหนุ่มสู้ชีวิตคนหนึ่งที่ชื่อนาย Alex Lewis วัย 35 ปี เขามีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน และอาการของเขาก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเนื้อในร่างกายบางส่วนเน่าเกินเยียวยา     ในตอนแรกที่นาย Alex มีอาการป่วย ทางแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเขาป่วยเพราะพิษไข้หวัด แต่อาการของเขากลับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนแพทย์ต้องตรวจดูอาการใหม่ ถึงได้ทราบว่าเขาติดเชื้อสเตรปโตคอกคัส กลุ่มเอ ซึ่งมันลุกลามจนทำให้เลือดในร่างกายของเขากลายเป็นพิษ     นาย Alex ต้องเข้ารับการผ่าตัดครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ ทางทีมแพทย์ตัดสินใจตัดเอาแขน ขา ริมฝีปาก และเนื้อจมูกบางส่วนออก ทำให้เขาต้องใช้แขนขาเทียมในการดำรงชีวิต ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรสำหรับเขาเลยทีเดียว     แต่คงไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดไปกว่าการถูกลูกชายเพียงคนเดียวปฏิเสธ เพราะเนื่องจากเขาต้องกลายเป็นคนพิการและมีใบหน้าที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก ทำให้ลูกชายของเขารู้สึกหวาดกลัวผู้เป็นพ่อ จนไม่อยากเข้ามากอดหรือจูบแบบที่เคยทำ     มีรายการทีวีสนใจชวนเขาไปสัมภาษณ์ออกอากาศ นาย Alex ได้ว่า“มันเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่มาก ผมทำหน้าที่เป็นพ่ออยู่ที่บ้านเป็นเวลา 2 ปี มันเป็นช่วงเวลาที่อัศจรรย์…

ปัจจุบันการผ่าตัดแปลงเพศนั้นเป็นเรื่องที่ทำกันได้ง่ายขึ้นเนื่องจากเรามีเทคโนโลยีการแพทย์ต่างๆ มากมาย ที่ช่วยอำนวยความสะดวก ทำให้สาวประเพศสองหลายคนวางใจที่จะตัดอวัยวะเพศออกไป     หลายคนอาจจะนึกไม่ออกว่าผ่าตัดแปลงเพศนั้นมันทำยังไงกันนะ เพราะอวัยวะของชายและหญิงไม่เหมือนกัน ตรงแท่งจะเอาไปไว้ไหน ไข่ก็หายไปด้วย แล้วเวลาฉี่จะเหมือนผู้หญิงหรือไม่? เป็นสิ่งที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน ทางเพจ Mic จึงได้ทำคลิปแบบจำลองการผ่าตัดแปลงเพศโดย European Society of Urology แบบเข้าใจง่าย ดูแค่ภาพก็รู้เรื่องแล้ว ซึ่งบอกคำเดียวว่าคุณผู้ชายดูแล้วอาจเสียวสันหลังวาบเลยก็เป็นได้ อย่ารอช้า เราไปดูกันเลย     ในคลิปได้ให้ข้อมูลมาว่าในสหรัฐฯ นั้นมีคนผ่าตัดในลักษณะนี้ประมาณ 100-500 คนต่อปี ซึ่งหลังผ่าตัดแล้วอวัยวะเพศก็จะมีรูปร่างคล้ายของของผู้หญิงและสามารถฉี่ได้ตามปกติ ที่มา Mic

โลกเรานี้มันแสนจะวุ่นวาย จนบางครั้งก็มีความคิดที่ว่าอยากจะหลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย วิ่งอยู่ในสวนดอกไม้อันงดงาม แต่ก็คงไม่มีอยู่จริงหรอกมั้ง โลกแบบนั้นน่ะ.. แต่ไม่ต้องห่วง เพราะวันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปเยี่ยมชมหมู่บ้าน 15 แห่งที่สวยงามไม่แพ้เทพนิยายเลย รับรองว่าถ้าคุณได้ไปแล้วจะเหมือนหลุดเข้าไปในนั้นเลยล่ะ   #1 หมู่บ้านตกปลาถูกละทิ้ง, จีน   #2 Gokayama, ญี่ปุ่น     #3 Hamnoy, นอร์เวย์   #4 Mountain Village , จีน   #5 Renndølsetra, นอร์เวย์   #6 Gasadalur, Faroe Islands   #7 Bibury, อังกฤษ   #8 Eguisheim, ฝรั่งเศส   #9 Provence, ฝรั่งเศส   #10 Hallstatt, ออสเตรีย   #11 Shirakawa, ญี่ปุ่น   #12 Rothenburg, เยอรมนี  …

เป็นที่แน่นอนว่าเหล่าทาสแมวทุกคนล้วนแล้วแต่รักเจ้านายของตัวเองทั้งนั้น ไม่ว่าจะออกเดินทางไปข้างนอกครู่เดียว ก็คอยนึกเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลาว่าพวกมันจะกินข้าวรึยังนะ? หรือทำอะไรกันอยู่? #เหมียวหง่าว มีเรื่องราวน่ารักๆ ของทาสแมวฝรั่งคนหนึ่งที่มีธุระต้องไปทำข้างนอกบ้าน และจะไม่อยู่บ้านเป็นเวลาหลายวัน เธอก็เลยฝากให้เพื่อนบ้านช่วยดูแลเจ้าเหมียวให้   ชาวเน็ตต่างชาติได้ทำการโพสท์ลงบนทวิตเตอร์โพสท์รูปภาพลงบนทวิตเตอร์ เล่าว่าแม่ของเขาได้ทำการเขียนประวัติของแมวของเจ้าเหมียวแต่ละตัวถึงนิสัยส่วนตัว รวมไปถึงสิ่งที่ชอบและไม่ชอบของเจ้าเหมียวแต่ละตัวอีกด้วย เพื่อฝากมันไว้กับเพื่อนบ้าน   ซึ่งข้อมูลทั้งหมดถูกตีออกมาเป็นตารางและเขียนแบบละเอียดยิบเ!! ระบุไว้ทั้งลักกษณะนิสัย ตัวไหนขี้หงุดหงิด เรื่องมาก ขี้กลัว  สิ่งที่ชอบ-ไม่ชอบ ถูกกับแมวตัวไหนบ้าง รวมไปถึงสถานที่กินอาหาร ต้องให้ตรงไหนบ้าง บอกไว้หมดเลย   แหม่…ช่างเป็นทาสที่รักและเอาใจใส่แมวแบบสุดๆ เลยนะเนี่ย และเพื่อนบ้านคนนั้นนี่ต้องเป็นเพื่อนสนิทหรือไม่ก็ทาสแมวด้วยนะ ไม่งั้นนี่มีปวดหัวตายแน่เลย ฮร่า ที่มา : Joe, lifebuzz

กลายเป็นเรื่องราวดราม่าขึ้นมาในต่างชาติเมื่อ มีชาวเน็ตได้ทำการถ่ายรูปของเด็กสาวที่กำลังซ้อนท้ายบนรถบิ๊กไบค์พร้อมสะพายกระเป๋า คาดว่ากำลังกลับจากโรงเรียน หลังจากนั้นก็ได้นำรูปภาพนี้ไปโพสท์ลงในโซเชียล จนทำให้ชาวเน็ตหลายคนต่างออกมาแสดงความคิดเห็น ไปในเชิงต่อว่าผู้ปกครองของเด็ก     ผู้หญิงในรูปข้างบนก็คือ Mallory Torres คุณแม่ลูก 3 อาศัยอยู่ในรัฐ Texas เธอเล่าว่าสามีของตน John Hays นั้นมีประสบการณ์ในการขับขี่บิ๊กไบค์มากว่า 20 ปีแล้ว และเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั้นเขาได้เริ่มพาลูกสาวตัวน้อย Mackenzie วัย 7 ขวบ ซ้อนท้ายไปด้วย     ซึ่งทาง Heys พ่อของเด็กหญิง Mackenzie ก็ได้เล่าเพิ่มเติมอีกว่า เธอชอบมันมากๆ เลย แถมยังขอร้องให้พาไปด้วยทุกครั้งที่เขาจะขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปไหนต่อไหน เขายังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อเขาพาลูกสาวตัวน้อยซ้อนท้าย เขาจะคอยระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยให้มากขึ้นกว่าเดิม และมีการพูดคุยกันอย่างเข้มงวดก่อนที่จะพาเธออกไปไหนด้วย   มีชาวเน็ตมากมายที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นบนภาพที่ถูกอัพลงบนโซเชียล… โดยส่วนมากจะไปในทิศทางที่ต่อว่าผู้ปกครองที่ให้ลูกมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้ได้ไง เป็นเราเราจะไม่ทำแบบนี้แน่ เพราะเรารักลูกของเรา ที่เราทำได้ก็เพียงแค่สวดภาวนาให้เด็กปลอดภัยแค่นั้นเอง   จากนั้น Mallory Torres คุณแม่ของหนู Mackenzie ก็เลยออกมาตอบโต้เหล่าชาวเน็ตที่ออกมาต่อว่าเธอทั้งหลายกลับไป… เนื้อหาโพสท์แปลได้คร่าวๆ ว่า “ฉันไม่ต้องการที่จะกีดกันให้ลูกของฉันทำในสิ่งที่ชอบเพียงเพราะ ‘ความกลัว’ ในโลกนี้มีพ่อแม่มากมายหลากหลายแบบ…

อื้อหือออ งานนี้เหล่าขาดริ้งค์และคอเบียร์มีเฮกันอย่างแน่นอน เมื่องานวิจัยล่าสุดได้ชี้ว่า ‘การดื่มเบียร์’ นั้น สามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักลงได้จริงๆ !? สำหรับงานวิจัยนี้เป็นของทาง Oregon State University ซึ่งพบว่าในเบียร์นั้นมีสาร Xanthohumol ซึ่งเป็นสารฟลาโวนอยด์ที่สามารถพบได้ในฮ๊อป (พืชที่นิยมเอาไปใส่ในเบียร์)โดยมีสรรพคุณช่วยลดน้ำหนักและเป็นทำหน้าที่ลดปริมาณคอเลสเตอรอลอีกด้วย!!!   เบียร์ช่วยลดน้ำหนัก   งานวิจัยนี้ทำการทดลองโดยใช้หนูทั้งหมด 48 ตัว แบ่งออกเป็นสองกลุ่มอย่างละครึ่ง ซึ่งหนูทุกตัวมีน้ำหนักที่ใกล้เคียงกัน และมีคอเลสเตอรอลสูง ให้อาหารปกติทั้งสองกลุ่ม แต่กลุ่มหนึ่งจะให้สาร Xanthohumol กินเสริมด้วย วันละ 30-60 มิลลิกรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัว ทุกๆ วัน 12 สัปดาห์เต็ม จากผลการทดลองปรากฏว่า หนูกลุ่มที่ได้รับสาร Xanthohumol  นั้น จำนวนคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดของพวกมันลดลงไปกว่าร้อยละ 80 แถมน้ำหนักตัวก็ลดลงไปกว่าร้อยละ 22 เลยทีเดียว ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้รับสารนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่ประการใด   และสาร Xanthohumol สามารถพบได้ในเบียร์!!!   แน่นอนว่าเบียร์ที่คุณดื่มมีสาร Xanthohumol  อยู่ สารสำคัญที่สามารถป้องกันคุณจากความอ้วนและคอเลสเตอรอลสูงได้ แต่ข่าวร้ายก็คือว่า…. ถ้าคุณอยากทำให้ได้ผลจริงๆ ล่ะก็ ปริมาณที่คุณจะต้องดื่มเทียบกับน้ำหนักตัวราวๆ 65 กิโลกรัม (ยกตัวอย่าง)…

เรียกได้ว่ามิตรภาพของคนและสัตว์นั้นเป็นอะไรที่สามารถเกิดขึ้นได้ มิตรภาพไม่ได้มีเพียงแค่ระหว่างคนกับคนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลกใบนี้ด้วย และไม่ว่ามันจะเกิดกับอะไร มิตรภาพจะกลายเป็นสิ่งที่สวยงามอยู่เสมอ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมเรื่องราวดีๆ ของมิตรภาพระหว่างคุณลุงและเหล่าสุนัขจิ้งจอกที่สุดแสนจะน่ารัก แถมยังเป็นเซเลปของชาวเมืองอีกต่างหาก   คุณลุง Patsy Gibbons อาศัยอยู่ในเมือง County Kilkenny ประเทศไอร์แลนด์ ได้รับฉายาว่า Mr. Fox   เพราะเขามีเพื่อนคู่ใจเป็นเหล่าสุนัขจิ้งจอกแสนน่ารัก 2 ตัวด้วยกัน คือเจ้า Grainne และ Minnie ซึ่งคุณลุง Gibbons ได้ทำการเก็บมันมาเลี้ยงในขณะที่มันยังเป็นทารกอยู่   ซึ่งในตอนนั้นมันป่วยและมีร่างกายที่ค่อยจะแข็งแรงสักเท่าไหร่ พอรักษาพวกมันเสร็จแล้วคุณลุง Gibbons ก็ปล่อยพวกมันไป แต่เจ้าจิ้งจอกทั้งสองตัวนั้น กลับไม่ยอมไปและเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับคุณลุงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา   พวกเขากลายเป็นที่รู้จักกันในเมืองอย่างรวดเร็ว ทั้งเด็กๆ และชาวเมืองต่างให้ความสนใจในความน่ารักของเจ้า Grainne กับ Minnie และความงดงามของมิตรภาพของทั้งสามคน   จนถึงขั้นที่ว่าโรงเรียนประจำเมืองถึงกับเชิญให้คุณลุงและเหล่าเพื่อนซี้ของเขา ให้ไปที่โรงเรียนเพื่อให้เด็กๆ ได้ชื่นชมความน่ารักของเหล่าสุนัขจิ้งจอกและฟังเรื่องราวของพวกมันโดยคุณลุง Gibbons   มีผู้คนมากมายต่างก็เข้ามาสอบถามถึงเคล็ดลับในการเลี้ยงสุนัขจิ้งจอกจากคุณลุง แต่เขาก็บอกกลับไปว่า “ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญนะ ผมยังคงเรียนรู้พวกมันไปแบบวันต่อวัน แต่ผมก็ยินดีที่จะมอบความรู้ทั้งหมดที่ผมมีให้กับทุกคน”   นอกจากนี้คุณลุง…

ประเทศอินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และการที่มีประชากรมากนี้เองทำให้การดูแลความเป็นอยู่ของประชากรจึงไม่ค่อยทั่วถึงนัก ดังจะเห็นจากสถิติว่าประเทศอินเดีย เป็นประเทศที่มีผู้คนยากจน และขอทานมากที่สุดในโลก ด้วยความที่มีประชากรมากมายขนาดนี้ เพราะฉะนั้นการที่จะเกิดอะไรขึ้นในประเทศอินเดีย มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า…   1. ป้ายโฆษณา!!??   2. กระเป๋ารักหนังโป๊!? 555+   3. เอาแปรงสีฟันมาทำเป็นที่คาดผม   4. จะบังเอิญอะไรเบอร์นั้น   5. ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นการเซลฟี่รูปของตัวเองกับเหตุการณ์นั้นๆ เก็บไว้ก็ถือว่าเป็นงานอดิเรกชั้นยอด ฮร่า   6. ฉันรัก สะ…สามี!???? – -*   7. ขะ…แข็งแกร่ง จริงๆ   8. สถานการณ์เร่งรีบระหว่างชั่วโมงเร่งด่วนจึงจำเป็นต้องเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์สิเนอะ ถึงจะรวดเร็วทันใจ   9. โถส้วมแบบ DIY. แต่ดูแล้วมันจะเลอะเทอะไปหน่อยมั้ยหงะ 555+   10. รับ 2 จ๊อบ เป็นยามไปด้วย…