Category: สยามเมืองยิ้ม

ป่วยไปอีกรายแล้ว สำหรับหนุ่มไมค์ พิรัชต์ ที่เพิ่งจะสึกออกมาได้ไม่นาน และเดินทางไปถ่ายภาพกับคู่จิ้นอย่างสาวออม สุชาร์ ที่พม่า ก็มีข่าวคราวว่าหนุ่มไมค์ป่วยหนักจนต้องหามส่งโรงพยาบาลไปอีกคนแล้ว     เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยผ่าน IG ของแม่ตุ๊ก ปราศรัย คุณแม่ของหนุ่มไมค์ เผยให้เห็นภาพของนักร้องหนุ่มขณะนอนป่วยอยู่บนเตียงคนไข้ พร้อมกับข้อความว่า “ชายไมค์ลำไส้ใหญ่อักเสบมีไข้คลื่นไส้ทานอะไรไม่ได้ถ่ายหมดแรงเลยต้องพึ่งน้ำเกลือ”       งานนี้แฟนคลับคงต้องส่งแรงเชียร์ให้พ่อไมค์หน่อยนะจ๊ะ ที่มา instagram

ยังคงมีประเด็นให้พูดถึงอยู่ตลอดเวลา สำหรับกรณีของนักแสดงหนุ่ม ปอ ทฤษฎี ที่นอนป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาล และในช่วงเวลาแบบนี้เองก็มักจะมีเหล่าหมอดูและนักทำนายทายทักมากมาย ต่างใช้โอกาสนี้ออกมาทำนายอนาคตของหนุ่มปอ   บ้างก็บอกว่าสามารถรู้อนาคตของเขาได้ บ้างก็บอกว่ามีกรรมต้องรีบบวชให้ จนทำให้เหล่าแฟนคลับหลายๆ คนต่างหันหน้าไปพึ่งความเชื่อเหล่านั้นกันอย่างมากมาย จนส่งผลให้แอดมินแฟนเพจ ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวไปด้วย     โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 พฤศจิกายน เฟซบุ๊กเพจ ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ ได้โพสต์ข้อความระบายความในใจ เกี่ยวกับประเด็นที่มีลูกเพจบางคนส่งข้อความไปต่อว่าแอดมิน ว่าทำไมถึงไม่โพสขอบคุณหมอดูสื่อกรรมท่านหนึ่ง เพราะเห็นว่าหมอดูท่านั้นอุตส่าห์นั่งทำสมาธิเรียกดวงจิตของหนุ่มปอกลับมาให้   งานนี้ทำเอาแอดมินถึงกับทนไม่ไหว ต้องออกมาชี้แจงเลยว่า “เรื่องบาป เรื่องบุญ เรื่องของกุศล ผมเชื่อครับ แต่เรื่องหมอดูผมไม่เชื่อครับ” พร้อมกันนี้ยังบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็นเสมอไป   หลังจากที่ข้อความของแอดมินเพจ ปอ ทฤษฎีถูกแชร์ออกไป ทำให้เหล่าแฟนคลับต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย อย่างเช่นคุณ Eve Patchree กล่าวว่าเห็นด้วยกับแอดมิน เพราะคิดว่าความเห็นของหมอดูไม่ได้เป็นผลดีกับตัวดาราเลย   ต่อมาคุณ โฟล์ค’ คนเดิม’มม ก็ได้กล่าวว่า “คนที่ช่วยพี่ปออะคือคณะแพทย์ ใม่ใช่ใอ้อ.แบงค์อะใรนั้นเลย” จากนั้นก็มีชาวเน็ตอีกหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกันอีกมากมาย   งานนี้แฟนคลับหนุ่มปอ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร แสดงความคิดเห็นกันมาได้นะจ๊ะ ที่มา ปอ…

ต้องยอมรับเลยว่าสาวประเภทสองสมัยนี้เค้าสวยเป๊ะเว่อร์กันจริงๆ ถึงขนาดหญิงแท้อย่างๆ เรา เป็นต้องพ่ายแพ้ในความสวยของพวกเธอกันเป็นแถว และอีกหนึ่งสาวประเภทสองทีนาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักก็คงจะเป็นน้อง โยชิ รินรดา ธุระพันธ์ สาวประเภทสองหน้าตาสวยหวาน และโคตรน่ารักคนนี้อย่างแน่นอน     น้องโยชิ เคยสร้างเสียงฮือฮาไปทั่วทั้งโลกออนไลน์ ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ยังเป็นเด็กมัธยมตัดผมรองทรงโชว์หน้าหวานๆ ให้สาวๆ อิจฉาตาลุกวาว จนมาถึงตอนนี้เธอได้กลายเป็นนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยไปซะแล้ว     พอได้แต่งองค์ทรงเครื่องเป็นนักศึกษาสาวแบบเต็มตัว บอกเลยว่ายิ่งเพิ่มความเป็นผู้หญิงในแบบที่สูงปรี๊ดขึ้นมาอีกหลายระดับ แม้กระทั่งสาวแท้บางคนยังยอมเลยละเหมียว     ดูสิ…เธอทั้งสวยน่ารัก และดูสดใสเป็นที่สุด   นี่ถ้าไม่บอกก็คงไม่มีใครรู้เลยนะเนี่ย ว่าน้องโยชิคนสวยคนนี้เป็นสาวประเภทสอง เพราะแม้แต่เหมียวก็ยังคิดว่าเธอเป็นหญิงแท้เลยฮ้า…     สวยงามตามท้องเรื่อง   ยิ้มทีใจละลาย   หน้าหว๊านหวาน เห็นแล้วก็แอบอิจฉาเบาๆ   ส่วนใครที่ชื่นชอบน้องโยชิ ก็สามารถเข้าไปติดตามใน อินสตาแกรม ของเธอได้เลย รับรองว่าคุณจะได้เห็นภาพสวยๆ ของเธออีกเพียบเลยละ     ที่มา : yoshirinrada, kapook

กลายเป็นเรื่องราวฮือฮาพอสมควร สำหรับกรณีของวัดพุน้อยชัยมงคลในจังหวัดลพบุรี ที่สามารถรวบรวมเงินจากการทอดกฐินได้อย่างมหาศาลถึง 27 ล้านบาท จนต้องระดมทีมอาสามาช่วยกันนับเงินกันแบบข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว     เมื่อช่วงคำของวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ เรารัก”ลพบุรี” ได้เผยแพร่ภาพกองเงินจำนวนมาก ที่ได้จากงานจุลกฐินสามัคคีของวัดพุน้อยชัยมงคล อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี จนต้องระดมจิตอาสากว่า 100 คนเพื่อมาช่วยกันนับเงินที่เหล่าผู้มีจิตศรัทธานะเงินมาถวาย     ตามรายงานบอกว่าจิตอาสานั้นเริ่มนับเงินตั้งแต่ช่วงเวลา 21.00 ของวันที่ 15 พฤศจิกายน ไปจนถึงวันที่ 16 พฤศจิกายนก็ยังไม่เสร็จดี จนทางธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านหมี่ ต้องส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยนับเงินอีก 4 คนพร้อมกับเครื่องนับเงิน จนสามารถสรุปยอดทั้งหมดได้ที่ 27,098,290 บาท     แหม่ แรงศรัทธาของวัดนี้เขารุนแรงจริงๆ เลยนะเนี๊ยะ ที่มา เรารัก”ลพบุรี”

กลับมาพบกับเชพเหมียวพาเข้าครัวกันอีกเช่นเคย และในครั้งนี้เชพเหมียวจะขอมานำเสนอเมนูสุดพิเศษ ที่คัดสรรมาให้ชาวหวยโดยเฉพาะ นั่นแน่!! เริ่มสงสัยกันแล้วใช่ไหมว่าทำไมเมนูนี้ถึงมอบให้แด่ชาวหวย ก็เพราะมันคือ ‘หวยทอดกรอบ’ นั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่แปลกใหม่สุดๆ ที่เราแนะนำให้ชาวหวยได้ลองนำไปทำทานภายหลังวันที่หวยออก และที่สำคัญเมนูนี้ยังถูกดัดแปลงมาจากเมนูหอยทอด เนื่องจากมันมีวิธีทำที่ค่อนข้างคล้ายๆ กันอีกด้วย…   ส่วนวิธีทำก็ง่ายภายในพริบตา เพียงแค่นำหวยของคุณมาชุปแป้งแบบนี้…   จากนั้นตั้งกระทะให้ร้อน แล้วนำลงไปทอดให้เหลืองกรอบ แลดูน่ารับประทาน   และในที่สุด ท๊าดา…ข้าพเจ้าขอนำเสนอเมนูของทอดสุดพิเศษ ‘หวยทอดกรอบ’ สำหรับคอหวยนั่นเอง   ด้านชาวเน็ตเมื่อเห็นภาพของเมนูหวยทอดกรอบ ต่างก็พากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย บ้างก็ว่าเดี๋ยวจะลองนำไปทำทานบ้าง ส่วนบางคนก็ขำกลิ้งจนกรามค้างกันเลยทีเดียว     ป้าดดดดด ใครที่มีฉลาดงวดก่อนๆ ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรดี ก็นำมาชุปแป้งทอดลงกระทะกันเลย เรียกได้ว่าต้องยกมื้อนี้แด่ชาวหวยทั้งหลายก็แล้วกัน ฮี่ๆ ที่มา : FoodPlanetTV

ไม่รู้จะฮาหรือว่าสะเทือนใจดี เมื่อมีการเปิดเผยการจัดอันดับเพลงยอดฮิตประจำสัปดาห์ และเพลงของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ “คืนความสุขให้ประเทศไทย” ขึ้นไปเป็นอันดับหนึ่ง โดยการจัดอันดับนี้เป็นกรจัดอันดับของเพจ Intensive Watch ซึ่งจัดอันดับเพลงโดยวัดจากจำนวนครั้งการเปิดจริงของแต่ละคลื่น และจัดอันดับมาในแต่ละสัปดาห์ และในสัปดาห์ล่าสุดนี้ ก็มีการจัดอันดับเช่นเคย และเพลงที่ได้อันดับหนึ่งมีสองเพลงก็คือ เพลงคืนความสุขให้ประเทศไทย – ป้อม อัสนี และ เพลงปั่นจักรยาน – ก้อง สหรัถ, บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์, บี พีระพัฒน์, ตูน อาทิวราห์     นอกจากสองเพลงที่ว่าแล้ว ยังมีเพลงคืนความสุขให้ประเทศไทย – วงดุริยางค์กองทัพบก เข้ามาในอันดับที่ 15 อีกด้วย เรียกได้ว่าฮอตฮิตจริงๆ ใครอยากติดตามว่าคนในเพจเขาคิดอย่างไร ก็ตามไปในโพสนี้เลยนะจ๊ะ IW Weekly Music Chart เพลงไทยสากล ประจำสัปดาห์ที่ 45/2015 (08.11.2015 – 14.11.2015)1 คืนความสุขให้ประเทศไทย – ป้อม อัสน… Posted by Intensive Watch on 16…

กลายเป็นประเด็นร้อนเลยทีเดียว สำหรับโฆษณาการท่องเที่ยวประเทศไทยฉบับใหม่นี้ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งนำเสนอชีวิตที่หรูหรา แต่ชาวเน็ตที่ได้เห็นกลับโจมตีว่า นี่ไม่ใช่แก่นของการท่องเที่ยวไทย โดยโฆษณาอันใหม่นี้ โพสโดยเพจ Tourism Authority of Thailand (HK)  ซึ่งพวกเขาได้นำเสนอการท่องเที่ยวแบบหรูหราในไทย เราจะได้เห็นการใช้ชีวิตอย่างคนรวย มีผู้ติดตามผู้รับใช้ มีที่พักอันหรูหรา มีการแสดงต้อนรับ ตีกอล์ฟกลางทะเลอันดามัน และอื่นๆอีกมากมาย     ไปชมคลิปโปรโมทกันเลย Amazing Thailand Luxury: where life rules everythingAmazing Thailand Luxury: where life rules everything Posted by Tourism Authority of Thailand (HK) / 泰國政府旅遊局 (HK) on 15 พฤศจิกายน 2015   เมื่อชาวเน็ตเห็นคลิปนี้ ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ทั้งด้านบวกและด้านลบ   การจะไปชมความงดงามของประเทศไทย…

หลังจากที่เหมียวได้รายงานข่าวไปเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า มีนักท่องเที่ยวฝ่าฝืนคำสั่งของการรถไฟฯ ที่ติดป้ายเตือนเหล่านักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยัง แกรนด์แคนยอนชลบุรี เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยวไปถ่ายรูปและนั่งเล่นบนรางรถไฟด้วย     ล่าสุดในวันที่ 17 พฤศจิกายน ทางการรถไฟฯ ได้ออกมาประกาศแล้วว่าไม่ให้ประชาชนเข้าไปเที่ยวในบริเวณดังกล่าว พร้อมทั้งนำป้ายมาปิดประกาศอย่างชัดเจน ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างพากันเสียดาย เพราะถือเป็นสถานที่ที่สวยงามและสามารถพักผ่อนหย่อนใจได้     พร้อมกันนี้ยังรณรงค์ให้ช่วยกันรักษาความสะอาดด้วย เพราะสถานที่ท่องเที่ยงในชลบุรีนั้นมีน้อยอยู่แล้ว จึงอยากให้ทางการรถไฟฯ โปรดพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง   เป็นไงล่ะ เขาติดป้ายเตือนแล้วไม่ฟังกัน แต่เหมียวเองก็รู้สึกเสียดายเหมือนกันนะ อยากไปสัมผัสด้วยตัวเองเหมือนกัน ที่มา springnews

กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง หลังสิบตำรวจเอกบุกไปข่มขู่เจ้าหน้าที่กู้ภัยถึงที่ทำงาน หลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยแสดงความเห็นถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของสิบตำรวจคนนั้น โดยเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อหลายวันก่อน ขณะเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล มีรถกระบะแต่งซิ่งคันหนึ่งขับเข้ามาจี้ท้ายและพยายามแซงแต่ก็แซงไม่ได้ จนตอนหลังกระบะคันนั้นตามมาท้าต่อยถึงโรงพยาบาลซึ่งปรากฎว่าคนขับเป็นตำรวจ จนทำให้สารวัตร สภ.เมืองพัทยาต้องเข้ามาไกล่เกลี่ยและจบเรื่องกันไป     ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ อุซึมากิ นารูโตะ ได้โพสเล่าว่า ตำรวจคนที่เคยมีเรื่องกันมานั้น ได้บุกเข้ามายังสำนักงานของมูลนิธิ แล้วข่มขู่เขาว่า “เก็บปากไว้กินข้าวเถอะ” หลังจากเขาได้โพสแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของตำรวจคนนี้ไป     ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงนำภายจากกล้องวงจรปิดมาแจ้งความกับตำรวจ เนื่องจากถือว่าเป็นการข่มขู่ และการกระทำเช่นนี้ ก็ทำให้ประชาชนตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมไม่มีการลงโทษทางวินัยกับตำรวจคนนี้เลย?         เหมียวชักสงสัยแล้วว่า ใครเป็นตำรวจ ใครเป็นผู้ร้ายกันแน่เนี่ย ปกติเราเจอตำรวจเราต้องรู้สึกอุ่นใจไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงมาทำพฤติกรรมแบบนี้ละเนี่ย เหมียวล่ะงงจริงๆ ที่มา chonburinews

ถึงจะมีตัวอย่างให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ เกี่ยวกับกรณีการจัดฟันเถื่อนแล้วฟันล้ม ฟันเน่า บางคนถึงขั้นติดเชื้อจนเสียชีวิตมาแล้วก็มี แต่ก็ยังคงมีพ่อค้าแม่ค้าจอมโลภ ที่หวังจะหลอกเอาเงินจากคนไม่รู้ โดยการนำรีเทนเนอร์แบบผิดกฎหมายมาขายอยู่เป็นประจำ   ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของแม่ค้าขายรีเทนเนอร์เถื่อนในเฟซบุ๊กได้โพสต์ข้อความต่อว่าหมอฟันและผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายว่า “แม่ค้าก็เปรียบเหมือนสายการบิน Low Cost ส่วนพวกหมอฟันเหมือนการบินไทย เรามันคนละตลาดกัน” พร้อมกับบอกว่า “อย่าขัดแข้งขัดขากันเลยค่ะ”     ต่อมาในวันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของแม่ค้ารายดังกล่าวก็ได้โพสต์ข้อความว่าตอนนี้รีเทนเนอร์เถื่อนที่เธอขายอยู่ ได้ถูกส่งออกไปขายยังประเทสเพื่อนบ้านแล้ว ทั้งยังบอกว่า “หมอฟันแค่กั๊กไว้รวยเฉพาะพวกหมอฟัน แม่ค้ามาปลดแอกแล้วค่ะ”     อะไรของคุณครับคู๊ณณณณณณ ตรรกะอะไรจะวิบัติขนาดนี้ ที่มา dodeden

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ทักษะภาษาอังกฤษของคนไทยนั้น เรียกว่าอยู่ในอันดับท้ายๆของทวีปเลยทีเดียว ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า สาเหตุเกิดจากอะไร แม้วันนี้เราอาจยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ แต่เหมียวว่าเราพอจะเห็นถึงต้นเหตุของปัญหาบางส่วนแล้วล่ะ เรื่องมีอยู่ว่า มีคุณครูชาวต่างชาติที่สอนภาษาอังกฤษในไทย Karl Dahlfred ได้โพสภาพหนังสือแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษเล่มหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาภายในนั้นแทบไม่มีส่วนที่ถูกต้องเลย     อย่างเช่น ประโยคเริ่มต้น “สวัสดีตอนเย็นคุณพ่อคุณแม่” หนังสือกลับแปลว่า “Hello parents evening” ซึ่งที่จริงแล้วควรจะแปลว่า “Good evening mom and dad” มากกว่า หรือประโยค “ลูกกลับมาจากโรงเรียนแล้ว” หนังสือกลับแปลว่า “Children returning from school then” ซึ่งมันควรจะเป็น “You just came back from school” มากกว่า   ซึ่งเมื่อชาวเน็ตเห็นดังนั้น ก็เข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย         คนแปลแปลมั่วว่าแย่แล้ว แต่บก.ปล่อยหนังสือให้ตีพิมพ์ออกมาได้ เหมียวว่าแย่กว่า แล้วแบบการศึกษาภาษาอังกฤษในบ้านเรา…

ยังคงน่าเป็นห่วง สำหรับอาการป่วยของหนุ่มปอ ทฤษฎี โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่าหนุ่มปอมีเกล็ดเลือดต่ำมาก จนต้องขอรับบริจากกันผ่าน IG ของ Porthrisadeeofficial โดยมีข้อความที่อ้างถึงคุณอาน้ำอ้อย ว่าตอนนี้ทางโรงพยาบาลรามาฯ ได้ขอรับบริจาคเลือดกรุ๊ปโอ เพื่อนำมาทำเกล็ดเลือดให้หนุ่มปอ   ทั้งนี้ยังมีเพื่อนๆ ในวงการช่วยกันแชร์ข้อความดังกล่าวมากมาย รวมไปถึงนักแสดงรุ่นน้องอย่างสาวเมญ่า นนธวรรณ ทองเหล็ง ก็ออกมาช่วยอีกแรง     แต่เมื่อสอบถามไปทางโรงพยาบาลรามาฯ กลับพบว่าทางโรงพยาบาลไม่ได้เป็นผู้ออกประกาศดังกล่าว แต่คาดกันว่าข้อความทั้งหมดน่าจะมาจากญาติของปอเอง ซึ่งตอนนี้ทีมแพทย์ได้มีการเปลี่ยนแปลงวิธีรักษาแล้ว และอยากให้แฟนๆ ทุกคนอย่างเพิ่งตื่นตกใจและติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด     ยังไงก็ติดตามข่าวของหนุ่มปอไว้เรื่อยๆ นะ เหมียวขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองหนุ่มปอด้วยนะ ที่มา maeyagirl , kapook

ก็นี่ล่ะน้าาา เหมียวก็อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเตือนใจคุณผู้ชายทั้งหลาย ที่ชอบใช้ชีวิตกันค่อนข้างผาดโผน โดยเฉพาะการใช้ ‘จู๋’ นำทางเนี่ย อาจทำให้ชีวิตที่กำลังจะดี ล่มจมกันได้เลยทีเดียวนะเมี๊ยวววว หลักๆ แล้วเรื่องราวมีอยู่ว่า คุณผู้หญิงคนนี้คบกันแฟนมา 3 ปี กำลังจะแต่งงาน แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อทั้งคู่ทำงานคนละที่ ทำให้เจอกันไม่ค่อยบ่อยนัก ทำให้แฟนหนุ่มตัวดีนอกลู่นอกทางไปซะได้ เมาหนักไปจั๊กกิ้งแกล๊ดกับสาวอื่น แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น เพราะสาวที่มีอะไรกันดันทำแสบ ส่งภาพไปให้คุณแฟนซะงั้น!!?   เรื่องราวจากแชทในไลน์…   พอเริ่มได้สติ…             ดิ้นไม่หลุดแล้วสิตอนนี้ ><             บทสรุปเลยก็คือตอนนี้ทางคุณผู้หญิงก็ได้บล็อคแฟนหนุ่มตัวดีไปแล้วล่ะ และสำหรับเรื่องแต่งงานและชีวิตคู่ แต่แล้ว…ฝันนั้นก็สลายไปในพริบตาแน่นอน นี่ล่ะหนอหนุ่มๆ มาอ่านเรื่องนี้ไว้เตือนใจกันสักหน่อยนะจ๊ะ ก่อนที่จะใช้น้องชายนำทางชีวิตแทนสมอง   อื้อหือออออ ต้องบอกว่าคุณผู้หญิงคนนี้ สตรองงงงง!!! จริงๆ ก็หวังว่าคุณผู้หญิงจะเจอผู้ชายดีๆ ที่ศีลเสมอกัน ความยับยั้งชั่งใจเสมอกัน รักเธอมากๆ นะจ๊ะ…

กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ต หลังจากมีคุณพ่อออกมาตัดพ้อตำหนิร้านขายยา ที่ไม่ยอมขายออกซิเจนให้ เนื่องจากอยากให้ซื้อถังใหม่ โดยเจ้าของเฟสบุ๊ค บุญธรรม ชะดานิน ได้ออกมาแชร์เรื่องราวว่า ลูกของตนป่วยต้องใช้ออกซิเจนช่วยในการหายใจ และวันนั้นออกซิเจนเกิดหมด จึงต้องออกไปเติม แต่โชคร้ายร้านที่ซื้อถังมาไม่เปิด จึงต้องออกไปหาร้านอื่น เมื่อไปถึงร้านขายยาร้านหนึ่งแถวศิริราช ร้านกลับปฏิเสธไม่ยอมขายออกซิเจนให้ แม้เขาจะอ้อนวอนขนาดไหนก็ไม่ยอมขาย และบอกว่าถ้าอยากซื้อต้องซื้อถังใหม่ซึ่งมีราคา 4-5 พันบาท โชคดีเขาสามารถยืมถังออกซิเจนมาจากโรงพยาบาลตากสินจึงสามารถช่วยชีวิตลูกของตนเองไว้ได้ทัน พร้อมตั้งคำถามว่า ทำไมร้านขายยานั้นถึงไม่ยอมขายให้เขา ทั้งๆที่ไปที่อื่นเขาก็ยอมเติมให้     เมื่อชาวเน็ตเห็นข้อความดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย     อาจเป็นเหตุผลทางด้านธุรกิจ ทำให้ร้านไม่ขายออกซิเจนให้ แต่เหมียวว่าเรื่องชีวิตคน บางทีก็อลุ่มอล่วยซักนิดก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง แล้วเพื่อนๆละคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองเสนอกันเข้ามานะเหมียว ที่มา บุญธรรม ชะดานิน‎

หากย้อนเวลากลับไปประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ใครที่เคยฟังเพลงสุดฮิตอย่าง ‘โรงเรียนผู้ชาย’ จะต้องจำร็อคเกอร์ฝาแฝดสุดฮอตนามว่า บาส และบอล จากวงที่ชื่อสุนัขพันธุ์ไทยอย่าง ‘บางแก้ว’ ได้แน่นอน ซึ่งในตอนนั้นบอกเลยว่าสองหนุ่มเขาฮอตในกลุ่มนักเรียนมัธยมเป็นอย่างมากเลยละ บวกกับหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มของทั้งคู่ ก็พาให้สาวๆ วัยใสทั้งหลาย ต่างก็ใจแทบละลายกันเป็นแถว     และมาในวันนี้เหมียวก็จะขอพาเพื่อนๆ ที่อยู่ในยุคนั้น มาย้อนวันวาน ไปกับภาพอดีต-ปัจจุบัน ของสองแฝดจากวงบางแก้วให้หายคิดถึงกันสักหน่อย บอกเลยว่าหน้าตาทั้งคู่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแทบไม่เปลี่ยนเลยนะเมี๊ยว     ใครลืมสองหนุ่มไปแล้วบ้างงงงงง   เห็นภาพแล้วหายคิดถึงกันบ้างหรือยัง   และนี่ก็คือรูปปัจจุบันของพวกเขา   หน้าตาแทบไม่เปลี่ยนเลยใช่ไหมละ   ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย อิอิ!! มาแค่ภาพอย่างเดียวคงไม่พอ ถ้าอย่างนั้นเหมียวขอจัดเพลงเบาๆ ของพวกเขาให้ฟังสักหน่อยก็แล้วกัน ฮี่ๆ   ที่มา : kapook

ถ้าจะพูดถึงชื่อ แหม่ม หรือ พี่หนูแหม่ม สุริวิภา กุลตังวัฒนา ชื่อว่าหลายๆ คนคงจะรู้จักเธอเป็นอย่างดี เพราะพี่หนูแหม่มเป็นสาวร่างอวบ อารมณ์ดี๊ดี ที่มีดีกรีเป็นถึงนักแสดง และพิธีกรชาวไทยที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ และนอกจากเธอจะมีความสามารถมากมาย ในด้านการทำงานในวงการบันเทิงแล้ว อีกสึ่งหนึ่งที่หลายคนเห็นแล้วจะต้องทึ่งในความสามารถสุดพิเศษของเธอก็นั่นคือ การเล่นโยคะท่ายากฝุดๆ แบบนี้…     โอ้ววววว ลีลาช่างเหลือร้าย ขนาดแมวอย่างเหมียวยังทำไม่ได้เลย งานนี้ขอชิดซ้ายให้เลยฮะ   ซึ่งก่อนหน้าที่เธอจะมาเริ่มเล่นโยคะ พี่หนูแหม่มเคยออกมาเผยว่า เธอได้เล่นโยคะเพื่อบำบัดร่างกายมาประมาณ 5 เดือนแล้ว ซึ่งน้ำหนักของเธอลดลงถึงไป 6 กิโลกรัมเลยทีเดียว     นอกจากนี้เธอยังได้เข้าร่วมโครงการลดน้ำหนักซึ่งเป็นโครงการเดียวกับที่แจ๊ค แฟนฉันได้เข้าร่วม นั่นก็คือ โครงการลดน้ำหนักภายใน 60 วัน  (#60daychallenge) นั่นเอง     ที่สำคัญพี่หนูแหม่มยังได้ชวน บ๊อบบี้ โรเบิร์ต สามีสุดที่รักของเธอมาเล่นโยคะร่วมกันอีกด้วย   ทั้งคู่มุ่งมั่น และตั้งใจมากเลยนะเนี่ย สุดยอด!!   บอกเลยว่าลีลาท่าทางของเธอสุดยอดจริงๆ แถมยังสามารถเล่นท่ายากได้แบบโคตรชิวอีกด้วย…

กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าจับตามองอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับแกรนแคนยอนคีรี ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เพราะเป็นแอ่งน้ำที่มีทะเลสาบอันสวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวอยากจะไปสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก     แต่เนื่องจากยังไม่มีอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยแบบเต็มรูปแบบ นายนพคุณ แซ่ตั๊น กำนัน ต.ห้วยกะปิ จึงได้ออกมาประกาศให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังตัวในการลงไปถ่ายภาพ เพราะอาจเกิดอันตรายได้     แต่ถึงแม้จะมีป้ายเตือนติดไว้มากมาย แต่ก็ยังคงมีประชาชนจำนวนมากแห่กันไปท่องเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสาย     ทั้งนี้เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้ทวิตเตอร์ @LOMTaLay_BB พร้อมกับข้อความว่า “การรถไฟฯ ประกาศเตือนเป็นพื้นที่อันตราย แต่คนยังเข้ามาเที่ยว มาถ่ายรูปกันคึกคัก #แกรนด์แคนยอนชลบุรี”         ใครจะไปเที่ยวก็ระวังหน่อยนะจ๊ะ หรือถ้าใครไม่รีบ ก็รอให้เขาสร้างที่กั้นอะไรให้เรียบร้อยก่อนก็ได้นะ ที่มา ประชาชล

เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของคุณ Worawit Sosut ได้เผยแพร่ภาพของระเบียงหอสมุดปรีดี พนมยงค์ ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมกับระบุว่ามีหญิงสาวตกจากระเบียงดังกล่าว คาดกันว่าน่าจะเป็นการลื่นตกลงมาเอง     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “ล่าสุดมีคนตกจากระเบียงนี้ลงไปข้างล่างครับ ตอนนี้กำลังเรียกรถพยาบาล ขออนุญาตไม่ถ่ายรูปคนตกนะครับ ให้เกียรติคนเจ็บ ตอนนี้รถพยาบาลยังไม่มาเลย ล่าสุดรถโรงบาลมารับออกไปแล้ว ญาติบัณฑิตพรุ้งนี้ระวังด้วยนะครับ”     ในช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงของการรับปริญญาของมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ หากนิสิตนักศึกษาคนไหนอยากจะถ่ายภาพสวยๆ งามๆ เก็บไว้ดูแล้วล่ะก็ ขอให้ระมัดระวังตัวกันนิดนึงนะ ไม่งั้นอาจเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ก็เป็นได้ ที่มา Worawit Sosut  

กำลังกลายเป็นที่พูดถึงของชาวเน็ตในขณะนี้เลย สำหรับสาวสวยของน้องน้ำใส ลูกสาวบุญธรรมของแอนนา ชวนชื่น น่ารักชนิดที่สามารถเป็นนางเอกได้สบายๆ เลยทีเดียว     ในช่วงแรกนั้นมีหลายๆ คนเข้าใจผิดว่าน้องน้ำใสนั้นเป็นเมียเก็บของคุณแอนนาชวนชื่น จนเจ้าตัวต้องออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าแท้จริงแล้วน้ำใสเป็นลูกสาวบุญธรรมของเขานั่นเอง     โดยเมื่อไม่นานมานี้ทางรายการตื่นมาคุย ของวู้ดดี้ ทางช่อง Mcot ก็ได้เชิญทั้งสองมาร่วมพูดคุยกันในรายการ โดยแอนนาบอกว่าทั้งคู่เจอกันระหว่างถ่ายทำหนังเมื่อหลายปีก่อน โดยน้องน้ำใสเข้ามาขอเป็นลูกสาวบุญธรรม ซึ่งคุณแอนนาเห็นว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องเสียหายจึงตอบตกลง     ทั้งนี้น้องน้ำใสยังเผยด้วยว่าคุณแอนนาได้สอนเรื่องการใช้ชีวิต การแสดง แถมยังดูแลอย่างดี         ตามไปฟอลโล่ว IG เธอได้ที่ naam_tharanasorn เลยนะจ๊ะ >< ที่มา naam_tharanasorn , khaosod

ทุกครั้งที่มีข่าวว่าใครได้รับความเดือดร้อน เป็นต้องมีเหล่ามิจฉาชีพออกมาฉวยโอกาสนี้เพื่อกอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวเองทุกที อย่างล่าสุดกับกรณีของดาราหนุ่ม ปอ ทฤษฎี ที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกจนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล   แต่ก็ยังไม่วาย มีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นแฟนคลับหรือคนในครอบครัว ออกมาเรี่ยไรเงินเพื่อนำไปช่วยสมทบทุนค่ารักษาตัวของดาราหนุ่ม แต่ความจริงแล้วกลับนำเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง     จนเฟซบุ๊กเพจ ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ ทนไม่ได้ ต้องออกมาแสดงตัวและแจ้งให้แฟนๆ ทราบว่าไม่มีการเรี่ยไรเงินใดๆ ทั้งนั้น หากพบเจอกรณีแบบนี้อีกให้แจ้งความทันที     หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้เหล่าเพื่อนๆ ดาราอย่างเช่นคุณตุ๊กกี้ ชิงร้อยและคุณท็อป ดารณีนุช ช่วยกันกระจายข่าวเพื่อให้เหล่าแฟนคลับไม่ถูกมิจฉาชีพหลอกนั่นเอง     หากแฟนคลับคนไหนห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวของหนุ่มปอแล้วล่ะก็ หมดห่วงได้เลย เพราะก่อนหน้านี้ทางช่อง 3 ได้ออกมาประกาศแล้วว่าจะดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลเอง ตอนนี้เรามาเอาใจช่วยให้เขาพ้นขีดอันตรายดีกว่านะ ที่มา ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พล.ต.ต. มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมนาย ทิวา รังแก้ว วัย 35 ปี ในตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่   นายทิวา เป็นผู้ต้องหาในคดีวิ่งราวกระเป๋านางสาวรวินพร วงค์วรกุล อายุ 24 ปี แอร์โฮสเตสสายการบินแอร์เอเชีย โดยนายทิวาได้ใช้จักรยานยนต์ไร้ป้ายทะเบียนขับขี่เข้าไปหาเหยื่อและฉกเอากระเป๋ายี่ห้อ Celine มูลค่ากว่า 80,000 บาท     พร้อมกับ iPhone 6s มูลค่า 32,000 บาท เงินสดจำนวน 2,000 บาท และเอกสารส่วนตัว รวมมูลค่าแล้วกว่า 1 แสนบาท โดยนายทิวาให้การกับตำรวจว่าตนเองได้หยิบเพียงเงินสด 2,000 บาทออกมาและโยนกระเป๋าทั้งหมดทิ้งไป เพราะคิดว่าไม่มีค่า   ทั้งนี้ นายทิวาเพิ่งพ้นโทษจำคุกในข้อหาลักทรัพย์มาเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และใช้ชีวิตเร่ร่อนไปเรื่อยๆ เลยตัดสินใจกลับมาลักทรัพย์อีกครั้ง    …

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ อ.แบงค์ สื่อกรรมสื่อวิญญาณ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีของนักแสดงหนุ่ม ปอ ทฤษฎี ว่าจะรอดจากอาการป่วยอย่างแน่นอน แต่กลับถูกแฟนคลับต่อว่า เพราะคิดว่าใช้ดาราหนุ่มเป็นเครื่องมือในการโหนกระแส     ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของอ.แบงค์ ก็ได้โพสต์ข้อความถึงเหล่าบุคคลที่ไม่เชื่อเรื่องผีสางและโลกหลังความตาย ว่าหากไม่เชื่อ แนะนำให้ลองพิสูจน์ด้วย 2 วิธี 1. ลองตายดู จะได้เชื่อ! 2. หากพ่อแม่คุณตาย หรือลูกคุณตาย อย่าทำบุญให้ อย่าไปงานศพ อย่านิมนต์พระมาสวดให้พ่อแม่คุณฟัง เพราะคุณไม่เชื่อว่าวิญญาณและโลกหลังความตายมีจริงไม่ใช่เหรอ?     ทั้งนี้ยังมีการกล่าวปิดท้ายด้วยว่า “พ่อแม่คุณจากไป เผาที่ไหนก็ได้ครับ เชิงตะกอนเผาสุนัขตามวัดก็ได้ ไม่มีวิญญาณพวกเขามารับรู้หรอกจริงไหม?!”     แหม่ เจอคำแนะนำแบบนี้ เหมียวล่ะไม่กล้าพิสูจน์เลย ที่มา อ.แบงค์ สื่อกรรมสื่อวิญญาณ

เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักการเมืองฝีปากกล้า ที่พร้อมด่าทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่รู้หรือไม่ คุณชูวิทย์ มีลูกสาวแสนสวยอยู่คนหนึ่ง ที่คุณเห็นแล้วจะต้องหลงรักเธออย่างแน่นอน ต๊ะ ตระการตา กมลวิศิษฏ์ เป็นบุตรคนที่สามของคุณชูวิทย์กับคุณงามตา สุขนิรันดร์ ปัจจุบันเธออายุ 22 ปี และกำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ไปชมภาพของเธอกันเลยดีกว่า         น่ารักขนาดนี้ ขอฝากตัวเป็นแฟนคลับอีกนะฮ๊าฟ ที่มา Instragram

หากจะพูดถึงดาราสาวชาวเกาหลีที่มาอยู่เมืองไทยจนแทบจะกลายเป็นคนไทยไปแล้วอย่างสาว จียอน คงจะไม่มีหนุ่มๆ คนไหนไม่รู้จักซินะ เพราะด้วยว่าน่ารักแบบใสๆ บวกกับความขี้เล่นเป็นกันเอง ทำให้เวลาที่เธอไปปรากฏตัวที่ไหน เป็นต้องมีหนุ่มๆ แอบมองอยู่ตลอดเวลา     หากใครยังไม่รู้จักเธอ เหมียวจะขอเล่าสั้นๆ ว่า เธอมีชื่อจริงว่า ซอ จียอน เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2529 เป็นชาวเกาหลีแท้ๆ และย้ายมาอยู่เมืองไทยกับพ่อตั้งแต่ตอน 11 ขวบ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ คณะศิลปศาสตร์ เอกวิชาภาษาญี่ปุ่นธุรกิจ     วันนี้แอดเหมียวได้รวบรวมเอารูปภาพน่ารักๆ ของเธอมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันล่ะ รับรองว่าถูกใจหนุ่มๆ แน่นอนจ้า                   หากใครชื่นชอบสาวจียอนและอยากจะติดตามชีวิตของเธอแบบใกล้ชิดล่ะก็ สามารถตามไปฟอลโล่วได้ที่ IG ของเธอ queengyeon เลยนะจ๊ะ ที่มา queengyeon , kapook

เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วสมาชิกบอยแบนด์ที่โด่งดัง และมีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศไทย หนึ่งในนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นวง ’ไอน้ำ’ อย่างแน่นอน     ที่สำคัญเหมียวก็เชื่อว่าเพื่อนๆ คงจะจำภาพของ ‘ฟลุ๊ค ไอน้ำ’ นักร้องนำหนึ่งในสมาชิกบอยแบนด์ของวงไอน้ำได้เป็นอย่างดี ซึ่งในตอนนั้นหนุ่มฟลุ๊คโด่งดังเป็นอย่างมาก แถมยังเป็นไอดอลของน้องๆ นักดนตรีจากโรงเรียนมัธยมหลายต่อหลายคนอีกด้วย     และเมื่อวันเวลาผ่านไปนักร้องหนุ่มผมยาว เสียงแหบอันทรงเสน่ห์ที่เราได้ยินจนคุ้นหูนั้น ปัจจุบันเขาจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนกันนะ ใครที่อยากเห็นภาพในปัจจุบันของหนุ่มฟลุ๊ค ในวันนี้เราได้นำมาให้ชมกันแล้ว   แต่ก่อนอื่นเหมียวจะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพย้อนวันวานของหนุ่มฟลุ๊คกันก่อนจ้า   หลงรักคนมีเจ้าของ แอบมองอยู่ทุกวัน ฮั่นแน่!! รู้นะว่าร้องเป็น >,<     และนี่ก็คือภาพปัจจุบันของหนุ่มฟลุ๊คนั่นเองงงง   ป้าดดดด หล่อขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย   ยังจำฟลุ๊คไอน้ำกันได้ไหมเอ่ย?   มาย้อนวันวานวงไอน้ำทั้งที ถ้าอย่างนั้นไปชม MV ให้หายคิดถึงกันหน่อยดีมั้ยยยย   ที่มา : kapook, ฟลุ๊ค ไอน้ำ

แม้ว่าคุณจะมีเงินซื้อรถราคาเป็นล้าน แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นตัวยืนยันว่าการขับขี่รถของคุณนั้นจะดีตามไม่ด้วยนะ อย่างเช่นข่าวที่เหมียวจะนำมาเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของคนขับรถหรูคันหนึ่งในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ที่จอดรถไม่เป็นที่เป็นทาง แถมยังขับไปเฉี่ยวคนเดินถนนอีก ทำให้ชาวเน็ตทนไม่ได้ต้องถ่ายภาพมาแฉกันเลยทีเดียว     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “ชื่อภาพ ขับรถเป็นล้าน สันดานสลึง วันนี้วันที่12/11/2558 เวลา13.00น. หน้าศูนย์เรียนรวม1 มหาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เป็นภาพรถที่จอดแบบนิ่งสนิท ถามว่าคนเดินเดือดร้อนมั้ย ตอบเลยว่าเดือดร้อน” “แต่ที่เดือดร้อนกว่าคือ ผมเดินสวนกับป้าคนหนึ่ง แล้วป้าเขาถูกรถที่ขับในเลนรถเฉี่ยว ถ้าป้าเขาบาดเจ็บขึ้นมาจะเรียกร้องค่าเสียหายกับใคร เลยอดไม่ได้ต้องถ่ายภาพมาประจาร ที่ลุงคนนึงที่กวาดขยะอยู่ตะโกนมาว่า ไอ้หนู อย่าถ่ายแต่รถมัน ไปถ่ายหน้าเจ้าของมันด้วย นั่งเก๊กหล่ออยู่ตรงนู้น” “อยากกระโดดถีบให้รถบุบแล้วบอกว่า ไม่เห็นนึกว่าทางเดิน เอาให้แม่มันยึดรถ ไม่ให้ขี่มาโชว์สาวนั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งไปเลย แล้วคนอื่นว่าไงครับ”     ดูพฤติกรรมการจอดของรถคันนี้แล้ว อาจจะเพิ่งเริ่มขับรถเป็นก็ได้นะ     เมื่อภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้ผู้คนพากันมาต่อว่าการกระทำของคนขับรถหรันอย่างมากมาย อย่างเช่นคุณ Khanin Puttatummakun กล่าวว่า “มีสมอง แค่ขับรถ แต่ไม่มีสมองในการจอดรถมาครัช” ในขณะที่คุร Fore Fighty บอกว่า…

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ณ เวลานี้ไม่ว่าจะเปิดดูข่าวจากสำนักไหนก็ตาม ก็จะต้องเห็นข่าวคราวอาการป่วยของนักแสดงหนุ่มอย่าง “ปอ ทฤษฎี” กันแบบรายชั่วโมงเลยทีเดียว เพราะเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ไม่เคยมีข่าวเสียๆ หายๆ เลย และปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างแก่สังคมมาตลอด     พอมีข่าวว่านักแสดงหนุ่มป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล ก็ทำให้แฟนๆ ต่างพากันออกมาแสดงตัวและให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม แต่ก็มักจะมีคนบางกลุ่มฉวยโอกาสจากสถานการณ์ดังกล่าว     เช่นกรณีล่าสุดที่เพจดังอย่าง หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ ที่ออกมาจวกเพจ Easy Pass ถึงการดึงเอาตัวนักแสดงที่กำลังป่วยมาเกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์ โดยมีข้อความให้กำลังใจหนุ่มปอ พร้อมกับบอกรายละเอียดที่หนุ่มปอมาใช้บริการ Easy Pass ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้วหรือ?     หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้มีชาวเน็ตจำนวนมากพากันแสดงความคิดเห็นในเชิงต่อว่า ที่ Easy Pass ฉวยโอกาสครั้งนี้ในการโปรโมท พร้อมทั้งบอกว่าเป็นการโปรโมทที่แย่ที่สุดเลยก็ว่าได้     ที่มา หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ

เป็นเรื่องปกติเมื่อมีการจัดแข่งขันกีฬาเพื่อกระชับมิตรความสัมพันธ์ (แม้จุดประสงค์จริงๆ ก็ว่างั้นก็เถอะ) หนึ่งสิ่งที่สร้างสีสันให้กับกองเชียร์ได้อย่างสะดุดตานั่นก็คือ ‘ฉากหลัง’ อันสวยงามและสร้างสรรค์ แต่ในคราวนี้กลับกลายเป็นตัวจุดประเด็นขึ้นมาซะงั้น     ภาพดังกล่าวนี้ไม่มีที่มาแน่ชัดว่าเกิดขึ้นที่ไหน ในจังหวัดใด ซึ่งได้มีการโพสต์ภาพผ่าน Facebook ของ สมบัติ มูลแก้ว โดยกำกับเอาไว้ว่าจังหวัดน่านมีการจัดแข่งขันกีฬา แต่ฉากหลังที่ใช้นั้นเป็นรูปทัชมาฮาล มีสัญลักษณ์อื่นๆ อีกมากมายทำไมไม่เลือกใช้ เหมือนกับเป็นการเหยียดหยาม!!   พี่น้องครับ จังหวัดน่านจะมีการแข่งขันกีฑากัน แต่ใช้รูปมัสยิดเป็นฉากหลัง อ้างว่าเป็นรูปทัชมาฮาล สมควรหรือไม่ นี่เป็นการเ… Posted by สมบัติ มูลแก้ว on Wednesday, November 11, 2015   ทั้งนี้เคยเป็นประเด็นมาก่อนหน้าที่ภายในจังหวัดน่านเกี่ยวการก่อตั้งมัสยิด จนมีการต่อต้านอย่างรุนแรง แต่สำหรับในกรณีนี้แล้ว การนำรูปภาพทัชมาฮาลมาเป็นฉากหลังสำหรับกองเชียร์กีฬาก็น่าจะมองเป็นเรื่องของความคิดสร้างสรรค์มากกว่า ที่มา : สมบัติ มูลแก้ว

หลายคนอาจจะเคยเห็นภาพดาราดังสวยๆ กันมาก็เยอะแล้ว และในวันนี้เหมียวจะขอมานำเสนอ 12 ภาพทายาทไฮโซชื่อดังเมืองไทย ที่มีหน้าตาสวย และน่ารักไม่แพ้กับดาราดังเลยละ ซึ่งแน่นอนว่าดูแค่ภาพอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตา แต่ถ้าหากใครที่ได้เห็นนามสกุลของพวกเธอ จะต้องร้องอ๋อกันแทบทุกคนแน่นอนว่าพวกเธอเป็นลูกใคร หลานใครกันบ้าง เอาละ!! เรามาดูกันเลยว่า 14 ทายาทไฮโซชื่อดังเมืองไทยจะมีใครบ้าง   1.จินนี่ – เขริกา โชติวิจิตร   2.บัว – อาภาภัทร กัญจนพฤกษ์   3.เบอร์ดี้ – ปาวา นาคาศัย   4.ชัญญ่า – ชัญญ่า ทามาดะ   5.แนน – นันทินี อัมระนันทน์   6.พอลลี่ – พรพรรณ สิทธินววิธ   7.แพรี่พาย – อมตา จิตตะเสนีย์   8.มะปราง – กิติวิชญา วัชโรทัย   9.มิ้นท์…

ในวงการถ่ายแบบ ทุกสิ่งมีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าตัวนางแบบ ค่าฝีมือของช่างภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ทั้งนี้ก็มีการถ่ายแบบเพื่อฝึกฝีมือเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็แล้วแต่ตามจะตกลงของทั้งฝั่งช่างภาพและนางแบบว่าจะมีค่าใช้จ่ายอะไรหรือไม่ เมื่อมีการทาบทามนางแบบเพื่อชวนไปถ่ายรูปเป็นกรณีศึกษา แต่นางแบบไม่ยอมไปถ่ายด้วย เนื่องจากไม่รับงานที่ไม่มีค่าตัว ปกติแล้วก็จะปฏิเสธแล้วก็จบการสนทนาไป ซึ่งฝ่ายช่างภาพก็บอกแล้วว่าชวนไปถ่าย ไม่รับก็ไม่เป็นไร ถือว่าจบการยื่นข้อตกลง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อนางแบบนั้นไม่ยอมจบเรื่องง่ายๆ เพราะรู้สึกฉุนเฉียวกับการที่ถูกเชิญไปถ่ายแบบฟรี และอยากจะให้ทางฝ่ายช่างภาพขอโทษอย่างจริงจังและจริงใจ ฝ่ายช่างภาพเองก็ขอโทษแล้วล่ะ   “ช่างภาพ-นางแบบ”————-#เข้าใจด้วยนะคับพี่ฝากมาชวน#แค่ชวนถ่ายรูปครับอะไรมากมาย#ไปไม่ไดัก้บอกเสียตังก้บอก#ขอถ่… Posted by Pakapon Vonghong on Wednesday, November 11, 2015   จนแล้วจนรอดก็ไม่จบเสียที ทางฝ่ายนางแบบจะประจานให้ถึงที่สุด แต่ด้วยภาษาที่ถ่ายทอดออกมานั้นดูรุนแรงจนเกินไป เข้าใจว่าคงอารมณ์ขึ้นแหละ แล้วชาวเหมียวมีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้างจ๊ะกับกรณีนี้? ที่มา : Pakapon Vonghong

เวลาที่คุณกำลังนั่งแท็กซี่อยู่ แล้วจู่ๆ คนขับรถแท็กซี่ก็ดันเอาบุหรี่ขึ้นมาสูบซะอย่างนั้น เหมียวเชื่อว่าหากหลายคนได้เจอกับเหตุการณ์แบบนี้ อาจจะต้องโมโห และไม่พอใจกับการกระทำแบบนี้แน่นอน     และเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ชื่อว่า chalermwut.sirikamalasai ได้ทำการแชร์คลิปวีดีโอของเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นบริเวณแยกแห่งหนึ่ง ซึ่งจากคลิปเราจะเห็นได้ว่ามีหนุ่มฝรั่งกำลังอุ้มลูกน้อยลงมาจากรถแท็กซี่ ด้วยสีหน้า และท่าทางที่ดูเหมือนว่ากำลังฉุนจัด เนื่องจากคนขับรถแท็กซี่ได้สูบบุหรี่ภายในรถ     งานนี้ทำเอาผู้โดยสารชาวต่างชาติที่กำลังอุ้มลูกอยู่ ได้ตัดสินใจลงออกมาจากรถแท็กซี่คันนั้นทันที พร้อมกับปิดประตูด้วยความโมโห     และเมื่อคลิปวีดีโอได้ถูกเผยแพร่ลงสู่โลกโซเชียล ชาวเน็ตต่างก็พากันเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมของคนขับรถแท็กซี่     ลองไปชมคลิปวีดีโอกันเลย   ที่มา : kapook

เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง หลังมีภาพพิธีการต้อนรับผู้อำนวยการคนใหม่ของโรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง ซึ่งในพิธีมีนักเรียนชายราว 10 คนถือพานดอกไม้กราบเท้าผู้อำนวยการคนดังกล่าว       โดยชาวเน็ตหลายคนได้วิจารณ์ว่า โรงเรียนเป็นสถานที่ที่สอนให้คนทุกเท่าเทียมกัน การกราบถือว่าเป็นพิธีการที่ไม่เหมาะสม เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงการแบ่งชนชั้น แต่บางส่วนก็กล่าวว่า การกราบครูบาอาจารย์ถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์     สำหรับเหมียว เหมียวก็คิดว่าการกราบเท้ามันออกจะเกินไปซักนิด ทำความเคารพกันตามสมควรก็พอแล้ว แล้วเพื่อนๆละคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง ลองเสนอกันเข้ามาดูนะเหมียว ที่มา ซักที่บนอินเตอร์เน็ตนี่แหละ ไม่ต้องรู้หรอก

โดยปกติแล้วเวลาเราอ่านเรื่องดวงจากนิตยสารต่างๆ เราก็คงจะมองหาว่าราศีของเรา เดือนนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ ซึ่งก็แล้วแต่คนว่าจะยึดหมอดูคนไหนเป็นหลัก แต่วันนี้การดูดวงของคุณจะเปลี่ยนไป เมื่อนำไปยึดด้วยผู้นำจากรอบโลก (ดูเหมือนจะเน้นไทยนะ) ในแฟนเพจ CU Polsci Open House 2015 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการโพสต์ภาพทำนายราศี โดยที่เขาได้นำเอาเหล่าผู้นำที่เกิดในราศีนั้นๆมาเทียบด้วยว่ามันตรงรึเปล่า ซึ่งหลังจากได้โพสต์ลงไป ก็ทำให้มีคนสนใจเป็นอย่างมาก   อย่างเช่น “ราศีเมษ” ก็จะเป็นคน “ทำก่อนคิด เป็นผู้นำ” ซึ่งคนที่เกิดราศีนี้คือนายปรีดี พนมยงค์นั่นเอง   หรือจะเป็น “ราศีมีน” จะเป็นคน “ช่างฝัน ไวต่อความรู้สึก” ซึ่งคนที่เกิดราศีนี้ก็คือนายกคนปัจจุบันพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา   ราศีเมถุน “รอบรู้ ขี้เบื่อ” และผู้นำที่เกิดในราศีนี้คือจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์   ราศีกันย์จะเป็นคน “บ้างาน ใส่ใจรายละเอียด” ผู้นำที่เกิดราศีนี้คือ มากาเร็ต แทรชเชอร์ อดีตนายกของประเทศอังกฤษ   ราศีธนู จะเป็น “นักปรัชญา ไม่ค่อยสนใจเรื่องรักใคร่เท่าไรนะ” และผู้นำที่เกิดในราศีนี้คือ เหมา เจ๋อตุง   ราศีราศีมังกร เป็นคน “เจ้าระเบียบ” และผู้นำก็คือ อับราฮัม…

คนเราหากจะถึงคราวตาย ก็สามารถตายกันได้ง่ายๆ เช่นเดียวกัน หากคนเรายังไม่ถึงฆาตแล้ว ต่อให้โชคร้ายแค่ไหนก็ไม่ตาย อย่างเช่นคนขับแท็กซี่คันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 11.40 น. ของวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558 เกิดอุบัติเหตุรถชน 5 คันรวดที่บริเวณแยกรัชโยธิน ตรงข้ามตึกช้าง และมีแท็กซี่คันหนึ่งถูกรถบรรทุกปูนชนจนเข้าไปอัดอยู่ใต้รถเมล์อีกคัน     ข่าวดีก็คือ คนขับรถแท็กซี่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างปลอดภัยแล้ว   น่ากลัวมากๆเลย โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต ใครที่ใช้รถใช้ถนนก็ขอให้ระมัดระวังนะฮะ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเวลาจริงๆ ที่มา Dilox Tamjaipaun

ถือเป็นสปิริตอันแรงกล้าของนักร้องสาวเสียงดีอย่าง “หญิงลี ศรีจุมพล” เลยก็ว่าได้ เพราะในขณะที่เธอกำลังจะขึ้นเวทีเพื่อทำการแสดงนั้นเอง ก็ต้องมาทราบว่าสุดเศร้าว่าคุณย่าแท้ๆ ของเธอนั้นได้เสียชีวิตลงแล้ว แต่ด้วยสปิริตทำให้เธอฝืนใจและขึ้นร้องเพลงจนจบงาน   เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ Yinglee Lalla หญิงลี ศรีจุมพล ขาขาวสาวลำซิ่ง Fanpage ได้โพสต์ภาพของหญิงลี ในขณะที่กำลังร้องไห้และบอกเล่าเรื่องราวทุกข์ใจผ่านหน้าเฟซบุ๊ก     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความที่กล่าวถึงคุณย่าผู้ล่วงลับของเธอด้วยว่า “กำลังจะขึ้นเวที ที่สโมสรทหารบก หญิงต้องเล่นให้สนุกให้งานสมบูรณ์ // เมื่อเสร็จงาน หญิงจะรีบกลับบ้านเกิด นาโพธิ บุรัรมย์ เพื่อไปหาย่า ในวาระที่ย่าบอกลูกหลานว่า ย่าไม่ไหวแล้ว”   “ระบบภายในย่าเสียหาย ในวัยชรา 85 ปี ดับหมดแล้วซึ่ง ไต หู ตา แต่จำลูกหลานดีอยู่ค่ะ เรียกหาพวกเราตลอดว่าจะไปแล้ว”     หลังจากที่ข้อความถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีแฟนๆ แห่แหนกันเข้ามาให้กำลังใจเพียบ ทำให้รู้ว่าเธอไม่ได้อยู่เพียงลำพังและพร้อมจะติดตามผลงานของเธอตลอดไป     เหมียวขอเป็นกำลังใจให้หญิงลีและครอบครัวสามารถผ่านช่วงเวลาเศร้าโศกนี้ไปให้ได้นะ ที่มา Yinglee Lalla…

หากจะพูดถึงงานแต่งงาน หลายคนก็น่าจะนึกถึงการรดน้ำสังค์ การผูกข้อมือ การตัดเค้ก คงจะไม่มีใครนึกว่างานแต่งที่มีพิธีรีตองมากมาย จะกลายเป็นงานปาร์ตี้สุดตึ๊ด ที่มีดีเจและ Mc เป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวแน่นอน   วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปดูคลิปๆ หนึ่งที่ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Camelz Kulina เป็นคลิปของคู่บ่าว-สาวขณะกำลังมิกซ์เพลงสุดตึ๊ดอยู่บนเวที พร้อมกับข้อความว่า “เป็นคู่บ่าวสาวที่เฟี้ยวที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้จะเคยพบเจอ!” ทำเอาแขกในงานถึงกับต้องลุกมาเต้นเลยทีเดียว     ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง เป็นคู่บ่าวสาวที่เฟี้ยวที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้จะเคยพบเจอ! ?? #BoyBamWedding #Pompady #BulletBwoyz #Smirnoff #NJEnjoy #Puket #Alphabeatcrew #CamelZ Posted by Camelz Kulina on 7 พฤศจิกายน 2015   แหม่ เพลงมันตึ๊ดดีจริงๆ เหมียวล่ะอยากจัดงานแบบนี้บ้างจัง ที่มา Camelz Kulina

หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้เคยมีสาวรอยสักคนหนึ่งที่ชื่อว่าน้องเลย์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนใจวัยรุ่น ที่กำลังคิดจะสัก ว่าควรจะคิดให้ดีก่อนและควรจะเตรียมรับมือกับผลกระทบที่กำลังจะตามมา ทำเอาชาวเน็ตแห่กันกดไลค์กระจาย   และล่าสุดเธอก็กลายเป็นประเด็นให้ชาวเน็ตพูดถึงอีกครั้งเมื่อมีคลิปรายการฉาวรายการหนึ่ง ที่ออกตามล่าน้ำอสุจิของชายหนุ่มกลางสยาม และขอให้หนุ่มๆ รีดออกมาเดี๋ยวนั้น โดยที่เธอเองก็เป็นหนึ่งในพิธีกรรายการนี้เช่นกัน ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์     ยกตัวอย่างเช่นคุณ Natthew Thanathon กล่าวว่า “เตรียมเปิดการ์ด #รู้เท่าไม่ถึงการณ์” ในขณะที่คุณ Malinee Saguanpiyapan ได้ตั้งข้อสังเกตุว่านี่อาจเป็นการล่วงละเมิดเด็ก “อยากถามข้อกฎหมาย เด็กผู้ชายหลายคนในคลิปอายุแค่ 16-17 ไม่ใช่หน้าม้าด้วย”   “การเข้าไปรุมขออสุจิ ไม่แน่ใจว่าเข้าข่าย child abuse มั๊ย และการถ่ายหน้าเด็กชัดเจนออกทีวีโดยที่ผู้ปกครองไม่อณุญาติไม่ทราบว่าพ่อแม่เค้าเอาเรื่องได้มั๊ย”     แต่วันนี้เหมียวไม่ได้จะมาพูดถึงตัวรายการนะ เพราะคงมีคนพูดถึงไปหมดแล้ว แต่เหมียวจะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพความน่ารักของน้องเลย์ หนึ่งในพิธีกรและไอดอลสาวของใครหลายๆ คนกัน เหมียวล่ะกรี๊ดเลย                      …

แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางตอนใต้ของประเทศไทยนอกจากจะมีทะเลสวยๆ เกาะงามๆ แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญก็คือแนวปะกางรังต่างๆ ที่อยู่ตามเกาะนั่นเอง ด้วยความสวยงามและเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวอยากจะสัมผัส จึงทำให้เรือพานักท่องเที่ยวออกไปชมปะการังเป็นจำนวนมาก     และด้วยความสนใจของนักท่องเที่ยวที่มีมากจนไม่อาจควบคุมจำนวนได้ เพราะใครๆ ก็อยากไปชมปะการังสวยๆ รวมไปถึงทัวร์ต่างๆ ที่ต้องการพานักท่องเที่ยวไปชมให้ได้มากที่สุดเพราะจะสามารถทำเงินได้มากโข แต่กลับกลายเป็นการทำร้ายปะการังเหล่านี้แทน และเรื่องราวต่อไปนี้ถูกเปิดเผยมาจากคุณ Thon Thamrongnawasawat     เนื่องจากการเข้าไปในจุดชมปะการังนั้น เรือต้องจอดและปล่อยให้นักท่องเที่ยวชมปะการังอย่างใกล้ชิด ก็เลือกที่จอดใกล้กับแนวปะการังจนมากเกินไป ความมักง่ายในการเลือกที่จอด ปล่อยสมอลงทะเลไปโดนปะการังบ้าง จากนั้นนักท่องเที่ยวก็กระโดดลงน้ำตู้ม     ด้วยคำแนะนำของไกด์หรือความกลัวของนักท่องเที่ยวกับการมาชมปะการังอย่างใกล้ชิดอาจจะครั้งแรกหรือครั้งต่อๆ ไปแบบนี้ เป็นธรรมดาที่จะกลัวจมน้ำ ก็เลยต้องที่พื้นที่ยืนเอาไว้ก่อน แล้วในทะเลไม่ค่อยมีพื้นที่จะให้ยืนซักเท่าไหร่ ผลสุดท้ายก็ไปยืนบนปะการัง จากความไม่รู้และคิดว่าคงไม่เป็นอะไร     ไม่ว่าจะทั้งนักท่องเที่ยวไทยหรือต่างชาติก็ลงเอยเหมือนกันหมด เท้าจากนานาชาติรุมเหยียบย่ำ ทั้งเท้าคนและเท้ากบ จนทำให้เกิดเป็นรอยช้ำจนลามเป็นบาดแผลเรื้อรัง ปะการังน้อยๆ ไม่อาจต้านทานเท้านานาชาติไหว จนกลายมาเป็นศพที่ไม่มีความสวยงามอีกต่อไป     ซึ่งจากกรณีแบบนี้นอกจากจะทำให้ปะการังอันสวยงามหายไปแล้ว ยังส่งผลทำให้ปลาเล็กปลาน้อยไม่มีแหล่งที่อยู่อาศัย หนีออกไปในแถบน้ำลึกและไม่อาจรอดชีวิตไปจากอวดหาปลาหรือไม่ก็กลายเป็นอาหารของสัตว์น้ำที่ตัวใหญ่กว่า     ทั้งนี้ก็ควรที่จะช่วยกันรักษาความงดงามใต้ท้องทะเลนี้ไว้ ก่อนที่มันจะสายเกินไป รณรงค์ให้จอดเรือไกลๆ จากแนวปะการัง…

เหมียวก็ไม่รู้ว่าทำไม ช่วงนี้ก็เรียกได้ว่ามีข่าวแนวนี้ออกมาบ่อยเหลือเกิน เกี่ยวกับการใช้อำนาจนอกเหนือหน้าที่ของเหล่าทหารและตำรวจ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าฮีโร่ของปวงประชา เมื่อทางเพจ Thailand Police Story ได้มีการรายงานถึงเหตุการณ์ “ทหารต่อยตำรวจ” ระหว่างการตั้งด่านตรวจเป่าวัดค่าแอลกอฮอล์ บนถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ   ภาพเหตุการณ์จากเพจ ข้อความจากทางเพจ ‘ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ 8 นาย กำลังตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์บนถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ มีรถยนต์ BMW คันหนึ่งท่าทางมีพิรุธ พยายามจะเลี้ยวหลบหนีจุดตรวจ ร.ต.ท.สมคิด พิมพ์เงิน จึงได้แสดงตัวขอให้จอดรถ แต่พันจ่าอากาศโท กัมปนาท จันทรเดชาคล อายุ 27 ปี (เสื้อสีเทา) คนขับกลับแสดงท่าทีไม่พอใจที่ถูกเรียกตรวจและแสดงตัวว่าตนเป็นทหารอากาศ สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย จนเกิดการโต้เถียงอย่างหนัก และกระชาก ร.ต.ท.สมคิด จนศรีษะกระแทกกับตัวรถ และต่อยที่ศรีษะอีก 2-3 ครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าห้ามปรามและควบคุมตัวพันจ่าอากาศโท กัมปนาท ไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ค่า 48 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น (ไม่เกินที่กฎหมายกำหนด) จึงแจ้งข้อกล่าวหาแก่พันจ่าอากาศโท กัมปนาท ต่อสู้ขัดขวางและทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่งตัวดำเนินคดีต่อไป’  …

เราอาจได้ยินข่าวไม่ดีๆ เกี่ยวกับตำรวจมาเยอะ ทำให้หลายๆคนนั้นเริ่มเสื่อมความศรัทธาในเหล่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่ไม่ว่าเรื่องราวใด ก็ล้วนมีสองด้านเสมอ อย่างเรื่องดีๆของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เหมียวนำมาให้ชมวันนี้ รับรองว่าเพื่อนๆต้องประทับใจอย่างแน่นอน เรื่องราวมีอยู่ว่า เจ้าของเฟสบุ๊ค Nnachcha Wannapokin ได้จอดรถมอเตอร์ไซค์ของตนบริเวณหน้าห้างแห่งหนึ่ง แล้วเข้าไปซื้อของ หลังจากเธอกลับมา เธอพบว่ามอเตอร์ไซค์ของเธอถูกตำรวจล็อคล้อ ในขณะที่เธอกำลังตกใจอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามาชี้แจงว่า เป็นการล็อคเพื่อป้องกันการขโมยรถ เนื่องจากแถวนั้นเกิดเหตุรถหายอยู่บ่อยๆ ตำรวจจึงเข้ามาดูแล ซึ่งเป็นนโยบายของสถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชย 1 โดยมีคำขวัญว่า “ท่านไม่ล็อค เราล็อคให้ รถจักรยานยนต์ท่าน เราดูแล”       เมื่อชาวเน็ตได้ฟังเรื่องราวดีๆแบบนี้ ก็เข้ามาแสดงความชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจกันอย่างมากมาย       ทำดีแบบนี้ต้องชื่นชมครับ ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ต่อไปนะครับ ^^ ที่มา Nnachcha Wannapokin

ในทุกสังคมและทุกอาชีพ มักมีคนดีและคนเลวปะปนกันไปนะ ไม่เว้นแม้แต่สังคมของนักถ่ายภาพก็มีให้เราได้เห็นเช่นกัน ล่าสุดแอดเหมียวไปเจอกระทู้เตือนภัยจากสมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่า ifine เขาได้เข้ามาตั้งกระทู้เตือนภัยเกี่ยวกับช่างภาพสุดหื่นรายหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา   โดยเจ้าของกระทู้ได้เล่าถึงพฤติกรรมของช่างภาพรายนี้ว่า มักจะชอบชวนนางแบบสาวไปถ่ายภาพเซ็กซี่ แต่เมื่อไปถึงกลับถูกช่างภาพรายนี้ลวนลาม (มีหนักสุดคือบังคับให้จับอวัยวะเพศเลยทีเดียว)       และไม่เพียงเท่านั้น ช่างภาพรายนี้ยังแสดงพฤติกรรมหื่นๆ ใส่นางแบบสาวไปทั่วหาดใหญ่ จนแต่ละคนทนไม่ได้ ต้องแคปภาพหน้าจอเอามาประจานกันเลย ลองไปชมภาพกัน                       เหมียวก็ขอเอาเรื่องนี้มาเตือนสาวๆ ที่หาดใหญ่และบริเวณใกล้เคียงด้วยนะ ว่าหากจะรับงานก็ให้ระมัดระวังตัวให้ดีๆ นี่ดีนะเนี๊ยะไม่มีการเปิดเผยหน้าหรือชื่อของช่างภาพคนนี้ออกมา ไม่งั้นเรื่องอาจบานปลายกว่านี้ หากรู้ตัวก็รีบกลับใจซะนะ ที่มา ifin

ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าความนิยมชมชอบในผิวพรรณขาวผ่องใสนั้นอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นว่าอยากมีผิวขาวใสจนหลับหูหลับตา เห็นโฆษณาผลิตภัณฑ์อะไรก็ช่าง แค่อ้างว่ามีคุณสมบัติทำให้ผิวขาวได้ ก็หลงเชื่อซื้อมาใช้โดยที่ไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน     ล่าสุดนี้มีการโฆษณาผลิตภัณฑ์ให้ความขาวตัวใหม่ที่กำลังมาแรงเป็นอย่างมาก มันก็คือ ‘สบู่อสุจิแซลม่อน’ โดยกล่าวอ้างสรรพคุณผิวเผินว่า เป็นสารให้ความขาวที่ดีที่สุดในโลก ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ทั้งสิ้น แถมยังผ่านมาตรฐาน อย. อีกต่างหาก จนทำให้มียอดขายพุ่งสูงมากถึงหลักแสนก้อนเลยทีเดียว     แต่ก่อนที่จะเชื่อสรรพคุณอันสุดยอดของสบู่อสุจิแซลม่อนนี้ ทางเพจ Drama-addict ก็ได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับสรรพคุณที่แท้จริงของอสุจิแซลม่อน กล่าวคืออสุจิแซลม่อนเป็นของเสีย นิยมนำมาใช้เป็นตัวทำละลายสำหรับห้องทดลอง และในอนาคตมีแนวโน้มว่าจะนำไปใช้บำบัดน้ำเสียได้ด้วย ทั้งนี้ไม่มีส่วนช่วยทำให้ผิวขาวแต่อย่างใด   มีคำถามจากทางบ้านเข้ามาว่า อสุจิแซลม่อน นี่มันเมพแบบที่โฆษณาสบู่ผิวขาวที่อ้างว่ามีอสุจิแซลมอนเป็นส่วนผสมเขาอ้างว่าใช้ปุ๊… Posted by Drama-addict on Friday, November 6, 2015   ทางผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาว่าสบู่อสุจิแซลม่อนช่วยทำให้ผิวขาวได้จริงๆ ก็ได้งัดงานวิจัยต่างๆ เอามาสู้แบบไม่ยั้ง แต่ผลสุดท้ายก็คือเป็นการทดลองสารสกัดจากอสุจิแซลม่อน ช่วยในเรื่องของเพิ่มความชุ่มชื้น ความเต่งตึง ลดรอยเหี่ยวย่น โดยไม่เกี่ยวข้องกับความขาวของผิวเช่นเดียวกัน   มีคนออกมาแย้งเรื่องอสุจิแซลมอนบอกว่ามันใช้ทำให้ผิวขาวได้จริงๆนะเว้ย ไอ้พวกที่บอกว่าไม่มีงานวิจัยอ่ะมันโชวโง่ แล้วไอ้คนนี… Posted by…

จากที่เคยมีประเด็นผุดขึ้นมาเป็นกระทู้ในพันทิปจากข่าว ‘เอ๊ะ ยังไง!? ตั้งใจให้เหมือนหรือว่าคิดไปเอง เมื่อปฏิทินช่องน้อยสีดันไปคล้ายกับเกาหลีใต้’ เมื่อภาพถ่ายของเหล่าดารานั้นมันช่างจะคล้ายและเหมือนกับศิลปินเกาหลีใต้ซะเหลือเกิน     เมื่อกระแสเริ่มกระจายออกไปในวงกว้าง แน่นอนว่าเกิดคำถามขึ้นมากมาย แต่เหตุใดกลับไม่มีการชี้แจงใดๆ จากทางต้นสังกัดเลย จนกระทั่งสื่อต่างๆ ได้ไปสอบถามกับ มาริโอ้ เมาเร่อ ว่าประเด็นที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างที่หลายคนสงสัยรึเปล่า และรู้สึกอย่างไรกับกระแสตอบรับที่ออกมา   โดยมาริโอ้ก็ตอบคำถามในประเด็นต่างๆ ดังต่อไปนี้   ตอนนี้มันมีกระแสข่าวในอินเตอร์เน็ตวิจารณ์ว่าปฏิทินช่องเราเหมือนจะไปก็อปงานเกาหลี ? “ก็อปเกาหลีเหรอครับพี่ เอ่อ…ผมคิดว่ามันอาจจะมีอะไรคล้ายๆ กันมากกว่าอันนี้อาจจะต้องรอดู แต่ปฏิทินช่อง 3 เราไม่ธรรมดานะครับ ปีนี้มีทั้งแบบตั้งโต๊ะและก็แบบแขวนด้วย ถ้าไม่ซื้ออาจจะถือว่าพลาด”   ส่วนตัวเราเองได้มีโอกาสเป็นปฏิทินบ้างหรือยัง ? “ได้เห็นครับ คือโอ้มองว่าบางทีมันอาจจะมีอะไรคล้ายๆ กันบ้าง แต่อันนี้ผมไม่อยากให้ทุกคนไปซีเรียสเนอะ เพราะตัวปฏิทินที่ออกมามันก็มีแนวทางเป็นของตัวเองและที่สำคัญแต่ละเดือนมันก็ไม่ได้ซ้ำกันด้วย”   แต่ในอินเตอร์เน็ตเขาก็มีการเอามาเปรียบเทียบความเหมือนแบบภาพต่อภาพเลยนะ ? “เอ่อ…อย่าซีเรียสเลยครับพี่ ผมคิดว่ามันก็เป็นไปได้ที่อาจจะมีอะไรคล้ายๆ กัน แต่ที่สำคัญคือเราทำด้วยใจไง และมันก็กำลังจะออกแล้วด้วย เราถ่ายไปแล้ว อีกอย่างเลยกว่าจะได้คิว ณเดชน์ หมาก มาลงตัวมันไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะครับ”  …

เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของเจ้าหน้าที่ตำรวจสุดเมารายหนึ่ง ที่ถูกจับด่านตรวจแอลกอฮอล์และมีท่าทีปฏิเสธ ละแสดงอำนาจว่าตนมียศสูงเทียบเท่าผู้การฯจังหวัด พร้อมทั้งพูดด้วยว่า “เมื่อกี้ใครตรวจผม..ผมเป็น รองผู้กำกับ ป. เชียวนะ…” ลองติดตามข่าวเดิมกันได้ที่นี่ ตำรวจกร่างด่านแอลกอฮอล์ ยังไม่พอ แถมบุคลดังกล่าวได้อ้างตัวว่า ตัวเองเป็นถึง รองผู้กำกับ ป.สภ.เคียนซา และยังเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับผู้การจังหวัดด้วยซึ่งพอตรวจสอบก็พบว่า บุคคลดังกล่าวเป็น นายตำรวจจริง ยศ รอง ผกก. แต่อยู่ระหว่างรักษาราชการการ รอง ผกก.สส. ที่โรงพักแห่งหนึ่ง   และจากเหตุการณ์ที่บุคลดังกล่าวมาโวยวาย ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาต่อว่า   โดยเหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ ร.ต.อ. อาคม ศรีณวัตน์ รอง สวป.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ จึงได้ตรวจค้นรถของนายตำรวจคนดังกล่าว จากนั้นพบว่านายตำรวจคนดังกล่าวซึ่งมีอาการมึนเมานั่งอยู่เบาะข้างคนขับ มีผู้ขับขี่รถให้ เมื่อถูกเจ้าหน้าที่เรียกและแสดงตัวของตรวจค้น นายตำรวจรายนี้ได้แสดงความไม่พอใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งยังใช้วาจาไม่สุภาพ   เหตุการณ์ที่มีนายตำรวจเข้ามาต่อว่าการที่ พ.ต.ท. ไปเอาเรื่องกับอาสา   พอเรื่องทราบไปถึงหูของ พล.ต.ต.…

ใกล้จะได้ชมกันแล้ว สำหรับละครรีเมคเรื่อง “อังกอร์ 2016” ที่คราวนี้ย้ายมาอยู่ภายใต้ชายคาของช่อง 3 โดยการดูแลของ กัญจน์ ภักดีวิจิตร ทายาท อาหลอง โดยการกลับมาคราวนี้เป็นการรีเมค ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการเปลี่ยนนักแสดงแบบยกชุด     ตั้งแต่บทพระเอกนางเอก ไปยันบท “ผา นักปิ้งไก่ในตำนาน” ซึ่งบทนี้เคยเป็นของกัญจน์มาก่อน แต่เนื่องจากเปลี่ยนมาเป็นผู้จัด เลยต้องหานักแสดงคนใหม่มาแทน และบทนี้ก็ตกเป็นของ นิว นริศสันต์ คนนี้นี่เอง   เปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ระหว่างนักปิ้งไก่ในต้นฉบับและนักปิ้งไก่เวอร์ชั่นใหม่ ใครเด็ดใครแซ่บกว่ากัน?     ไม่น้าาาา เหมียวจะเอาคนปิ้งไก่คนเดิ๊มมมมมมม   ที่มา sanook

สำหรับเรื่องราวนี้ออกจะสะเทือนใจกันซักหน่อย แต่เหมียวก็อยากจะแชร์เรื่องนี้ออกไปให้เพื่อนๆ ได้รับรู้กัน เกี่ยวกับ”เจ้าบุญมี” สุนัขพันธุ์พิทบลู ที่เจ้าของทอดทิ้งให้มันตาย “เจ้าบุญมี” สุนัขพันธุ์พิทบลู ที่เจ้าของเดิมเอาจอบจามหัว แล้วทอดทิ้งให้มันตาย แต่โชคดีมีผู้ใจดี คุณติ @Thitipong Tannoi ไปเจอกับมันเข้าให้ แล้วมอบชีวิตใหม่ให้กับมัน   เจ้าบุญมี ข้อความจากคุณติ  ‘ บุญมีเป็นหมาที่ฝรั่งซื้อมาเลี้ยงได้หกเดือน เลิกกับเมียแล้วย้ายบ้าน. เลยให้คนข้างบ้าน คนที่รับบุญมีมาก็ไม่มีเวลาดูแล(เค้าบอกผมแบบนี้) เป็นโรคผิวหนังหมดทั้งตัว อาหารก็ไม่ได้กินจนล้มเดินไม่ได้ร้องทั้งวันทั้งคืน เจ้าของใหม่เลยใช้จอบขุดดินจามหัวไปสองทีกะให้มันตายแล้วเอาใส่กระสอบใส่น้ำแข็ง(สีขาว)มาทิ้งขยะกลางดึกของวันลอยกระทงปี56 พอตอนเช้าผมเลยเดิดตามเสียงร้องไปที่ถังขยะ เพราะคิดว่าหมาโดนรถชนรึป่าว ก็เจอหางของมันโพล่ออกมา ผมเลยอุ้มขึ้นรถไปโรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยขอนแก่น. รักษาทุกอย่างที่เค้าบอกว่าดีผมลองมาหมด มาจบที่ยาฉีด ผมต้องอุ้มบุญมีขึ้นรถไปฉีดยาที่คลีนิคทุกอาทิตย์ จนสภาพเป็นแบบนี้แหละครับ ‘   เจ้าบุญมีที่เจอตอนแรกมีน้ำหนักเพียง 12 กิโลกรัมเท่านั้น ‘…ขาดสารอาหารจนกล้ามเนื้อลีบเดินไม่ได้เป็นเดือน ต้องหัดเดินใหม่ครับ ขนก็ไม่มีล้มแต่ละทีเป็นแผลเลือดไหลเลย รักษาอยู่จนครบสองปี จนอายุสามปีหน่อยๆ เจ้าบุญมีไม่ดุ ไม่ต้องขังปล่อยให้เดินเล่นในซอยคนรู้จักหมด ที่บ้านเป็นหอพักด้วยไม่มีปัญหากับคน วิ่งไล่แมวนิดหน่อยตามประสาของเขานะครับ’ คุณติกล่าวเสริม   “ผมรู้มาว่าพิทบูลมีเจ้าของแค่คนเดียวแต่สำหรับบุญมี ‪#‎มันตายแทนผมได้‬ “   ผ่านการรักษาโดยคุณติ…

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Wirat Sawangarom‎ เป็นภาพของเด็กนักเรียนชั้นมัธยม ขณะขับขี่มอเตอร์ไซค์ของตำรวจจราจร จอดติดสี่แยกไฟแดงรายหนึ่งโดยไม่สวมหมวกกันน็อค พร้อมกับข้อความว่า “ลูกใครหว่า”     หลังจากภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันสงสัยว่าเด็กหนุ่มนั้นเป็นลูกหลานใคร? ทำไมถึงมีอภิสิทธิ์มากกว่าคนทั่วไป แถมยังไม่สวมหมวกอีก ทั้งที่เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องนัก     ……… ที่มา kapook

กลายเป็นภาพที่ชาวเน็ตกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับภาพของโถปัสสาวะสุดมักง่าย ในงานบางแสนไบค์วีค จังหวัดชลบุรี ที่ไม่มีการกักเก็บของเสียแต่กลับปล่อยลงสู่ทะเลโดยตรง ทำให้ชาวเน็ตถึงกับทนไม่ได้จนต้องถ่ายภาพมาแฉลงในเฟซบุ๊ก     เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Suriya Musketeer เป็นภาพงานออกแบบโถปัสสาวะที่จัดขึ้นที่งานบางแสนไบค์วีค แหลมแท่น บางแสน เมื่อวันที่ 6-7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา     โดยภาพโถปัสสาวะนั้นถูกออกแบบมาให้มีรูปร่างคล้ายกับหญิงสาวกำลังอ้าขาอยู่ แถมยังต่อท่อตรงปล่อยของเสียลงสู่ทะเล ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก         งานนี้หวังว่าผู้จัดงานคงจะได้รับบทเรียนในการจัดงานครั้งต่อๆ ไปแล้วล่ะนะ ยังไงก็ขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาธรรมชาติและความสะอาดกันด้วยนะจ๊ะ ที่มา Suriya Musketeer

ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสทางการศึกษาได้เป็นอย่างดี สำหรับนักเรียนหรือนักศึกษาที่ไม่มีเงินทุนสำหรับการใช้จ่ายในการเล่าเรียน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน ค่าเทอมหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเลยล่ะ     ทั้งนี้การกู้ยืมเงินจาก กยศ. นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด จึงทำให้มีจำนวนผู้กู้ยืมเป็นจำนวนมาก และสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นก็ตามมา นั่นก็คือการไม่ชำระหนี้หลังจากจบการศึกษาและมีงานทำแล้ว     โดยมีการเปิดเผยจากทาง กยศ. ว่า ณ ขณะนี้มียอดผู้ที่ครบกำหนดและอยู่ระหว่างชำระหนี้ 2,185,133 ราย ค้างชำระหนี้อีก 1,205,626 ราย โดยกำลังทำการเร่งติดตามอยู่ ซึ่งสาเหตุหลักของผู้ที่ไม่มาชำระหนี้ก็คือไม่มีงานทำจึงทำให้ไม่มีเงินมาชำระหนี้ และอีกหนึ่งสาเหตุก็คือ มีงานทำและมีเงินเดือน แต่ตั้งใจที่จะไม่ชำระหนี้     ทั้งนี้สถิติสาขาที่มีผู้ค้างชำระมากที่สุดก็ได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว นั่นก็คือ กลุ่มสาขาสังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศึกษาศาสตร์ โดยรวม 72% กลุ่มสาธารณสุข/พยาบาลอีก 57% และกลุ่มแพทย์ศาสตร์อีก 51% จะเห็นได้ว่าจำนวนเกินครึ่งทุกกลุ่ม     เหมียวว่าการที่มีผู้เบี้ยวหนี้เยอะขนาดนี้อาจจะเป็นเพราะรุ่นพี่บอกต่อรุ่นน้องว่าไม่จำเป็นต้องชำระก็ได้ หรือไม่ก็ผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ หรือเห็นยอดหนี้ที่เยอะเกินจนไม่อยากจะจ่าย ทั้งที่ดอกเบี้ยก็ไม่ได้สูงเลย ถ้าขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ รุ่นน้องก็จะไม่มีเงินกู้เรียนอย่างแน่นอน…

เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆ ในเรื่องของความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว โดยปกติแล้วหากเด็กที่เกิดมานั้นก็ต้องอยู่กับแม่แท้ๆ ของตัวเอง แต่ทว่าในกรณีนี้ตัวเด็กกลับถูกขโมยไปจากโรงพยาบาลขอนแก่นเมื่อ 4 ปีก่อน หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยทั้งตัวเด็กและผู้ที่ลักพาตัวเด็ก     จนกระทั่งมีเบาะแสพิรุธจากสูติบัตรของเด็กรายหนึ่งที่คุณปู่พามาสมัครเข้าโรงเรียนใน จ.ชัยภูมิ ตรวจสอบแล้วคือเด็กที่ถูกลักพาตัวไปเมื่อ 4 ปีก่อน จึงนำไปสู่การจับกุมตัวนางอัญชุลี ชิดขุนทด อายุ 32 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ โดยสารภาพว่าตนเองแท้งลูก แต่อยากมีลูก จึงทำการขโมยตัวเด็กตอนที่แม่แท้ๆ ของเด็กเผลอไปให้สามีของตน โดยโกหกสามีอีกว่าเป็นลูกแท้ๆ อีก     ทั้งนี้เธอเองก็ได้ยอมรับผิดทั้งหมด แต่ด้วยความผูกพันที่เลี้ยงดูเด็กมาตลอด เมื่อพ้นโทษจะขอซื้อเด็กจากแม่แท้ๆ ในราคา 2 ล้านบาท เพื่อที่จะนำมาเลี้ยงดูเอง แต่ทางด้านน.ส.กัลย์สุดา สำแดง อายุ 30 ปี ผู้เป็นแม่ของเด็ก ไม่ยินยอมที่จะรับเงินดังกล่าว เพราะไม่อยากขายลูกกิน อีกทั้งเป็นลูกของตนเองแท้ๆ แต่กลับกลายไปเป็นลูกของคนอื่น     สภาพของความเป็นแม่นั้นตกไปอยู่กับผู้ที่ขโมยไป เนื่องจากเด็กเติบโตมากับผู้ที่ขโมย ทางด้านนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยา ก็แนะนำว่าอาจจะต้องใช้เวลาถึง 2 ปีเพื่อให้เด็กได้ปรับตัว…

กลายเป็นภาพอื้อฉาวที่กำลังมีการแชร์ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย สำหรับภาพของชายสวมชุดคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่ง ขณะกำลังดมอวัยวะเพศของหญิงสาว!?   เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊กเพจ รวมพลังต่อต้านคอร์รัปชั่น เป็นภาพของชายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังคุกเข่าและซุกหน้าเข้าไปที่บริเวณอวัยวะเพศของหญิงสาว พร้อมกับข้อความว่า “พี่ตำรวจห้องอาหาร ขอดมแทนค่าปรับ”     หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็มีชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันเข้ามาต่อว่าพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของชายคนดังกล่าว อย่างเช่นคุร Teerapong Chiyaleak กล่าวว่า “เห็นพี่มีความสุขผมก็เสียภาษีได้อย่างสบายใจ”      แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีชาวเน็ตที่ใช้ชื่อว่า Jackkung รักในหลวงเท่าฟ้า เข้ามาแย้งว่าภาพดังกล่าวนั้นเป็นภาพเมื่อนานมาแล้ว ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น   ที่มา รวมพลังต่อต้านคอร์รัปชั่น

ในวงการโฆษณาสมัยก่อนของประเทศไทยย้อนกลับในช่วงที่มีโฆษณาติดหูกันไปทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างโฆษณาของน้ำมันเครื่องไดเกียวที่ฉายบ่อยๆ เมื่อ 20 ปีก่อนหลังพักยกของมวยช่วงบ่ายๆ     กับประโยคเด็ดเปิดโฆษณาเลยที่ว่า (เสียงเพลงประกอบโฆษณา ตื่อ ดึ้ง) ‘ต้น รถเป็นอะไรอ่ะ’  จนปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมชมชอบในประโยคนี้อยู่ และเจ้าของวลีเด็ดนี้ก็คือคุณ ปุ๊ก โชติกา ซึ่งปัจจุบันนี้เธอเป็นทั้งเพื่อนรักและผู้จัดการส่วนตัวของนางแบบสาว เก๋ ชลดา     และเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ในอินสตาแกรมของ เก๋ ชลดา และดาราท่านอื่นๆ ก็ได้ทำการโพสต์รูปภาพของคุณ ปุ๊ก โชติกา ในพิธีวิวาห์พร้อมกับแฟนหนุ่มของตนเองเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งคุณเก๋เองก็รับหน้าที่เป็นแม่งานเองด้วย พร้อมทั้งมีแขกในวงการบันเทิงมาร่วมแสดงความยินดีกันมากมาย         เหมียวก็ขอแสดงความยินดีกับคุณปุ๊กด้วยนะจ๊ะ และผลงานโฆษณาชิ้นนี้จะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป ที่มา : khaosod

  จากคลิปข่าวจาก Voice TV จะว่าไปแล้วหากย้อนกลับไปในช่วงที่เครื่องดื่มชาเขียวบรรจุขวดเพิ่งเข้ามาทำตลาดใหม่ๆ เป็นเจ้าแรกและมีเจ้าเดียวในประเทศไทย ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากไม่ว่าจะในทั้งด้านยอดขายและการตลาด แต่แล้วจู่ๆ ก็เกิดการแข่งขันขึ้นมาอีก เมื่อเจ้าของเดิมออกมาทำอีกแบรนด์เพื่อมาสู้กับแบรนด์เก่าของตัวเอง คราวนี้การแข่งขันทางด้านการตลาดและยอดขายก็เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด     ทั้งนี้เรามาดูว่าเมื่อก่อนลักษณะการเลือกซื้อและดื่มชาเขียวบรรจุขวดของคนไทยเป็นอย่างไรบ้าง แรกๆ ที่เหมียวเองสัมผัสได้ก็คือรสชาติของชาเขียวที่ถูกปากคนไทยนั้นจะเน้นความหวานซะมากกว่า ยิ่งแช่เย็นมากเท่าไหร่บวกกับความหวานที่ใส่เข้าไปก็ยิ่งถูกใจคนไทยมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะด้วยอากาศเมืองไทยที่มันร้อนซะเหลือเกินด้วยแหละมั้ง     เมื่อมาถึงจุดเปลี่ยนของวงการชาเขียวที่มีการแข่งขันสูง พฤติกรรมของผู้บริโภคก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปด้วย เมื่อมีการอัดแผนการตลาดแบบชิงโชคเข้ามา ทั้งฝั่งแบรนด์เก่า และฝั่งแบรนด์ใหม่ที่เทียบชั้นได้อย่างรวดเร็ว บวกกับการโปรโมตผ่านโซเชียลและอื่นๆ อีกมากมาย ยังไม่รวมเรื่องราวดราม่าที่ก่อให้เกิดความเอนเอียงเข้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง     จากที่ผู้บริโภคซื้อเครื่องดื่มชาเขียวบรรจุขวด เพื่อดับกระหายคลายร้อน (ยังไม่รวมอาการติดหวานนะ) ตอนนี้ก็กลายเป็นว่าติดหวานด้วย ไหนจะติดชิงโชคเหมือนกับหวยอีก แต่ยังมีที่หนักไปกว่านั้นก็คือการซื้อมาเพื่อเอาเพียงแค่รหัสใต้ฝาหรือไม่ก็ยินยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รหัสใต้ฝาเพื่อส่งชิงโชคเพียงอย่างเดียว เครื่องดื่มข้างในขวดไม่สนใจ นำไปเททิ้งหรือไม่ก็ให้ผู้อื่นดื่มแทน ไหนจะลามไปถึงผุดธุรกิจฝาชาเขียวขึ้นมาอีก!!   แจกทอง แจกแพคเกจทัวร์ต่างประเทศ และอื่นๆ อีกมากมาย   และด้วยรางวัลต่างๆ ที่โหมกระหน่ำแจกให้ผู้โชคดีเพียงไม่กี่ราย กลับต้องทำให้หลายๆ คนทุ่มเทไปกับการซื้อและเฟ้นหารหัสใต้ฝาเพื่อมาชิงโชค กลายเป็นการหล่อหลอมพฤติกรรมเสี่ยงดวงที่ไม่อาจแก้ไขได้อีก โดยหวังว่าการส่งชิงโชคถ้าถูกรางวัลชีวิตก็จะดีขึ้น แต่ผลสุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย เสียทั้งสุขภาพร่างกาย (ความหวานจากเครื่องดื่ม) ไหนจะเสียสุขภาพจิตอีก…

หนุ่มๆ ที่สักลายใครว่าจะมาสายโหดอยู่ทางเดียวละ เพราะจริงๆ แล้วยังมีหนุ่มสักลายอีกหนึ่งคน ที่ถึงแม้ว่าหน้าตาของพี่แกจะดูโหดไปนิด แต่บอกเลยว่าความฟรุ้งฟริ้งนั้นกินขาด และในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ทุกคนมารู้จักกับ ‘โด่ง ประมาณนั้นแหละ’ หรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘โด่งคิตตี้’ หนุ่มสักลายหัวใจสายแบ๊ว ที่สร้างพื้นที่การสักด้วยคิตตี้สีชมพูสุดมุ้งมิ้ง เรียกได้ว่าสลัดคราบความโหดออกไปได้เยอะเลยทีเดียว     ดูสิ…ถึงแม้ว่าพี่แกจะสักลายเต็มหน้าเต็มตัวไปหมด แต่ก็เหลือพื้นที่เล็กๆ ให้กับคิตตี้สีชมพูอีกด้วย   นอกจากความฟรุ้งฟริ้งของคิตตี้สีชมพู ที่สร้างความโดดเด่นให้พี่แกถึงขั้นขึ้นแท่นเป็นแนตไอดอลคนใหม่ ที่ขอเดินทางสายแบ๊วแล้ว ในเรื่องความฮอตนั้นบอกเลยว่าไม่เป็นสองรองใคร เพราะพี่แกมีผู้ติดตามในเฟสบุ๊คกว่า 1 หมื่นคนเลยทีเดียว ธรรมดาที่ไหนละ!!     และที่สำคัญพี่แกยังมีวลีเด็ดๆ ที่อยากจะบอกให้สาวๆ ทุกคนได้รู้ว่า ‘ถึงหน้าจะโหด แต่ก็โหมดคิตตี้นะจ๊ะ’ ป้าดดดด วลีคมเกินคาดจริงๆ     ว่าแล้วก็ไปชมภาพฉบับคัดย่อของพี่โด่งคิตตี้กันเลยดีกว่า   พ่อหนุ่มสักลาย ที่ขอคลายความโหดมาอยู่ในโหมดความแบ๊ว   ด้วยลายคิตตี้แสนน่ารักข้างแก้ม   ส่วนใครที่ชื่นชอบหนุ่มสักลายหัวใจสายแบ๊วคนนี้ละก็ คุณสามารถเข้าไปติดตามในเฟสบุ๊ค Dongkitty ของเขาได้เลยจ้า ที่มา : Dongkitty, kapook

กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกอินเตอร์เน็ตกันในทันที เมื่อมีการแชร์ข่าวนักศึกษาหนุ่มเล่นเกมชนะเด็กน้อยวัย 7 ขวบ หลังจากนั้นเด็กคนนั้นก็วิ่งไปฟ้องพ่อ ก่อนที่พ่อจะพาพรรคพวกมารุมทำร้ายนักศึกษาหนุ่มคนนั้น เรื่องราวเกิดขึ้นช่วงค่ำของวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา  นายวรวุฒิ โยธกา อายุ 20 ปี เล่าว่าตนเองไปเล่นเกมอยู่ที่ร้านเกมแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพร ต่อมามีเด็กขอเข้ามาร่วมเล่นด้วยจนเป็นฝ่ายแพ้ไป แต่พอเด็กคนนั้นแพ้แล้ว กลับร้องไห้ไปฟ้องพ่อ     หลังจากนั้น พ่อของเด็กก็นำพรรคพวกมาทำร้ายนายวรวุฒิจนได้รับบาดเจ็บ โดยไม่ฟังคำอธิบายหรือเหตุผลแต่อย่างใด พร้อมทั้งขู่ว่าจะเอาปืนมายิงพวกเขาทิ้งให้หมด     จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า เด็กชายคนนี้เคยก่อพฤติกรรมคล้ายๆกันอย่างนี้ที่ร้านเกมแห่งอื่น แต่ว่าครั้งก่อนมีเพียงแม่เท่านั้นที่มา และเมื่อได้รับคำอธิบายจากเจ้าของร้าน ก็เข้าใจและเลิกราไป แต่ครั้งนี้เป็นผู้เป็นพ่อมาเอง กลับไม่ฟังเหตุผลใดๆทั้งสิ้น   ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย   เมื่อชาวเน็ตเห็นคลิปดังกล่าวก็เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย รวมถึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวพ่อของเด็กคนนั้นมาให้ได้     เหมียวว่ามันก็ออกจะเกินไปหน่อยนะ ทั้งเด็กทั้งพ่อแม่เลย ถ้าเลี้ยงลูกแบบนี้ โตไปเขาจะเป็นคนยังไงละเนี่ย ที่มา KK New

ถ้าใครเกิดทัยยุค RS เฟื่องฟูในยุค 90 ก็คงรู้สึกศิลปินคู่หูดูโอ้ “เจอาร์-วอย” เป็นอย่างดี ถือเป็นวงดูโอ้ที่มาแรงมากๆ เพราะเป็นคู่หูต่างวัยที่หล่อเหล่าและน่ารัก พร้อมกับเพลงสุดฮิตที่ปัจจุบันก็ยังมีคนเอามาพูดติดปากอย่าง “หลบหน่อยพระเอกมา” ผ่านมาจะเกือบ 20 ปีแล้ว หลายคนอาจจะลืมเขาไปบ้าง แต่วันนี้เหมียวจะพาไปย้อนอดีตเพื่อพบกับนักร้องรุ่นน้องอย่าง เจอาร์ ซึ่งตอนนี้ก็ได้โตเป็นผู้ใหญ่พร้อมกับมีลูกสาวอีกหนึ่งคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว     ลูกสาวของคุณพ่อเจอาร์ชื่อว่า “น้องจูโน่” น่ารักตุ้นนุ้ยน่าหยิกแก้มเป็นที่สุด พร้อมกับลุคใหม่ของคุณพ่อเจอาร์ที่ยังหล่อเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความเข้มแบบนี้ ดูท่าทางคงจะหวงลูกสาวไม่ใช่น้อยเลยนะเนี่ย   ที่มา J.R. Couch K., sanook

ใครที่อายุ 25+ ยกมือขึ้นให้ไวเลย เพราะในวันนี้เราจะพามาย้อนวันวานชวนให้คิดถึงรายการยอดฮิตในสมัยที่เราเป็นยังเป็นเด็กๆ ซึ่งเหมียวเชื่อว่าในทุกๆ วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ หลายๆ คนคงจะเคยตั้งตาตั้งตาดูรายการ ‘ดิสนีย์คลับ’ ทางช่อง 7 กันอย่างแน่นอน เพราะรายการนี้นี่แหละที่มักจะนำการ์ตูนดิสนีย์สนุกๆ มาฉายให้เราชมกันอย่างจุใจ     แน่นอนว่าหากใครที่เป็นแฟนตัวยงของรายการนี้ จะจำ 2 ผู้ดำเนินรายการอย่าง พี่นัท ศักวัต ด่านบรรพต และพี่แนน อรรัตน์ ฉัตรวลีได้เป็นอย่างดี ส่วนใครที่ยังจำหน้าตาของพวกเขาไม่ค่อยได้ วันนี้เรานำภาพของพวกเขามาให้ชมกันแล้ว     และนี่ก็คือ พี่นัทและพี่แนน 2 พิธีกรขวัญใจเด็กๆ จากรายการดิสนีย์คลับนั่นเอง จำกันได้แล้วใช่ไหมเอ่ย!!   นอกจากเราจะได้ชมการ์ตูนสนุกๆ กันอย่างจุใจแล้ว อีกช่วงหนึ่งของรายการที่หลายๆ คนชอบมากที่สุดก็คงจะเป็นช่วงตอบจดหมาย เพราะบางคนก็วาดภาพตัวการ์ตูนที่ชอบส่งไปให้ทางรายการ และรอลุ้นว่าจดหมายของเราจะถูกอ่านออกอากาศหรือเปล่าน้า อิอิ!!     เรียกได้ว่าวันเวลาก็ผ่านมาเกือบ 10 กว่าปีแล้ว ว่าแต่เอ…ตอนนี้พวกเขาทั้ง 2 จะเป็นอย่างไรกันบ้างน้า ถ้าอย่างนั้นเหมียวก็ขอโอกาสนำภาพของพิธีกรขวัญใจเด็กๆ อย่างเราๆ…

ก็เรียกได้ว่าเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างโด่งดัง กับข่าวคราวที่แอร์โอสเตสสาว ถูกหนุ่มจีบบนเครื่องบินด้วยมุขระเบิดในกระเป๋า ส่งผลให้เครื่องบินลำดังกล่าวต้องล่าช้าออกไป เพื่อตรวจสอบ จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต แน่นอนว่ามีทั้งกระแสเห็นด้วยกับลูกเรือ และอีกกระแสที่ต่อว่าทำเกินกว่าเหตุ วันนี้เราก็มีคำพูดจากฝั่งแอร์สาวคนนั้น จากการเผยแพร่ทางเฟซบุ๊คของ Crewabs Cabincrew ในอีกมุมหนึ่งที่เธอจะมาเปิดเผยให้เราได้เห็นกัน   ก็มีทั้งกระแสต่อว่า แอร์สาวน่ะทำเกินกว่าเหตุ ทำให้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่่โต   ซึ่งถ้าจะมองเอาแต่มุมขำ มุมฮา ก็เรียกได้ว่ามองได้ไม่มีอะไรผิด แอร์เขาก็ทำเกินกว่าเหตุจริงๆ นั่นแหละ แต่เพื่อนๆ ลองคิดดูสิว่ามันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกันมาก่อนรึเปล่า ถึงต้องทำเรื่องให้มันใหญ่โตขนาดนั้น โดยเฟซบุ๊คของทาง Crewabs Cabincrew ได้มีการโพสต์ข้อความนี้เมื่อวันที่ 3 พฤจิกายน 2558 ที่ผ่านมาเกี่ยวกับรายละเอียดของเหตุการณ์ดังกล่าว จนลุกลามบานปลายใหญ่โต   ลองมาฟังจากปากแอร์สาวกันบ้าง…   ก็ต้องฟังข้อมูลกันทั้งสองด้านอ่ะเนาะ แต่จะว่าไปแล้วเหมียวเห็นด้วยกับแอร์เขานะเนี่ย เพราะเขาเป็นมืออาชีพ ผ่านการเทรนนิ่งมา มันก็มีมาตรการอยู่ และแน่นอนเรื่องความปลอดภัยโดยเฉพาะในเครื่องบินไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เพราะมีผู้โดยสารนับร้อยชีวิต!!!   สำหรับใครที่สนใจก็สามารถติดตามไปยังเฟซบุ๊คต้นเรื่องกันได้ที่นี่นะจ๊ะ Crewabs Cabincrewหรือจะร่วมแสดงความคิดเห็นในเพจแมวเหมียวก็ยินดีเลยจ้า ^^ ที่มา: Kapook , Crewabs Cabincrew

พูดถึงานอาสาสมัครกู้ภัยอย่างปอเต็กตึ้งหรือร่วมกตัญญู เราอาจคิดว่ามีแต่ผู้ใหญ่เท่านั้น ที่ทำหน้าที่ในมูลนิธิเหล่านั้น แต่วันนี้เหมียวจะพาไปชมอาสาสมัครกู้ภัยตัวน้อยๆ ที่เพื่อนๆเห็นแล้วต้องอมยิ้มอย่างแน่นอน เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา มีงานล้างป่าช้าสุสานมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง และเฟสบุ๊ค ผมชื่อ ปรายตาสุดปลายตา ได้แชร์ภาพสุดน่ารักของเหล่าอาสาสมัครตัวน้อย ที่เข้ามาช่วยในการล้างป่าช้าครั้งนี้ด้วย และแม้จะร้อนจะเหนื่อยแค่ไหน พวกเขาก็ไม่ย่อท้อ จะน่ารักขนาดไหน ไปชมกันเลย       สุดยอดไปเลยเนอะเพื่อนๆ ตัวแค่นี้ก็รู้จักทำงานเพื่อส่วนรวมแล้ว ขนาดผู้ใหญ่หลายๆคนยังทำไม่ได้เลยนะเนี่ย เหมียวชื่อว่าถ้าพวกเขาโตมา พวกเขาต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ดีอย่างแน่นอน ^^ ที่มา ผมชื่อ ปรายตาสุดปลายตา

กลายเป็นเด็นร้อนกันเลยทีเดียว หลังจากเพจดังนำภาพพ่อเทเบียร์ให้ลูกกินจากขวด จนชาวเน็ตเข้ามาตำหนิว่า เป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้วหรือ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์ในเด็ก อาจทำให้เกิดอันตรายได้   เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 ทางเพจวางเพลิงได้นำภาพครอบครัวหนึ่ง ที่กำลังเทเบียร์ใส่ปากลูกน้อยวัยทารก พร้อมบรรยายว่า “ดวลกับป๊าหน่อย”  และหลังจากลงรูป ก็มีเพื่อนๆคนอื่นในเฟสบุ๊คเข้ามาคอมเมนต์อย่างสนุกสนาน     นอกจากโพสสเตตัสแล้ว เขายังอัดคลิปวีดีโอเอาไว้อีกด้วย     เมื่อชาวเน็ตเห็นดังนั้น ก็เข้ามาตำหนิมากมาย       เหมียวนี่อึ้งไปเลย มีพ่อแม่แบบนี้อยู่ด้วยเหรอเนี่ย ไม่อยากจะนึกเลยว่าเด็กคนนี้โตไปจะเป็นยังไง ใครมีลูกมีหลานอย่าไปทำอย่างนี้นะเหมียว มันเกินไปจริงๆ ที่มา วางเพลิง

ชีวิตของคนเราจะต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมาย ถ้าหากว่าไม่ดิ้นรนก็อาจจะต้องอดตายได้ และหลายๆ คนก็คงจะวาดฝันเอาไว้ว่าซักวันหนึ่ง เราน่าจะมอบโอกาสดีๆ ให้กับชีวิตของตัวเองบ้าง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามต้องขยันทำงานและเก็บหอมรอมริบเพื่อสิ่งที่ฝันเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเอย รถยนต์เอย หรือแม้แต่การไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งนอกจากการเก็บเงินเพื่อเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้แล้ว เดี๋ยวนี้ก็มีเพิ่มมาอีกช่องทางหนึ่งนั่นก็คือการร่วมส่งรหัสภายใต้ฝาเครื่องดื่มนั่นเอง!!     แต่จะว่าไปแล้วคนส่วนมากก็มักจะคิดว่าโอกาสที่จะได้นั้นน้อยเหลือเกิน จึงเป็นการตัดกำลังใจไม่ส่งเอาซะดื้อ แต่ใครจะไปเชื่อล่ะว่าหนุ่มคนขับรถตู้ผู้นี้ ตัดสินใจส่งรหัสชิงโชคมาพร้อมกับดวงดีล้วนๆ โดยก่อนหน้านี้พี่แกทำนาช่วยที่บ้านมาก่อน จากนั้นก็ได้พบเจอกับแฟนสาวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา คอยช่วยเหลือค้ำจุนกันด้วยความรัก ทำให้ชีวิตพี่แกดีขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งได้มาขับรถตู้รับส่งพนักงานบริษัท แล้วดวงก็พลิกผลันอีกครั้งกับรหัสใต้ฝาเครื่องดื่ม     เมื่อพี่แกได้ทำการส่งรหัสใต้ฝาเครื่องดื่มเพื่อชิงโชค แม้ว่าโอกาสถูกรางวัลจะน้อยนิดซักเพียงใด ความเฮงก็ยังคงเข้าข้างพี่แกเสมอ ผ่างงงงง!! ชีวิตเปลี่ยนไปทันที เมื่อผลการจับรางวัลเป็นของพี่แก ฟาดรถเบนซ์ไปครองได้อย่างสวยงาม     หลังจากที่ไปรับรางวัลรถเบนซ์สีขาวคันงามมาแล้ว ก็ได้เวลาไปเซอร์ไพรส์แฟนสาวของตัวเอง ขับรถเบนซ์ไปด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม จนแฟนสาวมาเห็นปุ๊บก็กรี๊ดทันที แบบว่ายิ่งรักกันเข้าไปอีก โอ้ยยยย!! อิจฉาแทนจริงๆ ชีวิตดี๊ดี ดวงเฮง มีรถหรูขับ ความรักก็เหนียวแน่น อิอิ

เมื่อช่วงต้นปี 2558 เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยได้เห็นภาพถ่ายสุดสวีทของหนุ่มไทย และแฟนหนุ่มชชาวเยอรมันสุดหล่อ ที่กำลังนั่งจับมือกันบนรถไฟฟ้า จนกลายเป็นเรื่องราวที่ถูกแชร์สนั่นบนโลกออนไลน์งานนี้ทำให้ทั้งคู่ได้ออกมาเปิดใจ และเผยเรื่องราวเส้นทางความรักของพวกเขา     เมื่อวันที่ วันที่ 30 ตุลาคม 2558 หนุ่มไทยร่างบางนามว่า ‘คุณมอนด์’ ก็ได้เผยภาพงานพิธีวิวาห์สุดหวานกับ ‘ทอร์สตัน’ แฟนหนุ่มสุดหล่อ ที่จัดขึ้น ณ ประเทศเยอรมนี ท่ามกลางบรรยากาศอันชื่นมื่น และแสนอบอุ่นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วจ้า     งานนี้เหมียวก็ต้องขอแสดงความยินดีกับคุณมอนด์ และแฟนหนุ่มด้วยนิฮะ ^^   เรียกได้ว่างานนี้ทำเอาสาวน้อยสาวใหญ่ รวมไปถึงสาวเทียมทั้งหลาย ถึงขึ้นต้องอิจฉาตาร้อนหนุ่มไทยร่างบางคนนี้กันเป็นแถวอย่างแน่นอน     ก็ดูสิ…รักกันหวานเว่อร์กันขนาดนี้ จะไม่ให้อิจฉาได้ยังไงละเมี๊ยว   ที่มา : kapook

การจะบอกว่าชนชาติใดไม่ดีโดยตัดสินจากพฤติกรรมคนๆเดียว ก็อาจจะเป็นเรื่องราวที่ไม่ยุติธรรมซักเท่าไหร่ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวจีนแล้วนั้น นั่นอาจเป็นปัญหาระดับชนชาติเลยก็เป็นได้ เพราะเรามักได้ยินข่าวเสียๆของนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวที่ไทยอยู่ตลอดเวลา อย่างเช่นข่าวที่เหมียวนำมาให้เพื่อนๆได้ชมวันนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มหนึ่ง ที่เดินทางไปเที่ยวยังสวนเสือศรีราชา แต่กลับมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม คอยเตะกรงลูกเสือ จนทำให้ลูกเสือกลัว แล้วก็หัวเราะอย่างชอบใจ คุณ Siriporn Jarome‎ ทนพฤติกรรมไม่ไหว จึงถ่ายคลิปมาให้ชาวเน็ตได้ชมกัน     ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย   ช่วยคิดหน่อยค่ะ จะทำไงดีกับคนจีนส่วนน้อยที่ทำนิสัยแย่ๆ ในประเทศไทยดีค่ะก่อนนี้หน้าแตะทุกกรง ประมาน 5นาที ยืนดูแล้วทนไม่ไหว ลูกเสือยังเด้กอยุ่ค่ะ เพื่อนคนจีนที่มากรุ๊ปเดียวกัน ไม่มีใครห้ามค่ะ ทุกคนยืนหัวเราะชอบใจกับสิที่เพื่อนเค้าทำ ขอถ่ายวีดีโอ และแชร์ค่ะ Posted by Siriporn Jarome on 31 ตุลาคม 2015   เมื่อชาวเน็ตได้เห็นคลิปดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย     เหมียวก็ไม่อยากตัดสินหรอกว่า คนประเทศโน้น ประเทศนี้ไม่ดี เหมียวเชื่อว่านักท่องเที่ยวดีๆยังมีอีกมาก แต่อย่าเจอแบบนี้บ่อยๆจะดีกว่า เพราะเห็นแล้วมันหน่ายหัวใจจริงๆ ที่มา Siriporn Jarome

ความสนิทสนมชิดเชื้อของบุคคลนั้นอาจเป็นบ่อเกิดแห่งความบาดหมางได้ หากไม่รู้จักนิสัยใจคอกันให้ดีเสียก่อน และเรื่องของการยืมสิ่งของโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือยินยอมจากเจ้าของโดยตรง     เรื่องราวของคุณ Ball S Ball ที่ได้ทำการเปิดเผยเรื่องราวของความประมาทจากคนที่รู้จัก แต่ไม่ได้สนิทอะไรมากมายขนาดนั้น ซึ่งหลังจากที่เขาได้เข้าพักในอพาร์ทเม้นท์บริเวณพระราม 2 ซอย 44 (คาดว่าน่าจะเข้าพักพร้อมกับผู้หญิงที่รู้จัก) แต่พอตื่นเช้าขึ้นมาเงินภายในกระเป๋าตังค์หายไปหมด รวมถึงกุญแจรถยนต์ก็หายไปด้วย     แน่นอนว่าผู้หญิงคนดังกล่าวก็ได้หายตัวไปเช่นกัน ทั้งนี้เขาพยายามติดต่อแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย โดนบล็อกการติดต่อผ่านเฟสบุ๊ก และถึงแม้จะส่งข้อความหาผ่านทาง SMS ก็ไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด จนกระทั่งเวลาผ่านล่วงเลยไป 2 วันแล้ว มีเพียงข้อความที่ส่งมาเมื่อเวลาตี 5 โดยอ้างว่าขอยืมรถ   เหตุการณ์คือรถผมโดนขโมยจากคนที่รู้จักแต่เราไม่ได้สนิท แถมเป็นผู้หญิงที่ดูออกจะเรียบร้อยด้วย ผมไปนอนที่อพาเม้นแถวราม44 เป… Posted by Ball S Ball on Friday, October 30, 2015   ทั้งนี้เขาก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่าผู้หญิงคนดังกล่าวมีพฤติกรรมน่าสงสัย ในช่วงเวลาที่ดื่มหรืออะไรต่างๆ มักจะแอบออกไปคุยโทรศัพท์อยู่เสมอ อย่างไรก็ตามเหมียวก็ขอให้ตามรถกลับมาได้ในเร็ววันนะ และอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ในกรณีของความประมาทด้วย ที่มา : ballspu

เหมียวขอเกริ่นเอาไว้ก่อนว่าเนื้อหาภายในนี้เป็นการเผยแพร่มาจากกระทู้หนึ่งเผยแพร่โดยสมาชิกหมายเลข 2250431 ในเว็บไซต์พันทิป เกี่ยวกับเรื่องราวของทหารใหม่นายหนึ่งที่ได้รับการลงโทษอย่างรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกปกปิดเอาไว้ไม่ได้รับการเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้เท่าที่ควร ทั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาเพื่อทำให้หน่วยงานรัฐได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียงแต่อย่างใด (ภาพประกอบไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)     เรื่องราวของพลทหารวิเชียร เผือกสม ได้ลาสิขาบทมาเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2554 และได้สมัครเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/54 เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2554 ซึ่งในวันที่ 1 มิถุนายน 2554 เวลาประมาณ 12.40 น. พลทหารวิเชียร เผือกสม กลับถูกครูฝึกทหารใหม่ลงโทษอย่างรุนแรง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากหลบหนีจากหน่วยฝึกถึง 2 ครั้ง     จากการหลบหนีจากหน่วยฝึก ทางหน่วยก็ได้ไปรับตัวกลับมาและทำการลงโทษด้วยการตบหน้า การให้กินพริกสด รวมไปถึงการนำตัวไปปรับปรุงวินัยบริเวณหน้าห้องน้ำหลังหน่วยฝึก โดยบังคับให้ถอดเสื้อผ้าเครื่องแบบออกทั้งหมด เหลือเพียงแต่กางเกงใน สั่งทำโทษด้วยท่ากายบริหาร รวมไปถึงการจับขาของพลทหารลากไปบนพื้นปูน มีพยานเห็นว่าพลทหารได้รับความเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก     นอกจากนี้ครูฝึกยังใช้เท้าทั้งเตะและกระทืบบริเวณขากับลำตัวของพลทหาร ใช้เวลารวมทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง ทั้งนี้หลังจากที่ทำการปรับปรุงวินัยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้นำตัวพลทหารไปพักรักษาตัวในห้องพยาบาล…

สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ได้รายงานว่ามีนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งได้เดินทางไปเที่ยวลำน้ำในคลองท่าด่าน หลังเขื่อนขุนด่านปราการชลฯนครนายก และถูกปลาปักเป้ากัดจนเป็นแผลเหวอะหวะ     เพราะในช่วงนี้เป็นช่วงที่ปลาปักเป้ากำลังวางไข่ ทำให้พวกมันดุร้ายเป็นพิเศษ ทำให้เจ้าหน้าที่จากกรมประมงต้องลงพื้นที่ตรวจสอบและล่าพวกมันเพราะเป็นสัตว์อันตราย   แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่า Jukday ได้เข้ามาตั้งกระทู้ ขอความเป็นธรรมให้ครอบครัวปลาปักเป้า คลองท่าด่าน จ.นครนายก ด้วยค่ะ โดยเจ้าของกระทู้เล่าว่าตนเองนั้นเป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนี้     ทั้งนี้เจ้าตัวได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา เธอก็ถูกปลาปักเป้ากัดที่บริเวณคลองแห่งนี้เช่นกัน แต่อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับปลาเหล่านั้น เพราะตามข่าวปรากฏภาพของเจ้าหน้าที่กรมประมงกำลังล่าปลาปักเป้ากันอยู่     โดยคุณ Jukday ให้เหตุผลว่าที่ปลาดุร้ายนั้นเป็นเพราะอยู่ในช่วงฤดูวางไข่ และมนุษย์เองก็เป็นฝ่ายไปบุกรุกพื้นที่ธรรมชาติของพวกมันก่อน จึงไม่แปลกอะไรที่พวกมันจะไล่กัดมนุษย์ ทั้งนี้เธอยังเสนอด้วยว่าควรเปลี่ยนจากการล่า มาเป็นการใหความรู้แก่นักท่องเที่ยวจะดีกว่า     หลังจากกระทู้ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีสมาชิกเว็บไซตืพันทิปเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงเห็นด้วยมากมาย อีกทั้งยังกล่าวโทษมนุษย์ด้วยว่าเป็นฝ่าบรุกล้ำพื้นที่เขาก่อนและยังไปฆ่าเขาอีก นี่หรือผู้เจริญ?     นอกจากนี้ยังมีความเห็นหนึ่งของคุณ Josephine est le Chat ที่กล่าวต่อว่าเจ้าหน้าที่กรมประมงด้วยว่า “จนท ก็ทำงานแก้ปัญหาแบบตาต่อตาฟันต่อฟันดีเนอะ…

ในวัยเด็ก โดยเฉพาะผู้ชาย การทะเลาะกันถือเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ เพราะเด็กผู้ชายส่วนใหญ่มักจะเคร่งเรื่องศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้ ดังนั้นเวลามีเรื่อง ก็มักจะใช้กำลังซึ่งกันและกัน แต่มีน้อยครั้งที่จะมีใครมาสั่งสอนเราว่าการใช้กำลังนั้นมันมีผลอย่างไรบ้าง แต่วันนี้เหมียวมีคลิปที่น่าชื่นชมของครูสอนฟุตบอลท่านหนึ่ง ซึ่งถูกแชร์ในโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก เพราะคำสอนของครูนั้นช่างกินใจเหลือเกิน   ดูเหมือนว่าเด็กทั้งคู่จะแย่งลูกฟุตบอลกัน และทำท่าว่าจะตีกัน ครูก็เลยยุให้เด็กทั้งสองลองได้ต่อยกันก่อน   จากนั้นครูก็ได้นำทั้งคู่มาพูดคุยและได้ให้คำสั่งสอนไป ซึ่งเป็นข้อคิดที่ดีมากๆ   เราไปชมคลิปอันน่าประทับใจนี้กันเลยดีกว่า ครูสอนเด็ก.. เมื่อทะเลาะกันครูสอนเด็ก.. เมื่อทะเลาะกัน Posted by 1,000,000 Clips รวมคลิปเด็ด on Monday, October 27, 2014   ที่มา 1,000,000 Clips รวมคลิปเด็ด

ใครๆก็อยากกลับไปเป็นเด็กทั้งนั้น เพราะช่วงเวลาเด็ก เราสามารถเล่นอะไรก็ได้ มีเวลาว่างมากมาย โลดแล่นในจินตนาการ กินขนมที่ตัวเองชอบโดยไม่ต้องห่วงว่าจะอ้วนหรือไม่ ค่อยมารับกรรมเอาตอนโตนี่แหละ สิ่งเหล่านี้มันคือสิ่งดีๆที่อยู่ในความทรงจำระยะยาว รอคนที่จะขุดมันกลับมาอีกครั้ง และมันก็จะไม่มีวันลืมลงไปได้เลย (นึกถึงหนังเรื่อง Inside Out ไว้นะ) แล้ววันนี้เหมียวก็จะพาทุกท่านไปขึ้นไทม์แมคชีนของโดเรม่อนย้อนอดีตไปกับแฮชแท็กสุดฮิตในทวิตเตอร์ #โตมากับ ที่ทุกๆจะพามาเล่าเรื่องราววัยเด็กให้เพื่อนได้รำลึกว่าเราผ่านอะไรกันมาบ้าง   #โตมากับ F4 ไต้หวันค่ะ pic.twitter.com/Qe4u3orlke — gsnowa❤️ (@GsnwX_) October 26, 2015   #โตมากับ คุณลำไยค่ะ ยังจำไม่เคยลืมเลือนคอยเตือนตัวเองเอาว๊ายยยย จินตหราด้วยค่ะ แตงโมๆๆ แตงโมลูกโตๆหวานๆ แบบนี้ 555 pic.twitter.com/9Is8s2RXTC — มซลคนชิค (บอทสวย) (@ACT99SHYUN) October 26, 2015   พี่บิ๊ก พี่แดน พี่บีม #โตมากับ D2B pic.twitter.com/zrFBBQY7cx — Anyarat Phukprayun…

เดี๋ยวนี้การจะกระทำอะไรในโลกออนไลน์ หรือในสื่อโซลเชียลต่างๆ ก็ได้เริ่มมีการออกนอกลู่นอกทางกันไปมากขึ้น เพราะด้วยความอิสระที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้ การปั้นเรื่องราว ปลุกปั่นต่างๆ สามารถทำได้โดยง่าย หลอกให้ผู้อื่นเชื่อ ไหนจะในเรื่องของการแสดงความคิดเห็นที่อิสระเต็มที่     ล่าสุดนี้ทาง พ.ต.อ.สมพร แดงดี รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รองผบก.ปอท.) ก็ได้เร่งทำการประชาสัมพันธ์ข้อมูลของกฏหมายและพรบ. คอมพิวเตอร์ โดยเน้นย้ำว่า หมดการอ้างวลียอดฮิตติดลมบน ‘รู้เท่าไม่ถึงการณ์’ ซึ่งถ้าหากว่าทำผิดมา จับกลับ ไม่โกง 100%     ทั้งนี้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีก็ได้เผย 10 พฤติกรรมเสี่ยงคุกในโลกออนไลน์ไว้ทั้ง 10 ประการดังนี้   1. การอัพโหลดรูปภาพลามกอนาจารทุกรูปแบบ โทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. ตั้งตัวตนปล่อยข่าวลือ ปล่อยข่าวที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย โทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3. การตัดต่อภาพบุคคลอื่นให้เสื่อมเสียชื่อเสียงนำมาโพสต์ในอินเทอร์เน็ต ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ…

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง มีมติปรับลดค่าโดยสารรถ บขส. และรถร่วม ลงไม่เกินร้อยละ 20 ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2558 ยกเว้นบางเส้นทางที่ลดไม่ได้ เช่นกรุงเทพภูเก็ต เพื่อสู้กับสายการบินราคาถูกซึ่งทำให้ผู้โดยสารรถทัวร์ลดลงกว่า 50%     แน่นอน เจ๊เกียว สุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารขนส่งและเจ้าของกิจการอู่ต่อรถทัวร์ และบริษัทเดินรถเชิดชัยทัวร์ ได้ออกมาเปิดผยว่า เชิดชัยทัวร์จะไม่ปรับลดราคาค่าตั๋วลงอย่างแน่นอน แต่จะลดแค่บางที่นั่งเท่านั้น อย่างเช่น รถหนึ่งคันอาจจะลดแค่ 4-5 ที่นั่ง เหมือนโปรโมชั่นของสายการบินโลวคอส     นอกจากนี้เจ๊เกียวยังบอกอีกว่า การทำโปรโมชั่นนี้ยังไม่มีการเริ่ม จนกว่าจะมีหนังสือแจ้งมาจากคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางเสียก่อน ถึงจะกำหนดรูปแบบที่แน่นอนได้ ส่วนบริษัท นครชัยแอร์ จำกัดได้กล่าวว่า อาจมีการลดราคาในบางเวลา – เส้นทาง แต่คงไม่สามารถลดทั้งหมดได้ เพราะปกติก็ไม่ได้เก็บแพงอยู่แล้ว     โอเคครับเจ้ ขอให้ธุรกิจเจ๊เกียวเจริญรุ่งเรืองนะฮะ เหมียวเชื่อในกฎการคัดเลือกของธรรมชาติ คนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่จะอยู่รอด สู้ๆนะฮะ ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

ในปัจจุบันหลายคนอาจบอกว่า โลกเรานั้นเลวร้ายลง ผู้คนขาดศีลธรรมอันดีงามและสามารถทำทุกอย่างได้ เพื่อประโยชน์ของตนเอง แต่คงไม่ใช่กับเด็กน้อยที่ชื่อว่า “เต่า” คนนี้ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา เฟสบุ๊คส่วนตัวของดารารุ่นใหญ่ “อุ้ย เกรียงไกร อุณหะนันทน์” ได้โพสแสดงความชื่นชมและยกย่องเด็กชายคนหนึ่ง ที่เก็บโทรศัพท์ของเขาได้ แล้วนำมาส่งคืนโดยไม่หวังผลประโยชน์แต่อย่างใด       นี่คือภาพของเด็กชายเต่าที่คุณอุ้ยพูดถึง   เมื่อชาวเน็ตเห็นโพสดังกล่าว ก็เข้ามาชื่นชมมากมาย พร้อมบอกว่า นี่แหละคือเยาวชนที่จะเป็นยุคใหม่ของประเทศ     เห็นมั้ยละว่าคนดียังไม่หายไปไหนหรอก ทำดีแบบนี้ต้องชื่นชมครับ คนดีๆเหล่านั้นจะได้มีกำลังใจทำดีกันต่อไป ^^ ที่มา เกรียงไกร อุณหะนันทน์ : Kriangkrai Unhanandana

การเลี้ยงสุนัขนอกจากจะช่วยให้เรามีเพื่อนไม่เหงาแล้ว มันยังสามารถช่วยเฝ้าบ้าน และป้องกันอันตรายจากสัตว์ร้ายชนิดอื่นๆได้ด้วย อย่างเช่นเรื่องราวของคุณ Sarinthip Kung เธอเล่าว่า เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่เธอได้กลับมาถึงบ้าน เธอพบกับซากงูเห่านอนตายในสภาพขาดครึ่งภายในบ้านของตนเอง ซึ่งเล่นเอาถึงกับช็อคไปเลย โดยผู้ที่จัดการกับงูเห่าตัวนี้ก็คือสุนัขพันธุ์โกลเด้นและบางแก้วสองตัวที่เลี้ยงไว้ที่บ้านของเเธอเอง เรียกได้ว่าสวมบทโหดจริงๆ เอาซะขาดครึ่งเลย     ฝีมือของเจ้าสองตัวนี้เองจ้า จะโหดไปไหน         เห็นมั้ยละ นอกจากเป็นเพื่อนยามเหงาแล้ว ยังป้องกันอันตรายให้เราได้อีกนะ แล้วเพื่อนๆละ เคยมีประสบการณ์อะไรแบบนี้บ้างหรือเปล่า ลองมาแชร์ให้ฟังหน่อยจิ ว่าจะโหดมันฮาขนาดนี้หรือเปล่า อิอิ ที่มา Sarinthip Kung

ในครั้งที่แล้วเราเคยนำเสนอคลิปวีดีโอน่ารักๆ ที่ชื่อว่า ‘Baby Elephant Cuddles With Allie’ ของช้างน้อยตัวหนึ่ง ที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอย่างเคลิบเคลิ้มอยู่บนตักของ Allie หญิงสาวชาวต่างชาติ ผู้ที่ดูแลเจ้าช้างน้อยตั้งแต่วันที่มันลืมตาขึ้นมาดูโลก และด้วยความน่ารักของมันนี้เอง ทำให้ชาวเน็ตหลายต่อหลายคนต้องแห่เข้ามาชื่นชมในความน่ารัก และความขี้อ้อนของมันกันเป็นแถว     และกลับมาในครั้งนี้มันก็ได้มาสร้างความน่ารักอีกเช่นเคย เพราะจู่ๆ เจ้าช้างน้อยก็ตกอยู่ในสภาวะทิ้งตัว นอนลงบนตักของ Allie เฉยเลย จนเกิดเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างที่เพื่อนๆ เห็นกันนี้   แหมๆๆๆ นอนอย่างเดียวไม่พอ ยังทำท่าอ้อนอีกด้วย   น่ารักขนาดนี้ ก็ทำเอา Allie ถึงกับหวั่นไหว เธอก็เลยโน้มตัวลงมากอดมันด้วยความเอ็นดู   งานนี้ทำเอาใครๆ ที่ได้เห็นต่างก็พากันยิ้มแก้มปริ   เรามาชมความน่ารักของมันผ่านคลิปวีดีโอนี้เลย   เจ้าช้างน้อยตัวนี้นี่มันขี้อ้อนมากจริงๆ เห็นแล้วน่ากอดชะมัด อิอิ!! ที่มา : Chai Lai Orchid

เป็นประจำทุกๆ ปี เมื่อถึงช่วงเวลาออกพรรษาปุ๊บ ก็ถึงเวลาของการรับชมบั้งไฟพญานาค (บั้งไฟผีในอดีต) ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขงในจังหวัดหนองคาย ทั้งนี้ก็เป็นความเชื่อว่าจะพบกับลูกกลมเรืองแสงลอยขึ้นมาจากผิวน้ำ แต่เหมียวจะไม่ขอพูดถึงรายละเอียดเรื่องนี้ก็แล้วกัน   RT@nat_jojoe3411ขยะถูกทิ้งเกลื่อนหลังงานบั้งไฟพญานาค อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย #ไทยครับ #JS100 goo.gl/hoc9w8 Posted by JS100 Radio on Tuesday, October 27, 2015   แต่สิ่งหนึ่งที่มักจะหลงเหลือหลังจากเทศกาลหรือการชมอะไรก็แล้วแต่ ก็มักจะเป็นกองขยะนับร้อยพันชิ้นที่ถูกทิ้งเรี่ยรายไม่เป็นระเบียบ กลายเป็นมลพิษทางสายตาและมลพิษทางธรรมชาติ สะท้อนให้เห็นถึงจิตสาธารณะที่ยังมีไม่มากพอ     ซึ่งหลังจากที่ทางเพจ JS100 Radio ได้ทำการโพสต์รูปภาพสภาพริมแม่น้ำโขงหลังจากที่งานบั้งไฟพญานาคได้จบลง ชาวเน็ตต่างให้ความคิดเห็นไปในทำนองเดียวกันในแง่ของความรับผิดชอบต่อสังคม จิตสาธารณะ การดูแลส่วนรวม ซึ่งถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้เจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องคอยเก็บขยะให้พี่น้องประชาชนต่อไปเรื่อยๆ เพิ่มภาระมากขึ้น ที่มา : JS100 Radio

จะว่าไปแล้วกลายเป็นกรณีที่ใหญ่โตเหมือนกับการจับจองพื้นที่ขายของในบริเวณตลาดสะพานเหล็กหรือคลองโอ่งอ่าง ย่านที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งของเล่นและเกมต่างๆ มากมาย มานานกว่า 30 ปี     จนกระทั่งในที่สุดทาง กทม. ก็ได้ตัดสินให้ผู้ค้าขายย้ายออกไปจากพื้นที่ โดยให้เหตุผลเอาไว้ว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่คลองโอ่งอ่าง อีกทั้งยังเป็นแหล่งมั่วสุม แหล่งอาชญากรรม และมีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาทำงานอย่างผิดกฏหมาย     เมื่อถึงระยะเวลาที่จะต้องทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง เจ้าหน้าที่ต่างก็เข้ามาทำหน้าที่ของตนตามที่ได้รับคำสั่ง แต่เนื่องด้วยอารมณ์ไม่พอใจของหนุ่มรายนี้ ก็ได้ทำการอัดคลิปและพูดประชดประชันเจ้าหน้าที่เช่นนี้   ::–> ณ สะพานเหล็ก (28/10/58) <–::โปรดใช้วิจารณญาณ ~CREDIT: @Fortyfive Bikershop*************************ขอบคุณคลิปแนะนำจาก––@คุณชาย ปัง ปอนด์ Posted by YouLike ”คลิปเด็ด” on Wednesday, October 28, 2015     ทั้งนี้จากกรณีดังกล่าวก็แบ่งออกเป็นสองฝ่ายทั้งฝ่ายที่เห็นใจพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของในตลาดสะพานเหล็กแห่งนี้ และอีกฝ่ายที่เห็นว่าการพูดจาของหนุ่มผู้อัดคลิปนั้นพูดจาก่อกวนเจ้าหน้าที่   เอาเป็นว่าเหมียวจะเห็นใจทั้งสองฝ่ายนะ ทั้งพ่อค้าแม่ค้า และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ แล้วพวกท่านมีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้างจ๊ะ ที่มา : YouLike ”คลิปเด็ด”

ทุกวันนี้หากใครที่รู้สึกไม่พอใจในเรื่องของรูปร่างและหน้าตาของตนเอง ศัลยกรรมก็มักจะเป็นสิ่งที่ถูกเลือกเป็นทางออกสุดท้าย จะว่าไปแล้วการทำศัลยกรรมนั้นก็ต้องคาดหวังเอาไว้สูง เนื่องจากจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายไปไม่ใช่น้อยๆ เลย     แต่แล้วสิ่งที่เหนือความคาดหมายก็สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่มีอะไรที่จะเป็นไปตามที่หวังเอาไว้ 100% เพราะทุกอย่างมีความเสี่ยง การทำศัลยกรรมก็เช่นกัน อย่างเช่นจากกรณีของหญิงสาวรายหนึ่งที่ประสงค์ทำศัลยกรรมปาก แต่ดันเกิดผิดพลาด มีรอยแผลอยู่บนริมฝีปากด้านบน ทำให้ดูราวกับว่าแลบลิ้นตลอดเวลา   ทางคลีนิกที่ผ่าตัดก็แจ้งว่าเป็นอาการปกติ โดยที่ปากจะมีลักษณะเป็นไตๆ และจะต้องหมั่นนวดทุกวัน แต่มันทำให้เธอสูญเสียความมั่นใจไปเลย ไม่กล้าออกไปพบใคร และจะต้องใส่ผ้าปิดปากตลอดเวลา     ทางด้านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็ได้ให้ความเห็นเอาไว้ว่า ลักษณะที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการผ่าตัดที่ไม่ถูกตำแหน่ง ตัดเนื้อข้างนอกออกจนเกือบหมดและยังเป็นตำแหน่งตรงกลางปากด้วย หนทางที่จะแก้ไขนั้นยากมากๆ หากจะแก้ไขก็ต้องพึ่งพาหมอผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ทั้งนี้การทำศัลยกรรมที่ออกมาดูดีก็มี แต่ที่ผิดพลาดก็มีเยอะเหมือนกัน เพราะฉะนั้นก่อนที่จะตัดสินใจทำศัลยกรรมก็ควรที่จะพิจารณาผลที่จะตามมาด้วยนะจ๊ะ ที่มา : dodeden

เรื่องการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ถือว่าเป็นประเด็นละเอียดอ่อนของใครหลายๆคน แน่นอน การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงย่อมมีข้อดี แต่หากเจ้าของไม่สามารถดูแลมันได้อย่างทั่วถึง นั่นอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นได้ อย่างเรื่องที่เหมียวนำมาให้เพื่อนๆชมวันนี้ เรื่องราวมีอยู่ว่า เฟสบุ๊ค Permsak Isarangkun Na Ayuthaya ได้โพสภาพซึ่งอ้างว่าถ่ายมาจากบ้านข้างๆของตนเอง โดยเป็นภาพของประตูรั้วบ้านหลังหนึ่ง บนประตูรั้วมีป้ายติดอยู่ บนป้ายเขียนด้วยข้อความหยาบคาย ประชดประชัน ว่า ขอโทษที่หมาของตนเองนั้นส่งเสียงดัง ซึ่งต้นเหตุน่าจะมาจาก หมาที่เจ้าของบ้านเลี้ยงไว้ ชอบเห่าอย่างไม่หยุดหย่อน จนเพื่อนบ้านเกิดความรำคาญ       เมื่อชาวเน็ตเห็นภาพดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย     เหมียวว่าเจ้าของควรดูแลสัตว์เลี้ยงของตนเองให้ดี อย่าปล่อยให้สร้างปัญหาให้กับผู้อื่น เพราะไม่อย่างนั้น กรรมจะตกที่น้องๆแทนนะเหมียว แล้วเพื่อนๆละคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองเสนอกันเข้ามาดูนะฮะ ที่มา Permsak Isarangkun Na Ayuthaya

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน ในวันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ มาชม 10 ดาราสาวแห่งเมืองไทยที่เรียกได้ว่า มีเรียวขาที่สวย และน่ามองที่สุด ซึ่งทั้ง 10 อันดับนี้ ได้ถูกจัดอันดับขึ้นโดยเว็บไซต์ Kapook ยังไงละเหมียว และต้องขอบอกเลยว่าแต่ละคนเป็นตัวแม่แห่งวงการบันเทิงทั้งนั้น เอาละ!! เรามาดูกันเลยดีกว่า ว่า 10 อันดับนี้จะมีใครกันบ้าง   1.อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ   2.ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่   3.ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร   4.ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์   5.มีน พิชญา วัฒนามนตรี   6.มิ้นท์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง   7.เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า   8.ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์   9.แพทตี้ อังศุมาลิน…

กลายเป็นประเด็กนร้อนบนโลกอินเตอร์เน็ต หลังมีการเผยแพร่ภาพอาคารของโรงเรียนดังโรงเรียนหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ ติดแอร์บริเวณบันไดทางเดินขึ้นตึก แถมยังมีการติดตั้งหลอดไฟแบบถี่ๆ จนเกินความจำเป็นอีกด้วย เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเพจ ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ได้รายงานว่าเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 27 ตุลาคม 2558 ว่าโรงเรียนสตรีชัยภูมิ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ใช้เงิน 44 ล้าน สร้างอาคารสี่ชั้น พร้อมทั้งติดบันไดทางเดิน และมีติดตั้งหลอดไฟมากจนผิดสังเกต และดูเหมือนจะมีการทุจริตในการประมูลสร้างอาคารอีกด้วย     เมื่อข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย   อื้อหือ กินกันแบบไม่เนียนเลยนะเนี่ย ใครเขาเอาแอร์บ้านไปติดอาคารขนาดใหญ่กัน หวังว่าจะมีหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบในเร็วนะครับ แล้วเพื่อนๆละ คิดเห็นอย่างไรกับข่าวนี้บ้าง ลองเสนอกันเข้ามาดูนะฮะ ที่มา ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน

หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกรณีที่เหล่าดารานักแสดงพากันโพสต์รูปเครื่องดื่มแอกอฮอล์ยี่ห้อหนึ่ง ทำให้ทางคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค ต้องเรียกตัวเหล่าดาราเข้ามาให้ปากคำต่อกรณีที่เกิดขึ้น   และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางดาราสาวอย่างวุ้นเส้น วิริฒิพา ก็ได้ออกมายอมรับต่อสื่อว่าการถือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นเป็นการโฆษณาจริง     ล่าสุดผู้ใช้ทวิตเตอร์ Nantakarn@ThaiPBS ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลรายชื่อเหล่าดาราคนดัง ที่มีกำหนดต้องเข้าให้ปากคำในวันที่ 11 – 16 พฤศจิกายน โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้   11 พฤศจิกายน 2558 น.ส. คริส หอวัง (คริส) น.ส. เจนสุดา ปานโต (เจน) น.ส. ไรบีนา อินทชัย (นานา) วง slot machine   12 พฤศจิกายน 2558 นายฌอห์ณ จินดาโชติ นางรัตนารัตน์ เอื้อทวีกุล (เพชร) น.ส. ญานนีน ภารวี ไวเกล (พลอยชมพู) นายสิทธา สภานุชาติ (เอี๊ยง)   13…

กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตไปในทันที หลังจากมีคนปล่อยคลิปชายหนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์สุดโหด ชักปืนขึ้นมาขู่รถยนต์ หลังจากโดนเบียดแซง โดยคลิปดังกล่าวโพสโดยคุณ Aoskar เด็กเมืองพี่พ่อ เขาเล่าว่าขณะที่เขากำลังขับรถเข้าไปในตัวเมืองภูเก็ต มีรถมอเตอ์ไซค์คันหนึ่งกำลังขี่อยู่กลางถนน เขาจึงพยายามเบียดแซงขึ้นไป   หลังจากแซงไปได้ซักพัก มอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวก็แซงคืนมา พร้อมชักปืนขึ้นมาขู่ จนเขาต้องชะลอความเร็ว เนื่องจากกลัวเกิดอันตราย   ลองไปชมคลิปเหตุการณ์กัน เมื่อชาวเน็ตเห็นคลิปดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย     เหมียวว่าบนท้องถนน เราควรเคารพกฎจราจร มีน้ำใจให้กัน แล้วก็ทำใจเย็นๆ แค่นี้ก็จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแล้วละ ขับขี่ปลอดภัยนะครับทุกคน ^^ ที่มา Aoskar เด็กเมืองพี่พ่อ

หลังจากมีคดีความฟ้องร้องกันไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กรณีของคิตตี้รีสอร์ทและผู้ใช้บริการรายหนึ่ง ที่ได้ถ่ายภาพห้องพักและส่วนต่างๆ ของรีสอร์ทที่ยังสร้างไม่เสร็จดีมาแฉในเว็บไซต์พันทิป   ทำให้เจ้าของรีสอร์ททนไม่ได้จึงต้องฟ้องร้องกลับ แถมยังมีประเด็นที่ทางรีสอร์ทนำเอาตัวการ์ตูนคิตตี้มาใช้เป็นธีมของโรงแรม โดยที่ทาง Sanrio ไม่ได้อนุญาตอีกด้วย     ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊ก Bobby Nilkamhang เป็นภาพที่ทางคิตตี้รีสอร์ทได้มีการเปิดโซนใหม่ ที่นำเอารูปปั้นชิซูกะและไจแอ้นจากโดราเอมอนมาตั้งไว้ ทำเอาชาวเน็ตถึงกับเงิบในความแปลกประหลาดของหน้าตาตัวละครเลยทีเดียว     หลังจากที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้สมาชิกในเฟซบุ๊กต่างพากันเข้ามาแสดงความเห็นมากมาย แต่มีสมาชิกคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Chonticha Bouranavanich ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า ที่ทางรีสอร์ทไม่สร้างรูปปั้นให้เหมือนกับตัวจริงก็เพราะว่าทางต้นสังกัดจะได้ฟ้องไม่ได้นั่นเอง งานนี้ทำเอาเหมียวฮาอีกแล้ว คราวหน้าจะมีรูปปั้นของอะไรโผล่มาอีกมั่ง เราคงต้องติดตามกันต่อไปล่ะ ที่มา Bobby Nilkamhang , kapook

ดูเหมือนว่าตำรวจจราจรกับผู้ขับขี่รถบิ๊กไบค์จะเป็นอะไรที่ถูกโฉลกกันมากเลยนะ เพราะเราแทบจะได้เห็นประเด็นของคนขับบิ๊กไบค์กับตำรวจอยู่บ่อยครั้งทีเดียว ซึ่งล่าสุดก็มีกรณีที่คล้ายกันนี้ออกมาให้เราได้เห็นอีกแล้ว     เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก ไก่ มีหาง‎ โดยเจ้าตัวได้เล่าว่าตนเองนั้นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกับในข้อหาดัดแปลงท่อไอเสียมอเตอร์ไซค์     แต่เนื่องจาก มอเตอร์ไซค์รุ่น Benelli 300 ของเขานั้นไม่เคยถูกดัดแปลงมาก่อน และออกจากโรงงานมาเป็นแบบนั้นเลย  แต่ทางตำรวจกลับบอกว่า “ก็ดัดแปลงออกจากศูนย์ไง” ทำให้เจ้าของรถเกิดความสงสัยจนต้องมาตั้งกระทู้ถามผ่านโลกออนไลน์       จากนั้นทางเจ้าของรถบิ๊กไบค์คันดังกล่าวก็ได้โทรเรียกให้เจ้าหน้าที่จากศูนย์ Benelli เข้ามาชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ทำให้เขาไม่ต้องเสียค่าปรับใดๆ และสามารถนำมอเตอร์ไซค์ของเขาออกไปขี่ได้ตามปกติ     แต่ต่อมาทางจำรวจจราจรท่านเดิมกลับจะมาเขียนใบสั่งใหม่อีกใบเพื่อแก้ข้อกล่าวหาและจะขอใบสั่งเก่าคืน ซึ่งเจ้าของบิ๊กไบค์ไม่ยอมให้ ทำให้สุดท้ายแล้วตำรวจราจรต้องเดินหนีไป     ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง …….. ที่มา ไก่ มีหาง

นับจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลากว่า 7-8 ปีแล้ว ที่พวกเรา (โดยเฉพาะหนุ่มๆ) ได้รู้จักกับสาวน้อยหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มอย่างน้องแพทตี้ อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาเธอจากภาพยนตร์เรื่อง ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น หลังจากนั้นเธอก็เริ่มกลายเป็นที่รู้จักและมีงานแสดงเข้ามากมาย     ด้วยภาพลักษณ์สาวผมสั้นหน้าตาแบ๊วๆ ทำให้หนุ่มไทยหลายๆ คนต่างชื่นชอบในผลงานของเธอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอก็เริ่มโตขึ้นและมีลุคที่เปลี่ยนไป จากสาวน้อยกลายเป็นวัยรุ่นเต็มตัวแล้ว ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม นิตยสาร MIX Magazine ก็ได้ปล่อยอัลบั้มภาพถ่ายแฟชั่นเซ็ตล่าสุดของแพทตี้มาให้เราได้ชมกันด้วยล่ะ     โดยในการถ่ายแบบครั้งนี้มาในคอนเซ็ปต์ Backpacker ที่เหมาะสำหรับสาวๆ ขาลุยที่รักการเดินทาง ทำให้เราได้เห็นอีกลุคหนึ่งของสาวแพทตี้ ที่มีมุมเท่ๆ และเซ็กซี่กับเขาบ้าง ขอบอกว่าน่ารักสุดๆ ไปเลยล่ะ                   ไม่น่าเชื่อเลยว่าน้องแพทตี้จะโตขึ้นและน่ารักขึ้นได้ขนาดนี้ กรี๊สสสสส ที่มา mixmagazine

ชีวิตของคนเราต้องเจออะไรมากมาย ไหนจะต้องต่อสู้และฝ่าฟันกับอุปสรรคต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต ในบางช่วงเวลาก็อาจจะทำให้รู้สึกท้อแท้ว่าทำไมหนอ เราถึงไม่มีอย่างคนอื่นบ้าง แต่ก็ต้องสู้กันต่อไป จะมามัวงอมืองอเท้าไม่ได้     ก็มีบ้างตามโอกาสเมื่อมีการประกาศแจกรางวัลจากการชิงโชคต่างๆ ที่มีให้เห็นกันทั่วไป คนนู้นได้รับรางวัล คนนี้ก็ได้รางวัล แล้วทำไมล่ะ? เราจะไม่ได้บ้าง ถึงแม้โอกาสเสี่ยงโชคมันจะมีแค่เพียงหนึ่งในล้านก็เถอะ อย่างเช่นคุณแม่บ้านจากโคราชรายนี้ ที่ลองส่งรหัสใต้ฝาจีบไปกับเขาบ้าง วันละฝา สองฝาก็ยังดี     และแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับคุณแม่บ้าน จากที่เธอทำความสะอาดมาค่อนชีวิตกว่า 11 ปี จู่ๆ ชีวิตก็พลิกผันกลายมาเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลเป็นรถเบนซ์สุดหรู โอ้ววววว!! อะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ แฮะ     เธอกล่าวเอาไว้ว่า คนส่วนใหญ่เชื่อว่าส่งรหัสไปยังไงก็ไม่มีทางถูกรางวัลหรอก จากสิ่งที่หลายคนมองข้ามไป สุดท้ายความโชคดีก็มาอยู่ที่เธอจนได้ สุดยอดไปเลยจ้า!!

ในสมัยนี้การทำศัลยกรรม ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติ และไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เพราะไม่ว่าจะเป็นดารา หรือผู้คนทั่วไป ถ้าอยากสวยและดูดี ก็ต้องหันไปเพิ่งการทำศัลยกรรมกันอยู่แล้ว แต่เหมียวเชื่อว่ายังมีผู้คนอีกไม่น้อย ที่หล่อสวยแบบธรรมชาติโดยไม่พึ่งมีดหมอ ดังเช่น 6 ดาราชายไทยเหล่านี้ ขอบอกเลยว่าแต่ละคนนั้น ดูดีแบบไม่ต้องศัลยกรรมเลยแม้แต่น้อย แถมดีกรีความหล่อพุ่งปรี๊ดมาตั้งแต่เด็กๆ เลยก็ว่าได้ เรียกได้ว่าหล่อเสมอต้นเสมอปลายกันจริงๆ ว่าแต่จะมีใครบ้าง มาชมกัน!!   1.ณเดชน์ คูกิมิยะ     เริ่มจากหนุ่มคนแรกกันเลยกับ ณเดชน์ คูกิมิยะ นักแสดงชายสุดฮอตที่ใครๆ ก็รู้จัก ซึ่งหนุ่มคนนี้ขอบอกเลยว่าหล่อเป๊ะเว่อร์มาตั้งแต่เด็กๆ จนเข้าสู่วงการบันเทิง หน้าตาก็ยังเหมือนเดิม โอ่ยๆๆๆ จะหล่อไปไหนพ่อคุณ   2.เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ     มาถึงพระเอกหนุ่มหล่อมาดเข้มนามว่า เวียร์ ศุกลวัฒน์ กันบ้าง ซึ่งดูจากรูปสมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้ว ไม่ค่อยแตกต่างจากตอนเข้ามาสู่วงการสักเท่าไหร่ เพราะหน้าตาก็ยังพิมเดิม เรียกได้ว่าหล่อเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ   3.ติ๊ก เจษฎาพร ผลดี       เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าดีกรีความหล่อของพี่ติ๊กนั้น…

กลายเป็นเรื่องราวสุดสะเทือนขวัญ เมื่อมีชาวเน็ตท่านหนึ่งออกมาเตือนภัย หลังจากพบเจอวัยรุ่นสุดห่าม ถือปืนไล่ยิงคนไปทั่วกลางเมือง โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ พร้อมกำชับให้คนในพื้นที่ระวังตัว เจ้าของเฟสบุ๊คดังกล่าวมีชื่อว่า Saksit Bensaiee เขาเล่าว่าเมื่อช่วงตีสามของวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะเขากำลังขี่รถมอเตอร์ไซค์อยู่ในเมืองหาดใหญ่ เขาถูกวัยรุ่นกำลังยิงปืนขึ้นฟ้าอย่างย่ามใจ และเมื่อวัยรุ่นคนนั้นเห็นเขา วัยรุ่นก็เปลี่ยนเป้าหมายมายิงเขาแทน ซึ่งแม้เขาจะวิ่งหนี แต่วัยรุ่นคนนั้นก็ยังตามมายิง โชคดีเขาไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เขายืนยันว่าไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องกับวัยรุ่นคนดังกล่าวมาก่อน นอกจากนี้วัยรุ่นคนดังกล่าว ยังเอาปืนยิงคนที่ผ่านไปผ่านมาตอนนั้นด้วย แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ     หลังจากมีการแชร์ข่าวออกไป ชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย   เป็นน่าสะเทือนขวัญจริงๆ ใครจะไปไหนมาไหนก็ขอให้ระวังตัวนะฮะ แล้วก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับตัวมาได้โดยเร็ว เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่นะครับ ที่มา Saksit Bensaiee

หลังจากเป็นข่าวโด่งดัง เมื่อมีคนแชร์ภาพห้องพักห้องข้างๆ เต็มไปด้วยขยะจนเดินแทบไม่ได้ (ข่าวเก่า) ตอนนี้มีการอัพเดทสถานะการณ์ของห้องสุดสกปรกดังกล่าวแล้ว โดยเจ้าของเฟสคนเดิม Snwrsr Wongpanith ได้เล่าว่า ตอนนี้เจ้าของหอได้ให้เจ้าหน้าที่ขึ้นมาทำความสะอาดแล้ว และพบว่าในห้องยังมีของใช้อยู่ครบทุกอย่าง แต่เจ้าของห้องซึ่งเป็นผู้หญิงนั้น ไม่ได้กลับมานานแล้ว     เหมียวเห็นขยะแล้วยอมใจจริงๆ ไม่รู้ว่าทำไมเก็บขยะไว้เยอะขนาดนี้ หรือว่าเขามีอาการทางจิตอะไรหรือเปล่า ใครเช่าหออยู่ก็อย่าไปทำแบบนี้นะ ไม่งั้นอาจจเป็นข่าวดังได้!! ที่มา Snwrsr Wongpanith

ในทุกๆ คืนที่เราต้องนั่งรถไปตามท้องถนนเพื่อเดินทางไปไหนมาไหน เคยสงสัยกันไหมว่าเสาไฟตามข้างทางนั้น มันมีวิธีเปิดวิธีปิดยังไงกันแน่? หากเพื่อนๆ อยากรู้ล่ะก็ วันนี้แอดเหมียวจะมาเปิดเผยให้ได้รู้กันเอง   เมื่อไม่นานมานี้แอดเหมียวได้ไปเจอเข้ากับข้อมูลที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ Gotoknow มาล่ะ เป็นการเปิดเผยถึงวิธีการเปิด-ปิดไฟตามถนน โดยไฟถนนส่วนใหญ่จะเป็นแบบตั้งเวลา ซึ่งควบคุมดวงไฟตามถนนที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆกัน     ในสมัยก่อนจะมีการใช้สวิทช์ไขลาน ที่ต้องคอยไขลานทุกสัปดาห์ แต่ตอนนี้เทคโนโลยีก้าวไกลมาก ทำให้เปลี่ยนจากการไขลานมาเป็นระบบไฟฟ้า มีหน้าปัดหมุนรอบตัวเองและมีคานหรือก้านติดอยู่ที่หน้าปัดเพื่อเปิด-ปิดไฟฟ้าตามเวลาที่ตั้งไว้   ตัวสวิทช์ที่ใช้กับไฟถนนนั้นจะเป็นแบบเดียวกันกับที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศ แต่ใช่ว่านาฬิกาจะถูกตั้งค่าให้เปิดปิดแบบตรงเวลานะ เพราะเมื่อฤดูกาลมีการเปลี่ยนแปลง ทำใช้ช่วงเช้า-ค่ำ มาเร็ว-ช้าต่างกัน แต่เจ้าไฟถนนนี้ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองแบบอัตโนมัติได้เช่นกัน     เมื่อไม่นานมานี้วิศวกรผู้ทำงานด้านไฟถนนได้พัฒนาเครื่องควบคุม แบบโฟโตอิเล็กทริก ขึ้นมาเรียกย่อว่า “เพคู” เพื่อใช้ควบคุมสวิตช์ที่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับดวงไฟตามถนน โฟโตเซลล์ที่อยู่ในเครื่องควบคุมแบบนี้มีสารประกอบทางเคมีที่ไวแสง เช่น แคดเมียมซัลไฟด์ หรือซิลิคอน   ในตอนเช้าตรู่แสงอาทิตย์ที่ส่องกระทบโฟโตเซลล์จะทำให้อิเล็กตรอนในสารประกอบนั้นไหลจากอะตอมหนึ่งไปยังอีกอะตอมหนึ่ง และนำกระแสไฟไปยังสวิตช์ซึ่งจะปิดแสงไฟ ครั้นเวลามืดลงอิเล็กตรอนในสารประกอบนั้นหยุดไหล กระแสไฟที่วิ่งอยู่ก็จะหยุด ทำให้สวิตช์เปิดและไฟถนนก็สว่างขึ้น กระแสไฟในโฟโตเซลล์จะไหลหรือหยุดเมื่อใดนั้นขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศนั่นเอง     นี่ซินะความลับของไฟข้างถนน มันเปิดปิดอย่างนี้นี่เอง ที่มา gotoknow

เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเลยทีเดียว โดยเฉพาะกระแสสังคมในช่วงนี้ที่เรียกได้ว่า กลุ่มผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ ถูกมองหรือนำไปเปรียบเทียบกับพวก ‘เด็กแว้น’ หรือบางทีหนักจนถึงขั้นเป็น ‘ขยะสังคม’ กันเลยทีเดียว ทั้งการขับรถด้วยความเร็วสูงเอย การที่ท่อไอเสียส่งเสียงดังจนมากเกินไปในที่ชุมชน และที่สุดจะรับได้นั่นก็คือมารยาทในการใช้ถนนของผู้ขี่บางกลุ่มที่สุดจะบรรยาย จนทำให้เกิดกระแสวิพากวิจารณ์ในสังคมค่อนข้างรุนแรง จนผู้ใช้รายอื่นถูกตราหน้าแบบเหมารวมไปด้วย เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา ทางเฟซบุ๊คของคุณ Tum Woradech Siripornjutakul‎ ก็ได้โพสต์เนื้อหาและข้อมูลที่น่าสนใจเลยทีเดียว เกี่ยวกับผู้ขับขี่ มุมมองของเขา และแน่นอนมุมมองของสังคม ที่เรียกได้ว่าตรงกันสุดๆ เลยล่ะ     ลองมาชมมุมมองของเขากัน   ก็น่าเห็นใจอยู่นะเหมียวว่า เพราะถ้าเราคิดกันแบบใจที่เป็นกลางแล้ว คนดี-เลว มีปะปนกันไปหมดทุกๆ สังคม และแน่นอนความเลวที่เราได้เห็นนั้น เราก็มักจะติดภาพนั้นๆ มากกว่าความดี ก็ต้องระวังกันในเรื่องนี้…     รูปภาพจากโพสต์ของคุณ Tum Woradech Siripornjutakul‎     อีกหลากหลายมุมมองจากชาวเน็ต     ทั้งเห็นด้วย    …

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพรถตุ๊กๆ คันหนึ่งผ่านเฟซบุ๊กเพจ ตำรวจไทย สู้ๆ เป็นภาพของรถตุ๊กๆ ที่ใช้สำหรับบริการประชาชนตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “เปิดตัว ‘จ่าตุ๊ก’ สายตรวจจราจรสามล้อ คันแรกของโลก จาก สน.สำราญราษฎร์”     ตามรายงานบอกว่าไอเดียดังกล่าวเกิดขึ้นโดย พ.ต.ท. สมเกษม จารักษ์ รองผู้กำกับการจราจร สน.สำราญราษฎร์ ที่มีคำสั่งให้ทาสีรถตุ๊กๆ เป็นสีเดียวกับเสื้อตำรวจและติดป้าย Police เพื่อออกตรวจตรานักท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวได้แก่ โลหะปราสาทวัดราชนัดดา, ภูเขาทองวัดสระเกศ, เสาชิงช้า และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย     นอกจากจะใช้เป็นรถสำหรับตรวจตราประชาชน และใช้รับส่งนักท่องเที่ยวแล้ว ภายในรถคันนี้ยังมีป้าย Check in น่ารักๆ ไว้ให้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะถ่ายภาพด้วย     และที่หลังรถตุ๊กๆ ยังมีเครื่องปริ้นเตอร์ไว้ใช้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ถ่ายภาพเสร็จแล้ว และต้องการปริ้นเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ปริ้นกันแบบทันทีทันใด         หลังจากภาพจ่าตุ๊กๆ ถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันเข้ามาชื่นชมในความน่ารักของรถตุ๊กๆ เช่นคุณ Jureerut Sunipan บอกว่า “เท่ไปอีกแบบนะคะ…

เมื่อวันที่ 22 ตุลามคม เพจเฟซบุ๊กชื่อว่า กลุ่มคนไทย ไม่เอาหาบเร่ แผงลอย ได้ทำการโพสต์ภาพ 4 ภาพ เป็นภาพของกองขยะที่วางเกลื่อนกันบนทางเท้าและบันได โดยทางเพจได้บอกว่าเป็นขยะของพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าที่ได้ทิ้งเอาไว้ หลังจากโพสต์ไปได้ไม่นาน ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก มีคนกดไลค์และแชร์ภาพเหล่านี้สูงกว่า 500 ครั้ง และมีคนมาแสดงความคิดเห็นมากมาย เกี่ยวกับความไม่มีวินัยของคนกลุ่มนี้     เขาได้เขียนคำบรรยายของภาพไว้ว่า “แผงลอยสยามหลังเลิกแผงแล้ว รู้มั้ยว่าพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้านั้นทิ้งอะไรไว้เป็นของที่ระทึก วินัยประชาชนสะท้อนวินัยชาติ จากภาพที่เห็นคงรู้เลยว่าวินัยคนชาติพันธ์ไทยนั้นเป็นอย่างไร”   และนี่คือความคิดเห็นบางส่วนที่มีต่อภาพเหล่านี้     ถือเป็นปัญหาที่แก้ยังไงก็ไม่หมดไปเสียที ทั้งแผงลอยและการทิ้งขยะไม่ลงถัง ซึ่งมันแสดงถึงความไม่มีระเบียบวินัยและไม่มีความรับผิดชอบ เวลาชาวต่างชาติมาเห็น อาจเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีก็เป็นได้ แผงลอยสยามหลังเลิกแผงแล้ว รู้มั้ยว่าพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้านั้นทิ้งอะไรไว้เป็นของที่ระทึกวินัยประชาชนสะท้อนวินัยชาติ จากภาพที่เห็นคงรู้เลยว่าวินัยคนชาติพันธ์ไทยนั้นเป็นอย่างไร Posted by กลุ่มคนไทย ไม่เอาหาบเร่ แผงลอย on Thursday, October 22, 2015 ที่มา กลุ่มคนไทย ไม่เอาหาบเร่ แผงลอย

เรื่องสุขอนามัยถือว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลจริงๆ บางคนก็สะอาดมากจนคนอื่นอึดอัด แต่บางคนก็สกปรกเสียจนคาดไม่ถึง อย่างเช่นคนที่เหมียวนำมาให้ชมวันนี้ เจ้าของเฟสบุ๊คชื่อ Snwrsr Wongpanith ได้โพสภาพอันน่าตกใจของห้องข้างๆในหอพักที่เธอเช่าอาศัยอยู่ โดยภายในห้องมีขยะอยู่แทบทุกมุมห้อง จนนึกภาพไม่ออกเลยทีเดียว ว่าไปนอนตรงไหน หญิงสาวเจ้าของเฟสเล่าว่า เธอสงสัยว่าทำไมห้องของเธอจึงมีมดเยอะ ทั้งๆที่เธอก็ทำความสะอาดตลอด จนบางครั้งถึงกับขึ้นมากัดเธอตอนที่เธอนอน จนวันหนึ่งห้องข้างๆ เปิดประตูออกมา เธอถึงได้เข้าใจทุกอย่าง     ไปชมสภาพห้องแบบชัดๆ   อันนี้คือสภาพห้องแบบปกติที่ควรจะเป็น     เมื่อชาวเน็ตได้เห็นภาพดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความเห็นมากมาย       เหมียวขอช็อคแปป นี่คนเราสกปรกได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ยอมใจจริงๆ ที่มา Snwrsr Wongpanith

กลายเป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์กันเลยทีเดียว สำหรับกรณีของอดีตนักแสดงสาวเซ็กซี่อย่าง น้องแน๊ต เกศริน ชัยเฉลิมพล ที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าเจ้าตัวได้บวชชีหันหน้าเข้าหาทางธรรม     แต่หลังจากออกจากวัดมาแล้วเจ้าตัวกลับไปถ่ายแบบเซ็กซี่แหวกอกอีกครั้งหนึ่ง จนชาวเน็ตบางคนถึงกับต้องออกมาแซะว่า ‘เข้าวัดบวชชีมาแล้ว น่าจะคิดได้’ งานนี้ร้อนถึงเจ้าตัวต้องออกมาโต้ตอบกับคอมเม้นแรงๆ ที่ถาโถมเข้ามาเลยทีเดียว     ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา น้องแน๊ต ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ จุดเดือด ผางช่อง 2 ถึงกรณีดังกล่าว โดยเจ้าตัวกล่าวว่า “ตัวเองคิดได้หรือยัง อย่าหวังว่าคนที่บวชชีกลับมาแล้วจะเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ ดีไม่ดีอยู่ที่ตัวเรา อย่าไปวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น เพราะตัวเองยังไม่ดีพอ ถ้าดีแล้วคงไม่มาเวียนว่ายตายเกิดแบบนี้”     ทั้งนี้เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา น้องแน๊ตยังได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของตัวเองอีกว่า “สำหรับพวกแอนตี้เข้ามาแล้วแจ้งไปทางเพจว่าเค้าโป๊เปลือยขอโทษนะ ฉันโพสต์ส่วนไหนของภาพที่เห็นไปถึงรูขุมขนหรือเห็นจุกสีชมพูของเค้า”     “ภาพของเค้ามันคือภาพ Sexy แล้วก่อนโพสต์ก็ถามทางสารวัตรตำรวจเรียบร้อยแล้วว่าสามารถโพสต์ได้ ไม่อนาจารโป๊เปลือย”     เอ้า ขาเม้าท์ทั้งหลายได้ยินแบบนี้ก็เลิกตามไปต่อว่าเขาได้แล้วนะจ๊ะ มันเป็นงานของเขานะ ที่มา thaich2 , kapook , น้องแน๊ต เกศริน

ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา มีกระแสโด่งดังบนอินเตอร์เน็ตข่าวหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับร้านหมูกระทะร้านหนึ่ง ได้ออกมาโวยวายว่า มีลูกค้าสองท่านนั่งกินมาราธอนถึงหกชั่วโมง แถมยังสลับกันออกไปเดินเล่น และกลับมากินต่อ แถมยังกินไอศกรีมหมดไปหนึ่งถังเต็มๆด้วย (ข่าวนี้ : ร้านหมูกระทะแจง ขอกำหนดเวลาการกิน เพราะเจอลูกค้านั่งแช่ยาว สั่งกินกว่า 6 ชั่วโมง!!!) และหลังจากมีข่าวนี้ออกไป ก็มีกระแสตอบกลับมามากมาย ทั้งด้านลบและด้านบวก บ้างก็บอกว่าเจ้าของงกเกินไป กฎของร้านก็เป็นคนกำหนดขึ้นเอง ลูกค้าก็ไม่ได้ทำผิดกฎอะไร จะโวยวายทำไม แถมเอาเรื่องของลูกค้ามาประจานด้วย แต่บางคนก็เห็นใจ ว่าลูกค้าสองคนนั้นทำเกินไปจริงๆ ปกติไม่มีใครกินนานขนาดนั้น แถมยังผิดมารยาทด้วยการออกเดินไปข้างนอกอีกด้วย ต่อมาลูกค้าสองท่านนั้นได้เข้ามาชี้แจงในเพจ พร้อมตำหนิ เจ้าของร้านว่า ทำไมถึงไม่บอกพวกเขาตรงๆ แล้วมาประจานกันแบบนี้ จะได้อะไร   เมื่อทางลูกค้าออมาชี้แจง กระแสก็ได้ตีกลับไปอีกทาง เจ้าของร้านถูกชาวเน็ตรุมตำหนิมากมาย ทำให้เจ้าของร้านออกมาชี้แจงอีกครั้งและขอโทษ และอยากให้จบเรื่องดั่งกล่าว พร้อมมอบกิฟวอยเชอร์ให้คู่กรณีทานฟรีอีกหนึ่งปีอีกด้วย!!     เมื่อทางร้านออกมาขอโทษ ชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความเห็นกันมากมาย   หวังว่าเรื่องราวครั้งนี้จะจบลงด้วยดีนะฮะ และครั้งนี้คงเป็นบทเรียนสำคัญ ให้กับร้านหมูกระทะแห่งนี้อย่างแน่นอน ที่มา กินอิ่ม นอนอุ่น หมูกระทะ

ในยุคออนไลน์ปัจจุบันนี้การจะทำมาค้าขายก็สะดวกมากขึ้น ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ เพียงแค่ดูภาพ คำบรรยาย และโทรศัพท์หรือติดต่อกับผู้ขายโดยตรงเพื่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้า จนกระทั่งนำไปสู่กระบวนการส่งสินค้าจริง     แต่ทว่าสินค้าที่ขายในโลกออนไลน์นั้นมีเยอะแยะมากมาย แต่มันไม่น่าจะไปถึงขนาดโพสต์ขาย กางเกงในใช้แล้ว นี่สิ คือไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ก็มีขึ้นมาจนได้     ได้อ่านและได้เห็นก็รู้สึกอี๋ขึ้นมาทันที แต่อย่าไปคิดว่าจะไม่มีคนซื้อนะ เมื่อมีขายจริง ก็มีคนซื้อจริงด้วย โอ้ยยยย!! ถึงมันจะขายได้ แต่มันก็ไม่เหมาะสมอย่างแรง เหมียวนี่ทำใจยอมรับไม่ได้ ที่มา : plug-innews

เมื่อไม่นานมานี้เฟซบุ๊คเพจ Korat : เมืองที่คุณสร้างได้ ได้มีการเผยแพร่ภาพงานก่อสร้างหอเอนปิซ่า ขนาดเท่าของจริงที่กำลังก่อสร้างกันที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งก่อสร้างเสร็จไปแล้วกว่า 35% ทั้งนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “หอเอนปิซ่า เท่าของจริง แห่งแรกของเมืองไทย!! เร็วๆ นี้ที่ Toscana Valley เขาใหญ่ โคราช แห่งเดียวเท่านั้น”           แต่หลังจากที่มีการแชร์ภาพดังกล่าวออกไป ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการลอกเลียนหอเอนปิซ่าของอิตาลีว่า นายทุนกำลังไปผิดทาง เพราะที่เขาใหญ่มีเอกลักษณ์ที่สวยงามตามธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบต่างประเทศ     แถมยังมีการบอกด้วยว่าสถาปัตยกรรมดังกล่าวถือเป็นทัศนอุจาด (Visual Pollution) นอกจากนี้ยังมีความเห็นหนึ่งได้ต่อว่าทีมงานก่อสร้างไว้ว่า “นับวันจะยิ่งเหมือนพี่จีน ก็อปปี้โน่นี่เต็มไปหมด ความเป็นไทยไม่เหลือแล้ว ฝรั่งมาบ้านเราอยากดูความเป็นไทยแต่ไหงเจอหอเอนปิซ่า โอ้มายก้อด”     ที่มา Korat : เมืองที่คุณสร้างได้ , kapook

แฟชั่นการระเบิดหูถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ในหมู่ของวัยรุ่นชั้นนำที่ชื่นชอบในความเร็วบนท้องถนนยามค่ำคืน หรือที่เราเรียกกันว่าเด็กแว๊น แน่นอน การจะเป็นเด็กแว๊นย่อมหมายถึงการทำอะไรที่แตกต่างจากคนทั่วไป แม้กระทั่งการเจาะหูหรือระเบิดหู ก็ต้องมีวิธีที่ต้องเหนือชั้นและคาดไม่ถึง จะไปให้ร้านเจาะหูทำให้ ถือว่าธรรมดาเกินไป พวกเขาจึงใช้ ค้อนกับตะปู!!!! ภาพที่เราเห็นในคลิปนี้ คือกลุ่มชายวัยรุ่นกำลังจะทำการเจาะหูให้เพื่อน แต่พวกเขาใช้ค้อนกับตะปูในการเจาะ โดยให้เพื่อนเอาใบหูแนบกับโต๊ะ จากนั้นค่อยเอาตะปูตอกลงไปตรงบริเวณที่ต้องการเจาะ!!     ไปชมภาพเหตุการณ์กันเลย     เหมียวว่าทำแบบนี้มันไม่ค่อยถูกเท่าไหร่นะ บริเวณหูมีเส้นประสาทสำคัญๆมากมาย ถ้าพลาดไปโดนเนี่ย เรื่องใหญ่เลยนะ เพื่อนๆเห็นแล้วอย่าไปทำตามละ เหมียวว่าไปให้ร้านที่ชำนาญเค้าเจาะเถอะ แบบนี้ไม่ไหวจริงๆๆ ที่มา Fuxker VDO

กับอีกครั้งกับอุบัติเหตุจากรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ หลังจากหักหลบไม่พ้นท้ายรถพ่วงที่กำลังเลี้ยว จนชนและเกิดไฟลุกท่วม เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณจุดกลับรถ ถนนมิตรภาพ (สายเก่า) หน้าเทศบาลเมืองปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ประสบอุบัติเหตุชนท้ายรถพ่วง ก่อนที่จะมีรถกระบะอีกคันที่สวนมาชนเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์อีกที จนเกิดเพลิงไหม้ขึ้นมาที่คนขับและรถจักรยานยนต์ โชคดีเจ้าของรถสามารถพุ่งออกมากลิ้งบนถนนเพื่อดับไฟได้ และชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์จึงพยายามเข้ามาช่วยดับ ทำให้คนขับปลอดภัย     ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย น่ากลัวจริงๆ เห็นแบบนี้แล้วเพื่อนๆที่มีบิ๊กไบค์หรือมอเตอร์ไซค์ธรรมดาก็ดี ขี่กันระมัดระวังหน่อยนะครับ อันไหนเสี่ยงก็รอซักนิด จะได้ปลอดภัยมากขึ้น เพื่อคนที่รักที่รอเราอยู่ที่บ้านนะครับ เหมียวเป็นห่วง ^^ ที่มา Fuxker VDO

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน ในวันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ มาย้อนความทรงจำไปกับ 10 อดีตนักแสดงสาวสวยชื่อดังสุดฮอตในอดีต ณ ปัจจุบันนี้พวกเธอจะเป็นอย่างไร และหน้าตาจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนกัน เชื่อว่าหากเพื่อนๆ คนไหนที่ได้ชมภาพของพวกเธอแล้ว จะต้องนึกถึงผลงานการแสดงของพวกเธอแน่นอน ว่าแต่จะมีใครบ้างนั้น ตามเหมียวมาชมกันเลยจ้า   1.เอ็มม่า วรรัตน์ สุวรรณรัตน์   2.นิ้ง กุลสตรี ศิริพงศ์ปรีดา   3.อุ้ม สิริยากร พุกกะเวส   4.ตุ๊กตา อินทิรา  แดงจํารูญ   5.ติ๊ก กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ   6.คลาวเดีย จักรพันธุ์   7.น้ำฝน โกมลฐิติ   8.ออม นวดี ศิริชนะชัย (โมกขะเวส)   9.มิ้น อาทิตยา ดิถีเพ็ญ   10.แอน สีเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์   โอ้โห…แต่ละคนยังดูสาว…

กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว หลังจากมีผู้ใช้เฟสบุ๊ค นำเรื่องราวมาโพสว่า ภรรยาซึ่งกำลังตั้งท้องอยู่ถูกภรรยาของทหารใหญ่ถีบเนื่องจากทะเลาะกันเรื่องเปิดประตูชนกัน เมื่อเรื่องราวถึงโรงพักภรรยาทหารใหญ่ก็เรียกสามีของตนเองมาเบ่งข่มขู่บนโรงพัก   อันนี้คือคลิปเหตุการณ์ที่บังเอิญมีผู้ผ่านไปมาถ่ายได้ โดยคลิปอ้างว่า ภรรยาของทหารใหญ่ดังกล่าว ได้พยายามถีบหญิงตั้งท้อง แล้วล้มเอง   เมื่อชาวเน็ตเห็นคลิปดังกล่าวก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย ว่าเป็นคนใหญ่คนโต แล้วคิดจะทำอะไรก็ได้อย่างงั้นหรือ?   เรื่องราวก็ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมีการแถลงข่าว โดยมีคุณบุ๋ม ปนัดดา เข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย ในบรรยากาศค่อนข้างจะมาคุ สังเกตจากสีหน้าของทั้งสองฝ่ายได้   แม้จะมีการไกล่เกลี่ยแล้ว แต่ดูเหมือนเรื่องราวจะยังไม่จบดี เมื่อคุณ PuiiHaHa สมาชิคเว็บพันทิปคนหนึ่ง ได้ตั้งนำเรื่องราวของฝั่งภรรยาทหารใหญ่ ผู้ถูกล่าวหาว่าเป็นคนถีบคนท้องมาเล่าบ้าง โดยเรื่องราวนั้น แทบจะเป็นคนละเรื่องกับที่ฝั่งคนท้องเล่าเลยทีเดียว โดยเขาบอกว่ามีการเปิดประตูชนกันจริง เมื่อมีการชนแล้ว ก็เรียกประกันมา ระหว่างนั้น ฝ่ายคนท้องได้นำเอกสารมาฟาดท้ายรถของฝ่ายภรรยาทหาร จนเกิดการโต้เถียงกัน และฝ่ายคนท้องสะบั้นอารมณ์ พูดว่า “หวงรถนักใช่มั้ย” แล้วก็เปิดประตูชนซ้ำแผลเดิม จนเกิดรอยลึก   หลังจากนั้นก็มีการยื้อกัน แล้วฝ่ายภรรยาทหารก็ล้มลงเนื่องจากถูกน้องสาวของคนท้องพลักดังคลิปด้านบน และไม่มีถีบคนท้องแต่อย่างใด เมื่อตำรวจมาถึง ทั้งสองก็ไปยังโรงพัก จังหวะที่ฝ่ายภรรยาทหารกำลังจะเข้าโรงพัก รถของสามีของคนท้อง ก็เข้ามาชนรถของภรรยาทหารโดยบังเอิญ แถมชนถึงสองครั้งอีกด้วย เขาอ้างว่าเขารีบมาดูลูกจนไม่ทันระวัง…

สำหรับการดูงานของหน่วยงานต่างๆ เป้าหมายที่สำคัญที่สุด ก็คงจะไม่พ้นเรื่องของการได้ความรู้ ความสามารถ เทคนิค แนวคิด รวมถึงวิสัยทัศน์ จากสถานที่ๆ ไปดู ซึ่งต้องนับได้ว่าเหนือกว่าความรู้ที่เรามีพอสมควร ไม่เช่นนั้นเราจะไปดูกันทำไม ใช่มั้ยล่ะ?? เพื่อนๆ เคยสงสัยกันบ้างมั้ยล่ะว่า การดูงานของหน่วยราชการต่างๆ โดยเฉพาะในประเทศเรานั้น เจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ความสามารถเค้าทำอะไรกันบ้างหนอ คงจะตั้งใจดูงานกันน่าดู พอดีเหมียวไปเห็นโพสต์ที่น่าสนใจของผู้รู้ท่านหนึ่งมาแหล่ะ อะไรๆ มันตรงเหมือนที่เหมียวเคยเห็นมายังไงอย่างงั้น…   แต่น แต้น แต๊นนนน หลักๆ แล้วใจความสำคัญก็คือ การดูงานในต่างประเทศของส่วนราชการไทยนั่นเอง ซึ่งก็ต้องส่งผู้มี ‘ความรู้’ และ ‘ความสามารถ’ ของประเทศ ที่ต้องเรียกได้ว่าหัวกะทิทีเดียว เพื่อไปดูงาน และนำความรู้ที่ได้กลับมา ‘พัฒนา’ ประเทศบ้านเกิดของตน   ส่วนในเรื่องค่าใช้จ่ายก็ไม่ต้องห่วงเลยแจ้ อย่างที่เรารู้ๆ กัน เพราะเขาไป ‘ดูงาน’ ในฐานะตัวแทนประเทศ ไม่ได้ไปด้วยความสมัครใจ เพราะฉะนั้นทางภาครัฐก็ต้องออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ มาจากที่ไหนน่ะเหรอ…ภาษีของประชาชนนั่นไง กิกิกิกิ   เหมียวขอไม่ยุ่งละกันเนาะเรื่องนี้ มาดูความเห็นของประชาชนคนไทยกันบ้างดีกว่า…     แปลว่าไรอ่ะ…

อาจจะไม่ได้มีข่าวอยู่ในสื่อกระแสหลักซักเท่าไหร่ แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่า ไก่ชนถือว่าเป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมในบ้านเรามาอย่างช้านาน และในการแข่งขันไก่ชนแต่ละครั้ง มีการลงเงินพนันตั้งแต่หลักหมื่น ยันหลักสิบล้านบาท อย่างเช่นการชนไก่ครั้งล่าสุดของโกวเซ้มฟาร์มและชนะชัยฟาร์ม ซึ่งทั้งสองค่ายได้นำไก่ชนเบอร์หนึ่งมาทำศึกกัน และในการแข่งขันครั้งนี้ เจ้าของโกวเซ้นฟาร์มได้ลงเงินพนันถึง 15 ล้านบาท โดยนำที่ดินไปจำนำ พร้อมบอกว่า ตนเองนั้นไม่ได้ร่ำรวย แต่จะทำอะไรต้องทำให้สุด อย่าให้คนอื่นว่าได้   แม้สุดท้ายฝ่ายโกวเซ้มฟาร์มจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และเสียเงินไปถึง 15 ล้าน แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจแต่อย่างใด   ภาพของไก่ตัวเก่งของโกวเซ้งฟาร์มชื่อว่า เจ้าปิ่นเพชร   ภาพหลังจากแพ้การแข่ง   แน่นอน ย่อยไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับกีฬาชนไก่ชนิดนี้   แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีคนที่เห็นด้วยและชื่นชอบกีฬาชนไก่ พวกเขาก็ออกมาให้เหตุผลดังนี้   ถือว่าเป็นอีกมุมหนึ่งของประเทศไทย ที่เราบางทีอาจไม่เคยสังเกต ส่วนเรื่องประเด็นศีลธรรมนั้น ก็ถือว่าเป็นความเห็นส่วนบุคคล เราขอไม่พูดถึงละกันเนาะ ^^ ที่มา โกวเซ้มฟาร์ม

ภาพลักษณ์ของตำรวจจราจรที่มีต่อคนไทยนั้น ต้องบอกเลยว่ามีด้านลบมากกว่าด้านบวก แม้จะมีตำรวจจราจรดีๆอีกมาก แต่ทัศนคติแย่ๆนั้น คงไม่เปลี่ยนไปง่ายๆอย่างแน่นอน แต่วันนี้เหมียวจะพาไปชมตำรวจจราจรที่ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง โดยไม่เลือกปฏิบัติ เรียกว่าน่าชื่นชมแบบสุดๆไปเลย     ภาพที่เห็นเป็นภาพของตำรวจจราจร กำลังล็อคล้อรถคันหนึ่งที่จอดบริเวณเส้นขาวแดง ซึ่งแม้จะเป็นรถเทศกิจเขตจตุจัก ก็ไม่มีการละเว้นแต่อย่างใด     การปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ ทำให้เขาได้รับเสียงชื่นชมมากมาย เพราะถือว่าเป็นการทำตามกฎหมายโดยไม่เลือกปฏิบัติ       สุดยอดเลยครับคุณตำรวจ เหมียวขอเป็นกำลังใจให้กับคุณตำรวจดีๆทุกท่าน อย่าย่อท้อจากการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าทำดีต่อไปเรื่อยๆ ซักวันหนึ่งศรัทธาจะกลับมาเองนะครับคุณตำรวจ ^^ ที่มา  Postjung

การเดินทางด้วยรถสองแถว ถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้นเคยกันดีในประเทศไทย และสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของรถสองแถวคือ เวลาที่นั่งเต็ม ผู้โดยสารจะออกยืนโหนตรงบริเวณท้ายรถ แน่นอนการโหนนั้นไม่ปลอดภัย เพราะหากรถออกตัวแรงๆ หรือเบรกกระทันหัน คนที่โหนอาจตกลงมาได้ อย่างเช่นสิ่งที่นักเรียนคนนี้ต้องประสบ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ถนนฉะเชิงเทรา-บางปะกง แยกไฟแดงเทพราช มีเด็กนักเรียนคนหนึ่งพยายามโชว์เพื่อนๆที่นั่งอยู่บนรถสองแถว ด้วยการดึงข้อ โชคร้ายเขาพลาด ทำให้ตกลงมาบนถนน     ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย     แต่โชคดีที่รถตามหลังสามารถเบรกได้ทัน ทำให้เด็กคนนี้บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เห็นแบบนี้แล้ว ใครขึ้นรถสองแถวบ่อยๆ เป็นไปได้ก็อย่าโหนเลยนะ หรือถ้าต้องโหนจริงๆ ก็ขอให้ยืนนิ่งๆ ให้ปลอดภัยที่สุดนะเพื่อนๆ เหมียวเป็นห่วง ที่มา อยากรู้ต้องดูคลิป clips hit

ไม่รู้เหมียวคิดไปเองหรือเปล่าว่า เวลามีข่าวพฤติกรรมการขับหรือจอดรถแย่ๆ มักจะเป็นรถหรูอยู่ตลอดเวลา และวันนี้อีกครั้งกับรถเบนซ์สุดหรูที่จอดผิดที่ผิดทาง แถมมีข้ออ้างที่ทำให้ชาวบ้านต้องเงิบ! เรื่องมีอยู่ว่าคุณ JiJi StupidMonster‎ ได้แชร์ภาพการจอดรถระดับจักรวาฬของรถเบนซ์คันหนึ่งในเพจ I park like an idiot Thailand. ฉันจอดรถได้งี่เง่าสุดๆ โดยรถเบนซ์คันได้กล่าวได้จอดทะแยงคร่อมสองช่องจอด โดยอ้างว่าต้อเอาถุงกอล์ฟออก เลยต้องจอดแบบนี้   ผ่าง!! เขาจอดรถกับแบบนี้ได้แล้วเหรอเนี่ย พอชาวเน็ตเห็น พวกเขาจะว่าอย่างไรกัน   เหมียวนี่เงิบไปเลย เห็นแล้วเพื่อนๆก็อย่าไปจอดรถแบบนี้ที่ไหนนะ ไม่งั้นกลับมาอาจจะมีรอยรอบคันก็เป็นได้ ฮาา ที่มา I park like an idiot Thailand. ฉันจอดรถได้งี่เง่าสุดๆ

การจะทำเพจอะไรซักอย่างหนึ่งมันต้องใช้จิตวิญญาณสูง เพราะกว่าจะหาเอกลักษณ์ได้ก็ต้องใช้เวลาคิดดอยู่พอสมควร แต่เมื่อผ่านกระบวกการต่างๆมาเรียบร้อยแล้ว สุดท้ายก็ได้กำเนิดเพจอันทรงคุณค่าขึ้นมา วันนี้เหมียวก็ได้ไปเจอกับเพจเพจหนึ่งที่วันนี้แชร์กันเต็มหน้าฟีดไปหมด เพจนั้นมีชื่อว่า นักเลงท่านหนึ่ง แต่ชื่อนี่ก็กินขาดแล้ว เขาได้เขียนคำบรรยายเกี่ยวกับเพจนี้ว่า ก็ตามคำบรรยายนั่นแหละครับ เขาได้ทำการเฟ้นหานักเลงจากทั่วฟ้าเมืองไทย เลือกแต่คนที่คำพูดเด็ดๆ มาเผยแพร่ให้กับหนุ่มสาวได้เฮฮากัน รู้สึกว่าเพจนี้จะก่อตั้งเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา (ดูการโพสต์อันแรก) จนมาถึงตอนนี้ (19 ตุลาคม) ก็มียอดไลค์สูงถึง 99,000 ไลค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือว่าเร็วติดจรวดมาก สาเหตุที่ทำให้หลายคนชอบเพจนี้น่ะเหรอ หึหึ ไปดูเองเลยดีกว่าว่าแต่ละอันที่เขาได้เจอนักเลงมา มัน THUG LIFE แค่ไหน     #เข้าใจตรงกันนะครับ อย่าจีบเมียนักเลงถ้าไม่อยากโดนตบด้วยกล่องโคอาล่ามาร์ช Posted by นักเลงท่านหนึ่ง on Friday, October 16, 2015       รุ่นใหญ่ระดับหัวหน้าแก๊งค์ครับคนนี้#ใครอยากเข้าแก๊งค์ของเขา รีบไปสักลายนี้เลย Posted by นักเลงท่านหนึ่ง on Sunday, October 18, 2015      …

เหมียวเห็นเรื่องแบบนี้แล้วถึงกับทำใจไม่ได้เลยล่ะ เพราะว่ามันเป็นการกระทำที่โหดร้ายเหลือเกิน ทำร้ายจิตใจของคนรักแมวเป็นอย่างมาก เหตุเกิดขึ้นที่บ้านเช่าย่านบางกรวย โดยมีผู้เช่าเป็นคุณสมนึก เป็นจิตรกรวาดภาพฝาผนังโบสถ์ และเลี้ยงแมวอยู่ภายในบ้านเช่าเป็นจำนวน 35 ตัวด้วยระบบปิด     คุณสมนึกเลี้ยงแมวด้วยความเอาใจใส่ทุกชีวิต ไม่มีรบกวนบริเวณรอบข้าง ปิดมิดชิด ปลอดภัยจากอันตราย แต่ด้วยเหตุที่ทำให้คุณสมนึกต้องออกไปทำงานต่างจังหวัดสัปดาห์ละสองวัน จึงไม่อาจดูแลได้ตลอด เมื่อไม่อยู่ก็ได้จัดน้ำและอาหารให้น้องเหมียวพออยู่รอดได้     แต่เนื่องจากเศรษฐกิจที่ไม่ดี คุณสมนึกติดหนี้ค้างชำระค่าเช่าบ้านสองเดือน ซึ่งเขาเองก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะหาเงินมาจ่ายค่าเช่าที่เหลือ แต่เจ้าของบ้านเช่ากลับเร่งรัดแถมข่มขู่ผ่านโทรศัพท์ว่าหากไม่ยอมจ่ายจะเข้าไปปล่อยแมวทั้งหมด     จนกระทั่งเช้าวันที่ 16 ตุลาคม เจ้าของบ้านเช่าขนอิฐดินมาถมรอบบริเวณ งัดกุญแจบ้านเข้าไปปล่อยแมวหลายสิบชีวิตออกมา รวมไปถึง ‘เจ้าขาว’ แมวป่วยเป็นโรคมะเร็งลูคีเมีย ออกมาให้ลูกของตนลากเล่น ยังไม่พอมีสุนัขที่ติดตามมาอีกตามไปขย้ำแมวที่อีก 2 ตัวจนเสียชีวิต รวมไปถึงเจ้าขาวด้วย     แมวอีกส่วนหนึ่งตกใจและวิ่งหนีจนสูญหายไป เมื่อคุณสมนึกกลับมาเห็นสภาพบ้านที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมกับซากของน้องเหมียวสามตัวภายในบ้าน ก็ถึงกับใจสลาย กับการจากไปของแมวทั้งสามตัว และยังรอคอยอย่างมีความหวังว่าน้องแมวที่เหลือจะยังมีชีวิตรอด และจะตามหาให้เจอให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้   อาสาประชาชน ผู้ทราบข่าวสลดใจจากเพจทาสแมว เหตุ เจ้าของบ้านเช่า บุกงัดกุญแจบ้านผู้เช่า ซึ่งเลี้ยงแมวระบบปิด 35…

ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องกับภาพยนตร์ที่ตกกลายเป็นกระแสสังคมตั้งแต่ยังไม่ได้ฉาย เพียงแค่ทำการปล่อยตัวอย่างหนังและเรื่องย่อออกมาให้ผู้ชมได้รับรู้ปุ๊บ พอใกล้วันฉายเท่านั้นแหละ โดนแบนไปซะดื้อๆ ด้วยเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และอีกเหตุผลร้อยแปดข้อที่นำมาแบนภาพยนตร์เรื่องนี้     จนกระทั่งผู้กำกับต้องตัดสินใจนำภาพยนตร์ไปตัดฉากที่มีเนื้อหารุนแรงออกไป พร้อมกับเปลี่ยนชื่อจาก ‘อาบัติ’ เป็น ‘อาปัติ’ เพื่อให้สามารถเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ได้อีกครั้ง     จากกรณีดังกล่าวเรามักจะได้พบกับความคิดเห็นจากบุคคลทั่วไปมากพอสมควร แล้วทางฝั่งของพระบ้างล่ะ จะมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ซึ่งความคิดเห็นของพระมหาไพรวัลย์น่าสนใจมากๆ เลยล่ะ   ทัศนะส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านหลังจากที่ได้ดูเรื่องเต็มของหนังอาปัติ ที่สำนักงานวัฒนธรรมแล้ว บอกได้คำเดียวว่… Posted by พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ on Friday, October 16, 2015   อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้การอ่านความคิดเห็นหรือทัศนคติของผู้อื่น ก็ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วย หากเห็นต่างออกไปก็ควรถกเถียงด้วยเหตุผลอันสมควรนะจ๊ะ   มีอะไรที่ปัญญาอ่อนกว่านี้ ได้อีกไหม ที่คนในสังคมเขาเสียเวลามานั่งถกเถียงเรื่องนี้กันตั้งนานนี่ เพื่อให้คุณไปเปลี่ยนชื่อห… Posted by พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ on Thursday, October 15, 2015   ที่มา :…

คนไทยนั้นได้ชื่อว่าเป็นชนชาติที่มีมารยาทที่สุดในโลกแล้วก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดในโลกนี้ พวกเราก็เคยยกมือประนมไหว้ปะล๊กๆ มาแล้ว ไม่ว่าจะก้อนหินดินทราย หรือแม้แต่เจลลดไข้ที่บวมเป่ง ก็ไม่อาจรอดจากการไหว้ของชาวไทยไปได้   อย่างล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ของไทยได้มีการแชร์ภาพๆ หนึ่งผ่านเฟซบุ๊ค Tanakorn Lekvijittada เป็นภาพของแท่นศาลพระภูมิเปล่าๆ บริเวณหน้าห้าง Terminal21 ย่านอโศก ที่แม้ว่าจะไม่มีศาลหรือรูปปั้นใดๆ แต่กลับมีพวงมาลัยและน้ำแดงวางเรียงรายเต็มไปหมด     นอกจากนี้เจ้าของภาพยังได้อธิบายถึงสาเหตุที่มีแท่นศาลพระภูมิเปล่าๆ เพราะว่าเกิดจากความผิดพลาดที่คนงานคิดจะสร้างศาลพระภูมิ แต่เจ้าของที่กลับไม่ให้สร้าง เพราะเกรงว่าจะทำให้คนหลงงมงายจนมากราบไหว้กันยกใหญ่     เอ้า มัวรออะไรอยู่ล่ะ ยกมือขึ้นมาให้พร้อมซิ ที่มา Tanakorn Lekvijittada

  บางครั้งเราอาจจะมองว่าโลกมันโหดร้าย เมื่อเปิดหน้าหนังสือพิมพ์มา ก็เจอแต่ข่าวอาชญากรรม ฆ่า ข่มขืน น้อยครั้งที่จะมีเรื่องราวดีๆให้เราได้อ่าน แต่คลิปนี้จะทำให้เรารู้ว่าศรัทธาของมวลมนุษย์ยังไม่หายไปไหน เมื่อวานนี้ (16 ตุลาคม 2558) ได้มีคลิปคลิปหนึ่งถูกแชร์เป็นอย่างมาก เป็นคลิปเหตุการที่มีชาวต่างชาติ 2 คนกำลังติดอยู่ในโคลนดูดที่จังหวัดกระบี่ แต่แล้วก็มีชายไทยที่ขับเรือผ่านมาเข้าให้ความช่วยเหลือ คลิปนี้ถ่ายโดยคุณ Theerasak Saksritawee ในใต้คลิปได้บรรยายว่า “เหตุการณ์นี้ เหมือนว่าผู้ชายจะลงไปถ่ายนก ลงไปแล้วขาติดโคลน เลยล้ม แฟนมาตามช่วย เลยติดโคลนกันทั้งคู่ ซักพักก็มี Hero แล่นเรือผ่านมา รีบเทียบท่าใกล้ๆกับจุดเกิดเหตุ พุ่งตรงมาช่วยเหลือ แต่ช่วยดึงเท่าไหร่ก็ไม่สามารถดึงขาออกจาก­โคลนดูดได้ Hero จึงใช้วิธีแก้ปัญหาโดยการนอนคว่ำให้ปีนตัว­ขึ้นมา หลังจากช่วยเสร็จก็จากไปโดยไม่หวังสิ่งตอบ­แทนใดๆ ประทับใจมากๆ”   และนี่คือภาพประทับใจนั้น ที่ดังไกลไปทั่วโลก   หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ไป ก็ได้มีคนแชร์เป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังดังไกลไปถึงต่างชาติ เพราะเราจะได้เห็นคอมเม้นต์ต่างๆของชาวต่างชาติที่มาแสดงความชื่นชมฮีโร่คนไทยคนนี้     และหลังจากนั้นไม่นาน คุณ Theerasak Saksritawee ก็ได้โพสต์ภาพคู่ระหว่างเขาและ “พี่ชัด อุบลจินดา” ฮีโร่ของไทยที่อยู่ในคลิป ซึ่งถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เราไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก   ตามหาจนเจอ…

เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะรู้จักนักร้องดังอย่างพี่โป่ง หินเหล็กไฟ เป็นอย่างดี ด้วยเพลงดังต่างๆ มากมาย และงานโชว์ร้องเพลงตามคอนเสิร์ตต่างๆ อีกมากมาย ทำให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าลูกสาวของพี่โป่งนั้น ตอนนี้หน้าตาเป็นยังไงแล้ว?     ล่าสุดแอดเหมียวได้ไปเจอเข้ากับภาพชุดหนึ่งของน้องแองจี้ ฐิติมา ลูกสาวของพี่โป่ง มาล่ะ ซึ่งปัจจุบันนี้เธอโตเป็นวัยรุ่นสาวแล้วนะ แถมยังมีแนวโน้มว่าจะเจริญรอยตามคุณพ่ออีกด้วย เพราะมีข่าวว่าเธอได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง Kamikaze ของ RS เพื่อทำเพลงเร็วๆ นี้ด้วยล่ะ     นอกจากน้องแองจี้แล้ว ยังมีเพื่อนๆ อีกกว่า 18 คนที่ร่วมทำเพลงไปกับเธอด้วยนะ ทั้งน่ารักและเก่งแบบนี้ โด่งดังตามคุณพ่อชัวร์ๆ           พ่อลูกกันจริงๆ นะเออ   เหมียวขอสมัครเป็นแฟนคลับด้วยยยยยย ที่มา teenee , sanook

อุบัติเหตุบนท้องถนนถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้นชินสำหรับคนไทยแทบทุกคน เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหน มีความเป็นไปได้ว่าเราจะได้เห็นอุบัติเหตุอย่างน้อยๆหนึ่งเหตุการณ์ นั่นแสดงให้เห็นว่าวินัยจราจรของคนในประเทศเรานั้นแย่ขนาดไหน อย่างคลิปที่เหมียวนำมาให้ชมวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของคุณ สันติ แสงทอง เหตุเกิดขึ้นที่สี่แยกทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง   ขณะที่คุณสันติกำลังขับรถอยู่บนเส้นหลัก และกำลังจะผ่านสี่แยกทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง   มีรถกระบะพุ่งมาจากทางแยกและชนเข้าอย่างจังบริเวณกลางลำรถของคุณสันติ จนกระเด็นฝุ่นคลุ้งกระจาย   โชคดีคุณสันติไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆ เขาจึงนำคลิปดังกล่าวมาเตือนภัยผู้ใช้รถใช้ถนนท่านอื่น ว่าแล้วก็ไปชมคลิปกันเลย   อุทาหรณ์จากทางบ้าน – สี่แยกทะเลน้อย::–> อุทาหรณ์จากทางบ้าน – สี่แยกทะเลน้อย จ.พัทลุง (16/10/58) <–::CREDIT: www.facebook.com/video.php?v=691568804277312*************************ขอบคุณคลิปแนะนำจาก––@สันติ แสงทอง Posted by YouLike (คลิปเด็ด) on 15 ตุลาคม 2015 เห็นแล้วสยองจริงๆ ยังไงก็ขับรถระมัดระวังนะครับเพื่อนๆ เหมียวเป็นห่วง ^^ ที่มา สันติ แสงทอง

หลังจากที่คุณแม่โอปอล์ ปาณิสรา โพสต์รูปและข้อความบอกแฟนๆ ว่าเธอได้คลอดลูกแฝดไปเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยตั้งชื่อทั้งสองว่า ดญ. อลิน และ ดช.อรัญ อารยะสกุล ล่าสุดคุณแม่โอปอล์ก็ได้ปล่อยภาพของทั้งสองมาให้เราชมแบบเต็มๆ แล้วล่ะ     เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 16 ตุลาคม โอปอล์ได้โพสต์รูปลูกน้อยของเธอผ่าน IG @Opalpanisara พร้อมกับข้อความว่า “วันนี้ได้กอดทั้งคู่พร้อมกันเลย อลินอยู่ขวา อรัญอยู่ซ้ายของคุณแม่ค่ะ photo by คุณพ่อ @oak_smith”     หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีแฟนๆ ที่ติดตามเธอเข้ามาแสดงความยินดีกับเธอกันยกใหญ่เลยทีเดียว สำหรับใครที่เป็นห่วงเด็กๆ ก็หายห่วงได้เลยนะ เพราะแม้จะคลอดก่อนกำหนด แต่ทั้งคู่ก็แข็งแรงดีล่ะ             แอดเหมียวก็ขอแสดงความยินดีกับคุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ด้วยนะจ๊ะ หวังว่าทั้งคู่จะโตมาน่ารักน่าชังนะ ที่มา kapook , opalpanisara

กลายเป็นเรื่องฮาๆ บนอินเตอร์เน็ตไป สำหรับการจดทะเบียนสมรสสุดฮาและแสนฮาร์ดคอร์ของหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งขอกันดื้อๆผ่านทางไลน์ แถมเจ้าสาวยังเล่นด้วยอีกตะหาก เรื่องมีอยู่ว่า เจ้าของเพจ กายหยาบ ได้โพสภาพบทสนทนาผ่านทางไลน์ของเพื่อนคนหนึ่งของเขา ซึ่งถูกแฟนที่คบกันมา 18 ปี ขอให้ไปจดทะเบียนสมรสดด้วยกัน ซึ่งมันคงจะไม่แปลกอะไร ถ้าเป็นการขอแบบปกติ แต่นี่ฝ่ายชายขอเหมือนกับชวนไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน แถมมีบอกว่า รีบหน่อยนะ พรุ่งนี้มีนัดเตะบอลต่อ!! นี่จะจดทะเบียนสมรส หรือจะไปต่อทะเบียนรถที่ขนส่งกันแน่เนี่ย!!! เพื่อนกำลังจะถูกพาไปจดทะเบียนสมรส นี่เป็นการขอเป็นเมียอย่างเป็นทางการที่เถื่อนมากจนมิอาจปล่อยผ่านไปได้ ขอกันแบบเหมือนชวน… Posted by กายหยาบ on 15 ตุลาคม 2015 เรียกว่าน่ารักแบบสุดๆ ไปเลยเนอะ  เห็นแบบนี้แล้ว คนโสดอิจฉาตายไปเลยยยย ฮาาาาา ที่มา กายหยาบ

ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในขณะนี้เลย สำหรับภาพยนตร์เรื่อง อาบัติ ของ สหมงคลฟิล์ม ภาพยนตร์ที่ตีแผ่ความเสื่อมทรามของพระบางรูปในปัจจุบัน แต่กลับถูกสำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งระงับไปเสียก่อน     แต่ดูเหมือนว่าทางสหมงคลฯ จะยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมานายประดิษฐ์ โปซิว ผู้อำนวยการสำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าหลังจากที่มีการสั่งระงับฉายภาพยนตร์อาบัตินั้น ทางสหมงคลได้มีการนำกลับไปตัดต่อใหม่ เพื่อให้ทางสวธ. พิจารณาอีกครั้ง     นอกจากนี้ทางทีมงานผู้สร้างเองยังได้เปลี่ยนชื่อจาก อาบัติ เป็น อาปัติ วึ่งตามภาษาบาลีแล้วยังคงมีความหมายเหมือนเดิม และเตรียมส่งให้ทางสวธ. พิจารณาใหม่และมีการประชุมให้เร็วที่สุด     สุดท้ายนี้ยังคงไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าหนังจะผ่านการพิจารณาของทางสวธ.และทันออกฉายภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ หากใครที่อยากจะชมภาพยนตร์เรื่องนี้จริงๆ คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไปล่ะ   ที่มา TNN24

กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตอีกครั้งกับสถาบันศาสนาในประเทศไทยเรา หลังจากมีพระรูปหนึ่งโพสอวดบนเฟสบุ๊ค ว่าตนเองได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนซึ่งเป็นพระเช่นเดียวกัน จนถึงขนาดที่ไม่สามารถไปบิณฑบาทได้ในตอนเช้า ภาพแคปจากเฟสบุ๊คดังกล่าว ถูกโพสลงในเฟสบุ๊ค พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ โดยในภาพ เป็นพระสองรูปถ่ายภาพเซลฟี่กัน พร้อมมีคำบรรยายอย่างเห็นภาพถึงฉากอัศจรรย์ของพวกเขาทั้งสอง จนชาวเน็ตที่เข้ามาเห็น ถึงกับเงิบไปเลย     เมื่อชาวเน็ตเห็นภาพดังกล่าว ก็เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเมามัน   แหม บรรยายซะนึกว่าเหมียวอ่านเฮียกังฟูอยู่เลยนะเนี่ย เพราะแบบนี้สินะ เขาถึงได้บอกว่าศาสนานั้นเสื่อมลงทุกวันๆ เพื่อนๆอ่านแล้วมีความเคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองเสนอกันเข้ามาดูนะเหมียว ที่มา พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ

โลกเราชักจะอยู่ยากขึ้นทุกวันๆ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็อาจมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อย่างคลิปที่เหมียวนำมาเตือนภัยเพื่อนๆในวันนี้ เป็นคลิปจากคุณ Nom Nao โดยเป็นวีดีโอจากกล้องวงจรปิดบริเวณย่านลาดพร้าว ระหว่างซอยลาดพร้าว 122 ถึง 124 ช่วงเวลาประมาณ 8.30 น. ของวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา มีพนักงานออฟฟิสคนหนึ่งกำลังเดินไปทำงาน ระหว่างเดินอยู่นั้นเอง ก็มีชายคนหนึ่งสวมเสื้อสีขาว พุ่งเข้ามาชกหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว และชายชุดขาวคนนั้นก็ระดมหมัดใส่พนักงานออฟฟิสอย่างไม่ยั้ง เมื่อหนำใจแล้วชายชุดขาวก็เดินจากไปอย่างงงๆ   ภาพของชายชุดขาว   อยู่ดีๆก็ระดมหมัดใส่พนักงานออฟฟิสเสื้อเหลืองอย่างรุนแรง   ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย คลิปแรก เหตุเกิด ที่ลาดพร้าว ระหว่างซอย ลาดพร้าว122-124 ช่วงเวลาประมาณ 8.30 น. พนักงานที่ออฟฟิต กำลังเดินเข้า ที่ บจก มีการทำร้ายร่างกาย วันที่13/10/2558 ขอให้ทุกคนเดินทางดูรอบๆตัวด้วยนะครับ Posted by Nom Nao on 13 ตุลาคม 2015   เมื่อชาวเน็ตเห็นวีดีโอดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างหลากหลาย…

ดูจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกจริงๆ สำหรับปัญหาเด็กแว้นกวนเมืองที่ชอบออกมาวัดความเร็วกันยามค่ำคืน หนักหน่อยก็ถึงขั้นปิดถนน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก   ล่าสุดในโลกออนไลน์ก็ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอเกี่ยวกับกรณีของเด็กแว้นมาให้ชมกันอีกครั้ง เป็นเหตุการณ์ของกลุ่มเด็กแว้นในจังหวัดจันทบุรี บริเวณแยกศักดิ์ชัย ที่มีรถยนต์วิ่งสวนไปมาอย่างพลุกพล่าน     ในระหว่างนั้นเอง กลับมีรถสปอร์ตสีขาวคันหนึ่งขับมาตามทาง แต่จู่ๆ กลับมีมอเตอร์ไซค์พุ่งสวนเลนขึ้นไปชนอย่างจัง ทำให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์กระเด็นออกไปด้านข้าง ทั้งนี้ไม่มีรายงานว่าผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ได้รับบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด     ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ก็มีชาวเน็ตต่างพากันเข้ามาแสดงความเห็นอย่างมากมาย พร้อมกับสมน้ำหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กแว้นอีกด้วย   ที่มา Ao Nathasedh , kapook

เวลาเราไปห้างหรือสถานที่ต่างๆ บางครั้งก็มีคนมาจอดปิดรถเราไว้ เนื่องจากที่จอดรถไม่พอ แต่บางคนจอดไว้ไม่ว่า แต่ดันใส่เบรกมือหรือไม่ปลดเกียร์ว่างให้เรา พอเราจะออกก็ออกไม่ได้ ต้องวุ่นวายตามหาเจ้าของรถกันยกใหญ่ แต่ปัญหานี้กำลังจะหมดไปแล้ว ด้วยแม่แรงยกรถชิ้นนี้ เพราะคุณสามารถย้ายรถได้อย่างง่ายดาย   ไปชมคลิปกันเลย   สุดยอดไปเลยใช่มะ หลายคนอาจเห็นไม่ชัด ดูคลิปนี้จะเข้าใจการทำงานของมันมากขึ้น   นี่มันสุดยอดนวัตกรรมจริงๆ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เราจะจอดรถตรงไหนก็ได้นะ ยังไงเราก็ต้องจอดให้มีวัฒนธรรมอยู่ดี เพราะไม่ใช่ทุกที่จะมีอุปกรณ์ชิ้นนี้อยู่ ไม่งั้นอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นได้นะจ๊ะ ที่มา GoJack Thailand, อยากรู้ต้องดูคลิป clips hit

วันนี้แล้วนะที่แฟนๆ ชาวไทยจะได้เห็นทีมชาติไทยฟาดแข้งกับทีมชาติเวียดนาม ในศึกการแข่งขันในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โดยจะถ่ายทอดสดให้ได้ชมกันในเวลา 1 ทุ่มตรง ซึ่งบรรดาแฟนๆ ทั้งหลายต่างก็ลุ้นและเอาใจช่วยให้ช้างศึกของไทยนั้นเอาชนะเวียดนามให้ได้   แต่มีหนุ่มเวียดนามรายหนึ่ง ที่แสดงตัวว่าเขาไม่ได้เชียร์ทีมชาติของตัวเอง แต่เลือกที่จะเชียร์ทีมชาติไทย!! แถมยังอัดคลิปอวยพรให้ทีมชาติไทยเอาชนะทีมชาติเวียดนามด้วยนะ     คลิปดังกล่าวถูกโพสต์โดยสมาชิกเว็บไซต์เฟซบุ๊คชาวเวียดนามที่ชื่อว่านาย Nguyễn Minh Khang‎ วัย 27 ปี ทำอาชีพวิศวกรอยู่ที่เมืองโฮจิมิน ทั้งนี้เจ้าตัวได้บอกว่า ถึงแม้ตัวเองจะเป็นคนเวียดนาม แต่เขาชอบประเทศไทย ชอบคนไทย ชอบอาหารไทย   นอกจากนี้เจ้าตัวยังเผยอีกว่า เขาแอบเชียร์ทีมชาติไทยให้เอาชนะทีมชาติเวียดนามอีกด้วย และในช่วงท้ายคลิปเขาก็ได้โชว์ลีลาการร้องเพลงชาติไทยให้เราได้ฟังกันด้วย     ทำเอาเหมียวอยากจะชวนให้มาเป็นคนไทยด้วยกันจริงๆ ที่มา Nguyễn Minh Khang‎ , thairath

สังคมไทยเดี๋ยวนี้เป็นอะไรกันไปหมด ผู้คนอารมณ์ร้อนยิ่งกว่าอุณหภูมิของแดดซะอีก ชนิดที่ว่ามองหน้ากันแค่แป๊บเดียวเท่านั้นก็เดือดยิ่งกว่าน้ำร้อนในกาเพื่อต้มมาม่า!!     โดยที่เรื่องราวนี้มาจากคุณ ป๋อง ณ.คลองเตย เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2558 ในขณะที่เขาออกไปกินข้าวนอกบ้าน และมาแวะที่ร้านข้าวหน้าเป็ดซอยปรีดี 31 มาพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน โดยมีคู่กรณีตามมานั่งทีหลัง   ช่วงแรก มื้อนี้อร่อยถ้ากูกินไวคงไม่โดน มานั่งรอกูคนเดียว บอกแล้วว่ากินข้าวช้าถึงไม่ชอบกินนอกบ้าน Posted by ป๋อง ณ.คลองเตย on Sunday, October 11, 2015   โดยในช่วงแรกๆ ก็นั่งทานข้าว ทานก๋วยเตี๋ยวกันไปตามปกติ สงบเรียบร้อยไม่มีปัญหาใดๆ จู่ๆ พ่อหนุ่มเสื้อเขียวก็หันหน้าไปทะเลาะกับโต๊ะด้านหลังตัวเอง ไม่รู้จักกันมาก่อนด้วย จ้องตากันแป๊บเดียว ไม่ทันไรก็คว้าตะเกียบที่ใช้ทานก๋วยเตี๋ยวแทงไปที่คอพ่อหนุ่มเสื้อดำทันที   มื้อนี้อร่อย เพื่อนชวนผมกินข้าว Posted by ป๋อง ณ.คลองเตย on Sunday, October 11, 2015…

การที่จะโพสต์รูปภาพและเรื่องราวอะไรซักอย่างโดยที่ไม่ตรวจสอบความเป็นมาก่อนนั้น อาจจะส่งผลเสียทำให้มีผู้คนเข้าใจผิดเป็นวงกว้างได้ เสียหายทั้งผู้ที่ถูกกล่าวหาและตัวผู้โพสต์เอง อย่างเช่นกรณีในข่าวนี้ ‘ขอโทษแล้ว หนุ่มโพสต์ภาพเด็กหญิงทะเลาะกับแม่จะเอามือถือ ที่แท้เป็นการเข้าใจผิด’     ซึ่งในข้อเท็จจริงก็คือน้องไม่ได้ทะเลาะกับแม่ของเธอเลย จากที่เห็นภาพและได้มีการแชร์ออกไปนั้น ก็แค่ไปเดินในห้างสรรพสินค้าเพื่อดูโทรศัพท์เท่านั้นเอง โดยที่เจ้าตัวผู้โพสต์รูปภาพและข้อความดังกล่าวก็ได้ออกมาขอโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว     ซึ่งจังหวะที่น้องยืนคุยกับแม่ก็คือถามแม่ว่า ‘จะเดินดูต่อมั้ย จะกลับเลยรึเปล่า’ ประมาณนี้ ซึ่งน้องเองก็อยากได้โทรศัพท์จริง แต่อยากได้เครื่องราคา 1,200 บาทเท่านั้น ตอนนี้ก็ต้องเก็บเงินไปก่อน จากคลิปสัมภาษณ์โดยคุณ พิมมี่ เฟี้ยว’ฟ้าว   “ข่าวน้องที่ขอแม่พิการซื้อโทรศัพท์ที่ห้างแห่งหนึ่ง” #ไม่เป็นความจริง!! (11/10/58)::–> “ข่าวน้องที่ขอแม่พิการซื้อโทรศัพท์ที่ห้างแห่งหนึ่ง” #ไม่เป็นความจริง!! (11/10/58) <–::โปรดใช้วิจารณญาณ ~CREDIT: www.facebook.com/100003362082154/videos/797866963668699/*************************ขอบคุณคลิปแนะนำจาก––@พิมมี่ เฟี้ยว’ฟ้าว Posted by YouLike (คลิปเด็ด) on Sunday, October 11, 2015   หลังจากความจริงเปิดเผยมาจากตัวน้องเอง ก็มีผู้ใหญ่ใจดีสองท่านมาคอมเม้นใต้คลิปอยากจะมอบโทรศัพท์ให้กับน้องได้นำไปใช้ นั่นก็คือคุณ ทิวากร เหล่าชัย และคุณ Tippatai…

กลายมาเป็นประเด็นใหญ่โตในบ้านเมืองประเทศไทยกันเลยทีเดียว จากจุดเริ่มต้นที่มีดาราคนดังโพสต์รูปภาพเบียร์ยี่ห้อสัตว์ใหญ่เต็มอินสตาแกรม แบบให้เห็นฉลากยี่ห้อกันแบบโต้งๆ เข้าข่ายการโฆษณาแฝง ซึ่งทาง สคบ. ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจก็ได้ออกมาประกาศว่า ดาราที่โพสต์รูปภาพดื่มเบียร์หรือถือขวดเบียร์ เข้าข่ายผิดกฎหมาย ม.26 ว่าด้วยฉลาก     สคบ.แจงดาราโพสต์IGดื่มเบียร์ เข้าข่ายผิดกฎหมาย ม.26ว่าด้วยฉลาก ด้าน สตช.เตรียมเรียกดารา 24 คน เข้าสอบเพิ่มเติม ไม่เพีย… Posted by Voice TV on Saturday, October 10, 2015   ตามรายงานดังกล่าว นอกจากดาราจะโดนแล้ว คนทั่วไปก็โดนเหมือนกันหากมีการโพสต์รูปภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงในโซเชียล ซึ่งหลังจากได้ยินและได้เห็นกันไปแล้วว่ายังไงก็ไม่รอดแน่นอน ชาวเน็ตไทยทั้งหลายก็เลยพร้อมใจกันประชดประชันผ่าน #โพสต์รูปแอลกอฮอลลงโซเชียล กันไปเลย   ได้เวลาเตรียมหม้อไฟ #โพสต์รูปแอลกอฮอลลงโซเชียล -@size_sss Posted by Suvinit Aum Pornnavalai on Saturday, October 10, 2015     ดื่มใกล้หมดขวดละ เตือน…

จากที่เมื่อไม่กี่วันมานี้ได้มีข่าวคราวเกี่ยวกับเหล่าดารา ที่พากันโพสต์รูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงใน IG จนทางสดบ.ต้องออกมาสั่งห้ามเหล่าดาราถ่ายภาพเครื่องดื่มเหล่านั้นลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ค แถมยังบอกด้วยว่าหากยังมีใครทำอีกจะมีการลงโทษตามกฎหมาย   ล่าสุดเฟซบุ๊คเพจ สโลว์ไลฟ์ เลยเกิดไอเดียเก๋ๆ ที่นำเอาภาพของเหล่าดาราที่ถ่ายภาพเครื่องดื่มแอกอฮอล์ลงใน IG มาเซ็นเซอร์ซะใหม่ๆ แต่ครั้นจะเซ็นเซอร์ด้วยภาพดำๆ เบลอๆ แบบทั่วไปก็ดูจะธรรมดาไป เขาเลยเปลี่ยนมันให้กลายเป็นขวดนมแทน!! จะน่ารักและฟรุ้งฟริ้งขนาดไหนลองไปชมภาพกันเลย   โอ้โห หญิงแย้ดูอร่อยมาก!!   แก๊งค์นางฟ้าก็ดื่มนมด้วยนะ     เพราะดื่มนมถึงได้กล้ามโตงี้ไง     ถึงกับจ้องมองแบบพิจารณา   กินนมขวดละ 800-900 มาเยอะ ลองได้มาดื่มนมสดๆ งี้ดู ขอบอกว่านุ่มคอมาก!!     ตัวอย่างของเยาวชนเลย       ดื่มเหล้ามันขม ดื่มนมดีกว่านะจ๊ะ     บนระเบียงก็ดื่มนมได้เว้ย!   ทุกอย่างดูฟรุ๊งฟริ๊งเวลาดื่มนม ที่มา สโลว์ไลฟ์

เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินข่าวดังในช่วงวันสองวันที่ผ่านมานี้ หลังจากมีการปิดล้อมและทำลายสถานีตำรวจภูธรอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ตในช่วงกลางดึกของวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา จนทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บมากมาย นอกจากความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว ยังมีเรื่องน่าเศร้าเกิดขึ้นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเล่าโดยเฟสบุ๊ค เสียงประชาชน คนภูเก็ต  ซึ่งได้แคปภาพจากเฟสบุ๊คของคุณ เอ ส่าย เรื่องมีอยู่ว่า ในคืนที่เกิดเหตุชุมนุมนั้น มีรถพยาบาลคันหนึ่งกำลังจะนำผู้ป่วยไปส่งที่โรงพยาบาลถลาง แต่พวกเขากลับติดกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปิดถนน จนรถไม่สามารถผ่านไปได้ และไม่ว่าจะอ้อนวอนอย่างไร กลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ยอมให้ผ่าน แถมยังเข้ามาทุบตีรถพยาบาลคันดังกล่าวด้วย สุดท้ายรถพยาบาลก็ต้องอ้อมไปอีกทาง จนทำให้ผู้ป่วยท่านนั้นก็เสียชีวิตระหว่างทาง เนื่องจากเข้ารับการรักษาไม่ทันนั่นเอง จนทำให้ญาติๆต้องร่ำไห้ด้วยความเสียใจ     สภาพของรถพยาบาลคันดังกล่าว     เรียกได้ว่าน่าเศร้าจริงๆเลยนะครับ เมื่อชาวเน็ตได้เห็นข่าวดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความเห็นมากมาย   ต้องบอกว่าน่าเศร้าจริงๆ ขอแสดงความเสียใจให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วยนะครับ หวังว่าเหตุการณ์แบบนี้ จะไม่เกิดขึ้นอีกนะครับ ที่มา เสียงประชาชน คนภูเก็ต

เริ่มจะโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ แล้ว สำหรับน้องโยชิ รินรดา ธุระพันธ์ สาวประเภทสอง ที่ตอนนี้กลายเป็นเน็ตไอดอล ไปแล้วเรียบร้อย สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก แอดเหมียวจะเล่าคร่าวๆ ว่าเธอเป็นเด็กมัธยมที่หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม และกลายเป็นไอดอลให้วัยรุ่นหลายคน   เธอเริ่มกลายเป็นที่พูดถึงมากขึ้นหลังจากการแข่งขัน หัวโป็กก็ทะเล้น ในรายการ The Naked Show และเริ่มเป็นที่รู็จักจนได้มาเล่นภาพยนตร์ เลิฟเฮี๊ยวเฟี้ยวต็อด และมีงานโชว์ตัวมากขึ้น   ปัจจุบันน้องโยชิไม่ใช่เด็กมัธยมอีกต่อไป แต่กลายเป็นนักศึกษาเต็มตัว ไว้ผมยาวจนหนุ่มๆ หลายคนเริ่มแยกไม่ออกแล้วว่าเธอเป็นสาวประเภทสอง เราลองไปชมความน่ารักของเธอแบบเต็มๆ กันเลยจ้า                               โอ้โหยยย เหมียวนี่เลิฟเลย ที่มา yoshirinrada , kapook

ปัญหาการใช้รถใช้ถนนร่วมกันระหว่างจักรยานกับยานพาหนะอื่นๆ ก็เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะหลายครั้งสิ่งที่นักปั่นจักรยานคิดว่าเหมาะสม ก็ไม่ได้เป็นที่ถูกใจของคนใช้รถใช้ถนนคนอื่นนัก จนเกิดดราม่าไปหลายต่อหลายครั้ง อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปต่อไปนี้ เมื่อมีกลุ่มจักรยานออกมาปั่นกลางถนน จนเกิดภาพหน้าหวาดเสียว ผู้ใช้รถใช้ถนน จึงถ่ายคลิปเตือน อ้างไม่ได้แอนตี้ แต่ว่าเป็นห่วงสวัสดิภาพของเหล่านักปั่นเอง คลิปนี้ถ่ายโดยกล้องหน้ารถของคุณ Wissnu Naraya ขณะเขาขับรถอยู่บนทางหลวงเส้นหนึ่ง เขาพบกับกลุ่มนักปั่นจักรยานกำลังปั่นอยู่บริเวณกลางถนน ซึ่งถนนเส้นนั้นมีรถบรรทุกขับขี่อย่างรวดเร็วมากมาย   คุณ Wissnu Naraya ก็บรรยายว่า เขาเองนั้นไม่ได้แอนตี้การปั่นจักรยาน แต่บางครั้งก็ต้องดูความเหมาะสมด้วย การปั่นเช่นนี้ถือว่าอันตรายมาก หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น สังคมก็จะโทษรถยนต์อีก ทั้งๆที่เหล่านักปั่นเอง ก็ถือว่าขี่ในที่ที่อันตรายเช่นกัน จึงอยากฝากเตือนนักปั่นท่านอื่นๆ ให้ปั่นกันอย่างเหมาะสม   ไปชมภาพเหตุการณ์กันเลย ห่วงครับ ห่วง! Posted by Wissnu Naraya on 9 ตุลาคม 2015   ลองไปชมความเห็นของชาวเน็ตท่านอื่นๆ หลังจากเห็นคลิปนี้กันดีกว่า   แต่ก็มีนักปั่นท่านหนึ่ง ออกมาให้เหตุผลว่าทำไม พวกเขาต้องปั่นเช่นนี้   เหมียวว่าแบบนี้มันก็อันตรายเกินไปจริงๆนั่นแหละ เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ก็ชีวิตนักปั่นทั้งนั้น ที่ต้องรับความเสี่ยง ยังไงก็ปั่นกันอย่างปลอดภัยนะครับ…

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ปิดล้อมสถานีตำรวจถลาง จ.ภูเก็ต เนื่องจากชาวบ้านและญาติของวัยรุ่น 2 รายที่เสียชีวิตจากกรณีรถยนต์ตำรวจขับไล่ติดตามและเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์โดยอ้างว่าเป็นผู้ต้องสงสัยมียาเสพติด และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเนื่องจากเป็นกระทำที่เกินกว่าเหตุ     ทางด้านนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผวจ.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.พินิจ ศิริชัย รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประชุมสรุปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสัญญาว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่ทางญาติผู้เสียชีวิตไม่พอใจต้องการให้เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ขับรถยนต์ออกมาแสดงตัว     แต่เหตุการณ์กลับปานปลายไปมากกว่าเดิม เวลาประมาณ 22.30 น. เมื่อเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่ยอมปฏิบัติตาม เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต เพราะมีชาวบ้านเป็นจำนวนมากกว่า 1,000 คน รอคอยอยู่รวมตัวกันปิดล้อมสถานีตำรวจและปิดถนนหน้าโรงพัก รวมไปถึงการตะโกนยุยงให้เกิดความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ     จนกระทั่งเวลา 23.00 น. ได้มีการก่อเหตุจลาจลเผาและทำลายรถยนต์หน้าโรงพักถลาง จ.ภูเก็ต รวมไปถึงการขีดเขียนและพ่นสีหน้าป้ายโรงพัก มีการจุดประทัดและขว้างก้อนหินเข้าไปภายในโรงพักด้วย       เผารถแล้ว 3 คันหน้า สภ. ถลาง ภูเก็ต ชาวบ้านยังปักหลัก…

ล่าสุดก็เรียกได้ว่าเป็นข่าวกันใหญ่โต สำหรับกรณีที่ดาราถึง 24 คน โพสต์ภาพเชิงเชิญชวนโฆษณาภาพของตัวเองดื่มเบียร์ลงในโลกออนไลน์ ล่าสุดทาง สคบ. ก็ได้ออกมาแจงว่า ”ดาราโพสต์IGดื่มเบียร์ เข้าข่ายผิดกฎหมาย ม.26ว่าด้วยฉลาก ด้าน สตช.เตรียมเรียกดารา 24 คน เข้าสอบเพิ่มเติม…” แถมยังยืนยันเพิ่มเติมอีกด้วยว่า “…ไม่เพียงดารา พงศพัศ ยัน ประชาชนทั่วไปที่โพสต์รูปแอลกอฮอล์ให้เห็นฉลาก ลงโซเซียล ถือว่าเข้าข่ายความผิดกฎหมายเช่นกัน!!!” (VoiceTV)     ซึ่งในกรณีนี้ก็มีชาวเน็ตออกมาคอมเม้นต์ถึงเรื่องนี้กันอย่างหนาตา เรียกว่าฮาแตกเลยล่ะ เข้าใจอะไรผิดแล้ว ประเทศเราไทยแลนด์ต่างหาก -*- เอ้อออ   มีนโยบายขยายห้องขังเพิ่มเป็นอีก 4,000 เอเคอร์แล้วคุ๊ณณณ ไม่มีปัญหาหร๊อกกก   เอ้อเนาะ แนวคิดของคนนี้น่าสนใจ   ก็ว่างั้นเหมือนกันล่ะฮะ ท่านผู้ชม อ่าว เห้ย ผิดเพจแล้วเฮียยยย -*-   อันนี้ขอแคปชั่นหนักๆ ว่า #ที่มา   ผิดจริงครับ ปรับจริงด้วยนะครับ!!!  …

กำลังกลายเป็นคลิปที่ชาวเน็ตให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับคลิปของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลุ่มหนึ่ง ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ตามหญิงสาว หลังจากที่หญิงสาวถ่ายรูปการตั้งด่าน ที่คาดว่าเป็นการตั้งด่านแบบผิดกฎหมาย(ด่านลอย)   เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊คเพจ ติดตามพี่ จราจร หัวโปก เป็นคลิปของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ขับขี่จักรยานยนต์ผ่านด่านจราจร แต่คิดว่าเป็นการตั้งด่านแบบผิดกฎหมาย จึงถ่ายภาพเก็บเอาไว้   แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลุ่มหนึ่งขี่มอเตอร์ไซค์ตามมา เพื่อพูดคุยกับทั้งคู่และถ่ายคลิปวิดีโอกลับ พร้อมกับแจ้งว่าการกระทำของทั้งคู่นั้นถือเป็นการ “ละเมิดสิทธิ์” เจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากนั้นก็เกิดการถกเถียงกันอย่างร้อนแรง   ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง หลังจากถ่ายรุปด่านที่ตั้งผิดสังเกต แต่ตำรวจเห็นขับรถไล่ล่าตามมาถามว่าถ่ายรุปทำไม คือประชาชนสสัยว่าคือด่านเถื่อนหรือป่าว 5555ร้อนตัวจัง Posted by ติดตามพี่ จราจร หัวโปก on 9 ตุลาคม 2015   หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวอย่างมากมาย โดยมีความเห็นที่น่าสนใจของผู้ใช้เฟซบุ๊คที่ชื่อว่า กระทรวง ไร้วัฒนธรรม บอกว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่นั้นไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ นอกเสียจากว่าบุคคลนั้นจะเป็นผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหาในคดี   งานนี้ เหมียวว่าพี่ๆ ตำรวจน่าจะเจอปัญหาเข้าให้แล้วล่ะ ที่มา ติดตามพี่ จราจร หัวโปก

เมื่อเร็วๆ นี้แอดเหมียวได้มีโอกาสเห็นคลิปๆ หนึ่งที่เพื่อนๆ ในเฟซบุ๊คแชร์ต่อกันมา เป็นคลิปล้อเลียนคุณตัน ที่มีผู้ชายร่างท้วมแต่งตัวพร้อมกับหมวกกัปตัน ออกมาพูดว่าจะแจกของรางวัลเป็นตั๋วเครื่องบิน เงินสดและแทปเล็ต แอดเหมียวฟันธงเลยว่าต้องเป็นคลิปล้อเลียนแน่ๆ   แต่เมื่อกดดูเนื้อหาดีๆ เหมียวก็ถึงกับน้ำตาซึมเลยล่ะ เพราะกิจกรรมนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้า หรือชิงโชคใดๆ เพียงแค่คุณเล่าเรื่องราวความทุกข์ของคุณ ให้กับพวกเขา คุณก็มีสิทธิ์ได้รับของรางวัลไปเลยล่ะ และที่สำคัญ กิจกรรมนี้จัดขึ้นโดย สสส. ด้วยนะเออ   ชมคลิปที่ว่านี้ได้ที่ด้านล่างเลย   เงื่อนไขของทั้ง 3 รางวัลมีดังนี้ 1. ตั๋วเครื่องบิน 2 ที่นั่ง: ตั๋วนี้แจกแค่ 1 ที่นั่ง สวนอีกที่ เอาไว้พาเด็กสายตาพิการไปเที่ยวภูเก็ตครั้งแรก 2. เงินสด 10,000 บาท:  เอาไว้ซื้ออาหารเลื้ยงสัตว์จรจัด สัตว์พิการ 3. แทปเล็ต: เอาไว้ไปสอนผู้สูงอายุ เล่น เพื่อจะได้คุยกับลูกหลาน ไม่อยู่บ้านเหงาๆ   เป็นที่น่าเสียดายว่ากิจกรรมที่ว่านี้เพิ่งจะประกาศผลรางวัลไปเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่ถึงเพื่อนๆ จะไม่ได้ร่วมกิจกรรม แต่วันนี้เหมียวก็มีคลิปของผู้ที่ชนะกิจกรรมประกวดความทุกข์มาให้ได้ชมกันล่ะ เป็นภาพที่พวกเขาได้รับรางวัลและเล่าเรื่องราวความทุกข์ให้เราฟัง อยากให้เพื่อนๆ ดูกันให้จบนะ…

กลายมาเป็นประเด็นใหญ่โตไปทั่วอินเทอร์เน็ตไทย และกำลังเป็นที่พูดถึงอย่างรุนแรงกับการที่มีภาพดาราคนดังที่พร้อมใจออกมาโพสต์รูปภาพถือขวดเบียร์ยี่ห้อสัตว์ใหญ่รูปแบบใหม่ จากขวดสีน้ำตาลมาเป็นขวดสีเขียว     ทั้งนี้ชาวเน็ตก็ได้ตั้งข้อสังเกตกันว่าการถือขวดเบียร์แบบนี้เป็นลักษณที่โจ่งแจ้งมากๆ ซึ่งปกติแล้วการดื่มเบียร์จะไม่มีการโชว์ยี่ห้อให้เห็นเด่นชัดมากขนาดนี้ อีกทั้งผิดสังเกตกับการโพสต์รูปภาพของเหล่าดาราที่แห่โพสต์รูปภาพในแนวๆ เดียวกันในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน โดยก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นเลย   มาทางด้านความคิดเห็นของชาวเน็ตจากเว็บไซต์สังคมออนไลน์ชื่อดังของไทยอย่างพันทิป ต่างก็ลงความเห็นในแนวๆ เดียวกันว่ามันเป็นแผนการตลาดที่จับได้ง่ายมาก เหมือนจะเนียนแต่ก็ไม่เนียนซักเท่าไหร่             ที่น่าสนใจก็คือก่อนหน้าที่จะโพสต์รูปถือขวดเบียร์ยี่ห้อสัตว์ใหญ่ ก็เคยรับงานเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเบียร์อีกค่ายมาก่อน   แค่บังเอิญจริงดิ ? บุคคลสาธารณะ เหล่านี้กระทำพร้อมๆกัน จิงรึ ?ขอให้ใช้วิจารณญาณกันเอง ว่างานเข้ามั๊ยผู้มีหน้าที่รับผิ… Posted by รุ่งศักดิ์ สุวรรณภาณุ on Thursday, October 8, 2015   ตามเข้าไปให้ลึกอีกขั้นก็จะพบว่าจะสอดคล้องกับแคมเปญของเบียร์ยี่ห้อดังกล่าว ซึ่งภายในเว็บไซต์ก็จะกล่าวถึงดาราคนดังที่โพสต์รูปภาพถือเบียร์อย่างชัดเจน ซึ่งสรุปได้คร่าวๆ ว่ามันเป็นแผนการตลาดนั่นเอง     อย่างไรก็ตามเมื่อมีกระแสตอบกลับในด้านลบมากมาย ซึ่งรวมไปถึงการกล่าวถึงพี่โดมในกรณีดังกล่าวของทายาทเบียร์ยี่ห้อเสือ และพี่โดมก็ยินดีที่จะลบภาพดังกล่าวออกไป ตามข่าวนี้ ที่มา : postjung, รุ่งศักดิ์ สุวรรณภาณุ

กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง หลังมีการเผยแพร่คลิปพนักงานร้านอาหารและผับในภูเก็ตรุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสองคนจนสะบักสะบอม แถมยังขู่ให้เจ้าของคลิปลบคลิปอีกด้วย คลิปซึ่งอัพโหลดโดยเฟสบุ๊ค วิเชียร เจือจุน เป็นเหตุการณ์ที่ชาย 4-5 คน รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวต่าชาติสองคน จนชาวไทยและชาวต่างชาติที่เห็นเหตุการณ์เข้าไปห้ามปราม เมื่อคลิปนี้เผยแพร่ออกไป ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงประเทศ   แต่หลังจากโพสคลิปไปได้ไม่นาน มีเฟสบุ๊คปริศนา ได้ส่งข้อความเข้ามาข่มขู่ พร้อมบอกให้ลบคลิปดังกล่าว   เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนชายกลุ่มดังกล่าว พวกเขาบอกว่าฝรั่งสองคนนี้เมาแล้วเข้ามาลวนลามผู้หญิงในร้าน แถมสั่งอาหารมากินแล้วก็ไม่จ่ายเงิน จึงเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทดั่งที่เห็นในคลิป ตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็กำลังตามหาตัวฝรั่งสองคนในคลิปอยู่ แม้จะมีภาพเหตุการณ์แต่หากไม่มีเจ้าทุกข์ ก็ไม่สามารถจับกุมตัวชายกลุ่มที่โดนทำร้ายได้     โหดจริงๆการ์ดเมืองภูเก็ต ความจริงควบคุมตัวไว้ แล้วให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการน่าจะดีกว่านะ ไม่งั้นคนอื่นที่มาเห็น จะหาว่าคนบ้านเมืองเราดุเกินไปได้นะ ที่มา วิเชียร์ เจือจุน

หลังจากที่กลายเป็นเรื่องราวให้ชาวเน็ตได้ดราม่ากันยกใหญ่ สำหรับกรณีของนักร้องนักแสดงหนุ่มอย่าง โดม ปกรณ์ ลัม ที่โพสต์ภาพขณะตนเองกำลังรินเบียร์ยี่ห้อดังลงใน IG @domepakornlam ของตัวเอง จนมีชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยว่า การโพสต์รูปนี้เป็นเรื่องบังเอิญหรือได้รับสปอนเซอร์มา?   เพราะในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันก็ได้มีดาราคนอื่นๆ ที่แห่กันโพสต์รูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบเดียวกันออกมาเช่นกัน แต่ล่าสุด โดม ปกรณ์ ลัม ได้ลบรูปภาพดังกล่าวออกจาก IG แล้ว พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า   “ถ้าพูดถึงในด้านของการรับผิดชอบต่อสังคม ผมเข้าใจ! และเพื่อที่จะไม่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับน้องๆ เยาวชน ผมจะลบรูปที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออกจาก IG ของผมทั้งหมด” ตามนี้เลยครับ ขอบคุณทุกกำลังใจและคำตักเตือนครับ #น้อมรับครับผม Posted by DomePakornLamOnline on 8 ตุลาคม 2015   ผิดแล้วรูปจักขอโทษ สังคมพร้อมให้อภัยเสมอนะจ๊ะพี่โดม ที่มา DomePakornLamOnline

เคยสังเกตกันบ้างมั้ยว่าเวลาที่มีรถยนต์ขนสินค้าประสบกับอุบัติเหตุ ผู้คนส่วนมากมักจะไม่ค่อยสนใจในเรื่องของความปลอดภัยของผู้ขับขี่ซักเท่าไหร่ มักจะพุ่งความสนใจไปที่ตัวสินค้าที่มากับรถเสียส่วนใหญ่ และที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือความคิดที่จะนำสินค้าเหล่านั้นมาเป็นของตัวเอง เพราะถือว่าไม่มีเจ้าของ!?     อย่างเช่นในกรณีนี้มาจากคุณ ชาย มือปืน ที่ได้ทำการโพสต์เรื่องราวอันน่าเศร้าผ่าน Facebook ประมาณว่ารถยนต์ขนสินค้าของเขาประสบกับอุบัติเหตุบนทางด่วนบูรพาวิถี รถยนต์แล่นเหยียบเหล็กเสียบเข้าไปในยาง ส่งผลทำให้ยาวระเบิดและสินค้าที่ขนมาด้วยได้รับความเสียหายตกตามพื้นถนนบนทางด่วน     และด้วยลักษณะนิสัยของคนไทยบางส่วนที่ขับรถยนต์ผ่านไปมาในบริเวณนั้น ต่างหยิบสินค้าที่ตกบนถนนเก็บไปเป็นของตัวเอง ราวกับว่าเป็นการซ้ำเติมกันเข้าไปอีก ยางรถยนต์ระเบิด สินค้าเสียหาย ไหนจะโดนขโมยไปต่อหน้าต่อตาอีก   เฮ้อ!!! ใจเขาใจเรา ไม่น่าทำกันได้…Cr.ชาย มือปืนรถผมเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน บูรภาวิถี มีสินค้าเสียหายมากมาย แต่สิ่งน… Posted by คุณปิ๊ก นายผ้าบาง on Wednesday, October 7, 2015   น่าเห็นใจเจ้าของสินค้าเหล่านี้เป็นอย่างมากเลยล่ะ เพราะจะนำไปจำหน่ายเพื่อเลี้ยงชีพ แต่กลับโดนขโมยไปต่อหน้าต่อตา ไม่เหลืออะไรเลย จิตสำนึกที่ดีหายไปไหนแล้ว!? ที่มา : สกนธิทธิ์ พรหมณี

เมื่อถึงเวลาใกล้สิ้นเดือนแล้ว ก็มักจะเป็นเวลาของการแจกจ่ายบิลค่าใช้บริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายรายเดือนอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งในกรณีของค่าน้ำกับค่าไฟฟ้านั้นจะมีพนักงานมาส่งบิลเก็บเงินตามบ้าน แต่ดูเหมือนว่าพ่อหนุ่มรายนี้จะไม่ใช่อย่างที่คิด   ตอนนี้มีมิชาชีพปลอมเป้นพนักงานการไฟฟ้าออกเก็บค่าไฟฟ้า อย่าหลงเชื่อนะคะ มีปัญหาโทรมาสอบถามการไฟฟ้านะคะ. /042-612628 Posted by ถามก้อผิด ฉัน ผิดทุกอย่าง on Tuesday, October 6, 2015   เรื่องนี้มาจากผู้ใช้ Facebook ที่ชื่อว่า ถามก้อผิด ฉัน ผิดทุกอย่าง ได้ทำการโพสต์รูปภาพชายรายหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นพนักงานการไฟฟ้า มาพร้อมกับบิลเก็บเงินค่าไฟฟ้าซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นของปลอม ไม่มีความน่าเชื่อถือ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่จังหวัดมุกดาหาร   มันมามุกดาหารแล้วระวังนะคะ Posted by ถามก้อผิด ฉัน ผิดทุกอย่าง on Tuesday, October 6, 2015   ทั้งนี้ภายก็ได้มีการเปรียบเทียบบิลใบดังกล่าวที่ได้รับมาจากชายหนุ่มที่อ้างตัวเป็นพนักงานการไฟฟ้า โดยที่บิลค่าไฟฟ้าของจริงจะพิมพ์ออกมาเรียบร้อยไม่มีการใช้ปากกาเขียนเพิ่มเติมแต่อย่างใด     ที่มา : ถามก้อผิด ฉัน…

กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง หลังจากมีคลิปการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมา โดยเป็นคลิปที่ถ่ายจากหน้ารถยนต์คันหนึ่ง มีตำรวจคนหนึ่งขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ทางด้านซ้ายของถนน แต่เมื่อถึงทางแยก ตำรวจคนนั้นทำท่าจะปาดหน้าเลี้ยวไปทางขวา เจ้าของรถจึงบีบแตรให้เป็นสัญญาณ ด้วยเหตุใดไม่ทราบ ตำรวจคนนั้นกลับมีท่าทางโมโห เขาจึงจอดรถและถือสมุดใบสั่งลงมาด้วย แต่เมื่อเขาเห็นว่ารถคันดังกล่าวมีกล้องหน้ารอ เขาก็เดินกลับไปที่รถ แล้วขี่ออกไปอย่างงงๆ   ไปชมคลิปกันเลย   มีกล้องเหมือนมียันต์ ! ทําผิดแล้วยังกล้าลงจะแจกใบสั่งอีกมีกล้องเหมือนมียันต์ ! ทําผิดแล้วยังกล้าลงจะแจกใบสั่งอีก#คลิปมันใช่ #ใครก็แชร์ Posted by คลิปมันใช่ ใครก็แชร์ on 7 ตุลาคม 2015   ลองชมความคิดเห็นคนชาวเน็ตต่อคลิปนี้ดูบ้าง เหมียวนี่เงิบไปเลย มีแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย จะจับข้อหากระทำการให้เจ้าหน้าที่ตกใจงั้นเหรอ 55555 ที่มา คลิปมันใช่ ใครก็แชร์

เราอาจเคยได้ยินว่าเบอร์โทรฉุกเฉินในประเทศเรา ไม่ว่าจะเป็นเบอร์ของตำรวจ 191 หรือว่า 1669 ซึ่งเป็นเบอร์ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน มักจะมีคนโทรเข้าไปแกล้งประจำ จนบางครั้ง คนที่เดือดร้อนจริงๆ กลับไม่สามารถโทรได้ ทาง สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) EMIT_1669 จึงได้จัดทำโฆษณารณรงค์สร้างจิตสำนึกในการหยุดการโทรก่อกวนสายด่วนฉุกเฉิน 1669 เพราะคุณอาจทำให้อีกหลายชีวิตต้องเสี่ยงจากความสนุกของคุณ   ไปชมกันเลย เจ็บป่วยฉุกเฉินโทร1669 โทรฟรีแต่อย่าโทรเล่นวันนี้ สพฉ. ได้ผลิตภาพยนตร์โฆษณาชิ้นใหม่ ที่เราต้องการนำเสนอเพื่อสร้างจิตสำนึก ในการหยุดการโทรก่อกวน สายฉุกเฉิน 1669 เพื่อนๆรับชมแล้ว ช่วยแอดมินแชร์กันต่อด้วยนะคะ Posted by สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) EMIT_1669 on 7 ตุลาคม 2015   เห็นแบบนี้แล้ว เราอย่าไปโทรแกล้งเบอร์ฉุกเฉินกันเลยนะฮะ ให้คนที่เขาจำเป็นโทรเถอะ เกิดเป็นเราขึ้นมาจะขำไม่ออก ที่มา สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) EMIT_1669

หลายคนคงจำได้ว่า เราเคยมีนักร้องหญิงคุณภาพคนหนึ่งชื่อว่า พั้นซ์ วรกาญจน์ ซึ่งในตอนนั้น เธอเปิดตัวมาในลุกสาวเท่ จนบางทีหนุ่มๆยังต้องอายในความแมนของเธอเลยทีเดียว   โดยเฉพาะตอนที่เธอแสดงละครเรื่องทัดดาว บุษยา ในบทเจ้าฮะ ทัดดาว ยิ่งตอกย้ำภาพสาวเท่ของเธอเข้าไปอีก   แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ปัจจุบัน ภาพลักษณ์ของเธอได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ตอนนี้เธอกลายเป็นสาวหวานเต็มตัว และถึงแม้อายุจะเข้าไปแตะเลข 3 แล้ว(ตอนนี้เธออายุ 31ปี) เธอก็ยังสวยเช้งจนหนุ่มๆต้องเหลียวมองเลยทีเดียว ไม่เชื่อไปชมภาพที่เหมียวรวบรวมมาจาก Instagram ของเธอดูสิ รับรองว่าคุณจะต้องอึ้งในความสวยของเธออย่างแน่นอน   เป็นไงละ สวยจนอึ้งไปเลยมั้ยละ ตอนนี้เธอกำลังจะมีผลงานละครอยู่ช่อง One เรื่อง Sorry, I love you ใครที่เป็นแฟนเธอก็ไปติดตามกันได้นะฮะ ที่มา punch0509

ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้คนเราเป็นอะไรกันไปหมด นิดๆหน่อยๆก็พร้อมจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันตลอดเวลา โดยเฉพาะบนท้องถนน อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เหมียวนำมาให้ชมวันนี้ โดยเรื่องราวเป็นของเจ้าของเฟสบุ๊คชื่อ ยาย ตัว แสบ แสบแล้วรักป่ะ เธอเล่าว่า ขณะที่เธอกำลังเดินทางอยู่บนทางด่วนช่วงสุขสวัสด์ – พระประเเดง มีรถเทรลเลอร์คันหนึ่งปาดหน้าไม่ยอมให้แซง และพอแซงได้ คนขับรถเทรลเลอร์ก็ชักมีดขึ้นมาขู่!!   ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย   ช่วยแชร์. หน่อยนะค่ะสังคมไทยตอนนี้ใจแคบเหตุเกิดที่ทางด่วนสุขสวัสว์พระประเเดง. ประมาณ4โมงครึ่งแฟนขับรถมากัน4คน. พอขับมามีรถเทรนเลอวิ่งขวามาแล้วขับปาดใส่แต่ตอนปาดถ่ายไม่ทัน.วีดีโอถ่ายอาจดูไม่ทันเขาชักมีดมาขู่ Posted by ยาย ตัว แสบ แสบแล้วรักป่ะ on 6 ตุลาคม 2015   น่ากลัวจริงๆเลยแฮะคนสมัยนี้ กล้องบนรถก็มี กล้องทางด่วนก็มี หวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามจับตัวมาได้นะครับ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน ที่มา ยาย ตัว แสบ แสบแล้วรักป่ะ

การเป็นคนขับแท็กซี่นั้น ไม่ควรมีการแบ่งแยกหรือเลือกผู้โดยสาร ไม่ว่าผู้โดยสารจะเป็นใคร อาชีพอะไร ก็ต้องรับทั้งหมด และยิ่งถ้ามีการแบ่งแยกด้วยเรื่องเพศซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนแล้วละก็ ก็ยิ่งประเด็นร้อนยิ่งขึ้นไปอีก อย่างเช่นสิ่งที่เกิดขึ้นในคลิปนี้ ได้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที เนื่องจากคนขับแท็กซี่คนหนึ่ง บอกว่าไม่อยากรับสาวประเภทสอง เพราะส่วนใหญ่ชอบเรื่องมาก   โดยเหตุการณ์ในคลิปมีอยู่ว่า สาวประเภทสองสองคนได้โบกแท็กซี่คันหนึ่ง เมื่อขึ้นไปแล้ว ปรากฏว่าคนขับแท็กซี่มีท่าทางไม่พอใจอย่างยิ่ง เธอจึงถามว่าเป็นอะไร คนขับแท็กซี่บอกว่า ตนเองนั้นไม่อยากรับผู้โดยสารที่เป็นกระเทยหรือสาวประเภทสอง เนื่องจากเป็นพวกเรื่องมาก แต่ที่รับสองคนนี้ขึ้นมาเพราะว่าดูไม่ออกว่าเป็นสาวประเภทสอง เมื่อทั้งสาวประเภทสองได้ยินดังนั้น ก็เดือดขึ้นมาทันที ว่าทำไมถึงทำไมแบบ มันไม่ควรมีการแบ่งแยก กระเทยไม่ได้เป็นคนเลือกมากอย่างนั้นทุกคน   ไปชมคลิปกันเลย   เหมียวว่าการแบ่งแยกเพศแบบนี้ไม่โอเคเลย ปัจจุบันโลกก็เปลี่ยนไปไหนต่อไหนแล้ว ทัศนคติแบบนี้ไม่ควรมีอยู่แล้ว และยิ่งเป็นแท็กซี่ยิ่งไม่ควรทำ เพราะเป็นการปฏิเสธผู้โดยสาร แล้วเพื่อนๆละคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง ลองเสนอกันเข้ามาดูนะเหมียว ที่มา  Piyachart Chansawang

เชื่อว่าแทบทุกคนคงเคยใช้บริการไปรษณีย์ไทยในการส่งของ หลายคนอาจได้รับประสบการณ์ไม่ดีเท่าไหร่จากไปรษณีย์ไทย เช่นกล่องพัง ของภายในเสียหาย อย่างไรก็ตามบริษัทไปรษณีย์ไทยก็พยายามปรับปรุงบริการมาตลอด และเมื่อวานนี้ พวกเขาได้เปิดตัวกล่องพัสดุรุ่นใหม่ที่เขารับประกันว่าแข็งแรงกว่าเดิม โดยพวกเขาได้เปิดตัวกล่องใหม่นี้ในงาน World Post Day 2015‬ ที่ห้างเซ็นทรัลพลาซาพระราม 3 ภายในงานมีการให้นางแบบขึ้นไปยืนบนกล่องรุ่นใหม่นี้ เพื่อโชว์ความแข็งแกร่งอีกด้วย   ของเขาดีจริงๆนะเนี่ย แต่เมื่อชาวเน็ตเห็น พวกเขาก็เข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย   ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า กล่องชนิดใหม่นี้ จะกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัทไปรษณีย์ไทยกลับมาได้หรือไม่ ที่มา บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 6 ตุลาคม ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพจากเฟซบุ๊คของ Prasit Fooeang เป็นภาพของบุคคลหนึ่งที่แต่งตัวคล้ายกับพระ กำลังถ่ายภาพเซลฟี่ของตัวเองในขณะเปลือยให้เห็นเนินอกและแผ่นหลัง พร้อมกันนี้ยังแต่งหน้าแน่นกริ๊บ จนสาวๆบางคนยังต้องอาย   ตามรายงานไม่ได้ระบุว่าพระรูปดังกล่าวมีชื่อว่าอะไร หรือจำอยู่วัดไหน แต่เมื่อพิจารณาถึงเครื่องแต่งงานและการปฏิบัติตัวแล้ว คงไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะสวมจีวรพระ     และหลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาต่อว่าพระรูปดังกล่าวอย่างล้นหลาม โดยหนึ่งในความเห็นของคุณ Chanyarak Sanprom บอกว่าพระรูปนี้มีอาการจิตไม่ปกติและเรียกร้องความสนใจ ในขณะที่ คุณ Prasit Fooeang มองว่าอาจจะเป็นภาพตัดต่อก็ได้   สวยเลยนะคะหลวงเจ๊ ที่มา Prasit Fooeang

ท้องถนนประเทศไทยเราเปรียบได้ดั่งสมรภูมิที่เหล่านักขับต้องมาผจญภัยเสี่ยงชีวิตกัน จนบางครั้งก็ต้องแอบคิดว่า เราเสี่ยงเกินไปหรือเปล่าสำหรับการขับรถ และคลิปนี้จะยืนยันได้อย่างดีว่า ที่เหมียวพูดนั้นไม่ผิดเลย คลิปนี้เป็นคลิปที่ถ่ายโดยกล้องหน้ารถของคุณ Phakkanit Pinkaew เธอเล่าว่าขณะเธอจอดรถที่แยกไฟแดงโตโยต้าบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มีรถหกล้อตัดหน้ารถพ่วงที่กำลังพยายามฝ่าไฟแดง โชคดีคนขับรถพ่วงสามารถหักหลบได้ทัน ทำให้ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น   ไปชมคลิปกันเลย   หวุดหวิดมาก…!!!! @แยกโตโยต้าบ้านโพธิ์ Posted by Phakkanit Pinkaew on 5 ตุลาคม 2015   เมื่อชาวเน็ตเห็นพฤติกรรมการขับรถดังกล่าว ก็เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด   เหมียวว่าการขับรถแบบนี้มันไม่โอเคเลยนะฮะ เกิดพลาดขึ้นมา อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย เพื่อนๆขับรถระมัดระวังนะฮะ อย่างน้อยก็ช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุไปได้เยอะแน่นอน ป้องกันคนอื่นไม่ได้ อย่างน้อยเราก็ระวังตัวเองนะครับ ที่มา Phakkanit Pinkaew

เป็นประจำที่เรามักจะได้เห็นภาพของเหล่าเทพบุตรนักบิน(หรือที่เราเรียกว่าเด็กแว้นนั่นแหละ) ออกมาซิ่งป่วนเมือง สร้างความรำคาญและเพิ่มความอันตรายให้กับท้องถนน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครทำอะไรพวกเขาได้นะ เพราะยังมีตำรวจจราจรฝีมือดีที่สามารถไล่ล่าเด็กแว้นมาลงโทษได้เหมือนอย่างในคลิปนี้ล่ะ   วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปชมคลิปการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนายหนึ่ง ที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ตามเด็กแว้นรายหนึ่งได้อย่าน่าหวาดเสียวประหนึ่งหนังแอ็คชั่นเลย และที่สำคัญในตอนท้ายคลิปยังมีการลงไปวิ่งไล่ตามจนจับตัวได้ด้วย ยอดเยี่ยมจริงๆ   ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   เด็กแว้นทั้งหลายอย่าคิดว่าตำรวจจราจรจะไม่สามารถตามได้ทันนะ เพราะอย่าลืมว่ามอเตอร์ไซค์ของพี่ๆ ตำรวจนั้น เร็วแรงไม่แพ้กันเลยล่ะ ที่มา Ao Nathasedh

ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของเด็กหญิงคนหนึ่งกับแม่ผู้พิการ ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในอำเภอศรีราชา จังหวัชลบุรี โดยมีข้อความระบุไว้ว่าเด็กหญิงกำลังโกรธแม่ของเธอหลังจากที่ไม่ยอมซื้อมือถือเครื่องใหม่ให้   ทำให้โลกออนไลน์ต่างพากันแชร์ภาพและข้อความดังกล่าวออกไป และต่อว่าในการกระทำอันไม่เหมาะสมของเธออย่างมากมาย   หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีความคิดเห็นหนึ่งเข้ามาแย้งว่า ภาพทั้งหมดที่เห็นนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นก็ได้ เพราะเจ้าตัวบอกว่าตนเองรู้จักกับเด็กคนนี้ ตัวจริงเป็นคนนิสัยดีมาก และแม่แท้ๆ ของเธอก็ทิ้งเธอไปนานแล้ว คนที่เห็นในรูปนั้นเป็นเพียงแม่บุญธรรมเท่านั้น ข่าวที่ลงอาจมีการผิดพลาดได้   ในเวลาต่อมาเจ้าของภาพก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจผ่านเฟซบุ๊คของตัวเอง พร้อมขอโทษที่ทำให้เรื่องบานปลายจนเด็กหญิงและแม่ต้องเสียหาย และไม่คิดว่าเรื่องราวที่โพสต์ออกไปนั้นจะมีคนแชร์เยอะขนาดนี้   ทีหน้าที่หลัง จะโพสต์หรือจะแชร์อะไรก็เช็คข้อมูลกันดีๆ ก่อนนะจ๊ะ ไม่งั้นเราอาจทำลายชื่อเสียงหรือทำให้บุลคลผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรต้องเสียหายแบบฟรีๆ ก็ได้ ที่มา kapook

พ่อแม่ทุกคนล้วนอยากให้ลูกของตนนั้นได้รับสิ่งที่ดีที่สุด แม้พวกเขาอาจมอบเงินทองข้าวของไม่ได้ แต่สิ่งพวกเขามอบให้ได้คือการศึกษา และความฝันสูงสุดของพวกเขา คือการได้ยืนเคียงข้างลูกในชุดครุยน่าภาคภูมิใจ อย่างเช่นเรื่องราวอันน่าประทับใจของบัณฑิตหนุ่มคนนี้ ผู้ซึ่งมีพ่อเป็นเพียงคนเก็บขยะ แต่เขาไม่เคยมองว่านั่นคือปมด้อย หากแต่เป็นความภาคภูมิใจที่มีพ่อที่เข้มแข็งและเสียสละถึงเพียงนี้ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา เฟสบุ๊ค Klanarong Srisakul ได้โพสภาพบัณฑิตในชุดครุยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นั่งคุกเข่ากราบเท้าพ่อ โดยเขาบอกว่า นั่นคือภาพของเพื่อนของตน พร้อมเล่าเรื่องราวอันน่าประทับใจของครอบครัวนี้     เมื่อชาวเน็ตเห็นภาพอันน่าประทับใจนี้ ก็เข้ามาคอมเม้นกันอย่างมากมาย     สุดยอดฮะ น่าชื่นชมมากๆเลย ขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิตต่อไปนะฮะ เหมียวเชื่อว่าคนกตัญญูฟ้าไม่ใจร้ายแน่นอน^^ ที่มา Klanarong Srisakul

ไม่น่าเชื่อเลยว่าเวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็วได้ขนาดนี้ พอกลับมานึกย้อนอีกทีภาพยนตร์ที่เหมียวเคยชมในวันนั้ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2546 จนกระทั่งถึงปีพ.ศ. 2558 ก็ผ่านมาตั้ง 12 ปีแล้ว กับภาพยนตร์น่ารักๆ อย่าง ‘แฟนฉัน’ ที่สร้างรอยยิ้มและความประทับใจอย่างไม่มีวันลืม         มาจนถึงตอนนี้ก็เหมือนกับว่าเราโตมากับภาพยนตร์ยังไงยังงั้นเลยแหละ และทีมนักแสดงก็โตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้ว ซึ่งก็ได้มารวมตัวกันอีกครั้งจัดปาร์ตี้ครบรอบ 12 ปี ภาพยนตร์แฟนฉัน โดยมีทีมผู้กำกับเข้าร่วมด้วย รู้สึกเหมือนได้กลับมาหาคนรู้ใจอีกครั้ง       และที่น่ารักมากๆ เลยก็คือสองนักแสดงนำ ชาลี ไตรรัตน์ (แน็ค) รับบทเป็นเจี๊ยบ และ โฟกัส จีระกุล (โฟกัส) รับบทเป็นน้อยหน่า ถ่ายภาพเหมือนกับโปสเตอร์ภาพยนตร์ที่เคยถ่ายทำไปเมื่อ 12 ปีที่แล้ว เห็นแล้วก็อดคิดถึงไม่ได้เลย น่ารักจริงๆ       ที่มา : sanook

เราอาจเคยได้ยินชื่อเสียงของนักสืบประจำเว็บไซต์ชื่อดังระดับประเทศอย่างพันทิป ว่าเก่งกาจ สามารถสืบได้ทุกเรื่อง ตาสีตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลัง มีหรือนักสืบพันทิปจะพลาดไม่ได้ และครั้งนี้ต้องเรียกได้ว่า พลาดแบบมโหฬารจริงๆ เรื่องมีอยู่ว่าสมาชิคพันทิปชื่อว่า สมาชิกหมายเลข 979935 ได้ตั้งกระทู้รีวิวการไปเที่ยวเอธิโอเปีย โดยเธอเล่าว่าตอนแรกเธออยากไปเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ แต่สามีกลับพาไปเที่ยวเอธิโอเปียแทน ตอนแรกเธอก็ไม่ค่อยพอใจ แต่สุดท้ายการไปเที่ยวครั้งนี้ กลับมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับเธอ ส่วนบรรยากาศในกระทู้นั้น ชื่นมื่นแบบสุดๆ     แต่ทันใดนั้นเอง มีสมาชิคอีกท่าน Sandee FrontRowMen Official ได้ตั้งกระทู้แฉว่า  สมาชิกหมายเลข 979935 นั้นเอาขโมยรูปมาจากตากล้องคนหนึ่งที่เขาติดตามอยู่ โดยในกระทู้ได้ต่อว่าและประนาม สมาชิกหมายเลข 979935 อย่างรุนแรง ว่าขโมยรูป แถมยังมโนเรื่องเองว่าไปเที่ยวอีกตะหาก       ในขณะที่ไฟแห่งความโกรธแค้นของชาวพันทิปกำลังลุกโชน ว่าทำไม สมาชิกหมายเลข 979935 ถึงกล้าขโมยรูปของคนอื่นมามโนแบบนี้ ความเงิบก็เข้ามาถึงตัว Sandee FrontRowMen Official อย่างไม่ทันตั้งตัว เนื่องจาก สมาชิกหมายเลข 979935 ได้เข้ามาตอบว่า ช่างภาพที่เอ็งติดตามอ่ะ ที่เอ็งหาว่าข้าไปขโมยรูปเขาอ่ะมา สามีกรูเองค่ะ!!!!!   ที่เงิบยิ่งกว่าคือ ตากล้องที่เจ้าของกระทู้อ้างว่าเป็นแฟนคลับ ก็เข้ามาตอบเช่นกัน ตอนนี้เจ้าของกระทู้คนนั้นก็หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว ใครอยากติดตามต่อ เจ้าของกระทู้จะออกมารับผิดชอบคำพูดหรือไม่ ก็กดลิ้งจากตรงที่มาได้เลยจ้าาา…

ปัญหาการทะเลาะดุด่ากันในครอบครัว หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องปกติ ลิ้นกับฟันก็ต้องมีกระทบกันบ้าง แต่หารู้ไม่ บางครั้งปัญหาเหล่านั้น อาจนำไปสู่จุดจบอันน่าเศร้าได้ อย่างเช่นสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวนี้ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ 2558 เวลาประมาณ 18.20 น. ทีมกู้ภัยมังกรชลบุรี ได้รับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตสาเหตุผูกคอ บริเวณหลังวัดใหม่บ้านสวน บ้านเลขที่ 15/9 ม.1 ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พวกเขาได้พบการร่างไร้ชีวิตของเด็กหญิงวัย 13 ปีคนหนึ่ง ผูกคอตนเองอยู่บริเวณช่องลมประตู โดยเด็กผู้หญิงคนนี้ได้เขียนจดหมายลาตาย ว่าตนเองน้อยใจมารดาของตนที่ชอบทำร้ายดุด่าตนเอง และตนเองมีปัญหาเรื่องสอบตก จึงผูกคอตายหนีความทุกข์ พร้อมขอโทษพ่อ ที่ต้องจากไปก่อนอย่างนี้   จดหมายลาตายดังกล่าว   เหมียวอ่านจดหมายแล้วก็สะเทือนใจจัง ยังไงก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องคนนี้ไว้ ณ ที่นี้ด้วย ใครที่เป็นพ่อแม่อยู่ก็ขอให้จำเรื่องนี้เป็นบนเรียน จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์น่าสะเทือนใจแบบนี้ขึ้นอีกเนาะ ที่มา กู้ภัยมังกรชลบุรี – สำนักงานใหญ่

หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับน้องแอปเปิล หรือนางสาวอรวี สำเภาทอง นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนสตรีระนอง ถูกคนร้ายเข้าใช้มีดแทงในซอยเปลี่ยว จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา   ล่าสุดได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโองานฌาปนกิจน้องแอปเปิ้ล ที่จัดขึ้นที่อุปนันทารามในจังหวัดระยอง แต่ในระหว่างที่กำลังทำพิธีอยู่นั้น กลับมีหญิงสาวที่เป็นญาติของผู้เสียชีวิตเกิดอาการคลุ้มคลั่งคล้ายผีเข้า และพยายามจะหนีออกจากวัด ชาวบ้านจึงจับตัวเอาไว้ก่อนที่หญิงสาวจะพูดถึงเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น   ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ใครทำบอกให้หมดเลยแอปเปิ้ล. Posted by Boat Pitthawat on 3 ตุลาคม 2015   จากเหตุการณ์ดังกล่าว ญาติของผู้เสียชีวิตเชื่อว่าอาการดังกล่าวอาจเกิดมาจากความเครียดที่สูญเสียญาติพี่น้องไป ในขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนมองว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเพียงการสร้างสถานการณ์เท่านั้น ที่มา Boat Pitthawat

ถือเป็นหนึ่งในตำนานของไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับลุงต่วย วาทิน ปิ่นเฉลียว ผู้ที่สร้างตำนานต่วยตูน มาแล้วกว่า 45 ปี แต่แฟนๆ ก็ถึงกับช็อคเพราะเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊คเพจ พอกเก็ตแมกาซีน ต่วยตูน ได้รายงานว่า ลุงต่วย ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 85 ปี   ทั้งนี้มีข้อความทั้งหมดว่า “ลุงต่วย วาทิน ปิ่นเฉลียว ผู้สร้างตำนานต่วย’ตูนให้ยืนยงมากว่า 45 ปี ท่านได้จากพวกเราไปแล้วในวันนี้ 4 ตุลาคม 2558 อายุ 85 ปี กำหนดการพิธีศพ คุณวาทิน ปิ่นเฉลียว ณ วัดเทพศิรินทร์ ศาลาภาณุรังษี วันที่ 5 ตุลาคม รดน้ำศพเวลา 16:00น วันที่ 5 ถึง 11 ตุลาคม สวดอภิธรรมเวลา 19:00น.”   ทั้งนี้แอดเหมียวขอแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวปิ่นเฉลียวมา ณ ที่นี้ด้วย ที่มา sanook , kapook

เวลาที่เราไปรับประทานอาหารตามโรงอาหารต่างๆ หรือตามศูนย์อาหารภายในห้างสรรพสินค้า จะสังเกตได้ว่ามีการตั้งหม้อน้ำร้อนไว้ให้บริการลวกช้อนส้อม ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการกำจัดเชื้อโรคที่ติดอยู่กับช้อนส้อมที่มีไว้ให้บริการนั่นเอง     งานนี้ก็กลายมาเป็นประเด็นกันอีกครั้งเมื่อมีการแชร์ข้อความจาก Facebook ส่วนตัวของ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน ที่ได้มีการโพสต์ข้อความเตือนเกี่ยวกับการลวกช้อนส้อมด้วยหม้อหุงข้าวตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งการลวกช้อนส้อมเพื่อฆ่าเชื้อโรคต่างๆ นั้นจะต้องใช้อุณหภูมิสูงกว่า 98 องศาเซลเซียส และใช้เวลาประมาณ 4 นาที   ผมขอบอกว่า ผมไม่เคยลวกช้อนส้อมด้วยหม้อหุงข้าวเลย เหตุผลคือ เราต้องการทำลายเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสต่างๆใช่มั้ยครับ เช่น ไ… Posted by ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน on Wednesday, March 12, 2014   โดยการที่จุ่มช้อนส้อมลงในหม้อตามศูนย์อาหารต่างๆ นั้นไม่มีอุณหภูมิที่สูงพอ และพฤติกรรมการจุ่มช้อนส้อมลงในหม้อนั้นก็ทำเพียงแค่ไม่กี่วินาที ซึ่งนอกจากจะไม่ช่วยทำให้ช้อนส้อมสะอาดและปราศจากเชื้อโรคแล้ว ยังเป็นการเพิ่มเชื้อโรคทั้งในน้ำภายในหม้อและติดขึ้นมากับช้อนส้อมมากกว่าเดิมอีก     อย่างไรก็ตาม ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน ก็ได้กล่าวเพิ่มเติมเอาไว้ว่าหากลวกในน้ำร้อนที่เดือดพอ ก็น่าจะโอเคกว่าการที่จุ่มช้อนส้อมในน้ำร้อนปกติและใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น ที่มา : ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน

เรื่องราวของ ด.ต.เชาว์ สิงห์กวาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ที่ได้ทำการขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อตามล่าคนร้ายคดียาเสพติด เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เกิดประสบอุบัติเหตุส่งผลทำให้สมองได้รับกระทบกระเทือน และกลายมาเป็นเจ้าชายนิทราที่ต้องรับการรักษามานานกว่า 1 ปีแล้ว     โดยล่าสุดนี้ทางเพจ Thailand Police Story ได้ชี้แจงเกี่ยวกับความคืบหน้าของกรณีนี้ว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการอนุมัติให้ลูกสาวของดาบตำรวจ น.ส.ณัฐนิชา สิงห์กวาง เข้าบรรจุเป็นตำรวจเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่คุณพ่อประสบกับอุบัตเหตุในขณะปฏิบัติหน้าที่   "อนุมัติให้ลูกสาวเป็นตำรวจ"สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีมติอนุมัติให้ น.ส.ณัฐนิชา สิงห์กวาง เป็นตำรวจเรียบร้อยแล้ว หลังจาก ด… Posted by Thailand Police Story on Saturday, October 3, 2015   ปัจจุบัน สิบตำรวจตรี ณัฐนิชา บรรจุเป็นตำรวจอยู่ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 2 และจะเข้ารับการอบรมเพื่อขึ้นเป็นยศนายร้อยตำรวจ จากการใช้สิทธิทายาท และเรียนจบปริญญาตรี จากม.บูรพา แม้ว่าท่ามกลางกระแสของประชาชนที่มองตำรวจในแง่ลบ ก็ยังมีเรื่องดีๆ…

การทำบุญทำทานถือเป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะเราจะได้แบ่งปันทรัพย์สินที่เรามี ไปให้กับคนที่ไร้โอกาสหรือคนยากคนจน แต่ก่อนจะทำบุญต้องดูดีๆ ก่อนนะ เพราะไม่งั้นคุณอาจตกเป็นเหยื่อของเหล่า “เด็กกล่อง” ได้เลยล่ะ     เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 4 ตุลาคม ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊คของนางแบบ Keratikan Klumkomon เป็นภาพในขณะที่เธอกำลังมอบเงินจำนวน 500 บาทให้กับเด็กชายคนหนึ่ง โดยเด็กหนุ่มอ้างว่าจะนำเงินส่วนที่ได้ไปจ่ายค่าเช่าบ้านให้พ่อ   แต่หลังจากนั้นเพียงหนึ่งชั่วโมงให้หลัง นางแบบสาวก็ได้หูตาสว่าง เพราะมีสมาชิกในโลกออนไลน์จำนวนมาก ต่างจดจำใบหน้าของเด็กหนุ่มได้ และส่งข้อความถึงนางแบบสาวว่า เด็กหนุ่มคนดังกล่าวไม่ใช่เด็กที่ยากไร้จริงๆ แต่เป็น เด็กกล่อง ที่เที่ยวขอเงินชาวบ้านไปทั่ว เพื่อเอาไปใช้จ่ายส่วนตัว   หวังว่าหลังจากที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป จะมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ เข้ามาดูแลเรื่องนี้นะ ส่วนคนที่มีจิตกุศล ก็อย่าเพิ่งเสียใจไป เพราะหากเราทำด้วยใจบริสุทธิ์ก็ได้บุยแล้วล่ะ ที่มา Keratikan Klumkomon

ยังคงเป็นประเด็ดที่ให้ชาวเน็ตในโลกออนไลน์ถกเถียงกันแบบไม่จบไม่สิ้นเลยนะ สำหรับกรณีของพระภิกษุขับขี่ยานพาหนะ ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพพระรูปหนึ่งผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ค Songkran Yodkuna   เผยให้เห็นภาพของพระภิกษุขณะกำลังขับขี่มอเตอร์ไซค์ หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดการถกเถียงว่าเป็นพฤติกรรมที่เหมาะสมหรือไม่ โดยความเห็นส่วนหนึ่งมองว่าเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม พระภิกษุไม่ควรขับขี่ยานพาหนะด้วยตัวเอง   ในขณะที่ความเห็นอีกฝั่งหนึ่งมองว่าการที่พระภิกษุต้องขับขี่ยานพาหนะด้วยตนเองเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เพราะหากเป็นวัดที่อยู่ไกลจากความเจริญและไม่มีลูกศิษย์ ก็สามารถเดินทางไปไหนมาไหนด้วยตนเอง     เพื่อนๆ เห็นว่ายังไงบ้าง แชร์ความคิดกับเหมียวได้นะ ที่มา kapook, songkran.yodkuna

เรื่องของการจอดรถขวางหน้าบ้านกัน ถือเป็นปัญหาที่เราพบเห็นได้ทั่วไปตามแหล่งชุมชนนะ เพราะพื้นที่มีน้อยต้องรู้จักเกรงใจซึ่งกันและกัน ไม่งั้นอาจจะเกิดดราม่าแบบกรณีนี้ก็เป็นได้   เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของรถกระบะคันหนึ่ง ที่พยายามจะจอดรถในบ้านของตัวเอง แต่กลับมีรถเก๋งอีกคันจอดขวางอยู่ ทำให้เข้าบ้านไม่ได้ คนขับรถกระบะจึงโมโหและบีบแตรอย่างยาวนานจนชาวบ้านในระแวกนั้นหนวกหูและต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปเอาไว้   แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของรถเก๋งคันดังกล่าวจะอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้นมากนัก จึงเข้ามาขยับรถให้ ทำให้คนขับรถกระบะใจเย็นลงและหยุดบีบแตรเสียที   ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตหลายคนต่างพากันโต้เถียงว่าใครถูกใครผิดในกรณีนี้ โดยบางความเห็นมองว่ารถเก๋งเป็นฝ่ายผิด เพราะจอดไม่ดูตาม้าตาเรือเอง ในขณะที่ความเห็นอีกฝั่งมองว่าควรใช้การพูดคุยกันจะดีกว่า เพราะการบีบแตรแบบนี้อาจทำให้ชาวบ้านเกิดความรำคาญได้ ที่มา noterwork

ช่วงนี้บ้านเมืองของเราดูเหมือนจะสงบเรียบร้อยเป็นพิเศษ ต่อก็ยังมีคลื่นใต้น้ำที่คอยสร้างความสั่นคลอนได้อยู่เรื่อยๆ ดูไม่มีทีท่าว่าจะสงบกันได้ง่ายๆ แต่ว่าปัจจุบันนี้ในสังคมไทยเองก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากมาย (รึเปล่า) ทั้งในเรื่องของความเชื่อและความคิดต่อสิ่งต่างๆ รอบตัว ทั้งนี้ ชุดรูปภาพที่จะได้รับชมต่อไปนี้ คือสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทยจริงหรือไม่ ลองมาพิจารณากันดีกว่า                     ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายเกี่ยวกับแง่คิดของสังคมไทย หากใครอยากจะลองวิเคราะห์และพิจารณาแนวทางของสังคมสามารถไปติดตามได้ที่เพจ พุทธยาศาสตร์ เลยจ้า

เราอาจได้ยินข่าวแม่ค้าอาหารตามสั่ง ขายราคาแพงแต่ให้ปริมาณน้อยกันมามาก วันนี้เหมียวจะพาไปชมร้านอาหารตามสั่งที่ให้ของเยอะที่สุดในประเทศ แถมราคาสมเหตุสมผลด้วย!!! ร้านดังกล่าวมีชื่อว่า  “ยาโภชนา” ตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา โดยเป็นร้านเล็กๆริมทาง แต่เห็นแบบนี้ บอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะร้านนี้นอกจากขายไม่แพงแล้ว ยังให้ปริมาณเยอะอีกด้วย ถามว่าเยอะขนาดไหน ไปชมภาพกันเองดีกว่า   โอ้โห เยอะมากๆๆๆๆๆ และเขาขายราคาไม่แพง อยู่ที่ประมาณ 40-50 บาทต่อจานเท่านั้น และถ้ากินไม่หมด มีบริการห่อกลับให้ด้วย!!   แต่ละวันมีคนมากินร้านนี้กันมากมาย เพราะว่าทั้งอร่อย ทั้งถูก แถมได้เยอะด้วย   คนนี้พี่เจ้าของร้าน พี่ปัญญา บริบูรณ์ อายุ 39 ปี เขาเปิดร้านนี้มาได้ประมาณ 8 ปีแล้ว วัตถุดิบที่ใช้ทำก็สดใหม่ทุกวัน ไม่มีค้างคืน ถามว่าแต่ละวันได้กำไรเยอะมั้ย เขาก็บอกว่า ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน ในยุคที่ข้าวยากหมากแพงแบบนี้     ต้องบอกว่าให้เยอะจริงๆ ใครที่อยู่แถวนั้น ก็อย่าลืมไปอุดหนุนร้านนี้ได้ พี่เขาจะได้ขายของอร่อยๆ ถูกๆให้เรากินได้ตลอดไปยังไงละ ที่มา Tnews

ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกลายเป็นประเด็นให้เราได้ดราม่าอยู่แทบทุกวัน และวันนี้อีกครั้งกับการจอดรถขวางทางเข้าออกถนน จนทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ไม่สามารถสัญจรได้อย่างปกติ เรื่องราวมีอยู่ว่า หญิงสาวคนหนึ่งได้ถ่ายคลิปรถตำรวจจอดปิดซอยเข้า-ออกตลาดแห่งหนึ่ง จนรถที่ผ่านไปมาไม่สามารถสัญจรได้อย่างปกติ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2558 และเจ้าของคลิปก็วิจารณ์ตำรวจอย่างดุเดือดว่า คิดจะจอดตรงไหนก็จอด แบบนี้จะไปเสียค่าปรับได้ที่ไหน?   ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย   เมื่อคลิปเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตออกมาโรงวิพากย์วิจาณ์กันอย่างดุเดือด   เอ..ปกติเราทำผิดแล้วตำรวจจะเขียนใบสั่งให้เรา แล้วแบบนี้ตำรวจทำผิด ใครจะเขียนใบสั่งให้ตำรวจละเนี่ย ที่มา เหมียว รักทุรย์ เทอร์โบ

นี่อาจเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในรสชาติของนมเปรี้ยว “ยาคูลท์” ก็เป็นได้นะ เพราะเร็วๆนี้ยาคูลท์มีแผนจะส่งผลิตภัณฑ์ของตัวเองลงสู่ร้านขายปลีกอย่างเซเว่นอีเลเว่น ทำให้พวกเราสามารถหาซื้อกันได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง   เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Prachachat ได้เผยว่า ยาคูลท์เตรียมที่จะผนึกกำลังกับร้านเซเว่นอีเลว่นเพื่อกระจายสินค้าของตัวเองไปทั่วประเทศ ซึ่งจะมีมูลค่าถึง 8,000 ล้านบาท โดยจะวางขายในราคาขวดละ 8 บาท ซึ่งจะแพงกว่าการขายโดยสาวยาคูลท์เพียง 1 บาท   ในช่วงแรกเริ่มนั้นจะมีการวางขายในสาขาต่างจังหวัดก่อนและจะมีการขยายออกไปในสาขาในเมืองตามลำดับ โดยทางจากคูลท์จะเป็นคนมอบหมายให้สาวยาคูลท์ส่งมอบสินค้าให้กับทางเซเว่นเอง เพราะไม่ต้องการแย่งรายได้จากสาวยาคูลท์ อีกทั้งยังตั้งราคาให้แตกต่างกันด้วย   แต่ถึงจะมีการตั้งราคาของ 2 ตลาดให้มีความแตกต่างกัน แต่ก็มีสาวยาคูลท์ได้ออกมาแสดงท่าทีเป็นกังวลล่ะ เพราะการขายแบบเดิมโดยสาวยาคูลท์นั้นจะได้ส่วนแบ่งขวดละ 1.5 บาท แต่การขายให้เซเว่นจะได้ส่วนแบ่งที่ 75 สตางค์นั่นเอง   ทั้งนี้ชาวต่างจังหวัดอาจจะได้เห็นขวดยาคูลท์ตั้งอยู่ในตู้เย็นของเซเว่นหลายๆ ที่กันไปแล้ว สำหรับใครที่อยากดื่มยาคูลท์แล้วล่ะก็ลองออกไปตามหากันดูได้นะจ๊ะ ที่มา prachachat

นักท่องเที่ยวจีนถึงกับเงิบ หลังจากเข้าไปร้องคาราโอเกะในร้านแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ชั่วโมงเดียว ถูกเรียกเก็บเงินกว่า 14,000 บาท!!   เรื่องมีอยู่ว่า นายจู จื่อผิง อายุ 41 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีนคนเนี้ย ก็ไปเปิดห้องคาราโอเกะร้องเพลงกับเพื่อนที่ร้านคาราโอเกะร้านหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่ เขาบอกว่าเขาสั่งเบียร์ไปสองขวด แล้วก็กลับแกล้มอีกสองอย่าง ร้องไปได้ประมาณชั่วโมงหนึ่งก็เรียกเก็บเงิน ปรากฏว่าโดนเช็คบิลไป 14,000 บาท พอเขาขอตรวจสอบบิล เขาก็พบรายการดังนี้   – ค่าห้อง 400 บาท – ค่าเซอร์วิสชาร์จ 500 บาท – ค่าผู้หญิง 1,200 บาท – ค่าเบียร์ 37 ขวด ขวดละ 220 บาท เป็นเงินกว่า 5,940 บาท ทั้งที่สั่งมาดื่มแค่ 2 ขวด – ค่าขนมขบเคี้ยว 2 อย่าง 800 บาท พอเห็นดังนั้นเขาก็ไม่ยอมจ่าย เพราะบางรายการ เขาไม่ได้สั่ง เขาจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สุดท้ายทางตำรวจก็ไกล่เกลี่ยให้ เจ้าของร้านลดราคาให้เหลือ 7,000…

กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง หลังมีคนสามารถถ่ายคลิปคู่รักเด็กนักเรียนแสดงความรักด้วยการกอดกันในห้าง โดยไม่แคร์สายตาคนอื่น จนมีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์มากมาย เหตุเกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านบางใหญ่ โดยในคลิปเป็นภาพของเด็กนักเรียนชายหญิงสองคนอยู่ในชุดนักเรียน กำลังกอดนัวเนียกันอย่างโจ่งแจ้ง โดยไม่สนใจสายตาของคนอื่นๆ   ไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย   เมื่อชาวเน็ตเห็นคลิปดังนั้น จึงออกโรงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด   ในความเห็นของเหมียว แม้พฤติกรรมแบบนี้จะไม่ใช่สิ่งที่แปลกอะไรในปัจจุบัน แต่มันก็ยังคงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนสำหรับสังคมไทยอยู่ดี ฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็หลีกเลี่ยงการทำอะไรโจ่งแจ้งไปได้ ก็คงจะบรรเทาปัญหาไปได้มากแล้วเพื่อนๆละคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง ลองเสนอกันเข้ามาดูนะเหมียวว ที่มา debet pong

กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ไปแล้วกับการประกวดดาวเดือนของคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อมีการประกาศออกมาว่า “เดือน” ที่ปกติจะให้ผู้ชายดำรงตำแหน่งนี้ กลับกลายเป็นผู้หญิงแทน ซึ่งก็เกิดโต้แย้งกันในคอมเม้นต์อยู่ด้วย เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่แฟนเพจ SW Freshman Fanpage ซึ่งโพสต์นี้เป็นการประกาศรายชื่อดาวเดือน โดยที่ทางแฟนเพจให้เหตุผลว่า… ทำไมเดือนคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ถึงเป็นผู้หญิง? หลายคนคงมีคำถามนี้เข้ามาในหัว เมื่อเห็นภาพเดือนคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ประจำปีนี้ มีคำถามกลับกันว่า แล้วทำไมต้องกำหนดให้เดือนเป็นผู้ชายหรือดาวต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้น ในเมื่อทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันทุกเพศสภาพ คณะสังคมสงเคราะห์ไม่ได้ตีกรอบเรื่องเพศของผู้เข้าประกวด ทุกคนมีสิทธิประกวดในสิ่งที่อยากทำได้ เรามองที่ความสามารถ ทัศนคติของผู้เข้าประกวด มากกว่าการใช้เพศในการตัดสินทุกๆอย่าง จึงเป็นที่มาของตำแหน่ง ดาวเดือนสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ในปีนี้ หลังจากโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ ก็มีการแชร์กันอย่างต่อเนื่อง และมีผู้คนก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากในแง่การของใช้สิทธิเท่าเทียมทางเพศสภาพ   โพสต์หลัก   ทำไมเดือนคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ถึงเป็นผู้หญิง?หลายคนคงมีคำถามนี้เข้ามาในหัว เมื่อเห็นภาพเดือนคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ปร… Posted by SW Freshman Fanpage on Monday, September 28, 2015   หลังจากนั้นก็ได้มีการชี้แจงจากทางเพจ ซึ่งก็ยังมีค้นตั้งข้อสงสัยต่อในประเด็นอื่นๆ ทั้งการคัดตัวว่าน้องผู้หญิงคนนี้มาสมัครเดือนเองหรือยังไง และอีกมากมาย   1)กฏเกณฑ์เวทีมหาลัย ไม่ได้กำหนดว่าเดือนคือเพศชาย ดาวคือเพศหญิง เราเลยอิงจากเวทีมหาลัยเป็นหลัก แต่ที่หลายๆคณะส่งเดือนเป็น… Posted by SW…

กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตอีกครั้งกับสถาบันสงฆ์ หลังจากมีภาพของพระรูปหนึ่งขายสบู่เสริมความงาน พร้อมมีการทดลองใช้สินค้าให้ดูด้วย   โดยพระรูปนั้นได้โพสภาพพร้อมข้อความ บอกถึงสรรพคุณของสบู่ว่าใช้แล้วหน้าใส ไร้สิว ไร้ฝ้า ไร้ริ้วรอย และมีภาพก่อนใช้หลังใช้ของพระรูปนั้นให้ดูด้วย นอกจากนี้ยังทิ้งท้ายไว้อีกว่า หากสนใจให้ทักไปทางแชท และมีบริการส่งถึงบ้านอีกด้วย   เมื่อชาวเน็ตได้เห็นภาพนี้ ก็มีการวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม เพราะเป็นสมณเพศห้ามทำการค้าขาย และต้องสำรวม นอกจากนี้ยังมีการเรียกร้องให้ลงโทษพระรูปนี้อีกด้วย       เพราะว่าอย่างงี้ละน้า ทำให้ชาวบ้านเริ่มไม่ศรัทธาในศาสนา คงต้องการมีสังคายนาศาสนาในประเทศเราอีกซักครั้งแล้วหละ หากปล่อยไว้อย่างนี้ บางทีสถาบันศาสนา อาจจะต้องล่มสลายด้วยน้ำมือของคนในเองนะเหมียว ที่มา Kapook

ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผู้ใช้รถใช้ถนนมีวินัยในการจราจรแย่ที่สุดประเทศหนึ่งในโลก อย่างที่เราเห็นมีการขับรถย้อนศร ขับเร็วเกินกำหนด แล้วแซงไหล่ทางกันเป็นเรื่องปกติ และวันนี้เหมียวจะพาไปชมคลิปการย้อนศรอันน่าประทับใจ(แทบตาย) ของเจ้าของเฟสบุ๊คท่านหนึ่งชื่อว่า Themax Max‎ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่บริเวณหน้าห้าง Global House จังหวัดลำพูน ขณะเขาขับรถมาเรื่อยๆ ก็เจอรถกระบะคันหนึ่ง พุ่งย้อนศรมาจากจุดกลับรถด้านหน้า จนเขาต้องเบรกกะทันหัน   ไปชมคลิปกันเลย   ขับรถแบบนี้สงสัยเขาเปลื่ยนกฎจราจรใหม่ Posted by Themax Max on 28 กันยายน 2015   เมื่อชาวเน็ตเห็นดังนั้น ก็แสดงความเห็นกันอย่างดุเดือด   เหมียวเห็นแล้วเหมียวยอมใจเขาจริงๆ ย้อนกันขนาดนี้ ไม่มาขับฝั่งนี้เลยละ เพื่อนๆคนไหนเห็นแล้วก็อย่าไปทำตามนะ การจะทำให้เรื่องนี้หายไปจากประเทศเรา ก็ต้องเริ่มจากตนเองนี่แหละ ท้องถนนจะได้ปลอดภัยยิ่งขึ้นนะฮะ ที่มา “ฮา” ลำพูน

นับวันเชียงใหม่จะเริ่มกลายเป็นเมืองที่มีความเจริญมากขึ้น จนสามารถเป็นเมืองหลวงที่สองของประเทศ ที่รองรับนักท่องเที่ยวได้ปีละเป็นแสนเป็นล้านคนได้เลย ทำให้การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนในจังหวัดเชียงใหม่นั้นเริ่มจะมีความสำคัญมากขึ้นกว่าแต่ก่อน   และล่าสุดดูเหมือนว่าชาวเชียงใหม่จะมีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้นกว่ารถสี่ล้อแดงแล้วล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ของกรมประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ได้รายงานว่า เชียงใหม่กำลังจะมีวินมอเตอร์ไซค์ไว้ให้บริการประชาชนแล้ว   โดยวินมอเตอร์ไซค์นี้จะมีการให้บริการทั้งหมด 61 วิน จากมอเตอร์ไซค์เกือบ 600 คัน และจะเริ่มต้นให้บริการครั้งแรกในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ล่ะ   ส่วนค่าบริการนั้นก็ไม่แพง เพราะเขาจะเริ่มต้นที่ 15 บาทเท่านั้น ทั้งนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางให้แก่ชาวเชียงใหม่เป็นอย่างมากเลยนะ ใครที่ต้องเดินทางในชั่วโมงเร่งรีบล่ะก็ เตรียมเฮได้เลย ที่มา region3.prd , Chiang Mai City Update

กลายเป็นภาพที่มีการส่งต่อกันอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลยล่ะ สำหรับภาพของเจ้าโลกปริศนา ที่โผล่ออกมาจากกำแพง ในสถานีขนส่งแห่งหนึ่ง ทำเอานักท่องเที่ยวถึงกับตกใจและต้องถ่ายรูปมาประจานในโลกออนไลน์เลยทีเดียว   ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊คเพจ เรารักแปดริ้ว Welove8riew.com เผยให้เห็นอวัยวะเพศชาย ที่โผล่ทะลุช่องเล็กๆ เข้ามายังห้องน้ำอีกห้องหนึ่ง ตามรายงานบอกว่าภาพนี้ถูกถ่ายได้โดยนักท่องเที่ยวรายหนึ่งที่ไปใช้บริการห้องน้ำของบ.ข.ส. จังหวัดฉะเชิงเทรา   โดยเจ้าตัวบอกว่าทันทีที่เห็นสิ่งแปลกปลอมนี้เข้าก็รีบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายและออกจากห้องน้ำไปในทันที หลังจากการตรวจสอบพบว่า ห้องน้ำดังกล่าวมีรูโหว่กว้างประมาณ 2 นิ้วอยู่กลางผนัง คาดว่าเป็นคนโรคจิตที่แอบตามเธอมาจากข้างนอก และเมื่อแอบดูเธอเข้าห้องน้ำเสร็จแล้ว จึงแอบสอดเจ้าโลกเข้ามาอีกห้องหนึ่ง     ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดรูโหว่นั่นแล้วเรียบร้อยล่ะ หากใครจะไปใช้ห้องน้ำสาธารณะที่ไหน ก็ลองเช็ครอบๆ ให้ดีก่อนจะปลดทุกข์นะจ๊ะ เหมียวเป็นห่วง ที่มา เรารักแปดริ้ว Welove8riew.com

หลังจากที่มีการประกาศงานสร้างไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างให้เราได้เห็นกันแล้ว   โครงสร้างรถไฟฟ้าแบบยกระดับนี้มีระยะทาง 21.5 กม. สถานียกระดับ 15 สถานี และโครงสร้างรถไฟฟ้าแบบใต้ดินระยะทาง 5.4 กม. สถานีใต้ดิน 4 สถานี   แต่ที่ดูจะเป็นไฮไลท์ของรถไฟฟ้าสายนี้เห็นจะเป็นช่วงหัวลำโพง-บางแคล่ะ เพราะช่วงนั้นจะเป็นการขุดเจาะอุโมงค์เพื่อให้รถไฟฟ้าลอดผ่านแม่น้ำไปได้ โดยระยะทางของอุโมงค์นั้นอยู่ที่ประมาณ 200 เมตร   ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมาเฟซบุ๊คเพจ ประชาสัมพันธ์ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ได้เผยภาพความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าสีน้ำเงินออกมาให้เราได้ชมกัน และยังบอกอีกว่าโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จในช่วงพฤษภาคม 2559 อีกด้วย           ที่มา ประชาสัมพันธ์ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน , kapook

กลายเป็นเรื่องราวขึ้นมาซะแล้วล่ะ สำหรับกรณีของดาราหนุ่มอย่าง เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร ที่ออกมาโพสต์ข้อความจวก ตัน อิชิตัน ถึงการโปรโมทสินค้าและกิจกรรมของเขาว่า เป็นขยะสังคม ที่มองว่าคนไทยเป็นเพียงของทานเท่านั้น   เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊ค Suttawat Settakorn ของดาราหนุ่ม ได้โพสต์รูปของตัน อิชิตัน พร้อมกับข้อความว่า “นี้ก็อีกตัว+อย่างของขยะสังคม มองคนไทย ( บางคน ) เป็นเหมือนขอทานที่วันๆจะรอแต่ของฟรี อยากอยู่ดีแต่ไม่อยากมีเหงื่อ”   หลังจากที่ข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้มีชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย โดยส่วหนึ่งบอกว่าเห็นด้วยกับเขา เพราะการตลาดรูปแบบนี้ถือเป็นการมอมเมาประชาชนและทำให้เสียสุขภาพ   ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งมองว่ามันเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของการโฆษณาเท่านั้น หากไม่ถูกใจก็แค่ไม่ซื้อสินค้าของเขาเท่านั้น แถมยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าการที่ดาราหนุ่มออกมาตั้งสเตตัสแรงๆ แบบนี้ อาจเป็นการสร้างสระแสให้ตัวเองกลับมาโด่งดังอีกครั้งหนึ่งก็เป็นได้   ที่มา Suttawat Settakorn

เกิดประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับตำรวจอีกแล้ว หลังจากมีคนถ่ายภาพรถตำรวจไปจอดบริเวณที่จอดคนพิการซะอย่างงั้น จนมีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์มากมาย โดยภาพถ่ายนั้นมีการโพสลงบนเพจ ติดตามพี่ จราจร หัวโปก เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา โดยในภาพเป็นภาพของรถตำรวจป้ายทะเบียน 45325 ได้ไปจอดบริเวณที่จอดรถคนพิการ     เมื่อมีการเผยแพร่ภาพนี้ออกไป ทำให้มีการวิจารณ์กันอย่างดุเดือด ถึงความไม่เหมาะสม   กลายเป็นเป้าให้คนตำหนิอีกแล้วสำหรับตำรวจ เหมียวว่าเขาอาจมีคนพิการมาด้วยจริงๆก็ได้นะ อย่าเพิ่งออกตัวแรงด่าเขาเลย เดี๋ยวสุดท้ายเงิบจะไม่คุ้มเอา ที่มา ติดตามพี่ จราจร หัวโปก

ในยุคปัจจุบันที่ทุกคนทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดในสังคมที่โหดร้าย ผู้คนต่างเมินเฉยซึ่งกัน น้ำใจอาจกลายเป็นสิ่งที่หาได้ยากขึ้น แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคน อย่างเช่นเรื่องราวของเด็กสาวมากน้ำใจคนหนึ่ง ที่ถูกเล่าบนเฟสบุ๊คของคุณ Pound Nutthakrit ที่เหมียวรับรองว่าถ้าใครได้อ่าน จะได้ชื่นชมในความดีงามของเธอแน่นอน   โดยเจ้าของเฟสบุ๊คเล่าว่า ขณะที่พวกเขาไปหาเงินบริจาคทำค่ายจิตอาสาที่บริเวณห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต เขาได้เห็นเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ซื้อน้ำเปล่าไปมอบให้กับขอทานหญิงชราที่นั่งอยู่บริเวณนั้น พร้อมทั้งพูดคุยอย่างไม่รังเกียจ จนทำให้เขาต้องนำความดีของเธอนั้น มาเล่าต่อบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค   นอกจากหน้าตาดีแล้ว จิตใจยังดีมากอีกนะครับเนี่ย เหมียวขอชื่นชมจากใจเลย เห็นมั้ยละการทำดีไม่ได้ทำยากอย่างที่คิดหรอก ขอแค่ทำสิ่งเล็กๆน้อยๆ เหมียวว่าซักวัน ความดีนั้นจะต้องการเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่แน่นอน ^^ ที่มา Pound Nutthakrit