Author:

สำหรับบ้านเราแล้วเรื่องนี้อาจจะดูไม่รุนแรงมากนัก (ถ้าใครยังจำกันได้มีหนุ่มคะนองคนหนึ่งอัดคลิปพร้อมข้อความ ‘เชิดชูนาซี’ ขึ้นมาจนโด่งดังไปทั่วโลกโซเชียลด้วยนะ -*-) แต่ถ้ากล่าวถึงในส่วนของโลกตะวันตกแล้วล่ะก็ เป็นเรื่องที่ซีเรียสมากๆ เพราะถือเป็นค่านิยมที่ผิด รุนแรง และโหดร้ายสุดๆ ก็อย่างที่เรารู้ๆ กันว่านาซีภายใต้การนำของฮิตเลอร์นั้นฆ่าคนอย่างโหดร้ายไปหลายล้านคนเลยทีเดียว!!! ซึ่งล่าสุดก็มีเรื่องราวของ Markus Meechan หนุ่มวัย 28 ปีแห่ง Coatbridge, North Lanarkshire ที่ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ เพราะปล่อยคลิปวิดีโอการสอนสุนัขพันธุ์ปั๊กของเขาให้ชูมือทำสัญลักษณ์เชิดชูฮิตเลอร์เวลาได้ดูคลิปการพูดสุนทรพจน์ของเขา   เจ้าหมาปั๊กจะทำท่าทางสัญลักษณ์เชิดชูนาซีทันทีถ้าได้ยินคำว่า ‘Sieg Heil’ หรือ “ชัยชนะ จงเจริญ”   หนักไปกว่านั้น คลิปวิดีโอนี้ (แน่นอนว่าถูกลบไปแล้ว) เจ้าตูบได้แสดงความดีอกดีใจสุดๆ ด้วยล่ะเมื่อได้ยินคำว่า ‘Gas the Jews’ หรือ ‘รมแก๊สชาวยิวซะ’ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ตลกเลย -*- และนี่ก็ไม่ใช่คลิปแรกที่เขาได้ทำการบันทึกไว้ ยังมีอีกหลายคลิปที่มีเนื้อหาไปในทิศทางเดียวกันแบบนี้ด้วย…   สุนัขพันธุ์ปั๊กตัวนี้เป็นของแฟนสาวของเขา Suzanne ในวัย 28 ปีเช่นกัน   ทางด้านสารวัตร David Cockburn ผู้ดำเนินการการจับกุมได้กล่าวว่า ‘การจับกุมชายคนนี้เป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังโลกออนไลน์ว่าการทำคลิปแบบนี้น่ะไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แถมคลิปนี้ยังถูกแชร์ไปในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก และมีผู้รับชมไปแล้วกว่า 1 ล้านราย’ ‘แถมลักษณะของข้อความที่ต้องการจะสื่อผ่านคลิปนี้นั้นยังรุนแรง…

ถ้าจะพูดถึงของเล่นของเหล่าสาวๆ แล้วล่ะก็ วัยเด็กไอเท็มสุดโปรดที่สาวๆ ใฝ่ฝันก็เห็นจะไม่พ้นบาร์บี้ ตุ๊กตาสุดน่ารักที่ครองใจเด็กหญิงเกือบทั่วทั้งโลก!!! สำหรับวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มี 19 เรื่องราวเกร็ดความรู้เกี่ยวกับบาร์บี้ที่หลายๆ คงอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนมาฝากกันล่ะ ใครที่เป็นสาวกและแฟนๆ ตัวจริงของตุ๊กตาเหล่านี้ล่ะก็พลาดกันไม่ได้เลย   ตุ๊กตาบาร์บี้   1. ชื่อจริงของตุ๊กตาบาร์บี้ก็คือ Barbara Millicent Roberts ซึ่งตั้งชื่อนี้ตามลูกสาวของผู้ประดิษฐ์ Ruth และ Elliot Handler ส่วนลูกชายมีชื่อว่า Kenneth เพราะฉะนั้นตุ๊กตาเพศชายก็ได้ชื่อนี้มาเหมือนกัน   2. บาร์บี้นั้นอาศัยอยู่ที่เมืองในจินตนาการ Willows ในแถบ Wisconsin ประเทศสหรัฐอเมริกา   3. วันเกิดของบาร์บี้ก็คือ 9 มีนาคม 1959 ตอนนี้เธอก็อายุได้เกือบ 60 ปีแล้วล่ะ!!!   4. หุ่นของบาร์บี้นั้นถ้านำมาเทียบกับของมนุษย์จริงๆ จะได้ประมาณ 36-18-33 หุ่นที่สาวๆ หลายๆ คนปรารถนาเลยทีเดียว   5. ถึงแม้ว่าตุ๊กตาบาร์บี้นั้นจะเน้นสาวผมบลอนด์เป็นหลัก แต่บาร์บี้ชุดแรกที่เปิดตัวมานั้นมีทั้งผมบลอนด์และน้ำตาล     6. บาร์บี้เวอร์ชั่นแรกนั้นมีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และชุดทุกตัวที่บาร์บี้สวมนั้นมาจากการเย็บด้วยมือทั้งสิ้น   7.…

วิชาประวัติศาสตร์ถือว่าเป็นอีกวิชาพื้นฐานที่พบได้ในหลักสูตรการศึกษาของแทบทุกประเทศบนโลก การเรียนรู้ประวัติศาสตร์คือการทำความรู้จักกับรากเหง้าของตนเอง เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งหลายคนอาจชอบ หลายคนอาจไม่ชอบ แต่ดูเหมือนว่าทางการไนจีเรียจะไม่ได้คิดว่าวิชาประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่สำคัญเท่าไหร่นัก เพราะล่าสุดพวกเขาเตรียมยกเลิกการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ในการศึกษาภาคบังคับแล้ว!!     พวกเขาบอกว่า พวกเขายกเลิกวิชาประวัติศาสตร์ในหลักสูตรการศึกษาของชาตินั้นก็เพราะ ต้องการที่จะเน้นการศึกษาด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาติในโลกยุคโลกาภิวัตน์เช่นนี้มากกว่าวิชาประวัติศาสตร์ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเด็กไนจีเรียถูกห้ามเรียนประวัติศาสตร์แต่อย่างใด หากใครต้องการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ ยังมีคลาสเรียนประวัติศาสตร์เจ๋งๆ มากมายให้ลงเรียนตอนอยู่มหาวิทยาลัย ส่วนวิชาประวัติศาสตร์ที่หายไป จะถูกแทนที่ด้วยวิชาการอ่านการ์ตูนแทน     วิชาการอ่านการ์ตูนที่ว่า ไม่ได้อนุญาติให้นักเรียนอ่านสไปเดอร์แมนหรือซุปเปอร์แมนแต่อย่างใด แต่พวกเขาได้สร้างหนังสือการ์ตูนเรื่อง Okiojo’s Chronicles ขึ้นมา เพื่อนำเสนอถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชาวไนจีเรียกว่า 40 ชนเผ่า ประเทศไนจีเรียประสบปัญหาเฉกเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในแอฟริกา นั่นคือความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ซึ่งพวกเขามีชนเผ่าเล็กๆ ใหญ่ๆ รวมกันกว่า 250 ชนเผ่าเลยทีเดียว และนั่นก่อให้เกิดความไม่เข้าใจและขัดแย้งทางวัฒนธรรมของประชาชนในชาติ     “เด็กที่อ่านเรื่อง Okiojo’s Chronicles จนจบ จะได้อ่านเรื่องราวที่แตกต่างกันของชนเผ่าต่างๆ ในไนจีเรียกว่า 40 เผ่า ซึ่งพวกเขาจะเข้าใจผู้คนรอบกายของพวกเขายิ่งขึ้น รวมถึงเข้าใจความเป็น “ไนจีเรีย” ยิ่งกว่าเดิม” Anjorin ผู้ให้กำเนิดสำนักพิมพ์ Panaramic Entertainment ผู้สร้างหนังสือการ์ตูนดังกล่าวกล่าว…

เมื่อเราเห็นเศษขยะถูกทิ้งเรี่ยราดตามถนน หรือทางเดิน มีคนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะเสียสละเวลาอันน้อยนิดเก็บมันไปทิ้ง และถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในคนที่เห็นขยะถูกทิ้งเรี่ยราดแล้วเดินผ่าน ก็จงมาดูตัวอย่างจากเด็กคนน้อยคนนี้กันได้เลย นี่คือ Matilda Rusby เด็กหญิงตัวน้อยวัย 3 ขวบ ชาวเมืองนอร์ธไทน์ไซด์ ประเทศอังกฤษ ผู้ที่มีใจรักในความสะอาด เธอทนไม่ได้ที่ต้องเห็นเศษขยะถูกทิ้งเกลื่อนกลาดเต็มถนน ดังนั้นเธอจึงได้ลงมือทำในบางสิ่ง ที่ผู้ใหญ่บางคนเห็นแล้วถึงกับอาย     ภาพของ Matilda เด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่ถูกถ่ายขึ้นโดยคุณแม่ Frankie Rusby กำลังก้มเก็บขยะใส่ในถุงขยะที่เธอหิ้วอยู่ในมือ เรียกได้ว่าเป็นภาพที่น่าประทับใจมากจริงๆ เพราะแม้แต่เด็กตัวน้อยๆ ยังใส่ใจ และรู้ว่าการทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทางนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง     โดยทาง Frankie Rusby ผู้เป็นแม่ได้ออกมาเผยว่า ลูกสาวของเธอไม่เข้าใจว่า เมื่อสภาเมืองเพิ่งเข้ามาเพิ่มจำนวนถังขยะ เพิ่มผู้ตรวจตรา และทำป้ายเตือนขึ้นใหม่ แต่ทำไมยังเห็นเศษขยะถูกทิ้งไปทั่ว ดังนั้นเธอคิดว่าต้องลงมือเก็บกวาดกันเสียที     ด้าน Jake Rusby คุณพ่อของหนูน้อยก็รู้สึกปลื้มใจที่ลูกสาววัย 3 ขวบของตน รู้ว่าการทิ้งขยะนอกถังเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ในขณะที่ผู้ใหญ่บางคนกลับไม่เคยใส่ใจในเรื่องนี้เลย มันเป็นเรื่องที่น่าอายเด็กมากจริงๆ    …

บ่อยครั้งที่เราเห็นข่าวหน้า 1 ในหนังสือพิมพ์ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับคดียาเสพติด ซึ่งนอกจากมันจะทำลายสุขภาพแล้ว มันยังทำให้ผู้เสพเกิดอาการคุ้มคลั่ง ไร้สติ บางรายถึงขั้นไปทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงขั้นเสียชีวิตก็มี และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์เตือนใจ สำหรับคนที่คิดอยากจะลองเสพยาเสพติด ซึ่งภาพ และคลิปวีดีโอที่คุณได้รับชมอยู่นี้ ถูกถ่ายขึ้นที่สวนสาธารณะในเมืองทรูโร มณฑลคอร์นวอล สหราชอาณาจักร     โดยเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า Alice Coyle ในวัย 19 ปี หญิงสาวจากคลิปวีดีโอดังกล่าว กำลังนอนแผ่บนเก้าอี้ เพื่อทำการอะไรบางอย่าง ซึ่งจากภาพได้ปรากฏให้เห็นว่า หญิงสาวรายนี้ได้เริ่มปฏิบัติการช่วยเอง ท่ามกลางผู้คนที่อยู่บริเวณรอบๆ สวนสาธารณะ แบบไม่แคร์สายตาใครเลยแม้แต่น้อย     แน่นอนว่าคนธรรมดาๆ ที่มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน คงไม่มีใครกล้าทำสิ่งที่อุบาดตาแบบนี้ได้ แต่สำหรับ Alice เธอได้ทำการเสพยาสไปซ์เข้าไปเป็นจำนวน ดังนั้นจึงทำให้เธอเกิดอาการเมายาขั้นหนักจนกลายเป็นคนขาดสติ งานนี้คนที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้แอบถ่ายภาพของเธอไว้ และนำไปโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ ซึ่งคลิปวีดีโอดังกล่าวก็ถูกชาวเน็ตแชร์ออกไปกว่าหมื่นครั้งเลยทีเดียว     อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวหญิงสาวรายดังกล่าวเอาไว้ได้ เธอก็ได้รับโทษโดยการบำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 12 เดือน นอกจากนี้…

หากจะพูดถึง “หนู” หลายคนอาจจะถึงขั้นร้องยี้ เพราะนอกจากมันจะเป็นสัตว์ที่สกปรกแล้ว มันยังชอบออกมารบกวนคนในบ้าน โดยการออกมาแอบกินอาหารดึกๆ ดื่นๆ อีกด้วย แต่ทว่าหากคุณได้ฟุงเรื่องราวของเจ้าหนูจิงโจ้ (Kangaroo Rat) สัตว์พันธุ์จิ๋วที่มีลักษณะขาหลังยาวกว่าขาหน้า มีหางเป็นปุยและตัวเล็ก รูปร่างคล้ายจิงโจ้ตัวนี้ คุณอาจจะสงสารมันขึ้นมาทันทีก็เป็นได้     โดยเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ Dailymail ได้เผยภาพของเจ้าหนูจิงโจ้จอมซนตัวดังกล่าว ณ บ้านหลังหนึ่งที่ San Diego ในสภาพที่เห็นแล้วน่าสงสารเหลือเกิน เพราะไม่รู้ว่ามันไปทำอีท่าไหน หัวถึงได้เข้าไปติดแหง่กอยู่ในรูเสียบปลั๊กไฟแบบนี้…     T^T น้องหนูจิงโจ้ตัวจิ๋วน่าสงสารจัง   อาจจะเป็นเพราะความซนของมัน เลยทำให้ตัวติดกับรูเสียบปลั๊กพอดีเป๊ะ แถมยังดึงออกไม่ได้อีกต่างหาก งานนี้ก็เลยทำให้หัวของมันเสียบคาอยู่ ณ จุดจุดนั้น เป็นเวลานานแสนนาน   รู้สึกโดดเดี่ยวมาก มันเป็นช่วงเวลาที่แสนลำบากเหลือเกิน   แต่ในความโชคร้าย ก็แฝงไปด้วยความโชคดีเหมือนกัน เพราะหลังจากที่เจ้าของบ้านได้พบเจอมันเข้า เข้าก็ได้ทำการช่วยเหลือค่อยๆ ขันน็อตออก เพื่อช่วยชีวิตมัน แม้ว่าครั้งแรกอาจจะตกใจนิดหน่อย ว่ามันมาได้ยังไงกันเนี่ย  …

หนึ่งในความผูกพันที่แน่นแฟ้นที่สุดของมนุษย์นั่นก็คือความสัมพันธ์ของแม่-ลูก นี่แหละ ล้ำค่าหาคำพูดมาเปรียบเทียบและอธิบายไม่ได้เลยจริงๆ และความประทับใจสุดๆ ที่หลายๆ คนอาจจะไ่เคยนึกถึงมาก่อนเลยก็คือ แม่ที่เข้ามาให้กำลังใจลูกสาวที่กำลังจะเป็นแม่คนล่ะ!!! สำหรับวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็อยากจะให้เพื่อนๆ ได้ลองมาดูความสัมพันธ์และความประทับใจในรูปแบบนี้กัน กับ 20 ภาพสุดซึ้ง ของเหล่าคุณแม่ที่มาให้กำลังใจลูกสาวของพวกเธอตอนคลอดลูก มาดูกันซิว่าจะน่ารักและซึ้งน้ำตาไหลขนาดไหน   ผ่านความเจ็บปวดคือความสวยงามที่กำลังจะเกิดขึ้น   ความรักความผูกพันที่สามารถเห็นได้ผ่านแววตา   ความรักความห่วงใยในฐานะคุณแม่คนหนึ่ง   ถึงลูกสาวของเธอที่กำลังจะได้เป็นแม่คนเช่นกัน…   ราวกับแบกรับความเจ็บปวดของเธอมาด้วย   อยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคนเป็นแม่   ให้กำลังใจ   อยู่เคียงข้างเสมอ…                           แต่ละภาพเห็นถึงความรักความอบอุ่นที่แสดงออกมาจริงๆ โดยเฉพาะในแววตาของพวกเธอ ยากที่จะหาความสัมพันธ์ไหนมาเทียบเทียมได้จริงๆ >< ที่มา: Boredpanda

ปัญหากลิ่นเท้าไม่ใช่เรื่องตลก โดยเฉพาะเวลาเราต้องนั่งอยู่ในห้องปรับอากาศเล็กๆ กับคนที่มีกลิ่นเท้า ลองนึกดูว่าต้องดมกลิ่นเท้าที่โชยมาตามสายลมตลอดเวลา มันจะเป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจขนาดไหน     การมีกลิ่นเท้าอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ บางคนอาจเกิดจากเท้าของตนเอง บางคนอาจเกิดจากถุงเท้า และบางคนอาจมีกลิ่นมาจากรองเท้าที่ค่อนข้างเก่า ซึ่งไม่ว่ามันจะเป็นเพราะอะไร หากมีอันใดอันหนึ่งเหม็น ทุกอย่างก็จะกันเหม็นไปหมด แต่มันจะดีขนาดไหน หากโลกนี้มี “ถุงเท้า” ที่สามารถป้องกันกลิ่นเท้าเราได้ ที่ต่อให้รองเท้าหรือเท้าเราเหม็นขนาดไหน มันก็จะไม่เหม็นตาม ฟังดูน่าสนใจใช่มั้ยล่ะ งั้นเราไปชมกันเลยดีกว่า     ถุงเท้าสุดเจ๋งอันนี้เป็นผลงานของ Steve และ Jenny Whitley เจ้าของฟาร์มแกะแองโกล่าในเมืองแบล็กดาวน์ฮิลล์ ประเทศอังกฤษ พวกเขาเล่าว่าในแต่ละปี พวกเขาจะตัดขนแกะสองครั้ง ก่อนจะนำไปแปรรูปเป็นผ้าพันคอ กางเกง และที่สำคัญที่สุดก็คือถุงเท้านั่นเอง!     ตอนแรกเขาก็ไม่รู้หรอกว่า ถุงเท้าของพวกเขามีคุณสมบัติพิเศษ แต่จนกระทั่งลูกค้าซื้อไปแล้วกลับมารีวิวว่า ถุงเท้าเขาไม่ค่อยมีกลิ่นเลย แม้จะใส่มาหลายวันโดยไม่เปลี่ยนก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น มีนักดนตรีคนหนึ่งบอกว่า เขาใส่ถุงเท้าของ Steve มาปีกว่าแล้วโดยไม่ซัก แต่ก็ยังไม่มีกลิ่น!!     ถุงเท้าขั้นเทพอันนี้มีราคาอยู่ที่คู่ละ 9 ถึง 14 ยูโร และ Steve…

นับตั้งแต่เราประดิษฐ์เครื่องพิมพ์และคอมพิวเตอร์ขึ้นมา ดูเหมือนว่าการเขียนหนังสือด้วยมือก็ถูกลดบทบาทลงไป เพราะบางทีความไม่สม่ำเสมอของลายมือ ก็อาจสร้างความยากลำบากให้แก่ผู้อ่านได้ ไม่เหมือนกับเครื่องพิมพ์ที่ไม่ว่าใครพิมพ์ก็จะออกมาหน้าตาเหมือนๆ กันหมด แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 17 ลายมือระดับเทพ ที่สวยอย่างกับหลุดมาจากคอมพิวเตอร์ ที่ถ้าใครชอบ “ความเป๊ะ” ฟินไปสามวันเจ็ดวันแน่นอน จะเป็นไง ไปชมกันเลย    แต่ละแบบที่เรานำเสนอวันนี้ ล้วนเต็มไปด้วยความเป็นระเบียบ   เจ๋งทุกฟ้อนท์จริงๆ   โดยเฉพาะอันนี้ ไม่บอกนึกว่าปริ้นท์มาติดนะเนี่ย    แม้จะเป็นคนไร้บ้าน ก็ยังมีฝีมือระดับหาตัวจับยาก   ลองไปชมภาพอื่นๆ กันเถอะ   เห็นลายมือพวกนี้แล้วรู้สึกละอายใจจัง ทำไมลายมือของ #เหมียวอ๊อดโด้ ไม่สวยแบบนี้บ้างนะ สมัยเด็กๆ เพื่อนยืมงานไปดูทีไร โดนด่าลายมือไม่สวยทุ๊กที T^T ที่มา Boredpanda

กลายเป็นเรื่องราวที่สะเทือนขวัญคนทั้งประเทศจีนเลยทีเดียว หลังจากมีข่าวว่า มีเด็กออทิสติกคนหนึ่งถูกบังคับให้เดินกลางแดดกว่า 19 กิโลเมตรจนเสียชีวิตคาที่ โดยทางสถานบำบัดอ้างว่าเป็นหนึ่งในกระบวนการรักษา เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เมื่อนาง Zhang Wei ได้รับแจ้งจากสถาบำบัดโรคออทิสติกว่า ลูกชายของเธอ Jiajia เสียชีวิตแล้วและให้มารับศพกลับไป     เธอเล่าว่าเมื่อเธอได้เห็นศพของลูกชาย เธอแทบช็อคไปเลย เพราะลูกชายของเธอทั้งผอม ทั้งเกรียมแดด และมีรอยถลอกทั่วร่างกาย วันที่ลูกชายของเธอเสียชีวิตนั้น เขาถูกบังคับให้ใส่เสื้อหนาๆ แล้วถูกบังคับให้เดินกว่า 10 กิโลเมตรหลังจากทานอาหารเช้า และกลับมาพักให้ทานอาหารเที่ยง และให้ออกไปเดินอีก 9 กิโลเมตร     การฝึกเช่นนี้เป็นสิ่งที่สถานบำบัดโรคออทิสติกเอกชนแห่งหนึ่งชื่อว่า Tiandao Zhengqi ที่เป็นประจำ พวกเขาเชื่อว่าโรคออทิสติกเกิดขึ้นจากความขี้เกียจและความสปอยด์ในการเลี้ยงดูของพ่อแม่ พวกเขาบอกว่าการจะรักษาโรคออทิสติก ต้องให้เด็กๆ ฝึกฝนร่างกายอย่างหนัก อย่างเช่นการบังคับให้เดินวันละ 10 ถึง 20 กิโลเมตร และมีการจำกัดปริมาณอาหารที่เด็กรับประทานในแต่ละมื้ออีกด้วย     ครอบครัวของ Zhang Wei มาจากทางตอนเหนือของมณฑลเหลียวหนิง เธอเล่าว่า Jiajia มีพัฒนาการค่อนข้างช้า และมักปฏิบัติการสื่อสารกับผู้อื่น…

คนทั่วไปอาจมองว่า “ห่าน” ก็คือสัตว์ธรรมดาๆ ทั่วไป ที่ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยกับใคร แต่เดี๋ยวก่อน!! กรุณาหยุดความคิดของคุณไว้สักครู่ แล้วมาดูภาพเหล่านี้กัน เพราะมันจะทำให้คุณเห็นธาตุแท้ที่อยู่ลึกลงไปภายในจิตใจของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าห่านได้ ภาพของสองพี่น้อง Stevie Gidden หญิงสาววัย 17 ปี กับ Summer เด็กหญิงวัย 5 ขวบที่เพื่อนๆ เห็นกันนี้ รู้หรือไม่ว่าเห็นคนน้องที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุข และดูเป็นเด็กไร้เดียงสา จะต้องมาเจอเหตุการณ์สุดเงิบในวัยเพียง 5 ขวบเท่านั้น ในวันนี้เราจะมาขอเล่าเรื่องราวประสบการณ์สุดเงิบในชีวิตของเธอให้ฟังก็แล้วกัน ตั้งใจฟังดีๆ นะ อย่าขำกลางทางกันละ!!     สำหรับ Summer เธอคือเด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่มีความน่ารัก และอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็ก อยู่มาวันในขณะที่เธอได้แวะไปดูลูกห่านของบ้านข้างๆ เรื่องราวที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น โถๆๆ เด็กน้อยผู้อยากจะมีความทรงจำดีๆ กับห่าน แต่เมื่อเธอยิ่งเข้าไปดูมันใกล้ๆ ก็ยิ่งทำให้แม่ของมันเกิดอาการเดือด และไม่พอใจเป็นอย่างมาก สุดท้ายหนูน้อยก็ถูกแม่ห่านไล่ และเธอก็วิ่งหนีมันแบบไม่คิดชีวิต     เด็กหญิงตัวน้อยถูกแม่ห่านไล่ พร้อมเข้ามาจู่โจมแบบไร้ความปราณี จนเธอสะดุดล้มร้องไห้จ้า เป็นภาพที่น่าสงสารซะเหลือเกิน     งานนี้เมื่อภาพถูกเผยแพร่ลงสู่โลกโซเชียล…

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2559 ทางสำนักข่าว Dailymail ได้รายงานว่า รายการโทรทัศน์ Story ช่อง TV3 จากเมืองแฮมิลตัน ประเทศนิวซีแลนด์ ทำเอาผู้ชมถึงกับอึ้งไปตามๆ กัน เพราะในขณะที่กำลังรับชมถ่ายทอดโชว์ร้านอาหารแนวแปลกพิสดาร แบบต้องเปลือยกายทานอยู่นั้น จู่ๆ ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น งานนี้นอกจากจะทำให้ผู้ชมสตั้นไปชั่วขณะแล้ว ทางรายการยังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียลอีกด้วย     และนี่ก็คือภาพที่มาของเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยปรากฏให้เห็นเป็นภาพของสาวเสิร์ฟ กำลังเดินเปลือยกาย โชว์ให้เห็นจิ๊มิด้านล่างแบบไม่มีเซ็นเซอร์ ขณะที่รายการกำลังออกอากาศสดยังไงละเหมียว     ด้าน Duncan Garner และ  Kim Vinnell สองพิธีกรจากรายการดังกล่าว ก็ได้ออกมาขอโทษ พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที หลังจากที่ภาพถูกตัดไปยังห้องส่ง     หลังจากที่เหตุการณ์ได้ผ่านพ้นไป Garner หนึ่งในพิธีกรก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ว่า  มันเป็นความผิดพลาดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ทันจริงๆ เพราะขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่ภาพถูกตัดไปที่สาวเสิร์ฟ ซึ่งตรงกับตอนที่เธอเดินถืออาหารออกมาจากห้องครัวพอดี     นอกจากนี้เขายังระบุอีกว่า ทางทีมงานก็รู้สึกเป็นกังวลมากเช่นกัน และตัวเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าภาพนั้นจะออกอากาศไป     ด้านชาวเน็ต…

ช่วงนี้กระแสยุค 90 ก็มารุนแรงเหลือเกิน ซึ่งก็เป็นบรรยากาศในอดีตๆ ที่หลายๆ คนหวนคิดถึงกัน แน่นอนว่ามันต่างจากยุคนี้เกือบจะสิ้นเชิงเลยทีเดียว สำหรับวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็อยากจะนำเสนอความต่างในเรื่องนี้ โดยจะพาไปชมภาพของห้องนอนของเหล่าเด็กๆ และวัยรุ่นในยุค 90 มาดูซิยังจำกันได้รึเปล่า?? อิอิ   สิ่งแรกที่สังเกตกันได้เลย ไม่มีคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คหรอกนะจ๊ะ   ผลงานภาพชุดนี้เป็นของ Adrienne Salinger ที่ถ่ายไว้ในยุคนั้น   โดยเธอได้ขอไปถ่ายภาพห้องนอนของพวกเขา เพื่อเก็บภาพบรรยากาศไว้   รวมถึงเอกลักษณ์ของการตกแต่งห้องนอนของพวกเขา   มาจนถึงวันนี้ภาพเหล่านี้ได้กลายเป็นภาพแห่งความทรงจำเลยทีเดียว   มีการตกแต่งในแบบต่างๆ ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน   และที่สำคัญ แทบจะทุกๆ ห้องก็เรียกได้ว่ามีวิทยุ หรือเครื่องเล่นเทปตั้งอยู่ เพราะได้รับความนิยมมากกกก     โทรทัศน์ของยุคนั้น   โปสเตอร์ของเหล่าดาราและคนดังที่เราชอบและชื่นชม             ห้องนอนของเพื่อนๆ ล่ะ เหมือนแบบนี้รึเปล่า!?       ใครที่ผ่านยุค…

“The World In Faces” คือหนึ่งในผลงานภาพถ่ายของช่างภาพอิสระนามว่า Alexander Khimushin ลูกครึ่งรัสเซีย-ออสเตรเลีย ผู้ที่ได้ออกเดินทางไปเยือนประเทศต่างๆ มาแล้วกว่า 84 ประเทศทั่วโลก รวมระยะทางทั้งหมดกว่า 28,500 กิโลเมตร เพื่อเก็บภาพถ่ายของผู้คนในท้องถิ่นจากประเทศต่างๆ ซึ่งแต่ละภาพจะแสดงให้เห็นถึงรูปร่างหน้าตา วัฒนธรรมความเป็นอยู่ รวมไปถึงลักษณะการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้คนในแต่ละพื้นที่อีกด้วย ว่าแต่เขาได้ไปเก็บภาพของผู้คนมาจากที่ใดบ้าง และภาพถ่ายของผู้คนเหล่านั้นจะดูเป็นอย่างไร หากมองผ่านผลงานของเขา ถ้าอย่างนั้นเราไปชมกันเลย   1.เด็กหญิงในชนเผ่ามายา   2.ชายหนุ่ม Bodi ชนเผ่าพื้นเมืองในเอธิโอเปีย   3.ชาวเผ่า Samoan   4.ผู้หญิงในชนเผ่า Daasanach ประเทศเอธิโอเปีย   5.สาวญี่ปุ่น   6.หญิงชาว Wakhi   7.สาวชาวมอริเตเนีย   8.หญิงในชนเผ่า Tsemay   9.สาวชาวเผ่า Shughnan   10.หญิงในชนเผ่า Hamar ประเทศเอธิโอเปีย   11.ชนเผ่า…

ประเทศจีนนั้นถือว่าเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำของเลียนแบบ ว่ากันว่าพิมพ์เขียวของสิ่งของทุกอย่างบนโลก สามารถหาได้จากโรงงานในจีน แต่วันนี้ของจีนถือว่าพัฒนาไปอีกขั้นแล้ว เพราะไม่เพียงแต่ปลอมแค่สิ่งของเท่านั้น แต่พวกเขายังปลอม “พระ” อีกด้วย!! เรื่องราวมีอยู่ว่า เฟสบุ๊คของคุณ Akihiro Koki Tomikawa ได้ออกมาเตือนนักท่องเที่ยวที่กำลังจะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นว่า อย่าหลงเชื่อพระญี่ปุ่นที่ออกมาเรี่ยไรเงินตามสถานที่ท่องเที่ยว เพราะแท้ที่จริงแล้วเป็นเกษตรกรชาวจีนปลอมตัวมา!!   日本で出没するニセ僧呂に注意（拡散希望） โปรดระวังพระสงฆ์ปลอมที่ญี่ปุ่นนะครับ (แชร์กันด้วยนะครับ) 中国は現在さまざまなコピーを作り出し輸出して国際問題になっていますが、今回僧侶のコ… โพสต์โดย Akihiro Koki Tomikawa บน 3 พฤษภาคม 2016     โดยชาวจีนเหล่านั้น โกนผมและแต่งตัวเหมือนพระญี่ปุ่น และคอยขายของอ้างว่านำเงินไปทำบุญตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เมื่อนักท่องเที่ยวเห็น ก็หลงเชื่อซื้อของบริจาคเงินกันไป     ตอนนี้ทางตำรวจญี่ปุ่นได้จับกุมพระปลอมบางส่วนได้แล้ว ซึ่งทางตำรวจพบว่า พวกเขาสามารถหลอกเงินไปได้ถึง 450,000 เยนหรือนราว 150,000 บาทภายในระยะเวลาเพียง 10 วันเท่านั้น       แบบนี้ก็มีด้วย ใครจะไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้ก็ขอให้ระมัดระวังนะฮะ ตรวจสอบกันดีๆ ซะก่อน อย่าเพิ่งหลงเชื่อ ไม่งั้นอาจตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่ประสงค์ดีเหล่านี้ก็เป็นได้ ที่มา Akihiro…

แม้วงการแพทย์จะก้าวหน้าและพัฒนาขึ้นขนาดไหน แต่สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ทุกคนไม่สามารถหลีกหนีได้ก็คือความชรานั่นเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นคนมีชื่อเสียงหรือชาวบ้านธรรมดา ก็ไม่อาจรอดพ้นกฎแห่งกาลเวลาได้ แล้วคุณเคยคิดหรือไม่ ว่าตอนที่คุณแก่ตัวลงไป คุณจะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร? วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมงานโฟโตช็อประดับเทพของเหล่าชาวเน็ตในต่างประเทศ เมื่อพวกเขาได้เปลี่ยนเหล่าดาราและคนดังให้แก่ตัวลง พวกเขาจะมีหน้าตาเช่นไรกัน ว่าแล้วก็ไปชมกันเลยดีกว่านะฮะ   Christina Aguilera   Gwen Stefani   Paris Hilton   Halle Berry   Charlie Sheen   Marilyn Monroe   Tobey MaGuire   Cameron Diaz   Obama   Adrien Brody   Kate Moss   Miley Cyrus   Robert Pattinson   Emma Watson…

เรียกได้ว่าน้อยครั้งมากๆ ที่จะมีคนรอดชีวิตจากการพลัดตกจากที่สูง เพราะจากที่ผ่านมาเราจะเห็นข่าวการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวเคราะห์ร้าย ที่พลัดตกจากที่สูงอยู่บ่อยๆ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่กับนักท่องเที่ยวรายนี้ ที่ได้พลัดตกจากกำแพงเมืองจีนสูงชันมากถึง 9 เมตร แต่ยังโชคดีที่รอดชีวิตกลับมาได้ราวปาฏิหาริย์ โอ้ววว น่าเหลือเชื่อมากๆ เลยละ     โดยเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า นักท่องเที่ยวรายดังกล่าว กำลังยืนชะเง้อมองวิวทิวทัศน์ด้านล่างของกำแพงเมืองจีนอยู่ แต่แล้วจู่ๆ เรื่องราวที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น…     ในขณะที่เขากำลังมองวิวด้านล่างบริเวณเจี้ยนโค่วฉางเฉิง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองจีนที่ยังไม่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมและมีลักษณะเป็นเขาสูงชันอยู่นั้น จู่ๆ เขาก็เกิดเสียหลัก จนทำให้ร่างถูกพลัดตกลงไป และนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นดิน ด้านล่างยังไงละเหมียว     ทันทีที่หน่วยกู้ภัยมาถึง ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เช็คอาการเบื้องต้น ปรากฏว่านักท่องเที่ยวรายนี้ มีอาการกระดูกหักที่ขาและสะโพก ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวของเขาส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาต่อไป     ที่มา : dailymail

จะว่าไปแล้วเวลาเราดูหรือมองสิ่งต่างๆ นั้น เราไม่สามารถที่จะดูครั้งเดียวแล้วรู้เลยว่ามันเป็นอะไรหรอก เพราะไม่แน่การมองเพียงผิวเผินก็อาจหลอกสายตาของคุณได้!!! สำหรับวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มีผลงานของศิลปินชาวสเปน Chema Madoz มาฝากกัน โดยภาพของเขานั้นเป็นคอนเซ็ปต์ภาพหลอกตา ต้องทำให้เพื่อนๆ มองกัน 2-3 รอบเป็นอย่างต่ำเลยทีเดียว ไม่เชื่อลองมาดูผลงานของเขากันเลย   ดูเผินๆ แล้วเหมือนเป็นต้นไม้เลยนะ   แน่ะๆๆๆๆ รู้นะคิดอะไร ฮร่าาาาา   เหมือนการ์ตูนเรื่องหนึ่งเลยอ่ะ   เส้นทางรถไฟก็ได้นะเออ   คนละขั้วเลยจริงๆ   เหมือนเปลวเพลิง   ผีเสื้อ   กระจก / หน้าต่าง   หน้าหนังสือ   เข็มและด้าย   จิ๊กซอว์   ลายตาราง   รองเท้ากี่คู่   หนวดหรือหวี   หน้าหนังสือเช่นกัน   เค้ก   ท่อระบายน้ำ  …

ในปัจจุบันนี้ เป็นไปได้ยากมากๆ ที่เพื่อนๆ จะได้รอยสักที่ถูกใจ และแน่นอนสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความไม่เหมือนใคร ที่จะบ่งบอกความเป็นตัวตนของเราออกมาได้ดีที่สุด แต่ล่าสุดศิลปินชาวยูเครนอย่าง Rita Zolotukhina  ก็ได้ค้นพบวิธีการที่จะทำให้แทททูของคุณไม่เหมือนใคร แถมยังรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งร่วมกับธรรมชาติอีกด้วย ผลงานของเธอต้องบอกว่างดงามมากจริงๆ ไอเดียแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเธอก็คือ การทำให้ผู้คนรู้สึกเข้าถึงธรรมชาติมากขึ้น โดยการใช้ใบไม้ใบหญ้าจริงๆ มาช่วยในการสร้างแทททูลายต่างๆ ให้กับลูกค้าของเธอ   โดยเธอจะนำใบไม้ ต้นไม้ หรือดอกไม้เหล่านั้นมาจิ้มลงในถังหมึกลายฉลุซะก่อน และแปะเข้ากับผิวหนังของลูกค้า   กระบวนการนี้ของเธอเรียกได้ว่ารักษาความเป็นใบไม้ ดอกไม้นั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ   หลักๆ แล้วไม่ต่างจากฟอสซิลต่างๆ จากยุคโบราณเลยทีเดียว   ไม่ว่าจะเป็นลวดลายของใบ้ไม้ แม้จะเล็กแค่ไหนก็เก็บรายละเอียดไว้ได้หมด   และแน่นอนหลังจากนั้นเธอก็จะจัดการเนรมิตรอยสักสุดชิคให้กับลูกค้าของเธอ   ออกมาเหมือนจริงมากๆ   เห็นแล้วขนลุกเลยทีเดียว ><       เลือกลายกันได้ตามสะดวกและความถูกใจเลยจ้าาาา   ไอเดียดีเหมือนกันนะเนี่ย สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ชอบรอยสัก อยากได้ลายที่ไม่เหมือนใครแถมรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติล่ะก็ ลองเอาไอเดียนี้ไปทำกันดูก็ได้น้าาา ที่มา: Boredpanda

ก็เรียกได้ว่าช่วงนี้ก็มีกระแสเด็กๆ ยุค 90 ออกมากันเยอะเหลือเกิน แต่ตอนนี้ 90’s มันตกเทรนด์ไปแล้วล่ะ เพราะเค้าย้อนไปยุค 40 กันเลยทีเดียว ฮร่าาาา ล่าสุดที่ทางพระราชวัง Kensington ของราชวงศ์อังกฤษที่ได้ปล่อยภาพถ่ายของเจ้าหญิงชาร์ลอตกับครอบครัวของพระองค์ออกมาสู่สายตาของประชาชน และก็แน่นอนว่าประชาชนก็เริ่มลงความเห็นกันว่า…   ทำไมเครื่องแต่งกายของพระองค์จึงดูย้อนยุคนัก ราวกับออกมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็มิปาน!!?   และไม่ใช่แค่องค์หญิงน้อยของเราเท่านั้น…เป็นกันทั้งวัง ฮร่าาา   คอมเม้นท์จากเหล่าพสกนิกรที่เห็นภาพถ่ายที่ทางราชสำนักปล่อยออกมา   เอาจริงๆ ถ้าเพื่อนๆ ไม่รู้ว่ายุค 1940 หรือสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่งตัวกันยังไงล่ะก็…   และนี่คือภาพของเจ้าชาย George ที่ถ่ายไว้ในปี 2014 เห็นถึงความแตกต่างกันบ้างมั้ย??   โอ้วพระเจ้า รองเท้านี่มันใช่เลย   ถุงเท้าเด่นมาเลยทีเดียวเชียว   ถ่อววววว พาสเทลมาเชียว ><   กางเกงนี่จะสูงไปไหนนนนนนน   และล่าสุดขณะเข้าพบประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า   ด้วยความสงสัยว่าเชื้อพระวงศ์ยุโรปอื่นๆ…

อื้อหือออ เรียกได้ว่ารอดปาฏิหาริย์มาก สำหรับคุณตาวัย 72 ปี ผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเอกวาดอร์ ติดอยู่ในซากปรักหักพังกว่า 2 อาทิตย์เต็ม!!! Manuel Vasquez คุณตาวัย 72 ปี ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไต ถูกพบนอนอิดโรย บาดเจ็บ และอ่อนแรง อยู่ในซากปรักหักพัง 2 อาทิตย์หลังจากเหตุแผ่นดินไหวในเมือง Jaramijó ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากๆ เหล่าอาสาสมัครก็ไม่คิดว่าจะเจอใครที่รอดชีวิตอยู่ ณ ตอนนั้น   ประธานาธิบดีประเทศโบลิเวียและเอกวาดอร์เยี่ยมผู้ประสบภัย   หลังจากถูกช่วยเหลือ คุณตาดายฮาร์ดของเราได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนที่สุดทันที มีอาการไตวาย ขาดน้ำ-สารอาหารอย่างรุนแรง มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ และมีอาการฟกช้ำและบาดแผลหลายจุดจากของที่ตกใส่แกตอนแผ่นดินไหว สำหรับแผ่นดินไหวครั้งนี้ก็นับได้ว่ารุนแรงมากกว่า 7.8 ริกเตอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยกว่า 569 ราย และอีกกว่า 29,000 รายต้องกลายเป็นคนไร้บ้านเพราะที่อยู่พังถล่มไปจนหมด   เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาซากแผ่นดินไหว   จุดเกิดแผ่นดินไหว     สำหรับเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ประธานาธิบดีได้คาดการณ์ความเสียหายไว้ราวๆ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 105,000 ล้านบาท…

เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าที่วิศวกรรมมากที่สุดในโลก ซึ่งหลายคนอาจคิดว่า เป็นแค่คำโม้หรือเปล่า วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปพิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเขาไม่ได้มีแค่ราคาคุยเท่านั้น! อย่างที่ทราบกันดีว่า เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นประสบกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวจนได้รับความเสียหายในวงกว้างและหนึ่งในสิ่งที่ได้รับความเสียหาย ก็คือถนนนั่นเอง     แน่นอน เมื่อถนนได้รับความเสียหาย ก็ต้องมีการซ่อมแซมให้เร็วที่สุด เพราะนั่นคือเส้นทางในการลำเลียงความช่วยเหลือต่างๆ เข้าไปยังพื้นที่ประสบภัย ทางการญี่ปุ่นจึงโชว์เทพ ซ่อมถนนให้กลับมาเป็นปกติภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น!!     ไปชมภาพแบบชัดๆ กัน อื้อหือ ญี่ปุ่นนี่มันญี่ปุ่นจริงๆ   แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด อาจเพราะว่าประเทศเค้าประสบกับเรื่องแบบนี้บ่อย จึงมีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา อย่างย้อนกลับไปในปี 2011 พวกเขาก็ซ่อมถนนเสร็จภายในระยะเวลาไม่ถึงหกวันเท่านั้น!!       เรื่องแบบนี้ต้องยกให้เขาจริงๆ เพราะความเป็นญี่ปุ่นนี้เอง ทำให้พวกเขาสามารถฟิ้นตัวขึ้นมาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว แม้จะได้รับความเสียหายขนาดไหน คิดเหมือนกันมั้ยละเพื่อนๆ ^^ ที่มา @UN19640410

ก็เรียกได้ว่าเป็นอุทาหรณ์สอนใจเพื่อนๆ โดยเฉพาะคนที่ชอบถ่ายภาพเซลฟี่กับอะไรแปลกๆ ต้องระวังกันเลยนะจ๊ะ ช่วงนี้ก็มีข่าวคราวเกี่ยวกับการเสียชีวิตขณะถ่ายภาพเซลฟี่เยอะมากมายเหลือเกินนนนนน Ramandeep Singh วัย 15 ปีจาก Shiv Nagar ประเทศอินเดีย ที่ปืนดันลั่นเข้าหัวของตัวเองหลังจากพยายามถ่ายภาพเซลฟี่คู่กับปืนพก .32 Bore revolver แต่เกิดอุบัติเหตุปืนลั่นเข้าที่ขมับของเขาเข้าให้ ทำให้บาดเจ็บอย่างสาหัส   ปืนพก .32 Bore revolver   เด็กชายผู้โชคร้าย Ramandeep Singh   สำหรับปืนพกที่ว่าก็เป็นของพ่อของเจ้าหนุ่ม ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นั้นก็ได้นำเขาไปส่งที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน สำหรับตอนนี้ก็ยังไม่ทราบสถานการณ์ของเจ้าหนู เพราะอาการบาดเจ็บค่อนข้างรุนแรงอย่างมาก ในปัจจุบันก็มีข่าวคราวเกี่ยวกับผู้ที่เสียชีวิตจากการเซลฟี่อย่างหนาหูขึ้น โดยเฉพาะประเทศอินเดียที่มาในอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ จนบางพื้นที่ต้องออกกฏห้ามการเซลฟี่กันเลยทีเดียว   ก็อยากจะให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจให้เพื่อนๆ ที่ชอบถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยนะจ๊ะ อย่าไปทำอะไรแปลกๆ พิเรนทร์ๆ กันล่ะ #จ่าสิบเหมียว เป็นห่วง ที่มา: Metro

หลักๆ แล้วคนหล่อทำอะไรก็หล่อนั่นแหละ เราไม่ได้รักชอบพอเขาเฉพาะหน้าตาและรูปร่างภายนอกของเขาเท่านั้น แต่เราชอบในความเป็นเขาทั้งหมดนั่นแหละ ล่าสุดก็ไม่มีอะไรมาก เฮียแกจัดการทรงผม Dreadlocks ของแกไปเรียบร้อยแล้วล่ะ หลักๆ แล้วเหตุผลที่แท้จริงแล้วไม่ใช่อะไรหรอก เพราะมีสาวมาบอกว่าเค้าทำทรงนี้แล้วดูแย่ที่สุดก็เท่านั้นเอง ฮร่าาาา   ทรงผมที่เขาแสนจะภาคภูมิใจ   หลักๆ แล้วก็เพราะว่ามีสาวๆ หลายรายมาบอกว่าทรงนี้น่ะมันไม่เหมาะกับผมเลย…   ล่าสุดก็ขอแสดงความยินดีสำหรับคนที่ไม่ชอบด้วย เขาจัดการตัดมันซะเหี้ยนไปเลยล่ะ ฮ่าๆๆ   กลายเป็นจัสตินกับทรงใหม่ สกินเฮดกันไปเลยทีเดียว!!!   หล่อขึ้นมั้ยจ๊ะ ฮร่าาาาา!?   ก็มีทั้งสาวๆ ที่มาแสดงความเสียใจ และดีใจแบบพอๆ กัน   เอาเป็นว่าอยู่ที่ความชอบของแต่ละคนล่ะเนาะ -*-   สุดท้ายแล้วที่พวกเธอชอบก็คงไม่ใช่เฉพาะทรงผมและรูปร่างหน้าตาหรอก เป็นความที่เป็นตัว ‘จันติน’ นี่แหละ ถึงเขาจะตัดทรงมหาดไทยความหล่อความคูลของเขาก็ไม่ลดลงหร๊อกกก #จ่าสิบเหมียวมั่นใจเลย เอิ๊กๆๆๆ ที่มา: Buzzfeed

อื้อหือออ งานนี้เหล่าขาดริ้งค์และคอเบียร์มีเฮกันอย่างแน่นอน เมื่องานวิจัยล่าสุดได้ชี้ว่า ‘การดื่มเบียร์’ นั้น สามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักลงได้จริงๆ !? สำหรับงานวิจัยนี้เป็นของทาง Oregon State University ซึ่งพบว่าในเบียร์นั้นมีสาร Xanthohumol ซึ่งเป็นสารฟลาโวนอยด์ที่สามารถพบได้ในฮ๊อป (พืชที่นิยมเอาไปใส่ในเบียร์)โดยมีสรรพคุณช่วยลดน้ำหนักและเป็นทำหน้าที่ลดปริมาณคอเลสเตอรอลอีกด้วย!!!   เบียร์ช่วยลดน้ำหนัก   งานวิจัยนี้ทำการทดลองโดยใช้หนูทั้งหมด 48 ตัว แบ่งออกเป็นสองกลุ่มอย่างละครึ่ง ซึ่งหนูทุกตัวมีน้ำหนักที่ใกล้เคียงกัน และมีคอเลสเตอรอลสูง ให้อาหารปกติทั้งสองกลุ่ม แต่กลุ่มหนึ่งจะให้สาร Xanthohumol กินเสริมด้วย วันละ 30-60 มิลลิกรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัว ทุกๆ วัน 12 สัปดาห์เต็ม จากผลการทดลองปรากฏว่า หนูกลุ่มที่ได้รับสาร Xanthohumol  นั้น จำนวนคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดของพวกมันลดลงไปกว่าร้อยละ 80 แถมน้ำหนักตัวก็ลดลงไปกว่าร้อยละ 22 เลยทีเดียว ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้รับสารนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่ประการใด   และสาร Xanthohumol สามารถพบได้ในเบียร์!!!   แน่นอนว่าเบียร์ที่คุณดื่มมีสาร Xanthohumol  อยู่ สารสำคัญที่สามารถป้องกันคุณจากความอ้วนและคอเลสเตอรอลสูงได้ แต่ข่าวร้ายก็คือว่า…. ถ้าคุณอยากทำให้ได้ผลจริงๆ ล่ะก็ ปริมาณที่คุณจะต้องดื่มเทียบกับน้ำหนักตัวราวๆ 65 กิโลกรัม (ยกตัวอย่าง)…

บางครั้ง ความรักเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ มันสามารถบันดาลให้คนสามารถทำในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อลงไปได้ แม้กระทั่งบางครั้งพวกเขาก็ยอมสละชีวิตของตนเอง เพื่อคนที่พวกเขารัก จนกลายเป็นเรื่องโศกนาฏกรรมอันน่าสะเทือนใจ ดั่งเช่นเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ประเทศจีนนี้ เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน ในเมืองอี้ชิง จังหวัดเจียงซู เมื่อเกิดเหตุรถบัสชนเข้ากับรถตู้คันหนึ่ง จนรถตู้คันดังกล่าวเกิดเพลิงไหม้ในทันที     พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ชั่วพริบตาก่อนที่รถจะเกิดเพลิงไหม้ คนขับรถซึ่งเป็นสามี ได้พลักภรรยาออกมาจากรถ จนเขาถูกเพลิงไหม้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ โดยมีภรรยายืนดูชะตากรรมของเขาอย่างสิ้นหวัง     เมื่อชาวเน็ตจีนได้เห็นข่าวดังกล่าว ก็แสดงความเห็นกันอย่างมากมาย เช่น “นี่แหละความรักที่แท้จริง” “พิมพ์ไปร้องไปเลยจริงๆ หวังว่าเขาจะไปสู่สุคตินะ”       ความรักทำให้เรา ทำอะไรได้ทุกอย่างจริงๆ ยัง #เหมียวอ๊อดโด้ ก็ขอให้ผู้เสียชีวิตไปสู่สุคตินะฮะ ชาติหน้ามีจริง เชื่อว่าทั้งสองต้องการกลับมาเคียงข้างกันอย่างแน่นอน ที่มา Shanghaiist

ไม่บ่อยนักที่เราจะได้พบเจอกับลูกแพะที่มีหน้าตาแปลกประหลาด ไม่เหมือนกับลูกแพะทั่วๆ ไป และเมื่อไม่นานมานี้ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ก็ได้มีการเผยแพร่ภาพของลูกแพะตัวหนึ่ง…   ซึ่งโดยปกติแล้วลูกแพะที่เราเห็นทั่วๆ ไปจะมีหน้าตาเป็นแบบนี้…   แต่สำหรับลูกแพะที่เกิดในฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองเฟลดา ประเทศมาเลเซีย กลับมีขนสีน้ำตาลอ่อนปกคลุมทั่วตัว มีรูปร่าง และหน้าตาละม้ายคล้ายทารกซะอย่างนั้น งานนี้เรียกได้ว่าสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเป็นอย่างมากเลยละเมี๊ยว     แม้ว่ามันจะเกิดมาเป็นลูกแพะหน้าตาประหลาด และมันได้จะตายไปแล้วหลังจากที่คลอดออกมาได้ไม่นาน แต่ทว่าชาวบ้านต่างพากันมาแย่งซื้อลูกแพะประหลาดจากนาย Ibrahim Basir ผู้เป็นเจ้าของฟาร์มแห่งนี้     ทั้งนี้ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้ระบุว่า ทางเจ้าของฟาร์มไม่ได้ขายลูกแพะให้ใครเลยแม้แต่คนเดียว แต่เขากลับนำมันไปมอบให้สำนักงานสัตวแพทยศาสตร์ เพื่อที่จะได้นำไปศึกษา และหาสาเหตุความผิดปกติของเจ้าลูกแพะประหลาดตัวนี้ ที่มา : yahoo

ประเทศจีน เรียกได้ว่ามีในเรื่องราวแปลกๆ เกิดขึ้นได้ไม่เว้นแต่ละวันจริงๆ และเมื่อไม่นานมานี้ (25 เมษายน 2559) ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยภาพประเพณีการแต่งงานแบบท้องถิ่นของบ่าวสาวคู่หนึ่ง จากหมู่บ้านใกล้กับเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ในภูมิภาคตอนกลางของประเทศจีน     โดยงานแต่งงานของคู่บ่าวสาวคู่นี้ ก็เกือบจะดูเหมือนงานแต่งทั่วๆ ไปแล้วละ แต่ที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ ฝ่ายเจ้าบ่าวได้จับพ่อของตน มาใส่หน้ากากเป็นลา พร้อมกับมีลูกโป่งผูกติดไว้กับตัว อีกทั้งที่เอวยังมีเชือกผูกไว้กับรถสปอร์ตคันหรู เพื่อที่จะได้ลากพาลูกชายกับเจ้าสาวไปเข้าพิธีแต่งงาน     ส่วนฝ่ายผู้เป็นแม่ก็ถูกนำเอาลูกโป่งมาผูกติดไว้กับตัว แล้วเดินอยู่ข้างๆ พ่อของเจ้าบ่าวด้วยเช่นกัน   เรียกได้ว่าเมื่อคลิปวีดีโองานแต่งงานดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกโซเชียล ก็ได้สร้างความตกใจให้กับบรรดาชาวเน็ตจีนส่วนใหญ่เป็นอย่างมาก     นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตบางราย ได้ออกมาแสดงความสังเวชใจต่อการฉลองแต่งงานของบ่าวสาวคู่นี้ ที่ได้สร้างความน่าอับอาย และทำให้บุพการีกลายเป็นตัวตลกในสายตาของคนอื่นๆ ที่มา : dailymail

เรื่องรักๆ เลิกๆ และมีการทะเลาะวิวาทกันของอดีตคู่รักหนุ่มสาว เรียกได้ว่ามีให้เห็นบ่อยเหลือเกิน และล่าสุดในวันที่ 27 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยคลิปวีดีโอการทะเลาะวิวาทของอดีตคู่รักหนุ่มสาวชาวจีนคู่หนึ่ง ที่ทางเจ้าของคลิปนำมาโพสต์ในเว็บไซต์ไลฟ์ลีก โดยมีการระบุว่า… ชายหนุ่มวัยรุ่นจีนในภาพ ได้ตามมาล้างแค้นอดีตแฟนสาวของตนที่แอบไปมีคนอื่น ด้วยวิธีการสุดเสื่อม ณ หน้าร้านแมคโดนัลด์สาขาหนึ่งในจีน     จากภาพเราจะเห็นได้ว่า ฝ่ายชายได้ทำการล้วง และกระชากกางเกงในของฝ่ายหญิง แล้วรูดลงมาอยู่ระหว่างหน้าขา ต่อหน้าผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนที่ยืนอยู่ในบริเวณนั้น     ส่วนด้านฝ่ายหญิงเมื่อถูกอดีตแฟนหนุ่มตามมาราวีด้วยวิธีสุดเสื่อม เธอก็พยายามทุบตีให้อีกฝ่ายปล่อยมือออกจากกางเกง เนื่องจากที่ฝ่ายชายได้กระทำมันเป็นเรื่องที่สร้างความอับอายให้กับเธอเป็นอย่างมาก     ลองไปชมคลิปกันเลย   ด้านชาวเน็ตที่ได้เข้ามาชมคลิปวีดีโอดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ไลฟ์ลีก ต่างก็ออกมาแสดงความเห็นว่า คนที่ถ่ายคลิปก็มัวแต่ยืนถ่าย โดยที่ไม่เข้าไปช่วยผู้หญิงเลยแม้แต่น้อย เห็นแล้วมันน่าสลดใจจริงๆ ที่มา : mirror

ตอนเราเป็นเด็กๆ แน่นอนว่าการลงโทษที่เรามักจะโดนคุณพ่อคุณแม่จัดการกันอย่าเป็นประจำนั่นก็คือการตีก้นนั่นเอง แต่งานวิจัยล่าสุดนี้แอบบอกเลยล่ะว่า เป็นไอเดียการทำโทษที่แย่สุดๆ เลยทีเดียว!!! เพราะนักวิจัยได้เก็บข้อมูลและสรุปออกมาเป็นสถิติว่า เด็กๆ ที่ถูกตีก้นจะมีแนวโน้มที่จะไม่ฟังพ่อแม่และมีพฤติกรรมที่ดื้อมากกว่าเด็กๆ ที่ไม่ถูกทำโทษด้วยวิธีการนี้…   การตีก้นนั้นเป็นไอเดียการทำโทษที่แย่มากๆ     นักวิจัยจากทาง University of Texas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการเก็บข้อมูลกว่า 50 ปี ของเด็กๆ กว่า 160,000 ราย ซึ่งชี้ชัดไปในทิศทางเดียวกันว่า เด็กๆ ที่ถูกจับตีก้นนั้นมักจะมีพฤติกรรมต่อต้านสังคม มีแนวโน้มที่จะก้าวร้าว และมีปัญหาทางจิตเลยทีเดียว!!? Andrew Grogan-Taylor อีกหนึ่งนักวิจัยของทาง University of Michigan ก็ได้กล่าวว่า ‘การทำโทษด้วยการตีก้นนั้น จะให้ผลลับที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เหล่าพ่อแม่ตั้งใจเสียมากกว่า’   ช่วงวัยนี้แล้วหลายๆ คนก็เริ่มจะมีลูกกันบ้างและ และแน่นอนล่ะว่าต้องมีการทำโทษว่ากล่าวตักเตือนกันบ้างตามประสาพ่อแม่ แต่งานวิจัยออกมาแบบนี้ก็เพลาๆ มือกันหน่อยนะจ๊ะ การทำร้ายร่างกายนั้นเหมือนเป็นการใช้อารมณ์มากกว่าเนาะ หาวิธีอื่นในการตักเตือนดีกว่า ที่มา: Metro

เพื่อนๆ เคยดื่มน้ำส้มคั้นแล้วพบว่ารสชาติมันออกจะแปลกๆ หรือเปล่า? แล้วในกระบวนการทำน้ำส้ม มีใครในนั้นที่เกลียดเพื่อนๆ หรือเปล่า? ถ้ามี นี่อาจเป็นสาเหตุของรสชาติแปลกๆ นั้นก็เป็นได้นะ.. เรื่องราวเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งในประเทศคูเวต เมื่อกล้องวีดีโอในห้องครัวสามารถจับภาพ แม่บ้านตัวแสบ แอบผสมน้ำปัสสาวะของตนเอง ลงไปในแก้วน้ำส้มของเจ้านายได้ จนกลายเป็นที่สะอิดสะเอียนของผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก     ภาพที่เห็นคือ แม่บ้านคนนี้นำแก้วล้วงเข้าไปในกระโปรง จากนั้นก็ปัสสาวะลงแก้วนั้น ก่อนจะนำมาเทใส่แก้วน้ำส้มที่วางอยู่ตรงหน้า ในจังหวะที่ไม่มีคนอยู่     ไม่มีการยืนยันว่าเธอทำไปทำไม แต่อาจเป็นเพราะความไม่พอใจส่วนตัวก็เป็นได้     ลองไปชมคลิปกันดู     อื้อหือ สงสารคนกินเข้าไปเลย ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ล่ะเนี่ย สงสัยจะโกรธแค้นจริงๆ เพื่อนๆ ลองเช็คดูดีๆ นะว่ามีคนปองร้ายเราแบบนี้หรือเปล่า ไม่งั้นอาจได้กินน้ำส้มผสมฉี่แบบนี้ก็ได้นะ ฮาาา ที่มา Metro

หนึ่งในปัญหาที่ผู้โดยสารเครื่องบินไม่อยากเจอมากที่สุดคือการที่เครื่องดีเลย์ นั่นหมายความว่าผู้โดยสารต้องเสียเวลารอไปอีก จนบางทีอาจพลาดสิ่งที่สำคัญไปและอาจนำไปสู่ความไม่พอใจของผู้โดยสารก็เป็นได้ อย่างเช่นเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่สนามบินในนครฉางซา เมื่อเครื่องบินของสายการบิน Capital Airlines ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดในช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา     ทางผู้โดยสารทีไ่ด้รับผลกระทบ จึงรวมตัวกันและขอพบกับตัวแทนของสายการบิน แต่ทางสายการบินได้ปฏิเสธคำร้องนั้น  ทางผู้โดยสารจึงเริ่มไม่พอใจ และเข้าไปทำร้ายพนักงานต้อนรับภาคพื้นดินของสายการบินนั้น   ในภาพเราจะเห็นว่ามีผู้โดยสารหญิงคนหนึ่ง สาดกล่องข้าวใส่พนักงานสาวของสายการบิน   และชายเสื้อลายขวาง ก็ปรี่เข้าไปตบหน้าพนักงานของสายการบินคนดังกล่าวอีกที พร้อมพูดว่า “ชั้นตบหน้าเธอแล้วยังไง?”   เมื่อข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป  ชาวเน็ตจีนก็ได้ตั้งข้อสงสัยว่า ตอนนี้ทั้งสองถูกใส่ชื่อเข้าไปในบัญชีดำของบรรดาสายการบินแล้วหรือยัง หรือพวกเขาได้รับบทลงโทษทางกฎหมายใดๆ หรือไม่ ที่เข้าไปทำร้ายพนักงานเช่นนั้น   ลองไปชมคลิปกันดีกว่า   โหดจริงๆ ผู้โดยสายชาวจีน แต่จะโมโหขนาดไหนก็ไม่ควรเข้าไปทำร้ายพนักงานนะ เพราะเขาก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย หวังว่าทั้งสองจะได้รับบทลงโทษตามกฎหมายที่เหมาะสมไปนะฮะ ที่มา Shanghaiist