Tag: คนไร้บ้าน

  • ยูทูบเบอร์ญี่ปุ่น มอบเงิน “1 ล้านเยน” ให้ชายชราไร้บ้าน กลายเป็นเรื่องราวน่าประทับใจ

    ยูทูบเบอร์ญี่ปุ่น มอบเงิน “1 ล้านเยน” ให้ชายชราไร้บ้าน กลายเป็นเรื่องราวน่าประทับใจ

    ยูทูบเบอร์จากญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ใช้ชื่อแชแนลว่า ラファエル ได้เผยวิดีโอที่ตัวเขาเดินเตร็ดเตร่ไปตามท้องถนนเพื่อค้นหา คนชรา และมอบความช่วยเหลือเท่าที่เขาสามารถช่วยเหลือได้     ล่าสุดในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เขาได้ไปพบกับชายชราไร้บ้านในชุดซอมซ่อคนหนึ่งเข้า เขาอยากทราบว่าสิ่งที่ชายชรคนนี้ต้องการซื้อมากที่สุดคืออะไรเมื่อมีเงิน 1 ล้านเยน เขาจึงมอบเงินจำนวน 1 ล้านเยน (ประมาณ 3 แสนบาท) ให้กับชายชราดังกล่าว โดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะใช้เงินซื้ออะไรก็ได้ภายในหนึ่งวันเท่านั้น     เมื่อยูทูบเบอร์หนุ่มมอบเงินให้กับชายชรา ชายชราก็ถามกลับด้วยความกังวลว่า “ฉันควรได้รับเงินนี้เหรอ ตำรวจจะไม่จับฉันใช่ไหม?” ยูทูบเบอร์หนุ่มจึงยืนกรานอีกครั้งว่าไม่เป็นไรจริงๆ     ทันทีที่ได้รับเงินมา คุณลุงรีบไปยังห้างที่ใกล้ที่สุด ซื้อเสื้อผ้า อาหาร และของใช้ในชีวิตประจำวัน   จากนั้นคุณลุงเดินเข้าโรงแรมเพื่อพัก อาบน้ำ และแต่งตัวเสียใหม่   ต่อมาคุณลุงจึงเดินไปตามถนน หาซื้อเสื้อผ้าราคาย่อมเยาแบรนด์ต่างๆ   เมื่อยูทูบเบอร์หนุ่มเข้ามาถามว่า ทำไปออกมาซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ถูกๆ? ทำไมถึงไม่ซื้อในห้าง? คุณลุงจึงตอบว่า “กลัวเงินที่เหลือมันจะเหลือน้อยเกินไป อะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัด” สรุปแล้วคุณลุงใช้เงินในวันนี้ไปเพียง 20,000 เยน หรือราวๆ 6,000 บาทเท่านั้น ยูทูบเบอร์หนุ่มถามคุณลุงอีกว่า ต้องการซื้ออะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า? คุณลุงยิ้มแล้วตอบว่า “อยากร้องคาราโอเกะ…

  • ชายไร้บ้านที่ตำรวจช่วย ‘โกนหนวด’ ให้ไปสัมภาษณ์งาน สุดท้ายได้งานเรียบร้อยแล้ว!!

    ชายไร้บ้านที่ตำรวจช่วย ‘โกนหนวด’ ให้ไปสัมภาษณ์งาน สุดท้ายได้งานเรียบร้อยแล้ว!!

    เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นช่วยสร้างความรู้สึกอิ่มเอมใจของเราได้เป็นอย่างดี…   ดังเช่นเรื่องราวต่อไปนี้ เมื่อชายไร้บ้านคนหนึ่งได้รับการช่วยเหลือจาก ‘เจ้าหน้าที่ตำรวจ’ เพราะเขาต้องเตรียมตัวไปสัมภาษณ์งาน แต่กลับกลายเป็นว่าระหว่างโกนหนวดมีดโกนของเขาดันเสียขึ้นมาซะงั้น!? อ่านข่าวเก่า :“คุณตำรวจ” ช่วยแปลงโฉม “ชายไร้บ้าน” ให้ดูดีอีกครั้ง ก่อนที่เขามีนัดสัมภาษณ์งาน!!     นาย Phillip หรือที่รู้จักกันในชื่อ Phil ได้รับมีดโกนหนวดมาจากพนักงานร้านแมคโดนัลด์สาขาที่ไปสมัครงานมา และเขาก็บอกว่าให้มาสัมภาษณ์งานในวันจันทร์ที่ผ่านมาพร้อมบอกว่าให้โกนหนวดซะนะ แต่แล้วเมื่อเจ้าตัวมาลองโกนหนวดที่ปั๊มน้ำมันดูก็พบว่ามันช่างยากเย็นเหลือเกิน เพราะมีดโกนอันนั้นมันเสียซะแล้ว ประจวบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ Tony เดินผ่านมาพอดี ก็เลยอาสาโกนหนวดให้เขา ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวมีคนถ่ายเอาไว้ได้ และมันถูกแชร์ไปในโลกออนไลน์สร้างความประทับใจให้กับผู้คนมากมาย     และล่าสุดจากรายงานของเว็บไซต์ Ladbible เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานี้ Phil ได้ผ่านการสัมภาษณ์งานและกลายเป็นพนักงานร้านแมคโดนัลด์เต็มตัวแล้ว!!     เขาเดินทางไปขอบคุณเจ้าหน้าที่ Tony ด้วยตัวเอง   “ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่ง และภายหลังก็มาทราบว่าเขาชื่อว่า Phil กำลังพยายามโกนหนวดของตัวเองด้วยมีดโกนของเขา” “ผมเลยเดินลงไปจากรถแล้วก็ถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหม? เพราะผมรู้ว่ามีดโกนหนวดอันนั้นมันพังแล้วแน่นอน ก็เลยอยากจะซ่อมให้เขา และพบว่ามันมีนอตตัวหนึ่งหายไปจริงๆ ด้วย” เจ้าหน้าที่ Tony เล่า…

  • หนุ่มอังกฤษคะนอง เสนอเงินให้ “คนไร้บ้าน” ไปสักชื่อเจ้าบ่าวไว้บนหน้าผาก ชาวเน็ตไม่พอใจ

    หนุ่มอังกฤษคะนอง เสนอเงินให้ “คนไร้บ้าน” ไปสักชื่อเจ้าบ่าวไว้บนหน้าผาก ชาวเน็ตไม่พอใจ

    ในวัฒนธรรมของฝั่งตะวันตก ยามที่เพศชายกำลังจะแต่งงานก็มักจะมีการกินเลี้ยงกับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนานที่เรียกกันว่า งานเลี้ยงสละโสด หรือ Stag Party นั่นเอง แต่บางครั้งความสนุกสนานก็กลายเป็นการเบียดเบียนผู้อื่นโดยไม่จำเป็น เช่นเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้นในคืนงานเลี้ยงสละโสดของหนุ่มๆ ชาวอังกฤษกลุ่มหนึ่ง พวกเขาออกท่องราตรีในเมืองเบนิดอร์ม ประเทศสเปนบังเอิญเจอกับชายไร้บ้านคนหนึ่ง พวกเขาจึงสั่งให้ชายคนนั้นไป สัก บนหน้าผากของเขาเป็นชื่อของว่าที่เจ้าบ่าว ว่า “Jamie Blake, North Shields, N28” พวกเขาเสนอว่าจะจ่ายเงินให้กับชายไร้บ้านคนนี้เป็นจำนวน 90 ปอนด์ (ประมาณ 3,900 บาท) หากเขายอมสักชื่อว่าที่เจ้าบ่าวลงบนหน้าผาก ชายไร้บ้านชาวโปแลนด์คนนี้นามว่า Tomek จึงรับข้อเสนอ แต่สุดท้ายการสักกลับต้องหยุดลงเนื่องจากชายไร้บ้านไม่สามารถทนความเจ็บปวดได้ไหว   ชายไร้บ้าน Tomek ชูนิ้วเป็นสัญลักษณ์สันติภาพขณะถูกลงเข็มสักบนหน้าผาก   ภาพด้านบนถูกเผยแพร่ลงบนเฟซบุ๊ก บนหน้าผากของ Tomek แทนที่จะเป็น “Jamie Blake, North Shields, N28″ แต่กลับถูกสักลงไปได้เพียงแค่คำว่า “Jamie Blake, No” เท่านั้น ชาวเน็ตที่เข้ามาเห็นภาพนี้ต่างรู้สึกแย่และเสียใจไปตามๆ กัน บางคนถึงกับหารือกันว่าจะช่วยจ่ายค่าลบรอยสักออกให้กับชายไร้บ้านคนนี้เลยทีเดียว     Karen Malin Cowles คนรู้จักของ…

  • มิตรภาพของ ‘คนไร้บ้าน’ และ ‘สุนัขจรจัด’ แม้ลำบากแค่ไหน ก็ไม่เคยทิ้งกัน

    มิตรภาพของ ‘คนไร้บ้าน’ และ ‘สุนัขจรจัด’ แม้ลำบากแค่ไหน ก็ไม่เคยทิ้งกัน

    สุนัขหลายตัวถูกทิ้งด้วยเหตุผลต่างๆ นานาของเจ้าของ เช่น ย้ายบ้านบ้าง มีปัญหาทางการเงินบ้าง ไม่อยากเลี้ยงแล้วบ้าง หรือสุนัขแก่เกินไป โดยลืมไปว่าครั้งหนึ่งสัตว์เลี้ยงพวกนี้เคยมอบความสุขให้พวกเขามากแค่ไหน แต่สำหรับคนไร้บ้านเหล่านี้ ต่อให้ไม่มีแม้แต่ที่อยู่อาศัย พวกเขาก็ไม่เคยคิดจะทอดทิ้งสุนัขเลย เช่นเดียวกับสุนัขที่ไม่หนีเจ้าของไปไหน ต่อให้ต้องอดมื้อกินมื้อก็ตาม   1. นี่คือความรัก ความผูกพันที่คนไร้บ้านกับสุนัขมีให้กัน   2. แม้ว่าจะไม่มีอะไรเลย แต่คนจรจัดก็ยังรักและดูแลน้องหมาอย่างดีที่สุด   3. ลูกหมาสองตัวหลับในอ้อมกอดของพ่อ ผู้ไม่มีให้อะไรให้นอกจากความรัก   4. ความรักสามารถเอาชนะทุกอย่างได้ ไม่ว่าสถานการณ์จะยากลำบากแค่ไหน   5. สุนัขพร้อมที่จะภักดีกับเจ้าของเสมอ แม้เจ้าของจะไม่มีอะไรให้ก็ตาม   6. ในวันที่หนาวเหน็บ พวกเขาจะไม่หนาวไม่เพียงลำพัง   7. พวกเขาคอยปกป้องสุนัขเสมอ   8. บางคนไม่มีแม้แต่อาหารประทังชีวิต แต่พวกเขาก็ไม่เคยสุนัขอดอาหาร   9. สิ่งที่พวกเขาทำให้กัน มีค่ามากกว่าคำพูด   10. ต่อให้ต้องอยู่ท่ามกลางอากาศหนาว แต่สุนัขอุ่นใจเสมอเมื่อได้อยู่กับคนที่รักมัน   11. สำหรับคนจรจัดแล้ว…

  • หนุ่มป.โท ไร้บ้านขอร้องทั้งน้ำตา หาคนดูแลหมาสุดรัก ได้ความช่วยเหลือเกินคาด

    หนุ่มป.โท ไร้บ้านขอร้องทั้งน้ำตา หาคนดูแลหมาสุดรัก ได้ความช่วยเหลือเกินคาด

    ชีวิตของคนเราไม่มีอะไรแน่นอน ความโชคร้ายมักจะมาเยือนในเวลาที่ไม่คาดคิดเสมอ ทำให้เราไม่ทันได้เตรียมตัวรับมือกับมัน แต่ในขณะเดียวกันเราก็อาจจะได้เจอความช่วยเหลือที่ไม่คาดคิดด้วย Robert เป็นชายที่มีความสุขในชีวิต เขาเรียนจบปริญญาโท มีการงานที่มั่นคง และมีความครัวที่น่ารัก แถมเมื่อไม่นานมานี้เขายังได้รับน้องหมา Meaty ที่เป็นเหมือนแก้วตาดวงใจมาเลี้ยงไว้ด้วย ทุกอย่างดูจะราบรื่นสำหรับเขา     จนวันหนึ่งเขาถูกบังคับให้ต้องออกจากบ้าน จนต้องกลายเป็นคนไร้บ้านไป ถึงการหาบ้านใหม่จะเป็นเรื่องยาก แต่เขาก็ยังมีงานทำเหมือนเดิม แล้วศูนย์พักพิงสำหรับคนไร้บ้านก็ยินดีต้อนรับเขาด้วย ดูผิวเผินแล้วก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ปัญหาจริงๆ มันอยู่ที่เจ้า Meaty เพราะศูนย์พักพิงแทบทุกแห่งไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงไปอยู่ได้ แถมเขาก็หาที่อยู่ใหม่ไม่ได้เลย เขาไม่อยากจะแยกกับมัน ทำให้เขาเลือกจะนอนในรถกับมัน     อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแค่นั้นมันย่อมไม่พอ เมื่อไร้ที่พึ่งสุดท้ายเขาก็เลยมาที่ศูนย์พักพิงสัตว์ Front Street Animal Shelter ที่รับเจ้า Meaty มา แล้วขอร้องทั้งน้ำตาให้พวกเขาช่วยหาบ้านที่พร้อมรับดูแลมันชั่วคราวให้หน่อย แล้วเมื่อเขาหาบ้านใหม่ได้แล้วเขาจะไปรับมันกลับมาหาแน่นอน อาสาสมัครที่นั่นเห็นได้ชัดเลยว่า Robert ไม่อยากจากเจ้า Meaty ไปจริงๆ และ Gina Knepp ผู้จัดการของที่นั่นก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ด้วยความเห็นใจเขา เธอจึงควักเงินของตัวเองเพื่อเปิดห้องพักในโรงแรมให้เขากับเจ้าหมา 3 วัน แล้วทำวิดีโอบอกเล่าเรื่องราวของเขาแล้วโพสต์ลงบนเฟสบุ๊กของศูนย์พักพิง เพื่อขอความช่วยเหลือจากคนที่พอจะช่วยเขาได้    …

  • ประเทศจีนดำเนินติดตั้งเสากั้นตามทางเท้า เพื่อลดปัญหาคนไร้บ้านชอบมานอนกองรวมกัน

    ประเทศจีนดำเนินติดตั้งเสากั้นตามทางเท้า เพื่อลดปัญหาคนไร้บ้านชอบมานอนกองรวมกัน

    ทุกประเทศย่อมมีปัญหาอยู่เสมอ แต่หนึ่งในปัญหาที่หลายๆ ประเทศไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็คือปัญหาความยากจนและคนไร้บ้าน แม้แต่ในประเทศที่เจริญไปด้วยเทคโนโลยีและวัฒนธรรมอย่างสหรัฐอเมริกาหรือประเทศญี่ปุ่นก็ยังมีคนจรจัดหรือคนไร้บ้านให้เห็นกัน ซึ่งบางทีพวกเขาก็ไม่ได้ก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นแต่อย่างใด แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่กับคนไร้บ้านของจีน ถึงแม้ว่าไม่รู้ว่าพวกเขาทำความเดือดร้อนให้กับคนอื่นหรือไม่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีมาตรการจัดการกับปัญหาคนไร้บ้านที่มักจะมาหลับนอนอยู่บนทางเท้า     เจ้าหน้าที่ประจำเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้างได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยจัดการกับปัญหาคนไร้บ้านที่ชอบมานอนบนทางเท้าในเมือง โดยที่วิธีการจัดการไม่ใช่นวัตกรรมที่ทันสมัยหรืออย่างใด เพียงแค่ได้ทำการติดตั้งเสาไปบนทางเท้าหลายๆ อันเพื่อที่จะไม่ให้เหลือพื้นที่ที่จะพอให้คนไร้บ้านมาหลับนอนได้     อ้างอิงตามรายงานของสำนักข่าวท้องถิ่น มีคนไร้บ้านประมาณ 10 คนที่ได้เริ่มตั้งรกรากอยู่บนทางเท้ามาตั้งแต่ปี 2016 พวกเขาได้ทำการปูเสื่อและฟูกพร้อมสำหรับการหลับนอน เจ้าหน้าที่ยังได้รายงานอีกว่าคนไร้บ้านเหล่านี้เป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพและความปลอดภัย จนในที่สุดจึงต้องตัดสินใจที่จะจัดการแก้ปัญหาในที่สุด     ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว (2017) คนไร้บ้านโดยส่วนมากที่ได้ตั้งรกรากอยู่ในบริเวณทางเท้าได้ถูกย้ายให้ไปอาศัยอยู่ในอาคารที่ไม่มีคนอาศัย เสาที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตั้งในครั้งนี้ พวกเขาได้บอกว่าเป็นเพียงแค่ทางออกชั่วคราวเท่านั้น และในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้คิดหาทางแก้ปัญหาคนไร้บ้านในระยะยาวอยู่ โดยอาจจะเป็นการเพิ่มการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์หรือการเพิ่มเติมอุปกรณ์ออกกำลังกายกลางแจ้งขึ้นมาแทน     อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีเสาตั้งเต็มไปหมดตามทางเท้า แต่ก็ยังเหลือคนไร้บ้านอยู่จำนวนหนึ่งหรือสองคนที่ยังคงตั้งหลักปักฐานอยู่ในที่เดิมของพวกเขา ถือว่าเป็นไอเดียที่แปลกจริงๆ หรือบางทีแล้วคนออกแบบวิธีแก้ไขปัญหานี้อาจได้รับแรงบันดาลใจจากเจ้าหน้าที่จากเมืองฉางชุนในปี 2014 ที่ใช้ที่ล็อกรถเพื่อมาระงับกิจกรรมเต้นที่รบกวนคนอื่นไปทั่วของเหล่าป้าๆ ในจีนก็เป็นไปได้นะ     ที่มา Medium

  • ชายจรจัดช่วยหมาที่ถูกทิ้งกลางถนน เพราะไม่อยากให้มันไม่มีบ้านอยู่เหมือนเขา

    ชายจรจัดช่วยหมาที่ถูกทิ้งกลางถนน เพราะไม่อยากให้มันไม่มีบ้านอยู่เหมือนเขา

    คนหัวอกเดียวกันเข้าใจความรู้สึกและความลำบากที่ต้องเจอดีที่สุด ชายไร้บ้านที่ไม่มีบ้านอยู่รู้ดีว่ามันลำบากขนาดไหน เขาก็ไม่อยากให้เจ้าหมาที่โดนทิ้งต้องกลายเป็นหมาจรจัด เลยขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเพื่อหาบ้านให้กับมัน เมื่อประมาณปลายเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา ขณะที่ Angel Janes ขับรถกลับบ้านที่เมืองซอลต์เลค รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอก็เห็นคนไร้บ้านคนหนึ่งยืนชูป้ายขอเงินช่วยเหลือหรือของานทำอยู่ เธอก็เลยเอาบุหรี่ไปแบ่งให้เขา ตอนที่เธอเข้าไปใกล้ๆ เขา เธอก็เห็นเขาเอาผ้าห่มคลุมตัวให้หมาชิวาว่าตัวหนึ่งแทนที่จะเอาคลุมกันหนาวให้ตัวเอง เธอก็เลยรู้ว่าเขาให้ความสำคัญกับมันมากกว่าตัวเอง แล้วก็เริ่มถามไถ่เรื่องราวของเจ้าหมาจากเขา     ชายไร้บ้านแนะนำตัวว่าชื่อ Ron เขาเจอเจ้าหมาเมื่อ 2 ชั่วโมงก่อนหน้านี้เอง มีผู้หญิงคนหนึ่งจอดรถแล้วทิ้งมันเอาไว้กลางถนน เขากลัวว่ามันจะได้รับอันตรายก็เลยวิ่งไปช่วยมันออกมา สิ่งเดียวที่เขาอยากขอร้องเธอในตอนนี้ก็คือ ให้เธอช่วยหาบ้านให้กับมัน เพราะเขาคิดว่ามันสิ่งที่ควรทำและไม่อยากให้มันอยู่เป็นคนไร้บ้านเหมือนกับตัวเอง     Janes รู้สึกประทับใจในการกระทำของ Ron มาก แต่เธอเองก็ไม่รู้จะไปหาให้มันได้ที่ไหน เธอก็เลยโพสต์เรื่องของมันลงบนเฟซบุ๊ก แล้วเพื่อนของเธอก็แชร์โพสต์ต่อไปอีก มีคนแชร์โพสต์ของเธอไปในเพจคนรักสัตว์ Kathleen Dallmann ซึ่งอาศัยอยู่แถวนั้นพอดีเห็นเข้าก็เลยรีบออกมารับตัวมันหลังจาก Janes โพสต์ได้ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง เธอยินดีจะช่วยดูแลมันจนกว่าจะมีคนยอมรับเลี้ยงเจ้าหมา แถมเธอยังให้เงิน Ron อีก 50 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,500 บาท)…

  • โมเม้นท์ประทับใจ ‘จัสติน บีเบอร์’ ลงไปนอนคุยกับคนไร้บ้าน แถมแบ่งขนม-น้ำให้อีก

    โมเม้นท์ประทับใจ ‘จัสติน บีเบอร์’ ลงไปนอนคุยกับคนไร้บ้าน แถมแบ่งขนม-น้ำให้อีก

    ซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง จัสติน บีเบอร์ ที่มีเหล่าบรรดาแฟนคลับอยู่ทั่วโลก ที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีคนตามติดชีวิตเขาอยู่เสมอ เพราะความน่ารักของเขาที่มีต่อแฟนคลับ ทำให้เขายังได้รับความนิยมอยู่เรื่อยๆ ไม่มีวันลดลง และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งกับเรื่องราวสุดประทับใจของจัสติน เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมา ในขณะที่เขากำลังเดินข้างถนนในนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา… เขาได้พบเจอกับคนไร้บ้านที่นอนอยู่ข้างถนน จึงได้เข้าไปนั่งพูดคุยพร้อมกับเอาขนมและน้ำมาแบ่งปันด้วย โดยที่ไม่ถือตัวเลยแม้แต่นิดเดียว     ความน่ารักนี้ถูกบันทึกภาพไว้ได้ ก่อนจะถูกเผยแพร่ให้เหล่าแฟนคลับได้ชื่นชม   ความพีคอยู่ที่ว่าการคุยของจัสตินนั้นไม่ธรรมดา นั่งคุยแบบเก่ามันเชยไป นอนคุยไปเลย เอากับนางสิ…   ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกันบ้าง แต่สัมผัสได้ถึงความมีน้ำใจและไม่ถือตัวของจัสติน   นั่งคุยนานๆ มันเมื่อย นอนคุยแล้วกันเนาะ   สายตาที่ดูเป็นห่วงเป็นใย พร้อมกับนำสิ่งของมาแบ่งปันให้กับผู้อื่น   ขนมไหมครับ   ไปละน้าาาาาา   น่ารักแบบนี้ แฟนคลับจะไม่หลงได้ไง จริงไหม?   คลิปวิดีโอขณะที่จัสตินนอนคุยกับคนไร้บ้าน    ด้วยความน่ารักและความมีน้ำใจของจัสติน บีเบอร์ที่ได้แสดงออกมาในครั้งนี้อาจจะเป็นเพียงแค่มุมหนึ่งที่ได้มีการเผยแพร่ออกไป แต่ก็คงทำให้เราได้รู้ว่าทำไมนักร้องหนุ่มคนนี้ถึงมีแฟนคลับคอยให้การสนับสนุนอยู่ตลอดเวลา ส่วนหนึ่งก็มาจากความดีของเขานี่แหละ^^  …

  • ใครจะคิดเล่าว่าแค่ดูคลิป…จะทำให้เด็กหนุ่มวัย 16 ปี สร้างโครงการช่วย ‘คนไร้บ้าน’ นับพัน!!

    ใครจะคิดเล่าว่าแค่ดูคลิป…จะทำให้เด็กหนุ่มวัย 16 ปี สร้างโครงการช่วย ‘คนไร้บ้าน’ นับพัน!!

    ใครจะคิดเล่าว่า…เพียงแค่การรับชมวิดีโอสร้างแรงบันดาลใจจาก TED Talk จะทำให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งจุดประกายความคิดดีๆ เพื่อช่วยเหลือเหล่าคนไร้บ้านมากมาย Kevin Barber เด็กหนุ่มวัย 16 ปี นั่งชมคลิปวิดีโอจาก TED Talk ที่เกี่ยวกับการพูดถึงองค์กรการกุศลในเมืองแอลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโก ที่พวกเขาจ่ายเงินจ้างเหล่าคนไร้บ้านแลกกับการทำความสะอาดเมือง และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจในการทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และมันสามารถช่วยเหลือชีวิตของผู้คนได้นับพันคนในภายหลัง     หลังจากได้รับชมวิดีโอดังกล่าว Kevin ก็ตั้งใจที่จะทำบางสิ่งบางอย่างกับบ้านเกิดเมืองนอนของเขา ในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย “มันดูเหมือนง่ายมากๆ และสถิติต่างๆ มันก็ไม่แน่ไม่นอนเช่นกัน” เขากล่าว เมืองซานดิเอโก บ้านเกิดของ Kevin นั้น ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีคนไร้บ้านอาศัยอยู่มากที่สุดเป็นอันดับที่สี่ของประเทศสหรัฐอเมริกาเลยทัเดียว คุณแม่ของเขา ดอกเตอร์ Carolyn Barber ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ซึ่งเธอมักจะพูดคุยกับโฮมเลสอยู่เป็นประจำ และสิ่งที่ Kevin กำลังวางแผนที่จะทำเธอเองก็พร้อมที่จะสนับสนุนเต็มที่ “ฉันรู้จักกับพวกเขามากมาย ซึ่งพวกเขาไม่มีโอกาสในการใช้ชีวิตเลย” คุณแม่ Carolyn เล่า     Kevin และคุณแม่ ดอกเตอร์ Barber ติดต่อไปยังเทศบาลเมือง เสนอโครงการที่ชื่อว่า…

  • สุนัขผู้ซื่อสัตย์ นั่งรอเจ้านายหน้าโรงพยาบาลไม่ยอมไปไหน แม้เขาจะจากไปแล้ว 4 เดือน

    สุนัขผู้ซื่อสัตย์ นั่งรอเจ้านายหน้าโรงพยาบาลไม่ยอมไปไหน แม้เขาจะจากไปแล้ว 4 เดือน

    ความซื่อสัตย์ของสุนัขที่มีต่อมนุษย์เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม พวกมันรักเจ้าของของตัวเองจากก้นบึ้งของหัวใจ ทำให้พวกมันไม่อาจลืมคนที่เคยใช้เวลาร่วมกันมาได้ง่ายๆ แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนมันก็จะรอการกลับมาของเจ้าของอยู่อย่างนั้น เหมือนอย่างเจ้าสุนัขในรัฐ Novo Horizonte ประเทศบราซิล ที่แม้ว่าเจ้าของจะตายจากไปนานถึง 4 เดือนแล้ว แต่มันก็ยังรออยู่หน้าโรงพยาบาล ให้เขาเดินกลับออกมากอดมันเหมือนเคย     สุนัขตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของชายไร้บ้านวัย 59 ปี เขาถูกส่งตัวเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลหลังจากถูกมีดแทง เจ้าหมาเองก็วิ่งตามรถพยาบาลมาจนถึงหน้าโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ได้เข้าไปข้างใน มันแค่นอนรอเจ้าของอยู่ตรงพรมที่หน้าประตู แต่บาดแผลของชายไร้บ้านสาหัสมาก แม้ว่าแพทย์จะพยายามรักษาเขาอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้     เจ้าหมาที่รออยู่ข้างนอกคงไม่รู้หรอกว่าเจ้านายของตัวเองได้จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันหวนคืนมาแล้ว หลังจากนั้นทุกวันมันก็เลยมารออยู่ตรงหน้าประตูโรงพยาบาล โดยหวังว่าเจ้าของจะกลับออกมาหามันสักที โชคดีที่นักกฎหมาย Cristine Sardella รู้เรื่องเข้า เธอเกิดความประทับใจในความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของมันกับเจ้าของ ก็เลยช่วยหาบ้านใหม่ให้กับมัน เจ้าหมาจะได้ไม่ต้องรออย่างไร้จุดหมายแบบนี้ แต่กว่าจะช่วยหาบ้านให้มันได้ เจ้าหมาก็รออยู่ที่เดิมนานถึง 4 เดือนเลยทีเดียว     อย่างไรก็ตามเจ้าหมาก็ไม่ยอมอยู่กับครอบครัวใหม่ ทันทีที่มันไปถึงบ้านใหม่ มันก็วิ่งจากตรงนั้นกลับมาที่หน้าโรงพยาบาลเหมือนเดิม แม้ว่าจากบ้านใหม่ไปโรงพยาบาลจะเป็นระยะทางกว่า 3 ไมล์ (เกือบ 5 กิโลเมตร) ก็ตาม มันคงซื่อสัตย์และรักเจ้าของคนเก่ามากจนไม่สามารถลืมเขาแล้วไปเริ่มต้นชีวิตกับครอบครัวใหม่ได้ หรือไม่ก็อาจจะยังมีความหวังว่าเจ้านายคนเก่าจะกลับมาอยู่ เราก็ได้แต่หวังว่าเจ้าหมาจะทำใจได้แล้วมีชีวิตใหม่โดยเร็ว…

  • ช่างภาพใช้เวลา 4 ปีคลุกคลีอยู่กับคนไร้บ้าน และมันก็เป็นช่วงเวลาอันประทับใจหลังได้คุยกับพวกเขา

    ช่างภาพใช้เวลา 4 ปีคลุกคลีอยู่กับคนไร้บ้าน และมันก็เป็นช่วงเวลาอันประทับใจหลังได้คุยกับพวกเขา

    Mikaël Theimer ช่างภาพที่ให้ความสนใจกับกลุ่มคนไร้บ้าน กลุ่มคนที่สังคมมักจะมองว่าพวกเขาคือส่วนเกินและล้มเหลวในชีวิต แต่กลับกันช่างภาพคนนี้กลับมาเห็นอะไรบางอย่างในตัวพวกเขาและเริ่มเดินสายเข้าไปคลุกคลีอยู่กับกลุ่มคนเหล่านั้นด้วยคำพูดง่ายๆ ว่า “สวัสดีครับ เป็นยังไง สบายดีไหม?” ผลลัพธ์จากการกล่าวคำทักทายของ Mikaël นั้นได้เปิดโลกใบใหม่ให้กับเขา เขาได้สัมผัสถึงความสุข ความทุกข์ ความโกรธและอื่นๆ อีกมากมายที่คนไร้บ้านต้องเจอ บางคนไม่ได้มีปัญหาจากยาเสพติดหรือความล้มเหลวที่พวกเขาตั้งใจจะก่อ Mikaël จึงได้ถ่ายภาพของคนที่เขาได้ไปคุยด้วยพร้อมกับบอกเล่าด้วยข้อความสั้นๆ และน่าสนใจมาให้เราได้อ่านกัน…   Mario ชายที่ต้องไปอยู่ในคุกหลังฆ่าคนที่ข่มขืนลูกชายของเขา นั่นส่งผลให้เขาต้องเสียทุกอย่างไป   ชายคนนี้เมื่อถูกถามว่าเขาอยากบอกอะไรผ่านสื่อ เขาบอกว่า “รัก…ผมรักภรรยาของผมมากๆ”   หญิงคนนี้เคยเอาไม้ฟาดลงไปที่ชายใจร้ายคนหนึ่ง หลังเขาทำแบบเดียวกับสุนัขของตัวเอง   Fernand ชายไร้บ้านแสนอบอุ่น เขามักจะไปมาไหนกับแมวสีดำของเขาเสมอ   Normand ชายไร้บ้านหน่วยก้านดี ซึ่งเขาเพิ่งจะมีคนจ้างไปทำงานก่อสร้างหลังจากที่ Mikaël โพสต์ภาพของเขา   Mostafa หนุ่มผิวสีไร้บ้านแต่ไม่ไร้ความสามารถ เขาคนนี้สามารถพูดได้ถึง 8 ภาษา!!   แม้ชายคนนี้จะไร้บ้าน แต่เขาไม่หยุดที่จะหัวเราะและมองหามุมดีๆ ให้กับชีวิต เขายังโน้มน้าวให้ Mikaël หัวเราะไปกับเขาด้วย  …

  • ‘คุณจะเข้ามาขอเงินในนี้ไม่ได้’ ตำรวจไล่คนไร้บ้านออกจากร้าน แม้จะมีพลเมืองดีซื้อให้ก็ตาม…

    ‘คุณจะเข้ามาขอเงินในนี้ไม่ได้’ ตำรวจไล่คนไร้บ้านออกจากร้าน แม้จะมีพลเมืองดีซื้อให้ก็ตาม…

    ปัญหาของคนไร้บ้านมักจะเกิดขึ้นอยู่เสมอทั่วทุกมุมโลก ซึ่งในแต่ละประเด็นที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเป็นคนไร้บ้านที่ก่อกวนให้ผู้อื่นเดือดร้อน และในบางกรณีขณะที่พวกเขาอยู่เฉยๆ กลับมีความเดือดร้อนเข้ามาหาแทน เมื่อวันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2018 ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของชายไร้บ้านท่านหนึ่ง กำลังเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในร้าน McDonald’s ด้วยเหตุที่ว่าเขาไม่อาจนั่งอยู่ในร้านนี้ได้     นาย Yossi Gallo เป็นผู้บันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ไว้ทั้งหมด ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาและตรงดิ่งมายังชายไร้บ้านรายนี้ กล่าวกับเขาว่าต้องออกจากร้านทันที เนื่องจากเข้ามาขอเงินจากลูกค้า รวมไปถึงนาย Gallo ด้วย เพราะว่าทางพนักงานร้านกล่าวหาว่าเขาทำผิดระเบียบของทางร้านเช่นเดียวกัน   Yossi Gallo ผู้บันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าว   ทางด้านนาย Gallo กล่าวว่าชายไร้บ้านรายนี้ ไม่ได้เข้ามาขอเงินลูกค้าเลย และชุดอาหารที่เห็นนั้นเขาก็เป็นคนซื้อให้เอง ทำไมชายไร้บ้านจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะนั่งทานในร้านเหมือนกับลูกค้าคนอื่น… “ผมโบกมือให้เขา และพูดว่า ‘คุณหิวมั้ย’ เขาตอบผมกลับมาว่า ‘ใช่ครับ’ จากนั้นผมก็พาเขาเข้าร้าน จนเจอพนักงานรับออเดอร์กับชายไร้บ้านว่า ‘คุณจะไม่ได้รับอาหารใดๆ ทั้งสิ้น’”   ผู้จัดการร้านได้เข้ามาพูดคุยไกล่เกลี่ยกับนาย Gallo   เมื่อเหตุการณ์เริ่มรุนแรงขึ้น นาย Gallo โมโหถึงกับต้องตะโกนไปว่า “พวกคุณมันห่วยแตก เขาไม่ได้เข้ามาขออาหารกับผม…

  • จากเด็กหนุ่มไร้บ้าน ฝึกฝนตัวเองจนกลายเป็นช่างภาพฝีมือฉมัง กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย

    จากเด็กหนุ่มไร้บ้าน ฝึกฝนตัวเองจนกลายเป็นช่างภาพฝีมือฉมัง กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย

    หลายๆ คนอาจมองว่าเมื่อไหร่ที่เราตกไปอยู่ในจุดที่ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ต้องออกไปนอนอยู่ริมถนนข้างทาง นั่นคือจุดที่เราไม่มีโอกาสจะก้าวเข้าสู่คำว่าประสบความสำเร็จในชีวิตได้ แต่เราอยากให้เพื่อนๆ ได้มาลองอ่านเรื่องราวของชายคนนี้ดูก่อน ชายคนนี้มีชื่อว่า Carsten Schertzer ช่างภาพงานแต่งวัย 24 ปี เขาได้ผ่านช่วงชีวิตที่บางคนอาจมองว่าเป็นจุดต่ำสุด ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นมาสู่การประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพ   Carsten ช่างภาพงานแต่งในสหรัฐอเมริกา   Carsten จับกล้องครั้งแรกตอนที่เขาอายุได้ 11 ปี ในตอนนั้นเขาคือเด็กที่หลงใหลไปกับสเก็ตบอร์ดและอุตสาหกรรมช่างภาพ เขาฝันที่จะได้ทำอาชีพเป็นช่างภาพที่ได้ถ่ายรูปการเล่นสเก็ตบอร์ด เขาจึงเริ่มพยายามอย่างหนักเพื่อผลักดันตัวเองให้เข้าสู่วงการนั้นให้ได้ แต่แล้วจุดเปลี่ยนของชีวิตเด็กหนุ่มก็เกิดขึ้นในตอนที่เขาอายุแค่ 16 ปี เด็กหนุ่มจำเป็นต้องออกจากโรงเรียน ก่อนที่จะต้องมาใช้ชีวิตอาศัยอยู่ตามข้างถนนในแถบตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เขาเข้าสู่การเป็นเด็กไร้บ้านอย่างแท้จริง นอนในสวนสาธารณะหรือไปอาศัยโซฟาบ้านเพื่อน   ภาพผลงานของเขาในปัจจุบัน .   ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงพยายามไล่ตามความฝันของตัวเอง จนกระทั่งอายุ 18 ปี ได้มีจุดเปลี่ยนในชีวิตเกิดขึ้นอีกครั้ง เขาตัดสินใจเก็บกระเป๋าสะพายกล้องขับรถไปเมืองซานฟรานซิสโก เพื่อเริ่มอาชีพช่างภาพงานแต่งของตัวเอง เขาต้องนอนในรถนานหลายสัปดาห์ ใช้ร้านกาแฟ Starbucks เป็นที่ทำงาน สิ่งที่เขาสามารถเรียกลูกค้าให้เข้ามาสนใจการถ่ายรูปของตัวเองได้มีเพียงแค่พอร์ตโฟลิโอฝีมือการถ่ายสเก็ตบอร์ดเท่านั้นเอง   .   แล้วในที่สุดลูกค้าหลายๆ คนก็เริ่มให้ความสนใจ ติดต่อเข้ามาจ้างงานเขามากขึ้นเรื่อยๆ…

  • ยูทูบเบอร์ปลอมเป็นคนไร้บ้าน เข้าร้านอาหารอ้างว่ามีเงิน แต่พนักงานร้านไม่เชื่อ…

    ยูทูบเบอร์ปลอมเป็นคนไร้บ้าน เข้าร้านอาหารอ้างว่ามีเงิน แต่พนักงานร้านไม่เชื่อ…

    ว่ากันว่าคนที่ดูดีไม่จำเป็นต้องมีหน้าตาที่หล่อสวยเสมอไป แต่สิ่งที่จะทำให้เราดูพิเศษกว่าคนอื่น ส่วนหนึ่งก็มาจากเรื่องของ ‘เครื่องแต่งกาย’ ที่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะรูปร่างรวมถึงบุคลิกของเราเอง ซึ่งการแต่งตัวนี้เองก็ทำให้เราสามารถบ่งบอกความเป็นตัวเองออกมาผ่านสไตล์ หรือลุค ที่เราต้องการจะสื่อออกมาได้อีกด้วย ทว่าก็ด้วยสังคมแบบในปัจจุบัน ที่เสื้อผ้าได้กลายเป็นปัจจัยบ่งบอกฐานะอย่างหนึ่ง จึงทำให้ยูทูบเบอร์คนหนึ่งได้ทำการทดสอบพนักงานร้านอาหารว่า ถ้าเขาใส่เสื้อผ้าแบบคนไร้บ้านไปกินอาหาร พนักงานจะให้เขาเข้าไปหรือไม่และพนักงานจะมีท่าทีอย่างไรต่อเขาบ้าง     โดยหนุ่มคนนั้นก็คือ Coby Persin ยูทูบเบอร์มหาเศรษฐีชาวอเมริกันชื่อดังวัย 23 ปี เขาได้กลายเป็นที่รู้จักกันว่าชอบทำคลิปแกล้งคน รวมถึงทำการทดลองสังคมในด้านต่างๆ ด้วย ซึ่งในคราวนี้เขาได้ทำการทดสอบปฏิกิริยาของพนักงานคนหนึ่งของร้านอาหารในรัฐฟลอริด้า ด้วยการปลอมตัวเป็นคนไร้บ้านที่ดูไม่มีเงินแต่จะเข้าไปกินอาหารภายในร้าน ในตอนแรกนั้นเขาก็เดินเข้าไปในร้านแล้วถามพนักงานต้อนรับว่า พอจะมีโต๊ะว่างสำหรับให้เขากับ Ronaldo เพื่อนของเขากินอาหารบ้างไหม แต่สิ่งที่พนักงานคนนั้นตอบกลับมาก็คือ “ขอโทษด้วย แต่ผมไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เพราะสถานที่นี้มันคงแพงไปสำหรับคนอย่างคุณ”     แต่ Coby ก็ยังคงไม่ยอมและถามขอดูเมนูหน่อยก็ยังดี และมีอยู่ประโยคหนึ่งที่เขาบอกว่าเขามีเงินพอสำหรับค่าอาหารแน่ๆ  ซึ่งก็แน่นอนว่าพนักงานคนนั้นก็ปฏิเสธเช่นเดิม โดยให้เหตุผลว่าที่นี่ไม่สามารถเสิร์ฟอาหารให้แก่คนอย่างเขาได้ ทว่าก็ยังมีคำขอโทษตามมาด้วยเช่นกัน เมื่อ Coby มีท่าทีว่าไม่ยอมไป พนักงานคนดังกล่าวก็กล่าวไล่ให้เขาหลบไปให้พ้นจากหน้าร้าน แถมยังแนะนำว่าให้ไปกินอาหารที่ร้านแมคโดนัลน์ หรือร้านอื่นๆ แทน แต่อย่างไรก็ตามต้องไม่ใช่ที่ร้านอาหารแห่งนี้อย่างแน่นอน ต่อจากนั้นมหาเศรษฐีคนนี้จึงใช้โทรศัพท์โทรเรียก Ronaldo เพื่อนของเขาให้มาที่ร้านนี้โดยด่วน ซึ่งเพื่อนของเขาก็มาอย่างทันควันพร้อมกับรถเปิดประทุนยี่ห้อโรลส์-รอยซ์คันหรู    …

  • ผู้คนระดมเงินซื้อเปลให้กับชายไร้บ้าน เพื่อให้คู่หูชิวาว่าของเขาได้ใช้ชีวิตที่ดีขึ้น

    ผู้คนระดมเงินซื้อเปลให้กับชายไร้บ้าน เพื่อให้คู่หูชิวาว่าของเขาได้ใช้ชีวิตที่ดีขึ้น

    เวลาที่คนเรารักสุนัขมากๆ มากจนคิดว่ามันเป็นครอบครัวเดียวกับเรา อะไรที่เรามีเราก็จะอยากให้มันมีด้วย เราได้กินอะไรก็อยากให้มันกินด้วย ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับมัน เหมือนกับเรื่องนี้ ที่ชายไร้บ้านชื่อ Hector ต้องการให้ Amy สุนัขพันธุ์ชิวาว่าของเขาให้ได้ใบอนุญาตสัตว์เลี้ยง ซึ่งจะสามารถทำให้ระบุตัวเจ้าของสุนัข รวมถึงประวัติของสุนัขเองด้วย แต่เนื่องจากเขาไม่มีบ้านอยู่จึงทำให้ไม่สามารถขอใบอนุญาตได้ เขาจึงต้องการความช่วยเหลือ     เมื่อวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2018 ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ Piper Wood ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนของเธอชื่อ Berni Gutierrez ว่าเธอเจอ Hector กับ Amy ที่ห้างใน Duarte รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และเขาต้องการความช่วยเหลือ Wood ผู้ก่อตั้ง Hand in Paw มูลนิธิช่วยเหลือสุนัขในแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า “เขาไม่สามารถขอใบอนุญาตสัตว์เลี้ยง ได้เพราะว่าเขาไม่มีบ้านอยู่ เขากลัวว่าพนักงานควบคุมสัตว์กับตำรวจจะเอามันไปจากเขา” “เพื่อนของฉันบอกว่า ‘เจ้าหมามันถูกดูแลอย่างดีเลย มันมีชุดใส่และมีเครื่องประดับพร้อมกับทาสีเล็บด้วย และตอนที่พูดถึงเรื่องของเจ้าหมา Hector ก็เริ่มร้องไห้  เรามาช่วยเหลือชายคนนี้กันเถอะ เจอกันที่นั่นในอีก 10 นาทีนะ’”     และเมื่อ Wood ได้เจอกับ Hector เธอก็เข้าใจทันทีว่าทำไมเพื่อนเธอถึงอยากให้ช่วยเหลือเขาขนาดนี้ พวกเขาได้คุยกันแต่ว่ามันค่อนข้างยากที่จะเข้าใจเขา…

  • ลุงทำบัตรปชช. หาย กลายเป็น ‘คนไร้บ้าน’ ได้รับความช่วยเหลือจนกลับมายืนได้อีกครั้ง!

    ลุงทำบัตรปชช. หาย กลายเป็น ‘คนไร้บ้าน’ ได้รับความช่วยเหลือจนกลับมายืนได้อีกครั้ง!

    การโจรกรรมตัวตนนั้นไม่ใช่เรื่องตลกแม้แต่นิดเดียว ซึ่งในบางกรณี โจรพวกนี้อาจไม่ได้ขโมยแค่เงินของคุณ พวกเขายังสามารถขโมยทั้งชีวิตคุณไปได้อีกด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นกับ John Helinski จากเมืองแทมปา รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่เขาค้นพบว่าบัตรประจำตัวประชาชนของตัวเองถูกขโมย เขาไม่รู้ว่าจะไปขอความช่วยเหลือที่ไหน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นพลเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ว่าเขานั้นเกิดในประเทศโปแลนด์ และเขาไม่มีใบสูติบัตรเพื่อยืนยันตัวตน เมื่อเงินของเขาถูกโจรกรรมไปจนหมด เขาจึงถูกบังคับให้ออกจากบ้าน ไม่มีที่อยู่อาศัย เขาเลยกลายเป็นคนไร้บ้าน ต้องนอนในกล่องกระดาษใต้ม้านั่งบนถนนแทมปาเป็นเวลากว่า 3 ปี อย่างโดดเดี่ยว ถูกลืมโดยสิ้นเชิงและไม่มีตัวตน     วันหนึ่งในปี 2015 John ได้ตัดสินใจเข้าไปขอความช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือคนไร้บ้านที่เพิ่งก่อตั้งชื่อว่า Community Housing Solutions Center ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าการที่เขาเดินเข้าประตูนั้นไปจะเป็นก้าวแรกที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปในทางที่ดีขึ้น เขาได้รับการช่วยเหลือโดย Charles Inman นักสังคมสงเคราะห์ที่พยายามช่วยเขาอย่างเต็มที่ในการหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาและทำไมเขาถึงกลายเป็นคนไร้บ้าน “เขาจำเป็นต้องมีบัตรประชาชน แต่พวกเราไม่สามารถทำให้เขาใหม่ได้หากไม่มีใบสูติบัตรเพื่อยืนยัน” Charles อธิบาย แต่เขาไม่ยอมแพ้ให้ John ต้องกลับไปอยู่ข้างถนน เขากล่าวว่า “ผมไม่มีตัวเลือกนอกจากการทำให้สำเร็จ”     Charles ยังได้รับความช่วยเหลือจาก Dan McDonald ตำรวจจากสำนักงานตำรวจแทมปา…

  • คาเฟ่ปฏิเสธออร์เดอร์ของหญิงสาว ที่ต้องการจะซื้อเครื่องดื่มให้กับคนไร้บ้าน!?

    คาเฟ่ปฏิเสธออร์เดอร์ของหญิงสาว ที่ต้องการจะซื้อเครื่องดื่มให้กับคนไร้บ้าน!?

    Lindsey Winson นักศึกษาสาขาจิตวิทยาและสังคมอายุ 31 ปี และ Stuart Henderson แฟนหนุ่มอายุ 38 ปี ไปรับประทานอาหารเช้าที่ Argo Lounge ในเมืองปีเตอร์โบโร ประเทศอังกฤษ เวลาประมาณ 9.45 น. เมื่อวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา ในขณะที่เธอกำลังเดินไปเข้าห้องน้ำ เธอก็พบกับคนไร้บ้านอายุประมาณ 20 ปีนั่งอยู่ข้างนอกตรงทางเดิน เธอจึงเดินเข้าไปคุยและให้เงินกับชายผู้นั้นไปจำนวนหนึ่ง หลังจากที่ให้เงินแล้ว เธอก็เดินกลับเข้าไปในร้านเพื่อขอซื้อกาแฟร้อนกับผู้จัดการให้ชายคนนั้นได้ดื่ม แต่เธอกลับถูกปฏิเสธออกมา     Lindsey กล่าวว่า “ฉันถามเหตุผลและได้คำตอบมาว่าพวกเขามีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติดและสร้างความวุ่นวายข้างนอก เลยปฏิเสธที่จะให้อาหารหรือเครื่องดื่มร้อนๆ” เธอถามทางร้านว่าพวกเขาเคยมีปัญหากับชายผู้นี้หรือไม่ และผู้จัดการก็ตอบว่าใช่ เธอจึงบอกผู้จัดการว่าชายคนนั้นเล่าให้ฟังว่าช่วยทำความสะอาดหลังจากที่มีคนไร้บ้านอีกคนปัสสาวะไปทั่วเมื่อคืนก่อน ผู้จัดการยอมรับว่าเขาก็เห็นว่าชายคนนั้นช่วยทำความสะอาดจริงๆ แต่ก็ยังปฏิเสธที่จะขายให้เพราะเป็นนโยบายของทางร้าน ทางด้านคนไร้บ้านก็บอกกับเธอว่าพนักงานของร้านได้เทน้ำไปทั่วเพื่อไม่ให้พวกเขานอนที่นี่     Stuart แฟนหนุ่มของเธอ ได้โพสต์จดหมายของเขาที่ส่งถึง Justin Carter กรรมการผู้จัดการของร้าน Argo ลงเฟซบุ๊ก และได้มีการแชร์ต่อกันไปกว่า…

  • ก็มันตื่นเต้นอ่ะ!! ชายไร้บ้านดีใจ ได้รับของขวัญเป็นเสื้อโค้ทใหม่ตัวใหม่เอี่ยม

    ก็มันตื่นเต้นอ่ะ!! ชายไร้บ้านดีใจ ได้รับของขวัญเป็นเสื้อโค้ทใหม่ตัวใหม่เอี่ยม

    สำหรับเหล่าคนไร้บ้านแล้ว ชีวิตของพวกเขาในแต่ละวันต่างก็ต้องเต็มไปด้วยความยากลำบากอย่างมากมาย เพราะด้วยความที่พวกเขาไม่มีเงิน ทำให้พวกเขาบางวันก็อาจจะไม่มีอาหารตกถึงท้องซะด้วยซ้ำ หนำซ้ำด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปทุกวันก็ทำให้ร่างกายของพวกเขาอาจจะต้องเจ็บปวด เพราะว่าไม่มีเครื่องนุ่งห่มที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ ด้วยเหตุนี้ใครหลายคนเมื่อมีโอกาสได้พบเจอกลุ่มคนเหล่านี้ ก็อาจจะมอบสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่สามารถมอบให้ได้ เพราะถือว่าเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เพื่อให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ และสำหรับคนไร้บ้านแล้วน้ำใจเพียงเล็กๆ น้อยๆ ของเราก็อาจจะเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ให้กับชีวิตของเขาก็เป็นไปได้     เหมือนกับชายคนนี้ที่ได้รับเสื้อโค้ทใหม่เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น ทว่าท่าทีของเขามันกลับสร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นได้อย่างไม่รู้ลืม เพราะใครจะไปคิดว่าเสื้อเพียงตัวเดียว จะทำให้คนๆ หนึ่งสามารถดีใจแบบสุดๆ ชนิดที่ว่ากระโดดโลดเต้นออกมาเลยทีเดียว โดยภาพแห่งความประทับใจนี้เกิดขึ้นเมื่อ กลุ่มคนหนุ่มกลุ่มหนึ่งในสหราชอาณาจักร ตัดสินใจตระเวนมอบของขวัญให้กับคนไร้บ้านหลายคนภายในเมืองที่พวกเขาอาศัยกันอยู่ ซึ่งในการปฏิบัติการครั้งนี้พวกเขาก็ได้ถ่ายวิดีโอวินาทีสำคัญๆ เก็บเอาไว้ด้วย     ซึ่งการแจกจ่ายของขวัญก็เป็นไปด้วยความปกติ จนกระทั่งมาถึงการมอบของขวัญให้กับชายไร้บ้านคนหนึ่ง ซึ่งของที่คนกลุ่มนี้มอบให้เขาก็คือ เสื้อโค้ทสีครีมแสนสวย โดยในตอนที่นำไปมอบนั้นพวกเขาได้เก็บเสิื้อตัวนี้ไว้ในหีบห่อก่อน เพื่อให้ชายไร้บ้านคนดังกล่าวไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าสิ่งของที่พวกเขามอบให้นั้นคืออะไร     เมื่อชายคนนั้นแกะของดูแล้วพบว่าเป็นเสื้อโค้ทตัวใหม่เอี่ยม เขาก็แสดงความดีใจออกมาจนหลายคนสามารถสัมผัสได้ถึงความสุขที่เขามีในตอนนั้น โดยเขารีบถอดเสื้อตัวเก่าออกแล้วสวมเสื้อที่เพิ่งได้รับมาในทันที ซึ่งวินาทีนี้เองที่หน้าตาของเขาดูยิ้มแย้ม พร้อมทั้งมีแววตาแห่งความสุขเกิดขึ้นบนใบหน้าของเขา     จากนั้นชายไร้บ้านคนนี้ก็สวมเสื้อตัวใหม่ไปส่องกระจกเพื่อดูมันช่างสวยงามเพียงใดเมื่ออยู่บนตัวของเขา เมื่อได้เห็นตัวเองในกระจกแล้ว เขาก็แสดงความสุขที่มีออกมาด้วยการเต้นระบำเหมือนกับเด็กๆ เลยก็ว่าได้ และภาพแห่งความสุขแบบง่ายๆ ของชายคนนี้ก็สร้างความตื้นตันใจให้กับใครหลายคนรวมถึงกลุ่มคนที่ช่วยเหลือกลุ่มนี้ด้วย     ในตอนท้ายที่สุดแล้วชายคนนี้ก็พนมมือขึ้นเหนือหัว เหมือนกับว่าเขากำลังอธิษฐานขอบคุณสรวงสวรรค์…

  • เด็กชายไร้บ้านใช้ชีวิตอยู่ในศูนย์ฯ มาตลอด น้ำตาซึมเมื่อได้เห็นเตียงของตัวเองเป็นครั้งแรก

    เด็กชายไร้บ้านใช้ชีวิตอยู่ในศูนย์ฯ มาตลอด น้ำตาซึมเมื่อได้เห็นเตียงของตัวเองเป็นครั้งแรก

    สำหรับใครหลายคน เตียงนอนอาจจะเป็นเพียงอุปกรณ์สามัญที่มีกันอยู่ในทุกบ้าน และอาจจะละเลยความสำคัญของมันไป แต่สำหรับเด็กบางคนแล้วการได้มีเตียงนอนเป็นของตัวเอง เป็นเสมือนพรจากสวรรค์อันยิ่งใหญ่ ที่อาจสร้างความสุขให้แก่เขาจนถึงขั้นน้ำตาซึมได้เลยทีเดียว นี่คือเรื่องราวของเด็กชายวัย 8 ปีชื่อว่า Daeyrs และ Dionna แม่ของเขา จากเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ต้องใช้เวลาเกือบทั้งหมดของชีวิตของเขาอาศัยอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือคนไร้บ้าน เนื่องมาจากแม่ของเขาที่ในอดีตเคยเป็นพยาบาลฝึกหัดเกิดตกงานขึ้นมา จึงทำให้สูญเสียบ้านไปในที่สุด   หนูน้อยกับห้องใหม่ของเขา   แต่ก็เหมือนกับมีพรจากสวรรค์ส่งมาให้ถึงแม่ลูกคู่นี้ เมื่อทั้งคู่ได้รับบ้านหลังหนึ่งจากทางการรัฐมิชิแกน แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน รวมถึงเตียงนอนที่ Daeyrs อยากได้ที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะว่าตลอดทั้งชีวิตของเขาที่ผ่านมา ไม่เคยมีเตียงนอนเป็นของตัวเองเลยแม้แต่เตียงเดียว และต้องนอนบนพื้นมาโดยตลอด โดยสิ่งของติดตัวที่ทั้งคู่ได้นำเข้าไปในบ้านใหม่ที่ได้รับมานั้น ก็มีเพียงแค่ ที่นอนแบบเป่าลมพร้อมกับเก้าอี้อีกเพียงแค่ 2-3 ตัวเพียงเท่านั้น นั่นจึงทำให้นักสงคมสงเคราะห์ได้ยื่นมาเข้ามาช่วยเหลือแม่ลูกคู่นี้ โดยพวกเขาได้ส่งเรื่องต่อไปยัง Humble Design ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ช่วยเหลือผู้คนยากไร้ต่างๆ ให้ช่วยเหลือครอบครัวนี้หน่อย   ทึ่งไปเลยทีเดียว   ตกแต่งจนกลายเป็นบ้านสุดหรูหรา   และองค์กรนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พวกเขาได้ช่วยตกแต่งห้องนอนใหม่ให้กับหนูน้อย Daeyrs แบบจัดเต็ม ที่ไม่เพียงมีแต่เตียงนอนนุ่มๆ ที่เขาอยากได้เพียงเท่านั้น เพราะว่ามันยังเต็มไปด้วยของเล่นรวมถึง อุปกรณ์ต่างๆ อีกเป็นจำนวนมากที่รอคอยให้หนูน้อยคนนี้ได้เข้ามาเป็นเจ้าของ และแล้วนาทีแห่งความตื้นตันใจก็มาถึงในวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อหนูน้อยคนนี้ได้เข้ามายังบ้านใหม่ของเขา ที่ได้รับการตกแต่งอย่างจัดเต็ม โดยมีทั้งเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ นานารวมถึงไฟสวยงามต่างๆ แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่รอคอยเขาอยู่นั่นก็คือห้องนอนห้องใหม่ของเขานั่นเอง…

  • นักศึกษาสัตวแพทย์ รักษาเพื่อนสี่ขาของคนไร้บ้านฟรีๆ เพราะพวกมันคือหัวใจของพวกเขา!!

    นักศึกษาสัตวแพทย์ รักษาเพื่อนสี่ขาของคนไร้บ้านฟรีๆ เพราะพวกมันคือหัวใจของพวกเขา!!

    แม้ว่าการอยู่ข้างถนนจะลำบาก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เหล่าคนไร้บ้าน มีใจเมตตาต่อสัตว์น้อยลงแต่อย่างใด เราจึงอาจเห็นว่าคนไร้บ้านหลายคนได้เลี้ยงสัตว์อย่าง ‘หมา’ เอาไว้เพื่อเป็นเพื่อนแก้เหงา ในทางกลับกัน ‘หมา’ ก็จะได้มีเจ้าของที่รักมันจริงๆ เช่นเดียวกัน ทว่าก็เพราะความที่ต้องอยู่อย่างไม่มีบ้าน ทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับภัยต่างๆ มากมายอย่างอากาศหนาว ฝนตก ฝุ่นควัน จนบางทีเหล่าสัตว์เลี้ยงก็อาจจะเกิดป่วยขึ้นมาได้ และก็อาจไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธีเนื่องจากเจ้าของไม่มีเงินที่จะพาไปรักษา ทำให้นักศึกษาสัตวแพทย์คนหนึ่งตัดสินใจรับรักษาสัตว์ให้แก่คนไร้บ้านแบบฟรีๆ ซะเลย   คนไร้บ้านกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขา   นักศึกษาสัตวแพทย์คนที่ว่านี้มีชื่อว่า Ruby Shorrock นักศึกษาสัตวแพทย์ปีสุดท้าย ผู้มีจิตใจเมตตาอารีต่อสัตว์ ซึ่งเธอเธอได้ตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะช่วยรักษาสัตว์ให้แก่เหล่าคนไร้บ้าน โดยก่อตั้งคลินิกที่ชื่อว่า The Trusty Paws Clinic ขึ้นมาเพื่อจะช่วยรักษาสัตว์ให้ฟรี ตามที่เธอได้ตั้งใจเอาไว้ สำหรับเหตุผลในการทำเช่นนี้ Ruby ก็บอกว่า เป็นเพราะความที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ที่เธออาศัยอยู่ เป็นเมืองที่มีวิกฤติคนไร้บ้านที่เลวร้ายที่สุดเมืองหนึ่งในสหราชอาณาจักร   Ruby Shorrock นักเรียนสัตวแพทย์ปีสุดท้ายผู้มีจิตใจงาม   เธอจึงรู้ในทันทีว่ามีผู้คนมากมายต้องการความช่วยเหลืออย่างแน่นอน และยิ่งในหมู่คนไร้บ้านที่มีสัตว์เลี้ยงแล้ว เจ้าขนปุยพวกนี้ก็ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเช่นเดียวกัน   สัตว์เลี้ยงรอคอยการช่วยเหลืออีกมาก   แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆ ทว่าการช่วยเหลือของเธอก็ได้เคยช่วยชีวิตสุนัขของคนไร้บ้านมาแล้วหลายราย ซึ่งบางตัวนั้น Ruby ก็บอกเอาไว้ว่ามันเปรียบเสมือนกับแก้วตาดวงใจของเจ้าของมันเลยก็ว่าได้ และเธอก็รู้สึกดีใจที่ได้ช่วยให้พวกเขามีความสุข   ช่วยเหลือเพื่อให้พวกเขามีความสุข  …

  • หนุ่มไร้บ้านนอนอยู่หน้าสถานรับเลี้ยง เพื่อหวังว่าจะได้เจอสุนัขเพื่อนรักที่หายไปอีกครั้ง

    หนุ่มไร้บ้านนอนอยู่หน้าสถานรับเลี้ยง เพื่อหวังว่าจะได้เจอสุนัขเพื่อนรักที่หายไปอีกครั้ง

    การที่เราจะเลี้ยงสัตว์สักตัวหนึ่ง แน่นอนว่าหากเราได้รับมันเข้ามาเลี้ยงแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เราก็จะยิ่งมีความรักและความผูกพันธ์กับมันเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ และถ้าเมื่อมันหายไปเราก็คงจะเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก เหมือนกับการได้เสียเพื่อนไปคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับคนไร้บ้านแล้ว สัตว์เลี้ยงของพวกเขาเป็นเสมือนเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากที่ลำบากผ่านเรื่องราวต่างๆ มาด้วยกัน และถ้ามันหายไปพวกเขาก็คงไม่มีเงินที่จะไปติดใบประกาศตามหามันกลับมา สิ่งที่พวกเขาทำได้ก็มีแค่เพียงการออกตามหาตามสถานสงเคราะห์ต่างๆ ด้วยความหวังว่าจะได้มันคืนกลับมาใช้ชีวิตด้วยกันอีกครั้ง   มานอนที่หน้าสถานสงเคราะห์เพื่อหวังจะได้เจอหมาของเขาอีกครั้ง   และชายไร้บ้านคนนี้ก็เช่นเดียวกัน เพราะว่าเขาไปนอนเฝ้าที่สถานสงเคราะห์ตลอดทั้งคืน เพื่อหวังว่าเมื่อเจ้าหน้าที่จับหมามา มันอาจจะเป็นหมาของเขาที่หายไปก็เป็นไปได้ เรื่องราวนี้ได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ของสถานสงเคราะห์สัตว์ Dekalb Animal Services ที่รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 18 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา เมื่อพวกเขาพบหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่งมา นอนขดอยู่ที่หน้าประตูสถานสงเคราะห์   เจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่   ในตอนแรกพวกเขาคิดว่าชายคนนี้น่าจะมาหาที่นอน แต่ว่าเมื่อไถ่ถามเขาแล้วกลับผิดคาด เพราะว่าเหตุที่เขามาที่นี่เพื่อจะมาตามหาหมาของเขาที่หายไป และเขารู้สึกหมดหวังในการตามหาหมาของเขากลับมา จึงได้มาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่นั่นเอง “พวกเราปลุกเขาขึ้น และเขาคนนั้นก็บอกว่าหมาของเขาได้หายไป จึงอยากให้ช่วยตามหาให้หน่อย”  Karen Hirsch โฆษกของสถานสงเคราะห์ดังกล่าวเล่าให้ฟัง ชายผู้ไร้บ้านคนดังกล่าวเล่าให้ฟังว่า ได้ใช้เงินทั้งหมดที่เขามีนั่งรถบัสมาที่สถานสงเคราะห์แห่งนี้ เพื่อหวังว่าเขาจะได้พบหมาของเขาอีกครั้ง   ด้วยความโชคดี ทำให้เขาได้หมากลับไปอยู่ด้วยอีกครั้งหนึ่ง   และดูเหมือนว่าคราวนี้จะเป็นความโชคดีของเขา เพราะจากที่เขาอธิบายลักษณะของคู่หูให้ฟัง ก็พบว่าหมาของเขาได้ถูกรับมาที่นี่เมื่อประมาณ 2…

  • รู้จักกับ Lee Godie ศิลปินไร้บ้านจากยุค 1960s ที่เปลี่ยนตู้ถ่ายรูปที่ป้ายรถเมล์ให้กลายเป็นสตูดิโอส่วนตัว

    รู้จักกับ Lee Godie ศิลปินไร้บ้านจากยุค 1960s ที่เปลี่ยนตู้ถ่ายรูปที่ป้ายรถเมล์ให้กลายเป็นสตูดิโอส่วนตัว

    ย้อนไปในยุค 60s ปี 1968 Lee Godie ศิลปินหญิงสุดเซอร์ชาวอเมริกันผู้เรียนรู้ศิลปะการวาดภาพด้วยตนเอง เธอเริ่มวาดรูปและขายภาพเหมือนของหญิงในสังคมชนชั้นสูงจนถึงปี 1990 Lee เป็นคนไร้บ้าน ส่วนมากที่ที่เธออาศัยในแต่ละวันก็จะแตกต่างกันไป ข้างถนน นอกอาคาร หรือโรงแรมสำหรับพักชั่วคราว บางครั้งต้องนอนข้างนอกท่ามกลางความหนาวเหน็บต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส แต่ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นวิถีชีวิตที่เธอเลือกเอง เนื่องจากตัวเธอเองมีเงินเก็บอยู่เยอะพอสมควร และท่าทางก็ไม่ได้มีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเป็นหลักแหล่ง วันหนึ่งเธอได้พบกับตู้ถ่ายรูปใกล้กับป้ายรถเมล์เกรย์ฮาวด์ในชิคาโก เธอใช้ตู้ถ่ายรูปแห่งนั้นเป็นราวสตูดิโอส่วนตัว เธอถ่ายรูปตัวเองแล้วนำรูปถ่ายเหล่านั้นมาตกแต่งด้วยลิปสติกและผงชงชาเย็นสำเร็จรูปจนกลายเป็นรูปภาพแบบที่ไม่เหมือนใครในยุคนั้น ซึ่งจะเก๋แค่ไหน มาดูกัน   ถ่ายรูปแบบมองบนเค้ามีกันมาตั้งแต่ยุคไหนแล้ว   ยิ้มอ่อน   ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็ต้องแต่งตามสไตล์สาวๆ   ป้าเป็นคนเก๋ๆ ชิคๆ   ต้องแต่งรูปแบบแนวๆ ด้วยนะเธอ   มันเป็นสไตล์น่ะหลานเอ๊ย!!   ตัวเก๋า ตัวจี๊ดต้องยกให้ป้า   แต่งหน้าเบาๆ .   ไม่เก๋าจริงอยู่ไม่ได้นะรุ่นป้าเนี่ย มันต้องมีคาแรคเตอร์เป็นของตัวเอง .   เป็นยุคแห่งความเท่จริงๆ สำหรับยุค 60s-90s   ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน…

  • กลุ่มวัยรุ่นทำทีเป็น ‘พลเมืองดี’ พาโฮมเลสเข้าร้านอาหารแล้ววิ่งหนี โดนชาวเน็ตวิจารณ์ยับ!!

    กลุ่มวัยรุ่นทำทีเป็น ‘พลเมืองดี’ พาโฮมเลสเข้าร้านอาหารแล้ววิ่งหนี โดนชาวเน็ตวิจารณ์ยับ!!

    Bullying หรือการกลั่นแกล้งคนอื่น เราเคยได้ยินมาหลายปีแล้ว คนที่ถูกกลั่นแกล้งนี้บางเคสอาจจะกลายเป็นโรคซึมเศร้า มีปมในจิตใจ แต่ที่ร้ายแรงที่สุดคนที่ถูกกลั่นแกล้งอาจจะตัดสินใจฆ่าตัวตายเลย การกลั่นแกล้งโดยส่วนใหญ่มักจะพบเจอในช่วงชีวิตที่กำลังมีการศึกษาเล่าเรียนอยู่กันอยู่ แต่ในเคสที่เราจะนำเสนอนี้เกิดขึ้นกับคนไร้บ้าน โดยที่เด็กสาวสามคนเข้าไปเสนอที่จะเลี้ยงข้าวให้แก่ชายไร้บ้าน และพาชายไร้บ้านเข้าไปในร้านอาหารแล้วสั่งอาหารให้เขา ก่อนที่จะกลุ่มวัยรุ่นสาวทั้งสามคนจะวิ่งหนีออกจากร้านอาหาร และทำให้เขาอับอายในโลกออนไลน์     อย่างไรก็ตาม หลังที่ภาพถูกแชร์ไปอย่างกว้างขวาง กลุ่มวัยรุ่นก็ถูกว่ากล่าวติเตียน ว่าการกระทำแบบนี้มันไม่เหมาะสม Sally Cudmore หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์อ้างว่าเด็กสาวสามคนอายุประมาณ 16 ปี หรือ 17 ปี เยาะเย้ยชายไร้บ้านและสัญญาว่าจะซื้ออาหารให้ เธอถ่ายรูปของเหล่าเด็กสามคนได้ข้างนอก และโพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า “สามสาวเข้ามาหา ถ่ายภาพชายไร้บ้าน และเดินตามหลังเขาไปและพูดว่าพวกเธอจะจ่ายค่าอาหารให้ชายไร้บ้าน พวกเธอบอกเขาให้นั่งลงที่โต๊ะและพวกเธอก็ไปที่เคาท์เตอร์ก่อนที่จะพูดคุยกับพนักงาน” เธออ้างว่าทั้งสามสาวออกไปข้างนอกร้านและหัวเราะเยาะเย้ย ก่อนที่ชายไร้บ้านจะทำตัวเลิกลั่กและถามกับพนักงานว่าพวกวัยรุ่นทั้งสามคนนั้นได้สั่งอาหารให้เขาหรือไม่? Sally ยังบอกอีก “ชายไร้บ้านรู้สึกอารมณ์เสียและขอโทษกับพนักงาน วัยรุ่นสาวทั้งสามที่อยู่นอกร้านได้บันทึกวิดีโอของชายไร้บ้านและยังหัวเราะเยาะเย้ยขณะที่ชายไร้บ้านนั้นเดินออกมาจากร้านอีกด้วย”     หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวโด่งดังขึ้นมา มีข้อความว่ากล่าวติเตียนเกี่ยวกับวัยรุ่นสาวมากมาย หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นได้ออกมากล่าว โดยอ้างว่าชายไร้บ้านเป็นฝ่ายเข้ามาขอบุหรี่พวกเธอก่อน ก่อนที่พวกเธอจะซื้อเครื่องดื่มให้เขา เธอยังกล่าวอีกว่า “ฉันบอกให้เขาเลิกยุ่งกับพวกเรา ก่อนฉันและเพื่อนจะเดินเข้าไปในร้าน Nando และแกล้งทำเป็นสั่งอาหารให้เขา เพื่อให้เขาเลิกยุ่งกับเรา และพนักงานที่เคาท์เตอร์ก็รู้เห็นด้วย” วัยรุ่นสาวอ้างว่าชายไร้บ้านคนนั้นพูดจาหยาบคายใส่เธอ เธอกล่าวต่อว่า “เขาไม่ควรพูดกับเราแบบที่เขาทำ เราเสนอที่จะซื้ออาหารให้เขาแต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอ และเขาก็เริ่มพูดไม่ดีกับเรา”     แต่ Emily Warress พยานอีกคนได้กล่าวว่า “แม้แต่คนขับแท๊กซี่ก็บอกให้เธอปล่อยเขาไป เพราะว่าเธอหลบอยู่หลังรถและกระโดดออกมาสร้างความหวาดกลัวให้ชายไร้บ้าน” Courtney…

  • ใจดีจัด!! ชายชราร่วมแบ่งปันความสุข ด้วยการแขวนสิ่งของสำหรับคนไร้บ้านบนต้นคริสต์มาส

    ใจดีจัด!! ชายชราร่วมแบ่งปันความสุข ด้วยการแขวนสิ่งของสำหรับคนไร้บ้านบนต้นคริสต์มาส

    ของขวัญวันคริสต์มาสสำหรับบางคน อาจไม่ใช่ของขวัญที่มีราคาแพง หรือของขวัญที่สิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ แต่ของขวัญของเขานั้นคือ ‘การให้’ แก่ผู้ที่ต้องการใช้จริงๆ ซะมากกว่า ซึ่งพวกเขาเหล่านี้อาจจะเป็นคนที่มีความสุขมากกว่าการได้รับของขวัญชิ้นใดๆ ในโลกนี้ก็เป็นได้ เรื่องราวในฤดูหนาวแต่อบอุ่นหัวใจนี้ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเป็นเรื่องราวความดีของชายแก่คนหนึ่งทางเหนือของรัฐเพนซิลเวเนีย ด้วยความที่เขาเห็นเหล่าคนไร้บ้านทั้งหลายต้องยืนหนาวอย่างโดดเดี่ยวอยู่ข้างถนน เขาจึงมีความคิดอยากจะมอบของขวัญวันคริสต์มาสให้แก่ผู้คนเหล่านี้ ที่ในชีวิตของบางคนอาจจะไม่เคยได้รับของขวัญในเทศกาลแสนมีความสุขนี้เลยก็เป็นได้       ในทุกๆ ปีเมื่อถึงวันคริสต์มาส ชายคนนี้จะนำต้นคริสต์มาสมาวางเอาไว้หน้าบ้านของตน แต่ในปีนี้แทนที่เขาจะตกแต่งต้นคริสต์มาสด้วยสิ่งของที่คนทั่วๆ ไปใช้ตกแต่งอย่างไฟสีสวยต่างๆ กระดิ่งกรุ๊งกริ๊ง กล่องของขวัญขนาดจิ๋ว และอื่นๆ อีกมากมาย เขากลับทำสิ่งที่ต่างออกไปกว่านั้น     ซึ่งสิ่งที่เขาทำก็คือ การนำเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มอุ่นๆ รองเท้าสภาพดี รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตอย่าง อุปกรณ์ทำความสะอาด รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอีกมากมาย มาแขวนเอาไว้ที่ต้นคริสต์มาสแทน ชายชราคนนี้ได้เชิญชวนผู้คนต่างๆ ในชุมชนของเขาให้มาหยิบสิ่งของต่างๆ เหล่านี้ได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนสาเหตุที่เขาทำเช่นนี้ เขาบอกว่าอยากที่จะสร้างสิ่งดีๆ ให้กับสังคมในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และเขาก็ไม่ต้องการสิ่งใดเป็นการตอบแทน นอกจากนี้เขายังหวังว่าการกระทำของเขาในครั้งนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนอื่นๆ ได้ร่วมแบ่งปันความสุขให้แก่กันและกันในเทศกาลส่งท้ายปีเช่นนี้ด้วย   ร่วมแบ่งปันความสุขส่งท้ายปีกันดีกว่า.. ที่มา: inspiremore

  • ชายไร้บ้านยืนตากฝนนาน 2 ชั่วโมง เฝ้าเงินจำนวน 20,000 บาทที่ตกอยู่จนเจ้าของกลับมาเอาคืน

    ชายไร้บ้านยืนตากฝนนาน 2 ชั่วโมง เฝ้าเงินจำนวน 20,000 บาทที่ตกอยู่จนเจ้าของกลับมาเอาคืน

    ทุกคนสามารถทำความดีได้ ไม่เกี่ยวว่าเราจะต้องมีเงินมากมายมหาศาล เพราะแม้แต่ชายไร้บ้านคนนี้เขาก็ได้ทำความดีเอาไว้ให้กับคนแปลกหน้า ด้วยความเสียสละและทุ่มเท เรื่องราวของชายคนนี้ถูกนำเสนอผ่านสำนักข่าว Daily Mail ในวันที่ 15 ธันวาคม 2017 เมื่อชายไร้บ้าน James John McGeown ที่อาศัยอยู่ในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ เขาได้ไปเจอกับกระเป๋าใบหนึ่งที่วางเอาไว้หน้ารถที่เปิดกระจกอยู่ ซึ่งมีเงินเกือบ 20,000 บ้านอยู่ในกระเป๋า   James ชายไร้บ้านที่เห็นกระเป๋าพร้อมกับเงินจำนวนมากในนั้น   ด้วยความที่เขากลัวว่าจะมีคนมาขโมยกระเป๋าใบนั้นไป เขาจึงยืนเฝ้าเอาไว้นานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา แต่รอไปนานขนาดนั้นเจ้าของก็ยังไม่กลับมาที่รถซักที เขาจึงนำกระเป๋าใบนั้นไปฝากไว้ที่สำนักงานกฎหมายใกล้ๆ พร้อมกับทิ้งกระดาษโน้ตเอาไว้ในรถ เมื่อ John McMonagle เจ้าของรถและ Alyshia Orford เจ้าของกระเป๋าใบนั้นกลับมาที่รถ พวกเขาเจอกับกระดาษโน้ตที่บอกว่ากระเป๋าถูกฝากเอาไว้ที่ไหน เขาจึงเดินทางไปรับคืนพร้อมกับรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด การช่วยเหลือที่น่าประทับใจนี้ ทำให้ John ตั้งรับเงินบริจาคผ่านเว็บไซต์ GoFundMe โดยตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 215,000 บาท เพื่อนำมันไปมอบให้กับ James ชายไร้บ้านที่ช่วยพวกเขาเอาไว้   John…

  • ชาวบ้านด่าเทศบาล ‘ลดทอนความเป็นมนุษย์’ คนไร้บ้าน หลังพบที่กั้นพร้อมป้ายประจานติดอยู่

    ชาวบ้านด่าเทศบาล ‘ลดทอนความเป็นมนุษย์’ คนไร้บ้าน หลังพบที่กั้นพร้อมป้ายประจานติดอยู่

    กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย หลังจากที่ทางเทศบาลของเมืองนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษ ได้นำแผงกั้นมาล้อมรอบชายไร้บ้านคนหนึ่ง พร้อมกับมีผู้พบเห็นป้ายและข้อความที่ประณามชายคนดังกล่าว โดยข้อความในป้ายกระดาษบอกว่า “ชายคนนี้ปฏิเสธที่จะเข้าพักในโรงแรมเป็นเวลา 3 คืน” ซึ่งภายหลังข้อความดังกล่าวถูกทางเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเอาออกไป     ชายวัย 27 คนดังกล่าวบอกว่าเขาจำเป็นต้องปฏิเสธข้อเสนอการเข้าพักในโรงแรมดังกล่าว เนื่องจากมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาก่อนหน้านี้ “มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดมาก พวกเขาบอกว่าผมเป็นขอทาน ซึ่งอันที่จริงแล้วผมไม่ใช่ คนอื่นๆ บอกผมว่าผมสามารถนอนหน้าร้านนี้ได้ เพราะร้านนี้ได้ปิดตัวลงแล้ว ผมถูกปฏิเสธการเข้าพักในโรงแรมดังกล่าว เพราะว่าชื่อของผมอยู่ในรายชื่อขอทาน และผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพวกเขาต้องทำแบบนี้กับผม”     ส่วนทางด้านคุณ Denis Tully เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับคนไร้บ้านของเมือง Nottingham ก็ได้ออกมาประณามการกระทำดังกล่าวเช่นกัน “การนำที่กั้นมาวางไว้มันเป็นสิ่งที่ลดทอนความเป็นคนของเขามากๆ ผมคิดว่าเราควรตั้งคำถามถึงสิทธิความเป็นมนุษย์ที่ใครสักคนหนึ่งควรจะได้รับ สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเขานั้นมันคือสัญลักษณ์ของป้ายเตือน และป้ายเตือนสมควรที่จะนำมาใช้กับคนอย่างนั้นหรือ??” คุณ Denis กล่าว     แต่อย่างไรก็ตามทางด้านนาย Toby Neal เจ้าหน้าที่ด้านงานบริการประชาชนก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “ผมคิดว่าป้ายข้อความดังกล่าวน่าจะเป็นความเข้าใจผิด และมันก็น่าจะเป็นฝีมือของใครบางคนที่นำมาติดไว้ พวกเราตั้งใจที่จะดูแลความปลอดภัยของทุกๆ คนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองให้มีชีวิตที่ดีขึ้นมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้” นาย Toby Neal กล่าว   .   นอกจากนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แผงกันดังกล่าวนั้นถูกนำไปวางไว้เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของชายคนดังกล่าว พร้อมทั้งขอโทษถึงความไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการใช้ป้ายกันดังกล่าวอีกด้วย “เราขอโทษสำหรับการเลือกใช้สัญลักษณ์ดังกล่าว นี่เป็นการเริ่มใช้แผงกั้นนี้เป็นครั้งแรก แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้เราได้สั่งระงับการใช้แผนกันดังกล่าว…

  • ผู้คนเอา ‘เสื้อกันหนาว’ ไปผูกตามรั้วในที่สาธารณะเพื่อให้เหล่า ‘คนไร้บ้าน’ หยิบไปใส่

    ผู้คนเอา ‘เสื้อกันหนาว’ ไปผูกตามรั้วในที่สาธารณะเพื่อให้เหล่า ‘คนไร้บ้าน’ หยิบไปใส่

    ฤดูหนาวได้ย่างกรายเข้ามาแล้ว จากที่เราได้สัมผัสก็เริ่มจะรู้สึกว่าอากาศเริ่มเย็นลง แต่โชคดีที่บ้านเราไม่ได้อยู่ในเขตที่เรียกว่าหนาวจัดเหมือนดังประเทศในแถบตะวันตก ซึ่งเราก็พอเดาออกว่าอากาศระดับที่อุณหภูมิติดลบมันจะหนาวขนาดไหน และเมื่อถึงฤดูหนาว หนึ่งในผู้ที่ต้องทรมานจากปัญหานี้มากที่สุดก็คือเหล่าคนไร้บ้านที่มีจำนวนมากมายและยังไม่สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างเด็ดขาด แต่ก็มีประชาชนจำนวนมาก พร้อมมอบช่วยเหลือกันในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน     ที่เมืองสวอนซี ประเทศเวลล์ได้มีการช่วยเหลือและแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับชาวเมืองด้วยกัน โดยคุณ Vicki Jones อายุ 46 ปี ได้ขอความร่วมมือจากร้านเสื้อผ้าในเมืองในการบริจาคเสื้อผ้ากันหนาวเพื่อที่จะนำไปให้กับคนไร้บ้านในเมือง ร้านเสื้อผ้าต่างๆ ก็ได้นำเสื้อผ้าที่ตกรุ่นหรือไม่ได้รับความนิยมมาให้กับโครงการนี้ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำเสื้อผ้าเหล่านี้ไปผูกตามรั้วในเมืองเพื่อเป็นการปลุกให้ชาวเมืองคนอื่นที่อยากจะบริจาคมาทำตาม     สาเหตุที่ทำแบบนี้ก็เพราะว่าไม่มีใครรู้จำนวนคนไร้บ้านที่แท้จริง และคิดว่าการนำเสื้อผ้าเหล่านี้ไปผูกไว้กับรั้วจะทำให้คนไร้บ้านที่ไม่กล้ามารับของจากองค์กรที่ช่วยเหลือคนไร้บ้าน ได้ออกมารับบริจาคสิ่งของเหล่านี้ “เรามีเสื้อผ้าจำนวนมากที่มันไม่สามารถขายได้และมันเรื่องยากที่จะนำมารีไซเคิล ฉันเคยเห็นไอเดียนี้ในเฟสบุ๊ก ฉันก็เลยคิดว่ามันน่าจะดีหากฉันนำมาใช้กับเมืองของเราบ้าง เราคิดว่านี่อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดด้วยการตั้งร้านที่มีชื่อว่า The Community Cwtch เพื่อเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือของชุมชน” Vicki กล่าว     ซึ่งผลก็ออกมาเกินคาด โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากประชาชนอย่างล้นหลามในการนำเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นมามอบให้กับคนไร้บ้านได้คลายความหนาวในฤดูกาลนี้     และโครงการดีๆ นี้ก็อาจจะถูกนำไปต่อยอดในการช่วยเหลือคนไร้บ้านในด้านอื่นๆ อีกต่อไป ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ของการแบ่งปันที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ที่มา unilad

  • บริษัทในนิวยอร์กเสนอให้สร้างอพาร์ตเมนต์รังผึ้ง กลายเป็นความหวังใหม่ของคนไร้บ้าน

    บริษัทในนิวยอร์กเสนอให้สร้างอพาร์ตเมนต์รังผึ้ง กลายเป็นความหวังใหม่ของคนไร้บ้าน

    การไม่มีที่พักถือเป็นปัญหาระดับโลก โดยเฉพาะในเมืองหลวงอย่างนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีสถิติคนไร้บ้านเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1955 ตอนนี้มีประมาณ 61,000 คน ที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงสำหรับคนจรจัดของนิวยอร์ก และอีกหลายคนอาศัยอยู่ตามท้องถนน     ปัญหาดังกล่าวนี้จะไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาสั้นๆ บริษัทด้านครีเอทีฟเอเจนซีอย่าง Framlab จึงได้เสนอโครงการ Homed เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาคนไร้บ้าน     ทางบริษัทเสนอให้ใช้ผนังด้านนอกของอาคารซึ่งเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ดัดแปลงเป็นที่พักใหม่สำหรับคนไร้บ้าน โดยมีลักษณะเป็นกล่องทรงหกเหลี่ยมแบบรังผึ้งที่สร้างขึ้นด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติ และสามารถนำเอาไปติดตั้งกับเฟรมเหล็กข้างตึกที่มีอยู่แล้วได้ในทันที     สำหรับตัวกล่อง Homed ถูกออกแบบมาให้ทนต่อสภาพอากาศในนิวยอร์กตลอดทั้งปี โดยเปลือกนอกจะเป็น Oxidized Aluminum Cladding ส่วนด้านในรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ จะเป็น 3D Print ด้วยวัสดุ Bioplastic ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ง่าย     ในส่วนของกระจกด้านหน้ากล่อง Homed จะเป็นกระจก PMMA Smart Glass ที่สามารถใช้ฉายเนื้อหาดิจิตอลต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นอาร์ตเวิร์กหรือแม้แต่โฆษณา     อย่างไรก็ตาม ขณะที่โครงการดังกล่าวดูเหมือนจะไปได้ด้วยดีและน่าประทับใจ ผู้สร้างได้ออกมาบอกว่าการติดตั้งกล่องรังผึ้งเหล่านี้ไม่สามารถแก้ปัญหาที่มีอยู่อย่างสมบูรณ์แบบ เขาบอกว่า “ขนาดที่ใหญ่โตและความซับซ้อนของสถานที่จำเป็นต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายและควรจะมีนโยบายมารองรับ ที่สำคัญคือการออกแบบของชุมชนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้”    …

  • ขนลุก!! กลุ่มคนไร้บ้านร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ ร้องเพลงประสานเสียงในฮอลคอนเสิร์ต

    ขนลุก!! กลุ่มคนไร้บ้านร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ ร้องเพลงประสานเสียงในฮอลคอนเสิร์ต

    คนไร้บ้าน คือกลุ่มคนที่ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ส่วนมากมีสาเหตุมาจากการไม่มีรายได้ จึงสามารถซื้อบ้านหรือเช่าหอพักอยู่ได้นั่นเอง เรามักจะพบเห็นพวกเขาเป็นขอทานอยู่ตามข้างทางเดิน หรือนอนอยู่ในที่สาธารณะไม่ว่าจะเป็นในตรอกซอย ส่วนสาธารณะ หรือว่าข้างถนน แต่นอกจากปัญหาเรื่องฐานะแล้ว ยังมีปัญหาใหญ่ๆ อีกอย่างหนึ่งที่พบในคนกลุ่มนี้ นั่นคือปัญหาที่ว่าพวกเขารู้สึกไม่มีคุณค่านั่นเอง เนื่องจากไม่สามารถทำอะไรที่ดูเป็นชิ้นเป็นอันอย่างการหางานหรือมีบ้านอยู่ จึงทำให้พวกเขารู้สึกว่าตนเองนั้นด้อยค่าเหลือเกิน และก่อตัวเป็นปัญหาเรื้อรังในจิตใจ แต่จริงๆ แล้วคนกลุ่มนี้ไม่ได้ไร้คุณค่าแต่อย่างใด พวกเขาแค่หาคุณค่าในตนเองยังไม่เจอเท่านั้นเอง หากเพียงแค่เขาลองสร้างคุณค่าให้กับตัวเองโดยการทำอะไรสักอย่างให้ประสบผลสำเร็จ พวกเขาก็จะรู้สึกได้ว่าตนเองมีจุดยืนในสังคมเช่นเดียวกับคนทั่วๆ ไป   The Dallas Street Choir กำลังทำการแสดงใน Carnegie Hall   The Dallas Street Choir คณะประสานเสียงที่ล้วนมีสมาชิกเป็นคนไร้บ้าน ได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าคนไร้บ้านก็สามารถสร้างคุณค่าให้กับตนเองและสังคมได้ โดยพวกเขาเริ่มต้นรวมกลุ่มผ่านทางชายที่ชื่อว่า Jonathan Palant เขามีความเชื่อว่าคนทุกคนสมควรได้รับโอกาสที่จะเริ่มชีวิตใหม่เสมอ และต้องการจะทำให้คนไร้บ้านเหล่านี้รู้สึกมีคุณค่า ในปี พ.ศ. 2557 Jonathan เดินทางไปตามศูนย์ช่วยเหลือคนไร้บ้านหลายๆ แห่งและชักชวนคนให้มาร่วมกันร้องเพลงด้วยกันเพื่อเสริมสร้างกำลังใจให้แก่กัน ดังที่ Carolyn Smith สมาชิกหญิงในคณะพูดว่า “ฉันรู้สึกว่านี่แหละคือครอบครัว แล้วฉันก็อยากกลับมาร้องเพลงร่วมกับพวกเขาอีก” จากนั้นคนไร้บ้านที่รู้สึกชอบที่ได้ร้องเพลงร่วมกันจึงรวมกลุ่มกันเป็น The Dallas Street Choir   Carnegie…

  • จากรถบัสสองชั้นได้ถูกรีโนเวทขึ้นใหม่กลายเป็นที่พักของผู้ยากไร้ ภายในดูสบายตามากๆ

    จากรถบัสสองชั้นได้ถูกรีโนเวทขึ้นใหม่กลายเป็นที่พักของผู้ยากไร้ ภายในดูสบายตามากๆ

    อากาศอันหนาวเย็นคงทำให้หลายคนคิดถึงที่นอนพร้อมผ้าห่มอุ่นๆ มาช่วยคลายหนาว แต่ถ้าเป็นคนไร้บ้านล่ะ พวกเขาจะมีโอกาสได้นอนในที่อุ่นแบบนั้นบ้างมั้ย? นั่นจึงเป็นที่มาของผลงานของสองสาวที่ได้เปลี่ยนรถบัสสองชั้นให้กลายเป็นที่พักของผู้ยากไร้ Sammy Barcroft และ Joanne Vines สองสาวเจ้าของผลงานและเป็นผู้นำของกลุ่มมูลนิธิเพื่อการกุศล The Rucksack Project ทั้งคู่ได้ทำการตกแต่งรถบัสสองชั้นที่กำลังจะกลายเป็นเศษเหล็ก ให้เปลี่ยนไปจนกลายเป็นที่พักอาศัยสำหรับคนไร้บ้าน   สองสาวตัวตั้งตัวตีในการริเริ่มการเปลี่ยนแปลงรถบัสในครั้งนี้   มีการวางโครงสร้างต่างๆ โดยรอบ   ภายในของรถที่เต็มไปด้วยที่นั่ง   ก็ถูกรื้อออกไปเพื่อเปลี่ยนให้มันกลายเป็นที่พักอาศัยแสนสวย   ที่พักดังกล่าวตั้งอยู่ในเมือง Portsmouth ประเทศอังกฤษ ซึ่งระยะเวลาในการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของมันทั้งหมดต้องใช้เวลานานถึง 8 เดือนด้วยแรงคนกว่า 70-80 คน และงบประมาณในการทำทั้งหมดอีกกว่า 1,000,000 บาท โดยเงินส่วนใหญ่ที่ใช้นั้นได้รับบริจาคมาเกือบทั้งหมด   การตกแต่ง ปูพื้นภายในได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว   จากที่โล่งๆ ไม่มีอะไรก็ได้รับการแต่งเติมเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ   ติดผ้าม่านเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว   ภายในก็จะมีตั้งแต่เตียงสองชั้น 12 ชุด โซนห้องรับแขก รวมถึงห้องครัวแบบครบชุด เพื่อให้คนที่ได้เข้ามาพักสามารถใช้ชีวิตในที่แห่งนี้ได้อย่างมีความสุขแบบครบครันในทุกๆ เรื่อง พวกเธอหวังว่าเจ้าสิ่งนี้จะพอช่วยเยียวยาปัญหาความหนาวเหน็บของคนไร้บ้านที่มีอยู่กว่า 300,000 คนในเมือง…

  • หญิงสาวช่วยหางานและบ้านหลังใหม่ให้ชายไร้บ้าน หลังเขานำเช็ค 350,000 บาทมาคืนเธอ

    หญิงสาวช่วยหางานและบ้านหลังใหม่ให้ชายไร้บ้าน หลังเขานำเช็ค 350,000 บาทมาคืนเธอ

    เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่งที่พบเช็คมูลค่า 350,000 บาท เขานำมันส่งคืนเจ้าของเดิมเพียงเพราะว่าความถูกต้องนั้นมีมูลค่ามากกว่าเช็คใบนั้น แต่ทว่าสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับชายหนุ่มเมื่อดอกเตอร์ Roberta Hoskie เจ้าของเช็คใบนั้นกลับให้บ้านและงานใหม่กับชายหนุ่มเป็นสิ่งตอบแทนกับความดีของเขา หลังจากที่ชายหนุ่มพบเช็คของเธอตกอยู่บนถนนในเมือง New Haven สหรัฐอเมริกา   นาย Elmer Alvarez หนุ่มไร้บ้านพลเมืองดี และดอกเตอร์ Hoskie เจ้าของเช็คที่ชายหนุ่มเก็บได้   ดอกเตอร์ Hoskie ให้ชายไร้บ้านคนดังกล่าวเข้าเรียนในโรงเรียนเกี่ยวกับธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เธอเป็นเจ้าของ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเขาในระยะยาว ด้วยความที่เคยเป็นคนไร้บ้านมาก่อนจึงทำให้ดอกเตอร์หญิงผู้นี้เข้าใจถึงความยากลำบากที่คุณ Alvarez ต้องเผชิญเป็นอย่างดี เธอบอกว่าการช่วยเหลือเขาด้วยวิธีนี้เป็นเพียงหนทางเดียวที่จะทำให้เขายืนได้ด้วยตัวเอง และกลับไปช่วยเหลือผู้อื่นได้อีก     “คุณไม่ต้องทนหนาวอยู่ข้างนอกอีกต่อไปแล้ว เรามีบ้านหลังใหม่ที่จะมอบให้คุณ” ดอกเตอร์หญิงกล่าว คุณ Alvarez รู้สึกดีใจอย่างมากที่มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับเขา ชายหนุ่มรู้สึกทราบซึ้งกับสิ่งที่เขาได้รับ “โลกของเรายังมีนางฟ้าอยู่จริงๆ ด้วยความสัตย์จริง ผมต้องการที่จะคืนเช็คใบนี้ให้กับเธอ โดยที่ไม่ต้องการอะไรตอบแทนเลย” ชายหนุ่มกล่าว     ที่มา dailymail

  • ชายหนุ่มตัดผมให้คนไร้บ้านแบบฟรีๆ ในที่สุดแล้วเขาก็ได้รับการตอบแทนเป็นร้านบาร์เบอร์

    ชายหนุ่มตัดผมให้คนไร้บ้านแบบฟรีๆ ในที่สุดแล้วเขาก็ได้รับการตอบแทนเป็นร้านบาร์เบอร์

    แทบทุกคนเคยชินกับการตัดผมในร้านบาร์เบอร์หรือร้านเสริมสวยที่มีเกลียวหมุนๆ อยู่หน้าร้าน แต่สำหรับที่เมืองฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา คุณสามารถเห็นการตัดผมได้ง่ายๆ ตามท้องถนน กับฝีมือของช่างตัดผมที่มีชื่อว่า Brennon Jones ชายหนุ่มผู้ตัดผมให้กับคนไร้บ้านโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ชายคนนี้ทำอาชีพตัดผมมานานกว่า 11 ปี แต่เขาก็ได้วางกรรไกรและหันไปทำงานอื่น ก่อนที่จะกลับมาเป็นช่างตัดผมอีกครั้งหนึ่งที่ตัดผมให้กับคนไร้บ้านแบบฟรีๆ ภายใต้โครงการที่เขาตั้งชื่อให้ว่า Haircuts for Homeless   ช่างตัดผมหนุ่ม Brennon ผู้ที่คอยตัดผมให้คนไร้บ้านแบบฟรีๆ   ด้วยความที่ชายหนุ่มไม่มีร้านเป็นของตัวเอง เขาจึงแบกอุปกรณ์ทุกอย่างเดินไปบนท้องถนนและตัดผมให้กับคนไร้บ้านตามทางเท้า หัวมุมตึก หรือเกาะกลางถนน ด้วยเก้าอี้และโต๊ะที่เตรียมมา เขาไม่ได้ตัดผมให้กับคนไร้บ้านที่อาศัยกันอยู่ในเมืองฟิลาเดลเฟียเพียงที่เดียว เพราะเขาได้เดินทางไปยังเมืองแคมเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์ เมืองที่มีประชากรคนไร้บ้านมากเป็นอันดับ 4 ของสหรัฐอเมริกา และเขาก็ได้ไปตัดผมให้กับคนเหล่านั้น     Brennon เล่าว่า “ก่อนหน้านี้ผมได้รู้จักกับหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่งที่ทำให้ผมได้มองชีวิตต่างออกไปจากที่เคย และนั่นก็ได้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมทำสิ่งนี้ขึ้นมา” เขาได้ตัดผมให้คนไร้บ้านทุกๆ วัน โดยในแต่ละวันจะมีเข้ามาประมาณ 20 คน เขาบอกว่าตอนนี้น่าจะตัดผมให้คนไร้บ้านไปมากกว่า 1,000 คนแล้ว     จนกระทั่งในเดือนเมษายน 2017 เขาได้รู้จักกับ Sean…

  • หญิงสาวชาวเอเชียผันตัวเองจาก “คนไร้บ้าน” สู่ “สมาชิกสภาเมืองเคมบริดจ์” ที่อายุน้อยที่สุด

    หญิงสาวชาวเอเชียผันตัวเองจาก “คนไร้บ้าน” สู่ “สมาชิกสภาเมืองเคมบริดจ์” ที่อายุน้อยที่สุด

    มีโอกาสน้อยมากที่คนไร้บ้านจะกลายเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญทางสังคม โดยเฉพาะในแวดวงการเมือง แต่ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้ หากเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง Nadya Okamoto นักศึกษาวัย 19 ปี จากที่เคยเป็นเพียงคนไร้บ้าน เธอได้ผลักดันตัวเองจนกระทั่งมีโอกาสได้เป็นสมาชิกสภาที่อายุน้อยที่สุด Okamoto เป็นผู้ก่อตั้ง PERIOD องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพให้กับผู้หญิงที่มีรายได้ต่ำ ตอนนั้นเธอเป็นแค่นักเรียนมัธยมปลายเท่านั้น     ปัจจุบันเธอได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ในรัฐแมสซาชูเซตส์ และกำลังรับมือกับสิ่งที่ท้าทายที่สุดในชีวิต นั่นคือการถูกเสนอชื่อให้เป็นสมาชิกสภาพเมืองเคมบริดจ์ที่อายุน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม กว่าหญิงสาวจะประสบความสำเร็จในวันนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย Okamoto เติบโตขึ้นในสังคมที่มีคนผิวขาว ในพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ทำให้ถูกคนรอบข้างรังแกตั้งแต่เด็กเพราะเธอเป็นคนเอเชียซึ่งเป็นคนส่วนน้อยในสังคม     หญิงสาวเล่าว่า “ตอนนั้นฉันเป็นเด็กเอเชียตัวเล็กคนหนึ่ง แต่ผู้คนมักจะมองมาที่ฉันสายตาแปลกๆ นั่นทำให้ฉันต่อต้านทุกอย่างที่เป็นการบ่งบอกว่าเป็นคนเอเชีย” “ฉันบอกคนอื่นๆ ว่าเกลียดคณิตศาสตร์ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วฉันเก่งคณิตศาสตร์และฉันก็ชอบคณิตมากด้วย” นอกจากนี้หญิงสาวยังต้องเผชิญกับปัญหาภายในครอบครัวด้วย ทั้งการใช้ความรุนแรงและการเหยียดผิวภายในครอบครัวของตัวเอง     พ่อของเธอเป็นคนญี่ปุ่น-อเมริกัน ส่วนแม่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายไต้หวันที่เกิดในอินเดีย นั่นทำให้ครอบครัวของเธอมีความขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติอย่างต่อเนื่อง เท่านั้นยังไม่พอ Okamoto เติบมากับตายายที่เป็นชาวไต้หวัน ซึ่งเกลียดคนญี่ปุ่นมากๆ เพราะพวกเขาเคยอยู่ในบ้านที่ถูกยึดครองโดยทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นอกจากญี่ปุ่นแล้ว ตายายของหญิงสาวยังรังเกียจและดูถูกคนจีนด้วย เวลาที่เดินผ่านย่านไชน่าทาวน์…

  • หญิงสาวช่วยเหลือหนุ่มไร้บ้าน หลายเดือนต่อมาเขานำเงินมาคืนพร้อมอุดหนุนบ้านที่เธอขาย

    หญิงสาวช่วยเหลือหนุ่มไร้บ้าน หลายเดือนต่อมาเขานำเงินมาคืนพร้อมอุดหนุนบ้านที่เธอขาย

    การช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากบางครั้งเราก็ไม่ต้องการที่จะได้รับอะไรตอบแทน เพราะว่าเราเจตนาที่จะช่วยให้เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เชื่อว่าโลกนี้หากทำความดีย่อมได้รับการตอบแทน ในเดือนมกราคมปี 2017 หญิงสาวนายหน้าค้าบ้านคนหนึ่งชื่อว่า ShelbyLynn Alexander กำลังติดไฟแดงอยู่บนถนนแห่งหนึ่งในรัฐ North Carolina และเธอก็ได้เหลือบไปเห็นชายไร้บ้านคนหนึ่งนั่งอยู่กับหมาของเขาที่ข้างถนน โดยเขาได้ถือป้ายที่มีข้อความเขียนว่า “ต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อย ผมจ่ายคืนแน่ในวันข้างหน้า”     เธอได้สังเกตเห็นว่าสภาพเสื้อผ้าของเขามอมแมมอย่างมาก แถมยังไม่สามารถให้ความอบอุ่นได้เพียงพอเทียบกับอากาศในตอนนั้นด้วย แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเสียสละผ้าห่มให้แก่หมาของเขา เธอรู้ในตอนนั้นเลยว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจดีและเธอต้องลงจากรถไปช่วยเหลือเขาแล้ว “ฉันเดินตรงเข้าไปหาเขาและบอกว่า ปกติฉันจะให้แต่อาหารแทนที่จะเป็นเงิน แต่ในคราวนี้ฉันยื่นแบงค์ดอลล่าให้เขาสามใบพร้อมด้วยนามบัตรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของฉัน หากว่าเขาต้องการที่สำหรับอยู่อาศัย” ShelbyLynn ให้สัมภาษณ์     เธอยังบอกอีกว่าเขาทำหน้าเขินอายเล็กน้อยในตอนที่กำลังรับเงินจากเธอ ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นไร้บ้านจริงๆ หรือว่าเป็นคนที่กำลังดวงตกอยู่กันแน่ แต่เธอก็ได้อวยพรให้เขาโชคดีก่อนที่จะขับรถออกไป หลายเดือนต่อมา นายหน้าสาวคนนี้ก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าคนหนึ่งให้หาบ้านให้หน่อย เธอจึงนัดพบเขาในวันถัดมา เพื่อจะพาไปดูบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ในละแวกนั้น เมื่อเธอไปถึงจุดที่นัดพบกับลูกค้าคนนั้นก็มีหมาตัวหนึ่งวิ่งมาหาเธอ ซึ่งเธอจำหมาตัวนี้ได้ว่าเป็นของชายไร้บ้านเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ว่าคราวนี้หมาตัวนี้กลับมีรูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์และดูมีความสุข ทันใดนั้นเจ้าของหมาตัวนี้ก็ลงมาจากรถกระบะคันใหม่เอี่ยม     ซึ่งได้สร้างความเซอไพรส์แก่เธอมากเพราะว่าชายคนดังกล่าวดูราวกับเป็นคนละคนกับคนที่เธอเคยให้ความช่วยเหลือ โดยในครั้งนี้เขาแต่งตัวสะอาดสะอ้านและมีใบหน้าที่สดใส นายหน้าสาวคนนี้ได้สารภาพว่าตอนแรกที่เจอเขา เธอคิดว่าเขาเป็นมิจฉาชีพที่แต่งตัวโทรมๆ เพื่อมาขอเงินจากคนอื่นแต่จริงๆ มันไม่ใช่อย่างนั้นเลยทีเดียว     “ฉันพูดไม่ออกเลยทีเดียว เขาอธิบายให้ฉันฟังว่าภรรยาเก่าของเขาเอาทุกอย่างที่เป็นของเขาไปและหนีไปอยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ในตอนนั้นเขาไม่อยากได้เงินหรอกเขาแค่อยากได้ความช่วยเหลือ”  “เขามีอาชีพเป็นวิศวกร และในตอนนี้เขาก็มีงานใหม่ รถใหม่ และกำลังมองหาบ้านใหม่ นอกจากนั้นเขาต้องการตอบแทนความหวังดีของฉันด้วยการอุดหนุนบ้านที่ฉันเป็นนายหน้าให้ เขาใช้คืนเหมือนอย่างที่เขียนตอนแรกจริงๆ ”  แล้วเขาก็คืนแบงค์ดอลล่าร์สามใบให้เธอพร้อมกับนามบัตรของเธอเองเหมือนกับที่เขาเคยได้รับ…

  • เด็กสาวตัวน้อยแสนใจบุญ ปลูกผักและสร้างบ้านให้กับ ‘คนไร้บ้าน’ ได้ถึง 11 หลัง!!

    เด็กสาวตัวน้อยแสนใจบุญ ปลูกผักและสร้างบ้านให้กับ ‘คนไร้บ้าน’ ได้ถึง 11 หลัง!!

    เวลาที่เจอกับคนไร้บ้าน พวกเราส่วนใหญ่ก็จะซื้ออาหารไปให้พวกเขาหรือเอาเงินให้ไปซื้อของที่จำเป็น โดยที่ไม่ได้ต่อยอดอะไร แต่สำหรับเด็กน้อยคนนี้กลับทำสิ่งที่มากกว่านั้น เมื่อเด็กสาววัย 9 ขวบที่ชื่อว่า Hailey Ford ตัดสินใจปลูกผักแจกจ่ายให้กับคนไร้บ้าน รวมทั้งพยายามสร้างบ้านให้กับพวกเขาอีกด้วย จนเรื่องราวของเธอกลายเป็นที่ชื่นชมบนโลกอินเตอร์เน็ต จะเป็นอย่างไร เราลองไปชมกันเลย   สาวน้อยคนนี้อาศัยอยู่ในเมือง Bremerton รัฐวอชิงตัน วันหนึ่งเธอกับแม่ได้เจอกับชายไร้บ้านตกงานชื่อ Edward เข้า พวกเธอจึงซื้ออาหารมาให้เขา แต่ว่าการให้ในครั้งนั้นเด็กสาวเชื่อว่ามันยังไม่เพียงพอ   เธอตัดสินใจปลูกผักสวนครัวเพื่อที่จะทำไปแจกจ่ายให้กับคนไร้บ้าน โดยในปีแรกที่เธอเริ่มปลูกผัก เธอสามารถแจกจ่ายไปได้ถึง 58 กิโลกรัม และเธอก็ทำมาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้   แต่เธอก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพออีกอยู่ดี หลังจากนั้นไม่นาน เธอจึงเกิดไอเดียสร้างบ้านเคลื่อนที่ให้กับคนไร้บ้านซะเลย   เธอบอกว่า “การที่ยังมีคนไร้บ้านอยู่เป็นเรื่องไม่ถูกต้องอย่างมาก ฉันคิดว่าทุกคนควรต้องมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง” .   บ้านที่เธอได้วางแผนเอาไว้คือ หลังคาจะติดตั้งด้วยแผ่นรับพลังงานแสงอาทิตย์ ส่วนรอบๆ ก็จะบุด้วยผ้ายีนส์เพื่อกันความร้อน   แน่นอนว่าหากไม่มีเงินทุนเธอคงไม่สามารถทำให้ฝันเป็นจริงได้ Miranda แม่ของเธอจึงได้ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ให้เข้ามาบริจาคเงินผ่านองค์กรที่ชื่อว่า Together Rising เพื่อนำมาสานฝันครั้งนี้ .   เธอได้รับเงินบริจาคมากถึง 100,000…

  • หนุ่มมอบรองเท้า Nike Air Max มูลค่ากว่า 4,500 บาทให้คนไร้บ้าน หลังเห็นเขาต้องเดินเท้าเปล่า

    หนุ่มมอบรองเท้า Nike Air Max มูลค่ากว่า 4,500 บาทให้คนไร้บ้าน หลังเห็นเขาต้องเดินเท้าเปล่า

    เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นที่เมืองนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษหลังจากที่หนุ่มใหญ่คนหนึ่ง ได้มอบรองเท้า Nike Air Max มูลค่ากว่า 4,500 บาทให้กับหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่ง หลังจากที่เห็นชายคนดังกล่าวเดินเท้าเปล่าอยู่บนถนน ในระหว่างที่ Craig Wells ชายวัย 36 ปีกำลังทานอาหารอยู่ในร้าน Wagamama ในเมืองนอตทิงแฮม พร้อมกับภรรยาและลูกๆ ทั้ง 3 คนของเขา ชายหนุ่มได้สังเกตเห็นหนุ่มไร้บ้านคนดังกล่าวเดินผ่านเขาไป Wells จำชายไร้บ้านคนนั้นได้ เขาชื่อ Mark คุณพ่อลูก 3 จึงรีบวิ่งออกไปจากร้านด้วยเท้าเปล่าพร้อมกับทักทายหนุ่มไร้บ้านคนนั้นทันที     หลังจากที่ได้พูดคุยกัน คุณ Wells ก็ทราบว่าหนุ่มไร้บ้านคนนั้นใส่รองเท้าเบอร์เดียวกันกับเขา และด้วยความมีเมตตาคุณพ่อวัย 36 ปีจึงได้ถอดรองเท้าออกกำลังการคู่โปรดของเขาให้กับหนุ่มไร้บ้านทันที “นี่อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ดูหุนหันไปหน่อย แต่หลังจากที่ผมมองเห็นเขาผ่าหน้าต่าง สภาพของเขานั้นดูแย่มาก เขาสวมเพียงแค่ถุงเท้าขาดๆ เท่านั้น” คุณ Wells เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้น คุณพ่อผู้ใจดีเล่าว่าชายไร้บ้านคนดังกล่าวรู้สึกทราบซึ้งอย่างมากที่ได้รองเท้าคู่ใหม่ ” Mark ร้องไห้และบอกกับผมว่าไม่เคยมีใครทำอะไรแบบนี้กับเขามาก่อน ผมรู้สึกว่าเขาต้องการรองเท้าคู่นั้นมากกว่าผม” Wells กล่าว     ภาพของทั้งสองถูกผู้คนในร้านอาหารถ่ายเอาไว้ได้ และจากนั้นเรื่องราวของคุณพ่อลูก 3 ก็ถูกพูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ “ผมไม่ต้องการคำยกย่องอะไรสำหรับสิ่งที่ผมทำ สิ่งที่ผมอยากจะบอกทุกๆ คนก็คือ ความรักเป็นเหมือนของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด…

  • ผมไม่ไหวแล้วนะ!! คุณลุงหนีไปใช้ชีวิตในป่านาน 5 ปี ด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียว ‘เบื่อเมีย’

    ผมไม่ไหวแล้วนะ!! คุณลุงหนีไปใช้ชีวิตในป่านาน 5 ปี ด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียว ‘เบื่อเมีย’

    เรื่องราวของคุณลุงวัย 62 ปี จากเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษผู้นี้ กลายเป็นข่าวดังในต่างประเทศทันที หลังจากที่เขาได้หนีเข้าไปใช้ชีวิตในป่านานถึง 5 ปี ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ในที่พักอาศัยสำหรับคนไร้บ้าน ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้มาจากสาเหตุเดียวเท่านั้นคือ “เบื่อเมีย” ก่อนหน้าที่จะแต่งงานคุณ Malcolm Applegate เป็นคนที่ชื่นชอบในการทำสวน และมักจะสอนคนอื่นๆ เกี่ยวกับเทคนิคการทำสวนของเขา แต่หลังจากที่เริ่มต้นชีวิตแต่งงาน เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว คุณลุงก็เริ่มพบว่าชีวิตของเขานั้นเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ     คุณลุงเล่าว่าในช่วงแรกของการแต่งงานนนั้นทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี และภรรยาของเขาก็เป็นคนดีมากด้วย แต่หลังจากนั้นเธอก็เริ่มเข้ามาควบคุมชีวิตของเขา บางครั้งเขาต้องงดกิจกรรมโปรดเพื่อเอาใจเธอ และเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ความอดทนถึงขีดสุดเขาจึงตัดสินใจที่จะเก็บข้าวของหนีมาแบบดื้อๆ โดยไม่ได้ทำการหย่าร้างหรือบอกเธอเลย “ผมแต่งงานอยู่กับเธอประมาณ 3 ปี และจากนั้นทุกอย่างก็เริ่มแย่ลง และหลังจากนั้นผมก็เริ่มเบื่อที่เรามักจะทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ ” คุณลุงเล่าถึงชีวิตคู่ของเขา     ในตอนที่หนีออกมา คุณลุงวางแผนที่จะขับรถมอเตอร์ไซค์ไปรอบๆ กรุงลอนดอน แต่ทว่าระหว่างทางรถมอเตอร์ไซค์ของเขากลับถูกขโมยไป คุณ Malcolm จึงต้องเดินเท้าเป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์ จนกระทั่งมาถึงป่าแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับเมืองคิงส์ตัน ทางตอนใต้ของลอนดอน คุณลุงตัดสินใจค้างคืนที่นั่นและออกมาทำงานเกี่ยวกับการดูแลสวนให้กับศูนย์ชุมชนใกล้ๆ ในตอนเช้า “มีพวกเรา 3 คนค้างคืนอยู่ตรงนั้น เราไปทำงานที่ศูนย์ชุมชนใกล้ๆ…

  • ชายไร้บ้านชาวบราซิล เลือกนอนอยู่กับหลุมฝังของเพื่อนในสุสานมานานกว่า 10 ปี

    ชายไร้บ้านชาวบราซิล เลือกนอนอยู่กับหลุมฝังของเพื่อนในสุสานมานานกว่า 10 ปี

    เชื่อว่ามนุษย์เราเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง โชคชะตาอาจไม่ได้เป็นผู้กำหนดชีวิต แต่การกระทำของตัวเรานั่นแหละที่เป็นคนกำหนดว่าชีวิตของเราจะไปในทิศทางไหน จะดีหรือจะร้ายก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของเราเอง นาย Fabio Beraldo Rigol อายุ 47 ปี ชาวบราซิล ในอดีตเคยเป็นพนักงานออฟฟิศ แต่มีเหตุที่ต้องถูกไล่ออกจากงานเนื่องจากติดยาเสพติด และถูกครอบครัวตัดหางปล่อยวัดจนกลายเป็นคนไร้บ้านในที่สุด     เขากลายเป็นคนที่ไม่เหลืออะไรเลยในชีวิต นั่นก็เพราะว่าเขาเลือกทางเดินที่ผิด นาย Fabio ไร้ที่พึ่งไม่มีแม้แต่บ้านที่จะให้อาศัย เขาจึงไปอาศัยในสุสาน Brotas ในย่าน Santa Isabel เมือง Sao Paulo โดยนาย Fabio ได้เข้าไปอยู่ในสุสานแห่งนี้กับเพื่อนของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว 13 ปี กินนอนอยู่ร่วมกับศพทุกๆ คืน     ความจริงเขาก็ยังอยากที่จะมีบ้านดีๆ ไว้อาศัยอยู่ แต่เมื่อไม่มีทางเลือกมากนักก็ต้องทนอยู่ในที่แห่งนี้ เขาใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย ถึงแม้ว่าจะต้องอาศัยอยู่ร่วมกับศพ เขาก็ไม่กลัวและยังบอกอีกว่า เขาไม่เคยเห็นวิญญาณใดๆ เลยตลอด 13 ปีที่อยู่ในสุสานแห่งนี้ “ผมไม่กลัวคนตาย แต่ผมกลัวการมีชีวิตอยู่” Fabio กล่าว     ปัจจุบันนาย Fabio ก็ยังคงอาศัยอยู่ในสุสานแห่งนั้น คอยดูแลทำความสะอาดให้กับผู้ที่มาเยือน…

  • หญิงตัดสินใจช่วยคนไร้บ้านที่กำลังร้องไห้กับความทุกข์ แม้ทั้งคู่จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็ตาม…

    หญิงตัดสินใจช่วยคนไร้บ้านที่กำลังร้องไห้กับความทุกข์ แม้ทั้งคู่จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็ตาม…

    ปกติแล้วเวลาที่เราเห็นคนแปลกหน้าที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อนนั่งร้องไห้อยู่ เป็นเราจะทำยังไง จะเดินไปปลอบเขาคนนั้น หรือจะทำแค่มองแล้วก็คิดว่าเขาเจอกับอะไรมาถึงได้ร้องไห้กัน… โดยปกติแล้ว เราก็คงเลือกที่จะไม่เข้าไปยุ่งเพราะเราคงไม่อยากจะมีปัญหาตามมาหรือถูกมองว่าไปยุ่งเรื่องของเขา แต่กลับกันในเรื่องนี้การเข้าไปถามคนๆ หนึ่งว่าโอเคไหมต้องการอะไรหรือเปล่า กับทำให้เรื่องอบอุ่นหัวใจก่อตัวขึ้น… Katy Hurst หญิงคนหนึ่งที่ตั้งใจจะไปซื้ออาหารที่ร้านเบอร์เกอร์คิง ในเมืองอินดิเพนเดนซ์ รัฐมิสซูรี แต่แล้วเธอก็มองไปเห็นชายคนหนึ่งริมหน้าต่างกำลังนั่งร้องไห้ พร้อมกับเอามือกุมขมับอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าเธอไม่รู้จักชายคนดังกล่าวหรอก     แต่ในเวลาไม่นาน เธอก็จำได้ว่าชายคนนั้นคือชายไร้บ้านที่เธอมักจะเห็นบ่อยๆ ในชุมชนของเธอ ซึ่งเขามักไปไหนมาไหนพร้อมกับจักรยานที่มีตระกร้าอยู่ข้างหลังเสมอ ด้วยความที่เธอเป็นคนใจดี Katy เลยตัดสินใจเข้าไปพูดคุยกับชายแปลกหน้าว่าเขาเป็นอะไร ทำไมถึงร้องไห้ ซึ่งนั่นทำให้เธอได้รู้ว่าชายคนนี้ผู้คนเรียกเขาว่า Pops อายุ 57 ปี และเขาก็กำลังตัดสินใจจะฆ่าตัวตาย     พอได้ยินแบบนั้นด้าน Katy ก็คงจะยอมไม่ได้ เธอจึงเสนอให้ Pops ไปที่บ้านเธอ เธอจะช่วยให้เขารู้สึกอยากมีชีวิตอีกครั้ง เธอได้เสนอผ้าอุ่นๆ อาหารอร่อยๆ ที่พักดีๆ ให้กับชายไร้บ้านคนดังกล่าว Pops ได้บอกไว้ว่า เขาอยากจะจบชีวิต เขาอยากจะให้มันผ่านไปเสียที แต่ Katy ก็ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น เธอเริ่มดูแลเขาทีละอย่างตั้งแต่อาหารการกิน ที่พัก ไปจนถึงการเป็นอยู่และเข้าตรวจสุขภาพ…

  • หญิงสาวยื่นมือช่วย “ชายไร้บ้าน” ทั้งหาบ้าน-หางาน ให้ถึง 2 ครั้ง แต่เธอกลับถูกเขาฆ่า!?

    หญิงสาวยื่นมือช่วย “ชายไร้บ้าน” ทั้งหาบ้าน-หางาน ให้ถึง 2 ครั้ง แต่เธอกลับถูกเขาฆ่า!?

    เป็นอีกหนึ่งคดีช็อกโลกที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เมื่อหญิงสาวผู้เป็นแม่คนได้หยิบยื่นมิตรไมตรีที่จะช่วยเหลือชายไร้บ้านให้กลับมามีชีวิตในสังคมได้อีกครั้ง แต่กลับถูกฆาตกรรมอย่างไร้เหตุผล!? เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2560 เว็บไซต์ Metro ได้รายงานการนัดไต่สวนคดีครั้งสำคัญของ Aaron Barley ชายวัย 23 ปี ที่ได้ก่อเหตุจงใจฆาตกรรมแม่ลูกผู้ที่เคยหยิบยื่นความช่วยเหลือและชีวิตใหม่ให้กับตัวเขาเอง…   Aaron Barley   Peter Wilkinson สามีของผู้เสียชีวิตวัย 47 ปีได้เล่าว่า เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2016 ซึ่งในตอนนั้นภรรยาของเขาได้พบกับ Aaron ที่กำลังประสบปัญหากลายเป็นคนไร้บ้านและต้องอาศัยหลับนอนอยู่ข้างซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ด้วยความสงสาร… Tracey Wilkinson จึงช่วยเหลือชายคนดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินค่าที่อยู่ชั่วคราวให้ หาอาหารให้ เคยมีการเชิญ Aaron ไปทานรับประทานอาหารค่ำที่บ้าน และจากนั้นฝ่ายสามีจึงตัดสินใจที่จะจ้างชายไร้บ้านให้กลับมามีงานทำอีกครั้ง   Tracey Wilkinson ผู้เสียชีวิต   กระทั่งต่อมาในช่วงกันยายนปีเดียวกันนั้นเอง Aaron ได้กลับไปใช้ยาเสพติดอีกครั้ง ทำให้เขาต้องกลับสู่สภาพการเป็นคนไร้บ้านอีกครั้ง แต่ถึงกระนั้นฝั่งครอบครัว Wilkinson ก็ยังยินดีที่จะหยิบยื่นโอกาสครั้งที่ 2 ให้ หลังพบสภาพเขาถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนักและนอนซมอยู่ข้างถนน แต่ฝันร้ายที่ไม่มีใครคาดคิดก็ได้เกิดขึ้น…

  • หนุ่มไร้บ้านที่มีความสุขที่สุดในโลก เปิดให้คนมาเช่าตัวเองในราคา 15 บาท มานาน 4 ปี

    หนุ่มไร้บ้านที่มีความสุขที่สุดในโลก เปิดให้คนมาเช่าตัวเองในราคา 15 บาท มานาน 4 ปี

    คนไร้บ้านส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกโดยไม่มีหลักแหล่งที่แน่นอน อีกทั้งอาชีพการงานที่ไม่มีความมั่นคงไม่สามารถหาที่อยู่จริงๆ เป็นของตัวเองได้ ถ้าหากว่าเลือกได้นี่คงเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากจะเป็น แต่นั่นไม่ใช่ความคิดของดาราตลกชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Kotani Makoto คนนี้ ที่ต้องออกมาใช้ชีวิตไร้บ้าน แต่กลับสามารถหาความสุขได้จากรายได้เพียง 15 บาทต่อวัน มายาวนานถึง 4 ปี เรื่องราวของเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน ย้ายเข้ามาในเมืองโตเกียวเพื่อเส้นทางการเป็นนักแสดงตลก จนรู้ตัวว่าไม่อาจจ่ายค่าเช่าห้องได้ด้วยเองคนเดียว และย้ายไปอยู่กับดาราตลกอีกคนที่รู้จักในชื่อ King Kong Nichino     หลังจากนั้นเพียง 2 เดือน เพื่อนร่วมห้องคนใหม่ของเขาก็ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมเหลวไหล และไม่เป็นระเบียบ ทำให้พูดกับเขาว่า “นับจากวันนี้เป็นต้นไป นายควรเป็นคนไร้บ้านซะ แล้วชีวิตของนายจะดีขึ้น” จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต การต้องออกมานอนอยู่ข้างถนนเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เขาพยายามหางานพิเศษทำ แต่การสัมภาษณ์งานก็ไม่ได้เป็นไปในทางที่ดีนัก จนกระทั่งคนที่บอกให้เขาออกมาอยู่อย่างไร้ที่อยู่อาศัยนี้ ได้ให้คำแนะนำที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ นั่นคือเขาได้โพสข้อมูลและช่องทางติดต่อลงบนทวิตเตอร์และอนุญาตให้คนแปลกหน้าสามารถว่าจ้างเขาทำอะไรก็ได้ในราคา 15 บาท ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้มีลูกค้ามากมายติดต่อกลับมา     ในตอนแรกก็ยังคงมีข้อสงสัยอยู่ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร ด้วยเงินจำนวนเพียงน้อยนิด แต่เมื่อได้ลองทำเขาก็รู้ได้เลยว่ามันเป็นไปได้จริงๆ ในเมื่อเงินค่าตอบแทนที่น้อยมากๆ จึงทำให้ลูกค้าทั้งหลายเลือกที่จะตอบแทนเป็นอย่างอื่นเพิ่มเติมทุกอย่างที่เขาจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ค่าเดินทาง อาหาร หรือแม้แต่ชวนไปนอนบ้านก็ยังมี…

  • จนแต่ไม่แล้งน้ำใจ….ชายจรจัดพยายามรักษาสุนัขบาดเจ็บ แม้อาจต้องอดข้าวไปหลายวัน

    จนแต่ไม่แล้งน้ำใจ….ชายจรจัดพยายามรักษาสุนัขบาดเจ็บ แม้อาจต้องอดข้าวไปหลายวัน

    จากคติธรรมที่ว่า “เมตตาธรรม เป็นเครื่องค้ำจุนโลก” เป็นคติธรรมที่แสดงให้เห็นว่า หากโลกของเรามีมนุษย์ที่จิตใจดี มีความเมตตา มีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมโลก ก็จะทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้น     เช่นเดียวกับชายคนนี้ เขามีชื่อสมมติว่า จาง เขาได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขาเป็นเพียงคนจรจัด ไร้บ้าน มีรายได้จากการเก็บขยะขายเพียงวันละ 20-30 หยวน หรือประมาณ 150 บาทต่อวันเท่านั้น ไม่มีใครทราบว่าทำไมเขาจึงกลายมาเป็นคนไร้บ้านหาเช้ากินค่ำไปวันๆ แต่สิ่งที่เราทราบได้คือ แม้ชีวิตของเขาจะไม่ได้สุขสบาย แต่นั่นก็ไม่ได้ลดทอนความเมตตาในจิตใจของเขาลงไปแม้แต่น้อย     วันหนึ่งเขาได้ไปพบลูกสุนัขวัย 2 เดือนกำลังได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้วยความรักหมาและความสงสารของเขา เขาไม่สามารถทนดูมันตายต่อหน้าได้ เขาจึงได้พามันไปที่คลินิกสัตว์แห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ เมื่อถึงมือหมอแล้ว เจ้าลูกสุนัขก็เข้ารับการรักษาและค่อยๆ มีอาการดีขึ้นตามลำดับ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้นายจางคนนี้ต้องปวดหัวอีกครั้งก็ค่ารักษาพยาบาล การเข้าคลินิกครั้งนี้มีค่าใช้จ่ายในการรักษาอยู่ที่ประมาณ 1000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเกินที่มากกว่ารายได้ที่เขาหาได้ในแต่ละวันหลายเท่า     ระหว่างที่เจ้าหมาพักรักษาตัวอยู่ในคลินิกสัตว์ เขาก็พยายามทำงานเก็บเงินอยู่หลายวันจนในที่สุด เขาก็มีเงินไปจ่ายค่ารักษา หลังจากที่เจ้าหมาน้อยหายดี เขาก็ได้ตัดสินใจรับเลี้ยงมันโดยตั้งชื่อว่า Dian Dian  แล้วมันก็จงรักภักดี คอยอยู่เป็นเพื่อนกับเขา เพื่อตอบแทนความเมตตาของเขาที่มีให้มันตลอดไป     ที่มา shanghaiist

  • เมื่อหนุ่มไร้บ้าน ได้เจอกับช่างซ่อมหลังคาผู้ใจดี มอบโอกาสให้เขาได้เปลี่ยนชีวิตตัวเองอีกครั้ง…

    เมื่อหนุ่มไร้บ้าน ได้เจอกับช่างซ่อมหลังคาผู้ใจดี มอบโอกาสให้เขาได้เปลี่ยนชีวิตตัวเองอีกครั้ง…

    เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นระหว่างที่ช่างซ่อมหลังคากลุ่มหนึ่งได้พบกับชายไรบ้าน ที่บังเอิญผ่านมาระหว่างที่พวกเขากำลังทำงานกันอยู่ คุณ JayJay Murray หนึ่งในช่างซ่อมหลังคาที่ได้พบกับ John ชายไร้บ้านคนดังกล่าว เขาได้เชียนเล่าเรื่องราวของหนุ่มจรจัดป่านทางเฟซบุ๊ก “เราซื้อชาให้เขาในตอนเช้า และวันรุ่งขึ้นเราก็บอกให้เขามาช่วยพวกเราทำงาน” ชายหนุ่มกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนหน้าที่เหล่าช่างซ่อมหลังคาจากบริษัท Empire UPVC & Roofing Specialists จะมายังไซต์งานของพวกเขา John ก็ได้อาศัยหลับนอนบนม้านั่งใกล้ๆ กับบริเวณนั้น     “เขาเพิ่งเริ่มทำงานเป็นครั้งแรก และจากนั้นก็ทำไม่หยุดเลย ผมไม่เคยเห็นใครที่มีความสุขกับการทำงานขนาดนี้มาก่อนเลย เราให้เบอร์เกอร์เป็นอาหารกลางวันแก่เขา” คุณ Jay กล่าวผ่านเฟซบุ๊กของเขา   John กำลังพักทานอาหารกลางวัน ก่อนที่จะเริ่มงานต่อ   John ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างขยันขันแข็งและตั้งใจ   ชายไร้บ้านบอกว่าในแต่ละสัปดาห์เขาใช้เงินประมาณ 15 ปอนด์หรือประมาณ 640 บาทเท่านั้น แต่เหล่าช่างกลับให้ค่าตอบแทนเขามากถึง 70 ปอนด์หรือประมาณ 3,000 บาทเลยทีเดียว พร้อมกับบอก John ว่าเขาสามารถมาทำงานที่นี่ได้อีก “ความตั้งใจของคุณจะทำให้พระเจ้ามองเห็น ตั้งใจต่อไป John ทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ไม่มีใครทำงานอย่างขยันแล้วยังต้องมาอาศัยอยู่ข้างถนนหรอก” บางส่วนจากข้อความบนเฟซบุ๊กของคุณ Jay     John รู้สึกขอบคุณพวกเขาอย่างมาก “ขอบคุณมากเพื่อน…

  • โครงการเจ๋ง!! หมู่บ้านสกอตแลนด์ จัดโครงการเปิดบ้านให้ “คนจรจัด” มาอยู่ได้ฟรีๆ

    โครงการเจ๋ง!! หมู่บ้านสกอตแลนด์ จัดโครงการเปิดบ้านให้ “คนจรจัด” มาอยู่ได้ฟรีๆ

    เมืองใหญ่ที่มีคนอาศัยอยู่มากมาย ย่อมมีทั้งคนที่รวย ที่จน ที่มั่งมี หรือยากไร้ บางคนไม่มีแม้กระทั่งบ้านจะอยู่อาศัย และใช้ชีวิตแบบคนจรจัดไปเรื่อย ในพื้นที่เล็กขนาดประมาณ 3.7 ไร่ทางตอนเหนือของเมือง Edinburgh ได้มีโครงการดีๆ เกิดขึ้นสำหรับคนไร้บ้านเหล่านี้ ด้วยการเปลี่ยนให้เป็นบ้านพักพิงจำนวน 10 หลัง     บ้านหลังนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Johnathon Avery แห่ง Tiny House Scotland บ้านนี้มีพื้นฐานมาจากรูปแบบ NestHouse ที่เป็นนวัตกรรมและโดดเด่นของเขา   โดยบ้านแต่ละหลังจะประกอบด้วย 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องนั่งเล่น .   ห้องครัวเป็นส่วนเดียวกับห้องนั่งเล่นเพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอย   ตัวบ้านถูกสร้างเป็นแบบชั่วคราวเพื่อที่ว่าในอนาคตอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงทำเลใหม่ หรือขนย้ายออกไปได้   เจ้าของโครงการคาดว่า หมู่บ้านเพื่อคนไร้บ้านนี้จะสามารถเป็นที่พึ่งพิงให้กับคนจำนวน 20 คน ซึ่งก็ไม่ใช่จะให้อยู่ถาวรตลอดไปนะ เพราะภายในเวลา 12 – 18 เดือน ในระหว่างที่เข้าพัก พวกคนไร้บ้านเหล่านี้จะได้รับการฝึกฝนทักษะและเรียนรู้สิ่งต่างๆ เพื่อให้พวกเขากลับมาทำงานและหารายได้ เพื่อสร้างบ้านของตัวเองในอนาคต…

  • คุณแม่เล่าเรื่องราวแบ่งเบอร์เกอร์และเบียร์ให้ “ชายไร้บ้าน” จนทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล..

    คุณแม่เล่าเรื่องราวแบ่งเบอร์เกอร์และเบียร์ให้ “ชายไร้บ้าน” จนทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล..

    ใครจะคิดว่าการเจอคนไร้บ้านระหว่างฉลองวันเกิด และได้พูดคุยกันในฐานะคนแปลกหน้า จะเปลี่ยนชีวิตของคนไร้บ้านคนนั้นไปตลอดชีวิต จนเกิดเป็นเรื่องราวสุดประทับใจ… Ayesha Haworth คุณแม่ลูกสองวัย 38 ปี ได้แชร์เรื่องราวของตัวเธอเองผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งข้อความนั้นเล่าถึงค่ำคืนที่ตัวเองได้ไปฉลองวันเกิดกับเพื่อนๆ ในคืนวันศุกร์ ซึ่งมันทำให้เธอได้พบกับ Matt ด้านนอกผับแห่งหนึ่งในเมืองคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์   Ayesha และ Matt ในค่ำคืนที่เปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่   เธอเล่าว่าเธอบังเอิญเจอกับ Matt โดยบังเอิญด้านนอกผับ และทั้งคู่ก็ได้พูดคุยกันอยู่พักหนึ่งจนรู้สึกถูกคอ รู้ตัวอีกทีก็ผ่านไปชั่วโมงครึ่งเสียแล้ว และจากบทสนทนาก็ทำให้ Ayesha ยังไม่ได้กินอะไร จึงจัดการซื้อเบอร์เกอร์และเบียร์มาให้พร้อมพูดคุยกันต่อ Ayesha ยังบอกอีกว่า ในประโยคสนทนานั้น เขาได้พูดคุยกับ Matt เกี่ยวกับชีวิตของเขาว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นคนจรจัดได้ เขายังเล่ากับเธออีกว่าบางวันตัวเขาเองนั้น ใช้ชีวิตบนท้องถนนวันหนึ่งโดยไม่คุยกับใครเลยด้วยซ้ำ   Ayesha และครอบครัวของเธอ ซึ่งเธอบอกว่าครอบครัวเธอภูมิใจในตัวเธอมากๆ เลยล่ะ   ทว่าการที่เขาได้มาเจอกับ Ayesha และพูดคุยแลกเปลี่ยน แถมยังได้กินเบอร์เกอร์กับเบียร์อร่อยๆ มันก็ทำให้จิตใจของเขารู้สึกดีขึ้นมากๆ ที่สำคัญเงินก็ไม่ใช่ตัวการสำคัญที่ทำให้คนสองคนเชื่อมเขาหากันด้วยซ้ำ และเมื่อเรื่องราวนี้เผยแพร่ออกไป ก็มีข้อความมากมายส่งเข้ามาหาเธอ เพื่อหยิบยื่นงานและอยากช่วยเหลือ Matt เธอยังบอกปิดท้ายว่า…

  • พนักงานไม่ยอมขายอาหารให้ลูกค้า เมื่อรู้ว่าเขาจะเอาไปให้กับคนจรจัด อ้างเป็นกฎของสถานี

    พนักงานไม่ยอมขายอาหารให้ลูกค้า เมื่อรู้ว่าเขาจะเอาไปให้กับคนจรจัด อ้างเป็นกฎของสถานี

    คนจรจัดถือเป็นเรื่องใหญ่ที่หลายประเทศต้องการแก้ไขและกวาดล้างให้หมดไปด้วยวิธีการต่างๆ หนึ่งในนั้นคือห้ามช่วยเหลือคนจรจัดเพราะมันเท่ากับเป็นการส่งเสริม และเพราะแบบนี้จึงทำให้ช่างภาพคนหนึ่งถูกพนักงาน Costa Coffee ปฏิเสธที่จะขายแซนวิชให้ เพราะรู้ว่าเขาจะเอามันไปให้กับคนจรดจัด     เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ Adrian Pinsent จาก Walton-upon-Thames อยู่ที่สถานี Waterloo Station เขาก็เห็นคนจรจัดนอนอยู่ข้างนอก เขาจึงพาคนจรจัดคนนั้นเข้าไปในร้านกาแฟเพื่อซื้อแซนวิชและเครื่องดื่มให้ แต่เมื่อพนักงานรู้ว่าเขาจะซื้อให้คนจรจัด จึงปฏิเสธที่ขายให้ โดยอ้างว่าเป็นนโยบายของสถานี หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษตามกฎที่ตั้งไว้ Pinsent ก็เลยบอกพนักงานว่างั้นเขาจะซื้อกินเอง แต่ก็ถูกปฏิเสธอยู่ดี และพูดแค่เพียงว่า “ขอโทษด้วยนะครับ ขอโทษจริงๆ แต่เราไม่สามารถขายให้คุณได้”     พนักงานบอกว่า “เราทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ มันไม่ใช่กฎของ Costa Coffee แต่เป็นนโยบายของสถานีค่ะ ถ้าเราฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดี” ช่างภาพเลยหันไปถามพนักงานอีกคน แต่ก็ถูกปฏิเสธเหมือนกัน Pinsent เล่าว่าเขาเจรจากับพนักงานอีกประมาณ 5 นาที และตลอดเวลานั้นพนักงานไม่พูดกับคนจรจัดที่เขาพาเข้ามาเลย ในที่สุดช่างภาพก็เอาเงินให้คนจรจัดแล้วบอกให้พนักงานขายอาหารให้คนจรจัดคนนี้ด้วย ส่วนตัวเขาเองนั้นต้องรีบไป ไม่งั้นจะพลาดรถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายของวันนี้     จากนั้นคนจรจัดก็เดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์ และมองกลับมาที่ Pinsent บางครั้งด้วยความกังวล แต่รู้มั้ยตลอดเวลาที่ยืนอยูที่นั้น พนักงานไม่พูดกับเขาเลย ช่างภาพพูดอย่างหัวเสียว่า “ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนบอกพนักงานเกี่ยวกับข้อปฏิบัติแบบนั้น แต่เห็นได้ชัดพวกเขาทำตามอย่างเคร่งครัดจนไม่สนใจอะไรเลย” เมื่อเหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป โฆษกของ Network…

  • เรื่องราวดีๆ ของสาวใจบุญที่มอบ “รางวัลกินพิซซ่าฟรีทั้งปี” ให้สถานสงเคราะห์เด็กไร้บ้าน

    เรื่องราวดีๆ ของสาวใจบุญที่มอบ “รางวัลกินพิซซ่าฟรีทั้งปี” ให้สถานสงเคราะห์เด็กไร้บ้าน

    การแบ่งปันเป็นหนึ่งสิ่งที่เราควรมอบให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน บางครั้งการแบ่งปันนั้นก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นสิ่งที่มีค่ามากหรือต้องใช้เงินทองอะไรมากมาย แต่น้ำใจเพียงเล็กน้อยๆ และความตั้งใจจริงก็เพียงพอแล้วสำหรับการแบ่งปัน พบกับเรื่องราวการให้ที่น่าประทับใจของคุณ Hannah Spooner หญิงสาวที่ตัดสินใจมอบรางวัลกินพิซซ่าฟรีตลอดทั้งปีของเธอให้กับคนไร้บ้าน   Hannah Spooner ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลกินพิซซ่าฟรีทั้งปี   หญิงสาววัย 19 ปีจากรัฐมิชิแกนบอกว่าเธอได้รับสายจากร้านพิซซ่า Little Caesar ว่าเธอเป็นผู้ได้รับรางวัลกินพิซซ่าฟรีทั้งปีมูลค่า 500 เหรียญ หญิงสาวจึงอยากจะมอบรางวัลดังกล่าวให้กับผู้ที่ต้องการมันมากกว่าเธอ “ฉันมองหาที่บริจาคพิซซ่าตามสถานสงเคราะห์ต่างๆ ใกล้บ้าน” หญิงสาวกล่าว จนในที่สุดหญิงสาวก็ได้พบกับ Covenant House Michigan มูลนิธิเพื่อเด็กไร้บ้าน     “ที่นี่มีคนต้องการรางวัลนี้มากกว่าฉัน พวกเขาดูเป็นมิตรและอบอุ่นอย่างมาก” คุณ Spooner กล่าว ส่วนทางด้านของสถานสงเคราะห์ก็รู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้รับการบริจาคจากหญิงสาวท่านนี้ คุณ Carolyn Millard เจ้าหน้าที่ของสถานสงเคราะห์แห่งนี้กล่าวว่า “เราดีใจมากหลังจากที่ได้รับสายจาก Spooner และรู้ว่าจะได้รับบริจาครางวัลนี้”     พวกเด็กๆ จะได้รับพิซซ่าฟรี 3 มื้อต่อวัน คุณ Millard บอกว่าเด็กๆ ทุกคนที่นี่ชอบกินพิซซ่าและพวกเขาก็ตื่นเต้นมากๆ เลยทีเดียว ตอนนี้ขึ้นตอนต่างๆ กำลังอยู่ในช่วงดำเนินการและคุณ Milard หวังว่าพวกเด็กๆ จะได้รับพิซซ่าไม่เกินสัปดาห์หน้านี้…

  • ชีวิตไม่มีทางเลือก… หนุ่มไร้บ้านตั้งถิ่นตกปลาข้างคลอง เพื่อประทังชีวิตรอดในเมืองใหญ่

    ชีวิตไม่มีทางเลือก… หนุ่มไร้บ้านตั้งถิ่นตกปลาข้างคลอง เพื่อประทังชีวิตรอดในเมืองใหญ่

    คนไร้บ้านส่วนใหญ่มักจะมีชีวิตรอดด้วยการขอทาน แต่ก็ใช่ว่าจะขอได้ทุกวันเสมอไป ดังนั้นคนไร้บ้านบางคนจึงต้องพยายามช่วยเหลือตัวเองมากกว่ารอการช่วยเหลือจากคนอื่น เหมือนกับ Stuart Potts ชายไร้บ้านที่อาศัยอยู่ข้างคลอง Bridgewater Canal เมือง Eccles ต้องเอาตัวรอดด้วยการตกปลาจากคลองแห่งนี้ โดยที่ผ่านมานั้น Stuart กับแฟนสาว Georgia Twemlow เคยอาศัยอยู่ในบริเวณป้ายรถมเล์ ก่อนที่จะย้ายข้าวของไปอยู่ใกล้กับลำคลอง     พวกเขามีสมบัติติดตัวเพียงเล็กน้อย อย่างโซฟาหนึ่งตัว เก้าอี้สองตัว ตู้หนังสือ และเตียงเก่าๆ ที่คนขายเฟอร์นิเจอร์ในบริเวณใกล้เคียงนำมาทิ้งเอาไว้ แต่การตั้งถิ่นฐานของพวกเขากลับสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่ผ่านไปผ่านมา และถูกร้องเรียนกับหน่วยงานตำรวจท้องถิ่น PCSO ถึง 14 ครั้ง ภายในเวลาแค่ 2 วันที่พวกเขาย้ายมา     แม้จะถูกร้องเรียน แต่ทั้งคู่ปฏิเสธที่จะย้ายออกไป เพราะไม่มีที่ให้ไปแล้ว นอกจากนี้พวกเขายังมีเพื่อนที่ชื่อ John อาศัยอยู่ที่นี่ด้วย ดังนั้นจึงวอนให้สังคมเข้าใจด้วย Stuart บอกว่าเขาเคยมีชีวิตที่มั่นคงมาก่อน แต่แล้วก็ถูกขับไล่ออกจากอาคารบ้านเอื้ออาทร ทำให้ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ข้างถนนในทุกวันนี้ เขายังบอกอีกว่าพยายามขอความช่วยเหลือจากสภาเมือง Salford แล้ว แต่ถูกตอบกลับไม่ใช่สิ่งที่ทางสภาจะต้องมาทำการแก้ไขปัญหาเหล่านี้…     ในสถานการณ์เช่นนี้ Stuart จึงตัดสินใจปลูกพริก…

  • สภาเมืองพอร์ตแลนด์ แก้ปัญหา “ขอทาน” ด้วยการว่าจ้างให้พวกเขาทำงาน เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่

    สภาเมืองพอร์ตแลนด์ แก้ปัญหา “ขอทาน” ด้วยการว่าจ้างให้พวกเขาทำงาน เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่

    เรียกได้ว่าปัญหาของกลุ่มคนไร้บ้าน เป็นปัญหาที่เรื้อรังมานานในหลายๆ ประเทศทางฝั่งตะวันตก (บ้านเราก็ประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน) ไม่ว่าจะจากปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือปัญหาทางชีวิตของแต่ละคน ทว่าล่าสุดสภาเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ริเริ่มนโยบายที่จะช่วยเหลือกลุ่มคนที่เขาให้คำนิยามว่าเป็น ‘Beggers’ (นิยามนี้รวมทั้งคนไร้บ้านและขอทาน) ด้วยการว่าจ้างให้พวกเขาทำงาน     ซึ่งก่อนหน้านี้เทศบาลเมืองพอร์ตแลนด์ เคยออกกฎหมายห้ามเดินเร่ขอทานตามถนนมาก่อนแล้ว โดยอ้างว่าอาจเป็นภัยต่อสาธารณะ รวมทั้งมีการรณรงค์ให้คนเลิกให้เงินขอทาน แต่ทว่าข้อห้ามและรณรงค์ดังกล่าวประสบกับความล้มเหลว ทางสภาเมืองจึงได้ออกนโยบายใหม่ ด้วยการจัดหน่วยรถออกลาดตระเวนไปหากลุ่มคนขอทานทั้งหลาย พร้อมทั้งเสนองานทำความสะอาดสวนสาธารณะและงานแรงงานทั่วไป โดยจะได้รับค่าจ้างเป็นจำนวน 10.68 เหรียญต่อชั่วโมง หรือราว 365 บาทต่อชั่วโมง     Jon Jennings นายกเทศมนตรีได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เพราะเราเป็นเมืองที่พร้อมจะช่วยเหลือเหล่าผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดของพวกเขา หากแต่บางทีคนเราต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบากของชีวิตกันบ้าง” แน่นอนว่าจากนโยบายดังกล่าวช่วยเสริมสร้างอาชีพและโอกาส สำหรับการเริ่มต้นชีวิตครั้งใหม่ของกลุ่มคนขอทานและคนไร้บ้านได้จริง เพราะจากผลสำรวจค่าเฉลี่ยเงินบริจาคที่พวกเขาเคยได้รับ อยู่ที่ประมาณ 10 เหรียญต่อวันเท่านั้น     ทว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการเปลี่ยนนโยบายจากการตระเวนจับ แต่เปลี่ยนเป็นตระเวนหาและมอบหมายงานให้พวกเขาทำ โดยก่อนหน้านี้มีหลายๆ รัฐที่เริ่มโครงการนี้เช่นที่ San Jose, California และ Chicago และจากรายงานพบว่าเมืองที่ประสบความสำเร็จจากการหันมาใช้นโยบายนี้มากที่สุด ก็คือเมือง Albuquerque…

  • คนไร้บ้านวัย 46 ฮึดสู้ จาก ‘คนติดยา’ กลายเป็นเศรษฐี ร้านขายน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพชื่อดัง

    คนไร้บ้านวัย 46 ฮึดสู้ จาก ‘คนติดยา’ กลายเป็นเศรษฐี ร้านขายน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพชื่อดัง

    คนเราเกิดมาพร้อมกับพลังนักสู้ที่แฝงอยู่ในจิตใจ หากคุณนำมันมาใช้ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา มันก็อาจเปลี่ยนชีวิตที่ย่ำแย่ของคุณให้กลายเป็นวันที่สดใสได้เหมือนอย่างชายคนนี้แน่นอน นี่คือเรื่องราวอันน่าทึ่งของนาย Khalil Rafiti เศรษฐีชาวอเมริกันวัย 46 ปีผู้อาศัยอยู่ในลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา     ย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีก่อน ในปี 2001 ตอนนั้นเขายังเป็นเพียงคนเร่ร่อนไปวันๆ เสพติดเฮโรอีน และอาศัยอยู่ในเขตเสื่อมโทรมของลอสเองเจลิส ร่างกายผอมแห้ง มีแผลเต็มตัว และหนักเพียง 48 กิโลกรัม เขาเล่าว่าตัวเองเคยติดเฮโรอีนอย่างหนัก จน “ลืมตาย” มาแล้ว เพราะมันทำให้เขามีความสุข และความฝันในวัยเด็กก็กลายเป็นจริงด้วยการเสพยา     นาย Rafiti เริ่มติดมันหนักขึ้นเรื่อยๆ และเกือบตายในปี 2001 เพราะเสพยาเกินขนาด แต่โชคดีที่ตอนนั้นมีคนพาเขาไปส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา ในระหว่างนั้นเขาก็ไปก่อคดีเข้าและถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ Los Angeles County Jail และถูกปล่อยตัวในปี 2003 ตอนนั้นเขาปฏิญาณกับตัวเองว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอะไรแบบนี้อีกแล้ว     นาย Rafati อุทิศตนให้กับสุขภาพมากขึ้น ออกกำลังกาย กินแต่อาหารที่มีประโยชน์ แต่สิ่งที่เปลี่ยนชีวิตของเขาจริงๆ เลยก็คือตอนที่เพื่อนของเขาแนะนำให้เขารู้จักกับน้ำผลไม้คั้นสดและอาหารเพื่อสุขภาพ เมื่อรู้สึกชอบ เขาก็เลยเริ่มต้นลงมือทำน้ำผลไม้ด้วยตัวเอง…

  • หนูน้อย 6 ขวบจากชิคาโก ที่ต้องการของขวัญวันเกิดใดๆ นอกจากได้ช่วยเหลือคนไร้บ้าน…

    หนูน้อย 6 ขวบจากชิคาโก ที่ต้องการของขวัญวันเกิดใดๆ นอกจากได้ช่วยเหลือคนไร้บ้าน…

    สำหรับเด็กๆ ส่วนใหญ่แล้ว วันเกิดก็เป็นอีกหนึ่งวันพิเศษที่พวกเขาจะได้รับของขวัญชิ้นโปรด หรือได้จัดปาร์ตี้สนุกๆ กับเพื่อนๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีตอนโต แต่สำหรับหนูน้อยวัย 6 ขวบ จากชิคาโก Armani Crews เธอต้องการของขวัญวันเกิดที่แตกต่างออกไป ของขวัญที่เธอต้องการไม่ใช่ของเล่น หรือของสะสมน่ารักๆ แต่มันคือการได้ช่วยเหลือคนไร้บ้าน จากน้ำใจที่แท้จริงของตัวเธอเอง   เธอชักชวนให้เพื่อนทุกคนเปลี่ยนจากการส่งของขวัญวันเกิด ให้มาช่วยกันทำแซนวิชคนละไม้คนละมือ เพื่อนำไปแจกให้กับคนไร้บ้าน   หลังจากที่เธอได้โพสต์ความต้องการของเธอลงบนเฟซบุ๊ก ชาวเน็ต และเพื่อนบ้านต่างก็ร่วมแรงร่วมใจส่งของใช้จำเป็นมาให้ บ้างก็ส่งเป็นเงินบริจาค เพื่อที่เธอจะได้นำไปแจกจ่ายให้กับคนไร้บ้าน   เธอเกิดไอเดียที่จะช่วยสังคมดีๆ แบบนี้ทันที หลังจากที่วันหนึ่งเธอเห็นน้องชายของเธอนำอาหารไปให้กับคนไร้บ้าน   และเมื่อวันเกิดของเธอมาถึง หนูน้อย Armani ก็ได้สวมมงกุฏประจำตำแหน่งแบบน่ารักๆ พร้อมทั้งพาครอบครัวไปตั้งโต๊ะแจกจ่ายน้ำดื่ม เสื้อผ้า และของใช้ยามจำเป็นอื่นๆ ให้กับคนไร้บ้านในเมืองที่เธออาศัยอยู่   งานนี้มีคนไร้บ้านมากกว่า 125 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือจากเธอ พวกเขาต่างรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของหนูน้อยอย่างที่สุด   เป็นอีกเรื่องราวดีๆ ที่เราได้เห็นเด็กน้อยลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อสังคม โลกนี้น่าอยู่ขึ้นไปอีกเย๊อะ ที่มา: Viralnova

  • สุดประทับใจ… คุณแม่ชาวเท็กซัส ผู้มอบชีวิตใหม่ให้ชายไร้บ้าน มาเป็นครอบครัวเดียวกัน

    สุดประทับใจ… คุณแม่ชาวเท็กซัส ผู้มอบชีวิตใหม่ให้ชายไร้บ้าน มาเป็นครอบครัวเดียวกัน

    เนื่องด้วยภาวะการแข่งขัน และเศรษฐกิจ ทำให้บางประเทศมีอัตราประชากรตกงาน จนกลายมาเป็นคนไร้บ้านเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าสิ่งเดียวที่พวกเขาต้องการก็คือ ‘โอกาส’ นั่นเอง นี่เป็นเรื่องราวที่ทำเอาชาวเน็ตทั่วโลกรู้สึกประทับใจไปตามๆกัน เมื่อ Ginger Jones Sprouse คุณแม่ผู้หยิบยื่นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตให้แก่ชายไร้บ้าน ซึ่งพวกเขาทั้งคู่ต่างก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน   Victor Hubbard หนุ่มไร้บ้านวัย 32 ปี เธอมักจะเห็นเขานั่งอยู่ข้างทางเป็นประจำทุกวัน ตอนไปทำงาน   เป็นเวลานานกว่า 3 ปี ที่หนุ่มไร้บ้านคนนี้ต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน เขาเฝ้ารอวันที่จะได้พบกับมารดาผู้ให้กำเนิดที่ทอดทิ้งเขาไปอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าความฝันนั้นอาจไม่เป็นความจริง ด้วยความเห็นอกเห็นใจ เธอจึงทำการสร้างเพจขึ้นมาเพื่อทำทุกวิถีทางให้ชายไร้บ้านคนนี้ ได้กลับมามีชีวิตอยู่ได้ด้วยตนเองอีกครั้ง   เธอสร้างเพจขึ้นมา พร้อมทั้งประกาศให้คนในละแวกนั้นรู้ว่าเธอต้องการจะช่วยเหลือเขา เผื่อว่ามีใครสนใจอยากจะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม   คุณแม่ได้ทำการระดมทุนจากชาวเน็ตได้มากถึง 9 แสนบาท พร้อมทั้งพาเขาย้ายมาอยู่อาศัยด้วยกัน จนกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน   ‘เขาไม่เคยเรียกร้องขอเงิน และไม่เคยเรียกร้องขออะไรเลย เขาต้องการเพียงแค่อาหารประทังชีวิต ทุกครั้งฉันพยายามจะเสนอสิ่งต่างๆ ให้เขา แต่เขาก็มักจะปฏิเสธกลับมาเสมอ เขาเป็นคนดีมากๆ และไม่มีอันตรายใดๆ กับคนรอบข้างค่ะ’     คุณแม่ได้พาเขาไปตรวจสายตา และจัดแจงให้เขาได้แว่นสายตามาใช้ฟรีๆ  …

  • องค์กรการกุศลช่วยเหลือ “ชายจรจัดคนหนึ่ง” เปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ ให้มันดีขึ้นกว่าเดิม…

    องค์กรการกุศลช่วยเหลือ “ชายจรจัดคนหนึ่ง” เปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ ให้มันดีขึ้นกว่าเดิม…

    หากเราเห็นคนจรจัด คนไร้บ้าน หรือ ขอทานอยู่ข้างถนน เราจะช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นได้อย่างไรบ้าง ในบ้านเราก็คงทำได้เพียงซื้ออาหารหรือของใช้จำเป็นมอบให้แก้ขัดเป็นครั้ง เป็นคราว แต่ไม่สามารถทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นได้อย่างถาวร     แต่สำหรับกรณีที่ #เหมียวเลเซอร์ กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้ คือการเปลี่ยนแปลงชีวิตของชายจรจัดหนึ่งคน ให้พลิกกลับมาดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยความช่วยเหลือจากเหล่าอาสาสมัครของร้านการกุศล ShareShop และองค์กรการกุศล Chester Aid to the Homeless แห่งเมืองเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ     เรื่องราวของชายนามว่า David ชายไร้บ้าน ไร้ซึ่งทุกอย่าง จากก่อนหน้านั้น 12 เดือน เขาได้เดินเข้าไปรับอาหารฟรีจากร้าน ShareShop และเมื่ออาสาสมัครเห็น David ปุ๊บ ก็เริ่มให้การช่วยเหลือกับเขาทันที จุดเริ่มต้นนั้นมาจากกาแฟที่มีผู้อื่นจ่ายไว้ให้แล้ว David ก็รับกลับมาพร้อมกับแซนด์วิชฟรีของห้าง Tesco ในท้องถิ่น ยิ่งนานวันผ่านไป เขาได้รับน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากอาสาสมัครมากขึ้น จึงทำให้เขารู้สึกพร้อมที่กลับเข้าสู่สังคมอีกครั้ง     ทางร้าน ShareShop จึงช่วยเขาในด้านการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ภายนอก โกนหนวดเครา…

  • ร้านอาหารใจบุญ ฉายา ‘โรบินฮู๊ด’ นำกำไรในแต่ละวันแบ่งปันเป็นมื้อเย็น ให้คนไร้บ้านทานฟรี!!

    ร้านอาหารใจบุญ ฉายา ‘โรบินฮู๊ด’ นำกำไรในแต่ละวันแบ่งปันเป็นมื้อเย็น ให้คนไร้บ้านทานฟรี!!

    หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องตำนานของโจรชื่อดัง ‘โรบินฮู๊ด’ ที่คอยดักปล้นเงินจากคนรวย แล้วนำมาแจกจ่ายให้กลุ่มคนยากจนกันมาบ้างแล้ว แต่คราวนี้เหตุการณ์ก็คล้ายๆ กับเรื่องราวในตำนาน เพียงแต่พวกเขาไม่ได้ไปปล้น หรือทำร้ายใคร ที่ประเทศสเปน มีร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า ‘โรบินฮู๊ด’ ดูผิวเผินก็เหมือนจะเป็นร้านอาหารธรรมดาทั่วไป แต่ความพิเศษอยู่ตรงที่ ทุกเย็นหลังขายอาหารรอบเช้า ร้านจะทำนำกำไรทั้งหมด มาทำอาหารและแจกจ่ายให้ผู้ที่ประสบปัญหาไร้ที่อยู่ เข้ามารับประทานกันได้ฟรี!!     ร้านอาหารแห่งนี้เป็นของบาทหลวง Ángel García Rodríguez วัย 79 ปี ผู้ทุ่มเทเวลาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา เพื่อทำการช่วยเหลือกลุ่มคนยากไร้ในสังคม หรือในนาม ‘นักลงทุนผู้ไม่แสวงหากำไร’ ซึ่งก่อนหน้านี้ผลงานของเขาเคยเปลี่ยนโบสถ์ร้างให้กลายเป็นศูนย์พักพิงอาศัยสำหรับคนไร้บ้าน ที่มีทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น อาหาร ที่นอน อินเตอร์เน็ต หรือแม้แต่การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ‘โรบินฮู๊ด’ คืออีกหนึ่งผลงานล่าสุดของเขา ในช่วงเวลาทำการปกติตอนเช้า ที่นี่จะขายอาหารในราคาที่ไม่แพงมากนัก และในช่วงตอนเย็น ร้านอาหารแห่งนี้ยินดีต้อนรับกลุ่มคนไร้บ้านทุกคน ให้เข้ามาทานอาหารกันได้ฟรีๆ อีกทั้งยังได้รับการบริการจากพนักงานทุกคนเป็นอย่างดีอีกด้วย “การที่ทำให้พวกเขาได้ทานอาหารในร้านที่มีพนักงานเสิร์ฟใส่ยูนิฟอร์มที่ดูดี ได้ทานอาหารดีๆ แทนที่จะเป็นการใช้ช้อนส้อมพลาสติก ผมคิดว่านี่เป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกันทางสังคมอย่างหนึ่ง” เจ้าของให้สัมภาษณ์กับ NY Times     Giani Parlafes…

  • ‘กำแพงแห่งน้ำใจ’ โผล่ขึ้นมาในประเทศอิหร่าน เพื่อให้คนนำเสื้อผ้าส่งต่อสู่ผู้ยากไร้…

    ‘กำแพงแห่งน้ำใจ’ โผล่ขึ้นมาในประเทศอิหร่าน เพื่อให้คนนำเสื้อผ้าส่งต่อสู่ผู้ยากไร้…

    “กำแพงแห่งน้ำใจ” โผล่ขึ้นมาในเมืองต่างๆ ของประเทศอิหร่าน เพื่อให้ผู้คนที่แวะเวียนเดินผ่านไปมานำเสื้อผ้ามาแขวนไว้ที่กำแพงให้กำับผู้คนยากไร้หรือคนไร้บ้าน     จากการรายงานของสำนักข่าว BBC บอกว่ากำแพงอันแรกนั้นโผล่ขึ้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Mashhad โดยมีที่แขวนผ้ามาติดที่ผนังพร้อมกับมีข้อความบอกว่า “ถ้าคุณไม่ต้องการมัน แขวนมันไว้ที่นี่ และถ้าคุณต้องการมันก็สามารถเอามันไปได้เลย”      ชายคนที่เป็นคนคิดค้นโปรเจ็คนี้ขึ้นมานั้นไม่ได้ต้องการเปิดเผยตัวตน เขาได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Hamshahri ว่าเขาดีใจที่ไอเดียของเขานั้นถูกนำไปใช้งาน “ผมได้บอกกับผู้คนว่าให้ผู้คนนำเสื้อผ้าในปริมาณน้อยๆ มาแขวนไว้ ดังนั้นคนที่มาที่นี่ก็จะรู้ว่าจะมีเสื้อผ้าให้พวกเขาอยู่ตลอดเวลา”     จาการรายงานของ Radio Free Europe พบว่า “กำแพงแห่งน้ำใจ” นี้ได้เริ่มเกิดขึ้นในเมือง Sirjan และเมือง Shiraz ด้วยเช่นกัน ในฤดูหนาวของประเทศอิหร่านนั้นจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง เพราะฉะนั้นความต้องการเสื้อผ้าของเหล่าผู้ยากไร้หรือคนไร้บ้านนั้นจะมีตัวเลขที่สูงมาก เพราะแค่ในเมืองหลวง Tehran นั้นก็มีประชากรคนไร้บ้านมากกว่า 15,000 คนไปแล้ว     แน่นอนว่า ‘กำแพงแห่งน้ำใจ’ นี้จะช่วยเหลือเหล่าคนยากไร้และคนไร้บ้านได้มากมายเลยทีเดียวล่ะ ^^   “พวกเราต้องการทำมันด้วยตัวเอง ชีวิตมันสั้นนัก เพราะฉะนั้นจงทำความดีให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้” สมาชิกท่าหนึ่งของอินสตาแกรมได้กล่าวไว้   ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของโลก เรื่องดีๆ แบบนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ พอได้รับรู้แล้วก็รู้สึกอิ่มเอมหัวใจไปด้วยเลย…

  • พ่อชาวสวีเดน พบตัวลูกสาวที่หายตัวไปเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว แต่กลายเป็นคนเร่ร่อนในอิตาลี!?

    พ่อชาวสวีเดน พบตัวลูกสาวที่หายตัวไปเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว แต่กลายเป็นคนเร่ร่อนในอิตาลี!?

    นี่เป็นเรื่องราวชวนฉงนของหญิงสาวไร้บ้านคนหนึ่งที่ถูกพบอยู่ในประเทศอิตาลี แต่ดันพูดภาษาอิตาลีไม่ได้เลย แถมยังมีพฤติกรรมแปลกๆ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสืบกันวุ่นวายว่าเธอคือใครกันแน่? เรื่องนี้ถูกนำเสนอผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2016 เป็นเรื่องราวของหญิงสาวไร้บ้านวัย 21 ปี คนหนึ่งที่ถูกพบว่านอนคุดคู้อยู่บนพื้นขรุขระอยู่ในย่าน Piazza della Torretta ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ลักษณะภายนอกดูเหมือนคนท้องถิ่น แต่ทว่าเธอไม่สามารถพูดภาษาอิตาลีได้ พูดได้เพียงภาษาอังกฤษเท่านั้น     เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยกับเธอ เธอจึงบอกว่าตัวเองชื่อ Maria เป็นชาวอังกฤษและพูดอังกฤษได้ ไม่มีพาสปอร์ต ไม่มีบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่จึงสงสัยว่าเธออาจจะเป็นโรคอะไรสักอย่างและพลัดหลงมา เมื่อตำรวจสอบถามเธอว่าทำไมถึงมาอยู่ที่อิตาลี เธอกลับตอบง่ายๆ ว่าเธอหนีครอบครัวมาจากอังกฤษและไม่ได้ให้ข้อมูลที่สมเหตุสมผลเลย ซึ่งในตอนแรกตำรวจได้ทำการกักตัวเธอไว้ เนื่องจากเธอมีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ พร้อมทั้งข้อมูลเบาะแสเด็กหายที่ประเทศโปรตุเกส ในปี 2007 ชื่อว่า Madeleine McCann นั้นเป็นชาวอังกฤษเช่นกัน จึงไม่แน่ใจว่าเธอคือเด็กที่หายไปหรือไม่   ก่อนหน้านั้นมีเด็กอังกฤษชื่อว่า Madeleine McCann (ภาพซ้าย) หายตัวไปในปี 2007 เกิดเหตุที่โปรตุเกส และหญิงสาวคนนี้มีลักษณะที่คล้ายคลึงกันมาก   แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ต้องปล่อยเธอไป…

  • คนจรจัดพลิกชีวิต กลับมายืนหยัดได้ ส่งต่อโอกาส ด้วยการเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือสังคม

    คนจรจัดพลิกชีวิต กลับมายืนหยัดได้ ส่งต่อโอกาส ด้วยการเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือสังคม

    ไม่มีใครอยากเป็นคนไร้บ้าน แต่ถ้าวันหนึ่งมีเหตุผลที่ทำให้เราต้องกลายเป็นคนที่ไม่มีอะไรเหลือเลย เราก็คงหวังให้ใครสักคนยื่นมือมาช่วย และเราก็ควรตอบแทนสังคมด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับชายคนนี้ที่เคยเป็นคนไร้บ้านมาก่อน แต่เมื่อได้รับโอกาส เขาก็ไม่ลืมที่จะตอบแทนสังคม และได้นำเรื่องราวมีค่านี้มาเล่าให้เราฟัง… “ผมรู้ว่าการนอนใต้สะพานเป็นยังไง วัยผู้ใหญ่ของผมส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตเป็นคนไร้บ้าน บางครั้งมักยากที่จำให้คนอื่นเข้าใจว่าทำไม่เราต้องมาตกอยู่สภาพเเช่นนั้น แต่จริงๆ แล้วการเป็นคนเร่ร่อนนั้นเป็นวงจรชีวิตที่ยากจะหลีกหนี และการที่ผู้คนต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน พวกเขาต่างมีเหตุผลที่แตกต่างกัน     สำหรับผม การกลายเป็นคนไร้บ้านเริ่มขึ้นเมื่อผมอย่ากับภรรยา บวกกับการสภาพทางเศรษฐกิจที่ไม่ค่อย ส่งผลให้ผู้คนในวงกว้างได้รับผลกระทบรวมทั้งผมด้วย เมื่อผมเป็นคนไร้บ้าน ในแต่ละวันผมใช้เวลากับการหาอาหารและการหาที่พักที่ปลอดภัย บางคืน ผมนอนข้างถังขยะซึ่งมันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของผม แต่บางครั้งผมก็ตื่นขึ้นมาเพื่อหาที่ที่ปลอดภัยมากขึ้น เวลาผ่านไปเป็นปี ทุกอย่างก็เริ่มอยู่ตัว ผมหมดหวังในชีวิตและไม่คิดว่าจะได้มีชีวิตที่ดีกว่านี้แล้ว แต่แล้วผมก็มีความหวังขึ้นอีกครั้งเมื่อได้พบกับ Jay Jay เป็นส่วนหนึ่งของ Catholic Charities Fort Worth (CCFW) หรือที่เรียกว่า SOS ซึ่งเป็นองค์กรที่ช่วยเหลือคนไร้บ้าน ผมไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรถ้า CCFW ไม่ได้มาเจอผม เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมรู้ว่ามีคนคอยช่วยเหลือ CCFW อยู่กับผมในทุกช่วงเวลา       และเพราะการช่วยจาก SOS และองค์กรท้องถิ่นอื่นๆ ผมจึงสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง จนในที่สุด ผมก็อพาร์ทเม้นเป็นของตัวเอง ผมตัดสินใจที่จะเป็นอาสาสมัครเพื่อตอบแทนสังคม และวิธีที่ดีที่สุดที่ผมทำได้คือ ผมเปิดสนามหลังบ้านให้เป็นที่พักสำหรับคนไร้บ้าน ซึ่งปกติแล้วมันเป็นสนามฟุตบอล ส่วนอื่นๆ…

  • ภาพถ่ายใบหน้าของกลุ่มคนไร้บ้าน ปัญหาสังคมที่สะท้อนผ่านออกมาจากดวงตา…

    ภาพถ่ายใบหน้าของกลุ่มคนไร้บ้าน ปัญหาสังคมที่สะท้อนผ่านออกมาจากดวงตา…

    บ่อยครั้งที่เรามักจะได้เห็นช่างภาพ ออกเดินทางถ่ายภาพผู้คนจากสถานที่ต่างๆทั่วโลกมาให้เราได้ชื่นชม บ้างก็เพื่อให้เห็นถึงความสวยงาม บ้างก็เพื่อความแปลกใหม่ และบ้างก็เพื่อสะท้อนการเป็นอยู่ของพวกเขา เช่นเดียวกับชุดภาพถ่ายพอร์ตเทรต ของกลุ่มคนไร้บ้านในอังกฤษชุดนี้ ถ่ายโดยช่างภาพนาม Lee Jeffries ซึ่งแรงบันดาลใจทั้งหมดเกิดจากการที่ วันหนึ่งเค้าดันไปถ่ายภาพของกลุ่มวัยรุ่นไร้บ้าน แต่แล้วพวกเธอก็เรียกร้องให้เขาเข้าไปนั่งคุยด้วย หลังจากที่เขาได้ทราบเรื่องราวของส่วนหนึ่งจากวัยรุ่นกลุ่มนี้แล้ว ทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจที่อยากจะถ่ายภาพพวกเขา เพื่อสะท้อนให้คนในสังคมได้เห็นว่า ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งต้องอยู่อาศัยอย่างยากลำบาก และต้องการความช่วยเหลือ   ชายไร้บ้านคนหนึ่ง กำลังทำท่าดูเคร่งเครียดบนโซฟาของตัวเอง   หญิงสาวกำลังพยายามยิ้ม หลังจากที่ Lee เข้าไปขอถ่ายภาพ   ภาพนี้ถูกถ่ายทันที หลังจากที่ Lee ได้คุยกับกลุ่มวัยรุ่นสาว และปิ๊งไอเดียการถ่ายภาพชุดนี้ขึ้น   หนุ่มน้อยสองคน กำลังจ้องมาที่กล้องอย่างแปลกใจ   Lee ได้ออกเดินทางถ่ายภาพเด็ก ผู้หญิง ผู้ชาย ที่ต้องอาศัยตามมุมถนนต่างๆ ทั่วทั้งในอังกฤษ ยุโรป และสหรัฐฯ   นอกเหนือจากการตระเวณถ่ายรูปแล้ว Lee ก็มักจะเข้าไปพูดคุย ถามไถ่ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตจากพวกเขาทั้งหลาย   ชายหนุ่มเสื้อลายตาราง กับการโพสท่าสูบบุหรี่เท่ๆ   ชายชรากับแว่นตาหนาเตอะคู่ใจของเขา…

  • โมเม้นต์ประทับใจ หนุ่มทดลองให้เงินโฮมเลสไปซื้อของ สุดท้ายได้รับ ‘แรงบันดาลใจ’ ตอบแทน

    โมเม้นต์ประทับใจ หนุ่มทดลองให้เงินโฮมเลสไปซื้อของ สุดท้ายได้รับ ‘แรงบันดาลใจ’ ตอบแทน

    หลายคนคงจะรู้จักคนเร่ร่อน (หรือที่ในต่างประเทศชอบเรียกโฮมเลส) พวกเขาจะอาศัยนอนหลับตามเก้าอี้สาธารณะ ใต้สะพานลอย ตามแหล่งเสื่อมโทรมต่างๆ พวกเขาไม่มีเงิน เนื้อตัวมอมแมม และถูกตราหน้าจากสังคมว่าเป็นพวกไม่เอาไหน ติดยา ที่ไม่น่าคบค้าสมาคมด้วย แต่เชื่อไหมว่าหลังจากที่คุณได้ดูคลิปการทดลองต่อไปนี้ คุณอาจจะมองพวกเขาไปในทางที่ดีขึ้นไม่มากก็น้อยล่ะ   คลิปที่#เหมียวฟิ้นจะขอมาแนะนำในวันนี้มาจากช่องยูทูบของชายหนุ่มที่ชื่อ Johal เขาชอบถ่ายคลิปแกล้งผู้คนและการทดลองทางสังคมต่างๆ มาเผยแพร่ให้คนในอินเตอร์เน็ตได้ดูกันจนโด่งดัง จนตอนนี้มีคนติดตามดูเขามากกว่า 5 แสนคนแล้ว   วันหนึ่งนาย Johal ได้ไปเจอเข้ากับคนเร่ร่อนคนหนึ่งที่นอนอยู่บนเก้าอี้สาธารณะ เขาจึงตัดสินใจทำการทดลองบางอย่างและถ่ายคลิปมาให้พวกเราดู “ผมพยายามที่จะสร้างการทดลองกับคนเร่ร่อนเพื่อให้แรงบันดาลใจแก่พวกคุณทุกคน” คือข้อความที่นาย Johal เขียนไว้ใต้คลิปวิดีโอ   แรกเริ่มเลย นาย Johal ได้แอบนำธนบัตรไปสอดไว้ในกระเป๋าของคนเร่ร่อนคนนั้นแล้วรอให้เขาตื่นขึ้นมาเห็นเอง เมื่อคนเร่ร่อนคนนั้นเห็นเข้าก็ถึงกับอึ้งปนดีใจมากๆ เมื่อได้มันมาแล้วเขาก็เดินตรงไปยังร้าน Target (ซุปเปอร์มาร์เก็ตคล้าย Lotus, BigC บ้านเรา) และซื้อของกินของใช้ที่เขาต้องการ จากนั้นก็กลับมานั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม     10 นาทีต่อมาต่อ Johal ก็ทำทีเป็นคุยโทรศัพท์แล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ ชายเร่ร่อนคนนั้น แต่บทสนทนาที่เขาคุยกับปลายสายดูจะเครียดพอสมควร เพราะเขาพูดคร่าวๆ ว่าลูกสาวของเขาป่วยหนักและต้องใช้เงินเพื่อซื้อยารักษาด่วน แต่เขาต้องรออีกประมาณ 1 สัปดาห์กว่าจะมีเงินก้อนใหม่เข้ามา   เมื่อการคุยโทรศัพท์จบลง ชายเร่ร่อนจึงเดินเข้ามาหาเขาและถามถามว่าเกิดอะไรขึ้น? เมื่อ Johal อธิบายเรื่องทั้งหมด ชายเร่ร่อนจึงขอให้เขารออยู่ตรงนั้นสักครู่แล้วเฝ้ากระเป๋าให้เขาด้วย…

  • หญิงสาวเข้าใจผิดว่า ‘Richard Gere’ เป็นคนไร้บ้าน ก็เลยเอาพิซซ่าไปให้ด้วยความสงสาร

    หญิงสาวเข้าใจผิดว่า ‘Richard Gere’ เป็นคนไร้บ้าน ก็เลยเอาพิซซ่าไปให้ด้วยความสงสาร

    ว่ากันว่า ‘การช่วยเหลือ’ นั้นเป็นสิ่งที่จะทำให้โลกของเราสดใสขึ้นมาทันตา เพราะนอกจากคนที่ได้ช่วยหรือคนที่ช่วยจะได้รับความสุขแล้ว แต่คนอื่นๆ ที่ได้รับรู้เรื่องราวเองก็มีความสุขและมีความรู้สึกที่อยากจะช่วยต่อๆ ไปด้วยเช่นกัน…   ย้อนกลับไป เคยมีเรื่องราวสุดน่ารักเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งได้เข้าใจผิดเห็นชายไร้บ้านคนหนึ่ง ด้วยความสงสารเธอก็เลยตัดสินใจที่จะมอบพิซซ่าให้ 1 ชิ้น ซึ่งจริงๆ แล้วชายไร้บ้านคนนั้นก็คือนักแสดง Richard Gere กำลังถ่ายทำหนังอยู่นั่นเอง ฮร่า     เรื่องมีอยู่ว่าสาวชาวฝรั่งเศสชื่อว่า Karine Gombeau ที่ได้ไปเที่ยวที่ New York ในช่วงวันหยุด ขณะที่เธอและลูกชายวัย 15 ปี กำลังออกไปเดินเล่นในเมืองอยู่นั้นจู่ๆ ก็เห็นว่ามีชายคนหนึ่งท่าทางน่าสงสารกำลังขุดคุ้ยถังขยะอยู่ที่ข้างถนน พอเห็นดังนั้นก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นคนไร้บ้าน เธอและลูกชายก็รีบเดินเข้าไปหาชายคนนั้นพร้อมกับเอาพิซซ่าที่เธอเพิ่งซื้อมาจากร้านมอบให้เขา 1 ชิ้น     “เขาถามว่า ‘อะไรอยู่ในถุงนี้น่ะ’ แล้วฉันก็พยายามที่จะตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษ แต่ฉันดันตอบกลับไปเป็นภาษาฝรั่งเศษปนกับภาษาอังกฤษซะงั้น บอกเขาไปว่า ‘ขอโทษนะแต่พิซซ่ามันน่าจะเย็นแล้วล่ะ’ แล้วเขาก็ตอบกลับมาว่า ‘ขอบคุณมาก ขอให้พระเจ้าคุ้มครองนะ’” คุณ Gombeau เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้น     คุณ Gombeau…

  • ดั่งฮีโร่!! เด็กหญิงป่วยมะเร็ง ปฏิเสธความฝันเที่ยวดิสนีย์แลนด์ เพื่อนำเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้

    ดั่งฮีโร่!! เด็กหญิงป่วยมะเร็ง ปฏิเสธความฝันเที่ยวดิสนีย์แลนด์ เพื่อนำเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้

    เพราะทุกคนต่างมีจุดมุ่งหมายในชีวิตต่างกัน สำหรับบางคนอาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อแลกกับมันมา และเช่นเดียวกันกับบางคนที่อาจจะต้องรีบทำความฝันให้สำเร็จ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป Emma Allred สาวน้อยวัย 13 ขวบ เธอต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งมาตลอด 3 ปีเต็ม และความฝันเดียวที่เธออยากจะทำให้สำเร็จ นั่นก็คือการเก็บออมเงินวันละเล็กน้อย เพื่อเป็นทุนสำหรับการได้ไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ ซึ่งอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต วันหนึ่งสาวน้อยฮีโร่ผู้กล้าจากรัฐ Idaho ประเทศสหรัฐฯ ได้รับการติดต่อจากแคมเปญ ‘Make-A-Wish’ รายการที่เสนอให้เธอได้ออกไปเที่ยวตามความฝัน พร้อมกับจ่ายเงินให้ทุกบาททุกสตางค์แบบฟรีๆ แม่ของเธอได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Inside Edition ไว้ดังนี้ “ฉันอยากจะพาเธอไปที่ดิสนีย์แลนด์อีกครั้ง เพราะทริปครอบครัวของเราครั้งแรก ก็คือการไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ เป็นช่วง 1 เดือนก่อนหน้าที่เราจะพบว่าเธอป่วยเป็นมะเร็ง” ซึ่งคุณแม่ก็หวังว่า ความช่วยเหลือจากรายการดังกล่าว จะช่วยสานฝันให้เป็นจริงอีกครั้ง     ถึงแม้ว่าโอกาสความฝันของเธอจะเข้ามาแบบฟรีๆ แต่สิ่งที่เธอตัดสินใจกลับแตกต่างออกไป กลายเป็นสิ่งที่เซอร์ไพรส์คนทั้งครอบครัว และทุกคนต่างภูมิใจในตัวลูกสาวผู้เสียสละคนนี้ เธอเลือกที่จะนำเงินที่ทางรายการจัดสรรมาให้ ใช้ไปกับการจัดปิคนิคขนาดใหญ่ ที่ๆเธอและครอบครัวจะนำอาหาร น้ำดื่ม หรือสิ่งของจำเป็นอื่นๆ เข้าไปแจกจ่ายช่วยเหลือคนไร้บ้าน     งานนี้ได้ระดมเงินทั้งหมดเป็นจำนวนมากถึง £13,000 (ประมาณ 5 แสนบาท) และทุกบาททุกสตางค์ ถูกนำไปซื้อของใช้จำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้…

  • World Homeless Day รวม 14 ภาพชีวิตความลำบากของ “คนไร้บ้าน” จากทั่วทุกมุมโลก

    World Homeless Day รวม 14 ภาพชีวิตความลำบากของ “คนไร้บ้าน” จากทั่วทุกมุมโลก

    ทุกวันที่ 10 ตุลาคม ในทุกๆ ปี หลายคนอาจจะคิดว่ามันคงเป็นวันธรรมดาๆ ทั่วไป แต่จริงๆ แล้วคือวัน “World Homeless Day” (วันผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะโลก) หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า วันคนไร้บ้านหรือคนเร่ร่อนนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ทางเว็บไซต์ photocrowd.com จึงได้จัดการประกวดถ่ายภาพคนไร้บ้าน เพื่อทำให้ผู้คนได้เห็นถึงความยากลำบากของคนเร่ร่อน และให้สังคมให้ตระหนักถึงปัญหาคนไร้บ้าน ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุดเสียที และทั้งหมดนี้คือภาพถ่ายการใช้ชีวิตของคนไร้บ้านจากประเทศต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก ที่ถูกบอกเล่าผ่านการประกวดในครั้งนี้   ชายไร้บ้านบนถนนในเมืองฮาราร์ ประเทศเอธิโอเปียตะวันออก   ช่างภาพบันทึกภาพของหญิงขอทาน ในกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส หลังจากที่เขาได้พูดคุยกับเธอ   ภาพของชายไร้บ้าน ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่ถึงแม้ว่าเขาจะแทบไม่มีอะไร และต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเอง แต่ก็ยังหาอาหารมาเลี้ยงฝูงนกพิราบอยู่เสมอ   ชายไร้บ้านกำลังนั่งเผากระดาษ ในคิงสตัน อัพพอน ฮัลล์ ประเทศอังกฤษ เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงคนไม่มีที่อยู่อาศัย ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด   ชายไร้บ้าน ที่นั่งอยู่ระหว่างคำว่าสุขภาพ และความงาม ในนิวยอร์กซิตี้   คนเก็บขยะได้เหลียวมองมาที่ชายคนหนึ่ง…

  • คุณแม่ลูกสามถูกหวย พาลูกไปซื้อของเล่น เจอ ‘คนไร้บ้าน’ กลางทาง เปลี่ยนใจช่วยเหลือเขาแทน…

    คุณแม่ลูกสามถูกหวย พาลูกไปซื้อของเล่น เจอ ‘คนไร้บ้าน’ กลางทาง เปลี่ยนใจช่วยเหลือเขาแทน…

    การถูกหวยคงเป็นสิ่งที่หลายๆ คนปรารถนา ไม่งั้นสลากกินแบ่งรัฐบาลคงไม่สามารถอยู่ได้หรอกเนาะ แถมไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ก็ยังมีผู้เล่นหน้าใหม่ๆ แวะเวียนเข้าไปเล่นกันอย่างมาก…   และถ้าสามารถถูกหวยขึ้นมาได้ล่ะก็ หลายๆ คนก็คงจะจินตนาการว่าจะนำเงินจำนวนนั้นๆ ไปใช้อะไรกันบ้าง ส่วนมากก็คงปรนเปรอตัวเองนั่นแหละ แต่จะมีใครสักกี่คนที่ใช้ลาภลอยนี้เพื่อผู้อื่นบ้าง?? Sofia Lorena ซิงเกิลมัมคนนี้ก็เช่นกัน เธอถูกหวยรางวัลเล็กๆ จำนวนเงินก็ราวๆ 200 เหรียญ หรือ 7,000 บาท เธอเตรียมใช้เงินส่วนนี้ซื้ออะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้กับลูกของเธอ…จนกระทั่งเธอเปลี่ยนใจเมื่อเจอคนที่ต้องการมันจริงๆ   เธอกะว่าจะใช้เงินจำนวนดีซื้ออะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้กับลูกๆ ทั้ง 3 คนของเธอ   ก่อนที่เธอจะไปเจอเข้ากับ Glenn ชายแก่ไร้บ้านคนหนึ่ง…   ‘ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้ใช้เงินที่ถูกหวย แต่แล้วฉันก็เจอ Glenn เขาถือป้าย ‘Homeless(คนไร้บ้าน)’ อยู่ท่ามกลางลมหนาวของอุณหภูมิติดลบที่ถาโถมเข้ามา มือของเขากำลังสั่น และกำลังร้องไห้’ เธอโพสต์ในเฟซบุ๊คของเธอ   Glenn ชายไร้บ้าน   ‘ทันใดนั้นฉันก็หยุดรถและเลื่อนกระจกลง ฉันเสนอที่จะซื้อกาแฟร้อนๆ ให้เขาสักแก้วซึ่งเขาก็ลังเลก่อนที่จะขึ้นรถมาด้วย เราขับไปที่ดังกิ้นส์โดนัท…

  • นาทีอบอุ่นหัวใจ หนูน้อยมะกันแบ่งอาหารในจานให้กับคนเร่ร่อน ที่นั่งหิวอยู่นอกร้าน

    นาทีอบอุ่นหัวใจ หนูน้อยมะกันแบ่งอาหารในจานให้กับคนเร่ร่อน ที่นั่งหิวอยู่นอกร้าน

    นี่คือเรื่องราวของหนูน้อยใจดี Ella Scott ที่โด่งดังในโลกออนไลน์ของต่างประเทศในขณะนี้ สำหรับหลายคนที่ยังไม่รู้จักเธอ ลองมาดูเรื่องนี้กัน… โดยเว็บไซต์เดลีเมล์ได้รายงานว่าหนูน้อย Ella และคุณพ่อ Eddie ได้ไปทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา     ซึ่งในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังนั่งกินอาหารอยู่ภายในร้านนั้นเอง เด็กน้อยก็สังเกตเห็นว่าที่ด้านนอกร้านมีคนเร่ร่อนนั่งอยู่ 1 คน เธอจึงเกิดความสงสารและขออนุญาตคุณพ่อเพื่อนำเอาอาหารของเธอไปให้กับคนเร่ร่อนได้กิน จากนั้นเธอจึงเดินออกไปนอกร้านพร้อมกับถือจานสเต็กไปให้เขา     หลังจากนั้น Ella ก็กลับเข้ามาในร้านอาหารและนั่งตรงข้ามกับพ่อของเธอ พ่อเลยบอกกับลูกสาวว่า “เก่งมาก Ella หนูสุดยอดมาก พ่อคิดว่าหนูทำให้เขามีความสุขมากนะวันนี้ หรืออาจจะมีความสุขไปทั้งสัปดาห์เลย มันทำให้หนูรู้สึกยังไงบ้าง?”  หนูน้อย Ella ตอบเพียงสั้นๆ ว่า “หนูชอบนะคะ”     คุณพ่อ Eddie จึงอดไม่ได้ที่จะถ่ายคลิปทั้งหมดแล้วนำมันมาเผยแพร่ลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง พร้อมกับบอกว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้สอนลูกของเขาให้เห็นใจเพื่อนมนุษย์และมอบโอกาสให้กับคนที่ยากไร้ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในเมืองอย่างนิวยอร์กก็ตาม   .   คลิปที่คุณพ่อถายทอดออกมา แบ่งปันให้กับสังคมได้เห็นแง่มุมดีๆ   แหม่ ต้องเลี้ยงลูกยังไงถึงจะเติบโตมาเป็นคนดีของสังคมแบบนี้ น่าชื่นชมคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ขัดเกลาให้เธอเป็นคนน่ารักแบบนี้จริงๆ…

  • เจ้าหนูวัย 14 เห็นชายไร้บ้านรองเท้าขาดซอมซ่อ เขาตัดสินใจ ‘เสียสละ’ รองเท้าตัวเองให้…

    เจ้าหนูวัย 14 เห็นชายไร้บ้านรองเท้าขาดซอมซ่อ เขาตัดสินใจ ‘เสียสละ’ รองเท้าตัวเองให้…

    ช่วงที่ผ่านมาไม่นานนี้เป็นช่วงเทศกาลวันแรงงานของประเทศสหรัฐอเมริกา หลายๆ คนอาจจะเฉลิมฉลองกันในรูปแบบต่างๆ แต่ไม่ใช่กับหนุ่มน้อยคนนี้ LaRon Tunstill หนุ่มวัย 14 ปีจากรัฐเคนทัคกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา วันหนึ่งขณะที่เขาไปร่วมงานเลี้ยงปาร์ตี้บาร์บีคิว ที่คุณ Jason Reynolds ผู้ซึ่งจัดโครงการ PurpMe ดูแลคนยากไร้ในละแวกนั้นเป็นประจำ และเขาก็เข้าร่วมเป็นประจำด้วยเช่นกัน…   ในตอนนั้น LaRon (หรือที่คนละแวกนั้นเรียกเขาว่าเจ้าหนู RonRon) ก็เจอคนไร้บ้านคนหนึ่ง รองเท้าของเขาขาดยับเยิน…   เห็นดังนั้น RonRon เลยถอดรองเท้าคู่ใหม่ของเขาทันที และนำไปมอบให้กับชายไร้บ้านคนนั้น ซึ่งตอนแรกชายคนนั้นก็รู้สึกลังเลและเกรงใจที่จะรับมาก เพราะรองเท้าคู่นั้นก็ไม่ได้ราคาถูกๆ เลย แต่เจ้าหนูก็พูดออกไปว่า ‘รับไปเถอะครับคุณ เพราะนี่คือสิ่งที่พระเจ้าเห็นว่าผมควรทำ’ เหตุการณ์นี้ทำให้ Jason Reynolds เจ้าของมูลนิธิรู้สึกประทับใจมาก ‘ชีวิตของผมเปลี่ยนไปเลยล่ะที่ได้เห็นโมเม้นต์สุดประทับใจนี้’   คลิปที่คนตรงนั้นบันทึกโมเม้นต์สุดประทับใจ (ถ้าชมคลิปไม่ได้คลิกที่นี่ครับ) Ronron gave his shoes to the homeless man โพสต์โดย Purpme บน 5 กันยายน 2016   ตอนนี้ Jason ก็ได้จัดแคมเปญในเพจ GoFundMe เพื่อนำเงินบริจาคจากการระดมทุนนำไปช่วยเด็กๆ…

  • ตามกันไปชมกับรายการ ‘Extreme Homeless Makeovers’ ที่จะเปลี่ยนคนไร้บ้าน ให้กลับมาดูดีอีกครั้ง

    ตามกันไปชมกับรายการ ‘Extreme Homeless Makeovers’ ที่จะเปลี่ยนคนไร้บ้าน ให้กลับมาดูดีอีกครั้ง

    เป็นเหมือนเรื่องธรรมดา ที่คนเรามักจะตัดสินคนอื่นจากรูปลักษณ์ภายนอก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีขนาดใหญ่ และการแข่งขันสูง สำหรับคนบางคน เขาอาจจะก้าวเดินผิดทาง หรือตัดสินใจผิดพลาดเพียงครั้งเดียวในชีวิต จนส่งผลให้ชะตาชีวิตพลิกผัน กลายเป็นผู้อยู่อย่างไร้บ้าน…. แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเรานำคนไร้บ้าน มาสลัดคราบตัดผม โกนหนวด ที่แสนจะยาวรุงรัง ให้พวกเขาได้กลับมาดูดี หล่อเหลาขึ้นอีกครั้ง กับรายการ ‘Extreme Homeless Makeovers’     กับตอนแรกสุดของรายการ โดยการนำชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า Luke หรือรู้กันในชื่อ(A.K.A) Jesus ชายผู้สูญเสียสิ่งสำคัญหลายๆอย่างในชีวิต จนทำให้เค้าต้องกลายมาเป็นบุคคลไร้บ้าน ไม่ได้ตัดผมหรือโกนหนวดมานานแล้วหลายปี และชายคนนี้ก็ไม่ได้เตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้… เมื่อจู่ๆรายการก็พาพี่แกไปยังร้านตัดแต่งทรงผมท่านชายแห่งหนึ่งในเมือง Vancouver   โฉมหน้าของชายที่ชื่อว่า Luke สมแล้วที่แกได้รับอีกชื่อหนึ่งว่า Jesus (ดูเหมือนมากจริงๆ)   Luke รู้สึกตื่นเต้นสุดๆที่ไม่ได้มาใช้บริการตัดผม โกนหนวด โดยช่างผมผู้ชำนาญแบบนี้มานานหลายปีแล้ว   และนี่คือสภาพก่อนและหลังการเสริมหล่อในครั้งนี้ ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยนะเนี่ย..   เราไปชมคลิปวิดีโอเต็มๆจากรายการกันเลยดีกว่า ว่างานนี้พี่แกจะออกมาหน้าตาหล่อเหลาขนาดไหน…   ท้ายที่สุดแล้วคุณ Luke ก็ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่ได้มีเค้าโครงสภาพความเป็น Jesus…

  • ช่างภาพนำรูป ‘คนจรจัด’ มาสร้างเป็น ‘อาชีพในฝัน’ ที่พวกเขาอยากเป็น แต่ไม่มีวันได้ทำ…

    ช่างภาพนำรูป ‘คนจรจัด’ มาสร้างเป็น ‘อาชีพในฝัน’ ที่พวกเขาอยากเป็น แต่ไม่มีวันได้ทำ…

    คนเราไม่ว่าจะเกิดที่ไหน ฐานะเป็นยังไงเราต่างก็มีความฝันด้วยกันทั้งนั้น แต่ต้องยอมรับว่า บางคนที่อยู่ได้ทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขามีความฝัน แม้กระทั่งคนจรจัดไร้บ้าน ที่ไม่มีอะไรเลย แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขามีไม่ต่างจากคนทั่วไปก็คือ ‘ความใฝ่ฝัน’ นั่นเอง Horia Manolache ช่างภาพที่ได้ตามไปถ่ายรูปคนไร้บ้าน พร้อมถามถึงความใฝ่ฝันของพวกเค้า แล้วได้นำรูปของพวกเค้ามาทำเป็นภาพความใฝ่ฝันของแต่ละคน     โดยล่าสุดนี้ เค้าได้ระดมเงิน เพื่อจะทำเป็นหนังสือที่ตีแผ่เรื่องราวของพวกเค้า ชื่อว่า “The Prince and the Pauper” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายของ Mark Twain (เนื่องจากช่างภาพยังไม่ได้ระบุชื่อและอาชีพของแต่ละคนอย่างชัดเจน ทางเว็บ Catdumb จึงคาดเดาความใฝ่ฝันจากรูปภาพ ซึ่งผู้อ่านสามารถคิดต่างได้)   1. อยากเป็นทหารบก   2. Tammy มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนางงาม   3. Bill ใฝ่ฝันอยากใช้ชีวิตหรูๆ ในวัยชรา   4. ชุดคนนี้เดาให้นึกถึงกะลาสีเรือนะ   5. Honey อยากเป็นนักสำรวจใต้น้ำ   6. Mike อยากเป็นนักโบราณคดี  …

  • คนไร้บ้านเดินขอเศษเงินจากกลุ่ม ‘ช่างทาสี’ พวกเขาไม่ให้เงิน แต่จ้างให้ทำงานซะเลย..!!

    คนไร้บ้านเดินขอเศษเงินจากกลุ่ม ‘ช่างทาสี’ พวกเขาไม่ให้เงิน แต่จ้างให้ทำงานซะเลย..!!

    คนไร้บ้าน หรือ ขอทาน เราคิดยังไงกับพวกเค้ากัน…. ถ้าพวกเค้าเลือกได้ เชื่อว่าบางคนเค้าก็คงอยากทำงานทำการเหมือนเราๆเนี่ย และบางทีโอกาสของคนเราก็ไม่เหมือนกันเนาะ วันนี้ #เหมียวขี้ส่อง จะพาดูเรื่องราวดีดี ของคนไร้บ้านเนี่ยแหละ คือ เค้าก็เหมือนขอทานทั่วไปที่เดินขอเศษเงินจากคนอื่น แต่สิ่งที่เขาได้รับนั้น บอกเลย มันมีค่ายิ่งกว่าเศษเงินเสียอีก ยังไงละ??     เรื่องราวนี้เกิดที่ทางตอนเหนือของเมืองแมนเชสเตอร์ โดย Darren Wheatcroft เจ้าของภาพเล่าว่า ‘ชายไร้บ้านคนหนึ่ง เดินขอเงินคนที่ผ่านทั่วๆไป และเขาก็มีท่าทีสุภาพ แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับเงิน แต่เขาก็ยังอวยพรให้วันนี้เป็นวันที่ดีสำหรับคนเหล่านั้นด้วย’   ต่อมาเขาได้เข้าไปขอเงินจากช่างทาสีคนหนึ่ง ช่างทาสีไม่มีเงินให้ แต่ก็ถามเขาว่า ‘ดื่มน้ำมั้ย?’ ชายไร้บ้านบอกว่า ‘ไม่เป็นไร’ ช่างทาสีคนนี้ก็เลยไปคุยกับเพื่อนร่วมงานว่า ‘เราควรจะให้งานเค้าทำดีมั้ย?’  และเพื่อนๆ ต่างก็เห็นด้วย จากนั้น พวกเขาก็คุยกันนิดหน่อย แล้วชายไร้บ้านก็วางกระเป๋าลง แล้วหยิบแปรงทาสีขึ้นมาทำงาน     คนถ่ายภาพยังบอกเพิ่มว่า ชายไร้บ้านดูมีความสุขกับการทำงาน ระหว่างทำงานเค้าก็ได้พูดคุยกับเหล่าช่างทาสีด้วย ผู้คนที่ผ่านไปผ่านก็คุยกับพวกเขาเช่นกัน เราไม่รู้เลยว่าเขาตกลงค่าจ้างเอาไว้มากน้อยเพียงใด คาดว่าอาจจะเป็นกลุ่มช่างทาสีร่วมกันแบ่งเงินค่าจ้างวันนั้นคนละนิดละหน่อยให้เขา เพื่อจะได้มีเงินไปซื้ออะไรกินหรือใช้ชีวิตต่อไป… แต่มันก็เป็นเหตุการณ์ที่ให้แง่คิดอะไรหลายๆ อย่างเลยเนอะ   บางทีโอกาสอาจจะมีไม่เท่ากันในสังคม คนที่ดูไม่ค่อยดีหรือยากไร้…

  • น่ายกย่อง… พนักงานร้านฟาสต์ฟู๊ด ควักเงินตัวเอง ซื้อของกินให้ ‘คนไร้บ้าน’ ผู้หิวโหย

    น่ายกย่อง… พนักงานร้านฟาสต์ฟู๊ด ควักเงินตัวเอง ซื้อของกินให้ ‘คนไร้บ้าน’ ผู้หิวโหย

    การเป็นคนดี ทำดี ก็ย่อมได้รับสิ่งดีๆตอบแทน #เหมียวขาสั้น คนนึงแหละที่เชื่อแบบนั้น   เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่เมือง San Antonio รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา นาง Michelle Resendez มารดาของนาย Matthew ได้โพสต์เล่าเรื่องเกี่ยวกับ “เหตุการณ์ที่คนเป็นแม่ต้องประทับใจ” เพื่อให้โลกได้รับรู้และร่วมชื่นชมต่อการกระทำของลูกชายเธอ   แม่ของเขาบรรยายว่าในบ่ายวันหนึ่ง ขณะที่ลูกของเธอทำงานอยู่ ก็มีชายไร้บ้านเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับเงินจำนวนครึ่งเซนต์ เข้ามาถามเขาว่ามีอะไรในเมนูที่เขาพอจะซื้อได้ไหม (แค่นั้นคงไม่พอซื้ออะไรหรอกลุง TT) ด้วยความสงสาร Matthew ถามชายคนนั้นกลับไปว่า “ถ้าเป็นไปได้ คุณอยากจะกินอะไรล่ะ” ชายไร้บ้านจึงตอบกับเขาว่า “อะไรก็ได้ทั้งแหละ ที่จะช่วยบรรเทาความหิวโหยของเขาได้”   สิ่งที่ Matthew ทำต่อมา เรียกได้ว่าน่าซาบซึ้งใจสุดๆ เขาควักบัตรเดบิทขึ้นมา และซื้ออาหารให้ชายแก่อย่างไม่ลังเล จากนั้นก็ยื่นใบเสร็จให้ พร้อมกับบอกให้เขาไปนั่งพักและทำตัวตามสบาย   เหตุการณ์อันน่าประทับใจยังไม่จบเพียงเท่านั้น ด้วยความบังเอิญ มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอเห็นเหตุการณ์อันน่าประทับใจทั้งหมด เธอจึงเขียนไปถึงเจ้านายของ Matthew เพื่อชื่นชมต่อการกระทำของเขา และยังไม่พอ… เธอยังตบทิปแก่เขาอย่างงดงามอีกด้วย!!   เหตุการณ์นี้จึงทำให้แม่ของเขาภูมิใจเป็นอย่างมากที่มีลูกชายที่จิตใจกว้างขวางแบบนี้ สิ่งที่ Matthew ทำนั้น เป็นสิ่งที่ทำออกมาจากใจโดยที่ไม่ได้หวังผลตอบแทน การเป็นคนดี ทำดี ก็ย่อมได้รับสิ่งดีๆตอบแทนขอให้ทุกคนจงยืนหยัดต่อการทำความดีต่อไป…

  • เกือบไปแล้วไหมล่ะ!! ชายหนุ่มเผลอหลับ ถูกโยนใส่รถขนขยะ โชคดีที่มีคนช่วยไว้ทัน

    เกือบไปแล้วไหมล่ะ!! ชายหนุ่มเผลอหลับ ถูกโยนใส่รถขนขยะ โชคดีที่มีคนช่วยไว้ทัน

    เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่ามีชายคนหนึ่งในเมืองคัมเบรีย ประเทศอังกฤษ ได้เผลอหลับลงไปในถังขยะข้างถนนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และเกือบตายเมื่อร่างของเขาถูกโยนใส่รถทรรทุกขยะที่มีระบบบีบอัดอัตโนมัติ     โชคดีที่เขาสะดุ้งตื่นและส่งเสียงออกมา ทำให้พนักงานเก็บขยะได้ยินเข้าจึงได้พยายามช่วยเหลือเขา มีทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและตำรววจตะโกนเสียงดังบอกว่า “มองตามแสงออกมา” เพราะเนื่องจากภายในรถขนขยะนั้นมีขยะเต็มไปหมด ทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นทางได้     แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ทั้งหมดก็สามารถช่วยเหลือเขาได้ทันเวลา เมื่อชายหนุ่มออกมาจากรถขนขยะได้แล้ว เจ้าตัวก็รู้สึกดีใจมาก พร้อมกับชูนิ้วโป้งให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เข้าช่วยเขาเอาไว้ คลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Jordan Nicholson ผู้ที่เคยทำงานเป็นคนขับรถบรรทุกมาก่อน พร้อมกันนี้เจ้าตัวยังแสดงความเห็นด้วยว่า “มันเหลือเชื่อมากที่เขารอดมาได้โดยที่ไม่ถูกสับเป็นชิ้นๆ ไปซะก่อน”     ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย   เกือบตายแล้วไหมล่ะ ที่มีตั้งเยอะตั้งแยะไม่ไปนอนล่ะพี๊!! ที่มา metro

  • หนุ่มวัยทำงานพบความจริงของคนไร้บ้านเก็บเงินเพื่อไปเรียนรู้การอ่าน เขาจึงอาสาช่วยสอนหนังสือให้!!

    หนุ่มวัยทำงานพบความจริงของคนไร้บ้านเก็บเงินเพื่อไปเรียนรู้การอ่าน เขาจึงอาสาช่วยสอนหนังสือให้!!

    กลุ่มคนไร้บ้าน คนยากจน ไม่มีที่อยู่ มักจะถูกมองว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่มักจะขอเงินเพื่อนำไปซื้อในสิ่งของที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่สำหรับบางคนพวกเขานำเงินที่ขอมาได้นั้นไปต่อยอดในสิ่งที่พวกเขาขาด เพราะชีวิตของพวกเขานั้นไม่รับโอกาสเหมือนกับคนทั่วไป     Greg Smith ชายหนุ่มวัยทำงานจาก Orlando, Florida ได้พบกับหญิงไร้บ้านคนหนึ่ง เธอมีชื่อว่า Amy Joe เขาพบกับเธอทุกวันตลอดทั้งสัปดาห์ ณ ริมถนน โดยที่เธอพูดเพียงแค่ไม่กี่ประโยค ซ้ำๆ เดิมๆ แต่ไม่เคยมีประโยคขอเงินจากปากเธอแม้แต่ครั้งเดียว     จนเขามารู้ในภายหลังว่า เธอเก็บเงินที่ได้จากน้ำใจของคนที่ให้มานำไปใช้เพื่อเช่าหนังสือจากห้องสมุด เพื่อเรียนรู้การอ่านแทนที่จะนำไปใช้ซื้ออาหารเพื่อประทังชีวิต นั่นเป็นเพราะว่าเธออ่านหนังสือไม่ออก เพราะขาดโอกาสในการเรียน นั่นทำให้ Greg Smith ถึงกับอึ้งไปในทันที     ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงอาสาช่วยสอนหนังสือให้กับเธอ ใช้เวลาร่วมกันประมาณ 30 นาทีทุกวันอังคาร ช่วงเวลาพักเที่ยง ทานอาหารกลางวันด้วยกัน และเขาก็ได้เช่าหนังสือมาเพื่อสอนเธออ่านหนังสือ จากนั้นก็จะให้เธอไปฝึกฝนการอ่านเองตลอดทั้งสัปดาห์และกลับมาพบกันใหม่     แม้ว่าชีวิตของ Amy Joe จะยากลำบากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ แม้จะขาดโอกาสในการเรียนไป…

  • อีกมุมหนึ่งของมหานคร ‘Los Angeles’ เมืองที่ถูกขนานนามว่า ‘เมืองหลวงของคนไร้บ้าน’

    อีกมุมหนึ่งของมหานคร ‘Los Angeles’ เมืองที่ถูกขนานนามว่า ‘เมืองหลวงของคนไร้บ้าน’

    ใครเล่าจะรู้ว่าเมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกในเรื่องของความเจริญ ความเป็นอยู่ที่หรูหราของชาวเมือง อย่างกรุง Los Angeles จนทำให้คนจากทั่วทั้งโลกใฝ่ฝันอยากมาเยือนสักครั้งในชีวิต แท้จริงแล้วมีเบื้องหลังที่น่าตกใจอยู่…เพราะที่นี่เป็นเมืองที่มีเหล่า ‘คนไร้บ้าน’ อาศัยอยู่มากที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคิดเป็น 70% ของทั้งหมด จนถูกขนานนามว่า ‘เมืองหลวงของคนไร้บ้าน’ เลยทีเดียว   เหล่าคนไร้บ้านทั้งหลาย ได้อาศัยแม่น้ำ Los Angeles ที่มีความยาวกว่า 77 กิโลเมตร เป็นที่อยู่อาศัย โดยใช้อาบน้ำและทำความสะอาดร่างกาย   บ้างก็อาศัยอยู่ตามเต้นท์…   บ้างก็อาศัยอยู่ในรถที่ถูกผู้คนทิ้งไว้ก็มี ปัญหาคนไร้บ้านในนคร Los Angeles นั้นเป็นปัญหาที่ใหญ่หลวงมาก…   เพื่อให้พวกเขาได้มีบ้านอยู่ที่เป็นของตัวเองจริงๆ และมีหน้าที่การงานทำสักที ทางองค์กรที่รับผิดชอบแก้ไขปัญหานี้ถึงกับเรียกร้องค่าใช้จ่ายกว่า 3,500 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหานี้ในระยะยาว                         เป็นอย่างไรกันบ้างจ๊ะ อย่างที่เค้าว่ากันว่าบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์เพอร์เฟ็คไปเสียทุกอย่าง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่นครหรูอย่าง Los Angeles จะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น…

  • น่ารักมาก ร้านอาหารในสหรัฐเปิดให้บริการแก่ “คนไร้บ้าน” พร้อมสโลแกน “อิ่มอย่างมีเกียรติ”

    น่ารักมาก ร้านอาหารในสหรัฐเปิดให้บริการแก่ “คนไร้บ้าน” พร้อมสโลแกน “อิ่มอย่างมีเกียรติ”

    บางครั้งการเห็นเหล่าคนไร้บ้านต้องนอนหิวโหยตามข้างถนน อาจทำให้จิตใจของคนบางคนเป็นกังวลและอยากจะเข้าไปช่วยเหลือพวกเขา นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของร้านอาหารแห่งหนึ่งในสหรัฐ ที่มีไว้เพื่อคอยบริการเหล่าคนไร้บ้านโดยเฉพาะยังไงล่ะ     เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ Huffingtonpost ได้เผยแพร่เรื่องราวดีๆ ของร้านอาหารที่ชื่อว่า Kansas City Community Kitchen ที่ตั้งอยู่ในรัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา     ร้านอาหารแห่งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือขององค์กรการกุศล ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เหล่าคนไร้บ้านมานานกว่า 30 ปี โดยมีสโลแกนว่า “อิ่มอย่างมีเกียรติ” โดยจะเริ่มให้บริการในช่วงเวลาประมาณ 11.00 – 14.00 น. ของทุกๆ วัน     เหล่าคนไร้บ้านจะถูกบริการอย่างดีประหนึ่งเป็นลูกค้าทั่วๆ ไป ตั้งแต่ทักทาย พาไปนั่งที่โต๊ะ รับออร์เดอร์ ชวนคุย เสิร์ฟอาหาร   นาย Brian Oglesby หนึ่งในคนไร้บ้านที่เข้ารับบริการที่ร้านแห่งนี้กล่าวว่า “มันแตกต่างเหลือเกิน พวกเขาปฏิบัติต่อผมอย่างดี เหมือนกับว่าพวกเขาไม่ได้รู้เลยว่าผมเป็นคนไร้บ้าน”     เมนูหลายๆ อย่างในร้านแห่งนี้ถูกปรุงแต่งและควบคุมโดยเชฟ Michael Curry เจ้าของร้าน…

  • ไม่มีเงินสดเราช่วยคุณได้!! คนไร้บ้านในอเมริกาสุดล้ำ พกเครื่องอ่านการ์ด ช่วยให้คุณบริจาคเงินง่ายขึ้น!!

    ไม่มีเงินสดเราช่วยคุณได้!! คนไร้บ้านในอเมริกาสุดล้ำ พกเครื่องอ่านการ์ด ช่วยให้คุณบริจาคเงินง่ายขึ้น!!

    หากคุณรู้สึกสงสารเหล่าคนไร้บ้านตามท้องถนน แล้วอยากจะแบ่งปันน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ให้พวกเขา แต่ดันลืมพกเงินสดไปแล้วล่ะก็ ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะเดี๋ยวนี้คนไร้บ้านเริ่มพัฒนา พกเครื่องอ่านการ์ดไว้สำหรับคนที่ลืมพกเงินสดแล้วนะเออ!!   เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่านาย Abe Hagenston ผู้เรียกตนเองว่า “คนไร้บ้าน” ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาเริ่มหาวิธีใหม่ให้กับคนที่ต้องการบริจาคเงินให้กับเขาด้วยการนำเครื่องอ่านการ์ดมาใช้ ทำให้ผู้คนสามารถบริจาคให้เขาได้ง่ายขึ้น     นาย Hagenston บอกกับนักข่าวว่าเขาออกมาใช้ชีวิตอยู่บนถนนนานกว่า 7 ปีแล้ว เขากลายเป็นพวกไร้บ้านที่ต้องอาศัยนอนตามถนนและขอเงินบริจาคจากคนที่ผ่านไปผ่านมา ในขณะเดียวกันเขาก็รับงานรับจ้างทั่วๆ ไปด้วยเช่นกัน   ในทุกๆ ปี นาย Hagenston จะใช้เวลาในช่วงหน้าหนาวในการรับจ้างตักหิมะตามบ้านเรือนต่างๆ เพื่อหารายได้ให้กับตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าปีนี้อากาศจะไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ ทำให้เขาไม่ค่อยมีงานทำเท่าไหร่นัก     แต่แทนที่เขาจะออกหางานอื่นๆ ทำ เขากลับรวมกลุ่มกับคนเร่ร่อนคนอื่นๆ ในเมืองเพื่อจัดตั้งเป็นกลุ่มก้อน (คล้ายกับสหภาพอะไรสักอย่าง) แล้วออกเรี่ยไรเงินผู้คนตามท้องถนน โดยจะแบ่งเขตของใครของมัน   เมื่อหาเงินมาได้แล้ว พวกเขาก็จะนำเงินมาแบ่งกัน โดยกลยุทธ์ใหม่ของพวกเขาคือนำเอาเครื่องอ่านการ์ดมาใช้ ซึ่งก็ช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่พวกเขาได้ดีทีเดียว     ทั้งนี้นาย Hagenston ยังมีเฟซบุ๊กเพจเป็นของตัวเองด้วย ตามข้อมูลในเฟซบุ๊กของเขาต้องบอกว่าไม่ธรรมดาทีเดียว เพราะเขาเคยเรียนจบจากโรงเรียนมัธยม…

  • เด็กๆ ใจบุญในแคนาดา นำเสื้อโค้ตไปผูกติดกับเสาเพื่อให้ “คนไร้บ้าน” นำไปใส่ในหน้าหนาว

    เด็กๆ ใจบุญในแคนาดา นำเสื้อโค้ตไปผูกติดกับเสาเพื่อให้ “คนไร้บ้าน” นำไปใส่ในหน้าหนาว

    ความมีน้ำใจ ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นเรื่องเฉพาะเด็กหรือผู้ใหญ่ เพราะการที่เราจะให้ใครสักคน ไม่จำเป็นหรอกว่าเราจะมีมากหรือมีน้อย เหมือนอย่างผู้หญิงคนหนึ่ง พร้อมทั้งเหล่าเด็กๆ ที่ได้ทำการแสดงความมีน้ำใจในวันหยุดของพวกเขา ซึ่งเกี่ยวกับกลุ่มคนไร้บ้าน Tara Smith-Atkins ผู้เป็นแม่ เป็นกังวลว่าคนไร้บ้านจะทำยังไงเมื่อถึงหน้าหนาว เธอจึงชักชวนลูกสาวของเธอวัย 8 ขวบ และเพื่อนๆของลูกอีก 7 คน ในการนำเอาเสื้อโค้ตไปผูกติดกับเสาข้างทางในเมือง Halifax เพื่อให้คนไร้บ้านได้มาเอาไปสวมใส่เมื่อถึงหน้าหนาว อีกทั้งยังเป็นการฉลองวันเกิดให้กับลูกสาวของเธอด้วย   คุณแม่กล่าวว่า “เหล่าเด็กๆจะได้เรียนรู้อะไรสำคัญๆจากเหตุการณ์นี้แน่นอน”   “เพราะหลังจากที่เรากลับมาที่รถหลังจากเอาเสื้อโค้ตไปมัด เด็กๆ ทุกคนต่างหนาวและเรียกร้องหาฮีตเตอร์ แถมยังบ่นเรื่องอากาศอีก แล้วสุดท้ายก็หาอะไรมาคลุมตัวเองในที่สุด”   หลังจากนั้นครอบครัวนี้ก็ใช้เวลาไม่กี่อาทิตย์ในการแจกจ่ายเสื้อโค้ตให้กับชุมชน   ที่มา boredpanda

  • 13 ภาพสุดสะเทือนใจ ‘McSleepers’ ชีวิตของคนไร้บ้าน นอนหลับในแมคโดนัลด์ในฮ่องกง

    13 ภาพสุดสะเทือนใจ ‘McSleepers’ ชีวิตของคนไร้บ้าน นอนหลับในแมคโดนัลด์ในฮ่องกง

    กลายเป็นปัญหาใหญ่โตที่เริ่มรุกรานสำหรับกลุ่มทีเรียกว่า “McRefugees” หรือ “McSleepers” ซึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์อันน่าจะเทือนใจสำหรับคนที่ไม่มีที่อยู่ แล้วเลือกร้าน “แมคโดนัลด์” เป็นแหล่งพักพิง ตอนนี้ปัญหาขึ้นค่าเช่ากำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในทวีปเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นประเทศญี่ปุ่น จีน หรือ ฮ่องกง จนคนไม่สามารถใช้เงินที่หามาเช่าที่อยู่เป็นของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีการศึกษาดี มีพื้นฐานครอบครัวที่ดี มีงานประจำทำ ก็กำลังเผชิญกับปัญหานี้เช่นเดียวกัน ทางที่ดีที่สุดก็คือการไปนอนที่ที่เปิด 24 ชั่วโมงอย่างแมคโดนัลด์   ช่างภาพจากรอยเตอร์ Tyrone Siu ได้เดินทางไปยังร้านแมคโดนัลด์ในฮ่องกงเพื่อเก็บภาพอันน่าสะเทือนใจเหล่านี้   เขาบอกว่าภาพเหล่านี้ชาวฮ่องกง จีน และญี่ปุ่น เห็นกันเป็นปกติแล้ว เหตุเพราะว่าราคาที่ดินและค่าเช่าสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดคนไร้บ้านเพิ่มขึ้น จึงต้องมาอาศัยที่แมคโดนัลด์แทน   แมคโดนัลด์จะเปิดทำการ 24 ชั่วโมงทุกวัน อย่างภาพข้างล่างนี่ก็แสดงให้เห็นว่ามีคนมาใช้บริการอยู่ไม่ขาดสาย   ราคาบ้านในฮ่องกงขึ้นสูงถึง 130% มาตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งรายได้ไม่อาจพอที่จะเป็นเจ้าของได้ จนกลายเป็นอันดับสามของราคาที่ดินที่แพงที่สุดในโลกแล้ว   ศาสตราจารย์ Wong Hung จาก Chinese University of Hong Kong ได้กล่าวว่าก่อนหน้านี้กลุ่มคนไร้บ้านมักจะมาจากสาเหตุติดยา หรือไม่ก็ป่วย แต่ตอนนี้กลุ่มคนไร้บ้านมาจากปัญหาเศรษฐกิจกันแล้ว…

  • หญิงสาววัย 13 ปี 3 คนรวบรวมเงินก้อนสุดท้าย เพื่อซื้ออาหารและผ้าห่มให้หนุ่มไร้บ้าน!!

    หญิงสาววัย 13 ปี 3 คนรวบรวมเงินก้อนสุดท้าย เพื่อซื้ออาหารและผ้าห่มให้หนุ่มไร้บ้าน!!

    น้ำใจเป็นสิ่งที่หายากยิ่งในยุคสมัยที่ศิวิไลซ์แบบนี้ แต่ก็ใช่ว่าน้ำใจจะเหือดแห้งจางหายไปจนหาไม่เจอ ซึ่งเรื่องราวดีๆ แบบนี้ก็เกิดขึ้นกับหญิงสาววัย 13 ปี ทั้ง 3 คนนี้ หลังจากที่พวกเธอทั้ง 3 มีความสุขกับมื้อค่ำในร้าน Pizza Hut แต่แล้วก็พบเจอกับหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่งที่นั่งทนหนาวเหน็บอยู่หน้าโรงภาพยนตร์ในบริเวณใกล้เคียง     เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นที่เมืองฮาร์ตลีพูล ประเทศอังกฤษ เมื่อหญิงสาวทั้ง 3 คน Natasha Osborne, Danielle McCarthy และ Chloe Parker ได้เห็นสภาพของหนุ่มไร้บ้านผู้นี้ ก็อดที่จะช่วยเหลือไม่ได้ พวกเธอก็เลยรวบรวมเงินที่เหลืออยู่ประมาณ 823 บาท (15 ปอนด์) รีบเข้าห้างเพื่อไปซื้อของช่วยเหลือทันที       ทั้งนี้พวกเธอก็ได้อัดคลิปวิดีโอในช่วงที่เข้าไปซื้ออาหาร น้ำดื่ม และผ้าห่ม จนไปถึงการมอบสิ่งของที่จำเป็นเหล่านี้ให้กับหนุ่มไร้บ้าน เพื่อหวังว่าจะช่วยให้ผู้อื่นได้ตระหนักกับการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ประสบกับความยากลำบาก   GOOD SAMARITAN STORYToday three young Hartlepool females came across…

  • คำตอบสุดสะเทือนใจ ระหว่างคนมีฐานะ vs. คนไร้บ้าน ถ้าได้เงิน 1 ล้านเหรียญ จะเอาไปทำอะไร!!?

    คำตอบสุดสะเทือนใจ ระหว่างคนมีฐานะ vs. คนไร้บ้าน ถ้าได้เงิน 1 ล้านเหรียญ จะเอาไปทำอะไร!!?

    เป็นคลิปวิดีโอที่น่าสนใจเลยทีเดียวของสมาชิกยูทูปรายหนึ่งอย่าง Johal ที่ปิ๊งไอเดียดีๆ กับ 1 คำถามที่เตรียมไว้เพื่อถามคนสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือคนที่ค่อนข้างมีฐานะทางการเงินที่ดี มีงาน มีบ้าน มีอะไรพร้อมทุกอย่าง กับอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นคนไร้บ้าน ไม่มีงานทำ…   โดยคำถามก็คือ ถ้า ‘ผมมอบเงินให้คุณ 1 ล้านเหรียญตอนนี้เลย คุณจะนำไปทำอะไร??’     หนุ่มหล่อคนนี้ตอบอย่างไม่ลังเลเลย…จะนำไปซื้อแลมโบกินี่สักคัน     อาเฮียคนนี้ก็อยากได้เรือสำราญสักลำ   คำตอบของแต่ละคนก็เรียกได้ว่าน่าสนใจเลยทีเดียว คนรวยตามสเต็ปก็ไม่หยุดนิ่ง ต้องการจะรวยขึ้นๆ ไปอีก จะว่าไปแล้วพวกเขาก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่ลองมาชมทัศนะคติของเหล่าคนไร้บ้านกันบ้าง…     ชายคนนี้จะนำไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือคนไร้บ้านทั่วประเทศ และบริจาคให้กับโรงพยาบาล…     ส่วนคุณลุงคนนี้ต้องการสร้างศูนย์ช่วยเหลือคนไร้บ้าน เพื่อช่วยเหล่าผู้ยากไร้ในแถบนี้…     อื้อหือออ เหมียวนี่พูดอะไรไม่ออกเลยอ่ะ -*-   ลองมาชมคลิปกันแบบเต็มๆ ได้ที่นี่   คลิปนี้ทำให้เราได้เห็นอะไรกันหลายๆ อย่างเนาะว่ามั้ย ทำไมคนที่มีความพร้อมทั้งทางหน้าที่การงาน ทั้งฐานะ ถึงกลับคิดถึงแต่ตัวเอง ส่วนคนที่ยากไร้ไม่มีอะไรจะกิน…

  • หญิงเร่ร่อนเสียชีวิตคาร้าน McDonald ในฮ่องกง โดยไม่มีใครสังเกตกว่า 7 ชั่วโมง

    หญิงเร่ร่อนเสียชีวิตคาร้าน McDonald ในฮ่องกง โดยไม่มีใครสังเกตกว่า 7 ชั่วโมง

    เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า หญิงสาวเร่ร่อนรายหนึ่งได้เสียชีวิตในร้านอาหาร McDonald’s สาขาเกาลูนประเทศฮ่องกงเป็นเวลากว่า 7 ชั่วโมง โดยไม่มีพนักงานหรือลูกค้ารายใดทันสังเกตเลย   ตามรายงานบอกว่ากล้องวงจรปิดของร้าน McDonald’s จับภาพของหญิงสาววัยประมาณ 50 – 60 ปี โดยระบุว่าเธอเดินเข้าไปยังร้านในช่วงเวลา 8.39 นาฬิกา ของวันที่ 2 กันยายน และนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้กับห้องน้ำ จากนั้นในช่วงเวลา 1.20 นาฬิกาของอีกวัน เธอก็สลบลงไปกับโต๊ะทันที   แต่ถึงจะสลบลงไปกับโต๊ะเป็นเวลานาน กลับไม่มีใครสังเกตเห็น จนกระทั่งในเวลา 8.30 จึงมีพนักงานเห็นเข้าและรีบโทรแจ้งให้รถฉุกเฉินมารับร่างของหญิงสาวที่ไร้สติและเย็บเฉียบไป   เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบเรื่องก็ได้เข้ามาสืบสวนยังที่เกิดเหตุ และสอบถามพนักงานว่าเหตุใดถึงไม่มีพนักงานมาคอยเช็คลูกค้า ซึ่งทางโฆษกของ McDonald’s ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เพื่อให้สภาพแวดล้อมของร้านเป็นที่น่าพอใจ เราจะไม่รบกวนลูกค้าของเรา แต่เราจะให้บริการทันทีเมื่อลูกค้าต้องการ”   นี่ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวเหมือนกันนะ หากใครทำงานอยู่ร้านอาหารหรือสถานที่ให้บริการที่ใดก็ตาม หากเห็นลูกค้านิ่งไปนานๆ ลองเข้าไปเช็คหรือพูดคุยหน่อยก็น่าจะดีนะ ที่มา shanghaiist

  • ชมคลิปสุดใจสลาย เมื่อเจ้าหน้าที่ “พรากสุนัข” ไปจากชายไร้บ้านอย่างรุนแรง

    ชมคลิปสุดใจสลาย เมื่อเจ้าหน้าที่ “พรากสุนัข” ไปจากชายไร้บ้านอย่างรุนแรง

      เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส ได้มีเจ้าหน้าที่ 2 คน คาดว่าน่าจะเป็นสถานควบคุมสัตว์จาก “Cause Animale Nord” ได้ทำการพรากสุนัขตัวน้อยจากคนไร้บ้านที่ได้เลี้ยงดูไว้ด้วยความรุนแรง โดนมีประชาชนมุงดูอยู่รอบๆ ชายไร้บ้านคนนั้นพยายามที่จะยื้อเอาสุนัขของตนกลับคืนมา พร้อมทั้งร้องไห้ แต่ก็ไม่สำเร็จ อีกทั้งวันนี้ยังเป็นวันของ วันมรดกยุโรป อีกด้วย เราไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลยดีกว่า   ทั้งนี้เรายังไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมต้องยึดสัตว์ไปจากชายไร้บ้านคนนี้ หรือจะเป็นคำสั่งจากเบื้องบนก็ไม่อาจทราบได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้เห็นความความรักความผูกพันของชายไร้บ้านกับสุนัขตัวนี้ที่ถูกพรากไป เห็นแล้วมันเศร้าใจจริงๆ ที่มา Seven LE DUC

  • ชมภาพถ่ายจากฝีมือของคนไร้บ้าน อีกหนึ่งมุมมองที่เราไม่อาจเห็นมาก่อน

    ชมภาพถ่ายจากฝีมือของคนไร้บ้าน อีกหนึ่งมุมมองที่เราไม่อาจเห็นมาก่อน

    จะเกิดอะไรขึ้น หากเหล่าคนไร้บ้านได้รับกล้องถ่ายภาพ เพื่อให้พวกเขาได้ถ่ายทอดเรื่องราวในสิ่งที่พวกเขาอย่างเล่า โดยโปรเจคนี้เป็นของ London’s Cafe Art พวกเขาได้มอบกล้องถ่ายภาพ 100 อันให้กับคนไร้บ้านทั่วกรุงลอนดอนให้ถ่ายภาพสิ่งที่เขาอยากถ่าย โดยสุดท้ายพวกเขากล้องได้คืนมา 80 อัน พร้อมกับรูปอีกกว่า 2,500 รูป และ 12 ภาพจะถูกคัดไปทำปฏิทินปี 2016 ไปชมกันเลยว่าจะออกมาเป็นยังไง   นี่คือกล้องที่แจกจ่ายไป   “Everything I Own or Bags of Life, Strand” by David Tovey   “Telephone Row, Lincoln’s Inn” by XO   “Left Boot, East London” by Ellen Rostant   “Colour Festival, Olympic Park”…

  • ชายหนุ่มทำคลิปทำลองเปรียบเทียบขออาหารจาก “คนธรรมดา” กับ “คนไร้บ้าน”

    ชายหนุ่มทำคลิปทำลองเปรียบเทียบขออาหารจาก “คนธรรมดา” กับ “คนไร้บ้าน”

    การให้ ถือเป็นสิ่งที่เราควรทำ เพราะเหมือนเป็นการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน การให้เพียครั้งเดียวอาจเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งดีๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วย เหมือนอย่างที่ชายคนนี้ได้ทำการทดลองอะไรบางอย่าง เขาได้ทดลองเดินไปขออาหารจากคนธรรมดาที่กำลังกินอาหารอยู่ในร้าน กับกลุ่มคนไร้บ้างที่กำลังนอนอยู่ ซึ่งก็ได้เสียงตอนรับที่แตกต่างกันออกไป จากในคลิปเราจะเห็นได้เลยว่าคนธรรมดาที่นั่งกินอยู่ในร้าน จะไม่ให้อาหารกับคนแปลกหน้า   เขาก็เลยลองให้เพื่อนไปมอบอาหารให้กับคนไร้บ้าน ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปขออาหาร   ซึ่งเขาก็ลองไปขออาหารดู ผลปรากฏว่าคนไร้บ้านได้แบ่งปันอาหารให้กับเขาด้วย   ไม่ใช่แค่เพียงอาหารเท่านั้น ยังมีเงินอีกด้วย เราไปดูในคลิปได้เลย ที่มา SpreadTheMessage

  • หญิงสาวถ่ายรูปคนไร้บ้านมาเป็น 10 ปี กลับพบว่า ‘พ่อ’ ของตัวเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย!?

    หญิงสาวถ่ายรูปคนไร้บ้านมาเป็น 10 ปี กลับพบว่า ‘พ่อ’ ของตัวเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย!?

    เรื่องราวของ Diana Kim หญิงสาวชาวเกาหลีใต้ โตมากับครอบครัวที่มีคุณพ่อเป็นช่างภาพบนเกาะ Maui ส่วนหนึ่งของเกาะ Hawaii แต่แล้วพ่อกับแม่ของเธอได้แยกทางกัน ทำให้เธอต้องไปอาศัยกับญาติแทน จนกระทั่งวันหนึ่งคุณพ่อของเธอได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย     ต่อมาในปีค.ศ. 2003 เธอก็ได้เริ่มทำการศึกษาเกี่ยวกับคนไร้บ้านผ่านการถ่ายรูปที่เป็นงานอดิเรกของเธอ จนถึงปีค.ศ.  2012 เธอกลับมาย้อนดูภาพถ่ายทั้งหมด ก็พบกับความจริงที่ว่าพ่อของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย!!   .   เธอกล่าวไว้ว่า “ฉันใช้เวลาหลายสัปดาห์เพื่อที่จะตามหาคุณพ่อ สภาพของคุณพ่อดูทรุดโทรมมากๆ และดูเหมือนว่าจะมีอาการทางจิตด้วย ไม่ยอมพูดโต้ตอบใดๆ ทั้งสิ้น”   . . . จนในที่สุดเธอก็ได้พบกับคุณพ่อของเธอ พยายามเกลี้ยมกล่อมเพื่อที่จะพาไปรักษาตัว แต่ก็โดนคุณพ่อขัดขืนตลอด และแล้วเธอก็สามารถพาคุณพ่อมารักษาตัวในโรงพยาบาลได้ในปีค.ศ. 2014     หลังจากที่เวลาผ่านไป 1 ปี คุณพ่อก็เริ่มมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ และกำลังจะวางแผนเพื่อกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่บ้านเกิด ณ ประเทศเกาหลีใต้อีกด้วย   . . . .   ความรู้สึกของคุณพ่อและลูกสาว ณ ตอนนี้ก็คงจะมีความสุขที่สุดในโลกแล้วล่ะ…

  • เรื่องราวน่าประทับใจ เมื่อช่างภาพตระเวนถ่าย ‘คนไร้บ้าน’ เพราะอยากให้สังคมยอมรับพวกเขา!!

    เรื่องราวน่าประทับใจ เมื่อช่างภาพตระเวนถ่าย ‘คนไร้บ้าน’ เพราะอยากให้สังคมยอมรับพวกเขา!!

    ปัญหาคนไร้บ้าน ผู้คนส่วนใหญ่มักจะมองคนเหล่านี้เป็นปัญหาของสังคม คนไร้บ้านเหล่านี้มักจะถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐคอยขับไล่อยู่เป็นประจำ และไม่ได้รับการดูแลคุณภาพชีวิตเท่าที่ควรจะได้รับ   ช่างภาพที่ชื่อว่า Aaron Draper ได้ทำโปรเจคถ่ายภาพคนไร้บ้านในแคลิฟอร์เนีย เพื่อให้พวกเขาได้รับการมองมุมใหม่และได้รับการยอมรับในสังคมมากขึ้น โดยเค้าก็เล่าว่าเค้าได้รับแรงบันดาลใจมาจาก จอห์น สไตน์เบ็ค  (นักประพันธ์นวนิยายและนักเขียนเรื่องสั้นชาวอเมริกัน) ซึ่งหวังว่าจะช่วยให้คนที่จะได้รับมุมมองที่มีมนุษยธรรมมากขึ้น   แม้พวกเค้าจะเป็นเพียง ‘คนไม่มีบ้าน’   แต่พวกเค้าก็… มีชีวิต   มีจิตใจ   และก็ยังเป็น ‘คน’ เช่นเดียวกับเรา   ใครจะไปรู้ล่ะว่าครั้งนึง   เค้าอาจจะเคยเป็นเจ้าของกิจการพันล้าน   ที่โดนลูกน้องโกงจนหมดเนื้อหมดตัว   พ่อแม่ก็ตาย เมียก็ทิ้ง ลูกก็ไม่มี   สุดท้ายชีวิตก็พลิกผันให้ต้องเดินทางนี้   และคนไร้บ้าน ไม่ใช่คนเลว   ไม่ใช่คนบ้า ไม่ใช่คนเสียสติ   พวกเค้าอาจจะแค่ต้องการโอกาส   หรือความเมตตาเล็กๆน้อยๆจากสังคม   แล้ว ‘คนธรรมดา’ แบบพวกเรา   มีสิ่งเหล่านั้นให้เค้ารึเปล่า…?     แถมคลิปนะครัช……

  • ช่างตัดผมในออสเตรเลียยินดีตัดผมให้กับคนไร้บ้าน มอบชีวิตชีวาให้กับพวกเขาอีกครั้ง!!

    ช่างตัดผมในออสเตรเลียยินดีตัดผมให้กับคนไร้บ้าน มอบชีวิตชีวาให้กับพวกเขาอีกครั้ง!!

    การทำสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่นโดยที่ไม่หวังผลตอบแทนนั้น มักจะได้รับความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับเสมอ ช่างตัดผมฝีมือดีจากเมือง Melbourne ประเทศออสเตรเลียผู้นี้ Nasir Sobhani ที่ทำการเรียกตัวเองว่าเป็น “ช่างตัดผมข้างถนน”     เนื่องจากแต่ก่อนนั้นเขาเคยหลงทางเข้าไปคลุกคลีกับสิ่งที่ผิด เคยติดยาและเคยเป็นคนไร้บ้าน ซึ่งเขาเข้าใจความรู้สึกเหล่านี้เป็นอย่างดี และเพื่อไม่ให้ผู้อื่นต้องเจอแบบเขาอีก เขาก็ได้เริ่มโครงการ Clean Cut, Clean Start ขึ้นมา     โดยโครงการนี้เป็นการตัดผมให้กับคนไร้บ้านฟรีๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าหลายคนจะติดยาและเหล้าหนักมาก จนไม่สามารถทำอะไรได้อีก การตัดผมนี้ก็เหมือนกับการให้โอกาสกับคนไร้บ้านเพื่อกลับมายืดหยัดสู้ชีวิตอีกครั้ง                                       หลังจากที่ได้รับการตัดผมแต่งองค์ทรงเครื่องเรียบร้อยแล้ว แต่ละคนดูเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ดูดีขึ้นมากเลยล่ะ!! ที่มา : thechive

  • งดงาม!! ชายไร้บ้านปริศนาบรรเลงเปียโนข้างถนนกับบทเพลงสุดไพเราะ

    งดงาม!! ชายไร้บ้านปริศนาบรรเลงเปียโนข้างถนนกับบทเพลงสุดไพเราะ

    การตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกนนั้นไม่อาจบอกได้เลยว่าคนคนนั้นเป็นอย่างไร เพียงแค่เห็นว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีหลักแหล่ง ไม่มีการแต่งตัวที่ดี ก็ใช่ว่าเขาจะเป็นคนที่ไม่ดี เช่นเดียวกับชายไร้บ้านคนนี้ ถึงแม้ว่าจะดูไม่ค่อยดีในสายตาใครๆ แต่เขากลับมีความสามารถที่ไม่น่าเชื่อซ่อนอยู่!!     ชายไร้บ้านนามว่า Donald Glaud วัย 51 ปี อดีตทหารผ่านศึก ผู้เคยเรียนบรรเลงเปียโนมาตั้งแต่เด็กๆ และเรียนด้านดนตรีจากมหาวิทยาลัย Spring Arbor หลังจากที่สูญเสียภรรยาไปในปีค.ศ. 1998 ทำให้ชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนไป   และแล้วเขาก็ปรากฏตัวอยู่หน้าร้านเครื่องดนตรีพร้อมกับบทเพลง Come Sail Away ที่มา : twistedsifter