Tag: กฎหมาย

  • หญิงอินเดียทะเลาะกับรปภ. ตัดสินใจ “แก้ผ้า” เพราะไม่ต้องการให้ตำรวจพาไปโรงพัก

    หญิงอินเดียทะเลาะกับรปภ. ตัดสินใจ “แก้ผ้า” เพราะไม่ต้องการให้ตำรวจพาไปโรงพัก

    เมื่อพบเจอกับความอยุติธรรมหรือสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าใครก็ต้องโมโหกันทั้งนั้น อย่างเช่นหญิงสาวชาวอินเดียคนหนึ่งที่บังเอิญมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในอะพาร์ตเมนต์ที่เธอพัก จนเรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ     เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก็เชิญให้ทั้งสองคนไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจ แต่หญิงสาวกลับไม่ยอมไป เธอบอกว่าหากจะเชิญไปที่สถานีต้องมีตำรวจหญิงมาด้วย เธอจึงตัดสินใจจะขึ้นลิฟต์และกลับห้อง แต่ก็ถูกขัดขวางเอาไว้ จากนั้นเรื่องราวก็เข้มข้นขึ้น ต่างฝ่ายต่างปฏิเสธกันและกัน กระทั่งหญิงสาวโมโหกับความไม่ยุติธรรม ระเบิดอารมณ์ออกมาพร้อมถอดเสื้อผ้าออกและตะโกนด่า     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นราวตี 3 ของวันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา หญิงสาวชาวอินเดียดังกล่าวผู้เป็นทั้งนางแบบและนักเขียนคอลัมน์ ได้มีปากเสียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขณะที่กลับมายังที่พัก หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมสถานการณ์จึงเชิญเธอและคู่กรณีไปที่สถานีตำรวจแต่เธอกลับยืนยันว่าต้องมีตำรวจหญิงมาด้วยเธอถึงจะยอมไป หรือไม่ก็ให้รอคุยกับทนายความของเธอ    .    หลังจากที่ตกลงกันไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจที่จะขึ้นลิฟต์กลับไปยังห้องพักของตน แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขัดขวางเอาไว้ เธอจึงเกิดอารมณ์โมโหและเริ่มถอดเสื้อผ้าออกเพื่อประชด ตามกฎหมายของประเทศอินเดียแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีสิทธิ์เชิญสตรีไปยังสถานีตำรวจ หากเป็นกรณีที่จำเป็นจริงๆ ควรมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงมาด้วย      เหตุการณ์ในครั้งนี้ใหญ่โตกระทั่งผู้บังคับการตำรวจพร้อมด้วยรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีต้องออกมามีส่วนร่วมด้วย แต่อย่างไรก็ตามหญิงสาวคนนี้ก็ต้องรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากพฤติกรรมไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ   ที่มา: ck101 และ Facebook@sudeshmalikchd

  • รู้จักกับ 9 สถานที่ ‘ต้องห้าม’ บนโลกใบนี้ ที่ทั้งลึกลับและน่ากลัว อย่าเข้าไปเชียวล่ะ…

    รู้จักกับ 9 สถานที่ ‘ต้องห้าม’ บนโลกใบนี้ ที่ทั้งลึกลับและน่ากลัว อย่าเข้าไปเชียวล่ะ…

    บนโลกของเรานั้นมี สถานที่ต้องห้าม อยู่ไม่น้อยเลยล่ะ สถานที่เหล่านั้นพวกเราไม่มีวันได้เข้าไปเยือนแน่นอน นอกเสียจากว่าเราจะเป็นคนพิเศษเพียงไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ก่อนหน้านี้ #เหมียวโลลิ ได้นำเสนอ 10 สถานที่ต้องห้าม ไปเรียบร้อยแล้ว แต่บอกเลยว่าบนโลกเรามันไม่ได้มีสถานที่ต้องห้ามแค่ 10 แห่งหรอกนะ มันมีมากกว่านั้นอีก… วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ สถานที่ต้องห้ามแสนลึกลับ จากประเทศต่างๆ รอบโลกอีก 9 แห่ง จะมีสถานที่ไหน ณ ประเทศอะไรบ้าง เราไปชมพร้อมๆ กันเลย   1. Ploutonion At Hierapolis (ประตูแห่งเทพพลูโต), ประเทศตุรกี สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่นครโบราณเฮียราโพลีส ประเทศตุรกี เป็นที่ซึ่งเคยอุทิศให้กับเทพความตายแห่งโรมันนามว่า พลูโต ความลึกลับของสถานที่แห่งนี้ก็คือ “สิ่งมีชีวิตใดที่ผ่านประตูแห่งนี้จะพบกับความตายทันที” นักประวัติศาสตร์โบราณเคยทดลองด้วยการปล่อยนกให้บินเข้าไป ผลปรากฏว่านกตัวนั้นก็ตายลง จากนั้นในปี 1965 จึงมีการทดลองทางวิทยศาสตร์แล้วคำอธิบายก็คือ ภายในมีการรวมตัวของก๊าซ CO2 ที่ผิดปกติที่สามารถดับลมหายใจสิ่งมีชีวิตได้ภายในไม่กี่นาที การเข้าไปเยี่ยมชมใกล้ๆ สำหรับมนุษย์นั้นถือว่าไม่มีอันตรายใดๆ แต่หากต้องการผ่านประตูเข้าไปด้านใน เป็นสิ่งที่สถานที่แห่งนี้ “ห้าม” เป็นอันขาด   2. Vatican Secret Archives (หอเอกสารลับนครวาติกัน), นครวาติกัน โบสถ์คาทอลิกในนครวาติกันถือว่าเป็นสิ่งลึกลับพอสมควร…

  • ศาลจีนออกมาตรการ “สงบอารมณ์ 3 เดือนก่อนหย่า” เพื่อลดอัตราการหย่าและผลกระทบต่อเด็ก!!

    ศาลจีนออกมาตรการ “สงบอารมณ์ 3 เดือนก่อนหย่า” เพื่อลดอัตราการหย่าและผลกระทบต่อเด็ก!!

    คนเราบางครั้งก็ทำอะไรลงไปโดยที่ไม่ทันคิด อาจจะเป็นเพราะ อารมณ์ ที่เกิดขึ้นที่ทำให้เราตัดสินใจอะไรที่ผิดพลาด ฉะนั้น การรอให้อารมณ์สงบลงจึงเป็นวิธีที่ดีในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น สำหรับคู่รักหรือคู่สามีภรรยาก็เช่นกัน ยามที่มีปัญหากันจนเกิดการทะเลาะวิวาทหลายต่อหลายคู่อาจหยุดความสัมพันธ์กันไว้ตรงนั้น แต่บางครั้งการ “หย่าร้าง” ก็ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ดีเสมอไป วันนี้ศาลประชาชนสูงสุดของประเทศจีน ได้มองเห็นความสำคัญของการหย่าร้างและเพื่อลดอัตราการหย่าร้างของผู้คนในประเทศ จึงเกิดเป็นนโยบาย “สงบอารมณ์ 3 เดือนก่อนหย่า” หรือ Calm down period นั่นเอง     มาตรการนี้ถูกร่างโดยศาลสูงสุดของประเทศซึ่งรวมไปถึงจะมีการปฏิรูปทางกฎหมายอีกด้วย มาตรการนี้มีหลักสำคัญก็คือการให้คู่สมรสที่ต้องการยื่นเรื่องหย่าร้างได้เข้าสู่งช่วงเวลา 3 เดือนของการสงบสติอารมณ์ เพื่อให้มีการไตร่ตรองและพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจหย่าร้างจริง ภายในระยะเวลา 3 เดือนดังกล่าว ทางศาลจะทำการเก็บข้อมูลสภาวะและสถานการณ์ในครอบครัวของคู่สมรสที่กำลังจะหย่าร้าง และให้คู่สมรสเข้ารับคำปรึกษาจากนักจิตวิทยา ทั้งคู่จะยังไม่สามารถหย่าร้างกันตามกฎหมายได้จนกว่าจะครบกำหนดเวลา     Guo Jie ผู้พิพากษาของศาลประชาชนชั้นกลางกว่าวว่ามาตรการ “สงบอารมณ์ 3 เดือนก่อนหย่า” นี้มุ่งเน้นไปที่คู่สมรสที่มีบุตรที่ยังเด็กเพราะไม่อยากให้เด็กเหล่านั้นพบเจอกับปัญหาทางครอบครัวและจิตใจ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่พ่อแม่แยกทางและหย่าร้างกันนั่นเอง   อย่าคิดว่าการ “หย่า” เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทำแล้วจบ ผลกระทบที่มีต่อบุตรซึ่งยังเด็กนั้นสำคัญมาก มันอาจกำหนดว่าเขาจะเติบโตมาเป็นคนอย่างไรได้เลยทีเดียว   ที่มา: nextshark และ chinadaily

  • ช่างภาพรับถ่ายงานแต่ง เห็นหน้าเจ้าสาวอายุแค่ 15 ทำใจถ่ายไม่ได้ ถึงขั้นเจ้าบ่าวจมูกหัก!!

    ช่างภาพรับถ่ายงานแต่ง เห็นหน้าเจ้าสาวอายุแค่ 15 ทำใจถ่ายไม่ได้ ถึงขั้นเจ้าบ่าวจมูกหัก!!

    ช่วงเวลาแห่งความปีติยินดีที่สุดของคนเรา อาจจะหมายถึงการได้สมรสผ่านพิธีแต่งอย่างถูกต้อง ได้สวมใส่ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวอันเป็นวันที่สวยงามที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ ด้วยประการนี้จะขาดช่างภาพผู้เก็บความทรงจำดีๆ ไปไม่ได้ เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามที่สุด ก็จะต้องควักค่าใช้จ่ายเพื่อจ้างช่างภาพผู้มีฝีมือมาช่วยด้านนี้     แต่เรื่องกลับไปในทิศทางที่แย่สำหรับนาย Onur Albayrak ช่างภาพชาวตุรกี ผู้ถูกจ้างวานไปถ่ายภาพงานแต่งในวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ในบริเวณสวนสาธารณะ Turgut Özal Nature Park ในเมืองมาลัตยา ทางทิศตะวันออกของตุรกี ในวันนั้น เขาได้พบกับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวพร้อมกันเป็นครั้งแรก เขากลับสังเกตเห็นว่าที่เจ้าสาวนั้นยังเยาว์วัยมาก จึงทำการถามเจ้าบ่าวถึงอายุของเธอจนทราบว่า เธอมีอายุเพียงแค่ 15 ปีเท่านั้น     “เจ้าบ่าวได้เข้ามาติดต่อผมในสตูดิโอ โดยที่เขามาคนเดียวเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ผมเห็นเจ้าสาวครั้งแรกก็ตอนงานแต่งเลย เธอยังเป็นเด็ก และผมสัมผัสได้ถึงความกลัวของเธอ เพราะมีอาการสั่นตลอดเวลา” หลังจากที่รู้ความจริงแล้วนาย Albayrak ปฏิเสธที่จะรับงานนี้ต่อ พร้อมทั้งพยายามที่จะหยุดพิธีการแต่งทั้งหมด เนื่องจากมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง     “ผมถ่ายภาพเจ้าสาวแบบนี้ไม่ได้” เขาตอบกลับลูกค้ารายดังกล่าว ตามคำรายงานของสื่อท้องถิ่นที่นาย Albayrak ให้สัมภาษณ์ และเจ้าบ่าวก็รู้สึกโกรธมากๆ เพราะตกลงทำสัญญาว่าจ้างกันไปแล้ว…

  • ร้านอาหารเกาหลีในซิดนีย์ ถูกปรับ 5 หมื่น หลังนำตัวสาวเมาไป “ทิ้ง” ข้างถนน!!

    ร้านอาหารเกาหลีในซิดนีย์ ถูกปรับ 5 หมื่น หลังนำตัวสาวเมาไป “ทิ้ง” ข้างถนน!!

    สำหรับร้านอาหารที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นใช่จะเป็นกิจการที่ดำเนินได้ง่ายดายเสมอไป บางครั้งทางร้านก็ต้องดูแลและรับผิดชอบพฤติกรรมของลูกค้าให้เหมาะสม มิฉะนั้นอาจมีความผิดตามกฎหมายที่คาดไม่ถึง อย่างเช่นเหตุการณ์นี้ที่ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลีแห่งหนึ่งในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ต้องถูกดำเนินโทษตามกฎหมายหลังจากหญิงสาว 2 รายเข้ามาใช้บริการในร้าน ก่อนจะดื่มจนเมา และถูกนำตัวออกไป “ทิ้งไว้ข้างถนน” หน่วยงานว่าด้วยเครื่องดื่มมึนเมาและเกม ได้กล่าวว่า “นี่เป็นการละเมิดกฎหมายเครื่องดื่มมึนเมาที่แย่ที่สุดที่รอบหลายปีเลยทีเดียว”     เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 หญิงสาว 3 คนได้เข้ามายังร้านปิ้งย่างเกาหลีชื่อว่า Gangnam Station Sydney ใน Sussex Street แล้วได้กระดกเหล้า “โซจู” ไป 16 ช็อตภายใน 40 นาที หลังจากผ่านไปได้ 8 ช็อตหญิงสาว 2 ใน 3 คนเริ่มไม่ได้สติ ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านเองก็แสดงให้เห็นว่าหญิงสาวคนหนึ่งที่เมาจนไม่ได้สตินั้นฟุบลงกับพื้นก่อนชายคนหนึ่งจะเข้ามาช่วยพยุงขึ้น     จากนั้นพนักงานในร้านจึงช่วยกันพยุงตัวหญิงสาวคนดังกล่าวออกมายังด้านนอกของร้าน หญิงสาวคนหนึ่งยังมีการอาเจียนออกมาขณะถูกพยุงตัวอีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผ่านมาพบ เมื่อเห็นผู้คนยืนมุงดูหญิงสาวข้างถนน จึงช่วยเรียกรถพยาบาลมารับตัวหญิงสาวไปยังโรงพยาบาล และได้ทำการกล่าวโทษนาย Sunhwa Kim ว่าถือเป็นความผิดครั้งแรก นาย Sunhwa Kim ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตเปิดกิจการนั้น ในใบอนุญาตจะระบุว่าสามารถถูกกล่าวโทษและกระทำผิดระเบียบได้เพียง 3 ครั้งเท่านั้น…

  • สาแก่ใจยิ่งนัก… หนุ่มญี่ปุ่นแค้นตำรวจ ‘โดนจับแคะหูตอนขับรถ’ ฟ้องร้องชนะแค่ 100 บาท!?

    สาแก่ใจยิ่งนัก… หนุ่มญี่ปุ่นแค้นตำรวจ ‘โดนจับแคะหูตอนขับรถ’ ฟ้องร้องชนะแค่ 100 บาท!?

    ถือเป็นคดีแปลกๆ ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศญี่ปุ่น กรณีจากปี 2010 เมื่อนาย Kazunori Terashima วัย 41 ปี จากจังหวัดไซตามะ ได้โชว์ผลงานอันภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตของเขา ด้วยการเปิดเผยจำนวนเงินที่โอนเข้าบัญชีมูลค่า 350 เยน (105 บาท) อันได้มาจากคณะกรรมการความปลอดภัยสาธารณะไซตามะ     เงินจำนวนดังกล่าวได้มาจากการต่อสู้คดีความกับตำรวจนายหนึ่งเป็นเวลานานร่วม 2 ปีครึ่ง จากการหยุดรถแจ้งข้อหาทำผิดกฎจราจร เนื่องจากการแคะหูระหว่างขับรถ!? ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2010 นาย Terashima กำลังขับรถ พักศอกของเขาไว้บนที่พักแขนเบาะที่นั่งคนขับ และทำการแหย่แคะหูไปพลางๆ ตามรายงานไม่ได้ระบุว่าเขาใช้ไม้แคะหรือใช้นิ้วเปล่าๆ แต่อย่างใด     จนกระทั่งตำรวจจราจรสังเกตเห็นและได้เข้าแสดงตัว พร้อมกับเป่านกหวีดสะบัดธงแดงเพื่อให้นาย Terashima หยุดรถ เนื่องจากลักษณะพฤติกรรมคล้ายกับการใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างขับรถ แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธอย่างไร เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอมเชื่อ   ไปจอดแคะหูตรงนู้นนะ…   “ผมไม่ได้ใช้โทรศัพท์เลย คุณตำรวจเช็กประวัติการใช้งานได้นะ” ตำรวจสวนทันควัน “เอาใบขับขี่มาดู ถ้าไม่ยอมควักออกมา ผมจำเป็นจะต้องจับคุณ” เถียงกันไปมาเกือบ 20 นาที…

  • สายปาร์ตี้อ่านไว้ ‘เมาแล้วขับ’ โดนจับปรับหนัก แถมติดเครื่องติดตาม 15 วันอีกด้วย!!!

    สายปาร์ตี้อ่านไว้ ‘เมาแล้วขับ’ โดนจับปรับหนัก แถมติดเครื่องติดตาม 15 วันอีกด้วย!!!

    อีกหนึ่งสาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ได้รับการจัดอันดับไว้เป็นอันดับต้นๆ นั่นก็คือ เมาแล้วขับ ที่สร้างความเสียหายมากมายไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อทรัพย์สิน ความเสียหายต่อส่วนรวม และความเสียหายต่อชีวิตไม่ว่าจะเป็นตัวเองหรือผู้อื่น ทางรัฐบาลจึงต้องมีมาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อลดอัตราจำนวนผู้เมาแล้วขับเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะตามมา จึงได้มีการตั้งข้อกฎหมายหนักๆ รวมไปถึงการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ร่วมด้วย นั่นก็คือการใช้ เครื่อง EM หรือเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่มาพร้อมกับตัวติดตามสัญญาณ GPS สวมติดข้อเท้าเอาไว้ตลอดเวลา เคยถูกนำมาใช้ตั้งแต่ปี 2557 แล้วก็ยกเลิกไป และนำมาใช้ใหม่ในปี 2561 เครื่อง EM ถูกนำกลับมาใช้พร้อมกับตั้งข้อหาใหม่ เชื่อว่าคงไม่มีใครที่อยากจะต้องใช้เครื่องนี้อย่างแน่นอน #เหมียวบู้บี้ จึงขอนำเรื่องราวของสาวคนหนึ่งที่ได้มาเผยแพร่เรื่องราวประสบการณ์การโดนเครื่อง EM ติดตัว   “ฝากเตือนสำหรับพวกที่ชอบปาร์ตี้หนัก เจอมากับตัวเลย นี่โดนด่านวัดแอลกอฮอล์ได้ 175 โดนรับโทษ 4 ข้อหา 1. จำคุกสองเดือน ปรับ 17,000 บาท จำคุกรอลงโทษไว้ 2 ปี 2. ต้องมารายงานตัวและอบรม 4 ครั้ง  3. บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง 4. ติดอุปกรณ์ติดตาม ห้ามออกจากที่พักตั้งแต่…

  • จากเหตุอีกาฉลาด ขโมยบัตรเครดิตซื้อตั๋วรถไฟ ถูกจับตัวแล้ว… และคนจับก็โดนจับต่ออีกทอด

    จากเหตุอีกาฉลาด ขโมยบัตรเครดิตซื้อตั๋วรถไฟ ถูกจับตัวแล้ว… และคนจับก็โดนจับต่ออีกทอด

    คดีสะเทือนสายตาอันไม่น่าเชื่อนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีเหตุ ‘อีกา’ ที่ไม่ใช่ Crow Zero ไปต่อยตีกับใคร แต่มันดันฉลาดเกินไป จนมาขโมยบัตรเครดิตของคน เพื่อไปใช้ซื้อตั๋วรถไฟแบบเก่งยิ่งว่าเคนจิเสียอีก… (ข่าวเก่า)     จากความแสบของเจ้าอีกาตัวนี้ ในพื้นที่ของสถานีรถไฟ Kinshichō ก็ยิ่งทำให้เป็นที่เลื่องลือว่าควรจะระมัดระวังสิ่งของมีค่าของตนให้มากขึ้น เพราะไม่เช่นนั้นการจะได้ทรัพย์สินกลับคืนมาครบถ้วนแทบจะเป็นไปไม่ได้ แม้ทางการรัฐและเอกชนจะมีวิธีป้องกันรับมือมากแค่ไหน ก็ไม่อาจสู้จำนวนอีกาที่มีได้…     แต่แล้วล่าสุด เจ้าอีกา (ที่คาดว่าจะเป็นตัวเดิม) ถูกจับตัวได้แล้ว โดยเป็นการโพสต์รายงานจากชาวทวิตเตอร์ @yuruhuwa_kdenpa     แต่การจับกุมอีกาในครั้งนี้ไม่ใช่ฝีมือของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด แต่เป็นผู้หญิงรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น หลังจากที่เห็นเจ้าอีกาตัวนี้วนเวียนแถวๆ สถานี เธอก็รู้สึกว่ามันน่าจะมีความสุขกว่าถ้าไปอยู่ตามธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น และเธอก็ถือวิสาสะจับมันมา… และคิดว่าหลังจากที่ดูแลจนมีสุขภาพดี พร้อมที่จะออกสู่โลกกว้าง เธอวางแผนจะพามันไปปล่อยแถวๆ ภูเขา ในจังหวัดนะงะโนะ เนื่องจากมีสภาพอากาศที่ดีกว่า   อดซ่าส์เลยยยยย…   อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เจ้าอีกาจอมแสบหมดอิสระอยู่ในกรง หญิงคนดังกล่าวก็ต้องเจอกับข้อกฎหมายเข้าให้ เนื่องจากนายสถานีหรือผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ได้ต้องการจับมัน และการจับอีกาโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการอนุรักษ์สัตว์ป่าและการจัดการของประเทศญี่ปุ่น อาจจะต้องโทษสูงสุดด้วยการจำคุก 1 ปี หรือถูกสั่งปรับเป็นเงิน 1,000,000…

  • ชีวิตในวันสุดท้ายของนักวิทย์ 104 ปี ไม่ลังเล ไม่มีมื้อสุดท้าย ขอเพลงบีโธเฟ่นบรรเลงปิดฉาก…

    ชีวิตในวันสุดท้ายของนักวิทย์ 104 ปี ไม่ลังเล ไม่มีมื้อสุดท้าย ขอเพลงบีโธเฟ่นบรรเลงปิดฉาก…

    ‘ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือก’ หนึ่งในประโยคที่ใช้กับการเลือกที่จะใช้ เลือกที่จะซื้อ หรือเลือกที่จะกระทำบางสิ่ง และสำหรับนักวิทยาศาสตร์วัย 104 ปี David Goodall เขารู้สึกว่าใช้ชีวิตมามากเกินพอแล้ว และเขาก็เลือกที่จะตาย (ข่าวเก่า)     จากที่ทางแคมดัมบ์ได้รายงานไปก่อนหน้านี้ ศาสตราจารย์ David Goodall ได้เดินทางมาถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในวันที่ 10 พฤษภาคม 2018 ตามเวลาท้องถิ่นสวิตเซอร์แลนด์ 10.00 น. หรือ 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย คือเวลาที่เขาจะดับนาฬิกาชีวิตของตัวเองลง ศาสตราจารย์แถลงต่อหน้าสื่อต่างๆ ไว้ว่า ในวาระก่อนจะยุติชีวิตนี้ จะไม่มีอาหารมื้อสุดท้าย ไม่มีความลังเลใดๆ และขอเพียงบรรเลงเพลงซิมโฟนีหมายเลข 9 ของบีโธเฟนเป็นการปิดฉากชีวิต     ก่อนหน้านั้นศาสตราจารย์ Goodall ได้ออกมาเยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์ของมหาวิทยาลัยบาเซิล พร้อมกับลูกหลานที่เดินทางติดตามมาด้วย เพื่อร่วมเป็นสักขีพยานในวาระสุดท้ายของชีวิต   .   Daniel Goodall วัย 30 ปีกล่าวกับสื่อว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่ได้มาร่วมอยู่ตรงนี้…

  • หมู่บ้านในนอร์เวย์มีกฎหมาย ห้าม “ตาย” ในหมู่บ้าน เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ

    หมู่บ้านในนอร์เวย์มีกฎหมาย ห้าม “ตาย” ในหมู่บ้าน เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ

    ความตายนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อเราเกิดมาและใช้เวลาอยู่บนโลกได้ระยะเวลาหนึ่ง เราก็ต้องจากไป และคนที่เหลืออยู่ก็ต้องทำใจยอมรับมันให้ได้ แต่หากคุณตายไม่ถูกที่ล่ะก็ คุณอาจจะมีความผิดทางกฎหมายได้นะ…     หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ที่ชื่อว่า ลองเยียร์เบียน ได้รับการจดบันทึกว่าไม่เคยมีใครเสียชีวิตที่นี่มาตั้งแต่ช่วงปี 1950 แล้ว ในทางปฏิบัติแล้วมันก็มีคนเกิดและตายในหมู่บ้านนี้เหมือนกับที่อื่นๆ แต่การตายในหมู่บ้านแห่งนี้ถือว่าผิดกฎหมาย คนส่วนใหญ่มักจะบินออกจากถิ่นฐานก่อนที่พวกเขาจะตายเพื่อใช้ชีวิตในวันสุดท้ายของพวกเขาที่อื่นมากกว่า     สาเหตุที่มันเป็นแบบนั้นก็เพราะว่าหมู่บ้านลองเยียร์เบียนนั้นตั้งอยู่ตรงหมู่เกาะสฟาลบาร์ ใกล้กับวงกลมอาร์ติก (คือวงกลมละติจูดที่อยู่เหนือที่สุด ในบรรดา 5 วงกลมละติจูดหลักบนแผนที่โลก) ซึ่งแน่นอนว่าอากาศบนนั้นจะมีความหนาวเย็นมาก แม้ว่าคุณจะเสียชีวิตและถูกฝังไปแล้ว แต่ร่างกายของคุณจะถูกแช่แข็งและไม่สลายไปง่ายๆ     ย้อนไปในปี 1918 ตอนนั้นเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ระบาดไปทั่วโลก (ตอนนั้นใช้ชื่อว่าไข้หวัดสเปน) ด้วยโรคนี้ทำให้คนราวๆ 50-100 ล้านคนป่วยและเสียชีวิต คิดเป็น 5% ของประชากรโลกเลย ซี่งในจำนวนทั้งหมดมีคนในหมู่บ้านลองเยียร์เบียนอยู่ด้วย 11 คน     พวกเขาถูกฝังลงบนเกาะ แต่ชาวบ้านค้นพบว่าชั้นดินที่ฝังศพนั้นไม่ได้ทำให้ศพเน่าเปื่อยเลยตั้งแต่เมื่อปี 1950 ชาวเมืองเลยหยุดการฝังศพและเปลี่ยนกฎหมาย ว่าห้ามมีการฝังศพเนื่องจากลัวว่าโรคร้ายจะระบาด เรื่องนี้ได้เคยมีการพิสูจน์มาแล้วโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่เดินทางไปที่เกาะนั่นในยุค 90 แล้วขุดศพขึ้นมาเพื่อสำรวจ แต่ปรากฎว่าหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ดันเสียชีวิตเนื่องจากโรคที่หลงเหลือจากศพ     นอกจากกฎหมายห้ามตายบนเกาะนั่นแล้ว ยังมีกฎหมายห้ามเลี้ยงแมวบนเกาะนั้นด้วย เนื่องจากเกรงว่าจะไปทำอันตรายให้กับนกบนเกาะ ถ้าหากคุณเป็นพวกรักแมวล่ะก็อาจจะต้องเสียใจกันเล็กน้อย…

  • สรุปให้เข้าใจ 13 กฎหมายเช่าหอพักแบบใหม่ ‘อยู่ไม่ครบสัญญาได้-ค่าน้ำค่าไฟตามจริง’

    สรุปให้เข้าใจ 13 กฎหมายเช่าหอพักแบบใหม่ ‘อยู่ไม่ครบสัญญาได้-ค่าน้ำค่าไฟตามจริง’

    สำหรับธุรกิจการให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยทั้งแบบ บ้าน หอพัก และอพาร์ทเม้นท์ ส่วนใหญ่แล้วจะต้องมีการทำสัญญาก่อนเข้าพักเป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งนี้ก็เป็นข้อตกลงกันระหว่างผู้ให้เช่าและผู้เช่านั่นเอง โดยส่วนมากแล้วผู้เช่าจะประสบกับปัญหาในเรื่องของค่าใช้จ่ายแรกเข้า ซึ่งจะเป็นค่าเช่าล่วงหน้าเป็นจำนวนหลายเดือน หากอยู่ไม่ครบตามสัญญาจะไม่ได้คืน หรือปัญหาในเรื่องของค่าน้ำค่าไฟที่บวกอัตราเพิ่มจากปกติ…     ทั้งนี้ ราชกิจจานุเบกษา ได้ทำการประกาศข้อกฎหมายฉบับใหม่ ว่าด้วยเรื่องสัญญาของธุรกิจให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัย อันเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2561 และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป สามารถสรุปได้เป็นข้อดังต่อไปนี้   1. กําหนดระยะเวลาเช่าอาคาร โดยระบุวัน เดือน ปี ที่เริ่มต้น และวัน เดือน ปี ที่สิ้นสุดการเช่า   2. อัตราค่าเช่าอาคาร โดยแสดงวิธีการและกำหนดระยะเวลาชําระค่าเช่าอาคารอย่างชัดเจน   3. ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรฯ ห้ามเรียกเก็บเกินกว่าอัตราที่ผู้ให้บริการกระแสไฟฟ้าและน้ำประปา เรียกเก็บจากผู้ประกอบธุรกิจ แปลได้ว่า ห้ามเรียกเก็บเกินกว่าที่การไฟฟ้า และการประปา เรียกเก็บนั่นเอง   4. ห้ามปรับเปลี่ยนค่าเช่าอาคาร…

  • ‘ก็น้องดูเหมือนอายุ 13 แล้ว’ ข้ออ้างของชายวัย 40 หลังถูกจับกุม เล่นจ้ำจี้เด็กอายุต่ำกว่าเกณฑ์

    ‘ก็น้องดูเหมือนอายุ 13 แล้ว’ ข้ออ้างของชายวัย 40 หลังถูกจับกุม เล่นจ้ำจี้เด็กอายุต่ำกว่าเกณฑ์

    รสนิยมความชื่นชอบเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น เรื่องของความชอบ ‘เด็ก’ ก็ยังคงมีอยู่ในสังคม แต่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงต่อเยาวชน กฎหมายคุ้มครองเด็กจึงต้องมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก ทั้งนี้กฎหมายในแต่ละประเทศจะกำหนดช่วงอายุที่แตกต่างกันไป แต่ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม หากผู้ถูกกระทำยังคงเป็นเด็ก ก็ถือว่ามีความผิดโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น     เว็บไซต์ Yahoo ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดเผยเรื่องราวคดีฉาวของชายวัย 46 ปี ชาวเมืองนาโงย่า จังหวัดไอชิ หลังถูกจับกุมตัวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังทำการสอบสวน ก็พบว่าภายในโทรศัพท์ของเขานั้นมีภาพโป๊ของเด็กหญิงอยู่จำนวนหนึ่ง จากการตรวจสอบพบว่าเป็นภาพของเด็กหญิงวัย 12 ปี กำลังเรียนในระดับชั้นประถม 6 ซึ่งเขานั้นได้พบกับเด็กคนดังกล่าวผ่านบริการอัปโหลดวิดีโอในโลกออนไลน์ โดยในช่วงเดือนมกราคม เขาได้เดินทางไปยังจังหวัดเอฮิเมะ เพื่อไปหาเด็กหญิงและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอภายในโรงแรม…   นายว่า… น้องอายุ 13 แล้วงั้นรึ!?   เจ้าตัวยอมรับข้อกล่าวหาทั้งหมด แต่สำหรับตัวเขาเองนั้นไม่รู้เลยว่าเธอยังเป็นเด็กอยู่ ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเธอมีอายุเท่าไหร่ และให้การกับนักสืบไว้ว่า “ผมมีเพศสัมพันธ์กับเธอ และคิดว่าเธอน่าจะอายุ 13 แล้ว” สำหรับในประเทศญี่ปุ่น อายุที่ยอมให้ร่วมประเวณีได้ก็คือ 13 ปี ทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประมวลกฎหมายอาญาของแต่ละจังหวัดด้วย อย่างเช่นห้ามมีเพศสัมพันธ์หรือกระทำลามก…

  • หนุ่มออทิสติกโดนเทรนเนอร์ดูถูก ไปเรียนกฎหมาย 2 ปี กลับมาฟ้องร้องจนชนะคดี!!

    หนุ่มออทิสติกโดนเทรนเนอร์ดูถูก ไปเรียนกฎหมาย 2 ปี กลับมาฟ้องร้องจนชนะคดี!!

    การถูกแบ่งแยก (Discrimination) ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ในสังคมตะวันตก เพราะถือว่าเป็นการลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ (Dehumanization) ดังนั้นผู้ที่ดูถูกหรือเหยียดผู้อื่น อาจถูกกฎหมายลงโทษจนทำให้เสียทั้งงาน เสียทั้งเงินเลยทีเดียว อย่างเช่นเรื่องราวของหนุ่มคนนี้ ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Ketan Aggarwal จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เหตุเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2015 เขาได้สมัครเป็นสมาชิกของฟิตเนส Virgin Active เพื่อมาออกกำลังกายเช่นคนทั่วไป ด้วยความที่เขามีอาการออทิสติก ทำให้เขามีการตอบสนองค่อนข้างช้า แต่ด้วยความหงุดหงิดหรือเหตุอันใดไม่ทราบได้ ดันมีผู้ฝึกสอนคนหนึ่งด่าเขาว่า “โง่” หลายต่อหลายครั้ง…     เมื่อเขาได้ยินดังนั้น เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงได้ทำการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปยังบริษัทแม่ของ Virgin Active แต่ทางบริษัทกลับมองข้ามคำร้องเรียนของเขา ดังนั้นจึงเป็นเหตุทำให้เขารู้สึกว่าจะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้บ้าง…     หลังจากเหตุการณ์นั้น เขาก็ได้ใช้เวลา 2 ปีในการศึกษากฎหมายด้วยตนเอง ผ่านการอ่านหนังสือกฎหมายในห้องสมุดและเรียนรู้เพิ่มเติมจากตำราออนไลน์ เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว Ketan Aggarwal ก็ได้ทำการยื่นฟ้องร้องกรณีของเขาต่อศาลทันที…     เขาได้ใช้ความรู้ทางกฎหมายของเขา พิสูจน์ความผิดของพนักงานดังกล่าวต่อศาลได้สำเร็จ   สุดท้ายทาง Virgin Active ต้องจ่ายค่าปรับให้กับเขาเป็นเงิน 1,390…

  • 20 บุคคลที่มีคติประจำใจว่า ‘กฎมีไว้แหก’ ซึ่งพร้อมจะแหกทุกอย่างที่เขาห้ามเอาไว้

    20 บุคคลที่มีคติประจำใจว่า ‘กฎมีไว้แหก’ ซึ่งพร้อมจะแหกทุกอย่างที่เขาห้ามเอาไว้

    “กฏมีไว้แหก” วลีเด็ดนี้จริงๆ แล้วมันถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่ก็มีคนที่คิดแบบนี้จริงๆ ถ้าหากพวกเขาไม่ได้แหกกฎพวกเขาอาจจะนอนไม่หลับเป็นแน่แท้ แต่บางทีการแหกกฏที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งมันก็ถือว่าเป็นสีสันของชีวิตและทำเพื่อความเฮฮา จึงได้มีเหล่าชาวเน็ตที่แชร์พฤติกรรมสุดป่วน อะไรที่เขาห้าม เขาจะทำมัน และวันนี้เราก็ได้รวบรวมรูปภาพสุดฮาของชาวเน็ตที่ทำการแหกกฏแบบเด็ดๆ มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ เตรียมตัวฮากันได้เลย   1. นี่เป็น Pepsi แต่พี่เอาแก้ว Coke มากดแบบนี้มันหยามกันชัดๆ   2. ห้ามวางกล่องตรงนี้โว้ย!! จัดไปสิครับ…   3. แหม่… พี่ก็ช่างสรรหารองเท้าที่รูปทรงและสีเหมือนกับป้ายห้ามเลยเนอะ   4. ห้ามอะไรก็ไม่รู้แหละ แต่ตูจะทำ!!   5. เฉพาะลูกค้าที่เป็นเด็กเท่านั้น… แต่ใจผมก็ยังเด็กอยู่นะฮ้าบบ   6. ห้ามวางแก้ว(เล่นคำกับคำว่าแว่น)บนโต๊ะ!! ได้!! จัดไป   7. เฉพาะเจ้าหน้าที่ ‘ผู้ชาย’ เท่านั้น   8. เค้าห้ามนั่งโว้ยยยยเจ๊   9. “ห้ามแตะต้อง” (ฮั่นแน่ดูอะไรกันอยู่ โฟกัสไปที่นิ้วของเจ๊แกสิ)   10. ห้ามชูมือ…โอเค…

  • ผลสำรวจเผย สหราชอาณาจักรคือชาติที่ “ผลิตกัญชา” อย่างถูกกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้!!

    ผลสำรวจเผย สหราชอาณาจักรคือชาติที่ “ผลิตกัญชา” อย่างถูกกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้!!

    ในขณะที่หลายๆ ประเทศยังคงมีปัญหาเรื่องผลดีผลเสียและไม่ยอมให้กัญชาเป็นพืชถูกกฎหมายเสียที แต่บางประเทศกลับไม่รอช้าและเร่งแซงหน้าประเทศอื่นๆ ไปอย่างไม่เห็นฝุ่น อย่างที่หลายคนรู้กันว่าปัจจุบันกัญชานั้นเริ่มที่จะถูกบัญญัติให้เป็นพื้นทางการแพทย์ที่ถูกกฎหมาย และเริ่มมีการปลูกเพื่อใช้ในด้านดังกล่าวอย่างแพร่หลาย และใครจะคิดว่าสหราชอาณาจักร ตอนนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปเรียบร้อยแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ประเทศสหราชอาณาจักรนั้นได้ผลิตกัญชาเพื่อการแพทย์แล้วมากกว่า 95 ตัน ซึ่งนำโด่งคู่ค้าอย่างแคนาดาที่มีกำลังผลิตอยู่ที่ 80.7 ตันต่อปี     แต่แม้ว่าจะมีจำนวนการผลิตที่เยอะขนาดนั้น ทางการอังกฤษก็ไม่ได้อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปสามารถเสพกัญชาได้อย่างเสรี เพราะกัญชาที่ปลูกอย่างถูกกฎหมายจะถูกนำไปผลิตยา Savitext ซึ่งเป็นยาจำพวกแรกที่ใช้กัญชาเป็นส่วนผสมหลัก และมีผลในการรักษาโรคเส้นเลือดตีบหลายๆ ประเภท ฉะนั้นผู้จะจัดซื้อได้จะต้องมีใบอนุญาตเสียก่อน อย่างไรก็ตามด้าน Steve Rolles นักวิเคราะห์ในสหราชอาณาจักรก็บอกว่า แม้กัญชาจะได้รับอนุญาตให้ใช้ในการแพทย์เป็นหลัก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทางการจะสามารถควบคุมไม่ให้มันแพร่ออกไปสู่ประชาชนทั่วไปได้เลย     เพราะการที่สหราชอาณาจักรถือเป็นประเทศที่ส่งออกกัญชาเยอะที่สุด ฉะนั้นปัญหาการรั่วไหลจะตามมาอย่างแน่นอน ดังนั้นทางการจึงจำเป็นจะต้องหารือและช่วยกันหาทางออกในเรื่องนี้กันต่อไปนั่นเอง…   ที่มา ladbible, sky

  • ครูสาววัย 26 ปี ถูกจับฐานส่งภาพนู้ดให้ลูกศิษย์ พร้อมเลี้ยงต้อยด้วยสมุนไพรมหัศจรรย์…

    ครูสาววัย 26 ปี ถูกจับฐานส่งภาพนู้ดให้ลูกศิษย์ พร้อมเลี้ยงต้อยด้วยสมุนไพรมหัศจรรย์…

    เป็นเรื่องเป็นราวที่ชวนปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่ไม่น้อยเลย เมื่อกล่าวถึงคุณครูผู้มีหน้าที่บ่มเพาะสั่งสอนนักเรียนให้มีความรู้ตามระบบการศึกษา แต่ทว่าในกรณีนี้กลับเลยเถิดไปไกลกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก… เมื่อวันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2018 เว็บไซต์ Fox News และ Dailymail ได้รายงานข่าวการจับกุมตัวคุณครูสาว Stephanie Peterson วัย 26 ปี ในเมือง New Smyrna Beach รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา   Stephanie Peterson วัย 26 ปี อดีตคุณครูสอนวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมต้น   โดยที่ต้นเหตุของเบาะแสของการเข้าจับกุมนั้น เริ่มต้นมาจากที่ลูกศิษย์ชั้นเกรด 8 (เทียบเท่าชั้น ม.2) ได้สารภาพกับพ่อแม่ว่าคุณครูสาวรายนี้จะแวะมารับที่บ้านช่วงเวลา 23.00 น. เป็นประจำ และจะใช้เวลาอยู่ร่วมกันแบบส่วนตัวร่วมชั่วโมง ก่อนจะส่งกลับบ้านในช่วงเวลา 01.00 น. หรือ 02.00 น. และนอกเหนือจากนั้น เธอก็ได้ส่งรูปภาพนู้ดของเธอเองให้กับลูกศิษย์ พร้อมกับจะส่งกัญชาให้เขาได้นำไปใช้เสพอีกด้วย     ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชี้แจงเอาไว้ว่า คุณครูวิทยาศาสตร์สาวรายนี้เริ่มมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกศิษย์ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2017…

  • สื่อญี่ปุ่นรายงาน ‘โนบุฮิโระ’ ผู้วาดซามูไรพเนจร ถูกสั่งปรับ 60,000 บาท ฐานครองสื่อลามกเด็ก

    สื่อญี่ปุ่นรายงาน ‘โนบุฮิโระ’ ผู้วาดซามูไรพเนจร ถูกสั่งปรับ 60,000 บาท ฐานครองสื่อลามกเด็ก

    เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2017 ทางสื่อญี่ปุ่นได้รายงานว่า โนบุฮิโระ วาสึกิ อาจารย์ผู้วาดการ์ตูน ‘ซามูไรพเนจร’ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงโตเกียวเข้าจับกุมตัว เนื่องจากครอบครองภาพยนตร์เนื้อหาลามกเกี่ยวกับเด็ก (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2018 ตามเวลาท้องถิ่น สื่อประเทศญี่ปุ่น Nikkan Sports ได้รายงานว่าอาจารย์โนบุฮิโระ ในวัย 47 ปี ถูกสั่งปรับเป็นเงินจำนวน 200,000 เยน (ประมาณ 60,000 บาท) ในข้อหาละเมิดกฎหมายสื่อลามกเด็กในประเทศ   อาจารย์ โนบุฮิโระ วาสึกิ ผู้วาดการ์ตูน ‘ซามูไรพเนจร’   สำหรับประเทศญี่ปุ่นนั้น การครอบครองสื่อลามกเกี่ยวกับเด็กมีโทษสูงสุดคือจำคุก 1 ปี หรือถูกสั่งปรับเป็นเงินจำนวน 1,000,000 เยน อันเป็นข้อกฎหมายที่ถูกบัญญัติขึ้นครั้งล่าสุดในปี 2014     หลักฐานในการเข้าจับกุมนั้น ถูกพบอยู่ภายในบ้านและออฟฟิศที่ทำงานของอาจารย์โนบุฮิระ เป็นแผ่นดีวีดีจำนวนหนึ่ง โดยมีภาพของเด็กหญิงขึ้นปก และคาดว่าน่าจะมีอายุต่ำกว่า 15 ปี นอกเหนือจากนี้ ตามรายงานยังกล่าวอีกว่าอาจารย์โนบุฮิระได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังถูกจับกุมว่า…

  • อังกฤษเตรียมออกกฎหมายแบนการใช้ “สัตว์ป่า” ในคณะละครสัตว์ ภายในปี 2020

    อังกฤษเตรียมออกกฎหมายแบนการใช้ “สัตว์ป่า” ในคณะละครสัตว์ ภายในปี 2020

    แม้ปัจจุบันเราจะหาคณะละครสัตว์ดูได้ยากขึ้นทุกวันๆ แต่ใช่ว่าการแสดงดังกล่าวนั้นจะหายไปจากโลก เพราะคณะละครสัตว์มากมายในต่างประเทศยังคงเดินสายแสดงโชว์ตามที่ต่างๆ ต่อไป ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ทว่ามันจะติดอยู่ตรงที่ พวกเขานั้นยังคงใช้สัตว์ป่ามาเป็นเครื่องมือในการแสดงอยู่นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ทางการอังกฤษจึงประกาศว่าปี 2020 จะแบนไม่ให้คณะละครสัตว์ใช้สัตว์ป่าอีกต่อไป โดยผลการประกาศนั้นเกิดขึ้นหลังจากมีการสำรวจกว่า 94.5% ที่เห็นด้วยกับการแบนดังกล่าว     นอกจากนั้นทางการยังคาดหวังว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ จะช่วยให้พวกเขาสามารถต่อสู้กับกระบวนการทารุณสัตว์ได้ดียิ่งขึ้นจากการที่คณะละครสัตว์มักจะทารุณสัตว์ด้วยวิธีต่างๆ ทั้งการลงโทษ การให้พวกสัตว์อดอาหารหรือการกักขังพวกมันไว้ จากบันทึกของทางการยังคงพบว่ามีสัตว์อีก 19 ตัวที่ยังถูกใช้ในการแสดงโชว์ภายในอังกฤษ ซึ่งประกอบด้วย กวางเรนเดียร์ 6 ตัว ม้าลาย 4 ตัว อูฐ 3 ตัว แรคคูน 3 ตัว ซีบู 1 ตัว นกแก้วมาคอว์ 1 ตัวและจิ้งจอก 1 ตัว     และแม้ว่ากฎหมายจะบังคับใช้ในปี 2020 แต่ว่าเกินครึ่งประเทศในสหราชอาณาจักรได้ทำการปฎิเสธให้มีการแสดงละครสัตว์เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนั่นยังรวมถึงประเทศอีกกว่า 40 ประเทศทั่วโลก รวมถึงอีกหลายๆ ประเทศในยุโรป ลาตินอเมริกาและอีกหลายประเทศในเอเชีย   .…

  • ชมวิดีโอสอนการเชือดกุ้งล็อบสเตอร์อย่างถูกวิธี หลังมีกฎหมายห้ามต้มทั้งเป็น

    ชมวิดีโอสอนการเชือดกุ้งล็อบสเตอร์อย่างถูกวิธี หลังมีกฎหมายห้ามต้มทั้งเป็น

    ก่อนหน้านี้นั้นมีข่าวว่าที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้ทำการออกกฎหมายฉบับใหม่ สั่งห้ามการต้มกุ้งล็อบสเตอร์ทั้งเป็น ที่สืบเนื่องมาจากงานวิจัยของ Queen’s University ใน Belfast ที่ระบุว่ากุ้งล็อบสเตอร์นั้นมีความรู้สึกเจ็บปวด ทำให้การต้มกุ้งล็อบสเตอร์ทั้งเป็นถูกจัดเป็นการทรมานสัตว์     ตามเนื้อความของกฎหมายนั้น วิธีการสังหารเจ้าแมลงแห่งท้องทะเลเหล่านี้อย่างถูกต้องนั้น มีอยู่สองวิธีด้วยกัน หนึ่งในนั้นเป็นการช็อตไฟฟ้า (ซึ่งไม่เหมาะสมกับการทำอาหารอย่างยิ่ง) และการนำกุ้งล็อบสเตอร์โดยการจุ่มลงในน้ำเค็มแล้วใช้มีดแทงเข้าไปที่สมองของมัน แทนที่จะใช้เวลาหลายนาทีทรมานอยู่กับน้ำร้อน ก่อนที่จะตายจากการถูกต้ม กุ้งล็อบสเตอร์ที่โดนแทงสมองจะถูกฆ่าตายในทันที อย่างไรก็ตามจากกฎหมายการแช่แข็งสัตว์เป็นๆ เพื่อขนส่ง เราจึงไม่สามารถใช้ความเย็นทำให้กุ้งรู้สึกชาก่อนได้   มัดกุ้งให้แน่เพื่อรอเชือด (จำเอาไว้ว่าการกักขังหน่วงเหนี่ยว แย่งชิงอิสระจากกุ้งนั้นไม่ผิดกฎหมาย)   วางปลายคมมีดลงในฐานของศีรษะกุ้ง บริเวณที่เปลือกชี้เป็นปลายแหลม   ใช้แรงกดทิ่งปลายมีดเขาไปยังสมอง และใช้แรงกดของมือผ่าหัวกุ้งออกเป็นสองส่วน   แค่นี้กุ้งก็เดี้ยงสนิท จากไปอย่างสงบ เหลือไว้เพียงร่างการให้เราเอาไปทำอาหารต่อแล้ว ถ้าเห็นกุ้งยังขยับได้ก็ไม่ต้องแปลกใจนะ มันก็แค่การตอบสนองของระบบประสาท   ส่วนใครที่ดูเป็นภาพ อ่านเป็นตัวหนังสือแล้วไม่เข้าใจ ก็สามารถเข้าไปดูวีดีโอได้ที่นี่   ที่มา skillet

  • ประธานาธิบดีเติร์กเมนิสถาน สั่งห้ามทางการใช้รถยนต์สีดำ เพราะเขาชอบสีขาวเป็นการส่วนตัว

    ประธานาธิบดีเติร์กเมนิสถาน สั่งห้ามทางการใช้รถยนต์สีดำ เพราะเขาชอบสีขาวเป็นการส่วนตัว

    คุณจะทำยังไง เมื่ออยู่ดีๆ ก็มีกฎหมายออกมาบอกว่า “คุณห้ามขับรถสีดำเป็นอันขาด ถ้าเกิดคุณครอบครองรถสีดำอยู่คุณต้องไปเปลี่ยนสีอื่นทันที สีขาวได้ยิ่งดี” ฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่ความจริงมันโหดร้ายกว่านั้น เพราะว่ามันดันมีประเทศที่มีกฎหมายนี้อยู่จริงๆ เอ้า งงสิ!? กฏหมายดังกล่าวนั้นถูกประกาศใช้และมีผลทันทีในเดือนมรกราคม 2018 นี้ ซึ่งถูกประกาศโดยประธานาธิบดีเติร์กเมนิสถาน Gurbanguly Berdymukhammedov     กฎหมายนั้นระบุว่า รถทุกคันในกรุงอาชกาบัต ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเติร์กเมนิสถานต้องไม่มีสีดำ ถ้าใครมีรถเป็นสีดำจะถูกแนะนำให้ทำเป็นสีอื่น โดยเฉพาะสีขาว ส่วนเหตุผลนั้นยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเพราะอะไร แต่มีข่าวลือได้รายงานว่าตัว Gurbanguly นั้นชอบสีขาวและไม่ชอบสีดำ จึงได้ออกกฎดังกล่าวมา ส่วนถ้าใครสงสัยว่าการออกกฎหมายแบบนี้จะไม่ส่งผลอะไรกับประชาชนเลยเหรอ ซึ่งคำตอบมันก็แน่นอนว่ามันส่งผลชัวร์ๆ และมันก็ส่งผลเยอะด้วย ประชาชนชาวอาชกาบัตคนหนึ่งได้บอกเล่าผ่านคลื่นวิทยุ Radio Azatlyk ว่า “ผมมีเงินเดือนแค่ 1,000 มานัต ส่วนค่าย้อมสีรถใหม่ทั้งคันนั้นต้องใช้เงินสูงถึง 7,000 มานัต หรืออาจจะสูงได้ถึง 11,000 มานัต และด้วยกฎหมายนี้มันบีบบังคับให้ผมต้องใช้เงินจำนวนมากไปกับการทำสี” สุดท้ายแล้วเราก็ไม่รู้ว่ากฎหมายดังกล่าวนั้นจะมีผลอยู่อีกนานเท่าไหร่ ก็ต้องติดตามกันต่อไป       มาซื้อสติ๊กเกอร์ที่ไทยสิ ‘รถคันนี้สีขาว’ ที่มา odditycentral

  • ชาวนิวซีแลนด์สายเมา หนีกฎห้ามดื่มในที่สาธารณะ เลยสร้างเกาะเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อสังสรรค์ซะเลย

    ชาวนิวซีแลนด์สายเมา หนีกฎห้ามดื่มในที่สาธารณะ เลยสร้างเกาะเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อสังสรรค์ซะเลย

    เมื่อถึงงานเทศกาลที่สำคัญของปี ใครหลายคนถือโอกาสเฉลิมฉลองด้วยการสังสรรค์กัน เบาบ้างหนักบ้าง เพื่อสร้างความผ่อนคลายให้กับตัวเองหลังจากที่ผจญกับงานหนักมาตลอดทั้งปี แต่ว่าก็มีบางประเทศที่มีกฎหมายห้ามดื่มในวันสำคัญต่างๆ จึงทำให้คนกลุ่มหนึ่งสร้างเกาะจิ๋วของตัวเองขึ้นมาเพื่อเลี่ยงกฎหมายซะเลย เรื่องราวของกลุ่มคนหัวหมอนี้เกิดขึ้นเมื่อวันปีใหม่ที่ผ่านมา ที่คาบสมุทร Coromandel ในประเทศนิวซีแลนด์เมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งตั้งเกาะส่วนตัวขนาดเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อสังสรรค์กัน และตำรวจไม่สามารถจับกุมพวกเขาได้เนื่องจากถือว่าอยู่ในเขต ‘น่านน้ำสากล’   ชิวๆ ไม่ผิดกฎหมายเฟ้ย   ซึ่งในเขตคาบสมุทร Coromandel มีกฎหมายเอาไว้ว่าห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะ ระหว่างที่มีการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่เพื่อจะลดความรุนแรงในเทศกาลนี้ให้มีน้อยลง ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนอาจจะต้องโดนโทษปรับถึง 250 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 8,000 บาท) เลยทีเดียว โดยตำรวจได้ออกลาดตระเวนในวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ 30 และ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อบังคับใช้และตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกคนได้รับรู้กฎหมายข้อนี้โดยทั่วกันแล้ว แต่ว่าตำรวจก็ไม่สามารถทำอะไรวัยรุ่นหัวหมอกลุ่มนี้ที่ดื่มกินกันอย่างสนุกสนานบนเกาะเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากฝั่งทะเลเพียงไม่กี่เมตรได้   อินดี้เกิ๊น   สำหรับเกาะขนาดจิ๋วที่พวกเขาสร้างขึ้นมานั้น พวกเขาได้สร้างขึ้นในช่วงน้ำลง เมื่อบ่ายวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา จากนั้นพวกเขาก็นำโต๊ะนำเก้าอี้มาวางไว้ให้พร้อม สำหรับการสังสรรค์ในค่ำคืนของการขึ้นปีใหม่ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ซึ่งสิ่งที่พวกเขานำมาสร้างเกาะแห่งนี้ก็มีเพียงแค่ทราย, เปลือกหอย, และไม้สักสองสามแผ่นเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าเกาะที่พวกเขาสร้างขึ้นมันจะดีเกินคาด เพราะมันยังคงตั้งอยู่ได้นานหลายวัน แม้ว่าผู้สร้างเกาะจะไปที่อื่นแล้วก็ตาม   Coromandel อยู่ทางตอนเหนือของประเทศนิวซีแลนด์   “ทุกๆ คนน่าจะสังสรรค์กันแบบพวกเขานะ…

  • Valve ถอนสปอนเซอร์งานแข่ง ผลจากกฎหมายยาเสพติดในฟิลิปปินส์ที่ส่งผลมาถึงวงการ E-sport!!

    Valve ถอนสปอนเซอร์งานแข่ง ผลจากกฎหมายยาเสพติดในฟิลิปปินส์ที่ส่งผลมาถึงวงการ E-sport!!

    ถ้าใครที่ได้ตามข่าวประเทศเพื่อนบ้านของเราในช่วงนี้ คงจะได้เห็นข่าวเกี่ยวกับประเทศฟิลิปปินส์ ที่ล่าสุดผู้นำประเทศ Rodrigo Duterte ได้ออกกฎหมายกวาดล้างยาเสพติดทุกชนิดอย่างดุเดือด จนส่งผลให้ผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดล้มตายกันไปเป็นจำนวนมาก แต่เชื่อไหมว่า ผลพวงดังกล่าวนั้น นอกจากจะส่งผลต่อภาพลักษณ์อันรุนแรงในประเทศแล้ว มันยังส่งผลลามมาถึงวงการ E-Sport ด้วย เพราะเหตุความรุนแรงดังกล่าวทำให้การเดินทางเข้าประเทศเข้มงวดมากขึ้น บวกกับอีกไม่นานก็จะมีงานแข่งเกม Dota2 ที่ผู้เล่นระดับโลกหลายคนจะต้องเดินทางมาแข่งขันในงานนี้ เรื่องวุ่นๆ จึงเกิดขึ้้น     การแข่งขันดังกล่าวนั้นมีชื่อว่า Galaxy Battles ซึ่งมีเงินรางวัลแรกเริ่มอยู่ที่ 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็นเงินกว่า 32 ล้านบาท เพียงแต่ว่าด้วยกฎหมายกวาดล้างที่บังคับให้ทุกคนที่เข้าประเทศต้องตรวจหาสารเสพติดก่อน มันขัดต่อแนวทางของ Valve ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวเรือใหญ่ในการจัดงานได้ถอนตัวและประกาศให้การแข่งขันนี้ไม่ได้เป็นการแข่งขันหลักอีกต่อไป     ซึ่งส่งผลให้เงินรางวัลถูกลดเหลือเพียง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็นเงินกว่า 16 ล้านบาท โดยเราจะเห็นว่าเงินรวมนั้นหายไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว ทางด้าน Valve ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ Dota 2 ว่า การแข่งขันนั้นจะยังคงดำเนินต่อไป เพียงแต่ทางบริษัทจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับงาน และทีมที่เข้าร่วมก็จะไม่ได้แต้มสะสม Pro Circuit จากการแข่งขันอีกด้วย (แต้ม Pro Circuit…

  • เรื่องราวของทนายผู้ต่อสู้เพื่อ ‘ความรัก’ จนทำให้การแต่งงานข้ามเชื้อชาติในอเมริกาถูกกฎหมาย!!

    เรื่องราวของทนายผู้ต่อสู้เพื่อ ‘ความรัก’ จนทำให้การแต่งงานข้ามเชื้อชาติในอเมริกาถูกกฎหมาย!!

    ย้อนไปในอดีตนั้น ในบางประเทศจะมีธรรมเนียมหรือกฎหมายที่ห้ามไม่ให้คนต่างชาติหรือคนต่างสีผิวแต่งงานกัน เนื่องจากมีแนวคิดเรื่องการเหยียดเชื้อชาติและสีผิวอยู่นั้นเอง แต่ในปัจจุบันเราสามารถแต่งงานกับคนที่มีความแตกต่างกันได้อย่างอิสระ ไม่ว่าเราจะมีความแตกต่างกันทางสัญชาติ อายุ สีผิว หรือภาษาก็ตาม แม้แต่คนเพศเดียวกันก็ยังสามารถแต่งงานกันได้เลย ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณผู้ชายคนหนึ่ง ที่ลุกมาต่อสู้เพื่อสิทธิเหล่านี้อย่างนาย William Marutani จนทำให้การแต่งงานข้ามเชื้อชาติและสีผิว สามารถทำได้ถูกต้องตามกฎหมาย   William Marutani   William Marutani เป็นทนายของกลุ่มประชาชนชาวญี่ปุ่นอเมริกัน ที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เขามีจิตใจรักคุณธรรม และมักจะยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างผู้ที่ควรจะได้รับความยุติธรรมเสมอ ในคดีของ Milfred และ Richard Loving คู่รักข้ามสีผิวจากรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาเองก็เช่นกัน ชายผิวขาวและหญิงผิวสีถูกจับเมื่อปี 1958 เพราะว่าพยายามจะแต่งงานกัน แต่กฎหมายในขณะนั้นไม่ยอมให้คนผิวสีแต่งงานกับคนผิวขาว วันที่ 10 เมษายน 1967 นาย Marutani จึงได้ช่วยสู้คดีในศาลให้ทั้งคู่ได้แต่งงานกัน ทั้งที่ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเลย     เราเริ่มการต่อสู้ในศาลโดยการโต้เถียงว่าคำว่า ‘คนผิวขาว’ นั้นหมายถึงอะไรกันแน่ ซึ่งเมื่อดูตามกฎหมายแล้วพบว่าคนผิวขาวคือคนที่มีเชื้อสายคอเคเชียนบริสุทธิ์ ส่วนคนอื่นๆ ที่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของเชื้อสายอื่นอยู่ในตัวถือว่าเป็นคนผิวสี จากนั้นเขาจึงโจมตีต่อว่า ตามประวัติศาสตร์แล้ว ยุโรปถูกรุกรานบ่อยครั้ง คนส่วนมากในรัฐเวอร์จิเนียจึงไม่น่าจะถือว่าเป็นคนผิวขาว และวิธีการจะพิสูจน์ว่าเป็นคนผิวขาวแท้จริงหรือไม่ ก็ทำได้ยากด้วย นอกจากนี้กฎหมายยังบอกอีกว่า…

  • เรื่องมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น หลัง “ฝรั่งเศส” มีกฎหมายห้ามร้านค้าทิ้งอาหารเหลือ ต้องไปบริจาคเท่านั้น!!

    เรื่องมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น หลัง “ฝรั่งเศส” มีกฎหมายห้ามร้านค้าทิ้งอาหารเหลือ ต้องไปบริจาคเท่านั้น!!

    ห้างสรรพสินค้าหรือตามร้านค้าหลายๆ แห่งเลือกที่จะทิ้งอาหารที่ใกล้หมดอายุหรือมีรูปร่างหน้าตาผิดเพี้ยนไป เพราะคิดว่าพวกเขาไม่ควรขายต่อไป จนทำให้เกิดปัญหาขยะอาหารจำนวนหลายล้านตันทั่วโลกในแต่ละปี รวมทั้งยังเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะโลกร้อนอีกด้วย แน่นอนว่าปัญหานี้เกิดขึ้นกับทุกประเทศ และเราไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ นั่นจึงทำให้ประเทศฝรั่งเศสเริ่มต้นคิดวิธีการแก้ปัญหาขึ้นมา   1 ใน 3 ของอาหารที่ถูกผลิตมาให้มนุษย์ทั่วโลก ถูกทิ้งไปอย่างไร้ค่า   ในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ประเทศฝรั่งเศส ออกกฎหมายขึ้นมาใหม่ ห้ามไม่ให้ห้างสรรพสินค้าทิ้งอาหารที่ยังสามารถนำมากินได้หรือว่าใกล้หมดอายุเด็ดขาด แต่ให้นำอาหารเหล่านั้นมาบริจาคให้กับธนาคารอาหาร หรือใช้ไปทำปุ๋ยหมักแทน เพื่อช่วยลดจำนวนขยะอาหารที่มีอยู่ให้ลดลง กฎหมายดังกล่าว หากใครฝ่าฝืนจะมีโทษถูกปรับเป็นจำนวนเงินกว่า 129,000 บาท ทั้งนี้เพื่อให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎที่ตั้งเอาไว้อย่างเคร่งครัด     นอกจากที่มันจะช่วยให้ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศที่สามารถลดจำนวนขยะจำพวกอาหารได้มากที่สุดในโลกแล้ว การแก้ไขนี้ยังเป็นประโยชน์กับคนยากไร้ให้ได้มีอะไรกินกัน เพราะปัญหาคนจนไม่มีข้าวกินก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ จากสถิติในปี 2016 มีคนกว่า 800 ล้านคนทั่วโลกที่ยังคงใช้ชีวิตด้วยความหิวโหย ก่อนหน้าที่จะมีกฎหมายนี้ Intermache ซูเปอร์มาร์เก็ตในฝรั่งเศสก็ได้ช่วยเหลือในปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2014 โดยพวกเขาจะเปิดขายอาหาร ผักผลไม้ที่มีรูปร่างหน้าตาผิดเพี้ยนไปจากเดิม จนได้รับความนิยมจากหลายๆ คนทั่วโลก ภายในเดือนเดียวก็มีผู้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากถึง 13 ล้านคน   แม้จะมีหน้าตาแปลกประหลาดไปบ้าง แต่มันยังคงกินได้ตามปกติ   และนอกจากกฎหมายดังกล่าวแล้ว ประเทศฝรั่งเศสตั้งใจว่าจะพัฒนาการแก้ปัญหาต่อไปเรื่อยๆ…

  • คุณปู่วัย 98 ได้แต่งงานกับชายคนรัก หลังกฎหมายอนุญาตให้แต่งงานกับเพศเดียวกันได้

    คุณปู่วัย 98 ได้แต่งงานกับชายคนรัก หลังกฎหมายอนุญาตให้แต่งงานกับเพศเดียวกันได้

    คู่รักเพศเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นคู่ชายรักชาย หรือจะเป็นคู่หญิงรักหญิง ต่างก็อยากใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขเหมือนกับคู่รักชายหญิงทั่วไป แต่สิ่งสิ่งหนึ่งที่เป็นอุปสรรคก็เพราะว่าคู่รักเพศเดียวกันในหลายประเทศ ไม่สามารถแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ เพราะฉะนั้นคู่รักเพศเดียวกันในประเทศเหล่านั้นจึงทำได้เพียงอยู่ร่วมกันเหมือนแฟนเท่านั้น พวกเขาไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ และไม่สามารถใช้สิทธิของคู่แต่งงานได้เช่นกัน คู่รักชายรักชายชาวซิดนีย์ก็เช่นกัน พวกเขาอยู่ร่วมกันในฐานะคู่รักมาเป็นเวลานาน จนฝ่ายหนึ่งอายุเหยียบหนึ่งร้อยปีแล้ว แต่ในปัจจุบันพวกเขาก็สามารถแต่งงานกันอย่างถูกกฎหมายได้ในที่สุด   Neville Wills และ Ian Fenwicke   คู่รักคู่นี้คือ Neville Wills อายุ 98 ปี และ Ian Fenwicke อายุ 74 ปี พวกเขาอาศัยอยู่ในเมืองซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย โดย Wills ทำอาชีพเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ทั้งสองพบรักกันเมื่อปี 1978 หลังจากนั้นจึงตัดสินใจอยู่ร่วมกันฉันท์สามีภรรยามาเป็นระยะเวลานานถึง 39 ปี แม้จะไม่มีกฎหมายรองรับความสัมพันธ์นี้ก็ตาม จนเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2017 ได้มีการแก้กฎหมายให้คู่รักเพศเดียวกัน สามารถแต่งงานเป็นสามีภรรยากันได้เหมือนคู่ชายหญิงทั่วไปทุกประการ พอทั้งสองคนทราบข่าวนี้ก็ดีใจกันมาก และวางแผนงานแต่งงานกันทันที     Fenwicke พูดหลังจากการออกกฎหมายแต่งงานใหม่ว่า…

  • หญิงชาวอเมริกาถูกศาลตัดสินจำคุกนาน 10 ปี ข้อหาแต่งงานกับแม่แท้ๆ ของตัวเอง

    หญิงชาวอเมริกาถูกศาลตัดสินจำคุกนาน 10 ปี ข้อหาแต่งงานกับแม่แท้ๆ ของตัวเอง

    เรื่องราวอันแปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นระหว่าง Misty Spann หญิงสาววัย 26 ปี ผู้เติบโตขึ้นมาโดยการดูแลของคุณยายเธอตั้งแต่ยังเล็กๆ ก่อนจะเกิดความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับแม้แท้ๆ ของเธออย่าง Patricia Ann Spann แม่แท้ๆ วัย 44 ปี ทั้ง Misty และ Patricia เริ่มต้นความสัมพันธ์ของพวกเขาตั้งแต่ปี 2014 ก่อนที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทั้งสองกำลังเตรียมที่จะแต่งงานกัน     แต่ตามความต้องการของทั้งสองกลับต้องสะดุดลง หลังจากที่การแต่งงานกับผู้ที่เป็นญาติกันนั้นขัดต่อข้อกฎหมายของรัฐโอคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามทางด้านนาง Patricia ก็ได้อธิบายถึงความสัมพันธ์ในปัจจุบันของเธอกับลูกสาว พร้อมทั้งบอกว่าการกระทำของพวกเธอนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ผิด เนื่องจากเธอไม่ได้ระบุว่าเป็นผู้ปกครองไว้ในสูติบัตรของลูกสาวเธอ ก่อนหน้านี้ในปี 2008 หญิงคนดังกล่าวเคยจดทะเบียนแต่งงานกับลูกชายของเธอมาก่อน แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 15 เดือนทั้งสองก็หย่ากัน โดยฝ่ายชายอ้างว่าเขารับไม่ได้กับการร่วมประเวณีระหว่างญาติ     การแต่งงานของทั้งสองนั้นถูกศาลตัดสินว่าเป็นโมฆะ โดย Misty Spann อ้างว่าแม่ของเธอบอกว่าเขาสามารถจัดการเรื่องดังกล่าวให้ถูกต้องตามกฎหมายได้ และให้คำมั่นสัญญากับเธอว่าทั้งคู่จะสามรถแต่งงานกันได้ อย่างไรก็ตาม Misty Spann และแม่ของเธอถูกศาลสั่งตัดสินจำคุกนาน 10 ปี หลังจากที่ทั้งสองยอมรับว่ามีการร่วมประเวณีกัน ส่วนทางด้านนาง Patricia ยังมีการตั้งข้อกล่าวหาในเรื่องของการทำร้ายร่างกาย และเตรียมเข้ารับการพิจารณาคดีอีกครั้งในเดือนมกราคมปีหน้า     ที่มา ladbible

  • รัฐแคลิฟอร์เนียประกาศ สั่งแบนการซื้อ-ขาย สัตว์เลี้ยงจากโรงเพาะพันธุ์เป็นรัฐแรก..!!

    รัฐแคลิฟอร์เนียประกาศ สั่งแบนการซื้อ-ขาย สัตว์เลี้ยงจากโรงเพาะพันธุ์เป็นรัฐแรก..!!

    นับว่าเป็นอีกหนึ่งการประกาศใช้กฎหมายจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่กลายเป็นที่จับตามองจากทั่วโลก รวมทั้งรัฐอื่นๆ ในสหรัฐฯ โดยเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2017 เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า แคลิฟอร์เนียจะเป็น ‘รัฐ’ แรกในสหรัฐฯ ที่มีการประกาศใช้กฎหมายสั่งแบนการซื้อ – ขาย สัตว์เลี้ยงจากโรงเพาะพันธุ์อย่างเด็ดขาด!!     เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย Jerry Brown ได้ออกมาประกาศยืนยันบังคับใช้กฎหมายข้อดังกล่าวให้มีผลกับร้านค้าสัตว์เลี้ยงทุกชนิด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019 เป็นต้นไป… โดยเนื้อหาในตัวกฎหมายมีการระบุไว้ว่า ร้านค้าสัตว์เลี้ยงจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขายสัตว์เลี้ยงจากฟาร์มเพาะพันธุ์ แต่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงจากศูนย์พักพิง หรือศูนย์ช่วยเหลือสัตว์มาขายได้ (ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงเพาะพันธุ์เองภายในครัวเรือนก็ยังสามารถขายได้อยู่เช่นกัน)   หากเจ้าหน้าที่พบว่าร้านไหนฝ่าฝืนกฎหมาย จะถูกสั่งปรับเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 17,000 บาท)   นอกจากนั้นทางกลุ่ม The Humane Society และ American Society for the Prevention of Cruelty…

  • มงกุฏราชกุมารแห่งเดนมาร์กถูกปฏิเสธ “ไม่ให้เข้าบาร์” เหตุเพราะไม่พกบัตรประจำตัว

    มงกุฏราชกุมารแห่งเดนมาร์กถูกปฏิเสธ “ไม่ให้เข้าบาร์” เหตุเพราะไม่พกบัตรประจำตัว

    กฎหมายนั้นมีขึ้นเพื่อคงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยในแต่ละที่ก็จะมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและเหตุผลที่ไม่เหมือนกัน และมีไว้ใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมพิสูจน์ได้จากเรื่องต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา มงกฏราชกุมาร Frederik แห่งเดนมาร์กถูกบาร์แห่งหนึ่งในเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ปฏิเสธไม่ให้พระองค์เข้าร้านเนื่องจากลืมพกบัตรประจำตัวมา     พระองค์เดินทางมารัฐควีนแลนด์ในครั้งนี้เพื่อการแล่นเรือใบ และในเวลาราวๆ เที่ยงคืนก็ทรงเสด็จไปยังบาร์ดังกล่าวและถูกห้ามไม่ให้เข้าจากกฎหมายใหม่ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว ที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปยังสถานที่ต่างๆ ภายในเมืองได้หลัง 4 ทุ่มหากว่าไม่มีบัตรประจำตัวมาแสดง จากการที่พระองค์ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าร้านจากคนรักษาความปลอดภัยของสถานที่นั้น ก็ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อไปยังกรมควบคุมสุราและการพนันประจำรัฐ ขอให้ละเว้นกฎหมายดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษ     เจ้าของบาร์นั้นยังบอกอีกว่านี่มันคือฝันร้ายสำหรับนักท่องเที่ยวและเป็นเรื่องที่ไร้สาระจนเกินไป สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียงแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งเพราะเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้กับคนทั่วไปจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เหตุการณ์คล้ายกันนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อกลุ่มนักหมักไวน์ที่มีชื่อเสียงชาวฝรั่งเศสถูกห้ามไม่ให้เข้าบาร์ที่ได้รับรางวัล เพียงเพราะว่าพวกเขาไม่มีบัตรประจำตัวมา เจ้าของร้านนั้นถึงกับออกมาบอกว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นสิ่งที่น่าอายซะจริงๆ     อีกทั้งยังมีการบังคับซื้อเครื่องสแกนบัตรที่มีราคาสูงกว่า 2 แสนบาทให้กับสถานที่ต่างๆ ในรัฐ จนทำให้ผู้ค้า 31 แห่งต้องปรับเวลาการปิดร้านจากตี 2 ให้เหลือเพียงแค่เที่ยงคืนเพราะต้องการจะหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตามนี่ก็คือการแสดงให้เห็นว่ากฎหมายนั้นมีไว้ใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบและข้อกำหนดที่ถูกตั้งขึ้นมาอย่างมีเป้าหมาย   ที่มา: businessinsider, news

  • คุณแม่โพสต์ประชดฮาๆ หลังถูกเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ เตือนให้ปิดหน้าอกขณะให้นมลูก…

    คุณแม่โพสต์ประชดฮาๆ หลังถูกเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ เตือนให้ปิดหน้าอกขณะให้นมลูก…

    ตอนสมัยเป็นเด็กเราก็คงจะต้องกินนมแม่กันมาเกือบทุกคนอยู่แล้ว และการให้นมแม่นั้นเราก็สามารถเห็นได้โดยทั่วไปโดยเฉพาะในต่างประเทศที่ผู้หญิงมักจะให้นมลูกในที่สาธารณะเป็นเรื่องปกติเลยทีเดียว เธอคนนี้นั้นใช้ชื่อในทวิตเตอร์ว่า Vaguechera ที่เธอบอกว่าเธอเพียงแค่เปิดหน้าอกเพื่อจะป้อนนมให้ลูกเพียงเสี้ยววินาที ก็ถูกเจ้าหน้าที่ในพิพิธภัณฑ์ Victoria and Albert เข้ามาเตือนให้เธอปิดหน้าอก ทำให้เธอแอบรู้สึกตกใจเล็กๆ   คุณแม่ถูกเตือนให้ปิดหน้าอกไว้ในขณะที่ให้นมลูก   เพราะว่าการให้นมลูกนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ในอดีตกาลนานมากแล้ว และเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกสถานการณ์ นอกจากนั้นทางรัฐบาลในประเทศอังกฤษก็ได้มีกฎหมายปกป้องในเรื่องนี้ ที่อนุญาตให้แม่ป้อนนมลูกได้ในที่สาธารณะ และที่แย่ไปกว่านั้นคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้มันดันไปเกิดในช่วงสัปดาห์แห่งการให้นมลูกทั่วโลกอีกด้วยสิ หลังจากนั้นคุณแม่คนดังกล่าวจึงโพสต์ภาพและข้อความลงในทวิตเตอร์ ที่สร้างกระแสให้ชาวโซเชียลรีทวิตไปกว่า 7 พันครั้ง และจึงทำให้ทางพิพิธภัณฑ์ต้องกล่าวขอโทษเธอกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น   .   นอกจากเธอจะถ่ายภาพรูปปั้นที่เปลือยหน้าอกอยู่มากมายในพิพิธภัณฑ์แล้ว เธอก็ได้มีการใส่แคปชั่นฮาประกอบรูปภาพเอาไว้อีกด้วย   ขอโทษด้วยนะครับคุณผู้หญิง ช่วยเอาหน้ากากปิดหน้าอกคุณไว้ตอนให้นมลูกได้มั้ยครับ ?   “ผมจะโยนคุณออกไปพร้อมหน้าอกที่เปลือยเปล่าของคุณ”  “แต่ฉันทำมาจากหินอ่อนนะ” “ขอโทษครับ งั้นเชิญตามสบายเลย”   หน้าอกที่เปลือยเปล่าเหล่านั้น ทำให้คนไม่อยากอาหาร   จากเรื่องที่ถูกประชดประชัน ทางกรรมการบริหารพิพิธภัณฑ์ก็ได้เข้ามากล่าวขอโทษเธอผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาเองด้วย   เราต้องขอโทษด้วย ตอนนี้กฎระเบียบของเรามีความชัดเจนแล้วว่า ผู้หญิงสามารถให้นมลูกได้ทุกที่ที่คุณสะดวกและจะไม่ถูกรบกวน   เราขอโทษด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น เรายินดีที่จะให้คุณผู้หญิงได้ให้นมลูกภายในพิพิธภัณฑ์ และเราก็มีพื้นที่เล็กๆ สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว   จากกระแสโซเชียลก็ได้มีหลายคนที่ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นสนับสนุนและเห็นด้วยกับเธอ…

  • วีรกรรมน่าชื่นชมของคุณตำรวจที่ออกเงินซื้อชุดให้ “หัวขโมย” เพื่อให้โอกาสหางานทำ

    วีรกรรมน่าชื่นชมของคุณตำรวจที่ออกเงินซื้อชุดให้ “หัวขโมย” เพื่อให้โอกาสหางานทำ

    บางครั้งการแก้ปัญหาอย่างถูกจุด ก็อาจจะเป็นวิธีการที่ถูกต้องและอาจทำให้ปัญหานั้นถูกแก้ไขได้อย่างแท้จริง เหมือนกับวิธีของนายตำรวจจากเมือง Toronto ท่านนี้ ที่จัดการกับปัญหาการลักขโมยได้อย่างดี ชายหนุ่มที่ขโมยชุดในร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่งเพื่อไปสัมภาษณ์งาน ได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่จากคุณ Constable Niran Jeyanesan นายตำรวจใจดีที่ไม่เอาผิดแถมยังให้เงินเขาเพื่อซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่อีกด้วย     คุณ Constable Niran Jeyanesan กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาได้จับกุมเด็กหนุ่มวัย 18 ปีที่กำลังขโมยเสื้อ เน็คไท และถุงเท้า แต่เมื่อสอบถามผู้ต้องหาคุณตำรวจก็ได้ทราบความจริง ว่าเจ้าหนูต้องการชุดสำหรับไปสัมภาษณ์งานของเขา ด้วยน้ำใจและเข้าใจถึงหัวอกของคนที่กำลังดิ้นรนเป็นอย่างดี คุณตำรวจจึงปล่อยเด็กคนนั้นไป และจ่ายเงินซื้อเสื้อผ้าชุดนั้นให้กับเขาอีกด้วย “เขายังเป็นหนุ่ม และกำลังเผชิญกับปัญหาว่างงาน จากการสอบสวนเขาทำให้ผมรู้ว่าเขากำลังลำบากอย่างมากเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัวตอนนั้นเขาไม่มีอะไรติดตัวเลย เขาต้องการงานอย่างมาก และผมคิดว่าเขาคงจะรู้สึกผิดที่ทำแบบนี้” คุณตำรวจกล่าว     หลังนั้นการกระทำดังกล่าวของนายตำรวจท่านนี้ก็ได้รับคำชมเชยจากเจ้านายของเขา คุณ Paul Bois กล่าวยกย่องเขาว่า “ถ้าหากเขาจับกุมเด็กคนนั้นมาเราก็คงไม่ได้อะไรอยู่ดี ผมรู้สึกดีที่เห็นผลตอบรับทางด้านบวกต่อการกระทำของเขา มันแสดงให้เห็นว่าพวกเราเป็นตัวอย่างของชุมชนที่ดี “   ถ้าหากว่าคุณตำรวจยึดตามกฎหมายเป๊ะๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าครอบครัวของเจ้าหนุ่มคนนั้นจะเป็นอย่างไรบ้างนะเนี่ย ที่มา bbc

  • เยอรมนีผ่านกฎหมาย สื่อโซเชียลที่ปล่อยให้มีคำ Hate Speech จะโดนปรับถึง 2,000 ล้าน!!

    เยอรมนีผ่านกฎหมาย สื่อโซเชียลที่ปล่อยให้มีคำ Hate Speech จะโดนปรับถึง 2,000 ล้าน!!

    ท่ามกลางกระแสข่าวคราวเกี่ยวกับมาตรการควบคุมสื่อที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในบ้านเรา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐสภาเยอรมนีก็ได้ประกาศใช้กฎหมายฉบับใหม่ที่เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหา Hate Speech จากสื่อโซเชียลได้เช่นกัน โดยข้อกฎหมายใหม่นี้มีชื่อว่า ‘Network Enforcement Act’ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ถูกนำมาใช้ควบคุมไม่ให้เกิดปัญหา Hate Speech บนสื่อโลกโซเชียลโดยเฉพาะกับบริษัทที่มียอดผู้ใช้งานมากเกินกว่า 2 ล้านคน     ตัวกฎหมายระบุไว้ว่า ไม่ว่าผู้ให้บริการจะเป็น YouTube, Facebook หรือ Twitter ถ้าหากได้รับแจ้งให้มีการลบข้อความที่เข้าข่าย Hate Speech และไม่ดำเนินการภายใน 24 ชม. จะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย สำหรับการไม่ยอมลบข้อความ Hate Speech ภายในระยะเวลาที่กำหนดนั้น มีโทษปรับขั้นต่ำ 5 ล้านยูโร (ประมาณ 200 ล้านบาท) และสูงสุดถึง 50 ล้านยูโร (ประมาณ 2,000 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นเงินที่สูงมาก   สำหรับข้อความหรือเนื้อหาที่เข้าข่ายรุนแรงแต่ไม่ชัวร์ว่าผิดกฎหมายหรือไม่ จะมีกระบวนการตรวจสอบภายใน 7 วัน โดยทีมตรวจสอบที่ตั้งขึ้นมาเป็นการเฉพาะ   ทั้งนี้ด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์…

  • ศิลปินสาวสร้างสรรค์ผลงาน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก “กฎหมายแปลกๆ” ในอเมริกา

    ศิลปินสาวสร้างสรรค์ผลงาน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก “กฎหมายแปลกๆ” ในอเมริกา

    หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายแปลกๆ ในสหรัฐอเมริกากันมาบ้าง และเมื่อไม่นานมานี้มีศิลปินสาวคนหนึ่งนามว่า คุณ Olivia Locher ได้สร้างสรรค์งานศิลปะโดยได้แรงบันดาลใจจากกฎหมายแปลกๆ ในรัฐต่างๆ ของอเมริกา บางกฎหมายนั้นมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานและถูกบังคับใช่มาตั้งแต่อตีด อย่างเช่นการห้ามเอาไอศกรีมโคนใส่ไว้ในกระเป๋าหลังกางเกงนั้นก็เพื่อเป็นการป้องกันการขโมยม้า เพราะหัวขโมยจะไม่สามารถเอาไอศกรีมเหน็บกระเป๋าพวกเขาตอนขโมยได้ ซึ่งอันที่จริงเรื่องแบบนี้คงไม่มีให้เห็นแล้ว แต่ทว่ากฎหมายดังกล่าวยังคงมีการใช้อยู่ และวันนี้เราก็ได้รวบรวมผลงานบางส่วนของเธอมาให้ได้ฝากกัน แต่ละผลงานจะน่าสนใจแค่ไหนไปชมกันเลย…   1. ในรัฐ Alabama นั้นการเอาไอศกรีมโคนใส่กระเป๋าด้านหลังกางเกงนั้นเป็นเรื่องผิดกฏหมาย   2. ในรัฐ Kentucky ถ้าหากว่าคุณทาสีสนามหญ้าให้กลายเป็นสีแดงนั้นถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย   3. ในรัฐ Minnesota คุณไม่สามารถข้ามถนนได้ถ้าหากมีนกเกาะอยู่บนหัว   4. ในรัฐ Arizona คุณไม่สามารถมีดิลโดติดบ้านไว้มากเกิน 2 อัน   5. ที่ Ohio การถอดเสื้อผ้าต่อหน้ารูปถ่ายของผู้ชายนั้นอาจทำให้คุณโดนจับได้เช่นกัน   6. ที่ Nevada ห้ามมิให้คุณเอาธงชาติมาปักไว้บนสบู่!!   7. และถ้าหากใครดั๊นทะลึ่งไปมีเซ็กส์กับรถยนต์ ใน Oklahoma ก็ผิดกฎหมายนะจ๊ะ   8. ที่รัฐ Connecticut แตงกวาดองของแท้ต้องเด้งได้ นั่นถึงจะเรียกว่าแตงกวาดองจริงๆ   9. คุณไม่สามารถเดินบนถนนพร้อมกับถือถุงกระดาษที่ใส่ไวโอลีนได้ ในรัฐ Utah  …

  • รัฐเนวาด้าออกกฎหมาย “ทิ้งหมา-แมวไว้ในรถ” ถือว่าผิดกฎหมาย และต้องถูกดำเนินคดี!!

    รัฐเนวาด้าออกกฎหมาย “ทิ้งหมา-แมวไว้ในรถ” ถือว่าผิดกฎหมาย และต้องถูกดำเนินคดี!!

    สำหรับประเทศเขตหนาวแล้วแดดอุ่นๆ จากพระอาทิตย์อาจจะช่วยทำให้พวกสัตว์เลี้ยงรู้สึกดีได้ แต่บางทีความร้อนที่มากเกินไปอย่างการถูกขังไว้ในรถ ก็อาจทำให้พวกมันเสียชีวิตได้เช่นกัน โดยเฉพาะในรัฐทะเลทรายอย่างรัฐเนวาด้า ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอากาศร้อนจัดในช่วงฤดูร้อนของทุกปี ทางหน่วยงานของรัฐจึงได้ออกกฎหมายคุ้มครองเหล่าสุนัขสี่ขาผู้น่ารักทั้งหลาย ซึ่งเป็นกฎหมายที่ว่าด้วยการห้ามมิให้ทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ในรถตามลำพังโดยเด็ดขาด     “มีการประกาศสรุปจากการประชุมข้อกฎหมายแล้วว่า การทิ้งสุนัขไว้ในรถเพียงลำพังและทำให้มันเสียชีวิต มีโทษร้ายแรงเทียบเท่ากับการปล่อยเด็กไว้ในรถเลยทีเดียว” Cathy Brooks เจ้าของศูนย์ดูแลสุนัข The Hydrant Club ให้สัมภาษณ์ The RSPCA ได้ให้ข้อมูลเสริมว่า ‘ถึงแม้ว่านอกรถจะมีสภาพอากาศอยู่ที่ 22 องศา และอาจจะดูเหมือนไม่ร้อนมากเท่าไหร่ แต่ภายในรถอุณหภูมิสามารถพุ่งสูงขึ้นไปถึง 47 องศาได้อย่างเหลือเชื่อภายในไม่ถึงชั่วโมงเดียวเท่านั้น’   กฎหมายระบุโทษไว้ว่าหากใครทำผิดจะต้องมีโทษสูงถึงจำคุก 6 เดือน และปรับเงิน 1,000 เหรียญ   เนวาด้าไม่ใช่รัฐแรกที่มีการประกาศใช้กฎหมายคุ้มครองสัตว์เลี้ยงในเรื่องนี้ เพราะที่ประเทศอังกฤษก็มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์เลี้ยงเช่นเดียวกัน โดยโทษสูงสุดต้องจำคุก 51 สัปดาห์ และปรับเป็นเงินสูงกว่า 20,000 ยูโร ทีนี้เราคงได้รู้กันแล้วว่าการปล่อยสัตว์เลี้ยงทิ้งไว้ในรถที่จอดกลางแดด เป็นสิ่งที่อันตรายและอาจพรากชีวิตของเจ้าตูบสี่ขา หรือเจ้าเหมียวสุดที่รักไปจากเราได้   อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับการทิ้งสัตว์เลี้ยงในรถ – รู้ไว้เถอะว่า การปล่อย ‘สัตว์เลี้ยง-เด็ก’ ไว้ในรถร้อนๆ มันจะมีอุณหภูมิสูงขนาดไหน!? – ชายหนุ่มทิ้งไข่ดิบไว้ในรถตอนเที่ยงวัน…

  • โหดอีกขั้น… รัฐในอเมริกาเริ่มขึ้นรายชื่อ “ผู้กระทำความรุนแรงกับสัตว์” เพื่อแจ้งให้คนอื่นได้ทราบ

    โหดอีกขั้น… รัฐในอเมริกาเริ่มขึ้นรายชื่อ “ผู้กระทำความรุนแรงกับสัตว์” เพื่อแจ้งให้คนอื่นได้ทราบ

    ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีกฎหมายที่ออกมาคุ้มครองสัตว์มากมาย แต่นี่ก็ไม่สามรถที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากพอ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทางการรัฐในหลายแห่งของประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มมีมาตรการที่จัดทำ “ทะเบียนรายชื่อผู้กระทำความผิดต่อสัตว์” เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาการทารุณกรรมสัตว์ลงได้     ซึ่งรัฐแรกที่เริ่มกระบวนการการลงทะเบียนดังกล่าวไปแล้ว ก็คือรัฐเทนเนสซีตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2016 หลังจากนั้นจึงเริ่มใช้ในพื้นที่เล็ก ๆ ในรัฐนิวยอร์กและพื้นที่อื่นๆ ในรัฐอิลลินอยส์ โดยการขึ้นทะเบียนนี้ จะทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลพื้นฐานของผู้กระทำผิด ทั้งชื่อ ที่อยู่ รวมไปถึงความผิดที่เคยกระทำต่อสัตว์ ซึ่งจะช่วยให้ข้อมูลที่สำคัญแก่ผู้ค้นหาได้     และในเดือนกันยายนของปีที่แล้ว เมือง Tampa ในรัฐฟลอริดา ก็ได้เข้าร่วมกับฐานข้อมูลของทะเบียนนี้แล้ว ซึ่งในปัจจุบันดูเหมือนว่าจะมีอีกหลายเมืองในอเมริกา กำลังวางแผนจะใช้ฐานข้อมูลทะเบียนนี้เช่นเดียวกัน “ทะเบียนนี้ไม่เพียงช่วยปกป้องสัตว์ แต่สามารถที่จะระบุและอาจป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงต่อสัตว์ รวมไปถึงมนุษย์เช่นกัน” Kevin Beckner ผู้บัญชาการมณฑล Hillsborough เขตฟลอริดากล่าว หลังจากที่เมือง Tampa เห็นชอบกฎหมายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว     และด้วยไอเดียแบบนี้จึงทำให้ประชาชนในสหราชอาณาจักรเริ่มลงรายชื่อเพื่อนำระบบทะเบียนนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งมีรูปแบบที่ไม่ต่างกับทะเบียนผู้ล่วงละเมิดหรือกระทำผิดทางเพศ หากระบบทะเบียนนี้ได้นำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ก็จะทำให้การทำงานของตำรวจและการตรวจสอบจากประชาชน เกี่ยวกับผู้กระทำความผิดในเรื่องการทารุณกรรมสัตว์นั้น สามารถที่จะทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ข้อดีของระบบทะเบียนนี้คือนอกจากการบันทึกข้อมูลต่างๆ แล้ว ยังสามารถที่จะกรอกสถานะของผู้กระทำผิดด้วยว่าเป็นโรคจิตเภทหรือบุคคลธรรมดาอีกด้วย   ที่มา: independent , ladbible

  • Donald Trump เตรียมปรับใช้กฎหมาย ให้สามารถล่าหมีได้แม้เป็นฤดูจำศีล เพื่อควบคุมนักล่า!?

    Donald Trump เตรียมปรับใช้กฎหมาย ให้สามารถล่าหมีได้แม้เป็นฤดูจำศีล เพื่อควบคุมนักล่า!?

    นี่อาจจะเป็นเรื่องราวที่ทำให้คนรักสัตว์และเหล่านักอุนรักษ์จากทั่วโลก และโดยเฉพาะผู้คนในประเทศสหรัฐอเมริการู้สึกสะเทือนใจได้ หลังจากที่ประธานาธิบดี Donald Trump ได้มีการเตรียมปรับใช้กฎหมายใหม่ อนุญาตให้ออกล่าหมีในฤดูการจำศีลได้ เพื่อเป็นการควบคุมสัตว์นักล่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ทางประธาณาธิบดี Donald Trump ได้ทำการยกเลิกกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าของ Barack Obama อดีตประธานาธิบดีบดีของสหรัฐฯ นอกจากนี้ Trump ยังได้ออกกฎหมายใหม่เพื่อยื่นให้รัฐสภาพิจารณา ให้สามารถยิงหรือดักจับหมาป่าในขณะที่อยู่ในรัง และดักจับหมีในฤดูกาลจำศีลโดยเครื่องบิน ซึ่งจะมีการนำอาหารล่อให้พวกมันออกมา จากนั้นก็ทำการฆ่า ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยลดจำนวนสัตว์นักล่าในอลาสก้านั่นเอง     สำหรับการเปลี่ยนแปลงกฎหมายดังกล่าว Trump ได้รับการเสนอเรื่องจาก Ronald D Young สมาชิกพรรค Republican ในมลรัฐอลาสก้า พร้อมกับเสียงสนับสนุนจากสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรนายทุนอาวุธปืนขนาดใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดของสหรัฐฯ อีกด้วย     ทางด้าน Wayne Pacelle ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรพิทักษ์สัตว์ Humane Society ได้ออกมาเผยว่า “สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจทำลงไปนั้น จะทำให้เกิดความรู้สึกด้านลบต่อคนรักสัตว์ในประเทศสหรัฐอเมริกา…

  • โปรตุเกสออกกฎหมายให้โรงอาหารสาธารณะ ต้องมีมื้ออาหารมังสวิรัติเป็นทางเลือกเพิ่ม!!

    โปรตุเกสออกกฎหมายให้โรงอาหารสาธารณะ ต้องมีมื้ออาหารมังสวิรัติเป็นทางเลือกเพิ่ม!!

    ปัจจุบันผู้คนมักจะหันมาดูแลสุขภาพของตนเองกันมากขึ้น หลายคนที่อยากมีรูปร่างที่ดี ก็พากันออกกำลังกาย รวมถึงการเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพอย่างอาหารมังสวิรัติ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และในขณะเดียวกันที่ประเทศโปรตุเกสในตอนนี้ มีการออกกฎหมายหมายบังคับให้โรงอาหารสาธารณะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในเรือนจำ โรงพยาบาล และโรงเรียน และตามสถานที่สาธารณะต่างๆ ที่มีการประกอบอาหารให้กับบุคลากร     เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า กฎหมายการบังคับให้โรงอาหารสาธารณะทั่วประเทศเพิ่มทางเลือกอาหารมังสวิรัติ ได้รับการอนุมัติโดยเสียงข้างมากจากรัฐสภาไปเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า โรงอาหารในโรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล เรือนจำ และอาคารสาธารณะอื่นๆ จะต้องเพิ่มตัวเลือกการบริโภคอาหารที่ปลอดจากเนื้อสัตว์ และถ้าหากทุกอย่างดำเนินการไปได้ด้วยดี กฎหมายอาจมีผลได้ภายในเวลาเพียง 2 หรือ 6 เดือน ขณะเดียวกันหากมีปริมาณอาหารที่ไม่เพียงต่อสำหรับการบริโภค โรงอาหารสามารถยกเลิกมื้ออาหารมังสวิรัติได้     สำหรับการออกกฎหมายดังกล่าว ได้ถูกริเริ่มโดย Associação Vegetariana Portuguesa (สมาคมมังสวิรัติโปรตุเกส) ที่ได้เป็นผู้รวบรวมคำร้องมากกว่า 15,000 ฉบับ ซึ่งทางรัฐสภาของประเทศก็ได้มีการปรึกษาหารือในเรื่องดังกล่าว เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทางด้าน Nuno…

  • อียูเตรียมออกกฎหมาย หุ่นยนต์ต้องมีปุ่มปิดการทำงานทันที และอาจมีสถานภาพเสมือนคนจริงๆ

    อียูเตรียมออกกฎหมาย หุ่นยนต์ต้องมีปุ่มปิดการทำงานทันที และอาจมีสถานภาพเสมือนคนจริงๆ

    ทุกวันนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จนดูเหมือนว่าโลกแห่งหุ่นยนต์กำลังจะเกิดขึ้นจริงๆ ในอีกไม่นานนี้ และด้วยความกลัวนั้น ทำให้ตอนนี้หลายๆ ประเทศเริ่มมีการผลักดัน “กฎหมายหุ่นยนต์” ขึ้นมาเพื่อรับมือกับโลกแห่งหุ่นยนต์ในอนาคต     กฎหมายเกี่ยวกับศีลธรรมเบื้องต้นของหุ่นยนต์ ?? อย่างล่าสุดในการประชุมรัฐสภาสหภาพยุโรปในช่วงเดือนหน้านี้ มีการส่งร่างกฎหมายหุ่นยนต์ต่อคณะกรรมการร่างกฎหมายเป็นที่เรียนร้อยแล้ว ว่าจะมีทิศทางในการจัดการกับหุ่นยนต์ในอนาคตอย่างไร โดยร่างกฎหมายดังกล่าวนำเสนอโดย Mady Delvaux-Stehres จากประเทศลักเซมเบิร์ก เขาบอกว่ากฎหมายปัจจุบันไม่สามารถตาม “การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีได้” และควรจะออก “กฎหมายจริยธรรมเบื้องต้นของหุ่นยนต์” ได้แล้ว เพื่อป้องกัน “เหตุไม่คาดคิด” อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์อินดิเพนเด้นท์ ระบุเอาไว้ว่า  “ทุกวันนี้หุ่นยนต์ได้มีบทบาทสำคัญในเห็นได้ชัดว่าทุกวันนี้กฎที่เราไม่มีเพียงพอแต่การจัดการกับเครื่องจักร ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนเป็นอย่างมาก ว่าหุ่นยนต์ควรจะได้รับสิทธิทางกฎหมายหรือไม่” “และเพื่อที่จะแน่ใจว่าหุ่นยนต์จะรับใช้มนุษย์อย่างเดียว เราจึงควรสร้างกฎหมายหุ่นยนต์ของยุโรปโดยเร็วที่สุด”     Kill Switch ปุ่มหยุดหุ่นยนต์ฉุกเฉิน ถึงแม้ว่ากฎหมายเรื่องจริยธรรมของหุ่นยนต์จะผ่านหรือไม่ แต่ความกังวลในเรื่องของโลกอนาคตที่อาจจะถูกยึดครองโดยหุ่นยนต์ (ดังที่เราเห็นจากภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง) ด้วยเหตุดังกล่าว ทำให้หลายคนคิดไปถึงเรื่องการทำปุ่มหยุดฉุกเฉิน เพื่อที่มนุษย์จะสามารถสั่งให้หุ่นทุกตัวหยุดการทำงานได้ทันที หากมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น ข้อมูลจากบีบีซี ระบุว่า ในกฎหมายจริยธรรมเบื้องต้นในการใช้หุ่นยนต์ที่จะมีการพิจารณาในรัฐสภายุโรปเดือนหน้านี้ หนึ่งในข้อบังคับคือต้องมีการติดตั้งปุ่มหยุดการทำงานของหุ่นยนต์อย่างฉับพลันบนหุ่นยนต์ทุกตัว เพื่อป้องการกระทำอันไม่เหมาะสมต่างๆ ของหุ่นยนต์ในอนาคต     แม้จะดูเร็วไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นอีกก้าวที่สำคัญของมนุษยชาติเลยทีเดียว แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้าง…

  • รัสเซียออกกฎหมาย ห้ามขายบุหรี่ให้คนเกิดหลังปี 2015 หวังแก้ปัญหาคนติดบุหรี่ในระยะยาว

    รัสเซียออกกฎหมาย ห้ามขายบุหรี่ให้คนเกิดหลังปี 2015 หวังแก้ปัญหาคนติดบุหรี่ในระยะยาว

    ในทุกๆ ปี ประชากรในประเทศรัสเซียจะเสียชีวิตจากโรคที่มีสาเหจตุมาจากบุหรี่ประมาณ 400,000 คน แต่ภายหลังนั้นตัวเลขของผู้สูบบุหรี่นั้นลดลงจาก 41 % เป็น 31 % เป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จากรายงานของสำนักข่าว Tass แต่ถึงอย่างนั้นผู้นำของรัสเซียอย่างประธานาธิบดี Vladimir Putin ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ทำการออกกฎหมายห้ามเด็กที่เกิดหลังปี 2015 เป็นต้นไปทำการซื้อขายบุหรี่ กลายเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายในการห้ามซื้อขายบุหรี่ โดยเขาให้เหตุผลว่าบุหรี่นี้นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้ว ยังส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจอีกด้วย จึงวางแผนนโยบายระยะยาวในการระงับการซื้อขายบุหรี่ออกมา     วัฒนธรรมการสูบบุหรี่ในประเทศรัสเซียนั้นกลายเป็นที่นิยมกันเป็นจำนวนมากตั้งแต่ในช่วงที่ยังรวมเป็นสหภาพโซเวียตอยู่ ซึ่งยาสูบทั้งหลายนั้นถูกนำเข้ามาจากประเทศ คิวบา จอร์เจีย และประเทศทางแถบเอเชียกลาง หลังจากที่เล็งเห็นปัญหานี้แล้ว ทางด้านประธานาธิบดีและเหล่าที่ปรึกษาก็เห็นพ้องต้องกันว่าควรที่จะหามาตรการในการลดปัญหาที่เกิดจากบุหรี่นี้ซักที Nikolai Gerasimenko คณะกรรมการสุขภาพของรัฐสภารัสเซีย ก็ได้ให้ความเห็นกับการออกกฎหมายในครั้งนี้ว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้เป็นอุดมการณ์ที่ถูกต้องอย่างแท้จริง”     แต่ถึงอย่างนั้นบางส่วนก็ยังออกมาเสนอบอกว่าการสั่งห้ามนี้ควรจะมีการถกเกียงกันอย่างจริงจังก่อนที่จะทำการประกาศออกมาใช้เป็นกฎหมายจริงๆ เมื่อช่วงปี 2015 ที่ผ่านมาทางรัฐสภาของรัสเซียก็เพิ่งจะประกาศแบนการซื้อขายบุหรี่ให้กับผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปีไปแล้ว และข้อเสนอกฎหมายดังกล่าวนั้นสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งในรอบนี้พวกเขามองถึงหนทางที่ยาวไกลออกไป     ซึ่งการแบนการซื้อบุหรี่สำหรับเด็กๆ ในยุคต่อไปนั้นจะทำให้พวกเขาไม่สามารถเรียนรู้หรือรับรู้ถึงความเคยชินจากการสูบบุหรี่ได้เลย ปัจจุบันมีประชากรประมาณ…

  • ฝรั่งเศสบังคับใช้กฎหมาย ให้ประชาชนทุกคน “บริจาคอวัยวะ” แบบอัตโนมัติ หลังจากเสียชีวิตลง

    ฝรั่งเศสบังคับใช้กฎหมาย ให้ประชาชนทุกคน “บริจาคอวัยวะ” แบบอัตโนมัติ หลังจากเสียชีวิตลง

    โดยปกติแล้ว การบริจาคอวัยวะเป็นสิ่งที่ผู้ให้เต็มใจที่จะมอบอวัยวะของตนให้กับผู้อื่นอย่างแท้จริง แต่ในตอนนี้พลเมืองของประเทศฝรั่งเศสทุกคน ได้กลายเป็นผู้ที่ต้องบริจาคอวัยวะให้กับสาธารณประโยชน์แบบอัตโนมัติ หลังจากที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยกฎระเบียบนี้ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 ผ่านมา และนอกจากประเทศฝรั่งเศสแล้ว ยังมีประเทศสเปน และประเทศออสเตรเลีย ที่บังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอีกด้วย     ในขณะที่ประชาชนผู้ใดที่ไม่ประสงค์จะบริจาคอวัยวะของตน ต้องไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ National Rejection Register เพื่อให้ทางทีมแพทย์ได้ตรวจสอบอวัยวะ หรือเนื้อเยื่อ เพื่อใช้เป็นข้อมูลหลังจากที่มีการเสียชีวิตลง ซึ่งล่าสุดก็มีผู้ไม่ประสงค์จะบริจาคอวัยวะ ได้เข้ามาลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวแล้วกว่า 150,000 คน แต่ถ้าหากใครที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ ก็สามารถจัดทำเอกสารไม่ประสงค์บริจาคอวัยวะ พร้อมกับลงนามและวันที่ และนำไปฝากให้กับทางญาติของตนเองได้ และเมื่อผู้ฝากได้เสียชีวิตลง ทางญาติก็จะต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาแสดงให้กับทีมแพทย์     สำหรับกฎหมายดังกล่าวที่ได้มีการบังคับใช้ในประเทศฝรั่งเศส กลับทำให้ประเทศอังกฤษมองว่า น่าจะมีการรณรงค์ให้ผู้คนตระหนักถึงการบริจาคอวัยวะมากกว่าการบังคับแบบนี้ แล้วคุณละมีความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างไรบ้าง? ที่มา : independent, theguardian

  • ศาลรัฐ Michigan ตัดสินให้ตำรวจ สามารถยิงสุนัขได้ หากมันขยับหรือเห่า เวลาตรวจค้นบ้าน…

    ศาลรัฐ Michigan ตัดสินให้ตำรวจ สามารถยิงสุนัขได้ หากมันขยับหรือเห่า เวลาตรวจค้นบ้าน…

    ล่าสุดรัฐ Michigan ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ออกกฎหมายใหม่ ทำให้ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยิงใส่สุนัขได้ หากพวกมันเห่าและขยับตัวมากเกินไปเวลาที่เจ้าหน้าที่เข้าไปทำการตรวจค้นในบ้าน กฎหมายใหม่นี้เพิ่งผ่านร่างมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง นั่นทำให้เจ้าหน้าที่สามารถทำการวิสามัญสัตว์เลี้ยงได้เลยหากพวกมันเห่าหรือขยับตัวมากเกินไปจนขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่     ซึ่งการตัดสินให้ผ่านร่างนี้ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมือง Battle Creek รัฐ Michigan ที่ตำรวจต้องทำการวิสามัญสุนัขถึง 2 ตัว ขณะที่ทำการตรวจค้นยาเสพติดในบ้านของผู้ต้องสงสัย ซึ่งจากเหตุการณ์นี้เจ้าของ Mark และ Cheryl Brown ก็ได้ออกมายื่นคำร้องให้ทางเจ้าหน้าที่และเทศบาลออกมาแสดงความรับผิดชอบกับการตายของสัตว์เลี้ยงของพวกเขาเมื่อในปี 2013 เมื่อเร็วๆ นี้ จากคำให้การของเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า ที่เขายิงเจ้าพิตบูลตัวแรกนั้นเป็นเพราะมันขยับและมุ่งตรงมาทางเขาด้วยท่าทางที่ดุร้าย     ส่วนตัวที่สองนั้นถูกยิงเพราะมันเดินเข้ามาด้านข้างพร้อมกับเห่า จากรายงานของสำนักข่าว First Coast News จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็วิ่งตามสุนัขที่วิ่งหนีไปหลบที่มุมเพื่อยิงซ้ำอีกครั้ง โดยเอกสารบันทึกรายละเอียดคดีในศาลได้ระบุว่า… ที่เจ้าหน้าที่ทำแบบนี้ก็เพราะเลือดของเจ้าหมานั้นไหลออกมามาก และมีบาดแผลฉกรรจ์ เขาไม่อยากให้มันเจ็บปวดและทรมานจึงจำเป็นต้องตามไปยิงซ้ำอีกรอบ ศาลได้ตัดสินว่าครอบครัว Brown นั้นไม่มีหลักฐานที่จะมายืนยันว่าสุนัขของพวกเขาไม่ได้เห่าหรือไม่มีเจตนาพุ่งเข้ามาจู่โจมเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทำให้ถูกยกฟ้องไป     ทางด้านผู้พิพากษา Eric Clay ก็ได้เขียนถึงการตัดสินใจของตัวเองในครั้งนี้ว่า “จากสภาพการณ์ทั้งหมด และจากมุมมองของเจ้าหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่แล้วพบว่า สุนัขนั้นเป็นต้นเหตุให้เกิดภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่” “จากกฎหมายที่เราได้ตั้งไปในวันนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับสุนัขได้ขณะที่ดำเนินการตามหมายค้น เพื่อค้นหาสิ่งผิดกฎหมายในบ้านของผู้ต้องสงสัย  ซึ่งเป็นเหตุที่เหมาะสมแล้ว…

  • สาวเลบานอน ประท้วงรัฐบาลร่างกฎหมายใหม่ ที่บังคับให้เหยื่อถูกข่มขืน แต่งงานกับผู้ก่อเหตุ

    สาวเลบานอน ประท้วงรัฐบาลร่างกฎหมายใหม่ ที่บังคับให้เหยื่อถูกข่มขืน แต่งงานกับผู้ก่อเหตุ

    การเป็นหญิงสาวในประเทศเลบานอนอาจจะไม่ใช่เรื่องที่โชคดีเท่าไหร่นะ เพราะที่เลบานอนเองมีข่าวคราวเกี่ยวกับหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายและข่มขืนแทบจะรายวันทีเดียว ในปี 2009 มีรายงานว่ามีเด็กหญิงชาวบังกลาเทศถูกฆ่าตายในเลบานอนถึง 11 ศพ โดยส่วนใหญ่มีร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกาย และในปีเดียวกันนี้เองยังมีข่าวว่าเด็กสาวชาวเนปาลที่เดินทางไปทำงานในเลบานอนได้ฆ่าตัวตายไปถึง 15 คน ซึ่งมีการสันนิษฐานกันว่าอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องของการข่มขู่ทางเพศ     ล่าสุดได้มีรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศอย่าง Independent บอกว่าทางรัฐบาลของเลบานอนได้เตรียมที่จะออกร่างกฎหมายให้หญิงสาวที่ถูกข่มขืนต้องแต่งงานกับผู้ที่ข่มขืนพวกเธอ ตามพระราชบัญญัติฉบับเก่าจากปี 1940 ของเลบานอนได้ระบุเอาไว้ว่าหากใครฝ่าฝืนกฎหมายข้อนี้ จะต้องถูกจำคุกเป็นเวลา 7 ปี และยิ่งหากเป็นผู้เยาว์ หรือผู้ที่มีอาการทางจิตหรือผู้ป่วยไม่ว่าจะในลักษณะใดก็ตาม ก็จะมีโทษเพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ในกฎหมายใหม่มาตราที่ 522 ได้สร้างช่องโหว่ทางกฎหมายขึ้น โดยระบุว่าผู้ที่กระทำชำเราผู้อื่นจะได้รับการละเว้นโทษ หากชายคนนั้นยอมแต่งงานกับฝ่ายหญิงเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ     แต่ร่างพรบ.ที่ว่านี้กลับทำให้หญิงสาวในเลบานอนไม่พอใจอย่างมาก และคิดว่านั่นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุที่ไม่น่าจะช่วยลดคดีการข่มขืนลงได้ ในวันอังคารที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา หญิงสาวเกือบสิบคนจึงได้ออกมาร่วมกันต่อต้านกฎหมายใหม่นี้ ด้วยการสวมชุดเจ้าสาว พร้อมกับมีผ้าพันแผลไว้รอบตัวและมีเลือดปลอมเปื้อนตามร่างกาย ยืนอยู่ที่ด้านนอกของอาคารรัฐสภาพในเมืองเบรุต เพื่อแสดงออกว่าพวกเธอไม่เห็นด้วยกับกฎหมายใหม่นี้ นางสาว Ghida Anani ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มในการต่อต้านครั้งนี้ได้กล่าวว่า “เราขอปฏิเสธการการละเมิดสิทธิของผู้หญิงโดยไม่คำนึงถึงอายุ พื้นเพ หรือสภาพแวดล้อม”     Anani ยังบอกอีกว่าเธอไม่ชอบข้อเสนอของรัฐบาลเป็นเหมือนการซ้ำเติมผู้เคราะห์ร้ายมากกว่า “นี่มันเหมือนกับการพูดว่าผู้เคราะห์ร้ายซ้ำกันสองครั้ง พวกเธอต้องใช้ชีวิตร่วมอยู่กับคนที่ละเมิดสิทธิของพวกเธอ และนั่นเป็นเหตุให้เกิดการข่มชืนกันทุกวันๆ”…

  • หญิงตุรกีแห่ประท้วง หลังรัฐบาลเตรียมออกกฎหมาย ‘ข่มขืนแล้วแต่งงาน’ ถือว่าไม่มีความผิด?!?!

    หญิงตุรกีแห่ประท้วง หลังรัฐบาลเตรียมออกกฎหมาย ‘ข่มขืนแล้วแต่งงาน’ ถือว่าไม่มีความผิด?!?!

    เรามักจะได้รับทราบข่าวเกี่ยวกับคดีข่มขืนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยของเราเองที่ปัญหานี้มีให้เห็นวนเวียนอยู่ตลอดตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และไม่มีทีท่าว่าจะลดน้อยลง ทีนี้จะขอพาข้ามไปรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับการเรื่องกฎหมายการข่มขืน ในประเทศอย่างตุรกีกันบ้าง… กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตในประเทศตุรกี หลังจากมีความพยายามเสนอร่างกฎหมายใหม่ ที่เหล่าผู้ที่กระทำผิดล่วงละเมิดทางเพศ (รวมทั้งข่มขืน) อาจพ้นผิดได้ หากผู้กระทำยอมแต่งงานกับเหยื่อ จนมีผู้ออกมาประท้วงจำนวนมากในกรุงอังการา ประเทศตุรกี     กฎหมายดังกล่าวมีใจความที่สรุปคร่าวๆ ว่า หากผู้ชายกระทำการล่วงละเมิดทางเพศเล็กๆ น้อยๆ หรือ ไม่ได้มีการ “ขู่เข็ญ” หรือ “บังคับ” หรือแม้กระทั่งได้มีการกระทำแล้ว แล้วรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับเหยื่อ ก็จะถือว่าไม่มีความผิด แน่นอนว่าเมื่อมีการระบุแบบนี้ในกฎหมายทีเตรียมออกมา ย่อมมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาค่อนข้างมาก และเกิดการประท้วงขึ้นมา หลังจากมีการประท้วง ทางรัฐบาลได้เลื่อนการพิจารณาออกกฎหมายออกไปก่อน และจะมีการพิจารณาในสภาอีกครั้งในวันข้างหน้า     ทางกลุ่มผู้ต่อต้านได้ออกมากล่าวว่า “การล่วงละเมิดทางเพศถือว่าเป็นอาชญากรรม และมันไม่ควรถูกยอมรับ นั่นเป็นสิ่งที่พรรค AK (พรรคที่เป็นรัฐบาลขณะนี้) ไม่เข้าใจ การยอมรับการล่วงละเมิดทางเพศเป็นสิ่งที่ใครที่ไหนเขาก็ไม่ยอมรับกันหรอก”     ขณะเดียวกัน Binali Yildirim นายกรัฐมนตรีของตุรกี ที่สนับสนุนกฎหมายใหม่ดังกล่าว ได้ออกมาให้เหตุผลว่า เจตนาของกฎหมาย ก็เพื่อมาแก้ปัญหาต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงข้อดีหากมันออกมา ตัวอย่างเช่น…

  • กรุงปารีสออกกฎ อนุญาตชาวเมือง ‘ทำสวน’ ได้อย่างอิสระ เพิ่มความงดงามให้กับเมือง

    กรุงปารีสออกกฎ อนุญาตชาวเมือง ‘ทำสวน’ ได้อย่างอิสระ เพิ่มความงดงามให้กับเมือง

    ก็อย่างที่เรารู้กันดีว่ากรุงปารีส นั้นเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความสวยงามมากที่สุดในโลก ทั้งการวางแผงเมืองและสถาปัตยกรรมเองก็มีเอกลักษณ์ รวมไปถึงกลิ่นอายฝรั่งเศส จนเป็นที่มาของชื่อเสียงอันเลื่องลือไปทั่วโลก   และล่าสุด!! ความงดงามของเมืองนี้คงจะเพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะล่าสุดกฎหมายใหม่ก็เพิ่งร่างผ่านไป โดยสามารถอนุญาตให้ประชากรสามารถทำสวนเป็นของตัวเองในพื้นที่ของเมืองได้แล้ว     เหล่าผู้คนที่อยู่อาศัยจะได้รับใบอนุญาตเป็นเวลา 3 ปี ในการปลูกผัก ผลไม้ ดอกไม้ และ พืชพรรณอื่นๆ จากตัวบทกฎหมายแล้ว สวนเหล่านี้จะต้องใช้วิธีการดูแลรักษาอย่างยั่งยืนเท่านั้น นั่นหมายความว่าจะไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลง หรือสารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช!!     และทางกรุงปารีส เองก็ได้จัดตั้งหน่วยงานเพื่อแจกจ่ายอุปกรณ์ในการทำสวน อันประกอบไปด้วย เมล็ดพันธุ์ และดิน   และนี่เองก็เป็นการริเริ่มโปรเจคเปลี่ยนกรุงปารีสให้เป็นสีเขียว โดยท่านนายกเทศมนตรี Anne Hidalgo มีเป้าหมายไว้ว่าจะเปลี่ยนพื้นที่เป็นบริเวณ 10,000 ตารางเมตร ให้กลายเป็นสีเขียวภายในปี 2020 คาดว่านโยบายนี้จะดึงดูดคนให้สร้างพื้นที่สีเขียวบนที่พักอาศัย บนอาคาร รวมถึงบริเวณบ้านของตนเองมากยิ่งขึ้น         แหม่ ต้องขอบอกเลยว่าอะไรที่เป็นสีเขียวๆ นี่มันช่างดูร่มรื่นแล้วก็สวยงามไปซะหมดเลยนะเนี่ย ^^ ที่มา : boredpanda

  • พ่อแม่เห่อลูกโปรดระวัง วัยรุ่นสาวออสเตรียฟ้องพ่อแม่ ฐานโพสต์ภาพน่าอายวัยเด็กลงโซเชียล!?

    พ่อแม่เห่อลูกโปรดระวัง วัยรุ่นสาวออสเตรียฟ้องพ่อแม่ ฐานโพสต์ภาพน่าอายวัยเด็กลงโซเชียล!?

    ข่าวนี้อาจทำให้พ่อแม่ที่ชอบเห่อลูกออกหน้าออกตารู้สึกเสียวๆ ได้เลย เพราะเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวว่าเด็กวัยรุ่นต่างประเทศลุกขึ้นมาฟ้องร้องพ่อแม่ของตัวเอง ฐานโพสต์ภาพน่าอายของเธอลงในโลกออนไลน์!?     เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าเด็กวัยรุ่นสาวจากรัฐคารินเทีย ประเทศออสเตรียวัย 18 ปี ได้ทำการฟ้องร้องพ่อแม่ของตัวเอง เนื่องจากพวกเขาโพสต์ภาพวัยเด็กของเธอ ขณะเปลี่ยนผ้าอ้อมและนั่งอยู่บนกระโถนอึ ทำให้เธอรู้สึกอับอายและถูกคุกคามความเป็นส่วนตัว     หลังจากที่เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับภาพน่าอายที่พ่อแม่ของเธอนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เธอก็ได้ขอร้องให้พ่อแม่ลบภาพเหล่านั้นออกไป แต่พวกเขากลับปฏิเสธเธอและคิดว่ามันเป็นภาพที่พวกเขาถ่ายเอง ภาพเหล่านั้นจึงควรจะเป็นสิทธิ์ของพวกเขาที่จะเผยแพร่หรือไม่ก็ได้ ทำให้เธอทนไม่ได้และต้องฟ้องร้องในที่สุด     วัยรุ่นสาวรายนี้ให้ความเห็นต่อสื่อว่า “พวกเขาไม่มีความละอายหรือขอบเขตอะไรเลย และไม่สนใจว่านั่นคือภาพของฉันกำลังนั่งอยู่บนกระโถนอึหรือนอนโป๊อยู่ในเปล” “ทุกขั้นตอนของชีวิตฉันถูกถ่ายภาพเก็บไว้แล้วนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะหมด ฉันเหนื่อยหน่ายที่ไม่ได้รับการดำเนินการใดๆ แบบจริงจังจากพ่อแม่ของฉัน”     ทางด้านทนายของเธอเชื่อว่าเธอน่าจะชนะการฟ้องร้องครั้งนี้ และทางพ่อแม่จะต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับเธอ แต่เนื่องจากประเทศออสเตรียไม่ได้เข้มงวดเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้คนในโลกออนไลน์เหมือนกับในบางประเทศ ยกตัวอย่างที่ประเทศฝรั่งเศส หากใครเผยแพร่ภาพน่าอายของผู้อื่น ไม่ว่าจะผู้ใหญ่หรือเด็ก จะถูกดำเนินคดี มีค่าปรับสูงสุด 1.7 ล้านบาทและอาจถูกจำคุกสูงสุด 1 ปี สาเหตุที่ทางฝรั่งเศสออกกฎเข้มงวดขนาดนี้ก็เพื่อเป็นการเตือนให้พ่อแม่ระมัดระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวของลูกๆ เพราะนั่นอาจเป็นการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของเด็กมากเกินไป จนทำให้พวกเขาถูกล่อลวงจากเหล่าคนโรคจิตก็เป็นได้     ข่าวนี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับคนไทยโดยตรง แต่ในโลกออนไลน์ของเราเองก็มีภาพเหล่านี้ให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่อยากจะโพสต์อวดภาพลูกๆ ของตัวเองก็อาจจะต้องคิดให้มากขึ้นนิดนึง ว่าในอนาคตหากลูกๆ…

  • และนี่คือ ‘รัสเซีย’ ออกไอเดียให้สาวเปลือยอก ถือป้ายรณรงค์ ‘ลดความเร็ว’ บนท้องถนน…

    และนี่คือ ‘รัสเซีย’ ออกไอเดียให้สาวเปลือยอก ถือป้ายรณรงค์ ‘ลดความเร็ว’ บนท้องถนน…

    กฎหมายการควบคุมความเร็วนั้นดูจะเป็นเรื่องที่ควบคุมได้ยากสักหน่อยนะ เพราะในทุกวันนี้แม้จะมีการติดป้ายสัญญาณจราจรอันใหญ่ๆ หรือการโฆษณาในทีวีที่แสดงให้เห็นถึงอันตราย แต่ก็ยังคงมีการฝ่าฝืนอยู่บ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้เองทางรัสเซียจึงออกไอเดียแหวกๆ ที่คงไม่มีประเทศไหนทำตามละมั้ง ด้วยการให้หญิงสาวหุ่นสะบึม มาเปลือยออกยืนอยู่ข้างถนน ให้คนตกใจเล่นๆ สะเลย!!     ไอเดียที่ว่านี้เกิดขึ้นในเมืองนิจนีนอฟโกรอด อยู่ห่างจากเมืองหลวงของรัสเซียออกไปราวๆ 400 กิโลเมตร ตามรายงานบอกว่าหน่วยงานมหาชนที่ชื่อว่า Autodvijenie ได้ว่าจ้างหญิงสาวหุ่นเซ็กซี่มา 2 คน ให้เปลือยอกแล้วถือป้ายจราจรกำกับความเร็วอยู่ข้างถนน ทั้งนี้ก็เพื่อดึงดูดความสนใจจากคนใช้รถใช้ถนนและโน้มน้าวให้พวกเขาลดความเร็วลงบ้าง ผลปรากฏว่าประสบผลสำเร็จอย่างมากโดยเฉพาะผู้ชับขี่ที่เป็นผู้ชาย ช่วยสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนได้ดีทีเดียว   .   ตามสถิติแล้ว ประเทศรัสเซียถือเป็นประเทศที่มีการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจนมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดประเทศหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะในแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตกว่า 30,000 คน หน่วยงานต่างๆ จึงต้องออกมาช่วยกันรณรงค์ให้ขับขี่ด้วยความปลอดภัย แม้จะใช้วิธีที่ค่อนข้างโจ่งครึ่มแบบนี้ก็ตาม     ชมคลิปการเปิดอกลดความเร็วได้ที่นี่เลยนะ และเสียใจว่าต้นฉบับก็เซ็นเซอร์ไว้เช่นกัน   ดีนะที่ชะลอความเร็วกัน เพราะไม่งั้นอาจจะมองไม่ชัด เอ้ย!! เกิดอุบัติเหตุได้ ที่มา Akhil Blossom

  • อิตาลีออกกฎหมายใหม่ พ่อแม่บังคับลูกกินมังสวิรัต อาจถูกจับเข้าคุก ถ้าลูกขาดสารอาหาร!!

    อิตาลีออกกฎหมายใหม่ พ่อแม่บังคับลูกกินมังสวิรัต อาจถูกจับเข้าคุก ถ้าลูกขาดสารอาหาร!!

    ถ้าใครจำได้ช่วงเดือนก่อน เคยมีดราม่าหนึ่งบนเว็บไซต์พันทิป เมื่อคุณแม่คนหนึ่งออกมาถามความเห็นชาวเน็ตเกี่ยวกับการทำอาหารแนว “วีแกน” ซึ่งปราศจากผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ให้กับลูกกิน จนชาวเน็ตได้เข้ามาถกเถียงกันเป็นจำนวนมาก (ข่าวเก่า: ถ้าให้ลูกกินมังสวิรัติตั้งแต่เด็ก จะดีหรือไม่… มาร่วมแสดงความคิดเห็น แชร์ข้อมูลกันดีกว่า!!)     โดยฝ่ายที่เห็นด้วยก็บอกว่า การกินวีแกนเป็นสิ่งที่คนหลายๆ กลุ่มปฏิบัติมาอย่างยาวนาน ก็ไม่น่าจะส่งผลเสียอะไร ยิ่งไปกว่านั้น การทานแต่ผักก็สามารถได้รับสารอาหารครบถ้วนไม่แพ้การทานเนื้อ ส่วนฝ่ายที่ไม่สนับสนุนก็ออกมาแย้งว่า สารอาหารบางอย่างที่จำเป็นต่อเด็ก สามารถพบได้ในเนื้อสัตว์เท่านั้น หากจะให้เด็กทานวีแกน ก็ควรให้เขาโตก่อน และให้เขาเป็นคนเลือกเองว่าจะทานหรือไม่     แต่ล่าสุดในประเทศอิตาลี มีการผลักดันกฎหมายใหม่ หากพ่อแม่บังคับให้เด็กกินอาหารวีแกน พวกเขาอาจถูกศาลตัดสินจำคุกได้!! กฎหมายใหม่นี้มีชื่อเล่นว่า Savino Law ซึ่งถูกผลักดันโดย Elvira Savino ส.ส. จากพรรค Forza Italia ใจความของกฎหมายข้อนี้บอกว่า พ่อแม่ที่บังคับให้ลูกทานอาหารที่ “สารอาหารไม่ครบถ้วน” อาจถูกตัดสินจำคุกถึง 4 ปี     (Elvira Savino)   Savino กล่าวว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ แนวคิดการทานอาหารแบบวีแกนกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ซึ่งบางครั้งก็เคร่งครัดเกินไป แม้กระทั่งในเด็กเล็ก พ่อแม่หลายคนบังคับให้พวกเขากินแต่อาหารวีแกน…

  • ชาวเน็ตถกประเด็น กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่ง โพสต์รูปภาพเด็กลงโซเชียล เหมาะสมหรือไม่?

    ชาวเน็ตถกประเด็น กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่ง โพสต์รูปภาพเด็กลงโซเชียล เหมาะสมหรือไม่?

    ดูจะเป็นประเด็นให้ชาวเน็ตได้ถกเถียงกันอยู่ในเวลานี้เลย สำหรับกรณีที่มีโรงเรียนแห่งนำภาพของเด็กนักเรียนหลายชั้นปีมาลงในเฟซบุ๊ก พร้อมกับข้อมูลชื่อ-นามสกุลอย่างชัดเจน จนเกิดคำถามขึ้นว่าเหมาะสมแล้วหรือไม่? เมื่อช่วงดึกของวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่า YaninGS ได้เข้ามาตั้งกระทู้ นำรูปนักเรียนขึ้นโพสต์บนFBแบบนี้ไม่เป็นไรเหรอคะ? พร้อมกับเล่าว่ามีเฟซบุ๊กเพจของโรงเรียนแห่งหนึ่งลงภาพและข้อมูลของนักเรียนอย่างละเอียด   แต่สิ่งที่เธอเป็นห่วงก็คือการแสดงความคิดเห็นของชาวเน็ตต่อรูปภาพดังกล่าว ที่เป็นการชมเชยว่าเด็กหญิงในภาพนั้นมีหน้าตา “น่ารัก” “อยากจับมาไว้ที่บ้าน” “จอง” ซึ่งออกไปในทางลามกอนาจาร พร้อมกับได้แสดงความเป็นห่วงถึงเด็กๆ ที่ถูกนำภาพมาเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต   หลังจากที่กระทู้นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างมากมาย อย่างเช่นแอดมินเพจชื่อดังอย่างจ่าพิชิตแห่ง Drama-addict ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเผยแพร่ภาพเด็กลงในโลกออนไลน์ เพราะนอกจากจะเจอกับคอมเม้นในด้านไม่ดีแล้ว ยังเป็นการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวให้กับเหล่ามิจฉาชีพได้รู้ ส่งผลให้เด็กเป็นอันตรายเสี่ยงต่อการถูกล่อลวงหรือลักพาตัวด้วย   จากพฤติกรรมเหล่านี้#เหมียวฟิ้นมองว่าค่อนข้างเข้าข่ายผู้มีอาการ Lolita complex หรือเรียกง่ายๆ คือ Lolicon เป็นอาการของผู้ที่มีอายุมาก แต่กลับมีความรู้สึกเสน่หาในเด็กผู้หญิงที่อายุน้อยราวๆ 10-20 ปี หรือในบางรายอาจต่ำกว่านั้น กลุ่มคนเหล่านี้มักชื่นชอบภาพ วิดีโอ หรือการ์ตูนที่มีความเกี่ยวข้องกับเด็กๆ พฤติกรรมเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่าเป็นการส่งเสริมการล่วงละเมิดทางเพศในเด็ก ในหลายๆ ประเทศพยายามจะออกกฎหมายหรือบทบัญญัติให้พฤติกรรมเหล่านี้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย   การที่มีรสนิยมชื่นชอบในตัวเด็กนั้นไม่ถือเป็นเรื่องที่ผิดอะไร หากพฤติกรรมเหล่านั้นไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายในเด็ก ไม่เผยแพร่ภาพเด็กไม่ว่าจะรูปแบบปกติหรือภาพลามกอนาจาร เพราะในประเทศไทยเองมีกฎหมายคุ้มครองเรื่องการเผยแพร่ภาพเด็กอยู่เหมือนกัน ตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองเด็ก เมื่อปีพ.ศ. 2546 มาตรา 27 ได้มีการระบุว่าห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ภาพหรือข้อมูลเกี่ยวกับเด็กลงในสื่อใดๆ ก็ตาม หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 6…

  • วุ่นวาย กทม. สั่งห้ามมอเตอร์ไซค์ขึ้นสะพานข้ามแยกและอุโมงค์ทุกแห่ง ต้องกลับรถไกลหลายกิโลเมตร

    วุ่นวาย กทม. สั่งห้ามมอเตอร์ไซค์ขึ้นสะพานข้ามแยกและอุโมงค์ทุกแห่ง ต้องกลับรถไกลหลายกิโลเมตร

    กฎหมายการจราจรภายในกรุงเทพฯ นั้นเป็นอะไรที่เริ่มขัดใจผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์มานานแล้ว ตั้งแต่กรณีของการห้ามรถจักรยานยนต์ขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำ และในคราวนี้ก็มาถึงการห้ามขึ้นสะพานทุกแห่งนั่นก็รวมไปถึงสะพานข้ามแยกและอุโมงค์ในกรุงเทพฯ   แยกใต้สะพานข้ามแยกรัชโยธิน มีไฟแดง แต่ไม่สามารถไปตรงได้     การห้ามขึ้นสะพานนั้นยังพอเข้าใจได้ แต่ทำไมไม่มีการเปิดช่องทางให้ไปตรงด้วย แล้วทีนี้ปัญหาของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่ไม่สามารถขึ้นสะพานข้ามแยกได้จึงจำเป็นที่จะต้องเลี้ยวไปอีกทางและหาทางกลับรถเพื่อย้อนไปเส้นทางเดิมอีกครั้ง และเป็นที่รู้กันดีว่าจุดกลับรถนั้นไกลออกไปหลายกิโลเมตร   เนื่องจากไปตรงไม่ได้ใต้สะพานข้ามแยก จึงจำเป็นที่จะต้องหาจุดกลับรถที่ไกลออกไปเพื่อย้อนกลับมาเส้นทางเดิม   เรื่องนี้ถูกเปิดประเด็นในความสงสัยโดยคุณ สมาชิกหมายเลข 2345612 จากพันทิป ถ้าหากว่าห้ามขึ้นสะพานข้ามแยกแล้วก็ควรจะปล่อยให้แยกใต้สะพานนั้นสามารถไปตรงได้ด้วย ทางจะตรงไปอยู่ข้างหน้าแท้ๆ แต่กลับไปตรงไม่ได้ ส่งผลทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้นจากการไปหาที่กลับรถไกลๆ   แยกพัฒนาการ-ศรีนครินทร์ ก็เป็นอีกแยกที่มีสะพานข้ามแยก แต่รถจักรยานยนต์ไม่สามารถขึ้นไปได้และห้ามไปตรงใต้สะพานข้ามแยก   เพราะฉะนั้นจึงต้องไปหาจุดกลับรถที่ไกลออกไปถึง มอเตอร์เวย์-พระราม 9   กลายเป็นว่าผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์นั้นกลายเป็นพลเมืองชั้นสองอย่างเต็มตัว มีข้อห้ามที่เยอะมาก เพราะเมื่อก่อนกฎหมายมีข้อห้ามอันเนื่องมาจากประสิทธิภาพของรถจักรยานยนต์นั้นยังไม่ดีมากเท่าไหร่ โดยสมัยนี้อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปแล้ว แต่ฎฏหมายไม่มีการเปลี่ยนแปลงตาม   อีกกรณีสำหรับสะพานไทย-เบลเยี่ยม ที่มีการเปิดช่องจราจรให้รถจักรยานยนต์มานานแล้ว แต่ภายหลังถูกสั่งห้ามทั้งๆ ที่มีป้ายติดช่องของจักรยานยนต์มาก่อน   ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในกรุงเทพฯ ต้องเจอกับข้อห้ามต่างๆ มากมาย จึงทำให้หลายคนรู้สึกไม่พอใจซักเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าจะเป็นการลดปัญหารถติด ระบายรถออกในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ลองมาคิดๆ ดูอีกทีมันดีจริงอย่างที่หวังเอาไว้หรือไม่…

  • ฟลอริด้าเปลี่ยนกฎหมาย “ทุบกระจกรถ” ไม่ผิด เพื่อช่วยสัตว์เลี้ยงที่ถูกขังอยู่ในรถ!!

    ฟลอริด้าเปลี่ยนกฎหมาย “ทุบกระจกรถ” ไม่ผิด เพื่อช่วยสัตว์เลี้ยงที่ถูกขังอยู่ในรถ!!

    ช่วงนี้เราอาจจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับการทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ในรถ ซึ่งหลายคนอาจมองว่าก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย แต่จริงๆ แล้วอาจทำให้พวกมันเสียชีวิตได้เนื่องจากขาดอากาศหายใจ ซึ่งบ้านเราก็เคยมีข่าวทำนองนี้มาแล้ว รวมถึงการลืมเด็กไว้ในรถด้วย ปกติแล้วการทำลายกระจกรถยนต์นั่นเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย (แหงล่ะ) คุณอาจถูกจับในข้อหาทำลายทรัพย์สิน หรือบางทีอาจจะเป็นลักทรัพย์เลยก็ได้ แต่ตอนนี้ที่ฟลอริด้า การทุบกระจกรถไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแล้ว แต่การทุบนั้นต้องมีจุดประสงค์ด้วย นั่นก็คือเป็นการทุบเพื่อช่วยชีวิตคนหรือสัตว์ที่อยู่ข้างในรถในช่วงเวลาที่รถยังล็อคอยู่นั่นเอง แต่ก่อนทุบนั้นก็ต้องให้แน่ในก่อนว่ารถล็อคจริงๆ และควรเรียกตำรวจก่อนที่จะทำการทุบ หรือหลังจากทุบไปแล้ว แต่ก็ต้องรีบโทรอยู่ดี อีกทั้งอย่าทำลายรถมากจนเกินไป เอาแค่ให้เข้าไปได้ก็พอ   ก็เป็นเรื่องที่ดีเกี่ยวกับการแก้กฎหมายเพื่อช่วยชีวิต ไม่รู้ว่าบ้านเรามีกฎหมายแนวๆ นี้รึเปล่า แต่ถ้ามีคนมาทุบรถเหมียวเพื่อช่วยชีวิตเหมียวก็ไม่เอาผิดนะ ที่มา boredpanda

  • กรมทรัพย์สินทางปัญญาเยี่ยมเยือนเพจเผยแพร่หนังเถื่อน ส่งของให้เรียบร้อยแล้วจ้า!!

    กรมทรัพย์สินทางปัญญาเยี่ยมเยือนเพจเผยแพร่หนังเถื่อน ส่งของให้เรียบร้อยแล้วจ้า!!

    ช่วงนี้ถือว่าแอดมินเพจกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ออกมาเยี่ยมเยือนหลายเพจมากๆ ด้วยสไตล์ที่แตกต่างไปจากแอดมินเพจอื่นๆ ของทางงานราชการ ที่เราแทบจะไม่เชื่อเลยว่านี่คือแอดมินเพจของกรมทรัพย์ทางปัญญา ตั้งแต่ใช้การวลี ‘ไม่น่ารักเลย’     ด้วยความเด็ดขาดกับการทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพจเผยแพร่ภาพยนตร์ออนไลน์ต่างๆ ที่ทำผิดกฎหมาย ข้าราชการยุคใหม่จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างเพื่อให้ทันต่อสื่อยุคใหม่ และล่าสุดนี้ เพจหมวกดำ Black Hat เผยภาพการมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับเพจปล่อยหนังเถื่อนเพจหนึ่งไปเรียบร้อย คล้ายกับวลีของบุรุษไปรษณีย์ไทยว่า ‘รับน๊าาาาาาา’     ฮร่าาาา ยังมีการตบมุกตลกโปกฮากันได้อีก แต่ถึงแม้จะได้รับหมายศาลยังไงเพจดังกล่าวก็ยังคงยืนหยัดที่จะทำอุดมการณ์เดิมต่อไปซะงั้น โดนแบนเพจ โพสต์ไม่ได้แล้ว ก็ยังหาลู่หาทางสร้างกลุ่มต่อ เอ๊ะ!! หรือว่ายังไม่เข็ดหว่า ที่มา : Black Hat

  • แบบนี้ก็มี? ตำรวจติงทนายให้ความรู้กฎหมายชาวบ้านทำให้ชาวบ้านโต้เถียงตำรวจ ทำคดียากขึ้น!?

    แบบนี้ก็มี? ตำรวจติงทนายให้ความรู้กฎหมายชาวบ้านทำให้ชาวบ้านโต้เถียงตำรวจ ทำคดียากขึ้น!?

    งานนี้ดูเหมือนว่าผู้บังคับใช้กฎหมายจะอยู่เฉยไม่ได้ซะแล้ว เพราะล่าสุดมีทนายออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายผ่านโลกออนไลน์ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับทนไม่ได้ ต้องส่งไลน์มาขู่ทนายรายนี้เลยทีเดียว!?   เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพบทสนทนาผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ทนายเกิดผล แก้วเกิด เป็นข้อความของเจ้าหน้าทีตำรวจรายหนึ่ง ที่ส่งข้อความมายังทนายเกิดผล เพื่อต่อว่าที่ทนายโพสต์ข้อความให้ความรู้แก่ชาวบ้าน     โดยมีข้อความบางส่วนบอกว่า “ทนายกำลังยุยงให้ชาวบ้านอ้างกฎหมายกับตำรวจ อันเป็นลักษณะยั่วยุ ปลุกปั่น ชาวบ้าน” “ถ้าตำรวจเข้มงวดกับระเบียบต่อชาวบ้านมากขึ้น เช่นไม่อนุญาติให้ประกันตัวเพราะหัวหมอ ฟังที่ทนายแนะนำ ทนายจะรับผิดชอบยังไงถามหน่อย”     จากภาพดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านในโลกออนไลน์ ต่างพากันต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้กันอย่างมากมาย เพราะการที่มีความคิดแบบนี้ อาจหวังเล่นงานประชาชนที่ไม่รู้ข้อกฎหมายก็เป็นได้ นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตอีกจำนวนมากส่งข้อความให้กำลังใจรายนี้เข้ามาอย่างล้นหลามทีเดียว       เอ่ งานนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไปนะ แต่การช่วยให้ความรู้ด้านกฎหมายแก่ชาวบ้านมันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วไม่ใช่เหรอ? ที่มา ทนายเกิดผล แก้วเกิด

  • ฝรั่งเศสออกกฎหมายห้ามซุปเปอร์มาเก็ตทิ้งอาหารเหลือ แต่ให้นำไปบริจาคแทน

    ฝรั่งเศสออกกฎหมายห้ามซุปเปอร์มาเก็ตทิ้งอาหารเหลือ แต่ให้นำไปบริจาคแทน

    เรียกว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญจริงๆ สำหรับวงการอาหารของโลก หลังจากรัฐบาลฝรั่งเศสออกกฎหมายห้ามไม่ให้ห้างสรรพสินค้านำอาหารที่ขายไม่ได้ไปทิ้ง แต่ให้นำไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศลแทน อย่างที่เราทราบกันดีกว่า ในแต่ละวันมีอาหารถูกนำไปทิ้งมากมาย เนื่องจากว่าขายไม่หมดในวันเดียว ซึ่งทางห้างไม่ต้องการเก็บอาหารที่ไม่ “สด” ไว้นั่นเอง       ซึ่งถ้าใครเคยทำงานในร้านอาหารฟาสฟู๊ดหรือห้างสรรพสินค้าในยุโรปหรืออเมริกาจะพบว่า มีการทิ้งอาหาร “เหลือ” เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งอาหารเหลือเหล่านั้น ไม่ยังไม่เสียด้วยซ้ำไป เพียงแค่ไม่ “สด” เท่านั้นเอง โดยกฎหมายนี้ผ่านการโหวดจากสมาชิกวุฒิสภาของฝรั่งเศสเมื่อช่วงวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายจะเริ่มบังคับใช้เฉพาะกับห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดเกิน 400 ตารางเมตรเท่านั้น ซึ่งถ้าห้างร้านไหนไม่ทำตาม อาจโดนปรับสูงสุด 3,750 ยูโรหรือราว 140,000 บาท     Jacques Bailet จากธนาคารอาหารได้กล่าวถึงกฎหมายนี้ว่า “มันเป็นเรื่องที่ดีมาก การที่ห้างต่างๆ นำอาหารมาบริจาคให้เรา แปลว่าเราจะได้รับอาหารที่มีคุณภาพดีและหลากหลายมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งปกติแล้วเราได้จำนวนอาหารประเภทเนื้อเยอะมาก แต่ขาดพวกผักผลไม้” โดยอาหารที่ถูกบริจาคให้กับธนาคารอาหารนี้ จะถูกนำไปแจกจ่ายให้กับพื้นที่ที่ประสบภัยขาดแคลนอาหาร อย่างเช่นในแอฟริกาหรือในเอเชีย     ทางวุฒิสมาชิกของฝรั่งเศสหวังว่า จะมีการผลักดันให้ทุกประเทศที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ออกกฎหมายควบคุมการทิ้งอาหารนี้ด้วยเช่นกัน     ถือว่าเป็นอีกก้าวที่สำคัญจริงๆ สำหรับวงการอาหารโลก…

  • รู้ไว้ก็ดี หนุ่มโพสต์เตือนชาวเน็ต ขนเบียร์ขึ้นกระบะเกิน 10 ลิตร ต้องมีใบอนุญาต

    รู้ไว้ก็ดี หนุ่มโพสต์เตือนชาวเน็ต ขนเบียร์ขึ้นกระบะเกิน 10 ลิตร ต้องมีใบอนุญาต

    ใกล้ช่วงเทศกาลเข้าไปทุกทีๆ แต่ละบ้านก็คงจะเตรียมงานฉลองหรือปาร์ตี้วันหยุดยาวด้วยการออกไปซื้อขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่จะซื้อทั้งทีก็ต้องดูกฎหมายดีๆ ด้วยนะ เพราะไม่งั้นคุณอาจโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจปรับเอาง่ายๆ แบบเรื่องราวที่เหมียวจะให้ดูต่อไปนี้ก็ได้     เรื่องราวที่ว่านี้ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Chaiwat Neung โดยเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความเตือนแก่ชาวเน็ต เกี่ยวกับการขนเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอลขึ้นรถ ว่าหากจะขนขึ้นรถด้วยจะต้องมีปริมาณไม่เกิน 10 ลิตร หากเกินกว่านั้นจะถูกปรับลิตรละ 10 บาท     ทั้งนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “เตือนภัย ขนเหล้าเบียร์เกิน 10 ลิตรปรับลิตรละ 10 บาท ผมนี่โดนไป 6,360 บาท ข้อหาขนเครื่องดื่มไม่ได้รับอนุญาต ใครจะไปรู้ว่าซื้อเบียร์แค่ 2 ลังก็โดนจับ งันไม่ต้องไปนั่งรอหน้าบริษัทเบียร์เหรอ”     หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเน็ตหลายรายถึงกับตกใจเกี่ยวกับข้อกฎหมายดังกล่าว ในขณะที่สมาชิกบางคนได้เข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ. สุรา พ.ศ. 2493 ที่กำหนดเอาไว้ว่าห้ามมิให้มีการขนสุราเกิน 10 ลิตรขึ้นไป หากเกินกว่านั้นจะต้องมีใบอนุญาตไปด้วย     ข้อกฎหมายนี้เหมียวเองก็เพิ่งรู้เหมือนกันนะเนี๊ยะ ถือเป็นตัวอย่างให้กับขาดื่มในช่วงเทศกาลนี้ก็แล้วกันนะ ที่มา Chaiwat Neung

  • คุณได้ไปต่อ!! ผู้เชี่ยวชาญชี้ ‘ฟอร์เวิร์ดห้ามส่งดอกไม้เป็นเท็จ’ ขุ่นป้าโล่งอกได้ค่ะ ^^

    คุณได้ไปต่อ!! ผู้เชี่ยวชาญชี้ ‘ฟอร์เวิร์ดห้ามส่งดอกไม้เป็นเท็จ’ ขุ่นป้าโล่งอกได้ค่ะ ^^

    วันนี้เหมียวขอนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับเรื่องฮือฮาสำหรับวงสังคมคุณลุงคุณป้าสาวกไลน์วัยกลางคน เนื่องจากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ได้มีกระแสเกี่ยวกับกฎหมายลิขสิทธิ์เกี่ยวกับการแชร์ภาพออกมาว่าจะมีการบังคับใช้ในวันที่ 4 ส.ค. 2558 เพื่อการเคารพสิทธิ์ของเจ้าของผลงานต่างๆ     ซึ่งงานนี้ก็ทำให้เกิดกระแสข้อความที่ส่งต่อกันในไลน์ของสังคมผู้สูงอายุ ที่พอจะจับใจความได้ว่าให้คุณป้าคุณลุงหยุดส่งภาพดอกไม้ทักทายกันซะ แม้ว่าจะนำมาจากกูเกิลทั้งหมดก็เถอะ และถ้าใครยังเก็บสะสมภาพเก่าๆ ไว้ ก็ให้เก็บไว้ในกรุณาอย่าได้ส่งต่อ เพราะมันคือการละเมิดลิขสิทธิ์เจ้าของภาพ         งานนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคุณลุงคุณป้าต้องวิตกอย่างแน่นอน ซึ่งในที่สุดก็เหมือนมีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยแล้วหละจ้ะ เขาผู้นั้นก็คือนายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายลิขสิทธิ์!! ซึ่งฮีโร่ของเราก็ได้ให้บทสรุปของประเด็นนี้ก็คือ ข้อความที่มีการส่งต่อนั้นไม่เป็นความจริง เพราะการส่งต่อข้อความในไลน์ได้รับความคุ้มครอบถือเป็นการใช้ส่วนตัว ไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์ และไม่กระทบต่อเจ้าของลิขสิทธิ์แต่อย่างใด ก็ถือว่าโล่งใจไปเนอะ ^^   ที่มา springnews, dmc, mthai

  • ชายหนุ่มชาร์จไอโฟนเพียงแค่ 5 นาทีบนรถไฟ โดนจับข้อหาใช้ไฟฟ้าผิดกฎหมาย!!

    ชายหนุ่มชาร์จไอโฟนเพียงแค่ 5 นาทีบนรถไฟ โดนจับข้อหาใช้ไฟฟ้าผิดกฎหมาย!!

    ช่วงเวลาแห่งการเดินทางเป็นช่วงเวลาที่โทรศัพท์มักจะใกล้สิ้นชีพเข้าไปทุกที หากใครมีแบตเตอรี่สำรองติดตัวมาก็ดีไป แต่สำหรับคนที่ไม่มีล่ะ? ก็ต้องหาปลั๊กเสียบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!!     เรื่องราวของการชาร์จโทรศัพท์ตามรูปลั๊กสาธารณะนี้เป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากๆ คุณ Robin Lee วัย 45 ปี ทำการชาร์จไอโฟนบนรถไฟลอนดอนในระหว่างการเดินทางจาก Hackney Wick ไปยังถนน Camden   หลังจากถึงที่หมายในเวลาไม่นาน  เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มารอเขาแล้ว และถูกจับกุมในข้อหาใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย เนื่องจากไปใช้ปลั๊กบนรถไฟสำหรับ “การทำความสะอาดเท่านั้น” เขาพยายามปฏิเสธข้อหาดังกล่าวสุดตัว และบอกว่าชาร์จไปแค่ 5 นาทีเท่านั้นเอง แล้วก็ไม่ได้ใช้ปลั๊กดังกล่าวด้วย     โดยรูปลั๊กบนรถไฟนั้นมีไว้เพื่อจุดประสงค์สำหรับการทำความสะอาดบนรถไฟ เช่นใช้เครื่องดูดฝุ่น เป็นต้น ก็เลยกลายมาเป็นข้อหาขโมยไฟฟ้าใช้ ซึ่งในที่สุดคุณ Robin Lee ก็ได้รับการปล่อยตัว แต่จะไม่ยอมกับกรณีเด็ดขาด จะส่งฟ้องเนื่องจากมันเป็นสิ่งที่ไร้สาระมากๆ   การใช้ไฟฟ้าตามสถานที่ต่างๆ ในต่างประเทศนั้นก็ต้องดูกันให้ดีว่ามีเอาไว้ใช้เพื่อจุดประสงค์ใด ซึ่งถ้าหากใช้แบบไม่ดูตาม้าตาเรือก็อาจจะทำให้โดนจับแบบนี้ได้ ระวังกันไว้ด้วยนะจ๊ะ ที่มา : mirror

  • ตำรวจไทยตั้งด่านดักจับมอเตอร์ไซค์ แต่ดันยึดกุญแจ ไม่ออกใบสั่ง เน้น “จ่ายสด”

    ตำรวจไทยตั้งด่านดักจับมอเตอร์ไซค์ แต่ดันยึดกุญแจ ไม่ออกใบสั่ง เน้น “จ่ายสด”

    เป็นที่ทราบกันดีว่าเดี๋ยวนี้ตำรวจจราจรนั้นกวดขันวินัยการจราจรอย่างเข้มงวดมากๆ ตั้งด่านกันแทบทุกวัน ไม่ว่าจะวันธรรมดาหรือวันหยุด มีเซอร์ไพรส์ให้ประชาชนได้ทุกเมื่อ ที่จับคนทำผิดกฎหมายจราจรก็ดี แต่บางทีก็จับในข้อหาที่ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย ที่เหนื่อยยิ่งกว่านั้นก็คือ ยึดกุญแจและไม่ออกใบสั่ง     ซึ่งโดยปกติแล้วเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้จอดเพื่อรับทราบข้อหาการทำผิดกฎจราจรแล้ว ก็ต้องได้รับใบสั่งเพื่อไปเสียค่าปรับอีกที แต่สำหรับกรณีนี้กลายเป็นว่า โบกให้จอด ยึดกุญแจ ไม่ยอมออกใบสั่งให้ด้วย เน้นย้ำให้จ่ายเงินสดเดี๋ยวนี้เลย ให้เหตุผลเพียงแค่ว่า “นายสั่งมา ก็ต้องปฏิบัติตาม” แต่พอโดนถ่ายคลิปเข้าไป สุดท้ายก็ต้องยอมคืนกุญแจและออกใบสั่งให้     บางทีก็ไม่รู้จะว่ายังไง กับการตั้งด่านลอยแบบนี้ของคุณตำรวจ ที่มา : Real ClipVideo