Author:

โดยปกติแล้ว ผู้หญิงที่เพิ่งได้เป็นคุณแม่ จะมีสายสัมพันธ์บางอย่างที่เชื่อมระหว่างแม่กับลูกไว้ ถือเป็นสัญชาตญาณที่ติดตัวมากับสิ่งมีชีวิตทุกชนิด แต่สำหรับคนแล้ว การไปคลอดบุตรที่โรงพยาบาลนั้น จำเป็นต้องให้คุณหมอทำการดูแล แยกลูกออกไปจากแม่ก่อน ซึ่งทำให้คุณแม่ไม่ได้มองเห็นลูกอยู่ตลอดเวลา โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศเนเธอแลนด์ได้มองเห็นคุณค่าของสายสัมพันธ์นี้ จึงได้คิดเตียงนอนพิเศษขึ้นมาสำหรับคุณแม่ เป็นเตียงเสริมที่จะให้แม่และลูกได้นอนข้างๆ กัน     เตียงนี้สร้างขึ้นเผื่อในกรณีที่คุณแม่อยากจะอยู่ที่โรงพยาบาลต่อ ทางโรงพยาบาลจึงใช้เตียงนี้เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับคุณแม่ เพื่อที่ว่าการนอนจะสะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่าเดิม     ทางเว็บไซต์ของโรงพยาบาล Gelderse Vallei ได้อธิบายว่า แม่และลูกต้องการที่จะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา และสามารถสัมผัสกันได้ โดยที่ไม่ต้องมีพยาบาลมาคอยคุม อีกทั้งการให้นมก็ง่ายขึ้น เพราะอยู่ใกล้กัน ต่างจากแบบเดิมๆ ที่ห้องคุณแม่กับลูกจะอยู่คนละห้องกัน ทำให้การอุ้ม หรือการพบกันลำบากมากๆ     ถือเป็นไอเดียดีๆ สำหรับสร้างสายสัมพันธ์แม่ลูกในช่วงที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาล และต้องอยู่ในระยะยาว ความคิดน่าจะนำไปประยุกต์ใช้ในหลายๆ ที่ด้วยนะ ที่มา yahoo

ในชีวิตนี้ถือเป็นโอกาสที่น้อยมาก ถึงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ที่เราจะได้พบคนที่หน้าเหมือนเรา บางคนก็หน้าแค่คล้ายๆ แบบที่เพื่อนชอบแซวว่าเป็นพี่น้องกัน แต่คราวนี้เหมียวจะพาไปรู้จักกับ 2 สาวที่ไม่ได้เป็นพี่น้องหรือครอบครัวเดียวกันเลย แต่พวกเธอมีหน้าตาที่เหมือนกันเป๊ะมากๆ เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ยากมากๆ แต่ตอนนี้ก็ได้มีเว็บไซต์ที่ชื่อว่า Twin Strangers ที่สามารถช่วยคุณค้นหาบุคคลที่หน้าเหมือนคุณได้ อย่างเช่นเธอคนนี้ที่ได้เจอแฝดคนแปลกหน้าของเธอ และเธอได้ตัดสินใจที่จะบินไปหาเพื่อนแปลกหน้าคนนี้ถึงที่เลย Shannon Lonergan หญิงสาววัย 21 ปี เธอได้ใช้เว็บนี้ค้นหาคนที่บังเอิญหน้าเหมือนเธอ แล้วจู่ๆวันหนุ่ก็ไปจนคนหนึ่งเข้า เธอชื่อว่า Sara Nordstorm วัยเพียง 17 ปี ใช้เว็บนี้เหมือนกัน และแล้วพวกเธอก็ได้พบกันโดยบังเอิญ     พวกเธอตัดสินใจที่จะมาพบกันโดยที่ Sara นั้นอยู่สวีเดน ส่วน Shannon อยู่ไอร์แลนด์ ทั้งคู่นัดเจอกันที่ Dublin เมื่อทั้งคู่ได้เจอกัน ก็ถึงกับอึ้งไปเลย Sara บอกว่ามันเหนือจริงมากๆ เหมือนกับว่ากำลังมองตัวเองอยู่ ถึงแม้ว่าจะนิสัยต่างกัน แต่มันมีความรู้สึกเหมือนได้เจอเพื่อนเก่า ถึงขนาดว่าตอนไปเจอคุณพ่อของ Shannon คุณพ่อถึงกับงงว่าคนไหนคือลูกของตัวเอง เพราะพวกเธอเหมือนกันมากๆเลย เราไปชมคลิปการเดินทางของพวกเธอกันเลย   ที่มา elitereaders

ได้มีการค้นพบต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ประเทศสวีเดน คาดว่าอายุประมาณ 9,550 ปี ถือเป็นต้นไม้ที่ผ่านยุคผ่านสมัยมามากมาย ต้นไม้ชนิดนี้คือต้น Spruce เป็นไม้สนชนิดหนึ่งที่นิยมเอาไปทำเป็นกีต้าร์ เพราะมันจะได้เสียงที่ดีกว่าไม้ชนิดอื่นๆ เริ่มแรกนั้นต้นไม้ชนิดนี้ถือเป็นชนิดใหม่ที่ขึ้นในสวีเดนเลย แต่หลังจากค้นพบต้นนี้แล้ว มันก็กลายเป็นต้นไม้ที่มีค่าขึ้นมาทันที ต้นสนชนิดนี้ถูกเรียกอีกอย่างว่าต้น Old Tjikko ถูกพบในภูเขาฟูลูในเมือง Dalarna ผ่านการหาอายุโดยใช้คาร์บอนแล้วพบว่าเป็นต้นไม้ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด ประมาณ 8,000 ถึง 9,550 ปีเลยทีเดียว   และนี่คือคือภาพของต้นไม้ต้นนั้น     เคล็ดลับอายุยืนของมันก็คือการสร้างกิ่งไม้ออกมาเพื่อทดแทนส่วนที่ตายไปเรื่อยๆ มันทำแบบนี้อยู่ตลอด จึงทำให้มันมีอายุยืนมาจนถึงตอนนี้ เดิมทีแล้วต้นสนก็มีอายุยืนมากแล้ว โดยต้นที่มีอายุมากที่สุดที่เคยพบคือ 4,000 ถึง 5,000 ปี แต่เจ้า Old Tjikko นี้มันแก่ยิ่งกว่านั้นอีก   ที่มา mymodernmet

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 ที่ ศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ The Animal Rescue League of Berks County ได้เริ่มโครงการ “Book Buddies” ที่จะให้เด็กๆ ได้มาอ่านหนังสือให้กับน้องแมวได้ฟัง เพื่อช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะการอ่าน อีกทั้งยังทำให้แมวได้พบบปะกับผู้คน เพิ่มโอกาสให้คนมารับพวกมันไปเลี้ยง และโครงการนี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย สัตว์บางตัวที่เคยถูกทำร้ายมาก่อน ก็ได้รับความรักจากบ้านหลังใหม่ และตอนนี้ ทาง Humane Society of Missouri ศูนย์รับเลี้ยงอีกแห่งก็ได้ทำโครงการที่คล้ายๆ กับที่แห่งนี้ แต่คราวนี้เป็นการอ่านหนังสือให้กับสุนัขฟังแทน และทำในช่วงวันหยุดเทศกาลแบบนี้ด้วย   ในเดือนธันวาคมปีนี้ เด็กๆ หลายคนได้เข้าร่วมโครงการอ่านหนังสือให้กับสุนัข   Humane Society ได้บอกว่า กลุ่มเด็กๆ อาสาสมัครเหล่านี้ได้ช่วยสุนัขที่ขี้อาย ไม่กล้าเข้าสังคม ให้กล้าเผชิญหน้ากับคนมากยิ่งขึ้น และยังทำให้สุนัขที่คึกคักตลอดเวลาสงบลงได้ด้วย   อีกทั้งเด็กๆ ก็ยังได้ทักษะการอ่านติดไม้ติดมือกลับไปด้วย ถือเป็นอะไรที่ วิน-วิน ทั้งสองฝ่าย บางครั้งการอ่านก็ทำให้สุนัขผ่อนคลายจนหลับไปเลยก็มี   เราไปชมคลิปโครงการดีๆ แบบนี้กันเลย แล้วจะรู้สึกถึงการส่งต่อความรักให้กันและกัน   ที่มา TIME

บอกก่อนเลยว่าข่าวนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื่องมาจากเว็บไซต์ metro ได้รายงานว่าเศรษฐีคนหนึ่งชื่อว่า Ehsan Abdulaziz วัย 46 ปี ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนข่มขืนวัยรุ่นวัย 18 ปี ขณะที่เธอกำลังนอนอยู่บนโซฟาในห้องพักในเขต Maida Vale ทางตะวันตกของ London เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเศรษฐีซาอุคนนี้ได้พบกับหญิงสาววัย 24 ปี แล้วได้ชวนมาดื่มเหล้าที่คลับส่วนตัวแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะเสนอให้สาววัย 24 มีอะไรกับเขา ส่วนเด็กสาววัย 18 ปีนอนหลับอยู่บนโซฟา แต่พอเด็กวัย 18 ตื่นขึ้นมาก็พบว่าเศรษฐีคนดังกล่าวได้นอนคร่อมอยู่บนตัวเธอ พร้อมกับได้เอาอวัยวะสอดใส่เข้ามาแล้ว     งานนี้ทางเศรษฐีก็ได้ออกมาอธิบายว่าเขาเป็นคนล้มง่าย ก็เลยเผลอล้มแล้วบังเอิญว่าตอนนั้นอวัยวะของเขามันก็โผล่ออกมาพอดี ซึ่งพอตรวจสอบร่องรอยดีเอ็นเอในช่องคลอดแล้วก็พบว่าเป็นของเขา แต่เขาก็ยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ พออัยการ Jonathan Davies ได้ถาม เศรษฐีก็ตอบมาว่าเขาไม่ได้โกหก เพราะเขาไม่เคยพูดโกหกเลยทั้งชีวิต   โอ้ววว งานนี้ไม่รู้จะเชื่อใครดี เหมียวขอไปคิดดูก่อนแล้วกันนะ ที่มา metro

มีเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง ลึกลงไปในทะเลมราย Thar ในประเทศอินเดีย เมืองแห่งนั้นมีชื่อว่า Deshnoke นักเดินทางชื่อว่า Nicolas Economou ได้ทำการท่องเที่ยวไปยังที่แห่งนั้น พร้อมกับสำรวจรอบๆ Rajasthan ซึ่งเขาได้พบกับประเพณีต่างๆมากมายที่แตกต่างกัน เขาได้เล่าถึงการใช้ชีวิตที่หลากหลายของคนชาวอินเดียที่นั่นว่าเป็นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์และไม่เหมือนที่ไหน มีสิ่งแปลกๆ ที่ได้พบเจอมากมาย ทำให้เขาไม่สามารถหยุดค้นหาสิ่งที่น่าสนใจในอินเดียได้เลย แต่แล้วเขาก็ได้ยินข่าวเกี่ยวกับวัดแห่งหนึ่ง ทำให้เขาถึงกับกังวลเรื่องความสะอาดเลย เพราะในเมือง Deshnoke มีวัดเล็กๆที่สร้างมาเพื่ออุทิศให้ Karni Mata เทพของฮินดู ภายในวัดนั้นคุณจะได้พบกับหนูกว่า 20,000 อาศัยอยู่ที่นั่น คนเรียกหนูพวกนั้นว่า Kabbas ซึ่งมีเรื่องเล่าเก่าแก่เกี่ยวกับหนูอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกเกี่ยวกับเด็กๆ ที่เกิดมาเป็นหนู และอีกเรื่องคือหนู 20,000 ตัวเหล่านี้ถูกเลี้ยงเพื่อเป็นทหาร     ก่อนเข้าไปในวัดก็ต้องถอดรองเท้าก่อน   หนูจะถูกเลี้ยงไว้ข้างในวัด ได้กินอาหารที่คนเลี้ยง     มีอาหารหนูขายอยู่นอกวัดด้วย   ที่มา boredpanda

มาร์ชเมลโล่ว ถือเป็นของโปรดของใครหลายๆคนเลย โดยเฉพาะเด็กๆ เพราะด้วยความหนึบหนับของมัน บวกกับรสหวานๆ ทำให้มันกลายเป็นของหวานที่สามารถนำไปประยุกต์ทำอะไรได้หลายอย่าง วันนี้เหมียวจะพามารู้จักกับ Nyarshmallows มาร์ชเมลโล่ว์รูปแมวที่จะทำให้ใจของคุณละลายด้วยความน่ารักของพวกมัน Nyarshmallows จาก Felissimo นั้นเป็นมาร์ชเมลโล่ว์สอดไส้ช็อกโกแลต จุดเด่นของมันก็คือความน่ารักที่ทำเป็นรูปแบบนี่แหละ หลายคนจึงไม่ค่อยจะกล้ากินเท่าไหร่ เพราะกลัวว่าความน่ารักของมันจะหายไป     Nyarshmallows มาจากคำว่า “nyan” ที่เป็นเสียง “เมี๊ยว” ในภาษาญี่ปุ่น และคำว่า marshmallow เอามามารวมกัน ส่วนรสชาติของมันนั้นดูจากภาพก็รู้แล้วว่าละลายในปากแน่นอน     ภายในกล่องจะมีหน้าแมวต่างกัน 12 แบบ ราคาประมาณ 800 บาทต่อกล่อง (ยังไม่รวมค่าขนส่ง) สำหรับคนรักแมวและมาร์ชเมลโล่ว์แล้ว ต้องลองดูสักครั้ง     จริงแล้วแมวมาร์ชเมลโล่ว์นี้ขายมาครบ 1 ปี แล้ว เขาก็เลยทำชุดใหม่ออกมา เป็นแมวหน้าใหม่ที่ไม่เคยขายมาก่อน น่ารักว่าเดิมอีกนะเนี่ย     แต่ดูเหมือนว่ารุ่นใหม่นั้นจะไม่ได้วางขายแบบทั่วโลก ใครอยากกินก็ต้องไปที่ญี่ปุ่นเองนะจ๊ะ ที่มา rocketnews24

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สถานีรถไฟเมโทรในปารีส เมื่อโจรคนหนึ่ง พยายามที่จะฉกประเป๋าเงินชายที่เมาและนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ในสถานี ซึ่งภาพทั้งหมดนี้ กล้อง CCTV สามารถบันทึกเหตุการณ์ได้ทั้งหมด เขาพยายามที่จะค้นหากระเป๋าอยู่นาน จนพบและเดินจากไป ทิ้งให้ชายคนนี้นั่งหลับไม่รู้เรื่อง แต่ไม่นานหลังจากนั้น ชายคนนี้ก็ตื่นขึ้นมาแล้วเดินไปที่รางรถไฟ และเดินตกลงไปในราง     ที่น่าเศร้าคือมีคนเห็นเหตุการณ์ที่เขาเดินตกลงไป แต่กลับไม่ได้ช่วยเหลือเขาเลย อีกทั้งยังเดินทำเป็นเหมือนมองไม่เห็น แต่โจรได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขารีบวิ่งกลับมาช่วยชายที่ตกลงไปในรางรถไฟ พร้อมกับพยายามดันตัวเขาให้ขึ้นมาจากราง ซึ่งการที่เขาลงไปนั้นก็มีความเสี่ยงชีวิตมาก เพราะมันมีกระแสไฟฟ้าแรงสูงอยู่ในราง เราไปชมคลิปเหตุการณ์นี้กันเลย     ตำรวจสืบสวน Oster ได้เล่าว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วสำหรับโจรฉกกระเป๋าที่พบเจอในตอนเช้า เหยื่อก็มักจะเป็นผู้โดยสารรถไฟที่ยังไม่ตื่นดีหลังจากไปปาร์ตี้ตอนกลางคืน และเขายังบอกอีกว่า “โจรคนนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์จริงๆ” สุดท้ายผิดก็คงต้องว่าไปตามผิด เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าเขาเป็นคนขโมย อย่างน้อยเขาก็เป็นโจรที่มีความเป็นมนุษย์อยู่ สงสัยเหมือนกันว่าคนที่เห็นเหตุการณ์แล้วเมินเฉยนี่เขาคิดอะไรอยู่ ที่มา SuperMouchachos

มีสิ่งเสพติดชนิดหนึ่งที่ให้ฤทธิ์เหมือนกัญชา นั่นก็คือเห็ดวิเศษ หรือเห็ดขี้ควาย ซึ่งก็คือเห็ดที่ขึ้นอยู่ตามขี้ควายนั่นเอง เห็ดชนิดนี้เมื่อเสพเข้าไปแล้ว จะทำให้คนเสพมีอาการประสาทหลอน วิ้งๆ เบลอๆ และหัวเราะง่าย การโดนจับเข้าคุกเป็นอะไรที่ไม่น่ายินดีเท่าไหร่ แต่สำหรับ David Kalb เขากลับยิ้มร่าออกมาแบบที่ไม่ได้สำนึกผิดเลย หลังจากอัดเจ้าเห็ดวิเศษนี้เข้าไป และถูกจับข้อหาครอบครองเห็ดวิเศษกว่า 70 อัน     ตำรวจเพนสิวาเนียได้ทำการจับกุมตัวเขามาหลังจากที่เรากำลังเสพมันอยู่นอกบ้าน เขาจึงเข้าไปตรวจค้นในอพาร์ทเม้นของเขา แล้วก็พบว่ามีเห็ดวิเศษอีก 70 ดอกอยู่ข้างในพร้อมกัญชา และวัตถุดิบเพื่อทำสารเสพติดต่างๆด้วย แต่จุดพีควันอยู่ที่ตอนเอาเขาไปถ่ายรูปทำประวัตินั้น เขากลับยิ้มไม่หุบเหมือนกับว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่งอยู่ กลายเป็นภาพถ่ายคนถูกจับที่มีความสุขที่สุดในโลกไปซะงั้นเลย คดีนี้การไต่สวนมูลฟ้องจะเริ่มในวันที่ 15 ธันวาคมที่จะถึง พร้อมยื่นหลักประกันตัวประมาณ 350,000 บาท ที่มา metro

ปัจจุบันนี้ กำแพงคำว่า “เพศ” มันเริ่มน้อยลงไปเรื่อยๆแล้ว บางประเทศก็มีกฎหมายให้คนเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญของการเคารพสิทธิของมนุษย์ด้วยกันเอง ครอบครัวพีซ ประกอบไปด้วยคุณพ่อสตีฟและคุณแม่ลินซี่ ได้มีลูกชายคนหนึ่งชื่อว่า “เอซ” และตอนนี้พ่อแม่กำลังประสบปัญหาอย่างหนึ่ง คือพวกเขามีรอยสักเต็มไปหมด และรอยสักเหล่านั้นมันก็เชยไปเสียแล้ว อีกทั้งมีรอยสักหนึ่งที่ทำให้ลูกของเขารู้สึกไม่ดีด้วย แต่แล้วก็มีเรื่องให้เอซต้องเซอร์ไพรส์ เพราะว่าพ่อและแม่ ได้ทำการไปแก้รอยสักนั้นเสียใหม่จากภาพรอยสักเด็กผู้ชาย กลายเป็นรอยสักเด็กผู้หญิงแทน ซึ่งรอยสักนั้นอยู่บนแขนของแม่   หลังจากภาพนี้ถูกโพสต์ลงไปในเพจ Immaculate Concept Tattoo ก็ได้ถูกแชร์ไปเป็นจำนวนมาก และนี่คือภาพรอยสักใหม่และรอยสักเก่า     สตีฟให้สัมภาษณ์กับ The Global News ว่า “รอยสักก่อนหน้านี้ทำให้เอซเศร้า เพราะมันทำให้เขานึกถึงตัวตนเก่าๆที่เขาเคยเป็น เขาไม่ต้องการที่จะจำคนคนนั้น”     ถือเป็นพ่อแม่ยุคใหม่ที่เคารพการตัดสินใจลูก ไม่ว่าลูกจะเป็นอะไร ขอแค่เป็นคนดีของพ่อกับแม่ก็พอแล้ว ที่มา distractify

เหมียวเชื่อคำพูดที่ว่า “อย่าหมดหวังในตัวมนุษย์” ถึงแม้บางทีเราจะได้รับข่าวสารมากมายเกี่ยวกับการกระทำที่โหดร้าย แต่อย่างน้อย ถ้าเราได้เห็นการทำดีของใครสักคนแล้ว มันก็ช่วยให้จิตใจของเราดีขึ้นได้ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนหนึ่งเธอชื่อว่า Fan Xuesong ทำงานให้กับสายการบินจีน บินจาก Zhengzhou ไปสู่ Hainan ระหว่างทาง เธอได้พบกับชายชรา Niu วัย 71 ปี ชายผู้ซึ่งประสบกับโรคลมชัก ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้บางส่วน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทานอาหารได้ด้วยตัวเอง แอร์สาวคนนี้จึงตัดสินใจที่จะช่วยผู้โดยสารท่านนี้ โดยภาพที่ออกมา ถ่ายโดยผู้โดยสารท่านอื่น เผยให้เห็นภาพความประทับใจที่เกิดขึ้น   “ตอนที่ฉันป้อนอาหารเขา ชายชราคนนั้นเริ่มร้องไห้ออกมา” Fan ให้สัมภาษณ์หลังจากที่ภาพนี้ถูกแชร์ไปอย่างมาก   ภาพนี้ถูกถ่ายได้โดยผู้โดยสารใกล้ๆ เผยให้เห็นรอยยิ้มอันงดงามจนกลายเป็นภาพภาพนี้   เมื่อสองปีก่อนชายชราท่านนี้ซึ่งเคยเป็นศาสตราจารย์คณะแพทย์ ประสบกับโรคลมชัก ทำให้เขากลายเป็นคนพิการบางส่วน ความจริงแล้วในเที่ยวบินนี้ภรรยาและผู้ดูแลก็นั่งมาด้วย แต่พวกเขาไม่ได้นั่งด้วยกัน จึงไม่สามารถดูแลได้ ดังนั้น Fan จึงอาสาทำหน้าที่นี้ให้แทน และเธอพยายามปลอบเขาหลังจากที่เขากำลังร้องไห้   การป้อนอาหารก็เป็นไปด้วยความยาก เพราะเขาไม่สามารถเคี้ยวหรือกลืนได้ง่าย อย่างไรก็ตาม Fan ก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีที่สุด เธอคอยดูแลจนเขาสามารถทานอาหารได้จนเสร็จ ถือเป็นเรื่องราวที่น่าจดจำเรื่องหนึ่งเลย   ที่มา Daily Mail

งานนี้แม้แต่คนจีนด้วยกันก็ยังเอือนกันเอง เมื่อ Ms. Wu ได้เล่าประสบกาณณ์การนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพไปเมืองซีอาน ประเทศจีน และต้องพบกับเพื่อนผู้โดยสารข้างหลังที่ยื่นเท้ามาตรงที่พิงแขน Ms. Wu เล่าว่า ได้มีหญิงชาวจีนคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างหลังเธอ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมาในเครื่องของสายการบิน AirAisa จากกรุงเทพสู่ซีอาน ซึ่งลูกเรือก็ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลย หลังจากเตือนไปครั้งหนึ่งแล้ว     “ฉันตื่นมาตอนตี 4 เพื่อมาขึ้นเครื่อง ฉันตั้งใจจะมานอนบนเครื่อง แต่ก็นอนไม่ได้ เพราะเท้านี่แหละ เขายื่นมาตรงที่พิงแขน จนฉันไม่สามารถกินหรือดื่มอะไรได้เลย และเหมือนถูกบีบไปตลอดการเดินทาง” เธอให้สัมภาษณ์กับ Beijing Youth Daily และเมื่อเธอแจ้งเรื่องนี้ไปยังพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ซึ่งเธอคิดว่าน่าจะเป็นคนไทย และพนักงานก็ได้บอกเธอว่าไม่สามารถทำอะไรได้ Ms. Wu บอกว่า “เธอขอโทษฉัน แต่เธอบอกว่าช่วยอะไรไม่ได้ เพราะว่าพวกเขาเป็นคนจีนทั้งหมด”     นอกจากนี้เธอยังเจอการพูดคุยเสียงดังตลอด 4 ชั่วโมง 25 นาทีที่อยู่บนเครื่อง หลังจากถึงบ้านแล้ว เธอก็ได้นำเรื่องนี้ไปโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียของจีนว่า “ถึงแม้จะเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ แต่การบริการก็ไม่จำเป็นต้องลดลงไปตามก็ได้ ฉันมีคำถามอย่างหนึ่ง ต้องเป็นเจอเหตุการณ์แบบไหนถึงจะเปลี่ยนพฤติกรรมของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้?” ที่มา The Daily Mail

ในอดีตนั้นการถ่ายภาพสียังไม่สามารถทำได้ เราจึงได้เห็นการถ่ายภาพประวัติศาสตร์ต่างๆเป็นแค่ภาพขาวดำ แต่แล้วก็ได้มีนายธนาคารคนหนึ่งชื่อว่า Albert Kahn นึกอยากจะลองทำภาพสีดูสักครั้ง ในปี 1909 เขาจึงให้ช่างภาพ 4 คน ออกไปถ่ายภาพทั่วโลก แล้วนำภาพเหล่านั้นมาใช้เทคนิค Autochrome Lumière ทำให้เกิดเป็นภาพสีขึ้นมา หนึ่งในเมืองที่ไปถ่ายมาก็คือกรุงปารีสนั่นเอง เป็นปารีสในยุคในปี 1914 ซึ่งเป็นที่ที่ช่างภาพ 4 คน ได้แก่ Leon Gimpel, Stephane Passet, Georges Chevalier, และ Auguste Leon เริ่มทำงานถ่ายภาพที่นั่น ภาพที่เขาถ่ายมา แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนฝรั่งเศสในสมัยนั้นว่าอยู่กันอย่างไร ผ่านออกมาเป็นภาพสีที่หาดูได้ยาก เพราะเทคนิคนี้ยังไม่แพร่หลายในสมัยนั้น เราไปชมภาพเหล่านี้กันเลย   ที่มา  petapixel

กำลังใจถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ในการช่วยให้เรามีแรงในการทำอะไรต่างๆ ต่อไป ถึงแม้ว่าเราจะเจอกับเรื่องราวแย่ๆ มาเยอะก็ตาม Tim Murphy หนุ่มวิศวกรจาก ลอส แองเจิลลีส ได้ทำการเซอร์ไพรส์ภรรยาของเขา Molly ด้วยเรื่องราวสุดโรแมนติก เนื่องจากเธอกำลังประสบปัญหากับโรคซึมเศร้า หลังจากที่กำลังกลับจากทริปที่ซาน ฟรานซิสโก หลังจากที่เธอกำลังนอนอยู่บนเตียง เธอก็เห็นว่า สามีของเธอนั้นได้ทำการเขียนอะไรบางอย่างบนกระจก แล้วพออ่านดูก็รู้ว่าที่เขาเขียนทั้งหมดนี้คือ “เหตุผลที่เขารักเธอ”   “ฉันจะไม่บอกว่าอาการป่วยของฉันจะรักษาหายได้จากข้อความบนกระจกนี้ แต่ในความเป็นจริง มันมาจากการดูแลเอาใจใส่ และการให้ความรักจากคนรอบข้างมากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางการแพทย์ก็รักษาไม่ได้”   เธอต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคนี้ จนมันส่งผลต่อชีวิตการแต่งงาน   “บางทีมันเป็นแค่ไม่กี่คำบนกระจก แต่ฉันมองมันทุกครั้งที่ฉันตื่นขึ้นมา มันทำให้ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียว ฉันรู้ว่าฉันมีเพื่อนที่ดีที่สุด คู่หู่ที่ดีที่สุดในชีวิตที่จะนำทางฉันไปข้างหน้า”   และนี่คือสิ่งที่เขาเขียนลงบนกระจก 1. เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดของผม 2. เธอไม่เคยยอมแพ้ทั้งตัวเองและผม 3. เธอให้เวลาผมในการทำงานโปรเจกต์บ้าๆ ทุกครั้ง 4. เธอทำให้ผมหัวเราะทุกวัน 5. เธอช่างงดงาม 6. เธอยอมรับความบ้าๆ บอๆ ในตัวผม 7. เธอคือคนที่ใจดีที่สุดในโลกเท่าที่ผมเคยรู้จักมา…

ผู้หญิงส่วนมากใฝ่ฝันที่จะมีชุดแต่งงานสวยๆ เป็นของตัวเอง เอาไว้ใส่ในวันที่สำคัญ แต่ส่วนมากก็จะเป็นการเช่ามาใส่เสียมากกว่า แต่วันนี้เหมียวจะพามาชมเรื่องราวการถักโคเชต์ชุดแต่งงาน ที่สวยหรูไม่แพ้ร้านเช่าเลย เธอคนนี้ชื่อว่า Abbey Ramirez-Bodley เมื่อเธออายุได้ 22 ปี เธอไม่สามารถหาชุดแต่งงานได้ เพราะว่างบไม่พอ เธอจึงตัดสินใจที่จะสร้างมันด้วยมือของเธอเอง โดยได้รับวิชาการถักโคเชต์มาจากป้าตั้งแต่เธออายุได้ 3 ขวบ และครั้งนี้คุณป้าก็มาช่วยเธอในการทำด้วย และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง เป็นวันที่เธอจะได้สวมชุดที่เธอฝันเข้าพิธีแต่งงาน หลังจากที่ใช้เวลากับมันมานานถึง 8 เดือน Ramirez-Bodley เดินออกมาอย่างสง่า โดยชุดที่เธอทำนั้นใช้เงิบเพียงแค่ 2,500 บาท บวกกับชุดชุดสีเขียวข้างในอีกประมาณ 3,500 บาท     “การได้ทำอะไรบางอย่างที่ทำมาจากฝีมือของตัวเอง ยิ่งเป็นวันที่สำคัญด้วย มันยิ่งพิเศษสุดๆไปเลย เธอให้สัมภาษณ์กับ Mashable   เธอได้บอกว่าเมื่อเธอสวมมันแล้ว รู้สึกว่ามันใช่ นี่แหละคือสิ่งที่เธอคิด และมันก็เกิดขึ้นจริงๆแล้ว   “เมื่อคุณให้เวลากับความรักและอะไรบางอย่าง ผลออกมามันจะยอดเยี่ยมมากๆ และมันเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก”   ที่มา  aplus, huffingtonpost, mymodernmet

ได้มีช่างภาพถ่ายแฟชั่นท่านหนึ่งชื่อว่า Fred Goudon ได้ปล่อยภาพปฏิทินประจำปี 2016 ออกมา เป็นภาพของเหล่าพนักงานดับเพลิงสไตล์กึ่งนู้ดกึ่งเซ็กซี่ ที่เห็นแล้วสาวๆ ต้องตาลุกเป็นไฟ ปฏิทินชุดนี้ทำมาเพื่อนนำเงินไปบริจาคให้กำการกุศลให้องค์กรหนึ่งในฝรั่งเศสที่มีชื่อว่า Pompiers Sans Frontières ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง “สำหรับผมและคนอื่นๆแล้ว พนักงานดับเพลิงคือฮีโร่ตัวจริง ในทุกๆวัน คนเหล่านี้คือคนที่ออกไปช่วยชีวิตผู้คนอีกมากมาย พวกเขาจิตใจดีและแข็งแรง คุณจะเห็นได้ชัดจากภาพเหล่านี้ พวกเขามีความภาคภูมิใจ แบบที่คนอื่นไม่มี” Fred Goudon กล่าว   เขาได้สร้างโปรเจกต์นี้เป็นเวลากว่า 1 ปี เราไปชมผลงานสุดแซ่บนี้กันเลย     แหม่ เห็นแล้วสาวๆ ว่ายังไงกันบ้าง แซ่บไหมล่ะ ผู้ชายผจญเพลิงเนี่ย ที่มา brightside

ปกติแล้ว เวลาเราเห็นลุงซานต้า ก็จะเห็นแต่ลุงหนวดขาวๆ อ้วน อยู่ในชุดสีแดงขาว เป็นคุณลุงใจดีที่คอยเอาใจเด็กๆอยู่เสมอ แต่วันนี้เหมียวจะพาไปพบกับลุงซานต้าอีกคนหนึ่ง ที่จะมากระชากใจสาวๆ ลุงคนนี้มีชื่อว่า Paul Mason เรียกได้ว่าเป็นแฟชั่นซานต้าเลยก็ว่าได้ เพราะลุงแกมีอาชีพเป็นนายแบบมากว่า 30 ปีแล้ว ลุคของเขาเหมือนกับเป็นลุงซานต้าหนุ่มที่ยังผอมอยู่     ลุงซานต้าคนนี้ประจำอยู่ที่ห้าง Yorkdale Mall ในโตรอนโต้ อีกทั้งทุกๆครั้งที่มีคนไปถ่ายรูปกับลุงแล้วโพสต์โซเชียลมีเดีย พร้อมกับติดแฮชแท็ก #YorkdaleFashionSanta ลุงแกก็จะบริจาค 1 ดอลล่าร์เข้ามูลนิธิ SickKids Foundation ช่วยเหลือเด็กอีกด้วย แต่ลุงจะไม่ค่อยได้ถ่ายรูปกับเด็กนะ ลุงให้สัมภาษณ์ว่าปกติแล้วจะพยายามออกห่างเด็กเพื่อไม่ให้เด็กงงว่าคนไหนซานต้าตัวจริงกันแน่ (ในห้างมีซานต้าตัวจริงอีกคน) ลุงจะถ่ายรูปกับคนทั่วไปมากกว่า   เราไปชมภาพแฟชั่นสุดเท่ของลุงซานต้าคนนี้กันเลย เห็นแล้วหิมะแทบละลาย   ที่มา  designyoutrust

ทุกๆ อย่างย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ดินยังสามารถกลายเป็นหินได้ ดังนั้นการได้เห็นสถานที่แปลกๆ มันก็เป็นกฎของธรรมชาติแน่นอนอยู่แล้ว วันนี้เหมียวจะพาไปเที่ยวที่โอเรก้อน มีชายหาดแห่งนี้ที่ดูหลอนพิลึก แต่ก็ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เพราะนี่คือสถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นป่า แต่แล้วก็เปลี่ยนแปลงกลายเป็นทะเลไปแล้ว ในเมืองเล็กๆ ชื่อว่า Neskowin มีชายหาดแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยตอไม้ผุดมาจากชายหาด ซึ่งเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว ที่นี่เคยเต็มไปด้วยต้นไม้ แต่เมื่อปี 1998 ได้ที่พายุขนาดใหญ่พัดเข้ากัดกร่อนฝืนป่าแห่งนี้จนกลายเป็นน้ำทะเล   ตอนนี้ก็เหลือไว้เพียงวิญญาณตอไม้น่ากลัวๆ เดาแล้วน่าจะมีอายุประมาณ 2,000 ปี   หลังจากเกิดพายุเมื่อปี 1998 ที่แห่งนี้ก็กลายเป็นชายหาดไปเลย   มีการคาดเดาว่าป่าแห่งนี้เกิดขึ้นในช่วงปี 1680 ถึงปี 1720 โดยได้มีคลื่นซึนามิเป็นตัวการทำให้เกิดป่า   บางแห่งก็บอกว่าป่าเกิดจากการเกิดแผ่นดินไหวที่โอเรก้อน ทำให้ผิวดินแถวนั้นแปรเปลี่ยนสภาพจนเกิดป่าขึ้นมา   ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นอย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นความดงดงามที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้นมา ถึงแม้ว่ามันจะดูหลอนไปนิดก็ตาม ที่มา  Amusing Planet

สำหรับใครที่มีลูก การผ่านหน้าหนาวโดยไม่ให้ลูกเป็นหวัดนั้นเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะเด็กยังไม่แข็งแรงเท่าเรา ดังนั้นการให้ความอบอุ่นแก่ลูกเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งต้องเตรียมชุดหนาๆ ถุงเท้า และหมวก แล้วใบหน้าล่ะ จะเอาอะไรปกปิดดีนะ ปัญหานั้นจะหมดไป เมื่อคุณได้พบกับหมวกไหมพรมพร้อมกับหนวด ที่จะช่วยให้ความอบอุ่นแก่ลูกน้อยของคุณ อีกทั้งยังกลายเป็นแฟชั่นสุดเก๋ไก๋ให้กับลูกได้อีกด้วยนะเออ   หมวกไหมพรมนี้ได้วางขายลงในเว็บไซต์ Etsy โดย Cynthia เป็นหนวดที่ติดมากับหมวกไหมพรม มองไกลๆนึกว่าเด็กมีหนวด   แน่นอนว่ามันต้องอุ่นเป็นอย่างมาก เพราะมันทำจากขนสัตว์หนาและนุ่ม เพราะเขาทำมาสำหรับเด็ก ดังนั้นมันต้องอ่อนโยนต่อเด็กด้วย   หมวกนั้นก็มีหลากหลายขนาด ขึ้นอยู่กับอายุของเด็ก อีกทั้งยังสามารถดัดแปลงให้สำหรับเด็กโตได้ด้วย ราคาอยู่ที่ประมาณ 700 บาทต่อใบ   ถือเป็นไอเดียเจ๋งๆสำหรับลูกน้อยของเรา และเหมาะสำหรับหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงมากๆเลย ที่มา distractify

นับได้ว่าปัญหาหมอกควันในทางตอนเหนือของประเทศจีนตอนนี้รุนแรงมากๆ จนประกาศเตือนภัยสีแดง และได้ลุกลามไปยังปักกิ่งเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันอังคาร (8 ธ.ค.) ที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่ปักกิ่งประสบปัญหาหมอกควันในระดับที่สูงขนาดนี้ ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013 จนทางการต้องประกาศเตือนภัยในวันต่อๆไป เกี่ยวกับความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมกับกำชับการปล่อยมลพิษและควบคุมการใช้รถบนท้องถนน     ทางรัฐบาลถึงกับต้องสั่งปิดโรงเรียนเพราะเป็นห่วงสุขภาพเด็กๆ ส่วนประชาชนทั่วไปก็ต้องใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นควัน และหลีกเลี่ยงการออกไปนอกบ้านเท่าที่จำเป็น และส่วนที่ก่อสร้างก็ขอให้ยุติไปก่อน จากข้อมูลของศูนย์เฝ้าสังเกตการณ์บอกว่าหมอกควันนี้น่าจะเบาลงในวันพฤหัสบดีที่กำลังจะถึง (10 ธ.ค.) เมื่อลมหนาวเข้ามา     วันนี้เหมียวก็จะพามาชมภาพถ่ายชุดหนึ่ง โดยสมาชิกเว็บไซต์ Weibo ชื่อว่า @飘在英伦 ได้ทำการตระเวนไปยังสถานที่สำคัญ ที่ครั้งหนึ่งเคยสวยงามมากๆ แต่ตอนนี้ถูกปกคุลมไปด้วยหมอกและควัน จนแทบไม่เหลือความสวยงามอยู่เลย เขาได้ใช้ภาพถ่ายที่เคยถ่ายไว้ เอาใส่ในมือถือ แล้วนำไปเทียบกับของจริง เห็นแล้วทำให้รู้เลยว่าปัญหานี้มันหนักมากแค่ไหน เราไปชมภาพของเขากันเลย     ปัญหานี้ก็ยังแก้ไม่ตก เพราะทางการจีนก็โทษกันไปโทษกับมา บ้างก็ว่าที่ปักกิ่งมีคนใช้รถใช้ถนนเยอะเกิน จนทำให้เกิดปัญหานี้ บ้างก็บอกว่าปัญหาเกิดจากการเผาถ่านหิน นอกจากนี้ยังมีประเทศอีกมากมายที่กำลังประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน ที่ร้ายแรงที่สุดก็คงเป็นปากีสถาน ที่ระดับหมอกควันสูงเป็น 14 เท่า เกินกว่าระดับปลอดภัย รองลงมาคืออัฟกานีสถาน ที่มา cctv-america, @飘在英伦

ถ้าพูดถึงซานตาครอสแล้ว เราคงจะนึกถึงคุณลุงหนวดขาวผมยาว ใส่ชุดสีแดงขาว นั่งรถกวางเรนเดียร์ออกไปแจกจ่ายของขวัญให้กับเด็กๆ แบบนี้   แต่วันนี้ภาพลักษณ์ของลุงซานต้าได้เปลี่ยนไป เมื่อต้องเจอกับซานต้าฮิปสเตอร์ ซึ่งคุณลุงซานต้าฮิปคนนี้ประจำอยู่ที่ห้อง Pioneer Place Mall ในเมืองฟอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน เฟี้ยวสุดๆ   จุดเด่นที่ทำให้ลุงซานต้าคนนี้เป็นฮิปสเตอร์ก็คือมันผมจุกไว้ข้างหลัง ใส่แว่น สวมเสื้อกันหนาว มองไปมองมา เหมือน The Dude ซะงั้น   ไม่เพียงเท่านั้น ตามแบบฮิปสเตอร์ต้องปั่นจักรยาน ลุงซานต้าคนนี้ก็ปั่นเช่นกัน อีกทั้งยังชอบกินอาหารออแกนิคอีกด้วย เฮ้ย นี่มันฮิปตัวจริงเลยนี่หน่า   เด็กๆที่มาถ่ายรุปด้วยอาจจะงงนิดหน่อยว่าทำไมซานต้าไม่เหมือนอย่างที่พวกเขาคิด แต่พวกเขาก็ยังมาถ่ายรูปกับลุงซานต้าเยอะแยะ   1 2 3 แชะ!!   ที่มา buzzfeed

ตั้งแต่สมาร์ทโฟนถือกำเนิดขึ้นมา สังคมทั้งโลกก็แทบจะเปลี่ยนไปแล้ว เราจะได้เห็นคนเดินก้มหน้าเล่นมือถือกันมากขึ้นโดยไม่สนว่าหนทางข้างหน้าจะมีอะไรขวางอยู่ หรือบางคนก็อาจจะเดินชนคนอื่นไปเรื่อย ถือเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากจริงๆ บริษญี่ปุ่นชื่อว่า NTT Docomo ได้ทำโฆษณารณรงค์ตัวหนึ่งออกมาชื่อว่า “Samurai Smartphone Parade” โดยบอกเล่าความอันตรายจากการเดินไปเล่นมือถือไป โดยใช้สถิติที่เกิดขึ้นจริงในประเทศญี่ปุ่น และใช้ตัวขบวนซามูไรในการเล่าเรื่องต่างๆ ที่ประเทศญี่ปุ่นเรียกอาการเดินไปเล่นมือถือไปว่า อะรุกิซึมะโฮ หรือแปลตรงๆว่า สมาร์ทโฟนเดินได้   ในโฆษณาชุดนี้ได้สร้างสถานการณ์ต่างๆที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อคุณเดินก้นหน้าก้มตากดมือถือไปเรื่อยๆ   บอกได้เลยว่าเหตุการณ์เหล่านี้เคยเกิดขึ้นจริงๆ ถ้าไม่อยากเป็นเหมือนซามูไร เก็บมือถือลงกระเป๋า แล้วตั้งใจเดินเถอะ   เราไปชมคลิปเจ๋งๆอันนี้กันเลย   ที่มา lifebuzz

ในวัยเด็ก เราได้ดูการ์ตูนเรื่อง The Little Mermaid แล้ว สาวๆทุกคนคงมีความฝันว่าอยากจะเป็นนางเงือกสวยๆสักครั้งในชีวิต แต่ไม่ถึงกับต้องไปเป็นจริงๆก็ได้ ขอแค่มีชุดหางปลามาให้ใส่ถ่ายรูปได้ก็พอ แต่ว่าจะไปหาที่ไหนล่ะ มันหายากมากๆ ในตอนเด็กเราก็คงทำได้แค่เอาผ้าห่มมาพันขาให้เดินไม่ได้ แล้วก็ได้แต่จินตนาการไปเอง แต่วันนี้เหมียวจะพามาดูไอเดียการทำหางนางเงือกด้วยการถักโคเชต์ โดยศิลปินที่ชื่อว่า Melanie Campbell     เธอได้ทำผลงานชิ้นนี้ขึ้นมา เพื่อวางขายลงในเว็บไซต์ Etsy โดยใช้ชื่อว่า CassJamesDesigns ซึ่งการถักในครั้งนี้ เธอทำเป็นรูปหางนางเงือกสำหรับเด็กๆ เพื่อที่ว่าเวลาหน้าหนาว เราจะสามารถเอามันมาห่มได้ แถมยังอุ่นอีกด้วยนะเออ     ใครใฝ่ฝันว่าอยากเป็นนางเงือกสักครั้ง ก็ลองเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ Etsy นะจ๊ะ ที่มา mymodernmet

สำหรับคนที่มีเวลาว่าง และของใช้เวลานั้นไปกับการอ่านหนังสือ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าเราไม่ได้อยู่บ้าน แต่ต้องมาทำธุระข้างนอก แล้วต้องใช้เวลาที่ว่างๆนั้นในการหาอะไรทำสักอย่าง วันนี้มีสิ่งประดิษฐ์เจ๋งๆเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นคือ “Story Pod” Story Pod สร้างโดยสตูดิโอชื่อว่า AKB ในเมืองโตรอนโต้ ด้วยการออกแบบที่ดูล้ำสมัย ทำให้มันโดดเด่นสะดุดตามากๆ เจ้า Story Pod เป็นเหมือนเลาจ์เล็กๆ ที่ให้คนได้มาแวะอ่านหนังสือ หรือมาพักผ่อนได้ ตั้งอยู่ในเขต Newmarket   และนี่คือ Story Pod ที่พูดถึง ในภาพนี้คือตอนที่มันยังไม่เปิดให้ใช้บริการนะ แค่นี้ก็สวยแล้ว   และเมื่อมันเปิดออก ก็จะมีหน้าตาเป็นแบบนี้   ภายในนี้ก็จะมีที่นั่ง พร้อมกับหนังสือให้ผู้คนได้มานั่งพักตามใจชอบเลย   และในตอนกลางคืน ที่แห่งนี้ก็ปิดตัวลง และกลายเป็นกล่องสีดำเหมือนเคย   แต่ไฟข้างในก็ยังทำงานอยู่ เหมือนเป็นตะเกียงให้กับเส้นทางแถวๆนั้น   ที่มา My Modern Met

หลายคนคงเป็นแฟนหนังของเรื่อง The Lord of the Rings และคงเคยฝันว่าอยากจะมีบ้านแบบพวกฮอบบิตดูสักครั้ง เพราะมันทั้งสวยและดูร่มรื่น เต็มไปด้วยธรรมชาติที่เขียวขจีเต็มไปหมด ฝันนั้นของคุณอาจจะเป็นจริงแล้วก็ได้ เมื่อมีบริษัทแห่งหนึ่งชื่อว่า Green Magic Homes ได้ทำการสร้างบ้านฮอบบิต ซึ่งเป็นบ้านสำเร็จรูป ใช้เวลาสร้างเพียง 3 วันเท่านั้น และสามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ถึง 3 คน ถือว่ากว้างพอสมควร     ก็เหมือนกับบ้านฮอบบิตที่เราเห็นในหนังนั่นแหละ เพียงแต่ว่าอันนี้เป็นบ้านสำเร็จรูป ดังนั้นเวลาตกแต่งก็ต้องเอาต้นไม้ไปใส่ทีหลัง แต่สิ่งที่พิเศษก็คือคุณสามารถปลูกอะไรบนหลังคาก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้หรือจะเป็นอาหาร ถึงแม้จะไม่ได้เป็นแฟนหนัง แต่ถ้าคุณชอบอะไรที่มันรักษ์โลกแล้วล่ะก็ มันก็เหมาะไปอีกแบบ     นี่ก็ถือเป็นบ้านที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้ดีเลยทีเดียว เพราะมันเต็มไปด้วยสีเขียว อีกทั้งยังสามารถปลูกอะไรได้บนหลังคาอีกด้วย ถ้าบ้านเรามีแบบนี้บ้างก็คงจะดี ที่มา  inhabitat

เริ่มต้นเดือนธันวาแล้ว หลายคนก็อาจจะได้เห็นการตกแต่งของห้างต่างๆที่เริ่มประดับไปของกระดึ่ง ต้นไม้ และลูกกวาดสีแดง เขียว ขาว เพื่อต้อนรับเทศกาลวันคริสต์มาสนั่นเอง หลายๆ คนก็คงอยากจะได้ของขวัญสักชิ้นจากลุงซานต้า โดยเฉพาะเด็กๆที่รอคอยวันนี้มานาน การได้พบคุณลุงซานต้าถือเป็นสิ่งที่เด็กๆใฝ่ฝันมากนาน เหมือนอย่างเด็กน้อยคนนี้ที่ได้รอถ่ายรูปกับคุณลุงซานต้า จนเผลอหลับไปในที่สุด แต่คุณลุงซานต้าบอกว่าไม่ต้องปลุก     คุณแม่ได้บรรยายเกี่ยวกับภาพนี้ไว้ว่า “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะน่ารักเพียงนี้ เมื่อได้เห็นรูปลูกของฉันถ่ายกับซานตาครอส หลังจากที่เผลอหลับไปตอนที่กำลังรอเข้าแถว ลุงซานต้าขอเราว่าไม่ต้องปลุกลูก แล้วก็ถ่ายภาพนี้ออกมา มันน่ารักแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน”   อีกมุมหนึ่งของลุงซานต้า ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะคิดได้โพสได้ขนาดนี้   รูปนี้น่าจะได้เอาไปใส่กรอบและติดไว้ที่ห้องนอนของลูกตลอดไป   น่ารักจริงๆ   หวังว่าหนูน้อยตื่นมาแล้วจะได้เห็นภาพตัวเองถ่ายรูปกับลุงซานต้าแล้วก็ยิ้มได้นะ 🙂 ที่มา lifebuzz

การตั้งชื่อลูกถือเป็นเรื่องของยุคสมัย อย่างในยุคอียิปต์โบราณ การเลือกชื่อให้คนใดคนหนึ่งนั้นขึ้นอยู่กับนิสัยหรือไม่ก็เป็นชื่อที่เป็นตัวแทนของพระเจ้า หรือจะเป็นช่วงยุคกลาง เด็กที่เกิดมาให้เขาจะถือว่าเป็นของขวัญจากพระเจ้า ดังนั้นชื่อก็จะมาจากไบเบิลเป็นส่วนมาก แต่ยุคสมัยก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ปัจจุบันนี้ก็มีคนตั้งชื่อลูกตามชื่อดาราบ้าง หรือไม่ก็เป็นชื่อที่ดูเป็นสิริมงคล แต่สถิติล่าสุดในปี 2015 พบว่าเด็กเกิดใหม่มีชื่อเหมือนฟิลเตอร์ในอินสตาแกรม โดยเว็บไซต์ Baby Center ได้เผยออกมาแล้วว่าชื่อเด็กๆที่ถูกตั้งมากที่สุดคือ Luxes, Junos, Reyeses, Ludwigs, Amaros, Valencias และ Willows     ถ้าว่าตามยุคสมัย ใครๆต่างก็ใช้อินสตาแกรมกันทั้งนั้น แต่ก็ไม่ทราบเหตุผลเหมือนกันที่ว่าทำไมต้องเอาชื่อฟิลเตอร์ไปตั้งชื่อลูก   เริ่มจากชื่อ Lux ความจริงแล้วก็ไม่เชิงว่าจะเป็นฟิลเตอร์หรอก แต่มันเป็นเครื่องมือที่ใช้ตกแต่งรูป ซึ่งชื่อนี้ถูกตั้งให้เด็กผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ประมาณ 75% ในปีนี้ ชื่อต่อมาคือ Ludwig เป็นชื่อฟิลเตอร์ในอินสตาแกรม โดยที่เด็กผู้ชายกว่า 42% ได้รับชื่อนี้ไป อีกทั้งยังมี Amaro, Reyes, Hudson และ Kelvin ตามมาติดๆ     เรามาดูเด็กผู้หญิงกันบ้าง Juno เป็นชื่อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดถึง 30% รองลงมาคือ Valencia อยู่ที่ 26% และ Willow 13%    …

ประเทศญี่ปุ่นนี่ถือเป็นประเทศที่ดูปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก เพราะเราจะเห็นได้ว่าทุกคนใส่ใจกับทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่ความปลอดภัยของเต่าตัวเล็กตัวน้อยที่กำลังชอบเดินข้ามทางรถไฟจนบางทีก็เดินไปติดบ้าง ถูกรถไฟทับบ้าง เมื่อบริษัทรถไฟ The West Japan Railway Company และ สวนน้ำ Suma Aqualife Park ในเมืองโกเบได้ร่วมมือกันสร้างทางลอดใต้รางรถไฟสำหรับเต่าเพื่อที่จะให้มันเดินข้ามได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น     เนื่องจากว่าปัญหาเต่ามันมักจะปีนเข้าไปข้างในรางแล้วเกิดไปติดอยู่ระหว่างรางบ่อยๆ ทำให้รถไฟต้องดีเลย์ออกไปเพื่อนำเต่าออก บางครั้งเต่าก็ถูกรถไฟเหยียบจนกระดองเสียหายด้วยก็มี จึงจำเป็นต้องสร้างอะไรบางอย่างเพื่อทำให้ลดปัญหานี้ลง     อุโมงค์สำหรับเต่านี้ได้เริ่มสร้างตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา จากสถิติที่เก็บมาจนถึงเดือนสิงหาคม พบว่าได้มีเต่าที่ใช้ทางลอดนี้ 10 ตัวด้วยกัน นั่นแสดงว่าทางลอดนี้สามารถช่วยชีวิตเต่าได้ 10 ตัว และลดอุบัติเหตุทางรถไฟได้ 10 ครั้ง ถือเป็นก้าวเล็กๆที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรื่องนี้   ที่มา rocketnews24, neatorama

หน้าหนาวใกล้เข้ามาแล้ว วันนี้เหมียวก็เลยมีเสื้อกันหนาวสไตล์ญี่ปุ่นเจ๋งๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากชุดของซามูไร นักรบสุดเท่จากประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ชุดนี้เป็นการผสมผสานระหว่างยุคสมัย โดยการนำเอาชุดฮาโอริดั้งเดิมมาดัดแปลงให้กลายเป็นชุดที่สามารถกันหนาวได้ และสามารถใส่ไปไหนมาไหนได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้อยู่ ชุดนี้ผลิตโดยแบรนด์เสื้อผ้าชื่อว่า Trove เขาได้ทำชุดฮาโอริแบบใหม่นี้ขึ้นมา ที่ดั้งเดิมแล้วเราจะใส่ทับชุดกิโมโน แต่ครั้งนี้เราสามารถใส่กับชุดอย่างอื่นได้ มี 2 แบบให้เลือก     โดยที่เนื้อผ้านั้นทำมาจากขนแกะ ซึ่งจะมีลักษะเบาและนุ่ม และเหมาะสำหรับเสื้อผ้าสมัยใหม่แบบตะวันตก เพื่อที่ว่าเราจะได้นำเอาเสื้อตัวนี้ไปใส่กับชุดอื่นๆได้อย่างคู่ควร ซึ่งเขาได้ทำออกมาสองสีด้วยกัน     ราคาจะอยู่ที่ประมาณตัวละ 9,000 บาท ถ้าใครสนใจก็ลองเข้าไปดูได้ที่ trove.shop-pro ที่มา rocketnews24

  ในวัยเด็กเรามักจะไม่ทันคิดว่าการอยู่บ้านกับพ่อแม่นั้น เป็นเรื่องที่มีความสุขที่สุดแล้ว แต่พอโตขึ้น ถึงวัยที่ต้องมีหน้าที่ มีงานที่ต้องทำเพื่อหาเลี้ยงตัวเองและคนอื่น ในตอนนั้นคนที่บ้านจะรู้สึกอย่างไร เมื่อเราไม่ได้อยู่ทานอาหารพร้อมกันเหมือนวันก่อนๆ ในทุกๆเทศกาล ก็ต้องมีช่วงเวลาที่ครอบครัวต้องกลับมาพบหน้ากัน แล้วมากินข้าวในโต๊ะเดียวกัน พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องเก่าๆ ถือเป็นสิ่งๆดีๆที่ทำให้ครอบครัวกลายเป็นครอบครัว ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม   วันนี้ไปเจอโฆษณา EDEKA จากประเทศเยอรมนี เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชายชราที่อยู่บ้านคนเดียว หลังจากที่ลูกๆมีงานทำในต่างที่กัน ทำให้เขาต้องอยู่บ้านคนเดียว เมื่อถึงเทศกาลวันคริสต์มาส เขาอยากให้ลูกๆกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เราไปชมคลิปซึ้งๆอันนี้กันเลย     ใครที่ทำงานใกล้บ้านก็ลองหาโอกาสไปหาท่านบ้างนะ ไม่ต้องถึงกับไปบ่อยก็ได้ เหมียวเชื่อว่าแค่ท่านได้เห็นหน้าเราก็หายคิดถึงแล้วล่ะ ที่มา EDEKA

ศิลปินท่านนี้เธอมีชื่อว่า Remya Warrier เธอมีจิตใจอันงดงาม รักสัตว์เป้นชีวิตจิตใจ และตอนนี้ความรักของเธอนั้นก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นความกลัวแล้ว เธอกลัวว่าเหล่าสัตว์ทั้งหลายอาจจะไม่ได้อยู่ตลอดไปเหมือนที่เธอคิด อีกทั้งลูกของเธอก็ชื่นชอบสัตว์ด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รู้จักอะไรมากมาย ซึ่งเขาก็ได้มีของเล่นที่เป็นรูปสัตว์ต่างๆสะสมไว้อยู่ด้วย   หลังจากที่เธอรู้สึกแบบนี้ได้สักพัก เธอก็ได้สร้างผลงานที่ดูเหมือนว่าเธอได้ทำการเก็บกระเป๋าอย่างทันทีและออกเดินทางจากเอเชีย ไปยังแอฟริกา แล้วจากนั้นก็ไปต่อยัง อาร์กติก ซึ่งความจริงแล้วผลงานทั้งหมดนั้นเธอได้ใช้ของเล่นในการจัดฉากขึ้นมาเพื่อให้ดูสมจริง เธอถ่ายทำภาพทั้งหมดนี้ในเมือง Bintan ประเทศอินโดนีเซีย ส่วยโพลาร์แบร์นั้นเธอถ่ายในห้องกินข้าวที่บ้านของเธอ เราไปชมผลงานชิ้นนี้กันเลย       เราคงไม่อยากเห็นสัตว์เหล่านี้เป็นเพียงแค่ของเล่นหรอก ดังนั้นจงช่วยกันรักษาผืนป่าของเรา และลดการปล่อยมลพิษให้น้อยลง ที่มา boredpanda

หลังจากที่เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นที่ปารีส ทำใหสุนัขตำรวจที่ชื่อว่า “ดีเซล” เสียชีวิตขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ ทางบริษัทของประเทศรัสเซียจึงตัดสินใจที่จะประดิษฐ์สิ่งนี้ขึ้นมา ชุดเกราะนี้มีชื่อว่า “Nord body armour” มันจะช่วยป้องกันอันตรายสำหรับสุนัขตำรวจได้ โดยที่มันจะแบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ส่วนแรกจะปกป้องคอและหน้าอก และอีกส่วนจะสามารถปกป้องขาและหัวได้     เจ้าหน้าที่ได้ให้สัมภาษณ์ว่าแรกๆสุนัขจะไม่ค่อยชอบขุดเกราะนี้เท่าไหร่ แต่พอนานๆเข้า เจ้าหน้าที่ก็สามารถฝึกให้มันคุ้นเคยเพื่อที่จะไม่ให้มีเรื่องหน้าสลดเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับเจ้าดีเซล โดยชุดเกราะนี้จะมาพร้อมกับสุนัขตำรวจที่ทางรัสเซียได้บริจาคให้กับฝรั่งเสสหลังจากที่เจ้าดีเซลได้จากไปแล้ว   ที่มา huffingtonpost

ในระหว่างที่ Michael Fletcher ซึ่งเขาอาศัยอยู่ในเมือง Sudbury, Ontario กำลังออกไปล่าไก่ป่ากับน้องชายของเขา Neil ทั้งคู่ก็ได้ไปพบกับนกอินทรีตัวหนึ่งในป่า เมื่อพวกเขาเข้าไปดูใกลๆ้แล้วก็พบว่ามันคือนกอินทรีหัวขาว ที่กำลังติดอยู่ในกับดัก เขาได้ให้สัมภาษณ์ว่าเจ้านกอินทรีมันสงบมากๆ เหมือนกับว่ามันเหนื่อยกับการหนีจากกับดักอันนี้     หลังจากนั้น Fletcher ก็ได้ทำการถอดเสื้อแจ็กเก็ตของเขา แล้วเขาใกล้นกอินทรี เพื่อที่จะห่อมันไว้ และช่วยมันออกมาจากกับดัก     ก่อนหน้านี้เขาก็ได้ตั้งกล้องถ่ายไว้เผื่อว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่พอช่วยมันเสร็จแล้ว คนน้องก็นึกไอเดียแปลกๆขึ้นมา นั่นก็คือการเซลฟี่กับนกอินทรีนั่นเอง ผลที่ได้ก็คือภาพเซลพี่สองพี่น้อง พร้อมกับอินทรี พอได้แชร์ภาพนี้ออกไป หมายคนก็บอกว่านี่มันคือภาพเซลฟี่แห่งปีเลยนี่หน่า ดูจากยอดแชร์ก็น่าจะรู้   ดูจากสีหน้าของนกอินทรีแล้ว รู้เลยว่าเกิดมาเพื่อเซลฟี่ มีการแอ๊บแบ๊วด้วย แช๊ะ!!   เราไปชมคลิปที่สองพี่น้องคู่นี้ได้อัดไว้กันเลยดีกว่า   ที่มา buzzfeed

คุณอาจใช้เวลาทั้งปีในการเดินทางท่องเที่ยวไปรอบโลก แต่ถ้าคุณมาที่นี่ คุณอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในการสำรวจโลก เพราะบึงนำเล็กๆในประเทศเดนมาร์กแห่งนี้ เขาได้ทำการตกแต่งให้กลายเป็นแผนที่โลกอันงดงามได้ ทั้งหมดนี้ใช้โคลน หินเล็กหินใหญ่ และหญ้า ในการตกแต่งพื้นที่แห่งนี้ให้กลายเป็นแผนที่โลกขนาดย่อมๆ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้ละเอียดถึงเพียงนี้ได้ คนที่ทำงานชิ้นนี้ขึ้นมาก็คือ Søren Poulsen หลังจากที่เขากลับมาจากต่างประเทศ เขาก็ตรงไปที่หมู่บ้าน Klejtrup ในประเทศเดนมาร์ก เพื่อทำงานชิ้นนี้ขึ้นมา โดยแรงบันดาลใจของเขาก็คือเขาได้ไปเจอก้อนหินก้อนหนึ่งคาบสมุทรจัตแลนด์ที่อยู่ในกลุ่มนอร์ดิก เขาจึงเริ่มทำทั้งโลกนี้ขึ้นมา โดยใช้เวลากว่า 25 ปี   สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในทะเลสาบ Klejtrup ไม่น่าเชื่อเลยว่าทั้งหมดนี้เป็นฝีมือสนุษย์คนเดียวสร้าง   เขาใช้เวลาทั้งหมด 25 ปีในการสร้างแผนที่โลกทั้งหมดขึ้นมาโดยใช้เครื่องมือไม่กี่อย่าง และรถเข็นอีก 1 คัน   นอกจากนี้แต่ละเขตก็จะมีธงบ่งบอกว่านี่คือประเทศอะไร   ทั้งหมดนี้สร้างในอัตรส่วน 111 กิโลเมตรละติจูด ต่อ 27 เซนติเมตรในทะเลสาบ   และตอนนี้ทะเลสาบแห่งนี้ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ที่มา Amusing Planet

เว็บไซต์ช่องทีวีสำหรับผู้ใหญ่ของญี่ปุ่น ERO24TV ได้จัดกิจกรรมดีๆขึ้นมาเพื่อนำเงินไปบริจาคให้กับผู้ป่วยเอดส์ โดยเงินนั้นจะได้มาจากการที่คุณเข้าไปในเว็บของเขา แล้วทำการอดทนไม่มองนมของสาวๆที่กำลังจะโชว์ให้คุณดู เพียงแค่นี้ก็เป็นการได้ทำบุญแล้ว กิจกรรมนี้เริ่มจัดตั้งแต่วันที่ 26 ถึง 6 ธันวาคม มีชื่อว่า “Love is Patience” ที่จะท้าทายเหล่าชายหื่นทั้งหลายว่าจะสามารถอดใจไม่ลืมตามองนมของสาวๆ โดยที่ทางเว็บจะเชื่อมต่อกับเว็บแคมของคุณเพื่อดูว่าคุณได้ลืมตาดูหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าคุณต้องมีเว็บแคมก่อนถึงจะใช้บริการเว็บนี้ได้   พอเข้าเว็บมาก็จะเจอหน้าตาประมาณนี้ ถ้าคุณไม่มีเว็บแคมจะเข้าไม่ได้นะจ๊ะ   ถ้าคุณผ่านด่านแรกมาแล้ว ก็จะมีสาวสวยมาแนะนำอะไรต่างๆ ซึ่งเขาจะทดสอบให้คุณได้ลองลืมตา หลับตา แล้วหลังจากนั้นเกมก็จะเริ่มขึ้น   ระหว่างที่คุณหลับตา เธอก็จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคเอดส์ พอผ่านไปสักพักก็จะมีสาวสวยคัพ G ออกมายั่วให้คุณอยากเปิดตา ถ้าคุณทนไม่ไหว ลืมตาขึ้นมา เว็บแคมก็จะตรวจจับได้ แล้วทุกอย่างก็จบ ไม่ได้เงินไปบริจาค   แต่ถ้าคุณมีจิตใจที่แน่วแน่พอจนจบครบ 1 นาที ทางเว็บก็จะบริจาคเงิน 5 เยน ประมาณ 1.5 บาท ต่อนาที ย้ำ!! ต่อนาที ให้กับมูลนิธิหยุดยั้งโรคเอดส์ ยิ่งถ้าคุณอดกลั้นได้นานเท่าไหร่ เงินก็จะยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ   ทั้งนี้เหมียวก็ยังไม่ได้ลองเลยว่าเป็นยังไง เพราะไม่มีเว็บแคม…

Michael Zee ชายหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ทางด้านการทำอาหารได้อร่อยเหาะ อีกทั้งเขายังสามารถสร้างสรรค์อาหารเช้าออกมาได้น่ากินชนิดที่ว่าใครได้เป็นแฟนต้องเป็นคนที่น่าอิจฉามากๆ แต่สาวๆและหนุ่มๆก็คงต้องอกหักกันไปเป็นแถบ เพราะว่าเขามีแฟนแล้วจ้า เขาได้ทำอาหารเช้าให้คุณแฟนหนุ่ม Mark van Beek ได้ทานทุกเช้าเลย แถมอาหารเข้านั้นเขายังออกแบบให้สมมาตรกันแบบสวยงาม นอกจากทำอาหารเก่งแล้วยังมีอารมณ์ศิลป์อีกนะเนี่ย Michael Zee ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “หลายคนอาจจะสงสัยว่าผมบ้าหรือผมหมุกมุ่นกันแน่ แต่ผมขอประกาศที่นี่เลยว่านี่เป็นการแสดงออกถึงความรัก ทั้งรักการทำอาหาร และรักแฟนของผม” นอกจากนี้เขาได้พยายามลองทำอาหารจากหลากหลายประเทศอีกด้วย แหม่ พูดมาซะขนาดนี้ เราไปดูผลงานของเขากันเลย     มันไม่ได้มีแค่นี้นะ เราไปดูเมนูอื่นๆและติดตามเขาได้ที่ symmetrybreakfast.com | Instagram | Twitter ที่มา boredpanda

Hanna-Kaarina ศิลปินนักออกแบบ เธอได้ทำการนำเอารุปปั้นเซรามิคกว่า 60 ตัว เป็นรูปสุนัขจิ้งจอก และอีก 61 ตัวเป็นรูปกระต่าย ไปวางไว้ทั่วเมืองในตอนเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วม เพื่อรอว่าใครสักคนจะมาพบมัน และเก็บพวกมันไป “Wild in the City” คือการติดตั้งสิ่งแวดล้อมเข้าในในเมือง กำลังเป็นโปรเจกต์ที่เธอกำลังศึกษาและทำการทดลองเพื่อทำให้เห็นว่าคนเราได้สนใจสิ่งแวดล้อมในตัวเมืองมากแค่ไหน ซึ่งการนำเอารูปปั้นเซรามิคเหล่านี้ไปตั้งไว็ก็เพื่อที่จะดูว่าผู้คนเขาจะมองเห็นหรือไม่ หรือบางทีเขาอาจจะไม่ได้สนใจมันเลยก็ได้     ศิลปินท่านนี้ต้องการจะปลุกจิตสำนึกทุกคนให้หันมาสนใจสิ่งแวดล้อมในทุกๆวัน และกระตุ้นความสามารถตอบสนองกับศิลปะ มนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม โดยที่ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกันหมด และทุกคนรวมถึงสัตว์ ก็มีสิทธิ์ที่จะใช้เมืองและสิ่งแวดล้อมเดียวกันด้วย อีกสิ่งหนึ่งที่เธอต้องการก็คือให้คนได้มาพูดคุยและถกเถียงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เธอกล่าวในฐานะคนที่เคยทำงานในด้านสถาปนิกมาก่อนว่าเธอจะรู้สึกดีมากถ้าได้เห็นกลุ่มคนได้มาพูดคุย และหาทางแก้ไข่ปัญหาไปด้วยกัน     ถึงแม้ว่าโปรเจกร์สุนัขจิ้งจอกและกระต่ายของเธอจะจบลง แต่เธอก็ได้เก็บภาพส่วนหนึ่งไว้ก่อนหน้านี้แล้วตอนที่เธอได้นำไปติดตั้ง และหวังว่าคนที่พบเจอพวกมันจะถ่ายรูปแล้วพามันไปอยู่ในที่ที่ดีๆ แล้วก็โพสต์รูปของพวกมันให้คนอื่นได้เห็นบ้าง   ที่มา boredpanda

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญกว่าสมาร์ทโฟนที่เราต้องพกติดตัวก่อนออกจากบ้านทุกครั้งก็คือกางเกงในนั่นเอง (เอ๊ะ พูดสลับกันรึเปล่านะ) คุณทุกคนต้องใส่กางเกงใน เพื่อป้องกันเผื่อว่าจะโป๊ หรือสำหรับคุณผู้ชายก็ช่วยให้มันไม่แกว่งไปมา แต่วันนี้เหมียวจะพาทุกท่านมาดูแฟชั่นกางเกงในสำหรับหญิงวัยชรา ซึ่งปกติแล้วจะไม่ค่อยมีลายสวยๆให้เลือกกันสักเท่าไหร่ เพราะว่าคนแก่เขาคงไม่คิดอะไรมากหรอกเรื่องอะไรพวกนี้ แต่สำหรับบางคนแล้ว เขาก็ยังอยากเฟี้ยวอยู่นะเห้ย Candice Pugh เป็นแม่บ้านที่อยู่แต่ในบ้านทำงานบ้านไปวันๆในยูท่าห์ เธอได้สร้างกางเกงในสำหรับคุณยายที่เฟี้ยวฟ้าวยากเกินจะเดาได้ว่าจะมีสิ่งนี้เกิดขึ้นมาบนโลก เธอไม่ได้ทำมาเล่นๆนะ เธอเอามาขายลงในเว็บไซต์ Etsy อีกด้วย จุดเด่นของกางเกงในของเธอก็คือการออกแบบให้มันดูเป็นป๊อปคัลเจอร์ร่วมสมัย แต่คุณยายก็สามารถใส่ได้ ไม่ตกเทรนด์ โดยเธอตั้งชื่อกางเกงในชนิดนี้ว่า ‘Golden Girls’ โดยการนำเอาดาราเก่าแก่มาเป็นภาพประทับลงบนกางเกงในเลยเราไปดูไอเดียของเธอกันเลยดีกว่า   นอกจากนี้ยังมีแบบน่ารักๆด้วยนะ ทั้งเป็นรูปแมว ดาราชายทั้งเก่าและใหม่ เอาใจคนแก่เต็มๆ   ใครสนใจอยากได้เป็นเจ้าของก็ลองเข้าไปดูได้เลยที่ร้านของเธอใน Etsy ที่มา boredpanda

โลกเรายังมีอีกหลายสถานที่ให้เราได้ไปพิสูจน์ความตื่นตาตื่นใจว่ามีความลับอันมหัศจรรย์อะไรซ่อนอยู่ สำหรับนักเดินทางก็คงจะรู้ว่ามันมีมากมายในโลกที่เป็นสถานที่ลับๆ แต่ก็ไม่ลับจนถึงขนาดว่าไปยาก เพียงแต่ว่ามันไกลเกินกว่าเราจะไปถึงได้ ด้วยพลังแห่งธรรมชาติที่ได้สร้างศิลปะเหล่านี้ขึ้นมา วันนี้เหมียวก็เลยจะพาทุกท่านไปเที่ยว 13 สถานที่ที่เต็มไปด้วยสีสันมากมายในที่แห่งเดียว จะมีที่ไหนบ้าง ตามเหมียวมาเลย   1. LAKE RETBA, เซเนกัล   2. TULIP FIELDS, ฮอลแลนด์   3. GREAT BARRIER REEF, ออสเตรเลีย   4. LUOPING, จีน   5. VALLEY OF FLOWERS NATIONAL PARK, อินเดีย   6. SHIBAZAKURA HILL, ญี่ปุ่น   7. LAKE NATRON, แทนซาเนีย   8. LAVENDER FIELDS, ฝรั่งเศส   9. กือราเซา   10. PROCIDA, อิตาลี   11. CAÑO CRISTALES RIVER, โคลัมเบีย   12. FLY GEYSER, เนวาด้าตอนเหนือ   13. YELLOWSTONE NATIONAL PARK, รัฐไวโอมิง…

โดยปกติแล้ว บ้านเราไม่ค่อยนิยมเก็บรถเก่าๆไว้หรอก ส่วนมากก็จะเอาไปขายเป็นเศษเหล็กบ้าง ถ้ามันยังใช้งานได้ดีก็เอาไปขายเป็นรถมือสองถูกๆ แต่วันนี้เหมียวจะพาไปดูการเปลี่ยนรถบรรทุกเก่าๆให้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์สวยๆได้ หลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่ารถเก่าๆเนี่ยนะ จะเปลี่ยนยังไง มันมีวิธีอยู่ ถ้าอยากรู้ก็ตามมาดูไอเดียเหล่านี้กันเลย   1. โต๊ะอ่านหนังสือ   2. โต๊ะนั่งชิว   3. เตียงนอนสำหรับลูกเล็กๆ   4. สวนจิ๋วสไตล์เรทโทร   5. ชั้นวางภาชนะ   6. เก้าอี้นั่ง   7. เตียงนอนใหญ่ๆ   8. โซฟาเก๋ๆ   น่าเสียดายที่บ้านเราไม่ค่อยมีรถสวยๆแบบนี้มาให้แปลงร่างเท่าไหร่ ไม่งั้นเราอาจจะได้เห็นเฟอร์นิเจอร์เก๋ๆ ที่ทำมาจากรถก็เป็นได้ ที่มา littlethings

ถ้าอ่านพาดหัว หลายคนคงจะคิดว่า “ห๊ะ แปรงเนี่ยนะใช้ปล้นได้” เหมียวอยากจะบอกว่าใช่แล้ว มันคือเรื่องจริง เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ได้มีโจรคนหนึ่งเดินเข้าไปในร้าน Mac’s store ที่ Thunder Bay เมือง Ontario พร้อมกับอาวุธแปรงขูดหิมะซึ่งอันใหญ่ประมาณแปรงขัดส้วมบ้านเรานี่แหละ โดยเที่โจรเข้าประตูมาและพุ่งเข้าไปที่แท่นจ่ายเงิน พร้อมขู่ให้พนักงานส่งเงินมาให้เขา     จากภาพ ผู้ต้องสงศัยสูงประมาณ 177 เซนติเมตร สวมหมวกและเสื้อกันหนาวสีดำ พร้อมกับแว่นตา หลังจากที่คนร้ายขู่เอาเงินแล้ว พนักงานก็ให้แต่โดยดี หลังจากนั้นเขาก็หลบหนีไปอย่างลอยนวล     จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ถึงจะเป็นการชิงทรัพย์ที่แปลกไปหน่อย แต่สุดท้ายคนทำผิดก็ต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย เราไปชมคลิปเหตุการณ์นี้กันเลย   ที่มา Macs CrimeBusters

  กังฟู ถือเป็นศิลปะการต่อสูงที่มีมาแต่โบราณ เราคงได้เห็นบ่อยๆจากในสื่อภาพยนตร์ โดยเฉพะาหนังของเฉินหลงในสมัยก่อน ที่ใช้กังฟูในการต่อสู้ (หนังเฉินหลงเมื่อก่อนสนุกมาก) นักทำหนังคนหนึ่งชื่อว่า Inigo Westmeier เขาได้ไปฝึกกังฟูกับลูกของเขาที่ประเทศเยอรมนี จนวันหนึ่งเขาได้เห็นนักเรียนคนหนึ่งกระโดดไต่กำแพง ตอนนั้นเขาก็เริ่มหลงไหลมากขึ้น เขาจึงเดินทางไปยังวัดเส้าหลิน ที่สอนศิลปะการต่อสู้นี้ในประเทศจีนเลย เพื่อไปเรียนรู้วิธีต้านแรงโน้มถ่วงแบบที่เขาเคยเจอมา การฝึกฝนกังฟูนั้นไม่ใช่ใครๆก็ทำได้ มันต้องใช้ทั้งพลังกำลัง ระเบียบวินัย ความอดทน และไฟอันแรงกล้าในตัวเราเอง ซึ่งโรงเรียนสอนกังฟูที่ใหญ่ที่สุดในจีนนั้นมีนักเรียนกว่า 36,000 คน มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่เตรียมตัวจะเป็นนักสู้กังฟู Westmeier ได้ทำมิวสิควิดีโอนี้ขึ้นมาเพื่อเผยให้เห็นเบื้องหลังของโรงเรียนฝึกกังฟูอันน่าตื่นตาตื่นใจ เราไปชมกันเลยว่าจะอลังการงานสร้างแค่ไหน     ดูแล้วรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่เราสัมผัสได้เลย นี่ถ้าไปยืนดูอยู่ขา้งๆ เวลาเด็กๆต่อยแต่ละครั้ง ต้องมีแรงลมมาปะทะหน้าเราแน่ๆเลย ที่มา lifebuzz

ความมีน้ำใจ ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นเรื่องเฉพาะเด็กหรือผู้ใหญ่ เพราะการที่เราจะให้ใครสักคน ไม่จำเป็นหรอกว่าเราจะมีมากหรือมีน้อย เหมือนอย่างผู้หญิงคนหนึ่ง พร้อมทั้งเหล่าเด็กๆ ที่ได้ทำการแสดงความมีน้ำใจในวันหยุดของพวกเขา ซึ่งเกี่ยวกับกลุ่มคนไร้บ้าน Tara Smith-Atkins ผู้เป็นแม่ เป็นกังวลว่าคนไร้บ้านจะทำยังไงเมื่อถึงหน้าหนาว เธอจึงชักชวนลูกสาวของเธอวัย 8 ขวบ และเพื่อนๆของลูกอีก 7 คน ในการนำเอาเสื้อโค้ตไปผูกติดกับเสาข้างทางในเมือง Halifax เพื่อให้คนไร้บ้านได้มาเอาไปสวมใส่เมื่อถึงหน้าหนาว อีกทั้งยังเป็นการฉลองวันเกิดให้กับลูกสาวของเธอด้วย   คุณแม่กล่าวว่า “เหล่าเด็กๆจะได้เรียนรู้อะไรสำคัญๆจากเหตุการณ์นี้แน่นอน”   “เพราะหลังจากที่เรากลับมาที่รถหลังจากเอาเสื้อโค้ตไปมัด เด็กๆ ทุกคนต่างหนาวและเรียกร้องหาฮีตเตอร์ แถมยังบ่นเรื่องอากาศอีก แล้วสุดท้ายก็หาอะไรมาคลุมตัวเองในที่สุด”   หลังจากนั้นครอบครัวนี้ก็ใช้เวลาไม่กี่อาทิตย์ในการแจกจ่ายเสื้อโค้ตให้กับชุมชน   ที่มา boredpanda

ถ้าใครได้อ่านเว็บเหมียวบ่อยๆก็คงจะคุ้นกับคู่รักคู่หนึ่งที่ออกเดินทางรอบโลกแล้วก็ได้ถ่ายภาพในรูปแบบที่แฟนสาวกำลังจูงมือชายหนุ่ม ซึ่งเราก็จะเห็นแต่ข้างหลังของเธอ เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน หลังจากได้ใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว ทั้งคู่ก็ยังออกเดินทางท่องเที่ยวอยู่เสมอ แล้วถ่ายรูปสวยๆมาอวดเราอยู่ไม่ขาดสาย และที่ล่าที่สุดพวกเขาได้ไปมาคือประเทศอินเดียนั่นเอง โปรเจกต์นี้ใช้ชื่อว่า #FollowMeTo ใครอยากติดตามก็ตามไปได้เลยที่อินสตาแกรม muradosmann   ทัช มาฮาล   พาราณสี   บ่อน้ำแชนด์โบริ   พาราณสี   บอกตรงๆว่าเลอค่าหาที่เปรียบไม่ได้ ทำไมทั้งคู่ลงตัวกันอย่างนี้นะ อิจฉาจังเลยยยยย ที่มา buzzfeed

โดยปกติแล้ว เราจะได้เห็นตึกดีไซน์เก๋ๆ ออกมามากมายในช่วงนี้ เพราะเทคโนโลยีการสร้างมันก้าวไกลไปมาก แต่น้อยครั้งที่เราจะได้เห็นตึกที่สามารถทำอะไรที่มีประโยชน์ให้กับตัวตึกได้ เหมือนตึกที่นี่ ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่เต็มไปด้วยเมืองที่หรูหรา และวิวที่งดงาม นอกจากนี้สถาปัตยกรรมที่นั่นยังจัดได้ว่าโดดเด่นไม่แพ้ประเทศใหญ่ๆบนโลกนี้เลย   ตึกหลายแห่งอาจจะประสบปัญหากับแสงแดดที่ทะลุเข้ามายังตัวตึก แต่ตึก Al Bahar ในเมืองอาบูดาบีนั้นสามารถป้องกันแสงแดดได้   เขาได้สร้างบางสิ่งเหมือนเกราะป้องกันที่มันสามารถขยายเพื่อมาบังแดด หรือจะให้มันหุบกลับไป เพื่อที่จะมองเห็นวิวข้างนอกได้   อีกทั้งยังถูกออกแบบมาให้กันแดดได้ทุกมุม   แบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าตอนเที่ยงๆจะมีแสงทะลุเข้ามาส่องตาเราได้   ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบโดยสถาปนิก Aedas   หรูหรา ไฮโซจริงๆ   มีแบบวิดีโอด้วยนะ ไปดูกันเลย ที่มา  Bored Panda

เมื่อประมาณปีที่แล้ว เหมียวได้นำเสนอเกี่ยวกับไอเดียผ้าพันคอหรือผ้าคุลมปีกนกไป ซึ่งถือเป็นไอเดียที่ดีมากๆ เพราะลวดลายบวกกับวิธีสวมใส่นั้นมันทำให้เราเหมือนนางพญาสยายปีกอย่างสวยงามได้ และในปีนี้ทาง Roza Khamitova นักออกแบบแฟชั่นจากออสเตรเลียก็ได้ทำการสยายปีทำผ้าคลุมฝืนใหม่ที่อลังการงานสร้างกกว่าเดิม นกถือเป็นสัญญะแห่งผู้หญิงที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในงานวรรณกรรมและภาพยนตร์ และเธอก็นำจุดนี้มาเป็นไอเดียการสานต่อผ้าปีกนกนี้ ซึ่งโปรเจกต์นี้จะพิเศษกว่าครั้งก่อนเพราะทั้งหมดวาดด้วยมือ และยังคงความนุ่มสบาย แต่ไม่มีพิษภัยอีกด้วย เราไปชมผลงานของเธอกันเลย     ถ้าใครสนใจก็ลองไปหาซื้อได้ที่ Etsy หรือจะดูข้อมูลเพิ่มเติมก่อนได้ที่ shovava.com ที่มา boredpanda

ญี่ปุ่นนี่เป็นประเทศแห่งศิลปะเลยก็ว่าได้ ศิลปะทุกชนิดที่เขาได้สร้างขึ้นมา ล้วนออกมาจากจิตใจซึ่งเราสามารถสัมผัสได้เลย ซึ่งวันนี้เหมียวก็ได้มีคลิปการวาดชามแบบ “คุทานิ โชเอมอน” มาให้ทุกท่านได้ดูกัน “คุทานิ โชเอมอน” ก่อตั้งครั้งแรกที่จังหวัดอิชิคาว่า ประเทศญี่ปุ่น ในปีพ.ศ. 2422 ถือเป็นบริษัทที่เก่าแก่ที่ทำเรื่องเกี่ยวกับชุดเซรามิกมานาน ซึ่งแต่ละชิ้น พวกเขาทำออกมาอย่างพิถีพิถัน     ถือแม้จะเป็นบริษัทเล็กๆ แต่ทุกชิ้นของเขานั้นวาดด้วยมือล้วน จึงการันตีได้เลยว่ามันมีคุณค่าเป็นอย่างมาก ต่างจากลวดลายที่ผลิตจากโรงงานลิบลับเลย ถ้าสนใจในเครื่องเซรามิกก็ลองเข้าไปดูในเว็บไซต์ choemon.com ได้ ร่ายประวัติมาซะยาว ตอนนี้ก็ถึงเวลาดูการวาดเซรามิกของเขาแล้ว รับรองว่าาคุณจะดำดิ่งไปกับมันแน่นอน   . . . . . ที่มา KUTANI CHOEMON

การสร้างงานศิลปะแต่ละชิ้นนั้น บางคนอาจจะวิธสร้างและแรงบันดาลใจที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับศิลปินที่ชื่อว่า Raymond Cicin เขาได้สร้างงานศิลปะจากปากกาลูกลื่นเหลือใช้ โดยได้แรงฮึดมาจากการที่เพื่อนๆได้ถามว่าเขามีทักษะการใช้ปากกาลูกลื่นมากแค่ไหน เขาได้สร้างภาพวาดปลาหมึกขนาดใหญ่โดยใช้ปากกาลูกลื่นเหลือใช้ธรรมดาหลากหลายสีสัน อีกทั้งปลาหมึกของเขานั้นมีรายละเอียดยิบย่อยมากมาย โดยที่เขาใช้เวลาวาดทั้งหมดเป็นเวลา 1 ปีด้วยกัน นอกจากนี้เขายังวาดเป็นรูปอื่นๆที่ไม่ใช่ปลาหมึกอีกด้วย เพื่อเป็นข้อพิสูจน์ว่าศิลปินที่แท้จริงต้องไม่พึ่งอุปกรณ์มากก็สามารถสร้างงานศิลปะได้   เราไปชมการวาดภาพปลาหมึกขนาดยักษ์ของเขากันเลย เห็นแล้วไม่รู้สึกแปลกใจเลยว่าทำไมวาดนาน       นับถือความพยายามของศิลปินท่านนี้เลย ไม่น่าเชื่อว่าปากกาธรรมดา จะสามารถสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้ ที่มา boredpanda

โลกแห่งความฝันนั้นเป็นภาพที่เกินความจริง มันอยู่ในจินตนาการที่สวยหรูจนบางทีเราก็อยากจะให้มันเกิดขึ้นจริงๆสักครั้งให้ได้ แต่โลกเรานี้มันกว้างใหญ่เกินกว่าจะเสาะหาว่าที่แห่งไหนคือดินแดนแห่งความฝันนั้น ธรรมชาติคือผู้สร้างศิลปะโดยบังเอิญ และซ่อนไว้ตามที่ต่างๆ รอให้เราได้ไปค้นหา บางที่อาจจะเป็นสถานที่ธรรมดาๆ แต่ถ้าเรามองดูมันอย่างละเอียดแล้ว อาจจะเห็นความงามของมันอยู่ก็ได้ วันนี้เหมียวก็เลยจะพาทุกท่านไปพบกับสถานที่อันงดงามที่มีอยู่จริงบนโลก ที่หาดูได้ยาก และแต่ละที่เหมือนไม่มีอยู่จริงบนโลกนี้เลย   #1 Lake Kaindy, Kazakhstan   #2 Moon Hill, China   #3 Richat Structure (Eye Of Sahara), Sahara   #4 Yakushima, Japan   #5 Glow Worm Caves, Australia   #6 Red Beach, Panjim   #7 Stone Forest, Madagascar   #8 Mount Roraima, Venezuela  …

หลายคนอาจจะเคยมีประสบการณ์ที่เราได้อยู่ห่างไกลกับคนรักเป็นเวลานานๆ แน่นอนว่าความคิดถึงมันต้องมีเป็นอย่างแรก พร้อมกับความเหงาที่ไม่สามารถมีใครทดแทนคนรักของเราได้เลย แต่เทคโนโลยีสมัยนี้มันก็ก้าวไกล เราสามารถวิดีโอคอลล์กับคนรักได้ ได้พูดคุยกับแบบเห็นหน้า แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่สามารถทดแทนความรู้สึกเหมือนได้อยู่ด้วยกันจริงๆได้ทั้งหมดหรอก คู่รักชาวเกาหลีคู่หนึ่งได้ค้นพบวิธีที่จะทำให้ทั้งคู่เหมือนอยู่ใกล้ๆกันตลอดเวลา ถึงแม้เวลาจะห่างกัน 14 ชั่วโมงก็ตาม ซึ่งฝ่ายหญิง Danbi Shin กำลังอาศัยอยู่ที่นิวยอร์ค และฝ่ายชาย Seok Li อยู่ที่กรุงโซลประเทศเกาหลี เพื่อทำให้ความสัมพันธ์ดูใกล้ชิด พวกเขาได้นำภาพที่ถ่ายซึ่งตอนนั้นก็กำลังวิดีโอคอลล์กันอยู่นำมาต่อกันให้เกิดเป็นภาพภาพเดียว โปรเจกต์นี้มีชื่อว่า “Half&Half” ซึ่งศิลปินทั้งสอง ShinLiArt ก็ได้ค้บพบที่ที่เหมือนกัน และมีความใกล้เคียงกันมากที่สุดมาต่อกัน ถึงแม้ว่าจะอยู่ห่างไกลกันก็ตาม     ลองตามไปดูภาพอื่นๆได้ที่ เว็บไซต์ shinli-art.com และ Instagram ของเขากันเลย ที่มา  designtaxi

โดยปกติแล้วงานศิลปะ ถึงแม้จะสร้างด้วยอะไรก็ตามแต่ สุดท้ายมันก็ไม่สามารถย่อยสลายได้ง่ายภายในไม่กีนาที แต่ศิลปินชาวลิทัวเนียคนหนึ่ง เธอๆได้สร้างงานศิลปะที่สามารถกินได้ แต่ไม่ใช่ให้คนกินนะ แต่เป็นให้ไก่กิน เธอคนนี้มีชื่อว่า Jolita Vaitkutė วัยเพียง 19 ปีเท่านั้นเอง แต่ความติสต์ของเธอนั้นมีอยู่เต็มเปี่ยม ด้วยอุดมการณ์ของเธอนั้น เธอได้สร้างผลงานโดยใช้ขนมปังเป็นชิ้นเล็กๆ โรยเป็นรูปใบหน้าของปูตินประธานาธิบดีรัสเซีย แล้วสุดท้ายก็ปล่อยให้ไก่กินอย่างเอร็ดอร่อย ในความคิดของเธอนั้นเธอไม่ชอบปูติน โดยให้เหตุผลว่าเขาพยายามครอบงำความคิดโดยใช้โฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อต่างๆ และหวังว่าสังคมอาจจะตระหนักได้ถึงเหตุการณ์เหล่านี้   เธอยังกล่าวอีกว่างานศิลปะชิ้นนี้เหมือนเป็นชัยชนะแห่งเสรีที่เข้ามาแทนที่ และปฏิวัติระบอบเผด็จการ ประชาชนจะเติบโตและคิดได้มากขึ้น และทุกคนก็จะไปสู่ทางเดินแบบใหม่ จิตสำนักแบบใหม่ เราไปชมผลงานของเธอกันเลย     ที่มา boredpanda  

คนเรามีวิธีแก้เบื่อที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะหาหนังสือมาอ่าน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม อะไรก็ว่าไป ก็ถือเป็นกิจกรรมที่คนธรรมดาๆเขาทำกัน แต่หนุ่มคนหนึ่งมีวิธีแก้เบื่อที่ต่างออกไป เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่ทำให้หายเบื่อเป็นปลิดทิ้งเลยก็ว่าได้ หนุ่มชาวยูเครนคนนี้มีชื่อว่า Sasha Shapik วัยเพียง 28 ปี เขาเป็น vlogger และศิลปินสุดดิสต์ ในช่วงนี้เริ่มย่างเข้าฤดูหนาว น้ำในคลองบึงก็เริ่มเย็นเจี๊ยบแล้ว เขาจึงคิดวิธีแก้เบื่อด้วยการปีนขึ้นไปบนรถไฟ แล้วกระโดดลงมาในขณะที่รถไฟวิ่งผ่านสะพาน บ้าระห่ำจริงๆ เขาถือเป็นตำนานเลยก็ว่าได้ เพราะแต่ละคลิปที่เขาทำออกมานั้นสุดโต่งทั้งนั้น อีกทั้งพ่อแม่ของเขา รวมถึง เมีย ลูกสาว ก็สนับสนุนให้เขาทำอะไรแบบนี้ด้วย ซึ่งความบ้าของเขาเริ่มมาตั้งปต่ช่วงปี 2000 แล้วก็ทำมาเรื่อยๆ จนตอนนี้เป็นที่โด่งดังเรียบร้อยแล้ว และในปี 2011 เขาก็เริ่มทำการสร้างแชแนลในยูทูบแล้วก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีผู้ติดตามมากถึง 270,000 คนเลยทีเดียว เราไปชมคลิปการกระโดดสุดหวาดเสียวของเขากันเลย   ชอบปีนไปอยู่ในที่สูงๆ   แฟนคลับเพียบ   นี่ก็เป็นอีกคลิปที่เขาได้ทำการเอาเครื่องดูดฝุ่นมาดูดปาก เพื่อทำให้ปากดูเซ็กซี่ เอ่อ…   ยังไงก็ดูเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะ อย่าเอาไปทำตามละ อันตรายทั้งนั้นนนน ที่มา boredpanda

ในขณะที่ทั่วโลกกำลังสนใจเหตุก่อการร้ายที่ปารีสอยู่ แต่ก็ยังมีเรื่องน่าเศร้าเกิดขึ้นอีกหลายที่ หนึ่งในนั้นเกิดขึ้นที่เมืองเบรุตในเลบานอน คุณพ่อชาวเลบานอนคนหนึ่ง ถูกยกย่องเป็นฮีโร่ หลังจากได้ช่วยชีวิตคนไว้นับไม่ถ้วน หลังจากใช้ร่างกายตัวเองสกัดมือระเบิดพลีชีพที่กำลังเดินเข้าหาฝูงชนขณะกำลังจะปลดชนวน จนสุดท้ายระเบิดได้พรากชีวิตเขาและลูกสาวไป     คุณพ่อท่านนี้มีชื่อว่า Adel Termos กำลังเดินเล่นอยู่กับลูกสาว ในตอนที่เขาได้ยินเสียงระเบิดครั้งแรกนั้น ฝูงชนได้แตกตื่นเป็นอย่างมาก และในตอนนั้นเขาก็เห็นมือระเบิดคนที่สองกำลังเดินเขาหาฝูงคนอยู่ พร้อมทั้งกำลังจะปลดชนวนระเบิดที่ติดอยู่กับตัวเขา คุณพ่อจึงโถมตัวเข้าใส่ ทำให้ระเบิดทำงาน ซึ่งแรงระเบิดได้พรากชีวิตของเขา แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ได้ช่วยชีวิตผู้คนเอาไว้มาก ผู้เห็นเหตุการณ์ Elie Fares ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว PRI ว่า “หลากหลายครอบครัว เป็นหลายๆร้อยครอบครัวเป็นหนี้บุญคุณของเขา”     เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนี้คือทางกลุ่ม ISIS ก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่าเป็นต้นเหตุการก่อการร้ายครั้งนี้และในปารีส ที่มา unilad

เหมียวเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่าความสุขเป็นสิ่งที่สามารถส่งต่อกันได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ส่งต่อกันในรูปแบบที่เป็นรูปธรรม แต่เพียงเราได้เห็นคนอื่นมีความสุข เราก็มีความสุขตามแล้ว ชายคนหนึ่งชื่อว่า Eoin Flinn ได้ใช้เวลากว่า 2 ปี ในการเดินทางไปรอบโลกด้วยการแบ็กแพ็คทั้งในฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งขับรถจี๊บจากประเทศจีนมุ่งสู่แอฟริกาใต้ อีกทั้งยังบินไปร่วมงานแต่งงานที่กาน่า และไปเยี่ยมน้องสาวที่ดูไบ นอกจากนี้ เขายังได้รวบรวมเอาช่วงเวลาที่เขาพบเจอ ทั้งสนุก และมีความสุข มาตัดเป็นส่วนเล็กๆ แล้วก็นำมาต่อกัน เพื่อให้ลืมภาพในแง่ลบที่สื่อพยายามนำเสนอ เผยให้เห็นถึงด้านดีๆที่เราอาจไม่เคยเห็นจากที่เหล่านี้ด้วย ดังนั้นในวิดีโอคลิปนี้จะเต็มไปด้วยรอยยิ้มจากคนทั่วโลก ที่มารวมกันในวิดีโอเดียว…     ดูแล้วรู้สึกถึงพลังความสุขที่ส่งผ่านรอยยิ้มจากทั่วทุกมุมโลกได้เลย แบบนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมว่าการส่งต่อความสุขมันทำได้ง่ายแค่ไหน….   ไม่ว่าจะในบังกลาเทศ   ทะเลทรายอันร้อนระบุในนามิเบีย   ชาวบ้านทั่วไปในอุซเบกิสถาน   หรือกระทั่งข้างถนนเมืองไทย… เราทุกคนก็มีความสุขได้ ที่มา Eoin Flinn

เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนอาจมีความฝันว่าตัวเองอาจจะกลายเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์เข้าสักวัน แล้วก็มีเจ้าชายมาบอกรัก เกิดเป็นความฝันอันสวยหรูชนิดที่ว่าหาที่เปรียบไม่ได้ และสุดท้ายก็จบอย่างมีความสุขตลอดกาล ในตอนเด็กเราอาจจะคิดแบบนั้น แต่พอโตขึ้นก็ได้เรียนรู้ว่าโลกมันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดหรอก ไม่มีเจ้าชายรูปงามที่จะออกมาจากหาเจ้าหญิงอย่างเรา จนกระทั่งเหมียวได้ไปเจอคลิปนี้ บอกเลยว่าเจ้าชายมีจริง เจ้าชายรูปงามท่านนี้มีชื่อว่า “คริส” เขาได้พบกับเจ้าหญิงในตอนที่เรียนมหาลัยด้วยกันในคืนวันฮาโลวีนวันที่ 29 ตุลาคม ปี 2011 ซึ่งเขากำลังจะทำการเซอร์ไพรส์ในวันครบรอบ 4 ปี วางแผนที่จะให้ “คอร์ทนีย์” แต่งเป็นเจ้าหญิงซินเดอเรลล่าแล้วมาพบในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งเธอก็คิดแค่ว่าน่าจะเป็นปาร์ตี้ฮาโลวีนธรรมดา แต่หารู้ไม่ว่าเธอกำลังจะกลายเป็นเจ้าหญิงจริงๆแล้ว เมื่อพวกเขามาใกล้ปราสาท คริส ได้บอก คอร์ทนีย์ ให้หลับตาลงแล้วขอพร และเมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เธอก็พบว่ามีรองเท้าแก้วของจริงอยู่ตรงหน้า วางอยู่บนหมอนเล็กๆสีม่วง แล้วคริสก็แต่งตัวเป็นเจ้าชาย แล้วก็ประกาศว่าเขาอยู่กับซินเดอเรลล่าพร้อมกับรองเท้าแก้ว   แล้วซินเดอเรลล่าคนนี้จะใส่รองเท้าแก้วได้ไหมนะ?   แน่นอนว่ามันต้องสวมได้อย่างพอดี   จากนั้นคริสก็กล่าวคำ “สุขสันต์วันครบรอบนะครับ” และเธอก็คิดว่านั่นคือแผนทั้งหมดที่เตรียมไว้ แต่ยังไม่หมดแค่นั้น คริสได้เตรียมเซอร์ไพรส์ครั้งยิ่งใหญ่ไว้อีก เขาบอกให้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆซึ่งเป็นพี่ชายของเขาได้เปิดหมอนที่ใช้รองรองเท้าออก แล้วเขาก็หยิบกล่องหนึ่งขึ้นมา พร้อมกับคุกเข่าไปต่อหน้าซินเดอเรลล่า “คอร์ทนีย์ เค้กส์ ผมรักคุณมากๆ คุณคือความรักในชีวิตของผม ผมอยากจะใช้ชีวิตทั้งหมดที่ผมมีเพื่ออยู่กับคุณ แต่งงานกับผมได้ไหม?”   และแน่นอนเธอตอบ “ตกลง” เจ้าหญิงซินเดอเรลล่า…

เหมียวเชื่อว่าทุกคนคงเคยมีแรงที่จะทำอะไรซักอย่าง แบบที่ไม่ได้สนเลยว่าจะทำได้หรือไม่ได้ ขอแค่ได้ลองทำดูก็ไม่เสียหาย เหมือนอย่างชายคนนี้ที่ได้ลองฝึกตัวเองในการเล่นสเก็ตบอร์ดเพียงแค่ท่าเดียว แต่ใช้เวลาไปถึง 6 ชั่วโมงด้วยกัน เหมือนเกม The Sims ที่เวลาเราได้เรียนรู้ทักษะบางอย่าง เราก็จะเก่งขึ้นเรื่อยๆ Mike Boyd คือชายที่เชื่อว่า ถึงแม้เขาจะไม่มีพรสวรรค์ แต่เขาก็มีความพยายามเป็นอย่างมากในการเรียนรู้ทักษะการเล่นสเก็ตบอร์ดอันนี้ มันมีคนเคยกล่าวไว้ว่าถ้าคุณได้ฝึกฝนอะไรบางอย่างเกิน 1 หมื่นชั่วโมงแล้ว คุณจะกลายเป็นมาสเตอร์ในด้านนั้น ซึ่ง Mike Boyd ก็ได้พยายามทดสอบคำพูดที่ว่านั้นโดยการเล่นสเก็ตบอร์ดโดยฝึกท่า kickflip ซึ่งเป็นการกระดกให้มันหมุนกลางอากาศแล้วก็เอาเท้าเหยียบลงไปอย่างสวยงาม   เริ่มแรกก็ต้องมีเจ็บตัวกันบ้าง เขาเริ่มจากท่ากระดกธรรมดา ยังไม่หมุนกลางอากาศ เพราะเขาเริ่มจาก 0 จริงๆ   ถึงจะใส่สนับขาแล้ว แต่ไข่ก็ยังเสี่ยงได้รับบาดเจ็บด้วย   มีการอวดสนับขาอันใหม่ด้วยนะ   นอกจากจะต้องเจออุปสรรคเรื่องการเล่นแล้ว ต้องมีเจอแมวจอมป่วนด้วย   เราไปชมคลิปความพยายามคลอด 5 ชั่วโมง 47 นาที ของเขากันเลย   ที่มา Mike Boyd

การจะสร้างสรรค์ผลงานชึ้นหนึ่งได้นั้นก็ต้องมีแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายที่ ซึ่งศิลปินท่านหนึ่งชื่อว่า Jason Edmiston ก็ได้ทำการสร้างสสรค์ผลงานแนวป๊อปคัลเจอร์มานานกว่า 20 ปีแล้ว และเขาก็มีนายแบบคนหนึ่งที่ช่วยเหลือเขามาตลอด ซึ่งก็คือคุณพ่อนั่นเอง งานของเขามีมากมาย ทั้งการวาดโปสเตอร์หนัง ทำแพ็คเกจของเล่น อีกทั้งยังมีงานโฆษณาอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดก็ต้องการต้นแบบในการวาด ซึ่งต้นแบบเหล่านั้นก็มีจากหลากหลายที่ แต่จะมีอะไรเทียบเท่าการได้ต้นแบบจริงๆจากคุณพ่อของเขาที่มาเป็นนายแบบให้ เขาได้ทำการจัดแสงพร้อมกับเสื้อผ้าและมุมกล้อง เพื่อทำการนำไปเป็นแบบให้กับภาพวาดของเขา ซึ่งคุณพ่อก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีมาก คุณพ่อแอคติ้งได้ใจสุดๆ เราไปดูกันเลยว่าภาพของคุณพ่อกับสิ่งที่ออกมาจะเป๊ะได้ขนาดไหน     คุณพ่อช่างน่ารักจริงๆ ถือเป็นธุรกิจในครอบครัวได้เลยนะเนี่ย อิอิ ที่มา boredpanda

ศินปินช่างภาพท่านหนึ่งชื่อว่า Stephen Wilkes เขาได้ทำการตั้งกล้องนิ่งๆ เพื่อถ่ายภาพทุกช่วงเวลาตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งภาพที่เขาได้มานั้น เขาได้นำมาผสานกันให้กลายเป็นรูปเดียว ซึ่งก็คือภายในรุปนั้นจะประกอบไปด้วยทุกช่วงเวลาในแต่ละวัน เขาได้ถ่ายภาพแนวๆนี้มากว่า 1,500 รูปแบ้ส และได้เลือกช่วงที่ดีที่สุดตลอดกลางวันและกลางคืนมา เป็นส่วนหนึ่งของผลงานสุดเจ๋งชิ้นนี้ เราไปดูกันเลย   Serengeti National Park, Tanzania   Flatiron, New York   Sacre Coeur, Paris   Tel Aviv, Israel   Eiffel Tower, Paris   NYC Public Library   Central Park Snow, New York   Macy’s Thanksgiving Day Parade   Central Park View…

ปกติแล้ว รางน้ำฝนที่บ้านเรามี มันก็เป็นเพียงรางเฉยๆที่ติดอยู่กับหลังคา พร้อมกับมีท่อน้ำเชื่อมต่อให้มันไหลลงมา ซึ่งบางครัวเรือนก็ให้มันไหลลงพื้น บางที่ก็เก็บไว้เป็นน้ำไว้ใช้รดน้ำต้นไม้     แต่วันนี้เหมียวจะพามาดูไอเดียรางน้ำฝนที่ล้ำยุคไม่เหมือนใคร เพราะเขาทำออกมาได้ซับซ้อนมากๆ แต่มันก็ใช้งานได้เหมือนรางน้ำฝนปกติทั่วไป เป็นการออกแบบของ ประติมากร Annette Paul และนักออกแบบ Christoph Rossner และ André Tempel     ทั้งหมดนี้ถูกสร้างมาตั้งแต่ปี 1999 สำหรับฟาร์ม Dresden’s Kunsthof Passage     เจ้ารางนี้แท้จริงแล้วมันมีชื่อว่า “Court of Water” เมื่อถึงวันที่ฝนตก น้ำก็จะไหลตามรางลงมาเรื่อยๆจนถึงปลายท่อ แล้วก็พ่นออกทางรูที่ได้ทำไว้     เรียกได้ว่าเป็นการออกแบบสิ่งของที่เราใช้ในชีวิตประจำวันให้บ้านดูมีลูกเล่นเยอะขึ้นเลย เดี๋ยวว่างๆจะลองทำมั่งดีกว่า ที่มา sobadsogood

ถือเป็นความคิดที่แหวกแนวดีจริงๆสำหรับคนที่คิดค้นแอปตัวนี้ขึ้นมา มันมีชื่อว่า Bark’N’Borrow เป็นแอปที่สามารถทำให้คุณค้นหาสุนัขเพื่อยืมไป ไม่ว่าจะพาไปเดินเล่น หรือจะเอามาเป็นเพื่อนอยู่ที่บ้านก็ทำได้ โดยหมาที่คุณเอามาเลี้ยงก็จะมาจากคนที่เลี้ยง หรือจะเป็นผู้ดูและมืออาชีพเลยก็มี เหมือนกับคุณใช้แอปเรียกแท็กซี่นั่นเอง   แอปนี้เป็นแอปฟรีที่คุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้เองได้ ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่เปิดกว้างถึงขนาดที่ว่าคุณจะสามารถนำหมาจากสถานรับเลี้ยงมาได้เหมือนกับแอป Borrow My Doggy และ Walkzee ที่เคยทำมาก่อนแล้ว     แน่นอนว่าตอนนี้ที่ไทยยังไม่มีบริการ แต่มันก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีในการแปลกเปลี่ยนสัตว์เลี้ยง เหมือนเป็นการมอบความสุขแบบส่งต่อกันไปเรื่อยๆ ที่มา boredpanda

นี่ถือเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่รวมระหว่างความเป็นมนุษย์และธรรมชาติเข้าด้วยกันเลย สิ่งนี้คือ “ออร์แกน” เครื่องดนตรีขนาดยาวกว่า 70 เมตร ทอดยาวตามชายฝั่งในโครเอเชีย และมันจะส่งเสียงก็ต่อเมื่อมีลมจากทะเลเข้าปะทะกับมัน เกิดเป็นท่วงทำนองแบบสุ่มไปเรื่อย แต่ก็ไพเราะ เจ้าเครื่องนี้มีชื่อว่าจริงๆแล้วมีชื่อว่า “morske orgulje” ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อว่า Nikola Basic และได้นำมาติดตั้งให้ผู้คนได้เห็นเมื่อปี 2005 เมื่อมีน้ำและลมผ่านช่องที่ทำไว้ตรงบันได จะทำให้เกิดเสียงตัวโน้ตขึ้นมา ซึ่งแต่ละช่องก็จะมีโน้ตที่ต่างกันออกไป และเสียงก็จะออกมาทางช่องที่อยู่บนสุด     พื้นที่แห่งนี้ถือเป็นที่นิยมมากสำหรับการมานั่งพักผ่อน ทานข้าวกลางวันสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้คนในแถบนั้น ซึ่งก่อนหน้านั้นพื้นที่แห่งนี้ได้ถูกทำลายไปเยอะจากสงครามโลกครั้งที่สอง และนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้กลับมาน่าอยู่ได้     ไปฟังเสียงเพลงที่มันสร้างกันเลย   ที่มา  upworthy

โลกเรายิ่งมีสิ่งที่วิทยาศาสตร์ให้คำตอบไม่ได้อยู่มากมาก และวันนี้เหมียวก็จะพาทุกท่านไปพบกับป่าแห่งหนึ่งในประเทศโปแลนด์ ซึ่งป่าแห่งนี้มีต้นไม้ที่มีรูปร่างประหลาดขึ้นมากว่า 400 ต้น ความจริงแล้วต้นไม้ชนิดนี้คือต้นสนที่ขึ้นอยู่ในป่าที่ West Pomerania แต่ด้วยความแปลกของมันนั่นก็คือลำต้นมันจะบิดงอ ก่อนที่ยะยาวขึ้นไป ทำให้เป็นที่สนใจต่อผู้คนจำนวนมาก เพราะมันมีมากถึง 400 ต้นที่เป็นแบบนี้     เดินทีต้นไม้พวกนี้ถูกปลูกมาตั้งแต่ปี 1930 โดยที่มันมีลักษณะที่เมื่อมันพ้นจากพื้นดินแล้ว มันจะหักเป็นมุม 90 องศา ก่อนที่จะโค้งขึ้นไปข้างบนเป็นต้นไม้ปกติ ถือเป็นความงดงามจากธรรมชาติที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน และภาพเหล่านี้ก็ถ่ายโดยช่างภาพที่ชื่อว่า Kilian Schönberger     ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่าต้นไม้เหล่านี้ทำไมมันถึงมีรูปร่างประหลาด ซึ่งหลายคนก็ต่างตั้งสมมติฐานไปต่างๆนานา   ที่มา colossal

การไว้หนวดถือเป็นแฟชั่นอย่างหนึ่งที่คนสมัยนี้นิยมกันมาก เพราะมันจะทำให้เราดูขรึมขึ้นมาทันที แต่การไว้หนวดยาวๆนั้นก็มีข้อเสียอยู่ด้วย นั่นก็คือเวลาที่คุณจะกินอะไรแต่ละครั้ง มันก็ต้องมีเศษอาหารติดหนวดอยู่เสมอ เพื่อจัดการกับปัญหานี้ จึงมีคนคิดอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันหนวดคุณจากอาหารต่างๆ สิ่งนี้ประดิษฐ์โดย ODD Company บริษัทจากประเทศสวีเดน จริงๆแล้วก็ไม่ใช่ของใหม่หรอก เพราะมันมีมาตั้งแต่ยุค 1890 แล้ว แต่เขาได้นำเอามาทำให้และตั้งชื่อว่า “The Stache Shield” เพียงแค่สวมใส่ หนวดของคุณก็จะไม่เปื้อนอาหารอีกต่อไปแล้ว     เพียงแค่คุณรัดสายนี้เข้ากับหัวของคุณแค่นั้นแหละ ง่ายๆเลย ตอนนี้ก็มีการระดมทุนเพื่อผลิตในเว็บ kickstarter.com ใครสนใจก็ลองไปดูกันได้ ที่มา boredpanda

รู้หรือไม่ว่าในวันที่ 11 พฤศจิกายนของทุกปี จะเป็นวัน “พับกระดาษ” ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการพับกระดาษนั้นถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสงบสุข แต่แท้ที่จริงแล้ว การพับกระดาษหรือที่เรียกกันว่าโอริกามินั้นเดิมทีไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ในยุคญี่ปุ่นโบราณนั้น โอริกามินั้นใช้วิธีการตัดแทน ซึ่งมีอ้างอิงในกวีจากปี 1680 และหลังจากนั้น 100 ปีผ่านมาในยุโรป ได้มีอาจารย์ท่านหนึ่งชื่อว่า Friedrich Fröbel ได้สอนเด็กๆอนุบาลเกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์โดยใช้วิธีการพับกระดาษ ซึ่งระบบนี้ก็ได้ถูกนำเขาสู่ประเทศญี่ปุ่นหลังจากปี 1860 แล้วก็พัฒนามาเป็นโอริกามิในปัจจุบัน   ในตอนเด็กๆเราก็เคยเล่นพับกระดาษกันใช่ไหมล่ะ ส่วนมากเราก็พับเป็นรูปหัวใจ จรวด รถแข่งอะไรทำนองนี้ แต่วันนี้เหมียวจะพาทุกท่านไปชมงานศิลปะจากการพับกระดาษเจ๋งๆกัน แต่ละอันรายละเอียดเยอะมาก ไปดูกันเลย   ที่มา boredpanda

หลายคนอาจจะชอบการย้อมสีผมเป็นชีวิตจิตใจ เพราะมันทำให้เพิ่มความมันใจมากยิ่งขึ้นด้วยความเช้งขอสีที่เราเลือกนั่นเอง และสำหรับคนที่ย้อมมานั้นก็ต้องพบเจอกับปัญหารากผมดำขึ้นมาเนื้อจากผมเรายาวขึ้นเรื่อยๆ จะทำยังไงดีล่ะ บอกเลยว่าวิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบแต่วตัวจี๊ดๆ มาพร้อมกับทรงผมจี๊ดๆด้วยเช่นกัน เพราะเขากำลังฮิตเอากลิตเตอร์มาแปะตรงส่วนที่เป็นผมดำนั่นเอง เทรนด์นี้ถือว่ามาแรงมากๆใน Instagram เหมาะสำหรับสาวเปรี้ยวทั้งหลาย เราไปดูตัวอย่างกันเลย     เป็นยังไงกันบ้างล่ะ ใครที่กำลังคิดจะย้อมสีผม หรือย้อมแล้วอยากจะไปออกงาน แต่ดันมีรากผมขึ้นมา ลองเอาวิธีนี้ไปใช้ดูได้ รับรองว่าเจ๋งแน่นอน ที่มา  hellogiggles

คุณแม่คนนี้เธอมีชื่อว่า Holly Christensen เธอมีลูก 3 คน อีกทั้งยังเป็นพยาบาลทางด้านเนื้องอกวิทยาอยู่อะลาสก้าอีกด้วย สิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นที่สนใจคือการได้ถักโคเชต์เป็นวิกให้กับเด็กที่ไม่มีผมเนื่องจากผ่านการทำคีโมมา และเด็กเหล่านี้ก็กำลังเผชิญกับโรคมะเร็งอีกด้วย วิกไหมพรมที่เธอทำขึ้นมานั้นเธอได้ถามเด็กๆว่าชอบตัวละครตัวไหนในดิสนีย์ จากนั้นเธอก็จัดการถักเพื่อเป็นของขวัญให้แก่เด็กๆ และสร้างกำลังใจให้กับเด็กให้ผ่านโรคร้ายนี้ไปให้ได้ ไอเดียนี้เธอได้มาจากลูกของเพื่อนเธอ ซึ่งถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในวัยเพียง 2 ขวบ เธอให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC ว่า “เหมือนเป็นการให้กำลังใจหนูน้อยด้วยการนำเอาพลังเวทมนตร์เล็กๆมาให้เธอได้ผ่านอุปสรรค์ครั้งนี้ไปได้ และมันก็รู้สึกเหมือนได้พลังเวทมนตร์ทุกครั้งที่ได้ช่วยเหลือผู้คน”   หลังจากที่ลูกของเพื่อนวัย 2 ขวบของเธอถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เธอจึงต้องการจะเรียกกำลังใจให้เด็กน้อยคนนี้   “รู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่ต้องเสียผมบลอนด์อันงดงามของเธอไป ฉันก็เลยทำผมราพันเซลด้วยไหมพรมให้กับเธอ”   “ฉันต้องมีความรับผิดชอบเพื่อทำวิกเหล่านี้ให้กับเด็กหญิงที่กำลังประสบกับมะเร็ง”   อีกทั้งเธอยังโพสต์วิธีถักไหมพรมไว้ที่เว็บไซต์ themagicyarnproject อีกด้วย   นี่คือวิกผมที่ทำให้เด็กอีกคน เป็นรูปร่างของเจ้าหญิงจัสมิน   “การทำคีโมทำให้ผิวหนังบนหัวอ่อนโยนและเซนซิทีฟมากๆ วิกเหล่านี้จึงทำมาจากไหมพรมที่อ่อนนุ่มเป็นพิเศษ”   ไม่ว่าใครก็ทำวิกของตัวเองได้แล้วนำไปมอบให้กับเด็กๆได้ เพียงแค่เข้าไปที่เว็บ themagicyarnproject   หรือถ้าคุณถักไหมพรมไม่เป็น ก็อาจจะบริจาคเงินได้ที่โปรเจกต์ Gofundme   ที่มา boredpanda

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฏการณ์ “เมฆสึนามิ” เกิดขึ้นที่ New South Wales ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งจริงๆแล้วสิ่งนี้เรียกว่า Shelf Cloud ซึ่งก็คือ ปรากฏการณ์เมฆกันชน หรือ เมฆอาร์คัสนั่นเอง จะเห็นได้อย่างชัดเจนถ้ามองจากชายหาดบอนได เมฆขนาดมหึมากำลังลอยมาเหมือนกับคลื่นสึนามิ ยาวหลายกิโลเมตร ซึ่งภายหนัง กรมอุอตของทางออสเตรเลียก็ออกมาเตือนแล้วว่าจะเกิดฟ้าร้องรุนแรงและมีลมพายุฝนหนัก     เมฆอาร์คัส (Arcus) หรือ เมฆกันชน จะเกิดบริเวณฐานเมฆ และมีลักษณะโค้งเหมือนกันชนหน้ารถ เกิดจากปฏิกิริยาของเมฆฝนที่จะมีลักษณะโค้งลงมาใกล้พื้นดิน บริเวณฐานกลุ่มเมฆจะเป็นลมกด จากภาพเราก็จะเห็นได้ว่ามันลอยต่ำมากๆ   ที่มา dailytelegraph, astroeducation, boredpanda

  เทคโนโลยี “เจ็ตแพ็ค” นั้นถือเป็นเรื่องที่ไกลตัวเอามากๆ เราคงเคยเห็นมันจากในหนังมากมายหรือจะเป็นในเกม แต่ในชีวิตจริงนั้นเหมียวยังไม่เคยเห็นใครสร้างมันได้แล้วก็สามารถบินได้จริงๆเลย ในเว็บไซต์ JetPack Aviation เขาได้พัฒนาเครื่องเจ็ตแพ็คมานานกว่า 40 ปี แล้ว ซึ่งก็คือเมื่อปี 1970 ซึ่งเป็นตอนที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวไกลมาจนถึงตอนนี้ และเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เขาก็ได้ปล่อยคลิปการทดลองใช้เครื่องเจ็ตแพ็ค โดยบินอยู่รอบเทพีเสรีภาพ ถือเป็นเจ็ตแพ็คอันแรกของโลกเลยก็ว่าได้ที่สามารถพามนุษญืบินขึ้นสูงได้เพียงนี้ จากเมื่อก่อนที่เคยมีเจ็ตแพ็ตออกมาก่อนหน้านี้แล้วซึ่งใช้พลังงานเหมือนจรวดและเป็นแบบไอน้ำ แต่ครั้งนี้จะใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ไอพ่นของแท้ ซึ่งทำความเร็วได้ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งยังบินได้สูงถึง 3 กิโลเมตรได้เลย   เราไปชมคลิปการบินของเครื่องเจ็ตนี้กันเลยดีกว่า   อนาคตเราอาจจะได้เห็นคนขี่เจ็ตแพ็คบินว่อนเต็มท้องฟ้าเลยก็เป็นได้นะ ที่มา lifebuzz

เดี๋ยวนี้ทรงผมนี้กำลังมาแรงมากๆ สำหรับการมัดจุกอยู่บนหัวให้ดูเท่กิ๊บเก๋ เป็นหนุ่มเซอร์ ฮิปสเตอร์อะไรก็ว่ากันไป เหมียวก็มองว่ามันก็เท่ดีนะ เหมือนนักร้องสมัยก่อนเลย แต่สำหรับบางคนแล้ว การไว้ผมยาวเป็นอะไรที่ลำบากมากๆ เหมียวเคยไว้ยาวเหมือนกัน เปลี่ยนค่าแชมพูมากๆ อีกทั้งผมยังร่วมเป็นว่าเล่น แต่ตอนนี้ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปเพียงแค่คุณมีวิกผมจุกนี้!! คุณไม่จำเป็นต้องไว้ผมยาวเฟื้อยก็ได้ เพียงแค่ไว้พอประมาณ ให้เวลาติดผมจุกนี้ไปจะได้ดูเนียนๆ สินค้านี้มีขายจริงๆที่  Amazon และ Groupon ซึ่งคูรสามารถสั่งซื้อได้เลย ราคาประมาณ 350 บาท เพื่อแลกกับความเท่ เป็นอะไรที่เวิร์คมากๆ     แต่ประเด็นคือถ้าเราหน้าตาไม่ดีแล้วใส่อันนี้ มันจะช่วยให้เราหน้าตาดีเหมือนนายแบบพวกนี้ไหมเนี่ย ที่มา boredpanda

“เมฆ” เป็นสิ่งที่เรามองเป็นทุกวัน ในตอนเด็กๆ เรามักจะจินตนาการว่าเมฆก้อนนั้นเหมือนกับอะไร เมฆก้อนนี้คือสัตว์ตัวไหน เสริมสร้างจินตนาการให้กับเราเป็นอย่างมาก พอโตขึ้น เราเริ่มได้เรียนรู้ว่าเมฆลักษณ์นี้เรียกว่าอะไร ถ้าเมฆเป็นรูปทรงแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น ถือเป็นความรู้ที่เราสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ แต่บางทีเราก็เจอเมฆรูปทรงแปลกๆ ไม่เหมือนกับที่เราเรียนมาเลย วันนี้เหมียวจะพาทุกท่านไปท่องโลกกว้าง เพื่อไปพบกันเมฆรูปร่างประหลาด บางอันสวยงามมากๆ บางอันก็น่ากลัว แต่รับรองว่ามันมีอยู่จริงแน่ๆ เพียงแต่ว่ามันเกิดขึ้นยากเท่านั้นเอง   1.   2.   3.   4.   5.   6.   7.   8.   9.   10.   11.   12.   13.   14.   15.   16.   17.   18.  …

ชีวิตนี้มันต้องมีบ้างแหละที่จะต้องเจอเรื่องที่บังเอิ๊ญบังเอิญ ไม่ว่าจะบังเอิญไปกินร้านอาหารที่อยากกินมานานแต่ดันปิดซะงั้น บังเอิญเจอคนที่เราแอบชอบ แต่เขาดันเดินมากับแฟน พูดแล้วก็เจ็บ อะเฮื้ออออ แต่สำหรับ Cordelia Roberts และ Ciara Murphy เหมียวว่าเป็นการบังเอิญที่อลังการงานสร้างมากๆ เพราะทั้งคู่มีหน้าตาที่เหมือนกัน มาจากคนละประเทศ แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมาพบกันได้ Cordelia เป็นนักเรียนมาจากประเทศอังกฤษ ส่วน Ciara มาจากประเทศไอร์แลนด์ พวกเธอได้มาเรียนต่อที่เยอรมนีโดยลำพัง และไม่คิดว่าเรื่องราวแบบนี้จะเกิดขึ้น เมื่อหลายคนเริ่มถามพวกเธอว่ามีพี่หรือน้องสาวเรียนอยู่ที่นี่รึเปล่า   แน่นอนว่าเจอคำถามแบบนี้ไป เป็นใครก็ต้องงง เพราะเธอมาคนเดียว จนทั่งคู่ได้พบกันแบบบังเอิญๆ แล้วก็ถึงกับเงิบ   เพราะหน้าตาช่างเหมือนกันเหมือนเกิน แถมยังมาเรียนที่เดียวกัน มาจากคนละที่เหมือนกันอีกด้วย   เวลาเธอไปเจอใคร ก็มักจะมีคนทักว่าเคยเจอคนหน้าแบบนี้มาก่อนแล้ว   จนในที่สุด ทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน จนหลายคนมองว่าพวกเขาเป็นฝาแฝดกันจริงๆเลย     ที่มา wittyfeed

มีเด็กทารกหลายพันชีวิตที่ไม่ได้มีโอกาสลืมตาขึ้นมาดูโลกภายนอก เรื่องจากเกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง ทำให้เด็กเหล่านั้นเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ด้วยเหตุนี้ ครอบครัวหนึ่งจึงคิดที่จะระดมทุนเพื่อนำเงินไปช่วยเหลือเด็กที่ยังไม่เกิดในแถบแอฟริกา คุณพ่อได้นำเอาพู่กันไปติดตรงที่ท้องของแม่ แล้วรอจังหวะที่ลูกในท้องกำลังดิ้นเพื่อให้พู่กันนั้นได้ขยับแล้ววาดลวดลายลงบนผ้าใบที่เตรียมไว้ เกิดเป็นงานภาพวาดแอ็บสแตร็กที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ภาพวาดเหล่านี้จะถูกนำไปประมูล เพื่อนำเงินไปบริจาคทั้งหมด   และนี่คือคลิปเบื้องหลัง ที่มา boredpanda

“เค้ก” ถือเป็นของคู่งานวันเกิดทุกงานเลย ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กงานใหญ่ ก็ต้องมีเค้กไว้แจกจ่ายให้กับคนที่มาร่วมงาน เพราะมันเป็นของกินที่ดูเหมาะสำหรับงานวันเกิดที่สุดแล้ว แถมตอนนี้ก็ยังไม่มีขนมอะไรปักเทียนแล้วดูสวยเท่าเค้กแล้วล่ะ ถ้าไม่รังเกียจที่จะกินกระทงอ่ะนะ แต่วันนี้เหมียวไปเจอเค้กชนิดหนึ่งที่ถือว่าตอบโจทย์มากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ แถมยังไม่ต้องกลัวอ้วนอีกด้วย เพราะที่ญี่ปุ่นตอนนี้กำลังมีเทรนด์ใหม่ เมื่อคุณไปกินเลี้ยงวันเกิดตามร้านยากินิกุ (ปิ้งย่าง) แทนที่จะสั่งเค้กธรรมดา ทำไมเราไม่สั่งเค้กเนื้อซะเลยล่ะ     เทรนด์นี้เริ่มมาจากจุดเล็กๆ แล้วก็เริ่มขยายไปเรื่อยๆ จนก็ทั่งไปถึงภาคครัวเรือนกันเลยทีเดียว บางคนก็เสิร์ฟแบบดิบๆ ให้ไปปิ้งเอง บางครอบครัวก็เสิร์ฟสุกๆ พร้อมคีบกินได้ทันที ก็แล้วแต่ความชอบ ลองนึกภาพสิว่างานวันเกิดของเรา มีเตาอยู่ตรงกลาง แล้วเพื่อนก็ยกเนื้อเป็นก้อนๆมาให้แบบนี้ แล้วก็ทำการจับปิ้งๆๆๆๆๆๆ มันจะหอมหวนและฟินแค่ไหน ขอคาราวะคนคิดเลยจริงๆ   ที่มา sobadsogood

ถ้าใครเคยดูซินเดอเรลล่า ก็คงรู้ดีว่าเธอไม่ใช่เจ้าหญิงธรรมดา ก่อนหน้าที่จะเป็นเจ้าหญิงรูปงามนั้น ตอนอยู่ที่บ้าน เธอต้องเป็นสาวรับใช้ และมีแม่เลี้ยงใจร้ายคอยโขกสับเธออยู่เสมอ จนกระทั่งได้มีนางฟ้าใจดี เสกคาถาให้เธอได้มีชุดเจ้าหญิงแสนสวยไว้ใส่ ถือเป็นซีนที่เด็กผู้หญิงหลายคนอยากจะมีแบบนี้บ้างสักครั้งในชีวิต     เธอคนนี้ชื่อว่า Bubbly Bee ได้ประดิษฐ์ชุดของซินเดอเรลล่าแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ด้วยการดีไซน์อันชาญฉลาด ทำให้ชุดนี้สามารถแปลงร่างได้ จากสาวใช้ธรรมดาๆ ก็กลายเป็นเจ้าหญิงรูปงามภายในพริบตาเลยทีเดียว     เราไปชมคลิปการเปลี่ยนร่างของเธอกันเลย ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ก็สวยเช้งขึ้นมาทันที เจ๋งสุดๆ   ที่มา sobadsogood

วันนี้เหมียวมีสิ่งประดิษฐ์เจ๋งๆมานำเสนอ สำหรับคนรักต้นไม้โดยเฉพาะ เคยมั้ยเวลาที่เราอยากจะปลูกต้นไม้เล็กๆไว้ประดับห้อง แต่ก็กลัวว่าจะไม่มีเวลารดน้ำ แต่ถ้าจะให้ซื้อกระถางแบบที่ดูดน้ำเอง มันก็ไม่ค่อยจะสวยเท่าไหร่ วันนี้เหมียวมีสินค้าเจ๋งๆมาให้ดูกัน สิ่งนี้ก็คือกระถางจิ๋วรูปสัตว์แสนน่ารัก โดยกระถางอันนี้ก็เป็นแบบที่ดูดน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นไม้ของเราตลอดเวลา เหมาะสำหรับคนไม่ค่อยว่าง แต่อยากมีต้นไม้จริงๆไว้ประดับห้อง     เพียงแค่เรามีแก้วน้ำสักใบ แล้วก็เอาเจ้าสัตว์เหล่านี้ไปห้อย มันก็จะดูดน้ำจากแก้วไปหล่อเลี้ยงต้นไม้ของเราให้โต แล้วดูเหมือนกันว่าสัตว์กำลังหิวน้ำ ดูดน้ำไปเรื่อยๆเลย     ถือเป็นไอเดียที่น่ารักสุดๆ ใครอยากได้ก็ลองไปสั่งซื้อที่ Amazon ดูนะ   ที่มา boredpanda

ในการแข่งขันกีฬา เราไม่ควรยอมแพ้ ถึงแม้จะเป็นวินาทีสุดท้ายแล้วก็ตาม เราคงเคยเห็นบ่อยๆ ที่จะมีช็อตเกมพลิกกลับมาชนะได้ ถึงแม้เวลาจะเหลือน้อยเต็มที อันนี้ก็แล้วแต่ทีมด้วย เพราะบางทีมก็อาจจะถอดใจไปแล้ว วันนี้เหมียวจะพาไปดูสปิริตแรงกล้าของบาสรุ่นเล็ก นี่คือการแข่งขันบาสฟุกุโอกะฤดูร้อนรอบสุดท้าย ระหว่างทีม โมโมชิ ชู้ตติ้งสตาร์ (สีขาว) และทีม วาจิโระฮิงาชิ (สีดำ) ซึ่งทั้งสองก็เล่นกันอย่างเต็มที่มากๆ   ทั้งสองทีมพลัดกันรุงพลัดกันรับ จนคะแนนตีคู่สูสีเป็นอย่างมาก   แต่แล้วเมื่อใกล้จะจบเกม ฝั่งโมโมชิ ชู้ตติ้งสตาร์ (สีขาว) ได้จุดโทษ ทำให้ทีมกลับมานำอีกครั้ง ซึ่งตอนนั้นเหลือเวลาแค่ 2 วินาทีเท่านั้น   แต่ทีมวาจิโระฮิงาชิ (สีดำ) ก็ยังไม่ยอมแพ้ เราไปชมลูกชู้ตปิดท้ายที่ทำให้ทีมกลับมาชนะกันเลยดีกว่า   งานนี้บอกเลยว่าเด็กญี่ปุ่นเขาสู้สุดใจจริงๆ ถึงแม้ว่าโอกาสจะชู้ตเข้ามีน้อยมากๆ แต่เขาก็ลองเสี่ยงโยนไปดู และผลที่ได้ก็ประสบความสำเร็จแบบนี้แหละ อึ้งกันทั้งสนาม… ที่มา Momochi Shootingstars

คุณพ่อศิลปินชาวเนเธอแลนด์คนหนึ่งชื่อว่า Frans Hofmeester เขาได้ทำโปรเจกต์หนึ่งเป็นเวลา 16 ปีเต็ม เพราะเขาต้องเก็บภาพของลูกสาว Lotte ของเขาทุกๆสัปดาห์ ในแต่ละเทปนั้นจะมีความยาว 15 วินาที ตั้งแต่เธอเกิด จนตอนนี้เธออายุ 16 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้คุณพ่อ Hofmeester ก็เคยทำคลิปแบบนี้มาแล้วกับลูกสาว ซึ่งตอนนั้นเธออายุได้ 14 ปีเท่านั้น และตอนนี้เธอก็โตเป็นสาวเรียบร้อยแล้ว เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายยิ่งกว่าเดิม คุณพ่อได้นำเอาคลิป 15 วินาทีเหล่านั้นมาต่อกัน แล้วเร่งความเร็วทำเป็นวิดีโอ Time-lapse ความยาว 4 นาทีครึ่ง ซึ่งเราก็จะได้เห็นการเติบโตอย่างชัดเจน   ตั้งแต่ยังแบเบาะ   วัยอนุบาล   วัยประถม   วัยมัธยมดัดฟัน   ถอดเหล็กออกแล้ว   เราไปชมคลิปการเปลี่ยนแปลงของเธอกันเลยดีกว่า   คาดว่าในอนาคต คุณพ่อจะทำคลิปของ Lotte ออกมาเรื่อยๆ เสมือนว่าเธอโตมาพร้อมๆกับเรา ถ้าวันหนึ่งเราแก่ขึ้น กลับมาดูคลิปของเธออีกครั้ง เธอก็คงจะกลายเป็นเด็กมหาลัยหรือวัยทำงานไปแล้ว ที่มา Hofmeester