Tag: ซีเรีย

  • พ่อลูกชาวซีเรียใช้ ‘กระป๋อง’ มาทำเป็นขาเทียม เพราะไม่มีเงินไปซื้อขาเทียมจริงๆ

    พ่อลูกชาวซีเรียใช้ ‘กระป๋อง’ มาทำเป็นขาเทียม เพราะไม่มีเงินไปซื้อขาเทียมจริงๆ

    โดยปกติแล้วการต้องเป็น ‘ผู้พิการ’ ย่อมทำให้การใช้ชีวิตเป็นเรื่องที่ยากลำบากอยู่แล้ว และยิ่งต้องตกเป็นผู้พิการในประเทศที่กำลังตกอยู่ในช่วงภัยสงครามอย่างซีเรียแล้ว ยิ่งทำให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบากกว่าเดิมหลายเท่าตัวนัก นี่คือเรื่องราวของ Maya Ali Merhi จากประเทศซีเรีย เธอเกิดมาโดยที่ไม่มีอวัยวะช่วงล่าง โรคนี้เป็นโรคทางพันธุกรรมที่มีชื่อว่าภาวะ Congenital Amputation เช่นเดียวกันกับพ่อของเธอ นาย Mohammed เองก็ป่วยเป็นโรคนี้ด้วยเช่นกัน     ครอบครัวของพวกเอาอาศัยอยู่ในค่ายของผู้อพยพ และไม่มีเงินมากพอที่จะไปซื้อขาเทียมมาใส่ พ่อของ Maya จึงประดิษฐ์ขาเทียมขึ้นมาใช้งานเองด้วย ‘กระป๋อง’ ที่พันรอบๆ ด้วยผ้า “หัวใจของผมรู้สึกเจ็บปวด เมื่อได้เห็นลูกสาวของผมยืนอยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ ขณะที่พวกเขาวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน” “มันเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากมากๆ แต่อย่างน้อยถ้าเรามีเจ้ากระป๋องนี้ ก็ดียังกว่าไม่มีอะไรเลย” คุณพ่อกล่าว     ครอบครัวของ Maya ต้องหลบหนีออกมาจากเมือง Aleppo ที่ต้องตกเป็นพื้นที่ทำสงคราม แม้ว่าจะต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแต่สักวันหนึ่งคุณพ่อก็มีความใฝ่ฝันว่าลูกสาวของตัวเองจะสามารถเดินได้ปกติเหมือนกับคนทั่วๆ ไป อ้างอิงจากรายงานขององค์กรการกุศลในประเทศซีเรีย พบว่ามีผู้คนมากกว่า 13 ล้านคนที่ยังคงต้องการการรักษาพยาบาล และอุปกรณ์ทางการแพทย์ จากจำนวนนี้เป็นเด็กมากกว่า 5 ล้านคน เพราะประชากรหลายคนต้องหลบหนีจากภัยสงคราม ทำให้ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง ต้องตั้งแคมป์อยู่กันอย่างยากลำบาก…

  • สื่อนอกเผย หัวหน้า ISIS ระดับสูง ผู้สั่งประหารเผานักบินในกรงทั้งเป็น ถูกจับกุมตัวได้แล้ว!!

    สื่อนอกเผย หัวหน้า ISIS ระดับสูง ผู้สั่งประหารเผานักบินในกรงทั้งเป็น ถูกจับกุมตัวได้แล้ว!!

    ความวุ่นวายบนผืนแผ่นดินซีเรียยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงในเร็ววัน มันยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เปรียบเสมือนดั่งนรกบนดิน มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก… อีกทั้งยังมีการแสดงเจตนาอันร้ายแรง ประกาศศักดาให้โลกได้รับรู้ของความเหี้ยมโหดเกินมนุษย์ของกลุ่ม ISIS ที่มักจะมีการปล่อยภาพคลิปวิดีโอประหารตัวประกันผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งเบื้องหลังเหล่านั้นมีผู้บัญชาการกลุ่ม ISIS ระดับสูงคอยบงการอยู่ และครั้งหนึ่งที่โลกได้จดจำความโหดร้ายจากการกระทำอันโหดเหี้ยม เผานักบินเชลยชาวจอร์แดนทั้งเป็นในกรง จากปี 2015 บัดนี้ 1 ใน 4 ผู้บัญชาการระดับสูง ถูกจับกุมตัวในอิรักแล้ว…   Saddam al-Jamal หนึ่งในผู้นำระดับสูงของกลุ่ม ISIS ถูกจับกุมตัวได้แล้ว (ภาพจากการแถลงข่าวผ่านฝั่งรัฐบาลอิรัก)   เว็บไซต์เดลี่เมลเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2018 Saddam al-Jamal หนึ่งในผู้บัญชาการระดับสูงของกลุ่ม ISIS ถูกจับกุมตัวและคุมขังจากการกระทำที่เชิดชูลัทธิแห่งความตาย นิยมความโหดเหี้ยมด้วยการตัดหัวนักโทษและเชลยศึก ทางด้านหน่วยความมั่นคงประเทศจอร์แดน เชื่อว่าเขาเป็นผู้ชักใยการฆ่าอันโหดเหี้ยมที่เกิดขึ้นกับนักบิน Muath al-Kasasbeh ในปี 2015 ของกองทัพอากาศจอร์แดน ที่ถูกยิงเครื่องตกในเมืองอัรร็อกเกาะฮ์ ประเทศซีเรีย   Muath al-Kasasbeh นักบินชาวจอร์แดนที่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม   ซึ่งภายหลังจากที่ถูกยิงตกไม่กี่สัปดาห์ ISIS ได้ปล่อยวิดีโอคลิปที่เผยให้เห็นนักบินวัย…

  • ชายผู้ขับเคลื่อน #IAmStillAlive รวมใจผู้บริสุทธิ์กลางสงคราม เสียชีวิตจากเหตุทิ้งระเบิดแล้ว

    ชายผู้ขับเคลื่อน #IAmStillAlive รวมใจผู้บริสุทธิ์กลางสงคราม เสียชีวิตจากเหตุทิ้งระเบิดแล้ว

    “ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางระหว่างความตาย, ทั้งถูกปิดล้อมและลอบวางระเบิด ผมอยากจะเชิญชวนคนทั้งโลกยืนหยัดสู้ไปกับเรา” Ahmad Hamdan ความขัดแย้งภายในประเทศที่ยังไม่มีทีท่าจะจบลงง่ายๆ ของซีเรียนั้น ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากมายมหาศาล ทั้งในเรื่องของโครงสร้างประเทศ เศรษฐกิจ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่หลงเหลือคือเศษซากบ้านเรือน และร่างอันไร้วิญญาณของประชาชนผู้บริสุทธิ์…   Ahmad Hamdan นักเคลื่อนไหวด้านสังคมและนักสร้างภาพยนตร์ วัย 26 ปี อาศัยอยู่ในย่านชานเมือง Ghouta ของประเทศซีเรีย   เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Hamdan ได้ใช้แฮชแท็ก #IAmStillAlive บนเฟสบุ๊กของเขา หวังเพื่อจะให้ผู้คนสนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศของตน   “พวกเรายังมีชีวิตอยู่ ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางระหว่างความตาย ทั้งถูกปิดล้อมและลอบวางระเบิด ผมอยากจะเชิญชวนคนทั้งโลกยืนหยัดสู้ไปกับเรา และเริ่มแคมเปญของเราในวันนี้ด้วย #IAmStillAlive ขอเชิญชวนผู้คนทั้งโลกยืนหยัดไปกับเรา” ข้อความที่ Hamdan เขียนไว้ในโพสต์     ย่านชานเมือง Ghouta นั้นเป็นฐานที่มั่นของฝ่ายกบฎ และถูกฝ่ายรัฐบาลทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 5 ปี ประชาชนหลายพันชีวิตยังคงติดอยู่ภายในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่ใจกลางระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายกบฎ   และหลังจากที่ Hamdan ได้เริ่มต้นใช้…

  • สื่อนอกรายงาน เกาหลีเหนือสนับสนุนซีเรีย ขนส่งอุปกรณ์และวัสดุผลิตอาวุธเคมีไปให้

    สื่อนอกรายงาน เกาหลีเหนือสนับสนุนซีเรีย ขนส่งอุปกรณ์และวัสดุผลิตอาวุธเคมีไปให้

    The New York Times ได้รายงานว่า เกาหลีเหนือนั้นได้แอบส่งชิ้นส่วนอาวุธไปให้ประเทศซีเรีย หลังจากมีคนเห็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธของเกาหลีเหนือบริเวณโรงงานผลิตอาวุธของซีเรีย ข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่มีรายงานว่ากองทัพซีเรียได้ใช้แก๊ซคลอรีน ซึ่งทางการก็ได้ปฎิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ส่วนทางด้านเกาหลีเหนือนั้น ยังคงอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรจากนานาประเทศอยู่ หลังจากที่พวกเขาไม่ยอมหยุดพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ นั่นจึงทำให้การจัดส่งชิ้นส่วนอาวุธดังกล่าว ถือเป็นการขนส่งอย่างผิดกฎหมาย โดยมีรายงานว่าชิ้นส่วนประกอบไปด้วย กระเบื้องที่ทนทานต่อกรด, วาล์ว, วาล์วป้องกันการกัดกร่อน, และเครื่องวัดอุณหภูมิ     จากวัสดุดังกล่าวนั้นทำให้สื่อนอกได้รายว่าว่า ทางเกาหลีเหนือจะร่วมมือกับทางซีเรียเพื่อช่วยกันสร้างโรงงานผลิตอาวุธเคมี ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีการส่งของทำนองเดียวกันมายังประเทศซีเรียผ่านระบบขนส่งของจีนเมื่อปี 2016 และต้นปี 2017 อย่างไรก็ตาม ทางสหประชาชาติได้ส่งคนเข้าไปตรวจสอบและสอบถามโดยตรงกับทางรัฐบาลซีเรีย รัฐบาลซีเรียปฏิเสธและตอบกลับมาว่า “ทางการเกาหลีเหนือได้ส่งมาแค่ โค้ชนักกีฬาเท่านั้น”     ซึ่งคำพูดจากรัฐบาลซีเรียดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่เชื่อถือได้ยาก เพราะทางการซีเรียและเกาหลีเหนือนั้นมีความสัมพันธ์อันดีเกี่ยวกับการวิจัยอาวุธมาเป็นเวลานาน     ด้วยเหตุนี้ทางการสหรัฐอเมริกาจึงตัดสินใจจะเดินหน้าแผนการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือใหม่ ด้วยการตัดรายได้และสายการผลิตทรัพยากรเพื่อโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และจะพยายามเลี่ยงข้อจำกัดเดิมที่มีอยู่แต่ต้น   ที่มา abc, bbc, nytimes

  • ผู้นำตุรกี หอมแก้มปลอบเด็กหญิงชุดทหารที่กำลังร้องไห้ และพูดให้เด็กพร้อมรบในซีเรีย…

    ผู้นำตุรกี หอมแก้มปลอบเด็กหญิงชุดทหารที่กำลังร้องไห้ และพูดให้เด็กพร้อมรบในซีเรีย…

    เมื่อวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2018 ระหว่างการขึ้นปราศรัยของนาย Recep Tayyip Erdogan ได้มีภาพวิดีโอที่ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก… หลังจากที่ผู้นำของตรุกีได้เข้าปลอบประโลมเด็กหญิงรายหนึ่งในชุดทหาร พร้อมกับบอกว่าเธอจะได้รับเกียรติอย่างมากถ้าหากเสียสละชีวิตในสงคราม   นาย Recep Tayyip Erdogan และเด็กหญิงในชุดของกองกำลังพิเศษตุรกี   จากรายงานเผยว่าสาวน้อยรายดังกล่าวคือ Amine Tiras อายุ 5 ขวบ เธอถูกประธานาธิบดีเรียกตัวขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับหอมแก้มทั้งสองข้างของเธอและพูดว่า… “เธอเห็นอะไรบ้างสาวน้อย เธอมาทำอะไรที่นี่หรือ ตอนนี้เธอกำลังสวมหมวกเบเรต์สีแดงเลือดหมูอยู่ และผู้ที่สวมหมวกใบนี้ไม่เคยร้องไห้นะ”     “เธอมีธงชาติติดอยู่ที่กระเป๋าเสื้อ ถ้าหากเธอเสียชีวิตในสนามรบ เราจะคลุมร่างของเธอด้วยธงชาติ” คำกล่าวของประธานาธิบดีแห่งตุรกี ในระหว่างการถ่ายทอดสดของโทรทัศน์ของพรรค AK และสุดท้ายนาย Erdogan ก็ได้ถามเด็กหญิงวัย 5 ขวบว่าเธอพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อชาติใช่หรือไม่ ก่อนที่สาวน้อยจะพยักพร้อมกับตอบว่า “ใช่”      การกระทำดังกล่าวได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายตรงข้ามรวมถึงชาวเน็ตที่รับชมการถ่ายทอดสดอย่างมาก บางคนรู้สึกเสียใจอย่างมาก ที่ได้เห็นภาพดังกล่าวออกมาจากการกระทำของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำประเทศ พร้อมกับบอกว่าเขาทำผิดอย่างรุนแรงที่กล่าววาจาว่าพระเจ้าจะยินดีกับการตายของเด็ก… ตุรกีได้ทำการส่งทหารเข้าร่วมปราบกองกำลังชาวเคิร์ดในภูมิภาค Afrin ของซีเรียตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา และนาย Erdogan ก็ได้กล่าวว่าจะทำการย้ายทหารไปยังภูมิภาค Manbij ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนคาดว่าการย้ายกองกำลังในครั้งนี้จะทำให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นกว่าเดิม     ที่มา buzzfeed, dailymail

  • ‘นรกบนดิน’ ภาพอันน่าสลดใจของชาวซีเรีย หนีระเบิดล้างบางกลุ่มกบฎ ยอดเสียชีวิตพุ่งสูง 400 ราย

    ‘นรกบนดิน’ ภาพอันน่าสลดใจของชาวซีเรีย หนีระเบิดล้างบางกลุ่มกบฎ ยอดเสียชีวิตพุ่งสูง 400 ราย

    ปัจจุบัน ประเทศซีเรียยังคบประสบปัญหาสงครามกลางเมืองที่เกิดจากการที่ประชาชนจำนวนมากต่อต้านระบอบการปกครองของผู้นำคนปัจจุบัน ประธานาธิบดี Bashar al-Assad มายาวนานถึง 7 ปีและนั่นจึงทำให้เหล่าผู้ต่อต้านต้องเจอกับการโต้กลับของรัฐบาลทหารที่น่ากลัว ผู้นำของประเทศซีเรียตัดสินใจสั่งกองกำลังทางอากาศบุกเข้าโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มผู้ต่อต้านที่ตั้งอยู่ในเขต Eastern Ghouta ติดกับเมืองหลวง Damascus ที่มีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 400,000 คน ซึ่งการโจมตีด้วยการทิ้งระเบิดครั้งนี้ไม่มีการแจ้งอพยพประชาชนแต่อย่างใด   ภาพในพื้นที่ที่เกิดการทิ้งระเบิดครั้งนี้   เขตที่ระบายสีเขียว คือจุดที่เกิดการสูญเสียเป็นจำนวนมาก   พื้นที่ดังกล่าวถูกควบคุมด้วยกลุ่มชาวอิสลาม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้มีเพียงแค่ผู้ต่อต้านหรือผู้ก่อการร้าย เพราะยังคงมีประชาชนตาดำๆ อาศัยอยู่ไม่น้อยเลย การโจมตีในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2018 และมีติดต่อกันมาเรื่อยๆ เป็นเวลานานกว่า 5 วัน โดยจากการรายงานของกลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนของซีเรียบอกว่าการทิ้งระเบิดดังกล่าวคร่าชีวิตประชาชนไปอย่างต่ำ 403 คน มีเด็กรวมอยู่ในนั้นถึง 95 คน   ภาพของชายหนุ่มอุ้มศพของเด็กที่ตายไปไว้ในอ้อมแขน   การช่วยเหลือกันของผู้คนในพื้นที่   สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนในละแวกดังกล่าวและใกล้เคียงบาดเจ็บกันมากกว่า 1,500 คน ยังไม่รวมผู้ประสบภัยที่อาจจะถูกฝังอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังจำนวนมาก ยอดการตายในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เพียงวันเดียวก็สามารถคร่าชีวิตไปได้มากกว่า 50…

  • เผยสภาพอันย่ำแย่ภายในค่ายลี้ภัย Moria ต้องรองรับผู้ลี้ภัย 7,000 คน สวรรค์ที่ไม่มีจริงอีกต่อไป…

    เผยสภาพอันย่ำแย่ภายในค่ายลี้ภัย Moria ต้องรองรับผู้ลี้ภัย 7,000 คน สวรรค์ที่ไม่มีจริงอีกต่อไป…

    ประเทศซีเรีย ยังคงอยู่ในช่วงของภาวะสงครามมาจนถึงปัจจุบัน จนทำให้ผู้คนจำนวนมากตัดสินใจลี้ภัยออกมา เพื่อหวังจะมาอาศัยอยู่ในค่ายอพยพเพราะเชื่อว่าจะได้พบกับชีวิตที่ดีกว่าเดิม แต่ความเป็นจริงมันกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นซะทีเดียว หนึ่งในค่ายที่มีผู้อพยพไปเป็นจำนวนมากคือค่ายลี้ภัย Moria ตั้งอยู่บนเกาะเลสบอส ประเทศกรีซ ค่ายแห่งนี้เคยเป็นคุกมาก่อน เคยจุคนได้ 2,000 คน แต่ในปัจจุบันมันได้กลายเป็นค่ายที่มีผู้อพยพอาศัยอยู่มากกว่า 7,000 คน และได้ชื่อว่าเป็น “ค่ายอพยพที่เลวร้ายที่สุดในยุโรป”   ค่ายลี้ภัย Moria สถานที่ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับผู้อพยพในยุโรป   เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าการใช้ชีวิตกันอย่างแออัดและถูกล้อมด้วยกำแพงรอบด้านของคนเหล่านั้นจะเป็นอย่างไรกันบ้าง เพราะภายในเขตรั้วไม่สามารถนำกล้องเข้าไปได้ สำนักข่าว BuzzFeed เคยพยายามเข้าไปบันทึกภาพภายในสถานที่นี้ แต่ก็ถูกจับกุมตัวโดยเจ้าหน้าที่เสียก่อน ซึ่งให้เหตุผลกับสื่อว่า การเข้ามาถ่ายรูปภายในค่ายอพยพถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จนกระทั่งผู้อพยพใช้วิธีการส่งต่อภาพภายในนั้นผ่าน WhatsApp ด้วยสัญญาณมือถือ เพื่อให้คนด้านนอกรับรู้ว่าการใช้ชีวิตของพวกเขาเลวร้ายมากขนาดไหน   ทางเดินที่เต็มไปด้วยเต็นท์จำนวนมาก (หากดูไม่ได้ ให้กดที่ลิงก์ Twitter) This one taken after a recent rainstorm, shows the pathways of #MoriaCamp lined with ad…

  • วิถีชีวิตที่ใกล้ชิดกับสงคราม เผยภาพของประเทศซีเรียในมุมที่ไม่เคยเราเห็นมาก่อน

    วิถีชีวิตที่ใกล้ชิดกับสงคราม เผยภาพของประเทศซีเรียในมุมที่ไม่เคยเราเห็นมาก่อน

    สำหรับใครที่ติดตามข่าวต่างประเทศอยู่บ่อยๆ คงจะพอทราบกันดีเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศซีเรีย และข่าวของการสู้รบในพื้นที่ดังกล่าวอยู่บ่อยๆ แต่นอกจากภาพของความสูญเสียและซากปรักหักพังที่เราเคยเห็นกันตามสื่อต่างๆ แล้ว ในบางพื้นที่นั้นผู้คนของประเทศนี้ก็ยังคงใช้ชีวิตประจำวันของพวกเขากันตามปกติและแทบไม่ต่างอะไรกับคนทั่วๆ ไปเลย เมื่อไม่นานมานี้คุณ Christian Lindgr นักเดินทางหนุ่มผู้หนึ่งได้เดินทางไปยังเมืองดามัสกัส เมืองอะเลปโป และพื้นที่ชนบทอื่นๆ ในประเทศซีเรีย เขาได้เก็บภาพวิถีชีวิตพร้อมกับความสวยงามในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเผยให้เห็นภาพของประเทศซีเรียในมุมที่พวกเราไม่เคยเห็นมาก่อน   Umayyad Mosque มัสยิดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่เมือง ดามัสกัส ประเทศซีเรีย   Aleppo Citadel ป้อมปราการในยุคกลางที่ตั้งอยู่ในเมืองอะเลปโป ทางตอนเหนือของประเทศซีเรีย .   ภาพที่มองออกมาจากด้านในของ Aleppo Citadel   ภาพมุมสูงของเมืองอะเลปโป ที่มองจากป้อมปราการแห่งนี้   ภาพของหมู่บ้านชาวซีเรียที่ตั้งอยู่บนเขา   ผู้คนที่ออกมาทานอาหารด้านนอก ในร้านอาหารแห่งหนึ่งของเมืองดามัสกัส   ภาพด้านในของตลาดใหญ่ใจกลางเมืองหลวงของประเทศซีเรีย   คนขายน้ำผลไม้บนถนนสายหนึ่งในเมืองดามัสกัส   คนในพื้นที่ ที่ออกมาใช้ชีวิตกันตามปกติในเมืองหลวง   ถึงแม้ซีเรียกับภาวะสงครามนั้นจะเป็นของคู่กัน แต่คนในพื้นที่ก็ยังใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และนี่คือภาพของผู้คนที่ออกมาสังสรรค์กัน   คนขายนมบนถนนสายหนึ่งของเมืองดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศซีเรีย   หอศิลป์ที่ยังคงเปิดให้บริการตามปรกติในเมืองอะเลปโป   Krak…

  • ร่วมลิ้มลองอาหารฮาลาล จากฝีมือของผู้ลี้ภัยชาวซีเรียและอัฟกัน ที่พำนักชั่วคราวในไทย…

    ร่วมลิ้มลองอาหารฮาลาล จากฝีมือของผู้ลี้ภัยชาวซีเรียและอัฟกัน ที่พำนักชั่วคราวในไทย…

    หลายๆ คนอาจเคยได้ทราบข่าวคราวของสงครามซีเรีย ที่มีความขัดแย้งกันยาวนานมาเกือบ 7 ปี การปะทะกันจากหลายๆ ฝ่ายกลางเมืองซีเรีย ทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่กลายมาเป็นคนไร้บ้าน ต้องอพยพออกจากบ้านเกิดเพื่อลี้ภัยไปยังประเทศอื่นๆ มีชาวซีเรียและชาวอัฟกันส่วนหนึ่งได้เดินทางมาลี้ภัยที่ประเทศไทย โดยได้รับการช่วยเหลือจาก องค์การ The UN Refugee Agency หรือ UNHCR ให้ที่พำนักชั่วคราว เพื่อเตรียมส่งตัวไปยังประเทศที่สามต่อไป และในระหว่างที่ผู้ลี้ภัยบางส่วนที่ได้มาพำนักอยู่ภายในประเทศไทย ก็ได้พยายามทำในสิ่งที่พวกเขาพอจะทำได้เพื่อประทังชีวิต หาเลี้ยงตัวเองด้วยการทำอาหารออกมาขาย โดยที่ไม่รอเงินช่วยเหลือจากองค์กรต่างๆ เพียงอย่างเดียว ทางด้านสมาชิกเว็บพันทิปหมายเลข 1811852 จึงได้ตั้งกระทู้เพื่อประชาสัมพันธ์ได้ชาวเน็ตได้รับรู้ หลังจากที่ได้ไปแวะเวียนเยี่ยมชม และซื้ออาหารที่ศูนย์กลางอิสลามในซอยรามคำแหง 2 โดยอาหารที่นำมาขายล้วนแต่เป็นอาหารที่มาจากฝีมือของผู้ลี้ภัยชาวซีเรียและชาวอัฟกันทั้งสิ้น   อาหารที่ทางผู้ลี้ภัยได้นำมาขายแต่ละอย่างนั้น มีความน่ากินมากๆ อย่างแรกคือ Pastry รสชาติกลมกล่อม หอมเครื่องเทศ มีทั้งไส้เนื้อ ไส้ไก้ และไส้ชีส ในราคาเพียงชิ้นละ 20 บาท   ส่วนคุณลุงท่านนี้ขายฮัมมัสเป็นอาหารประเภทจิ้ม ไว้ทานกับแป้งนาน ในราคา 50 บาท อีกทั้งยังมีเคบับไก่ในราคา 60 บาทอีกด้วย  …

  • เผยภาพเหยื่อจากเหตุการณ์ทิ้งระเบิดในเมืองหลวงของซีเรีย ที่รุนแรงสุดในรอบ 2 สัปดาห์

    เผยภาพเหยื่อจากเหตุการณ์ทิ้งระเบิดในเมืองหลวงของซีเรีย ที่รุนแรงสุดในรอบ 2 สัปดาห์

    ****บทความนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง****   เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเผยแพร่ภาพของเหล่าเด็กน้อยวัยกำลังหัดเดินที่กำลังหวาดกลัวและร้องไห้ ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยบาดแผลที่เด็กๆ ไม่สมควรได้รับ ซึ่งมาจากการโจมตีทางอากาศของทหารซีเรีย เหล่าเด็กน้อยที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเขต Jobar เมือง Damascus ตกเป็นผู้รับกรรมจากการโจมตีครั้งนี้ ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่รู้เรื่องกับเหตุต่อต้านรัฐบาลเลยแม้แต่น้อย     เด็กน้อยที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด   การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการทำลายฐานที่มั่นของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าการระเบิดครั้งนี้ถือว่าเป็นระเบิดที่รุนแรงที่สุดในรอบ 2 เดือนเลยทีเดียว สำนักข่าว Daily Mail รายงานว่ารัฐบาลซีเรียได้รับการขอร้องจากรัสเซียให้มีการประกาศหยุดยิงในพื้นที่ดังกล่าวเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา     ทางรัสเซียอ้างว่ากำลังมีการเจรจากับกลุ่มผู้ประท้วงในหลายๆ พื้นที่เพื่อสร้างเขตปลอดอาวุธ และเพิ่มพื้นที่หยุดยิงให้มากขึ้น แต่ทางฝ่ายต่อต้านก็ได้ออกมากล่าว่า ทางรัสเซียเองนั่นแหละที่ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาในพื้นที่ตอนเหนือของชายแดนเมืองหลวง และยกเลิกพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นเขตหยุดยิง นอกจากนี้พวกเขายังบอกอีกว่าทางกองทัพซีเรียได้โจมตีผู้คนในพื้นที่ Eastern Ghouta      เหตุการณ์ดังกล่าวมีประชาชนผู้เสียชีวิตถึง 15 คนและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก แต่จากการตรวจสอบของฐานทัพอังกฤษในซีเรีย รายงานว่ามีจำนวนนายทหารผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 นาย พร้อมกับมีทหารบาดเจ็บและถูกจับเป็นตัวประกันอีกจำนวนมาก   แต่ไม่ว่าจะเป็นรายงานจากฝ่ายไหน สุดท้ายแล้วผู้ที่เสียชีวิตก็ล้วนแล้วแต่เป็นมนุษย์ด้วยกันทั้งนั้น   นี่คือสิ่งที่พวกเด็กๆ ควรได้รับอย่างนั้นหรือ??   พื้นที่ Eastern Ghouta…

  • ชาวเน็ตประทับใจ…ภาพการทานอาหารร่วมกันของ ‘ชาวบ้านในซีเรีย’ หลังเทศกาลถือศีลอด

    ชาวเน็ตประทับใจ…ภาพการทานอาหารร่วมกันของ ‘ชาวบ้านในซีเรีย’ หลังเทศกาลถือศีลอด

    นี่คือภาพการร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำหลังจากที่เพิ่งผ่านพ้นเทศกาลศีลอด ท่ามกลางซากปรักหักพังในเขต Douma ที่เป็นชานเมืองของกลุ่มกบฎในเมือง Damascus ประเทศซีเรีย หลังจากต้องเผชิญกับสงครามที่ยืดเยื้อมายาวนาน สำหรับการเฉลิมฉลองในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดย Adeleh Foundation องค์กรการกุศลที่ให้การสนับสนุนกับกลุ่มกบฏ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในประเทศตุรกี ในภาพจะเห็นประชาชนหลายสิบคนกำลังเพลิดเพลินกับมื้ออาหาร ซึ่งเป็นอาหารมื้อแรกหลังจากที่พวกถือศีลอดในช่วงเดือนแห่ง Ramadan ซึ่งเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่สิ้นสุดลงไปแล้วเมื่อช่วงต้นสัปดาห์     Adeleh บอกว่าพวกเขาจะจัดเลี้ยงอาหารจนถึงวัน Eid al-Fitr โดยจะเริ่มเลี้ยงอาหารในวันศุกร์หรือวันเสาร์ ตามปฏิทิน Ramadan “พวกเราต้องมีความระมัดระวังในความปลอดภัยของเหล่าชาวเมืองในการจัดงานเฉลิมฉลองแบบนี้ เพราะการโจมตีทางอากาศสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่เนื่องจากว่าการทำสัญญายกเลิกการโจมตีเมื่อเดือนที่ผ่านมา ทำให้เราสามารถวางใจได้ในระดับหนึ่ง” โฆษกของ Adeleh ให้สัมภาษณ์กับ BBC เขต Douma เป็นจุดที่เกิดการทำสงครามกันมายาวนานกว่า 6 ปี และตอนนี้ก็อยู่ในการครอบครองของกลุ่มกบฎชาวอิสลามที่มีชื่อว่า Jaish al-Islam แถมยังเคยถูกโจมตีทางอากาศมาตั้งแต่ปี 2012 และถูกล้อมโดยกองกำลังของรัฐบาลเมื่อปี 2013     ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านจะต้องทำการเฉลิมฉลองหลังเทศกาลถือศีลอดในบ้าน หรือไม่ก็ในมัสยิด แทนที่จะออกมาจัดกันที่กลางหมู่บ้านเพราะต้องคอยหลบภัยจากการจู่โจมทางอากาศ จนในที่สุดเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งอาหาร ยารักษาโรค ความช่วยเหลือต่างๆ ถูกส่งมาถึงมือของเหล่าชาวบ้านเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2016     ภาพถ่ายและวิดีโองานเฉลิมฉลองของชาวเมืองในครั้งนี้ถูกแชร์ไปในโลกโซเชียลนับแสนครั้งเลยทีเดียว ตั้งแต่มันถูกโพสต์ลงบนโลกออนไลน์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา “ความมีชีวิตชีวาได้เข้ามาแทนที่ความหดหู่ในเมือง Douma เป็นที่เรียบร้อยแล้ว” ชาวเน็ตคนหนึ่งกล่าว…

  • จำได้ไหม!? ภาพหนูน้อยซีเรียผู้บาดเจ็บ ตอนนี้อาศัยกับครอบครัว และดูดีขึ้นมากจริงๆ

    จำได้ไหม!? ภาพหนูน้อยซีเรียผู้บาดเจ็บ ตอนนี้อาศัยกับครอบครัว และดูดีขึ้นมากจริงๆ

    ช่วงที่เกิดสงครามซีเรีย หลายคนอาจจะจำหน้าของ Omran Daqneesh คือหนุ่มน้อยวัย 5 ขวบ ที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุนแรงที่เกิดขึ้น ภาพของหนูน้อยที่ชวนให้คนทั้งโลกรู้สึกสลดใจ ก็คือภาพตอนที่เจ้าตัวถูกช่วยเหลือออกมาจากพื้นที่สงคราม และได้รับผลกระทบจากความรุนแรงโดยมีคราบเลือด และบาดแผลติดเต็มใบหน้าเขาไปหมด ลิ้งค์ข่าวเดิม หนุ่มน้อย 6 ขวบที่เคยเขียนจดหมาย ขอให้เด็กซีเรียมาอยู่ด้วย ตอนนี้ได้เข้าพบ Obama แล้ว   ถ้าใครนึกไม่ออก.. ก็หนูน้อยคนนี้ไงล่ะ ที่ภาพของเขาโด่งดังไปทั่วโลก   ชีวิตของเด็กคนหนึ่งที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนท่ามกลางสงครามอันแสนโหดร้ายไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หนุ่มน้อยต้องสูญเสียพี่ชายวัย 10 ขวบ ไปจากการโจมตีครั้งรุนแรง ทว่าปัจจุบันหนูน้อยได้ย้ายไปอาศัยอยู่กับครอบครัวของเขา โดยทีมงานสำนักข่าวท้องถิ่นได้เข้าไปสัมภาษณ์หนูน้อย และพบว่าเขามีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากพอสมควร     โดยก่อนหน้านี้ทางครอบครัวปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อทุกเจ้า เพราะพวกเขากลัวว่าจะกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตของครอบครัวตัวเอง ล่าสุดพวกเขายอมให้สื่อเข้าพบ และถ่ายทอดชีวิตของพวกเขาออกมาเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเจ้าหนูจะเปลี่ยนไปจนเราแทบจำไม่ได้เลยล่ะ   แต่ถึงกระนั้นก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย ว่าภาพถ่ายของหนูน้อย Omran อาจเป็นเพียงเครื่องมือของกองทัพสหรัฐฯ ที่นำมาใช้สำหรับการโฆษณาชวนเชื่อให้คนทั้งโลกเห็น     แต่ไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไง ขอแค่ตอนนี้หนุ่มน้อยปลอดภัย และไม่ต้องเสี่ยงชีวิตกับสงครามอีก ก็ดูจะเป็นอะไรที่โอเคแล้วล่ะ   ในโลกที่เต็มไปด้วยการก่อการร้ายและสงคราม เมื่อไหร่น้อ… ที่มันจะสงบสุขซักที…

  • ถ้าคุณคือคนที่เสียใจกับการสังหารโหดในซีเรีย นี่คือ 3 วิธี ที่จะช่วยพวกเขาเหล่านั้น…

    ถ้าคุณคือคนที่เสียใจกับการสังหารโหดในซีเรีย นี่คือ 3 วิธี ที่จะช่วยพวกเขาเหล่านั้น…

    ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเราคงได้ยินข่าวความไม่สงบในซีเรียกันมาเยอะพอสมควร และเมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งจะมีข่าวใหญ่อีกข่าวนั่นก็คือการใช้อาวุธชีวภาพในเมืองอิดลิบ ทางตอนเหนือของประเทศซีเรีย ซึ่งภาพข่าวที่ออกมา สร้างความเศร้าใจให้กับคนทั่วโลกอย่างมาก จากการรายงานข่าวของ CNN ระบุว่าการโจมตีนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 70 คนและบาดเจ็บอีกมากกว่าร้อยคน     ทุกครั้งๆ ที่มีข่าวเกี่ยวกับการสู้รบในซีเรีย พวกเราก็ได้แต่เฝ้าหวังภาวนาให้เหตุการณ์นั้นจบลงในเร็ววัน หรือขออย่าให้มีใครเป็นอะไรไปมากกว่านี้เลย แต่ตอนนี้ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ในแถบเดียวกันกับประเทศซีเรียแต่เราก็สามารถที่จะยื่นมือเพื่อช่วยเหลือพวกเขาได้แล้ว โดยคุณสามารถที่จะช่วยสนับสนุนและร่วมบริจาดได้ผ่าน 3 ช่องทางต่อไปนี้…     คุณสามารถที่จะร่วมบริจาคเงินผ่านองค์กรทั้ง 3 นี้ได้ โดยเงินทุนที่เราบริจาคไปนั้นจะถูกนำไปซื้ออุปกรณ์และครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ใช้อาวุธชีวภาพถล่มกลางเมือง ซึ่งแน่นอนว่าก็ไม่ใช่องค์กรที่คุณจะสงสัยว่าจะเอาเงินคุณไปทิ้งๆ ขว้างๆ เพราะพวกเขาคือหน่วยงานซึ่งลงพื้นที่ปฏิบัติงาน และทำให้คุณรู้สึกว่าเงินคุณส่งไปถึงพวกเขาจริงๆ   1. The Union of Medical Care and Relief Organizations (OUSSM) OUSSM คือองค์กรที่มอบช่วยเหลือทางด้านการแพทย์และช่วยเหลือทางด้านสุขภาพของผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ความไม่สงบในซีเรีย ตอนนี้เค้ากำลังระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากสงครามอยู่ถ้าใครอยากสนับสนุนเงินก็สามารถร่วมบริจาตได้ ที่นี่ เลย   2. องค์กร The Syrian American Medical Society (SAMS) พวกเขามีเครื่องมือและสิ่งอำนวจความสะดวกทางการแพทย์อย่างมากมายเพื่อพร้อมที่จะช่วยเหลือเหยืื่อผู้เคราะห์ร้ายในพื้นที่ความไม่สงบนี้ ถ้าหากใครอยากที่จะร่วมสนับสนุนเงินหรืออยากทราบรายละเอียดการช่วยเหลือเพิ่มเติมก็เข้าไปเยี่มชมเว็บไซต์ขององค์กรได้ ที่นี่ เลย   3.…

  • คุณพ่อพา “ร่างไร้วิญญาณ” ของลูกออกสื่อ ต้องการให้โลกเห็นว่า “สงคราม” มันย่ำแย่เพียงใด…

    คุณพ่อพา “ร่างไร้วิญญาณ” ของลูกออกสื่อ ต้องการให้โลกเห็นว่า “สงคราม” มันย่ำแย่เพียงใด…

    เมื่อกล่าวถึง ‘สงคราม’ แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น เพราะมันไม่เคยสร้างเรื่องดีๆ ให้กับฝ่ายใดเลย   เช่นเดียวกันกับคุณ  Abdul Hamid Youssef ที่เพิ่งจะสูญเสียลูกชายลูกสาวตัวน้อย และสมาชิกครอบครัวอีกกว่า 18 คน รวมไปถึงภรรยาของเขาด้วย จากเหตุการณ์โจมตีด้วยก๊าซพิษซารินเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เหตุการณ์การโจมตีครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตโดยรวมแล้ว 72 คน และยังมีอีกหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บหนักจากการได้รับสารเคมีในปริมาณที่มากเกินไป   ภาพของชายผู้เป็นพ่อกำลังอุ้มร่างที่ไร้วิญญาณของเจ้าหนู Ahmed และหนูน้อย Aiya สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก   คุณพ่อผู้สูญเสียลูกทั้งสองไป อยากให้โลกได้เห็นสิ่งนี้…   จากเหตุการณ์ดังกล่าวยังทราบว่าเป็นการกระทำของฝ่ายใด แต่องค์กร Syrian Observatory for Human Rights ได้ตั้งข้อสงสัยว่าการโจมตีด้วยสารเคมีในครั้งนี้มาจากเครื่องบินของทางกองทัพซีเรีย ก๊าซพิษซารินนั้นจะซึมเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนัง เนื้อเยื่อต่างๆ และทางปอด และมันจะส่งผลให้ร่างกายเกิดชักกระตุก และกลายเป็นอัมพาต ซึ่งเจ้าสารเคมีชนิดนี้จะสามารถฆ่าคนให้ตายได้ภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 นาทีเสียด้วยซ้ำ     เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้สร้างความตื่นกลัวให้กับผู้คนทั่วโลกเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ Shajul Islam คุณหมออาสาสมัครที่เข้าไปทำหน้าที่ในซีเรียก็ได้ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมากที่สุดตั้งแต่ที่เขาเคยพบเจอมาเลยทีเดียว   เป็นเรื่องราวที่น่าหดหู่จริงๆ สงครามน่ะมันช่างโหดร้ายเกินกว่าที่เราจะคาดคิดได้จริงๆ ขอให้หนูทั้งสองไปสู่สุขตินะ…

  • คุณตาเจ้าของรถโบราณนับสินคัน จะไม่ยอมออกจากเมือง Aleppo เพราะใจอยากอยู่กับรถ!!

    คุณตาเจ้าของรถโบราณนับสินคัน จะไม่ยอมออกจากเมือง Aleppo เพราะใจอยากอยู่กับรถ!!

    จากเหตุสงครามภายในที่ดำเนินมาอย่างยาวนานในประเทศซีเรีย ทำให้ผู้คนหลายฝ่ายได้รับผลกระทบมากมาย ผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก ผู้สูงอายุ จนทำให้วิถีชีวิตของพวกเขาต้องเปลี่ยนแปลงไป เช่นเดียวกันกับคุณตา Mohammad Mohiedine Anis วัย 70 ปี ที่เป็นชาวเมือง Aleppo และเป็นเจ้าของรถเก่าจากยุค 1950s มากมายนับ 10 คัน แต่เพราะสงครามทำให้พื้นที่บ้าน และรถของเขาถูกทำลายจนไม่สามารถใช้งานได้อีก   และนี่คือ Hudson Commodor จากปี 1949 ที่เป็นของเพื่อนบ้านของเขา   คุณตาเล่าว่าคอลเลคชั่นรถของเขาและเพื่อนๆ ถูกทำให้เสียหายจากสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานกว่า 6 ปี บ้านของเขาเองก็กลายเป็นซากปรักหักพังไปด้วย   นี่คือ Buick Super ปี 1955 .   Buick ปี 1948 ที่ถูกสร้างขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นหนึ่งในรถที่มีมูลค่ามากที่สุดของคุณตา Mohammad   เขากล่าวถึงรถเหล่านี้ว่า “ผู้ออกแบบรถเหล่านี้คือศิลปินที่แท้จริง รถแต่ละคันมันก็เหมือนกับผู้หญิง แต่รถยนต์ที่ทันสมัยนั้นดูเหมือนกับกองโลหะซะมากกว่า” .  …

  • พ่อพระแมวแห่งอเลปโป กลับมาฟื้นชีพ “สถานสงเคราะห์แมว” ที่ถูกทำลายจากสงครามซีเรีย

    พ่อพระแมวแห่งอเลปโป กลับมาฟื้นชีพ “สถานสงเคราะห์แมว” ที่ถูกทำลายจากสงครามซีเรีย

    เป็นเวลาหลายปีที่สถานสงเคราะห์แมวจรจัดแห่งนี้ ให้ความหวังและความสุขแก่ชาวแมวเหมียวแห่งเมืองอเล็ปโป ประเทศซีเรีย แต่อยู่ดีๆ วันหนึ่งผลพวงของสงครามก็เกิดขึ้น และสถานที่แห่งนี้ก็ถูกลูกหลงของระเบิด ทำให้ทุกคนต่างสิ้นหวังและคิดว่ามันเป็นไปได้ยากที่จะฟื้นฟูที่แห่งนี้กลับมา   .   ที่ลี้ภัยแมวแห่งนี้เริ่มต้นโดยชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า Mohammad Alaa Jaleel เขาก่อตั้งมันขึ้นในปี 2012 โดยในตอนแรกก่อนที่มันจะเป็นที่ลี้ภัย เขาช่วยเหลือและเลี้ยงแมวจรจัดไว้เพียง 20 ตัวเท่านั้น เวลาผ่านไปไม่กี่ปีจำนวนแมวก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 ตัว ทำให้เขาเริ่มสร้างลี้ภัยนี้ขึ้นนั่นเอง     ที่ลี้ภัยแห่งนี้รู้จักกันในชื่อว่า House of Cats Ernesto ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับแมวของเขา เขาพยามปกป้องและดูแลที่แห่งนี้เป็นอย่างดีพร้อมกับบอกว่า “ผมจะปกป้องที่แห่งนี้ ทุกคนออกจากประเทศไป รวมถึงเพื่อนของผมด้วย แมวพวกนี้ก็เลยกลายเป็นเพื่อนรักของผม”     แต่ทว่าเมื่อสงครามเกิดขึ้นและขยายวงกว้างมาจนถึงเมืองนี้ ที่ลี้ภัยแห่งนี้ก็โดนลูกหลงไปด้วย แน่นอนว่าเขาคนนี้ก็อยู่เพื่อช่วยเหลือเจ้าเหมียวในที่ลี้ภัยจนวินาทีสุดท้าย แต่สุดท้ายเขาก็จำเป็นจะต้องไปอยู่กับครอบครัวของเขาที่ประเทศตุรกีเพื่อหนีภัยสงครามที่เกิดขึ้น พร้อมกับแมวของเขา Ernesto     แต่เขาไม่ได้จะกลับมาอยู่กับครอบครัวถาวรหรอกนะ เขาแค่ลี้ภัยเพื่อเอาชีวิตรอดเท่านั้น ซึ่งเขาได้วางแผนที่จะฟื้นฟูสถานลี้ภัยแห่งนั้นกลับมาอีกครั้ง ด้วยการช่วยเหลือจากคนทั่วโลกที่ติดตามเขา ยังจำได้ไหมว่าเราเคยนำเสนอเรื่องของเขาไปในบทความ Aljaleel ผู้คอยช่วยเหลือแมวนับร้อย ที่ถูกทิ้งในเมือง Aleppo ของซีเรีย หลังเกิดสงคราม..!!  เขาก็คือคนเดียวกันนี่แหละ…    …

  • “Tabboush” เจ้าเหมียวที่เกือบตายอยู่ท่ามกลางสงคราม แต่โชคดีที่มีครอบครัวใจดีมาช่วยไว้

    “Tabboush” เจ้าเหมียวที่เกือบตายอยู่ท่ามกลางสงคราม แต่โชคดีที่มีครอบครัวใจดีมาช่วยไว้

    นับตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมืองในซีเรีย เมื่อปี 2011 มีผู้คนต้องเสียชีวิตไปแล้วกว่า 400,000 คน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ที่ชีวิตรอดทั้งเด็ก และผู้ใหญ่รวมกว่า 11 ล้านคน ต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยเพื่อเอาตัวรอด เมื่อคุณต้องรีบเดินทางออกจากพื้นที่อันตราย แต่กลับพบกับเจ้าเหมียวน้อยตัวหนึ่งถูกทิ้งไว้ คุณจะทำอย่างไร หลายคนอาจจะเดินผ่านมันไปเพราะคิดว่ามันเป็นภาระ หรือบางคนอาจจะเก็บมันมาเลี้ยงเพราะความสงสาร!? ก็เหมือนกับครอบครัวนี้ พวกเขากำลังจะทางอพยพข้ามไปตุรกีเหมือนกับครอบครัวอื่นๆ แต่ทว่าระหว่างนั้นพวกเขาได้พบกับเจ้าเหมียวน้อยตัวหนึ่งต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางสงคราม ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พวกเขาได้ตัดสินใจเข้าช่วยเหลือมัน และรับมันเข้ามาดูแล     มันเป็นลูกแมวที่เพิ่งเกิดได้ไม่นาน แถมต้องอยู่เพียงลำพังท่ามกลางสงครามที่แสนโหดร้าย หลังแม่ของมันถูกฆ่าตายเพราะระเบิด และหลังจากที่พวกเขาได้พบมันเข้า ก็ได้เข้าช่วยเหลือโดยการค่อยๆ ดึงตัวของเจ้าเหมียวน้อยออกจากซากปรักพักพังของบ้านที่ถูกทำลายด้วยระเบิดในเมืองดามัสกัส นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ครอบครัวใจดีได้รับเจ้าเหมียวเข้ามาดูแล พร้อมกับตั้งชื่อให้มันว่า Tabboush ซึ่งในภาษาอาหรับหมายความว่า “อ้วน” นั่นเอง     พวกเขาได้เริ่มออกเดินทางกว่าหลายร้อยไมล์ไปยังค่ายผู้ลี้ภัย Idomeni ในประเทศกรีซ และแน่นอนว่าพวกเขาจะต้องพาเจ้า Tabboush ไปด้วย   ณ ค่ายผู้ลี้ภัย เจ้า Tabboush ได้มอบความสุขให้กับเด็กๆ และครอบครัวอื่นๆ มันเป็นแมวที่น่ารักมากจริงๆ    “เขาอยู่กินกับเรา นอนกับเรา และตื่นขึ้นมาพร้อมๆ…

  • นักข่าวชาวตุรกี ร่ำไห้ระหว่างออนแอร์ เห็นภาพ ‘เด็กซีเรีย’ เข้ารับการผ่าตัดโดยไม่ใช้ยาสลบ

    นักข่าวชาวตุรกี ร่ำไห้ระหว่างออนแอร์ เห็นภาพ ‘เด็กซีเรีย’ เข้ารับการผ่าตัดโดยไม่ใช้ยาสลบ

    อย่างที่รู้กันดีว่าขณะนี้ สถานการณ์ความรุนแรงในประเทศซีเรียนั้นได้ดำเนินมาอย่างยาวนาน แน่นอนว่าประชากรชาวซีเรียต่างก็ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง หรือแม้แต่เด็กก็ตาม ทั่วทั้งโลกต่างก็ให้ความสนใจกับสถานการณ์ของประเทศซีเรีย เป็นห่วงเหล่าประชาชนที่อาศัยอยู่ท่ามกลางสงคราม โดยเฉพาะเหล่าเด็กๆ ทั้งหลาย     เช่นเดียวกันกับ Turgay Güler นักข่าวชาวตุรกีที่กำลังรายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมือง Aleppo ที่ทางรัฐบาลสามารถบุกยึดและมีชัยชนะเหนือกองกำลังกบฏมาได้     ในรายการได้เปิดคลิปรายงานข่าวเป็นเหตุการณ์ขณะที่เด็กชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งกำลังบาดเจ็บมาจากลูกหลงของสงคราม และต้องทำการผ่าตัดรักษาโดยไม่มีการใช้ยาสลบหรือยาชาแต่อย่างใด ขณะที่ทำการรักษาหนูน้อยก็ทำการท่องบทสวดมนต์ไปด้วยเสียงที่สั่นเครือ พอได้เห็นดังนั้นแล้วผู้ประกาศข่าว Turgay ก็ได้หยุดการรายงานข่าวลงกลางคันพร้อมกับร้องไห้ออกมา   คลิปการรายงานข่าวอันน่าเศร้า…   ซึ่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติได้ออกมาวิพากย์วิจารณ์การกระทำของประเทศรัสเซียและซีเรีย ที่ทำการกีดกันการขนส่งสเบียงอันประกอบไปด้วยยารักษาโรคและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ต่างๆ เพื่อเข้าไปช่วยเหลือพลเรือนในเมือง Aleppo     และเนื่องจากว่าในช่วงวันที่ผ่านมาได้มีการหยุดการอพยพพลเมืองที่อยู่ในเมือง Aleppo ถูกยุติลงไปกลางคัน เพราะมีการประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล Syria ให้ผู้บาดเจ็บที่อยู่ในหมู่บ้าน Shi’ite ที่อยู่ในเมือง al-Foua และ Kefraya ในจังหวัด Idlib ออกมา จึงทำให้ทหารต้องเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ซะก่อน จากการรายงานของสำนักข่าว Reuters ถึงประกาศอย่างเป็นทางการของรัฐบาลของ Syria บอกว่า “หากการอพยพผู้บาดเจ็บใน Kefraya…

  • 30 ภาพก่อน-หลังของเมือง Aleppo ที่ผ่านช่วงสงคราม เห็นแล้วมันช่างหดหู่ซะเหลือเกิน…

    30 ภาพก่อน-หลังของเมือง Aleppo ที่ผ่านช่วงสงคราม เห็นแล้วมันช่างหดหู่ซะเหลือเกิน…

    จากเหตุสงครามภายในที่ดำเนินมาอย่างยาวนานในประเทศซีเรีย จนในที่สุดก็ได้บทสรุปแล้วหลังกองกำลังของรัฐสามารถยึดเมือง Aleppo ที่เป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มกบฏได้เป็นที่เรียบร้อยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และแน่นอนว่าสงครามก็ยังไม่จบลงที่ตรงนี้ เพราะกองกำลังของกลุ่มกบฎเป็นจำนวนมากได้หลบหนีไปได้ และเชื่อว่าพวกเขาจะต้องดำเนินการบางอย่างเพื่อตอบโต้กลับอย่างแน่นอน สำหรับในวันนี้ #เหมียวหง่าว ก็อยากจะขอพาเพื่อนๆ ไปชมผลงานของ ‘สงคราม’ ที่เกิดขึ้นและมันไม่ได้ส่งผลดีเลยแม้แต่น้อย ด้วยภาพเปรียบเทียบระหว่างในช่วงที่สงบสุขและหลังสงครามของเมือง Aleppo อันเป็นสนามรบแห่งสุดท้ายของกลุ่มกบฏและรัฐบาล   1.   2.   3.   4.   5.   6.   7.   8.   9.   10.   11.   12.   13.   14.   15.   16.   17.   18.   19.  …

  • ชาวเมือง Aleppo บางส่วนเริ่มโพสต์ทวีต ‘ลาตาย’ หลังกองกำลังรัฐบาลซีเรียบุกเข้ายึด!!

    ชาวเมือง Aleppo บางส่วนเริ่มโพสต์ทวีต ‘ลาตาย’ หลังกองกำลังรัฐบาลซีเรียบุกเข้ายึด!!

    ไม่เคยมีเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในสงคราม ไม่มีใครถูกหรือผิดที่แท้จริง เพราะทุกฝ่ายต่างผิดกันทั้งนั้น…   จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศซีเรียอยู่ในขณะนี้ ทั้งโลกต่างจับตามองกันอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ในประเทศซีเรียเองนั้นก็ได้รับผลกระทบมากมาย ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย หรือแม้แต่เด็กกับผู้สูงอายุก็ด้วย เพราะทุกที่ที่มีสงครามเกิดขึ้นนั้นย่อมทำให้มีผู้คนล้มตาย และด้วยความโหดร้ายของทัศนคติของผู้ทำสงคราม ก็ทำให้ประชาชนเกิดความหวั่นวิตกเสมือนชีวิตถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย และล่าสุดสงครามการปะทะกันระหว่างกองกำลังต่อต้านรัฐบาล กับกลุ่มกองกำลังของรัฐบาล Assad ก็ค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้กับเมือง Aleppo ทุกที ชาวเมืองที่อยู่ที่นั่นก็เริ่มออกมาโพสต์ทวิตเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อร่ำลาบุคคลอันเป็นที่รักและบอกลาโลกใบนี้   เพราะไม่มีใครยื่นมือเข้าไปช่วยพวกเขา ที่ทำได้ก็มีแต่รอความตายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น   หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเพราะเหตุใดชาวเมืองถึงไม่อพยพหนีไปล่ะ? นั่นก็เพราะว่าในขณะนี้ไม่ว่าพื้นที่ไหนในประเทศซีเรียก็กำลังถูกกองกำลังฝั่งรัฐบาลยึดไว้หมดแล้ว เหลือแต่เมือง Aleppo เท่านั้นที่ยังคงเป็นที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มกองกำลังต่อต้านรัฐบาล ซึ่งกลุ่ม Assad นั้นเป็นกลุ่มทหารของรัฐบาลซีเรียซึ่งเป็นเผด็จการและได้ปกครองประเทศซีเรียมาอย่างยาวนาน ส่วนฝ่ายกบฏนั้นก็เกิดจากกลุ่มประชาชนหัวรุนแรงที่นับถือนิกายซุนนีย์ ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของรัฐบาลจึงรวมตัวกันออกมาต่อต้าน แต่ภายหลังก็แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มกบฏดั้งเดิมกับกลุ่ม ISIS เพราะผู้นำมีความเห็นไม่ตรงกัน     แต่กลุ่ม ISIS ก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการรบของ Assad และกลุ่มกองกำลังต่อต้านแต่อย่างใด แต่มีเป้าหมายในการขยายอิทธิพลขึ้นไปทางตุรกีเสียมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังก่อสงครามและสร้างความรุนแรงให้กับทุกที่ที่แผ่อิทธิพลไปถึง นอกจากนี้ก็มีการยื่นมือเข้ามามีเอี่ยวของเหล่ากองกำลังจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอิรัก รัสเซีย หรืออเมริกาก็ตาม ซึ่งทุกคนต่างก็มีเหตุผลที่จะเลือกสนับสนุนแต่ละกลุ่มแตกต่างกันออกไป   และนี่คือแผนผังความสัมพันธ์ของแต่ละประเทศที่อยู่ทางในแถบยุโรปตะวันออก…

  • เด็กหญิงซีเรีย โพสต์เล่าเรื่องวินาทีเมืองถูกถล่ม “บ้านฉันพังไปแล้ว และฉันเห็นคนตาย…”

    เด็กหญิงซีเรีย โพสต์เล่าเรื่องวินาทีเมืองถูกถล่ม “บ้านฉันพังไปแล้ว และฉันเห็นคนตาย…”

    ทวิตเตอร์ของเด็กหญิงชาวซีเรียวัย 7 ขวบ ที่โพสเล่าเหตุการณ์เมืองถูกทิ้งระเบิด และบ้านของเธอก็ถูกทำลายไปด้วยแรงระเบิดอีกด้วย กลายเป็นเรื่องราวสุดสะเทือนใจที่สื่อหลายๆ แห่งต่างพากันนำเสนอ   ทวิตเตอร์ดังกล่าวเป็นของเด็กหญิง บานา อลาเบด วัย 7 ขวบที่อาศัยอยู่ในทางตะวันออกของเมืองอเลปโป ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา เธอได้อัพเดทชีวิตของผู้ที่ยังอาศัยอยู่ในเมืองอเลปโปให้ชาวโลกได้รับรู้อยู่เป็นประจำ ล่าสุดเธอได้อัพเดทว่า “ตอนนี้ฉันไม่มีบ้านแล้ว และฉันได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย ฉันยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อวานและกำลังหิวโหย ฉันอยากมีชีวิตอยู่ ฉันยังไม่อยากตาย”     ปัจจุบัน แอคเคาท์ @AlabedBana มีผู้ติดตามกว่า 132,000 คน โดยแอคเคาท์นี้ทั้งบานาและแม่ของเธอเฟตมาห์ ได้ใช้บอกเรื่องเรื่องราวและผลกระทบจากสงครามให้คนภายนอกได้รับรู้ อย่างเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมาพวกเธอได้โพสว่า “กองทหารได้บุกเข้ามาแล้ว นี่อาจเป็นวันสุดท้ายที่เราได้คุยกัน ไม่มีอินเตอร์เน็ต ช่วยสวดมนต์ภาวนาให้พวกเราด้วย – เฟตมาห์”     หลังจากนั้นไม่นา เธอก็โพสอีกว่า “ข้อความสุดท้าย ตอนนี้มีการทิ้งระเบิดอย่างหนัก อาจไม่มีชีวิตรอด ถ้าพวกเราตาย ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับ 200,000 ชีวิตที่ยังอยู่ในเมืองด้วย ลาก่อน – เฟตมาห์”   หลายๆ ครั้งเธอก็ได้บอกเล่าสุดสะเทือนใจสะท้อนให้เห็นชีวิตอันโหดร้ายของผู้ที่ยังอาศัยอยู่ในเมืองอเลปโปแห่งนั้นเช่น “อย่างที่เห็นเราอาจจะตายเมื่อไหร่ก็ได้…

  • คลิปรอยยิ้มสุดท้ายของเด็กซีเรียวัย 2 เดือน ก่อนที่เสียงระเบิดจะดังขึ้น และทุกอย่างก็หายไป…

    คลิปรอยยิ้มสุดท้ายของเด็กซีเรียวัย 2 เดือน ก่อนที่เสียงระเบิดจะดังขึ้น และทุกอย่างก็หายไป…

    สงครามไม่เคยทำให้เกิดเรื่องดีๆ ขึ้นได้ มีแต่จะทำให้เรื่องราวเลวร้าย และบางครั้งผู้ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องพลอยต้องมาโดนลูกหลงไปด้วย นี่คือเรื่องราวสุดเศร้าที่ถูกบันทึกไว้ด้วยคลิปสั้นๆ เด็กชาวซีเรียวัยเพียง 2 เดือน คนหนึ่งกำลังยิ้มแย้มกับหน้ากล้อง โดยมีคุณพ่อเป็นผู้ถือกล้องบึนทุกคลิปนี้อยู่ ซึ่งพวกเขาได้อาศัยอยู่ที่เมือง Aleppo ในคลิปเราจะได้เห็นหนูน้อยกำลังปรบมือ พร้อมกับยิ้มให้คุณพ่อที่ถือกล้อง ถือเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขของครอบครัว แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้ไม่นาน ก็มีเหตุทำให้วิดีโอต้องตัดไป     เพราะจู่ๆ ก็มีเสียงระเบิดเกิดขึ้นทางตอนตะวันตกของซีเรีย โดยกองกำลังของรัสเซียเพื่อขับไล่กลุ่มกบฏที่ควบคุมที่แห่งนั้นอยู่ ซึ่งเสียงระเบิดนั้นเหมือนจะเป็นระเบิดจากขีปนาวุธหรือไม่ก็ปืนใหญ่ มีผู้อยู่อาศัยอยู่ที่แห่งนั้นประมาณ 250,000 คน และอาจได้รับอันตราย และกองกำลังของประธานาธิบดี Assad ได้ทิ้งระเบิดและฉนวนเอาไว้สังหารชีวิตผู้บริสุทธิ์ โดยทางกลุ่มสิทธิมนุษยชนก็ได้ออกมาประนามการกระทำครั้งนี้ด้วย     เมื่อวันศุกร์ที่มีหน่วยช่วยชีวิตได้เล่าว่าบริเวณนี้อันตรายอย่างมาก เพราะมีการยิงระเบิดบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน และไม่ได้บ่อยขนาดนี้ด้วย แต่หลังจากนี้กลุ่มกบฏก็ได้ตอบโต้กลับ ยิงจรวดใส่พื้นที่ที่ทางรัฐบาลตั้งรับไว้ในเมือง เป็นเหตุให้ผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 5 คน และ 2 คนในนั้นเป็นเด็กผู้หญิง     ส่วนทางการรัสเซียก็ได้ออกมาบอกว่าระเบิดครั้งนี้ไม่ได้เป็นการระเบิดเมือง Aleppo แต่เป้าหมายของการระเบิดคือกลุ่มกบฏในเมือง Idlib และศูนย์กลางใน Homs ที่มา dailymail

  • หนุ่มน้อย 6 ขวบที่เคยเขียนจดหมาย ขอให้เด็กซีเรียมาอยู่ด้วย ตอนนี้ได้เข้าพบ Obama แล้ว

    หนุ่มน้อย 6 ขวบที่เคยเขียนจดหมาย ขอให้เด็กซีเรียมาอยู่ด้วย ตอนนี้ได้เข้าพบ Obama แล้ว

    ถ้าใครยังพอจำกันได้ เมื่อราวๆ เดือนกันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ของเราได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กชาย Alex Myteberi วัย 6 ขวบ ที่ส่งจดหมายถึงประธานาธิบดี Barack Obama เกี่ยวกับประเด็นที่เจ้าตัวเกิดความรู้สึกสงสารเด็กชายชาวซีเรียวัย 5 ขวบที่ได้รับบาดเจ็บเพราะสงครามกลางเมือง ทำให้มีเลือดไหลอาบแก้มและฝุ่นเกาะไปทั่วร่างกาย จนกลายเป็นภาพชวนสลดที่โด่งดังไปทั่วโลก และด้วยเหตุนี้เอง เจ้าตัวจึงเขียนจดหมายถึงประธานาธิบดี โดยเสนอให้เด็กชายซีเรียและครอบครัวย้ายมาอยู่ที่บ้านร่วมกับพวกเขาได้เพื่อเป็นการช่วยเหลือ (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่เลย)     ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าเด็กชาย Alex Myteberi ร่วมกับน้องสาวและครอบครัวของเขา ได้เดินทางมาพบประธานาธิบดีแล้วที่ทำเนียบขาว หลังจากที่การเขียนจดหมายเสนอความช่วยเหลือไปยัง Omran Daqdeesh เด็กชายซีเรียนั้นโด่งดังไปทั่วอินเตอร์เน็ต หลังจากที่ได้พบกันแล้ว ประธานาธิบดี Obama ได้กล่าวกับเด็กชายวัย 6 ขวบว่า “ผมชอบสิ่งที่คุณเขียนมากเลยนะ ผมเอาไปอ่านให้ทุกๆ คนฟังหมดเลย คุณเป็นคนที่ดีและมีน้ำใจมาก หวังว่าทุกๆ คนจะคิดได้อย่างนี้บ้าง ผมภูมิใจในตัวคุณมากเลย”     ชมคลิปการพบปะกันระหว่างเด็กชาย 6 ขวบและประธานาธิบดีได้ที่นี่เลย  …

  • ISIS กลับลำ สร้างภาพลักษณ์ด้านบวก หันมาผูกมิตรกับแมว เพื่อต้องการให้คนมาเข้าร่วมมากยิ่งขึ้น!!??

    ISIS กลับลำ สร้างภาพลักษณ์ด้านบวก หันมาผูกมิตรกับแมว เพื่อต้องการให้คนมาเข้าร่วมมากยิ่งขึ้น!!??

    ในช่วงยุคสมัยนี้ถ้าจะพูดถึงเรื่องกลุ่มก่อการร้ายที่มาแรงสุดๆ คงหนีไม่พ้นกลุ่ม ‘ISIS’ ที่มักจะปล่อยภาพสื่อเชื้อเชิญให้คนไปเป็นทหาร และปล่อยวิดีโอการประหารชีวิตผู้ที่ขัดต่อหลักศาสนาในอุดมคติของพวกเขาทั้งหลาย แทบจะกลายเป็นข่าวร้ายต่อสมาพันธ์แมวทั่วโลกไปแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ทางผู้นำศาสนาของ ISIS ได้ประกาศ ‘ฟัตวา’ (คำชี้ขาดทางศาสนา) ว่าแมวเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักศาสนา เพราะฉะนั้นจะต้องกำจัดทิ้งให้หมด!!     และในช่วงเวลานั้นเอง ชาวบ้านทุกคนที่ยังคงอาศัยอยู่ในเขตการปกครองของ ISIS เมือง Caliphate ได้ถูกสั่งห้ามละเมิดกฏข้อบังคับเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีรายงานมาว่า เหล่าทหาร ISIS ต่างออกค้นหาแมวเหมียวตัวน้อยในบ้านแต่ละหลัง เพียงเพราะพวกเขาเชื่อว่ามันขัดต่อหลักศาสนา ตามที่ผู้นำได้กล่าวไว้   สงสัยจะถึงคราวซวยของพวกเราแล้วเหมียวเอ๋ยยย   แต่แล้วเมื่อไม่นานมานี้ ผลที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม!! แมวทั่วโลกต่างคิดว่า พี่น้องเหมียวที่อยู่ในแถบนั้นต้องตกอยู่ในอันตราย และกำลังถูกไล่ล่าอยู่แน่ๆ แต่แล้วจู่ๆก็กลายเป็นว่า เหล่าทหารนักรบของ ISIS พากันโพสต์ภาพตัวเองคู่กับแมวเหมียวตัวน้อยทั้งหลาย แถมในรูปพี่น้องแมวของเราก็ดูอ้วนท้วน สุขภาพสมบูรณ์ดีอีกด้วย   หนึ่งในนักรบ ISIS สุดโหด กับภารกิจการดูแลแมวเหมียวของเค้า (สงสัยจะกลายเป็นทาสแมวกันไปแล้วแน่ๆ)   ดูอย่างในรูปนี้สิ เพื่อนเหมียวตัวน้อยของเรานอนสบายใจเฉิบเลย   ไว้ใจถึงขนาดที่ยอมปล่อยอาวุธคู่กาย ให้เหมียวดูแลแทน   แต่ทั้งนี้ทาง…

  • วินาทีประทับใจ… แพทย์ซีเรียช่วยปั๊มหัวใจทารก เหยื่อเหตุระเบิด จนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง!!

    วินาทีประทับใจ… แพทย์ซีเรียช่วยปั๊มหัวใจทารก เหยื่อเหตุระเบิด จนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง!!

    ในทุกวันนี้ เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับสงครามในซีเรียแทบทุกวัน และนั่นก็ทำให้เราได้เห็นถึงความโหดร้าย และความขัดแย้งของมนุษย์กับจุดจบที่ยังมองไม่เห็น แม้ว่าจะมีเหตุการณ์อันเลวร้ายเกิดขึ้นมากมาย แต่อย่างน้อยก็ยังมีเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้คนดูรู้สึกซึ้งใจ และประทับใจได้บ้าง     โดยเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา ทางเฟซบุ๊ก Islami, Meshire dhe Dashuri ได้ทำการเผยคลิปวีดีโอวินาทีชีวิตของทารกน้อย ที่แพทย์สามารถช่วยให้เขาฟื้นจากความตายขึ้นมาได้ จากคลิปวีดีโอ ปรากฏให้เห็นเป็นภาพของบรรดาแพทย์ ขณะกำลังช่วยกันทำคลอดให้กับหญิงท้องแก่รายหนึ่ง ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกแรงระเบิดในซีเรีย     ซึ่งในระหว่างที่ทางแพทย์ได้ช่วยกันนำตัวของทารกออกมาจากท้องแม่นั้น พวกเขาก็พบว่าทารกน้อยได้เสียชีวิตลงแล้ว ดังนั้น แพทย์จึงรีบทำการปั๊มหัวใจ เพื่อช่วยชีวิตทารกน้อยทันที   แม้ว่าความหวังจะดูริบหรี่ แต่ทางแพทย์ก็ยังพยายามช่วยเหลือหนูน้อยอย่างเต็มที่ จนกระทั่ง 20 นาทีผ่านไป ปาฏิหาริย์ก็บังเกิด ทารกที่หัวใจหยุดเต้น ก็ได้ลืมตาขึ้น พร้อมกับส่งเสียงร้องออกมาเป็นครั้งแรกในชีวิต   มาชมคลิปวีดีโอกันเลย   หลังจากที่คลิปวีดีโอได้ถูกเผยแพร่ลงในโลกโซเชียล ชาวเน็ตต่างก็พากันเข้ามารับชมเป็นจำนวนมาก ซึ่งในตอนนี้ก็มียอดวิวสูงถึง 4.3 ล้าน ครั้ง และมีการแชร์ออกไปอีกกว่า 54,000 ครั้ง นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งคลิปวินาทีชีวิตที่สุดแสนจะประทับใจ และทำให้ใครหลายๆ…

  • เจ้าสาวซิปแตกก่อนเข้า “พิธีแต่งงาน” โชคดีผู้อพยพชาวซีเรียข้างห้อง ช่วยซ่อมให้ทัน..!!

    เจ้าสาวซิปแตกก่อนเข้า “พิธีแต่งงาน” โชคดีผู้อพยพชาวซีเรียข้างห้อง ช่วยซ่อมให้ทัน..!!

    เราต่างรู้ถึงเหตุการณ์สงครามในซีเรีย และเหล่าผู้อพยพภัยสงครามก็ได้ไปอยู่ตามทื่ต่างๆ ทั่วโลก มีประเด็นดราม่ามากมายเรื่องการรับคนอพยพ ข่าวต่างๆ ทั้งด้านดีและด้านเสียก็ตามมาอีกเพียบ แต่เรื่องนี้ จะทำให้คุณรู้คุณค่าของพวกเขาเหล่านั้นมากขึ้น…   Lindsay Coulter ช่างภาพจากแคนาดา เธอได้ทำงานถ่ายภาพในงานแต่งงานงานหนึ่งซึ่งเกิดเหตุการณ์ที่น่าประทับใจขึ้น เหตุเกิดเมื่อเจ้าสาวทำซิปที่ชุดแตกและไม่สามารถซ่อมได้ งานนี้ก็ต้องออกตามหาว่าใครที่สามารถช่วยได้ ก็เลยลองออกไปขอความช่วยเหลือจากห้องข้างๆ ดู หลังจากที่เพื่อนเจ้าสาวหายไป ก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับคีมที่เอาไว้สำหรับซ่อมซิป ซึ่งเธอได้มาจากชาวซีเรียที่อพยพมาอยู่ห้องข้างๆ นี่เอง และเขาก็เป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้ามืออาชีพด้วย     ผ่านไปไม่กี่นาทีผ่านไป เพื่อนเจ้าสาวพยายามซ่อมซิปด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่สำเร็จ แต่แล้วมีเสียงเคาะประตูเกิดขึ้น และคนที่เดินเข้ามาก็คือพ่อลูกชาวซีเรียคู่หนึ่งได้เข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหานี้ ช่างภาพเล่าว่าเธอได้ออกไปถ่ายภาพในห้องเจ้าบ่าวมา พอกลับมาก็ได้เห็นพ่อลูกชาวซีเรียกำลังซ่อมชุดให้อยู่     หลังจากถามไถ่ก็ได้ทราบว่าพ่อลูกเพิ่งย้ายมาอยู่แคนาดาได้เพียง 4 วัน และไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้เลย ตลอดการทำงานใช้ภาษามือคุยกันตลอด อีกทั้งครอบครัวของเจ้าสาวก็มาจากประเทศจีน ทำให้การสื่อสารทั้งหมดก็ต้องใช้ภาษามือ ถือเป็นภาพที่ดูน่ารัก     คุณพ่อชาวซีเรียคนนี้ชื่อว่า Ibrahim Halil Dudu ให้สัมภาษณ์กับ CTV News ว่าเขารู้สึกมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้คน คุณพ่อผู้มีประสบการณ์เกี่ยวกับผ้ากว่า 30 ปี ได้เล่าว่า “เธอตื่นเต้นและมีความสุขมาก ผมก็มีความสุขกว่าที่ได้กลับไปทำงาน ผมอยากช่วยเหลือคนแคนาดาจากใจเลย”…

  • เพราะสงครามน่าเศร้ากว่าที่คิด… รวม 3 เรื่องราวของเด็กชาวซีเรีย ในแง่มุมที่โลกควรสนใจ

    เพราะสงครามน่าเศร้ากว่าที่คิด… รวม 3 เรื่องราวของเด็กชาวซีเรีย ในแง่มุมที่โลกควรสนใจ

    ถือเป็นสงครามที่ก่อตัวมาอย่างยาวนานและต่อเนื่องจริงๆ สำหรับสงครามของกลุ่มก่อการร้าย ISIS ในประเทศซีเรีย และมันก็ได้แผ่ขยายสร้างความเสียหายให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์นับไม่ถ้วน ในช่วงรอบเดือนที่ผ่านมาก็มีข่าวและเหตุการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับผู้คนในซีเรียออกมาให้เราได้เห็นผ่านหลากหลายเหตุการณ์ วันนี้ #เหมียวฟิ้น เลยขอรวบรวมเอาเหตุการณ์เหล่านั้นมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้เห็นผลกระทบในมุมมองต่างๆ ของสงครามกัน   1. เด็กชาวซีเรียถือภาพโปเกม่อนเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนทั่วโลก   ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา กระแสของเกม Pokemon Go โด่งดังมาก จนผู้คนให้ความสนใจออกตามหาโปเกม่อนไปทั่วโลก     และเพื่อเป็นการดึงความสนใจของผู้คน สำนักงานสื่อแห่งกองกำลังปฏิวัติซีเรียจึงให้เด็กๆ ชาวซีเรียถือภาพโปเกมอนที่มีข้อความว่า “ได้โปรดช่วยเหลือพวกเราบ้าง” เพื่อให้คนหันมาสนใจพวกเขาเหมือนกับที่ให้ความสนใจเกมนั่นเอง   .   2. สาวน้อยจากซีเรียเป็นตัวแทนนักว่ายน้ำโอลิมปิกไร้สัญชาติ   สาวน้อย Yusra Mardini หนีออกจากซีเรียพร้อมพี่สาว เนื่องจากมีสงครามปะทุขึ้น เธอและพี่สาวนั่งเรือออกไปยังเกาะ Lesbos ของประเทศกรีซและช่วยชีวิตชาวซีเรียอีก 20 คน ในระหว่างเดินทาง เครื่องยนต์ของเรือเกิดเสียหาย ทำให้เธอและพี่สาวต้องกระโดดลงไปช่วยดันเรือจนถึงเกาะในที่สุด     จากนั้นพวกเธอก็เดินทางไปกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีเพื่อฝึกซ้อมร่างกาย โดยมีพ่อแม่ของเธอตามไปด้วยอย่างปลอดภัย นอกจากนี้เธอก็ยังได้รับทุนนักกีฬาที่มีไว้เพื่อสนับสนุนนักกีฬาโอลิมปิก (อ่านข่าวของเธอเต็มๆ ได้ที่ลิงก์นี้เลยนะ)  …

  • สาวน้อยชาวซีเรีย ที่ต้องว่ายน้ำข้ามทะเลหนีสงคราม สู่การเป็นนักว่ายน้ำโอลิมปิกไร้สัญชาติ

    สาวน้อยชาวซีเรีย ที่ต้องว่ายน้ำข้ามทะเลหนีสงคราม สู่การเป็นนักว่ายน้ำโอลิมปิกไร้สัญชาติ

    ขึ้นชื่อว่าสงคราม แน่นอนว่าต้องเกิดความสูญเสียกับทั้งสองฝ่าย แล้วใครที่ดือดร้อนที่สุดล่ะ?? ก็เหล่าประชาชนตาดำๆ ยังไงล่ะที่พลอยซวยไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย หนึ่งปีก่อนผู้อพยพชาวซีเรียคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Yusra Mardini ต้องหนีตายออกจากเมือง Damascus ในซีเรียพร้อมๆ กับพี่สาวของเธอ…แต่วันนี้ เธอกลับได้กลายเป็นหนึ่งในนักกีฬาว่ายน้ำที่กำลังจะเข้าแข่งขันในโอลิมปิกที่ริโอแล้วล่ะ เบ็ดเสร็จแล้วเธอแข่งถึง 3 กีฬาเลยทีเดียว!!! ซึ่งในปีนี้เป็นครั้งแรกที่โอลิมปิกจะมี Refugee Olympic Team (ROT) จำนวน 10 คน เป็นตัวแทนของผู้ลี้ภัย 65 ล้านคนทั่วโลก มาจากทั้งประเทศซูดาน เอธิโอเปีย คองโก และแน่นอนประเทศซีเรีย ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่เกิดเหตุการณืความไม่สงบขึ้นภายในประเทศทั้งสิ้น   ระหว่างพิธีเปิดของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ริโอ Mardini เดินท่ามกลางตัวแทนนักกีฬาของทีผู้อพยพ   แต่ก่อนหน้านี้เธอก็ไม่ใช่นักกีฬาโนเนมนะจ๊ะ เพราะทั้งเธอและน้องสาวถือว่าเป็นสตาร์รุ่นเยาว์ของคลับว่ายน้ำในประเทศซีเรียเลยทีเดียว ก่อนที่สงครามจะปะทุขึ้นและทำให้การฝึกฝนของเธอต้องจบลง   พ่อแม่ของเธอก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแม้แต่น้อย พยายามย้ายครอบครัวของพวกเขาไปยังโซนปลอดภัยอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ไฟสงครามก็ลุกลามตามพวกเขามาทุกๆ ครั้ง โดยเฉพาะเมื่อบ้านหลังล่าสุดถูกทำลายลงไป   Mardini และพี่สาวของเธอออกจากดามัสกัส เธอลอยข้ามทะเลมาด้วยเรือ ไปยังเกาะ Lesbos ของประเทศกรีซ พร้อมกันกับผู้อพยพชาวซีเรียอีกกว่า 20 ชีวิตด้วยกัน   ตอนนั้นเองที่เครื่องยนต์ของเรือยางได้เสียไป เธอและพี่สาวด้วยความที่เป็นนักว่ายน้ำอยู่แล้ว…

  • เด็กๆ ในซีเรียร่วมถือป้าย ‘โปเกม่อน’ หวังว่าโลกจะสนใจ และช่วยเหลือพวกเขาบ้าง…

    เด็กๆ ในซีเรียร่วมถือป้าย ‘โปเกม่อน’ หวังว่าโลกจะสนใจ และช่วยเหลือพวกเขาบ้าง…

    ในช่วงที่กระแสเกมส์ Pokemon Go กำลังมาแรงและเป็นที่นิยมแทบจะทั่วทุกมุมโลกผู้คนต่างก็กำลังสนุกสนานกับการออกเดินทางจับโปเกม่อนของตนเอง สำนักข่าวต่างๆ ก็กลับเต็มไปด้วยเรื่องราวของเกมส์นี้ แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีอีกประเทศหนึ่งที่เด็กๆ ไม่มีโอกาสได้เล่นสนุกสนานเหมือนที่อื่นๆ และถ้าหากใครยังจำเรื่องราวของสงครามในซีเรียได้คงทราบกันดีว่าความสูญเสียหรือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสงครามครั้งนี้มันยิ่งใหญ่มากโดยเฉพาะกับชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ถึงแม้เวลาจะผ่านล่วงเลยไปนานแล้วจนคนทั้งโลกแทบจะลืมเรื่องนี้ แต่ผลกระทบของสงครามนั้นยังคงอยู่ไม่เคยจางหายไป…   มีเด็กจำนวนมากที่ต้องสูญเสียที่อยู่ ครอบครัว และความสุขในชีวิตไปจากเหตุการณ์สงครามครั้งนี้และพวกเขายังคงต้องการความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน . พวกเขาจึงร่วมกันออกมาถ่ายรูปคู่กับป้ายโปเกม่อนเหล่านี้เพราะเห็นว่าทั่วโลกกำลังให้ความสนใจกับมันเหลือเกิน บางทีนี่อาจเป็นวิธีที่จะมีคนเข้าไปช่วยเหลือพวกเขาบ้าง . เด็กๆ เหล่านี้ล้วนอยู่กระจัดกระจายกันไปภายในส่วนต่างๆ ของประเทศซีเรีย .   บนกระดาษจะเขียนข้อความระบุย่านที่พวกเขาอาศัยและประโยคที่ว่า “ผมอยู่ที่นี่..ได้โปรดมาช่วยพวกเราด้วย” . .   รูปภาพเหล่านี้ถูกเผยแพร่ขึ้นหลังจากที่มีเหตุการณ์โจมตีทางอากาศในตอนเหนือของซีเรีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยของผู้หญิงและเด็กๆ มีผู้เสียชีวิตมากถึง 50 ราย . .   เป็นอีกครั้งที่โลกได้สอนให้เรารู้ว่า สงครามไม่เคยสร้างความสงบสุขที่แท้จริงมีแต่จะพลัดพรากมันจากไปเท่านั้น มีคนจำนวนมากที่ต้องเป็นเหยื่อของมันโดยที่พวกเขาอาจไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ได้ สุดท้ายแก๊งแมวเหมียวของเราก็หวังว่าเด็กๆ จะได้รับการดูแลและการช่วยเหลือที่ดีโดยเร็วที่สุด     ที่มา: Independent

  • ภาพเปรียบเทียบความเสียหายของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ซีเรีย หลังการต่อสู้กับ ISIS…

    ภาพเปรียบเทียบความเสียหายของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ซีเรีย หลังการต่อสู้กับ ISIS…

    สงครามนอกจากจะทำลายล้างชีวิตของทั้งทหารและเหล่าผู้บริสุทธิ์แล้ว บางครั้งสถานที่สำคัญที่ไม่อาจประเมิณค่าได้ ก็อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน อย่างเช่นเหล่าสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในประเทศซีเรียนี้ ที่เพื่อนๆ เห็นแล้วต้องสะเทือนใจอย่างแน่นอน อย่างที่เราทราบกันดีว่า ประเทศซีเรียบางส่วนถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายในชื่อ ISIS เข้ายึดครอง รวมถึงเมือง Palmyra ที่เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมายนี้ก็เช่นกัน และล่าสุดทางมหารของซีเรียได้ยึดเมืองนี้กลับคือจากเหล่า ISIS ได้ด้วยความช่วยเหลือจากกองทัพอากาศรัสเซีย แต่ทันทีที่พวกเขาไปถึง พวกเขาก็ต้องสะเทือนใจไปกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเหล่าโบราณสถานเหล่านั้น เพราะมันช่างหนักหน่วงเหลือเกิน ซึ่งเห็นได้ชัดยิ่งขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับภาพถ่ายของ Joseph Eid ตากล้องจากสำนักข่าว APF ที่ถ่ายเมื่อสองปีก่อน จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย     อื้อหือ เสียหายหนักมากจริงๆ   เห็นแล้วน้ำตาจะไหล   อย่างไรก็ตาม Mamoun Abdulkarim ผู้อำนวยการสถาบันโบราณคดีของซีเรียกล่าวว่า พวกเขาจะพยายามบูรณะโบราณสถานเหล่านี้ให้ได้มากที่ซึ่งพวกเขาได้เชิญนักโบราณคดีเก่งๆ จากทั่วโลกมาแล้ว และจะได้รับการสนับสนุนจากองค์การ UNESCO อีกด้วย   ก็ได้แต่หวังว่า พวกเขาจะสามารถรักษาบูรณะโบราณสถานล้ำค่าเหล่านี้ให้ได้มากที่สุดนะฮะ   สงครามไม่เคยมอบอะไรนอกจากความสูญเสียจริงๆ และก็ไม่รู้ว่า ต้องมีผู้คนและสถานที่สำคัญอีกเท่าไหร่ ที่ต้องสูญเสียไปกับสงครามครั้งนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ ก็ได้แต่หวังว่าสงครามจะจบในไม่ช้า และความสงบจะกลับมาสู่แผ่นดินโดยเร็วนะฮะ ที่มา Boredpanda

  • สลดใจ!! หนึ่งในกลุ่มผู้เข้าร่วม ISIS ลงมือประหารชีวิตแม่ตัวเองท่ามกลางฝูงชนในใจกลางเมือง

    สลดใจ!! หนึ่งในกลุ่มผู้เข้าร่วม ISIS ลงมือประหารชีวิตแม่ตัวเองท่ามกลางฝูงชนในใจกลางเมือง

    เป็นที่รู้กันดีว่าความโหดเหี้ยมอำมหิตของกลุ่มรัฐอิสลามนั้นเป็นเช่นไร ตั้งแต่การสังหารตัวประกันทั้งแบบทารุณ ทรมาน และแบบม้วนเดียวจบ ทำให้กระฉ่อนไปทั่วโลก ซึ่งในคราวนี้ก็เกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นอีกครั้งหลังจากที่มีหนึ่งในกลุ่มผู้เข้าร่วมอุดมการณ์ของ ISIS ลงมือประหารชีวิตแม่แท้ๆ ของตัวเอง     จากการรายงานของ The Independent และบัญชีทวิตเตอร์ الرقة تذبح بصمت (@Raqqa_SL) กล่าวเอาไว้ว่า Ali Saqr al-Qasem วัย 20 ปี ผู้เข้าร่วมกลุ่ม ISIS ได้ทำการยิงแม่ของเขา Lena วัย 45 ปี ด้วยปืนไรเฟิลจู่โจมท่ามกลางฝูงชนที่ภายในเมืองอัรร็อกเกาะฮ์ ประเทศซีเรีย   Ali Saqr al-Qasem วัย 20 ปี หนึ่งในผู้เข้าร่วมกลุ่ม ISIS   ต้นเหตุของความสลดใจเกิดขึ้นมาจากแม่ของเขานั้นได้พยายามให้ลูกชายออกมาจากกลุ่มรัฐอิสลามและอยากจะให้หนีออกไปด้วยกัน ซึ่งกลับไม่ได้เป็นไปแบบนั้น ทางกลุ่มรัฐอิสลามเห็นว่าใครก็ตามที่ขัดขวางหรือไม่สนับสนุนกลุ่มก็จะถูกฆ่าทิ้ง     จากเหตุการณ์ดังกล่าวเชื่อกันว่า Ali Saqr al-Qasem ถูกสั่งการมาจากเบื้องบนของกลุ่มอีกที ตัดสินให้ลงมือประหารชีวิตแม่ของเขาด้วยตัวเขาเอง…

  • ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียบอกเล่าประสบการณ์เสี่ยงตาย ว่ายน้ำข้ามทะเลกว่าเจ็ดชั่วโมงเพื่อเริ่มชีวิตใหม่

    ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียบอกเล่าประสบการณ์เสี่ยงตาย ว่ายน้ำข้ามทะเลกว่าเจ็ดชั่วโมงเพื่อเริ่มชีวิตใหม่

    เราต่างก็ได้รับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับความยากลำบากของชาวซีเรียที่สูญเสียทุกอย่างไป ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน เงินทอง รวมไปถึงชีวิต ซึ่งชาวซีเรียก็ได้กลายมาเป็นผู้ลี้ภัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากสาเหตุของสงครามกลางเมืองอันวุ่นวาย ทำให้บ้านที่เคยอยู่กลายเป็นแดนสงคราม   สงครามกลางเมืองในซีเรีย   ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียต่างรู้ดีว่าชะตาชีวิตของพวกเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย หากยืดหยัดอยู่ในซีเรียก็คงมีค่าไม่ต่างไปจากการรอความตาย เพราะฉะนั้นหลายคนจึงเลือกที่จะทิ้งดินแดนเดิมของตนและลี้ภัยไปต่างประเทศ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถไปถึงจุดหมายปลายทางที่เฝ้าฝันเอาไว้   Ameer Mehtr ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่ว่ายน้ำข้ามทะเลจากตุรกีไปยังกรีซ   แต่สำหรับ Ameer Mehtr ผู้ลี้ภัยที่เสี่ยงตายเอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน จากการตัดสินใจวิ่งหนีสุดชีวิตไม่คิดหันหลังกลับ พึ่งพาร่างกายของตนเองเพื่อตามหาชีวิตใหม่ เนื่องจากเขาไม่มีเงินเพียงพอที่จะว่าจ้างคนพาข้ามประเทศได้     เขาได้รับการฝึกฝนการว่ายน้ำมาจากทีมชาติซีเรีย และด้วยการฝึกฝนที่ได้รับมาเขาจึงวางแผนที่จะว่ายน้ำข้ามทะเลเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในยุโรป ข้ามฝั่งจากประเทศตุรกีผ่านทะเลอีเจียนไปยังเกาะ Samos ประเทศกรีซ ก่อนที่จะว่ายน้ำข้ามทะเลด้วยระยะทางเพียงแค่ 4 ไมล์ (6.4 กิโลเมตร) นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาต้องเตรียมความพร้อมให้ร่างกายเสียก่อน ด้วยการฝึกว่ายน้ำในทะเลริมชายฝั่งในเมืองเบรุต ประเทศเลบานอน ซึ่งก็ได้ลี้ภัยมาอยู่ที่นี่ได้ซักระยะแล้ว   ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเดินทางข้ามละเทด้วยเรือยาง   หลังจากนั้นในเดือนกันยายน เขารู้สึกว่าตอนนี้ร่างกายและจิตใจพร้อมที่จะไปแล้ว ก็ได้ทำการศึกษาแผนที่อย่างเคร่งครัดเพื่อที่จะค้นหาเส้นทางที่สั้นที่สุด จนกระทั่งถึงคืนที่ต้องไป เขาก็ได้ลักลอบเข้าเมือง Güzelçamlı ของประเทศตุรกี วิ่งหนีอย่างสุดชีวิตเพื่อหลบหนีการจับกุมของตำรวจตุรกี…

  • สื่อนอกเผยซีเรียอาการหนัก ล่าสุดพบปรสิต “กินเนื้อคน” ไร้ศูนย์การแพทย์ ชาวเมืองเดือดร้อนหนัก

    สื่อนอกเผยซีเรียอาการหนัก ล่าสุดพบปรสิต “กินเนื้อคน” ไร้ศูนย์การแพทย์ ชาวเมืองเดือดร้อนหนัก

    แม้ว่าในขณะนี้ซีเรียจะเผชิญอยู่กับสงครามกลางเมืองและการสูญเสียอย่างมากมาย แต่ดูเหมือนว่าเท่านั้นจะยังไม่พอ เพราะล่าสุดมีสื่อต่างประเทศรายงานว่าในขณะนี้ได้เกิดปรสิตกินเนื้อคนกำลังระบาดหนัก ทำให้ชาวเมืองได้รับความเดือดร้อนและกลายเป็นแผลตามร่างกาย คล้ายกับการโดนแมลงกัดกิน     เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Dailymail รายงานว่าตอนนี้ปรสิต Leishmaniasis (ลีชมาเนียซิส) ซึ่งเป็นโปรโตซัวกินเนื้อชนิดหนึ่ง กำลังแพร่ระบาดในซีเรีย ซึ่งตลอดระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ได้รับผลกระทบไปแล้วกว่า 500 ราย     องค์การอนามัยโลกได้กล่าวว่าขณะนี้งานบริการด้านสุขภาพของซีเรียได้ทรุดตังลงอย่างมาก เป็นผลพวงมาจากสงครามกลางเมืองที่ร้อนระอุอยู่ในขณะนี้ แต่พวกเขาก็ได้เตรียมอุปกรณ์การแพทย์เพื่อรับมือและป้องกันการระบาดของไวรัสชนิดนี้แล้ว       ตามรายงานบอกว่าไวรัสชนิดนี้สามารถรักษาให้หายได้ แต่เนื่องจากสงครามทำให้โรงพยาบาลและศูนย์ช่วยเหลือได้อพยพออกจากพื้นที่มานานกว่า 5 ปีแล้ว     กระทรวงการต่างประเทศจองสหรัฐได้ออกมาทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์เกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าว เพื่อเตือนว่าสงครามในซีเรียนั้นกำลังสร้างปัญหาเป็นวงกว้าง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของคนในประเทศ ที่กำลังขาดแคลนการช่วยเหลือทางการแพทย์อยู่ในขณะนี้     ทั้งนี้ทั้งนั้นมีรายงานอีกว่ามีผู้คนกว่า 2-5 หมื่นคนได้เสียชีวิตเพราะไวรัส Leishmaniasis มาแล้ว และส่วนใหญ่มักจะเกิดประเทศที่ด้อยพัฒนาด้วย     เห็นแล้วน่ากลัวมาก เหมียวนี่นึกถึงหนังวันสิ้นโลกเลย ที่มา dailymail

  • เด็กหญิงรัสเซียวัย 5 ขวบ เสียชีวิตหลังโดนลูกหลงรัสเซียทิ้งระเบิดในซีเรีย

    เด็กหญิงรัสเซียวัย 5 ขวบ เสียชีวิตหลังโดนลูกหลงรัสเซียทิ้งระเบิดในซีเรีย

    ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องน่าเศร้าจริงๆ เกี่ยวกับกรณีของสงครามในซีเรียที่กำลังร้อนระอุ ล่าสุดมีการรายงานข่าวว่ารัสเซียได้สั่งให้กองทัพส่งเครื่องบินรบทิ้งระเบิดในซีเรีย แต่โชคร้ายที่การโจมตีครั้งนั้นทำให้เด็กหญิงชาวรัสเซียต้องเสียชีวิตไปด้วย     ตามรายงานบอกว่าเด็กหญิงชาวรัสเซียมีชื่อว่า Raghat วัย 5 ขวบ เธอได้เดินทางไปซีเรียกับแม่ของเธอเป็นเวลา 6 วัน แต่ในระหว่างนั้นกลับเกิดเหตุการณ์การโจมตีอย่างรุนแรง ทำให้เธอโดนลูกหลงไปด้วย เธอจึงถูกอุ้มขึ้นมอเตอร์ไซค์เพื่อไปยังโรงพยาบาล แต่ในระหว่างนั้นเธอกลับหมดลมหายใจไปแล้ว     ทางด้านคุณแม่ของเธอ Suheer ได้กล่าวว่าเธอวางแผนจะเดินทางไปซีเรียกับลูกของเธอเพียง 6 วันเท่านั้น ก่อนที่จะเจอเหตุการณ์ดังกล่าว “เราควรจะกลับบ้านในวันพรุ่งนี้ สามีของฉันคงจะไม่ได้เจอหน้าลูกอีกแล้ว”   ทั้งนี้ครอบครัวของ Suheer เป็นเพียงครอบครัวเดียวที่ได้รับผลกระทบจากการทิ้งระเบิดในครั้งนี้     แอดเหมียวขอแสดงความเสียใจกับทุกๆ ชีวิตที่สูญเสียไปด้วยนะ ที่มา metro

  • จำได้ไหม? พ่อชาวซีเรียเร่ขายปากกาเลี้ยงลูก วันนี้กลายเป็นเจ้าของ 3 ธุรกิจไปแล้ว!!

    จำได้ไหม? พ่อชาวซีเรียเร่ขายปากกาเลี้ยงลูก วันนี้กลายเป็นเจ้าของ 3 ธุรกิจไปแล้ว!!

    หากใครยังจำกันได้ เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เคยมีข่าวเกี่ยวกับคุณพ่อชาวซีเรีย ที่อุ้มลูกน้อยไปตามท้องถนนเพื่อขายปากกา จนกลายเป็นภาพที่น่าหดหู่และข่าวดังไปทั่วโลก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ชีวิตของคุณพ่อรายนี้ก็ค่อยๆ ดีขึ้น จนปัจจุบันกลายเป็นเจ้าของกิจการไปเรียบร้อยแล้ว     นี่เป็นเรื่องราวของนาย Abdul Halim al-Attar ชาวปาเลสไตน์ที่อพยพมาจากประเทศซีเรียในช่วงที่เกิดสงคราม และมาทำอาชีพขายปากกาในเมืองเบรุต ประเทศเลบานอน หลังจากที่เรื่องของเขากลายเป็นข่าวดัง เขาก็นำภาพของเขาเองมาตั้งแคมเปญในเว็บไซต์ Crowndfunding เพื่อระดมทุนมาทำธุรกิจ     และด้วยชื่อเสียงอันโด่งดัง ทำให้เขาสามารถระดมทุนได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้เขาสามารถเปิดธุรกิจได้ 3 ธุรกิจ นั่นก็คือ ร้านเบเกอรี่ ร้านเคบับ และร้านอาหารเล็กๆ โดย 3 ธุรกิจนี้สามารถสร้างรายได้ให้เขามากถึง 191,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6.8 ล้านบาททีเดียว!!     นาย Abdul ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าธุรกิจทั้ง 3 ของเขากำลังไปได้ดี จนตอนนี้เขามีลูกจ้างแล้วกว่า 16 คน จากที่ตอนแรกชีวิตของเขาแทบไม่มีอะไร แต่ตอนนี้เขาดีขึ้นมาก มีบ้านให้ลูกและตัวเองได้อาศัย แถมยังส่งลูกสาวเรียนหนังสืออีกด้วย     นาย Al-Attar ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า…

  • สุดช็อค ชมภาพแลนด์มาร์คในซีเรีย สภาพก่อนและหลังสงคราม เปลี่ยนไปแค่ไหน?

    สุดช็อค ชมภาพแลนด์มาร์คในซีเรีย สภาพก่อนและหลังสงคราม เปลี่ยนไปแค่ไหน?

    อย่างที่ทราบกันดีว่าซีเรียนั้นเกิดสงครามมานานกว่า 3-4 ปี เกิดความสูญเสียมากมาย ทั้งประชาชน ทรัพย์สิน และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เว็บไซต์ของสำนักข่าว aljazeera ก็ได้เผยแพร่ภาพถ่ายแลนด์มาร์คสำคัญๆ ในประเทศซีเรีย ก่อนและหลังการเกิดสงคราม ว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง   1. มหามัสยิดในดูมาร์ ที่ใหญ่ที่สุดในดาร์มัสกัต สร้างใน คศ. 1136     2. ดาบลันสตรีท ฉายาชองเอลิเซ่ชีเรีย     3. ตลาดโบราณอัลเลโป     4. โอมซิตี้เซนทรัลมอล ศูนย์กลางการค้าและเหล่าพบปะของหมู่วัยรุ่น     5. อัลมาฮัททา เมืองเดียรา ช็อปปิ้งสตรีท     6. ดาซามิร่า โรงแรมบูติดสี่ดาว สร้างในสมัยออตโตมัน     สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ล่มสลายไปอย่างน่าเสียดาย ที่มา pantip , aljazeera

  • เสียงจาก ‘ตัวประกันผู้รอดชีวิต’ เผย ISIS ไม่ได้กลัวการโจมตีทางอากาศ แต่กลัวเรา ‘สามัคคีกัน’

    เสียงจาก ‘ตัวประกันผู้รอดชีวิต’ เผย ISIS ไม่ได้กลัวการโจมตีทางอากาศ แต่กลัวเรา ‘สามัคคีกัน’

    ถือเป็นเรื่องราวอันน่าเศร้าของโลกเลยก็ว่าได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กลุ่มก่อการร้าย ISIS ได้เข้าโจมตีปารีส ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมาย จนสุดท้ายฝรั่งเศสก็ประกาศภาวะสงคราม เข้าถล่มซีเรีย ได้มีอดีตตัวประกันที่สามารถรอดชีวิตกลับมาได้ชื่อว่า Nicolas Hénin ชาวฝรั่งเศส ผู้ถูกจับตัวไปนานกว่า 10 เดือน อีกทั้งยังได้พบเจอคนที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มก่อการร้ายนี้ รวมทั้ง Jihadi John ที่ Nicolas ตั้งชื่อให้เขาว่า “หัวล้าน” (baldy) จากรายงานของสำนักข่าว The Guardian นักข่าวอิสระ Nicolas ได้รายงานว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นเป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อที่ทางอีกฝั่งสร้างขึ้นมาเพื่อให้เกิดความน่าสงสารขึ้น     เขากล่าวว่า “พวกเขาพยายามที่จะนำเสนอตัวเองให้เป็นเหมือนฮีโร่ในสายตาประชาชน แต่พออยู่หลังกล้อง ยังมีเรื่องที่น่าสลดอีกมากมาย เช่นเด็กข้างถนนที่ถูกมัวเมาด้วยอุดมการณ์และอำนาจ ในฝรั่งเศสอาจจะบอกว่าเป็นพวกเขลาอย่างปีศาจ แต่ผมพบว่ามันเขลายิ่งกว่าปีศาจเสียอีก ซึ่งผมยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการฆ่าอย่างโง่งมงายอีกด้วย”     เขายังบอกอีกว่าผู้คุมนักโทษมักจะเล่นเกมกับนักโทษบ่อยๆ เช่นการทรมาน หรือการบอกว่าพรุ่งนี้จะปล่อยตัวแล้ว แต่สุดท้ายก็นำไปประหารชีวิตแทน Nicolas เล่าว่า ISIS จะทำการโจมตีแบบนี้ไปเรื่อยๆเพื่อให้ผู้คนได้แตกหักกัน และทำให้ประเทศในยุโรปเกลียดกัน เขาต้องการให้เกิดภาวะ “เรา สู้กับ เขา” โดยให้ชาวมุสลิมเป็นสาเหตุในเรื่องดังกล่าว ISIS พยายามใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการติดตามปั่นป่วน ซึ่งตอนนี้ทางผู้ก่อการร้ายอาจจะคิดว่าพวกเขาชนะแล้ว เนื่องจากผู้คนอาจจะคิดต่างแบบสุดโต่งเกินไป และบางคนก็อาจจะคิดในแง่ของความแตกต่างของการได้เปรียบทางการรบ…

  • เละเทะแน่!! สองผู้นำโลกโอบาม่าและปูตินเตรียมแท็กทีมถล่มไอเอสให้ราบเป็นหน้ากลอง!!

    เละเทะแน่!! สองผู้นำโลกโอบาม่าและปูตินเตรียมแท็กทีมถล่มไอเอสให้ราบเป็นหน้ากลอง!!

    หลังจากกลุ่ม ISIS ก่อวินาศกรรมด้วยการถล่มกรุงปารีสไปเมื่อสองวันก่อน จนมีผู้เสียชีวิตนับร้อยคน ตอนนี้ดูเหมือนพวกเขาได้กระตุกหนวดเสือเข้าให้แล้ว โดยมีผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ “จี20” ที่เมืองอันตัลยาของประเทศตุรกี ประธานาธิบดีสหรัฐบารัค โอบาม่าได้หารือกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินในช่วงพักดื่มกาแฟเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา     โดยพวกเขาเห็นพ้องต้องกันว่า ต้องกวาดล้างและทำลายกลุ่มไอเอส (ISIS) อย่างเร่งด่วน และต้องมีการเจรจาหยุดยิงในซีเรีย เพื่อการโอนถ่ายอำนาจทางการเมืองอย่างสันติ     แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งสองยังคงไม่เห็นด้วย เรื่องบทบาทของประธานาธิบดีบาซาร์ อัลอัสซาด ในการเปลี่ยนถ่ายอำนาจ เนื่องจากสหรัฐต้องการให้อัลอัสซาดลงจากตำแหน่งให้เร็วที่สุด ส่วนทางรัสเซียคิดว่าอัลอัสซาดควรมีส่วนร่วมในการโอนถ่ายอำนาจ       ถ้าสองประเทศนี้จับมือกันจริงๆละก็ ใครหน้าไหนก็เอาไม่อยู่แน่นอน หวังว่าจะสามารถทำลายกลุ่มไอเอส และนำความสงบสุขกลับมาโดยเร็วนะฮะ ที่มา RT

  • มือเพชรฆาต ISIS เชื้อสายอังกฤษ Jihadi John เสียชีวิตจากการจู่โจมทางอากาศด้วยโดรน!!

    มือเพชรฆาต ISIS เชื้อสายอังกฤษ Jihadi John เสียชีวิตจากการจู่โจมทางอากาศด้วยโดรน!!

    เป็นที่ล่ำลือและกระฉ่อนไปทั่วโลกกับวิธีการป่าวประกาศตนให้โลกได้รับรู้ของกลุ่ม ISIS ที่มักจะฆ่าผู้บริสุทธิ์อย่างโหดเหี้ยมอำมหิต อีกทั้งมักจะอัดคลิปวิดีโอเชือดตัวประกันและเผยแพร่ให้ชาวโลกได้เห็นอีก     โดยที่ล่าสุดนี้ทางเจ้าหน้าที่ด้านทหารระดับสูงของสหรัฐฯ ได้ออกมายืนยันแล้วว่าได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศ ถล่มฐานที่มั่นของกลุ่ม ISIS ในเมืองอัรร็อกเกาะฮ์ ประเทศซีเรีย แต่ทว่าไม่มีการเปิดเผยจำนวนผู้เสียชีวิตออกมาแต่อย่างใด     ทางด้านเพนตากอนก็ได้ยืนยันแล้วว่าการจู่โจมทางอากาศนี้เป็นเรื่องจริง แต่ไม่อาจประกาศอย่างเป็นทางการได้จนกว่าปฏิบัติการจะสำเร็จเสร็จสมบูรณ์ อีกทั้งยืนยันแล้วด้วยว่ามือสังหารสุดโหดที่ปรากฏตัวในคลิปเชือดตัวประกัน Jihadi John เชื้อสายอังกฤษนั้น ถูกสังหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว     Jihadi John หรืออีกชื่อหนึ่ง Mohammed Emwazi ปรากฏตัวเป็นเพชรฆาตเชือดตัวประกันในหลายๆ คลิปที่กลุ่ม ISIS ได้ปล่อยออกมา ซึ่งถ้าหากว่าเขาเสียชีวิตจริงอย่างที่ทางการสหรัฐฯ มั่นใจ เขาจะกลายเป็นทหารระดับสูงของ ISIS รายที่ 4 ที่ถูกสังหารโดยกองทัพสหรัฐฯ และอังกฤษ ซึ่งก่อนหน้านี้มี Ruhul Amin, Junaid Hussain และ Reyaad Khan     สำหรับ Jihadi John นั้นก่อนหน้านี้เป็นที่รู้จักกันในฐานะโปรแกรมเมอร์ระดับสูงทางด้านความมั่นคงของ…

  • ศิลปินทั่วโลกร่วมวาดภาพเพื่อให้ “เด็กชาวซีเรีย 3 ขวบ” ที่จมน้ำเสียชีวิตตอนลี้ภัย

    ศิลปินทั่วโลกร่วมวาดภาพเพื่อให้ “เด็กชาวซีเรีย 3 ขวบ” ที่จมน้ำเสียชีวิตตอนลี้ภัย

    เมื่อช่วงเช้าในวันพุธที่ 2 กันยายน เราคงได้ข่าวอันน่าเศร้า เมื่อตำรวจตุรกีได้พบศพร่างไร้ชีวิตของเด็กชาย Aylan Kurdi วัย 3 ขวบที่จมน้ำตอนอพยพหนีมาจากซีเรีย ซึ่งพี่ชายของเขาวัย 5 ขวบ Ghalib และแม่ของเขา Rehan ก็เสียชีวิตจากการจมน้ำเช่นกันจากการหลบหนีออกจากซีเรียครั้งนี้ ภาพสุดสะเทือนใจนี้ก็ถูกแชร์ออกไปอย่างมาก เนื่องจากองค์ประกอบที่มองแล้วรู้สึกสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูก เผยให้เห็นถึงความอันตรายและโหดร้ายของการอพยพในครั้งนี้ แต่แล้วภาพนี้ก็ไปถึงสายตาของศิลปินจากทั่วโลก พวกเขาจึงรวมใจกันสร้างผลงานเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ขึ้นมา เราไปชมกันเลย นี่คือภาพต้นฉบับที่โด่งดัง   และนี่คือภาพที่ศิลปินทั่วโลกสร้างขึ้นมา 1.   2.   3.   4.   5.   6.   7.   8.   9.   10.   11.   12.   13.   14.   15.   16.…

  • เผยภาพชีวิตอันยากลำบากของเด็กๆ ในประเทศซีเรีย กับสงครามที่ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ!!

    เผยภาพชีวิตอันยากลำบากของเด็กๆ ในประเทศซีเรีย กับสงครามที่ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ!!

    สงครามเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เพราะสิ่งที่จะตามมามีแต่ความสูญเสีย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินนั้นไม่อาจประเมินค่าได้เลย ผู้บริสุทธิ์มากมายต่างต้องทนทุกข์อยู่กับความยากลำบาก อย่างกรณีของประเทศซีเรียที่เกิดสงครามกลางเมืองยืดเยื้อมานานกว่า 4 ปีแล้ว     ประชาชนในประเทศซีเรียกว่า 4 ล้านชีวิตกลายมาเป็นผู้ลี้ภัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต่างดิ้นรนเอาชีวิตรอดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากค่ายผู้ลี้ภัยไม่อาจรองรับจำนวนผู้ลี้ภัยเป็นจำนวนมากได้     หนึ่งในจำนวนนั้นก็คือเด็กๆ ที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดอยู่ภายในประเทศซีเรีย และบางส่วนที่เลือกเดินทางออกนอกประเทศไปกับผู้ลี้ภัยอื่นๆ ซึ่งจะต้องผจญภัยอันตรายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งทหารและเจ้าหน้าที่ชายแดน เพื่อหาที่ๆ ปลอดภัยกว่าแต่ไม่ใช่ในบ้านของตัวเอง     ภาพบางภาพอาจมีความรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจได้                                             สงครามกลางเมืองนี้ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ ทำให้ประชาชนซีเรียจำนวนมากต้องพลัดถิ่น รวมไปถึงชีวิตที่ไร้เดียงสาอย่างเช่นเด็กๆ เหล่านี้ ที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในแต่ละวัน ที่มา :…

  • คุณพ่อผู้ลี้ภัยชาวซีเรียต้องขายปากกาประทังชีวิต น้ำใจจากทั่วโลกจึงร่วมเปลี่ยนแปลงชีวิตให้เขา!!

    คุณพ่อผู้ลี้ภัยชาวซีเรียต้องขายปากกาประทังชีวิต น้ำใจจากทั่วโลกจึงร่วมเปลี่ยนแปลงชีวิตให้เขา!!

    นับตั้งแต่เกิดสงครามภายในประเทศซีเรียตั้งแต่ปีค.ศ. 2011 ทำให้ชาวซีเรียต้องอพยพหนีออกนอกประเทศ ทิ้งบ้านเกิดของตัวเพื่อหาที่ปลอดภัย แต่ทว่าการหลบอยู่ในค่ายลี้ภัยนี้มีผู้คนเป็นจำนวนมาก จึงไม่เพียงพอต่อการอยู่อาศัย นำไปสู่การลี้ภัยเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน     หนึ่งในความโศกเศร้าที่ทั่วโลกได้รับรู้ก็คือผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเป็นจำนวนมากต้องพยายามหาทางเอาชีวิตรอดในแต่ละวันด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเป็นผู้ลี้ภัยจึงไม่สามารถทำอะไรได้มากนอกจากเสียว่าขายของเล็กๆ น้อยๆ ประทังชีวิตอย่างเช่นคุณพ่อผู้ลี้ภัยชาวซีเรียรายนี้ ที่ขายปากกาอยู่ริมถนนในประเทศเลบานอน     ต้องมีใครซักคนช่วยเหลือเขาเป็นการด่วน และด้วยเหตุนี้เอง Gissur Simonarson นักเคลื่อนไหวจากประเทศนอร์เวย์ได้ถ่ายทอดเรื่องราวอันน่าเศร้านี้ให้ชาวโลกได้รับรู้และรวบรวมเงินบริจาคสบทบโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 5,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 179,000 บาท)   เวลาผ่านไปเพียง 3 วัน ยอดบริจาคจากทั่วโลกได้ทะลุไปถึง 142,038 ดอลลาร์แล้ว (ประมาณ 5,000,000 บาท)   ทราบชื่อภายหลังก็คือนาย Abdul เขามีลูกสาววัย 4 ขวบ Reem ลูกชายวัย 9 ขวบ Abdelillah   ยอดการบริจาคทั้งหมดที่ได้รับนั้นจะนำมาช่วยเหลือครอบครัวของเขา นำมาเป็นค่าเล่าเรียนให้กับลูกๆ และจะนำไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยรายอื่นๆ ด้วย   จากภาพที่สะเทือนใจผู้คนทั่วโลกนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของชีวิตเขาไปตลอดกาล ไม่น่าเชื่อเลยว่าน้ำใจจากทั่วโลกจะหลั่งไหลได้มากมายถึงขนาดนี้…