‘นรกบนดิน’ ภาพอันน่าสลดใจของชาวซีเรีย หนีระเบิดล้างบางกลุ่มกบฎ ยอดเสียชีวิตพุ่งสูง 400 ราย

ปัจจุบัน ประเทศซีเรียยังคบประสบปัญหาสงครามกลางเมืองที่เกิดจากการที่ประชาชนจำนวนมากต่อต้านระบอบการปกครองของผู้นำคนปัจจุบัน ประธานาธิบดี Bashar al-Assad มายาวนานถึง 7 ปีและนั่นจึงทำให้เหล่าผู้ต่อต้านต้องเจอกับการโต้กลับของรัฐบาลทหารที่น่ากลัว

ผู้นำของประเทศซีเรียตัดสินใจสั่งกองกำลังทางอากาศบุกเข้าโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มผู้ต่อต้านที่ตั้งอยู่ในเขต Eastern Ghouta ติดกับเมืองหลวง Damascus ที่มีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 400,000 คน ซึ่งการโจมตีด้วยการทิ้งระเบิดครั้งนี้ไม่มีการแจ้งอพยพประชาชนแต่อย่างใด

ภาพในพื้นที่ที่เกิดการทิ้งระเบิดครั้งนี้

เขตที่ระบายสีเขียว คือจุดที่เกิดการสูญเสียเป็นจำนวนมาก

พื้นที่ดังกล่าวถูกควบคุมด้วยกลุ่มชาวอิสลาม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้มีเพียงแค่ผู้ต่อต้านหรือผู้ก่อการร้าย เพราะยังคงมีประชาชนตาดำๆ อาศัยอยู่ไม่น้อยเลย

การโจมตีในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2018 และมีติดต่อกันมาเรื่อยๆ เป็นเวลานานกว่า 5 วัน โดยจากการรายงานของกลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนของซีเรียบอกว่าการทิ้งระเบิดดังกล่าวคร่าชีวิตประชาชนไปอย่างต่ำ 403 คน มีเด็กรวมอยู่ในนั้นถึง 95 คน

ภาพของชายหนุ่มอุ้มศพของเด็กที่ตายไปไว้ในอ้อมแขน

การช่วยเหลือกันของผู้คนในพื้นที่

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนในละแวกดังกล่าวและใกล้เคียงบาดเจ็บกันมากกว่า 1,500 คน ยังไม่รวมผู้ประสบภัยที่อาจจะถูกฝังอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังจำนวนมาก

ยอดการตายในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เพียงวันเดียวก็สามารถคร่าชีวิตไปได้มากกว่า 50 คน มีเด็กอยู่ 8 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 350 คน ส่วนในวันต่อมาก็มีผู้เสียชีวิตอีก 46 คน จากแรงระเบิดและการโจมตีจากจรวจมิสไซล์

กลุ่มช่วยเหลือในละแวกนั้น พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

พื้นที่ที่ตกเป็นเป้าหมายในครั้งนี้เป็นพื้นที่ที่ถูกปิดกั้น จึงทำให้การโจมตีเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ยากที่จะหนีออกไปหรือรอการช่วยเหลือจากภายนอกได้ ระเบิดที่ถูกปล่อยลงมาก็คือถังที่เต็มไปด้วยน้ำมันและสะเก็ดกระสุน ทำให้ความรุนแรงสามารถกระจายออกได้เป็นวงกว้าง เห็นได้จากควันที่ลอยสูงขึ้นมา

ฝุ่นควันที่ลอยขึ้นมาจากแรงระเบิด

ภาพที่ถูกถ่ายเอาไว้ตอนที่ช่างกล้องคนหนึ่งพยายามช่วยเหลือลูกพี่ลูกน้องและน้าสาวของเขาที่กำลังท้องอยู่

การช่วยเหลือพวกเธอที่ติดอยู่ใต้ซากตึกเป็นเรื่องที่ยากลำบาก

แต่ที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือ การโจมตีในครั้งนี้มีการพุ่งเป้าไปที่แหล่งอยู่อาศัยหรือมีคนพลุกพล่าน อย่างเช่นตลาด ตึกรามบ้านช่อง หรือแม้แต่โรงพยาบาล

จากการรายงานบอกว่า ช่วงเวลาแค่ 72 ชั่วโมงมีโรงพยาบาลภายในพื้นที่ตกเป็นเป้าหมายของการทิ้งระเบิดครั้งนี้มากถึง 22 แห่ง ทำให้ไม่มีแพทย์หรือเครื่องมือเพียงพอที่จะรักษาเหล่าผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ผู้เสียชีวิตจำนวนมากถูกห่อผ้าขึ้นท้ายรถกระบะ

นายแพทย์ Ahmad Abdulghani จากโรงพยาบาล Dar al-Shifa ในเมือง Hammuriyeh ซึ่งถูกโจมตีจากการทิ้งระเบิดในครั้งนี้ เขาบอกว่า “รัฐบาลอ้างว่าพวกเขาเล็งเป้าไปที่ผู้ก่อการร้ายหรือกองกำลังติดอาวุธ แต่ความจริงคือพวกเขาเล็งใส่แต่ประชาชน”

Ahmad ยังพูดอีกว่า “ที่นี่คือโรงพยาบาลไว้รักษาพลเรือนที่บาดเจ็บ พวกเขาเล็งมาที่นี่ทำไมกัน?” ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าคิดเกี่ยวกับการโจมตีของรัฐบาล

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติที่ถูกจัดขึ้นโดยประเทศรัสเซีย เบื้องหลังสำคัญที่คอยผลักดันผู้นำซีเรียคนปัจจุบัน ซึ่งทางด้านตัวแทนของซีเรีย Vassily Nebenzia บอกว่า “นี่เป็นสถานการณ์ซับซ้อน เพราะในเขตพื้นที่ดังกล่าวยังมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ต่อสู้กับทหารอยู่ด้วย”

ขณะเดียวกันตัวแทนของสหรัฐอเมริกา Nikki Haley ได้ออกมาบอกว่า “การอ้างว่าโจมตีประชาชนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการกำจัดผู้ก่อการร้ายถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างมาก”

Antonio Guterres เลขาธิการแห่งสหประชาชาติ เรียกการทิ้งระเบิดในครั้งนี้ว่า “นรกบนดิน” เพราะภาพที่เห็นแสดงถึงการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่และการจากไปของคนจำนวนมากที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย โดยเฉพาะกับเด็กตัวเล็กๆ ด้วยแล้ว

Antonio ได้ร่วมลงนามกับทางประเทศสวีเดน คูเวต และฝรั่งเศสเพื่อต้องการจะยื่นมติให้กลุ่มทหารหยุดโจมตีประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเวลา 30 วัน และยื่นขออนุญาตให้นำอาสาสมัครหรือองค์กรต่างๆ เข้าไปรักษาอาการบาดเจ็บของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ

แต่ความคืบหน้าของปัญหาภายในประเทศนี้ก็ยังคงไม่มีความคืบหน้าว่าข้อเสนอดังกล่าวจะได้รับการอนุมัติหรือไม่

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี Angela Merkel ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การล้างบางประชาชนของตัวเอง คร่าชีวิตเด็ก รวมถึงทำลายโรงพยาบาลไปเป็นจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องถูกคัดค้านจากทุกฝ่าย

ที่มา: dailymail