Tag: การ์ตูน

หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นหรือมังงะ (Manga) ถือว่าเป็นอีกสิ่งที่อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนาน เด็กๆ แทบทุกคนอย่างน้อยๆ ต้องเคยอ่านการ์ตูนมาคนละหนึ่งเรื่อง และในบรรดาการ์ตูนเหล่านั้น ก็มีหลายเรื่องที่เป็นตำนาน วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 14 อันดับหนังสือการ์ตูนระดับเทพ ที่ชาตินี้ต้องหาอ่านให้ได้ซักครั้ง จะมีเรื่องอะไรบ้าง และเรื่องที่เพื่อนๆ เชียร์จะติดหรือไม่ ไปชมกันเลย   14. Claymore   เริ่มจากอันดับสุดท้ายของเรากันก่อนกับเรื่อง Claymore หรือในชื่อไทย อสูรสาวพิฆาตมาร เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับดินแดนอันห่างไกลแห่งหนึ่งที่มักมีปิศาจร้ายออกอาละวาดฆ่าผู้คน ทางการจึงก่อตั้งองค์กรหนึ่งขึ้นมา เพื่อสร้างนักรบหญิงจากพลังของเหล่าปิศาจร้ายในชื่อนามว่า เคลย์มอร์ ด้วยฉากต่อสู้ที่ทรงพลังและเนื้อเรื่องที่ลุ่มลึก ทำให้ Claymore เข้ามาติดในลำดับที่ 14 อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะช่วงท้ายของเรื่อง ที่ใครที่อ่านต้องรับรองว่ามีน้ำตาไหลด้วยความปลื้มปิติอย่างแน่นอน ไม่เชื่อก็ลองมาหาอ่านกันได้เลยนะเหมียวววว   13. Naruto   ถือว่าเป็นการ์ตูนที่โด่งดังที่สุดในโลกอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับนารูโตะ นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ (ชื่อไทยฉบับหนังสือการ์ตูนประหลาดมาก) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ อุสึมากิ นารูโตะ นินจาเด็กจอมนอกคอกที่มี ปิศาจจิ้งจอกเก้าหาง ผนึกอยู่ในร่างกาย จนทุกคนในหมู่บ้านหวาดกลัวและไม่กล้าเข้าใกล้ เขามีความฝันว่าวันหนึ่งจะต้องได้รับการยอมรับและกลายเป็นโฮคาเงะหรือหัวหน้าหมู่บ้านให้จงได้ ตอนนี้การ์ตูนเรื่องนี้ได้จบลงไปแล้ว แม้ในช่วงท้ายจะถูกวิจารณ์ไปบ้างว่าเนื้อเรื่องเละเทะและหาจุดจบไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่า…

สำหรับคนที่เป็นพนักงานบริษัท เชื่อว่าเวลา 80% ของชีวิตนั้นใช้อยู่ในออฟฟิศล้วนๆ ซึ่งชีวิตของเหล่าพนักงานออฟฟิศนั้นถือว่ามีเอกลักษณ์และความทุกข์สุขที่ไม่เหมือนอาชีพใดๆ วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 11 ภาพการ์ตูนผลงานของเว็บไซต์ Bright Side ที่สะท้อน “ชีวิตจริง” ของเหล่าพนักงานออฟฟิศ จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย   เช้าวันจันทร์ทีไร ทุกคนนี่หน้าตาเนือยๆ ตลอด   หัวหน้าไม่อยู่ หนูร่าเริง   อยากจะโยนงานทิ้ง แต่สุดท้ายก็ต้องกลั้นใจทำอยู่ดี   กล่องข้าวต้องวางเรียงกันสูงๆ   ผู้ตรวจงานมาที เหมือนตัวเล็กลง 10 เท่า   วันหยุดกะจะพักสบายๆ แต่สุดท้ายก็ต้องแก้งาน T^T   งานอยู่กับเราทุกที่ทุกเวลา   ต้นเดือนเหมือนราชา ปลายเดือนนี่กินมาม่าตลอด   งาน…ถ้าไม่ถึงวันเดดไลน์ ก็ไม่ค่อยมีแรงทำเท่าไหร่   ใครที่ขรึมๆ พอมีงานปาร์ตี้นี่คือสุดเหวี่ยง   หน้าหม่นหมองมาทั้งอาทิตย์ พอถึงวันศุกร์ปุ๊บนี่ร่าเริงเลย    …

ความรักเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์อย่างมาก มันทำให้เรามีความสุข บางครั้งก็สามารถเปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่างในตัวเราได้ และทำให้ชีวิตที่แสนธรรมดาของเราให้น่าสนใจยิ่งกว่าเดิม ศิลปินท่านหนึ่งชื่อว่า Lingvistov เขาเป็นนักวาดการ์ตูนที่ทำผลงานออกมามากมายเกี่ยวกับชีวิตของคนเรา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ทำออกมาในรูปแบบเหตุผลที่ผู้ชายรักผู้หญิง แต่ครั้งนี้เขามาในรูปแบบของ “เหตุผลที่ผู้หญิงรักผู้ชาย” ที่ทำออกมาแล้วน่ารักมากๆ จริงๆแล้วมันก็มีอีกล้านแปดเหตุผล แต่ที่เขาวาดมานั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราได้เห็นมุมมองที่น่ารัก ทั้งเรื่องที่ทำให้ยิ้มได้ เรื่องที่เขาชอบทำตัวตลกๆ จนเราคิดว่านี่หรือแฟนของเรา เราไปดูกันเลยว่าจะน่ารักแค่ไหน     เขาผลักดันให้ฉันกลายเป็นคนที่ดีขึ้น (อ้วนขึ้นนั่นเอง)   จะมาในมาดไหนก็หล่อออออ   เป็นหนูทดลองในการทำอาหารของฉัน (ต้องพูดว่าอร่อยด้วยนะ)   เป็นรถรับส่งตลอด 24 ชั่วโมง (โดยเฉพาะตอนเมา)   ยอมได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งแมว   เป็นเหตุผลที่ฉันยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองดูสวย   มักจะได้รับของขวัญดีๆ อยู่เสมอ (เหรอ?)   เป็นช่างประจำบ้าน   เป็นเพื่อนคู่ช็อป (ถามว่าคุณผู้ชายได้ซื้อมั้ย …ไม่)   ชายคนนี้คือผู้ที่ผ่านด่านคุณพ่อมาได้ เจ๋งป่ะล่ะ   ทำให้ฉันได้ขึ้น In a Relationship ในเฟซบุ๊กได้…

แม้เพศชายกับเพศหญิงจะถูกสร้างมาคู่กัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า พวกเขาเหมือนกันไปซะทั้งหมด ในบางเรื่อง พวกเขานั้นแตกต่างกันชนิดที่ว่าคนละโลกกันเลยทีเดียว และนั่นอาจทำให้เกิดปัญหาในความสัมพันธ์ได้ วันนี้เหมียวจึงพาเพื่อนๆไปชมการ์ตูนแสดงความแตกต่างระหว่างชายและหญิงจากเว็บไซต์ Arteide ที่เพื่อนๆเห็นแล้ว จะต้องเข้าใจเพศตรงข้ามมากขึ้นอย่างแน่นอน จะเป็นไง ไปชมกันเลย   นี่คือสาเหตุที่พวกเธอบ่นว่าอ้วนบ่อยๆสินะ   เค้าเรียกว่ามองคนละมุม   สิบนาทีรู้เรื่อง   ความแตกต่างบนโลกโซเชียล   การแบ่งที่นอนบนเตียง   เวลาเข้าห้องน้ำ   เวลาเลิกกัน   ความแตกต่างบนหน้าจอคอมพิวเตอร์   ความแตกต่างเรื่องการรับรู้เรื่องสี (อันนี้เหมียวรับประกัน)   ผู้หญิงมักบอกว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าใส่ ส่วนผู้ชายชุดเดียวใส่ได้ทั้งเดือน   การเลือกซื้อยาสระผม ผู้หญิงจะละเอียดมาก ส่วนผู้ชาย เห็นแค่คำว่า “ยาสระผม” บนฉลากก็หยิบมาแระ   เวลาตัดผม ผู้หญิงมักจะจ่ายเงินมากกว่า เพื่อความแตกต่างที่มีแต่ตัวเธอที่มองออก     ฮ่าๆ เหมียวว่านี่มันเรื่องจริงเลยนะ แล้วเพื่อนๆล่ะ คิดเหมือนกันรึเปล่า ลองแสดงความเห็นกันเข้ามาดูนะฮะ ที่มา Arteide

“Wake Me Up At HappyLand” เป็นการ์ตูนสั้นๆ ที่เปี่ยมไปด้วยความประทับใจ เป็นการ์ตูนที่ไม่ต้องมีบทพูด แต่ก็สามารถสิ่งต่อเรื่องราวดีๆ ให้กับเราได้ ในการ์ตูนเล่าถึงชายแก่คนหนึ่ง ที่ได้เดินทางท่องโลกเพื่อตามหาแฮปปี้แลนด์ ดินแดนแห่งความสุข แต่เขากลัวว่าขณะเดินทางเขาจะพลาดดินแดนแห่งนั้น ก็เลยเขียนป้านติดตัวไว้ว่า “ปลุกฉันด้วยนะ ถ้าถึงแฮปปี้แลนด์” แต่แล้วก็ไม่มีใครปลุกเขาเลย แต่เขาก็พยายามที่จะหามันต่อไป   ในการ์ตูนนี้เราจะได้เห็นเขาเดินทางด้วยหลากหลายวิธี แต่แล้วก็มีเรื่องราวให้หักมุมเล็กๆ เกี่ยวกับความสุขที่อยู่ใกล้ๆ ตัวเขา เราไปชมการ์ตูนชุดนี้กันเลยดีกว่า     จู่ๆ ก็มีหนูน้อยมาสะกิดชายชราให้ตื่น   เรากำลังจะไปที่แฮปปี้แลนด์กันเหรอคะ?   พ่อจ๋า แม่จ๋า เรากำลังจะได้ไปแฮปปี้แลนด์แล้ว!!   ถึง นักช่างฝัน นักท่องเที่ยว และคนที่กำลังหาแฮปปี้แลนด์   จงจดจำทุกหยาดที่แสงที่ส่องเข้ามา เพื่อฉายแววให้กับจักรวาลของคุณ   เบื้องหลังน้ำตา… จะมีรอยยิ้มให้เราได้ค้นหา   และในทุกสิ่งเล็กๆ เหล่านี้ มักจะมีดินแดนแห่งความสุขรอเราอยู่   ผู้เขียนการ์ตูนชุดนี้ชื่อว่า Josef Lee และเขายังมีการ์ตูนดีๆ อีกหลายเรื่องให้คุณได้ชมกัน ตามไปได้เลยที่ joseflee.wordpress.com ที่มา boredpanda

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่าความรักเป็นตัวขับเคลื่อนโลกให้หมุนไป ซึ่งเหมียวว่าก็คือ ความรักไม่จำเป็นว่าจะเป็นรักกันแบบแฟน แต่มันหมายถึงความรักแบบที่มนุษย์มีต่อสิ่งมีชีวิตและทุกๆอย่างบนโลก ศิลปินท่านหนึ่งชื่อว่า Philippa Rice เขาได้สร้างการ์ตูนขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อถ่ายทอดความรักแบบเล็กๆ ที่อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นเป็นยิ่งนัก โดยใช้เรื่องราวในชีวิตประจำวันเป็นการเล่าเรื่องต่างๆ เราไปดูกันเลยว่าจะน่ารักสักแค่ไหน   บางครั้งความรักก็หาได้ง่ายๆ เหมือนอย่างตอนเช้าตื่นมาแล้วอยู่ในห้องครัวด้วยกัน   แต่ละคนก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ แต่ถ้าได้มาอยู่ในห้องเดียวกันแล้ว มันก็จะอบอุ่นยิ่งกว่าเดิม   บางทีเราก็เผลอกอดคนรักตอนที่กำลังนอนหลับแบบไม่รู้ตัว   การออกไปซื้ออาหารด้วยกัน ก็เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น   แปรงฟันคนเดียวก็ไม่สนุกเท่าแปรงด้วยกัน   การกอด ถือเป็นการส่งต่อความรักให้กันและกันได้อย่างดี   ปัญญาระดับชาติคือ “เย็นนี้กินอะไรดี” ทางที่ดีที่สุดก็คือโยนเหรียญเสี่ยงทาย แต่สุดท้ายเธอก็เป็นคนเลือกอยู่ดี   ถึงแม้ว่าคุณจะเศร้าแค่ไหน แต่ถ้ามีคนให้จับมือด้วย อะไรๆก็ผ่านไปได้   สิ่งเล็กๆ ของความรักที่น่าจดจำคือการได้มีอะไรร่วมกันเป็นครั้งแรก   หลังจากที่เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว การได้นอนอ่านหนังสือก่อนนอนด้วยกัน เป็นอะไรที่มีความสุขจริงๆ   การได้ต่อเฟอร์นิเจอร์ด้วยกันเหมือนกับตอนที่ได้เล่นเลโก้สมัยเด็กๆ   บางทีคุณอาจจะได้เจอคำถามที่ยากๆ ที่เราต้องตัดสินใจ   การได้ทำอาหารร่วมกัน ก็ถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย ถึงแม้ว่าอาหารจะรสชาติออกมายังไงก็ตาม ถ้าได้ทำด้วยกัน มันก็อร่อยเสมอ  …

สำหรับคู่รักทั้งหลาย ที่อยากจะมอบของขวัญชิ้นพิเศษให้กับคนรักของคุณละก็ ในวันนี้เรามีไอเดียแหวนหมั้นน่ารักๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากเกมส์ ภาพยนตร์ดัง  และการ์ตูนดังมาฝาก และไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิง หากได้รับแหวนหมั้นไอเดียเก๋ๆ เหล่านี้สักวง รับรองว่าคุณจะต้องดีใจอย่างแน่นอน ยิ่งถ้าคุณเป็นคอเกมส์ คอหนัง และคอการ์ตูนละก็ คุณจะต้องถูกใจสุดๆ เลยละ   1.แหวนหมั้นจากเกมส์มาริโอ้ มาเป็น Player 2 ของฉันไหม?   2.แหวนหมั้นจากเจ้าชายอสูร อยากได้กันมั้ยเอ่ย   3.จาก The Hobbit ของรักของข้าาาาา   4.Death Star จาก Star Wars   5.สำหรับแฟนๆ Wall-e โดยเฉพาะ   6.จากเกมส์มาริโอ้ น่ารักดีนะ   7.แหวน R2-D2 สุดเท่ จาก Star Wars   8.แหวนหมั้นสุดอลังจาก ภาพยนตร์เรื่อง Doctor Who Tardis   9.แหวน Golden Snitch  จาก Harry potter   10.แหวนหมั้นสุดหรู จากภาพยนตร์เรื่อง Doctor Who Tardis…

จิตใจของมนุษย์นั้นยากที่จะเข้าใจ โดยเฉพาะในเรื่องของความพึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมี เมื่อเห็นว่าคนอื่นมีสิ่งที่ดีกว่า ก็มักจะเปรียบเทียบกับตนเองที่ด้อยกว่า ทำไมถึงไม่มีแบบนั้นบ้าง อะไรทำนองนี้ ลองมาอ่านการ์ตูนชุดนี้กัน แล้วปล่อยให้ความคิดของท่านเป็นตัวตัดสิน   มันคงจะดีนะ ถ้ามีเฮลิคอปเตอร์ขับ ไม่ต้องเจอรถติดแล้วก็เห็นเมืองทั้งหมดด้วย   มันไม่ใช่รถยนต์หรอก แต่มันเป็นงานศิลปะที่วิ่งได้ แต่เราก็คงไม่มีเงินพอที่จะซื้อรถแบบนั้นหรอก   รถอะไรฟะเนี่ย สวยเป็นบ้า ทั้งใหญ่ ทั้งทรงพลัง ไหนจะกว้างอีก แต่สาวๆ คงจะไม่ชอบซักเท่าไหร่   มี Ford ขับแบบนี้ก็น่าจะดีนะ มีทั้งเครื่องปรับอากาศดีๆ ระบบเกียร์ออโต้ แล้วก็ไม่พังทุกๆ 100 กิโลเมตรด้วย   ปั่นจักรยานมันก็ดีนะ แต่ต้องทนดมกลิ่นไอเสีย ไหนจะชุ่มไปด้วยเหงื่อตอนไปถึงที่ทำงาน ไหนจะเจอฝนตก มีรถธรรมดาซักคัน ปัญหาที่เจอก็คงจะหมดไป   มาไม่ทันรถเมล์อีกละ ต้องเดินไปทำงานแทน ถ้ามีจักรยานก็คงจะช่วยประหยัดเวลาได้ แถมยังดีต่อสุขภาพด้วย   ฉันสงสัยว่าทำไม่ชายคนนั้นดูไม่มีความสุขเลย หรืออาจจะได้งานที่ไม่ชอบ แต่อย่างน้อยเขาก็เดินไปไหนมาได้เนอะ   ‘Appreciate What You Have จงพอใจในสิ่งที่ตนเองมี’…

ปัจจุบันมีมังงะออกมามากมาย แต่น้อยเรื่องที่จะสามารถอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ เพราะบางเรื่องมันก็สนุกจริงๆจนทางค่ายก็ไม่อยากให้จบ นักเขียนก็ไม่อยากให้จบ ดังนั้นก็ต้องยืดเรื่องต่อไปเรื่อยๆ อันนี้พูดในกรณีการ์ตูนที่ไม่ใช่แบบจบในตอนนะ บางเรื่องจบในตอน แต่เรตติ้งดี อันนี้ก็ว่าไปอย่าง แต่อย่าง Bleach นี่เหมียวก็ลุ้นมาหลายปีแล้วว่าเมื่อไหร่จะจบ จนตอนนี้จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องมันไปถึงไหน ทางเว็บไซต์ My Navi ของประเทศญี่ปุ่นก็ได้ทำการสำรวจโดยสุ่มถามคนอ่านมังงะทั่วไปว่ามีเรื่องไหนบ้างที่คุณเลิกอ่านเพราะมันยาวเกินไป แล้วก็ได้ผลออกมาเป็นที่เรียบร้อย จากคนที่ถูกสัมภาษณ์ 500 คน นี่คือ 10 อันดับการ์ตูนที่คนเลิกอ่านมากที่สุด   10) Kindaichi Case Files (คินดะอิจิ) โดย Youzaburou Kanari, Seimaru Amagi, และ Fumiya Satou การ์ตูนที่มาแนวๆโคนัน นั่นเอง แน่นอนว่าการ์ตูนนักสืบมันเป็นแบบจบในตอน ก็เลยอยู่ยาวมาได้จนถึงขนาดนี้   9) Gintama (กินทะมะ) โดย Hideaki Sorachi การ์ตูนตลกที่เปี่ยมไปด้วยอะไรมากมาย อีกทั้งตัวหนังสือยังเยอะมากๆ อัดมุกตลกเต็มที่ แต่ด้วยความที่เนื้อเรื่องมันไปเรื่อยๆแบบไร้จุดหมาย ทำให้คนเลิกอ่านไปเยอะ แต่เหมียวก็ยังอ่านอยู่นะ อิอิ   (ร่วม) 7)…

ทุกวันนี้เราจะเห็นการคอมเม้นต์ในข่าวต่างๆนานา ซึ่งบางคอมเม้นต์ก็เน้นไปในทางคำด่า ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายในข่าวนั้นบางทีก็กลายเป็นสิ่งที่ให้คนในเน็ตได้ระบายอารมณ์ออกมา แทนที่จะเข้าไปให้กำลังใจ ศิลปินท่านหนึ่งชื่อว่า Katarzyna Babis เป็นนักเรียนศิลปะชาวโปแลนด์จึงตัดสินใจที่จะวาดการ์ตูนชุดหนึ่งขึ้นมาเพื่อสะท้อนปัญหาเหล่านี้โดยอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เขากล่าวว่า “เพื่อนของผมเคยมีประสบการณ์เหล่านี้มาแล้ว และผมก็ต้องการจะช่วยพวกเขา ผมต้องการที่จะเปลี่ยนเพื่อนสังคมออนไลน์ให้กลายเป็นบางสิ่งที่มีความหมาย และเพื่อให้รู้ว่าคุณก็ไม่ใช่คนเดียวที่กำลังประสบปัญหานี้”   “มีคนข่มขืนเธอคนนี้เหรอ!? หน้าแบบนี้ควรจะขอบคุณนะ” การข่มขืนไม่ใช่เรื่องน่ายินดี การทำเรื่องราวอันน่าสะเทือนใจเกี่ยวกับข่มขืนให้กลายเป็นเรื่องน่าขำ ยิ่งทำให้ผู้ร้ายไม่รู้สึกผิด และกลายเป็นว่าเหยื่อกลายเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว อย่าช่วยคนร้ายด้วยการสร้างค่านิยมนี้เลย เพราะมันจะส่งผลร้ายต่อเหยื่ออีกมากมาย   “ตั้งสติไว้ ใช้เวลาทำงานไป เดี๋ยวโรคซึมเศร้าก็จะหายไปเอง” โรคซึมเศร้าหรือภาวะซึมเศร้า ไม่ใช่อาการของอารมณ์เบื่อๆ ไม่มีแรงทำอะไร แต่โรคซึมเศร้าคืออาการป่วยชนิดหนึ่งที่รบกวนการทำงานของสมอง ซึ่งเป็นโรคที่ต้องการการรักษาทางการแพทย์ ไม่ควรที่จะเอามาพูดว่าคนอื่นที่เศร้าซึ่งเกิดจากอารมณ์   “อย่าทำตัวเหมือนผู้หญิงหน่อยเลย” คำว่า ผู้หญิง ไม่ควรที่จะเอามาใช้เป็นด่าเลย ผู้ชายเป็นเพศที่มองได้หลากหลายมุม การที่เราเห็นคุณพ่อเลี้ยงลูกนั้นถือเป็นเรื่องปกติ เราควรยินดีที่ได้เห็นผู้ชายทำหน้าที่นั้นด้วย และการใช้คำว่าผู้หญิงเป็นคำด่า ถือเป็นการเหยียดเพศอีกทางหนึ่ง   “อย่าทำตัวเป็นผู้แพ้หน่อยเลย” ไม่ใช่เฉพาะผู้หญิงเท่านั้นกลายเป็นเหยื่อ ผู้ชายก็ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงและข่มขืนได้เหมือนกัน และสังคมส่วนมากจะมองคนเหล่านี้ว่าเป็น Looser หรือ ผู้แพ้ การขอความช่วยเหลือคือเรื่องที่กล้าหาญ ไม่ใช่เรื่องที่แสดงถึงความอ่อนแอ   “ผ้าพันคอโคตรเกย์เลยว่ะ” คำว่า “เกย์”…

ศิลปินท่านนี้มีชื่อว่า Kristian Nygård ชาวนอร์เวย์เขาได้สร้างผลานชิ้นหนึ่งขึ้นมา ชื่อว่า Optipress เป็นการรวมคำจากคำว่า “optimism”(มองโลกในแง่ดี) และ “pessimism”(มองโลกในแง่ร้าย) เข้าด้วยกัน ผลงานการ์ตูนชิ้นนี้ประกอบด้วยหลากหลายข้อความที่เขาพยายามจะสื่อสารกับคนทั่วไป แต่อย่างหนึ่งที่เป็นธีมหลักก็คือความหดหู่ ความเศร้าหมองของคนเราที่สามารถพบเจอได้แทบทุกวัน ผลงานชิ้นนี้ถูกตีพิมพ์ในแม็กกาซีนในนอร์เวย์ที่ชื่อ Kollektivet ซึ่งลงมานานตั้งแต่ปี 2010 แล้ว เราไปชมผลงานของเขากันเลย   กว่าจะลุกจากเตียงได้ มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ   บางทีอินเตอร์เน็ตก็อาจทำให้เราเหงาจนฟุ้งซ่าน และสุดท้าย มันนี่แหละที่ทำให้เราต้องเจ็บปวด   ถึงจะเศร้าแค่ไหน เวลาออกไปข้างนอกก็ต้องยิ้มอยู่เสมอ   สิ่งที่ช่วยรักษาก็อาจจะมี แต่มันก็ไม่ได้ทำให้หายขาด มันแค่ปกปิดไว้เฉยๆ   อาจจะมีคนมาช่วยเรา แต่บางครั้งคนๆนั้นก็ทำให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิม   สุดท้าย ยาก็ไม่ได้ช่วยให้เราเลิกคิดถึงเรื่องเศร้าๆ แต่มันทำให้เราคิดถึงมันในแง่ดีขึ้นแค่เท่านั้น ที่มา boredpanda