Tag: นักโทษ

  • เรือนจำหญิงล้วนแคลิฟอร์เนีย มีนักโทษ “ตั้งครรภ์” ทุกเดือน ทั้งๆ ที่ไม่มีนักโทษชายแม้แต่คนเดียว

    เรือนจำหญิงล้วนแคลิฟอร์เนีย มีนักโทษ “ตั้งครรภ์” ทุกเดือน ทั้งๆ ที่ไม่มีนักโทษชายแม้แต่คนเดียว

    กลายเป็นปัญหาที่ควรพิจารณา เมื่อเรือนจำหญิง Valley State Prison ในแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีนักโทษหญิงที่ มีครรภ์ ราว 100 คนในทุกๆ เดือน Valley State Prison เป็นเรือนจำหญิงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันมีนักโทษหญิงถูกขังอยู่ราว 4,000 คน จากสถิติพบว่าในทุกๆ เดือนจะมีนักโทษที่มีครรภ์ราว 100 คน โดยที่ไม่สามารถสืบหาตัวตนของผู้เป็นพ่อเด็กได้     ทั้งนี้อัตราการตั้งครรภ์ของนักโทษหญิงนั้นกระจายไปหลายช่วงอายุ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักโทษวัยเยาว์หรือวัยชราก็มีนักโทษที่เกิดการตั้งครรภ์ เพียงแต่ส่วนมากจะเป็นนักโทษวัยสาว ในแต่ละปี จะมีเด็กทารกกำเนิดขึ้นในเรือนจำราวๆ 300 คน และแม่ของพวกเขาหลายคนก็เลือกที่จะเลี้ยงดูลูกในฐานะแม่ให้ดีที่สุด แม้ตนเองจะยังอยู่ในเรือนจำก็ตาม     หากนักโทษผู้เป็นแม่เลือกที่จะไม่รับเลี้ยงลูกของตนเอง เด็กก็จะถูกส่งไปยังสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่ถ้าใครเลือกแล้วว่าจะดูแลลูกของตนด้วยตัวเอง ก็จะต้องยอมรับผลที่ตามมาของการเติบโตขึ้นในเรือนจำ สิ่งน่าสงสัยสำหรับเรื่องนี้ก็คือ เรือนจำ Valley State Prison แห่งนี้เป็นเรือนจำหญิงล้วน ที่จะไม่มีนักโทษชายเลยแม้แต่คนเดียว อีกอย่างหากว่านักโทษมีการตั้งครรภ์มาตั้งแต่ก่อนเข้าเรือนจำ ก็จะต้องถูกตรวจพบว่ามีครรภ์ ฉะนั้น จึงมั่นใจได้ว่า นักโทษหญิงเหล่านี้เพิ่งมีการตั้งครรภ์ในเรือนจำอย่างแน่นอน คำถามก็คือ…

  • อดีตนักโทษมะกันเสีย ‘อวัยวะเพศ’ จากมะเร็ง โร่ฟ้องเรือนจำปล่อยโรคไร้การ “วินิจฉัย”

    อดีตนักโทษมะกันเสีย ‘อวัยวะเพศ’ จากมะเร็ง โร่ฟ้องเรือนจำปล่อยโรคไร้การ “วินิจฉัย”

    เรื่องราวชวนปวดหัวในวันนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนาย Keith Jackson วัย 49 ปี ที่ต้องเสียอวัยวะเพศไปเนื่องจากโรคมะเร็ง Keith Jackson เคยเป็นผู้ต้องขังในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เขาถูกจับกุมในข้อหาพกพาอาวุธปืนอย่างผิดกฎหมายและก่ออาชญากรรมร้ายแรง หลังจากนั้นเขาเสียอวัยวะเพศจากโรคมะเร็ง เขาจึงโทษเรือนจำที่ไม่ตรวจอาการเขาก่อนหน้านี้   Keith Jackson วัย 49 ปี   ในช่วงเวลา 15 เดือนแรกที่เขาถูกขังอยู่ในเรือนจำ เขาก็เริ่มมีอาการเจ็บปวดที่แผลบนอวัยวะเพศของตนเอง มันเริ่มบวมช้ำและมีเลือดออกมาก ข้อมูลจากบันทึกทางการแพทย์ของ Keith พบว่าเขาถูกวินิจฉัยว่ามีการติดเชื้อที่บริเวณอวัยวะเพศหลายต่อหลายครั้ง โดยทีมแพทย์เชื่อว่าเขาได้รับเชื้อมาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน จึงให้ยาปฏิชีวนะแก่เขา ภายหลังทีมแพทย์ตัดสินใจ ทำการผ่าตัด Keith แต่มันก็สายเกินไปเพราะอาการของมะเร็งได้ลุกลามจนทำลายอวัยเพศของเขาไปแล้ว     นั่นทำให้ Keith ต้องการให้ทางเรือนจำและทีมแพทย์ในเรือนจำออกมารับผิดชอบ ที่ปล่อยให้อาการของโรคมะเร็งลุกลามในตัวเขาโดยที่ไม่มีการตรวจวินิจฉัย Keith กล่าวว่า… “ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องออกมารับผิดชอบเรื่องนี้ และสิ่งที่ผมต้องการจริงๆ ก็คือ ‘ความช่วยเหลือ’ เท่านั้นเอง”  สุดท้ายเขาก็ยื่นเรื่องฟ้องรัฐบาลกลางภายใต้กฎการฟ้องร้องของภาคเอกชนต่อภาครัฐบาล นอกจากนี้เขายังฟ้องเรือนจำอีก 6 แห่งที่เขาเคยถูกขัง และสถานรักษาพยาบาลอีก 2 แห่งอีกด้วย     Keith…

  • นักโทษแฝดสลับตัวกัน ให้อีกคนที่กำลังจะ “ถูกประหาร” ได้ออกมาสูดอากาศข้างนอกบ้าง

    นักโทษแฝดสลับตัวกัน ให้อีกคนที่กำลังจะ “ถูกประหาร” ได้ออกมาสูดอากาศข้างนอกบ้าง

    ราวกับพล็อตหนัง เมื่อฝาแฝดคู่หนึ่งที่ต้องโทษจำคุก ล่าสุดแฝดคนหนึ่งถูกตัดสินประหารในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า ทั้งคู่จึงสลับตัวกันเพื่อให้แฝดอีกคนได้ออกมาสูดอากาศนอกแดนประหารก่อนตาย… David Moore และ Carey Dean Moore พี่น้องฝาแฝดในวัย 60 ปีเท่ากัน มีการสลับตัวกันบ่อยครั้งขณะถูกขังภายในทัณฑสถานของรัฐเนแบรสกา     หลังจากทั้งคู่ถูกขังมานานกว่า 30 ปี และในปีนี้ David จะต้องเห็น Carey จากไปด้วยการประหารชีวิต เนื่องจากได้ก่อคดีฆาตกรรมสังหารคนขับแท็กซี่ 2 รายในปี 1979 แฝดทั้งสองจึงขออนุญาตพบปะพูดคุยกัน อ้างว่าคุยเรื่องครอบครัวทางบ้าน และได้ทำการสลับเสื้อผ้าและงานในเรือนจำ เพื่อให้ Carey ได้ออกนอกแดนประหารไปสูดอากาศบริสุทธิ์อีกครั้ง     อย่างไรก็ตาม แม้การประหารกำลังจะเกิดขึ้นในวันอังคารที่ 14 สิงหาคม 2018 แต่ชาวเมืองในละแวกไม่ต้องการให้มีการประหารชีวิตเกิดขึ้นภายในเมือง มีเพียงครอบครัวของคนขับแท็กซีที่เป็นเหยื่อการฆาตกรรมเมื่อ 30 ปีที่แล้วเท่านั้นที่ต้องการให้ชายผู้พรากชีวิตสมาชิกในครอบครัวของพวกเขา ต้องถูกลงโทษอย่างสาสม   ที่มา: ladbible, thesun และ journalstar

  • 10 ภาพของวิถี ‘คนคุก’ กับเรือนจำที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิต ผู้หลงผิดในนิยามที่ต่างกัน

    10 ภาพของวิถี ‘คนคุก’ กับเรือนจำที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิต ผู้หลงผิดในนิยามที่ต่างกัน

    อาชญากรเลือกกระทำความผิดที่ขัดต่อกฎหมายบ้านเมือง เมื่อถูกจับได้จะต้องนำตัวไปปรับทัศนคติตามหลักกฎหมายและมนุษยธรรม เมื่อถึงเวลาอันสมควรก็จะได้รับการปล่อยตัวออกมาสู่สังคมอีกครั้ง ในช่วงเวลาระหว่างการใช้ชีวิตในเรือนจำของแต่ละประเทศนั้นจะไม่เหมือนกัน เนื่องจากแต่ละท้องที่จะนิยามและให้การดูแลสวัสดิการตามกำลังที่มี บวกกับแนวคิดที่ยังคงตีกรอบเอาไว้ตามความเหมาะสม…   เรือนจำ Aranjuez ประเทศสเปน   เรือนจำ Aranjuez ยอมให้พ่อแม่และเด็กอยู่ด้วยกัน ในช่วงที่หนึ่งในสมาชิกครอบครัวของจองจำ พร้อมกับการตกแต่งห้องขังให้บรรยากาศครอบครัว มีเนอร์เซอรี่ และสนามเด็กเล่น เพื่อไม่ให้เด็กรับรู้ได้ว่ากำลังใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำในขณะที่พ่อแม่ถูกขัง   เรือนจำ Luzira ประเทศยูกันดา   ผู้ต้องขังในเรือนจำแห่งนี้จะมีหน้าที่รับผิดชอบจำนวนมาก ทั้งการดูแลกลุ่มของตัวผู้ต้องขังเอง แบ่งออกเป็นหน่วยช่วยกันรับผิดชอบ การปลูกพืชผักและเก็บเกี่ยวมาทำอาหาร พร้อมกับแจกจ่ายให้กับทุกคนภายในเรือนจำ พร้อมทั้งสอนทักษะวิชาชีพอย่างช่างไม้ให้ เมื่อพ้นโทษไปแล้วอัตราการกระทำผิดซ้ำของที่นี่มีเพียง 30% เท่านั้น เมื่อเทียบกับอังกฤษ 46% และสหรัฐฯ 76%   เรือนจำ Bastøy ประเทศนอร์เวย์   เรือนจำแห่งนี้เป็นเรือนจำขนาดใหญ่แต่เข้มงวดน้อย อันเป็นสถานที่จองจำฆาตกรและพวกข่มขืน ตั้งอยู่บนเกาะ Bastøy ในชื่อเดียวกันและกินพื้นที่บนเกาะทั้งหมด มีเพียงส่วนชายหาดทางตอนเหนือของเกาะที่เปิดให้ประชาชนคนทั่วไปเข้ามาได้ เรือนจำเปรียบได้เสมือนชุมชนขนาดเล็ก มีอาคาร 80 หลัง ถนนพื้นที่ชายหาด ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรม สนามฟุตบอล พื้นที่เพาะปลูกและป่า…

  • ปัญหาน่าเศร้าของญี่ปุ่น หญิงชราก่อคดีหวังเข้า “คุก” เพราะ ‘ฉันจะไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว…’

    ปัญหาน่าเศร้าของญี่ปุ่น หญิงชราก่อคดีหวังเข้า “คุก” เพราะ ‘ฉันจะไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว…’

    ประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าดูจะเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรม แต่เมื่อหลายๆ สิ่งเปลี่ยนไป ประชากรของประเทศกลับต้องประสบปัญหาที่น่าเศร้า… ประชากรในประเทศญี่ปุ่น 27.3 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด เป็นผู้สูงวัยที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และสิ่งที่เป็นปัญหาตอนนี้คือการก่ออาชญากรรมของผู้สูงอายุนั่นเอง     จากสถิติแล้วมีการแจ้งความและจับกุมผู้สูงอายุในญี่ปุ่นจำนวนมาก โดยเฉพาะ หญิงชรา ที่มีอัตราการก่อคดีสูงกว่ากลุ่มประชากรอื่นๆ เช่นกัน ราวๆ 1 ใน 5 ของจำนวนนักโทษนั้นเป็นผู้สูงอายุ และส่วนมากนักโทษหญิงสูงวัย 9 ใน 10 คน ถูกระบุว่าต้องโทษคดี ขโมยของในร้านค้า     สาเหตุที่พวกเธอต้องลงมือก่อคดี หรือว่าขโมยของ ก็เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของประเทศญี่ปุ่น จากปี 1980 ที่การดูแลผู้สูงอายุนั้นเป็นหน้าที่สำคัญของครอบครัวและชุมชน เปลี่ยนแปลงมาจนถึงปี 2015 ที่กลับกลายเป็นว่าผู้สูงอายุต้อง อาศัยอยู่ตามลำพังเพิ่มมากขึ้น ราว 6 ล้านคนหรือมากกว่า 6 เท่าเลยทีเดียว จากการสำรวจของรัฐบาลญี่ปุ่นในปี 2017 พบว่าครึ่งหนึ่งของนักโทษหญิงชราในคดีขโมยของนั้นต้อง อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยว และอีก 40 เปอร์เซ็นต์ไม่มีครอบครัวหรือไม่มีปฏิสัมพันธ์กับเครือญาติ พวกเขาเหล่านี้มักพูดว่า พวกเขาไม่เหลือที่พึ่งอีกแล้วยามที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ…

  • อภินิหารคนคุกพิชิตแมว…ฝึกเหมียวให้ลักลอบนำโทรศัพท์มาใช้ในคุก อะไรจะเก่งปานนั้น!?

    อภินิหารคนคุกพิชิตแมว…ฝึกเหมียวให้ลักลอบนำโทรศัพท์มาใช้ในคุก อะไรจะเก่งปานนั้น!?

    ระบบการรักษาความปลอดภัยภายในคุกนั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามแม้แต่เศษเสี้ยวเดียว เนื่องจากทุกอย่างที่ดูผิดปกวิสัย อาจจะก่อให้เกิดเหตุร้ายแรงตามมาได้ หนึ่งในปัญหาของคุกระดับสากลโลกก็คือ การลักลอบนำโทรศัพท์มาใช้ภายในคุก แต่ก็คงไม่มีประเทศไหนเหมือนคอสตาริกา เพราะล่าสุดต้องเจอกับกรณีใช้ ‘แมว’ เป็นตัวกลางในการลักลอบขนส่งโทรศัพท์เข้ามาในคุก!     เมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ 17 เมษายน 2018 กระทรวงยุติธรรมประเทศคอสตาริกา ได้เผยแพร่วิดีโดคลิปของการดักจับแมว ในระหว่างที่มันกำลังจะแอบเข้าไปในคุก La Reforma ในจังหวัดอาลาคูเอลา     โดยเจ้าแมวตัวนี้ มีห่อลักษณะแปลกๆ ถูกติดเทปไว้บริเวณหน้าท้องและคล้องไว้ที่คอของมัน ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่แกะหีบห่อออกจากเจ้าเหมียวได้ เปิดดูข้างในห่อก็พบว่าเป็น โทรศัพท์มือถือ พร้อมที่ชาร์จแบตฯ แบตฯ สำรอง และหูฟัง…     ทางด้านกระทรวงยุติธรรมไม่ได้เปิดเผยว่าเจ้าแมวตัวนี้ ถูกจับได้ที่บริเวณไหน ที่เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นห่อแปลกๆ ได้อย่างไร แต่กล่าวไว้ว่ามันคือ ‘แมวที่ถูกฝึกมา’ เป็นตัวที่สอง หลังจากที่จับตัวแรกไปได้ก่อนหน้านี้เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน     ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนก็เคยมีการใช้นกพิราบ บินมาส่งโคเคน 14 กรัม และกัญชา 14 กรัม ให้กับนักโทษภายในคุก และเจ้าหน้าที่ก็สามารถทำการจับกุมนกพิราบตัวนั้นได้เสียก่อน……

  • 13 อาวุธโคตรโหดกระโดดฟันของจริง กับสิ่งประดิษฐ์ด้วยมือนักโทษ ส่งตรงมาจากในคุก!!

    13 อาวุธโคตรโหดกระโดดฟันของจริง กับสิ่งประดิษฐ์ด้วยมือนักโทษ ส่งตรงมาจากในคุก!!

    คุก คงไม่ใช่สถานที่ที่ทุกคนอยากไปแน่นอน เพราะที่นั่น มีไว้สำหรับการกักขังนักโทษที่กระทำการผิดกฎหมายในคดีต่างๆ ตั้งแต่ลักทรัพย์ไปจนถึงฆาตกรรม แน่นอนในคุกไม่ใช่สถานที่พักผ่อนแสนสบายแบบโรงแรม แต่เป็นห้องสี่เหลี่ยมพร้อมลูกกรงที่ใช้ควบคุมอิสรภาพของนักโทษไว้ในกำมือ     ในบรรดาเหล่านักโทษเองก็จะอยู่กันเหมือนเป็นสังคมหนึ่ง ที่บางครั้งก็มีคนบางคนหรือบางกลุ่มมีอิทธิพลมากกว่าคนอื่นๆ และบางครั้งกลุ่มที่มีอิทธิพลก็มีการทำร้ายร่างกายนักโทษด้วยกันเอง ดังนั้นนักโทษในคุกแต่ละคนจึงมีการหาอาวุธมาใช้ป้องกันตนเอง วันนี้ เราจึงขอนำเสนอ อาวุธต่างๆ จากในคุก ที่เหล่านักโทษนำมาใช้เพื่อป้องกันตัว และใช้เพื่อทำร้ายคนอื่น จะมีอาวุธอะไรบ้าง และจะน่ากลัวขนาดไหน ไปชมกันเลย…   1. ปืนทำมือ   ในเดือนพฤษภาคม 1984 นักโทษสองรายได้หนีออกจากห้องคุมขังได้ โดยการจับเจ้าหน้าที่รักษาการไว้เป็นตัวประกันได้ ปืนนี้ประกอบไปด้วย ตะกั่วที่ได้จากจากแผงผ้าม่าน หัวไม้ขีดไฟ แบตเตอรี่ AA และเศษหลอดไฟที่แตก ปืนนี้ใช้ได้จริง เพราะพวกเขา ยิงมัน 2-3 นัดเข้าที่กระจกกันกระสุนเพื่อเปิดทางให้พวกเขาหนีออกไป   2. มีดพกจากไม้กางเขน   อาวุธชิ้นนี้ยึดมาได้จากนักโทษชาวเยอรมันเมื่อปี 1994 ที่คุก Wolfenbüttel ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่นักโทษจะเหลาไม้เป็นรูปไม้กางเขน แต่สำหรับนักโทษคนนี้เขาได้ประกอบเอาใบมีดเข้าไปซ่อนบริเวณด้านล่างของไม้กางเขนด้วย ซึ่งการใช้ก็คือเลื่อนเปิดไม้กางเขนออก และปิดเมื่อไม่ได้ใช้   3. ปืนซิป…

  • นักโทษประหารชีวิตรอดตาย เพราะเจ้าหน้าที่หา ‘เส้นเลือด’ ไม่เจอ จ่อโดนฟ้องทารุณกรรม

    นักโทษประหารชีวิตรอดตาย เพราะเจ้าหน้าที่หา ‘เส้นเลือด’ ไม่เจอ จ่อโดนฟ้องทารุณกรรม

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่รัฐแอละแบมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จำเป็นต้องปล่อยนักโทษประหารชีวิตรายหนึ่ง เนื่องจากไม่สามารถเจาะแขนและขาของเขาเพื่อฉีดยาประหารชีวิตได้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ 2018 นาย Doyle Lee Hamm ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตจากคดีฆาตกรรมและปล้นทรัพย์นาย Patrick Cunningham พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งเมื่อปี 1987     การประหารชีวิตนักโทษรายดังกล่าวจำเป็นต้องถูกยกเลิก หลังจากที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถหาเส้นเลือดที่บริเวณแขนและขาของชายหนุ่มเพื่อฉีดยาประหารได้ หลังจากการยกเลิกการประหารชีวิตนักโทษรายดังกล่าว Bernard Harcourt ทนายความของผู้ต้องหาได้ฟ้องข้อหาทรมานนักโทษรายนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการเจาะที่ร่างกายของผู้ต้องหามากถึง 12 ครั้ง ซึ่งรวมไปถึงการเจาะกระเพาะปัสสาวะของเขาด้วย     “เห็นได้ชัดว่ามีการดำเนินการที่ไม่เป็นธรรมกับผู้ต้องหา ซึ่งเข้าข่ายการทรมาน” Harcourt อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกความของเขา นอกจากนี้ทางฝ่ายทนายของผู้ต้องหายังได้กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการเจาะกระเพาะปัสสาวะของผู้ต้องขัง หลังจากที่เขามีอาการปัสสาวะเป็นเลือด “พวกเขาอาจจะเจาะโดนหลอดเลือดแดงของลูกความผม เพราะมันมีเลือดไหลออกมาอย่างมาก นอกจากนี้ยังพบรอยแผลอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่ข้อเท้า น่อง และตามจุดต่างๆ ของร่างกาย” ทนายความกล่าว     ทนายความของนาย Hamm ยังกล่าวต่ออีกว่าลูกความของเขาทรมานอย่างมากในระหว่างการประหารชีวิต พร้อมกับบอกว่าสาเหตุที่เจ้าหน้าที่หาหลอดเลือดของเขาไม่เจอนั้น ก็เพราะว่าก่อนหน้านี้นาย Hamm ได้เข้ารับการักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และการักษาดังกล่าวนั้นทำให้หลอดเลือดของเขาถูกทำลาย โดยกฎหมายแล้ว นักโทษจะได้รับความคุ้มครองต่อการทารุณและการลงโทษที่โหดร้ายเกินกว่าเหตุ ซึ่งในกรณีดังกล่าวศาลจะทำการพิจารณาต่อไปว่าเป็นการทารุณหรือไม่ ในส่วนของศาสพิพากษาสูงสุดของสหรัฐฯ มีคำสั่งให้หยุดการฉีดยาประหารชีวิตนักโทษรายดังกล่าว พร้อมกับได้รับการยินยอมจากผู้พิพากษาถึง 3 คนด้วยกัน  …

  • ผู้คุมขังเปิดใจ… ถ้าหากวันนั้นไม่ได้นักโทษแหกคุกช่วยเอาไว้ เขาอาจจะหมดลมหายใจไปแล้ว

    ผู้คุมขังเปิดใจ… ถ้าหากวันนั้นไม่ได้นักโทษแหกคุกช่วยเอาไว้ เขาอาจจะหมดลมหายใจไปแล้ว

    สำหรับนักโทษแล้ว ผู้ที่เหมือนกับกุมชะตาชีวิตของพวกเขาเอาไว้อยู่ก็คือเหล่า ‘ผู้คุม’ ที่จะคอยควบคุมดูพฤติกรรมของนักโทษให้ถูกที่ถูกทาง ดังนั้นผู้คุมกับนักโทษจึงเหมือนเหมือนลิ้นกับฟันที่พร้อมจะกระทบกระทั่งกันตลอดเวลา แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า ในอดีตจะเคยมีเรื่องราวของนักโทษที่ยอมเสี่ยงแหกคุกออกมาเพื่อออกมาช่วยชีวิตผู้คุมเกิดขึ้น และในตอนนี้ผู้คุมคนดังกล่าวก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องที่ว่านี้เป็นครั้งแรกแล้ว อ่านข่าวเก่าได้ที่>> กลุ่มผู้ต้องหารวมพลัง “แหกคุก” ออกมาช่วยชีวิตผู้คุมขัง ที่กำลังหมดสติอยู่ !!!   โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2016 ที่เรือนจำ Parker County ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อมีกลุ่มนักโทษกลุ่มหนึ่งได้สังเกตเห็นว่า Gary Grimm ผู้คุมที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเวลานั้นเกิดหมดสติลงด้วยอาการของโรคหัวใจกำเริบอย่างฉับพลัน   Gary Grimm   พวกเขาจึงตัดสินใจฝ่าลูกกรงออกมาเพื่อส่งเสียงขอความช่วยเหลือ แม้ว่าการกระทำของพวกเขาในครั้งนั้นจะทำให้เสี่ยงต่อการโดนเพิ่มโทษ หรือถูกทำร้ายก็ตาม แต่พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป     และแล้วการกระทำของพวกเขาก็ประสบผลสำเร็จ เมื่อมีเจ้าหน้าที่วิ่งมาให้การช่วยเหลือผู้คุมคนนี้อย่างทันควัน และในที่สุด Gary ก็สามารถรอดพ้นความตายในครั้งนั้นมาได้ ด้วยความช่วยเหลือของนักโทษกลุ่มดังกล่าวนั่นเอง และในตอนนี้ผู้คุมชาวเท็กซัสวัย 52 ปี ก็อยากจะออกมาขอบคุณที่ในตอนนั้นกลุ่มนักโทษได้ช่วยชีวิตของเขาไว้ พร้อมทั้งยังทำให้เขาได้เห็นอีกมุมหนึ่งในตัวของเหล่านักโทษ     “แทนที่พวกเขาจะปล่อยผมตายแล้วแย่งปืน หรือฆ่าผม หรือจับผมเอาไว้เป็นตัวประกันแล้วหลบหนีไป แต่พวกเขาก็ยังเห็นผมเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งมันสะเทือนอารมณ์ของผมมากเลยทีเดียว จริงๆ แล้วในตอนนั้นถ้าพวกเขาอยากจะทำร้ายผม สิ่งที่พวกเขาต้องทำทั้งหมดก็เพียงแค่นั่งอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไร…

  • นักโทษชาวสเปนถูกแจ้งเสียชีวิตในคุกแล้ว แต่เจ้าตัวกลับตื่นขึ้นมาในที่เก็บศพหน้าตาเฉย!?

    นักโทษชาวสเปนถูกแจ้งเสียชีวิตในคุกแล้ว แต่เจ้าตัวกลับตื่นขึ้นมาในที่เก็บศพหน้าตาเฉย!?

    กลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตเลยทีเดียว หลังจากที่คุกแห่งหนึ่งได้แจ้งว่านักโทษของเขาตายไปเรียบร้อยแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ เขากลับยังไม่ตายแถมตื่นมาระหว่างที่ตัวเองกำลังจะถูกผ่าชันสูตรด้วย!? เรื่องราวดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่คุกแห่งหนึ่งในแคว้นอัสตูเรียส ซึ่งเป็นแคว้นหนึ่งภายในราชอาณาจักรสเปน โดย Gonzalo Montoya Jimenez นักโทษชาวสเปนวัย 29 คือผู้โชคร้ายของเรื่องราวในครั้งนี้     ตัว Gonzalo นั้นถูกพบในสภาพที่ไม่มีสติภายในคุก ซึ่งเขาได้ถูกนำตัวส่งทีมแพทย์ในคุกดังกล่าวทันที จากนั้นในเวลาต่อมาไม่นานแพทย์สองคนประจำคุกก็ได้ยืนยันกับทางคุกและญาติของเขาว่า Gonzalo ได้เสียชีวิต นอกจากนั้นแพทย์อีกคนจากทางสถาบันนิติเวชก็ยังยืนยันว่าเขาตายแล้วจริงๆ เมื่อเขาได้รับการยืนยันจากแพทย์ถึงสามคนแล้ว ร่างของ Gonzalo จึงถูกส่งต่อไปยังห้องเก็บศพทันที โดยดูเผินๆ กระบวนการทุกอย่างก็เป็นไปตามปกติจนกระทั่งมีสัญญานไฟจากห้องเก็บศพดังขึ้น     แพทย์ในห้องเก็บศพนั้นได้แจ้งมาว่า Gonzalo ได้หายใจและตื่นขึ้นมาระหว่างที่เขากำลังจะผ่าชันสูตร ทำให้ทั้งแพทย์คนดังกล่าวและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ตกใจกันเป็นอย่างมาก พร้อมส่งนักโทษคนดังกล่าวไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงทันที     ปัจจุบัน Gonzalo อยู่ในสภาพโคม่าจากผลของยาที่แพทย์ได้ให้ไปหลังจากยืนยันว่าเขาเป็นศพแล้ว ทั้งที่จริงเขากลับยังไม่ตายนั่นเอง ส่วนจะกลับมามีชีวิตได้หรือไม่นั้นก็คงต้องรอดูผลวิจัยและอาการของเขาต่อไปนั่นเอง…   ทืี่มา telecinco

  • เที่ยวชม ‘คุกญี่ปุ่น’ ดูสะดวกสบาย แต่ลึกๆ กลับให้ความรู้สึกอึดอัดและทุกข์ทรมาน!!

    เที่ยวชม ‘คุกญี่ปุ่น’ ดูสะดวกสบาย แต่ลึกๆ กลับให้ความรู้สึกอึดอัดและทุกข์ทรมาน!!

    หากจะกล่าวถึงหนึ่งในประเทศในฝันแถบเอเชียที่มีทั้งระเบียบวินัยเป็นเลิศ ประเพณีอันงดงามเป็นเอกลักษณ์ บ้านเมืองสะอาด อัตราการเกิดอาชญากรรมน้อยถึงน้อยมาก อันเนื่องมาจากเป็นประเทศที่พัฒนาทั้งทางด้านความคิดและรูปลักษณ์ภายนอก นั่นก็คือ ‘ประเทศญี่ปุ่น’ นี่แหละ     ว่ากันว่าประเทศญี่ปุ่นมีอาชญากรรมน้อยมาก การปล้นจี้แทบจะไม่มีเลย โดยเทียบอัตราส่วนของประชากร 100,000 คน จะมีเพียงแค่ 49 เท่านั้นที่เป็นนักโทษ เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างอเมริกาตัวเลขพุ่งสูงไปถึง 760 คน (อัตราเทียบในปีค.ศ. 2008)     โดยระบบยุติธรรมของประเทศญี่ปุ่นเน้นในเรื่องของ ‘การสำนึกตัวให้กลับมาเป็นคนดี’ หากใครกระทำความผิดที่ไม่ร้ายแรงมากเป็นครั้งแรก ทั้งตำรวจและศาลจะว่ากล่าวตักเตือนก่อนและทำการปล่อยตัวไป พยายามติดต่อคนในครอบครัวช่วยพาผู้ที่หลงผิดกลับตัวเป็นคนดีให้ได้ แต่ถ้าหากว่ารุนแรงเกินกว่าจะเป็นคนดีได้ ก็ต้องถูกส่งตัวเข้าคุกไปตามระเบียบ     ดูผิวเผินจากระบบดังกล่าวแล้ว คล้ายๆ กับการให้อภัยแก่ผู้ที่หลงผิดให้มีโอกาสกลับตัวกลับใจ และสภาพภายในของคุกญี่ปุ่นนั้นดูสะดวกสบายมากๆ มีเครื่องอำนวยความสะดวกให้เพรียบพร้อมทุกอย่าง แต่กระบวนการต่อจากนี้อาจทำให้ผู้ต้องหาภายในคุกกลับทุข์ทรมานยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก     เพราะหัวใจหลักของระบบยุติธรรมของญี่ปุ่นคือ ‘การสารภาพ’ เพราะเชื่อว่าการสารภาพคือขั้นแรกของการกลับตัวกลับใจ โดยเฉพาะผู้ที่ถูกกล่าวหาในอาชญากรรมรุนแรงอย่างการฆาตกรรม ทำให้เกิดปัญหาที่ว่าผู้ต้องสงสัยหลายรายยอมรับสารภาพ เพื่อที่จะไม่ต้องเจอการสอบสวนแบบหนักหนาสาหัสอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 23 วัน โดยที่ยังไม่ถูกตั้งข้อหา     โดยการสอบสวนเพื่อเค้นให้ยอมรับสารภาพของตำรวจญี่ปุ่น จะกินเวลาประมาณ…

  • เรื่องราวของ ‘คุกโลมาดำ’ ที่ไม่ได้น่ารักเหมือนชื่อ เพราะนี่คือคุกที่โหดที่สุดในรัสเซีย

    เรื่องราวของ ‘คุกโลมาดำ’ ที่ไม่ได้น่ารักเหมือนชื่อ เพราะนี่คือคุกที่โหดที่สุดในรัสเซีย

    คงไม่มีใครอยากติดคุก การต้องติดอยู่ห้องขังหรือรั้วกั้นที่ทำให้เราไม่ได้รับอิสรภาพและไม่ได้เห็นสิ่งต่างๆ ภายนอกเป็นเรื่องที่น่ากลัวเกินบรรยาย แล้วยิ่งถ้าเป็นคุกที่ขึ้นชื่อว่า “โหดที่สุด” แล้ว มันก็ยิ่งเลวร้ายมากกว่านั้น เหมือนกับสถานที่แห่งนี้ นี่คือคุกที่ชื่อว่า Black Dolphin หรือแปลไทยก็คือ โลมาดำ ตั้งอยู่บนชายแดนประเทศคาซัคสถาน เป็นคุกที่เรียกได้ว่า “โหดที่สุดในรัสเซีย” และการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาเอามากๆ มันโหดขนาดไหนและนักโทษภายในนั้นต้องเจอกับอะไรบ้าง เราลองไปสำรวจกันผ่านภาพเหล่านี้   ชื่อของคุกถูกตั้งขึ้นมาอย่างไม่เป็นทางการ จากนักโทษที่ได้เห็นรูปปั้นที่ตั้งอยู่ด้านหน้า   ในสถานที่แห่งนี้มีผู้ต้องขังอยู่ราวๆ 700 คน ทั้งฆาตกรต่อเนื่อง มนุษย์กินคน หรือผู้ก่อการร้าย   ว่ากันว่าจำนวนของเหยื่อที่นักโทษในคุกแห่งนี้ลงมือสังหารมีประมาณ 3,500 คน เฉลี่ยแล้วเท่ากับ 5 คดีต่อหนึ่งผู้ต้องขัง   ผู้ต้องขังเหล่านี้ส่วนมากถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต อย่างเช่นในภาพคือนักโทษ Vladimir Nikolayev หนึ่งในมนุษย์กินคน   เขาได้ฆ่าชายคนหนึ่งแล้วลากไปที่ห้องน้ำเพื่อหั่นศพออกมาเป็นชิ้นๆ   เขากินศพไปบางส่วน ก่อนที่จะแบ่งไปให้คนอื่นๆ ที่คิดว่านั่นคือเนื้อจิงโจ้ เพราะอย่างนั้นเองจึงทำให้ Vladimir คืออีกหนึ่งฆาตกรสุดโหดในรัสเซีย   หลังจากที่นักโทษเข้ามาอยู่ในคุกแล้ว พวกเขาจะได้รับการเฝ้าดูผ่านกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง   ในแต่ละห้องขังจะถูกกั้นด้วยกรงเหล็กถึง 3 ชั้น เพื่อให้ผู้ต้องขังรู้สึกเหมือนกับการอยู่ในคุกซ้อนคุก…

  • เด็กสาววัย 11 ปี ที่ต้องอาศัยอยู่ในคุกกับแม่ที่เป็น ‘ฆาตกรต่อเนื่อง’ ไปตลอดชีวิต

    เด็กสาววัย 11 ปี ที่ต้องอาศัยอยู่ในคุกกับแม่ที่เป็น ‘ฆาตกรต่อเนื่อง’ ไปตลอดชีวิต

    คนที่ทำผิดย่อมต้องได้รับการลงโทษ เป็นแนวคิดตามหลักจริยธรรมทั่วไปในสังคมและในแง่ของกฎหมายเช่นกัน ดังนั้นนักโทษที่ถูกจับแล้วจึงต้องรับโทษอย่างสาสมกับความผิดที่พวกเขาก่อไว้ เช่น โดนปรับ โดนยึดทรัพย์สิน ต้องจำคุก หรือแม้แต่ถูกประหารชีวิต ทว่าถ้าคนบริสุทธิ์รอบตัวของนักโทษ อย่างคนรักหรือสมาชิกในครอบครัวต้องติดร่างแหของการลงโทษนี้ไปด้วย มันยุติธรรมดีแล้วหรือ หากพวกเขาต้องลำบากเพราะขาดคนสำคัญในชีวิตไป จะมีวิธีช่วยเหลือคนเหล่านี้หรือไม่ แล้วช่วยเหลืออย่างไร เรามาลองติดตามดูตัวอย่างของปัญหาดังกล่าวกันดีกว่า   ฆาตกรต่อเนื่อง Shirin Gul   ในคุกประจำจังหวัดนานกาฮาร์ ประเทศอัฟกานิสถาน มีนักโทษหญิงอยู่จำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือฆาตกรต่อเนื่อง Shirin Gul เธอติดคุกเนื่องจากเธอและสมาชิกในครอบครัวร่วมทำการล่อลวงชายจำนวน 27 คนมาฆ่าเพื่อปล้นเอาทรัพย์สิน สมาชิกในครอบครัวทุกคนถูกตัดสินให้ได้รับโทษประหาร แต่ Gul ซึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ถูกลดโทษลงให้เหลือเพียงจำคุกตลอดชีวิต จากนั้นเธอก็ให้กำเนิดลูกสาวในคุก และตั้งชื่อว่า Meena   Shirin Gul และลูกสาวของเธอ Meena   คุกในอัฟกานิสถานนั้นอนุญาตให้บุตรอาศัยอยู่กับบิดามารดาได้จนบุตรมีอายุ 18 ปี Meena จึงเติบโตมาในคุกแห่งนี้ตลอดช่วงชีวิต 11 ปีของเธอ นอกจากเธอแล้วยังมีเด็กอีกจำนวนมากที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ในคุก เด็กๆ เหล่านี้ไม่ได้แตกต่างจากเด็กข้างนอกแต่อย่างใด พวกเขามีความไร้เดียงสา และสดใสสมวัยอย่างที่ควรจะเป็น Meena เองก็มีความสนใจเหมือนกับเด็กผู้หญิงนอกคุก เธอชอบเล่นตุ๊กตา ชอบพูดถึงเพื่อนสนิทวัยเดียวกัน (เด็กสาวคนอื่นในคุก)…

  • งงเลย!! นักโทษคดีข่มขืนเด็ก ถูกนักโทษอีกคนเฮดบัตใส่คาศาลด้วยสาเหตุที่ไม่แน่ชัด

    งงเลย!! นักโทษคดีข่มขืนเด็ก ถูกนักโทษอีกคนเฮดบัตใส่คาศาลด้วยสาเหตุที่ไม่แน่ชัด

    ขณะที่กำลังมีการไต่สวนคดีที่ศาลแห่งหนึ่ง ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมีผู้ต้องหาสองคนที่ไม่รู้จักกัน แต่ต้องมาร่วมพิจารณาคดีในศาลเดียวกัน แต่คนหนึ่งเกิดบันดาลโทสะจากเหตุใดสักอย่างแล้ว เลยเอาหัวโหม่งบริเวณใบหน้าของผู้ต้องหาอีกคนซะงั้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ศาลในเมือง Dover รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อมีนักโทษคนหนึ่งชื่อว่า Christopher Elwell มาเข้ารับการตัดสินคดีของเขา   Christopher Elwell ขณะมาฟังผลการตัดสินคดีข่มขืนเด็กของเขา   โดยเขาถูกจับในข้อหาข่มขืนเด็กหญิงอายุ 4 ปีขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ โดยเบื้องต้นเขาได้ให้การปฏิเสธ แต่ก็ยอมรับในภายหลังว่าได้ก่อคดีสุดสะเทือนใจนี้จริง หลังจากศาลพิจารณาแล้วก็พบว่า Christopher มีความผิดจริงเขาจึงต้องโทษจำคุกระหว่าง 7 ปีครึ่งจนถึง 15 ปี และเมื่อเขาได้ฟังผลการตัดสินแล้ว ก็ได้มานั่งที่เก้าอี้ภายในศาลเพื่อรอให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปทำดำเนินคดีขั้นตอนต่อไป     แต่ว่าได้มีผู้ต้องหาอีกคนชื่อว่า Josiah Davies ซึ่งถูกจับมาในคดีปลอมแปลงเช็คเงินสด ทั้งๆ ที่ชายคนนี้ถูกใส่กุญแจมือและโซ่ตรวนอยู่ แต่เขาก็ยังเอาหัวเข้ามาโขกเข้าที่ใบหน้าของ Christopher หลายครั้ง โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าอาจจะมีอะไรบางอย่างในคดีหรือผลการตัดสินของศาล ที่ทำให้ Davies มีอาการยัวะและก่อเหตุในครั้งนี้ขึ้น เพราะว่าเขาได้อยู่ร่วมฟังผลการตัดสินของศาลในห้องนั้นด้วย   หน้าตาของ Davies ผู้กระทำผิดในข้อหาปลอมแปลงเช็คเงินสด และเป็นผู้กระทำการ ‘เฮดบัต’ ดังกล่าว  …

  • แหกคอกมาหาเธอ… 2 นักโทษหนีคุกไปดูดบ้องกับแฟน ก่อนรีบกลับมาที่ห้องขังเหมือนเดิม!?

    แหกคอกมาหาเธอ… 2 นักโทษหนีคุกไปดูดบ้องกับแฟน ก่อนรีบกลับมาที่ห้องขังเหมือนเดิม!?

    เพราะความคิดถึงมันห้ามกันไม่ไหว… กลายเป็นว่า 2 หนุ่มถึงกับลงทุนแหกคุกไปหาเธอ แถมยังมีน้ำใจนักกีฬากลับมาอยู่ในคุกเนียนๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!? กลายเป็นข่าวที่เหมือนจะจริงจังแต่ก็ชวนให้ชาวเน็ตขำแตกกันได้ทั่วโลก เมื่อเว็บไซต์ Mirror ได้รายงานเรื่องราวการหลบหนีออกจากเรือนจำแห่งหนึ่งในรัฐโอคลาโฮม่าของ 2 ผู้ต้องขังที่ไม่มีใครคิดว่าหนีออกไปได้แล้ว.. ยังจะกลับมาอยู่อีก!!   Harley Davidson และ Rakem Lennox   โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำได้รายงานว่าเมื่อคืนวันที่ 11 ตุลาคม เวลาประมาณ 22.30 น. ผู้ต้องขังทั้ง 2 คน (ถูกขังในห้องเดียวกัน) ได้ฉวยโอกาสจังหวะตอนที่ผู้คุมอยู่ห่างออกจากห้องขัง หนีไปทางห้องซักรีด จากนั้นได้ขโมยกุญแจจากห้องนั้นเพื่อหนีกลับไปหาแฟนสาวของทั้งคู่ แต่ดูเหมือนว่า 2 นักโทษต่างก็ยังมีความดีหลงเหลืออยู่ เพราะแม้พวกเขาจะหนีออกไปได้ แต่ทั้งคู่ก็ยังตัดสินใจที่จะกลับมาอยู่ในห้องขังแบบเนียนๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าสุดท้ายพวกเขาก็ถูกผู้คุมจับได้อยู่ดี…   Rakem Lennox   โดยทั้งคู่ได้ให้การสารภาพว่า ได้แอบขโมยกุญแจจากห้องซักรีดเพื่อใช้หลบหนีไปหาแฟนสาวจริง ส่วนเหตุจูงใจก็เป็นเพราะ ‘ความคิดถึง’ และช่วงเวลาที่หนีออกไป ทั้งคู่แค่ไปดูดบ้องพี้กัญชากับแฟนสาวอย่างเพลิดเพลินใจเฉยๆ Terry Park เจ้าหน้าที่เรือนจำได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กตนเองว่า “เกิดเหตุ 2…

  • หนุ่มหื่นกามวัย 25 ปี พยายามล่อลวงเด็กสาววัย 15 แถมอ้าง “ผมหน้าตาดีเกินกว่าจะเข้าคุก”

    หนุ่มหื่นกามวัย 25 ปี พยายามล่อลวงเด็กสาววัย 15 แถมอ้าง “ผมหน้าตาดีเกินกว่าจะเข้าคุก”

    การระบายความกำหนัดอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่เมื่อไหร่ที่ดันทะลึ่งไปทำเรื่องแบบนี้กับคนอื่นที่เขาไม่ได้ยินยอมหรืออายุไม่ถึงเกณฑ์ล่ะก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ เหมือนกับหนุ่มหื่นคนนี้ ที่พยายามล่อลวงสาวน้อยวัย 15 ปี แถมบอกอีกว่า “ผมหล่อเกินไปที่จะเป็นนักโทษนะครับ”  Ryan Kirk หนุ่มหื่นวัย 25 ปีถูกตัดสินจำคุก 4 ปี หลังจากที่ใช้ความพยายามกว่าครึ่งปี เพื่อล่อลวงสาวน้อยผ่านทางเฟซบุ๊ก ชายหนุ่มรับสารภาพว่าได้ใช้โซเชียลมีเดียดังกล่าวในทำกิจกรรมทางเพศกับเด็กสาวมาแล้วถึง 3 ครั้ง     ชายคนดังกล่าวถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง ถึงแม้ว่าเขาจะปฏิเสธคำให้การก็ตาม ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจเมือง South Yorkshire ก็ได้ออกมายกย่องความกล้าของเหยื่อที่ออกมาเปิดเผยพฤติกรรมของหนุ่มหื่นรายนี้     “เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่นาย Kirk พยายามที่จะล่อลวงสาวน้อยคนนี้ และพยายามบังคับให้เธอมีเซ็กส์กับเขา โดยที่ Kirk รู้จักกับเด็กหญิงคนดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก ตั้งแต่ตอนที่เขาอายุได้ 22 ปี แต่หลอกเธอว่าเขาอายุแค่เพียง 19 ปีเท่านั้น… และหลังจากที่เริ่มสนิท ชายคนดังกล่าวก็เริ่มชักชวนเหยื่ออกไปข้างนอก และขอมีเพศสัมพันธ์กับเธอ โดยอ้างว่าเธออายุมากพอที่จะทำเรื่องแบบนี้แล้ว พร้อมกับพูดจาลวนลามเธอต่างๆ นานา” คุณ Lee Corker เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก South Yorkshire กล่าว     ชายหนุ่มคนดังกล่าวทั้งข่มขู่และใช้ประโยชน์จากเด็กหญิง และเมื่อเขารู้ว่าเธอเริ่มติดต่อกับตำรวจ…

  • นักโทษกว่า 100 คนในหมู่เกาะ British Virgin หนีออกจากคุกไปได้ หลังเฮอร์ริเคนเออร์มาเข้าถล่ม…

    นักโทษกว่า 100 คนในหมู่เกาะ British Virgin หนีออกจากคุกไปได้ หลังเฮอร์ริเคนเออร์มาเข้าถล่ม…

    ณ เวลานี้สำหรับใครที่ได้มีโอกาสติดตามข่าวต่างประเทศอย่างใกล้ชิด คงจะทราบกันดีว่าในหลายๆ พื้นที่นั้นกำลังประสบกับภัยพิบัตรทางธรรมชาติอย่างพายุเฮอร์ริเคนอยู่ และหนึ่งในนั่นก็คือหมู่เกาะ British Virgin ด้วย นอกจากอาคารบ้านเรือนต่างๆ จะได้รับอันตรายแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัญหาใหญ่นั่นก็คือ หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนเออร์ม่าได้พัดเข้าถล่มหมู่เกาะ British Virgin คาดว่ามีนักโทษมากกว่า 100 คนที่อาศัยช่วงจังหวะที่เรือนจำได้รับความเสียหายหลบหนีออกไปได้!!     จากการรายงานของ Sky News คาดกันว่านักโทษราวๆ 120 คนได้พากันหลบหนี โดยอาศัยเส้นทางของอาคารที่ได้รับความเสียหาย หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนดังกล่าวได้พัดเข้ามาที่เกาะ Tortola ทางด้านคุณ Paul Exner ผู้ประกอบกิจการด้านเรือสำราญที่อาศัยอยู่ในเกาะแห่งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เหล่าผู้ต้องขังที่นั้นถูกคุมตัวด้วยเจ้าหน้าที่ติดอาวุธ แต่ดูเหมือนว่าจะมีจำนวนมากจนเจ้าหน้าที่ยอมปิดตาข้างหนึ่ง ปล่อยพวกเขาไป     หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวถูกแพร่กระจายออกไป จึงได้มีการส่งกองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสหราชอาณาจักรไปยังในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าไปจัดการและตามตัวของเหล่านักโทษกลับมา โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 นาย พร้อมกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 53 นาย จากสถานีตำรวจทั้ง 14 แห่ง ได้เดินทางออกจากสนามบิน Brize Norton เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเพื่อไปสมทบกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แล้ว     รายงานระบุเป็นการปิดท้ายว่าพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ที่พัดถล่มทะเลแถบแคริเบียนครั้งนี้ถือว่ามีความรุนแรงมากที่สุดอีกลูกหนึ่ง ซึ่งมูลค่าความเสียหายบนเกาะ  British Virgin ครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านปอนด์ หรือกว่า…

  • โผล่อีกคนแล้ว หนุ่มนักโทษตา 2 สี ‘Prison Bae’ หล่อซะจนถูกทาบทามให้เป็นนายแบบ!!

    โผล่อีกคนแล้ว หนุ่มนักโทษตา 2 สี ‘Prison Bae’ หล่อซะจนถูกทาบทามให้เป็นนายแบบ!!

    เรื่องเน็ตไอดอลนี่ก็มีให้เห็นทั่วโลกเหมือนกัน อย่างบ้านเราก็มีกรณี ‘เก่ง ลายพราง’ ที่ได้กลายเป็นเน็ตไอดอลแบบเนียนๆ จนโด่งดังไปทั่วโลกโซเชียล และดูเหมือนว่าโอกาสทองในครั้งนี้จะเกิดขึ้นกับ Mekhi Alante Lucky นักโทษคดีอาญาหนุ่มวัย 20 ปี จากรัฐนอร์ทแคโรไลน่า ผู้มีนัยตาสองสีอันโดดเด่นจนได้กลายเป็นนายแบบไปซะแล้ว   Mekhi Alante Lucky   เรื่องมันมีอยู่ว่าพ่อหนุ่มคนนี้โดนจับล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน ปี 2016 ด้วยข้อหาขับรถที่ขโมยมาเร็วเกินกำหนด (โดน 2 กระทงเลยนะ) ทีนี้หลังจากที่โดนจับ ทวิตเตอร์แอคเคาท์ที่ชื่อว่า Wake Mugshots (นักโทษหล่อบอกด้วยอะไรประมาณนั้น) ได้โพสต์ภาพของพ่อหนุ่มคนนี้ และผลปรากฏว่ายอดไลค์ ยอดแชร์ ยอดคอมเมนต์ถล่มทลายเลยจ้า   จากนั้นก็กลายเป็นกระแสไวรัลโด่งดัง มีบริษัทโมเดลลิ่งมาติดต่อพ่อหนุ่มคนนี้ทันที   Atlanta-based St Claire’s Modeling Agency ได้เข้ามาติดต่อก่อนใครเพื่อน ซึ่งในรายละเอียดด้านกฎหมายก็ไม่ได้มีการรายงานว่าพ่อหนุ่มคนนี้ต้องรอพ้นโทษก่อน หรือมีการประกันตัว แต่ทันทีที่ Prison Bae เปิดตัวบนโลกโซเชียล ด้วยนัยตา 2 สี บวกกับบุคลิกท่าทางของเขาที่ดูฮ็อตไม่เบา ก็ได้ผู้ติดตามฐานแฟนคลับให้เขาแล้วมากถึง…

  • คลิปวิดีโอสุดป่าเถื่อน แสดงให้เห็นการต่อสู้เยี่ยงสุนัขของ “นักโทษที่ติดยาเสพติด”

    คลิปวิดีโอสุดป่าเถื่อน แสดงให้เห็นการต่อสู้เยี่ยงสุนัขของ “นักโทษที่ติดยาเสพติด”

    สารเสพติดต่างๆ ก็จะมีฤทธิ์ร้ายแรงแตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพหลอน หรือสั่งการให้สมองทำงานได้ช้าหรือเร็วขึ้น แน่นอนว่าผลกระทบของมันที่หากว่าใช้ไปอย่างไม่เหมาะสมหรือมากจนเกินไป สิ่งที่ตามมาก็อาจเป็นได้มากกว่าที่เราคาดคิด เมื่อได้มีคลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายในเรือนจำ Forest Bank ในแกรนด์แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ แสดงให้เห็นนักโทษชายสองคนคลานสี่ขาตะโกนใส่กันและกัดกันเหมือนหมาสองตัวที่ต่อสู้กัน     ทั้งสองคนถูกฤทธิ์ยาที่มีชื่อว่ายาซอมบี้ ซึ่งเป็นตัวยาที่จะทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งได้ และสภาพของพวกเขานั้นเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าปิดหน้ากับปลอกคอผ้าที่เอาไว้ให้ชายอีกสองคนคอยควบคุมเอาไว้เวลาที่สู้กัน ระบบการสังเคราะห์กัญชาที่สร้างแรงกดดันให้กับเรือนจำดังกล่าวเป็นอย่างมาก ทำให้มีนักโทษหลายร้อยคนที่เสพยาเสพติด นำไปสู่การทำร้ายร่างกายและนำส่งโรงพยาบาล   คลิปวิดีโอการต่อสู้กันเยี่ยงสุนัขของนักโทษทั้งสอง   ท่าทีของทั้งสองคนที่โดนบังคับเอาไว้เปรียบได้กับสุนัขอย่างมาก เพราะมีการแนะนำตัวชื่อสายพันธุ์ของพวกเขาก่อนที่จะเริ่มต่อสู้ เมื่อกล้องซูมเข้าไปก็มีท่าทีจะพุ่งใส่กล้อง เหมือนสัตว์ที่บ้าคลั่ง มีการขู่คำราม แต่ทว่าจากการสังเกตจะมีให้เห็นการแต่งกายของชายชุดดำสองคนที่คอยควบคุมเอาไว้ เสื้อผ้าในชุดลำลอง อีกทั้งยังมีโน๊ตบุ๊กและขวดโหลเมล็ดกาแฟ จึงทำให้ไม่แน่ใจได้ว่าแท้จริงแล้วสถานที่นั้นอยู่ไหนกันแน่     และในคลิปชายคนหนึ่งก็ได้บอกกลับกล้องอีกว่า “เรากำหนดให้หนึ่งในสัตว์สองตัวนี้ต้องมีเลือดออก นั่นหมายความว่าผู้ที่แข่งแกร่งที่สุดจะเป็นผู้ชนะ” จากประโยคแสดงถึงการกลั่นแกล้ง และความหละหลวมของการดูแลเรือนจำดังกล่าว สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่มีให้เห็นในทุกวัน ด้วยจำนวนของผู้คุมที่มีกันไม่เพียงพอที่จะจัดการปัญหา และนักโทษติดยาก็มีอยู่มาก ทำให้ต้องมีหลายคนที่ร่างกายทรุดตัวลงเพราะเสพมากจนเกินไป เป็นเรื่องที่เหนือการควบคุมทั้งสิ้น     เรือนจำแห่งนี้จัดอยู่ในกลุ่มบี มีผู้ต้องหาอยู่ภายใต้การดูแลเกือบ 1,500 คน และบริหารจัดการโดยบริษัทเอกชน Sodexo การบริหารจัดการเพื่อให้ทุกคนได้อยู่ในความเรียบร้อยนับเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นนักโทษแต่พวกเขาก็ยังมีสิทธิ์ได้รับทุกอย่างเทียบเท่ากับมนุษย์ รวมถึงความปลอดภัยที่พึงมีด้วย  …

  • บทสัมภาษณ์ความรู้สึกของ “นักโทษประหาร” ในชั่วโมงสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่

    บทสัมภาษณ์ความรู้สึกของ “นักโทษประหาร” ในชั่วโมงสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่

    หลายคงคิดว่าช่วงเวลาที่เราจะต้องตายจากโลกนี้ไปนั้นไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าเมื่อไหร่ แต่ทว่านั่นก็ไม่แน่เสมอไปเพราะยังมีคนกลุ่มหนึ่งจะรู้ได้ก่อนว่าวันไหนที่พวกเขาต้องพบเจอกับความตายโดยแท้จริง คนเหล่านั้นคือนักโทษประหารที่ทำคดีร้ายแรงเอาไว้ อย่างเช่นการพรากชีวิตผู้อื่นไปหรือก็คือการเป็นฆาตกร ซึ่งแน่นอนว่าคนเหล่านั้นก็จะถูกแจ้งให้รู้ว่าจะต้องถูกฆ่าเพื่อชดใช้ความผิดที่ก่อขึ้นในวันไหน ไม่มีทางเลือกใดให้สำหรับสิ่งที่พวกเขาต้องเจอ ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าในช่วงเวลาที่ต้องก้าวข้ามประตูไปสู่ความตาย คนเหล่านั้นจะคิดอะไรกันอยู่และจะแสดงออกมากันอย่างไร     จนเมื่อได้มีการสัมภาษณ์นักโทษประหารคนหนึ่งชื่อว่า Mark Asay ที่ทำความผิดในข้อหาฆาตกรรมชายผิวดำ 2 คน แรงจูงใจมาจากการเหยียดเชื้อชาติ โดยชั่วโมงสุดท้ายก่อนที่จะถูกประหารก็ได้มีการพูดคุยกับเขาเล็กน้อย การฆาตกรรมของเขานั้นเกิดขึ้นเมื่อได้ยิงชายคนแรกที่มีชื่อว่า Robert Booker เพียงเพราะเรื่องความต่างของเชื้อชาติ หลังจากนั้นก็ให้ Robert McDowell ลูกครึ่งที่เป็นเหยื่ออีกคนทำการสำเร็จความใครjให้กับตัวเองด้วยปาก ก่อนจะฆ่าชายคนนั้นเมื่อรู้ว่าจริงๆ แล้วนั่นเป็นผู้ชายที่แต่งเป็นผู้หญิง   คลิปวิดีโอข่าวการสัมภาษณ์นักโทษประหารคนดังกล่าว   เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นในปี 1987 จนมาถึงวันที่เขาจะต้องถูกประหารก็ได้ให้สัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายเอาไว้ว่า “ผมไม่เคยคิดว่าคนผิวขาวอยู่เหนือกว่าคนอื่น ผมยังคงมีเพื่อนที่เป็นเชื้อชาติอื่นอยู่อีก” อีกทั้งรอยสักสวัสดิกะที่แสดงถึงการแบ่งแยกและเหยียดหยาม เขาก็อธิบายว่าสักเพราะให้สามารถอยู่ในคุกได้ ตอนที่ถูกจับในวัย 19 ปี ประโยคสุดท้ายที่เขาได้พูดทั้งน้ำตาก็คือ “ผมเพียงแค่ต้องการที่จะขอโทษและสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันอยู่นอกเหนือการควบคุมของผมเอง”     ชายคนนี้เป็นคนผิวขาวคนแรกที่ถูกประหารเพราะว่าฆ่าคนผิวสีในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา การประหารจะให้เขากินน้ำค็อกเทลที่มียาพิษผสมเอาไว้ ตัวยาที่ถูกผสมในเครื่องดื่มดังกล่าวมีฤทธิ์ในการระงับความรู้สึกที่เปรียบได้กับยาชา ถูกนำมาใช้เพื่อการประหารเป็นครั้งแรก และได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าผลของยาไม่สามารถพิสูจน์ได้จริง และทางผู้ผลิตรู้สึกไม่พอใจกับเหตุผลที่นำตัวยาไปใช้ พี่ชายของผู้ตายที่ตกเป็นเหยื่อคนแรกได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการตายของน้องเอาไว้ว่า “อะไรคือเหตุผล? เพียงเพราะเรื่องสีผิวของน้องผมเหรอ? มันไม่มีเหตุผลใดเลยให้เขาต้องทำกับน้องผมอย่างนั้น…

  • อย่างโหด!! ผู้ต้องหาคดี ‘ฆ่าข่มขืนเด็ก’ ในประเทศเยเมน ถูกประหารพร้อมห้อยศพประจาน

    อย่างโหด!! ผู้ต้องหาคดี ‘ฆ่าข่มขืนเด็ก’ ในประเทศเยเมน ถูกประหารพร้อมห้อยศพประจาน

    นับว่าคดีข่มขืนกระทำชำเรา ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของหลายๆ ประเทศทั่วโลก และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นที่ประเทศเยเมน เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2017 เว็บไซต์ Metroได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนาย Hussein al-Saket วัย 22 ปี ข้อหาฆ่าข่มขืนเด็กสาววัย 4 ขวบ   ผู้ต้องหา Hussein al-Saket   เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่ประเทศเยเมน โดยก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาได้ทำการลวงเด็กสาววัย 4 ขวบ ผู้เป็นหลานสาวของ Ali Ayedh ไปข่มขืนพร้อมกับฆาตกรรมอย่างโหดร้าย ซึ่งหลังจากเกิดเหตุได้ไม่นาน ก็ได้มีการออกตามหาเด็กสาวโดยที่ผู้ก่อเหตุทำทีท่าออกตามหาด้วย จนกระทั่ง Saket ก็ถูกกระชากหน้ากากออก และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด แต่ทว่าการลงโทษในครั้งนี้ได้กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก   ตามกฎหมายของประเทศเยเมน ผู้กระทำผิดฐานข่มขืนจะต้องถูกประหารชีวิต   การประหารชีวิตของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้กลับสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ให้แก่นักสิทธิมนุษยชนทั่วโลก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บังคับให้ผู้ต้องหาหมอบราบลงกับพื้นใจกลางเมือง Sanaa ท่ามกลางสายตาของประชาชนนับหมื่นคน เจ้าหน้าที่ได้ประหารชีวิตผู้กระทำผิดด้วยการยิงอัดกับพื้นกลางถนนจำนวน 5 นัด โดยเชื่อว่าวิธีดังกล่าวจะทำให้ประชาชนไม่กล้าทำผิด และช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้   “จู่ๆ หลานสาวเราก็หายไปจากบ้าน พอไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ก็สืบจนพบศพของหลานสาวและผู้กระทำ เราเชื่อว่าวิธีนี้จะทำให้คนไม่กล้าทำผิดอีก” ญาติผู้เสียหายกล่าว…

  • ภาพถ่ายหน้าตรงของเหล่า “นักโทษ” ที่แต่งหน้าทำผมสุดล้ำ ขนาดดีไซเนอร์ยังยอมแพ้…

    ภาพถ่ายหน้าตรงของเหล่า “นักโทษ” ที่แต่งหน้าทำผมสุดล้ำ ขนาดดีไซเนอร์ยังยอมแพ้…

    เมื่อเหล่าผู้ร้ายโดนตำรวจจับสิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือถ่ายภาพทำประวัติ ซึ่งปกติแล้ว ภาพที่เราเห็นก็จะเป็นภาพผู้ต้องหาทำหน้าตาซึมๆ ซึ่งก็สามารถเห็นได้ทั่วไป แต่ใครจะไปรู้ว่าแฟชั่นของเหล่าโจรนั้นจะมีที่ล้ำไปกว่านั้นอัก เพราะการรูปภาพถ่ายหน้าตรง หรือที่เรียกกันว่า Mugshot จะต้องถ่ายให้เห็นถึงใบหน้าที่ชัดเจน และคนพวกนี้แสดงให้เห็นถึงความสุดโต่งของการแต่งตัวแต่งผม ที่ดีไซน์เนอร์เห็นก็ต้องถึงกับงงกันไปเลย   เสื้อผ้าหน้าผมแบบว่า เอิ่ม….   ถามคำเดียว ทำเพื่ออะไร!??   ทรงผมและการโพสมันดูเท่ ไม่ได้รู้สึกผิดเลยที่โดนจับ   ใช้เวลาเซทนานไหม   คนหนึ่งก้ผมส้ม คนหนึ่งก็ไว้แต่เครา   นี่คิ้วหรือยี่ห้อ NIKE   สองคนนี้มาแนวเศร้าๆ นะ   ดึงหน้าเท่ๆ กับทรงผมสุดเฟี๊ยว   เซเลอร์มูนก็มา   ทรงนี้ท่านได้แต่ใดมา   อันนี้ก็น่ารักดีนะ   มีเปียด้วยน่ารักจัง   นี่มันทรงผมเมดูซ่าชัดๆ   บอกเลยว่างานนี้ดีไซเนอร์มีงงกันแน่นอน ที่มา sobadsogood

  • เหล่านักโทษยื่นเรียกร้องให้สามารถพก ‘ตุ๊กตายาง’ เข้าเรือนจำได้ เพื่อบำบัดความเครียด…

    เหล่านักโทษยื่นเรียกร้องให้สามารถพก ‘ตุ๊กตายาง’ เข้าเรือนจำได้ เพื่อบำบัดความเครียด…

    มีนักโทษในเรือนจำ HM Prison Lowdham Grange ที่ตั้งอยู่ในเมือง Nottinghamshire ประเทศอังกฤษ ก่อตั้งแคมเปญให้นักโทษสามารถพก ‘ตุ๊กตายาง’ เข้าไปใช้ในเรือนจำได้!?   จากการให้สัมภาษณ์ของนักโทษรายหนึ่งในเรือนจำ HM ที่เป็นผู้ก่อตั้งเคมเปญชื่อว่านาย กล่าวว่า Jack Swarez “เหล่าตุ๊กตายางจะช่วยในเรื่องของพฤติกรรมของเหล่านักโทษ เพราะพวกเขาสามารถปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศได้” นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมอีกว่า “ทางรัฐบาลจะไม่ต้องรับผิดชอบกับค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นกับแคมเปญนี้ เพราะเหล่านักโทษจะใช้เงินของตัวเองในการซื้อมันมาเข้ามาใช้ในเรือนจำเอง”     นาย Swarez เล่าว่าถึงการทำแคมเปญนี้ขึ้นมาว่า “ปัญหาก็คือในเรือนจำของเรานั้นเต็มไปด้วยชายหนุ่มกลัดมัน และทุกๆ ครั้งที่พวกเขาจะปลดปล่อยความใคร่ของตัวเองก็มีเพียงมือข้างที่ถนัดเท่านั้น” “ซึ่งการอาศัยอยู่ในที่เรือนจำแห่งนี้ย่อมอาจทำให้นักโทษมีความเครียดสูง ฉะนั้นการหากิจกรรมลดความเครียดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก” “ผมมีแรงบันดาลใจหลังจากได้ชมสารคดีที่ออกอากาศทางช่าง Channel 4 เป็นเรื่องราวของชายที่อาศัยอยู่ร่วมกับตุ๊กตายาง ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่มีความเครียดเลยแม้แต่น้อย พร้อมทั้งมีสีหน้าที่มีแต่ความสุขอีกต่างหาก” “นอกเหนือไปกว่านี้การสูบลมเข้าไปในตุ๊กตายาง ย่อมทำให้หล่านักโทษที่ผ่านการสูบบุหรี่มาอย่างจัดเจน ได้รับการบริหารปอดอีกด้วย” “เหล่าผู้ต้องหาจะได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันกับคู่หูตุ๊กตายางของตัวเอง หลังจากที่ต้องเผชิญความเครียดมาทั้งวัน อันจะช่วยให้พวกเขาผ่อนคลายและมีสุขภาพจิตใจที่ดีขึ้น”     แล้วเพื่อนๆ ชาวเหมียวของเรามีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง? ก็ลองแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้เลยนะจ๊ะ ที่มา : dailymail

  • ภาพถ่าย Mugshot ที่เหล่าผู้ต้องหาไว้ทรงผมประหลาด จนต้องพูดว่า แหม่ ทำไปได้..

    ภาพถ่าย Mugshot ที่เหล่าผู้ต้องหาไว้ทรงผมประหลาด จนต้องพูดว่า แหม่ ทำไปได้..

    เวลาที่เราต้องการจะถ่ายรูปตัวเองสักภาพหนึ่ง มันไม่ใช่เรื่อง่ายเลยใช่ไหมที่จะทำให้มันออกมาดูดีในช็อตเดียว ด้วยทั้งองค์ประกอบหลายๆ อย่างเช่น เสื้อผ้าหน้าผม ฉากหลังและอื่นๆ อีกมากมาย กว่าจะดีได้ก็เล่นถ่ายกันหลายทีเลยล่ะ แต่สำหรับเหล่าผู้ต้องหาที่ต้องถ่ายภาพ Mugshot (ภาพถ่ายขณะถูกตำรวจจับ) พวกเขากลับมีโอกาสที่จะได้ถ่ายรูปประจำตัวหล่อๆ เพียงแค่เทคเดียวเท่านั้น และที่สำคัญพวกเขาก็ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับทรงผมมาด้วยนั่นเอง วันนี้เราก็เลยจะพามาดูภาพถ่าย Mugshot ของเหล่านักโทษที่มาพร้อมกับทรงผมสุดแปลกของพวกเขากัน ว่าแต่จะแปลกจะเฟี้ยวขนาดไหนเราไปดูกันเลยดีกว่า…   เปิดด้วยพี่คนนี้กันก่อน กับผมสีส้มทรงสาวน้อยของเขา   ทรงผมของเธอคนนี้ก็เฟี้ยวไม่หยอก ขาวโพลนดูเท่สุดๆ   ผมทรงนี้จะต้องไม่สระและเซตมานานแค่ไหนกว่าจะอยู่ตัวได้แบบนี้กัน!?   ส่วนของพี่คนนี้ถ้ามองข้างหน้าก็ดูจะไม่มีอะไร แต่พอด้านข้างเท่านั้นแหละ โว๊ะ!!   ของพี่คนนี้เขาก็ดูปกติดีนะ แค่มันดูไม่บาลานซ์กันไปหน่อยเท่านั้นเอง (หรือว่าถ้ามองข้างๆ จะเหมือนพี่ข้างบนกันนะ)   ถ้าเลื่อนมาเจอแค่ผมคงจะคิดว่าเป็นสาวๆ ละสิ ฮั่นแน่ คิดผิดแล้วล่ะ   ของพี่คนนี้ต้องบอกว่าเท่สุดๆ เลยล่ะ เหมือนเลี้ยงตัวอะไรสักอย่างไว้บนหัวดูแฟนตาซีสุดๆ   มันต้องแย่ขนาดไหน ผมถึงเป็นก้อนแล้วออกมาเป็นสีเทาๆ ขนาดนั้นได้   ช่างเป็นแฟชั่นที่เข้าถึงยากสุดๆ ให้ตายสิ   โมฮอคของเธอคนนี้อลังสุดๆ เลยนะ ที่สำคัญสีผมก็ดูแฟชั่นไม่เบา ถือว่าผ่านละกัน  …

  • 14 ภาพผู้ต้องหาในช่วงเวลาเครียดๆ แต่ตัวหนังสือบนเสื้อ ทำให้ชวนฮาซะจริงๆ

    14 ภาพผู้ต้องหาในช่วงเวลาเครียดๆ แต่ตัวหนังสือบนเสื้อ ทำให้ชวนฮาซะจริงๆ

    ปกติแล้วเรามักจะเห็นลายเสื้อยืดในยุคนี้เป็นชุดคำพูดต่างๆ ที่มันอาจจะเท่ หรือดูตลกในบางครั้ง แต่จะมีไหมที่ในบางสถานะการณ์คำพูดบนเสื้อมันดันเข้ากับความรู้สึกของคนใส่ในช่วงเวลานั้นพอดี แถมฮาอีกต่างหาก ฉะนั้นวันนี้เราก็เลยจะมาดูรูปถ่ายของเหล่านักโทษที่ใส่เสื้อคำพูด มาถ่ายรูปแฟ้มคดีกัน ซึ่งภาพมันก็จะดูไม่มีอะไร จนกระทั่งขอความบนเสื้อมันมามีส่วนร่วมนี่สิ…   มาเริ่มกันที่พี่คนแรกกันก่อนเลย ซึ่งพี่เขาโดนจับข้อหาไรไม่รู้ แต่เสื้อพี่แกคงจะบอกความรู้สึกออกมาอย่างชัดเจนแล้วละ “ผมขอโทษล่วงหน้าเลยล่ะกัน”     ก็เพราะเจ๊เป็นคนซุกซนไง เลยถึงโดนจับแบบนี้   อืม พี่มีสิทธิที่จะไม่พูด ฉะนั้นก็เงียบต่อไปละกัน / Go To Jail…ก็พี่ก็กำลังจะไปคุกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ   เสื้อกับสีหน้าของพี่เขาช่างเข้ากันจริงๆ รู้เลยว่าสำนึกผิด   ‘American Most Wanted’ อืม..ตอนนี้พี่ก็โดนจับแล้วไง / ผมรู้ว่าทุกคนไม่ได้เพอร์เฟ็ก   ดูเหมือนเสื้อพี่แกจะบอกว่าพี่แกดีใจที่ได้ทำเรื่องไม่ดีลงไปเลยแหะ   ถึงเสื้อเจ๊จะเตือนว่าเจ๊มีปืนก็เหอะ แต่เจ๊โดนจับแล้วเท่ากับตอนนี้ไม่มีแล้วนะ แฮร๊ / ส่วนพี่เสื้อดำบอกว่าเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบพอ   ไม่ใช่ว่าพี่โกนขนไข่มาเพื่อการนี้เหรอ พอเอาเข้าจริงก็หลบกล้องทำเป็นเขิล แหม่..   ถ้าพี่เป็นคนฉลาดจริงๆ พี่ไม่น่าจะโดนจับได้ง่ายๆ นะ / หยุด… หยุดมองเสื้อตรูได้แล้ว…

  • เยี่ยมชม “HMP Berwyn” เรือนจำสหราชอาณาจักรแห่งใหม่ สวัสดิการดีแทบไม่ใช่คุก!?

    เยี่ยมชม “HMP Berwyn” เรือนจำสหราชอาณาจักรแห่งใหม่ สวัสดิการดีแทบไม่ใช่คุก!?

    เมื่อพูดถึง “คุก” หลายคนคงจะนึกถึงภาพสถานที่ที่เต็มไปด้วยความแออัด สกปรก และแคบ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีคุกจากหลายๆ ที่ทั่วโลก ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แถมบางที่ก็มีความหรูหรา และอลังการงานสร้างมาก ยกตัวอย่างเช่น HMP Berwyn เรือนจำแห่งใหม่ในสหราชอาณาจักร ที่นอกจากจะไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่รองรับผู้ต้องขังเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อให้เหล่าผู้คุมขังได้ใช้บริการ โอ้ววว นี่มันคุกหรืออะไรเนี่ย ทำไมสบายแบบนี้…   .   สำหรับเรือนจำ HMP Berwyn ตั้งอยู่ในเมือง Wrexham ทางตอนเหนือของเวลส์ โดยมีงบประมาณในการสร้างมากถึง 250 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 1 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังสามารถรองรับนักโทษได้มากกว่า 2,000 คน โดยภายในห้องขัง สามารถให้นักโทษไปอาศัยอยู่ได้ห้องละ 2 คน แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ใช้อย่างครบครัน ทั้ง แล็ปท็อป โทรศัพท์ ฝักบัวอาบน้ำ และโถส้วม แต่ในส่วนของแล็ปท็อปนั้น จะไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ แต่จะใช้เพื่อให้ผู้ต้องขังได้จัดการตารางการเข้าเยี่ยม สั่งอาหารในแต่ละสัปดาห์ เลือกซื้อสินค้าประจำสัปดาห์ และใช้ในด้านเพื่อการศึกษา…

  • Jeremy Meeks อดีตนักโทษหน้าหล่อ ฉายแววนายแบบสุดเท่บนแคทวอล์ก NYFW!!

    Jeremy Meeks อดีตนักโทษหน้าหล่อ ฉายแววนายแบบสุดเท่บนแคทวอล์ก NYFW!!

    คำว่า “โอกาส” จริงๆ แล้วไม่ได้มาง่ายๆ เลย แต่สำหรับใครที่เคยทำผิดแล้วได้รับโอกาสที่ดี นั่นแสดงว่าคุณคือหนึ่งในผู้ที่โชคดีกว่าใครๆ แล้ว เหมือนดังเช่น Jeremy Meeks อดีตนักโทษผู้กระทำความผิดฐานครอบครองอาวุธผิดกฎหมายเมื่อปี 2014 คนนี้ แม้ว่าเขาจะเคยทำผิดมาก่อน แต่อย่างน้อยสังคมก็ยอมให้อภัย และยังมอบโอกาสดีๆ ให้ในแบบที่ทำเอาหนุ่มๆ ทั่วโลกถึงกับอิจฉา     ย้อนกลับไปในปี 2014 หลังจากที่เขาถูกจับในข้อหาพกอาวุธผิดกฎหมาย ทางตำรวจจึงได้นำภาพของเขาไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ จนทำให้เขาได้รับคำชมว่ามีใบหน้าที่หล่อเหลาเป็นอย่างมาก และที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือ เพราะความหล่อของเขาเลยทำให้โมเดลลิ่งจากสังกัด White Cross Management มาปิ๊งเข้าเต็มๆ จนให้ Jeremy ได้เซ็นสัญญาเป็นนายแบบให้กับเขา ในขณะที่ยังอยู่ในคุกกันเลยทีเดียว     ภายหลังจากที่ถูกตัดสินให้ได้รับโทษเป็นระยะเวลา 27 เดือน ปัจจุบันเขาได้พ้นโทษออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในตอนนี้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอดีตนักโทษหน้าหล่อ ก็ได้กลายมาเป็นนายแบบอย่างเต็มตัว แถมยังได้มาเดินแบบเปิดตัวในงาน New York Fashion Week 2017 อีกด้วย     และนี่คือภาพของ Jeremy…

  • นักโทษกอดหมาเป็นครั้งสุดท้าย หลังทั้งสองช่วยเยียวยา “หัวใจอันบอบช้ำ” ซึ่งกันและกัน

    นักโทษกอดหมาเป็นครั้งสุดท้าย หลังทั้งสองช่วยเยียวยา “หัวใจอันบอบช้ำ” ซึ่งกันและกัน

    ทุกวันนี้มีหมาจำนวนมากที่ไม่เป็นที่ต้องการของมนุษย์ พวกมันไม่เคยได้รับความรัก ไม่เคยมีบ้านดีๆ หลายๆ ถูกทารุนกรรมต่างๆ นาๆ จากเจ้าของเก่าหรือหลายครั้งพวกมันก็ถูกนำมาทิ้งให้ใช้ชีวิตตามท้องถนน จนสุดท้ายพวกมันก็ไม่กล้าเข้าใกล้มนุษย์อีกต่อไป เมื่อเห็นดังนั้น กลุ่มคนที่รักสัตว์กลุ่มหนึ่งจึงตั้งโครงการที่จะช่วยเจ้าหมาเหล่านี้ขึ้นมาในชื่อว่า Castaways โดยพวกเขาจะช่วยฝึกเจ้าหมาที่ไม่เป็นที่ต้องการเหล่านี้ ให้กลายเป็นหมาที่มีประโยชน์ เช่น หมานำทางคนตาบอด หมาสำหรับบำบัดเด็กออทิสติก หรืออื่นๆ อีกมากมาย     และผู้ที่จะเป็นครูฝึกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือเหล่านักโทษที่อยู่ในคุกนั่นเอง   ขึ้นชื่อว่านักโทษแล้ว พวกเขามักไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม ไม่ว่าไปที่ไหนก็ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกไร้ประโยชน์ที่ไม่ควรมีที่ยืนบนโลกนี้ ดังนั้นทางโครงการจึงเชื่อว่า การนำคนที่ไม่เป็นที่ต้องการมาอยู่ใกล้กัน พวกเขาจะช่วยเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำ ให้กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง     ตลอดเวลาหลายสัปดาห์ พวกเขาได้ใช้เวลาร่วมกัน คอยเยียวยาความเจ็บปวดให้แก่กัน ก่อเกิดเป็นความผูกพันที่มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่เข้าใจ   และเมื่อเจ้าหมาเหล่านี้หายดีและสามารถเข้าสังคมได้ตามปกติแล้ว ก็ถึงเวลาที่มันจะต้องไปปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง พวกเขาต่างโผกอดเข้าหากัน เพื่อเป็นการร่ำลาเป็นครั้งสุดท้าย   โครงการนี้ไม่เพียงแค่ช่วยชีวิตเจ้าหมาเท่านั้น แต่ยังทำให้เหล่านักโทษได้รู้สึกถึงคุณค่าในตัวเองอีกครั้ง อย่างน้อยพวกเขาก็ได้รู้ว่า พวกเขาสามารถเปลี่ยนชีวิตเจ้าหมาตัวหนึ่งให้กับไปใช้ชีวิตปกติในสังคมได้ เพียงเท่านี้ก็สามารถปลอบประโลมหัวใจอันเปล่าเปลี่ยวของกลุ่มคนที่ไม่เป็นที่ต้องการในสังคมเหล่านี้แล้ว….   ที่มา Saving Castaways

  • นักโทษจากเรือนจำบนเกาะอังกฤษ อัพรูปชีวิตในคุกผ่านเฟซฯ กินอยู่สบาย มียาเสพติดให้พร้อม!!

    นักโทษจากเรือนจำบนเกาะอังกฤษ อัพรูปชีวิตในคุกผ่านเฟซฯ กินอยู่สบาย มียาเสพติดให้พร้อม!!

    ส่วนใหญ่แล้วถ้าพูดถึงชีวิตในเรือนจำ แน่นอนว่ามันคงไม่ใช่สถานที่ๆ ใครอยากไปอยู่กัน เพราะลำพังแค่โดนจำกัดอิสรภาพที่จะไปไหนมาไหนได้ตามสบาย ก็แย่เต็มทน ตอนแรก #เหมียวบ็อบ ก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน จนมาเจอการรายงานบนเว็บไซต์ Dailymail รายงานเรื่องของนักโทษจากเรือนจำเมือง ‘Dorset’ ที่ใช้ชีวิตกันอย่างสุขสบาย ราวกับว่าอยู่ที่บ้าน แถมที่น่าตกใจคือ..มียาเสพติดให้พร้อมทุกอย่าง!!   จากการรายงานพบว่า นักโทษคนนี้ใช้อินสตาแกรมชื่อว่า ‘parsonshmp’ กำลังโพสต์ภาพชีวิตและชาวแก๊งค์ของเขา ที่กำลังใช้ชีวิตกันอย่างสุขสบาย   แต่หลังจากที่เรื่องนี้ออกสื่อไปได้ไม่นาน กองตรวจเรือนจำแห่งเกาะอังกฤษ ก็ได้เข้ามาตรวจสอบแล้วพบว่า ที่เรือนจำแห่งนี้มีนักโทษทั้งหมด 580 คน ด้วยจำนวนคนที่ไม่มาก และง่ายต่อการปกครอง จึงทำให้เกิดกลุ่มมาเฟียที่แผ่ขยายอำนาจออกไปมากเกินกว่าจะรับมือไหว เรียกง่ายๆว่า เจ้าพ่อมาเฟียซื้อที่นี่ไว้หมดแล้ว   มีสเต๊กเนื้อแดงให้กินอย่างดี   กลุ่มนักโทษในเรือนจำที่อยู่ร่วมกันดั่งพี่น้องร่วมสาบาน   ภาพเงินที่นักโทษในเรือนจำโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียของตัวเอง   คนข้างนอกเค้าดูดกัญชากัน แต่ในนี้พิเศษกว่า เค้าดูดสิ่งที่เรียกว่า ‘Hash’ (กัญชาสกัดคัดเอาแต่ผงที่เต็มไปด้วย THC โดยเฉพาะ)   ภาพห้องพักส่วนตัวของนักโทษ อย่างกับอยู่หอพักในมหาวิทยาลัย   งานนี้กองตรวจเรือนจำแห่งเกาะอังกฤษก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ลงมาตรวจสอบ และเพิ่มโทษให้แก่นักโทษทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อย   เผยให้เห็นภาพสังคมภายใน…

  • เรื่องราวดีๆ ในเรือนจำ เมื่อ ‘นักโทษ’ เข้ามาช่วยผู้คุม ที่กำลังถูกนักโทษอีกคนทำร้ายร่างกาย

    เรื่องราวดีๆ ในเรือนจำ เมื่อ ‘นักโทษ’ เข้ามาช่วยผู้คุม ที่กำลังถูกนักโทษอีกคนทำร้ายร่างกาย

    หากพูดถึงเรือนจำ คนทั่วๆ ไปก็ต้องนึกถึงสภาพการเป็นอยู่ที่ไม่น่าอยู่นัก รวมถึงเพื่อนร่วมห้องที่เค้าอาจจะเคยก่อคดีเลวร้ายจนเราไม่อยากจะทำความรู้จักเลยก็ได้ แต่ทุกอย่างในโลกย่อมมีดีชั่วปะปนกันไป ในดำมีขาว – ในขาวมีดำ เฉกเช่นเดียวกันกับเรือนจำแห่งหนึ่งในเมือง Stillwater รัฐโอคลาโฮมา กับเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อนักโทษเข้ามาช่วยเหลือผู้คุม ที่ถูกเพื่อนนักโทษด้วยกันเองทำร้ายร่างกาย!!!   เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ Tashka Maret นักโทษวัย 24 ปี ที่เรียกร้องขอให้ผู้คุม Matthew Hudson ช่วยเปิดประตูให้ ด้วยการอ้างว่าตนต้องการจะไปเข้าห้องน้ำ   แต่หลังจากที่ผู้คุมเข้าไปเปิดประตูให้เท่านั้นแหละ…!!! นักโทษหนุ่มก็พุ่งเข้ามาสาวหมัดใส่ผู้คุมแบบไม่ยั้ง เรียกได้ว่าไม่ทันให้ได้ตั้งตัวกันเลยทีเดียว ในขณะที่เจ้าหน้าที่ Hudson ผู้ถูกทำร้ายพยายามที่จะติดต่อร้องขอความช่วยเหลือจากผู้คุมคนอื่น แต่กลับน่าแปลกใจที่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือ เขาเลยแม้แต่คนเดียว     สถานการณ์ยิ่งดูแย่ลงเรื่อยๆ สำหรับเจ้าหน้าที่คนนี้ เขาถูกนักโทษกอดรัดเข้าที่หลังแล้วฟาดลงกับพื้นจนเสียหลัก จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเจ้าพนักงานคนไหนเข้ามาช่วยเหลือเลย…   แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น!! เราต่างรู้กันดีว่านักโทษย่อมเป็นฝ่ายตรงข้ามกับผู้คุม แต่ไม่ใช่กับ Robert Hammock นักโทษร่างท้วมที่กำลังนั่งรออยู่ห่างๆ ทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะวิ่งเข้ามาช่วยเหลือผู้คุม ด้วยการอุ้มนักโทษอีกคนออกและพยายามแยกทั้งคู่ ก่อนที่จะเกิดเหตุรุนแรงและความเสียหายมากไปกว่านี้   เราไปชมคลิปวิดีโอจากเหตุการณ์นี้ที่บันทึกได้โดยกล้องวงจรปิดในเรือนจำกันเลยดีกว่า…   สุดท้ายแล้วเรื่องราวก็จบลง ภายหลังมีการเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่…

  • 10 อันดับเรือนจำที่ขึ้นชื่อว่า มีความโหดร้ายมากที่สุดในโลก และไทยก็ติดอันดับเช่นกัน

    10 อันดับเรือนจำที่ขึ้นชื่อว่า มีความโหดร้ายมากที่สุดในโลก และไทยก็ติดอันดับเช่นกัน

    ขึ้นชื่อว่าคุกนั้น แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเข้าไปอยู่แน่นอน แต่เมื่อทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามกฏหมายและเมื่อเข้าไปอยู่ในคุก คุณไม่รู้เลยว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง อาจจะต้องเจอกับความเจ็บปวด หรือบางคนอาจได้เจอกับมิตรภาพดีๆ ในคุกก็ได้ ซึ่งเรือนจำในแต่ละประเทศก็แตกต่างกันไป จำได้ไหมว่าเราเคยพาไปทัวร์เรือนจำนอร์เวย์ เรือนจำ Norway ได้ชื่อว่า ‘คุกที่สบายสุดในโลก’ แต่แก้ไขปัญหาอาชญากรรม ได้ผลดีมาก!!! แต่คราวนี้ลองไปดูเรือนจำที่ทางเว็บไซต์ TheRichest จัดอันดับว่าโหดร้ายมากที่สุดในโลก มาดูกันว่าข้อมูลที่เว็บต่างชาติเว็บนี้จัดอันดับ มีเรือนจำที่ไหนติดมาบ้าง   10. เรือนจำบางขวาง ประเทศไทย ติดเข้ามาในอันดับสุดท้ายของลิสต์นี้ ขึ้นชื่อเรื่องความโหดมากพอสมควร ต้นฉบับให้เหตุผลว่า เรือนจำที่นี่มีทั้งการกระทำรุนแรงต่อนักโทษ ความเป็นอยู่ที่แออัด ถึงกับยกให้เป็นหนึ่งในคุกที่ Hardcore แห่งหนึ่งของโลกใบนี้เลย   9. เรือนจำ Rikers Island นิวยอร์ก เป็นคุกที่ขึ้นชื่อเรื่องการใช้ความรุนแรงกับนักโทษ และเคยมีประวัตินักโทษเสียชีวิตจากความรุนแรงนี้มาแล้ว   8. เรือนจำ San Quentin ก่อตั้งเมื่อปี 1852 ซึ่งเป็นคุกที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นที่รู้กันว่ามีปัญหาความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2006 มีการจลาจลเกิดขึ้น เพราะนักโทษพยายามแหกคุก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 100 ราย และเสียชีวิตอีก 2…

  • เปิดชีวิต ‘นักโทษเกือบสี่พัน’ ในคุกฟิลิปปินส์ ที่ถูกสร้างมาเพื่อรองรับนักโทษเพียง 800 คน

    เปิดชีวิต ‘นักโทษเกือบสี่พัน’ ในคุกฟิลิปปินส์ ที่ถูกสร้างมาเพื่อรองรับนักโทษเพียง 800 คน

    เรือนจำหรือคุก เป็นแหล่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเข้าไปอยู่แน่นอน เพราะนอกจากไม่มีอิสรภาพแล้ว เรายังไม่รู้ด้วยว่า อยู่ในนั้นต้องเจอกับอะไรบ้าง วันนี้ก็เลยจะพาชมสภาพคุกแห่งหนึ่ง ที่เห็นแล้วเราถึงกับหดหู่ไปตามๆ กัน…. และนี่คือสภาพนักโทษที่ต้องอยู่กันอย่างแออัดที่เรือนจำ Quezon City อยู่ทางเหนือของกรุงมะนิลา ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยนักโทษมีจำนวนมากถึง 3,600 คน แต่ต้องมาอยู่รวมกันในห้องที่สร้างขึ้นเพื่อคน 800 คนเท่านั้น   นักโทษ 3600 คนอยู่รวมกันในเรือนจำที่สร้างขึ้นเมื่อ 60 ปีก่อน   พวกเค้าจะสลับกันนอนที่สนามบาสเกตบอล ตามขั้นบันได ใต้เตียง หรือบางทีก็นำผ้าห่มมาผูกเป็นเปลนอน แต่ทำไงก็ยังแออัดอยู่ดี ที่สำคัญเวลานอน พวกเค้าไม่สามารถยืดแขน ยืดขาได้อย่างเต็มที่ด้วย แค่ขบับนิดเดียวก็ไปชนกับคนอื่นแล้ว นอกจากที่นอนแล้ว ด้านอาหารการกินก็ไม่เพียงพอด้วย รายงานจากบางแห่งบอกว่า บางทีก็มีซากแมลงในอาหารอีกต่างหาก แต่พวกเค้าก็ต้องทนกับสภาพแบบนี้เพื่อความอยู่รอด   นักโทษนอนเบียดกันบนพื้นในเรือนจำ Quezon City   Raymund Narag อดีตนักโทษที่เคยติดคุกนาน 7 ปี ด้วยข้อหาฆาตกรรม (ซึ่งเขาอ้างว่าไม่ได้ทำ) ได้เขียนหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งชื่อว่า ‘เสรีภาพและความตายในคุก’  โดยภายในหนังสือเล่มนี้ เขาได้เขียนเล่าประสบการณ์ตลอดที่อยู่ในคุกราวกับว่ากำลังเผชิญกับความตายทุกๆ นาที กิจวัตรประจำวันของพวกนักโทษก็คือ ออกกำลังกาย…

  • สื่อต่างชาติเผยรายงานลับ ประเทศจีนประหารนักโทษนับล้านราย เพื่อนำ ‘อวัยวะ’ ไปใช้งานต่อ

    สื่อต่างชาติเผยรายงานลับ ประเทศจีนประหารนักโทษนับล้านราย เพื่อนำ ‘อวัยวะ’ ไปใช้งานต่อ

    กลายมาเป็นเรื่องราวใหญ่โตกันเลยทีเดียว กับการกระทำที่ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นสีขาวสีดำกันแน่ เพราะมันอยู่คั่นกลางระหว่างสองสี… ฟังดูข่าวนี้เหมือนกับอะไรที่มาจากเว็บไซต์ไวรัสดักคนเข้า แต่เป็นการเปิดเผยจากทางสื่อใหญ่อย่าง Independent เมื่อมีข่าวลือหนาหูของรัฐบาลจีน ที่ให้เหล่านักโทษเข้าร่วมโปรแกรมฝึก Falun Gong อันเป็นวิถีการฝึกสมาธิอย่างหนึ่งของลัทธิในจีน เมื่อจบโปรแกรมแล้วจะนำนักโทษเหล่านั้นมาประหารเพื่อหวังนำเอาอวัยวะภายในไปปลูกถ่ายให้กับบุคคลที่ต้องการ (ราวกับว่าเป็นการค้าอวัยวะกันเลย)     จากแหล่งข่าวได้กล่าวเอาไว้ว่าทางรัฐบาลจีนได้หยุดโปรแกรมดังกล่าวไปเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ก็ยังมีการลักลอบผ่าตัดนำอวัยวะของเหล่านักโทษอย่างต่อเนื่อง โดยทางผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์เอาไว้ว่าในทุกๆ ปี จะมีนักโทษราวๆ 60,000 – 100,000 รายที่ถูกประหารชีวิตและผ่าตัดนำหัวใจ ตับ และอวัยวะภายในอื่นๆ ออกมา เพื่อนำไปใช้ปลูกถ่าย     ทั้งนี้ยังมีรายงานตัวเลขที่น่าตกใจตามมาก็คือ โดยรวมแล้วประมาณ 1,500,000 รายที่ถูกผ่าตัดนำตับและไตออกจำหน่ายไปสู่ศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะกว่า 712 แห่งทั่วประเทศจีน มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 ศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัดถูกบังคับให้ทำการปลูกถ่ายอวัยวะทุกวันจนแทบจะนับจำนวนครั้งไม่ถ้วน บางวันอาจจะถูกบังคับให้ทำการผ่าตัดนำตับออกจากร่างมากถึง 6 ครั้งกันเลยทีเดียว!!     ข้อมูลต่างๆ นั้น ได้รับการตีพิมพ์ใน Bloody Harvest: Revised Report into Allegations of Organ Harvesting…

  • Jeremy Meeks นักโทษหน้าหล่อระอุโซเชียล ตอนนี้พ้นโทษออกมาเป็นนายแบบเต็มตัวแล้ว!!

    Jeremy Meeks นักโทษหน้าหล่อระอุโซเชียล ตอนนี้พ้นโทษออกมาเป็นนายแบบเต็มตัวแล้ว!!

    ย้อนกลับไปเมื่อปีค.ศ. 2014 เป็นช่วงที่เกิดกระแสตื่นตัวกับนักโทษผู้กระทำความผิดฐานครอบครองอาวุธผิดกฏหมาย ถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นระยะเวลา 2 ปี และทางกรมตำรวจแห่ง Stockton รัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทำการโพสต์ภ่ายของผู้ต้องหาประกอบคดีผ่าน Facebook ทำเอาหลายคนอึ้งในความหล่อมาดเข้มของ Jeremy Meeks   Jeremy Meeks นักโทษหน้าหล่อ   ซึ่งหลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพของเขาออกไปในโลกออนไลน์จนเป็นกระแสในแง่บวกทางด้านความหล่อ ทางต้นสังกัดเดินแบบ White Cross Management ได้พา Jeremy Meeks มาทำการเซ็นสัญญานาย หากพ้นโทษเมื่อไหร่ก็จะได้มาทำงานร่วมกันทันที     Jim Jordan ผู้เป็นเจ้าของต้นสังกัดได้เปิดเผยเอาไว้ว่า ณ ตอนที่เขาพานักโทษผู้นี้มาเซ็นสัญญาด้วย ก็เป็นเพราะว่าอยากจะให้โอกาสกับเขาอีกซักครั้ง (แหม ก็หน้าตาดีซะขนาดนี้ ไม่คว้ามาร่วมงานก็คงไม่ได้แล้ว) ‘ในตอนแรกที่ผมเห็นรูปเขา ผมมีความรู้สึกว่าจะต้องเข้าไปช่วยเหลือแล้วล่ะ หลังจากที่ผมได้คุยกับภรรยาและพบปะกับครอบครัวของเขา Jeremy เป็นทั้งสามีและคุณพ่อ ทางเราก็เลยอยากจะจัดการดูแลอนาคตให้กับเขา และผมไม่คิดว่าจะได้รับผลกระทบจากกระแสของลูกค้าและแฟนๆ จากทั่วโลกมากนัก’     ถ้ายังจำกันได้ หลังจากที่ภาพถ่ายของ Jeremy เผยแพร่ออกไป…

  • โครงการเยียวยาจิตใจทั้งคนและสุนัข จับคู่นักโทษกับสุนัขที่ไม่มีเจ้าของ เรียนรู้ซึ่งกันและกัน!!

    โครงการเยียวยาจิตใจทั้งคนและสุนัข จับคู่นักโทษกับสุนัขที่ไม่มีเจ้าของ เรียนรู้ซึ่งกันและกัน!!

    ว่ากันว่าสุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ ประโยคนี้ก็ยังคงมีความหมายแบบนั้นอยู่เสมอ แต่ทว่าบางทีมนุษย์เองก็กลายมาเป็นเพื่อนที่แย่ที่สุดของสุนัขเมื่อทอดทิ้งพวกมันไป มนุษย์อาจจะไม่รู้สึกซักเท่าไหร่ แต่มันทำร้ายจิตใจของสุนัขที่รักมนุษย์อย่างรุนแรง     และด้วยเหตุนี้เองทีม Canine CellMates ได้จัดโครงการเยียวยาจิตใจทั้งคนและสุนัขขึ้นมา ด้วยความรู้สึกที่ไร้ค่าและรู้สึกโดนทอดทิ้งทั้งของตัวนักโทษเอง และสุนัขที่โดนเจ้าของทิ้งและอยู่ในระหว่างรอเจ้าของใหม่ โดยจับคู่ให้มาเจอกัน และอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง     โดยโครงการนี้จะช่วยทำให้สุนัขที่ถูกทอดทิ้งได้ทำการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ และได้รับการฝึกฝนเพื่อพร้อมที่จะไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ในอนาคต     นอกจากจะมีประโยชน์ต่อสุนัขแล้ว อีกด้านหนึ่งก็มีประโยชน์ต่อตัวนักโทษเองด้วย ส่งผลทำให้สุขภาพจิตที่ดีขึ้น จากที่เคยรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า เมื่อได้รับความรักและความเชื่อใจจากสุนัขเหล่านี้ ทำให้ความคิดของพวกเขาเปลี่ยนไปในเชิงบวก หนึ่งในนักโทษก็ได้กล่าวเอาไว้ว่า ‘ความผูกพันระหว่างตัวผมกับเจ้า Fred, เรามาจากคนละที่ เจ้า Fred มาจากที่มันกำลังจะถูกฆ่า และผมก็มาจากสถานที่ที่เลวร้าย ถ้าเจ้า Fred มีโอกาสได้ไปอยู่บ้านใหม่และเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ มันก็ทำให้ผมอยากจะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่ผมอยู่ด้วยเช่นกัน’ ที่มา : unilad, CNN

  • อดีต “ฆาตกร” ช่วยเปลี่ยนชีวิตของเด็กน้อยผู้ป่วยเป็นโรคออทิสซึม ให้กลับมาสดใสได้อีกครั้งหนึ่ง!!

    อดีต “ฆาตกร” ช่วยเปลี่ยนชีวิตของเด็กน้อยผู้ป่วยเป็นโรคออทิสซึม ให้กลับมาสดใสได้อีกครั้งหนึ่ง!!

    ไม่ว่าใครก็เคยทำสิ่งที่ผิดพลาดทั้งนั้น การทำผิดพลาดไม่ได้แปลว่าพวกเขาเป็นคนที่ชั่วร้ายจนไม่มีด้านดีเหลืออยู่ อย่างเช่นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมรายนี้ เขาได้มอบชีวิตใหม่ให้กับเด็กชายผู้น่าสงสาร ที่ต้องทุกข์ทรมาณจากโรคออทิสซึม   เด็กชายคนนี้มีชื่อว่า Zachary Tucker เขาต้องทุกข์ทรมาณจากโรคแอสเพอร์เกอร์ซึ่งเป็นโรคในกลุ่มออทิสซึม ทำให้เขามีปัญหาในการเข้าสังคมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องเพื่อน เขาแทบไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียว และเขามักมีอาการตื่นตระหนกกับสิ่งรอบๆตัวง่ายอีกด้วย นอกจากนี้ เขายังมีอาการนอนไม่หลับและเกิดสภาวะอารมณ์ถดถอยอยู่บ่อยๆ ซึ่งการที่จะทำให้เขาสงบนั้นเป็นเรื่องยากมาก แม้กระทั่งตัวพ่อแม่ของเขาเองก็ไม่สามารถแตะต้องตัวเขาได้     Arthur และ Susy Tucker พ่อแม่ของ Zachary เครียดมาก พวกเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยรักษาลูกชายผู้น่าสงสาร จนกระทั่งวันหนึ่ง Susy พบกับชื่อ Chris Vogt บนอินเตอร์เน็ต เขาเป็นผู้เชี่ยญชาญด้านการฝึกสุนัขเพื่อช่วยรักษาโรคออทิสซึม และที่สำคัญ ดูเหมือนเขาจะเก่งด้านการรักษาเด็กๆ ซะด้วย     ปัญหาอยู่ที่ว่า Chris Vogt เป็นอาชญากร เขาก่อคดีฆาตกรรมและถูกตัดสินจำคุกตั้งแต่ปี 1998 ซึ่งโทษที่เขาได้รับก็คือการจำคุก 48 ปี แต่ในความโชคร้ายยังคงมีความโชคดี Chris ไม่ได้ทิ้งความสามารถไปแม้แต่นิดเดียว เขามักเข้าร่วมโปรแกรมการฝึกฝนสุนัขจรจัดจากสถานรับเลี้ยงสัตว์ซึ่งทางเรือนจำจัดไว้ให้     แม้จะต้องอาศัยอยู่ในดินแดนไร้อิสรภาพ…

  • เจ้าหน้าที่ CIA เปิดเพลง My Love ของ Westlife เพื่อทรมานนักโทษชาวอัฟกานิสถาน

    เจ้าหน้าที่ CIA เปิดเพลง My Love ของ Westlife เพื่อทรมานนักโทษชาวอัฟกานิสถาน

    ถ้าพูดถึงเพลงในตำนานสมัยเรายังเด็กๆหรือบางคนอาจจะเป็นวัยรุ่นแล้ว ก็คงต้องเป็นเพลง “My Love” ของศิลปิน Westlife เป็นที่แน่นอน ถือเป็นเพลงบุกเบิกที่ทำให้ใครหลายคนสนใจเพลงต่างประเทศมากขึ้น เพราะด้วยเนื้อหาที่ฟังง่าย ร้องง่าย และไพเราะเป็นอย่างมาก แต่แล้วเพลงนี้ก็ได้เปลี่ยนจุดประสงค์ไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อกลุ่มสิทธิมนุษยชนกลุ่มหนึ่งชื่อว่า American Civil Liberties Union ได้ออกมาบอกว่าเพลงนี้ได้ถูกใช้โดย CIA เพื่อทำการทรมานนักโทษชาวอัฟกานิสถานด้วยวิธีเปิดวนซ้ำไปเรื่อยๆ     นักโทษที่โดนเพลงนี้คือ Suleiman Abdullah เขากำลังถูกสอบปากคำและเปิดเพลงนี้อยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นเทคนิคที่เรียกว่า “การสอบปากคําแบบเข้มข้น” หรือพูดง่ายๆก็คือการทรมานอย่างหนึ่งนั่นเอง แต่เพลง My Love ที่เขาได้ฟังนั้นจะเป็นเวอร์ชั่นเอฟวี่เมทัล ด้วยระดับเสียงที่ขี้หูเต้นระบำ     ไม่ใช่เฉพาะเพลง My Love เท่านั้นที่เคยถูกเอามาเป็นเครื่องทรมาน ก่อนหน้านี้ในปี 2005 ทาง Human Rights Watch ได้ออกมาประกาศว่าได้มีเพลงของ Eminem และ Dr. Dre ถูกใช้เป็นเครื่องมือทรมานเช่นด้วยกัน หรือวงขาร็อกอย่าง Red Hot Chili Peppers ก็กลายเป็นบททดสอบของนักโทษด้วย ที่มา bbc

  • พาชมบรรยากาศห้องขังรวมภายในคุกอเมริกา แออัดยิ่งกว่าที่คิดไว้ซะอีก!!

    พาชมบรรยากาศห้องขังรวมภายในคุกอเมริกา แออัดยิ่งกว่าที่คิดไว้ซะอีก!!

    นับวันอัตราการเกิดอาชญากรรมก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้จำนวนห้องขังนักโทษนั้นมีไม่เพียงพอเสียแล้ว จากที่ต้องแยกขังเดี่ยว ก็เลยต้องทำมารวมกันในห้องขังรวมเช่นนี้       นักโทษภายในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีหลากหลายเชื้อชาติ แต่ส่วนมากจะเป็นชาวลาตินอเมริกัน และข้อหาที่หลายคนถูกจับนั้นก็เนื่องมาจากการพัวพันกับยาเสพติด     อาจจะดูสบายๆ หน่อย แต่รับรองว่าคงไม่มีใครอยากเข้าไปใช้ชีวิตแบบนี้ในฐานะนักโทษอย่างแน่นอน!! ที่มา : vdoobv

  • นักโทษโวยหนังสือพิมพ์ เกม Sudoku ที่แถมมาในหนังสือมัน”เป็นไปไม่ได้”!!!

    นักโทษโวยหนังสือพิมพ์ เกม Sudoku ที่แถมมาในหนังสือมัน”เป็นไปไม่ได้”!!!

      นักโทษจำนวน 86 คนได้ร่วมเขียนจดหมายตำหนิไปยังหนังสือพิมพ์ หลังทั้งหมดร่วมกันแก้ปัญหาเกม Sudoku ที่แถมมาในหนังสือพิมพ์ แต่ไม่ว่าจะทำยังไง ก็แก้ไม่ได้   โดยนาย Michael Blatchford และ Shane Smith นักโทษจากเรือนจำ Exeter ได้ส่งจดหมายไปยังกองบรรณาธิการของหนังสือพิม์ Echo เพื่อบรรยายถึงความรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก ที่หนังสือพิมพ์ตีพิมพ์เกม Sudoku ที่ไม่สามารถเล่นให้จบได้ ในฉบับวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม 2015   พวกเขากล่าวว่า ในฐานะนักโทษ พวกเขาจะได้อ่านหนังสือพิมพ์เฉพาะของวันพฤหัสบดีเท่านั้น พวกเขาและนักโทษอีก 84 คนพยายามเล่นเกม Sudoku ที่แถมมาในหนังสือ แต่ไม่ว่าจะทำยังไง พวกเขาก็เล่นจนจบไม่ได้ จนพวกเขาคิดว่า โจทย์ต้องผิดแน่ๆ และมันทำให้พวกเขาข้องใจมากๆ พวกเขาจึงร่างจดหมายนี้ขึ้นมา   หลังจากทางหนังสือพิมพ์ได้รับจดหมาย ก็ออกมาชี้แจงว่า พวกเขาได้ตรวจสอบเกม Sudoku ในฉบับนั้นแล้ว และพบว่าเกมถูกออกแบบมาถูกต้องแล้ว แต่พวกเขาทำผิดไปนิดหน่อยช่วงกลางๆ ทำให้ไม่สามารถจบเกมได้โดยสมบูรณ์ ขอให้ลองเล่นดีๆอีกทีนะ ที่มา Mirror