Category: สยามเมืองยิ้ม

ถ้าเหมียวจะชวนหนุ่มๆ มาเสวนากันเรื่องคุณธรรม นอกจากประเด็นเกี่ยวกับคุณงามความดีแล้ว ก็คงจะลืมที่จะนึกถึงชีคนนี้ไปไม่ได้ซะจริงๆ เพราะฉายา ‘นมคุณธรรม’ ยังทำให้เราจำเธอได้เสมอ!! เธอคนที่ว่านี้ก็คือ ‘น้องมันแกว’ เน็ตไอดอลสาวหุ่นสะบึมที่ชาวเน็ตเพศชายรู้จักกันดี กับฝีปากการแสดงทัศนคติส่วนตัวได้น่าสนใจ และหน้าอกหน้าใจที่ชวนมอง ซึ่งเธอก็เป็นกระแสมาเรื่อยๆ     และล่าสุดในวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 นี้ เห็นทีว่ากระแสคุณน้องจะเริ่มบูมในโซเชียลอีกครั้ง เพราะจากเฟซบุ๊คของตัวเธอเองที่ใช้ชื่อว่า รุ่งตะวัน ชัยหา ได้มีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับคุณธรรมขึ้น แกวมีกิจกรรมค่ะ >> นมคุณธรรม กับหรรมทำความดี… คอมเม้นพร้อมภาพที่คุณไปทำความดีมาไต้โพสนี้ครบ 2000 ความดีเมื่อไหร่ แกวจะ… Posted by รุ่งตะวัน ชัยหา on Monday, July 20, 2015   พอคนสวยน่ารักจั่วหัวมาแบบนี้ พี่ๆ แฟนคลับก็แห่กันมาโพสต์คอมเม้นต์ภาพความดีเพื่อให้ถึง 2,000 ภาพกันยกใหญ่ เพราะน้องมันแกวได้บอกไว้ว่ายินดีจะยอมถ่ายชุดว่ายน้ำแบบเซ็กซี่ที่สุดของเธอครั้งแรกโชว์เลยหละตะเอง ><         แม้ว่ากระแสนี้จะมีการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบอยู่บ้าง…

เรียกได้ว่างามหน้าเมืองพุทธกันล่ะทีนี้ เมื่อทางสำนักข่าวเมโทรแห่งประเทศอังกฤษได้มีรายงานการพบเห็นเรื่องราวสุดสะเทือนใจของนักท่องเที่ยวรายหนึ่งที่ได้มาพักผ่อนยังประเทศไทย ซึ่งทางสำนักข่าวได้รายงานว่า เหตุเกิดจากการที่นักท่องเที่ยวสาวชื่อว่า Gina Jones วัย 33 ปี ที่มาเที่ยวประเทศไทย แถบเกาะลันตา ไปเจอกับลูกไก่ตัวหนึ่งมีสีสันสดใสแปลกๆ และมันก็ได้กระโดดขึ้นรถบรรทุก ไปหาถุงๆ หนึ่ง ที่เต็มไปด้วยลูกไก่สีแปลกๆ   ภาพของลูกไก่ที่ถูกย้อมสี   พอเธอเข้าไปดูก็พบว่ามีลูกไก่อยู่ในถุงพลาสติกหลังรถ มากมายเต็มไปหมด ซึ่งมีสีสันที่สดใส ทั้งชมพู เหลือง เขียว ส้มเลยทีเดียว ตอนแรกเธอพยายามแอบปล่อยลูกไก่ให้หนีออกจากถุงภายในรถ   แต่ก่อนที่เธอจะช่วยได้สำเร็จรถก็ได้ออกตัวไปก่อน เธอรู้สึกสงสารมากที่ได้เห็นอะไรแบบนั้น โดยเธอคิดว่ารถคันนั้นมุ่งหน้าไปยังเกาะ เพื่อที่ลูกไก่จะถูกนำไปขายเป็นของเล่นถูกๆ ให้กับเด็กๆ   ไก่ที่ถูกจับใส่ไว้ในถุง แน่นอนว่าอุณหภูมิมันต้องสูงมากๆ แถมอยู่ในรถด้วยซะอีก   เหมียวก็ไม่รู้เหมือนกันนะเนี่ยว่าเขาเอาไปขายกันจริงๆ หรือเปล่า หรือถูกนำไปใช้อย่างอื่น ซึ่งถ้านำไปย้อมสีขายให้เด็กๆ จริงๆ นี่ก็ถือว่าโหดร้ายมากเพราะลูกไก่ที่ไม่ได้อยู่กับแม่นั้นเปอเซ็นต์ตายสูงมากเลยทีเดียว ใครรู้เรื่องนี้ช่วยไขให้เหมียวกระจ่างทีนะ น่าสงสารจริงๆ T^T   มาชมคลิปวิดีโอกันได้ที่นี่เลย   ที่มา: Metro

อย่างที่แอดเหมียวเตือนเรื่องการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คมาโดยตลอด ว่าอาจส่งผลเสียกับเราได้ หากใช้มันอย่างไม่ระมัดระวัง ล่าสุดก็มีตัวอย่างมาให้เราเห็นกันอีกแล้วล่ะ   โดยเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊คเพจ WE Love THAI Police ได้เผยแพร่ภาพข้อความของสมาชิกเว็บไซต์เฟซบุ๊ครายหนึ่ง ที่ได้โพสต์ข้อความดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ หลังจากที่ตนเองได้ถูกตำรวจจับในข้อหาไม่จัดทำ พ.ร.บ. และไม่ต่อภาษีรถยนต์ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นที่จะต้องยึดใบขับขี่ของเขาไว้ก่อน   แต่เนื่องจากความไม่พอใจ ทำให้ชายหนุ่มเข้ามาโพสต์ข้อความต่อว่าและดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ค สุรินทร์ โดยมีข้อความว่า “โดนแล้วครับ 500 เมื่อบ่ายนี้ แถวเทศบาล3 ข้อหา ไม่จัดทำ พ.ร.บ. ยึดใบขับขี่ผมไป ให้ตามไปเอาคืนที่โรงพัก ผมถามตำรวจว่า ยึดใบขับขี่ไปแบบนี้ เท่ากับข้อหาลักทรัพย์นะครับคุณตำรวจ ตำรวจตอบกลับมาว่า ไม่ได้ยึดใบขับขี่คุณพูนครับ แค่เรียกเก็บใบขับขี่ไว้”   “ไหนล่ะกฎหมายที่ว่า ถ้าตำรวจยึดใบขับขี่เราสามารถแจ้งข้อหาลักทรัพย์ได้ เพราะใบขับขี่คือทรัพย์สินส่วนหนึ่ง ยึดกับเรียกเก็บ มันต่างกันยังไงผมล่ะงง”   ทั้งนี้ได้มีคำอธิบายเพิ่มเติมจากเพจ WE Love THAI Police ไว้ว่า ‎การยึดใบขับขี่ของตำรวจ‬ นั้น เป็นการยึดหรือภาษากฎหมายเรียกว่า “เรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่”…

เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊คเพจ คลิป HOT ข่าว HIT ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์การปฏิบัติหน้าที่ของเหล่าทหารในจังหวัดตาก ในขณะตรวจค้นร่างกายของชายคนหนึ่ง ที่ต้องสงสัยว่ามียาบ้าไว้ในครอบครอง   และหลังจากการตรวจสอบพบว่าชายคนดังกล่าวมียาบ้าไว้ในครอบครองจริง ทหารจึงพยายามควบคุมตัวชายหนุ่มไปดำเนินคดี แต่เกิดการขัดขืนขึ้น ทหารจึงต้องจัดการขั้นเด็ดขาดด้วยการใช้กำลังเข้าควบคุม   ทั้งนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “ทหารไทย ใจต้องเหี้ยมหาญ รักษาดินแดนไทย ไว้ให้ลูกหลาน! โลกสวยอาจจะมองว่าโหด ทุกท่านเห็นกันไหมครับ ที่จ่าไปล้วงเอาจากซองบุหรี่มันคือยาบ้าครับ แล้วคนร้ายพยายามหนี คุณๆ ทั้งหลายจะปล่อยไปหรือไม่”   “พวกคุณที่ว่าทำรุนแรงอ่ะ ลองมาอยู่ไหมครับ ถ้าเกิดคนร้ายมีมีด ควักเอามาแทงทหารตาย คงจะโดนด่าว่าโง่ใช่ไหมครับ กองกำลังผาเมือง และ ฉก.พล.ร4 จังหวัดตากครับ”   คลิ๊กชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ทหารไทยตรวจค้นเจอยา [20/7/58] (ข้อความ @ Somchitr Prangthong) “ทหารไทย ใจต้องเหี้ยมหาญ รักษาดินแดนไทย ไว้ให้ลูกหลาน!-! #โลกสวยอาจจะมองว่าโหด ทุกท่านเห็นกันไหมครับ ที่จ่าไปล้วงเอาจากซองบุหรี่มันคือยาบ้าครับ แล้วคนร้ายพยามหนี คุณๆ ทั้งหลายจะปล่อยไปหรือไม่ พวกคุณที่ว่าทำรุนแรงอ่ะ ลองมาอยู่ไหมครับ…

นี่อาจเป็นข่าวที่ทำให้เหล่าสาวกผู้ชอบกินสเลปี้หรือน้ำอัดลมเกล็ดน้ำแข็งจากเซเว่น ถึงกับร้องเฮเลยทีเดียว เพราะเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊คเพจ เผือกไทย ได้โพสต์ภาพโปรโมชั่นใหม่จากเซเว่นสาขาหนึ่ง ที่มีข้อความว่า “เตรียมภาชนะของคุณให้พร้อม พบกัน 23 กรกฎาคม 2558”   เป็นการบอกใบ้ว่าเร็วๆนี้เซเว่นกำลังจะจัดโปรโมชั่นที่อนุญาตให้เราเอาภาชนะใดไปกดสเลปี้ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นถ้วยตราไก่ กาต้มน้ำ หรือกระติกใบบักเอ้ก ในราคาเพียง 49 บาท แต่ใช่ว่าจะครอบคลุมไปทุกภาชนะหรอกนะ เพราะเขามีป้ายห้ามกับภาชนะบางแบบเหมือนกัน เช่นถุงพลาสติก หรือถ้วยเล็กๆหลายๆใบ   ทั้งนี้โปรโมชั่นนี้ไม่ได้มีการจัดขึ้นทั้งวัน แต่จำกัดเวลาอยู่ที่ช่วง 11.00 นาฬิกา ถึง 19.00 นาฬิกาของทุกๆวัน โดยกิจกรรมจะเริ่มในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้นะ แฟนๆสเลปี้เตรียมภาชนะของคุณไว้ให้พร้อม ที่มา เผือกไทย

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพรถสปอร์ตคันหนึ่งขณะจอดเสียอยู่ข้างทาง ผ่านเฟซบุ๊ค Boky Man เป็นเหตุการณ์ที่เจ้าของรถขับรถไปเจอกับถนนในขณะที่กำลังซ่อมแซมอยู่ แต่กลับไม่มีอุปกรณ์ป้องกันหรือแจ้งเตือนใดๆ ทำให้รถยนต์เกิดความเสียหาย และไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว   ทั้งนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “คือมึงจะขุดถนน มึงก็ไม่เอากรวยไรมาตั้ง พอเกิดเรื่องโทรไปหาตัวไหนก็ไม่รับผิดชอบ ตั้งแต่ sos มอเตอร์เวย์ โยนไปโยนมา แล้วกูผิดอะไรวะ ที่ต้องโดนแบบนี้ ค่าผ่านทางกูก็จ่ายให้แล้วมึงเอาเงินไปทำอะไรหมดวะ”   “พูดจาหมาๆบอกรับผิดชอบอะไรไม่ได้ ให้ไปฟ้องเอาเอง ถ้าไม่มีใครตายคงเมินเฉยกันแบบนี้แหละ ขอให้เกิดกับญาติพวกมึงบ้างละกัน”   – สถานที่ ทางหลวงหมายเลข7 เลยด่านเก็บเงินบางวัว กม.39 แค่ 1กิโล มุ่งหน้าบางนา – เกิดเหตุ 19/07/58 เวลา 23.50 น.             ที่มา Boky Man

ในทุกๆปีที่มหาวิทยาลัยจัดงานรับปริญญา เหล่านิสิตนักศึกษาทั้งหลายต้องวิ่งวุ่นหาช่างภาพเพื่อมาเก็บภาพสวยๆในวันสำคัญของตัวเอง บางคนอาจจะถ่ายภาพสวยภาพไอเดียเก๋ๆมามากมาย แต่หากสิ่งเหล่านั้นยังไม่ตอบโจทย์ของคุณล่ะก็ วันนี้แอดเหมียวมีการถ่ายภาพรูปแบบใหม่มานำเสนอล่ะ นั่นก็คือการถ่ายภาพ ‘รับปริญญาใต้น้ำ’ นั่นเอง   ผลงานการถ่ายภาพสุดแหวกนี้เป็นผลงานของทีมช่างภาพจากเพจ บันทึกฉัน ที่เปิดบริการรับถ่ายภาพใต้น้ำในสระว่ายน้ำ ซึ่งพวกเขาการันตีเลยว่าไม่ต้องกลัวว่าจะแสบตาหรืออะไร เพราะสระน้ำนั้นเป็นน้ำเกลือ หมดห่วงแน่นอน และที่สำคัญคุณสามารถใส่ชุดรับปริญญาลงไปในน้ำได้เลย หรือจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่คุณอยากถ่ายก็ตามแต่ความต้องการเลย ลองไปชมผลงานที่ผ่านๆมาของพวกเขากันเลย           โอ้โห แต่ละภาพเก๋แหวกจนเหมียวบรรยายไม่ถูกเลยทีเดียว หากใครอยากถ่ายภาพแบบนี้เก็บไว้ในคอลเล็คชั่นบ้าง สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ bwlifeinthai นะจ๊ะ ที่มา บันทึกฉัน

เชื่อว่าในสมัยเด็กๆ เราหลายคนต้องเคยแกล้งโทรไป 191 เพื่อก่อกวนอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะโทรไปแจ้งเหตุแบบมั่วๆ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ปัจจุบันคงจะทำแบบนั้นไม่ได้แล้วล่ะ เพราะเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 15 ก.ค. รายการเรื่องเล่าเช้านี้ได้รายงานว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนเบอร์โทรฉุกเฉินจาก 191 ให้เป็น 911 แทน   เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่าน พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้เสนอ โดยให้หมายเลข 911 เป็นหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติ ตามแบบเบอร์ฉุกเฉินสากล   ทั้งนี้ พลตรีสรรเสริญยังเผยอีกว่าก่อนหน้านี้มีหมายเลขให้เลือกอยู่ 2 หมายเลข คือ 911(หมายเลขฉุกเฉินฝั่งสหรัฐ) และ 112 (หมายเลขฉุกเฉินฝั่งโซนยุโรป) ที่ประชุมจึงมีมติให้ใช้หมายเลข 911 เพราะหากใช้หมายเลข 112 อาจเกิดความเข้าใจผิดไปพาดพิงกับข้อกฎหมาย มาตรา 112 ก็เป็นได้ ที่มา เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

เชื่อได้เลยล่ะว่าหลังจากการถ่ายทอดสดของโครงการ “New Horizon” ของ NASA ที่ผ่านมาเมื่อหัวค่ำวานนี้ ทั่วทั้งโลกก็เรียกได้ว่า ประจักษ์กันเสียทีว่าใครคือผู้ครองและเป็นเจ้าแห่ง Youtube โดยแท้จริง เกรียนออฟไทยแลนด์นี่เองแหละ -*- ซึ่งล่าสุดก็ได้มี Youtube User ที่ใช้ชื่อว่า MacStudio Team ได้รวบรวมเอาวีรกรรมขณะที่คนไทยป่วนนาซ่ามาให้ได้ชมกันแบบชัดๆ ดูเสร็จแล้วเหมียวน้ำตาไหลเลย นี่เรามีอินเตอร์เน็ทไว้ป่วนชาวโลกเขาเหรอ T^T   วีรกรรมคนไทยป่วนนาซ่าภาค 1   วีรกรรมคนไทยป่วนนาซ่าภาค 2   แต่ในคลิปก็ยังเห็นว่ามีผู้คนบางส่วนพยายามขอโทษพฤติกรรมเพื่อนร่วมชาติ ที่จะเรียกว่ารู้เท่าไม่ถึงการก็ไม่ทันแล้ว เพราะเรียกได้ว่าถ่ายทอดสดไปทั่วโลกแล้วล่ะจ้าคุณผู้ช๊มมม… เละตุ้มเป๊ะเลยทีเดียว ไม่แน่นะเหมียวว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้อาจจะทำให้มุมมองของผู้คนในหลายๆ ประเทศทั่วโลก มองคนไทยเปลี่ยนไปแน่นอน แต่อย่างไรก็ดีขออย่าให้มีฉายงฉายาอะไรมาเลยนะเมี๊ยววว เพราะแต่ละประเทศก็มีทั้งคนดีคนไม่ดี อย่าเหมารวมเลย T^T ที่มา: MacStudio Team  

แหมเดี๋ยวนี้ก็เรียกได้ว่ามิจฉาชีพหากินกันง่ายจริงๆ นะเนี่ย เมื่อล่าสุดทางเฟสบุ๊คส่วนตัวของท่านหนึ่ง ได้โพสต์ภาพการกระทำอันเป็นภัยสังคมของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า กลุ่มมิจฉาชีพนั้น ได้เข้ามาเติมน้ำมันในปั๊มของตนเองโดยมีเด็กปั๊มที่เป็นลูกจ้างเป็นคนรับบริการ และได้สั่งให้เติมน้ำมันเป็นเงิน 1,000 บาท ซึ่งเด็กปั๊มก็เติมจนครบ 1,000 พอเรียกเก็บเงินกลับปฏิเสธว่าสั่งให้เติมแค่ 100 บาท!!!   ไฮไลต์มันอยู่ตรงที่ไม่ยอมจ่ายเงิน และไม่ยอมให้ดูดน้ำมันกลับคืนอีกด้วย ไม่มีไม่หนี ไม่จ่ายเข้าตำราจริงๆ   ผลสุดท้ายหลังจากเข้าไปเจรจา กลุ่มมิจฉาชีพนี้ก็ยอมจ่ายเงินคืน แต่ได้เพียง 600 บาทเท่านั้น เดี๋ยวนี้อะไรก็เป็นภัยสังคมไปหมด ต้องระวังกันหน่อยนะจ๊ะ เหมียวขอให้ทุกคนรอบคอบให้มากๆ เด้ออออ ที่มา: Postjung

  เราอาจเคยเห็นหุ่นยนต์เจ๋งๆจากญี่ปุ่น หรือทางอเมริกามาเยอะแล้ว แต่มีใครรู้บ้างเรื่องหุ่นยนต์ ประเทศเราก็ถือว่าไม่น้อยหน้าประเทศไหน   อย่างวีดีโอที่เหมียวไปเจอบน Youtube อันนี้ เจ้าของยูเซอร์ชื่อว่า อำนวย ประถม ได้โพสคลิปหุ่นยนต์แมงมุมที่สร้างจากวัสดุง่ายๆ เพียงแค่ 5 อย่าง ซึ่งก็คือ 1.คลิปหนีบกระดาษ 2. มอเตอร์ซีดี 3. เฟืองซีดี 4.แบทเตอร์รี่1.5 โวลต์1 ก้อน ไปชมกันเลยว่าจะเจ๋งขนาดไหน   ดูกันชัดๆๆ   ว้าว เจ๋งไปเลยแฮะ คนไทยถ้าทำอะไรไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ บางทีสิ่งประดิษฐ์ง่ายๆอันนี้ อาจจะกลายเป็นต้นแบบของหุ่นยนต์เจ๋งๆในอนาคตก็ได้นะ ที่มา อำนวย ประถม  

ไม่รู้ว่าจะมีผลอะไรมากมายหรือเปล่า โดยเฉพาะสมัยนี้ที่เด็กๆ โดยเฉพาะในมัธยมศึกษาตอนปลาย วัยที่กำลังเตรียมตัวเข้าสู่การเรียนมหาวิทยาลัย ต้องไปหาความรู้นอกห้องเรียน ตามโรงเรียนกวดวิชาต่างๆ ด้วยความหวังที่ว่าจะสอบเข้าคณะ-มหาวิทยาลัย ที่ตนเองต้องการได้ เพื่อได้ไปทำงานในสายอาชีพนั้นๆ ซึ่งราคาก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยในแต่ละคอร์ส แถมตอนนี้ยังมีการประกาศใช้กฏหมายเก็บภาษี รร. กวดวิชาซะอีก!!!   โดยเมื่อวันที่ 12 กรกฏาคม 2558 ที่ผ่านมานี้ ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่588) พ.ศ.2558 ประกาศเมื่อวันที่ 10 กรกฏาคม 2558 ระบุถึงเรื่องการจัดเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชาแบบใหม่ เพื่อให้เกิดความเสมอภาค เป็นธรรม และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการยกเว้นภาษี หลังจากที่ผ่านมามีการประกอบธุรกิจเพื่อแสวงหากำไรมากกว่าเพื่อจัดการศึกษา มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฏาคม 2558 เป็นต้นไปเลยจ้า   ทั้งนี้ก็ได้มีผู้ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ คือ พล.อ.ต. นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา และตุลาการศาลทหารกลาง กระทรวงกลาโหม โดยได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คของตนเองใจความว่า…     ที่เขาพูดมาเหมียวก็ว่ามีเหตุผลเหมือนกันนะเนี่ย ไม่แน่นะค่าเรียดกวดวิชาก็อาจจะเพิ่มขึ้นโดยการอ้างภาษีได้อีก และนักเรียนตาดำๆ รวมถึงผู้ปกครองตัวเล็กๆ…

เป็นที่สงสัยกันของชาวเน็ตอีกแล้ว และอาจจะเป็นอีกหนึ่งการตั้งคำถามของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฮีโร่ของปวงประชา เมื่อได้มีผู้หญิงคนหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความแบบนี้ เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าของเฟซบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์ภาพใบสั่งของเจ้าหน้าที่และข้อความว่า ‘ค่าปรับจาก 500 เหลือ 200 หมวกไม่ใส่ก็ไม่เขียนข้อหา ใช้หน้าตาให้เป็นประโยชน์ใช่ไหมเพื่อน 5555’   โพสต์ดังกล่าว   ภาพแบบเห็นชัดๆ   ซึ่งตอนแรกนั้นเธออ้างว่าถูกตำรวจจับข้อหาไม่ติดแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี ตอนแรกจะปรับ 500 แต่เห็นหน้าตาดีเลยลดให้เหลือ 200 แถมไม่เขียนข้อหาไม่ใส่หมวกกันน็อกให้ด้วย และที่ได้สิทธิพิเศษแบบนี้เพราะหน้าตาดีล้วนๆ !!!   ซึ่งก็เปิดประเด็นให้ชาวเน็ตได้วิเคราะห์และสงสัยกันเป็นอย่างมาก ทั้งในส่วนที่เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือว่าแต่งมาหลอกกันเล่นๆ แต่อย่างไรก็ดีถ้าเป็นเรื่องจริงทางตำรวจก็ควรตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะจะสะเทือนไปถึงภาพลักษณ์การทำงานของตำรวจ รวมถึงความเข้มของกฎหมาย ที่ความหนักเบาของมันอยู่ที่ ‘ความหน้าตาดี’ เท่านั้นเหรอ!!? ที่มา: Kapook

ดราม่าการจองบัตรคอนเสิร์ตหรือการแสดงต่างๆ ช่วงนี้ผุดขึ้นมาเป็นระยะๆ เริ่มตั้งแต่ Maroon5 รอบแรก และรอบสอง และวันนี้เกิดขึ้นอีกครั้งกับการแสดง “เดี่ยว 11” ของนักพูดชื่อดัง “โน๊ต อุดม”   โดยเจ้าของกระทู้ผู้เห็นเหตุการณ์ความไม่เป็นธรรมครั้งนี้ ได้มาเล่าในเว็บบอร์ดชื่อดัง Pantip โดยเจ้าของกระทู้เล่าว่า ตนเองนั้นได้ไปรอซื้อบัตรตั้งแต่ 7 โมงเช้า ในขณะที่การเปิดขายบัตรจะเริ่มในเวลา 11 โมง และเขายังเล่าอีกว่าตอนที่ตนเองไปถึงนั้น มีคนนั่งรออยู่ประมาณหนึ่งแล้ว     โดยเมื่อถึงเวลาประมาณ 10 โมง ทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ก็ได้แจกบัตรคิว ซึ่งเจ้าของกระทู้ได้คิวที่ 12 เมื่อถึงเวลาขายบัตร ทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ก็ได้เรียกคิวที่ 1-10 เข้าไป แต่ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่งรับคิวทั้ง 10 คิวไปแทน และเดินเข้าไปซื้อ   โดยชายคนนั้นได้ใช้เวลาในการเลือกตั๋วประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงและเขาได้ซื้อตั๋วไปทั้งหมด 100 ใบ ทั้งๆที่ตามกฏของไทยทิคเก็ตเมเจอร์ แต่ละคนสามารถซื้อได้ไม่เกินคนละ 10 ใบเท่านั้น เรียกได้ว่าสร้างความไม่พอใจแก่คนที่มารอคิวอย่างมาก เมื่อมีการโวยวาย ชายคนดังกล่าวก็ตอบกลับมาเพียง “เป็นสิทธิของผม” และพอมีถามคนที่มาจองคิวให้ชายคนนั้น ปรากฏว่าคนพวกนั้นก็ไม่รู้ว่าตนเองมาจองการแสดงอะไร…

ต้องยอมรับว่าสมัยนี้สาวประเภทสองนั้นมีสวยไม่น้อยไปกว่าสาวแท้เลย บางทีก็ทำให้เหมียวสับสนจนแทบแยกไม่ออกว่าคนไหนสาวแท้ คนไหนสาวเทียมกันล่ะเนี่ย เช่น คนนี้ ปอย ตรีชฎา สาวประเภทสองที่สวยระดับประเทศ โดยมีตำแหน่ง มิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส และ มิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีน 2004 การันตีความงามของเธอได้เป็นอย่างดี   แต่มีใครเคยเห็นปอยก่อนที่จะเข้าวงการบ้างไหมล่ะ!? วันนี้แอดเหมียวพาย้อนวันวานไปดู ปอยในวัยเด็กก่อนที่จะมาเป็นสาวสวยอย่างทุกวันนี้ เธอจะเปลี่ยนไปแค่ไหนไปดูกันเลย    ตอนเด็ก       ปี2004 ปัจจุบัน       อือหือออ ยิ่งเห็นยิ่งการันตีความน่ารัก สมแล้วที่เหมียวเป็นแฟนคลับมาตั้งแต่สมัยมัธยมเบยยยยย ที่มา: KapookWorld

เพราะทุกชีวิตมีค่าเท่ากัน เพราะทุกชีวิตสมควรได้รับความรัก วันนี้เหมียวมีเรื่องราวดีๆ ของคนและสัตว์ที่มอบความรักให้แก่เพื่อนร่วมโลก มาเล่าให้เพื่อนๆฟังกัน   เป็นเรื่องราวของพระภิกษุรูปหนึ่งที่ออกเดินบิณฑบาตรในตอนเช้าเหมือนปกติ ระหว่างทางนั้นได้พบศพแมวท้องแก่โดนรถทับร่างกายแหลกละเอียดอยู่ริมทาง จึงเดินไปดูเพื่อจะได้อุทิศส่วนกุศลให้ พบว่าลูกในท้องทะลักออกมาเสียชีวิตทั้งหมด   แต่ยังมีลูกแมวตัวหนึ่งที่อยู่ในถุงน้ำคร่ำยังดิ้นและมีชีวิตอยู่จึงฉีกถุงน้ำคร่ำและช่วยชีวิตแมวตัวนี้ไว้ได้ พระภิกษุได้นำลูกแมวแรกเกิดกลับมาที่วัดเพื่อดูแล เมื่อมาถึงแมวที่อาศัยอยู่ที่วัดก็คาบลูกแมวไปเลี้ยงดูไม่มีท่าทีขู่ลูกแมวแต่อย่างใด   เราไปชมภาพน่ารักๆของเจ้าลูกแมวแสนโชคดีตัวนี้กัน   แมวช่วยคาบลูกแมวแรกเกิดไปเลี้ยง       นับว่าเป็นโชคดีของเจ้าเหมียวน้อยที่มีชีวิตรอดได้อย่างปาฏิหาร และเจอคนที่เห็นคุณค่าของชีวิตเล็กๆ ที่มา  Facebook สุดสยาม ทับทิมดี

ย้อนกลับไปเมื่อสมัยเรียนมัธยมหลายปีก่อน งานกีฬาเป็นสิ่งที่นักเรียนต่างเฝ้ารอให้มาถึงเร็วๆ เพราะจะได้แสดงออกในความสามารถของตัวเองให้ผู้อื่นได้เห็น และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการตกแต่งสแตนด์เชียร์ ซึ่งเมื่อก่อนเนี่ยแค่ตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ก็ดูดีแล้ว แต่เดี๋ยวนี้สิ!! เล็กๆ มันไม่พอแล้ว มันต้องจัดเต็ม     ล่าสุดนี้กำลังเป็นที่พูดถึงบนโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก เมื่อมีการแชร์ภาพถ่ายงานกีฬาสีของโรงเรียนพรหมานุสรณ์ จ.เพชรบุรี กับงานกีฬา “ช้างน้อยเกมส์ ครั้งที่ 45” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 6 – 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยสิ่งที่ชาวเน็ตต่างให้ความสนใจเป็นพิเศษนั่นก็คือสแตนด์เชียร์สุดอลังการงานสร้างนั่นเอง     แต่ละสีก็ไม่มีใครยอมใครเลยจริงๆ ความคิดสร้างสรรค์ของน้องๆ นั้นสุดยอดมากๆ เลยล่ะ อย่างเช่นสีฟ้าจะมาในธีม Jurassic World เปลี่ยนชื่อให้เข้ากับสีฟ้าของตัวเองก็กลายมาเป็น Bluerassic World พร้อมกับมีไดโนเสาร์สีฟ้าออกมาจากด้านข้างด้วย     แต่จะว่าไปสีอื่นๆ ก็จัดเต็มไม่แพ้กันนะเออ อย่างสีแดงมาในธีม หงส์เหนือมังกร ออกสไตล์จีน เข้ากับสีแดงของตัวเองได้อย่างลงตัว     สีส้มก็เจ๋งไม่แพ้กัน มาในธีม “แสดสลัด” โจรสลัดบวกกับสีแสดก็เลยมาเป็นแสดสลัด พร้อมกับธงสีแสดเด่นชัด  …

  ต้องยอมรับเลยว่า ประเทศไทยเราเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุดประเทศหนึ่งบนโลก อาจเพราะความไร้วินัยทางจราจรของผู้ขับขี่ รวมถึงสภาพถนนที่ไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นเป็นประจำ อย่างเช่นคลิปที่เหมียวไปเจอมาอันนี้ เป็นเรื่องของรถตู้คันหนึ่งพยายามปาดหน้ารถบรรทุก จนรถบรรทุกหักหลบ และพุ่งลงข้างทาง   จะเห็นว่ามีรถตู้พยายามเร่งแซงรถบรรทุกทางด้านขวา   เขาพยายามเข้าไปจี้ เพื่อหาจังหวะแซง   เมื่อได้โอกาส เขาจึงปาดเข้าเลนขวาอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนรถบรรทุกจะตกใจเป็นอย่างมาก   ไปชมเหตุการณ์ต่อไปกันเลย     เรียกได้ว่าอันตรายจริงๆ ถ้ารถบรรทุกไม่เบรกแล้วหักหลบ จะเกิดอะไรขึ้นกับรถตู้บ้างนะ เห็นแบบนี้แล้ว ขับรถใจเย็นๆกันนะ อย่ารีบเลย เพราะเราอาจทำให้เกิดอันตรายต่อตนเองและผู้ใช้ถนนคนอื่นๆได้ ที่มา Thaitvnews Siamese  

กลายเป็นที่พูดถึงอยู่ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีของร้านกาแฟชื่อดังแห่งหนึ่งที่เรียกเก็บ “ค่าคุยธุระ” กับลูกค้าชั่วโมงละ 1,000 บาท จนลูกค้าถึงกับงงว่าแค่นั่งคุยธุระเฉยๆแถมยังสั่งกาแฟมากินด้วย ถึงกับต้องเรียกเก็บเงินแพงขนาดนี้เลยหรือ? แถมยังไม่มีป้ายบอกรายละเอียดที่ชัดเจนอีกด้วย   เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ค Atipoj Srisukhon เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 ก.ค. โดยเจ้าตัวได้เล่าว่า “เรียนพี่ๆน้องๆครับ เมื่อวานผมเดินทางเข้ากทม.เพื่อทำธุระ มีเวลาว่างเลยแวะทานกาแฟที่ Bon coffee สาขาหน้าไทยประกันชีวิต ถนน รัชดาภิเษก (มีคุยธุระเป็นปกติของคนทานกาแฟ) นั่งทานทั้งหมด 4 คน”   “นั่งอยู่ได้ประมาณชม.กว่าๆ จึงเรียกพนง.มาเก็บเงิน หลังจากนั้น พนักงานแจ้งว่ามีคุยธุระการงาน ขอเรียกเก็บเงินค่าคุยธุระชม.ละ 1000 บ. รวมสองชม. คิดค่านั่งในร้านเพิ่มอีก 2000 บาท เป็นค่านั่งคุยธุระการงานในร้าน ผมควรทำอย่างไรดี ครับ พี่ๆน้องๆ”   “กินกาแฟยุคนี้มีค่านั่งคุยด้วย เดี๋ยวผมจะส่งบิลให้ดูนะครับ เงินส่วนที่เก็บเพิ่มเค้าเรียกว่า “open food” ครับ เค้าไม่ได้ติดไว้ที่หน้าร้านแต่ทำเป็นกระดาษแผ่นเล็กมากๆว่างไว้บนโต๊ะ ซึ่งถ้าไม่สังเกตให้ดีจะมองไม่เห็นเลย ครับ เพราะบนโต๊ะมีอุปกรณ์ต่างๆว่างอยู่ จนบังไม่เห็นกระดาษเล็กๆแผ่นนี้”   หลังจากภาพนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้มีสมาชิกในเฟซบุ๊คจำนวนมากเข้ามาต่อว่าเงื่อนไขของร้านนี้อย่างมากมาย และอาจยังเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค…

เป็นเรื่องปกติที่เวลาหนุ่มๆไปนั่งดื่มตามร้านอาหารหรือบาร์ต่างๆจะมีสาวๆมานั่งดื่มเป็นเพื่อนเราด้วย แต่ระวังนิดนึงนะเพราะคุณอาจโดนเรียกเก็บเงินในรูปแบบแปลกๆก็ได้   เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 9 ก.ค. เฟซบุ๊คเพจ เรารักด่านตรวจ ได้เผยแพร่ภาพของบิลจากร้านอาหารแห่งหนึ่ง พร้อมกับข้อความว่า “เตือนหนุ่มๆเวลาเช็คบิล ตรวจและนับดูให้ดีว่าครบหรือเกินไหม” ภานในบิลอาหารมีรายการอาหารและเครื่องดื่มตามปกติ แต่มาสะดุดเอาใน 2 รายการสุดท้ายนี่แหละ ที่เขียนไว้ว่า “ค่าจับนมครั้งละ 20 บาท” และ “ค่าจับ Jim ครั้งละ 50 บาท”   ซึ่งก็ไม่รู้ว่างานนี้ลูกค้ารายนี้ได้จับไปจริงๆหรือเปล่า และที่สำคัญ คนโดนจับนับได้ไงอะ!? แต่หลังจากรวมค่าใช้จ่ายแล้วลูกค้ารายนี้ก็โดนเรียกเก็บเงินไปทั้งสิ้น 4,808 บาทเลยทีเดียว!!     เอ่อ ก็ได้แต่เตือนหนุ่มๆล่ะนะว่าอย่าไปทำเรื่องแบบนี้ที่ไหนเข้าล่ะ ไม่งั้นโดนเรียกเก็บเงินแบบหมดตัวไม่รู้ด้วยนะ     ที่มา เรารักด่านตรวจ

ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็เรียกได้ว่าน่าเห็นอกเห็นใจคนที่โดนหักเงินพอสมควรเลยล่ะ อะไรกัน ทำงานทั้งเดือนโดนหักไปกว่าครึ่ง!!! งานนี้ก็เป็นที่จับตามองกันในโลกออนไลน์เลยทีเดียว เมื่อทางเพจ โหดสัส V2 ได้มีการแชร์ภาพของการหักเงินของร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ ทำได้เดือนเดียวผู้เคราะห์ร้ายก็ต้องออกจากงาน เพราะอะไรน่ะเหรอ   ภาพของการหักเงิน มีเป็นลายลักษณ์อักษรกันเลยทีเดียว   คือแบบนี้เหมียวก็คิดว่ามันเกินไปหรือเปล่า ทั้งเรื่องไม่ถอดปลั๊ก 20 บาทเอย ไม่ปิดตู้ไอติม 40 บาทเอย ให้เบอร์เจ้าของร้านโดยมิได้รับอนุญาตก็ 500 บาทเอย และโดยเฉพาะติดต่อป้าต๋อมเรื่องปัญหาเงินเนี่ย เค้าก็อยากได้คำชี้แจงป่าวว้าาา โดนหักอีก 500 บาท!!! อะไรกัน โถๆๆๆ -*- ใครรู้เรื่องกฎหมายรู้เรื่องอะไรทางสิทธิแรงงานก็ช่วยแนะนำเขาหน่อยนะจ๊ะ เพราะบางเรื่องแค่ตักเตือนก็ได้ ไม่รู้ว่าน้องเขาไปทำอะไรให้ขุ่นหมองใจหรือไม่ชอบรึเปล่า สังคมเดี๋ยวนี้ก็น่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย เอารัดเอาเปรียบคนที่ทำงาน เก็บเล็กเก็บน้อยขนาดนี้ ไม่รวยให้มันรู้ไป…แต่ กลางคืนน่ะ นอนหลับได้เต็มตื่นรึเปล่า!!? ที่มา: โหดสัส V2  

วันนี้นั่งเล่นเฟซบุ๊คเพลินๆ ดันไปเจอเพจหนึ่งแชร์ข่าวมา พาดหัวไม่ชวนอึ้ง ตะลึง ผงะ หรือช็อค แต่รูปประกอบนี่แหละ ทำให้เหมียวอดใจไม่ไหวต้องเข้าไปดู…. พักสายตา (คลิกดูภาพเพิ่มเติม)http://www.cm108.com/bbb/index.php?act=ST&f=4&t=5572 Posted by จังหวัดเชียงใหม่ CM108.com on Thursday, July 9, 2015   และพอเข้าไปก็ค้นพบสัจธรรมที่ว่า นางฟ้า มีอยู่จริง แถมยังอยู่ที่โรงเรียนบ้านหนองแวง จังหวัดร้อยเอ็ดซะด้วย ที่สำคัญคือชื่อ เหมียว เหมือนกับเหมียวอีก ชมความน่ารักของคุณครูกันเลยฮะ….                   รูปสุดท้ายนี่เหมือนจะมีผงอะไรสักอย่างติดอยู่นะ…… ผงอะไรหรอ…. ผงอยากรู้จักคุงครูอ่ะคับบบบบบบบบบบ !!! ขอบคุณภาพ: cm108

การเล่นทวิตเตอร์นั้นเหมือนเรากำลังหลุดไปในโลกแห่งความไม่รู้จักกัน ทุกคนสามารถใส่คำพูดได้ไม่ยั้งภายใน 140 ตัวอักษร และสามารถรีทวิตต่อไปได้เรื่อยๆ โดยไม่มีจบสิ้น นี่คือเหตุผลว่าทำไมในทวิตเตอร์จึงเกิดปรากฏการณ์ต่างๆขึ้นบ่อยครั้ง อย่างเช่นเมื่อวานนี้ก็ได้เกิดเรื่องฮาๆขึ้น เมื่อแฮชแท็ก #เปลี่ยนคำว่าคุยเป็นคำว่าเย็ด กำลังเป็นที่โด่งดัง โดยไม่รู้ว่าใครเป็นผู้เริ่มกระแส แต่มันก็ลามมาเรื่อยๆจนเรียกเสียงฮาได้อย่างล้นหลาม   วันนี้เหมียวเลยคัดแต่อันเด็ดๆ มาให้ทุกคนได้ฮาไปพร้อมๆกัน ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย   เย็ดไม่ทันจริงๆ #เปลี่ยนคําว่าคุยเป็นคําว่าเย็ด pic.twitter.com/Ihnp0efoEW — .m a i q i l z (@maiqilz_) July 1, 2015   ทรมานเนาะ ที่เราต้องทะเลาะกับคนที่เราอยากเย็ดมากที่สุด #เปลี่ยนคำว่าคุยเป็นคำว่าเย็ด — pinyada (@spjopoy) June 30, 2015   มีเพื่อนแบบนี้เครียดคะ อย่าเย็ดกันนานสิ่กูอิจฉานะ #เปลี่ยนคำว่าคุยเป็นคำว่าเย็ด #จังไร @wtfxsaw pic.twitter.com/r2WXtTsTcb — ฟร้องคิคุมะ (@i_frong) June 28, 2015  …

เรียกได้ว่ามันหยดไม่แพ้หนังแอ็คชั่นเลยทีเดียว เมื่อได้มีการแชร์คลิปวิดีโอผ่านทางยูทูปของคุณ Piyachart Chansawang ซึ่งเป็นคลิปของเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่กำลังไล่กวดรถยนต์ชนแล้วหนีไปตามท้องถนน เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยขับรถตามจับผู้ขับขี่รายหนึ่ง ซึ่งขับรถชนรถจักรยานยนต์จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งพยายามเอารถไปขวางแล้ว แต่รถคันดังกล่าวก็ไม่ยอมหยุดแถมยังขับหนี แถมรถคันที่ก่อเหตุยังมีซากรถจักรยานยนต์ติดอยู่ที่ด้านหน้ารถ ทำให้เกิดประกายไฟขึ้นมาน่าตื่นเต้นเร้าใจขึ้นไปอีก   เจ้าหน้าที่กู้ภัยไล่จับคนร้ายชนแล้วหนี   ซึ่งในท้ายที่สุดทางเจ้าหน้าที่ใจกล้าก็สามารถจับตัวผู้ขับขี่รถยนต์ได้ในท้ายที่สุด สุดยอดไปเลยอ่ะเมี๊ยววว ไม่รู้ว่าพี่แกสนใจไปทำงานด้านการปราบปรามหรือเปล่าหนอ ลีลาสะเด่าไปเลย   ชมคลิปวิดีโอการไล่ล่ากันได้ที่นี่ ที่มา: Kapook

กลายเป็นประเด็นให้สังคมออนไลน์ได้พูดถึงอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับคลิปวิดีโอของรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิแลนเซอร์ สีเหลือง ที่พยายามปาดหน้ารถคันอื่น และจอดบังหน้ารถคันอื่น ด้วยเหตุผลว่ารถคันดังกล่าวไม่ยอมให้รถของตัวเองแทรก   คลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ผ่านแชแนลยูทูบ AM Manamz โดยมีข้อความประกอบว่า “เวลาช่วงประมาณ 11 โมงเช้า ระหว่างที่เค้าขับรถอยู่บน ถนนเทพารักษ กม. 5 ก็เจอรถมิตซูสีเหลืองทะเบียน 3กณ1301กทม พยายามปาดหน้าหาเรื่อง เพราะคุณ Aee Watchara ไม่ยอมให้แทรก   “รถมิตซูคันนั้นก็ได้ขับรถปาดหน้ามาขวาง­ไว้ไม่ให้ไปไหน จน Aee Watchara หาจังหวะขับแซงไปได้ รถมิตซูคันนั้นก็ได้ขับมาเบียดแต่พลาดเสีย­หลักขึ้นเกาะกลางไปเลย”   ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันเข้ามาคอมเม้นในเชิงต่อว่ารถเก๋งสัเหลือกันอย่างมากมาย และบอกด้วยว่าโชคดีที่รถประสบอุบัติเหตุ เพราะหากฝ่ายตรงข้ามมีอาวุธ เรื่องราวอาจบานปลายและใหญ่โตกว่านี้มาก ที่มา AM Manamz

เรียกได้ว่าเรื่องนี้ต้องออกมาเคลียร์ ออกมาชี้แจงกันบ้างแล้วล่ะ เมื่อเวลาช่วงเช้าของวันที่ 6 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมานี้ ทางรายการเรื่องเล่าเช้านี้ของช่อง 3 ได้มีการรายงานถึงการพบลูกจ้างร้านขายหมูแห่งหนึ่ง คาดว่าน่าจะเป็นชาวเมียนมาร์ ในตลาดพาเจริญ ตลาดสดขนาดใหญ่ที่สุดที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ได้ทำสิ่งที่เรียกได้ว่าผิดสุขอนามัยมากๆ ซึ่งเหตุการณ์ที่พบก็คือ ลูกจ้างคนนี้กำลังทำการชำระล้างหัวหมูที่เสร็จจากการเผาแล้ว แล้วนำมาขัด ถู ล้างกับน้ำที่ขังอยู่กับพื้นถนนที่เกิดจากฝนตก แน่นอนว่ามีผู้คนพบเห็นผ่านไปมา แต่ก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรแม้แต่น้อย เหมือนเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่เกิดขึ้นเป็นปกติ   ภาพเหตุการณ์     เหมียวก็ไม่รู้ว่าเจ้าของร้านแกทราบเรื่องหรือเปล่า ถ้าทราบคงไม่ปล่อยไว้แน่ใช่มั้ยล่ะ ไม่รู้ว่าน้ำมีเชื้อโรคอะไรอยู่หรือเปล่า สงสารคนที่ไม่รู้อะไรแล้วมาซื้อจริงๆ นะเมี๊ยววว แบบนี้ก็แย่เลย เรื่องสุขอนามัยพื้นฐาน ใครๆ ก็ควรรู้ไม่ใช่เหรอ?? -*- ที่มา: Postjung , ขอบคุณภาพประกอบจากเรื่องเล่าเช้านี้

‘รำไทย’ เป็นหนึ่งในศิลปวัฒนธรรมไทยที่มนุษย์ผู้เกิดและเติบโตในเมืองไทย ร่วมใจกันสืบสานกันมาอย่างยาวนาน ทั้งการจัดแสดงในโอกาสต่างๆ หรือการเรียนการสอนในวิชานาฏศิลป์ของโรงเรียน ซึ่งถ้าใครเคยมีโอกาสได้เรียนรำไทยเมื่อครั้งวัยละอ่อน ก็คงรู้กันดีว่าเราต้องเรียนเรื่องนาฏยศัพท์ หรือการใช้ท่ารำในการสื่อความหมายแทนคำพูดออกไป โดยส่วนใหญ่ก็จะได้หัดรำกับเพลงไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตาทวด เช่น เพลงในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เพลงเชิญพระขวัญ หรือเพลงรำแม่บท   แต่เหมียวอยากจะบอกว่าการเรียนรำไทยในปัจจุบันนี่ไม่ได้มีแต่เพลงสมัยโบราณชวนง่วงอีกแล้วล่ะ เพราะน้องๆ มัธยมยุคนี้ เค้ารำประกอบเพลงสตริงสุดอินเทรนด์กันแล้วจ้ะ มีคลิปเต็มยูทู้บเลยด้วย!!     และนี่ก็เป็นคลิปล่าสุดของกลุ่มน้องผู้ชายล้วนๆ ที่กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้น ม.3/3 โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ ได้ออกมารำประกอบเพลง ‘ใจนักเลง เวอร์ชั่นคุณสงกรานต์’ เพื่อส่งคุณครู   แค่จั่วหัวคลิปก็เฟี้ยวแล้ว มาดูลีลาการร่ายรำของน้องเค้าดีกว่า!!   แหม่… ตอนจัดโซนเป็นวงนี่น่ารักจริงๆ ใครที่สนใจติดตามต่อขอเชิญที่ลิงก์นี้ได้เลยจ้ะ มีเด็ดๆ อีกหลายโรงเรียน และก็หลายเพลงด้วย ^^ ที่มา Peerapat Harileartrat, ภาพปลากรอบจากเน็ต

อาจเรียกได้เลยล่ะว่าเป็นเวรเป็นกรรมจริงๆ ของคนทำงานบริการ เหมือนกรณีนี้ที่แอร์โฮสเตสสาว ที่ต้องขอชื่นชมเธอจริงๆ เกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์ได้อย่างดีเยี่ยม และทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบในงานของเธอ เมื่อล่าสุดวันที่ 3 กรกฏาคม 2558 นี้ทางยูทูปยูสเซอร์ Clip Update ได้อัพโหลดวิดีโอที่ถูกบันทึกไว้โดยผู้โดยสารท่านหนึ่ง เกี่ยวกับแอร์โฮสเตสของสายการบินแอร์เอเชีย ที่กำลังถูกผู้โดยสารโวยวายโมโหโกรธาใส่ และต้องการเปิดประตูเครื่องบินขณะที่เครื่องกำลังบินอยู่กลางอากาศ!!! งานนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันส์แน่นอน   แอร์สาวที่พยายามควบคุมอารมณ์ ทั้งของเธอเองและผู้โดยสาร   ซึ่งก็เป็นที่วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์เช่นกัน ว่าทำไมผู้โดยสารท่านนี้ถึงมีอาการแบบนั้นได้ และต้องขอชื่นชมแอร์สาวที่ควบคุมอารมณ์ได้อย่างดี ถึงลูกค้าจะโมโหฉุนเฉียวและขึ้นเสียงใส่ จนในที่สุดญาติของผู้โดยสารก็เข้ามาควบคุมสถานการณ์ เหมียวก็ไม่รู้นะว่าเขาเป็นอะไรผิดปกติหรือเปล่า ละสายตานิดเดียวไม่ได้เลย ซึ่งถ้าเขาผิดปกติจริงก็น่าสงสารนะเหมียว แต่อย่างไรก็ดีแอร์สาวน่ะเก่งสุดๆ ไปเลย นี่ล่ะ งานบริการที่ดีล่ะ!!!   วิดีโอคลิป   ที่มา: Clip Update

ไม่ว่าจะกี่ยุคสมัยผ่านไป ‘เด็ก’ ก็ยังถือเป็นกลุ่มคนในวัยที่เปรียบเสมือนผ้าขาวอยู่เสมอ เพราะความคิดที่บริสุทธิ์ของพวกเขาจะถูกหล่อหลอมให้เป็นไปในรูปแบบไหน ก็ต่อเมื่อมีผู้ใหญ่ชี้นำทั้งนั้น ^^ และสำหรับหนูน้อยชั้น ป.2 โรงเรียนมาแตร์เดอีกลุ่มนี้ ก็ถือเป็นเด็กที่มีจิตสำนึกดีจริงๆ เพราะความคิดของพวกเขาถูกสะท้อนออกมาผ่านการ์ดขอบคุณผู้ที่ทำประโยชน์ต่อคนไทยแบบนี้หละจ้า..   ข้อความถึงรั้วของชาติ   และพี่ตำรวจของเรา   น่าเอ็นดูจริงๆ ^^   อันนี้ให้พี่ทหาร   ปลื้มแทนพี่ที่กวาดถนนจัง   เต็มบอร์ดเลยอ้ะ!!     แม้วันนี้จะมีกระแสทางลบกับหลายๆ อาชีพในประเทศไทย แต่ถ้าเราลองพิจารณาด้วยเหตุผล แบบปราศจากอคติแบบน้องๆ กลุ่มนี้ ก็อาจทำให้เกิดจิตสำนึกที่ดี ในสังคมดีๆ แบบนี้ได้เหมือนกันน้าา ที่มา Kannikar Jinadit

ถ้าคุณเป็นมนุษย์ที่เติบโตในเมืองไทยจริงๆ คงทราบกันดีว่าสี่แยกไฟแดงตามถนนประเทศเราไม่มีวันเงียบเหงา เพราะจะมีคนกลุ่มนึงคอยเดินมาทักทายทุกครั้งที่รถติด ลองนึกดูสิจ๊ะว่าพวกเขาคือใคร!? ใช่แล้วหละ… พวกเขาคือ “นายร้อยพวงมาลัย” หรือบรรดาพ่อค้าพวงมาลัยนั่นเอง และวันนี้เหมียวก็จะพาทุกคนไปพบกับ 5 พ่อค้าพวงมาลัยที่มีเทคนิคการขายสุดเฟี้ยวจนเป็นที่ฮือฮาในทวิตเตอร์ล่ะ   เริ่มกันที่พ่อหนุ่มป้ายไฟ ป้ายไฟของพี่แกจะคอยเตือนชาวพุทธทั้งหลาย ให้ซื้อพวงมาลัยไปบูชาพระในวันสำคัญทางศาสนากันตั้งแต่เริ่มต้นวันใหม่ ตั้งแต่ตี 1-2 กันเลยทีเดียว พิกัดอยู่ที่ใต้ทางด่วนพระราม 9 นะจ๊ะ พี่แกขายใต้ทางด่วนพระราม9 ประมาณ ตี1-2 ไฟหัวพี่เด็นเป็นสง่ามาก 55555 ไปซื้อพี่แกเยอะๆนะ #กูจะไม่ยอมเห็นรูปนี้คนเดียว pic.twitter.com/w0RL64vET2 — ryuukritsจิตdirty (@ryuusk_) July 1, 2015   ฮีโร่แห่งแยกชะอำ ถ้าใครผ่านแยกชะอำก็จะพบกับซูเปอร์ฮีโร่เดินถนนคนนี้ พี่เขาจะออกมายืนให้ถ่ายรูปแบบนี้หละ ซึ่งตามธรรมชาติมารยาทคนไทยน้ำใจงาม ทำชัตเตอร์ลั่นใส่เขาแล้วจะไม่ซื้อได้ยังไง 20 บาทเองนะ แบทแมนจ้าา คือยืนให้ถ่ายรูปงี้ จำเปนต้องซื้อละแกรพวงละ20ใครผ่านแยกชะอำช่วยอุดหนุนหน่อยนะ #กูจะไม่ยอมเห็นรูปนี้คนเดียว pic.twitter.com/w36UrfCaH5 — นี่นายน้อยนะ · ㅅ · (@nnnainoiii) July…

หากยังจำกันได้กับน้องโยชิ สาวประเภทสองจากวัยมัธยมปลายที่มีหน้าตาเป็นอาวุธ หน้าสวยใสยิ่งกว่าผู้หญิง แบบว่าหาใครมาเทียบได้ยากมากๆ เข้าร่วมประกวดหลายรายการ จนกระทั่งได้รับฉายาเป็น “ว่าที่ปอย  ตรีชฎาคนต่อไป” ซึ่งในปัจจุบันน้องโยชิกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ บอกได้เลยว่าน้องโยชิในชุดนักศึกษาหญิงนี่สวยสุดๆ   ภาพของน้องโยชิตอนยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม   ปัจจุบันเป็นนักศึกษาเต็มตัวแล้ว!!                 สวยเกินกว่าผู้หญิงไปแล้วเนี่ย!! ที่เค้าว่ากันว่าผู้หญิงอย่าหยุดสวย ก็คงจะเป็นเรื่องจริงแล้วล่ะ!! ที่มา : yoshirinrada

เป็นที่ทราบกันดีว่าเดี๋ยวนี้ตำรวจจราจรนั้นกวดขันวินัยการจราจรอย่างเข้มงวดมากๆ ตั้งด่านกันแทบทุกวัน ไม่ว่าจะวันธรรมดาหรือวันหยุด มีเซอร์ไพรส์ให้ประชาชนได้ทุกเมื่อ ที่จับคนทำผิดกฎหมายจราจรก็ดี แต่บางทีก็จับในข้อหาที่ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย ที่เหนื่อยยิ่งกว่านั้นก็คือ ยึดกุญแจและไม่ออกใบสั่ง     ซึ่งโดยปกติแล้วเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้จอดเพื่อรับทราบข้อหาการทำผิดกฎจราจรแล้ว ก็ต้องได้รับใบสั่งเพื่อไปเสียค่าปรับอีกที แต่สำหรับกรณีนี้กลายเป็นว่า โบกให้จอด ยึดกุญแจ ไม่ยอมออกใบสั่งให้ด้วย เน้นย้ำให้จ่ายเงินสดเดี๋ยวนี้เลย ให้เหตุผลเพียงแค่ว่า “นายสั่งมา ก็ต้องปฏิบัติตาม” แต่พอโดนถ่ายคลิปเข้าไป สุดท้ายก็ต้องยอมคืนกุญแจและออกใบสั่งให้     บางทีก็ไม่รู้จะว่ายังไง กับการตั้งด่านลอยแบบนี้ของคุณตำรวจ ที่มา : Real ClipVideo

ข่าวคราวกรณีคนหายนั้นมีเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง โอกาสที่จะสามารถตามตัวจนเจอนั้นถือว่าน้อยมากๆ ซึ่งสุดท้ายก็จะลงเอยด้วยการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จนเวลาผ่านไปนานเป็นปี ก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว     ซึ่งเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา คุณ ขุนเขา สายน้ำ ลำธาร ได้ทำการโพสต์รูปภาพผ่านเฟสบุ๊ก พร้อมกับให้คำอธิบายว่าเขาได้เจอกับรถขายผลไม้ที่เขียนข้อความประกาศหาลูกสาวไว้ทั่วรถ จึงขอช่วยประกาศตามหาอีกแรงหนึ่ง     หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นภาพของน้องจีจี้มาบ้างแล้ว ซึ่งในช่วงที่น้องหายตัวไป คุณพ่อก็พยายามตามหาทุกวิถีทาง ขอความช่วยเหลือจากสื่อต่างๆ ให้ช่วยประกาศหา แต่มาจนถึงทุกวันนี้ เวลาผ่านมา 4 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววใดๆ เลย     ที่น่าตกใจก็คือ เมื่อรู้ตัวว่าลูกของเขาหายไปไม่ถึง 30 นาที จึงได้ทำการรีบแจ้งโรงพัก แต่กลับถูกปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากหายไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง จึงไม่รับแจ้งความ     ทั้งนี้ต่างก็มีประเด็นเกี่ยวกับการแจ้งความคนหายนั้นจะต้องรอให้ครบ 24 ชั่วโมงเท่านั้นหรือถึงจะแจ้งคนหายได้? ทางมูลนิธิกระจกเงาก็ได้ชี้แจงเอาไว้ว่าสามารถแจ้งความได้ทันที ไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ว่าต้องหายไปเกินกว่า 24 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรับแจ้งความ     อย่างไรก็ตามเหมียวก็ขอให้กำลังใจคุณพ่อตามหาลูกสาวให้เจอ…

  ช่วงสองสามสัปดาห์ที่่ผ่านมา เราได้เห็นดราม่าเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยไปหลายดราม่า และวันนี้ก็เกิดเรื่องดราม่าอีกครั้ง หลังจากมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งได้ให้นักเรียนของตัวเองถ่ายภาพเซลฟี่ลงเฟสบุ๊คเพื่อแลกคะแนน   โดยทางอาจารย์ได้กำหนดกติกาไว้ว่า ให้นำรูปถ่ายของตัวเองลงเฟสบุ๊ค แล้วติดแฮชแท็กชื่อวิชา ถ้ามียอดไลค์ถึง 300 ไลค์ นักเรียนคนนั้นจะได้รับคะแนนเพิ่มอีก 4%   และนี่คือตัวอย่างของการลงภาพเซลฟี่ของนักเรียนวิชานี้       ก็มีการถกเถียงกันเรื่องความเหมาะสม ว่าแค่การถ่ายรูปสามารถให้คะแนนได้ถึง 4% เลยหรือ เพราะแค่ 4% สำหรับวิชาในมหาวิทยาลัย ถือว่ามีค่าอย่างยิ่ง สามารถเปลี่ยนเกรดกันได้เลยทีเดียว แต่ทางอาจารย์ที่สอนวิชานี้ ก็ได้ออกมาชี้แจงดังนี้   การถ่ายรูปให้คะแนนนี้ อาจมีนัยยะหรือเหตุผลอะไรบางอย่างก็ได้ ถ้ามีความคืบหน้า เหมียวจะรีบนำมาอัพเดทโดยพลันเลยนะ ที่มา บนเฟสบุ๊คนี่แหละ   

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เปิดเผยเรื่องราวของนาย Lance Whitmore วัย 27 ปี อดีตทหารของกองทัพอังกฤษ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวพร้อมกับเพื่อนชาวออสเตรเลียที่ชายหาดเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โทษฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครองกว่า 200 เม็ด ต้องถูกจำคุกเป็นเวลา 50 ปีโดยไม่รอลงอาญา   หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมนาย Whitmore แล้ว ก็เข้าตรวจค้นหอพักเพื่อนของเขาด้วย ซึ่งก็ทำให้พบยาอีกกว่า 60 เม็ดที่ซุกซ่อนอยู่ เขาจึงถูกใส่กุญแจมืออยู่ในห้องขังนาน 3 วัน ก่อนที่จะถูกส่งตัวไปยังเรือนจำคลองเปรม ในกรุงเทพ ทางด้านครอบครัวของนาย Whitmore หวังว่าศาลจะช่วยลดหย่อนโทษให้กับเขาบ้าง หลังจากที่ทราบข่าวร้ายว่าคู่หมั้นของเขาอย่าง Jitma Tahin วัย 25 ปีได้เสียชีวิตลงเมื่อช่วงเดือนก่อนที่เขาจะถูกจับกุมตัว   ทางด้านนาย Russell Whitmore ผู้เป็นพ่อ มีธุรกิจเปิดบาร์อยู่ในตัวเมืองพัทยา เมื่อทราบข่าวว่าลูกชายถูกตัดสินจำคุกก็ถึงกับหลั่งน้ำตา “ผมอยู่ในศาลเพื่อฟังคำพิพากษาด้วย ผมหวังไว้ว่าโทษจะเบาลง ผมเสียใจมาก พวกเราพยายามจะยื่นอุทธรณ์ แต่สถานทูตอังกฤษกลับไม่มีความหมายอะไร พวกเขาเกรงกลัวรัฐบาลของไทย”   ทั้งนี้เขายังบอกอีกว่าลูกชายของตัวเองต้องหวาดกลัวมากเมื่อเข้าไปอยู่ภายในเรือนจำของไทย…

ที่ผ่านมาเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไทยประกันชีวิต มักจะทำโฆษณาออกมาได้ซาบซึ้งกินใจและก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมจนกลายเป็นไวรัลวิดีโอให้คนพูดถึงมานักต่อนักแล้ว และล่าสุดทีมงานไทยประกันชีวิตก็ได้ส่งคลิปวิดีโอตัวใหม่ออกมาสะกิดใจพวกเราอีกเช่นเคย เป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่พยายามจะออกแบบเสื้อยืด “เรารักในหลวง” แบบใหม่ๆ แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร   เขาจึงครุ่นคิดว่าจะทำยังไงให้เสื้อออกมาดีที่สุด จนกระทั่งเขาได้นึกถึงพระราชกรณียกิจของในหลวงที่ผ่านๆมา ทำให้รู้ว่าจริงๆแล้วเรามีวิธีบอกรักพ่อได้มากกว่าแค่ “บอกรัก” นั่นก็คือการ “ลงมือทำ” ทำแบบที่พ่อเคยทำให้เรานั่นเอง   ตัววิดีโอใช้วิธีการถ่ายทอดผ่านมุมมองของผู้ชายคนหนึ่งที่มีต่อสังคมรอบข้าง เล่าผ่านภาพเชิงสัญลักษณ์ ที่ให้ผู้ชมเกิดการตีความด้วยตนเอง สามารถเข้าใจง่าย และที่สำคัญ โฆษณาตัวนี้ยังคงได้ทีมงานจากบริษัทโอกีวี่แอนด์เมเธอร์ ผู้สร้างสรรค์หนัง Emotional ให้ไทยประกันชีวิตอย่างสม่ำเสมอ ได้จับมือกับ “ต่อ” ธนญชัย ศรศรีวิชัย หรือต่อ Phenomena เข้ามาช่วยสร้างสรรค์เหมือนเช่นเคย   สุดท้ายแล้ว ตัววิดีโอจบลงด้วยคำถามปลายเปิดว่า “เราจะเลือกรักพ่อเฉยๆ หรือจะทำตามแบบพ่อ?”   ชมคลิปเต็มๆได้ที่ด้านล่าง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในหลวงได้พระราชทานพระบรมราโชวาท และแนวทางการใช้ชีวิตให้กับคนไทยมากมาย ทรงเป็นร่มโพธิ์ ร่มไทรให้ลูกหลานพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดหลายทศวรรษ ถึงเวลาหรือยัง ที่เราจะเปลี่ยนจากการพูดแค่คำว่ารักในหลวง มาทำความดีตามแบบในหลวง? ไทยประกันชีวิต ขอจุดประกายชวนคนไทยให้ลุกขึ้นมาดำเนินชีวิตโดยมีในหลวงเป็นแบบอย่างผ่านภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ “Follow the Father” เริ่มต้นทำความดีแบบในหลวงง่ายๆ ใกล้ตัวคุณ และถ่ายรูปหรือโพสต์ข้อความ เพื่อบอกเล่าสิ่งที่คุณทำแบบในหลวงบน Social Network พร้อมใส่…