Tag: โรคซึมเศร้า

  • 10 ประโยคช่วยเหลือ “คนที่คิดจะฆ่าตัวตาย” พูดอย่างไรให้ถูก ให้พวกเขาอยากมีชีวิตต่อ

    10 ประโยคช่วยเหลือ “คนที่คิดจะฆ่าตัวตาย” พูดอย่างไรให้ถูก ให้พวกเขาอยากมีชีวิตต่อ

    ปัจจุบันโรคภัยที่มาแบบเงียบๆ แต่แฝงความอันตรายเอาไว้คือ โรคทางจิต เพราะเราไม่สามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนเหมือนกันโรคทางกายที่เพียงปวดศีรษะหรือปวดท้องก็ไปพบแพทย์ได้ แต่อาการทางจิต บางครั้งคนเราไม่รู้ว่าแบบไหนที่เรียกว่าผิดปกติหรือเข้าข่ายมีอาการทางจิต ประกอบกับบางคนก็กลัวว่าสังคมจะไม่ยอมรับหากเข้าพบจิตแพทย์ จึงทำให้ผู้ที่มีเพียง “อาการทางจิต” หลายคนอาจพัฒนาจนเป็น “โรคทางจิต” ได้     ปัจจุบัน โรคทางจิตที่แพร่หลายและค่อนข้างใกล้ตัวผู้คนกว่าโรคอื่นก็คือ โรคซึมเศร้า ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง รวมทั้งอาจเกิดจากการประสบกับเหตุการณ์สะเทือนใจอย่างรุนแรง ผู้ป่วยอาจมีอาการเซื่องซึม เบื่อหน่าย ไม่สามารถทำกิจกรรมที่เคยชอบหรือเคยทำได้ กินน้อยหรือมากผิดปกติ นอนไม่หลับ รู้สึกไร้ค่า โทษตัวเอง ซึ่งหากอาการรุนแรงก็จะเกิดความคิดอยาก ฆ่าตัวตาย ขึ้นมาด้วย อาการซึมเศร้า โรคซึมเศร้า และความคิดที่จะฆ่าตัวตายที่ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดกับตนเองหรือคนใกล้ชิด ฉะนั้นหากใครที่ต้องรับมือกับคนที่กำลังอยาก “ฆ่าตัวตาย” ก็ควรรู้วิธีช่วยเหลือพวกเขาเอาไว้สักนิดก็ยังดี วันนี้เราจึงขอเสนอ 10 ประโยคที่ควรพูด กับคนที่กำลังคิดจะฆ่าตัวตาย ให้พวกเขาได้คิดดีๆ อีกครั้ง   1. “ดีใจนะที่คุณบอกฉันว่าคุณกำลังคิดจะฆ่าตัวตาย” (หรือประโยคที่ความหมายใกล้เคียง) แทนที่จะพูดด้วยอารมณ์รุนแรงหรือพูดแบบไม่ใส่ใจ หันมาพูดกับเขาอย่างเปิดใจและยอมรับความคิดของเขาดีกว่า   2. “ฉันรู้สึกไม่ดีเลยที่เห็นคุณต้องเจ็บปวดแบบนี้” ประโยคทำนองนี้นอกจากจะแสดงความใส่ใจแล้วยังช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกคลายเหงาได้ด้วย อย่าพยายามปฏิเสธความคิดของเขาหรือทำให้ความเจ็บปวดของเขาดูเล็กน้อย เช่น “ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง” หรือ “อย่าลืมว่าคุณมีอะไรต้องทำอีกเยอะ”…

  • สาวผู้ป่วย ‘โรคซึมเศร้า’ ได้รู้ความจริงว่าแม่ที่จากไป ได้ฝากฝังทุกอย่างไว้กับสามีแล้ว

    สาวผู้ป่วย ‘โรคซึมเศร้า’ ได้รู้ความจริงว่าแม่ที่จากไป ได้ฝากฝังทุกอย่างไว้กับสามีแล้ว

    ‘โรคซึมเศร้า’ ถือเป็นหนึ่งในโรคทางจิตใจที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก และการดูแลรักษาก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเคร่งครัด ทั้งการกินยาและการบำบัดทางอารมณ์ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของ Nikki Pennington หญิงสาวผู้เผชิญกับอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แต่โชคดีที่แม่ของเธอเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อบำบัดอาการป่วยของเธอ แต่แล้วเรื่องราวอันน่าสลดใจก็เกิดขึ้นเมื่อแม่ของเธอต้องมาด่วนจากไป โลกทั้งใบของเธอต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะต่อจากนี้ไปไม่มีใครดูแลอีกต่อไปแล้ว Nikki ได้ระบายความเศร้าให้กับสามีของเธอฟัง และปรากฏว่าสามีได้เล่าเรื่องราวบางอย่างที่ถูกเก็บเป็นความลับตั้งแต่วันแต่งงานของทั้งคู่!?     และนี่คือเรื่องราวชีวิตอันขมขื่นของเธอ…. “โรคซึมเศร้ากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แน่นอนว่าการป่วยเป็นโรคนี้คุณจะต้องมีใครสักคนที่เข้าใจคุณ และคนคนนั้นสำหรับฉันก็คือ ‘แม่’” “แม่เป็นคนที่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรในยามที่ฉันซึมเศร้า เธอช่วยให้ฉันกลับมามองโลกแห่งความเป็นจริง และเอาชนะความคิดลบต่างๆ ได้” “ฉันมักจะคิดอยู่เสมอว่าคนที่เข้าใจฉันได้ คงไม่มีใครอื่นแล้ว นอกจากแม่ของฉัน”     “แต่แล้วในวันหนึ่งหลังจากงานแต่งงานของฉันกับสามี ฉันถูกความเศร้าเข้าครอบงำ ฉันตัดสินใจที่จะโทรหาแม่ แต่สามีกลับห้ามและบอกว่า ‘คุณลองพูดกับผมดูมั้ย? ให้ผมลองดู เผื่อว่าผมจะช่วยอะไรได้บ้าง” “ฉันให้โอกาสเขา เพื่อช่วยบรรเทาความเศร้าจากโรคนี้ จากนั้นการโทรหาแม่ก็เริ่มลดน้อยลงไป และวันนั้นก็มาถึง วันที่แม่ของฉันต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ” “ฉันได้โทรหาสามีของฉันและบอกกับเขาว่า ‘แม่ของฉันไปแล้ว เธอเป็นคนที่รู้จักฉันมากที่สุด และรักฉันมากที่สุด คนที่ทำให้ฉันหลุดพ้นจากความกลัวได้ เธอได้จากไปแล้ว’”     “จากนั้นสามีของฉันก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับแม่ของฉัน ที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนให้ฟังว่า ในวันแต่งงานแม่ของฉันได้มอบโน้ตให้กับสามีของฉัน โน้ตนั้นเขียนติดเอาไว้ว่า…

  • คุณพ่อจัดงานปาร์ตี้ฉลองกับเพื่อนๆ ก่อนที่จะ “ฆ่าตัวตาย” เพราะทุกข์ทรมานจากโรคซึมเศร้า

    คุณพ่อจัดงานปาร์ตี้ฉลองกับเพื่อนๆ ก่อนที่จะ “ฆ่าตัวตาย” เพราะทุกข์ทรมานจากโรคซึมเศร้า

    คุณพ่อ John Clayton นักวิจัยวัย 41 ปี ได้จัดงานปาร์ตี้ขึ้นกับเพื่อนฝูง ก่อนที่จะตัดสินใจปลิดชีพตนเองเนื่องจากต้องทนทุกข์กับความเจ็บป่วยทางจิตที่เรียกว่า โรคซึมเศร้าหลังมีลูก (Postnatal Depression) หลังจากที่ John ให้กำเนิดลูกชายของเขา Hugo เขาก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคซึมเศร้าชนิดนี้ โดย Vicky Clayton อดีภรรยาวัย 38 ปีของเขาก็บอกว่าสุขภาพจิตของ John ย่ำแย่ลงหลังจากให้กำเนิดบุตรเมื่อ 5 ปีที่แล้ว     Vicky ผู้เป็นภรรยาเองก็มีอาการซึมเศร้าหลังมีลูกเช่นกัน แต่พอเธอทราบว่า John สามีของเธอก็มีอาการ ทั้งคู่จึงตัดสินใจย้ายที่อยู่ใหม่ เธอเล่าว่า “การต้องกลายเป็นพ่อคนนั้นเป็นเรื่องใหญ่สำหรับ John มากเลยทีเดียว บางที่ฉันก็ลืมไปว่าผู้ชายเองก็เป็นโรคซึมเศร้าหลังมีลูกได้เหมือนกัน”     แต่หลังจากที่ลูกน้อย Hugo มีอายุได้ราวๆ 9 เดือน John และ Vicky ก็แยกทางกัน แต่ก็ยังเป็นเพื่อนกัน แถมยังช่วยกันเลี้ยงลูกอีกด้วย จากนั้นในปี 2016 John…

  • ศิลปินวัย 17 สามารถเอาชนะโรคซึมเศร้า ด้วยการสื่ออารมณ์ผ่านงานศิลป์

    ศิลปินวัย 17 สามารถเอาชนะโรคซึมเศร้า ด้วยการสื่ออารมณ์ผ่านงานศิลป์

    โรคซึมเศร้านั้นถือเป็นหนึ่งในภัยร้ายที่ค่อยๆ กัดกร่อนจิตใจของผู้ป่วยเป็นโรคดังกล่าวทีละนิดๆ ซึ่งผู้ป่วยแต่ละคนก็จะมีวิธีการเอาชนะที่แตกต่างกันไป บ้างก็เลือกจะหาจุดสนใจใหม่ๆ บ้างก็มักจะไปพบแพทย์ หรือบางคนก็อาจจะยอมแพ้และจบชีวิตตัวเองลงในท้ายที่สุด แต่สำหรับ Sief Hamza หนุ่มวัย 17 ปีจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ คนนี้เขากลับเลือกวิธีที่จะไม่ยอมแพ้ต่อมัน เขาพยายามหาทางต่อสู้กับโรคซึมเศร้าเรื่อยมาอย่างไรหนทาง จนกระทั่งเขาได้พบกับทางสว่างเมื่อ 1 ปีก่อน     ทุกภาพล้วนมีความเศร้าอยู่ภายใน   Sief พบว่าตัวเองนั้นมีความสามารถในการวาดภาพ และทุกครั้งที่วาด เขารู้สึกสนุกและเป็นตัวเองมากๆ เขาจึงไม่รอช้าที่จะใส่ความรู้สึกของเขาที่อัดอั้นมานานลงไปในงาน และเมื่อทุกอย่างมันถูกส่งผ่านงานของเขา Sief ก็พบว่าโรคซึมเศร้าที่เขาเคยเป็นอยู่นั้น ค่อยๆ มีอาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัด แต่ว่าเขานั้นก็ยังคงไม่เลิกต่อความพยายามในการสร้างสรรค์ผลงาน   นอกจากมันจะเป็นภาพที่สื่อถึงความรู้สึกของเขาแล้ว มันยังสื่ออารมณ์ของคนที่ดูได้ดีเช่นกันนะ .   เป็นภาพหัวใจที่ดูแล้วโดดเดี่ยวสุดๆ .   แม้ว่างานของเขาจะดูโดดเดี่ยวและเศร้าขนาดไหน แต่เราต้องยอมรับเลยว่าฝีมือของเขามันสุดยอดจนไม่อยากเชื่อว่าเขาเพิ่งอายุ 17 ปีเท่านั้น . .   เชื่อว่าในอนาคตนั้น เขาจะสามารถพัฒนาฝีมือไปได้มากกว่านี้อย่างแน่นอน . .   ขนาดเราไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า…

  • จากการศึกษาพบว่า ภาพบน IG อาจช่วยให้เราทำนายได้ว่า ใครกำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้า?

    จากการศึกษาพบว่า ภาพบน IG อาจช่วยให้เราทำนายได้ว่า ใครกำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้า?

    โรคซึมเศร้าดูจะเป็นโรคที่ถูกพูดถึงในสังคมวงกว้างไปแล้ว หลังจากแฝงตัวเงียบๆ มานานจนสังคมเริ่มตื่นตัวขึ้น แม้แต่คนใกล้ตัวก็อาจจะป่วยเป็นโรคนี้มาตลอดโดยที่เราไม่รู้ เราจึงพยายามมองหาหนทางในการคาดเดาว่าใครบ้างที่มีโอกาสป่วยเป็นโรคซึมเศร้า? ด้วยเทคโนโลยีและงานวิจัยต่างๆ เราก็พอจะมีวิธีที่ทำให้คุณสามารถคาดเดาอาการซึมเศร้าจากปลายนิ้วของคุณได้นะ     ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมปี 2016 เว็บไซต์ newscientist.com ได้มีการเผยแพร่งานวิจัยของนาย Andrew Reece จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และ Chris Danforth จากมหาวิทยาลัยเวอร์มอนต์ พวกเขาได้ทำการสำรวจสภาพจิตใจของผู้คนกว่า 166 คน จากนั้นก็นำภาพทั้งหมด 43,950 ภาพที่กลุ่มคนเหล่านี้ได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์มาประมวลผลแล้วสร้างอัลกอริทึ่มขึ้นมา เพื่อค้นหาคุณลักษณะที่สัมพันธ์กับภาวะซึมเศร้า     จากการสำรวจพบว่ากลุ่มคนที่มีอาการซึมเศร้านั้นจะมีการโพสต์ภาพที่มีโทนสีฟ้าๆ หรือทึมๆ หรือใช้ฟิลเตอร์แบบขาวดำ นอกจากนี้พวกเขายังชอบโพสต์ภาพใบหน้า แต่ในหนึ่งภาพจะมีใบหน้าคนน้อยกว่าคนปกติ Danforth กล่าวว่านี่อาจจะหมายถึงการเซลฟี่หน้าตัวเองบ่อยๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเน้นให้เห็นว่าตัวเองอยู่ในอาการซึมเศร้า (แต่ก็อย่าเหมารวมว่าคนเซลฟี่บ่อยๆ ทุกคนจะเป็นซึมเศร้านะ) หรืออีกความหมายก็คือ กลุ่มคนเหล่านี้ใช้เวลากับครอบครัวหรือเพื่อนๆ น้อยลงนั่นเอง     เจ้าตัวอัลกอริทึ่มตัวนี้ใช้คุณลักษณะที่ว่าในการทำนายว่าใครเป็นโรคซึมเศร้าได้ถูกต้องถึง 70% เลยทีเดียว ในขณะที่การตรวจสอบด้วยมนุษย์มีความถูกต้องแม่นยำอยู่ที่ 42% หากเรานำเอาเจ้าอัลกอริทึ่มตัวนี้มาประยุกต์ใช้ได้ก็หมายความว่าเราอาจช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที “มัน(อัลกอริทึ่ม)มีราคาไม่แพงมาก มันอาจจะกลายเป็นแอปฯบนมือถือของใครสักคนก็ได้” Danforth กล่าว     อย่างไรก็ตามแพทย์เองอาจจะเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ยาก…

  • ศิลปินผู้ป่วยโรคซึมเศร้า บรรยายอาการผ่านการ์ตูน เปิดมุมมองที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้…

    ศิลปินผู้ป่วยโรคซึมเศร้า บรรยายอาการผ่านการ์ตูน เปิดมุมมองที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้…

    ‘โรคซึมเศร้า’ ถือเป็นอาการป่วยทางจิตอย่างหนึ่ง ที่หลายๆ คนอาจะมองว่ามันไม่มีอยู่จริง ที่เกิดขึ้นน่ะเป็นเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก เสียมากกว่า แต่เอาจริงๆ แล้วมีงานวิจัยจากต่างประเทศและของบ้านเรามากมายที่ออกมายืนยันแล้วว่า ‘โรคซึมเศร้า’ นั้นเป็นอาการป่วยที่เกิดขึ้นจากการที่สารสื่อประสาทในสมองผิดปกติ ทำให้บุคคลที่ป่วยเป็นโรคนี้มีอาการเซื่องซึมมองโลกในแง่ลบ แถมยังมีแนวโน้มให้เกิดการฆ่าตัวตายอีกด้วย สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมผลงานภาพวาดของศิลปินชื่อว่า Sow Ay ที่จะมาบอกเล่าถึงความรู้สึกของคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าผ่านทางภาพวาดแบบการ์ตูน จะเป็นอย่างไรลองไปชมกันได้เลยจ้า…   ปล่อยให้ฉันตายอย่างสงบเถอะเจ้าโทรศัพท์   เผชิญความยากลำบากอย่างโดดเดี่ยว   นั่งมองดูโลกใบนี้แตกสลายกับตัวฉันอีกคนหนึ่ง   โลกใบนี้มีเพียงฉันคนเดียวเท่านั้น   ตัวฉันอีกหนึ่งคน   เขามักจะตามเราไปทุกที่   ดนตรีคือสิ่งเยียวยาจิตใจ   เรื่องราวชีวิตของฉัน ต่อให้เป็นอย่างไรสุดท้ายมันก็จะไปจบลงตรงที่ ‘ฉันมันเฮงซวย’   คำว่า ‘ยังไม่พอ’ ช่างหนักเหลือเกิน .   ‘ก็แค่คิดบวกมันจะไปยากอะไร’ คำคำนี้มันช่างรุนแรงเหลือเกิน   นี่คือสิ่งที่ฉันมองเห็นเกี่ยวกับอนาคต ‘มันเหมือนกับว่าฉันกำลังอยู่ในบ้านที่ไฟมีลุกไหม้เพียงลำพัง รอให้ไฟค่อยๆ ลามไปเรื่อยๆ จนดับไปเอง’   ทุกคนคิดว่าเราโกหก . .  …

  • คุณแม่ออกความเห็น เด็กใช้ปืนสร้างความรุนแรงไม่ควรโทษพ่อแม่ มันมีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น…

    คุณแม่ออกความเห็น เด็กใช้ปืนสร้างความรุนแรงไม่ควรโทษพ่อแม่ มันมีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น…

    ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2018 ที่ผ่านมา เกิดเหตุยิงปืนในโรงเรียนของประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนมาก ล่าสุดในรัฐฟลอริด้าก็เพิ่งมีอดีตนักเรียนได้ก่อเหตุกราดยิงภายในโรงเรียน จนมีผู้เสียชีวิตถึง 17 ราย (ตามอ่านข่าวได้ ที่นี่) ทางด้านเพจเฟสบุ๊ก Everytown for Gun Safety ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านการใช้ความรุนแรงด้วยปืนกล่าวว่าเหตุการณ์นี้เป็นการยิงกันครั้งที่ 18 ตั้งแต่เริ่มต้นคริสตศักราช 2018 อีกทั้งสำนักข่าว FOX 26 Houston ก็ชี้ข้อมูลมาในทางเดียวกันด้วย   แผนที่แสดงจุดที่มีการใช้ปืนยิงบริเวณใกล้เคียงกับโรงเรียนตั้งแต่ต้นปี 2018 จนถึงปัจจุบัน   เมื่อชาวเน็ตได้เห็นข้อมูลดังกล่าวแล้วก็รู้สึกเช่นกัน ว่าเกิดเหตุความรุนแรงจากการใช้ปืนเป็นจำนวนมากในระยะเวลาเพียงแค่เดือนกว่าๆ เอง ชาวเน็ตส่วนหนึ่งนั้นเห็นว่าต้นเหตุน่าจะมาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่ล้มเหลว โดยพวกเขาพูดไว้แบบนี้   Eric Smith บอกว่า “ถ้าเราเอาเด็กๆ ออกจากโรงเรียนรัฐ แล้วเลี้ยงดูพวกเขาเองอย่างดีก็คงจะไม่เกิดปัญหาพวกนี้ขึ้น แต่ก่อนถึงเราจะมีปืินแต่ไม่มีโรงเรียนก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย”   Todd Benzkofer บอกว่า “มีการอนุญาตให้คนทั่วไปใช้ปืนมาตั้งหลายปีแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่สาเหตุของการยิงกันเหล่านี้ แต่คนที่ยิงปืนต่างหากที่เป็นปัญหา อะไรบางอย่างในสังคมของเราเปลี่ยนเด็กเล็กให้กลายเป็นเศษสวะ บางทีอาจจะเป็นสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่เป็นปัญหาก็ได้”   Gwen Papillion เองก็บอกว่ามันเป็นความผิดของพ่อแม่นั่นแหละที่ปล่อยปละละเลยให้เด็กมีอาวุธในครอบครองได้แบบนั้น พ่อแม่ควรจะใส่ใจลูกให้มากกว่านี้เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น  …

  • ไอเดียเสริมพลังใจ หนุ่มใช้ไม้ไอติมเขียนข้อความให้กำลังใจแฟนต่อสู้กับโรคซึมเศร้า

    ไอเดียเสริมพลังใจ หนุ่มใช้ไม้ไอติมเขียนข้อความให้กำลังใจแฟนต่อสู้กับโรคซึมเศร้า

    ข้อมูลสถิติขององค์การอนามัยโลก (WHO) บอกว่า มีคนมากกว่า 300 ล้านคนทั่วโลกป่วยเป็นโรคซึมเศร้า โดยสิ่งที่ต้องกังวลเกี่ยวกับอาการป่วยดังกล่าวกลับไม่ใช่เรื่องของจำนวนผู้ป่วย แต่เป็นเรื่องของวิธีการรับมือกับผู้ป่วยเหล่านั้น ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงเป็นเรื่องที่หลายๆ คนคิดกันไม่ตก หลายๆ คนที่มีคนใกล้ตัวป่วยเป็นโรคซึมเศร้าพยายามหาทางที่จะช่วยเหลือพวกเขาให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่ใช้ชื่อใน Reddit ว่า Bovadeez เพราะแฟนสาวของเขาเองก็จมอยู่กับอาการของโรคซึมเศร้ามาอย่างยาวนานเช่นเดียวกัน เขาจึงคิดวิธีที่จะหาทางช่วยเหลือเธอ จนกลายมาเป็นของขวัญชิ้นนี้     นี่คือขวดโหลที่เต็มไปด้วยข้อความต่างๆ มากมายเขียนลงไปบนไม้ไอติม เป็นสิ่งที่เขาต้องการสื่อให้แฟนสาวได้รับรู้ว่าเขารู้สึกเป็นห่วงและรักเธอมากขนาดไหน ชายหนุ่มแยกข้อความออกมาเป็น 4 ประเภทตามสี ได้แก่ สีส้ม คือคำคมหรือวลีต่างๆ ที่มีความหมายในแง่บวก ไว้สำหรับการให้กำลังใจ จากบทประพันธ์ของนักเขียนชื่อดังหลายๆ คนที่เขาชื่นชอบ สีเหลือง คือคำพูดหรือความคิดเชิงบวกจากตัวเขาเอง เพื่อคอยเตือนใจให้แฟนสาวได้รับรู้ว่าเธอสำคัญและมีความหมายมากขนาดไหน ยกตัวอย่างข้อความที่เขียนว่า “เธอสวยมาก” , “ฉันรักเธอ” หรือประโยคที่ว่า “อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ” สีม่วง คือแนวทางที่จะช่วยทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย อย่างเช่นข้อความที่บอกให้เธอ “หยุดพักบ้าง” ในตอนที่เธอกำลังฝืนตัวเอง หรือ “ลองฟังเพลงที่เธอชอบดู” ไม่มีสี คือไม้ไอติมว่างๆ ที่มีไว้ให้แฟนสาวเขียนช่วงเวลาที่เธอมีความสุขมากที่สุดในชีวิตลงไป เพื่อหวังว่าในอนาคตที่เธอกลับมาหม่นหมอง ขอเพียงให้เธอกลับมาดูเรื่องราวที่เคยเขียนไว้และกลับมายิ้มได้อีกครั้ง…

  • คุณแม่ใช้ ‘หัวใจ’ ดวงเล็กๆ กับความหมายอันแสนล้ำค่า เพื่อช่วยลูกให้พ้นจากโรคซึมเศร้า

    คุณแม่ใช้ ‘หัวใจ’ ดวงเล็กๆ กับความหมายอันแสนล้ำค่า เพื่อช่วยลูกให้พ้นจากโรคซึมเศร้า

    ด้วยสภาพสังคม ปัญหาชีวิต และความเจ็บป่วย อาจทำให้หลายคนกลายเป็นโรคซึมเศร้า และจะยิ่งมีอาการแย่ลงหากไม่มีใครเข้าใจ ดังนั้นบุคคลรอบข้างจึงถือเป็นกำลังใจสำคัญที่จะทำให้ผู้ป่วยต่อสู้และผ่านภาวะนี้ไปได้ เหมือนกับที่ Liz Petrone ทำเพื่อลูกของเธอ     Liz เป็นเจ้าของ Lizpetrone.com ซึ่งเป็นบล็อกที่เธอใช้เขียนบอกเล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันของตัวเองที่อาศัยอยู่ใจกลางเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอไม่เคยอายที่จะแบ่งปันเรื่องราวของตัวเอง เธอมักจะพูดถึงครอบครัวบ่อยๆ โดยเฉพาะลูกๆ ของเธอ แต่โพสต์ล่าสุดนี้ดูเหมือนจะได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก     Liz สร้างบล็อกขึ้นมาเพื่อแบ่งปันชีวิตของตัวเองและครอบครัวอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อเธอเริ่มโพสต์เกี่ยวกับลูกชายของเธอ Luca เมื่อผู้อ่านได้อ่านโพสต์ล่าสุดของเธอ พวกเขาจึงได้เข้าใจว่าทำไมเธอถึงวาดหัวใจดวงเล็กๆ ที่มือของลูกชาย และมันเป็นสิ่งที่ไม่อาจพาความรู้สึกออกจากจุดนั้นได้     มันคือเรื่องของการต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจิต Liz เผยว่าเธอเผชิญกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอดลูกคนที่ 3 ซึ่งในโพสต์ดังกล่าวเธอมักจะพูดถึงธรรมชาติของภาวะซึมเศร้าหลังคลอด     Liz บอกว่า “เราจำเป็นต้องพูดแม้ว่าเราจะไม่ต้องการ แม้ว่ามันจะไม่น่าดู หรือแม้ว่ามันเรื่องน่าอับอายและอึดอัดก็ตาม เพราะ 1 ใน 8 ของผู้หญิงต้องเผชิญกับโรคซึมเศร้าความวิตกกังวลหลังคลอด” และเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงวาดหัวใจดวงน้อยที่มือของลูก เพราะคนที่ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้านั้นไม่ใช่เธอแต่เป็นลูกน้อยของเธอ Luca     ในฐานะผู้ที่เขียนบอกเล่าเรื่องเกี่ยวกับปัญหาทางจิตเป็นประจำอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่ทำให้ Liz สังเกตเห็นความผิดปกติของ Luca…

  • หญิงสาวผู้ซึมเศร้าได้รับกำลังใจเล็กๆ จากพนักงานชงกาแฟ แค่คำว่า ‘ยิ้มหน่อย’ ช่วยเปลี่ยนชีวิตเธอได้

    หญิงสาวผู้ซึมเศร้าได้รับกำลังใจเล็กๆ จากพนักงานชงกาแฟ แค่คำว่า ‘ยิ้มหน่อย’ ช่วยเปลี่ยนชีวิตเธอได้

    หลายคนคงได้ยินคำว่า “โรคซึมเศร้า” กันมาบ้าง แต่หารู้ไม่ว่าผู้ที่ต้องเผชิญกับโรคนี้นั้นต้องทุกข์ทรมานเพียงใด กับอารมณ์เบื่อๆ เฉื่อยชา ไม่อยากทำอะไรเลย อีกทั้งคนรอบข้างก็ยังไม่เข้าใจอีก แต่ที่จริงแล้วอาการของโรคนั้นอาจจะดีขึ้นได้เพียงแค่ได้กำลังใจเล็กๆ จากใครบางคนเท่านั้นเอง อย่างเช่นเรื่องราวที่จะนำมาเล่าให้ฟังในวันนี้ เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่ต้องต่อสู้กับโรคซึมเศร้ามาตลอด แต่ชีวิตเธอกลับเปลี่ยนไปเมื่อเธอได้รับกำลังใจจากพนักงานร้านกาแฟ     สาววัยรุ่นคนนี้ชื่อว่า Bekah Georgy อาศัยอยู่ที่เมืองแมนเชสเตอร์ รัฐนิวแฮมเชียร์ สหรัฐอเมริกา เธอนั้นได้ต่อสู้กับอาการซึมเศร้า วิตกกังวล และโรคคลั่งผอมมาตลอดชีวิต จนครั้งหนึ่งเธอถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาลและสถานพักฟื้น ซึ่งทำให้เธอรู้สึกสิ้นหวังและเคยคิดฆ่าตัวตายถึง 5 ครั้ง แต่แล้วการกระทำหนึ่งสิ่งเล็กๆ ก็มาเปลี่ยนชีวิตเธอ     Bekah เป็นทั้งนักเต้นบัลเล่ต์ คนรักหนัง และคนรักกาแฟ ภาพหลายๆ ภาพที่เธอโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กนั้นล้วนแต่มีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่เบื้องหลังแล้วสภาพจิตใจของเธอย่ำแย่เกือบตลอดเวลา     จนกระทั่ง เช้าวันหนึ่งในปี 2014 เธอไปพบแพทย์ทำให้ทราบว่าอาการของเธอนั้นย่ำแย่ลงจนควบคุมไม่ได้ เธอรู้สึกหมดหวังมาก ด้วยอาการของโรคทางการกินของเธอที่เลวร้ายลง ทำให้เธอทานได้แค่กาแฟเท่านั้น เธอจึงรีบไปยังร้านกาแฟ Starbucks ใกล้ๆ และสถานที่นี้เองที่ทำให้ชีวิตเธอพบเจอจุดเปลี่ยน เธออยู่ที่สี่แยกไฟแดง กำลังตัดสินใจจะจบชีวิตตัวเองลง จนกระทั่งเธอเห็นสิ่งที่พนักงานร้านกาแฟเขียนลงมาบนแก้วของเธอ ซึ่งนั่นทำให้เธอยิ้มออก และกลับมารู้สึกว่าชีวิตเธอมีหวังอีกครั้ง ไม่รู้ด้วยเหตุใด…

  • หนุ่มโชว์วิธีการซัพพอร์ตแฟนสาว ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง!!

    หนุ่มโชว์วิธีการซัพพอร์ตแฟนสาว ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง!!

    ในปัจจุบัน โรคซึมเศร้าคืออาการทางจิตที่พวกเราเริ่มรู้จักกันได้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่พวกเรากำลังคิดไม่ตกกันอยู่ก็คือ เราจะทำยังไงถ้าคนใกล้ชิดของเราป่วยเป็นโรคที่ว่านี้ งั้นเราลองมาดูตัวอย่างการรับมือกับอาการโรคซึมเศร้าของแฟนหนุ่มคนนี้กันดู นี่เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่ใช้ชื่อใน Imgur ว่า RoastedIguana ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามานานกว่า 13 ปี และจากอาการของเธอ ทำให้ในบางวันเธอไม่ยอมลุกออกจากเตียงเลย ไม่ว่าจะหิวข้าวหรือต่อให้ปวดฉี่ก็ตาม จนกระทั่งวันหนึ่งที่นอนของเธอก็ได้มีสภาพเป็นอย่างในรูปด้านล่าง   ข้าวของจำนวนมากที่กองอยู่บนเตียงของเธอ .   เธออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ในวันนั้นเธอตื่นขึ้นมา แต่ก็ยังคงนอนอยู่บนเตียงไม่ยอมไปไหน แล้วพึมพำกับแฟนหนุ่มที่เข้ามาในห้องว่า เธอต้องการยกเลิกแผนที่วางเอาไว้กับเขาสำหรับวันนี้และต้องการจะนอนอยู่แต่บนเตียง หลังจากนั้นแฟนหนุ่มเลยถามเธอว่าอยากดื่มชามั้ย? เธอจึงตอบว่าไม่ แต่เขาก็ยังชงชามาวางไว้ให้เธอตรงปลายเตียงอยู่ดี แล้วหลังจากนั้นความวุ่นวายก็เริ่มต้นขึ้น     ขณะที่เธอกำลังมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม แฟนหนุ่มก็ถามเธอว่าอยากจะปิดม่านมั้ย? พอเธอตอบว่าไม่ เขากลับเดินไปปิดซะอย่างนั้น แล้วหันมาถามแฟนสาวอีกว่าต้องการถุงน้ำร้อนมั้ย? หญิงสาวยังคงตอบว่าไม่ แต่เขาก็ยัดถุงน้ำร้อนใส่เข้าไปใต้ผ้าห่มของเธออยู่ดี   .   ต่อมาเขาถามเธอว่าอยากได้เสื้อผ้าอะไรเพิ่มมั้ย? คำตอบของเธอยังคงเป็นคำว่าไม่ แล้วแฟนหนุ่มก็โยนเสื้อมาบนเตียงเธอแล้วถามว่าต้องการอะไรอีกมั้ย? ซึ่งหญิงสาวก็ตอบแบบเดิม เขาเลยโยนม้วนกระดาษไว้บนเตียงก่อนที่แฟนหนุ่มจะเดินออกไปปล่อยเธอไว้ในห้องคนเดียว   .   แต่เรื่องราวมันก็ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะผ่านไปไม่นาน แฟนหนุ่มก็กลับเข้าห้องมาพร้อมกับโยนรองเท้าบูทเปื้อนดินคู่หนึ่งมาไว้บนเตียงของเธอ ทำให้เธอรู้สึกอยากจะบ้าตายที่เขามาทำให้ผ้าห่มของเธอสกปรก    …

  • หญิงสาวโรคซึมเศร้า โพสต์ถามผู้สร้าง Rick and Morty เพื่อหาทางออก เขาตอบกลับแบบสุดยอด…

    หญิงสาวโรคซึมเศร้า โพสต์ถามผู้สร้าง Rick and Morty เพื่อหาทางออก เขาตอบกลับแบบสุดยอด…

    ‘โรคซึมเศร้า’ ปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นกับคนหลายๆ คนมาเป็นเวลานานและยากจะรับมือคนเดียวหรือหาใครมาเข้าใจ ฉะนั้นการจะขอคำแนะนำจากใครสักคนจึงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะบางครั้งคนที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคนี้ก็มักจะไม่เข้าใจถึงความร้ายแรงของมัน หนักหน่อยก็จะหาเหตุผลมาโจมตีกลับว่าเรียกร้องความสนใจอะไรทำนองนี้บ้าง แต่ว่าชาวเน็ตนามว่า @chojuroh ได้รวบรวมความกล้าทวีตข้อความหา Dan Harmon ชายผู้สร้างการ์ตูนสุดฮิตแห่งยุค Rick and Morty การ์ตูนที่พูดถึงเรื่องราวความเครียด ความบ้า และความจิตของตัวละครสองตัว ซึ่งก็คือ Rick กับ Morty นั่นเอง   โฉมหน้าของ Dan Harmon ผู้ให้กำเนิดและให้เสียงพากย์ตัวละครในเรื่อง Rick and Morty   ส่วนนี้ก็คือตัวละครหลักทั้งสองโดยทางซ้ายคือ Morty ส่วนทางขวาคือ Rick   ส่วนเหตุผลที่ @chojuroh เลือกจะถาม Dan นั่นก็เพราะว่าเธอต้องการหาทางออกสำหรับการเป็นโรคซึมเศร้า และเธอต้องการคำตอบจากคนที่ต้องเจอกับมันมาแต่ไม่ใช่ระดับผู้เชี่ยวชาญ ฉะนั้น Dan จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดนั่นเอง   “คุณมีคำแนะนำสำหรับการต่อสู้กับโรคซึมเศร้าไหม?”   Dan ทวีตตอบกลับชาวเน็ตคนดังกล่าวว่า “อย่างแรกคุณต้องยอมรับความจริงที่คุณป่วยเป็นโรคดังกล่าวและมันส่งผลกับทุกอย่างจริงๆ เสียก่อน พวกเรานั้นมักจะกดดันตัวเองมากเกินไปที่จะรู้สึกดีกับสิ่งต่างๆ แน่นอนว่ามันโอเคที่จะรู้สึกแย่ แต่เราก็ควรเลือกที่จะพูดคุยกับคนอื่นๆ อย่าเก็บมันเป็นความลับ มันก็เหมือนเสื้อหรือหมวกนั่นแหละ ความรู้สึกที่เรากำลังรับรู้อยู่มันคือของจริง”  …

  • ภาพถ่ายสถานที่เดิม ในวันเวลาที่เปลี่ยนไป ช่วยหยุดยั้ง ‘โรคซึมเศร้า’ ที่กลืนกินตัวตน

    ภาพถ่ายสถานที่เดิม ในวันเวลาที่เปลี่ยนไป ช่วยหยุดยั้ง ‘โรคซึมเศร้า’ ที่กลืนกินตัวตน

    สถานที่ องค์ประกอบ สิ่งแวดล้อมต่างๆ อาจยังคงเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่ความรู้สึกของเราที่มีให้กับสิ่งนั้นอาจต่างไปจากเดิมมากเช่นเดียวกันกับชายคนนี้ เมื่อสถานที่ที่เคยสร้างความทุกข์กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเป็นสุขอย่างที่ไม่เคยคาดคิดก่อน เขาคนนี้มีชื่อว่า Craig Stone นักเขียนชาวอังกฤษที่ได้แชร์เรื่องราวของตัวเองลงในทวิตเตอร์ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2017 เขาได้พูดถึงเกี่ยวกับอาการของโรคซึมเศร้าที่เขาเป็น กับความรู้สึกที่เปลี่ยนไปเมื่อได้กลับมาในสถานที่ที่เขาเคยคิดจะฆ่าตัวตาย   โพสต์ของเขาที่พูดถึงความรู้สึกดีๆ ที่ไม่เหมือนเดิมกับสถานที่แห่งนี้   ในโพสต์บอกว่า “เห็นม้านั่งตรงนั้นมั้ย เมื่อ 8 ปีก่อน ผมนั่งแล้วคิดว่าอยากโดดลงไปจากสะพาน Blackfiars ตอนนั้นเลย แต่วันนี้ผมพาลูกมาถ่ายรูปในที่ที่เดิมและผมก็จะทำอย่างนี้อีกในวันต่อๆ ไป ความรู้สึกตอนนี้มันดีกว่าตอนนั้นมาก ผมได้เจอกับความสดใสที่มากกว่าครั้งไหนๆ ขอแค่เราหยุดคิดแล้วความรักก็จะเข้ามาหาเราเอง #โรคซึมเศร้า” โพสต์ดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาให้กำลังใจและสนับสนุน Craig บางคนถึงกับติดต่อเขาเป็นการส่วนตัว เพื่อเป็นแรงผลักดันให้กับการตัดสินใจของเขาที่จะก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้า   วันต่อมาเขาโพสต์ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ เขารู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก   Craig ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Indy100 ว่าเขาได้พบกับจิตใจที่งดงามของคนจำนวนมากถาโถมเข้ามา บางคนพูดถึงประสบการณ์การเป็นโรคซึมเศร้าของตัวเอง ซึ่งเมื่อเราได้พูดคุยกับคนที่มีประสบการณ์ชีวิตคล้ายๆ กัน สามารถช่วยให้เราฟื้นฟูจิตใจที่บอบช้ำให้กลับมาแข็งแรงได้   เขาและลูกชาย Obie   เขายังบอกอีกว่า “ในตอนแรกผมไม่ได้คิดจะแชร์เรื่องนี้ออกไปเลย…

  • ช่างทำผมช่วยให้สาวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมผมทรงใหม่ของเธอ

    ช่างทำผมช่วยให้สาวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมผมทรงใหม่ของเธอ

    โรคซึมเศร้านั้นมีผลต่อสภาพจิตใจของหลายๆ คน และเหมือนที่เราเห็นตามข่าว บางครั้งพวกเขาอาจจะต้องจากไปอย่างน่าเศร้าด้วยอาการที่ว่านี้ แต่หากคนรอบข้างให้ความช่วยเหลือก็อาจทำให้พวกเขาก้าวผ่านเรื่องร้ายๆ นั้นไปได้ อย่างเช่นสาวน้อยวัย 16 ปีผู้นี้!! คุณ Kayley Olsson เจ้าของร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง บอกว่าสาวน้อยคนดังกล่าวได้เข้ามาในร้านของเธอเพื่อทำผมสำหรับการถ่ายรูปที่โรงเรียน และดูเหมือนว่าเธอจะมีอาการซึมเศร้าเนื่องจากสภาพผมของเธอนั้นมีความผิดปกติและดูยุ่งเอามากๆ   และนี่คือสภาพผมของสาวน้อยผู้นี้   Kayley โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กของเธอว่า “เมื่อเธอเดินเข้ามาในร้าน เธอบอกพวกเราว่าให้ตัดผมของเธอออกให้หมด เธอไม่สามารถทนกับความเจ็บปวดนี้ได้แล้ว เธอบอกว่าตัวเธอเองไร้ค่า เมื่อได้ยินแบบนั้นฉันรู้สึกเศร้ามาก เราจึงพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อเธอ” และหลังจากที่ใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงในวันแรก และความพยายามอย่างมาก เพื่อช่วยให้สาวน้อยมีรูปถ่ายที่สวยเหมือนคนอื่นๆ คุณ Kayley ต้องใช้ความสามารถและเทคนิคทั้งหมดที่เธอมี “ปัญหาสุขภาพจิตเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนมากมาย ฉันคิดว่าพ่อแม่ควรให้ความใส่ใจกับลูกๆ ของพวกเขาด้วย อย่างเช่นสาวน้อยคนนี้ไม่ควรที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับผมของเธอเลย” ช่างเสริมสวยกล่าว   และแล้วในที่สุดผมของเธอก็กลับมาสวยงามได้อีกครั้ง   หลังจากที่ได้ทรงผมให้ที่สวยงาม สาวน้อยรู้สึกขอบคุณ คุณ Kayley อย่างมาก เธอบอกกับช่างเสริมสวยว่า “ฉันมีความสุขมากๆ ที่ได้เห็นรูปของตัวเองวันนี้ คุณทำให้ฉันกลับมายิ้มได้อีกครั้ง” เรื่องราวของสาวน้อยก็ถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์อย่างมาก มีผู้คนกว่า 1 แสนคนเข้ามาถูกใจภาพของเธอ และมีการแชร์เรื่องราวดังกล่าวถึง 60,000 ครั้ง ชาวเน็ตท่านหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นว่า…

  • ใบหน้าของผู้ป่วยเป็น ‘โรคซึมเศร้า’ ความเจ็บปวดที่มองไม่เห็นและไม่อาจสังเกตได้

    ใบหน้าของผู้ป่วยเป็น ‘โรคซึมเศร้า’ ความเจ็บปวดที่มองไม่เห็นและไม่อาจสังเกตได้

    โรคซึมเศร้า คือสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทำให้รู้สึกเศร้าหรือหดหู่ใจอย่างรุนแรงมากกว่าปกติทั่วไป แต่คนรอบข้างกลับดูไม่ออกว่าพวกเขาเป็นอย่างนั้นในบางครั้ง เพราะอาการของโรคไม่จำเป็นที่จะต้องมีการแสดงออกทางสีหน้าจนทำให้เราคิดว่าพวกเขาก็ดูมีความสุขดี แต่แท้จริงอาจคิดถึงเรื่องในแง่ลบอย่างเช่นการฆ่าตัวตายอยู่ก็ได้ การสนับสนุนและช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อรักษาเยียวยาให้ทุกอย่างสามารถผ่านไปได้ด้วยดี เพราะไม่อย่างนั้นบางทีทุกอย่างมันอาจสายเกินไป เหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ เราลองไปดูกันว่าใบหน้าของคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจะออกมาเป็นอย่างไร?   ในตอนที่ไปหาหมอเธอกลับต้องเจอคำพูดว่า “คุณดูไม่เหมือนเป็นโรคซึมเศร้าเลยนะ” ทำให้เธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะเธอไม่สามารถรับการรักษาหรือสั่งยามากินได้ ตอนนั้นเธอคิดว่า “คนที่เป็นโรคนี้จำเป็นที่จะต้องมีใบหน้าอมทุกข์ด้วยอย่างนั้นหรอ?”   ไม่กี่วันก่อนที่นักร้องหนุ่มชื่อดัง Chester Bennington ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจะจากโลกนี้ไป   ภาพของเด็กชายก่อนที่เขาจะเดินไปหาวิธีการแขวนคอตายในคอมพิวเตอร์ และทำมันใน 2 วันหลังจากนั้น   รอยยิ้มที่ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร แต่เขากำลังเผชิญกับโรคนี้ที่ทำลายความสุขของเขาไปจนหมด หลังจากนั้นไม่นานจึงจบชีวิตตัวเองลงไปอย่างน่าเศร้า   สาวน้อยวัย 8 ขวบที่แม่ของเธอบอกว่าดูไม่ออกเลยว่าเด็กคนนี้จะทำการฆ่าตัวตาย ในคืนเดียวกันกับที่เธอยังคงเล่นสนุกอยู่กับครอบครัว ถึงอย่างนั้นเธอก็ถูกพาไปโรงพยาบาลได้ทันเวลา   ใบหน้าของคุณพ่อและสามีที่ดีคนหนึ่ง ไม่มีใครรับรู้ได้เลยว่าสองอาทิตย์ต่อมาเขาจะแขวนคอตัวเอง   ชายเสื้อแดงวัย 60 ปีคือคุณพ่อที่คอยเตือนลูกทุกคนไม่ให้ฆ่าตัวตายอยู่เสมอ กระทั่งเขาทำสิ่งนั้นด้วยตัวเองโดยที่ลูกๆ ไม่มีสามารถรู้ล่วงหน้าก่อนได้เลย   รอยยิ้มของเด็กหนุ่มที่ถ่ายรูปกับคุณแม่ในคืนก่อนที่เขาจะตัดสินใจจากโลกนี้ไปด้วยความวิตกกังวลและความเสียใจของคนในครอบครัว   หน้าตาของคนที่จมอยู่กับโรคนี้มานานถึง 4 ปี ดูไม่ออกเลยว่าภายใต้รอยยิ้มนั้นเธอต้องทุกข์ขนาดไหน   คนมากมายแทบไม่เชื่อเลยว่าเธอเป็นโรคซึมเศร้า…

  • ช่างทำผมเนรมิตให้เด็กสาวที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า กลับมาสวยสดใส และยิ้มได้อีกครั้ง…

    ช่างทำผมเนรมิตให้เด็กสาวที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า กลับมาสวยสดใส และยิ้มได้อีกครั้ง…

    สำหรับ “โรคซึมเศร้า” เป็นสิ่งที่หลายๆ คนมักจะมองข้ามไป แต่ที่จริงๆ แล้วใครจะรู้ละว่าโรคนี้ใกล้ตัวกว่าที่เราคิด เนื่องจากโรคดังกล่าว ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุของการฆ่าตัวตาย โดยผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ทั้งสุขภาพทางจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึก และความคิด รวมถึงกรณีแบบในข่าวนี้ด้วย     และเมื่อเร็วๆ นี้ช่างทำผมวัย 20 ที่ชื่อ Kayley Olsson จากรัฐไอโอวา ได้พบกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ได้เข้ามานั่งในเก้าอี้ ณ ร้านเสริมสวยของเธอ เธอเล่าผ่านในเฟซบุ๊กของตัวเองว่า “เด็กสาววัยรุ่นอายุ 16 ปีรายนี้ ได้รับมือกับภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรงมานานหลายปี เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ไร้ค่า จนส่งผลให้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอไม่เคยดูแลรักษาผมของตัวเองเลย ดังนั้นเธอเลยตัดสินใจเข้ามาในร้านของฉัน เพื่อที่จะให้ฉันโกนผมของเธอออกทั้งหมด แต่ฉันก็ปฏิเสธไป และใช้เวลากว่า 13 ชั่วโมง ในการช่วยแก้ไขทรงผมให้กับเธอ”     อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ Kayley ได้นำเรื่องราวของเด็กสาวคนดังกล่าวมาแชร์บนโลกออนไลน์ ก็เพื่อเป็นการเตือนให้ทุกคนได้รู้ว่า โรคซึมเศร้าส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้คนทุกเพศทุกวัย ภายหลังจากที่เธอได้แชร์ภาพพร้อมเรื่องราวของเด็กสาวรายนี้ลงบนเฟสบุ๊คส่วนตัวของเธอ ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยมีคนเข้ามากดไลค์มากกว่า 160,000 ครั้ง และกดแชร์อีกกว่า…

  • หญิงสาวผู้ป่วยด้วย “โรคซึมเศร้า” ผันตัวเป็นนักดำน้ำและให้ท้องทะเลช่วยบำบัดอาการป่วย

    หญิงสาวผู้ป่วยด้วย “โรคซึมเศร้า” ผันตัวเป็นนักดำน้ำและให้ท้องทะเลช่วยบำบัดอาการป่วย

    โรคซึมเศร้า หนึ่งในสาเหตุของการฆ่าตัวตาย ผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้ส่วนมากจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จากคนที่เคยร่าเริ่งก็กลายเป็นคนเงียบๆ ไม่ยอมพูดคุยกับใคร การที่จะช่วยเหลือพวกเขาได้นั้นนอกจากจะเป็นการดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว การใช้ธรรมชาติเพื่อช่วยบำบัดก็อาจเป็นอีกวิธีหนึ่งเหมือนกับหญิงสาวท่านนี้ Amelia Klonaris หญิงสาววัย 23 ปีผู้ที่บำบัดอาการซึมเศร้าของเธอด้วยการดำน้ำ และออกไปชื่นชมความสวยงามของท้องทะเลในประเทศบาฮามาส เธอใช้เวลาส่วนมากชื่นชมความสวยงามของโลกใต้ทะเลพร้อมกับเหล่าสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าเต่า ปลากระเบนและฉลาม     “ฉันชอบการถ่ายภาพและเอามันกลับมาดูอีกครั้ง ฉันชอบการถ่ายภาพทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพใต้น้ำหรือที่ไหนก็ตาม การอยู่ใต้น้ำมันเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่ง มันทำให้ฉันรู้สึกสงบมากๆ “ คุณ Amelia Klonaris กล่าว     การดำน้ำกับพวกสัตว์คือกิจกรรมที่ทำให้เธอมีความสุข   แต่การดำน้ำนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเธอต้องเรียนรู้การดำน้ำกับผู้เชี่ยวชาญ ก่อนที่จะกลายเป็นนักดำน้ำได้อย่างทุกวันนี้ “ในระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัย ฉันมีความคิดที่จะทำธุรกิจแบบเพื่อนๆ ของฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกหดหู่สุดๆ หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้ ฉันเดินทางกลับมาที่บ้านและเริ่มเรียนรู้การดำน้ำ และก็ได้พบกับสิ่งที่ทำให้ฉันมีความสุขอย่างทุกวันนี้”   .   ท้องทะเลและชายหาดช่วยบำบัดโรคซึมเศร้าของเธอ . .   และทั้งหมดนี้คือฝีมือการถ่ายภาพของเธอ… . .   . .   เจ้าหมูตัวน้อยเพื่อนซี้ของเธอ . .…

  • 15 คำพูดธรรมดาๆ แต่ไม่ควรนำพูดกับผู้ป่วย “โรคซึมเศร้า” เพราะมันอาจจะทำให้แย่ลงกว่าเดิม

    15 คำพูดธรรมดาๆ แต่ไม่ควรนำพูดกับผู้ป่วย “โรคซึมเศร้า” เพราะมันอาจจะทำให้แย่ลงกว่าเดิม

    “โรคซึมเศร้า” เป็นสิ่งที่หลายๆ คนมักจะมองข้ามไป แต่ที่จริงแล้วใครจะรู้ละว่าโรคนี้ใกล้ตัวกว่าที่เราคิด เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพทางจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึก และความคิด ดังนั้น หากใครที่มีเพื่อน หรือคนในครอบครัวที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าว ควรพยายามที่จะเข้าใจคนเหล่านี้ให้มากขึ้น เพราะพวกเขาเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลการฟื้นฟูจิตใจ ไม่ให้รู้สึกเศร้า หม่นหมอง หงุดหงิด หรือกังวลใจ แต่ถ้าหากไม่ได้รับการรักษา อาการก็จะเริ่มรุนแรงขึ้น จนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตายขึ้นมาก็เป็นได้ วันนี้ #เหมียวขี้อ้อน แปลบทความรวบรวม 15 ประโยคที่ไม่ควรพูดกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ที่บางคนอาจคิดว่ามันจะช่วยรักษาพวกเขาได้ แต่จริงๆ แล้วมันกลับเป็นคำพูดที่ฟังใจแทงใจยิ่งกว่าเดิม และเน้นไปที่คำพูดซึ่งช่วยพวกเขาได้มากกว่า   1.มีคนที่แย่กว่าคุณเยอะ สิ่งที่คุณควรจะพูดแทนคำว่ามีคนที่แย่กว่าคุณเยอะ ก็คือ “ฉันขอโทษที่ทำร้ายคุณ ฉันจะช่วยคุณได้อย่างไร” มันน่าจะช่วยให้พวกเขาได้ระบายความรู้สึกมากกว่า     2.พรุ่งนี้คุณจะรู้สึกดีขึ้น แม้คำพูดนี้อาจจะทำให้หลายๆ คนรู้สึกดีขึ้น แต่สำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าแล้ว มันไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นเลย ในทางกลับกันหากลองพูดว่า “คุณต้องใช้เวลาหนึ่งวันให้เต็มที่ และผมก็จะอยู่กับคุณจนกว่าจะผ่านวันนั้นไป”   3.ชีวิตมันไม่ยุติธรรมเลย นี่เป็นอีกประโยคหนึ่งที่ไม่ควรพูดกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเป็นอย่างมาก เพราะหากคุณบอกว่าชีวิตมันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย นั่นอาจทำให้พวกเขารู้สึกแย่กว่าเดิม ดังนั้นคุณอาจจะต้องพูดว่า “ฉันขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ แต่เราสามารถที่จะผ่านมันไปได้”   4.เพียงแค่คุณจัดการกับมัน แม้อาจจะเป็นคำธรรมดาๆ…

  • สาวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แต่พอฮัสกี้สองตัวเข้ามาในชีวิต ทำให้เธอหายดี เป็นปลิดทิ้ง!!

    สาวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แต่พอฮัสกี้สองตัวเข้ามาในชีวิต ทำให้เธอหายดี เป็นปลิดทิ้ง!!

    Melanie คือสาวน้อยผู้เป็นโรคซึมเศร้าอย่างหนัก ทำให้เธอนอนหลับแทบไม่ได้ในเวลากลางคืน ทำให้ชีวิตของเธอประสบกับความยากลำบากเป็นอย่างมาก เธอได้ตัดสินใจรับเลี้ยงสุนัขฮัสกี้ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าฮัสกี้ไซบีเรียนนั้น เป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขที่น่ารักและร่าเริงมากที่สุด สุดท้ายเธอก็ได้รับเลี้ยงฮัสกี้มา 2 ตัว คือ Ellie และ Atlas ซึ่งพวกมันช่วยเธอไว้มากจริงๆ   Ellie และ Atlas       Ellie คือฮัสกี้ตัวแรกที่เธอรับเลี้ยง ตอนนั้นมันอายุได้เพียง 13 สัปดาห์   เจ้าของเก่าของ Ellie มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพทำให้ไม่สามารถรับเลี้ยงมันต่อไปได้ Melanie จึงเสนอที่จะรับเลี้ยงเจ้าตูบแทน และหลังจากนั้นเธอก็สัมผัสได้ทันทีว่า Ellie จะมาช่วยเธอจากปัญหานี้ได้ ‘ฉันเริ่มเดินมากขึ้น ทานอาหารได้มากขึ้น และร่าเริงขึ้น น้ำหนักฉันลดกว่า 30 กิโลกรัม และฉันมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด’ Melanie กล่าว         เรื่องราวของทั้งคู่ดำเนินไปอย่างดี จน Melanie ตัดสินใจรับเลี้ยงฮัสกี้มาอีก 1 ตัว นั่นก็คือ Atlas   ‘Atlas…

  • รวม 10 คำพูดที่ไม่ควรพูดกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เพราะมีแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง!!

    รวม 10 คำพูดที่ไม่ควรพูดกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เพราะมีแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง!!

    โรคซึมเศร้า (Depression) อาจเป็นสิ่งที่ยังใหม่สำหรับสังคมไทย ในอดีตหลายคนอาจคิดว่าอาการนี้เป็นเรื่องของสภาพจิตใจและความคิด แต่ที่จริงแล้ว มันเกิดมาจากการหลั่งของสารเคมีในสมอง จนกระทั่งมีคนดังหลายคน เสียชีวิตจากโรคนี้ ทำให้เกิดกระแสการระมัดระวังและตื่นตัวในโรคซึมเศร้าขึ้นในไทย และแม้หลายคนจะมีจิตใจดีอยากช่วยเหลือผู้ป่วยโรคซึมเศร้า แต่หารู้ไม่ บางครั้งการพยายามช่วยเหลือกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจผู้ป่วยยิ่งกว่าเดิม วันนี้เหมียวจึงรวบรวม 10 คำพูดที่ไม่ควรพูดกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เพราะนอกจากคำพูดเหล่านั้นจะไม่ช่วยอะไรแล้ว ยังทำให้สิ่งต่างๆ เลวร้ายลงไปอีกด้วย จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย   10. “ลองหยุดพักแล้วไปเที่ยวดูสิ” การไปเที่ยวไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาโรคซึมเศร้า และยิ่งไปกว่านั้น ถ้าระหว่างที่พวกเขาไปเที่ยวแล้วเจอเหตุการณ์อะไรไม่ดีอีก พวกเขาอาจซึมเศร้าหนักกว่าเดิมก็เป็นได้   9. “ลองคิดบวกสิ”   หลายคนอาจไม่รู้ว่า การเป็นโรคซึมเศร้าและคิดอะไรแต่ในแง่ลบ บางครั้งเกิดจากสารเคมีในสมอง ฉะนั้นจะมาบอกแค่ว่า “ลองคิดบวกสิ” มันไม่ได้เป็นเรื่องง่ายขนาดนั้นหรอก   8. “ลองออกกำลังกายดูสิ” หลายคนอาจเคยได้ยินว่า การออกกำลังกายจะช่วยลดความเครียดได้ นั่นก็เป็นเรื่องจริง แต่สำหรับคนที่เป็นโรคซึมเศร้านั้น ถ้าอยากให้พวกเขาไปออกกำลังกายจริงๆ พยายามหว่านล้อมให้เขาตัดสินใจไปด้วยตัวเอง อย่าบังคับเด็กขาด ไม่อย่างนั้น เขาอาจรู้สึกเครียดกว่าเดิมก็เป็นได้   7. “หาอะไรทำสิ จะได้ไม่คิดมาก” การหางานทำเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดมาก อาจช่วยได้ในคนที่มีสภาพจิตใจปกติ…

  • อดีตทหารเรือหญิงป่วยโรคซึมเศร้าค้นหาเป้าหมายชีวิต ต้มทิชชู่ตัดชุดแต่งงานประกวดเก๋ๆ!!

    อดีตทหารเรือหญิงป่วยโรคซึมเศร้าค้นหาเป้าหมายชีวิต ต้มทิชชู่ตัดชุดแต่งงานประกวดเก๋ๆ!!

    โอกาสสำคัญของชีวิตมักเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เราจะให้ความสำคัญกับมันเป็นพิเศษ ซึ่งบางครั้งอาจดูฟุ่มเฟือยไปบ้าง แต่หลายคนก็มองว่านี่คือความสุขทางใจ เช่นเดียวกับชุดแต่งงาน ที่เจ้าสาวหลายคนยอมเสียเงินจำนวนมาก เพียงเพื่อเช่าหรือซื้อชุดสวยๆ ใส่ในวันแต่งงานที่อาจมีเพียงครั้งเดียวในชีวิต แต่ก็ใช่ว่าชุดแต่งงานสวยๆ จะต้องแพงเสมอไปนะ…     ดูอย่างเว็บไซต์ Cheap Chick Weddings ของสหรัฐอเมริกาสิจ๊ะ เค้าได้ออกไอเดียจัดการแข่งขันดีไซน์ชุดแต่งงานที่ทำจากกระดาษทิชชู่ ซึ่งมีกระดาษชำระแบรนด์ Charmin เป็นสปอนเซอร์เหนียวแน่นมาหลายปีแล้วจ้า งานนี้ผู้เข้าแข่งขันจะต้องตัดเย็บชุดแต่งงานด้วยกระดาษทิชชู่ที่เป็นวัสดุหลัก ซึ่งเจ้าภาพเค้าได้เว้นที่ว่างไว้ 3 ตำแหน่ง ให้แก่ผู้ชนะที่จะได้รับรางวัล ^^     แต่ไฮไลท์ไม่ได้อยู่ที่ชุดหรอกนะ เพราะว่าเรื่องราวของคนทำชุดนี่เด็ดกว่าเยอะน่ะสิ!!   เธอผู้นี้มีนามว่า ‘Amber Mills’ อดีตทหารเรือหญิงที่มีอาการป่วยทางร่างกายและเป็นโรคซึมเศร้ามาตลอด หลังจากที่ได้ลาออกจากการเป็นทหาร แต่ชีวิตของเธอไม่ได้มีความน่าสงสารแต่อย่างใด เพราะเธอได้ให้โอกาสตัวเองได้ลองแข่งขันดีไซน์ชุดแต่งงานนี้ดู เพื่อค้นหาเป้าหมายในชีวิตตัวเอง น่าชื่นชมอย่างยิ่งนะฮะ ^^   แม้ว่าปีนี้เธอจะพลาดจากรอบชิงไป แต่เมื่อปีที่แล้วที่เธอเพิ่งลงแข่งขันไป ก็ได้ตำแหน่งที่ 3 ไปครอง พร้อมเงินรางวัล 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 85,000 บาทไปเหนาะๆเลยนะจิบอกให้ เห็นมั้ยจ๊ะว่าทางออกของชีวิตมีอีกเยอะแยะ…