Tag: เหยื่อ

  • นักดำน้ำดีใจฝูงปลามารุมล้อม ที่ไหนได้มันมาล่อ “ฉลามวาฬ” เพื่อเอาตัวเองรอดต่างหาก!!

    นักดำน้ำดีใจฝูงปลามารุมล้อม ที่ไหนได้มันมาล่อ “ฉลามวาฬ” เพื่อเอาตัวเองรอดต่างหาก!!

    เมื่อไม่นานนี้นักดำน้ำที่ชื่อว่า Tobias Sachs ได้ออกไปดำน้ำในทะเลนอกเมืองฮูร์กาดา ประเทศอียิปต์ แล้วเกิดปรากฏการณ์หายากที่แสนจะน่าจดจำขึ้น ฝูงปลาเล็กปลาน้อยจำนวนมากได้เข้ามาล้อมรอบตัวของเขา ขณะที่เพื่อนนักดำน้ำของเขา Reinhart Hoft ก็ทำการเก็บภาพวิดีโอเอาไว้   ปลาเต็มไปหมดเลยล่ะ   รุมล้อมเป็นก้อนกลมๆ   ฝูงปลาจำนวนว่ายล้อมรอบตัวของ Tobias จนกลายเป็นเหมือนลูกบอลขนาดยักษ์ ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่ง แต่ขณะที่พวกเขาชื่นชมความมหัศจรรย์นี้ได้ไม่นาน ฉลามวาฬ ก็ปรากฏตัวขึ้น นั่นทำให้รู้ว่านี่คือปรากฏการณ์ Bait Ball ที่ฝูงปลาเล็กจะรวมตัวกันเข้ากับบางอย่างเพื่อล่อสัตว์นักล่าให้เข้ามากิน เมื่อนักล่าเข้ามาใกล้พวกมันก็จะเผ่นหนีอย่างรวดเร็ว แต่ครั้งนี้ประหลาดตรงที่ เหล่าปลาเล็กกลับใช้ “นักดำน้ำ” เป็นเหยื่อล่อเสียได้ พวกมันรุมล้อมนักดำน้ำเพื่อดึงความสนใจของฉลามวาฬ พอฉลามวาฬโผล่มาพวกมันก็เริ่มเผ่น ปล่อยให้นักดำน้ำผู้น่าสงสารเผชิญชะตากรรมต่อไป   เขามาแล้วครับ   พอพี่ใหญ่มา พวกปลาน้อยก็เริ่มเผ่น   เจ้าฝูงปลาจอมกวนหนีหายไปหมดแล้ว (โชคดีนะที่ฉลามวาฬใจดี)   เรามาดูคลิปกันดีกว่า    โชคดีมากเลยนะที่พี่ใหญ่เป็นแค่ฉลามวาฬ ถ้าเป็นฉลามขาวหรือสัตว์ดุร้ายชนิดอื่นๆ ละก็ คุณนักดำน้ำคงจะซวยน่าดูเลยล่ะ ที่มา: Caters Clips, ladbible และ dailymail

  • โจรใจโหดดักปล้นชิงทรัพย์หญิงสาว ทิ้งอาวุธคาใบหน้าเหยื่อ แต่รอดชีวิตมาได้หวุดหวิด…

    โจรใจโหดดักปล้นชิงทรัพย์หญิงสาว ทิ้งอาวุธคาใบหน้าเหยื่อ แต่รอดชีวิตมาได้หวุดหวิด…

    *ภาพประกอบเนื้อข่าวต่อไปนี้มีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*   ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ทั้งผู้ชายหรือผู้หญิงการเดินในสถานที่เปลี่ยวและมืด อาจตกเป็นเป้าหมายของเหล่าโจรที่คอยจ้องชิงทรัพย์ได้ทุกเมื่อ และสิ่งที่เกิดขึ้นอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตก็เป็นได้… เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นกับสาววัย 19 ปี ไม่ระบุนาม หลังจากที่เธอเสร็จสิ้นงานผู้ช่วยผู้จัดการร้านและกำลังเดินทางกลับ ในช่วงคืนวันอังคารที่ 8 พฤษภาคม 2018 เธอได้เผชิญหน้ากับโจรที่หวังปล้นทรัพย์ พยายามแย่งกระเป๋าถือที่ติดมือเธออยู่…     ท่ามกลางช่วงจังหวะชุลมุน เธอพยายามขัดขืนสุดแรงเกิด โจรร้ายนี้จึงเข้าประชิดตัวก่อนที่จะทำการปักมีดลงบนใบหน้าของเหยื่อ ชิงกระเป๋าถือพร้อมสิ่งของมีค่าและหนีออกจากสถานที่เกิดเหตุ ในบริเวณย่านอุตสาหกรรม Bukit Tengah รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ประมาณเวลา 21.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น     พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า เธอเดินผ่านซอยมืดและเปลี่ยวจึงเป็นเหตุทำให้โจรเลือกลงมือ “เธอขัดขืนและยื้อกับชายคนหนึ่งที่พยายามชิงทรัพย์… เขาใช้มีดแทงเข้าที่ใบหน้าของเธอและก็หนีไป ทิ้งมีดปักไว้อยู่อย่างนั้น ส่วนเหยื่อก็ได้รับความช่วยเหลือจากประชาชนพลเมืองดี” ภาพที่เห็นจากจุดเกิดเหตุ เผยให้เห็นสภาพของเหยื่อหญิงสาวในสภาพที่นั่งนิ่งและมีสติ แม้จะมีมีดปักอยู่แก้มด้านขวาของเธอก็ตาม ในขณะที่พลเมืองดีกำลังพยายามทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้…     ทางด้านโฆษกตำรวจในพื้นที่กล่าวว่า กำลังทำการตามล่าตัวชายวัยฉกรรจ์ผู้ลงมือชิงทรัพย์ของหญิงสาวรายนี้ โดยที่เปิดเผยว่าเหยื่อได้รับบาดเจ็บทั้งบริเวณหน้าท้องและคอ แก้มด้านขวาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกมีดแทง อย่างไรก็ตาม เหยื่อได้รับการรักษาฉุกเฉินหลังจากเกิดเหตุแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรอคำให้การจากเธออยู่  …

  • ชายอังกฤษผู้เคยถูกแม่ชีข่มขืน ได้พบกับลูกเป็นครั้งแรกหลังจากที่แยกกันอยู่กว่า 62 ปี

    ชายอังกฤษผู้เคยถูกแม่ชีข่มขืน ได้พบกับลูกเป็นครั้งแรกหลังจากที่แยกกันอยู่กว่า 62 ปี

    Edward Hayes ชายชราวัย 76 ปีได้พบกับลูกสาวของเขาเป็นครั้งแรก หลังจากที่เวลาผ่านไปกว่า 62 ปี เมื่อตอนที่เขาอายุได้เพียง 12 ปี เขาเคยถูกข่มขืนต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 3 ปีโดยแม่ชีคนหนึ่ง ที่ Lytham St Annes มณฑลแลงคาสเชอร์ ประเทศอังกฤษ ในช่วงยุค 50   ภาพของ Edward ในวัย 76 ปี   Edward บอกว่าแม่ชีคนดังกล่าวในที่สุดก็ตั้งครรภ์ และเขาเชื่อว่าเธอถูกส่งกลับไปยังประเทศไอร์แลนด์ด้วยความอับอายขายหน้า ส่วนตัวเขาใช้ชีวิตต่อไปจนแก่ใน Carlisle โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าลูกของเขานั้นเป็นอย่างไรต่อไป   ภาพของ Edward ในตอนเด็ก   เรื่องราวของเขาได้ถูกแชร์ออกไปตามสื่อต่างๆ จนกระทั่งมีคนสะกิดใจกับชื่อของแม่ชีที่เคยข่มขืนเขา ซิสเตอร์ Mary Conleth หรือชื่อจริงที่ว่า Bessie Veronica Lawler ได้เดินทางมาที่ Guildford ในกรุงลอนดอนเพื่อคลอดลูกสาว ก่อนที่จะกลับมายัง Lytham โดยหวังว่าจะพบกับ Edward อีกครั้ง     เมื่อเธอไม่สามารถหา Edward พบ Conleth ก็กลับไปที่ไอร์แลนด์…

  • สิ่งที่เหลืออยู่ของเหยื่อเหตุกราดยิงวัย 14 ในช่วงมัธยมต้นปี 2 และวันสุดท้ายในชีวิต

    สิ่งที่เหลืออยู่ของเหยื่อเหตุกราดยิงวัย 14 ในช่วงมัธยมต้นปี 2 และวันสุดท้ายในชีวิต

    เหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ณ โรงเรียน Marjory Stoneman Douglas High School เมือง Parkland รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งใหญ่ที่ทำให้ทั่วทั้งโลกตื่นตัวกับปัญหาทางด้านจิตวิทยาและกฎหมายการครอบครองปืน นอกเหนือจากข้อมูลของผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตแล้ว หนึ่งในผู้ปกครองของผู้เสียชีวิต Lori Alhadeff ผู้เป็นแม่ของ Alyssa Alhadeff วัย 14 ปี ได้เปิดเผยถึงเรื่องราวหลังจากเกิดเหตุ ที่เหลือเพียงบาดแผลลึกในจิตใจ กับสิ่งของของลูกสาวที่ทิ้งไว้ดูต่างหน้า     นาง Lori นั่งอยู่ภายในห้องนอนของลูกสาวพร้อมกับเสื้อสเวตเตอร์ของเธอ และข้าวของเครื่องใช้ในช่วงชีวิตการเรียนชั้นมัธยม ทั้งตำราเรียน กระดาษโน๊ต หวี ปากกามาร์กเกอร์ พร้อมทั้งแผ่นมาร์กหน้าและน้ำยาทาเล็บของลูกสาว   .   คุณแม่เปิดเผยว่า ในวันก่อนเกิดเหตุลูกสาวของเธอกำลังเคลียร์ห้องนอน เพื่อจัดแจงอุปกรณ์ไปโรงเรียน จนกระทั่งในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ลูกสาวของเธอก็ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ทุกวันนี้ คุณแม่นอนหลับได้เพียงวันละไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เพราะยังคงคิดว่าลูกสาวยังอยู่กับเพื่อนที่โรงเรียน และหวังว่าเธอจะกลับมา……

  • กลุ่มผู้ชาย รวมตัวกันมาเผยความจริงว่าเคยโดน ‘ข่มขืน’ สื่อถึงความอยุติธรรมที่ได้รับ

    กลุ่มผู้ชาย รวมตัวกันมาเผยความจริงว่าเคยโดน ‘ข่มขืน’ สื่อถึงความอยุติธรรมที่ได้รับ

    แน่นอนว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับทุกเพศทุกวัยย่อมเป็นเรื่องที่มีอิทธิพลต่อสังคมมนุษย์เป็นอย่างมาก “การข่มขืน” ก็เป็นหนึ่งในประเด็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและส่งผลกระทบทางลบกับหลายๆ ฝ่าย ไม่แปลกหากว่าพูดถึงเรื่องของการข่มขืนแล้วเราจะนึกถึงภาพเหยื่อที่เป็นเพศหญิง เพราะจากที่เราเห็นกันตามสื่อส่วนมากเป็นเช่นนั้น แต่แท้จริงแล้วนั้นเพศชายที่ถูกข่มขืนเองก็มีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว และวันนี้ พวกเขา “ชายที่เคยถูกข่มขืน” รวบรวมความกล้าก้าวออกจากความเงียบงัน สู่การแสดงออกถึงความจริงที่หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการข่มขืน ในโลกแห่งความจริงนั้น ตามรายงานจากองค์กรต่อต้านความรุนแรงทางเพศของสหรัฐอเมริกาชื่อ RAINN พบว่าร้อยละ 10 ของเหยื่อที่ถูกข่มขืนเป็นเพศชาย และผู้ชายร้อยละ 0.33 ของอเมริกาเคยถูกข่มขืนหรือเกือบถูกข่มขืน   “นายควรขอบคุณที่ฉันอุตส่าห์ยอมส่งข้อความหานายนะ”   ในประเทศอังกฤษเองก็มีตัวเลขจำนวนผู้ชายที่ถูกข่มขืนสูงด้วยเช่นกัน เกือบจะร้อยละ 12 ของเหยื่อการข่มขืนทั้งหมดของประเทศเป็นเพศชาย แต่ว่าปัจจุบันกลุ่มชายที่เคยถูกข่มขืนกลุ่มหนึ่งตัดสินใจที่จะออกมาบอกเล่าถึงความจริงที่หลายๆ คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องของการข่มขืน   “ไม่ต้องมีอะไรกันก็ได้ แค่ให้ฉันเลี้ยงเหล้าคุณอีกแก้วก็พอน่า…”   ชายกลุ่มนี้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวของตน โดยการเขียนประกาศถึง “คำพูด” ที่ผู้กระทำชำเราใช้กับพวกเขาในเหตุการณ์ความรุนแรงนั้นๆ การเผยแพร่นี้กระทำผ่านเว็บเพจของ Tumblr ที่ชื่อว่า Project Unbreakable ภายในเป็นการรวบรวมภาพถ่ายที่มุ่งเน้นช่วยเหลือเหล่าผู้ประสบความรุนแรงทางเพศ ความรุนแรงภายในบ้าน และความรุนแรงในวัยเยาว์   “ไม่ต้องห่วง พวกหนุ่มๆ น่ะชอบแบบนี้กันทั้งนั้น”   ท่ามกลางเหล่าสตรีที่เผยข้อมูลที่ตนได้ผ่านการถูกข่มขืน ชายเหล่านี้เองก็ได้ต่อสู้เพื่อจุดยืนของตน โดยการชูป้ายที่รวมเอาคำพูดของผู้กระทำชำเราที่ได้พูดต่อพวกเขาให้โลกได้รับรู้   “ไม่มีใครรักแกหรอกน่า และก็ไม่มีใครสนใจแกด้วย แกมันเป็นของชำรุดไปแล้ว”   โปรเจกต์นี้ยังได้ก่อให้เกิดผลกระทบเล็กน้อยในเชิงของการตอบโต้เรื่องผลการรายงานเกี่ยวกับการข่มขืนที่ต่ำกว่าความเป็นจริง…

  • สองหนุ่มพี่น้อง เจ้าของกิจการ ‘ขนย้ายของ’ ฮีโร่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ให้หลุดพ้นการถูกกดขี่

    สองหนุ่มพี่น้อง เจ้าของกิจการ ‘ขนย้ายของ’ ฮีโร่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ให้หลุดพ้นการถูกกดขี่

    เรื่องราวน่าประทับใจที่จะนำมาเสนอในวันนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสองพี่น้องชายหนุ่มที่ทำอาชีพรับจ้างขนของแถมยังคอยช่วยเหลือผู้คน ราวกับว่าพวกเขา เป็น “ฮีโร่” กันเลยทีเดียว ในรัฐแคลิฟอร์เนียปี 1997 สองพี่น้อง Aaron Steed และ Evan ได้ก่อตั้งกิจการ “ขนย้ายของ” ขึ้นมาเป็นของตัวเอง เนื่องจากในขณะนั้นทั้งคู่เป็นนักกีฬาของโรงเรียน ทำให้พวกเขาต้องพบเจอปัญหาในการหางานเสริมที่มีเวลาตรงกับตารางเวลาที่แน่นขนัดของพวกเขา แต่พวกเขายังคงต้องการเงินที่จะมาส่งตัวเองเรียน ทำให้วันหนึ่งหลังจากที่พวกเขาถูกจ้างโดยพ่อของเพื่อนให้ไปช่วยขนย้ายข้าวของออกจากบ้าน พวกเขาจึงตัดสินใจก่อตั้งกิจการขนย้ายของโดยใช้ชื่อว่า “Meathead Movers”     กิจการของพวกเขาเติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นบริษัทขนย้ายของที่ใหญ่ที่สุดในแคลิฟอร์เนีย อีกทั้งยังเป็นบริษัทที่คอยช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงภายในครอบครัวอีกด้วย หลังจากที่ Aaron กับ Evan ก่อตั้งกิจการได้ไม่นานนัก ก็มีโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาที่บริษัทจำนวนหนึ่ง ผู้ติดต่อเผยว่าพวกเขาถูกกดขี่และทำร้ายภายในบ้าน ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้ไม่มีเงินแถมยังแทบจะไม่มีหวังที่จะออกจากสภาวการณ์ที่ถูกกดขี่เช่นนั้น แต่สองพี่น้องคู่นี้คิดว่าอย่างไรก็ต้องช่วยเหลือคนพวกนั้นให้ได้ หากว่าผู้ที่ติดต่อเข้ามาขอความช่วยเหลือให้สามารถหลบหนีออกจากสถานการณ์ความรุนแรงภายในบ้านได้ล่ะก็ สองพี่น้องก็จะช่วยเหลือโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน และไม่มีคำถามใดๆ ทั้งนั้น “ตั้งแต่นั้นมา พวกเราก็ให้การบริการแบบไม่คิดค่าใช้จ่ายสำหรับเหยื่อของความรุนแรงภายในบ้าน” Evan กล่าว     สองพี่น้องนึกได้ถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่ติดต่อเข้ามาเมื่อหลายปีก่อน เธอเล่าว่าเธอถูกทำร้ายโดยคนรักเก่าของเธอแทบจะทุกวัน และยังถูกข่มขู่ว่าจะทำร้ายลูกสาวและหลานของเธออีกด้วย จากนั้นบริษัท Meathead ก็เข้ามาช่วย พวกเข้าเข้ามานำตัวหญิงสาวพร้อมลูกสาวและหลานของเธอหนีออกจากบ้านหลังเดิม เท่านั้นยังไม่พอพวกเขายังเตรียมที่นอนพร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นให้กับที่พักแห่งใหม่สำหรับหญิงสาวและเด็กๆ แถมยังเอาดอกไม้ใส่กระถางมาให้เป็นของขวัญต้อนรับเข้าสู่บ้านใหม่อีกด้วย จากนั้นชื่อเสียงของพวกเขาได้แพร่กระจายออกไป และหนุ่มๆ ในบริษัทก็เข้ามาทำหน้าที่ตามคำปฏิญาณที่ตั้งใจเอาไว้…

  • สาวๆ ควรรู้!!  วิธีที่ฆาตกรต่อเนื่องใช้เลือกเหยื่อ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

    สาวๆ ควรรู้!! วิธีที่ฆาตกรต่อเนื่องใช้เลือกเหยื่อ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

    การฆาตกรรมต่อเนื่องอาจจะเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ทำให้หลายๆ คนต้องขวัญผวาและไม่กล้าที่จะออกไปไหนกลางค่ำกลางคืนคนเดียวแน่ๆ และถึงแม้ว่าในบ้านเรานั้น ข่าวคราวเกี่ยวกับการฆาตกรรมต่อเนื่องนั้นอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นให้เห็นอยู่บ่อยๆ แต่การรู้เกี่ยวกับการเลือกเหยื่อของอาชญากรเหล่านี้ก็อาจจะช่วยให้คุณระวังตัวได้มากยิ่งขึ้น     จากบทความในเว็บไซต์ต่างประเทศได้ระบุว่าเหล่าฆาตกรต่อเนื่องนั้นมักจะเลือกเหยื่อจากลักษณะทางกายภาพอย่างเช่นเพศ เชื้อชาติ อายุ หรือความแข็งแรงของเหยื่อ นอกจากนี้พวกเขามักจะเลือกคนที่มีลักษณะเข้ากับอาชีพหรือการดำเนินชีวิตของพวกเขา มีการเปิดเผยข้อมูลในสหรัฐอเมริกาว่ามีผู้หญิงกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ที่ตกเป็นเหยื่อของฆาตกรต่อเนื่อง ซึ่งพวกเธอนั้นตกเป็นเหยื่อมากกว่าผู้ชายถึง 10 ต่อหนึ่งเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามเหล่าเด็กผู้ชาย ผู้อพยพ และแรงงานชายก็มีโอกาสที่จะตกเป็นเหยื่อได้เช่นกัน     นอกจากนี้ในกลุ่มของเด็กผู้หญิง และสาววัยรุ่นก็ยังถือว่าเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของเหล่าฆาตกรต่อเนื่องอีกด้วย “พวกฆาตกรต่อเนื่องนั้นมักจะไม่สามารถโน้มน้าวใจ หรือใช้แรงจัดการกับเหล่าผู้ใหญ่ได้ดังนั้นพวกเขาจึงมักที่จะพุ่งเป้ามาที่เด็กๆ ส่วนเหล่าอาชญากรที่เป็นวัยรุ่นนั้นก็มักจะไม่เลือกเหยื่อที่เป็นสาวๆ สูงวัย เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถที่จะหลอกล่อพวกเธอได้นั่นเอง” ข้อความจากบทความ Killing for sport: Inside the minds of serial killers ของ Pat Brown     จากหนังสือ The encyclopedia of serial killers ของ Michael Newton เผยว่านักจิตวิทยาและนักกฎหมายมีความเห็นเหมือนกันคือเหล่าฆาตกรต่อเนื่องนั้นมักจะมีพฤติกรรมในการเลือกเหยื่อเหมือนกับนักล่า ซึ่งพวกมันจะเลือกเหยื่อที่อ่อนแอและไม่ค่อยระวังตัวเหมือนลูกแกะหลงฝูงนั่นเอง   ที่มา serialkillersvictimschoosing

  • ชายรุ่นพ่อทำร้ายร่างกายและข่มขืนหญิงสาวอย่างหนัก ทั้งขวด ทั้งไม้คิว ถึงขั้นต้องแท้งลูก!!

    ชายรุ่นพ่อทำร้ายร่างกายและข่มขืนหญิงสาวอย่างหนัก ทั้งขวด ทั้งไม้คิว ถึงขั้นต้องแท้งลูก!!

    เรื่องราวสุดสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ผู้หนึ่ง เธอตกเป็นเหยื่อของการข่มขืนและทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง หลังจากที่นาย Michael Banks Gray ชายวัย 50 ปีได้ใช้สิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำ ไม้พูล ยัดเข้าไปในช่องคลอดเธอ จนเป็นสาเหตุให้เธอแท้งลูกในไม่กี่วันหลังจากนั้น หญิงสาวผู้โชคร้ายรายนี้เป็นหนึ่งใน 8 เหยื่อที่ถูกนาย Gray ข่มขืนและทำร้ายร่างกาย ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา นาย Gray ถูกตั้งข้อหาทั้งสิ้น 18 ข้อหาซึ่งประกอบไปด้วยการข่มขืน การทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ระหว่างปี 1987 ถึงปี 2012 และจะถูกพิพากษาในเดือนมกราคม ปีหน้า ตามการรายงานของสื่อต่างประเทศ     หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อคนล่าสุดได้กล่าวว่าเธอรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมของชายคนนี้ แต่ก็รู้สึกโชคดีที่เรื่องเกี่ยวกับการเปิดโปงการล่วงละเมิดทางเพศนักแสดงหญิงของนาย Harry Weinstein นั้นทำให้เธอกล้าที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ “ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือใครก็ตามที่กำลังใช้กำลังและทารุณพวกคุณ คุณควรที่จะออกมาพูดถึงสิ่งที่พวกเขาทำ ฉันพยายามรวบรวมความกล้า ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันไม่กล้าที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะกลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ฉันพูด” หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อกล่าว       นอกจากนี้หญิงรายนี้ยังได้เผยอีกว่า เธอถูกนาย Gray นั้นทำร้ายร่างกายมาเป็นเวลานานกว่า 7 ปีแล้ว หลังจากที่พบเขาครั้งแรกเมื่อปี 1998 ที่บ้านของเพื่อนเธอ ชายวัย 50…

  • หญิงสาวเปิดเผยภาพ “เรือนร่างอันบอบช้ำ” ของตัวเอง หลังจากที่ต้องตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์

    หญิงสาวเปิดเผยภาพ “เรือนร่างอันบอบช้ำ” ของตัวเอง หลังจากที่ต้องตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์

    **บทความอาจมีภาพหรือเนื้อหาที่มีความรุนแรง**   แม้ยุคสมัยจะผ่านไปนานแค่ไหน ปัญหาการค้ามนุษย์ก็ยังคงตามติดมนุษยชาติกันมานานเป็นร้อยเป็นพันปี จนล่าสุดก็มีหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ได้ออกมาแสดงถึงผลร้ายที่เกิดขึ้นกับเธอ หลังจากที่เธอต้องตกไปอยู่ในวงเวียนของการค้ามนุษย์เป็นเวลานาน เธอคนนี้เป็นหญิงชาวบัลแกเรียวัย 20 ปีซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ โดยเธอนั้นถูกคนร้ายจับตัวไปและบังคับให้ตนต้องเข้าสู่กระบวนการค้าประเวณี และทุกครั้งที่เธอพยายามหนีออกมา เธอจะต้องถูกทำร้ายตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรงจนเกือบตายเลยก็มี   สภาพของหญิงสาวคนดังกล่าว   Norbert Ceipek นายแพทย์ผู้เปิดคลีนิคอยู่ในประเทศบัลแกเรียเพื่อคอยช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ เป็นคนที่รับเรื่องและดูแลเหยื่อเคราะห์ร้ายคนนี้ โดยเขาเล่าว่าเธอถูกนำมาทิ้งไว้หน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในบัลแกเรียจึงรอดมาได้ เธอเล่าว่าเธอได้รู้จักกับชายคนหนึ่งที่สัญญาว่าจะช่วยเหลือเธอ พร้อมพาไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่ความจริงไม่เป็นแบบนั้น เมื่อเธอเดินทางไปถึงเธอกลับต้องเดินบนถนนพร้อมกับหญิงที่ถูกพามาค้าประเวณีอีกสามคน แน่นอนว่าเธอไม่ยอมที่จะตกเป็นเหยื่อ ทว่าเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้และถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนักนาน 8 เดือนเต็ม จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้โอกาสกลับมายังประเทศเกิดของเธอ เธอตัดสินใจที่จะหนีออกมาในช่วงเวลานั้น แต่โชคไม่เข้าข้าง เธอถูกจับได้และโดนซ้อมอย่างหนักจนสภาพใกล้ตาย สุดท้ายเธอก็มาจบลงตรงที่หน้าโรงพยาบาลเพราะชายคนดังกล่าวนำเธอมาทิ้งไว้   .   โชคยังดีที่เวลาต่อมาเธอได้รับการช่วยเหลือ และชายคนดังกล่าวก็ถูกจับ ทว่าการจะรักษาแผลทั้งหมดของเธอนั้นต้องใช้เงินจำนวนมาก เงินบริจาคที่ Norbert ก็คงไม่เพียงพอ เขาก็ได้แต่หวังว่าจะมีเงินสนับสนุนจากรัฐที่มากขึ้น รวมถึงเงินบริจาคที่เยอะขึ้นเพื่อเพียงพอต่อการทำศัลยกรรมให้เหยื่อค้าบริการทุกคนนั่นเอง…     ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาองค์กร International Labor Organization (ILO) และ Walk Free Foundation ได้รายงานว่า…

  • สาวเหยื่อถูก “น้ำกรด” สาดจนเสียโฉม พบรักแท้ อยู่กับชายผู้รับทุกอย่างที่เป็นเธอได้

    สาวเหยื่อถูก “น้ำกรด” สาดจนเสียโฉม พบรักแท้ อยู่กับชายผู้รับทุกอย่างที่เป็นเธอได้

    เชื่อว่ารักแท้คงเปรียบได้ดั่งความฝันของใครหลายคน เพราะท้ายที่สุดแล้วในชีวิตเราต่างก็อยากจะมีใครซักคนที่คอยดูแลซึ่งกันและกัน แม้แต่ Turia Pitt วัย 30 ปี เอง ก็เคยเชื่อว่าครั้งหนึ่งเธอได้เจอกับรักที่ดี กระทั่งวันหนึ่งเธอกลับถูกน้ำกรดสาดจนเสียโฉมทั้งใบหน้า ซึ่งในตอนนั้นเธอก็แทบจะไม่เชื่อตัวเองว่า จะมีโอกาสได้รับความรักจากคนอื่นอีกครั้ง   Turia Pitt   6 ปีก่อนเธอต้องประสบปัญหาจากการถูกน้ำกรดสาด ทำให้ผิวหนังกว่า 65% ของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลพุพอง และเธอก็มักจะถ่ายภาพตัวเองลงอินสตาแกรม เพื่อทำให้โลกได้รู้ว่า เธอไม่เคยมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองต้องเผชิญ “ลึกๆ แล้วมันเป็นเรื่องที่เราพยายามจะลืมมัน ถึงแม้มันจะผ่านมา 6 ปีแล้วก็ตาม แต่ทุกความรู้สึกและความทรงจำแห่งความเจ็บปวดยังคงอยู่ในใจเราเสมอ”   เรื่องราวของเธอก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้สาวๆ ทั่วโลก หลังจากที่เธอประกาศพบชายผู้เป็นรักแท้   เธอแทบไม่เชื่อมาก่อนว่าเธอจะมีโอกาสได้เจอรักแท้ และได้พบกับชายผู้มีหัวใจที่อยากจะดูแลเอาใจใส่เธอจริงๆ ซึ่งหลังจากที่เธอแต่งงานกับ Michael Hoskin ทั้งคู่ก็ได้มีทายาทตัวน้อยถือกำเนิดขึ้นมาในท้องคุณแม่ “มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก เราสูญเสียทุกอย่างทั้งความเป็นตัวเองและสภาพจิตใจ แต่ขอฝากสาวๆ ทุกคนว่า เราจงอย่าได้เอาตัวเองไปจมอยู่กับอะไรที่มันแย่ และอย่าสูญสิ้นความหวังให้กับอนาคต”   ทันทีที่คุณแม่มือใหม่โพสต์ภาพลูกน้อย เรื่องราวของเธอก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้หญิงสาวอีกหลายคนที่กำลังถูกกดขี่อยู่   ตอนนี้ทั้ง Turia และ Michael…

  • ฆาตกรต่อเนื่องผู้สังหารเหยื่อ 7 ราย รับสารภาพต่อศาลสูง และจะรับโทษจำคุก 360 ปี!!

    ฆาตกรต่อเนื่องผู้สังหารเหยื่อ 7 ราย รับสารภาพต่อศาลสูง และจะรับโทษจำคุก 360 ปี!!

    สำหรับคดีร้ายแรงอย่างการฆ่าคนนั้น ส่วนใหญ่จะผู้ต้องหาจะต้องได้รับโทษสูงสุดคือ ‘ประหารชีวิต’ แต่สำหรับกรณีดังกล่าว บางประเทศก็ได้มีการยกเลิกโทษประหารชีวิตไปแล้ว จึงกลายเป็นว่าโทษสูงสุดถูกแปรเปลี่ยนให้กลายมาเป็นการถูกจำคุกตลอดชีวิตแทน และหากผู้หาก่อคดีร้ายแรงต่อเนื่องหลายคดีก็ต้องรับโทษตามจำนวนของคดีที่ก่อเอาไว้ อย่างเช่นคดีสะเทือนขวัญของฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าคนไปถึง 7 คน เป็นเหตุให้ได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 360 ปี William Devin Howel วัย 47 ปี  จากเมือง New Britain รัฐ Connecticut ได้รับสารภาพระหว่างการพิจารณาคดีภายในศาลสูงแห่งเมือง New Britain ว่าเขาได้ลงมือฆาตกรรมเหยื่อมากถึง 6 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็เคยก่อคดีฆาตกรรมเหยื่อรายหนึ่งมาก่อนหน้านี้แล้ว นั่นก็คือ Nilsa Arizmendi และถูกตัดสินความผิดร่วมกับการก่อเหตุที่เกิดขึ้นอีกรวมทั้งสิ้น 7 ราย     Howell เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่โหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ Connecticut เท่าที่เคยเกิดขึ้นมา โดยที่ไม่นับรวมกับเหตุการณ์สังหารหมู่ในโรงเรียนประถม Sandy Hook ณ เมือง Newtown เมื่อปี 2012 ทั้งนี้ศพของเหยื่อทั้ง 7 ราย ถูกฝังอยู่ในพื้นที่ป่าแห่งหนึ่งบนถนน Hartford หมายเลข…

  • อดีตนางงามอิตาลี กลับมาสู้ชีวิตอีกครั้ง หลังถูกแฟนหนุ่ม “สาดน้ำกรด” ใส่จนหน้าเสียโฉม

    อดีตนางงามอิตาลี กลับมาสู้ชีวิตอีกครั้ง หลังถูกแฟนหนุ่ม “สาดน้ำกรด” ใส่จนหน้าเสียโฉม

    เมื่อกล่าวถึง “ความรัก” หลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่สำหรับ Gessica Notaro สาววัย 28 ปี อดีตนางงามผู้เข้ารอบสุดท้ายในเวทีการประกวดนางสาวอิตาลีคนนี้ ชีวิตของเธอกับต้องมาพังทลายลงเพียงเพราะผู้ชายคนนหนึ่งที่ส่งผลให้เธอต้องเจ็บทั้งหาย และเจ็บทั้งใจ   หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายรายนี้ ตกเป็นเหยื่อของแฟนหนุ่มที่สาดน้ำกรดใส่ใบหน้าของเธอจนเสียโฉม และเกือบตาบอด ถึงแม้ว่า Gessica จะถูกทำร้ายร่างกายจนปางตาย และทำให้ใบหน้าที่เคยสวยงามกลายเป็นเสียโฉม แต่อย่างน้อยเธอก็ยังสามารถฮึดกลับมาสู้ชีวิตได้อีกครั้ง     ย้อนเวลากลับไปเมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว Gessica กับ Jorge Edson แฟนหนุ่มได้เลิกรากันไป แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวของทั้งคู่จะจบลงไม่สวยงามนัก เพราะแฟนหนุ่มของเธอกลับโกรธแค้น แถมยังสะกดรอยตามเธออยู่ตลอด นั่นทำให้ Gessica ถึงกับต้องเข้าไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ทันที ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีคำสั่งให้ Jorge อดีตคนรักห้ามเข้าใกล้ตัวเธอ แต่นั่นกลับไม่เป็นผล เพราะท้ายที่สุด Jorge ก็ได้กลับมาทำร้ายเธอโดยการสาดน้ำกรดใส่ที่ใบหน้าเมื่อช่วงต้นปี 2017 ที่ผ่านมา และเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ Gessica ต้องใช้เวลานานเกือบ 6 เดือนในการเข้ารับการผ่าตัดรักษา     ทาง Gessica ได้ออกมาเผยเรื่องราวที่แสนเลวร้ายของเธอผ่านทางรายการโทรทัศน์ว่า…

  • โถ้วววว เด็กน้อยไปตกปลากำลังจะได้ “ไอ้เข้” ว่ายมาคาบไปแดร๊กต่อหน้าต่อตา…

    โถ้วววว เด็กน้อยไปตกปลากำลังจะได้ “ไอ้เข้” ว่ายมาคาบไปแดร๊กต่อหน้าต่อตา…

    เรียกว่าเป็นบทเรียนสำคัญให้กับเด็กชายนักตกปลาคนนี้เลยทีเดียว ว่าบางครั้งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ก็พร้อมจะกลั่นแกล้งเราตลอดเวลา เพราะขณะที่กำลังจะมีเหยื่อมาติดเบ็ดของเขา ดันมีพี่เข้ตัวเบิ้มมาแย่งเหยื่อไปต่อหน้าต่อตาซะอย่างงั้น วีดีโออันสุดเฟลดังกล่าวถูกอัพขึ้นโดยเพจ Bass Masters And Fish Experts เผยให้เห็นภาพของเด็กชายคนหนึ่งชื่อว่า Conor กำลังฝึกตกปลาอยู่บริเวณทะเลสาบแห่งหนึ่งในรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา   หลังจากตกมาอยู่พักใหญ่ๆ ในที่สุดก็มีปลาตัวเขื่องตัวหนึ่งมาติดเบ็ด ด้วยความดีใจเขาก็พยายามจะพิชิตเจ้าปลาตัวนี้ให้ได้ ชายที่อยู่ข้างๆ เขาพูดให้กำลังใจว่า “นายทำได้เพื่อน ดึงขึ้นมาเลย”   แต่ขณะที่กำลังพยายามอยู่นั้นเอง ก็มีจระเข้ตัวหนึ่งพุ่งเข้ามางับปลาที่กำลังติดเบ็ดนั้นต่อหน้าต่อตา   ด้วยพละกำลังที่เหลือล้น สุดท้ายเด็กชาย Conor ก็ต้องยอมปล่อยไป เหลือแต่ความเฟลที่ไม่อาจบรรยายได้ ไปชมคลิปเหตุการณ์กันดู รับรองว่าเพื่อนๆ จะเฟลแทนเด็กชายคนนี้แน่นอน   คิดในแง่ดี อย่างน้อยเราก็ไม่ใช่คนที่ถูกลากไปเนาะ ฮาาาา ที่มา dailymail

  • เจ้าเหมียวกำลังวิ่งไล่จับหนูอยู่ จู่ๆ ก็มีไก่เข้ามาจิกเหยื่อไปต่อหน้า โถ…น่าเห็นใจจริงๆ

    เจ้าเหมียวกำลังวิ่งไล่จับหนูอยู่ จู่ๆ ก็มีไก่เข้ามาจิกเหยื่อไปต่อหน้า โถ…น่าเห็นใจจริงๆ

    เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2559 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ ได้เผยภาพที่ถูกบันทึกเอาไว้โดย Daniel Boe ผู้อาศัยอยู่ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจากภาพเราจะเห็นได้ว่า มีเจ้าเหมียวตัวหนึ่งกำลังพยายามวิ่งไล่จับหนู แต่จู่ๆ ก็ดันมีสิ่งมีชีวิตสองขา ที่โผล่มาขโมยเหยื่อของมันไปอย่างหน้าตาเฉย งานนี้เล่นเอาเจ้าเหมียวถึงกับเงิบขึ้นมาทันที     และสิ่งมีชีวิตที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน มันคือเจ้าไก่กระต๊ากนั่นเอง   ทางด้าน Daniel Boe ได้เผยว่า “เขาได้สังเกตเห็นเจ้าเหมียวกำลังเล่นกับบางสิ่งบางอย่าง และพอเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าสิ่งนั้นคือเจ้าหนูน้อย ก่อนที่มันจะถูกไก่เข้ามาโจมตี ซึ่งเจ้าไก่ตัวนี้ได้วิ่งเข้ามาจิกเหยื่อของมันไปต่อหน้าต่อตา”   และหลังจากที่สามารถแย่งเหยื่อจากแมวมาแล้ว เจ้าไก่ก็รีบจิกกินหนูเป็นอาหารด้วยความหิว   โถววว เจ้าเหมียวน่าสงสารจริงๆ   รับชมคลิปวีดีโอได้เลย   สำหรับภาพ และคลิปวีดีโอดังกล่าว อาจจะทำให้หลายคนคิดว่ามันดูโหดร้ายเกินไป แต่เมื่อลองมองอีกมุมหนึ่ง มันคือสัญชาตญาณในการล่าเหยื่อตามธรรมชาติของสัตว์ และก็ต้องมีการแก่งแย่งกันเป็นธรรมดา ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้เราจึงต้องยอมรับในกฎของธรรมชาติ ซึ่งในโลกความเป็นจริง มันไม่ได้มีสิ่งที่สวยงามให้เห็นเสมอไป บางทีมันอาจจะมีอะไรที่เลวร้ายมากกว่านี้เยอะ ที่มา : dailymail

  • นี่อาจเป็น “หอย” ที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่มันกลับเป็นหนึ่งในยอดนักล่าแห่งมหาสมุทร

    นี่อาจเป็น “หอย” ที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่มันกลับเป็นหนึ่งในยอดนักล่าแห่งมหาสมุทร

    โดยปกติแล้ว “หอยทาก” ไม่ได้เป็นสัตว์ที่ดูอันตรายเกินกว่าที่จะไปทำร้ายสัตว์อื่นๆ ได้เลย แต่ถ้าหากว่าคุณได้เห็นภาพ พร้อมกับคลิปวีดีโอที่เราได้หยิบมาให้ชมในวันนี้ รับรองว่าคุณจะต้องรู้สึกขนลุก และหวาดกลัวเจ้าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าหอยทากนี้แน่นอน เพราะนี่คือ Geographic Cone Snail หรือ หอยเต้าปูนลายแผนที่ (หอยทากทะเลทรงกรวย) สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่อยู่ภายใต้เปลือกอันแข็งแรงและสวยงาม ซึ่งดูจากภายนอกแล้ว มันอาจจะดูเหมือนเป็นสัตว์ที่ไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่ความจริงแล้วใครจะรู้ละว่า เจ้าหอยชนิดนี้กลับมีพิษรุนแรงมากพอที่จะสามารถฆ่าคนได้เลยละ….มนุษย์ทั้งหลายจงระวังตัวเอาไว้ให้ดีละกัน     สำหรับเจ้า Cone Snail จะพบมากในเขตอินโดแปซิฟิก พวกมันชอบอาศัยอยู่ตามซอกโพรงหินในแนวปะการัง อีกทั้งมันยังสัตว์กินเนื้อที่มักจะออกล่าเหยื่อในตอนกลางคืนอีกด้วย การล่าเหยื่อของมันนั้น บอกเลยว่าโหดเหมือนกันนะ เพราะหลังจากที่ได้เจอเหยื่อจากการตามกลิ่นแล้ว มันก็จะทำการสำรวจเหยื่อโดยการยื่นงวงออกไปสัมผัส ก่อนจะรีบโจมตีโดยการยิงเข็มพิษใส่ทันที     นี่คือภาพงวงของมันขณะกำลังยืดเข้าไปดูดสัตว์ทะเลตัวอื่นๆ เช่น ปลาตัวเล็กตัวนี้   พิษที่ร้ายแรงของเจ้าหอยชนิดนี้ จะทำให้สัตว์ที่ตกเป็นเหยื่อเป็นอัมพาต และแน่นิ่งไปในที่สุด   ลองไปรับชมวีดีโอการล่าเหยื่อของมันกันได้ก่อนเลย..   และในเวลาเพียงไม่กี่วินาที เหยื่อก็จะถูกมันกลืนกินเข้าไปทั้งตัวอย่างรวดเร็ว   ดูน่ากลัว และโหดมาก     เห็นนิ่งๆ แบบนี้ โหดร้ายไม่เบาเลยนะเจ้าหอย ที่มา : boredomtherapy

  • “นี่คือสิ่งที่คุณทำกับครอบครัวเรา…” แม่เหยื่อยาเสพติดโพสต์ถามพ่อค้ายา เป็นประเด็นให้ถกเถียง!?

    “นี่คือสิ่งที่คุณทำกับครอบครัวเรา…” แม่เหยื่อยาเสพติดโพสต์ถามพ่อค้ายา เป็นประเด็นให้ถกเถียง!?

    ไม่ว่าพ่อแม่ที่ไหนก็ไม่อยากเห็นลูกตัวเองต้องทุกข์ทรมานจากยาเสพติด เพราะยาเสพติดได้เปลี่ยนบุตรหลานที่น่ารักของพวกเขาให้กลายเป็นอีกคน ซึ่งเราต่างก็รู้ดีว่า ยาเสพติดนั้นให้โทษขนาดไหน… สำหรับ Tina Wells Louden‎ ก็เช่นกัน เธอได้เสียลูกสาว Ashley ไปจากการใช้ยาเสพติดเมื่อสามปีก่อน ด้วยความเศร้าเสียใจ เธอจึงได้โพสภาพในเพจ Heroin KILLS You เพื่อตัดพ้อต่อว่าเหล่าผู้ค้ายา ที่ทำให้เธอต้องสูญเสียลูกสาวไป     “ถึงคนที่ขายยาให้ลูกสาวฉัน นี่คือสภาพฉันในวันที่เคยเป็นวันเกิดของลูกสาว คุณรู้สึกยังไงกับชีวิตของตัวเองเหรอ ฉันอยากรู้จริงๆ ปกติฉันไม่ค่อยโพสต์ภาพเท่าไหร่ แต่ฉันอยากให้ภาพนี้กลายเป็นกระแสให้ได้มากที่สุด ดูสิเหล่าพ่อค้ายาทั้งหลาย นี่คือสิ่งที่คุณทำกับครอบครัวของเรา”     หลังจากนั้นไม่นานภาพเหล่านี้ก็กลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนว่าชาวเน็ตจะมีความเห็นที่แตกต่างออกไปจากเธอนะ   “จริงๆ ถ้าไม่มีคนซื้อ ก็ไม่มีคนขาย ฉันรู้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังเจ็บปวด แต่ลูกสาวของเธอเลือกเอง เธอรู้ว่าการเสพยาจะเป็นยังไง แต่เธอก็ยังทำ เลิกโทษคนอื่นแต่ฝ่ายเดียวเถอะ ทุกคนก็มีส่วนผิดทั้งนั้น”   “มันเป็นความผิดของลูกสาวคุณ คุณสาวคุณต่างหากที่เป็นคนทำลายครอบครัวตัวเอง ไม่ใช่พ่อค้า พ่อค้ายามันต้องการแค่เงิน แต่คนที่อยากเสพคือลูกสาวของคุณ และเป็นเธอที่เสพจนตายไปเอง”   “ฉันเคยติดยามาก่อน มันเป็นสิ่งที่ฉันเลือกเอง ไม่มีใครบังคับ พ่อค้ายาก็ไม่ใช่ ฉันเสียใจกับเรื่องลูกสาวคุณนะ แต่เราสามารถเลือกได้ว่า “ไม่ ฉันจะไม่เสพแล้ว””…

  • เจ้าของแอบถ่ายมุมดาร์กๆ ของ ‘แมวเหมียว’ โชว์โยนหนูเล่นไปมา ราวกับซ้อมไปแข่งชิงแชมป์โลก!!!

    เจ้าของแอบถ่ายมุมดาร์กๆ ของ ‘แมวเหมียว’ โชว์โยนหนูเล่นไปมา ราวกับซ้อมไปแข่งชิงแชมป์โลก!!!

    คงเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วเนาะว่า “แมว” ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมสูง มีความมุ้งมิ้งอยู่ในตัว และขี้อ้อน (เป็นบางเวลา) แต่เราก็รู้ๆ กันอยู่ว่านิสัยแท้จริงที่ฝังอยู่ในสายเลือดของมันนั้นเป็นอย่างไร และในวันนี้คุณก็จะได้เห็นมุมมืดของแมวแน่นอน หึหึหึ   นี่คือภาพของเจ้าแมวเหมียวตัวหนึ่ง ที่กำลังเล่นบางสิ่งอย่างสนุกสนาน บนหลังคาบ้านหลังหนึ่งในเมืองซัมเมอร์เซต ประเทศอังกฤษ   จากภาพเราจะเห็นได้ว่าเจ้าเหมียวกำลังแสดงพฤติกรรมสุดเถื่อน (อู้วววววว) ในการเล่นกับซากของเจ้าหนูตัวน้อยที่ถูกมันจับได้ ชาวเน็ตบางคนบอกว่า ดูๆ แล้วทำให้นึกถึงการ์ตูน Tom and Jerry แมวที่ชอบไล่หนูไม่มีผิดเลยละ   ดูท่าทางมันกำลังเพลิดเพลินกับการเล่นเหยื่อมากๆ เลยละ แถมยังจับโยนไปมาอย่างสนุกมืออีกด้วย   ภาพทั้งหมดนี้ ถูกถ่ายขึ้นโดย Jason Bryant ผู้เป็นเจ้าของแมวตัวดังกล่าวนั่นเอง   แมวกับหนูมักจะเป็นคู่ปรับที่ไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่ ก็ดูสิตอนจบเป็นยังไง สุดท้ายเจ้าหนูก็ไม่รอดพ้นเงื้อมมือของแมวอยู่ดี   นี่มัน Tom and Jerry ในชีวิตจริงชัดๆ   แม้ว่ามันอาจจะดูโหดไปหน่อย แต่การล่าเหยื่อนั้นถือเป็นสัญชาติญาณของแมว ที่สำคัญการที่มันได้เล่นกับเหยื่อที่จับได้ เรียกได้ว่าเป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัส และสร้างความตื่นตัวให้กับมันเป็นอย่างดี แถมยังถือเป็นการฝึกทักษะในการเป็นผู้ล่าอีกด้วย     หลังจากจับเหยื่อได้ เล่นสนุกใหญ่เลยนะเอ็ง……

  • หมดกัน อดแดร๊ก!! เจ้าสิงโตสาว ออกตัวแรงไปนิดตกน้ำป๋อมแป๋ม เหยื่อก็หนีหมดเด๊ะ

    หมดกัน อดแดร๊ก!! เจ้าสิงโตสาว ออกตัวแรงไปนิดตกน้ำป๋อมแป๋ม เหยื่อก็หนีหมดเด๊ะ

    ผู้ล่ามักจะมีมาดที่น่าเกรงขามอยู่เสมอ ส่วนหนึ่งของการล่าจะต้องไม่ให้เหยื่อรู้ตัว เมื่อได้ระยะเข้าประชิดเหยื่อผู้โชคร้ายก็กลายเป็นอาหารอันโอชะของผู้ล่าไปโดยปริยาย แต่ก็ใช่ว่าผู้ล่าจะประสบความสำเร็จในการล่าเหยื่อทุกครั้งไป อย่างในกรณีของสิงโตสาวในแถบแอฟริกาใต้ตัวนี้ที่แอบย่องเข้าประชิดเหยื่ออย่างดี แต่เหยื่อดันรู้ตัวซะก่อน งานนี้ก็ต้องรีบพุ่งกระโจนออกตัวแรงๆ เพื่อไล่ตามตะครุบเหยื่อให้ทัน   ตายละ เหยื่อรู้ตัวแล้ว ต้องรีบตาม เดี๋ยวไม่ทัน!!   จะหนีไปไหนเจ้าอิมพาลาทั้งหลาย!!   แล้วก็ บรึ้มมมมมมมม!!   ถึงกับติดสตั๊นไปชั่วขณะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตนักล่าล่ะเนี่ย!?   ทั้งนี้ทั้งนั้น Natasha Van Der นักศึกษาวัย 20 ปี ผู้บันทึกภาพช่วงจังหวะเหล่านี้ไว้ได้ กล่าวว่ามีสิงโตสองตัวมาดักซุ่มรออิมพาลามาดื่มน้ำอยู่นาน แต่ดัน เอิ่ม… ตามคลิปนี่แหละ   ทำพลาดแบบไม่เหลือภาพนักล่าอันน่าเกรงขามเลย!!! ที่มา : dailymail

  • คำสารภาพบาป จากผู้รอดชีวิตกราดยิงไนท์คลับ ‘ผมปิดประตู ขังพวกเขาไม่ให้หนีออกมา…’

    คำสารภาพบาป จากผู้รอดชีวิตกราดยิงไนท์คลับ ‘ผมปิดประตู ขังพวกเขาไม่ให้หนีออกมา…’

    หนึ่งในเรื่องเหตุการณ์ที่น่าเศร้าและสลดใจที่สุดในช่วงนี้เลยนั่นก็คือการสังหารหมู่ในไนท์คลับแห่ง Orlando นี่แหละ และล่าสุดก็มีอีกหนึ่งคำสารภาพของชายผู้อยู่ในเหตุการณ์นี้ ถึงแม้เขาจะไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับฆาตกร แต่ก็ถือว่าหลายๆ ชีวิตอาจรอด ถ้าเขาไม่ได้กระทำสิ่งนี้ลงไป…   Luis Burbano   หลังจากได้ยินเสียงปืนกระหน่ำยิงในไนท์คลับ Luis Burbano ก็รีบวิ่งอย่างรวดเร็วไปกับเหล่าสต๊าฟ ตรงไปยังโถงทางเดินและทางออก ขณะนั้นผู้คนพลุกพล่านและเหยียบย่ำเบียดเสียดกันเป็นอย่างมากเพื่อออกมาจากไนท์คลับแห่งนี้ แต่เขากลับปิดประตูทางออกทางเดียวที่สามารถออกจากที่นั่นไว้ถึง 10 – 15 วินาทีเลยทีเดียว!!!? จากการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Fox เขากล่าวว่า ‘ตอนผมปิดประตูนั้น ผมได้ยินเสียงทุบอย่างรุนแรง เสียงกรีดร้อง เสียงขอร้องให้ผมเปิดประตู ผมแค่อยากทำสิ่งที่ผมคิดว่าดีที่สุดในขณะนั้น แถมเสียงปืนก็ใกล้เข้ามาในทุกๆ ขณะ’     ‘ตั้งแต่คืนนั้นมาผมก็ไม่สามารถนอนหลับได้สนิทอีกเลย แต่ผมเชื่อว่าถ้าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นกับตัวคุณเองล่ะก็ คุณก็ไม่มีวันที่จะรู้หรอก หลายๆ คนพยายามบอกผมว่านี่คือโอกาสครั้งที่สองในชีวิตของผม แต่ทำไม ผมถึงรู้สึกเสียใจกับโอกาสที่ผมได้รับมานี้ล่ะ?’ เขากล่าวต่อ ‘ตอนแรกที่ผมได้ยินเสียงปืนนั้น ผมนึกว่าเป็นเสียงดนตรีในไนท์คลับ แต่พอรู้แน่ชัดว่าเป็นอาวุธปืนแล้วนั้น ผมก็รู้ได้เลยล่ะว่ามันไม่ใช่อาวุธขนาดเล็กๆ แน่นอน’ Luis Burbano กล่าว   แผนผังของไนท์คลับ   Janiel Gonzalez อีกหนึ่งผู้รอดชีวิตให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC…

  • อินทรีเจ้าเวหาหวังจะโฉบห่านแคนาดา แต่ห่านแกล้งตายเอาตัวรอด งานนี้อดแดร๊ก!!

    อินทรีเจ้าเวหาหวังจะโฉบห่านแคนาดา แต่ห่านแกล้งตายเอาตัวรอด งานนี้อดแดร๊ก!!

    ถ้าจะมาเล่นลูกไม้ตื้นๆ กับบรรดาแมวอย่างเหมียว ขอเถอะมันใช้ไม่ได้ผลหรอกนะ แต่ถ้าเป็นอินทรีเจ้าเวหา ผู้ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นราชาแห่งนกละก็ แค่ลูกไม้ตื้นๆ มันยังดูไม่ออกเลย ฮร่าๆๆๆๆ นี่ไม่ได้เยาะเย้ยนะ มันคือเรื่องจริง งุงิ และนี่ก็คือภาพถ่ายของอินทรีเจ้าเวหา และห่านแคนาดา ที่ถูกถ่ายขึ้นโดยช่างภาพธรรมชาตินามว่า Lisa Bell ผู้ที่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว ณ ทะเลสาบ Spider Lake ในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา     แต่แล้วจู่ๆ เธอก็ได้พบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เมื่อมีอินทรีหัวล้านตัวหนึ่ง กำลังจะบินลงมาโฉบเจ้าห่านแคนาดา ที่เดินชิวๆ อยู่บนพื้น โดยไม่รู้ตัวสักนิดเลยว่าภัยกำลังจะมาหาแว้วววววว เจ้าอินทรี ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นนกที่มีขนาดใหญ่ และแข็งแรง แถมยังมีกรงเล็บแหลมๆ เอาไว้คอยจับเหยื่อ และเมื่อเทียบกับเจ้าห่าน ขนาดตัวของมันต่างกันลิบลับ งานนี้ Lisa คงคิดว่าเจ้าห่านคงไม่พ้นจากเงื้อมมือของพญาอินทรีเป็นแน่แท้     หลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องราวคงจะจบอยู่ที่อินทรีได้ห่านมาเป็นอาหาร แต่เดี๋ยวๆ มันดูเหมือนจะง่ายใช่ไหมละ แต่มันกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดนะจ๊ะคุณผู้ช๊มมมมม เพราะขณะที่เจ้าอินทรีกำลังจะจับตัวของเจ้าห่านนั้น มันก็รู้ตัวทันซะก่อน แถมยังมีไหวพริบที่รวดเร็ว โดยการล้มตัวลงไปนอนกับพื้น เสมือนว่ากำลังแกล้งตายยังไงยังงั้นเลยละ   ได้เจอลูกไม้ตื้นๆ…

  • เจ้างูสู้สุดชีวิต หลังถูกคางคกเขมือบส่วนท้ายเข้าไปครึ่งตัว แต่ศึกนี้จะจบง่ายขึ้น ถ้าหากไม่มีแมวจอมยุ่งมาร่วมแจม

    เจ้างูสู้สุดชีวิต หลังถูกคางคกเขมือบส่วนท้ายเข้าไปครึ่งตัว แต่ศึกนี้จะจบง่ายขึ้น ถ้าหากไม่มีแมวจอมยุ่งมาร่วมแจม

    เมื่อสัตว์ต่างสายพันธุ์ 2 ชนิดอย่างงู กับคางคกตัวใหญ่ กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด แล้วจู่ๆ ก็มีเจ้าสัตว์หน้าขน ผู้ที่ขึ้นชื่อได้ว่าจะเข้ามายึดครองโลกอย่างแมวเหมียว มาแจมด้วยซะอย่างนั้น งานนี้ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร วันที่ 9 พฤษภาคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยคลิปวีดีโอศึกการต่อสู้ระหว่างคางคก งู และเจ้าเหมียว โดยมีการระบุว่า เจ้างูตัวหนึ่งกำลังพยายามต่อสู้ และดิ้นรนสุดชีวิต เพื่อให้รอดจากการถูกคางคกยักษ์กินเป็นอาหาร     ซึ่งการต่อสู้ในครั้งนี้ดูเหมือนว่าเจ้าคางคกจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ เพราะในปากของมันได้เขมือบส่วนหางของงูตัวไปเกือบครึ่งตัวแล้ว แต่ทว่าจู่ๆ ก็ดั๊นมีสัตว์หน้าขนจอมยุ่งอย่างเจ้าเหมียว มาขอร่วมศึกในครั้งนี้ด้วย ให้ตายเถอะ!! ดูเหมือนศึกนี้จะจบยากซะแล้วสิ     เจ้าเหมียว กำลังจ้องมองไปที่ภาพเบื้องหน้าด้วยความสงสัย ก่อนที่มันจะใช้อุ้งเท้าเขี่ยไปที่หัวของเจ้างู แหมๆๆ กวนจริงๆ     ฝ่ายเจ้างูที่น่าสงสาร ก็ทำเสียงขู่ใส่เจ้าเหมียวดังฟ่อๆ ในขณะที่ส่วนท้ายกว่าครึ่งตัวของมัน ก็ติดคาปากของเจ้าคางคก แต่เจ้าเหมียวก็หาได้แคร์ไม่ ใช้อุ้งเท้าเขี่ยที่งูต่อไป แถมยังเข้าไปดมกลิ่นใกล้ๆ อีกด้วย     เป็นที่น่าเสียดายจริงๆ ที่ศึกในครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่จบลงง่ายๆ เพราะคลิปดับถูกตัดไปซะก่อน ก็เลยไม่ทราบผลสรุปที่แท้จริงว่าใครเป็นผู้ชนะ    …

  • ชาวเน็ตเดือด หลังหนุ่มออสซี่ 3 คน รอดคุกคดี ‘ข่มขืน’ ไกล่เกลี่ยจ่ายเงินให้เหยื่อ 1 ล้านบาท!!

    ชาวเน็ตเดือด หลังหนุ่มออสซี่ 3 คน รอดคุกคดี ‘ข่มขืน’ ไกล่เกลี่ยจ่ายเงินให้เหยื่อ 1 ล้านบาท!!

    คดีข่มขื่นเป็นสิ่งที่เลวร้ายมากสำหรับทุกคน มันเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลา ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในประเทศไทยของเราเองก็มีข่าวคราวที่ไม่ดีแบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ และเป็นที่พูดถึงในเรื่องของบทลงโทษของผู้ก่อคดี ที่ควรได้รับอย่างสาสมกับการกระทำอันชั่วร้ายนี้ เช่นเดียวกันกับที่ต่างประเทศ ซึ่งในกรณีนี้ผู้กระทำความผิดคือ 3 หนุ่มชาวออสเตรเลีย ทำการข่มขืนนักท่องเที่ยวสาววัยรุ่นชาวนอร์เวย์ อายุ 17 ปี ภายในบาร์แห่งหนึ่งในประเทศโครเอเชีย เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2015 ที่ผ่านมา โดยรับสารภาพข้อกล่าวหาแต่โดยดี   Dylan Djohan, Ashwin Kumar และ Waleed Latif ชาวออสเตรเลียที่ข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ในประเทศโครเอเชีย   หนุ่มออสซี่วัย 20 ต้นๆ สามทั้ง 3 ราย ประกอบไปด้วย Dylan Djohan, Ashwin Kumar และ Waleed Latif เพิ่งเดินทางถึง Melbourne หลังจากที่ต่อสู้ในคดีข่มขืนหญิงสาววัยรุ่นในประเทศโครเอเชีย   Dylan Djohan หนึ่งในผู้กระทำการข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ในประเทศโครเอเชีย   โดยหลังจากเกิดเรื่อง ทางตำรวจโครเอเชียก็ได้ทำการยึดหนังสือเดินทางของทั้งสามคนเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว และได้ทำการยื่นคดีให้กับศาลตัดสินความผิด…

  • โพสต์สุดท้ายของหนุ่มอดีตทหารถูกแชร์นับหมื่น หลังตกเป็นเหยื่อของพวกเมาแล้วขับ!!

    โพสต์สุดท้ายของหนุ่มอดีตทหารถูกแชร์นับหมื่น หลังตกเป็นเหยื่อของพวกเมาแล้วขับ!!

    ในช่วงเวลาก่อนที่จะเข้าสู่ปีใหม่นั้น ใครๆ ต่างก็มักจะบอกกับตัวเองว่าปีที่ผ่านมาเราเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เราทำอะไรบ้าง ทำมาดีหรือแย่แค่ไหน และสัญญาว่าในปีหน้าต่อไปจะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม เฉกเช่นเดียวกันกับอดีตทหารผ่านศึกอิรัก Matthew DeRemer     เมื่อช่วงวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2015 ที่ผ่านมา เขาก็ได้ทำการโพสต์รูปภาพพร้อมกับข้อความกินใจ โดยตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะเป็นคนที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป แต่เหตุการณ์กลับผลิกผันภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อมา อดีตทหารวัย 31 ปีผู้นี้ ตกเป็นเหยื่อของพวกเมาแล้วขับ ในระหว่างที่เขากำลังขับรถจักรยานยนต์ในบริเวณใกล้ๆ บ้าน ทำให้เขาเสียชีวิตในวันนั้น     ถึงแม้ว่าตัวเขาจะจากไปแล้ว แต่เรื่องราวของเขายังคงอยู่ในโซเชียลและดำเนินต่อไป ด้วยข้อคิดที่เขาทิ้งเอาไว้ให้ชาวเน็ตได้ระลึกถึงอย่างเช่นรูปภาพพร้อมกับข้อความที่ว่า ‘เราเกิดภายใน 1 วัน เราตายภายใน 1 วัน เราเปลี่ยนแปลงภายใน 1 วัน และเราก็ตกหลุมรักภายใน 1 วัน อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ภายใน 1 วัน’       และเพื่อนๆ ของเขาก็ได้ทำการแชร์โพสต์สุดท้ายที่เป็นข้อความอันทรงพลัง เพื่อเป็นการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน…

  • จดหมายเปิดผนึกถึง ‘ผู้ข่มขืน’ กับความในใจอันบอบช้ำ ‘คุณเป็นอิสระ แต่ฉันถูกจองจำทั้งเป็น’

    จดหมายเปิดผนึกถึง ‘ผู้ข่มขืน’ กับความในใจอันบอบช้ำ ‘คุณเป็นอิสระ แต่ฉันถูกจองจำทั้งเป็น’

    เรื่องของการข่มขืนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีการรณรงค์และต่อต้านมากมายซักเพียงใดก็ตาม ก็ยังคงเป็นปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นรายวัน บางครั้งก็สามารถจับกุมผู้กระทำได้ แต่ส่วนมากแล้วก็ไม่อาจทำอะไรได้เลย เหลือเพียงแต่ร่างกายและจิตใจที่ถูกทำร้าย เป็นแผลลึกที่ฝังอยู่ในจิตใจเหยื่อที่ถูกข่มขืน     ความเจ็บปวดที่ไม่สามารถลบเลือนไปได้เลยนั้น จะต้องได้รับการเยียวยาอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยก็ทำให้รู้สึกได้ว่ายังมีชีวิตอยู่และก้าวข้ามผ่านความทุกข์ทรมานไปให้ได้ อย่างเช่นเรื่องราวของเหยื่อข่มขืนรายหนึ่งที่ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกไปถึงผู้ที่ข่มขืนเธอ ด้วยใจความที่ว่า ‘คุณเป็นอิสระ แต่ฉันถูกจองจำทั้งเป็น’   ภาพประกอบโดย Aleksandra Waliszewska   ในขณะที่ฉันกำลังเลือกเสื้อผ้าเพื่อที่จะไปงานปาร์ตี้ในยามค่ำคืน ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันต้องเป็นคืนที่น่าจดจำ เป็นประสบการณ์ช่วงชีวิตมัธยมอย่างที่มันควรจะเป็น แค่คุณแม่ของฉันก็ยังอดห่วงไม่ได้ ไม่อยากให้ไปงานปาร์ตี้ ‘แม่กลัวว่าลูกจะรับมือมันไม่ไหว’ แต่ฉันก็บอกไปว่า ‘มันจะเป็นคืนที่วิเศษที่สุดอย่างแน่นอน จะได้สัมผัสกับอิสระและชีวิตวัยรุ่นที่มันเป็นของจริง’ ซึ่งจริงๆ แล้วฉันก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่า หนทางข้างหน้าต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร   เขาคนนั้นเป็นสิ่งแรกที่ฉันเจอภายในคืนนั้น ยืนรออยู่ในมุมของห้องด้วยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ เป็นสัตว์ประหลาดที่จะเปลี่ยนชีวิตของฉันไปตลอดกาล ถึงแม้ว่าจะได้ยินเรื่องราวอะไรมามากมาย ฉันก็ยังคงเชื่อว่าความเป็นมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่ดี ดวงตาสีฟ้าเข้มที่มองเข้ามา ทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้เลย และในค่ำคืนนั้นเองเวลาผ่านไปเร็วมากในตอนแรก ภาพมันเบลอไปหมดด้วยฤทธิ์ของยาและเหล้า   เมื่อฉันกลืนเหล้าลงคอไปแล้ว เขาก็เริ่มขยับเข้ามาใกล้มาขึ้น ราวกับอีแร้งที่รอให้เหยื่อหมดลมหายใจ ในไม่ช้าผนังก็เหมือนพังลงมา กดทับร่างกายระหว่างเขากับฉัน แผ่นหลังเริ่มสูญเสียความแข็งแรง ขาของฉันก็อ่อนแรงเช่นกัน   ฉันพยายามตะโกนออกไปว่า ‘ฉันอยากกลับบ้าน ฉันอยากจะนอนแล้ว…

  • ภรรยา ‘Robin Williams’ แฉสาเหตุการตายที่แท้จริงของสามี ปิดตำนาน ‘ตัวตลกแสนเศร้า’ เหยื่อของสื่อทั่วโลก!!!

    ภรรยา ‘Robin Williams’ แฉสาเหตุการตายที่แท้จริงของสามี ปิดตำนาน ‘ตัวตลกแสนเศร้า’ เหยื่อของสื่อทั่วโลก!!!

    อีกหนึ่งเรื่องราวที่เราอยากเอามานำเสนอกัน เกี่ยวกับเรื่องสื่อและโฆษณาชวนเชื่อ ที่มีให้เห็นกันอยู่ทั่วโลก และแน่นอนเวลาจะเชื่ออะไรเราก็ต้องใช้วิจารณญาณ หาข้อมูลจากหลายๆ แหล่งมาประกอบกันนะจ๊ะ เวลามีคนดัง หรือคนมีชื่อเสียงตาย แน่นอนว่าต้องมีการสร้างสตอรี่ของพวกเขา เพื่อให้เกิดเป็นกระแสเต้าข่าวขายไปทั่วโลก และในกรณีของ ‘Robin Williams’ ดาวตลกชื่อดังของโลกที่ฆ่าตัวตาย พวกเขาได้เลือกใช้เรื่องราวของ ‘ตัวตลกผู้แสนเศร้า’ ที่ปิดบังความเศร้าไว้เพื่อสร้างความสุขให้กับคนอื่นๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นทุกข์และไม่เคยมีความสุขเลย…   ทายสิ มันได้ผลมากๆ และแน่นอนคนทั่วโลกเชื่อกันแบบนั้นเป็นตุเป็นตะ   หรือที่จริงแล้วมันอยู่ในพันธุกรรมของพวกเราที่ชอบและคลั่งไคล้ในเรื่องดราม่า?? คราวนี้พายุสื่อก็โหมไฟกันให้แซ่ดว่าดาวตลกผู้น่าสงสารฆ่าตัวตายเพราะโรคซึมเศร้า ในมุมซ่อนเร้นที่เราไม่ได้เห็นกันมาก่อน…แต่ใช่เรื่องจริงหรือเปล่าล่ะ!!? ตำนานเกี่ยวกับตัวตลกแสนเศร้านั้น ที่จริงมีส่วนถูกอยู่ แต่น้อยมาก เพราะล่าสุดทาง Susan Williams ได้มาขอความเป็นธรรมให้กับสามีผู้ล่วงลับของเธอ ว่าเขาไม่ได้ฆ่าตัวตายเพราะเป็นโรคซึมเศร้า แต่เพราะทรมานจากโรคร้ายหลายๆ โรคต่างหาก!!!   ตำนานตัวตลกผู้แสนเศร้า…   ทั้งโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน ภาวะสมองเสื่อม โรคบ้า รวมถึงโรคจิตเภทต่างหาก ส่วนภาวะโรคซึมเศร้านั้น เป็นเพียงสาเหตุเล็กๆ เท่านั้น เพราะอาการอื่นน่ะหนักหน่วงกว่ามากๆ เรื่องที่ว่าเขาเป็นตัวตลกผู้แสนเศร้าที่สลดหดหู่ใจคนทั้งโลกนั้น กลับเป็นเรื่องราวที่เสริมเติมแต่งขึ้นมาให้ไข่คว้าความสนใจจากผู้เสพข่าวเสียมากกว่า ถ้าในมุมมองของตลกแล้ว ถ้ามีคนมาบอกว่าคุณตลกเพราะว่ามีอาการทางจิตที่ผิดปกติ คุณก็จะเกิดความเชื่อมั่นแบบผิดๆ จะไม่ไปหาหมอและขอความช่วยเหลือในเรื่องนั้นๆ…

  • ศิลปินวาดภาพอธิบาย “คำด่า” ที่ไม่เหมาะสม นำไปสู่การลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์

    ศิลปินวาดภาพอธิบาย “คำด่า” ที่ไม่เหมาะสม นำไปสู่การลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์

    ทุกวันนี้เราจะเห็นการคอมเม้นต์ในข่าวต่างๆนานา ซึ่งบางคอมเม้นต์ก็เน้นไปในทางคำด่า ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายในข่าวนั้นบางทีก็กลายเป็นสิ่งที่ให้คนในเน็ตได้ระบายอารมณ์ออกมา แทนที่จะเข้าไปให้กำลังใจ ศิลปินท่านหนึ่งชื่อว่า Katarzyna Babis เป็นนักเรียนศิลปะชาวโปแลนด์จึงตัดสินใจที่จะวาดการ์ตูนชุดหนึ่งขึ้นมาเพื่อสะท้อนปัญหาเหล่านี้โดยอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เขากล่าวว่า “เพื่อนของผมเคยมีประสบการณ์เหล่านี้มาแล้ว และผมก็ต้องการจะช่วยพวกเขา ผมต้องการที่จะเปลี่ยนเพื่อนสังคมออนไลน์ให้กลายเป็นบางสิ่งที่มีความหมาย และเพื่อให้รู้ว่าคุณก็ไม่ใช่คนเดียวที่กำลังประสบปัญหานี้”   “มีคนข่มขืนเธอคนนี้เหรอ!? หน้าแบบนี้ควรจะขอบคุณนะ” การข่มขืนไม่ใช่เรื่องน่ายินดี การทำเรื่องราวอันน่าสะเทือนใจเกี่ยวกับข่มขืนให้กลายเป็นเรื่องน่าขำ ยิ่งทำให้ผู้ร้ายไม่รู้สึกผิด และกลายเป็นว่าเหยื่อกลายเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว อย่าช่วยคนร้ายด้วยการสร้างค่านิยมนี้เลย เพราะมันจะส่งผลร้ายต่อเหยื่ออีกมากมาย   “ตั้งสติไว้ ใช้เวลาทำงานไป เดี๋ยวโรคซึมเศร้าก็จะหายไปเอง” โรคซึมเศร้าหรือภาวะซึมเศร้า ไม่ใช่อาการของอารมณ์เบื่อๆ ไม่มีแรงทำอะไร แต่โรคซึมเศร้าคืออาการป่วยชนิดหนึ่งที่รบกวนการทำงานของสมอง ซึ่งเป็นโรคที่ต้องการการรักษาทางการแพทย์ ไม่ควรที่จะเอามาพูดว่าคนอื่นที่เศร้าซึ่งเกิดจากอารมณ์   “อย่าทำตัวเหมือนผู้หญิงหน่อยเลย” คำว่า ผู้หญิง ไม่ควรที่จะเอามาใช้เป็นด่าเลย ผู้ชายเป็นเพศที่มองได้หลากหลายมุม การที่เราเห็นคุณพ่อเลี้ยงลูกนั้นถือเป็นเรื่องปกติ เราควรยินดีที่ได้เห็นผู้ชายทำหน้าที่นั้นด้วย และการใช้คำว่าผู้หญิงเป็นคำด่า ถือเป็นการเหยียดเพศอีกทางหนึ่ง   “อย่าทำตัวเป็นผู้แพ้หน่อยเลย” ไม่ใช่เฉพาะผู้หญิงเท่านั้นกลายเป็นเหยื่อ ผู้ชายก็ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงและข่มขืนได้เหมือนกัน และสังคมส่วนมากจะมองคนเหล่านี้ว่าเป็น Looser หรือ ผู้แพ้ การขอความช่วยเหลือคือเรื่องที่กล้าหาญ ไม่ใช่เรื่องที่แสดงถึงความอ่อนแอ   “ผ้าพันคอโคตรเกย์เลยว่ะ” คำว่า “เกย์”…

  • ฉลามตัวนี้ ถูกวาฬเพชฌฆาตกว่า 16 ตัวไล่เขมือบ สุดท้ายมันจึงยอมกระโดดขึ้นบนโขดหินเพื่อหนีตาย

    ฉลามตัวนี้ ถูกวาฬเพชฌฆาตกว่า 16 ตัวไล่เขมือบ สุดท้ายมันจึงยอมกระโดดขึ้นบนโขดหินเพื่อหนีตาย

    ‘ฉลาม’ แค่พูดชื่อขึ้นมาหลายคนก็กลัวกันแล้วใช่ไหมละ เพราะ ‘ฉลาม’ เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ที่ดุร้ายและน่ากลัว แต่มาคราวนี้ดูเหมือนเจ้าฉลามจะเป็นฝ่ายน่าสงสารเสียมากกว่า เพราะเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้เผยคลิปวีดีโอของเจ้าฉลามตัวหนึ่ง ที่กำลังถูกวาฬเพชฌฆาตกว่า 16 ตัวไล่ล่า เพื่อกินเป็นอาหาร งานนี้เจ้าฉลามจึงตัดสินใจกระโดดขึ้นบนโขดหินริมทะเล เพื่อเอาชีวิตรอด     ซึ่งคลิปวีดีโอนี้ถูกถ่ายขึ้นโดย Dr. Ingrid Visser ผู้เชี่ยวชาญด้านวาฬเพชฌฆาต กับเพื่อนตากล้องชาวญี่ปุ่นกำลังถ่ายทำวิดีโอวาฬเพชฌฆาตกำลังล่าฉลามและปลากระเบนมาเป็นเหยื่อ     แต่จู่ๆ พวกเขาก็เห็นปลาฉลามตัวหนึ่ง กำลังว่ายน้ำหนีฝูงวาฬเพชฌฆาตกว่า 16 แถมยังกระโดดขึ้นมานอนเกยตื้นบนโขดหินแข็งๆ หินริมทะเล เพื่อหวังรอดตายจากฝูงวาฬ     เมื่อ Dr. Ingrid และเพื่อนตากล้องเห็นดังนั้น พวกเขาก็รีบให้ความช่วยเหลือเจ้าฉลามผู้โชคร้าย โดยการลากมันกลับลงทะเลทันที จนทำให้มันรีบว่ายน้ำหนีฝูงวาฬเพชฌฆาตอย่างรวดเร็ว       อย่างไรก็ตามแม้ว่าเจ้าฉลามตัวนี้จะสามารถรอดชีวิตกลับไปได้ แต่เพื่อนๆ ของมันอีก 5 ตัว ต้องกลายไปเป็นเหยื่อของฝูงวาฬเพชฌฆาตไปซะแล้ว ที่มา…

  • หาดูยาก!! ชมภาพเจ้ากบไซส์ยักษ์ กำลังเขมือบนกบนตันไม้ได้โหดสุดๆ (ตัวมันใหญ่มากจริงๆ นะ)

    หาดูยาก!! ชมภาพเจ้ากบไซส์ยักษ์ กำลังเขมือบนกบนตันไม้ได้โหดสุดๆ (ตัวมันใหญ่มากจริงๆ นะ)

    เวลาที่เจ้ากบอ๊บๆ กินอาหาร มันมักจะใช้ลิ้นจับกินเหยื่อจำพวกแมลงตัวน้อยๆ ใช่ไหมละ แต่จะมีใครเชื่อหรือไม่ว่า เจ้ากบบางตัว มันสามารถจับนกกินเป็นอาหารได้ ซึ่งนกก็ไม่ใช่ว่าจะตัวน้อยๆ เลยนะ แต่ถ้าหากใครที่ยังไม่เชื่อ ในวันนี้เราได้นำภาพเหล่านั้น มาให้เพื่อนๆ ทุกคน ได้เห็นกับตาตัวเองแล้วเมี๊ยว!!     และนี่คือภาพชวนตะลึงที่เว็บไซต์ tt.mop.com  จากประเทศจีน ได้เผยให้เห็นว่าเจ้ากบไซส์ยักษ์ตัวหนึ่ง กำลังห้อยตัวต่องแต่งเขมือบเจ้านกสีดำตัวพอๆ กับมันอยู่บนต้นไม้ โหย…เห็นแล้วน่าขนลุกจริงๆ     ดูสิ…มันกำลังใช้ขาหน้าของมันจับเหยื่อเข้าปาก ส่วนขาหลังก็ใช้เกาะต้นไม้ และห้อยตัวลงมา โอ๊ยยยย…นี่เอ็งเป็นกบหรือค้างคาวเนี่ย     งานนี้เรียกได้ว่ามันได้สร้างความตะลึงให้กับคนที่ได้เห็นเป็นอย่างมาก แถมยังทำให้แมวน่ารักๆ อย่างเหมียวถึงกับระแวงไปด้วย เพราะไม่รู้ว่าอีกหน่อยมันจะจับแมวกินเป็นอาหารหรือเปล่า โหย…แค่คิดก็ขนลุกแล้วนะเนี่ย ที่มา : tt.mop, kapook