Tag: เก่าแก่

  • “The Oldest Gentleman” ชุดดำน้ำที่เก่าแก่ที่สุดจากศตวรรษที่ 18 ทำขึ้นจากหนังและไม้

    “The Oldest Gentleman” ชุดดำน้ำที่เก่าแก่ที่สุดจากศตวรรษที่ 18 ทำขึ้นจากหนังและไม้

    หากใครยังไม่ได้ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Raahe Museum ในประเทศฟินแลนด์แล้วล่ะก็ ต้องบอกเลยว่าไอเทมเด็ดของที่นั่นก็คือเจ้า “The Old Gentleman” หรือชุดนักดำน้ำที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยพบมายังไงล่ะ ชุดดำน้ำ หรือ ชุดประดาน้ำ ดังกล่าวถูกทำขึ้นราวๆ ศตวรรษที่ 18 ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ได้รับชุดดำน้ำชิ้นนี้มาจากการบริจาคของกัปตัน Leufstadius ในช่วงปี 1860 ผู้ที่สร้างชุดนี้ขึ้นมานั้นนับได้ว่ามีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการดำน้ำที่ล้ำหน้ามากเมื่อเทียบกับยุคสมัย เจ้าชุด The Oldest Gentleman จึงกลายเป็นชุดเต็มตัวสำหรับสวมดำน้ำแทน Diving Bell อุปกรณ์ครอบดำน้ำแบบดั้งเดิม     วิธีการสวมใส่ก็คือ ผู้สวมใส่จะแทรกตัวเข้าไปในชุดนี้ทางช่องด้านหน้า แล้วก็ทำการปิดช่องให้แน่นแล้วม้วนเก็บติดกับเข็มขัด ส่วนอากาศหายใจนั้นจะถูกส่งผ่านท่อไม้ที่เชื่อส่วนศีรษะเอาไว้ ส่วนอากาศที่หายใจออกมาแล้วจะถูกปล่อยทิ้งทางท่อเล็กๆ ด้านหลังของชุด ชุดนี้ทำให้ผู้ดำน้ำสามารถดำดิ่งลงไปในใต้น้ำเป็นระยะเวลาสั้นๆ และดำลงไปได้ไม่ลึกเท่าใดนัก เนื่องจากชุดไม่ได้กันน้ำอย่างสมบูรณ์และไม่สามารถทนต่อแรงดันสูงได้ ชุดนี้จึงมีประโยชน์มากสำหรับลูกเรือที่จะดำน้ำลงไปตรวจใต้ท้องเรือโดยที่ไม่ต้องเทียบท่าและพลิกลำเรือขึ้น วิเคราะห์จากลักษณะการสร้างและหลักฐานอื่นๆ เชื่อกันว่าชุด The Oldest Gentleman นี้มีต้นกำเนิดจากประเทศฟินแลนด์ แต่นี่ก็เป็นเพียงการสันนิษฐานเท่านั้น   . . . . .   ที่มา: designyoutrust และ museum-of-artifacts

  • หนังสือจากปี 1931 ที่จะบอกคุณว่า คนเราสามารถถูก “ไฟช็อต” ได้ด้วยวิธีใดบ้าง!

    หนังสือจากปี 1931 ที่จะบอกคุณว่า คนเราสามารถถูก “ไฟช็อต” ได้ด้วยวิธีใดบ้าง!

    หลังมนุษย์ค้นพบพลังงานไฟฟ้า ชีวิตของมนุษย์ก็ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นอย่างทวีคูณ แต่ขณะเดียวกันชีวิตก็มีความเสี่ยงมากขึ้นเช่นกันเพราะมีวิธีจบชีวิตเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งวิธีนั่นก็คือ การถูกไฟฟ้าช็อตตาย นั่นเอง ทั้งนี้ จึงมีคำแนะนำและคำตักเตือนถึงเรื่องการใช้กระแสไฟฟ้ามาตั้งแต่สมัยโบราณ และวันนี้เราก็จะพาเพื่อนๆ ไปชมหนังสือที่ชื่อว่า Elektroschutz in 132 Bildern จากปี 1931 หนังสือเล่มนี้ได้รวมเอา 132 วิธีที่สิ่งมีชีวิตสามารถถูกไฟฟ้าช็อต และเราก็ได้หยิบเอามา 20 ตัวอย่าง ไปดูกันเลยว่าเราจะสามารถถูกไฟช็อตได้ด้วยวิธีใดบ้าง   1. ฉี่รดสายไฟ   2. สายไฟฟ้าขาดตรงจุดที่สัมผัสกับโลหะ   3. ฉี่รดสายไฟอีกแล้ว   4. ขณะรีดนมวัวก็อาจถูกไฟฟ้าช็อตได้นะ   5. จะชงชาหรือทำอะไรก็มีโอกาสถูกช็อตได้ทั้งนั้น   6. โคมไฟตัวดี   7. ทางที่ดีอย่าสัมผัสสายไฟฟ้าแรงสูง   8. แม้จะรีดผ้าก็มีโอกาสเสี่ยง   9. เดินเท้าเปล่าบนพื้นดิน   10. หลายครั้งที่เห็นหนูถูกไฟช็อตตายก็อาจจะเป็นเพราะแบบนี้   11. อย่าใช้โลหะแหย่ปลั๊กไฟด้วยมือเปล่า   12.…

  • พบ “สมุดคณิตฯ” ของเด็กจากศตวรรษที่ 18 พร้อมความอัศจรรย์ที่ J.K. Rowling ยังชม!

    พบ “สมุดคณิตฯ” ของเด็กจากศตวรรษที่ 18 พร้อมความอัศจรรย์ที่ J.K. Rowling ยังชม!

    แน่นอนว่าในพิพิธภัณฑ์นั้นจะต้องมีสิ่งของเก่าๆ ซึ่งเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์เก็บไว้มากมาย และก็ต้องยอมรับเลยว่าสิ่งของบางอย่างที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนก็ทำให้คนปัจจุบันอย่างเราถึงกับอึ้งได้เหมือนกัน อย่างเช่นล่าสุดที่ Museum of English Rural Life พิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษได้ค้นพบสมุดบันทึก (สมุดคณิตศาสตร์) จากอดีต 234 ปีที่แล้ว… สมุดเล่มดังกล่าวเป็นของ Richard Beale เด็กชายวัย 13 ปีจากเมื่อกว่าสองร้อยปีที่แล้ว ซึ่งสมุดเล่มดังกล่าวเป็นหนึ่งในบันทึกทั้ง 42 ชิ้นจากครอบครัว Beale ที่ทางพิพิธภัณฑ์ค้นพบ   Museum of English Rural Life ได้ทำการจัดเก็บเอกสารและบันทึกเก่าๆ ให้เรียบร้อย   ขณะที่พวกเขากำลังจัดการเอกสารและบันทึกเก่าๆ อยู่นั้น พวกเขาก็พบสมุดบันทึกของเด็กคนหนึ่งจากราว 200 กว่าปีที่แล้ว สิ่งที่น่าสนใจของสมุดบันทึกเล่มดังกล่าวก็คือ มันถูกเขียนและวาดด้วยลายเส้นอันงดงามจนเกินจะเชื่อว่าเป็นฝีมือของเด็กหนุ่มวัย 13 ปี   นี่คือโฉมหน้าของสมุดบันทึก (การเรียน) จาก 234 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นของเด็กชายวัย 13 ปี ภายในไม่ได้มีแต่การจดตัวเลขคณิตศาสตร์หรือสมการเท่านั้น แต่กลับมีความงดงามแฝงอยู่อย่างน่าอัศจรรย์   นี่คือลายมือของเด็กหนุ่มวัย 13 ปีจากศตวรรษที่…

  • 10 วิธีการรักษาทางการแพทย์ “แปลกๆ” ในอดีต โชคดีแล้วที่เราไม่ได้เกิดมาในยุคนั้น…

    10 วิธีการรักษาทางการแพทย์ “แปลกๆ” ในอดีต โชคดีแล้วที่เราไม่ได้เกิดมาในยุคนั้น…

    โรคภัยไข้เจ็บนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอกับมนุษย์เรา แต่โชคดีที่มนุษย์นั้นสามารถหาทางรักษาโรคต่างๆ ได้ แต่กว่าจะค้นหาวิธีการรักษาแต่ละโรคได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย ทุกวันนี้ เพียงการรักษาด้วยการฉีดยาหรือผ่าตัดสำหรับบางคนก็อาจจะร้อง “ยี้” แล้ว แต่ลองย้อนกลับไปสมัยก่อนที่การแพทย์กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาล่ะก็ รับรองว่าการรักษาโรคไม่ได้ทำง่ายๆ เพียงแค่ฉีดยาแน่นอน ไปชมกันเลยว่าในสมัยก่อนการรักษาโรคต่างๆ กว่าจะประสบความสำเร็จแบบทุกวันนี้ได้ต้องผ่าน ความเชื่อผิดๆ  แบบไหนมาบ้าง…??   1. รักษาด้วยการ “มีเซ็กส์กับชาย/หญิงบริสุทธิ์” ครั้งหนึ่งเมื่อคุณมีโรคติดต่อทางเพศ มีความเชื่อว่าหากไปมีเพศสัมพันธ์กับชาย/หญิงบริสุทธิ์ โรคจะถูกส่งต่อไปสู่คนผู้นั้น และคุณก็จะหาย (แถมทุกวันนี้บางที่ก็ยังเชื่อแบบนี้อยู่เลย)   2. รักษากามโรคด้วย “โรคมาลาเรีย” ครั้งหนึ่ง แพทย์ส่วนใหญ่เชื่อว่าการฉีดเชื้อโรคมาลาเรียเข้าไปในผู้ที่ป่วยเป็นโรคซิฟิลิสจะทำให้อาการไข้สามารถทำลายเชื้อของทั้งสองโรคได้ แต่ผลสุดท้ายคนไข้ก็ตายด้วยโรคมาลาเรีย   3. หนูตายรักษาได้แทบทุกอย่าง ตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณซากหนูที่ตายนั้นจะถูกนำมาใช้รักษาอาการปวดฟัน ส่วนในสมัยเอลิซาเบธ ศพหนูจะถูกผ่าครึ่งแล้วนำมารักษาหูด นอกจากนี้หนูตายตามรายงานยังบอกว่าเคยถูกนำมาใช้รักษาอาการไอกรน โรคหัด ฝีดาษ และการฉี่รดที่นอนอีกด้วย   4. เหล็กแหลมร้อนรักษาริดสีดวง ในสมัยโบราณ นักบวชกลุ่มหนึ่งมีความเชื่อการใช้เหล็กแหลมร้อนเสียบเข้าไปในรูทวารนั้นสามารถรักษาอาการริดสีดวงทวารได้   5. การใช้ปรอทเหลว ในสมัยกรีกและเปอร์เซียโบราณมีการใช้ปรอทเหลวเป็นเครื่องทาคล้ายยาขี้ผึ้ง ส่วนชาวจีนโบราณใช้เป็นยาอายุวัฒนะ และมีการใช้เป็นยาวิเศษอีกหลายแห่ง แต่ความจริงแล้วปรอทเหลวมีแต่จะนำความตายมาให้   6.…

  • คุณตาขุดเจอ ‘บ่อน้ำเก่าแก่’ อยู่ในบ้านของตัวเอง และมันอยู่ใต้นั้นมาตลอด 30 ปี!?

    คุณตาขุดเจอ ‘บ่อน้ำเก่าแก่’ อยู่ในบ้านของตัวเอง และมันอยู่ใต้นั้นมาตลอด 30 ปี!?

    ใครเล่าจะรู้ว่าบ้านที่อาศัยอยู่มานานนับ 30 ปีจะมีห้องลับใต้ดินซ่อนอยู่!?   เรื่องของคุณตา Colin Steer และภรรยาคุณ Vanessa วัย 67 พวกเขาทำงานเก็บหอมรอมริบเพื่อซื้อบ้านในฝันมาเมื่อปี 1980 แต่อยู่ไปอยู่มาก็เพิ่งมาทราบทีหลังว่า มันมีบ่อน้ำซ่อนอยู่ที่ใต้โซฟามาโดยตลอด!? ครั้งแรกที่พวกเขาพบเจอเจ้าบ่อนี้เป็นตอนที่ยังมีลูกเล็กๆ อยู่ แต่ไม่มีเวลาว่างพอที่จะตรวจสอบว่าคืออะไร จนกระทั่งคุณตา Colin เกษียณจากการทำงาน ถึงได้เริ่มลงมือขุดมัน     คุณตาขุดลงไปลึก 5 เมตร ด้วยความหวังที่ว่าอาจจะมี ‘กล่องสมบัติอย่างทองหรือเหรียญโบราณ’ ซ่อนอยู่ด้านใต้ แต่กลับกลายเป็นว่ามันมีแค่บ่อน้ำเก่าแก่เท่านั้น     “ผมฝันมาตลอดว่าจะขุดมันลงไป เพื่อหากล่องสมบัติหรืออะไรประมาณนั้น พอเกษียณจากงานผมก็เริ่มลงมือ” “มันน่าตกใจมากๆ เลยล่ะเพราะมันคือบ่อน้ำแบบโบราณ ที่มีความกว้างประมาณ 30 นิ้ว น่าจะเอาไว้ทำฟาร์มของคนในอดีต ผมไม่รู้หรอกนะว่ามันมีอายุเท่าไหร่”     “มีครั้งหนึ่งที่ขุดลงไปแล้วเจอแท่งอะไรสักอย่าง ตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นดาบ แต่จริงๆ มันเป็นแค่แท่งไม้เท่านั้น”     “แต่ผมก็ยังคงจะหาต่อไปว่าข้างใต้นั้นมันมีอะไรอยู่กันแน่ มันทำให้ความรู้สึกตื่นเต้นแบบเด็กๆ กลับมาอีกครั้ง” คุณตาเล่า     ที่มา…

  • จู่ๆ ก็มี “รูปริศนา” โผล่ในสวนหลังบ้าน ขุดลงไปเจออิฐ? มันคืออะไร? ชาวเน็ตช่วยไขปริศนาที…

    จู่ๆ ก็มี “รูปริศนา” โผล่ในสวนหลังบ้าน ขุดลงไปเจออิฐ? มันคืออะไร? ชาวเน็ตช่วยไขปริศนาที…

    เป็นคุณจะงงกันไหมล่ะที่จู่ๆ ในสวนของบ้านคุณกลับมี รูประหลาด เกิดขึ้นมาเฉยๆ? อย่างเช่นชายหนุ่มคนหนึ่งที่ในสวนหลังบ้านของเขานั้นมีรูประหลาดเกิดขึ้น เขาได้แต่งวยงงว่ามันคือรูอะไรกันแน่ และสิ่งที่เขาเลือกจะทำก็คือ เก็บภาพมันเอามาถามชาวเน็ตว่ามันคือรูอะไรกันแน่   รูอิหยัง!!?   ท่าจะลึกน่าดูเลยนะเนี่ย   ชายคนนี้โพสต์ภาพลงบนอินเทอร์เน็ตแล้วอธิบายว่า “จู่ๆ มีรูอยู่หลังบ้านผม และพอเข้าไปดูใกล้ๆ ผมเห็นว่ามันมีกำแพงอิฐอยู่ข้างใน ความลึกน่าจะราวๆ 2 เมตรและกว้างราวๆ 1.2 เมตร บ้านผมสร้างในปี 1888 และตั้งอยู่ในชนบทที่ชื่อว่า Suffolk ประเทศอังกฤษ ช่วยบอกทีว่านี้คือรูอะไรและมีไว้ทำไม?”   เขาขุดลงไปจนเจอปล่องทรงกระบอกที่มีผนังเป็นอิฐ   แถมยังเจอฝาปิดที่เป็นหินอยู่ด้านล่างอีกด้วย   ตอนนี้ทุกคนเริ่มจริงจังกับการค้นหาว่าหลุมดังกล่าวมันคืออะไรกันแน่   อีกสิ่งที่เจอภายในหลุมก็คือ “กระดุมโลหะ”   ดูแนวการวางของอิฐ และความกว้างประมาณ 1.2 เมตร มันมีไว้ใช้ทำอะไรกันนะ?   “มีท่อที่ดูเหมือนเชื่อมจากบ้านมายังบ่อนี้”   สุดท้ายพวกเขาก็ขุดจนกระทั่งลงมายังก้นบ่อได้   นี่คือสิ่งที่พบอยู่ด้านล่างของหลุม   ท่อหรือหลอดอะไรก็ไม่รู้ .   ปริศนานี้เขาคงต้องพึ่งสมองชาวเน็ตให้ช่วยกันแก้ไข…

  • 11 ฟอสซิลจากยุคดึกดำบรรพ์ที่ “แปลกและเจ๋งที่สุด” เท่าที่เคยมีการค้นพบมาเลยล่ะ!!

    11 ฟอสซิลจากยุคดึกดำบรรพ์ที่ “แปลกและเจ๋งที่สุด” เท่าที่เคยมีการค้นพบมาเลยล่ะ!!

    ฟอสซิล ถือเป็นหลักฐานทางโบราณคดีชั้นยอดที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ นักโบราณคดี หรือนักศึกษาซากดึกดำบรรพ์นั้น เข้าถึงใจยุคสมัยแรกเริ่มได้เป็นอย่างดี หลายครั้งที่ฟอสซิลทำให้เราเห็นว่าโลกเราสมัยโบราณนั้นมีสิ่งชีวิตประเภทใดอาศัยอยู่บ้าง และครั้งนี้มันไม่ธรรมดาตรงนี้ เราได้รวบรวมฟอสซิล “สุดเท่” ที่เห็นได้ไม่ง่าย มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง…   1. ฟอสซิลหางไดโนเสาร์ นี่เป็นฟอสซิลที่หายากที่สุดเลยล่ะ นักวิทยาศาสตร์และนักศึกษาซากดึกดำบรรพ์ ได้แกะรอยไปจนพบกับอัญมณีสีเหลืองน้ำตาล ที่เรียกว่า “อำพัน” ซึ่งมีซากขนนกอยู่ข้างในนั้น จึงเข้าใจได้ว่า ในยุคไดโนเสาร์ มีไดโนเสาร์ชนิดหนึ่งที่มีหางปกคลุมไปด้วยขนคล้ายขนนก ที่มา: http://www.sci-news.com/paleontology/feathered-dinosaur-tail-burmese-amber-04437.html   2. ฟอสซิลวิลอซิแรปเตอร์ที่กำลังต่อสู้กับเหยื่อของมันอยู่ หลักฐานชิ้นนี้กลายเป็นฟอสซิล ขณะที่ไดโนเสาร์วิลอซิแรปเตอร์กำลังโจมตีโปรโตเซอราทอปส์ แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะยังไม่รู้แพ้รู้ชนะกัน แรปเตอร์นั้นใช้กรงเล็บแทงไปที่ตัวโปรโตเซอราทอปส์ กลับกันเจ้าโปรโตเซอราทอปส์ ก็ใช้ขากรรไกรอันทรงพลังกัดแขนของแรปเตอร์จนแตกหัก แต่ยังไม่ทันรู้ผลทั้งคู่ก็ต้องตายและกลายเป็นฟอสซิลหลังเนินทรายถล่มลงมาทับร่าง ที่มา: https://www.newscientist.com/article/mg22530090-800-stunning-fossils-dinosaur-death-match/   3. ปลาผู้ล่าเทอโรแดคทิลลัส ตายขณะคาบเหยื่อ จากตำแหน่งบนฟอสซิล สามารถสันนิษฐานได้ว่า ไดโนเสาร์ชนิดปีกเทอโรแดคทิลลัสกำลังบินลงมาเพื่อหาปลาเล็กเป็นเหยื่อ แต่กลับถูกปลาขนาดใหญ่กระโดดงับ จนทั้งคู่จมลงสู่ใต้ทะเล ที่มา: https://scitechdaily.com/pterosaur-rhamphorhynchus-being-eaten-by-ganoid-fish-aspidorhynchus-fossilized/   4. การล่าเหยื่อของแมงมุมเมื่อ 100 ล้านปีก่อน ในฟอสซิลอำพัน แมงมุมตัวโตกำลังจับตัวต่อเป็นอาหาร ร่องรอยบนฟอสซิลถูกเก็บไว้อย่างดีในอัญมณียางไม้สีเหลืองน้ำตาลที่เรียกกันว่า…

  • ชุดภาพโบราณสถาน เหลือเพียงซากในปัจจุบัน แต่ให้จินตนาการช่วยซ่อมแซม และเติมเต็มได้

    ชุดภาพโบราณสถาน เหลือเพียงซากในปัจจุบัน แต่ให้จินตนาการช่วยซ่อมแซม และเติมเต็มได้

    ตามสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ด้วยความที่อายุอานามไม่ใช่น้อยๆ แน่นอนว่าสภาพของสถานที่เหล่านั้นคงไม่สมบูรณ์แบบ 100% เหลือเพียงแค่ซากที่ถูกอนุรักษ์ไว้เท่าที่จะทำได้ ส่วนภาพที่สมบูรณ์แบบ ก็คงมีแต่ในภาพจำลอง   วิหารพาร์เธนอน, กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ   เหล่านักท่องเที่ยวผู้เข้าเยี่ยมชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ จะต้องคอยตามเก็บรายละเอียดความรุ่งเรืองในยุคเก่าแก่เช่น วิหารพาร์เธนอน, พีระมิดแห่งดวงอาทิตย์ และวิหารลักซอร์ ซึ่งโปรเจกต์ NeoMam ก็เกิดมาเพื่อเติมเต็มในส่วนที่คุณอาจจะมองไม่เห็น ให้เกิดเป็นภาพที่เด่นชัดขึ้นมา   พีระมิดแห่งดวงอาทิตย์, ประเทศเม็กซิโก   Largo di Torre Argentina, กรุงโรม ประเทศอิตาลี   พีระมิด Nohoch Mul, ประเทศเม็กซิโก   โปรเจกต์นี้ได้ทำการคืนชีพโบราณสถานต่างๆ มากมายในรูปแบบของภาพ Gif ภายในเวลาไม่กี่วินาที ความเสียหายทั้งทางธรรมชาติและฝีมือมนุษย์จะถูกกำจัดออกไป รวมไปถึงความผุพังตามกาลเวลาก็จะหายไปเช่นกัน ทำให้สถานที่เหล่านี้ถือกำเนิดใหม่ ด้วยสถานะที่สิ่งก่อสร้างนั้นเคยมีความรุ่งโรจน์ในอดีตกาล   วิหารลักซอร์, เมืองลักซอร์ ประเทศอียิปต์   Temple of Jupiter Optimus Maximus, กรุงโรม ประเทศอิตาลี  …

  • สถาปนิกเปลี่ยน ‘โบสถ์’ อายุ 94 ปี ให้กลายเป็น ‘บ้าน’ ผสมผสานความใหม่-เก่าได้อย่างลงตัว

    สถาปนิกเปลี่ยน ‘โบสถ์’ อายุ 94 ปี ให้กลายเป็น ‘บ้าน’ ผสมผสานความใหม่-เก่าได้อย่างลงตัว

    ใครเล่าจะคิดว่าโบสถ์เก่าๆ ที่มีอายุมากว่า 94 ปี จะถูกนำมารีโนเวตใหม่ทำเป็นบ้านสไตล์เก๋ไก๋ผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความเก่าแก่ของโบสถ์ชาวคริสต์ได้อย่างลงตัว ผลงานการรีโนเวตโบสถ์ให้กลายเป็นบ้านสุดหรูนี้เป็นฝีมือของบริษัท DAHA ที่ทำเกี่ยวกับงานออกแบบสถาปัตยกรรมต่างๆ และผลที่ได้มันช่างสวยงามจับใจเห็นแล้วอยากจะขนข้าวขนของย้ายเข้าไปอยู่เลยทีเดียว Church House หรือบ้านโบสถ์ตั้งอยู่ในเมือง Brisbane ประเทศออสเตรเลีย โดยบ้านหลังนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว แต่ประกอบไปด้วยสถานที่ทำกิจกรรมมากมาย     ยกตัวอย่างเช่นสระว่ายน้ำ, สนามเทนนิส, สนามบาสฯ, บาร์วิสกี้, มีโรงรถใต้ดิน และอุโมงค์ใต้ดิน ไอเดียหลักของการออกแบบบ้านหลังนี้คือความทันสมัยที่มีความเชื่อมโยงกับความเก่าแก่ของโบสถ์ดั้งเดิม     แต่เดิมโบสถ์หลังนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1924 ถ้านับมาถึงปัจจุบันก็น่าจะมีอายุ 94 ปีแล้ว ปัจจุบันได้ถูกทิ้งร้างไป   .   มุมว่ายน้ำ กับได้ชมวิวไปพร้อมๆ กัน   นั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ มองพระอาทิตย์ตกที่มุมนี้คงจะฟินน่าดู . .   บรรยากาศภายในตัวบ้านที่ดูแล้วทันสมัยมากๆ   มุมรับประทานอาหาร . .   มุมนั่งชิลที่ระเบียง   บรรยากาศในโบสถ์ที่ถูกรีโนเวตใหม่   สภาพโดยรวมมองจากด้านนอก…

  • 10 กิจกรรมสร้างความบันเทิงจากอดีต ที่ผู้คนต่างเอ็นจอยไปกับมัน แต่แปลกสำหรับคนยุคปัจจุบัน

    10 กิจกรรมสร้างความบันเทิงจากอดีต ที่ผู้คนต่างเอ็นจอยไปกับมัน แต่แปลกสำหรับคนยุคปัจจุบัน

    ทุกวันนี้คนเรามักจะหันหน้าเข้าหาโทรทัศน์ สมาร์ทโฟน โซเชียลมีเดีย วิดีโอเกม หรือคอมพิวเตอร์ เมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกเบื่อและต้องการความบันเทิงให้กับจิตใจ พร้อมกับคิดว่าเทคโนโลยีเหล่านั้นช่างเป็นสิ่งให้ความบันเทิงที่ดีเสียจริงๆ แล้วเคยสงสัยหรือไม่ว่า ก่อนหน้าที่เทคโนโลยีความบันเทิงอย่างที่กล่าวไปจะถูกสร้างขึ้น คนสมัยก่อนเขาทำอะไรเพื่อให้ได้รับความบันเทิงกันบ้าง เอาล่ะครับวันนี้ #เหมียวฝึกหัดหมายเลข21 จะพาทุกท่านไปรับชม 10 กิจกรรมเพื่อความบันเทิงของคนสมัยก่อนว่าเขาทำอะไรกันบ้าง บอกเลยว่าไม่ค่อยคำนึงถึงมนุษยธรรมซักเท่าไหร่…   1. เกมกระดาน   เกมกระดานชิ้นแรกของโลกถูกคิดค้นขึ้นตั้งแต่ยุคโบราณแล้ว เช่น เกมกระดานจากประเทศอียิปต์ที่เรียกว่า Senet เป็นเกมที่ประกอบไปด้วยกระดานและหมากเดินที่เรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุด กฎของเกมยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ที่ทราบแน่นอนก็คือเป็นเกมสำหรับเล่น 2 คน คล้ายกับหมากรุกสมัยปัจจุบันนี่แหละ     ตามตำนานเชี่อว่าเกม Senet ถูกสร้างขึ้นโดย Thoth เทพแห่งปัญญา ผู้ที่ท้า Khonsu เทพแห่งดวงจันทร์ให้แข่งขันกับตน เมื่อ Thoth ชนะจึงขอให้ในหนึ่งปีมีจำนวนวันเพิ่มขึ้น 5 วันเพื่อให้ Nut เทพีแห่งท้องฟ้าหลุดพ้นจากคำสาปของเทพ Ra และสามารถให้กำเนิดบุตรได้   2. การประลองนักสู้ Gladiator   พวกเราอาจจะพอรู้เรื่องราวเกี่ยวสิ่งนี้กันมาบ้างแล้ว…

  • นักวิทย์พบฟอสซิล ‘แมงมุม’ อายุกว่า 100 ล้านปีในอำพัน สภาพสมบูรณ์ แถมมีหางด้วย!?

    นักวิทย์พบฟอสซิล ‘แมงมุม’ อายุกว่า 100 ล้านปีในอำพัน สภาพสมบูรณ์ แถมมีหางด้วย!?

    เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 สำนักข่าว Daily Mail ได้รายงานถึงเรื่องการค้นพบสุดเหลือเชื่อของนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ไปเจอเข้ากับซากฟอซซิลแมงมุมอายุกว่า 100 ล้านปี ที่มีหางยาวออกมาเหมือนกับแมงป่อง นี่เป็นการค้นพบของทีมงานจากหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน เยอรมนี และสหราชอาณาจักร โดยพวกเขาเจอเจ้าสิ่งนี้เขตหุบเขา Hukawng ประเทศพม่า   ลักษณะของแมงมุมที่มีการค้นพบในอำพัน   แมงมุมทั้ง 4 ตัวที่พวกเขาค้นพบว่าเป็นซากอยู่ในก้อนอำพัน เป็นสิ่งมีชีวิตที่หลงเหลือมาจากยุคกลางครีเทเชียส เมื่อ 100 ล้านปีก่อน สมัยที่ไดโนเสาร์ยังมีชีวิตกันอยู่ สภาพของพวกมันเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบจริงๆ นักวิทยาศาสตร์สามารถตรวจสอบอวัยวะร่างกายโดยรอบของพวกมันได้อย่างชัดเจน ทั้งขา เขี้ยว อวัยวะที่ใช้ปล่อยใย อวัยวะบ่งบอกเพศที่ทำให้รู้ว่าทุกตัวคือตัวผู้ และหางที่ไม่มีอยู่ในแมงมุมสมัยนี้ นักวิทย์เชื่อว่าหางที่ติดตัวพวกมันมามีการทำงานเหมือนกับหางของแมงป่องคือ เป็นตัวรับสัมผัสใช้สำหรับการสำรวจสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ไว้มองหาเหยื่อที่จะกลายมาเป็นอาหาร     ขนาดตัวของแมงมุมหน้าตาประหลาดเหล่านี้ก็ถือว่าเล็กเอามากๆ ลำตัวของพวกมันยาวแค่ประมาณ 2.5 มิลลิเมตร ส่วนหางนั้นจะยาวประมาณ 3 มิลลิเมตร และนี่เป็นครั้งแรกที่มีการพบหางติดอยู่กับตัวแมงมุม ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการคาดการณ์เอาไว้ถึงสิ่งมีชีวิตที่ลักษณะคล้ายกับแมงมุมมีหางเหมือนกัน แต่ว่าไม่มีตัวปล่อยใย อาศัยอยู่บนโลกของเราในยุคเดโวเนียนเมื่อประมาณ 380…

  • พบประติมากรรมอูฐอายุ 2,000 ปี บนหน้าผาซาอุดีอาระเบีย ทั้งที่ยังไม่นิยมสลักภาพนูนในช่วงนั้น…

    พบประติมากรรมอูฐอายุ 2,000 ปี บนหน้าผาซาอุดีอาระเบีย ทั้งที่ยังไม่นิยมสลักภาพนูนในช่วงนั้น…

    งานแกะสลักรูปอูฐขนาดเทียบเท่าของจริงจากราวๆ 2,000 ปีก่อน ถูกพบเจอ ณ ที่รกร้างแห้งแล้งในทะเลทรายของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเมื่อเทียบกับยุคที่มันเกิดขึ้นแล้ว มันเป็นประติมากรรมที่มีมาตราส่วนแบบไม่เคยคาดคิดมาก่อน งานชิ้นนี้ถูกพบในเมืองอัลเจาฟ์ ทางตอนเหนือของผระเทศซาอุดีอาระเบีย สถานที่ที่พบเจอถูกเรียกว่า Camel Site ส่วนผู้ที่ค้นพบก็คือทีมนักวิจัย Franco-Saudi แม้งานแกะรูปอูฐนี้ดูไม่สมบูรณ์นัก และถูกสลักบนหินทั้งสามส่วนที่ยื่นออกมาจากหน้าผา กลุ่มนักวิจัยก็สามารถระบุรูปร่างของอูฐได้หลายตัวทีเดียว     ถึงกระนั้น เหตุผลที่ผู้สลักเลือกที่จะมาแกะสลักรูปสัตว์ไว้ ณ พื้นที่ห่างไกลแบบนั้น ยังคงเป็นปริศนาที่ต้องสืบหากันต่อไป นักวิทยาศาสตร์เสนอว่าสถานที่แห่งนี้อาจจะเคยเป็นสถานที่สำหรับพิธีการบูชาหรือไม่ก็รูปภาพอูฐเหล่านี้อาจถูกสลักไว้เป็นเครื่องหมายแบ่งเขตแดน มีการศึกษาเกิดขึ้นโดยอิงมาจาก Centre National de la Recherche Scientifique (CNRS) ในฝรั่งเศสและทีมงานจาก Saudi Commission for Tourism and National Heritage (SCTH) ที่เข้ามาสำรวจงานแกะสลักนี้ในปี 2016 และ 2017     นักโบราณคดีชื่อว่า Guillaume Charloux ผู้ที่เป็นวิศกรงานวิจัยของ CNRS ฝรั่งเศสกล่าวว่า “แม้ว่าการกร่อนที่เกิดจากธรรมชาติได้ทำลายภาพอูฐไปส่วนหนึ่ง แต่ด้วยร่องรอยของการใช้เครื่องมือ ที่มีการลงน้ำหนักหลากรูปแบบ ทำให้เราสามารถระบุภาพแกะสลัก และภาพผิวนูนของสัตว์จำพวกอูฐหรือม้าได้” ส่วนหนึ่งปรากฏภาพการพบกันของอูฐหนอกเดียวกับลาซึ่งเป็นสัตว์ที่แทบไม่พบอยู่บนการแกะสลักหิน…

  • มาดูหนังสือ ‘กามสูตร’ ในยุคล่าแม่มด ที่มีแต่คำแนะนำและความเชื่อแปลกๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศ

    มาดูหนังสือ ‘กามสูตร’ ในยุคล่าแม่มด ที่มีแต่คำแนะนำและความเชื่อแปลกๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศ

    สิ่งที่จะทำให้เราพอคาดเดาได้ว่าในยุคสมัยอดีต มีบริบทแวดล้อมแบบใด ผู้คนมีความเชื่อและค่านิยมอะไรกันบ้างนั้น ก็คงหนีไม่พ้น “หนังสือ” เพราะมันเป็นหลักฐานที่ปรากฏขึ้นด้วยลายลักษณ์อักษร ที่มักสะท้อนให้เห็นถึงบริบทแวดล้อมของสมัยนั้นๆ และวันนี้ หนังสือเล่มหนึ่งจากปี 1720 ได้ถูกพบและเผยว่าคนในยุคสมัยนั้นมีความเชื่ออย่างไรกันบ้าง ทว่าหนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาที่ว่าด้วยเรื่อง “ทางเพศ” ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อแปลกๆ ของชาวอังกฤษสมัยที่พระเจ้าจอร์จเป็นกษัตริย์ แถมหนังสือเล่มนี้ยังมีราคาประมูลหลายพันบาท ผลงานการเขียนชิ้นเอกของ อริสโตเติล นี้ได้ชื่อว่าเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาสกปรกที่สุดในช่วงเวลาที่มันถูกตีพิมพ์ขึ้น ด้วยอายุเกือบ 300 ปีของมัน หนังสือเล่มนี้จึงเผยให้เห็นถึงทัศนคติของผู้คนที่มีต่อเรื่องทางเพศ ในยุคสมัยที่สหราชอาณาจักรบริเตนยังมีการล่าและเผาแม่มดอยู่     ในหนังสือมีเนื้อหาเกี่ยวกับเคล็ดลับแปลกๆ เพื่อทำให้เพศหญิงสามารถหลีกเลี่ยงการให้กำเนิดทารกที่น่าเกลียดได้ พร้อมทั้งคู่มือการปฏิบัติตนขณะร่วมเพศ และยังมีการแนะนำให้เพศชายทานเนื้อ นกสีดำ และนกกระจอก ก่อนที่จะแต่งงาน เพื่อให้มีน้ำเชื้อที่แข็งแรง และสามารถมีลูกได้มากมาย คู่มือทางเพศเล่มนี้ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1684 แต่ถูกสั่งห้ามมาตลอดจนกระทั่งในช่วงปี 1960 หนังสือเล่มนี้ถูกพบในโรงประมูล     เนื้อหาภายใน แนะนำว่า เพศหญิง ซึ่งถือเป็นเพศที่ชื่นชอบและหมกมุ่นในกาม หากต้องการลูกชายให้นอนตะแคงขวาหลังมีเพศสัมพันธ์ และกลับกัน หากต้องการลูกสาวให้นอนตะแคงซ้าย ซ้ำยังบอกว่า เพศชาย นั้นเป็นเพศที่มหัศจรรย์ และเป็นเพศที่อยู่เหนือทุกสิ่งบนโลก น้ำเชื้อของเพศชายถือว่าเป็นของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ที่มากับจิตวิญญาณแห่งชีวิต หนังสือเล่มนี้จะถูกนำไปประมูลอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2018 ในหมู่บ้าน Etwall ในเขตดาร์บิเชอร์ของอังกฤษ…

  • นักท่องเที่ยวแห่ทำตามความเชื่อ นำเงินยัดใส่เสาศาลเจ้า “อิสึกุชิมะ” หวั่นทำให้พังในเร็ววัน…

    นักท่องเที่ยวแห่ทำตามความเชื่อ นำเงินยัดใส่เสาศาลเจ้า “อิสึกุชิมะ” หวั่นทำให้พังในเร็ววัน…

    ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่ผู้คนนิยมไปเที่ยวกันมากที่สุดอย่างปฏิเสธไม่ได้ เนื่องจากความโดดเด่นด้านองค์ประกอบทางทัศนียภาพ อาหาร และศิลปะวัฒนธรรม ตัวอย่างก็เช่น ย่านอะกิฮะบะระ หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่น หรือจะเป็น เมืองฮะโกะเนะ สำหรับผู้ที่สนใจในน้ำพุร้อนและการแช่ออนเซ็น เกาะมิยาจิมะ ในเมืองฮิโรชิมานั้นเองก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเช่นกัน เพราะเป็นเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาอันเต็มไปด้วยผืนป่าเขียวชอุ่มและศาลเจ้าเก่าแก่กว่าร้อยปี     ที่นั่น นอกจากจะมีกวางออกมาเดินให้เห็นในเมืองกันแล้ว ยังมีสิ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นที่สุดของเกาะ นั่นก็คือ ซุ้มประตูโทะริอิ แห่งศาลเจ้าอิสีกุชิมะ ที่โผล่ขึ้นมากลางน้ำ     เมื่อยามน้ำลดลงคุณสามารถเดินไปยังบริเวณขาตั้งของซุ้มประตูได้ เสาซุ้มประตูสีส้มนี้เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ .   และด้วยความที่ช่วงล่างของซุ้มประตูนั้นต้องอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน เสาไม้ก็เริ่มแตกและโก่งงอ แถมนักท่องเที่ยวบางกลุ่มมีความเชื่อในการนำ “เหรียญ” เข้าไปยัดในรอยแตกร้าวของเสา ซึ่งทำให้เกิดภาพที่ไม่สวยงามและส่งผลเสียต่อซุ้มโทะริอิอีกด้วย ทั้งนี้ผู้ใช้ Twitter ชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อว่า @riyusuisuiriyu ได้เผยแพร่ภาพสภาพปัจจุบันของเสาโทะริอิ พร้อมกับคำวิงวอนให้หยุดความเชื่อการยัดเหรียญดังกล่าว     ในโพสต์ของเธอมีใจความว่า “หากยังทำเช่นนี้ต่อไป เสาโทะริอิจะต้องพังแน่ๆ ดูที่เหรียญเหล่านั้นสิ ผู้คนนำมันไปยัดไว้ในรอยแตกซึ่งมันก็จะยิ่งแตกมากขึ้นกว่าเดิม ฉันไม่อยากให้เสาโทะริอินี้กลายเป็นเพียงอดีตมรดกของโลกหรอกนะ จงจำไว้ นี่คือศาลเจ้า ไม่ใช่ของเล่นในสวนสนุก” ความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่เชื่อว่าการบริจาคเหรียญด้วยวิธีการโยนหรือใส่เข้าไปในกล่องนั้นจะนำมาซึ่งโชคลาภ สุขภาพ และพรต่างๆ คงไร้ค่า และศาลเจ้าอายุนับศตวรรษก็คงจะสูญสลาย หากความเชื่อผิดๆ ที่ว่าการนำเหรียญไปยัดในเสาไม้โทะริอิที่แตกจะนำมาซึ่งสิ่งเดียวกันนั้นยังคงแพร่หลายต่อไป   การไปเที่ยวในสถานหนึ่งๆ…

  • คนขับรถบรรทุกขับรถตะลุยลงไปสร้างความเสียหายให้กับ ‘มรดกโลกที่มีอายุ2พันปี’

    คนขับรถบรรทุกขับรถตะลุยลงไปสร้างความเสียหายให้กับ ‘มรดกโลกที่มีอายุ2พันปี’

    หากพูดถึงหนึ่งในมรดกโลกที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องเคยได้ยินชื่อของ เส้นนัซกา (Nazca Line) หนึ่งในมรดกโลกที่เต็มไปด้วยปริศนาและความอัศจรรย์ ซึ่งปรากฏอยู่บนทะเลทรายนัซกา ประเทศเปรู กินพื้นที่ไปมากกว่า 520 ตารางกิโลเมตร ภาพของสัตว์หรือพืชพันธุ์ที่แสดงออกมาให้เห็น ถูกพิสูจน์ว่ามันมีอายุมานานถึง 1,500 – 2,000 ปีเลยทีเดียว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่มันได้กลายเป็นมรดกโลกอันล้ำค่าในปี 1994   มรดกโลกเส้นนัซกา ลวดลายที่ถูกวาดลงบนทะเลทราย มีอายุราวๆ 2,000 ปี   แต่ในช่วงเดือนมกราคม 2018 ก็ได้เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อคนขับรถบรรทุกที่ชื่อว่า Jainer Flores ตัดสินใจขับรถลุยลงไปในเขตพื้นที่มรดกโลกดังกล่าว จนสร้างความเสียหายให้กับลายเส้นอันเก่าแก่เหล่านั้น ก่อนที่จะถูกจับไปดำเนินคดีด้วยข้อหาละเลยป้ายเตือน   Jainer คนขับรถบรรทุกที่สร้างความเสียหายให้กับมรดกโลกชิ้นนี้   จากการรายงานบอกว่า เขาขับรถเข้าข้างทางเพื่อจะลงไปเช็กดูล้อรถของตัวเอง ซึ่งเขาอ้างว่าไม่เห็นป้ายที่บอกว่าพื้นที่นี้เป็นเขตหวงห้าม จึงขับรถลงไปในที่สุด ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ดูแลความปลอดภัยโดยรอบเองก็พยายามเข้ามาเตือนเขา แต่นั่นมันก็สายไปเสียแล้ว   รถบรรทุกที่ดันตะลุยเข้าไปในเขตหวงห้าม .   กระทรวงวัฒนธรรมของเปรูได้ออกมาบอกว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้ฝากร่องรอยเอาไว้เป็นรอยล้อยาวประมาณ 100 เมตร สร้างความเสียหายให้กับเส้นนัซกาถึงสามส่วนด้วยกัน”…

  • 12 เรื่องราวในอดีต ที่ทำให้เรารู้สึกโชคดีเหลือเกิน ที่ได้เกิดมาอยู่ในยุคศตวรรษที่ 21

    12 เรื่องราวในอดีต ที่ทำให้เรารู้สึกโชคดีเหลือเกิน ที่ได้เกิดมาอยู่ในยุคศตวรรษที่ 21

    ในปัจจุบันโลกของเรามีความเปลี่ยนแปลงทางด้านวัฒนธรรมและเทคโนโลยีมาก ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเรานั้นดูง่ายไปเสียหมด จะทำอะไรก็สะดวกสบายและรวดเร็ว ถ้าหากเราลองมองย้อนกลับไปล่ะก็ จะเห็นว่าชีวิตของผู้คนในอดีตลำบากกว่าเรามากนัก วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูว่าถ้าเราเกิดมาอยู่ในยุคก่อนหน้านี้ชีวิตความเป็นอยู่มันจะพึลึกพิลั่นและเหนื่อยยากขนาดไหน   1. การย้อมสีผม   ไม่ว่าคนเราจะเกิดมาในยุคไหนก็รักสวยรักงามด้วยกันทั้งนั้น แต่ในสมัยก่อนไม่มียาย้อมผมที่ใช้ง่ายเหมือนตอนนี้ ใครที่อยากจะย้อมสีผมต้องใช้ของที่มีอยู่ตามธรรมชาติอย่างเช่นหัวหอม อบเชย และขี้เถ้ามานวดผมเป็นประจำให้มันเปลี่ยนสี นอกจากนี้ก็ยังต้องไปนั่งให้ผมโดนแดดจะได้มีผมที่มันวาวดูดี แต่ในทางกลับกันการลองย้อมผมแบบทำกันเองย่อมทำให้ได้สีผมที่ไม่แน่นอน แถมเสี่ยงทำให้ผมเสียด้วย   2. เกิดเป็นชนชั้นสูงต้องเท้าเล็ก   เกิดคุณบังเอิญได้เกิดมาเป็นหญิงชั้นสูงในประเทศจีนสมัยก่อน คนในครอบครัวจะบังคับให้คุณรัดเท้าตั้งแต่เด็กจะได้ใส่รองเท้าอันเล็กๆ ได้ พวกเขาเชื่อว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของผู้สูงศักดิ์ ถ้าใครมีขนาดเท้าปกติแปลว่าเป็นคนชนชั้นทั่วไป แต่การจะได้เท้าแบบนี้มาหญิงสาวต้องทนทุกข์ทรมานทุกวันตั้งแต่ยังอายุน้อย แถมเท้าเล็กแบบนี้ยังทำให้เดินยากอีกด้วย ดีนะที่สมัยนี้ไม่มีใครทำแบบนี้แล้ว   3. เขียนจดหมายร้องเรียน   ในอดีตก็มีการเขียนจดหมายร้องเรียนเช่นกัน ทว่าในยุคนั้นยังไม่มีกระดาษและปากกาให้ใช้ คนในอดีตจึงต้องใช้วิธีการสลักอักษรลงไปบนแผ่นหินเพื่อเขียนจดหมายแทน แน่นอนว่ากว่าจะเขียนจดหมายได้ฉบับหนึ่งกินเวลานานมากเลย ลำบ๊ากลำบาก   4. รักษาโรคด้วยเวทมนตร์และอุจจาระ   ย้อนกลับไปเมื่อ 1500 ปีก่อนคริสตกาล ประเทศอินเดียยังมีความเชื่อในการรักษาโรคด้วยเวทมนตร์อยู่เลย และพวกเขายังใช้อุจจาระมาผสมเป็นยาให้คนป่วยกินด้วย เพราะพวกเขาเชื่อว่าอุจจาระสามารถขับไล่วิญญาณร้ายซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุของอาการป่วยได้นั่นเอง แค่ได้ฟังก็รู้สึกดีใจแล้วที่สมัยนี้มีหมอมาวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้องตามหลักการ แล้วยังมียารักษาทั้งแบบกินแบบฉีดด้วย ไม่ต้องมานั่งกินอุจจาระกันอีกต่อไป   5. รักษาโรคด้วยยาที่ทำจากมนุษย์…

  • ค้นพบ “เครื่องดนตรีโบราณ” ที่มีอายุมานานราวๆ 1,700 ปี แถมยังเล่นได้เหมือนเดิมด้วย…

    ค้นพบ “เครื่องดนตรีโบราณ” ที่มีอายุมานานราวๆ 1,700 ปี แถมยังเล่นได้เหมือนเดิมด้วย…

    Jew’s Harp คือสิ่งที่อาจจะไม่ได้รู้จักกันอย่างแพร่หลาย แต่มันคือหนึ่งในเครื่องดนตรีที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคโบราณนานมากแล้ว เพียงแต่ว่าในหลายๆ พื้นที่ไม่ได้นำมันออกมาเล่นโชว์ในการแสดงซักเท่าไหร่ ซึ่งเครื่องดนตรีดังกล่าวจะใช้ปากในการควบคุมเสียงและใช้นิ้วในการดีดให้มีเสียงออกมา หลายๆ คนอาจกำลังสงสัยว่าเครื่องดนตรีดังกล่าวมันมีมานานแล้วหรอ? การค้นพบในครั้งนี้จะทำให้คุณเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2018 สำนักข่าว The Siberian Times รายงานว่านักโบราณคดีค้นพบ Jew’s Harp ชิ้นเก่าแก่ที่มีอายุมานานกว่า 1,700 ปี   เครื่องดนตรีเก่าแก่ที่นักโบราณคดีได้ไปเจอมา   การได้เจอกับวัตถุโบราณที่ว่ามานั้นเกิดขึ้นบนแถบเทือกเขาอัลไต บริเวณที่ชื่อว่า Chultukov Log 9 พวกเขาได้เจอกับนซากของเครื่องดนตรีชนิดนี้หักครึ่งอยู่ แต่การค้นพบเครื่องดนตรีในสภาพสมบูรณ์แบบนั้น เกิดขึ้นที่เขตบริเวณ Cheremshanka ซึ่งพวกเขาได้พบกับ Jew’s Harp ในสภาพสมบูรณ์ถึง 2 ชิ้นด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นยังสามารถเอามาเล่นให้เกิดเสียงได้ดังเดิมอีกด้วย     จากการตรวจสอบเชื่อว่าสิ่งที่ค้นพบในครั้งนี้มีอายุอยู่ในช่วง 1,580-1,740 ปีก่อนหน้า ยุคสมัยของชาว Huns-Sarmatian เครื่องดนตรีที่พบในสภาพสมบูรณ์ที่สุดมีความมยาว 11 เซนติเมตร และความกว้าง 8.6…

  • คนงานรถไฟใต้ดิน LA บังเอิญเจอซากฟอสซิลอายุ 10,000 ปี คาดว่ามีชีวิตในช่วงยุคน้ำแข็ง

    คนงานรถไฟใต้ดิน LA บังเอิญเจอซากฟอสซิลอายุ 10,000 ปี คาดว่ามีชีวิตในช่วงยุคน้ำแข็ง

    ในลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา มีการขุดเจาะขยายทางรถไฟใต้ดินมาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งในระหว่างนั้นได้มีการค้นพบซากฟอสซิลของชิ้นส่วนสัตว์ดึกดำบรรพ์หลายชนิด อย่างเช่น กรามกระต่าย ฟันของสัตว์ขนาดใหญ่ หรือช่วงขาของอูฐ แต่ถึงแม้ฟอสซิลเหล่านั้นจะมีอายุเก่าแก่มากขนาดไหน ก็ไม่สามารถทำให้ Ashley Leger รู้สึกพึงพอใจได้เท่าครั้งนี้เลย เมื่อลูกทีมของเธอค้นพบฟอสซิลขนาดใหญ่ที่มีอายุมานานกว่า 10,000 ปี   การขุดเจาะเพื่อขยายทางรถไฟใต้ดิน .   เธอคนนี้คือผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ โดยการขุดเจาะถนนจำเป็นต้องมีเธอเข้ามาร่วมทีมด้วยก็เพราะว่า เมื่อไหร่ที่มีการพบฟอสซิล เธอจะเป็นคนเข้าไปตรวจสอบผลงานดังกล่าวด้วยตัวเอง ระหว่างการขุดเจาะนานเป็นปีๆ คืนหนึ่งลูกทีมของเธอก็ติดต่อมาและบอกว่า ค้นพบฟอสซิลขนาดใหญ่ ซึ่งนั่นทำให้เธอรีบตรงไปยังไซต์งานดังกล่าวในวันต่อมา ฟอสซิลที่ถูกค้นพบในครั้งนี้ก็มีขนาดใหญ่กว่าที่เคยค้นพบ เพราะมันคือส่วนกะโหลกของแมมมอธ ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่เมื่อ 10,000 ปีก่อน ในช่วงสุดท้ายของยุคน้ำแข็ง   ฟอสซิลขนาดใหญ่ที่บังเอิญพบเข้าระหว่างการทำงาน   Ashley หญิงสาวผู้ควบคุมปฏิบัติการการขุดฟอสซิลในครั้งนี้   จากการตรวจสอบ น่าจะเป็นกะโหลกของโคลัมเบียนแมมมอธวัยประมาณ 8-12 ปี และความพิเศษของเจ้าสิ่งนี้คือ ส่วนของงามันยังคงติดอยู่กับส่วนหัว ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่หาได้ยากมากจากฟอสซิลที่เคยค้นพบก่อนหน้านี้ Ashley บอกว่า “มันเหมือนฝันที่เป็นจริง นี่คือหนึ่งในฟอสซิลที่ฉันอยากค้นพบมากที่สุดตลอดชีวิตการทำงาน” โดยก่อนหน้านี้เธอเคยตามหาฟอสซิลแมมมอธในรัฐเซาท์ดาโคตา แต่เธอก็ไม่เคยเจอฟอสซิลที่มีความสมบูรณ์มากขนาดนี้เลย  …

  • การค้นพบ ‘ปราสาทอันเก่าแก่’ ที่จมอยู่ใต้ทะเลสาบในตุรกี อายุกว่า 3,000 ปี!!

    การค้นพบ ‘ปราสาทอันเก่าแก่’ ที่จมอยู่ใต้ทะเลสาบในตุรกี อายุกว่า 3,000 ปี!!

    เมื่อเรามองลงไปในน้ำ เราจะไม่ได้เห็นทุกอย่างที่อยู่ข้างใต้นั้น เราอาจคิดว่าข้างใต้ก็คงไม่มีอะไรนอกจากปลาหรือปะการัง แต่ความเป็นจริงมันอาจมีสิ่งที่เป็นตำนานซ่อนเอาไว้เหมือนกับปราสาทใต้น้ำแห่งนี้ นี่คือการค้นพบของช่างภาพ Tahsin Ceylan เมื่อเขาได้นำเหล่านักประดาน้ำออกสำรวจในทะเลสาบ Van ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศตุรกี และได้เจอเข้ากับปราสาทขนาดใหญ่อันเก่าแก่ซ่อนตัวอยู่ข้างใต้นั้น     ในตอนแรกเขาได้ไปปรึกษากับนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์ พวกเขาเหล่านั้นกลับบอกว่าใต้ทะเลสาบไม่ได้มีอะไรอยู่เลย จนเขาได้ออกมาดำน้ำด้วยตัวเอง ถึงได้เจอกับโบราณสถานแห่งนี้ ข้างใต้คือกำแพงหินที่สูงยื่นออกมาจากพื้นใต้น้ำ โดยส่วนที่ยื่นออกมาสูงที่สุดอยู่ที่ราวๆ 3 เมตร และเชื่อว่าหากขุดลงไปข้างใต้นั้นก็จะได้พบกับความสูงที่แท้จริงของกำแพงปราสาทนี้     จากการสำรวจพบว่า โบราณสถานแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ใต้ทะเลสาบไปมากถึง 1 ตารางกิโลเมตร และเมื่อตรวจสอบโดยละเอียด ทำให้พอคาดเดาได้ว่านี้คงเป็นปราสาทที่มีมาตั้งแต่สมัยอาณาจักร Urartu เมื่อ 3,000 ปีก่อน ตามประวัติศาสตร์แล้ว เชื่อว่าปราสาทดังกล่าวจมลงหลังจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นทะเลสาบในเวลาต่อมา     Tahsin เชื่อว่าสิ่งนี้จะสามารถดึงดูดได้ทั้งนักท่องเที่ยวและนักโบราณคดีจำนวนมาก ให้เข้ามาชมและร่วมกันหาคำตอบถึงรายละเอียดของโบราณสถานแห่งนี้กันต่อไป   คลิปวิดีโอการค้นพบซากปราสาทใต้น้ำที่มีมาตั้งแต่เมื่อ 3,000 ปีก่อน   โลกของเรายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ซ่อนไว้มาตั้งแต่อดีตกาล และนี่คงเป็นอีกหนึ่งการค้นพบที่จะช่วยให้เราได้รับรู้ว่าในตอนนั้นความเป็นอยู่ของมนุษย์เราเคยเป็นอย่างไรมาก่อน   ที่มา: thisisinsider

  • “Bagel House” อาคารทรงแปลกอายุเกือบ 50 ปีที่ยังคงใช้งานอยู่ในประเทศรัสเซีย

    “Bagel House” อาคารทรงแปลกอายุเกือบ 50 ปีที่ยังคงใช้งานอยู่ในประเทศรัสเซีย

    การอนุรักษ์อาคารต่างๆ ในสมัยก่อนไว้นั้นนอกจากจะทำให้เห็นถึงผลงานการออกแบบในยุคสมัยก่อนแล้ว ความสวยงามของตัวอาคารนั้นก็ยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เช่นกัน และอาคาร Bagel House ในประเทศรัสเซียเองนี้ก็เช่นกัน อาคารอายุเกือบๆ 50 ปี หลังนี้เป็นผลงานการออกแบบของนาย Evgeny Stamo กับนาย Alexander Markelov สถาปนิกและวิศวกรชาวรัสเซีย โดยอาคารดังกล่าวนั้นได้เริ่มก่อสร้างในช่วงปี 1970 และแล้วเสร็จภายในปี 1972 ซึ่งนอกจากรูปทรงอาคารแบบวงแหวนขนาดรัศมีกว่า 150 เมตรที่มีต้นแบบมาจากขนมปัง Bagel แล้ว ในส่วนตรงกลางนั้นยังเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวและสนามเด็กเล่นอีกด้วย   และนี่คือโฉมหน้าของอาคาร Bagel House จากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย   โดยอาคารหลังนี้ถูกใช้เป็นที่พักอาศัย ซึ่งภายในนั้นประกอบไปด้วยอพาร์ทเม้นท์มากถึง 913 ห้อง และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นร้านซักรีด ร้านค้า ร้านขายยา รวมถึงที่ทำการไปรษณีย์อีกด้วย ในปี 1980 ขณะที่สหภาพโซเวียตได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ทางการได้มีการสร้างอาคารคล้ายๆ กันเพิ่มขึ้นอีก 4 แห่ง เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของการแข่งขันโอลิมปิก แต่อย่างไรก็ตามกลับมีเพียงอาคารแค่หลังเดียวเท่านั้นที่สร้างแล้วเสร็จ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจของสหภาพโซเวียตที่กำลังตกต่ำอยู่ในขณะนั้น     อาคารที่สร้างเพิ่มขึ้นมานั้นก็ตั้งห่างจากกันมากจนทำให้มันดูไม่เหมือนสัญลักษณ์ของกีฬาโอลิมปิกเลย แต่อย่างไรก็ตามยังมีการเปิดใช้อาคารทั้ง 2 แห่งนี้เพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยอยู่ในปัจจุบัน อาคารแต่ละหลังนั้นมีความสูงมากถึง 9…

  • 25 ภาพหลอนสยองวินเทจที่จะทำให้คุณนอนไม่หลับ กระสับกระส่ายคล้ายจะโดนเข้าสิง!!

    25 ภาพหลอนสยองวินเทจที่จะทำให้คุณนอนไม่หลับ กระสับกระส่ายคล้ายจะโดนเข้าสิง!!

    ความสยดสยองบางครั้งเราไม่จำเป็นต้องเจอด้วยตาของตัวเองตรงๆ เพราะเพียงแค่ฟังเรื่องเล่าหรือเห็นรูปภาพบางอย่างก็สามารถทำให้คุณรู้สึกขนหัวลุกแล้ว เช่นเดียวกับภาพวินเทจเหล่านี้ที่ไม่ต้องมีคำบรรยายอะไรมันก็ทำให้คุณรู้สึกกลัวการอยู่คนเดียวได้อย่างง่ายดาย ไม่เชื่อลองไปชมกันเลย   โครงกระดูกและหัวกระโหลกที่เรียงไว้อย่างสวยงามในที่ฝังศพใต้โบสถ์ Capuchin ในกรุงโรม ตอนประมาณปี 1900   ช่วงศตวรรษที่ 19 นักมานุษยวิทยาเผยภาพหัวมนุษย์ที่ถูกล่าในประเทศเอกวาดอร์   ผลงานของนักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศส สร้างชีวิตให้กับตุ๊กตาเด็กในช่วงศตวรรษที่ 18   ภาพของเด็กน้อยเล่นกับปีศาจ Krampus โดยไม่รู้สึกกลัวอะไร ตอนประมาณปี 1900   การมาเยือนของแขกไม่ได้รับเชิญที่มาอย่างเงียบเชียบ ในปี 1860   ภาพถ่ายของ “Lionel เด็กชายหน้าสิงโต” ที่กำลังมีชื่อเสียงในปี 1907   Lon Chaney ตัวตลกผู้เป็นมิตรที่ได้แสดงในละครใบ้ชื่อ He Who Gets Slapped ปี 1924   ภาพของผู้หญิงไร้หัวหนึ่งในการแสดงบนเกาะ Coney Island สหรัฐอเมริกา ปี 1945   สถานที่เกิดเหตุคดีฆาตกรรมในยามค่ำคืน วันที่ 11…

  • ชายหนุ่มพยายามเปิดตู้เซฟเก่าแก่สมัยปู่ทวด ที่ข้างในไม่ใช่ทองแต่เป็นกระดาษมูลค่าสูง!!

    ชายหนุ่มพยายามเปิดตู้เซฟเก่าแก่สมัยปู่ทวด ที่ข้างในไม่ใช่ทองแต่เป็นกระดาษมูลค่าสูง!!

    ในบางครั้งเราอาจได้ค้นพบกับของที่คาดไม่ถึงจากการรื้อค้นหรือจัดของในบ้านของเราเองที่มีอายุเก่าแก่ เป็นที่อยู่อาศัยของตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่า เช่นเดียวกับผู้ใช้ Imgur ชื่อว่า Jacob ที่ไปเจอกับเซฟปริศนาที่แอบซ่อนเอาไว้อยู่ในบ้านของเขาเอง จนทำให้ต้องหาคำตอบกันว่าภายในนั้นมันจะมีอะไร แต่ก่อนที่จะเปิดดูได้เขาจำเป็นต้องขนมันออกมาจากชั้นใต้ดินเสียก่อน เพราะบ้านหลังนั้นกำลังจะมีการรื้อทิ้งในอีกไม่ช้านี้แล้ว หลังจากที่มีอยู่มาตั้งแต่สมัยปู่ทวด เราไปดูกันว่าภารกิจการขนย้ายตู้เซฟจะสำเร็จหรือไม่และภายในนั้นมันมีอะไรกันแน่   ขณะที่กำลังเก็บข้าวของภายในบ้านอันเก่าแก่สมัยปู่ทวดได้มีตู้เซฟแอบซ่อนเอาไว้อยู่ลับๆ   ก่อนที่บ้านจะถูกทำลาย Jacob และเพื่อนอีกคนได้พยายามใช้รถเข็นเฟอร์นิเจอร์มานำมันออกไป ด้วยน้ำหนักของตู้เซฟกว่า 450 กิโลกรัม ทำให้ความพยายามครั้งแรกไม่สำเร็จ   ต่อมาพ่อของเขาก็เข้ามาช่วยโดยพยายามใช้รถมาลากเจ้าเซฟตัวปัญหานี้ขึี้นมาจากทางลาดที่ทำเอาไว้ตรงบันได   ใช้สายพ่วงผูกกับโซ่เอาไว้และใช้แรงจากรถดึงขึ้นไป   ด้วยความพยายามในหลายๆ แบบก็ทำให้มันสามารถขึ้นมารับแสงแดดได้ในที่สุด   จากนั้นพวกเขาก็นำมันมาไว้ในโรงรถและเล่าเรื่องของตู้เซฟให้ปู่ของเขาฟัง ทำให้คุณปู่นึกขึ้นได้ก่อนที่จะรีบกลับบ้านไปเอากระดาษที่บอกวิธีการปลดล็อคตู้ดังกล่าวนี้มาให้   เขาบอกว่า “ถ้าไม่มีกระดาษแผ่นนั้นรับรองว่าคงไม่สามารถเปิดตู้เซฟนี้ได้แน่นอน เพราะมันมีความซับซ้อนอย่างมากและต้องเปิดเข้าไปถึง 4 ชั้น”   “เปิดเข้าไปต้องเจอประตูอีกชั้นตอนแรกก็ถึงกับท้อกันเลย แต่พอสังเกตดีๆ มันมีกุญแจเสียบเอาไว้พร้อมให้เราได้เปิดเข้าไปดูกัน” เขากล่าว   ในตอนแรกพวกเขาไม่ได้หวังจะเจอของมีค่าอะไรเพราะทราบดีว่าปู่ทวดของเขาใช้เงินไปกับการเล่นหุ้นหรือตลาดหลักทรัพย์เป็นหลัก และมีรายได้หรือเงินปันผลที่ไม่มากนักจากการประกอบอาชีพเป็นชาวไร่   อย่างไรก็ตามแม้ภายในตู้จะมีแต่เอกสารแต่เมื่อได้ลองตรวจสอบดูก็พบว่ากระดาษเก่าๆ เหล่านั้นมันมีค่ามากกว่าทองเสียอีก   เพราะมันคือเอกสารรับรองว่าปู่ทวดของเขาเคยถือหุ้นอยู่กับบริษัท Disney เป็นจำนวน 30 หุ้นก่อนถูกปิดไปหลังจากที่เสียชีวิต…

  • แม้จะผ่านไป 600 ปี แต่นาฬิกาดาราศาสตร์ในกรุงปราก ก็ยังไม่เคยหยุดเดินเลยแม้แต่วันเดียว

    แม้จะผ่านไป 600 ปี แต่นาฬิกาดาราศาสตร์ในกรุงปราก ก็ยังไม่เคยหยุดเดินเลยแม้แต่วันเดียว

    เพื่อนๆ รู้ไหมว่านี่เรากำลังรับชมภาพที่น่าตื่นเต้นของ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Old Town Astronomical Clock) ที่ขึ้นชื่อได้ว่าสวยงามที่สุดในโลกอยู่นะ เรียกได้ว่ามันช่างน่าอัศจรรย์ และอลังการงานสร้างมากจริงๆ สำหรับหอนาฬิกาดาราศาสตร์แห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณเมืองเก่ากลางกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ที่นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ยังถือเป็นหนึ่งในจุดที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดที่จะบันทึกภาพถ่ายอันแสนประทับใจของหอนาฬิกา เพื่อเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกอย่างแน่นอน     ย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 15 มีตำนานหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนาฬิกาดาราศาสตร์ โดยตามตำนานเรื่องหนึ่งกล่าวว่าผู้ที่สร้างหอนาฬิกาดังกล่าวคือ อาจารย์ Hanuš ซึ่งผลงานชิ้นเอกของเขานี้ก็ได้สร้างความโดดเด่นให้กรุงปรากเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่พวกผู้ครองเมืองกลัวว่าเขาจะสร้างนาฬิกาในลักษณะเดียวกันในที่อื่นๆ อีก และมันก็อาจจะแย่งชื่อเสียงของกรุงปรากไป ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้พวกเขาเริ่มคิดหาวิธีที่จะกำจัดความเป็นไปได้ดังกล่าว ด้วยการจ้างคนกลุ่มหนึ่งมาทำร้ายและทำให้อาจารย์ Hanuš ตาบอด     อย่างไรก็ตามตำนานเรื่องนี้ได้จบลงด้วยการเอาคืนของ Hanuš โดยเขาได้กลับไปยังหอนาฬิกาและใช้มือล้วงเข้าไปในจักรนาฬิกา พร้อมกับทำลายมันให้สิ้นซาก ก่อนที่นาฬิกาจะถูกชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้งในเวลา 100 ปีต่อมา     ทั้งนี้มีการเผยว่าตำนานของ Hanuš แท้จริงแล้วเป็นเพียงแค่นิทาน แต่ Hanuš นั้นมีตัวตนอยู่จริง และเป็นช่างทำนาฬิกาในกรุงปรากช่วงปี 1475 ถึง 1497 ซึ่งก็เป็นเวลาหลายปีที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเขาเป็นคนสร้างนาฬิกาดาราศาสตร์นี้ขึ้นมา ขณะเดียวกันการค้นคว้าเมื่อเร็วๆ…

  • พาทัวร์ ‘สุสานรถถัง’ ที่ถูกทิ้งร้างในยูเครน เผยความยิ่งใหญ่ของสหภาพโซเวียตในอดีต

    พาทัวร์ ‘สุสานรถถัง’ ที่ถูกทิ้งร้างในยูเครน เผยความยิ่งใหญ่ของสหภาพโซเวียตในอดีต

    บางสิ่งบางอย่างเมื่อล้าหลังไปแล้ว ผู้คนก็จะเลิกให้ความสนใจ ปล่อยให้มันทิ้งร้างไว้อย่างนั้น อาจมีการผุกร่อนไปบ้างตามกาลเวลา แต่ว่าบางอย่างก็ยังคงไม่หายไปไหน ไม่ต่างกับ “สุสานรถถัง” ในเมืองคาร์คิฟ ประเทศยูเครน ใกล้กับชายแดนรัสเซียในปัจจุบัน ซึ่งสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยรถถังมากมายที่ถูกทิ้งไว้โดยไม่มีใครเข้ามาแยแส แต่การมีอยู่ของพวกมันก็ได้ไปกระตุ้นความสนใจให้กับนักสำรวจชื่อ Patvel Itkin เข้าไปเก็บภาพแห่งความทรงจำที่มีมาตั้งแต่ยุค 1960s ในตอนที่ยูเครนยังเป็นหนึ่งในสหภาพโซเวียตอยู่   กว้างพอให้สร้างโรงเรียนได้เลยนะ   รถถังเต็มไปหมด   เขาได้แอบเข้าไปในขณะที่ไม่มีคนเห็น ซึ่งปกติแล้ว สถานที่แห่งนี้จะถูกปิดไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไป และเมื่อได้ลองเดินไปรอบๆ เขาก็รู้สึกอึ้งกับความกว้างใหญ่ของสถานที่นั้น สถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยรถถังที่คาดว่าจะมีมากถึง 450 คัน พร้อมกับเครื่องยนต์อีกมากมาย และชายคนนี้ก็ต้องใช้เวลาอยู่หลายเดือนเพื่อให้ได้เห็นในทุกซอกทุกมุม   เรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เหมือนกับทหารกำลังยืนเข้าแถว   มองมุมนี้แล้วดูไม่ออกเลยว่า รถถังมีจำนวนมากขนาดไหน   และที่พบได้เยอะที่สุดก็คือ รถถังรุ่น T-62 อันมีชื่อเสียงของโซเวียต เคยผ่านสมรภูมิมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สงครามเย็น สงครามเกาหลี รวมถึงสงครามเวียดนาม สถานที่แห่งนี้เมื่อก่อนเคยเป็นจุดซ่อมบำรุงรถถังมาก่อน และรถถังมากมายที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ บางส่วนก็มาจากโรงงาน Malyshev ใกล้กันนั้นเอง   เครื่องยนต์ที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ไม่ต่างกัน   คงจะน่าเศร้ามากแน่ๆ…

  • เปิดตำนาน 90 ปี เครื่องดื่ม 7Up หนึ่งในน้ำอัดลมสุดฮิตของโลก จากต้นกำเนิดมาจนถึงวันนี้…

    เปิดตำนาน 90 ปี เครื่องดื่ม 7Up หนึ่งในน้ำอัดลมสุดฮิตของโลก จากต้นกำเนิดมาจนถึงวันนี้…

    เวลาจะเล่าถึงประวัติของน้ำอัดลม เราก็คงจะนึกถึงอยู่แค่ประวัติของโค้กหรือไม่ก็เป็ปซี่จริงไหม? แต่ถ้าเราลองมาทำความรู้จักกับน้ำอัดลมแบรนด์อื่นกันดูบ้างเป็นไง ฉะนั้นก็เลยขอหยิบประวัติของ 7up มาให้ทุกคนได้อ่านกัน… 7up นั้นเป็นน้ำอัดลมที่มีประวัติยาวนานมากๆ อีกแบรด์หนึ่งแม้จะไม่เท่าโค้กกับเป็ปซี่ก็ตาม แต่ก็น่าสนใจมากๆ เลยล่ะ แรกเริ่มนั้นถูกก่อตั้งโดย Charles Leiper Grigg ซึ่งคิดค้นได้ตอนอายุ 22 เท่านั้น!!     Charles เริ่มต้นจากการไปทำงานให้กับโรงงานผลิตน้ำอัดลมแห่งหนึ่ง โดยระหว่างนั้นเขาก็คิดค้นน้ำอัดลมของตัวเองได้เป็นแบรด์แรก โดยใช้ชื่อว่า Whistle แต่ด้วยวิกฤตทางการจัดการในบริษัทเลยทำให้เขาต้องออกจากงานมา แต่ก็ไม่นานนักเข้าก็ค้นพบงานใหม่… เขาได้เข้าทำงานที่โรงงานแห่งใหม่ แน่นอนว่าเขาก็ไม่วายที่จะคิดค้นน้ำอัดลมตัวใหม่ขึ้นมาอีก โดยรอบนี้ใช้ชื่อแบรนด์ว่า Howdy ซึ่งเป็นน้ำส้มอัดลมที่ฮิตมากๆ ในตอนนั้น และเขาก็ได้ร่วมลงทุนกับ  Edmund G. Ridgway และ Frank Gladney เพื่อก่อตั้งบริษัทขึ้นมา     ทุกอย่างไปได้สวย น้ำส้มขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่ Charles ก็ไม่พอใจกับน้ำส้มของเขา เขายังค้นเดินหน้าคิดค้นน้ำอัดลมกลิ่นเลม่อนของเขาต่อไป เขาใช้เวลาสองปีในการลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ จนปี 1929 ในที่สุดเขาก็ค้นพบสูตรน้ำอัดลมตัวใหม่และตั้งชื่อมันว่า “Bib-Label Lithiated Lemon-Lime Sodas” น้ำดื่มของเขาวางขายในท้องตลาดก่อนที่เหตุการณ์…

  • หมู่บ้านอายุ 250 ปีที่ยังคงสวยงามไร้การเปลี่ยนแปลง แม้จะอยู่มานานและถูกทิ้งร้างไว้

    หมู่บ้านอายุ 250 ปีที่ยังคงสวยงามไร้การเปลี่ยนแปลง แม้จะอยู่มานานและถูกทิ้งร้างไว้

    เมืองที่มีมาอย่างยาวนานและถูกทิ้งร้างไป มักจะเต็มไปด้วยสภาพที่ทรุดโทรม ไม่น่าเข้าไปใกล้หรืออยู่อาศัยกันในละแวกนั้นซักเท่าไหร่ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดกับหมู่บ้าน Batsto เพราะถึงแม้ว่าจะถูกสร้างมานานมากแล้ว ตั้งแต่ในปี 1766 ยาวนานมาจนถึงผู้อยู่อาศัยคนสุดท้ายที่ออกไปจากที่นี่ในปี 1989 ทว่ามันก็ยังคงความสวยงามและเก่าแก่อยู่เสมอ ตึกรามบ้านช่องต่างๆ นอกจากจะยังคงดูพร้อมใช้งานเหมือนกับมีคนอยู่อาศัยมาตลอดแล้ว ทุกสิ่งก่อสร้างยังคงมีความคลาสสิค ไม่มีความร่วมสมัยเหมือนกับตึกในสมัยนี้เลยแม้แต่น้อย เหมือนกับที่หมู่บ้านนี้เป็นมาตั้งแต่แรก   อาคารนอกประจำหมู่บ้าน   หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา เป็นส่วนหนึ่งของเขตอนุรักษ์แห่งชาติเมือง Pinelands และได้รับการปกป้องโดยกรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อม สวนสาธารณะและป่าไม้ของรัฐ จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เมืองนี้ยังคงน่าอยู่เสมอ ปราศจากคนเข้ามารุกราน ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของสถานที่นี้เริ่มต้นมาจาก Charles Read ช่างตีเหล็กผู้โด่งดัง เข้ามาสร้างโรงงานเป็นของตัวเองใกล้กับแม่น้ำ Batsto ในเวลานั้นพื้นที่โดยรอบถูกเต็มไปด้วยแร่หินต่างๆ ตามธรรมชาติมากมาย   แม่น้ำ Batsto ที่ตัดผ่านหมู่บ้าน   นอกจากนั้นทรัพยากรที่จำเป็นก็หาได้ง่ายมาก ใช้น้ำจากแม่น้ำหรือตามบึงรอบๆ ไม้เยออะแยะที่มีอยู่ในป่าใหญ่ และสิ่งจำเป็นสำหรับการตีเหล็กมีอยู่ที่นี่ทั้งหมด ทำให้โรงงานเติบโตได้ดีจนต้องมีลูกจ้างเข้ามาช่วย สิ่งปลูกสร้างเป็นอันดับแรกนอกเหนือจากที่ทำงาน จึงเป็นบ้านพักอาศัยของคนเหล่านั้น และเป็นจุดเริ่มต้นให้กลายเป็นหมู่บ้านที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ จากตอนแรกที่สร้างเพียงแค่ของใช้ภายในบ้าน แต่โรงงานแห่งนี้ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น จน John Cox ได้เข้าซื้อโรงงาน และเปลี่ยนให้เป็นโรงงานผลิตยุทโธปกรณ์ทั้งหลายให้กับกองทัพภาคพื้นทวีป ในช่วงปฏิวัติอเมริกา…

  • ชมการสร้างสะพานรถไฟจากไม้ในช่วงศตวรรษที่ 19 ในยุคที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้าเท่าไหร่

    ชมการสร้างสะพานรถไฟจากไม้ในช่วงศตวรรษที่ 19 ในยุคที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้าเท่าไหร่

    ในยุคนี้เราก็คงจะได้เห็นสะพานต่างๆ ถูกสร้างขึ้นมาจากเหล็กหรือคอนกรีตกันหมดแล้ว ทว่าสมัยก่อนในยุคที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้าขนาดนี้ สิ่งเหล่านั้นกลับถูกสร้างขึ้นมาจากวัสดุธรรมชาติที่พบเห็นได้ง่าย อย่างต้นไม้ทั้งหลายเท่านั้นเอง เจ้าสะพานไม้นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปี 1830s โดยเฉพาะการสร้างสะพานรถไฟ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากใครบางคนที่นำขอนไม้มาวางเรียงกันสำหรับไว้ข้ามลำธาร ทว่าในสะพานไม้เหล่านี้กลับไม่ได้รับความนิยมในยุโรปสักเท่าไหร่ ตรงกันข้ามกับทางฝั่งสหรัฐอเมริกาและแคนาดาที่เป็นผู้นำสำคัญในการเริ่มต้นสร้างสะพานไม้อย่างแพร่หลาย ใช้วัสดุจากพื้นที่ป่ารอบๆ เกิดเป็นดีไซน์ที่แตกต่างกัน 2 แบบ เพื่อให้เหมาะกับพื้นที่และการใช้งานที่ต่างกัน   ชาวบ้านสร้างสะพานด้วยตัวเอง และมีคนขึ้นไปวัดโครงสร้างอยู่ด้านบน   สะพานในวอชิงตันสูงกว่า 61 เมตร เป็นหนึ่งในสะพานที่สูงที่สุด   โดยส่วนใหญ่ที่ใช้จะเรียกว่า Pile Trestle เป็นการนำไม้มาวางเรียงกัน ให้เป็นเหมือนขาหยั่งเอียงเข้าหากัน ในระยะห่าง 3 ถึง 5 เมตร ในแต่ละขาหยั่งที่ยื่นขึ้นไปจะประกอบด้วยเสาไม้ 3 ถึง 5 ต้น ถูกปักลงไปกับพื้นด้วยเครื่องตอก เสาที่อยู่นอกสุดจะมีองศาที่ค่อนข้างกว้าง เพื่อความมั่นคงที่มากขึ้น ส่วนบนสุดก็จะถูกตัดให้พอดีในระหว่างการก่อสร้าง และขาหยั่งที่ต้องใช้สำหรับสะพานที่อยู่สูง ก็จะใช้ไม้ที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม แตกต่างจากไม้ที่ใช้เป็นเสาให้กับสะพานที่ไม่สูงมาก แต่ยิ่งไปกว่านั้นหากเป็นสะพานที่สูงมากๆ จะสร้างฐานแบ่งเป็นชั้นต่อกันขึ้นไปทีละชั้นซ้ำไปมา   .   สะพานไม้ส่วนใหญ่จะเป็นสะพานทางตรง ไม่ค่อยมีทางโค้งเท่าไหร่ ทั้งนี้เพราะต้องใช้ขาหยั่งมาเรียงกันเป็นจำนวนมาก และเพื่อการเลี้ยวของรถไฟให้เป็นไปได้อย่างนุ่มนวล ซึ่งโครงสร้างสะพานไม้ที่ใหญ่ที่สุดคือเส้นทาง Mile…

  • พบขวดไวน์ที่ ‘เก่าแก่’ ที่สุดในโลกในสุสานชาวโรมัน บ่มไว้นานจนป่านนี้ก็ยังไม่เคยเปิด!?

    พบขวดไวน์ที่ ‘เก่าแก่’ ที่สุดในโลกในสุสานชาวโรมัน บ่มไว้นานจนป่านนี้ก็ยังไม่เคยเปิด!?

    หลายคนอาจจะเคยได้ยินวลียอดฮิตออย่าง “ไวน์ ยิ่งบ่มนานยิ่งรสชาติดี” กันมาบ้างแน่ๆ และคอไวน์หลายๆ คนก็คงอยากจะสรรค์หาไวน์อายุเก่าแก่และรสชาติดีมาลิ้มลองกันบ้าง ถ้าอย่างนั้นขอเชิญพบกับไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกขวดนี้ได้เลย!! ไวน์ขวดที่ว่านี้ถูกค้นพบที่สุสานโรมันแห่งหนึ่ง ใกล้ๆ กับเมือง Speyer ประเทศเยอรมนี ซึ่งการค้นพบครั้งนี้ได้ทำให้มันกลายเป็นขวดไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกไปในทันที โดยชื่อเต็มๆ ของเจ้าไวน์ขวดนี้ก็คือ The Speyer Wine นั่นเอง   และนี่คือไวน์ขวดที่ว่านี้!! เป็นไงล่ะ เก่าได้ใจมั้ย!?   ขวดไวน์เก่าแก่นี้ถูกค้นพบเมื่อปี 1867 ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการบรรจุไวน์ที่ผลิตในพื้นที่หมู่บ้านเก่าแก่ของเมือง Rhineland-Palatine ประเทศเยอรมนี โดยไวน์ที่ถูกบรรจุอยู่ภายในนั้น อาจจะมีการผลิตขึ้นเมื่อประมาณคริสต์ศักราชที่ 325 ถึง 359 และมันก็ถูกขุดพบระหว่างการสำรวจสุสานของชาวโรมันจากศตวรรษที่ 4     ลักษณะทั่วไปของขวดนั้นเป็นแก้วสีเขียวขุ่นขนาด 1.5 ลิตร คล้ายกับภาชนะโบราณ และนอกจากนี้ยังมีหูจับเล็กๆ รูปโลมาอยู่ตรงบริเวณคอขวด มีการคาดการณ์กันว่าปริมาณของแอลกอฮอลที่อยู่ภายในขวดนั้นอาจจะลดลง แต่อย่างไรก็ตามส่วนผสมหลักของมันก็ยังคงเรียกว่าไวน์อยู่ดี     ถึงแม้จะมีความพยายามศึกษาถึงรายละเอียดของแก้วและส่วนผสมของไวน์ในขวด แต่ก็ไวน์ขวดดังกล่าวก็ยังไม่ถูกเปิดออกเพราะเกรงว่าสิ่งแวดล้อมภายนอก อาจจะทำให้ส่วนผสมและไวน์ที่อยู่ภายในเสียหายได้ และตอนนี้มันถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีด้วยการปิดผนึกปากขวดด้วยขี้ผึ้งและน้ำมันมะกอกไว้ในพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ของเมือง Speyer เป็นที่เรียบร้อยแล้ว   อยากรู้เหลือเกินว่าตอนเปิดขวดครั้งแรก กลิ่นจะเป็นยังไงหว่า?   ที่มา abandonedspaces

  • ภาพเจาะลึก “ม่านรูดร้าง” ในญี่ปุ่น หลังถูกทิ้งร้าง 17 ปี บอกเล่าเรื่องราวจากในอดีต…

    ภาพเจาะลึก “ม่านรูดร้าง” ในญี่ปุ่น หลังถูกทิ้งร้าง 17 ปี บอกเล่าเรื่องราวจากในอดีต…

    ภาพถ่ายหลายภาพที่คุณได้พบเห็นตามที่ต่างๆ นั้น คงจะมีที่มาจากหลายที่ที่คุณอาจไม่เคยได้ไปลองสัมผัสด้วยตนเองมาก่อน เหมือนกับรูปภาพเหล่านี้ที่ได้ถ่ายมาจากสถานที่ที่หลายคนอาจไม่เคยคิดที่จะเข้าไปเลยก็ได้ เมื่อช่างภาพที่มีชื่อว่า Bob Thissen ผู้ที่ได้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อการถ่ายรูปในสถานที่เจ๋งๆ มากมายอย่างภาพเรือรบของฝรั่งเศส สุสานรถในสวีเดน หรือแม้แต่สวนสนุกร้างในเกาหลีใต้ เป็นต้น กระทั่งมาถึงรูปภาพชุดนี้   .   ครั้งนี้นั้นเราจะได้มาชมภาพถ่ายจากโรงแรมม่านรูดร้างในญี่ปุ่น สถานที่ที่เคยเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก การร่วมเพศและความสุขที่เกิดขึ้นอย่างอิสระ จนกระทั่งสลายหายไปกลายเป็นความทรงจำอันเลือนลาง กลุ่มลูกค้าของสถานที่แห่งนี้นั้นมักจะเป็นคู่รักในเมืองที่ต้องหนีออกมายังเขตชนบทในโตเกียว มาเพื่อหาพื้นที่ส่วนตัวของพวกเขาในการสานต่อความสัมพันธ์อันใกล้ชิดและลึกซึ้ง   .   โดยแต่ละห้องก็จะมีให้เลือกแตกต่างกันไปอย่างหลากหลาย ตั้งแต่แบบห้องนอนสไตล์ขุนนางญี่ปุ่น ห้องสไตล์ยุโรป จนไปถึงห้องที่เหมือนกับของสตรีในยุคกลางก็ยังมี ราคาชั่วโมงก็จะแตกต่างกันไป อย่างห้องที่มีราคาแพงภายในก็จะเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ดูหรูหราและน่าสนใจอยู่มากมาย     เฟอร์นิเจอร์ที่แสดงให้เห็นถึงความคลาสสิค .   ที่นี่ปลอดภัยจริง ถึงกับมีอัศวินมาคอยดูแลความเรียบร้อย   จะไม่มีเตียงจริงๆ หรอเนี่ย .   ความทรุดโทรมของสถานที่นั้นสามารถบอกได้ถึงความเก่าแก่ที่มีมานาน หากแต่ยังคงเหลือร่องรอยความรู้สึกของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในพอให้เราได้รับรู้เข้าใจกันได้บ้าง หากใครชื่นชอบผลงานของเขาคนนี้ก็สามารถไปชมได้ที่เว็บไซต์ BobThissen ของเขาเอง   ที่มา: sobadsogood

  • คนงานก่อสร้างบังเอิญค้นพบ “ดาบอัศวินโบราณ” อายุ 600 ปี ว่ากันว่าสมบูรณ์ที่สุด เท่าที่เคยพบมา

    คนงานก่อสร้างบังเอิญค้นพบ “ดาบอัศวินโบราณ” อายุ 600 ปี ว่ากันว่าสมบูรณ์ที่สุด เท่าที่เคยพบมา

    ในสมัยโบราณ ช่วงเวลาก่อนที่มนุษย์จะต่อสู้กันด้วยปืน หลายชนชาติล้วนเคยใช้ดาบมาก่อน แต่เมื่อเทคโนโลยีพัฒไปแบบก้าวกระโดด ทำให้ดาบเริ่มกลายเป็นสิ่งที่ล้าหลังและไม่มีใครใช้อีกต่อไป ดาบบางเล่มถูกเก็บเข้าพิพิธพันธ์เพื่อนำไปโชว์ ในขณะที่บางเล่มก็สูญหายไปตามกาลเวลา     แต่เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Nationalgeographic ได้รายงานว่ามีคนงานก่อสร้างรายหนึ่งในเมือง Hrubieszow ประเทศโปแลนด์ค้นพบดาบอัศวินเก่าแก่ที่มีอายุราวๆ 600 ปีโดยบังเอิญแถวๆ บึงแห่งหนึ่ง ซึ่งดาบเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่ 13 ถึง 14 เลย     ตัวดาบมีขนาดยาวประมาณ 1.2 เมตร และมีน้ำหนักราวๆ 1.3 กิโลกรัม แต่สิ่งที่มันน่าอะเมซิ่งมากๆ สำหรับการค้นพบครั้งนี้ก็คือ ถึงตัวดาบจะเก่าแก่ที่สุดแต่มันก็อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มากๆ Bartłomiej Bartecki ผู้บริหารพิพิธภัณฑ์ในโปแลนด์ให้ความเห็นว่ามันมีความเป็นไปได้ที่อัศวินผู้เป็นเจ้าของดาบเล่มนี้อาจจะถูกผลักตกลงไปในบึงหรือไม่ก็อาจจะทำหล่นเอาไว้ที่นั่นเอง     ตามรายงานไม่ได้เปิดเผยแหล่งที่ค้นพบที่แน่ชัด เนื่องจากกลัวว่าจะมีกลุ่มคนแห่กันไปขุดดินและสร้างความวุ่นวาย แต่มีการอนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญและนักโบราณคดีเข้าไปเป็นการส่วนตัว เพราะอาจจะมีสมบบัติและวัตถุโบราณรอให้ถูกค้นพบอีกหลายอย่าง ตัวดาบจะถูกส่งไปทำความสะอาดและวิเคราะห์ก่อนจะส่งมอบมันให้กับพิพิธภัณฑ์ Stanisław Staszic ในเดือนกันยายน 2017 นี้ ที่มา ladbible

  • คลาสสิคพอไหม!? ค้นพบรองเท้าหนังที่เก่าแก่สุดในโลก อายุ 5,500 ปี นี่แหละแฟชั่นยุคนั้น

    คลาสสิคพอไหม!? ค้นพบรองเท้าหนังที่เก่าแก่สุดในโลก อายุ 5,500 ปี นี่แหละแฟชั่นยุคนั้น

    สำหรับใครที่ชื่นชอบในความคลาสสิกของรองเท้าหนังและรู้สึกว่ารองเท้าที่มีอยู่ในตลาดตอนนี้มันไม่ตรงต่อความต้องการเอาซะเลย วันนี้แคทดั๊มบ์ไดเร็กเลยจัดให้กับรองเท้าหนังที่เก่าแก่ที่สุดในโลก พวกเธอว์จงเสพมันซะ!! รองเท้าหนังที่เก่าแก่ที่สุดในโลกคู่นี้มีชื่อรุ่นว่า The Areni-1 ตัวรองเท้าถูกค้นพบในถ้ำแห่งหนึ่งเมื่อปี 2008 ในประเทศอาร์มีเนีย ซึ่งทางทีมผู้เชี่ยวชาญระบุว่าอายุอานามของรองเท้าน่าจะมีมากถึง 5,500 ปีเลยทีเดียว   ตัวรองเท้าทำมาจากหนังเพียงแผ่นเดียว ส่วนขนาดของรองเท้าจะมีความกว้างอยู่ที่ 2.6 นิ้ว และยาว 9.6 นิ้ว โดย Ron Pinhasi นักสำรวจผู้ค้นพบรองเท้าบอกว่าเขาไม่แน่ใจว่าตัวรองเท้านี้เป็นของผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นของผู้ชายแน่ๆ เพราะขนาดไซส์ปกติของผู้หญิงในสหราชอาณาจักรจะอยู่ที่ 6 นิ้ว   ดูหน้าตาและวัสดุกันแบบชัดๆ   แต่ตัวรองเท้า The Areni-1 ไม่ได้เป็นรองเท้าที่เก่าแก่ที่สุดหรอกนะ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีการค้นพบรองเท้าที่มีอายุกว่า 10,000 ปีมาแล้วในรัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เนื่องจากทำมาจากคนล่ะวัสดุจึงถูกจัดให้อยู่ในคนละประเภทนั่นเอง   การค้นพบในครั้งนี้ทำให้รองเท้าของมนุษย์น้ำแข็ง Ötzi ที่มีอายุ 5,300 ปี ต้องพ่ายแพ้ (ในด้านความเก่าแก่) ให้กับ The Areni-1 ไปเลย ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงแล้วมันมีความเก่าแก่ยิ่งกว่าพีระมิดกีซ่าเลยด้วยซ้ำ   เอาเป็นว่า The Areni-1 คงจะถูกใจคนที่ชื่นชอบความคลาสสิกและรองเท้าหนังไม่มากก็น้อย หรือใครสนใจจะดึงไปออกแบบใหม่สร้างแบรนด์ของตัวเองก็ไม่ว่ากัน   ที่มา thevintagenews

  • โบสถ์อายุกว่า 400 ปี โผล่มาให้เห็นเพราะภัยแล้งเม็กซิโก หลังจมอยู่ก้นแม่น้ำมานานนับ 50 ปี!!

    โบสถ์อายุกว่า 400 ปี โผล่มาให้เห็นเพราะภัยแล้งเม็กซิโก หลังจมอยู่ก้นแม่น้ำมานานนับ 50 ปี!!

    โบสถ์โดมินิกันในประเทศเม็กซิโกได้จมไปอยู่ก้นแม่น้ำมาตั้งแต่ช่วงทศววรตที่ 1960 แต่หลังจากที่ประเทศเม็กซิโกต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้ง จนสามารถเห็นโบสถ์เก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 400 ปี นี้ได้อีกครั้งหนึ่ง โบสถ์แห่งนี้ถูกสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นมาโดยพระและแม่ชี ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1500 เมื่อพวกเขาเดินทางมายังประเทศเม็กซิโกเพื่อเผยแพร่ศาสนา ในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเม็กซิโก     จนมาถึงช่วงปี 1962 ได้มีการสร้างเขื่อน Benito Juarez Dam ขึ้นมาทำให้โบสถ์แห่งนี้ถูกน้ำท่วมไปจนไม่เห็นแม้แต่เงา จากนั้นปริมาณน้ำในเขื่อน ก็ค่อยๆ ลดลงมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันเหลือจำนวนน้ำเพียง 16 เปอร์เซ็นต์จากความสามารถในการจุน้ำได้ทั้งหมดของเขื่อน นั่นหมายความว่าเราสามารถมองเห็นเกือบทุกส่วนของโบสถ์ได้แล้ว     จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รู้ถึงความรุนแรงของปัญหาภัยแล้งในประเทศเม็กซิโกได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่ามันส่งผลไปถึงการทำการเกษตรอย่างเช่นการปลูกข้าวโพด ที่เป็นพืชเศรษฐกิจของพวกเขาด้วย     สถาปัตยกรรมบางส่วนของโบสถ์ก็ถูกน้ำกัดเซาะจนหายไป แต่ส่วนใหญ่ก็ยังคงอยู่ในสภาพที่ดีอยู่   พื้นที่ที่แห้งแล้ง   ภายในที่ยังคงมีน้ำขังอยู่ บางส่วนก็แห้งสนิท จนเด็กๆ สามารถเข้ามาวิ่งเล่นกันได้   ต้องขอบอกเลยว่า เป็นสถาปัตยกรรมที่อึด ถึก และทน จริงๆ หลังจากที่นอนอยู่ก้นแม่น้ำมานานนับ 50 ปี แต่ก็ยังคงรูปร่างเดิมเอาไว้ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเหตุการณ์นี้ก็ชี้ให้เห็นว่าโลกของเรากำลังเผชิญปัญหาภัยแล้งในหลายๆ พื้นที่…

  • นักโบราณคดีจีนขุดพบ ‘ดิลโด้โบราณ’ อายุ 2,000 ปี แต่จุดประสงค์การใช้งานยังคงเป็นปริศนา!?

    นักโบราณคดีจีนขุดพบ ‘ดิลโด้โบราณ’ อายุ 2,000 ปี แต่จุดประสงค์การใช้งานยังคงเป็นปริศนา!?

    จากการค้นพบล่าสุดของนักโบราณคดีก็ทำให้รู้ว่าเหล่าขุนนางภายใต้การปกครองของราชวงศ์ฮั่น ในช่วงยุค 206 ปีก่อนคริสตกาล นั้นดูเหมือนว่ามีช่วงเวลาที่เยี่ยมยอดมาก… ในการขุดค้นสุสานโบราณที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปี ที่ตั้งอยู่ในมณฑล Jiangsu นักโบราณคดีได้ค้นพบสมบัติที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย ประกอบไปด้วยวัตถุที่เป็นเซรามิค, จานชาม, อุปกรณ์อาบน้ำ (ฟองน้ำที่ใช้ขัดตัว), และอุปกรณ์ที่น่าทึ่งอย่างดิลโด้ที่ทำจากทองแดงและหยก     ถึงแม้มีการสันนิษฐานว่าดิลโด้ทองแดง อาจจะถูกใช้เป็นวัตถุทางด้านเพศ ทั้งให้ผู้หญิงใช้หรือผู้ชายใช้เพื่อเป็นเซ็กส์ทอยกับคู่ฝ่ายตรงข้าม อย่างไรก็ตามทางด้านนักวิจัยเชื่อว่าเจ้าดิลโด้หยกนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อสนองต่อความต้องการทางเพศแต่อย่างใด เพราะหยกนั้นถือเป็นอัญมณีที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของชาวจีนมาอย่างช้านาน และคาดว่ามันน่าจะถูกนำมาใช้ในพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อมากกว่า “เจ้าสิ่งของที่มีลักษณะคล้ายกับดิลโด้ที่ทำขึ้นมาจากหยกนี้ ถูกใช้งานเพื่อปิดผนึกร่างกายเพื่อกักเก็บเนื้อแท้ของตัวตน ไม่ให้มันรั่วไหลออกมาในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่และตายไปแล้ว” ภัณฑารักษ์ Fan Zhang กล่าว     ส่วนเจ้าดิลโด้ทีทำขึ้นมาจากทองแดงนั้นเองก็ ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามีไว้ทำอะไรกันแน่ เพราะรูปร่างของมันช่างแปลกประหลาด มีห่วงวงกลมเล็กๆ ติดอยู่ข้างหลังจึงทำให้นักวิจัยต่างก็ตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้วมันมีไว้เพื่อสนองต่ออารมณ์ทางเพศจริงหรือไม่!? “เจ้าดิลโด้ที่ทำมาจากทองแดงนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากมากๆ และมันมักจะถูกพบในหลุมฝังศพของชนชั้นสูง เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาทำมันขึ้นมาเพื่อใช้งาน แต่จะใช้งานในเรื่องใดนั้นยังไม่อาจทราบได้ เจ้าห่วงวงกลมนั้นก็คือสายหนัง หรือหนังที่ถูกคล้องเอาไว้ แต่มันก็ทำให้ชวนสงสัยว่าพวกเขาจะสวมใส่กันอย่างไร? มีไว้สำหรับผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่!?” คุณ Zhang กล่าว       การค้นพบครั้งนี้ อาจจะเป็นหลักฐานสำคัญไขไปสู่เรื่องน่าสนใจในประวัติศาสตร์อีกหลายๆ เรื่องก็เป็นได้ ต้องคอยติดตามกันดูแล้ว… ที่มา :…

  • นักโบราณคดีพบพระพุทธรูปโบราณ อายุกว่า 600 ปี โผล่ขึ้นมาให้เห็นหลังระดับน้ำในเขื่อนลดลง

    นักโบราณคดีพบพระพุทธรูปโบราณ อายุกว่า 600 ปี โผล่ขึ้นมาให้เห็นหลังระดับน้ำในเขื่อนลดลง

    จากการเก็บข้อมูลของทาง Pew Research Center ประเทศจีนนั้นมีชาวพุทธอยู่ถึง 245 ล้านคนด้วยกัน นับเป็นเกือบร้อยละ 20 ของประชากรเลยล่ะ ถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีชาวพุทธอยู่มากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ถึงแม้จะมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี แต่การปฏิวัติประเทศในช่วงปี 1960 นั้น วัตถุทางศาสนานับล้านๆ ชิ้นถูกทำลายเพราะกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองในตอนนั้นพยายามทำให้ผู้คนเลิกศรัทธาสิ่งต่างๆ และพุ่งไปในด้านการพัฒนาชาติตามแนวคิดอย่างเดียว แต่ทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่างไม่ได้ถูกทำลายไปซะหมด เพราะอย่างน้อยก็ยังมีอยู่ที่หนึ่งในมณฑลเจียงซี เมื่อระดับน้ำของเขื่อน Hongmen ลดลง กลับมีพระพุทธรูปโบราณที่จมอยู่ในน้ำ อายุราวๆ กว่า 600 ปี โผล่ขึ้นมา   พระพุทธรูปในเขื่อน Hongmen มณฑลเจียงซี หลังจากระดับน้ำลดลง 10 เมตร   พอนักโบราณคดีเข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่าพระพุทธรูปดังกล่าว ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 หรือราวๆ 600 ปีก่อน   สามารถรอดพ้นจากการสั่งให้ทำลายรูปปั้นทุกอย่างของเหมา เจ๋อ ตุง ในช่วงปี 1966-1976 มาได้เพราะจมอยู่ใต้น้ำมาตลอด   นอกจากพระพุทธรูปแล้ว ยังเจอวัดที่ซ่อนอยู่ที่ฐานของพระพุทธรูปด้วย  …

  • ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี เมื่อเดินไปใกล้ๆ จะมีประตูพาให้คุณเข้าไปสู่ “บาร์” สุดเก๋

    ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี เมื่อเดินไปใกล้ๆ จะมีประตูพาให้คุณเข้าไปสู่ “บาร์” สุดเก๋

    ธรรมชาตินอกจากจะสร้างความมหัศจรรย์ และความงดงามให้โลกแล้ว ยังเป็นแรงบันดาลใจในการสร้าง และออกแบบผลงานสถาปัตยกรรมอันงดงามให้กับมนุษย์อีกด้วย เหมือนดังเช่น ต้น Sunland Big Baobab ต้นไม้ท้องถิ่นของประเทศแอฟริกาใต้ต้นนี้ ดูจากภาพรวมแล้ว มันคือต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่ยักษ์ และมีความโดดเด่นเป็นสง่ามากๆ เลยทีเดียว     แต่ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือ หากคุณได้เข้าไปใกล้ๆ คุณจะพบว่ามันมีประตูที่จะพาคุณเข้าไปใน”บาร์ต้นไม้” สุดเก๋ ที่ถูกสร้างขึ้นมาอยู่ภายในต้นไม้ขนาดใหญ่ ว้าวววว เจ๋งสุดๆ   สำหรับบาร์แห่งนี้ ตั้งอยู่ในฟาร์ม Sunland เขตเมือง Limpopo ประเทศแอฟริกาใต้  และเป็นหนึ่งในบาร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง จนทำให้มันกลายเป็นจุดสนใจ ที่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยว มาเยี่ยมเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย     เมื่อได้ก้าวเข้ามาในบาร์แห่งนี้ คุณจะพบว่ามันดูแปลกตามากๆ เลยทีเดียว   ภายในมีลักษณะคล้ายถ้ำ แถมยังมีบาร์อีกด้วย   นอกจากนี้ ยังสามารถรองรับคนได้มากถึง 15 คน  โดยต้นไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 10.64 เมตร และมีความสูงกว่า 19 เมตร ส่วนภายในจะมีความสูง 13…

  • ไปชมภายใน… ห้องสมุดเก่าแก่ที่สุดในโลก เปิดตัวอีกครั้ง ให้คนทั่วไปสัมผัสความอลังการ

    ไปชมภายใน… ห้องสมุดเก่าแก่ที่สุดในโลก เปิดตัวอีกครั้ง ให้คนทั่วไปสัมผัสความอลังการ

    เมื่อพูดถึงห้องสมุดแล้ว เราก็คงจะนึกถึงห้องสี่เหลี่ยม ที่เต็มไปด้วยหนังสือ มีโต๊ะ มีเก้าอี้ ดีๆหน่อยก็มีคอมให้เล่น อะไรประมาณนี้ แต่วันนี้ #เหมียวขี้ส่อง จะพาไปเปิดหูเปิดตา กับห้องสมุดที่เก่าแก่ที่สุดในโลก (บอกเลยมีความอลังมาก เรียกว่าห้องสมุดคงไม่เหมาะ เรียกคฤหาสน์สมุดได้มั้ย)   ห้องสมุดที่เก่าแก่ที่สุดในโลกนี้ ตั้งอยู่ใน Fez ประเทศโมร็อกโก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัย  Al-Qarawiyyin ที่เปิดเมื่อปี 859 เดิมนั้นมหาวิทยาลัย ได้สงวนเอาไว้ให้นักวิชาการและนักศาสนาเท่านั้น หลังจากการพยายามรีโนเวทหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ จนถึงปี 2012 นักสถาปนิก Aziza Chaouni  ตัดสินใจที่จะแปลงโฉมมันให้อยู่ในสภาพดีอีกครั้ง…   มหาวิทยาลัย Al-Qarawiyyin, ห้องสมุด และมัสยิด ถูกก่อตั้งขึ้นโดย Fatima El-Fihriya ในปี 859 ซึ่งเป็นช่างรูปแบบพีชคณิตถูกคิดค้นขึ้นมา   El-Fihri หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง ห้องสมุดยังคงมีประกาศนียบัตรเดิมของเธออยู่   วันนี้ต้องขอบคุณ Aziza Chaouni สำหรับ สี่ปีของการปรับปรุง ห้องสมุด al-Qarawiyyin ได้ปรับปรุงลานน้ำพุและตำราต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลงานทางศาสนาดั้งเดิม   การตกแต่งภายในมีความสวยงามด้วยกระเบื้องโมเสคที่ซับซ้อนและมีสีขาวตรงส่วนโค้ง แน่นอนว่าห้องสมุดที่เก่าแก่ที่สุดในโลกต้องมีห้องอ่านหนังสือส่วนตัว   NPR…

  • ว๊าววว!! บ้านอังกฤษอายุกว่า 300 ปี ภายนอกก็ดูธรรมดา แต่ภายในแต่งอบอุ่นน่าอยู่มาก

    ว๊าววว!! บ้านอังกฤษอายุกว่า 300 ปี ภายนอกก็ดูธรรมดา แต่ภายในแต่งอบอุ่นน่าอยู่มาก

    บ้านที่คุณกำลังจะได้รับชมต่อไปนี้ ดูภายนอกคุณอาจจะคิดว่ามันก็คือบ้านหลังเล็กธรรมดาๆ เหมือนกับบ้านทั่วๆ ไป แต่ใครจะรู้ละว่า ความจริงแล้วบ้านหลังนี้มีอายุอานามไม่ใช่เล่นๆ เลยนะจ๊ะ เพราะตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน มันมีอายุกว่า 300 ปีแล้ว วันนี้เหมียวขี้อ้อน จะพาคุณมาชมความเจ๋งของบ้านหลังนี้กัน ถึงแม้ว่ามันจะผ่านร้อนผ่านหนาวมาเป็นเวลานานนับร้อยๆ ปี แต่ก็ยังดูสวยงาม และมีความน่าสนใจไม่น้อย   เมื่อดูจากภายนอกมันเหมือนกระท่อมหลังน้อยๆ   บริเวณด้านหน้า และด้านข้างของบ้าน มีต้นไม้เขียวๆ ต้นเล็กๆ ล้อมรอบอยู่   เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลก Middle Earth เลยละ   ส่วนของหลังคาก็ยังคงอยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยม   เอาละ!! ถึงเวลาที่เราจะเข้ามาชมด้านในของบ้านหลังนี้กันแล้วววว   แตกต่างจากภายนอกอย่างสิ้นเชิง   แม้ว่าบ้านเก่าแก่หลังนี้ จะมีอายุมากถึง 300 ปี แต่มันก็ยังได้รับการปรับปรุงตกแต่งให้ดูสวยงาม และหรูหราไม่น้อยเลย   นอกจากเฟอร์นิเจอร์แล้ว ทุกๆ อย่างภายในบ้าน รวมไปถึงเตาผิงยังได้รับการปรับปรุงให้ดูทันสมัยขึ้น ทำให้บรรยากาศดูสบายๆ และเพิ่มเสน่ห์ให้กับห้องนั่งเล่นเป็นอย่างมากเลยละ   มุมอ่านหนังสือน่ารักๆ   นอกจากขนาดของบ้านจะเล็กแล้ว…

  • หนุ่มญี่ปุ่น พาไปทดลองดื่ม ‘กาแฟกระป๋อง’ อายุกว่า 27 ปี  เอิ่ม… ยังไม่เข็ดใช่ไหม!?

    หนุ่มญี่ปุ่น พาไปทดลองดื่ม ‘กาแฟกระป๋อง’ อายุกว่า 27 ปี เอิ่ม… ยังไม่เข็ดใช่ไหม!?

    เอาจริงๆ แล้ว “ประเทศญี่ปุ่น” นี่ถือได้ว่าเป็นประเทศที่ชอบลองของแปลกมากที่สุดเลยก็ว่าได้เลยนะเนี่ย ซึ่งจากบทความที่แล้ว เราได้นำเสนอเกี่ยวกับหนุ่มญี่ปุ่นที่ตามหา บะหมี่ อายุกว่า 16 ปี แล้วนำมาต้มกิน ผลที่ได้ก็คือโป๊ะเชะ มันเน่าแล้วนั่นเอง และดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่เข็ดนะ เพราะล่าสุดคุณ Sanjun ก็ได้ตัดสินใจทดลองดื่มกาแฟกระป๋องที่มีอายุนานกว่า 27 ปี จากร้านขายของมือสอง ในจังหวัดยามากูชิ ประเทศญี่ปุ่น นั่นเอง     ว่าแล้วก็อย่ารอช้าไปดูผลกันเลยว่ารสชาติของกาแฟสุดเก่าแก่กระป๋องนี้ จะออกมาเป็นอย่างไร   และนี่คือ “จอร์เจีย คอฟฟี่” กาแฟกระป๋องพร้อมดื่มอันดับ 1 ในญี่ปุ่น จาก Coca Cola   กาแฟกระป๋องนี้จะรสชาติดี๊ดี หากนำมาดื่มก่อนวันที่ 10 กันยายน 1989 แต่เดี๋ยวนะ!! นี่มันผ่านมานานแล้วนี่นา   ดูจากสภาพแล้ว…มีใครอยากลองดื่มบ้างไหม?   เอาละ!! เริ่มภารกิจ   เมื่อลองสูดกลิ่นเขาไป ก็พบว่า…มันไม่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว หรือกลิ่นของความเน่าเสียเลย   เทมันลงไปในแก้วเลยยยย…

  • ชมวิธีการผลิตสบู่ Aleppo สบู่ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเก่าแก่ และโด่งดังที่สุดในซีเรีย เขาทำกันแบบนี้เองหรอเนี่ย!!

    ชมวิธีการผลิตสบู่ Aleppo สบู่ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเก่าแก่ และโด่งดังที่สุดในซีเรีย เขาทำกันแบบนี้เองหรอเนี่ย!!

    Aleppo ถือเป็นสบู่ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก เคยโด่งดังและเป็นที่นิยมในหลายประเทศด้วยกัน ทั้งในอเมริกา ญี่ปุ่น และยุโรป เดิมทีสบู่ Aleppo มีโรงงานผลิตอยู่หลายแห่งด้วยกันในซีเรีย แต่ด้วยความที่ประเทศซีเรียตกอยู่ในภาวะสงคราม จึงทำให้โรงงานผลิตสบู่ในหลายๆ แห่งปิดตัวลง     หลายคนอาจจะเสียดายที่คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้เห็นสบู่ที่เก่าแก่แบบนี้อีกแล้ว แต่ทว่าคุณยังมีความหวังอยู่นะ เพราะนี่คือโรงงานในทางตอนเหนือของซีเรียที่ยังเปิดทำการผลิตสบู่ Aleppo อยู่ยังไงละเหมียว     โดยวิธีทำสบู่ Aleppo บอกเลยว่ามีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากเลยสักนิด เพียงแค่เทสบู่ที่ถูกผสมกันในรูปของเหลวลงบนพื้นให้กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ แล้วปล่อยให้มันแข็งตัว จากนั้นก็จะเริ่มตัดเป็นก้อนๆ แบบนี้เลย…     หลังจากที่ได้ทำการตัดสบู่เหล่านี้แล้ว มันก็จะถูกนำมาวางซ้อนกันตามภาพ จากนั้นก็เตรียมนำไปขายนั่นเอง   Aleppo เป็นสบู่ที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอก 82% น้ำมัน laurel 12% และโซดาเพียงเล็กน้อย เรียกได้ว่าส่วนผสมทั้งหมดล้วนแต่ทำมาจากธรรมชาติ และปราศจากสารเคมีอีกด้วย     ไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่าครั้งหนึ่งเราจะมีโอกาสได้เห็นขั้นตอนการผลิตสบู่ ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเก่าแก่ที่สุดในโลกแบบนี้ ที่มา : lifebuzz

  • บ้านหลังเก่าที่ดูธรรมดาๆ แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่า ภายในกลับตกแต่งขึ้นมาได้อย่างสวยงามสุดๆ

    บ้านหลังเก่าที่ดูธรรมดาๆ แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่า ภายในกลับตกแต่งขึ้นมาได้อย่างสวยงามสุดๆ

    ถ้าดูจากภายนอกคุณก็คงจะคิดเช่นเดียวกันกับเหมียวใช่ไหมละว่า บ้านหลังนี้มันก็เหมือนบ้านธรรมดาๆ ทั่วไป ที่ไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่น หรือสะดุดตาสักเท่าไหร่ แต่ใครจะไปรู้ละว่า ถ้าหากคุณได้ปิดประตูเข้าไปในบ้านหลังนี้ คุณจะได้พบกับความจริงบางอย่างที่ซ่อนอยู่ และความจริงนั้นมันก็จะต้องทำให้คุณถึงกับสตั้นไปชั่วขณะเลยทีเดียว อยากรู้แล้วใช่ไหมละว่าข้างในมีอะไร ถ้าอย่างนั้นเชิญเลื่อนมารับชมพร้อมกันเลย     และภาพเบื้องหน้าที่คุณกำลังเห็นอยู่นี้ก็คือ เป็นภาพภายในบ้านหลังเก่าธรรมดาๆ นั่นเอง   ดูสิ…ภาพในบ้านกลับตกแต่งขึ้นมาได้อย่างสวยงามจนน่าเหลือเชื่อ   โดยบ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 72 ปีก่อน ในเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา   และที่สำคัญเจ้าของบ้านที่เป็นหญิงชราวัย 96 ปี ได้จัดสินใจขายมัน และเธอก็ได้เรียกตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ให้มาดูบ้าน เมื่อพวกเขามาถึงก็ถึงกับอึ้ง เพราะภายในบ้านกับนอกบ้านนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง     ทุกตารางเมตรของบ้านหลังนี้ได้ออกแบบ และตกแต่งภายในปี 1950 มันถูกสร้างขึ้นมาด้วยความประณีต มีความใส่ใจรายละเอียด จึงทำให้มันออกมาสวยงาม และน่าอยู่แบบนี้   ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน   ห้องนอนเล็กสำหรับรับแขก   หรือแม้กระทั่งห้องน้ำ ก็ถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างสวยงาม   ส่วนชั้นใต้ดินของบ้านก็หรูหราสุดๆ   ภายนอกมันอาจจะเป็นเพียงบ้านที่ไม่มีอะไรพิเศษ แต่ถ้าคุณได้ย่างกรายเข้ามาภายในบ้านหลังนี้ละก็ คุณจะพบกับความสวยงามที่ซ่อนอยู่ภายในบ้านหลังนี้  …

  • คนหาปลาใช้เส้นทางนี้ทุกวัน เช้าวันหนึ่งกลับมีโบสถ์อายุเก่าแก่กว่า 400 ปีผุดขึ้นมากลางแม่น้ำซะงั้น!!!

    คนหาปลาใช้เส้นทางนี้ทุกวัน เช้าวันหนึ่งกลับมีโบสถ์อายุเก่าแก่กว่า 400 ปีผุดขึ้นมากลางแม่น้ำซะงั้น!!!

    สำหรับเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมาก ก็แค่โบสถ์สมัยยุคล่าอาณานิคมผุดขึ้นมากลางแม้น้ำในแถบตอนใต้ของ Chiapas ในเม็กซิโกเท่านั้นเอง!!! Leonel Mendoza คนหาปลาที่มักจะมาตกปลาในแถบนี้ทุกๆ วัน ก็ไม่ได้มีอะไรตื่นเต้นเพราะเขาผ่านเส้นทางนี้ตลอดอยู่แล้ว จนกระทั่งดันมีโบสถ์หลังเก่า ผุดขึ้นมากลางทางซะงั้น!!!   Temple of Santiago เหนือแม่น้ำ Grijalva   สาเหตุที่โบสถ์หลังเก่าผุดขึ้นมาก็เพราะว่าฝนแล้งในปีนี้ที่ทวีความรุนแรงขึ้นมากกว่าทุกๆ ปี แถมแม่น้ำสายนี้ยังเป็นต้นสายของเขื่อน Nezahualcoyotl  ซึ่งปริมาณน้ำลดต่ำไปแล้วกว่า 25 เมตรเลยทีเดียว   ตั้งแต่เขื่อนถูกสร้างขึ้นในปี 1966 น้ำก็ได้ท่วมโบสถ์หลังนี้ตั้งแต่นั้นมา หลังจากน้ำลดลงไปมากก็เผยให้เห็นตัวโบสถ์ หลายๆ คนได้มาเดินเล่นและชมภายในของโบสถ์หลังนี้ ทาง Leonel Mendoza คนหาปลา ก็ถือโอกาสขายปลาทอดให้นักท่องเที่ยวด้วยซะเลย     โบสถ์หลังนี้มีอายุมากกว่า 400 ปี   สำหรับโบสถ์หลังนี้ก็ถูกสร้างขึ้นด้วยกลุ่มพระแห่ง Friar Bartolome de la Casas ที่มาถึงแถบนี้ราวๆ ศตวรรษที่ 16 มีความยาว 61 เมตร…