Tag: เสียสละ

  • ภาพแทนคำพูด นักดับเพลิงผู้เหนื่อยล้ากับเด็กสาวที่เพิ่ง ‘ถูกช่วยชีวิต’ จากอุบัติเหตุ

    ภาพแทนคำพูด นักดับเพลิงผู้เหนื่อยล้ากับเด็กสาวที่เพิ่ง ‘ถูกช่วยชีวิต’ จากอุบัติเหตุ

    การทำงานเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เป็นการกระทำที่สมควรได้รับการยกย่องเป็นอย่างยิ่ง   และนี่คือเรื่องราวของคุณลุงนักผจญเพลิง ที่ยอมเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือเด็กสาวตัวน้อยและครอบครัวจากอุบัติเหตุ และบังเอิญมีเพื่อนร่วมงานถ่ายภาพเอาไว้จนโด่งดังไปทั่วโลกโซเชียล     คุณลุง Chris Blazek จากเมือง Cahattanooga รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการแจ้งทางโทรศัพท์ว่ามีเหตุไฟไหม้รถยนต์คันหนึ่ง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีเขาเพิ่งจะดับไฟที่ลุกไหม้บ้านหลังหนึ่งไป เมื่อไปถึงสถานที่เกิดเหตุพบว่ามีรถยนต์คันหนึ่งประสบอุบัติเหตุใกล้ๆ กับทางด่วน ผู้โดยสารภายในรถประกอบด้วยหญิงตั้งครรภ์รายหนึ่ง และลูกเล็กๆ 3 คนของเธอ ซึ่งทั้งหมดยังติดอยู่ภายในรถคันดังกล่าว จากข้อมูลทำให้คุณลุง Chris รู้สึกใจสลาย เพราะคุณลุง Chris เองก็เป็นคุณพ่อที่มีลูก 4 คน และเขาไม่ต้องการให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นไปมากกว่านี้ จึงรีบเข้าให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน     และนี่คือเรื่องราวในวันเกิดเหตุที่เขาเล่าผ่านทางเฟซบุ๊ก “คุณแม่ควบคุมสติไม่ได้ เพราะเธอได้รับการบาดเจ็บที่หลัง เด็กๆ น่าจะมีอายุอยู่ที่ราวๆ 7 ขวบ จนถึง 4 เดือน เด็กหญิงสองคนที่โตแล้วปลอดภัยดี แต่คนเล็กสุดร้องไห้ไม่หยุด ผมก็เลยพาเธอออกจากรถมาและรีบตรวจหาอาการบาดเจ็บในร่างกาย โชคดีที่เธอไม่เป็นอะไร หลังจากที่ทุกอย่างสงบลงเธอก็ซบลงที่ไหล่ของผม” “หลังจากที่เราควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างได้แล้ว ผมก็ตัดสินใจนั่งพักสักหน่อยกับเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันเมื่อกี้เอง และเธอก็หลับปุ๋ยเลยทีเดียว”  …

  • ตำนาน ‘หญิงญี่ปุ่นคนแรก’ ที่ได้ศึกษาระดับวิทยาลัย และวางรากฐานการศึกษาให้กับประเทศ!!

    ตำนาน ‘หญิงญี่ปุ่นคนแรก’ ที่ได้ศึกษาระดับวิทยาลัย และวางรากฐานการศึกษาให้กับประเทศ!!

    ในปี 1868 ประเทศญี่ปุ่นเริ่มเข้าสู่ยุคเมจิ อันเป็นยุคเปลี่ยนผ่านจากประเทศปิดสู่การเปิดรับความเจริญจากนานาประเทศทั่วโลก ยุคเมจิถือว่าเป็นยุคที่วางรากฐานการเปลี่ยนโครงสร้างสังคม เศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการศึกษา ในช่วงเวลาดังกล่าว การเดินทางข้ามประเทศของการทูตเริ่มมีความเป็นไปได้มากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์แล้ว ยังเป็นการศึกษาระบบการศึกษา โครงสร้างสังคมของสหรัฐอเมริกาและยุโรปด้วย โดยจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มี ‘ผู้หญิงชาวญี่ปุ่น’ คนแรกที่ได้สำเร็จการศึกษาในระดับวิทยาลัยคนนี้     เธอมีชื่อว่า Sutematsu Yamakawa (ชื่อเดิม Sakiko) เกิดในปี 1860 ในช่วงเวลานั้นเธอมีอายุได้เพียง 12 ปี และได้กลายเป็นหนึ่งในห้าของผู้หญิงชาวญี่ปุ่นกลุ่มแรก ที่ได้เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้สมัครใจไป เธอถูกบีบบังคับ     เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นในยุคสมัยนั้นพ่ายแพ้ต่อการรุกรานของต่างชาติ ถูกห้อมล้อมไปด้วยข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ญี่ปุ่นจึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้จากประเทศคนเถื่อนเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติ และจากน้ำมือของพี่ชายที่เซ็นสัญญามอบตัวไปอเมริกาโดยที่ไม่ถามเธอสักคำ มีเหตุผลเพียงสองข้อนั่นก็คือ เพื่อยกระดับชื่อเสียงของครอบครัว และไม่ต้องมาคอยเลี้ยงดูให้เป็นภาระของครอบครัวอีกต่อไป…   กลุ่มผู้หญิงชาวญี่ปุ่นกลุ่มแรก ที่ได้เดินทางออกนอกประเทศสู่สหรัฐอเมริกา ด้วยการบีบบังคับทั้ง 5 คน   สำหรับ Sutematsu นั้น ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศญี่ปุ่น เธอพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แม้แต่คำเดียว และจะต้องออกไปเผชิญโลกภายนอกพร้อมกับผู้หญิงอีก…

  • ‘คุณปู่’ วัย 90 ปี ยอมเสี่ยงชีวิต โดดลงไปช่วยเหลือเด็กน้อยที่กำลังจะจมน้ำ

    ‘คุณปู่’ วัย 90 ปี ยอมเสี่ยงชีวิต โดดลงไปช่วยเหลือเด็กน้อยที่กำลังจะจมน้ำ

    ร่างกายของเรามีวันเสื่อมสลายตามกาลเวลา แต่ความดีนั้นจะยังคงฝังแน่นอยู่กับคนคนนั้นไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตาม และการทำความดีของชายชราคนนี้คือข้อพิสูจน์ของความคิดนั้น นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2018 ในเมือง Santai ประเทศจีน เด็กน้อยวัยขวบครึ่งคนหนึ่งกำลังปั่นจักรยานเล่นอยู่แถวริมแม่น้ำ แต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุผลัดตกลงไปด้านล่าง     ด้วยความกลัว เขาจึงร้องขอความช่วยเหลือจากคนเดินผ่านไปมา จนทำให้คุณปู่วัย 90 ปีที่บังเอิญได้ยินเข้า รีบวิ่งไปหาเด็กเท่าที่ตัวเองจะสามารถวิ่งได้ไหว ก่อนที่จะกระโจนลงไปช่วยเหลือเด็กคนนั้น แล้วคุณปู่ก็สามารถช่วยเด็กน้อยขึ้นมาจากน้ำได้สำเร็จ ส่วนตัวเองนั้นก็ได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้านที่ตามมาทีหลัง ทำให้ทั้งคู่ไม่ได้รับอันตรายใดๆ เลย   คลิปในตอนที่ชาวบ้านคนอื่นๆ ตามมาช่วย    คุณปู่ได้พูดทิ้งท้ายกับแม่ของเด็กคนนั้นว่า “ผมแค่ทำในสิ่งที่ผมพอทำได้ ถ้าผมตายไปมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่เด็กน้อยไม่ควรจะได้รับในสิ่งนั้น” แล้วคุณปู่ก็ค่อยเดินจากไป ลองคิดดูว่าคุณปู่วัย 90 ปี เดินเหินปกติยังอาจจะไม่ค่อยไหว แต่ความดีที่แกมีติดตัวมาตลอดนั้นทำให้ไม่สามารถเมินเฉยต่อเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเด็กคนนั้นได้จริงๆ   ที่มา: medium

  • ชีวิตนั้นมีค่า!! เครื่องบินสละน้ำมันกว่า 30 ตัน ลงจอดฉุกเฉิน เพื่อช่วยชีวิตผู้โดยสาร

    ชีวิตนั้นมีค่า!! เครื่องบินสละน้ำมันกว่า 30 ตัน ลงจอดฉุกเฉิน เพื่อช่วยชีวิตผู้โดยสาร

    ทุกชีวิตล้วนแต่มีคุณค่าเหนือสิ่งอื่นใด และสิ่งนั้นสามารถพิสูจน์ได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เมื่อเครื่องบินลำหนึ่งตัดสินใจสละน้ำมันจำนวนกว่า 30 ตัน เพื่อช่วยชีวิตผู้โดยสารคนหนึ่งที่เกิดอาการหายใจติดขัด นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม 2018 บนเที่ยวบิน MU578 ของสายการบิน Chinese Eastern Airlines ขณะที่กำลังเดินทางจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ไปยังนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แล้วจู่ๆ ก็มีผู้โดยสารชาวจีนคนหนึ่งเกิดอาการป่วยขึ้นมาอย่างฉับพลัน     ลูกเรือบนเครื่องเล่าว่าผู้โดยสารสาววัย 60 ปีคนนี้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ว่ารู้สึกเจ็บแบบเสียวซ่านไปทั้งตัว และมีอาการหายใจลำบาก ทำให้พนักงานส่งตัวผู้โดยสารคนดังกล่าวไปนั่งบนชั้นธุรกิจแทน เพื่อให้เธอสามารถลงไปนอนราบได้ จากนั้นลูกเรือจึงทำการประกาศขอความช่วยเหลือ ก่อนที่จะมีผู้โดยสาร 2 คนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์อาสาออกมาช่วยดูแลผู้ป่วย ทว่า 3 ชั่วโมงต่อมา เธอคนนั้นก็เริ่มมีอาการกระตุกและบอกว่ามีอาการแข็งเกร็งไปตามกล้ามเนื้อ     เมื่อกัปตันบนเครื่องบินรับทราบถึงสถานการณ์ดังกล่าว เขาจึงตัดสินใจจะนำเครื่องลงจอดกลางทางที่สนามบินนานาชาติ Anchorage รัฐอะแลสกา แต่ว่าในตอนนั้นเครื่องบินมีน้ำหนักมากเกินไปสำหรับการลงจอดฉุกเฉิน เพราะมีผู้โดยสารอยู่มากถึง 294 คน ด้วยเหตุนั้นเองลูกเรือจึงทำการสละน้ำมันกว่า 30 ตันทิ้งไปกลางอากาศ เพื่อให้เครื่องสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย     พอลงจอดเป็นที่เรียบร้อย…

  • สุนัขแก่เสียสละชีวิตตัวเอง ต่อสู้กับหมีดำเพื่อปกป้องครอบครัวให้ปลอดภัย

    สุนัขแก่เสียสละชีวิตตัวเอง ต่อสู้กับหมีดำเพื่อปกป้องครอบครัวให้ปลอดภัย

    หมาเป็นสัตว์ที่กตัญญูรู้คุณ ความรักที่มันมีให้กับครอบครัวและเจ้าของของมันยากจะหาคำจำกัดความมาอธิบายได้ อาจจะพูดให้เห็นชัดเจนได้ว่ายอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อปกป้องพวกเขาเลย เจ้าหมา Pete เป็นตัวอย่างที่ดีของความเสียสละเพื่อเจ้าของ แม้ว่ามันจะแก่มาก แต่ก็ยังเข้าสู้กับหมีดำเพื่อถ่วงเวลาให้ครอบครัวหนีไปได้   Pete หมานักสู้   เจ้า Pete เป็นสุนัขพันธุ์อิงลิชเซ็ทเทอร์อายุ 14 ปีที่อาศัยอยู่กับ Stephen Parisi และ Cathi Henn ในเขตกรีนวู้ดเลค เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้เจ้าของของมันก็เปิดบริษัทดูแลสัตว์เลี้ยงขื่อว่า Me & My Shadow Pet Sitting ด้วย มันเลยเจอหมาตัวอื่นบ่อยๆ ทำให้มันไม่เหงาเลย ก่อนหน้าที่มันจะมาอยู่กับพวกเขา มันเคยเป็นสุนัขล่าสัตว์ที่อยู่ในรัฐโอไฮโอมาก่อน แต่ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้นทำให้มันไม่สามารถล่าสัตว์ได้อีกต่อไป จึงมาใช้ชีวิตช่วงแก่อยู่ที่นี่   เจ้าของของมันเปิดบริษัทดูแลสัตว์เลี้ยง Me & My Shadow Pet Sitting เลยเจอเพื่อหมาทุกวัน   มันอยู่กับเจ้านายใหม่อย่างมีความสุขมาตลอด จนกระทั่งวันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2018 Stephen ก็พาพวกสุนัขไปเดินเล่นบนภูเขาตามปกติ แต่กลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ระหว่างที่พวกเธอกำลังเดินเล่นอยู่นั่นเอง ก็มีหมีดำตัวหนึ่งโผล่มาจากป่าพอดี…

  • คุณแม่ถามลูกชาย เหตุใดถึงต้องเป็น ‘แนวหน้ากันกราดยิง’ คำตอบก็คือ ‘ยังดีกว่าให้ทุกคนโดนยิง’

    คุณแม่ถามลูกชาย เหตุใดถึงต้องเป็น ‘แนวหน้ากันกราดยิง’ คำตอบก็คือ ‘ยังดีกว่าให้ทุกคนโดนยิง’

    หลังจากที่เกิดเหตุกราดยิงในเมือง Parkland รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา พ่อแม่จำนวนมากได้ทำการพูดคุยกับลูกถึงวิธีการรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หากว่าจะมีเหตุการณ์กราดยิงเกิดขึ้นอีกครั้งในสักวัน Tanai Bernard คุณครูจากเท็กซัสก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอพูดคุยกับ Dezmond ลูกชายวัย 10 ขวบของเธอ เกี่ยวกับการเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันในโรงเรียนที่เขาเรียนอยู่ เธอต้องการให้ลูกชายของเธอตอบคำถามเพื่อให้รู้ว่า ลูกชายของเธอซ้อมรับมืออย่างอย่างจริงจังไม่ใช่ทำเล่นๆ และการพูดคุยในครั้งนี้ก็เป็นไปอย่างจริงจังตามที่เธอหวัง อย่างไรก็ตามคำตอบของลูกชายเธอนั้น กลับผิดคาดจากที่เธอคิด จนเธอต้องโพสต์บทสนทนาในช่วงนั้นลงไปในเฟซบุ๊ก โดยโพสต์ของเธอนั้นได้รับการกดไลก์กว่า 310,000 ครั้ง และแชร์อีกกว่า 150,000 ครั้ง   Dezmond เด็กป. 5 เจ้าของบทสนทนา   โพสต์ของคุณแม่   “ฉันกับลูกชายคุยกันตอนกำลังเดินไปโรงเรียนเมื่อเช้านี้ ในฐานะของคนเป็นครู ฉันอยากรู้ว่าลูกชายของฉันกับเพื่อนๆ เข้ารับการฝึกซ้อมรับมือเหตุฉุกเฉินของโรงเรียนอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่ไปพูดคุยกันเล่นๆ “     “ฉัน: ลูกๆ ได้เข้าฝึกการเตรียมรับสถานการณ์อันตรายไหม? Dezmond: แม่หมายถึงการฝึกรับมือเหตุการณ์กราดยิงใช่ไหม? ฉัน: ใช่ Dezmond: อืม พวกเราเข้าฝึกแล้ว”     “ฉัน: โอเค งั้นบอกมา ว่าต้องทำอะไรบ้าง…

  • คุณแม่สละตัวเองช่วยลูกจนเป็นอัมพาต ถูกสามีทิ้ง แต่ก็เลี้ยงลูกๆ 3 จนเติบโตและได้ดี

    คุณแม่สละตัวเองช่วยลูกจนเป็นอัมพาต ถูกสามีทิ้ง แต่ก็เลี้ยงลูกๆ 3 จนเติบโตและได้ดี

    เรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องสุดน่าประทับใจกับความรักและความห่วงใยที่แม่คนหนึ่งจะสามารถมีให้กับลูกๆ ได้ การเสียสละเพื่อลูกของหญิงคนหนึ่ง โดยที่ไม่คำนึงถึงตัวเองแม้แต่น้อย กลายเป็นความซาบซึ้งที่ลูกๆ ไม่มีวันลืมได้เลย คุณแม่ลูกสาม วัย 30 ปี Joy Veron ได้เคยสร้างวีรกรรมอันแสนยิ่งใหญ่เอาไว้ ทำให้ Annie และ Chloe ลูกสาวของเธอสองคนได้ถือโอกาสเนื่องในวันแม่ ทำคลิปวิดีโอบอกเล่าเหตุการณ์ที่แม่ของพวกเธอได้แสดงความเสียสละช่วยเหลือชีวิตของพวกเธอเอาไว้ โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตนเองเลย   คลิปจากใจของลูกๆ    “เราอยากจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแม่ของพวกเรา”   คุณแม่ Joy และคุณพ่อแต่งงานกันในปี 1991 หลายปีหลังจากนั้น เธอก็มีลูกสาว 2 คน และลูกชายอีก 1 คน ครอบครัวของ Joy อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมาตลอด จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นในปี 1999 ที่ได้เปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของครอบครัวไปตลอดกาล     อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ทั้งครอบครัวกำลังไปเที่ยวด้วยกัน รวมไปถึงปู่ย่าตายายอีกด้วย ทั้งครอบครัวตั้งใจว่า จะไปเช่าบ้านไม้ตากอากาศกัน ส่วนเด็กๆ ที่ขณะนั้นต่างมีอายุเพียง 7, 5, และ 3 ปี พากันรู้สึกตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก   “มันงดงามมาก…

  • โค้ชทีมฟุตบอลเอาตัวเข้าบัง เพื่อช่วยชีวิตเด็กนักเรียนจากเหตุกราดยิงในฟลอริด้า

    โค้ชทีมฟุตบอลเอาตัวเข้าบัง เพื่อช่วยชีวิตเด็กนักเรียนจากเหตุกราดยิงในฟลอริด้า

    ในวันวาเลนไทน์ที่เพิ่งผ่านมานี้มีเรื่องสะเทือนใจเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา อดีตนักเรียน Nikolas Cruz ก่อเหตุใช้ปืนไรเฟิล AR-15 ยิงกราดในโรงเรียน Marjory Stoneman Douglas High School รัฐฟลอริด้า เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย ผู้เสียชีวิตไม่ได้มีแต่นักเรียนเท่านั้น แม้แต่คุณครูภายในโรงเรียนก็กลายเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นเองก็มีโค้ช Aaron Feis รวมอยู่ด้วย   Aaron Feis ผู้เป็นทั้งโค้ชและผู้รักษาความปลอดภัย   Feis เป็นโค้ชทีมฟุตบอลและผู้รักษาความปลอดภัยภายในโรงเรียน และเขาเองก็ถูกยิงในเหตุการณ์นั้นเช่นกัน แต่จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ เขาไม่ได้ถูกยิง แต่ตั้งใจเอาตัวเองเข้าไปบังกระสุนปืนให้นักเรียนต่างหาก โดยขณะที่นักเรียนคนหนึ่งกำลังหนีจากหนุ่มที่ถือปืน เขาเห็นว่านักเรียนคนนั้นไม่สามารถหนีพ้นวิถีของปืนได้แน่ๆ ก็เลยใช้ตัวเองเป็นโล่เพื่อให้นักเรียนสามารถหนีไปได้อย่างปลอดภัย แต่ตัวเขาเองนั้นต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากที่การเสียสละตัวเองของเขาได้เผยแพร่ออกไป คนจำนวนมากก็ทวีตเพื่อสรรเสริญถึงความดีและระลึกถึงการจากไปของเขา   นี่คือโฉมหน้าของโค้ช Aaron Feis วีรบุรุษที่บาดเจ็บจากการเข้าปกป้องนักเรียนในเหตุยิงปืน เขาเป็นที่รักของนักเรียนที่รู้จักเขาทุกคน ขอให้ทุกคนช่วยส่งกำลังใจไปให้เขาด้วย   โค้ช Aaron Feis เป็นคอยปกป้องผู้อื่นเสมอมา วันนี้เขาได้เสียสละร่างกายของตัวเองเพื่อปกป้องนักเรียน   มันต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมากในการเผชิญหน้ากับมือปืนที่บ้าคลั่ง โค้ช Feis เป็นวีรบุรุษอเมริกัน   แทนที่จะพูดถึงมือปืน เรามาให้เกียรติวีรบุรุษ…

  • นร. หนุ่มจากเหตุยิงในโรงเรียน สละชีวิตตัวเองกั้นประตู เพื่อให้คนอื่นๆ ได้หนีออกไป

    นร. หนุ่มจากเหตุยิงในโรงเรียน สละชีวิตตัวเองกั้นประตู เพื่อให้คนอื่นๆ ได้หนีออกไป

    เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมาเกิดเหตุใช้ปืนยิงกราดในโรงเรียนในรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา จนมีผู้เสียชีวิต 17 คน กลายเป็นข่าวน่าสลดใจไปทั่วโลก ท่ามกลางความสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้น ยังมีเรื่องราวความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของเด็กหนุ่มชคนหนึ่งอยู่ด้วย แม้ว่าสุดท้ายเขาจะเสียชีวิตไป แต่การกระทำของเขาช่วยเหลือเพื่อนนักเรียนคนอื่นได้เป็นจำนวนมากเลยทีเดียว   Peter Wang ผู้เสียชีวิตอย่างวีรบุรุษในเหตุการณ์กราดยิงในรัฐฟลอริด้า   นักเรียนคนดังกล่าวชื่อ Peter Wang เด็กชายเอเชียน-อเมริกันวัย 15 ปี ตอนที่เกิดเหตุยิงปืนเขาเอาตัวเองเข้าเสี่ยงภัยโดยการกั้นประตูให้คนอื่นได้วิ่งหนีออกไปได้สะดวกยิ่งขึ้น ทว่าท้ายที่สุดแล้วตัวเขาเองก็ไม่รอดชีวิตกลับมา ญาติสนิทของเขา Aaron Chan เองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย เขาเล่าว่า Wang ที่อยู่ในชุดเจ้าหน้าที่ฝึกหัด เปิดประตูให้กับเพื่อนนักเรียนคนอื่นโดยที่ไม่ห่วงตัวเองเลยแม้แต่น้อย เด็กหนุ่มห่วงเพียงแต่ความปลอดภัยของเพื่อนๆ เท่านั้น ส่วนตัว Chan เองทำได้เพียงแต่วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เขาได้เห็นญาติสนิทมีชีวิตอยู่   เขาเข้ารับการฝึกฝนเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกหัด (Reserve Officers’ Training Corps) ซึ่งปฎิบัติหน้าที่คล้ายคลึงกับตำรวจ   เพื่อนสนิทของเด็กหนุ่มตั้งแต่เมื่อสมัยยังเล็ก Gabriel Ammirata ก็บอกว่า Wang เป็นคนที่อัธยาศัยดี มีความเป็นมิตร ทั้งยังมีนิสัยขี้เล่น และที่สำคัญที่สุดก็คือเขาเป็นเพื่อนที่ดีมากคนหนึ่งเลย เด็กหนุ่มเป็นหนึ่งในเหยื่อจำนวนทั้งหมด…

  • สุดซาบซึ้ง.. เมื่อแม่แมวจรจัดยอมอดอาหารเพื่อให้ลูกน้อยทั้ง 5 ของมันทุกตัวได้อิ่มท้อง

    สุดซาบซึ้ง.. เมื่อแม่แมวจรจัดยอมอดอาหารเพื่อให้ลูกน้อยทั้ง 5 ของมันทุกตัวได้อิ่มท้อง

    คนเป็นแม่แน่นอนว่าจะไม่ยอมเห็นลูกของตัวเองต้องเจอกับความลำบากหรืออันตรายใดๆ ด้วยความรักและสัญชาตญาณของพวกเธอไม่ต่างกับเจ้าแมวตัวนี้ เรื่องที่เรากำลังจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องของเจ้าเหมียวจรจัดที่ต้องดูแลลูกน้อยมากถึง 5 ตัวและด้วยสิ่งแวดล้อมโดยรอบมีอาหารไม่เพียงพอให้กับทุกตัว คุณแม่ตัวนี้ถึงกับยอมอดอาหารเพื่อให้ลูกๆ ของมันได้อิ่มท้องและช่วยป้องกันไม่ให้พวกมันต้องเป็นโรคต่างๆ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเมือง Terrey Hills ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเมื่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ภายในเมืองที่ชื่อว่า CatRescue 901 ทราบข่าว พวกเขาก็รีบเข้าไปช่วยเหลือพวกมันในทันที   ความยากลำบากที่ทำให้เจ้าเหมียวตัดสินใจสละอาหารทั้งหมดให้กับลูกๆ   สภาพที่แทบจะหมดเรี่ยวหมดแรงกันทุกตัว   ในตอนนั้นพวกเขาต้องไปเจอเจ้าเหมียวทั้งหลายอยู่ในสภาพผอมแห้งไม่มีแรง เพราะถึงแม้ว่าแม่ของพวกมันจะยอมอดอาหารแต่ด้วยสิ่งแวดล้อมที่มีจำกัด ทำให้เหล่าลูกน้อยวัย 6 สัปดาห์ได้รับอาหารเพียงแค่มื้อหรือสองมื้อต่อวันเท่านั้นเอง นอกจากนั้นอาหารที่พวกมันได้กินกันก็ยังมีคุณภาพที่ต่ำมากอีกด้วยทำให้ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงกันมากนัก ทีมช่วยเหลือจึงต้องรีบเคลียร์พื้นที่เพื่อรองรับการดูแลเจ้าเหมียวกลุ่มนี้ทันที ทุกคนในทีมคิดว่านี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่ออย่างมากที่เจ้าแมวตัวนี้สามารถอดอาหารมาได้นานขนาดนี้ รวมถึงดูแลให้ลูกๆ ทุกตัวสามารถมีชีวิตรอดมาได้ในสภาพแวดล้อมที่แทบจะไม่มีอาหารให้พวกมันกินได้เลย   ลูกแมวทั้งหลายได้รับการช่วยเหลือเพื่อให้สามารถมีชีวิตที่ดีได้   ในตอนแรกการดูแลพวกมันจะมีความยากลำบากอยู่เล็กน้อยเพราะคุณแม่แมวไม่ยอมที่จะเข้าใกล้ผู้ดูแล เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้มันและลูกๆ ต้องไปนอนอยู่ข้างถนนโดยที่ไม่มีมนุษย์คนไหนในละแวกนั้นเลยที่จะเข้ามาสนใจช่วยเหลือพวกมัน ดังนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่เดินออกจากห้องไปมันถึงจะยอมเอาอาหารไปให้ลูกๆ ของมันกิน     ยังคงมีอาการกล้าๆ กลัวๆ กันบ้างในช่วงแรก   แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นมันเริ่มที่จะเข้าหาเจ้าหน้าที่อย่างเป็นมิตร แรกสุดน้องเหมียวทุกตัวจะได้รับวิตามินเสริมรวมถึงอาหารเปียกสำหรับลูกน้อยและอาหารแห้งสำหรับคุณแม่ที่มีคุณภาพมากที่สุด เพื่อช่วยพัฒนาสภาพร่างกายและโภชนาการ   เวลาผ่านไปน้องเหมียวก็เริ่มจะร่าเริงมากขึ้นแล้ว   ด้วยความสามารถของเจ้าหน้าที่ในกลุ่มช่วยเหลือที่มีประสบการณ์ช่วยเหลือแมวมาโดยตลอดและลงแรงทำกันอย่างเต็มที่ ทำให้แม่เหมียวและลูกๆ เริ่มมีร่างกายที่แข็งแรง น้ำหนักเพิ่มขึ้นและร่าเริงแล้ว…

  • นักแข่งตัดสินใจหักพวงมาลัยหยุดรถ ยอมเสียโอกาสคว้าชัยชนะ เพื่อไม่ให้น้องหมาได้รับอันตราย…

    นักแข่งตัดสินใจหักพวงมาลัยหยุดรถ ยอมเสียโอกาสคว้าชัยชนะ เพื่อไม่ให้น้องหมาได้รับอันตราย…

    ในทุกการแข่งขันผู้เข้าแข่งทุกคนย่อมพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไปให้ถึงชัยชนะอยู่เสมอ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้บางครั้งเราจำเป็นต้องเสียสละสิ่งหนึ่งเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ถึงอย่างนั้นนักแข่งรถแรลลี่ที่ชื่อว่า Carlos Matos กลับเลือกที่จะปล่อยชัยชนะให้หลุดลอยไปในการแข่งขัน เมื่อเขาต้องเจอกับน้องหมาที่วิ่งเข้ามาในเขตสนามแข่งโดยไม่ได้ตั้งใจ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเดือนกันยายนปี 2017 ที่ผ่านมาได้มีการจัดการแข่งขันรถแรลลี่ชื่อ Constalica Rallye Vouzela ใช้เวลาการแข่งขัน 2 วันในประเทศโปรตุเกส   Carlos Matos (ซ้าย)   Carlos Matos เป็นหนึ่งในนักแข่งของรายการนี้และเคยได้แชมป์มาแล้วถึง 3 สมัย และกำลังลุ้นสมัยที่ 4 อยู่ในปีนี้แต่เรื่องราวก็เกิดขึ้นในช่วงพริบตาของสนามสุดท้าย ด้วยความเร็ว 144 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขณะที่เลี้ยวโค้งมา เขาต้องเจอกับน้องหมาที่วิ่งอยู่บนถนนก่อนที่จะตัดสินใจหักพวงมาลัยเพื่อหยุดรถก่อนที่จะเกิดอันตรายขึ้น จนในที่สุดแล้วน้องหมาก็รอดปลอดภัยมาได้อย่างหวุดหวิด การที่เขาทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าเขาต้องพลาดโอกาสการเป็นแชมป์ของรายการนี้ไปในทันที แต่ถึงอย่างนั้นสัญชาตญาณของเขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเลือกชีวิตน้องหมามากกว่าความสำเร็จของตัวเอง   คลิปวิดีโอการสละโอกาสแห่งชัยชนะเพื่อน้องหมา   อย่างไรก็ตามนักแข่งคนนี้ก็ได้ออกมาบอกกับสื่อว่า “แม้ว่าสุนัขตัวนั้นจะตัวเล็กอยู่แต่ทุกชีวิตย่อมมีค่ากว่าทุกสิ่งเสมอ และหากใครรู้จักผมก็จะรู้ว่าผมรักสัตว์มากขนาดไหน” ความรักสัตว์ของเขาพิสูจน์ได้จากน้องหมาที่เลี้ยงไว้มากถึง 5 ตัว ท้ายสุดแล้วเขาก็ยังยืนยันอีกด้วยว่า “ต่อให้เกิดเรื่องเดียวกันนี้ขึ้นมาอีก ผมก็จะยังทำเหมือนครั้งนี้อยู่ดี”     นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม เปรียบได้กับคำพูดที่ว่า “ชัยชนะไม่ใช่ทุกสิ่งเสมอไป” ที่มา: thedodo

  • หนุ่มวัย 15 ปี ใช้จอบขุด ‘บ่อน้ำแห่งชีวิต’ เพียงลำพังกว่า 27 ปี หวังเพื่อให้หมู่บ้านได้มีน้ำกินน้ำใช้…

    หนุ่มวัย 15 ปี ใช้จอบขุด ‘บ่อน้ำแห่งชีวิต’ เพียงลำพังกว่า 27 ปี หวังเพื่อให้หมู่บ้านได้มีน้ำกินน้ำใช้…

    ทุกวันนี้ผู้คนส่วนใหญ่ต่างวุ่นวายอยู่กับธุระของตัวเอง พอมีปัญหาเกิดขึ้นในชุมชนก็จะรอความช่วยเหลือจากคนนั้นคนนี้ ทั้งๆ ที่ปัญหาบางสามารถแก้เองได้ เพียงแค่เห็นความสำคัญของส่วนรวมบ้าง อย่างเช่นหมู่บ้าน Saja Pahad ในเขต Koriya รัฐฉัตตีสครห์ ประเทศอินเดีย ที่ประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง ทำให้วัวของชาวบ้านแทบจะไม่ได้กินน้ำเลย โดยที่ชาวบ้านไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไร ในขณะที่ทางรัฐบาลก็ไม่มีทีท่าว่าจะให้การช่วยเหลือด้วย จนกระทั่งวันหนึ่ง Shyam Lal ชายหนุ่มวัย 15 ปี ตัดสินใจที่จะใช้จอบขุดบ่อน้ำด้วยตัวเอง หวังเพื่อจะทำให้หมู่บ้านของเขามีน้ำกินน้ำใช้อีกครั้ง     ชาวบ้านคนอื่นๆ ต่างบางกันหัวเราะกับความคิดของชายหนุ่ม พวกเขาบอกมันเป็นเพียงแค่ความหวังลมๆ แล้งๆ เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้น Lal ก็ยังยืนยันที่จะทำตามความตั้งใจของเขา Lal เริ่มด้วยการหาแหล่งที่เหมาะสมกับการขุดบ่อน้ำในป่าแห่งหนึ่ง จากนั้นเขาก็ลงมือขุดอย่างมุ่งมั่นเพียงลำพัง และใช้เวลาในการขุดนานถึง 27 ปีด้วยกัน และผลที่ได้ก็แสดงให้เห็นว่าไม่มีอะไรเกินความสามารถของมนุษย์ ในระยะเวลา 27 ปี เขาขุดบ่อได้ลึกประมาณ 4.5 เมตร และในนั้นก็เต็มไปด้วยน้ำที่เพียงพอต่อการหล่อเลี้ยงชีวิตของคนในหมู่บ้าน Lal ในวัย 42 ปี เล่าว่า “ไม่มีใครช่วยผมทำงานเลย ไม่ว่าจะเป็นผู้นำหมู่บ้านหรือชาวบ้านทั่วไป ทั้งๆ ที่ทั้งหมดนี้ผมทำเพื่อทุกคนในหมู่บ้านรวมทั้งสัตว์เลี้ยงของเราด้วย” หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จในการขุดบ่อให้หมู่บ้าน ชาวบ้านก็พากันยกให้เป็นบุคคลต้นแบบและผู้ช่วยชีวิตหมู่บ้านไปโดยปริยาย ในขณะที่ Ramsaran…

  • คุณแม่ยอมเสียสละชีวิตตัวเอง ไม่เข้ารับการรักษาโรคมะเร็ง เพื่อให้กำเนิดลูกน้อย

    คุณแม่ยอมเสียสละชีวิตตัวเอง ไม่เข้ารับการรักษาโรคมะเร็ง เพื่อให้กำเนิดลูกน้อย

    วันที่ 29 สิงหาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยเรื่องราวสุดเศร้าของ Tasha Trafford วัย 33 ปี คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ได้ 16 สัปดาห์ ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งกระดูกอีวิงซาร์โคมา (Ewing’s sarcoma) ภายหลังจากที่เธอแต่งงานในปี 2012 ได้เพียงไม่นาน Tasha ต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการปวดหลัง ซึ่งเธอต้องไปพบแพทย์ และเข้ารับการทำเคมีบำบัดและฉายรังสีที่โรงพยาบาล Singleton อยู่เป็นประจำ จนให้เธอหายจากการเป็นโรคมะเร็งในอีก 2 ปีต่อมา แต่ทั้งนี้ ทางแพทย์ไม่สามารถบอกได้ว่ามะเร็งจะกลับมาอีกครั้งหรือไม่ ซึ่งทาง Tasha ก็พยายามที่จะใช้ชีวิตอย่างปกติให้ได้มากที่สุด     ด้วยความหวังว่าจะมีลูก Tasha เคยใช้วิธีการแช่แข็งตัวอ่อนถึง 3 ครั้ง หลังจากหายจากการเป็นโรคมะเร็งแต่ทว่า 16 สัปดาห์ที่เธอตั้งครรภ์ Tasha ก็ได้รับข่าวที่น่าปวดใจว่ามะเร็งของเธอได้กลับมาอีกครั้ง และนั่นก็ทำให้เธอต้องเผชิญกับทางเลือกว่า จะต้องยอมเสียลูกไปเพื่อเริ่มรักษาด้วยเคมีบำบัดอีกครั้ง หรือจะเก็บลูกเอาไว้ แต่ตัวเธอเองจะต้องเสียชีวิต ด้วยหัวอกของความเป็นแม่ Tasha ก็ได้ตัดสินใจที่จะรักษาลูกของเธอเอาไว้ ซึ่งเธอได้ออกมาเผยว่า “การทำอะไรที่อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ของฉัน ฉันไม่สามารถจินตนาการได้จริงๆ”…

  • เด็กหนุ่มวัย 12 ปีทำงานอย่างหนักสละเวลาปิดเทอมอันมีค่า มาช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

    เด็กหนุ่มวัย 12 ปีทำงานอย่างหนักสละเวลาปิดเทอมอันมีค่า มาช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

    วิกฤตปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากภัยพิบัติต่างๆ นั้นไม่ได้มีเพียงแต่ความเศร้าหรือความสิ้นหวัง ยังคงมีความเห็นอกเห็นใจและการช่วยเหลือจากเหล่าอาสาสมัครที่สละเวลาของตน มาช่วยผู้ประสบภัยทั้งหลาย แสดงให้เห็นว่ามนุษย์เรายังคงมอบความรักให้กันและกันอยู่เสมอ น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในมณฑลส่านซี ได้ทำลายบ้านเมืองไปมากมายจนทำให้มีผู้ประสบภัยกว่า 1 แสนคนเลยทีเดียว แต่ท่ามกล่างซากปรักหักพังนั้นยังคงมีเด็กหนุ่มวัย 12 ปี ผู้ซึ่งทำงานหนักในการช่วยเหลือผู้คนทั้งหลาย   .   จากภาพนั้นจะเห็นว่าเป็นภาพของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ผ่านการทำงานมาอย่างหนักหน่วงจนต้องหลับอิงไปกับแพ็คน้ำในสภาพที่เหนื่อยอ่อนกลางแสงแดดอันแรงกล้า เขาคนนี้มีชื่อว่า Hu Zhibo ซึ่งแม่ของเขานั้นได้บอกว่าที่เป็นอย่างนี้นั้นเกิดจากการทำงานอย่างหนักถึง 10 ชั่วโมงในแต่ละวัน เพื่อที่จะคอยช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการสร้างกำแพงกั้นน้ำและคอยแจกสิ่งของจำเป็นต่างๆ ให้กับทุกคน นอกจากนั้นเด็กคนนี้ก็ยังยอมสละเวลาปิดเทอมฤดูร้อนอันมีค่าที่จะได้ออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อนในวัยเดียวกัน แต่กลับมาเป็นอาสาสมัครแทน   .   เมื่อรูปภาพการทำงานของเขาได้ถูกปล่อยลงไปในโซเชียลมีเดียของจีนก็ได้ทำให้ผู้คนต่างพากันชื่นชมและยกย่องเขาเหมือนกับฮีโร่คนหนึ่ง จนมีคอมเม้นท์นึงออกมาพูดว่า “หากเด็กคนนี้โตขึ้น ประเทศของเราก็คงไม่มีอะไรต้องกังวลอีกแล้ว”   . .   อย่างไรก็ตามยังมีบางคนที่คิดว่าช่วงปิดเทอมของเด็กผู้ชายคนนี้ควรได้ออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อนหรือพักผ่อนหาความสนุก แทนที่จะต้องมาแบกข้าวสารหรือกระสอบสิ่งของต่างๆ ถึงอย่างไรการแสดงออกของเขาก็ทำให้เราได้เห็นถึงจิตอาสาของคนที่เกิดขึ้นได้แม้กับเด็กวัยแค่นี้ ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่และยิ้มได้   ที่มา: shanghaiist

  • คุณปู่วัย 80 ลงทุนเดินเท้าไกลกว่า 60 กิโลเมตร เพื่อนำ ‘ไข่’ ไปให้หลานชายถึงที่ทำงาน

    คุณปู่วัย 80 ลงทุนเดินเท้าไกลกว่า 60 กิโลเมตร เพื่อนำ ‘ไข่’ ไปให้หลานชายถึงที่ทำงาน

    วันที่ 20 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวของ คุณปู่วัย 80 ปีรายหนึ่ง ที่แบกตะกร้าเอาไว้บนหลัง กำลังเดินช้าๆ อยู่บนถนนในเมืองจุนอี้ มณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ซึ่งภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปสอบถาม ก็พบว่า คุณปู่ท่านนี้ กำลังเดินทางไปหาหลานชายของเขา เนื่องจากเขาเป็นห่วงหลานชายที่ทำงานหนัก และกลัวว่าจะกินไม่อิ่ม ด้วยเหตุนี้ คุณปู่จึงได้แบกตะกร้าที่ใส่ไข่ไก่หลายสิบฟองไปหาเขา โดยได้เดินทางออกจากบ้านตั้งแต่ 7 โมงเช้าของวันจันทร์ไปยังเมืองจุนอี้ โดยมีระยะทางไกลถึง 60 กิโลเมตร ซึ่งก็ใช้เวลานานกว่า 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว     อย่างไรก็ตาม คุณปู่ได้เผยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เหตุที่เขาเลือกที่จะไม่นั่งรถยนต์นั้น ก็เพราะว่าต้องการที่จะประหยัดเงิน แต่เขาก็ยอมรับว่าในขณะที่เดินทางเป็นเวลานาน มีไข่แตกไปแล้วหลายใบ ภายหลังจากที่พบหลานชายของคุณปู่ เขาก็ได้ออกมาเผยว่า เขาไม่รู้เลยว่าคุณปู่จะเดินทางมาหาเขาพร้อมกับนำไข่มาให้ ซึ่งเขาก็ได้บอกว่าจะพาคุณปู่ออกไปทานอาหารอร่อยๆ หลังจากเดินทางมานานหลายชั่วโมง     ขณะที่ภาพการเดินทางของคุณปู่วัย 80 ได้ถูกนำไปแชร์บนโลกออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจีนเป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเขาก็ได้ออกมาแบ่งปันเรื่องราวน่ารักๆ ระหว่างพวกเขากับปู่ย่าตายายที่พวกเขารัก ทั้งนี้ มีชาวเน็ตอีกหลายๆ…

  • สาวชาวอังกฤษยอมทิ้งชีวิตผู้ดี เพื่อไปดูแลเด็กกำพร้า ที่เธอเป็นห่วงและรักในยูกันดา

    สาวชาวอังกฤษยอมทิ้งชีวิตผู้ดี เพื่อไปดูแลเด็กกำพร้า ที่เธอเป็นห่วงและรักในยูกันดา

    Emilie Larter หญิงสาวชาวอังกฤษวัย 25 ปี ยอมเลือกที่จะทิ้งชีวิตจากเมืองใหญ่ เพื่อไปดูแลเด็กชายกำพร้าในประเทศยูกันดาเพราะความผูกพันที่มีให้กัน… ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ Emlie มีอายุได้ 22 ปี เธอเพิ่งจะเป็นนักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยหมาดๆ เลยทำให้เธอตัดสินใจไปเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือเด็กๆ ในประเทศยูกันดา เป็นระยะเวลาสองเดือน ก่อนที่เธอจะเริ่มหางานทำอย่างจริงจัง เธอได้บอกกับเว็บไซต์ Mirror ว่า “หน้าที่ของฉันในฐานะอาสาสมัครตอนนั้น ไม่ได้มีอะไรมากมายนัก ฉันทำในสิ่งที่ฉันพอจะทำให้กับเด็กๆ อย่างเปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนอาหาร หรือเล่นกับพวกเขา”     “แต่หลังจากที่ฉันทำงานที่นั่นไปได้หนึ่งเดือน อยู่มาวันหนึ่งก็มีสายโทรเข้ามาพร้อมกับบอกว่ามีเด็กที่เพิ่งเกิดใหม่และต้องการคนช่วยดูแล ซึ่งนั่นเป็นข้อมูลทั้งหมดที่ฉันได้รับ แต่ฉันก็ไม่สนและรีบเดินทางไปยังที่นั่นทันที” เมื่อเธอไปถึงสิ่งแรกที่เธอพบกลับเป็นงานศพที่กำลังจัดขึ้น และนั่นก็คืองานศพของแม่เด็กชายผู้เกิดใหม่ ที่เธอเพิ่งจะได้รับสายนั่นเอง ซึ่งเขาถือเป็นลูกคนที่ 7 และอายุน้อยที่สุดในครอบครัว ในช่วงเวลานั้นไม่มีใครที่ตัดสินใจจะเลี้ยงดูเด็กชายแรกเกิดวัย 5 วันเลย นั่นทำให้ Emilie ตัดสินใจที่จะเลี้ยงดูเขาด้วยตัวเอง และตั้งชื่อให้กับเด็กชายว่า Adam แน่นอนว่าเธอไม่รู้เลยว่าเด็กชายคนนี้จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล     และเมื่อเธออาสารับเลี้ยงดู เธอก็ดูแลเขาเป็นอย่างดี ที่สำคัญสายสัมพันธ์ของทั้งคู่เหมือนจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เธอดูแลเด็กชายไม่ห่างไปไหนเลยตลอด 24 ชั่วโมงและตลอดสัปดาห์…

  • 5 ฮีโร่เหตุการณ์วินาศกรรม 9/11 ที่สละชีวิตของตัวเอง เพื่อช่วยผู้คนอีกนับร้อย…

    5 ฮีโร่เหตุการณ์วินาศกรรม 9/11 ที่สละชีวิตของตัวเอง เพื่อช่วยผู้คนอีกนับร้อย…

    เผลอแปปเดียววันเวลาผ่านไปกว่า 15 ปีมาแล้ว สำหรับเหตุการณ์ 9/11 เครื่องบินพุ่งชนตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์จนทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก ที่เกิดขึ้นในปี 2001 กล่าวถึงฮีโร่ ที่จริงแล้วการที่จะเป็นฮีโร่ได้นั้นไม่จำเป็นต้องมีพลังวิเศษอะไร แต่ฮีโร่นั้นเกิดขึ้นได้ก็เพราะว่าการเสียสละ ไม่เห็นแก่ประโยชน์ของตัวเองและพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อิ่นไม่ใช่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายหรือย่ำแย่ขนาดไหน และเหตุการณ์ในวันนั้นก็ได้สร้างวีบุรุษมากมาย วันนี้ #จ่าสิบเหมียว เลยอยากถ่ายทอดเรื่องราวของเหล่าวีรบุรุษในวันนั้น ผู้ที่วิ่งเข้าหาปัญหาขณะที่คนอื่นๆ วิ่งหนี จนสามารถช่วยเหลือผู้คนไว้ได้มากมาย แต่พวกเขาก็คงไม่รู้ ว่าจะไม่ได้กลับไปเจอบ้าน เจอครอบครัวของพวกเขาอีกแล้ว…   เจ้าหน้าที่ Moira Smith แห่งกรมตำรวจนิวยอร์ก เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจรายแรกๆ ที่รายงานเกี่ยวกับการจู่โจมของผู้ก่อการร้าย ในขณะที่เธอเห็นเครื่องบินพุ่งเข้าชนตึกเวิร์ลเทรด เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงที่เคยเป็นอดีตทหารผ่านศึกที่เคยรับใช้ชาติถึง 13 ปีมาก่อน ก็วิ่งเข้าไปในตึกอย่างรวดเร็วเพื่อทำการอพยพผู้คน ในวันนั้นมีผู้คนที่รอดชีวิตจากการหนีออกจากตึกหลายๆ คนจดจำเธอได้และได้เล่าว่า ‘เธอควบคุมสติได้เป็นอย่างดีในสถานการณ์ที่แสนกดดันนั้น’ Martin Glynn กล่าว ‘ผู้คนที่อพยพออกจากตึกนั้นรู้สึกถึงความมีสติและความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นเมื่อมีเธอเข้ามาคอยชี้นำ ในขณะที่คนอื่นวิ่งหนีเอาชีวิตรอด เธออยู่ที่นั่นเพื่อชี้นำพวกเขา ทำให้กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่น’ เขากล่าวต่อ ในวันนั้นเธอได้รับยกย่องว่าช่วยชีวิตผู้คนนับร้อยๆ คน แต่กระนั้น เธอกลับเสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว และเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงเพียงคนเดียวของกรมตำรวจนิวยอร์กที่เสียชีวิตในวันนั้น เธอไม่ได้กลับไปหาสามีและลูกสาววัย 2 ขวบของเธออีกเลย…   Welles Crowther พนักงานธนาคารธรรมดาๆ คนหนึ่งสู่การเป็นฮีโร่…

  • Mahabir Pun ผู้เดินเท้าข้ามภูเขาทุกเดือนนาน 6 ปี เพื่อสร้างอินเตอร์เน็ตให้คนในหมู่บ้าน

    Mahabir Pun ผู้เดินเท้าข้ามภูเขาทุกเดือนนาน 6 ปี เพื่อสร้างอินเตอร์เน็ตให้คนในหมู่บ้าน

    ในขณะที่เราได้ใช้อินเตอร์เน็ต ไวไฟ 3G 4G กันอย่างสะดวกสบาย แต่ในโลกนี้ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่มีความจำเป็นในการใช้อินเตอร์เน็ต แต่กลับเข้าถึงได้ยาก และต้องฝ่าฟันด้วยความลำบากเพื่อให้ได้มันมา เหมือนกับชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า Mahabir Pun จากหมู่บ้าน Nangi ภูมิภาค Annapurna ประเทศเนปาล ที่มีความใฝ่อยากสร้างอินเตอร์เน็ตไร้สายให้กับหมู่บ้าน เขาจึงต้องเดินทางไปยัง Pokhara (ที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต) ทุกๆ เดือน ความยากลำบากอยู่ตรงที่ในการเดินทางแต่ละครั้งนั้น จะใช้เวลา 2 วันเป็นอย่างต่ำ โดยไม่มีถนนหนทางและรถยนต์อันแสนสะดวกสบาย เขาต้องใช้วิธีเดินเท้าไปเท่านั้น     จุดประสงค์ในการเดินทางนี้ เพื่อไปเช็คอีเมลล์ที่เขาได้ส่งให้กับสำนักข่าว BBC เพื่อขอให้ช่วยหาคนที่พอจะช่วยเหลือในการบันดาลอินเตอร์เน็ตไร้สายนี้ และเขาก็ทำแบบนี้มา 6 ปีแล้ว ในที่สุด ปี 2001 ทางสำนักข่าวก็ได้โพสต์เรื่องราวของหมู่บ้านนี้ในเว็บไซต์ ทำให้มีผู้คนมากมายส่งอีเมลล์มาหา Mahabir Pun เพื่อช่วยเหลือเขา และมีสองคนที่อยากจะเข้ามาช่วยเหลือในพื้นที่ก็คือ Johann จากเบลเยี่ยม กับ Johnny จากฟินแลนด์   .   แต่ก็ติดปัญหาเรื่องเสาอากาศอีก มันไม่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด แต่โชคดีที่พวกเค้าไปเจอกับจานดาวเทียมทีวีขนาดใหญ่อันหนึ่ง พวกเค้าจึงใช้มันแทนเสาอากาศซะเลย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ามันก็ใช้ได้เหมือนกันนะ พวกเขาลองผิดลองถูกอยู่หลายต่อหลายครั้ง หันจานดาวเทียมเปลี่ยนทิศทางไปเรื่อยๆ…

  • เรื่องราวของ 3 วีรบุรุษผู้ช่วยโลกจาก ‘นิวเคลียร์เชอร์โนบิล’ แต่แทบไม่มีใครรู้จักพวกเขา!??

    เรื่องราวของ 3 วีรบุรุษผู้ช่วยโลกจาก ‘นิวเคลียร์เชอร์โนบิล’ แต่แทบไม่มีใครรู้จักพวกเขา!??

    ในประวัติศาสตร์บนโลกของเรานั้นเหตุการณ์อันตรายขึ้นมากมายหลายครั้ง ทั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด มหันตภัยร้ายแรงจากธรรมชาติ และในแต่ละครั้งนั้นก็มีวีรบุรุษเกิดขึ้นมากมาย พวกเขาช่วยเหลือผู้คนโดยยอมสละชีวิตของตัวเอง ถ้าไม่มีพวกเขาคงได้มีการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับชาย 3 คนนี้ที่เคยช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมาก จากการระเบิดของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ Chernobyl ที่ตั้งอยู่ในประเทศยูเครน     เหตุการณ์เกิดขึ้นในตอนพลบค่ำของวันที่ 2 พฤษภาคมปี 1986 เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในเชอร์โนบิล แรงระเบิดสงผลให้ เตาปฎิกรณ์เกิดเพลิงไหม้ และกำลังจะตกลงไปยังห้องที่มีน้ำท่วมขังอยู่ และมันคงไม่ดีแน่ เพราะถ้าหากเป็นแบบนั้นนิวตรอนจะทำปฎิกิริยากับน้ำ และก่อให้เกิดแรงระเบิดรุนแรงอย่างมหาศาลจนทำให้สารกัมมันตรังสีแผ่ขายไปเป็นบริเวณกว้างมีขนาดเท่ากับครึ่งหนึ่งของทวีปยุโรป ซึ่งจะทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบกว่าหลายล้านคนเลยทีเดียว!!   แต่โชคดีที่ในวันนั้นมีชาย 3 คน อาสาที่จะดำลงไปในน้ำที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีเพื่อไปเปิดวาล์วเพื่อระบายน้ำในห้องข้างล่างออกไป ก่อนที่เตาปฎิกรณ์จะตกลงมา   ภาพของคุณ Alexey Ananenko (คนซ้าย) และคุณ Valeri Bespalov (คนขวา)   วีรบุรุษ 3 คนนั้นประกอบไปด้วยหัวหน้าคุมงาน Boris Baranov, และวิศวกรระดับสูงของหน่วยเครื่องกังหัน Valeri Bespalov และ และวิศวกรระดับสูงของแผนกเครื่องปฏิกรณ์ Alexey Ananenko   ภาพของคุณ Boris Baranov  …

  • หมาแสนรู้ต่อสู้ ‘งูเห่า’ ปกป้องเจ้านายแม้ต้องแลกด้วยชีวิต สุดท้ายก็จากไปพร้อมหยดน้ำตา…

    หมาแสนรู้ต่อสู้ ‘งูเห่า’ ปกป้องเจ้านายแม้ต้องแลกด้วยชีวิต สุดท้ายก็จากไปพร้อมหยดน้ำตา…

    เหล่าทาสหมาทุกคนจะรู้ว่ามะหมานั้นเป็นสัตว์ที่มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ หากเราให้ข้าวให้น้ำเลี้ยงดูมันเป็นอย่างดี เหล่าเจ้าหมาทั้งหลายก็จะตอบแทนด้วยการปกป้องคุ้มครองเราจากภัยอันตรายต่างๆ และวันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องราวสุดซึ้งของเจ้าหมาที่ปกป้องเจ้าของของมันจากงูเห่าจนถึงกับแลกด้วยชีวิตของมัน เพจเฟซบุ๊ค กลุ่มคนอาสา กู้ชีพ กู้ภัย Thailand ได้ทำการโพสท์ภาพและเล่าเรื่องราวของเจ้าหมาที่ปกป้องเจ้านายจากการฟัดกับงูเห่าจนทำให้มันถึงแก่ความตาย โดยมีแคปชั่นว่า “หมาแสนรู้สู้กับงูเห่าเพื่อปกป้องเจ้านาย กัดจนงูตายแต่ตัวเองก็โดนงูเห่ากัด รู้ตัวเองว่าต้องตายจึงหลั่งน้ำตาเพื่อขอลา แสนสงสารเจ้าหมาน้อยที่ปกป้องเจ้านายจนเสียชีวิตมากครับ ขอแสดงความเสียใจกับเจ้าของหมาด้วยครับ” เจ้าสุนัขตัวนี้เอาตัวเข้าแลกปกป้องเจ้านายด้วยการกระโจนเข้าไปสู้กับงูเห่า ถึงแม้ว่างูเห่าตัวนั้นจะตาย แต่เจ้าหมาก็ถูกงูเห่ากัดไปด้วย   ซึ่งแน่นอนว่าพิษของงูเห่านั้นได้เล่นงานเจ้าสุนัขตัวนี้จนทำให้ถึงแก่ชีวิต และดูเหมือนว่ามันรู้ตัวว่าตัวเองไม่รอดแล้ว จึงมองหน้าของเจ้านายและหลั่งน้ำตาเพื่อบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย…   แน่นอนว่าเรื่องราวสุดกล้าหาญของเจ้าหมาตัวนี้สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก จึงทำให้มีการแชร์และส่งต่อความนี้ไปให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ รวมไปถึงได้ออกมาเล่าเรื่องราวเจ้าหมาของตนเองที่ถูกเจ้างูเห่าพรากชีวิตไปอีกด้วย . . .   #เหมียวหง่าว ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของเจ้าหมาตัวนี้ และขอยกย่องการกระทำที่กล้าหาญของนายด้วยนะเจ้าหมา ขอให้หลับอย่างสบายนะ ที่มา : กลุ่มคนอาสา กู้ชีพ กู้ภัย Thailand

  • หัวใจนายน่ากราบ… ทหารหนุ่มผู้รักพวกพ้อง กระโจนเข้ารับแรงระเบิดช่วยเพื่อนทหารให้รอดชีวิต!!

    หัวใจนายน่ากราบ… ทหารหนุ่มผู้รักพวกพ้อง กระโจนเข้ารับแรงระเบิดช่วยเพื่อนทหารให้รอดชีวิต!!

    เราคงเคยชมภาพยนตร์แอคชั่นเกี่ยวกับทหารหรือสงครามกันอยู่บ่อยๆ และพบเห็นฉากที่พระเอกหรือตัวละครอื่นๆ เสียสละชีวิตตัวเองช่วยเหลือเพื่อนหรือลูกน้องในกองด้วยการกระโดดเอาตัวไปรับระเบิด วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมเรื่องราวของฉากสุดฮิตในภาพยนตร์นี้ที่เกิดขึ้นจริงๆ กัน…   พ่อหนุ่ม William Kyle Carpenter เข้าร่วมกับนาวิกโยธินตั้งแต่อายุ 19 ปี   จนกระทั่งอายุ 21 ปีเขาถูกส่งไปอยู่ที่อัฟกานิสถาน   เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนของปีนั้น เขาได้เสียสละตัวเองกระโดดเข้าบังแรงระเบิดจากระเบิดมือเพื่อช่วยเหลือเพื่อนทหารของเขา   โดยร่างกายด้านซ้ายของเราได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ทั้งกระดูกโครงหน้า ดวงตา แขน และปอด แต่เขากับรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์   เขาจึงได้รับมอบเหรียญกล้าหาญจา่กทางการของสหรัฐ (มอบโดยประธานาธิบดีเองเลย) เพื่อแสดงถึงความกล้าหาญ และความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของเขาเพื่อประเทศชาติ   2 ปีครึ่งที่เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล และผ่านการผ่าตัดศัลยกรรมกว่า 40 ครั้ง ตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่   ในช่วงแรกเขาก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตที่เหลืออยู่นี้ดี และเขาก็ตัดสินใจ ที่จะทำหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้คนที่สูญเสียครอบครัว คนรัก หรือครอบครัว ไปในสงคราม ทำให้เขาเดินสายไปทั่วอเมริกา ทำเรื่องต่างๆ มากมาย เพราะตอนนี้เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วแล้ว   วิ่งมาราธอนร่วมกับเหล่าทหารผ่านศึก  …

  • สำนักงานตำรวจแห่งชาติอนุมัติให้ลูกสาวเป็นตำรวจแทนพ่อ หลังนอนนิทราจากการปราบยา!!

    สำนักงานตำรวจแห่งชาติอนุมัติให้ลูกสาวเป็นตำรวจแทนพ่อ หลังนอนนิทราจากการปราบยา!!

    เรื่องราวของ ด.ต.เชาว์ สิงห์กวาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ที่ได้ทำการขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อตามล่าคนร้ายคดียาเสพติด เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เกิดประสบอุบัติเหตุส่งผลทำให้สมองได้รับกระทบกระเทือน และกลายมาเป็นเจ้าชายนิทราที่ต้องรับการรักษามานานกว่า 1 ปีแล้ว     โดยล่าสุดนี้ทางเพจ Thailand Police Story ได้ชี้แจงเกี่ยวกับความคืบหน้าของกรณีนี้ว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการอนุมัติให้ลูกสาวของดาบตำรวจ น.ส.ณัฐนิชา สิงห์กวาง เข้าบรรจุเป็นตำรวจเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่คุณพ่อประสบกับอุบัตเหตุในขณะปฏิบัติหน้าที่   "อนุมัติให้ลูกสาวเป็นตำรวจ"สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีมติอนุมัติให้ น.ส.ณัฐนิชา สิงห์กวาง เป็นตำรวจเรียบร้อยแล้ว หลังจาก ด… Posted by Thailand Police Story on Saturday, October 3, 2015   ปัจจุบัน สิบตำรวจตรี ณัฐนิชา บรรจุเป็นตำรวจอยู่ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 2 และจะเข้ารับการอบรมเพื่อขึ้นเป็นยศนายร้อยตำรวจ จากการใช้สิทธิทายาท และเรียนจบปริญญาตรี จากม.บูรพา แม้ว่าท่ามกลางกระแสของประชาชนที่มองตำรวจในแง่ลบ ก็ยังมีเรื่องดีๆ…