หลายครั้งเราจะเห็นประเด็นที่ลูกค้าออกมารีวิว เรื่องการให้บริการของสถานที่ หรือร้านค้าต่างๆ ในแง่ลบ เพราะไม่พอใจในการให้บริการบางอย่าง
ล่าสุดก็มีเรื่องดราม่านิดๆ หน่อยๆ เกิดขึ้น หลังจากที่หญิงสาวคนหนึ่งเข้าพักที่รีสอร์ท แล้วก็ทำการอัดคลิปรีวิว “อาหาร” ของทางรีสอร์ท โดยระบุว่าราคาอาจจะแพงเกินไป ไม่สมกับปริมาณที่ได้รับ
ก่อนอื่น เรามาเริ่มจากคลิปที่เธอรีวิวเอาไว้…
(ใครที่คลิปไม่ขึ้น กดตรงนี้ได้เลยนะ)
@dream_tooktookyangที่นี่เมืองไทย 😩😩♬ เสียงต้นฉบับ – dream_tooktookyang
อีกคลิปหนึ่ง เป็นการคอมเพลนอาหาร
(ใครที่คลิปไม่ขึ้น กดตรงนี้ได้เลยนะ)
@dream_tooktookyang‼️ข้าวต้มมด เพิ่งเคยพบ เพิ่งเคยเห็น 230 บาท♬ เสียงต้นฉบับ – dream_tooktookyang
ภายในคลิป เราจะเห็นการคอมเพลนหลักๆ ด้วยกันอยู่ 2 เรื่อง ประกอบไปด้วย
– ราคาอาหารที่เธอตั้งคำถามว่าแพงไปหรือไม่? กับปริมาณที่ได้รับนั้นค่อนข้างไม่เหมาะสม
– อาหารมีสิ่งแปลกปลอมอย่าง “มด” ใส่มาด้วย
ซึ่งคลิปดังกล่าว ก็จุดประเด็นขึ้นมาทันที
ชาวเน็ตหลายๆ คนที่ได้เห็นคลิป บางส่วนคอมเมนต์ไปในเชิงเห็นด้วยกับผู้โพสต์ ว่าอาหารกับราคาอาจจะไม่สมเหตุสมผลกัน พูดง่ายๆ ก็คือได้น้อยไปนั่นแหละ
พอชาวเน็ตเริ่มแชร์กัน ก็กลายเป็นประเด็นไวรัล สำนักข่าวต่างๆ ก็นำไปขยายประเด็นต่อ กลายเป็นที่วิจารณ์ใหญ่โตตามมา
อย่างไรก็ตาม มีคอมเมนต์อีกฟากฝั่งที่ก็มองว่า การไปเที่ยวนั้นอาจจะต้องทำใจกับอาหารในโรงแรมหรือรีสอร์ท ที่จะมีราคาสูงกว่าปกติอยู่แล้ว
แต่อีกฝั่งที่สนับสนุนคนโพสต์ ก็มาเถียงกลับมาถึงแม้จะแพง แต่ก็ต้องคาดหวังปริมาณอาหารที่มากกว่านี้สักหน่อย และเรื่องมดนั้น ก็เป็นอีกประเด็นที่ลูกค้าบางคนรับไม่ได้
.
ทางรีสอร์ท ทำเอกสารชี้แจงแล้ว!!
หลังจากปล่อยให้เป็นดราม่าได้ไม่กี่วัน ทางรีสอร์ท Grand Kokkod Resort ก็ทำเอกสารชี้แจงผ่านทางโซเชียลของตัวเอง โดยเป็นเอกสาร 2 หน้า ลองอ่านกันก่อนครับ
(ใครขี้เกียจอ่านยาว มีสรุปอยู่ด้านล่างอีกทีนะ – #เหมียวซาวากี้)
.
สำหรับคำชี้แจงดังกล่าวนั้น สรุปคร่าวๆ ได้ดังนี้…
1. ที่ออกเอกสารชี้แจงช้า ทั้งที่เกิดดราม่าแล้ว เพราะลูกค้ายังพักต่ออีก 1 คืน ไม่อยากทำให้ลูกค้าไม่สบายใจ
2. วันก่อนหน้านั้น หลังลูกค้าเช็คอินก็สั่งอาหารไปรอบหนึ่ง จากนั้นวันถัดมาตอน 10.10 ก็สั่งอาหารอีกรอบเป็นบริการ Room Service (เป็นรอบที่ 2) เท่ากับว่าลูกค้าทราบแล้วว่าปริมาณอาหารที่สั่งไปจะได้ประมาณเท่าไร
3. ราคาอาหารนั้นได้รวมค่าส่งไปยังห้อง และบริการที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น ทำความสะอาดห้องเพิ่ม กำจัดกลิ่น อะไรพวกนี้ลงไปในราคาแล้ว
4. การพบมดในอาหาร ทางรีสอร์ทยอมรับผิดและตักเตือนพนักงาน ขอน้อมรับความผิดพลาด
5. หลังจากพบมด ลูกค้าติดต่อมายังรีสอร์ท จากนั้นรีสอร์ทส่งพนักงานไปขอโทษและเปลี่ยนอาหารให้ใหม่ โดยไม่คิดเงิน แต่ลูกค้าอัดคลิปให้เข้าใจว่าต้องจ่ายค่าอาหารสำหรับกะเพรากุ้งที่เปลี่ยน
6. ลูกค้าโพสต์คลิปลง TikTok มีการพูดชื่อรีสอร์ทชัดเจน ส่งผลให้เกิดความเสียหาย โดยไม่มีการระบุเลยว่าทางรีสอร์ทพยายามแก้ไขและบริการให้ใหม่แล้ว
7. หลังจากโพสต์คลิปแล้ว ลูกค้าก็ยังสั่งอาหารผ่าน Room Service เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งโดยปกติถ้าคนไม่พอใจจะไม่สั่ง แสดงว่าลูกค้าอาจจะยินดีจ่ายในราคานั้นต่อไป
และไม่มีการคอมเพลนไปยังพนักงานให้ทราบเรื่องเลยว่าลูกค้าไม่พอใจที่อาหารแพง
8. สาเหตุที่อาหารแพงนั้น เนื่องจากรีสอร์ทตั้งอยู่บนภูเขาสูง การซื้อของสดมีค่าใช้จ่ายสูง ประกอบกับช่วงโควิด-19 ทำให้คาดการณ์จำนวนแขกไม่ได้ ไม่สามารถสั่งของสดปริมาณมากได้อีกด้วย
9. ส่วนหน้าตาอาหารที่อาจจะไม่สวยงาม เนื่องจากทางระหว่างครัวไปยังห้องพักนั้นมากกว่า 100 เมตร อาจจะมีการกระทบกระเทือน จุดนี้ทางรีสอร์ทขอน้อมรับการติชม และจะปรับปรุง
อย่างไรก็ตาม รีสอร์ทระบุว่าลูกค้าโพสต์แบบให้ร้ายรีสอร์ทอย่างเดียว เป็นจำนวนหลายคลิปติดต่อกัน และไม่มีการอธิบายเพิ่มเติมว่าได้รับการแก้ไขจากรีสอร์ทแล้ว
ทางรีสอร์ทมองว่าได้รับความเสียหาย และอาจจะมีการรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีในส่วนที่ทำให้เสียชื่ออีกด้วย
มุมมองของชาวเน็ต หลังจากได้รับทราบคำชี้แจง
ชาวเน็ตส่วนใหญ่จะมองว่าแม้ลูกค้าอาจจะทำไม่ถูกต้อง 100% แต่ทางรีสอร์ทก็มีส่วนผิดเช่นกัน เพราะฉะนั้นอาจจะออกมาขอโทษและน้อมรับคำติชมเพื่อนำไปปรับปรุง
อย่างไรก็ตาม พอหลายๆ คนเห็นว่ารีสอร์ทจะฟ้อง ก็มีฟีดแบ็คที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับประกาศชี้แจงนี้เท่าไรนัก
สำหรับผู้อ่านชาวแคทดั๊มบ์ คิดเห็นอย่างไรกับดราม่าที่เกิดครั้งนี้บ้าง? ลองมาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกันครับ…
เรียบเรียง #เหมียวซาวากี้