เปิดข้อมูล “USPL” อาวุธเลเซอร์รุนแรงที่สุด กองทัพสหรัฐฯ กำลังซุ่มพัฒนา คาดพร้อมทดลองใช้งานปี 2022


หากว่าเพื่อนๆ เป็นคนที่มีโอกาสได้เล่นเกม RTS ตระกูลเชื่อว่าหลายคนไม่น้อยก็ลงจะคุ้นเคยกันดีว่า ในเกมเหล่านี้ สหรัฐอเมริกามักจะมีภาพลักษณ์เป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยี และมีการใช้ “เลเซอร์” เป็นอาวุธสำคัญอยู่บ่อยๆ

แต่เชื่อกันหรือไม่ว่าเจ้าอาวุธเลเซอร์ที่เราเห็นในเกมเหล่านี้ แท้จริงแล้วก็อาจจะมีความใกล้เคียงกับโลกแห่งความจริงกว่าที่เราคิดก็ได้

นั่นเพราะในช่วงปี 2021 มานี้กองทัพสหรัฐฯ ก็เพิ่งจะออกมาประกาศว่าพวกเขานั้นกำลังวิจัยและพัฒนาอาวุธเลเซอร์ที่รุนแรงที่สุดในโลก โดยอ้างว่าเลเซอร์นี้จะมีพลังทำลายมากว่าเลเซอร์ที่เราเคยมีถึง 1 ล้านเท่าเลย

 

 

ระบบเลเซอร์ตัวใหม่นี้มีชื่อว่า “Tactical Ultrashort Pulsed Laser” (USPL)

ระบบฐานยิงเลเซอร์รูปแบบใหม่ ซึ่งสามารถยิงเลเซอร์คลื่นสั้นๆ แต่มีความรุนแรงสูง แตกต่างจากเลเซอร์ในปัจจุบันซึ่งโดยทั่วไปจะใช้คลื่นแบบต่อเนื่อง และต้องใช้การโฟกัสแสงเป็นระยะเวลานานกว่าที่จะส่งผล

ระบบดังกล่าวนี้ถูกพัฒนาให้สามารถยิงพลังงาน 1 เทระวัตต์ (1 ล้านล้านวัตต์) ได้ในเวลาแค่ 200 เฟมโตวินาที (1 เฟมโตวินาที เท่ากับ 1 ใน พันล้านล้านของวินาที) เลยทีเดียว

เรียกได้ว่ามากพอที่จะทำให้เป้าหมายลุกเป็นไฟ ละลาย หรือแม้แต่ระเหยหายไป เพียงแค่โดนเลเซอร์นี้ยิงผ่านเลย

 

 

อ้างอิงจากรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศ ในเบื้องต้นทางกองทัพสหรัฐฯ ตั้งใจที่จะใช้อาวุธชิ้นใหม่นี้ในการป้องกันประเทศจากกาารถูกจู่โจมด้วยอาวุธความเร็วสูง เช่นโดรน ขีปนาวุธ หรือรบกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ของศัตรูโดยการปล่อย EMP เป็นหลัก

อย่างไรก็ตามมันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกันที่ระบบนี้อาจจะถูกนำไปใช้รับมือกับข้าศึกที่เป็นมนุษย์

 

 

 

นี่นับว่าเป็นอีกเทคโนโลยีเลเซอร์ที่น่าจับตามองเลยทีเดียว เพราะในช่วงหลังๆ มาดูเหมือน สหรัฐอเมริกาจะพยายามพัฒนาอาวุธรูปแบบนี้มาใช้งานจริงๆ อยู่หลายต่อหลายครั้ง

อย่างในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางกองทัพก็เพิ่งได้ออกมารายงานว่า พวกเขาได้ทดลองอาวุธเลเซอร์ต้นแบบสำหรับการต่อต้านอากาศยานบนเรือ และสามารถทำลายโดนที่อยู่ห่างออกไปถึง 8 กิโลเมตรได้เป็นอย่างดี

 

 

ส่วนเจ้า USPL เองนั้น แม้ทางกองทัพจะบอกว่ายังคงเป็นโปรเจกต์ที่อาจต้องใช้เวลาพัฒนาอีกสักพัก แต่พวกเขาก็คาดว่าอาจจะได้อาวุธตัวต้นแบบมาใช้ทดลองงานจริงในปี 2022 ที่จะถึงนี้แล้ว

 

ที่มา americanmilitarynews, newscientist และ popularmechanics


Like it? Share with your friends!

0 Comments

Choose A Format