Tag: ปกป้อง

  • คอสเพลย์สายแบ๊ว ปกป้องสาวโดนล้วงนม  “ถ้าอยากจับนม…มาจับของพวกกูนี่!!”

    คอสเพลย์สายแบ๊ว ปกป้องสาวโดนล้วงนม “ถ้าอยากจับนม…มาจับของพวกกูนี่!!”

    ยุคสมัยนี้การแต่งตัวเป็นตัวละครจากหนังหรือการ์ตูนที่เรียกว่า การแต่งคอสเพลย์ นั้นกลายเป็นที่นิยมกันอย่างมากทั้งในประเทศญี่ปุ่นและอื่นๆ รวมไปถึงประเทศไทยด้วย สิ่งที่น่าชื่นชมมากที่สุดสำหรับการแต่งคอสเพลย์ก็คือ การที่แต่งด้วยความใส่ใจในรายละเอียด ของชุด และอุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไอ้ชุดที่มันเซ็กซี่ๆ เปิดตรงนั้นนิด ปิดตรงนี้หน่อย ยิ่งทำให้ได้ใจผู้คนไปเต็มๆ เลยล่ะ แต่มันก็ดั๊นมี กลุ่มคนนิสัยแย่ กลุ่มหนึ่งที่อดใจไม่ไหวชอบแอบแต๊ะอั๋งเหล่านักคอสเพลย์สาวๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ฮีโร่จึงออกมาปกป้อง นักคอสเพลย์สุดแบ๊วที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @ALL_SSR และเพ่ื่อนของเธอ @futa_free ได้ออกมาปกป้องเหล่าคอสเพลย์เยอร์สาวที่ต้องเสี่ยงกับการถูกลวนลาม   โดยการโพสต์ภาพที่พวกเธอสวมชุดสุดน่ารักมุ้งมิ้ง แต่กลับเขียนข้อความเอาไว้อย่างฮา จนกลายเป็นไวรัล พวกเขาเขียนว่า: “เอาจริงๆ ต่อให้สาวๆ แต่งตัวเซ็กซี่ขนาดไหน มันไม่ได้แปลว่าพวกเธอไม่รักนวลสงวนตัว เอามือไปล้วงไปลวนลามอย่างนั้นมันไม่ถูกต้อง ถ้าพวกคุณอยากจับนมใครสักคนจริงๆ ล่ะก็ มาหาพวกเราดูสิ เราจะให้คุณได้สัมผัสและดื่มด่ำกับความรู้สึกสักหน่อย แต่แค่หน่อยเดียวนะ เฉพาะในงานคอสเพลย์เท่านั้นด้วย ♥”   เรียกได้ว่าชาวเน็ตถึงกับงงกันเป็นไก่ตาแตก เฮ้ย! แบบนี้ก็ได้หรอ ให้จับฟรีจริงดิ!? แต่จะว่าไปสาวสองคนนี้ หน้าอกแบน แปลกๆ แฮะ   หน้าตาน่ารักคาวาอี้แบบนี้อย่าบอกนะว่าเป็น… ผู้ชาย!!! และมันก็ใช่จริงๆ เสียด้วย ทั้งสองคนนี้เป็นชายหนุ่มสองหน่อที่มีความสามารถในการแต่งหน้าระดับเทพ แถมยังกล้ามโตเป็นมัดเสียด้วย งานนี้เล่นเอาชาวหื่นทั้งหลายไม่กล้าไปแตะเนื้อต้องตัวเลยล่ะจ้า กลัวแล้ววว~   ด้วยความที่เขาทั้งสองออกมาปกป้องเหล่านักคอสเพลย์หญิงด้วยมุกสุดฮา…

  • ช้างน้อยเป็นห่วงพี่ เฝ้าสัตวแพทย์ตลอดการรักษาเพื่อให้มั่นใจว่าพี่ชายปลอดภัย

    ช้างน้อยเป็นห่วงพี่ เฝ้าสัตวแพทย์ตลอดการรักษาเพื่อให้มั่นใจว่าพี่ชายปลอดภัย

    เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ Maasai Mara National Reserve ในประเทศเคนย่าได้รับแจ้งมาว่ามีช้างบาดเจ็บอยู่ 5 ตัว พวกเขาเลยต้องออกไปตามหาพวกมันเพื่อรักษาแผลให้ เจ้าหน้าที่จากองค์กรช่วยเหลือสัตว์และช้างหลายองค์กร อันได้แก่ Olarro Conservancy, Kenya Wildlife Service, Mara Elephant Project และ David Sheldrick Wildlife Trust จึงได้ร่วมมือกันเพื่อออกไปรักษาช้างเหล่านี้     ก่อนที่จะรักษาช้าง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้ลูกดอกยาสลบยิงมัน เพื่อทำให้มันหลับไปซะก่อน จะได้ทำการรักษาได้อย่างราบรื่น เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นฝูงช้างจากบนเฮลิคอปเตอร์ พวกเขาก็ยิงลูกดอกยาสลบใส่ช้างที่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้มันเดินห่างจากฝูงออกมาก่อนที่จะสลบไป และหนึ่งในช้างที่ได้รับบาดเจ็บก็มีลูกช้างเดินตามมาด้วย     ลูกช้างตัวนี้ไม่ยอมออกห่างจากช้างที่สลบเลย มันคอยยืนอยู่เคียงข้างและทำท่าทีเหมือนกับปกป้องช้างตัวที่สลบไป แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีคุกคามต่อเจ้าหน้าที่เช่นกัน หลังจากตรวจสอบดูแล้วพบว่าช้างที่สลบไปเป็นช้างหนุ่มเพศผู้ พวกเขาก็เลยสันนิษฐานว่าลูกช้างตัวน้อยคงเป็นน้องชายของมันนั่นเอง     เจ้าหน้าที่ Angela Sheldrick ที่มากจากองค์กร David Sheldrick Wildlife Trust เล่าว่า “ลูกช้างตัวนี้อยู่ปกป้องพี่ชายโดยไม่ยอมออกห่างเลย มันอยู่เคียงข้างพี่ชายตลอดระยะเวลาที่เรารักษาพี่มัน“     แผลของพี่ชายมันเป็นบาดแผลจากลูกดอกธนู เจ้าหน้าที่รู้มาว่าพวกช้างถูกคนท้องถิ่นยิงธนูใส่ด้วยความโมโห หลังพวกมันเข้าไปทำลายและกินพืชผักของเขา ดังนั้นการที่ลูกช้างตัวนี้กล้าอยู่ท่ามกลางมนุษย์ ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่ทำร้ายพี่ชายมันมาก่อน…

  • เจ้าหมาเฝ้าเจ้านายเมาแอ๋ไม่ได้สติ ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ แม้จะเป็นคนที่มาช่วยก็ตาม

    เจ้าหมาเฝ้าเจ้านายเมาแอ๋ไม่ได้สติ ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ แม้จะเป็นคนที่มาช่วยก็ตาม

    การดื่มของมึนเมาจนไม่ได้สติเป็นสิ่งที่อันตราย เมื่อเราไม่มีสติ เราก็อาจจะไปทำเรื่องไม่ดี หรืออาจถูกคนอื่นทำร้ายได้ แล้วตอนเราหมดสติก็อาจจะถูกปล้นได้ด้วย ทว่าในกรณีของชายคนหนึ่งที่เมาแอ๋จนล้มนอนอยู่กลางถนน เขาไม่เป็นอะไรเลย ที่เขาปลอดภัยแบบนี้เป็นเพราะมีหมาของตัวเองอยู่เฝ้าไม่ให้ใครหน้าไหนเข้าใกล้เขาได้     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศโคลัมเบีย คนที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ได้ถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้ แล้วจึงอัปโหลดลงบนโซเชียลมีเดีย คลิปวิดีโอนี้มีคนดูกว่า 650,000 คนภายในเวลาแค่วันเดียว ในคลิปวิดีโอเราจะเห็นว่าเจ้าหมาเห่าไล่ทุกคนที่พยายามจะเข้ามาหาชายคนนี้ เพราะมันเป็นห่วงว่าเจ้านายอาจจะโดนทำร้ายขณะที่ไม่รู้สึกตัว แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่พยายามจะเข้ามาช่วย เจ้าหมายังเห่าใส่เขาเลย     ส่วนเจ้าของนั้น … แม้จะมีคนเดินผ่านไปมามากมาย และการเลียปลุกจากเจ้าหมา แถมยังมีเสียงรถและเสียงเห่าอีก แต่เขาก็ไม่ตื่นขึ้นมาสักที ท่าทางคืนก่อนจะจัดหนักจัดเต็มเลยเมามากขนาดนี้ กว่าจะรู้สึกตัวแล้วออกไปจากตรงนั้นก็ผ่านไปนานพอดูเลย เหตุการณ์นี้ได้แสดงให้เห็นถึงความรักและซื่อสัตย์ที่เจ้าหมามีให้กับเจ้าของของมัน มันคงอยู่เฝ้าเขาตั้งแต่เขาเริ่มสลบแล้ว ซึ่งก็น่าจะเป็นเวลาหลายชั่วโมงเลยทีเดียว คงไม่มีใครรักและเป็นห่วงเราได้แบบเจ้าหมาแล้วล่ะ   คลิปวิดีโอ  มีน้องหมาเฝ้ามันก็ดีนะ แต่อย่าเมาเละแบบนี้จะดีกว่า ที่มา: Lad Bible, Fritz Peñosa

  • เด็กหญิงฝาแฝด 2 คนหลงทาง โดยมีเจ้าหมาพิตบูลล์อยู่เคียงข้างดูแลไม่ยอมห่าง

    เด็กหญิงฝาแฝด 2 คนหลงทาง โดยมีเจ้าหมาพิตบูลล์อยู่เคียงข้างดูแลไม่ยอมห่าง

    Adele และ Elisabetta เป็นเด็กหญิงฝาแฝดที่อาศัยอยู่กับครอบครัวที่เมือง Udine ประเทศอิตาลี ระหว่างที่ใช้เวลาสุดสัปดาห์พักผ่อนนี้เอง เด็กหญิงทั้ง 2 คนก็หลงทางและหายไป ตอนนั้นตะวันก็ตกดินไปแล้ว คนที่รู้เรื่องต่างก็ช่วยกันออกตามหาเด็กหญิง แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงคนในพื้นที่ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยก็ตาม  Alexei Coianiz, Francesco และ Silvio ซึ่งเป็นคนในท้องที่ก็ช่วยออกตามหาด้วยเช่นกัน     เป็นเวลา 5 ทุ่มแล้ว พวกเขาเดินเท้าไปตามป่าข้างทางเพราะคิดว่าน่าจะเจอได้ง่ายกว่าขับรถตามหา แต่ป่าก็รกทึบจนไฟฉายแทบไม่ช่วยให้เห็นอะไรเลย ก็เลยทำได้แค่ตะโกนเรียกพวกเธอเผื่อว่าจะอยู่แถวนั้น ระหว่างที่พวกเขาตะโกนเรียกเด็กหญิงทั้ง 2 คน ก็มีเสียงของพวกเธอตอบกลับมาว่า “พวกเราอยู่ที่นี่! เราหิวมาก! มาช่วยเราด้วย!”  ทันทีที่พวกเขาเข้าไปหาต้นเสียง สิ่งที่พวกเขาเห็นสิ่งแรกคือหมาพิตบูลล์ตัวใหญ่ตัวหนึ่ง และถัดไปก็คือเด็กหญิงฝาแฝดที่หายไปนั่นเอง     เจ้าหมาตัวนี้ก็คือ Margot มันเป็นสัตว์เลี้ยงของฝาแฝด มันตามอารักขาเด็กทั้ง 2 คนตลอดระยะเวลาหลายชั่วโมงตั้งแต่เด็กหญิงทั้ง 2 หายตัวไป คงเพราะเห็นว่ามีคนมาช่วย มันก็เลยวิ่งเข้ามาเลียขอบคุณชายทั้ง 3 คนใหญ่เลย แถมระหว่างที่พวกเขาส่งคนไปแจ้งทีมค้นหา มันก็ยังนั่งอยู่เคียงข้างฝาแฝดไม่ยอมห่างเลย     เจ้าหมาไม่ยอมออกห่างจากเด็กหญิง ถึงจะมีคนมาช่วยแล้วก็ตาม   ท้ายที่สุดแล้วเด็กหญิงฝาแฝดกับเจ้าพิตบูลล์ก็ได้เจอกับครอบครัว…

  • ‘ลิงอุรังอุตังเผือก’ หายาก ได้รับ ‘เกาะส่วนตัว’ เพื่อปกป้องมันให้พ้นจากคนลักลอบค้าสัตว์

    ‘ลิงอุรังอุตังเผือก’ หายาก ได้รับ ‘เกาะส่วนตัว’ เพื่อปกป้องมันให้พ้นจากคนลักลอบค้าสัตว์

    ด้วยขนสีขาวบริสุทธิ์และดวงตาสีฟ้าที่สุกใส ทำให้ Alba ลิงอุรังอุตังเผือกเป็นลิงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสวยงาม แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้มันเป็นเป้าหมายของคนลักลอบค้าสัตว์ด้วย     Alba เคยเป็นลิงตามธรรมชาติมาก่อน แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามของมันทำให้มันเป็นที่หมายปองของพวกลักลอบค้าสัตว์จำนวนมาก เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมามันถูกชาวบ้านในประเทศอินโดนีเซียจับได้ แล้วเอามาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงในกรง โชคดีที่องค์กรช่วยเหลือลิงอุรังอุตัง Borneo Orangutan Survival Foundation (BOS) รู้เรื่องเข้าเลยไปช่วยมันให้เป็นอิสระได้ ปกติแล้วหลังจากช่วยสัตว์ป่าได้ อาสาสมัครก็จะปล่อยมันกลับไปสู่ธรรมชาติ ทว่าการปล่อย Alba ไปอยู่ตามธรรมชาติเหมือนเดิมดูไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เพราะมันน่าจะถูกคนลักลอบค้าสัตว์เอาตัวไปอีก พวกเขาก็เลยให้มันอยู่ในความดูแลของทางองค์กร     นอกจากเหตุผลเรื่องความสวยงามของมันที่ทำให้ตกเป็นเป้าในการลักพาตัวแล้ว ด้วยความที่มันเป็นลิงเผือก ทำให้มันมีโอกาสเป็นโรคผิวหนัง โรคทางสายตา และโรคเกี่ยวกับการได้ยินมากกว่าลิงตัวอื่นด้วย การดูแลมันอย่างใกล้ชิดจึงเป็นตัวเลือกที่ดูเหมาะสม เพื่อให้มันได้อยู่ตามธรรมชาติอย่างปลอดภัยจริงๆ องค์กร BOS ได้ร่วมระดมเงินทุนเพื่อสร้างพื้นที่ปิดขนาดใหญ่ให้ Alba ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบอยู่ในนั้น มันจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของคนลักลอบค้าสัตว์อีก     หลังจากรวบรวมเงินทุนอยู่เป็นเวลานาน เมื่อเดือนมกราคม 2018 ที่ผ่านมาทางองค์กรก็ประกาศว่า Alba จะได้ย้ายไปอยู่ในถิ่นอาศัยที่เหมาะสมแล้ว โดยพวกเขาได้ใช้เงินกว่า 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.5 ล้านบาท) เพื่อซื้อเกาะส่วนตัวเล็กๆ ให้มันอยู่…

  • เจ้าหมาฮีโร่ ช่วยคุณยายวัย 86 เอาไว้จากโจรที่ทำร้ายเธอในสวนหลังบ้าน

    เจ้าหมาฮีโร่ ช่วยคุณยายวัย 86 เอาไว้จากโจรที่ทำร้ายเธอในสวนหลังบ้าน

    เราได้เห็นกันมาหลายต่อหลายครั้งแล้วว่าสุนัขเป็นสัตว์ที่มีความรักและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของสูงมาก และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่พวกมันเอาตัวเข้าเสี่ยงอันตรายเพื่อปกป้องเจ้าของไว้ เจ้าหมา Axel ซึ่งอยู่กับคุณยาย Joyce Ackerley วัย 86 ปีในเมืองแซนฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ได้ช่วยไล่โจรที่ใช้ไม้ทุบตีคุณยายจนล้ม เลยทำให้คุณยายปลอดภัยจากการถูกจี้ทรัพย์   Joyce Ackerley คุณยายอดีตช่างตัดผ้า ผู้ใช้ชีวิตหลังเกษียณอยู่กับ Axel สุนัขแสนรัก   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2018 ประมาณ 4 โมงเย็น เธอเล่าว่าตอนนั้นเธอกำลังอยู่ในสวนหลังบ้าน เมื่อเธอกำลังเปิดประตูรั้วนั่นเอง จู่ๆ รั้วก็เปิดออกอย่างรวดเร็วแล้วโจรก็ใช้ของแข็งตีหัวเธอจนล้มลงกับพื้น หลังจากนั้นโจรก็พยายามข่มขู่ให้เธอส่งตุ้มหูและเครื่องประดับที่เธอมีอยู่ให้กับเขา ตอนนั้นนั่นเองเจ้า Axel ที่มักจะคอยตามติดคุณยายเป็นเงาอยู่เสมอ ก็ได้ยินเสียงร้องของเธอแล้วกระโจนใส่โจรคนนั้นจนล้ม แล้วกดเขาไว้กับพื้นพร้อมทั้งกัดแขนของเขา     แม้ว่าโจรจะพยายามดิ้นจนหลุดจากมันไปได้ มันก็ยังคงวิ่งไล่เขาต่อไป จนเมื่อมันแน่ใจแล้วว่าโจรคนนั้นหนีไปไกลมากพอแล้วมันก็กลับมาหาคุณยายที่ล้มอยู่ คุณยายบอกว่า “ตอนที่มันกลับมาจากการไล่ชายคนนั้น มันมีเลือดติดอยู่ที่ปากด้วย แต่มันตรงไปดื่มน้ำทันทีเลยก็เลยตรวจหา DNA ของโจรจากเลือดไม่ได้”     Joyce เล่าว่าปกติแล้ว Axel ไม่ได้เป็นสุนัขที่มีนิสัยดุร้าย มันออกจะอ่อนโยนและเป็นมิตรด้วยซ้ำ…

  • ลูกแรดน้อยไม่ประสีประสา ปกป้องแม่จากสัตวแพทย์ เพราะคิดว่าแม่จะโดนทำร้าย

    ลูกแรดน้อยไม่ประสีประสา ปกป้องแม่จากสัตวแพทย์ เพราะคิดว่าแม่จะโดนทำร้าย

    ลูกสัตว์ตัวเล็กก็เหมือนกับผืนผ้าใบว่างเปล่า พวกมันยังเป็นเด็กไร้เดียงสา ยังต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆ เหมือนกับลูกแรดตัวนี้ที่ไม่รู้ว่าสัตวแพทย์ไม่ได้มีเจตนาร้าย มันก็เลยพุ่งโจมตีพวกเขาซะอย่างงั้น   จะทำอะไรแม่เก๊าอะ เดี๋ยวตีเลย   จากคลิปวิดีโออันหนึ่งที่ถ่ายจากประเทศแอฟริกาใต้ สัตวแพทย์กำลังจะช่วยกันรักษาแม่แรด เนื่องจากนิ้วเท้าของมันเคลื่อนหลุดออกจากตำแหน่งปกติ ทว่าสัตวแพทย์ไม่ใช่คนกลุ่มเดียวเท่านั้นที่เป็นห่วงสวัสดิภาพของแม่แรด ลูกแรดที่อยู่ข้างๆ กันก็เป็นห่วงแม่ของมันเหมือนกัน และสำหรับมันอาการป่วยของแม่ไม่ได้ดูอันตรายเท่ากับสัตวแพทย์ใจดีด้านหน้าเลย   คลิปวิดีโอ    พอมันเห็นสัตวแพทย์เข้าใกล้แม่เพื่อที่จะทำการรักษาให้ มันก็คิดว่าพวกเขาจะทำร้ายแม่ของมัน ก็เลยพุ่งชนสัตวแพทย์จนเขาถอยหนีแทบไม่ทัน สัตวแพทย์คนหนึ่งก็เลยต้องทำหน้าที่กันไม่ให้แรดน้อยเข้ามาขัดขวางการรักษา ด้วยการเอามือดันจมูกน้อยๆ ของมันไว้ สัตวแพทย์คนอื่นจะได้รักษาแม่แรดได้โดยไม่ถูกรบกวน ถึงอย่างนั้นลูกแรดก็ยังพยาามดันมือของเขาอยู่ดี   สู้เหรอ เดี๋ยวสู้กลับนะเจ้ามนุษย์   เหตุการณ์ทั้งหมดถูกสัตวแพทย์ที่รักษาแม่มันถ่ายเอาไว้ได้ ก็เลยเอาความน่ารักไร้เดียงสาของมันมาให้เราได้ดูกันแบบนี้แหละ แหม่…พี่เขามาช่วยก็ยังพุ่งใส่อีกนะ ดีแล้วล่ะที่มันเป็นห่วงแม่ของตัวเอง ถ้าเกิดมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นจริงๆ แม่ของมันจะได้มีคนช่วยปกป้องยังไงล่ะ แต่คราวหน้าต้องแยกแยะให้ออกนะว่าคนไหนมาดี คนไหนมาไม่ดี ไม่อย่างงั้นพอมันโตขึ้นแล้วยังพุ่งใส่สัตวแพทย์อยู่อีก แม่ก็ไม่ได้รักษาแผลกันพอดี   ที่มา: Metro, the dodo

  • โค้ชทีมฟุตบอลเอาตัวเข้าบัง เพื่อช่วยชีวิตเด็กนักเรียนจากเหตุกราดยิงในฟลอริด้า

    โค้ชทีมฟุตบอลเอาตัวเข้าบัง เพื่อช่วยชีวิตเด็กนักเรียนจากเหตุกราดยิงในฟลอริด้า

    ในวันวาเลนไทน์ที่เพิ่งผ่านมานี้มีเรื่องสะเทือนใจเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา อดีตนักเรียน Nikolas Cruz ก่อเหตุใช้ปืนไรเฟิล AR-15 ยิงกราดในโรงเรียน Marjory Stoneman Douglas High School รัฐฟลอริด้า เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย ผู้เสียชีวิตไม่ได้มีแต่นักเรียนเท่านั้น แม้แต่คุณครูภายในโรงเรียนก็กลายเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นเองก็มีโค้ช Aaron Feis รวมอยู่ด้วย   Aaron Feis ผู้เป็นทั้งโค้ชและผู้รักษาความปลอดภัย   Feis เป็นโค้ชทีมฟุตบอลและผู้รักษาความปลอดภัยภายในโรงเรียน และเขาเองก็ถูกยิงในเหตุการณ์นั้นเช่นกัน แต่จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ เขาไม่ได้ถูกยิง แต่ตั้งใจเอาตัวเองเข้าไปบังกระสุนปืนให้นักเรียนต่างหาก โดยขณะที่นักเรียนคนหนึ่งกำลังหนีจากหนุ่มที่ถือปืน เขาเห็นว่านักเรียนคนนั้นไม่สามารถหนีพ้นวิถีของปืนได้แน่ๆ ก็เลยใช้ตัวเองเป็นโล่เพื่อให้นักเรียนสามารถหนีไปได้อย่างปลอดภัย แต่ตัวเขาเองนั้นต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากที่การเสียสละตัวเองของเขาได้เผยแพร่ออกไป คนจำนวนมากก็ทวีตเพื่อสรรเสริญถึงความดีและระลึกถึงการจากไปของเขา   นี่คือโฉมหน้าของโค้ช Aaron Feis วีรบุรุษที่บาดเจ็บจากการเข้าปกป้องนักเรียนในเหตุยิงปืน เขาเป็นที่รักของนักเรียนที่รู้จักเขาทุกคน ขอให้ทุกคนช่วยส่งกำลังใจไปให้เขาด้วย   โค้ช Aaron Feis เป็นคอยปกป้องผู้อื่นเสมอมา วันนี้เขาได้เสียสละร่างกายของตัวเองเพื่อปกป้องนักเรียน   มันต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมากในการเผชิญหน้ากับมือปืนที่บ้าคลั่ง โค้ช Feis เป็นวีรบุรุษอเมริกัน   แทนที่จะพูดถึงมือปืน เรามาให้เกียรติวีรบุรุษ…

  • เจ้าเหมียวเพื่อนแท้ คอยดูแลเด็กสาวมนุษย์ตัวน้อยตั้งแต่ตอนที่เธอยังไม่เกิด

    เจ้าเหมียวเพื่อนแท้ คอยดูแลเด็กสาวมนุษย์ตัวน้อยตั้งแต่ตอนที่เธอยังไม่เกิด

    บางคนอาจจะมีเพื่อนในวัยเด็กที่เล่นด้วยกันมาตลอด ตัวติดกันไม่ยอมห่างไปไหน เรียกว่าเป็นเพื่อนซี้ที่ไปไหนไปกัน เหมือนอย่างเด็กคนนี้ที่มีเพื่อนสนิทตัวติดกันมาตั้งแต่ตอนก่อนที่เธอจะเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลกเสียอีก เพื่อนสนิทตัวนี้มีชื่อว่า Tiger มันคือเจ้าเหมียวแสนซนที่ถูกทอดทิ้งตั้งแต่ตอนยังเป็นเพียงลูกแมว ก่อนที่นาย Stefano De Munari จะไปเจอมันที่สวนของตัวเองในประเทศอิตาลี   เจ้าเหมียว Tiger ได้รับการช่วยเหลือเอาไว้ตั้งแต่ตอนเล็กๆ   Stefano เล่าว่าเขารู้สึกเหมือนกับถูกเลือกโดยเจ้าเหมียวตัวนี้ยังไงยังงั้น มันเป็นแมวถูกทิ้งที่เข้ามาหาและปรับตัวเข้ากับเขาและภรรยาได้อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น Tiger ก็อาศัยอยู่กับครอบครัวของเขามาโดยตลอด จนกระทั่งมันได้ทำความรู้จักกับเพื่อนสนิทเป็นครั้งแรก ซึ่งนั่นก็คือเด็กน้อยที่ชื่อว่า Sofia ลูกสาวของเขา โดยเจ้าเหมียวนั้นพยายามเข้าไปตีสนิทกับเด็กสาวตั้งแต่ตอนที่เธอยังอยู่ในท้องแม่   ตอนที่ภรรยาเริ่มตั้งครรภ์เด็กสาว เจ้าเหมียวก็จะชอบมานอนอยู่ตรงท้องของเธอเสมอ   วันเวลาผ่านไป ในที่สุด Sofia ก็ได้ลืมตาออกมาดูโลก และได้เจอกับเจ้า Tiger เพื่อนซี้ที่เฝ้ารอคอยเธอมาตลอด ช่วงเวลาของทั้งสองก็เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น เจ้าเหมียวไม่ยอมออกห่างจากเด็กสาวเลยแม้แต่นิดเดียว Stefano บอกว่า “ตั้งแต่ที่ลูกของเราเกิดมา เจ้าเหมียวก็จะคอยดูแลปกป้องเธอไม่ยอมห่างเลย ทั้งสองจะอยู่ด้วยกันทุกเวลาจริงๆ”   มันคอยปกป้องเด็กสาว แม้ว่าเธอจะกำลังหลับอยู่ในรถเข็น   เจ้าเหมียวคอยดูแล Sofia เพื่อนซี้ทุกช่วงเวลา   มันพร้อมจะทำทุกอย่างที่ทำให้เด็กสาวมีความสุข…

  • 22 ภาพความฮาของคุณพ่อผู้หวงลูกสาวซะอย่างกับงูหวงไข่ หนุ่มๆ อย่าหวังจะได้แอ้มเชียว

    22 ภาพความฮาของคุณพ่อผู้หวงลูกสาวซะอย่างกับงูหวงไข่ หนุ่มๆ อย่าหวังจะได้แอ้มเชียว

    หากใครกลายเป็นพ่อคนแล้ว แน่นอนว่ายังไงก็ต้องหวงลูกสุดที่รักของเราเป็นธรรมดา ยิ่งถ้าเป็นลูกสาวด้วยแล้วล่ะก็ ความเป็นห่วงและความหวงลูกจะยิ่งเพิ่มพูนทวีคูณไปอีกหลายสิบเท่าเลยทีเดียว นี่คือภาพของเหล่าคุณพ่อผู้ห๊วงงงหวงลูกสาวของตัวเอง ชนิดที่ว่า “ลูกสาวข้าใครอย่าแตะ” อะไรประมาณนั้นเลย จะหวงกันมากขนาดไหนแล้วมันออกมาดูฮาๆ น่ารักเพียงใด เราไปดูกันเลย   แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ แต่เธอไม่รู้บ้างเลย   สิ่งที่เจ้าทำกับลูกสาวข้า ข้าก็จะทำแบบเดียวกันกับเจ้า   อยากเห็นชุดชั้นในลูกสาวฉันมากใช่มั้ย.. จัดไปเลยไอ้เสือ   “หนูมีแฟนแล้วนะแม่ อย่าบอกพ่อนะ.. แต่คงไม่ทันแล้วอ่ะเนาะ”   ใครคิดจะจีบลูกสาวก็อย่าลืมไปอ่านกฎที่เสื้อคุณพ่อก่อนนะ   คิดให้ดีก่อนจะเข้ามาจีบนะ คุณพ่อเขาเตือนแล้ว   คุณพ่อต้องประลองไอคิวกับว่าที่ลูกเขยซะหน่อย ว่าเหมาะสมกับลูกสาวหรือไม่   ดูแลลูกสาวข้าให้ดีๆ อย่ากลับดึก เข้าใจใช่มั้ยครับ?   ก่อนจะพาลูกสาวไปออกเดท รบกวนกรอกแบบฟอร์มให้ครบทุกช่องก่อน   นั่งนิ่งกันทำไม ก็กินข้าวกันไปสิ   พ่อดูแลเธอดีขนาดนี้ หนุ่มๆ คนไหนจะมาสู้ได้   พ่อขอตั้งชื่อผ้าห่มนี่ว่า “ผ้าห่มปกป้องพรหมจรรย์”   ที่ยืนอยู่นี่พ่อไง จะทำอะไรก็เกรงใจกันนิ๊สสสนึง   “พ่อหนูมีแฟนใหม่แล้ว” “พ่อก็เพิ่งซื้อปืนใหม่มาเหมือนกัน”  …

  • ของจริง!! หมาน้อยใจกล้าวิ่งเข้าไปกัดโจร เพื่อช่วยหญิงสาวให้รอดจากการถูกปล้น

    ของจริง!! หมาน้อยใจกล้าวิ่งเข้าไปกัดโจร เพื่อช่วยหญิงสาวให้รอดจากการถูกปล้น

    ไม่จำเป็นต้องไปค้นหาหลักฐานอีกต่อไปว่า “สุนัข” เป็นสุดยอดสิ่งมีชีวิตที่มีความเป็นฮีโร่ที่แท้ทรูมากขนาดไหน เพราะคลิปวิดีโอพร้อมเรื่องราวที่เราได้นำมาเสนอในครั้งนี้ มันเพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่า…เจ้าหมานี่แหละเป็นสัตว์ที่กล้าหาญที่สุด หลังจากที่มันได้พยายามเข้าช่วยเหลือผู้หญิงคนหนึ่งจากการถูกโจรปล้น     เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ณ เมืองพอดกอรีตซา ประเทศมอนเตเนโกร ได้เกิดเหตุคนร้ายเข้าบุกปล้นหญิงรายหนึ่งบนท้องถนน แต่ทว่าเขากลับทำไม่สำเร็จ เพราะจู่ๆ ก็มีสุดยอดฮีโร่ 4 ขาได้เข้ามาขัดขวางเอาไว้ จากการรายงานระบุว่า คนร้ายดังกล่าวเป็นชายสวมเสื้อเหลืองที่ได้เดินตามเหยื่อผู้หญิงไปตามท้องถนน และในขณะที่เขากำลังจะพยายามเข้าไปขโมยกระเป๋าของเธอ เจ้าหมาที่เห็นเหตุการณ์อยู่ด้านหลังก็รีบวิ่งเข้ามาจู่โจมเป้าหมาย เพื่อช่วยเหลือหญิงให้รอดพ้นจากการถูกปล้นทันที     ในคลิปได้ปรากฏให้เห็นเป็นภาพของเจ้าหมา กำลังกระโดดเข้าไปกัดที่ก้นของโจร และนั้นก็ทำให้เขาต้องรีบเผ่นหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต   มารับชมคลิปวิดีโอกันเลยจ้า   สำหรับคลิปวิดีโอนี้ได้ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก Podgoricki Vremeplov ซึ่งเป็นกลุ่มสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเมืองพอดกอรีตซา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้บรรดาชาวเน็ตได้พากันเข้ามาชื่นชมเจ้าหมาฮีโร่ตัวนี้กันอย่างมากมาย พร้อมกันนี้พวกเขายังเรียกมันว่าเป็น “Hero of the day” อีกด้วย ที่มา : metro

  • คุณพ่อชาวจีนใช้เท้าปกป้องลูกสาวจากโจรลักพาตัวเด็ก ในตอนกลางวันแสกๆ

    คุณพ่อชาวจีนใช้เท้าปกป้องลูกสาวจากโจรลักพาตัวเด็ก ในตอนกลางวันแสกๆ

    อันตรายสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาเพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ควรจะต้องสังเกตและระวังภัยรอบข้างอยู่เสมอ เหมือนกับคุณพ่อชาวจีนคนนี้ เมื่อในวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมากล้องวงจรปิดในประเทศจีนได้จับภาพโจรพยายามลักพาตัวเด็กผู้หญิงวัยแบเบาะ ก่อนที่พ่อของเด็กคนนั้นจะเตะเข้าไปที่บริเวณท้องน้อยจนทำให้โจรต้องรีบหนีออกไปในที่สุด     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนในเมือง Fujin มณฑลเฮย์หลงเจียง ในขณะที่คุณพ่อและเด็กน้อยกำลังเลือกสินค้ากันอยู่ได้มีผู้ชายสวมเสื้อแขนยาวเอาฮู้ดคลุมหัวทำตัวมีพิรุธอยู่ด้านหลังของทั้งสอง คนขายในร้านได้เข้ามาเตือนคุณพ่อเอาไว้แล้วว่าให้ระวังชายคนนี้ และดูแลลูกสาวของตนเองไว้ให้ดี   ยืนมองมาอย่างมีพิรุธ คนขายของจึงได้เดินเข้าไปเตือน   หลังจากนั้นเมื่อพ่อลูกเดินออกจากบริเวณหน้าร้านไป ชายคนดังกล่าวก็เดินตามไปด้วยและพยายามฉุดกระชากแขนของสาวน้อยให้หลุดออกจากมือของผู้เป็นพ่อ เมื่อเห็นอย่างนั้นคุณพ่อจึงกุมมือลูกสาวเอาไว้แน่นก่อนที่จะเตะเข้าไปที่บริเวณท้องน้อยชองโจรหนุ่มอย่างแรง ทำให้เขาต้องยอมแพ้ปล่อยมือเด็กและรีบหนีไป   เมื่อพ่อลูกออกจากร้านไปชายคนนี้ก็รีบเดินตามทั้งสองไปในทันที   พยายามที่จะกระชากลูกสาวออกไปอย่างแรง   คุณพ่อที่ระวังตัวอยู่ก่อนแล้วรีบปกป้องลูกสาว จนทำให้โจรหนุ่มรีบหนีไป   คลิปคุณพ่อปกป้องลูกสาวจากโจรลักพาตัว   ต่อมาได้มีการสอบถามพ่อค้าที่เห็นเหตุการณ์จึงทำให้รู้ว่าชายสวมฮู้ดคนนี้เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันเมื่อ 3 หรือ 4 วันก่อน โดยพยายามที่จะกระชากเด็กสาวออกมาจากแม่ของเธอ นอกจากนั้นคนขายก็บอกอีกว่าชายคนดังกล่าวดูเหมือนว่าจะมีอาการป่วยทางจิต   คนขายที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดและเชื่อว่าชายสวมฮู้ดมีอาการป่วยทางจิต   อย่างไรก็ตามตำรวจประจำเมือง Fujin บอกว่าไม่เคยได้ยินว่ามีคนแจ้งข้อกล่าวหาในลักษณะนี้มาก่อนและย้ำกับชาวบ้านทุกคนว่า “หากมีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน”   กล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ตามร้านต่างๆ ช่วยระวังภัยเราได้เพียงส่วนเดียว   สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้เหมือนๆ กันคือการระวังตัวเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องร้ายๆ ได้…

  • เพื่อลูกต้องสู้ “แม่กระต่าย” เปิดศึกปะทะกับ “งู” ปกป้องลูกน้อยแสนรัก จากการถูกกิน

    เพื่อลูกต้องสู้ “แม่กระต่าย” เปิดศึกปะทะกับ “งู” ปกป้องลูกน้อยแสนรัก จากการถูกกิน

    เมื่อกล่าวถึง “กระต่าย” ถือเป็นหนึ่งในสัตว์ที่หลายๆ คนรู้จักกันดีอยู่แล้ว ซึ่งภาพลักษณ์ส่วนใหญ่ที่เราเห็นมักจะมาในรูปแบบของความน่ารัก อ่อนโยน และมักจะกลายเป็นเหยื่อของสัตว์ชนิดอื่นๆ อยู่เสมอ แม้ว่ากระต่ายจะดูมุ้งมิ้ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากมันตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากเกินกว่าจะแก้ไข กระต่ายก็สามารถกลายเป็นสัตว์นักสู้ได้เหมือนกันนะ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวของแม่กระต่าย ที่กลายมาเป็นนักสู้ เพื่อไล่กัดงูสีดำขนาดใหญ่ หลังจากที่ลูกน้อยของมันถูกงูทำร้าย     สำหรับภาพพร้อมคลิปวีดีโอที่เราได้นำมาให้ชมกันนี้ ได้เริ่มนำมาเผยแพร่ตั้งแต่ปี 2015 แต่ก็ไม่ได้ดังมากจนข่าวต่างประเทศนำมาเสนออีกครั้งในช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางด้าน Thedodo เว็บไซต์ที่ได้นำเสนอเรื่องราว พร้อมคลิปวีดีโอของ Momma Rabbit มาเผยแพร่ ได้ระบุว่า หลังจากที่แม่กระต่ายได้กลับไปยังที่อยู่อาศัยของมัน ก็ได้พบว่ามีงูสีดำขนาดใหญ่กำลังรัดตัวลูกน้อย เพื่อที่จะนำไปกินเป็นอาหาร และเมื่อแม่กระต่ายเห็นดังนั้น มันจึงไม่รอช้า รีบกระโจนเข้าใส่เจ้างูจนทำให้มันตกใจ และรีบคลายตัวเพื่อปล่อยลูกของมันออกมา น่าเศร้าที่ลูกน้อยของมัน 2 ตัวต้องตายไปจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ แต่สุดท้ายก็ยังโชคดีที่ลูกกระต่ายตัวหนึ่งสามารถหลบหนีออกมาได้     แม่กระต่ายที่กำลังโกรธจัด หลังเห็นลูกถูกทำร้าย แน่นอนว่ามันไม่ถอยหนี รีบเข้าไปปะทะกับเจ้างูทันที และเมื่องูพยายามหนี แม่กระต่ายก็เข้าไปกระโดดถีบขาคู่ใส่งู พร้อมเข้าไปจู่โจมมันครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุดเจ้างูก็ต้องยอมแพ้ และเลื้อยหนีออกไปจากบริเวณนั้น     ทางด้าน…

  • สุดเฟี้ยว!! อาม่าวัย 94 ฝึกฝนวิชาศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่ 4 ขวบ จนได้รับฉายา “กังฟูอาม่า”

    สุดเฟี้ยว!! อาม่าวัย 94 ฝึกฝนวิชาศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่ 4 ขวบ จนได้รับฉายา “กังฟูอาม่า”

    เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ข่าวจากทางประเทศจีนได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวของ Zhang Hexian อาม่าวัย 94 ปีรายนี้ เพราะเธอไม่ใช่เพียงแค่คนแก่ทั่วๆ ไป แต่เธอได้รับฉายาว่าเป็น “กังฟูอาม่า” ที่พกเอาวิชาศิลปะป้องกันตัวมาคอยปกป้องความปลอดภัยของผู้คนในหมู่บ้าน   โอ้ววว…สุดยอดไปเลยอาม่า!!   ตามประวัติระบุว่า เธออาศัยอยู่ในหมู่บ้านลี่หยาง มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกเฉียงได้ของจีน เธอเริ่มที่จะเรียนรู้กังฟูเมื่อตอนที่มีอายุเพียง 4 ปี และหลังจากนั้นเธอก็เริ่มฝึกฝนวิชามาตลอดเป็นระยะเวลามากกว่า 90 ปี จนกลายเป็นอาม่าสุดแกร่งอย่างที่เห็น     แม้ว่าอายุอานามของอาม่าจะมากถึง 94 ปี แล้ว แต่เธอก็ยังดูแข็งแรง และคล่องแคล่วว่องไวไม่แพ้หนุ่มสาวเลยทีเดียว   จากที่เคยเริ่มหัดกังฟูตั้งแต่เด็กจนทำให้เธอกลายเป็นสุดยอดปรมาจารย์ด้านวิชาป้องกันตัวไปแล้ว   และในตอนนี้อาม่าก็ยังฝึกฝนวิชาอยู่นะ นอกจากนี้ อาม่าก็มักจะโชว์ทักษะด้านการต่อสู้ให้กับชาวบ้านได้รับชมอยู่บ่อยๆ แถมยังถูกยกให้เป็นผู้ปกป้องความปลอดภัยจากเหล่าวายร้าย และผู้ที่ถูกรังแกอีกด้วย     ที่มา : shanghaiist

  • หมาร็อตไวเลอร์ปกป้องเจ้าของจาก “โจรปล้นบ้าน” จนถูกยิงเกือบตายและเสียขาข้างหนึ่งไป

    หมาร็อตไวเลอร์ปกป้องเจ้าของจาก “โจรปล้นบ้าน” จนถูกยิงเกือบตายและเสียขาข้างหนึ่งไป

    เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา Brenton Sutton ได้ยินเสียงคนเคาะประตูบ้าน ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นเพื่อนมาหา แต่เมื่อเปิดไป เขาพบกับชายติดอาวุธปิดหน้าปิดตาจำนวนประมาณ 3-4 คน เมื่อเห็นดังนั้น Roxy เจ้าหมาร็อตไวเลอร์ที่เขาเลี้ยงไว้ จึงเข้าไปขู่ในทันที     ด้วยความตกใจ หนึ่งในกลุ่มคนร้ายก็ได้ยิงปืนหนึ่งนัดใส่เจ้า Roxy จากนั้นก็วิ่งหนีไป ส่วน Sutton ได้พยายามวิ่งไปบ้านข้างๆ เพื่อยืมอาวุธเพื่อป้องกันตัวเองจากคนร้าย เมื่อเขากลับมา เขาพบว่าคนร้ายได้จากไปหมดแล้ว และเจ้า Roxy แม้จะไม่ถึงตาย แต่ก็ได้รับบาดเจ็บจากแผลถูกยิงและเสียเลือดเป็นจำนวนมาก เขาจึงรีบนำตัวมันส่งโรงพยาบาลในทันที     เมื่อถึงโรงพยาบาล สัตว์แพทย์ได้วินิจฉัยว่ากระสุนได้ทำลายเส้นเอ็นและกระดูกขาหน้าด้านขวาอย่างหนัก ทางเดียวที่มันจะมีชีวิตรอดได้คือต้องตัดขาข้างนั้นทิ้งเท่านั้น   หลังจากเข้ารับการผ่าตัดหลายชั่วโมง ในที่สุดเจ้า Roxy ก็ปลอดภัย แม้จะเสียขาไปข้างหนึ่งก็เถอะ   ดูเหมือนว่าเจ้า Roxy เองก็ไม่ได้เครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้น และมันก็ยังรักพ่อของมันเหมือนเดิม “Roxy กำลังแสดงความเข้มแข็งออกมา ความเข้มแข็งที่ผมอยากมีให้ได้เหมือนกับเธอ”  Hutton กล่าว   ตอนนี้ Sutton กำลังเปิดแคมเปญรับบริจากค่ารักษาพยาบาลและกายภาพบำบัดให้กับเจ้า…

  • เมื่อพี่ใหญ่ต้องสูญเสียดวงตาทั้งสองข้าง สองน้องหมาก็มาคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ประทับใจจัง!!

    เมื่อพี่ใหญ่ต้องสูญเสียดวงตาทั้งสองข้าง สองน้องหมาก็มาคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ประทับใจจัง!!

    ครั้งนี้ เราขอนำเสนอเรื่องราวดีๆ ของ Kiaya เจ้าหมาพันธุ์อะกิตะ วัย 10 ปี อาศัยอยู่ในเมืองวอเตอร์ฟอร์ด รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา กับ Jessica VanHusen ผู้เป็นเจ้าของ Kiaya เป็นน้องหมาที่เกิดมาสมบูรณ์ มีสุขภาพดี หน้าตาน่ารัก และขี้เล่น เหมือนน้องหมาทั่วๆ ไป แต่หลังจากที่ทางแพทย์ได้ตรวจพบว่า เจ้า Kiaya มีต้อหินในดวงตา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มันต้องสูญเสียตาทั้งสองข้างไปอย่างถาวร     เจ้า Kiaya ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งความมืดมิดในแบบที่มันไม่เคยสัมผัสมาก่อน แต่อย่างน้อยเรื่องมันก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะทีเดียว เพราะหลังจากที่กลายเป็นหมาตาบอด น้องหมาทั้งสองอย่างเจ้า Cass 8 ปี และ Keller วัย 2 ปี ก็คอยปกป้อง และดูแลผู้เป็นพี่อย่างใกล้ชิด     แม้ว่าจะเสียดวงตาทั้งสองข้างไป แต่มันก็ยังมีน้องๆ ที่เปรียบเสมือนเป็นดวงตาดวงที่สองให้กับมัน คอยดูแล พร้อมทั้งช่วยนำทาง และนั่นก็ทำให้เจ้า Kiaya สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติเหมือนกับหมาทั่วไป…

  • ‘วาฬหลังค่อม’ ผู้พิทักษ์แห่งท้องทะเล ที่คอยปกป้องผู้อ่อนแอ จากกลุ่มนักล่า ‘วาฬเพชรฆาต’

    ‘วาฬหลังค่อม’ ผู้พิทักษ์แห่งท้องทะเล ที่คอยปกป้องผู้อ่อนแอ จากกลุ่มนักล่า ‘วาฬเพชรฆาต’

    ก็เรียกได้ว่าเป็นการตั้งข้อสังเกตของเหล่านักวิทยาศาสตร์กันเลยทีเดียวถึงพฤติกรรมของเหล่าวาฬหลังค่อมจากทั่วโลกที่มักจะเข้าไปช่วยเหล่าแมวน้ำที่โดนฝูงวาฬเพชรฆาตไล่ล่าอยู่เสมอๆ หลายต่อหลายครั้งที่แมวน้ำเคราะห์ร้ายถูกล้อมด้วยฝูงวาฬเพชรฆาต เพราะในด้าวความพริ้วไหวนั้นถือว่าแมวน้ำอยู่เหนือกว่ามาก วาฬเพชรฆาตเลยต้องล่าแบบกลุ่มและล้อมวงเพื่อไม่ให้แมวน้ำหนีได้   นี่คือคลิปวิดีโอที่มาของการหาข้อมูลครั้งนี้ สังเกตว่าวาฬหลังค่อยมาช่วยชีวิตไว้   แต่นั่นเป็นแค่เรื่องบังเอิญ หรือความตั้งใจกันล่ะ!?   จากการรายงานของทาง Live Science พบว่า เหล่านักชีววิทยาจากรอบโลกที่ทำการศึกษาเรื่องวาฬหลังค่อมอย่างจริงจังพบว่าวาฬเหล่านี้มักจะเข้ามาช่วยเหล่าแมวน้ำเสมอ ถ้ามันถูกรุมล่า ด้วยเหตุนี้พวกเขาเลยตั้งข้อสงสัยว่า ที่มันมักจะเข้ามาช่วยนั้นเพราะมันได้ยินเสียงร้องด้วยความกลัวของเหล่าแมวน้ำ หรือมีแรงผลักดันอื่นกันแน่ที่ทำให้มันมีพฤติกรรมแบบนี้!!?   นอกจากนี้แมวน้ำก็ไม่ใช่สายพันธุ์เดียวด้วยล่ะที่เหล่าวาฬหลังค่อมเคยปกป้อง!!!   Lucy Babey หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ‘เหตุการณ์ที่วาฬหลังค่อมไปปกป้องสัตว์ตัวอื่นๆ นั้นเรียกได้ว่าแทบจะนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน นั่นก็คือเวลาถูกวาฬเพชรฆาตไล่ล่า ก่อนหน้านี้ก็มีรายงานมาว่าพวกมันยังปกป้องลูกวาฬสีเทาที่พลัดหลงจากแม่ และเกือบโดนวาฬเพชรฆาตรุมกัดกินอีกด้วย’ Dr. Pitman และนักชีววิทยา John Durban ได้เขียนลงในนิตยสาร  Natural History magazine ว่า ‘วาฬหลังค่อมนั้นมีสัญชาตญาณของความเป็นแม่อยู่ ถึงแม้จะไม่ใช่ลูกจริงๆ ของมัน มันก็จะเข้าไปช่วยเหลือในสถานการณ์ขับขัน’   และกว่า 60 ปีที่ผ่านมาพบว่ามีเหตุการณ์ที่วาฬหลังค่อมเข้ามาขัดขวางการล่าราวๆ 112 ครั้งเลยทีเดียว (เท่าที่นักสำรวจได้พบ)   แถมยังมีเทคนิคที่ป้องกันค่อนข้างแพรวพราวมากๆ ทั้งการใช้ปะการังเป็นเครื่องป้องกัน การพาไปยังโซนน้ำตื้น หรือแม้กระทั้งใช้ครีบยกขึ้นไปบนตัวเพื่อให้อยู่เหนือน้ำพ้นจากการโจมตีของเหล่าวาฬเพชรฆาต!!! แต่ก็มีนักวิจัยหลายท่านเช่นกันออกมาแย้งว่า วาฬเพชรฆาตกับวาฬหลังค่อมนั้นไม่ค่อยถูกกันอยู่แล้ว เพราะถ้ามีโอกาสวาฬเพชรฆาตก็จะล่าลูกของวาฬหลังค่อมเช่นกัน…

  • เรื่องราวของ 2 พี่น้องสุนัข ที่ผันตัวกลายมาเป็นอัศวินปกป้องลูกเป็ดน้อยทั้ง 2!!

    เรื่องราวของ 2 พี่น้องสุนัข ที่ผันตัวกลายมาเป็นอัศวินปกป้องลูกเป็ดน้อยทั้ง 2!!

    #เหมียวสามสี เคยมีประสบการณ์การเลี้ยงสุนัขมาบ้าง แล้วที่บ้านก็เลี้ยงไก่เลี้ยงเป็ดด้วย และทุกครั้งที่มันเห็นสัตว์ปีก มันก็จะวิ่งเข้าไปกัด ตายบ้างไม่ตายบ้าง สุดท้ายก็ต้องลงโทษมันไปเพื่อให้มันจำ นั่นทำให้รู้ว่าหมามันไม่ถูกกับสัตว์ปีกสักเท่าไหร่ แต่สำหรับพี่น้อง Pikelet และ Patty มันไม่ใช่แบบนั้น มันคือสุนัขที่มีความอ่อนโยน เมื่อมันได้พบกับลูกเป็ดพี่น้อง สมาชิกใหม่ของครอบครัว มันก็ได้ผันตัวมาเป็นอัศวินพิทักษ์ลูกเป็ดทั้ง 2 ตัวนี้ เจ้าของได้รับลูกเป็ดมาเลี้ยงจากองค์กร  Wollongong Animal Rescue Network แล้วตั้งชื่อให้ว่า Penguin และ Popinjay และเมื่อ 2 ครอบครัวพี่น้องมาเจอกัน ก็เข้ากันได้อย่างรวดเร็ว และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เราไปชมภาพความน่ารักของพวกมันกันเลย     ไปติดตามชีวิตของเป็ดและสุนัขได้ที่ Instagram ที่มา mymodernmet

  • สุนัขพิตบูลผู้ภักดี ยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องเจ้าของจากการถูกทำร้ายด้วยมีดฝีมือแฟนเก่า

    สุนัขพิตบูลผู้ภักดี ยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องเจ้าของจากการถูกทำร้ายด้วยมีดฝีมือแฟนเก่า

    ไม่ว่าใครๆ ต่างก็รักชีวิตของตัวเองกันทั้งนั้น แต่สิ่งมีชีวิตที่เรียกกันว่า ‘สุนัข’ นี้กลับยอมที่จะต่อสู้อย่างสุดแรงเกิด เพื่อที่จะปกป้องเจ้านายอันเป็นที่รักของมัน โดยไม่สนว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของตัวเองก็ตาม อย่างในกรณีของเจ้าสุนัขพิตบูลตัวนี้     มันมีชื่อว่าเจ้า Lucy สุนัขพันธ์พิตบูลอายุ 6 ปี เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นหลังจากที่โดนแทงด้วยมีดเข้าที่บริเวณลำคอ สาเหตุก็มาจากการที่มันพยายามปกป้อง Lisa Potts จากแฟนเก่าของเธอที่ชื่อว่า Walter Williams ซึ่งพยายามที่จะทำร้ายเธอด้วยมีด     ‘น้ำตาของฉันมันไหลรินออกมาจนแทบจะหยุดไม่อยู่ ฉันไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับมันเลยแม้แต่น้อย ฉันพยายามเรียกชื่อ พยายามปลอบ ลูบหัว เพื่อที่จะปลุกมันให้ตื่น’ Lisa Potts กล่าวถึงช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่เจ้า Lucy จะจากไป     เธอกล่าวว่าในวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่เธอกลับเข้ามาในบ้านก็พบกับ Williams นั่งรออยู่ภายในบ้านแล้ว แต่ด้วยความไม่เข้าใจกัน เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง และฝ่ายแฟนเก่าก็เริ่มตบตี จากนั้นก็คว้ามีดเพื่อที่จะทำร้ายเธอ แต่เจ้า Lucy เข้ามาช่วยได้ทัน     ถึงแม้ว่าเจ้า Lucy จะโดนแทงเข้าที่คออย่างจัง มันก็พยายามที่จะสู้สุดชีวิต…

  • โลกออนไลน์ร่วมปกป้องชาวมุสลิม ‘ผู้ก่อการร้ายไม่มีศาสนา’ จากการถูกเหมารวมในด้านลบ

    โลกออนไลน์ร่วมปกป้องชาวมุสลิม ‘ผู้ก่อการร้ายไม่มีศาสนา’ จากการถูกเหมารวมในด้านลบ

    ไม่ว่าจะเกิดการก่อการร้ายที่ใดบนโลก สิ่งแรกที่จะถูกประณามเลยก็คือ ชาวมุสลิม รวมไปจนถึงศาสนาอิสลามทันที เพราะภาพลักษณ์ที่สื่อต่างๆ เปิดเผยให้ได้รับรู้นั้น จะถูกเชื่อมโยงกับศาสนาอิสลามและชาวมุสลิมทันที แต่ที่จริงแล้วชาวมุสลิมก็ไม่ได้เป็นผู้ก่อการร้ายไปซะหมด     ชาวมุสลิมนั้นมักจะถูกมองในแง่ร้ายเสมอมา ทั้งนี้ในความจริงคือการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นส่วนมาก มักจะนำศาสนามาเป็นสิ่งบังหน้า อ้างศรัทธาต่างๆ ในอีกแง่มุมหนึ่ง #TerrorismHasNoReligion ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อปกป้องชาวมุสลิมผู้บริสุทธิ์ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายเลย   มองในอีกแง่หนึ่งคือ ผู้ก่อการร้ายเป็นพวกไม่มีศาสนา     ‘ใครก็ตามที่เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ผู้นั้นก็เท่ากับเข่นฆ่ามวลมนุษยชาติ’   ทางด้านชาวมุสลิมที่ไม่เกี่ยวข้อง ต่างก็ต้องการความสันติ   การใช้ศาสนาและอุดมการณ์ความเชื่อมาเป็นข้ออ้างในการเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์นั้น เป็นยิ่งกว่าพวกขี้ขลาด     แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ยังมีผู้คนที่เห็นต่างและเหมารวมว่าชาวมุสลิมทั้งหมดคือผู้ก่อการร้าย   ชาวมุสลิมต่างต้องปกป้องในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เป็นผู้กระทำ   อย่างไรก็ตามขอให้ทุกท่านแสดงความคิดเห็นที่สุภาพไม่กระทบกระทั่งกันนะจ๊ะ เพราะยังไงเราก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน ที่มา : unilad

  • หญิงสาวตอกกลับนักวิจารณ์บนเน็ต หลังบอกว่าแฟนหนุ่มตัวตุ้ยนุ้ย “ไม่คู่ควร” กับเธอ!!!

    หญิงสาวตอกกลับนักวิจารณ์บนเน็ต หลังบอกว่าแฟนหนุ่มตัวตุ้ยนุ้ย “ไม่คู่ควร” กับเธอ!!!

      บนอินเตอร์เน็ต เราจะได้เจอกับผู้คนหลากหลายประเภท บางคนก็มีมารยาท แต่บางคนเหมือนจะเข้าใจว่า ตนเองสามารถพูดอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องรับผิดชอบคำพูดของตนเอง   Ashley Stevens และ Christopher Reed เป็นแฟนกัน วันหนึ่งเพื่อนของเธอเห็นว่าภาพที่เธอถ่ายคู่กับแฟนในงานแต่งงานดูตลกดี จึงนำไปโพสในเว็บไซต์ Reddit แต่ปรากฏว่า มีคนมาวิจารณ์แฟนหนุ่มของเธอเสียๆหายๆมากมายอย่างเช่น   “ไอ้อ้วนนั่นแม่งโครตโชคดีเลยหวะที่ได้เมียสวยขนาดนี้” “ถ้ากุหน้าตาเหมือนเจ้านี่นะ และกุกำลังเดทกับผู้หญิงคนนี้ กุจะจับทำเมียอย่างไวเลย”   เมื่อ Ashley ได้เห็นข้อความเหล่านั้น เธอจึงโพสข้อความลงบนเฟสบุ๊คของตนเอง เพื่อปกป้องคนรักของเธอ เธอโพสว่า “ขอบอกอะไรไว้อย่างนะ ฉันต่างหากที่โชคดีมากที่ได้เขาเป็นแฟน” “เขาอาจไม่ได้มีกล้ามท้องสวยๆ อย่างที่สื่อพยายามบอกให้ผู้หญิงต้องหาแฟนที่มีอะไรแบบนั้น แต่ถามจริงๆเถอะ เวลาคุณจะหาคนที่จะใช้ชีวิตร่วมด้วยเนี่ย คุณอยากได้อะไรจากเขา?” “เขาเป็นคนที่มีความคิดและความอดทน เขามักแสดงให้ฉันเห็นเสมอว่าเขารักฉัน เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ฉันรักในสิ่งที่เขาเป็น และเขาก็รักฉันในสิ่งที่ฉันเป็น ความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน ความรัก และความตลกโปกฮา เป็นสิ่งที่หาได้ยากในปัจจุบัน”     ส่วน  Christopher บอกว่า “ตอนเราเห็นข้อความนะ เราขำก๊ากเลย พวกเราทั้งสองคนรู้จักกันดี และเรารู้ว่าเรารักกันแค่ไหน”  …