พบไดโนเสาร์กินเนื้อสายพันธุ์ใหม่ในอุซเบกิสถาน มีฟันเลื่อยคล้ายฉลาม อายุร่วม 90 ล้านปี


ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 90 ล้านปีก่อน ในพื้นที่ที่ต่อมาจะกลายเป็นประเทศอุซเบกิสถานยังคงมีสุดยอดไดโนเสาร์นักล่าขนาดใหญ่ สูงกว่า 8 เมตรและหนักกว่า 1 ตันอยู่ โดยมันมีจุดเด่นอยู่ที่ฟันแบบเลื่อยคล้ายฉลามสร้างความหวาดกลัวให้กับเหยื่อและคนรุ่นหลังเป็นอย่างดี

ไดโนเสาร์ตัวนี้ ถูกอธิบายในผลการตรวจสอบฟอสซิลซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Royal Society Open Science เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2021 ที่ผ่านมา โดยได้รับชื่อว่า “Ulughbegsaurus uzbekistanensis” อีกที

 

 

อ้างอิงจากในรายงานที่ออกมาฟอสซิลของ  U. uzbekistanensis นั้น จริงๆ แล้วถูกพบตั้งแต่เมื่อ  40 กว่าปีก่อน ในช่วงปี 1980  ในทะเลทราย Kyzylkum ของอุซเบกิสถาน

อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่าง ในเวลานั้นกระดูกที่ถูกพบ กลับไม่ได้รับการศึกษาอะไร และแค่ถูกนำไปเก็บไว้จนโดนลืมเลือนไปตามกาลเวลาในคอลเล็กชันพิพิธภัณฑ์เท่านั้น

 

 

นับว่าเป็นโชคดีมากที่ในปี 2019 นักวิจัยได้ค้นพบมันอีกครั้ง และนำมันไปตรวจสอบพวกเขาจึงได้พบว่าฟอสซิลที่พบมีนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมันไม่ใช่เพียงแค่จะเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อสายพันธุ์ใหม่เท่านั้น

แต่มันยังอาจเคยเป็นไดโนเสาร์ไดโนเสาร์ยอดนักล่าตัวหนึ่งของยุค เคียงข้างไดโนเสาร์สายพันธุ์ดังอย่าง Tyrannosaur เลย

 

ภาพเปรียบเทียบขนาด U. uzbekistanensis กับ Tyrannosaur Timurlengia ที่เล็กกว่า

 

นักวิทยาศาสตร์ระบุในงานวิจัยนี้ว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขาแปลกใจที่สุดของ U. uzbekistanensis นั้น หลักๆ คือมันมีขนาดใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ มันมีความยาวลำตัวมากว่า Tyrannosaur Timurlengia ซึ่งอาศัยอยู่ในยุคและพื้นที่ใกล้เคียงกัน ถึงสองเท่า และหนักกว่าถึงห้าเท่า

ทั้งๆ ที่มันมาจากไดโนเสาร์กลุ่ม Carcharodontosaur ซึ่งตามปกติจะมีรูปร่างเรียวและน้ำหนักเบากว่ากลุ่ม Tyrannosaur

แสดงให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่าไดโนเสาร์ Carcharodontosaur บางกลุ่มในอดีตอาจจะเคยมีขนาดใหญ่เสียยิ่งกว่าที่เราเคยคิด และด้วยขนาดใหญ่เช่นนี้มันก็คงจะไม่แปลกเลยที่ในอดีต U. uzbekistanensis จะเคยเป็นหนึ่งในสุดยอดนักล่าแห่งยุคมาก่อน

 

ฟอสซิล carcharodontosaur (ซ้าย) และ Tyrannosaurus (ขวา)

 

“การค้นพบของเราบ่งชี้ว่าแม้เมื่อ 90 ล้านปีก่อน carcharodontosaur ก็น่าจะยังคงเป็นสัตว์กินเนื้อที่กุมอำนาจเหนือเอเชียอยู่”

คุณ Kohei Tanaka ผู้ช่วยศาสตราจารย์จาก

มหาวิทยาลัยสึกุบะในญี่ปุ่น หัวหน้าทีมวิจัยระบุ

 

 

และการค้นพบไดโนเสาร์ใหม่ๆ เช่นนี้ก็จะช่วยเติมเต็มช่องว่างของการวิวัฒนาการไดโนเสาร์ที่หายไปในอดีตได้เป็นอย่างดีเลย

 

ที่มา livescience, sci-news, royalsocietypublishing และ smithsonianmag


Like it? Share with your friends!

0 Comments

Choose A Format