จับเจ้าของร้านอาหารจีน ใส่ “ผงฝิ่น” ในอาหาร เป็นเคล็ดลับความขายดี อ้างทำไปเพราะพิษโควิด

สำหรับวงการพ่อครัวมันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรนักที่ร้านอาหารต่างๆ จะปิดสูตรอาหารของตัวเองไว้เป็นความลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอาหารของพวกเขาอร่อยจนเป็นที่นิยมอย่างมาก

อย่างไรก็ตามสำหรับร้านอาหารร้านหนึ่งใน เมืองเหลียนหยุนกัง มณฑลเจียงซู ของประเทศจีน ความลับที่ทำให้ร้านของเขาโด่งดังมันกลับเป็นของที่ผิดกฎหมายอย่าง “ฝิ่น” นี่สิ

เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2021 ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเหลียนหยุนกังได้รับการแจ้งเรื่องจาก ผู้แจ้งเบาะแสที่ไม่ระบุชื่อ ว่าร้านอาหารที่เขาไปทานอาจมีการผสมสารเสพติดลงในอาหาร

โดยผู้แจ้งเบาะแสรายนี้ ระบุว่าตนเกิดความสงสัยดังกล่าว หลังจากที่มีโอกาสได้ดูวิดีโอเตือนภัยว่าผู้ประกอบกิจการบางรายอาจผสมดอกฝิ่นลงในอาหาร เพื่อให้ลูกค้าติดใจมาให้บริการบ่อยๆ ได้

และในการแจ้งความในครั้งนี้เขาก็ได้นำตัวอย่างอาหารเจ้าปัญหามาให้เจ้าหน้าที่ด้วย

เมื่อนำอาหารที่ได้มาไปตรวจสอบทางตำรวจก็พบว่าในอาหารนั้นมีร่องรอยของสารปาปาเวอรีน และนาร์โคติน ซึ่งพบได้ในฝิ่นอยู่จริงๆ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตัดสินใจประสานงานไปยังองค์การอาหารและยา เพื่อเข้าจับกุมเจ้าของร้านอาหารต้นทางในทันที

เมื่อถูกตำรวจเข้าตรวจค้นเจ้าของร้านอาหารที่ถูกระบุว่าชื่อ “หลี่” ก็ยอมรับว่าเขามีการผสมผงจากดอกฝิ่นลงในบะหมี่ของร้านจริงๆ ซึ่งเขาได้รับ “เครื่องปรุงฝิ่น” เหล่านี้มาจากพ่อค้าเครื่องเทศ และใช้มันทำน้ำมันพริกสูตรลับอีกที

นายหลี่นั้น อ้างว่าเขาทำเช่นนี้เพื่อช่วยให้ร้านของตนรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจและการเสียลูกค้าจากโรคระบาด โดยไม่นานหลังจากเริ่มใช้ฝิ่นผลกำไรรายวันของร้านก็เพิ่มขึ้น ประมาณหนึ่งในสามจากที่เคยมีเลย

ที่น่าสนใจคือนี่ไม่ใช่ครั้งแรกแต่อย่างไร ที่ทางตำรวจมีการค้นพบว่าร้านอาหารในจีนมีการใช้ฝิ่นเพื่อเพิ่มยอดขายเพราะตั้งแต่ในช่วงปี 2020 จนถึงเดือนเมษายนปี 2021 ทางตำรวจก็มีรายงานคดีคล้ายๆ กันนี้มาแล้วถึง 155 คดี

ซึ่งสถานที่ที่มีคดีเกี่ยวกับการใช้สารเสพติดผสมอาหารในรูปแบบนี้เป็นติดอันดับต้นๆ ของประเทศก็ได้แก่ มณฑลเหอหนาน มณฑลกุ้ยโจว และมณฑลเจียงซู นั่นเอง

ที่มา odditycentral และ cnr