สรุปดราม่า ‘เคนลี’ ทำร้าย ‘เพื่อนหญิง’ แล้วได้ ‘พลเมืองดี’ มาช่วย แต่พลเมืองดีจะถูกฟ้อง?

Date:

จากประเด็น ‘เคนลี Take Me Out’ ทำร้ายร่างกายผู้หญิงรายหนึ่ง แล้วมีพลเมืองดีเข้าไปช่วยเหลือ พร้อมถ่ายคลิปเหตุการณ์มาลงจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโซเชียลเมื่อวานนี้นั้น (ล่าสุดคลิปถูกลบไปแล้ว)

ล่าสุดวันนี้ (10 มิถุนายน) เรื่องราวนี้ได้ถูกนำมาขยายความต่อในรายการ ‘โหนกระแส’ ช่อง 3HD ซึ่งมีการเผยว่าฝ่ายพลเมืองดี จะถูกแจ้งความโดย ‘หญิงคนที่ถูกทำร้าย’ ข้อหาละเมิดสิทธิ PDPA หรือ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ทำให้ประเด็นในครั้งนี้ได้เกิดเป็นเหมือนกรณีตัวอย่างที่น่าติดตามเลยสำหรับสิทธิ PDPA ซึ่งเราขอสรุปเรื่องราวมาให้อ่านกันดังนี้ครับ

 

ใครที่สนใจก็สามารถชมรายการเต็มกันได้เลย หรือถ้าไม่มีเวลามากพอก็สามารถอ่านสรุปด้านล่างได้ครับ

 

– รายการโหนกระแสได้เชิญ เคนลี Take Me Out หรือ ‘เคน’ ชายที่ถูกถ่ายคลิปลงระหว่างทำร้ายร่างกายเพื่อนหญิง และ 2 พลเมืองดี ‘ตาล’ และ ‘โฟม’

– เคนเผยว่า ที่เกิดเหตุขึ้นเพราะถูกพูดด้อยค่าใส่ ทำให้คุมสติไม่ได้ ยอมรับผิดแบบไม่มีข้อแก้ตัว

 

 

– คนที่เคนทำร้าย ชื่อว่า ‘แอม’ เป็นเพื่อนหญิง และยังเป็นเจ้าหนี้จากการที่เคยช่วยเคนในหลายเรื่อง เมื่อครั้งตอนที่เคนยังเกเรในอดีต

– หลังคลิปถูกแชร์ต่อไปแพร่หลาย เคน บอกว่าได้ไปเคลียร์กับพ่อแม่ของแอมแล้ว และทั้งคู่ก็ให้อภัยตนเบื้องต้นแล้ว แต่หัวอกคนเป็นพ่อแม่รู้สึกแย่ที่คลิปกลายเป็นประเด็นสังคม การได้เห็นคลิปตามสื่อทุกวันทำให้รู้สึกไม่ดีและอับอาย

– เคนจึงได้ติดต่อ ตาล ขอให้ลบคลิป แต่ด้วยการที่ไม่ได้รู้จักกัน เลยทำได้แค่ส่งข้อความแชทไปแล้วไม่ได้รับการตอบกลับ เพราะคิดว่าตาลไม่เห็น

– ทางแอม หญิงที่ถูกเคนทำร้าย จึงโทรคุยกับตาลในอินสตาแกรม บอกว่าขอให้ลบคลิป เพราะไม่อยากให้พ่อแม่ว่าเอา

– แต่ตาลรู้สึกว่า เรื่องนี้ควรให้พ่อแม่ได้รับรู้ อีกทั้งแอมยังโทรมาไม่ได้คุยไกล่เกลี่ยอะไรกันเลย เริ่มมาก็ขอให้ลบคลิปเลย แถมยังคิดว่าตัวเองได้เซนเซอร์หน้าของแอมในคลิปดีแล้ว จึงปฏิเสธไม่ลบคลิป

และได้โพสต์สเตตัสในเฟซบุ๊กพาดพิงแอมในเชิงประมาณว่า ‘ขนาดตัวเองยังไม่รักตัวเองเลย เลยไม่แปลกที่จะโดนทำร้าย’

– แต่พอตาลมาเช็กคลิปทีหลังก็เห็นว่าเซนเซอร์ไว้ไม่ดีจริงๆ ยอมรับว่าประมาท แต่เจตนาที่ไม่ลบคือไม่อยากให้แอมปิดบังพ่อแม่ และอยากให้ฝ่ายชายได้รับบทเรียน

 

 

– เคนจึงบอกว่านี่เป็นเหตุผลที่เขาไปแจ้งความตาลและโฟม เพราะติดต่อหาไม่ได้ และก็เพื่อต้องการให้ลบคลิป โดยชี้แจงแบบแยกประเด็นดังนี้

1. ตนผิดชัดเจนเรื่องที่ทำร้ายแอม ซึ่งจุดนี้ตนขอบคุณตาลและโฟมที่เข้ามาช่วย ไม่อย่างงั้นก็ไม่รู้ว่ามันจะเลยเถิดไปจุดไหน

2. เคยคุยกับตาลแล้วว่าเอาคลิปไปลงได้ถ้าเห็นแค่หน้าของตน เพราะตนเป็นคนผิดก็ยอมรับ แต่ต้องไม่ให้เห็นหน้าแอม เพราะแอมกำลังบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ

3. แต่พอลงคลิปแล้วเซนเซอร์ไม่ดี พอคนรู้จักแอมมาเห็นแล้วรู้ว่าเป็นแอม ทำให้แอมเสียหาย จึงแจ้งความเพื่อให้ทั้งสองลบคลิป โดยระบุว่าแอมเป็นคนพูดเองว่าขอให้ลบคลิป และแอมก็เป็นคนเดียวในเหตุการณ์ที่ไม่มีความผิด

– พี่หนุ่ม กรรชัย ถามเคนว่า คิดว่าจะถอนแจ้งความไหม เคนบอกว่าไม่คิดจะถอน พี่หนุ่มจึงขอว่าให้ลองเอากลับไปคิดดูก่อนได้ไหม

– พี่หนุ่ม กรรชัย จึงเปิดเผยว่าได้คุยกับแอมมาก่อนแล้ว และแอมก็บอกว่าจะแจ้งความทั้งเคน และตาลกับโฟม

พี่หนุ่มได้ถามแอมว่า คิดไหมว่าถ้าทั้งสองไม่มาช่วย ตอนนี้อาจจะแย่กว่านี้หรือตายไปแล้วก็ได้ ซึ่งแอมบอกว่าขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ถ้ามากราบเท้าได้ก็จะมากราบ

แต่บริบทที่เอาคลิปมาลงขอแยกเป็นอีกเรื่อง เพราะทำให้ครอบครัวไม่พอใจ

– รายการได้ต่อสายหาผู้เชี่ยวชาญหนึ่งในที่ปรึกษาการร่างกฎหมาย PDPA ขึ้นมา เพื่อสอบถามถึงกรณีนี้ว่าเป็นการละเมิด PDPA หรือไม่ ก็ได้คำตอบว่า

กรณีนี้ ‘ถ่ายคลิปได้’ เพราะถือว่าเป็นการเก็บหลักฐานคนที่กำลังละเมิดกฎหมายอีกทีหนึ่ง

แต่หลักฐานที่ถ่ายมา พอนำไปโพสต์ในโซเชียลถือว่าผิดกฎหมาย ควรที่จะต้องส่งมอบให้ตำรวจ ศาล หรือสื่อที่มีใบอนุญาตเผยแพร่ได้

– ทั้งนี้ในกรณีนี้ ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าด้วยความที่กฎหมายเพิ่งออกมาใหม่ จึงนับว่า ‘ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่’ ในช่วงปีแรกถ้ามีการร้องเรียน PDPA เข้ามา ก็คงแค่สั่งให้ลบคลิป ถ้าไม่ลบก็อาจมีโทษปรับ ถ้าจะฟ้องกันไปกันมาก็ไม่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝั่ง

– ประเด็นในครั้งนี้จึงสรุปได้ว่า พลเมืองดีทั้ง 2 อาจจะผิดตรงเอาคลิปไปลงโซเชียลแล้วเบลอภาพไม่มิดชิด แต่มีเจตนาดี เคสนีจึงไม่ใช่เรื่องร้ายแรงหากพิจารณาด้วยกฎหมาย PDPA

– พี่หนุ่มจึงบอกกับเคนอีกครั้งว่า อยากให้เอาเรื่องถอนแจ้งความกลับไปพิจารณาดู

– ตาลได้ฝากถึงแอมว่าขอโทษจริงๆ ที่ทำให้ต้องเจอกระแสต่างๆ ถ้ารู้สึกไม่พอใจและจะดำเนินด้านกฎหมายก็ยอมรับผลของการกระทำ ยินดีให้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

จากเรื่องราวที่เราได้สรุปมาทั้งหมด ก็หวังว่าผู้อ่านจะเข้าใจกฎหมาย PDPA กันไปไม่มากก็น้อยครับ

 

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวเฟนเดอร์

 

ติดตาม CatDumb ได้ในช่องทางอื่นๆ

Website: www.CatDumb.com

Youtube: www.youtube.com/c/CatDumbTV-Youtube

Instagram: www.instagram.com/catdumbnews/

TikTok: www.tiktok.com/@CATDUMBtv

 

Share post:

Subscribe

spot_imgspot_img

Popular

More like this
Related

นักวิทย์เตือน พบคลื่นความร้อนใต้ทะเล เปลี่ยนมหาสมุทรเป็น “อ่างน้ำร้อน” พังระบบนิเวศ เร่งปัญหาภาวะโลกร้อน

กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่กำลังสร้างความกังวลในหมู่นักวิทยาศาสตร์เลยครับ เมื่อไม่นานมานี้เอง องค์การบริหารมหาสมุทรศาสตร์และชั้นบรรยากาศ สหรัฐอเมริกา (NOAA) ได้ออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาได้ค้นพบว่าคลื่นความร้อนสามารถเกิดขึ้นใต้ทะเลได้ด้วย และมันก็กำลังทำให้มหาสมุทรร้อนขึ้นจนกลายเป็นอ่างน้ำร้อนอยู่ จนอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ที่นั่นได้ไม่ยากเลยด้วย โดยการค้นพบใหม่นี้ เกิดขึ้นจากการพัฒนาของเทคโนโลยี...

เรื่องแปลกแดนจิงโจ้ นักวิทย์พบ ที่ออสเตรเลีย “ทอง” งอก บนต้นไม้ ได้ เพราะราก ยูคาลิปตัส ดูดทองจากใต้ดิน

เมื่อพูดถึงการตามหาแร่ทอง ภาพในหัวของหลายๆ คนก็คงไม่พ้นการขุดเหมืองหาเป็นอย่างแรกๆ แต่สำหรับนักวิทยาศาสตร์ที่ออสเตรเลียแล้ว อีกหน่อยเราก็อาจจะได้ตามหาทองกันตามใบต้นยูคาลิปตัสก็ได้นะ นั่นเพราะตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมาพวกเขาก็ได้ค้นพบว่า ระหว่างที่ต้นไม้ยูคาลิปตัสบางสายพันธุ์ (เช่น Eucalyptus...

พบไบสันอายุ 8,000 ปีในเพอร์มาฟรอสต์ อาจมี DNA สมบูรณ์มากจนนักวิทย์อยากเอามาโคลน

กลายเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่กำลังเป็นที่สนใจในวงการวิทยาศาสตร์เลยครับ เมื่อไม่นานมานี้เองทีมนักวิทยาศาสตร์ในรัสเซียได้ ทำการชันสูตรซากไบซันอายุ 8,000 ปี ตัวหนึ่ง ก่อนจะพบว่ามันมีความสมบูรณ์สูงมาก จนพวกเขาเล็งที่จะทำการโคลนนิ่งมันเลย ไบซันตัวนี้ ถูกพบเป็นครั้งแรกในช่วงปี 2022...

อย่างโบ๊ะบ๊ะ!! คุณป้าท่านหนึ่ง ส่งโพยหวย ในไลน์กลุ่มแจ้งเหตุด่วน ที่ดูแลโดยตำรวจ ทำเลิ่กลั่กกันหมด

บอกเลยว่าเป็นเหตุการณ์ที่โบ๊ะบ๊ะจริง ๆ เลยล่ะฮะ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใน ไลน์กลุ่ม "สมาร์ทเซพตี้โซน สภ.เมืองตราด" ซึ่งเป็นกลุ่มไลน์สำหรับแจ้งเหตุด่วน ในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เมืองตราด...