สรุปประเด็น ยูทูบเบอร์คู่รักร่วมเพศ โอดสภากาชาด “บริจาคเลือดไม่ได้” เพิ่งรู้ว่าเป็น “กฎสากล”

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากบนโลกโซเชียล หลังจากที่ยูทูบเบอร์คู่รักร่วมเพศชื่อดัง (ผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน) ได้ออกมาโพสต์เกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาทั้งสอง “ไม่สามารถบริจาคเลือดได้”

MadamPam ยูทูบเบอร์คู่รักที่ออกมาพูดในประเด็นนี้

เรื่องราวดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 27 กันยายน 2564 ทั้งสองได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก เผยถึงความรู้สึกไม่พอใจหลังจากที่พวกเขาตั้งใจที่จะไปบริจาคเลือดกับทางสภากาชาด แต่กลับไม่สามารถบริจาคได้ เพราะเป็นกลุ่มคนรักร่วมเพศ…

“ช่วงนี้ สภากาชาดขาดเลือด ผมกับเมียตั้งใจไปบริจาคเลือด แล้วทำคลิปช่วยประชาสัมพันธ์

แล้วถึงได้รู้ว่า LGBT อย่าได้ริอาจไปบริจาคเลือดเชียว เพราะสภากาชาด ยังมีนโยบาย “ไม่รับเลือดจากรักร่วมเพศ” เพราะมองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง เป็นพาหะนำโรค นี่มันโลกยุคไหนแล้วครับ

โคตรเสียความรู้สึกเลยครับ ขอบใจมาก ผมจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับสภากาชาดตลอดไป งานอะไรก็ไม่ต้องมาให้ช่วยโปรโมท ถ้าในอนาคตผมต้องการเลือด ผมก็จะหาซื้อเอง

ไม่อยากเชื่อ ว่าองค์กรที่ต้องการเลือดเพื่อช่วยคน ดันทำลายคนบริจาคเลือดด้วยการ เหยียดเพศ

เมียผมน้องเดินร้องไห้กลับบ้านทั้งๆ ที่อยู่หน้าห้องบริจาค เพราะอะไร เพราะความผิดที่ไม่ได้ก่อเหรอ ผมไม่เข้าใจ การรับเลือดของเพศเดียวกันมันคือตราบาปอะไร

ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สภากาชาดยังเคยขอให้เมียผมช่วยโปรโมตโครงการบริจาคเลือดอยู่เลย ย้อนแย้งสุดๆ”

โพสต์ในตอนแรก

โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นอย่างมาก หลายๆ คอมเมนต์ต่างเข้ามาให้กำลังใจทั้งสองและขอบคุณในความหวังดีที่ตั้งใจจะไปบริจาคเลือด แม้สุดท้ายจะไม่สามารถบริจาคได้ก็ตาม

ขณะเดียวกัน คนอีกจำนวนหนึ่งก็ได้มาคอมเมนต์ว่า “การที่กลุ่มคนรักร่วมเพศไม่สามารถบริจาคเลือดได้นั้น ไม่ได้เป็นการตัดสินใจของสภากาชาด แต่มันคือกฎสากลที่ใช้ร่วมกันทั่วโลก”

หลังจากที่ได้ทราบข้อมูลในเรื่องนี้ ทางเจ้าของโพสต์จึงได้กลับไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมจนมั่นใจแล้วว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ พวกเขาจึงได้ย้อนกลับมาแก้ไขโพสต์เดิม โดยแสดงความคิดเห็นเพิ่มเข้าไปว่า…

“ขยายความ หลังใจเย็น จากที่ได้ข้อมูลมาทั้งหมดทั้งคอมเมนต์และเสาะหาเพิ่มเติม ถึงได้รู้ว่ากฎการไม่รับเลือดจากรักร่วมเพศ มิได้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยประเทศเดียว แต่เป็นกฎสากลที่ทั้งโลกใช้ร่วมกันครับ

ซึ่งเรามั่นใจว่าเลือดของเราปลอดภัย เรามองแต่ตัวเอง แต่ไม่ได้มองความลำบากใจของทางสภากาชาดไทย จึงทำให้รู้ว่า ทางหน่วยงานไม่ได้เหยียดเพศ แต่มันเป็นกฎที่เขาต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดครับ ถึงแม้จะมีบางประเทศที่เลิกใช้ความเป็นรักร่วมเพศคัดคุณภาพเลือดแล้ว

ผมหวังว่าสักวันนึงประเทศไทย ไม่ใช่สิ สภากาชาดไทยจะมองว่า ทุกเพศก็มีความเสี่ยงเท่าเทียมกันหมด และหาวิธีให้กลุ่มแอลจีบีทีได้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องการเลือดเทียบเท่ากับชายจริงหญิงแท้ครับ

ดังนั้นถ้าใครมีกำลังและอยากบริจาคเลือด หากไม่มีความเสี่ยง ไม่มีโรคประจำตัว และไม่ได้เป็นรักร่วมเพศ ก็ไปบริจาคเลือดเถอะครับ เพราะก็มีหลายเคสที่รอดชีวิตได้เนื่องจากได้รับเลือดบริจาคครับ

ส่วนโพสต์ที่ผมพิมพ์ด้วยอารมณ์ ผมจะไม่ลบหรือแก้ไขใดใดทั้งสิ้น เพื่อเตือนตนให้เป็นบทเรียนว่าอย่าเอาอารมณ์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง และเผื่อเวลาไว้สำหรับรับฟังเหตุผลของผู้อื่นครับ

ขอบคุณทุกๆท่านมากๆครับ”

โพสต์ต้นฉบับ หลังมีการแก้ไขแล้ว

ในภายหลัง พวกเขาก็ยังโพสต์คลิปตอนไปบริจาคเลือด และอธิบายในส่วนต่างๆ ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับประเด็นข้างต้น และย้ำว่าไม่รู้มาก่อนเลยจริงๆ ว่าคู่รักร่วมเพศไม่สามารถบริจาคเลือดได้

ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะต่อมาทั้งสองก็ยังได้ชี้แจงให้ทุกคนได้ฟังผ่านทางสถานีโทรทัศน์ PPTV รวมถึงยังได้ถ่ายทำคลิปเพื่อเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนหันมาบริจาคเลือดกันมากยิ่งขึ้น เนื่องจากช่วงนี้ทางสภากาชาดกำลังขาดแคลนเลือด