Tag: หลงทาง

  • ลูกแพะจอมซ่า แอบหนีเที่ยวตามนักปีนเขาจนหลงทาง ได้คนปีนเขาขึ้นไปช่วยไว้ทัน

    ลูกแพะจอมซ่า แอบหนีเที่ยวตามนักปีนเขาจนหลงทาง ได้คนปีนเขาขึ้นไปช่วยไว้ทัน

    ลูกแพะ Gretl ดูจะสนใจในการปีนเขามาก มันเคยขึ้นไปถึงตีนเขาของภูเขาหิมะที่สูงมากมาแล้ว แต่ด้วยความซุกซนของมัน ทำให้มันไม่ยอมไปตามทางที่นักปีนเขาไปกัน จนหลงทางเองซะได้     เจ้า Gretl เป็นลูกแพะที่อยู่ในฟาร์มแห่งหนึ่งในแถบภูเขา Olperer ประเทศออสเตรีย เมื่อมันเห็นนักปีนเขา 2 คนกำลังเดินทางไปปีนเขา มันก็เลยตามพวกเขาไปด้วย พอนักปีนเขารู้ตัวอีกทีหนึ่ง จากที่เดินทางกันมาแค่ 2 คนก็มีมันเพิ่มเข้ามาในทีมอีกตัวซะแล้ว แถมพวกเขายังไม่รู้ด้วยว่ามันมาจากไหน ก็เลยต้องปล่อยให้มันเดินตามมาอย่างนั้น     แม้ว่าพวกเขาจะเริ่มปีนเขาแล้ว Grentl ก็ยังตามพวกเขามาอยู่ดี พวกเขาก็เลยช่วยนำทางให้มัน เพราะอย่างน้อยถ้าได้อยู่ใกล้พวกเขามันก็จะปลอดภัย แต่ปีนไปได้สักพักหนึ่งแพะน้อยก็เดินออกนอกเส้นทางไปเอง แล้วไม่ยอมตามนักปีนเขาต่อ พวกเขาก็เลยไม่รู้ว่ามันหายไปไหน รู้แค่ว่าหากปล่อยลูกแพะไว้ตามลำพังบนภูเขาที่อากาศหนาวเหน็บแบบนี้มันคงอยู่ได้ไม่นานนัก     วันต่อมาเจ้าหน้าที่ที่ดูแลกระเช้าลอยฟ้าเห็นมันระหว่างที่นั่งกระเช้า เขาก็เลยแจ้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Tux-Finkenberg ให้ช่วยมันเอาไว้ก่อนที่มันจะหนาวตาย ทีมช่วยเหลือจำนวน 4 คนก็เลยรีบออกเดินทางมาตรงจุดที่ได้รับแจ้ง แล้วค้นหาตัวแกะน้อยจนเจอ เลยพามันกลับลงมาข้างล่างได้อย่างปลอดภัย     ตอนเจอแพะน้อย มันเหนื่อยจนเดินไม่ไหวเลย   ปะ นั่งกระเช้าลงไปข้างล่างกัน จะได้ชมวิวด้วย   เมื่อพามันมาถึงข้างล่างภูเขาแล้ว พวกเขาก็หาข้าวหาน้ำให้มันกิน…

  • น้องหมาหายตัวไปจากบ้าน อีกปีครึ่งมาโผล่อยู่คนละฟากประเทศ มาได้ยังไงว้า??

    น้องหมาหายตัวไปจากบ้าน อีกปีครึ่งมาโผล่อยู่คนละฟากประเทศ มาได้ยังไงว้า??

    สัตว์เลี้ยงหลงทางเป็นเรื่องที่ศูนย์พักพิงพบเจออยู่เป็นประจำ จึงไม่มีอะไรน่าแปลกใจเมื่อมีหมาหลงทางโผล่มาให้พวกเขาช่วยส่งกลับบ้าน แต่เจ้าหมาตัวนี้ทำเอาทุกคนตกตะลึงไปเลย เมื่อได้รู้ว่ามันหลงมาไกลจนถึงอีกฟากของประเทศ! เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากหนุ่ม Adam Herbaugh จากเมืองรอร์ริ่งสปริง รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างที่เขาพาหมาของตัวเองออกไปเดินเล่น ก็มีหมาอีกตัวหนึ่งเดินตามเขามา แถมตามติดจนกลับมาถึงบ้านแล้วก็ยังไม่ยอมไปไหนเลย     เขาเห็นว่ามันเชื่องผิดปกติ น่าจะเป็นหมาของคนอื่นที่หลงทาง เขาก็เลยพามันไปส่งที่โรงพยาบาลสัตว์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยแสกนดูไมโครชิปให้ จะได้รู้ว่ามันมาจากไหน เมื่อสแกนดูแล้วทุกคนก็ตกใจมาก เพราะไมโครชิประบุว่าเจ้า Jake มีเจ้าของอยู่ที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซน่า ซึ่งอยู่คนละฝั่งประเทศเลย แปลว่ามันหลงมาไกลถึง 2,000 ไมล์เลยทีเดียว (ประมาณ 3,200 กิโลเมตร)   ถึงจะขี้หลงทางแค่ไหน ก็ไม่น่าจะไกลได้ขนาดนี้นะ!?   เมื่อติดต่อไปหาเจ้าของก็ได้รู้ว่ามันหายออกจากบ้านไปเมื่อครึ่งปีก่อน พวกเขาพยายามตามหามันแล้วแต่ก็ไม่เจอตัว เพิ่งจะรู้ตอนนี้นี่แหละว่ามันหลงไปไกลขนาดนั้น ทางโรงพยาบาลสัตว์คาดว่ามันน่าจะติดมากับคนขับรถบรรทุกสักคันหนึ่งเพราะที่รัฐนี้ก็มีรถบรรทุกเข้าออกเยอะ แต่ใครจะไปรู้ล่ะ มันอาจจะเดินเท้ามาเองจนถึงที่นี่จริงๆ ก็ได้     ยังไงก็ตามมันหลงทางมาได้ยังไงไม่สำคัญหรอก ปัญหาคือการส่งตัวมันกลับต่างหาก เพราะครอบครัวของมันมีเด็กเล็กแล้ว ก็เลยไม่สามารถมารับได้ แล้วทางโรงพยาบาลก็คงออกค่าใช้จ่ายในการขนส่มันไม่ไหวด้วย พวกเขาก็เลยใช้วิธีโพสต์หาอาสาสมัครออนไลน์ที่จะขับรถไปส่งเจ้าหมาทีละรัฐ เพราะถ้าช่วยกันคนละนิดคนละหน่อย เจ้าหมาก็คงจะเดินทางกลับบ้านได้ไม่ยาก โชคดีมากที่มีคนเต็มใจช่วยมันเยอะแยะเลย หลังจากที่เจอมันแค่ 5 วัน มันก็เลยได้เริ่มออกเดินทางกลับไปที่บ้านแล้ว…

  • หมาหูหนวกตาบอดหลงทางมาไกล อาจไม่เจอเจ้าของอีกถ้าไม่ได้หญิงสาวช่วยไว้

    หมาหูหนวกตาบอดหลงทางมาไกล อาจไม่เจอเจ้าของอีกถ้าไม่ได้หญิงสาวช่วยไว้

    bobisacat จากเว็บไซต์ Imgur ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีใจรักสัตว์ เมื่อไม่นานมานี้เขาก็เพิ่งได้ช่วยให้สัตว์หลงทางเจอกับเจ้าของ เขาเลยอยากเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ทุกคนฟัง เพื่อเป็นบทเรียนให้เราเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองแล้วยื่นมือช่วยเมื่อคิดว่ามีคนเดือดร้อน เรื่องราวเกิดขึ้นขณะที่ bobisacat ได้ผ่านทางรถไฟ เธอสังเกตเห็นหมาตัวหนึ่งอยู่ตรงนั้น จริงๆ แล้วมันอาจจะเป็นหมาจรจัดทั่วไปก็ได้ แต่สัญชาตญาณของเธอบอกว่ามันต้องมีบางอย่างผิดปกติ   bobisacat เห็นอะไรอยู่ไกลลิบๆ   อ๋อ เจ้าชิวาว่านี่เอง มันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงกันนะ?   เธอเห็นว่ามันเอาแต่วิ่งไปมาแถวๆ รางรถไฟ แถมพอส่งเสียงเรียกมันก็ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบด้วย สุดท้ายหลังจากมองอยู่นานเธอก็เห็นมันเดินตกไปในร่องข้างทางรถไฟแล้วกลับขึ้นมาเองไม่ได้     เมื่อเธอเข้าไปใกล้ เธอก็เห็นว่าเจ้าหมาตัวนี้มันตาบอดและหูหนวก แถมยังดูตื่นกลัวมากด้วย ดีนะที่เธอตัดสินใจเดินเข้ามาดู ไม่อย่างงั้นมันคงหลงทางไปไกลกว่านี้ เธอตัดสินใจว่าจะไม่ทิ้งมันไว้ที่นี่ตามลำพังเด็ดขาด เพราะถ้าเธอไม่ช่วยมันคนอื่นที่ผ่านมาคงไม่หยุดช่วยมันเหมือนที่เธอทำหรอก     ยังไงก็ตามการจะเข้าหาหมาที่ตื่นกลัวก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ bobisacat ก็ไม่ละความพยายาม เธอใช้เวลาอยู่นาน 45 นาทีจนจับตัวมันเอาไว้ได้ เจ้าชิวาว่าสวมเสื้อกั๊กอยู่ทำให้เธอมั่นใจว่ามันต้องมีเจ้าของแน่ๆ แต่มันก็ไม่มีทั้งปลอกคอและป้ายชื่อทำให้เธอไม่รู้ว่าบ้านของมันอยู่ที่ไหน เธอตัดสินใจจะช่วยมันให้ถึงที่สุด โดยการใช้วิธีที่คิดขึ้นมาได้ง่ายๆ ตอนนั้น ซึ่งก็คือการขับรถพามันไปหยุดถามตามบ้านแถวนั้นทุกหลังนั่นเอง     จนท้ายที่สุดเธอก็บังเอิญไปเจอกับบ้านของเจ้าของหมาตัวนี้จนได้ เขาเป็นชายแก่ที่กำลังกังวลใจกับการหายไปของเจ้าหมา Petri ซึ่งหายไปจากบ้านได้ 4…

  • ลูกกวางมูสหลงทางเดินหาแม่ไม่เจอ เห็นพี่ทหารก็เลยขอดูดนม เพราะคิดว่าเป็นแม่

    ลูกกวางมูสหลงทางเดินหาแม่ไม่เจอ เห็นพี่ทหารก็เลยขอดูดนม เพราะคิดว่าเป็นแม่

    ทหารมีหน้าที่ต้องรักษาความสงบของประเทศ และช่วยเหลือทุกชีวิตให้อยู่อย่างมีความสุข ซึ่งในบางครั้งทุกชีวิตไม่ได้หมายถึงเฉพาะคนเท่านั้น แต่รวมไปถึงเพื่อนร่วมโลกตัวอื่นๆ ด้วย นายทหาร Erich Jyri Prikko เป็นทหารที่ประจำอยู่แถบป่าของประเทศเอสโตเนีย เขาเป็นทหารในสังกัดที่ดูแลพื้นที่แถบทะเลสาบ Võrtsjärv     เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2018 ตอนที่เขาเดินเข้าไปในป่าเพื่อหาที่ชิ้งฉ่อง เขาก็บังเอิญไปเจอลูกกวางมูสตัวหนึ่ง มันเดินอยู่ตามลำพังและมีท่าทางตกใจเล็กน้อย เขาไม่อยากจะทำให้มันตกใจไปมากกว่านี้ ก็เลยเดินไปหลบอยู่ตรงต้นไม้ข้างๆ แล้วหวังว่ามันจะเดินกลับไปหาแม่ของมันเอง เขาจะได้ไปทำธุระของเขาต่อสักที     แต่ลูกกวางมูสกลับไม่ได้เดินหนีไป หลังจากมันลังเลอยู่พักหนึ่งมันก็เดินตรงเข้ามาหาเพื่ออ้อนเขา บางทีเขาคงดูไม่มีพิษมีภัยมันก็เลยเข้ามาเพื่อขอความช่วยเหลือ แถมมันยังเอาจมูกดันมาตรงร่องรักแร้ของเขาด้วย Prikko คิดว่ามันคงคิดว่าเขาเป็นแม่ของมัน ก็เลยมาขอดูดนมให้หายหิวล่ะมั้ง     แน่นอนว่าเขาไม่มีน้ำนมให้มันดูดกินหรอก ก็เลยช่วยให้มันหายหิวไม่ได้ แต่เขาก็ไม่อยากจะปล่อยมันไว้ตามลำพังเหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะพามันกลับไปหาแม่เลย เมื่อไม่รู้ว่าควรต้องทำยังไง เขาก็เลยติดต่อไปที่ส่วนกลางเพื่อแจ้งสถานการณ์ให้สัตวแพทย์ประจำสังกัดทราบ พอสัตวแพทย์รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วพวกเขาก็เลยบอกแล้วทหารหนุ่มพาลูกมูสกลับไปยังจุดที่เจอตอนแรก แล้วคอยสังเกตการณ์ก็พอ     ไม่นานนักก็มีสัตวแพทย์จากส่วนกลางมาตรงจุดที่เขาอยู่ พวกเขาเอานมใส่ขวดมาป้อนให้ลูกกวางมูสเผื่อในกรณีที่แม่กวางไม่กลับมาแถวนี้มันจะได้ไม่หิว แต่ระหว่างที่ป้อนนมลูกวางมูสพวกเขาก็พยายามทำภารกิจให้เงียบเชียบที่สุด จะได้ไม่ทำให้สัตว์ที่ผ่านไปมาตกใจกลัว Prikko ยังคงเฝ้าลูกกวางอยู่ตรงนั้นต่อไปจนค่ำ แม้จะดึกมากแล้วเขาก็ยังหลับเฝ้ามันอยู่ตรงนั้น และกลางดึกนั้นเองเขาก็ตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงลูกกวางร้อง พอตามไปดูที่จุดเดิมก็เห็นรอยเท้าของลูกกวางและกวางตัวใหญ่อีกตัวหนึ่ง จึงตีความได้ว่าแม่ของมันพามันกลับไปได้อย่างปลอดภัยแล้วล่ะ     พี่ทหารเขาก็ใจดีจังเลยนะ เรียกคนมาช่วยลูกกวางแล้วก็ยังนั่งเฝ้ารอแม่ให้มารับมันไปอีก สมแล้วที่เป็นคนทำหน้าที่รักษาความสงบของประเทศชาติ…

  • เด็กหญิงฝาแฝด 2 คนหลงทาง โดยมีเจ้าหมาพิตบูลล์อยู่เคียงข้างดูแลไม่ยอมห่าง

    เด็กหญิงฝาแฝด 2 คนหลงทาง โดยมีเจ้าหมาพิตบูลล์อยู่เคียงข้างดูแลไม่ยอมห่าง

    Adele และ Elisabetta เป็นเด็กหญิงฝาแฝดที่อาศัยอยู่กับครอบครัวที่เมือง Udine ประเทศอิตาลี ระหว่างที่ใช้เวลาสุดสัปดาห์พักผ่อนนี้เอง เด็กหญิงทั้ง 2 คนก็หลงทางและหายไป ตอนนั้นตะวันก็ตกดินไปแล้ว คนที่รู้เรื่องต่างก็ช่วยกันออกตามหาเด็กหญิง แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงคนในพื้นที่ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยก็ตาม  Alexei Coianiz, Francesco และ Silvio ซึ่งเป็นคนในท้องที่ก็ช่วยออกตามหาด้วยเช่นกัน     เป็นเวลา 5 ทุ่มแล้ว พวกเขาเดินเท้าไปตามป่าข้างทางเพราะคิดว่าน่าจะเจอได้ง่ายกว่าขับรถตามหา แต่ป่าก็รกทึบจนไฟฉายแทบไม่ช่วยให้เห็นอะไรเลย ก็เลยทำได้แค่ตะโกนเรียกพวกเธอเผื่อว่าจะอยู่แถวนั้น ระหว่างที่พวกเขาตะโกนเรียกเด็กหญิงทั้ง 2 คน ก็มีเสียงของพวกเธอตอบกลับมาว่า “พวกเราอยู่ที่นี่! เราหิวมาก! มาช่วยเราด้วย!”  ทันทีที่พวกเขาเข้าไปหาต้นเสียง สิ่งที่พวกเขาเห็นสิ่งแรกคือหมาพิตบูลล์ตัวใหญ่ตัวหนึ่ง และถัดไปก็คือเด็กหญิงฝาแฝดที่หายไปนั่นเอง     เจ้าหมาตัวนี้ก็คือ Margot มันเป็นสัตว์เลี้ยงของฝาแฝด มันตามอารักขาเด็กทั้ง 2 คนตลอดระยะเวลาหลายชั่วโมงตั้งแต่เด็กหญิงทั้ง 2 หายตัวไป คงเพราะเห็นว่ามีคนมาช่วย มันก็เลยวิ่งเข้ามาเลียขอบคุณชายทั้ง 3 คนใหญ่เลย แถมระหว่างที่พวกเขาส่งคนไปแจ้งทีมค้นหา มันก็ยังนั่งอยู่เคียงข้างฝาแฝดไม่ยอมห่างเลย     เจ้าหมาไม่ยอมออกห่างจากเด็กหญิง ถึงจะมีคนมาช่วยแล้วก็ตาม   ท้ายที่สุดแล้วเด็กหญิงฝาแฝดกับเจ้าพิตบูลล์ก็ได้เจอกับครอบครัว…

  • พี่เหมียวตาเขอายุ 10 ขวบ ถึงแม้จะไม่มีใครรัก แต่มันก็ไม่ยอมแพ้ที่จะมอบความรักให้คนอื่น

    พี่เหมียวตาเขอายุ 10 ขวบ ถึงแม้จะไม่มีใครรัก แต่มันก็ไม่ยอมแพ้ที่จะมอบความรักให้คนอื่น

    หากพูดถึงแมวหลงทาง เพื่อนๆ อาจจะนึกถึงแมวที่ดุร้ายและกลัวคนที่เข้าใกล้ ซึ่งอาจเป็นเพราะความไม่คุ้นชินกับมนุษย์ของพวกมัน จึงทำให้เกิดอาการดุร้ายหน่อยๆ แต่เพื่อนๆ จะต้องเปลี่ยนความคิดนั้นไป เมื่อเจอแมวหลงทางตัวนี้ ซึ่งมันมีนิสัยอ่อนหวาน ขี้อ้อน จนอดไม่ไหวที่จะกอดมันให้ชื่นใจสักที Majesty คือเจ้าเหมียวตาเขอายุ 10 ขวบ มันได้รับการช่วยเหลือจากทีม ‘The Odd Cat Sanctuary’ ที่เป็นศูนย์ช่วยเหลือแมวใน เมืองซาเลม รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา “เจ้าเหมียว มีเสียงหัวใจผิดปกติ และควรที่จะไปพบหมอฟันด้วย” ทีมช่วยเหลือกล่าว แต่หลังจากเดินทางไปพบสัตวแพทย์แล้ว พวกเขาก็ได้พบว่าหัวใจของเจ้าเหมียวนั้น มีสุขภาพสมบูรณ์ดีและไม่มีความผิดปกติที่หัวใจแต่อย่างใด และหมอฟันก็ทำความสะอาดเขี้ยวของมันจนสะอาดเอี่ยมอ่อง     ถึงแม้ว่ามันจะเคยเป็นแมวหลงทางตาเขที่ไม่มีใครรัก แต่หลังจากที่เจ้า Majesty ได้รับความช่วยเหลือ มันก็กลายเป็นแมวขี้อ้อนที่พร้อมจะมอบความรักให้กับทุกคน ทุกครั้งที่มันพบผู้คนมันจะกระโจนเข้าไปอ้อนและเอาหัวถูไถไปมาเพื่อแสดงความรัก   Majesty ไม่หยุดที่จะเข้ามาทำความสนิทสนมและเล่นกับผู้คน เหมือนกับว่ามันแบกความรักมาเต็มเปี่ยมเพื่อมอบให้ น่ารักแบบนี้เชื่อว่าเจ้าเหมียวต้องมีบ้านอุปถัมภ์หลังใหม่เร็วๆ นี้แน่นอน   “มันเป็นแมวที่ใจดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา มันรักทุกคน โดยเฉพาะเด็กๆ” “เจ้า Majesty มันอ้อนอยู่ตอดเวลา ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเป็นแมวที่อ่อนโยนจริงๆ” ทีมช่วยเหลือกล่าว   ทางทีมช่วยเหลือ ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้า Majesty…

  • ลูกหมีขั้วโลกเดินโต๋เต๋มาไกลกว่า 724 กม. ผู้เชี่ยวชาญถึงกับงง รอดมาได้ไงไกลขนาดนี้?!

    ลูกหมีขั้วโลกเดินโต๋เต๋มาไกลกว่า 724 กม. ผู้เชี่ยวชาญถึงกับงง รอดมาได้ไงไกลขนาดนี้?!

    เราทุกคนรู้ว่าหมีขั้วโลกจะอาศัยอยู่บนน้ำแข็งหรือในพื้นที่หนาวเย็นเท่านั้น แต่ใครจะไปคิดว่าจะเจอมันมายืนอยู่ริมแม่น้ำแบบชิลล์ๆ ซะอย่างนั้น เมื่อไม่นานมานี้มีคนไปพบหมีขั้วโลกมายืนอยู่ริมแม่น้ำ Kolyma ในประเทศรัสเซีย ที่อยู่ห่างจากแหล่งที่อยู่อาศัยของพวกมันถึง 724 กิโลเมตร!! มาได้ยังไงล่ะเนี่ย!   หลงมาไกลขนาดนี้ไม่ได้มีความกลมกลืนกับพื้นที่โดยรอบเลยนะ   จากการรายงานของเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมาบอกว่าเจ้าหมีตัวนี้มีชื่อ Umka มันใช้ชีวิตกินเศษซากอาหารจากโรงงานปลาใกล้ๆ หรือบางครั้งชาวบ้านแถวนั้นก็จะตกปลามาให้มันกิน เพราะพวกเขาคิดว่ามันยังเด็กอยู่จนไม่สามารถหาอาหารได้เอง บวกกับความน่ารักเวลาที่เล่นกับน้องหมาแถวนั้นทำให้ทุกคนรู้สึกเอ็นดู แม้ว่ามันจะอยู่ในช่วงจำศีลที่ดูจะมีความดุร้ายอยู่บ้าง   ได้เพื่อนใหม่ที่ไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกัน   หลังจากนั้นเมื่อมันเริ่มสงบลงได้ผู้เชี่ยวชาญได้เข้ามาช่วยเหลือพามันไปหาสัตวแพทย์ จากตอนแรกพวกเขาคิดว่ามันอายุประมาณ 2 ปีแต่เมื่อมีการตรวจสอบดูก็พบว่ามันมีอายุไม่เกิน 9 เดือนเท่านั้น จากความเป็นเด็กและระยะทางที่มันเดินทางมาจากบ้านเกิด ผู้เชี่ยวชาญหลายคนถึงกับสงสัยว่ามันมาได้ไกลขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?!     มีการสันนิษฐานอยู่ข้อหนึ่งที่เชื่อว่าแม่ของเจ้าหมีถูกคนฆ่าอย่างผิดกฎหมายก่อนที่จะจับลูกน้อยมาเพื่อไปขายในตลาดมืด แต่เจ้าหมีก็สามารถหนีรอดมาได้จนมาโผล่ให้เห็นที่แม่น้ำแห่งนี้   ไม่ต้องกลัวพวกเรามาช่วยแล้ว   อย่างไรก็ตามแม้จะยังหาคำตอบการมาของเจ้าหมีตัวนี้ไม่ได้ แต่ตอนนี้มันก็ได้ไปใช้ชีวิตที่ดีในสวนสัตว์ Orto Doidu เมือง Yakutsk เพราะผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นว่ามันไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยตัวเอง   ออกเดินทางไปพบกับชีวิตใหม่กัน   ด้วยความน่ารักและไม่กลัวคนทำให้มันได้กลายเป็นดาวเด่นประจำสวนสัตว์ สร้างรอยยิ้มและดึงดูดผู้คนเป็นจำนวนมาก แม้ก่อนหน้านี้เจ้า Umka อาจต้องเจออุปสรรคมาบ้างแต่ตอนนี้มันก็ได้ไปมีชีวิตที่ดีแล้ว  …

  • คู่รักนักปีนเขาร่วมใจทำภารกิจช่วยเหลือชีวิต ‘น้องหมา’ ที่ติดอยู่บนเขามานานถึง 6 สัปดาห์

    คู่รักนักปีนเขาร่วมใจทำภารกิจช่วยเหลือชีวิต ‘น้องหมา’ ที่ติดอยู่บนเขามานานถึง 6 สัปดาห์

    สัตว์เลี้ยงของเราไม่ได้เป็นเพียงสิ่งของที่เราครอบครองเท่านั้น แต่พวกมันคือส่วนหนึ่งของครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อไหร่ที่มันต้องหายไปจากชีวิตนั่นคงเป็นสิ่งที่เราทำใจกันไม่ได้แน่นอน แต่ในบางครั้ง เราอาจได้รับความช่วยเหลือที่คาดไม่ถึง จนทำให้เราได้พบกับพวกมันอีกครั้ง เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อในกลุ่มเฟซบุ๊กสำหรับนักปีนเขาที่ชื่อว่า 14ers มีโพสต์หนึ่งเขียนบอกว่าได้ยินเสียงน้องหมาร้องไห้อยู่บนภูเขา Bross   .   เมื่อหญิงสาวชื่อ Trinity Smith เห็นข้อความนั้นก็ไม่รอช้าที่จะเริ่มภารกิจปีนขึ้นไปบนเขาดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือมัน และเธอก็พบว่าเธอได้ยินเสียงนั้นจริงๆ แต่ในเวลานั้นฟ้าก็เริ่มมืดทำให้การเดินอยู่ข้างบนอยู่คนเดียวเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก เธอจึงตัดสินใจลงจากเขามาและพาแฟนหนุ่มของเธอ Sean Nichols กลับขึ้นไปบนเขาลูกนั้นอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น   .   เมื่อไปถึงทั้งสองก็พยายามร้องเรียกหาน้องหมานานหลายชั่วโมงถึงแม้ว่าเจ้าหมาจะหยุดส่งเสียงแล้วก็ตามแต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อ จนกระทั่งได้ยินเสียงของมันเห่าออกมาเบาๆ ก็ได้ไปเจอมันเข้าในที่สุด จากจุดที่มันอยู่คาดว่ามันน่าจะลื่นตกลงไปจากตรงโขดหินทำให้ต้องลงไปนอนเจ็บอยู่ด้านล่าง เห็นอย่างนั้นพวกเธอก็ไม่รอช้ารีบพามันไปร้านสัตว์เลี้ยงใกล้ๆ ในทันที     หลังจากนั้นทั้งคู่ก็นำอาหารมาให้มันกิน เพราะมันอยู่ในสภาพอิดโรยเป็นอย่างมาก และพวกเขาก็ได้แจ้งข่าวไปยังเจ้าของของมัน เมื่อ Larry Osborne เจ้าของหมาตัวดังกล่าวได้มาเจอมันอีกครั้ง เขารู้สึกตื้นตันและดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาพยายามตามหามันมาตลอด 6 สัปดาห์ที่มันหายตัวไป   .   Larry ได้ขอบคุณคู่รักทั้งสองที่พาสุนัขของเขากลับมา ต่อมาเขาได้พามันไปหาสัตวแพทย์และเขาพบว่ามันเหลือน้ำหนักเพียง 11 กิโลกรัมจากตอนแรก 38 กิโลกรัม และมันต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเนื่องจากร่างกายที่อ่อนแอจากการขาดน้ำและสารอาหาร   ร่างกายที่ซูบผอมจากน้ำหนักที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ…

  • ตกใจ!! เมื่อ “วาฬสีเทา” หลงฝูงมาว่ายน้ำเล่นกับมนุษย์ที่ชายหาดลากูน่าแบบชิลล์ๆ

    ตกใจ!! เมื่อ “วาฬสีเทา” หลงฝูงมาว่ายน้ำเล่นกับมนุษย์ที่ชายหาดลากูน่าแบบชิลล์ๆ

    เวลาที่เราไปว่ายน้ำเล่นกันตามชายหาดก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เจอกับสิ่งมีชีวิตในน้ำแหวกว่ายกันอยู่รอบตัวเรา และยากกว่าหากจะได้เจอวาฬตัวเป็นๆ มาว่ายน้ำโชว์ตัวอยู่ใกล้กับชายหาดขณะที่เราเล่นน้ำกันอยู่เหมือนกับเหตุการณ์นี้ เมื่อมีคลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายมุมสูงจากกล้องที่ติดกับโดรนบินขึ้นไปเห็นเจ้าวาฬสีเทากำลังว่ายน้ำ ผุดๆ โผล่ๆ บริเวณห่างจากชายหาดลากูน่าไปไม่มากนัก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย     วาฬตัวดังกล่าวถูกพบที่ท่าเรือ Dana Point ก่อนที่มันจะหลงทางอยู่บริเวณนั้นเป็นเวลา 2 ชั่วโมง สร้างความตกตะลึงและงุนงงกับสัตว์ขนาดใหญ่ที่แหวกว่ายอยู่ใต้น้ำ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการที่จะได้เห็นวาฬสีเทาที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 9 ของวาฬทั้งหมดว่ายมายังชายหาดที่มนุษย์กำลังเล่นน้ำกันอยู่ แถมยังมาแบบชิลล์ๆ อีกต่างหาก   คลิปวิดีโอวาฬหลงฝูงมาชายหาดลากูน่า ที่ถ่ายได้จากโดรน   และท้ายที่สุดมันก็ได้ว่ายกลับขึ้นฝั่งและตรงไปยังอลาสก้าที่ซึ่งกำลังมีการให้อาหารกลุ่มปลาวาฬสีเทาอยู่ในขณะนั้น   ภาพของวาฬสีเทา สายพันธุ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 จากวาฬทั้งหมด .   การที่มันต้องว่ายมาให้เราเห็นกันแบบสบายๆ อย่างนี้ก็ทำให้เข้าใจได้ว่าสัตว์ที่มีขนาดใหญ่อย่างมันไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอะไร แต่ถึงอย่างไรก็คงต้องระวังกับการตีหางของมันอย่างในวิดีโอซะหน่อย โดนไปคงสลบจมน้ำได้เลยทีเดียว   ที่มา: iflscience

  • แม่แมวและลูกๆ ที่พลัดพรากจากกันไป จนได้มาเจอกันอีกครั้ง กอดไม่ยอมปล่อยเชียว

    แม่แมวและลูกๆ ที่พลัดพรากจากกันไป จนได้มาเจอกันอีกครั้ง กอดไม่ยอมปล่อยเชียว

    เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจของการได้กลับมาพบกันอีกครั้งระหว่างแม่แมวและลูกน้อยของมัน หลังจากที่พวกมันต้องพลัดพรากจากกัน ในระหว่างที่ถูกช่วยออกมาจากห้องใต้หลังคาในบ้านหลังหนึ่ง เมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา นายหน้าขายบ้านท่านหนึ่งได้พบแม่แมวและลูกน้อยของมันอีก 3 ตัวหลบอยู่ในห้องใต้หลังคาในบ้านเก่าๆ ซึ่งไม่เหมาะสำหรับเหล่าเจ้าเหมียวมากเท่าไหร่ แม่แมวก็จำเป็นที่จะต้องออกไปหาอาหารและมองหาที่พักแห่งใหม่ที่มีความอบอุ่นในกับลูกๆ ของมัน     และในระหว่างที่แม่ของพวกแมวน้อยออกไปข้างนอก ทางนายหน้าเจ้าของบ้านก็ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ มาช่วยพวกเจ้าเหมียวออกไป “พวกเราเข้าไปช่วยเหลือเจ้าเหมียวตามที่นายหน้าบอก เราพบพวกมันอาศัยอยู่ใกล้ๆ กับลังไม้บนพื้นเย็นๆ เรารีบพาพวกลูกแมวออกจาที่นั่นทันที แต่ในตอนนั้นพวกเราหาแม่ของมันไม่เจอ” เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์จากมูลนิธิกล่าว     ถึงแม้จะรอคอยอยู่เป็นเวลานาน แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีทีท่าว่าแม่ของพวกลูกแมวทั้งสามจะกลับมาเลย ในที่สุดพวกเขาจึงตัดสินใจพาพวกลูกแมวไปยังสถานสงเคราะห์ก่อน แล้วค่อยกลับมาตามหาแม่ของมันทีหลัง และแล้วในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ได้พบกับแม่แมว หลังจากที่พวกเขากลับไปค้นหาที่บ้านหลังนั้นอีกครั้ง “พวกเรากลับไปที่บ้านหลังนั้นในตอนเย็น และเมื่อเราเปิดประตูเข้าไปที่ห้องใต้หลังคานั้นก็ได้พบกับแม่แมวจริงๆ” เจ้าหน้าที่กล่าว     เหล่าอาสาสมัครต้องใช้เวลากล่อมแม่แมวอยู่นาน จนกว่ามันจะยอมตามพวกเขาไปที่สถานสงเคราะห์ “พวกเราใช้อาหารล่อมัน และจากนั้นจึงค่อยๆ เข้าไปหามัน และลูบหัวด้วยความเอ็นดู มันจึงยอมเข้าไปในกรงแต่โดยดี” เมื่อมันเดินทางมาถึงสถานสงเคราะห์สัตว์ เจ้าเหมียวก็ได้ยินเสียงเรียกเล็กๆ ของลูกๆ มัน แม่แมวเริ่มมีอาการกระวนกระวายและอยากออกจากกรงไปพบกับเจ้าตัวน้อยของเธอ     และแล้ววินาทีแห่งความสุขของครอบครัวเหมียวก็มาถึง เมื่ออาสาสมัครปล่อยแม่แมวออกจากกรง เจ้าเหมียวรีบวิ่งไปหาลูกน้อยตัวหนึ่งของมัน ตอนนี้ดูเหมือนว่าแม่แมวจะดีใจมากๆ ที่ได้มีโอกาสเห็นหน้าลูกๆ ของเธออีกครั้ง   ภาพน่ารักๆ ของแม่แมวที่ได้เจอลูกของมัน…

  • เรื่องราวของหนุ่มฝรั่งเศสหลงทางอยู่ใน “ถ้ำใต้ดิน” ที่เต็มไปด้วยความมืดและหัวกระโหลก…

    เรื่องราวของหนุ่มฝรั่งเศสหลงทางอยู่ใน “ถ้ำใต้ดิน” ที่เต็มไปด้วยความมืดและหัวกระโหลก…

    การหลงเข้าไปในที่แปลกๆ หรือสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ย่อมทำให้เราเกิดอาการกลัวได้เป็นธรรมดา แต่ถึงจะหลงเขาไปที่แปลกหรือน่ากลัวแค่ไหนก็คงไม่เท่าวัยรุ่นกลุ่มนี้แน่นอน!! เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ทีมกู้ภัยและหน่วยค้นหาได้พบกับเด็กชายวัย 16 ปีและ 17 ปี หลงอยู่ภายในสุสานใต้ดินของกรุงปารีส เป็นเวลานานถึง 3 วัน   ภาพของสุสานใต้ดินดังกล่าวที่เด็กหนุ่มทั้งสองติดอยู่นานถึง 3 วัน   สุสานดังกล่าวมีลักษณะเป็นอุโมงยาวประมาณ 240 กิโลเมตร โดยจะมีบางส่วนที่เปิดให้ประชาชนเข้าไปชมได้ แต่ก็ยังมีคนที่แอบเข้าไปในเขตหวงห้ามอยู่บ่อยๆ ซึ่งทางตำรวจนั้นไม่ทราบว่าเจ้าหนูทั้งสองนั้นหลงเข้าไปได้อย่างไร แต่ที่แน่ๆ คือพวกเขาต้องอยู่ในความมืดพร้อมกับกองกะโหลกนานหลายวันเลยทีเดียว     แค่เห็นภาพก็ขนลุกขึ้นมาแล้วนะเนี่ย บรึ๋ยย!?   หลังจากที่ทั้งสองถูกช่วยออกมาจากสุสานแห่งนี้ พวกเขาถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลทันทีเนื่องจากอาการ Hypothermia (สภาวะร่างกายมีอุณหภูมิต่ำเกิน)   ลองจินตนาการว่าคุณติดอยู่ในสุสานนี้สามวัน พร้อมกับโครงกระดูกพวกนี้ดูสิ ถ้าเกิดมีชิ้นไหนเผลอหลุดมาละคุณเอ๊ย!! ที่มา viralnova

  • หมาหายตัวออกจากบ้านนาน 11 ปี หลงไปไกลกว่า 500 กิโลฯ และจำเจ้าของไม่ได้!?

    หมาหายตัวออกจากบ้านนาน 11 ปี หลงไปไกลกว่า 500 กิโลฯ และจำเจ้าของไม่ได้!?

    ปัญหาสัตว์เลี้ยงหายตัวไปจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย เป็นปัญหาที่ชวนทำให้คนเลี้ยงรู้สึกเจ็บปวดหัวใจซะยิ่งกว่าถูกคนรักบอกเลิกซะอีก ไหนจะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย อาหารการกิน หรือสิ่งที่มันจะต้องไปเจอในโลกที่โหดร้าย… เหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นกับครอบครัวของ Nathalie Fournier เจ้าของสุนัขที่หายไปนานกว่า 11 ปี จากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อครั้งหนึ่งครอบครัวออกไปขับรถเที่ยวกัน แต่ปรากฏว่าด้วยความตื่นกลัวของเจ้าชาแนล จู่ๆ มันก็วิ่งเตลิดหายไปในทุ่งหญ้าข้างทาง และดูเหมือนว่าจะไม่สามารถพาตัวเองกลับมาได้   นานกว่า 11 ปี ที่พวกมันหายไป พวกเขาพยายามประกาศหาแล้วแต่ก็ไม่เจอ   เหมือนปาฏิหาริย์จะมีอยู่จริง เมื่อช่วงอาทิตย์ก่อน Nathalie ได้รับโทรศัพท์จากพลเมืองดี แจ้งว่าพวกเขาพบเจอสุนัขที่มีรูปลักษณ์ตรงกับที่พวกเขาประกาศหา อยู่ที่บริเวณริมแม่น้ำ Moselle ไกลจากบ้านของพวกเขาถึง 500 กิโลเมตร ‘ทันทีที่เรารู้ว่ามีคนเจอมันเข้าเราก็รีบออกไปรับตัวมันมาทันที สภาพของมันดูไม่ได้เลย และดูเหมือนว่ามันต้องเผชิญชีวิตที่ยากลำบากมานานหลายปี จนตอนนี้มันจำเราไม่ได้แล้ว จะว่าไปตอนนี้มันก็อายุได้ 15 ปีแล้วล่ะ’ เจ้าของกล่าว นับตั้งแต่ปี 2006 ที่เจ้าชาแนลวิ่งหายไปอย่างลึกลับ แต่ด้วยความพยายามของครอบครัวไม่ว่าจะติดโปสเตอร์ โพสต์ประกาศลงตามสื่อต่างๆ ในที่สุดพวกเขาก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง   ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ที่เมือง Gravelines ตอนเหนือของฝรั่งเศส แต่ไปเจอเจ้าชาแนลที่บริเวณแม่น้ำ Moselle ไกลออกไป 500 กิโลฯ…

  • หญิงสาวติดอยู่กลางทะเลทรายนาน 5 วัน ไม่มีน้ำและอาหาร อดทนจนมีคนช่วยออกมาได้!!

    หญิงสาวติดอยู่กลางทะเลทรายนาน 5 วัน ไม่มีน้ำและอาหาร อดทนจนมีคนช่วยออกมาได้!!

    เป็นอีกเหตุการณ์ที่อาจให้ความรู้สึกเหมือนกับในหนัง ทว่านี่คือเรื่องจริงของนักศึกษาสาวชาวเท็กซัส เพราะเธอต้องดิ้นรนเอาตัวรอดท่ามกลางทะเลทรายอันแห้งแล้งนานถึง 5 วัน สำนักข่าว Daillymail ได้รายงานเรื่องราวของ Amber VanHecke นักศึกษาสาววัย 24 เธอเดินทางไปเที่ยวแกรนด์แคนย่อนที่รัฐแอริโซน่า ด้วยการขับรถตามเส้นทางจีพีเอสจากรัฐเท็กซัส ก่อนจะพบว่าตัวเองหลงอยู่กลางทาง   ภาพถ่ายของเธอระหว่างที่ติดอยู่กลางทะเลทราย และกำลังรอการช่วยเหลือ   เธอเล่าว่าในวันนั้นเธอได้ขับรถยนต์ส่วนตัวไปตามทางระบบจีพีเอสที่ตั้งค่าไว้ หลังจากที่ขับตามเส้นทางไปเรื่อยๆ ระบบจีพีเอสก็เริ่มพาเธอออกนอกเส้นทางโดยที่เจ้าตัวไม่ทันได้รู้ตัว จู่ๆ รถยนต์ของเธอก็น้ำมันหมดอยู่กลางพื้นที่แห้งแล้ง เธอต้องอยู่ท่ามกลางความขาดแคลนอาหาร และน้ำดื่ม นานถึง 5 วัน ด้วยความหวังที่ว่าจะมีใครซักคนเข้ามาช่วยเหลือเธอ   เธอจอดรถไว้ข้างตู้น้ำเก่าๆ พร้อมทั้งเอาหินมาเรียงเป็นคำว่า ‘Help’   อีกทั้งเธอยังได้นำก้อนหินเท่าที่พอจะหาได้ มาเรียงกันเป็นคำว่า ‘SOS’ โดยเธอหวังว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือเธอ   ‘ตอนที่ฉันเริ่มขับรถออกนอกเส้นทาง ฉันคิดว่าเดี๋ยวเราก็คงได้เจอกับถนนหลักเองแหละ แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ความมืดเริ่มเข้ามาปกคลุม ฉันถึงได้รู้ว่าตัวเองหลงทางเข้าให้แล้วแถมน้ำมันรถก็หมด ตอนแรกฉันรู้สึกกลัวมากเลยค่ะ’ เธอเล่า ตลอดระยะเวลา 5 วันท่ามกลางวความร้อนระอุ และความอ้างว้าง เธอประทังชีวิตตัวเองด้วยถั่ว เมล็ดพืช และผลไม้แห้งต่างๆ เท่าที่จะหาได้…

  • หมาที่ถูกทิ้งได้รับการช่วยเหลือ แต่ไม่ยอมไปกับคน จนกว่าจะไปช่วย “กระต่าย” เพื่อนมันด้วย!?

    หมาที่ถูกทิ้งได้รับการช่วยเหลือ แต่ไม่ยอมไปกับคน จนกว่าจะไปช่วย “กระต่าย” เพื่อนมันด้วย!?

    เมื่อเราสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไป สิ่งที่น่าจะช่วยประคองให้เรายังคงเดินต่อไปได้ก็คงจะหนีไม่พ้นเพื่อนๆ คนใกล้ตัวหรือครอบครัวของเรา เหมือนกับเรื่องราวของเจ้าหมาและกระต่ายคู่นี้ก็เช่นกัน   Dan O’Grady คนขับรถบรรทุกจากรัฐโอไฮโอ ได้ขับผ่านแถบแจ็คสันวิลล์เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งนั่นทำให้เขาได้เจอกับเจ้าหมาตัวหนึ่งที่เดินอยู่ตรงไหล่ทางของถนนอย่างโดดเดี่ยว เขาจึงไม่รอช้ารีบขับรถเข้าไปใกล้เพื่อจะรับเจ้าหมาขึ้นมาบนรถของเขาด้วยความเป็นห่วง แต่ว่าทุกครั้งที่เขาเดินเข้าไปใกล้มัน เจ้าหมาก็พยามที่จะเดินออกห่างจากเขาและพยามเดินเข้าไปทางป่าข้างทางแทน ดูเหมือนมันจะไม่ยอมมาด้วยดีๆ และต้องการสื่ออะไรบางอย่าง เมื่อเห็นเป็นเช่นนั้นเขาจึงตัดสินใจเดินตามเจ้าหมาไป     มันนำทางเขาเข้าไปในป่าลึกไปเรื่อยๆ ซึ่งนี้แสดงให้เห็นได้ชัดว่าเจ้าหมาอยากให้เขาได้เห็นบางอย่างแน่นอน และเมื่อเดินไปถึงพุ่มไม้ เขาก็ได้เลือบไปเห็นกระต๋ายสีขาวตัวหนึ่งใต้พุ่มไม้นั้น เมื่อเห็นดังนั้นเขาจึงอุ้มเจ้ากระต่ายกลับไปที่รถของเขา ดูเหมือนเจ้าหมาจะยอมให้เขาเข้าหากระต่ายโดยดี ส่วนเจ้าหมาก็เดินตามไม่ห่าง ราวกับว่าภารกิจช่วยชีวิตกระต่ายตัวนี้ได้บรรลุเลยทีเดียว ระหว่างทางกลับเขาก็ได้ให้อาหารที่เขาพอจะมีอยู่กับคู่หูทั้งสอง ซึ่งเขาก็ได้ตั้งชื่อให้มันทั้งสองตัวโดยเจ้าหมามีชื่อว่า Highway ส่วนกระต่ายได้ชื่อว่า Interstate ชื่อทั้งสองจะเป็นเพียงชื่อชั่วคราวเท่านั้น เพราะเขาตั้งใจจะพามันไปส่งสถานรับเลี้ยงสัตว์ที่ใกล้ที่สุด และหาคนที่ดูแลพวกมันได้อย่างจริงๆ จังๆ นั่นเอง     แต่ว่าเมื่อไปถึงเขาได้รู้ถึงข่าวร้ายว่าสถานรับเลี้ยงที่เขามานั้นไม่รับเลี้ยงกระต่ายแต่พวกเขายินดีจะรับเจ้าหมาไป ซึ่งนี่คงจะต้องเป็นการแยกจากกันของทั้งสอง แ ต่ว่า Dan ก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะหาบ้านให้เจ้ากระต่าย เขาได้เดินทางกลับไปที่โอไฮโอ ที่นั้นเข้าได้เจอกับสถานรับเลี้ยงที่มีชื่อว่า Humane Society of Summit County สถานรับเลี้ยงแห่งนี้จึงกลายเป็นบ้านใหม่ของเจ้ากระต่าย แต่ว่ามันก็คงจะดีกว่านี้ถ้าทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน ถึงอย่างนั้นใครจะรู้ว่าเจ้าสองตัวนี้โชคดีแค่ไหนที่ยังสามารถรอดชีวิตอยู่ในป่าด้วยกันได้นานขนาดนั้น แ ละก็โชคดีของเจ้า…

  • หนุ่มจีนปั่นจักรยานกลับบ้านตรุษจีน นานนับเดือนกว่า 530 กิโล แต่โดนตำรวจทักว่า “มาผิดทาง!!”

    หนุ่มจีนปั่นจักรยานกลับบ้านตรุษจีน นานนับเดือนกว่า 530 กิโล แต่โดนตำรวจทักว่า “มาผิดทาง!!”

    มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เราจะขี้เหนียวหรืออยากจะประหยัดเงินด้วยการลดค่าใช้จ่ายด้วยการปั่นจักรยานไปไหนมาไหน ซึ่งหนุ่มชาวจีนคนนี้ก็เช่นกัน แต่มันจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยถ้าเขาไม่ปั่นจักรยานไกลถึง 531 กิโลเมตร แถมยังปั่นกลับบ้านผิดทางอีกตะหาก!!   ภาพของเขาจากกล้องวงจรปิด รายงานข่าวจากทาง People’s Daily Online ระบุว่าหนุ่มชาวจีนคนนี้มาทำงานต่างถิ่น แต่ทว่าเมื่อถึงช่วงเทศกาลเขากลับไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าตั๋วรถไฟเพื่อเดินทางกลับบ้าน ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจปั่นจักรยานกลับบ้านด้วยตัวเอง แต่ทว่าในขณะที่เขาปั่นจักรยานอยู่บนทางหลวง เขาก็ถูกตำรวจหยุดไว้และถามว่าจะไปที่ไหน จนท้ายที่สุดเขาก็ได้รู้ว่า ตัวเองปั่นมาผิดทางตลอดทางจริงๆ ที่เขาต้องปั่นไปคือขึ้นไปทางเหนือ แต่เขากลับปั่นมาทิศใต้ซะงั้น แถมปั่นมาแล้ว 531 กิโลเมตร อีกตะหาก!!   ตำรวจเรียกตัวเขาให้หยุดตรวจ จนกระทั่งบอกเขาว่ามาผิดทาง   ปั่นมาแล้วกว่า 531 กิโลเมตร ต้องเรียกว่าความอดทนของเขาสูงมาก จากรายงานของตำรวจบอกว่านายคนนี้เขาอ่านตัวหนังสือบนป้ายบอกทางไม่ออก ฉะนั้นจึงไม่แปลกเลยที่จะหลงทางจนปั่นผิดทิศมาได้ขนาดนี้   ซึ่งเขากะปั่นจากเมืองรี่เฉา ไปยังเมืองฉีฉีฮา ที่เป็นบ้านของเขาซึ่งคิดระยะทางยาวกว่า 1,738 กิโลเมตร   หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทางตำรวจกับเจ้าหน้าที่ทางหลวงได้สมทบทุนให้กับเขาเพื่อให้เขาได้ซื้อตั๋วกลับบ้านกลับไปเฉลิมฉลองกับที่บ้านเป็นที่เรียบร้อย ส่วนใครที่กำลังจะเดินทางไปไหนก็อย่าลืมศึกษาเส้นทางหรือสังเกตุป้ายบอกทางให้ดีละ พลาดหลงไปไกลเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!! ที่มา: dailymail

  • เหมียวขอเป็นฮีโร่!! เมื่อนักเดินทางหนุ่มหลงทางบนภูเขา โชคดีมีแมวมานำทางให้จนปลอดภัย

    เหมียวขอเป็นฮีโร่!! เมื่อนักเดินทางหนุ่มหลงทางบนภูเขา โชคดีมีแมวมานำทางให้จนปลอดภัย

    เป็นอีกเรื่องที่ #เหมียวบ็อบ ภูมิใจนำเสนอสุดๆ เพราะมันคือเกียรติภูมิของพวกเราพี่น้องแมวเหมียวทั่วโลก!!! เป็นเรื่องเล่าจากเพื่อนแมวตัวหนึ่ง ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม แต่ใจดียอมทำตัวน่ารักช่วยเหลือเจ้ามนุษย์ เพราะเกรงว่าคนจะหาว่าแมวไม่สร้างประโยชน์ให้สังคม ช่วงนี้พวกเราเลยต้องทำคะแนนเอาใจมนุษย์เป็นพิเศษ และนี่คือเรื่องราวจากดินแดนสวิตเซอร์แลนด์ บนภูเขาอันไกลโพ้น ที่มีคนหลงทางอยู่กลางหุบเขา และแมวน้อยน่ารักหนึ่งตัว ช่วยให้เค้ากลับมาสู่เส้นทางที่ปลอดภัยได้   โฉมหน้าเพื่อนแมวผู้ทำความดีในครั้งนี้ เอ้าาา ปรบมือสิรออะไรอยู่!!!   เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า มีหนุ่มนักเดินทางคนหนึ่งตัดสินใจมาเที่ยวที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างที่เขาเดินทางมายังเมือง Gimmelwald เมืองขนาดเล็กที่ถูกล้อมรอบไปด้วยหุบเขาต่างๆ มากมาย เมื่อออกไปเดินเล่นรอบๆ ที่พัก เดินไปเดินมาอีท่าไหนไม่รู้กลายเป็นว่า หลงทางอยู่กลางหุบเขา พลันจะหาทางกลับก็หาไม่เจอ ทีนี้พี่แกก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ก็เลยตัดสินใจเดินตามเส้นทางรางรถไฟ จนมาเจอกับอีกหมู่บ้านขนาดเล็ก ที่มันเล็กมากๆ ก็เพราะว่าทั้งหมู่บ้านมีร้านค้าอยู่ร้านเดียว!!! หลังจากนั้นพี่แกก็เลยเดินต่อขึ้นไปทางหุบเขาเผื่อว่าจะได้เห็นวิวสวยๆ บ้าง   หมู่บ้านขนาดเล็กแห่งหนึ่ง ท่ามกลางหุบเขาหิมะอันหนาวเหน็บ   ภาพทิวทัศน์จากบนหุบเขา ที่หนุ่มนักเดินหลงทางไปเจอ   และมันจริงอย่างที่โบราณว่าไว้ ไม่ว่าตอนมาจะสนุกแค่ไหน แต่ตอนกลับมักจะลำบากกว่าเสมอ เพราะเมื่อถึงเวลาที่ชายหนุ่มอยากจะหาทางกลับไปยังที่พักของตนเอง เขาได้เปิดดูแผนที่ พร้อมกับพบว่าเส้นทางเท้าเดียวที่สามารถพาเค้ากลับไปยังโรงแรมได้อย่างปลอดภัย มันดันปิดไปซะแล้ว!!! แต่โชคดีเหมือนพระเจ้าเข้ามาช่วย จู่ๆ หนุ่มคนนี้ก็ดันไปเจอกับเพื่อนแมวของเราเข้า ระหว่างที่กำลังนั่งพักทานขนมให้หายเหนื่อย เพื่อนแมวของเราก็ใจดีสุดๆ เข้าไปทักทายหยอกล้อกับชายหนุ่มเล็กน้อย…

  • ‘เจ้าสลอธ’ ยังยิ้มได้ หลังหลงทางนั่งเกาะเสาอยู่กลางถนนไม่ยอมไปไหน จนตำรวจมาช่วยไว้ทัน

    ‘เจ้าสลอธ’ ยังยิ้มได้ หลังหลงทางนั่งเกาะเสาอยู่กลางถนนไม่ยอมไปไหน จนตำรวจมาช่วยไว้ทัน

    การได้ช่วยเหลือชีวิตของสัตว์โลกตัวน้อยๆ มันช่างเป็นอะไรที่น่าภูมิใจมากจริงๆ แม้บางทีเราได้เห็นผู้อื่นได้ช่วยเหลือชีวิตของมัน ก็ทำให้เรารู้สึกอิ่มเอมใจ และมีความสุขตามไปด้วย ก็เหมือนกับเหตุการณ์ของเจ้าสลอธน้อย ที่เกิดขึ้น ณ ประเทศเอกวาดอร์ ตัวนี้ ซึ่งจากภาพเราจะเห็นเจ้าสลอธสีน้ำตาลตัวหนึ่ง กำลังนั่งใช้ขาทั้ง 4 เกาะเสาที่กั้นอยู่กลางถนนอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย   โถ…มันช่างเป็นภาพที่น่าสงสารเสียจริง   จากการรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยว่า ตำรวจจราจรเมือง Quevedo ประเทศเอกวาดอร์ ได้รีบเข้าไปช่วยเหลือสลอธตัวหนึ่ง หลังได้รับแจ้งว่ามีสัตว์ป่าหลงทางมาอยู่บนถนนทางหลวง     พอไปถึงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พบกับสลอธสีน้ำตาลตัวน้อย กำลังกอดรัดเสาของที่กั้นกลางถนนไว้แน่น   แต่แทนที่มันจะตกใจกลัวพวกมนุษย์ เจ้าสลอธกลับนั่งนิ่ง แถมยังทำหน้าราวกับฉีกยิ้มให้เจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปช่วยเหลือมันอีกด้วย     เมื่อทางตำรวจสามารถช่วยเหลือมันได้สำเร็จ พวกเขาก็ได้แจ้งข้อมูลลงในเฟสบุ๊ค พร้อมกับพามันไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสัตว์ใกล้เคียง ก่อนจะปล่อยมันกลับคืนสู่ธรรมชาติ ทั้งนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เจ้าสลอธน้อยหลงทางมาอยู่กลางถนนได้อย่างไร แต่ถึงยังไงตอนนี้มันก็คงจะปลอดภัยแล้วละ เพื่อนๆ ไม่ต้องเป็นห่วงมันแล้วนะเมี๊ยว ที่มา : 9news

  • ลูกลิงหลงทางกับแม่ “ร้องไห้หนักมาก” จนกระทั่งแม่มารับ โผเข้ากอดแม่อย่างน่ารัก!!

    ลูกลิงหลงทางกับแม่ “ร้องไห้หนักมาก” จนกระทั่งแม่มารับ โผเข้ากอดแม่อย่างน่ารัก!!

    ในวัยเด็กๆ ใครๆก็ไม่อยากที่จะแยกห่างออกไปจากครอบครัว การอยู่คนเดียวตอนเด็กๆนั้นเป็นอะไรที่น่ากลัวเอามากๆ เพราะเราไม่สามารถปกป้องตัวเองได้เลยเนื่องจากยังไม่มีประสบการณ์มากพอ เหมือนอย่างลุกลิงตัวนี้ที่มันเหมือนกำลังพลัดหลงกับแม่ของมัน มันพยายามร้องไห้หาแม่อยู่นาน ไม่กล้าเดินไปไหนเลย ได้แต่หมอบอยู่ตรงนี้   มันพยายามมองหาแม่อยู่นาน แต่แม่ก็ไม่มาสักที   จนในที่สุดแม่ก็มาเจอมันจนได้ วินาทีที่มันวิ่งเข้าไปกอดแม่นั้นบอกได้เลยว่น่าประทับใจมากๆ เราไปชมคลิปกันเลยดีกว่า   ที่มา viralnova

  • น้องห่านพลัดหลงถูกทิ้งไว้กลางทาง โชคดีที่เจอมนุษย์ใจดีนำทางพาไปส่งถึงทะเลสาบ!!

    น้องห่านพลัดหลงถูกทิ้งไว้กลางทาง โชคดีที่เจอมนุษย์ใจดีนำทางพาไปส่งถึงทะเลสาบ!!

    การถูกทอดทิ้งไว้กลางทางเป็นสิ่งที่น่ากลัวนะ แบบว่าเราไม่รู้จะพึ่งพาใครได้ มีแต่ตัวเราแค่คนเดียว ซึ่งชะตากรรมแบบนี้ก็เกิดกับน้องห่านแคนาดาที่ผลัดหลงจากฝูง อ้างว้างเดียวดายอยู่กลางทาง!! แต่แล้วก็ยังไม่ถึงกับสิ้นหวังซะทีเดียวสำหรับน้องห่านตัวนี้ มันได้พบกับมนุษย์ผู้ใจดี จอดรถกระบะแวะทักทายกันก่อน หลังจากแวะทักทายกันแล้ว พอจะขับรถออกไปน้องห่านก็วิ่งตามมาด้วย วิ่งได้ซักพักก็สยายปีกโบยบินตามอย่างไม่หยุดยั้ง และแล้วในที่สุดน้องห่านก็มาถึงทะเลสาบ Shining Bank ได้อย่างปลอดภัย ด้วยการนำทางของมนุษย์ผู้ใจดี รู้สึกเป็นปลื้มแทนจริงๆ ที่มา : Andre Bachman

  • ชายหนุ่มใจบุญ ขับรถนำทางให้ห่านหลงทาง กลับสู่แหล่งน้ำ!!!

    ชายหนุ่มใจบุญ ขับรถนำทางให้ห่านหลงทาง กลับสู่แหล่งน้ำ!!!

    หลายๆคนอาจบอกว่าโลกของเราปัจจุบันนั้นไม่น่าอยู่ ความมีน้ำใจเริ่มหาได้ยากจากเพื่อนมนุษย์ แต่เชื่อหรือไม่ จริงๆแล้วทุกอย่างไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลายๆคนคิดหรอก คนดีๆมีน้ำใจยังคงมีอีกเยอะ อย่างเช่นชายหนุ่มคนนี้ไง ขณะที่เขากำลังขับรถอยู่ เขาเห็นห่านตัวหนึ่งกำลังไล่ตามเขามา พอเขาจอดรถและลงไปดู เขาพบว่าห่านตัวนี้ดูเหมือนจะกำลังหลงทาง เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทาง และนำมันไปยังทะเลสาบที่อยู่ใกล้ๆ ทันทีที่มันไปถึงทะเลสาบ มันก็ลงไปแช่น้ำอย่างสบายใจในทันที ไปชมความน่ารักของมันกันเลย ถึงแม้ว่าโลกเราจะไม่ได้สวยงามหรือดีเลิศอะไรมากมาย แต่หากเราเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่มีน้ำใจให้กัน แค่นั้นโลกเราก็น่าอยู่ขึ้นเยอะแล้ว ที่มา Andre Bachman