สหรัฐฯ พบ “อินทรีในประเทศ” ร่วม 46% มีอาการ พิษตะกั่วเรื้อรัง คาดเพราะกิน เศษกระสุนปืน เข้าไป

เมื่อพูดถึงสหรัฐอเมริกาสิ่งแรกๆ ที่เรานึกถึงจะเป็นอะไร เสรีภาพ? มหาอำนาจ? เจ้าแห่งเทคโนโลยี? ไม่ว่าความคิดแรกจะเป็นอย่างไร ไม่นานนักภาพของ “นกอินทรี” และ “ปืน” ก็คงจะปรากฏขึ้นมาในใจของหลายๆ คน

ดังนั้น นี่จึงอาจจะเป็นข่าวที่ชวนให้รู้สึกว่ามันช่างเหมือนการประชดประชันเป็นอย่างดี เมื่อล่าสุดนี้เอง นักชีววิทยาสัตว์ป่าจาก US Geological Survey ได้ออกมาเปิดเผยว่า

นกอินทรีของสหรัฐ โดยเฉพาะ “อินทรีหัวล้าน” และ “อินทรีทอง” เกือบครึ่งกำลังมีอาการของพิษตะกั่วเรื้อรัง ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง ที่จะมาจากการที่พวกมัน กินเศษตะกั่วจากกระสุนเข้าไป

อ้างอิงจากรายงานที่ออกตรวจสอบสุขภาพอินทรี 1,210 ตัวตั้งแต่ช่วงปี 2010-2018 นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า ในเนื้อเยื่อ เลือก และกระดูกของอินทรีในประเทศ กว่า 46% กำลังมีปริมาณสารตะกั่วที่เป็นพิษ ตกค้างอยู่ในระดับอันตราย

โดยนักวิจัยคาดกันว่าตะกั่วเหล่านี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นสิ่งตกค้างจากกระสุนปืนของมนุษย์เอง เพราะกระสุนที่ทำจากตะกั่วมักจะแตกกระจายออกเมื่อกระทบเป้าหมาย อย่างสัตว์ป่า

ซึ่งบ่อยครั้งมันก็จะตกค้างในซากสัตว์ที่นักล่าทิ้งไว้ และถูกกินเข้าไปโดยอินทรี

นี่นับเป็นข่าวที่น่ากังวลไม่ใช่น้อย เพราะตะกั่วเหล่านี้ แม้ในปริมาณน้อยก็ถือเป็นสารพิษที่ส่งผลต่อระบบประสาท บั่นทอนความแข็งแรง และการขยายพันธุ์ของนกอินทรีได้อยู่แล้ว

การพบพิษตะกั่วปริมาณสูงเช่นนี้ จึงอาจทำให้พวกมัน เกิดอาการชักระหว่างบิน หายใจลำบาก หรือตายได้เลย

และแม้นกอินทรีทั้งสองสายพันธุ์จะไม่ได้ถือเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ก็ตาม (แต่ก็มีปริมาณไม่มากนะ) มันก็คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ที่นกอินทรีซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ จะต้องมาเสี่ยงมีจำนวนประชากรลดลง เพราะผลกระทบของปืนจากคนในประเทศเอง