สาวตามหารถตัวเองที่เมียนมา โดนเช่าเอาไปขายต่อ เจอเรียกค่าไถ่ 4 แสน ต้องซื้อคืน

การปล่อยให้เช่ารถยนต์ในมุมมองของคนทำธรุกิจประเภทนี้ ต้องลงทุนสูง ไม่ว่าจะเป็นค่าตัวรถยนต์ ค่าดูแล ไหนจะต้องมาระแวงเรื่องรถหายอีก ยิ่งรถหายออกนอกประเทศไปแล้วโอกาสที่จะได้คืนนั้นน้อยมาก แถมต้องซื้อคืนกลับมายิ่งทำให้สูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก

ประเด็นนี้ได้รับความสนใจมากๆ ในติ๊กต็อก หลังจากที่คุณแอน @annnatcha111986 ได้ทำการโพสต์คลิปเปิดเผยเรื่องราวการออกตามหารถยนต์ของเธอเอง จากการที่มีคนร้ายมาเช่ารถยนต์ของเธอไป แล้วมันก็ถูกนำไปขายบริเวณชายแดนแม่สอด และส่งต่อออกไปถึงเมียนมา

การเดินทางข้ามฝั่งของเธอนั้นต้องมากับตำรวจตระเวนชายแดน ประสานกับกองกำลังทหารฝั่งเมียนมาเพื่อมาขอเจรจาขอรถคืน กลายเป็นว่าเรื่องไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะมีการเรียกค่าไถ่จากอีกฝั่งด้วยจำนวนเงิน 430,000 บาท และมีการต่อรองลดลงมาจนเหลือ 180,000 บาท

คุณแอนเล่าถึงสาเหตุที่รถเช่าของเธอหายไป เป็นเพราะว่ามีทหารยศสิบเอกมาเช่าเป็นเวลา 3 วัน จู่ๆ ก็ทักมาถามว่าเช็ค GPS รถได้มั้ยว่าอยู่ที่ไหน บอกว่าลูกน้องยืมรถไป แต่ก่อนหน้านั้นคุยไว้ว่าจะเช่าไปขนของจากบ้านภรรยาที่เลิกกันจากกรุงเทพฯ ไปกาญจนบุรี

เมื่อเป็นแบบนั้นเธอจึงตรวจเช็ค GPS ก็พบว่าตำแหน่งอยู่ที่กาญจนบุรี แต่เธอตอบกลับไปว่าไม่มี GPS อยู่กับรถเพราะเกรงว่าคนร้ายจะดึงออก อีกทั้งตำแหน่งของ GPS แต่ละตัวก็อยู่แยกกัน พอตามไปดูแต่ละที่ก็ไม่เจอรถอยู่สักที่

หลังจากนั้นคุณแอนก็พยายามสืบเองว่า รถของเธอไปอยู่กับใครแล้ว เพราะว่าคนร้ายอ้างว่าเพื่อนทอมอีกคนหนึ่งเป็นคนเอาไป และเขาไม่กระตือรือร้นที่จะเอารถมาคืนให้

และในที่สุดเธอก็ตามตำแหน่งรถได้ถึงจังหวัดตากกำลังจะไปแม่สอด ทำให้เธอต้องประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน พูดคุยเจรจากับทหารอีกฝั่งจนพบรถที่ตรงกับคันเดิมแต่ป้ายทะเบียนไม่มีแล้ว

แต่การจะได้รถคืนนั้นก็คือจะต้องจ่ายเงินจำนวน 430,000 บาท เพราะลูกบ้านของฝั่งทหารนั้นจ่ายเงินซื้อมา มีการคุยต่อรองจนเหลือ 180,000 บาท เป็นค่าซื้อรถคืนกลับมาฝั่งประเทศไทย

อีกทั้งคุณแอนได้ขอขอบคุณตำรวจตระเวนชายแดนที่ให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ด้วย ถ้าหากไม่ได้ช่วยประสานงานให้คงไม่ได้รถคืนแน่นอน

ที่มา: @annnatcha111986