ล่าสุดคุณลุงคนนี้กำลังกลายเป็นไวรัลเลยครับ
ลุงแกมีชื่อว่า Robert อายุ 59 ปี เพิ่งจะเปิดแอคเคาท์อินสตาแกรมขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า 333january333
โดยเป้าหมายของการเปิดอินสตาแกรมในครั้งนี้ก็เพื่อขิง เอ๊ย บอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง ที่เพิ่งเจอ Bitcoin Wallet ที่เก็บไว้ตั้งแต่ปี 2009 หรือราว ๆ 16 ปีที่แล้ว
พอเอามาเช็กดูก็พบว่าข้างในนั้นมีเหรียญ Bit Coin อยู่ทั้งหมด 100 BTC ถ้าคิดมูลค่าตามปัจจุบัน จะมีมูลค่าราว ๆ 274 ล้านบาท (ปัจจุบันมูลค่าของเหรียญ BTC อยู่ที่ 1 เหรียญต่อ 87,902 ดอลลาร์สหรัฐฯ)
นอกจากเหรียญ BTC ที่เก็บไว้ข้างในนั้นแล้ว ยังมีข้อความเขียนไว้ด้วยว่า “คุณมีโอกาสที่จะได้กลับไปในปี 2009 โดยที่ไม่ต้องใช้ไทม์แมชชีน กลับมาที่อีกอีกครั้งในวันที่ 3 มกราคม แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง”

หลังจากที่ลุงแกลงคลิปไปได้ไม่นาน ก็กลายเป็นไวรัลขึ้นมาครับ คนกดไลก์กว่า 250,000 ครั้ง แต่ละคนก็เข้ามาเมนต์แสดงตัวเป็นลูก เป็นหลานของลุงกันเพียบ!!
“หวัดดีครับพ่อ”
“ผมคิดถึงปู่จังเลย”
“หวัดดีครับพ่อ พ่อไปอยู่ไหนมาตั้งนาน คิดถึงพ่อจัง”
หลังจากที่มีลูกหลานเข้ามาแสดงตัวกันอย่างคับคั่ง ลุงแกก็เลยโพสต์อีกโพสต์นึง บอกว่า “ลุงอ่านคอมเมนต์หมดเลยนะ ไม่คิดว่าตัวเองจะมีลูกหลานเยอะแยะมากมายจากทั่วโลกขนาดนี้”
พร้อมกับเล่าถึงที่มาของเจ้าเหรียญมูลค่า 100 BTC นี้ว่า “ตอนนั้นปี 2008 ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ยากลำบากมาก เศรษฐกิจแย่ การเงินโลกผันผวนแบบสุด ไม่ได้มีแค่ประเทศของเรา แต่เป็นทั่วโลก”
“เพื่อน ๆ ของลุงหลายคนต้องเสียการเสียงาน ส่วนตัวลุงเองก็พอมีเงินเก็บบ้าง มีเพื่อน ๆ ญาติ ๆ หลายคนมาขอความช่วยเหลือ ลุงก็ให้ความช่วยเหลือไป เพื่อให้พวกเขายืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง”
“พอเวลาผ่านไป ทุกคนกลับมายืนได้อีกครั้ง แต่ละคนที่ยืมเงินไปก็เริ่มหามาคืนได้ แต่มีคนนึง เป็นเพื่อนเก่าแก่ของลุง ชื่อว่า David เขาไม่สามารถหาเงินมาคืนได้ ลุงรอนานมาก ทวงไปเมื่อไหร่แกก็บอกว่าไม่มีเงินมาคืน จนลุงเลิกทวงไป เพราะคิดว่าความเป็นเพื่อนมันสำคัญกว่าเงิน”
“แต่ David ไม่อยากเสียเพื่อนเพราะเงิน เขาก็เลยเสนอว่าจะจ่ายหนี้ลุงด้วยบางสิ่งบางอย่างที่เรียกว่า Bitcoin เขาบอกว่านี่เป็นทางเดียวที่เขาจะใช้หนี้ลุงได้”
“แน่นอนว่าลุงตอบตกลง เขาก็เลยโอน Bitcoin เข้ามาไว้ในแฟลชไดรฟ์นี้ แล้วก็มอบมันให้ลุงเมื่อปี 2009 (อิงตามข้อความในไดรฟ์)”
“ความแย่ของมันก็คือ ลุงทำหายในวันนั้นเลย แล้วก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะคิดว่ามันไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น ก็เลยไม่ได้ตามหา และปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้”
#เหมียวหง่าว