Tag: ไร้บ้าน

  • นักธุรกิจชอบใจหนุ่มไร้บ้าน เพราะพูดคุยกันถูกคอ เลยเสนองานให้ทำซะเลย!!

    นักธุรกิจชอบใจหนุ่มไร้บ้าน เพราะพูดคุยกันถูกคอ เลยเสนองานให้ทำซะเลย!!

    คนเรามันต้องมีสักครั้งแหละ ที่ลองได้คุยกับคนแปลกหน้าแล้วรู้สึกถูกอกถูกใจ… เช่นเดียวกันกับนักธุรกิจ James Minns ที่บังเอิญเดินไปเจอกับหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่ง ก่อนที่จะได้พูดคุยกันจนรู้สึกว่าถูกคอมากๆ ก็เลยตัดสินใจรับเขาเข้ามาทำงานด้วยซะเลย!!     เรื่องมีอยู่ว่าในคืนวันพฤหัสที่ 5 ที่ผ่านมา James ได้ออกไปเฉลิมฉลองเนื่องในวันครบรอบแต่งงานกับภรรยาและเพื่อนๆ ของเขา แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาให้ได้มาเจอกับเด็กหนุ่มวัย 25 ปีชื่อว่า Ryan ทั้งคู่คุยด้วยกันอย่างออกรสออกชาติ     James เล่าว่า “พวกเราเดินไปตามถนนก่อนที่จะเจอ Ryan พวกเราหยุดและพูดคุยกับเขา เพราะเขาดูเหมือนเป็นหนุ่มวัยรุ่นที่นิสัยดี” “แม้ว่าเขาจะมีการเริ่มต้นชีวิตที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่เขาก็ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงมัน เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่บนถนนแบบนี้หรอกนะ” Ryan เล่าว่าชีวิตของเขานั้นเป็นอะไรที่ยากมากเพราะการจะหางานทำก็ทำไม่ได้เพราะเขาเป็นคนไร้บ้าน James ก็เลยเสนอไปว่า “แล้ว ถ้านายได้รับการเสนองานให้ทำล่ะ นายจะทำมั้ย?” Ryan ก็ตอบอย่างรวดเร็วว่า “แน่นอน ผมอยากทำงาน”     James เล่าต่อว่า “ผมทำธุรกิจอยู่ ผมแจ้งว่าที่ทำงานอยู่ตรงไหนซึ่งเขาเองก็รู้จักสถานที่นั้น ผมเลยบอกเขาไปว่า ‘เจอกันวันจันทร์นะพ่อหนุ่ม’” เขานำเรื่องราวนี้ไปโพต์ลงเฟซบุ๊ก และด้วยพลังของชาวเน็ตก็ทำให้เขาได้เบอร์โทรศัพท์ของ Ryan มาในที่สุด James…

  • หนุ่มลองใจ ‘คนไร้บ้าน’ ทำกระเป๋าเงินตก เขาเก็บมาคืน แถมเอาเงินที่ให้ไปซื้ออาหารแจกคนอื่น!!

    หนุ่มลองใจ ‘คนไร้บ้าน’ ทำกระเป๋าเงินตก เขาเก็บมาคืน แถมเอาเงินที่ให้ไปซื้ออาหารแจกคนอื่น!!

    หนุ่มถ่ายคลิปลองใจ แกล้งทำกระเป๋าเงินตกต่อหน้าคนไร้บ้าน และผลที่ได้คือเรื่องราวน่าประทับใจ…     ชายไร้บ้านเก็บกระเป๋าเงินขึ้นและนำมันไปคืนให้กับ Waqas Shah ที่เป็นยูทูบเบอร์ ในกระเป๋ามีเงินอยู่ทั้งหมด 5,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 160,000 บาท     “เฮ้นาย! นายทำกระเป๋าเงินตกน่ะ ตกอยู่ตรงนั้น” ชายโฮมเลสเรียก Waqas พร้อมกับชี้นิ้วไปที่จุดเกิดเหตุ     “คุณเป็นคนไร้บ้านใช่มั้ยครับ? คุณเอาเงินมาคืนให้ผม” Waqas ตอบกลับไป “การนำมันมาคืนมันก็ถูกแล้วนี่ ผมไม่ขโมยของใครหรอกนะ” ชายโฮมเลสกล่าว     “การที่คุณนำมันมาคืนให้ผม ผมจะตอบแทนคุณก็แล้วกัน คุณเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก ขอบคุณที่เอามันมาคืนให้ผมนะครับ” Waqas กล่าว เรื่องราวความประทับใจยังไม่จบอยู่เท่านี้ หลังจากที่ Waqas เดินจากไป กล้องยังคงจับอยู่ที่ชายโฮมเลส ปรากฏว่าเขานำเงินที่ได้เป็นของตอบแทนไปซื้ออาหาร แล้วเอาไปแจกจ่ายให้กับโฮมเลสคนอื่นๆ ที่อยู่ในละแวกนั้น     Waqas เดินตามชายโฮมเลสไปอีกครั้งเพื่อสอบถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ชายโฮมเลสก็ตอบกลับมาว่า “การให้เป็นสิ่งที่เราควรทำ หากเราให้ไปเท่าไหร่…

  • คู่รักโฮมเลส…แม้คุณภาพชีวิตไม่ดีเหมือนใคร แต่คงความ ‘โรแมนติก’ เอาไว้ไม่เสื่อมคลาย

    คู่รักโฮมเลส…แม้คุณภาพชีวิตไม่ดีเหมือนใคร แต่คงความ ‘โรแมนติก’ เอาไว้ไม่เสื่อมคลาย

    เรื่องราวความรักของแต่ละคนก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมนิสัยใจคอและไลฟ์สไตล์ของคู่รักของแต่ละคน แต่สิ่งที่มีเหมือนๆ กันก็คือความรักที่มีให้แก่กันนั้นคือ ‘ของจริง’ เช่นเดียวกันกับคู่รักคู่นี้ที่เป็นโฮมเลส แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีบ้าน หรือเงินทองอย่างใครเขา แต่ก็ยังคงความโรแมนติกเอาไว้ไม่เสื่อมคลาย ภาพชุดที่แสดงให้เห็นถึงความรักความอบอุ่นของทั้งสองคนเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจกต์ของช่างภาพ Muchiri Frames จากกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เขาได้ร่วมมือกับทีมงานช่วยกันคิดโปรเจกต์ภาพสำหรับวันแห่งความรักขึ้นมา     และเขาก็ได้พบกับ Sammy ชายไร้บ้านในสวนสาธารณะของกรุงไนโรบี พอสอบถามก็ทราบว่าเขาอาศัยอยู่ตามข้างถนนในเมืองนี้ นอกจากนี้ก็ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องของความรัก หนุ่ม Sammy ก็เล่าให้ฟังว่าเขามีแฟนสาวอยู่คนหนึ่ง พวกเขาพบรักกันที่ข้างถนนในกรุงไนโรบี แล้วก็อาศัยมาด้วยกันตั้งแต่ตอนนั้น     ช่างภาพก็เลยตัดสินใจที่จะมอบของขวัญวันแห่งความรักให้กับพวกเขาด้วยการ พาคู่รักไปแต่งตัว อาบน้ำ ตัดผม แล้วก็ถ่ายรูปคู่ด้วยกัน     “แรงบันดาลใจนี้มาจากเรื่องราวความรักที่แสนอบอุ่น พวกเราก็เลยตัดสินใจที่จะเฉลิมฉลองวันแห่งความรัก ด้วยความรักที่แสนงดงาม ปราศจากเรื่องเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง ความรักไม่ว่าจะที่ไหนก็ไม่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับคนจน คนรวย หรือคนไร้บ้าน ความรักมันก็คือความรักอยู่ดี และนี่คือข้อพิสูจน์”   .   ความรักสวยงามเสมอเมื่อมันเกิดขึ้น .   ไม่ว่าจะเกิดกับใคร หรือที่ไหน มันก็ช่างงดงาม…

  • หญิงสาวตกหลุมรักกับชายหนุ่มโฮมเลสรูปงาม ช่วยดูแลจนสร้างครอบครัวที่ดีร่วมกัน

    หญิงสาวตกหลุมรักกับชายหนุ่มโฮมเลสรูปงาม ช่วยดูแลจนสร้างครอบครัวที่ดีร่วมกัน

    คุณเชื่อในโชคชะตาไหม? แล้วคุณเชื่อในรักแรกพบหรือเปล่า แน่นอนว่าหลายคนอาจจะหรือบางคนก็อาจจะไม่เชื่อ เพราะความรักที่ยืนยาวมักเกิดจากการเรียนรู้ซึ่งกันและกันรวมถึงการเข้าใจกัน แต่สำหรับเธอและหนุ่มคนนี้พวกเขากลับให้โชคชะตานำพาพวกเขาไป และมันก็ไปได้สวยซะด้วยสิ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2006 เมื่อตอนที่ Emmy Abrahamson หญิงชาวสวีเดนวัย 41 ปี มาที่เมืองอัมสเตอร์ดัมประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งที่นั่นและเป็นที่เธอได้บังเอิญเจอกับเข้า Vic Kocula ชายหนุ่มแปลกหน้าที่สวมเสื้อผ้ามอมแมมที่แสดงให้รู้ได้ทันทีว่า เขาคนนี้คือคนไร้บ้านที่นอนอยู่ตรงเก้าอี้สาธารณะใกล้ๆ     แต่ด้วยคิ้วสีน้ำตาลอันทรงสเน่ห์ของเขา ทำให้วินาทีนั้น Emmy ได้ตกหลุมรักหนุ่มแปลกหน้าทันทีแม้จะไม่เคยพูดคุยกัน แน่นอนว่าหนุ่มก็รู้สึกเช่นเดียวกันจนทั้งคู่ตัดสินใจทักทายและพูดกันคุยกัน เชื่อไหมว่าวินาทีนั้นทั้งคู่เหมือนมีเคมีที่เข้ากันอย่างเหลือเชื่อ พวกเขาคุยกันอยู่พักใหญ่ๆ จนกระทั่งทั้งสองตกลงกันว่าในสัปดาห์หน้าพวกเขาจะออกเดทกันโดยที่ Emmy จะกลับมาหาเขาบริเวณเก้าอี้ตัวเดิมที่ทั้งคู่เจอกัน ความรักของทั้งคู่เริ่มสุกงอมจนกระทั่งเวลาต้องแยกกันก็มาถึง Emmy เดินทางกลับเวียนนาในประเทศออสเตรีย ซึ่งเธอก็รู้สึกเศร้าๆ และคาดว่าเธอคงไม่ได้เจอกับ Vic อีกแล้ว…     กลับกันในเวลาไม่กี่สัปดาห์ถัดมา Vic โทรหา Emmy พร้อมบอกว่าเขากำลังจะออกเดินทางเพื่อไปตามหาเธอที่ออสเตรีย และนับตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงตอนนี้ทั้งคู่ก็ได้คบหากันจนเป็นคู่รักในที่สุด     ใครจะเชื่อจากชายไร้บ้านที่ติดเหล้าจนตัวเองต้องลงไปอยู่ข้างถนน ได้บังเอิญพบกับหญิงชาวเมืองคนหนึ่งที่ไม่เคยคุยไม่รู้จักกัน แต่กลับตกหลุมรักกันอย่างไม่ตั้งใจจนเวลาผ่านไป 10 ปี ชีวิตของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปตลอดกาล…

  • สุนัขพลัดตกจากรถ ติดอยู่ใต้เนินทางด่วนสุดอันตราย ชายเร่ร่อนจึงอาสาปีนพามันกลับมา…

    สุนัขพลัดตกจากรถ ติดอยู่ใต้เนินทางด่วนสุดอันตราย ชายเร่ร่อนจึงอาสาปีนพามันกลับมา…

    สิ่งที่ประกอบขึ้นมาเป็นร่างกายมนุษย์นั้นไม่ได้มีเพียงสิ่งที่เป็นรูปธรรมอย่างแขน ขา หรืออวัยวะภายในต่างๆ หากแต่ประกอบไปด้วยนามธรรมอย่างนิสัยใจคอความเป็นมนุษย์ที่แท้จริง ชายคนนี้อาจดูไม่ต่างกับคนทั่วไป แต่มีจิตใจที่ทำให้ใครหลายคนประทับใจไปกับสิ่งที่เขาได้ทำ ในวันอังคารที่ 25 กรกฎาคม 2017 สุนัขชื่อ Hunter ได้เดินทางไปพร้อมกับเจ้าของบนทางด่วนในรัฐวอชิงตัน ประเทศอเมริกา ด้วยความตื่นเต้นของมัน ก็ดันกระโดดออกจากหน้าต่างรถที่เปิดเอาไว้ ถึงจะโชคดีที่ไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่จุดที่มันลงไปนั้นถือว่าอันตรายอย่างมาก   .   มันตกไปอยู่บนหน้าผาทีสูงชัน โดยมีเพียงไม้เลื้อยที่รั้งมันไว้ไม่ให้ตกลงไปอย่างน่าหวาดเสียว ตำรวจวอชิงตันก็รีบมาถึงจุดเกิดเหตุพร้อมกับนักดับเพลิงในท้องถิ่น เพราะสถานการณ์ตอนนั้นเวลามีความสำคัญอย่างมาก แต่หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ Brooke Bova ก็ได้เล่าว่า มีหนุ่มเร่ร่อนคนหนึ่งได้เข้ามาบอกว่าเขาอาศัยอยู่ใต้ทางด่วน จึงรู้ทางเนินนั้นเป็นอย่างดีและสามารถที่จะช่วยเจ้าสุนับลงมาได้ การอาสาของคนๆนั้นมันทำให้รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ทั้งที่เขาไม่จำเป็นต้องทำเรื่องเหล่านี้เลยด้วยซ้ำ     จากการยอมเสี่ยงชีวิตของชายคนนี้จึงสามารถช่วยเจ้าสุนัขลงมาได้อย่างปลอดภัย ถึงมันจะดูยังคงผวาอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เมื่อได้เจอเจ้าของมันก็กลับมาโอเคได้อีกครั้ง     “ที่ผ่านมาฉันคิดว่า เหล่าคนเร่ร่อนจะคอยหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่รัฐ และดำเนินชีวิตไปตามทางของตัวเองแค่นั้น แต่การอาสาของชายคนนี้มันช่างซาบซึ้ง และประทับใจเป็นอย่างมาก มันคือการกู้ความศรัทธาของความเป็นมนุษย์ให้คืนกลับมา” เจ้าของ Hunter ได้พูดไว้     ถึงแม้หนุ่มจิตใจดีที่เมื่อเสร็จภารกิจเขาก็ได้จากไปโดยไม่ทิ้งข้อมูลอะไรไว้ให้เลย เพียงแต่การกระทำของเขาจะเป็นสิ่งที่ตราตรึงอยู่ในใจให้เราถึงความห่วงใยของเพื่อนมนุษย์ที่มีให้กับเพื่อนร่วมโลก นี่คือบทเรียนสำหรับการเปิดกระจกให้สุนัขได้ยื่นหน้าออกมา แต่ถ้าอยากให้ปลอดภัยก็เปิดนิดเดียวพอให้ได้รับลมก็พอแล้วล่ะ…

  • ทดลองนำ “สุนัข” ผูกไว้ข้างทางให้เหมือนถูกทิ้ง เพื่อสังเกตน้ำใจจากคนในสังคม!?

    ทดลองนำ “สุนัข” ผูกไว้ข้างทางให้เหมือนถูกทิ้ง เพื่อสังเกตน้ำใจจากคนในสังคม!?

    บ่อยครั้งที่เรามักจะได้เห็นคลิปวิดีโอการทดลองทางสังคม จากแชนแนลต่างๆ บนยูทูป บ้างก็เพื่อทดสอบน้ำใจจากคนในสังคม หรือบ้างก็ต้องการดูปฏิกริยาจากผู้คน ที่มีต่อการทดลองนั้นๆ และล่าสุดที่เราไปเจอมาแชนแนล MoeAndEt ได้ทดลองนำเอาสุนัขสองตัวมาผูกไว้ข้างทาง พร้อมทั้งเขียนป้ายกำกับให้ดูเหมือนว่าพวกมันถูกทิ้งอย่างไร้เยื่อใยจริงๆ โดยระหว่างการทดลอง จะมีสองผู้จัดรายการจะคอยเฝ้าดูอยู่ห่างๆ ในบริเวณนั้น เพื่อดูว่าจะมีใครทำร้ายมัน หรือมีคนหยิบยื่นน้ำใจเข้ามาช่วยเหลือพวกมันหรือไม่…   ป้ายจากเจ้าของที่บอกว่า บ้านถูกยึด การเงินล้มละลาย และประกาศหาคนรับเจ้าตูบทั้ง 2 ตัวนี้ต่อไป   โฉมหน้าของสองตูบที่กำลังสวมบทบาทว่าตัวเองเป็นหมาถูกทิ้งอยู่ เจ้าไซดำนี่ทำหน้านิ่ง ส่วนเจ้าขาวนี่ทำหน้าหมดอาลัยในชีวิตได้สมบทบาทมากๆ   จากนั้นพวกเขาก็ลองเฝ้าสังเกตดูอยู่ห่างๆ ท่ามกลางอุณหภูมิ -6 องศาใจกลางเมืองนิวยอร์ค   มีคนเดินผ่านไปมาคนแล้วคนเล่าก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนว่าความหวังของทั้งสองตูบจะริบหรี่ลงทุกที   บางคนก็เข้ามาดมกลิ่น พร้อมกับสบถว่า ‘แม่งเหม็นชิบหาย’ แล้วก็เดินจากไป   แต่แล้วจู่ๆ ก็มีชายนิรนามคนหนึ่งเข้ามาเล่นกับพวกมัน โดยไม่มีทีท่ารังเกียจสัตว์ไร้บ้านพวกนี้เลยแม้แต่น้อย จากนั้นเขาก็หายไป   10 นาทีผ่านไปเขากลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้เขามาพร้อมกับชาม และอาหารสุนัขสำเร็จรูปที่เจ้าตัวไปซื้อมา   ทันทีที่หนุ่มคนนี้เอาอาหารมาช่วยเหลือตูบทั้ง 2 สองผู้ดำเนินรายการจึงรีบเข้าไปสัมภาษณ์เจ้าตัวทันที ซึ่งหนุ่มใจดีคนนี้ได้เล่าว่า ‘เพราะผมก็เป็นคนไร้บ้านเหมือนกัน ผมเข้าใจดีว่าความรู้สึกหิวโหยและอดอยากมันเป็นยังไง…

  • คู่รักตกรถไฟต้องทนหนาว ชายไร้บ้านจึงหยิบยื่นเสื้อกันหนาวให้ และถูกตอบแทนด้วยชีวิตใหม่!!

    คู่รักตกรถไฟต้องทนหนาว ชายไร้บ้านจึงหยิบยื่นเสื้อกันหนาวให้ และถูกตอบแทนด้วยชีวิตใหม่!!

    ใครจะไปคิดว่าความมีน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ของหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่ง จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้เขาสามารถตั้งตัวและสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อีกครั้ง เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงคืนวันที่ 4 กรกฎาคม เมื่อคู่รักชาร์ล็อต เอลลิสและเทย์เลอร์ วอลดอน ได้ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนที่เมืองเอสเซกซ์ ในประเทศอังกฤษ และเมื่องานเลิก ทั้งสองจึงเดินทางไปยังสถานีรถไฟเพื่อกลับไปยังกรุงลอนดอน   คู่รัก Taylor และ Charlotte   โชคร้าย เมื่อมาถึงสถานีรถไฟ พวกเขากลับพบว่าขบวนรถไฟที่จะพาพวกเขากลับไปยังลอนดอนได้ออกเดินทางไปซักพักแล้ว และรถไฟเที่ยวต่อไปจะมาอีกในสี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ ด้วยความที่พวกเขาไปงานเลี้ยงมา ทำให้พวกเขาไม่ได้พกเสื้อกันหนาวตัวใหญ่นัก และด้วยอากาศที่เย็นลง ทำให้พวกเขาต้องนั่งรถอย่างหนาวสั่นอยู่ที่สถานทีรถไฟแห่งนั้น ทันใดนั้นเอง โจอี้ หนุ่มไร้บ้านที่อาศัยอยู่ที่สถานีรถไฟแห่งนั้น ก็เดินนำเสื้อกันหนาวมาให้คู่รักทั้งสอง ทั้งสองรู้สึกขอบคุณและประทับใจมาก พวกเขาจึงชวนโจอี้ไปนอนที่บ้านแม่ของชาร์ล็อต   ภาพประกอบชายไร้บ้านที่เขาลงประกอบเรื่องเล่าไว้ (ซึ่งไม่ใช่โจอี้ เป็นภาพประกอบเฉยๆ)   “ตอนที่ฉันกับเทย์เลอร์นั่งหนาวสั่นอยู่นั้น โจอี้ก็เดินเอาเสื้อกันหนาวมาให้ มันมีบางสิ่งในตัวเขาที่ทำให้พวกเราเชื่อใจ และฉันไม่สามารถทิ้งเขาไว้ในสภาพแบบนั้นได้ ไม่มีใครควรมีคุณภาพชีวิตแบบบนั้น ฉันไม่ได้บอกว่าเราควรเชื่อใจคนแปลกหน้าทุกคน แต่ต้องคิดว่าคุณควรเชื่อใจใครได้บ้าง?” ชาร์ล็อตกล่าว     หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายโจอี้ก็ตอบรับคำชวนของคู่รักทั้งสอง “เราดื่มกันอีกเล็กน้อย และนั่งคุยกันอีกหลายชั่วโมง เราแลกเปลี่ยนเรื่องราวชีวิตซึ่งกันและกัน สุดท้ายเราก็กลายเป็นเพื่อนกัน ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไง…

  • จากเด็กชายถูกทิ้ง-แม่ตาย-ไร้บ้าน แต่ตั้งใจจนได้ที่ 1 ของห้อง แถมได้ทุนเรียนมหาลัยฟรี!!!

    จากเด็กชายถูกทิ้ง-แม่ตาย-ไร้บ้าน แต่ตั้งใจจนได้ที่ 1 ของห้อง แถมได้ทุนเรียนมหาลัยฟรี!!!

    He said he never considered missing school เขา่ไม่เคยคิดขาดเรียน และคิดทิ้งการศึกษาไปแม้แต่ครั้งเดียว…   วันนี้เราก็มีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับผู้ที่ไม่เคยจะยอมแพ้ชะตาชีวิตของตัวเขาเองมาฝากกันแหละ รับรองว่าจะซาบซึ้งและกินใจหลายๆ คนเลยทีเดียว… Liyjon DeSilva เด็กชายในเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ต้องกลายมาเป็นเด็กกำพร้าไร้บ้านอย่างฉับพลันหลังจากที่แม่ของเขาเสียชีวิต ตอนนั้นเขาอายุได้เพียง 5 ขวบเท่านั้น หลังจากนั้นต้องระหกระเหินไปอยู่ตามบ้านญาติๆ หลายๆ ปีสลับกันไป แน่นอนว่าบางทีญาติๆ ก็เบื่อที่เขาต้องมาพึ่งพิง ร้ายไปกว่านั้นเขายังเคยต้องนอนตามที่จอดรถและข้างถนนมาแล้วด้วย!!   แต่ตอนนี้เขาจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นที่ 1 ของห้อง แถมได้ทุนเรียนต่อมหาลัยจนจบแบบฟรีๆ เลยทีเดียว!!!   ถึงเขาจะต้องระหกระเหินเป็นคนไร้บ้านอยู่ตลอดในช่วงชีวิตวัยเด็กของเขา สิ่งหนึ่งที่เขาบอกว่าไม่เคยลืมเลือนเลยก็คือ ‘ผมไม่เคยคิดขาดเรียนและคิดทิ้งการศึกษาไปแม้แต่ครั้งเดียว’ ชายหนุ่มกล่าว   ภาพในวันรับใบประกาศณียบัตรของเขา แน่นอนว่าคนๆ นั้นไม่ใช่พ่อแม่หรือญาติๆ แต่เป็นครูใหญ่ของโรงเรียน Jonathan N. Trinh ในงาน   และคุณครูใหญ่ Jonathan N. Trinh นี่แหละที่เรียกได้ว่าเป็นคนเปลี่ยนชีวิตและพฤติกรรมการเรียนของเขาเลยทีเดียว เพราะหลังจากที่ครูใหญ่สืบทราบว่าเจ้าหนุ่มต้องระหกระเหินเป็นคนไร้บ้าน ไปนอนตามใต้ต้นไม้หรือตามที่จอดรถอยู่บ่อยๆ ครูใหญ่ก็เช่าที่พักให้ Liyjon…

  • สุดประทับใจ… คนแปลกหน้า 200 คน ร่วมงานศพทหารผ่านศึกไร้บ้าน ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน!!!

    สุดประทับใจ… คนแปลกหน้า 200 คน ร่วมงานศพทหารผ่านศึกไร้บ้าน ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน!!!

    คุณเคยนึกสงสัยหรือไม่ วันหนึ่งที่คุณจากโลกนี้ไป จะมีคนกี่คนที่ไปร่วมงานศพของคุณ บางทีมันอาจไม่ได้เกี่ยวกับจำนวนหรอก แต่คุณก็อยากรู้ใช่มั้ยล่ะ ว่าคุณสำคัญต่อใครบ้าง ตอนที่ทหารผ่านศึกผู้เคยผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 Serina Vine วัย 91 เสียชีวิตลงไป มีคนเพียง 4 คนเท่านั้นที่ตั้งใจไปร่วมพิธีศพของเธอ แต่พลตรี Jaspen Boothe กลับรู้สึกว่า เธอต้องทำอะไรซักอย่างเพื่ออดีตทหารหาญคนนี้….     ตอนแรกมีคนเพียง 4 คนเท่านั้นที่ตั้งใจจะไปร่วมงานศพของ Vine ด้วยเหตุนี้ William Jones เจ้าหน้าที่ดูแลสุสานทหารผ่านศึก Quantico จึงเชิญพลตรี Jaspen Boothe มาร่วมงานด้วย และก็เป็นพลตรี Boothe นี่เอง ที่่โพสเรื่องราวของลงโซเชียลมีเดีย จนมีคนมาร่วมงานศพกว่า 200 คน   พิธีศพอันสมเกียรติ Serina Vine เข้ารับราชการทหารเรือในช่วงปี 1944 – 1946 หลังจากเธอออกจากราชการทหาร ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปทำอะไรบ้าง แต่ในปี 1995 มีคนพบเธอเป็นคนไร้บ้านในกรุงวอชิงตันดีซี พร้อมๆ กับอาการของโรคความจำเสื่อม นับตั้งแต่นั้นเธอถูกย้ายเข้ามาในศูนย์ช่วยเหลือทหารผ่านศึก…

  • ชายไร้บ้านกับหนทางแห่ง ‘กล้าม’ พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องเข้ายิม ก็มีรูปร่างที่ดีได้!!

    ชายไร้บ้านกับหนทางแห่ง ‘กล้าม’ พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องเข้ายิม ก็มีรูปร่างที่ดีได้!!

    ถ้าหากให้พูดถึงการเพาะกายแล้ว หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่ต้องลงทุนทั้งด้านเวลาในการออกกำลังเพาะกาย และเงินเพื่อนำมาซื้ออุปกรณ์หรือเข้าฟิตเนส เข้าคอรส์เพาะกายต่างๆ     แต่ก็ไม่ใช่เสมอไปเลยทีเดียว เพราะว่า Jacques Sayagh ชายไร้บ้านวัย 50 ปีผู้นี้ อาศัยอยู่ข้างถนนของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เขาไม่ได้เข้ายิมหรือฟิตเนสเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่เขาก็สามารถสร้างร่างกายที่บึกบึนเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อได้     เขาหาอุปกรณ์ที่อยู่รอบๆ ตัวมาทำเป็นอุปกรณ์ในการออกกำลังกาย มีระเบียบวินัยที่ดี เพียงเท่านี้ก็ทำให้ร่างกายสามารถพัฒนากล้ามขึ้นมาได้แล้ว     ในส่วนของอาหารการกินนั้น เขามักจะกินผักเป็นส่วนใหญ่ อย่างเช่นกะหล่ำปลีกับถั่วเขียว และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือนำเงินที่เหลือไปซื้ออาหารเสริมจำพวกโปรตีน   และด้วยความพยายามที่สั่งสมมาทั้งหมด เขาได้เข้าร่วมประกวดการแข่งขันเพาะกายด้วยนะ!!   ถ้าหากว่าใครที่กำลังคิดจะออกกำลังกายหรือเพาะกาย แล้วมองว่าเป็นเรื่องที่ยากเกินไป ความจริงมันอาจจะไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอก เราเพียงแค่ต้องมีแรงผลักดันก็เท่านั้นเอง ที่มา : unilad, Felix Karen

  • Amazon ซื้อโรงแรมเก่า ปรับปรุงให้เป็นที่พักสำหรับ ‘คนไร้บ้าน’ คืนความสุขให้ประชาชน!!!

    Amazon ซื้อโรงแรมเก่า ปรับปรุงให้เป็นที่พักสำหรับ ‘คนไร้บ้าน’ คืนความสุขให้ประชาชน!!!

    เป็นการกระทำเพื่อสังคมที่ดีเลยทีเดียวของภาคธุรกิจ เพราะไม่ใช่ว่าจะต้องตั้งหน้าตั้งตาเก็งกำไรแต่เพียงอย่างเดียว การแบ่งปันความโชคดีและผลกำไรที่ได้มาให้สังคมก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือทั้งด้านธุรกิจ ภาพลักษณ์ และมนุษยธรรมเช่นกัน ล่าสุดทาง Amazon เว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์รายใหญ่ของโลกก็ได้ประกาศว่าตอนนี้พวกเขาได้เปลี่ยนโรงแรมเก่าแห่งหนึ่งใน Seattle ประเทศสหรัฐอเมริกาให้กลายเป็นที่พักสำหรับเหล่าคนไร้บ้านแล้ว   เปลี่ยนจากโรงแรมเก่าๆ ให้เป็นที่พักคนไร้บ้าน โดยเงินทุนส่วนตัวของ Jeff Bezos ซีอีโอของบริษัท   สำหรับโรงแรมแห่งนี้เดิมมีชื่อว่า Travelodge hotel ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์ใหญ่ของทางบริษัท   ถึงแม้ว่า Amazon จะลงทุนเรื่องการตกแต่งภายใน แต่องค์กรไม่แสวงผลกำไรท้องถิ่น Mary’s Place ได้เข้ามาจัดการดูแลที่นี่ต่อ ซึ่งทาง Amazon ก็ได้บริจาคเงิน 1 ล้านเหรียญ ให้พวกเขาไว้ใช้ดูแลที่นี่   มีทั้งหมดกว่า 60 ห้อง สามารถจุคนได้ทั้งหมดกว่า 200 คนด้วยกัน   สำหรับตอนนี้ก็มีผู้มาพักอาศัยอยู่ราวๆ 100 คนแล้วล่ะ และคาดการณ์ว่าจะเต็มปลายๆ เดือนพฤษภาคมนี่แหละ   แต่ละห้องมีห้องน้ำ และห้องอาบน้ำในตัว   ฟรีอาหารเช้าและอาหารเย็น   และแน่นอนว่าครอบครัวที่ไร้บ้านสามารถอยู่ที่นี่ ทำงานเก็บเงิน จนสามารถผ่อนบ้านของตัวเองได้ แต่ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนนะจ๊ะ  …

  • หนุ่มไร้บ้านในแอฟริกาใต้ เดินเก็บขยะริมหาดทุกวัน ด้วยเหตุผลเพราะ…อยากให้ชายหาดสะอาด

    หนุ่มไร้บ้านในแอฟริกาใต้ เดินเก็บขยะริมหาดทุกวัน ด้วยเหตุผลเพราะ…อยากให้ชายหาดสะอาด

    คนเราเมื่อทำความดีเพียงเล็กๆ น้อย ก็ย่อมได้รับคำชื่นชมจากผู้คนเสมอ ก็เหมือนกับ Dan ชายไร้บ้านผู้นี้ ที่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนธรรมดาๆ ที่ไม่มีใครสนใจ แต่เขากลับได้ทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่น่าชื่นชม จนความดีของเขาได้ถูกนำมาเผยแพร่ให้ผู้คนได้เห็น Jay Margolis นักลงทุนชาวแอฟริกาใต้ ได้โพสต์ภาพ และเล่าเรื่องราวของ Dan ลงในเฟสบุ๊ค ในตอนที่เขาไปนั่งรอลูกค้าอยู่ที่ริมหาดบันทรีเบย์ ในประเทศแอฟริกาใต้ ในขณะนั้นเอง เขาก็เห็นชายที่แต่งตัวซอมซ่อคนหนึ่ง กำลังเดินเอาถุงขยะใบโตสองใบไปทิ้ง และอีกไม่กี่นาทีต่อมาชายคนดังกล่าวก็ได้เดินกลับไปกลับมาที่เดิม เพื่อเอาขยะไปทิ้งอีกโดยเขาทำแบบนี้หลายครั้งด้วยกัน     แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 45 นาที แต่ Jay ก็ยังเห็นหนุ่มคนเดิมก้มหน้าก้มเก็บขยะบนชายหาด ดังนั้นเขาจึงไม่รีรอ และรีบเดินเขาไปพูดคุยกับชายคนดังกล่าวทันที ในที่สุด Jay ก็พบว่า แท้จริงแล้วชายคนนี้เป็นเพียงคนเร่ร่อนไร้ที่อยู่อาศัยธรรมดาๆ คนหนึ่ง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาเดินเก็บขยะอยู่แบบนี้ ก็เพราะเขาไม่อยากให้มีขยะเกลื่อนอยู่เต็มชายหาดนั่นเอง     และนั่นก็ทำ Jay ได้นำเรื่องราวของชายผู้นี้ ไปเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียล ทำให้มีชาวเน็ตได้แชร์เรื่องราวที่น่าชื่นชมของเขาไปกว่า 37,000 ครั้งเลยทีเดียว จนทำเขาได้รับความสนใจจากชาวเมืองเป็นอย่างมาก Jay ได้กลับไปพบกับเขาอีกครั้ง พร้อมบอกว่ามีคนมากมายอยากช่วยเหลือเขา ซึ่งมันก็ทำให้ Dan…

  • คุณแม่วัยสาวซื้ออาหารเช้าให้คนไร้บ้านทาน และนั่นคือกำลังใจให้เขามีชีวิตอยู่ต่อ…

    คุณแม่วัยสาวซื้ออาหารเช้าให้คนไร้บ้านทาน และนั่นคือกำลังใจให้เขามีชีวิตอยู่ต่อ…

    หลายคนบอกว่า การทำดีเป็นเรื่องยาก แต่ที่จริงแล้วการทำดีไม่ใช่เรื่องยากเลย และความดีนั้นอาจเปลี่ยนชีวิตของใครบางคนเลยก็เป็นได้ อย่างเช่นสิ่งที่คุณแม่วัยสาวชื่อว่า Casey คนนี้ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอได้ไปซื้ออาหารเช้าที่ร้าน Dunkin’ Donuts และเธอสังเกตเห็นมีชายไร้บ้านคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าร้าน ท่าทางของเขาดูอ่อนแรงและสิ้นหวัง     เธอซื้ออาหารและเครื่องดื่ม และตัดสินใจเดินเข้าไปคุยกับชายไร้บ้านคนนั้น เขาชื่อว่า Christ เขาเล่าว่า เขาเกิดมาในครอบครัวที่มีปัญหา เขาไม่เคยเจอหน้าพ่อมาก่อน และพอแม่ของเขาเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง เขาได้หันไปใช้ยาเสพติดจนชีวิตพังอย่างปัจจุบัน เขายังเล่าว่าชีวิตการเป็นคนไร้บ้านนั้นยากลำบากมากๆ ผู้คนจำนวนมากโหดร้ายต่อเขา เพียงเพราะว่าเขาเป็นคนไร้บ้าน Casey บอกว่าบทสนทนาระหว่างเขากับเธอนั้น เป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก     และเมื่อถึงเวลาที่ Casey ต้องไป Christ ได้เขียนอะไรบางอย่างบนเศษกระดาษ และยื่นใส่มือของเธอพร้อมขอโทษที่ลายมือเขาไม่สวยเท่าไหร่ และเขาก็เดินจากไป เมื่อเธอเดินขึ้นรถและเปิดกระดาษนั้นออกมาดู ในนั้นเขียนไว้ว่า “ผมตั้งใจจะฆ่าตัวตายวันนี้ แต่เพราะคุณ ผมไม่ฆ่าตัวตายแล้ว ขอบคุณมาก คุณช่างเป็นคนที่งดงามจริงๆ” ด้วยความใจดีของเธอ เธอได้ช่วยชีวิตคนๆ หนึ่งไปโดยบังเอิญ       น่าประทับใจจริงๆ เลยเนอะเพื่อนๆ บางครั้งแค่น้ำใจและคำพูดเล็กๆ น้อยๆ เราก็อาจช่วยชีวิตใครคนหนึ่งได้แล้ว…

  • หนุ่มนักศึกษาใจงาม ช่วยเหลือญาติที่ตั้งท้อง เลี้ยงดูเธอและลูกน้อยจนสามารถสร้างชีวิตใหม่ได้!!

    หนุ่มนักศึกษาใจงาม ช่วยเหลือญาติที่ตั้งท้อง เลี้ยงดูเธอและลูกน้อยจนสามารถสร้างชีวิตใหม่ได้!!

    แม้ว่าปัจจุบันนี้คนเรามักจะมองแต่ผลประโยชน์ส่วนตน แต่ถ้าให้พูดถึงในเรื่องของเครือญาติกันถึงแม้จะเป็นญาติห่างๆ เมื่อตกที่นั่งลำบาก ก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธการช่วยเหลือได้ อย่างเช่นเรื่องราวอันน่าประทับใจของพ่อหนุ่มนักศึกษาชาวออสเตรเลียผู้นี้     พ่อหนุ่มนักศึกษาวัย 23 ปี Tommy Connolly จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งในขณะที่เขากำลังศึกษาอยู่ที่ University of the Sunshine Coast นั้นได้ข่าวคราวเกี่ยวกับญาติห่างๆ ของเขา ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ไม่เจอหน้ากันมานานกว่า 10 ปีแล้ว     โดยที่เธอนั้นได้กลายมาเป็นคนไร้บ้าน นอนข้างถนน ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีรองเท้าใส่ ไม่ได้เรียนหนังสือ แถมยังอุ้มท้องมานานถึง 8 เดือนแล้วด้วย เธอหมดหนทางแล้ว ไม่รู้จะพึ่งพาใครได้ สืบทราบมาว่าสามีของเธอนั้นติดคุก พ่อแม่ของเธอก็ไม่สนใจใยดีอีกด้วย Tommy จึงตัดสินใจช่วยเหลือลูกพี่ลูกน้องโดยมาอยู่ภายใต้การดูแลของเขา ซึ่งเป็นห่วงว่าจะเกิดอันตรายกับตัวเธอเองและลูกในท้องถ้าหากปล่อยให้มีชีวิตแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แท้งลูกเนื่องจากหมดหวังในชีวิต     เมื่อมีอีกสองชีวิตเข้ามาอยู่ในความรับผิดชอบของเขา ก็จะต้องเตรียมพร้อมกับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าบ้าน ค่าทำคลอด ค่าเลี้ยงดูเด็กที่กำลังจะคลอดออกมา เขาจึงหางานพิเศษทำไม่ว่าจะเป็นขายผักและผลไม้ รวมไปถึงการเป็นเทรนเนอร์ฝึกซ้อมกีฬาต่างๆ     และแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ทั้งคุณแม่และลูกมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ อีกทั้งสุขภาพจิตก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ…

  • 22 ภาพของเหล่าเจ้าตูบไร้บ้าน ที่มีความสุขสุดๆ เพราะในที่สุดก็มีคนรับไปเลี้ยง

    22 ภาพของเหล่าเจ้าตูบไร้บ้าน ที่มีความสุขสุดๆ เพราะในที่สุดก็มีคนรับไปเลี้ยง

    เห็นภาพแบบนี้แล้วเหมียวดีใจจริงๆ ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ก็ต้องการความรักความอบอุ่นกันทั้งนั้น วันนี้เหมียวก็มีภาพ 22 ภาพของเหล่ามะหมาที่มีความสุขสุดๆ เพราะมีคนรับไปเลี้ยงแล้วล่ะ เห็นแล้วยิ้มตามเลยทีเดียว   ได้ครอบครัวใหม่แล้ว ^^   มีความสุขสุดๆ ไปเลย   ยิ้มร่าเลยทีเดียว   เห็นความสุขในแววตา   น้องหมาตาสองสี   หลับทั้งคนทั้งหมา   ยิ้มหน้าบานกว่านี้ไม่มีแล้ว ><   ปะ กลับบ้านกัน   รักคนนี้เลยฮ๊าบบบบ   หน้าตาแบบ ตูรอดแล้วววว   ที่นอนใหม่สบายจริงๆ   อุ้มหน่อยยย   หน้าฟินมาก   ดวงตาเป็นประกาย   ไปกันเลยค้าบบบบบ   ไปเที่ยวกัน   ดีใจจริงๆ   สุดท้ายแล้ว   อย่าลืมว่า   แม้แต่สัตว์ก็ต้องการความรักความอบอุ่นเหมือนกันนะจ๊ะ   ไม่ใช่แต่แบบให้อาหารแล้วไม่ให้เวลานะจ๊ะ  …

  • เด็กชายวัย 9 ขวบ ตั้งโต๊ะทำการบ้านริมถนน อาศัยแสงไฟจากร้านแม็คโดนัลด์

    เด็กชายวัย 9 ขวบ ตั้งโต๊ะทำการบ้านริมถนน อาศัยแสงไฟจากร้านแม็คโดนัลด์

    ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเรานั้นแตกต่างกัน ยังมีคนจำนวนมากที่ไม่มีโอกาสเหมือนกับคนทั่วไป ถึงแม้ว่าชีวิตที่ต้องพบกับความยากลำบาก แต่ก็ไม่ย่อท้ออย่างเช่นเด็กชายวัย 9 ขวบชาวฟิลลิปปินส์ผู้นี้     ภาพนี้ถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์ โดยเด็กชายที่ปรากฏอยู่ในภาพนี้คือ Daniel Cabrera วัย 9 ขวบ ซึ่งก่อนหน้าที่บ้านของเขาประสบกับเหตุไฟไหม้ ทำให้ครอบครัวของเขากลายเป็นคนไร้บ้านทันที แม้ว่าจะไม่มีบ้าน เขายังไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา ยังมีโอกาสเรียนหนังสืออยู่ เขาจึงอาศัยแสงไฟจากจากภายนอกร้านแม็คโดนัลด์ ตั้งโต๊ะทำการบ้านทุกๆ วัน     หนุ่มน้อย Daniel กล่าวเอาไว้ว่า ไม่ว่าจะแย่ซักแค่ไหน เขาก็จะตั้งใจเรียนให้จบ เพื่อในอนาคตเขาจะช่วยเหลือครอบครัวของตัวเองได้ โดยหลังจากที่ภาพนี้ได้แพร่กระจายไปตามสื่อออนไลน์แล้ว ทางหน่วยงานต่างๆ ก็ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่มา : mirror