Tag: ไกล

  • หนุ่มแคนาดา ปั่นจักรยาน 650 กม. จากบ้านมาร่วมงานแข่งจน “ชนะเลิศ” แล้วก็ปั่นกลับบ้าน…

    หนุ่มแคนาดา ปั่นจักรยาน 650 กม. จากบ้านมาร่วมงานแข่งจน “ชนะเลิศ” แล้วก็ปั่นกลับบ้าน…

    การปั่นจักรยานเป็นอีกแบบหนึ่งในการออกกำลังกายที่ดี แถมสนุกและยังได้เดินทางไปยังที่ต่างๆ อีกด้วย หลายคนอาจคิดว่าการปั่นจักรยานนั้นง่ายและสบาย แต่หากคุณต้องปั่นเป็นระยะทางไกลๆ มันอาจไม่สบายอย่างที่คิด ล่าสุดในงานแข่งขันจักรยานระยะทาง 100 กิโลเมตร Big Red Gravel Run ที่จัดขึ้นเมืองแฮร์ริงตัน รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา ชายหนุ่มวัย 31 ปีที่ชื่อว่า Kyle Messier ก็ได้รับชัยชนะในงานแข่งขันนี้ไป แต่สิ่งที่น่าทึ่งก็คือชายคนนี้ปั่นจักรยานมาจากเมืองวอเตอร์ลู รัฐออนแทริโอ ซึ่งมีระยะทางกว่า 650 กิโลเมตร (ประมาณกรุงเทพฯ-ลำพูน) เพื่อมาเข้าร่วมงานแข่งขันในครั้งนี้ แถมหลังแข่งเสร็จไม่กี่ชั่วโมงเขาก็ปั่นกลับบ้าน     การเดินทางของ Kyle จากบ้านมาถึงสถานที่แข่งขันใช้เวลาราว 3 วันครึ่ง โดยหลังจากที่เขาได้รับชัยชนะจากการแข่งขันแล้วเขาก็ทานพิซซ่าและงีบไป 2-3 ชั่วโมงก่อนที่จะออกเดินทางปั่นจักรยานกลับบ้านอีก 650 กิโลเมตร Kyle ถือได้ว่าเป็นนักปั่นที่อึดและเก่งกาจอย่างมาก เขาชนะการแข่งขันนี้ได้แม้ว่าตนจะปั่นจักรยานมาแล้วกว่า 650 กิโลเมตร แถมขณะแข่งขันเขายังต้องอดทนกับอาการปวดฟันที่เกิดจากตุ่มหนองอีกด้วย   Kyle Messier ช่างเครื่องวัย 31 ปี   เคล็ดลับของ Kyle…

  • น้องหมาหายตัวไปจากบ้าน อีกปีครึ่งมาโผล่อยู่คนละฟากประเทศ มาได้ยังไงว้า??

    น้องหมาหายตัวไปจากบ้าน อีกปีครึ่งมาโผล่อยู่คนละฟากประเทศ มาได้ยังไงว้า??

    สัตว์เลี้ยงหลงทางเป็นเรื่องที่ศูนย์พักพิงพบเจออยู่เป็นประจำ จึงไม่มีอะไรน่าแปลกใจเมื่อมีหมาหลงทางโผล่มาให้พวกเขาช่วยส่งกลับบ้าน แต่เจ้าหมาตัวนี้ทำเอาทุกคนตกตะลึงไปเลย เมื่อได้รู้ว่ามันหลงมาไกลจนถึงอีกฟากของประเทศ! เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากหนุ่ม Adam Herbaugh จากเมืองรอร์ริ่งสปริง รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างที่เขาพาหมาของตัวเองออกไปเดินเล่น ก็มีหมาอีกตัวหนึ่งเดินตามเขามา แถมตามติดจนกลับมาถึงบ้านแล้วก็ยังไม่ยอมไปไหนเลย     เขาเห็นว่ามันเชื่องผิดปกติ น่าจะเป็นหมาของคนอื่นที่หลงทาง เขาก็เลยพามันไปส่งที่โรงพยาบาลสัตว์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยแสกนดูไมโครชิปให้ จะได้รู้ว่ามันมาจากไหน เมื่อสแกนดูแล้วทุกคนก็ตกใจมาก เพราะไมโครชิประบุว่าเจ้า Jake มีเจ้าของอยู่ที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซน่า ซึ่งอยู่คนละฝั่งประเทศเลย แปลว่ามันหลงมาไกลถึง 2,000 ไมล์เลยทีเดียว (ประมาณ 3,200 กิโลเมตร)   ถึงจะขี้หลงทางแค่ไหน ก็ไม่น่าจะไกลได้ขนาดนี้นะ!?   เมื่อติดต่อไปหาเจ้าของก็ได้รู้ว่ามันหายออกจากบ้านไปเมื่อครึ่งปีก่อน พวกเขาพยายามตามหามันแล้วแต่ก็ไม่เจอตัว เพิ่งจะรู้ตอนนี้นี่แหละว่ามันหลงไปไกลขนาดนั้น ทางโรงพยาบาลสัตว์คาดว่ามันน่าจะติดมากับคนขับรถบรรทุกสักคันหนึ่งเพราะที่รัฐนี้ก็มีรถบรรทุกเข้าออกเยอะ แต่ใครจะไปรู้ล่ะ มันอาจจะเดินเท้ามาเองจนถึงที่นี่จริงๆ ก็ได้     ยังไงก็ตามมันหลงทางมาได้ยังไงไม่สำคัญหรอก ปัญหาคือการส่งตัวมันกลับต่างหาก เพราะครอบครัวของมันมีเด็กเล็กแล้ว ก็เลยไม่สามารถมารับได้ แล้วทางโรงพยาบาลก็คงออกค่าใช้จ่ายในการขนส่มันไม่ไหวด้วย พวกเขาก็เลยใช้วิธีโพสต์หาอาสาสมัครออนไลน์ที่จะขับรถไปส่งเจ้าหมาทีละรัฐ เพราะถ้าช่วยกันคนละนิดคนละหน่อย เจ้าหมาก็คงจะเดินทางกลับบ้านได้ไม่ยาก โชคดีมากที่มีคนเต็มใจช่วยมันเยอะแยะเลย หลังจากที่เจอมันแค่ 5 วัน มันก็เลยได้เริ่มออกเดินทางกลับไปที่บ้านแล้ว…

  • หนุ่มเมา…เรียกอูเบอร์จากเวอร์จิเนียไปส่งที่นิวเจอร์ซี่ย์ ระยะทาง 750 กิโลฯ โดนค่าส่งไปครึ่งแสน!!

    หนุ่มเมา…เรียกอูเบอร์จากเวอร์จิเนียไปส่งที่นิวเจอร์ซี่ย์ ระยะทาง 750 กิโลฯ โดนค่าส่งไปครึ่งแสน!!

    บางครั้งความเมา ก็เป็นเหตุที่ทำให้เราทำเรื่องบ้าๆ ได้แบบที่ไม่เคยมีใครคาดคิดได้เหมือนกัน….   เช่นเดียวกับนาย Kenny Bachman หนุ่มผู้น่าสงสารที่ดื่มหนักจนเมาแอ๋ หลังจากที่ออกจากผับพี่แกก็เรียก Uber พร้อมให้ไปส่งข้ามรัฐจนเสียเงินค่าบริการไปครึ่งแสน (51,444 บาท)!!     ในคืนวันเกิดเหตุ Kenny ออกไปดื่มเหล้าที่บาร์ใน West Virginia เสียเงินไปกับการดื่มแบบขำๆ ประมาณ 200 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6,600 บาท) ก่อนที่จะลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วรู้ตัวว่าตนเองอยู่บนรถของใครก็ไม่รู้ “ตอนผมตื่นมาก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่เบาะหลังรถของชายแปลกหน้า จากนั้นก็เริ่มถามสิ่งที่เกิดขึ้นจากเขา” Kenny เล่าถึงเหตุการณ์ พบว่า Kenny ได้โทรเรียก Uber พร้อมบอกให้ไปส่งที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างออกไปไกลถึงรัฐ New Jersey เป็นระยะทางกว่า 750 กิโลเมตร มีค่าบริการทั้งหมด 1,635.93 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 51,444 บาท (อธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ ก็จากเชียงรายไปกรุงเทพฯ นั่นแหละ) พอ Kenny ตื่นขึ้นมาก็พบว่าอีก 1 ชั่วโมงก็ถึงบ้านเขาแล้ว ซึ่งทางคนขับก็บอกว่าก่อนหน้านี้ก็ขับมาเป็นเวลานานกว่า 6…

  • เจ้าแมวหนุ่มออกจากบ้านทุกวันจนเจ้าของสงสัย สะกดรอยตามเกือบ 10 กิโล พบว่าเอ็ง… ติดสาว!!

    เจ้าแมวหนุ่มออกจากบ้านทุกวันจนเจ้าของสงสัย สะกดรอยตามเกือบ 10 กิโล พบว่าเอ็ง… ติดสาว!!

    เคยเป็นมั้ยเวลาที่คิดถึงใครสักคนจนต้องหยิบโทรศัพท์รีบโทรหาหรือไม่ก็เฟซไทม์เห็นหน้ากันซะหน่อย แต่ถ้าหากเราเป็นแมวละเราจะทำอย่างไรเวลาคิดถึงคนที่เรารัก? เมื่อเจ้าเหมียวหนุ่มตัวหนึ่งชอบวิ่งหายออกไปจากบ้านทุกวันจนเจ้าของของมันรู้สึกสงสัยว่ามันไปไหนของมันกันนะ เขาจึงตัดสินใจที่จะลองหาคำตอบของเรื่องนี้ดู   แหน่ะ!! แอบวิ่งออกไปไหนน่ะ   ด้วยการสะกดรอยตามเจ้าเหมียวทำให้พบว่าที่มันหายออกไปตลอดก็เพราะมันวิ่งไปหาแฟนสาวของมันที่อยู่บ้านอีกหลังหนึ่งนี่เอง สิ่งที่น่าทึ่งก็คือมันวิ่งในระยะทางถึง 8 กิโลเมตรเลยทีเดียวเรียกว่าไม่ธรรมดาสำหรับภารกิจวิ่งเพื่อเธอในครั้งนี้เลยจริงๆ   ถึงขาจะล้าแต่ใบหน้าของเธอฉันต้องไปเจอให้ได้เลย สู้โว้ยยย   น่าพาไปวิ่งมาราธอนจริงๆ เลยนะเจ้าเหมียว   เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วผู้ที่เป็นคนเจ้าของจึงตัดสินใจปล่อยให้มันอยู่ที่บ้านหลังนั้นไปซะเลย เพราะเขาก็คงไม่อยากที่จะพรากคู่รักให้ห่างจากกันแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็จะขับรถไปเยี่ยมหาหรือซื้ออาหารไปให้มันกับแฟนสาวอยู่บ่อยๆ   รักกันขนาดนี้แล้วใครจะไปแยกมันทั้งสองได้ลงคอกันละ   นอกจากที่เจ้าของแมวสาวตัวนั้นจะยอมให้มันได้มาเจอและเข้ามาอยู่ด้วยแล้ว สิ่งที่สำคัญก็คือเจ้าเหมียวมันมีลูกน้อยที่น่ารักอยู่ด้วยถึง 2 ตัวเรียกว่าครบความเป็นครอบครัวเรียบร้อยแล้ว   เหมียวน้อยอีก 2 ตัวก็ตั้ลล๊ากกก   วิดีโอของยอดเหมียวหนุ่มผู้วิ่งไกลถึง 8 กิโลเมตรเพื่อรักแท้   เห็นแล้วก็รู้สึกอมยิ้มให้กับความพยายามและรักอันหวานชื่นของเจ้าเหมียวตัวนี้จริงๆ ไม่ว่าตัวจะอยู่ไกลกันแค่ไหนแต่ใจก็ไม่เคยห่างกันเลยยย   วิ่งมาไกลขนาดนี้ก็ขอพักซักหน่อยนะ.. คร่อกกก   ที่มา: SBS TV동물농장x애니멀봐

  • สุดซึ้ง… พ่อปั่นจักรยานไกล 2,300 กม. เพื่อไปฟังเสียงหัวใจลูกสาว ที่เต้นอยู่ในร่างชายอีกคน

    สุดซึ้ง… พ่อปั่นจักรยานไกล 2,300 กม. เพื่อไปฟังเสียงหัวใจลูกสาว ที่เต้นอยู่ในร่างชายอีกคน

    สำหรับหัวอกของคนเป็นพ่อเป็นแม่แล้ว คงไม่มีสิ่งไหนที่จะสำคัญไปกว่าชีวิตของลูกสุดที่รัก และสิ่งที่จะทำให้พวกเขาเศร้าได้มากที่สุด ก็คือการจากไปของลูก.. เช่นเดียวกับ Bill Conner ชายหนุ่มที่ได้สูญเสีย Abbey ลูกสาววัย 20 ไปจากอุบัติเหตุทางน้ำ แต่การจากไปของเธอก็นำมาซึ่งชีวิตใหม่ของชายอีกคนหนึ่ง   ด้วยความรู้สึกคิดถึงลูกสาวอย่างสุดขั้วหัวใจ ทำให้คุณพ่อตัดสินใจปั่นจักรยานเป็นระยะทางไกลกว่า 2,300 กม. เพื่อมาพบกับชายที่ชื่อว่า Loumonth Jack Jr.   ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 5 เดือนก่อน Abbey ประสบอุบัติเหตุทางน้ำ มีเจ้าหน้าที่ไปพบตัวเธอและพี่ชายนอนสลบอยู่ในสระน้ำอย่างขาดสติ โชคดีที่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือทั้งสองคนมาได้ แต่น่าเศร้าที่สมองของ Abbey ได้รับความเสียหายมากเกินไปทำให้ทีมแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตเธอไว้ได้   ช่วงก่อนที่เธอจะจากไป ครอบครัวได้ทำเรื่องบริจาคอวัยวะไว้ และการจากไปของ Abbey ก็ได้ต่อชีวิตให้กับชายคนหนึ่ง   หัวใจของลูกสาวเพียงคนเดียวถูกนำไปบริจาคให้กับ Loumonth Jack Jr. ชายหนุ่มชายเมืองหลุยเซียน่า และทันทีที่พ่อของเธอรู้ว่าหัวใจของลูกสาวอยู่ในตัวชายคนนี้ เขาก็รีบเดินทางไปเยี่ยมเยียนทันที “ตอนนี้คนเดียวที่ได้รับบริจาคอวัยวะจากลูกสาวผม ก็คือ Loumonth ไม่น่าเชื่อว่าหัวใจของเธอจะสามารถช่วยต่อลมหายใจให้กับเขาได้ ผมจึงติดต่อหน่วยงานให้ประสานงานติดต่อว่าผมอยากเดินทางไปพบเขา” คุณพ่อเล่า   ภาพถ่ายครอบครัวของ Bill Conner   หลังจากนั้นคุณพ่อก็ได้ปั่นจักรยานเดินทางจากรัฐวิสคอนซินสู่เมือง Baton…

  • ตามดูชีวิต “ดานี” ชนเผ่าที่ห่างไกลโลกมากที่สุด  วิถีการเป็นอยู่ที่ไม่มีใครเคยเห็น!!

    ตามดูชีวิต “ดานี” ชนเผ่าที่ห่างไกลโลกมากที่สุด วิถีการเป็นอยู่ที่ไม่มีใครเคยเห็น!!

    โลกเรานี้ยังมีคนอีกหลายกลุ่มที่เรายังไม่ได้รู้จัก เราอาจจะเคยเห็นพวกเขาผ่านสารคดีมาก่อนแล้ว แต่บางครั้งเราก็ไม่ได้เห็นถึงความเป็นอยู่แบบชัดๆ และนี่ก็เป็นโอกาสดีที่เราจะได้ไปรู้จักกับชนเผ่าดานี อีกทั้งชนเผ่านี้ยังมีวัฒนธรรมแปลกๆ ที่เราเห็นแล้วยังรู้สึกกลัวได้เลย เราไปดูกันว่าวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเขาจะเป็นยังไงกันบ้าง   พวกเขามักจะเอาชิ้นส่วนจากสัตว์มาประดับตามร่างกายตัวเอง โดยเฉพาะนักรบท่านนี้   เผ่าดานีอาศัยอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย มีประชากรในเผ่าประมาณ 250,000 คน และอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง เรียกได้ว่าไม่มีความเจริญเข้าถึงพวกเขาเลย แต่ก็สามารถดำรงอยู่ได้ท่างกลางเทือกเขาไซคลอปส์ ชนเผ่านี้ถูกค้นพบโดยนักสำรวจชาวอเมริกัน Richard Archbold โดยไม่ได้ตั้งใจในปี 1938 หลังจากนั้นเป็นต้นมา ชนเผ่าดานีก็เป็นที่รู้จักด้วยเอกลักษณ์และวิถีชีวิตที่ไม่เหมือนใคร ภาพทั้งหมดนี้เป็นภาพของช่างภาพ Teh Han Lin จากสิงคโปร์ที่ได้ถ่ายไว้ระหว่างไปเยือนชุมชนแห่งนี้เป็นเวลา 4 วัน   ภาพผู้หยิงชนเผ่าดานีกำลังสูบบุหรี่ ทำให้เราได้เห็นนิ้วของเธอที่ถูกตัดออกไปด้วย ซึ่งเป็นอีกความเชื่อหนึ่งเมื่อมีคนรักหรือคนในครอบครัวเสียชีวิต   งานเทศกาลในชนเผ่า   เด็กๆ กำลังยิ้มให้กล้อง   ภาพของผู้สูงอายุ   ชนเผ่าดานีกำลังเตรียมพร้อมกับเทศกาล   ผู้หญิงและเด็กใช้ชนเผ่า   เด็กสาวและเด็กหนุ่มกำลังนั่นอยู่หน้ากระท่อม   นักรบประจำชนเป่าที่เต็มไปด้วยการแต้มสี   นักรบหนุ่มพร้อมกับอาวุธ   เตรียมทำอาหาร  …

  • หญิงสาวพลาดทำ “เครื่องตัดหญ้าโดนกบ” ขึ้นเครื่องบินกว่า 1,000 กม. เพื่อหาหมอเฉพาะทาง!!

    หญิงสาวพลาดทำ “เครื่องตัดหญ้าโดนกบ” ขึ้นเครื่องบินกว่า 1,000 กม. เพื่อหาหมอเฉพาะทาง!!

    หลายคนที่เคยใช้เครื่องตัดหญ้า ก็คงเคยมีประสบการณ์ตัดโดนสิ่งมีชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจ วินาทีนั้นเป็นอะไรที่รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก Min Tims จากเมืองควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียก็เพิ่งประสบกับเหตุการณ์นี้มาเลย เธอได้เผลอทำเครื่องตัดหญ้าไปโดนใส่กบ จนต้องพามันไปหาหมอ โดยต้องเดินทางไกลถึง 1,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว   ทั้งหมดนี้เป็นอุบัติเหตุที่เธอไม่ได้ตั้งใจและเธอรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก อีกทั้งกบตัวนี้เป็นกบที่ค่อนข้างหายากในประเทศออสเตรเลียด้วย และดูจากบาดแผลของมันแล้วค่อนข้างหนักพอสมควร เธอจึงตัดสินใจพาไปโรงพยาบาลที่ชื่อว่า Safe Frog ทันที เมื่อคุณหมอดูอาการแล้ว บอกเลยว่าหนัก เพราะเนื้อเยื่อฉีกขาดเยอะมาก และมีการติดเชื้อ   โชคยังดีที่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้มันอาการดีขึ้น เหตุการณ์นี้ทำให้หลายคนถึงกับงงเลยว่ากบตัวแค่นี้ถึงกับต้องลงทุนบินมาไกลเพื่อเอามารักษาเลยเหรอ!? แต่เธอก็ได้ตอบไปอย่างสวยๆ ว่า “ความเมตตาและความเห็นอกเห็นใจทุกสิ่งทุกอย่าง คืออนาคตของโลกใบนี้ ถ้าเรายังเมินเฉยต่อสิ่งที่ต้องการความช่วยเหลือ แม้กระทั่งสัตว์ตัวเล็กๆ สุดท้ายแล้ว เรานี่แหละจะเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ควรได้รับการช่วยเหลือ” ที่มา boredpanda

  • ยอดมนุษย์ตัวจริงสภาพร่างกายแข็งแกร่ง สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 500 กิโลเมตรโดยไม่ต้องพัก!!

    ยอดมนุษย์ตัวจริงสภาพร่างกายแข็งแกร่ง สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 500 กิโลเมตรโดยไม่ต้องพัก!!

    มนุษย์ธรรมดาๆ อย่างเราๆ ทั้งหลายที่เกิดมาตามปกติ ทำทุกสิ่งทุกอย่างได้พอๆ กัน จะแตกต่างกันที่ไลฟ์สไตล์ที่ส่งผลต่อสภาพร่างกาย แต่ไม่มีใครที่เกิดมาพร้อมกับสภาพเหนือมนุษย์เหมือนอย่างในตัวละครภาพยนตร์หรือการ์ตูนหรอก     แต่มันไม่ใช่สำหรับผู้ชายวัย 53 ปีผู้นี้ Dean Karnazes ผู้ที่มาพร้อมกับสภาพร่างกายอันแข็งแกร่งมากกว่ามนุษย์ทั่วไป โดยที่พันธุกรรมของเขานั้นเป็นชนิดพิเศษที่ว่าไม่มีอาการปวดร้าวใดๆ ไม่มีอาการภาวะหายใจเกินในระหว่างที่เขาวิ่งเลย!!     เขาสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 500 กิโลเมตรแบบชิวๆ ภายในเวลา 80 ชั่วโมง 44 นาที โดยที่ไม่ต้องพักเลยด้วยซ้ำ ซึ่งร่างกายของเขานั้นสามารถกำจัดกรดแล็กทิกได้อย่างรวดเร็ว อันเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดเมื่อยจากการออกแรงต่างๆ อย่างหนักนั่นเอง ทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อย ไม่รู้สึกปวด อะไรใดๆ ทั้งสิ้น     Dean กล่าวว่า ‘ผมวิ่งตลอดระยะเวลาสามวัน โดยที่ไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน และในวันที่สามของการไม่ได้นอนนั้นก็บ้อบอไปหน่อย เพราะในระหว่างที่ผมกำลังวิ่งนั้นก็เกิดอาการหลับใน แต่ถึงแม้จะหลับก็ยังคงวิ่งต่อไปอย่างนั้น’     เขาเริ่มสังเกตว่าตัวเองแตกต่างจากคนอื่นเป็นครั้งแรกก็เมื่อปีค.ศ. 2006 ในระหว่างที่กำลังตัวพร้อมร่างกายก่อนที่จะแข่งขันวิ่งมาราธอน 50 รายการเป็นเวลา 50 วันอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงปัจจุบันนี้เขาก็ยังไม่หยุดวิ่ง วิ่งออกกำลังกายในทุกๆ…

  • อุทาหรณ์… สถานบำบัดสั่งเด็กออทิสติกวัย 3 ขวบ เดินเท้ากว่า 19 กิโลฯ จนเสียชีวิต อ้างเพื่อรักษา?!?

    อุทาหรณ์… สถานบำบัดสั่งเด็กออทิสติกวัย 3 ขวบ เดินเท้ากว่า 19 กิโลฯ จนเสียชีวิต อ้างเพื่อรักษา?!?

    กลายเป็นเรื่องราวที่สะเทือนขวัญคนทั้งประเทศจีนเลยทีเดียว หลังจากมีข่าวว่า มีเด็กออทิสติกคนหนึ่งถูกบังคับให้เดินกลางแดดกว่า 19 กิโลเมตรจนเสียชีวิตคาที่ โดยทางสถานบำบัดอ้างว่าเป็นหนึ่งในกระบวนการรักษา เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เมื่อนาง Zhang Wei ได้รับแจ้งจากสถาบำบัดโรคออทิสติกว่า ลูกชายของเธอ Jiajia เสียชีวิตแล้วและให้มารับศพกลับไป     เธอเล่าว่าเมื่อเธอได้เห็นศพของลูกชาย เธอแทบช็อคไปเลย เพราะลูกชายของเธอทั้งผอม ทั้งเกรียมแดด และมีรอยถลอกทั่วร่างกาย วันที่ลูกชายของเธอเสียชีวิตนั้น เขาถูกบังคับให้ใส่เสื้อหนาๆ แล้วถูกบังคับให้เดินกว่า 10 กิโลเมตรหลังจากทานอาหารเช้า และกลับมาพักให้ทานอาหารเที่ยง และให้ออกไปเดินอีก 9 กิโลเมตร     การฝึกเช่นนี้เป็นสิ่งที่สถานบำบัดโรคออทิสติกเอกชนแห่งหนึ่งชื่อว่า Tiandao Zhengqi ที่เป็นประจำ พวกเขาเชื่อว่าโรคออทิสติกเกิดขึ้นจากความขี้เกียจและความสปอยด์ในการเลี้ยงดูของพ่อแม่ พวกเขาบอกว่าการจะรักษาโรคออทิสติก ต้องให้เด็กๆ ฝึกฝนร่างกายอย่างหนัก อย่างเช่นการบังคับให้เดินวันละ 10 ถึง 20 กิโลเมตร และมีการจำกัดปริมาณอาหารที่เด็กรับประทานในแต่ละมื้ออีกด้วย     ครอบครัวของ Zhang Wei มาจากทางตอนเหนือของมณฑลเหลียวหนิง เธอเล่าว่า Jiajia มีพัฒนาการค่อนข้างช้า และมักปฏิบัติการสื่อสารกับผู้อื่น…

  • ชายแก่วัย 71 ช่วยชีวิต ‘เจ้าเพนกวิ้น’ มันเลยว่ายน้ำ 8,000 กิโล เพื่อกลับมาหาเขาทุกปี!!

    ชายแก่วัย 71 ช่วยชีวิต ‘เจ้าเพนกวิ้น’ มันเลยว่ายน้ำ 8,000 กิโล เพื่อกลับมาหาเขาทุกปี!!

    ที่ประเทศบราซิล เป็นเรื่องต้องห้ามที่คุณจะเลี้ยงสัตว์ป่าได้เพราะว่ามันผิดกฎหมาย แต่ไม่ว่ากฎหมายจะกำหนดไว้ยังไง เจ้าเพนกวิ้นที่ชื่อว่า Dindim ตัวนี้ก็พร้อมที่จะกลายเป็นเพื่อนกับมนุษย์คนหนึ่งที่เคยช่วยชีวิตมันไว้ตั้งแต่ปี 2011 Joao Pereira de Souza อดีตช่างปูนและชาวประมงวัย 71 ปี ได้พบเจอกับเจ้า Dindim เพนกวิ้นสายพันธุ์มาเจลลันอเมริกาใต้ซึ่งตอนนั้นทั้งตัวของมันเต็วไปด้วยคราบน้ำมันและใกล้ตาย เขาก็เลยตัดสินใจพามันไปรักษา ดูแลมันจนกลับมามีสุขภาพที่ดี     เขาพบว่าเจ้าเพนกวิ้นไม่อาจจะไปจากเขาเลย แต่ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ แต่ไม่น่าเชื่อว่าในปีต่อมา เจ้า Dimdim ก็ได้ว่ายน้ำกลับมาหาเขาอีกครั้ง และทำแบบนี้ในปีต่อๆ ไปเรื่อยมา เขาให้สัมภาษณ์กับ Globo TV ว่า “ผมรักเพนกวิ้นเหมือนลูกคนหนึ่ง และผมก็เชื่อว่ามันก็รักผมด้วย คนอื่นจับตัวมันไม่ได้นะ อาจจะโดนจิกเอาได้ และมันก็ชอบมานอนที่ตักผม ให้ผมอาบน้ำให้ ให้ผมป้อนอาหารและอุ้มด้วย”   “ใครๆต่างก็พูดว่ามันไม่กลับมาหรอก แต่หารู้ไม่ว่ามันกลับมาให้ผมตลอด 4 ปีที่ผ่านมาเลย”   ในตอนแรกมันอยู่กับเขานาน 11 เดือน แล้วมันก็จากไป แต่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะกลับมาหาเขาในทุกๆปี โดยการว่ายน้ำกว่า 8,000 กิโลเมตร . .…

  • และนี่ก็คือ ‘จดหมายสุดโรแมนติก’ ที่คู่รักอยู่คนละประเทศ คอยส่งถึงกันเพื่อให้ความหวานยังคงเดิม

    และนี่ก็คือ ‘จดหมายสุดโรแมนติก’ ที่คู่รักอยู่คนละประเทศ คอยส่งถึงกันเพื่อให้ความหวานยังคงเดิม

    สำหรับคนที่มีแฟนแล้ว คงเป็นเรื่องที่ทำใจยากมากๆ กับการที่ต้องจากคนรักไปไกลแสนไกล จนบางทีแทบไม่ได้เจอหน้ากันเลย จะคุยกันแต่ละทีก็ต้องวิดีโอคอลหรือไม่ก็แชทคุยกัน แต่สำหรับกราฟฟิคดีไซเนอร์ชื่อว่า Mikki Miller เธออาศัยอยู่ที่มินนิสโซต้า, อเมริกา เธอได้ทำวิธีกระชับความสัมพันธ์สุดโรแมนติกขึ้นมา ถึงแฟนของเธอที่ชื่อว่า Tyson Noël ที่อยู่ในแคนาดา และในระหว่างที่เธอไปหาเขาในช่วงปีใหม่ เธอก็ได้แอบทำจดหมายบางอย่างไปเซอร์ไพรส์เขาด้วยล่ะ   มันเป็นธรรมดาสำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เวลากลับจากที่ทำงานมาเหนื่อยๆ เราก็ต้องการที่คนที่มากอดเรา มาคอยพูดคุยกับเรา แต่สำหรับคู่นี้มันเป็นไปได้ยากมากๆ เธอก็เลยทำให้กระเป๋าใบนี้กับแฟนหนุ่มไป   เมื่อเปิดออก ก็จะเห็นซองจดหมายมากมายที่เธอซ่อนไว้ ซึ่งแต่ละซองก็จะมีข้อความเขียนไว้อยู่   แต่ละซองนั้นจะเขียนให้แฟนเขอเปิดออกเมื่อรู้สึกอะไรบางอย่าง เช่น “เปิดเมื่อรู้สึกเหงา” “เปิดเมื่อรู้สึกอยากได้อะไรหวาน” “เปิดเมื่อโกรธฉันอยู่”   เห็นแล้วอิจฉาคู่นี้เลยจริงๆ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็สามารถหาวิธีที่ทำให้เหมือนอยู่ด้วยกันตลอดเวลาได้ ใครมีแฟนแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ลองเอาวิธีนี้ไปใช้ดูนะ ที่มา boredpanda

  • ไม่น่าเชื่อเลยนะว่า 10 สิ่งรอบตัวธรรมด๊าธรรมดา จะสามารถนำมาใช้แทน ‘ไม้เซลฟี่’ ได้

    ไม่น่าเชื่อเลยนะว่า 10 สิ่งรอบตัวธรรมด๊าธรรมดา จะสามารถนำมาใช้แทน ‘ไม้เซลฟี่’ ได้

    ‘ไม้เซลฟี่’ ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สุดเจ๋ง ที่สามารถช่วยให้การถ่ายรูปของเราดูง่าย และสะดวกขึ้น คุณสามารถถ่ายรูปในมุมกว้าง หรือถ่ายรูปหมู่กับแก๊งเพื่อนๆ ได้อย่างสบายๆ โดยมี ‘ไม้เซลฟี่’ เพียงไม้เดียวเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า ผู้คนที่ใช้สมาร์ทโฟนมักจะมีไม้เซลฟี่พกติดตัวไว้เสมอ แต่ทว่าอีกมุมหนึ่งของโลกยังมีผู้คนจำนวนไม่น้อย ที่ได้คิดค้นไม้เซลฟี่ขึ้นมาเองในแบบที่เกรียนสุดๆ ว่าแต่ไม้เซลฟี่ที่เหล่าอัจฉริยะทั้งหลายได้คิดค้นขึ้นมาจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรนั้น ไปดูเลย   โอ้ววว การคว้าสิ่งรอบตัวมาทำเป็นไม้เซลฟี่ ก็ถือเป็นไอเดียที่ดีเหมือนกันนะเหมียว   ในเวลานี้ หากคุณไม่มีไม้เซลฟี่เอาไว้ถ่ายรูปหมู่กับเดอะแก๊ง คุณสามารถใช้ ‘เท้า’ แทนได้   บางทีคนใกล้ตัวก็สามารถกลายมาเป็นไม้เซลฟี่ได้   หลอกคนดูว่าใช้ไม้เซลฟี่ถ่ายรูป แต่ที่จริงคือไม้ถูพื้น 0.0   ก็ไม้เซลฟี่มันแพง เลยขอยืมอุปกรณ์ใกล้ตัวมาใช้ก่อนก็แล้วกัน   เอาตามที่สบายใจก็แล้วกัน ฮ่าๆ   ไม้เซลฟี่ที่เหล่าอัจฉริยะได้สร้างขึ้นมา มีแต่เกรียนๆ ทั้งนั้นเลยนะเนี่ย ส่วนใครที่ยังไม่มีไม้เซลฟี่ หรือไม่รู้จะไปหาซื้อที่ไหน อุปกรณ์รอบตัวของคุณ ไม่ว่าจะเป็น ไม้กวาด หรือไม่ถูพื้น สามารถใช้แทนไม้เซลฟี่ได้เป็นอย่างดีเลยละ ฮ่าๆ ที่มา : wittyfeed

  • 10 แฟชั่นไม่แคร์โลกของสาวๆ ที่หลายคนเห็นแล้วต้องยอมใจในความมั่นของพวกเธอจริงๆ

    10 แฟชั่นไม่แคร์โลกของสาวๆ ที่หลายคนเห็นแล้วต้องยอมใจในความมั่นของพวกเธอจริงๆ

    แฟชั่นเสื้อผ้าของสาวๆ สมัยนี้ เรียกได้ว่ามีให้เลือกใส่ตามกันมากมายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นลุคที่ใส่แล้วดูเซ็กซี่ ลุคหวาน หรือลุคเซอร์ๆ ซึ่งแฟชั่นเสื้อผ้าสวยๆ นอกจากจะช่วยให้เราดูดีเวลาใส่แล้ว ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเราอีกด้วย แต่กับสาวๆ บางคน ที่เหมียวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเธอไปเอาความกล้า และความมั่นใจมากจากไหน เพราะแฟชั่นที่พวกเธอเลือกใส่นั้น เรียกได้ว่ามันหลุดโลกไปไกลเกินกว่าที่สาวๆ ธรรมดาจะใส่กันจริงๆ ว่าแต่จะหลุดโลกขนาดไหน ไปชมเลย   งานมั่นก็ต้องมา   ถ้าไม่กล้าจริงใส่ไม่ได้นะจ๊ะ   บางทีแฟชั่นการแต่งตัวของสาวๆ ก็ดูหลุดโลกไปไกลเหลือเกิน   ข้างหน้าดูเรียบร้อย พอมาเจอข้างหลังซะหน่อย โอ้ววว!! แหวกซะยาวเลย   แฟชั่นอะไรของพวกเธอกันละเนี่ย   เดี๋ยวนี้เขาใส่กันแบบนี้แล้วหรอ   มีความกล้าอย่างเดียวไม่พอ ต้องชอบด้วยสินะ   ขุ่นพระ!! กางเกงเอวต่ำ มันต่ำไปปะ ><   สาวสมัยนี้ ชอบโชว์กันจริงๆ   ป้าด!! แต่ละคนเอาซะไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว เฮ้อ…แฟชั่นแปลกๆ ของสาวๆ สมัยนี้ ก็เหมือนจะล้ำไปไกลมากจริงๆ ทำเอาแมวธรรมดาๆ อย่างเราตามไม่ทันกันเลยทีเดียว ที่มา…