Tag: สุนัขจิ้งจอก

  • ชายหนุ่มช่วย ‘สุนัขจิ้งจอก’ ถูกยิง พร้อมกอดมันไว้ตลอด จนกระทั่งถึงมือหมอ

    ชายหนุ่มช่วย ‘สุนัขจิ้งจอก’ ถูกยิง พร้อมกอดมันไว้ตลอด จนกระทั่งถึงมือหมอ

    สุนัขจิ้งจอกอาจจะขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์นักล่าเมื่ออยู่ในธรรมชาติ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันสมควรถูกละเลยเมื่อยามต้องการความช่วยเหลือ ด้วยเหตุนี้ เมื่อพลเมืองดีคนหนึ่งเห็นสุนัขที่อยู่ในทุ่งหญ้า ในสภาพที่กำลังได้รับบาดเจ็บและจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยด่วน เธอจึงตัดสินใจช่วยเหลือมัน     พลเมืองดีคนนั้นได้โทรหา Dan Martin นักช่วยเหลือสัตว์ป่าในท้องถิ่น แล้วเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับสุนัขจิ้งจอกที่กำลังได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่สุนัขจิ้งจอกตัวนั้นอยู่ห่างจากสำนักงานของ Martin เพียง 3 นาที หากขับรถมา ดังนั้น เขาจึงรีบไปหามัน (ภายหลังสุนัขจิ้งจอกตัวนั้นมีชื่อว่า Basil)     Martin ต้องค่อยๆ เดินเข้าไปหา Basil โดยถือผ้าขนหนูไว้ในมือ กระทั่ง 20 นาทีผ่านไป เจ้าสุนัขจิ้งจอกก็ยอมให้นักช่วยเหลือเข้าถึงตัวมัน Martin บอกว่า “หลังจากที่ผมพยายามพูดคุยกับมัน เพื่อทำให้มันรู้ว่าผมมาด้วยเจตนาดี ในที่สุดผมก็เข้าถึงตัวมันได้ และใช้ผ้าขนหนูอุ้มมันขึ้นมา”     ผู้ช่วยเหลือได้ตรวจสอบร่างกายของเจ้าหมาจิ้งจอก แล้วก็รู้ว่ามันถูกยิงที่เท้า Martin จึงโทรเรียกสัตวแพทย์ให้มารักษา แต่คุณหมอบอกว่าต้องรอให้ถึงวันรุ่งขึ้นถึงจะไปหาได้ ดังนั้น ชายหนุ่มจึงพา Basil กลับบ้านกับเขา แน่นอนว่าเขาไม่ได้ให้มันนอนพักในบ้านเฉยๆ แต่ Martin อยู่ดูแลมันอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งคืน เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น Basil จึงไว้วางใจ Martin และกอดเข้าไว้ตลอดทั้งเช้า     ชายหนุ่มบอกว่า…

  • หญิงสาวคิดว่าช่วย ‘มิ้วน้อย’ เอาไว้ แต่พอดูดีๆ เฮ้ย! นี่มัน ‘ลูกสุนัขจิ้งจอก’ นี่หว่า

    หญิงสาวคิดว่าช่วย ‘มิ้วน้อย’ เอาไว้ แต่พอดูดีๆ เฮ้ย! นี่มัน ‘ลูกสุนัขจิ้งจอก’ นี่หว่า

    หากเราไม่ใช่คนที่ทำงานเกี่ยวกับสัตว์หรือชื่นชอบสัตว์มากๆ เราอาจจะแยกไม่ออกว่าตัวไหนเป็นอะไร โดยเฉพาะตอนที่พวกมันยังเป็นทารกน้อย เช่นเดียวกับ Martine Vos ที่ได้ให้การช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตตัวน้อยตัวหนึ่ง และเธอก็คิดมาตลอดว่ามันเป็นลูกแมว Vos เป็นอาสาสมัครใน Belgium-based Cat Shelter Limburg ซึ่งเป็นองค์ช่วยเหลือที่ให้ความสำคัญกับแมวเป็นพิเศษ     หญิงสาวได้รับโทรศัพท์จากชายคนหนึ่ง เขาบอกว่าพบลูกแมวสีดำที่น่าจะมีอายุได้ไม่กี่วัน เลยโทรขอความช่วยเหลือจาก Cat Shelter Limburg เพื่อให้รับมันไปดูแล เมื่อไปถึงที่ที่ได้รับแจ้ง พวกเขาพยายามสำรวจบริเวณรอบๆ แต่ไม่พบร่องรอยของแม่แมวหรือพี่น้องของมันเลย ดังนั้น พวกเขาจึงพามิ้วน้อยกลับไปที่ศูนย์และจะดูแลมันจนกว่าจะมีคนมารับเลี้ยง แต่แล้ว Vos ก็สังเกตเห็นบางอย่างเกี่ยวกับลูกแมวตัวนี้…     หญิงสาวบอกว่า “เมื่อฉันอุ้มลูกแมวไว้ในมือ มันดูตัวใหญ่มาก และดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับลักษณะที่ลูกแมวควรจะเป็น”  หน้าของมันไม่ค่อยเหมือนลูกแมว และจมูกของมันก็ยื่นออกมายาวกว่าแมวด้วย ดังนั้น Vos จึงตัดสินใจหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตประหลาดตัวนี้ เธอพาสิ่งมีชีวิตตัวน้อยตัวนั้นไปหาสัตวแพทย์ เพื่อตรวจสอบว่ามันคือสัตว์ชนิดไหน แต่ปรากฏว่าแพทย์ก็ไม่สามารถระบุตัวตนของมันได้เหมือนกัน มีสิ่งเดียวที่หญิงสาวมั่นใจคือ มันเป็นสัตว์ตัวเมีย     ต่อมา Vos พามันไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าในท้องถิ่น และโชคดีที่พวกเขาสามารถบอกได้ว่าเจ้าตัวสีดำนี้คือตัวอะไรกันแน่ “พวกเขาบอกว่ามันคือลูกสุนัขจิ้งจอก แต่ด้วยขนสีดำและลักษณะในวัยเด็กของมัน ทำให้ดูเหมือนแมว” หญิงสาวกล่าว แทนที่ Vos…

  • หนุ่มนึกว่าช่วยลูกสุนัขไว้ 5 ตัว ที่แท้มันคือลูกจิ้งจอก รีบเอาไปคืนแม่แทบไม่ทัน

    หนุ่มนึกว่าช่วยลูกสุนัขไว้ 5 ตัว ที่แท้มันคือลูกจิ้งจอก รีบเอาไปคืนแม่แทบไม่ทัน

    หนุ่ม Craig Mcgettrick เป็นคนเก็บขยะที่ทำงานอยู่ในประเทศอังกฤษ เขาใช้ชีวิตทุกวันตามปกติ และไม่เคยนึกเลยว่าวันหนึ่งจะได้ช่วยสัตว์จนกระทั่งวันนี้ แถมมันยังวุ่นวายกว่าที่ควรจะเป็นด้วย ครั้งนี้ในขณะที่ Mcgettrick กำลังจัดการกับขยะที่กองอยู่ตรงหน้า พอเขายกที่นอนอันหนึ่งขึ้นมา เขาก็เจอลูกหมา 5 ตัวอยู่ตรงนั้น แต่ในบริเวณนั้นไม่มีแม่ของมันอยู่เลย เขาก็เลยคิดว่าลูกหมาคงถูกทิ้งไว้   Mchettrick เจอลูกหมา 5 ตัวถูกทิ้งไว้   เขาก็เลยเอาลูกหมาทั้งหมดไปฝากไว้กับศูนย์พักพิงสัตว์ Freshfields Animal Rescue ที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อน แล้วก็โพสต์รูปของมันลงบนเฟซบุ๊กเพื่อเล่าเรื่องที่เขาเจอวันนี้ให้ชาวเน็ตฟัง ชาวเน็ตคนหนึ่งที่เห็นรูปได้ส่งรูปนั้นต่อไปให้  National Fox Welfare Society ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลสุนัขจิ้งจอกดู ผู้ก่อตั้งองค์กร Martin Hemmington เห็นแล้วก็รู้ทันทีเลยว่านั่นไม่ใช่ลูกหมา แต่เป็นลูกหมาจิ้งจอกต่างหาก   เขาเลยพาพวกมันไปให้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Freshfields Animal Rescue   แต่จริงๆ แล้วพวกมันไม่ใช่ลูกหมา แต่เป็นลูกสุนัขจิ้งจอก   แม้ว่าสุนัขจิ้งจอกจะมีขนสีส้ม แต่ตอนมันยังเด็กก็จะมีขนสีน้ำตาลแบบนี้นี่แหละ แล้วมันก็ดูเหมือนกับลูกหมามาก คนทั่วไปก็เลยมักจะเข้าใจผิดว่าลูกสุนัขจิ้งจอกเป็นลูกหมา กว่าจะรู้ว่ามันเป็นจิ้งจอกก็ตอนมันโตแล้ว ปกติแล้วสุนัขจิ้งจอกจะทิ้งลูกตัวเล็กไว้ในถ้ำของมันแล้วออกไปหาอาหารข้างนอก ในกรณีนี้แม่สุนัขจิ้งจอกคงจะใช้พื้นที่ใต้ที่นอนเป็นถ้ำสำหรับลูกของมัน แล้วก็ทิ้งลูกออกไปหาอาหารตามแถบนั้น   พวกมันคล้ายกันมาก คนก็เลยมักจะสับสนว่าลูกจิ้งจอกเป็นลูกหมา…

  • หนุ่มหวังดี กะผูกมิตรกับสุนัขจิ้งจอก แต่มันกลับขโมยกระเป๋าตังและวิ่งหนีไปซะงั้น

    หนุ่มหวังดี กะผูกมิตรกับสุนัขจิ้งจอก แต่มันกลับขโมยกระเป๋าตังและวิ่งหนีไปซะงั้น

    สุนัขจิ้งจอกอาจจะดูน่ารักเพราะมีขนฟูฟ่อง แถมมีสีขนที่โดดเด่น แต่ความงามภายนอกไม่สามารถบ่งบอกสัญชาตญาณธรรมชาติของพวกมันได้ เรื่องนี้คงไม่มีใครรู้ดีกว่าไปผู้ใช้ Reddit ที่ใช้ชื่อว่า Tootsaysthetrain อีกแล้ว เพราะเขาเพิ่งมีประสบการณ์โดยตรงกับสุนัขจิ้งจอกมาสดๆ ร้อนๆ     เหตุการณ์นี้เริ่มขึ้นเมื่อชายคนนี้เห็นสุนัขจิ้งจอกกลางถนน เขาคิดว่านี่เป็นสิ่งที่แปลกที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น และตามธรรมชาติของมนุษย์ยุคนี้คือหยิบกล้องขึ้นมาแล้วบันทึกภาพเอาไว้ เมื่อสุนัขจิ้งจอกเห็นมนุษย์เล็งกล้องมาที่มัน มันเลยเดินหนีในตอนแรก แต่เมื่อเห็นว่ามนุษย์คนนั้นเดินตาม มันหยุดและหันมาเผชิญหน้ากับเขา     ตอนแรกสุนัขจิ้งจอกเดินเข้ามาหา Tootsaysthetrain อย่างช้าๆ ขณะที่ชายหนุ่มไม่ได้หนีไปไหน ตรงข้ามเขาพยายามทำตัวเป็นมิตรกับมัน     แต่เมื่อสุนัขจิ้งจอกเข้ามาถึงตัว มันกลับทำสิ่งที่ชายหนุ่มคาดไม่ได้ถึง นั่นคือ คาบกระเป๋าตังค์ของเขาและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว แล้วชายหนุ่มจะรออะไรล่ะ วิ่งตามมันไปสิ     ชายหนุ่มวิ่งตามไปจนกระทั่งมันไปหยุดอยู่ที่หลังอาคารแห่งหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถขอกระเป๋าตังคืนจากมันได้อยู่ดี เลยได้แต่เฝ้ามองมันไม่ให้คลาดสายตา     เมื่อเจ้าสุนัขจิ้งจอกไม่มีทีท่าจะคืนกระเป๋าเงินให้ และชายหนุ่มก็เหนื่อยเกินไปที่จะวิ่งตามมันต่อ เขาเลยปล่อยมันไปพร้อมกับกระเป๋าตังค์ของเขา     อย่างไรก็ตาม เช้าวันต่อมา ชายหนุ่มกลับมาที่เดิมแล้วพบว่าเจ้าสุนัขจิ้งจอกได้ทิ้งกระเป๋าตังค์เขาไว้ที่นั่น ส่วนตัวมันน่าจะกลับเข้าไปป่าแล้ว บางทีเจ้าสุนัขจิ้งจอกอาจจะไม่ได้ตั้งใจขโมยกระเป๋าตังค์ก็ได้ แต่มันแค่อยากมีเพื่อนเล่นด้วยแค่นั้น…ไม่ก็รำคาญที่เขาเดินตามเลยหาเรื่องแกล้งซะเลย     ที่มา lifebuzz

  • ‘Juniper’ สุนัขจิ้งจอกผู้ใช้ชีวิตอยู่กับมนุษย์ และเป็นหมาที่มีความสุขที่สุดในโลก

    ‘Juniper’ สุนัขจิ้งจอกผู้ใช้ชีวิตอยู่กับมนุษย์ และเป็นหมาที่มีความสุขที่สุดในโลก

    ปกติแล้ว สุนัขจิ้งจอกจะถูกมองเป็นสัตว์ป่าที่มีความดุร้าย เพราะธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่พวกมันเติบโตมาหล่อหลอมให้เป็นแบบนั้น อย่างไรก็ตาม หากสุนัขจิ้งจอกไม่ได้เติบโตมาในธรรมชาติ มันอาจจะไม่มีนิสัยดุร้ายเลยก็ได้ เหมือนกับ Juniper สุนัขจิ้งจอกที่มีความสุขมากที่สุดในโลก     Juniper สุนัขจิ้งจอกวัย 2 ปี อาศัยอยู่กับ Jessika Coker ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกับหมาพันธุ์ผสมชื่อ Moose สุนัขจิ้งจอกสาว Fig และชูก้าไกลเดอร์ 2 ตัว คือ Petunia และ Peach     Jessika เป็นคนที่ชอบดูแลสัตว์เลี้ยง เธอพยายามช่วยเหลือสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่เสมอ พร้อมกันนี้เธอยังเขียนหนังสือชื่อ Juniper: The Happiest Fox เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นว่าการใช้ชีวิตอยู่กับสุนัขจิ้งจอกนั้นเป็นยังไง     Juniper กลายเป็นสุนัขจิ้งจอกผู้โด่งดัง และมีแฟนๆ มากกว่า 2 ล้านคน ที่กดติดตามมันในอินสตาแกรม juniperfoxx สำหรับสุนัขจิ้งจอกทั้ง 2 ตัวที่อยู่กับ Jessika นั้นไม่ได้มาจากการจับตัวมา แต่พวกมันมีปัญหาทางพันธุกรรมและไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในป่าได้ หญิงสาวจึงรับเลี้ยงพวกมันไว้ ที่สำคัญพวกมันยังเชื่องเหมือนหมาบ้านทั่วไป  …

  • ครอบครัวรับน้องจิ้งจอกเพิ่มมาเป็นหนึ่งในสมาชิกสี่ขา หลังจากที่ถูกแม่แท้ๆ ทิ้งไป…

    ครอบครัวรับน้องจิ้งจอกเพิ่มมาเป็นหนึ่งในสมาชิกสี่ขา หลังจากที่ถูกแม่แท้ๆ ทิ้งไป…

    สัตว์ทุกตัว ไม่ว่าจะมีความดุร้ายหรือดูน่ากลัวมากแค่ไหน แต่หากลองสัมผัสกับพวกมันด้วยใจ จะรู้ว่าทุกตัวย่อมมีจุดอ่อนด้วยกันทั้งนั้น เหมือนกับลูกสุนัขจิ้งจอกตัวนี้ที่ถูกแม่แท้ๆ ทิ้งไปตั้งแต่เกิด ทำให้มันไม่ได้สัมผัสความรัก ความอบอุ่นจากแม่เลย     อย่างไรก็ตาม Natalie Reynolds คุณแม่ลูกสอง เข้าใจดีว่าการขาดความรักนั้นเป็นยังไง เธอจึงเสนอที่จะเติมเต็มในเจ้าหมาจิ้งจอกตัวนี้ ครอบครัวของ Natalie อาศัยอยู่ใน Sarratt มณฑลฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ พร้อมกับหมา 3 ตัว แมวกลุ่มหนึ่งและม้าอีก 1 ตัว แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังรับเลี้ยงสุนัขจิ้งจอกอีก 1 ตัว และตั้งชื่อให้มันว่า Jasper     Natalie ได้รับเลี้ยง Jasper เมื่อ 7 เดือนก่อนจากสัตวแพทย์คนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนของเธอเอง ขณะนั้นเจ้าหมาจิ้งจอกเพิ่งลืมตาดูโลกได้แค่ 2 วันเท่านั้น เธอเล่าว่า “เพื่อนที่เป็นสัตวแพทย์โทรมาหาฉัน แล้วบอกว่ามีคนนำลูกสนัขจิ้งจอกมาให้รักษา มันตัวเล็กมากๆ และต้องการที่จะดื่มนมทุกๆ สองถึงสามชั่วโมง”     “เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉันจึงรีบขับรถไปหา Jasper ทันที และพามันกลับบ้านด้วยในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าได้ลูกน้อยเพิ่มมาอีกคน” เมื่อเข้ามาอยู่ในบ้าน Jasper…

  • หนุ่มนอนไม่หลับ ก็เลยมาโพสต์ “ให้คะแนนจิ้งจอก” บรรยายอย่างกับนางงาม มีคนติดตามเพียบ!!

    หนุ่มนอนไม่หลับ ก็เลยมาโพสต์ “ให้คะแนนจิ้งจอก” บรรยายอย่างกับนางงาม มีคนติดตามเพียบ!!

    สำหรับใครที่นอนไม่หลับหรือเป็นโรคนอนหลับยาก หนึ่งในวิธีที่คุณสามารถทำได้ง่ายโดยไม่ต้องพึ่งยานอนหลับเลยนั่นก็คือการนอนนับแกะนั่นเอง แต่สำหรับหนุ่มนักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา การนับแกะอาจจะดูง่ายเกินไปสำหรับเขา ชายหนุ่มจึงได้โพสต์ภาพของเหล่าสุนัขจิ้งจอกหลากหลายสายพันธุ์พร้อมกับให้คะแนนพวกมันอีกด้วย เรียกได้ว่าเอาใจคนนอนดึกจริงๆ และนี่ก็คือผลการให้คะแนนของหนุ่มผู้นี้!!     Colin J. Carlson ได้แนะวิธีการแก้โรคนอนไม่หลับโดยการโพสต์ภาพเหล่าสุนัขจิ้งจอกพร้อมกับให้คะแนนพวกมันแต่ละสายพันธุ์   ชายหนุ่มได้ออกตัวก่อนว่าเขาเองนั้นไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุนัขจิ้งจอกนะ และถ้าหากใครมีความเห็นที่แตกต่างละก็สามารถแย้งมาได้เลย   เริ่มกันที่สายพันธุ์แรกเจ้าสุนัขจิ้งจอก Red Fox สุนัขจิ้งจอกสุดคลาสสิกแต่มันดูไม่ค่อยแปลกเท่าไหร่ งั้นเอาไปแค่เกรด B ก็แล้วกัน   ต่อมาเป็นเจ้าสุนัขจิ้งจอกสายพันธุ์ Tibetan sand fox ด้วยดวงตาที่มีเสน่ห์ และหน้าตาที่ไม่เหมือนใคร เอาเกรด A ไปก็แล้วกันนะ   Rüppell’s Fox เจ้าจิ้งจอกที่มาพร้อมกับสีหน้าที่ไม่ค่อยเป็นมิตร และอาศัยอยู่ในหุบเขาลึก เอาเกรด A- ไปเลย!!   เจ้า Corsac Fox จิ้งจองสุดเพอร์เฟกต์ ดูน่ากลัว ไม่น่าเลี้ยงได้ สายตาก็โคตรเยือกเย็น ผมให้เกรด A+ ไปเลยละกัน   Blanford’s Fox ที่มาพร้อมกับหูทรงแปลกของมัน…

  • หมู่บ้าน ‘สุนัขจิ้งจอก’ ในญี่ปุ่น มีแต่เหล่าสุนัขจิ้งจอกหน้าตาน่ารัก คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว

    หมู่บ้าน ‘สุนัขจิ้งจอก’ ในญี่ปุ่น มีแต่เหล่าสุนัขจิ้งจอกหน้าตาน่ารัก คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว

    ในนิทานพื้้นบ้านของญี่ปุ่น สุนัขจิ้งจอกมักจะได้รับบทเป็นตัวโกงหรือตัวที่นิสัยไม่ดี จนทำให้พวกมันมักถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของการหลอกลวง สำหรับคนที่เชื่อแบบนั้น ก็มักจะไม่สังเกตว่าจริงๆ แล้ว สุนัขจิ้งจอกนั้นน่ารักแค่ไหน ทั้งขนปุกปุยของมัน ทั้งนิสัยขี้เล่นที่แทบไม่ต่างจากหมาบ้านตัวหนึ่งเลย   ดูพวกมันสิ น่ารักมั้ย?   อย่างไรก็ตาม ใครที่กลัวสุนัขจิ้งจอกและมองว่ามันเป็นสัตว์อันตราย คุณต้องลองไปหมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกสะโอ อยู่ใกล้กับเมืองชิโรอิชิ จังหวัดมิยางิในญี่ปุ่น แล้วคุณจะเปลี่ยนความคิดแบบนั้นแน่นอน หมู่บ้านนี้เต็มไปด้วยสุนัขจิ้งจอกนับไม่ถ้วน และใครที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมชมที่นี่จะกลายเป็นคนรักสุนัขจิ้งจอกไปเลย จนไม่อยากกลับเลยแหละ   ลองเดาสิ๊ พวกมันกำลังมองอะไรอยู่?   ยิ่งอยู่ท่ามกลางหิมะ ก็ยิ่งทำให้พวกมันดูคูลสุดๆ   มีจิ้งจอกสีดำด้วย โดดเด่นกว่าเพื่อนเลย   อย่าเผลอจ้องตามันเชียวล่ะ เพราะเวลาเห็นมันกระพริบตามิบๆ คุณต้องไม่อยากกลับแน่ๆ   ม้วนตัวแล้วงีบหลับภายใต้แดดอ่อนๆ สุนัขจิ้งจอกในหมู่บ้าน Zao Village ไม่ทำร้ายมนุษย์นะ   ถ้าคุณได้ไปญี่ปุ่น หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกคือแลนด์มาร์คที่คุณไม่ควรพลาด   สุนัขจิ้งจอกน้อยกำลังเล่นด้วยกัน น่ารักเชียว   มาออดอ้อนถึงเนื้อถึงตัวเลย พากลับบ้านดีมั้ย?   นักท่องเที่ยวที่เจอสายแบบนี้ มักอยากจะขอรับเลี้ยงพวกมันทั้งนั้น   มาถึงจุดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมทุกคนถึงหลังรักสุนัขจิ้งจอกที่นี่  …

  • เปิดภาพอันน่าตกใจของ “สุนัขจิ้งจอก” กับความทุกข์ทรมานที่ได้รับในฟาร์มขนสัตว์โปแลนด์

    เปิดภาพอันน่าตกใจของ “สุนัขจิ้งจอก” กับความทุกข์ทรมานที่ได้รับในฟาร์มขนสัตว์โปแลนด์

    เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ ได้เผยภาพอันน่าตกใจของบรรดาสุนัขจิ้งจอกในฟาร์มขนสัตว์ประเทศโปแลนด์ ที่อาศัยอยู่ภายในกรงแคบๆ อันแสนสกปรก และไม่มีแม้แต่แสงสว่างเล็ดลอดเข้ามาแม้แต่น้อย จากภาพได้ปรากฏให้เห็นว่า สุนัขจิ้งจอกที่น่าสงสารเหล่านี้ ต้องได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส โดยสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งต้องใช้ชีวิตด้วยดวงตาเพียงแค่ข้างเดียว ส่วนอีกตัวก็มีอาการขากรรไกรผิดปกติ ในขณะที่ตัวอื่นๆ กำลังนอนสั่นอยู่ภายในกรงมืดๆ   .   ภาพหลักฐานที่ปรากฏให้เห็นนี้ ไม่ต่างไปจาก สุนัขจิ้งจอกที่ถูกเลี้ยงในฟาร์มขนสัตว์ที่ประเทศฟินแลนด์เลย โดยทาง Oikeutta eläimille (Animal Justice) ได้ทำการออกสำรวจ และพบว่า พวกมันก็ได้อาศัยอยู่ในสถานที่ที่เป็นดั่งขุมนรกแบบนี้เช่นกัน     นอกจากนี้ พวกเขายังได้พบสุนัขจิ้งจอกในฟาร์มขนสัตว์ฟินแลนด์จำนวนมากที่ถูกเลี้ยงให้อ้วน จนมีเนื้อหนังติดกันเป็นชั้นๆ ทั่วร่างกาย โดยตัวเมียตัวหนึ่งมีน้ำหนักมากถึง 3.5 กิโลกรัม ขณะที่เจ้าสุนัขจิ้งจอกที่เพื่อนๆ เห็นในภาพนั้น มีน้ำหนักมากถึง 19 กิโลกรัม ถึงขนาดที่ไขมันส่วนเกินได้ลงมาปกปิดดวงตาของมันเลยทีเดียว     ข้อมูลจากกลุ่ม Open Cages ได้ระบุว่า โปแลนด์ ถือเป็นประเทศผู้ผลิตขนสุนัขจิ้งจอกรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก…

  • เผยภาพ “สุนัขจิ้งจอกตัวอ้วนกลม” ชีวิตที่มีค่าเพียงแค่ขน จากฟาร์มขนสัตว์ในฟินแลนด์

    เผยภาพ “สุนัขจิ้งจอกตัวอ้วนกลม” ชีวิตที่มีค่าเพียงแค่ขน จากฟาร์มขนสัตว์ในฟินแลนด์

    การเจริญเติบโตของมนุษย์ในเรื่องของร่างกายและรูปลักษณ์ภายนอกส่วนหนึ่งมาจากอาหารการกิน ที่ได้รับมาจากคนที่คอยเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เกิด ส่งต่อมาเป็นความปกติของเราในปัจจุบัน และเหล่าสัตว์เองก็เช่นกัน แต่เมื่อมันถูกกำหนดให้เป็นในสิ่งที่เหนือกว่าคำว่าธรรมชาติ แน่นอนว่าผลกระทบที่ตามมา จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของมันไปตลอดกาล… อย่างเช่นสุนัขจิ้งจอกที่ถูกเลี้ยงดูในฟาร์มขนสัตว์ประเทศฟินแลนด์ ที่มีภาพเผยให้เห็นความอ้วนกับเนื้อหนังที่ติดกันเป็นชั้นๆ ทั่วร่างกาย เป็นหนักถึงขนาดที่ว่าส่วนของไขมัน ได้ไปปิดตาของมันเลยทีเดียว     คลิปวิดีโอการใช้ชีวิตอยู่ในกรงของจิ้งจอกที่ถูกเลี้ยงดูผิดปกติ   กรมคุ้มครองสัตว์ได้ออกมาบอกอีกว่าน้ำหนักตัวของพวกมันในฟาร์มจะหนักกว่าจิ้งจอกทั่วไปถึง 5 เท่า เมื่อจิ้งจอกป่าตัวเมียจะหนัก 3.5 กิโลกรัม แต่สำหรับสุนัขจิ้งจอกที่เห็นนั้น มีน้ำหนักมากกว่า 19 กิโลกรัม จากการตรวจสอบพบว่าความผิดปกติที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากการเจริญเติบโตเกินขีดจำกัดของสายพันธุ์ พวกมันจะได้รับอาหารที่มีไขมันสูงเพื่อให้มีขนาดตัวใหญ่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นับว่าเป็นการทำผิดกฎหมายภายในประเทศฟินแลนด์ ในเรื่องของการเลี้ยงปศุสัตว์อย่างทรมาน   .   Claire Bass กรรมการบริหารจากองค์กรต่อต้านการใช้ขนสัตว์ได้ออกมากล่าวว่า “ฟาร์มขนสัตว์ไม่สามารถทำสิ่งผิดจรรยาบรรณได้ นั่นคือเรื่องที่ผิดเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้สัตว์ที่ดูสวยงามต้องมาทนทุกข์ทรมานในการเคลื่อนที่อย่างยากลำบาก รวมถึงการมองเห็น” เธอเสริมว่า “สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมเหล่านี้สนใจเพียงแค่ผลประโยชน์โดยมองข้ามการใส่ใจดูแลพวกมัน และจะเป็นเรื่องที่รบกวนจิตใจของผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากขนของสัตว์เหล่านี้”   .   จากสถิติประเทศอังกฤษนำเข้าขนสัตว์จากฟินแลนด์เป็นมูลค่ากว่า 1 ร้อยล้านบาทในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากรัฐบาลสั่งห้ามไม่ให้มีฟาร์มขนสัตว์ภายในประเทศเมื่อปี 2000 จากการทำผิดจรรยาบรรณ ทำให้ต้องใช้ขนสัตว์จากประเทศอื่นมากมาย…

  • รู้จักกับหมาป่าทะเล สุนัขชาวเลผู้อาศัยอยู่กับมหาสมุทร แถมยังว่ายน้ำได้นานเป็นชั่วโมง!!

    รู้จักกับหมาป่าทะเล สุนัขชาวเลผู้อาศัยอยู่กับมหาสมุทร แถมยังว่ายน้ำได้นานเป็นชั่วโมง!!

    ตามแนวเส้นชายฝั่งแปซิฟิกของรัฐบริติชโคลัมเบีย แห่งประเทศแคนาดา ได้มีประชากรหมาป่าชนิดหนึ่งที่มีวิถีชีวิตแตกต่างออกไปจากสุนัขในถิ่นอื่นๆ Ian McAllister ช่างภาพผู้ตามถ่ายเรื่องราวของหมาป่าทะเล ได้เผยว่า “จากการศึกษาผ่าน DNA พบว่าปัจจุบันสายพันธุ์ที่แท้จริงของหมาป่าได้หายไปหมดแล้ว และเราจะได้เห็นพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนไปของพวกมัน  พวกมันเริ่มเรียนรู้ที่จะว่ายน้ำข้ามเกาะเพื่อออกไปจับปลา และในทางโครงสร้างต้องถือว่ามันเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงจากสายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกดั้งเดิม”   เราลองตามไปชมภาพถ่ายของ Ian MaAllister ที่จะมาเผยให้เห็นถึงวิถีชีวิตอันน่าแปลกใหม่ของพวกมันกันเลยดีกว่า   พวกมันเคลื่อนที่ปราดเปรียวและเงียบเชียบดั่งภูตผี   สำหรับหมาป่าทะเลนั้นพวกมันจะมีอยู่สองประเภทหลักๆ ด้วยกัน   อย่างแรกคือหมาป่าที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินใหญ่ พวกมันมักจะมีสกิลในการหาอาหารทะเลได้น้อยกว่า ระยะว่ายน้ำสั้นกว่า และมักจะหากินเฉพาะตามชายหาด   อีกประเภทคือหมาป่าทะเลชาวเกาะ สุนัขชนิดนี้จะสามารถว่ายน้ำข้ามเกาะเพื่อหาอาหารได้อย่างคล่องแคล่ว   ทีมนักวิทยาศาสตร์เคยเข้ามาศึกษาด้วยการเก็บ DNA และนำไปเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม พวกเขาก็ต้องพบว่ามันมีความแตกต่างอย่างน่าแปลกใจ   “เดิมทีหมาป่าเป็นสัตว์นักผจญภัย พวกมันมีเขตถิ่นที่อยู่อาศัยกว้างมาก และมีความสามารถในการปรับตัวตามแหล่งอาหารได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน” Erin Navid นักวิจัยกล่าว   สำหรับสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ตามเกาะนั้น พวกมันสามารถว่ายน้ำได้ไกลถึง 12 กิโลเมตร และปัจจุบันสัตว์ทะเลกลายเป็น 90% ของปัจจัยในการอยู่รอดของพวกมันไปซะแล้ว   นี่อาจจะเป็นสัญญาณบอกเราว่า การรุกรานธรรมชาติของมนุษย์ทำให้พวกมันต้องมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปก็ได้นะ… ที่มา:…

  • ครอบครัวมนุษย์เข้าช่วยเหลือจิ้งจอก ออกมาจากฟาร์มขนสัตว์ จนกลายมาเป็นหมาบ้านๆ!!

    ครอบครัวมนุษย์เข้าช่วยเหลือจิ้งจอก ออกมาจากฟาร์มขนสัตว์ จนกลายมาเป็นหมาบ้านๆ!!

    พบกับเรื่องราวเปลี่ยนชีวิตของเจ้า Jay จิ้งจอกที่ถูกเลี้ยงมาในฟาร์มเพื่อนำขนไปทำเสื้อผ้า มันถูกช่วยไว้โดยครอบครัวแสนใจดีครอบครัวหนึ่ง ทว่าหลังจากช่วยเหลือมันแล้ว พวกเขากลับเป็นห่วงในคุณภาพชีวิตตามธรรมชาติที่เปลี่ยนไป จึงจัดการนำมันมาเลี้ยงไว้ที่บ้านเสียเลย!! ทว่าหลังจากที่เลี้ยงดูเจ้า Jay ไปได้ไม่นาน พวกเขาก็รู้สึกว่ามันอาจจะเหงาก็ได้ ทีนี้พวกเขาจึงเดินทางไปรับเลี้ยงดูสุนัขมาอีกตัวชื่อว่าเจ้า Saimon และนับจากที่ทั้งคู่ได้เจอกัน มันก็กลายเป็นเพื่อนรักและเข้าขากันสุดๆ เลยล่ะ อ่านกันมาขนาดนี้แล้วก็ฟังแล้วดูน่าสนใจใช่ไหมละ งั้นเราลองมาดูภาพความน่ารักของเจ้า Jay เลยกันดีกว่า   นี่คือโฉมหน้าของเจ้า Jay และ Saimon ผู้เป็นเจ้าของเรื่องราวทั้งหมด   แรกเริ่มเจ้า Jay เป็นสุนัขจิ้งจอกอายุ 2 ขวบ เพศเมีย ซึ่งพวกเขาได้ไปช่วยเหลือมันออกมาจากฟารม์ขนสัตว์   ส่วนสาเหตุที่ครอบครัวดังกล่าวเลือกจะเลี้ยงมันเพราะ คุณภรรยาทำงานอยู่ที่บ้าน จึงมีเวลาที่จะเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด   ไม่ใช่แค่คุณภรรยาเท่านั้น คุณสามีก็ชอบที่จะใช้เวลาอยู่กับเจ้า Jay เช่นกัน   แน่นอนว่าทั้งคู่เข้ากันได้ดีสุดๆ เลยล่ะ   มันชอบที่จะนอนกับพ่อแม่ของมันมากๆ   บางครั้งก็จะแอบนอนอยู่ในผ้าห่ม   แถมทุกวันหยุด ก็จะมีการเฉลิมฉลองด้วยกันในครอบครัวด้วย   ฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ 2017…

  • “Zorro” จิ้งจอกที่กลับมาหาเพื่อนมนุษย์ในฤดูหนาวทุกปี กระชับความสัมพันธ์ไม่ให้จางหาย

    “Zorro” จิ้งจอกที่กลับมาหาเพื่อนมนุษย์ในฤดูหนาวทุกปี กระชับความสัมพันธ์ไม่ให้จางหาย

    สนัขจิ้งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสัตว์นักล่า ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีใครอยากเข้าไปใกล้พวกมันมากนัก หรือหากเจอในป่าก็จะพยายามหนีห่างให้เร็วที่สุด แต่ก็ใช่ว่าสุนัขจิ้งจอกทุกตัวจะทำอันตรายกับมนุษย์เสมอไป อย่างเจ้า Zorro ที่มักจะแวะเวียนมาหาเพื่อนมนุษย์อยู่บ่อยๆ เพื่อทำการทักทายกระชับมิตรไม่ให้ลืมกัน     Zorro เป็นสุนัขจิ้งจอกที่พิเศษกว่าตัวอื่นๆ เพราะมันจะกลับมาหาคุณ Jon Wedge ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ในพื้นที่ของรัฐ Prince Edward Island ในประเทศแคนาดา Jon เป็นช่างภาพที่ได้เจอกับเจ้า Zorro เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนเจอครั้งแรกเขาก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเข้าใจว่ามันคงเป็นสุนัขจิ้งจอกทั่วไปที่แวะเวียนมาแถวๆ นี้เท่านั้น และเขาได้ทำการถ่ายรูปของมันเก็บเอาไว้ด้วย     แต่ปีถัดมาในช่วงเวลาเดียวกันนั่นก็คือในช่วงฤดูหนาว Jon ก็ได้พบกับสุนัขจิ้งจอกตัวเดิมอีกครั้ง นั่นจึงทำให้เขามั่นใจในความเป็นมิตรของมัน และเจ้า Zorro เองก็ไม่เคยทำอันตรายกับเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนกระทั่งเข้าสู่ปีที่สาม เมื่อ Zorro และ Jon ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ทั้งสองก็มีความสนิทใจกันมากขึ้น จนกลายเป็นเพื่อนของกันและกัน และแม้จะสื่อสารกันด้วยคนละภาษา แต่รับรู้ได้อยู่อย่างหนึ่งว่าทุกฤดูหนาว พวกเขาจะมาเจอกันที่นี่     แต่ถึงจะเป็นเพื่อนกันแล้ว Jon ก็ยังต้องรักษาระยะห่างกับเจ้า Zorro อยู่ดี…

  • ความน่ารักของสองคู่ซี้ ‘จิ้งจอกป่า’ กับ ‘หมาล่าเนื้อ’ ที่แวะเวียนมาเล่นด้วยกันประจำ

    ความน่ารักของสองคู่ซี้ ‘จิ้งจอกป่า’ กับ ‘หมาล่าเนื้อ’ ที่แวะเวียนมาเล่นด้วยกันประจำ

    เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหมาจิ้งจอกกับหมาล่าเนื้อ ที่กลายเป็นเพื่อนซี้ปึ้กตัวติดกัน ไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้าหมา Tinni และเจ้าจิ้งจอก Sniffer อาศัยอยู่ในประเทศนอร์เวย์ อันเป็นสถานที่วิ่งเล่นและพัฒนาความสัมพันธ์กันจนกลายเป็นคู่ซี้ในที่สุด     เจ้านายของเจ้า Tinni คุณ Torgeir Berge ได้ทำการเก็บภาพมาแชร์ให้ชาวโลกได้เห็นถึงความน่ารักของทั้งคู่     Sniffer นั้นเป็นจิ้งจอกป่า แต่มันมักจะออกมาแวะเวียนหาเพื่อนรักเพื่อขอเล่นด้วย และนอนกอดกันอยู่เป็นประจำ     การได้เห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ทำให้คุณ Berge เกิดความรู้สึกต่อต้านและไม่เห็นด้วยกับการทำฟาร์มขนสัตว์ที่จับเหล่าสุนัขจิ้งจอกที่เหมือนกับเจ้า Sniffer ถูกขังเอาไว้ในกรงเพื่อเอาขนของมันไปทำเป็นเสื้อผ้า   สองเกลอพากันออกไปเที่ยวในป่าตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมา และมันก็น่ารักกันซะจริงๆ   ลองไปชมคลิปความน่ารักของทั้งคู่กันแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ไปพร้อมๆ กันเลยจ้า…   ถือว่าเป็นพล็อตหนังการ์ตูนที่ดูน่าสนใจไม่น้อยเลยนะเนี่ย ถ้านำเรื่องราวของพวกมันไปทำเป็นอนิเมชั่นคงจะน่าดูไม่น้อยเลยล่ะ ^^ ที่มา : viralnova

  • เป็นปลื้มมมมม!! ‘หมาจิ้งจอก Island Fox’ หายไป 90% เกือบสูญพันธุ์ วันนี้มันกลับมาอีกครั้ง

    เป็นปลื้มมมมม!! ‘หมาจิ้งจอก Island Fox’ หายไป 90% เกือบสูญพันธุ์ วันนี้มันกลับมาอีกครั้ง

    สัตว์หายากหรือสัตว์ที่มีจำนวนน้อยลง มักจะถูกจัดให้อยู่ในสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ เหมือนกับสุนัขจิ้งจอกพันธุ์ Island Fox ที่ถูกจัดให้อยู่ในสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในปี 2004 โดยทางเจ้าหน้าที่ต่างก็คิดว่า อีกประมาณ 10 ปี มันคงจะหมดไปจากโลก แต่ไม่น่าเชื่อ หลังจากนั้น 10 ปี มันกลับมาอีกครั้ง โดยมีการเพิ่มจำนวนมากขี้นอย่างรวดเร็ว และทำลายสถิติการเพิ่มจำนวนของสัตว์หายากในรอบ 43 ปีด้วย Dan Ashe หนึ่งในเจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่าบอกว่า เพราะว่ามันใกล้สูญพันธุ์เราจึงเรียนรู้ว่า ควรช่วยพวกมันอย่างไร เพื่อไม่ให้มันตกในสภาวะใกล้สูญพันธุ์อีก     ในปลายทศวรรษ 1990 สนัขจิ้งจอก Island Fox ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มสัตว์นักล่าสูงสุดในห่วงโซ่อาหาร แต่พวกมันมีจำนวนลดลงอย่างรวดเร็วถึงร้อยละ 90 ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าเป็นผลมาจากการรุกรานของนกอินทรีย์หัวทองที่เข้ามาแทนที่นกอินทรีย์หัวล้าน ทำให้เกิดการแย่งอาหารกัน และอีกหนึ่งสาเหตุคือ เป็นเพราะพวกมันป่วยด้วยโรคหัดในสุนัขนั่นเอง ตัวอย่างเช่นใน Santa Rosa จากที่มี 1,780 ตัว ก็หายไปเหลือเพียง 15 ตัวเท่านั้น แต่ข่าวดีคือปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่บอกว่า “ที่ Santa Rosa มีจำนวน…

  • ช่างภาพตามติดครอบครัว “สุนัขจิ้งจอก” ที่แม้ดูอันตราย แต่ก็ยังมีความน่ารักมุ้งมิ้ง

    ช่างภาพตามติดครอบครัว “สุนัขจิ้งจอก” ที่แม้ดูอันตราย แต่ก็ยังมีความน่ารักมุ้งมิ้ง

    พูดถึงสุนัขจิ้งจอก หลายคนคงนึกถึงสิ่งมีชีวิตหน้าตาคล้ายกับสุนัขผสมกับแมว แน่นอน ด้วยความที่มันเป็นสัตว์ป่า ทำให้มันกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต้องห้าม นอกจากการเป็นสัตว์สงวนแล้ว ความดุร้ายของมันก็เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้อีกด้วย แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมอีกด้านของเหล่าสุนัขจิ้งจอก ที่แม้จะดูอันตราย แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความน่ารักน่าเอ็นดู จนเพื่อนๆ อาจจะใจละลายกันได้     ผลงานของ Joke Hulst ตากล้องสาวสมัครเล่นชาวเนเธอร์แลนด์ โดยเธอได้ใช้เวลาว่างในการตามถ่ายภาพสุนัขจิ้งจอกตามธรรมชาติ จนเกิดภาพชุดนี้ขึ้นมา   และเมื่อเธอนำภาพชุดนี้ขึ้นไปโพสบนเว็บไซต์ 500px ก็มีผู้เข้าชมกว่าห้าแสนครั้ง   ซึ่งเธอบอกว่าเธอภูมิใจมากที่งานของเธอได้รับความสนใจมากขนาดนี้ เพราะเธอถ่ายภาพเป็นงานอดิเรกเท่านั้น   ดูจากผลงานแล้ว อย่างกับช่างภาพมืออาชีพเลยนะเนี่ย   ไปชมภาพอื่นๆ ในชุดนี้กันเลย . . . . . . .   ดูแล้วพวกมันก็มีท่าทางน่ารักเหมือนกันนะเนี่ย แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่ามันคือสัตว์ป่า และเหมาะจะอยู่ในธรรมชาติมากกว่าเป็นสัตว์เลี้ยงนั่นเองเนอะ!!!   ติดตามผลงานของเธอได้ที่: https://500px.com/jokehulst ที่มา: Boredpanda

  • จิ้งจอกแดงบาดเจ็บ รักษาจนหาย แต่สูญเสียความเป็นนักล่า… เป็นคุณจะปล่อยคืนป่าหรือไม่!?

    จิ้งจอกแดงบาดเจ็บ รักษาจนหาย แต่สูญเสียความเป็นนักล่า… เป็นคุณจะปล่อยคืนป่าหรือไม่!?

      เมื่อพูดถึงสุนัขจิ้งจอก จริงอยู่ที่มันเป็นนักล่าที่มีความว่องไว และน่ากลัว แต่ถ้าหากคุณได้อ่านเรื่องราวของเจ้า “อโฟไดท์” (Aphrodite) สุนัขจิ้งจอกแดงจากประเทศอังกฤษตัวนี้แล้วล่ะก็… เชื่อว่าภาพที่น่าสงสารของมัน จะลบความน่ากลัวของสุนัขจิ้งจอกไปได้หมดเกลี้ยงเลยละ ว่าแล้วก็มาฟังเรื่องราวของมันไปพร้อมๆ กันเลย     เรื่องราวของเจ้าอโฟไดท์ ไม่ได้สวยหรูอย่างที่หลายๆ คนคิดหรอกนะ เพราะมันเป็นสุนัขจิ้งจอกที่ผ่านเรื่องราวอันเลวร้ายมามากมายเหลือเกิน ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เจ้าอโฟไดท์ ต้องทนทุกข์ทรมานด้วยการถูกทำร้ายจากสัตว์ใหญ่ แถมตัวของมันก็ดันไปติดอยู่กับดักซึ่งเป็นรั้วลวดหนามอยู่นานหลายชั่วโมง จนทำให้ทั่วร่างกายมีแต่บาดแผลอยู่เต็มไปหมด     แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ได้โชคร้ายจนเกินไป เพราะหลังจากนั้นก็มีหน่วยกู้ภัยได้เข้ามาช่วยชีวิตมันไว้ และทำให้มันรอดตายมาในที่สุด ถึงกระนั้นใบหน้าของมันก็ยังคงเต็มไปด้วยความทุกข์ทนมานอยู่ดี เห็นแล้วรู้สึกสงสารจับใจเหลือเกิน     เมื่อเจ้าอโฟไดท์ ได้ถูกส่งตัวเข้าไปรับรักษา ทางสัตว์แพทย์ก็พบว่า มันป่วยเป็นโรค Toxoplasmosis (โรคติดเชื้อปรสิต) ซึ่งเป็นโรคที่มีผลโดยตรงต่อสมองของสัตว์ และทำให้มันสูญเสียสัญชาตญาณความเป็นนักล่าไป ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มันกลายเป็นสุนัขจิ้งจอกที่อ่อนโยน และสามารถอยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์ได้เป็นเวลานาน ในขณะเดียวกันหากเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวอื่นๆ จะแสดงความดุร้าย และความรุนแรงออกมาทันที     แม้ว่าเจ้าอโฟไดท์ จะได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี จนทำให้อาการของมันก็เริ่มดีขึ้น และขาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็หายเป็นปกติ แต่อย่างไรก็ตาม…

  • 20 ภาพน่ารักๆ ของ “สุนัขจิ้งจอก” ตัวน้อยวัยกำลังซน จะให้คุณรู้ว่ามันก็มีมุมคิ้วท์ๆเหมือนกัน!!

    20 ภาพน่ารักๆ ของ “สุนัขจิ้งจอก” ตัวน้อยวัยกำลังซน จะให้คุณรู้ว่ามันก็มีมุมคิ้วท์ๆเหมือนกัน!!

    เปลี่ยนจากการชมภาพแมวหมา มาดูสัตว์ชนิดอื่น ๆ อย่างเจ้าสุนัขจิ้งจอกตัวน้อยกันบ้างดีกว่า บอกเลยว่าพวกมันได้พกเอาความน่ารักมาแบบเต็มพิกัด ชนิดที่ว่าสู้แมวกับหมาได้อย่างสบายๆ เลยละ เชื่อสิ…   อย่างเช่นสุนัขจิ้งจอกสองพี่น้อง น่ารักไม่เบาเลย   ใครที่กำลังได้รับชมภาพเหล่านี้อยู่…   คุณอาจจะกำลังเริ่มตกหลุมรักมันเข้าอย่างจังก็เป็นได้   จะว่าไปมันก็เป็นสัตว์ที่มุ้งมิ้งมากที่สุดตัวหนึ่งเลยนะเนี่ย   ส่วนนี่ก็ติดแม่มากกกก   มันคิดว่าการคาบใบไม้ทำให้ตัวเองน่ารักสินะ…   ก็จริง   นอนหลับได้ทั้งวันเลย   ชู่ววว อย่าเอ็ดไป พี่เขากำลังแอบใครอยู่ก็ไม่รู้   อย่าเพิ่งโตเลยนะ 5555   เพราะแบบนี้ก็มุ้งมิ้งดี . .   ง่วงจัง!! กลับไปนอนต่อดีกว่า   กำลังเหม่อลอยคิดถึงใครอยู่น้า   ตื่นได้แล้วววว เจ้าจิ้งจอกขี้เซา .   คงกำลังหาเพื่อนเล่นอยู่แน่ๆ   มีใครอยากไปเล่นกับเราบ้างไหม   ดูเขาเล่นกันสิ มีใครอยากเข้าไปแจมไหมละ   จะว่าไปเจ้าจิ้งจอกตัวน้อยๆ เหล่านี้ขี้เล่นเหมือนกันนะเนี่ย…